Crime and Love Scene Investigation
๕๙. EPITOME OF HORROR
“อ้าว หายไปไหนกันหมด” ด็อคเตอร์ดรุณีที่เพิ่งเดินมาถึงหน่วยสืบลับ พึมพำกับตัวเอง เมื่อเดินถึงเอกสารการตรวจชันสูตรมาถึงที่นี่ แต่กลับไม่พบใครสักคน ไม่ว่าจะเป็นสารวัตรรัฐนนท์ ชนธัญ ไม่แม้แต่กระทั่งบรรดาลูกทีมหน่วยสืบลับของสารวัตรหนุ่มหล่อ ที่มักจะนั่งทำงานกันอยู่ที่ตรงนี้กันเป็นประจำ เมื่อไม่มีเคสใหม่เข้ามา
“โทรหาทั้งวันก็ไม่มีใครรับสายเลย ก็นึกว่ายุ่ง ๆ กันอยู่ที่นี่” ด็อคดุรู้สึกประหลาดใจตั้งแต่เช้าแล้ว ว่าทำไมถึงไม่มีใครรับสายเธอเลย เมื่อเธอต้องการจะคุยเรื่องหลักฐานในเคสผู้หญิงถูกทำร้ายล่าสุด ที่ทางทีมของสารวัตรรัฐนนท์สืบสวนอยู่ ว่ามันมีอะไรแปลก ๆ และดูเหมือนจะไม่ตรงกับรายงานแรกที่ลงบันทึกเอาไว้
ด็อคเตอร์ดรุณีกดสายโทรหาสารวัตรรัฐนนท์อีกครั้ง แต่สายก็ตัดไปด้วยการไม่มีคนรับอย่างเคย ด็อคเตอร์สาวก้มดูเวลาบนนาฬิกาที่ข้อมือ เวลาล่วงจนดึกดื่นแล้ว เธอกำลังลังเล แต่ก็ลองกดโทรหาชนธัญด้วยอีกครั้ง แต่ผลที่ได้ ก็เป็นเช่นเดียวกัน ก็คือสายถูกปล่อยให้ตัดไปเองแบบไม่มีใครรับ
“ไปไหนกัน” ด็อคเตอร์ดรุณีนึกสงสัยว่าทุกคนหายไปไหนกันหมด เพราะไม่ได้รับรู้ว่า ทางทีมสืบลับออกปฏิบัติการพิเศษ เนื่องด้วยเป็นการร้องขอเอาไว้จากเหยื่อทางคดี เธอจึงหันหลังเพื่อจะเดินกลับไปที่ห้องชันสูตร แต่พอนึกได้ว่าจะต้องทำงานต่อในคืนวันนั้น และคงจะยาวจนเกือบรุ่งเช้า ด็อคเตอร์ดรุณีจึงเดินไปที่ตู้กดกาแฟร้อน ที่ตั้งอยู่ด้านนอกตึก ตรงทางเดินเชื่อม ก่อนจะถึงทางเดินเข้าห้องชันสูตร
คืนนี้เจ้าหน้าที่ดูน้อยกว่าปกติ มีสองคนที่เพิ่งเดินผ่านด็อคดุไป ตอนยืนรอกาแฟให้ชงเสร็จ ด็อคเตอร์สาวยิ้มทักทั้งสองคน ที่กำลังเดินไปด้านหน้าอาคารเพื่อกลับบ้าน จริง ๆ ด็อคดุก็ชอบบรรยากาศเงียบ ๆ ตอนทำงาน เพราะมันทำให้เธอมีสมาธิดีมาก ใจจดจ่อกับงานตรงหน้าโดยไม่มีอะไรมารบกวนให้เสียสมาธิ แต่ในคืนนี้ ต้องยอมรับว่า มันเงียบมากจริง ๆ เงียบจนผิดสังเกต
ด็อคดุหยิบกาแฟจากช่องรับเครื่องดื่มที่เพิ่งเลื่อนเปิดขึ้น ความหอมของกาแฟลอยโชยมาแตะจมูก ด็อคเตอร์สาวเดินไปตามทางเชื่อมอาคาร เพื่อเดินต่อไปที่ห้องทำงานของเธอ ที่ห้องชันสูตรนั้นอยู่เยื้องไปทางด้านหลังของอาคาร เพื่อความเป็นส่วนตัว และไม่ทำให้ใครต้องรู้สึกหวาดหวั่น เมื่องานของด็อคเตอร์ดรุณีนั้นเป็นงานเฉพาะทางอย่างยิ่งยวด
อีกไม่เท่าไหร่ ด็อคเตอร์ดรุณีก็จะถึงทางเข้าห้องชันสูตร ตอนนี้เธอได้ยินแต่เสียงรองเท้าของเธอดังก้องไปทั้งทางเดิน ซึ่งมันฟังดูดังกว่าในช่วงกลางวันที่มีเสียงจอแจดังอยู่ทั่วไป ด็อคเตอร์ดรุณีนึกขำ ว่านี่ถ้าเธอไม่ได้ผ่านการฝึกฝนมาอย่างมากมาย บรรยากาศอย่างนี้คงทำให้เธอสติแตกได้ไม่ยากนัก คิดแล้วก็ให้นึกขันตัวเองตอนสมัยยังเป็นแพทย์ฝึกหัดอยู่ ที่ต้องเข้าเวรดึกคนเดียวตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา
ด็อคเตอร์ดรุณีหยุดที่หน้าบอร์ดประชาสัมพันธ์ ยกแก้วกาแฟในมือขึ้นจิบ พลางอ่านประกาศสำคัญบนบอร์ดนั้น ทีแรกด็อคดุเองก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะเพิ่งได้ยินเสียงฝีเท้าของตัวเองตอนที่เดินมาดังก้องไปทั่ว แต่ตอนนี้ เธอได้ยินเสียงรองเท้าของใครบางคน ย่ำดังขึ้น และค่อย ๆ ดังขึ้นเรื่อย ๆ ดังมาจากที่ไกล ๆ จนฟังดูแล้วว่า มันใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ด็อคดุแน่ใจว่าเสียงมันมาทางที่เธอยืนอยู่ จึงหันไปมอง
ด็อคดุโฟกัสไปตรงมุมมืดที่เป็นมุมฉากเลี้ยวไปทางแผนก Homicide เสียงย่ำเท้ามันดังมาจากทางนั้น และตรงเข้ามาเรื่อย ๆ ก่อนที่ด็อคเตอร์ดรุณีจะเห็นร่างร่างหนึ่งปรากฏขึ้นที่ตรงนั้น ด็อคดุนึกแปลกใจอย่างที่สุด ที่ได้เห็นผู้หญิงคนนี้มาอยู่ ณ ที่นี้ ในเวลานี้ ทั้ง ๆ ที่เธอควรจะต้องอยู่ในโรงพยาบาล เพื่อรักษาตัวจากการถูกทำร้ายในเคสล่าสุดของทีมสืบลับ
“สวัสดีค่ะด็อคเตอร์ดรุณี เราได้เจอกันสักทีนะคะ” เสียงทักนั้น ทำให้ด็อคเตอร์ดรุณีชะงัก ก้าวเท้าไปด้านหลังสองสามก้าว “เจออะไรใหม่ ๆ ในผลชันสูตรสินะคะ ไม่น่ารักเลย” เสียงนั้นพูดต่อเนื่อง “คุณไม่ควรมาอยู่ที่ในเวลานี้” ผู้ที่เพิ่งมาถึงหยุดเดิน เมื่อได้ยินด็อคดุพูดออกไปแบบนั้น “คุณกลับไปที่โรงพยาบาลก่อนดีมั้ยคะ” ด็อคดุบอกกับตัวเองว่า นี่มันไม่ชอบมาพากลอย่างแรง ทั้งกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูด ท่าทาง และรอยยิ้มประหลาด ๆ แฝงไปด้วยความลึกลับน่ากลัวนั่น
“เอกสารในมือนั่น ขอได้มั้ยคะ ถือว่าพูดกันดี ๆ” ด็อคเตอร์ดรุณีกระชับเอกสารผลการตรวจในมือแน่น เมื่อคิดว่า ห้องชันสูตรอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ เธอจึงรีบหันหลังแล้วเร่งฝีเท้าเพื่อไปให้ถึงที่นั่นโดยเร็วที่สุด เสียงหัวเราะฟังดูเยือกเย็นดังตามมาด้านหลัง ด็อคดุเกือบสะดุดตรงทางเลี้ยว ไม่สนแก้วกาแฟที่ร่วงหลุดจากมือไปเมื่อสักครู่ รีบก้าวเท้าโดยเร็วที่สุด
พอถึงห้องชันสูตร ด็อคดุผลักบานประตูแบบสวิงนั้นเข้าไป ในหัวรีบประมวลผลว่าจะทำยังไงต่อไป ก่อนจะบอกตัวเองให้เดินผ่านเตียงชันสูตรเข้าไปที่ตัวออฟฟิศจริง ๆ ที่ด็อคดุใช้นั่งทำเอกสาร เธอรีบหมุนลูกบิดประตูไม้กึ่งกระจกของห้องทำงานนั้นโดยเร็ว ก่อนจะแทรกตัวเข้าไปในห้อง ปิดประตูลงทันที ก่อนจะกดล็อก พอเงยหน้าขึ้นมอง ก็เจอเข้ากับใบหน้าของคนที่เคลมว่าเป็นเหยื่อในคดี ประชันหน้ากันพอดี
ด็อคเตอร์ดรุณีตกใจไม่น้อย เมื่ออยู่ ๆ ก็เห็นอีกฝ่ายตามเธอมาจนทันอย่างไม่น่าเป็นไปได้ แถมยังไม่ได้ยินเสียงฝีเท้า ที่ว่าถ้าจะมาทันกันเร็วขนาดนี้ ก็ต้องวิ่งตามมาอย่างเร็วจี๋ แต่นี่ ด็อคดุไม่ได้ยินอะไรแบบนั้นเลยสักนิด ด็อคเตอร์สาวมองตามสายตาของอีกฝ่าย ที่จับจ้องไปที่ลูกบิดประตู ก่อนจะเห็นเธอคนนั้นจับมันเขย่า ด็อคเตอร์ดรุณีเอื้อมมือไปจับลูกบิดน้นเอาไว้จากทางฝั่งด้านนี้ของประตูเช่นกัน ฝ่ายนั้นผงะ ชักมือออกทันทีที่มือของด็อคดุสัมผัสลูกบิดประตู
แววตาแห่งความโกรธเกรี้ยว ฉายออกมาจากอีกฝ่ายชัดเจน จนด็อคเตอร์ดรุณีสังเกตเห็นได้ แล้วด็อคเตอร์ดรณีก็ต้องสะดุ้งจนสุดตัว เมื่อมีมือมาแตะที่ไหล่ของเธอจากทางด้านหลัง ด็อคเตอร์สาวเกือบหวีดเสียงร้องออกมา ก่อนจะเห็นว่าเป็นใคร เจ้าหน้าที่หนุ่มเนิร์ดจากแผนก Ballistic ยืนถือปืนพกประจำกาย ส่องปากกระบอกปืนไปที่คนที่ยืนอยู่อีกฝั่งประตู
“ถอยออกมาก่อนครับด็อค ผมไม่แน่ใจว่าเรากำลังดีลอยู่กับตัวอะไร” ด็อคเตอร์ดรุณีขยับเท้าเดินไปอยู่ทางด้านหลังของหนุ่มเนิร์ด ก่อนจะเห็นว่า มีควันไอร้อนจากการถูกแผดเผาลอยออกมาจากมือของเหยื่อในคดี และมันเป็นรอยลูกบิดประตูที่บนมือนั้น ที่ด็อคดุเองยังไม่อยากที่จะเชื่อสายตา
“แองเจิ้ล” เสียงคำรามดังออกมาอย่างน่าสะพรึงกลัว “ความดีปกป้องตัวอย่างนั้นหรือ” เสียงตะคอกออกมาอย่างเกลียดชัง และตอนนี้ ใบหน้าของคนที่ทุกฝ่ายเข้าใจมาตลอดว่า เป็นเหยื่อถูกทำร้ายร่างกาย ก็ดูบิดเบี้ยวผิดรูปไป จนมันดูแล้วน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก และแทบไม่น่าเชื่อว่า มันกำลังเกิดขึ้นกับตาของทั้งด็อคเตอร์ดรุณีและหนุ่มเนิร์ดเช่นกัน
ภาพเงาของด็อคดุและหนุ่มเนิร์ดในกระจก ที่เหยื่อในคดีที่ตอนนี้กลับกลายร่างผิดเพี้ยนไปจากความเป็นมนุษย์มองเห็น ทั้งสองคนแผ่กางปีกสีขาวเต็มแผ่นหลัง แสงเรืองรองที่เปล่งประกายออกจากตัวของคนทั้งคู่ ประหนึ่งแสงที่กางกั้นไม่ให้ความมืดมนและความชั่วร้าย ย่างกรายเข้าใกล้ทั้งสองคนได้
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” ด็อคเตอร์ดรุณีหลุดคำพูดออกมา หลังจากที่เหยื่อจากคดีคนนั้น ค่อย ๆ เดินถอยหลัหายกลับเข้าไปในความมืด “เราเห็นเหมือนกันใช่มั้ย” ด็อคดุหันมาถามหนุ่มเนิร์ดจากหน่วย Ballistic ด้วยอาการที่ยังตื่นเต้นไม่หาย “ไม่ต้องถามเลยด็อค เต็ม ๆ สองตา” หนุ่มเนิร์ดเก็บปืนลงใส่ซองเหน็บข้างเอว
“บอกได้มั้ยด็อค ว่านั่นใครที่ตามด็อคมา” แน่นอนที่หนุ่มเนิร์ด อดไม่ได้อย่างแน่นอน ที่จะต้องถามคำถามนั้นออกไป เมื่อตัวเขานั้น เห็นด็อคดุเปิดประตูเข้ามาอย่างรีบร้อน ก่อนที่จะเห็นทุกอย่างที่ตามมา อย่างที่เพิ่งจะเกิดขึ้นไป “นั่นควรจะเป็นเหยื่อที่ถูกทำร้าย ในคดีที่ทีมสืบลับของสารวัตรรัฐนนท์กำลังทำอยู่ แต่ที่เราเพิ่งเห็นกันไป หมอชักไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร” ด็อคเตอร์ดรุณีนั้น จำใบหน้าของคนคนนั้นได้จากรูปถ่าย ที่ถูกส่งมาพร้อมประวัติการถูกทำร้ายของเจ้าตัว
“และเขาควรจะอยู่ที่โรงพยาบาล” ด็อคดุพูดเพิ่มเติม “แล้วเขาตามด็อคมาเพราะว่า” หนุ่มเนิร์ดทำปลายเสียงเป็นคำถามอีกฝ่ายได้ตอบ ด็อคดุชูเอกสารผลตรวจร่างกายของเหยื่อ “มีหลายอย่างที่ไม่ชอบมาพากล ทั้งผลดีเอ็นเอที่มันเหมือนถูกปนเปื้อน คือหมอจะพูดว่ายังไงดีล่ะ คือตัวแซมเปิ้ลที่ได้มา มันไม่สามารถทำให้หมอให้ผลสรุปได้ว่า เป็นดีเอ็นเอของอะไรกันแน่ แล้วดูนี่” ด็อคดุเปิดรูปถ่ายหลักฐานให้หนุ่มเนิร์ดได้ดู
“รูปถ่ายรอยช้ำตามร่างกายที่ถูกถ่ายเอาไว้ ชุดแรกคือรูปพวกนี้” หนุ่มเนิร์ดมองดูรอยฟกช้ำดำเขียวที่ปรากฏอยู่ตามร่างกายของเหยื่อ “ส่วนชุดที่สองนี่เป็นรูปถ่ายที่ถ่ายอีกครั้ง โดยเหมือนว่าจะไม่มีอะไร แต่ดูสามสี่รูปนี้ ที่เจ้าหน้าที่ถ่ายติดเหยื่อโดยไม่ตั้งใจ ดูสิ ไม่มีรอยฟกช้ำปรากฏอยู่ในรูปพวกนี้” หนุ่มเนิร์ดมองดูรูปถ่ายสองชุด ที่หากจะอธิบายว่าเป็นเพราะมุมกล้อง ก็อธิบายไม่ได้ว่า ทำไมรูปสามสี่ใบนั้น ดูเหมือนกับว่าเหยื่อไม่เคยถูกทำร้ายเลยเสียด้วยซ้ำ
“หมอเลยตั้งใจเอาสิ่งที่หมอพบพวกนี้ เอาไปบอกกับหมวดให้ได้รับรู้ แต่หมอไม่เจอเขาที่หน่วยสืบลับ โทรหาเท่าไหร่ก็ไม่รับสาย คุณชนธัญด้วย ทีมหน่วยของหมวดเขาก็ติดต่อไม่ได้” ด็อคเตอร์ดรุณีเริ่มร้อนใจกับเรื่องนี้ “ทีมสารวัตรรัฐนนท์ออกปฏิบัติการลับกันครับด็อค ที่บาร์เกย์ตามที่เหยื่อในคดีให้การเอาไว้” หนุ่มเนิร์ดที่รู้เกี่ยวกับปฏิบัติการพิเศษของหน่วยสืบลับ บอกให้ด็อคดุได้รู้
“แล้วที่ผมลงมาหาด็อคที่ออฟฟิศนี่ จริง ๆ ผมตั้งใจจะทดสอบสมมติฐานงี่เง่า ๆ อะไรบางอย่างในหัวของผมเอง” ด็อคดุกำลังจะถามพอดี ว่าทำไมหนุ่มเนิร์ดถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้ แถมช่วยเธอเอาไว้ได้ทัน “จำเรื่องที่เราเคยคุยกันสนุก ๆ ติดตลกได้มั้ยครับ เกี่ยวกับแร่เงินที่มันได้ผลกับอะไรบางอย่างที่เรารู้จักกันในรูปของแวร์วูล์ฟ” ด็อคดุพยักหน้าว่า มีเคสหนึ่งที่เธอเคยชันสูตร แล้วมันมีความใกล้เคียงกับตำนานเรื่องมนุษย์หมาป่าอย่างน่าประหลาดใจ แต่มันก็ไม่น่าจะมีทางเป็นไปได้แต่อย่างใด และลงท้ายคดีนั้นก็ถูกปิดลงด้วยการลงท้ายว่า เป็นอุบัติเหตุที่อธิบายด้วยคำอธิบายเดียวไม่ได้
“ที่ลูกบิดประตูนั่น ผมกะจะแกล้งด็อคเล่น ผมเอาผงแร่เงินมาทาเอาไว้ กะว่าพอด็อคเปิดประตูเข้ามา ผมก็จะแฮปปี้ฮาโลวีนเสียหน่อย และถือเป็นการเช็กไปด้วยว่าใครเป็นใครไม่เป็น เผื่อจะแจ็กพ็อตเจอตัวเป็น ๆ สมใจ” ด็อคดุทำตาโตเมื่อนึกถึงควันที่ลอยออกมาจากมือเหยื่อในคดี ทันทีที่จับลูกบิดประตู รวมถึงใบหน้าที่เริ่มบิดเบี้ยวจนผิดรูปร่างไป จนน่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุด
“เราต้องไปบอกเรื่องนี้กับหมวดรัฐนนท์และชนธัญ” ด็อคเตอร์ดรุณีบอกกับหนุ่มเนิร์ด “เพราะนั่นมันตรงกับผลตรวจดีเอ็นเอที่หมอบอกเอาไว้ก่อนหน้า ว่ามันมีดีเอ็นเอของคน แต่มันปนเปื้อนไปด้วยดีเอ็นเอของสุนัข ที่ตอนแรกหมอแค่คิดว่าอาจจะเกิดความผิดพลาดตอนเก็บตัวอย่าง” หนุ่มเนิร์ดพยักหน้ารับทราบ ที่จะคุ้มกันด็อคเตอร์สาวเพื่อรีบตามไปหาหน่วยสืบลับที่กำลังอาจจะตกอยู่ในอันตรายในขณะนี้
***********************************************
คำแปลเนื้อร้องเป็นภาษาไทย โดย KADUMPA
Thriller - Michael Jackson
https://www.youtube.com/watch?v=sO4vI8P88NMIt's close to midnight
เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว
And something evil's lurking in the dark
บางอย่างที่น่าหวาดหวั่นซ่อนตัวรอคอยอยู่ในเงามืด
Under the moonlight
ภายใต้แสงจันทร์สกาว
You see a sight that almost stops your heart
สายตามองเห็นบางอย่างที่แทบทำให้ใจหยุดเต้น
You try to scream
คุณพยายามส่งเสียงกรีดร้องออกไป
But terror takes the sound before you make it
แต่ความน่าสะพรึงทำเสียงของคุณให้เงียบลง
You start to freeze
คุณได้แต่ยืนนิ่งงัน
As horror looks you right between the eyes
ความน่ากลัวเพ่งมองกลับมาที่หว่างดวงตาของคุณ
You're paralyzed
คุณชะงักงันแน่นิ่งไปแล้ว
'Cause this is thriller, thriller night
เพราะนี่คือความหวาดกลัว ค่ำคืนอันน่าสะพรึง
And no one's gonna save you from the beast about to strike
และไม่มีใครจะมาช่วยคุณได้ เมื่อสัตว์ร้ายจ้องจะเล่นงานอยู่
You know it's thriller, thriller night
คุณก็รู้ว่านี่คือความหวาดกลัว ค่ำคืนอันน่าสะพรึง
You're fighting for your life inside a killer, thriller tonight, yeah
คุณพยายามจะเอาชีวิตรอดจากเงามัจจุราช อันแสนน่าหวาดหวั่นในคืนนี้
You hear the door slam
คุณได้ยินเสียงประตูปิดดังลั่น
And realize there's nowhere left to run
ก่อนที่จะรู้ตัวว่า ไม่มีที่ให้หนีได้อีก
You feel the cold hand
ความเย็นจากมือที่มาสัมผัส
And wonder if you'll ever see the sun
ได้แต่คิดว่า จะได้เห็นแสงตะวันอีกครั้งไหม
You close your eyes
คุณได้แต่หลับตา
And hope that this is just imagination
และหวังว่านี่คงเป็นเพียงสิ่งที่จินตนาการไปเอง
Girl, but all the while
แต่ในขณะที่ทุกอย่างดำเนินไปนั้น
You hear a creature creepin' up behind
คุณก็ได้ยินเสียงสัตว์สยองคืบคลานมาทางด้านหลัง
You're out of time
มันหมดเวลาของคุณแล้วใช่มั้ย
Night creatures call
สัตว์ร้ายส่งเสียงร้องดังมา
And the dead start to walk in their masquerade
เหล่าบรรดาผีคืนชีพขึ้นมาเดินได้อีกครั้ง
There's no escaping the jaws of the alien this time (they're open wide)
ไม่มีหนทางไหนรอดพ้นจากรอบเขี้ยวของสัตว์ประหลาดไปได้ ปากกว้างอ้ารอขย้ำ
This is the end of your life, ooh
และนี่คงเป็นจุดจบที่ว่ากัน
They're out to get you
พวกมันออกมาตามล่าคุณ
There's demons closin' in on every side
เหล่าปิศาจพุ่งมาจากทุกทิศทุกทาง
They will possess you
มันจะสิงสู่คุณ
Unless you change that number on your dial
ถ้าหากว่าคุณยังไม่เปลี่ยนเบอร์ติดต่อเป็นเบอร์ใหม่
Now is the time
มันถึงเวลาแล้วตอนนี้
For you and I to cuddle close together, yeah
ที่คุณกับฉันจะกอดรัดฟัดด้วยกัน
All through the night
ตลอดทั้งค่ำคืนนี้
I'll save you from the terror on the screen
ฉันจะปกป้องคุณจากความประหวั่นพรั่นพรึงบนจอนั่น
I'll make you see
แล้วคุณจะได้เห็นเอง
That this is thriller, thriller night
เพราะนี่คือความหวาดกลัว ค่ำคืนอันน่าสะพรึง
'Cause I can thrill you more than any ghoul would ever dare try
เพราะฉันทำให้คุณกลัวได้มากกว่าผีตนไหนจะกล้าขอลองดี
Thriller, thriller night
สะพรึง คืนประหวั่นใจ
So let me hold you tight and share a killer, thriller
ถ้าอย่างนั้นมาให้ฉันกอดให้แน่นแน่น เหมือนหนึ่งโดนฆาตกรประชิดตัว
Chiller, thriller here tonight
เย็นยะเยือก น่าหวาดหวั่นกับค่ำคืนนี้
I'm gonna thrill you tonight
ฉันจะทำให้คุณตื่นตระหนกในคืนนี้
Darkness falls across the land
ความอนธการปกคลุมไปทุกหย่อมหญ้า
The midnight hour is close at hand
ช่วงเวลาเที่ยงคืนอยู่อีกไม่ไกล
Creatures crawl in search of blood
สัตว์ร้ายคืบคลานค้นหาเลือดสดสด
To terrorize y'all's neighborhood (I'm gonna thrill you tonight)
และทำให้คุณหวาดกลัวสุดขีดแม้ในที่ที่คุณคิดว่าปลอดภัย ต้องการทำให้คุณหวาดหวั่น
And whosoever shall be found
และไม่ว่าอะไรก็ตามที่ถูกเจอะเจอในคืนนี้
Without the soul for getting down
มันไร้วิญญาณให้จับต้องตั้งแรก
Must stand and face the hounds of hell
ทำได้เพียงยืนหยัดและประจันหน้ากับนรกขุมไหนไหน
And rot inside a corpse's shell
และเปื่อยเน่าภายในร่างห่อหุ้มศพ
The foulest stench is in the air
กลิ่นฟุ้งคลุ้งตลบอบอวลอยู่ในอากาศ
The funk of forty thousand years
ไอจากความหมักหมมมานับพันพันปี
And grizzly ghouls from every tomb
ร่างยักษ์ปักหลั่นเผยตัวจากหลุมฝังทุกที่
Are closing in to seal your doom
กำลังเยื้องกรายเข้ามาจัดการคุณให้เบ็ดเสร็จ
And though you fight to stay alive
และถึงแม้คุณจะสู้เพื่อให้ตัวเองอยู่รอด
Your body starts to shiver
ร่างของคุณกลัวสั่นสะท้านไปจนทั่ว
For no mere mortal can resist
กับการที่ใกล้จะหมดลมหายใจเกินต้านทาน
The evil of the thriller
ความชั่วร้ายเผยตัวความน่าสะพรึงกลัว