คุณน่ะเมียผมครับ ตอนที่ 19“ทำไมมึงเดินตลกจังวะ”
ผมถามไอ้พรตหลังจากเห็นมันเดินเหมือนนกเพนกวินมาตั้งแต่เช้า
“เชี่ย!!! เพราะใครล่ะ ดีนะกูไม่มีแรงกระทืบมึง”
มันหันมาตอบพร้อมกับส่งสายตาพิฆาตมาให้ผมครับ
เมื่อเช้าผมตื่นมาด้วยการปลุกของสุดที่รักครับ ตีนเต็มๆหลังผมเลย
มันโกรธผมที่เมื่อคืนผมจัดหนักให้มันไปหน่อย
เอ๊ะ!!!หรือว่ามันโกรธที่ผมทำตอนมันเมาเลยไม่ได้ร่วมรับรู้เหตุการณ์เต็ม 100 % หึหึ
สงสัยผมจะรุนแรงกับมันไปหน่อยครับเช้ามามันไม่มีแรงเลย
ผมต้องอุ้มมันไปอาบน้ำตามระเบียบแต่ดันมีแรงถีบผมได้นะอารมณ์แค้นมันแรงจริงอะไรจริง
“อ่าวๆๆ ไหนว่าจะพูดเพราะๆกับกูไง” ผมทวงมันครับ
“กูจะพยายามแล้วกัน” มันตอบผมพร้อมยิ้มกวนๆครับ
“ตกลงมึงไปดูหนังไม่ไหวจริงเหรอ” ผมถามมันอีกครั้งครับ
หลังจากตื่นมาเมื่อเช้ากินเข้าเสร็จมันก็หลับต่อ แล้วยังบอกว่าไปดูหนังไม่ไหว
เพราะมันเดินไม่ถนัดเซ็งเลย ผมว่าผมเบาแรงแล้วนะแต่ไม่เป็นไร
ถือว่าเมื่อคืนได้ฟังของดีผมก็เลยอารมณ์ดีหน้าบานไม่หุบตั้งแต่เช้า
แต่ยังไม่ได้ถามมันใหม่ครับ ถามตอนนี้ไม่ได้อารมณ์มันยังไม่คงที่เพราะร่างกายยังไม่ปกติ
เมื่อไหร่มันจะชินวะ ผมรุนแรงหน่อยเช้ามาเป็นงี้ทุกที
ไปไหนไม่ได้เลยบางทีถึงกับไข้ขึ้น แล้วมันยังมีหน้ามาว่าผมหื่น
ผมไม่ได้หื่นนะครับ ผมก็แค่วัยรุ่นทั่วไปที่กำลังมีโฮโมนพุ่งสูงเอง
“ไม่ไหว” มันตอบผมก่อนที่จะล้มตัวลงนอนบนโซฟา
ตอนนี้เวลา 18.00 น.แล้วครับ
“งั้นไปพรุ่งนี้เนอะ” ผมบอกมันอีกครั้ง
“อืม” มันตอบเบาๆ ก่อนเคลิ้มหลับไปอีกรอบครับ
กริ๊ง...กริ๊ง...กริ๊ง...
“ตินณ์ ๆ โทรศัพท์ดัง” เสียงมันเรียกผมให้มารับโทรศัพท์อยู่ข้างโซฟาที่มันนอน
เป็นโทรศัพท์ที่ห้องครับแค่มันเอื้อมมือมาก็ถึง แต่มันยังจะเรียกผมอีก
“ตินณ์พูดครับ” ผมกรอกเสียงลงไปหลังจากวิ่งมารับโทรศัพท์จากในครัว
“ เมื่อไหร่จะกลับบ้าน” เสียงโหดมาเลยครับ พ่อผมเองดีนะที่ไอ้พรตมันไม่ได้รับ
“ขี้เกียจกลับอ่ะ พ่อมีอะไรรึเปล่าครับ” ผมถามพ่อครับ
“ ไม่มีอะไรแค่คุณนายแม่แกเค้าคิดถึงลูกชาย บ่นทุกวันว่าลูกชายเค้าหาย”
พ่อผมเรียกแม่ว่าคุณนายแม่ประจำครับ
“ ถ้าไม่มีงาน ผมจะกลับไปพรุ่งนี้แล้วกันนะครับ แม่อยู่ไหมครับขอผมคุยบ้าง”
ผมบอกพ่อก่อนขอสายแม่ครับ
“ ว่าไงย่ะ พอลูกชายตัวดี หายหน้าหายตาไปเลย จนชั้นนึกว่าไม่มีลูกแล้ว”
แม่ผมบ่นยาวเลยครับ แค่ผมไม่ได้กลับบ้าน 2 เดือนเอง หึหึ
“ โหยยย คุณแม่ครับผมก็อยู่คอนโดนี่แหละไม่ได้ไปไหน ยังคิดถึงแม่เหมือนทุกๆวันเลยครับ”
หยอดไปก่อนครับจะได้อารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง
“จ๊ะ พ่อปากหวาน ว่าไงกลับบ้านได้เมื่อไหร่
ถ้าไม่กลับแม่จะยกเลิกบัตรเครดิตแกแน่ๆ” แม่ชมก่อนจะถามต่อพร้อมขู่ด้วยครับ
“ กลับพรุ่งนี้เย็น หรืออาจจะมืดๆครับ” ผมตอบแม่ไปเหมือนที่ตอบพ่อ
“ มาตอนเย็นก็ดีนะ จะได้มากินข้าวกับพ่อเค้าบ้างไม่ได้เจอกันนานแล้ว”
“ครับ” ผมตอบรับแม่
“พาเพื่อนที่อยู่กับแกมาด้วยนะ”
ตายห่า ที่บ้านผมรู้แล้วครับ ถ้าแม่บอกอย่างนี้แปลว่าคงรู้อะไรมาบ้างแล้ว
“ครับ ผมก็ตั้งใจว่าจะพาไปอยู่แล้วครับ” ผมบอกแม่ตามที่คิด
เพราะคิดไว้ว่าพรุ่งนี้ดูหนังเสร็จจะพามันกลับบ้านด้วยเลยไปค้างที่บ้านซักคืนแล้วค่อยกลับคอนโด
บ้านผมไม่ได้ไกลจากที่คอนโดเท่าไหร่ครับแต่ที่ไม่ค่อยได้กลับ
เพราะพ่อกับแม่ไม่ค่อยอยู่บ้านไม่รู้จะกลับไปหาใคร
อยู่ที่นี่ดีกว่ามีคนให้นอนกอด ทั้งนิ่ม ทั้งอุ่น แถมตัวหอมหลับสบายเลย
“งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะจ๊ะ เดี๋ยวแม่ให้เด็กๆทำกับข้าวไว้คอย”
แม่บอกผมเสียงใสๆแสดงออกถึงความใจดีเหมือนเคย
“ครับแม่ สวัสดีครับ” ผมตอบรับแม่ก่อนวางสาย
“ตื่นได้แล้ว ไปกินข้าวกัน”
หลังจากวางสายหันมาเห็นไอ้พรตนอนนิ่งอยู่บนโซฟาครับ
มันหลับทั้งวันเลยแทบไม่ขยับทำอะไรนอกจากกินกับนอนสองอย่าง
ผมดูนาฬิกาจะทุ่มนึงแล้วครับ
“ อืม ตินณ์กินก่อน เดี๋ยวตื่นแล้วจะตามไปกิน” มันยังนอนหลับตาพูดครับ
“ไม่ได้ ต้องตื่นไปกินพร้อมกันนะครับ” ผมพูดเสร็จช้อนตัวมันขึ้นอุ้มทันที
แล้วออกเดินมาที่โต๊ะอาหารวางมันไว้บนเก้าอี้
“อื้อ ทำไมชอบขัดใจวะ” มันว่าผมเบาๆ
“ ไม่อารมณ์เสียน้า กินข้าวก่อนมีแต่ของชอบมึง” ผมพูดเอาใจมันครับ
ยังไม่ตื่นดีเดี๋ยวอาละวาด นั่งซักพักมันก็ลงมือตักอาหารกิน
หลังจากกินข้าวเสร็จก็ไปอาบน้ำแล้วมานั่งดูทีวีด้วยกัน ก่อนจะเข้านอนครับ
คืนนี้ก็หอมแก้มกับจุ๊บหัวเหม่งมันไปเหมือนทุกคืนครับ ผมทำของผมจนชิน
ถ้าไม่ได้ทำจะนอนไม่หลับครับเหมือนขาดอะไรไปซักอย่าง
“เอาเรื่องอะไรดี”ปากผมถามมันแต่ตาก็จ้องโปรแกรมหนังที่เข้าฉาย
ตอนนี้กำลังเลือกเรื่องหนังที่จะดูครับ มันอยากดูหนังผี
แต่ผมอยากดูหนังแอ็กชั่นเรื่องเลยไม่ตรงกัน
“จะดูหนังผี” มันบอกผมครับ
“แต่กูอยากดูหนังแอ็กชั่น” ผมก็บอกมันไปบ้าง
“ไม่ดู จะดูหนังผี” มันก็ยืนยันเหมือนเดิมครับ
“เออๆ ตามใจอยากดูเรื่องอะไรก็ไปซื้อมา”
ผมบอกมันก่อนจะหยิบเงินออกมาสามร้อยแล้วส่งกระเป๋าสตางค์ให้มันครับ
มันก็รับไปแล้วเดินไปต่อแถวซื้อบัตร
ผมเดินมาต่อแถวซื้อน้ำแดงกับขนมให้มันครับตรงนี้แถวยาวมาก
คงต้องรอนานผมเลยให้ไอ้พรตไปซื้อตั๋วที่แถวสั้นกว่าซื้อน้ำครับ
ถ้าให้มันรอนานเดี๋ยวมันจะหงุดหงิด
ไม่นานผมมองไปก็เห็นมันซื้อตั๋วเสร็จแล้วมานั่งคอยผมอยู่ที่ม้านั่ง
อีกซักพักผมก็ได้น้ำกับขนมที่ต้องการ หยิบเสร็จผมก็เดินตรงไปหาสุดที่รักทันที
“ซื้อมาแค่นี้ ไม่อิ่มทำไง” มันมองขนมแล้วว่าผม
แค่นี้คือน้ำแก้วใหญ่กับป๊อปคอนถังใหญ่เลยนะครับของมันคนเดียว
เพราะปกติผมดูหนังจะไม่กินอะไรครับ
“แค่นี้ก็ กินให้หมดก่อนเถอะ” ผมตอบมัน
“เอาตั๋วมาดูดิ ซื้อเรื่องไรวะ” ผมขอตั๋วมันมาดู
ปรากฏว่ามันเลือกหนังแอ็กชั่นครับ
ผมแปลกใจเลยนึกว่าจะได้ดูหนังผี ลูกตาไหลออกมาจากเบ้าตาซะแล้ว
“อ่าวไหนว่าจะเอาหนังผีไง” ผมถามมันครับ
“เปลี่ยนใจไง ไม่ได้เหรอ” มันตอบผมแบบกวนๆ
“ได้ครับ” ผมก็ตอบมันไปด้วยร้อยยิ้ม
เพราะผมรู้ว่ามันแกล้งจงใจอยากดูหนังที่ไม่ตรงกับที่ผมชอบเพื่อจะเอาชนะ
พอผมตามใจมัน มันก็เลือกที่จะซื้อตั๋วหนังเรื่องที่ผมอยากดู มันน่ารักว่ะ
ผมดูเวลาอีก 20 นาที หนังถึงจะเริ่มฉายเลยนั่งรออยู่หน้าโรงหนังครับ
เผลอแป๊บเดียวมันกินข้าวโพดคั่ว เอ๊ย!!! ไม่ใช่ ป๊อบคอนจะหมดแล้วครับ
“ตินณ์ ไปซื้อมาอีกดิ จะหมดแล้ว” มันบอกผมพร้อมส่งถังมาให้ผมดู
“พอแล้วเดี๋ยวปวดท้องนะครับ” ผมบอกมันอย่างเป็นห่วง
“แต่อยากกินอ่ะ ไปซื้อมาเดี๋ยวนี้” พูดไม่เชื่อยังมาบังคับอีกนะ
“เออ!!! แม่งปวดท้องกูจะไม่ชายตาแลมึงซักนิด”
ผมว่ามันก่อนจะเดินไปต่อแถวซื้อขนมมาให้มันแทนป๊อปคอนครับ
กินมาเดี๋ยวท้องอืด กินขนมอย่างอื่นแทนดีกว่า ผมซื้อป๊อกกี้มาให้มัน 3 กล่องแทน
มันเห็นก็ไม่ว่าอะไรหยิบไปถือไว้เลยกลัวผมแย่งกิน
“ วันที่เล่นเกมส์ ทำไมมึงถึงให้ไอ้คิมไปดูแลไอ้นาววะ”
ผมชวนมันคุยหลังจากเงียบกันมาซักพัก พอดีอยู่ๆนึกเรื่องที่คาใจได้ครับ
“บอกตอนไหน ไม่ได้บอกอย่ามั่ว” มันปฏิเสธออกมาครับ
“มึงแหละมั่วบอกเองทำเป็นจำไม่ได้” ผมว่ามันครับ
“ก็เมาไงเลยจำไม่ได้”
“คิดว่ากูเชื่อไหม มึงมันเจ้าเล่ห์” ผมว่ามันไปครับ
ถึงมันเมาแต่ตอนนั้นมันเมาไม่มากเท่าไหร่น่าจะยังพอรู้เรื่อง
ผมยังจำตอนที่มันหัวเราะอย่างคนมีแผนการก่อนซบไหล่ผมได้อยู่เลย
“ไม่รู้กูจำไม่ได้ นี่นา” มันยังปากแข็งครับ
“ต้องให้กูเค้นเอาคำตอบเองใช่ไหม” ผมขู่มันครับ
ไม่ได้ใช้วิธีนี้มานานแล้วสงสัยมันจะลืม
“แม่ง อะไรวะแค่กูจะหาผัวให้เพื่อนมึงจะทำไม” ในที่สุดมันก็ยอมรับออกมาแล้วครับ
“คิดว่ามันจะชอบรึไง ไอ้นาวกับไอ้คิมมันไม่ได้เป็นเกย์นะ” ผมถามมันไปครับ
“หึหึ ไม่รู้กูแค่สร้างโอกาสเผื่อมันจะได้ผัวบ้าง
เสือกชอบล้อกูดีนัก ได้ซะเองจะได้เงียบปากไม่ต้องอยากรู้มากเหมือนทุกวันนี้”
แผนการมันเพื่อล้างแค้นที่ไอ้นาวมันชอบล้อนี่เอง
บอกแล้วอย่าไปมีเรื่องกับมันครับ มันแค้นจริงเอาคืนจริง
“แล้วทำไมต้องเป็นไอ้คิมวะ คนอื่นไม่มีรึไง ไอ้คิมเจ้าชู้จะตาย” ผมถามมันอีกครั้ง
“ หึหึ เพื่อนมึงซวยไง ดันแพ้กูวันนั้นแล้วกูนึกออกพอดี
คนพูดมากอย่างไอ้นาว ต้องเจอคนนิ่งๆอย่างไอ้คิม ถึงจะเอาอยู่ ถ้าเพื่อนมึงเล่นด้วยนะ”
มันอธิบายอีกครั้ง
“กูว่าไม่ว่ะ เพราะมันเจ้าชู้หญิงตรึม” ผมบอกตามที่เห็นอยู่ทุกวัน
“หึหึ มึงไม่คิดว่าเมื่อก่อนหญิงมึงก็ไม่แพ้มัน”
มันว่าออกมาเสียงนิ่งเลยครับ จะนิ่งไปไหนเรื่องมันผ่านมาแล้วนะครับ
“ เออๆ กูลืมไป พอมีมึงกูจำคนอื่นไม่ได้เลยว่ะ”
หยอดหน่อยครับเดี๋ยวโดนด่า โดยมิควรโดน
“นิสัยมึงก็อย่างนี้ตลอด” มันบ่นเบาๆครับ
“ กูจะรอดูผลงานมึงแล้วกัน หึหึ” ผมพูดแค่นั้น
ก่อนดูเวลาได้เวลาหนังฉายพอดีเลยชวนมันเข้าโรงหนังครับ
ไอ้พรตมันดูหนังไปก็กินขนมไป ผมก็ดูหนังบ้าง นั่งมองหน้ามันบ้าง
เวลามันสนใจอะไรซักอย่างมันจะมีสมาธิกับสิ่งนั้นจนไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
เหมือนตอนนี้ที่มันดูหนังอย่างตั้งใจและไม่สนใจเลยว่าผมจะจ้องมันแค่ไหน
หน้ามันสะท้อนกับแสงไฟจากจอหนัง และแก้มมันก็น่าฟัดมาก
เวลามันลุ้นมีกัดปากแดงๆของมันด้วยดูยั่วมาก
ผมคิดเล่นๆแต่รู้สึกตัวอีกทีปากผมประกบอยู่ที่ปากมันไปแล้ว
มือมันก็ทุบลงมาบนหลังผมเต็มแรง
“เชี่ย!!! ทำไรไม่อายคนรึไง ในโรงหนังนะมึง”
มันด่าผมเสียงเบาๆครับ ไม่กล้าเสียงดัง
“กูลืมตัว ขอโทษคร๊าบบ” ผมเอ่ยขอโทษมันออกไปเบาๆ
“ทำนิสัยตลอดอ่ะ” มันว่าเบาๆอีกครั้ง ก่อนหันไปสนใจหนังต่อ
ผมก็ดูหนังบ้าง หน้ามันบ้างจนหนังจบครับ
พอหนังจบก็เดินออกมาพร้อมกัน แต่ไอ้พรตมันเดินไปเข้าห้องน้ำ
ผมเลยยืนรออยู่หน้าโรงหนัง
“ตินณ์”
ผมได้ยินคนเรียกชื่อเลยหันไป ปรากฏว่าเป็นวิวครับ
“ตินณ์มาดูหนังเหรอคะ” วิวถามผมน้ำเสียงวิวดีใจมากที่ได้เจอผม
เพราะตั้งแต่วันที่ผมโดนวิวตบก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย
“ครับมาดูหนัง วิวล่ะดูหนังเหมือนกันเหรอ” ผมถามวิวออกไปบ้างตามมารยาท
“ค่ะ วิวกำลังจะเข้า ตินณ์ดูเรื่องอะไร เรื่องเดียวกันรึเปล่า”
“ตินณ์ดูเสร็จแล้วกำลังจะกลับ”
“น่าเสียดายจัง ตินณ์มากับใครค่ะ ไม่เห็นมีใครมาด้วยเลย” วิวถามพร้อมมองไปรอบๆ
“มากับแฟน แต่ตอนนี้ไปเข้าห้องน้ำ” ผมตอบวิว
“ตินณ์มีแฟนแล้วเหรอ ใครกันนะที่โชคดีได้เป็นแฟนตินณ์”
วิวถามผมอีกครั้ง น้ำเสียงและสีหน้าเศร้าลงไปนิดนึง
“ซักวันวิวก็จะได้รู้เอง แล้ววิวมากับใครล่ะ” ผมตอบคำถามวิวก่อนที่จะถามออกไปบ้าง
“วิวมากับเพื่อนคะ แต่เพื่อนเข้าไปแล้ว วิวเห็นตินณ์เลยเดินเข้ามาทักก่อน
งั้นวิวไม่กวนแล้ว วิวไปก่อนนะคะตินณ์ ถ้าโชคดีหวังว่าเราจะยังเป็นเพื่อนกันได้”
วิวบอกผมก่อนตั้งท่าจะเดินจากไป
“เราเป็นเพื่อนกันได้เสมอ ถ้าไม่ล้ำเส้นคำว่าเพื่อน”
ผมพูดออกไปก่อนที่วิวจะออกเดิน
“ขอบคุณค่ะ แค่ความเป็นเพื่อนก็ยังดี” วิวพูดจบก็เดินไปทางโรงหนัง
ไม่นานไอ้พรตก็เดินมาหยุดที่ผมยืนอยู่ แต่ไม่พูดอะไร
“ไปไหนต่อ อยากซื้อเสื้อ หรือเลนส์กล้องก่อน” ผมถามมันครับ
“เลนส์กล้อง” มันตอบพร้อมเดินนำทันที
ไม่นานก็มาถึงร้านกล้องขนาดใหญ่ดูมันมีความสุขมากที่ได้ดูและหยิบจับกล้องตัวนั้น วางตัวนี้
ผมก็เดินตามดูมันเพลินเลยครับ ไม่ได้ดูกล้องเลยเพราะไม่ค่อยรู้เรื่องนี้เท่าไหร่
ปล่อยมันเลือกไปผมมีหน้าที่แค่จ่ายตังค์เท่านั้นครับ
ดูอยู่นานเหมือนกันกว่ามันจะได้ที่ต้องการ
เพราะมันอยากได้หลายชิ้นแต่ผมบอกว่าเอาที่ต้องการจริง
ซัก 2-3 ตัวก่อนเดี๋ยวซื้อไปเยอะใช้แค่ไม่นานก็เบื่อ
มันก็ทำท่าทางเหมือนขัดใจแต่ก็ไปเลือกมา 2 ตัวที่มันอยากได้พร้อมขาตั้งกล้อง
ตอนแรกนึกว่ามันลืมเรื่องขาตั้งกล้องไปแล้วนะครับ
เห็นไม่เดินไปดูแต่พอจะจ่ายตังค์มันเดินไปหยิบมาเฉยเลย
หลังจากได้กล้องเราก็เดินดูเสื้อผ้ากันต่อครับ
มันเลือกซื้อเสื้อยืดธรรมดาแต่มียี่ห้อราคาแพงเวอร์มากผมก็ซื้อเหมือนกัน
แต่บางทีก็สงสัยว่าถ้าไม่ติดที่แบรนด์ของสินค้ามันจะราคาแพงไหม
พอได้เสื้อแล้วมันก็เดินเข้าร้านรองเท้า ต่อด้วยกางเกงยีนส์ และก็แว่นตา
พามันออกมาวันเดียวผมจะหมดตัวไหมวะ
เดี๋ยวคราวหน้าจะพามันไปไหนต้องวางแผนดีๆทำงานเก็บเงินก่อนซะแล้ว
ตอนนี้ถุงเต็มสองมือผมแล้วครับทั้งของมันและของผม
มันซื้อของมันแล้วก็ยังเผื่อแผ่มาให้ผมด้วยนะครับ
ตอนที่กำลังจะเดินกลับไปที่รถแต่เดินผ่านร้านนาฬิกาเจ้าประจำซะก่อน
ผมเลยถือโอกาสแวะซะหน่อย
“สวัสดีค่ะ น้องตินณ์วันนี้ดูรุ่นไหนดีคะ” พี่ฟ้าเป็นเจ้าของร้าน ออกมาทักทายผมครับ
“มีรุ่นไหนมาใหม่สวยๆบ้างพี่” ผมลองถามดูเผื่อมีเข้ามาใหม่แล้วถูกใจครับ
“มีหลายตัวเลยค่ะ เพิ่งมาเองลองดูก่อนได้เลย”
พี่ฟ้าบอกพร้อมหาเดินไปที่ตู้โชว์สินค้าใหม่ของร้าน
ผมเห็นเรือนหนึ่งสวยสะดุดตามาก ไม่ใหญ่เกินไป
“พี่ฟ้าครับเรือนนี้มีกี่สี” ผมถามพี่ฟ้า
“มี 2 สีค่ะเป็นตัวเรือนสีขาว กับสีดำ นำเข้ามาแค่ไม่กี่เรือน”
“พรต มานี่ดิ” ผมเรียกไอ้พรตที่ยืนดูนาฬิกาอยู่ที่ตู้กระจกหน้าร้านไม่ได้เข้ามาด้วย
“สวยไหมวะเรือนนี้” ผมถามมันถึงนากาที่ผมเล็งไว้
“อืมสวยดีว่ะ” มันตอบผมพร้อมจ้องนาฬิกาไม่ละสายตา
“งั้นเอาเรือนนี้ครับพี่ฟ้า ทั้ง 2 สีเลย”
ผมบอกพี่ฟ้าให้จัดการเอาใส่กล่องแล้วคิดเงินหมดไม่เยอะ 2 เรือนแค่เกือบแสนกระเป๋าเบาไปเลย
แต่เรื่องนาฬิกาผมยอมลงทุนครับ ของสะสมผม
“อ่ะกูให้” ผมยื่นกล่องนาฬิกาสีขาวให้มันครับ หลังจากเข้ามานั่งในรถแล้ว
“แล้วของมึงล่ะ” มันถามก่อนรับกล่องนาฬิกาไปถือ
“ของกูสีดำ รุ่นเดียวกัน ลายเดียวกัน” ผมตอบมันไปครับ
“โหงี้ก็เป็นคู่ดิ ไม่เอาอ่ะกูไม่อยากใส่เหมือนมึง
อายคนอื่นเถอะ กูจะเอาสองเรือนเลย” ว่าแล้วแม่งอายตลอด
“ไม่มีใครรู้หลอกน่า”
“มีดิ พวกมันไม่ได้โง่นะ งั้นมึงต้องไม่ใส่วันเดียวกับกู และให้กูใส่ก่อน”
มันพูดหน้าตาจริงจังมากครับ
“ครับๆ ตามใจครับ” ผมก็ตามใจมันตัดรำคาญ
“ตินณ์ ไปไหนไม่กลับคอนโด”
มันถามขึ้นหลังจากผมขับรถออกนอกเส้นทางกลับคอนโด
“เดี๋ยวก็รู้เอง” ผมบอกมันไปครับ
“ไม่ จะรู้ตอนนี้บอกมา” มันไม่ยอมครับ
“ไปบ้าน” ผมบอกให้มันหายข้องใจจะได้นั่งเฉยๆซะที
“บ้าน บ้านใคร” มันยังไม่หายสงสัยครับ
“บ้านกูไง ไปกินข้าวเย็นกับพ่อแม่กู”
ผมบอกมันถึงความตั้งใจที่จะพามันไปพบพ่อกับแม่ครับ
“พ่อกับแม่มึง” มันพูดเบาๆเหมือนคนใจลอยครับ
“ไม่กูไม่ไปบ้านมึง จะกลับคอนโด”
“แค่ไปกินข้าวไม่มีอะไร ไม่ต้องกลัว พ่อกับแม่กูท่านใจดีทั้งสองคน”
ผมบอกมันให้คลายความกังวลและตื่นเต้นครับ
“แม่ง จะพากูมาไม่บอกให้กูเตรียมใจเลยนะมึง” มันยังว่าผม
“ก็บอกแล้วไง”
“นานไหมล่ะ เวลาที่กูได้” มันพูดเคืองๆครับ
“หึหึ อีก 5 นาทีถึงแล้วครับ” ผมบอกมันยิ้มๆครับ เห็นมันตื่นเต้นแล้วตลกดี
“เชี่ย!!! ถ้าอย่างนั้นกูไม่ต้องการ” มันด่าก่อนนั่งเงียบเลยครับ
หลังจากมันเงียบไปไม่นานรถผมก็เลี้ยวเข้ามาที่บ้านหลังใหญ่ทันที
ผมมองเข้าไปเห็นแม่กำลังเดินออกมารับ
------------- To be Con.------------
มีแต่คนอยากให้เฮียตินณ์มอมเหล้านู๋พรต
สงสัยจะเป็นตับแข็งก็งานนี้แหละ
ฝากนิยายเรื่องใหม่ด้วยจร้า
พี่ขอร้อง น้องอย่ายั่ว ขออนุญาติเปลี่ยนชื่อเรื่องเพื่อลดความรุนแรง
เป็น "คุณน่ะเมียผมครับ"ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไปนะคะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39694.0