Crime and Love Scene Investigation
๙๑. Am I answering my own question?
“โอ๊ย อีปิ่น มึงนี่ทำบุญมาด้วยอะไรวะ ถึงได้โชคดี ได้ผัวที่ทั้งรักทั้งหลงอะไรแบบนี้” ปิ่นได้ยินเสียงป้าที่ขายผักสดแผงข้าง ๆ กัน ตะโกนถามมา เมื่อเห็นว่าวันนี้ เธอรีบปิดร้านอาหารตามสั่งแต่หัววัน ปิ่นเองที่ได้ยินป้าแกว่ามาแบบนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คิดอยู่เช่นกัน ว่าเธอนั้นตอนนี้กำลังทั้งโชคดีทั้งเรื่องคู่และเรื่องทำมาหากิน
“ก็ให้ฉันลัคกี้ อิน เลิฟ แล้วก็ลัคกี้ อิน เกม กับเขาบ้างสิป้า” ปิ่นหัวเราะเสียงใสออกมา รอยยิ้มที่เปื้อนอยู่บนใบหน้า กำลังมีผลทำให้เธอรู้สึกอิ่มเอิบไปทั้งใจ เพราะว่าที่อะไรมันจะลงตัว และชีวิตดูเข้าที่เข้าทางมาได้ถึงตอนนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับปิ่นเลย กับการที่เธอนั้นเป็นกะเทย ที่เธอรู้สึกว่าตัวเธอเองนั้น ด้อยกว่าคนที่เกิดมาเป็นผู้หญิงโดยกำเนิด
“ขนาดผู้หญิงมีรูหอยแท้ ๆ ยังสู้วาสนาของอีปิ่นไม่ได้เลย” ป้าแผงผักยังคงพูดไม่หยุดปาก นี่ถ้าเป็นวันอื่น ๆ ที่ปิ่นไม่ได้รู้สึกมีความสุขแบบนี้ เธอคงไม่ปล่อยให้ป้าแผงผักข้าง ๆ พูดจาแบบนี้กับเธออย่างแน่นอน เพราะชีวิตคู่ของเธอ มีอะไรที่มากกว่าการมีเพศสัมพันธ์กันแบบไหน ทางไหน ผู้คนแถวแผลผักนั้น มองตามปิ่นที่ไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับมา แต่เดินจากไป หลังจากเก็บข้าวของที่ร้านจนเสร็จ
“มันจะไปกันได้สักกี่น้ำกันเชียววะ” ป้าเจ้าของแผงผักสด เปิดประเด็นใหม่กับเจ้าของแผงอื่น ๆ ทันที ที่คล้อยหลังปิ่นไปแล้ว “ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละป้า จะมีผู้ชายที่ไหนบ้างพอจะเอากะเทยมาทำเมียจริง ๆ จัง ๆ เป็นเรื่องเป็นราว ให้อับอายคนเขาเปล่า ๆ” อีกแผงหนึ่งพลางพยักพเยิดพูดเห็นด้วยกับป้าแผงผัก
“มันก็คงอีกไม่นานหรอกป้า” สุนีย์ สาวสวยรูปร่างอวบอัด เจ้าของแผงปลาสดไม่ไกลจากตรงนั้นพูดขึ้น ทุกคนหันไปมองที่หญิงสาวเป็นตาเดียวกัน “สาว ๆ สวย ๆ ผู้หญิงแท้ ๆ อย่างเอ็งยังไม่ได้เท่านังปิ่นมันเลยนะ สุนีย์” อีกคนตะโกนข้ามแผงมา ทำเอาคนแถวนั้นหัวเราะกันครืน ทำให้สุนีย์นั้น ชักสีหน้าไม่พอใจออกมาในทันที
“ผู้ชายก็ต้องคู่กับผู้หญิง จะไปเอากะเทยทำไมให้เสียชาติเกิด” สุนีย์เสียงแหวออกไปทันควัน “แกอิจฉานังปิ่นมันก็ว่า สุนีย์” เสียงหัวเราะยังคงดังอยู่อย่างนั้น “ฉันจะต้องไปอิจฉาอะไรอีกะเทยนั่น ฉันเกิดมาเป็นผู้หญิง มีทุกอย่างที่เป็นของแท้ ไม่ใช่ของเทียม ของปลอมแบบอีกะเทยนั่น พวกป้าคอยดูก็แล้วกัน ว่าเพชรอย่างฉัน ไม่มีวันที่จะแพ้กระเบื้องอย่างอีปิ่น” น้ำเสียงของสุนีย์พูดออกมาด้วยความเหยียดหยามรังเกียจอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด
“พี่กล้า ฉันกลับมาแล้วพี่ พี่กล้า อยู่ไหน หลับอยู่หรือเปล่า” ปื่นร้องเรียกหาแฟนหนุ่มเมื่อกลับมาถึง แต่ดูบ้านช่องกลับเงียบเชียบ เหมือนว่าไม่มีใครอยู่ “พี่กล้า ออกมาช่วยฉันเก็บของหน่อย” ปิ่นวางของพะรุงพะรังที่หอบกลับมาจากร้านลงบนพื้นบ้าน “ฉันแวะซื้อเป็นย่างร้านหน้าตลาดที่พี่ชอบมาด้วย วันนี้โชคดี เป็ดเขายังเหลือ พี่ออกมาช่วยฉันจัดใส่จานหน่อย พี่กล้า” ปิ่นตะโกนเรียกแฟนหนุ่มออกไปอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบกลับมา
“พี่กล้า หลับอยู่ในหรือเปล่า” ปิ่นวางของทั้งหมดลง ก่อนจะเดินไปที่ห้องนอน เธอเปิดประตูเข้าไป แล้วก็ต้องรู้สึกชาไปทั้งตัว ความคิดแรกที่แล่นเข้ามาในหัวของเธอก็คือ มีคนเข้ามายกเค้าบ้านของเธอ เพราะสภาพห้องนอนของเธอ ที่เห็นในตอนนี้ ข้าวของมันกระจัดกระจาย เละเทะกระจุยกระจายไปหมด ปิ่นรีบวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้าไม้ใบเก่านั้น
“ทอง ทองหายไปหมดเลย” ปิ่นกรีดร้องออกมาอย่างตกใจ น้ำตาคลอหน่วยในทันที สองมือรีบปัดรีบเปิดกองเสื้อผ้าที่ถูกรื้อค้นมาก่อนหน้า หวังว่าเผื่อจะเจอทองที่เธอเก็บหอมรอมริบเอาไว้ทั้งชีวิต ที่เธอคิดว่าเธอซ่อนเอาไว้แล้วอย่างดี แม้แต่กล้าเธอก็ไม่ได้บอกให้รับรู้ “ไม่มี ไม่เหลือเลย” ปิ่นพูดน้ำเสียงเครือ ปากคอสั่น มือไม้สั่นเทิ้มไปหมด
ทุกคนที่แถวแผงของป้าผักสด สะกิดสะเกากันให้มองไปที่ไอ้กล้า ที่ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นจะโผล่มาที่ร้านอาหารตามสั่งของปิ่นเลยสักครั้ง แต่เย็นวันนี้กลับกำลังช่วยสาวสวยอย่างสุนีย์เก็บร้าน สองคนชายหญิงพูดคุยหยอกล้อ หัวเราะยิ้มร่ากันอย่างกะหนุงกะหนิง ไม่ได้รู้สึกยี่หระกับท่าทางของชาวบ้านร้านตลาด ที่กำลังนินทากันอย่างไม่ต้องเดา
“พี่กล้า พี่มาทำอะไรที่แผงปลานี่” เสียงของปิ่นที่ดังขึ้น ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงบริเวณนั้น พากันเงียบกริบ “พี่อยู่กับฉันมาตั้งนาน พี่ไม่ช่วยฉันเปิดร้านเก็บร้านเลยสักวัน” ปิ่นน้ำเสียงสั่นเครือ มองหน้าชายหนุ่มที่คนรักของเธอด้วยสายตาที่ตัดพ้อ “แล้วทำไมพี่กล้าเขาต้องช่วยเธอทำอะไรแบบนั้นด้วย” สุนีย์ถามกลับไปเสียงดังจนได้ยินกันไปทั่ว
“แกไม่เกี่ยว อย่ายุ่ง” ปิ่นตลาดแหวใส่สุนีย์ “พูดกับสุนีย์เขาดี ๆ หน่อย” กล้าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้ม “พี่กล้าเขาเป็นผัวฉัน ใคร ๆ ก็รู้กันทั้งตลาด” ปิ่นตอบกลับไปด้วยการตะโกนใส่หน้าหญิงสาว สุนีย์ที่ยิ้มที่มุมปาก แค่นหัวเราะออกมา ก่อนจะหันไปถามชายหนุ่มว่า “พี่กล้าเป็นผัวอีกะเทยนี่หรือ” ถามเสร็จ สุนีย์ก็หันมามองปิ่นด้วยสายตาที่สมเพช
“จะบ้าหรือไงสุนีย์ พูดอะไรแบบนั้น พี่เป็นผู้ชายแท้นะ พี่เอากะเทยไม่ลงหรอก ทุเรศตายห่า” กล้าพูดตอบกลับมา พลางทำท่าขนลุก สยองพองขนเมื่อคิดถึงว่าตัวเขาจะต้องมาสัมผัสเนื้อตัวของกะเทย ชาวบ้านร้านตลาดที่ได้ยินชายหนุ่มพูดออกมาแบบนั้น ยังนึกตกใจ เพราะทุกคนก็ต่างรู้กันโดยไม่ต้องพูด ว่าอะไรเป็นอะไร
“ทำไมพี่พูดแบบนั้นล่ะ” น้ำเสียงแสดงถึงอารมณ์ที่น้อยใจอย่างที่สุดของปิ่นดังขึ้น ภาพความหลังที่เธออยู่กับกล้ามา วนฉายกลับเข้ามาในสมองอีกครั้ง กี่คำหวาน คำพูดโอ้โลมปฏิโลมต่าง ๆ ที่กล้าบอกกับเธอ มันทำให้ปิ่นถึงกับจุกอกแน่นไปหมด เธอรู้สึกเจ็บไปหมดทั้งใจ เมื่อรู้ตัวว่ากำลังถูกชายคนรักหักหลัง
“พี่เอาทองฉันไป เอาทองฉันคืนมา” ปิ่นที่กำลังจะระงับอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ ตะโกนใส่กล้า “ทองอะไร ใครไปเอาทองของมึงมา” กล้าตะโกนปฏิเสธกลับไปทันทีเช่นกัน ใคร ๆ ก็พอจะมองออก ว่าชายหนุ่มนั้นตอบกลับด้วยความมีพิรุธ ยังไม่ทันที่ปิ่นจะพูดอะไรต่อ เธอมองไปที่คอของสุนีย์ สร้อยทองพร้อมจี้ที่เธอซื้อเอาไว้เป็นเส้นแรก เมื่อตอนเธอทำงานเก็บเงินได้ครบเมื่อตอนยังอายุน้อย ๆ อยู่ตรงนั้น
“นี่มันสร้อยทองของฉัน พี่ขโมยเอามาใส่ให้อีนี่ได้ยังไง” ปิ่นกระโดดเข้าหาสุนีย์ หมายจะกระชากทองกลับคืนมา “จะทำอะไรน่ะ อย่าทำอะไรสุนีย์นะ” แต่เป็นที่กล้า ที่ชายหนุ่มผลักปิ่นที่โถมเข้าหา จนกระเด็นเซกลับไป “มึงก็ถือเป็นผู้ชายคนหนึ่ง อีปิ่น มึงอย่ารังแกผู้หญิงที่เขาไม่มีทางสู้สิวะ” กล้ารีบหันไปถามสุนีย์ว่าเป็นอะไรมั้ย ด่ากราดใส่ปิ่น ทางด้านสุนีย์ก็ทำเป็นกลัวจนตัวสั่น ลนลานละล่ำละลักร้องขอให้กล้าช่วยปกป้องเธอด้วย
“แล้วที่มึงสองตัว ชายเหี้ยหญิงชั่ว รังแกกูล่ะ” ปิ่นตะโกนด่า ตัวสั่นเทิ้มไปหมดทั้งความโกรธ ความผิดหวัง ความเสียใจ “พวกมึงเอาทองของกูคืนมา” ปิ่นกระโจนเข้าหาสุนีย์ที่กรีดร้องอีกครั้ง มือของปิ่นกำลังจะคว้าไปที่คอของหญิงสาว ก่อนที่เธอจะรู้สึกถึงหมัดลุ่น ๆ ซัดเอาที่ใบหน้าสองครั้งติด ภาพตรงหน้ามันเหมือนติด ๆ ดับ ๆ เมื่อปิ่นลงไปนอนกองอยู่บนพื้น
“ไหน ใครหน้าไหนตรงนี้ เคยเห็นว่ากูเอาอีกะเทยระยำนี่ทำเมีย ไหน บอกมาซิ” กล้าจะโกนไปที่ผู้คนที่มายืนมุงดูเหตุการณ์ แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา พวกป้าแผงผักที่รู้ทั้งรู้อยู่เต็มอก แต่ก็เงียบปากกันไปหมด ปิ่นที่นอนจุกอยู่บนพื้น น้ำตาไหลนองหน้า ทั้งเจ็บ ทั้งอาย ทั้งรับรู้แล้วว่า เธอนั้นอยู่ตัวคนเดียวในโลกใบนี้
“แล้วไหน มีใครเห็นว่ากูเอาทองของอีนี่มาบ้าง อีปิ่น มึงฟัง ถ้ามีคนบอกว่าเห็นกูเอาทองมึงมา กูจะเอาทองคืนให้มึง” ไม่พูดเปล่า กล้าง้างตีนเตะเข้าชายโครงของปิ่นที่ยังคงนอนอยู่บนพื้นตลาดสด ปิ่นตัวงอไปตามแรงกระแทกนั้น จุก เจ็บ จนพูดอะไรไม่ออก พยายามอ้าปากจะหายใจเข้า แต่ก็ทำแทบจะไม่ได้ ไม่มีมือของใครสักคน มาช่วยพยุงหรือช่วยเหลือเธอแต่อย่างใด
“มึงได้ยินแล้วนะอีกะเทย ทองนี่ก็ซื้อมาให้น้องสุนีย์เขาเป็นของขวัญ” สิ่งที่ปิ่นมองเห็นผ่านม่านน้ำตาออกไป คือสายตาเย็นชาและความโหดเหี้ยมที่ผ่านออกมาจากผู้ชายชื่อกล้า และสุนีย์ หญิงสาวสวยสะคราญที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ชายหนุ่ม ที่ทั้งสองดูเหมาะสมกัน ราวกับกิ่งทองใบหยก
“ผมขอแค่โอกาสได้พิสูจน์ตัวเองจากคุณ ปิ่น นะ แค่นั้น” คำพูดของนายฝรั่งเบน ดึงเอาปิ่นกลับมาจากความทรงจำเมื่อวันนั้น เธอมองไปที่มือของนายช่าง ที่คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ “ฝรั่งอย่างคุณเข้าใจคำว่าเหี้ยมั้ย มันเป็นคำด่าของคนไทย” ปิ่นสบตาตรง ๆ กับนายช่างเบน มองเห็นความไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้นักในสีหน้าของแววตาของฝรั่งหนุ่มตาน้ำข้าว
“มันแปลว่า คนสารเลว เลวระยำอย่างที่สุด เท่าที่จะทำกับกะเทยอย่างฉันได้ลง” ปิ่นดึงข้อมือของตัวเองออก “นายช่างจะทำเหี้ยกับฉันวันไหน จะให้ฉันนั่งเดาอีกหรือไง ว่ามันจะเกิดขึ้นกับฉันซ้ำอีกเมื่อไหร่” นายช่างเบนที่พอจะเข้าใจว่าปิ่นกำลังจะสื่อว่า เธอกลัวความผิดหวังที่จะเกิดขึ้น “นายช่างจะเหี้ยกับฉันเพียงไม่กี่วันหลังจากนี้ หรือจะรอให้ฉันตกหลุมพรางตายใจก่อน เมื่อคิดเอาเองว่าฉันเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก แล้วนายช่างถึงค่อยทำเหี้ยกับฉัน” เบนมองเห็นรอยยิ้มที่เย้ยหยันโชคชะตาชีวิตของตัวเองของปิ่นเผยออกมา
“ผมไม่เหมือนกับผู้ชายพวกนั้น” นายช่างเบนพูดตอบปิ่นกลับไป “และผมก็ไม่ใช่ผู้ชายคนที่ทำให้คุณเสียใจ ผู้ชายเหี้ยคนนั้น” นายช่างฝรั่งตอบกลับไป ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ให้กับปิ่น ว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างคนที่ปิ่นเคยพบเจอมา “ไม่แฟร์เลย ไม่ยุติธรรมสำหรับผม ที่คุณตัดสินผมไปเสียแล้ว แถมคุณก็ปิดกั้นโอกาสของตัวเองไปด้วยพร้อม ๆ กัน” เสียงพูดภาษาไทยแปร่ง ๆ ของนายช่างเบนดังเข้ากระทบความคิดของปิ่น และคราวนี้มันดังกังวานอยู่ไม่น้อย
***********************************************
คำแปลเนื้อร้องภาษาอังกฤษ โดย Jay J
อยากรู้หัวใจตัวเอง - วิโอเล็ต วอเทียร์
https://www.youtube.com/watch?v=X4UNebToNOgตอบคำถามตัวเองไม่ได้เลย
Can’t answer my own question
ว่าต้องการสิ่งไหน
Whichever I do prefer
เป็นคำถามที่ไม่มีผู้ใด
It’s the question that no one
ตอบแทนฉันได้เลย
Can give an answer for me
คนแบบไหนที่ฉันฝันไว้ในใจ
What kind of a man I am dreaming of
คนแบบไหนที่ฉันหวังให้เป็นจุดหมาย
What type of a person I set as my destiny
ไม่อยากหลงทางอย่างนี้
Tired of getting lost like this
ฉันไม่เคยจะรู้หัวใจตัวเอง
I never know my very own heart
แล้วเมื่อไหร่จะตอบตัวเองได้สักที
So, when I’ll be able to give myself a clue
ว่าคนคนไหนที่ต้องการ
Whom that I really want
ใช่เธอคนนี้ หรือว่าอาจจะเป็นเขา
Is that you, or is it someone else?
อยากรู้ว่าเธอคือใคร
I want to know who that’ll be
อยากจะรักใครเป็นเพียงสักคน
I wish I could love someone truly
เป็นเธอจะได้ไหม
Will it be you?
อยากจะรักบางคนหมดหัวใจ
I hope I’ll love someone with all my heart
จะใช่เธอเปล่า
Is it gonna be you?
คนแบบไหนที่ฉันฝันไว้ในใจ
What kind of a man I am dreaming of
คนแบบไหนที่ฉันหวังให้เป็นจุดหมาย
What type of a person I set as my destiny
ไม่อยากหลงทางอย่างนี้
Tired of getting lost like this
ฉันไม่เคยจะรู้หัวใจตัวเอง
I never know my very own heart
แล้วเมื่อไหร่จะตอบตัวเองได้สักที
So, when I’ll be able to give myself a clue
ว่าคนคนไหนที่ต้องการ
Whom that I really want
ใช่เธอคนนี้ หรือว่าอาจจะเป็นเขา
Is that you, or is it someone else?
อยากรู้ว่าเธอคือใคร
I want to know who that’ll be
อยากรักรักใครสักคน
I wanna love, in love with somebody
กลัวหลงทางไปจนไกล
Fear that I’m lost too far away
ฉันควรทำอย่างไร
What am I supposed to do?
ฉันไม่เคยจะรู้หัวใจตัวเอง
I never know my very own heart
แล้วเมื่อไหร่จะตอบตัวเองได้สักที
So, when I’ll be able to give myself a clue
ว่าคนคนไหนที่ต้องการ
Whom that I do really want
ใช่เธอคนนี้ หรือว่าอาจจะเป็นเขา
Is that you, or is it someone else?
อยากรู้ว่าเธอคือใคร
I want to know who that’ll be
อยากรู้หัวใจตัวเอง
I want to get to know my own heart