: 2 :
ไม่มีใครสนใจโชคดีตอนที่เขาเดินเข้ามาในสถานที่ก่อสร้างรีสอร์ทแห่งใหม่เชิงดอย ชายหนุ่มเดินดูสถานที่ไปเรื่อยๆ เห็นว่าป่าถูกถางไปมากพอสมควร มีการปรับดินให้เป็นเนินสูงต่ำติดกับลำธารคดเคี้ยวไปมาในโครงการ บางช่วงเป็นธารธรรมชาติ หากบางช่วงขุดขึ้นมาใหม่ให้ต่อเนื่องกัน เสาเข็มจำนวนมากกองอยู่เป็นระยะๆ โชคดีคาดคะแนว่าโครงการนี้ท่าทางจะใหญ่โตเอาการ อย่างก็เกิน 70 ไร่
ก่อนหน้านี้ ญาติของพงษ์ผู้ช่วยคนสนิทของเขามาบอกว่านายทุนจากกรุงเทพฯ มาสร้างรีสอร์ทแห่งใหม่เชิงดอย ติดกับโค้งน้ำของแม่น้ำน่านก่อนถึงสะพานข้ามจากหมู่บ้านไปยังที่ดินผืนกว้างที่เรียกได้ว่าเป็นที่ที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง รีสอร์ทแห่งนี้ขุดคลองเยอะมาก และทำประตูน้ำติดกับแม่น้ำน่านและท่าทางจะผันน้ำเข้าไปในโครงการ หากเป็นเช่นนั้นจริง ถ้าเป็นการรบกวนธรรมชาติ เปลี่ยนแปลงทางเดินของน้ำ หือไม่ก็มีผลกระทบต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน้าแล้ง โชคดีจึงอยากมาดูให้เห็นกับตา
ชายหนุ่มนักสำรวจเดินลัดแนวต้นไม้ใหญที่ไม่ถูกตัดลงเพื่อตรงไปยังด้านที่ติดกับแม่น้ำ เพื่อดูว่ามีการขุดคลองเชื่อมกับแม่น้ำหรือไม่ ขณะที่กำลังเดินขึ้นเนินดินใกล้ต้นตะแบกใหญ่ เขาเห็นชายหนุ่มสองคนกำลังยืนคุยกันอยู่อีกฟากหนึ่งของเนินดินจึงหยุดเพ่งมอง
...นายช่างคนนั้นกับผู้ชายที่สูงพอๆ กันแต่ผอมกว่าใบหน้าสะอาด นัยน์ตาเรียวเล็ก ไว้หนวดเข้ม สวมหมวกสีเขียวขี้ม้าในมือถือแปลนที่ม้วนอยู่ นายช่างที่เขาไม่ชอบหน้าหันมาเห็นและดูเหมือนจะจำเขาได้
"คุณโชคดี" ชยุตม์ตะโกนเรียก แต่โชคดีรีบหันหลัง เดินย้อนกลับไปทางเดิม
โชคดีบอกตัวเองว่า ตอนนี้ยังไม่อยากจะคุยเรื่องอะไรกับชายหนุ่มคนนั้น อย่างน้อยก็เรื่องโต๋กับเดือน ไม่อยากให้คนขี้เต๊ะคนนั้นคิดไปว่าเขาตามมาตอแยถึงที่ทำงาน เมื่อวานเขายื่นคำขาดไปแล้วและไม่ต้องการพูดร่ำไรอะไรอีก เขาต้องการรออย่างเดียว ดูซิว่าวันนี้ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน เจ้าโต๋จะเอายังไง หรืออีกนัยหนึ่ง "ผู้ใหญ่" ของโต๋จะทำอะไร
ไม่นานโชคดีก็เดินถึงรถ หันไปมองไม่เห็นชยุตม์เดินตามมา ชายหนุ่มกวาดสายตาไปรอบๆ ก่อนขึ้นรถสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วขับตรงไปยังทางออกหน้าโครงการในขณะเดียวกันรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำวิ่งสวนเข้ามา เขาหันไปมองเห็นใบหน้าของผู้นั่งอยู่บนเบาะหลังของรถ
...คุณองอาจ ผู้ว่าราชการจังหวัด กับลูกชายคนเล็ก...ปฐพี...
โชคดีขับรถไปตามถนนลูกรักด้วยความรู้สึกสงสัย กลับไปถึงบ้านเขาต้องสืบให้ได้ว่าใครเป็นเจ้าของโครงการนี้
...แล้วทำไมผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมาเกี่ยวข้องด้วย ปฐพี นายตำรวจคนเก่งก็มาด้วย...
...ไหนบอกว่าเป็นตำรวจใสซื่อมือสะอาดนัก...
...หากโครงการนี้โปร่งใสและใส่ใจกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ต้องไม่มีการทำลายระบบนิเวศน์วิทยา แต่หากสิ่งที่เขากังวลจะเกิดขึ้นจริง จะทันทานไหวหรือ ในเมื่อผู้ว่าราชการก็อาจมีส่วนได้ส่วนเสียด้วย...
...คนรวย คนรวยมาอีกแล้ว แรกก็ห้างสรรพสินค้าในตัวจังหวัดที่ถูกตีกระเจิงไป คราวนี้รีสอร์ท อยู่มาตั้งนานไม่เห็นจะมีรีสอร์ทใหญ่โตแบบนี้ คราวนี้จะโผล่ขึ้นมากลางป่า กลางธรรมชาติอันสวยงาม...
ความคิดของโชคดีสะดุดเมื่อรถกระตุกและทำเสียงแปลกๆ อีกไม่กี่เมตรเขาก็จะถึงสะพานไม้ข้ามคลองที่แยกออกมาจากแม่น้ำน่าน เมื่อข้ามสะพานไปแล้วถนนกว้าจะกว้างขึ้น เป็นถนนลาดยางมะตอยที่รถสามารถวิ่งสวนทางกนได้อย่างสะดวก แต่สะพานแคบจนรถสวนกันไม่ได้ต้องผลัดกันผ่านไปมา
สองข้างทางเป็นเนินดินลาดต่ำลงไปเป็นพื่นที่เจิ่งน้ำ ฝนสุดท้ายของหน้าฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาทำให้น้ำในลำธารเอ่อล้น ฤดูหนาวกำลังจะเริ่มขึ้น ความสดชื่นของฤดูฝนกำลังจะแทนที่ด้วยความหนาวเย็น
รถสะดุดอีกสองครั้งแล้วหยุดสนิท โชคดียกมือตบพวงมาลัยอย่างอารมณ์เสียที่รถคู่ใจเกิดมาดับกลางทาง เขาพยายามสตาร์ทรถอยู่หลายครั้งแต่กระบะไฮลักซ์ไทเกอร์ของเขาก็ไม่ตอบสนอง
ชายหนุ่มลงจากรถมายืนมองอย่างเซ็งๆ ที่ตัวเองไม่มีความรู้เรื่องรถเลย มือล้วงกระเป๋ากางเกงตั้งใจจะหยิบโทรศัพท์ดึงออกมาโทรเรรียกพงษ์ให้มาช่วย แต่กางเกงตัวนี้ค่อนข้างคับ ขณะที่ล้วงโทรศัพท์ออกมา ผ้าเช็ดหน้าสีขาวนวลผืนเล็กก็ถูกดึงติดออกมาด้วย โชคดีหยิบผ้าออกมาคลี่แล้วมองอย่างพิจารณา ผ้าเช็ดหน้าเก่ามากแล้ว แต่ก็สะอาด เขาใช้ผ้าผืนนี้อยู่บ่อยๆ จนแม่ของเขาบ่นว่าควรจะทิ้งได้แล้ว
ชายหนุ่มสะบัดผ้าเช็ดหน้าแรงๆ แต่โชคร้ายลมแรงกระโชกมาวูบหนึ่ง พัดเอาผ้าเช็ดหน้าให้ปลิวไป โชคดีรีบคว้าแต่ไม่ทัน ผ้าเช็ดหน้าปลิวไปตกลงในแอ่งน้ำข้างถนน
"โธ่โว้ย เปื้อนหมด" โชคดีหันซ้ายหันขวา หาไม้จะเขี่ยผ้าเช็ดหน้าผืนโปรด
เขาไม่อยากทิ้งผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก...ผืนเดียวที่เขาใช้แทบทุกวัน สิ่งเดียวที่ยังเป็นความทรงจำของเขา ความทรงจำที่เจ็บปวด และผ้าเช็ดนี้เป็นสิ่งที่จะคอยเตือนใจเขาตลอดเวลาถึงความรักครั้งแรกและครั้งเดียวที่เคยมี
ชายหนุ่มพยายามยื่นแขนออกไปจนสุด ปลายไม้เขี่ยถูกผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กที่ค้างติดอยู่กับกอหญ้า กิ่งไม้ที่เขาถืออยู่สั้นเกินไป โชคดีลุกขึ้น รีบหันมองหากิ่งไม้กิ่งอื่นที่ยาวกว่า พลันสายตามองไปเห็นรถกระบะสีขาวคันหนึ่งกำลังวิ่งตรงมา
รถของเขาขวางทางอยู่ โชคดียักไหล่ หันมาสนใจผ้าเช็ดน้าของตัวเองต่อ รถที่มาจากทางด้านนั้นเป็นรถที่มาจากโรงการก่อสร้างรีสอร์ททำลายธรรมชาติ เขาจึงไม่เห็นจะต้องสนใจ
โชคดีหากิ่งไม้กิ่งอื่นไม่ได้ จำต้องใช้กิ่งเดิม ชายหนุ่มขยับตัวเข้าไปไกล้มากขึ้น เท้าเริ่มจุ่มลงไปน้ำ ที่จริงเขาคิดว่าแค่ลุยลงน้ำไปก็หยิบได้ แต่ใจหนึ่งก็ไม่อยากลงทุนขนาดนั้น น้ำลึกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตรงนี้ใกล้กับลำธารและน้ำที่เอ่อล้มขึ้นมาทำให้ไม่แน่ใจว่าริมตลิ่งอยู่ตรงไหนกันแน่
"คุณครับ ช่วยเลื่อนรถด้วย" เสียงคุ้นๆ ดังขึ้นข้างหลัง โชคดีเกี่ยวผ้าเช็ดหน้าได้แล้ว ชายหนุ่มกำลังจับกิ่งไม้ให้มั่นแล้วหมุนมือช้าๆ เพื่อให้ผ้าเช็ดหน้าพันปลายกิ่งไม้
"คุณ...คุณจอดรถขวางสะพานอยู่ ช่วยขยับรถให้หน่อยสิครับ" มือใหญ่ๆ แตะลงที่บ่าของโชคดี
"เดี๋ยวสิ" โชคดีพูดเบาๆ ไม่หันไปมอง
"ทำอะไรหรือครับ ให้ผมช่วยไหม" เสียงทุ้มๆ ดังขึ้นข้างหู คนพูดก้มหน้าลงมาใกล้มาก เสียงคุ้นจนโชคดีอดหันไปมองไม่ได้
"คุณ..."
...นายช่างคนนั้นเอง...โชคดีตกใจ ไม่นึกว่าจะเจอคู่ปรับ เผลอขยับมือ ผลก็คือผ้าเช็ดหน้าที่เกี่ยวได้แล้วหลุดออกจากปลายกิ่งไม้ ลอยออกไปไกลกว่าเดิม
"โอ้ย ชิบหาย แย่แล้ว" ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กกำลังจะจมลง โชคดีรีบยืดแขนใช้กิ่งไม้เกี่ยวอย่างรวดเร็วแต่ไร้ผล จนในที่สุดคนที่มาทำให้เขาตกใจก็พูดขึ้น
"คุณจับแขนผมไว้แล้วยืดออกไป" ชยุตม์กางขาออก จับมือโชคดีแล้วพยักหน้า ชั่ววินาที โชคดียืนตัวล้ำออกไปจากตลิ่ง ยืดตัวล้ำออกจากฝั่งไปเหนือน้ำ ยื่นแขนออกไปใช้กิ่งไม้เกี่ยวเอาผ้าเช็ดหน้าไว้ได้ทันท่วงที แขนยาวของชยุตม์ช่วยเพิ่มความยาวให้แขนเขาเอื้อมถึงผ้าเช็ดหน้าแล้วเกี่ยวเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย
"ได้แล้ว ดึงผมขึ้นไปสิ" โชคดีสั่ง
ชยุตม์รีรออยู่ชั่วครู่ ในใจสึกสนุกอยากล้อเล่นเพราะขณะนี้คนปากร้ายยืนตัวเอียงเหนือผิวน้ำ แขนขวายืดออกจนสุด โดยมีมือของเขายึดจับข้อมืออีกข้างเอาไว้
"คุณโชคดีครับ ช่วยบอกผมหน่อยว่า..."
"ดึงกลับไป" โชคดีแทรก ไม่ยอมฟังที่ชยุตม์พูด
...จะเป็นยังไงนะถ้าปล่อยมือ...
ชยุตม์คิดเล่นๆ นึกอยากจะเห็นภาพชายหนุ่มหน้าเข้มหล่นตูมลงไปในน้ำ เขาเห็นฤทธิ์เดชของโชคดีแล้วเมื่อวานนี้ ท่าทางจะกินเลือดกินเนื้อจนลุงแสวงกับโต๋กลัวจนหัวหด ถามอะไรก็เอาแต่อ้ำอึ้ง
...แต่อย่าดีกว่า ถ้าปล่อยมือโชคดีให้หล่นลงไป แม้นึกภาพออกว่าน่าจะเป็นภาพที่น่าดูมาก แต่ผลที่ตามมาก็ไม่อาจคาดเอาได้ แต่คาดว่าคงไม่น่าเสี่ยง เผลอๆ เขาจะเป็นคนที่ "อยู่เมืองน่านไม่ได้"
"ขอบคุณ" คนที่ได้รับการช่วยเหลือตอบเบาๆ "แต่ว่าผมกำลังจะเกี่ยวได้อยู่แล้ว ถ้าคุณไม่มาทำให้ตกใจ"
"อ้าว ผมผิดหรือ"
โชคดียักไหล่ บิดผ้าเช็ดให้แห้ง "เปล๊า ไม่ได้ว่าผิด"
ชยุตม์เอียงคอมองหน้าชายหนุ่มที่ยืนก้มหน้าบิดผ้าเช็ดหน้าเหมือนตั้งใจมาก ชายหนุ่มผู้สร้างความแปลกใจให้เขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ชายหนุ่มที่เขารู้สึกว่ามีอะไรค้นหา ชายหนุ่มที่ไม่เหมือนใครที่เขาเคยรู้จัก
เขารู้สึกว่าภายใต้บุคลิกก้าวร้าวนั้นามีความอ่อนโยนแฝงอยู่ วาจาโผงผางนั้นเหมือนซ่อนอะไรบางอย่างไว้
...บางอย่างที่น่าเข้าไปสัมผัส...
ไปทานอาหารกลางวันก่อนครับ