อ่า นานาทัศนะเจรงๆ
ไม่เฉลยอ่ะ ตามอ่านเอง หุหุ 
............
ตอนที่ 14 : ซื้อตัว พอผมอาบน้ำเสร็จกลับมาที่ห้องของไอ้พี ก็พบว่าสุดหล่อหลับไปแล้วโดยมีคุณหญิงนั่งเฝ้าอยู่ใกล้ๆ
พอคุณหญิงเห็นผมก็จูงมือผมไปคุยกันที่ห้องรับแขก เพราะกลัวรบกวนไอ้พี
"บุ้งกลับมาอยู่บ้านเรานะลูก แม่ขอร้อง ยังไงก็ช่วยแม่รักษาตาพีก่อน"
"ได้ครับ แต่ช่วงนี้ผมคิวแน่นมากเลยนะครับ วันนี้ก็เลื่อนคิวจนจะไม่ไหวแล้ว"
"คิวอะไรหรือลูก" ผมเลยอธิบายให้คุณหญิงฟังว่าผมไปทำอะไรมาบ้างช่วงที่หายไป
"ต๊าย น่าตีนักลูกคนนี้ รู้หรือเปล่าว่าไปออกเทปกับใคร"
"ใครครับ"
"ยายดาริกาก็น้องสาวคนเดียวของแม่นี่แหละ ยายนั่นนะสี่สิบกว่าแล้วยังไม่ยอมแต่งงาน"
"เหรอครับ" โลกช่างกลมเหมือนโดนัทจริงๆ ผมคิด
"เดี๋ยวแม่เคลียร์ให้ เรื่องนี้แม่จัดการเอง หนูไปเตรียมข้าวมาทานกันเถอะ แม่ขอคุยกับยายดาริกาแป๊ป"
สักพักเมื่อผมกับคุณหญิงนั่งลงทานอาหารด้วยกันคุณหญิงก็เล่าให้ฟังว่า
คิวออกเทปผมจะเลื่อนไปอีกเดือนหนึ่ง ดังนั้นช่วงนี้คุณหญิงขอร้องให้ผมอยู่เป็นเพื่อนเจ้าพีสักเดือน
"บุ้งช่วยประกบเจ้าพีตลอดเวลาหน่อยนะ" คุณหญิงบอก
"ทำไมครับ ผมไม่เข้าใจ" คุณหญิงหันซ้ายขวาก่อนพูดเบาๆ ว่า
"แม่ว่าตาพีต้องอกหัก แม่กลัวลูกแม่จะคิดสั้น"
ผมเลยปลอบคุณหญิงไปว่าไม่ต้องห่วง ไอ้พีไม่คิดแบบนั้นแน่
มีแต่มันจะหักอกคนอื่นล่ะไม่ว่า ผมคิดในใจ
.................
หลังจากเก็บของที่ย้ายมาจากคอนโดเข้าที่เข้าทางเสร็จ ผมก็พาไอ้ปูนิ่มไปตากแดดยามเย็นที่สนามหญ้าหน้าบ้าน สักพักก็เห็นไอ้พีเดินตรงมาหา
"ทำไรอยู่" มันถามผมก่อนจะนั่งลงข้างๆ
"ดีขึ้นยัง เห็นหลับข้ามวันข้ามคืน"
"มึงติดหนี้กูอยู่นะ " พูดจบมันก็จับมือผมไปวางแถวต้นขาของมัน
"เฮ้ย อย่าบ้านะ กลางวันแสกๆ"
"ไอ้ลามก มึงคิดอะไร" มันถามผมกลับ พลางยิ้มยั่ว
"เปล่า ว่าแต่ทำไม นายกินเหล้าจนตัวเองน็อคแบบนี้ มาลินีทิ้งนายเหรอ"
"ใครจะมากล้าทิ้งกู กูอยากกินเองโว้ย" พูดจบมันก็ดึงมือผมลุกขึ้นพร้อมกับอุ้มอ่างเจ้าปูนิ่มเข้าบ้าน
.................
หลังทานข้าวเย็นเสร็จไอ้พีก็ดึงแขนผมขึ้นไปที่ดาดฟ้าซึ่งผมพบว่ามีกล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่
และอุปกรณ์สำหรับดูดาวเตรียมไว้รออยู่แล้ว
แม้ผมจะเคยเรียนการดูดาวมาตอนเรียนลูกเสือ แต่ลืมไปหมดแล้ว
ต่างจากคนข้างๆ ตอนนี้ ที่ชวนผมส่องดูดาวกลุ่มต่างๆ พร้อมกับบอกเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้ฟัง
เราสองคนเพลินกับการดูดาวจนดึกดื่น
"ตายละพี ตีหนึ่งแล้ว พรุ่งนี้เปิดเทอมนะ" ผมเอ่ยเตือนคนข้างหน้า
"ทำตรงนี้ไม่ได้เหรอ" ไอ้พีถามผม
"ทำอะไร "
ไอ้พีก้มลงมาจูบปากผม พลางจัดการถอดเสื้อผ้าของตนเองออกจนล่อนจ้อน
แล้วจับมือผมไปกำน้องชายของมันที่ตั้งเด่พร้อมรบเรียบร้อย ผมจัดการรูดขึ้นลงสนองความอยากของคนตรงหน้า
ไอ้พีจัดการดึงเสื้อผมออก แล้วใช้ริมฝีปากและฟันบีบเค้นขบกัดหัวนมสีชมพูผมจนตั้งชัน
ผมต้องกอดคอไอ้พีไว้แน่นด้วยความเสียว
เหมือนไอ้พียิ่งได้ใจ จัดการดึงกางเกงของผมลงแล้วใช้มือถูไถแก่นกายที่แข็งขึงของผมไปมา
ผมกลัวตัวเองกลั้นไม่ไหวจึงผลักคนร่างสูงนอนลงก่อนจะขึ้นนั่งคร่อมตรงกลางลำตัวไอ้พีที่ตอนนี้ตาเป็นประกายยิ่งกว่าดาวบนฟ้า
ผมก้มลงจูบปากแลกลิ้นกับมันพร้อมกับถูไถตัวเองไปตามหว่างขาและท่อนเนื้อหนุ่มจนไอ้พีเริ่มอดทนไม่ไหว
"ทำเถอะบุ้ง พีไม่ไหวแล้ว" ไอ้พีถอนปากบอกผมเสียงกระเส่า "พีต้องรักตัวเองห้ามกินเหล้าอีกนะ"
ผมร้องขอคนหน้าหล่อตรงหน้า มันยิ้มหวานแล้วก่อนจูบผมก่อนตอบว่า "พีจะไม่ทานเหล้าอีกเลย สัญญา"
ผมยิ้มตอนก่อนจะยกตัวเองขึ้น กำท่อนเนื้อหนุ่มที่แข็งโด่ของไอ้พีให้เข้าไปในตัวผมทีละนิด
มือของไอ้พีเริ่มชักน้องชายผมแรงขึ้น ทำให้ผมเสียวจนต้องทิ้งตัวลงบนไอ้น้องชายที่ยาวเกินขนาดชายทั่วไปของไอ้พี
ไอ้พีงอตัวขึ้นมาแลกลิ้นกับผมต่อโดยที่มือยังคงสร้างความเสียวอยู่ที่แท่งเนื้อผมไม่หยุด
สะโพกของไอ้พีเริ่มยกตัวผมขึ้นลงเป็นจังหวะ ผมหลับตาปรือครางออกมาเป็นระยะ
เนิ่นนานที่เราเฝ้ากระแทกกระทั้นร่างกายเข้าออกจากกันจนเหงื่อไอ้พีกับผมไหลอาบร่าง
เมื่อถึงที่สุดผมกับไอ้พีก็กอดกันแน่นก่อนจะปล่อยน้ำแห่งความสุขของเราพุ่งออกมาใส่กันและกัน
"พี เหนื่อยไหม" ผมถามคนที่ถูกผมนอนทับอยู่ข้างบนหลังจากหายใจแผ่วอยู่บนตัวมันครู่หนึ่ง
"ยังจะถามอีก" มันกระเด้าเอวเบาๆ ให้ผมรู้สึกท่อนเนื้อที่ยังแข็งค้างอยู่ในตัวผม
"บ้า คนหรือม้าเนี่ย" ผมบีบหัวนมสีชมพูอ่อนของมันเบาๆ
"อยากให้บุ้งนอนอยู่บนตัวพีแบบนี้ทั้งคืน"
ไอ้พีพูดก่อนจะย้ำว่ามันพูดจริงด้วยการงอตัวขึ้นมาแลกลิ้นกับผม แล้วเพลงรักใต้แสงดาวของผมกับไอ้พีก็เริ่มบรรเลงอีกครั้ง
...........
ทันทีที่ผมกับไอ้พีลงจากรถเดินเข้าไปในมหาวิทยาลัยด้วยกันวันเปิดเทอมวันแรก
ฝูงชนกลุ่มหนึ่งก็วิ่งกรูเข้ามาหาผม "กรี๊ดๆๆ พี่บุ้ง ขอลายเซ็นด้วยค่ะ"
มันก็คือบรรดาแฟนคลับผมนั่นเอง ซึ่งผมไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะทำอะไร ไอ้พีก็ดึงตัวผมวิ่งหนีบรรดาแฟนคลับไปยังตึกเรียน
กว่าจะหาที่หลบสายตาแฟนคลับที่วิ่งตามได้ ผมกับไอ้พีก็ถึงกับหอบ
"เกิดไรขึ้น ทำไมมีคนมารุมขอลายเซ็นต์มึง" ไอ้พีถามผม
ไอ้พียังไม่รู้ว่าผมไปทำไรมาช่วงที่หายไปผมเลยอธิบายให้ฟังคร่าวๆ
"สรุปมึงทิ้งกูไป หาเงินสินะ" ไอ้พีถามหน้าเครียด
"เปล่า มันบังเอิญ" ผมตอบเลี่ยงๆ
"มึงได้เงินมาทั้งหมดเท่าไหร่" มันถามผมเลยบอกจำนวนไป
"เงินแค่นี้ ทำให้มึงทิ้งกู คนที่มึงบอกว่ารักได้เลยเหรอ" มันบีบบ่าผมแน่น
"เปล่า" ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง
"ถ้ากูให้เงินมากกว่านี้สามเท่า มึงจะอยู่กับกูตลอดไหม" ไอ้พีถามเสียงดังด้วยความโกรธ
"นายจะใช้เงินซื้อเราเหรอ" ผมเริ่มโกรธคนไร้เหตุผล
"ทำไมจะไม่ได้ ก็ในเมื่อคนอื่นยังใช้เงินซื้อนายได้ หรือนายจะเถียง"
"เปล่าแต่เราไปทำงานนะไม่ได้ไปขายตัว" ผมขึ้นเสียงบ้าง
"เกี่ยวอะไรกะขายตัว อย่าบอกนะว่าไปขายตัวมาจริงๆ" มันพูดเสียงเหี้ยม
"ไอ้บ้า" ผมพูดพร้อมกับซัดหมัดใส่คางไอ้พีจนเลือดกลบปากด้วยความโกรธ
"มีสมองคิดเรื่องดีๆ มั่งไหม ถ้าเห็นกูต่ำแบบนั้นก็อย่ามายุ่งกะกูสิ" ผมโกรธจนตัวสั่น
แต่ไอ้หน้าหล่อไม่ได้สนใจยังคงคุกคามผมต่อ
"ไม่รู้โว้ย กูจะให้เงินมึงห้าเท่าเลยเอ้า แล้วมึงเลิกเป็นนักร้องและต้องมาเป็นสมบัติของกู"
พูดจบมันก็ลากผมไปส่งที่ตึกเรียน
"ตอนเย็นรอกูอยู่นี่ห้ามกลับก่อนกูจะมารับ"
ผมได้แต่ยืนมองตามหลังมันไปด้วยอารมณ์ที่ยังไม่หายโกรธ
"ถ้าไม่เห็นแก่แม่มึงละก็กูจะไม่มายุ่งกับคนบ้าอย่างมึงหรอกโว้ย"
ผมตะโกนบอกมันตามหลังเมื่อแน่ใจว่ามันไม่ได้ยินแล้ว
.........
"นี่คือค่าตัวมึง" ไอ้พียื่นสมุดเงินฝากให้ผมขณะที่เรานั่งรถกลับบ้านด้วยกัน
ผมรับมาเปิดดูอย่างเพลียใจในนั้นมีเงินอยู่สิบกว่าล้าน
"กูโทรไปคุยกะป้าดาริกาแล้ว เลิกคิดเป็นนักร้องได้เลย" มันบอกผมเสียงเรียบ
"ถามหน่อย ทำแบบนี้ทำไม" ผมพยายามสงบสติอารมณ์ถามมัน
"ก็ได้มึงมาเป็นสมบัติกูไง ต่อไปมึงต้องเชื่อฟังกูห้ามไปไหนเข้าใจไหม"
ไอ้พีเหมือนจะมีความสุขเหลือเกินกับสิ่งที่ทำลงไป ผมได้แต่นึกถึงคำขอร้องของคุณหญิง พยายามไม่ระเบิดอารมณ์ใส่คนตรงหน้า
"อดทนหน่อยเถอะนะบุ้ง ให้ไอ้พีมันอยู่ตัวสักเดือนค่อยคิดต่อ" ผมพูดปลอบใจตัวเอง ก่อนเก็บสมุดเงินฝากไว้ในกระเป๋า
"คืนนี้มึงต้องบริการกูให้ถึงใจเลยนะ กูเสียไปตั้งเยอะ" ไอ้พีพูดพร้อมกับทำสายตาเจ้าชู้มายังผม
"เออ" ผมเออออกับมันไปให้จบๆ แล้วหันไปมองดูผู้คนข้างทาง ดูเหมือนต่างคนก็ต่างเดินทางมุ่งสู่จุดหมายแห่งตน
แต่ตัวผมตอนนี้แม้บอกว่ากำลังกลับบ้าน ในใจกลับรู้สึกเหมือนไร้ที่พักพิง
ความมั่นใจที่เคยมีตอนหนีออกจากบ้านสองเดือนก่อนหายหมดสิ้น
"เหนื่อยจัง" ผมพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะหลับตาลงไม่ให้รับรู้เรื่องใดๆ
จบตอนที่ 14