ตอนที่ 1 “ รับชาหรือกาแฟเพิ่มมั๊ยคะ " หันไปตามเสียงก่อนจะส่ายหน้า ผมวางหนังสือที่เกี่ยวกับทางการแพทย์ลง มองออกไปนอกหน้าต่างที่เห็นแค่ก้อนเมฆขาวและท้องฟ้าคราม อีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงการเดินของผมก็จะสิ้นสุดลง
เดินทางจากประเทศไทยมาสวิตเซอแลนด์ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมทำแบบนี้ แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยทำมาแล้ว มาบ่อยจนเพื่อนร่วมงานชอบแซวว่าแอบมีแฟนซุกไว้ที่นี่รึเปล่า แต่ความจริงมันเป็นแบบนั้นเมื่อไหร่กันละ ผมแค่มีเพื่อน .. เพื่อนรัก ก็เท่านั้นละ
ไฟท์ เพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กของผมทำงานเป็นนักการทูตที่นี่ มองดูมันแล้วก็ไม่ต่างอะไรจากที่คิดไว้ในสมัยเด็ก เป็นคนที่มีความฝันตั้งแต่เด็ก มุ่งมั่น แล้วก็พยายาม ถึงจะเป็นคนที่คิดถึงแต่ตัวเองเป็นหลักแต่นั่นก็คือส่วนที่ผลักดันมาให้มันมีวันนี้ วันที่มันทำตามความฝันได้ และการเป็นคนที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ
สามปีแล้วที่มันย้ายมันมาทำงานที่นี่สวิต หลังจากแต่งงานกับแฟนสาวที่ชื่อยูเรียลูกสาวท่านทูตสวิตในไทย เธอเป็นผู้หญิงที่สวยแถมยังมีความคิด วันแต่งงานของมันเมื่อสามปีก่อนใครๆก็อดชื่นชมไม่ได้เลยว่า ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกัน แม้ในความเป็นจริงของใจผมลึกๆ จะคัดค้านก็เถอะ ผมไม่คิดว่าคนเราจะตัดสินใจแต่งงานกับใครได้ในปีเดียวหรอก ไม่มีใครรู้จักใครสักคนได้หมดภายในปีเดียว
แต่เพราะ ' ก็ถ้าแต่งแล้วอาชีพการงานจะมั่นคงขึ้น ก็เลยแต่ง อีกอย่างผู้หญิงก็เป็นคนที่เหมาะสมก็เลยแต่ง ' นั่นเป็นคำพูดที่ไฟท์พูดให้ผมฟังวันที่ตัดสินใจจะแต่งงาน ถึงปากจะพูดคำคัดค้านเท่าไหร่ แต่เมื่อมันจะทำแล้ว เสียงของผม ไม่มีทางที่คนแบบมันจะได้ยิน
ชีวิตที่แสนเฟอร์เฟคของมันในสวิตเริ่มต้นขึ้น หลังจากแต่งงานแล้วก็มีลูกคนแรก เด็กชายตัวน้อย ชื่ออเล็กซ์ ผมได้ไปเยี่ยมตอนที่ยูเรียคลอด แต่ยังไม่ทันจะถึงปลายปีผมก็ได้ข่าวว่าเธอ ท้องเด็กแฝดชายหญิง อลันกับอะเดล แล้วต่อมาจากนั้นอีกไม่ถึงปีก็ท้องอีกคนนึง ผมไม่รู้ทำไมมันถึงขยันปั้มลูกขนาดนั้น แต่ชีวิตของมันก็เริ่มลั่นคลอนพอมาถึงตรงนี้
การท้องลูกคนที่สามของยูเรียมีปัญหา ในระหว่างการตั้งครรภ์เธอมีอาหารครรภ์เป็นพิษที่ทำให้เป็นอันตรายต่อแม่ หมอบอกว่าถ้าเธอยืนยันที่จะคลอดลูกคนสุดท้องออกมาเธอก็เลี่ยงที่จะเสียชีวิต แต่เธอก็ยืนยันที่จะตั้งท้องต่อไป เพราะอายุครรภ์ก็สี่เดือนแล้ว ไฟท์หัวเสียที่สุดตั้งแต่ที่ผมเคยรู้จักมันมา กับคำพูดของเธอที่ว่า ' เธอจะไม่มีวันฆ่าลูกของตัวเองเด็ดขาด '
ครอบครัวที่เริ่มสมบูรณ์ก็แตกแยก มันเริ่มทะเละกับยูเรียมากขึ้นทุกวัน จนเด็กๆเริ่มจะมีปัญหา เธอเลยตัดสินใจย้ายกลับมาไทยพร้อมกับเด็กๆทุกคน โดยให้ข้ออ้างที่บ้านว่าอยากให้ลูกหัดพูดไทยบ้าง ไฟท์เป็นคนปกปิดส่วนเสียของตัวเองเสมอ และหลังจากนั้นไม่นาน ยูเรีย ก็เสียชีวิตในวันที่คลอด อัลเลน.. ลูกคนสุดท้องของมัน
และนี่ก็เป็นไฟท์บินแรกที่ผมมาหามัน หลังจากเกิดเหตุการณ์น่าเศร้านั้น .. คนที่ไม่เคยผิดพลาดแบบมัน คนที่ไม่เคยมีรอยตำหนิ แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นพ่อม้ายเมียตายที่มีลูกติดสี่คน เทียบกับน้องชายของมันที่ไม่ได้เรื่องแต่ต้น แต่ตอนนี้กลับมีแฟนแล้วเป็นแรงสำคัญทำธุรกิจที่บ้าน
“ หลังจากวันนั้น มึงจะเป็นยังไงบ้างนะ "
......................................................
“ ฮัลโหล นี่มึงอยู่ไหน กูถึงแล้วนะ " กรอกเสียงไปตามสายโทรศัพท์ ผมรับกระเป๋าออกมารอคนที่บอกว่าจะมารับ แต่มองไปรอบๆแล้วก็ไม่เห็นแม้เงา
“ ยังทำงานอยู่เลยว่ะ กูมีประชุมนิดหน่อย เอาแบบนี้มึงไปที่บ้านกูก่อนแล้วกัน แล้วเดี๋ยวกูทำงานเสร็จจะรีบไปหา "
“ ไฟท์.เดี๋ยวมึง ” ยังไม่ทันเรียกหรือถามอะไรมันก็วางใส่หูผมไปซะแล้ว มองซ้ายมองขวาผมลากกระเป๋าใบเล็กที่เอาติดมาด้วย เดินออกไปเรียกแท็กซี่ มึงเล่นทิ้งกูแบบนี้ตลอดเลยนะไอ้สัด ให้มาหาแต่ไม่เคยจะว่าง
รถแท็กซี่จอดลงที่บ้านหลังใหญ่สองชั้นที่เรียกได้ว่า เงียบสงบจากทุกทีที่ผมมา ถอนหายใจกับความใหญ่โตแต่โดดเดี่ยวของมัน ผมลากกระเป๋าเข้ามาในบ้าน ไขกุญแจที่มีอยู่แล้วเข้าไป ก็เรียบร้อยกว่าที่ผมคิดไว้มาก หย่นตัวเองนั่งลงในห้องนั่งเล่น
ครืน ครืน ครืน คว้าโทรศัพท์ที่มีสายเข้ามาดู ผมเอนตัวนอนลงบนโซฟา ขมวดคิ้วกับสายที่ไม่โชว์ชื่อที่โทรเข้ามา
“ ครับ "
“ อิน ฉันเองนะ "
“ ฉันไหน " ผมถาม ปลายสายก็เงียบไป
“ นี่จำกันไม่ได้แล้วเหรอ นัทไง " ขมวดคิ้วตอนที่พยายามนึกชื่อ ผมพยักหน้าออกไปทั้งๆที่อีกฝ่ายคงจะไม่เห็น " อะไรกัน แล้วนี่อยู่ไหน นัทไปหาที่แผนกบอกว่าอินไปต่างประเทศ "
“ อยู่สวิต โทรมามีอะไร "
“ เรื่องที่พูดคราวก่อนนะจริงเหรอ .. ที่ว่าจะเลิกกัน "
“ คบกันไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา อีกอย่างนัทเอง พ่อแม่ก็ไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่ว่าอินจะไม่รู้เรื่องที่นัทไปดูตัวหรอกนะ " บอกออกไปเสียงเรียบๆอีกคนก็เงียบไป
“ แต่เรื่องแบบนั้นนะ เราก็ผ่าฟันกันไปด้วยกันได้ ถ้าอินพร้อมจะสู้ไปพร้อมกัน "
“ ไม่เอาหรอก ไอ้ที่จะต้องทำอะไรน้ำเน่าพรรคนั้นนะ อินไม่เอาด้วยหรอก ก็ไม่ใช่ละครสักหน่อยไม่ใช่รึไง ที่แบบอะไรๆก็สมบูรณ์แบบ อินไม่ยอมให้ใครมาด่าอินง่ายๆหรอก ก็ไม่ใช่คนแบบนั้นอยู่แล้ว "
“ สามปีที่เราคบกันมามันไม่มีความหมายเลยรึไง นัทคิดว่าอินจะรักนัท "
“ รักเหรอ.. ความจริงที่นัทเข้ามาจีบอิน ก็เพราะเห็นว่าหน้าสวยดีแล้วอยากจะเอาไปอวดเพื่อนไม่ใช่รึไง ก็ไม่ได้เกิดจากความรักตั้งแต่แรกนิ "
“ อิน "
“ ต่างคนต่างก็มีเหตุผลเป็นของตัวเองทั้งนั้น จะว่าไปแฟนที่พ่อแม่ของนัทหาให้มันก็ดีออกนะ ก็เหมาะสมดีออก "
“ ไม่ใช่เพราะว่า เมียของไอ้ไฟท์ตายหรอกเหรอ ถึงเลิก ไม่ใช่เพราะมีความหวังหรอกเหรอไง อินนะ ทุกวันนี้ก็ยังแอบรักไอ้ไฟท์อยู่ไม่ใช่เหรอ ยังรออยู่ ไม่ใช่รึไง "
“ แล้วมันเรื่องอะไรของนัทละ " พูดออกไปเสียงเบาแบบนั้น ผมได้ยินเสียงหัวเราะที่ลอดเข้ามา
“ เริ่มคบฉันตอนที่ไฟท์จะแต่งงาน เลิกคบฉันตอนที่เมียไอ้ไฟท์ตาย.. อินที่ทำแบบนี้ได้ เลือดเย็นจังเลยนะ ..คุณหมอ " เว้นเสียงไปอีกสักพัก ได้ยินเสียงหายใจที่แผ่วเบาลงของปลาย " คอยดูเถอะ สักวันที่อินมีคนที่รักมากๆ เค้าจะทำแบบนี้ จะทิ้งอินไปแบบนี้ เหมือนอย่างที่อินทำกับนัท คอยดูเถอะ "
“ โทษทีนะ แต่อินเป็นหมอ อินไม่เชื่อเรื่องพรรคนั้นหรอก "
“ โชคดีแล้วกัน ขออย่าให้กรรมมันติดจรวดเร็วไป " กดวางสายก่อนจะโยนมือถือลงกับโต๊ะถอนหายใจออกมา ผมมองเพดานสูงที่ว่างเปล่า
คนเรามักเกลียดตัวตนของตัวเองเสมอ ตัวตนที่เราพยายามหาข้ออ้างเพื่อให้ตัวเองดูดี แต่ที่จริงแล้วเราเองก็ทำไปเพราะอยากจะปกปิดสิ่งที่อยู่ลึกลงไปในใจของเรา เราไม่ชอบคนที่ดีกว่าก็เพราะว่าเราอิจฉา แต่กลับบอกว่าก็เค้าไม่ดีจริงๆ อ้างไปแบบนั้นทั้งๆที่ก็กำลังอิจฉา .. คนเรา นี่ น่าสมเพชจังเลยนะ
“ โดยเฉพาะกู คนนี้ " หลับตาลงจนสนิท สติที่เลือนลางของผม ปลดตัวเองออกจากความคิดนั่นแล้วละครับ
“ อิน อิน .. ตื่น " ขมวดคิ้วเพราะมือที่ตบหน้าตัวเองเบาๆ ลืมตาขึ้นมาตอนที่เห็นใครอีกคนคร่อมร่างอยู่บนโซฟา หัวใจเต้นแรงเรียงลำดับต่อมาจากสายตาที่รับรู้ " อะไรวะ มาถึงก็หลับ กูช้าไปสามสิบนาทีเอง "
“ มาแล้วเหรอ สงสัยจะเดินทางนานไปหน่อยว่ะ โทษที "
“ โทษทีเรื่องอะไรวะ กูดีใจจะตายที่มึงมา " พูดเรื่องหน้านิ่งๆแบบนั้นตอนที่มองหน้าผมแล้วยิ้ม
“ ถุ้ย จะอ้วก มึงพูดอะไรวะ " หดขาตัวเองกลับมานั่ง คงเป็นอาการแก้เก้อที่ทำอะไรไม่ถูกของตัวเอง ยกมือขึ้นจับติ่งหูขยี้ไปมา
“ กูคิดแบบนั้นจริงๆ อยู่นี่ เหงาจะตายห่า " ไฟท์ทรุดตัวพิงลงกับโซฟา หลับตาก่อนจะยิ้มออกมา " ทุกวันกูออกไปทำงานคนเดียว รอให้คนมารับแค่คนเดียว ไม่มีใครที่จะดูแลอีกแล้ว ไม่มีคนทำอาหารให้กิน หรือแม้แต่เด็กๆที่คอยแต่วิ่งไปมาก็ไม่มี ทำงานหนักกลับบ้านคนเดียว แล้วก็นอน ชีวิตวนเวียนแบบนี้มาสามเดือนเต็มแล้ว "
“ แล้วไง จะเลิกเหรอ เลิกได้รึไง "
“ อะไรคือความหมายของการมีชีวิตอยู่กันวะ ความฝันของกูนะ มันดีจริงๆเหรอ " ถอนหายใจออกมา ผมหัวเราะ
“ ไฟท์ กูไม่ได้บินมาไกลเพื่อฟังเรื่องเครียดๆของมึงนะเว้ย กูดีใจที่มึงมีชีวิตอยู่ นั่นเหละคือความหมายของการมีชีวิตอยู่ของมึง " ตบไหล่มันไฟท์หันมามองหน้าผม " มึงสู้เพื่อความฝันมาตั้งแต่เราเป็นเพื่อนกัน มึงรู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไรทั้งๆที่ตอนนั้นกูเองยังไม่รู้เลย เพราะงั้น สู้มาขนาดนี้แล้ว ประสบความสำเร็จขนาดนี้แล้ว อย่าพูดแบบนี้สิว่ะ "
“ นั่นนะสินะ "
“ มึงก็แค่ มียูเรียอยู่ตลอดตั้งแต่เริ่มมาที่นี่ พอมันไม่มีมันก็เหงาแบบนี้เหละ แต่ก็ใช่ว่าไม่เคยอยู่นี่หว่า ตอนทะเลาะกันก็อยู่คนเดียว "
“ ก็ตอนนั้น เค้ายังอยู่ "
“ ตอนนี้ก็ยังอยู่ ยังอยู่ตรงนี้ " ชี้ไปที่หัวใจของมัน ไฟท์ถอนหายใจออกมา
“ ถ้ากูคิดแบบนั้นได้ก็คงจะดีนะสิ ถ้ากูกลับไม่ได้คิดแบบนั้นว่ะ กูคิดแค่ว่า เหงาว่ะ คนทำอาหารให้กินก็ไม่มี เหงาว่ะลูกๆก็ไม่มีให้มาวิ่งเล่นรอบๆ ชีวิตที่เคยเฟอร์เฟคของกู มันหายไปเพราะเธอคนเดียวที่ทำอะไรตามแต่ใจตัวเองแบบนั้น เธอคนเดียวที่ทำลายความสมบูรณ์แบบของกู ทั้งๆที่กูอายุยังไม่มากเท่าไหร่ กลับต้องมาเป็นพ่อม้ายลูกติดซะแล้ว "
“ ไฟท์ "
“ กูเหี้ยมากเลย ที่คิดอะไรแบบนี้ได้ เหมือนโยนความเห็นแก่ตัวให้คนตายไปแล้ว โทษคนที่ตายไปแล้ว คิดถึงแต่ตัวเอง เอาตัวเองมาเป็นที่หนึ่งตลอด คนแบบนี้กูนะ ไม่สมกับการเป็นพ่อคนเลยสักนิด "
“ ปรับปรุงสิมึง.. มันไม่สายหรอก ถ้ามึงคิดจะปรับปรุงตัวเอง รู้นี่ว่าเหี้ยตรงไหน ก็ปรับปรุงซะ "
“ กูคงคิดถึงตัวเองมากเกินไป ฝักใฝ่ถึงการงานที่ดี คิดแค่ว่าจะทำยังไงให้ได้เป็นทูตอย่างที่ฝัน คิดแค่นั้นจริงๆ ตอนที่แต่งงานกับยูเรียหรือแม้แต่มีอะไรกัน กูคิดแค่ว่าสำเร็จแล้ว ในที่สุดกูก็ได้เป็นอย่างที่หวัง พ่อยูเรียจัดการให้ได้จริงๆ ตามที่เค้าบอก เค้าทำให้ได้จริงๆ เพราะแบบนั้น กูเลยไม่เข้าใจแม้ความหมายที่ว่า เธอยอมตายเพื่อลูกมันคืออะไร เพราะกูไม่ได้รัก กูเลยไม่เข้าใจ อย่างงั้นหรอวะ งั้นก็คงเป็นอย่างที่ใครๆบอก กูแต่งงานกับยูเรียก็เพราะตำแหน่งจริงๆ "
“ ไฟท์..”
“ ไม่เหี้ยจริงๆก็คงทำไม่ได้ "
“ แค่รักตัวเองมากไป คิดถึงแค่รักตัวเองมากไป สำหรับมึงพอเป็นเรื่องงานกับความฝันหรือสิ่งที่รักแล้วก็มักจริงจังแบบนี้ตลอด เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ทั้งๆที่ปกติมึงที่กูรู้จักก็ไม่ใช่แบบนั้น "
“ แล้วเป็นแบบไหน " หันมาหาผม ไฟท์ยิ้ม " กูในแบบที่มึงรู้จักเป็นแบบไหนกันเหรอวะ "
“ ใจดีมั้ง ก็มึงมักเห็นใจคนอื่นเสมอ อย่าง วาด น้องกู ตอนนั้นมึงก็ชอบซื้อขนมเอาของเล่นเอาเสื้อผ้าของไฟมาให้ตลอด แต่พอเป็นเรื่องงาน เรื่องที่ตัวเองรัก ก็จริงจังจนลืมความเป็นตัวเองไปตลอด "
“ บางทีนั้นอาจจะเป็นตัวตนของกูก็ได้ พวกที่พุ่งชนกับทุกอย่างเพื่อบางสิ่งที่ต้องการ "
“ หึ เป็นนิสัยที่เหี้ยมากจริงๆ "
“ แดกเหล้ากันเถอะ พรุ่งนี้กูหยุดงาน มึงจะออกไปแดกที่อื่นหรือสั่งมาแดกที่บ้าน " หันมามองหน้าผมเหมือนมันกำลังใช้ความคิด
“ แดกที่นี่เถอะ จะได้แดกสบายๆ " ไฟท์พยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่ง มันคงออกไปสั่งอาหาร มองมันจากเบื้องหลังนั่นแล้วก็รู้สึกว่า คนเรานี่เห็นแก่ตัวว่ะ แต่จะมีสักกี่คนที่ยอมรับความเห็นแก่ตัวของตัวเองได้อย่างที่ไฟท์ คนที่สารภาพทุกอย่างที่คิดออกมาได้อย่างมัน
“ อิน .. “
“ หื้ม " หันไปมมองหน้ามัน ไฟท์จับผมยาวของผมที่ตกลงมาจากการมัดขึ้นทัดหู
“ มึงเป็นเพื่อนคนเดียวของกูเลยรู้มั๊ย เป็นเพื่อนคนเดียวเลยที่รับรู้ความรู้สึกทุกอย่างของกู เพื่อนที่เห็นกูทุกอย่าง กูดีใจนะที่มีมึงอยู่ ดีใจที่ยังมีมึงเป็นเพื่อนคนเดียวที่ไม่ทิ้งกูไปไหน ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม "
“ อื้ม " บางที นี่อาจจะเป็นเหตุผลเดียวที่ผมยังคงอยู่ ยังคงเงียบอยู่แบบนี้ และไม่เอ่ยบอกความจริงในใจใดๆออกไป เพราะยังอยากเป็นเพื่อนกับมันอยู่ ความรักที่ผมมีต่อเพื่อนก็เลยต้องเป็นความลับ
“ แล้วมึงเป็นยังไงบ้างวะ " เอ่ยถามตอนที่เหล้าเข้าไปในปากเป็นแก้วที่สาม มันเหล่มองผม มือก็จิ้มหมูรมควันกินไปในขณะที่ผมยังกินแต่เหล้า
“ อะไรเป็นยังไง "
“ อย่ามาทำเป็นเฉไฉไปเลยไอ้สัด เรื่องนัท ไปถึงไหนละ "
“ เลิกกันแล้ว " บอกเสียงนิ่งๆไฟท์ก็ขมวดคิ้ว " ก็มันไปด้วยกันไม่ได้ อีกอย่างฝ่ายครอบครัวนัทก็จะหาผู้หญิงดีๆให้อยู่แล้ว ก็ดีแล้วละ เหมาะสมแล้ว "
“ เสียใจมั๊ย ที่เลิกกัน "
“ ไม่เลยสักนิด กูไม่คิดว่าจะมีความรักที่ยืดยาวอะไรกับความสัมพันธ์แบบนี้หรอก อีกอย่างก็ไม่ต้องพึ่งพาใครอยู่แล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะต้องมีเป็นตัวตนเป็นตนเลยนี่หว่า " ตอบออกไปส่งๆ ไอ้ไฟท์จ้องหน้า
“ อิน คนเรานะเว้ยไม่ใช่พึ่งพากันแล้วต้องคบกันหรอก แต่เพราะเค้าอยากอยู่ด้วยกันมากกว่า ถึงคบกัน ไม่ต้องเป็นเกย์หรอก ชายหญิงก็เหมือนกัน ที่มึงพูดมา มึงก็แค่อ้าง "
“ รู้แล้วจะพูดทำไมว่ะ "
“ นัทมันก็ดีนะเว้ย ก็นักธุรกิจไฟแรง เป็นคนมีอนาคตคนนึง เท่าที่กูรู้จักมันมา "
“ ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ รอให้กูเจอใครที่กูรัก แบบที่น้องมึงเจอก่อนสิ กูก็ค่อยหยุด อีกอย่างกูไม่คบใครแบบมั่วๆอยู่แล้ว มึงก็รู้ "
“ ใช่กูรู้ แต่กูก็ไม่คิดว่านัทแฟนคนแรกของมึง มึงจะเลิกง่ายๆแบบนี้ กูอยากให้ชีวิตมึงเหมือนกับไฟ มันมีความสุขมากมึงรู้มั๊ย กูอยากให้มึงมีความสุขแบบนั้น "
“ ตอนนี้กูก็มีความสุขดี " มองหน้ามัน ไฟท์ก็จ้องผม " แล้วมึงละ เป็นไง "
“ ก็ดี เรื่อยๆ "
“ ไม่หาคนรู้ใจใหม่รึไง แต่งงานรอบสอง หาแม่ใหม่ให้เด็กๆ " หัวใจของผมแบบว่างเปล่าตอนที่พูดประโยคนี้ไฟท์ยิ้ม มันยกเหล้าขึ้นกินอีกแก้ว หน้าแดงๆของมัน คงมีอาการเมาอยู่หน่อยๆ
“ ใครจะมาเอา พ่อม้ายลูกสี่แบบกู ยากแล้วว่ะ "
“ ก็นะ "
“ แต่กู บอกมึงตรงๆเลยนะ ว่ากูอยากวะ " มองหน้าผม ไฟท์รินเหล้าของมันอีกแก้ว
“ อยากไรว่ะ "
“ อยากเอาใครสักคนมั้ง ฮ่าๆ เหี้ย กูเพิ่งสามสิบเองนะเว้ย แต่แม่งไม่ได้ใช้งานแล้วเหรอว่ะ ไม่คุ้มเลยไอ้เหี้ย " ก้มมองของตัวเองมันว่าออกมาแบบนั้น
“ ห๊ะ " อึ้งไปเหมือนกันตอนมาฟังอะไรแบบนี้ มึงก็ช่างพูดเรื่องอยากเอาคนอื่นได้แบบหน้าตานิ่งๆมากๆ ยังกับพูดว่า อยากกินข้าวไข่เจียวจังเลย
“ กูห่างหายมากเลยไอ้สัด บางทีอยากจนอยากจะออกไปซื้อบริการนะ แต่มันก็ไม่ใช่อยู่ดี จะเอาใครก็ไม่ได้ คนสมัยนี้โรคก็เยอะ จะจับผู้ชายก็เยอะ ได้แต่ช่วยตัวเองละกู เวลาอยากก็ต้องช่วยตัวเอง น่าเบื่อ "
เงียบไปสักพักตอนที่ฟังมันพูดประโยคนี้ ลำคอของผมแห้ง กัดปากตัวเองที่จนชา ไต่ตรองว่าดี หรือไม่ดี ในสิ่งที่ตัวเองกำลังอยากจะทำ แต่ไม่ใช่ง่ายๆ ไม่ใช่เหรอ ที่คนอย่างผมจะได้โอกาสนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยที่เพื่อนจะได้โอกาสนี้
“ เอากับกูมั๊ย " ถอยเก้าอี้ไปจนสุดผมยืนขึ้นจ้องหน้ามัน
“ ห๊ะ ? อะไรนะ "
“ ถ้าอยาก มาเอากับกูมั๊ย "
สายตาสั่นไหวที่เรามองกัน ไฟท์ฝุดยิ้มขึ้นมา มันวางแก้วลงบนโต๊ะมันทำท่าจะเดินไป " พูดบ้าอะไรว่ะ "
“ กูพูดจริงๆ ถ้ามึงกับกูเอากัน หนึ่งยังไงกูก็ไม่ท้อง สองยังไงก็ไม่เสียหายเพราะยังไงก็ที่ลับ มึงโสดกูโสด ไม่มีใครเสียหายใดๆ มึงไม่คิดกูไม่คิด ก็แค่ เอากัน " พูดออกไปเรื่อยๆ ใจของผมสั่น ปากของผมสั่น รวบผมที่หล่นลงมาจนรู้สึกรุงรัง
“ แต่เอากับผู้ชายนะเว้ย "
“ ก็จริงนะ " คำพูดบางคำพูดเจ็บไม่ต่างอะไรกับการโดนตบหน้า แต่บางคำพูดโดนตบหน้ายังจะดีซะกว่าได้ฟัง ความเจ็บปวดทางใจรุนแรงกว่าการเจ็บปวดทางกายเสมอ เพราะกายเจ็บได้หายได้มียาดีก็หายเร็ว แต่ใจเจ็บยังไงก็มีแค่เวลาเท่านั้นที่จะรักษาได้ และเวลาก้ช่างยาวนานเหลือเกิน “ กูเป็นผู้ชาย "
เม้นปากตัวเองแก้เก้อ ผมถอนหายใจออกมา หันหลังจากโต๊ะที่นั่งกินเหล้าด้วยกัน และเสี้ยววินาทีต่อจากนั้น ทุกอย่างก็รวดเร็วจนไม่ทันตั้งตัว แต่พอรู้สึกตัวอีกที ผมรู้สึกตัวเองถูกรัดแน่นอยู่ในอ้อมกอดของมัน ปากที่แนบสัมผัสกันนั้นอุ่นจนใจของผมเต้นแรง
“ บอกไว้ก่อนว่ากูไม่เคยมีอะไรกับผู้ชาย "
“ ก็ไม่แตกต่างอะไรกับผู้หญิงหรอก " บอกมันแบบนั้น ผมสะกดความตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่แล้วครับ ตอนที่หันหน้าไปหามัน ไฟท์มีท่าทีกังวล " ทำไม "
“ เปล่า แต่ไม่ได้คิดอะไรใช่มั๊ย แค่อยาก ก็เลยเอากัน "
“ อื้ม ใช่...ไม่ได้คิดอะไร " กอดเอวมันไว้ ไฟท์กอดผมแน่นขึ้น อบอุ่นจนแทบจะร้องไห้
พาตัวเองเดินมาที่ห้องกับใครอีกคน ผมพบว่าการที่เราได้ลองจมลงไปในความสุขนั้น ช่างเป็นอะไรที่หอมหวานเหลือเกิน เหมือนน้ำตาล แรกเริ่มที่ชิมก็รู้สึกดี อร่อยจนบางทีเราเองก็เผลอลืมไปว่า น้ำตาลที่อร่อยกินมากไปก็อาจจะเกิดโรคร้าย ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงใครอีกคนที่ขึ้นมาคร่อมทับผมไว้ มันจูบที่ข้างแก้ม ก่อนจะเลื่อนมาเป็นปาก เงยหน้าให้สอดลิ้นเข้าไปได้ถนัดไฟท์สวมกอดผมเอาไว้
“ อิน .. ขอบใจนะ " ว่าแบบนั้นก่อนจะถอดเสื้อและกางเกงออก ดึงร่างของผมให้ขึ้นมานอนอยู่กางเตียง มันฉีกขาของผมออก
“ เดี๋ยวสิ ให้กูทำให้มึงก่อน " ขัดขืนขาที่มันจับแยกออก ผมลุกขึ้นมานั่งบนตัวมันที่ตอนนี้กำลังคุกเข่า ปลดเสื้อของมันที่ลงทีละเม็ด ไฟท์ปัดผมยาวของผมไว้ด้านหลัง มันปล่อยผมของผมลงมา ลูบไปที่ท้ายทอยก่อนจะจูบที่ปาก มือของผมปลดหัวเข็มขัด ล้วงเข้าไปคลึงภายในนั้นที่ตั้งโด่ง จับออกมาตั้งด้านนอกใช้มือทั้งอันรูดมันขึ้นลง
“ อิน " เรียกอยู่แบบนั้นตอนที่จูบไล่ลงมาจากคอ แล้วดูกลืนหน้าอก ใช้ฟันขบเม้นมัน อีกข้างก็ใช้มือบีบ หดเกร็งหน้าท้องตอนที่ทำแบบนั้น " มึงสวยมาก ยังกับผู้หญิงเลย "
“ อื้ม รู้แล้ว ใครๆก็บอกแบบนั้น " ประคองหน้าของมันที่ขึ้นมายอดนมของผม จูบลงไปบนริมฝีปาก " คิดถึงยูเรียเหรอมึง "
“ เปล่า ทำไม "
“ ถ้าคิดถึง กูเป็นยูเรียให้ได้นะ " จับเนคไทของมันขึ้น ผมกำลังจะปิดตาของมัน แต่ไฟท์ดึงมันไว้
“ กูกำลังเอากับมึง "
“ ไฟท์ " หัวใจของผมสั่น มันดึงผมเข้าไปจูบเป็นครั้งแรกที่รู้สึกสุขถึงขนาดนี้ ไฟท์กำลังมีอะไรกับผม ตอบรับลิ้นที่ควานเข้ามาหาดูดดึงจนได้ยินเสียงน้ำลายดังก้องอยุู่ในหู
ถอนริมฝีปากออกมันดันหลังของผมให้หันหลังให้ ค้ำเข่าลงในท่าคลานบนเตียง ไฟท์ในนิ้วเข้ามาให้ร่างของผม แอ่นตูดรับนิ้วแรกที่สอดเข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ผมตอดนิ้วของมันถี่ ไฟท์เริ่มขยับตัวปากของผมก็เริ่มอ้าออก มันเสียวไปทั้งท้องรู้สึกหดเกร็งไปทั้งร่าง
“ อ๊าห์ ไฟท์ อย่างงั้น " หมุนเป็นวงกลมเหมือนมันพยายามหาจุดกระสันในร่างของผม ย้ำไปตามจุดเริ่มๆ ผมเริ่มกำมือของตัวเองเข้ากับหัวเตียง " อื้อ "
“ ตรงนี้หรอ " ผมไม่ตอบแต่มันย้ำ " ตรงนี้รึเปล่าวะ อิน "
“ อ๊า ตรงนั้น อ๊ะ อย่าย้ำดิว่ะ " ยิ่งย้ำผมก็ยิ่งตอดแน่น ไฟท์กดนิ้วจนลึก มันดันนิ้วตัวเองเข้าออกเป็นจังหวะ ตัวของผมเริ่มเด้งออกไปข้างหน้า " อ๊า ตรงนั้น เร็ว เร็วอีก "
“ อย่าเพิ่งเสร็จดิว่ะ " ผมส่ายหน้าให้มัน ผมห้ามไม่อยู่แล้ว ทุกส่วนในร่างกายมันตอบสนองความต้องการของตัวเอง อยาก อยากเหลือเกิน อยากมีอะไรกับคนคนนี้ แค่จูบ กอด ดูดนม หรือแม้แต่ใช้นิ้ว ร่างกายทุกส่วนก็พร้อมจะเสร็จ มันเป็นต้องการ เพียงเพราะใครคนนี้เท่านั้น
“ ไฟท์ ใส่มา ใส่ของมึงมาเถอะว่ะ "
“ ได้ " ตอบตกลงแต่ก็ช้าอยู่นาน ผมได้ยินเสียงฉีกถุงยางอนามัยของมัน ก่อนหนังเนียวๆจะจ่อตรงช่องทางหลัง ส่วนปลายทักทายกับรอบช่องทางก่อนจะดันตัวเองเข้ามาช้าๆ " อื้อ แน่นว่ะ " ตบลงที่ตูดของผม มันลูบเบาๆ " ตูดมึงนี่ลื่นมือดีนะ " มันว่าแบบนั้นตอนที่ฉีกรูตูดของผมให้กว้างขึ้น ผมแอ่นตัวรับ ส่วนกลางที่ขยายใหญ่ของมัน กัดปากตัวเองจนรู้สึกเจ็บไปหมด ไฟท์ดันมันเข้ามาจนสุด
“ ไฟท์ อย่าเพิ่ง รอแปป กูไม่ได้มีอะไรกับใครมานานแล้ว แปปนึง "
“ มึงเหมือนคนที่ยังซิงเลย " โน้มตัวมากอดผมไว้ มันจูบไปตามแนวสันหลัง ไฟท์เริ่มขยับตัว มันดันตัวผมไปข้างหน้าจับหัวเตียงเอาไว้ตอนที่มันเริ่มทำแบบนั้น
ดึงออกจนเกือบสุดแล้วแทรกกลับมารวดเร็ว ทำอยู่แบบนั้นก่อนจะเริ่มเร่งความเร็วให้มากขึ้น สองมือของมันจับที่ช่องเอวของผม ดันเข้าออก
“ อ๊าาา ไฟท์ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อื้อออ " ครางเสียงยาวออกมา ผมได้ยินเสียงก้นกระแทกกับหน้าท้องของมัน เสียงตับที่ดังลั่นห้องแอร์ ผมร้อนจนแทบจะเป็นบ้า จิกมือกับหัวเตียงแน่นขึ้น ทุกอย่างเร็วขึ้นจนตัวของผมสั่นไปมา
“ อิน อิน อื้ออ อิน " มันกัดฟันตอนที่พูดคำนั้น ส่วนเสียดสีถูกันจนร้อน ผมหลับตาแน่นตอนที่ทุกอย่างแทบจะไร้การควบคุม และในวินาทีสุดท้ายนั้น ร่างของผมก็กระตุกแรงแม้จะไม่มีน้ำไหลผ่านออกมาให้รู้สึกชาไปทั่วร่างอย่างที่อยากให้เป็น แต่นี่มันก็ดีกว่าทุกครั้ง
“ อ๊าห์ แฮ่กๆ " หายใจถี่ผมทรุดร่างลงกับหมอนทั้งๆที่มือของมันยังจับช่วงก้นเอาไว้อยู่ " เหนื่อย อย่างเหนื่อยเลยไอ้เหี้ย "
“ ดีว่ะ แต่อยากรู้สึกดีกว่านี้ " มันว่าแบบนั้นเสียงนิ่งๆ ไฟท์ดึงส่วนกลางของตัวเองออกมา มันถอดถุงยางออก ก่อนที่ผมจะเปิดตากว้างนั้น เสียงถุงยางถูกฉีกออกจากถุง ส่วนกลางของมันแทงเข้ามาให้ร่างของผมจนมิด " อีกรอบนะอิน "
“ เอาสิ..กูเองก็อยากเหมือนกัน " ตอบออกไปด้วยเสียงเหนื่อยหอบของผม .. ถ้าเป็นมึง สำหรับกู ยังไงก็ได้อยู่แล้ว และนั่นคือความจริงที่ผมเอง ไม่ได้พูดออกไป
สี่วันแห่งการพักผ่อนของผม ทำได้แค่อยู่ในบ้านนี้ แล้วทำกิจกรรมที่เริ่มต้นกันไว้ในทุกมุมของบ้านที่อยากจะลองทำ จนถึงวันสุดท้ายที่ผมกลับ เสียงนึงกระซิบหูของผมว่า “ อีก สามเดือนหน้า มึงมาหากูอีกนะอิน " และนั่นคือคำพูดสุดท้าย ที่มัน บอกผมไว้ครับ
...................................................
ตอนแรกมาแล้วคร่าาา สำหรับเรื่องราวของ พี่ไฟท์ ( พี่ชายของไฟ ) และ หมออิน เพื่อนสนิท
สำหรับคนอ่านใหม่ที่ไม่เข้าใจเนื้อหาเพราะได้อ่านนิยายเรื่อง #BTSสถานีรัก แนะนำให้อ่านก่อนนะคะ
เพื่อความสนุกที่จะมีเพิ่มมากขึ้น ตามลิงค์นี้จ้า
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38286.0คนแต่งชื่อขนมยังเป็นมือใหม่อยู่มาก ถ้าหากใครอยากเม้นท์แต่ไม่ยูสในเล้าเป็ด
สามารถเม้นท์ได้ผ่านแท็ก #Choiceไฟท์อิน นะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ