]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)  (อ่าน 1706278 ครั้ง)

note

  • บุคคลทั่วไป
ว้าไม่รู้จะลุ้นคู่ไหนแล้วเนี้ย :laugh:

ไรท์เตอร์มาไวไวน้า :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

winnie_the_far

  • บุคคลทั่วไป
หลายคู่มว๊ากกกกกกกก อิอิ

มารอลุ้นระหว่าง นัท+นนท์+โจ จะเป็นอย่างไงต่อไป  อิอิ

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ขอมาบอกข่าวสั้นๆครับ ตอนนี้หมดอารมณ์จนอยากจะเอาปืนยิงหัวตัวเองจริงจัง

"เมื่อคืนฟอร์แม็ทคอม แล้วลืมเซฟไฟล์นิยายไว้"

จบครับ.......

ตอนต่อไป 10 กว่าหน้า ตอนต่อไปอีก 10 กว่าหน้า ตอนต่อไปอีก 10 หน้า 3 ตอนหายเกลี้ยง
เรื่องสั้นเรื่องใหม่ที่จะทำเป็นหนังสือ หายเกลี้ยง

จบจริงๆ ชีวิต.....

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ขอเวลาอีกสองสามวันครับ จะรีบปั่นใหม่โดยด่วน

ตอนนี้ขอเอาหัวไปโขกกำแพงเล่นก่อนนะ ไม่สลบไม่เลิก

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ตอนนี้เซ็งมากกกกกกกกเลยพี่สอง! จะเข้าไปโวยในกรุ๊ป ก็กลัวโดนบรรดาเมียๆมาตอกย้ำ! ฮืออๆๆ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
อุ้ย คุณน้องต้นคะ ใจเย็น ๆ ค่ะ

สูดหายใจลึก ๆ ค่ะ

ผ่อนลมหายใจออกยาว ๆ

เอาล่ะ กอบกู้สติ สมาธิ และปัญญาของเรากลับมา สู้สู้ :L2:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
กำลังเขียนใหม่ครับ แต่มันไม่เหมือนเดิมนี่ดิ ฮืออออ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12

zene

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ LittlePrince

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
สู้ๆนะนายต้น เค้ารอได้ อิอิ

micky99

  • บุคคลทั่วไป
พี่ต้นลองดูในนี้ก่อนดิครับ xxxx://www.thaicreate.com/community/forum/032560.html
ผมไม่เคยเหมือนกันครับไม่รู้จะช่วยได้ไหม เย็นๆไว้ :n1: :n1: :n1:

patz

  • บุคคลทั่วไป
พยายามทำใจให้เย็น ให้สงบ ครองตนให้มีสติไว้นะครับ แล้วค่อยเริ่มต้นใหม่ เป็นกำลังใจให้ครับผม

ออฟไลน์ kengjung23

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :ped149:สู้ๆครับคุณต้น ค่อยๆคิดครับ มันต้องมีทางออกซิครับ เป็นกำลังใจให้ครับ

winnie_the_far

  • บุคคลทั่วไป
สู้สู้น่ะคร้าบบบบ มาเป็นกำลังใจให้คับ

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
ใจเย็นๆ   ค่อยๆทำก็ได้ต่นต้น  ใจร้อนเดี๋ยวจะล่ม   555

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
ข่าวร้ายที่สุดในรอบสัปดาห์เลยค่ะคุณต้น.. :m15:
ทำหัวให้เย็น ๆ นะคะ  ไอ้ที่หายก็ปล่อยไปค่ะ  นั่งจิ้นใหม่เดี๋ยวมันก็มาค่ะ..อย่าเครียดนะคะ  เดี๋ยวส่งผลกับสุขภาพจะยิ่งแย่นะคะ
เรารอคุณต้นได้เสมอค่ะ!
 :กอด1:

ออฟไลน์ fiixtion

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พี่แม็ท รุกหนักจน น้องเคน ตั้งตัวไม่ติดแล้ว.....................รอลุ้น คู่นี้ ครับ น่ารักดี :L2:

toomztamz

  • บุคคลทั่วไป

tarotman

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
นั่งปั่นให้ตั้งแต่สามทุ่ม ตอนนี้ตีหนึ่ง เสร็จแล้วครับตอนล่าสุดหนึ่งตอน ไม่รู้ข่าวดีรึข่าวร้ายล่ะ แต่ยาวกว่าตอนเดิมที่หายไปอีก (ตอนนี้ตอนเดียวล่อไป 20 หน้า) แหะๆ -___-"

เดี๋ยววันพรุ่งนี้.... ไม่สิ ต้องบอกว่า "วันนี้" สิเนอะ หลังจากได้ทวนและแก้คำผิดอะไรแล้ว จะเอามาโพสให้นะครับ อาจจะเย็นๆเน้อออ

ออฟไลน์ jiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-2
ใจเย็นๆ ดื่มวีต้าแล้วไปนอนซะนะคุณต้น พักก่อนๆ

ออฟไลน์ mickeynut

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-3

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
พี่ต้นลองดูในนี้ก่อนดิครับ xxxx://www.thaicreate.com/community/forum/032560.html
ผมไม่เคยเหมือนกันครับไม่รู้จะช่วยได้ไหม เย็นๆไว้ :n1: :n1: :n1:

ขอบคุณมากนะครับ เพิ่งเห็นอะ แต่พอลองอ่านแล้ว บอกตามตรงว่า "งง" ครับ 55555
skill computer ของผมต่ำมากถึงมากที่สุด เฮ้ออออ
ก็ได้แต่แต่งใหม่ไปนั่นแหละครับ ส่วนนิยายอีกเรื่องที่จะทำเล่ม ก็โชคดีส่งไปให้เจ๊กะไอ้หัวแห้วอ่านแล้ว มีคนอื่นเก็บไว้ก็โอเค รอดไป ^^"

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
คนอ่านก็รออย่างตั้งใจเหมือนกัน  :กอด1:

bame

  • บุคคลทั่วไป
ไม่เป็นไรต้น สู้ ๆ
รอได้ครับ
 :L2:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
b49


ตี๋เล็ก


ในที่สุดเพื่อนๆของเราก็รู้กันแล้วว่าผมกับไอ้ป๊อปเป็น เอ่ออ.... เป็นแฟนกัน

เฮ้อออ จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังไม่ชินและรู้สึกกระดากปากกับการเรียกสถานะระหว่างเราสองคนแบบนั้นอยู่ทุกทีสิน่า ผมก็อยากจะพูดอยู่หรอกนะว่าผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรผมถึงรู้สึกแบบนั้น แต่ลึกๆแล้วผมก็คิดว่าผมรู้ล่ะว่าทำไม ซึ่งคำตอบก็คือ การปฏิบัติตัวของไอ้ป๊อปที่มีต่อผมนั่นเอง.....

นับตั้งแต่ครั้งนั้นที่เราเปิดใจคุยกันและผมได้มันกลับมาอยู่ข้างกายเหมือนเมื่อก่อน เราสองคนก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ไม่ว่าจะที่บ้านของผม ที่หอของโรงเรียน หรือแม้แต่ที่บ้านของมันนานๆครั้ง เราแบ่งเวลามาใช้ในการสำรวจความรู้สึกและความในใจของกันและกันมากขึ้น ทำความเข้าใจกันมากขึ้น ในบางครั้งเราก็จะพูดกันเยอะแยะมากมายจนแทบจะไม่ได้นอน แต่ในบางครั้งเราก็แค่นั่งกันอยู่เฉยๆ ต่างคนต่างทำกิจกรรมของตัวเอง เพียงแค่รู้สึกดีที่ได้เห็นอีกฝ่ายหนึ่งอยู่ใกล้ๆเท่านั้นก็พอ

แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้อีกอยู่ดีว่าความรู้สึกดีๆเล็กน้อยเหล่านั้นมันอาจจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในใจของผมเพียงคนเดียวหรือเปล่า เพราะว่าหลายครั้ง ที่ไอ้ป๊อปก็ยังคงปฏิบัติกับผมไม่ต่างจากเมื่อตอนที่เรายังเป็นเพื่อนกันเลยแม้แต่น้อย มันยังคงเล่นหัวกับผม เอะอะโวยวาย ไม่มีความโรแมนติก และใช้คำพูดที่บางครั้งผมยังต้องรู้สึกน้อยใจว่า นี่ตกลงผมกับมันเป็น “แฟน” กันแน่แล้วจริงๆใช่มั้ย

ไม่ใช่ว่าผมอยากจะเรียกร้องอะไรจากมันนักหนาหรอก แต่ผมก็แค่กลัวเท่านั้นเอง กลัวว่ามันจะแค่ยอมเรียกผมว่าแฟนก็เพียงเพราะไม่อยากจะเสียผมไปในฐานะเพื่อน ผมกลัวว่าถ้าหากวันหนึ่งมันเจอผู้หญิงคนอื่นที่ถูกใจแล้วมันก็จะจากผมไป เพราะว่ามันไม่เหมือนผมนี่ ที่รักมันจากก้นบึ้งของหัวใจมาตั้งนานแล้ว แต่มันเพิ่งจะมาบอกว่ารักผมก็เพราะว่าเราทะเลาะกันครั้งใหญ่เมื่อตอนนั้นเท่านั้นเอง ดังนั้นถ้าหากว่าผมจะคิดแบบนี้และรู้สึกไม่มั่นคงกับสิ่งที่เรากำลังเป็นกันอยู่นี่ ก็คงจะไม่ผิดนักใช่ไหม

“เออ มึงไม่ผิดหรอก กูเข้าใจมึงนะเว้ย ไอ้ตี๋” ไอ้นัทตอบผมหลังจากที่ผมเล่าความรู้สึก ‘คร่าวๆ’ ของผมให้มันฟัง “แต่กูก็ว่ามึงคิดมากเกินไปหน่อยจริงๆอะว่ะ”

ผมน่ะคิดมานานแล้วว่าไอ้นัทเป็นคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะอ่านใจผมออกและรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่มากที่สุดยิ่งกว่าไอ้ป๊อปเสียอีก และในตอนนี้ที่เราออกมากินข้าวเย็นกันข้างนอกท่ามกลางสายฝนที่ตกโหมกระหน่ำลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตามาตั้งแต่ตอนบ่ายแก่ๆ ผมที่เดินออกจากโต๊ะอาหารมาเข้าห้องน้ำกับไอ้นัทแค่สองคนก็มีโอกาสได้ลองปรึกษาเรื่องนี้กับมันดูเสียที เพราะผมคิดว่ามันนี่แหละที่น่าจะเป็นคนเข้าใจผมและให้คำปรึกษาแก่ผมได้ดีที่สุดแล้ว

“นี่กูคิดมากเกินไปเองอีกแล้วเหรอวะ”

“ก็ไม่เชิงหรอก ไอ้ตี๋ คืองี้.....” มันนิ่งๆไป “คือกูจะพูดว่าไงดีวะ แต่แบบ มึงต้องเข้าใจนะเว้ยว่าไอ้ป๊อปมันก็เป็นของมันอย่างนั้นเอง มันก็โผงผาง ทึ่ม โง่ แล้วก็พูดอะไรทำอะไรไม่ค่อยคิดมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว และมึงเองก็เริ่มคบกันจากสถานะของคำว่า ‘เพื่อนสนิท’ fh;p แล้วจู่ๆมึงจะมาคาดหวังว่ามันจะเปลี่ยนจากการแสดงออกว่า ‘เพื่อนรัก’ ไปเป็น ‘คนรัก’ เลยในเวลาสั้นๆอะ กูว่ามันก็คงเป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง”

“เออออ จริงๆไอ้เรื่องนั้นกูก็เข้าใจอยู่หรอกกก” ผมถอนหายใจ “แต่กูก็ไม่ได้คาดหวังอะไรแบบนั้นนะเว้ย แล้วก็ไม่ได้อยากจะให้ไอ้ป๊อปมันทำตัวหวานๆอะไรกับกูขนาดนั้นนักหนาด้วย แต่ก็แบบ.......”

“กูบอกแล้วไงว่ากูเข้าใจ กูอาจจะไม่ได้เข้าใจทั้งหมด แต่กูก็พอจะเข้าใจส่วนหนึ่งล่ะวะ” มันพยักหน้าเบาๆ “และที่สำคัญ มึงกับมันก็เพิ่งจะเปิดตัวว่ามึงคบกันแล้วไปเมื่อเย็นนี้เองนะเว้ย ดังนั้นก่อนหน้านี้มึงจะให้มันแสดงออกอะไรต่อหน้าคนอื่นๆมากมายได้ไงล่ะวะ”

“มันต่างหากที่เป็นคนเปิดตัว ไม่ใช่กู” ผมแก้ “แต่ว่าตอนอยู่กับกูแค่สองคน หลายๆครั้งแม่งก็เป็นแบบนั้นแหละนะเว้ย.... แบบ ไงดีวะ แบบว่า ‘โคตรเพื่อน’ อะ มึงเข้าใจปะ บางทีก็เพื่อนจนกูกลัวเลยด้วยซ้ำ”

“กูพอนึกออกว่ะ..... แต่ว่าถึงยังไงมึงก็รู้นี่ว่ามันรักมึงมากน่ะ”

“ใช่ กูรู้” ผมตอบ “แต่ก็เพราะงั้นแหละ เพราะไอ้ที่มันเพิ่งมารักกูทีหลังนั่นแหละ ไอ้นัท กูถึงได้บอกไงว่าบางทีกูก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ากูแค่คิดไปเองแค่คนเดียวรึเปล่า มันจะรักกูเหมือนที่กูรักมันมั้ย อะไรแบบนั้นอะ”

ไอ้นัทยิ้มให้ผมผ่านทางกระจกบานใหญ่เหนืออ่างล้างมือ “ถ้ามึงมั่นใจว่ามันรักมึง มึงก็อย่าสงสัยในความรักของมันที่มีต่อมึงเลย ไอ้ตี๋ มึงเชื่อกูเหอะ ถึงไอ้ป๊อปมันจะโง่ แต่มันก็เป็นคนซื่อตรงต่อความรู้สึกของตัวเองมากนะเว้ย แล้วมันก็เป็นคนที่คิดจะทำอะไรก็ทำ ทำเฉพาะในสิ่งที่ใจมันอยากจะทำมากที่สุดในกลุ่มเราด้วย ถ้ามึงเอาแต่คิดอยู่แบบนี้ละก็ กูว่ามันจะบั่นทอนตัวมึงเองเปล่าๆว่ะ”

“ก็จริงของมึง..... กูไม่น่าสงสัยในตัวของมันตั้งแต่แรกเลยเนอะ” ผมพยักหน้าเบาๆ เลือกใช้คำว่า ‘สงสัย’ แทนที่จะเป็นคำว่า ‘กลัว’ จากนั้นก็เดินเข้าไปตบบ่ามันเบาๆสองสามที “ขอบใจมึงมากนะเว้ย ไอ้นัท”

“เออ ไม่เป็นไร กูก็แค่พูดตามความจริงว่ะ ไม่ได้ปลอบใจอะไรมึงหรอก มึงอย่ากังวลเลย”

“อืมมม” ผมพยักหน้าอีกครั้ง “แล้วว่าแต่เรื่องของมึงล่ะวะ เป็นยังไงบ้าง”

ผมรู้สึกว่ากล้ามเนื้อบริเวณหัวไหล่ของไอ้นัทแข็งเกร็งขึ้นเล็กน้อยทันที และเมื่อผมสบตากับมันในกระจก ผมถึงได้เห็นว่ารอยยิ้มเมื่อครู่ของมันก็จางหายไปแล้ว

“หือออ มึงหมายถึงเรื่องอะไรวะ”

“เอ้า ก็หมายถึงเรื่องไอ้โจไง กูก็ไม่รู้นะเว้ยว่ามึงคิดยังไงและไอ้นนท์มันยังไงน่ะ แต่ไอ้โจมันชอบไอ้นนท์อยู่ไม่ใช่เหรอวะ มึงไม่กลัวว่าไอ้นนท์จะหวั่นไหวไปชอบไอ้โจมันมั่งเลยรึไง นี่ถึงขนาดแม่งไปนอนบ้านไอ้นนท์และมาเที่ยวทะเลกับพวกเราด้วยเลยนะเว้ย”

“อย่างแรกน่ะนะ ไอ้โจมันมีปัญหากับพ่อมัน มันก็เลยต้องไปอยู่บ้านของนนท์บ้าง อันนี้กูก็รู้ดี และที่สำคัญอีกอย่างนึงคือ.....” มันหลุบสายตาลงต่ำ “กูว่านนท์เองก็ชอบไอ้โจว่ะ”

“เฮ้ยยยย!!” ผมอุทานออกมาด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่ามันจะตอบผมกลับมาแบบนี้ “มึงแน่ใจเหรอวะ!”

“ไม่แน่ใจหรอก” มันยักไหล่ “แต่ก็ประมาณนึงล่ะมั้งวะ”

“เฮ้ยยย! แล้วมึงจะทำไงอะ ไอ้นัท”

“ก็ไม่ทำไงอะ กูรู้ว่านนท์อาจจะมีใจให้มัน แต่กูก็รู้ด้วยเหมือนกันว่านนท์รักกูและเลือกกู กูไม่อยากจะทำอะไรหรือพูดอะไรให้นนท์ไม่สบายใจไปมากกว่านี้อะว่ะ” มันยิ้มตอบผมกลับมาน้อยๆ

“โหยยยยย ไอ้พระเอกเอ๊ยยยยย!!”

“กูไม่ได้พระเอกหรอกเว้ย แต่กูก็แค่รักนนท์และก็ไม่รู้จะทำยังไงดีเหมือนกันนอกจากคิดแบบนี้อะ” มันยักไหล่ “ว่าแต่กูขอถามอะไรมึงจริงๆอย่างดิวะ ไอ้ตี๋ เรื่องไอ้โจเนี่ยแหละ”

“ว่าไงวะ เรื่องไร”

“มึงคิดยังไงมั่งวะ กับการที่มันมาเที่ยวกับพวกเรา มาคลุกคลีอยู่กับพวกเรา หรือแม้แต่มันมาชอบไอ้นนท์เนี่ยอะ”

“มึงเอาจริงๆ ตรงๆเลยปะ ไอ้นัท”

“อืมม”

“กูอะ เฉยๆนะเว้ย กับตัวไอ้โจอะ กูก็เคยไม่ชอบมันตอนแม่งอยู่กับพวกไอ้แม็กซ์อยู่หรอก แต่พอมันถอยออกมา กูว่ามันก็โอเคอะว่ะ และการที่เป็นไอ้โจ ก็ยังดีกว่าเป็นไอ้แม็กซ์หรือไอ้เคอะไรพวกนั้นเยอะด้วย จริงๆนะเว้ย เพราะไอ้โจมันก็เงียบๆ ไม่เคยกวนตีนหรือหาเรื่องอะไรพวกเราก่อนเลย เว้นแต่ถ้ามึงถามเรื่องที่มันมาชอบไอ้นนท์เนี่ย กูก็คงบอกตรงๆว่ากูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่หรอก ก็มึงเป็นเพื่อนกูนี่กว่า มึงคบกับไอ้นนท์มาก่อนอะ ถ้าไอ้โจมันจะมาแย่งไอ้นนท์ไปจากมึง กูก็รับไม่ได้อะว่ะ”

“แต่ไอ้โจมันก็ไม่เคยทำแบบนั้นน่ะนะ” ไอ้นัทยักไหล่ “ถ้ามันคิดจะทำ มันก็คงทำไปตั้งนานแล้ว”

“งั้นเหรอวะ” ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ นี่แปลว่าระหว่างพวกมันสามคนคงมีเรื่องอะไรที่ผมไม่เคยรู้อยู่อีกแน่ๆ แต่ผมก็แค่เดาเอาเองน่ะนะ “แต่จะยังไง กูก็เคารพการตัดสินใจของพวกมึงสองคนนะ ไอ้นัท กูไม่ซีเรียสหรอกนะเว้ย มันไม่ใช่เรื่องของกูอะ กูขอแค่เห็นพวกมึงแฮปปี้ดี แค่นี้กูก็รู้สึกดีตายห่าแล้ว”

“เออ กูรู้เว้ย......” ไอ้นัทยิ้มออกมาอีกครั้ง “กูขอถามอะไรมึงอีกอย่างสิวะ ไอ้ตี๋”

“อะไรวะ”

คราวนี้ไอ้นัทหันทั้งตัวมาเผชิญหน้ากับผมตรงๆ และเมื่อผมได้สบตากับมัน ผมกลับต้องรู้สึกใจหายแบบแปลกๆชอบกล ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับมันหรือกับใครมาก่อนเลย บางอย่างในแววตาและสีหน้าของมัน ทำให้ผมต้องรู้สึกแบบนี้ บางทีมันอาจจะเป็นเพราะว่าผมไม่เคยเห็นมันหรือใครแสดงที่มีแววตาแบบนี้มาก่อนก็เป็นได้ และเปล่า.... ผมไม่ได้รู้สึกตกหลุมรักมันหรือรู้สึกอะไรแบบนั้นกับมันหรอก ไม่ได้ใกล้เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะว่าสิ่งที่ผมเห็นและรู้สึกได้นั้น ถึงผมจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันก็เป็นบางสิ่งที่ทำให้ไอ้นัท เพื่อนสนิทของผม ดูห่างไกลราวกับมันเป็นคนแปลกหน้าไปได้โดยปริยาย แววตาของมันมีความเศร้าที่ดูลึกล้ำยิ่งกว่าที่ผมเคยเห็นมาจากดวงตาของมัน ไม่ว่าในอดีตเมื่อไหร่หรือครั้งไหนก็ตาม

“ถ้าหากว่ากู.......” เสียงของมันจางหายไปพร้อมกับสายตาที่หลุบลงต่ำ

“ถ้าหากว่ามึงทำไมวะ ไอ้นัท” ผมเริ่มใจไม่ดี

“คือ สมมติว่ากลุ่มของเราเนี่ย ถ้าหากว่าพวกมึง..... มันไม่.... กู.......” มันอ้ำอึ้ง

“เฮ้ยย อะไรวะ ไอ้นัท” ผมเร่ง

“กู...... ไม่รู้ว่ะ กูว่ามันพูดยากว่ะเรื่องนี้อะ” มันส่ายหน้าเบาๆ และเมื่อมันสบตากับผม มันก็คงจะเห็นสีหน้ากังวลของผมล่ะมั้ง มันถึงได้ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะตบบ่าผมเบาๆ “เฮ้ยยย ชิบหายละ ไอ้ตี๋! มึงอย่าตีหน้าแบบนั้นสิวะ ไม่ใช่เรื่องเครียดอะไรขนาดนั้นหรอกเว้ย!”

ถ้าหากจะบอกว่าไอ้นนท์เป็นคนที่โกหกไม่เก่งและเก็บความรู้สึกของตัวเองไม่ได้เรื่องเลยแล้วล่ะก็ ไอ้นัทก็คงเรียกได้ว่าเป็นคนโกหกเก่งตัวพ่อเลยทีเดียว ถึงแม้ว่ามันจะไม่ค่อยโกหกใคร แต่ถ้าเป็นไอ้เรื่องโกหกเพื่อเก็บความรู้สึกของตัวเองนี่ล่ะก็ มันเก่งนักแหละ แต่ว่าเมื่อครู่นี้นั้น แม้แต่คนอย่างผมก็ยังดูออกเลยว่ามันเก็บความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ไม่มิดเลยแม้แต่นิดเดียว นี่ถ้าหากว่าคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ใช่ผมแต่เป็นไอ้ยุล่ะก็ มันคงโดนไอ้หมอนั่นยำจนเละไปแล้วล่ะมั้ง

“เอาดีๆ ไอ้นัท มึงเป็นอะไร มึงคิดอะไรอยู่วะ”

“กูไม่ได้คิดเหี้ยอะไรมากมายหรอกเว้ยยยย บอกแล้วไงว่ากูก็แค่เคยคิดเฉยๆอะว่า ถ้าหากวันนึงเราต้องห่างกันไป มันจะเป็นยังไง กูหมายถึงแบบว่า ตอนนี้อะ กลุ่มเรามันก็กำลังไปกันได้ดีไง ใช่มั้ยล่ะ พอมีนนท์มา อะไรๆมันก็ดีขึ้น กูก็แฮปปี้มากขึ้น มึงกับไอ้ป๊อปก็ลงตัวแล้ว หรือแม้แต่ไอ้คริสที่เพิ่งเจอเรื่องแย่ๆมาก็ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าหากว่าเราเรียบจบม. 3 กันไป พอขึ้นม. 4 เราอยู่กันคนละห้องหรืออาจจะคนละโรงเรียนไรเงี้ย มึงว่ามันจะเป็นยังไงวะ”

อ่ออออ.... ผมก็นึกว่าเรื่องอะไรเสียอีก

“สรุปคือมึงห่วงเรื่องไอ้นนท์ว่าถ้าเกิดต้องห่างกันไป แล้วไอ้โจมันจะคาบไปแดกจริงๆอะไรแบบนั้นใช่มะ ไอ้นัท”

“ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก.....” มันอึกอัก ดูเหมือนว่าผมจะถามได้ตรงจุดพอดีสินะ “เออ กูยอมรับก็ได้วะว่ากูก็เคยคิดแบบนั้นด้วยเหมือนกัน คือมันก็พูดยากนะเว้ย ไอ้ตี๋ เพราะกูเองก็บอกไปแล้วว่ากูเชื่อใจนนท์ แต่แม่งงงง กูเองก็ยังคิดอะไรเหี้ยๆแบบนั้นอยู่เลยอะ” มันส่ายหน้าเบาๆ “แต่เอาจริงๆกูก็คิดถึงเรื่องของพวกเราโดยรวมมากกว่าอยู่ดีว่ะ”

“อืมมมม ถ้ามึงพูดแบบนั้น กูก็ไม่รู้นะเว้ย ไอ้นัท พูดจริงๆเหมือนกัน แต่กูว่าเราก็คงไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไหร่หรอกมั้ง เพราะถึงถ้าสมมติว่าเราอยู่กันคนละห้อง เราส่วนมากก็ยังอยู่หอด้วยกันอยู่ดี หรือต่อให้อยู่กันคนละโรงเรียน แต่พวกเราก็ตัดกันไม่ขาดหรอกว่ะ มึงไม่คิดแบบนั้นรึไง”

“คิดดิวะ แต่บางทีกูก็รู้สึกเหงาๆนิดหน่อยเท่านั้นเอง บางทีกูคงความรู้สึกไวเกินไปมั้ง”

“มากกกก!!” ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ

“เออๆ กูผิดเองแหละ ไอ้เหี้ย”

“ส่วนเรื่องนนท์ กูก็คงบอกว่ามึงต้องไม่สงสัยในความรักของพวกมึงเหมือนที่มึงบอกกูนั่นแหละมั้งงง”

“เอออออ ไอ้สาดดด แม่งย้อนกูซะงั้นอะ ว่าแต่มึงเหอะ สบายใจขึ้นรึยัง เรื่องไอ้ควายนั่นน่ะ”

ผมอดที่จะหัวเราะกับชื่อที่ไอ้นัทใช้เรียกไอ้ป๊อปไม่ได้ “เออๆ กูสบายใจขึ้นแล้ว กูเองก็คงไม่ต่างจากมึงเท่าไหร่หรอกว่ะ ไอ้นัท ไอ้เรื่องคิดมากเนี่ย เอาเป็นว่ากูจะพยายามไม่ค่อยคิดอะไรให้มันเยอะแยะเกินไปก็แล้วกัน”

“เออ ดีแล้ว ไหนๆก็มาถึงทะเลแล้ว มึงก็ลองหาเรื่องทำอะไรโรแมนติกๆกับมันบ้างสักหน่อยสิวะ ไหนๆก็ไม่ค่อยจะมีโมเมนต์แบบนั้นกันไม่ใช่รึไง”

“มึงก็เหมือนกันนั่นแหละวะ ไม่ใช่แค่กูคนเดียวหรอก”

“โอ๊ยยยยย กูกะนนท์ออกจะหวานกันบ่อยไป มึงไม่ต้องมาห่วงพวกกูหรอก” มันหัวเราะ

หลังจากที่ผมคุยกับไอ้นัทจบ เราสองคนก็เดินออกจากห้องน้ำแล้วกลับไปยังโต๊ะของเรา ซึ่งก็ใกล้ถึงเวลาที่อาเมฆจะเช็คบิลแล้วกลับคอนโดพอดี และในขณะที่เราอยู่บนรถตู้กันนั้น ฝนที่ตกหนักมาตลอดก็เริ่มซาลงเล็กน้อย แต่เมื่อเรากลับไปถึงที่พักแล้ว ฝนก็ยังคงไม่หยุดตกพอให้เราออกไปเดินเล่นที่ชายหาดกันได้อยู่ดี

มันเป็นเรื่องจริงอย่างที่สุดที่ผมกับไอ้ป๊อปแทบไม่เคยมีช่วงเวลาโรแมนติกด้วยกันเหมือนคู่อื่นๆเขาบ้างเลย นานๆทีมันก็จะพูดหรือทำอะไรหวานๆให้ผมได้ประหลาดใจอยู่บ้าง อย่างเช่นนั่งกุมมือผม หรือหอมแก้มผมตอนผมเผลอ แต่โดยรวมแล้วสิ่งที่ใกล้เคียงกับช่วงเวลาโรแมนติกที่สุดที่เรามีกันเป็นกระจำและดูเหมือนจะบ่อยที่สุดเมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆแล้วก็คงเป็น การที่เรานั่งอยู่ในห้องเดียวกันเงียบๆ ต่างคนต่างอ่านหนังสือหรือเล่นเกมส์อะไรกันไปนั่นแหละมั้ง

นั่นคือหนึ่งในเหตุผลที่ผมค่อนข้างคาดหวังกับการมาทะเลครั้งนี้ค่อนข้างมาก เพราะอย่างน้อยๆ ผมก็คิดเอาไว้ว่าผมอยากจะออกไปเดินริมชาดหาดกับมันสองคนในตอนกลางคืน ภายใต้หมู่ดาวพร่างพราวบนท้องฟ้าที่หาดูไม่ได้ในยามค่ำคืนของเมืองหลวง แต่ทว่าฝันเหล่านั้นก็ต้องพังทลายลงไปเพราะฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกน้อยใจมากกว่าอย่างอื่นเลยก็คือ ถึงแม้ผมจะค่อนข้างแสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าผมรู้สึกเซ็งไอ้ฝนบ้านี่มากแค่ไหน แต่ไอ้ป๊อปกลับดูท่าทางไม่ค่อยเดือดร้อนเลยแม้แต่นิดเดียว สิ่งเดียวที่มันบ่นก็คือการที่มันอดไปเล่นน้ำทะเลให้ชุ่มปอดเพียงเท่านั้น ทำให้ผมรู้สึกว่าดูเหมือนมันจะไม่ได้คิดอยากจะไปเดินริมหาดกับผมเหมือนที่ผมคิดเลยสักนิดนะเนี่ย

สรุปว่าคืนนั้นหลังจากที่พวกผู้ใหญ่เข้านอนกันหมดแล้ว ผมกับไอ้ป๊อปก็เริ่มเล่าเรื่องราวของเราสองคนตั้งแต่สาเหตุที่ทำให้เราผิดใจกัน ไปจนถึงการที่เรากลับมาดีกันได้ให้พวกมันทุกคนฟัง เราคุยกันไปเรื่อยจนกระทั่งเข็มนาฬิกาเดินเลยข้ามเวลาเที่ยงคืนไปแล้ว ไอ้เคนจึงฟุบหลับลงไปบนตักของพี่แม็ทเป็นคนแรก

“เคน..... เคน.....” พี่แม็ทเขย่าตัวไอ้เคนเบาๆ แต่ฝันไปเถอะว่าไอ้ขี้เซานี่มันจะตื่นขึ้นมาน่ะ “แม่งงงง ใครใส่ยานอนหลับให้มันรึเปล่าวะ! ทำไมมันหลับสนิทได้ขนาดนี้เนี่ย หรือว่าแม่งจะเมาโค้กวะเนี่ย กูงง”

“ก็งี้แหละ ไอ้แม็ท ก็กูเคยบอกมึงแล้วไงว่าไอ้เคนแม่งหลับเก่งหลับลึกจะตายห่า ยิ่งถ้ามันเหนื่อยๆนะ แม่งหลับเป็นตาย ตอนนั้นที่กูเคยเล่าให้มึงฟังไงว่ากูเคยปลุกมันแล้วแม่งไม่ยอมตื่น จนกูถีบมันตกเตียงแม่งก็ยังไม่ตื่นเลยอะ”

“งั้นกูว่ากูเอามันเข้าไปนอนในห้องดีๆดีกว่าว่ะ สงสารมัน”

ผมมองดูพี่แม็ทช้อนตัวของไอ้เคนขึ้นบนอ้อมแขนแล้วค่อยๆยืนขึ้นด้วยความรู้สึกทึ่งๆ นี่ถ้าผมไม่รู้จักพี่แม็ทมาก่อนล่ะก็ ผมคงจะเผลอคิดไปแล้วนะเนี่ยว่าพี่เขาชอบไอ้เคนอยู่น่ะ

“ดูดิ ขนาดนี้แม่งยังไม่ยอมตื่นเลย เห็นมะ กูบอกแล้วว่าแม่งขี้เซาที่สุดในสามโลกแล้ว ไอ้เหี้ยเนี่ย” ไอ้เจย์หัวเราะเบาๆ

“พี่แม็ทแม่งโคตรแมนเลยว่ะ ยังกะอุ้มเจ้าสาวแน่ะพี่ โหหหห หล่อสาดดดด” ไอ้ป๊อปที่นั่งอยู่ข้างๆผมพูดขึ้นบ้าง

“ทะลึ่งและ ไอ้ป๊อป” พี่แม็ทหัวเราะเบาๆ “เออ งั้นกูเอามันเข้านอนเลยนะ พวกมึงจะนอนกันอยู่ที่นี่ใช่มะ ไม่เข้าไปในห้องใช่ปะ ถ้าจะเข้าไปก็เข้าไปเบาๆแล้วกัน กูก็จะนอนแล้วด้วยเหมือนกัน”

“อ้าว มึงจะไปนอนในห้องเหรอวะ”

“เออ สักงีบนึงมั้ง แล้วเดี๋ยวกูค่อยออกมาดูพวกมึงเป็นระยะๆ มึงคุยกันไปเหอะ อย่าเสียงดังรบกวนพวกอาเมฆเค้ามากก็แล้วกัน”

หลังจากที่พี่แม็ทอุ้มไอ้เคนเดินหายเข้าไปในห้องแล้ว ไอ้โจกับไอ้นนท์ก็หายไปตรงหลังครัวกันอีกคู่หนึ่งด้วยเหมือนกัน ผมเหลือบไปมองไอ้นัทเพื่อดูปฏิกิริยาของมัน แต่ก็ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติอะไรเลยสักนิดเดียว แต่สักพักหนึ่ง ไอ้นัทก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำด้วยอีกคนเหมือนกัน ตามมาด้วยไอ้ยุ และหลังจากที่พวกมันทุกคนกลับมาในห้องนั่งเล่นกันเหมือนเดิมครบทุกคนแล้ว เราก็เปิดหนังและนั่งคุยนั่งเล่นไพ่ด้วยกันอีกพักใหญ่ๆ จนในที่สุดไอ้นนท์ที่นั่งดูพวกเราเล่นไพ่กันอยู่ก็เริ่มสัปหงกจนได้ ดังนั้นไอ้นัทจึงพาแฟนของมันไปนอนอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องรับแขกตรงทางก่อนที่จะเดินออกไปสู่ประตูหน้าคอนโด ส่วนไอ้โจก็เอาแต่นั่งอ่านหนังสืออะไรของมันไม่รู้อยู่คนเดียวบนโซฟามาตลอดตั้งแต่แรก

“เฮ้ย ไอ้โจ มึงไม่มาเล่นไพ่ด้วยกันจริงๆเหรอวะ” ผมออกปากชวนมันอีกครั้ง

“ไม่อะ พวกมึงเล่นกันไปเถอะ” มันตอบพร้อมกับพลิกเปลี่ยนหน้าหนังสือ

“ว่าแต่มึงอ่านหนังสืออะไรของมึงวะ ไอ้โจ กูเห็นมึงอ่านมาตั้งแต่บนรถและ” ไอ้ยุถาม

“นิยายแปล”

“แล้วทำไมมึงอ่านนานจังวะ ยังไม่จบอีกเหรอ”

“จบไปเล่มนึงแล้ว แต่กูพกมาสามเล่ม”

“แล้วมันเกี่ยวกับอะไรวะ ไอ้โจ” ผมถาม

“สืบสวน”

“เฮ้ยยย หน้าปากนั่นมันหนังสือเรื่องใหม่ของ ‘ไมเคิล คอนเนลลี่’ ใช่มั้ยวะ ไอ้โจ” ไอ้คริสถามขึ้นบ้าง

“ใช่”

“ของนักเขียนคนนั้นกูก็อ่านเหมือนกันนะเว้ย แต่เล่มใหม่นี่กูยังไม่ได้ซื้อเลย”

“ว่าแต่นี่มึงก็เป็นหนอนหนังสือเหมือนกันเหรอวะเนี่ย ไอ้โจ” ไอ้ป๊อปพูดขึ้นบ้าง “มึงแม่งชอบอ่านหนังสือเหมือนกูเลยยยยยยย”

“ถุ๊ยยยย!!” ทั้งผม ทั้งไอ้เจย์ และไอ้ยุพูดขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน

“หน้าอย่างมึงเนี่ยนะ ชอบอ่านหนังสือ! ไอ้ควาย!” ไอ้เจย์ตบหัวไอ้ป๊อปเบาๆ

ผมเหลือบไปเห็นไอ้โจเองก็กำลังยิ้มที่มุมปากน้อยๆอยู่ด้วยเหมือนกัน อืมมมม ผมว่าที่จริงมันก็ไม่ใช่คนนิสัยเลวร้ายอะไรจริงๆนั่นแหละนะ

“เฮ้ย ว่าแต่นี่ฝนหยุดตกแล้วนี่หว่า ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ กูไม่ได้สังเกตเลย” ไอ้ป๊อปเปรยขึ้นเบาๆพร้อมกับมองออกไปนอกระเบียง

“สักพักแล้ว ก็มึงมัวแต่กินขนมแล้วก็พูดมากอยู่อะดิ ไอ้ป๊อป” ไอ้คริสตอบ

“งั้นอีกเดี๋ยวมึงลงไปเดินเล่นข้างล่างกับกูหน่อยมั้ย ไอ้ยิ่ว” มันหันมายักคิ้วให้ผม

ผมรู้สึกหัวใจพองโตขึ้นทันที “มึงพูดจริงอะ”

“ก็เออดิ อยากไปมะล่ะ”

“เฮ้ย มันจะดีเหรอวะ พวกมึง นี่มันก็ดึกมากแล้วนะเว้ย” ไอ้ยุพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่ค่อยแน่ใจ

“เออ นั่นดิ ไอ้ป๊อป จะดีเหรอวะ แถมแม่งคงแฉะด้วยอะ” ผมหลุดปากออกไป

แต่ก่อนที่ไอ้ป๊อปจะทันได้ตอบอะไรกลับมา เสียงประตูห้องนอนของพี่แม็ทกับไอ้เคนก็ถูกเปิดออกขึ้น และอีกสักพักหนึ่งไม่นาน พี่แม็ทก็โผล่หน้าเข้ามาหาพวกเราในห้องนั่งเล่นพร้อมกับน้ำเปล่าขวดหนึ่งในมือ

“อ้าว ไอ้นัทกับไอ้นนท์นอนแล้วเหรอวะ”

“ช่ายยยย”

“แล้วพวกมึงอะ ใกล้จะนอนกันยัง ไอ้คริสหน้าง่วงมากเลยนะน่ะ ไหวมั้ยวะ เรา”

“อีกเดี๋ยวก็คงนอนแล้วครับ พี่ ยุเองก็ง่วงแล้วเหมือนกัน” ไอ้ยุตอบแทนไอ้คริส

“เออ กูว่าก็คงอีกพักหนึ่งอะว่ะ เก็บๆของแป๊บนึงก็คงจะนอนแล้วล่ะ” ไอ้เจย์หันไปพูดกับพี่ชายของมัน “แต่เดี๋ยวไอ้ป๊อปกับไอ้ตี๋มันว่ามันจะลงไปเดินเล่นข้างล่างหน่อยอะว่ะ”

“ตอนนี้น่ะเหรอวะ”

“ช่ายยยย แต่ดูเหมือนไอ้ตี๋มันจะไม่อยากไปแล้วอะดิ พี่” ไอ้ป๊อปยักไหล่

“เอ๊า ถ้ามึงอยากไปก็ไปดิวะ” ผมรีบตอบ

“เออๆ ยังไงมึงก็เอาไฟฉายไปด้วยละกัน แล้วก็ดูแลกันดีๆด้วย ไม่ต้องพกกระเป๋าเงินไป เอามือถือไปแค่เครื่องเดียวพอ เข้าใจรึเปล่า” พี่แม็ทสั่ง

“โอเคคร้าบบบบบ ไม่ต้องห่วงหรอกน่าาาา น้องป๊อปจะดูแลแฟนน้องป๊อปคนนี้อย่างดีเองงงงง” มันกอดคอผม

“ไอ้เหี้ย!! ปล่อยกูเลยมึง! กูดูแลตัวเองได้น่า ไอ้สาดดดดด!!” ผมรีบยกแขนมันออก รู้สึกเขินๆชอบกล

“ไงก็ระวังตัวกันด้วยล่ะ พี่เข้าไปนอนต่อก่อนละ”

“แล้วขวดน้ำนั่นทำไมวะ ไอ้แม็ท แล้วไอ้เคนอะ ยังหลับอยู่รึเปล่า”

“อ๋อ กูก็เอาเข้าไปเผื่อหิวน้ำอะดิ ไปและๆเว้ย เจอกันอีกทีพรุ่งนี้เช้า”

“ฝันดีคร้าบบ พี่แม็ท” พวกเราประสานเสียงกันออกมาแบบเกือบจะพร้อมเพรียงกัน

“งั้นเราไปกันเหอะ ไอ้ตี๋ เดี๋ยวจะเช้าซะก่อน” ไอ้ป๊อปพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน “เอ๊อะ แต่เดี๋ยวกูไปเยี่ยวก่อนแป๊บนึง มึงรอกูแปร๊บบบบบ”

“เออๆ ไปเหอะ กูไปหยิบไฟฉายแล้วใส่รองเท้ารอก่อนก็แล้วกัน” ผมลุกขึ้นยืนและเดินไปหยิบไฟฉายขึ้นจากชั้นวางทีวี จากนั้นจึงเดินออกจากห้องนั่งเล่นไป

และในตอนที่ผมกำลังจะเดินผ่านไอ้นัทกับไอ้นนท์ไปอยู่นั้น ผมก็ได้ยินเสียงของไอ้นัทกระแอมขึ้นเบาๆ พอผมก้มลงมองดูแล้วก็เห็นว่ามันกำลังนอนลืมตายิ้มให้ผมอยู่

“หึๆ ดีใจด้วยนะมึง” มันพูดเบาๆ

“ดีใจเหี้ยอะไรของมึงวะ”

“ไม่รู้สิ มึงคิดว่ากูพูดถึงเรื่องอะไรล่ะ” มันเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ให้ตายเถอะ นี่ตกลงว่าไอ้นัทมันจะอ่านใจผมออกจริงๆใช่มั้ยเนี่ย

“กวนตีนนะมึง ไอ้เชี่ยนัท!” ผมใช้เท้าเขี่ยสีข้างมันเบาๆ “ทำไมยังไม่นอนอีกวะ เฮอะ แล้วนี่มึงได้ยินที่พวกกูคุยกันมาตลอดเลยรึไง”

“กวนตีนเหี้ยไร กูก็แค่เคลิ้มๆ แล้วได้ยินพวกมึงคุยกันแว่วๆแค่นั้นเองเหอะ แต่พอเมื่อกี้กูเห็นมึงทำหน้าทำตาดูมีความสุขดี ก็เลยแสดงอยากความยินดีด้วยเท่านั้นเอง”

ผมหน้าแดง แต่ก่อนที่ผมจะทันได้ตอบอะไรมันกลับไป ไอ้ป๊อปก็เปิดประตูห้องน้ำออกมาพอดีเสียก่อน

“อะเครรร ไปกันเถอะ ไอ้ยิ่ว.....” มันพูดพร้อมกับเดินเข้ามาหาผม “อ้าวว ไอ้หัวถั่ว ยังไม่หลับอีกเหรอวะ”

“หลับแล้วมั้ง ไอ้หัวทุย” ไอ้นัทหลับตาลงพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก “พวกมึงรีบไปรีบกลับก็แล้วกัน และขากลับมาก็เบาๆหน่อยนะเว้ย กูไม่อยากให้นนท์ตื่นน่ะ"”

“โอเคๆ” ไอ้ป๊อปรับคำ ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้กับผม “ไปกันเหอะ”


ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
เมื่อเราลงมาถึงชั้นล่างและเดินออกจากตัวอาคารแล้ว ผมก็ต้องรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่อากาศภายนอกนั้นเย็นกว่าที่ผมคิดเอาไว้เยอะเลยทีเดียว ลมที่พัดก็ทั้งแรงและชื้น พื้นทรายก็แฉะเสียจนไอ้ป๊อปเสนอให้พวกเราถอดรองเท้าทิ้งไว้แล้วเดินเท้าเปล่ากันน่าจะดีกว่า ตอนแรกผมก็รู้สึกกังวลอยู่เหมือนกัน แต่มันก็พูดถูกว่าดึกป่านนี้แล้วใครมันจะมาขโมยรองเท้าของเราไปกัน นอกเสียจากเต่าทะเลจะมาคาบไป

“ตอนแรกกูคิดว่าเราจะไม่ได้ลงมาเดินริมหาดกันแบบนี้แล้วนะเนี่ย” ไอ้ป๊อปพูดขึ้น

“มึงคิดเหรอวะ” ผมหันไปหามันทันที

“ช่ายยย ตอนแรกกูคิดว่าตอนหัวค่ำ พวกเราจะได้ลงมาวิ่งเล่นไล่จับปูลมกันซะอีก” มันหัวเราะ “แต่ฝนแม่งเสือกตกซะนี่ สาดดดด น้ำก็ไม่ได้เล่น เซ็งเลยปะล่ะ แม่งงงงง”

“และไอ้คำว่า ‘พวกเรา’ ที่มึงพูดนี่หมายถึง.....”

“เอ๊า ก็หมายถึงพวกเราทุกคนนี่น่ะสิวะ ก็มึง กู ไอ้เจย์ ไอ้เคน ไอ้คริส ไอ้น....” มันนับนิ้ว

“พอและๆ กูรู้และ ไอ้สัตว์” ผมถอนหายใจเบาๆ รู้สึกทุเรศตัวเองจริงๆที่เผลอดีใจไปแว้บหนึ่งเมื่อครู่นี้

“อะไรวะ มึงเป็นอะไรของมึงวะ ไอ้ยิ่ว”

“เปล่า ไม่ได้เป็นไรนี่”

ไอ้ป๊อปทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ และแล้วจู่ๆมันก็ใช้มือขวาสะกิดมือซ้ายของผมเบาๆ “.....จับมือกับกูมะ”

คราวนี้ถึงตาผมต้องหันไปทำหน้าแปลกใจใส่มันบ้างแล้ว “มึงอยากจับมือกับกูเหรอวะ”

“ครวย งั้นไม่จับก็ได้วะ” มันทำหน้างอน จะมีสักกี่คนนะที่รู้ว่าที่จริงแล้วไอ้ป๊อปมันก็ขี้งอนไม่น้อยเหมือนกัน

“ก็เห็นปกติมึงจะทำอะไร ไม่เห็นจะบอกกูก่อน กูก็เลยแปลกใจอะดิวะ สาดดดด”

“ทำอะไรของมึงนี่หมายถึงอะไรวะ รึว่ามึงหมายถึงเมื่อคืนก่อนนี้ที่กู.........” มันหันมาทำหน้าเจ้าเล่ห์และยักคิ้วให้ผม

“ครวย! ใช่เรื่องมั้ยเนี่ย มาพูดถึงเรื่องนั้นตอนนี้เนี่ยนะ!” ผมต่อยลงบนหัวไหล่ของมันจนมันต้องร้องโอ๊ยออกมา

“เหี้ยไรเล่า! ก็มีกันอยู่แค่สองคนเนี่ย จะเป็นไรไป ใครมันจะมาได้ยินวะ สาดดด”

“เออ! แต่อุตส่าห์ได้มาเดินกันสองคนริมหาดตอนกลางคืนเงียบๆแบบนี้ทั้งที มึงจะคุยเรื่องดีๆทำตัวหวานๆกับกูสักหน่อยไม่ได้เลยรึไงวะ แม่งงงงง”

“แน่ะ มึงหงุดหงิดกูเรื่องนี้อยู่จริงๆด้วย ไอ้ยิ่ว”

“อะไรของมึง” ผมนิ่วหน้า

“เฮ้ยยย นี่ ไอ้ยิ่ว มึงไม่พอใจอะไรกูมึงก็บอกกูมาตรงๆสิวะ มึงก็รู้ไม่ใช่รึไงว่ากูแคร์มึงมากนะเว้ย”

“กูไม่ได้ไม่พอใจอะไรมึงงงง ไอ้ป๊อปปป แต่เมื่อกี้อะ มึงพูดจากวนตีนไง กูก็เลย....”

“ก็เลยอะไร” มันถามซ้ำ “มึงแน่ใจนะว่ามึงไม่ได้คิดอะไรจริงๆน่ะ ไม่ได้งอนกูที่แบบว่า มีแฟนอย่างกู โง่ๆอย่างกู หวานก็ไม่เป็น จนทำให้มึงรู้สึกน้อยใจอะไรมั่งเลยรึไง”

ผมอึ้งๆไป “อะ.... ก็เอออะดิวะ นี่มึงคิดมากไปปะเนี่ย ไอ้ป๊อป”

“จับมือกูหน่อย เร็ว” มันยื่นมือมาให้ผม

ผมคว้ามือของมันมากุมเอาไว้ แล้วจากนั้นเราสองคนก็เดินกันต่อไปเงียบๆอีกพักหนึ่ง ลมเย็นๆที่พัดมาปะทะร่างกายของผม ทำให้ผมต้องห่อตัวเพราะความหนาว

“หนาวเหรอวะ” ไอ้ป๊อปถามพร้อมกับดึงตัวของผมเข้าไปเดินชิดกับมันแบบไหล่ชนไหล่

ผมยิ้มให้กับตัวเองน้อยๆ แล้วยกแขนขึ้นโอบไหล่ของมันเอาไว้

“นี่ ไอ้ยิ่ว..... มึงเป็นแฟนกูเนี่ย มึงมีความสุขมั้ยวะ” จู่ๆมันก็ถามขึ้น

“มีสิวะ” ผมตอบ “มีมากด้วย”

“กูรักมึงนะเว้ย”

“อื้ออ กูรู้”

“ถึงกูจะแสดงออกไม่เก่ง ถึงกูจะโง่ แต่กูก็รักมึงจริงๆนะเว้ย ไม่ใช่แค่รักแบบเพื่อนด้วย”

ผมชักเริ่มจะเอะใจ “ทำไมมึงถึงพูดแบบนั้นวะ ไอ้ป๊อป......”

มันอึกอักนิดหน่อย “ก็กูคุยกับไอ้นัทมันมานิดนึงเมื่อตอนหัวค่ำ แล้ว........”

“ไอ้เวรเอ๊ยยยยยย” ผมเผลอสบถออกมา

“ก็มึงไม่ยอมพูดกับกูตรงๆเองนี่หว่า”

ผมเกาหัวแกรกๆ “เออๆ กูขอโทษ แต่กูก็ไม่อยากให้มึงต้องไม่สบายใจนี่หว่า ไอ้ป๊อป กูมันก็แค่คิดมากไป เอาแต่ใจตัวเองไปงั้นแหละ กูเข้าใจมึงเว้ย กูไม่ได้คิดอะไรแล้วล่ะ”

“ไม่จริงอะ ไอ้สัตว์” มันหยุดเดินและหมุนตัวของผมให้หันไปหามัน “ถึงกูจะหัวไม่ดี แต่กูก็พอมองออกหรอกนะว่าตอนไหนที่มึงโกหก ตอนไหนที่มึงพูดความจริง และตอนไหนที่มึงกำลังไม่สบายใจน่ะ ไอ้ยิ่ว...... กูเคยพลาดมาแล้วรอบนึง เพราะงั้นหลังจากนี้กูจะพยายามไม่อ่านความคิดของมึงผิดพลาดไปอีกแล้ว กูไม่อยากเข้าใจอะไรมึงผิดไปอีกแล้ว”

ผมอึ้ง.... อึ้งจริงๆ นานๆครั้งพอไอ้ป๊อปมันจะพูดอะไรแบบนี้ มันก็ทำให้ผมต้องประหลาดใจได้ทุกครั้งสิน่า

“มึงบอกกูมาตรงๆซิ ไอ้ยิ่ว ว่าตกลงมึงคิดอะไรอยู่กันแน่ กูอยากจะเข้าใจมึงยิ่งกว่าใครๆนะเว้ย เพราะกูไม่ใช่แค่เพื่อนของมึงแล้วไง”

ผมจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีดำขลับของมันก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ “โอเค..... ไอ้ป๊อป กูขอโทษ กูยอมรับว่ากูก็ไม่ค่อยสบายใจจริงๆ ไอ้เรื่องที่มึงไม่ค่อยจะแสดงออกว่าเป็นแฟนกับกูเพราะว่าเรายังไม่ได้บอกใครมันก็เรื่องนึง ไอ้เรื่องที่มึงเป็นคนแบบนั้นเอง มันก็อีกเรื่อง กูเข้าใจว่าเราเริ่มต้นกันจากความเป็นเพื่อนและมึงก็เป็นมึงแบบนี้นี่แหละ กูไม่ควรคิดมากไปเอง แต่แบบว่า..... ไม่รู้ดิ ลึกๆแล้วกูกังวลไง ไอ้ป๊อป กูอะรักมึงมาก กูเริ่มรู้สึกแบบนี้กับมึงมาตั้งแต่.... ไม่รู้สิวะ ตั้งแต่มอหนึ่งแล้วมั้ง แต่มึงเพิ่งจะมารู้สึกรักกูก็ตอนที่เราทะเลาะกัน กูก็เลยกลัวไง กลัวว่าความรักของมึงมันจะไม่ใช่แบบของกู กูกลัวแค่ว่าที่มึงบอกรักกูก็เพราะตอนนั้นมึงจะเสียกูไปในฐานะเพื่อน และจริงๆแล้วมึงก็ไม่ได้ชอบผู้ชาย ไม่ได้ชอบกู แต่แค่รักกูแบบเพื่อนมากๆๆๆคนนึง แต่พอในอนาคตมึงโตขึ้น เจอผู้หญิงสวยๆดีๆ มึงก็จะไปรู้สึกชอบเค้าเข้า อะไรแบบเนี้ย.....”

ไอ้ป๊อปฟังผมพูดจนจบแล้วนิ่งไปครู่หนึ่ง “แม้แต่ตอนที่กูกอดมึง จูบมึง แล้วก็..... มึงก็ยังคิดแบบนั้นอยู่อีกเหรอวะ”

ผมพยักหน้าเบาๆ “ก็นั่นน่ะสิ กูแม่งไม่ไหวเลยเนอะ”

“ไม่ๆเว้ย ไอ้ยิ่ว กูเข้าใจมึง กูซะอีกสิที่แม่งเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องเลยว่ะ” มันหัวเราะในลำคอเบาๆ แต่ทว่าผมก็ไม่เห็นว่ามันจะรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องตลกตรงไหน

“เฮ้ยย ไอ้ป๊อป กูขอโทษเว้ย กูไม่ได้คิดแบบนั้นและไม่ได้ตั้งใจจะหมายความว่าแบบนั้นเลยนะเว้ย” ผมเริ่มใจไม่ดี

“ไม่หรอก มึงพูดถูกแหละ กูมันแสดงออกไม่พอเอง กูมันโง่ไง ทำอะไรก็ไม่ค่อยจะถูกใจใครหรอก ทำอะไรไม่คิด ก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”

“ไอ้ป๊อป เฮ้ยยย มึงง กูขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจจะหมายความว่าแบบนั้น.......” ผมรู้สึกราวกับหัวใจของผมมันกำลังถูกคำพูดของไอ้ป๊อปบีบแน่นจนรู้สึกเจ็บข้างในอกไปหมด

“กูขอโทษจริงๆว่ะ ไอ้ยิ่ว กูไม่เคยรู้เลยว่ามึงรู้สึกแบบนี้มาตลอด” มันหันมาสบตากับผม ดวงตาของมันดูเป็นประกายเล็กน้อย

“ไอ้ป๊อป.......”

“ไอ้ยิ่ว.....” มันพูดพร้อมกับดึงตัวของผมเข้าไปกอด “กูรักมึงเว้ย กูรักมึงจริงๆ มึงอาจจะไม่แน่ใจในคำพูดและการกระทำของกู แต่กูก็ทำได้แค่บอกให้มึงแน่ใจจริงๆว่านี่ไม่ใช่แค่คำว่ารักของเพื่อนคนนึงแน่นอน มันก็ใช่ ที่ก่อนหน้านี้กูอาจจะคิดกับมึงแค่เพื่อน แต่พอตอนนั้นที่กูสูญเสียมึงไป กูถึงได้รู้ไง กูถึงได้รู้ใจตัวเองว่า ‘ไม่ใช่’ กูไม่ได้รักมึงแค่เพื่อน แต่กูต้องการมึงให้มาอยู่ข้างกายกูตลอดไปในฐานะที่มากกว่านั้น มึงเข้าใจกูมั้ยวะ”

ลมหายใจอุ่นๆของไอ้ป๊อปปะทะลงบนซอกคอของผมพร้อมกับเสียงกระซิบที่สั่นน้อยๆไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่เต็มเปี่ยมในทุกๆคำพูดที่มันเลือกใช้ออกมา

“กูเข้าใจ ไอ้ป๊อป กูเข้าใจมึง กูขอโทษ” ผมกอดมันตอบกลับ เราสองคนยืนกอดกันอยู่แบบนั้นครู่หนึ่ง ก่อนที่มันจะดันตัวของผมออก

“มึงเป็นคนเดียวนะเว้ย ไอ้ยิ่ว ที่เข้าใจกูและรักกูยิ่งกว่าใครๆ กูไม่คิดหรอกว่าในอานคตจะมีใครมารักกูได้เท่าที่มึงรักกูอะ”

ผมยิ้มออกมาเล็กน้อย “มันก็แหงสิวะ สาดดด ใครเค้าจะมารักมึงได้เท่ากูเล่า ทำให้มึงทุกอย่างขนาดนี้ ทั้งให้ลอกการบ้าน ทำรายงานให้ ทั้งติวหนังสือ ดูแลชมรมแทนมึง ช่วยมึงออกกำลัง บังคับมึงให้ไปวิ่ง หาข้าวหาปลาให้มึงแดก ดูแลมึงตอนป่วย สารพัดสารเพ ไอ้เหี้ย ผู้หญิงคนไหนจะมาทำให้มึงได้อย่างกูวะ”

มันหัวเราะชอบใจ “ก็นั่นน่ะสิวะ”

“แล้วไงต่อล่ะ ตอนนี้”

“อะไรแล้วไงต่อ” มันถามกลับ

“จะเดินต่อมั้ย หรือจะเดินกลับเลย”

“อืมมมม” ไอ้ป๊อปมองไปทั้งข้างหน้าและข้างหลังครู่หนึ่ง ก่อนจะคว้ามือของผมไปกุมเอาไว้เหมือนเดิม “ไปข้างหน้ากันดีกว่าว่ะ”

“แล้วจะไปถึงไหนวะ”

“ไปถึงนู่นนนนนนนนนนนนนน” มันชูไฟฉายขึ้นส่องไปยังความมืดมิดเบื้องหน้า “นู่นนนนนนนนนนนนนนนนนเลยยยยย”

“ไอ้เหี้ยยย! ใครจะไปเดินไหววะ! พูดเป็นเล่นไป มึงนี่แม่งงงง”

“เอ้า กูไม่ได้พูดเล่นนะเว้ย!” มันยืนยัน “ก็กูอยากจะเดินจับมือกับมึงแบบนี้ไปข้างหน้าต่อไปเรื่อยๆๆไง กูไม่อยากเดินกับใครหรือไปหาคนเดินจูงมือด้วยเอาข้างหน้าแล้ว มันมืด กูกลัว”

ผมต้องใช้เวลาอึดใจหนึ่งกว่าจะเข้าใจสิ่งที่มันพูด “โอ๊ยยยยย ไอ้เหี้ยยยยยย!”

“เหี้ยตรงไหนวะ สาดดดดด กูก็แค่อยากจะมีมึงเดินไปข้างๆกูแบบนี้ไปตลอด ไปจนถึงอนาคตข้างหน้านู่นนน มันก็แค่นั้นเอง” มันยักคิ้ว

“พอได้ทีละเอาใหญ่เลยนะ ไอ้ทุยเอ๊ยยย!” ผมส่ายหน้าพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “บทจะหวานแล้วก็ทำหวานนนนซะ ไอ้เหี้ย! กูจะอ้วกว่ะ แม่งไม่ชินเลย!”

“เออ กูก็ว่างั้นเหมือนกันว่ะ” มันยอมรับพร้อมกับหัวเราะออกมาด้วยเหมือนกัน “งั้นจะเอาไงดี สรุป หวานไปก็ไม่ดีอีก”

“เอาแบบเดิมละกัน กูว่าดีสุดแล้วว่ะ ขอแค่นิดๆหน่อยๆไม่ให้จืดชืดก็พอ โอเคมะ”

“อะ โอเคร ขอมาก็จัดไป” มันตอบพร้อมกับชะโงกหน้าเข้ามาจุ๊บลงบนปากของผมเบาๆ “มีแฟนฉลาดน้อยก็ทำใจหน่อยนะมึง”

“เอาเหอะ ตราบเท่าที่มันไม่โง่ขนาดลืมไปว่ามันรักกูก็โอเคแล้วล่ะวะ กูว่า” ผมยิ้มกว้าง

“วันที่กูลืมว่ากูไม่ได้รักมึง ก็คงเป็นวันที่กูลืมหายใจอะว่ะ ไอ้ยิ่วเอ๊ยยยย”

ผมกับมันมองหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปล่อยก๊ากออกมาพร้อมกันทั้งคู่ เราสองคนหัวเราะราวกับคนบ้าอยู่แบบนั้นครู่หนึ่ง ก่อนจะกอดคอกันเดินกลับไปยังที่พักของเราพร้อมกับหัวใจที่พองโตขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
โอยยยยยยยยยย เป็นตอน b ที่ยาววววววววววที่สุดที่เคยเขียนมา!!!

หวังว่าจะชดเชยกับที่ผมทำไฟล์หายไปได้นะครับ ^________^"

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด