ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
พอดี ผมไปอ่านเจอเรื่องนี้ จากบอร์ด อื่นมาหนะคับ อ่านแล้วก็สนุกดี ผมเลยเอามาลงให้เพื่อนๆอ่านกันนะคับ
เรื่องนี้แต่งโดย คุณ JmAc นะคับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไม่ง่ายนัก......รักนี้ (This Love Impossibel) : บทสรุปของความรัก
1 ... แรกเจอ
นาย เอกรินทร์ พิพัฒนพงษ์ กรุณานำสัมภาระมาพบผู้ปกครองด้วยค่ะ
“ไอ้นัท กูไปก่อนนะโว้ย ... พ่อกะแม่มารับแล้วว่ะ”
เอกรินทร์ เด็กหนุ่มตัวสูงใหญ่ หน้าตาคมคาย หันมาบอกนัท ที่ตอนนี้ตาแดงก่ำ เหมือนกำลังจะร้องไห้
“เฮ้ย อย่าทำขี้แยเป็นเด็กผู้หญิงซิว่ะ เชื่อเหอะ ว่าเดี๋ยวแม่มึงต้องมารับแน่ กูไปก่อนนะ อ่ะ! นี่เบอร์ที่บ้านกูเองแล้วโทรหากันบ้างนะ”
เอกเพื่อนที่สนิทที่สุดของนัทพูดปลอบใจพร้อมกับยื่นเ บอร์โทรศัพท์ใส่มือ และกุมมือเพื่อนที่ตอนนี้มันเย็นเชียบมากๆ ทั้งที่เอกก็ไม่อยากจะทิ้งเพื่อนไว้คนเดียว แต่พ่อกับแม่ของเค้านะซิ นึกแล้วเอกยังหวั่นๆ
“ไปเถอะเอก กูไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวแม่กูก็คงมาแหละ”
นัทมองเอกอย่างเข้าใจ จึงบอกกับเพื่อนทั้งๆ ที่เสียงยังสั่นเครือ นัทมองเพื่อนที่ลากกระเป๋าออกไป ตามเสียงเรียกเป็นครั้งที่สอง นัทสนิทกับเอกมากจนรู้ว่าที่บ้านของเอกเข้มงวดเรื่อง ระเบียบวินัยมากขนาดไหน เพราะพ่อเอกเป็นนายพลของกองทัพอากาศนั่นเอง
“เอาละซิไอ้นัท เป็นคนสุดท้ายจนได้ แม่ครับ…เมื่อไหร่แม่จะมารับนัทสักทีนะ”
นัทมองซ้ายทีขวาที พร้อมกับใจหวิวๆ เพราะตอนนี้ในหอนอนไม่เหลือใครอีกแล้ว หันกลับไปมองเอกอีกทีก็เดินลับตาไปแล้ว ตลอดเวลาที่เรียนด้วยกันมา เอกจะคอยปลอบใจนัทเวลาที่คิดถึงแม่ จริงๆ นัทก็ไม่ใช่คนอ่อนแอเลย เค้าไม่เคยยอมแพ้ใครและไม่เคยให้ใครมารังแกได้ง่ายๆ เพราะแม่เฝ้าพร่ำสอนเค้าเสมอเวลาที่เจอกันว่าต้องดูแ ลตัวเองให้ดีแม้เวลาที่แม่ไม่ได้อยู่ด้วย และนัทก็ไม่เคยผิดสัญญากับแม่สักครั้ง
แม่ส่งนัทมาอยู่โรงเรียนกินนอนที่เมืองไทยตั้งแต่เข้ า ม.1 แม่ก็แทบไม่เคยจะมาเยี่ยมเค้าเลย เพราะแม่ทำงานอยู่ต่างประเทศ จึงไม่ค่อยมีเวลาว่างกลับมาเมืองไทยสักเท่าไหร่ ทุกครั้งที่เจอกันแม่ของเค้าจะดูโทรมลงเสมอ นัทรู้แค่ว่าแม่ของเค้าหนื่อยเพราะแม่ต้องทำงานหนักน ับตั้งแต่ที่พ่อของเค้าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แม่เลี้ยงเค้ามาเพียงลำพังนับตั้งแต่นั้น นัทจึงรักแม่ของเค้ามากและพยายามตั้งใจเรียนเพื่อให้ แม่ภูมิใจ และเค้าก็ทำได้เสมอ นัทสอบได้ที่ 1 และได้ทุนการศึกษาจากโรงเรียนทุกปี นัทไม่เคยเรียกร้องอะไรจากแม่ เพราะเค้ารู้ว่าแม่ลำบากและทำงานหนักเพื่อเค้า นัทได้เจอหน้าแม่แค่ปีละ 2 ครั้งเท่านั้นในช่วงปิดเทอม เพราะแม่จะบินกลับมาเยี่ยมเค้าได้แค่นั้น
ตอนนี้ นัท จบชั้น ม.6 แล้ว และวันนี้เป็นวันที่ผู้ปกครองจะต้องมารับกลับบ้าน นัทเฝ้ารอวันนี้มานาน เพราะจะเป็นวันที่นัทได้กลับไปอยู่กับแม่ ตอนนี้นัทได้แต่คิดว่าแม่จะได้รับจดหมายของเค้าหรือเ ปล่า เค้าได้เขียนบอกแม่ไหมนะว่าวันนี้เป็นวันที่แม่ต้องม ารับเค้ากลับบ้าน
นัทพยายามนึกทบทวนถึงจดหมายที่เค้าส่งให้แม่ แล้วถ้าเกิดแม่ไม่ได้รับจดหมายเค้าจะทำยังไงดี เพราะเด็กที่ผู้ปกครองยังไม่มารับ ก็ต้องอยู่ที่หอต่อไปจนกว่าจะมีผู้ปกครองมาติดต่อกับ ทางโรงเรียน ตอนนี้น้ำตาที่กลั้นมานานกำลังจะไหลออกมาอยู่แล้ว ก็พอดีกับที่มีเสียงประกาศเรียกจากห้องปกครอง
“นาย ณัฐภูมิ รัตนปัญญา ให้นำกระเป๋าลงมาพบผู้ปกครองด้วยค่ะ”
“แม่มาแล้ว แม่มาแล้ว” เด็กหนุ่มลากกระเป๋าวิ่งไปที่ห้องปกครองทันที เพราะอยากเจอแม่เหลือเกิน นัทอยากกลับไปอยู่อเมริกากับแม่ กลับไปที่บ้านของพ่อ บ้านของพวกเรา นัทพูดกับตัวเองไปตลอดทางที่วิ่งไป และเมื่อไปถึงห้องปกครอง เค้าจึงรีบวางกระเป๋า พร้อมกับเข้าไปในห้องปกครองด้วยความดีใจ
“โอ๊ย…”
ใครกันเนี่ย นัทที่ล้มลงไปกองกับพื้นเหลือบสายตาขึ้นมามอง ร่างสูงเพรียวที่ยืนอยู่หันหลังอยู่ตรงหน้าเค้า
เห้อ … แต่งตัวแบบนี้ ค่อยโล่งอกหน่อยที่ไม่ใช่อาจารย์ แต่เมื่อเหลือบไปเห็นอาจารย์ที่มองมาเค้าต้องรีบลุกข ึ้นทันที และยกมือไหว้คนตรงหน้า ที่ดูว่าไม่สะทกสะท้านอะไรเลยที่เค้าวิ่งมาชน
“เอ๊อ..ขอโทษครับ คือ ผมรีบน่ะครับไม่ได้ตั้งใจ”
ชายหนุ่มที่นัทวิ่งชน หันมามองเค้าด้วยหางตาพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก แล้วหันกลับไปพูดกับอาจารย์โดยทำเหมือนไม่สนใจคำขอโท ษของเค้าสักนิด
ทำให้นัทยิ่งฉุนกึกขึ้นมาในใจ ยิ้มกวนประสาทชิบเป๋ง หน้าตาก็ดี แต่งตัวก็ดี เหมือนลูกคุณหญิงคุณนายแต่มองคนอื่นด้วยหางตาแบบนี้เ สียมารยาทจริงๆ
“โรงเรียนนี้เค้าขึ้นชื่อเรื่องมารยาทของนักเรียนไม่ ใช่หรือครับอาจารย์ ไม่น่าจะมีเด็กวิ่งตึงตัง ไม่ดูตาม้าตาเรือแบบนี้นี่ครับ”
นัทรู้สึกหน้าชาขึ้นมาทันที ที่ได้ยินคำพูดของชายหนุ่มตรงหน้า
ขอโทษไปแล้ว ยังไม่พอใจอีกหรือไงกัน นัทได้แต่ฉุนในใจ เพราะอยู่ต่อหน้าอาจารย์
“ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ คือปกติ ณัฐภูมิ เค้าก็เป็นเด็กมารยาทดีคนนึงเลยค่ะ แถมยังเป็นนักเรียนดีเด่นของเราด้วย แกคงไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ”
“เนี่ยเหรอครับ… นักเรียนดีเด่น… มารยาทดีอีกด้วย…”
ชายหนุ่มหันมามองนัท อย่างไม่เชื่อสายตา พร้อมกับยิ้มมุมปาก ยิ้มที่นัทไม่ชอบเอามากๆ
ถ้าเป็นเวลาปกตินัทคงคิดว่าคนแปลกหน้าคนนี้ยิ้มมีเสน ่ห์แน่ๆ เพราะเค้ามีลักยิ้ม แถมมีเขี้ยวเล็กๆ น่ารักดี สาวๆที่เห็นคงจะชอบไม่น้อย แต่ตอนนี้นัทไม่มีอารมณ์จะคิดแบบนั้นเลย เมื่อท่าทางของเค้ารวมถึงคำพูดมันดูถูกกันเห็นๆ
“ทำไมเหรอครับ นักเรียนดีเด่นต้องเป็นยังไงเหรอครับ”
นัทพยายามควบคุมอารมณ์พร้อมกับถามออกไป
“ก็ถ้าเป็นนักเรียนดีเด่น ที่มารยาทดีๆ เค้าคงไม่ย้อนผู้ใหญ่แบบนี้หรอกนะ”
ชายหนุ่มแปลกหน้าพูดพร้อมกับยิ้มเยาะในท่าทางไม่ยอมค นของนัท คงจะปากเก่งไม่น้อยเลยนะเด็กคนนี้ หน้าตาก็น่ารักดี เหมือนคนไทยมากกว่าจนไม่อยากจะเชื่อที่คุณแม่บอกว่า เด็กคนนี้เป็นลูกครึ่ง คนจะมีแต่ผิวที่ขาวมากนั่นละมั้ง ที่พอจะบอกได้ ขาวยังกะตุ๊กตา หึหึ … แปลกดี
ผู้ใหญ่อะไรว่ะ ดูหน้าตาแล้ว อายุก็ไม่น่าจะแก่กว่าเค้าสักกี่ปีหรอก แถมที่หัวเราะในคอนั่นอีก คนอะไรกัน ท่าจะบ้า … ได้แต่บ่นในใจ ในเมื่อนัทไม่อยากเสียมารยาทต่อหน้าอาจารย์
นัทเริ่มนึกได้ว่าเค้ากำลังมาหาแม่นี่นา แล้วเค้าก็มองไปรอบๆ ห้อง เมื่อไม่เห็นใครอีก จึงเอ่ยถามอาจารย์ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ …
“อาจารย์ครับ แล้วคุณแม่ของผมล่ะครับ”
“คุณแม่ของเธอ ไม่ได้มารับหรอกนะ ณัฐภูมิ”
“อ้าว … ก็ไหนอาจารย์ประกาศว่า …”
“เธอก็ฟังครูพูดก่อนซิ นายณัฐภูมิ … ใจร้อนจริงเลยนะเรา”
เด็กหนุ่มก้มหน้า พร้อมกับเหลือบไปเห็นว่าใครอีกคน กำลังยิ้มเหมือนจะหัวเราะเค้าอยู่
นัทส่งสายตาท้าทาย เหมือนจะถามว่ายิ้มทำไม... แต่ตอนนี้เค้าไม่อยากจะสนใจแล้ว เพราะตอนนี้เรื่องของแม่สำคัญกว่า
“คุณแม่ของเธอแจ้งทางโรงเรียนไว้แล้วว่า ไม่สามารถมารับเธอได้น่ะ”
“แล้วผมจะต้องอยู่ที่โรงเรียนต่อไปหรือครับอาจา รย์”
“ไม่หรอก … ว่าแต่เธอรู้จัก คุณหญิง ศศิกานต์ หรือเปล่าล่ะ”
แล้วมันเกี่ยวอะไรกันล่ะเนี้ย นัทได้แต่นึกสงสัย แต่ชื่อมันก็คุ้นๆ อยู่นี่นา … พยายามนึกถึงเพื่อนที่คุณแม่มักพูดถึงเสมอ แต่คุณแม่ก็ไม่มีเพื่อนสนิทที่ไหนนี่นา นอกจาก ...
“อ๋อ จำได้แล้วครับ คุณหญิง ศศิกานต์ เป็นเพื่อนรักของคุณแม่ผมน่ะครับ”
“อืม งั้นดีเลยที่เธอจำได้ คุณหญิงศศิกานต์ นอกจากจะเป็นเพื่อนของคุณแม่เธอแล้วนะ ท่านยังเป็นผู้อุปถัมภ์ของโรงเรียนเราด้วย และ คุณแม่ของเธอได้แจ้งกับทางโรงเรียนว่าจะฝากฝังให้เธอ ไปอยู่ที่บ้านคุณหญิง สักระยะหนึ่ง ก่อนที่ท่านจะมารับเธอ”
“อ้าว … ทำไม่ล่ะครับ ทำไมคุณแม่ถึงไม่มารับผม เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคุณแม่ผมหรือเปล่าครับ”
นัทรู้สึกผิดหวังขึ้นมา เมื่อความตั้งใจที่จะได้เจอ และได้กลับไปอยู่กับแม่ของเค้าต้องพังทลายลง
“ใจเย็นๆ ซิ ณัฐภูมิ คุณแม่ของเธอไม่ได้เป็นอะไรหรอกนะ เพียงแต่ท่านติดธุระสำคัญมากจึงยังมารับเธอตอนนี้ไม่ ได้เท่านั้นเอง”
“งั้นเหรอครับ ถ้าคุณแม่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วล่ะครับ”
นัทก้มหน้ารับ แต่ในใจก็ยังมีคำถามมากมาย แต่ก็ไม่กล้าที่จะถามเซ้าซี่อาจารย์ไปมากกว่านี้อีก
“อาจารย์ครับ … แล้วคุณหญิงท่าน จะมารับผมวันไหนหรือครับอาจารย์”
“อ๋อ คุณหญิงท่านติดงานการกุศลน่ะ นี่ไงจ๊ะ คุณธวัฒน์เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของคุณหญิง ท่านวานให้คุณธวัฒน์มารับแทน”
“เหวอ…เนี่ยเหรอครับอาจารย์ลูกคุณหญิง แล้วผมต้องไป ไป … เอ้อ … ไปกับเค้าหรอครับ”
“ใช่จ๊ะ ทำไมเหรอเธอมีปัญหาอะไรหรือเปล่าจ๊ะ ณัฐภูมิ”
ธวัฒน์หันมามองท่าทางตกใจของนัท แล้วก็อดขำไม่ได้ สงสัยจะกลัวเค้าเอาไปฆ่าละมั้ง ตกใจซะออกนอกหน้าเชียว
“เอ้อ...เปล่า เปล่า...ครับอาจารย์”
แล้วตูจะตายกลางทางไหมเนี่ย เฮ้อ...แต่เป็นไงเป็นกันว่ะ ในเมื่อแม่ต้องการแบบนี้นี่นา
“ถ้าพร้อม ก็ไปกันได้แล้ว ฉันเสียเวลามามากแล้วนะ”
เสียงธวัฒน์ เหมือนกับกำลังออกคำสั่งให้นัทต้องปฏิบัติตาม
ชิส์ ... พวกลูกคุณหญิงเค้าชอบออกคำสั่งกันนักหรือไง เราไม่ใช่คนใช้สักหน่อย ไม่อยากมารับ ก็ไม่ต้องมาไม่ได้ง้อซะหน่อย
“ว่าไง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปซิ จะให้ฉันอุ้มเธอไปที่รถหรือไง เด็กน้อย”
“เอ้อ...ครับ ครับ ไปครับ”
ใครว่ะเด็กน้อย ตัวเองแก่ตายล่ะมาเรียกเค้าเด็กน้อย ขี้เก็ก หยิ่ง ถือตัว คนอะไรว่ะ นัทไม่ชอบเลยที่จะโดนว่าเป็นเด็ก ก็ในเมื่อเค้าอายุจา 18 แล้วนะ
นัทหันไปสวัสดีและกล่าวลาอาจารย์ พร้อมกับเดินออกไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่หน้าห้อง
เมื่อธวัฒน์เห็นว่านัทเดินออกไปแล้ว จึงกล่าวลาอาจารย์บ้าง
“ยังไงก็ฝากดูแลตา นัท แกด้วยนะค่ะคุณธวัฒน์ แกเป็นเด็กน่าสงสาร และฝากความรำลึกถึงคุณหญิงด้วยนะค่ะ”
“ครับ แล้วผมจะเรียนคุณแม่ให้ แต่ท่าทาง เด็กนัท นั่นคงจะไม่ค่อยน่าห่วงมั้งครับ รู้สึกจะเก่งพอตัว หึหึ”
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ค่ะ”
อาจารย์ได้แต่มองตามหลัง คนทั้งคู่ที่เดินจากไป โดยไม่รู้เลยว่า อนาคตของนัท กำลังมีอะไรรออยู่ข้างหน้า
*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
ทิพย์โมบอร์ดนิยาย