๒๐. LIE
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมไม่ใช่สายหรืออะไร” กรจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างระแวดระวัง แน่นอนกับสิ่งที่เขาทำ มันต้องรอบคอบระมัดระวังตัวอยู่เสมอ เพียงแต่ว่าในคราวนี้นั้น “ไว้ใจได้พี่กร พี่ฤกษ์เขาติดใจของของเรามากน่ะพี่” เสียงพูดเสริมด้วยอาการร่าเริงนั้น ทำให้กรต้องหันกลับมาต้องหน้าคนพูดด้วยอีกคน
“ใช่ครับ คือ ดรีมเคยแบ่งให้ผมลอง มันดีมากเลยผมชอบ เลยอยากจะขอซื้อเก็บเอาไว้ส่วนตัวบ้าง” ฤกษ์รีบพูดแสดงความบริสุทธิ์ใจ ก่อนจะได้แรงเชียร์คำพูดสนับสนุนจากคนที่พาฤกษ์มาหากรถึงที่ “ดรีม” กรเอ่ยขึ้นพลางเลิกคิ้วไปทางเจ้าตัว ที่ยิ้มอาย ๆ เมื่อไม่เคยบอกให้กรรู้มาก่อน ถึงชื่อที่ตัวเองใช้เวลาออกไปหาลูกค้าให้กับอีกฝ่าย
“มึงไปหยิบของมาให้เขาทีสิ” กรเอ่ยกับดรีมด้วยน้ำเสียงไม่บ่งบอกอารมณ์ ฤกษ์ๆ ได้ยินแบบนั้นก็พอจะยิ้มออก เพราะก่อนหน้าที่เขาจะตัดสินใจมากับดรีม เขารู้สึกกังวลและกลัวอยู่ไม่น้อย ว่ามันจะเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ที่จะตัดสินใจทำอะไรแบบนี้ แต่พอมาเจอกับกรที่ดรีมนั้น รับรองแล้วรับรองอีก ว่ากรนั้นไม่มีอะไร แค่เป็นคนตรงไปตรงมา แต่อาจจะหน้าดุไปหน่อยเท่านั้นเอง
“บ้านน่าอยู่นะครับ” ฤกษ์ชวนกรคุย ขณะที่รอให้ดรีมเข้าไปด้านหลังบ้าน เพื่อเอาของที่ต้องการซื้อมาให้ กรกวาดสายตาไปรอบ ๆ บ้านไม้ในชุมชนแออัดของเขา แค่นลมหายใจหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะพยักหน้าให้กับฤกษ์ ที่ชายหนุ่มชวนอีกฝ่ายคุย เพื่อหวังจะลดบรรยากาศความตึงเครียดให้น้อยลง เมื่อต้องอยู่กันต่อหน้ากับกรลำพัง
“สามแพ็กนะพี่” กรและฤกษ์หันไปมองทางต้นเสียง กรเช็กดูของเหล่านั้น ไม่ได้พูดอะไร “ห้าหมื่นใช่มั้ยครับ” ฤกษ์รีบหยิบเงินออกจากกระเป๋ากางเกง มือสั่นเล็กน้อย เพราะตื่นเต้นทั้งกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ รวมไปถึงกับกรที่ดูเป็นคนเงียบ พูดน้อย เดาใจได้ยาก และกำลังมองตรงมาที่เขา
“หนึ่งแสน” ฤกษ์ชะงักเมื่อได้ยินกรพูดแบบนั้น “คุณเพิ่งมาครั้งแรก ห้าหมื่นสำหรับราคาคนคุ้นเคยกันแล้ว” ฤกษ์เหลือบสายตาไปมองทางดรีม ที่ทำยิ้มแหย ๆ เป็นเชิงขอโทษขอโพยชายหนุ่ม เพราะปกติดรีมก็บอกราคานี้กับพวกลูกค้าคนอื่นเสมอ ไม่คิดว่าฤกษ์จะเปลี่ยนราคาต่อหน้าแบบในครั้งนี้ แต่ดรีมก็เลือกที่จะเงียบ เป็นการดีกว่าที่จะไม่ได้ทักท้วงอะไรกรออกไป
“ของมันดีจริงนะพี่ฤกษ์ เชื่อดรีมสิ พี่ชอบแน่ ๆ” ดรีมพูดเชียร์ กรยืนยันราคาที่บอกออกไป ฤกษ์หน้าเสียเล็กน้อย เมื่อคิดว่าเขาจะจ่ายในราคาที่น้อยกว่านี้ แต่ต้องมาเพิ่มเงินอีกเท่าตัว “โอเคครับ แต่ผมต้องกลับไปเอาเงินที่รถ” ฤกษ์คิดถึงเงินที่เขาซุกเอาไว้ที่ใต้เบาะคนขับ เงินที่ได้มาจากลูกค้า จ่ายให้เป็นค่าโปรเจ็กต์ใหม่ที่ลูกค้าตกลงว่าจ้างบริษัทที่ฤกษ์ทำงานอยู่
“ห้าหมื่นนั่น วางเอาไว้ก่อน” เสียงพูดนั้นไม่เชิงสั่ง แต่เด็ดขาดอยู่ในที “ไม่เป็นไรหรอกพี่” ดรีมคะยั้นคะยอให้ฤกษ์ทำตามที่กรบอก “พี่รีบออกไปเอาเงิน เดี๋ยวหนูแพ็กของเตรียมเอาไว้ให้อย่างดี พอพี่กลับมา ก็รับของไปได้เลยทันที” ฤกษ์มองไปที่เงินปึกใหญ่ที่เขาวางลงบนโต๊ะข้างหน้ากร ลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยอมออกไปเอาเงินที่รถแต่โดยดี
“มึงไปเจอไอ้นี่ที่ไหน อู” คล้อยหลังฤกษ์เดินออกจากบ้านไปแล้ว กรก็ถามอูในทันที “ก็ที่บาร์ที่ฉันไปนั่นแหละ วันนั้นไอ้นี่มันเมามาก ถามหาของไม่ขาดปาก ฉันก็เลยลอง ๆ แย็บมันดู มันเล่นด้วย พอดีฉันติดของไปนิดหน่อย ก็เลยให้มันลอง มันก็ติดใจ” ดรีมเล่าเรื่องในเวอร์ชันปลอดภัยของตัวเองให้กรฟัง
“แล้วมึงก็คิดว่ามึงไว้ใจมันได้” กรยิงคำถามออกไปอีกครั้ง อูรีบพูดบอกกับกรออกไปในทันที “ไว้ใจได้สิพี่” อูพูด “พี่กรก็รู้ว่า ก่อนที่ฉันจะตกลงซื้อขายกับลูกค้า ฉันต้องมั่นใจแล้วเท่านั้นว่ามันไม่ได้เป็นสายหรือพวกสืบปลอมตัวมา แล้วที่ผ่านมาฉันเคยทำให้พี่ผิดหวังด้วยหรือ แถมคราวนี้ ฉันก็หาหมูมาให้พี่เชือดสองเท่าถึงที่เลย พี่ต้องตกรางวัลให้ฉันอย่างงามแล้วล่ะ” อูพูดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ทำท่าออดอ้อนแฟนหนุ่มอย่างเปิดเผย
“แล้วมึงชื่อดรีมเนี่ยนะ” กรถามออกไป นึกหมั่นไส้อีกฝ่ายอยู่ไม่น้อย “ก็ฉันอยากจะมีชื่อเพราะ ๆ อย่างคนอื่นเขาบ้างน่ะ อะไรกัน ชื่อฉันมันทำให้ฉันลืมกำพืดตัวเองไม่ได้สักที ฉันไม่อยากจำแล้ว ว่าฉันมาจากไหน ที่มาฉันเป็นใคร พอพี่เอาฉันมาเลี้ยงดู ฉันก็อยากจะเป็นคนใหม่ ลบคราบเน่า ๆ ที่ฉันเคยเป็น” อูไม่อยากเหลือความทรงจำอะไรทั้งนั้น กับสถานที่ที่เขาจากมา
“ไม่ใช่ว่ามึงเรียกตัวเองว่าดรีม เพื่ออ่อยใคร ทำอะไรอย่างว่ากับไอ้นี่หรอกนะ” กรพูดออกไป อูส่งเสียงร้องปฏิเสธในทันที “บ้าสิพี่ ฉันมีผัวแล้วนะ พี่เป็นผัวฉัน แล้วฉันจะไปให้ใครคนอื่นเอาได้ยังไง พี่พูดแบบนี้ฉันเสียใจนะ” อูทำท่ากระเง้ากระงอดใส่กร ที่กรทำหัวเราะในลำคอเบา ๆ
ฤกษ์กำเงินในมือเอาไว้แน่น เงินอีกสองแสนบาทที่อยู่ในซองกระดาษสีน้ำตาล ที่เขาได้รับมาจากลูกค้า ตอนตามลูกค้าไปเบิกเงินที่ธนาคาร ที่ฤกษ์ยืนยันว่า อยากให้ลูกค้าจ่ายเป็นเงินสดมากกว่า เพื่อความคล่องตัวในการจัดการซัพพลายเออร์ วิธีรับเงินจากลูกค้า ที่ฤกษ์ทำมาโดยตลอด โดยยังไม่เคยมีปัญหาอะไร
“เอาวะ ได้กำไรจากตรงนี้ เงินลูกค้าก็ไม่ได้หายไปไหนนี่หว่า เงินหมุนมันเอาไปทำกำไรได้ ทำไมไม่ทำวะ” การจับเสือมือเปล่าแบบนี้ ฤกษ์เคยทำมาก่อน และมันก็ทำเขาได้เงินมาใช้แบบสบายมือ เพียงแต่ครั้งนี้มันเกี่ยวกับเรื่องเสี่ยงมาก ๆ แต่ชายหนุ่มก็คิดว่า เขาสามารถบริหารจัดการเรื่องนี้ได้สบาย คิดแบบนั้นแล้ว ฤกษ์ก็แบ่งเงินอีกห้าหมื่นบาทถือลงจากรถ แล้วเดินกลับเข้าไปในตรอกเล็ก ๆ นั้นอีกครั้ง
เพียงไม่กี่วันต่อมา กรต้องเจอเรื่องที่ไม่คาดคิด เมื่อตอนนี้เขากำลังนั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้านายใหญ่ ที่กำลังโมโหอย่างบ้าคลั่ง บุกมาหาเขาถึงบ้าน ด้วยความฉุนเฉียว เมื่ออยู่ ๆ ของที่เคยขายได้ดี กลับมีใครไม่รู้มาตัดหน้า ทำให้ทางกลุ่มต้องสูญเสียเงินไปไม่น้อย ทั้ง ๆ ที่มันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
“มึงจะบอกกูอย่างนั้นหรือวะ ไอ้กร ว่ามึงไม่รู้เรื่อง” นายใหญ่ชี้นิ้วไปที่ถุงพลาสติกอัดแน่นไปด้วยของ ที่วางกองกันอยู่บนโต๊ะ ในมือของนายใหญ่ถือปืนกระบอกดำมะเมื่อม กวัดแกว่งๆ ไปมาอยู่ใกล้ใบหน้าของกร แลดูน่าหวาดเสียว “นอกจากของจะโดนขายตัดหน้าแล้ว มึงเห็นอะไรนี่มั้ยไอ้กร ของเราแม่งถูกมือดีเอาเหี้ยอย่างอื่นมาผสม เฮียเขาโกรธกูมาก หาว่ากูย้อมแมวให้กับลูกค้าเขา เพราะของมันเป็นของที่มาจากเรา” กรมองที่ถุงพลาสติกอัดแน่นไปด้วยผงสีขาวนั้น
“ถ้ากูจะยิงกบาลมึงทิ้ง มึงก็ตายเปล่าไอ้กร แล้วกูก็จะไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาด้วย เมื่อมึงตายห่าไปอย่างหมาข้างถนน” นายใหญ่ตวาดเสียงดังลั่นไปหมด “ถ้างั้นมึงไอ้กร มึงไปหามา ว่าใครที่เป็นตัวการในเรื่องนี้” กรรับปากนายใหญ่ออกไปในทันที “มึงแน่ใจนะ ว่าไม่มีใครในคนของมึง ที่ทรยศกู” กรกลืนน้ำลายลงไปอย่างยากลำบาก แต่ก็ตอบนายใหญ่ออกไป ว่าเขาจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย
ทันทีที่อูกลับมาถึงบ้านในคืนนั้น หลังจากออกไปท่องราตรีเพื่อหาลูกค้า และหาความสุขสนุกส่วนตัว โดยไม่ทันได้ตั้งตัวใด ๆ อูก็ถูกกรที่รออยู่เกือบทั้งคืน ให้อีกฝ่ายกลับมาถึง ก็ตรงเข้าคว้าตัวอู แล้วประเคนหมัดลุ่น ๆ เข้าใส่ที่ใบหน้าของอู เด็กหนุ่มถึงกับร่วงลงไปนอนที่พื้น มึนงงไปหมด แบบจับต้นชนปลายไม่ถูก
“พี่กร” อาการทั้งเจ็บทั้งจุก เกือบจะหมดสติลงไปของอู ทำให้เขาทำได้แค่เรียกชื่ออีกฝ่ายออกมาด้วยเสียงอันอ่อนระโหย กรเตะซ้ำเข้าที่ชายโครงของอูอีกหลายที ก่อนจะยืนมองเด็กหนุ่มหมดสติสลบเหมือดคาที่อยู่ที่พื้น แม่ของกรที่ได้ยินเสียงเอะอะดังลั่นรีบวิ่งออกจากห้องนอนมาดู ก่อนที่จะเห็นกรชี้นิ้วให้แม่ของเขากลับเข้าห้องไป หญิงวัยกลางคนทำตามอย่างโดยดี นึกดีใจลึก ๆ ที่เห็นอูตกอยู่ในสภาพสะบักสะบอมเช่นนั้น
ใช้เวลาจนถึงรุ่งเช้า ที่กรเองก็ยังไม่ได้นอนเลย อูถึงฟื้นคืนสติกลับขึ้นมา ร่างกายเจ็บปวดรวดร้าวไปทุกส่วน ระบมไปหมดทั่วสรรพางค์กาย แต่ก็เอ่ยเรียกชื่อของกรที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันบนเตียงนอนนั้น ออกไปเบา ๆ กรหันไปมองหน้าอู ที่พยายามจะยันตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ก็ทำไม่ไหว ได้แต่พังพาบนอนอยู่ที่เดิม
“อู มึงบอกกูมาที ว่ามึงไม่ได้หักหลังกู” กรถาม พยายามควบคุมน้ำเสียงที่สั่นเครือนั้นให้เป็นปกติ “ฉันไม่เคยหักหลังพี่เลยสักครั้ง พี่กร” อูตอบกลับไป เหลือบมองไปที่โต๊ะเครื่องแป้งใกล้ ๆ กันกับเตียงนอน เงินปึกใหญ่ที่อูได้มาจากการขายของให้กับลูกค้า ตอนออกไปเมื่อคืน วางอยู่ตรงนั้น อูมีน้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม
“เงินอยู่ครบใช่มั้ยพี่กร เพราะฉันไม่เคยโกงพี่เลยจริง ๆ” กรมองหน้าอู ขอบตาของเขาร้อนผะผ่าว เมื่อต้องกลั้นไม่ให้หยาดน้ำใสอุ่นนั้นไหลล้นพ้นขอบตาลงมา “กูถามมึงอีกครั้งนะ” อูทำท่าสะดุ้งเพราะความกลัว เมื่อกรพูดพลางยื่นมือไปแตะแผลบนใบหน้าของอู “มึงกับกูเอากันเมื่อคืนก่อน ไหนมึงบอกกูมาที ว่ามึงขายยาให้ไอ้เหี้ยนั่นอย่างเดียว มึงไม่ได้ไปเอากับมันมา” กรมองอูหลับตาส่ายหน้าปฏิเสธ ร้องสะอึกสะอื้น น้ำตาไหลพรากลงมาไม่ขาดสาย
ฤกษ์ใจชื้นขึ้น เมื่อคนที่เขานัดไว้จากแอพเมื่อวาน ขับรถเข้ามาจอดตรงที่นัดแนะกันเอาไว้ ก่อนจะเดินมาเปิดประตูรถของเขา ที่จอดอยู่ไม่ไกล ฤกษ์มองอีกฝ่ายอย่างเซ็ง ๆ เล็กน้อย เมื่อตัวจริงกับรูปที่ลงเอาไว้ ไม่ตรงปกเลยสักนิด แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ฤกษ์บอกตัวเองว่าไม่เป็นไร ให้คิดเสียว่ายังไงก็เป็นลูกค้า
“ของดีจริง ๆ รับรองได้” ฤกษ์หยิบเอาถุงพลาสติกเพียงถุงเดียว ที่เขายังไม่ได้เอาตัวอื่นลงไปผสม เป็นถุงดั้งเดิมของเพียว ๆ ที่ได้มาจากตอนไปบ้านกร แน่นอน เขาต้องการให้ลูกค้าติด ก่อนจะซื้อเพิ่มกับเขา ซึ่งเขาจะให้ของที่เอามาผสมใหม่ เพื่อเพิ่มปริมาณและอัพราคา ฤกษ์ไม่ได้คอกจะทำแบบนี้ต่อเนื่อง แค่อยากจะทำกำไรให้ได้มากที่สุดในคราวนี้ เพราะมันมีความเสี่ยงมหาศาลต่อชีวิตของเขาจริง ๆ
“ลองด้วยกันสิครับคุณ ลอย ๆ เสียว ๆ” ลูกค้าคะยั้นคะยอให้ฤกษ์ร่วมวงด้วย ฤกษ์ไม่อยากเสียเที่ยว เขาหงุดหงิดงุ่นง่านมาหลายวัน อยากจะหาที่ระบายอยู่เช่นกัน พอคิดว่าจะทำตัวเป็นเอเย่นต์แบบนี้แค่ชั่วคราว ฤกษ์ก็เลยไม่ออกไปเจอดรีมอีก เพียงไม่นานหลังจากดึงเข็มฉีดยาออกจากแขน ฤกษ์ก็รู้สึกล่องลอยอยู่ในฉิมพลีวิมาน โดยที่มีลูกค้านั้นก้มหน้าซุกลงไปที่หว่างขาของเขา ก่อนจะครอบปากอุ่นชื้นลงตลอดความใหญ่ยาวของฤกษ์ที่มี
เสียงโทรศัพท์มือถือของฤกษ์ดังขึ้น ดึกมากขนาดนี้แล้ว ภรรยาของเขาจึงโทรตามด้วยความเป็นห่วง ฤกษ์หยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดู พอเห็นเป็นชื่อใคร ก็กดนิ้วลงที่หน้าจอทันที ก่อนจะโยนมันไปไว้ที่หน้ารถ เสียงครางกระเส่าของฤกษ์สั่งให้ลูกค้าที่กำลังป้อนความสุขทางกามกิจให้เขา เร่งเร้าดูดดุนให้สะใจมากขึ้นอีก ดังไปทั่วรถแบบไม่ต้องปกปิดกันอีกต่อไป เมื่อตอนนี้ฤทธิ์ของของดีกำลังพลุ่งพล่านอยู่ภายในตัวของผู้ชายทั้งสองคน
“พี่ฤกษ์ พี่อยู่กับใคร พี่ทำอะไรน่ะ” เสียงภรรยาของฤกษ์ตะโกนถามอย่างบ้าคลั่งมาตามสาย เมื่อสายที่เธอโทรไปหาสามี ยังไม่ถูกตัด แต่เธอได้ยินเต็มสองรูหูว่าสามีของเธอนั้น สั่งผู้ชายอีกคนให้ทำเรื่องน่าบัดสี และพากันร้องระงมไปด้วยความสุขสมจนดังลั่น “หยุดร้อง หยุดร้องเสียที แม่บอกให้หยุดร้องยังไงล่ะ พี่ฤกษ์ หยุดเดี๋ยวนี้นะ มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน เนี่ยนะที่พี่บอกว่าออกไปหาเงินพิเศษน่ะ ไอ้พี่ฤกษ์ ไอ้เหี้ยฤกษ์” เสียงภรรยาของฤกษ์ทั้งตวาดลูกน้อยวัยไม่กี่ขวบที่ร้องไห้โยเยหาผู้เป็นพ่อ รวมถึงตะโกนใส่ไปตามสายกับสามีของเธอ ที่ไม่ต้องเดาก็รู้ ว่ากำลังทำอะไรอยู่กับผู้ชายอีกคน
***************************************************
คำแปลเนื้อร้องเป็นภาษาไทยโดย Jay J
Eminem feat. Rihanna - Love the Way You Lie
https://www.youtube.com/watch?v=RnkShwdXfycJust gonna stand there and watch me burn?
จะแค่ยืนมองอยู่ตรงนั้นตอนที่ฉันรวดร้าว
Well, that's alright, because I like the way it hurts
ก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันก็สะใจดีที่วิถีความเจ็บนี้
Just gonna stand there and hear me cry?
หรือจะยืนอยู่อย่างนั้นฟังเสียงฉันคร่ำครวญ
Well, that's alright, because I love the way you lie
ก็ไม่เป็นไรอีกนั่นแหละ เพราะฉันชอบวิธีโกหกของเธอ
I love the way you lie
รักในการโกหกที่เธอให้กัน
I can't tell you what it really is
ฉันก็บอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร
I can only tell you what it feels like
ที่รู้ก็แค่บอกเธอได้ว่ารู้สึกยังไง
And right now, there's a steel knife in my windpipe
ในตอนนี้ เหมือนได้กลืนมีดเหล็กกล้าลงคอไป
I can't breathe, but I still fight while I can fight
หายใจแทบไม่ออก แต่ก็ต้องสูดเมื่อยังพอสู้ไหว
As long as the wrong feels right, it's like I'm in flight
ตราบใดไอ้ก้อนความรู้สึกแย่มันยังคงถูกอยู่ ก็เหมือนกับบินขึ้นสู่ฟ้า
High off of love, drunk from her hate
เคลิ้มไปตามแรงรัก เมาไปกับความจงชังจากเธอ
It's like I'm huffing paint and I love her, the more I suffer
เหมือนฉันสูดดมสารพิษ เมื่อยิ่งรักเธอก็ยิ่งไม่ยอมหยุด
I suffocate and right before I'm about to drown
หายใจไม่ออกยังไง แม้จะกำลังจมดิ่งลงถึงที่สุด
She resuscitates me, she fucking hates me
เอกลับฟื้นเรียกให้ฉันมีชีวิตกลับมาใหม่อีกครั้ง ให้รับรู้ว่าเธอแม่งโคตรเกลียดกัน
And I love it, "Wait
และฉันก็ยังคงรักอยู่ ได้แต่พูดว่าเดี๋ยวนะ
Where you going?" "I'm leaving you"
เธอจะไปไหนกัน เธอบอกว่าเธอจะทิ้งกันไป
"No you ain't, come back"
ฉันได้ตู่ดว่า ไม่มีทาง เธอกลับมาหากันเดี๋ยวนี้
We're running right back, here we go again
เราสองคนกลับไปที่เดิมอีกครั้ง และที่นี่เอง
It's so insane 'cause when it's going good, it's going great
มันช่างบ้ามากจริงจริง เพราะยามรักน้ำต้มผักก็ยังว่าหวาน
I'm Superman, with the wind at his back, she's Lois Lane
ฉันเหมือนเป็นดั่งซุปเปอร์แมน ต่อให้หนักหนาแค่ไหน ก็ยังต้องมีเธอลูอิส เลน เป็นนางเอก
But when it's bad, it's awful
แต่พอจืดจางน้ำต้มผักนั้นก็ขมไม่เจือจาง
I feel so ashamed, I snapped, "Who's that dude?"
ฉันได้มีแต่ความอับอาย สติหลุด ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันเป็นใคร
I don't even know his name, I laid hands on her
ฉันไม่รู้จักชื่อจริงจริงของมันด้วยซ้ำ จนต้องลงมือลงไม้กับเธอ
I'll never stoop so low again, I guess I don't know my own strength
ฉันไม่สามารถรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่าไปมากกว่านี้อีกแล้ว ฉันว่าฉันประมาณพละกำลังตัวเองไม่เป็น
You ever love somebody so much you can barely breathe when you're with 'em?
เธอเคยรักใครสักคนจนมากไปบ้างไหม คุณแทบจะหายใจไม่ออก เวลาอยู่ใกล้กัน
You meet, and neither one of you, even know what hit 'em
ตอนเจอกัน ทั้งคุณและเขาทั้งคู่ ไม่รู้เลยว่าถูกอะไรเข้าครอบงำ
Got that warm fuzzy feeling, yeah, them chills, used to get 'em
มันมีแต่ความอบอุ่นสบายใจ อะไรก็สบายตา เคยได้รับแต่สิ่งพวกนั้น
Now you're getting fucking sick of looking at 'em
แต่มาตอนนี้ แค่ได้เห็นก็ยิ่งรู้สึกผะอืดผะอมกระอักกระอ่วน
You swore you've never hit 'em, never do nothing to hurt 'em
คุณเคยสาบานว่าคุณจะไม่ทำร้ายกัน ไม่ทำให้อีกฝ่ายต้องเจ็บช้ำ
Now you're in each other's face
แต่มาตอนนี้ได้แต่มีการเผชิญหน้า
Spewing venom in your words when you spit 'em
ด่าทอคำหยาบคายถ่มแต่ความเลวร้ายใส่กันและกัน
You push, pull each other's hair, scratch, claw, bit 'em
ผลัก ดึง ทึ้ง ข่วน คว้า กัด อะไรก็ตามที
Throw 'em down, pin 'em, so lost in the moments when you're in 'em
ดันให้ร่วงลงกับพื้น กดให้อยู่อย่างนั้น จำไม่ได้ว่าครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน
It's the rage that took over, it controls you both
มันคือความเดือดดาลที่เข้าสิงสู่ มันควบคุมคุณทั้งคู่
So they say you're best to go your separate ways
ใครก้บอกถ้างั้นก็ต่างคนต่างแยกกันไปเสียเถิด
Guess that they don't know ya 'cause today, that was yesterday
เดาว่าพวกเขาไม่รู้ว่าคุณเป็นยังไงบ้างแล้วในวันนี้ จำได้แต่เรื่องวันวาน
Yesterday is over, it's a different day
วันก่อนจบลงปแล้ว วันนี้มันไม่เหมือนเดิม
Sound like broken records playin' over
เหมือนแผ่นเสียงดังตกร่องอยู่ซ้ำซ้ำ
But you promised her, next time you'll show restraint
คุณได้แต่สัญยาว่าครั้งหน้าจะควบคุมตัวเองให้ดี
You don't get another chance, life is no Nintendo game
แต่คุณไม่มีโอกาสครั้งใหม่อีกแล้ว ชีวิตจริงไม่ได้แค่กดปุ่มเริ่มเกมใหม่
But you lied again
คุณก็ได้แต่ดกหกอยู่อย่างเดิม
Now you get to watch her leave out the window
คราวนี้คุณได้แต่มองเธอเหมือนนกบินจากออกหน้าต่างไป
Guess that's why they call it window pane
คงเพราะอย่างนี้ล่ะมั้งเสียงมันถึงพ้องกับคำว่าเจ็บปวด
Now I know we said things, did things that we didn't mean
มาตอนนี้ฉันรู้ดีว่าเราต่างพูดต่างทำสิ่งที่ไม่ได้ตั้งใจ
Then we fall back into the same patterns
เราจึงกลับเข้าสู่วังวนเหมือนเดิมนั้นซ้ำไปซ้ำมา
Same routine, but your temper's just as bad as mine is
ทำทุกอย่างเหมือนเดิมและอารมณ์เกรี้ยวกราดของเธอก็พอพอกับของฉัน
You're the same as me, when it comes to love, you're just as blinded
เธอกับฉันไม่ได้ต่างอะไรกัน เมือ่มันเกี่ยวของกับคำว่ารัก เราต่างก็ตาบอดกันทั้งคู่
Baby, please come back, it wasn't you
ที่รักได้โปรดกลับมา มันไม่ใช่ความผิดของเธอ
Baby, it was me, maybe our relationship isn't as crazy as it seems
แต่มันเป็นที่ฉัน ที่ว่าความสัมพันธ์ของเราอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เห็น
Maybe that's what happens when a tornado meets a volcano
มันอาจจะเป็นเพราะเรื่องขนมพอสมกับน้ำยา
All I know is I love you too much to walk away though
และฉันรู้ว่าฉันรักเธอมากเกินกว่าที่จะเดินจากกันไปได้
Come inside, pick up your bags off the sidewalk
กลับเข้าบ้านมา ถือกระเป๋าเสื้อผ้ากลับเข้ามาด้วย
Don't you hear sincerity in my voice when I talk?
เธอยังไม่ได้ยินถึงความจริงใจในน้ำเสียงเวลาฉันพูดกับเธออีกหรือ
Told you this is my fault, look me in the eyeball
บอกกับเธอเลยว่านี่มันความผิดฉัน มองตาของฉันสิมองให้ดีดี
Next time I'm pissed, I'll aim my fist at the drywall
ครั้งหน้าหากฉันโมโหโกรา ฉันจะชกเข้ากำแพงแทนใบหน้าของเธอ
Next time? There won't be no next time
ครั้งถัดไป แน่ใจหรือว่าจะมีครั้งใหม่อีกครั้งต่อจากนี้
I apologize, even though I know it's lies
ฉันอยากจะขอโทษ แม้ว่ามันจะเป็นแค่การเอ่ยคำโกหกออกไป
I'm tired of the games, I just want her back, I know I'm a liar
ฉันเหน็ดเหนื่อยกับการต้องมาทำอะไรอะไรแบบนี้ แค่ต้องการเธอกลับมา และฉันมันก็แค่พวกขี้โกหก
If she ever tries to fucking leave again
ถ้าฉันเห็นเธอพยายามจะไปจากฉันอีกครั้งล่ะก็
I'm a tie her to the bed and set this house on fire
ฉันจะจัดการเธอให้อยู่หมัด ถึงขั้นต้องสูญเสีย คงต้องยอม
Just gonna stand there and watch me burn?
จะแค่ยืนมองอยู่ตรงนั้นตอนที่ฉันรวดร้าว
Well, that's alright, because I like the way it hurts
ก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันก็สะใจดีที่วิถีความเจ็บนี้
Just gonna stand there and hear me cry?
หรือจะยืนอยู่อย่างนั้นฟังเสียงฉันคร่ำครวญ
Well, that's alright, because I love the way you lie
ก็ไม่เป็นไรอีกนั่นแหละ เพราะฉันชอบวิธีโกหกของเธอ
I love the way you lie
รักในการโกหกที่เธอให้กัน
I love the way you lie
รักที่เธอไม่เลิกโกหกกัน