บท9"ครรภ์สัปดาห์ที่สิบเอ็ด พัฒนาการของทารกในครรภ์ ตอนนี้ลูกจะมีความสูงประมาณสี่เซนติเมตร โอ๊ะ... โตขึ้นจากอาทิตย์ก่อนนู้นตั้งสองเซนแล้วนะเจ้าตัวเล็ก" น้ำเหนือนั่งอ่านหนังสือคู่มือคุณแม่มือใหม่อยู่บนเตียงคนไข้
กว่าสัปดาห์แล้วที่น้ำเหนือเข้าโรงพยาบาลอาการไข้หวัดที่รุมเร้าก็หายเป็นปกติ ส่วนอาการแพ้ท้องนั้นยังคงมีแต่ก็ไม่รุนแรงจนน่าจะเป็นอันตราย ยาบรรเทาอาการแพ้ท้องที่หมอวิรัชสั่งให้ก็ช่วยได้แต่นั่นก็ทำให้น้ำเหนือต้องนอนเกือบทั้งวัน
ตอนนี้ครรภ์ของน้ำเหนือก็เข้าสู่สัปดาห์ที่สิบเอ็ดแล้ว หน้าท้องที่เคยแบนราบก็เริ่มนูนออกมาเล็กน้อยขนาดที่ว่ามองแทบไม่รู้
"สมอง ปอด ตับและไตจะยังมีขนาดเล็กมาก ลูกจะดูด กลืนและหาวได้แล้ว นอกจากนี้ยังสามารถหายใจเอาน้ำคร่ำเข้าไป..." พออ่านมาถึงตรงนี้น้ำเหนือก็ยิ้มออกมา ดวงตากลมโตนั้นวาววับฉ่ำน้ำเหมือนคนที่กำลังจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตาไหลออกมา
"ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ นะว่าจะมีเจ้าตัวเล็กอยู่ในท้องแบบนี้ คนเป็นแม่เขารู้สึกแบบนี้กันสินะ..." เลื่อนมือไปลูบหน้าท้องของตัวเอง
"น้ำเหนือเป็นอะไรหรือเปล่า" เสียงของโอ๊ตดังขึ้นให้คนที่นั่งอยู่บนเตียงเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะส่งยิ้มให้ แล้วเลยไปยกมือไหว้คุณหญิงมรกต
"สวัสดีครับคุณหญิง ทำไมถึงมาพร้อมกับพี่โอ๊ตได้ละครับ"
"แวะไปที่ร้านมาจ๊ะ เห็นว่าโอ๊ตกำลังจะมาโรงพยาบาลพอดีเลยชวนมาด้วยกันเลย แล้วนี่เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมตาแดงๆ เหมือนจะร้องไห้" คุณหญิงมรกตถาม
"นั่นสิเหนือ เป็นอะไรหรือเปล่า" โอ๊ตเองก็สังเกตเห็นก่อนจะเดินเข้ามายืนอีกฝั่งของเตียงยกมือขึ้นลูบผมรุ่นน้องเล่น
น้ำเหนือส่ายหน้าไปมาก่อนจะยิ้มให้กับทั้งสองคน "เปล่าหรอกครับ พอดีผมอ่านหนังสืออยู่แล้วพอคิดว่าตอนนี้ในท้องผมมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่มันก็ทั้งไม่น่าเชื่อ ทั้งแปลกใจปนๆ กันไปหมดเลยครับ"
"ความรู้สึกของการเป็นแม่สินะ" คุณหญิงมรกตยิ้มให้แบบที่น้ำเหนือก็พยักหน้ารับ
โอ๊ตเองก็ยิ้มให้ตอนนี้ชายหนุ่มรู้เรื่องหมดทุกอย่างแล้วทั้งเรื่องที่คุณหญิงมรกตเองก็รู้ว่าน้ำเหนือท้อง รวมไปถึงรู้ว่าใครคือพ่อของเด็กในท้อง โอ๊ตจึงรู้สึกดีใจอย่างน้อยคุณหญิงมรกตก็ไม่ได้รังเกียจหรือไม่ชอบใจน้ำเหนือ ออกจะยิ่งรักและเอ็นดูมากขึ้นเมื่อรู้ว่าน้ำเหนือคือลูกสะใภ้ของตน
"เมื่อกี้เจอวิรัชเขาบอกว่าพรุ่งนี้น้ำเหนือก็จะออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนะ ยังไงถ้าออกจากโรงพยาบาลแล้วน้ำเหนือไปอยู่ที่บ้านด้วยกันนะ" คุณหญิงมรกตว่า
"คือผม... ผมอยากกลับไปอยู่หอมากกว่า" น้ำเหนือพูดเสียงอ่อยก่อนจะก้มหน้าลงเพราะรู้เลยว่าถ้าพูดคำนี้ออกไปแล้วจะต้อง...
"ไม่ได้" คุณหญิงมรกตสวนกลับทันที "จะไปอยู่คนเดียวได้ยังไง ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาใครจะรู้ใครจะเห็นน้ำเหนือ"
"ต... แต่ว่า..."
"นั่นสิเหนือ กลับไปอยู่หอก็ต้องอยู่คนเดียวอันตรายอย่างที่คุณหญิงพูด ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนะ เรายังมีลูกอีกคนนะเหนือ" โอ๊ตเองก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน
"แต่ผม..."
"น้ำเหนือ" ยังไม่ทันที่น้ำเหนือจะได้พูดอะไรคุณหญิงมรกตก็เรียกเสียก่อนให้เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมอง
"ไม่ว่ายังไงเราก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกนะว่าเราคือสะใภ้ของบริสตัน""ผม..."
ผมไม่อยากยอมรับนั่นคือสิ่งที่น้ำเหนือคิดแต่ก็ไม่อาจจะพูดออกไปได้ จึงได้แต่ก้มหน้าลงตามเดิมให้คนมองถอดถอนหายใจกับความดื้อดึงนี้ของเขา
คุณหญิงมรกตยกมือขึ้นลูบผมของน้ำเหนือก่อนจะพูด "ฉันเข้าใจว่าสิ่งที่น้ำเหนือเจอมามันทำให้ยากที่จะยอมรับ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือลูกในท้องไม่ใช่หรือน้ำเหนือ อยู่ตัวคนเดียวจะหยิบจะจับอะไรก็ลำบากตอนนี้ถึงจะทำอะไรสะดวกเพราะท้องยังไม่โตแต่ก็อยู่ในช่วงที่อันตรายมากนะ"
น้ำเหนือเม้มปากแน่นกับคำพูดของคุณหญิง รู้หรอกว่าอันตรายแต่น้ำเหนือก็ยังไม่อาจจะเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้นได้เพราะเขาไม่อยากจะเจอ ไม่อยากจะยุ่ง ไม่อยากจะข้องเกี่ยวด้วย
"ขอผม...ตัดสินใจก่อนได้ไหมครับ"
"โอเคๆ ฉันยอมแพ้ ฉันจะยอมให้น้ำเหนือไปอยู่ที่หอก่อนก็ได้" พอคุณหญิงมรกตพูดแบบนั้นคนที่นั่งทำหน้าซึมก็ยิ้มออกทนทีก่อนจะทำหน้ามุ่ยเมื่อได้ยินประโยคต่อมาให้คนมองทั้งสองคนยกยิ้มอย่างเอ็นดู "แต่ฉันจะให้แม่บ้านที่บ้านไปคอยดูแล อย่างน้อยก็จะได้มีเพื่อนอยู่ด้วย"
"พี่โอ๊ต..." พอคุณหญิงพูดว่าต้องมีเพื่อนอยู่ด้วยเด็กดื้อก็หันมาหารุ่นพี่แล้วเรียกเสียงอ้อนทันที
"พี่จะไปอยู่ด้วยได้ยังไง พี่ก็ต้องทำงานนะเออ ให้คนของคุณหญิงไปอยู่ด้วยน่ะดีแล้ว หรือไม่อย่างนั้นก็ไปอยู่ที่บ้านคุณหญิง" โอ๊ตส่ายหน้าไปมา
และคำตอบนั้นก็ทำให้คนฟังหน้ามุ่ยกว่าเดิมจนทั้งคุณหญิงและโอ๊ตหัวเราะออกมา ก่อนที่โอ๊ตจะยื่นมือไปยีผมของน้ำเหนือเล่น
"เอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะคะ" คุณหญิงมรกตพูดกับน้ำเหนือ
"ก็ได้ครับ" สุดท้ายก็ได้แต่รับคำ
อย่างน้อยคุณหญิงก็บอกว่าจะให้แม่บ้านมาดูแล ก็ดีกว่าเป็นใครบางคนนั้นแหละนะคุณหญิงมรกตและโอ๊ตนั่งคุยอยู่กับน้ำเหนืออีกสักพักก่อนจะกลับไปหลังจากที่น้ำเหนือทานมื้อกลางวันและทานยาแล้วเรียบร้อย คนที่อยู่ว่างๆ จึงหยิบหนังสือที่อ่านค้างไว้ตอนก่อนที่ทั้งสองคนจะมามาอ่านต่อ
แต่อ่านไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องยกมือปิดปากหาวคงเพราะจากการทานยาเข้าไปก่อนหน้านี้ทำให้เกิดอาการง่วงนอน แล้วแทนที่จะลงนอนดีๆ เจ้าตัวยังคงฝืนนั่งอ่านหนังสืออยู่แบบนั้นทั้งๆ ที่ตาปรือจนแทบจะลืมไม่ขึ้น แถมตัวยังเอนไปเอนมา แต่อย่างว่าคนกำลังจะหลับคงไม่รู้ตัวหรอกว่าท่าทางของตัวเองน่าหวาดเสียวขนาดไหน
ฟึ่บ!
เฮ้อ...
แล้วก่อนที่หนังสือจะหล่นจากมือ ก่อนที่ร่างนั้นจะเอนล้มก็มีคนเข้ามารับเอาไว้ได้ทัน
"ง่วงนอนขนาดนี้แล้วยังจะฝืน ดื้อจริงๆ ให้ตายสิ" ควอตซ์บ่นเสียงเบาพร้อมถอนหายใจอย่างโล่งอก
ชายหนุ่มที่เปิดประตูห้องพักเข้ามาเมื่อครู่ถึงกับตาโตเมื่อเห็นว่าน้ำเหนือนั่งตัวเอียงไปเอียงมาดวงตากลมโตนั้นก็ค่อยๆ ปิดลง สติสัมปชัญญะก็ดังลงพร้อมกับร่างเอนจะล้มโชคดีที่เขาวิ่งเข้ามารับเอาไว้ทัน
คนที่เผลอหลับไปลืมตาขึ้นมองแต่ก็เพียงไม่นานก็ต้องปิดตาลงอีกรอบเพราะฝืนต่อไปไม่ไหว
"คุณ..." แม้ตาจะปิดลงแต่ริมฝีปากเหมือนจะยังไม่ปิดเพราะน้ำเหนือส่งเสียงออกมาให้คนที่กำลังประคองอยู่ก้มลงไปมอง "มาทำไม"
"หลับไปเลย จะมาฝืนทำไม" ควอตซ์ไม่ตอบคำถามนั้นแต่สั่งให้คนที่ฝืนตัวเองจะไม่ไหวแล้วหลับไป
"ไม่..." บอกปฏิเสธพร้อมกับสั่นหน้าน้อยๆ ให้คนมองถอนหายใจ นึกอยากจะตีสักทีเผื่อความดื้อดึงนี้จะลดลงไปบ้าง
"ฉันไม่ทำอะไรหรอก หลับไปได้แล้วจะฝืนให้ได้อะไรน้ำเหนือ"
"อย่ามาดุนะ"
"เออ... ไม่ดุๆ หลับไปได้แล้วเลิกพูด ไว้ตื่นแล้วอยากจะพูดอะไรก็ค่อยพูดแล้วกัน" ควอตซ์ประคองคนที่หลับไปแล้วลงนอนบนเตียงดีๆ ก่อนจะดึงผ้าขึ้นห่มให้ น้ำเหนือพยายามฝืนลืมตามองแต่ไม่นานก็เผลอหลับไป
คนมองได้แต่ส่ายหน้ากับท่าทางนั้น ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างเตียงหยิบหนังสือที่ตกอยู่ข้างตัวน้ำเหนือมาเปิดดู มือพลิกหน้ากระดาษไปมาก่อนจะเริ่มอ่านอย่างนึกสนใจ
ควอตซ์นั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับคุณแม่อยู่แบบนั้นจนกระทั่งคนที่หลับไปเพราะฤทธิ์ยาขยับตัวตื่นเขาจึงละสายตาจากหนังสือขึ้นมองคนที่ขยับตัวไปมาอย่างงัวเงีย ริมฝีปากบางยกขึ้นเมื่อเห็นท่าทางงัวเงียไม่ต่างจากเด็กของน้ำเหนือ
คนที่ตอนแรกนอนห่มผ้าดีๆ แต่พอเริ่มรู้สึกตัวก็คว้าเอาผ้าห่มที่คลุมตัวอยู่นั้นมากอดเอาไว้แถมยังยกขายก่ายผ้าห่มอีกต่างหาก แต่ดูเหมือนจะไม่พอใจเท่าไหร่เพราะคนที่ยังกึ่งหลับกึ่งตื่นดึงผ้าห่มขึ้นจนมันพันกันเป็นก้อนแล้วเจ้าตัวก็กอดเอาไว้แน่นแถมยังฝังหน้าลงไปอีกด้วย
"ผ้าห่มมันเล็กไปกอดไม่ถนัดหรือไง" ควอตซ์พูด แต่ไม่ได้พูดเสียงดังจนอีกคนได้ยิน แต่เหมือนพูดกับตัวเองเสียมากกว่า
จนกระทั่งผ่านไปเกือบสิบนาทีคนที่ยังกึ่งหลับกึ่งตื่นก็เริ่มตื่นเต็มตา น้ำเหนือขยับตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมกับยกมือขึ้นขยี้ตา
"ขยี้แบบนั้นตาแดงขึ้นมาไม่รู้ด้วย" คำพูดที่ดังขึ้นทำเอาคนที่เพิ่งตื่นชะงักมือก่อนจะหันไปตามเสียง ใบหน้าบูดบึ้งทันทีที่เห็นว่าใครนั่งอยู่ข้างเตียง แต่ตัวคนพูดตอนนี้ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองน้ำเหนือแต่อย่างใด ควอตซ์ยังคงกวาดสายตาอ่านหนังสืออยู่ด้วยท่วงท่าที่น้ำเหนือเห็นแล้วก็เบ้หน้า
ขี้เก๊ก!"กำลังว่าฉันในใจอยู่หรือไง" เป็นอีกรอบที่น้ำเหนือชะงัก
แสนรู้ดีแหะ"เวลาคิดอะไรอยู่เธอแสดงออกทางสีหน้านะ ใครมองก็รู้ ตอนนี้ก็กำลังนินทาฉันอยู่ในใจละสิท่า" ควอตซ์พูดพร้อมกับปิดหนังสือในมือแล้วเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งอยู่บนเตียง
"คุณมาทำอะไรที่นี่" น้ำเหนือถาม
"นี่คือคำทักทายใช่ไหม" อชิตพลเลิกคิ้วขึ้นมอง ให้น้ำเหนือทำหน้ามุ่ยใส่แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น เขาจึงเลิกสนใจแล้วหันไปหยิบเอากระเป๋าเอกสารที่วางอยู่ข้างเก้าอี้ขึ้นมาส่งให้กับน้ำเหนือ
"อะไรครับ" น้ำเหนือถามแต่ก็ยังไม่ยื่นมือออกไปรับอยู่ดี
"เอาไปเปิดดูสิ" อีกฝ่ายเองก็ไม่ตอบคำถามอะไรจนสุดท้ายน้ำเหนือก็หยิบกระเป๋านั้นมาถือเอาไว้แล้วเปิดออกดู "คุณแม่บอกว่าเธอดื้อจะขอทำงานให้ได้ ท่านก็เลยให้ฉันเอางานมาให้เธอเอาไว้ทำที่บ้าน พวกนี้คือแนวโน้มเทรนด์ใหม่ของปีนี้ ปีหน้า และปีถัดไปรวมไปถึงเทรนด์ความนิยมปัจจุบัน และในอดีต ตอนนี้ทางบริษัทกำลังคิดที่จะประยุกต์เอาอัญมณีมาทำเครื่องประดับแฟชั่นที่ใครๆ ก็ใส่ได้ไม่ใช่เฉพาะคุณหญิงคุณนาย และนี่คืองานของเธอ"
"ครับ?! คุณอชิตพลหมายความว่า... ผมจะได้เป็นคนออกแบบเครื่องประดับพวกนี้เหรอครับ" น้ำเหนือร้องถามด้วยความตื่นเต้นทันที
"แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเครื่องประดับของเธอจะได้รับการผลิต อันนี้เป็นแผนการของทางบริษัทเฉยๆ ยังไม่ได้รับการอนุมัติว่าจะทำจริงๆ คุณแม่เลยให้เอามาให้เธอลองทำ เพราะเธอออกไปทำงานข้างนอกไม่ได้นี่นะ"
น้ำเหนือยิ้มกว้างทันที และรอยยิ้มนั้นก็ทำเอาคนที่มองอยู่นิ่งไปเล็กน้อยเพราะตั้งแต่เจอกับน้ำเหนือมาเขายังไม่เคยเห็นน้ำเหนือยิ้มแบบนี้เลยสักครั้ง คนยิ้มกว้างยกมือขึ้นไหว้พร้อมพูดขอบคุณ "ขอบคุณนะครับ ผมจะตั้งใจทำงานให้เต็มที่เลย"
"ยิ้มก็เป็นนี่นา" ควอตซ์พูดยิ้มๆ และคำนั้นทำให้น้ำเหนือรู้สึกตัว รอยยิ้มที่แย้มกว้างเมื่อครู่หุบลงทันทีจนควอตซ์นึกขันในใจกับท่าทางนั้น "แต่ตอนนี้หน้าบึ้งแล้วแหะ"
"อะไรของคุณครับคุณอชิตพล ว่างมากหรือครับถึงมานั่งอยู่นี่"
"ก็คงว่างนั่นแหละนะ" ควอตซ์ตอบอย่างไม่ใส่ใจมากนักก่อนจะหยิบหนังสือคุณแม่มาอ่านต่ออย่างไม่สนใจท่าทางของอีกคน
"หนังสือของผม ห้ามอ่าน" ทันทีที่ควอตซ์หยิบหนังสือมาเปิดอ่านเจ้าของหนังสือก็ร้องบอกทันที วางกระเป๋าเอกสารไว้ข้างตัวแล้วขยับมาริมเตียงเอื้อมมือมาจะคว้าหนังสือคืน
ควอตซ์ขยับตัวหลบแต่ก็ไม่ได้คืนหนังสือแต่อย่างใด อีกทั้งยังเปิดอ่านต่อแบบไม่สนใจน้ำเหนือเลยสักนิดให้คนที่พยายามแย่งหนังสือคืนชักจะหงุดหงิด
"คุณอชิตพล เอาหนังสือของผมมาเลย"
"ขอยืมอ่านหน่อย ตอนนี้เธอท้องได้กี่สัปดาห์แล้วถึงสามเดือนหรือยัง สามเดือนนี่... สิบสองสัปดาห์ใช่ไหม" ควอตซ์เงยหน้าขึ้นถามก่อนจะเลยไปมองหน้าท้องของน้ำเหนือที่ดูแล้วยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก
"จะกี่เดือนกี่สัปดาห์แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยละ เอามาเลยผมไม่ให้คุณอ่านหรอกนะ" น้ำเหนือว่าพร้อมกับโน้มตัวมาหยิบหนังสือในมือของควอตซ์
"นี่! เดี๋ยวก็ล้มหล่นลงมาหรอกนั่งเฉยๆ สิ แล้วขยับมาแบบนี้ถ้าสายน้ำเกลือหลุดขึ้นมาจะทำยังไง หรือถ้าที่แขวนถุงน้ำเกลือมันเลื่อนมาชนเตียงจนล้มทับมาจะทำยังไง" ควอตซ์ดุขึ้นทันทีที่เห็นน้ำเหนือโน้มตัวมาไม่หยุด
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนก่อนจะดันตัวน้ำเหนือให้กลับไปนั่งดีๆ ส่วนคนที่โดนดุก็ถึงกับตาโตก่อนจะเม้มปากแน่นสีหน้าบ่งบอกว่าไม่พอใจอย่างยิ่งที่โดนดุแบบนี้
"คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกเข้าใจไหม"
"ก็คุณเอาหนังสือผมไปนี่!" น้ำเหนือสวนขึ้นเสียงดังยกมือขึ้นกอดอก
"ฉันไม่ได้ขโมยไปไหนเสียหน่อย ก็นั่งอ่านอยู่ข้างเตียงนี่ ไม่ต้องเถียงเลยน้ำเหนือน้าหมอก็เคยบอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่าให้ระวังๆ ถ้าเผลอพลาดหล่นจากเตียงลงไปทำยังไงหะ"
น้ำเหนือกัดเม้มปากของตัวเองทันที ความรู้สึกบางอย่างวิ่งวนไปหมดในอกทั้งไม่พอใจ ทั้งไม่เข้าใจ ทั้งน้อยใจ ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องรู้สึกแบบนี้อาจจะเป็นเพราะอารมณ์ที่แปรปรวนของคนตั้งท้องที่ทำให้เขาเป็นอย่างนี้ ดวงตาที่ควอตซ์นึกถูกใจตั้งแต่คราแรกที่เห็นเพราะมันเหมือนกับตากวางนั้นกำลังสั่นระริกพร้อมกับน้ำใสๆ ที่เออล้นก่อนจะไหลทะลักพร้อมกับเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นแบบที่ไม่พยายามกลั้นเสียงเลยสักนิด
คนที่เพิ่งเอ่ยปากดุไปถึงกับตกใจทำอะไรไม่ถูก เขามั่นใจว่าไม่ได้ดุหรือต่อว่าอะไรรุนแรงเลยสักนิด ควอตซ์เริ่มร้อนรนอย่างไม่รู้จะทำยังไง
"นี่... ร้องไห้ทำไม" มือก็ไม่รู้จะขยับไปจับตรงไหน จะวางไว้ยังไง
"ทำไม อึก... ฮือออ ท ทำไมต้องดุผมด้วย อึก... ละ ฮืออออออ"
"เออ... เฮ้อ... ขอโทษๆ ไม่ดุแล้วเพราะฉะนั้นเลิกร้องได้แล้วเดี๋ยวก็ปวดหัวหรอก"
คนที่ร้องไห้จนหน้าตาแดงก่ำเงยหน้าขึ้นมองแต่ก็ยังไม่หยุดร้องแต่อย่างใด น้ำเหนือสะอื้นฮักยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนหน้าออกด้วยท่าทางเหมือนเด็กๆ
"โอเค... จะให้ฉันทำยังไงถึงจะหยุดร้องไห้ ไหนบอกมาสิ" ควอตซ์ยกมือขึ้นทั้งสองข้างอย่างยอมแพ้
"ออกไปเลย ผมจะนอนแล้ว อึก... ไม่อยากเห็นหน้าคุณด้วย ฮือออ ออกไปเลย"
ควอตซ์ถอนหายใจออกมาอีกรอบก่อนจะพยักหน้ารับ "ก็ได้ถ้าฉันออกไปแล้วก็เลิกร้องไห้เข้าใจไหม เดี๋ยวปวดหัว"
"ไม่ต้องมาสั่ง อึก... ผมเลย" น้ำเหนือทำหน้างอใส่
"โอเคๆ ไปแล้วๆ เลิก... ไม่สั่งก็ไม่สั่ง" พอควอตซ์จะพูดว่าให้เลิกร้องไห้คนที่นั่งมองอยู่ก็ทำท่าจะปล่อยโฮออกมาอีกรอบให้เขาต้องรีบเปลี่ยนคำแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างยังไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิด แล้วทำไมน้ำเหนือถึงต้องร้องไห้
ชายหนุ่มเดินไปยังเคาน์เตอร์พยาบาลเพื่อบอกให้พยาบาลเข้าไปดูน้ำเหนือให้ทีว่าหยุดร้องไห้หรือยัง และเมื่อได้คำตอบว่าคนในห้องนั้นหยุดร้องไห้แล้วก็นอนหลับไปแล้วเขาจึงคลายความกังวลลง
************************************************
เด็กดื้อทำยังไงก็ดื้อเนอะ ยังจะดื้อไปอยู่หอให้ได้ คุณหญิงก็ไม่อยากจะขัดใจมากยอมให้ไปอยู่หอก็ได้แต่ก็ต้องมีคนไปอยู่ด้วยจ๊ะ ไม่อย่างนั้นก็อด แล้วใครจะไปอยู่กับน้องละเนี่ย... แล้วดูสิโดนพ่อพระเอกดุนิดนึงก็ร้องไห้แล้ว งานเข้าพ่อพระเอกไปสิเมียร้องไห้ (หัวเราะสะใจ) ศึกหนักที่ฟางบอกเมื่อตอนที่แล้วก็นี่แหละจ้า เมียพี่แกนี่แหละศึกหนักของแท้เลย คนท้องอารมณ์แปรปรวน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แล้วคนที่นิดหน่อยก็หงุดหงิดแล้วอย่างพี่ควอตซ์ก็ต้องปรับตัว ไหนจะต้องตื๊อเมียอีก แบบนี้ไม่เรียกว่าศึกหนักได้ยังไงเนอะ ฮ่า
อ๋อ... บอกนิดเรื่องแบ่งอัพค่ะ คืออย่างที่บอกเนอะว่าตอนนี้ฟางกำลังเตรียมตัวสอบใบประกอบวิชาชีพปลายปีนี้ คือจะอัพอาทิตย์ละครั้งฟางว่ามันและน้อยไปหน่อยคือรู้ว่าทุกคนอยากอ่านแหละ ฟางเองก็อยากอัพแต่ช่วงนี้ไม่สามารถปั่นให้เสร็จ 2 ตอนใน 1 อาทิตย์ได้ ฟางเลยขอแบ่งอัพเป็น 50 – 50 นะคะ จะได้แลไม่เว้นช่วงนานเกินไปด้วย ตกลงตามนี้นะคะ^^
เออ... เหมือนจะมีคอมเมนต์ถามฟางว่าฟางเรียนพยาบาลหรือเปล่า ไม่แน่ใจในเรื่องนี้หรือเปล่า เปล่าจ้า ฟางไม่ได้เรียนพยาบาล นิสัยฟางนี้ไม่เหมาะจะไปเป็นพยาบาลเลยจ้า 5555555
ถ้าชอบถูกใจก็คอมเมนต์กันเนอะ ขอเลยค่าขอคอมเมนต์เลย ขอกันแบบนี้นี่แหละ แฮ่...
อ่านกันแล้วก็คอมเมนต์ให้กำลังใจคนเขียนหน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งให้อ่านกันเรื่อยๆ นะ แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)