บท8"ว่ายังไงนะ เมื่อกี้ลูกพูดว่าอะไรนะ" คุณหญิงมรกตก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับคุณโทมัสก่อนจะเดินมาหยุดอยู่หน้าลูกชายของตัวเอง
"ม ไม่ใช่นะครับคุณหญิง ม ไม่ใช่" น้ำเหนือละล่ำละลักบอกเสียงสั่น หน้าซีดไปแล้วเรียบร้อยด้วยความหวาดกลัว
คุณหญิงมรกตหันไปมองหน้าน้ำเหนือจนคนถูกมองได้แต่เม้มปากนั่งหน้าซีดอยู่บนเตียง ควอตซ์ที่เห็นสายตาของคนเป็นแม่ก็ขยับไปยืนบังหน้าคนที่กำลังกลัวเอาไว้
"ควอตซ์บอกแม่มาว่าเมื่อกี้ที่ลูกพูดคืออะไร" คุณหญิงจ้องหน้าลูกชายของตัวเองแน่นพร้อมกับเลยไปมองเด็กที่เธอนึกเอ็นดูที่ตอนนี้นั่งตัวสั่นหน้าซีด
"ค คุณอชิตพลพูดเล่นครับคุณหญิง... ม ไม่มีอะไรหรอกครับ" น้ำเหนือพยายามที่จะแก้ต่าง ไม่รู้จริงๆ ว่าตอนนี้คุณหญิงมรกตกำลังคิดอะไรอยู่แล้วรู้สึกอย่างไร ทางที่ดีควรบอกปฏิเสธไปเสียก่อน แต่พอคุณหญิงหันมามองน้ำเหนือก็ได้แต่นั่งเม้มปากไม่กล้าพูดอะไรออกมา
"ควอตซ์แม่ถามไม่ได้ยินหรือยังไง"
ควอตซ์หันไปมองคนที่นั่งอยู่บนเตียงก่อนจะหันมามองคนเป็นแม่ของตนอีกรอบก่อนจะเอ่ยตอบคำถามนั้น
"ผม... ทำน้ำเหนือท้อง""ค... คุณอชิตพล" น้ำเหนือได้แต่ส่งเสียงแผ่วเบากับคำพูดนั้น น้ำตาที่คลอหน่วงอยู่ที่ดวงตาคู่โตเริ่มไหลออกมา
"นี่ลูก!... ลูกพูดว่าอะไรนะ!!" เสียงของคุณหญิงมรกตดังขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบของลูกชาย ร้องถามอีกรอบอย่างไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นถูกต้องหรือไม่ และท่าทางที่เหมือนจะเกรี้ยวกราดเล็กน้อยนั้นทำให้คุณโทมัสขยับเข้ามาจับแขนคนเป็นภรรยาของตนเองเอาไว้
"ผมทำน้ำเหนือท้องครับ ผมทำร้ายน้ำเหนือ"เพียะ!!
สิ้นคำตอบของควอตซ์ฝ่ามือของคุณหญิงก็เข้าปะทะที่ข้างแก้มทันทีแบบที่ไม่มีใครห้ามทัน ใบหน้าของคุณหญิงแดงก่ำด้วยความกรุ่นโกรธ น้ำเหนือได้แต่ยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ ส่วนคนที่โดนตบหน้าทำเพียงแค่ยืนนิ่งๆ เท่านั้น
"ค... คุณหญิง ม ไม่จริงนะครับ ไม่ใช่เรื่องจริงนะครับ"
"ไม่มีเหตุผลที่จะต้องปิดบังหรอกน้ำเหนือ" ควอตซ์พูดขึ้นหลังจากที่ได้ยินน้ำเหนือส่งเสียงปฏิเสธ ร่างสูงมองหน้าคนเป็นเป็นแม่นิ่งก่อนจะยืนยันออกมาอีกรอบ "ผมพูดเรื่องจริงครับ"
เพียะ!!
อีกรอบที่ฝ่ามือของคุณหญิงสะบัดไปตบใบหน้าของลูกชายสุดที่รัก ดวงตาฉายแววแห่งความเสียใจและผิดหวังอย่างปิดเอาไว้ไม่มิดจนคนมองได้แต่รู้สึกเสียใจสะท้อนอยู่ในอก "ทำไมลูก... ทำไมถึงทำแบบนี้! ลูกจะเที่ยวเล่นแค่ไหนแม่ไม่เคยว่า แม่ไม่เคยห้ามเพราะแม่พยายามจะเข้าใจว่าลูกโตพอที่จะรู้ว่าอะไรควรไม่ควร โตพอที่จะรู้จักรับผิดชอบ! แต่ทำไมลูกถึงได้ทำแบบนี้ควอตซ์!"
คนฟังได้แต่ก้มหน้านิ่ง ไม่มีคำอธิบายอะไรมากไปกว่า... "ผมขอโทษครับคุณแม่"
"แม่ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าลูกชายของแม่จะทำแบบนี้ แม่ไม่อยากจะเชื่อเลย"
"คุณแม่ครับ...ผม..."
ควอตซ์เอ่ยปากพูดแต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปดีสุดท้ายก็ได้แต่เงียบเสียงลง ก้มหน้าหลบสายตาของคนเป็นแม่ที่มองมาอย่างผิดหวังและเสียใจกับการกระทำที่ไม่ยั้งคิดของเขา
เขาไม่คิดจริงๆ ว่าการกระทำที่ขาดสติ ขาดความยับยั้งช่างใจของเขาในวันเดียวจะส่งผลมากมายขนาดนี้
ภายในห้องพักนั้นเงียบสนิทไม่มีใครพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว นอกจากเสียงกลั้นสะอื้นของน้ำเหนือที่ยังดังอยู่ให้คุณหญิงมรกตต้องหันไปมอง ภาพที่เห็นที่ทำให้ต้องถอนหายใจออกมา ภาพน้ำเหนือที่นั่งอยู่บนเตียงยกมือขึ้นปิดปากแน่นเพื่อกลั้นไม่ให้เสียงสะอื้นหลุดออกมาอีกทั้งยังพยายามกระพริบตาถี่ๆ เพื่อไหล่หยาดน้ำตาที่คลอหน่วงให้หายไป แล้วเมื่อคุณหญิงหันมามองน้ำเหนือก็ทำได้แค่ก้มหน้า มือที่ยกขึ้นปิดปากก็ลดลงมาจับกันเอาไว้เองแน่น
"ผม...จะรับ"
"ออกไปซะควอตซ์" ยังไม่ทันที่คนเป็นลูกจะพูดจบประโยค คุณหญิงมรกตก็แทรกขึ้นให้ควอตซ์เงยหน้าขึ้นมองพร้อมทำตาโตอย่างไม่เข้าใจ "ออกไปแล้วกลับไปคิดทบทวนให้ดีก่อนจะพูดอะไรออกมา"
"คุณแม่ครับ"
"แม่บอกให้ออกไปยังไงละควอตซ์"
"แต่ว่า..."
"ควอตซ์... ออกไปก่อนเถอะลูก" คุณโทมัสที่ยืนมองอยู่เงียบๆ พูดขึ้นพร้อมกับหน้าหน้าเมื่อลูกชายคนโตหันมามอง
ควอตซ์ได้แต่มองแม่สลับกับน้ำเหนือไปมาก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วยอมเดินออกจากห้องพักของน้ำเหนือไป คุณโทมัสยกมือขึ้นแตะที่ไหล่ของภรรยาก่อนจะเดินตามลูกชายออกจากห้องจนเหลือเพียงแค่คุณหญิงมรกตและน้ำเหนือเพียงสองคนเท่านั้น
"ค... คุณหญิง..."
"มันเกิดขึ้นได้ยังไงน้ำเหนือ เรื่องของเรากับตาควอตซ์มันเกิดขึ้นได้ยังไง" คุณหญิงมรกตหันมาถามน้ำเหนืออย่างไม่เข้าใจ และคำถามนั้นก็ยิ่งทำให้น้ำเหนือหน้าซีดเข้าไปใหญ่
ถ้าหากคุณหญิงมรกตรู้เรื่องทั้งหมดความเมตตาความเอ็นดูที่เคยมีให้จะยังเหมือนเดิมหรือเปล่า ถ้าหากไม่เหมือนเดิมแล้วต่อจากนี้ไปน้ำเหนือจะทำยังไง แล้วก็ดูเหมือนว่าคุณหญิงจะรู้ว่าน้ำเหนือกำลังคิดอะไรอยู่จึงได้ถอนหายใจออกมา ไม่ใช่เพราะหงุดหงิด ไม่ใช่เพราะไม่พอใจ แต่ถอนหายใจออกมาเพื่อปรับอารมณ์ของตัวเองก่อนจะยื่นมือไปจับมือของน้ำเหนือเอาไว้
"เล่ามาเถอะ ไม่ต้องกลัวอะไร"
คนฟังกัดปากตัวเองอย่างตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรดีกับเหตุการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่นี้ แต่เมื่อคุณหญิงมรกตถามย้ำกลับมาอีกรอบน้ำเหนือก็ได้แต่พูด
"คือว่าคุณหญิง..."
"จริงหรือเปล่าที่ตาควอตซ์ทำร้ายเราน้ำเหนือ" น้ำเหนือได้แต่สะดุ้งกับคำพูดนั้นและท่าทางนั้นก็สามารถบอกได้เป็นอย่างดีว่าสิ่งที่ควอตซ์พูดคือเรื่องจริง "เป็นเรื่องจริงสินะ..."
"คุณหญิง..."
"ฉันยอมรับว่าตกใจกับสิ่งที่ได้ยินแต่ไม่ต้องห่วงนะฉันจะจัดการทุกอย่างให้ทุกต้องเอง" น้ำเหนือเงยหน้าขึ้นมองคุณหญิงมรกตทันทีที่ได้ยิน
"หมายความว่ายังไงหรือครับ"
"ตาควอตซ์จะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำ ไม่ว่ายังไงเด็กในท้องก็ลูกตาควอตซ์แถมยังเป็นหลานของฉันอีกด้วย" คุณหญิงพูด
น้ำเหนือได้แต่ส่ายหน้า "ไม่ต้องหรอกครับคุณหญิง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันคือความผิดพลาด ความไม่ได้ตั้งใจ"
"ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ผิดพลาดหรือไม่ผิดพลาดแต่ทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นแล้วก็ต้องควรทำทุกอย่างให้มันเหมาะสมสิ"
น้ำเหนือยกมือขึ้นพนมไว้ที่อก "ขอแค่คุณหญิงเมตตาให้ผมได้ทำงานนั่นก็ดีที่สุดแล้วครับ ส่วนเรื่องอื่น... ผมคงไม่..."
คุณหญิงมรกตได้แต่ถอนหายใจพลางมองน้ำเหนือที่นั่งก้มหน้าอยู่บนเตียงแล้วพาลนึกไปถึงลูกชายตัวดีที่สร้างเรื่องราวเอาไว้เสียใหญ่โตจนแทบจะรับไม่ทัน ถ้าหากถามใจคุณหญิงแล้วละก็... แม้จะตกใจที่อยู่ๆ ก็ได้ตัวลูกสะใภ้และหลานแบบกะทันหัน แต่อย่างน้อยก็ยังดีที่คนคนนั้นคือน้ำเหนือเด็กที่เธอนึกเอ็นดู อย่างน้อยก็ดีกว่าใครก็ไม่รู้ที่เธอไม่รู้จักนิสัยใจคอ
และหลังจากที่หายตกใจสิ่งที่ตามมาก็คือความรู้สึกที่ยิ่งกว่าสงสาร คุณหญิงจึงตั้งใจว่าจะจัดการทุกอย่างให้ถูกให้ควร แต่ดูท่าแล้วเรื่องราวจะไม่ง่ายขนาดนั้น ไม่รู้ว่าพ่อลูกชายตัวดีจะตัดสินใจหรือคิดอย่างไร ส่วนน้ำเหนือ... ดูท่าคงจะไม่ยอมง่ายๆ เข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลบริสตันง่ายๆ เช่นเดียวกัน
"จริงสิพูดถึงเรื่องงานแล้วฉันก็นึกขึ้นได้" คุณหญิงมรกตเปลี่ยนเรื่องคุยเพราะรู้ดีว่าตอนนี้น้ำเหนือคงไม่อยากจะคุยเรื่องของลูกชายเธอสักเท่าไหร่ ในเมื่อน้ำเหนือไม่อยากคุยคุณหญิงก็เปลี่ยนเรื่องไม่อยากจะเอาเรื่องเครียดๆ มาพูดคุยกับคนที่กำลังท้อง
"ครับ ทำไมหรือครับ"
"เอาอย่างนี้ไหมที่เราเคยบอกว่าอยากทำงานแต่อย่างที่วิรัชเคยพูดว่ายาแก้แพ้ท้องที่น้ำเหนือต้องทานน่ะทำให้รู้สึกง่วงถ้าไปทำงานที่ร้านก็คงจะลำบาก น้ำเหนือเอางานกลับไปทำที่บ้านดีไหมจะได้พักผ่อนได้สะดวก ไม่ต้องเจอคนเยอะไม่ต้องทนได้กลิ่นเหม็นหรือเวียนหัวอะไร"
น้ำเหนือยิ้มออกทันทีที่ได้ยินคุณหญิงมรกตพูด "จริงๆ นะครับคุณหญิง ผมอยากทำงานครับ"
"ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามนี้แล้วกัน เรื่องรับงานก็เดี๋ยวให้โอ๊ตเป็นคนจัดการให้ หรือไม่อย่างนั้นถ้าเราคิดแบบเครื่องประดับอะไรได้ก็ออกแบบเอาไว้แล้วเดี๋ยวฉันค่อยเอาเข้าที่ประชุมเพื่อดูว่าจะสามารถเอาไปทำได้ไหม"
"ได้ครับคุณหญิง ยังไงก็ได้ผมไม่มีปัญหาครับ ขอบคุณคุณหญิงมากนะครับผมจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด" น้ำเหนือยกมือไหว้ขอบคุณ
"ไม่เป็นไร เอาไว้เราออกจากโรงพยาบาลก่อนแล้วกันแล้วค่อยคุยรายละเอียดเรื่องงานกันอีกที"
ประตูห้องพักฟื้นของน้ำเหนือถูกดันเปิดออกก่อนที่หมอวิรัชจะเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับทักทายคนไข้ของตน "เป็นยังไงบ้างน้ำเหนือ เวียนหัว ปวดหัวหรือเปล่า อากาศไม่สบายรู้สึกดีขึ้นไหม"
"ครับ ก็ดีขึ้นเยอะแล้วละครับไม่ค่อยปวดหัวหรือปวดตัวเท่าไหร่แล้ว" น้ำเหนือตอบ
"ถ้าอาการดีขึ้นเรื่อยๆ อีกสองสามวันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วละ ว่าแต่น้ำเหนืออยู่บ้านใช่ไหม เป็นบ้านชั้นเดียวหรือสองชั้น ต่อไปนี้เวลาจะเดินจะทำอะไรก็ต้องคอยระวังด้วยนะ ช่วงระยะเวลาหนึ่งถึงสามเดือนแรกนี่ค่อนข้างอันตรายต้องดูแลตัวเองดีๆ นะ" หมอวิรัชบอก
ซึ่งคำบอกกล่าวนั้นก็ทำให้น้ำเหนือได้แต่ยิ้มแหย "ผม... เช่าหอพักอยู่ครับ ไม่ได้อยู่บ้าน"
"ไม่ได้อยู่บ้านหรอกเหรอ" ทั้งหมอวิรัชและคุณหญิงมรกตพูดขึ้นพร้อมกัน
"ครับ... คือผมอยู่คนเดียวก็เลยเช่าหอพักอยู่มันสะดวกกว่านะครับ" น้ำเหนือตอบ
"ไม่ดี ไม่ดีแน่ๆ เลยน้ำเหนือ" คุณหญิงมรกตขมวดคิ้วพร้อมกับส่ายหน้าไปมา "อันตรายนะน้ำเหนือ ไหนจะอยู่คนเดียวอีกถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไงกัน เอาอย่างนี้หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้วน้ำเหนือย้ายไปอยู่ที่บ้านดีกว่า วิรัชว่าดีไหม"
"ครับ?" หมอวิรัชทวนคำอย่างงุนงงพลางหันมองน้ำเหนือกับพี่สาวของตนสลับกันไปมาอย่างไม่เข้าใจ
"ยังไงเด็กในท้องนั่นก็หลานพี่ พี่ไม่อยากให้หลานเป็นอะไรไป""พ... พี่หญิงรู้" หมอวิรัชพูดหันมองน้ำเหนืออีกรอบเพื่อต้องการคำยืนยัน
คุณหญิงมรกตมองท่าทีของน้องชายก่อนจะถามเสียงเข้ม "แสดงว่าวิรัชรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าตาควอตซ์เป็นพ่อของเด็กในห้อง ทำไมไม่บอกพี่วิรัช"
"เออ... พี่หญิงรู้ได้ยังไงครับ"
"ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะวิรัช คิดจะปิดพี่ ปิดตาควอตซ์ไปอีกนานแค่ไหนกัน"
"ผม... เป็นคนขอไม่ให้หมอวิรัชพูดเองครับ" น้ำเหนือสารภาพออกมาเสียงอ่อย "ผมเป็นคนขอเองเพราะจริงๆ แล้วผมไม่อยากให้ใครรู้... ผมกลัวน่ะครับ"
"เฮ้อ... ช่างมันเถอะเรื่องนั้นเอาไว้ค่อยคุยกันอีกที เอาเป็นว่าหลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้วน้ำเหนือไปอยู่ที่บ้านก็แล้วกันนะ" คุณหญิงมรกตพูดแบบที่น้ำเหนือก็รีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที
"ม... ไม่เป็นไรครับ ผมว่าผมอยู่หอพักเหมือนเดิมดีแล้ว ผมอยากอยู่ที่นั่นมากกว่า"
ใช่... น้ำเหนืออยากอยู่ที่ห้องมากกว่า แม้ว่ามันจะไม่ใหญ่โตแต่นั่นก็คือที่ๆ น้ำเหนืออยู่แล้วสบายใจที่สุด ที่สำคัญน้ำเหนือไม่อยากเข้าไปอยู่ที่บ้านบริสตัน ไม่อยากเข้าไปอยู่ร่วมชายคาเดียวกับผู้ชายคนนั้น...
คุณหญิงมรกตมองน้ำเหนือก่อนจะหันไปมองน้องชายของตนเองอย่างถามความคิดเห็นซึ่งหมอวิรัชก็ทำเพียงแค่พยักหน้าเป็นเชิงยอมให้น้ำเหนือกลับไปอยู่หอพักแล้วค่อยหาเวลา หาทางพูดคุยกันอีกรอบ เพราะรู้ดีว่าตอนนี้พูดยังไงไปน้ำเหนือก็มีแต่ดื้อดึงต่อต้านดีไม่ดีจะยิ่งพาลทำให้น้ำเหนือเครียดขึ้นมาแล้วจะส่งผลถึงเด็กในท้องด้วย
************************************************
แจ้งค่ะแจ้ง จากนี้ไปฟางอาจจะปรับเรื่องการอัพนิยายนะคะเพราะว่ากำลังเริ่มต้นหางานทำอย่างจริงจังแล้วก็ต้องอ่านหนังสือสอบใบประกอบวิชาชีพปลายปีนี้ด้วย ไม่ทิ้งนิยายแค่นอนค่ะ ^^ แค่ปรับการอัพนิยายนิดหน่อย กลับมาที่นิยาย... คุณหญิงแม่ไม่ใจร้ายนะคะ ถึงจะตกใจก็เถอะที่อยู่ๆ ตัวเองก็ได้ลูกสะใภ้ได้หลานแบบนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าน้ำเหนือน่าสงสาร เพราะฉะนั้นคุณหญิงเลยไม่ใจร้ายกับน้องค่ะ แต่ตบพี่ไปเสียสองรอบ ยังไม่หายสะใจเลย! 5555555 ไม่ใช่แล้วๆ
ต่อไปจะเป็นยังไงก็รอลุ้นกันนะคะ พี่ควอตซ์จะทำยังไง น้องเหนือจะยอมรับไหม รอลุ้นกันค่ะ
อ๋อ... ขอฝากนิดนึงค่ะ ตอนนี้ฟางมีตัวละครใหม่ สำหรับนิยายเรื่องใหม่แต่ยังไม่ได้ลงเร็วๆ นี้แน่นอนค่ะ ตัวละครตัวนี้มีทวิตเตอร์ด้วยนะคะ แวะไปติดตาม ไปคุยกันได้นะคะ เหมือนเป็นการอ่านนิยายล่วงหน้าค่ะ ก่อนจะเจอกันแบบเต็มๆ เนอะ ทวิตค่ะ @Guy_Kamin ฝากน้องกาย คามินด้วยนะคะ ฟางละหลงตัวละครตัวนี้มากเลย ^^
ถ้าชอบถูกใจก็คอมเมนต์กันเนอะ ขอเลยค่าขอคอมเมนต์เลย ขอกันแบบนี้นี่แหละ แฮ่...
อ่านกันแล้วก็คอมเมนต์ให้กำลังใจคนเขียนหน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งให้อ่านกันเรื่อยๆ นะ แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)