A 52
“มึงตามกูมาหน่อย” เอกบอกผม จากนั้นก็เขาหันหลังเดินนำผมออกไปจากตรงหน้าห้องทันที ผมเดินตามเขาไปจนถึงตรงบริเวณบันไดหนีไฟข้างๆตึก และจากนั้นเราสองคนก็เงียบกันลงไปครู่หนึ่ง........
ผมรู้สึกแปลกใจมากทีเดียวที่จู่ๆเอกก็เดินเข้ามาคุยกับผมก่อนเองแบบนี้ เพราะปกติแล้วผมก็ยังไม่ค่อยจะได้เจอหน้าเขาเท่าไหร่เลย และผมก็แทบจะไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับเขาคนนี้มากด้วยเช่นกัน เท่าที่ผมรู้ก็มีแค่ว่าเขาเป็นเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มของโจ และพวกป๊อปก็เคยบอกผมเอาไว้ว่าเขาเป็นคนที่พูดน้อย ค่อนข้างเรียนดี แต่นิสัยขวางโลกและไม่ค่อยนิยมคบค้าสมาคมกับใครแบบสุดๆอะไรประมาณนี้เท่านั้นเอง แต่อย่างน้อยๆสิ่งหนึ่งที่ผมพอจะรู้แล้วแน่ๆในตอนนี้ก็คือ เรื่องที่เขากำลังต้องการจะพูดกับผมในตอนนี้ มันก็คงไม่พ้นที่จะเกี่ยวกับเรื่องของพวกแม็กซ์และโจอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าปัญหาก็คือ มันจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอะไรกันแน่เท่านั่นเอง
“มึง........ มีธุระอะไรกับกูรึเปล่า” สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน
“กูขอถามมึงตรงๆเลยก็แล้วกัน.......” เขามองหน้าผม “มึงคิดยังไงกับไอ้โจ”
ผมสะอึกไปเล็กน้อยทันที ไม่ใช่เพราะผมไม่รู้ว่าจะตอบยังไง แต่ผมรู้สึกแปลกใจที่เขาจะมาถามผมด้วยคำถามแบบนี้ต่างหาก เพราะผมไม่เคยคิดเลยว่านอกจากผม โจ และนัทแล้ว จะยังมีคนอื่นที่รู้เรื่องนี้อีกด้วย
“ก็เพื่อนอ่ะ กูก็พอรู้จักมันอยู่บ้าง” ผมตอบ “ทำไมมึงถามอะไรแปลกๆแบบนั้นวะ”
เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “แล้วไอ้นัทล่ะ”
ผมหน้าแดงขึ้นทันที คราวนี้ผมไม่รู้ว่าผมควรจะตอบออกไปว่าอย่างไรดีแล้วจริงๆ ก็ขนาดกับพวกวายุและคนอื่นๆเองผมก็ยังไม่เคยพูดเรื่องอะไรแบบนี้ออกไปกับพวกเขาเลยนี่นา นับประสาอะไรกับคนแปลกหน้าอย่างเอกแบบนี้.........
“เออ เอาเหอะ จะไม่ตอบก็เรื่องของมึง” เขาส่ายหน้าเบาๆ “แต่กูขอเตือนไว้นะว่าตอนนี้ไอ้แม็กซ์มันไม่ชอบใจไอ้โจมาก และถ้าเกิดมันเห็นมึงกับไอ้โจทำตัวสนิทสนมกันกว่าที่เคยล่ะก็ มึงสองคนคงจะมีปัญหาแน่”
“แต่จะก่อนหน้านี้หรือปัจจุบันนี้กูก็แทบไม่ค่อยได้เจอได้คุยกับไอ้โจอยู่แล้วนะเว้ย ทำไมกูต้องมีปัญหาถ้าแค่กูคุยกับไอ้โจด้วยวะ”
“หึ ก็คงจะอย่างนั้นล่ะมั๊ง........” เขายิ้มเหยียดๆราวกับกำลังประชดประชันคำพูดของผม “แต่เอาเหอะ กูเองก็เพื่อนไอ้โจ กูไม่อยากให้มันมีปัญหามากไปกว่านี้อีกแล้ว และมึงเองก็เหมือนกัน ถ้ามึงไม่อยากให้มันมีปัญหาหรือตัวมึงเองมีปัญหาแล้วล่ะก็ อยู่ให้ห่างๆจากมันไว้ซะก็ดี.........” เขาหันมามองหน้าผม “แต่มึงก็คงไม่ได้ลำบากอะไรอยู่แล้วนี่ จริงมั๊ย เพราะมึงเองก็ไม่ได้คุยกับไอ้โจหรือคิดอะไรกับมันอยู่แล้วนี่”
ผมอึ้งอีกแล้ว นี่ใช่มั๊ย จุดประสงค์ของการที่เขามาคุยกับผมในวันนี้ ผมรู้ดีว่ามันไม่ใช่แค่เพียงเรื่องที่เขาพูดเท่านั้น เพราะทั้งจากสีหน้า แววตา และน้ำเสียงของเขา ผมก็พอจะรู้แล้วว่าเขามาเพื่อ “ทดสอบ” ผมด้วย........
และดูท่าทางว่าผมก็คงจะโดนการทดสอบเล็กๆของเขานั่นเล่นงานเข้าให้เต็มๆไปซะแล้ว
หลังจากนั้นในตอนเย็นหลังเลิกเรียน ขณะที่ผมกำลังนั่งอยู่บนห้องของนัท นัทที่เห็นผมมีท่าทางผิดสังเกตมาตลอดก็ถามผมซ้ำอีกครั้งว่าผมกำลังมีปัญหาอะไรอยู่รึเปล่า ผมจึงตัดสินใจเล่าให้เขาฟังว่าวันนี้ตอนกลางวันเอกได้เข้ามาคุยกับผมและถามผมว่าผมกับโจเป็นอะไรกันรึเปล่า และก็ยังถามถึงเรื่องของผมกับเขาด้วย และเมื่อผมเล่าให้เขาฟังถึงตรงนี้ เขาก็รีบถามคำถามผมขึ้นทันที
“แล้วนนท์ตอบไปว่ายังไง”
“หืออ นนท์ก็บอกไปแล้วไงว่านนท์บอกไอ้เอกมันไปว่านนท์ก็แค่รู้จักกับโจมันเฉยๆอ่ะ”
“ไม่ใช่ นัทหมายถึงว่า ตอนที่ไอ้เอกมันถามถึงเรื่องของเราอ่ะ นนท์ตอบไปว่ายังไง..........”
ผมหน้าแดง “นนท์....... ไม่ได้ตอบว่ะ แบบว่าเขินอ่ะ ก็เลยไม่รู้จะตอบไปว่ายังไง”
เขายิ้มกว้าง “ถ้าเขินก็แสดงว่ามีใจจริงๆอ่ะดิ่ ใช่มะ”
“เฮ้ยย แล้วเมื่อไหร่นนท์จะเล่าจบวะเนี่ย” ผมโวยขึ้น “คืองี้ มันก็มาถามนนท์แบบนั้นแหละ แล้วมันก็บอกว่าไอ้แม็กซ์อาจจะกำลังอยากหาเรื่องไอ้โจอยู่ มันก็เลยมาเตือนนนท์เอาไว้ด้วยว่าระวังจะเจอปัญหาเข้าให้ไม่รู้ตัว ประมาณนี้อ่ะ ซึ่งนนท์ว่ามันก็ตรงกับที่โจเคยบอกนนท์ไว้เหมือนกันนะว่าให้นนท์มาเตือนทุกคนว่าให้คอยระวังๆตัวเอาไว้ด้วยน่ะ”
“เดี๋ยวนะ แล้วไอ้เอกมันจะมาเตือนนนท์เรื่องนี้ทำไม อยู่ดีๆมันจะมาทำเป็นแคร์เป็นคนดีซะเฉยๆอย่างนั้นน่ะเหรอ”
“นนท์ว่าหลักๆเลยมันคงตั้งใจมาดูปฏิกิริยาของนนท์มากกว่าอ่ะว่านนท์คิดยังไงกับนัทและกับโจ ประมาณนั้นมั๊ง และอีกอย่าง...........” ผมเงียบไปครู่หนึ่ง “มันคงมาเพื่อมาบอกให้นนท์อยู่ห่างๆไอ้โจไว้ด้วยนั่นแหละ แต่อันนั้นนนท์ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไม เพราะปกติแล้วนนท์ก็แทบไม่ค่อยได้เจอได้คุยอะไรกับไอ้โจมันอยู่แล้วด้วยซ้ำไป”
“อืมมม......... มันคงเป็นห่วงเพื่อนมันและไม่อยากให้กลุ่มมันเองมีปัญหาอีกแล้วก็ได้มั๊ง”
“มันจะเป็นไปได้มั๊ยวะ นัท ว่าไอ้แม็กซ์มันเป็นคนบอกให้ไอ้เอกมาคุยกับนนท์เรื่องนี้น่ะ”
“นัทก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่นัทว่าไม่น่าใช่หรอกมั๊ง เพราะมันมาพูดเป็นทำนองว่าให้นนท์ระวังๆตัวและอยู่ห่างจากไอ้โจไว้ไม่ใช่เหรอ และอีกอย่างนะ คนอย่างไอ้แม็กซ์อ่ะ ถ้ามันจะอยากรู้อะไรล่ะก็ มันก็คงมาคุยกับนนท์เพื่อดูอาการนนท์เองเลยมากว่าว่ะ”
“อืมมม นนท์ก็ไม่ได้รู้จักนิสัยไอ้แม็กซ์ซะด้วยดิ่ แต่นนท์ข้องใจอยู่อย่างว่าทำไมจู่ๆไอ้เอกมันถึงต้องมาถามนนท์เรื่องไอ้โจกับนนท์ด้วยวะ คือมันไม่น่าจะมีอะไรผิดปกติรึผิดสังเกตได้เลยนี่นา เพราะไอ้โจเองก็เคยพูดนะว่ามันไม่ได้อยากให้คนอื่นรู้และมันก็ไม่ได้คิดจะแสดงออก ก็เนี่ย ขนาดพวกเราเองยังไม่รู้เลยว่านนท์คุยกับไอ้โจ ทั้งๆที่นนท์เป็นคนดูออกง่ายแล้วนะ และอย่างพวกไอ้เอกจะดูคนโคตรไม่แสดงออกอย่างไอ้โจออกได้ยังไงวะ”
นัทหัวเราะเบาๆพร้อมกับส่ายหน้าออกมา จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้ามาหาผมที่เตียง “คิดมากน่า........ แค่เรื่องแค่นี้จะคิดมากไปทำไม” เขานั่งลงข้างๆผมแล้ววางมือลงบนตักของผมเบาๆ และแค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เลือดภายในกายของผมมันสูบฉีดขึ้นไปบนใบหน้าจนหมด “คิดมากบ่อยๆเดี๋ยวก็หน้าแก่แบบไอ้เจย์หรอก นัทไม่อยากมีแฟนหน้าแก่ล้ำ แต่หำอนุบาลนา”
ผมหัวเราะแล้วยกมือขึ้นตบหัวเขาทันที “ทะลึ่ง! ใครหำอนุบาลไม่ทราบ”
“อ้าวเหรอๆ นัทจำไม่ได้ว่ะ ไม่ได้เห็นมานานแล้วนี่” เขาค่อยๆเลื่อนมือขึ้นช้าๆ “อย่างนี้ต้องขอพิสูจน์อีกครั้งซะแล้ว!” และเมื่อพูดจบ เขาก็คว้าหมับเข้าที่เป้ากางเกงของผมทันที
“เฮ้ยยย!” ผมสะดุ้งโหยง จากนั้นก็รีบคว้ามือของเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว
“อะไร ทำเป็นไม่เคยไปได้” เขาชะโงกหน้าเข้ามาหอมแก้มผมเบาๆ “.........นัทชอบนนท์นะ”
ผมยิ้มกว้างทั้งๆที่หน้าแดงก่ำ “อื้ออ รู้แล้วน่า”
“แล้วนนท์อ่ะ ชอบนัทรึเปล่า”
“.........อื้อ” ผมตอบออกไปเบาๆด้วยเสียงจากในลำคอ
“ว่าไงนะ ไม่เห็นได้ยินเลย” เขาถามย้ำ พลางเงี่ยหูเข้ามาหาผมมากขึ้นอีก
“.........อื้ออ”
“ห๊ะ”
“อื้อออ! ชอบ พอใจยัง”
“ก็แค่นี้แหละ” นัทยิ้มกว้าง จากนั้นเขาก็ชะโงกหน้าเข้ามาประทับจูบลงบนริมฝีปากของผมเบาๆ เขาถอนปากออกไปแล้วมองหน้าผมอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะจูบกลับลงมาอีกครั้ง แต่คราวนี้เราสองคนต่างก็เปิดปากออก และลมหายใจของเราทังคู่ต่างก็เริ่มหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆด้วยเช่นกัน
มือของนัทล้วงเข้าไปในขากางเกงที่อ้าอยู่ของผมและคลึงเจ้าน้องชายของผมผ่านเนื้อกางเกงในบางๆอย่างเบามือ จากนั้นเขาก็ชักมือกลับพร้อมๆกับที่ถอนปากออกและดันตัวของผมให้ล้มลงบนเตียงโดยมีเขาทับอยู่ข้างบน เราสองคนสบตากันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะยิ้มออกมา
“ว่าไง.........”
“ว่าไงอะไร” ผมถาม
“เปล่า ไม่มีอะไร” เขาตอบ ก่อนจะล้มตัวลงมานอนข้างๆผมแล้วกอดผมเอาไว้ในวงแขน “ขอนัทนอนกอดนนท์เอาไว้แบบนี้แป๊บนึงนะ”
ผมไม่ตอบแต่พลิกตัวเป็นนอนตะแคงเพื่อให้เขานอนกอดผมจากทางด้านหลังอย่างถนัดมากขึ้น ผมหลับตาลงและยิ้มให้กับตัวเองเบาๆ หลังจากนั้นเราสองคนก็นอนกอดกันอยู่อย่างนั้นเงียบๆครู่หนึ่ง
“เฮ้ยย ไอ้นัท! ทำเหี้ยอะไรกันอยู่ป่าววะ!” เสียงของเจย์ดังขึ้นพร้อมกับเสียงเคาะประตูห้องรัวหลายครั้ง
ผมกับนัทรีบผละลุกออกจากเตียงพร้อมๆกันทันที
“เออๆ จะเคาะรัวหาอะไรวะ!” นัทตะโกนตอบออกไปแล้วเดินไปเปิดประตูห้องออก
“มึงทำอะไรกันอยู่วะ” เคนที่มากับเจย์ด้วยถามขึ้น จากนั้นเจย์ วายุ และคริส ก็เดินตามเขาเข้ามาในห้องด้วย
“ไม่ได้ทำไร ก็แค่นั่งๆนอนๆคุยกันเฉยๆ” นัทตอบ
“แน่ใจนะว่าแค่คุย” วายุพูดยิ้มๆ
“เออดิ่ ไอ้เหี้ย” นัทปิดประตูห้องลง “แล้วพวกไอ้ป๊อปอ่ะ”
“เดี๋ยวมันมา เห็นไอ้ป๊อปบอกมันจะขี้ก่อนอ่ะ” เจย์เดินมานั่งลงบนเตียงข้างๆผม “เฮ้ยไอ้นนท์ ทำไมมึงหน้าแดงๆวะ........”
“หะ หา เหอ เหรอ กูหน้าแดงเหรอวะ”
“เฮ้ยย ไอ้นนท์! ซิปมึงเปิดอ่ะ นี่เมื่อกี๊มึงสองคนทำอะไรอยู่กันแน่วะเนี่ย!” เจย์ชี้ลงมาที่เป้ากางเกงของผม ทำให้ผมต้องรีบก้มลงดูที่ซิปกางเกงของตัวเองทันที แต่ผมก็ไม่เห็นว่าซิปของผมมันจะรูดลงอย่างที่เขาบอกตรงไหนเลย และพอมานึกๆดูดีๆ เมื่อกี๊นัทก็ไม่ได้รูดซิปของผมลงแม้แต่นิดเดียวเลยนี่หว่า
“ไอ้เจย์แม่งก็อำเพื่อน ไอ้สาดดด ฮ่าๆๆๆๆ” วายุหัวเราะชอบใจ “ของแบบนี้อ่ะ ต่อให้เป็นจริงๆและเรารู้ แต่เราก็ต้องทำเป็นไม่ทักไม่เห็นสิวะ มันเป็นมารยาทนะเว้ยยย เห็นป่ะ ขนาดกูยังไม่ทักเลย”
ผมรู้สึกว่าผมหน้าแดงไปจนถึงใบหูทีเดียว และเมื่อผมหันไปมองหน้านัท ผมก็เห็นว่าเขาเองก็กำลังหน้าแดงอยู่ด้วยเช่นกัน
“ไม่ทักบ้านพ่อมึงสิ ไอ้ยุ!” นัทเดินไปตบหัววายุก่อนจะหันมาหาเจย์ “มึงก็ด้วย ไอ้สัสส แซวกันมากนักเดี๋ยวกูก็ทำจริงๆซะเลยนี่”
“ไอ้เชี่ยนัทแม่งอ่อนว่ะ ถ้าเป็นกูนะ น่ารักๆอย่างไอ้นนท์เนี่ย เสร็จกูไปนานแล้ววว” เจย์พูดพลางโอบคอของผมเอาไว้
“ทะลึ่ง! ไอ้หื่น!” นัทยกขาทำท่าจะถีบเจย์เข้าให้ ทำให้เจย์ต้องผงะและรีบคลายวงแขนออกจากผมทันที
หลังจากนั้นไม่นานป๊อปกับตี๋เล็กก็มาถึง เราทุกคนนั่งๆนอนๆทำการบ้านและคุยเล่นกันอยู่จนถึงประมาณเกือบๆห้าโมง คริสก็เป็นคนแรกที่ต้องกลับบ้านก่อน ตามมาด้วยวายุ และผมเป็นคนสุดท้าย ผมเดินลงมาจากห้องของนัทโดยมีนัทเดินมาส่งผมด้วย ส่วนเคน เจย์ ป๊อป และตี๋เล็กก็ยังคงนั่งคุยกันอยู่บนห้องนั่นเอง
“โทษทีนะนนท์” นัทพูดขึ้นขณะที่ผมกำลังรอให้พี่โก๋วนรถมาหาผมที่หน้าหออยู่
“หืออ เรื่องอะไร”
“เรื่องพวกไอ้เจย์อ่ะ”
“อ๋ออ เฮ้ยย นนท์ไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว พวกมันก็แค่แซวเล่นปกติแบบนี้อยู่แล้วอ่ะ ก็ขำๆ นนท์ไม่ได้คิดมากอะไรหรอก”
“เปล่า นัทไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น” เขายิ้ม “แต่นัทหมายถึงว่า ขอโทษที่พวกไอ้เจย์มันมาขัดจังหวะต่างหาก.......... เอาไว้คราวหน้าไม่มีคนเข้ามาขัดจังหวะแล้วเราค่อยทำกันต่อนะ”
ผมหน้าแดง “หมายถึงทำไร นอนกอดกันอ่ะเหรอ”
“นั่นมันแค่ผลพลอยได้.......” เขาชะโงกหน้าเข้ามากระซิบเบาๆ “แต่นัทหมายถึงก่อนหน้านั้นต่างหาก อย่าแกล้งทำเป็นเซ่อหน่อยเลยน่า”
ผมชกลงบนท้องของเขาเบาๆแล้วจากนั้นก็หันไปเห็นว่ารถของผมกำลังจะมาถึงแล้วพอดี และเมื่อพี่โก๋ขับรถมาจอดสนิทดีแล้ว ผมจึงบอกลานัทแล้วเปิดประตูขึ้นรถไป และเมื่อผมปิดประตูรถลง โทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้นทันที
ผมมองชื่อของคนที่โทรเข้ามาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกดปุ่มรับสาย “ฮัลโหล ว่าไงโจ”
“กลับบ้านแล้วสินะ” เขาถาม
“อือ เพิ่งขึ้นรถเนี่ยว่ะ มึงมีไรป่าว”
“เปล่า ก็แค่เห็นมึงดูกระหนุงกระหนิงกันดีแล้วรู้สึกหมั่นไส้ว่ะ”
“เฮ้ยย มึงเห็นอะไรเมื่อไหร่” ผมตกใจ
“มึงคิดว่าเห็นอะไรล่ะ แล้วมึงคิดว่ากูจะรู้ได้ไงว่ามึงขึ้นรถกลับบ้านแล้วถ้ากูไม่เห็นมึงน่ะ”
“อย่าบอกนะว่ามึงแอบตามกูอยู่ตลอดน่ะ” ผมถาม “โรคจิตตตตตตต สาดดดดดดดดด”
“จิตครวยไรล่ะ! กูบังเอิญเห็นมึงสองคนเมื่อกี๊ตอนกูกำลังกลับมาจากที่ไปวิ่งมาต่างหาก” เขาพูด “แต่เอาเหอะ กูยกให้ก็แล้วกัน ถึงไงกูมันก็แค่คนมาทีหลัง”
ผมหัวเราะออกมาเบาๆทันที “อารมณ์ไหนของมึงวะเนี่ย ไอ้โจ”
“แล้วเป็นไง วันนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรใช่มั๊ย” เขาถาม
“เรื่องอะไรวะ”
“ก็เรื่องไอ้ปั๊กน่ะสิ ถามได้ ไอ้ควาย”
“อ๋อ เออ ไม่มีอ่ะว่ะ ไอ้เหี้ย” ผมตอบ แต่แล้วผมก็นึกถึงเรื่องของเอกขึ้นมาได้ แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าผมควรจะบอกเขาออกไปดีรึเปล่า........
“มีอะไร.........” เขาถาม
“เปล่าหรอก ไม่มีอะไร” ผมปฏิเสธ “ว่าแต่มึงอ่ะ มีปัญหาอะไรกับพวกไอ้แม็กซ์ไอ้เคอีกรึเปล่า”
“ไม่มี” เขาตอบสั้นๆห้วนๆ “ถึงไงกูก็ไม่ได้เรียนห้องเดียวกับมันอยู่แล้ว และมันก็คงยังไม่มาวุ่นวายอะไรกับกูหรอก และที่สำคัญ กูดูแลตัวเองได้ มึงเป็นห่วงตัวเองก่อนเหอะ”
“เออจ้าาาา พ่อคนเก่ง” ผมกลอกตา
“งั้นแค่นี้แหละ กลับบ้านดีๆ แล้วพอไปถึงบ้านก็โทรมาบอกกูด้วย นี่คือคำสั่ง” เมื่อพูดจบ เขาก็วางสายไปทันที
เอาแต่ใจตัวเองตลอดไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆ ให้ตาย!