มึงน่ะเมียกู...ตอนที่ 7- Part Tin -
แวะมาส่งไอ้พรตที่หน้าคณะก่อนขับรถวนมาที่คณะของตัวเอง วันนี้ผมกับไอ้พรตมีเรียนบ่ายทั้งสองคนครับ ตอนแรกมันจะไม่ยอมมาเรียนข้ออ้างเยอะมากซึ่งล้วนเป็นความผิดมาจากผม ทั้งชุดนักศึกษาไม่มี ตำราเรียนไม่มี ห้องผมนอนไม่สบายมันนอนไม่พอทำให้เรียนไม่ไหว และสุดท้ายมันบอกว่าแมลงสาปห้องผมกัดตีนมัน ต้องไปฉีดยา
เชี้ยเห่อะ! ห้องกูสะอาดนะครับ
ผมเครียดกับสารพัดข้ออ้างที่มันยกมา เลยบังคับให้มันใส่เสื้อนักศึกษาของผม แต่กางเกงยีนส์ของมันตัวที่ใส่มา เมื่อวานผมซักตากให้เรียบร้อย มันด่าผมด้วยครับ ว่ายุ่งกับของของมันกางเกงยีนส์ต้องใส่เดือนนึงค่อยซัก ราจะกินขาเมียกูไหมวะ
หลังเลิกเรียนผมรีบชิ่งออกมาก่อนที่ไอ้พวกเพื่อน 4 ตัวจะทันถามอะไร ตอนนี้รอไอ้พรตที่คณะแต่นั่งรอในรถครับยังไม่อยากลงไปให้เป็นที่สังเกต พอเห็นมันเดินลงมากับเพื่อนก็หยิบโทรศัพท์โทรหามัน แต่มันไม่รับตามเคย ผมเลยส่งข้อความไปแทน
“ถ้ามึงไม่มาที่รถเดี๋ยวนี้ กูจะลงไปตาม” ผมส่งไปแค่นี้ครับ เห็นมันเปิดขึ้นอ่านแล้วสีหน้าเปลี่ยนเลย หน้ามันบึ้ง ดูหงุดหงิดตลกดี มันหันมามองที่ลานจอดรถแล้วหันกลับไปคุยกับเพื่อนก่อนเดินตรงมาที่รถผม เปิดประตูเข้ามานั่งได้ เท่านั้นมันเอื้อมมือไปดึงประตูปิดอย่างแรง สงสารลูกBMW ของผมจริงๆต้องมาทนมือมันหลายครั้งแล้ว
“เหี้ย!! ไม่ให้เวลากูได้หายใจเลยนะมึง” มันว่าครับ
“เดี๋ยวกูพาไปเก็บของที่ห้อง หรือจะให้กูพาไปเอาที่บ้าน” ผมไม่ตอบแต่ถามไปอีกเรื่อง ต้องถามมันก่อนครับว่าต้องไปเอาที่ไหน เพราะมันคงต้องใช้ชุดนักศึกษาหรือตำราเรียน
“คอนโด” ตอบแค่นั้นแล้วหันมองออกไปนอนรถ ช่วงนี้รถติดนิดหน่อยไม่มากเท่าไหร่ครับ ผมรู้สึกว่าบรรยากาศในรถมันเงียบเกินไปเลยชวนมันคุยครับ
“ทำไมมึงถึงชื่อเล่นว่าพรตวะ ไม่เข้ากับหน้าตาสวยๆของมึงเลย”
“เชี้ย เสือกกะชื่อกูนะมึงแต่กูหล่อเถอะไม่ใช่สวย กูเป็นผู้ชายชื่อกูก็ต้องแมน พ่อกูตั้งให้เลยนะเว้ยพี่ชายกูแม่เป็นคนตั้งชื่อพีชกับพรีม แม่ง! ชื่อเหมือนผู้หญิงทั้งสองคน ถ้ามึงไม่พอใจมึงจะเรียกว่า พะระตะ หรือ พะรต ก็ได้เท่ดีเหมือนกัน” มันว่าครับ เล่าเพลินเลยนะมึงสงสัยลืมเรื่องที่โมโหผมแล้ว
แต่ถ้ามันให้ผมเรียกสองชื่อหลังที่มันว่า ขอเรียกชื่อมันเหมือนเดิมดีกว่าครับไม่ไหวชื่อแรกเหมือนพระเอกอินเดีย ชื่อหลังก็เหมือนพระเอกละครจักรๆวงศ์ๆช่องหลายสีช่วงเช้าวันหยุดครับ
“เออๆ กูไม่เถียง มึงเป็นผู้ชายมึงแมนแต่...” ผมเว้นจังหวะไว้นิดนึงครับ
“มึงเป็นผู้ชายที่เป็นเมียกู หึหึ” พูดเสร็จผมก็หัวเราะตบท้าย กวนมันไป
“สัส” มันว่าแค่นั้นแล้วไม่พูดต่อครับหันไปมองวิวข้างหน้าต่างเหมือนเดิน
ไม่นานเราก็มาอยู่ที่คอนโดของไอ้พรตครับ
“มึงรอกูตรงนี้เดี๋ยวกูลงมา” มันรีบบอก
“กูจะขึ้นไปด้วย ถ้ามึงตุกติก กูไม่รอทั้งคืนรึไง”
“เออ ตามใจ” มันว่าแค่นั้นแล้วเดินนำเข้าลิฟท์ กดไปชั้นบนสุด คอนโดมันเป็นคอนโดหรูแล้วยังอยู่ชั้นบนสุดคงเป็นห้องที่ราคาแพงมากครับ แล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิดไว้จริงๆ เพราะเพียงเปิดประตูเข้ามาก็เห็นเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง มีบาร์เหล้าในครัวมันด้วยครับ มันทำอาหารไม่เป็นจะมีครัวไว้ทำไมวะสงสัยครับ
ที่แปลกใจกว่าคือห้องมันมีรูปถ่ายเยอะมากรูปธรรมชาติส่วนมากจะเป็นท้องฟ้ากับทะเล แต่เป็นภาพที่ถ่ายออกมาแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่น ให้แสงและเงามองแล้วเหมือนเราได้ไปสถานที่จริง มันถ่ายรูปสวยมากครับ ผมที่มองภาพไม่ค่อยเป็นยังว่าสวยเลย มีทะเลตัดกับท้องฟ้า บางที่ผมก็จำได้ว่าเคยไปมาแล้วแต่ตอนไปไม่เคยรู้สึกว่ามันสวยเท่าตอนดูภาพที่มันถ่าย มันคงชอบทางนี้แต่ไม่ค่อยเข้ากับมันที่เป็นคนอารมณ์ร้อนซักเท่าไหร่
ครืด ครืด..... ครืด ครืด.....
เสียงโทรศัพท์ของมันดังขึ้นมันหยิบมากดรับสาย
“เออ ว่าไง” รับได้กวนมาก
“...”เงียบรอปลายสายพูด
“กูอยู่ห้อง ไม่สบายนิดหน่อย... เออ ... หายแล้ว ไม่ต้องมากูจะนอนแล้ว” มันจะนอนอะไรตอนนี้ เพิ่งเย็นเองครับ
“ เออๆ พูดมากกูจะวางแล้วไอ้เชี้ยนาวเดี๋ยวมึงเจอดี” มันว่าแค่นั้นแล้วกดตัดสาย อย่างน้อยที่จับประเด็นได้คือมันคุยกับไอ้นาวครับ แล้วจะเข้ามาหาไอ้พรต ไอ้พรตเลยบอกว่าจะนอน
ผมเดินดูห้องรับแขกมันเรื่อยๆ รอมันเก็บของ จนมาสะดุดตากับรูปถ่ายใบหนึ่งวางไว้บนโต๊ะวางโทรศัพท์มุมห้อง รูปไอ้พรตกับผู้หญิงคนหนึ่งถ่ายคู่กันเป็นรูปที่ดูยังไงก็รู้ว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกัน และคาดว่าถ่ายไว้ไม่เกิน 1 ปี เพราะไอ้พรตเหมือนปัจจุบันมาก ผู้หญิงในรูปดูเป็นคนสวยตัวเล็กๆ ผิวขาว ผมยาว น่าถะนุถนอมมากครับ ผมหยิบขึ้นมาดูใกล้ๆ ใจของผมรู้สึกเจ็บขึ้นมาซะอย่างนั้น
ตอนแรกผมคิดว่าผมแค่สนใจมัน แต่ตอนนี้ผมแน่ใจแล้วครับว่าไม่ใช่ ผมรู้สึกกับมันมากกว่านั้นแต่ยังไม่รู้ว่าถึงขั้นรักรึเปล่า ที่แน่ๆผมไม่อยากเสียมันไปถ้าผมรู้มาก่อนว่ามันมีแฟนอยู่แล้วผมจะไม่ตื้อ ไม่บังคับ หรือแม้กระทั่งจะไม่ยอมให้อารมณ์ของเราทั้งสองคนพามาจนอยู่ที่ตรงนี้ ผมไม่อยากเป็นคนที่ไปแทรกกลางความรักของใคร หรือต้องเป็นตัวเลือกของใคร ผมคิดว่าคนอย่างผมมีดีพอที่จะไม่ยอมเป็นตัวเลือกของใครแน่นอน ยิ่งคิดผมก็ยิ่งปวดใจ
“มึงทำอะไรน่ะ” มันตะโกนถามผมออกมาจากห้องนอน
ผมตกใจ เกือบทำรูปหลุดมือ แต่ดียังคว้าไว้ทัน ผมเลยค่อยๆว่างรูปลงที่เดิมอย่างเบามือ มันคงรักมากไม่อยากให้ใครแตะต้อง
“ ...” ผมเงียบครับ ไม่รู้จะตอบว่าอะไร
มันเดินมาหยิบรูปที่อยู่ตรงหน้าผม แล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง ตอนนี้ผมเหมือนมึนๆ ยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอย่างไรต่อไปจะเดินหน้าต่อหรือปล่อยมันไป บอกเลยว่าสับสนครับผมทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาใกล้ๆอย่างเหม่อลอย มาห้องมันครั้งแรกก็เจอดีเลยครับ
“เสร็จแล้ว” มันเรียกผมหันมองไปทางประตู มันออกมาอีกครั้งพร้อมกระเป๋าเป้ใส่เสื้อผ้าใบไม่ใหญ่เท่าไหร่ และกระเป๋าใส่กล้องอีกหนึ่งใบ
“รูปใคร น่ารักดีนะ” ผมตัดสินใจลองถามมันดูครับ เผื่อว่าผมจะคิดไปเอง ยังคงมีความหวังอยู่ครับแม้ว่าจะน้อยมาก
“นิว” มันตอบผมแค่นั้นแล้วเดินไปใส่รองเท้าที่หน้าประตู
ผมเดินตามออกมาแล้วขับรถพามันกลับมาที่คอนโด ในใจยังคงคิดวนเวียนแต่เรื่องของผู้หญิงที่ชื่อนิวครับ ตั้งแต่ออกจากคอนโดมันมาผมยังไม่ได้พูดกับมันซักคำ ไม่รู้จะพูดอะไรครับความรู้สึกมันตื้อไปหมด
มันน่าจะรู้ว่าผมคิดมากเรื่องนี้ แต่มันก็ไม่ยอมพูดหรืออธิบายอะไรออกมา
พอถึงห้องมันก็อาบน้ำแล้วเข้าห้องนอนทันที ผมนั่งอยู่หน้าทีวีในห้องรับแขก กดเปลี่ยนช่องไปมาไม่รู้จะดูอะไรครับ ใจมันไม่สงบ เลยกดปิดและล้มตัวลงนอนบนโซฟา ผมคิดวนเวียนอยู่อย่างนั้นจนเผลอหลับไป สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกทีตี2 แล้วครับ เดินไปปิดไฟห้องรับแขกแล้วเข้าห้องนอน ไอ้พรตนอนหลับไปแล้วครับ ผมหยิบผ้าขนหนูพาดบ่าแล้วตรงไปอาบน้ำ ออกมาปิดไฟแล้วล้มตัวลงนอนอีกฝั่งนอนตะแคงหันหลังให้มันครับ หันไปมองมันไม่ได้เดี๋ยวจะทำให้ตัดใจยากกว่านี้ จากนั้นก็เผลอหลับไปอีกรอบ
“เรียนกี่โมงเดี๋ยวกูไปส่ง” ประโยคแรกที่ผมคุยกับไอ้พรต หลังจากเมื่อวานที่กลับมาจากคอนโดของมัน มันก็ไม่ยอมคุยกับผมก่อนเหมือนทุกๆครั้งที่ผมต้องหาเรื่องชวนมันคุย
“ 9 โมงเช้า” อืม เรียนเวลาเดียวกันครับ ผมแต่งตัวเสร็จแล้วเดินมารอมันที่หน้าประตู เห็นมันเดินไปหยิบกระเป๋ากล้องแล้วตามออกมา ผมพามันมาส่งที่คณะของมันคนเริ่มเยอะแล้วครับ
“เลิกกี่โมง” ผมถามมันอีกครั้ง
“เที่ยง”
“เดี๋ยวมารับ ตอนเที่ยงกูโทรหา”
“...” มันไม่ตอบแต่เปิดประตูลงจากรถแล้วเดินออกไปเลยครับ ผมก็ได้แต่มองตามหลังมันไปจนลับสายตาถึงได้ออกรถขับไปที่คณะของผมต่อ
“เป็นเหี้ยอะไรวะ หน้าตาเหมือนขี้ไม่ออก” ไอ้นัทมันทักผมครับ
ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะไม่ได้ตอบอะไร ไม่รู้จะบอกว่าอย่างไร ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าผมกับไอ้พรตเป็นอะไรกันจะปรึกษาใครก็ไม่ได้ ไม่ได้อายหรือกลัวพวกมันรับไม่ได้ครับแต่ว่าผมกลัวว่าถ้าพวกมันรู้จะทำให้เพื่อนไอ้พรตมันรู้ด้วย เพราะหลังจากที่กินเหล้ากันวันนั้น กลุ่มมันก็เริ่มสนิทกับกลุ่มผมมากขึ้น เจอที่ไหนก็ทักทาย แล้วคุยกันบ้างผมไม่รู้ว่าไอ้พรตจะรับได้ไหมถ้าเพื่อนมันจะรู้เรื่อง หรืออาจจะทำให้นิวของมันรู้เรื่องไปด้วย
“มีเรื่องต้องคิดนิดหน่อยว่ะ ไม่ต้องห่วงสบายมาก” ปากว่าไปแต่ใจไม่ใช่เลยครับ
“เอ่อ ให้ช่วยอะไรก็บอกพวกกู เห็นมึงแปลกๆ พวกกูก็ไม่สบายใจ” ไอ้อาร์มมันว่าครับ
“ขอบใจพวกมึงมาก แต่กูขอแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อนว่ะ”
“เย็นนี้แดกเหล้ากัน” ไอ้โฟมเสนอมาครับ
“กู...” กำลังจะพูดครับแต่ไอ้นัทรีบบอกมาก่อน
“มึงห้ามปฏิเสธ เพราะมึงเป็นเจ้ามือ”
“กูบอกจะเป็นเจ้ามือเมื่อไหร่วะ” ผมถามออกไปด้วยความงง
“อ้าว! ไอ้เหี้ยทำเป็นแกล้งลืมนะมึง มึงตกลงวันที่แข่งรถ จำไม่ได้รึไง” ไอ้อาร์มเป็นผู้ชี้ทางสว่างแก่ผม คือผมลืมจริงๆครับ
“เออ! กูลืมจริงๆ แล้วไปที่ไหน”
“ ร้านพี่มิน” ไอ้คิม เป็นคนตอบครับ
“ไอ้เหี้ยคิมมึงจะไม่คิดเปลี่ยนที่มั่งรึไงวะ กูไปบ่อยจนจะได้เด็กเสริฟเป็นเมียแล้วเนี๊ยะไอ้อาร์มบอกกับไอ้คิมครับ มันแค่พูดไปอย่างนั้น จริงๆมันก็ชอบไปร้านนี้
“ไม่วะ ร้านนี้สาวสวยดี” ไอ้เหี้ยคิมไม่ค่อยเลยนะมึง มีเรื่องเดียวจริงๆ คุยกันซักพักก็เข้าเรียน
ผมรอไอ้พรตรับสาย โทรหามันตั้งแต่เที่ยง 10 นาที โทรมา 4 สายแล้วครับมันยังไม่รับและผมโทรเวลาห่างวันทุก5 นาที มันเล่นตัวหรือว่าอะไรวะ ตอนนี้ผมคิดไปหลายทางเลยครับ ไม่รู้ว่ามันยังไม่เลิกเรียน หรือไม่อยากรับสายผม หรือว่าอยู่กับใครที่ไม่สามารถรับสายผมได้ ยิ่งคิดยิ่งไปในทางลบครับ แล้วก็ลองโทรอีกครั้งรอสายจนสายใกล้จะตัดแล้วก็มีคนกดรับสายแต่ไม่พูด
“ไอ้พรต” ลองเรียกมันก่อนครับ
“...” เงียบครับ
“ไอ้พรต” ลองเรียกอีกที
“...” เงียบเหมือนเดิม
“พรต ถ้ามึงไม่ว่างกูจะวางนะ”
“ ถ้ากูไม่ว่างแล้วจะรับสายมึงทำไม โง่” อ้าวด่ากูอีกที่รัก
“ กูจะถามว่าจะให้กูไปรับที่ไหน หน้าคณะไหม” ผมถามมันก่อนครับ”
“ ไม่ต้องมากูจะไปถ่ายรูปกับเพื่อนตอนเย็น กลับดึก” มันบอกผมอย่างนี้ แล้วมันจะกลับยังไงวะ
“ งั้นเสร็จเมื่อไหร่ โทรบอกกูนะกูจะได้ไปรับ”
“...” มันไม่ตอบเหมือนเคย แล้วกดตัดสายไป ทำไมชอบตัดสายกูวะ
ผมเดินเข้าไปในร้านอาหารที่มากินกับเพื่อน นั่งกินไปซักพักก็ไม่รู้จะไปที่ไหน เลยตกลงกันว่าจะไปที่หอไอ้คิม ตอนแรกจะมาห้องผม ผมคิดว่าพวกมันจะมาจับผิดผมนั่นแหละ ผมเลยบอกว่าขี้เกียจขับรถไปมาเพราะจากหอไอ้คิมไปร้านพี่มินใกล้ที่สุด มันเลยยอมตอนนี้เลยกลายเป็นว่าในห้องไอ้คิม บรรจุไว้ด้วยผู้ชายทั้งหมด 5 คน ห้องดูแคบลงไปแต่ก็ยังไม่แคบมากครับ ตอนนี้ไอ้นัทกับไอ้โฟม นั่งเล่นเกมส์แข่งกัน ไอ้อาร์มกำลังคุยโทรศัพท์กับคนที่บ้าน เหลือผมกับไอ้คิมนั่งดูทีวีด้วยกันสองคน
ผมเดินออกมาสูบบุหรี่ที่ริมระเบียงห้อง ผมจะสูบเวลาเครียด หรือเวลาทำงานหนัก ปกติไม่ค่อยได้สูบเท่าไหร่ คิดอะไรเพลินๆรู้สึกตัวอีกทีบุหรี่หมดไปแล้ว5 ตัว ผมดับบุหรี่ตัวสุดท้ายแล้วเดินกลับเข้ามาในห้องเห็นไอ้คิมหลับไปแล้ว ไอ้อาร์มไปแย่งไอ้โฟมเล่นเกมส์ ส่วนไอ้โฟมลงไปนอนอยู่ข้างๆไอ้นัท ผมว่าช่วงนี้มันสนิทกันเกินไปแล้วครับเห็นไอ้นัทที่ไหนต้องมีไอ้โฟมที่นั่น ตอนแรกที่ว่ามันไม่มีอะไรกันผมขอถอนคำพูดก่อนครับ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้เหมือนเรื่องของผมกับไอ้พรตไง เอาเป็นว่ารอดูกันต่อเอง พวกผมอยู่ห้องไอ้คิมจนทุ่มนึงแล้วก็ออกไปกินข้าว จากนั้นก็ไปร้านพี่มินต่อเลยครับ ตอนนี้เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพวกผมจะมีชุดสำรองติดรถกันไว้เสมอครับ รู้กันว่าชวนเที่ยวเมื่อไหร่ต้องพร้อม
“เอ้ย! ไอ้เหี้ยตินณ์เหล้านะเว้ยไม่ใช่น้ำเปล่า” เสียงไอ้อาร์มบอกผม แต่ผมไม่สนใจครับตอนนี้อยากเมาเผื่อจะได้ลืม
“ไอ้คิม ไอ้ตินณ์มันบอกไหมวะว่ามันมีปัญหาอะไร” ไอ้อาร์มหันไปถามไอ้คิน เมื่อไม่ได้คำตอบจากผม ตอนนี้เรามานั่งกันได้เกือบ 2 ชม.แล้วครับ ผมเริ่มจะมึนๆ แต่ยังพอรู้เรื่องอยู่บ้าง
“ ไม่รู้เหมือนกันมันไม่ได้บอก” ไอ้คินตอบเสียงนิ่งๆ
“กูไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้เลยว่ะ” ไอ้นัทพูดบ้าง
“ กูรู้จักมันมาก็เห็นเป็นแบบนี้แค่ครั้งเดียวตอนจบม.ปลาย แล้วไม่เคยเห็นอีกเลย” ไอ้คิมมันพูดออกมาลอยๆ มีสาวเข้ามาขอชนแก้วครับ ผมก็หันไปชนด้วย ดูเซ็กซี่มาก แต่ผมไม่มีอารมณ์สานต่อแค่ชนแก้วเพราะอยากเมาเฉยๆ
“อ้าวหวัดดีครับพี่ๆ” เสียงใครวะ
“กูไม่มีน้องเว้ย” ผมพูดพร้อมกับหมุนตัวไปมองว่าใครมาทัก
“อ้าวพี่ เมาแล้วเหรอยังไม่ดึกเลยนะ” ไอ้นาวครับ
“อ่อ! มึงนี่เองกูนึกว่าใคร” หันไปเป็นไอ้นาว ไอ้มายด์ และไอ้ฟิกซ์ครับมาเกือบครบขาดแต่ไอ้พรต
“มาๆ นั่งด้วยกันเลย” ไอ้อาร์มพูดเชิญชวนแล้วเรียกพนักงานมาต่อโต๊ะ
“ไม่เกรงใจแล้วนะพี่” ไอ้มายด์ออกตัวก่อนเพื่อนเลยครับ
“ เออ ไม่ต้องเกรงใจเต็มที่ เพราะมื้อนี้ไอ้เสี่ยตินณ์จ่าย” อ้าวไอ้เหี้ยไม่ถามกูเลย
“โห งั้นผมสั่งเลยนะโชคดีชะมัดเลยเว้ย ไอ้มายด์ ไอ้ฟิกซ์ มีคนเลี้ยง” มันบอกผมก่อนจะหันไปพูดกับเพื่อนมันด้วยน้ำเสียงดีใจยังกะไม่เคยมีใครเลี้ยงมัน
“แล้วเพื่อนมึงไปไหน” ผมลองถามดูครับ
“ก็นี่ไงพี่” ไอ้นาวมันตอบผมพร้อมชี้ไปที่เพื่อนมัน 2 คนที่มาด้วย
“ กูถามถึงคนที่ไม่มา อย่ากวนตีน” ผมว่ามันไป
“ แห่ะๆ ก็พี่ไม่บอกคนไหน ผมก็นึกว่าไอ้สองคนนี้ ไอ้พรตมันไม่ได้มาด้วยพี่ วันนี้พวกผมไปถ่ายรูปที่สวนรถไฟกันมา แต่พอถ่ายเสร็จตอนทุ่มนึง ไอ้พรตก็แยกตัวกลับไปก่อนไม่รู้มันไปไหน” ไอ้นาวเล่ายาวเลยครับ มือก็หยิบเหล้ามากระดกนิดหน่อย
“ อ้าวมึงไม่ถามมันวะเพื่อนกัน” ผมยังคงถามมันต่อ ผมอยากรู้มันไปไหนไม่ยอมให้ผมไปรับด้วย บอกว่าถ่ายรูปเสร็จแล้วให้โทรมา นี่ผมนั่งรอโทรศัพท์จากมันก็ไม่มีโทรเข้ามาซักสาย
“ ถามแล้วแต่มันไม่บอกว่ะพี่ แต่ปกติเวลาชวนกินเหล้ามันไม่เคยปฏิเสธเลยนะถ้ามันค้างที่คอนโด ยกเว้นวันไหนมันไปนอนบ้านมันถึงจะไม่ออกมา” ผมเพิ่งรู้นี่แหละหรือว่ามันจะไปหาใคร
“ เออ กูถามหน่อยมึงรู้จักคนชื่อ นิวไหมวะ” ผมลองถามเรื่องคนชื่อ นิว ดูครับเผื่อไอ้นาวจะรู้จักเพราะเห็นมันสนิทกับไอ้พรตมากกว่าเพื่อน
“ อ้าวพี่รู้จักนิวด้วยเหรอ” มันดูตกใจครับ
“ ทำไมกูถึงรู้จักไม่ได้วะ” ผมถามมันอีกครั้งพร้อมเสียงที่เข้มขึ้นตามอารมณ์
“ ป่าวๆ พี่ ผมแค่สงสัย เพราะมีไม่กี่คนที่รู้จัก” มันรีบอธิบายจนลิ้นพันกัน
“วันที่ไอ้พรตมันเมาไปค้างที่ห้องกู มันละเมอเรียกชื่อนี้ออกมา” ตอนแรกผมจะไม่บอก แต่ถ้าไม่บอกดูท่ามันจะไม่ยอมเล่าเลยบอกมันออกไป
“อ่อ!ครับว่าแล้วเพราะปกติถ้าไอ้พรตไม่เมา มันจะไม่พูดเรื่องของนิวผมเลยแปลกใจ จริงๆแล้วนิวมีชื่อว่า นินิว คนที่สนิทจะเรียกว่านิวเฉยๆ นิวเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับพวกผมเรียนปี1 มาด้วยกันและเป็นแฟนกับไอ้พรต...” ได้ยินแค่นี้สมองผมไม่อยากรับรู้อะไรแล้วครับ ได้ยินชัดเจนแล้วว่า เขาสองคนเป็นแฟนกัน ตอนนี้ผมเจ็บจนคิดอะไรไม่ออกครับ
-------------- To be Con.-----------------------
เอาตอนที่ 7 มาลงให้อ่านค่ะ
และอยากฝากเรื่องสั้นอีก 1 เรื่อง ตอนนี้จบแล้ว
เรื่อง ติวรัก... ค่ะ ฝากติชมด้วยนะคะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39494.0