๔๒. STAINED
“คุณสั่งเค้กมาลองกินด้วยสิ ร้านนี้เขาทำอร่อยนะ” หลังจากที่สั่งกาแฟเสร็จ สารวัตรรัฐนนท์ก็คะยั้นคะยอให้อีกฝ่าย สั่งขนมมาทานคู่กัน “แล้วบอสรู้ได้ยังไงครับเนี่ย ว่าเค้กเขาอร่อย” หนึ่งในทีมสืบลับอดสงสัยไม่ได้ ถามขึ้น ชนธัญที่สบตากับสารวัตรหนุ่มหล่อ ไม่ได้พูดอะไร แต่เดินเลี่ยงไปรอรับกาแฟของตัวเองที่ตรงเคาน์เตอร์รับเครื่องดื่ม
“บอสครับ มีเคสด่วนแจ้งมาจากศูนย์” อีกคนในทีมสืบลับที่นั่งรออยู่ที่รถ กระหืดกระหอบวิ่งมาผลักประตูร้านกาแฟ พร้อมรายงานให้หัวหน้าทีมอย่างสารวัตรรับทราบ “ขนมเค้กคงต้องเอาไว้ก่อนแล้วล่ะครับ” ชนธัญพูดขึ้น รับกาแฟของทุกคนในทีมมาถือเอาไว้ สารวัตรรัฐนนท์ที่รู้สึกว่าทุกอย่างเพิ่งจะผิดแผน ก็ต้องยอมให้หน้าที่มาก่อนการโชว์ความป๋า
“ทีม Forensics มาถึงแล้ว” ขับรถมาไม่นาน ทีมสืบสวนลับก็มาถึงที่เกิดเหตุ มองเห็นทีมเก็บและพิสูจน์หลักฐานได้ลงมือตรวจสถานที่แล้ว “Chief” สารวัตรรัฐนนท์เอ่ยทักหัวหน้าหน่วยพิสูจน์หลักฐาน “พร้อมนะ” หัวหน้าหน่วยหลักฐานหรือชีฟเอ่ยขึ้นทันที “Good to go.” ทางหัวหน้าทีมสืบลับตอบกลับทันควัน
“ประตูถูกเปิดค้างไว้ มีร่องรอยการใช้กำลังพังประตูจากด้านนอกเข้าไป” หัวหน้าทีมหลักฐานเริ่มต้นให้ข้อมูลกับทีมสืบลับ ถึงสิ่งที่เขาได้จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ชนธัญมองดูที่ลูกบิดประตูที่แยกออกจากเนื้อประตู “หน้าต่างนั่นแตก มีรอยรูอยู่ คาดว่าน่าจะเกิดจากรอบกระสุนปืน ตอนนี้ให้เจ้าหน้าที่หาหัวกระสุนที่อาจจะตกอยู่ด้านนอกตามแนวรั้วบ้าน เพราะสันนิษฐานว่า น่าจะถูกยิงออกมาจากห้องนอนนั่น” ชีฟเดินนำสารวัตรรัฐนนท์และชนธัญเข้าไปในตัวบ้าน
“เคสนี้” ชีฟพูดขึ้นเมื่อเดินไปหยุดที่หน้าประตูห้องนอน ไม่ไกลจากประตูทางเข้าบ้าน “เราเจอเข้ากับ Double Homicide” ชีฟบอกกับคู่หู 009RC สารวัตรรัฐนนท์มองเข้าไปในห้องนอนนั้น ก่อนจะยกแขนขึ้นกันชนธัญให้รออยู่แค่ด้านนอกห้อง ชนธัญอยากจะเข้าไปด้วย แต่นายตำรวจหนุ่มยืนกราน หนุ่มหน้าใสก็ยอมรออยู่ข้างนอกแต่โดยดี
“ฝ่ายหญิงคาดว่าน่าจะเสียชีวิตก่อน และน่าจะถูกยิงจากระยะประตูนี่ ขณะที่นอนอยู่บนเตียง” ทางชีฟยืนยันจากลักษณะของศพตอนที่เห็นครั้งแรก “ส่วนฝ่ายชาย เป็นแฟนกันกับฝ่ายหญิง อยู่ด้วยกันมานาน คนในละแวกนี้ไม่เคยเห็นทั้งสองคนมีปากมีเสียงกันมาก่อนเลย” ชีฟให้ข้อมูลต่อ กับร่างของชายหนุ่มที่นอนอยู่บนพื้นห้อง ข้าง ๆ เตียงนอน ฝั่งตรงข้ามกับฝ่ายหญิง
“ตัดเรื่องฆ่ากันเองลงไปได้หนึ่งเรื่อง” สารวัตรรัฐนนท์บอกกับชีฟหน่วยเก็บและพิสูจน์หลักฐาน ทางชีฟพยักหน้าเห็นด้วยตามนั้น “สภาพบ้านมีร่องรอยบุกรุกเข้ามาด้วยกำลังอย่างชัดเจน” สารวัตรรัฐนนท์กำลังประมวลผลจากข้อมูลที่เขาได้รับ “อาวุธที่ใช้ก่อเหตุน่าจะเป็น Caliber .22” ทั้งสองหัวหน้า บอสจากทีมสืบลับและชีฟจากทีมพิสูจน์หลักฐาน เห็นพ้องตรงกันอีกหนึ่งอย่าง รอให้ทางหน่วยเนิร์ด Ballistic ยืนยันผลที่แน่นอนให้อีกครั้ง
“Blood Splatter รอยเลือดกระเซ็นสอดคล้องกับลักษณะของผู้ตายทั้งสอง ผู้หญิงถูกยิงขณะอยู่บนเตียง และผู้ชายน่าจะถูกบังคับให้นั่งคุกเข่า และถูกยิงเสียชีวิตตรงนี้เลย” สารวัตรรัฐนนท์รู้สึกว่า ความโหดร้ายที่มนุษย์กระทำต่อกันทุกวันนี้ มันช่างโหดร้ายและรุนแรงมากขึ้นทุกที ๆ
ชนธัญเดินออกมาด้านนอกบ้าน มองดูหน่วยเก็บและพิสูจน์หลักฐาน ทำการเดินปูพรมเพื่อตามหาหัวกระสุนที่อาจจะเป็นสาเหตุทำให้กระจกห้องนอนแตก ชนธัญพยายามไม่ทำตัวเกะกะทีมพิสูจน์หลักฐาน เขามายืนอยู่คล้อยมาทางด้านข้างของตัวบ้าน ที่มันมีทางเดินเล็ก ๆ อ้อมไปที่ด้านหลังได้ ก่อนที่ชนธัญจะได้ยินเสียงร้องอะไรบางอย่าง ดังอยู่ที่ด้านหลังของเขา
“เฮ้ ว่าไงเรา” ทันทีที่ชนธัญหันไปมอง เขาก็เห็นสุนัขตัวใหญ่ตัวหนึ่ง ยืนมองเขาอยู่ พอมันได้ยินชนธัญพูดด้วย มันก็เดินกะเผลก ๆ เข้ามาหาเขา “นั่นเลือดนี่” ชนธัญตกใจ นั่งลงทันทีที่เจ้าหมาตัวนั้นเดินมาทรุดตัวนอนข้าง ๆ เขา “นั่นสุนัขของเจ้าของบ้านหลังนี้นี่ครับ เพื่อนบ้านแจ้งเอาไว้ว่า มันหายไปตอนผมมาถึง” ชีฟที่เดินออกมาหน้าบ้านพร้อมกับสารวัตรรัฐนนท์พูดขึ้น
“มันถูกยิงครับ” ชนธัญมองเห็นรอยรูกลม ๆ ที่ไหล่ของเจ้าหมาตัวนี้ “รีบเรียกหน่วยอภิบาลสัตว์เร็วเข้า พามันไปส่งสัตวแพทย์ ด่วนที่สุด” สารวัตรรัฐนนท์ตะโกนสั่งลูกทีมสืบลับให้ติดต่อหน่วยดูแลสัตว์โดยเร็ว เจ้าหมาตัวใหญ่ร้องครางหงิง ๆ ด้วยความเจ็บปวด มันซุกหัวเข้ากับมือของชนธัญ ที่นั่งลูบหัวปลอบเจ้าหมาว่า มันจะไม่เป็นไร
“ผมขอไปกับมันได้มั้ยครับ” ชนธัญขออนุญาตสารวัตรรัฐนนท์ นั่งรถไปกับหน่วยอภิบาลสัตว์ เมื่อรถของหน่วยดูแลสัตว์พร้อมจะนำเจ้าหมาผู้โชคร้ายส่งโรงพยาบาลสัตว์ “ส่งข่าวมันให้ผมรู้ด้วย” สารวัตรรัฐนนท์ไม่ขัดข้อง ชนธัญกล่าวขอบคุณก่อนจะรีบวิ่งขึ้นรถไป เพราะเจ้าหมาเองก็ร้องเสียงดัง ผงกหัวมองหาเมื่อไม่เห็นชนธัญ
“เหมือนจะถูกชะตากันตั้งแต่แรกเจอ” ชีฟหน่วยเก็บและพิสูจน์หลักฐานพูดขึ้นยิ้ม ๆ เมื่อรถของทีมอภิบาลสัตว์เคลื่อนตัวออกไป บอสทีมสืบสวนลับยิ้มออกมา เหมือนนึกเอ็นดูคนหน้าใสอย่างชนธัญอยู่มากโข “รอยเลือดในที่เกิดเหตุ ผมให้ทีมของผมเก็บมันเป็นหลักฐานอย่างละเอียด จะได้เอาไว้เทียบเคียงกับวิถีกระสุน ที่ทาง Ballistic ยืนยันผล” ชีฟจากหน่วยพิสูจน์หลักฐานบอกกับสารวัตรรัฐนนท์
“ชีฟ” คนถูกเรียก หันมาทางสารวัตรหนุ่มหล่อ ที่ตอนนี้สายตามองข้ามไปยังบ้านตรงข้าม “เจ้าเด็กหนุ่มนั่น มายืนด้อม ๆ มอง ๆ พวกเราอยู่นานแล้ว ผมเห็นตั้งแต่มาถึง” สารวัตรรัฐนนท์บอกกับชีฟ ก่อนจะพากันเดินข้ามถนนไปยังบ้านฝั่งตรงข้าม ที่ตอนนี้นอกจากเด็กหนุ่มคนดังกล่าวที่สารวัตรรัฐนนท์สังเกตเห็น ตอนนี้ก็มีชายหญิงอีกคู่หนึ่งยืนอยู่ด้วยเช่นกัน
“สวัสดีครับ ผมเป็นหัวหน้าทีมเก็บและพิสูจน์หลักฐาน ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ยครับ เผอิญผมเห็น” ชีฟเดินเข้าไปกล่าวทักทายกับทั้งสามคนด้วยรอยยิ้มและท่าทีเป็นมิตร “นี่ลูกชายของเราสองคนค่ะ” ผู้เป็นแม่ของเด็กหนุ่มพูดขึ้น “ครับคุณแม่ ผมสารวัตรรัฐนนท์ คือผมเห็นลูกชายของคุณแม่มายืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่นานแล้ว เผื่อว่าน้องเขามีข้อมูลอะไรที่สำคัญ อยากจะบอกกับเจ้าหน้าที่” สารวัตรรัฐนนท์เสริมจากที่ชีฟพูดเกริ่นเอาไว้
“ผมเห็นมีผู้ชายสองคน ขับรถแบบมีที่นั่งแค่สองคน ขับมาจอดที่หน้าบ้านตรงกันข้าม จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงคนเอะอะ แล้วก็ได้ยินเสียงหมาร้อง” เด็กหนุ่มพูดเร็วปรื๋อเหมือนกับว่า เขาอัดอั้นกับสิ่งที่เขารู้เห็นพอสมควร “เราพอจะจำยี่ห้อรถ สี หรือป้ายทะเบียนได้ด้วยมั้ย” ชีฟถามเด็กหนุ่ม ที่ตอนนี้ส่ายหน้าแทนคำตอบ
“ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากเลยครับ” เด็กหนุ่มยอมรับกับชีฟ “แล้วตอนนั้นเราทำอะไรอยู่ ถึงได้เห็นว่ามีรถและผู้ชายสองคนขับมาจอดที่หน้าบ้านหลังนี้” เป็นไปตามสัญชาตญาณ สารวัตรรัฐนนท์ซักเด็กหนุ่มเพิ่มเติม เพื่อมองหาความน่าเชื่อถือและความเชื่อมโยงจากข้อมูลที่ได้
“วันนี้ลูกชายหยุดอยู่บ้าน เพื่ออ่านหนังสือเตรียมสอบน่ะค่ะ” ผู้เป็นแม่ตอบคำถามนั้นแทนลูกชาย ชีฟหน่วยเก็บและพิสูจน์หลักฐาน ก้มลงมองที่เท้าของเด็กหนุ่มที่มีรอยเปื้อนเศษดินที่ส้นเท้า แม้เด็กหนุ่มจะใส่รองเท้าอยู่ก็ตาม “ถ้าเราอ่านหนังสืออยู่ แล้วเรามองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจากตรงไหน” สารวัตรรัฐนนท์ถามต่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปเจอหน้าต่างของห้องด้านบนชั้นสองของตัวบ้าน
“นั่นห้องนอนพ่อกับแม่นี่” พ่อของเด็กหนุ่มพูดขึ้น “เราเข้าไปทำอะไรในห้องนอนพ่อกับแม่” ผู้เป็นพ่อถามด้วยความสงสัย เด็กหนุ่มรีบตอบปฏิเสธ “ผมไม่ได้เข้าไปในห้องพ่อกับแม่นะ” ยืนยันเสียงแข็ง ว่าตัวเองไม่ได้แอบเข้าไปทำอะไรไม่ดีในนั้น แต่ก็ยังตอบคำถามของสารวัตรรัฐนนท์ไม่ได้ ว่าถ้าเขาไม่ได้เห็นเหตุการณ์ผ่านหน้าต่างห้องนอนของพ่อและแม่แล้วล่ะก็
“ถ้าอย่างนั้น เราอยู่ที่ไหนในตอนนั้น” ไม่ใช่ว่าสารวัตรหนุ่มต้องการจะไล่ต้อนเด็กหนุ่มแต่อย่างใด แต่เรื่องที่เด็กหนุ่มเล่าจะไม่สมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง เพราะทางพ่อกับแม่ของเด็กหนุ่ม บอกว่า ห้องนอนของลูกชายอยู่อีกด้านหนึ่งของบ้าน ทางชีฟหน่วยเก็บและพิสูจน์หลักฐาน มองไปที่ด้านข้างของตัวบ้าน ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ เมื่อมองเห็นรอยของเหลวเปื้อนอยู่ที่นั่น
“ถ้าคุณพ่อคุณไม่รังเกียจ ถ้าสะดวกใจนะครับ” ชีฟเรียนพ่อและแม่ของเด็กหนุ่มด้วยท่าทางอ่อนน้อม “ผมขอเวลาคุยกับน้องเขาส่วนตัว แป๊บเดียวครับ ไม่นาน ไม่ได้มีปัญหาน่ากังวลอะไร เดี๋ยวเดียวครับ” ทางฝ่ายพ่อและแม่ของเด็กหนุ่มพยักหน้าอนุญาตในที่สุด ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน พอชีฟเห็นว่าพ่อและแม่ของเด็กหนุ่มเข้าบ้านไปแล้ว ก็พูดขึ้นว่า
“ถ้าผมเดินกลับมาอีกครั้งพร้อม ALS Alternative Light Source ไฟแบบฟลูออเรสเซนต์ เอามาฉายไปที่รอยคราบเปื้อน ที่บนข้างบ้านนั่น” สารวัตรรัฐนนท์มองตามที่ชีฟชี้นิ้วไป แต่เด็กหนุ่มกลับหน้าเจื่อน ไม่ยอมมองตามไปด้วย “แล้วผมใช้ก้านสำลีอุปกรณ์เก็บหลักฐาน เก็บตัวอย่างของเหลวนั้น และใช้ BCIP 5 – Bromo 4 – Chloro – 3 – Indolyl Phosphate เทสต์ ผมก็จะตรวจเจอ” ฟังชีฟพูดมาถึงตอนนี้ สารวัตรรัฐนนท์ก็ยิ้ม ๆ พอจะเข้าเค้าอะไรบางอย่างแล้ว
“อย่านะครับ ผมขอ” เด็กหนุ่มพูดเสียงอ่อน ทำหน้าตายอมรับ ยอมจำนนแต่โดยดีว่าโดนจับได้ “ฟังนะ” ชีฟพูดขึ้นน้ำเสียงเข้ม “ตราบใดที่แรงขับความต้องการทางเพศของแต่ละคน ยังไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย หรือยังไม่มีใครมาร้องเรียน มันก็ยังพอจะเข้าใจได้อยู่” ชีฟถือโอกาสตักเตือนและห้ามปรามเด็กหนุ่มไปในตัว
“แต่ตรงข้างบ้านนี่ ติดกับถนนสัญจรไปมา มันคาบเกี่ยวและส่อที่ Exhibitionism การชอบโชว์คนอื่น มันจะนำมาซึ่งความเดือดร้อน โอเค ผมจะไม่บอกพ่อแม่ให้รู้เรื่องนี้” ชีฟรีบบอกกับเด็กหนุ่ม เพราะพอจะเดาได้ ว่าเรื่องอะไรที่เจ้าตัวน่าจะกังวลที่สุดในตอนนี้ สีหน้าเด็กหนุ่มดูมีสีเลือดขึ้น ไม่ซีดเผือดแบบก่อนหน้านี้
“แต่เราคงจะต้องกังวลเรื่องกล้องวงจรปิดที่บ้านข้าง ๆ นั่นมากกว่า ถึงกล้องจะส่องไปทางถนน แต่กล้องสมัยนี้องศามันจับคลุมได้ทั่วทิศทาง” ชีฟชี้นิ้วไปทางบ้านข้าง ๆ ที่มีกล้องวงจรปิดติดอยู่ที่ใต้หลังคาบ้าน สารวัตรรัฐนนท์มองตามไป ทึ่งในสายตาอันละเอียดรอบคอบของชีฟจริง ๆ ก่อนที่จะเห็นเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่ง เปิดประตูบ้านข้าง ๆ มองมาทางพวกเขา
“นั่นแฟน” ชีฟถามเด็กหนุ่มออกไป “เปล่าครับ” เด็กหนุ่มตอบเสียงเบา ๆ อายอย่างที่สุด “เพิ่งเจอกันในแอพแบบนั้น ได้คุยกัน บอกว่าชอบโชว์เหมือนกัน เขาเลยท้าผมให้ออกมา” เด็กหนุ่มทำมือประกอบอาการ สารวัตรรัฐนนท์กลั้นขำที่ได้เห็น “ผมเครียด ๆ จากการอ่านหนังสือ อยากจะปลดปล่อยอยู่เหมือนกัน” เด็กหนุ่มเล่าไป หน้าแดงก่ำด้วยความอาย
“ผมก็เลย รับคำท้า เท้าเปล่า ไม่ใส่อะไรเลย คล้องแค่เนกไทของวิทยาลัยแค่นั้น เพราะเขาบอกว่าถ้าผมกล้า เขามองเห็นผมได้จากกล้องวงจรปิดที่บ้านเขาติด แล้วเขาจะส่งคลิปเขาช่วยตัวเองตอนดูผมผ่านกล้องมาให้ ทำจนเสร็จแลกกัน เนี่ยครับ คลิปเขาอยู่ในมือถือผม ถ้าพี่ ๆ ไม่เชื่อ” เด็กหนุ่มอรรถาธิบาย ชีฟยกมือห้ามปรามว่า เด็กหนุ่มไม่จำเป็นต้องเปิดคลิปอะไรให้เขาดู
“ใจดีจังครับชีฟ เจ้าเด็กสองคนนี่ เลยไม่ต้องโดนเล่นงานหนัก” สารวัตรรัฐนนท์เอ่ยชมหัวหน้าทีมเก็บและพิสูจน์หลักฐาน หลังจากบอกกับพ่อและแม่ของเด็กหนุ่ม ว่าทางหน่วยไม่ได้ติดใจอะไรกับเด็กหนุ่มทั้งสิ้น “แค่เตือนว่าไปว่า อย่าหาทำอีกกับเรื่องอะไรแบบนี้ เพราะครั้งหน้าอาจจะไม่โชคดีแบบครั้งนี้อีก กับใครที่เราไม่รู้จักในโลกเสมือนจริง เพราะในโลกแห่งความเป็นจริง มันก็แย่มากพอแล้วล่ะครับบอส” ชีฟหันมาพูดกับสารวัตรหนุ่มหล่อ ก่อนสุดท้ายก็ต้องหลุดขำออกมา ให้กับฮอร์โมนที่พลุ่งพล่านของเด็กหนุ่ม
“เจออะไรเหลือจะเชื่อแบบนี้ประจำเลยมั้ยครับ” สารวัตรรัฐนนท์ถามตอนที่เดินข้ามกลับมาที่ฝั่งบ้านเกิดเหตุ “Welcome to my life.” สารวัตรรัฐนนท์ส่ายหน้าพลางหัวเราะเบา ๆ ออกมา “ไม่ค่อยได้เจออะไรกุ๊กกิ๊ก ๆ บ่อย ๆ แบบสารวัตรหรอก” ชีฟไม่วายเอ่ยแซวสารวัตรที่ตอนนี้ เดินไปขึ้นรถเพื่อจะขับรถตามไปที่โรงพยาบาลสัตว์
“ต้องร้ายใส่กันด้วยหรือชีฟ” สารวัตรรัฐนนท์อดที่จะถามกลับไปไม่ได้ เมื่อเข้าไปนั่งในรถ มองเห็นชีฟยิ้มที่มุมปาก ยักคิ้วให้ อย่างกวน ๆ สารวัตรรัฐนนท์รอจนลูกทีมมาจนครบ จึงเคลื่อนรถออกจากตรงนั้น หลังจากเห็นชนธัญส่งข้อความมาบอกว่า อยู่ที่โรงพยาบาลสัตว์แล้ว หมอพาเจ้าสุนัขตัวใหญ่นั่นเข้าห้องผ่าตัดไปแล้ว
ชนธัญนั่งรอที่ม้านั่งหน้าห้องผ่าตัด ที่โรงพยาบาลสัตว์ คุณหมอสัญญาว่าจะช่วยเหลือมันอย่างเต็มที่ ตัวของเจ้าหมาเองก็เหมือนจะรับรู้ ว่ามีคนจำนวนมากมายที่ไม่ได้ใจร้ายเหมือนกับพวกที่ทำกับมันแบบนั้น กำลังช่วยกันทำให้มันหายดี ชนธัญเอาใจช่วยเจ้าสุนัขนั่น บอกกับมันว่าจะรอมันอยู่ข้างนอกนี่ เหมือนมันจะฉลาดและรับรู้ได้ มันก็เลยสงบและไม่ส่งเสียงร้อง ตอนมันถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัดไป
“ต้องปลอดภัยและกลับมาหายดีให้ได้นะ เจ้ายักษ์” ชนธัญพึมพำออกมาเบา ๆ ก้มลงมองที่ตักของตัวเอง มือทั้งสองข้างของเขามีรอยเปื้อน ที่กางเกงก็เช่นกัน รอยเลือดเปื้อนจากเจ้าสุนัขตัวใหญ่นั่น อะไรบางอย่างแล่นกลับมาให้เขาเกิดใจสั่น เมื่อคิดถึงเรื่องการสูญเสีย ว่ามันน่ากลัวและทรมานใจมากแค่ไหน
*************************************
คำแปลเนื้อร้องเป็นภาษาไทย โดย KADUMPA
Blank Space - Taylor Swift
https://www.youtube.com/watch?v=e-ORhEE9VVgNice to meet you, where you been?
ยินดีที่ได้รู้จัก ไปอยู่ไหนมาเพิ่งจะมาเจอ
I could show you incredible things
ฉันมีอะไรเกิดคาดจะมอบให้
Magic, madness, heaven, sin
อัศจรรย์ บ้าคลั่ง สวรรค์ ต้องห้าม
Saw you there and I thought
เห็นกันแล้วก็ทำให้คิด
"Oh, my God, look at that face
โอ้วกรรมบันดาล เห็นหน้าของคุณ
You look like my next mistake
คุณคือคนที่ใช่ ที่ฉันจะหาเรื่องใส่ตัวด้วย
Love's a game, wanna play?"
รักมันก็คือเกม อยากเล่นด้วยกันมั้ยล่ะ
New money, suit and tie
เงินตรา เล่นแต่งสูท ผูกเนกไท
I can read you like a magazine
ฉันอ่านคุณออกตั้งแต่แรกเจอ
Ain't it funny? Rumors fly
มันไม่น่าขำไปหน่อยหรือ นั่นมันก็แค่ข่าวลือ
And I know you heard about me
ว่าฉันก็รู้ อะไรก็ตามที่คุณเคยได้ยินมา
So hey, let's be friends
ว่าไง เอาไหมมาเป็นเพื่อนกัน
I'm dying to see how this one ends
ฉันอยากรู้จะแย่อยู่แล้ว ว่านี่มันจะจบลงยังไงกัน
Grab your passport and my hand
ฉวยหนังสือเดินทางพร้อมจับมือกันไป
I can make the bad guys good for a weekend
ฉันสามารถเปลี่ยนหนุ่มร้ายร้ายให้กลายเป็นดีในชั่วข้ามสัปดาห์
So it's gonna be forever
มันจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์
Or it's gonna go down in flames
หรือว่าจะมอดไหม้สลายลงทันตา
You can tell me when it's over, mm
เอาไว้คุณเป็นคนบอกมาละกันว่ามันควรจบลงแล้ว
If the high was worth the pain
ถ้าการขึ้นที่สูงมันคู่ควรกับความเหนื่อยยาก
Got a long list of ex-lovers
ฉันมีแฟนผ่านมาเป็นหางว่าว
They'll tell you I'm insane
ทั้งหมดจะบอกเสียงเดียวกันว่าฉันมันบ้า
'Cause you know I love the players
เพราะฉันนั้นหลงรักทุกคนที่เจอะเจอ
And you love the game
แต่พวกคุณสนแค่เกมที่เล่นอยู่เท่านั้น
'Cause we're young, and we're reckless
เพราะความที่เรายังเด็ก เราก็เลยไม่คิดหน้าคิดหลัง
We'll take this way too far
เราทำอะไรตามใจจนเกินเลยกันไป
It'll leave you breathless, mm
มันจะทำให้คุณหายใจไม่ทั่วท้อง
Or with a nasty scar
ไม่ก็คุณได้บาดแผลแย่แย่ฝากรอย
Got a long list of ex-lovers
ที่ผ่านมาแฟนมากมายนับไม่ทัน
They'll tell you I'm insane
ทั้งหมดจะบอกว่าฉันสุดโต่ง
But I've got a blank space, baby
แต่ยังไงฉันก็เหลือหน้าว่างว่างเอาไว้
And I'll write your name
เพื่อใช้เขียนชื่อคุณลงไป
Cherry lips, crystal skies
ริมฝีปากชมพูระเรื่อ ท้องฟ้าสดใสสวยงาม
I could show you incredible things
ฉันสามารถทำให้คุณได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์
Stolen kisses, pretty lies
รอยจูบที่ถูกขโมย คำโกหกที่แสนเนียน
You're the King, baby, I'm your Queen
ให้คุณได้รุกและฉันรอรับ
Find out what you want
บอกมาว่าใจคุณต้องการอะไร
Be that girl for a month
ฉันจะเป็นตามคำสั่งให้ทั้งเดือน
Wait, the worst is yet to come, oh, no
รอได้เลย ไอ้ที่คุณคิดมันจะเป็นได้ยิ่งกว่า เตรียมใจไว้
Screaming, crying, perfect storms
การกรีดร้อง เสียงคร่ำครวญ พายุใหญ่พัดผ่าน
I can make all the tables turn
ฉันทำให้มันกลับตาลปัตรได้ทั้งสิ้น
Rose garden filled with thorns
แปลงกุหลาบที่ก้านเต็มไปด้วยหนามแหลม
Keep you second guessing like
ทำให้คุณคาดเดาอะไรแทบไม่ได้เลย
"Oh, my God, who is she?"
โอ้วพระเจ้าช่วย นี่มันใครยังไงกัน
I get drunk on jealousy
ฉันจะมัวเมาไปกับความอิจฉาตาร้อน
But you'll come back each time you leave
แต่คุณจะกลับมาหาและขอซ้ำทุกครั้งหลังจากลา
'Cause, darling, I'm a nightmare dressed like a daydream
เพราะว่าอย่างงี้ที่รัก ฉันคือฝันร้ายที่อยู่ในคราบของฝันหวานกลางวัน
Boys only want love if it's torture
เด็กหนุ่มต้องการความรัก ถ้าหากมันคือสิ่งทรมาน
Don't say I didn't, say I didn't warn ya
อย่าพูดนะ ว่าฉันไม่ได้เอ่ยเตือนล่วงหน้า
Boys only want love if it's torture
เด็กหนุ่มต้องการความรัก หากว่ามันคือการทรมาน
Don't say I didn't, say I didn't warn ya
อย่าพูดนะ ว่าฉันไม่เคยบอกกล่าวกันไว้ก่อน