ไอ้ดิวร้องว๊ากกกก เสียงดัง ผมเลยได้โอกาสผลักมันออกจากตัวแล้วลุกขึ้น แต่เผอิญผมเจ็บที่ข้อเท้า เลยทรุดตัวลงนั่งกับพื้นหญ้า ไอ้ดิวมันได้โอกาสโถมตัวมากอดผมอีก แล้วมันก้อถือโอกาสจูบผม ผมดิ้นๆๆๆ มันใช้มือของมันจับหน้าผมไว้แน่น ส่วนผมก้อทั้งทุบทั้งตีมัน ปล้ำกันอยู่สักพัก จากนั้นก้อได้ยินเสียงแตรรถ ไอ้ดิวมันเลยถอนปากออกจากปากผม แล้วเราทั้งสองก้อหันไปมองตามเสียงแตรรถนั้น ทันใดนั้นพี่กรณ์ก้อวิ่งออกมาจากรถ แล้วพุ่งเข้าหาผมกับไอ้ดิว แล้วกระชากไอ้ดิวให้ลุกขึ้น แล้วต่อยมันไปอย่างแรงทีนึง ผมตกใจจะลุกขึ้นห้าม แต่ขายังเจ็บอยู่ก้อเลยลุกขึ้นไม่ไหว ผมเห็นพี่กรณ์จะต่อยมันซ้ำอีก ผมเลยตะโกนออกไป
“ พี่กรณ์หยุดก่อน “ พี่กรณ์พอได้ยินก้อหยุดแล้วหันหน้ามาทางผม “ อย่ามีเรื่องกันเลย อี้ขอ มาช่วยพยุงอี้ แล้วพาอี้ไปซื้อของดีกว่า อย่าไปยุ่งกับไอ้บ้านั่นเลย “ พอผมพูดจบ พี่กรณ์ก้อผลักไอ้ดิวออก แล้วเดินมาที่ผมแล้วพยุงตัวผมขึ้น ส่วนไอ้ดิวมันก้อทรุดตัวลงนั่งกับพื้น สงสัยหมดแรงและเจ็บด้วย พี่กรณ์ต่อยแรงซะขนาดนั้น สมน้ำหน้า
“ เจ็บมากไหมอี้ ดีน่ะที่พี่เอะใจตามมาทัน ไม่งั้นมันคงทำอะไรอี้มากกว่านี้ “ พี่กรณ์พูดทำหน้าโกรธใส่ไอ้ดิว
“ ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่อุบัติเหตุน่ะ แล้วอี้ก้อไม่ได้เจ็บอะไรมากด้วย แค่ขาแพลงนิดหน่อย รีบไปกันเถอะครับ อี้จะรีบไปซื้อของที่ตลาด เดี๋ยวแม่จะรอ พี่กรณ์พาอี้ไปน่ะครับ “ จากนั้นพี่กรณ์ก้อพยุงตัวผมไปที่รถ ส่วนผมไม่สนใจหรอกว่าไอ้ดิวมันจะกลับยังไง ช่างมัน ใครบอกให้มันมาทำอย่างนี้กับผมเองช่วยไม่ได้
จากนั้นพวกผมก้อพากันไปซื้อของที่ตลาด ผมไม่รู้ว่าพี่กรณ์จะเห็นตอนที่ไอ้ดิวมันจูบผมไหม แต่ผมคิดว่าพี่เค้าคงเห็นผมปลุกปล้ำกับมันอยู่ ไม่งั้นพี่เค้าไม่ชกหน้ามันไปอย่างนั้นหรอก ก่อนจะลงจากรถ พี่กรณ์ถามผม
“ เดินไหวไหมครับอี้ ให้พี่ไปซื้อให้ดีกว่า ดูเราจะเจ็บขาอยู่เลย “ พี่กรณ์พูดแบบเป็นห่วงผม
“ ไหวครับพี่ แหมนิดหน่อยเอง อี้ไปซื้อเองดีกว่า เดี๋ยวไม่ถูกใจแม่ผม อิอิ “ พูดเสร็จผมก้อฝืนใจทำเป็นเดินปกติเข้าไปซื้อของในตลาด พี่กรณ์ก้อเดินตามไม่ห่างครับ ที่จริงผมไม่เจ็บเท่าไหร่หรอก มีแผลนิดหน่อย แต่แบบว่าข้อเท้ามันแพลงไปหน่อย แต่ตอนนี้ก้อเดินได้แล้วครับ พอซื้อของเสร็จพวกผมก้อไปซื้อของต่อที่ร้านขายของแถวบ้าน โดยไม่ลืมซื้อข้าวสารไปให้แม่ด้วย ตอนกำลังจะกลับแม่ผมโทรมาตาม บอกว่าไปนาน ผมเลยบอกว่ากำลังจะกลับ ไม่มีอะไรหรอก ผมไม่อยากบอกแม่ว่ารถล้มน่ะครับ เดี๋ยวท่านเป็นห่วงผม ระหว่างทางกลับบ้าน ผมไม่พูดอะไรเลยในรถ พี่กรณ์เองก้อไม่ถามคงรู้ว่าผมอึดอัด พอใกล้จะถึงบ้านผมเห็นไอ้ดิวมันจูงมอเตอร์ไซค์กลับบ้านผม ชิส์ คนในเมืองก้ออย่างนี้ล่ะ ขับมอเตอร์ไซค์ไม่เป็น ส่วนผมน่ะ ขับเป็นตั้งแต่อายุ 10 ขวบ
พอผมมาถึงผมก้อพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด เกร็งเท้าให้เดินเหมือนไม่เจ็บ แต่ไม่พ้นสายตาต้งไปได้หรอกครับ ซวยจริงๆเลย ผมยิ่งไม่อยากให้คนอื่นตกใจไปกับผมด้วย ทุกคนมองผมด้วยสีหน้างงๆ ว่าทำไมผมมากับพี่กรณ์ได้
“ อี้เป็นไรอ่ะทำไมเดินอย่างนั้น แล้วแล้วขาเป็นอะไร ทำไมมีรอยเลือดด้วย “ ต้งทักผมครับ ตัวผมเองก้อไม่ได้สังเกตุรอยเลือด พูดเสร็จ
ต้งก้อเดินมาดูแผลของผม จากนั้นไม่นานไอ้ดิวก้อจูงรถมาถึงหน้าบ้านผมพอดี
“ ไม่มีอะไรหรอก อุบัติเหตุนิดหน่อย พอดีพี่กรณ์ขับผ่านไปเลยรับอี้ไปซื้อของอ่ะ “ ผมตอบเลี่ยงๆไป
“ อ้าวนั่นไงไอ้ดิวก้อมานู้นแล้ว ต้งว่าอี้ไปทำแผลก่อนดีกว่า กรณ์ฝากเอาของไปไว้ที่ครัวให้หน่อยแล้วกันน่ะ “ ต้งวานพี่กรณ์ให้ถือของกับผมแล้วนำไปให้แม่ผมที่ครัว ดูท่าคนอื่นๆที่ไม่ใช่เพื่อนผมจะไม่รู้สึกตกอกตกใจอะไรกับผมเลย หันไปดื่มกันต่อ ( คืออยากจะบอกว่า สงกรานต์ปีที่แล้วผมก้อมาดื่มที่นี่ พอเมาแล้วออกไปซื้อของ เลยเกิดอุบัติเหตุเหมือนกัน คนอื่นๆที่เคยเห็นมาเลยชินกับผมมั้ง ) ตอนนั้นผมสังเกตุเห็นว่าเพื่อนชาวจีนของผมมากันแล้ว ผมก้อทักทายนิดหน่อยแล้วก้อเดินแยกตัวออกมา จากนั้นต้งก้อเดินนำผมเข้ามาในบ้าน ( เอ๊ะ ที่จริงผมควรจะนำเค้าเข้ามาไม่ใช่เหรอ นี่มันบ้านผมนี่ ) แล้วพาผมเข้ามานั่งที่โซฟาในห้องรับแขก
“ เจ็บมากไหม ไหนดูสิ อืมๆๆๆ แผลไม่ลึกเท่าไหร่หรอก “ ต้งตรวจดูแผลของผม
“ ไม่เป็นไรมากหรอก เดี๋ยวอี้ทำของอี้เองได้ ต้งไปสนุกต่อเหอะ “ ผมไม่อยากให้ต้งมากังวลกับผม เลยบอกไปอย่างนั้น
“ ได้ไงล่ะ อี้เจ็บทั้งคน ต้งจะไปสนุกได้ไง เอางี้ บอกมาว่าเครื่องมือปฐมพยาบาลอยู่ไหน เดี๋ยวต้งทำให้เอง “ ผมคงทัดทานต้งไม่ได้ เลยปล่อยให้ต้งทำแผลให้ผม ที่จริงผมไม่ได้เจ็บอะไรมากหรอก ครั้งที่แล้วหนักกว่านี้อีก แต่ต้งดูเป็นกังวลมากเลย
“ ไปทำยังไงให้รถล้มเนี่ยะ ฮึ ! เหล้าก้อยังไม่ดื่ม เมาอะไรอ่ะ “ ต้งถามผมทำหน้าสงสัย แต่ผมไม่ตอบครับ ไม่อยากโกหกต้ง
“ ไอ้ดิวใช่รึป่าว มันทำอะไร เดี๋ยวต้งไปจัดการมันให้ เตือนมันแล้วน่ะว่าอย่าก่อเรื่อง “ ต้งซักผมต่อ ตอนนี้รู้สึกว่าต้งเริ่มโกรธแล้ว
“ ไม่มีอะไรหรอก อย่าไปใส่ใจเลย อ่ะเสร็จแล้ว ป่ะ ไปทานข้าวดีกว่า อี้หิวแล้ว เสร็จแล้วจะได้ดื่มเหล้าต่อ “ ผมบ่ายเบี่ยงไป
“ นี่ๆๆๆ ชั้นไมได้ทำอะไรสุดที่รักของนายน่ะ เค้านั่นแหละ ขับรถไม่ดูเอง ดูสิชั้นเจ็บด้วยเลย “ ไอ้ดิวมันเดินเข้ามาตอนไหนไม่รู้ สงสัยมันจะเข้ามาทำแผลเหมือนกัน ดูมันสิครับตอแหลกว่าเกย์บางคนอีก แย่ๆๆๆ เอ๊ะผมสังเกตุที่หน้ามัน
“ ไม่มีอะไรก้อดีแล้ว ชั้นเตือนนายแล้วน่ะ แล้วนั่นหน้าไปโดนอะไรมา รถล้มแล้วเอาหน้าลงเหรอ “ ต้งถามดิวด้วยความสงสัย จากที่เห็นรอยตรงมุมปากด้านขวาของไอ้ดิว
“ ไม่มีอะไรหรอก พอดีหน้าไปกระแทกกับรถน่ะ นายทำแผลเสร็จแล้วใช่ไหม มาทำให้ชั้นบ้างเดะ “
“ เรื่องอะไร ทำเองเดะ ไปกันเหอะครับอี้ หิวแล้วใช่ไหม “ ต้งไม่สนใจมันพรางพยุงผมเดินไปทานข้าวหน้าบ้าน ผมล่ะสะใจมาก หันมาแล่บลิ้นให้ไอ้ดิวไปทีนึง มันทำหน้าโกรธใส่ผม แล้วทำปากพูดประมาณว่า แล้วเจอกัน ชิส์ ใครจะไปกลัว
จากนั้นผมก้ออกมาทานข้าวครับ ตอนนี้อาหารมาเกือบครบแล้ว ทุกคนก้อเริ่มทานกันบ้างแล้ว ผมก้อทักทายเพื่อนชาวจีนของผมต่อ เม้าท์กันไปมาหลายเรื่อง ตามประสาคนไม่ได้เจอกันนาน ทานข้าวไป ดื่มไป เม้าท์กันไปสนุกดีน่ะครับ จนไม่มีใครเอ่ยถามผมว่าผมไปเกิดอุบัติเหตุได้ยังไง ตอนนั้นผมสังเกตุกดูท่าทางพี่กรณ์จะเครียดๆเรื่องอะไร ผมเลยถาม
“ พี่กรณ์เป็นอะไรอ่ะ หน้าตาไม่สนุกเลย อาหารไม่ถูกปากรึป่าวครับ บอกอี้ได้น่ะ “
“ ป่าวครับ คือพอดีลูกค้าพี่โทรมาบอกให้พี่ไปหาเค้าที่ตัวเมืองชลบุรีไง จะคุยเรื่องงานด่วนพอดีเค้ามาแถวนี้เลยอยากให้พี่ออกไปหาเค้า พี่ก้อไม่อยากไปเท่าไหร่เพราะว่า เหมือนจะเป็นการไม่ให้เกียรติพี่เอฟ มางานแล้วยังออกไปที่อื่นอีก อีกอย่างเค้าให้พี่เอาอี้ไปด้วย เพราะว่างานนี้ พี่เสนออี้ให้มาช่วยพี่ทำงานอ่ะ “
“ โหยยยยย พี่ อย่าไปซีเรียสขนาดนั้น ไปเหอะเดี๋ยวบอกพี่เอฟให้ อี้ไม่มีปัญหาหรอกครับ ไปช่วยๆกันทำ “ ผมตอบกลับไป
“ จะดีเหรอครับ อี้ต้องดูแลเทค แคร์คนอื่นมากมาย พี่เกรงใจอี้อ่ะครับ “
“ อย่าไปคิดมากพี่ อี้ไปได้ คงไม่นานหรอกเนอะ “ ผมพูดเสร็จผมก้อทันไป บอกทุกคนว่าจะพาพี่กรณ์ไปธุระในเมืองแป๊บนึง เดี๋ยวกลับมา ทุกคนก้อไม่ว่าอะไร แต่ไอ้ดิวน่ะสิ ( มาตอนไหนไม่รู้ ผมไม่ได้สนใจ ) มันส่งสายตาแปลกๆมาที่พวกผม แต่พวกผมไม่สนใจ
จากนั้นพี่กรณ์ก้อพาผมขับรถไปทางจะเข้าเมือง แต่เหมือนพี่กรณืจะเลี่ยงไปอีกทางนึง ผมก้อแปลกใจว่าทำไมมาทางนี้ แต่ก้อไม่ได้เอะใจอะไร คงเป็นทางลัดล่ะมั้ง ขับมาซักหน่อย พี่กรณ์ก้อพาผมเข้าปั๊ม แล้วก้อจอดรถ แล้วหันหน้ามาคุยกับผม
“ อี้ครับ พี่เห็นน่ะครับว่าไอ้ดิวมันทำอะไรอี้ พี่บอกตรงๆว่าพี่ทนไม่ไหว เลยชกมันไป แต่พี่ทนไม่ไหวจริงๆ ทำไมมันต้องทำอย่างนี้ด้วย ทั้งๆที่มันก้อรู้ว่าพี่.... “ พี่กรณ์พูดไปแล้วก้อหยุด
“ อะไรเหรอพี่ อืมมม แต่ถ้าเป็นเรื่องนั้นช่างมันเหอะครับ ถือว่าผมทำทาน แต่อี้ไม่อยากให้มีเรื่องกัน เดี๋ยวงานจะไม่สนุก ว่าแต่ว่า ดิวเค้ารู้ว่าพี่อะไรเหรอครับ อี้ไม่เข้าใจ “ ผมถามกลับไป
“ พี่ชอบอี้น่ะครับ ชอบมานานแล้วด้วย แม้ว่าเราจะเจอกันไม่นานก้อตาม พี่ไม่สนน่ะว่าอี้จะเป็นผู้ชาย หรือเป็นอะไร ถ้าพี่ชอบก้อคือชอบ พี่ไม่คิดถึงเหตุผลอะไรทั้งนั้น “ พี่กรณ์พูดพรางเอามือมาจับมือผม ผมสิครับกลับเขินขึ้นมายังไงไม่รู้ ผมควรจะดีใจดีไหมเนี่ยะ
“ เอ่อออ พี่กรณ์ครับ คืออี้มีแฟนอยู่แล้วน่ะครับ อีกอย่าง เราทำงานด้วยกัน มันจะดีเหรอครับ “
“ เรื่องแฟนอี้พี่ไม่สนหรอก พี่อยู่ในส่วนของพี่ พี่ไม่ยุให้เราเลิกกันหรอกน่ะ พี่ชอบของพี่ พี่ก้ออยู่ของพี่แบบนี้ อี้อย่าตัดรอนพี่น่ะครับ ให้โอกาสพี่น่ะครับ รับรองว่าพี่จะไม่ทำให้อี้ลำบากใจ “ พี่กรณ์พูดเอาจริงเอาจังมาก
“ เอ่ออออ ผมว่าเราเก็บเรื่องนี้ไว้คุยวันหลังดีกว่าน่ะครับ เรารีบไปหาลูกค้าดีกว่า เดี๋ยวเค้ารอน่ะครับ “ ผมพยายาเบี่ยงประเด็น
“ ไม่มีลูกค้าที่ไหนหรอก ถ้าพี่ไม่พูดอย่างนั้นอี้คงไม่ออกมาเป็นเพื่อนพี่หรอกน่ะ พี่ขอโทษน่ะที่พี่หลอกอี้ อย่าโกรธพี่น่ะครับ “ พี่กรณ์พูดพรางส่งสายตาอ้อนวอนมาที่ผม
“ อี้ไม่โกรธหรอกครับ อี้เข้าใจพี่น่ะครับ อี้ว่าเรากลับกันดีกว่า อี้ยังไม่ได้ดื่มเหล้าเลยอ่ะ น่ะๆๆๆ วันนี้เรามาเมากันดีกว่า เดี๋ยวไม่แน่ อี้จะพาไปดื่มต่อที่ริมชายหาด บรรยากาศดีมากเลยน่ะครับ “
“ ขอพี่อยู่อย่างนี้สักพักได้ไหมครับ พี่รู้สึกดีจังได้อยู่กับอี้สองคนอย่างนี้ อืม อีกเรื่องน่ะครับ พี่ว่าอี้ต้องระวังไอ้ดิวมันหน่อยน่ะครับ ไอ้นี่ท่าทางมันไม่ชอบมาพากล เดี๋ยวถ้ามันทำอะไรไม่ดีกับอี้น่ะ พี่ไม่ปล่อยมันไว้แน่ “ พี่ดิวพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแล้วเปลี่ยนมาเป็นดุดัน
[/color]