ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับสรุปข้อสำคัญดังนี้1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่ Fiction : It's Real
Author : Yuri (Rella)
Pairing : J.Law&Kirio
Part : 1หน้าโรงเรียนสอนดนตรีชื่อดัง....ผมที่อายุเลยวัยที่จะมาเหยียบ ณ ที่แห่งนี้แล้ว แต่กลับต้องมาอยู่บ่อยๆ เหตุผลที่ทำให้ผมต้องมาสถานที่แห่งนี้บ่อยๆ นั่นก็เพราะ............
"รอนานมั้ยฮะ"นั่นไงเหตุผลของผมมานู่นแล้ว เรือนร่างบอบบางภายใต้ชุดนักเรียนไฮสคุลปีสุดท้ายที่ถูกคลุมทับด้วยเสื้อโค้ชตัวหนาวิ่งมาหยุดยืนหอบอยู่ตรงหน้าผม
"ไม่หรอก ฉันก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน...แล้วนี่วิ่งทำไมกัน ถ้าหกล้มไปจะทำยังไง บอกหลายครั้งแล้วทำไมไม่เชื่อฟังกันเลย"ผมเอ่ยบอกเขาเสียงเข้มแต่ก็เจือไปด้วยความเป็นห่วง
"ก็ผมกลัวคุณรอนานนี่ฮะ"เขาตอบผมกลับมาเสียงใสพร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม
"รอได้ไม่เป็นไร วันหลังไม่ต้องวิ่งอีกนะรู้มั้ย"ผมพูดพร้อมยื่นมือไปบีบจมูกเล็กของเขาอย่างหมั่นเขี้ยว ดูสิผมดุเขาเขายังยืนยิ้มอยู่อีก มันน่ามั้ยล่ะ
"อื้ออ~ รู้แล้วฮะ...อย่าบีบจมูกผมซี่"มือเล็กของเขารีบตะครุบเอามือผมออกจากจมูกตัวเองทันที
"หิวมั้ย?"ผมไม่ทำเป็นไม่สนท่าทีของเขาที่กำลังจะงอน
"หิวฮะ...มากด้วย"เสียงใสๆ ของเขาตอบกลับมาทันทีที่ผมพูดจบ
"อยากกินอะไรล่ะ หืม?"ผมคว้ามือนุ่มๆ ของเขาไว้แล้วออกแรงดึงให้เขามาเดินข้างๆ กันกับผม
"อืมมม...บุฟเฟ่ต์อาหารจีนฮะ"เขาทำท่านึกอยู่สักครู่ ก็ส่งเสียงตอบกลับมา
"บุฟเฟต์เลยเหรอ แล้วจะกินคุ้มมั้ยเนี่ย"ผมพูดแซวเขาเล่น ก็ปกติน่ะเขาทานข้าวน้อยออก วันนี้เกิดอยากบุฟเฟ่ต์เลยเนี่ยมันค่อนข้างผิดวิสัยอยู่
"คุ้มสิฮะ เพราะตอนนี้ผมหิวมาก หิวจนจะกินคุณได้อยู่แล้วนะรู้มั้ย"เขาตอบกลับมาทันที ด้วยท่าทางที่เหมือนจะโมโหหิวนิดๆแล้วด้วย
"หือ?...ทำไม วันนี้ไปอดอยากจากไหนมาถึงได้หิวขนาดนั้น"ผมอดที่จะถามออกไปไม่ได้
"ก็...เมื่อตอนกลางวันไม่ได้กินข้าวนี่ฮะ มัวแต่ซ้อมดนตรีเพลิน พอดูเวลาอีกทีก็หมดเวลาพักแล้ว"เขาตอบคำถามผมเสียงค่อย เพราะคงรู้ว่าจะต้องโดนผมดุอีกแน่ๆ ผมมักจะดุเขาเรื่องที่เขาไม่ค่อยดูแลสุขภาพตัวเองอยู่บ่อยๆ แต่ที่ผมดุก็เพราะผมเป็นห่วงเขาทั้งนั้น เฮ้อ..เอาเถอะเขายังเด็ก แต่ถึงยังไงผมก็ต้องดุว่ากันนิดหน่อย
"เอาอีกแล้วเหรอ ข้าวเช้าก็ไม่ค่อยจะกินอยู่แล้ว นี่ยังมาลืมกินข้าวเที่ยงอีก เดี๋ยวโรคกระเพาะก็ถามหาเอาหรอก สุขภาพตัวเองน่ะดูแลหน่อยสิ"ผมบ่นว่าเขาไปนิดหน่อย....ใช่ เนี่ยแหละนิดหน่อย เพราะทุกทีผมร่ายยาวกว่านี้อีก
"รู้แล้วฮะ รู้แล้ว คราวหลังผมจะไม่ลืมกินข้าวเที่ยงแล้วล่ะฮะ อย่าดุผมนักสิ"แขนผอมบางของเขาทั้งสองข้างเกี่ยวแขนผมแน่น ใบหน้าน่ารักนั่นกำลังซบลงที่ต้นแขนผมอย่างเอาใจ ตาคู่เรียวเหลือบขึ้นมามองหน้าผมอย่างออดอ้อน...ให้ตายสิ อย่างนี้ทุกที โดนผมดุโดนผมว่าทีไรเป็นออกอาการขี้อ้อนเหมือนลูกแมวทุกที แล้วจะไม่ให้ผมใจอ่อนกับท่าทางน่ารักๆ นั่นได้ไงล่ะ
"เฮ้ออ...จริงๆ เลยนะเรา อย่าขยันทำให้ฉันเป็นห่วงนักสิ"ผมอดไม่ได้ที่จะยกมือข้างที่ว่างขึ้นมาขยี้กลุ่มผมนุ่มของเขาเบาๆ
"ผมชอบที่คุณเป็นห่วงผมนะฮะ"เขาบอกผมพร้อมกับส่งยิ้มน่ารักมาให้
"ชอบโดนบ่นรึไง"ผมแกล้งถามกลับ
"เปล่าซะหน่อย ผมบอกว่าชอบที่คุณเป็นห่วงผม ไม่ใช่ชอบที่คุณบ่นผม...เดี๋ยวกินข้าวแล้วไปดูหนังกันนะฮะ มีเรื่องที่อยากดูอยู่พอดี"เขาเปลี่ยนประเด็นพูดคุยของเรา คงกลัวว่าผมจะบ่นอะไรอีกล่ะมั้ง ฮ่าฮ่า
"กลับบ้านดึกได้เหรอวันนี้"ผมถามอย่างเป็นห่วงว่าคนที่บ้านเขาจะถามหาเอา
"ไม่ได้จะกลับบ้านซะหน่อย"ดูเขาจะตอบไม่ตรงคำถามรึเปล่านะ
"เอ๋? อะไรนะ"ผมหยุดยืนที่ข้างรถของผม ก่อนจะหันมามองหน้าเขางงๆ
"วันนี้วันศุกร์นะฮะ ทำงานจนลืมวันลืมคืนรึไง"เขาท้วงผมน้ำเสียงงอนนิดๆ
"อ่า นั่นสินะ สงสัยจะทำงานมากไปจริงๆ"
"น่าน้อยใจจัง"เขาบ่นอุบอิบเบาๆ แต่ผมก็ยังได้ยินอย่างชัดเจนอยู่ดี
"ฉันลืมวันลืมคืน แต่ไม่ได้ลืมนายซะหน่อย จะน้อยใจอะไรหืม?...เอ้า ขึ้นรถได้แล้ว"ผมเปิดประตูรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับให้เขาได้ขึ้นไปนั่ง แต่เขากลับยืนมองหน้าผมซะงั้น
"........................."เขาไม่พูดอะไรแต่กลับส่งรอยยิ้มน่ารักๆนั่นมาให้ผมอีกเป็นครั้งที่เท่าไรของวันแล้วก็ไม่รู้
"ยิ้มอะไรน่ะ"ผมถามเขาอย่างไม่เข้าใจกับรอยยิ้มที่เขาส่งมาให้สักเท่าไร
"เปล่าฮะ แค่คิดว่าคำพูดของคุณเนี่ยทำให้ผมรู้สึกดีจัง ก็เท่านั้นเองฮะ"เขาพูดยิ้มๆ ก่อนจะก้าวเข้าไปนั่งในรถ ... เห็นมั้ยล่ะครับว่าเขาน่ารักขนาดไหน เอาล่ะระหว่างผมขับรถพาเขาไปทานข้าวไปดูหนัง ถ้าพวกคุณอยากรู้เรื่องของเราสองคนก่อนหน้าที่เราจะคบกันละก็ เข้าไปอ่านที่บล็อคของผมสิ...........
.
.
.
TBC~Talk~
อ๋าาาาาาา ในที่สุดก็จบ 55+....เข็นออกมาภายใน 3 วัน
ฟิคเรื่องนี้เราแต่งออกมาได้ก็เพราะเพื่อนๆ ทุกคนในกระทู้เจคินะคะ
เรารับรู้เรื่องราวของทั้งสองคนผ่านจากกระทู้เจคิ มันทำให้เราชอบคู่นี้ขึ้นมาจริงจังเลยอ่า
แล้วเราเป็นพวกที่ชอบระบายออกทางฟิค 55+ มันอัดอั้นอย่างรุนแรง
เอาเป็นว่าชอบไม่ชอบยังไง เม้นท์ติชมได้ตามใจชอบเลยนะคะ
ฝากฟิคของนู๋ลั่วกับตาเจด้วยนะคะ ปอกะลอ เรื่องนี้เป็นเพียงชอตฟิคนะคะ แต่งจบแล้ว แต่เอาลงทีละนิด 555+
เด๋วเย็นนี้มาต่อพาร์ทสองแน่นอนค่ะ
แล้วก็อาจมีสเปเชี่ยลเน้ออออออ หุหุ อยู่ที่อารมณ์+เวลาว่างของคนแต่งค่ะ 555+*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
ทิพย์โมบอร์ดนิยาย