7(มหาลัยชีวิต)
สิบเวรหิ้วปีก ต้องบอกว่าหิ้วปีกจริง ๆ เพราะตัวสิบเวรใหญ่มาก สู่และกล้ามเป็นมัด ๆ พลักร่างนครให้ถลาเข้าไปในห้องโถงรวม ซึ่งตอนนี้ ทุกคนกำลังเปลือยกายท่อนบนกัน เห็นทั้งดำทั้งขาว ทั้งกระดำกระด่าง บางคนก็กำลังถูกกร่อนหัว ทรงผมที่ว่าเท่ห์ มาเจอ ปัตตะเลี่ยนของทหารรุ่นพี่ทั้งหมด
“ชื่อไร” เสียงนายสิบอีกคนถามขึ้น
“นครครับ ชื่อนคร” นครบอกเสียงตะกุกตะกัก
“พี่ไม่มีชื่อนี้ครับ” นายสิบดูรายชื่อแล้วบอกกับสิบเวร
“เออ ผู้กองอัศวินฝากมา ก็เพิ่มชื่อเข้าไปซิวะ”
“ครับ ๆๆ” รีบเพิ่มชื่อเข้าบัญชี
“ชื่อ นามสกุลด้วยครับ” หันมาทางนคร
“นายนคร เปี่ยมจริตครับ” นครบอกเบา ๆ
“ถอดเสื้อออก” เสียงสิบเวร ตะคอกด้านหลัง นครรีบถอดเสื้อออก ผู้ชายที่ไม่เคยโดนแดด ไม่เคยทำงานหนักร่างกายภายในร่มผ้าก็จะขาวเนียน ผ่องเป็นธรรมดา สายตาหลาย ๆ คู่หันมามอง
“เฮ้ยถ้ามึงเป็นผู้หญิงนี้ เสร็จกูแน่” เสียงสิบเวรพูดต่อ
“เอาชุดนี้ไปเปลี่ยน E1” E1 คือ รหัสเรียกตัวพลทหาร ก็จะมี A1-A20, B1-B20, C1-C20, D1-D20 นครมาแบบพิเศษ จึงได้ E1 แทน ชุดที่ได้เป็นเสื้อคอวีสีเขียวขี้ม้า กางเกงขาสั้นสีเขียวขี้ม้าเหมือนกัน
“เปลี่ยนชุด แล้วก็ไปตัดผมนะ” นายสิบบอกนครเบา ๆ นครหันไปมองตรงหน้าประตู เห็นมาโปรดยืนยิ้มให้ ก็เลยไปหาที่มีฉากเปลี่ยนเสื้อผ้า
“เฮ้ย มึงจะไปไหน” เสียงสิบเวรตะคอกอีกครั้ง
“เปลี่ยนเสื้อผ้าครับ” นครตอบหน้าตาตื่น
“เปลี่ยนมันตรงนี้ อายอะไรผู้ชายด้วยกัน หรือมึงเป็นตุ๊ดเป็นแต๋ววะ”
“เปล่าครับ”
“เปล่ามึงก็รีบเปลี่ยน” นครรีบถอดกางเกงออก พอกางเกงหลุด สายตาหลาย ๆ คู่ก็หันมามอง คงวิจารณ์หุ่นมั่งหรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้
“หุ่นมึงนี้น่าฟัดวะ ถ้ามึงไม่ใช่ลูกหลานผู้กอง กูเอามึงแล้ว” เสียงเปรย ๆ ดังมาจากข้าง ๆ นครจึงรีบใส่เสื้อผ้า และเก็บสิ่งของทั้งหมดลงถุงพลาสติก เพื่อเก็บเข้าคลัง
“มาทางนี้ E1” เสียงนายสิบ คนเมื่อกี้เข้ามารับถุงเสื้อผ้าและสิ่งของมีค้าของนคร
“นายมาแบบพิเศษ จะไม่มีบัดดี้ ผมจะเป็นบัดดี้คุณ” นครมองหน้าคนพูดเหรอหรา
“ไม่รู้ว่าผมเป็นพี่หรือคุณเป็นพี่” ยังคงถามต่อ เมื่อเอาถุงเข้าเก็บในชั้น
“ผม 23 ครับ” นครตอบ
“อือ ถ้าอย่างนั้นเราก็เท่ากัน ผมชื่อ สิบตรีศรีไพร เรียกหมู่ไพรก็ได้ครับ”
“ครับหมู่ไพร”
“เดี๋ยวเราไปตัดผมกัน” หมู่ไพรพานครกลับออกมาจากห้องคลังอาวุธที่ใช้เก็บสิ่งของพลทหารใหม่ชั่วคราว ออกมาหลายคนกำลังโดนตัดผม อีกหลายคนก็นั่งรอ บางคนก็นอนหมดสภาพเนื่องจากเมานั้นเอง แต่เขาก็มีวิธีแก้ ก็คือ ลากออกไปหลังกองร้อย แล้วใช้น้ำสาดให้ฟื้นจากนั้นก็สั่งกลิ้งไปมา จนไม่เห็นสภาพคนเลย
“มาตรงนี้ครับ E1” หมู่ไพรพาไปนั่งข้างนอกแล้วเอาปัตตะเลี่ยนอีกอันออกมา เสียงปัตตะเลี่ยนทำให้รู้ว่าการใช้งานคงหนักหนาสาหัสมาแล้ว เพราะเสียงมันไม่คงที่ แม้แต่ตอนที่ปลายปัตตะเลี่ยนจรดลงผิวหนังมันก็กัดผิวหนังแล้ว จนสะดุ้ง
“เออ น่า อดทนหน่อยวะ กันไม่ทำให้เลือดออกหรอก ต้องเสร็จก่อนไปกินข้าวเย็นแน่” ก็เลยนั่งให้หมู่ไพรตัดผมต่อไป สักพักใหญ่ ก็เสร็จ แล้วอีกหลายคนก็มาเตรียมตัวรอ
“ไปล้างน้ำก่อน แล้วมารอผมอยู่ในห้องนี้นะครับ” หมู่ไพรบอกก่อนตัดผมให้คนต่อไป นครจึงเข้าห้องอาบน้ำทหาร ที่เป็นบ่อปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่ ถูกแบ่งออกเป็นสองบล็อก ข้างในนั้นโล่งมีเพียงฝาผนังกั้นข้างนอก แต่ก็ไม่ปิดมิด คนที่ยื่นข้างนอกจะมองไม่ค่อยเห็นแต่คนข้างในมองออกไปข้างนอกจะเห็น หรือคนที่ยื่นบนกองร้อยก็จะเห็นว่าภายในเขาทำอะไร เนื่องจากช่องลมนั้นไม่มี มันโล่ง เป็นการป้องกันการหลบหนี การเอายาเสพติดมาเสพ หรือการทำร้ายกัน ภายในห้องอาบน้ำมีพลทหารรุ่นพี่ยืนคุมอยู่สามสีคน เมื่อนครเข้าไป รู้สึกจะได้รับความสนใจมาก ๆ เหมือนกัน
“เฮ้ย เด็กผู้กองหรอมึง” พลทหารรุ่นพี่คนหนึ่งพูดขึ้น
“ระวังนะเว้ย มึงกูจะสวนรูมึง ขาว ๆ เนียนอย่างนี้กูชอบ” อีกคนเสริม ทำให้หลายคนยิ้มบางก็หัวเราะ
“เป็นเด็กพี่ไหมน้อง พี่จะดูแลอย่างดี” อีกคนแซวบ้าง นครไม่พูดรีบกวักน้ำขึ้นล้างตามตัว
“หยิงด้วยโว้ย มาเจอพี่แล้วน้องจะไม่ลืมเลย” คนเดิมยังคงแซวต่อ
“แจ็กล้างตัวเสร็จยัง” เสียงมาโปรดนั้นเอง พอปรากฏตัวขึ้น พลทหารรุ่นพี่รีบทำความเคารพ
“เสร็จแล้วก็รีบออกไป อย่ามาอ้อแอ้ที่นี้” นครจึงรีบออกมา
“เกือบไปแล้วไหมมึง จะแซวมึงก็ดู ๆ หน่อย ซิวะ”
“กูเอาจริงโว้ยคนนี้” สายตามาดหมั้น
“เฮ้ย ไอ้ห่า เดียวมึงก็ติดคุกหรอก”
“กูไม่กลัว กูรู้สึกถูกชะตา มันต้องเป็นของกู”
“ไอ้กริช เกิดน้องเขาไม่ได้เป็นละมึง” อีกคนทักขึ้น
“อาว มึงก็ดูอย่างไอ้วิเศษไง ผู้ชายทั้งแท่ง มาเจอกู ติดกูไม่ห่างเลย” อวดสรรพคุณตัวเอง
“เออ กูเชื่อ แต่นี้ลูกน้องผู้กองอัศวินนะมึง” เพื่อนที่ยืนข้าง ๆ เตือน
“อย่างนี้กูชอบ ท้าทายดี”
“ไอ้ห่าเฮ้ย คุกนะมึง เกิดมึงได้เขาแล้วมึงจะไม่สลัดเขาทิ้งเหมือนไอ้เศษหรือวะ”
“ก็ไม่แน่ กูเอาจริงบอกก่อน คนนี้กูจอง”
“มึงผ่านด่านแรกให้ได้ก่อนเถอะ ด่านหมู่ไพร กูพึ่งรู้ว่าบัดดี้หมู่ไพรนะมึง”
“อันไหนยาก กูชอบ กูจะเอาให้น้องเขามาซบอกกูให้ได้”
“พยายามอยู่ใกล้ ๆ หมู่ศรีไพรไว้ และเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด” มาโปรดบอกก่อนเดินมาส่งที่หมู่ศรีไพรที่กำลังตัดผมให้ผลทหารคนอื่น ๆ
“หมู่ กันฝากคนของกันด้วย เขามีอนาคตอีกไกล” พยายามเน้นคำว่า คนของกัน
“ครับ” หมู่ศรีไพรรับคำ
“พี่ไปก่อน เดี๋ยวเย็น ๆ จะมาดูอีกที” หันมาคุยกับนคร
“ปรี้ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงนกหวีดดังขึ้นภายใน
“ทุกคนมารวมกัน ภายใน ยกเว้นคนที่ยังตัดผมไม่เสร็จ” สิ้นเสียงสิบเวร พลทหารใหม่ก็กรูกันเข้าไปภายในอาคารจัดแถวเรียบร้อย
“ตอนนี้ทุกคนมารวมกัน จะให้พลทหารใหม่เลือกหัวหน้าฝูง” ทุกคนเริ่มมองหน้ากัน
“ตอนนี้ให้เวลาคิด หาตัวผู้ฝูง แล้วตอนเย็น ๆ ค่อยมาคุยกัน ตอนนี้ให้ครูพี่เลี้ยงพาไปที่พักได้” จากนั้นครูพี่เลี้ยง แต่ละแถวก็พาขึ้นโรงนอน ที่มีลักษณะเป็นอาคารชั้นบน ที่โล่ง มีตู้เหล็กและเตียงเหล็กวางเรียงรายอยู่ จำนวนสี่แถวยาว อีกฝั่งโรงนอนก็เป็นประตูเหมือนกันแต่ถูกปิดตายไว้ และมีที่ประกอบศาสนกิจ ครูพี่เลี้ยงพาพลทหารทุกคนไปยืนตามหมายเลขของตัวเอง นครนั้นยังไม่มีตู้และเตียงก็เลยยืนมองดูคนอื่น ๆ ทำ
“เมื่อยืนได้ดีที่แล้ว นั้นคือสมบัติของพลทหารใหม่ ให้พลทหารใหม่จัดตู้เตียงให้เรียบร้อย เช็คสิ่งของว่าขาดเหลืออะไรบ้าง” เสียงสิบเวรดังขึ้น พลทหารใหม่กรูเข้าไปที่ตู้เหล็กเปิดเสียงดังกัน
“ปรี้ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆมึงจะให้เขามาทิ้งระเบิดลงนี้หรือวะ” เขามาทิ้งก็เพราะเสียงนกหวีดพี่นี้ละ
“วิดพื้น ห้าสิบครั้ง” เอาละซิ นครก็ต้องทำตามด้วยเพราะเพื่อนทำเราก็ต้องทำ
“ห้าสิบครั้ง” แล้วเสียงนับจำนวนก็ดังขึ้น เมื่อครบแล้วก็ต้องรอคำสั่งให้ลุกจึงจะลุกขึ้นได้ เสร็จทุกคนก็ค่อย ๆ เปิดดูอุปกรณ์ต่าง ๆภายในตู้เหล็ก
“เอาผ้าขาวออกมาปู ให้ตึงแล้วถ้ากูไปดูแล้วมันไม่ตึง เตรียมตัวซ่อม” เสียงเท้าสิบเวรเดินตรวจตรา
“นคร เป็นไงบ้าง” เสียงหมู่ศรีไพร มาข้าง ๆ
“ไม่ครับ ผมไม่มีเตียงนอนเฉย ๆ”
“นอนเดียงเรานี้แหละ สิบเวรเขาไม่ทำอะไรหรอก”
“จะดีหรอครับ คนอื่นเขาจะไม่มองหรอ”
“อือ เส้นผู้กองอัศวิน อีกอย่างนครมาแบบพิเศษ เอาเสื้อผ้ามาเก็บตู้นี้” หมู่ศรีไพรยื่นกุญแจตู้ให้
“มึงจะเด็กเส้นเกินไปแล้วมั่งไอ้หน้าขาว” เสียงสิบเวรดังมา ทำให้ทุกคนมองมาที่นคร
“พี่ ผมขอเถอะครับ คนนี้ผู้กองฝากมา” หมู่ศรีไพรขัดขึ้น
“เออ ฉันให้แต่ตอนฝึกอย่าว่ากันนะเว้ย”
******************************************************************
เดี๋ยวมาต่อครับ ไปงานเลี้ยงก่อน คืนนี้มาต่อตอนนี้ให้จบครับ
สวัสดีปีใหม่ทุกคนครับ