5555+ ตกหน้าสอง
ตอนที่ 14 ปาร์ตี้
เสียงเพลงที่ดังลั่นบ้านนี่ก็สนุกดีอยู่หรอกนะครับ... ถ้าไม่ติดว่าพรุ่งนี้ต้องไปทำงานนะ…
ไอ่แจ๊คกับไอ่แนนที่เข้ากับเหล่าเพื่อนที่ทำงานได้อย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ย คุยกันสนุกปากอยู่หน้าบ้านพร้อมบุหรี่ในมือ ผมเฉยๆนะครับกับเรื่องบุหรี่ ผมเองก็เคยสูบบ้าง แต่แค่ครั้งสองครั้งเท่านั้น
ตอนนี้ผมกับน้องเมนั่งอยู่ในบ้านของทิมซึ่งตอนนี้กำลังเฮฮากันมากมาย เล่นกีตาร์เคล้าเสียงเพลง ตามซอกหลืบมีการกอดจูบกันเป็นคู่ๆ เหมือนในหนังเด๊ะเลย
แต่จะแปลกก็ตรงที่ว่าปาร์ตี้นี้มีเด็กด้วยแฮะ สาวน้อยผมสีทองตาสีฟ้า สวมชุดกระโปรงสุ่มลายดอก ชื่อเคธี่...เธอเพิ่ง 5 ขวบ เป็นลูกสาวของเพื่อนทิมที่ติดมากับพ่อแม่เพื่อมาปาร์ตี้ เป็นเหตุให้พวกที่สูบบุหรี่ต้องระเห็จออกไปข้างนอกไงครับ
ตอนนี้น้องเมนี่เหมือนพี่เลี้ยงเลย นั่งเล่นกับเด็ก ผมเองก็นั่งดื่มของผมไปเรื่อย แล้วก็คุยกับคนอื่นบ้าง บรรยากาศดีครับ...แต่จะดีกว่านี้...ถ้าพรุ่งนี้ได้หยุดงาน เฮ้อออ
อยู่ๆทิมก็ขับรถมารับพวกผมซะอย่างนั้น ผมเองก็งงหนักเลย ปาร์ตี้ไหนไม่เห็นรู้เรื่อง กลายเป็นว่าเค้าฝากมาชวนพวกเราทางไอ่แนน ซึ่งบอกไอ่แจ๊คให้มาบอกผมด้วย แต่ไอ่แจ๊คดันลืมบอกผม
จะว่าเซ็งมั้ย...ก็ไม่หรอกครับ แต่ผมไม่รู้จะทำอะไรมากกว่า ผมก็นั่งกลมกลืนกับบรรยากาศไปเรื่อยๆจนมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาทักผม...อืม จะว่าผู้หญิงก็ไม่เชิง เค้าออกแนวทอมน่ะครับ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นทอมที่เป็นฝรั่ง คือมักจะเห็นแต่เลสเบี้ยนอะ แหะๆ
เค้าแนะนำตัวกับผมและน้องเมว่าชื่อจูซี่ และแฟนเค้าชื่อเอมิลี่ เค้าถามผมตรงๆเลยครับว่ารังเกียจมั้ยที่เค้าเป็นเกย์...ซึ่งก็แน่นอนว่าผมไม่รังเกียจ เพื่อนผมมีทุกเพศครับ อย่างที่บอก
ผมได้เรียนรู้อย่างหนึ่งว่า เค้าจะเรียกตัวเองว่าเกย์ซึ่งถ้าในบ้านเราเกย์หมายถึงผู้ชายกับผู้ชาย แต่ในสังคมบ้านเค้าจะเรียกรวมหมดว่าเกย์ครับ
เค้าหน้าตาน่ารักมากครับ ผอมๆสูงๆแต่งตัวค่อนข้างแนวเลยทีเดียว กางเกงยีนส์สกินนี่กับผ้าใบ คุยกันถูกคอดีครับ เขาชมรองเท้าผมด้วยว่าสวยดี 555+
พอเริ่มคุยกันถูกคอก็ชนกันแหลกลาญ น้องเมก็เหมือนเดิมครับ เชียร์อย่างเดียว ซักพักไอ่แจ๊คก็เดินเข้ามาพร้อมไอ่แนนและเพื่อนคนอื่นๆอีก 2-3 คน ไอ่ฮวนกับไอ่แมกซ์ก็มาครับ มิน่าถึงได้ครึกครื้น
มาถึงไอ่ฮวนก็พุ่งมาชนแก้วกับผมทันที จะพูดให้ถูกต้องชนขวดดิ เพราะตอนนี้ในมือถือกันอยู่คนละขวดเลยครับ ผมก็เฮฮาไป โอเคไม่กวนตีนกูก็รับได้น่า มันเล่าโจ๊กกันสนุกสนาน บางมุขก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่บรรยากาศมันพาไปอะครับ สนุกหมดแหล่ะ 55+
แต่ละคนสภาพกรึ่มได้ที่มากครับ ไม่ต้องพูดถึงไอ่แนนและไอ่แจ๊ค ไอ่สองตัวนี่ขี้เหล้าอยู่แล้ว ไอ่แนนนี่เหมือนมันจะขายดี มีแต่คนเข้ามาคุยกับมัน แต่มันเป็นคนที่เมื่อเหล้าเข้าปากแล้วจะเฮฮามากครับ เวลาปกติมันจะกวนตีนสุดชีวิต
ผมสังเกตว่าไอ่แมกซ์ดูจะเอาใจใส่ไอ่แนนเป็นพิเศษ ก็ผมว่างอยู่นี่นา แหะๆ ผมก็มองอะไรไปเรื่อย หรือไอ่แมกซ์ชอบไอ่แนนหว่า....เหอะๆ เรื่องนี้น่าสน ต้องขยายครับ
ผมรู้นานแล้วว่าไอ่แนนไม่ใช่ทอม แต่มันแค่ห้าวเกินเหตุเฉยๆ ผมเคยเดินผ่านตอนมันโทรศัพท์กลับบ้านครั้งหนึ่ง เอะอะเอ็ดตะโรมาก ไอ่แนนมันทะเลาะกับแฟนมันครับ ทะเลาะกันข้ามประเทศเลย พอวางเสร็จมันก็เดินมานั่งเซ็งๆที่ห้องครัว พอดีผมอยู่คนเดียวตอนนั้น เลยนั่งฟังมันบ่น
มันบอกว่าแฟนมันงี่เง่า ไม่ค่อยได้โทรหาก็โกรธ อุตส่าห์นึกว่าคบผู้ชายที่ดูไม่เรื่องมากแล้ว ก็ยังจะงี่เง่าอีก บลาๆๆๆๆๆๆ บ่นยาวมาก ผมเองก็เห็นใจมันนะ แต่ก็ได้แต่ฟังอย่างเดียวอะ
ตอนนี้ปาร์ตี้ก็ดำเนินไปเรื่อยๆครับ วงสนทนาก็กว้างขึ้น มีคนเข้ามาคุยกับผมบ้าง บางคนผมจำชื่อได้มั่งไม่ได้มั่ง ตอนนี้มึนๆด้วยแหล่ะ
นั่งไปนั่งมาผมก็เลื้อยๆลงไปนอนบนโซฟา มันมึนๆง่วงๆอะครับ แต่ผมแทบจะตกใจตายเมื่อมีมือๆหนึ่งมาคว้าตัวผมให้ลุกขึ้น ตอนแรกผมนึกว่าไอ่แจ๊คครับ...แต่กลายเป็น เอ่อ....ใครวะ?
(*เช่นเดิม ขอพิมพ์เป็นภาษาไทยนะจ๊ะ จะได้สะดวกทั้งคนแต่งและคนอ่าน)
“จำผมได้มั้ย?” ไอ่หน้าหล่อตรงหน้ากระพริบตาปิ๊งๆใส่ผม เอ่อ....ใครวะ
“เอ่อ......โทษที ผมมึนๆนิดหน่อย คุณชื่ออะไรนะ?”
“คุณจำผมไม่ได้จริงๆเหรอนี่...ผมแอรอนไงที่ทำแผนกเดียวกันกับคุณ แต่หลังๆคุณไปช่วยแผนกแลนด์สเคปฯเราเลยไม่ค่อยได้เจอกัน...แต่ไม่คิดว่าคุณจะลืมผมแล้ว”
“อ่อ....แอรอน ผมจำได้แล้วล่ะ ขอโทษทีๆผมความจำไม่ค่อยดี แหะๆ”
“อืม...ก็ไม่แปลก ผมไม่ได้โดดเด่นอะไร ถ้าไงผมอยากสร้างความทรงจำกับคุณจะได้มั้ย”
“เหอ.....เอ่อ แล้วสร้างยังไงเหรอ ไอ่ความทรงจำที่ว่า”
“ก็....”
หมดคำไอ่แอรอนยื่นหน้ามาหอมแก้มผมหนึ่งฟอดเต็มๆ ผมเองก็มึนๆอยู่ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วไปหมด ได้แต่นั่งนิ่งท่ามกลางเสียงเฮลั่นของผองเพื่อน...อ่าว อะไรหว่า...
ผมยกฝ่ามือตัวเองลูบข้างแก้มช้าๆ เหอ หอมแก้ม...ไอ่แอรอนหอมแก้มกู...อ่าว แล้วยังไงเนี่ย
ผมหันไปด้านข้างตามแรงสะกิดเจอน้องเมที่หน้าตาตกใจไม่แพ้ผม มือน้องเมยังคงโอบน้องเคธี่ที่นั่งเล่นตุ๊กตาอยู่....เอ่อ....ยังไงนี่
ไอ่แอรอนก็มองมาที่ผมยิ้มๆ...ตอนนี้หน้ามันอยู่ใกล้หน้าผมมาก...เอ่อ ก่อนกูมากูก็ศึกษาแล้วนี่หว่าว่าไม่มีธรรมเนียมหอมแก้ม หรือไอ่นี่มันตั้งใจจะทำแก้มชนแก้มวะ ไม่ดิ มันฟอดมาเต็มๆเลยนี่หว่า ง่า...จะโวยหรือยังไงดี หรือไม่ควรโวย เอ่อ...หรือมันแค่ล้อเล่นวะ
เออ ใช่แน่ๆ คงแค่เล่นกันล่ะมั้ง ต่างวัฒนธรรม...ทนๆเอาหน่อย
ผมส่งยิ้มแห้งๆกลับไปที่ไอ่แอรอน คือยอมรับว่าไม่ค่อยชอบครับ แต่จะลุกขึ้นโวยวายมันก็ยังไงๆอยู่ แถวนี้ไม่ใช่ถิ่นผมอะแล้วผมเองก็ผู้ชาย คงไม่เป็นไรมั้ง แต่ก็งงๆตรงที่ตอนนี้ไอ่แอรอนนั่งยิ้มไม่หุบอยู่ข้างๆผม เอ่อ...กูไม่ได้ทำอะไรไม่ดีใช่มั้ยเนี่ย...
ผมเหลียวหาไอ่แจ๊คที่ตอนนี้มันยืนนิ่งๆพิงเสาอยู่หลังๆห้อง เมื่อกี๊มันเห็นมั้ยวะ...ผมคิดในใจ แต่ตอนนี้สาวๆก็รายล้อมข้างๆไอ่แจ๊คนะครับ ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนของทิมที่ชวนมา ผมเห็นแล้วก็ไม่ชอบใจพิกล ไอ่ห่านี่ไปคุยกับเขาทำไมวะ...
ผมดื่มเหล้าด้วยอารมณ์เซ็งๆ ทีแรกผมก็คิดว่าไอ่แจ๊คจะเห็นฉากเมื่อกี๊มั้ย แต่ตอนนี้คงไม่ต้องห่วงหรอก... มันคงไม่เห็นอะไรนอกจากแหม่มสวยๆ เหอะๆๆๆ
หึง....ความคิดที่แล่นเข้ามาในหัว ตอนนี้ผมมองไปทางไอ่แจ๊คที่ยังคงยืนคุยกับสาวคนหนึ่งอย่างออกรส มึงคงไม่รู้สินะว่ากูคิดยังไง คุยกันสนุกเชียว...
ยิ่งคิดผมก็ยิ่งเซ็ง ยิ่งเซ็งก็ยิ่งดื่ม ไอ่แอรอนที่นั่งข้างๆผมก็ขยันหยิบขวดใหม่มาให้ผมกระดกจัง เสนอมาก็ต้องสนอง ซัดไปหลายขวดจนตัวเองยังจำไม่ได้ โอเค ตอนนี้กูเมาชิบหายแล้ว...
ผมนั่งเอนๆหลังบนโซฟาตัวใหญ่ ในหัวตอนนี้มึนตื้อไปหมด น้องเมเลื่อนมือมาอังที่หน้าผากผมช้าๆ แล้วก็ตกใจว่าผมตัวร้อนมาก น้องเมหันมาพูดอะไรซักอย่างที่ผมฟังไม่รู้เรื่องซักคำ ทั้งๆที่น้องเค้าก็พูดภาษาไทยกับผม แต่ผมเดาว่าน่าจะเป็นแบบว่าดื่มมากไปแล้ว หรืออะไรนี่ล่ะมั้ง
ซักพักน้องเมก็ลุกไปโดยทิ้งผมไว้กับน้องเคธี่ที่ตอนนี้เลื่อนตัวมานั่งบนตักผม เอามือน้อยๆป่ายเปะปะไปทั่วใบหน้า ผมยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี น้องเค้าน่ารักดีอะครับ
“เชนทร์...มึงเมามากแล้วนะ...เหี้ย” ใครวะ...อ่อ ไอ่แนน มึงไม่ต้องบอกกูก็รู้น่าเรื่องนั้นอะ...
“เมว่ากลับกันเถอะค่ะ...เดี๋ยวเมจะโทรเรียกแท็กซี่ให้นะคะ”
“อืมๆ เดี๋ยวพี่ดูไอ่บ้านี่ก่อน แม่งเอ๊ย เค้าจะมอมมึงก็ปล่อยเค้ามอมอีก ไม่ระวังเล๊ย...เฮ้ย เหี้ยแจ๊ค มึงมาดูเมียมึงเลย ทำไมปล่อยมันกินขนาดนี้วะ” ไอ่แนนอุ้มน้องเคธี่แล้วส่งให้ไอ่แมกซ์ที่ยืนอยู่ข้างๆมัน แล้วมันก็เอาผ้าขนหนูเปียกผืนเล็กๆผืนหนึ่งซับเบาๆทั่วใบหน้าผม แล้วตะโกนเรียกไอ่แจ๊คลั่นบ้าน บรรดาเพื่อนๆก็งงกัน แน่นอนล่ะครับว่าเค้าฟังภาษาเราไม่ออก ก็ได้เปรียบอยู่ไม่หยอกนะ เค้าฟังเราไม่ออกเลย แต่เราฟังเค้าออก เหอะๆ
“กูก็อยากเข้ามาดูอยู่หรอกนะ....” ไอ่แจ๊คเดินมาหยุดอยู่ข้างๆโซฟาที่ผมนั่ง ผมเห็นมันลางๆ แต่เหมือนมันจะหงุดหงิดอะไรอยู่ซักอย่าง ไอ่แนนส่งผ้าผืนเล็กๆให้ไอ่แจ๊ค แล้วมันก็เดินไปบอกกับทิมซึ่งเป็นเจ้าของงานว่าขอกลับก่อนเพราะไม่ค่อยไหวกันแล้ว ไอ่แจ๊คนั่งข้างๆผมแล้วเอาผ้ามาไล่ซับตรงแก้มผมย้ำๆ...
“พี่แนน พี่เชนทร์ พี่แจ๊คแท็กซี่มาแล้วค่ะ” น้องเมวิ่งเข้ามาบอก แล้วโบกมือลาแขกในงานอย่างลวกๆ พวกผมทุกคนก็ทำเหมือนกัน ถึงจะเมาแต่มารยาทก็ต้องรักษาไว้หน่อย
“เจอกันพรุ่งนี้...” หลังการบอกลาอย่างเร่งด่วนเพราะแท็กซี่รออยู่หน้าบ้าน พวกผมสี่คนก็ระเห็จมานั่งในแท็กซี่ด้วยอาการมึนๆ เหมือนจะมีน้องเมคนเดียวที่สติยังครบถ้วนที่สุดแล้ว
พอถึงหน้าอพาร์ทเมนท์พวกผมสี่คนก็แยกกันห้องใครห้องมัน ไอ่แนนนี่เดินไปกุมหัวไปน้องเมก็คอยพยุงไอ่แนนไป ส่วนผมกับไอ่แจ๊คเหรอ...ต่างคนต่างเดิน เอาจริงๆตอนนี้ผมมึนมาก...เดินโงนเงนๆเลยล่ะ แต่หยิ่ง! เคืองไอ่แจ๊คมัน...
พอเปิดประตูห้องเข้าไปได้ผมก็เดินสโหลสเหลไปที่เตียงตัวเอง แล้วทิ้งตัวลงนอนให้หายมึน...
ไอ่แจ๊คเดินเข้ามาก็เดินไปที่ห้องน้ำ ซักพักมันก็ออกมา ผมรู้สึกเหมือนสายตาที่จ้องมา แต่ผมก็ไม่ได้ลืมตาขึ้นมองมันนะ
‘แกร๊ก...ปัง!’ อะ...อ่าว ไอ่แจ๊คเดินออกจากห้องไปเลย...ผมโงหัวตัวเองขึ้นมองไปตามทิศทางของเสียงแต่ก็พบกับความว่างเปล่า ผมยันตัวเองขึ้นนั่งทันทีแล้วต่อสู้กับอาการเมาของตัวเอง ปวดหัวชะมัดเลย แต่ไอ่แจ๊คมันเป็นอะไร...ผมรู้สึกยังไงพิกล
หรือว่ามันจะเห็นตอนที่แอรอนหอมแก้มผม...ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะตอนนั้นผมเองก็ไม่เห็นว่ามันอยู่ตรงไหน….
‘อย่ามาเถียง...กูนั่งมองมึงอยู่ ทำไมจะไม่รู้ว่ามึงทำอะไร’ คำพูดของมันที่เคยพูดกับผมผ่านเข้ามาในสมอง...ตอนนี้ในหัวผมมีอยู่สองความคิดที่ตีกัน ‘แล้วไงล่ะ เห็นก็ช่างมันสิ มันเองก็คุยกับผู้หญิงเหมือนกัน’ กับ ‘เราเองก็ผิดที่ปล่อยให้แอรอนมันหอม แล้วถ้าไอ่แจ๊คไปยืนให้ใครหอมบ้างมึงจะรู้สึกยังไง’… แต่คิดไปคิดมา...ดูเหมือนความคิดที่สองจะมีเหตุผลมากกว่า...
ผมพยายามยันตัวขึ้นจากเตียง แต่ก็มึนหัวซะจนวูบ ผมที่ไม่ได้ระมัดระวังตัวอยู่แล้วกลิ้งตกเตียงดังปั๊ก! อูยยยยย เจ็บ...แขนกู...ผมถลกแขนเสื้อขึ้นดูไม่มีแผลอะไร มีแค่รอยช้ำๆนิดหน่อย ซึ่งซักพักมันคงกลายเป็นสีม่วงแหงๆ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาห่วงอาการตัวเอง ผมขยับตัวให้นั่งในท่าที่สบายมากกว่าเดิม พิงหลังชนเตียงแล้วเรียบเรียงความคิด เรียบเรียงคำพูดที่จะบอกไอ่แจ๊ค...
-------------------------------------------------------------------------------------
ตัดมาที่ไอ่แจ๊ค—
ผมนั่งสูบบุหรี่อยู่คนเดียวบนม้านั่งหน้าอพาร์ทเมนท์ท่ามกลางอากาศเย็นๆตอนกลางคืน...ในหัวตอนนี้มีแต่ภาพไอ่เหี้ยนั่นหอมแก้มไอ่เชนทร์...
ผมรู้...รู้ดีว่าไอ่เชนทร์มันคงไม่ได้ยินยอมพร้อมใจ และถ้าผมเดาใจมันไม่ผิด มันเองก็คงไม่ชอบแต่ไม่อยากเอาเรื่อง
แต่บางครั้งถึงเราจะเข้าใจถึงเหตุผล...อารมณ์มันก็ไม่ได้เข้าใจไปด้วย
ผมหึง....หวงมัน
วินาทีที่ผมเห็นผมแทบอยากจะวิ่งเข้าไปกระชากคอไอ่เหี้ยนั่น แล้วต่อยซักหมัด
แต่...มันอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีนักหรอก
ได้แต่มองอยู่ไกลๆว่าไอ่เชนทร์มันจะทำยังไง...ข่มอารมณ์โกรธขึ้งไว้
อย่างที่คิด ทำหน้าเอ๋อ...แต่ก็ไม่ได้ต่อว่า ทำแบบนั้นยิ่งเหมือนเชิญชวนไอ่บ้านั่นให้เข้ามายุ่ง
หรือผมเองที่ผิด...ที่ไม่ได้ประกาศตัวว่าเป็นเจ้าของมัน
แต่เชนทร์มันคงไม่ชอบแน่ ถ้าผมทำอย่างนั้น...
ผมไม่ได้โกรธมัน แต่ผมหึงที่มีคนอื่นมายุ่งกับของๆผม...
ความคิดในสมองผมวิ่งวนไปมา จบไม่ลง
ทันใดมีมือๆหนึ่งเอื้อมมาจับที่ไหล่ผมแผ่วเบา ผมหันไปตามสัมผัสนั่น..
........................................
“นั่งทำอะไรอยู่คนเดียว.......”
จบ....ตอนที่ 14 ปาร์ตี้
--------------------------
แทบตาย เดินขึ้นดอย
คือ เดินขึ้นมันก็สิบกว่ากิโลแล้วอะ เดินขึ้นตอน 4 ทุ่ม ไปถึงข้างบนประมาณตีสอง แวะพักเป็นระยะๆ...
คนเยอะจ๊าดง่าวววว ก็โอเค ยังดีที่ฝนไม่ตกตอนไปถึง...
ขากลับเพื่อนชวน...เดินลงมั้ย
"กำกึ๊ดคนง่าว" เออ ...ปะ เดินก็เดิน
เป็นไงล่ะ....
ตอนนี้ยังปวดๆอยู่เล๊ยยยยย เข็ดจนตาย รอบเดียวพอนะ เดินขึ้น-ลง ดอยสุเทพฯเนี่ย
ท่าเดินตอนนี้เหมือนคนเพิ่งเสียซิงใหม่ๆเลย กร๊ากกกกกกกกกกกกกก
ปวดมากกกกกก เกินบรรยาย
คือเดินขึ้นขาเดียวอะ สามารถ ทำบ่อย 3-4 ครั้งแล้วตอนรับน้อง...
สรุปคือ ที่เมื่อคืนมาโพสไม่ได้เพราะสลบ! เหนื่อยโฮกกกกก
เดี๋ยวดึๆกมาตอบเม้นท์ เวิ่นก่อน