ไดอารี่ ของเด็กหนุ่มผู้มากรัก
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ไดอารี่ ของเด็กหนุ่มผู้มากรัก  (อ่าน 3141 ครั้ง)

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สวัสดีค่ะ

ฝากติดตามนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ ถ้าชอบฝากคอมเม้นเยอะๆด้วยน้า

 :oo1:   :katai2-1:

“นทตื่นได้แล้วลูก วันนิ้เปิดเทอมวันแรกเดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะลูก” เสียงหวานของผู้เป็นแม่ ปลุกผมขึ้นมา พร้อมกับ แสงแดดที่สาดส่องมากระทบบนเปลือกตา ทำให้ผมได้รู้ได้เลยว่า นี่ก็น่าจะสายแล้ว แม่ถึงขึ้นมาปลุก พร้อมกับเปิดม่านออกมา
“ขอ...5 .....นาทีนะแม่” พึมพึมขึ้นมาด้วยความงัวเงียแล้วหลับต่อ จริงๆก็อยากจะตื่น แต่มันดันนอนดึก แล้วก็ปิดเทอมมานาน ไม่ชินกับการตื่นเช้าเลย
“ไม่ได้นะ ตื่นเดี๋ยวนี้หรือจะให้ป๊าเป็นคนมาปลุก”
พรึ่บ!! ผมรีบเด้งตัวลุกนั่งขึ้นมาทันที พร้อมกับตาที่ยังคงปิดอยู่ ผมรู้สึกไม่พอใจเลย ที่แม่เอาป๊ามาอ้างแบบนี้
“แม่อ้า! นทง่วงงงง (เริ่มงอแง)” แล้วป๊าก็เดินเข้ามา ผมจะร้องไห้แล้วจริงๆนะ การตื่นไปโรงเรียนนี่มันทรมานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
“จะตื่นได้หรือยัง! โตแล้วนะยังมางอแงอีก”  มาบทโหดแต่เช้า เสียงทุ้มต่ำของป๊าพูดขึ้นมา ทำให้ผม ผู้ซึ่งเป็นลูกที่ดี  รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัว ไม่อย่างนั้น ป๊าอาละวาดแน่ช่วงนี้ผมมีความผิดติดตัวเยอะ ต้องเอาใจป๊าหน่อย วันนี้ผมเปิดเทอม ม.4 เทอม1 เมื่อคืนมัวแต่ท่องโลกโซเชี่ยวเยอะไปหน่อย เลยตื่นสาย ผมอาบน้ำแต่งตัวเตรียมกระเป๋าเสร็จก็ลงไปทานข้าวแล้วก็ให้ป๊าไปส่งที่โรงเรียน
“.……” ระหว่างทางไปโรงเรียน ผมจ้องไปที่ป๊า ที่ดูจะตั้งใจขับรถเป็นพิเศษ โดยไม่เอ่ยปากคุยอะไรกับผมสักคำ ป๊าโกรธผมเรื่องที่ผมทำแจกันหยกของสะสมของเขาแตก เห็นบอกเป็นของหายาก ตอนเกิดเรื่องตะคอกผม จนง้างมือเกือบจะตีผมเลยนะรักของยิ่งกว่ารักลูกอีก ผมนี้ร้องไห้หนักมาก ตอนนี้ผมผิด ต้องง้อ และนี่ก็ปามา 3 วันแล้ว ยังไม่คุยดีๆกับผมเลย คุยกันทีอย่างกับจะกินหัว
“ป๊ายังไม่หายโกรธนทอีกเหรอ นทจะต้องทำยังไงดีเนี่ย นทขอโทษไปหลายร้อยครั้งแล้วน้า ยกโทษให้นทนะป๊า นทจะเป็นเด็กดีน้า” ยื่นหน้าไปหอมแก้มป๊า “น้าๆๆๆ ยอมทุกอย่างแล้ว” ป๊าผมมีอมยิ้มนะแต่ยังคงเข้ม   
“.……..” (เงียบ) “เอิ่ม...” สรุปว่าก็ยังไม่หายโกรธ นี่ก็ถึงโรงเรียนแล้วด้วย
“หวัดดีป๊า นทไปนะ จุ๊บ!!” ผมจุ๊บแก้มป๊าอีกที พร้อมกับเปิดประตูลงรถแล้วเดินตรงไปเข้าแถว แต่รีบก็ไปหน่อยวิ่งไม่ได้ดูอะไรเลย
‘ตุ๊บ!!’ ผมล้ม และอีกคนก็เซถอยห่างออกไปหน่อย เกือบไปจะล้มกองกับพื้นเหมือนผม 
“...เห้ย! มึงจะรีบไปไหนวะ ของกูตกหมดแล้ว” กระเป๋าผ้าเขาหล่นของกระจายออกมาหมดเลย ก็เป็นแค่กระเป๋าผ้าที่คล้องไหล่ ไม่มีซิป ปกติ นักเรียนจะใช้กระเป๋าเป้นี่นะ 
“ขอโทษ พอดีเรารีบไปหน่อย ขอโทษน้า!” ผมพูดทั้งๆที่ยังก้มเก็บของให้กับเขา เก็บเสร็จผมก็ลุกขึ้นเพื่อที่จะส่งของคืนให้... รุ่นพี่ ม.5 (ดูจากดาวบนปกเสื้อ) มัวแต่มองพี่เขาของในมือเลย...
‘ตุ๊บ!’ ของทั้งหมดที่เก็บขึ้นมาก็ตกไปกับพื้นอีกครั้ง
“มึงจะกวนตีนใช่ไหม ของกูตกแล้วตกอีกเนี่ย” พูดอย่างหัวเสียพร้อมกับ ก้มเก็บของของตัวเองแล้วก็รีบวิ่งไป
แล้วผมก็รีบวิ่งไปเข้าแถวเช่นเดียวกัน เพราะเสียงออดดัง มันถึงเวลาทำกิจกรรมหน้าเสาธงแล้วด้วย ไปช้ากว่านี้เดี๋ยวได้โดนทำโทษในแถว ผมยืนหลังสุด ส่วนเพื่อนๆกลุ่มผมไปอยู่กลางแถว ข้างหลังนี่ไม่มีใครอยากยืนหรอก แดดร้อนมาก (โรงเรียนนี้จะเข้าแถวตามคิว มาก่อนก็อยู่หน้า)พอไปถึงก็ทำกิจกรรมหน้าเสาธงจนถึงเวลาขึ้นห้องเรียน
“เห้ย!นท วันนี้มึงมาช้าจังวะ ได้ยืนหลังแถวเลย” วิวเอ่ยถามผมขณะที่กำลังเดินขึ้นห้องเรียนกัน เพื่อนของผม มีทั้งหมด 5 คนในกลุ่ม หน้าตาดีหมดทุกคนเลย ขออวดกลุ่มตัวเองที่เรารวมมาเป็นเพื่อนกันได้ เพื่อนผมก็จะมี วิว มิน นัท ปอ แล้วก็ผม เรารู้จักกันมาก็ตอนตั้งแต่เข้ามาเรียนม.1 แล้ว เป็นเพื่อนที่สนิท ทั้ง 4 คนของผมเลย
“เออดิ ปกติมาเช้านะมึง เอ๊ะ! ขามึงไปโดนอะไรมาวะ ทำไมถลอก” นัทเอ่ยถามพร้อมชี้ไปบริเวณบาดแผล (แล้วพวกมันก็ก้มดูที่ขาผมกัน) เออผมพึ่งสังเกตุ พอเห็นแล้วแสบเลยทีนี้ ToT
“เออน่าวันนี้ผิดพลาดทางเท็คนิคว่ะ กูรีบวิ่งแล้วก็ไปชนคนอื่นเลยหกล้ม” พูดพร้อมกับก้มลงเอากระดาษทิชชู่เช็ดแผล
“ซุ่มซ่ามนักนะมึง เจ็บมากหรือเปล่าวะ ไปห้องพยาบาลไหม” คือมันมีเลือดซึมนิดๆ แต่เราก็ไม่ได้จำเป็นถึงขั้นนั้น แม้มันจะแสบ แต่ถ้าไปห้องพยาบาล น่าจะแสบหนักกว่าเดิม
“ไม่เป็นอะไรเว้ย!แค่นี้เอง เดี๋ยวก็หาย อีกอย่างเมื่อคิดนอนดึกมากเลยเบลอ” พูดอย่างไม่ใส่ใจ ก็มันไม่ได้เป็นอะไรหนักขนาดนั้นนี่ ทำไมจะต้องไป ไม่ได้สำออยขนาดนั้น
“ผิดพลาดอะไรวะ ไม่ใช่ไปหาเหยื่ออีกเหรอมึง 555” ปอ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทผมที่สุดในกลุ่ม เอ่ยขึ้นมา (จิกกัดแต่เช้า) ผมหันไปมองค้อนมันทีนึง มันก็เอาแต่หัวเราะ
“ออ ที่มาช้านี้มัวแต่ท่องโลกโซเชี่ยวหาหนุ่มๆอะดิ”  นัทพูดขึ้นมา รู้ทันได้นะไอพวกนี้ ผมก็เบะปาก มองบนใส่มัน
“ได้กี่คนวะ เอามาแบ่งปอบ้างนะเว้ย! มันเหี่ยวหมดแล้วไม่ฮอทเหมือนมึง” ไอมิน ไอนี่กวนตีนสุดๆ มักชอบทำให้ทุกเรื่องเป็นเรื่องตลก
“หยุดพูดจากวนตีนได้แล้ว! เออแล้วใครจะนั่งกับใครเนี่ยเปิดเทอมต้องหาที่นั่งใหม่ นั่งแบบเดิมป่ะ?” หลังจากที่จ้อกันไม่หยุดเรื่องผมก็เลยเปลี่ยนเรื่องสะเลย
“เออนั่งแบบเดิมแหละ จะได้ไม่ยุ่งยากรีบไปเหอะเดี๋ยวที่เต็ม” ปอพูดขึ้น ทุกคนก็ตกลงกันและพากันไปจองที่นั่งและเริ่มเรียนกันจนได้เวลาพัก พวกผมก็เดินไปโรงอาหารกัน คนเยอะมากโรงอาหารของโรงเรียนมันเยอะตลอด
“เออพวกมึง กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ พวกมึงไปจองที่แล้วก็ซื้อข้าวให้กูด้วย เดี๋ยวกูตามไป” แล้วผมก็เดินไปเข้าห้องน้ำพร้อมกับทำธุรส่วนตัว เมื่อเสร็จเรียบร้อย ผมก็ไปล้างมือตรงอ่างหน้าห้องน้ำ......
พรึ่บ! อยู่ๆก็มีคนกระชากแขนผมจากทางด้านหลัง ผมหันไปตามแรงดึง
“เห้ย! อะไรว่ะ” ด้วยความตกใจ ผมก็เลยพูดเสียงดังไปหน่อย พอหันไปมองหน้าคนที่ดึงผม คือ รุ่นพี่คนที่ผมวิ่งชนเมื่อเช้านิ “เอ่อคือ ………” คือปกติผมเป็นคนไม่ยอมใครหรอกนะ แต่ถ้าผมผิดผมก็ยอมรับ แต่ถ้าไม่ผิดผมไม่ยอมหรอก แล้วมากระชากแขนผมแบบนี้ด้วย
“มึงมองกูแบบนี้หมายความว่ายังไงวะ เรื่องเมื่อเช้ายังไม่ได้เคลียเลยนะเว้ย!” รุ่นพี่คนนั้นเอ่ยขึ้นมาเสียงดัง พร้อมกับทำหน้าไม่พอใจ ผมก็มองพี่มันกลับแบบเคืองๆ เหมือนกัน 
“ก็เราขอโทษแล้วไงจะเอาอะไรอีก เราก็ล้มนะเว้ย! ดูขาด้วย” ผมพูดแล้วชี้ให้มันดูทีขา มันเหลือบตาไปมองนิดหน่อย แต่ก็ทำไม่สนใจ อะไรของมันเนี่ย คิดแล้วหงุดหงิด
“เรื่องของมึงเหอะ แต่เมื่อเช้าที่มึงทำของกูตก สีไม้ที่กูเตรียมมามันหัก แถมต้องใช้แข่งประกวดอาทิตย์หน้าด้วย แล้วที่สำคัญราคามันก็ไม่ได้ถูกๆเลยนะเว้ย! ปึก!” พอมันพูดจบก็ปากล่องสีไม้ของมันใส่ผม
“เกินไปหรือเปล่าวะ!” ผมกระชากคอเสื้อมันทันที แล้วไอรุ่นพี่มันก็จับแถวข้อมือผมประมาณว่าจะดึงมือผมออก  ตอนนั้นปอกับนัทคงจะมาตามผมพอดี
“เห้ย! ใจเย็นมึง มีอะไรกันวะ” ปอเอ่ยขึ้น พร้อมกับวิ่งเข้ามาทางผม แล้วมันก็ดึงมือผมออกจากคอเสื้อไอพี่นั่น
“เออมึงมีอะไรวะ มาเข้าห้องน้ำแค่นี้ อย่านะเว้ย! มึงก็รู้มีเรื่องในโรงเรียนมันไม่คุ้ม” นัทพูดขึ้น พร้อมกับเดินมาจับไหล่ผมแล้วก็พูดพยายามให้ผมใจเย็น ผมก็เอาแต่จ้องหน้าไอรุ่นพี่นี่ มันกวนประสาทหรือยังไง
“ก็ไอคนที่กูเดินชนเมื่อเช้าไง” ผมเอ่ยขึ้น ไอรุ่นพี่มันมองหน้าผมแบบ จะเอาเรื่องแต่มันคงเป็นเด็กเรียนแหละ เพราะดูจากท่าทางแล้ว ไม่ตอบโต้ผมสักเท่าไหร่ จะแสดงออกมาทางสีหน้ามากกว่า ต่างจากผมที่ค่อนข้างจะมือไว “กูก็ขอโทษแม่งไปแล้วไง แล้วแม่งจะเอาห่าอะไรอีกเนี่ย!”
“ก็ของกูมึงทำพังมึงก็ต้องรับผิดชอบดิวะ! ไม่รู้จะรีบไปไหนชนกูไม่พอยังทำของกูตกแล้วตกอีก แล้วสีที่มันหัก กูก็ต้องใช้ประกวดวาดรูปอาทิตย์หน้าแล้วนะ” มันพูดขึ้น พร้อมกับทำท่าอารมณ์เสีย ทำไมมันต้องทำหน้ากวนตีนเวลามันพูดด้วยวะ ผมก็มองมันนิ่งๆ
“เออมึงก็แค่นี้เอง มึงก็ซื้อใช้พี่มันไปดิ” ปอเอ่ยขึ้น ผมก็พยักหน้า 
“ถ้าแค่นั้นกูจะไม่โกรธเลยไอสัส”  ผมก้มหยิบกล่องสีไม้ขึ้นมา ท่าทางจะแพง กล่องแบบเป็นเหล็กอย่างดีเลย “มันโยนกล่องเหี้ยนี่ใส่กูเลยนะ พวกมึงคิดดูแล้วกัน บอกดีๆก็ได้หรือเปล่าวะ” ผมพูดจบแล้วทำหน้าอาฆาตแค้นมัน
“เออพี่ทำเกินไปหรือเปล่าครับบอกมันดีๆก็ได้นี่ เพื่อนผมมันคงไม่โง่ขนาดนั้น” ไอนัทพูดขึ้น ผมก็มองหน้ามัน (เอ๊ะ! ยังไงๆ หลอกด่าเราหรือไม่)
“จริงๆบอกดีๆก็ได้นะพี่  เพราะไอนท มันไม่ใช่คนพูดยากอะไร” ปอพูดพร้อมทำหน้าจริงจัง
“เออๆ กูขอโทษก็ได้ แต่มึงตัองชดใช้ให้กูนะเว้ย!” มันบอกพร้อมกับทำหน้ากวนตีน ผมก็มองมันอย่างไม่ละสายตา
“เออเท่าไหร่ละตอนนี้ตังเราไม่พอหรอกนะ ตอนเย็นค่อยว่ากันแล้วกัน จะเจอกันตรงไหนละ หรือยังไง” ผมพูดพร้อมกับอารมณ์เสียนิดหน่อย ข้าวก็ยังไม่ได้กิน ลงมาพักครูก็ปล่อยช้า เวลายิ่งน้อยๆ หิวก็หิว มาเจอคนแบบนี้อีกมันยิ่งโมโหนะ
“เอ่อ...มึงเอาเบอร์มึงมา เพราะกูไม่แน่นอน เดี๋ยวกูโทรบอก”  มันยื่นโทรศัพท์ให้ผม ผมก็กดเบอร์ผมแล้วยิงเข้าเครื่องผม ผมไม่ชอบรับเบอร์แปลก เลยต้องเมมไว้สักหน่อย แล้วก็แยกย้ายกันไป   
 พอเคลียร์กันจบผมกำลังเดินไปโรงอาหารกับนัทและปอแล้ว....
กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆ! เสียงกริ่งหมดเวลาพักเที่ยงแล้ว ซวยเลย ข้าวยังไม่ได้กิน ต้องมาเสียตังอีกอะไรกันเนี่ยหงุดหงิดจริง หรือเป็นเพราะผมทำของของป๊าพังเวรกรรมมันเลยตามทัน เปิดเทอมวันแรกก็แจ็คพอดแตก เฮ้อ!
หลังจากที่หมดคาบพักเที่ยงแล้วพวกผมก็ขึ้นไปเรียนกัน โดยที่วิว มิน ก็รู้เรื่องที่ผมไปมีปัญหามาแล้ว เพราะผมไม่ได้ไปกินข้าว การเรียนคาบบ่ายของผมเลยไม่รู้เรื่องสักอย่าง ความหิวมันทำลายเซลล์สมองอันน้อยนิดของผมนั่นเอง และก็ยังคิดถึงแต่เรื่องไอรุ่นพี่ประสาทนั่นอีก
หลังจากเลิกเรียน ผมก็แยกย้ายกับเพื่อนๆเพื่อที่จะกลับบ้าน ผมมาเดินเล่นแถวหน้าโรงเรียนคนเดียว เพราะพวกเพื่อนๆผมกลับบ้านไปกันก่อนแล้วอีกอย่างผมก็เดินเล่นรอไอรุ่นพี่นั่นโทรมาแหละ ไม่อยากติดค้างใคร ยิ่งเป็นคนไม่รู้จักด้วย
“ครืดๆๆ !!!!” ผมมองหน้าจอโทรศัพท์ก็ปรากฏชื่อ ‘ไอรุ่นพี่ประสาทแดก’ โทรมาสักทีผมกดรับสาย
“ว่า” พอกดรับ ผมก็เอ่ยถามทันที
“มึงไปเจอกับกูที่เซ็นทรัลXนะ  กูจะไปแล้ว ตึ๊ด!” พอมันพูดจบก็ตัดสายไปเลย ‘แล้วกูจะรู้มะว่าตรงไหนของเซนทรัลX ไอเวร!!’
แล้วผมก็นั่งรถสองแถวไปหามันที่เซ็นทรัล ตอนนี้ก็ 4 โมงเย็นกว่าๆแล้วคนค่อนข้างเยอะ พอถึงผมก็กดโทรไปหามันเลย
“อยู่ไหนวะ บอกให้มาเซ็นทรัล แล้วจะรู้ไหมว่าอยู่ตรงไหนของเซ็นทรัล ไอบ้า!!!” พอมันรับสาย ผมก็ร่ายใส่มันทันที ให้ผมเดินวนไปมาตั้งนาน เพราะโทรไปกว่าจะรับ
“มึงหันหลังมาสิ  ตึ๊ด!!” ผมหันไปข้างหลัง เห็นมันยืนทำหน้านิ่งอยู่ ผมละหมั่นไส้จริงๆ ทำไมต้องมาคลุกคลีกับคนแบบนี้ก็ไม่รู้
“รู้ได้ยังไงว่าเราอยู่นี่ อีกย่างเวลานัดใครกรุณาระบุด้วยว่าตรงไหน เซ็นทรัลXออกจะกว้าง” พูดเสร็จก็ทำหน้ารำคาญใส่มัน   
“กูก็มาถึงพร้อมมึงนั่นแหละ กูเดินตามมึงมาตั้งนานแล้ว แล้วจะโวยวายทำไม ไม่ดูบ้างวะ ประสาท!” เอาสิ มันนี่วอนจริงๆ ผมข่มอารมณ์อย่างอดกลั้น
“อะ..ไอ...เออ เอาเถอะ แล้วตามมาทำไมไม่มาด้วยกันเลยละ หงุดหงินนะนิ เพราะพี่คนเดียวเลย ทั้งนัดมั่วซั่ว แล้วยังทำให้เราไม่ได้กินข้าเที่ยงอีก” โมโหหิว ตอนแรกว่าจะกลับไปกินที่บ้านทีเดียวเลย ดันพามาซะไกล  “มีอะไรก็ว่ามา แล้วเรื่องค่าสีอะไรนั่น เท่าไหร่รีบว่ามา จะได้รีบกลับ” ผมพูดพร้อมกับสงบสติอารมณ์ ความหิว ทำผมหมดแรง ไม่อยากจะทะเลาะอะไรกับมันหรอก
“เออตามมา” แล้วมันก็เดินนำไป ผมก็เดินตาม มันพาผมเข้าร้านเครื่องเขียน โอ้โห!! ช๊อคครับ สีอะไรวะ..สีเคลือบทองคำหรือเปล่า  คือราคามันนี่แบบกล่องนึง 48 สี6,400 บาท!!!
“เอิ่ม...สีอะไรอ่าทำไมมันแพงจัง” ผมมองที่กล่องสี มันแพงขนาดนี้ได้ยังไงกัน เป็นแค่สี กล้าดียังไงมาแพง ผมก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่เลย
“มันเป็นสีไม้เก่าแก่แบรนด์หนึ่งจากยุโรป ที่โดดเด่นก็คือรุ่นที่เป็นการนำเอาสี Pastel มาทำให้อยู่ในรูปของสีไม้ บลาๆๆๆ” พี่มันก็อธิบาย นู่นนี่นั่นของมันไป ผมก็ได้แต่มองสีห่าอะไรของมันแพงชิบ  - เอาละกูหายหิวเลย -
“เออพอได้แล้ว อันนี้ใช่ไหมจะเอาไปจ่ายให้” มันก็ยื่นสีนั้นมาให้ผม แล้วผมก็เอาไปจ่ายให้มัน ผมพอมีเงินเก็บในบัญชีแล้วบัตรATM ที่ผมใช้ก็เป็นแบบรูดซื้อของได้เลย หรือจะเป็นการผ่อนของเลยก็ได้ เพราะมันเป็นของผู้ใหญ่นั่นเอง ป๊าเอามาไว้ให้ติดกระเป๋าไว้ เลยไม่มีปัญหาอันใด
“อะได้แล้ว!” ผมที่จ่ายเงินเสร็จพร้อมกับยื่นของให้มัน มันก็รับไปทันที
“เออขอบใจ วันหลังอย่าไปวิ่งชนใครซี้ซั้วนะมึง” ผมก็คิดนะดีนะที่กูพอมีตัง ยังคิดเลยถ้าผมไม่มีตังจะทำยังไงวะ ดีนะบ้านผมรวย 5555
“เออยังไงเราเป็นฝ่ายผิด ยังไงก็ต้องก็ต้องรับผิดชอบ อีกอย่างเราขอสีที่หักด้วยนะ เดี๋ยวพ่อแม่เราถามจะได้บอกได้’’ ผมไม่ได้โง่นะ ใช้เงินเป็นอยู่ ทุกอย่างต้องมีหลักฐานแหละ ถึงจะไม่เนียนก็เถอะ แล้วมันก็ยื่นสีกล่องเก่ามันมา กล่องก็เหมือนแบบเดียวกับอันใหม่ที่ผมซื้อให้เลย รอยแทบไม่ค่อยมี มันคงจะรักษาอย่างดีเลยสิ ก็แพงขนาดนี้ ไม่อย่างนั้นมันคงไม่โวยวายหรอกสินะ
“อ๊อฟ? ชื่อพี่เหรอ” ผมเอ่ยถาม เพราะเห็นมันตกแต่งกล่องสีมัน แล้วมีชื่อ Aof ตัวใหญ่ อยู่หน้ากล่อง
“อืม แล้วมึงชื่อ นท เหรอ เห็นเพื่อนมึงเรียก” ผมก็พยักหน้าตอบ
“อืม งั้นไปละนะ บาย” ผมหิวแล้ว และก็อยากรีบกลับด้วย เลยตัดบท แล้วกำลังจะแยกกับพี่อ๊อฟแต่ดันไปเห็น ไอเบสไอผู้ชายเฮงซวย เอายังไงดีละทีนี้ 
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เรื่องมันเริ่มจากตอนผมอยู่ม.3ใกล้จะม.4 ที่ผมรู้จักกับไอเบสได้ก็เพราะพี่เต็ม รุ่นพี่ประธานสีของผม ผมรู้จักกับพี่เต็มก็เพราะกิจกรรมกีฬาสี พวกรุ่นพี่มาเรียกให้ไปซ้อมแสตนเชียร์ซึ่งผมอยู่ ม.3 เด็กที่นั่งสแตนเชียร์ จะมีตั้งแต่ ม.1-3 ซึ่งปกติผมโดดเกือบทุกครั้งไม่ค่อยสนใจ แล้วไม่อยากไปนั่งตบมืออะไรไร้สาระด้วย แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะหนีไม่ได้ ม.1-2 ผมก็โดดมาแล้ว ผมเลยโดนตามติด โดยหัวหน้าห้องที่น่ารำคาญ ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะถ้าหนี คะแนนกิจกรรมผมคงไม่เหลือ แล้วผมก็คงจะมีปัญหา ตอนสอบขึ้น ม.4 รุ่นพี่ให้ไปซ้อมเชียร์ ก็ไปนั่งเข้าแถวกัน ฟังพี่ๆมันอธิบาย การตบไม้ตบมือทำท่าทางและร้องเพลงไป พวกผมที่เป็นรุ่นน้องก็ทำตามกันไป แต่มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก คิดถูกแล้วที่ม.1-2 หนีไม่ได้มา.....
“น่าเบื่อว่ะมึง” วิวหันมาบอกผมด้วยสีหน้าเซ็งๆ ผมก็ไม่ได้คิดต่างจากมันสักเท่าไหร่ เพราะเบนสายตาไปมองเพื่อนคนอื่นๆก็คงเซ็งกันหนักอยู่
“เออวะ ไม่น่ามาเลย” ผมตอบมันกลับ พร้อมกับแสดงสีหน้าว่าเบื่อมาก
“โดดปะล่ะ แล้วค่อยขึ้นมาตอนเขาจะเช็คชื่อ จะได้ได้คะแนนด้วย” มินเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับเผยรอยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ พวกผมก็พยักหน้าตอบรับทันที
แล้วเราก็คุยกัน ประมานว่าจะหลุดออกไปจากตรงนี้ยังไง เพราะนี้มันก็เลิกเรียนแล้วด้วย พี่ๆเขาเรียกมาหลังเลิกเรียนเพื่อซ้อม แต่พวกผมไม่คิดว่ามันจะน่าเบื่อขนาดนี้ ให้ทำอะไรก็ไม่รู้น่ารำคาญ แล้วไอพี่ประธานนั่นก็จะแหกปากจนเส้นในลำคอมันกระเด็นหลุดออกมาเลยไหม เห็นแล้วหงุดหงิด พอผมตกลงกับเพื่อนๆได้แล้วว่าจะออกไปยังไง ก็เริ่มแผนเลย.....
“พี่ครับ!” นัทพูดเสียงดังแล้วยกมือขึ้น ทุกคนก็หันมามองที่มัน พวกผมก็เริ่มเผยยิ้มออกมา มันน่าเบื่อจริงๆ ขืนนั่งอยู่อีกหน่อย รากงอกแน่นอน
“มีอะไรครับน้อง” พี่เต็มตะโกนตอบกลับมา ด้วยน้ำเสียงที่ดูจะเหนื่อย ไม่เหนื่อยได้ไง แหกปากขนาดนั้น
“พวกผมขอไปเข้าห้องนะครับ” นัทตอบกลับด้วยท่าทางนิ่งๆ มาดเข้ม ให้ดูรู้ว่าเราอยากไปห้องน้ำจริงๆ
“อ่าๆ รีบกลับมาละ” ตอบกลับมาพร้อมกับส่งยิ้มแปลกๆมาให้
พวกผมก็ลุกจากที่นั่งกัน ทั้ง 5 คนเนี่ยแหละ.....
“พี่คะ 5 คนนี้โกหกค่ะ พวกมันจะโดด!’’ อีแนน หัวหน้าห้องสุดโฉด พวกผมหันไปมองทางอีแนนแบบทันที ทุกคนก็มองมาทางพวกผม
“อีแนน พวกกูจะไปเข้าห้องน้ำ!” ผมตอบกลับอย่างไม่พอใจ มารพจญ ไม่คิดเลยว่านั่งอยู่ห่างจากเราขนาดนี้มันยังได้ยิน รู้ไปหมด สาระแนทุกเรื่อง
“พวกมึงจะเห็นแก่ตัวให้เพื่อนๆซ้อมกันแล้วก็หนีไปเที่ยวกันเนี่ยนะ!” อีแนนลุกขึ้นมาชี้หน้าผม ผมมองมันตาขวางเลย น่าจะต้องเจ็บสักทีนะอีนี่
จากนั้นก็เริ่มสงครามเถียงกัน พี่ๆเขาก็วิ่งมาห้ามแล้ว ก็พยายามทำให้เราใจเย็น อีแนนมันก็เป็นคนที่เหมือนจะดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทุกคนเลยให้มันเป็นหัวหน้าห้อง แต่การที่มันเป็นหัวหน้าห้องมันก็ชอบทำตัวอวดเบ่ง สอดรู้ไปทั่ว ขนาดพวกผมนั่งอยู่ห่างกับพวกมันตั้งไกล มันได้ยินได้ยังไงคิดดูแล้วกัน สงสัยพวกลูกสมุนของมันสินะ.....
“เอาละๆ ไอเต็มมึงก็ไปส่งน้องแล้วกัน เพื่อความสบายใจ” พี่ฟ้า หนึ่งในรุ่นพี่ที่มาคุมกับพวกพี่เต็ม พูดตัดบทเพื่อไม่ให้ปัญหามันลาม เพราะพวกผมยืนเถียงกับพวกอีแนนมาสักพักแล้ว
“เออๆ วู้! เสียเวลาหมด!” พี่เต็มตอบกลับอย่างหัวเสีย แล้วก็เดินนำไป
พวกผมถึงกับเซ็งเลย กลายเป็นตัวปัญหาเพราะปากเน่าๆของอีแนนคนเดียว โถ่! ก็พากันไปห้องน้ำกัน พี่เต็มมันก็เดินนำไปนิ่งๆนั่นแหละ พอถึงห้องน้ำมันก็กอดอกยืนพิงกำแพงรอ พวกผมก็เข้าไปทำกิจส่วนตัวกัน....
“พวกมึงดูความอวดรู้ของอีแนน พาพวกเราซวยหมด!” ผมที่อารมณ์ยังค้าง พูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
“เออ ปากดีฉิบ ผู้หญิงอะไรวะ!” วิว พูดด้วยความโมโห ปกติ มันไม่พูดถึงผู้หญิงแบบนี้นะ อีแนน คงนิสัยเสียสุดๆเกินกว่าสุภาพบุรุษจะทนไหว
“กูว่า ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว พี่เขาเดินเข้ามาตามแล้ว’’ ปอพูดขึ้นมาแล้วชี้ไปทางหน้าประตู
พวกผมก็เลยรีบเดินไปยืนที่โถฉี่ ยืนคนละโถ ยืนฉี่กันไป ผมก็ดันปวดขึ้นมาแล้วจริงๆ คนอื่นๆก็คงแอ๊บกันว่ายืนฉี่สินะ.....
“เล็กวะ!” พี่เต็มเอ่ยขึ้น มันชะเง้อหน้ามาข้างผม พร้อมกับไปดูนทน้อย
“เห้ย!” ผมอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ พร้อมกับเอามือบังนทน้อยไว้ แต่ก็คงไม่ทันแล้ว มันเห็นไปแล้ว “เป็นบ้าอะไรมาดูของคนอื่นเนี่ย!” ผมพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจแล้วก็รีบเก็บนทน้อยเข้ากางเกงทันที แอบเปื้อนนิดนึงเลย
ทั้งเพื่อน และ ไอพี่เต็มก็พากันหัวเราะผมใหญ่ ผมมองค้อนพวกมันแล้วก็เดินไปล้างมือแล้วก็ออกจากห้องน้ำทันที แล้วเดินตรงไปที่ที่ซ้อมเชียร์กัน แล้วก็ไปนั่งที่ประจำด้วยใบหน้าที่บ่งบอกว่าอารมณ์เสียสุดๆ เพื่อนๆก็ตามมานั่งข้างๆผม...
“นท อย่าโกรธดิว้า แค่นี่เอง”  ปอพูดขึ้น พร้อมเอามือจับไหล่ผม ก็เข้าใจมันแค่แซวเล่น แต่ก็อดจะโมโหไม่ได้เลย
“พวกมึงจะหัวเราะกันทำไม มึงเห็นแล้วก็ไม่บอกกูวะ” ตอบกลับปอ อย่างไม่พอใจ
“กูก็กำลังแอบดูของมึงอยู่เหมือนกันวะ” วิวพูดแล้วกลั้นขำ ผมมองมันตาขวาง ยังจะมาสนุก เพื่อนไม่ได้สนุกด้วยสักหน่อย
“พอเลย มึงก็ไปแกล้งมัน” นัทเอ่ยขึ้นมา ก็จริง ไอนัทนี่ สุขุมสุดแล้วในกลุ่ม
แล้วพวกมันก็ง้อผมไปนั่นแหละ จริงๆไม่ได้โกรธอะไรพวกมันหรอก โกรธไอพี่เต็มมันมากกว่า เป็นบ้าอะไรมาแอบดูตอนคนฉี่ แต่ติดไม่พอใจพวกเพื่อนๆนิดๆด้วย จะขำตามมันทำไมก็แค่นั้น อารมณ์เด็กๆตอนนั้น พวกผมก็ซ้อมกิจกรรมไปสักพักพี่ๆก็ให้พัก......
“เอาละค่ะ น้องๆคนไหนมีใครสนใจจะเป็นหลีดโจ๊กบ้างค่ะ” พี่หมวย หนึ่งในรุ่นพี่คุมสแตน ถามขึ้น ทุกคนก็ดูสนใจกันมากเลยทีเดียว แต่คงไม่มีใครอยากเป็นหรอกมั้ง ไปทำตัวบ้าๆบอๆให้อายเขาไปทั่ว
“มีใครจะเสนอตัวหรือเปล่าครับ” พี่เต็มพูดขึ้น พร้อมกับส่งยิ้มกวนๆมองมาทางผม ผมก็ก้มหน้าเล่นเชือกรองเท้าไป คุยกับเพื่อนไปพลาง เพราะไม่มีอะไรจะทำแล้ว นั่งผูกเชือกรองเท้าเล่นเนี่ยแหละ
แล้วก็เริ่มเสียงดังกัน เพราะเกี่ยงกันไปนู่นนี่นั้น ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะไม่ได้อยากจะร่วมกิจกรรมอะไรอยู่แล้ว พูดคุยกับเพื่อนๆเรื่องของกิน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับที่มาซ้อมเลยสักนิด......
“เอาละๆ เงียบๆหน่อยครับ พี่ประธานสีของเราจะเลือกให้เอาเนอะ เพราะดูท่าแล้วตำแหน่งนี้มีแต่คนอยากได้555” พี่กันหนึ่งในรุ่นพี่ที่มาซ้อมเชียร์ พูดไปขำไป มันไม่มีใครจะเป็นหรอก ทำเรื่องน่าอายแบบนั้น ผมก็ยังไม่คิดเลย
“ประธานเล็งใครไว้คะ” พี่หมวย หันไปถามพี่เต็ม ด้วยความสนใจ พี่เต็มมันน่าจะตกลงกับเพื่อนแล้ว เพราะระหว่างที่ทั้งสแตนถกเถียงกันเสียงดัง เห็นมัน ล้อมวงประชุมกันด้วย
“เอาละ ไอ5คนที่อยู่หลังสุดลุกขึ้น” พี่เต็มพูดขึ้น พร้อมกับชี้นิ้ว มาทางพวกผม ทุกคนก็หันมามองกันหมด พวกเราก็ลุกขึ้นกันแบบงงๆ แบบ อะไรเหรอ เพราะแถวหลังสุด และมุมที่มันชี้มาก็มีแค่พวกผม
“โอ้โห! 5 คนเลยเหรอมึง” พี่กันพูดติดตลกขึ้นมา ทำให้ผมรู้สึกตงิดใจเล็กน้อย
“เปล่า คนเต้นอะ กูให้ไอนั่น” พี่เต็มพูดขึ้นมาพร้อมกับ ชี้มาทางผมที่อยู่ตรงกลาง “เต้น นอกนั้นคอยช่วยมัน โอเคไหม” ผมอึ้งเลยสิ ทุกคนก็เฮฮากันใหญ่เพราะรอดตัวแล้ว แต่ใครมันจะไปยอม
“ไม่เอาพี่ ผมไม่เต้นนนนน!” ผมพูดท้วงกลับ อย่างไม่ยอม อายนะนั่น
“มัดมือชกเลยนี่หว่า เห็นของมึงแค่นิดเดียวหลงเสน่ห์มึงละ” นัทพูดขึ้นมา พร้อมสายตายียวน ไอนี่ ปกติจะไม่ค่อยแซวหรืออะไรนะ มันก็เอากับเขาด้วยเหรอเนี่ย
“ไอเชี่ยนัท!” ผมพูดพร้อมกับตบหัวมันไปที
แล้วพวกผมก็ได้ออกไปหน้าสแตน ไอพี่เต็มจงใจแกล้งผมสุดฤทธิ์ มันให้ผมลองเต้นดู ผมก็เต้นเบาๆ แล้วคือทุกคนก็หัวเราะกัน บ้าไปแล้ว มันน่าตลกขนาดนั้นเลยเหรอ ก็เลยเป็นข้อสรุปไปว่าให้ผมนั้น เต้นเป็นหลีดโจ๊ก คั่นเวลาตอนที่พี่ๆหลีดหลักพักกัน พวกไอนัทก็คอยเสริมให้มีสีสันมากขึ้น ตามที่เขานัดแนะกันไว้ ให้ตายสิ ไม่ทันอะไรผมก็กลายเป็นตัวตลกแล้ว ภาพลักษณ์ที่สร้างมา หมดกัน เอ๊ะ! หรือมันไม่มีอยู่แล้วนะ55 พอคุยอะไรกันเสร็จรุ่นพี่ก็ปล่อยกลับ เราก็กำลังจะแยกย้าย พี่เต็มก็เดินมาหา.......
“ทำให้เต็มที่นะเว้ย! เสร็จแล้วเดี๋ยวกูเลี้ยง” พูดเสียงหล่อ พร้อมยักคิ้วอย่างมาดแมน มันทำมาเป็นตีสนิท ซึ่งผมก็ไม่ค่อยอยากสนิท ก็ตอนที่มันให้ผมเต้นให้ดูแกล้งผมสุดๆ หัวเราะดังกว่าคนอื่นเลย เอาแต่บอกว่า “เต้นแรงอีก แรงกว่านี้ แรงอีกกก” แล้วผมจะไปเหลือเหรอ ก็ต้องจัดตามที่มันบอกสิครับ555 ยิ่งบ้าจี้อยู่ด้วย
“เลี้ยงของแพงๆด้วยนะเว้ย!ไอพี่ประธานเฮงซวย!” ผมตอบด้วยความไม่พอใจแล้วก็เดินผ่านมันไป
เพื่อนๆก็ตามมา เพราะตอนนั่งซ้อมเชียร์เราคุยกันแล้วว่าหลังจากเลิกซ้อมจะไปหาอะไรกินกัน นี่ก็ยังไม่เย็นมากด้วย เลยว่าจะไปกินไอติมหน้าโรงเรียนสักหน่อย พอไปถึงร้านก็ไปสั่งๆกัน สักพักก็มาเสริฟ......
“ดีนะ กูไม่ได้เป็นตัวเต้นอะ” ไอปอพอไอติมคำแรกเข้าปาก มันก็พูดขึ้นมาอย่างโล่งใจ
“แต่ซวยกูไง พวกมึงแม่งก็เลว ตัวเสริมก็เสริมเล่นสะกูเด่นเลยนะ” ผมตอบกลับมัน ด้วยความเซ็ง แล้วก็ตักไอติมเข้าปาก ตัวเสริมก็คือจะคอยทำให้ผมเด่น รุมแกล้งผมตอนผมเต้นบ้าง โยนสีใส่ผมบ้าง สาดน้ำใส่ อะไรทำนองนั้น ให้ผมดูตลกมากขึ้นไปอีก นั่นคือคำพูดตอนซ้อมของคุณประธานจอมกวนตีนนั้นแหละ
“อย่างน้อยพวกกูก็ได้โชว์กับมึงนะ” ระหว่างที่ผมมัวแต่คิดเรื่องที่จะได้ทำ ไอวิวก็เอ่ยขึ้นมา ผมเหลือบตาไปมองมัน แล้วก็คิดในใจว่า – โลกสวยเกินไปแล้ว -

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แล้วเราก็พูดไปกันมากมาย กีฬาสีโรงเรียนผมจะมีตอนเทอมสอง เพื่อนๆพวกนี้ผมก็เพิ่งรู้จักกันตอนม.1เนี่ยแหละ ตอนแรกก็ไม่ได้สนิทอะไร แต่ไปๆมาๆก็มารวมกลุ่มกันได้ เหมือนถูกชะตามากกว่า และตอนแรกพวกมันก็ไม่รู้ว่าผมเป็นเกย์ มันมารู้ตอนที่ผมชอบชมผู้ชายคนนั้นคนนี้ว่าน่ารัก จริงๆก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้หญิงเลย มารู้ตัวตอนใจเต้นเมื่ออยู่ใกล้ๆผู้ชายหล่อๆ หรือแอบปลื้มเพื่อนผู้ชายตอนประถม(แก่แดดเนอะ) พอเอาไปปรึกษาพี่โน้ตพี่ชายผม ก็บอกว่าผมคงชอบอะไรแบบนี้แหละ แต่เขาก็รับได้ และหลังจากนั้นทั้งป๊าและแม่ก็รู้ ตอนแรกก็ดูตกใจ เขาบอกรับได้ทุกอย่างที่เป็นผมนั่นแหละ อยากเป็นอะไรเป็นอยากชอบอะไรชอบ แต่ต้องไปในทางที่ดี ผมก็รู้สึกดี ที่ครอบครัว เพื่อนๆ ยอมรับในสิ่งที่ผมเป็น พอเพื่อนๆรู้ไปได้ไม่นาน ปอก็มาปรึกษาผม เพราะมันก็เป็นเหมือนกันผมก็บอกให้มันบอกเพื่อนๆไปตรงๆ เพื่อความสบายใจของทั้งเราเองและเพื่อนๆ ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยการยอมรับที่ดี.....
“อ้าวๆๆ น้องๆหลีดของกูนี่นา” พวกผมที่กำลังคุยกันก็หันไปมอง พี่เต็ม กับพวกเพื่อนๆ ไม่ใช่พวกพี่ๆที่คุมสแตนในโรงเรียน มีโรงเรียนอื่นด้วย พวกผมก็ยิ้มให้นิดหน่อย
“มองอะไรวะ!” ผู้ชายจากโรงเรียนอื่น ที่มาพร้อมกับพี่เต็ม พูดอย่างไม่พอใจ
“ไอเบส มึงอย่านักเลงไอสัส น้องๆกู” พี่เต็มพูดพร้อมกับ ตบกบาลไอเบส นี่คือตอนที่ผมเจอกับมันครั้งแรก ผมจ้องหน้ามันไง มันดู...หล่อดี แต่นิสัยไม่ไหวเลย นักเลงไปหน่อย ทำหน้าทำตาเอาเรื่องน่าดู
พวกผมก็ไม่ได้อะไรเพราะเห็นเป็นพวกเพื่อนพี่เต็มก็แค่หันกลับมาคุยกันปกติ.....
“นท มึงชอบไอแบงค์ เหรอวะ” ไอปอพูดขึ้น เพราะเห็นทั้งโต๊ะเริ่มจะหมดเรื่องที่จะคุย ผมถึงกับชะงัก เพราะเรื่องนี้ผมไม่ได้บอกใคร แบงค์เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน แต่คนละห้อง แบงค์เป็นคนที่ผมแอบชอบ
“ทะ...ทำไมวะ” ผมถามกลับมันด้วยท่าทีที่ อึดอัด เพราะไม่ใช่เรื่องที่ผมอยากจะพูดสักเท่าไหร่
“กูเห็นรูปมันในโทรศัพท์มึง แล้วก็แชทหวานๆที่มึงส่งไปแล้วมันไม่อ่าน” นัทพูดขึ้นนิ่งๆ แต่มันสะเทือนใจผมจัง คือผมชอบไอแบงค์คือเรื่องจริงแต่มันไม่ได้ชอบผม ผมก็รักข้างเดียว....
มันมีเหตุการณ์น่าประทับใจอยู่คือตอนที่ผมเข้ามาม.1ใหม่ๆ เราก็จะปรับพื้นฐานกัน ก็จะเรียนคละกันไปหมดยังไม่ถูกแบ่งห้องที่ชัดเจน ไม่มีใครรู้จักใคร แล้วผมก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แถมไม่ค่อยฉลาดในเรื่องเรียนด้วย ก็มีไอแบงค์ มันนั่งข้างๆผมตอนเรียน มันคอยช่วย คอยตามผมตลอด แต่ไม่ได้สนิทไม่ได้รู้จักอะไรกันเป็นพิเศษ เราจะคุยกันแค่ตอนเรียน แต่นอกจากนั้นมันก็จะไปอยู่กับเพื่อนมัน ผมก็โดดเดี่ยว เพราะเพื่อนประถมของผมไปเรียนที่อื่นกันหมด ก็พอจะมีปอ มาทักมานั่งกินข้าวด้วย เป็นเรื่องที่น่าแปลก ผมกับปอเรารู้จักกันตั้งแต่ยังไม่รู้เลยว่าเราจะได้อยู่ห้องไหน ช่วงเรียนปรับพื้นฐานผมก็มีปอเป็นเพื่อนคนเดียว เพราะคนอื่นๆเขาก็มีเพื่อนกันหมดแล้ว เพื่อนๆคนอื่นของปอก็ไม่ได้เรียนโรงเรียนนี้เหมือนกัน ก็เลยไปด้วยกันได้ จนได้มีการแบ่งห้อง ผมก็ได้อยู่ห้องเดียวกับปอ เป็นเรื่องบังเอิญที่ดีที่สุดเลย ส่วนไอแบงค์ผมก็ประทับใจมันที่มันช่วยผมเรื่องเรียนนั่นแหละ มันดูเป็นคนดี ตอนนั้นผมยังไร้เดียงสายังแยกไม่ออกเลยว่าปลื้มกับชอบหรือรักมันต่างกันยังไง ที่ไอแบงค์ทำถึงจะแค่นั้นมันก็ทำให้ผมหวั่นไหว เพราะมันก็หน้าตาดีด้วย พอเราเรียนปรับพื้นฐานจบ ผมก็พยายามติดตามมัน พยายามหาข้อมูลมัน คุยไลน์บ้างอะไรบ้าง แต่มันเหมือนไม่ค่อยอยากคุยกับผมสักเท่าไหร่ แถมพอเจอก็ทำเหมือนไม่รู้จักกัน เป็นเพราะเพื่อนๆมันนั่นแหละ ชอบล้อเรื่องผมกับมัน มันก็คงจะอาย ผมก็ไม่คิดอะไรมาก ทำได้เท่าที่ทำ ไม่อยากบอกให้เพื่อนรู้ เพราะตั้งแต่แยกห้องไป แบงค์มันก็ดูเปลี่ยนไป ดูเกเรขึ้น ดูนิสัยไม่ดี กลัวเพื่อนๆไม่ชอบด้วย.....
“อะ...อืม” ผมพยักหน้ารับ ไม่รู้จะปิดทำไม มันเล่นโทรศัพท์ของผม ก็คงต้องรู้อยู่แล้ว ปฏิเสธไปยิ่งไปกันใหญ่
“แต่มันนิสัยแย่นะมึง มันเป็นเด็กมีปัญหา ชอบรังแกคนอื่นไปทั่ว มึงก็รู้’’ วิวพูดขึ้นมาอย่างกังวล ผมก็เข้าใจที่เพื่อนเป็นห่วง ผมก็ไม่ได้ว่าจะไปตอแยมันถึงขนาดนั้น ก็เหมือนเราชอบดารา นักร้องนั้นแหละ แค่มอง แค่คุยบ้าง ให้ใจมันชุ่มชื้นจะเป็นอะไรไป
“ไม่รู้ดิ กูแค่...ชอบมันอะ ไม่มีไรหรอก” ตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ ผมไม่ได้ชอบคนไปทั่วนี่นา มันมีเรื่องราว ความชอบมันเลยเกิด แต่ก็เข้าใจความหวังดีจากเพื่อนๆ แม้ว่าอาจจะต้องเจ็บก็ตาม
“ทำไมถึงชอบมันวะ ไม่เห็นมีอะไรดีเลย” มินถามขึ้นมาอย่างสงสัย ผมก็เริ่มจะอึดอัดมากแล้ว
“ไม่รู้ดิ ช่างมันเถอะมึง” ผมเอ่ยแล้วก็เปลี่ยนเรื่องไปเลย ไม่อยากให้พวกมันมายุ่งเกี่ยวมากไป เพราะผมรู้อยู่แล้วว่ายังไงมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่อยากดูแย่ ในสายตาเพื่อนๆด้วย
เราก็พากันเปลี่ยนเรื่องไป คุยกันถึงเรื่องการ์ตูนอะไรไป จนได้เวลากลับก็แยกย้ายกันกลับบ้าน พี่โน้ต พี่ชายผม ไม่กลับบ้านวันนี้ ต้องช่วยทำป้ายที่โรงเรียน พี่โน้ต เป็นกรรมการนักเรียน เลยต้องทำกิจกรรมทุกอย่างที่มี ผมเลยได้มายืนรอป๊าหน้าโรงเรียน พวกไอพี่เต็มก็เดินมาทางผมอีกครั้ง ผมก็ไม่สนใจหยิบหูฟังขึ้นมาฟังเพลงไป พวกก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าผม แล้วก็กำลังจะพูดอะไรสักอย่าง ผมก็เร่งเสียงเพลงให้ดังขึ้น เพื่อจะได้ไม่ต้องฟังมัน แล้วก็หันหน้าหนีมัน...........
พรึ่บ! สายหูฟังผมหลุดออกจากหูผม ไอเบสมันเป็นคนดึง ผมมองมันแบบไม่พอใจมาก ทำแบบนี้ได้ยังไง....
“อย่ากวนตีนได้ไหม!” ไอเบสพูดอย่างไม่พอใจ มันเป็นอะไรของมัน ดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบผมสินะ ผมก็ไม่ตอบอะไร มองมันนิ่งๆ
“นท พรุ่งนี้อย่าลืมมาซ้อมนะ” พี่เต็มพูดขึ้นมา พร้อมส่งยิ้มกวนๆมาให้
“เออ!” ตอบกลับอย่างรำคาญ ทำไมต้องมาตอกย้ำ ต้องมาวนเวียน ทักผ่านๆก็ได้มั้ง เพิ่งรู้จักกันวันนี้เอง
“กูรุ่นพี่มึงนะ เคารพหน่อยสิว้า” พี่เต็มพูดขึ้นมา ติดจะกวนๆไม่จริงจังอะไร ผมก็ไม่ใส่ใจ ไม่รู้จะสนใจทำไมนักหนา
“ผมไปแล้ว” ผมพูดจบก็เดินกระแทกไหล่ไอเบสอย่างแรงแล้วเดินไปขึ้นรถเลย เพราะป๊ามาพอดี
ตอนแรกไอเบสกำลังจะหันมาด่า แต่ผมขึ้นรถก่อน แถมผมทำหน้ากวนตีนให้มันด้วย มันคงโกรธมาก แต่พวกพี่เต็มนี่ก็ขำกันใหญ่ ไม่รู้ว่าจะขำผมอะไรนักหนา.…
และการซ้อมหลีดโจ๊กของผมในทุกๆวันก็เป็นไปตามปกติ พี่ๆก็ช่วยหามุกหาท่าเต้นต่างๆ และการไปซ้อมทุกวันก็ทำให้ผมกับพี่เต็มเริ่มจะสนิทใจกัน เริ่มจะเล่นหัวกันได้แล้ว มันชอบกวนตีน และผมก็ไม่ยอม ก็เลยตีกันบ้าง ดีกันบ้างตามประสารุ่นพี่รุ่นน้อง การซ้อมก็ผ่านไปเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน ที่ผ่านมา ผมก็ได้มีการเจอกับไอเบสเรื่อยๆ มันก็ไม่ค่อยจะพอใจผมสักเท่าไหร่หรอก ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงดูไม่ชอบผมขนาดนั้น เพราะเวลาซ้อมเสร็จ พี่เต็มก็จะพาพวกผมไปหาอะไรกิน กับกลุ่มเพื่อนๆ และพี่ๆที่มาคุมน้องซ้อม ก็เจอมัน พี่เต็มมันเป็นนักดนตรี และเพื่อนๆกลุ่มมันก็นัดซ้อมนัดเจอกันทุกเย็น ไอเบสก็ไปสุงสิงอยู่กับพวกพี่เต็ม แต่ก็ไม่เห็นมันจะทำอะไร มาก็นั่งขรึม ถามคำตอบคำ อะไรของมัน....
แล้วก็มาจนถึงวันกัฬาสี ผมก็มีชุดนะ ถึงจะเป็นแค่หลีดโจ๊กก็เถอะ ชุดผมเป็นชุดพิเศษ เป็นชุดที่คนดีๆเขาไม่ใส่กัน ใส่เสื้อผ้าขาดๆรุ่ยๆ เหมือนคนบ้า หรือคนเร่ร่อน มีวิกให้ด้วย วิกยาวๆ ที่เป็นสังกะตัง มีการแต่งหน้าด้วยนะ หน้าผมขาวแบบชนิดที่ว่าสีขาวเลย สีแบบแป้งโกกิ-_-“ ทาปากแดงจัดชนิดที่ มองจากหน้าโรงเรียน มากลางสนามก็ยังคงเห็นว่านี่คือผม ทาลิบปกติไม่ได้นะ ต้องเลยขอบปากมาเยอะมาก ปากผมเบ้อเริ่มเลย มีไฝเม็ดโตๆอยู่กลางหน้าผากด้วย ไม่พอนะ ขนตายาวเป็นเมตรได้เลยมั้ง กรีดอายไลน์เนอร์ได้แบบว่ากินเปลือกตาผมไปหมด คิ้วนี่คือปิงควาย รวมๆแล้วไม่น่าใช่คน นัดผมไปโรงเรียนแต่เช้า เพื่อให้ผมไปแต่งตัวไม่เหมือนคน เยี่ยมสุดๆเลย พวกไอปอ ใส่ชุดกีฬาสีนั่นแหละ แต่เป็นกางเกงขาสั้น มีผ้าคลุมคนละผืน เหมือนซุปเปอร์แมน แล้วมีหน้ากากปิดหน้าให้ด้วย ทำไมผมไม่ได้ใส่แบบปกติแบบนี้บ้างนะ งานนี้ที่ยืนของผมมีแล้ว เด่นสุดๆ แต่งออกมาเสร็จเท่านั้นแหละ พี่ๆเอย ใครเอยนั่งหัวเราะกันสนั่นหวั่นไหวเลย ขนาดผมดูตัวเองในกระจกยังอดจะขำกับสภาพตัวเองไม่ได้เลย ต้องไปเดินขบวนประจำสีด้วย อายเหลือเกิน.......
“เอาละครับ ไปตั้งขบวนกันได้แล้วว!’’ เสียงแหกปากเรียกของไอพี่เต็มมาแต่ไกล ทำให้ทุกคนรีบร้อนกว่าเดิม
ทุกคนก็ออกไปกัน ผมก็ออกไปด้วย มันให้ผมใส่ถุงน่อยลายตาข่ายด้วยน คือ อุบาทว์ แต่มันดีอย่างนึง ผมว่าไม่มีใครจำผมได้แล้วละ แต่งขนาดนี้ พอออกมาตั้งขบวน พวกผม(หลีดโจ๊ก) ก็ไปยืนประจำจุดที่เขาให้ยืน มีการโชว์เล็กๆ เพราะตอนเดินพาเหรดก็จะมีการพูดพรีเซ้นต์ เกี่ยวกับขบวนสีของผม พอเขาบรรยายถึงผมก็จะมีการเต้น เต้นบ้าๆบอๆของผมไป พวกไอปอก็โปรยดอกไม่ให้ผม จริงๆเด่นกว่าพี่ๆหลีดเดอร์อีกนะเนี่ย มีแต่คนมองผม น่าภูมิใจเหลือเกิน ก็เดินขบวนกันไป อากาศก็ไม่ร้อนมากเท่าไหร่ แต่ก็เหงื่ออกนะ แอบเปียก เพราะความอายชัวร์......
“ไหวไหมมึง” ปอถามผมอย่างเป็นห่วง เพราะดูผมจะไม่ไหว จะขยี้ตาก็ไม่ได้
“มึง แสบตาวะ อะไรเข้าตากูไม่รู้” ผมพพูดจบ ก็กระพริบตาแบบรัวๆ
แล้วพี่ที่แต่งหน้าก็เดินมาซับเหงื่อให้ผมพอดี เขาก็มาดูให้ สรุปแป้งเข้าตา พี่เขาเช็ดออกแล้วก็เป่าตาให้ผม ก็โอเคขึ้นแล้ว เดินขบวนต่อจนมาถึงคิวผมแสดง ก็เต้นไปสิ เอาให้มันหลุดโลก เด้งเข้าไป เลื้อยเข้าไป เซิ้งเข้าไป เอาให้มันส์ เป็นบ้าอยู่คนเดียวไปเลย ทุกคนก็ดูท่าทางน่าจะชอบนะ อายนะ แต่เพลงมันส์เกินจะหยุดได้ พอการแสดงผ่านไปได้ก็ไปยืนเป็นแถวเป็นสีๆ เพื่อทำพิธีเปิดนู่นนี่นั่น เสร็จก็พากันไปที่แสตนสี ผมก็ไปนั่งพักข้างหลังนั่นสแตน.......
“เจ๋งอะนท ครูกรรมการหัวเราะใหญ่เลยละ55” พี่ฟ้าเอ่ยขึ้นหลังจากทีมแสดงมากันครบ มันน่าหัวเราะไหมละ ทั้งลื่นล้มกับรองเท้าพื้นเหมือนมีล้อขนาดนั้น ทั้งยังคันกับชุดนี้อีก เหมือนคนบ้าโดยสมบูรณ์แบบขนาดนี้ไม่ขำให้มันรู้ไป
“ไอเต็มมันเลือกคนถูกจริงๆ” พี่กันพูดติดตลก ผมก็ยิ้มรับ
พูดคุยกันนิดหน่อย พี่เต็มก็เดินมา พร้อมกับเพื่อนๆมัน เพื่อนๆโรงเรียนอื่นก็เข้ามาด้วย คือหลายโรงเรียนก็เข้ามาดูได้ เป็นงานแบบ OPEN หนึ่งในนั้นก็มีไอเบส เดินเก๊กมาแต่ไกล พอพวกเพื่อนพี่เต็มเห็นผมเท่านั้นแหละ มันขำกันใหญ่ หลีดโจ๊กสีอื่นมีหลายคนนะ แต่พวกนั้นแค่แต่งตัวแปลกๆ ไม่เหมือนผม คนเดียวแปลกทั้งตัวแปลกทั้งหน้า บ้าชะมัด..
“เหนื่อยเลยดิ อะ!” พี่เต็มยื่นน้ำมาให้ผม ผมก็รับมาดื่ม อย่างกระหายน้ำเลย
“เฮ้อ!” สดชื่นจัง ผมก็ทำน่าฟิน
“ประหลาดและอุบาทว์!” ไอเบสที่มองผมอยู่สักพัก ก็พูดแบบเหยียดๆแล้วมองผมนิ่งๆ ผมก็มองมันกลับนิ่งๆ
“ปากมึงนี่นะไอเบส ก็แค่แสดงเว้ย! นทมันน่ารักออก” พี่พีพูดขึ้นเขินเลยสิ โดนชมออกหน้าขนาดนี้
ผมก็พูดคุยกับพวกพี่ๆเรื่องทั่วๆไป พวกไอปอก็นั่งพัดนั่งวีกันไป เริ่มร้อนกันแล้วแสงช่วงสายแดดจัดมาก คุยไปได้สักพักก็ไปคุมหน้าแสตนกัน เพราะเขาจะเปิดตัวหลีดแต่ละสี แต่ผมก็นั่งอยู่เนี่ยแหละ เหนื่อย รอถึงเวลาของผมค่อยออกไป ก็นั่งเล่นโทรศัพท์ไป...


ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
“นท หวานใจมึงอะ” มินเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับ ชี้ไปทางแบงค์ ที่เดินผ่านมาแถวนี้ ผมก็เงยหน้าขึ้นมามองนิดหน่อย
“อืม” ผมตอบกลับแต่ก็ ทำเป็นไม่สนใจไง แต่จริงๆอยากวิ่งเข้าไปทักมาก55 แต่ไม่ใช่ในสภาพนี้แน่นอน
ก็นั่งรอกันไป หาอะไรกินไปเรื่อยเปื่อย จะว่าไปมันก็สบายนะ ไม่ต้องไปนั่งร้องเพลงให้เหนื่อย ดีออก จะได้งีบได้ ผมก็ไปนอนตรงเสื่อที่พวกพี่เขาปูไว้วางของ เพื่อนๆก็ตามมานอน เมื่อคืนมัวแต่ดูการ์ตูน เลยนอนดึก แถมต้องมาโรงเรียนแต่เช้าอีก เมื่อเช้าก็เพลียสุดๆ ก็เลยงีบสักหน่อย งีบไปงีบมาดันหลับลึกสะงั้น........
“5555555”
“ฮิ้วๆๆ โห่ววววว”
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกทีก็รู้สึกร้อนไปทั้งตัว พร้อมกับเสียงที่ดังมาก พอลืมตาขึ้นมาดู ผมถึงกับตกใจอย่างแรง ผมมานอนอยู่หน้าแสตน! ให้ตายสิ ผมจะแกล้งหลับหรือตายตอนนี้ได้ไหมเนี่ย! ใครมันลากผมมานี่ก็ไม่รู้ ผมก็ค่อยๆลุกขึ้นนั่ง แล้วมองซ้ายมองขวา เห็นเพื่อนๆผมยิ้มแห้งๆให้ผมแล้วชูสองนิ้วให้ และมีไอพี่เต็ม หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง รู้เลยว่ามันนั่นแหละ มันหิ้วผมมาทั้งเสื่อเลย ให้ตายสิ! เสียงหัวเราะผมลั่นสนามเลย ผมก็รีบลุกก้มหยิบเสื่อแล้วก็วิ่งกลับเข้าไปทางด้านหลังสแตน......
“เล่นบ้าอะไรอีกเนี่ยไอพี่เต็ม!” ผมพูดขึ้นทันทีหลังจาก เข้าไปข้างหลังสแตน พวกพี่ๆเพื่อนๆที่อยู่ก็หัวเราะยังไม่หยุดกัน
“ก็เห็นปลุกไม่ตื่น ก็เลยให้เพื่อนๆบนแสตนปลุกมึงไง”  พี่เต็มพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะออกมา ผมก็มองมันนิ่งๆ
อายครับ อายมากจริงๆ ทำกับผมได้ โถ่! ผมก็เดินคอตกไปนั่งที่ม้าหินอ่อน นั่งไปได้ไม่นานผมก็ได้ไปแสดงต่อ.....
“เอาให้เต็มที่เลยมึง” พี่เต็มพูดขึ้นแล้วกลั้นขำไอบ้านี่นะ!
แล้วผมกับเพื่อนๆก็เดินออกไปกัน ก็จะมีทั้งเต้น และก็โชว์ตลก เป็นการแสดงให้ตรงกับเพลง เป็นเพลงที่เนื้อหาตลกๆ อย่างเพลงจะโกะ(จับกบ) เพลงคันหู เพลงอะไรพวกนี้ ดีนะแต่งตัวมาเยอะเลยไม่มีใครจำผมได้(มั้ง55)….
“ทุกคนพี่ว่าหลีดโจ๊กของสีเรายังไม่แรงพอเนอะว่าไหม!” พี่เต็มตะโกนใส่ทรโข่ง ผมถึงกับหยุดแล้วมองมันนิ่งๆ เหนื่อยก็เหนื่อย ให้เต้นบ้าอะไรคนเดียว พวกไอปอก็เต้นอะไรกันก็ไม่รู้
“ใช่!” พวกบนสแนตก็ใช่ย่อยนะ ตอบพร้อมเพรียงกันเหลือเกิน อยากจะขึ้นไปลากหัวมันลงมาเต้นบ้างจริงๆ
“เอาละๆ ต้องใช้ไม้เด็ดแล้วละ” พี่เต็มพูดขึ้น พอพูดจบมันก็ส่งซิกอะไรกับพวกปอไม่รู้
หลังจากนั้น พวกไอปอก็หันมามองทางผมแล้วก็ยิ้มแบบร้ายกาจให้ผม และก็วิ่งเข้ามารุม จะหนีก็ยังไม่ทัน เพราะอึ้งอยู่ ก็จะมีเสียงพากย์ มันไม่มีตอนที่ผมซ้อมนี่! มันเล่นมารุมทึ้งเสื้อผ้าผมไม่พอ พวกพี่ๆหลีดก็มาเต้น เหมือนเป็นละครเวที ทึ้งจนเสื้อผ้าผมขาด วิกก็หลุด แต่หลุดไม่ออกดี ห้อยโตงเตงอยู่ตรงไหล่ ผมก็กรีดร้องอย่างอับอาย จากนั้นทั้งแสตนก็ทั้งร้องทั้งหัวเราะกันอย่างบ้าคลั่ง พวกไอปอเขาจ้างมันมากี่บาทเนี่ย เล่นสะผมน่วมเลย พอเพลงจบ ทุกคนก็วิ่งเข้าไปหลังแสตนกัน ผมก็นอนหมดสภาพอยู่หน้าแสตน เพราะพวกไอปอมันกดผมไว้กับพื้น  เพลงจบปุ้ปก็วิ่งหายไปกันหมด สภาพเหมือนคนโดนรุมโทรม ลิปเปื้อนมือเปื้อนแขนผมหมด ผมว่าเครื่องสำอางบนหน้าคงเละแล้วละ ผมก็ค่อยๆลุกขึ้น เมื่อยไปหมด แล้วก็เดินอย่างหมดแรงเข้าไปหลังแสตน.....
“55555” เห็นผมก็หัวเราะ ผมเป็นได้แค่ตัวตลกจริงๆ โถ่! ภาพลักษณ์ที่สร้างมาของช้านนนน! ToT
ผมก็ไปนั่ง จนถึงเวลาเที่ยงก็กินข้าวกัน กินเสร็จก็พักอีกหน่อยก็มีการส่งตัวแทนไปแนะนำตัวทีละสี เขาให้พี่ๆหลีดไป และก็ให้ผมตามท้ายไป เพื่อ! ให้ไปทำบ้าๆบอๆให้เขาหัวเราะ คอนเซ็ปของสีผมคือเน้นเสียงหัวเราะ และดูก็ได้ผลเป็นอย่างดี เพราะหน้าผมหลุดไม่เป็นทรง ขนตาห้อยไปมา พี่เขาก็บอกว่าปล่อยไว้แบบนี้แหละดีแล้ว ผมก็ทำตามที่พี่เขาบอกไปอะเนอะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ให้สุดๆไปเลย การแสดงของผมก็ได้ทำแบบนี้ทั้งวัน จนจบกีฬาสี เราก็ไปเข้าแถว เพื่อประกาศรางวัลต่างๆแล้วก็พิธีปิด ปรากฏว่าแสตนผมได้ที่หนึ่ง ด้วยเหตุผลคือสร้างสีสันและเรียกเสียงหัวเราะได้มากที่สุด เสร็จก็ถ่ายรูปรวมแล้วก็แยกย้าย
พวกเดินขบวนกับพวกหลีด พี่ๆเขาให้อยู่ก่อน เขาจะพาไปเลี้ยง เพราะเงินรางวัลก็เยอะพอสมควร พี่ๆก็ไปซื้อขนมและให้ของกับรุ่นน้องบนแสตน ส่วนพวกที่แสดงก็จะพาไปเลี้ยง เงินรางวัลส่วนนึงก็เก็บเข้าสี แบ่งอะไรได้เสร็จสรรพ ผมก็ไปล้างหน้าอาบน้ำ ที่ห้องน้ำนักกีฬาในโรงเรียนกับพวกปอ เสร็จก็ไปหาพี่ๆ ที่กำลังเคลียล์เรื่องต่างๆอยู่ กว่าจะเคลียล์อะไรเสร็จก็เย็นมากแล้ว เขาก็พาพวกผมไปเลี้ยงหมูกระทะ พวกพี่ๆหลีด และพวกเพื่อนๆของพี่เต็มด้วยไอเบสก็มา ต่อโต้ะยาวเลย หิวมากมาย ก็ไปหยิบๆแล้วก็มานั่งกัน กินกันไปพูดคุยกันไป สนุกสนาน ผมจะนั่งกับพวกพี่เต็ม เพราะไม่ได้สนิทกับพวกพี่ๆที่เป็นหลีดอะไรมาก.....
“เต็มที่เลยพวกมึง” พี่เต็มพูดหลังจากที่กินกันไปได้สักพัก
“แน่นอนอยู่แล้ว แล้วก็อย่าลืมช่วยผมเรื่องจิตอาสาด้วยนะ!” ผมตอบกลับอย่างทวงบุญคุณเพราะมันเป็นประธานนักเรียน นั่นก็แปลว่ามันเป็นกรรมการนักเรียนด้วย มันสามารถช่วยผมเรื่องนี้ได้
เพื่อนๆผมก็เฮฮากันใหญ่ หลังจากนั้นผมกับพวกพี่เต็มก็ค่อนข้างจะสนิทกัน และพี่เขาก็ชวนผมไปไหนมาไหนตลอด จนกระทั่งหมดช่วงกิจกรรมของโรงเรียน พี่ๆเขาก็ดูจะเรียนหนักกันก็เลยไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนด้วยกันแล้ว ก็อาจจะนัดเที่ยวกันบ้างช่วงวันหยุด ไม่เหมือนก่อน ที่แม้กระทั่งวันธรรมดาก็พากันไปเที่ยวได้ (โดดเรียนนั่นเอง)เวลาผ่านไปสักพัก ผมก็ห่างๆกับพวกพี่เต็ม พวกผมก็ใช้ชีวิตปกติไม่มีอะไรมาก....
จนมาวันนึง วันนั้นเป็นวันศุกร์ มีงานที่โรงเรียน ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมกับแบงค์ก็คุยกันในแชท คุยกันเรื่อยมาตลอด จนมาวันนี้ผมคงอดใจไม่ไหว ผมก็เลยเลือกที่จะเขียนจดหมาย(ดูโบราณ จริงๆผมเอามาจากในการ์ตูนไง เลยทำตาม55) เขียนไปบอกว่าชอบมัน เขียนมาจากบ้าน เขียนแล้วเขียนอีกให้ลายมือมันสวยที่สุด (ผมลายมือไม่สวย) ก็ตั้งใจสุดๆ เป็นข้อความสั้นๆบอกชอบมัน ผมรีบไปโรงเรียนแต่เช้าแล้วก็เอาไปไว้ใต้โต๊ะมัน เพราะวันนั้นมีงานโรงเรียน คาบแรกเลยเขาให้ประชุมกันในห้อง ผมก็มีความสุขเป็นพิเศษวันนั้นอะไรก็ดูสดใสไปหมด มันสดชื่นจริงๆ เพราะได้บอกชอบคนที่ชอบไป
ก็หวังว่าเขาจะตอบผมกลับมาด้วยคำตอบที่ใช่เหมือนกัน จริงๆดูมั่นใจเนอะ ว่าทำไมผมถึงกล้าส่งจดหมายไปให้มัน จริงๆคือระยะเวลาที่ผ่านมา ผมค่อนข้างจะตื้อมันเลยก็ว่าได้ และมันก็ดูเหมือนจะมีใจด้วย อีกอย่างผมกับมันก็นัดไปเที่ยวกันแล้วสองสามครั้ง(แบบลับๆ) และทุกครั้งมันก็ดูเหมือนจะมีใจให้ผมไม่น้อยเลย ผมก็เลยมั่นใจส่งข้อความไปให้มัน จนประชุมอะไรเสร็จผมก็ออกมายืนรอหน้าห้องเรียนก็ไม่เห็นว่าจะมีใครเอาอะไรมาให้ผมบ้างเลย ผมก็คิดในแง่ดี มันคงจะทำใจอยู่ คิดเข้าข้างตัวเองไปเรื่อยๆ จนเที่ยง ก็ยังไม่มา ผมก็ไปกินข้าวกับเพื่อนๆตามปกติ กินไปพูดคุยกันไป.....   
“ทำไมวันนี้มึงดูร่าเริงออกหน้าออกตาแปลกๆวะ” ปอถามขึ้นมาอย่างสงสัย
“กูบอกชอบไอแบงค์ไปแล้ว” ผมตอบด้วยความอารมณ์ดี พร้อมกับยิ้มหน้าบาน
ทุกคนถึงกับชะงัก แล้วก็มองผมแบบสงสัย.......
“แล้ว...มันว่ายังไง” มินถามอย่างสงสัย
“ไม่รู้วะ กูเอาจดหมายไปสอดไว้ใต้เกะมันอะ ไม่รู้มันจะเห็นไหม” ผมตอบกลับพร้อมกับกินข้าวไปด้วย
“อาละว้า กูรู้สึกว่าจะมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นก็ไม่รู้” นัทพูดขึ้นมาด้วยความกังวล
“ทำไมวะ?” วิวหันไปถามไอนัทอย่างสงสัย
“นู่นไง มาแล้ว พวกของไอแบงค์อะ” นัทพูดพร้อมกับชี้ไปทางด้านหลังผม พวกเพื่อนๆกลุ่มไอแบงค์กำลังเดินมาทางโต้ะที่ผมนั่ง ผมก็ไม่เห็นไอแบงค์นะ
พวกมันก็เดินมาหยุดอยู่ตรงโต้ะผม แล้วก็มองผมเขม็งเลย มากันเยอะ ผมก็มองพวกมันอย่างสงสัย....
“อะ กูเอาจดหมายของมึงมาคืน!”  บาสหนึ่งในเพื่อนของไอแบงค์พูดอย่างไม่พอใจแล้วโยนจดหมายของผมลงโต้ะ ผมก็หยิบมาดู
“เลิกยุ่งกับไอแบงค์ด้วย มันเป็นผู้ชายไม่ใช่ตุ้ด หรือเกย์ อย่าหาว่าพวกกูไม่เตือนนะ!” กานต์ชี้หน้าผมอย่างคาดโทษ พอพวกมันพล่ามจบ ก็พากันเดินไป
ผมก็ล้วงจดหมายของผมมาดู มันถูกฉีกเป็นชิ้นๆอยู่ในซอง รู้สึกจุก จุกอยู่ตรงอก และยังมีจดหมายอีกใบที่แนบอยู่ในซอง เป็นจดหมายเขียนด่าผมว่าให้ผมต่างๆนาๆ ว่าผิดเพศอย่างนู้นอย่างนี้ เป็นตุ้ดแล้วยังมายุ่กับกูอย่างนู้นอย่างนี้ มากมาย เขียนมาเต็มหน้ากระดาษไปหมด ผมถึงกับมือสั่นด้วยความโกรธ ไอแบงค์มันสะบั้นรักผมได้เลวมาก ความรู้สึกผมพังหมดเลย ผมรู้สึกดีกับมัน ผมชอบมัน แต่มันกับ....ทำลายผมด้วยจดหมายโง่ๆนี่....
พรึ่บ! แคว่ก! ปอดึงจดหมายไปฉีกแล้วก็เดินเอาไปทิ้งให้ ตอนนั้นอึนอึ้ง ผมอกหัก ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยเหรอ เป็นอะไรที่บัดซบสุดๆ เพื่อนก็ปลอบผมมากมายเหลือเกิน แต่เชื่อไหม ผมไม่ได้รับรู้อะไรเลย นี่หรือคืออกหัก รู้แล้วเป็นแบบนี้นี่เอง แต่แปลกที่ไม่มีน้ำตาสักหยดเหมือนในละคร ผมก็พยายามปลอบใจตัวเอง พยายามคิดว่ามันไม่ใช่ ทั้งวันผมนั่งเหมอนั่งไม่มีสติ จนถึงเวลาเลิกเรียน ผมรีบเก็บของแล้วก็ไปหาไอแบงค์ที่ห้องเรียน มันอยู่ที่ห้องเรียน มันมองผมนิ่งๆ ผมก็เดินเข้าไปหามัน โดยไม่สนสายตาใครๆเลย.....
“แบงค์ มันคืออะไรวะ มะ..” ผลัก! โครม! ผมพูดไม่ทันจบ มันผลักผมล้มลงกับพื้น เก้าอี้ โต๊ะที่อยู่บริเวณนั้นก็ล้มลงตามแรงของผม ไอแบงค์ทำหน้าที่เย็นชาสุดๆ
“อย่ามายุ่งกับกู กูไม่ใช่เกย์!” ไอแบงค์ตะคอกใส่ผมเสียงดัง ผมถึงกับสะดุ้ง พร้อมกับเพื่อนๆผมที่กำลังตามมาดู
“ไอสัส! มึงทำเกินไปแล้วนะเว้ย!” ไอมินพูดพร้อมกับผลักไอแบงค์ให้ออกห่างจากผม และเข้ามาช่วยพยุงผมให้ลุกขึ้น เพื่อนๆคนอื่นก็ตามมา
“หึ!” มันมองผมด้วยสายตาที่ไม่พอใจอย่างมาก แล้วมันก็เดินผ่านผมไป
บอกตามตรง มันรู้สึกเสียใจนะ คิดอะไรไม่ออกแล้ว ผมอึนไปหมด แล้วที่ผ่านมาคืออะไร? ทำไมมันถึงเย็นชาแล้วทำหน้ารังเกียจผมขนาดนั้น คำถามและความคิดมากมายอยู่ในหัวผม เพื่อนๆก็ลากผมมาหน้าโรงเรียน ระหว่างทางที่ลากผมมามันก็พูดปลอบผมมากมาย ผมก็ไม่มีกะจิตกะใจจะฟังพวกมันหรอก ผมก็ได้แต่ยิ้มอ่อนๆ เฮ้อ! ไม่สมหวังอย่างที่คิดเลย โลกนี้มันเลวร้ายจริงๆ ผมก็พูดคุยกับเพื่อนๆนิดหน่อย บอกพวกมันไปว่าไม่เป็นอะไร จริงๆก็ไม่เป็นอะไรนะ แค่เสียความรู้สึก และก็ อกหักตั้งแต่ยังไม่เริ่ม แค่นั้นเอง พอแยกกับเพื่อนๆได้ผมก็โทรบอกป๊าว่าผมจะไปเดินห้างกับเพื่อนๆ ผมอยากอยู่คนเดียว ผมยังไม่อยากเจอใคร ผมก็นั่งรถไปห้าง ไปเดินเล่นชิวๆ คิดอะไรเรื่อยเปื่อย.....
“เห้ย! หยุดนะเว้ย!” ผมหันไปมองตามเสียง พวกวัยรุ่นวิ่งไล่? ไอเบส? มันมาเป็นกลุ่มน่าจะเด็กเทคนิคประมาณ5คน วิ่งไล่ไอเบสมา ไอเบสคนเดียวด้วย ไอเบสวิ่งมาทางที่ผมยืนอยู่ และไอพวกนั้นก็โดนขัดทางเพราะคนเดินสวนมาเยอะ....
“ไอเบส ทางนี้!” ผมดึงมือมันไปทางประตูหนีไฟข้างทางไปห้องน้ำ แล้วก็พามันวิ่งลงไปทางด้านล่างที่เป็นลานจอดรถ มันก็วิ่งมาตามแรงดึงของผม ตั้งแต่สนิทกับพี่เต็มไอเบสก็ดูจะอ่อนๆลงกับผมเยอะแล้ว มันก็ไม่ค่อยพูดจาหาเรื่องผมสักเท่าไหร่แล้ว แต่ก็ไม่ได้สนิทอะไรกันเลย คุยกันแต่ละครั้งนับคำได้เลย
เราทั้งคู่หยุดแล้วหายใจอย่างหอบหนักเลย ผมก็พิงกำแพงแล้วก็ไหลนั่งลงกับพื้น ไอเบสก็ด้วยดูเหมือนว่าไอพวกนั้นจะไม่ตามมาแล้วล่ะ.....
“เหนื่อยฉิบ!” ผมพูดขึ้นมา พร้อมกับแสดงท่าทีหอบนิดหน่อย
“เออ มึงจะลากกูมาทำไมวะ!” มันถามกลับด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อย
“อ้าว! ก็เห็นโดนใครวิ่งไล่กระทืบมึงมาละ!” ผมพูดแล้วมองมันนิ่งๆ
“เออๆ ขอบใจแล้วกัน” มันพูดแล้วก็ลุกขึ้น
ผมก็ลุกขึ้น แล้วปัดกางเกงนิดหน่อยไอเบสมันก็มองผมนิ่งๆ....
“ไปกินข้าวเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ” มันพูดชวนผม? ผมมองมันแปลกๆ
“อะ อืม” ถึงจะไม่รู้อารมณ์ไหน ก็ตอบรับไปก่อนแล้วกัน
แล้วมันก็เดินนำไป ผมก็เดินตามไป มันก็พาผมไปลานจอดรถ มันเอามอไซค์มา ก็ไปรถมัน มันพาไปกินก๋วยเตี๋ยวแถวตลาด ไปถึงก็สั่ง แล้วก็ไปนั่งรอ.....
“มีอะไรหรือเปล่าวะ ดูเครียดๆนะ” ถามอย่างเป็นห่วง ในฐานะเพื่อนคนนึง ไอเบสมันแก่กว่าผมไปปีนึงนะ แต่ผมไม่เรียกมันพี่หรอก ถ่อยขนาดนี้ เรียกไม่ลง
“พวกมันแย่งแฟนกูไป กูไปหาเรื่องพวกมันเอง” ไอเบสตอบกลับ พร้อมกับทำหน้าเครียด
เท่าที่ผมได้ยินเขาพูดถึงมันมา คือมันมีอะไรจะไม่ค่อยพูดหรือปรึกษาใคร มันเป็นเด็กเก็บกด เท่าที่พี่เต็มเล่าให้ฟัง
มันก็เล่า ว่าแฟนของมันอะ รักมันที่มันซื้อของให้นู่นนี่นั่น และก็พร่ำเพ้อถึงแฟนมันต่างๆนาๆ ผมก็ฟังบ้าง ปลอบมันบ้างก๋วยเตี๋ยวมาเสริฟ ผมก็กินไปฟังมันไป มันก็เอาแต่พูด จนมันพูดจบแล้วก็ก้มหน้าก้มตากิน....
“ทำไมถึงเล่าให้กูฟังอะ” ผมถามอย่างสงสัย มันก็เงยหน้ามามองผมนิ่งๆ
“ไม่รู้ดิ แค่อยากเล่าให้ฟัง มึงจะเอาไปบอกใครก็ได้นะ” ไอเบสมองผม พร้อมกับตอบนิ่งๆ หลายอารมณ์จริงๆนะ
“เห็นกูปากสว่างขนาดนั้นเลยเหรอวะ” ถามอย่างไม่พอใจ มันก็ยิ้มมุมปาก
“คงงั้นอะ” มันตอบกลับนิ่งๆแล้วก็ก้มหน้ากินต่อ
ให้ตายสิ มันก็กวนตีนผมยันหยดสุดท้ายจริงๆ ผมก็กินกันไป แต่มันดูเศร้าแบบเห็นได้ชัดเลยละ.....
“จริงๆ กูก็เพิ่งโดนหักอกมาวะ” มันเงยหน้ามามองผมนิ่งๆ “กูแอบชอบคนๆนึงละ....”
“ผู้ชายใช่ปะ?” ผมก็พยักหน้า มันก็ตกใจไปนิด “จริงเหรอวะ กูแค่พูดเล่นนะ” มันดูตกใจจริงๆ
“ อืม ผู้ชายเนี่ยแหละ” ผมก็ตอบกลับด้วยท่าทีสบาย ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องไปแคร์ความรู้สึกมันว่ามันจะรังเกลียดอะไรผมไหม
“เรื่องเป็นยังไงวะ” มันถามอย่างสนใจ
ผมก็เล่าตั้งแต่เริ่มต้นรู้จักไอแบงค์ให้เบสฟัง มันก็ดูตั้งใจฟังดี มันเป็นผู้ฟังที่ดีเลยละ จนเล่าจบ ผมเล่าหมดเลย เพราะผมคิดว่าไอเบสมันก็ยังเปิดใจให้ผมฟังเลย ผมเปิดใจกับมันบ้างจะเป็นอะไรไป.....
“ถ้าเป็นกู.....กูคงไม่แค่ผลักวะ มึงคงจะโดนตีนกูด้วย” มันบอกผม พร้อมกับทำหน้าเย็นชา ผมก็มองมันแบบไม่พอใจ
“เลวกันหมด!” ผมพูดจบแล้วก็กินน้ำ ทำไมต้องคิดแบบนี้ แค่บอกว่าไม่ได้ชอบก็ได้ ต้องทำลายความรู้สึกด้วยการทำร้ายกันด้วยหรอ ไม่เข้าใจเลย
“เอ้า! เขาเป็นผู้ชายดีๆ อยู่ๆมึงไปบอกชอบ ก็รังเกียจดิ กูยังแอบขนลุกเลยนะเนี่ย” ไอเบสพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ผมก็เลยมองมันนิ่งๆ เพราะก็เข้าใจได้ในเรื่องนี้
“เกย์นี่มันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอวะ?” ผมถามอย่างสงสัย
“ไม่รู้ดิ แต่กูไม่ชอบ” ไอเบสพูดอย่างไม่ใส่ใจ ผมก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย “แต่กูจะเว้นมึงไว้คนนึงแล้วกัน เห็นว่ามึงก็ ไม่ได้น่าเกียจหรือทำตัวอุบาทว์เหมือนพวกตุ้ด ยังไงมึงก็เพื่อนกู” มันเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ผมก็เผยยิ้มขึ้นมา
“อื้ม” ยิ้ม
“มื้อนี้กูเลี้ยงแล้วกัน ถือว่าตอบแทนที่มึงช่วยกู” แล้วมันก็ลุกไปจ่ายตัง ช่างเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ
แล้วมันก็กลับมานั่งคุยกับผมนิดหน่อย จริงๆมันก็ดูเป็นคนดีเลย แต่ติดจะห่ามจะแข็งกระด้างไปหน่อย ผมคุยกับมันก็สนุกดี มันชอบทำเก๊กทำอะไรแบบนั้น ผมก็ชอบไปแหย่มัน กวนๆมัน แต่มันก็ไม่ได้รังเกียจอะไรผมนะ ก็ทำเหมือนผมเป็นเพื่อนมันคนนึงนั้นแหละ...
วันเวลาผ่านไป  เรื่องไอแบงค์ทำใจได้ตั้งแต่อาทิตย์แรกแล้ว แต่มันก็เปลี่ยนไปนะ ชอบมาหาเรื่อง พูดจาไม่ดีกับผมเรื่อยๆเลย และเวลาที่ผมอยู่คนเดียวก็ชอบมารังแก แต่อย่าคิดว่าผมจะยอม ผมก็ไม่สนใจมันด่ามันกลับไปด้วยซ้ำ ผมกับไอเบสก็สนิทกันขึ้น นับวันตั้งแต่วันนั้น มันมีอะไรก็มาปรึกษาผมตลอด มันบอกว่าบอกผมแล้วสบายใจดี? มันบอกมาแบบนี้ แต่พอยิ่งรู้จักกับมันมันก็เล่นแรงขึ้นเรื่อยๆเลย ชอบมาตีผมแรงๆ ผมก็ตีคืนบ้างอะไรบ้างตามประสา พูดง่ายๆเลยคือผมสนิทกับไอเบสมากกว่าพี่เต็มแล้วตอนนี้ เพราะพี่เต็มติดเรียนมาก ส่วนไอเบสมันไม่ใช่เด็กเรียนอะไร ชอบชวนผมไปส่งมันจีบสาวๆของมัน ผมก็บ้าจี้ไปกับมัน ช่วงนั้นจำได้ว่าไปกับมันสองคนบ่อยมาก เลิกเรียนทีไรมันก็มารอรับ จนพวกปอสงสัย แต่ตอนนั้น ผมบอกตรงๆไม่ได้คิดอะไรเกินเลยและไม่เคยคิดที่จะคิดด้วย มันไม่ใช่สเป็ก ถึงมันจะไม่ได้แย่ แต่ผมก็คิดกับมันแค่เพื่อน…..
และอยู่มาวันนึง โทรศัพท์ผมเข้า เป็นเบอร์ของไอเบส ผมก็รับปกติ เพราะมันมักจะโทรมาบอกผมว่าเย็นนี้จะไปไหน แต่วันนี้ผิดคาด เป็นผู้หญิงรับ บอกโทรจากโรงพยาบาล ไอเบสรถล้ม เห็นเบอร์ผมเป็นเบอร์ที่ติดต่อเยอะที่สุดก็เลยโทรหา ดีวันนี้เป็นวันหยุด ผมก็เลยรีบนั่งรถไปหามันที่โรงพยาบาล มันไม่ได้เป็นอะไรมากแค่แผลถลอก ดีขาไม่หัก ให้ยาแก้อักเสบมัน มันก็เลยหลับไป ผมก็เลยเอาโทรศัพท์มันมาค้น จริงๆด้วย รายการโทรออกก็มีเบอร์ผมเป็นส่วนมาก และก็เบอร์แฟนๆของมันเป็นส่วนน้อย ทำไมไม่โทรหาพ่อแม่มันนะ ผมก็เลยกดดูเบอร์พ่อแม่มัน แล้วก็เลยกดโทร มันเป็นเบอร์แปลกๆ เหมือนเบอร์ที่อยู่ต่างประเทศ พอรับสายก็มาเป็นภาษาอังกฤษเลย พูดไม่เป็นสะด้วย ผมก็เลยวางไป แล้วก็โทรบอกป๊าว่าอาจจะกลับเย็นมาดูเพื่อนที่โรงพยาบาล........
“นะ...น้ำ” ไอเบส พอรู้สึกตัว ก็พูดแบบเสียงแหบๆ ส่งสัยจะหิวมาก ปัดมือไปมา เกือบโดนเหยือกน้ำ
ผมก็รีบไปเทน้ำใส่แก้วใส่หลอดแล้วก็ไปยัดใส่ปากมัน มันเป็นห้องวีไอพีสะด้วย เห็นพยาบาลบอกว่าเจอบัตรประกันของมันในกระเป๋าตังมันเลยทำเรื่องให้เลย ก็ดีนะ สะดวกดี พอให้น้ำมันเสร็จมันก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา.....
“เจ็บวะ” มันพูดทำเสียงสั่นน้ำตาคลอ  ผมละสงสารจริงๆ อยู่เหมือนเด็กน้อยเลย
“ไม่เป็นอะไรแล้ว เขาทำแผลให้ให้ยามึงแล้ว” ลูบแขนมันเบาๆ เป็นเชิงปลอบ
“มึงมาได้ยังไง” มันหันมาถามผมอย่างสงสัย
“พยาบาลโทรตามกูมาอะดิ เฮ้อ! มึงติดหนี้กูอีกแล้วนะ กูมาดูมึงเลยนะเนี่ย” พูดติดตลก มันก็อมยิ้มครับ “กูโทรหาพ่อแม่มึงไม่ได้วะ โทรไปเป็นฝรั่งรับ กูเลยวางกูคุยไม่เป็น” ยิ้มอ่อนส่งไปให้มัน มันก็หัวเราะเบาๆ
“พ่อแม่กูอยู่เมืองนอกนู่น เขาไม่สนใจกูหรอก” มันตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ถ้าผมมองไม่ผิด แววตามันดูเศร้ามาก มันอยู่ที่นี่กับใครละถ้าพ่อแม่มันอยู่ต่างประเทศ
“ละ...แล้วมึงอยู่ที่นี่กับใคร” ผมถามกลับเบามาก กลัวว่ามันจะสะเทือนใจ
“คนเดียว” มันพูดจบแล้วก็หลับตาลง
กลายเป็นผมเองที่ สะเทือนใจไปนิดนึง มันโดดเดี่ยวขนาดนี้เลยเหรอทุกวันนี้ เฮ้อ! ผมก็เปลี่ยนเรื่องคุย ทำให้มันร่าเริงไว้ เพราะจริงๆมันก็กลับบ้านได้แล้ว แต่ร่างกายมันอ่อนเพลีย มันก็เลยเป็นลม เขาก็เลยให้มันนอนพักสักหน่อย ตอนนี้ก็น่าจะดีขึ้นแล้ว รถมันศูนย์มาลากไป ตอนนี้ก็คงต้องขึ้นรถแดงไปส่งมันที่บ้าน.....
“ไม่เอา กูไม่นั่ง! ให้รถโรงพยาบาลไปส่งกูก็ได้กูมีตังจ่าย!” พอมันเห็นผมโบกรถ มันก็พูดขึ้นมาอย่างไม่ยอม
“เอาน่า ชิวๆ นั่งรถตากลมบ้าง” ผมตอบกลับด้วยรอยยิ้ม มันก็ทำหน้าไม่พอใจสักเท่าไหร่
ผมก็เดินไปบอกลุงคนขับ ผมจำเอาจากบัตรประชาชนมัน น่าจะใช่เพราะอยู่ในเมืองด้วย พอบอกเสร็จก็พยุงมันขึ้นรถ มันก็ดื้อนะไม่ยอม ผมลากดึงมันกว่าจะยอม ขึ้นไปก็นั่งทำหน้าเป็นตูดผมชวนคุยอะไรก็ไม่คุย พอถึงบ้านผมก็ลงไปจ่ายตัง บ้านมันใหญ่พอควรเลย พอเข้าไป มันเงียบและวังเวง มีแม่บ้านคนสวนและ......
“คุณหนู! เป็นอะไรมาคะเนี่ย” สาวสูงวัย วิ่งมาถามอย่างเป็นห่วงผมก็ถอยห่างเล็กน้อย เพราะไม่แน่ใจว่าท่านนี้คือใคร
“รถล้มนิดหน่อย ป้านมก็อย่าทำเป็นเว่อร์ไปหน่อยเลย!” มันตอบกลับอย่างไม่พอใจ แล้วก็เดินเข้าบ้านไป
ผมก็ยิ้มให้ป้านมนิดหน่อยแล้วก็ตามมันเข้าไป ขนาดป้านมที่ดูแล มันยังไม่ทำดีด้วย แสดงว่ามันคงไม่ไว้ใจใครเลยสินะ มันปิดกั้นตัวเองแล้วก็ทำไม่ดีกับทุกคนเนี่ยนะ โถ่!....
“เบส ทำไมมึงไม่พูดดีๆกับป้านม...” ถามอย่างกล้าๆกลัวๆด้วยความสงสัย
“เขาไม่ได้สนใจอะไรกูหรอก ก็แค่หวังเงินที่พ่อแม่กูให้ กูอยู่ที่นี่ก็เหมือนอยู่คนเดียวแหละ” ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ผมก็นั่งข้างๆมัน
ตอนนี้เรานั่งกันที่โซฟาตัวใหญ่ ที่ห้องรับแขกชั้นล่าง มันก็เปิดทีวีดู ผมก็นั่งดูเงียบๆข้างๆมัน แอบเกร็ง เพราะมันดูท่าจะอารมณ์ไม่ดี?.....
“ไม่ต้องทำท่ากลัวกูขนาดนั้นหรอกนะ” ปากมันบอกผม แต่ตามันก็ยังจ้องไปที่ทีวี
“กะ..ก็มึงน่ากลัวอ่า” ผมพูดแล้วยิ้มให้มัน มันก็หันมามองผมนิ่งๆ
“มึงนอนเป็นเพื่อนกูได้หรือเปล่า กูไม่มีคนทำแผลให้” พูดจบมันก็มองลงไปที่แผลมัน ผมก็มองตาม
“อะ เอ่อ...” อึดอัดใจเลย แต่มันก็ต้องการคนที่มันพึ่งพาได้ในตอนนี้ ผมก็คงต้องตกลงแหละ “กะ...ก็ได้มั้ง แต่แค่คืนเดียวนะ เพราะมะรืนต้องไปเรียน” มันก็พยักหน้ารับ
ผมก็โทรไปบอกป๊า ตอนแรกจะเอาเสื้อผ้ามาให้ผม แต่ไอเบสบอกว่าให้ใส่ของมันได้ ผมก็โอเคจะได้ไม่รบกวนป๊ามาก ผมก็ไปเฝ้ามันอาบน้ำหน้าห้องน้ำ กลัวมันล้ม แผลมันจริงๆก็แค่ถลอกแล้วก็ฟกช้ำสะส่วนมาก ผมก็พยายามทำแผลให้มันและให้มันลองทาเองบ้างเผื่อผมไม่อยู่มันจะได้ทำเองได้ มันก็ลองทำตามคำแนะนำ...
ผมนอนตรงโซฟา มันไล่ผมไปนอนตรงนั้น มันบอกว่าไม่ไว้ใจผม ดูมันนะ ขอให้คนอื่นอยู่ช่วยแล้วทำตัวเลวอีก ผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะโซฟามันนุ่มมาก นอนไปสักพักก็หลับ อยู่กับมันอีกวันนึงก็นั่งเล่นเกมส์ทำนู่นทำนี่คุยกับมันไม่ให้มันเบื่อ จนพอตกเย็นก็ถึงเวลากลับผมก็กลับ โดยบอกจะโทรถามอาการมันเรื่อยๆ มันก็โอเค.....

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ผ่านมาสักพักมันก็หายเป็นปกติ และหลังจากนั้นมันก็เทียวมาหาผมปกติเป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ พอมันป่วยผมก็ไปดูแลมันบ่อยๆ และจากนั้นผมกับมันก็สนิทกันมากขึ้นกว่าที่เคย พัฒนาจากที่เหมือนจากจะไม่พอใจกันมากมายกลับมาเป็นเพื่อนที่ดี มันมารับผมให้ไปกับมันทุกเย็นเรื่อยมา จนระยะหลังๆมันก็เริ่มเปลี่ยนไป มันดูเทคแคร์ผมดีขึ้น ดูแคร์ความรู้สึกผม ดูยอมผมมากขึ้น พูดดีขึ้น ดูอะไรมากมายกับผม ความรุนแรงก็น้อยลง  โทรมาบ่อยมาก บ่อยจนผิดปกติพอถามมันก็บอกว่าไม่มีอะไร ผมก็แปลกใจนะ แต่คงไม่มีอะไรอย่างที่มันว่า...
จนมาวันนึง มันนัดผมให้ไปหาที่ร้านกาแฟที่ห้าง โดยที่มันไม่มารับ ก็เอะใจนะ ปกติมันจะมารับอย่างเดียวเลย นี่ก็ครั้งแรกเลยนะที่มันโทรมาแล้วบอกให้ผมไปหามัน ผมก็ตกลงและไปตามที่มันบอก มันก็นั่งรอผมอยู่แล้ว ผมก็เข้าไปนั่งตรงข้ามกับมัน........
“เฮ้อ! วันนี้เรียนน่าเบื่อมากเลยมึง” ยิ้ม มันก็มองผมนิ่งๆ “เออ หายดีแล้วใช่เปล่า” ผมลุกขึ้นแล้วเอื้อมมือไปแตะหน้าผากมันมันก็นิ่งให้ผมทำ คือแต่ก่อนมันก็ไม่ยอมให้ผมทำหรอกทำหวงเนื้อหวงตัว แต่พักหลังๆนี่ ต้องให้แตะเนื้อต้องตัวตลอด “เออ ดีขึ้นแล้วนะ ทำไมทำหน้าแบบนั้นละ”เมื่อเห็นมันเงียบ ผมก็เลยตอบ และถามมันกลับอย่างสงสัย
“เปล่าๆ เออกินอะไรไหม”เอาแต่จ้องผม ผมก็จ้องมันกลับ เป็นอะไรของมันนะ
“เลี้ยงเปล่า” ผมถามกลับติดตลกมันก็พยักหน้า ผมก็เรียกพนักงานมาสั่งของที่ผมอยากกิน
“นท มึงว่ากูเป็นยังไงบ้างวะ” ผมสั่งพี่เขาเสร็จพอดีมันก็ถามขึ้นมา ผมก็แอบส่งสัยในคำถามมันอยู่เหมือนกันนะ
“แน่ะ! ถามแบบนี้ ปิ้งใครอีกละ” ผมมองมันแล้วทำท่าล้อเลียน มันก็ทำหน้าจริงๆจังสะงั้น “กะ...ก็ดีนะ ถึงมึงจะดูนักเลง มึงก็เป็นคนดีเลยละ” ผมพูดไปยิ้มไป มันก็อมยิ้ม
“แล้วมึงมีแฟนหรือยัง?” ไอเบสถามแปลกๆ ปกติผมมักจะพูดเรื่องแฟนหรือคนที่ผมชอบโดยที่มันไม่เคยถาม แต่วันนี้มาแปลก ถามผมสะงั้น
“กูจะมีได้ยังไงวะ วันๆเรียนๆก็อยู่กับเพื่อน พอเลิกเรียนก็มาหาเพื่อนอย่างมึงอีก”
“ อืมๆ”  พยักหน้าตอบรับ พร้อมกับยกแก้วขึ้นมาดูด วันนี้มันแปลกๆ แหะ ผมชักเป็นห่วงมัน...
“พ่อแม่มึง โทรมาเหรอ?” ผมเอ่ยถามเบาๆ เพราะการที่มันจะมีอาการแปลกๆ ถ้าพ่อแม่มันไม่โทรมาก็น่าจะเครียดอะไรสักอย่าง เพราะพ่อแม่มันโทรมาทีไรก็เอาแต่ต่อว่ามัน ผมก็อดเป็นห่วงและสงสารมันไม่ได้
“เปล่า กูแค่....” ผมก็มองมันแบบลุ้นๆ ว่ามันจะตอบอะไร มันกับหลบตาผมแล้วก็หันไปอีกทาง พอดีกับพี่เขามาเสริฟของที่ผมสั่งไปพอดี
“โห้ย! น่ากินอ่า เค้กน่ารักจัง” มองเค้กตาเป็นประกายยเลยสิ ล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วก็กดถ่ายรูปส่งไปอวดพวกไอปอในกลุ่มไลน์ พวกมันโวยวายกันใหญ่เลยผมไม่ชวนมันมา55
“คุยกับใครวะ!”  - พรึ่บ! - พูดจบมันดึงโทรศัพท์ผมไปดูทันที
“มึงเป็นอะไรเนี่ยเบส พักหลังมึงแปลกๆนะ ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า!” ถามมันอย่างเป็นห่วง มันก็ก้มหน้าอ่านข้อความของผมไป จริงๆผมไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับเรื่องส่วนตัวผมหรอก แต่มันก็สนิทใจกันแล้ว ผมก็เลยไม่อะไรกับไอเบส มันก็ไม่ตอบอะไร ผมก็นั่งกินไปของผมเงียบๆ....
“มึงไม่ชอบใครเลยเหรอ?” มันถามผมอย่างสงสัย
“ไม่อะ กูเข็ดละ รอกูเจอคนที่ชอบแบบจริงๆก่อนแล้วกัน” พูดไปกินไป พร้อมกับไหวไหล่อย่างกวนๆ มันก็อมยิ้ม
“กูชอบคนนั้นอะ ไปขอเบอร์ให้หน่อยดิ” ชี้ไปทางข้างหลังผม มีผู้หญิงน่าจะรุ่นพี่แหละนั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียว
“แล้วคนเก่ามึงไปไหน อะไรยังไง!” ถามอย่างเบื่อหน่าย มันจะมากไปแล้วนะ
“ไม่อ่ะกูเบื่อ” พูดอย่างไม่ใส่ใจ ผมก็ได้แต่ถอนหายใจให้กับความเอาแต่ใจของมัน
พูดถึงเรื่องความเอาแต่ใจของมัน อันดับ1เลย ผมเคยไปหามันที่บ้าน มันกำลังทำลายข้าวของในบ้านเละเลย เพียงเพราะแม่บ้านไม่ทำอาหารที่มันต้องการให้มันกิน มันเล่นบ้านเละเลย จนผมต้องไปห้ามมัน มันอยู่กับผมมันเอาแต่ใจไม่ได้หรอก ถ้าผมไม่ยอม แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างไปขอเบอร์คนที่มันชอบให้ ผมก็ยอมทำให้ เผื่อมันจะมีกำลังใจจะเป็นคนดีแบบคนปกติเขาบ้าง และเหมือนก็จะเป็นอย่างนั้นนะ มันดูใจเย็นขึ้นเยอะเลย
ผมก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปทางด้านหลังเก้าอี้ผม ทักทายผู้หญิงคนนั้นนิดหน่อย ผมเอาความอัธยาศัยดีของผมเข้าแลก ถ้าเขาไม่ให้ผมก็ได้แค่วางเบอร์ไอเบสไว้ ผมก็ไม่ฝืนใจใครหรอก ทำได้เท่าที่ทำให้ก็รับไม่ให้ก็ปลง แต่คนนี้ให้ไลน์ โชคดีไป เขาก็เขียนใส่เศษกระดาษให้ ผมก็ขอบคุณเขาแล้วก็เดินกลับมา เอากระดาษนั่นยื่นให้ไอเบส.....
‘’พอใจแล้วนะ เลิกทำหน้าแปลกๆได้แล้ว กูสยอง” พูดอย่างไม่ใส่ใจแล้วก็หยิบน้ำขึ้นมาดูด มันก็อมยิ้มพร้อมกับดูกระดาษที่ผมยื่นให้มันไป
“กูอยากไปเล่นบ้านมึงบ้าง ไปนอนบ้านมึงบ้างได้ไหม” ผมชะงักไปนิด
จริงๆผมไม่เคยพาไอเบสเข้าบ้าน ไม่ว่าจะตอนเป็นแฟนหรือเป็นแค่เพื่อนกัน เพราะบุคลิกของมันที่ดูจะนักเลงเกินไป และท่าทางที่เย่อหยิ่งของมันผมกลัวว่าพอไปเจอกับป๊าและพี่โน้ตเขาจะรับไม่ได้ และยิ่งแม่ เขาไม่ชอบเด็กแบบก้าวร้าว และไอเบสคือตรงทุกประการ ผมกลัวคนที่บ้านจะไม่พอใจ เลยไม่กล้าพามันเข้าบ้าน เดี๋ยวโดนห้ามให้เลิกคบกัน.........
“ป๊ากูดุวะมึง เขาไม่ชอบให้กูพาเพื่อนเข้าบ้านอะ มึงเข้าใจกูนะ” บอกอย่างจริงจัง พร้อมจ้องหน้ามัน
“แม้แต่ไปส่งที่บ้านก็ไม่ได้เลยเหรอ ตั้งแต่กูรู้จักมึงมา กูยังไม่เคยเห็นบ้านมึงเลยนะ” มันถามนิ่งๆ และดูดน้ำจากแก้ว
“เอาน่า กูไปหามึงได้สบายๆอยู่แล้ว” พูดอย่างไม่ใส่ใจ แล้วก็กินเค้กต่อ
“วันนี้ไปเล่นบ้านกูนะ” ผมก็พยักหน้า แอบโล่งใจ ถึงจะสนิมกับมัน แต่ยังไงก็ไม่อยากให้มันรู้เรื่องบ้านอะไรของผมมากไป เพราะลางสังหรณ์ผมชัดเจนว่าไม่ควรพามันไปบ้าน
เราก็พูดคุยกัน นอกเรื่องไปไกลเลย คุยกับมันก็สนุกดีนะ มันไม่ค่อยจะถามอะไรผมหรอก แต่ผมก็ชอบที่จะเล่านู่นนี่ให้มันฟัง มันก็ตอบคำถามของผมตลอด ก็เป็นแบบนี้เรื่อยมา พอกินอะไรเสร็จ ไอเบสก็พาผมไปบ้านมันเลย มันบอกมีเกมส์ใหม่มา ก็ไปสักหน่อยเนอะ พอไปถึงมันก็ตรงไปห้องนั่งเล่นเสียบนู่นเสียบจัดแจงเครื่องเกมส์ ผมก็เอาของไปเก็บถอดถุงเท้า เลิกชายเสื้อขึ้นมาตามปกติ เพื่อความสบายของตัวเอง......
“วันนี้ค้างที่นี่หรือเปล่าจ้ะหนูนท’’ ป้านมหรือผู้ที่เลี้ยงดูไอเบส เดินมาพร้อมกับน้ำแล้วก็ขนม ผมก็ยิ้มให้นิดหน่อย จริงๆผมก็มาค้างกับมันบ่อย ชอบมาเล่นเกมส์บ้านมันเนี่ยแหละ ป้านมเลยถามขึ้นมา
จริงๆเรื่องป้านมตอนแรกผมไม่เชื่อนะ พอไปๆมาๆบ้านไอเบสบ่อยๆก็ได้รู้ ว่าป้านมเขาก็ทำแค่ตามหน้าที่ แต่พอหมดหน้าที่ก็คือไม่ทำอะไรเลยจริงๆ เข้าใจไอเบสเลย นี่ก็เป็นส่วนนึงเนี่ยแหละ ที่ทำให้ผมชอบไปมากับมัน จริงๆพูดว่าสงสารก็ได้ อยากช่วยมันมากกว่า........
ขอบคุณครับป้านม แต่คงไม่ได้ค้างครับ” ตอบอย่างอ่อนโยน พร้อมกับยกยิ้มส่งให้
“พวกผมจะเล่นเกมส์ ป้านมไปทำอย่างอื่นเถอะครับ” พูดเป็นเชิงไล่ ไอนี่ก็แสดงออกเกิน
แล้วป้านมก็เดินไป ไอเบสก็หยิบขนมกิน ผมก็มองมันอย่างเบื่อหน่าย คือถึงมันจะไม่ชอบเขายังไงก็ไม่ควรจะแสดงออกอะไรขนาดนั้น เพราะเขาก็แก่กว่ามันอีกอย่างตอนนี้เขาก็ดูแลมันอยู่ ถึงจะดูและไม่ดีเท่าที่ควรก็เถอะ...
“มองอะไรวะ?” ไอเบสเช็ดปากตัวเอง ผมก็หันไปมองทางจอทีวี...
“มึงควรพูดดีๆกับผู้ใหญ่ในบ้านบ้างนะเว้ย! ถึงเขาจะดูและมึงไม่ดี มึงก็ไม่ควรปฏิบัติกับเขาแบบนั้นนะ” ผมบอกมันแบบไม่จริงจังนัก มันเงียบไปพักนึง ผมก็หันไปมองมัน มันก็มองผมนิ่งๆ
“มึงอยากให้กูทำแบบนั้นเหรอ” มันพูดนิ่งๆ แต่ทำไมผมใจสั่นแปลกๆ หรือเพราะระยะที่ใกล้ไปหรือเปล่านะ
“ละ...แล้วแต่มึงเถอะนะ กูแค่แนะนำน่ะ” ผมตอบแบบเลิ่กลั่ก พร้อมส่งยิ้มแห้งให้มันไป แล้วถอยห่างนิดหน่อย แล้วก็มองจอทีวี
แล้วก็เริ่มเล่นเกมส์กันอย่างเมามันส์ แพ้ไอเบสได้ทุกตา แพ้จนหมดอารมณ์จะเล่น ผมก็หันไปโวยวายมันบ้าง อะไรบ้าง แต่แปลกคือเล่นไปเล่นมาเหตุใดผมกับมันถึงนั่งชิดกันอะไรขนาดนี้เนี่ย!...........
“ใกล้ไปแล้ว ไอเบส ถอยออกไปเลย!” ผมบอกอย่างรำคาญ แต่ก็ไม่หันไปมองมันนะ หงุดหงิดอะ แพ้เกมส์ไม่พอยังมาอึดอัดกับการนั่งเบียดของมันอีก
มันก็เงียบไป ผมก็หันไปมองมัน มันมองผมอยู่แล้ว แถมยื่นหน้ามาใกล้มาก ปากผมแตะกับปากมันเบาๆ ใจผมเต้นแรงมากๆ ผมถอยตัวห่างแบบทันที.....
“ถะ...ถอยสิวะ!” พูดพร้อมกับ ดันมันออกไปมันก็ถอยออก
“มึงจูบกู” พูดด้วยน้ำเสียงกวนประสาท พร้อมกับส่งยิ้มกวนๆมาให้ผม
“ประสาท มันเป็นอุบัติเหตุ” ผมพูดไป เช็ดปากตัวเองไป
“ทำไม จูบกูมันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอวะ?” ถามแบบไม่พอใจ ผมก็หยุดเช็ดปาก แล้วก็ยิ้มให้มัน จะไม่ทำรังเกียจ จะให้ทำชอบหรือยังไง ทำตัวไม่ถูกแล้วโว้ยย!
“เปล่า” หันหน้าหนีมัน ไม่รู้จะต้องทำตัวยังไง
“มึงควรจะชอบหรือเปล่าวะ มึงเป็นเกย์จริงหรือเปล่า กูเป็นผู้ชาย อยู่ใกล้มึงขนาดนี้ ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอวะ” ไอเบสพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับจ้องผมนิ่งๆ
“ถึงกูจะเป็นเกย์ ชอบผู้ชาย กูก็แยกแยะออก ว่าคนไหนเพื่อน คนไหนคือคนที่กูควรชอบ” พูดติดไม่พอใจ มันหมายความว่าผมต้องชอบผู้ชายทุกคนที่อยู่ข้างกายผมหรือยังไง ไอบ้านี่!
“แล้ววันนี้มึงไม่สงสัยเหรอวะ ว่าทำไมกูถึงไม่ไปรับมึงที่โรงเรียน” มันถามผมด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ผมก็หันไปมองมัน
“เออทำไมอะ” พอถามแบบนี้ก็เลยอยากรู้ขึ้นมาเลย
“ก็.....” ผมก็จ้องมันนิ่งๆ “ช่างมันเถอะ” แล้วก็หันไปกดเล่นเกมส์ต่อ ผมก็งงๆกับมันนะ แต่ชินกับนิสัยแบบนี้ของมันแล้ว
ผมก็ล้วงโทรศัพท์มากดเพื่อไลน์ไปบอกพี่โน้ต ว่าจะให้มารับ เพราะถ้ากลับมืด รถสองแถวไม่มี
พรึ่บ! มือถือผมก็ไปอยู่ที่ไอเบสอีกแล้ว....
“มารยาท รู้จักไหม” ถามนิ่งๆพร้อมกับดึงโทรศัพท์ผมคืนมากดๆแล้วก็เก็บใส่กระเป๋า
“พี่มึงดูรักมึงมากเลยเนอะ”
“ก็งี้แหละ เรื่องของกูน่า” ผมตอบกลับพร้อมกับทำหน้ากวนบาทามัน
“กูคุยกับสาวๆของกูดีกว่าเบื่อมึงแล้ว” แล้วมันก็ลุกไปคุยโทรศัพท์ ตลอดอะไอนี่ ชอบทำอะไรตามใจตัวเองตลอด
แล้วก็ทิ้งผมให้นั่งเล่นเกมส์คนเดียว ผมก็ชะเง้อมองมันบ้าง ปกติมันก็จะคุยแถวๆที่ผมนั่งนี่แหละ แต่นี่คือเดินออกไปคุยที่ไหนไม่รู้ ผมก็ไม่อยากไปตามมัน เดี๋ยวโดนมันด่าอีก ผมก็เล่นเกมส์ไป เล่นผ่านไปสักพักใหญ่ๆ ไอเบสหายไปไหนไม่รู้ ผมก็เลยเดินตามหามันทั่วบ้าน ก็ไม่เจอ ถามแม่บ้านหรือป้านมก็บอกไม่เห็น จนผมได้ขึ้นไปบนห้องนอนมัน ผมก็เคาะประตู มันอยู่ในห้อง มันขานรับมา และประตูก็เปิดออก ผมตาโตเลย แล้วก็รีบหันหลังให้มัน....

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
“มึงบ้าป่ะเนี่ย! ไปใส่เสื้อผ้าเลย!” มันออกมาแบบโป๊ๆเลย เห็นหมดเลยเอาจริงๆ ผมพูดจบแล้วก็เดินลงไปข้างล่าง ไปเล่นเกมส์รอมัน ภาพมันติดตาผมมากเลย...
แล้วสักพักมันก็ลงมาแล้วก็เดินไปเดินมา เหมือนหาอะไรสักอย่าง ผมก็ไม่สนใจ นั่งเล่นเกมส์ต่อไป...
“นท อยู่กินข้าวกับกูนะ” มันพูดอย่างตื่นเต้น ผมก็มองมันแปลกๆ ไอนี่มันมีหลายบุคลิกดีนะ
“อืมๆ” พยักหน้าตอบรับอย่างงงๆ แปลกๆ เดี๋ยวดีดีเดี๋ยวร้าย อะไรของมันวันนี้
แล้วมันก็เดินไปจากห้องที่ผมเล่นเกมส์ แล้วผมก็ได้ยินเสียงคนทำอาหาร โวยวายอะไรไม่รู้กันเต็มครัว ผมก็เลยเดินไปดู แต่ต้องตกใจ ไอเบสยืนทำกับข้าว แถมยังให้นมกับพี่ๆแม่บ้านยืนสอนข้างๆ พอมันไม่ได้ดั่งใจ มันก็แหกปากด่าเขาอีก ตอนนี้มันดูตลกจัง ปากก็ด่านะ แต่มือก็ทำตาม ผมก็ยิ้มให้กับภาพตรงหน้า ทำไมมันมาฝึกทำอาหารวันนี้นะ ผมก็เดินกลับไปนั่งเล่นเกมส์ เปลี่ยนไปเป็นสิบๆเกมส์ เล่นจนเบื่อ สักพักมันมาตามให้ไปกินข้าว ผมก็ตามไป พี่ๆเขาก็ช่วยจัดเรียงโต้ะ น่ากินกันเลยทีเดียว แต่ ลักษณะมันทะแม่งๆนะ....
“เอ่อ ทำไมมึงต้องเอาเชิงเทียนมาวางวะ?” ถามอย่างแปลกใจแล้วก็นั่งลง บรรยากาศเหมือนดินเนอร์สุดหรูหรากับคู่รักข้าวใหม่ปลามันนี่มันอะไรกัน
และก็มีเสียงเพลงเบาๆขึ้นมา....
“กินดิ กูทำเองเลยนะ” ไอเบสพูดแล้วยิ้ม หน้ามันเปื้อนอะไรไม่รู้ขาวๆ
“อะ....เอ่อ เช็ดหน้าหน่อยนะ” ผมก็เอื้อมไปเช็ดหน้าให้มัน มันก็ยิ้ม ไอนี่มันแปลกนะ แปลกมาก “อันนี้คือดินเนอร์? กับกู? หรือซ้อมต้อนรับสาวที่ไหนวะ?” พูดติดตลก มันหน้าบึ้งขึ้นมาทันที
“โอเคๆ กูกำลังรวบรวมความกล้าอยู่ กูจะจีบคนๆนึง จริงๆจะบอกตั้งแต่อยู่ร้านกาแฟแล้ว แต่กูไม่กล้าวะ” พูดทีทำท่าทำทางบิดไปมาไม่เหมือนเป็นไอเบสคนเดิม แต่ก็ตามน้ำนิดนึง
“เห้ย! ใครว่ะ ผู้โชคดีคนนั้นอะ” พูดอย่างตื่นเต้น พร้อมกับยิ้มให้มัน อวยมันหน่อย อุตส่าทำข้าวให้ผมกินเลยนะเนี่ย
“คะ คือ...” ลุ้นเลย มันก็ดูเลิ่กลักนะ “คะ คือ..’’
“ขอกินก่อนก็แล้วกัน กลิ่นหอมทนไม่ไหวแล้ววว” คืออะไรนานจัง คนหิวไม่รอแล้วโว้ย! ผมก็หยิบซ่อมกับมีดขึ้นมาหั่นสเต็กชิ้นโตตรงหน้าทันที  มันน่ากินมาก
กินคำแรกคือ เนื้อนุ่มมาก หอมมากก ซอสเกรวี่คือกล่มกล่อมมาก เคลิ้มเลย....
“อร่อยไหม” ถามพร้อมกับทำหน้าตาเหมือนลุ้นหวย
“อร่อยวะ นี่มึงทำซ้อมให้สาวจริงๆใช่หรือเปล่าเนี่ย” ผมถามอย่างจริงจัง ถ้ามันจริงจังจนถึงขั้นลุกมาทำอาหารให้ผมดีใจกับมันจริงๆนะ
“กูทำให้มึง แล้วกูก็จะจีบมึง....” - พรวด! ….. –
“แค่กๆๆๆ” ผมสำลักน้ำ พรวดใส่หน้ามันเต็มๆ “ขะ...ขอโทษมึง” ผมหยิบกระดาษทิชชู่แล้วเอื้อมไปเช็ดๆให้มัน ดีไม่โดนอาหาร โดนแต่หน้ามัน เพราะตอนมันพูดมันยื่นหน้ามาหาผม และมันก็ดันจานมันไปไว้ข้างๆด้วย เหมือนรู้อะว่าผมต้องสำลักน้ำ พอเช็ดเสร็จผมก็นั่งลง “มึงมันพูดตลกไม่ถูกเวลาเองนะ โทษกูไม่ได้นะเว้ย!” พูดอย่างกังวลว่ามันจะทำคืน เพราะมันชอบเอาคืนผม ถ้าผมทำอะไรให้มันไม่พอใจ
“นท” เอื้อมมือมาจับมือผม ที่วางอยู่บนโต้ะ ผมก็ปล่อยให้มันจับ อยากรู้ว่ามันจะทำอะไร “กูพูดจริงๆนะ กูว่า...กูชอบมึงวะ” พูดแบบจริงจัง ผมอึ้งไปนิด นิดเดียวเท่านั้น แอบมีใจสั่น เพราะว่ามันต้องแกล้งผมแน่ๆ
“พอเลย เลิกแกล้งกูได้แล้ว เห็นกูเป็นคนยังไงเนี่ย!” ตอบปัดไป แล้วดึงมือกลับมา
“มึงไม่เชื่อกู?” ผมก็พยักหน้า แล้วก็กินต่อ ไม่สนใจ ชอบเอาเรื่องรักๆใคร่ๆมาเล่นก็มีแค่มันนั่นแหละ
มันก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปไหนไม่รู้ ผมก็กินต่อไม่สนใจมัน ก็ของอร่อยอยู่ตรงหน้านี่ เดี๋ยวเย็นเสียของหมด ผมก็กินไป กินของตัวเองหมด ก็มองซ้ายมองขวาแล้วก็หยิบของไอเบสมากิน....
-กึ่ก!-  ผมเขี้ยวใส่อะไรไม่รู้ ดีนะไม่เขี้ยงแรง ไม่งั้นฟันหักแน่ ผมก็คายออกมาดู....
เป็นจี้? จี้เล็กๆ เป็นรูปวงกลม สลักคำว่าเบส เป็นภาษาไทย ผมนั่งมองไปมองมา แล้วก็คิดในใจ “ไอเบสมันคงทำหล่นตอนทำอาหารแหละมั้ง” แล้วก็วางไว้ แล้วก็กินต่ออย่างอร่อย คือเอาแต่กิน สักพักมันก็กลับมา....
“แหะๆ” มันมองผมนิ่งๆ สลับกับมองที่จานมัน “กูไม่รู้ไม่เห็นนะ” พูดแบบไม่ยอมรับผิดที่กินสเต๊กจานมันเข้าไป
มันไม่พูดอะไร มานั่งข้างๆผม แล้วก็หยิบจี้ที่วางไว้ข้างๆแก้วน้ำผม และหยิบสร้อยข้อมือมาใส่จี้เข้าไป ดึงมือข้างซ้ายผมไปแล้วก็ใส่สร้อยข้อมือให้ผม ผมก็มองนิ่งๆ นี่คืออะไร งงอยู่นะ.......
“เป็นแฟนกับกูนะ” พูดแบบจริงจัง สบตาผมอย่างลึกซึ้ง โอ้ว! ผมควรจะอินสินะ
“เลิกกะ...”
“กูไม่ได้แกล้ง กูชอบมึง กูชอบมึงมึงได้ยินไหม!” แหกปากใส่หน้าผมเลย ผมถึงกับสะดุ้ง ตกใจนะ ยิ่งขวัญอ่อนอยู่
“อะ เอ่อ...” พูดไม่ออก “มึงเป็นผู้ชายนะเว้ย!” ดึงมือออกจากมือมัน
“ไม่รู้วะ กูรู้สึกดีทุกครั้งเลยที่อยู่ใกล้มึง กูอยากอยู่ใกล้ๆมึงในทุกวัน กูเปลี่ยนไปก็เพราะมึง กูใจเย็นลง กู...อุ้บ!” ผมเอามือปิดปากมันไว้
“มึงแค่คิดว่ากูเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดก็เท่านั้นแหละเบส อย่าคิดไปไกล ที่ผ่านมา มึงมีเพื่อนเยอะหลายกลุ่มก็จริง แต่กูก็ไม่เห็นมีใครที่ทำให้มึงสบายใจได้ เป็นเพื่อนกันสบายใจ สนิทใจ อยากอยู่ใกล้มันเป็นเรื่องปกติ นั่นคือเพื่อน มึงแค่มีกูคอยเอาใจ ก็แค่นั้น” เมื่อพูดบทนางเอกเสร็จ ผมก็ค่อยๆลุกขึ้นแล้วเอามือออกจากปากมัน มันก็มองผมนิ่งๆ
“กูชอบมึงจริงๆนะนท” บอกผมอย่างจริงจัง ผมมองมันด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
“เราเป็นเพื่อนกันนะเว้ย! มึงเอาอะไรมาชอบกู กูไม่ใช่ผู้หญิงนะไอเบส!” พูดตอบกลับนิ่งๆ เพราะผมก็ไม่เชื่อสักเท่าไหร่ ในใจก็ยังคงกลัวว่ามันจะแกล้ง
“กู....ช่างเถอะ มึงกลับไปได้แล้ว” หันหลังให้ผม ผมก็ไม่สนใจ
“อืม มึงคิดดีๆนะเบส” แล้วผมก็เดินไปเอากระเป๋าแล้วโทรให้พี่โน้ตมารับกลับบ้าน
ถามว่ารู้สึกอะไรไหมตอนมันพูด รู้สึก รู้สึกมากด้วย แต่มันชอบแกล้งผมบ่อยๆ ผมเลยไม่รู้ว่าที่มันพูดมานั่นจริงหรือไม่....
และหลังจากวันนั้น ผมกับมันก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย มันก็ไม่โทรมา ผมก็ไม่โทรไป ผมก็ใช้ชีวิตตามปกติ จนผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ช่วงที่มันหายไปผมรู้สึกปกตินะ ไม่ได้รู้สึกเหมือนว่าขาดอะไรไป เพราะอย่างที่บอกถึงการกระทำและคำพูดของไอเบสบางครั้งมันก็ทำให้ผมใจสั่น แต่ก็ไม่ได้ทุกครั้ง และผมก็มองมันเป็นเพื่อนเรื่อยมา และที่มันหายไป มันก็อาจจะไปติดสาวหรือยุ่งกับการเรียนของมันก็ได้ เพราะนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันหายไป แต่ครั้งก่อนๆที่มันหายไปมันก็โทรมาหาผมเรื่อยๆนะ แต่นี่ไม่ มันอาจจะติดแฟนนั่นแหละ ผมก็คิดแค่นั้น ส่วนสร้อยข้อมือผมก็ยังใส่ไว้ มันเท่ดี ผมก็เลยใส่ไว้ เพื่อนๆก็ถามกันว่าเอามาจากไหน ผมก็บอกว่าไอเบสให้ เนื่องในโอกาสอะไรก็ไม่รู้55 ก็มั่วไป แต่จี้ที่เขียนว่าเบสถ้าไม่สังเกตดีๆก็มองไม่เห็นหรอก เพราะมันเล็ก และก็คงไม่มีใครสังเกต....
“นท!”พี่เต็มวิ่งมาหาผมที่กำลังกินข้าวอยู่กับเพื่อนๆ วันนี้เป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ที่ผมจะเรียน (วันศุกร์นั่นเอง55) อย่างที่บอก ผมไม่ได้เจอกับไอเบสมาก็อาทิตย์นึงแล้ว ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ จนมาวันนี้ที่พี่เต็มวิ่งหน้าตาตื่นมาหาผม ปกติช่วงนี้พี่เต็มไม่ค่อยจะมาพบปะผมเพราะยุ่งๆกับการซ้อมดนตรีที่ห้องชมรมมันในช่วงพักกลางวัน....
“ใจเย็นๆพี่นั่งก่อน” ผมบอกพี่เต็มที่กำลังหอบ และเขยิบที่ให้พี่เต็มนั่ง
“เป็นไรวะพี่วิ่งหน้าตาตื่นมาเชียว”  เมื่อพี่เต็มนั่งลงแล้ววิวก็เอ่ยถามขึ้นมาทันที
“อะ พี่กินน้ำก่อน” ปอพูดจบมันก็ ยื่นแก้วน้ำผมไปให้พี่เขาไง ไอนี่นิ แทนที่จะให้แก้วน้ำมันไหม
พี่เต็มก็ดูดอย่างกระหาย แล้วก็หายใจเข้าออกช้าๆเพื่อปรับให้ร่างกายเป็นปกติ........
“เออ กูมีเรื่องจะมาถามมึงอะนท” ถามนิ่งๆ เสียงติดจะหอบไปหน่อย
“ว่า?” ผมมองอย่างสงสัย ทุกคนก็ด้วย
“ไอเบสได้ติดต่อมึงป่ะ?” พี่เต็มเอ่ยถามขึ้นมา ทำให้พวกผมมองหน้ากันอย่างสงสัย
“ไม่นะ ช่วงนี้ไม่ได้คุยไม่ได้เจอเลย ทำไมอะพี่” ถามกลับอย่างสงสัย
“ก็เพื่อนมันอะดิ ให้กูมาถามมึง เพราะมันไม่ได้ไปโรงเรียนตั้งแต่วันจันทร์แล้วนะ ตอนแรกแค่วันเดียวเพื่อนๆก็ไม่คิดอะไร แต่นี่เล่นทั้งอาทิตย์เลย มันไปไหนของมันนะ” ผมชะงักไปนิด ในใจก็เริ่มเป็นห่วงมันแล้วสิ
“มันไปติดสาวที่ไหนหรือเปล่า? เจอกับมันล่าสุดก็เมื่อศุกร์ที่แล้วแล้วนะ มันให้ผมไปขอเบอร์ผู้หญิงให้” พูดไปนึกไป
“เออๆ มึงไม่ได้ติดต่อมันใช่ไหมช่วงนี้อ่ะ”  ผมก็พยักหน้า “โอเคๆ พวกกูว่าจะไปดูมันที่บ้านสักหน่อย ไม่รู้เป็นอะไรหรือเปล่า กูไปนะ”แล้วมันก็ลุกแล้ววิ่งไปเลย
แล้วเพื่อนๆของผมก็หันมาถามผมว่าเป็นยังไง ผมก็เล่าไปให้พวกมันฟัง โดยไม่ได้เล่าที่จูบหรือที่ไอเบสขอเป็นแฟนนะ เพราะผมบอกแล้วไง ว่ามันคงแค่แกล้ง ผมลองโทรไปหามัน ปิดเครื่อง ผมก็เลยไม่ได้โทรซ้ำไปอีก พอเลิกเรียน ผมก็ไปเที่ยวห้างกับเพื่อนๆไปหาอะไรกินกันตามประสาพวกผม ผมก็เดินดูของไปสักพักพี่เต็มก็โทรมาอีก ผมก็กดรับ.....
“ว่า?” พูดแล้วก็หยิบตุ้กตาหมีขึ้นมาดูไปด้วย น้องน่ารักจัง...
“ไอเบสมันขังตัวเองอยู่แต่ในห้องนอน ป้านมบอกว่าตั้งแต่วันนั้นมึงกลับไป มันก็ไม่ยอมออกห้องเลย ต้องเอาข้าวมาวางไว้ให้มันหน้าห้องเนี่ย!” พี่เต็มพูดด้วยความกังวล แล้วก็มีเสียงเพื่อนๆมันพูดกัน บางคนก็ตะโกนเรียกไอเบส เสียงมันแทรกเข้ามาในสาย
“มันอกหักอะดิงั้นอะ พี่ก็ปลอบมันด้วยแล้วกันนะ” ตอนนั้นผมคิดว่าผู้หญิงที่ผมขอเบอร์ให้ที่ร้านกาแฟปฏิเสธมันมันเลยเฮิร์ทชัวร์
“มึงจะไม่มาดูมันหน่อยเหรอวะ มึงกับมันสนิทกันกว่าพวกกูอีกมั้ง” พูดแบบนี้จะโยนขี้ให้สินะ ผมวางน้องหมีลงทีเดิม
“อ้าว! ไหงงั้นอะ มันก็เพื่อนพี่ป่ะ?” เริ่มแล้วไง ผมกำลังเที่ยวกับเพื่อนๆ แล้วพี่เต็มมาหางานให้ผมแล้วไง
“มาดูมันเลย พวกกูก็จะรอนี่แหละ หรือมึงจะให้กูไปรับ!” พูดเสียงแข็ง ผมเซ็งเลย วันศุกร์เลยนะ ผมต้องอยู่เที่ยวสิ ทำไมต้องไปโอ๋ไอคนเอาแต่ใจแบบนั้นด้วยละ
“เออๆ เดี๋ยวไปเอง น่าเบื่อว่ะ!” พูดแล้วก็ตัดสายไปเลย ผมก็เดินดูของต่ออย่างใจเย็น555 รอไปเถอะ
ผมก็ดูของกับเพื่อนต่ออีกหน่อย แล้วก็กำลังจะเดินไปทางออกก็ผ่านร้านกาแฟที่ผมเคยนั่งกับไอเบสล่าสุด เห็นผู้หญิงคนเดิมนั่งอยู่ ผมก็นึกขึ้นได้ ว่าจะไปหาไอเบส ก็เลยเข้าไปทักทายผู้หญิงคนนั้น โดยบอกให้เพื่อนๆรออยู่ด้านนอก พอผู้หญิงคนนั้นเห็นผมก็มองผมแบบสงสัย....
“ขอโทษนะครับ ผมขอนั่งด้วยได้ไหม” เขาก็พยักหน้า “ผมนทนะครับ แล้ว...?”มองอย่างตั้งคำถาม
‘’เราแคท’’ ยิ้ม
“อ่อแคท คือแคทพอดีที่เราขอไลน์แคทให้เพื่อนเราคราวแล้วจำได้หรือเปล่า” เขาก็พยักหน้า “แคทปฏิเสธมันเหรอ?” ถามด้วยเสียงที่เบา แอบเกร็งๆ กลัวเขาจะหาว่าเสือก แต่ก็เสือกแหละ
“เปล่า ตั้งแต่นทขอไลน์เราไปวันนั้นยังไม่มีใครแอดเรามาเลยอะ?” ทำหน้างงๆ ผมก็งงหนักไปใหญ่เลยสิ
“อ่อ ไม่รู้มันโดนสาวที่ไหนหักอกมา เฮิร์ทหนักเลย ไม่ยอมไปโรงเรียนทั้งอาทิตย์เลยอ่า” พูดไปคิดไป แต่ก็ไม่รู้ยังไง
“เหรอ แล้วเขาเป็นยังไงบ้างอะ” ดูเหมือนจะเป็นห่วงไม่น้อยเลยนะ
“งั้น ขอบคุณนะแคท เราไปก่อนนะ ขอบคุณมาก” ผมพูดตัดบท พร้อมกับรอยยิ้ม แล้วก็ลุกออกมาเลย
แล้วก็แคทก็ลาผมแบบงงๆ ผมก็เดินออกไปเพื่อนๆก็ถามผมก็บอกไปว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่ไอเบสให้ผมขอเบอร์ ก็เล่าไป ผมสงสัยมาก ไม่ใช่คนนี้แล้วใครละ ใครที่มีผลกระทบต่อมันขนาดนี้นะ ทั้งๆที่ความจริงมันไม่สนใจผู้หญิงที่บอกเลิกมันด้วยซ้ำ หรือจะเป็นพ่อแม่มันนะ? ผมก็คิดไปทั่ว ก็ไปนั่งรถไปบ้านไอเบส เพื่อนๆผมก็ขอตามไปด้วย เพราะอยากรู้เหมือนกัน ผมก็โอเค ก็นั่งพูดคุยกันไป ผมออกจะเงียบๆไปเพราะกำลังคิดอยู่ ว่าใครกันนะ? ผมก็ล้วงโทรศัพท์ขึ้นมากดไลน์ ลองไล่ดูเผื่อจะเป็นคนที่ผมมีไลน์ ผมก็ลองทักแชทไปคุยกับคนที่ไอเบสจีบบ้างทักไปหมด ตอบมาบ้างอะไรบ้าง ผมก็คิดไปคิดมา สักพักก็ถึงบ้านไอเบส รถมอไซค์จอดเต็มหน้าบ้านมันเลย ผมก็เข้าไป พวกพี่เต็มก็นั่งอยู่ที่ห้องรับแขก....

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
“พี่เป็นไง” พอเข้าไปถึงผมก็เอ่ยถามขึ้นมาทันที
คำตอบที่ได้คือฟังไม่รู้เรื่อง แย่งกันพูดเต็มไปหมด ผมก็ฟังจนเบลอ จับใจความได้ว่าไอเบสยังไม่ออกมา แค่นั้น55..
“โอ้โห พูดทีละคนก็ได้มั้งพี่” ปอเอ่ยขึ้น เพราะทนฟังมาสักพักก็ยังจับใจความไม่ได้สักที
“มันยังไม่ออกมาเลย และเปิดประตูเข้าไปไม่ได้ด้วย มันล๊อคกลอนข้างในไว้หมด” พี่อู๋พูดขึ้นมาด้วยความกังวล
“แต่ป้านมได้ยินเสียงทำลายข้าวของด้วยนะคะ ไม่รู้จะเป็นอะไรหรือเปล่า” ป้านมพูดขึ้นมาด้วยความกังวล
“เอาไงอะพี่” ผมถามเพราะผมก็ไม่รู้จะเอายังไง
“มึงลองไปเคาะประตูดูดิ้ ว่าเป็นยังไง เผื่อมันจะคุยกับมึง” พี่เต็มพูด ทุกคนก็เออออเห็นด้วย
ทำไมต้องเป็นผมละ? โถ่ ผมก็เดินขึ้นไป พวกนั้นก็ตามผมขึ้นมา ผมก็มาหยุดอยู่หน้าห้องนอนมัน ผมกำลังจะเคาะ แต่ก็ลังเล หันไปมองพวกพี่เต็มเขาก็พยักหน้าให้ผม...
ก๊อกๆๆ! ผมก็เคาะไม่แรงมาก...
“เบส กูเองนะมะ....”
เพร้ง! ทุกคนสะดุ้งเลย ผมพูดไม่ทันจบ มีเสียงอะไรไม่รู้ กระแทกกับประตูดัง เพร้ง!...
“นั่นไง เพราะมึงจริงๆด้วย พวกกูเคาะกันแทบตาย เงียบอย่างกับป่าช้า มึงไปทำอะไรให้มันโกรธ” พี่เต็มเดินมากระซิปผม
“ผมจะไปทำอะไรเล่า!” ผมพูดกดเสียงเบาๆ
“ออกไป!” เสียงตะคอกมาจากในห้อง ผมก็โอเคอย่างน้อยมันก็ตอบแล้ว
“มึงจะไปไหนนท!” ผมที่กำลังจะหันหลังเดินลงบ้าน พี่เต็มก็จับแขนผมไว้
“มันไล่แล้วจะอยู่ทำไมละ!” ผมพูดอย่างไม่จริงจังนัก ก็มันยังไม่ตาย เขวี้ยงของขนาดนั้น แรงยังดี ทุกอย่างยังปกติแน่นอน
“มึงไม่เป็นห่วงมันเหรอวะ ดูดิ ไม่ออกมาเลยเนี่ย” พี่คาร์ก็พูดเหมือนผมผิด ทำไมต้องผมละเนี่ยคนตั้งเยอะตั้งแยะ
“เออ มีมึงคนเดียวนะที่มันตอบโต้แบบนี้อะ” พี่เอ็มก็อีกคน ผมถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
แล้วก็เดินกลับไปที่หน้าห้องเหมือนเดิม....
-ปั้งๆๆๆๆๆๆๆๆ!- ทุบห้องแบบรัวๆและดังจนเจ็บมือ เริ่มรำคาญแล้วสิ ทุกคนดูตกใจไม่น้อยเลย
“มึงจะออกมาไหมไอเบส! กูไม่รู้นะเว้ย! ว่ามึงเป็นอะไร แต่ถ้ามึงไม่ออกมาตอนนี้ มึงก็มาเอาสร้อยข้อมือคืนไปเลย เพราะกูจะไม่เป็นเพื่อนกับมึงแล้ว!” พูดอย่างหมดความอดทน พวกพี่เต็มเงิบไปเลยสิ ไม่รู้จะรั้งผมอะไรนักหนา ผมก็แค่มาเพราะเป็นห่วง มันอยู่ดีจะกลับก็พูดเหมือนผมผิดอยู่ได้
แกรกๆๆ ! เสียงปลดกลอนด้านในดังขึ้น ทุกคนก็มองมองหน้ากัน แอ๊ดๆๆ ไอเบสค่อยๆเปิดประตูออก สภาพมันดูไม่จืด ขอบตาดำมาก โทรมาก มันก็ออกมาแล้วมองผมนิ่งๆ......
เพี๊ยะ! ผมฟาดมือไปที่แก้มข้างขวามันเต็มแรง ด้วยความโมโหแล้วก็เป็นห่วงด้วย
“ไอนท! มึงไปตบมันทำไม” พี่เต็มพูดพร้อมกับ จับผมให้ถอยห่างจากไอเบส
“ไม่รู้ โมโหเว้ย! แม่งมึงเป็นอะไรวะเบส ทำตัวมีปัญหาอยู่ได้ มีอะไรก็พูดดิวะ! แล้วมึงหมกทำเหี้ยอะไรในห้อง มันมีส้นตีนอะไรให้มึงอยู่เป็นอาทิตย์วะ!” ผมพูดด้วยความโมโห ไม่พอใจด้วยที่เห็นสภาพมันเป็นแบบนี้ ผมไม่ชอบเห็นเพื่อนทำร้ายตัวเอง
ผมก็ดึงมันออกมาพี่เต็มก็เข้าไปประคองไอเบสอย่างเป็นห่วง พวกนั้นก็ถามไอเบสอยู่ข้างนอก ผมก็เดินเข้าไปดูข้างใน  ของกระจัดกระจาย ที่เดินแทบไม่มี ห้องน้ำยิ่งเละ มันปาขวดครีมต่างๆ แตกกระจายเต็มพื้นห้องไปหมด บนเตียงนอนนี่คือ นั่นเตียงนอนคน? มีแต่เศษกระดาษอะไรก็ไม่รู้ ผมก็เดินออกไปแล้วก็เดินลงไปข้างล่าง เพื่อนๆผมก็ตามลงมา....
“ใจเย็นน่ามึง” วิวพูดพร้อมกับดึงแขนผมไว้
“กูเบื่อวะ!” แล้วก็นั่งลงที่โซฟา ป้านมก็วิ่งมาหาผม พร้อมกับแม่บ้าน
มาถามผมอย่างเป็นห่วงไอเบส ผมก็บอกไป และก็ขอให้เขาช่วยไปทำความสะอาดห้องนอนให้มัน แล้วพวกพี่เต็มก็ลากไอเบสลงมา ก็มานั่งกองกันอยู่ตรงโซฟาเนี่ยแหละ ไอเบสก็จ้องแต่ผม ผมก็มองมันอย่างไม่พอใจ ตอนนี้ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ......
“โอเคนะพี่ มันออกมาละ ผมจะกลับแล้วนะ” ผมไม่รู้จะพูดหรือจะทำอะไรต่อ ก็เลยพูดตัดจบ แล้วก็ลุกขึ้น
“เห้ย! เดี๋ยวดิวะ!” พี่เต็มพูดพร้อมกับ ลุกขึ้นมาดันผมให้นั่งลง ผมก็นั่งตามแรงกด จะอะไรกันอีกก็ไม่รู้
“เฮ้อ! เอาล่ะๆ ไอเบส มึงมีปัญหาอะไรก็บอกมาเลย มึงเครียดอะไรก็ระบายกับพวกกูได้นะเว้ย! ทำไมมึงถึงขังตัวเองอยู่ในห้องวะ” พี่กัสถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงทุกคนก็มองไปที่มัน
“กะ กู....” มันก้มหน้าแล้วก็พูดพึมพำ
“เฮ้อ!” ผมถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
“ทำไมต้องไอนทวะ หรือมึงทะเลาะกับมัน?” พี่อู๋อยู่ๆก็พูดขึ้นมา แล้วมันใช่เรื่องที่ต้องถามไหม
ผมก็กำลังคิดหาความผิดตัวเอง หรือแค่ผมแอบกินสเต็กของมัน มันเลยโกรธ และไปกัดใส่จี้ของมัน มันก็เลยประชดผมโดยการให้สร้อยข้อมือผม ผมก็คิดทำนองนี้ สร้อยข้อมือนี่อาจจะสำคัญกับมันมากๆก็ได้....
“อ่อ! มึงโกรธกูเพราะเรื่องสร้อยข้อมือนี่ใช่หรือเปล่า” ทุกคนก็หันมามองผม ไอเบสก็ด้วย
“ทำไมวะ มันมีอะไร” พี่เต็มถามอย่างสงสัย
“กูขอโทษวะเบส กูไม่น่ากินสเต็กของมึงเลยอะ ไม่งั้นกูคงไม่กัดใส่จี้มึงหรอก อย่าโกรธนะเว้ย!” ผมพูดด้วยความรู้สึกผิดจริงๆ
ทุกคนก็มอง คือผมเข้าใจว่าเป็นแบบนั้น เพราะผมคิดว่าเรื่องที่มันขอผมเป็นแฟน มันแค่แกล้ง....
“เหรอวะ? มึงโกรธมันแค่นี้อ่ะนะ” พี่เต็มถาม ทุกคนก็มองอย่างสงสัย
“เดี๋ยวกูเอาไปซ่อมให้ก็ได้นะเว้ย! อย่าทำร้ายตัวเองเลยนะมึง” ผมพูดพร้อมกับทำสีหน้ารู้สึกสำนึกผิด แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรขนาดนั้น นี่มันเรื่องไร้สาระจะตายไป
“แค่นี้เนี่ยนะ มึงก็เกินไปไอเบส” พี่กัสพูด ทุกคนก็เริ่มจะส่ายหัว ถ้าเรื่องมันมีแค่นี้มันก็ไร้สาระจริงๆ
“เดี๋ยวนะ นี่มึงคิดว่าที่กูขังตัวเองไว้เพราะมึงเอาสร้อยข้อมือไป?” ถามผมแบบนิ่งๆ ผมก็พยักหน้า “หึ! กูนึกว่ามึงจะฉลาดกว่านี้นะนท” พูดแบบไม่พอใจ
-ครืดๆๆ!- เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นมา ทุกอย่างก็หยุดอยู่แค่ตรงนั้นผมก็ล้วงออกมาดู เฮียบูม! ผมก็กดรับ...
“ฮัลโหลครับท่านชายของนท!” พูดอย่างดีใจ เพราะเฮียบูมเป็นคนที่ดีกับผมมากมาย น้อยกว่าพี่โน้ต แต่เราชอบพูดชอบเล่นกันไง เป็นลูกพี่ลูกน้องของผมเอง
“ไง ไอแสบ อยู่ไหน” เฮียบูมถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่นเหมือนเคย
“คุยกันไปก่อนนะ เดี๋ยวมา” พูดพร้อมส่งซิกไปทางเพื่อนๆ แล้วก็เดินออกมา เพราะเฮียบูมโทรมาได้แสดงว่าต้องกลับมาจากเมืองนอกแล้วแน่เลย
ผมก็เดินไปคุยอยู่ที่หน้าบ้าน คุยกับเฮียบูมสนุกเลย ตอนนี้เฮียอยู่กรุงเทพฯ กำลังรอนั่งเครื่องกลับมา จะให้ผมไปรับ ผมก็ตอบตกลงอย่างดีใจ ของฝาก ท่องอยู่ในใจตลอดเวลา555 คุยไปอีกสักพักก็วาง ผมก็โทรไปบอกพี่โน้ตให้มารับผมเลย และก็มีข้อความนึงเข้ามาเป็นข้อความที่ผมทักไปพวกผู้หญิงของไอเบส ผมก็ยิ้มออกมาเลย ว่าทำไมมันถึงเป็นบ้า แล้วก็กลับเข้าไปข้างใน ทุกคนก็มองผมแปลกๆ....
“มึงไปคุยกับใครมานท? แฟนเหรอ?!” ไอเบสพูดติดไม่พอใจสักเท่าไหร่ ผมก็มองงงๆ
“ยิ่งกว่าแฟนอีกมั้ง” ผมพูดแล้วยิ้ม ก็ยิ่งกว่าแฟนจริงๆไหมละ พี่ชายผมเนอะ
“ไอนท!” มันจะพุ่งมาหาผม พวกพี่เต็มก็ดึงมันไว้ ผมก็ถอยห่างนิดหน่อย แล้วมองอย่างตกใจ เกิดอะไรขึ้น
“มึงเป็นอะไรอีกเนี่ย!” ผมถามอย่างด้วยความตกใจ
“มึงไม่รู้ตัวเลยเหรอนท ที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะมึงนะ!”พี่เต็มพูดขึ้น ผมทำหน้าสงสัยหนักกว่าเดิมอีก
“มันเล่าให้พวกกูฟัง ว่ามันขอมึงเป็นแฟน แต่มึงปฏิเสธมันหน้าตาเฉย แถมมึงยังมาพูดจาวอนมันแบบนี้อีกอะ” ปอเดินเข้ามากระซิบผม ผมอึ้งไปนิดนึง ตกลงมันจะจริงจัง? ผมก็มองมันนิ่งๆ
“อ่อ ที่มึงเป็นบ้าก็เพราะเรื่องนี้นี่เนี่ยนะ!” ถามไปแบบออกแนวจะตลกด้วยซ้ำ “5555” ผมหัวเราอย่างบ้าคลั่ง ทุกคนก็มองว่าผมบ้าไปแล้วหรือยังไง
“ตลกอะไรวะ” พี่อู๋ถามด้วยความสงสัย
“ก็ไม่คิดว่ามันจะจริงจังอะไรขนาดนั้นอะดิพี่” หันไปบอกพี่อู๋ “ไร้สาระน่าเบส มาทรมาณตัวเองเพราะกู” พูดอย่างไม่จริงจังนัก แล้วก็ถอดสร้อยข้อมือออกมา “เอาคืนไป” ยื่นไปให้มัน มันก็รับไปแบบมองผมเศร้าๆ แสดงเก่งจริง
“มึงมันใจร้ายสุดๆเลยไอนท” ไอมินพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ ทำไมทุกคนต้องเข้าข้างมันนะ
“กูไม่ได้ใจร้ายอะไร กูไม่ได้ชอบมัน และมันก็ไม่ได้ชอบกู มันแค่เล่นตลก จริงไหมเบส” ผมมองมันนิ่งๆ
“กูไปเล่นตลกอะไรกับมึงตอนไหน” ถามแบบน้ำตาคลอ ดูทุ่มทุนเนอะ
“อะ” ยื่นโทรศัพท์ไปให้มันดู ทุกคนก็ไปมุงดู มือมันสั่นเลยทีเดียว “มึงมันแย่ไปนะเบส แฟนมึงบอกเลิกมึง แล้วมาโยนความผิดหาว่าเป็นเพราะกูสบั้นรักมึงเนี่ยนะ! ทุเรสไปมั้ง” ผมก็กระชากโทรศัพท์ตัวเองคืนมา “หวังว่ารู้กันแล้วนะ ว่าผมไม่ได้เกี่ยวอะไร” ผมหันไปบอกพวกพี่เขา เขาก็พยักหน้าแล้วมองไอเบสอย่างหาคำตอบ
ผมมองไอเบสนิดหน่อย และข้อความผมก็เข้าอีก พี่โน้ตมาแล้ว....
“พวกพี่ก็เชิญปลอบมันเลยนะครับ เพราะผมไม่ว่างพอแล้ว อ้อไม่ต้องห่วงกูไม่คิดอะไรเลยนะ เพราะกูเข้าใจว่ามึงคงเฮิร์ท!” ผมเข้าใจว่ามันจะปกป้องผู้หญิงคนนั้น ประมานว่าผมไปทำให้มันรัก ผู้หญิงคนนั้นเลยบอกเลิกมัน งี้เหรอ? น้ำเน่าไป “ไปนะ” แล้วผมก็เดินออกบ้านมันมา ไอเบสก็วิ่งตามมา ทุกคนก็ด้วย
“นทๆ!” วิ่งมาขวางหน้าผม ผมก็มองมั่นนิ่งๆ “เรื่องที่มึงรู้มามันไม่จริงเลยนะ กูเลิกกับฝนตั้งนานแล้ว และที่มึงถามฝนไปแบบนั้นเขาก็คิดว่ากูเสียใจเรื่องเขาอะดิ อีกอย่างกูไม่เคยเสียใจเพราะผู้หญิงพวกนั้นบอกเลิกกูหรอกนะ” เรื่องนี้มันก็จริงนะ เพราะผมสนิทกับมันก็พอรู้ แต่ฝนเป็นแฟนคนแรกของมันไง มันบอกว่ารักมาก ผมก็ไม่ค่อยมั่นใจแล้วก็ไม่อยากคิดให้เสียสุขภาพจิต ผมต้องไปเจอเฮียบูม ผมไม่อยากอารมณ์เสียเพราะเรื่องไร้สาระนี่
“มาบอกกูทำไมอ่ะ?” ผมถามนิ่งๆ แบบบอกทำไมไม่ใช่เรื่องของกูนิ
“ถ้ามึงคิดแบบนั้นกูก็ขอโทษนท จริงๆกูไม่ได้คิดแบบนั้นนะเว้ย!” ไอเบสพูดอย่างหัวเสีย ผมก็มองไปทางพี่โน้ต พี่โน้ตก็ชะเง้อมองว่ามีอะไรกัน
“อื้ม ดีแล้วที่มึงไม่คิดแบบนั้นอะ”ถูกแล้วที่ต้องขอโทษ ทำผมเสียเวลาไม่พอ ยังต้องมาให้ผมคิดเยอะอีก
“มึงไม่โกรธกูแล้วใช่ไหม” จับมือผม ผมดึงมือคืนนิดหน่อย เดี๋ยวคนจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้
“ทำไมกูต้องโกรธอะ?” ถามอย่างสงสัย เพราะผมไม่รู้สึกอะไรทำไมผมต้องโกรธ หรือจะเรื่องที่มันขังตัวเองไว้ในห้องก็น่าโกรธอยู่นะ
“มึงไม่ได้มีใจให้กันเหรอวะ” พี่เต็มเอ่ยถาม ผมก็มองมันอย่าสงสัย เรื่องที่ผมเป็นเกย์พวกพี่เต็มเขาก็รู้กันอยู่แล้ว “ก็แบบมึงหึงมันไง” ผมหลุดหัวเราะออกมาเลย
“555 เอาอะไรมาพูดพี่ ผมไม่เคยชอบมันเลยด้วยซ้ำ เอาอะไรมาพูดเนี่ย” พูดพร้อมกับหัวเราะออกมา เพราะรู้สึกว่ามันตลก แบบชิวๆเลย “คือจริงๆจุดประสงค์ที่มาวันนี้ก็คือมาเอาไอเบสออกห้องใช่ไหม” ทุกคนก็พยักหน้า “แล้วมันก็ปลอดภัยดีอาจจะโทรมไปหน่อย” พูดแล้วก็ยิ้ม “ส่วนที่มันบอกว่าผมปฏิเสธรักมัน ผมบอกเลยว่าถ้ามันคิดขอผมเป็นแฟนนั่นคือเรื่องจริง ผมปฏิเสธมัน” ทุกคนก็พยักหน้า “เพราะผมไม่ได้ชอบมัน” ยิ้ม “พี่ๆไปส่งเพื่อนๆผมด้วยนะครับ ผมไปแล้ว แล้วเจอกันไอเบส ไอ้เพื่อนรัก!” ตบไหล่มันเบาๆ
“แล้วไอเบสนี่ไม่มีหวังได้เป็นแฟนมึงเลย?” พี่เต็มถามอย่างสงสัย
“มีดิ” ผมตอบแบบไม่ใส่ใจ ยังไงการเอาเพื่อนมาเป็นแฟน มันเป็นอะไรที่ เกิดขึ้นได้อยู่แล้ว ถ้าความรู้สึกดี มันมากเกินไป แต่ไอเบส ก็ไม่ได้แย่ หน้าตามันหล่อเหลาเอาการ แต่ถึงจะหล่อก็อย่างที่บอกไม่ใช่สเปกเลย   
“กูต้องทำยังไง” ไอเบสถามด้วยความดีใจ เพื่อนๆมันก็ดูเป็นใจเนอะ ดูลุ้นๆ
“จีบกูดิ เป็นเพื่อนแล้วจะข้ามมาเป็นแฟนเลยได้ยังไงวะ” พูดอย่างไม่ใส่ใจ คนโลเลแบบนั้น เอาแน่เอานอนไม่ได้ ผมจะใส่ใจทำไม
แล้วผมก็วิ่งไปหาพี่โน้ตที่รออยู่หน้าบ้าน แล้วก็ซ้อนท้ายพี่โน้ต โบกไม้โบกมือลาเพื่อนๆ พวกมันก็สงเสียงโห่แซวผมกัน แปลกที่ผมไม่รู้สึกเขินหรืออะไร ติดจะเฉยๆไปด้วยซ้ำ ถามว่าโกรธไหมที่คิดว่ามันปกป้องผู้หญิงคนนั้น ผมบอกเลยว่าไม่ เพราะอยู่กับไอเบส ผมปลงเรื่องจะโกรธมันแล้ว มันหลายเรื่อง คือไม่รู้จะโกรธเรื่องไหนดี ก็ปล่อยมันไปเถอะ เพราะมันทำอะไรก็เอาแต่ใจ เอาตัวเองเป็นหลัก ชอบเอาผมไปอ้างกับพวกผู้หญิงพวกนั้นบ้างอะไรบ้าง จนผมชินแล้ว อาจจะมีเคืองบ้าง แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก อีกอย่างครั้งนี้มันก็ดู แคร์ผมดีนะ แอบดีใจหน่อยๆ ที่มันห่วงความรู้สึกผม แต่รวมๆคือผมไม่เป็นอะไรจริงๆ ไม่รู้สึกอะไร ที่บอกให้มันจีบ มันจะทำจริงๆเหรอ เพราะเวลาไปเดินห้างกับมันสองคน มันเดินห่างกับผมเป็นวา เหมือนกลัวใครจะรู้ว่ามากับผม ผมเลยพูดไปเพราะมันคงไม่ทำจริงๆหรอก มันคงแค่แถ เพราะกลัวเพื่อนจะมองมันไม่ดีนั่นแหละ ผมก็ไปตามน้ำกับมันสักหน่อย....
และหลังจากวันนั้นผมก็ไม่ค่อยว่างเพราะต้องรีบกลับไปหาเฮียบูมทุกเย็น ไปเที่ยวไปเล่นกับเฮีย ไอเบสไม่ได้คุยไม่ได้เจอผมไปสักพัก เพื่อนๆผม พวกพี่เต็มก็มาถามว่าผมหนีหน้าไอเบสเหรอ? ผมก็ไม่มีอะไรจะตอบ จะหนีทำไม แต่ก็เจอมันมารอรับที่หน้าโรงเรียนทุกวัน แต่เฮียบูมขับรถยนต์มารับผม ผมก็เห็นมันทำหน้าเศร้าๆ มองผมตาละห้อย มันจะแสดงไปถึงไหน
จนถึงวันที่เฮียบูมกลับต่างประเทศ ผมก็ไปส่ง และหลังจากนั้นผมก็ว่างๆแล้ว ก็ไปกับไอเบสเหมือนเดิม ในทุกๆเย็น ไปกับกลุ่มเพื่อนๆบ้าง กลุ่มพี่ๆบ้าง แต่ที่แปลกคือ มันเดินชิดผมมาก ชิดชนิทที่แบบจะสิงกันเดิน แอบหลอกจับมือทุกครั้งเมื่อมีโอกาส นั่งก็นั่งใกล้กัน ซื้อของให้ผมบ่อยๆ...

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
จนเวลาผ่านไป ที่ผมไปๆมาๆกับมัน ถามว่ามีอะไรพิเศษไหม ก็มีนะ มีกินน้ำหลอดเดียวกัน(ปกติก็กินด้วยกันอยู่แล้ว) ไปดูหนังสองต่อสอง(อันนี้ก็ปกตินะ) เดินชิดกันมาก(อันนี้ไม่ปกติเท่าไหร่) มีซื้อของให้บ่อยๆ (อันนี้ปกติ) และก็อีกหลายๆอย่าง ที่ผมบอกปกติ เพราะตั้งแต่ผมสนิทกับมัน มันกับผมก็ทำแบบนี้กันมาอยู่แล้ว แค่ว่ามันจะรักษาระยะห่างกับผมตอนเดินก็แค่นั้นจริงๆ นอกนั้นเราก็ทำตัวเหมือนคนจีบกันในทุกวันอยู่แล้ว ถึงมันจะมาทำให้พิเศษผมก็มองว่ามันปกติไปหมดแล้ว แต่มีอีกอย่างนึงคือคำพูดชวนอ้วกของมัน อย่างวันนี้ พาผมไปสวนสาธารณะซึ่งมันไม่เคยพาผมมาเลย เพราะมันบอกว่าที่นี่เอาไว้มาเที่ยวกับแฟน(ดูโรแมนติกเนอะ)…..
“เบส พาเรามาที่นี่ทำไม”ถามอย่างสงสัย ต้องพูดเพราะกับมันนะ มึงกูไม่มีแล้ว นับจากวันที่เฮียบูมกลับอีกวันนึงผมไปเที่ยวกับมัน มันก็พูดเพราะมาก และห้ามผมใช้กูมึงกับมันอีก ดูดี เพราะผมก็ไม่ชอบมันพูดไม่เพราะเท่าไหร่ ขัดกับหน้าตามัน
“เบสอยากพานทมาไง”(ยิ้มหวาน)
“เอิ่ม” ชวนอ้วกเลยใช่ไหม มันพูดดิบๆเถื่อนๆกับผมมาตั้งแต่แรก แต่พักหลังๆมาพูดแบบนี้มันก็ดูสยองนะ แต่ผมก็ชินแล้ว ถึงตอนแรกอาจจะดูแสลงหูไปหน่อยก็เถอะนะ555
“นทไม่ชอบเหรอ?” เบสถามอย่างสงสัย ก็แอบไม่ชอบสถานการณ์หวานชื่นตรงนี้สักเท่าไหร่
“มันดู ชิวๆ มันเหมาะมากับคู่รักไม่ใช่หรือยังไง” ผมพูดแล้วก็นั่งลงที่เก้าอี้ข้างทางแถวนั้น
“ก็คู่รักไง” มันยิ้ม แล้วนั่งลงข้างๆผม
“เลิกเล่นได้แล้วมั้งเบส พวกผู้หญิงจะหนีหมดนะ” ผมพูดอย่างไม่จริงจังนัก พร้อมกับมองไปที่หน้ามัน
“ก็บอกไปเป็นล้านๆรอบแล้วนะ ว่าเบสไม่ได้เล่น” มันพูดพร้อมกับจับมือผม ผมก็ปล่อยให้มันจับไป
“เบสนี่ พออ่อนโยนก็ดูน่ารักดีเนอะ ดูดีกว่าเมื่อก่อนเยอะ” ผมยิ้ม หมายถึงมันร่าเริง มันยิ้มบ่อยขึ้น มันไม่แข็งกระด้างแล้ว จากที่เมื่อก่อนดูจะขี้เก๊ก ดูแบบหยิ่งๆตลอดเวลา เปลี่ยนไปหมดเลยนะเนี่ย
ตอนนี้ยอมรับว่ามีความรู้สึกดีบ้าง แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ เพราะไอเบสมันเปลี่ยนจากคนที่ไม่ค่อยชอบหน้ากันมาเป็นเพื่อน พอเป็นเพื่อนก็เปลี่ยนมาเป็นเพื่อนสนิท ซึ่งตอนเป็นเพื่อนสนิท ก็อย่างที่บอก มันก็ทำอะไรไม่ค่อยต่างจากตอนจีบสักเท่าไหร่ผมเลยเฉยๆมากกว่า แต่ความรู้สึกดีก็เกิดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมันทำดีกับเรามากๆ....
“เป็นแฟนกันป่ะ”ผมก็มองไปทางมัน ที่มองผมอยู่แล้ว นี่เป็นคำถาม ที่มันถามผมทุกวันตั้งแต่มันเริ่มจีบผมวันแรกจนมาวันนี้
“อืม” ตอบมันไปแล้วก็ยิ้มกว้างให้มันเห็นฟันทุกซี่ไปเลย
“ว่าละ” ทำหน้าซึมแล้วอยู่ๆมันก็ตาโตขึ้นมา “ห๊ะ! ว่าไงนะ!”
“อืม เป็นแฟนกัน” เขินนะจะให้พูดทำไมหลายครั้ง
“จริงๆนะ!” ดีใจอะไรขนาดนั้น
“อื้ม!” ตอบด้วยความอาย เพราะคนเริ่มมอง
และมันก็ดีใจของมันไป ผมก็เออออไปกับมันสักหน่อย มันดูร่าเริงขึ้นผมก็ดีใจแล้ว....
“เป็นแฟนกันต้องทำไงบ้างอะ นทไม่เคยมีแฟนนะ” ผมถามอย่างสงสัย ตอนนี้ผมกับมันเดินจูงมือกันเดินเล่น คนอื่นๆก็มองผมสองคน แต่ผมไม่สนอยู่แล้ว ไอเบสมันก็บอกไม่สนใจผมก็โอเค
“ก็ เป็นห่วงกัน คิดถึงกัน โทรหากันทุกคืน กินข้าวด้วยกัน ดูหนัง มีอะไรก็ต้องคิดถึงกันเป็นอันดับแรก และก็บลาๆๆๆ” ผมก็พยักหน้ารับรู้ไป
“เยอะจัง” ทำหน้าเซ็ง ยิบย่อยดี ถามพอเป็นพิธีเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่างหาก อีกอย่างการเป็นแฟนดูหนังก็รู้อยู่แล้ว
“อืม” กระชับมือผมแน่นมากขึ้น
เราก็เดินเที่ยวเตร่ไปทั่ว จนได้เวลากลับก็กลับกัน มันดูเทคแคร์ผมดีเป็นพิเศษ ผมก็ดีใจนะที่มันทำดีกับผมมากมาย มันเป็นแบบนี้เรื่อยไป
วันเวลาผ่านไป ทุกอย่างก็คงเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือการเล่นแรงๆของมันก็เริ่มกลับมา ชอบตีผมแรงๆจนได้ทะเลาะกันจริงๆ นับวันทุกอย่างมันเพิ่มขึ้น ไอเบสมันเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเล่นแรง บางทีก็พูดด่าหยาบๆเหมือนเดิม ผมมองผู้ชายคนอื่นก็จะไปตีเขา ผมแชทกับใครก็ไม่ได้ ขนาดตอนไปเที่ยวด้วยกัน แม้แต่พวกปอไอเบสยังหึง มันทำทุกอย่างเกินไปหมด เกินขีดจำกัด ก้าวข้ามทุกอย่างในชีวิตผม จนผ่านมาสามอาทิตย์ สามอาทิตย์ที่ผ่านมาในฐานะแฟน ผมก็ทำตัวปกติเป็นแฟนที่ดีมันไม่สบายผมก็มาดูมาเฝ้า ผมทำทุกอย่างปกติไม่เปลี่ยนแปลง แต่มันก็แปลกไป เพราะมันดูติดโทรสัพท์เป็นพิเศษดูไม่สนใจผมเหมือนแรกๆ ผมก็ไม่คิดอะไร มันก็อาจจะเบื่อของมันบ้างตามประสาคนเอาแต่ใจอย่างมัน
จนวันนึงผมก็ไปเดินเที่ยวห้างกับเพื่อนๆ โดยไม่มีมัน แล้วดันไปเจอมัน ไปกินข้าวกับผู้หญิงคนนึง ถ้าผมจำไม่ผิดนั่นคือฝน แฟนเก่ามัน ผมไม่ยุ่งวุ่นวายกับมันจนเกินไป ต่างจากมันที่เข้ามาวุ่นวายกับผมจนผมรำคาญ ผมก็เข้าไปหามัน ประมานว่าจะเข้าไปทักทาย.....
“เบส” ผมทักทายมันด้วยรอยยิ้ม มันดูตกใจที่เห็นผม
“นท ว่าไง” ฝนทักกลับด้วยรอยยิ้ม
“อื้ม” (ยิ้ม) “เบสมากินข้าวกับฝนได้ยังไงอ่ะ?” ผมเอ่ยถามอย่างสงสัย
“เบสนัดเรามา” ก็เข้าใจ ฝนจะไปรู้ได้ยังไงเรื่องของผมกับมัน
“ก็เพื่อนกันมากินข้าวด้วยกันไง” เบสพูดแบบรนๆ แล้วก็ยิ้ม “นทกินด้วยกันไหม”เบสมันถามพร้อมกับส่งยิ้มมาให้
“ไม่อ่ะ เบสกินเถอะ เดี๋ยวเพื่อนรอนาน” ยิ้มสดใส
ผมพูดคุยกับมันไปสักพักผมก็ขอมันออกมา ตอนนั้นไม่รู้ว่าการโดนนอกใจมันเป็นยังไง อย่างที่บอกไอเบสแฟนคนแรก ผมไร้เดียงสามากมาย ผมไว้ใจมันในทุกเรื่องทุกอย่าง และดีกับมันเรื่อยมา แต่มันก็เริ่มลดทุกอย่างที่เคยทำให้ผม ลดการพูดจาดีๆ การเทคแคร์ ลดไปจน แทบจะไม่ได้เจอกันเลยก็ว่าได้ แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นคือความรุนแรง เพิ่มขึ้นจนบางทีผมก็กลัว แต่ผมก็ยอมมันมาตลอด ถ้าผมเป็นที่ระบายเพื่อให้มันสบายใจผมก็โอเค อีกอย่างมันก็โทรมาหาผมปกติแค่ไม่ได้มาเจอ...
จนมาวันนึง ก่อนวันจะครบรอบ1เดือน ผมจำวันนั้นได้ดีเลย วันนั้นตรงกับวันเสาร์ผมตั้งใจทำบอร์ดให้มัน เอารูปเอาอะไรต่างๆที่ทำร่วมกับมัน มาติดบอร์ด และประดับอย่างสวยงาม ผมใช้เวลาทั้งวัน ผมพูดเลย ผมทุ่มเทมาก จนเย็นๆมีสายโทรศัพท์เข้ามา เบอร์ไอเบสผมก็รับ........
“นท! เห็นสมุดรูปของเบสไหม!” น้ำเสียงมันดูไม่พอใจมาก
“อื้ม นทเอามาอะ ทำไมเหรอ?” ผมพูดตอบกลับอย่างใจเย็น
“เอาไปทำไมนท!” มันตะคอกผมเสียงดัง
“อะ...โอเคๆ เดี๋ยวจะเอาไปคืนนะ” ผมพูดอย่างสำนึกผิด
แล้วผมก็รีบเตรียมของ รวมถึงบอร์ดที่ผมพึ่งทำเสร็จด้วย เอาไปเซอร์ไพร์ซมันด้วยเลยดีกว่า เร็วไปวันนึงคงไม่เป็นอะไรมั้ง เพราะตอนนี้เบสก็ดูโมโห ผมก็หวังว่ามันเห็นแล้วอาจจะอารมณ์ดีขึ้นก็ได้ ผมเรียกรถมารับ พอถึงบ้านผมก็ทักทายทุกคนปกติ และก็ขึ้นไปหามันที่ห้องนอน พอมันเห็นผม มันก็ตรงมาที่ผมทันที....
-หมับ!- จับแขนผมอย่างแรงจนเจ็บ จริงๆมันก็ทำแบบนี้บ่อยๆอยู่แล้ว เพราะอย่างที่บอก พักหลังเวลามันไม่พอใจหรือโกรธอะไร มันก็จะทำอะไรรุนแรงกับผมเนี่ยแหละ หนักสุดก็น่าจะเตะแรงๆ แต่แปลกที่ผมก็ยอม
“อย่ามาหยิบของเบสไปซี้ซั้วอีกนะทีหลัง!” แล้วก็ผลักผมให้ล้มลงกับพื้น
เจ็บตูดเลยทีเดียว! ผมก็ค่อยๆลุกขึ้นมา มันก็ก้มค้นกระเป๋าผม แล้วก็หยิบสมุดรูปมันคืนไป ผมก็รีบหยิบบอร์ดที่ทำเพื่อมันมา แล้วก็เปิดออก เดินไปหามันที่นั่งอยู่บนเตียง....
“เบส นททำมาให้ เพราะพรุ่งนี้เป็นวันครบรอบ1เดือน” ยื่นไปให้มันดูด้วยรอยยิ้ม มันก็มองนิ่งๆ
“เดี๋ยวนะ! นี่มันรูปในสมุดรูปเบสนิ!” มันหยิบบอร์ดไปดู
“อืม เอาออกมาแค่รูปเดียวเองนะ” พูดนิ่งๆ แอบเสียใจเล็กๆที่มันดูไม่ดีใจกับสิ่งที่ผมทำ
แคว่ก! มันดึงรูปนั้นออกทันที ผมก็มองมันอย่างตกใจ
“อย่าทำแบบนี้อีกนะนท!” แล้วมันก็เอารูปมันเก็บเข้าสมุด “และไอบอร์ดบ้าๆนี่อะ เบสไม่อยากได้หรอก! และถ้าครบรอบหนึ่งเดือนนทอยากได้อะไรก็บอก ไม่ใช่มาเสียเวลาทำเรื่องบ้าๆแบบนี้!” มันถือบอร์ดผมแล้วลุกขึ้น
แคว่ก! ป๊อก! ตุบๆๆ! มันฉีกบอร์ดที่ผมทำ แล้วก็หักให้เป็นสองท่อน แล้วก็เหยียบซ้ำๆแบบนั้น....
“ทำอะไรเนี่ย!” ผมลุกขึ้นไปผลักมัน พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และก็ก้มเก็บของที่มันทำพัง
“เดี๋ยวนี้กล้าผลักเบสหรอนท!” มองผมตาขวาง ผมก็เงยหน้าขึ้นมามองมันกลับ
“แล้วจะมาทำลายของของนททำไมละ นทตั้งใจทำให้เบสนะ!”
เพี๊ยะ! หลังจากพูดจบ หน้าผมหันไปตามแรงตบของมัน บอกเลยว่าเสียใจมาก ขนาดป๊ากับแม่ยังไม่เคยตบผมเลย น้ำตาผมก็ค่อยๆไหลลงมา......
“ขะ...ขอโทษนท เบสขอโทษ” สวมกอดผมเบาๆ ผมก็ผละตัวออกมา แล้วมองมันอย่างผิดหวัง
“รู้อะไรไหม เบสมึงมันก็เป็นเบสคนเดิม เบสคนที่นิสัยไม่ดี เบสคนที่ทำร้ายจิตใจคนอื่นไปทั่ว มึงไม่เคยเปลี่ยนเลยเบส กูหวังว่ากูทำดีกับมึงมากๆ มึงก็จะดีกับกูมากๆเหมือนที่กูทำให้แต่ไม่เลย มึงมองข้ามสิ่งที่กูทำ มึงแม่งก็ดีกับกูได้แค่แปปเดียวอะ แล้วดูดิ กูยอมมึงแม่งทุกอย่างอะ แต่มึงไม่เห็นค่าเหี้ยอะไรเลยไอเบส!”พูดด้วยความเสียใจ น้ำตาไหล แต่ไม่มีการสะอื้นแต่อย่างใด
“นท เบส ขอโทษ เบสโมโหไปหน่อย เบสขอโทษ” จับมือผม ผมดึงมือมันออก และพยายามถอยห่าง
“จบเถอะ เลิกกันเถอะ พอแล้วมึง กูมันคิดผิดเองวะ ไม่น่าตอบตกลงกับมึงในวันนั้นเลย เพราะตอนนี้มันไม่เหมือนกับวันที่มึงอยากให้กูมาเป็นแฟนมึงเลย” มันพยามมาสวมกอดผมอีกครั้ง ผมก็พยายามถอยห่าง
เป็นกอดที่แน่นมาก แต่ผมไม่รู้สึกอบอุ่นอีกแล้ว มันเป็นกอดที่ผมไม่ต้องการมันอีกแล้ว ผมก็พยายามดิ้นออก มันก็กระชับแน่น แล้วก็อุ้มผมทั้งที่ยังกอดไปที่เตียงแล้วก็นอนลง ผมก็นิ่ง....
“ขอโทษ เบสขอโทษ” มันพูดพร้อมกับ หอมแก้มผม
“นทจะกลับแล้วเบส” ผมพยายามจะลุก มันก็ไม่ยอม กดผมไว้อยู่
“นทจะไม่เลิกกับเบสใช่ไหม” ผมก็นิ่งไม่ตอบอะไร ไม่รู้ควรจะตอบอะไรไหม
“นทจะกลับแล้ว” ผมดันมันออกมันก็ผละออกแต่โดยดี
“ให้เบสไปส่งนทนะ” บอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“ไม่ต้อง!” ผมพูดอย่างจริงจัง
เพราะตั้งแต่คบกับมันมา ถึงมันจะดี แต่บอกเลยการเข้าหาผู้ใหญ่ของมันดูเลวร้ายมาก ผมก็เลยไม่พามันไปที่บ้าน ไม่อยากจะมีปัญหา และก็เป็นสิ่งที่ผมคิดถูก....
แล้วผมก็ลุกขึ้น แล้วเดินไปเก็บของที่ผมทำให้มันใส่ถุงเหมือนเดิม ตอนแรกมันก็พูดประมานว่า ทำให้เบสไม่ใช่เหรอ เบสจะเก็บไว้นะ ผมก็ไม่พูดอะไร แต่ก็ไม่ให้ของมันด้วย ผมเก็บของเสร็จก็โทรให้พี่โน้ตมารับ ผมเดินลงไปนั่งรอพี่โน้ตที่ข้างล่างบ้าน ไอเบสก็ตามมานั่งเฝ้า ระหว่างรอพี่โน้ต ผมกับมันไม่มีคำพูดใดๆ มันก็ดูสำนึกผิดไม่น้อย น้ำตาของผมก็หยุดไหลแล้วด้วย สักพักพี่โน้ตมารับ ผมก็เดินไปหาพี่โน้ต มันก็ตามมาส่ง ผมก็ไม่พูดอะไร มันก็ทำนิ่งๆ ผมก็ซ้อนพี่โน้ตกลับบ้านเลย ทั้งคืนวันนั้นผมออกจะซึมไปบ้าง เพราะเสียความรู้สึกมากกว่า เสียใจก็มีบ้างไม่ได้อะไรมากมาย...
พอเช้ามา ผมก็ตื่นมาตามปกติ วันนี้เป็นวันอาทิตย์ อากาศสดใสมากมาย ปอก็โทรมาหาผมแต่เช้า แล้วก็มาพูดจาแปลกๆเรื่องไอเบส และเพื่อนๆหลายคนก็โทรมา รวมถึงพวกพี่เต็ม โทรมาถามผมเรื่องไอเบส ว่ายังรักกันดีอยู่มั้ยนู่นนี่นั้น ผมก็บอกว่าเฉยๆนะ เพราะผมกับมันก็แค่ทะเลาะกันรุนแรง และถึงผมจะบอกเลิกมัน มันก็ไม่ยอม ผมก็ไม่ได้บอกอีก ก็แสดงว่าผมไม่ได้เลิกกับมันอย่างจริงจัง ตอนนี้อยู่ในช่วงหลังทะเลาะกัน ผมก็แปลกนะ เพราะวันนี้เป็นวันครบรอบของผมกับมัน1เดือน มีแต่คนพูดจาแปลกๆ ผมก็ไม่สนใจ ลงไปช่วยแม่ทำงานบ้านนู่นนี่นั่น พอเสร็จพวกปอก็โทรตามผมให้ไปเที่ยวผมก็ไป มันดูแปลกๆกันหมดเลย..........
“พวกมึงมีอะไรกันหรือเปล่าวะ ดูมีอะไรที่อยากจะบอกกูนะ” ผมพูดอย่างสงสัย และด้วยความลำคาญ จะพูดก็ไม่พูด ค้างคาไปหมด
“อืม มีดิ แต่ไม่อยากพูดวะ” ปอพูดด้วยน้ำเสียงที่เบา แต่ผมก็ยังได้ยิน
“พูดเถอะ ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าการที่กูคบกับไอเบสแล้วละ” ตอนนั้นผมมีอะไร เจออะไรมาผมก็บอกให้เพื่อนๆฟังตลอด พวกมันก็ไม่ยอมนะตอนแรกที่รู้ว่าไอเบสตีผม แต่จะทำยังไงได้ ก็โดนไปแล้วนี่เนอะ ผมก็บอกพวกมันให้ปลงเหมือนที่ผมกำลังจะปลง
“ช่วงนี้มึงกับไอเบสรักกันดีแน่เหรอวะ?” ไอนัทถามอย่างจริงจัง ผมก็มองหน้ามัน
“ไม่อ่ะ เมื่อวานก็ทะเลาะกันใหญ่โต” พูดอย่างไม่จริงจังนัก แล้วก็หันไปมองทางเดิน
“เรื่องไรวะ?” มินถามขึ้นอย่างสงสัย
ผมก็เล่าให้พวกมันฟัง ดูพวกมันจะตกใจและไม่พอใจกันมากนะ ผมก็ย้ำกับพวกมันว่าไอเบสคงไม่ชอบที่ผมเอาของๆมันไป ผมก็พยายามคิดอย่างนั้นมาตลอด คิดในแง่ดีเกินไป.....
“บอกมันเถอะวะ กูสงสารไอนทนะเว้ย!” มินหันไปพูดกับพวกไอนัท  “แล้ววันนี้มึงกับมันก็ครบรอบเดือนนึงกันไม่ใช่เหรอนท มันไปไหน!” มินถามอย่างไม่พอใจ
“ไม่รู้อะ กู...ไม่รู้” ตอบแบบไม่คิดอะไร เพราะไม่รู้อะไรเลย
“เฮ้อ!” นัทเดินมากอดไหล่ผม “นท จริงๆกูก็อยากจะบอกมึงมาสักพักแล้ววะ แต่..ก็เห็นมึงก็ดูมีความสุขดี และพวกกูก็ยังไม่มั่นใจมากนัก จนมาเมื่อวานพวกกูถึงมั่นใจ....” มันหยิบโทรศัพท์ของมันขึ้นมาให้ผมดู
มีรูปไอเบสกับสาวๆในสต๊อกของมัน เดินเที่ยวกันในหลายๆที่ และหลายชุด ให้ผมเดาคงหลายครั้ง และผู้หญิงแต่ละคนก็ไม่ซ้ำหน้าเลย ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือมีฝน ฝนแฟนเก่ามัน จะเยอะสุดในบรรดาอัลบั้มรูป ผมก็มองรูปพวกนั่นนิ่งๆ เขี่ยหน้าจอไปมา  หมดคำพูด ผมโดนสวมเขา? ผมโดนหลอกให้ดูแลมัน เป็นที่ระบายอารมณ์ของมัน? ผมมันโง่เอง.....
“พวกกูเห็นมาสักพักแล้วละ ตั้งแต่ช่วงหลังๆ ตอนแรกก็คิดว่าอาจจะเป็นเพื่อน หรืออะไร แต่นับวันยิ่งหนักเลยมึง และ....หนักสุกคือเมื่อวาน...” วิวพูดพร้อมกับรู้สึกผิดมันก้มหน้า ผมก็เข้าใจนะ มันไม่ใช่ความผิดใคร ผมเองต่างหากผิด ผิดที่โง่ คิดว่ารักมันสวยงาม....
“เมื่อวานตอนกลางวัน ไอเบส พาฝน ไปมีอะไรกัน ที่...บ้านของฝน” มินพูดแล้วจับไหล่ผมแน่น
ผมได้แต่ยืนฟังเงียบๆ...
“หลังจากที่กูเห็นมันไปกับผู้หญิงบ่อยๆ กูเลยเอาไปเล่าให้พี่เต็มฟัง เขาก็ให้เพื่อนๆมันคอยจับตาดูมัน และก็เป็นแบบที่พวกกูคิด ไอเบสนอกใจมึงมาได้สักพักแล้วละนท แต่เมื่อวานคือ...หนักเลย พวกกูถึงได้โทรไปถามมึงไง....” ปอจับมือผม
น้ำตาได้ไหลออกมา แต่ไม่มีการสะอื้นแต่อย่างใด บอกเลยว่าเสียใจ เสียความรู้สึก คิดว่าที่ผมทำทุกอย่าง ยอมมันไปสะทุกเรื่อง เพราะอะไร เพราะผมก็รักมันไง ถึงจะไม่มาก แต่บอกเลยผมก็ทุ่มสุดตัวเพราะนี้คือรักครั้งแรกของผม แต่ดูมันสิ ดูมันทำกับผม ผมมันโง่จริงๆ โง่ยิ่งกว่าควาย ผมเช็ดน้ำตาลวกๆ ไอนัทก็เอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดหน้าให้ผม.......
“และวันนี้ ที่กูพามานี่ เพราะ.... ไอเบสก็พาผู้หญิงคนใหม่ของมันมาเที่ยว..” ปอพูด พร้อมกระชับมือผมให้แน่นขึ้น
ผมสูดหายใจลึกๆ เรียกสติ เรียกความแข็งแรงของตัวเองให้กลับมา มันไม่ง่าย มันหน่วงๆในอก นี่คือการอกหักครั้งที่2ของผม มันดูรุนแรงกว่าตอนแรก เพราะตอนนั้นแค่โดนปฏิเสธ แต่นี่ดันรักไปแล้ว ถึงจะรักไม่มาก แต่ก็รัก แต่ตอนนี้ รักของผมกำลังเปลี่ยนเป็นเกลียด เพราะภาพตรงหน้าที่ผมยืนมองอยู่ คือไอเบส ทำท่ากระหนุงกระหนิงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับผู้หญิงคนนึง ตอนนี้ผมมายืนอยู่หน้าร้านอาหารร้านนึงในห้าง พวกปอมันพาผมมา.....
“กูอยากทำให้มึงตาสว่างสักทีวะ มึงเลิกมองโลกในแง่ดีเถอะนะ” ปอพูดพร้อมกับ ตบไหล่ผมเบาๆ
แต่มันก็จริงๆแหละ เพื่อนๆผม บางทีมันก็ชอบพูดแปลกๆในพักหลังๆมา มันก็พูดให้สังเกตดีๆ นู่นนี่นั่น แต่ผมก็ปฏิเสธพวกมันไปทุกครั้ง เพราะผมได้แต่คิดว่าคงไม่มีอะไร แต่แล้วการมองโลกในแง่ดีของผม มันเลวร้ายมาก มันทำลายความรู้สึกผมจนย่อยยับ ผมได้แต่ยืนกำหมัดแน่น และมองมันสวีทกับผู้หญิงคนนั้น.....
“กูจะเข้าไปเคลียล์” นัทจับแขนผมไว้ “เชื่อเถอะ กูจะจบ แบบตัดขาดไปเลย เขื่อใจกู” พูดเสียงแข็งอย่างจริงจัง

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตอนแรกพวกมันก็ลังเล ผมก็ย้ำให้พวกมันเข้าใจ พวกมันก็โอเค ผมได้ดูหนังฟังเพลงเพราะๆมากมาย มันทำให้ผมมองความรักได้สวยงามเสมอ ผมก็หวังว่าผมกับไอเบสจะเป็นอย่างนั้น แต่มันทำร้ายและทำลายทั้งร่างกายและความรู้สึกผมมามากมายเหลือเกินแล้ว และครั้งนี้ มันก็จะจบ ผมหยิบโทรศัพท์มากดโทรหาไอเบส และมันก็รับได้เร็วเหมือนทุกครั้ง.....
“นท!” มันทำเสียงดีใจ แต่ที่ผมเห็นคือเสียงมันดีใจ แต่มันไม่ได้ยิ้มให้ผม มันยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้น.....
“เบสทำอะไร” ถามนิ่งๆ เก็บอาการไว้ให้มากที่สุด
“อยู่บ้าน นอนดูทีวี นทปิดเครื่องทำไมเบสโทรหาทั้งคืนเลยนะ!” พูดเสียงดุ แต่การปฏิบัติกับผู้หญิงคนนั้นคือ ทั้งจับมือจับแก้ม ผมต้องหันหลังให้กับภาพตรงนั้น
“อยู่บ้านเบื่อไหม แล้ววันนี้เราจะ....” ผมพูดไป แล้วก็เงียบในตอนท้าย
“วันนี้นทอยากไปไหน เบสจะพาไปนะ”พูดเสียงหวาน ผมก็เหลือบไปเห็นร้านขายดอกไม้ที่ตั้งอยู่ทางประตูทางออก
ผมก็คุยกับมันไปและก็เดินไปดูดอกไม้ร้านนั้นไปพลาง เพื่อนๆก็ตามมา ไอเบสก็คุยกับผมปกติสักพักมันก็วางไป ผมก็มองดอกคาร์เนชั่นสีเหลือง สลับกับ ดอกลิลลี่สีส้ม ที่อยู่ใกล้ๆกัน ทำไมผมถึงอยากจะได้ดอกสองดอกนี้จัง มันดูดึงดูดผมจัง......
“ดอกสองดอกนี่ความหมายมันไม่ค่อยดีเลยนะจ้ะ” ป้าร้านขายดอกไม้พูดขึ้นขณะผมมองอยู่ ผมได้แต่คิดไม่ดีแล้วจะเอามาขายทำไม ผมก็นึกแค่ในใจ ก็คง แค่สวยก็พอแล้วละมั้ง
“ป้าก็รู้เหรอครับ” ผมถามอย่างไม่ใส่ใจ ป้าเขาก็พยักหน้า
“คนๆนั้นคงจะทำให้หนูไม่พอใจมากเลยใช่ไหม” ผมก็หันหน้าหนีป้าเขา ”เดี๋ยวป้าจัดให้นะ” เขาก็เดินไปจัด
แกเดินไปหยิบดอกไม้ตามจุดต่างๆ ก็จะมีดอกกุหลาบสีม่วง ดอกคาร์เนชั่นสีเหลือง ดอกลิลลี่สีส้ม และไฮเดรนเยียเอาไปอย่างละนิดหน่อย และป้าก็เอาไปตัดๆแล้วก็เรียงและผูกเป็นช่อให้ผมแบบสวยงาม อย่าพึ่งแปลกใจทำไมผมถึงรู้ชื่อดอกไม้ มันมีป้ายชื่อกำกับอยู่ ไม่งั้นผมก็ไม่รู้หรอก พอจัดเสร็จป้าเขาก็ยื่นให้ผม.....
“ถึงความหมายของทุกดอกในนี้มันจะไม่ดี แต่รวมๆกันดอกไม้ก็มีความสวยงามในตัวของมันนะ” พูดจบก็ยิ้มออกมา เขากำลังจะสื่ออะไร?
ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ  ผมก็จ่ายเงินไป แล้วก็เดินกลับไปทางร้านอาหารที่ไอเบสอยู่ ผมก็บอกเพื่อนๆว่ารออยู่ข้างนอกนะ ตอนแรกมันก็ไม่ยอมจนผมต้องใช้สายตาไม่พอใจ พวกมันถึงยอมยืนรอข้างนอก ผมก็เดินเข้าไป
“นิ้งชอบของที่เบสซื้อให้จัง สวยน่ารัก”
“ถ้าชอบก็มาบ่อยๆ เดี๋ยวเบสซื้อให้”…
บทสนทนาของมันกับของผู้หญิงคนนั้นลอยมาเป็นระยะ ผมใช้ช่อดอกไม้สะกิดที่ไหล่มันจากด้านหลัง  ไอเบสก็ดูตกใจไม่น้อยเลยที่เห็นผม.....
“นะ...นท มาได้ยังไง” เบสถามด้วยสีหน้าที่ตกใจ
“ใครเหรอเบส” ผู้หญิงถามอย่างสงสัย ผมก็หันไปยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“คะ คือ..อะ..”
“ดูหนังฟังเพลง อยู่บ้านคงเบื่อแย่เลยเนอะ” ผมก็ยิ้ม ตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรแล้ว มันก็ก้มหน้า “อะ happy anniversary” ผมยื่นช่อดอกไม้ให้มัน พร้อมคำสาปแช่งต่างๆที่มันอัดอั้นอยู่ในใจ มันก็รับไป “ที่ถามเมื่อกี้ แค่เพื่อนน่ะ และจากนี้ แม้แต่เพื่อนก็ไม่ได้เป็นแล้วด้วย”ผมหันไปตอบผู้หญิงคนนั้น
“นท หมายความว่ายังไง!”ไอเบสถามด้วยความตกใจ ผมก็เหลือบตาไปมองมันแค่ครู่เดียว
“แล้ว...เป็นอะไรกับเบสเหรอ?” ผมหันไปถามทางผู้หญิงคนนั้น เขาดูเขินนะ แต่ก็น่าสงสารที่มาเจอคนแบบนี้
“เบสพึ่งขอเราเป็นแฟนเอง” ผมยกคิ้วขึ้น นิดนึง แฟน? ใจผมสั่นไปหมด คนคนนี้มันสุดยอดจริงๆ
“นะ นท คือ” ผมก็ยิ้มให้มัน มันก็ดูจะพูดไม่ออกนะ
“ลาก่อนนะ” แล้วผมก็เดินออกจากร้านไป
เพื่อนๆก็เข้ามากอดไหล่ผมอย่างเป็นห่วง ปลอบใจผมกันใหญ่ ผมก็ตกอยู่ในภวังค์ความคิดตัวเอง นั่นเป็นสิ่งสุดท้าย ที่ผมจะให้มัน ผมจะไม่โกรธไม่เกลียดมัน ผมให้อภัยมันทุกอย่าง ผมไม่ใช่คนดีอะไร แต่นี่คือบทเรียนของผม บทเรียนราคาแพง สอนให้ผมรู้เลยว่า ทำตัวดีไปก็ไม่ช่วยอะไร รักเดียวใจเดียวก็ไม่ช่วยอะไร และอีกหลายอย่างเลย.....
“นท!” ไอเบสวิ่งมาหาผม พวกผมก็หันไปมองมัน
ผลัก! ตุบ! ไอนัทโผล่เข้าไปต่อยมันอย่างแรงจนมันล้มลงเลย ผมก็มองอย่างตกใจ คนแถวนั้นก็เริ่มมองแล้ว....
“ไม่เลิกนะนท เบสไม่เลิก!” มันพุ่งเข้ามาหาผม ไอมินก็ขวางไว้
“พอเถอะเบส เลิกยุ่งกับนทได้แล้วมึงอะ !” ไอมินพูดอย่างไม่พอใจ
“มึงจะทำไมไอมิน ไอนทมันเป็นแฟนกู กูจะเคลียล์กับมัน!” ไอเบสผลักไอมินออก แล้วก็เข้ามากระชากแขนผมให้เดินไปกับมัน ผมก็เดินตามมันไป และก็ส่งซิกให้เพื่อนประมานว่าไม่เป็นอะไร
“นท! ไม่เลิกนะ” พูดเสียงสั่น มองผมเศร้าๆ
“ไปหาแฟนเบสเถอะ” ผมใช้สายตาที่เย็นชาที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ส่งไปให้มัน
“เบสขอโทษนท ผู้หญิงคนนั้นก็แค่เพื่อนเท่านั้น แล้วนททำไมต้องคิดมากด้วยละ ปกติก็ไม่เห็นคิดอะไร เพราะเพื่อนๆนทใช่ไหม หรือเพราะที่เบสทำเมื่อวาน เบสขอโทษ ขอโทษ นทอยากให้เบสทำอะไรเบสยอมหมดทุกอย่างแล้วนะ” พูดอย่างอ้อนวอน
ผมก็มองมันนิ่งๆ ที่ผ่านมามันคงมองว่าผมโง่จริงๆ ดีแค่ไหนแล้วที่ผมไม่มีอะไรกับมันไม่งั้นคงจะหนักหนากว่านี้แล้ว (จริงๆมันก็เคยขอผมมีอะไรกับมันบ่อยๆ แต่ผมยังไม่พร้อมและก็รู้สึกแปลกๆทุกที ก็เลยไม่ได้มีอะไรกัน แถมระยะเวลาที่คบกันก็น้อยจนไม่ได้เตรียมใจอะไรด้วย)ผมมองมันนิ่งๆ ด้วยคำถามความคิดมากมาย มันไม่รู้สิ มันไม่มีคำพูดอะไรแล้ว ไม่เหลืออะไรให้มันแล้ว....
“เบส ฟังนทดีๆนะ” มันก็เงียบลง เพราะพร่ำเพ้ออยู่นาน “นทขอโทษจริงๆ นทไม่ทนแล้วเบส เบสทำมันพังเองนะ นทบอกเลยนทไม่โกรธไม่คิดอะไรเลย แต่ตอนนี้อะ แม้แต่คำว่าเพื่อน นทก็ให้เบสไม่ได้เลย เบสไม่คิดถึงตอนที่อยากได้นทเป็นแฟนบ้างเลยเหรอ ทำไมถึงทำร้ายกันได้ถึงขนาดนี้ เบสลองคิดดีๆนะ ว่านททำอะไรไม่ดีเบสถึงทำกับนทแบบนี้ ลาก่อนจริงๆเบส” ผมพูดอย่างเหนื่อยใจ
แล้วผมก็เดินผ่านมันไปเลย ผู้หญิงคนนั้นก็วิ่งตามมาดู มันก็ยืนมองผมนิ่งๆไม่ตามผมมาแล้ว...
“ยังไงเบสก็ไม่เลิก นท!” ตะโกนตามหลังบอกผม พวกไอนัทจะวิ่งไปยำมันอีกรอบแล้วแต่ผมห้ามไว้ ทุกอย่างมันจบแล้ว จบจริงๆ ผมไม่มีคำอธิบาย เสียความรู้สึกมาก เสียใจด้วย แต่ก็เอาเถอะ ผมอาจจะไม่เคยเตรียมใจเรื่องนี้ แต่บอกเลย ไม่แย่อย่างที่คิด เพราะหลังจากผ่านวันนั้นมา ผมก็เปลี่ยนซิม ไม่ได้ติดต่ออะไรกับมันอีกเลย และผมก็ใช้ชีวิตปกติ ไม่มีอาการเฮิร์ทอะไรแต่อย่างใด อาจจะแค่คิดมากไปบ้าง เลิกเรียนทุกเย็นมันก็จะมาดักรอผมเหมือนเดิม ผมก็หนีหน้ามันตลอด ไม่เจอเลย พอเจอก็วิ่งหนี เหมือนเจอตัวอะไรสักอย่าง แต่เรื่องนี้พวกพี่เต็มยังไม่รู้ ผมก็ไม่ได้อยากให้ใครรู้มากหรอก ตั้งแต่วันนั้น ผมกับมันก็ไม่ได้คุยไม่ได้เจอกันเลย
นี่แหละ ความรักเฮงซวยของผมกับไอเบส ซึ่งมันเหมือนจะดี แค่เหมือนนะ แต่ไม่เลย มันขมมันกลืนไม่ลง รู้สึกคิดผิดพลาดมาตลอด แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อผมมันโง่เอง และมันก็เป็นรักครั้งแรก ที่ผมอาจจะฝังใจ หลังจากนั้น พี่โน้ตก็สอนผมถึงเรื่องความรัก ในหลายๆด้านหลายๆรูปแบบ เรื่องไอเบสพี่โน้ตก็พอรู้นะ แต่ไม่รู้มาก ถึงมันจะเป็นอะไรที่ไม่น่าจดจำ แต่มันเป็นบทเรียนชีวิต ที่ซื้อดอกไม้ให้มันเพราะผมยอมรับว่ายังคงรู้สึกดีอยู่ ที่ให้นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่จะให้มัน อาจจะดูโง่ แต่นั้นครั้งแรก ทำอะไรก็อาจจะดูสวยงามไปหมด......
“มึงหายไปไหนมาไอนท!” พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ พร้อมกับ บีบแขนผมอย่างแรง และคนเริ่มหันมามองเราสองคนแล้ว ผมเบ้หน้าด้วยความเจ็บ
“โอ๊ย! ปล่อยนะเว้ย กูเจ็บ!” ผมพยายามสะบัดแขนให้หลุดจากมือมัน แต่แม่งไม่หลุดแถมแน่นกว่าเดิมอีก.. “ไอเบส ปล่อย!” แล้วมันก็คลายมือออก แดงเป็นรอยมือมันเลยทีเดียว ผมลูบบริเวณที่เจ็บเพื่อให้ความเจ็บมันคลายนิดหน่อย
“มึงเป็นอะไรวะนท กูแม่งหาทางติดต่อมึงยากมากเลย กูทำอะไรผิดวะ” ผมมองหน้ามันแบบ ยังจะถามอีก สิ่งที่มันทำ ไม่ว่าใครก็รับไม่ได้
“มึงอย่าให้กูพูด ทั้งๆที่มึงก็รู้อยู่แล้วเถอะ มึงมันเอาแต่ใจ แค่ชีวิตตัวเองยังรับผิดชอบไม่ได้ กูเบื่อ แล้วกูก็ไม่อยากข้องเกี่ยวกับคนแบบมึงแล้ว ตอนแรกกูว่ากูอยากกลับไปเป็นเพื่อนกับมึงอีกครั้งนะ แต่ก็ว่า เพื่อนกูก็คงไม่อยากเป็น แล้วครั้งนี้กูขอพูดให้ชัดเจนอีกครั้ง เราเลิกกันเถอะวะ อย่ามาข้องกะ....” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ ฝ่ามือใหญ่ก็ฟาดลงมาที่แก้มข้างซ้ายของผมอย่างแรง 
‘เพี๊ยะ!!’ หน้าผมหันไปตามแรงมือของมัน เจ็บสัส! รู้สึกเหมือนเลือดจะออกด้วยในปาก ผมมองมันด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย แต่ก็พอแล้วจริงๆ กับคนคนนี้
‘’พอใจแล้วใช่ไหม’’ แล้วผมก็เดินออกมาเลย มันก็ไม่เดินตามผมมาแล้วเหมือนกัน พอผมมองดีๆแถวนี้มันไม่ได้เงียบอะไรเลยแถมคนมองเต็มไปหมด อายเลยสิ ผมเหลือบไปมองข้างหลัง เหมือนมันจะเดินไปอีกทางแล้ว ก็รู้สึกโล่งอก
ผมเดินมานั่งแถวๆสวนหย่อมหน้าเซ็นทรัลX เอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดมุมปากแล้วก็ส่องกระจกจากหน้าจอมือถือดู รอยมือ กับมุมปาก ต้องโดนป๊ากับแม่สวดแน่ๆ ‘แย่ชะมัด’
‘เจ็บมากไหมวะ’ ผมหันไปมองตามเสียง อ่าว..ไอพี่อ๊อฟ ผมมองมันด้วยความแปลกใจนิดหน่อย แล้วมันก็เอามือชี้ไปที่แก้มผมที่โดนตบมา เดาว่ามันน่าจะเห็นสินะ
“ไม่เท่าไหร่หรอกนะ มดกัด แล้วทำไมพี่ยังไม่กลับละ” แล้วมันก็นั่งลงข้างๆผม ผมเขยิบตัวนิดหน่อย รักษาระยะห่าง เดี๋ยวมันจะไม่งาม
“กูเห็นว่ามึงบอกว่ายังไม่ได้กินข้าว กูว่าจะชวนมึงไปแต่เห็นมึงวิ่งหนีอะไรไม่รู้ก็เลย ตามไปดู แล้วก็....” มันไม่กล้าพูดต่อ แล้วก็ชี้ไปที่แก้มผมอีกครั้ง
“เห็นหมดเลยเหรอ อายจุง แหะๆ” เอาจริงๆคงจะเห็นกันทั้งห้างแหละมั้ง เฮ้อ! รู้สึกผิดหวังกับตัวเองจัง...
“มึงก็กล้าเนอะคนเขามองมึงสองคนกันหมด จะไม่เห็นได้ยังไงวะ อะ เอาไปทาบกับปาก” พูดพร้อมกับยื่นผ้าเช็ดหน้าห่อน้ำแข็งให้ ผมก็รับมา พร้อมกับรอยยิ้ม
“ขอบใจ แล้วไปเอาที่ไหนมา” มองมันแบบสงสัย
“ก็กูเอาน้ำแข็งในแก้วน้ำกูมาเทใส่ผ้าให้มึงมี้กี้นี่ไง ไม่เห็นเหรอ  เออแล้วทำไมมันถึงทำกับมึงแบบนั้นวะ”
“มันเป็นแฟนเรา แต่มันเหี้ย เราพยายามหนีมันหลายครั้ง ตามเราตลอด วันนี้เลยตัดสินใจบอกเลิกชัดๆไปแม่ง” พูดเป็นเชิงบ่น พอหันไปมองหน้าพี่อ๊อฟ ทำหน้าตกใจ แล้วก็แอบขำในใจจัง 
“..............เอ่อ มึงเป็น?” ทำหน้าแบบตะลึง ผมก็พยักหน้า ทำไมจะต้องปิดบังละ
“เออเราเป็นเกย์นะ เห้ย! ถ้าพี่รังเกียจไปก็ได้นะ” ผมกำลังจะลุกมันดึงแขนผมไว้ ผมก็ค่อยๆนั่งลง
“เห้ย! ไม่ๆ กูแค่ตกใจ ไม่คิดว่ามึงจะเป็นมึงดูแมนมาก เลยอึ้งนิดๆ 55555” นั่นไง ผมก็แค่หัวเราะตาม
“ไม่นิดละม้าง นึกว่ารังเกียจ เออแล้วได้กินอะไรยัง จะมืดแล้วนะ เราว่าเราคงต้องรีบกลับ ละเดี๋ยวพ่อกะแม่จะซ้อมเอา” พูดติดตลก แบบไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่ถ้ากลับไปเห็นรอยมือบนหน้าก็น่าจะโดนซ้อมจริงๆ
“เอิ่มโดนซ้อมเลยเหรอวะ” มันทำหน้าตกใจ ผมก็หัวเราะลั่นออกมาเลย
“55555 หลอก..ไม่โดนหรอก แต่ถ้าเห็นรอยตรงหน้าโดนสวดแน่นอน แย่เลยอ่ะ” พูดจบ ก็พลางเอามาลูบแก้มข้างซ้ายไป
“สมน้ำหน้า เดี๋ยวกูไปส่งไหม ถือเป็นค่าตอบแทนเรื่องสีแล้วกัน” มันพูดพร้อมกับเผยยิ้มขึ้นมา ผมก็แซวมันกลับ
“ไม่อ่ะ กลัวตกหลุมรักพี่” ทำท่าเขินอาย แบบจริตมาเต็ม
“มันก็เรื่องปกติแหละกูหล่อสะขนาดนี้” เอ่อ..สะงั้นไป แต่เอาจริงๆมันก็หล่อแหละ จัดฟันด้วย แต่มันชอบทำหน้าตายหน้านิ่งๆ ไม่ค่อยยิ้ม ถ้าไม่ยิ้ม หรือ ยีฟันหน่อยก็จะไม่เห็นเลยนะ 
“แหวะ! หลงตัวเองอย่างหนัก ไปดิไปยัง จะกลับแล้ว” เอาจริงๆก็ไม่ได้ให้ท่าแต่อย่างใด เรามากับมันเสียทั้งเงินเจ็บทั้งตัวแล้วก็ควรจะได้กลับบ้านฟรี ซึ่งเอาจริงๆก็ขาดทุนอย่างเห็นๆ และก็ไม่บึ้งตึงใส่มันอย่างทีแรก เพราะรู้สึกดีนิดนึงที่อย่างน้อยมันก็ไม่ซ้ำเติม แถมยังให้ผ้าห่อน้ำแข็งมาประคบทั้งๆที่ ไม่ได้สนิทอะไรกับมันขนาดนั้น
“เออไปดิบอกทางกูด้วย” พูดจบเราทั้งสองคนก็ลุกขึ้น และเดินไปที่จอดรถมอไซค์ เอารถมอไซค์มาทำไมไม่มาจากโรงเรียนด้วยกัน จะให้นั่งรถมาทำไม ให้ตาย แต่ช่างมันเถอะ ผมก็ได้แต่คิดในใจ
พี่อ๊อฟก็ไปส่งผมที่บ้าน ระหว่างทางก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ส่วนมากผมก็ถามนู่ถามนี่ไปทั่ว พี่อ๊อฟเป็นลูกคนที่2 มีพี่ชาย1คน เรียนศิลป์ภาษาจีน เรียนค่อนข้างเก่ง ชอบเล่นบาส ชอบวาดรูป  บ้านพอมีฐานะ  ถามเยอะ ประเด็นก็คือว่าถามเหมือนเก็บ โปรไฟล์แหละ เพราะพี่มันก็หล่อ เผื่อเราจะเอาไปเป็นตัวเลือก 55555 อันนี้คิดเล่นๆนะ ผมก็บอกทางพี่เขามาจนถึงบ้านผมแล้ว
“ขอบใจนะ อะ..” ผมยื่นแก้มไปใกล้ๆพี่อ๊อฟ มันทำเบ้ปากทำขยะแขยง น่าหมั่นไส้จริง
“เอิ่ม” มันทำหน้าเอือมผมแบบสุดๆ
“อย่ามาทำหน้าเอือมระอาเรานะ เชอะ!”  แล้วผมก็เดินเข้าบ้าน แล้วพี่อ๊อฟก็ขับรถออกไป และพอป๊ากับแม่เห็นรอยตรงแขนและที่หน้าเท่านั้นแหละ สวดยาวๆไปเลย หลับคาที่ ตื่นมาอีกทีก็เช้าแล้ว ขึ้นมาอยู่บนเตียงได้ยังไงหว่า เอาจริงๆก็ป๊าแหละยกเราขึ้นมา มีอยู่คนเดียวจะใครที่ไหน  แล้วผมก็อาบน้ำแต่งตัวมาโรงเรียนตามปกติป๊าก็มาส่งผมที่โรงเรียน พอถึง.....
‘’นท ห้ามทำตัวแบบนี้อีกนะ ถ้ามีแผลกลับบ้านอีกป๊าจะซ้ำให้แน่นอนคราวหน้า’’ พูดเสียงดุ และชี้หน้าคาดโทษไว้ ผมก็ยิ้มรับ แบบไม่รู้ไม่สนใจตามสเต็ป
“จุ๊บ!”  ยื่นหน้าไปหอมแก้มป๊า  “ป๊า บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร อย่าโหดดิ นทไปละนะ เย็นนี้เจอกัน”
แล้วผมก็เดินลงมาจากรถเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บบนห้องเรียนก็เจอกับเพื่อนๆ พอพวกมันเห็นรอยที่หน้าผม ก็พากันสอบสวนกันใหญ่ ว่าเกิดอะไรขึ้น
ผมก็เล่าทุกอย่างให้ฟัง ตอนแรกพวกมันนึกว่าผมไปตีกับพี่อ๊อฟมา แต่ผมก็เล่าและบอกว่าเคลียล์ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พวกมันโมโหไอเบสกันใหญ่เลย ตอนแรกจะพากันโดดเรียนไปรอยำมันแถวบ้านมันแต่ผมก็บอกพวกมัน ว่าไม่ได้ติดใจโกรธแค้นหรือเกลียดอะไร ต่างคนต่างอยู่ แค่นั้น และทั้งวันก็เรียนกันปกติ พอเลิกเรียน ก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรมาก แยกย้ายกันกลับบ้าน ตอนแรกว่าจะชวนพวกมันเที่ยวแต่ช่วงนี้พักก่อนดีกว่า ค่าสีไอพี่อ๊อฟเล่นเอาผมต้องอดไปอีกนานเลยทีเดียว
ผมก็เดินไปดู นักกีฬาโรงเรียน เล่นบอลกัน ไปคนเดียวด้วยนะ ไปบริหารเสน่หน่อย ช่วงนี้ต้องหาอะไรทำบ้าง ผมแอบชอบรุ่นพี่อยู่คนนึง เป็นนักฟุตบอลโรงเรียนอยู่ม.5แต่ไม่ได้ชอบอะไรขนาดนั้น ออกแนวปลื้มมากกว่า เพราะรุ่นพี่ทั้งหล่อ และอัธยาศัยดี  อะไรทำนองนั้น พี่เขาชื่อไอซ์ เวลายิ้มทีนี่ -โอ้!ละลายเลยทีเดียว-
สักพักก็เหมือนมีคนมานั่งข้างๆ แต่ไม่ได้สนใจหันไปมองแต่อย่างใด ก็นั่งมองพี่ไอซ์ไปนั่นแหละ สักพัก ‘เห้ยๆๆๆ!’ พี่เขาเดินมาทางนี้ แย่ล่ะสิ เราดูดีหรือยังเนี่ย ‘โอ้ย’ เอายังไงดี มาแล้วๆๆๆๆ เขายกมือขึ้นมาทัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
‘ไง’ คือรู้สึกร้อนหน้ามากๆ ผมทำตัวลุกลี้ลุกลน มองไปทางพี่เขาที่เดินตรงมา ยิ่งใกล้ยิ่งน่าสัมผัส แต่มันอยู่ที่ว่า .........
‘เออไงวะเสร็จยัง’ ชิบหายไม่ได้ทักกู -เพล้ง!!- หน้าแตกเลยสิ พอหันไปมองข้างๆ อ่าวไอพี่อ๊อฟ มันเหล่มองผมแล้วทำเหมือนกลั้นขำ ไอบ้าเอ้ย! น่าอายจริงๆ มันต้องรู้แน่เลยว่าเราชอบพี่ไอซ์ วันนี้หน้าแตกหมอไม่รับเย็บ ดีนะมีพี่อ๊อฟอยู่คนเดียว ไม่อย่างนั้น โดนโห่แน่เลย เราก็กำลังลุกขึ้นจะกลับ ไอพี่อ๊อฟก็ทัก....
“อ่าวนทไม่นั่งดูต่อเหรอ เห็น ‘เพลิน’ เชียวนะ” มันเน้นคำว่าเพลิน แล้วพี่ไอซ์ก็มองมาทางผม ผมก็ล่กสิ ทำตัวไม่ถูกเลยทีนี้  ”เอ่อ..คะ คือ ระ...เรารีบกลับน่ะ ไปนะ” คือพูดแบบรนๆพี่ไอซ์ก็มองเราแบบไอนี่เป็นอะไร ส่วนไอพี่อ๊อฟก็เอาแต่หัวเราะ เราก็รีบกลับบ้านทันที
ผมกลับมาถึงบ้านก็ทำการบ้าน แล้วลงมากินข้าวกับป๊าและแม่ นั่งคุยกันสักพัก พอเสร็จก็ขึ้นห้องไปดูโทรศัพท์
‘ติ๊งส์!’ มีสายไม่ได้รับด้วย เอิ่ม...เบอร์ไอพี่อ๊อฟ เราก็คิดสักพักนะว่าควรโทรกลับดีไหม แต่ถ้าอยากสนิทกับพี่ไอซ์ก็ควรสนิทกับพี่อ๊อฟก่อน เราคิดได้แบบนี้ก็รีบโทรกลับเลย คือรับสายเร็วมาก ตึ้ด..เดียวเองนะ
“ว่างายน้องเพลิน” ทำเสียงยียวน แปลกๆ
“เอ่อคือ.......” เพลินไหนวะ มันไม่ได้เมมเบอร์เราเหรอเนี่ย
“แหมทำเป็นจำไม่ได้ นั่งมองไอไอซ์สะเพลินเลยนะ น้องเพลิน” มันแซวผมนั่นเอง เอิ่ม..อุตส่าไม่คิดถึงแล้วนะ ทำแบบนี้เราก็เสียหายสิ
“ไอบ้า! จะโทรมาแซวหรือยังไง อายนะเว้ย!” พูดเสียงดังขึ้นมา มันไม่ใช่เรื่องที่น่าพูดเลยสักนิด
“จ๊ะๆ! ไม่แซวแล้ว แค่จะโทรมาถามว่าชอบไอไอซ์เหรอ” คือตรงไปไหน -เอ๊ะ!- ไม่ใช่ว่ามันนั่งอยู่ข้างพี่ไอซ์แล้วถามเหรอวะ จะแกล้งเราหรือเปล่านะ
“เอิ่ม...ถามเพื่ออะไร อย่าบอกนะว่าหึง 5555555” แถไปนั่น ต้องหยั่งเชิงไว้ก่อน เดี๋ยวจะดูไม่ดี
“มโนเก่งนะ! กูก็แค่เห็นว่ามึงแสดงท่าทีขนาดนั้น กูแค่จะบอกว่าเพื่อนกูยังโสด และก็ที่โทรมาถามและบอกก็เห็นแก่สีที่มึงซื้อคืนให้กูแหละ”  มันแปลกๆนะ คิดอะไรของเขาอยู่
“เอิ่ม...หวังดีเกินไปม้างงง แล้วยังไงต่ออ่ะ” 5555คือไม่ค่อยอยากรู้หร๊อกกกก ก็ขอสักหน่อยแล้วกัน
“ไม่ค่อยอยากรู้เลยเนอะ เอาเป็นว่ามันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนแหละวะ”
“อะไรอ่ะ สีที่ซื้อคืนให้ก็แพงอยู่นะ เห็นใจกันหน่อยสิ แค่นี้เอง ขอข้อมูลของพี่เขาหน่อยเด้อย่างก” เอาละ ไหนๆก็ไหนๆ ขอลองกับมันสักตั้งแล้วกัน
“เออก็ได้นะ แต่.....มึงต้องช่วยงานกูและตามใจกูเป็นเวลา 1 เดือน โอเคไหม แล้วอีกอย่างเรื่องสีมึงต้องรับผิดชอบอยู่แล้วเพราะมึงเป็นคนทำพังอย่ามาอ้าง” อันนั้นก็จริง แต่อะไรหลายๆอย่างมันเริ่มไม่สมเหตุสมผลแล้วละ
“เพื่ออะไรวะ ช่วยแค่นี้ก็ไม่ได้ จะมาให้เราไปช่วยพี่อะไรเยอะแยะพี่เก่งอยู่แล้วนี่ทำคนเดียวก็ได้ อย่าทำตัวเพ้อเจ้อเลย” เอาจริงๆก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร แต่ขี้เกียจก็บอกปัดไปก่อน
“งั้นบาย เรื่องไอไอซ์ก็ฝันไปเลย กูจะบอกให้มันเกลียดมึงและอยู่ห่างๆมึง (มันขู่สินะ)  ตึ๊ด!” แรงมาก มันวางสายไปเลย ชิบหายแล้วเอายังไงดีทีนี้ ผมรีบกดสายโทรกลับ โทรไป3รอบแล้วก็ไม่รับ รอบที่4 กว่าจะรับเราเกือบกดวาง
“เห้ย! พี่อ๊อฟสุดหล่อ เราล้อเล่น ก็ได้ๆเรายอมแล้วน้าๆๆๆๆๆ” ยอมไปก่อน เพื่อผู้ชาย ก็ต้อง อ้อนสุดๆ
“……….ยอมอะไร” เอิ่ม..เล่นตัวด้วย
“ก็ยอมช่วยงานและตามใจพี่อ๊อฟสุดหล่อเป็นเวลา 1 เดือนไง น้าๆๆอย่านอยน้าๆๆ” แอบหวั่นกับงานที่มันจะให้ช่วยอยู่นะ แต่ก็คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง ถือว่าฝึกประสบการผู้ช่วย
“ก็แค่เนี่ย ลูกเล่นเยอะอยู่ได้เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจัดให้มึงก่อนเลย เบาๆ” พูดสะใหญ่โต อะไรของมัน
“เห้ย! จริงดิ !(ตามน้ำไปก่อน) อายอ่า (อะไรของมันวะ ชักหวั่นๆใจ) จัดอะไรอ่า บอกก่อนดิ!” เริ่มตื่นเต้นแล้วนะพูดแบบนี้
“เออไว้เจอกันพรุ่งนี้ตึ๊ด!” กดวางสายอีกแล้ว ไม่มารยาทเลย ผมก็ไม่สนใจ
นอนคิดไปคิดมาสักพักก็หลับไปเลย พอเช้าก็รีบแต่งตัวไปโรงเรียนเลย ทีนี้ตื่นเต้นมาก พอถึงโรงเรียนปุ๊ป ก็ไปหาเพื่อนๆที่โต๊ะประจำของเรา
“เป็นอะไรวะ อารมณ์ดีแต่เช้าเชียวนะมึง” วิว เอ่ยถามขึ้นมา เมื่อเห็นว่าผมอารมณ์ดีผิดปกติ
“เออมีไรพิเศษหรือเปล่า” ปอถามต่อด้วยความสงสัย
“ท่าทางอย่างนี้สงสัยต้องมีผู้โชคร้ายแล้วละ” ไอมิน พูดขึ้นมา พร้อมทำหน้ากวนตีนมาทางผม
“ยังไงวะ” นัทหันไปถามไอมินด้วยความสังสัย
“ก็อาการแบบนี้มันก็คงไปแอบชอบใครแบบเต็มประตูมาอีกแล้วน่ะสิ ใครกันน้าผู้โชคร้าย” ไอมิน ปากหมาตลอด แต่ทุกทีผมก็เป็นผู้โชคร้ายเสมอเลยนะ ทำไมมันไม่มองในมุมนี้ น่าโมโหจัง แต่ก็ช่างเถอะ
“แหมทำแสนรู้กันจังนะพวกมึง ก็อย่างไอมินว่าแหละ อิอิ” พูดแล้วทำท่าเขิน ผมจะปลงกับคำพูดพวกมัน แล้วก็มารอลุ้นที่พี่ออฟจะเซอร์ไพร์ซดีกว่า
“ให้มันน้อยๆหน่อยเหอะมึง อาการหนักแล้วนะนั่น หน้าแดงเชียว”ปอหันมาทำหน้าหมั่นไส้ใส่ผม
“กระแดะมากอะนท ท่าทางมึงนะ” ไอวิวท้วงท่าทางที่ผมทำท่าทางแบบบิดไปๆมาๆเขินนี่หว่า
“ใครวะ” ไอนัทถาม พวกมันทั้ง 4 ตน ก็ตั้งใจฟังคำตอบกันแบบยิ่งกว่าลุ้นข้อสอบ
“ก็.......พี่ไอซ์อ่ะ”….เขินจัง
“เห้ย!!” พร้อมเพรียงกันจังนะ
“นักบอลโรงเรียนอ่ะนะ”ไอมินถามขึ้นมา หน้าตาพวกมันยังไม่หายค้างกันเลย 
“เอออะดิ” ผมตอบอย่างไม่สนใจ เพราะเอาแต่คิดเรื่อยเปื่อยอยู่
“เห้ยๆ! เล่นของสูงสะด้วย มึงไม่รู้เหรอว่าเขาไม่ชอบอะไรที่เป็นแบบมึง” ไอนัท ช่างกล้านะ พูดตัดกำลังใจแล้ว 1
“นั่นดิ กูเห็นเขาควงผู้หญิงแต่ละคนนี่แบบ สวยระดับนางฟ้า”ไอปอซ้ำแล้ว 2
“มึงเคยเห็นไอนทชอบใครแล้วพลาดเหรอวะ” ไอมินช่างกล้าพูดนะไม่พลาด แต่ก็เจ็บทุกรายสินะ พวกมึงนี่มัน...
“ไม่แน่นะเว้ย! พี่เขาแมนแบบสุดๆ นท มึงก็ควรระวังนะเว้ย! ถ้าเขาไม่เล่นก็ควรถอยนะ” เป็นการตักเตือนที่กระแทกใจมากวิวเพื่อนรัก
“เอาน่า กูก็ไม่ได้ชอบอะไรขนาดนั้น” อันนี้ไม่ได้ชอบไรมากเลยจริงจรื๊งนะ>< คิดแล้วฟิน หล่อมากนะพี่ไอซ์....
“หราๆๆๆๆๆ” ประสานเสียงกันเก่ง จริงๆ
“เออออออออออออ ไปเข้าแถวได้แล้วมัวแต่คุยอะไรกันก็ไม่รู้บ้าที่สุด ><” เบื่อจะเถียงกับพวกมันก็เลยเปลี่ยนเรื่องเลย
คือพวกมันทำหน้าแบบเอือมระอาผมสุดๆ แล้วพวกเราก็เดินไปเข้าแถวทำกิจกรรมหน้าเสาธงแล้วก็ขึ้นไปเรียน ก็เรียนกันจนถึงเวลาพักเที่ยงพวกเราก็พากันเดินไปโรงอาหาร แยกย้ายกันไปสั่งน้ำสั่งข้าวมากิน พอเพื่อนมาครบ เราก็เริ่มกินแต่ว่า......
‘น้องนทครับ พี่กับไอซ์ขอนั่งด้วยคนนะครับ’
พรวด! คือผมถึงกับสำลักข้าวออกมาเลย ไอพี่อ๊อฟ พาพี่ไอซ์มาด้วย
“แค่กๆ!(หยิบน้ำขึ้นมาดื่ม)” เห้อ!เกือบแล้วไหมละ
“น้องโอเคหรือเปล่า” พี่ไอซ์พูดพร้อมกับเดินมาลูบหลังผม
“ วี๊ดวิ๊วๆๆๆๆๆ ว้าวๆๆๆๆๆๆๆ” ไอพวกเพื่อนผีเปรตนี่จะมาแซวอะไรตอนนี้วะ ผมมองหน้าพี่อ๊อฟ รายนั้นคือจัดให้ผมจริงๆ นั่งอมยิ้มไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวแล้ว
“ไม่เป็นอะไรครับ ผมโอเค” พูดด้วยเสียงอ่อนน้อม โห! หล่อยันขนจมูก
“เห้ย!น้องไหวจริงอ่ะ หน้าแดงขนาดนั้น ไอซ์พาน้องไปห้องพยาบาลหน่อยไป” ไอพี่อ๊อฟ โอ๊ย! อย่ามาใกล้มากได้ม้ายยย!
“มะ ไม่เป็นอะไร ระ เราไม่เป็นไรจริงจริ๊งๆ” คือพูดแบบรนๆ ก้มหน้าพูดด้วยนะเหมือนจะไข้ขึ้นแล้วสิ
“ปะ เดี๋ยวพี่พาไป” พี่ไอซ์พูดจบ ก็ดึงแขนให้ผมลุกขึ้น แย่ละ มือพี่เค้านุ่มเกินไป เรากำลังจะเป็นโรคหัวใจหรือเปล่าเนี่ยโอ๊ย!
“เอาไปเลยพี่ มันขี้อาย ถ้าพี่ไม่พามันไปมันก็ไม่ไปนะ 555555” พวกเพื่อนเวร กูอยากด่าเหลือเกิน แต่ต้องรักษากริยามารยาท
พี่อ๊อฟมันเอื้อมมือมาแตะตัวผม “เห้ยไอซ์ น้องตัวร้อนๆวะมึงลองจับดิ้”
พี่ไอซ์กำลังจะเอามือมาแตะหน้าผากผม โอ๊ย แย่แล้ว! อุณหภูมิในร่างกายก็ตีขึ้นหน้าสิ วันนี้ยิ่งรู้สึกครั่นเนื้อตัวอยู่ มาเจอแบบนี้ไข้ขึ้นเลยมั้งเนี่ย
“เห้ย!น้องไปเลย มาเลย (ทำเสียงดุ) เห้ย!เลือดกำเดาก็ไหลตัวก็ร้อนไปกะพี่เลยเดี๋ยวพี่ไปส่ง” ไม่แน่ใจว่าพี่ไอซ์เป็นพวกอ่อนโยนหรืออะไร ยังไม่ทันรู้จักกันเลย แต่ทำเป็นห่วงเป็นใยขนาดนี้ มันก็ทำตัวไม่ถูกสิ
“พี่กินข้าวเถอะครับผมเกรงใจ” ลอยไปไกลเลยสิ  แล้วดูพวกเพื่อนผม กับ พี่อ๊อฟทำหน้าเอือมสิ ไอพวกนี้นิ
แล้วตอนนั้นผมก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองอาจจะไข้ขี้นจริงๆแล้ววันนี้อากาศร้อนมากด้วย อยู่ๆผมก็ลุกขึ้นแล้วก็สะบัดมือพี่ไอซ์ออกและหันไปบอกพี่เขาว่า
‘พี่ทานข้าวเถอะครับ นทไปเองได้ครับขอบคุณมากครับ ’ ยิ้มหวานให้เขา แล้วหันไปหาเพื่อนบอกพวกมันว่า
‘เพื่อนๆกูว่ากูป่วยหนักแล้วละฝากเก็บด้วยนะ’
แล้วผมก็ลุกขึ้นท่ามกลางความงงของพี่ไอซ์กับพี่อ๊อฟเพราะเพื่อนผมรู้อยู่แล้ว เวลาผมไม่สบายแล้วอารมณ์จะแปรปรวนมาก แล้วผมก็เดินไปห้องพยาบาลขอยากินแล้วก็เช็ดเลือดกำเดาต่อด้วยนอนพัก ผมคิดในใจตลอดเลย
“ตายละไปแสดงทีท่ารังเกียจพี่เขาขนาดนั้นเขาคงไม่อยากยุ่งกับกูแล้วละ”แล้วผมก็หลับไป ตื่นมาอีกที ผมมองดูนาฬิกาข้อมือ เห้ย! ซวยแล้ว ว่าจะนอนสักชั่วโมงเดียว ปาไปจะเลิกเรียนแล้วครับอีกครึ่งชั่วโมง
“อ้าว!ตื่นแล้วเหรอ ไข้สูงนะครูโทรบอกพ่อแม่เราแล้วนะไปตรวจที่โรงพยาบาลหน่อยละกัน เดี๋ยวพ่อเธอจะมารับนะ”
“ครับ” (คือตอนนี้มึนหัวมาก ก็เลยนอนพักต่อ) ผ่านไปสักพักผมก็ได้ยินเสียงคนคุยกัน ผมก็อยากลุกนะ แต่มึนหัวหลับตานอนฟังพวกมันคุยกันดีกว่า
“เห้ยมึงอาการหนักวะ”วิว
“เออว่ะเขินจนไข้ขึ้นกูก็เพิ่งเคยเห็น”ไอมิน (เอิ่ม!!)
“มึงก็ บางทีอากาศมันร้อนเกินไปนะนทมันเลยป่วย ภูมิคุ้มกันมันอ่อนแอ พวกมึงก็รู้” ปอแหละ เพื่อนเลิฟสุดแล้ว
“เอาเหอะๆ พวกเราก็รอจนกว่าป๊ามันจะมารับแล้วกัน”นัท
“พี่ 2 คนกลับก่อนก็ได้นะครับ”ปอ
“ไม่เป็นอะไรรอเป็นเพื่อนกันก็ได้”!!!พะ พี่ไอซ์
“ไอซ์มึงไปซ้อมบอลก่อนก็ได้นะเว้ย!” พี่อ๊อฟ
“กูอยากดูน้องเขาก่อนวะกูไม่ค่อยสบายใจเลย” พี่ไอซ์ (ไม่สบายใจอะไรนะ หัวใจของผมเต้นโครมครามไปหมด)
“แล้วแต่”พี่อ๊อฟ
แล้วผมก็ไม่ได้ยินอะไรเลย ประมานว่าไข้ขึ้นซ้ำไปอีก555 ตื่นมาอีกทีผมอยู่ที่บ้านแล้ว คือเวลาที่ผมป่วยอาการตอนแรกจะดูเหมือนหนัก แต่จริงๆไม่เป็นอะไรมากหรอก แค่ขี้เกียจจะลุกแล้วก็จะนอนบ่อยมากแล้วก็จะงอแงเก่งเท่านั้นแหละ เลยดูเหมือนจะอาการหนัก ไม่จำเป็นต้องไปตรวจถึงโรงพยาบาล ไปทุกครั้งก็แค่ป่วยเป็นไข้ธรรมดา ครั้งนี้ก็คงเช่นกัน ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมา

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
“ตื่นแล้วเหรอลูก เป็นยังไงบ้าง” แม่ที่กำลังเช็ดตัวให้ผมอยู่เอ่ยถามผมขึ้นมา
“ตื่นแล้วเหรอตัวแสบ ตกใจแทบแย่ นึกว่าจะได้หาลูกใหม่แล้ว”ป๊าพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าล้อเลียน
“ป๊าอ่า แม่ดูป๊าดิ (แล้วป๊าก็เข้ามากอดผม) ไม่ต้องเลย อื้อ!”ผมดันป๊าออก
“ป๊าพูดเกินไปนะ ยังมีโน๊ตอีกคนไม่ต้องไปหาหรอก” โน๊ตคือพี่ชายผม เรียนมหาลัย ปี 1 อยู่หอใน ที่บ้านเลยเหลือผมป๊าและแม่กัน 3คน
“55555555” ตลกกันใหญ่ เลยสิ ผมยิ่งไม่สบายอยู่ ทำแบบนี้ได้ยังไง
“งอล” ผมนอนคว่ำเลย
“อย่างอแงนะ รีบๆให้แม่เช็ดตัวเลย เดี๋ยวโดนดี!” ป๊ามาบทโหดอีกแล้ว
เช็ดตัวเสร็จแม่ก็ป้อนข้าวป้อนน้ำป้อนยาผม เอาจริงๆผมเกือบจะหายแล้วด้วยซ้ำแต่แม่กลัวไข้จะกลับเลยให้ดักไว้ทุกทาง?
พอกินยาไปสักพักก็รู้สึกง่วงตื่นมาอีกทีก็เที่ยง พวกเพื่อนผมโทรมาบอกว่าเดี๋ยวจะมาเยี่ยม วันนี้ดีนะที่เป็นวันเสาร์ 
ผมลงมากินข้าวแล้วก็กินยา รู้สึกว่าเป็นปกติแล้ว ไม่มีไข้อ่ะไรแล้วก็เลยนั่งเล่นรอเพื่อน สักพักพวกมันก็มา แต่ว่าไม่ได้มาแค่พวกมันน่ะสิ ........
“ไง!!” เพื่อนๆสุดที่รักของผม แล้วก็
“ไงๆ”พี่ไอซ์/พี่อ๊อฟ
“เอิ่ม!...” มาได้ยังไงวะ ผมหันไปมองพวกเพื่อนผมแหมทำหน้ากรุ่มกริ่มเชียว “พวกพี่มาได้ยังไงอะ”
“กูชวนมาเองเลยนะเว้ย! กูคิดว่าถ้ามึงเห็นพี่ๆเพื่อนๆอาการจะหายเร็วขึ้น” ไอปอหวังดีเหลือเกินนะเพื่อน
“อ่าๆ ยังไงก็ขอบคุณน้าที่มา” ยิ้มแบบสดใสไปเลย ตอนนี้ไม่เขินอะไรพี่ไอซ์แล้ว  เขินมากเดี๋ยวไข้ขึ้นพยายามไม่สนใจแล้วกัน
“น้องนี่ยิ้มน่ารักดีเนอะ” พี่ไอซ์พูดพร้อมกับส่งยิ้มแบบหล่อละลายมา
(ฉ่า -////-อีกแล้วว่าจะไม่สนใจแล้วเชียว) “พะ พี่อ๊อฟ กรุณาตามน้องนทมานี้ทีนะครับ” แล้วจูงมือมันมาเลย
ผมพาพี่มันมาแถวสวนหลังบ้าน เพราะมีเรื่องต้องเคลียล์กันสักหน่อย ตั้งแต่พี่มันจัดมาให้นี่เอาผมตั้งตัวไม่ทันจนไข้ขึ้นกันเลยทีเดียว
“มีอะไรว่ะ? มึงหายดีแล้วเหรอลากกูมาตากลมตากแดดเนี่ย แล้ว...” มันก้มมองดูมือผมครับ อุ้ย! ลืมปล่อยมือ
“พี่จะทำอะไร ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เอาผมไปไม่เป็นเลยนะ จะทำอะไรไม่ถงไม่ถามสุขภาพน้องสักคำ”ผมพูดเป็นเชิงบ่นเล็กน้อย
“ก็อยากได้แบบนี้ไม่ใช่หรือยังไง นี่แค่เบาๆ” ยกมือขึ้นมาแตะไหล่ผม  “เดี๋ยวกูจะจัดชุดต่อไปให้โอเคไหม”
“ผมว่ามันเริ่มไม่โอเคแล้วนะ ทำอะไรบอกกันก่อนดิวะ! ไม่ชอบอะไรที่มันเซอร์ไพร์ซนะเว้ย! ดูดิเมื่อวาน ถึงกับไปไม่เป็นเลยนะนั่น เอ้อ!แปลกจัง เมื่อวานตอนที่ผมลุกออกไปผมแสดงท่าทีไม่ดีออกไป ทำไมพี่ไอซ์ยังมากับพี่อ่ะ” ร่ายยาวพร้อมกับถาม มันก็น่าบ่นไหมละ
“ก็เพื่อนมึงบอกแหละ ตอนแรกกูก็ตกใจนะ ทำไมมึงเป็นอย่างงั้นไป แล้วเพื่อนมึงก็เล่าให้ฟัง ว่าเวลามึงป่วยมึงจะอารมณ์แปรปรวน และโมโหง่าย กูงงไม่เคยได้ยิน ถ้าเป็นผู้หญิงคงประจำเดือนมาไม่ปกติสินะ”ดูมันนะ
“โอ้ย! หยุดพูดสักที แล้วยังไง มาได้ยังไงวันนี้ อุตส่าจะพักสมองสักหน่อย เอาจริงๆพี่ไม่ได้แกล้งผมใช่ป่ะ” ก็ตื่นเต้นแหละ แต่ก็ไม่อยากเจอพี่ไอซ์ตอนนี้เลย
“ก็ตอนแรกว่าจะไม่มา แต่เพื่อนมึงดันชวนกูเมื่อวานน่ะสิ กูเลยลากไอซ์มาด้วย และกูจะช่วยมึงเรื่องไอซ์หลังจากนั้นมึงก็ทำตามสัญญาด้วย!” มีการทวง ผมก็เริ่มจะหมั่นไส้มันละ
“สัญญาอะไรว่ะ !?” ผมทำหน้างง แกล้งมัน
“มึงจะเล่นแบบนี้ใช่ไหม” มันหันหลังกำลังจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน
(ผมคว้ามือมันไว้) “ล้อเล่นน่า ทำขี้งอลไปได้ แต่พี่จะทำอะไรบอกผมก่อนได้หรือเปล่า ผมตั้งตัวไม่ทันจริงๆนะ”
“เออๆ ยังไม่มีอะไรหรอก กูสัญญาก็ได้ทำอะไรจะบอกก่อน แล้วมึงก็อย่าผิดสัญญากับกูก็แล้วกัน” ทำหน้าโหด
จากนั้นก็เดินเข้าบ้านกัน ทุกคนก็นั่งกินน้ำกินขนมแล้วก็ดูทีวีกันไป พอพวมันเห็นผมทำหน้าสงสัยกันใหญ่…..
“มองอะไรกันอ่ะ” ผมถามแต่ก็เบนสายตาหลบพี่ไอซ์
“ไปไหนกันมาวะ?”ไอวิว เกริ่นถามเลย ผมก็มองมั่นนิ่งๆ
“เออนั่นดิ ไปทำอะไรกันมา” ไอปอพูดพร้อมกับทำหน้าแบบกวนตีนส่งมา
มิน/นัท (ทำหน้ากรุ่มกริ่มน่ากระโดดถีบ)
“ไปคุยเรื่องสีกันมานิดหน่อย ว่าจะให้พี่ออฟวาดรูปตอนกูเปลือยให้สักหน่อย” (จัดให้สะเลย แต่....)
ตอนนั้นพี่ไอซ์ที่กำลังกินน้ำแล้วหันมาทางผมพอดี แล้วพอพูดจบประโยคเท่านั้นแหละ พรวด! เต็มๆเล้ย!(โดนเองเลย)
พวกเพื่อนผม “555555555” (ขำกันมันส์เชียว)
“เห้ย!ไอซ์มึงเป็นอะไรหรือเปล่าวะ” มันเอากระดาษเช็ดปากให้พี่ไอซ์ ดูมันทำผมเพิ่งหายป่วยแท้ๆ
“เอ่อคือ พี่ขอโทษพี่ตกใจน่ะ “ พี่ไอซ์พูดแล้วเอากระดาษที่เช็ดปากมันมี้กี้มาเช็ดหน้าผม รู้สึกดีนิสนุง555
“เอ่อ...พอเถอะครับ” ผมแย่งกระดาษทิชชู่มาเช็ดเอง “ผมพูดเล่นนะพี่ ใครจะไปทำจริง” ก้มหน้าพูด พูดเล่นจนลืมไปว่ามีพี่ไอซ์อยู่ “กูว่าวันนี้ทุกคนกลับเถอะนะ อยากพักผ่อน ขอบคุณมากๆที่มาอยู่เป็นเพื่อนกันวันนี้” เอาจริงๆก็ไม่ได้อะไรหรอก นั่งข้างพี่ไอซ์ไง เลยทำตัวไม่ถูกไม่รู้จะพูดอะไรดี พี่ไอซ์ก็ไม่ค่อยพูดด้วย
 “อะไรว้าไล่เหรอวะ! อุตส่ามาเยี่ยมเลยนะเว้ย!” ไอมิน นี่มึงอุตส่าเลยเหรอ ควรจะตั้งใจมาไหม
“เป็นอะไรหรือเปล่ามึงไหนว่าดีขึ้นแล้ว” ปอถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“เปล่าหรอก ก็กลัวว่าเพื่อนๆมีธุระต่อแหละ อีกอย่างพี่อ๊อฟกับพี่ไอซ์ก็อาจจะมีธุระไงเกรงใจ” เบนตาไปมองนิดๆ พอเป็นมารยาท
“แหมขี้เกรงใจจังเนอะ หรือว่ากลัวอดใจไม่ได้วะ” ไอวิวพูด แล้วมันก็เหล่มองไปทางพี่ไอซ์ เออ ดี เขารู้กันหมดแล้วมั้ง
“เออมึงเมื่อวานที่มึงไปนอนห้องพยาบาลอ่ะ คาบบ่ายเขามีงานด้วยนะ กูจดมาให้มึงละ ส่งวันจันทร์นะเว้ย!” นัทพูดพร้อมกับยื่นมาให้ เป็นเพื่อนที่ดีเลยนะ
“เห้ยจริงดิ้ ! มึงน่ารักที่สุดเลย” (เดินไปนั่งข้างมันแล้วกอดแขนมัน) “ ไม่เหมือนใครบางคน” (เหล่ไปทางปอเพราะมันนั่ง เรียนข้างผม ส่วนสามคนนั้นนั่งด้วยกัน)
“มันแค่จด กูทำให้มึงเลยนะเว้ย !” ไอปอพูดจบ ก็ยื่นกระดาษงานกับสมุดมาให้มีทำหน้านอย 
“ใจดีเกินไปแล้ว มามะเดี๋ยวหอมแก้มทีนึง” ผมพูดพร้อมกับยื่นหน้าไปจะหอมแก้มมันแล้วมันก็พลักผมออกพร้อมถีบ ทุกคนก็ขำกันใหญ่เลย
แล้วเราก็คุยกันไปเรื่อยๆแหละ เรื่องสัพเพเหระไปทั่ว พวกมันไม่ยอมกลับก็คุยไป แต่ดูพี่ไอซ์ไม่ค่อยพูดเลย เขาคงไม่เต็มใจมามั้ง
“พี่ไอซ์ไม่ค่อยพูดเลยเนอะ” ผมหันไปถามพร้อมกับยิ้มให้ ต้องมีบทบาทบ้าง เขามาบ้านเรา แต่จะชวนคุยบ่อยๆก็ไม่ดีต่อหัวใจอีก
“ก็ไม่เห็นชวนพี่คุยนี่ ก็ไม่รู้จะคุยอะไร” พี่ไอซ์พูดจบ ทำท่าเซ็งๆ แต่ก็จริงแหละ ผมพยายามเลี่ยงที่จะคุยกับเขา ก็ผมเกร็งนี่นะ
“เอิ่ม....” เงียบกันหมด ไม่รู้สิแต่พี่เขาพูดแบบนี้ผมมโนไปไกลนะ!
“เออชวนเพื่อนกูคุยบ้าง “ปลื้ม” มันไม่ใช่หรือยังไง” พี่อ๊อฟพูด เน้นคำว่าปลื้ม คือตรงไปไหมไอบ้านี่
พวกเพื่อนผม “เอาแล้วๆๆ” พวกมึงจะประสานเสียงกันเพื่อ ?
“เอ่อคือ.....” ไปไม่ถูกเลยทีนี้ โอยเดี๋ยวพี่ไอซ์ได้เกลียดขี้หน้ากูก็งานนี้ “บ้าไปแล้วคนพวกนี้นิ” ผมหันไปค้อนใส่พวกมัน
“เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเราปลื้มพี่” พี่ไอซ์ พูดแล้วทำหน้าเขินๆ คืออะไรอ่ะ><
“แหมๆเขินอะไรวะไอไอซ์” พี่ออฟก็ชงเก่งนะ เอาจริงๆตอนแรกคิดว่าพี่อ๊อฟมันไปบอกพี่ไอซ์แล้วว่าผมชอบ แต่ก็ดีค่อยๆเป็นค่อยๆไปแล้วกัน
หลังจากนั้นเราก็คุยนู้นนี่ไปเรื่อยส่วนมากก็จะมาแซว มาพูดจากวนผมนี่แหละ แล้วพวกมันก็ขอตัวกลับกันรวมถึงพี่ๆทั้งสองด้วย เฮ้อ ! รอดตัวไปอีกวัน แต่เอาจริงๆแล้วพอได้คุยจริงๆผมก็เขินอยู่นะ แต่ก็เริ่มจะชิน คือคนที่เราชอบ ได้พูดกันก็ดีแล้ว แล้วเราก็เป็นพวกชอบคิดไปเองอยู่แล้วด้วย พอเขาพูดอะไรมาดีๆหน่อย หรือพูดสองแง่สองง่ามเรานี่ยิ่งไปไกลเลย  วันต่อมาก็ไม่มีอะไรมาก พักผ่อนอยู่บ้านตอนนี้ผมหายดีแล้ว จนเวลาก็ล่วงเลยมาวันที่ผมต้องไปโรงเรียน...
วันนี้ผมก็ตื่นทำนู่นนี่เสร็จ ผมก็ออกไปรอป๊าอยู่หน้าบ้าน .....
“ไปด้วยกันหรือเปล่า” ผมก็หันไปมองทางประตูหน้าบ้าน เอ่อคือพี่อ๊อฟ....มาได้ยังไงนะ
ผมมองหน้าพี่มันอย่างสงสัย
“ไม่ต้องมาทำหน้าโง่หรอก!”หน้ากูแค่สงสัยโว้ย! ปากดีจริง “บ้านกูก็อยู่ใกล้ๆกับบ้านมึงเนี่ยแหละ อยู่ซอยข้างๆนี่เอง แค่ผ่านมาเห็นเลยจะได้ชวนไป จะได้ไม่เสียเวลาทำงานป๊ามึง” มันแปลกๆ แต่ก็ดีนะ
“คิดอะไรอยู่อ่ะ ไม่เห็นเคยบอกเลยว่าบ้านพี่อยู่แถวนี้?”ผมพูดแล้วมองอย่างจับผิด แต่มันก็ทำหน้านิ่งในแบบมัน
“ก็มึงไม่ถามจะบอกเพื่อ? ไม่ไปใช่ไหม กูไปล่ะ!” มันทำเสียงหงุดหงิดใส่ด้วยนะ แล้วมันก็บิดรถไปเลย   .
“เป็นประสาทอะไรของมันวะ” ผมบ่นพึมพำกับตัวเอง
แล้วสักพักป๊าก็เดินออกมา
“เมื้อกี้คุยกับใครอ่ะลูก” ป๊าถามพร้อมกับชะเง้อหน้าไปทางหน้าบ้าน 
“รุ่นพี่นะป๊า อย่าไปใส่ใจเลย”หลังจากนั้นป๊าก็ไปส่งผมที่โรงเรียน ผมลืมบอก ป๊าผมหายโกรธเรื่องที่ทำของสะสมเขาแตกแล้วนะ ผมทำการ์ดโดยใช้สีราคาแพงของไอพี่อ๊อฟ เอาจริงๆมันก็ไม่ได้เสียหายอะไรมาก แค่หักครึ่งเกือบทุกแท่ง 5555 ของแพงก็แบบนี้พังง่าย แต่ก็ยังใช้ได้อยู่นะ ทำไปง้อป๊าเขาก็หายงอลหายโกรธไป
พอถึงโรงเรียนผมกำลังจะเดินไปโต๊ะประจำกลุ่มผมเห็นพี่ไอซ์ยืนคุยกับผู้หญิงกลุ่มนึงประมาน5คนแถวใต้อาคารเรียน คาดว่าน่าจะรุ่นเดียวกับพี่เขา ผมก็หยุดยืนดูแถวนั้นแหละ แต่มีอยู่ผู้หญิงคนนึงในกลุ่มนั้นสวยด้วยสิ ยืนบิดไปบิดมา แล้วพี่ไอซ์ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองแต่ยัยนั่น ผมเห็นแล้วหมั่นไส้เชียว กำลังจะเดินไปขัดจังหวะสักหน่อย แต่....
‘จะทำอะไรอ่ะ’ มาขัดอีกแล้ว
“ก็แค่จะไปทักพี่ไอซ์เท่านั้นเอง” ผมตอบพี่อ๊อฟ แล้วทำหน้าแบบไม่แคร์แล้วกำลังจะเดินไป
“จะไปทักหรือจะไปขัดเขากันแน่” รู้ทันอีก
“เอ่อ..มะไม่ใช่สักหน่อย ไม่ไปแล้ว ไปหาเพื่อนแล้วนะ บาย” ผมกำลังจะเดินหนีมัน
“แหมทำเป็นพูด นั่นนะแฟนพี่ชายมัน พี่ชายมันฝากของมาให้แฟนมันเพราะพี่มันติดเรียน” ติดเรียนงั้นเหรอ? ผมทำหน้าสงสัย “พี่มันอยู่มหาลัยนู่นปี 1  ไม่ต้องทำหน้างงขนาดนั้นหรอก”
“ก็ไม่ได้อะไรนิ” ถ้าไม่บอกก็คิดไปไกลแล้ว ยังปากดีอยู่นะเรา “ขอบใจที่บอกละกัน” โล่งอกไปที นึกว่าจะมีอะไรในกอไผ่
“เออไม่เป็นอะไรหรอก เพราะกูจะใช้งานมึงให้คุ้มเลย หึหึ!” ทำหน้าแบบผู้ชนะ น่าหมั่นไส้จริงๆ
“แหมๆ สำหรับพี่อ๊อฟเนี่ย” ผมพูดเสียงหวาน พร้อมกับเอื้อมแขนไปคล้องคอมัน แล้วยื่นหน้าไปกระซิบที่ข้างหูมัน  “ผมให้ได้ทุกอย่างเลยนะ พู่ว!” เป่าหูยั่วยวนไป 1 แมทช์
มันดันผมออก  ถ้าผมสังเกตุไม่ผิดคือหูมันแดงแก้มก็แดงนิดๆ มันเขินผม?
“ทะ...ทำอะไรวะ!”
“เห้ยเขินเหรอ ><” ทำหน้าแบบร่าเริงมากได้แกล้งมัน
“เลิกเพ้อเจ้อได้ละ” มันตีหน้านิ่งเหมือนเดิม
“แล้วพี่ไม่ได้บอกพี่ไอซ์เหรอว่าผมชอบพี่เขา”
“ไม่นะ กูก็แค่ชวนมันมาหามึงบ้าง ชี้มึงให้มันดูบ้าง อะไรทำนองนั้น” ทำท่านึกอะไรขนาดนั้น
“แล้วพี่เขาไม่สงสัยเหรอ ?” N
“นี่! มึงก็โง่เนอะ มึงแสดงออกขนาดนั้น เอาจริงๆเพื่อนกูก็ไม่ได้โง่นะ มันก็คงรู้แล้ว ว่ามึงคิดยังไงกับมันอ่ะ” A
“เอ่อ...มันก็จริง”N
“แต่ก็แปลกนะ”A
“อะไรอ่ะ”N
“ปกติไอไอซ์จะไม่ค่อยชอบยุ่งกับพวกเกย์กระเทยนะ แต่เวลาชวนมันมาหามึงทีไรมันก็มาโดยไม่อ้างหรือบ่นอะไรนะ กูว่ามึงน่าจะเข้าหามันบ้าง มาถามแต่กูไม่ได้อะไรหรอก” มันก็จริงนะ 
“พี่เขารู้เหรอว่าผมเป็นเกย์อะ? อีกอย่างผมเจอพี่ไอซ์ทีไรเขาดูเงียบๆอ่ะ ยิ้มให้อย่างเดียว แล้วก็...” นึกคำพูดอยู่
“รู้ดิก็กูบอกอ่ะ” (เอิ่ม)
“แล้วพี่ว่า ผมต้องทำยังไงอะพี่เขาถึงจะสนใจผม” ผมรอลุ้นกับคำตอบนี้อยู่
กริ๊งๆๆๆๆๆ!!!!!!!!!!! แล้วเสียงกริ่งก็ดังขึ้น จังหวะนรกจริงๆ
“ไว้คุยกันรีบไปเข้าแถวเหอะ!”
หลังจากนั้นก็แยกกับพี่อ๊อฟเข้าแถวทำกิจกรรมหน้าเสาธง แล้วก็ขึ้นห้องเรียนกัน เพื่อนๆผมมันก็ถาม ว่าทำไมมาช้า ผมก็ตอบว่าไปคุยเล่นกับพี่อ๊อฟทั่วไป ความจริงก็ไปปรึกษาหารือเรื่องพี่ไอซ์ 55555 แต่ก็พูดไม่ได้ครับเดี๋ยวจะดูไม่ดีในสายตาเพื่อนๆ (ดูดีเนอะ 5555)  แล้วคาบเช้าก็ผ่านไป จนมาถึงช่วงพักผมกำลังยืนต่อคิวซื้อข้าว.....

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
“หายดีแล้วเหรอ” ผมหันไปข้างหลัง อุ้ย! พี่ไอซ์ ดีละสิ! พี่อ๊อฟบอกให้เข้าหาพี่เขาบ้าง มันก็จริงอ่ะนะ มัวแต่ไปถามพี่อ๊อฟมันจะดีเหรอ
“เหม่ออะไร” พี่ไอซ์พูดพร้อมกับสะกิดผม
“เปล่านะ พอดีผมกำลังนึกว่าจะกินอะไรดีตังหาก” แถไปได้
“ข้าวผัดอเมริกัน อะ...” พูดเสร็จยื่นเงินให้ผม ผมมองด้วยความสงสัย “สั่งให้ด้วย เดี๋ยวไปซื้อน้ำให้”
“หะ! ดะเดีย......” คือเดินไปเลย “เอิ่ม..คืออะไรวะ” พูดพึมพำคนเดียว
หลังจากที่ผมซื้อข้าวเสร็จก็เดินไปที่โต๊ะก็เห็นเพื่อนผมนั่งกันครบแล้ว ที่เพิ่มมาคือพี่ไอซ์กับพี่อ๊อฟ พอถึงโต๊ะผมก็ยื่นจานข้าวให้พี่ไอซ์แล้วก็นั่งลงตรงข้ามพี่ไอซ์ ข้างพี่ไอซ์ก็จะเป็นพี่อ๊อฟส่วนข้างผมเป็นปอ
“โหวๆ เดี๋ยวนี้มีซื้อข้าวให้กันแล้วเหรอวะ เออๆมึงดูทีกูฝากซื้อนะยากเย็นเหลือเกิน ดูมันทำยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว บลาๆๆ” พวกเพื่อนผม แซวผมกันสะโอ้โหแย่งกันแซวเลยนะ ผมได้แต่นั่งเขิน ส่วนพี่ไอซ์ก็ขำของแกไป
“มัวแต่นั่งมองหน้าไอซ์ข้าวในจานมันจะหมดเหรอน้องนท” ผมหันไปมองมันแล้วส่งสายตาอาฆาต อุตส่าแอบดูพี่ไอซ์กินข้าว
“เพ้อเจ้ออะไรพี่อ๊อฟ กินข้าวไปเลยพูดมาก!” ผมตอบพร้อมกับมองค้อนไอพี่อ๊อฟไปทีนึง พี่ไอซ์ก็มองผมแล้วยิ้มให้ โหละลายเลยอะ หล่อเว่อร์
“ขอโทษนะคะ!” ผมหันไปตามเสียง แล้วมองอย่างสงสัยเป็นรุนพี่ด้วยสวยอยู่นะ
“มีคนฝากของให้น้องอ่ะค่ะ” ยื่นของให้ผม เป็นกล่องขนมช็อคโกแลต
“ใครฝากมาให้อ่ะครับ”ผมถามพร้อมกับรับของและดูของที่เพิ่งได้รับมา
“เขาไม่ให้บอกค่ะ” หญิงสาวพูดจบ แล้วเดินไปเลย ปกติก็มีคนให้ของผมค่อนข้างเยอะนะ เพราะผมก็ฮอตใช่ย่อย อวยตัวเองหน่อยแล้วกัน
“เสน่แรงจริงๆวะเพื่อนกู”ไอมินพูดขึ้นมา พร้อมกับเอื้อมมือมาดึงของที่ผมได้มาไปดู
“เออ เผื่อแผ่บ้าง”ไอวิวก็อีกตัว มันเอาแต่จ้องมองกล่องขนมที่ผมเพิ่งได้มา
“ใครฝากให้มึงวะ”ไอนัทก็อีกคน
“เออนั่นดิ” ปอพูดพร้อมกับจ้องมาที่ผม
“จะไปรู้เหรอ! คนหน้าตาดีก็แบบนี้แหละมีแต่คนแอบชอบ” พูดแล้วทำหน้ากวนตีนปอ แล้วมองไปทางพี่ไอซ์
“น้องนทนี่ มีคนชอบเยอะแยะเลยนะครับ เพื่อนๆในห้องพี่ก็พูดถึงน้องบ่อยๆ” พี่ไอซ์พูดพร้อมกับอมยิ้ม ละลายเลยนะ
“แล้วพี่ไอซ์ไม่พูดถึงผมบ้างเลยเหรอ” ทำเสียงหวาน และทำหน้านอยๆ
ไอพี่อ๊อฟมันมองมาทางผม แล้วมันทำปากว่า “ตอแหล”  ผมเขม่งมันไปที มันก็หัวเราะ
“ไม่นะ พี่ไม่รู้จะพูดถึงทำไม” พี่ไอซ์ตอบกลับ...เอิ่ม! ทำหน้าไม่ถูกเลยสิทีนี้ แล้วดูพวกเพื่อนผมกับพี่อ๊อฟทำหน้าแบบสมน้ำหน้าผมกัน “ก็ในเมื่อพี่มาหาน้องนทบ่อยๆ จะพูดถึงทำไมละ 5555 ดูทำหน้าเข้าสิ อย่านอยๆ” พูดจบ แล้วพี่ไอซ์เอามือมาลูบหัวผม>< ผมหันไปทางพวกเพื่อนและพี่อ๊อฟ ยิ้มให้พวกมันแบบผู้ชนะ ผมก็นั่งยิ้มเหมือนคนบ้าเลยสิทีนี้ 
หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จพวกเราก็ขึ้นห้องเรียนเพื่อนเรียนต่อคาบบ่าย จนถึงเวลาเลิกวันนี้เพื่อนๆชวนไปเดินห้าง แต่คราวนี้พี่อ๊อฟกับพี่ไอซ์ไม่ตามมานะ ก็ไม่มีอะไรมาก เข้าร้านนู่นดูร้านนี่ หากินนู่นนี่นั่นไปทั่ว ยังมีการแกล้งกันด้วยนะ วิ่งไล่กันกลางห้าง ทำตัวอย่างกับเด็กอนุบาล
ตุ้บ! ได้เรื่องจนได้ ผมดันวิ่งไปชนใครก็ไม่รู้ ล้มหน้าคว่ำเลยทีเดียว พื้นในห้างมันลื่นด้วยแหละ
“ไงเจ็บมากไหม” เสียงคุ้นๆ ไอเบส!!เพื่อนผมก็มาช่วยพยุงผมขึ้น
“เห้ย! นท เป็นยังไงบ้างวะ” ปอพูดพร้อมกับปัดกางเกงให้ผม เพราะมีฝุ่นติดอยู่
“จุกดิวะ” ผมตอบพร้อมกับเอามือลูบท้อง   
“ซุ่มซ่ามตลอด” ไอนัทไม่เป็นห่วงกันเลยสินะ
“ไม่ดูอะไรเลยมึงเนี่ย”ไอวิวก็อีกคน
“เอ่อแล้ว....” ไอมินชี้ไปที่ไอเบส ทุกคนก็หันไปมองมัน มันมากับผู้หญิง น่ารักเชียวสงสัยแฟนมัน
“เราขอโทษนะเราเดินไม่ดูเอง ขอโทษจริงๆ” ผมพูดดีๆ ไม่อยากมีปัญหา “ไปกันเถอะพวกมึง”
“เดี๋ยวสิ!” ไอเบสพูดพร้อมกับจับมือผม ผู้หญิงที่มากับมันทำหน้างงเล็กน้อย
“อะไร?” ผมถามพร้อมกับพยายามสบัดมือออกแต่มันไม่ยอมปล่อย
“เห้ย!ปล่อยดิวะ !” ปอพูดพร้อมกับผลักอกมัน แล้วคนอื่นกำลังจะมาช่วย
“เห้ยพวกมึงไม่เป็นอะไร กูคุยกับมันแปปเดียว” ผมพูดขึ้น เพราะไม่อยากให้เป็นเรื่อง ไอเบสหันไปบอกผู้หญิงที่มาด้วยว่ารอแปป แล้วก็ดึงมือผมออกมาห่างจากกลุ่มเพื่อนผม แต่เพื่อนผมก็ตามมาห่างๆมันคงเป็นห่วง “มีอะไรก็ว่ามาเรารีบ”
“พูดจาน่ารักนะ” มันพูดพร้อมกับเอามือมาลูบแก้มผม ผมหันหน้าหนี “หึ! กูแค่จะบอกว่าที่บอกเลิกกูวันนั้นอ่ะ กูไม่รับนะ และไม่ยอมเลิกด้วย!”พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ เป็นเชิงข่มขู่สินะ ผมก็มองมันนิ่งๆ
“ก็แล้วแต่เบสนะ เราบอกแล้ว เบสก็ควรเลิกยุ่งกับเราได้แล้วนะ มีแฟนแล้วนิ” ผมพูดจบ ก็หันไปทางผู้หญิงคนนั้น “เดี๋ยวเขาจะเขาใจผิดได้นะ”
“หึงเหรอนท ยังไงกูก็มีมึงคนเดียวนะ” ทำเสียงหล่อเชียว “นั่นเพื่อนน่ะหรือจะให้เขากลับไป แล้วเราก็ไปเดินด้วยกัน” เพ้อไปกันใหญ่แล้ว มันเอาความมั่นหน้ามาจากไหนเยอะแยะ
“เลิกเพ้อเจ้อได้แล้วนะ เราเลิกกันแล้ว แล้วเบสจะมากับใครเราก็ไม่สนหรือหึงอะไรทั้งนั้นแหละ เลิกหลงตัวเองสักที จะบอกให้อีกเรื่องนะ เรามีคนใหม่แล้ว ดีกว่าเบสทุกอย่าง เลิกยุ่งกับเราได้แล้ว” พอผมจบ เห็นหน้ามันแล้วบอกตรงว่ากลัว มันคงโกรธมาก เพราะสีหน้ามันบ่งบอกชัดเจน
“ถ้างั้น ก็อย่าหวังว่าจะได้คบกันอย่างสงบสุขนะ เพราะกูไม่ได้ (หมับ! บีบแขน) คนอื่นก็ไม่ได้เว้ย!”
พลั่ก! ตุ้บ! มันผลักผมล้มลงไปกับพื้น เพื่อนผมก็วิ่งมากันทันที
“พวกมึง ไม่ต้องไปยุ่งกับมันหรอก ก็แค่เด็กมีปัญหาไม่รู้จักโตนะ” ผมหันไปยิ้มตัวร้ายให้กับมันให้มันรู้ว่าผมก็ไม่ได้กลัวมันนะ “ไปกันเถอะ!”
หลังจากนั้นพวกมันก็หันไปชี้หน้าไอเบสแบบอาฆาตกันเลยทีเดียว แล้วก็หันมาด่าผมอย่างขัดข้องใจ ประมานว่ามันทำกับมึงถึงขนาดนี้มึงยังยอมอีกเหรอวะ อย่างนู้น อย่างนี้ บลาๆๆๆๆ คือเอาจริงๆจะมีเรื่องก็ได้ แต่ผมไม่อยากให้เพื่อนไปมีเรื่องเพราะผมไง เดี๋ยวจะเดือดร้อนกันหมด แล้วไม่รู้ว่าไอเบสมันจะทำอะไรอีก ผมได้แต่ปลง เพราะหลงผิดไปคบกับมันเอง
พวกเราก็พากันเดินอีกสักพักก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ผมกลับบ้านมาก็เย็นแล้ว ประมาณ5โมงเย็น ผมก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เป็นเสื้อกล้ามกางเกงวิ่ง ว่าจะออกกำลังกายบ้าง รู้สึกน้ำหนักจะขึ้น เปลี่ยนผ้าเรียบร้อยแล้วก็หยิบผ้าใบคู่ใจขึ้นมาใส่ เตรียมน้ำ แล้วก็วิ่งออกจากบ้านไปเลย ว่าจะไปฟิสเนสในหมู่บ้าน แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าพี่อ๊อฟอยู่ซอยถัดไปนี่เองโทรชวนดีกว่า ผมก็กดโทรหาพี่เขาเลย คือรับเร็วมาก ไม่ถึงตื้ด
“ว่า?”A
“อยู่บ้านเปล่าว่างไหม ทำอะไรอยู่” N
“อยู่บ้าน ว่างมากกก นอนฟังเพลงอยู่” A
“ออกมายืนรอหน้าบ้านเลยเดี๋ยววิ่งไปหา ตึ๊ด!”  N
พอวางสายผมก็วิ่งไปซอยข้างๆเลย ผมก็วิ่งไปสักพักก็เห็นพี่อ๊อฟนั่งรออยู่ตรงฟุตบาทหน้าบ้าน
“แฮ่กๆๆๆ! นะ เหนื่อย เฮ้อ! กว่าจะถึง” นานๆทีได้วิ่งก็เหนื่อยนะเนี่ย เหงื่อท่วมเชียวอย่างกับอาบน้ำเลย ผมก็ยืนหอบสักพัก หันไปมองพี่อ๊อฟ มองผมตาค้างอยู่ “มะ...มองอะไร” ผมเบี่ยงตัวเล็กน้อย เหมือนจะถูกคุกคามด้วยสายตา
“ปะ..เปล่าวันนี้ร้อนเนอะ” มันทำท่าแปลกๆ หูแดงเชียว “แต่งตัวแบบนี้จะไปไหนน่ะ กางเกงแบบนี้ไม่ต้องใส่ก็ได้มั้ง” คือกางเกงวิ่ง ค่อนข้างจะสั้นมาก แถมยังแหวกข้างๆขึ้นไปอีก ก็เห็นกกน.ได้เลย
“เอาน่า! ไปออกกำลังกายเป็นเพื่อนหน่อยน้าๆๆๆๆๆๆ”อ้อนสุดๆ
“ไปส่งเฉยๆได้หรือเปล่า ขึ้เกียจอ่ะ” มันพูดพร้อมกับทำหน้าเซ็ง ....เอิ่ม!
“โถ่! อะไรอ่ะ  ก็ได้” เอาจริงๆแค่หาเพื่อนไป ไปคนเดียวเบื่อคนชอบมอง คิดไปเองหรือเปล่าไม่รู้แต่รู้สึกแบบนั้นจริงๆนะ “งั้นถือน้ำให้ด้วยนะ อะ”  พูดจบแล้วก็ยื่นขวดน้ำที่เตรียมมาให้มัน
“อะไรวะ! กูไม่ได้เป็นคนใช้นะเว้ย!” บ่นแต่ก็รับไป พร้อมกับทำหน้าเซ็ง
“เอาน่าเดินมาเหอะ” แล้วผมก็เดินนำมันมาเลย
ผมก็พาพี่อ๊อฟมาฟิตเนสในหมู่บ้าน ผมก็เล่นนู่นี่ของผมไป พี่อ๊อฟก็นั่งใส่หูฟัง ฟังเพลงในมือถือมันไป ผ่านไปสักครึ่งชั่วโมงก็ไม่ไหวแล้ว หอบเหมือนหมาเลย
“ไงไม่ไหวแล้วเหรอ” ส่งน้ำกะผ้าเช็ดหน้าให้ผม
“อืมเหนื่อยเกินไม่ไหวละ เอ๊ะ! จะว่าไปผ้าเช็ดหน้าผืนที่แล้วผมยังไม่ได้คืนพี่เลยอะ” ตอนที่มันเอาประคบน้ำแข็งให้ผมที่เซ็นทรัลX “ซักไว้ให้แล้วละ”
“เออเอามาคืนด้วย แล้วผืนนี้เอาไปซักให้กูด้วยละ เดี๋ยวผ้ากูขึ้นราหมด” นั่นปากมันเหรอ
“ไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง !” เกลียดปากมันจริงๆ
“แขนมึงไปโดนอะไรมาวะ เป็นรอยแดงเลย” รอยที่ไอเบสมันบีบ ก่อนผมกลับบ้าน
“ไปเจอโจทย์เก่ามา คนที่พี่เห็นวันที่ไปซื้อสี..” ผมพูดพร้อมกับดูที่รอยช้ำ มันก็บีบสะช้ำเลย หรือผิวผมบอบบางเกินไปนะ
“อีกแล้วเหรอวะ ทำไมไม่สู้มันบ้าง!” ผมเงยหน้าหลังจากมันพูดจบ มันจะหงุดหงิดอะไรของมัน 
“แหม! พูดอะไรดูขนาดตัวมันด้วย อีกอย่างผมก็ยอมมันแบบนี้แหละ เดี๋ยวมันเบื่อก็คงเลิกยุ่งเอง” พูดอย่างไม่ใส่ใจแล้วยกน้ำดื่มต่อ
“อืม ไหวหรือเปล่าวะเจอกันทีไรได้แผลทุกที ไอไอซ์มันคงไม่ชอบคนมีรอยเยอะหรอกมั้ง” พูดแบบจริงจัง ผมก็มองมันนิ่งๆ
“เออพูดถึงพี่ไอซ์ วันนี้เขาทำให้ผมคิดไปไกลเลยละ” ทำท่าเขินอาย พี่อ๊อฟดูท่าจะรำคาญกับจริตที่มากเกินไปของผมนะ
“อะไรวะ! แค่ให้มึงซื้อข้าวให้กับยิ้มให้มึง มึงก็มโนไปไกลแล้วเหรอวะ ถ้ากูวาดรูปให้มึง มึงไม่คิดว่ากูอยากได้มึงเป็นเมียเลยเหรอ!” ถ้าจะพูดขนาดนี้ ก็เอามีดมาแทงกันเลยเถอะ ปากร้ายชะมัด
“เออขอคิดไปเองบ้างเหอะ! ก็ดูดิ ยังไม่ถึงไหนเลย พี่เขาก็พูดน้อยเหลือกเกิ๊น!”
“มันเป็นแบบนี้แหละ! มึงไปชวนมันคุยเยอะๆสิ เดี๋ยวก็สนิทกันเอง” A
“เออ!จริงสิ พี่ยังไม่มีแฟนเหรอ” หลังจากคิดแต่เรื่องพี่ไอซ์ ผมก็ต้องสนใจพี่มันบ้าง เดี๋ยวหาว่าเอาแต่ประโยชน์ส่วนตน
“ยังอ่ะ ทำไมวะ” ผมหันไปมองหน้ามันทันที และก็เขยิบเข้าไปใกล้ๆ จับหน้ามันพลิกไปมา
“หูว! เอาจริงๆพี่ก็หล่อนะ ยิ่งเวลายิ้มนี่น่ารักมากเลยละ!” ผมยิ้มหวานให้มัน “แต่ติดตรงที่ชอบทำหน้านิ่งเกินไป ยิ้มบ่อยๆสิ ผมชอบนะเวลาพี่ยิ้ม” ดึงแก้มมัน
“พอเลย” หันหน้าหนีจากการถูกบีบแก้ม “กูหล่อของกูอยู่แล้ว อีกอย่างกูไม่ใช่มึงนะ ที่ชอบโปรยเสน่ไปทั่ว กูอยู่ของกูนิ่งๆดีอยู่แล้ว”ทำมาดเข้มเลยนะ ยอมรับเลย พี่อ๊อฟนี่ ถ้าไม่มีพี่ไอซ์ แล้วมันทำตัวโดดเด่นสักนิด ผมว่า ผมก็คงจะปลื้มมันมากแน่ๆ
“แหม! แล้วแต่เลยจ้า” หมั่นไส้มันจริงๆ “เออเรื่องที่เราคุยกันเมื่อเช้าอ่ะยังไม่จบเลยนะ” ผมพูดขึ้นมาทันทีเมื่อนึกขึ้นได้
“เออกลับกันได้แล้วมั้ง เดินไปคุยไปก็ได้” เราก็เดินออกมาจากฟิสเนส
“ทำยังไงให้พี่ไอซ์ชอบดี” ผมถามพร้อมกับมองไปทางมัน
“ไม่รู้วะกูไม่ได้เป็นมันนี่” ตอบหน้าตาย มองไปทางเดิน
“อ่าวๆ ! ไหนว่าจะช่วย” ผมท้วงขึ้นมา มันหันมามองผม
“กูก็ช่วยได้เท่าที่ช่วยหรือเปล่า อีกอย่างมันไม่ได้มีรสนิยมจะชอบผู้ชายเหมือนมึงด้วย แล้วมึงก็ไม่ค่อยจะชอบเข้าหามัน” มันพูดด้วยสายตาที่จริงจัง ผมชะงักไปนิด
“ก็อายอะ ! เอายังไงดีอ่า” ผมรู้สึกนอยนิดนึง ก็จริงอย่างพี่มันว่า มัวแต่อาย ทั้งๆที่ไม่มีอะไรจะให้อายแล้ว
“ก็แล้วแต่นะ กูบอกให้เข้าหามันมากๆ กูก็พยายามพามันมาหามึง มึงก็มัวแต่เล่นตัว เคยได้ยินไหม ด้านได้อายอด” มันยิ้มขึ้นมา ผมก็คิดตาม
“เออมันก็จริงอ่ะ เฮ้อ!” ผมหันหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า เพื่อสูดอากาศสดชื่อ
“ไหนหันมานี่ดิ้” หันไปหามัน แล้วมันก็ยื่นหน้ามาใกล้ๆ สำรวจใบหน้าผม “เอาจริงๆมึงก็ดูหล่อนะ แต่น่ารักมากกว่า หน้าก็หวาน  มั่นใจหน่อยดิ” พูดแล้วยิ้มกว้างออกมา พี่อ๊อฟนี่ น่ารักจริงๆเลย
-เขินสิครับ- “พูดจริงดิ”
“อะ เออ! ทำเขินไปได้ กลับได้แล้ว” A
“อืม แยกกันตรงนี้นะ พรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียน บาย!”
แล้วผมก็แยกกันตรงหน้าซอยบ้านพี่อ๊อฟ กลับถึงบ้านก็รีบไปอาบน้ำทำการบ้าน ลงไปกินข้าวกับป๊าแม่ เสร็จก็ขึ้นมาเล่นคอมฯ มีแจ้งเตือนในเฟส อ้าว! พี่อ๊อฟมาแอดเฟสมาด้วย รับสักหน่อยแล้วกัน รับเสร็จก็เข้าไปส่องนู่นนี่ของมันไป จะว่าไปพี่อ๊อฟนี่ก็ใช้ได้เลยนะ! เป็นคนที่น่าหลงใหลคนนึงเลย.....
แต่ก็นึกขึ้นได้เราก็หาเฟสพี่ไอซ์จากเฟสพี่อ๊อฟ พอเจอก็ส่งคำขอเป็นเพื่อนไปเลย.... แล้วผมก็ปิดคอมกำลังจะเข้านอน
ครืดๆๆๆๆๆ! ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู อ้าว! ปอ
“ว่าไง โทรมาตอนกูกำลังจะนอนพอดีเลยนะ” พูดด้วยน้ำเสียงปกติ ก็ยังไม่นอนดีหรอก พูดไปแบบนั้นแหละให้เพื่อนรู้สึกผิด
“นอนเร็วจังวะ! กูจะโทรมาถามเรื่องพี่ไอซ์” ผมเริ่มสนใจขึ้นมาแล้วสิ
“ทำไมวะ?”
“ช่วงนี้มึงแปลกๆนะ บอกชอบพี่ไอซ์แต่ไปกกตัวอยู่กับแต่พี่อ๊อฟคืออะไรวะ” ทำไมถามแบบนี้
“……ก็ไม่ได้อะไรนี่หว่า! กูก็แค่ปรึกษาพี่เขาเรื่องพี่ไอซ์แหละ”
“เหรอวะ  กูคงคิดมากไปเอง” อะไรของมัน
“อะไรวะ”ผมเริ่มรำคาญมันพูดอะไรกำกวมอีกแล้ว
“เปล่า...กูแค่เห็น...เวลามึงคุยกับพี่อ๊อฟหรือตอนที่มึงอยู่กับพี่อ๊อฟกูว่ามึงดูมีความสุข ดูสบายๆ ดูแบบเป็นตัวของตัวเองดี ต่างจากตอนอยู่กับพี่ไอซ์ มึงดูกระวนกระวาย ดูรนๆไม่เป็นตัวของตัวเอง”  เอิ่ม!.........
“อ่าวก็กูชอบเขานิ กูเป็นแบบนั้นก็ไม่น่าแปลก ส่วนไอพี่อ๊อฟ ก็ไม่มีอะไรนี่หว่า คุยกับมันหรืออยู่กับมันก็เหมือนอยู่กับเพื่อนแหละ มึงคิดมากอะไรหรือเปล่า” ทำผมคิดมากตามไปเลยไอบ้านี่
“ปะ...เปล่ากูคิดว่ามึงแค่สับสนหรือเปล่าอะไรแบบนี้ แต่ถ้ามันไม่ใช่ก็คงไม่มีอะไรมั้งกูคงคิดมากไปเองแหละ แต่ที่กูถามเพราะเป็นห่วงนะเว้ย! มึงมีอะไรก็ชอบทำคนเดียวไม่ค่อยปรึกษาเพื่อนอ่ะ” ปอพูดด้วยความเป็นห่วง ก็เข้าใจได้ 
“เออกูเข้าใจ ก็กูกับมึงสนิทกันที่สุด ขอบใจแล้วกันที่คอยเป็นห่วงกู เอ้อ!แล้วไอโต้เป็นยังไงบ้างวะ ดูเงียบๆไปเลย” ไอโต้เป็นแฟนปอ หน้ามันตี๋ๆ ก็หล่อดี เรียนเทคนิคคบกันมาปีกว่าแล้ว ผมละอิจฉามันจริงๆ
“ก็ยังรักกันดี แต่มันไม่ค่อยไปหากูที่โรงเรียนหรอก ส่วนมากมันจะมาเล่นที่บ้านมากกว่า” ขิงใส่สินะ กูยังโสดนี่ แต่อีกไม่นานหรอก
“ร้ายมากอ่ะ พาผู้ชายเข้าบ้าน กูอิจฉามากบอกเลย” อิจฉาจริง ผมทำไมไม่เจออะไรที่มันเป็นระยะยาวแบบปอบ้าง บ้าชะมัด
“55555 เดี๋ยวมึงก็มีแล้วนี่ อดเอา” ช่างกล้าปลอบนะ จะแห้วหรือเปล่ายังไม่รู้
“กูว่าคงอีกนาน แม่งไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยวะ กูเริ่มเซ็ง!” น่าเหนื่อยใจ คิดเรื่องผู้ชายเยอะกว่าเรื่องเรียนเนี่ย5555
“มีอะไรให้กูช่วยก็บอกได้ตลอดนะมึง กูอยู่ข้างๆมึงในทุกเรื่องนะ” ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเลย รู้สึกโชคดีจังที่ได้เพื่อนดี
“ก็แน่อยู่แล้วละ ไม่งั้นกูจะมีเพื่อนไว้ทำไมวะ” ผมพูดด้วยความรู้สึกดี
“ก็แหม! กูเห็นวิ่งแต่ไปให้พี่อ๊อฟช่วย ตอนแรกเห็นจะตีกัน แล้วมาสนิทอะไรกันขนาดนั้น”
“ก็อย่างที่เคยเล่าแหละ” ผมเล่าให้พวกมันฟังหลังจากบอกเลิกเบส “แล้วพี่เขาก็เสนอว่าจะช่วยเรื่องพี่ไอซ์ด้วยแหละ ก็เลยได้สนิทกัน” พูดอย่างไม่ใส่ใจ
“เสนอจะช่วยเลยเหรอวะ มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ” P
“ก็มันมีข้อแลกเปลี่ยนไง ให้กูไปช่วยมันทำงานและต้องตามใจมันเป็นเวลา 1 เดือน ของฟรีไม่มีในโลกหรอก”
“มึงไว้ใจได้แน่เหรอวะ?” น้ำเสียงดูจะกังวลเป็นพิเศษ
“ทำไมวะ มึงว่าพี่อ๊อฟไม่น่าไว้ใจ?” N
“เปล่าๆกูแค่เห็นสายตาเวลาที่มันมองมึงน่ะสิ มันดูแปลกๆ หรือตอนที่มึงกับพี่ไอซ์คุยกัน สายตามันก็ดูแข็งๆเหมือนกำลังโกรธอะไรสักย่าง” ?
“มึงคิดมากไปเปล่า คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง” ผมก็คิดตามสิ่งที่ปอพูด แต่ไม่ได้สังเกต ก็เลยไม่เห็น
“เออกูคงคิดมากไปแหละคงไม่มีอะไรหรอก” ปอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเนือยๆ
“เออมึงถ้าช่วงนี้กูไม่ค่อยได้ไปหาช่วงเช้าอย่าว่ากันนะ กูมีภาระกิจ 5555” พูดติดตลก
“เออเพื่อนเขาก็เข้าใจ ว่ามึงอ่ะ บ้าผู้ชาย ไม่ต้องซีเรียสหรอก555” เอิ่ม!
“เกินไปเปล่าวะ กูไม่ได้บ้า กูแค่ต้องการ!!” ก็มีอาการคันกันบ้างเนอะ ตามประสาวัยรุ่น 5555
“เออ กูรู้ งั้นไว้ค่อยคุยกันต่อพรุ่งนี้นะ ไอโต้โทรมาอ่ะ ฝันดีนะมึง” P
“เออๆตึ๊ด!”
ผมก็นอนคิดเรื่องที่ปอมันพูด แต่บางทีผมก็รู้สึกได้ ว่าพี่อ๊อฟเป็นอย่างที่ปอพูด แต่คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง คิดไปคิดมาก็หลับ
หลายวันผ่านไปเป็รเดือน หรือสองเดือน โดยทุกอย่างก็ยังปกติ ไม่มีความคืบหน้าเรื่องพี่ไอซ์ แต่ก็ยังมากินข้าวด้วยกันเกือบทุกวัน ถ้าพวกพี่เขาไม่ติดเรียน ผมก็ไปนั่งดูพี่ไอซ์เล่นบอลทุกวัน ทำให้พี่มันเห็นบ่อยๆว่าเราก็อยู่ตรงนี้ตลอด ก็เห็นนะ ทักตลอด ก็มีคำพูดที่พูดชวนให้ฝันอยู่ตลอด เป็นแบบนี้เรื่อยมา......
และเช้าวันนี้ก็เป็นไปด้วยความปกติ ทำอะไรเรียบร้อยรอป๊าไปส่ง อยู่หน้าบ้าน......
‘ไปด้วยกันเปล่า’

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
“เต็มใจให้ไปเปล่าละ” ถามพร้อมกับทำหน้ากวนๆส่งให้มัน
“ไม่เต็มใจกูจะจอดถามมึงไหม” แหม่ ทำมาดเข้ม เสียงดุแต่เช้า
“เอองั้นแปปนะ” มันจะพูดดีๆกับผมหน่อยก็ได้ม้างง! แล้วผมก็เดินเข้าไปบอกป๊าว่าจะไปกับพี่อ๊อฟ แล้วก็เดินมาขึ้นรถมัน แล้วก็ออกรถ “ทำไมผ่านหน้าบ้านผมทุกเช้าเลยเหรอ?”
“มึงสติดีป่ะ! ซอยบ้านมึงเป็นซอยผ่านออกถนน อยู่มากี่ปีไม่รู้อะไรเลยเหรอ?” อ่าวงั้นเหรอ ผมเป็นคนไม่ชอบตระเวนแถวบ้านไง มากสุดก็ไปสนามเด็เล่นกับฟิสเนส ใครมันจะไปรู้ แต่คนอื่นๆน่าจะรู้ นอกจากผม
“อ่าวเหรอ เพิ่งรู้นะเนี่ย งั้นอย่างงี้ไปกลับให้พี่มาส่งได้เปล่า” เอาจริงๆก็ดี ไปกับป๊าชอบบ่น555 “ไปกับป๊า ป๊าชอบบ่น” พูดไม่จริงจังนัก
“แล้วแต่อ่ะแต่ขากลับไม่แน่นอนนะเว้ย! บางทีกูเข้าชมรมวาดรูปหรือ ไม่ก็ไปเล่นบอลกับไอซ์ ยังไงจะบอกมึงอีกทีแล้วกัน” ใจดีจัง ขากลับผมไม่ซีเรียสอยู่แล้วเพราะกลับเองได้
“ได้หมดแหละ! ไปมอไซค์บ้างเปลี่ยนบรรยากาศก็ดีแต่ทำไมวันนี้ดูอารมณ์ดีจังนะ” ผมถามมันด้วยความสงสัย
“เปล่า พอดีวันนี้มันไม่ร้อนเท่าไหร่ไง” เอิ่ม! แดดแสบตาร้อนขนาดนี้พูดมาได้.....
พอถึงโรงเรียนเราก็แยกย้ายกันไปเข้าแถวขึ้นเรียน จนพักเที่ยงก็เหมือนเดิม ไปกินข้าวกับเพื่อนๆ โดยมีพี่อ๊อฟและพี่ไอซ์มาเป็นแขกรับเชิญ ระหว่างนั่งกินข้าว.....
“พี่ไอซ์ชอบกินข้าวผัดเหรอ” ผมมองจานตรงหน้า พร้อมกับเอ่ยถาม ตั้งแต่ร่วมโต๊ะกันมาพี่แกไม่เคยจะเปลี่ยนเมนูเลย
“อื้ม! ชอบมากเลยละ ยิ่งมีไข่ดาวไม่สุกยิ่งฟิน!” พูดไปยิ้มไป น่ารักเกินไปแล้ว ดีต่อใจอีกแล้ว ไอต้าวว....
“นะ...น่าอร่อยเนอะ” ยิ้มกลับไปให้พี่ไอซ์ แก้เขิน อยู่ๆ พี่ไอซ์ก็ตักข้าวผัดในจานเขาแล้วยื่นมาตรงหน้าผม ><””
“ชิมดิ!” คือจะป้อนเราเหรอเนี่ย โอย! อย่างกับฝันแหนะ
“ดะ...เดี๋ยวผมกินเองดีกว่านะครับ” ยื่นมือไปจับช้อนของพี่ไอซ์ มือไม่รักดีสั่นอยู่นั่นแหละ แต่...
“ไม่ต้องหรอกอ้าปากเร็วเดี๋ยวป้อน” ให้ตายสิพี่ไอซ์ทำอย่างนี้กับคนใกล้ตัวทุกคนหรือเปล่านะแล้วผมก็อ้าปากรับ โห!อร่อยอ่ะได้กินช้อนเดียวกับพี่ไอซ์ด้วย >< นี่สินะ จูบทางอ้อม ฟิน
“ขอบใจพี่..อะ...อร่อยดีอ่ะ” เขินสิ ทำไมพี่ไอซ์ทำแบบนี้นะ ><
“อะแฮ่มๆ!” พวกเพื่อนๆร้องออกมา เออจริงด้วย คือลืมไปเลยว่าเพื่อนก็อยู่ ดันวาดฝันกลางวัน คิดว่าอยู่กับพี่ไอซ์แค่ 2 คน ตายแล้วจะขี้มโนอะไรขนาดนี้ ><
“แหมๆ เขินอะไรขนาดนั้นครับ น้องนท” พี่อ๊อฟพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ดูจะหมั่นไส้ผม
“ปะ...เปล่า ก็แค่ชิมข้าวของพี่ไอซ์เอง ไม่ต้องมาทำหน้าทำตากันเลยนะ กินๆกันเข้าไปเลยจะได้รีบไปเรียนไง” ผมหันไปมองพี่ไอซ์ นี่ก็ยิ้มอย่างเดียว เป็นเอามาก
พอกินกันเสร็จก็แยกย้ายกันแต่ก่อนจะแยกย้ายผมก็ลากพี่อ๊อฟมาคุยเป็นการส่วนตัว โดยบอกกับเพื่อนๆและพี่ไอซ์ว่าจะให้ไปส่งเอาของที่รถ ...
“พี่ทำไมพี่ไอซ์ทำแบบนั้นอ่า รู้ไหมเนี่ย ตื่นเต้นมากเลยนะ !” ผมถามด้วยความตื่นเต้น
“มึงจะตื่นเต้นทำไมวะ ไอไอซ์มันก็ทำแบบนั้นกับหลายๆคน กูก็เคยโดน โดยเฉพาะเวลาที่มันอยากให้คนอื่นชอบข้าวผัดของโปรดมัน” อ่าว! สะงั้น อุตส่าคิดไปไกล แต่ก็น่ารักอยู่ดี
“อ่าวเหรอ เฮ้อ! ไม่ได้เรื่องเลยอ่ะพี่ ดูดิไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย” ทำหน้าเซ็ง แต่เดี๋ยวนะข้าวผัดงั้นหรอ..... “ถ้าพี่เขาชอบข้าวผัด งั้นถ้าผมทำให้พี่เขา เขาจะชอบผมไหม”
“ไม่รู้นะ มึงลองสิ แต่ต้องทำให้ถูกใจมันด้วยนะเว้ย !” A
“เอ่อคือ......ประเด็นก็คือว่า ผมทำอาหารไม่เป็นเลยนี่สิ” ยิ้มอ่อนส่งไปให้พี่อ๊อฟ
“ห๊า! แล้วมึงคิดทำไมวะ งั้นก็เลิกเพ้อเลย ไปกูจะไปเรียนแล้ว” แล้วมันก็เดินไปเลย  เฮ้อ!เอายังไงละทีนี้
หลังจากเรียนคาบบ่ายที่แสนจะน่าเบื่อเสร็จแล้ว เลิกเรียนผมก็แยกย้ายกับเพื่อนๆ ส่วนพี่อ๊อฟผมโทรถามแล้วมันบอกว่าเข้าชมรม ให้ผมมานั่งรอที่พี่ไอซ์เล่นบอล คิดไปคิดมาไปซื้อน้ำมารอพี่ไอซ์ดีกว่า.........
สักพักพี่ไอซ์เล่นบอลเสร็จ ก็เดินมาตรงแถวแสตนที่ผมนั่งแล้วเพื่อนมันก็เปิดกระติกเอาน้ำขึ้นมากินกัน แต่พี่เขาก็หันมายิ้มโบกมือทักทายผมอยู่นะ ผมก็เซ็งเลยสิ อุตส่าซื้อน้ำมารอให้ เฮ้อ !แต่ก็ยังดีแหละอย่างน้อยก็ยังทักนะ
“เซ็งขนาดนั้นเลยเหรอวะ” เสียงพี่อ๊อฟดังมากจากข้างหลัง
“ก็ดูสิ นี่ตั้งใจซื้อน้ำมาให้พี่ไอซ์เลยนะเนี่ย ไม่เห็นสนใจเราเลย เฮ้อ!” พูดด้วยความนอย
“งั้นกูกินเอง” หยิบขวดน้ำจากมือผมไปกินเลยจ้า “เอาจริงๆกูเป็นไอซ์กูก็ไม่กินนะ เล่นบอลเสร็จอากาศก็ร้อน แต่น้ำไม่เย็น” มันมองขวดน้ำ พร้อมกับมองมาทางผม
“แล้วจะกินทำไมละ พูดมากจริง!” ผมเลยรู้สึกไม่พอใจมันเลย แทงใจดำชะมัด
“ก็กูไม่ใช่ไอซ์ไง”…….
“เอิ่ม...”(รู้สึกแปลกๆ) “เอ้อ! แปลกจังเพื่อนพี่เขาก็เยอะนะ แต่ทำไมพี่ลากพี่ไอซ์มาหาผมได้บ่อยๆละ”หลีกหนีจากสถานการณ์น่าอึดอัดด้วยการเปลี่ยนเรื่อง
“ก็กูสนิทกับมันไง เออจะกลับกันยัง แล้วเรื่องที่มึงจะต้องช่วยงานกูเริ่มได้แล้วนะกูมีงานแล้ว” พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
“โหยเร็วจัง” (ทำเสียงขี้เกียจ) “งานอะไรอ่า” ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรเลย
“เดี๋ยวก็รู้ กูจะไปส่งมึงบ้านมึงเอาของไปเก็บแล้วก็เปลี่ยนชุดไปบ้านกูเลยนะ” พูดเหมือนออกคำสั่งเลยสินะ มีพันธะสัญญาอยู่ผมคงปฏิเสธไม่ได้ ToT
“พาผู้ชายเข้าบ้านแม่ไม่ว่าเหรอ” ไหนๆก็ไหนๆ เลยหยอกมันเล่น
“ได้ข่าวว่ามึงไม่ใช่ผู้ชาย” เอิ่ม... “ไปกันได้แล้ว” เดินอมยิ้มนำผมไปแล้ว อะไรของมัน “ไอซ์กูกลับก่อนนะ” มันหันไปตะโกนบอกพี่ไอซ์ แล้วก็เดินไป
พี่อ๊อฟมาส่งผมที่บ้านก่อน ผมก็ลงแล้วก็ชวนมันเข้ามาในบ้านเพราะผมน่าจะช้า ไม่อยากให้มันยืนรอนาน.......
“เข้ามาก่อนดิ ผมว่าจะอาบน้ำด้วย” บอกมันพร้อมกับเปิดประตูให้มันเอารถเข้ามาในรั้วบ้าน
“พาผู้ชายเข้าบ้านแม่ไม่ว่าเหรอจ้ะ” ดูทำหน้าทำตา แล้วมาย้อนด้วย “ไม่ต้องอาบหรอก! เพราะว่างานกูน่ะ” มันเอามือจับคางผม แล้วยื่นหน้ามาใกล้ๆ “ต้องได้อาบน้ำอีกหลายรอบเลยทีเดียว” (!!!!!)
“งะ....งานอะไรไอบ้า อย่ามาทะลึ่งนะ” เดินถอยหลังหนีมัน
“ทำสวนไง มึงคิดอะไร กูว่าคนที่ทะลึ่งน่ะมึงแล้วล่ะ” พูดพร้อมทำหน้ากวนประสาท 
“ไอบ้า!” รีบวิ่งเข้าบ้านเลยสิ อายจริงๆ
ผมขึ้นมาถอดเสื้อผ้าจะเปลี่ยนเป็นชุดใส่เล่น …
แกร๊ก! พี่อ๊อฟเดินเข้ามาในห้อง แล้วปิดประตู
“เห้ย!” ผมโป๊อยู่ มันเปิดประตูเข้ามาดื้อๆเลยเหรอ
“เห้ย!โทษทีๆ” แล้วมันก็หันหลังเข้าหาประตู
“อย่าเพิ่งหันมานะเว้ย! จะเข้ามาทำไมไม่เคาะประตูวะ!” อายนะเนี่ย
“พูดมากจัง เสร็จหรือยัง” มีการหันมาดู
“เอาจริงๆก็คือ ถ้าหันมาขนาดนั้นก็มานั่งมองเลยเหอะ” ผมประชดมัน 
“เสียสายตากูหมด !” ปากดีนักนะ “เสร็จยังรีบๆหน่อยดิ!” เร่งจริงๆ
“เออๆเสร็จแล้ว อะ” ผมยื่นผ้าเช็ดหน้า 2 ผืนคืนให้มันมันทำหน้าแปลกๆ “ซักแล้วไม่ต้องกลัวเชื้อราหรอก!” ผมพูดขึ้นระหว่างที่มันมองด้วยความงง
“เออป่ะ ชักช้าอยู่ได้” มันหยิบผ้าเช็ดหน้าจากมือผม แล้วเดินนำผมไป
ผมมาถึงบ้านมันมันก็ใช้ผมใหญ่เลย ยกนู้นขุดนี่ ถางหญ้า โอ้โห! กว่าจะเสร็จแทบตาย มันแกล้งผมชัดๆ นั่งสั่งเป็นคุณชายเลย มันหายเข้าไปในบ้านสักแปปแล้วมันก็ออกมา......
“อะ” ยื่นน้ำให้ผม “อ่าวดูทำหน้าเข้า ขี้ไม่ออกหรือยังไง”
“เหนื่อยนะเว้ย! ดูตัวเองสิเอาแต่สั่งก็พูดได้นิ!” ผมพูดอย่างไม่พอใจ มันเรื่องจริง นี่มันบังคับขู่เข็ญเด็กชัดๆ
“เอาน่า! ป่ะเข้าบ้านเหอะ กูจะให้มึงทำอะไรอีกอย่างนึง รับรองว่ามึงต้องชอบแน่ๆ” แล้วมันก็เดินนำเข้าไปในบ้านมัน
“อะไรอีกอ่ะเนี่ย” บ่นแต่ก็ตามเข้าไป มันพามาที่ห้องครัว
“กูจะสอนมึงทำข้าวผัดไง จะทำให้ไอซ์ไม่ใช่เหรอ!?”  ทำเสียงแข็งอีกแล้ว แต่ก็ดีนะ^^
“เห้ยจริงดิ!” ผมยกมือมันมาถูกับแก้มผม ทำไมมือพี่เขานุ่มจังน้า มือผมก็นุ่มน้า แต่หลงใหลคนมือนุ่มจัง555 “พี่อ๊อฟสุดหล่อใจดีจังเลย^^”
“พอเลยๆ” มันดึงมือออก มีการอมยิ้มด้วยนะ  “ไปล้างมือก่อนเลย แล้วใส่เสื้อกันเปื้อนด้วย” พูดแล้วก็หันกลับไปเตรียมของ
“เออก็ได้” เดินไปล้างมือ เสร็จแล้วคล้องผ้ากันเปื้อน “มัดให้หน่อย” หันหลังให้มัน
แล้วมันก็เริ่มสอน เอาจริงๆมันก็ดูง่ายดีนะ แต่สำหรับคนไม่เคยเข้าครัวอย่างผมแม้แต่การหั่นผักก็ยังมีปัญหา โดนพี่มันด่าหูชาเลย มีการแกล้งกันไปมาด้วย สนุกดี แต่กว่าจะเสร็จเล่นเอาครัวเละเลย มันยืนกำกับผมว่าใส่อะไรบ้างทำอะไรบ้าง แต่ก็ออกมาดูดีอยู่นะ........
“เห้ยยยย! เสร็จแล้วววววววว^^” หลังจากปิดเตาแกส ผมก็ร้องขึ้นมาด้วยความดีใจสุดๆ
“เอ่อ! มันจะกินได้หรือเปล่าวะ! แต่หน้าตาก็ออกมาดีอยู่นะ” ดูมัน เป็นคนสอนแท้ๆ ก็ทำตามที่มันบอกทุกอย่างนี่
“ชิมดิ อะ” ตักข้าวผัดแล้วยื่นไปตรงปากมัน “อ้าปากเลย เร็วๆ” มันก็อ้าปากรับ แต่หน้ามันนี่ฝืนสุดๆ “เป็นยังไงอะ”
“ก็ดีนะ ลองชิมเองดิ” พูดไปเคี้ยวข้าวไป
(ผมตักเข้าปาก เห้ย!ก็อร่อยนิ) “ก็โอเคนะ เห้ย!คือดีอ่ะ เอาใส่กล่องดีกว่าๆ ^^ ขอกล่องด้วย!” ผมพูดด้วยความดีใจ 
“ไข่ดาวละ มันชอบแบบไม่สุกนิ” พี่อ๊อฟท้วงขึ้นมา จริงด้วยสินะ 
“ทำดิๆ ทำยังไงละ” พูดจบแล้วมันก็สอนผม
“แต่ไข่ดาวมึงจะเอาไปเวฟเหมือนข้าวผัดไม่ได้นะเว้ย! ต้องตื่นมาทำ อืม.....งั้นเอาไว้ที่นี่แหละ เห็นมึงทำแล้วลำบากเหลือเกิน เดี๋ยวพรุ่งนี้กูทำแล้วเอาไปให้!” มันยืนล้างจานไปพูดไป ใจดีจัง!
“พี่อ๊อฟใจดีที่สุดเลย!” เอาหน้าไปถูหลังมัน “ขอบใจน้า^^”
“อะ...เออๆ ถอยออกไปได้แล้ว ร้อน!” คงร้อนจริงๆเหงื่อออกเยอะเชียว

ทำอะไรเสร็จมันก็มาส่งผมที่บ้าน วันนี้คือเหนื่อยมาก ทั้งทำสวน ทั้งทำข้าวผัดแทบตาย กลับถึงบ้านก็อาบน้ำแล้วสลบเลย เหนื่อยจริงๆ ตอนเช้าพี่อ๊อฟก็มารับ ผมบอกป๊าเรียบร้อยแล้วว่า ช่วงนี้จะไปกับพี่อ๊อฟ เล่าเรื่องพี่อ๊อฟให้ป๊ากับแม่ฟังด้วย เพราะเขาถามว่าเป็นใคร วันหลังชวนมากินช้าวสิ อะไรแบบนี้! แล้วก็ถึงโรงเรียน
“พี่อ๊อฟ เอาให้ตอนกลางวันมันจะไม่ร้อนเอานะ มันจะอร่อยเหรอ” ถามด้วยความกังวล เพราะปกติ พี่ไอซ์ไปสั่ง เขาก็ทำสด นี่ทำตั้งแต่เมื่อคืนแล้วด้วย
“ไปขอยืมไมโครเวฟที่มินิมาร์ทก็ได้แหละ!” พี่อ๊อฟกล่าวผมก็พยักหน้ารับ
“สีข้าวผัดมันเปลี่ยนไปหรือเปล่านิ” ผมถามขึ้นเพราะเมื่อวานเห็นข้าวสีอ่อนๆ แต่วันนี้มันเข้มขึ้น
“กะ....ก็เอามาเวฟตอนเช้าสีมันก็เข้มขึ้นดิ ไม่มีอะไรหรอก อย่าถามเยอะน่า!” มันตอบมาด้วยท่าทีมีพิรุธ ผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร
“เออๆ งั้นไปเรียนแล้วนะ” ผมก็พยักหน้าตอบ แล้วก็แยกย้ายกับมัน
คาบเช้าวันนี้ผมนั่งเรียนไปยิ้มไปอย่างกับคนบ้า จนเพื่อนๆผมแซวใหญ่ ผมก็เล่าให้พวกมันฟังว่าลงทุนฝึกทำข้าวผัดให้พี่ไอซ์เชียวนะ พวกมันนี่ตะลึงเลย เพราะแค่ต้มไข่ผมยังทำไม่เป็น 5555 มันรอดูกันใหญ่เลย พอเที่ยงผมก็รีบวิ่งไปมินิมาร์ทเอาข้าวไปเวฟ แล้วไปนั่งเตรียมข้าวรอพี่ไอซ์ สักพักเขาก็มา .........
“พี่ไอซ์ ผมทำข้าวผัดมาให้ ^^” ร่าเริงเข้าไว้ พวกเพื่อนผมคงเบื่อหน่ายกับท่าทีผมเต็มทีเลยไม่สนใจผมเลย พวกนี้นิ!
“จริงดิ! ไม่เห็นต้องทำมาให้เลย ลำบากแย่ แต่ก็ขอบใจนะ” ยิ้มแล้วก็กินข้าวผัดแต่ทำหน้าแปลกๆ “ทำไม....รสชาติมันเหมือนที่ไออ๊อฟทำเลยล่ะ?!” อะไรกัน ตกใจหมด ก็พี่อ๊อฟสอนนี่นะ
“ปะ..เป็นไปได้ยังไงละ ผมทำเองเลยนะ!” ผมท้วงขึ้นมา ก็ผมทำเอง แต่พี่อ๊อฟมันสอนไง
“กูเป็นคนสอนมันทำเองแหละ รสชาติก็คล้ายๆกัน กินๆไปเหอะ!” พี่อ๊อฟตอบ มันดูมีพิรุธแต่มันจะเหมือนกันขนาดนั้นเลยเหรอผมก็ไม่เคยกินข้าวผัดฝีมือพี่อ๊อฟเลยพูดไม่ได้ว่าเหมือนหรือไม่
“สอน?” หันมามองผม และหันไปมองทางพี่อ๊อฟด้วยท่าทีสงสัย
“พะ...พอดีผมอยากลองทำอาหารน่ะ เลยให้พี่อ๊อฟสอนให้ใช่ไหมๆ” หันไปบอกพี่อ๊อฟ ประมานว่ามึงอย่าพูดไรบ้าๆนะ
“เออ! กินไปเหอะมึง มันตั้งใจทำนะ!” พี่อ๊อฟหันไปตอบพี่ไอซ์ แล้วมันก็หันมามองผมด้วยสายตาที่ดูหงุดหงิด อะไรวะผมทำอะไรผิดอีก พี่ไอซ์ก็ได้แค่พยักหน้ารับรู้ เฮ้อ! แต่ละคน
แล้วก็กินกันไปโดยพี่ไอซ์ก็ขอบคุณยกใหญ่ชวนผมคุยเยอะมาก แต่แปลก ผมกลับไม่ดีใจเลยที่พี่ไอซ์ดูถามและพูดกับผมมากขึ้น ผมกับมองไปทางพี่อ๊อฟ มันโกรธอะไรเราหรือเปล่านะ แต่ทำไมเราต้องแคร์มันด้วยละ!?  จนเลิกเรียน ผมก็โทรไปนัดกับพี่อ๊อฟเพื่อที่จะกลับบ้าน มันก็ให้ผมไปนั่งรอที่พี่ไอซ์เล่นบอล ช่วงนี้พี่อ๊อฟใกล้แข่งวาดรูปแล้วเลยต้องไปฝึกหนักกว่าเดิม เมื่อผมมาถึงก็นั่งดูพี่ไอซ์เล่นบอลไปเรื่อยๆ สักพักก็เลิก แต่วันนี้เดินมาทางผม.....

ออฟไลน์ Oaokhodomo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เป็นนิยายที่นานมาก เราตามหานานมาก มาต่อเรื่อยๆนะครับ ติดตามอยู่

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เป็นนิยายที่นานมาก เราตามหานานมาก มาต่อเรื่อยๆนะครับ ติดตามอยู่

ขอบคุณมากๆค้าบ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
“ไง มารอไออ๊อฟทุกวันเลยนะ” พี่ไอซ์ถามเมื่อเดินมาถึงผม รอพี่นั่นแหละ ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย!
“ก็ผมกลับบ้านกับพี่อ๊อฟนี่ แต่ที่มานั่งเนี่ย ตั้งใจมาดูพี่ไอซ์ต่างหาก” ยิ้มแบบเขิน
“ทำปากหวานนะเรา เมื่อวานก็ซื้อน้ำมาให้ไออ๊อฟนี่ ทำไมพี่ไม่ได้บ้างล่ะ” ทำนอยๆ ตั้งแต่ได้กินข้าวผัดที่ผมเอามาให้ แลดูพี่ไอซ์จะพูดมากขึ้นจริงๆ แต่เพราะข้าวผัดเนี่ยนะ!
“ก็ตั้งใจเอามาให้พี่แหละ แต่พวกพี่เตรียมกันมาแล้วนิ” นอยกลับ “เลยให้พี่อ๊อฟแทน”……
“จริงอ่ะ!” ดีใจอะไรขนาดนั้น “ถามอะไรหน่อยดิ”
“อะไรอ่ะ?” ผมทำหน้าสงสัย
“น้องชอบพี่เหรอ?” เอาจริงๆควรจะรู้ได้ตั้งนานแล้ว ทำซะขนาดนี้ เจอกันก็บ่อย ให้ท่าไปตั้งเยอะ เพิ่งมารู้เหรอเนี่ย โถ่!
“เอ่อ..คือ”อึดอัดใจแต่ก็ต้องบอกแหละ โอกาสมาถึงแล้ว “ครับผมชอบพี่” (ด้านได้อายอด)
“ชอบพี่ แต่ทำไมมีอะไรก็ไปกับไออ๊อฟตลอดล่ะ ?”  ผมหลบตานิดหน่อย ทำไมทำหน้าและน้ำเสียงโหดจัง ไปไม่ถูกนะเนี่ย
“เอ่อ..คะคือ” เกร็งเลยอ่ะ “กะ...ก็พี่ไอซ์ดูไม่ค่อยอยากพูดอะไรกับผมมากมายนี่ แถมเวลาอยู่ด้วยก็ทำเหมือนไม่รับรู้อะไรเลย ทั้งๆที่ผมแสดงออกไปตั้งเยอะ กินข้าวด้วยกันก็นานแล้วนะ มานั่งดูพี่เล่นบอลทุกวันเลยด้วย....” ก้มหน้าพูด อายสุดๆ แล้วผมก็เงยหน้ามองพี่ไอซ์ ยิ้มทำไมวะ เมื่อกี้ยังโหดๆอยู่
“ก็แค่นั้นแหละ!” ห๊ะ! คืออะไรวะ ผมเหวอนิดหน่อย “ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกละ แต่พี่ก็ชอบน้องอยู่แล้วเหมือนกัน” ชะ..ชอบเรา>< “พี่ก็นึกว่าน้องแค่ปลื้มพี่ ที่น้องแสดงแบบนั้นออกมา เลยพยายามไม่สนใจน้องเท่าไหร่ แต่วันนี้ไออ๊อฟมันมาบอกพี่ว่าน้องชอบพี่” (พี่อ๊อฟ!?) “ตอนแรกก็ตกใจนะ ไม่คิดว่าน้องจะชอบพี่เหมือนกัน พี่ดีใจนะ ถ้าพี่ไม่ชอบ พี่ไม่ไปนั่งกินข้าวด้วยเกือบทุกวันหรอกนะ” เหมือนฝันเลย! รู้สึกตัวลอยๆ
“ผะ....ผม...ไม่คิดว่าพี่จะคิดแบบนี้เลยนะครับ พี่ชอบผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย อีกอย่างบางทีผมก็คิดไปไกล เพราะทุกการกระทำของพี่ ทั้งลูบหัวพูดจาน่ารักป้อนข้าว และคำพูดหลายๆอย่างทำให้ผมคิดไปเองอยู่ตั้งนาน ไม่นึกว่า....” (>< ลิ้นพันกันหมดแล้ว) “และผมก็ดีใจสุดๆเลยที่พี่คิดแบบเดียวกัน” น้ำตาซึมเลย คงเข้าใจอารมณ์นะ ประมานว่าเราเห็นของอย่างนึงที่คิดว่าไม่มีวันได้มัน แต่วันนี้มันมาเป็นของเราแล้วพี่ไอซ์ก็เอามือมาลูบน้ำตาผมออก
“พี่ก็ทำเท่าที่พี่ทำได้ไง อย่าซึ้งดิ!” ผมนี่ยิ้มไม่หุบเลย ตื่นเต้นมาก ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ “อีกอย่างเรารู้หรือยังไงว่าพี่ชอบหรือไม่ชอบผู้ชาย” ห๊ะ?! แล้วมันยังไงละ  “อย่าคิดเอาเองสิ พี่ชอบเราตั้งแต่ไออ๊อฟมันพาไปกินข้าวด้วยแล้ว จริงๆก่อนหน้านั่นอีกนะ เพื่อนๆในห้องพี่ ชอบพูดถึงน้อง เลยลองดูรูป ก็ไม่ผิดกับตัวจริงเลย  ยิ้มของน้องเนี่ยทำคนหลงได้เลยนะรู้ตัวหรือเปล่าแล้วคนอะไรเขินจนไข้ขึ้น 55555” 
“ระ....รู้ได้ยังไงอ่ะ” อายเลยสิ
“ก็ไออ๊อฟมันเล่าให้ฟัง! เวลาเราเขินน่ารักนะเนี่ย” น้ำเสียงพี่ไอซ์ โอย ตอนนี้อยากละลาย
“บ้าอ่ะ!” เขินสุดๆ “เอ้อ!แล้วที่พี่บอกว่า ‘รู้หรือไงว่าพี่ชอบหรือไม่ชอบผู้ชาย’ หมายความว่ายังไง ผมเห็นพี่ควงผู้หญิงแต่ละคนนี่สวยๆทั้งนั้นเลยนะ” ทำหน้านอย เหมือนเราไม่คู่ควรเลย
“พี่ไม่สนใจหรอกเพศไหน แค่คิดว่าใช่ เพศไม่สำคัญหรอก” ดูพี่มันเขินดิ น่ารักมากเลย  “แล้วตกลง เราจะเป็นแฟนกันได้ยัง” !!!!!ขะ...ขอเรา เอามือมาจับมือเราแล้วย่อเข่า เห้ย!นี่มันบนแสตนข้างสนามกีฬานะเว้ย! ><อายจริง ผมมองซ้ายขวา คนเริ่มหันมาสนใจกันใหญ่แล้ว “น้องเป็นแฟนกับพี่นะครับ”
“พะ...พี่ไอซ์ คนมองเต็มไปหมดแล้ว! พี่ไม่อายเหรอ” ผมพยายามดึงมือออก แต่.....
พี่ไอซ์ทำหน้านอยสุด “น้องนทอายที่จะคบกับพี่เหรอครับ” ทำหน้าน่าสงสารสุดแต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือและไม่ยอมลุกขึ้น ผมอยากจะบอกว่าถ้าพี่ไม่ขอผมก็จะขออยู่แล้ว แต่สถานที่ตรงนี้โจ่งแจ้งเกิน
“ไม่ได้อายนะ!” ผมท้วงขึ้นมาเสียงดัง “ผมกลัวพี่จะอายไง ที่มาคบกับคนแบบผม” ตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังมากนัก
“นทจะเป็นแบบไหนพี่ก็ชอบ ชอบในแบบที่นทเป็นนะ เป็นแฟนกับพี่นะ!” พี่ไอซ์ ฆ่าผมตรงนี้ได้เลย ผมยอมแล้ว
“ครับ” โอ๊ย ไข้จะขึ้นไหมเนี่ย ทั้งเขินทั้งอาย คนมองเต็มไปหมด
“ตกลงว่ายังไง  พูดให้ชัดเจนเลย!” ทำหน้าหล่อด้วย โอ้ย! เขินนะเนี่ย
“ก็ตกลง เป็นแฟนกันไงครับ!” (>,<)
“หู้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ !!” “ว๊ายๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงร้องแซวเต็มไปหมดเลย โดยเฉพาะเพื่อนๆพี่มัน ผมนี่อายสุดๆเลย แล้วพี่อ๊อฟก็เดินมา.......
“ไงสมหวังสักทีสินะ!” คือพูดแบบเรียบๆ ติดจะเฉยชามากกว่า มันเป็นอะไรของมัน
“อ๊อฟขอบใจมากนะเว้ย!” จับมือผม แล้วพี่อ๊อฟก็มอง...
“เออๆ แล้ววันนี้จะกลับพร้อมกูไหม” (หันมามองผม) “หรือจะให้ แฟน ไปส่ง” เน้นคำว่าแฟน พี่อ๊อฟเป็นอะไรเนี่ยต้อง เคลียล์กันสักหน่อยแล้ว
“ผะ...ผมว่าวันนี้พี่ไอซ์เหนื่อยมากแล้ว” ก็เล่นทุกวัน แต่อ้างไปก่อน อยากเคลียกับพี่อ๊อฟ “วันนี้ผมกลับกับพี่อ๊อฟก็ได้ครับ”
“แต่พี่อยากไปส่งเรานะ” พี่ไอซ์พูดขึ้น สักพักเพื่อนๆในกลุ่มมันมาเรียกเหมือนประมาว่าอาจารย์ให้ไปลงชื่อแข่งขันฟุตบอล “เอ่องั้นอ๊อฟฝากนทด้วยแล้วกัน  เดี๋ยวพี่โทรหานะ” แล้วก็วิ่งไปเลย ผมนี่ได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลย……
“จะยิ้มอีกนานไหม! จะกลับหรือไม่กลับ” โหดจังวะ!
“กลับจ้าๆ อย่าโหดดิ้!” หันไปยิ้มให้มันแต่ มันส่งหน้ายักษ์มาให้ผม “เป็นอะไรอ่า ตั้งแต่กลางวันแล้วนะ ผมทำอะไรผิดเหรอ” ทำหน้าสำนึกผิด
“เปล่านี่ แค่อากาศมันร้อน!” พี่อ๊อฟมันกระแทกเสียงใส่ผม ผมตกใจเล็กน้อย
“พี่อ๊อฟเป็นอะไรเนี่ย!” มันเดินไม่รอผมเลย! อุตส่าได้เป็นกับพี่ไอซ์แล้วทำไมมันไม่ยินดีกับผมเลยละ ทั้งๆที่ตัวเองเป็นพ่อสื่อแท้ๆ ดันมาอารมณ์เสียใส่อีก
มันก็พาผมมาส่งที่บ้าน ผมกำลังจะอ้าปากพูด มันบิดรถไปไม่รอผมเลย เป็นอะไรของเขานะ รู้สึกไม่สบายใจเลย ผมก็เลยเข้าบ้านเปลี่ยนชุดแล้วก็ขี่รถจักรยานไปบ้านพี่อ๊อฟ ผมกดกริ่งอยู่สักพักก็มี ผู้ชายคนนึงเดินออกมา หน้าตาคล้ายพี่อ๊อฟ แต่น่าจะเป็นพี่?หล่ออยู่นะ แต่ก็พอๆกับพี่อ๊อฟแหละ
“เอ่อคือ...พี่อ๊อฟอยู่ไหมครับ” ถามด้วยความสุภาพ
“เอ๊ะ! น้องนท? ใช่ป่ะ มาๆ เข้าบ้านก่อน อ๊อฟมันนอนอยู่บนห้อง!” ผู้ชายหน้าตาคล้ายพี่อ๊อฟเอ่ยขึ้นมา ผมก็เดินตามเสียงเรียกเข้าไปก่อน
“รู้จักผมด้วยเหรอครับ?” ทำหน้าสงสัย
“เอาน่า เราคบกับอ๊อฟเหรอ ?” ถามด้วยใบหน้าที่ดูเป็นมิตร เราเคยรู้จักกันหรือยังไง พี่คนนี้
“ห๊ะ ! มะ...ไม่ใช่ครับพี่ แค่พี่น้องครับ” ทำไมต้องรู้สึกเขินด้วนะเรา
“อ่อเหรอ...เอ้อ...ลืมแนะนำตัว พี่ชื่ออิฐนะ เป็นพี่ชายอ๊อฟ ทำตัวตามสบายละ มันอยู่ข้างบน ขึ้นไปหามันสิ”
“ครับ ผมว่าถ้าพี่เขานอนอยู่ ผมไม่รบกวนดีกว่า ไว้พรุ่งนี้ก็เจอครับ” ตอบกลับด้วยความเกรงใจ
“ขึ้นไปเถอะน่า ไปๆเดี๋ยวขึ้นไปส่ง” หลังจากพูดแล้ว พี่อิฐก็ดึงแขนพาผมขึ้นมาบนบ้าน แถมเปิดประตูห้องให้พร้อม พี่อ๊อฟไม่ได้ล๊อคห้อง
ในห้องนอนพี่อ๊อฟนี่ดูน่ารักเลยนะเนี่ย ตุ๊กตาหมีอย่างงี้ โห!ผ้าห่มลายจะแอ๊บแบ๊วไปไหน แต่ประเด็นคือคนเข้ามาถึงในห้องแล้วไม่ตื่นเลยเหรอ? พอดูอีกทีมันใส่หูฟังนอน เปิดเพลงดังขนาดนั้นหลับลงไปได้ยังไง? ผมส่ายหัวกับภาพที่เห็น แล้วก็เดินไปดึงหูฟังออก จะได้หลับสบายขึ้น หลังจากนั้นผมก็เดินไปตรงโต๊ะเขียนหนังสือ เอ๊ะ! ทำไมมีรูปเราเต็มไปหมดเลยละ?
ผมกะลังจะหยิบภาวาดที่อยู่ใต้รูปภาพผมขึ้นมาดู .........
“เห้ย! เข้ามาได้ยังไงวะ” พูดพร้อมกับวิ่งมาพลักผมออกจากบริเวณโต๊ะ แล้วดึงแผ่นรูปวาดไป
“พะ... พอดีผมมาหาพี่ตอนแรกว่าจะกลับเห็นพี่อิฐบอกว่าพี่นอนอยู่ แต่พี่อิฐก็บอกให้ขึ้นมาหาก็เลย....” อย่าทำหน้าโหดสิ กลัวนะ
“ก็เลยรื้อของ ของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต งั้นเหรอวะ!” ตะหวาดผม จนสะดุ้งเลย
“พะ...พี่ใจเย็นดิ” ผมจับมือมันแล้วลูบ “ผมแค่ดูเอง อีกอย่างเห็นมีแต่รูปผม ก็เลยอยากดูเท่านั้นเอง อย่าโกรธน้า” ยิ้มให้มัน
“แต่กูไม่อยากให้ใครเห็น” ดึงมือออกจากมือผมอย่างแรง “โดยเฉพาะ ‘คนอื่น’ อย่างมึง ถึงจะเป็นรูปมึงก็เถอะ” คนอื่นงั้นเหรอ ทำไมได้ยินคำนี้แล้วมันจี๊ดอย่างนี้ รู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้
“ผมคิดว่าเรา...สนิทกันพอนะ แต่ทำไมพี่ต้องให้ผมเป็นแค่คนอื่นด้วยเนี่ย”น้อยใจนะ แต่ก็พูดแบบฝืนๆ “ถะ...ถ้าพี่ไม่พอใจ ผมก็ขอโทษด้วยนะ” น้ำตาเริ่มไหล ไม่ชอบเลยจริงๆเวลาพี่อ๊อฟทำสายตาเย็นชาขนาดนั้น แต่ก็ยังสงสัยนะ พี่อ๊อฟเก็บรูปผมไว้ทำไม
ผมก็วิ่งออกจากบ้านพี่อ๊อฟ พี่อิฐที่เห็นกำลังจะทักก็ตกใจ แล้วผมก็ขี่จักรยานตรงกลับบ้านทันที ไม่รู้ว่าทำไมต้องแคร์ทุกคำพูดของพี่อ๊อฟก็ไม่รู้ แต่เราไม่ยอมหรอก ยังไงพี่อ๊อฟอาจจะโกรธเพราะเราไปรบกวนการนอนก็ได้....
กลับมาบ้านผมก็ช่วยแม่ทำกับข้าว ผมก็ทำข้าวผัด มีแม่คอยช่วยอยู่ข้างๆผมทำสองกล่อง กล่องของพี่ไอซ์ กล่องนึงของพี่อ๊อฟเอาไว้ง้อพี่อ๊อฟมัน และก็นั่งกินข้าวกับป๊าแม่ เสร็จก็ขึ้นไปอาบน้ำ เล่นคอมเข้าเฟส.....
พี่ไอซ์รับเฟสเราตั้งนานแล้วนี่! แจ้งเตือนอะไรไม่รู้ เยอะแยะไปหมด โอ้โห!!!!!!
ทั้งรูปทั้งคลิป ตอนที่พี่ไอซ์ขอผมเป็นแฟน มาเต็มเลย แถมเพื่อนๆเฟสมาถามกันตรึม ผมเลยรีบหันไปดูโทรศัพท์ โอ้โห! 50กว่าสาย เบอร์เพื่อนๆในกลุ่มทั้งนั้นผมไม่โทรกลับหรอกยังไงพรุ่งนี้พวกมันก็สอบสวนผมอยู่ดี แต่ในนั้นก็ยังมีเบอร์แปลกด้วย ผมเลยโทรกลับเผื่อเป็นพี่ไอซ์ รับเร็วมาก........
“นททำไมไม่รับสายพี่ครับ !” พี่ไอซ์ จริงๆด้วยเสียงดุเชียว
"พอดีผมเพิ่งตื่นนะครับ อีกอย่างปิดเสียงโทรสับด้วย ขอโทษทีนะคร้าบบบ” ทำเสียงอ้อนๆ “แล้วพี่ไปเอาเบอร์ผมมาจากไหนครับ” ถามขึ้นด้วยความสงสัย เปลี่ยนเรื่องนั่นแหละ
“เอามาจากไออ๊อฟไงไม่ต้องมาทำเสียงอ้อนเลย พี่งอนเราหนักมากนะ!”  ทำเสียงเข้มเชียว ผมเผยยิ้มออกมานิดหน่อย
“พี่ไอซ์อย่างอนน้า นทยอมแล้ว พี่ไอซ์อยากได้อะไรนทให้หมดเลยน้า” อ้อนสุดๆ แต่ก็หุบยิ้มไม่ได้เลยจริงๆนะ
“แหมพี่งอนเราไม่ลงหรอกน่า” ทำเสียงหวานเชียว “แล้วนี่ไม่ได้เข้าไปดูคำขอของพี่ในเฟสเหรอ” ผมก็ลองกดดูเพราะนั่งอยู่หน้าคอม 
“ก็ผมขอเป็นเพื่อนพี่ แล้วพี่ก็รับแล้ว...”ผมก็เลื่อนหาเพิ่ม เพราะการแจ้งเตือนมันเยอะจนตาลายไปหมดแล้ว
“ลองไปดูใหม่เลย  ตรงที่มันแจ้งเตือนอ่ะนะ” พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูจะลุ้นว่าผมจะหาเจอไหมนะ
แล้วผมก็เข้าไปดูใหม่ แจ้งเตือนมันเยอะมาก แต่เห็นพี่ไอซ์ส่ง.....สถานะกำลังคบกันมาให้!
“พะ...พี่ไอซ์ เอางี้เลยเหรอครับ แค่รูปกับคลิปก็เต็มเฟสแล้วน้า” เขินสุดๆ 
“แล้วเราจะไม่กดรับเหรอ” น้ำเสียงน้อยใจสุดๆ “งั้นพี่กดยกเลิกกก็ได้นะ”
“รับสิครับๆ ผมแค่ตื่นเต้นเท่านั้นเอง><”
แล้วผมก็กดยอมรับคำขอไป เม้นกระจายไลค์กระหึ่ม มีแต่คนทักแชทผมมาถาม ผมก็คุยกับพี่ไอซ์ไปด้วยตอบไปด้วย พี่ไอซ์ก็หยอดผมจนไปไม่ถูกเลยผมเขินบิดไปมาจนเก้าอี้ที่ผมนั่งแทบหัก คุยกันนานอยู่ กว่าจะวาง พอวางสายจากพี่ไอซ์ ผมก็ไล่ดูเฟสไปเรื่อยๆ นึกขึ้นได้เข้าไปดูในเฟสพี่อ๊อฟ ขึ้นรูปเหมือนคนอกหัก ไปแอบรักใครหรือเปล่านะ!
เอาจริงๆผมก็มีใจให้พี่อ๊อฟนะ แต่บางที่พี่อ๊อฟก็ทำเหมือนจะคิดเหมือนผมนะ บางทีเขาก็ดูเฉยชาจนผมเดาไม่ออก ว่าเขาคิดยังไง อีกอย่างพี่เขาก็ไม่น่าจะชอบผู้ชายด้วย อันนี้คิดเองนะ ผมเลยกดโทรศัพท์ต่อสายหาพี่อ๊อฟเลย สักพักพี่เขาก็รับ ........
“…….”(เงียบ)
“พะ....พี่อ๊อฟอยู่ปะเนี่ย?” โอ้ย! ไปไม่ถูกเลย ยังไม่หายโกรธอีก
“อืม” คงไม่อยากคุยสินะ
“พี่ยังไม่หายโกรธผมอีกเหรอ ผมขอโทษน้า ยกโทษให้ผมเถอะน้า......”
“อืม”
“เอ่อคือ........เป็นอะไรอ่า” อืมอย่างเดียวเลย เอายังไงละทีนี้
“ง่วง แค่นี้นะ ตึ้ด!”
มันวางสายไปเลย กล้าดียังไงเนี่ย! จากนั้นผมดูนาฬิกายังไม่ดึกมากเท่าไหร่ผมเก็บเส้อผ้าจัดตารางเรียน แล้วก็ลงไปข้างล่างก็เห็นป๊ากับแม่ดูทีวีอยู่ ผมเลยขอจะไปนอนบ้านพี่อ๊อฟ ตอนแรกป๊ากับแม่ก็กลัวผมไปรบกวนเขา แต่ผมโกหกไปว่าพี่อ๊อฟให้ไปหาพี่เขาจะให้ช่วยทำงานเดี๋ยวตอนเช้าจะกลับมาเอาข้าวกล่องไง ป๊ากับแม่เลยอนุญาต ผมก็เดินไปบ้านพี่อ๊อฟเลย พอถึงก็กดกริ่งหน้าบ้าน สักพักพี่อิฐก็ออกมา......
“อ่าว ทำไมมาเวลานี้ ไออ๊อฟมันนอนแล้วนะ แล้วเมื่อเย็นเป็นอะไรวิ่งออกไปแบบนั้น” พอพี่อิฐเห็นผม ก็ถามชุดใหญ่ทันที
“ไม่มีอะไรครับพี่ วันนี้พี่อ๊อฟให้ผมมาช่วยงานอ่ะครับ พี่เขาคงหลับรอ พี่ไปส่งผมบนห้องพี่อ๊อฟหน่อยนะครับ” สตออันดับ 1 หนีมานอนบ้านผู้ชายไม่มียางอายเลยเรา
“อะ...เออ ก็ได้ๆเข้ามาสิ” ทำหน้างงๆ ผมนี่ก็ใจกล้ามากนะ
พอเข้ามาในบ้าน ผมก็เจอกับพ่อแม่ของพี่อ๊อฟ ท่านทั้งสองน่ารักมาก แต่แปลกจังทำไมเขาพูดเหมือนรู้จักผมอยู่แล้วนะ หรือไม่พี่อ๊อฟก็คงเล่าเรื่องผมให้ฟังบ้างแหละ จากนั้นพี่อิฐก็มาส่งผมบนห้อง และก็เช่นเคยพี่อ๊อฟไม่ล๊อคประตู แต่ก็ดีแล้ว  เข้ามาก็เห็นพี่อ๊อฟนอนแล้ว แต่เหตุใดจึงยังไม่อาบน้ำละ?   ผมเลยจัดการถอดเสื้อพี่อ๊อฟออก กะจะเช็ดตัวให้มันยังอยู่ในชุดนักเรียนอยู่เลย พอแกะกระดุมเสร็จผมเงยหน้าขึ้นมาดู คือพี่อ๊อฟตื่นแล้ว!? มองผมอย่างสงสัย…..
“มึงทำอะไร?” งัวเงียแล้วก็ลุกขึ้นมา
“ก็จะเช็ดตัวให้ไง เห็นยังใส่ชุดนักเรียนอยู่ เดี๋ยวนอนไม่สบายตัว” พูดพร้อมกับยิ้ม แต่ดูเหมือนจะไม่สบอารมณ์มันสินะ
“นอนไม่สบายอะไรวะ! ตื่นเลยเนี่ย”หงุดหงิดเชียว โถ่เพราะเราอีกละ “เออแล้ว” มันมองนาฬิกา “มึงมาทำไมเวลานี้? บ้านไม่มีนอน?” ยังคงประชดประชัน ด้วยคำพูดที่ใจร้ายเหมือนเคยสินะ
“ก็พี่ตัดสายผมทำไมละ! แล้วก็เลิกพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาแบบนั้นกับผมได้แล้ว และวันนี้ผมก็จะนอนนี่เพราะพี่ทำผิดนะ!”ผมก็ล้มตัวนอนเลย
“มึงอย่ามาเนียน มึงผิดอยู่นะ มาโทษกูได้ยังไงวะ!” ผมก็หันหน้าไปมองมัน 
“ก็ผมผิดอะไรละ! ก็บอกมาสิ จะได้แก้ไขนี่ไง” ถามพร้อมจ้องหน้ามัน ด้วยสายตาที่จริงจัง
“.....ช่างมันเถอะ!” เหมือนมันจะพูดอะไรสักอย่าง แล้วก็ลุกจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำไป
ผมไม่รู้ว่าผมผิดอะไร แต่ผมต้องง้อมันให้ได้นะเนี่ย โอ้ย! ทำไมผมต้องแคร์มันด้วยเนี่ย ผมก็นอนคิดไปเรื่อยๆว่าจะทำยังไงดี สักพักพี่มันก็เดินออกมาจากห้องน้ำ พันผ้าเช็ดตัวออกมาผืนเดียว หุ่นนี่แบบกล้ามไม่เห็น แต่หุ่นแน่นๆแบบพวกนักว่ายน้ำ หุ่นดีซ่อนรูปเลยทีเดียว
“มองอะไร! อยากจับ?” (-////-) “หน้าแดงเชียวนะมึง ทำหื่นไปได้!”
“ไอบ้า! ใครหื่น ผมไม่ได้หื่นนะ” อายวะไม่น่าไปจ้องมันเลย
“มานอนบ้านผู้ชายอย่างนี้ แม่ไม่ว่าเหรอจ๊ะ” ดูมัน ยอกย้อนเก่งนะ
“พอเลยๆ! รีบไปแต่งตัวไป เดี๋ยวผมอดใจไม่ไหว ข่มขืนพี่มาจะยุ่ง!” ผมก็พูดไปงั้น เอาจริงก็อาจอดใจไม่ได้5555
มันเดินมาตรงหน้าผม แล้วก้มหน้าลงมา เอาหน้ามาใกล้ๆแล้วจับคางผม “งั้นก็ข่มขืนกูเลยสิ” มันกำลังจะดึงผ้าเช็ดตัวออก ผมนี่เอามือปิดตาเลย>< “แหมๆ ไม่กล้าก็อย่าพูด” มันใส่บ๊อกเซอร์ ตกใจหมด แล้วมันก็เอาผ้าไปเก็บแล้วก็เดินมานั่งที่เตียง
“พู่ว!”(โล่งอก(เอ๊ะ หรือเสียดาย!5555) นึกว่าจะได้เห็นสะแล้ว)”พูดเล่นแบบนี้ แสดงว่าหายโกรธแล้วใช่ไหม” ผมหันไปมองหน้ามัน
“นี่มึงไม่รู้อะไรเลยจริงๆเหรอวะ?” พี่อ๊อฟพูดพร้อมกับทำหน้านอยๆ
“ก็ผมไม่รู้นี่นา งั้นถ้าพี่ไม่อยากบอกไม่เป็นอะไร อยากให้ผมทำอะไรให้พี่หายโกรธบอกมาเลยน้าๆๆ ยอมทุกอย่างแล้ว” ผมเลื่อนตัวเข้าไปใกล้มันแล้วเอาหัวไปถูกับต้นแขนมันเหมือนแมว
“ทุกอย่างจริงดิ” พี่อ๊อฟถามขึ้นมา ผมเด้งตัวมองหน้ามัน
“จริงๆน้า ยอมทุกอย่างเลย ผมไม่ชอบเลยอ่า เวลาที่พี่อ๊อฟทำเหมือนผมเป็นคนอื่นอ่ะ แล้วก็ไม่คุยกับผมอ่ะมันรู้สึกไม่ดีเลย” พูดจบ ผมก็ยิ้มหวานให้มัน
“งั้นช่วยกูหน่อยดิ!” พี่มันจบ มันมองที่ส่วนล่างมัน
“บ้า!” แต่ก็ไม่ถอยหลังหนีนะ จ้องเลย จ้องสู้5555
“อะไรวะกูจะให้นวดขาให้หน่อยคิดอะไรวะ!”มันตอบพร้อมกับทำหน้าหงุดหงิด เอิ่ม.... ผิดคาดจริงๆ5555
“นะ...นวดขา ก็ได้ๆ ทำไมไม่ไปใส่เสื้อดีๆล่ะ” แล้วผมก็ไปนั่งแถวๆขาพี่อ๊อฟแล้วก็เริ่มนวด
“กูชอบนอนถอดเสื้ออยู่แล้ว มึงรับไม่ได้ก็กลับบ้านไป” ดูมัน คนมาง้อ ไล่อยู่ได้  “หรืออยากไปนอนกับแฟนมึงไหมกูจะได้โทรบอกให้” ประชดทำไมวะ
“นี่ผมมาง้อพี่เลยนะ มาไล่กันแบบนี้ได้ยังไงละ” นอยจัง “หรือพี่ไม่อยากให้ผมอยู่ ผมจะได้กลับ!” ผมกำลังจะลุกขึ้น พี่อ๊อฟก็จับแขนผมไว้
“กูพูดเล่นๆ! อย่าโกรธดิ มานวดต่อเลย มึงยังมีความผิดอยู่นะ” อมยิ้ม มีความสุขเชียวที่ได้แกล้งผม
“ผิดอะไรก็ไม่บอกละ!” แล้วผมก็นวดให้มันไป สักพักมันก็หลับไปผมก็จัดที่จัดทางแล้วก็นอน
นอนไปสักพักใหญ่ๆ ผมก็รู้สึกสยิวๆที่ลำคอ แล้วเหมือนมีอะไรหนักๆมาทับบริเวณหน้าอกกับท้อง ผมค่อยลืมตาขึ้นมาดู เอิ่ม!...มันนอนเอาแขนกับขามาพาดตัวผม แล้วหน้ามันซุกอยู่ที่ลำคอผม โอย...อึดอัดชิบ แต่ไม่อยากปลุกมันเดี๋ยวมันโกรธอีก ผมก็หลับไปทั้งอย่างนั้นแหละ..........
พอเช้าพี่มันตื่นก่อนผม ก็อาบน้ำเตรียมตัวไปโรงเรียน และไปแวะบ้านผมก่อนเพื่อเอาข้าวที่เตรียมไว้ไปให้พี่ไอซ์ด้วยป๊ากับแม่ยังไม่ลงมาเลย สงสัยวันนี้ผมตื่นเช้าเกิน......
“ทำเองได้แล้วเหรอวะ แล้วทำอะไรตั้ง 2 กล่อง?”
“ของพี่กล่องนึง ของพี่ไอซ์กล่องนึง พี่จะได้รู้ไงว่าผมฉลาด สอนครั้งเดียวก็ทำได้เลย” คุยโวยกใหญ่ เอาจริงๆแม่ก็กำกับอยู่ข้างๆแหละ 5555
“กินได้แน่นะมึง” ดูมันทำหน้า เหมือนจะได้กินของที่มีพิษแบบนั้นสิ
“ไว้กินก่อนเหอะ ติดใจขึ้นมาไม่ทำให้กินแล้วนะโว้ย!” พูดจบ ผมก็เดินนำพี่อ๊อฟ ออกมานอกบ้านแต่.....
“อ้าวพี่กำลังจะโทรหาเลย” พี่ไอซ์มา พี่อ๊อฟออกบ้านมาพอดี “อ้าวอ๊อฟ มาอยู่นี่ได้ยังไงวะ?” ทำหน้าสงสัย
“ไม่เห็นพี่ไอซ์บอกว่าจะมารับผมเลยนะเนี่ย” ยิ้ม
“กูก็มารับส่งมันปกติอ่ะ มึงก็รู้บ้านกูอยู่แค่นี้เอง” หันไปคุยกับพี่ไอซ์ “งั้นมึงก็ไปกับแฟนมึงแล้วกันกูไปแล้วนะ” หันมาบอกผมด้วยสีหน้าที่แปลกๆแล้วเดินไปขึ้นรถแล้วออกรถไปเลย
“งั้นเราไปกันเลยไหมครับพี่ไอซ์” รู้สึกแปลกๆจัง ทำไมเราไม่ดีใจเลยที่พี่ไอซ์มารับ
“ป่ะ ขึ้นมาสิ” ผมก็เดินไปขึ้นรถมอไซค์พี่ไอซ์ แล้วพี่ไอซ์ ก็เอื้อมมาจับมือผมไปกอดเอวพี่เขา...... “กอดแน่นๆนะ” แล้วก็ออกรถทันที
นั่งรถไปพี่ไอซ์ก็ชวนผมคุยนู่นนี่ ถามนั้นถามนี่ไปเรื่อย แต่ไม่รู้ทำไม คิดถึงสีหน้าพี่อ๊อฟตอนเดินออกจากบ้านผมนะ
แล้วก็ถึงโรงเรียน ผมก็เอาข้าวผัดให้พี่ไอซ์ ดีใจมากเลยทีเดียว แล้วก็กินเลยด้วยนะ กะจะให้เอาไว้กินตอนเที่ยง.....
“คราวนี้ลองทำเองใช่เปล่า รสชาติต่างจากคราวแล้วเยอะเลย แต่อร่อยเลยนะเนี่ย” ยิ้มร่าเลย จะมีความสุขอะไรขนาดนั้นนะ
“ใช่แล้ว! ผมลองทำเองเลยนะเนี่ย แต่แม่ช่วยนิดหน่อย555 เนี่ยทำมาลองให้พี่อ๊อฟชิมด้วยนะ! ไม่รู้หายไปไหน” ผมก็หันไปหันมา
“เหรอทำไมต้องทำให้อ๊อฟชิมด้วยล่ะ” ทำหน้าหงุดหงิด “ทำให้แค่พี่ไม่ได้เหรอ” หึง?
“หึงเหรอพี่” ทำหน้าล้อมัน “5555 นั่นเพื่อนสนิทพี่นะ คิดอะไรอ่ะ” (-_-‘’’’)
“พี่ล้อเล่นน่า” (ยิ้ม) “เดี๋ยวพี่เอาข้าวไปให้มันเอง” แล้วผมก็ยื่นกล่องข้าวให้พี่ไอซ์ “ป่ะๆไปเข้าแถวกัน”
แล้วผมกับพี่ไอซ์ก็เดินไปเข้าแถวกัน มีแต่คนมอง เห้อ! พี่อ๊อฟไปไหนของเขานะ พอเข้าแถวเสร็จก็เดินขึ้นห้องไปพร้อมเพื่อน รัวคำถามใส่ผมแข่งกันจนตอบแทบไม่ทัน แต่ก็เล่าให้มันฟังหมดแหละ กว่าจะเข้าใจกัน ครูก็เข้าสอนพอดี เรียนคาบเช้าจนถึงเที่ยงปวดหัวมากมาย วิชาคณิตเป็นอะไรที่เกลียดแต่ต้องตั้งใจ เพราะครูดุมาก พวกผมกับเพื่อนก็เดินไปโรงอาหารกัน แน่นอนว่าพี่ไอซ์ก็มารอ แต่พี่อ๊อฟหายไปไหนล่ะ?....

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
“อ้าว วันนี้มารอเลยเหรอ!” ผมเอ่ยถามพี่ไอซ์ด้วยความดีใจ
“มารอแฟนไง” พูดจบ พวกเพื่อนแซวกันใหญ่เลย  “พี่ซื้อข้าวไว้ให้แล้วนะ” กระเพราหมูสับไข่ดาว ของโปรดเราหรือเนี่ย
“รู้ได้ยังไงเนี่ย ว่าผมชอบ” ยิ้มร่าเลย ดีใจมากๆเลย นึกว่าเราจะรู้แต่เรื่องของพี่เขาฝ่ายเดียว
“เรื่องแค่นี้เองไม่รู้ยังได้ไง ทีเรายังรู้เรื่องพี่ตั้งเยอะแหนะ” เอามือมาลูบหัวผม >//////< “เขินหรอ” ถ้าผมเป็นโรคหัวใจ พี่ไอซ์คงทำหัวใจผมวายวันละ 15 ล้านรอบ 
“บ้า ! ใครเขิน” บิดจนตัวเป็นเกลียวแล้ว
“อะแฮ่มๆๆ” พวกเพื่อนผม ช่วงนี้อะไรไปติดคอพวกมันเยอะแยะ อะแฮ่มทุกสถานการณ์ 
“ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นหัวเพื่อนเลยน้า” ไอวิว เปิดเลยเหรอมึง
“ปล่อยเขาเหอะ! ช่วงนี้กำลังหวาน” ไอนัทก็เอากับเขาด้วย
“นั่นดิๆ หวานเยิ้มเชียว” ไอมิน ทำท่าทางน่าเตะจริงๆ
“อย่าไปแซวมันน่าพวกมึง” ไอปอพูดขึ้น แต่หน้ามันนี่นะ 
เราก็กินขาวกันไป เพื่อนผมก็แซวนู่นนี่นั่นพี่ไอซ์ก็ได้แต่ยิ้ม พอเรียบร้อยเราก็เดินออกมานอกโรงอาหาร........
“พี่ไอซ์ พี่อ๊อฟไปไหนอ่ะ ปกติเห็นมาด้วยกัน” ผมถามขึ้นด้วยความสงสัย 
“มันไปนั่งอยู่ชมรมแหละ เอาข้าวที่นทให้ไปกินที่นั่น มันบอกต้องฝึก จะแข่งแล้ว” ตอบผม พร้อมกับส่งยิ้มมา 
“เหรอครับ” ผมพยักหน้ารับรู้
“เย็นนี้หลังพี่เลิกเล่นบอล ไปกินไอติมกันไหม?” ถามด้วยรอยิ้ม
“เดทแรกเหรอ” ยิ้ม แบบเขินๆ
“ก็ประมาณนั้นแหละ” หน้าแดงเลยนะ “งั้นเจอกันเย็นนี้นะ พี่ไปก่อนนะ” พี่ไอซ์ เอามือขยี้หัวผมแล้ววิ่งไป
ผมกับเพื่อนๆก็ขึ้นไปเรียน แต่คาบบ่ายของชั้นเรียนผมวันนี้ฟรี คุณครูประชุม เลยนั่งเม้ามอยกัน
“ในที่สุดมันก็ลงเอยเว้ย!”  ไอมินไม่เคยพลาดเลยจริงๆ
“มึงทำยังไงวะ เล่นของป่ะเนี่ย” ไอนัทพูดพร้อมกับ ค้นกระเป๋าผม
“เออมึงนี่เด็ดวะ เขาบอกมึงชอบและขอเป็นแฟนเองเลยนะเนี่ย” ไอวิวเอ่ยขึ้น
“เขาอาจจะชอบนทมันอยู่แล้วก็ได้นิ พวกมึงก็เลอะเทอะอะไรกัน” ปอพูดได้ดีนะ
“ยังไงก็เอาเถอะ แต่กูว่าก็งั้นๆแหละ” ผมเอ่ยขึ้น พวกมันมองผมแบบสงสัยกันใหญ่!
“อย่าบอกนะมึงได้เขาแล้ว!” ไอวิว คิดแต่เรื่องพวกนี้สินะ 
“จริงเหรอวะ!” ไอนัทก็เชื่อนะ ทั้งๆที่มันดูมีสมองสุดแล้ว
“เห้ย! ที่บอกเฉยๆนี่คือ ไม่ถึงใจหรือว่ายังไงครับ” ไอมินกับไอวิวกอดคอกันมาสินะ
“พวกมึงตลกอะไรของมึง ฟังมันก่อนดิ” ปอพูดขึ้นนี่สิเพื่อนที่ดี
“เออพวกมึงนี่ คิดไปทั่วกูเสียหายหมด!” หลังจากนั่งฟังพวกมันมโนแล้ว ผมก็พูดขึ้นมา ดูพวกมันทำหน้าเอือมระอาผมนะ ชิ! “ก็ยังไม่ได้กัน ที่พูดนะหมายความว่า คนหน้าตาดีอย่างกูก็คู่ควรกับคนหล่อๆแบบพี่ไอซ์ไง 5555555 เรื่องมันก็งั้นๆ ธรรมดาทั่วไป พวกมึงจะอะไรกัน”ผมก็คงจะบ้าไปแล้ว มายอตัวเองแบบนี้
“แหวะๆๆ ถุ้ยๆๆๆๆ” เอิ่ม! พวกเพื่อนผมเป็นเพื่อนที่ช่วงนี้อะไรก็ดูขัดคอพวกมันสินะ
“คืออะไรของพวกมึง แพ้ท้องหรือยังไง! ห้องน้ำอยู่มุมนั่นวิ่งไปเลย 55555” ผมไล่พวกมัน พร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ผมก็คุยกับเพื่อนๆ สักพักก็ลงไปหาอะไรกิน หาเล่นบาสกัน จนเลิกเรียนผมก็แยกกับเพื่อนๆ พวกมันรู้อยู่แล้วว่าผมจะไปเดท แซวผมไม่หยุด แล้วผมก็มารอพี่ไอซ์ เห็นพี่เขากำลังเล่นฟุตบอลอย่างมันเลย แต่วันนี้ผมไม่เห็นพี่อ๊อฟเลยนะเนี่ย หายไปไหนของเขา ผมโทรหาพี่อ๊อฟสักหน่อย สักพักก็รับสาย ........
“ไง”A
“อยู่ไหนเนี่ย”ผมเอ่ยถาม พร้อมกับมองซ้ายมองขวา 
“อยู่ชมรม ใกล้แข่งแล้ว ต้องมาซ้อม ยังไงไอซ์ก็ไปส่งมึงอยู่แล้วนิ” น้ำเสียงเรียบนิ่งเหมือนเดิมเลยนะคุณชายอ๊อฟ
“ผมไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นสักหน่อย แค่ไม่เห็นพี่เลยวันนี้ เลยโทรถามไง แล้วจะกลับกี่โมง มีงานให้ผมช่วยเปล่า” ผมถามด้วยความเป็นห่วง 
“คงกลับเย็นๆนู่แหละ วันนี้มึงไปเดทกับไอไอซ์นิ” 
“รู้ได้ยังไงอ่า><กะจะไปเล่าให้พี่อ๊อฟฟังตอนเย็นเลยนะเนี่ย”
“เอองั้นตอนเย็นค่อยคุยกันแล้วกัน ตึ๊ด!” อะไรว่ะ อยากวางก็วางงี้เหรอ ไอบ้า!
พอวางสายเสร็จผมก็เดินไปร้านน้ำซื้อน้ำมารอพี่ไอซ์ แล้วกลับมาที่แสตน สักพักพี่ไอซ์ก็วิ่งมาหาผม
“ไง รอนานเปล่า”  ผมยื่นน้ำให้พี่เขา หลังจากที่เขาถามเสร็จ
“ไม่นานหรอก นานกว่านี้ก็รอได้” พี่ไอซ์ยิ้มใหญ่เลย แล้วผมก็หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา ก้มหน้าหน่อยเร็วจะเช็ดให้
ผมก็เช็ดหน้าให้พี่ไอซ์ เหงื่อเต็มเลย จะทำท่าดีใจอะไรขนาดนั้นก็ไม่รู้ แล้วพี่ไอซ์ก็ไปเก็บของ แล้วก็พาผมไปที่เซ็นทรัล......
“กินอะไรดี” ยิ้ม พร้อมกับมองทางซ้ายขวา
“พี่ไอซ์อยากกินอะไรละ” ผมตอบคำถามด้วยคำถาม ก็งงว่าตอนแรกชวนมากินไอติม แล้วถามแบบนี้จะให้ตอบยังไง
“กินนทได้เปล่า” พูดแล้วจับมือผม พร้อมส่งยิ้มหล่อมาให้ผม
“บ้าน่า!....” เขินนะเนี่ย พี่ไอซ์ก็ยิ้ม “…..คนมองแล้วพี่ไอซ์” ผมเขินได้ไม่นานก็ต้องมาสะดุดตาคนในห้างที่มองด้วยสายตาไม่ค่อยเป็นมิตร เลยเอ่ยบอกพี่ไอซ์นิดหน่อย 
“นทอายเหรอ” นอยอีกแล้ว เข้าใจผิดไปกันใหญ่
“ไม่ๆ งั้นไปกันเหอะ” ผมก็เลยตัดบทแล้วเดินจูงมือพี่ไอซ์เดินไปแถวโซนของกิน “พี่ไอซ์อยากกินไอติมหรือเค้กอ่ะ”
“กินติมดีกว่า” แล้วก็ออกแรงมือผมเข้าซเวนเซ่นผมกับพี่ไอซ์ก็สั่งมากินด้วยกัน ชุดฟองดูว์
“พี่ไอซ์ชอบกินไอติมด้วยเหรอ” ถามด้วยความสงสัย เพราะปกติ นักบอลน่าจะควบคุมอาหารการกินหรือเปล่านะ ผมก็ไม่รู้
“ก็ชอบนะ แล้วนทชอบป่ะ!” ถามผมด้วยรอยยิ้ม พี่ไอซ์นี่ ดูเหมือนเด็กน้อยเลย หล่อน่ารัก...
“ก็ชอบนะ” ยิ้ม พี่ไอซ์ก็ชวนผมคุยถามนู่นนี่ผมไปเรื่อยๆ คุยไปสักพัก ไอติมก็มาเสริฟ   
“โหว!” ตาลุกวาวเลย ทำอย่างกับเด็กอนุบาล “น่ากินมากอะนท”
“พี่ไอซ์ จะดีใจอะไรขนาดนั้น แค่ไอติมนะ555” แล้วผมก็ลงมือกิน แต่พี่ไอซ์ไม่กิน.... “พี่ไอซ์ไม่กินเหรอ?”
“ป้อนพี่หน่อยดิ” พูดเสียงอ่อน ทำหน้าอ้อนๆ
“ก็ได้ๆ อ้า!” ผมก็ตักไอติมเข้าปากพี่ไอซ์ แล้วก็ทำท่าดีใจสะเว่อร์เชียว “ 555 อร่อยเปล่า” ผมถามด้วยรอยยิ้ม น่ารักมากเลยนะเนี่ยพี่ไอซ์ ผมรู้สึกโชคดีจัง 
“อร่อยอ่ะ! เอานี่ด้วย” พี่ไอซ์ตอบ พร้อมกับ ชี้ไปที่กีวี่
สรุปคือ พี่ไอซ์ให้ผมป้อนจนหมด ผมก็กินสลับกับป้อนพี่ไอซ์ ดูเหมือนโรแมนติกนะ กินเสร็จเราก็พากันเดินเล่น....
“ถ่ายรูปกันหน่อยดิ” พี่ไอซ์ยกมือถือขึ้นมา
“มาดิ” แล้วก็เอาหน้ามาติดกันแล้วพี่ไอซ์ก็กดถ่าย
“นทน่ารักอ่ะ!” พี่ไอซ์พูดด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับมองจอที่มีภาพของเราที่เพิ่งถ่ายไป ผมเขินเลยสิทีนี้
เราเดินเล่นกันสักพักก็พากันกลับ  แต่....
“พี่ไอซ์นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านผมนะ! จะพาผมไปไหน” ถามด้วยความตกใจ แต่จริงๆสำหรับพี่ไอซ์ จะลักพาตัวผมไปไหน ผมก็ไปหมดอยู่แล้วนะ ><
“ไปบ้านพี่ไง แปปเดียวเอง” พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน 
สักพักก็ถึงบ้านพี่ไอซ์ บ้านหลังใหญ่เลยทีเดียว บ่งบอกถึงฐานะที่มั่งคั่งของพี่เขาสินะ....
“บ้านน่าอยู่จังเลยนะครับพี่ไอซ์” พูดไปพลางกวาดสายตามองรอบๆไป แต่งสวนสวยมาก
“งั้นก็ย้ายมาอยู่นี่เลยสิ” พูดพร้อมกับยิ้มกว้างส่งมา   
“อย่าท้านะ! มาจริงๆแล้วจะหนาว 555” พี่ไอซ์เอามือขยี้หัวผม แล้วก็จับมือพาผมเข้าบ้าน
ภายนอกว่าสวยแล้ว ภายในบ้านสวยยิ่งกว่า คือแบบลักชัวรี่สุดๆ เหมือนตอนผมไปโรงแรม 5 ดาวเลย แต่งได้หรูหรามาก และข้างในแบ่งเป็นโซนมีหลายห้องเลยทีเดียว พี่ไอซ์พาผมมาห้องนั่งเล่น ซึ่งก็มีพ่อแม่ ของพี่ไอซ์นั่งดูทีวีอยู่พ่อพี่ไอซ์ยังดูหนุ่มอยู่เลยหล่อเหมือนพี่ไอซ์เลย แม่พี่ไอซ์ก็ยังคงสวยมากเลยทีเดียว ว่าแล้วพี่ไอซ์ได้ใครมา
“พ่อ แม่ สวัสดีครับ” พี่ไอซ์ยกมือไว้พ่อแม่ พร้อมกับเดินเข้าไปหาทั้ง 2 ท่าน
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไว้ตามมารยาท มีอาการเกร็งนิดๆ ผมไม่คิดว่าจะมาแนะนำตัวเร็วขนาดนี้ ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเลย อีกอย่าง คิดว่าพามา...เอ่อ..ไม่ได้คิดลามกนะ นึกว่าจะพามานอนจับมือต่างหาก
“สวัสดีจ๊ะ” ทั้งสองท่านทักทายกลับ โดยมองมาที่ผมด้วยความสนใจ ผมก็ทำได้แค่เพียงยิ้มอย่างเดียว
“พาใครมานะลูก” คุณพ่อถามพร้อมกับมองมาด้วยสายตาที่ดูสนใจอะไรในตัวผม 
“นั่นสิ ทำไมพาใครมาไม่โทรบอกแม่ก่อนจะได้เตรียมของว่าง” เสียงคุณแม่อ่อนหวานสุดๆ ที่นี่คือสวรรค์หรือเปล่า ข้างๆผมก็เทพบุตร นี่ก็พ่อแม่ของเทพบุตร นี่มันอะไรกัน อึดอัดจริงๆ
“ไม่เป็นอะไรครับผมพาน้องเขาไปกินไอติมมาแล้ว” พี่ไอซ์พูดจบ แล้วแม่พี่ไอซ์ก็พยักหน้าตอบรับ พร้อมกับเดินออกไปจากห้องนี้
“น้อง ?” พ่อพี่ไอซ์เอ่ยถามพร้อมทำหน้าสงสัย สักพักแม่พี่ไอซ์ก็เดินมาพร้อม แก้วน้ำ 2 ใบ
“นี่น้องนทครับ รุ่นน้องผมที่โรงเรียน” แนะนำผม พร้อมกับ ดึงให้ผมนั่งที่โซฟาตัวใหญ่แสนนุ่ม
“สวัสดีอีกครั้งครับ” ผมเอ่ยทักทายอีกครั้ง ทำตัวไม่ถูกเลย ยิ้มอย่างเดียวสิ
“จ้าๆ หน้าตาน่ารักมากเลยนะเนี่ย” คุณแม่ที่หลังจากเอาน้ำมายื่นให้แล้ว กลับไปนั่งที่ข้างคุณพ่อเอ่ยขึ้นมา ผมก็เขินสิ จะรออะไร ยิ่งบ้ายออยู่ 
“นั่นสิน่ารักจริงๆ เอ้อ!ทำไมรู้จักกันได้ล่ะ ไม่เห็นเคยพามาบ้านเลย” คุณพ่อถามด้วยความสนใจ
“เอาจริงๆเลยนะพ่อแม่ครับ นี่แฟนผมครับ!” เห้ย! บอกไปแบบนั้นได้ยังไง ผมก้มหน้าอย่างเดียวเลย ผมไม่คิดว่าผู้ใหญ่จะรับได้หรอก บางทีคบกันเฉยๆไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใหญ่รู้ก็ได้มั้ง
ทั้งสองท่านนั่งมองหน้ากัน แล้วทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ ได้ยินเสียงแอร์เลยทีเดียว
“โห! พ่อกับแม่อย่าเงียบดิครับ น้องเขากลัวแล้วเนี่ย!” พี่ไอซ์จับมือผม พร้อมกับส่งยิ้มมาให้ ก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาหน่อย
“55555” ผมได้ยินเสียงทั้งสองท่านหัวเราะ ก็เลยเงยหน้าขึ้นมามอง
“ตาถึงดีนิ! น่ารักดี!” คุณพ่อเอ่ยขึ้น ทำผมงงนิดหน่อย นี่ลูกสุดหล่อพาผู้ชายเข้าบ้านแล้วบอกเป็นแฟน ทำไมดีใจอะไรขนาดนั้น
“นั่นสิ แม่ว่าจะทักตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ แม่กับพ่อไม่ว่าอะไรหรอก” คุณแม่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ผมก็ยิ้มอ่อนรับ ยังตั้งตัวไม่ทัน อะไรกันบ้านนี้
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ พ่อแม่พี่เขารับได้ไม่ได้ว่าอะไรหรอก” พี่ไอซ์พูดพร้อมกับลูบหัวผม
“ทำไมยังสงสัยอะไรเหรอลูก ถามได้นะ” คุณพ่อเอ่ยถามขึ้น ผมก็อยากถามเหมือนกัน แต่ควรจะถามไหมนะ
“ นั่นสิ ” แม่พี่ไอซ์เดินมานั่งข้างผม แล้วเอามือมาจับมือผม “คงจะกลัวใช่ไหมลูก เหงื่อออกเต็มมือเชียว” เอาผ้ามาเช็ดมือให้ผมพี่ไอซ์ก็นั่งยิ้มอย่างเดียว เป็นบ้าไปแล้ว ผมอึดอัดจะตายแล้ว ไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้เลย
“ผมแค่แปลกใจน่ะครับ” หลังจากเงียบสักพักก็เห็นควรว่า ควรจะโต้ตอบบ้างเพื่อมารยาท ไม่เช่นนั้นอาจจะดูไม่งามได้
“คิดมากน่า ไม่มีอะไรหรอก” พี่ไอซ์ก็ยังคงพูดในแง่บวกพร้อมกับรอยยิ้มสุดหล่อนั่น ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก็จริงแต่จะยิ้มอย่างเดียวไม่ได้ไหม
“แปลกใจอ่ะไรเหรอลูก” คุณพ่อหันมาถามกลับผมอย่างสงสัย 
“นั่นสิ แม่ว่าไม่แปลกนะ555” คุณแม่จะอารมณ์ดีเกินไปแล้ว พี่ไอซ์เลยได้นิสัยนี้มาสินะ
“คือเอ่อคือ....” ผมเอ่ยขึ้นมา มองพี่ไอซ์แล้วก็ มองคุณพ่อนิดหน่อย ไม่กล้าถาม แย่จริงอึดอัดจัง
“เรื่องที่ไอซ์เป็นแฟนกับนทเหรอ พ่อไม่เห็นว่ามันแปลกนะ พ่อกับแม่เลี้ยงลูกมาแบบอิสระ ไม่เคร่งเครียดกับชีวิตหรอก ชอบสิ่งไหนพ่อและแม่ก็สนับสนุนเต็มที่ ดีเสียอีก มีนทไอซ์มันจะได้ไม่ไปทำใครท้อง 55555” คุณพ่อตอบกลับด้วยอารมณ์ที่ดีเกินคาดไปหน่อย ผมยิ้มตอบรับพร้อมกับพยักหน้านิดหน่อย
“นั่นสิ นทจะเกร็งทำไมล่ะลูก ทำตัวสบายๆสิ คิดว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่นทนี่ หน้าคุ้นๆนะ ใช่คนที่อยู่ในรูปในห้องไอซ์รึเปล่า!” คุณแม่พูดขึ้นพร้อมกับหันไปถามพี่ไอซ์ ผมก็หันไปมองหน้าพี่ไอซ์
“ก็ผมชอบน้องเขานี่นามีรูปก็ไม่เห็นแปลก” พี่ไอซ์พูดจบเอามือลูปหัวตัวเองแก้เขิน หน้าแดงเชียวส่วนผมนะเหรอ บิดไปบิดมาตัวเป็นเกลียวไปแล้ว   
“เออแล้ว ตกลงใครจีบใคร” คุณพ่อเอ่ยถามขึ้นด้วยความสนใจ   
“นั่นสิ เล่าให้พ่อกับแม่ฟังบ้างสิ!” คุณแม่เอ่ยถามซ้ำอีกครั้ง
“เรื่องนี้ต้องให้นทเล่าเลยครับ” พี่ไอซ์โยนมาได้นะ ผมก็อ้ำอึ้งนิดหน่อย
ผมก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้พ่อและแม่พี่ไอซ์ฟัง โดยมีพี่ไอซ์คอยเสริม เล่าไปก็อายนะ ขนาดป๊าผมยังไม่ต้องมาพูดให้มากความเลย โถ่! ภาพลักษณ์ผมพังหมดแล้ว
“โห! นทก็ชอบไอซ์ เกินเหตุไปหรือเปล่า แสดงว่ายังไม่รู้นิสัยจริงๆมันน่ะสิ55555” คุณพ่อพูดขึ้นมาหลังจากผมเล่าจบ
“ยอมลงทุนทำข้าวผัดให้เลยเหรอเนี่ย ขนาดทำอาหารไม่เป็นยังยอมทำเพื่อไอซ์เนี่ยนะ” คุณแม่เอ่ยตามหลังคุณพ่อพูดจบ พร้อมกับ จับมือผมแล้วลูบไปมา
“นั่นสิครับแม่ ! อร่อยด้วยนะ” พี่ไอซ์เอ่ยชมผม ผมก็ยิ้ม
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ก็แค่อยากทำอาหารเลยลองทำเท่านั้นเอง” เขินมาก
“ปากแข็งนะเรา!” พี่ไอซ์พูดจบก็เอามือลูบหัวผม
ผมก็พูดคุยกับพี่ไอซ์และคุณพ่อคุณแม่ของพี่เขาสักพักใหญ่ ก็ขอตัวกลับครับเพราะเริ่มจะมืดแล้ว ตอนแรกเขาชวนกินข้าวด้วยกันผมปฏิเสธไป เพราะมันเย็นมากแล้วจริงๆ พี่ไอซ์ก็มาส่งผมที่บ้าน
“ไปเจอพ่อกับแม่เค้าแล้วนะ อย่าทิ้งเค้าล่ะ” เปลี่ยนสรรพนามได้น่ารักมาก “แล้วไม่คิดจะแนะนำเค้าให้พ่อแม่ตัวให้เค้ารู้จักบ้างหรือยังไง” ท่าทางและน้ำเสียงออดอ้อนนี่มันน่ารักไม่ไหว ผมอดขำไม่ได้กับภาพตรงหน้า
“55 แหมเปลี่ยนสรรพนามเสียด้วย จะเข้ามาก่อนไหมล่ะพี่!” ผมเอ่ยชวน และพี่ไอซ์ก็จับมือผม
“เรียกเค้ากับตัวนะ นะๆๆ อยากให้เรียกแบบนี้” พี่ไอซ์พูดขึ้นมา มันดูมุ้งมิ้งมากมาย
“ก็ได้ๆ แล้วตัวจะเข้ามาหาพ่อกับแม่เค้าไหม” ผมเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
“พ่อแม่ตัวดุหรือเปล่าอ่ะ” พี่ไอซ์ถาม ผมเลยจับมือพี่ไอซ์
“ดุมากเลยล่ะ ตัวไม่รู้เหรอ แต่ก็จะแนะนำให้รู้จักนะ เข้ามาดิ” ผมก็ลากพี่ไอซ์ลงรถแล้วก็พาเข้าบ้านเลย “ป๊า แม่ นทกลับมาแล้ว”
“กลับมาแล้วหรอตัวแสบ มานี่สิ!” ทำเสียงโหด พี่ไอซ์สะดุ้งโหยง ป๊าผมชอบทำเสียงโหด แต่ใจดีมากพอเดินไปหาป๊า ป๊าก็ดึงผมนั่งข้างๆ
“จุ๊บ” (จุ๊บแก้มป๊า!) “อ่าวแล้วแม่ละป๊า” ผมถามพร้อมมองซ้ายขวา
“แม่เราทำกับข้าวอยู่ แล้วนั่นพาใครมานะ!” ป๊าตอบ พร้อมกับมองไปทางพี่ไอซ์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลมาก
“สะ...สวัสดีครับ!” พี่ไอซ์ยกมือไหว้ แล้วเดินเข้ามาใกล้ขึ้นนิดหน่อย เกร็งเชียว
“ป๊านี่พี่ไอซ์ รุ่นพี่ผมที่โรงเรียน พี่ไอซ์นี่ปาป๊าของนท” ผมแนะนำอย่างไม่เป็นทางการนัก เพราะเห็นพี่ไอซ์รู้สึกเกร็ง
“คนนี้เหรอที่ไปส่งเราที่โรงเรียนทุกวัน” ป๊าถามพร้อมกับมองไปที่พี่ไอซ์
“ไม่ใช่ป๊า นั่นอีกคน” ส่ายหัวตอบกลับป๊า 
“เป็นแค่รุ่นพี่จริงเหรอ !”  หันไปมองพี่ไอซ์  “ทำไมมีแต่ผู้ชายเทียวไปเทียวมาแบบนี้ไม่เห็นพาสาวๆเข้าบ้านบ้างเลย” ป๊าถามพร้อมทำหน้าเซ็ง ผมก็มองป๊าแบบไม่พอใจ
“ป๊าอ่ะ” งอน ก็ผมชอบแบบนี้นี่ อีกอย่างผมไม่ค่อยมีเพื่อนผู้หญิงเลย เพื่อนสนิทก็มีแต่ผู้ชาย
“โอ๋ๆ ป๊าขอโทษ” แล้วก็หันไปมองพี่ไอซ์ “มานั่งนี่สิ ยืนอยู่ทำไม” แล้วพี่ไอซ์ ก็มานั่งข้างๆผม“แค่รุ่นพี่จริงๆเหรอ!” ทำเสียงเข้มเชียว
“เอ่อคือ............” พี่ไอซ์หันมามองหน้าผม
“พี่ไอซ์บอกป๊าไปสิครับ” แล้วพี่ไอซ์ก็กระซิบบอกว่า ‘นทบอกสิพี่ไม่กล้าอ่ะ’ “ป๊าพี่ไอซ์คือแฟนนทเอง....” (ป๊าก็มองไปทางพี่ไอซ์) “ก่อนเป็นแฟนคือพี่ไอซ์ข่มขืนนทด้วย” ผมทำหน้าเศร้าๆ พี่ไอซ์นี่ตาโตเลย ส่วนป๊านะเหรอ.....
“เห้ย! แกทำกับลูกฉันแบบนี้ได้ยังไง!” พูดเสียงดังแล้วลุกขึ้นยืน โอเว่อร์แอคติ้งจริงๆ ส่วนพี่ไอซ์ก็จับมือผมแน่น5555 “ไหนลุกขึ้นยืนสิ!” พี่ไอซ์ก็ลุกขึ้นยืนตามป๊าบอก ป๊าก็สำรวจรูปร่างหน้าตาไป แล้วก็... “ใช้ได้” (พี่ไอซ์ทำหน้างง) “หุ่นดีหน้าตาก็ดีมากเลยทีเดียว นทนี่ตาถึงเชียว555555 ดูมันทำหน้าสิ5555” พี่ไอซ์งงใหญ่เลย  “เดี่ยวป๊ามานะ....”
แล้วป๊าก็เดินเข้าไปในครัว ผมก็เล่าให้พี่ไอซ์ฟังว่าเพียงแค่แกล้ง ป๊ารู้อยู่แล้ว พี่เขางอนใหญ่เลย จากนั้นก็ชวนพี่เขากินข้าวป๊ากับแม่นี่ซักพี่ไอซ์จนซีดเลย พอเสร็จจากทุกอย่างผมก็ไปส่งพี่ไอซ์หน้าบ้าน....
“ขับรถกลับดีๆนะพี่” ผมพูดขึ้น พร้อมกับยิ้มหวานส่งไปให้พี่ไอซ์
“ยังไม่หายงอนนะ” พี่ไอซ์พูดพร้อมกับทำหน้านอยๆ
“ทำยังไงให้หายงอนดีล่ะ” ผมพูดพร้อมกับทำหน้าคิด
“มันก็มีวิธีนะ” พี่ไอซ์พูดพร้อมกับชี้ที่แก้ม
“เอาจริงดิ!” ตื่นเต้นนะ แก้มเขาจะหอมมากไหมนะ ><
“ไม่ต้องก็ได้!” ทำหน้าตาน่าสงสาร “ไปแล้วนะ” เดินคอตกไปที่รถ
“ก็ได้ๆ จุ๊บ!....” เดินไปหาพี่ไอซ์แล้วจุ๊บที่แก้ม นี่สินะ ของหวาน >.<
“ก็แค่เนี่ยแหละ คืนนี้รับสายพี่ด้วยนะ! ไปแล้ว ฟอด!” พี่มันพูดจบก็ก้มลงมาหอมแก้มผม แล้วก็กระโดดขึ้นมอไซมันแล้วขี่ไปเลย
หลังจากที่พี่ไอซ์ไปผมกำลังจะปิดประตูบ้าน พรึ่บ! มีคนดึงประตูไว้ ไม่ใช่ใครที่ไหน.......
“พี่อ๊อฟ! มาได้ยังไง พี่รู้ป่า...”
“มึงบอกจะมาคุยกับกูตอนเย็นไม่ใช่เหรอ” พูดแทรกผมขึ้นมา แลดูหงุดหงิดด้วย ผมก็มองมันด้วยความสงสัยนิดหน่อย
“เอ้อ! จะ...จริงด้วย ผมลืม ขอโทษน้า” เอื้อมมือไปจับมือพี่อ๊อฟ คือลืมจริงๆ เพราะมัวแต่สนใจเรื่องพี่ไอซ์แหละ
“ลืม!” สบัดมือผมออก “ก็ดี แต่มึงคงไม่ลืมเรื่องที่สัญญากับกูไว้ใช่ไหม อ้อ!หรือว่ามึงเป็นแฟนกับไอไอซ์แล้ว กูก็เลยกลายเป็นคนอื่นไปแล้ว ไหนมึงว่ามึงไม่ชอบ ที่กูทำเหมือนมึงเป็นคนอื่น แต่นี่มึงดันมาทำซะเองเนี่ยนะ” พูดเป็นเรื่องเป็นราวเลย นี่มันเรื่องอะไรกัน
“เห้ย!พี่ ใจเย็น พี่กำลังเข้าใจผิดนะ!” ผมท้วงขึ้นมา ทำไมผมต้องรู้สึกผิดขนาดนี้ด้วยเนี่ย ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย
“เออกูแม่งบ้าเองแหละ!” มันพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว แล้วก็หันหลังจะเดินกลับ ผมจับแขนพี่มันไว้
“ผมขอโทษ! ผมขอโทษนะพี่อ๊อฟ ไม่ว่าพี่อ๊อฟจะเข้าใจยังไงผมขอโทษก็ได้นะๆ ฟังผมก่อน” แล้วมันก็หันกลับมา แกะมือผมออก
“งั้น...คืนนี้ไปนอนกับกูสิ ไปช่วยงานกูด้วย และกูจะฟังมึงอธิบายทั้งคืน” แปลกๆ แต่ก็พยักหน้า ไม่อยากมีปัญหากับพี่มัน ผมก็รีบเข้าบ้านไปขอป๊ากับแม่ แล้วก็ขึ้นไปเก็บของ เพื่อไปบ้านพี่อ๊อฟ

พอถึงบ้านพี่อ๊อฟ มันก็ลากผมขึ้นบนห้องมันเลย ต้องใช้คำว่าลากเลยนะ เพราะผมกำลังจะทักทายคนในบ้านมัน กระชากแขนผมขึ้นมาเลย
“ใจเย็นๆดิพี่ โถ่! ผมเจ็บไปหมดแล้วนะ” ผมยกแขนตัวเองขึ้นมาดู โอ้โหเป็นรอยมือเลย
“เออ มึงลีลาเอง! เดี๋ยวงานที่มึงต้องช่วยจะไม่เสร็จ!” แล้วมันก็ไปเชือกมา.... “เอามือมา”
“พะ...พี่จะทำอะไร...” ถอยหลังหนีมัน
“ก็จะให้มึงช่วยงานนี่ไง” แล้วมันก็เดินเข้ามาหาผม ผมก็ถอยหลังจนล้มลงบนเตียง พี่อ๊อฟมันกระโดดขึ้นคร่อมตัวผมทันที  ผมทั้งดิ้นทั้งร้องมันเอาผ้ามายัดปากผม แล้วก็มัดมือผมไว้อย่างแน่น ผมพยายามใช้ขาเตะก็ไม่เป็นผล เสร็จแล้วมันก็ใช้เชือก ผูกเชื่อมกับหัวเตียง แล้วมามัดกับเชือกที่มือผมอีกที จนทำให้มันเชือกมันแน่เข้าไปใหญ่ พอมัดผมเสร็จแล้วมันก็เอาผ้าในปากผมออก ด้วยท่าที่มัน นั่งคล่อมผมอยู่บนเตียง แล้วมือกูถูกขึงไว้
“เห้ย!พี่ ทำอะไรเนี่ยปล่อยนะเว้ย !” หลังมันเอาผ้าออกจากปาก ผมท้วงมันขึ้นมาทันที
“นี่มึงไม่รู้อะไรเลยจริงๆเหรอวะ!”มันพูดเสียงดังขึ้นมา 
“รู้อะไร! ผมไม่รู้อ่ะไรทั้งนั้นแหละ ปล่อยผมนะเว้ย !”  ด้วยความที่ตกใจ และรู้สึกกลัว ผมก็ดิ้นไปดิ้นมา พร้อมกับโวยวาย
“กูจะบอกให้ฟังก็ได้ กู ชอบ มึง ชอบมานานแล้วด้วย ชอบก่อนไอไอซ์สะอีก!” ผมหยุดนิ่งทันที แล้วก็หันไปมองทางมัน
‘……..’ ผมกำลังใช้ความคิดกับตัวเอง แล้ว มันก็จ้องผมเช่นเดียวกัน ผมควรจะทำยังไงดีกับสถานการณ์ตรงนี้
“จะ...จริงเหรอ?” ผมถามมันด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง มันพยักหน้าตอบ ตอนนี้ในหัวผมมีคำถามมากมายไปหมด แล้วผมเพิ่งจะมีความสุขกับพี่ไอซ์ โอยสถานการณ์นี้มันอะไรกัน
“ทำไม....พี่ไม่บอกผมตั้งแต่แรก” มันก็ยังนิ่ง  “มาช่วยผมเข้าหาพี่ไอซ์ทำไม พี่ไม่รู้เหรอว่าผมก็...แอบมีใจให้พี่นะ แต่...ผมแค่ไม่มั่นใจ เพราะบางทีพี่ก็ดูคิดเหมือนกันกับผม แต่บางทีกูดูนิ่งจนผมเดาไม่ออก” หลังจากผมพูดจบพี่อ๊อฟ ลงจากตัวผมแล้วเปลี่ยนมานั่งข้างๆผม แล้วหันมามองผม
“ก็....กูอยากเห็นมึงมีความสุข แต่มึงก็ชอบมาให้ความหวังกูอยู่เรื่อยๆเลย” มันมองออกไปทางหน้าต่าง “กูก็อยากถามมึงตั้งแต่แรกแล้วเหมือนกัน ว่าเป็นกูไม่ได้เหรอวะ คนที่มึงชอบ..!” แล้วมันก็หันหน้ามาทางผมอีกครั้ง “กูพยายามจะตีตัวออกห่าง มึงก็เข้าหากู” น้ำตามันเริ่มไหล คือผมคิดว่าพี่มันคงอดกลั้นมากพอควรเลยสินะ ทำตัวเป็นพระเอกขนาดนี้
“พะ..พี่อ๊อฟ อย่าร้องเพราะผมเลยนะ แก้มัดผมเถอะ” ผมพูดจบพยามดึงเชือกให้หลุดออก แล้วพี่มันก็เอื้อมมือมาปลดเงื่อนเชือกออก
หมับ! หลังจากเชือกหลุดออก ผมรีบโน้มตัวเข้าไปกอดมันทันที ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ผมชอบพี่ไอซ์ชอบมากๆด้วย แต่ผมก็ไม่อยากทำให้พี่อ๊อฟเสียใจ ผมเป็นอะไรไปนะ....
“มึงไม่โกรธกูเหรอวะ” พี่อ๊อฟผละออกมาจากกอด แล้วถามผม
“ไม่โกรธเลย ผมคงผิดอย่างที่พี่พูดจริงๆแหละ!” ผมเอามือเช็ดน้ำตาให้กับพี่อ๊อฟ “ผมไม่รู้ความคิดพี่ ผมไม่รู้อะไรเลย ทั้งๆที่ผมก็รู้สึกดีกับพี่เหมือนกัน” ผมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“แล้วกับไอไอซ์....มึงไม่ได้ชอบมันหรอกเหรอ” ถามผม พร้อมกับจ้องหน้าผมอย่างจริงจัง ผมรู้สึกอึดอัดกับคำถามนี้ ผมเบนสายตาหนีมันเล็กน้อย
“ก็ชอบนะ....” ผมหันกลับมามองมัน “ไม่รู้สิว่าทำไมผมมีความสุขกว่าเวลาได้อยู่กับพี่...ทำไมเวลาเห็นพี่โกรธผม...ผมถึงอยากง้อ....ทำไมเวลาไม่เจอพี่รู้สึกเหงาๆ เหมือนไม่มีใครคอยด่า ไม่รู้ว่าทำไม สงสัยหลงเสน่พี่แน่ๆ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบติดจะเนือยๆ แต่ก็มีรอยยิ้มขณะพูด “แต่พี่ไอซ์ผมว่าปลื้มมากกว่า” พี่อ๊อฟมันเริ่มเผยยิ้มออกมา เราทั้งสองจ้องตากัน และตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง ผมว่า แบบนี้พี่ไอซ์จะต้องเสียใจแน่ๆถ้าพี่ไอซ์มาได้ยิน ผมกลายเป็นคนหลายใจขึ้นมาแล้วเหรอเนี่ย -_-‘’’

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
“แหนะ! ยิ้มแล้ว ถามหน่อยเถอะ จับผมมามัดนี่คิดจะทำอะไร” หลังจากที่ไม่มีคำพูดใด เพื่อทำให้บรรยากาศดีขึ้น ผมเลยเบนเรื่องออกจากเรื่องนี้ก่อน เพราะผมก็อึดอัดใจเหมือนกัน พอถามจบ หูมันแดงขึ้นมาทันที
“กะ ก็.....ก็ เอ่อ คือ....” ผมก็จ้องเพื่อลุ้นคำตอบ
“ตอบมาเลย ขอตรงๆ” ความจริงสถานการณ์นั้นใครก็รู้ ว่าจะโดนอะไร แต่อยากได้ยินจากปากมันมากกว่า
“กะ....ก็” มันหันหลังให้ผม.. “ก็โมโหมึงนี่ ก็ว่าจะข่มขืนมึง” เกือบไปแล้ว เฮ้อ! โชคดีที่สถานการณ์มันไม่เลวร้าย
“โห! โหดมาก ดูหนังมากไปหรือเปล่า ขอตรงๆผมก็ให้แล้วไม่เห็นต้องมัดเลย5555” ผมพูดทีเล่นทีจริง มันมองผมแบบตกใจนิดหน่อย
“ปะ...เปล่า ก็กูโกรธ มึงทำตัวแรดเอง บอกชอบไอไอซ์ แต่ก็ชอบให้ท่ากู” เริ่มกลับมาทำท่าเย็นชาแล้วสินะ
“ผมเป็นแบบนี้ของผมอยู่แล้ว พี่แหละคิดไปเอง” ก็จริง ผมไม่ได้ให้ท่า แค่ชอบที่จะสนิทกับใครโดยถึงเนื้อถึงตัวแค่นั้นเอง
“ในเมื่อมึงก็รู้สึกดีกับกู แล้วเราจะเอายังไงต่อละ” วนมาเรื่องนี้จนได้สินะ
“ เฮ้อ! จะไปรู้เหรอ พี่นั่นแหละไม่ชัดเจนเอง” เริ่มจะปวดหัวกับเรื่องนี้แล้ว กลายเป็นรักสามเศร้าได้ยังไงกัน
“ถ้าอย่างนั้น เรามาทำให้มันชัดเจนไหม” พูดจบมันหันมากดผมลงเตียง และขึ้นมาค่อมตัวผม
“ทำเป็นหรือเปล่าเถอะ!” ผมก็ปากดีเหลือเกิน ผมก็ยังไม่เคยเลยด้วยซ้ำ 555 “หรือดูมาจากหนังอีกเนี่ย!” ผมทำพร้อมกับทำหน้าล้อเลียนมัน
“ก็ดูมาจากหนังแหละ! หรือมึงเคยมาเยอะแล้ว!!” ทำหน้าตกใจแล้วลุกมานั่งข้างผม
“แหม! ผมดูเหมือนคนสำส่อนขนาดนั้นเลยเหรอ” ทำหน้านอย ใจจริงก็อยากจะโดนบ้าง แต่ก็ไม่เคยโดน ไม่รู้จะไปสำส่อนที่ไหน55555
“ปะ...เปล่า กูขอโทษ” มันโน้มตัวมากอดผม “ก็ดูมึงพูด อย่างกับเคยมาแล้ว”
“ช่างมันเถอะ แต่พี่ไม่โกรธอะไรผมแล้วใช่ไหมเนี่ย!” ผมถามพร้อมหันไปมองหน้ามันที่กอดผมไม่ปล่อย
“อืมแค่มึงชอบกู เหมือนที่กูชอบมึง กูก็ดีใจแล้ว!” พอมันพูดจบ ความรู้สึกที่อบอุ่นในหัวใจ แบบนี้มันคืออะไรนะ
“พี่นี่พระเอกสุดๆเลย! ถ้าบอกผมตั้งแต่แรกก็น่าจะดีกว่านี้เนอะ” ผมพูดไป พลางใช้ความคิดต่อเนื่อง เรื่องนี้ทำผมคิดมาก มันเหมือนเป็นการนอกใจพี่ไอซ์เลย ทั้งๆที่ผมก็เคยเจอเรื่องนี้มา ‘เรื่องการนอกใจ’ แต่มาทำกับคนที่เขารักเรา มันจะดีไหม
“แต่กูขออะไรมึงอย่างได้ไหม” พี่มันจับมือผม ผมหันไปมองมัน
“ได้สิ สำหรับพี่อ๊อฟ ผมให้ได้หลายอย่างเลยละ” ผมลูบมือพี่มัน
“จากนี้มองมาทางกูบ้างนะ อย่ามองแต่ไอไอซ์ กูทนเห็นไม่ได้...!”………
“ผมมองไปทางพี่ตลอดแหละ” เอามือทั้งสองประคองหน้ามัน “ไม่อย่างนั้นไม่ยอมมาง้อพี่ทุกครั้งหรอก” ผมก็โน้มหน้าเข้าไปจูบมัน แค่ปากแตะปาก ไม่ได้เลื่อมล้ำอะไร ผมกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย.....
ผมกำลังจะถอยออกมามันเอามือมาล๊อคคอผม แล้วก็จูบต่อ คราวนี้ดันลิ้นเข้ามาด้วย จูบสักพักมันก็เอามือเข้ามาในเสื้อ ลูบที่แผ่นหลังของผม ผมเอามือดันพี่อ๊อฟออกไป....
“ผมว่า....แค่นี้ก่อนก็ได้มั้ง” ผมว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วไปหมด ก่อนจะเลยเถิดผมต้องหยุด ผมสับสนไปหมดแล้ว
“อะ..อืม” พี่อ๊อฟพยักหน้าตอบรับ แล้วก็ลุกเดินไปห้องน้ำ
ความคิดผมตอนนี้สับสนไปหมด ถ้าเมื่อกี้เลยเถิดไป แล้วเรื่องพี่ไอซ์จะเป็นยังไง แต่เราก็รู้สึกดีกับพี่อ๊อฟ เราจะทำยังไงดี ต่อจากนี้ ตอนแรกก็คิดว่า ทำยังไงให้ได้รักจากพี่ไอซ์ แต่ตอนนี้ดันมามีพี่อ๊อฟอีกคน ผมนั่งครุ่นคิดสักพัก พี่อ๊อฟก็เดินออกมาจากห้องน้ำ.......
“เป็นอะไร? ทำหน้าเครียดๆ” มันมานั่งข้างผม  “หรือว่าเรื่องกูกับไอไอซ์?” ผมพยักหน้านิดหน่อย
“อืม ไม่รู้ดิ ผมจะทำยังไงต่อไปดีละเนี่ย เฮ้อ!” ปวดหัวเลย
“อย่าเครียดเลยมึง” จับมือผม ผมหันไปมองหน้ามัน “ตอนนี้มึงอาจจะสับสน มึงก็ทำตอนนี้ให้ดีไปก่อน เรื่องกู กูไม่ชัดเจนเอง มึงคบกับคนที่มึงอยากคบไปก่อนเถอะ กูรอมึงได้” ยิ้ม ผมสบตากับมัน รู้สึกได้เลยว่า มันทั้งดีใจและก็เสียใจ
“พี่แม่งพระเอกว่ะ! พูดให้ผมเห็นใจใช่ไหมเนี่ย!” ผมพูดด้วยความหมั่นไส้ แล้วก็บีบจมูกมัน
“เออ แล้วมึงเห็นไหม” ผมปล่อยมืออกจากจมูกพี่มัน
“เห็นดิ ไม่งั้นไม่เครียดหรอก” ผมก้มดูข้อมือตัวเอง โห!เป็นลอยถลอกเลย ว่าแล้วทำไมแสบๆเชือกที่มันรัดผมก่อนหน้านี้บาทข้อมือผมนั่นเอง “ ดูดิ”  ผมยื่นข้อมือให้มันดู
“เห้ย!” ผมสะดุ้งกับการตกใจของมัน จะตกใจอะไรขนาดนั้น มันดึงมือผมไปดู “เจ็บมากไหม!”
“ไม่หรอก มันแค่ถลอก เดี๋ยวก็หาย แผลแค่นี้เอง หนักกว่านี้ยังเจอมาแล้วเลย55555” พูดทีเล่นทีจริง
“ไอเบสทำเหรอ?” ผมพยักหน้า “แล้วมึงกับมันเคย.....” มองไปที่ส่วนล่างของผม ก็คงรู้แล้วว่าเรื่องอะไร
“ยังหรอก!คิดได้ยังไงเนี่ย! ผมไม่ได้ง่ายหรอกนะ” พูดอย่างมั่นใจ
“อืมๆงั้นนอนเถอะ”..............
แล้วเราก็นอนกัน พี่อ๊อฟมันขอนอนกอด ก็ปล่อยมันไป บอกตามตรง ว่าค่อนข้างอึดอัดใจ จะทำยังไงต่อไปผมยังไม่รู้เลย คิดไปคิดมาผมก็หลับ....
พอเช้าผมกลับมาบ้านก่อน พี่อ๊อฟขับรถไปโรงเรียนก่อนแล้วเพราะพี่ไอซ์จะมารับผม นึกได้ว่าลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้านตั้งแต่เมื่อคืน พอเปิดดู 13 สายไม่ได้รับ! ลืมไปเมื่อวานพี่ไอซ์บอกจะโทรมา ผมก็โทรกลับเลย สักพักพี่ไอซ์ก็รับ....
“ตัว”…..
“ว่า!”กระแทกเสียงเลยนะ
“เค้าขอโทษน้า” ผมต้องอ้อนสักหน่อย “เมื่อคืนเค้าง่วงเลยหลับไปก่อน...”
“โกรธ โกรธมากด้วย!” พี่ไอซ์ตอบกลับเสียงแข็ง
“ทำยังไงให้ตัวหายโกรธดีนะ” ผมก็อารมณ์อึดอัดยังค้างอยู่กับเรื่องที่เกิดขึ้น ผม กำลัง นอกใจ พี่ไอซ์ แล้วยิ่งละเลยหน้าที่แฟนอีก 
“......(เงียบ)”
“โห! โกรธแบบนี้งั้นวันนี้เค้าก็ได้ไปโรงเรียนเองดิ เหงาแย่เลย” ผมทำเสียงนอยๆ
“เค้ากำลังไปรับ รอเลยนะห้ามไปไหน ตึ๊ด!” พี่ไอซ์พูดเชิงออกคำสั่งแล้วก็วางสายไป
เฮ้อ! ทำไมวุ่นวายอย่างนี้นะ ผมก็เตรียมของไปเรียน เอาของที่ไปนอนบ้านพี่อ๊อฟมาเก็บด้วย ไปนอนบ้านพี่อ๊อฟทีไรต้องตื่นเช้าทุกทีเลย ป๊ากับแม่ยังไม่ลงมาจากบ้านเลย รอสักพักพี่ไอซ์ก็มา..........
“โห!ตัวมาจริงด้วย” พูดด้วยท่าท่าสดใส พร้อมยิ้มร่าเริง
ทำหน้านิ่งๆ แล้วมองผม “ อืม”
“อะไรอ่า ยังไม่หายโกรธอีกเหรอ เค้าขอโทษน้าๆๆๆๆๆๆ” อ้อนนิดหน่อย มีอมยิ้มแล้วนะแต่ยังเก๊กๆ “งั้นอยากให้เค้าทำอะไรตัวว่ามาเลยครับ เค้าพร้อมน้อมรับคำบรรชา” ทำท่าก้มหัวเอาใจพี่ไอซ์
พี่ไอซ์ไม่ได้ตอบ แต่เอานิ้วชีถูไปมาที่ปาก
“ตรงนี้ไม่ได้เหรอ” ผมชี้ที่แก้มพี่ไอซ์
พี่ไอซ์ส่ายหน้า แล้วทำไม่พอใจ
ผมก็ประคองหน้าพี่ไอซ์ แล้วก็โน้มตัวเข้าไปจูบ แต่พี่ไอซ์มันเจ้าเล่ห์ จับหน้าผมไว้แล้วก็ดันลิ้นเข้ามา โหจูบแบบดุเดือดมาก ผมรู้สึกร้อนข้างในไปหมดเลย แล้วผมก็ดันพี่ไอซ์ออก เพราะบางอย่างของผมมันเริ่มตื่นแล้วสิ พี่ไอซ์ร้ายกาจมาก
“แค่นี้แหละ หายโกรธแล้ว” ยิ้มจนตาปิดเลยสิ ผมนี่หน้าร้อนมาก ทั้งเขินทั้งอาย “เขินเหรอ” พูดแล้วเอามือดึงแก้มผม
“บะ บ้า ใครเขิน!” พูดจบผมเอามือปิดหน้าตัวเอง
“5555 น่ารักเกินไปแล้วนะเรา ไปโรงเรียนได้แล้ว” พูดจบก็ดึงมือผมขึ้นรถ และเราก็เดินทางไปโรงเรียนกัน
ถึงโรงเรียนก็แยกย้ายกันไปเข้าแถวขึ้นเรียน เรียนคาบเช้าเสร็จก็ถึงเวลาพักเที่ยง ผมและเพื่อนๆก็เดินไปที่โรงอาหาร.......
“เป็นอะไรวะมึงเห็นเหม่อๆตั้งแต่เช้าแล้วนะ” ปอหันมาถามผม เมื่อเห็นว่าผมไม่ได้คุยกับเพื่อนๆตอนเพื่อนถาม
“ปะ...เปล่า แค่คิดอะไรนิดหน่อย” ผมพูดพร้อมส่งยิ้มให้มัน ไอปอก็พยักหน้าเป็นการตอบรับ
“เออ นท เมื่อวานกูไปเดินเซ็นทรัล เจอไอเบสด้วย” เมื่อเดินถึงโรงอาหารไอนัทมันหันมาบอกผม ผมก็มองหน้ามันด้วยความสงสัย ประมาณว่าบอกกูทำไม 
“แล้วยังไงวะ ?” ไอวิวถามด้วยความสงสัยเช่นเดียวกับทุกคน
“เออมันเลิกกันไปแล้วจะพูดทำไม” ไอมินพูดขึ้น ครั้งนี้พูดได้ดีนะมิน
“ก็มันมาถามหามึงกับกูอ่ะสิ กูว่านะ มันไม่ยอมปล่อยมึงง่ายๆหรอก” ไอนัทพูดพร้อมกับทำหน้าจริงจัง
“ปล่อยมันเหอะมึง มันก็ได้แค่นั้นแหละ กูไม่สนใจแม่งหรอก!” ผมตอบกลับด้วยอารมณ์หงุดหงิด แค่เรื่องพี่อ๊อฟกับพี่ไอซ์ก็ปวดหัวจะแย่ มีไอเบสมาอีก
“เป็นอะไร มึงหงุดหงิดอะไรเนี่ย เพื่อนแค่บอกนะ “ ปอหันมาถามผม เพราะอาการที่ผมแสดงออกคงไม่ถูกใจเพื่อนๆ
“หิวข้าวไง โมโหหิว! รีบไปเหอะ” พูดจบแล้วผมก็เดินนำพวกมันไปเลย
พอถึงโรงอาหารผมก็เห็นพี่ไอซ์กวักมือเรียก และก็นั่งอยู่กับ......พี่อ๊อฟ.....
“มาช้าจัง เค้าซื้อข้าวเตรียมไว้ให้แล้วน้า” พี่ไอซ์พูดพร้อมยิ้มกว้างส่งมา ก็หล่ออยู่แล้วไม่ต้องพยายามเลยนะเนี่ย แต่ดูพี่อ๊อฟทำหน้าเซ็งๆนะ
“โห! ดีจังกำลังหิวเลย” ผมพูดจบส่งยิ้มให้พี่ไอซ์
“เห้อ! คนแถวนี้ดีจังมีคนเตรียมข้าวไว้รอ” ไอวิวมันแดกดันผมสินะ “เห้ย!พวกเราไปหาซื้อเองเถอะป่ะ” แล้วพวกมันก็เดินไปซื้อข้าวกัน
“ตัว เค้าไม่ได้ทำข้าวผัดมาให้ ไม่โกรธใช่ไหม!” ผมถามพร้อมกับจ้องไปที่พี่ไอซ์
“อืมไม่โกรธหรอก ไม่ต้องทำให้ลำบากหรอก ถึงเค้าอยากจะกินฝีมือตัวทุกวันก็เถอะ” ตอบคำถามผม พร้อมระบุสิ่งที่คาดหวังไว้ขนาดนั้น ยังมายิ้มอารมณ์ดีอีก
“แหม! เค้าก็มีขี้เกียจบ้าง ดูเมื่อวานดิ ตัวกลับไปเขาก็นอนเลยนะเนี่ย” พี่อ๊อฟหันมามองผม ผมไม่อยากโกหกเลย ผมกลายเป็นคนนอกใจโกหกแฟนตัวเองแล้วเหรอเนี่ย แย่ชะมัด
“อืมไม่ต้องหรอก วันหลังไม่ต้องทำมาให้เค้าแล้วนะ ไว้ถ้าวันไหนเค้าอยากกินเค้าจะบอกเองแล้วกันเนอะ กลัวตัวเหนื่อย แล้วก็เบื่อเค้า” พูดจบก็เอามือมาขยี้หัวผม ผมมองไปทางพี่อ๊อฟนี่ก็นิ่งเลย
“อื้มอย่างนั้นก็ได้” ผมตอบพร้อมส่งยิ้มให้พี่ไอซ์  “เอ้อ!พี่อ๊อฟแล้วข้าวผัดฝีมือผมเป็นยังไงบ้างอ่ะ” ผมยิ้มถาม พี่อ๊อฟก็ดูเหมือนจะอมยิ้มนิดหน่อยด้วย ขี้เก๊กตลอด
“แหมๆ เดี๋ยวนี้มันตัวเค้าเนอะ” ดูพี่อ๊อฟมันทำหน้าแบบเอือมๆ  “ข้าวผัดก็ดีนะ กินได้” ดูมันตอบแล้วสักพักเพื่อนผมก็เดินมากัน แต่ไอมินกับไอนัทถือกล่องอะไรมาไม่รู้
“กล่องอะไรว้า” ผมถามพร้อมชะเง้อดู
“สาระแนเลยนะจ้ะ” วิวตอบกลับพร้อมกับทำหน้ากวนตีนส่งมา
“เออกูไม่ดูก็ได้!” ผมตอบด้วยน้ำเสียงที่ติดจะไม่พอใจ
“มึงแหละวิวอย่าสาระแน ของไอนทมันนะเว้ย!” ปอหันไปด่าไอวิว
“เออไอวิวมึงนั่นแหละอย่าๆ” ไอนัทตามสมทบ รุมไอวิว สมน้ำหน้า ปากดีนัก
“มีผู้หญิงฝากมาให้มึงวะ” มินยื่นกล่อง?ให้ผม “รุ่นเดียวกับเราอยู่ห้อง1มั้ง” ผมอยู่ห้อง 9 ห้อง1เด็กท๊อปทั้งนั้น “นี่เขายังไม่รู้กันเหรอวะว่ามึงเป็น....” มันพูดพร้อมกับมองที่ผมและพี่ไอซ์
“พูดมากน่า” พี่ไอซ์ก็มองผมแล้วก็ยิ้ม พี่อ๊อฟก็จ้องกล่องที่ผมถือ “แล้วอีกกล่องก็ของกูเหรอ....” ผมถามด้วยความสนใจ
“เปล่าเขาฝากมาให้พี่อ๊อฟ อะพี่” ไอนัทพูดจบ มันยื่นของไปให้พี่อ๊อฟ พี่ไอซ์แย่งไปดูเลย
“เห้ย! เพื่อนกูก็ฮอทนะเนี่ย” แล้วพี่ไอซ์ก็แกะ เป็นขนม “อะมีแต่ขนมวะ” ยื่นคือพี่อ๊อฟหลังจากเปิดกล่องดูแล้ว
“ไร้สาระน่า” พี่อ๊อฟตอบกลับพี่ไอซ์ พร้อมกับส่ายหัวให้พี่ไอซ์อย่างเอือมระอา ผมกลับรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไรเลยที่มีคนให้ของพี่อ๊อฟ ไม่รู้ทำไม
“แล้วของตัวละ เอามาให้เค้าดูเลยนะ จะมีกิ๊กเหรอ!” ผมก็ยื่นไปให้พี่ไอซ์ดู ช็อคโกแลต “ชอคโกแลตด้วย! แสดงว่าเขาจะจีบตัวแน่ๆเลย” ทำหน้านอยๆ
“ตัวก็ เค้าแค่ให้ขนมเองนะครับ คิดอะไรมาก!” ยิ้มให้พี่ไอซ์ ผมเหลือบไปมองพี่อ๊อฟคือมันก็มองผมอยู่
“โอ๊ย!! เดี๋ยวนี้มีตัวกับเค้าด้วยเว้ย! พวกมึงดูดิ้ มดขึ้นเต็มโต๊ะไปหมดแล้ว จะหวานกันไปไหนว้า555” พวกเพื่อนผมมันก็แซวนู่นนี่ไปทั่ว ผมกับพี่ไอซ์ก็ได้แต่ยิ้มเขินๆ แล้ว....
“เออไอมิน น้องเขามีกระดาษให้พี่อ๊อฟด้วยไม่ใช่เหรอ” ไอนัทพูดจบ ผมหันขวับไปมองทันที กระดาษไรนะ
“เออๆ! นี่พี่” ไอมินพูดแล้วมันก็ยื่นกระดาษให้พี่อ๊อฟ “สงสัยจะบอกรักแน่เลย”
“เขียนว่าอะไรวะ” ชะเง้อมอง พี่อ๊อฟกำลังเปิดกระดาษอ่าน โห! เด็ดวะ เขาบอกชอบมึงเลยนะเว้ย!” หลังจากที่พี่ไอซ์อ่านจบ ก็แซวขึ้นมา
เคร้ง! ผมทำช้อนล่วงเลย ทั้งโต๊ะหันมามองผม .....
“ตัวเป็นอะไร!” พี่ไอซ์หันมาถามผม
“ปะ...เปล่าตัว แค่ช้อนล่วงเอง แหม! ทำตกใจกันไปได้!” พี่อ๊อฟเหล่ตามองผม
“พี่อ๊อฟโชคดีนะรู้ไหม คนที่ฝากให้พี่นะ สวยมากเลยนะในม.4.”ไอมินพูดขึ้นมา
“ตอนแรกเขาเดินเข้ามานึกว่าจะมาจีบผม” ไอนัททำหน้าเซ็ง “ที่แท้ฝากให้พี่อ๊อฟ” มึงก็เป็นไปกับเขาเหรอไอนัท
“ใครวะ?” พี่อ๊อฟถามขึ้น
“ก็ อิงฟ้า ไงพี่ ที่อยู่ห้องEP” English Program เป็นห้องพิเศษ เรียนแบบอินเตอร์พูดภาษาอังกฤษกันทั้งวัน
“เออน่ารักมาเลยนะพี่ คุณหนูสุดๆ” ไอมินพูดพร้อมทำหน้าฟิน
“นั่นมันดาว ม.4 เลยนะพี่อ๊อฟ โชคดีสุดๆ” ไอวิวพูดต่อ
“น้องที่หน้าเหมือนตุ๊กตา หน้าลูกครึ่งๆป่ะ?” พี่อ๊อฟถามอย่างสนใจ
“ใช่ๆคนนั่นแหละพี่” ไอปอเน้นย้ำ
“กูเห็นเขาไปนั่งที่ชมรมกูทุกวันเลย ก็น่ารักดีนะ” พูดก็พอมั้ง ไม่ต้องมาส่งสายตากวนประสาทให้ผม ทำไมผมรู้สึกหงุดหงิด แบบนี้นะ
“น้องเขาจีบมึงเลยนะเว้ย รออะไรวะ!” พี่ไอซ์ก็ชงเก่งจริงนะ
“จะดีเหรอวะ!” มองมาทางผม “ไอนัทไอมินมึงแน่ใจเหรอ ว่าเขาเอามาให้กูอ่ะ ไม่ใช่เอามาให้ไอไอซ์เหรอ” พี่อ๊อฟเอ่ยถามเพื่อความชัวร์อีกครั้ง
“แน่ดิพี่ ก็พี่ใส่เสื้อคลุมสีเทาอ่ะ”ไอมินพูดขึ้น พี่อ๊อฟจะชอบใส่เสื้อฮูทสีเทา “ยังพูดชื่อพี่อ๊อฟด้วยนะพี่”
“จัดเลยเพื่อนอ๊อฟ กูก็เคยเห็นน้องเขาอยู่นะ น่ารักดีแต่กูไม่ชอบ ไม่ใช่สเป็ค สเป็คกูต้องนทเท่านั้น” พี่ไอซ์หันมาทำตาหวาน ผมก็ยิ้มตอบกลับนิดหน่อย “ตัวเป็นอะไร ดูทำหน้าเข้า หึงเค้าเหรอ!” ผมคงหงุดหงิดออกนอกหน้าไปหน่อย อาการเลยออกทางหน้า
“หึงอะไรเล่า! เค้าก็แค่ร้อน!” ผมหันไปพูดกระแทกทางพี่อ๊อฟ
“อ่ะ” ยื่นน้ำป้อนผม ผมก็ดูน้ำ “เป็นยังไงดีขึ้นยัง” ผมก็พยักหน้าตอบรับ
“นทนี่ขี้ร้อนเนอะ” พี่อ๊อฟถามขึ้น
“ก็นิดนึงแหละ!” ผมตอบแบบกระแทกกระทั้นกลับไป
“งั้นนทสอนพี่จีบน้องอิงฟ้าหน่อยสิ พี่จีบคนไม่ค่อยเป็น” มันทำเป็นพูดจาเล่นหูเล่นตาผม ผมถลนตาใส่มัน ไอคนโลเล
“เอาสิๆกูช่วยด้วย!” พี่ไอซ์ก็จะอินอะไรนักหนาเนี่ย
“พวกผมช่วยด้วย” พวกเพื่อนที่แสนน่ารัก ยิ้มร่ากันเชียวนะพวกมึง
“นทจะไม่ช่วยพี่เหรอ!” พี่อ๊อฟหันมาถามพร้อมทำเสียง ทำหน้านอยๆ มันเล่นอะไรของมัน ไหนบอกชอบผมไง
“เอาน่าตัว มันยังเคยช่วยเรา2คนเลยนะ” พี่ไอซ์หันมาพูดกับผม ผมก็ยิ้มตอบ
“อืมๆ” แล้วผมก็นั่งเงียบ พวกเพื่อนผมก็คุยเม้ากันใหญ่เลยพี่ไอซ์ก็ด้วยส่วนพี่อ๊อฟก็คุยบ้าง แต่ก็หันมาทางผมบ่อยๆ “มองอะไรวะ!” ผมทำปากแบบไม่มีเสียงส่งไปให้มัน มันเอาแต่ยิ้ม
หลังจากที่เม้าแตกเรื่องพี่อ๊อฟกันเสร็จก็แยกย้ายกันขึ้นไปเรียน เรียนไม่รู้เรื่องเลย หงุดหงิดมากเรื่องพี่อ๊อฟ!พอเลิกเรียนผมแยกย้ายกับเพื่อนๆ ผมก็มารอพี่ไอซ์เล่นบอลเหมือนเดิม นึกขึ้นได้ผมก็ไปซื้อน้ำให้พี่ไอซ์สักหน่อย แต่แอบไปดูพี่อ๊อฟที่ชมรมมันด้วย พอไปถึงชมรมวาดรูป ผมเห็นอิงฟ้าไปนั่งดูพี่อ๊อฟ พี่อ๊อฟก็วาดรูปอย่างตั้งใจเชียว อิงฟ้าก็มีการเอาน้ำไปให้บ้าง ช่วยเหลาสีบ้าง น่าหมั่นไส้ที่สุด! ผมเดินออกไปซื้อน้ำให้พี่ไอซ์แล้วไปรอที่แสตน บอกตรงๆหงุดหงิดมาก.....
“เป็นอะไรวะ!?”ผมหันไปตามเสียง ไอพี่เต็มพี่ประธานสีของผมเอง
“ก็ไม่เป็นอะไรนิ!” หันหน้าหนีมัน
“หงุดหงิดอะไรของมึงว้า!” มันดึงไหล่ผม “หันมาเด้!” ทำไมชอบทำเสียงกวนประสาทตลอด
“โอ้ย! อะไรล่ะ พี่มีอะไรยุ่งจริงๆ” ผมเหวี่ยงใส่มัน
“อาการหนักนะมึง! กูแค่มีอะไรให้มึงช่วย” มันมองผมนิ่งๆ
“แหมๆ ทีมีอะไรให่ช่วยเนี่ยเห็นหัวน้องเลยนะ พอไม่มีอะไรให้ช่วยไม่เคยโผล่มาให้เห็นหรอก!” พูดติดจะไม่พอใจ
“ก็กูไม่ได้ว่างหรือเปล่าวะ จะช่วยไม่ช่วย!” พูดเสียงดังเป็นเชิงบังคับสินะ
“งานอะไรล่ะบอกมาก่อน!” ผมถามกลับเพราะอารมณ์ยิ่งไม่ค่อยจะดีอยู่
“ไปส่งกูซื้อของให้แฟนในวันครบรอบหน่อยเด้ กูไม่อยากพาเพื่อนไป มันชอบไปบอกหนิงก่อน”
“แล้วพี่ไม่คิดว่าผมจะเอาไปบอกพี่หนิงก่อนบ้างเหรอ” ผมพูดพร้อมทำหน้ากวนมัน
“โว๊ะ! ช่วยแค่นี้ก็ไม่ได้” ทำงอนไม่เหมาะกับบุคลิกมันเลย ไอพี่เต็มนี่
แล้วพี่ไอซ์ก็เดินเข้ามากอดคอผมจากด้านหลัง ตัวเปียกเหงื่อเชียว ผมก็ล้วงผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับให้พี่ไอซ์
“พี่เต็มดีครับ” ทักทายไอพี่ไม่เต็ม
“อะ เออๆ นี่มึง 2 คน” มองผมอย่างสงสัย แล้วพี่ไอซ์ก็หอมแก้มผม ผมก็แอบเขินนะเนี่ย ไม่ทันตั้งตัวเลย
“อย่างที่พี่คิดแหละ” พี่ไอซ์ตอบ ผมนี่เขินสิ
“อ่าวแล้วไอ เบ….”
“ช่างมันเถอะพี่!” ผมพูดแทรกพี่เต็มขึ้นมา ไม่อยากพูดถึงไอเบส พี่ไอซ์มองผมอย่างสงสัย
“เออๆงั้นไอไอซ์ กูยืมตัวแฟนมึงแปปดิ จะให้มันพาไปช่วยเลือกของให้แฟนกูวะ” พี่เต็มเอ่ยขอพี่ไอซ์ขึ้นมา
“แล้วทำไมไม่ไปกับเพื่อนพี่ล่ะ?” พี่ไอซ์ถามกลับพร้อมทำหน้าสงสัย
“ก็เพื่อนกูมันชอบไปบอกแฟนกูก่อนนี่หว่า ไม่เซอร์ไพรซ์เลย กูละเซ็ง!” พี่เต็มพูดเป็นเชิงบ่น
“แล้วตัวอยากไปไหมล่ะ?” พี่ไอซ์หันมาถามผม
“ตัวอยากให้เค้าไปหรือเปล่าละ…..”
“มึงทั้งสองคนนั่นแหละ ไปกับกูเลย!” สุดท้ายก็โดนบังคับ
แล้วพวกเราทั้งสามคนก็พากันมาห้าง โดยผมซ้อนรถพี่ไอซ์มา ส่วนพี่เต็มแว้นมาคนเดียว เราเดินดูของกันสักพักก็เจอเพื่อนๆของพี่เต็ม โดยมี...ไอเบสอยู่ด้วย พวกพี่เต็มก็คุยกันสักพัก ผมกับพี่ไอซ์ก็ยืนรอ ไอเบสก็มองผมไม่วางตาเลย มันจะหาเรื่องอะไรผมอีกหรือเปล่าเนี่ย!
“เป็นอะไรตัว ทำหน้าเซ็งๆ” หันมาถามผม “ไม่อยากมาเหรอ?”
“เปล่านะ แค่ไม่อยากอยู่แถวนี้นาน!”ผมพูดไม่จริงจังนัก
“เป็นอะไรหรือเปล่า หรือ เป็นเพราะเค้ามาด้วย ตัวเลยไม่อยากอยู่นาน?” ไปกันใหญ่แล้วพี่ไอซ์นี่ก็
“ไม่ใช่ ไม่ได้เกี่ยวกับตัวหรอกน่า” ผมพูดพร้อมกับยิ้มให้พี่ไอซ์ เราก็คุยกันรอพี่เต็ม แล้ว....
หมับ! ไอเบส มันมากอดคอผมจากด้านหลัง!
“ไงนท ไม่ได้เจอกันนานเลย....คิดถึงนะ” มันกำลังจะหอมแก้ม ผมเอามือดันหน้ามันออก พี่ไอซ์มองตาขวางเลย
“มึงเล่นอะไรเนี่ยไอเบส!” ผมเดินไปยืนข้างๆพี่ไอซ์ ไอเบสมันก็มองผม
“ใครนท!” พูดเสียงต่ำ แล้วดูจะไม่พอใจ
“พะเพื...”
“ผัวมันไง มีอะไรป่ะ!” มันพูดแทรกผมขึ้นมา ด้วยน้ำเสียงและหน้าตาที่กวนตีน พี่ไอซ์กำหมัดแน่น
“ไอเบสมึงอย่ามาพูดจาเลอะเทอะ กลับไปหาเพื่อนมึงไป!” ผมพูดเป็นเชิงไล่ แล้วก็จับแขนพี่ไอซ์ไว้
“กูพูดความจริงมันผิดตรงไหนวะ! มึงก็ร่านเนอะ คบอยู่กับกู แต่ก็ไปควงอีกคน” ไอเลว....
ผัวะ! ผมต่อยปากมันทันที พี่ไอซ์ดูเหมือนจะรับเรื่องนี้ไม่ได้ เดินหนีไปแล้ว พวกพี่เต็มพอเห็นก็วิ่งมาดูกัน.....
“อะไรกันวะพวกมึง ตีกันทำไม!” พวกมันมาดึงผมออก
“ก็ไอเวรนี่มันปากหมา ดูดิพี่ไอซ์เข้าใจผมผิดเลยอะ!” จะพุ่งไปหาไอเบสอีกรอบพี่เต็มจับผมไว้ มันทำหน้าวอนตีนจัง
“พอเลยๆ ไอเบสมึงก็อีกคน เลิกยุ่งกับนทได้แล้ว ป่ะนท!” ดึงแขนผมไป ไอเบสก็กระตุกคิ้ว พร้อมส่งยิ้มแบบกูชนะมาให้ผม ผมอยากจะซัดหน้ามันอีกสัก 2 – 3 ที่จริงๆ
พี่เต็มก็ลากผมออกมาไกลพอสมควรก็ปล่อยแขนผม ผมก็เดินนำพี่มันไปเลย หงุดหงิดจริงๆ แล้วพี่ไอซ์จะเป็นยังไงบ้างละเนี่ย ผมก็พยายามส่งข้อความไปหาพี่ไอซ์ ทั้งไลน์ ทั้งเฟส แล้วผมกำลังจะโทรหาพี่ไอซ์ พี่เต็มก็ดึงแขนผมไว้ก่อน.....
“กูเข้าใจมึงนะนท พวกเพื่อนกูมันบอกแล้ว! กูไม่น่าพามันมารู้จักกับมึงเลย” พี่เต็มพูดขึ้นพร้อมทำหน้าสำนึกผิด
“ไม่เป็นอะไรหรอกพี่ แค่เด็กไม่รู้จักโต ผมไม่โทษใครเลย ผมหลงผิดเอง” นึกแล้วก็โมโหตัวเอง “ผมขอโทรหาพี่ไอซ์ก่อนนะพี่ ไปไหนแล้วก็ไม่รู้”
“เออ! เดี๋ยวกูดูของร้านนั้นก่อนนะ” ชี้ไปทางร้านตุ๊กตา “แล้วตามกูมานะ!” กูเครียดขนาดนี้ยังมีอารมณ์มาซื้อของเนอะไอพี่เวร!
ผมกดโทรหาพี่ไอซ์หลายสายแล้ว ไม่รับเลย ผมก็ส่งข้อความไปก็ไม่มีวี่แวว จะเป็นอะไรไหมเนี่ยย! ผมกระวนกระวายสักพัก พี่เต็มก็เดินออกมา
“เป็นยังไงวะมึง” ถือกล่องของขวัญมาด้วย เลือกได้สักทีสินะ
“ติดต่อไม่ได้เลยอ่ะพี่! ได้ของขวัญแล้วเหรอ” ผมมองไปที่กล่องของขวัญพี่มัน
“เออดิ้ กูเห็นหนิงมันโพสอ่ะ ว่าน่ารักดี เลยซื้อให้มันเลย55555 ง่ายดี” อารมณ์ดีจังวะ กูเครียจะตายอยู่แล้ว “เอ้อ!แล้วไปไหนต่อไหม จะกลับเองหรือให้กูไปส่งละ!”
“ก็ต้องให้พี่ไปส่งแล้วละ! ไปส่งบ้านพี่ไอซ์นะ”
“เออได้ๆ”
แล้วพี่เต็มก็มาส่งผมที่บ้านพี่ไอซ์ ระหว่างทางมาพี่เต็มแม่งพูดมาก พอผมถามมันก็บอกไม่อยากให้ผมเครียด ผมว่ามันยิ่งพูดมากผมยิ่งเครียด มันเงียบได้สักที
“ขอบคุณนะพี่!”
“เออๆ คุยกันดีๆ มีอะไรก็โทรมาแล้วกัน กูไปนะ” แล้วมันบิดรถไปเลย
ผมชะเง้อมองดูข้างในบ้านพี่ไอซ์ เห็นรถพี่ไอซ์จอดอยู่ ดีนะที่กลับมาบ้านไม่งั้นคงได้ตามหากันทั่วแน่ ผมกดกริ่ง สักพักแม่พี่ไอซ์มาเปิดประตู
“อ้าว!นท มาได้ยังไงลูก ไอซ์อยู่บนห้องนะ ไม่รู้ไปหงุดหงิดอะไรมา กลับมาถึงก็อาละวาดเลย โยนของกระจัดกระจายเต็มไปหมด” คุณแม่พูดด้วยความกังวล
“เหรอครับ! งั้นผมขอขึ้นไปดูได้ไหมครับ” ผมพูดด้วยท่าทีทีกังวลเช่นเดียวกัน
“ลองขึ้นไปดูเนาะ เมื่อกี้แม่ขึ้นไปแล้วไม่ยอมเปิดประตู” มีการทำหน้าเซ็ง ด้วยนะคุณแม่ “ป่ะ!เดี๋ยวแม่ขึ้นไปส่ง”จูงมือผมเข้าบ้านไป
แล้วแม่พี่ไอซ์ก็พาผมขึ้นมาบนบ้าน มาส่งก็มาส่งจริงๆ ชี้ที่ห้องพี่ไอซ์แล้วบอกว่า “แม่ไปแล้วนะ”แล้วก็ไปเลย
พี่ไอซ์เวลาโกรธนี่อารมณ์รุนแรงเนอะ ขนาดแม่พี่ไอซ์ยังไม่กล้าห้าม ผมก็รวบรวมความกล้าสักพักก็เคาะประตูครับ
*ก๊อก ๆ ๆๆ*
“อย่ามายุ่ง!!” ผมสะดุ้งเล็กน้อย เสียงตะคอกจากในห้อง คือเป็นเสียงที่น่ากลัวจริงๆ คงโกรธมากๆเลยสินะ
“พะ...พี่ไอซ์ นทเองน้า เปิดประตูหน่อยนะครับ” พูดด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัว เฮ้อทำไมต้องมีแต่ปัญหาด้วยก็ไม่รู้ ความรักของผมนี่ มันน่าขันเสียจริง
“.......(เงียบ)”
“พี่ไอซ์.....” ผมก็คิดมากในหลายๆเรื่องอยู่แล้ว มาเจอเรื่องใหม่อีก ก็รู้สึกเหนื่อยใจมากเลย
“.......(เงียบ)”
“ผมไม่รู้หรอกนะว่าพี่ไอซ์เป็นอะไร หรือถ้าแค่พี่ไอซ์ได้ยินที่ไอเบสพูดแล้วมันทำให้พี่รู้สึกเกลียดผม…..” ผมหยุดเงียบสักพัก เผื่อพี่ไอซ์จะเปิดประตู  “.…….. ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วเหมือนกันครับ! ผมมีความสุขนะที่ได้คบกับพี่ แต่ถ้าพี่ไม่ฟังอะไรผมเลย ก็ลาก่อนนะครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง....” ความรู้สึกตอนนี้คือผิดหวังกับหลายๆอย่าง แต่พี่ไอซ์น่าจะเป็นคนมีเหตุผลกว่านี้ ผมยืนรอหน้าประตูสักพักก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะออกมา......
ผมก็เดินลงบ้านมา ก็บอกแม่พี่ไอซ์ไปว่าพี่ไอซ์ไม่ยอมเปิดประตู ผมก็เลยขอตัวกลับอยู่ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ผมลาแม่พี่ไอซ์เสร็จก็เดินออกกำลังจะพ้นประตูรั้วบ้าน.......

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พรึ่บ! พี่ไอซ์ดึงแขนผมไว้ ประเด็นก็คือตานี่แดง แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อละเนี่ย (หุ่นแซ่บเชียว เอ้ย!ไม่ใช่แล้ว555)
“ ......” เงียบ แต่ก็ยังจับแขนผมอยู่
“ถ้าพี่ยังไม่อยากพูดกับผมตอนนี้ผมกลับก่อนก็ได้” ผมพยายามแกะมือพี่ไอซ์ออก แต่ยิ่งแกะยิ่งแน่นเลทีนี้ ผมเลยหยุดแกะแล้วอยู่เฉยๆเพราะเริ่มเจ็บแล้วแม่พี่ไอซ์ก็ออกมาดู
“ไอซ์เป็นอะไรลูก” มองแขนผมที่ถูกพี่ไอซ์จับอยู่ “ปล่อยมือก่อนดีกว่านะแม่ว่าน้องนทเจ็บนะ!” แม่พี่ไอซ์ก็ดึงมือพี่ไอซ์ออก “เป็นอะไรทำไมไม่คุยกันดีๆ แม่ได้ยินที่นทพูดหมดแล้วนะ สรุปคือมันยังไง ไอซ์ไม่ฟังน้องเหรอ” ลูบหัวพี่ไอซ์ “ดูสิแขนน้องแดงไปหมดเลยนะ” ชี้มาที่แขนมผม ผมก็ลูบตรงจุดที่โดนบีบนิดหน่อย
“.......” เงียบผมก็มองพี่ไอซ์ มันก็เอาแต่ก้มหน้า เป็นพวกประเภทเงียบสู้สินะ
“ป่ะๆ!เข้าบ้านกันก่อน นทเข้ามาก่อนนะลูก” คุณแม่หันมาบอกผม แล้วจูงมือพี่ไอซ์เข้าบ้าน
คือพี่ไอซ์ค่อนข้างจะอาการหนัก คือมีอะไรจะเงียบ ไม่พูดไม่เคลียล์ ต่างจากพี่อ๊อฟ รายนั้นคือพูดทุกอย่าง ถึงจะต้องตื้อบ้างก็เถอะแต่มันก็บอกแหละ แต่รายนี้เงียบเกิน ไปไม่ถูกเหมือนกัน แล้วผมก็เดินเข้าไปในบ้าน ในห้องรับแขก แม่พี่ไอซ์ก็เอาผ้ามาเช็ดหน้าพี่ไอซ์ แล้วก็เดินมากระซิบให้ผมให้ตามไป โดยบอกพี่ไอซ์ว่าจะไปครัว พี่ไอซ์ก็เอาแต่พยักหน้า.......
“นท อย่ารำคาญตาไอซ์เลยนะที่พี่เขาเวลามีปัญหาแล้วชอบเงียบ” คุณแม่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ผมไม่รำคาญหรอกครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าผมทำอะไรผิดหรือเปล่า ถ้าผมทำอะไรผิดสู้ให้พี่เขาด่าผมดีกว่ามานั่งเงียบแบบนี้...” พูดด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ผมก็รู้สึกว่าผมใจร้ายเกินไป ในหลายๆอย่าง ทั้งนอกใจ ทั้งเรื่องไอเบส ตอนนี้ในหัวผมมีกี่เรื่องนะ
“ตาไอซ์มีปมต้งแต่เด็กๆแล้ว” คุณแม่หั่นผลไม้ไปด้วยพูดไปด้วย
“ปม? อะไรเหรอครับ” ถามด้วยความสงสัย
“เขาเป็นคนกลัวความผิดหวังน่ะสิ กลัวจะโดนทิ้ง เห็นไอซ์ดูเข้มแข็งเป็นนักกีฬาอย่างนั้นเขาเป็นคนอ่อนโยนนะ มีหลายเรื่องเลยนะที่ตอนเด็กๆเขาเจอมา แต่แม่ว่าให้พี่เขาเล่าเองดีกว่า แล้วที่จะเลิกกับพี่เขา...จริงเหรอ?” แม่พี่ไอซ์พูดอย่างอ่อนโยน
“เอ่อคือ.....คือผม.....” ไม่ได้ว่าอยากเลิกหรอก เราก็แค่พูดประชดไปนั่นแหละ แต่จะให้อธิบายให้ผู้ใหญ่ฟัง มันยาก พูดไม่ถูกเลย
“ไม่เป็นอะไรหรอกลูก แม่ไม่ว่าอะไรหรอก อีกอย่างไอซ์เป็นแบบนี้คนเข้าใจยาก มันเป็นเรื่องของลูกๆด้วย ถ้าลูกไม่ได้รักไอซ์แล้วก็ไม่เป็นอะไรหรอก มันบังคับกันไม่ได้นิเนอะ มันก็ขึ้นอยู่ที่ลูก2คนนั่นแหละ แม่ได้แต่แนะนำแหละเนอะ” ยิ้มให้ผม
“ผมไม่ได้อยากเลิกหรอกครับ ผมชอบพี่ไอซ์มากๆ ผมก็คิดว่าแค่ได้อยู่ใกล้กับพี่ไอซ์ผมก็มีความสุขแล้ว แต่ผมพูดแบบนั้นไปเพราะผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอหรือเปล่า เหตุผลที่ผมจะอธิบายของผมมันไม่น่าฟังขนาดนั้นเลยเหรอ ผมแค่คิดว่าอาจจะเป็นพี่ไอซ์เอง ที่อยากจะเลิกกับผม.......” พูดไปก็นอยนะ ผมเริ่มจะคิดมากเกินไปแล้ว
“แม่เข้าใจนะ แต่นทไม่ต้องด้อยค่าตัวเองและกลัวว่าไอซ์จะไม่รักหรอกนะ ถ้าไม่รักไอซ์จะไม่มีอาการแบบนี้เลย นททำให้เต็มที่ก็พอ เพราะทุกอย่างที่นททำ แม่ก็แอบดูอยู่ เป็นห่วงพี่เขามากๆใช่ไหม!” แม่พูดพร้อมกับยิ้มหวานส่งมา
“เป็นห่วงสิครับ! ผมอยากรับฟัง อยากจะเป็นทุกอย่างที่ทำให้พี่ไอซ์สบายใจเลย” ผมยิ้มขึ้นมาได้นิดนึง เป็นเพราะได้คุยกับคุณแม่ เลยสบายใจขึ้นมาหน่อย
“เรื่องนิสัยไอซ์ ไม่ต้องกังวลนะ อาการดื้อเงียบ แม่พ่อและพี่ชายของพี่ไอซ์ ลองหาทางแก้หลายครั้งแล้ว แต่มันเหมือนกลายเป็นนิสัยของเขาไปแล้ว แม่ก็ไม่รู้จะทำยังไง แต่พี่เขาก็ปกตินะ ไม่ได้มีอาการทางจิตอะไร  แม่พาไปพบจิตแพทย์มาแล้วนะเมื่อ3ปีที่แล้ว มันเป็นนิสัยนะลูก อย่าถือเลย” แม่พูดทีเล่นทีจริง ผมก็เข้าใจได้
“เหรอครับ ดื้อเงียบเนี่ยนะ 5555 ผมเพิ่งเคยเจอ” ผมพูดแบบไม่จริงจังนัก
“แม่เจอมาตั้งแต่เด็กแล้วลูก จนแม่ความดันขึ้นเลยละ55555” คุณแม่เอาฮาไม่ห่วงสวยเลย
ผมกับแม่ก็คุยกันสักพักก็เดินไปห้องนั่งแล่น ก็เห็นพี่ไอซ์นอนหลับไปแล้ว นอนตรงโซฟานั่นเลย เวลาพี่ไอซ์หลับเหมือนเด็กเลยนะ นอนจับผ้าด้วย แล้วแม่พี่ไอซ์ก็ปลุกพี่ไอซ์ให้ขึ้นไปนอนข้างบน คือเหมือนละเมอ ตื่นขึ้นมายังหยิบผ้าที่จับติดมือขึ้นไปด้วยเลย แล้วผมก็ตามขึ้นไป แม่พี่ไอซ์ก็ฝากให้ผมดูด้วย แม่เขาจะทำกับข้าว พอพี่ไอซ์เห็นที่นอนก็ล้มตัวลงนอนเลย ไม่สนใจผมกันเลยน่าน้อยใจจริงๆ.......
“ลุกขึ้นมาใส่เสื้อก่อนพี่ไอซ์เดี๋ยวไม่สบาย!” ผมไปเขย่าตัวพี่ไอซ์
“........ไม่!” พูดแล้วเอาผ้าห่มคลุมตัว ก็ยังดีแหละวะเดี๋ยวเป็นหวัดมาเป็นภาระผมอีก
ผมก็ไม่เซ้าซี้อะไร ผมก็นั่งเล่นตรงโต๊ะเขียนหนังสือพี่ไอซ์ มีโพสอิทเต็มไปหมดเลย เรื่องเรียนทั้งนั้นเลยนะเนี่ย แล้วผมก็มาเห็นรูปของผม รูปที่แม่พี่ไอซ์พูดถึงตอนแรกแน่เลย ผมก็วางไว้ที่เดิม แล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พี่อ๊อฟโทรมา5สายไม่ได้รับ นึกถึงพี่อ๊อฟแล้วผมก็โมโห ตกลงมันชอบยัยอิงฟ้านั่นหรือเปล่านะ! ไม่โทรกลับหรอก.......
“หิว” อยู่ๆพี่ไอซ์ที่นอนอยู่บนเตียงก็พูดขึ้นมา ผมหันไปมองนิดหน่อย “หิวๆๆ” ทำท่าลูบท้องน่ารักเชียว
“ลุกขึ้นไปใส่เสื้อ จะได้ลงไปกินข้าว แม่พี่ทำไว้ให้แล้วผมจะได้รีบกลับ มันจะค่ำแล้ว!” ผมหันไปบอกพี่ไอซ์ แล้วก็หันมากดโทรศัพท์
“หิว!” พี่ไอซ์ก็ยังคงเรียกร้องความสนใจ ผมก็ลุกขึ้นไปหาพี่ไอซ์ที่เตียงแล้วมองหน้าพี่ไอซ์
“หิวแล้วทำไมไม่ลุกละ?” ผมถามแต่พี่ไอซ์ชี้ที่ปาก “อะไรเหรอ” ทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“อื้อ” ยังชี้อยู่ที่ปาก ทำตัวอย่างกับเด็กๆ
แล้วผมก็ล้มตัวไปนอนข้างๆพี่ไอซ์ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นไม่สนใจพี่ไอซ์ พี่ไอซ์งอนต่อไป หันหลังให้ผมเลย ผมเลยวางโทรศัพท์แล้วสะกิดๆ ไม่ยอมหันมาอยู่ดี ผมเลยใช้แรงดึงพี่ไอซ์ให้หันมานอนหงาย แล้วก็ขึ้นคร่อมตัวพี่เขา แล้วโน้มหน้าลงไปจูบพี่ไอซ์ อย่างเบาๆแล้วก็ถอนออกมา.....
“พอใจยัง คุณชายขี้งอน!” พี่ไอซ์ยิ้มแล้ว “งั้นลุกไปใส่เสื้อเลย จะได้ลงไปกินข้าวสักที ผมจะกลับบ้านแล้ว” พูดแบบไม่จริงจังนัก ผมรู้สึกเหนื่อยกับหลายๆเรื่อง อยากกลับไปนอนแล้ว
“อ่าว ไม่กินด้วยกันเหรอ” ผมส่ายหน้า “เดี๋ยวเค้าไปส่งนะ!”
“ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวให้ แฟนใหม่ มารับกลับบ้าน!” เน้นคำว่าแฟนใหม่ พี่ไอซ์กำมือแน่นเลย ผมเหนื่อยจริงๆอยากรีบทำอะไรให้มันเสร็จแล้วกลับบ้านไปพักได้แล้ว
“เออ! งั้นรีบกลับไปเลย!” แล้วพี่ไอซ์ก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไป
ผมเก็บของๆผมแล้วก็ลงตามไปเห็นพี่ไอซ์นั่งทำหน้าเป็นตูดอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ผมก็ไปช่วยแม่พี่ไอซ์จัดกับข้าวเตรียมนู่นนี่เสร็จ สักพักพ่อพี่ไอซ์ก็มา แต่วันนี้พี่ชายพี่ไอซ์มาด้วย พี่เขาชื่ออาร์ม คือหล่อ หล่อมาก หล่อกว่าพี่ไอซ์อีก เพอเฟคมากมาย ผมมองไม่วางตาเลยทีเดียว5555 (แรดเนอะ!)
พอจัดโต๊ะเสร็จทุกคนก็มานั่ง ยกเว้นคนขี้งอนไม่ยอมมานั่งกินข้าว เอาจริงๆคือมีแฟนหรือมีลูกเนี่ย งอนยิ่งกว่าผู้หญิงอีก เฮ้อ! ไม่รู้อะไรนักหนา -_-‘’’ ผมก็เดินไปตามพี่ไอซ์ไปกินข้าว
“ตัวไปกินข้าวได้แล้ว” ผมพูดด้วยเสียงหวานพร้อมส่งยิ้มให้
“......” สบัดหน้าหนี เอิ่ม!.........
“จะเป็นแบบนี้อีกนานไหมเนี่ย!” เดินเข้าไปจับมือพี่ไอซ์แล้วลากไปห้องกินข้าวเลย มันก็เดินมาตามแรงดึงของผมนะ
“ไงไอตัวดี! ได้ข่าวว่าวันนี้ก่อเรื่อง?” พ่อพี่ไอซ์เอ่ยถาม พี่ไอซ์นั่งลงแบบกระแทกกระทั้น
“ระวังนะ! งี่เง่ามากๆน้องนทเขาจะเบื่อให้” พี่อาร์มพูดพร้อมกับส่งยิ้มแบบมีเสน่มากๆมาให้ ผมหยุดมองพี่เขาไม่ได้เลย
“นั่นสิ! อย่าให้มันมากไปนะ” คุณแม่เริ่มดุแต่พี่ไอซ์ยังคงเงียบ
“ไม่หรอกครับ ทุกคนอย่าว่าพี่ไอซ์เลย” (ยิ้ม) “ผมว่าพี่ไอซ์แค่ขี้งอนไปหน่อย” พูดแล้วหันไปยิ้มให้พี่ไอซ์ แต่หันหน้าหนีผมสะงั้น
“น้องนทนี่ยิ้มน่ารักจังเลยเนอะ เป็นคนที่ดูสดใสร่าเริงตลอดเวลาเลย” พี่อาร์มพูดขึ้นแล้วก็ยังส่งยิ้มหล่อมาให้ผมไม่หยุด
(เขินเลยสิทีนี้ ) “มะ ไม่หรอกครับ” (ก้มหน้าพูดเพราะเขิน) “ผมจะทำตัวให้เครียดทำไมละครับ” (ยิ้ม)
“นทเวลาเขินลูกดูน่ารักมากเลยนะ” คุณแม่ก็ยอเก่ง
“นั่นสิดูดิ แก้มแดงไปถึงหูแล้ว 55555” คุณพ่อก็ด้วย โอย ร้อนหน้าไปหมด
“ชมเกินไปแล้วนะครับ” บิดไปบิดมา ไม่เป็นอันกินแล้ว “อะพี่ไอซ์” ผมตักปลาทอดให้พี่ไอซ์ แต่พี่ไอซ์เขี่ยไว้ข้างจาน...สะงั้นผมหน้าหงอยเลยสิโถ่!
“ไอซ์ ทำแบบนี้ได้ยังไงลูก น้องตักให้เลยนะ!” คุณพ่อพูดเสียงเข้ม ออกไปทางดุ
“นั่นสิ อย่าหักหารน้ำใจน้องนะ!” คุณแม่ดุพี่ไอซ์ พี่ไอซ์ก็ยังคงเงียบ..แต่ก็ยอมตักปลาที่ผมตักให้กินเหมือนกินเพราะโดนแม่ดุเท่านั้น
“ไม่เป็นอะไรหรอกครับ พี่ไอซ์คงไม่ชอบปลา....” ผมซึมไปนิด...น้อยใจจัง
กินกันไปสักพักก็ไม่มีอะไรมาก พูดคุยกับพ่อแม่พี่ของพี่ไอซ์ไป เป็นกันเองไม่อึดอัดเลย แต่พี่ไอซ์ก็ยังคงเงียบ จะงอนอะไรนักหนา พอกินกันเสร็จผมก็อาสาเป็นคนช่วยล้างจาน แล้วพี่ไอซ์ก็มายืนช่วย ผมก็ชวนพูดนั่นพูดนี่ แต่เหมือนผมพูดคนเดียว พี่ไอซ์ก็ยืนทำหน้านิ่งๆ บางทีก็อมยิ้มถ้าผมพูดตลก พอล้างเสร็จพี่ไอซ์ก็เดินขึ้นห้องไปเลย ผมก็เลยลาพ่อแม่พี่ของพี่ไอซ์กลับ ตอนแรกจะให้พี่อาร์มมาส่งแต่ผมเกรงใจบอกว่าเดี๋ยวมีคนมารับโกหกไปก่อน ไม่อยากรบกวนพวกเขามากแค่มากินข้าวบ้านเขาก็เกรงใจจะแย่ (ขนาดเกรงใจกินไปตั้งเยอะแนะ5555) คุยกับพี่ไอซ์วันนี้คงไม่รู้เรื่องแน่ๆ แล้วผมก็เดินออกจากบ้านพี่ไอซ์มา แล้วหาโบกรถ2แถวขึ้นกลับบ้าน ยืนรอแถวหน้าหมู่บ้านของพี่ไอซ์ รอนานคือมันมืดแล้ว รถจะไม่ค่อยมี หรือมันไม่มีคิวรถผ่านแล้วนะ ผมก็แอบกังวล..........
ปี๊น ปี๊น ปี๊น! เสียงแตรรถมอเตอร์ไซค์ดังมาจากด้านหลัง มองหันไปก็มองไม่เห็น ไฟหน้ารถส่องตาจนแสบ แล้วรถคันนั้นก็มาจอดข้างผม พี่ไอซ์นั่นเอง แต่เอ๊ะ! กระเป๋าเสื้อผ้า?............
“ไหนอ่ะแฟนใหม่” ประชดผมสินะ
“รออยู่ไม่มาสักที!” ตอบกลับพร้อมทำหน้าเซ็งๆ
“อ้อ! มีแฟนเป็นนักเรียน ดรีกรีนักฟุตบอลโรงเรียนไม่ชอบ ชอบมีแฟนเป็นคนขับสองแถวเหรอ?” แดกดันผมสินะ อะไรกัน งอนนิดเดียวนิสัยพูดจาแบบนี้ไปเอามาจากที่ไหนก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็น
“ก็แฟนนักเรียนขี้งอน แถมชอบพูดแดกดันด้วย!” ผมก็เดินไปมาเพราะเริ่มมีอาการ ยุงกัด555
“ขึ้นรถเลยเร็ว ยุงกัดหมดแล้ว!” เพิ่งนึกได้มั้ง!
“ก็ได้! ถ้าไม่ติดว่าไม่มีสองแถวไม่ขึ้นหรอก” พูดจาเล่นตัวนิดหน่อย แล้วก็ขึ้นซ้อนรถพี่ไอซ์ “แล้วเอากระเป๋ามาทำไมอ่ะ?”
“ไปหานอนบ้านแรด!”อะไรวะ! แล้วมันก็ขับรถออก
“แรดที่ไหน!” ขึ้นเสียงเลยสิ “ออที่ทำงอนคือไปมีกิ๊กใช่ไหม”
“แรดที่มันซ้อนท้ายเค้าอยู่เนี่ย!” อ่อผมแรด ด่าเรารึ!
“ใครแรด? อย่ามาด่าซี้ซั้วนะ!” แรดตอนไหนว้าไม่เห็นรู้ตัวเล้ย5555 แต่แรงนะคำพูดคำจา
“แรดที่ไหนไม่รู้ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้พี่อาร์ม” เอิ่ม! เห็นได้ยังไงว้า
“อะ อะไร! ก็ยิ้มตามมารยาทนั่นแหละ อย่ามาว่าเค้านะ!” เสียงดับกลบเกลื่อน
“ไม่รู้แหละ คืนนี้ต้องเคลียล์ แล้วต้องโดนทำโทษ!” พูดเสียงดุ
“คะ...เคลียล์ อะไร ละ...แล้วจะไปนอนบ้านเค้าขอป๊าเค้าแล้วเหรอ” พี่ไอซ์ดูไม่น่าไว้ใจเลย ก่อนออกจากบ้านดูงอนอะไรไม่รู้ พอออกมาแลดู ปกติแบบไม่ปกติ555 อยู่ๆทำตัวร้ายๆ ไม่ดีต่อใจเลย
“ก็จะทำเหมือนที่ตัวบอกป๊าตัวนั่นแหละ” พูดเสียงหล่อ
“อะไร?” ผมถามด้วยความสงสัย พลางนึกคิดไปด้วย
“ข่มขืนไง 5555” พ่อหนุ่มกลัดมันสินะ อะไรเนี่ย ผมรู้สึกแปลกๆชะมัด พี่ไอซ์ไม่เหมือนเดิม ><
“เอิ่ม! รุ่นนี้ไม่ต้องข่มขืนหรอก ขอก็ให้!55555” พูดขิงกลับไป แต่ใจก็แอบกลัวอยู่นะ
“จริงอ่ะ” อยู่ๆก็ชะลอรถถาม
“ไม่จริงอ่ะ” ผมตอบกลับอย่างไม่ยอม
ผมก็เถียงกับพี่ไอซ์ไปๆมาๆอย่างนี้จนถึงบ้านผม ผมก็เข้าไปบอกป๊ากับแม่ก่อนว่าพี่ไอซ์จะมานอนด้วย แล้วก็มาเปิดประตูเอารถเข้าไปจอดไว้ในบ้าน แล้วพาพี่ไอซ์เข้าบ้าน.......
“หวัดดีครับป๊า หวัดดีครับแม่”(ยิ้ม)
“อ่าดีๆ” ป๊าตอบรับพร้อมกับดูทีวีไปด้วย
“ดีจ้า กินข้าวมากันยังลูก” แม่ทักทายพร้อมถามไถ่อย่างห่วงใย
“กินที่บ้านพี่ไอซ์แล้วครับ” ผมตอบกลับพร้อมกอดแม่ไป 1 ที จุ๊บ ป๊าอีก 1
คุยกับป๊าและแม่สักพัก ป๊าก็ไล่ผมกับพี่ไอซ์ขึ้นมาอาบน้ำ พรุ่งนี้หยุดนิ! พึ่งนึกออกแล้วพี่ไอซ์จะมานอนทำไม?....
“พี่ไอซ์พรุ่งนี้วันหยุดไม่ต้องไปโรงเรียนนิ!” ผมถามขึ้นด้วยความสงสัย 
“ก็เค้าจะพาตัวไปเที่ยว แล้วคืนนี่ก็อยากได้ยินความจริงจากปากตัวด้วย!” พูดพร้อมกับส่งสายตาไม่น่าไว้วางใจมา
“กะ...ก็ได้ๆ งั้นไปอาบน้ำก่อนเลย หรือจะอาบพร้อมกันดี” ผมพูดทีเล่นทีจริง พี่ไอซ์หันมายิ้มทันที
“เอาๆ อาบพร้อมกันดีกว่า” ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น
“คิดอะไรลามกหรือเปล่าเนี่ย” มองพี่ไอซ์อย่างจับผิด
“นิดนึง555” มีการยอมรับด้วยนะ
“งั้น” ผมเดินไปนั่งข้างพี่ไอซ์ แล้วก็เอามือไปลูบที่ต้นขา “ให้เค้าช่วยไหม” ลูบไปลูบมา
ทำหน้าเคลิ้มเชียว “กะ ก็ดีนะ” ยิ้มแบบฟินๆ
ผมลูบไล้บริเวณลำคอพี่ไอซ์ด้วยปลายจมูก “ผมว่า..พี่ไอซ์ไปอาบน้ำก่อนเถอะ!” กลิ่นพี่ไอซ์ทำผมแพ้ทางตัวเอง บวกกับทุกอย่างบนร่างกายพี่เขา เป็น Toxic ที่ทำให้ใจผมพังได้เลย
“ไปอาบด้วยกันนะ นะๆๆๆ” อ้อนสินะ ผมเห็นเป้ากางเกงพี่ไอซ์คือตุงมากเลยทีเดียว บางสิ่งมันได้ตื่นขึ้นมาแล้วสินะ
“ไม่เอา! อาบทีละคนดีแล้ว” ยิ้มให้พี่ไอซ์ แล้วหอมแก้มพี่เขาทีนึง
“ถ้าอาบแล้วมาต่อจากเมื่อกี้นะ บอกแล้วนะว่าจะช่วย” รู้สึกคิดผิดไม่น่าไปแกล้งมันแบบนั้นเลย
“ระ....รีบไปอาบเถอะน่า” แล้วพี่มันก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปเลย
ระหว่างรอพี่ไอซ์อาบน้ำผมก็เล่นโทรศัพท์เข้าเฟสรอ เห็นพี่อ๊อฟกับยัยอิงฟ้าถ่ายรูปด้วยกัน หมั่นไส้ที่สุด!
มีการเม้นตอบด้วยนะ ทุกทีนี่เห็นหยิ่งจัง เชอะไม่สนใจด้วยหรอก พี่อ๊อฟทักแชทผมมาด้วย แต่ไม่ตอบหรอก โกรธเว้ย! ผมก็ไล่ดูไปสักพักพี่ไอซ์ก็เดินออกมาจากห้องน้ำ คือนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาผืนเดียว ชอบอวดหุ่นจัง ผมนี่ใจไม่ดีเลย! หุ่นพี่ไอซ์นี่หุ่นนักกีฬาเลย แน่นๆ มีซิกแพค แต่ก็ไม่ได้ผอมมีน้ำมีนวล น่าลูบจริงๆ
“ชอบโชว์?”หลังจากเข้าสู่ภวังค์ของตัวเองไม่นานผมก็ต้องรีบทำตัวเรียบนิ่ง จะมาเสียอาการไม่ได้เด็ดขาด
“อืม หุ่นดีอ่ะเด้ กลัวอดใจไม่ไหวเหรอ?” ดูทำหน้าเข้า โอย ตาย ผมจะอกแตกตายตรงนี้ เขินสิ รู้ทัน
“ปะ ไปอาบน้ำดีกว่า” รีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที
อาบน้ำเสร็จผมก็แต่งตัว ออกมาจากห้องน้ำ พี่ไอซ์หลับไปแล้ว ผมก็นั่งทำการบ้านไปคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย พี่อ๊อฟก็ยังคงส่งข้อความมา ผมไม่สนใจหรอกไม่ตอบด้วย แล้วผมก็ปิดไฟ แล้วขึ้นเตียงเพื่อจะนอน..... หมับ! พี่ไอซ์ขึ้นมาคร่อมตัวผมทันที ห้องผมถึงจะปิดไฟ แต่ก็ยังพอมีแสงจากไฟจากข้างนอกผ่านเข้ามาทางระเบียงให้เห็นอยู่....

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
“หนะ...นอนไปแล้วไม่ใช่เหรอ!” ผมแอบตกใจนิดหน่อย แต่ก็รู้สึกวาบหวิว ผมยังไม่พร้อมนะเนี่ย><
“รอตัวตั้งนาน มัวทำอะไร!”ถาม ด้วยเสียงที่ดูจะเซ็กซี่ หรือผมคิดไปเองเพราะสถานการณ์ตอนนี้นะ
“กะ...ก็อาบน้ำเสร็จก็นั่งทำการบ้านไง!” ผมเบนหน้าหลบสายตาที่หวานหยดย้อยนั่น
“เรามาต่อ....” (ทำปูไต่ตรงคอผม) “จากเมื่อกี้ดีกว่า....”
“คะ...เค้าว่าเรามาเคลียล์เรื่องเมื่อตอนเย็นดีกว่าไหม!”เปลี่ยนเรื่อง พี่ไอซ์ก็ถอยลงไปนอนข้างๆผมแล้วถอนหายใจออกมา
“ก็ได้ โถ่!” เซ็งเชียว ผมรอดตัวไป5555
“บอกมาดิเมื่อตอนเย็นทำไมหนีกลับบ้านก่อน แล้วไปอาละวาดที่บ้านทำไม!” ผมถามด้วยความอยากรู้
“.......ไม่พูดได้เปล่า” ทำเสียงอ้อนๆ แล้วหันมากอดผม
“ถ้าไม่พูดก็กลับบ้านไปเถอะ!” ผมนอนหันหลังให้พี่ไอซ์พี่ไอซ์ก็เงียบไปสักพัก.....
“เรื่องที่คนชื่อเบสพูดเป็นเรื่องจริงไหม” พูดด้วยน้ำเสียงเบาๆเหมือนไม่อยากถาม ผมก็พลิกตัวกลับมา
“มันเป็นแฟนเก่าเค้าเองแหละ” แล้วผมก็เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดระหว่างผมกะไอเบสให้ฟังครับ.... “มันก็เป็นแบบนี้แหละ!” \
“แล้วทำไมตัวไม่บอกเค้าแต่แรก ทำเหมือนไม่อยากพูด ตั้งแต่ตอนที่พี่เต็มชวนแล้วพูดถึงมัน!” พูดติดจะไม่พอใจ
“ที่ไม่อยากพูดเพราะคิดว่าคงไม่มีอะไร อีกอย่างมันทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโตแบบนั้นตัวก็ไม่ต้องไปสนใจมันหรอก!”
“มันทำร้ายตัวตลอดเลยเหรอ” จับมือผม
“อืม พวกชอบใช้กำลังน่ะ”
“แล้วมันเคย.....” พี่ไอซ์เอื้อมมือมาลูบแถวก้นผม
“ไม่เคยๆ และเค้าก็ยังไม่เคยกับใครทั้งนั้นแหละ ไม่ใช่หวงตัวหรืออะไรนะ แค่จะให้แค่คนที่อยากให้นะ555555” พี่ไอซ์ยิ้มจนเห็นฟันเกือบหมดปากแล้ว “แล้วตอนเย็นเป็นอะไรมากมายอ่ะ เค้าปวดหัวกับตัวมากเลยนะ!” ผมต้องรีบเบี่ยงประเด็น ไม่เช่นนั้นแล้วเดี๋ยวอาจจะมีต่อจากเมื่อกี้
“ก็เค้าเครียด เค้ากลัว...กลัวตัวจะเป็นแบบที่มันพูด แต่พอเห็นตัวตามเค้ามาบ้าน เค้าก็หายแล้วละ!” มันยิ้ม พร้อมเอามือลูบแก้มผม
“อ่าว! แล้วทำไม?.....” ผมอึ้งนะ เล่นผมเป็นไมเกรนแบบนั้น
“ก็อยากให้ตัวง้อไง” ผมจะบ้าตาย แต่ละอย่าง
“ก็เลยให้เค้าเดินกลับบ้าน?” ผมก็เริ่มจะนอยกับการงี่เง่าแล้วให้ผมลำบากแล้วนี่สิ
“เปล่า! เค้าไปเก็บกระเป๋า ตัวก็รีบกลับไปไหน เค้าก็กลัวตัวโดนฉุด มันมืดแล้วด้วย”
“ดูสภาพเค้าก่อนเถอะ มีแต่จะไปฉุดคนอื่น5555555”
เราคุยกันไปสักพักก็ผล็อยหลับกันทั้งคู่ ผมก็รอดตัวจากสถานการณ์ล่อแหลม ตื่นมาอีกที่สายแล้ว พี่ไอซ์ยังไม่ตื่นเลยผมก็ลุกไปอาบน้ำ แต่งตัว พอผมเสร็จพี่ไอซ์ก็ยังไม่ตื่น ผมก็ลงไปช่วยแม่ทำงานบ้าน ป๊าไปออกรอบ(ตีกอล์ฟ)กับเพื่อนๆ ผมออกไปรดน้ำต้นไม้........
“โทรไปทำไมไม่รับวะ! ข้อความกูอ่านแล้วมึงก็ไม่ตอบเป็นอะไร!”มาแล้ว เสียงดังมาเชียว!
“.........” เงียบทำไม่สนใจ
“อ๋อ! พาแฟนมานอนบ้าน หึ! คงจะได้กันแล้วสินะ ติดใจมันละสิ! ถึงไม่สนใจกูเลย!” โกรธแล้วสินะ มันชอบพูดจาเพ้อเจ้อ
“.........” เงียบ ทำไมไม่สนใจ มันเดินเข้ามาบีบแขนผม  “ โอ้ย!” ผมสบัดแขนมันออก
“ทำไม ได้กับไอซ์ กูเลยกลายเป็นคนอื่นไปเลย?” ยกเรื่องคนอื่นมาพูดอีกแล้ว ไม่ได้ผลหรอก
“ผมว่าพี่เลิกดูหนังแล้วก็เลิกอ่านนิยายบ้างก็ดีนะ เพ้อเจ้อน่า ไม่ต้องมายุ่งกับผมแล้วด้วย! ไปหายัยอิงฟ้านั่นสิ!”
“อิงฟ้า? อ๋อ” มันยิ้มออกมาได้นะ “หึง?”
“ไม่ได้หึง! ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย จะหึงเพื่อ?” พูดติดจะไม่พอใจ พร้อมกับทำหน้ากวนตีนใส่พี่มัน พี่อ๊อฟก็ท่าจะประสาท ตอนแรกยังทำท่าโมโหแล้วนี่มายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คืออะไร?
“เออกูไปแล้ว แค่นี้กูก็พอใจแล้ว!” แล้วมันก็ไปเลย อะไรของมันว่ะ!
ผมช่วยแม่ทำอะไรเสร็จก็ขึ้นไปปลุกพี่ไอซ์ พี่ไอซ์ใส่บ๊อกเซอร์เสื้อยืดนอน แต่ประเด็นคือเคารพธงชาติตอนสายๆ
ผมเอามือลูบต้นขาพี่ไอซ์ แกล้งพี่ไอซ์สักหน่อย ยั่วให้อยากแล้วก็จาก.........
“อืม” หลับอยู่ยังทำหน้าฟินนะ บ้าที่สุด! จริงๆก็อยากสัมผัสเสาธงของพี่ไอซ์นะ ><
“ไม่ตื่นโดนจับน้า” ผมไปพูดใกล้ๆหูพี่ไอซ์ พี่ไอซ์ก็ค่อยๆลืมตา แล้วจับมือผม
“ก็จับดิ! ถ้าเป็นตัว เค้าให้จับทั้งวันเลย” เอามือผมไปถูไอซ์น้อย  ตื่นเต้นมาก เขินด้วย>///<
“บะ บ้า!” เอามือปิดหน้า ประเด็นก็คือมือที่จับของพี่ไอซ์ก็ยังไม่ได้ล้างเอาไปจับหน้า! ก็เขินอ่ะ ทำอะไรไม่ถูก
“เห็นมองอยู่นานไม่จับสักที!” มีการแซว แล้วก็ลุกขึ้นนั่ง
“คะ..ใครอยากจับ” รู้สึกร้อนที่หน้ายังไงไม่รู้
“หืม” ทำหน้าล้อเลียนผม “กี่โมงแล้วเนี่ย ทำไมไม่ปลุกเค้าล่ะ?”
“ก็อยากให้ตัวนอนเยอะๆไง” (ยิ้ม) “เค้าจะได้มีเวลาหากิ๊ก55555”
“หาไปเถอะ!” พูดด้วยน้ำเสียงที่ติดจะไม่พอใจ แล้วลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ ผมก็แอบเอาโทรศัพท์พี่ไอซ์มากดดู โอ้โห! แชทในไลน์ผู้หญิงเพียบเลย สวยๆทั้งนั้น ในเฟสก็ใช่ย่อยนะ คืออะไร! ทำมาเป็นโกรธเรา ไม่ดูตัวเองเลย ผมนั่งค้นโทรศัพท์พี่ไอซ์สักพักพี่ไอซ์ก็ออกมา.......
“ทำอะไร!”
“เปล่า!” ผมตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“เช็คโทรศัพท์เค้าเหรอ! เป็นไงกิ๊กเยอะไหม5555” ผมมองมันด้วยสายตาเรียบนิ่ง เอาจริงมันไม่ตลก
“เยอะนะ! แต่น้อยกว่าผม” ผมโยนโทรศัพท์คืนพี่ไอซ์ แล้วนอนหันหลังให้
“พวกนี้เค้าก็คุยเล่นกันเฉยๆ เค้าคุยไปตามมารยาทเท่านั้นแหละ เดี๋ยวคนอื่นจะว่าหยิ่งนะ” เฟรนลี่จริงๆเลยเนอะ!
“คุยเล่นกันเฉยๆเนอะ เล่นสะหวานหยดเลย!” หงุดหงิดวะ! เห็นพี่ไอซ์ใสๆแบบนี้ก็ร้ายเงียบนะเนี่ย
“ถ้าตัวไม่พอใจ เค้าลบออกก็ได้นะ” ทำเสียงหงอยๆ คงเสียดายมากสินะ!
“ไม่ต้องลบหรอก พี่คุยไปเถอะ ไม่อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของพี่มากเกินไป” ผมก็ลุกขึ้น “ไปกินข้าวกันเถอะ แม่ผมเตรียมไว้ให้แล้ว” ผมลืมไป ข้อเสียของการคบคนหน้าตาดี คงจะหนีเรื่องพวกนี้ไม่ได้จริงๆ หงุดหงิดจัง ไม่รู้จะทำยังไง
“ตัวเค้าไม่ได้คิดอะไรกับพวกนั้นเลยจริงๆนะ!” ทำเสียงเครียด
“อืม” ตอนนี้แค่คิดว่า พี่ไอซ์ก็หล่อนะ ถ้าพี่เขาจะมีแฟนเป็นผู้หญิงสวยๆ ก็ไม่น่าแปลกอะไร
พวกเราก็ลงมากินข้าวกัน พี่ไอซ์ก็ชวนผมพูดนั่นนี้ ผมก็คุยบ้าง เหม่อบ้าง ก็คิดเยอะอยู่แหละ แต่ไม่รู้สิเราจะไปสู้ผู้หญิงสวยๆพวกนั้นได้ยังไง -_-“”
“ไปเที่ยวไหนกันดีวันนี้” ยิ้ม ไม่ได้รับรู้อะไรเลยจริงๆ
“พี่ไปไหนผมก็อยากไปที่นั่นแหละ” ยิ้ม คือผมไม่อยากทะเลาะ ไม่อยากมีปัญหาเลยเลือกที่จะเงียบดีกว่า เพราะพี่ไอซ์ก็ดูไม่ได้เครียดอะไรอยู่แล้วด้วย แต่ผมนี่สิที่คิดมาก
“งั้นไปสวนสัตว์กัน” ยิ้มร่าเลย สวนสัตว์เนี่ยนะ ร้อนก็ร้อนเฮ้อ! แล้วพี่ไอซ์ก็พาผมไป....
ระหว่างทางพี่ไอซ์ ก็พูดนั่นนี่ไปทั่ว ผมก็ได้แต่ตอบรับบ้าง ถามบ้าง ยังอยู่ในอารมณ์นอยและคิดมาก พอถึงพี่ไอซ์ก็ไปจัดการเรื่องบัตรเข้าอะไรเรียบร้อย......
“ตัวไม่อยากมาเหรอ ทำไมทำหน้าเบื่อๆ”
“เปล่าหรอก” (ยิ้ม) “แค่ร้อนนิดหน่อยน่ะ”
“งั้นเราไปโซนที่เย็นๆก่อนแล้วกันเนอะ”
เราก็พากันเดินไปดูนั่นดูนี่ไปเรื่อย พี่ไอซ์ก็ถ่ายรูปตลอด ประเด็นคือรูปคู่ทุกรูป! คนก็มองเต็มไปหมด เดินกันจนหมดแรง แล้วก็พากันไปหาอะไรกินที่เซ็ลทรัล.....
“โห! เดินที่สวนสัตว์ยังไม่พอ ยังต้องมาเดินนี่อีกเหรอ” ผมบ่นออกมา เพราะปวดขาแล้ว!
“เอาน่า นี่เค้าพาตัวมาหาอะไรกินนะไม่ได้มาเดิน” ยิ้มหน้าบ้าน จูงมือผมเข้าร้านชาบู
พี่ไอซ์ก็เทคแคร์ดีนะ ไปไหนมาไหนจ่ายให้ผมตลอด และก็ยังดูแลดีด้วย ส่วนเรื่องที่ค้างคาใจผมก็ไม่ติดใจอะไรแล้วล่ะเพราะเหมือนพี่ไอซ์ก็พยายามแสดงให้เห็น ว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับที่ผมเห็นจริงๆ
“ไง อารมณ์ดีขึ้นยัง” (ยิ้ม)
“อะไร”
“เค้าเห็นนะ! ตั้งแต่ออกบ้านมาตัวดูแปลกๆ เรื่องในโทรศัพท์เค้าใช่ไหม” โชว์โทรศัพท์ขึ้นมา
“ก็นิดนึงอ่ะ!” เพราะอิ่มท้อง ก็เลยอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย
“ไม่นิดล่ะมั้ง” ยิ้ม จะอารมณ์ดีไปไหน “อะ” ยื่นโทรศัพท์ให้ผม
“ทำไม?”  รับโทรศัพท์พี่ไอซ์ แล้วทำหน้าสงสัย
“เค้าอยากให้ตัวรู้ ว่าเค้าไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆ” ผมก็กำดูโทรศัพท์พี่ไอซ์มันล้างแชทในไลน์แล้วก็ลบพวกผู้หญิงพวกนั้นออกหมดเลย เหลือแต่เพื่อนๆ ส่วนในเฟสและแอพอื่นๆก็ลบแชทหมดเกลี้ยงเลยเหลือไว้แต่แชทเพื่อน! “พอใจยัง” (ยิ้ม)
“ทำแบบนี้ใครก็ทำได้น่า”  ยื่นโทรศัพท์คืนพี่ไอซ์ พี่ไอซ์ทำหน้าหงอยเลย “ผมเชื่อใจพี่อยู่แล้วน่า แค่วันนี้พี่แสดงให้เห็นผมก็พอใจแล้ว”(ยิ้ม)
“จริงนะ!” ดีใจอะไรขนาดนั้น “อะ” ตักเนื้อป้อนผม ผมก็อ้าปากรับ
“แต่ถ้าพี่ไอซ์ ชอบผู้หญิงพวกนั้นก็บอกผมได้เลยนะ” (ยิ้ม) “ผมเตรียมใจไว้เสมอ” ผมเตรียมใจไว้อยู่แล้ว อาจจะมีเสียใจบ้างแต่คงไม่มากมาย หล่อๆแบบพี่ไอซ์มีคนเข้าหาเยอะ จะมีโลเลบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ พี่จริงใจนะนท!” โกรธแล้วสินะ วางตะเกียบซะแรง
“ผมพูดไปงั้นแหละ พี่ไม่เห็นต้องโกรธเลยนี่” บอกตรงๆคือผมไม่อยากพูดหาเรื่องเลย แต่ผมมันก็เป็นเสียแบบนี้ “กินๆ อะ”ป้อนพี่ไอซ์
เรากินกันไปสักพัก พี่ไอซ์ก็พาผมกลับบ้าน เขาคงหงุดหงิดเรื่องที่ผมพูดแหละ พอถึงบ้านเขาก็เข้าไปเก็บกระเป๋าเสื้อผ้า ลาป๊ากับแม่ แล้วก็ขี่รถกลับบ้านเลย โดยบอกผมว่า พรุ่งนี้ไปธุระกับที่บ้าน แต่จริงๆผมก็ดูออก ว่าไม่พอใจที่ผมพูดแบบนั้น นี่ก็เย็นแล้ว ผมก็ใส่หูฟัง ออกไปเดินเล่นแถวสนามเด็กเล่นคิดอะไรเรื่อยเปื่อย แล้วก็นั่งเล่นชิงช้า สักพักพี่อ๊อฟมาสะกิดผมจากด้านหลัง หันไปมองหน้าพี่อ๊อฟแล้วก็หันกลับไปมองข้างหน้าเหมือนเดิม ผมเซ็งกับอะไรหลายๆอย่าง มันดูไม่ลงตัวเลย หรือเรางี่เง่าไปเองนะ เฮ้อ!
“มาได้ยังไงอ่ะ” ถอดหูฟังออก แล้วหันไปถามพี่มัน
“กูกลับมาจากข้างนอก เห็นมึงเดินมาสนามเด็กเล่นเลยตามมา เป็นอะไรวะ ดูเซ็งๆ” ถามด้วยน้ำเสียงดูอ่อนโยน ไม่สมกับเป็นมันเลยนะ
“นิดหน่อยอ่ะ พี่ไปไหนมา?”
“ไปหาน้องอิงฟ้ามา” ยักคิ้วให้ผม ผมหันหน้าหนีมันทันที
“เออ!” หงุดหงิดจริง
“เป็นอะไรของมึงวะ” จับมือผม ผมสบัดออก
“เดี๋ยวอิงฟ้าจะเข้าใจผิดนะพี่!”
“เห้ย! กูล้อเล่นกูไปส่งพ่อซื้อของมา ไม่ได้ไปกับอิงฟ้า มึงจะโกรธอะไรวะ!”(ยิ้ม)
“ไม่เกี่ยวอะไรกับผม” ลุกขึ้นจากชิงช้าจะเดินหนี แต่พี่มันดึงไว้ “อะไรล่ะ!”
“เป็นอะไรวะ! ทะเลาะกับไอไอซ์มาเหรอ?”
“เออนิดหน่อยนะ” พี่อ๊อฟมันยิ้ม ไอนี่โรคจิตเห็นคนทะเลาะกันมายิ้มดีใจอะไร “ดีใจมากเหรอ เห็นคนทะเลาะกัน!”
“เปล่าๆ” ยังอมยิ้ม “แล้วทะเลาะกันเรื่องอะไร?”
“เรื่องไร้สาระ ไม่มีอะไรหรอก” บอกปัดๆไป เล่าไปเดี๋ยวก็หาว่าผมงี่เง่า มันเป็นเพื่อนกันก็ต้องเข้าข้างกันอยู่แล้ว
“เล่ามาๆ กูอยากฟัง” ทำหน้าจริงจัง
“ไม่...ไม่มีอะไรหรอก อย่าสนใจเลย!” หันหน้าหนี
“จะเล่าไม่เล่า” ยื่นหน้ามาใกล้ๆผม ผมก็ถอยหนี “จะเล่าได้ยัง”  เอาหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ผมก็ถอย จนติดต้นไม้ใหญ่แล้วเนี่ย
“ไม่เล่ากูจูบมึงโชว์เด็กนะเว้ย!” ผมหันไปมองด้านหลัง เด็กๆอยู่เต็มไปหมดเลย แถมพี่อ๊อฟยังล๊อคแขนผมไว้อีก
“เออๆ เซ้าซี้จริงๆ” แล้วพี่อ๊อฟก็ปล่อย ผมก็จะหนี มันขว้าแขนผมไว้
“ไม่ต้องหนีเลยนะมึง เล่าเลย” จูงมือผมกลับไปที่ชิงช้า แล้วก็พากันนั่งคนละตัว “อะเล่าเลย กูรอฟังละ”
“ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นจริงๆเลย”ผมพูดไม่จริงจังนัก
“มึงไม่ได้เป็นคนอื่นสำหรับกูนิ!” ผมหันไปมองหน้ามัน มันดูจริงใจและดูอบอุ่นกว่าทุกครั้งเลยนะเนี่ย “เล่ามา”
“เฮ้อ! ก็ได้ๆ” หันไปยิ้มให้พี่อ๊อฟแล้วจ้องหน้าพี่มัน “พี่ทำหน้าแบบเมื่อกี้บ่อยๆได้ไหม ผมชอบ” ยิ้ม พี่อ๊อฟท่าจะเขินหูแดงเชียว
“มะ....มึงอย่ามาเปลี่ยนเรื่อง รีบเล่าเลย” กลบเกลื่อนความเขินอายด้วยท่าทีหงุดหงิดสินะ
“ก่อนเล่าขอถามก่อนได้เปล่า” ผมหันไปมองมันด้วยสายตาจริงจัง
“อืม ถามมาดิ!” มันก็จ้องหน้าผมกลับ
“พี่ชอบ....อิงฟ้าจริงเหรอ” ผมก้มหน้าถาม
“อืม น้องเค้าก็น่ารักดีนะ” พูดพร้อมกับยิ้ม
“จริงเหรอ” มองหน้ามัน มันพยักหน้า “อืม” ผิดหวังจัง จริงๆก็อยากจะถามนะว่า ‘ที่พี่บอกชอบผมวันนั้น...ยังเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า’ แต่มันจะดูเป็นคำถามที่เห็นแก่ตัวเกินไปเพราะผมก็ยังมีพี่ไอซ์อยู่ ...
“ทำไมวะ”
“ปะ...เปล่า เอ้อพี่ พี่ไอซ์นี่เจ้าชู้ป่ะ ผมดูโทรศัพท์มีแชทกับผู้หญิงเพียบเลย” ผมถามพร้อมกับเงยหน้ามองท้องฟ้า
“อย่าบอกนะว่ามึงทะเลาะกับมันเรื่องนี้?” ผมพยักหน้า “ไหนเล่ามาดิมันเป็นยังไง” ผมก็เริ่มเล่า ตั้งแต่พี่ไอซ์โกรธผมเรื่องไอเบสเมื่อวาน จนวันนี้ “อ่ออย่างนี้นี่เอง มึงไม่ไว้ใจมันเหรอ?”
“เปล่าหรอก ก็แค่ กลัวกลัวโดนทิ้งแบบไม่รู้ตัวน่ะสิ” ทำหน้าเซ็งๆ
“ไอไอซ์มันไม่ใช่คนเจ้าชู้หรอก มันแค่มีคนคุยมันก็คุยเท่านั้นเอง อีกอย่างมันก็แสดงให้มึงเห็นแล้วนี่ ว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ มึงจะกลัวทำไมวะ!?” บอกผมด้วยท่าทีจริงจัง
“ผมงี่เง่าหรือเปล่าวะพี่ พี่ไอซ์คงเบื่อผมแล้วมั้ง” ผมถามด้วยความนอยที่ตัวเองเป็นแบบนี้
“กูไม่รู้ว่ะ แต่สำหรับกูนะกูว่ามึงไม่งี่เง่าเลย ที่มึงเป็นแบบนี้เพราะมึงแคร์มัน กลัวจะเสียมันไม่ใช่เหรอ ไอไอซ์นี่น่าอิจฉาเนอะ” (ยิ้ม) “มีคนแคร์มันขนาดนี้”
“ไม่หรอก พี่ยังมีอิงฟ้านี่ เขาชอบพี่มากนะ” ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกยังไง ใจนึงก็แคร์พี่ไอซ์นะ แต่ใจนึงรู้สึกหึงพี่อ๊อฟที่บอกชอบอิงฟ้า ผมจะบ้าตายเพราะเรื่องผู้ชาย นี่ผมเครียดกว่าเรื่องเรียนอีก
“อย่าคิดเยอะ! ไม่ต้องสับสนหรอก ไปบ้านกูดิ กูจะให้ดูอะไร” มันลุกขึ้นแล้วก็ยื่นมือมาให้ผม ผมก็จับมือมัน แล้วก็เดินจูงมือกันไปบ้านพี่อ๊อฟ
ถึงบ้านพี่อ๊อฟ ผมก็เข้าไปทักทายคนที่บ้านพี่อ๊อฟ แล้วพี่อ๊อฟก็พาผมขึ้นไปห้องมัน......
“ดูอะไร” ผมก็มองหาอะไรที่พี่อ๊อฟจะให้ดู
“แปปดิ มันอยู่ตรงระเบียง มึงนั่งรอแปป” พี่อ๊อฟพูดจบมันก็ออกไปนอกระเบียง
ผมรอสักพักพี่อ๊อฟก็กลับเข้ามาพร้อมกระดานวาดรูป มีผ้าคลุมมาด้วย......
“อะไรล่ะนั่น?”
“ลองเปิดดูสิ” มันส่งกระดานวาดรูปมาให้ผม ผมก็เปิดออกดู........
“พะ พี่อ๊อฟ ทำไม!”
“มีหลายรูปนะ มึงลองเปิดดูก่อน” ผมก็ดูกระดาษแผ่นถัดไปเรื่อยๆ “ชอบไหม” ยิ้มแบบอบอุ่น
“ชะ...ชอบสิ ทำไม ทำไมถึงวาดรูปผม” คือกระดาษที่อยู่บนกระดานมีประมาน6แผ่น เป็นรูปผม วาดรูปเหมือน แต่ละแผ่นจะมีข้อความสั้นๆ
“กูยังยืนยันนะ ยังไงกูก็ชอบมึง ส่วนอิงฟ้ากูชอบเหมือนน้องสาว! มึงกลัวว่าคำตอบจะไม่เหมือนเดิมใช่ไหม” พี่อ๊อฟจับมือผม
“พี่ไม่จำเป็นต้องทำให้ผมขนาดนี้ก็ได้นะ” ซึ้งมากบอกตรงๆ ไม่เคยมีใครทำให้ผมเลย ส่วนมากก็จะซื้อของให้ “ผม ผมไม่เคยทำอะไรให้พี่เลยทั้งๆที่....ก็เคยบอกชอบพี่เหมือนกัน ผม......ผมมันดูเห็นแก่ตัวเกินไปหรือเปล่า” น้ำตาไหลลง พี่อ๊อฟเอามือปาดน้ำตาผม
“อย่าร้องเลยมึง กูก็ทำให้มึงเท่าที่ทำได้แหละ และอย่าคิดว่าตัวเองเห็นแก่ตัว เพราะกูไม่เคยมองมึงเป็นแบบนั้นเลยนะ” ผมกอดพี่อ๊อฟเลยทันทีที่มันพูดจบ “อย่าร้องดิ!”
“ทำไม ทำไมไม่เป็นพี่ตั้งแต่แรก....” ไม่อยากพูดแบบนี้เลย แต่ไม่รู้สิ เวลาผมอยู่กับพี่ไอซ์มันเหมือนอยู่กับพี่ชายมากกว่าแฟนเสียอีก ที่ร้องเพราะมันอัดอั้นหลายอย่าง ใจนึงก็ยังคงนอยพี่ไอซ์ที่ผมไม่คู่ควร ใจนึงก็รู้สึกเห็นแก่ตัวเกินไป ที่ยังคิดกับพี่อ๊อฟแบบนี้ ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำยังไงดี
“กูบอกแล้วไง ให้มึงคบกับคนที่มึงชอบก่อน กูรอได้” ลูบหัวผม “หยุดร้องได้แล้ว เดี๋ยวตาบวมนะ” ผละออกจากกอด แล้วเช็ดน้ำตาให้ผม “รู้เปล่า สีที่ใช้ระบาย ก็เป็นสีที่มึงซื้อให้นะ ถึงมันจะไม่สวยมากมายกูก็ตั้งใจนะเว้ย!” (ผมยิ้ม)
“ขอบคุณนะพี่” (ยิ้ม)
“อืม กูเต็มใจ” (ยิ้ม)
เราก็คุยกันไปสักพักผมก็ง่วง ตอนแรกบอกจะกลับพี่อ๊อฟบอกว่านอนนี่แหละ ผมเลยโทรไปขอป๊า โดนบ่นเลย บอก ช่วงนี้ติดเพื่อนเกินไปหรือเปล่านู่นนี้นั่น หูชาเลยสิ.......
“โอเคขึ้นยัง?”
“ อื้ม” ผมหันไปยิ้มให้พี่อ๊อฟ “ผมชอบรูปที่พี่วาดให้จัง” ผมนั่งดูรูปที่พี่อ๊อฟวาดให้อยู่ “ข้อความนี่พี่คิดเองเหรอเนี่ย ไม่รู้นะพี่ก็มีมุมหวานๆ” เป็นข้อความสั้นๆ เกี่ยวกับความรัก พี่อ๊อฟหูแดงมากคงเขินสินะ
“อืม” (ยิ้ม) “แล้วทำไม เวลากูอยู่กับอิงฟ้ามึงต้องทำเหมือนไม่พอใจด้วยล่ะ?” พี่อ๊อฟถามผม
“กะ ก็....”ไม่กล้าพูด อยากบอกว่าหึงนะ แต่ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย “มะ ไม่มีอะไรหรอก!”
“มึงหึงกูใช่ป่ะ?”
“ปะ เปล่า!” ผมก้มหน้าพูด
“รู้อะไรไหม” มันจับมือผม ผมมองหน้ามัน “กูไม่ว่าหรอกนะเว้ย! มึงหึงกูได้ทำอะไรกับกูก็ได้ เท่ากับแฟนมึงเลย ถึงกูจะไม่ได้อยู่ในฐานะนั้นก็ตาม เพราะกูชอบที่มึงหึงหรือแคร์กู!” ยิ้มผมเขนเลยสิ พี่อ๊อฟดูจะความคิดตรงกับผมหลายอย่างเลยนะ
“ผมบอกตรงๆผมก็...หึงนะ แต่.....” พูดจบผมก็ก้มหน้า
“ไอซ์ ใช่ไหม” ผมพยักหน้า พี่อ๊อฟจับมือผมแน่นขึ้น “บอกแล้วไงว่าไม่เป็นอะไรเลย กูให้มึงทำได้ตามสบายเลย  แค่มึงแคร์กู กูก็มองข้ามตรงนั้นไปหมดแล้ว” (ยิ้ม)
“เป็นคนดีเกินไปแล้วนะ! งั้นผมให้พี่เป็นแฟนน้อยได้ไหม5555” ดึงเข้าตลก ไม่อยากซึ้งเยอะ
“กูยอมเป็นชู้ก็ได้เว้ย! 5555”
“ชู้เหรอ! ก็ดีนะเทรนนี้กำลังมาแรง 55”
“งั้น!” กดผมให้ล้มนอนกับเตียงแล้วขึนคร่อมผม “กูขอทำหน้าที่ชู้ได้ไหม” ส่งสายตาหื่นมาให้
“เอาจริงดิ!” ผมจ้องหน้าพี่มัน
“หน้ากูดูล้อเล่นงั้นเหรอ” โน้มหน้าเข้ามาจูบผม ผมหันหน้าหนี
“พอเลย!” ดันพี่อ๊อฟลงจากตัว “ผมง่วงแล้วนะเนี่ย” เปลี่ยนเรื่อง
“อะไรวะ! เซ็งเลย” แล้วก็ลุกจากเตียงไปห้องน้ำ
พอพี่อ๊อฟเข้าห้องน้ำผมก็นั่งเล่นโทรศัพท์ แต่รู้สึกแปลกๆทำไมพี่ไอซ์เงียบไป ผมเลยลองโทรหา สักพักพี่ไอซ์ก็รับ........
“.........” (เงียบ)
“พี่ไอซ์ …..”
“..............”(เงียบ)
“เป็นอะไรอีกเนี่ย!” พี่อ๊อฟเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี ผมเลยเดินออกมาคุยตรงระเบียงห้องพี่อ๊อฟ
“เปล่า”
“ขี้งอนเกินไปหรือเปล่า ผมทำอะไรผิดอีกเนี่ย”พูดติดจะอารมณ์เสียไปหน่อย
“เปล่า!” กระแทกเสียงกลับมา
“โอเคๆ ผมขอโทษก็ได้ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรผมขอโทษโอเคไหม” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“อืม”
“แล้วพรุ่งนี้ไปธุระที่ไหนอ่า”
“แถวนี้แหละ!” (เอิ่ม!)
“ไม่อยากคุยกับผมเหรอ?”
“เปล่า”
“..........”ผมเงียบ
“.......(ถอนหายใจ)”
“งั้นพรุ่งนี้พี่ทำธุระเสร็จเดี๋ยวผมไปหาโอเคไหม โทรมาบอกผมด้วยนะ”
“อืม ตึ๊ด!”
แล้วก็คือวางสายไปเลย เป็นอะไรของเค้าอีกนะ ผมเริ่มจะเบื่อกับอาการขี้งอนไม่เข้าเรื่องของพี่ไอซ์แล้วสิ! ผมยืนคิดนู่นี่สักพักก็เดินเข้าไปในห้อง ก็เห็นพี่อ๊อฟนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ ผมเข้าไปดู........
“ทำอะไรอ่ะ?” ผมถามด้วยความสงสัย
“การบ้าน อาทิตย์หน้าก็ต้องไปแข่งแล้วนะเว้ย! ต้องรีบเคลียล์งาน” พี่อ๊อฟถามพร้อมกับก้มหน้าก้มตาทำงาน
“แข่งที่ไหนเหรอ?” ผมถามอย่างสนใจ
“ทำไม จะไปดูกูเหรอ?” มันหันมาถามด้วยความสนใจ
“พี่ให้อิงฟ้าไปดูดิ้” (ยิ้ม)
“เออจริงด้วย น้องเทคแคร์กูดี งั้นเดี๋ยวกูโทรไปชวนก่อน!” หยิบโทรศัพท์ทำท่าจะกดโทรออก ผมเลยดึงโทรศัพท์พี่มันมา
“เดี๋ยวนี้มีเบอร์กันแล้วเหรอ?” ถามด้วยสีหน้าที่ดูจะไม่พอใจ
“มีแล้วทำไมวะ?” ตอบหน้าตาย
“อืม เรื่องของพี่นี่เนอะ ทำงานไปเถอะ ไปอาบน้ำดีกว่า!” ผมคืนโทรศัพท์ให้มันแล้วผมก็เดินเข้าห้องน้ำไปเลย “พี่อ๊อฟ! ขอยืมชุดนอนด้วยนะ เตรียมให้ด้วย!” ผมตะโกนบอก
“เออ!” พี่มันตะโกนตอบกลับมา
“ผมใช้แปรงฟันพี่นะ!” แปรงสีฟันมันทรงแปลกๆ สำหรับจัดฟันสินะ
“เออออออ! จะใช้อะไรก็ใช้ไป!” สงสัยมันจะรำคาญแล้ว
ผมอาบน้ำเสร็จก็หาผ้าเช็ดตัว ไม่มี! ผมก็เปิดแง้มประตูชะโงกหน้าออกไป...........
“พี่อ๊อฟ ขอผ้าเช็ดตัวหน่อยดิ”
“แปป” มันเดินไปหยิบในตู้มาให้ผม พร้อมเสื้อผ้า
ผมก็เข้าไปเช็ดตัวแล้วใส่เสื้อผ้า ออกมาพี่อ๊อฟก็ยังนั่งทำงานอยู่ผมก็นอนเล่นโทรศัพท์.........
“คุยกับไอซ์เหรอ เมื่อกี้...” มันถามผมแต่ก็ยังจดจ่อกับการบ้าน
“ เห็นพี่ไอซ์เงียบไปตั้งแต่เย็นเลยลองโทรหา”พูดอย่างไม่ใส่ใจ
“เป็นยังไงบ้าง” มันถามผมด้วยน้ำเสียงที่ดูจะอ่อนโยน พร้อมกับหันหน้ามามองผม
“ก็ไม่เป็นยังไง งอนตามเคย และทำเสียงเหมือนไม่อยากคุยด้วย”
“อืม” แล้วก็ก้มหน้าทำงานต่อ
“ปกติ พี่ไอซ์ขี้งอนแบบนี้เหรอ?”
“ใช่ แต่มันก็ไม่มีอะไรหรอก อย่าเครียดน่า โดนมันทิ้งก็ยังมีกูอยู่” (ยิ้มหล่อเชียว)
“แหมๆ! ผมก็กังวลนี่นา เป็นแฟนกันก็ต้องห่วงเปล่าวะ”พี่อ๊อฟทำหน้าหงอยเลย
“อืม!” ผมหันไปมองมัน
“แต่ผมก็ห่วงและแคร์พี่อ๊อฟนะ อย่าคิดมากน่า” พี่อ๊อฟมันอมยิ้ม “แล้วตกลงไปแข่งที่ไหน?”
“กรุงเทพฯ ไปสามวันนะ แข่งหลายที่”
“สามวันเลยเหรอ? คิดถึงพี่แย่เลยอะดิ”
“ตามไปดิ!” มันหันมาย้ำอีกรอบ
“บ้าดิ! ผมต้องเรียนนะ แล้วทำไมไม่ชวนอิงฟ้าล่ะ?” ผมก็ชอบตอกย้ำอยู่เรื่อย
“ทำไมอีกล่ะ?” มันหันมาทำหน้าขมวดคิ้ว
“ก็มีเบอร์กันไม่ใช่ โทรไปชวนสิ” ผมพูด แล้วก็ทำเป็นไม่มองมัน
“กูไม่มีหรอกน่า! พูดให้มึงหึงกูไปงั้นแหละ” ทำหน้าหล่อ
“ไม่มีแต่ถ่ายรูปลงเฟสด้วยกันเนี่ยนะ?”
“เขาขอถ่ายนี่หว่า อีกอย่างคอยเอาน้ำ เก็บกระดาษให้กูด้วย แค่ถ่ายรูปไม่มีอะไรหรอกน่า”
“อืม” (อมยิ้ม)
“อย่าบอกนะ! ที่วันนั้นกูโทรไปแล้วก็ส่งข้อความไปแล้วมึงไม่รับไม่ตอบคือเรื่องนี้?”
“ปะ เปล่า มันก็เรื่องของพี่นี่! ผมจะไปสนทำไม” ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ต่อ
“หึ!”
“ทำไม!”
ผมก็เถียงกันไปมาสักพักผมก็หลับไป ตื่นมาอีกทีก็สายแล้ว พี่อ๊อฟก็เหมือนเดิมเนียนตลอด นอนกอดผม หน้าอยู่ตรงคอผมเหมือนเดิม ผมค่อยๆขยับตัวออกจะลุกขึ้น.....
“ตื่นเร็วจังวะ!” มันทำเสียงงัวเงีย
“นอนต่อไปเถอะน่า!” ผมกำลังจะลุกขึ้นพี่อ๊อฟจับมือผมไว้
“มอนิ่งคิสกูหน่อยน้า” ทำหน้าอ้อนได้น่ารักมาก
“บ้า” เขินสิ
“น้าๆๆๆๆ” ตื้อแล้วทีนี้ เสียงตอนพี่อ๊อฟตื่นดู เซ็กซี่จัง
“ก็ได้” ผมโน้มหน้าเข้าไปจูบที่ปากพี่อ๊อฟ จูบเบาๆไม่ได้ลุกล้ำแต่อย่างใด “พอใจยัง” ยิ้มเขิน
“แค่นี้ก็ยังดีวะ” ยิ้ม
แล้วพี่อ๊อฟก็ลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ ผมก็เปลี่ยนใส่ชุดเมื่อวาน ค่อยกลับไปอาบน้ำที่บ้านดีกว่า สักพักพี่อ๊อฟก็ออกมา นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว.....
“ไม่อาบน้ำเหรอวะ?”
“ค่อยไปอาบน้ำที่บ้านก็ได้” ผมตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“มึงรีบกลับเหรอ?” ถามพร้อมทำหน้านอยๆ
“เปล่าหรอก” เดินเข้าไปจับมือมัน “อย่านอยเด้!” ดึงแก้มมัน
“อืมๆ ให้กูไปส่งไหม?”
“ไม่ต้องหรอก อีกอย่างพี่รีบเคลียล์งานเถอะ พี่ไปตั้งแต่พรุ่งนี้เลยใช่ไหม?”
“อืม มึงจะคิดถึงกูใช่ไหม?” มองผมด้วยสายตาที่จริงจัง
“คิดถึงดิ” (ยิ้ม) “คิดถึงมากด้วยไม่มีคนด่า” พี่อ๊อฟยิ้มแล้ว
“อืม แค่นี้กูก็ดีใจแล้ว” ลูบแก้มผม
“อย่าพูดแบบนี้ได้ไหมเนี่ย! ผมไม่ชอบเลย” ทำหน้างอ “พี่อ๊อฟ รู้อะไรเปล่า” หันมามองผม “ถ้าย้อนกลับไป พี่เป็นคนบอกผมก่อน ผมก็จะเลือกพี่ แต่ตอนนี้ คงต้องเป็นแบบนี้ไปก่อนนะพี่ เข้าใจนะ”(ยิ้ม)
“อืม! กูเข้าใจ กูผิดเอง” ทำหน้าหงอยอีกแล้ว
“ไปใส่ชุดได้แล้ว เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” แล้วพี่อ๊อฟก็หันกลับไปแต่งตัว
ผมก็นั่งเล่นกับพี่อ๊อฟ จนช่วงบ่ายๆผมก็กลับบ้าน แต่รูปที่พี่อ๊อฟวาดให้ผมฝากไว้ที่พี่อ๊อฟก่อนอีกอย่างพี่อ๊อฟก็ยังอยากแก้รายละเอียดอีกหน่อยด้วย กลับบ้านก็อาบน้ำแต่งตัวรอพี่ไอซ์โทรมา แต่นี่ก็จะเย็นแล้ว ยังไม่มีวี่แวว ผมเลยโทรไปหาเลย สักพักก็รับ........
“พี่ไอซ์” 
“ว่า?” เฉยชาไปไหน
“ทำธุระเสร็จหรือยัง?”
“ธุระอะไร”
“ก็เมื่อวานพี่บอกว่าพี่มีธุระ?” อะไรของเขานะ
“อืม แล้วยังไงอ่ะ” ดูคำพูดที่แสนเย็นชานี่สิ
“บอกว่าทำธุระเสร็จพี่จะโทรมาบอกผมไม่ใช่เหรอ? ผมแต่งตัวรอพี่ตั้งแต่บ่ายแล้วนะ!” โมโหแล้วนะ ทำแบบนี้ได้ยังไง
“อืม พี่ลืมอ่ะ” อยากจะกรีดร้องมากๆ คืองอนได้แบบไร้สาระสุดๆ คนที่ควรจะโกรธคือผม ลองถ้าผมมีแชทกับคนอื่นมากมายสิ คงหวังว่ามันจะมาง้อผมบ้างนะ
“เออๆ ตึ๊ด!” ผมกดวางสายเลย
คือตอนนี้ไม่รู้แล้ว ว่าใครงี่เง่า คืออะไรจะงอนขนาดนั้น ไร้สาระที่สุด ผมไปส่องกระจกอีกครั้ง เพื่อเตรียมจะออกไปข้างนอก คือผมกับพี่ไอซ์เป็นแฟนกันด้วยความชอบที่ทั้งสองมีให้กัน ดังนั้นผมจึงอยากจะยื้อและทำทุกอย่างเท่าที่ผมทนได้ ถ้าพี่เขายังงี่เง่าและเยอะไม่เข้าเรื่องผมก็คงขอลา (โกรธจริงๆแล้ว) ผมก็บอกป๊ากับแม่ว่าจะไปหาพี่ไอซ์ ผมเดินไปขึ้นสองแถวลงแถวตลาดก่อน หาซื้อดอกไม้ไปให้พี่ไอซ์ซักหน่อย! ดูดิทำขนาดนี้แล้วยังจะเยอะอยู่ไหม พอซื้อเสร็จผมก็นั่งรถต่อไปบ้านพี่ไอซ์ทันที พอถึงผมก็กดกริ่ง สักพักพี่อาร์มก็ออกมา.....

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
“อ้าวนท มาได้ยังไงเนี่ย!” ทักทายพร้อมกับส่งยิ้มหล่อมาอีกแล้ว
“นั่งรถมาสิพี่อาร์ม พี่ไอซ์อยู่หรือเปล่าครับ” (ยิ้ม)
“อยู่ๆเข้ามาดิ” แล้วก็นำผมเข้าบ้านไป “แหมซื้อดอกไม้มาให้กันด้วย มีอะไรพิเศษหรือเปล่า?”
“พี่ไอซ์โกรธอะไรผมอีกก็ไม่รู้พี่อาร์ม ผมเซ็งแล้วเนี่ย”
“ว่าแล้ว ไอซ์มันไม่ยอมลงมากินข้าวเลย พี่ว่าดอกไม้ เอาไว้ก่อน มาเตรียมข้าวไปให้มันก่อนดีกว่าไหม” ยิ้มหล่ออีกแล้ว โอ้ยใจละลาย
“ทำตัวเป็นเด็กเลยนะครับ นับวันยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ” ผมเซ็งเลย ทำไมผมต้องมาเจอคนที่เอาแต่ใจตลอด
“เอาน่า มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เอาใจมันหน่อยมันรักจริงนะนั่น!” พูดทีเล่นทีจริง ผมก็เข้าใจได้
“ผมก็พูดไปงั้นแหละครับพี่ ช่วยผมเตรียมข้าวให้พี่ไอซ์หน่อยดิพี่”
แล้วพี่อาร์มก็พาผมเข้ามาในครัวเตรียมข้าวใส่ถาดไปให้คุณชาย พ่อและแม่ของพี่ไอซ์ ไปต่างจังหวัดตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้ว และพี่ไอซ์หลังจากกลับมาจากบ้านผมก็ขึ้นห้องไม่ลงมากินข้าวกินปลาเลย เด็กจริงๆ ผมกับพี่อาร์มคุยไปจัดข้าวไปพอเสร็จพี่อาร์มก็บอกจะออกไปข้างนอก ฝากดูพี่ไอซ์ด้วยผมก็ตอบตกลงไป ส่วนดอกไม้ที่ผมซื้อมาอยู่ในตู้เย็น แล้วผมก็เดินขึ้นมาหาพี่ไอซ์ ส่วนพี่อาร์มออกจากบ้านไปแล้ว ผมก็เคาะประตู ไม่มีเสียงตอบ ผมลองบิดประตู อ่าวไม่ได้ล๊อค พอเข้าไปก็เห็นพี่ไอซ์นอนหลับอยู่ เสื้อก็ไม่ใส่ ใส่แต่บอกเซอร์ ผมเดินเอาถาดไปวางไว้บนโต้ะ แล้วก็ไปเขย่าตัวพี่ไอซ์ ..........
“พี่ไอซ์ ตื่นเลย! ลุกมากินข้าวได้แล้ว” แล้วพี่ไอซ์ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา พอเห็นผมแล้วหันหน้าหนี คืออะไร “อย่ามาเมินผมนะ! ลุกขึ้นมากินข้าวเลย!” ผมบอกแบบดุๆแล้วพี่ไอซ์ก็ลุกขึ้นมา ผมเดินไปตรงโต๊ะ แล้วพี่ไอซ์ก็เดินตามมา แล้วผมก็ลากเก้าอี้ออกให้พี่ไอซ์นั่ง “กินเลยครับคุณชาย”
“...........” เงียบ แต่ก็ยอมกิน ท่าจะหิวหนัก กินแบบมุมมามมาก ผมก็ไปนั่งรอพี่ไอซ์ที่ปลายเตียง
“เอาอีกไหม?” ผมถามเมื่อเห็นว่าพี่ไอซ์กินเสร็จแล้ว แต่พี่ไอซ์ส่ายหัว “จะเอาอะไรเพิ่มหรือเปล่า” ผมถามแล้วลุกขึ้นไปเก็บจาน พี่เขาก็ส่ายหน้าผมก็ถือถาดข้าวเอาลงไปล้างเก็บในครัว เสร็จแล้วก็ขึ้นไปหาพี่ไอซ์ ยังนั่งมึนอยู่ที่เดิม
“............”(เงียบ)
“จะเงียบอีกนานไหม?” หงุดหงิดจัง เหมือนเลี้ยงเด็กเลย ผมเกลียดเด็กมากนะ
“ …………”(ยังคงเงียบ)
พยายามข่มอารมณ์ แล้วค่อยๆถามอย่างใจเย็น “พี่ไอซ์” ผมเดินเข้าไปนั่งกับพื้นข้างๆเก้าอี้ที่พี่ไอซ์นั่ง พี่ไอซ์ก็หันมามอง แล้วก็หันไปทางเดิม “เฮ้อ! ผมไม่รู้จะง้อยังไงแล้วนะ หายงอนเถอะน้าๆๆ” จับมือพี่ไอซ์ครับ แต่ยังคงนิ่ง
“............” ยังคงเงียบต่อไป
ผมเลยลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกห้อง ผมพยายามสงบสติอารมณ์สักพักนึงแล้วก็เดินลงไปหยิบดอกไม้ในตู้เย็นในห้องครัวมา บอกตามตรงไม่เคยง้อใครขนาดนี้มาก่อนเลย คือมันเยอะเกินไปจริงๆ แล้วผมก็เดินขึ้นไปหาพี่ไอซ์อีกครั้ง ก็ขึ้นๆลงๆมันอยู่อย่างนี้แหละ! เข้าไปในห้องก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม........
“อะ” ยื่นดอกไม้ให้พี่ไอซ์ พี่ไอซ์ก็เอื้อมมือมาหยิบ “หายได้ยังพี่ไอซ์” ยังคงนิ่ง ผมเริ่มเบื่อแล้วจริงๆ “โอเคๆ บอกมาเลยต้องการจะให้กระผมทำอะไรบอกมาเลย” ยังนิ่งผมก็ประคองหน้าพี่ไอซ์ให้หันมาทางผม แล้วก็จูบแก้มทั้งสองข้าง แล้วก็จูบปากไป แล้วผละออกมา “พอใจหรือยัง” พี่ไอซ์มีอมยิ้ม
“อืม” พยักหน้าแล้วยิ้ม
“งั้นลุกไปอาบน้ำเลยไม่ได้อาบตั้งแต่เมื่อวานแล้วใช่ไหม” ผมทำท่าก้มไปดมแถวคอพี่ไอซ์ “หืมเหม็นเชียว” ทำท่าปิดจมูก แต่จริงๆไม่ได้เหม็นอะไรหรอก “ไปอาบเลย”
“อาบให้หน่อย” ทำหน้างอแงเป็นเด็ก
“พี่ไอซ์โตแล้วนะ อย่ามาเยอะไปอาบเองเลยไป!” ทำขึ้นเสียงนิดหน่อย แต่พี่ไอซ์ก็ลุกขึ้นแล้วก็เดินฟึดฟัดเข้าห้องน้ำไป
ผมก็ไล่ดูแถวที่นอน เสื้อผ้าเมื่อวาน ยังกองอยู่ตรงข้างเตียงอยู่เลย ผมเลยเก็บผ้าแล้วจัดเรียงของบนโต๊ะให้พี่ไอซ์ ซักพักก็ออกมา แต่ก็ไม่ยอมใส่เสื้อผ้าอีก นุ่งผ้าเช็ดตัวมาผืนเดียว .........
“ผมจัดของกับเก็บเสื้อผ้าให้แล้วนะ” แล้วผมก็เดินไปหยิบเสื้อยืดกับบอกเซอร์ตัวใหม่มาให้พี่ไอซ์ “อะใส่ได้แล้ว เดี๋ยวไม่สบายพอดี” ผมยื่นให้พี่ไอซ์ก็รับไป “งั้นพี่ก็พักผ่อนไปแล้วกันนะผมจะกลับแล้ว” ผมยิ้มให้พี่ไอซ์ พี่ไอซ์ก็มองดูรอบๆ แล้วก็ยิ้ม
“ไม่เห็นต้องเก็บอะไรมากมายเลย ของก็ไม่เห็นต้องจัด ตัวเป็นแฟนนะ ไม่ใช่คนใช้” ทำหน้าสำนึกผิด
“ก็ถ้าแฟนไม่ทำตัวเหมือนเด็กเค้าก็ไม่ทำหรอก” ประชดมันกลับ
“อืมๆ” (ทำหน้าหงอยๆ) “ตัวคงเบื่อเค้าแล้วอ่ะดิ ต้องมาคอยตามเค้าอย่างนี้....”
“เบื่อดิ!” พี่ไอซ์น้ำตาคลอเบ้หน้า “แต่ผมเต็มใจนะ” ผมยิ้ม แล้วก็เอามือไปลูบแก้มพี่ไอซ์ “อย่าคิดมาน่า พักผ่อนเถอะ”
“จริงนะ!” (ยิ้ม) “แล้วตัวจะไม่พูดกับเค้าเหมือนเมื่อวานใช่ไหม?”
“พูดอะไร?”ผมทำเป็นจำไม่ได้
“พูดเหมือนว่าเค้าจะไปมีคนอื่น เหมือนเค้าเจ้าชู้!” ก้มหน้าพูด น่ารักไปแล้ว
“โหแค่เรื่องแค่นี้เอง โอเคเค้าจะไม่พูดแล้วโอเคไหมครับ” จับมือพี่มันแน่นเพื่อย้ำความมั่นใจ
“จริงนะ” (ยิ้มร่าเลย) “งั้นเดี๋ยวเค้าไปส่งนะๆๆๆ”
“ไม่ต้องหรอกน่า กลับเองได้ ยังไม่มืดเลย รถสองแถวยังพอมีแหละ”(ยิ้ม)
“ไม่เอา” จับมือผมแน่น
แล้วหลังจากนั้นพี่ไอซ์ปล่อยมือผมแล้วก็ไปใส่เสื้อผ้าเตรียมกุญแจรถ ผมก็ยืนมอง ทำท่าลุกลี้ลุกรน หยิบผิดหยิบถูก เฮ้อ เหมือนเด็กสะไม่มี “ป่ะๆ เอ๊ะ! หรือเค้าจะไปนอนบ้านตัวดี?”
“แล้วแต่เลยตัว!” ทำหน้าเบื่อหน่าย รู้หรอกว่าจงใจ เห็นแอบกระเป๋าผ้าไว้ข้างเตียง “กระเป๋าผ้าแลดูพร้อมดีเนอะ”หรี่ตาดูมัน
“แหะๆ!” (เกาหัว) “ก็อยากไป” ร้ายเดียงสาจริงๆ -_-“”
“จะไปก็ไป” ผมส่ายหน้าอย่างเอือมระอา แล้วพี่ไอซ์ก็ยิ้มหน้าบานเดินนำผมไป
พี่ไอซ์โทรบอกพี่อาร์มแล้วก็ปิดบ้าน แล้วก็พากันขับรถออกไปบ้านผม พอถึงบ้านผมก็เปิดประตูให้พี่ไอซ์เอารถเข้าไปเก็บ แล้วก็พาพี่ไอซ์เข้าบ้าน.....
“แม่! มาดูลูกเราหน่อยสิ! พาแต่ผู้ชายเข้าบ้านเนี่ย!”พี่ไอซ์ยิ้มอย่างเดียวเลย
“ป๊าอย่ามาแซว!” (ป๊าทำหน้าล้อเลียน) “ แม่ดูป๊าดิ” หันไปฟ้องแม่
“เอาน่าอย่าทะเลาะกันกินข้าวมากันยังลูก” คุณแม่ยิ้มหวานเชียว
“ยังเลยครับแม่ นทมัวแต่ชวนผมคุย ผมเลยยังไม่ได้กินเลยครับ” ทำท่าลูบท้องอย่างน่าสงสาร หมั่นไส้นัก ไม่น่าตักไปประเคนให้เลย
“ได้ยังไงนท! อ๋อเดี๋ยวนี้ที่ผอมลงไม่ได้ออกกำลังกายใช่ไหม ห่วงเที่ยวเล่นใช่ไหม!” แม่ดุแล้วคราวนี้
“ป่าวนะแม่ ก็พี่ไอซ์...”
“พอเลย! รีบพากันไปกินข้าวเลยนะ” ไอพี่ไอซ์บ้า โดนดุเลย  มีการทำหน้าล้อเลียนผมอีกนะ ผมเลยหยิกเข้าที่เอว
“โอ๊ย!” ผมรีบวิ่งเข้าไปในครัว แล้วพี่ไอซ์ก็วิ่งตามมา “ทำร้ายเค้าทำไม” มาทำหน้าไร้เดียงสาใส่อีก
“พูดจาเลอะเทอะเค้าโดนป๊ากับแม่ดุเลยนะ!” ผมพูดติดจะไม่พอใจ
“5555แค่นี่เอง” แค่นี้อะไร แม่กับป๊ายิ่งไม่ชอบให้ผมอดอยู่นะ
“กินมาแล้วไม่ใช่เหรอ?” ผมถามพร้อมหรี่ตามองอย่างจับผิด
“ไม่อิ่มหรอกตัว เค้าอดมาตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้วนะ” พูดอย่างภาคภูมิใจ
“ก็เมื่อตอนอยู่บ้านตัวเค้าจะไปเอาเพิ่มให้ตัวก็ไม่เอา”
“ก็เค้างอนตัวอยู่นะ” ทำหน้านอยๆ จบที่เรื่องไร้สาระนี่เถอะ ผมก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรต่อ
ผมกับพี่ไอซ์ก็พากันกินข้าว พี่ไอซ์กินเยอะมาก ทำตัวเป็นเด็ก กินข้าวเสร็จร้องจะกินหนมหวานอีก เดือดร้อนช๊อคโกแลตของโปรดผมอีก เฮ้อ! พอเสร็จผมก็พากันขึ้นห้อง.....
“ตัวไปอาบน้ำเลย ไม่งั้นนอนข้างล่างเลย” ผมพูดบอกพร้อมกับยื่นผ้าเช็ดตัวให้
“ตัวเค้าอาบมาแล้วนะ!” พูดท้วงอย่างไม่ยอม
“ไปอาบเถอะ ตากลมข้างนอกมาแล้วด้วย เดี๋ยวจะไม่สบายตัว” ผมมองมั่นนิ่งๆ
“ไม่อาวววว” งอแงเลยสินะ ภาพนักบอลสุดเท่คนที่ผมหลงก่อนหน้านี้มันหายไปไหนหมด
“พี่ไอซ์ อย่าทำตัวเหมือนเด็ก5ขวบได้ไหม!” หงุดหงิดแล้วสิ
“อาบให้หน่อย” ผมเอามือตบหน้าผากตัวเองด้วยยความเซ็ง อะไรมันจะเด็กได้ขนาดนี้ “นะๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“คือถามจริง โตยังเนี่ย นานเข้าๆ พี่นี่ยิ่งเหมือนเด็กขึ้นทุกวัน!” ทำหน้าเซ็งๆ
“ก็ได้ๆ” ทำหน้าเศร้า โอ๊ยก็คงต้องทำ ขืนมางอนอีกผมคงได้สติแตกแน่ๆ
“เออๆ อาบให้ก็ได้ จะมางอนอะไรนักหนา!” ผมพูดจบพี่มันก็ยิ้มร่าเลย ส่วนผมเอือมระอาสุดๆ มีแฟนหรือมีลูกเนี่ย แล้วพี่ไอซ์มันก็ถอดเสื้อผ้าออก จนเหลือบอกเซอร์ที่กำลังจะถอด “หยะ...หยุดก่อน! คือถ้าถอดหมดก็อาบเองไปเลยนะ”ผมท้วงขึ้นมาทันที เป็นแฟนกันเรื่องพวกนี้มันปกติก็จริง แต่ผมเหนื่อยมาก ไม่อยากจะต้องมาตื่นเต้นกับบางสิ่งที่ไม่ควรเห็นแล้ว
“โหตัว! อาบน้ำจะใส่ทำไม” ถามจริง อยากจะโชว์ให้ได้เลยใช่ไหมเนี่ย
“เอาจริงๆพี่อยากทำอะไรก็ทำเถอะ!” ก็คือไม่ได้สำนึกอะไร ก็ถอดบอกเซอร์ออก ผมก็หันหลังหนีทันที
“ตัวเข้ามาดิ!” มึนได้ใจเลย
“ตัวเข้าไปก่อนเลย” ผมก็ถอดเสื้อผ้าเหลือแต่บอกเซอร์ บอกตามตรงไม่อยากไปเห็นเลย กลัวใจตัวเอง5555
“เร็วๆได้ป่ะ!” ตะโกนอกมาจากห้องน้ำ
“ก็ได้ๆ!” หลังจากยืนทำใจสักพักก็เข้ามา ด้วยอาการตื่นเต้นเล็กน้อย
แล้วผมก็เข้าไปในห้องน้ำ โอ้โห! ผมหันหลังหนีแทบไม่ทัน คือล้อนจ้อนเดินไปเดินมา ไม่ได้อายผมเลย.....
“เอาจริงๆตัวไม่อายแต่เค้าอายนะ!” ยืนหันหลังให้พี่ไอซ์
“อายอะไรตัว!” เดินเข้ามากอดผมจากด้านหลัง แต่ผมสัมผัสได้ว่ามีพลังงานบางอย่างจิ้มอยู่ที่ด้านหลังผม “ทำไมตัวไม่แก้ผ้าอาบกับเค้าล่ะ” ช่างกล้ามาถามนะ
“ปล่อยเลยพี่ไอซ์ แล้วหันหน้าไปทางนู้นด้วย!” แล้วพี่ไอซ์ก็ปล่อย ผมก็ค่อยๆหันไป เฮ้อ! เห็นข้างหลังยังดีกว่าข้างหน้าแหละวะ มือไม้สั่นไปหมดแล้วนะ
“เร็วๆตัวอาบน้ำให้หน่อย” (เอิ่ม!)
แล้วผมก็เปิดฝักบัวล้างตัวให้พี่ไอซ์ พี่ไอซ์ก็จะหันมาอย่างเดียวไม่รู้จะอยากให้เห็นอะไรนักหนา ไม่รู้หรือยังไงว่าคนเห็นมันใจไม่ดี555 แล้วผมก็ชโลมสบู่ถูหลังให้พี่ไอซ์ แล้วก็เขย่งเท้าสระผมให้จากทางด้านหลัง.......
“ที่เหลือทำเองนะ” พูดจบแล้วมันหันหน้ามาทำหน้างอ ผมนี่ต้องมองสูงเข้าไว้พยายามไม่มองต่ำ
“ตัวบอกจะอาบให้เค้านะ ถูหลังกับสระผมให้แค่เนี่ยเหรอ?” เริ่มมีอาการงอแงสินะ
“พี่ไอซ์ไม่ได้ป่วยหรือพิการนะ!” (หงุดหงิด) “แล้วอยากโชว์มากใช่ไหมเนี่ย!” ผมเหลือบไปเห็น มันกำลังตื่นตัวเลย
“แฟนกันเห็นของกันไม่ได้เหรอ!” เอาจริงๆ มันเด็กมากๆ นี่หรือนักบอลโรงเรียน “ตอนเค้าไปแข่งบอลก็แก้ผ้านะ”
“มันไม่เหมือนกันนะ! รีบๆอาบไปเลย ผมเริ่มร้อนแล้ว” รู้สึกอายจริงๆนะเนี่ย ที่พี่ไอซ์มายืนแก้ผ้าคุยกับผมแบบนี้สถานการณ์มันล่อแหลมขั้น 25+ แล้วนะ
“ตัวหน้าแดงเลย เขินเค้าเหรอ” เดินเข้ามาใกล้ๆผม จนผมติดกำแพง
“บะ...บ้าใครเขิน! ถอยไปเลย” ผมจะดันพี่ไอซ์ออกมัน ดันจับมือผมไว้ก่อน “จะทำอะไร” ใจเต้นแรงมากตอนนี้
“ก็.....” พี่ไอซ์เอามือผมไปลูบแถวๆท้องน้อยมัน 
“ตะตัว.......” ผมหันหน้าหนีพี่ไอซ์ อายจังรู้สึกว่าร้อนหน้ามาก พี่ไอซ์ไล่มือผมลงไปผมสัมผัสได้ถึงไรขน
พี่ไอซ์ก็โน้มหน้ามาแถวคอผมแล้วก็ไซร้ไปมา ผมเริ่มรู้สึกตื่นตัวตั้งแต่สัมผัสที่หน้าท้องพี่ไอซ์แล้ว ตื่นเต้นมาก จริงๆผมก็ชอบเรื่องพวกนี้นะถ้าหมายถึงผ่านเว็บ แต่พอมาแบบนี้มันก็ชอบ แต่มันก็ตื่นเต้น ทำตัวไม่ถูกเลย 
“ตัวช่วยเค้าหน่อยนะ” ผมหันมามองหน้าพี่ไอซ์ โห!ทำหน้าหล่อแล้วเสียงอ้อนวอน นี่สินะ ที่เขาว่ากัน ผู้ชายที่เปียกน้ำจะหล่อขึ้น อันนี้จากหล่ออยู่แล้ว ทำผมฟินไปไกลเลย
“ชะ...ช่วยยังไง เค้าไม่เคยนะ!” ทั้งตื่นเต้นทั้งกลัว
“นะๆ” โน้มหน้าเข้ามาหอมแก้ม แล้วก็จูบเบาๆที่หน้าผากผม
“ใช้มือนะ” ผมพูดแต่ไม่ได้สบตากับพี่ไอซ์หรอก ทั้งเขินและอายขนาดนี้
แล้วพี่ไอซ์ก็จับมือผมไปจับแท่งอุ่นๆของเขา อืม....เต็มมือมาก มันดูใหญ่...แล้วผมก็ค่อยๆกำรูดขึ้นๆลงๆ พี่ไอซ์ก้มมาจูบผมอย่างดุเดือด เสียวท้องน้อยไปหมด มืออีกข้างของพี่ไอซ์ก็ล้วงเข้ามาในบ๊อกเซอร์ผม ผมจะปัดออกพี่ไอซ์ก็กัดปากผม แต่ก็เอามือมาจับ....ของผมแล้วค่อยๆรูด ผมเลยรูดของพี่ไอซ์เร็วและแรงขึ้น พี่ไอซ์คำรามในคอด้วยความเสียวซ่าน ผมก็เริ่มไม่ไหวแล้ว มือผมเร่งเร็วขึ้นอีก
สักพักพี่ไอซ์ถอนจูบออกมาปล่อยมือจาก....ผมแล้วกอดผมแน่นแล้วครางออกมาผมยิ่งรัวมืออย่างถี่เร็ว จนพี่ไอซ์เกร็งและกระตุกน้ำรักออกมา คือน้ำเยอะมาก พุ่งมาตรงบริเวณหน้าท้องผมรู้สึกถึงความร้อนได้เลย ส่วนผมกำลังจะผละออกพี่ไอซ์ออก พี่ไอซ์ก็ล้วงมือเข้ามาในกางเกงผมอีกครั้งเพื่อช่วยผมบ้าง ผมนี่ถึงกับขาสั่นเลย พี่ไอซ์เอานิ้วโป้งถูตรงบริเวณส่วนหัว แล้วก็รูดไปด้วย ผมต้องเอาหน้าไปซบกับอกพี่ไอซ์ เสียวสุดๆ พี่ไอซ์เร่งความเร็วๆเรื่อยๆจนผมปล่อยออกมา พี่ไอซ์ถูอยู่ตรงส่วนหัวผมไม่หยุด ผมบิดไปบิดมาจนเข่าอ่อนเลยทีเดียว พี่ไอซ์ถึงกับต้องประคองผมไว้เลย.....
“ตัวไหวไหม” (ยิ้ม) ให้ตายเถอะ นี่มันการที่ทำอะไรแบบนี้ มันครั้งแรกของผมเลยนะ
“บ้า! แกล้งอยู่ได้” รู้สึกหน้าร้อนมาก
“เค้าเปล่าแกล้งนะ” (ยิ้ม) “ขออีกรอบได้ไหมแต่คราวนี้ขอ...” เอามือล้วงเข้าไปในบอกเซอร์ผม และลูบไล้ไปที่บริเวณก้มผม ผมดันพี่ไอซ์ออก
“พอก่อน! รีบอาบน้ำเถอะ” พี่ไอซ์ก็พยักหน้ารับ
ผมกับพี่ไอซ์ก็อาบน้ำพี่ไอซ์ก็แซวอยู่นั่นแหละ ผมนี่ไม่กล้ามองหน้ามัน พอผมอาบเสร็จก็รีบออกมาแต่งตัว ปล่อยพี่ไอซ์มันเพ้อเจ้อไป.....
“ไม่รอเค้าเลยนะ” ทำหน้างอน “ได้เค้าแล้วทิ้งเหรอ!” ดูพูดเข้า
“บ้า! ตัวขืนใจเค้าต่างหาก” พูดแต่ก็ไม่ได้มองหน้าพี่มันนะ
“ขนาดเค้าขืนใจตัวยังเคลิ้มขนาดนั้นนะ” (ทำหน้าล้อเลียน)
“พอเลยจะนอนแล้ว!” ล้มตัวนอน หันหลังให้พี่ไอซ์ สักพักพี่ไอซ์ก็งียบไป แล้วก็ปิดไฟ ขึ้นเตียงมา...
“ตัวๆ” สะกิดผม
“อะไร?” ผมพลิกตัวหันกลับไปทางพี่ไอซ์
“เมื่อกี้ ยังไม่ถือว่าได้นะ! เรียกว่าช่วยกันเฉยๆ” ถึงห้องจะมือผมก็เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ของพี่ไอซ์
“ทำไมไม่ใส่เสื้อนอน?” ผมไม่ได้โง่ ผมรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่ผมก็เปลี่ยนเรื่องก่อน รู้สึกจะเปลืองตัวไปแล้ว
“เค้าร้อน” เปิดแอร์ขนาดนี้มาร้อนอะไร
“งั้นเดี๋ยวเร่งแอร์ให้” กำลังจะลุก พี่ไอซ์จับมือผมไว้
“ไม่ต้องหรอก เค้าจะนอนกอดตัวแบบนี้แหละ”
“อืมๆ” แล้วพี่ไอซ์ก็เอามือมาลูบไล้ตัวผม ผมจับมือพี่ไอซ์ไว้ “ทำไรอ่ะ?”
“ก็....” เอามือผมไปจับ...ของเขาคือมันตื่นอีกแล้ว
“พอเลยจะหมกมุ่นไปแล้ว! นอนได้แล้วพรุงนี้ต้องไปเรียน” โชคดีที่ปิดไฟแล้ว ผมร้อนหน้าไปยันหู ไม่รู้ว่าไข้ขึ้นหรือเขินแล้วนะเนี่ย
“ตัว...ก็เค้าอยาก....” เริ่มงอแงดิ้นไปดิ้นมาข้างผม
“เอ๊ะคนนี้นี่ยังไง พูดไม่รู้เรื่อง” หงุดหงิดพี่ไอซ์นอนหันหลังให้ผม คงจะงอนไปเรียบร้อยแล้ว ผมก็หลับตา
สักพักพี่ไอซ์ก็ลงจากเตียงไป ผมก็ลืมตาหันไปดูคือหอบหมอนหอบผ้าห่มลงไปนอนล่างเตียง คือจะเด็กไปไหนเนี่ย! ผมละหน่าย!
“ไปนอนข้างล่างทำไมตัว” ชะเง้อหน้าไปดู แต่หันหลังหนี “พี่ไอซ์!”
“.......” เงียบ ผมก็ดึงแขนให้ลุกขึ้นมาเลย “อื้อ!”
“ขึ้นมานอนดีๆสิ! อย่าทำตัวเป็นเด็กไปหน่อยเลยน่า!” ผมพูดเสียงติดจะไม่พอใจ
“ใช่สิ ตัวเบื่อเค้าแล้วใช่ไหม!” ให้ตายเถอะ ถามจริง แค่ไม่ทำ ก็เบื่อเหรอ
“อย่าง้องแง้งนะพี่ไอซ์” ชักหมดความอดทน
พี่ไอซ์ก็ยังคงนั่งเงียบ แถมหันหลังให้ผมอีก ผมหลับตาข่มอารมณ์ตัวเอง....
“พี่ไอซ์” ยังนิ่ง ผมก็เอามือไปสะกิด “ขึ้นมา! เดี๋ยวช่วยก็ได้!” หันขวับมาทันที พร้อมกับ กระโดดขึ้นเตียงอย่างไว โอ๊ยผมจะบ้าตาย!
“จริงนะ” ผมก็พยักหน้าตอบรับไป แบบนี้สินะ เป็นแม่ศรีเรือนในครัว เป็นอีตัวบนเตียง เข้าใจแล้ว
พี่ไอซ์ก็นอนแล้วถอดกางเกงออก ผมก็จัดการให้พี่ไอซ์ โดยใช้มือ แสงที่ลอดผ่านจะระเบียงทำให้ผมเห็นแท่งร้อนนี้ชัดขึ้น ยิ่งเห็น ผมก็ยิ่งรู้สึกมันเหมือนของต้องสาป ผมรู้สึกจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ผมใช้มือชักขึ้นชักลงเป็นระยะ พร้อมกับโน้มตัว เอาปลายจมูก และ ปลายลิ้น ลูบไล้ บริเวณคอของพี่เขา สักพัก พี่เขาประคองใบหน้าของผม พร้อมกับ จูบอย่างดูดดื่ม ผมไม่เก่งเรื่องนี้มากนัก จังหวะมือผมเลยหยุดไปบ้าง เพราะหายใจไม่ทัน ผมพยายามเล้าโลม ด้วยสกิลอันน้อยนิดที่มี จนทุกอย่างก็ถึงฝั่ง ครั้งแรก น้ำ...ว่าเยอะแล้ว ครั้งนี้ กระเด็นเลยไปที่หัวเตียงเลย สุดยอดจริงๆ ความแข็งแรงของนักกีฬา  พอเสร็จกิจกรรมอันแสนหวาน ผมก็ไปล้างมือพี่ไอซ์ก็ล้าง...ของเขาไปแล้วก็พากันเข้านอน พี่ไอซ์จะง้องแง้งอะไรไม่รู้มากมาย นอนกอดไม่พอต้องนอนจับมือ พอไม่ยอมก็งอน เกินเหตุจริงๆ ผมก็ต้องยอมแหละ
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรมาก ตื่นเช้าไปโรงเรียนพีไอซ์ก็ซ้อมบอลเพราะจะมีแข่งประจำจังหวัด ส่วนพี่อ๊อฟก็ไปแข่งวาดรูปที่กรุงเทพฯก็ยังโทรมาหาผมทุกวัน ส่วนผมเรียนเสร็จไปดูพี่ไอซ์ซ้อมแล้วก็กลับบ้าน กลับเองนะ พี่ไอซ์ต้องเก็บตัวที่โรงเรียน .....

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หลังจากนั่นก็ผ่านมาจนพี่อ๊อฟกลับมา จริงๆพี่อ๊อฟบอกผมว่าจะไปแค่ 2 – 3 วัน แต่จริงๆพี่มันไปเป็นเกือบ 2 อาทิตย์เลย เพราะการแข่งมีการเปลี่ยนกติกา ถ้าผ่าน ก็จะได้แข่งต่อเนื่อง จนจบระดับภาคเลย มันก็เลยวุ่นวายกับการซ้อม และเตรียมเอกสารเรื่องไปแข่ง เพราะต้องให้ที่โรงเรียนรับทราบด้วย พี่ไอซ์ก็ซ้อมหนักขึ้นทุกวัน ผมแทบไม่ได้คุยกับพี่ไอซ์เลย ประมาณเกือบ 2 อาทิตย์นี้ และวันนี้ก็เหมือนเดิม เลิกเรียนก็มานั่งดูพี่ไอซ์.....
“ไงวะ! มาดูทุกวันเลยเหรอ” ผมหันไปตามเสียง พร้อมกับเผยยิ้มกว้างออกมา
“โห! หายไปนานหล่อขึ้นป่ะเนี่ย” ผมถามด้วยความดีใจ
“ก็นานจริงนะ! แต่กูก็หล่ออยู่แล้วด้วย ห่างหายไปนาน มึงคงคิดถึงมาก กูเลยหล่อเป็นพิเศษ (ยิ้ม)
“จ้าๆ พ่อคนหล่อ!” ประชดพี่มัน
“แล้วมึงกับมันเป็นยังไงบ้างแล้ว?” พี่อ๊อฟถามพร้อมกับมองไปทางพี่ไอซ์
“ก็เรื่อยๆ อย่างที่บอกช่วงนี้เก็บตัว ไม่ได้คุยกันเลย” ทำหน้าเซ็ง
“งั้นกูก็ทำหน้าที่แทนได้ดิ!” เขยิบมานั่งติดผม ติดชนิดที่ว่าเขยิบอีกนิดนั่งตักผมเถอะ
“เห้ย! ถอยไปหน่อยเด้ จะชิดไปไหน!” ใจนึงก็กลัวพี่ไอซ์เห็น พี่อ๊อฟก็กระเถิบออกไป
“คิดถึงมึงนี่หว่า! มึงแม่งไม่คิดถึงกูเลยมั้ง” ทำหน้าเซ็ง
“ใครจะไปคิดถึง! เล่นโทรมาหาทุกวัน ยิ่งกว่าพี่ไอซ์อีก!” ผมพูดพร้อมกับทำหน้าหมั่นไส้มัน
“555 ทำคะแนนไง” ทำหน้าภูมิใจ
“เกินไปจริงๆ” ผมส่ายหน้าให้กับพี่อ๊อฟแล้วหันไปดูพี่ไอซ์ต่อ
“อะ!” ยื่นสร้อยคอให้ผม ผมรับมาแล้วมองอย่างสงสัย “กูซื้อให้เป็นของฝาก”
“โหสวยจัง” เป็นสร้อยที่คล้องด้วยแหวน แหวนมีสองวงไขว้กันเหมือนตะกร้อ สวยมาก “แต่แบบนี้เขาซื้อให้แฟนกันนะ” ผมเหลือบไปมองหน้าพี่อ๊อฟ นิ่งเลย “อะ เอ่อคือ..”
“ซื้อมาฝากก็รับๆไปเถอะน่า!” นอยเลยอ่ะ ไม่น่าพูดเลย
ผมก้มหน้าสำนึกผิด แล้วก็มองสร้อยที่พี่อ๊อฟให้ สังเกตุดีๆมันมีตัวอักษรอยู่ในแหวน วงนึง A&N และอีกวงนึงเป็น N&A
“พี่ ที่พี่สลักมานี่หมายความว่าไงอ่า!” ผมถามด้วยความสงสัย
“มึงเข้าใจยังไงก็เป็นแบบนั้นแหละ” นิ่งเลย “ถ้าไม่อยากได้อย่าทิ้งนะเว้ย! กูซื้อมาแพง” (อมยิ้ม)
“โถ่!พี่อ๊อฟ ของสวยอย่างนี้ แถมทำสัญญาลักษณ์ชื่อผมกับพี่อีก จะไม่อยากได้ได้ยังไงละ จะรักษาอย่างดีเลย” ยิ้ม แล้วผมก็เก็บสร้อยใส่กระเป๋าเสื้อ
“อื้ม”(ยิ้ม) “แล้วจะกลับเลยปะ ไอซ์มันไม่ได้กลับนี่”
“อือกลับเลยก็ได้ขอเดินไปบอกพี่ไอซ์หน่อยแล้วกัน”
พูดจบผมก็เดินไปข้างสนาม พี่ไอซ์ก็วิ่งมา.....
“ตัวจะกลับแล้วเหรอ?” เหงื่อท่วมตัวเลยนะ
“อื้ม” ยิ้ม แล้วล้วงผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดหน้าให้พี่ไอซ์ “อย่าหักโหมละ”
“อ่าๆ กลับกับไออ๊อฟนะ เค้าฝากมันดูตัว เดี๋ยวตัวแอบไปหากิ๊ก”(ยิ้ม)
“ไม่กลัวเค้าจับพี่อ๊อฟทำกิ๊กเหรอ” ทำหน้ากวนมัน
“เอาดิ เอาเลย!” งอนอีกแล้ว
“ล้อเล่นน่า! ไปซ้อมต่อได้แล้ว เค้าไปแล้วนะ!”
แล้วพี่ไอซ์ก็วิ่งกลับกลางสนาม ผมก็เดินกลับไปหาพี่อ๊อฟแล้วก็พากันไปที่ลานจอดรถ…..
“ทำไมไอซ์มันทำหน้าแบบนั้นละ?” พี่อ๊อฟถามด้วยความสงสัย
“งอนอีกตามเคย ไร้สาระตลอด” ผมพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าเบื่อหน่าย
“มันงอนงี่เง่าขนาดนั้นเลยเหรอวะ?”
“อย่าให้พูดอยู่กับผมทำตัวอย่างกะเด็ก 5 ขวบ ลืมภาพนักฟุตบอลโรงเรียนสุดหล่อไปได้เลย”
“โห! ขนาดนั้นเลย” (ยิ้ม)
“ยิ้มอะไร” ผมหรี่ตามองมัน
“เปล่า เอ้อ! วันนี้มีถนนคนเดิน ไปป่ะ?”
“มันยังไม่ตั้งเลยมั้ง!”ผมตอบพร้อมกับดูนาฬิกา
“งั้นไปเดินเซ็นทรัลรอป่ะ?”จะไปให้ได้เลยสินะ
“งั้นโทรบอกป๊าก่อนแล้วกัน”
แล้วผมก็โทรหาป๊า แต่ป๊าไม่รับเลยโทรหาแม่แทน .....
“ว่าไงลูก”
“นทไปถนนคนเดินนะกลับค่ำๆหน่อย”
“ลูกคนนี้นิ! อย่าเที่ยวให้มันมากเถอะ!”
“น้าๆๆๆๆ คุณแม่คนสวยยยยยย” (อ้อนสุด)
“จ้าๆ รีบกลับนะ เดี๋ยวป๊าก็ดุอีกหรอก”
“ก็นทโทรหาป๊า ป๊าไม่รับก็โทรหาแม่นี่ไง”
“ป๊าไปคุยกับเจ็กเกรียงไง”เจ๊กเกรียงคือน้องพ่อผมผมเรียกเจ๊กแทนอา “เฮียบอมจะกลับมาจากจีน” เฮียบอมคือลูกพี่ลูกน้องผมเอง นิสัยเสียปากไม่ดี เอาแต่ใจตัวเองสุดๆ ดีแต่หน้าหล่อ
“ห๊า! ไอบ้านั่นมันจะกลับมาแล้วเหรอ!” เฮียบอมไปเรียนที่จีนได้ 4 ปีแล้ว
“พูดให้ดีๆนะนท นั่นก็พี่เรานะ!” ป๊าพูดเสียงดุ
“นทมีพี่โน๊ต คนเดียวแม่ คนอื่นไม่เกี่ยว” เถียงสักหน่อย เป็นลูกไม่ดีเลย อย่าเอาเป็นแบบอย่าง555
“แม่เบื่อจะเถียงแล้ว รีบกลับแล้วกัน ตึ๊ด!” แล้ววางสายไปเลย คงจะโกรธผมเดี๋ยวค่อยกลับไปเคลียล์555
“ไงวะ ได้ไปไหม” เมื่อเห็นผมเอาโทรศัพท์ออกจากหู พี่อ๊อฟก็เอ่ยถามขึ้นมา
“ไปดิ!”
“แล้วมึงคุยอะไรกับแม่เยอะแยะ”
“เรื่องไร้สาระน่าพี่ ไปเหอะ!”
แล้วพี่อ๊อฟก็พาผมไปที่เซ็นทรัล เราเดินเที่ยวกันตั้งแต่ชั้นG – ชั้น 4 สักพัก......
“ทำไมกูไม่เห็นพี่ชายมึงเลยวะ?”
“รู้ได้ยังไงว่าผมมีพี่ชาย?” ผมไม่ได้บอกพี่อ๊อฟ ส่วนพี่ไอซ์กน่าจะรู้จากรูปในห้องนอนผม
“กูก็รู้จักพี่มึง” (ยิ้ม)
“ไม่เห็นบอกผมเลย?” (ทำหน้างง)
“กูจะบอกทำไมมึงไม่ได้ถาม แล้วตกลงพี่ชายมึงไปไหน” ต้องถามสินะ
“ไปเรียนไง! อยู่หอนู่น ผมก็ไม่ได้เจอนานแล้ว” ยิ้ม พูดไปก็คิดถึงพี่โน๊ต พี่เขาใจดีมากตามใจผมทุกอย่างนี่นะ
“อืม มึงนั่นป๊ามึงป่ะ!” ชี้ให้ผมดูในร้านกาแฟชื่อดัง
“อื้มใช่อ่ะ” ผมกำลังจะเดินเข้าไปแต่ต้องเบรก ป๊านั่งอยู่กับเจ็กเกรียงและเฮียบอม “ไปเถอะพี่ ป๊ามาคุยงานอย่ากวนเลย”
“ก็เมื้อกี้มึงยังจะเดินไปอยู่เลยนะ” พี่อ๊อฟถามอย่างสงสัย
“เอาน่า” ผมดึงมือพี่อ๊อฟแล้วพาเดินไปทางอื่น
“กูว่าจะซื้อกระดาษสักหน่อยดีกว่า กระดาษวาดรูปหมด” ผมก็พยักหน้าตอบรับ
พี่อ๊อฟก็พาผมไปร้านเครื่องเขียน พี่เขาก็เลือกนู่นนี่ไป....
“พี่อ๊อฟ ปวดฉี่อ่า”(เดินบิดไปมา)
“ก็ไปดิวะ ของมึงไม่ได้ติดกับของกูนะ” พูดจบมันก็หันไปเลือกของต่อ
“อ่าๆรอนี่นะ อย่าไปไหนนะ!” แล้วผมก็วิ่งไปเข้าห้องน้ำ
ผมเข้าห้องน้ำเสร็จล้างมือกำลังจะออกจากห้องน้ำ
“ไงว้ะ ไอหมา” ผมหันหลังไปดูไอเฮียบอม....
“อะไร!” เดินหนีมันออกจากห้องน้ำ
“กูเพิ่งกลับมามึงจะไม่ทักทายหน่อยหรือยังไง?” มันเดินตามมา แล้วดึงแขนผมไว้
“อย่ามายุ่ง นทรีบ!” จะสะบัดก็ไม่ได้มันบีบแรง
“ทำไม กลัวแฟนมึงรอนานเหรอไอนท กูเห็นนะ!”
“มันก็เรื่องของนท ปล่อย!” ไอเฮียบอมมันชอบหาเรื่องผมมากไม่รู้เป็นอะไรของมัน
เฮียบอมก็พูดจาหาเรื่องผมไปสักพักพี่อ๊อฟก็มาตาม....
“มีอะไรกัน?” เดินเข้ามาถามหน้านิ่งๆ
“มึงเสือกอะไรวะ?” มองหน้าพี่อ๊อฟอย่างหาเรื่อง
“เฮียบอมพูดจาให้มันดีๆหน่อยเถอะ!” พี่อ๊อฟยืนมอง
“ทำไม อ๋อนี่เหรอแฟนมึง?” มองพี่อ๊อฟอย่างสำรวจ
“ไปเถอะนท!” ไม่สนใจเฮียบอมจับมือผมแล้วเดินนำไปเลย
“เห้ย! กูยังคุยกับมันไม่เสร็จ มึงอย่ายุ่งได้ไหม” กระชากไหล่พี่อ๊อฟหันกลับไปหามัน พี่อ๊อฟหน้านิ่งมาก
“เฮียบอม ถ้ายังไม่หยุดหาเรื่อง นทจะฟ้องเจ็กเกรียงนะ!” ขู่ว่าจะฟ้องพ่อมันเลย
“ฟ้องไปดิใครกลัว” ทำหน้ากวนตีน “อีกอย่างกูไม่ได้หาเรื่อง กูแค่เข้ามาทักทายน้องชายเฉยๆ”(ยักคิ้ว)
“พี่อ๊อฟไปกันเถอะ!” ผมจูงมือพี่อ๊อฟมาเลย ผมหันไปมองไอเฮียบอมไม่ตามมาแล้ว
“ใครวะ?” พี่อ๊อฟถามขึ้นด้วยความสงสัย 
“ลูกพี่ลูกน้องผมเอง มันชอบกวนชอบหาเรื่องผมเนี่ยแหละ !”  ผมตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“กูนึกว่าแฟนเก่ามึงอีก555” ดูปากมัน
“ไม่ใช่แล้ว ไปถนนคนเดินกันได้แล้วมั้ง เดี๋ยวไม่มีที่จอดรถ” ผมเปลี่ยนเรื่อง แล้วก็มองเวลา น่าจะตั้งแล้วนะถนนคนเดิน
พี่อ๊อฟก็พาผมมาเดินถนนคนเดิน เราเดินดูนู่นซื้อนี่นั่นไปทั่ว พอเสร็จก็กลับกันกว่าจะกลับก็3ทุ่ม เดินกันเพลินเลย พี่อ๊อฟมาส่งผมบ้าน ....
“วันนี้สนุกและอิ่มมว๊ากกกก” (ลูบท้อง)
“เออ! ลืมบอกอีก2วันจะมีงานเลี้ยงสำหรับคนที่ไปแข่งขันที่กรุงเทพฯ มึงไปไหม?” เอ่ยชวนผม ผมก็มองอย่างแปลกใจ
“ก็บอกอยู่ไม่ใช่เหรอว่าสำหรับคนที่ไปแข่งขันที่กรุงเทพฯ แล้วผมเกี่ยวอะไรไม่ทราบ” ตอบกลับมันด้วยคำถาม
“เขาให้พาเพื่อนไปได้ ไอไอซ์ก็เก็บตัวชวนมึงเนี่ยแหละ”(ยักคิ้ว)
“พี่อ๊อฟไม่มีเพื่อนเหรอ?” (ทำหน้ากวนๆ)
“กูบังคับมึง!” (ทำหน้าดุ)
“555ล้อเล่น ไปอยู่แล้วดูทำหน้าเข้า” ผมพูดอย่างอารมณ์ดี พี่อ๊อฟอมยิ้มขึ้นมา
“อืมไปแล้ว เดี๋ยวคืนนี้โทรหาแล้วกัน” พี่อ๊อฟพูดด้วยความอารมณ์ดี
“โทรทำไมวันนี้ยังคุยไม่พอเหรอ?”ผมทำหน้าสงสัย
“สำหรับมึงกูไม่เคยพอ” (ยิ้ม)
“บ้า!” (เขินสิ ) “ไปได้แล้ว ผมเข้าบ้านแล้ว!”
พูดคุยกันอีกหน่อยแล้วพี่อ๊อฟก็ขับรถไปผมก็เข้าบ้าน ....
“ไงตัวแสบมานี่ดิ้! ทำไมกลับดึกอย่างนี้” (ทำดุ)
“ป๊าแหละ นทโทรไปก็ไม่รับ” (งอนแต่ก็เดินไปนั่งข้างๆ)
“ตอนนั้นป๊าลืมโทรศัพท์ไว้ในรถ ตอนคุยกับเจ็กเกรียงไง!”
“ไม่ใช่เรื่องของนทนี่” (ยิ้ม)
“สะงั้นไป กินอะไรมายัง” (ผมมองหาแม่) “แม่ขึ้นไปจัดห้องลูกนะ กับข้าวอยู่ในครัว”
“นทกินมาแล้ว แต่กินได้อีกหน่อย”(ยิ้ม) “แล้วแม่มาจัดห้องนทอะไรตอนนี้อ่ะป๊า” จัดตอนดึกนี่ยนะ?
“อ่าว! ป๊ายังไม่ได้บอกเราเหรอว่าเฮียบอมจะมานอนด้วย!” (ยิ้ม)
“ห๊า! ไม่เอาป๊า นทไม่นอนกับเฮีย มันชอบแกล้งนท!”ท้วงสิ “ทำไมเฮียไม่ไปนอนที่บ้าน มานอนนี่ทำไม!”
“ก็บ้านเฮียอยู่นอกเมืองนู้น เฮียขี้เกียจขับรถเลยขอนอนบ้านเรา” ดูทีวีไปพูดไป ไม่ได้ฟังลูกพูดเลยใช่ไหมว่ามันแกล้งผมเนี่ย
“แล้วอยู่บ้านเราไม่ต้องขับรถเหรอ?” ผมถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ขับแต่ไม่ไกลมากไง!” ใจเย็นมาก
“ดีนะที่เฮียยังไม่มา นทจะได้ล็อคประตู” ผมรีบลุกจะขึ้นห้อง
“ไม่ต้องล็อคหรอก! เฮียอยู่ข้างบนช่วยแม่เก็บของแหละ!”
“ห๊า! ไหงงั้นอ่ะ เก็บของ? นี่จะมาอยู่นานเลยเหรอ!” (ป๊าทำไมสนใจ) “ป๊า!”
“นท! เลิกโวยวายสักที ป๊าจะดูทีวี” ดุเลยสินะ
ผมก็เดินตึงตังเข้าไปหาอะไรกินในห้องครัว แล้วแม่ก็เดินเข้ามา.....
“นท อย่าดื้อสิเฮียมาอยู่แปปเดียว!”แม่เอ่ยขึ้น
“ห้องรับแขกและแม่ ห้องพี่โน๊ตก็มี!”ผมท้วงด้วยท่าทีไม่พอใจ
“ห้องรับแขกเตียงพังยังไม่ได้เปลี่ยน ห้องพี่โน้ตพี่โน๊คเขาหวง นอกจากเรา3พ่อแม่ลูก คนอื่นพี่เขาไม่ให้เข้าหรอก!”
“งั้นนทไปนอนห้องพี่โน๊ต”
“ไม่ได้! ห้องพี่โน๊ตแม่พึ่งทำความสะอาดไป นอนกับเฮียจะเป็นอะไรนท! อย่าเยอะนะ” ทำเสียงดุใส่ผม “เฮียเขาอยู่ข้างบนนู่นแล้วนะ” แล้วแม่ก็ออกไปนั่งดูทีวีกับป๊า
ผมก็นั่งกินข้าวเงียบๆ จะได้นอนไหม เดี๋ยวก็สรรหานู่นนี่มาแกล้ง! ผมกินข้าวเสร็จก็เดินขึ้นบ้าน ยืนทำใจหน้าห้องตัวเองสักพักก็บิดลูกบิด แต่มันล็อค ผมก็เคาะประตู เคาะหลายครั้งก็ไม่เปิด คราวนี้ผมทุบอย่างแรงและดังเลย จนป๊ากับแม่วิ่งขึ้นมาดู......
“อะไรนท! ทำอะไรเสียงดัง” ป๊าขึ้นมา พร้อมกับพูดเสียงดังใส่ผม
“เสียงดังอะไรลูก แม่ใจไม่ดีนะ!” แม่ก็อีกคน
“ก็เฮียมันล็อคประตูอ่ะ” ทำหน้างอ
“ไหน” ป๊าบิดลูกบิด อ่าวไม่ได้ล็อค พอเข้าไปเฮียนั่งอยู่นอกระเบียง ใส่หูฟัง “นท! อย่าดื้อสิ! ไม่ต้องหาเรื่องเฮียเขาเลยนะ! ป๊าว่ามีแต่เรานั่นแหละแกล้งเฮีย!” โดนเลยยาวๆไป
“นั่นสิ ตอนแม่ออกมาแม่ก็ไม่ได้ล็อคนะ!” แม่ก็อีกคนแล้ว ผมก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับผิด ผมเหลือบไปทางเฮียมันนั่งกลั้นหัวเราะ เลวจริง! “อย่าหาเรื่องเฮียเขาละ!” แล้วแม่กับป๊าก็ลงไปข้างล่าง
ผมก็เอาของไปเก็บ ไอเฮียมันก็ทำหน้าล้อเลียนผม ผมก็ทำไม่สนใจมัน มาแปปเดียวทำให้ผมโดนด่าเลย! ผมก็เข้าไปอาบน้ำ พอออกมา.....
“ไงมึง!” ยิ้มร่าเลย แล้วประเด็นคือค้นกระเป๋านักเรียนผม
“ทำอะไรอ่ะ” เดินเข้าไปดึงกระเป๋าผมออกจากมือเฮีย “อย่าค้นของคนอื่นได้ป่ะ!” หงุดหงิดจริง
“หึ! อันนี้ใครให้มา” มันชูสร้อยคอที่พี่อ๊อฟให้ผมมา “สวยดีนะเนี่ย” ยักคิ้วให้แบบกวนตีนดีจริงๆ
“เอาคืนมานะ!” ผมจะไปแย่งจากตัวมัน มันเอาหย่อนเข้าไปในกางเกงตรงเป้ามัน คือเข้าไปในกางเกงใน “เห้ย!! ไอเฮียบ้า เอาออกมานะเว้ย!”
“อยากได้มึงก็มาล้วงเอาสิ” มันทำท่าทางกวนตีนล่อผม
“อย่าเล่นสกปรกได้ป่ะ เอาคืนมาเลยนะเว้ย!” ผมพูดอย่างไม่ยอม
“มาเอาดิ” ยื่นเป้ามาให้ผม “มึงน่าจะชอบไม่ใช่เหรอวะ” พูดกวนตีนไม่หยุด
“เฮียบอม เอาคืนมา!”  ผมเริ่มหมดความอดทน
“เอาดิ” ยังไม่หยุด
“คิดว่าไม่กล้า?” ผมเดินเข้าไปเอามือล้วงเข้าไปหยิบ มันก็ยืนให้ผมล้วงนั่นแหละโรคจิตจริงๆ แต่มือโดนทุกสัดส่วน ขนาดนี่ไม่ต้องพูดถึง พอผมจับสร้อยได้ ผมบีบไข่ไอเฮียมันอย่างแรง มันพลักผมออกทันที
“โอ้ย!” กุมไข่มันไว้ “มึงบีบทำไมวะ!” ทำมาโกรธ
“อยากให้ล้วงเองไม่ใช่เหรอ” ทำหน้ากวนตีนมัน “เล็กนะเรา” แซวมัน จริงๆก็ใหญ่พอตัว
“กูจุกเลยไอเวร!” เดินขาถางไปๆมาๆ
“55555” ผมหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้วก็เดินเอาสร้อยไปล้างน้ำล้างแอลกอฮอ นิสัยไม่ดีจริงๆ พอล้างเสร็จผมออกมาเห็นเฮียนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ท่าทางจะหายจุกแล้ว ผมก็ไปนั่งโต๊ะเขียนหนังสือและลงมือทำการบ้าน
ผมทำการบ้านเสร็จก็นั่งเล่นคอมฯ เล่นไปสักพักผมก็เอะใจสิ เฮียบอมทำไมมันเงียบไป พอผมหันไป.....
“เห้ย!!” มันนอนแก้ผ้าเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง ผมหันกลับมาทางเดิมทันที “เฮียทำไมไม่ใสเสื้อผ้า!”
“ก็กูจะอาบน้ำ” พูดแต่ตาก็ยังจ้องไปที่มือถือ
“ก็ไปอาบดิ มานอนโชว์อะไรอยู่นี่ห๊ะ!” บ้าชะมัด ถ้าเป็นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ผมจะไม่พูดเลย นี่ก็โตกันหมดแล้วด้วย
“อะไรวะ! ตอนอยู่จีนเขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น!” มันพูดแบบไม่สบอารมณ์
“ก็นี่มันไทย งั้นก็กลับไปจีนเลยไป๊” ผมส่ายหัวอย่างเอือมระอา
มันเงียบสักพักผมก็นั่งเล่นคอมฯไป แล้วอยู่ๆเฮียมันก็มายืนข้างๆผม คือยังโป๊เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือของเฮียเริ่มพองโต ผมถึงกับหันหน้าหนี รู้สึกร้อนหน้าอย่างบอกไม่ถูก.....
“อะไรวะ เห็นแค่นี้ต้องเขินด้วยเหรอ?” นั่นคือคำถามที่ควรถามหรือ มายืนโชว์เจี๊ยวให้คนอื่นดูเนี่ยนะ
“ไปอาบน้ำเลยเฮีย ไม่งั้นนทจะฟ้องป๊านะ! มายืนแก้ผ้าอยู่นั่นแหละ รู้จักคำว่าอายบ้างเถอะ!”ผมพูดขึ้นอย่างเหลืออด
“ไปถูหลังให้กูหน่อย” พูดขึ้นมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย
“ไม่เอา! ไปสักทีเถอะ” ผมไล่อย่างไม่พอใจ
“อะไรวะแค่ถูหลังก็ไม่ได้?” ดูมันนะ
“เออไม่ได้ ไปอาบน้ำสะ!” ผมกดเสียงย้ำอีกที
แล้วเฮียมันก็เดินเข้าห้องน้ำไป โรคจิตจริงๆ สักพักพี่อ๊อฟโทรมา ผมก็เล่าให้พี่อ๊อฟฟัง ตอนแรกพี่อ๊อฟจะมารับผมไปนอนด้วย แต่มันดึกมากแล้วจริงๆผมเกรงใจพี่อ๊อฟด้วย เลยคุยโทรศัพท์กันไป จนเฮียมันออกมาผมก็คุยไม่สนใจมัน จะโชว์อะไรนักหนาก็ไม่รู้ ผมก็คุยกับพี่อ๊อฟไปเรื่อยๆสักพักพี่อ๊อฟก็วางไป ผมก็เก็บของปิดคอมฯจะนอนเพราะง่วงแล้ว ผมหันไปดูเฮียมันนอนแล้ว ดีนะใส่เสื้อผ้านอนด้วย ผมก็เดินไปปิดไฟแล้วก็ขึ้นเตียง แล้วก็นอน........
นอนไปสักพักผมรู้สึกว่ามีอะไรมายุ่งย่ามกับของลับผมผมค่อยๆลืมตาขึ้นมา.......
“เห้ย! เฮียทำอะไรวะ” ผมเด้งตัวขึ้นถอยหนีเฮียมัน มันเอามือล้วงเข้ามาจับนทน้อยของผม
“รีบตื่นจังวะ!” ทำอารมณ์เสียด้วย
“เอาจริงๆคิดจะทำอะไร ถ้ายังจะแกล้งกันอยู่ละก็นทจะไปนอนกับป๊าแล้ว!” ผมเริ่มหงุดหงิดแล้ว คนจะนอน
“เออๆกูจะนอนแล้ว!” มันพูดอย่างจำยอม
แล้วมันก็ล้มตัวลงนอน ส่วนผมก็ค่อยๆล้มตัวนอนลอบมองเฮียมันไปด้วย อะไรก็ไม่รู้บ้าที่สุด จนผมหลับไป
ผมสดุ้งตื่นได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก ผมตื่นมาไม่เห็นเฮียแล้วนี่ก็เพิ่ง7โมงเช้าเอง ผมก็อาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปโรงเรียน....
“แม่เฮียไปไหน?” ผมถามขณะกำลังกินข้าวอยู่
“เฮียไปออกกำลังกายแต่เช้าแล้ว! เขาไม่ขี้เกียจเหมือนลูกหรอก!” แม่พูดขึ้น
“นั่นสิออกกำลังกายบ้างหรือเปล่าเรา หรือมัวแต่บ้าผู้ชาย5555” ป๊าก็ซ้ำอีก
“ป๊าอ่ะ! แม่ด้วยพอเลย นทจะไปเรียนแล้ว!”ผมก็ลุกขึ้นไปรอพี่อ๊อฟหน้าบ้าน
ผมยืนรอสักพักเฮียก็กลับมา เหงื่อโชคเชียว ผมทำเป็นไม่สนใจ....
“จะไปเรียนแล้วเหรอ ให้สุดหล่อไปส่งไหม” ช่างกล้าช่างมั่น
“แหวะ! คนหล่อคิดนานป่ะ?” ผมทำท่าจะอ้วกส่งไปให้มัน
“ไม่นานนะ มึงดูดิคนอะไรหล่อขนาดนี้” มันส่องกระจกรถป๊า ผมก็มองมั่นอย่างเอือมระอา
“จ้าๆ หล่อมว๊ากๆ” มันทำหน้าภูมิใจ
ปี๊นๆ! พี่อ๊อฟมาแล้ว เฮียกับพี่อ๊อฟก็มองหน้ากัน เฮียนี่หน้ากวนตีนมาก แต่พี่ก็อ๊อฟนิ่งๆ.......
“ไปแล้วเฮีย อย่าลืมอาบน้ำนะ ตัวโครตเหม็น” ผมทำท่าปิดจมูกแล้ววิ่งไปซ้อนท้ายพี่อ๊อฟ “พี่อ๊อฟไปเล้ย....”
แล้วพี่อ๊อฟก็ออกรถไป พี่อ๊อฟก็ถามถึงเมื่อคืนเป็นยังไงบ้าง ผมก็เล่าไป พี่อ๊อฟดูหงุดหงิดมากเลย....
“มานอนบ้านกูไหมคืนนี้?” ถามผมระหว่างเดินไปเข้าแถว
“อยากไปอยู่นะ! ป๊าจะด่าหรือเปล่า ช่วงนี้เฮียมาอยู่ด้วย เดี๋ยวหาว่าไม่อยู่เป็นเพื่อนเฮียมันอีก” ผมพูดพร้อมนึกคิดไปด้วย
“มึงโดนมันแกล้งขนาดนั้นมึงยังจะอยู่อีกเหรอ?” มันทำเสียงแข็ง
“เอาน่าพี่ เดี๋ยวค่อยคุยกันไปเข้าแถวเถอะ!” (ยิ้ม)
ผมกับพี่อ๊อฟก็พากันแยกย้ายไปเข้าแถว แล้วก็ขึ้นเรียน....
“เออพวกมึงใกล้จะได้ไปเข้าค่ายอีกแล้วกูเบื่อ” ไอวิวพูดขึ้น
“เออ อุตส่าหนีจากมอต้นมา มอปลายก็ยังมีเข้าค่ายอีก กูสุดจะทน” ไอนัท
“เออกูไม่อยากไปเลย กูไม่ชอบ” ไอมินก็เอากับเขาด้วย ปกติเห็นชอบนะ
“เอาน่ามึง” ปอเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ
“กูว่าก็สนุกดีนะ แต่ถ้าเจอแบบโหดๆแบบปีแล้วตอนมอต้นก็ไม่ไหว!” ผมพูดขึ้นมา
พวกผมพูดถึงเข้าค่ายโรงเรียนผมเน้นกิจกรรม ตอนที่เรียนลูกเสือตอนมอต้นโหดตั้งแต่ ม.1-3 มอ4 รุ่นพี่ก็บอกว่า เข้าค่ายแนวทหารเหมือนเดิม อาจจะมีเกี่ยวกับค่ายคุณธรรมบ้าง แล้วแต่การสุ่มของการศึกษาประจำภาค ไม่ค่อยมีใครประทับใจเท่าไหร่ ยิ่งเป็นพวกเปรี้ยวซ่าแบบกลุ่มผม ซ่าไม่ได้ โดนลงโทษทุกครั้ เราถกเถียงกันเรื่องนี้ต่อไป
ตอนนี้พี่ไอซ์ก็นอนโรงเรียนยาวเลย เพราะต้องเก็บตัว เข้าเรียนได้แต่เวลาพักนี่ต้องไปกินข้าวกับกลุ่มที่จะไปแข่ง คือจะไปแข่งทีมชาติเลยหรือยังไงกันเซ็ง ผมก็คุยกันไปมาสักพักครูก็เข้ามาสอน จนถึงเวลาเที่ยง ผมและเพื่อนๆก็เดินไปโรงอาหารตามปกติ แต่พี่อ๊อฟไม่ได้มากินด้วย ตอนแรกเขาก็จะมานั่งกินด้วยเนี่ยแหละ แต่ผมบอกว่าอยู่กับเพื่อนๆบ้างก็ดียังไงก็เจอกันเช้าเย็นอยู่แล้ว หน้างอเลยที่เดียว.......
“พวกมึงวันนี้ไปเดินเซ็นทรัลหรือเปล่า” ไอมินเอ่ยชวนพร้อมกับทำหน้าแบบมีเรสนัย
“มีอะไรหรือเปล่า หน้ามึงมีพิรุธ สุดๆ” ผมถามพร้อมกับจ้องจับผิดมัน
“เออทำไมวะ? มึงจะโชว์แฟน?” ไอวิวถามต่อ
“ไอนี่ไม่ใช่ไปสร้างเรื่องไว้อีกเหรอวะ?” ไอนัท มองหน้าไอมินอย่างไม่ไว้วางใจ
“ไม่เอานะเว้ย! คราวแล้วมีเรื่องก่อนปิดเทอมกูโดนกักบริเวณช่วงปิดเทอมไปหมดเลย” ปอพูดขึ้นมา
ทุกคนก็รุมประณามไอมินอย่างหามิได้ เพราะมันชอบสร้างเรื่องเก่งสุดในกลุ่มแล้ว แล้วก็ชอบลากเพื่อนไปเอี่ยวด้วยจนมีเรื่องใหญ่เรื่องโตก็เพราะมัน
“คือมันก็ไม่มีอะไรหรอก” (แต่ก็ยังมีพิรุธ) “แค่อยากจะชวนพวกมึงไปหาอะไรแดกเท่านั้นเอง!” พูดด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลน 
ทุกคนก็ถกเถียงกันต่ออีกหน่อย ผมก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไปเที่ยวกับเพื่อนๆบ้างก็ดี ผ่อนคลาย
“เออแล้วจะไปกันหรือเปล่า?” พวกมันก็พยักหน้ากัน “กูขอดูอีกทีได้เปล่าวะ ต้องไปดูพี่ไอซ์ซ้อมด้วย แล้วพี่อ๊อฟก็ต้องไปส่งกูบ้านด้วย” พูดอย่างไม่ใส่ใจ จริงๆก็ไปได้ แต่ก็ขอมีเงื่อนไขก่อนไม่งั้นเดี๋ยวไปไม่ได้แล้วเพื่อนจะรุมประณามเรา
“เห้ย! ไม่ได้นะเว้ย!มึงต้องไป” คือไอมินพรวดพราดขึ้นมาเลย คือน่าสงสัยอย่างรุนแรงทุกคนจ้องไปที่มัน “กะ...ก็ อยากให้ไปทุกคนไง” มันต้องมีอะไรแน่ๆ
พวกผมก็กินไปคุยกันไปไอมินก็ดูมีพิรุธเหลือเกิน กินเสร็จก็ขึ้นเรียน เรียนคาบบ่ายนี่ง่วงเว่อร์ๆ พอเลิกเรียน...
“เห้ย! นทมึงจะไปไหน” ผมที่กำลังจะเดินออกจากห้องเรียน ไอมินก็ตะโกนขึ้นมา
“ไปหาพี่ไอซ์ จะไปบอกนี่ไงว่าจะไปกับพวกมึง!” คือพี่ไอซ์ใช้โทรศัพท์ไม่ได้ ใช้ได้วันละชั่วโมงน่าสงสารจริงๆที่ชั่วโมงที่พี่ไอซ์ว่างผมไม่ว่าง555
“ก็ไปด้วยกันดิวะ!” ไอมินอะไรของมันนะ ปกติไม่เห็นจะมีอะไร วันนี้มันเป็นอะไรของมัน
“ทำไมต้องไอนทวะ” ปอถาม ทุกคนหรี่ตามองไอมินอย่างสงสัย
“ถะ...ถ้ามันชิ่งหนีไปกับผู้ชายก่อนล่ะ” แหม่!ไอเวรนี่แถไปได้
“กูว่าไอนทไม่ได้แรดขนาดนั้นวะ!” ยังไงวิว หลอกด่าใช่หรือไม่
“เออมันก็แค่มั่วไปทั่วเท่านั้นเอง” ซะงั้น มึงก็เอากับเขาด้วยหรือไอนัท
“เดี๋ยวนะๆ แล้วเหตุใดจึงมาหลอกด่ากูกันละจ้ะ” ยิ้มสยองส่งไปให้มันสองคน
“เออพอๆ จะไปกับไอนทก็ไปกันหมดนี่แหละ จะได้ไม่ต้องวุ่นวายตามหากันอีก” ปอเอ่ยขึ้นเพื่อยุติการเถียงที่ไม่มีวันสิ้นสุดนี้
แล้วพวกเราก็เดินไปที่สนามบอล ผมก็ไปข้าสนามที่เดิม พี่ไอซ์เห็นก็วิ่งมาหาผม....
“ไงตัว” ยิ้มหน้าบานเลย เหงื่อท่วมตามเคย “คิดถึงเค้าหรือเปล่าเนี่ย! มีกิ๊กหรือเปล่า!”
“อย่ามาพูดเลอะเทอะ!” หยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อที่หน้าพี่ไอซ์ พวกเพื่อนผมก็โห่!แซวกัน “แล้วพี่เหนื่อยไหม ทำไมเข้มจังแค่แข่งบอล ต้องตัดขาดจากภายนอกขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ประจำจังหวัดนะตัว อีกอย่างโรงเรียนเราก็ได้รางวัลดีมาตลอด เพราะการฝึกแบบนี้”(ยิ้ม)
“แล้วจะอีกนานป่ะเนี่ย” (ทำหน้างอ) “เค้าจะได้ไปหาแฟนใหม่รอ” (ยิ้ม)
“อย่านะตัว!” ตกใจอะไรขนาดนั้น “รุ่นพี่คนอื่นยังโดนแฟนบอกเลิกเลย เค้ากลัว” ทำตาปริบๆ
“555 ไม่หาหรอก” (ยิ้ม) “วันนี้เค้าไม่ได้นั่งดูตัวซ้อมนะ จะไปเดินห้างกับเพื่อน” ชี้ไปทางเพื่อนๆผม
“อื้มไปดิ” (ยิ้ม) “ให้ไออ๊อฟไปด้วยนะ! เพราะเค้าถามมันทุกวันนะเรื่องตัว!” พี่ไอซ์พูดอย่างจริงจัง
“ทำไม ไม่ไว้ใจอะไร?” ผมถามพร้อมทำหน้าหาเรื่อง
“เปล่า แค่อยากให้ตัวรู้ว่าเค้าก็ไม่ได้หายไปไหนนะ”(ยิ้ม)
“บ้า! ไปแล้ว ดูแลตัวเองด้วยละ อย่าหักโหม” ผมเขินเลยตัดบทเลย
“อื้ม อีกไม่นานตัว พอโค้ชปล่อย ตัวต้องให้รางวัลเค้านะ!” ยิ้มแบบหื่นๆ
“พอเลยๆ ไปได้แล้ว!” พี่ไอซ์มันดึงผมเข้าไปหอมแก้ม แล้ววิ่งไปเลย ดีนะคนไม่ค่อยเยอะ แต่เพื่อนผมนี่แซวใหญ่เลยนี่สิ
ผมเดินกลับไปหาเพื่อนๆ พี่อ๊อฟมารอผมกับกลุ่มเพื่อนผม......
“จะกลับยัง!” เสียงแข็ง ทำหน้าหงุดหงิด
“อ่าว! พวกมึงยังไม่บอกพี่อ๊อฟเหรอวะ?” ผมหันไปมองเพื่อนๆ แล้วปอมันก็เดินเข้ามากระซิบผม..
“ก็พี่อ๊อฟดิ! ทำหน้าดุขนาดนั้นแถมพวกกูชวนพูดนิ่งอย่างเดียวเลยอ่ะ น่ากลัวสัส!” ปอกระซิปบอก
“เป็นไรของมัน?” ผมมองไปที่พี่อ๊อฟอย่างสงสัย
“ไม่รู้ เห็นจ้องเขม็งไปทางมึงตอนมึงยืนคุยกับพี่ไอซ์อ่ะ มึงทำอะไรให้พี่เขาโกรธหรือเปล่าวะ?” ปอก็ยังคงกระซิบ
“เอาน่าๆ” แล้วผมก็ดันปอออก “พี่อ๊อฟผมจะไปเดินเซ็นทรัลกับเพื่อนๆ ไปด้วยกันเปล่า!”(ยิ้ม)
“ไปทำไมวะ!” ทำเสียงหงุดหงิด พวกเพื่อนเดินถอยหลังกัน
“ถ้าพี่ไม่อยากไปก็ไม่เป็นอะไรนะ ผมไปเองก็ได้ พี่กลับก่อนเถอะ” รู้แหละว่าพี่อ๊อฟเป็นอะไร แต่จะให้ผมทำยังไงได้ละตอนนี้
“เออไปก็ไป! เจอกันเซ็นทรัลละกัน มึงไปกับเพื่อนๆนิ!” พี่อ๊อฟพูดจบ แล้วเดินไปเลย
หลังจากพี่อ๊อฟเดินไป เพื่อนก็ถกเถียงกันเรื่องพี่อ๊อฟ ที่ดูจะไม่สบอารมณ์ขนาดนั้น ถกเถียงได้ไม่นาน ไอมินก็เร่งให้ทุกคนรีบไป โดยอ้างว่าเดี๋ยวมันจะเย็นเกิน ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะยังไงก็ต้องไปกับมันอยู่แล้ว พวกผมก็พากันโบกรถสองแถวไป พอถึงพี่อ๊อฟยืนรอหน้าเซ็นทรัลแล้ว แล้วก็พากันเดินเข้ามา แต่ไอมิน มองซ้ายมองขวา....
“ไอมิน! มึงมองหาใคร” ผมถามอย่างจับผิด พี่อ๊อฟก็มองงงๆว่าอะไรกัน
“เออ หันไปมา!”ไอวิวถามย้ำอีกครั้ง เมื่อเห็นมันล้วงโทรศัพท์มากด
แล้วทุกคนก็เริ่มรุมมันด้วยคำพูด เพราะชวนมา แต่ทำตัวน่าสงสัย จนสุดท้ายแล้ว มันก็พาไปกินเอ็มเค เข้าไปก็แปลกๆ ไอมินพาพวกผมไปนั่งโต๊ะใหญ่ ที่นั่งกันได้ 10 กว่าคน แต่ผมสังเกตุเห็นนักเรียนกลุ่มหนึ่งในร้านเป็นผู้ชายประมา 5 คนผมเห็นไม่หมด พอมันเห็นพวกผมเข้าไปมันมองพวกผมกันทั้งกลุ่ม ไอมินมีการส่งซิกให้ไอพวกนั้นด้วยนะ.....

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
“โต๊ะเล็กก็มี! เรามาแค่ 6 คนเองนะเว้ย!”ไอนัทเอ่ยขึ้น 
“ไอมินมึงจะทำอะไรกันแน่วะ!”ไอวิวเอ่ยถามด้วยท่าทีกังวล
“แล้วไอพวกเมื่อกี้มึงรู้จักมันเหรอ?” ปอถามในสิ่งที่ทุกคนก็อยากรู้ เพราะมันส่งซิกกันได้ไม่เนียนเลย จนสุดท้ายมันก็คะยั้นคะยอให้นั่งโต๊ะใหญ่ แล้วเราก็เริ่มถกเถียงกันอีกครั้ง ผมกับพี่อ๊อฟก็นั่งฟังมัน 4 คนเถียงกันไปมา ไอมินก็แถไปนู่นนี่ มันต้องมีอะไรแน่ๆ แล้วเราก็สั่งของมากินกัน คือไอมินสั่งเยอะมากๆ คือพวกผมถึงกับต้องหยุดสั่งแล้วให้มันสั่งคนเดียว........
“ไอมินมึงสั่งขนาดนี้มึงคิดว่าพวกกูรวยมากเหรอวะ! ตังไม่พอมึงออกเองเลยนะเว้ย!” ผมพูดด้วยความตกใจ ยอดสรุปบนจอตอนนี้หมื่นกว่าแล้ว มันเลือกแต่ของแพงๆทั้งนั้น มาขนาดนี้สั่งเป็นหมื่นได้ยังไงกัน
“เออไอสัส สั่งเอาๆ จะแดกหมดไหมนั่น!” ไอปอตามทันที
แล้วทุกคนก็รุมด่ามัน ยกเว้นพี่อ๊อฟยังคงนั่งเงียบอยู่ข้างๆผม....
“พี่อ๊อฟ เป็นอะไรอ่า” หันไปถาม ส่วนพวกเพื่อนผมก็ยังคงคุยกัน
“เปล่า!” ยังคงทำหน้านิ่ง
“ เฮ้อ!” ผมสะกิดพี่อ๊อฟ พี่เขาหันมา “ไปห้องน้ำเป็นเพื่อนหน่อยสิ!”
“ไปคนเดียวดิ!” เหวี่ยงใส่ผมอีก 
“เฮ้ยพวกมึง!” พวกมันหันมา “กูไปส่งพี่อ๊อฟเข้าห้องน้ำแปปนะ!”
แล้วผมก็จับมือพี่อ๊อฟแล้วดึงให้มันลุกตามมาเลย แล้วก็พามันไปห้องน้ำจริงๆแหละ! ประเด็นคือผมปวดฉี่จริงๆ5555
พอออกมา...
“เสร็จแล้วใช่ไหม!” ถ้าจะรำคาญผมขนาดนั้น
“พี่อ๊อฟ! อย่าเป็นแบบนี้ได้ไหม!” ผมพูดอย่างจริงจัง
“เป็นอะไร กูเป็นอะไร!” นั่นน่ะสิที่เหวี่ยงตอนนี้คือเป็นอะไร 
“ก็นั่นน่ะสิพี่เป็นอะไร หงุดหงิดอยู่ได้!” ผมถามอย่างสงสัย
“เรื่องของกู!” แล้วมันก็เดินไปเลย ผมก็เดินตามไป
“เรื่องพี่ไอซ์ใช่ไหม!” พี่อ๊อฟหยุดเดิน
“รู้แล้วจะถามทำไมละวะ!” (ผมส่ายหัวอย่างเบื่อหน่าย)
“งั้นมานี่เลย” ผมจูงมือพี่อ๊อฟ เข้าไปตรงช่องประตูหนีไฟ แล้วหอมแก้มพี่อ๊อฟ “พอใจยัง” มันอมยิ้ม
“อืมๆ” หูแดงเชียว “งั้น” พี่อ๊อฟหอมผมคืน แต่มันคือข้างที่พี่ไอซ์หอม “ตรงนี้กูขอแทนที่นะ” (ยิ้ม)
“พอเลยๆ รีบไปเหอะเดี๋ยวพวกมันสงสัย” ผมพูดตัดบท เพราะไม่อยากจะคิดอะไรมากมายแล้ว
แล้วผมกับพี่อ๊อฟก็พากันเดินกลับเข้าร้าน แต่บนโต๊ะที่ผมนั่งมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเพิ่ม นั่นก็คือไอพวกที่ไอมินมันส่งซิกให้นั่นแหละ!......
“ไอนทมึงมาจัดการไอมินดิ้!”ไอวิวเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นผม
“เออ เรามาหาอะไรแดกกันกับเพื่อน ไม่ได้ชวนพวก เปรต มานั่งด้วย” ไอนัท เน้นคำว่าเปรตแล้วจิกสายตาไปทางพวกนั้น แต่พวกนั้นก็ทำมึน
“เออ อะไรก็ไม่รู้” ปอพูดขึ้น พวกมันก็นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้กัน
“นั่นเพื่อนกูนะเว้ย! เขาแค่ขอมานั่งด้วยน่า อย่าเรื่องมากเถอะ” ไอมินพูดขึ้น แล้วคือ....ใครกันวะเรื่องมาก
“เออ กินๆกันเถอะพวกมึงจะได้รีบกลับ! พี่อ๊อฟมานั่งเร็ว” ผมก็เรียกพี่อ๊อฟที่ยืนมองพวกมันอยุ่
พวกผมก็นั่งกินๆกันไปเพราะระหว่างที่ผมไปออเซาะกับพี่อ๊อฟ ของก็มาเสริฟเต็มโต๊ะสำหรับ 10 ที่ นี่แล้ว พวกเพื่อนไอมินก็คุยกัน มีอัธยาศัยดีถามนู่ถามนี้ผมและเพื่อนๆนะ พูดดีอยู่แต่รู้สึกไม่ถูกชะตากับพวกแม่งยังไงไม่รู้ กินกันไปสักพัก....
“เห้ย! ยังไม่ได้แนะนำกันเลยนะเว้ย!” แล้วไอมินมันก็ไล่แนะนำเพื่อนมันทีละคน และพวกผมทีละคน
เพื่อนมัน5คนมี ต้น ไอนี่หน้ากวนๆ ไอตี๋ ไอนี่ตี๋สมชื่อ สอ ไอนี่หน้าตาใช้ได้ โค้ก ไอนี่หล่อแบบเถื่อนคงจะซ่าสมชื่อ ส่วนคนสุดท้ายนี่ ชื่อสิงโต หล่อแบบผู้ดีมีสง่า ดูโดดสุด ดูไม่เข้าพวก เป็นพวกเจ้าชายปลอมตัวมาหรือเปล่า มันมองผมแปลกๆ ไอพวกนี้มันอยู่โรงเรียนกางเกงน้ำเงิน......
“ใครอยากรู้จัก!” ไอนัทก็ออกตัวแรงจริง
“นั่นดิ!” ไอนี่ก็ไม้ดันหรือยังไง
“เอาน่ามึง เพื่อนไอมินก็เหมือนเพื่อนพวกเราเนอะ!” ไอปอพูดดี แต่คือทำตาถลนใส่ไอมิน555
“เอาน่าๆ เพื่อนๆแถวบ้านกูเองแหละ” ไอมินพูดขึ้น ด้วยความสบายใจ แม้ว่าเพื่อนๆจะไม่ค่อยสบายใจก็ตาม
“อืมๆ” ผมเป็นผู้รับฟังที่ดี และกินอย่างเดียว 555 โนคอมเม้นต์55
“มึงเอาแต่กิน ดูพวกเพื่อนมึงโน้น!” พี่อ๊อฟพูดขึ้นมา พวกมันก็นั่งจ้องตาไอพวกเพื่อนไอมิน
“พอเลยพวกมึงอ่ะ” ผมหันไปบอกไอวิวนัท ปอ ส่วนไอมินยิ้มอย่างไม่เต็มกลืน ผมหันไปหาพวกเพื่อนไอมิน “ยินดีที่ได้รู้จักละ” ยิ้มแบบเป็นมิตรส่งไปให้พวกมัน พวกมันก็ยิ้มกลับมา
“ยิ้มสะโลกสวยเชียวนะมึง” ไอวิวแทะผมด้วยคำพูดร้ายกาจ พร้อมทำหน้าหยะแหยง
“มึงนี่เห็นผู้ชายไม่ได้เลยนะ!” ไอนัทไอห่านี่!
แล้วก็มีคำพูดต่างๆนา ในนามของคนโลกสวยอย่างผมก็ต้องโดนบลูลี่อย่างหนัก ผมกินไปฟังไปก็เพลิน แต่เพลินนานไม่ได้มันจะหมดอร่อยเอาน่ะสิ
“พอเลยพวกมึง อย่ามีเรื่องกันจะได้ไหม! แดกครับแดก ไม่แดกก็ลุกออกไป” แล้วพวกเพื่อนไอมินก็หัวเราะ
แล้วพวกเราก็นั่งคุยกันไป คุยไปคุยมาเริ่มถูกคอ โดนเฉพาะ ไอวิว กับไอนัท ตอนแรกนี่อย่างกับจะไปตีเขา แต่ไอสิงโตนี่หล่อนะ555 รวยด้วยพ่อเป็นเจ้าของร้านวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเลย แถมยังมีทั้งโรงแรม และกิจการที่ล้นมือ ก็คุยกันไปมาสักพัก พี่อ๊อฟไม่ค่อยอะไร นั่งเงียบมากกว่า ใครถามก็ตอบ
“เออมึง เรื่องงานอ่ะ พรุ่งนี้แล้วนะ” พี่อ๊อฟหันมาถามผม
“ต้องแต่งตัวยังไงอ่า?” ผมถามแต่ปากก็ยังไม่หยุดเคี้ยว
“สบายๆ งานเลี้ยงธรรมดา” พี่อ๊อฟพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“งั้นแก้ผ้าไปได้ป่ะ55555” ผมพูดอย่างอารมณ์ดี
“ถ้าแก้ผ้าไป คงไม่ต้องไปงาน ไปห้องกูดีกว่า” ทำหน้าหื่น
“ไอบ้า!” อายสิ
“นท ทำไมแฟนมึงพูดน้อยจังวะ” ไอตี๋เอ่ยถามขึ้นมา พวกมันรู้ว่าผมเป็นเกย์ก็ไม่ได้รังเกียจแต่อย่างใด แถมยังแซวอีกด้วย ก็ลองบลูลี่ดูสิ แม่จะฟาดให้
“ไม่ใช่แฟนเว้ย! เพื่อนแฟนมัน ส่งมาคุม แฟนมันไปเก็บตัวแข่งบอล!” รู้ดียิ่งกว่ากูนะไอปอ
“แฟนเป็นนักบอลเลยเหรอวะ!” ต้น ถามต่อ
“มึงก็ไปสาระแนเรื่องของเขาเนอะ” สอหันไปด่าต้น กับ ตี๋
“มึงมองอะไรวะไอสิงโต! จ้องอยู่นั่นแหละ” ไอมินพูดแล้วเขาก็หันไปทางไอสิงโตกันหมด
“กูเห็นมันมองมึงอ่ะ” ไอวิวมันหันมาบอกผม
“กูก็เห็น!” ไอนัทเน้นย้ำ
“กูด้วย” ปอก็ซ้ำไปอีก
“มองอะไรอ่า กูกินอยู่นะเว้ย! กูเขิน” ทำท่าเขินพวกมันก็หัวเราะกันใหญ่เลย
“ตกลงมึงมองไรว้าสิงโต” ไอมิน น่าจะหลุดประเด็นได้แล้วนะ
“กูอยากลองกิน....” มองที่ผมแล้วเบนสายตาไปที่จานผม “เป็ดย่างของมึงว่ะ ดูมึงกินอร่อยมากเลยนะ!” ไอสิงโต พูดเป็นจังหวะ พร้อมส่งยิ้มมาให้ โหโครตน่ารัก แต่ไม่ได้ เรามีพี่ไอซ์เป็นแฟน และพี่อ๊อฟเป็นตัวสำรองแล้ว ต้องมั่งคง
“ไอนทมันกินอะไรก็อร่อยหมดแหละ ขอให้มันได้กินอ่ะ555555” ไอนัทกล่าว แล้วพวกมันก็หัวเราะกัน
“อยากกินไม่สั่งเอาว้า! อย่ามาแย่งนะเว้ย!” พูดพร้อมกับ เอาจานเป็ดย่างมาถือไว้
“เกินไปไอนท! ไม่พอสั่งใหม่ก็ได้ไหม” ไอมินพูดพร้อมกับทำท่าทางเอือมระอาผม
“เอามาให้กูกินดิ เดี๋ยวมื้อนี้กูเลี้ยงเองก็ได้นะ!” ไอสิงโตพูดจบ พร้อมกับยักคิ้วหล่อ ผมก็มองมัน
“นทมึงรีบเอาให้มันเร็ว เลี้ยงเลยนะเว้ย!” ไอวิวเรื่องแบบนี้เร็วนะมึง
“เร็วเลยไอนท มึงเอานี่ให้มันแล้วมึงก็สั่งใหม่” ไอนัทพูดกระซิบ
“เลี้ยงเลยเหรอว้า” (ลังเล) “เออก็ได้ๆ กูไม่ได้เห็นแก่ของฟรีหรอกนะ อะ!” คีบยื่นให้มันชิ้นนึงพี่อ๊อฟนั่งขำ
“ไอนทเพื่อนกูเลี้ยง มึงให้มันกินแค่ชิ้นเดียวเนี่ยนะ!” พวกมันนั่งขำกับการหวงของกินของผม
“ไอมินมึงเอาเพื่อนมึงไปเก็บเลย555” ไอตี๋พูดไปทางไอมิน
แล้วมันก็แซวเรื่องเป็ดของผม จนผมรู้สึกเขินอายก็เลยต้องจำยอม
“เออๆ เอาไปเลย” ทำหน้างอ แล้วยื่นให้มัน “สั่งใหม่ให้กูด้วยเลย!” ผมพูดพร้อมกับยื่นจานเป็นให้มัน พร้อมทำหน้าเสียดาย
“มึงจะกินอีกเหรอ ไม่กินอย่างอื่นบ้างวะ”พี่อ๊อฟหันมาถาม
“ไม่อาววววว” งอแงแล้วทีนี้
“เออกูสั่งให้ก็ได้” ไอสิงโตพูดจบ แล้วมันก็สั่งให้
สักพักก็มาเสริฟ เรากินไปกินมาสักพักผมก็เริ่มอิ่ม แต่เป็ดยังเหลือเยอะอยู่เลย ก็ระหว่างรอเป็ดผมกินนู่นนี่ไปทั่วจนจะอิ่มมันเพิ่งมา.....
“พี่อ๊อฟอ้า!” ตักเป็ดไปจ่อปากมันมันก็รับ
“มึงอิ่มแล้วใช่ไหมนท!” ปอหันมาถามเมื่อเห็นผมเริ่มออกอาการ 
“เออเมื่อกี้หวงชิบหาย” ไอนัทพูดซ้ำ
“กูเปล่าอิ่มนะเว้ย! กูแค่อยากแบ่งความอร่อยของเป็ดให้พี่อ๊ออฟกิน อะ!” ยื่นเข้าปากไอปอเลย “พูดมากแดกๆไป5555”
“มึงเริ่มเล่นแล้วนะนท” พี่อ๊อฟหันมาทำเสียงดุใส่
“อย่านะพี่อ๊อฟ อย่าบ่นน่า” ยิ้มพี่อ๊อฟส่ายหัวอย่างเอือมระอา “เห้ย! จานของเสี่ยสิงโตหมดแล้ว” เกลี้ยงเลย “งั้นเดี๋ยวกูป้อนให้” ผมลุกขึ้นเดินไปหาสิงโต
“โห! วันนี้ไอสิงโตเป็นเสี่ยโว้ย!” ไอมินแซวนำเลยนะมึง
“อ้าม!” ผมตักเป็ดป้อนไอสิงโต มันก็อ้าปากรับ
“แหมๆ ให้ท่าเพื่อนกูเปล่าเนี่ย!”ไอโค้กที่นั่งอยู่ไม่ไกลพูดขึ้น
“ปากดีนะมึงไอโค้ก มันไม่ได้ให้ท่ามันอ่อยโว้ย555555”ไอปอกล่าว ร้านเอ็มเคนี้ มีแค่โต๊ะนี้แหละที่เสียงดังโหวกเหวกโวยวาย แต่เขาน่าจะไม่ถือ เพราะอยู่โต๊ะมุม แล้วก็เพื่อนๆผมขออนุญาตเขาไว้แล้ว
“กูไม่ได้อ่อยนะเว้ย!” หันไปทางไอโค้ก “แต่ถ้าเพื่อนมึงจะชอบกู ก็อีกเรื่องนะ5555” ป้อนไอสิงโตต่อ กินทันไม่ทันไม่รู้ยัดอย่างเดียว
“นทกูว่าเบามือก่อนไหม มึงดูหน้าไอสิงโตด้วย จะสำลักตายอยู่แล้ว มึงเล่นยัดให้มันแบบนั้นอ่ะ”ต้นเอ่ยขึ้นมาเมื่อเห็นสีหน้าไอสิงโตเริ่มไม่ไหว เพื่อนๆมันก็เริ่มท้วงติง คิดว่าผมจะฆ่าไอสิงโต
“เออจริงด้วย! สิงโตมึงกินตะกระไปแล้วนะ!” ทำหน้าเครียด ไอพวกนั้นหัวเราะกันใหญ่ “อะน้ำๆ” ยื่นน้ำไปป้อนมัน “เห้อเป็ดหมดสักที!”แล้วผมก็เดินกลับไปนั่งข้างพี่อ๊อฟ
“ไอห่า แดกไม่หมดแล้วทำเสียดายของ!”ไอวิวพูดขึ้นมา
“เออไอสิงโตเดือดร้อนเลย5555” ไอมินดูจะสะใจไม่น้อยเลยนะ
“มันตะกระเองนะเว้ย! โทษไอนทไม่ได้นะ55” ปอพูดขึ้น ดูจะปกป้องผมแบบเพื่อนที่แสนดีเสมอ(ในบางครั้ง)
พวกมันก็พูดไปขำไป ไม่รู้ในน้ำซุปนั่นใส่กัญชาหรือเปล่า พอพวกผมกินเสร็จก็เก็บเงิน กินกัน 11 คน 15,000กว่าบาท ตอนแรกก็จะช่วยกันออกเพราะเพิ่งรู้จักกับไอสิงโตด้วยเกรงใจมัน แต่ไอสิงโตไม่ยอมมันจะจ่าย ทุกคนก็ยอมให้มันจ่าย หลังจากนั้นผมกับเพื่อนๆก็ไปเที่ยวกันต่อ ส่วนพวกไอสิงโตก็ต้องไปซ้อมบอลต่ออีก มันเป็นนักบอลเหมือนกัน ได้แข่งด้วย แต่ไม่ถึงกับเก็บตัวแบบพี่ไอซ์ กินเสร็จแล้วไปซ้อมจะไหวเหรอ55 พวกเราเดินเล่นไปทั่ว พี่อ๊อฟก็ดูเงียบๆ สงสัยกินอิ่มแล้วง่วงมั้ง....
“ไอมินมึงบอกมาได้แล้ว ว่าทำไมอยู่ๆมึงถึงพาเพื่อนมึงถึงมานั่งแถมยังเลี้ยงอีก”หลังจากเดินเล่นกันไอปอก็เอ่ยถามขึ้นมา
“เออนั่นสิ มันแปลกๆนะเว้ย!”ไอนัทก็ถามย้ำ
ผมกับพี่อ๊อฟก็ยืนมองพวกมันถามไอมิน ซึ่งไอมินก็ทำหน้ามึนไม่รู้เรื่องราว
“ไอมินมึงบอกมาเลย ไม่งั้นกูจะฟ้องพี่มึง!” ผมขู่มัน พี่มันโหดมาก ถ้าใครไปฟ้องเรื่องไอมินในทางไม่ดีให้พี่มันฟังนะ ไอมินโดนซ้อมเลย โดยไม่ฟังเหตุผลด้วย ไอมินหน้าซีดขึ้นมาทันที
“เออจริงๆ กูจะสมทบด้วย” ไอปอมันไปเก็บกดมาจากไหน
แล้วทุกคนก็จ้องไปที่มัน คราวนี้มันอ้ำๆอึ้งๆ
“เบอร์พี่นนท์เบอร์ไหนน้า” ผมเอาโทรศัพท์ขึ้นมากด พี่นนท์พี่ชายไอมิน
“เออๆๆๆบอกแล้วๆ อย่าโทรนะเว้ย!” ไอมินพูดพร้อมกับดึงโทรศัพท์ผมไป
“เออก็แค่นี้แหละ บอกมาเด้!” ผมพูดพร้อมกับดึงโทรศัพท์คืนมา
“คือ....” พวกผมจ้องไปที่มันหมด “เห้ย! ตั้งใจฟังไปเปล่าวะ!”
ทุกคนก็ลุ้น มันก็คือ อะไรของมันสักพักจนผมขู่จะโทรหาพี่มันอีกครั้งมันก็เลย.....
“ก็ไอสิงโตมันชอบมึงไอนท” ไอมิน พูดแบบหลบตา
“กูว่าแล้ว” พี่อ๊อฟพูดขึ้นมาเบาๆ แต่ผมยืนข้างพี่มันเลยได้ยิน
“แล้วมันชอบไอนทได้ยังไงวะ ยังไม่เคยเจอกันเลยนะ” ไอปอถามอย่างสงสัย จริงๆผมต้องถามหรือเปล่า ทุกคนก็เพ่งไปที่มันอีกครั้งเพื่อฟังคำตอบ
“ก็ เมื่อหลายวันก่อนอยู่ๆไอสิงโตมันก็ทักเฟสกูมาแล้วส่งรูปที่กูถ่ายกับมึง ถามว่ามึงคือใคร กูก็บอกเพื่อนกูเอง มันก็บอกว่าน่ารักดี และหลังจากนั้นมันก็มาถามกูเกี่ยวกับมึงเยอะแยะไปหมด อีกอย่างบ้านมันก็อยู่แถวบ้านกู” ไอมินพูดด้วยท่าทีสบาย มันไม่ได้รู้สึกผิดเลยสินะ 
“แล้วมึงบอกอะไรมันไปบ้างวะ?” ผมถามอย่างสงสัย
“ก็บอกว่ามึงชอบผู้ชาย และชอบคนหล่อเท่านั้นเอง” ปอ นัท วิวขำกันใหญ่เลยครับ แต่พี่อ๊อฟดูอารมณ์เสียจัง “แล้วมันก็มาบอกว่ามันชอบมึงเมื่อวานนี้เองมันอยากเจอมึง กูเลยชวนมา” พูดไปหลบตาผมไป
“แล้วมึงไปบอกมันทำไมวะ! เรื่องของกูนะ” ผมพูดขึ้นไอมินหน้าหงอเลย จริงๆไม่ได้ซีเรียสอะไรหรอก555 มันเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่อย่างน้อยมันน่าจะบอกผมสักหน่อย มาแบบนี้ คนเข้าใจผิดหมด
หลังจากนั้น ไอมินก็โดนประณามต่อไป ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรมันมาก มีแค่พวกไอปอ วิว นัท ที่เอาแต่ด่ามัน ผมก็พูดกับพี่อ๊อฟนิดหน่อย รายนี้ดูท่าจะไม่พึงพอใจเป็นอย่างมาก
“กูขอโทษนะๆ!” ไอมินพูดพร้อมกับจับมือผมแล้วเขย่า “กูก็แค่แนะนำเพื่อนให้พวกมึงรู้จักเอง อีกอย่างมึงก็ไม่เสียหายอะไรอยู่แล้วนี่ มันก็รู้แล้วว่ามึงมีพี่ไอซ์” ยิ้ม ผมกำลังจะตอบว่าไม่เป็นอะไรแต่..
“กูจะฟ้องไอไอซ์ มึงซวยแน่ หึ!” พี่อ๊อฟพูดขึ้นพร้อมกับ ทำหน้าดุเล่นเอาไอมินหัวหดเลย
“พี่อ๊อฟ” ผมเข้าไปกระซิบมัน “ถ้าบอกผมนั่นแหละที่ซวย รู้อยู่ว่าพี่ไอซ์นิสัยเด็กแค่ไหน!” ผมท้วงขึ้นมา
“มึงไม่รู้หรือมึงแกล้งไม่รู้ ตอนนั่งกินที่มันมองมึง มองอย่างกับจะกินมึง มึงก็เอาแต่แดกพอเพื่อนบอก มึงก็เล่นกับมันเนี่ยนะ?”  พี่อ๊อฟตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ติดจะไม่พอใจ ผมผิดอีกแล้วสินะ พวกเพื่อนผมก็มองกัน
“ก็ไม่รู้ไง! แล้วพี่เป็นอะไรเนี่ย ผมไม่รู้จริงๆ” ที่เงียบๆไปคงจะเรื่องนี้เพราะเรื่องนี้ชัวร์
“กลับบ้าน!” มันดึงแขนผมไปตามมันเลย เพื่อนๆผมตกใจกันหมด
“เห้ยเดี๋ยวดิ!” ผมเอ่ยพร้อมกับดึงแขนกลับมา มันก็ไม่ปล่อย แต่มันหยุดเดินผมเลยบอกเพื่อนๆ “พวกมึง! กูกลับก่อนนะ ไอมินไม่ต้องกังวล กูไม่คิดมากหรอก วิว ปอ นัท ฝากด่ามันแทนกูด้วยน้า555” พวกมันก็หัวเราะ ยกเว้นไอมิน คือจริงๆก็อย่างที่มันพูด ไม่ได้เสียหายอะไร ไม่เห็นต้องทำเป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย เพราะปกติก็มีคนไปถามข้อมูลผมจากเพื่อนๆทั้งนั้น ผมเลยคิดว่ามันปกติ แต่ครั้งนี้ถึงกับมาเจอเลย ผมเลยตกใจเล็กน้อย5555
แล้วพี่อ๊อฟก็ลาก ต้องใช้คำว่าลากเลยนะ ผ่านร้านหนังสือผมจะแวะก็ลากอย่างเดียวไม่จอดเลย จนมาถึงลานจอดรถ....
“ขึ้นรถ!” ตะคอกใส่ผม
“ผมไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆนะเนี่ย ทำไมพี่ต้องเป็นแบบนี้ด้วย” หันหน้าหนีผม “เอ๊ะ! นี่พี่อ๊อฟหึงเหรอ” ผมยิ้ม ส่วนพี่อ๊อฟหูแดงคงจะใช่สินะ
“คะ ใครจะหึงมึง!” มองหน้าผม
“พี่อ๊อฟนี่ขนาดพี่อ๊อฟยังเป็นขนาดนี้ แล้วถ้าพี่ไอซ์รู้ ผมไม่บ้าเลยเหรอ”  ดึงแก้มพี่อ๊อฟ
“เพื่อนมึงก็เกินไปเนอะ เลิกคบไปเถอะไอมินนั่น!” โหดอีกแล้ว ผมก็ปล่อยมือจากแก้มพี่อ๊อฟ ผมไม่อยากให้เพื่อนผมมาเป็นตัวแปร พูดแบบนี้ผมรู้สึกจะไม่พอใจสักเท่าไหร่
“พี่อ๊อฟอ่าใจเย็นๆดิ้” (ยิ้ม) “วันนี้ไปนอนกับพี่อ๊อฟดีกว่า” พี่อ๊อฟอมยิ้ม “โอเคป่ะ?”
“อืม” (ยิ้ม)
“อารมณ์ดีขึ้นแล้วใช่ไหม คุณชู้” ผมเอ่ยแซวมันขึ้น ยักคิ้วให้พี่อ๊อฟเล็กน้อย
“อย่ากวนตีนนะเว้ย!” หูแดงไปไหนล่ะเนี่ย เขินอะไรนักหนา “ขึ้นรถเลยจะได้รีบกลับ!”
แล้วผมก็ขึ้นรถพี่อ๊อฟก็มาส่งผมบ้าน ผมก็บอกพี่อ๊อฟกลับไปก่อนเดี๋ยวไปหา มันก็โอเค พอผมเข้าบ้านก็เจอแม่กับเฮียนั่งดูทีวีอยู่......
“กลับมาแล้วจ้า” (ยิ้ม)
“ไงตัวแสบทำไมวันนี้กลับช้าแล้วไม่โทรบอก!”แม่เอ่ยถามเสียงดุ
“นทลืม!” วิ่งเข้าไปกอดแม่แล้วก็หอม โดยไม่สนใจเฮียบอม
“อย่าลืมบ่อยนักละ! แม่เป็นห่วง!”
“โอเคๆ แล้วป๊าล่ะแม่?” หันซ้ายขวามองหาป๊า
“ป๊าไปกรุงเทพ อาทิตย์หน้ากลับ” (ยิ้ม)
“อ่าวไม่เห็นป๊าบอกนทบ้างเลย”(หน้างอ)
“ป๊าฝากแม่บอกเนี่ย เมื่อเช้าแม่ไปหาพี่โน๊ตด้วย บ่นคิดถึงเราจะแย่” แม่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“นทก็คิดถึง อยากไปหาบ้าง” (อ้อน)
“ไม่ได้หรอกต้องวันหยุดก่อน วันนี้พี่โน้ตเค้าฝากแม่ซื้อของ”
“โอเคๆ” ผมเหลือบไปมองเฮีย มันนั่งยิ้มมองผมกับแม่ “อะไรเฮียเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?”
“คุยกับเฮียดีๆสิ!” แม่พูดเสียงดุใส่ผม
“ไม่เป็นอะไรหรอกโกว” โกว เรียกอาผู้หญิงครับ “ปกติน้องก็พูดกับบอมแบบนี้แหละ” ยิ้ม หาเรื่องให้ผมสินะ
แล้วผมก็โดนสวดยาวเลย ไอเฮียบอมมันก็ทำหน้าล้อเลียนผม ผมก็ได้แต่นั่งฟังแม่สวด เฮ้อ!.....
“แม่วันนี้นทไปทำงานบ้านเพื่อนนะ” เอ่ยขอพร้อมกับรอยยิ้ม
“ไม่ได้! ป๊าไม่อยู่นะ” แม่พูดท้วงขึ้นมา
“เกี๋ยวอะไรกับป๊า?” ผมถามด้วยความสงสัย
“ป๊าให้นทอยู่เป็นเพื่อนแม่ไง”
“แล้วเฮียละแม่?”
“เฮียจะออกไปเที่ยวกับเพื่อน แม่อยู่บ้านคนเดียว แม่กลัว” ทำหน้ากลัวและตกใจจริงๆ
“งั้นนทพาพี่อ๊อฟมานอนด้วยนะ”(ยิ้ม)
“แล้วแต่เลยจ้ะ พาผู้ชายเข้าบ้านอีกแล้วนะ! แม่จะฟ้องป๊า” แล้วเดินเข้าครัวไปเลย
ผมก็ขึ้นบ้านเอาของไปเก็บไอเฮียมันอาบน้ำอยู่ ผมเก็บของออกจากกระเป๋าสักพักเฮียมันก็ออกมา.....
“คืนนี้เฮียไม่กลับใช่ไหม นทจะพาเพื่อนมานอน” ยิ้มให้มัน
“เออ”  มันก็แต่งตัวไป
ผมก็เข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนชุด ไปรับพี่อ๊อฟที่บ้าน พอถึงบ้านพี่อ๊อฟผมก็กดกริ่งพี่อ๊อฟลงมารับขึ้นไปบนห้องแก....
“ไหนกระเป๋ามึงละ?” หันมาถามผม
“พี่วันนี้แม่ผมอยู่บ้านคนเดียวอ่า” ผมยิ้ม ส่วนพี่อ๊อฟทำหน้านิ่งทันที
“อือ โทรมาบอกก็ได้ไม่เห็นต้องมาเลย”  เสียงเศร้าเชียว เดินไปนั่งโต๊ะเขียนหนังสือ
“ถ้าจะเศร้าขนาดนั้นนะ 5555” พี่อ๊อฟหันมามอง
“เป็นบ้าอะไรของมึงวะ!” หงุดหงิดใส่ผมด้วย
“ก็จะชวนไปนอนด้วย แต่ดูท่าแล้วพี่คงไม่อยากไปมั้ง งั้นผมกลั......”
“ไปๆๆๆๆๆเดี๋ยวๆ” พูดแทรกผมขึ้นมา แล้วรีบลุกไปเก็บของ ด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน
ผมก็ได้แต่ส่ายหัวให้กับการกระทำของพี่อ๊อฟ สักพักพี่อ๊อฟเก็บของเสร็จ.....
“กูเตรียมชุดไปพรุ่งนี้ด้วยเลยนะ” มันหันมาถาม
“ชุดอะไร?” ผมถามด้วยความสงสัย
“ก็ไปงานเลี้ยงไง”
แล้วเราก็คุยกันสักพัก พี่อ๊อฟมันเตรียมของไปเยอะ เพราะต้องไปวาดรูป แล้วก็ทำการบ้าน ผมก็รอพี่มันเก็บของ พอเตรียมของเสร็จพี่อ๊อฟก็ไปขออนุญาติพ่อแม่แก แล้วก็ขี่รถตัวเองพามาบ้านผม พอถึงบ้านก็จัดแจงเปิดประตูให้พี่อ๊อฟเอารถเข้าไปเก็บแล้วพาเข้าบ้าน...

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
“เฮียยังไม่ไปเหรอ” เฮียยังนั่งดูทีวีอยู่เลย
“รอเพื่อนมารับ” แล้วหันไปทำหน้ากวนตีนให้พี่อ๊อฟ พี่อ๊อฟก็ยืนนิ่ง
“ขึ้นห้องกันเถอะพี่อ๊อฟ แม่ทำกับข้าวอยู่แหละ” กลิ่นลอยมาหอมเชียว
แล้วผมก็พาพี่อ๊อฟขึ้นเอาของมาเก็บมันก็จัดแจงของ พร้อมกับยึดโต๊ะทำการบ้านผมไปเรียบร้อย พอเสร็จมันก็สำรวจห้องผม.....
“ห้องน่ารักจังวะ” (ยิ้ม)
“น่ารักเหมือนเจ้าของไง” (ทำท่าเขิน)
“ก็จริง” มันก็ยิ้มขึ้นมา แต่ผมก็เขินเลยสิ
“หึ!” ยิ้มหล่อส่งมา “เออพรุ่งนี้ใส่สร้อยที่กูให้ไปด้วยนะ”
เราพูดถึงงานเลี้ยงในวันพรุ่งนี้กัน แล้วก็ถกเถียงเรื่องความน่ารักของมันนิดหน่อย พักหลังมันยิ้มบ่อยขึ้น มันก็เลยดูดีขึ้นเยอะเลย แซวกันไปกันมาจนหมดเรื่องที่จะพูด ผมก็หยิบการบ้านตัวเองขึ้นมาทำบ้าง แล้วพอทำเสร็จพี่อ๊อฟก็ยังนั่งงมกับงานของมันอยู่ ผมก็เล่นโทรศัพท์ดูนู่นี่ไปทั่ว......
“พี่อ๊อฟ”
“ว่า ?” ตอบแต่ไม่หันมา
“ขอยืมโทรศัพท์หน่อย” ผมพูดนิ่งๆ
“อะ” โยนโทรศัพท์มาให้ แต่ก็ไม่หันกลับมานะ
“นี่จะไม่ถามหน่อยเหรอว่าเอามาทำอะไร?” ผมถามมันอย่างสงสัย
“มึงจะเอาไปทำอะไรก็ทำเถอะ กูต้องการสมาทธิ!” พวกวาดรูปนี่โลกส่วนตัวสูงจริงๆ
ผมก็กดค้นโทรศัพท์ของพี่อ๊อฟไปทั่ว ว่างมากพี่อ๊อฟไม่สนใจเลย ผมก็เข้าไปดูแชททั้งเฟสและไลน์ตามแอพ ก็คือพี่อ๊อฟหยิ่งมาก คือมีคนทักมามันก็เยอะอยู่นะ ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง ส่วนมากจะคุยกับเพื่อนมากกว่า แต่กับอิงฟ้าทำไมมันคุยเยอะจัง?.... ผมลองค้นรูป ก็คือรูปที่มันถ่ายกับอิงฟ้าลงเฟสใช้โทรศัพท์มันถ่าย รูปยังมีอยู่ในอัลบั้ม หลายช็อตด้วย....
“พี่ดูสนิทกับอิงฟ้าจังเนอะ คนอื่นไม่ค่อยตอบ แต่อิงฟ้านี่ตอบหมด แถมยังเก็บรูปกันไว้อีก!” ผมเงยหน้ามองมันมันก็หันมามองผม “มองอะไร!”
“มองมึงไง ดูโทรศัพท์กู แล้วยังมาทำหน้าอย่างกับตูด หึ!” ส่ายหัวให้ผม
“เออๆเอาคืนไปเลย!” เดินเอาไปวางให้มัน แล้วผมก็มานั่งที่เตียงเหมือนเดิม
“ค้นโทรศัพท์กู แล้วยังมาอารมณ์เสียใส่กูอีก!” ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินมานั่งข้างผม
“ก็แค่ดูเท่านั้นแหละค้นอะไรเล่า!” หันหน้าหนีมัน
“กูก็แค่คุยกับอิงฟ้าเฉยๆ น้องมันก็ตื้อ พอไม่ตอบก็ไปเซ้าซี้อยู่ที่โรงเรียน มันดูไม่ดี” ผมหันมามองมัน
“บอกทำไมละ เรื่องของพี่เหอะ!” ผมก็มองไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ “แล้วงานเสร็จแล้วเหรอเห็นก้มอยู่นั้นแหละ ไม่มุดเข้าไปอยู่ในนั้นเลยละ!” พาลไปหมด
เราถกเถียงกันไปมาสักพัก ผมก็จะไปช่วยแม่เตรียมข้าว ว่าแล้วผมก็เดินออกห้องไป พี่อ๊อฟก็ได้แต่ส่ายหัว ไม่รู้สิทำไมอยู่กับพี่อ๊อฟอยากอ้อนตลอด แต่ก็คงเพราะพี่อ๊อฟตามใจผมแหละ ผิดกับพี่ไอซ์ที่ผมต้องเอาใจเขา ผมลงมาก็ช่วยแม่จัดโต๊ะ แม้จะไปกินกับเพื่อนๆมาแล้วแต่ก็หิวอีก กินได้ตลอดนั่นแหละ พี่อ๊อฟกินไปหน่อยเดียว แต่ผมอะดิกินไม่รู้จักอิ่ม หิวอีกแล้วด้วย555หลังจากเตรียมอาหารแล้วเสร็จ ก็ขึ้นไปตามพี่อ๊อฟ.......
พอลงมาข้างล่างก็ตรงไปที่โต๊ะกินข้าว แม่ถามใหญ่เลยเพราะพึ่งเคยได้คุยและเจอกับพี่อ๊อฟจริงๆส่วนมากก็แค่จะเล่าให้ฟังกับเอารูปให้ดูบ้าง ป๊าก็เห็นบ้างแล้ว คุยไปคุยมาสรุปว่าแม่กับแม่พี่อ๊อฟรู้จักกัน ชอบไปเม้ามอยด้วยกันบ่อยๆตามประสาแม่บ้าน พี่อ๊อฟก็ขออนุญาตแม่ให้ผมเรื่องจะไปงานวันพรุ่งนี้แม่ก็อนุญาติ ผมก็ฟังแม่กับพี่อ๊อฟคุยกันไปจนสักพักเรากินข้าวเสร็จก็ช่วยกันเก็บโต๊ะล้างจาน แม่ไม่ยอมให้ล้าง ผมก็พาพี่อ๊อฟขึ้นห้อง......
“ยิ้มอะไรวะ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว?” พี่อ๊อฟหันมาถามผม
“เปล่า ทำไมเวลาพี่คุยกับแม่ผมดูอ่อนโยนจัง คุยกับผมอย่างกับจะกินหัว” ผมถามด้วยท่าทีที่ไม่จริงจังนัก
“ก็กูคุยกับผู้ใหญ่นะ ต้องมีมารยาท พ่อแม่ก็สอนมาดี” (ทำหน้าหล่อ)
คุยกัน หยอดกันสักพัก ผมก็ไล่พี่อ๊อฟไปอาบน้ำ พอพี่อ๊อฟเข้าห้องน้ำไปผมก็ไปเปิดคอมนั่งเล่นคอมฯ เปิดเพลงฟังสักพัก แจ้งเตือนเฟสบุ๊ค มีคนถูกใจรูปภาพผมรัวเลย และก็ตามมาด้วยการขอเป็นเพื่อน....นั่นก็คือไอสิงโตนั่นเองตอนแรกไม่รู้หรอก ผมเข้าไปดูรูปโปรไฟล์ใช่เลย ผมก็กดรับสักหน่อย พอกดรับแล้วแชทเด้งทันที.....
สิงโต : (ส่งสติ๊กเกอร์ยิ้มมา)
ผม : …….(ผมส่งจุดไป)
สิงโต : ไง
ผม : ไง
สิงโต : ลืมกูยัง?
ผม : ใครอ่า(แกล้งไม่รู้)
สิงโต : อะไรว้า...
ผม : 5555ล้อเล่นน่า เสี่ย!
สิงโต : ตกใจหมดนึกว่ามึงจำกูไม่ได้แล้ว “ส่งอีโมจิยิ้มมา”
ผม : เห็นกูเป็นคนขี้ลืมขนาดนั้นเลยเหรอ?
สิงโต : เปล่า
ผม : อื้ม ส่งสติ๊กเกอร์ยิ้มกลับไป
สิงโต : มึงรู้เรื่อง....
ผม : เรื่อง ?
สิงโต : รู้จากไอมินแล้วใช่ป่ะ?
ผม : อื้ม (ส่งยิ้มให้มัน)
สิงโต : มึงอย่าไปโกรธมันเลยนะ กูบังคับมันเอง
ผม : กูไม่ได้โกรธอะไรเลยมึง ไม่ต้องคิดมาก (ส่งสติ๊กเกอร์ให้มัน)
ผั้วะ ! หัวผมแทบทิ่มกับคีย์บอร์ด
“โอ้ย!!” พี่อ๊อฟตบหัวผมพร้อมทำหน้ายักษ์ใส่ “แหะๆ” กดปิดแชทแทบไม่ทัน
“แรดเกินไปหรือเปล่าวะ!” เสียงดังใส่ผม
“เพื่อนกันทั้งนั้นน่า!” เดินไปนั่งข้างพี่อ๊อฟ “อย่าโกรธน่า!”
“กูจะมีสิทธ์โกรธอะไรมึง!” หันหน้าหนี ประเด็นคือพี่อ๊อฟน่าจะออกมาสักพักแล้ว แต่ทำไมผมไม่รู้ตัว555
“โถ่! อย่าพูดแบบนี้ดิ” ดึงแก้มมัน “พี่เป็นชู้อยู่น้า”(ยิ้ม)
“เดี๋ยวกูจะทำหน้าที่ชู้เลยดีไหม!” กดผมลงกับเตียง
“พี่อ๊อฟออกมานานแล้วเหรอ” เปลี่ยนประเด็น
“ก็นานพอที่จะเห็นมึงส่งข้อความคุยกับไอเวรนั่นไง กูจะบอกไอไอซ์มึงจะได้เลิกให้ท่าเขาไปทั่ว” พูดด้วยท่าทีจริงจัง
“ไปกันใหญ่แล้วนะ มันแค่มาขอโทษแทนไอมินน่า อย่าใส่ใจเลย” ดันตัวพี่อ๊อฟออกแล้วลุกนั่ง
“เออๆ! มึงไปอาบน้ำเลยไป”  พี่อ๊อฟเอ่ยไล่ผม
“ก็ได้….” แล้วผมก็เดินเข้าห้องน้ำไป
ผมก็ถอดผ้าออกกำลังจะแปรงฟัน โห! พี่อ๊อฟเตรียมแปรงสีฟันพร้อมบีบยาสีฟันไว้ให้ผมด้วย จะน่ารักเกินไปแล้ว ผมก็บ้าเลยทีนี้อาบน้ำไปยิ้มไป แต่แปรงบานนิดนุงเหมือนมันไปเกี่ยวเหล็กดัดฟันของพี่อ๊อฟ มันใช้ของผมสินะ แล้วผมออกมา.....
“ทำอะไรอ่ะ!” พี่อ๊อฟเล่นคอมฯ ผมก็เอ่ยถามขึ้น
พอดูพี่อ๊อฟกำลังค้นเฟสผม แล้วก็บ่นของมันไป ผมก็เบื่อจะถกเถียงกับมัน ผมนั่งไปนอนเล่นโทรศัพท์บนเตียง มันเล่นคอมฯอีกไม่นาน แล้วพี่อ๊อฟก็ปิดคอมเดินไปปิดไฟแล้วขึ้นมานอนข้างๆผม....
“พอใจหรือยัง ตอบไปแล้วรู้สึกดีขึ้นไหมละ” ผมถามขึ้น เพราะมันไปตอบแชทไอสิงโตแทนผม ผมไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้เข้าไปดูนะว่ามันตอบอะไรไป
“อืม ก็ดีอ่ะ!” นอนตะแคงหันมาทางผม ผมตะแคงไปทางพี่อ๊อฟ
“พี่เตรียมแปรงไว้ให้ด้วย น่ารักนะเนี่ย!” ดึงแก้มพี่มัน
“น่ารัก แล้วเมื่อไหร่จะรักวะ?” ผมเห็นมันยิ้ม
“รักดิ! แต่ต้องน้อยกว่าพี่ไอซ์นะ” ผมยิ้มคืนให้มัน มันลูบหัวผม
“ก็ยังดีวะ” จับมือผม
เราคุยกันสักพักก็หลับ ตื่นเช้ามาพี่อ๊อฟก็เหมือนเดิม นอนด้วยที่ไรจะต้องมอนิ่งคิสตลอด เราก็แต่งตัวทำนู่นนี่เสร็จ ก็ไปโรงเรียนแต่วันนี้ไอมินมันดูไม่ค่อยพูดกับผมแถมไม่เดินใกล้ผมอีกผมก็ไม่สน จนพักเที่ยง......
“มึงใจร้ายจังวะนท” อยู่ๆมันพูดขึ้นมาทุกคนกำลังกินข้าว มันนั่งตรงข้ามผม
“นี่กูไปใจร้ายอะไรไม่ทราบ?” ผมถาม ทำหน้างงกันทั้งกลุ่ม แต่ไอมินหันหน้าหนีผม
“มึงหาเรื่องให้มันมันไม่โกรธมึง มึงยังว่ามันใจร้ายเนอะ!” ปอที่นั่งข้างผมพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้านิ่งๆแล้วมองมินแบบเอือมระอา
“มึงไม่รู้อะไรไอปอ!”มันหันไปขึ้นเสียงใส่ไอปอ และตักข้าวคำโตเข้าปาก
“เรื่องเหี้ยอะไรอีกวะ” ไอวิวหันไปถามพร้อมกับทำหน้าสงสัย
“เออ! กูเบื่อมึงจริงไอมิน” ไอนัทพูด ดูมันไม่สนใจอะไรเลย กินอย่างเดียว ดีที่พูดเหมือนสนใจมาบ้าง
“คนที่มึงควรเบื่อควรเป็นไอนทเว้ย!” ไอมินพูดพร้อมมองผมด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
“มึงก็บอกกูมาสิ กูไปทำอะไร!” ผมเริ่มหงุดหงิด
“เมื่อคืนมึงตอบเฟสสิงโตได้ใจร้ายมาก แถมมึงจะเลิกคบกูด้วยที่หาชู้ให้มึง!” ไอมินพูดขึ้น ตามันแดง มันจะร้องไห้?
“เห้ยๆ! เดี๋ยว มินใจเย็นกูไม่ได้ตอบไอสิงโตแบบนั้นเลยนะเว้ย!” จับมือมัน
“มึงตอบแบบนั้นเหรอวะ?” ปอหันมามองผมอย่างสงสัย
แล้วทุกอย่างก็ดึงเข้าดราม่า ผมดูใจร้ายกับเพื่อนไปเลย ผมไม่เคยพูดกับเพื่อนแบบนั้นแน่นอน ถกเถียงกันสักพัก ผมก็เอาโทรศัพท์มาเปิดเฟสแล้วเข้าไปดูข้อความเมื่อคืน เอ้อ! ผมเพิ่งนึกได้พี่อ๊อฟมันเป็นคนตอบต่อผมเมื่อคืน!
-มึงเลิกยุ่งกับกูสักที กูรำคาญมึงจะแย่อยู่แล้ว กูมีแฟนแล้วนะเว้ยยยยย-
-ส่วนไอมินกูก็จะเลิกคบเป็นเพื่อนสะ ไม่รักดีนักเพื่อนมีแฟนอยู่แล้วยังหาเพิ่มให้เพื่อน-
และอีกหลายข้อความเลยที่ดูจะบั่นทอนจิตใจไอมิน ไอพี่อ๊อฟมันคงนั่งพิมช่วงที่ผมไปอาบน้ำ แล้วประเด็นคือตอนที่ผมตอบไปตอนแรกก็ตอบไปหมดแล้วแต่ไอพี่อ๊อฟมาเสริมให้มันแย่ไปหมด แล้วพวกไอปอมันก็แย่งไปดู
“แล้วมึงรู้ได้ยังไง กูคุยกับไอสิงโตไม่ได้คุยกับมึง” ผมหันไปถามมิน พร้อมกับดึงมือถือคืนมา
“มันแคปมาให้กูดู มันบอกตอนแรกก็คุยดีๆ สักพักก็เป็นอะไรไม่รู้ ถ้ามึงรำคาญมันก็บอกดีๆก็ได้หรือเปล่าวะ!” ไอมินทำไม่พอใจผม
“ไปกันใหญ่แล้ว!” ผมพูดแต่ตาก็ยังจ้องที่ข้อความในมือถือ
“นทมึงใจร้ายสุดๆ” ปอพูดพร้อมกับส่ายหัวและเอาข้าวยัดเข้าปากไป
แล้วทุกคนก็เริ่มหันมารุมยำผม ด้วยคำพูดต่างๆนา ผมก็มองพวกมันนิ่งๆ แล้วก็คิดว่าควรจะทำยังไง ก็จะให้พูดยังไง ผมไม่ได้เป็นคนตอบ ถ้าผมตอบผมก็ยอมรับแล้วสิ จะมากความทำไม โถ่!
“โอ้ย!พวกมึง” หลังจากทนฟังมาสักพักผมก็เอ่ยขึ้น จะตอบยังไงดีบอกว่าเมื่อคืนพี่อ๊อฟมานอนด้วยเดี๋ยวก็ยาว เอาแบบนี้แล้วกัน... “พี่ไอซ์เล่นเฟสกู! เขาคงเห็นมั้งเลยตอบมาแบบนั้น ตอนที่กูตอบกูตอบถึงแค่นี้แล้วกูก็ไปนอน” เปิดแชทที่ผมคุยถึงตรงนั้นให้เพื่อนดู “ส่วนที่เหลือกูเปล่านะเว้ย!” พวกมันพยักหน้าเข้าใจกัน
แล้วก็เริ่มเปิดบทสนทนาใหม่ นั่นก็คือความกังวล เพราะพวกไอสิงโตก็เป็นเพื่อนใหม่ กลัวว่าจะกลายเป็นศัตรูกัน ก็ถกเถียงโบ้ยให้ผมกับไอมินเป็นคนโทรไปเคลียล์กับไอสิงโต ผมก็ได้แต่นั่งคิด ใจนึงก็คือคงไม่เป็นอะไรมั้ง แต่พวกไอสิงโตก็เพื่อนใหม่อย่างที่พวกมันพูดนะ ต้องจัดการไอพี่อ๊อฟก่อนแล้วกัน ทำเกินไปจริงๆ ถ้าพวกไอสิงโตไม่พอใจแล้วมาเอาเรื่องผมไม่ซวยเลยเหรอ! ยิ่งไม่อยากมีเรื่องวิวาทอยู่ แล้วเราก็ขึ้นเรียนคาบบ่ายกันโดยยังไม่ได้ข้อสรุปว่าผมจะไปเคลียล์กับไอสิงโตไหมก็เอาไว้ก่อน พอเลิกเรียนผมโทรไปหาพี่อ๊อฟ......
“ว่าไง”  ทำเสียงสดใสเชียว
“อยู่ไหน?”ผมเอ่ยถาม 
“ชมรม วันนี้กลับช้านะ! มึงไม่ได้ไปไหนใช่ไหม นั่งดูไอไอซ์รอก่อนแล้วกัน” มันพูดอย่างสบายใจ
“เออ โอเค! ตึ๊ด!” พูดจบผมก็กดวางไป
“ตกลงเอายังไงวะ?” ไอมินหันมาทางหลังจากผมละหูจากโทรศัพท์
“ไม่รู้...มึงว่าควรทำยังไง” ผมหันไปตอบมันด้วยคำถาม
แล้วก็เริมพูดคุยกัน ก็ได้ข้อสรุปว่า ผมควรจะโทรไปบอกไอสิงโตสักหน่อย ผมก็ขอเบอร์ไอสิงโตจากไอมินแล้วเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ผมก็เดินไปหาไอตัวร้ายที่ชมรม! พอมันเห็นผมก็เดินมา...
“เป็นอะไรทำหน้าทำตาแบบนั้น” ยิ้ม
“พี่อ๊อฟไปตอบไอสิงโตแบบนั้นทำไม?” ผมถามอย่างจริงจัง
“ก็มันน่ารำคาญ” ทำหน้านิ่ง
“อย่างน้อยบอกมันดีๆก็ได้ พี่ไปตอบแบบนั้นเพื่อนผมเห็น ไอมินก็ร้องไห้เลยนะที่บอกจะเลิกคบมันอ่ะ!” ผมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“555ขนาดนั้นเลยเหรอวะ” ทำท่าสะใจน่าดูเลยนะ 
“ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก ผมไม่ชอบทำลายความรู้สึกคนอื่นนะพี่อ๊อฟ และยังเป็นเพื่อนผมอีก” (โมโหเบาๆ)
“โอเคกูขอโทษ” ยังยิ้ม “คราวหลังจะไม่ทำแล้วกัน ขอโทษนะ” ทำไมมันอารมณ์ดีจัง
“อืมๆ ไปเข้าชมรมเหอะ” ผมเหลือบไปเห็นยัยอิงฟ้า นั้นคือต้นเหตุของความอารมณ์ดี? “อ๋อ ที่อารมณ์ดีเพราะอิงฟ้าน่ะเหรอ?”
“ไม่ใช่แล้ว เพราะมึงมาหาต่างหาก ปกติไม่เห็นมาหากู กูต้องไปหาอยู่ฝ่ายเดียว” ยิ้ม
“บ้า!” (เขินสิ) “ไปแล้ว!”
แล้วผมก็เดินหนีมาเลย จริงๆเรื่องสิงโตไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ผมไม่อยากให้สิงโตมันเสียความรู้สึกกับคำพูดของผม ถึงผมจะไม่ได้เป็นคนพิมพ์ไปก็เถอะ แต่ผมไม่ใช่คนประเภทนั้น ใจเขาใจเรา เราโดนเราก็เสียความรู้สึก ผมไม่โกรธพี่อ๊อฟหรอกแค่รู้สึกไม่ชอบ แต่โทรไปขอโทษก็น่าจะโอเคแล้ว ผมก็มานั่งดูพี่ไอซ์เหมือนเดิม พอพักเบรกผมก็ไปยืนรอพี่ไอซ์ข้างสนาม พี่ไอซ์วิ่งมา....
“ไงตัว!” หอบเลยผมก็เอาผ้าซับเหงื่อให้เหมือนทุกครั้ง ผมเป็นคนสม่ำเสมอนี่นะ
“เมื่อไหร่จะแข่งเนี่ย!” ทำหน้าเซ็ง
“อีก2วันเค้าก็ออกไปซ้อมปกติแล้ว ทำไมคิดถึงเค้าเหรอ” ยิ้มบาน
“คิดถึงดิ! อีกอย่างตอนนี้มีคนมาจีบด้วย เค้าจะทิ้งตัวแล้วนะ!” แกล้งพี่ไอซ์
“อย่านะ! เค้าไม่ยอม” จับมือผมแน่นพร้อมทำหน้าเครียด
“หลอกน่า! อีกสองวันใช่ไหม เค้าจะตั้งตารอเลย สู้ๆนะ” ยิ้มให้พี่ไอซ์
“คิดถึงตัวอ่า” งอแงแล้วสินะ “เค้าอยากกลับบ้านแล้วเนี่ย” ทำเป็นอ้อน
“ให้ผมไปบอกแม่พี่ให้ไหม พี่ไม่ไหวเหรอ?” ถามด้วยความเป็นห่วง พร้อมสำรวจร่างกายพี่ไอซ์ว่าบาดเจ็บหรือเปล่า
“เค้าไม่ได้เป็นอะไร เค้าแค่เบื่อ อยากไปเที่ยวกับตัว” จับมือผมไปถูแก้ม “เอ้อ! เห็นอ๊อฟบอกว่ามีคนมาจีบตัวเหรอ”
“เค้าก็บอกตัวอยู่เนี่ย!” ก็เพิ่งบอกไป คงคิดว่าพูดเล่นสินะ
“แล้วตัวชอบมันไหม” ถามด้วยสีหน้าเศร้าหมอ
“ไม่ชอบหรอกน่า อย่าคิดมากดิ! เค้ารอตัวอยู่ที่หน้าบ้านทุกวันเลยนะ55555” พี่ไอซ์ขำออกมา เมื่อผมพูดจบ
“จริงนะ!”  จะดีใจอะไรขนาดนั้น
ผมกับพี่ไอซ์คุยกันสักพัก โดยผมบอกพี่ไอซ์ด้วยว่าวันนี้จะไปงานเลี้ยงกับพี่อ๊อฟ พี่ไอซ์รู้อยู่แล้ว แล้วผมก็กลับมานั่งที่แสตน เพราะพี่ไอซ์โดนเรียกตัวแล้ว หลังจากนั่งได้ไม่นาน นึกขึ้นได้ผมก็โทรหาสิงโต เพื่อขอโทษมัน....
“ฮัลโหลครับ” (เสียงหล่อเชียว)
“เอ่อ...” (พูดไม่ออก)
“ครับ? ต้องการพูดกับใครครับ” (ไอนี่มารยาทดีจริงๆ)
“คะ...คือกูนทนะ”(พูดไม่ถูกเลยทีเดียว)
“........”(เงียบ)
“เอ่อคือ เรื่องเมื่อวานกูไม่ได้..”
“ไม่เป็นไร...ไม่อยากฟัง มีอะไรอีกไหม” คือพูดแทรกผม แต่น้ำเสียงเย็นชาจังเลย
“เห้ย! กูไม่ได้เป็นคนพิมพ์นะเว้ย! อย่าโกรธกูเลยน้า กูขอโทษๆๆๆๆๆๆๆๆ” พูดด้วยความสำนึกผิด
“อืม...รู้อยู่แล้วไอมินมาบอกแล้ว” ทำน้ำเสียงเรียบนิ่ง สุขุมจริงๆ
“กูขอโทษจริงๆนะเว้ย! คือถ้ามึงจะเกลียดกูก็ได้นะ แต่กูอยากบอกให้รู้ว่ากูไม่ได้เป็นคนทำ” ผมพูดอย่างสำนึกผิด
“รู้แล้ว!” (น้ำเสียงยังนิ่งอยู่)
“ให้กูเลี้ยงข้าวมึงเป็นการไถ่โทษก็ได้นะ”  พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุด ผมก็ไม่ได้อยากเจออะไรมันหรอก แต่ก็แค่ มันก็เลี้ยงเรามื้อใหญ่ แถมยังมาโดนพูดไม่ดีใส่ ผมก็รู้สึกไม่ดี แล้วก็รู้สึกเหมือนติดค้างมัน
“เอาสิ!” ทำไมเปลี่ยนน้ำเสียงเร็วจังวะ “ที่ไหนดี ไปกับกูแค่2คนนะ” เอ่อ....มันแปลกๆแล้วสิ ผมไม่ได้หมายถึงแบบนี้สักหน่อย
“ทะ...ทำไม กูต้องไปกับมึงสองคน เพื่อนๆเยอะแยะ” ผมพูดไม่จริงจังมากนัก เพราะเกิดอาการรู้สึกอึดอัดขึ้นมา
“มึงก็คงจะรังเกียจกูสินะ ไป 2 คนกับเพื่อนแค่นั้น มึงคิดอะไร”มันตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“กะ...ก็ได้มั้ง...” ทำไมผมต้องหาเรื่องใส่ตัวตลอด “มึงหายโกรธกูแล้วใช่ไหม?” แต่ก็เอาเถอะ มีเพื่อนเยอะไว้ดีกว่ามีคนเกลียดนั่นแหละ
“หายตั้งแต่มึงโทรมาแล้ว” (ร่าเริงเชียว) “มึงนี่เป็นเหมือนที่ไอมินบอกจริงด้วย”
“อะไร?”
“ขี้ง้อ ขี้อ้อน” กูไปอ้อนมึงตอนไหน
“เออๆ ยังไง จะไปวันไหนก็บอกแล้วกัน แต่วันนี้ไม่ได้นะเว้ย!” ผมพูดพร้อมกับมองนาฬิกา นี่ก็น่าจะใกล้ถึงเวลาที่พี่อ๊อฟจะกลับแล้วมั้ง
“เออๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้โทรบอก แล้ว......” มันเงียบไป
“อะไร?”
“ถ้ากูอยากคุยกับมึง….”
“มึงก็คุยกับกูอยู่นี่ไง” อะไรของมัน
“อะ...เอ่อ เปล่าๆ แล้วคุยกับกูแบบนี้ คนๆนั้นจะไม่ว่าเหรอ?” สิงโตเอ่ยถามขึ้น
“เอ่อ...คือก็เพื่อนคุยกันจะไปอะไรวะ” ร่าเริงเข้าไว้
“อืมๆ งั้นไว้ค่อยคุยกันเนอะ” (เสียงหงอยเลย)
คุยกับมันอีกนิดหน่อย แล้วมันก็วางสายไปผมก็รอพี่อ๊อฟ พี่ไอซ์จะซ้อมให้ตายไปเลยหรือยังไงดูดิมีแต่สาวมากรี๊ด ผมก็ดูพี่ไอซ์ไปเรื่อยๆ สักพักพี่อ๊อฟมา....
“รอนานเปล่า” (ยิ้ม)
“นานอยู่นะ แต่รอได้” ตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม
ผมเห็นพี่ไอซ์ซ้อมอยู่ไม่อยากไปกวนเลยกลับก่อน พี่อ๊อฟพาผมกลับมาบ้านแล้วเราทั้งสองคนก็ขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยเสื้อผ้า เพื่อจะไปงาน ส่วนพี่อ๊อฟก็เก็บของเตรียมกลับบ้านเลย พอเสร็จก็ลงไปบอกแม่อีกทีเฮียก็นั่งดูทีวีอยู่........
“แม่ไปแล้วน้า” กอดแม่ “เฮียดูแลแม่ด้วยละ” หันไปบอกเฮียบอม
“คร้าบบบบ” มันตอบรับ ทำไมมันต้องทำหน้ากวนตีนใส่พี่อ๊อฟด้วยนะ
“ไปดีมาดีล่ะ อย่าไปซนนะแม่ฝากด้วยนะอ๊อฟ” พูดทีเล่นทีจริง
“ครับ” ยิ้มให้แม่ผม
แล้วผมกับพี่อ๊อฟก็ไปกัน แต่ก่อนไปก็แวะเอาของพี่อ๊อฟไปเก็บก่อน พอถึงเป็นสถานที่กึ่งผับกึ่งร้านอาหาร วัยรุ่นเยอะอยู่ แล้วห้องที่จะมาเลี้ยงเป็นห้องวีไอพี จำกัดคนเข้ามาได้ประมาน 30 กว่าคนแน่ะ ก็ดี คึกครื้นดี ผมไม่เคยมาที่แบบนี้ เลยมีอาการตื่นเต้นไม่น้อย พี่อ๊อฟก็เม้าแตกกับเพื่อนๆผมก็นั่งข้างพี่อ๊อฟเนี่ยแหละ ไม่ค่อยรู้จักใคร ส่วนมากก็ยิ้มให้ผมผมก็ยิ้มให้เขาตอบกลับ พี่อ๊อฟก็แนะนำผมไปด้วย แล้วสักพัก.....

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
“อ้าวนทมาด้วยเหรอ”ผมหันไปตามเสียง อิงฟ้า
“อื้ม” ร้อยวันพันปีไม่เคยจะทักไม่เคยจะได้คุยกัน ทำไมมาทักผม คิดในใจ
“นทมากับพี่อ๊อฟเหรอ” ผมพยักหน้า “ดีจังเลย!” จะเขินทำไม
“ดียังไงเหรอ?” ทำหน้านิ่งๆ
“ก็พี่อ๊อฟชวนเรามาด้วย” (ห๊ะ!) “แต่เขาบอกจะมากับนท เลยไม่ได้มารับเรา”ยิ้ม ไอพี่อ๊อฟ ชวนตามมารยาทอีกแล้วสินะ
“อื้ม แล้วอิงฟ้ามายังไงล่ะ” ยิ้มสวยส่งไปให้อิงฟ้า
“พี่มาส่งน่ะ แต่งานนี้มันมีแต่รุ่นพี่เนอะ รุ่นเดียวกันไม่มาเลย” ยิ้มหวานเชียว
“อื้มนั่นสิ” ผมลูบสร้อยที่พี่อ๊อฟให้ ผมใส่มาด้วย
“สร้อยสวยจัง” อิงฟ้าถือวิสาสะ เอื้อมมือมาจับสร้อยของผม
“เอ่อคือ...” ผมมองแล้วอิงฟ้าก็ปล่อย “ก็ไม่เท่าไหร่นี่” (ยิ้ม)
“แต่ของนทก็คล้ายๆของเรานะ” อิงฟ้าพูดเสร็จก็ยื่นข้อมมือให้ดูเป็นสร้อยข้อมือมีตุ้มเล็กๆเป็นรูปหัวใจ วัสดุ สี เหมือนกัน เหมือนมาจากร้านเดียวกันเลย
“อื้มสวยดีเนอะ” (ยิ้ม) “แฟนให้มาเหรอ?” ผมถามด้วยความสนใจ
“บ้าไม่ใช่!” บิดไปบิดมาน่าหมั่นไส้สุดๆ “พี่อ๊อฟซื้อมาให้น่ะสิ ตอนที่พี่เขาไปแข่งที่กรุงเทพฯ” ผมรู้สึกตกใจ ผมหันไปมองไอพี่อ๊อฟรายนั้นก็ยังคงเม้าแตก
“อื้ม!” กระแทกเสียงนิดนึง “สวยดี สวยมาก พี่อ๊อฟชอบอิงฟ้าเหรอ ถึงซื้อของแบบนี้ให้อ่ะ” ผมถามแบบขุ่นเคืองเล็กน้อย
“ไม่ใช่หรอก” จะเขินทำไมเนี่ย เริ่มหมั่นไส้แล้วนะ “ไม่รู้สิ” หน้าแดงไปหมด
“อื้ม” พยักหน้าเออออตามนางไป
แล้วผมกับอิงฟ้าก็คุยนู่นนี่กัน แต่อิงฟ้านี่ไม่ค่อยเลย คุยด้วยดึงเข้าเรื่องพี่อ๊อฟตลอด นี่หรือคุณหนูที่ใครๆต่างพากกันขนานนามเป็นนางฟ้า ตัวจริงบ้าผู้ชายจัง แล้วสักพักมีรุ่นพี่ผู้หญิงเรียกอิงฟ้าไปคุยด้วย ผมก็สะกิดพี่อ๊อฟ....
“อะไร!” ทำรำคาญผม? ผมมองด้วยสายตาเคืองๆ “อะไรๆ” มันก็หันมาดีๆ
“รำคาญผม?”(พูดนิ่งๆ)
“เปล่า! กูคุยกับเพื่อนอยู่มีอะไรเปล่า” น้ำเสียงอ่อนลง
“พาไปเข้าห้องน้ำหน่อย” พูดแล้วก็ทำท่าจะลุก
“ไปดิอยู่ตรงนั้นเอง” ชี้ไปทางห้องน้ำ แต่ผมเริ่มหงุดหงิดแล้ว!
“เออๆ คุยกะเพื่อนไปเถอะ!” แล้วผมก็เดินออกมาเลย
ผมเดินไปเข้าห้องน้ำ ห้องน้ำที่นี่มันรวมชายหญิงเข้าได้ในห้องเดียวเลย ผมเข้าไปนั่งเล่นโทรศัพท์ในนั้นสักพักก็คิดนู่นนี่ไปทั่ว เรื่องสร้อยข้อมือยังอิงฟ้า คิดไปคิดมาก็ช่างเถอะ เรื่องของพี่อ๊อฟมัน เราไม่มีสิทธิ์ไปยุ่ง! แล้วผมก็ลุกเดินออกจากห้องน้ำ คนเยอะเชียว แถมควันบุหรี่เยอะมาก ผมไม่ชอบ เลยรีบล้างมือแล้วออกมาจากตรงนั้นพอเดินออกมา....
“นท!” ผมหันไปตามเสียงอ้าวไอพี่เต็ม
“ว่าไงพี่!” (ยิ้ม)
“หายเลยนะมึง” เดินเข้ามาพร้อมกับเอามือเตะไหล่ผม
“พี่แหละหาย!” ผมก็ท้วงมัน
“เออ มาได้ยังไง” พี่มันถามขึ้นมา
“มาเป็นงานเลี้ยงชมรม! ที่เขากินเลี้ยงกันในห้องนู่น” ชี้ไปทางห้องที่จัดเลี้ยง
“งั้นมึงไปโต๊ะกูไหม แปปนึงก็ได้” เอ่ยชวนอย่างใจดี
“พี่มากับใคร!” ถามก่อน เดี๋ยวซวยเจอไอเบส เป็นเรื่องเป็นราว
“กับเพื่อนที่โรงเรียนเนี่ยแหละ! ไม่มีไอเบสหรอกน่า!”
ผมยังไม่ทันตอบว่าจะไปหรือไม่ มันก็ลากคอผมให้เดินไปโต๊ะมัน ผมก็ต้องไปสักนิด เพราะว่า จริงๆถึงอยู่ในห้องกินเลี้ยงผมก็เบื่ออยู่ดี ไม่รู้จักใครแล้วพี่อ๊อฟก็ไม่สนใจด้วย
“เห้ย!พวกมึงนี่น้องกูชื่อนท นท นี่บิว โอม และนี่ บอส” มันแนะนำผม และพี่ๆในโต๊ะอย่างไม่เป็นทางการนัก
“ดีครับ” ยิ้มให้ทุกคน
“มึงไม่ต้องเกร็งเว้ย สบายๆ” หันมาบอกผม ผมก็ไม่ได้เกร็งอะไรนี่
“นท มายังไงอะ” พี่โอมถามอย่างสงสัย
“มากับพี่ที่ชมรมวาดรูปอยู่ห้องนู่นอ่ะพี่” พูดพร้อมกับชี้ไปทางห้องที่จัดเลี้ยง
“น้องอยู่ม.4ป่ะ” พี่บอสถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ใช่ครับ” (ยิ้ม)
“น้องยิ้มน่ารักเนอะ” ยิ้ม เขินนะ “นทดื่มอะไรไหม” ประเด็นคือโต้ะพี่มันมีแต่แอลกอฮอร์
“ไม่ละพี่” (ยิ้ม)
ผมก็คุยนู่นนี่พวกพี่เขาก็คุยสนุกดี ดูเหมือนเรื่องที่ผมเป็นแฟนกับพี่ไอซ์พวกพี่เขาก็รู้ แซวผมไม่หยุด คุยได้ไม่นาน ผมก็ขอตัวกลับไปห้องที่ผมมากับพี่อ๊อฟ พอเข้าไป คือพี่อ๊อฟนั่งกระหนุงกระหนิงกับยัยอิงฟ้า ผมเลยมานั่งอีกมุมนึง ผมนึกในใจนี่กูไปเข้าห้องน้ำตั้งนานไม่ไปตามหน่อยเหรอ มีหน้ามานั้งงุ้งงิ้งกันอีก.....
“นทมานั่งอะไรนี่ล่ะ” ผมหันไปเป็นพี่ผู้หญิง ผมไม่รู้จักชื่อแต่เคยเห็นในโรงเรียนบ่อยๆ
“ครับ?” ผมทำหน้าสงสัย
“พี่ชื่อดาว แต่พี่รู้จักนทนะ นทคงไม่รู้จักพี่” อารมณ์ดีเชียว ดูกรุ่มกริ่ม น่าจะดื่มมาแหละ
“ครับพี่ดาว รู้จัผมได้ยังไงเนี่ย” (ยิ้มเขินๆ)
ผมพูดคุยกับพี่ดาวไม่นาน เขาก็ลากผมให้ไปกลางโต๊ะ ผมไปนั่งปุ๊ปพี่ดาวแกก็แนะนำผม แถมยังไล่แนะนำรุ่นพี่แต่ละคนให้ผมรู้จักด้วย คือได้รู้จักคนเพิ่มขึ้นเยอะเลย เฮฮาปาร์ตี้กระจาย แดนซ์กันมันเชียว ตอนแรกผมก็นั่งเฉยๆ สักพักพี่ดาวบังคับ ถ้าผมไม่เต้นจะให้ทุกคนกลับ ผมเลยต้องจำใจ ไม่งั้นหมดสนุกเพราะผมอีก เต้นไปเต้นมามันส์สิ ยาวๆไปเลย แต่ผมไม่ดื่ม ไม่ใช่ไม่ชอบแต่เดี๋ยวลำบากกันหมด555 เมาแล้วยิ่งไม่เหมือนคนอื่น แดนซ์กันไปสักพักพอเหนื่อยก็มาร้องคาราโอเกะกันต่อ สนุกมาก แต่ไอพี่อ๊อฟก็ยังคุยกับอิงฟ้าไม่หยุดจะอะไรนักหนา พองานจบ ทุกคนก็แยกย้ายแต่.....
“นท ให้พี่อ๊อฟไปส่งเราก่อนได้ไหม มันดึกแล้วพี่เราก็ไปไหนไม่รู้” ทำหน้าเศร้า
“ถามพี่อ๊อฟสิ ถามเราทำไมเราแค่มากับพี่อ๊อฟ” (ยิ้ม)
แล้วยัยอิงฟ้าก็ไปอ้อนวอนขอพี่อ๊อฟ ผมเห็นท่าแล้วก็นึกหมั่นไส้ คือให้ท่าพี่อ๊อฟสุดๆ พี่อ๊อฟก็ยอมจนได้ เราก็ได้ซ้อนสามไปส่งยัยอิงฟ้า ตลอดทางผมก็นั่งเงียบ อยากให้เจอด่านจริงๆ มาซ้อน 3 แบบนี้ ก็ได้แต่คิด พี่อ๊อฟกับยัยอิงฟ้าก็คุยกันงุ้งงิ้ง น่ารำคาญสุดๆ และแล้วก็ถึง บ้านอิงฟ้า บ้านใหญ่โตทรงยุโรป ดูรู้เลยว่ายัยนี้รวย แต่บ้าผู้ชาย....….
“ขอบคุณน้าพี่อ๊อฟ นทด้วย!” ผมก็พยักหน้า
“อื้ม (ยิ้ม) เข้าบ้านเถอะดึกแล้ว” พี่อ๊อฟพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“โอเค ไปแล้วน้า บาย” อิงฟ้าตอบกลับ แล้วก็เดินเข้าบ้านไป พี่อ๊อฟก็โค้งรถกลับ
ผมก็นั่งเงียบ พี่อ๊อฟก็เงียบ ผมก็คิดในใจ เออไม่ใช่อิงฟ้านี่จะมาคุยงุ้งงิ้งกัน สักพักก็เลี้ยวเข้าหมู่บ้านแต่....
“เลยบ้านผมละ!” ผมบอกมันเสียงดัง
“นอนบ้านกู!” ทำเสียงดุ แหม่ๆ ไม่เหมือนพูดกับอิงฟ้าเลยนะ
“ไม่ได้ยังไม่ได้บอกแม่เลย!” ตกใจนิดหน่อย ทำไมทำอะไรเอาแต่ใจแบบนี้
“กูโทรบอกให้แล้ว!” แล้วมันก็จอดรถ ลากผมเข้าบ้าน!
“เสื้อผ้าละโว้ย! จะดึงทำไมเนี่ย!” พยายามสบัดแต่มันไม่ปล่อย
มันไม่ฟัง เข้าบ้านปุ๊ปลากผมขึ้นห้องพลักผมล้มลงเตียงอย่างแรง จุกสิ! แล้วก็ไม่ได้สนใจว่าผมจะเจ็บหรือจุกไหม มันก็เดินเข้าห้องน้ำไปเลย ผมก็นอนกุมท้องคือจุกอะ เข้าใจฟิวประมานกินท้องตึงๆแล้วเอาท้องไปกระแทกกับเตียงแรงๆไหม คือทรมาน สักพักก็ดีขึ้น ผมลุกขึ้นมานั่งดีๆแต่ก็ยังมีเจ็บท้องอยู่ แล้วพี่อ๊อฟมันก็ออกมา
“ไปอาบน้ำ!” (เสียงแข็ง)
ผมก็ลุกไปอาบน้ำตามที่มันบอก มันก็ยังดี เตรียมแปรงไว้ให้ผมเหมือนเดิม ผมก็อาบน้ำไปจนเสร็จก็ออกมาพี่มันนั่งอยู่ตรงโต๊ะเขียนหนังสือ มันก็เตรียมชุดนอนไว้ให้ผมแล้ว ผมใส่เสร็จก็ไปนอนที่เตียงทันที สักพักมันก็ปิดไฟแล้วมานอนข้างผม ผมนอนหันหลังให้มัน......
“หันมานี่!” ทำเสียงโหดแต่ผมก็ต้องหันไป เดี๋ยวแม่งทำร้ายอีก
“.......” เงียบสิพี่อ๊อฟมันก็เอามือมาลูบท้องผม ผมก็นอนให้มันทำคือหมดคำพูด อยู่ๆก็มาโหดอยู่ๆก็อ่อนโยน ปรับตัวไม่ทัน
“เจ็บไหม” มันลูบทั่วท้องผม เพราะรู้ว่าผมเจ็บสินะ
“นิดหน่อย”ตอบเบาๆ
“ขอโทษ”  แล้วก็กอดผมผมพยายามดันออกมันก็ปล่อย
“ไม่เป็นไร!” ตอบเบาๆ แล้วนอนหันหลังให้มัน…..
ผมไม่รู้หรอก ว่ามันเป็นอะไร มันไม่พูดและผมก็ไม่ถาม คือเขาก็ดูมีความสุขดีตอนอยู่กับอิงฟ้า แต่พออยู่กับผม เขากับกระทำกันแบบตรงกันข้าม ผมว่าบางทีอยู่ห่างๆสักพักดีกว่า อาจจะมีอะไรดีขึ้น อีกอย่างผมจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรมากมายกับพี่ไอซ์ ส่วนพี่อ๊อฟก็จะได้อยู่กับอิงฟ้าให้สมใจพี่มันเลย ผมนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยสักพัก ผมก็หันไปดูพี่อ๊อฟ นอนไปแล้วผมลองสะกิดดูก็ไม่ตื่น ผมเลยค่อยๆลุกขึ้น เก็บของที่พี่อ๊อฟบอกว่าเตรียมมาให้แล้วก็เดินกลับบ้านบอกตรงว่าเจ็บท้องมาก พอถึงบ้านผมก็เข้าบ้านอย่างเงียบๆเดี๋ยวแม่ตื่น พอเข้าไปในห้องเฮียก็นอนไปแล้วผมเลย ไปนอนข้างๆเฮีย.....
“ไหนว่าไม่กลับ?” เฮียบอมถามขึ้นมา
“อ่าว!เฮียนททำให้ตื่นเหรอ โทษที” ผมพูดเสียงเบา
“เปล่าๆ กูยังไม่ได้นอน” เฮียตอบกลับด้วยท่าทีสบาย
“ไม่ได้นอนแล้วปิดไฟทำไม?” ผมถามอย่างสงสัย
“กูนอนเล่นโทรศํพท์ไง เห็นคนเข้ามาก็ก็ทำเป็นนอน นึกว่าโจร555” พูดติดตลก ผมก็ไม่สนใจมันไร้สาระจริง
“เฮีย พรุ่งนี้เช้าไปส่งนทโรงเรียนหน่อยน้า!” เขย่าแขนมัน
“ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะ!” อีกแล้ว
“อะไร” ผมหันไปถาม
มันก็บอกว่าจะไปถนนคนเดิน ไปช้อปปิ้ง ผมก็ไม่ได้ติดอะไร ตอบตกลงไป คุยกันอีกไม่นาน แล้วผมก็หลับไป พอตื่นมาเฮียมันไปไหนอีกแล้ว อย่าบอกนะว่าลืม! ผมก็รีบอาบน้ำแต่งตัวรีบลงไปข้างล่าง...
“ตื่นช้าจังนท เฮียรอไปส่งเนี่ย” (ยิ้ม) “มากินอะไรก่อนเร็ว” แม่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นผมลงมาจากบ้าน
“เฮียทำไมไม่ปลุกนท” หันไปถาม
“ปลุกแล้วไม่ยอมตื่น ไปเที่ยวแล้วกลับดึกเอง!” ดูมันทำหน้ากวนตีน
“เป็นยังไงละ อยากเที่ยวดีนัก!” แล้วก็โดนสวดตามระเบียบ หาเรื่องให้ผมโดนว่าตลอดไอเฮียนี่
ผมก็นั่งกินข้าวเช้าพร้อมับฟังแม่บ่น พอเสร็จก็ออกบ้านไปขึ้นรถ เฮียก็ออกรถออกไปสักพักผมลองหันไปดูพี่อ๊อฟเพิ่งมารับ โชคดีไปไม่ได้เจอ! พอถึงโรงเรียน.....
“เดี๋ยวตอนเย็นกูมารับ! ให้กูรอตรงไหน?” เฮียมันหันมาถามผม
“เฮียรอที่แสตนตรงนู้นนะ เพราะนทต้องไปหาเพื่อนทุกเย็น” ผมชี้ไปที่แสตนที่ผมไปนั่งรอพี่ไอซ์ประจำ
“4 โมงเย็นนะกูจะมา ลงไปได้แล้ว!” ไล่เลยสินะ
“ไปแล้วเฮีย!” ยิ้มแล้วก็ลงรถ
ผมก็ไปหาเพื่อนๆนั่งคุยกันไปก็ถึงเวลาเข้าแถวก็ไปเข้าขึ้นเรียนจนพักเที่ยงผมก็ไปกินข้าวที่โรงอาหารกับเพื่อนๆ....
พรึ่บ! เคร้ง! ผมหันไปดูคนที่มันดึงแขนผมจนช้อนร่วงพี่อ๊อฟ หน้านี่ไปกินรังแตนที่ไหนมา เพื่อนๆผมนี่นั่งเงียบกันเลย
“มึงไปไหนมา!” พูดเสียงแข็ง
“ไปไหน? ผมนั่งกินข้าวเนี่ย!” ทำไม่รู้เรื่อง!
“มึงมานี่!” กระชากผมลุกขึ้น คนมองกันเต็ม “พวกมึงกูฝากเก็บให้มันด้วย!” มันหันไปบอกเพื่อนผมแล้วลากผมไปเลย พวกไอปอตอนแรกจะตามมาผมก็ส่ายหัวบอกไม่เป็นอะไร
มันลากผมมาหลังตึกเรียน จะไม่มีคนเพราะเป็นโซนห้องเก็บของ แล้วมันก็ปล่อยแขนผม ....
“พี่เป็นอะไรเนี่ย!” คือผมไม่รู้เลยว่าผมผิดอะไร
“เมื่อคืนมึงหายไปไหนมาไอนท!” ตวาดใส่ผม
“กลับบ้านไง! พี่ไม่อยากเห็นหน้าผมไม่ใช่เหรอ!” ตวาดคืน
“ใครบอกมึงว่ากูไม่อยากเห็นหน้ามึง” มันพูดเหมือนพยายามเย็นลง
“ไม่บอกก็รู้ อยู่กับอิงฟ้านี่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พอยัยอิงฟ้าไปทำท่าอย่างกับจะกินหัวผม คงคิดว่าพี่เอ็นดูผมหรอกเนอะ!” หันหลังจะเดินหนี มันจับแขนผมไว้
“แต่กูไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นนะเว้ย!” ทำหน้าโหดขนาดนี้ ฆ่ากูเถอะ
“อ้อ! ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แสดงว่าต้องแบบไหนเหรอ แบบที่พี่ซื้อสร้อยข้อมือให้อิงฟ้า แล้วก็ชวนไปงานเมื่อคืน อ่อผมคงไปเป็นก้างชิ้นโตสินะ พี่ถึงได้เดือดขนาดนั้น ความจริงพี่บอกผมก็ได้ว่าจะไปกับอิงฟ้าแค่สองคน จะเอาผมไปทำไม รกหูรกตาพี่ พอไม่พอใจก็ทำร้ายกัน!” ผมร่ายออกมาด้วยความโมโห
เพี๊ยะ! หน้าหันไปอีกทางตามแรงที่โดนตบ เจ็บจริงๆผมหันมามองมัน
“กะ...กู....” มันมองผมด้วยความตกใจ หลังจากที่มันทำลงไป
“หยุดพูด!” ผมมองมันด้วยสายตาที่เย็นชา มันเอื้อมมือมา ผมถอยหนีมัน “แล้วพี่จำไว้อย่างนึงด้วยนะ อย่า...มาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของผม แล้วมาทำโมโหใส่ผมแบบนี้อีก” ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ผมยอมโดนทำร้ายมามากพอแล้ว ไม่ว่าจะกับใคร
“นท กะ...กูขอโทษ!” ตาแดง ทำไมคนที่ควรจะร้อง คือกูที่โดนตบไม่ใช่มึง “คือกู......”
“แค่นี้ไม่เจ็บหรอก! ครั้งที่แล้วก็โดนพี่ก็เคยเห็นนี่ ผมไม่เจ็บเลย” พยายามตอกย้ำมันว่ามึงก็เคยเห็นกูโดนทำแบบนี้มึงก็ยังจะทำซ้ำอีกเหรอ นี่เหรอ คนที่ชอบกัน เขาทำกันแบบนี้สินะ
แล้วผมก็เดินออกมาเลย ผมเดินไปห้องน้ำไปล้างหน้า โอ้โห! รอยมืออีกแล้ว ด้วยผิวบอบบางของผมพอโดนตบมันเลยขึ้นเป็นรอยมือเลยทีนี้ ดีปากไม่แตก พอล้างหน้าเสร็จผมก็เดินขึ้นห้องไปเรียนต่อ.....
“นทหน้ามึงไปโดนอะไรมา!” ตกใจอะไรขนาดนั้น
“แมลงวันมันเกาะกูเลยตบใส่หน้าตัวเอง!” พูดอย่างไม่จริงนัก
“เอาจริงๆมึงโง่หรือมึงโง่วะ555555” ไอวิวเอ่ยขึ้น ด่ากูโง่เถอะ
พวกมันก็ชวนผมคุยนู่นนี่ไป ครูเข้าก็เรียน จนเลิกเรียนผมก็แยกกับเพื่อนๆ ผมก็ไปนั่งแสตน คือยังไม่ 4 โมงเฮียยังไม่มา ผมก็รอพี่ไอซ์พัก ก็เดินไปหาข้างสนามเหมือนเดิมพี่ไอซ์ก็วิ่งมา....
“ตัวววววว” (ยิ้มร่าเลย)
“พรุ่งนี้แล้วน้า” (ยิ้ม)
“ไปนอนบ้านเค้าน้า เค้าอยากนอนกอดตัวมากกกกกก” พี่ไอซ์วันนี้หวานเชียว
“ไปรับแล้วกัน” (ยิ้ม) “แล้วพรุ่งนี้ตัวกลับยังไงอะ?” ผมถามอย่างสงสัย
“พี่อาร์มมารับ ตัวจะกลับพร้อมเข้าก็ได้นะ” พูดด้วยรอยยิ้ม อารมณ์ดีเกินไปแล้ว
“พรุ่งนี้วันหยุดนะ เค้าจะมาโรงเรียนทำไม” พูดไปเอาผ้ามาซับหน้าให้ไป
“แหะๆ ลืม”(เกาหัว) “ตัวพรุ่งนี้เที่ยงๆเค้าก็ได้กลับแล้วไปหาไรกินไหม ชวนไออ๊อฟไปด้วย มันอุตส่าดูแลตัวแทนเค้า” ผมชะงักไปนิด ยังไม่อยากเจอมันด้วย แต่ก็ช่างมันเถอะ
“กะ ก็แล้วแต่ตัวสิ”(ยิ้ม)
“เค้าจะไปถ่ายรูปกับตัวแล้วก็ บลาๆๆๆ” คือพี่ไอซ์นั่งพร่ำเพ้อถึงกำหนดการพรุ่งนี้ แต่ผมนี่คิดถึงพี่อ๊อฟขึ้นมา นั่งกันสามคนจะทำหน้ายังไง แล้วตอนนี้พี่อ๊อฟกับผมก็ดันมาทะเลาะกันอีก เฮ้อ! “เอ๊ะ! หน้าตัวไปโดนอะไรมา แดงๆ” พี่ไอซ์เอามือมาลูบแก้มผมฝั่งที่โดนตบ
“ไม่เป็นอะไรตัว แมลงวันมันเกาะเค้าเลยตบใส่หน้าตัวเองอย่างแรงเลย5555” พูดติดตลกไป
“นั่นแน่ แก้มเหม็นแน่ๆ ไหนขอลองหน่อย” โน้มมาหอมผม “ก็ไม่เหม็นนิ” (ยิ้ม)
“นี่เค้าไม่อยู่ตัวไปมีกิ๊กหรือเปล่าเนี่ย!” ผมพูดทีเล่นทีจริง
คุยกับพี่ไอซ์สักพักไปก็คิดถึง ผมคิดถึงพี่ไอซ์ นี่ก็นานแล้ว ที่เราไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน คุยกับพี่ไอซ์ผมรู้สึกดีขึ้นไม่น้อย ไม่อยากเชื่อเลยพอห่างกันแล้วความคิดถึงมันจะมากขนาดนี้.....
หมับ! มีคนกอดคอผมจากด้านหลัง
“กุรอมึงนานแล้วนะ!”ไอเฮีย! พี่ไอซ์มองด้วยความไม่พอใจทันที
“ตัวนี่ลูกพี่ลูกน้องเค้า ชื่อบอม เค้าเรียกเฮียบอมเพิ่งกลับมาจากจีน” ผมพูดอธิบายโดยเร็วพี่ไอซ์เปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มทันที
“ดีครับเฮีย” (ยิ้ม)
“นี่แฟนมึงเหรอ!” ผมพยักหน้า เฮียปล่อยมือจากคอผม “มึงโชคร้ายแล้วไอน้อง555” หันไปบอกพี่ไอซ์ พี่ไอซ์หันเราะใหญ่เลย
“ไอเฮียบ้า!” ทำตาดุใส่ทั้งเฮียแล้วก็พี่ไอซ์
เราสามคนก็คุยกันต่อ สรุปว่า พี่ไอซ์ก็ชวนเฮียไปเที่ยวในวันพรุ่งนี้ด้วย ผมก็ท้วง แหย่กันไปๆมาๆสักพักโค้ชพี่ไอซ์ก็เรียกไป เราก็ต้องหยุดบทสนทนา แล้วผมก็เดินไปที่รถกับเฮีย เฮียมันก็ชวนผมคุยนู่นนี่ไปทั่ว....
“เฮียเวลานี้ถนนคนเดินยังไม่ตั้งเลยมั้ง รีบไปไหน?” ผมถามอย่างสงสัย
“ไม่รีบนะ กูว่าจะไปเดินห้าง ทำไม?มึงจะไปไหน”เฮียถามกลับ
“เปล่าๆ นึกว่าเฮียจะไปเดินถนนคนเดินตอนนี้น่ะสิ!” ผมตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ
แล้วก็พากันไปห้างกัน เฮียพาเดินเข้าร้านนี้ออกร้านนั้น มันจะดูของอะไรของมันเยอะแยะ ดูแล้วซื้อบ้างไม่ซื้อบ้าง เหมือนคนไม่เคยมาห้างเลย อะไรของมัน เมื่อยขาไปหมด......
“เฮีย! เมื่อยแล้วนะโว้ย!” ดึงแขนมันไว้
“เออกูก็เมื่อยแล้ว! ไปหาอะไรกินกันดีกว่า” มันก็พาผมเข้ากาแฟ “อะจะสั่งอะไรก็สั่ง กินเสร็จไปถนนคนเดินเลยดีกว่า ไม่ได้ไปนานแล้ว” มันพูดขึ้นพร้อมกับยิ้ม
“อ่าๆ” แล้วผมก็สั่งเค้กกับนมมากิน เฮียก็เหมือนกัน
เรานั่งกินไปคุยกันไป เฮียบอมนี่นานๆทีจะทำตัวเป็นผู้ใหญ่ก็น่ารักดีนะ แต่ก็ติดกวนได้ตลอดเวลาแหละ อ้อ!เฮียมันเป็นพวกถูกเลี้ยงมาด้วยมือด้วยเท้า มันเลยพูดดิบๆแบบนั้น เพราะตอนเด็กๆมันเป็นเด็กมีปัญหา แต่เดี๋ยวนี้ก็อย่างที่เห็น คงเพราะมันแก่แล้วเลยคิดได้5555.....
“นท!” ผมหันไป อ่าวสิงโต
“ว่าไง” (ยิ้ม)
“เอ่อ..” (มองไปทางเฮีย)
“นี่เฮียบอมลูกพี่ลูกน้องกู เฮียบอมนี่สิงโตเพื่อนต่างโรงเรียนของนท” ยิ้ม เฮียบอมพยักหน้า “มากับใคร” ผมชะเง้อมาข้างหลังไม่เห็นมีใคร หรือนอกร้านก็ไม่เห็นมีใคร
“ดีครับ” หันไปบอกเฮีย เฮียพยักหน้า “มากับเพื่อน พอดีเห็นมึงเลยเข้ามาทัก” (ยิ้ม)
“นั่งดิๆ” ผมเขยิบให้มันนั่งข้างๆผม เพราะที่ผมนั่งเป็นโซฟายาว” “แล้วเพื่อนไปไหนหมด?”
“มันไปรอชั้นโรงหนังนู่น มันชวนมาดูหนังกัน”(ยิ้ม)
“แล้วตกลงจะไปวันไหน?”ผมถามมันถึงเรื่องที่จะเลี้ยงข้าวไถ่โทษมัน
“เดี๋ยวคืนนี้โทรหาแล้วกัน” มันบอกพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ ผมก็พยักหน้าตอบรับ “ไปดูหนังด้วยกันไหม?”
“วันนี้ไม่ได้อ่ะ จะไปส่งเฮียซื้อของ” (ยิ้ม) “ต้องวันหลังนะ”
“ได้ดิงั้นไว้คุยกันนะ เพื่อนโทรตามแล้ว” มันหยิบโทรศัพท์ให้ดู
“เคๆ แล้วคุยกัน” แล้วมันก็เดินออกไป
“เพื่อนเหรอวะ กูรู้สึกมันแปลกๆนะ” มองผมแบบหรี่ตา “มันจีบมึงเหรอ?”
“เหมือนว่าจะเป็นแบบนั้นมั้ง?” ผมตอบอย่างไม่ใส่ใจ 
เราก็คุยกันนิดหน่อย พอกินหมด แล้วก็เช็คบิล เดินห้างอีกสักพักก็พากันไปถนนคนเดิน กว่าจะได้เดินหาที่จอดรถยากมาก แล้วพอได้เดินเฮียทำตัวอย่างกับเด็กเห็นอะไรนิดหน่อยตื่นเต้นไปหมด ซื้อของมาเยอะมาก ปวดแขนปวดขาไปหมด เดินทุกซอก ทุกตรอกก จนผมล้าเลย ใช้ผมคุ้มจริงๆ.....
“กลับเหอะเฮีย ไม่ไหวแล้ววววววว!” ผมที่รู้สึกล้าไปหมดเอ่ยขึ้น
“ไม่! ขออีกนิดนะ” หนักเลยทีนี้
แล้วเฮียก็พาเดินต่อ ไปนู่นไปนี่อีกสักพักก็พากกันกลับ คือสองมือของเราทั้งสองคนเต็มไปด้วยของที่มันซื้อ พอถึงรถผมโล่งเลย คือมันหนักมากจริงๆมีแต่ของโบราณกับรูปอะไรไม่รู้ เฮียชอบอะไรแบบคนแก่ ของสะสมแปลกๆ แล้วเฮียก็พาขับรถกลับบ้าน ระหว่างทางก็คุยกัน.......
“เห้ย! เฮียนทลืมบอกแม่!” ทำหน้าตกใจมาก
“กูบอกไปแล้ว มึงอย่าเว่อร์ไปหน่อยเลย ดูทำหน้าเข้า5555”(มันก็ขำไป)
ก็คุยนู่นนี่ไปจนถึงบ้าน ก็ช่วยกันขนของลง แม่ถามใหญ่เลยซื้อไรมาเยอะแยะ    เฮียแกก็บอกนู่นนี่นั่นของชอบของมันเนอะ พอทำอะไรเสร็จผมก็ขึ้นไปอาบน้ำ เตรียมตัวจะนอน เฮียมันก็ตามมา.....
“เฮียไปอาบน้ำเลย!” ผมท้วง มันขึ้นมานอนเลย
“ขี้เกียจวะเหนื่อย!” ตอบด้วยท่าทีสบาย
“ไปอาบเลยนะ อย่ามาสกปรก!” ผมดันมันลงเตียง มันก็ลงไป
“อยู่ที่จีนกูอาบบ้างไม่อาบบ้างไม่เห็นเป็นอะไรเลย!” มันตอบกลับด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“นี่ที่ไทย! ไม่ใช่จีนอย่าเยอะ!” แล้วมันก็เดินเข้าไปอาบน้ำ
ผมก็หลับไปเพราะความเพลีย ตื่นมาอีกทีเฮียไปไหนไม่รู้อีกแล้ว ออกกำลังกายมั้ง ผมก็ตื่นมาอาบน้ำ ช่วยแม่ทำงานบ้านอะไรไป สายๆเฮียมันก็กลับมา พอใกล้เที่ยงผมก็ขึ้นไปเปลี่ยนชุดเตรียมไปเที่ยวกับพี่ไอซ์ โดยเฮียก็เตรียมด้วย อุตส่าไม่บอกแล้วนะ ยังจำได้...
“เฮียจะไปไหนอ่ะ!” หันไปมองเฮียกำลังแต่งตัว
“ก็ไปกับมึงและก็แฟนมึงไง!” ยักคิ้วแล้วยิ้มหล่อๆให้ผม
“โห! นทนึกว่าเฮียลืมไปแล้วนะเนี่ย!(ทำหน้าเซ็ง)
“ก็กูจะไป ใครจะทำไม”(ทำหน้ากวนตีน) “อีกอย่างแฟนมึงชวนกูแล้วด้วย!” (ทำยักคิ้ว)
ผมเลยเดินลงมานั่งดูทีวีข้างล่าง หมั่นไส้มัน แล้วสักพักมันก็เดินมานั่งข้างๆผมก็ดูทีวีกันไป บอกแม่ไว้แล้วว่าไม่กินข้าวเที่ยง เพราะเดี๋ยวออกไปกินกับพี่ไอซ์ อีกอย่างป๊าก็กำลังกลับแล้วด้วย รอไปสักพักพี่ไอซ์ก็มา ผมก็ออกไปหา....
“ไงตัวววววว” วิ่งเข้ามากอด
“อื้ม เป็นอะไรเนี่ย!” ผมถาม พี่ไอซ์กอดแล้วหมุนตัวไปมา
“คิดถึงตัวไง” ผละออกมาจากกอด “ตัวล่ะ?”
“คิดถึงเหมือนกันแหละน่า” ผมตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“อะแฮ่มๆ!” เรียกร้องความสนใจสินะ
แล้วเรา 3 คน ก็พูดคุยกัน ว่าจะไปไหน ไปยังไง ไปทำอะไรกันบ้าง และเฮียบอม ที่ดูจากสภาพอากาศ ก็เสนอว่าเอารถยนต์ไป เพราะแดดร้อน แล้วคุณชายอย่างเฮียบอมไม่นั่งรถมอเตอร์ไซค์แน่นอน พอได้ข้อสรุปผมก็ไปบอกแม่ ว่าจะออกไปกันแล้ว พอบอกแม่เสร็จเฮียก็ขับรถพากันไปรับพี่อ๊อฟ โดยผมนั่งกับพี่ไอซ์ด้านหลัง เฮียกับพี่อ๊อฟก็นั่งหน้าด้วยกัน พี่อ๊อฟก็มองผมตลอด มองจากกระจกมองทางหลัง ส่วนพี่ไอซ์ก็งุ้งงิ้งอะไรไม่รู้ จะจับมือ จะกอด ให้นวดขาให้สาระพัดอะไรไม่รู้ เฮียก็นั่งฟังเพลง ชวนพี่อ๊อฟคุยไป สักพักก็ถึงห้างผมล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาดู อ่าววแบตหมดตั้งแต่เมื่อวานลืมชาจ ว่าจะโทรหาป๊าสักหน่อย แต่ไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง เราก็เดินเล่นกันไป เข้านู่นออกนี่ เฮียนี่ก็ซื้อเสื้อผ้า พี่ไอซ์ก็อยากได้รองเท้า ไปเถียงกับเฮียอยู่ในร้าน ผมกับพี่อ๊อฟก็ยืนรออยู่ในร้านนั่นแหละ ฟังเฮียกับพี่ไอซ์เถียงกัน เราทั้งสองยืนเงียบกันทั้งคู่.....

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
“.........” ผมเงียบ พี่อ๊อฟก็มองผมนะแต่มันก็ไม่พูดอะไร มันทำให้ผมอึดอัดนะเนี่ย!
“......” เงียบ ยังคงมองผม สลับกับไปมองสองคนนั้นถียงกัน
“พะ..” พี่อ๊อฟหันมาพอดี ผมกำลังจะพูด
“ตัวดูเฮียตัวดิ!”พี่ไอซ์ก็เอ่ยขึ้นมาเสียงดังแล้วเดินมาทางผม
“อะไรของมึงเนี่ยกูบอกว่าคู่นี้แหละดี”เฮียบอมตอบกลับ
“ตัวเฮียตัวมาจุ้น เค้าถามโค้ชแล้วแต่เฮียตัวทำเค้าสับสนเลย!” พูดแล้วหงิกหน้างอ
“คู่นี้ดีจริงมึง” ผมก็มองมันเถียงกัน แถมพี่ไอซ์ยังลากผมเข้าไปเกี่ยว
“ตัวเค้าไม่รู้เรื่องพวกนี้นะ! ตัวกับเฮียก็ดูกันเองแล้วกัน” แล้วสองคนนั้นก็เริ่มเถียงกันต่อ พี่อ๊อฟเดินไปดูเสื้อ
ผมเลยนั่งรอแถวๆนั้น โทรศัพท์ก็แบตหมด เซ็งไปหมด.....
“เมื่อกี้จะพูดอะไร?” พี่อ๊อฟถามขึ้น ผมหันไปมองมัน เดินมาตอนไหนเนี่ย
“ปะ เปล่า แค่จะถามว่าพี่หิวหรือยัง” แถไปนั่น ที่ถามเพราะอึดอัด พี่มันไม่ยอมพูดเอาแต่จ้อง ผมเลยต้องเปิดประเด็น ที่ทะเลาะกันเมื่อวานก็ต่างคนต่างแรง ผมก็ไม่อยากให้มันยืดยาวสักเท่าไหร่
“ยัง แล้วมึง...หิวเหรอ?”ถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“เดี๋ยวสองคนนั้นซื้อเสร็จก็พาไปกินแหละ”(ยิ้ม)
“คะ..คือเรื่องนั้น..” ผมหันไปมองหน้าพี่อ๊อฟ “กูขอโทษจริงๆนะ” ทำหน้าสำนึกผิด
“อะ...อืมไม่เป็นอะไรหรอก ผมก็ขอโทษด้วยที่พูดไปแบบนั้น”
……เราทั้งสองก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง จนผมรู้สึกอึดอัดเกินไป
“ผมเห็นพี่เหมือนจะพูดอะไรก็ไม่พูดสักทีเอาแต่จ้อง อึดอัดนะเนี่ย!” ผมพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่จริงจังนัก
“ก็วันที่ไปกินเลี้ยง กูเห็น....” มันพูดพร้อมกับหลบตา
“เห็นอะไร!” ทำไมต้องพูดให้ลุ้น?
“ที่มึงบอกปวดฉี่แล้วก็พรวดพราดออกไป กูเห็นว่านานเลยออกไปตาม หาในห้องน้ำก็ไม่เจอ ไปเจอมึงนั่งบิดไปบิดมากับกลุ่มผู้ชายที่ไหนไม่รู้ กูเลยโมโห....” ทำหน้าสำนึกผิด
“นั่นมันพวกพี่เต็มรู้จักไหม พวกรุ่นพี่ม.6” พูดแบบไม่จริงจังเท่าไหร่
“เต็มไหน?” ทำหน้าสงสัย
“พี่เต็มที่เป็นประธานสีเหลืองอะ!”
“อ่อ” (พยักหน้ารับรู้) “แล้วมึงไปสนิทกันตอนไหนวะ?”
“สนิทมานานแล้ว มันชอบแกล้งผมตั้งแต่ม.3แล้ว แค่นี้ใช่ไหมที่ทำตัวเป็นบ้า?” ผมมองหน้ามันอย่างหาเรื่อง
“แล้ววันนั้นมึงก็หายไป กูตื่นมาตกใจแทบแย่” ทำหน้าเศร้า “และที่กูตบมึง” ทำเสียงเบา “กูแค่โกรธที่มึงคิดว่ามึง เป็นก้างสำหรับกูและอิงฟ้าเท่านั้นเอง มึงยกโทษให้กูนะ” ทำเสียงเศร้า
“สร้อยข้อมืออิงฟ้าก็น่ารักดีนะ เป็นรูปหัวใจด้วย” ผมก็ลูบข้อมมือไป
“อันนั้นอิงฟ้าฝากซื้อ ตอนไปกรุงเทพฯ เขาเร้าหรือให้ไปซื้อ กูเลยได้สร้อยมึงมาด้วยไง”(ยิ้ม) “หายโกรธได้แล้วนะ กูเป็นบ้าเพราะมึงเลย”
“ชวนอิงฟ้าไปแล้วจะชวนผมไปทำไมอีกล่ะ” ทำหน้าเซ็ง
“ก็เขาขอไปกูบอกว่าอยากไปก็ไป เพราะมันเป็นงานเลี้ยงของคนไปแข่ง อิงฟ้าก็ไปช่วยที่ชมรมบ่อยๆ กูขอโทษนะ” ทำหน้าสำนึกผิด
“อืม!ก็แค่เนี่ย มีอะไรก็บอกก็ถามก่อน โถ่!ต้องให้คนอื่นเจ็บตัวก่อนตลอด!” เซ็ง เจ็บตัวกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแท้ๆ
“ก็กูหึงมึงนี่หว่า ทำยังไงได้วะ” หูมันแดง
“บ้า” (เขินสิ) “ไว้ค่อยคุยกันแล้วกัน” (ยิ้ม)
แล้วผมก็เดินไปหาพี่ไอซ์ สองคนนั้นเลือกกันเสร็จสักที แล้วก็พากันไปหาอะไรกิน เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น เฮียเลี้ยงสั่งกันเต็มที่เลย.......
“ตัวกินเห็ดนี่ดิ” ตักเห็ดให้ผม พี่อ๊อฟก็มองตลอด ส่วนเฮียก็ก้มหน้าก้มตากิน
“อื้ม” (ยิ้ม)
“อะ” พี่อ๊อฟตักเนื้อปลาในจานมันมาให้ผม พี่ไอซ์ก็มอง “กูแค่ให้มึงชิม” ทำหน้าไม่แคร์ แต่ทำไมผมรู้สึกอึดอัด
“ตัวตักให้เค้าบ้างดิ” งอแงอีกแล้วสินะ
“อะ” ตักแครอทให้พี่ไอซ์ แล้วตักผักกาดขาวให้พี่อ๊อฟเฮียนั่งมอง
“แครอท งั่มๆ!” ยิ้มพี่อ๊อฟก็กินผักกาดที่ผมตักให้
“ไอซ์ มึงดีใจอะไรวะ! ไอนทมันตักแต่ของที่มันไม่ชอบให้มึงทั้งนั้น55555” ไอเฮียรู้ดีจริง
“เฮียไม่ต้องบอกก็ได้ ชู่ว!” ทำตาดุใส่เฮีย
“กูว่าแล้ว สั่งแต่ละอย่างไม่แป้งก็เนื้อ” ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
“ตัว ตักของชอบตัวให้เค้าบ้างเลย” พี่ไอซ์ทำหน้างอ ไอเฮียไม่น่าพูดเลย
“กะ...ก็ได้” มีลังเล โรคหวงของกินกำเริบ “อะ” ผมตักเนื้อให้พี่ไอซ์
“ป้อนๆ” มันอ้าปากรอ ผมก็เอาเข้าปากมันไป
“ง้องแง้งสัส” เฮียส่ายหัวอย่างเอือมระอา
“อะ พี่ไอซ์” ตักผักให้พี่ไอซ์เพิ่ม
“โห!ตัว ไม่กินผักเลยนะ!”พี่ไอซ์พูดเสียงดุ
“กินแล้ว มันฝรั่งในแกงกะหรี่ไง” ยิ้ม พี่ไอซ์ทำหน้าดุ “ก็ได้ อะ..พี่อ๊อฟ” ผมตักให้พี่อ๊อฟพี่อ๊อฟก็กินไปไม่พูดอะไร “ดูพี่อ๊อฟยังไม่บ่นเลย” ผมพูดพร้อมทำหน้าไม่พอใจ
“นี่ไงเค้าก็กิน” ตักผักที่ผมเอาให้กิน
เราก็เถียงกันไปยัดเยียดนู่นนี่กันไปจนกินเสร็จเช็คบิล พากันไปเล่นที่เกมส์เซนเตอร์ ดูท่าพี่ไอซ์กับเฮียนี่เข้ากันได้ดีเชียว ผมกับพี่อ๊อฟก็ยิงปืนกันสิทีนี้ เสร็จจากตรงนั้นก็พากันไปร้องคาราโอเกะ และก็ไปในหลายๆที่จนเหนื่อยกันก็พากันกลับ ระหว่างทาง....
“ตัวไปนอนบ้านเค้านะ” (ยิ้ม)
“อื้ม” พี่อ๊อฟมองมาทางกระจกหลัง
“เกินไปจริงๆ555” เฮียส่ายหัวอย่างระอา กับการทำตัวเป็นเด็กของพี่ไอซ์
“พี่อ๊อฟไปด้วยกันเปล่า” ผมถามขึ้น
“ไม่ได้! เค้าอยากอยู่กับตัวสองคน” (ยิ้ม)
“ไปเถอะ ไม่อยากเป็น ก้าง น่ะ555” ดูก็รู้ว่าฝืน ผมทำตัวไม่ถูกเลยนะ
สักพักก็ถึงบ้านผม เฮียเลยไปส่งพี่อ๊อฟก่อน แล้วก็ย้อนกลับมาบ้าน....
“ไปเก็บของก่อนแล้วกัน” ผมเอ่ยขึ้น แล้วก็พากันเข้าบ้าน เฮียนั่งดูทีวีผมก็พาพี่ไอซ์ขึ้นห้อง
“ห้องตัวของเยอะขึ้นไหม?” พี่ไอซ์พูดพร้อมสำรวจรอบห้อง
“อื้ม เฮียมาอยู่ด้วยอ่ะ” (ยิ้ม)
“ห๊ะ!” ทำหน้าตกใจอะไรขนาดนั้น “จริงเหรอ!”
“นี่ตัว อย่าเว่อร์ นั่นพี่เค้านะ!”
“แหะๆ” เอามือเกาหัว “ก็เค้าหึงนี่”(ยิ้ม)
เราก็พูดคุยกันไปต่างๆน่า ผมก็เก็บของไปด้วย พอเก็บของเสร็จก็พากันลงบ้านมา.....
“ป๊า!” วิ่งไปกอดเลยป๊าทันที
“ไงตัวแสบ! คิดถึงป๊าไหม” ลูบหัวผม
“คิดถึงงงงงง!” ยิ้มกว้างเลยทีเดียว
“แล้วนี่อะไร” ชี้ไปที่กระเป๋าผม “จะหนีตามผู้ชายอีกแล้วเหรอ!” ทำเสียงดุ แต่พี่ไอซ์เฮียแม่หัวเราะใหญ่เลย
“ป๊า!”
“5555ไปเถอะป๊าล้อเล่น!” (ยิ้ม)
“แม่นทไปนะ! ป๊านทไปแล้วพรุ่งนี้เดี๋ยวกลับ” (ยิ้ม) “เฮียไปแล้วนะ” (ตบไหล่เฮียเบาๆ)
“แรดนะ หนีตามผู้ชาย5555” ยังแซวพี่ไอซ์ก็ยืนยิ้มอย่างเดียว
ผมกับพี่ไอซ์ก็พากันมาบ้านพี่ไอซ์ เข้าไปก็เจอพ่อแม่พี่อาร์ม ก็ทักทายกันไม่ได้เจอกันนานเลย นั่งกินข้าวด้วยกันพูดคุยกัน พอเสร็จพี่ไอซ์พาขึ้นบ้าน.....
“เหนื่อยไหมวันนี้” ลูบหัวผม
“เหนื่อยอ่า” พูดจบผมล้มนอนบนเตียง
“เหนื่อยจริงเหรอ” มานอนข้างๆผม
“จริงๆ ! เอ้อ!ลืมชาจแบตโทรศัพท์ ขอยืมที่ชาจหน่อย” ลุกขึ้นมาแล้วแบมือ
แล้วพี่ไอซ์ก็หยิบให้ผมก็เอาไปชาจทิ้งไว้ แล้วก็เข้าไปอาบน้ำ พอออกมาเห็นพี่ไอซ์หลับ....
“ตัว” เขย่าพี่ไอซ์ “ตัว ตื่นไปอาบน้ำ!” พี่ไอซ์ก็ลุกขึ้นมาแบบงัวเงีย ท่าทางจะเหนื่อย แล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไป
ผมก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมานอนเล่น เอื้อมมือกดเปิดเครื่องโทรศัพท์ โอ้โห! ใครโทรมาเนี่ย! 10 กว่าสายผมลองเปิดดู เห้ย! คือลืมไปว่าไอสิงโตจะโทรมา! ผมเดินออกไปนอกระเบียง แล้วกดโทรหาสิงโต......
“ฮัลโหล!” กระแทกเสียงเบาๆ
“เห้ย!มึง โทรศัพท์กูแบตหมด โทษที” ผมชะเง้อไปดูในห้องพี่ไอซ์ออกมาแล้ว นอนรอบนเตียง
“เออกูก็โทรหาไปสิ!” ประชดด้วย
“อืม”
“อืม ตกลงเป็นวันจันทร์นะ เจอกันที่ไหนดี” เสียงใสเชียว
“แล้วแต่เสี่ยเลยจ้า” ตามใจมันหน่อยแล้วกัน
“งั้นกูไปรับที่โรงเรียนมึงดีไหม?” พูดเหมือนคิดเยอะ แต่ก็รู้แหละว่าอยากมารับ
“งั้นเหรอ” ผมคิดแปปนึง พี่ไอซ์ก็ซ้อมบอลตอนเย็นอยู่แล้ว คงได้แหละ “ก็ได้ มา4โมงนะ รอแถวหน้าโรงเรียนแหละ”
“อืม! อย่าเบี้ยวนะเว้ย มึงมีความผิดเพิ่มนะเนี่ยไม่รับสายกู” พูดแนวออกคำสั่ง
“อะไรว้า กูผิดอะไรเยอะแยะเนี่ย!” ผมสำนึกผิดไม่ทันแล้วนะ
“เออๆ นอนเถอะ กูจะแอดไลน์มึงไปนะ ไว้คุยกัน”
“เคๆ แอดมาแล้วกัน บาย”
แล้วมันก็วางไปผมก็เดินเข้าห้อง.....
“คุยกับใคร!” พอผมเข้ามาก็ ลุกขึ้นมาถาม
“เพื่อน ทำไมอ่ะ?”
“เอาโทรศัพท์มานี่!” ดึงโทรศัพท์ผมไปดูเลยครับ “สิงโต? ตัวมีเพื่อนชื่อนี้ด้วยเหรอ!” เสียงแข็งเลยนะ
“มีดิ! มันอยู่คนละโรงเรียน เพื่อนไอมิน พี่อ๊อฟก็เคยเจอ ทำไมเนี่ย!” คือผมไม่ได้คิดอะไร ไอสิงโตก็เพื่อนแต่ถ้ามันจะคิดเกินเลยอันนี้ผมก็ไม่รู้นะ5555
“แน่นะ” มองแบบจับผิด!
“ไม่ไว้ใจเหรอ?” ผมมองแบบนอยๆ
“ปะ เปล่า แล้วมันโทรมาอะไรเวลานี้!” ถามแล้วล้มตัวนอน
“ก็มันโทรมานัดไปหาอะไรกินวันจันทร์!” ผมก็บอกไปตามตรง ผมไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว
“อ่าๆ ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว” ยิ้ม เปลี่ยนอารมณ์เร็วจัง “มานี่เร็วๆ” ลูบที่ข้างๆพี่ไอซ์
ผมก็เดินไปปิดไฟก่อนแล้วก็ไปนอนตรงที่พี่ไอซ์บอก.....
“เอาโทรศัพท์ตัวมานี่เลย” ขอค้นบ้างเถอะ ทำเงียบๆนะ
“อะ” ยื่นมาให้แบบไม่ลังเล ผมก็เปิดนู่นดูนี่....
“โอ้โห! คือมันเยอะกว่าคราวที่แล้วอีก!”ฉุนเลยทีนี้
“แต่เค้าไม่ได้ตอบนะตัวดูดีๆ” ชี้ให้ผมดู
“ก็ลบสะสิจะค้างไว้ทำไม!” ผมลบให้เลย แล้วก็เปิดดูเบอร์โทร “เบอร์ใครเนี่ย! เต็มไปหมด!”
“เบอร์พวกผู้หญิงพวกนั้นแหละพวกนั้นเอาโทรศัพท์ไปยิงเข้าเครื่อง” คือไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาว ดูใจเย็น
“จะเอาใช่ปะ!” ผมลุกขึ้นดึงคอเสื้อพี่ไอซ์
“เห้ย!ตัวใจเย็นๆ”จับข้อมือผมไว้ “เค้าไม่ได้เป็นคนยื่นให้นะ พวกรุ่นพี่อ่ะดิ!”
“ก็ลบสิ!” ผมไล่ลบให้เลย ลบจนหมด
“จ้าๆลบไปเลย เค้าก็เพิ่งได้จับโทรศัพท์เนี่ยแหละ โหดจัง!” กอดผม
“นอนเลยๆ หงุดหงิดจริงๆ!” ผมนอนตะแคงหันหน้าไปหาพี่ไอซ์
“ตัวอ่าอย่าโกรธนะ” พูดไปพลางเอามือลูบหลังผมไป
“ไม่โกรธหรอกน่า” ลูบแก้มพี่ไอซ์ คือเอาจริงๆถ้าผมโกรธผมก็ได้เป็นฝ่ายง้อพี่ไอซ์อยู่ดี ผมโกรธพี่ไอซ์ทีไรพี่แกงอนกลับตลอด ผมเลยเลี่ยงปัญหาดีกว่า
ก็คุยกันไปสักพักก็พากันนอน ผมสดุ้งตื่นมาช่วงสาย พี่ไอซ์ก็ยังคงกอดผมอยู่ ผมเลยนอนิ่งสักพัก เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์บนหัวเตียงมากดเล่น ไอสิงโตทักมาแต่เช้า.....
สิงโต : ตื่นยัง ทำไรอยู่ (แล้วก็ส่งสติ๊กเกอร์มา)
ผม : เพิ่งตื่นอ่า (สักพักขึ้นว่าอ่าน)
สิงโต : ตื่นสายจัง
ผม : วันหยุดจะรีบตื่นไปไหน
สิงโต : นั่นสิ5555
ผม : วันนี้เสี่ยไม่ไปไหนเหรอ
สิงโต : พวกเพื่อนมันชวนไปดอยอ่ะ ไปป่าว
ผม : ไม่อ่า ขี้เกียจ (ส่งสติ๊กเกอร์ไป)
สิงโต : เสียดาย อยากให้ไป..(ส่งสติ๊กเกอร์มา)
หมับ! พี่ไอซ์ดึงโทรศัพท์ผมไป
“คุยกับกิ๊กเหรอ?” อ่านไลน์ที่ผมแชทกับไอสิงโตเมื่อกี้
“กิ๊กอะไรล่ะ เพื่อน” ผมตอบด้วยท่าทีสบาย
“ต้องคุยกันแบบนี้เหรอ?” มองหน้าผมแบบหาเรื่อง
“เพื่อนก็คือเพื่อนดิ!” ผมยิ้มออกมา
“แน่นะ!”
“อื้ม จะไปเจอมันด้วยกันเลยไหม!”
“ไม่อ่ะขี้เกียจ” แล้วก็ลุกเดินเข้าไปห้องน้ำ
ผมก็ตอบไอสิงโตไปว่าไว้ค่อยคุยกันต่อแล้วกัน แล้วผมก็เอาโทรศัพท์พี่ไอซ์มาเล่นบ้าง เอาจริงๆก็หาเรื่องกันไปมาแบบนี้แหละ จะได้มีสีสันหน่อย แล้วพี่ไอซ์ก็ออกมา แต่งตัว....
“วันนี้ไปไหนดี” ยิ้มหน้าบานเชียว
“แล้วแต่ตัวเลย ไปอาบน้ำดีกว่า” พูดจบผมก็เดินเข้าห้องน้ำไปเลย
ผมก็อาบน้ำ พออาบเสร็จก็ออกมาแต่งตัว พี่ไอซ์ก็นั่งมองผมแต่งตัวไป ผมก็ใส่กางเกงในแล้วถอดผ้าเช็ดตัวออก...
“ตัวอยากเหรอ?” ผมไม่สนใจแต่งตัวต่อพี่ไอซ์เดินมากอดจากด้านหลัง “อยากเหรอ” ทำหน้าหื่นๆ
“อยากอะไรถอยไปจะแต่งตัว!” ดันพี่ไอซ์ออก
“ตัวมาถอดยั่วเค้าทำไม” หน้างอเลย
“แค่ใส่เสื้อผ้าน่าอย่าคิดมาก” ยิ้มแล้วก็แต่งตัวจนเสร็จ “ไปไหนกันดี?”
“ตัวอยากไปไหน?” (ยิ้ม)
“วันนี้ตัวแต่งตัวหล่อจะไปอ่อยใครที่ไหน?” หาเรื่องสักหน่อย555
“เค้าหล่ออยู่แล้วใส่อะไรมันก็ดูหล่อแหละ” (ยิ้มหน้าบาน)
“อ่าๆ” พยักหน้า ยอมรับ นั่นก็เรื่องจริง  “งั้นไปหาอะไรกินกันไหม?”
“ที่ไหนดี?” พี่ไอซ์ถามขึ้น
“ไม่รู้ ไปขับรถดูไหม ใกล้ๆไม่ไกลแล้วก็รวดส่งเค้าที่บ้านเลย”
“โอเคๆ”
ผมก็เก็บกระเป๋าแล้วก็พากันลงไปข้างล่าง ลาพ่อแม่พี่ไอซ์แล้วพี่ไอซ์ก็พาไปวนรถหาอะไรกินกัน ก็ได้มากินอาหารเวียดนามกัน พอกินสร็จก็พากันไปบ้านผมผมก็เอาของขึ้นมาเก็บ แม่เฮียป๊าอยู่กันข้างล่าง....
“ตัวเค้าอยากนอนกับตัวอีก” เริ่มงอแงแล้วสินะ
“มาดิเฮียก็นอนด้วย อัดกันสามคนเนี่ยแหละ”(ยิ้ม)
“ตัว!” หันหลังให้ผม
“อะไรอีก” สวมกอดพี่ไอซ์จากด้านหลัง
“เค้า.....อยาก อ่ะ” หันมากอดผม
“จริงเหรอ” เอามือไปลูบเป้าพี่ไอซ์แข็งสู้มือเชียว
“อื้ม” หน้าแดงเลย
แกร๊ก! เฮียเข้ามาพอดี ผมดีดตัวออกทันทีเลย
“ทำอะไรกัน?” หรี่ตามองผม “นั่นแน่!”
“มะ..ไม่ใช่นะเว้ย! เฮียอย่าพูดอะไรเลอะเทอะนะ!” ผมรู้สึกร้อนๆที่หน้า พี่ไอซ์เดินออกไปตรงระเบียงแล้ว “มีอะไร?”
“เปล่ากูจะชวนมึงไปเล่นน้ำหน่อยไปไหม” ทำหน้ากวนตีนตลอด
“ว่ายน้ำไม่เป็นไม่อาวววว” ว่ายไม่เป็นกลัวเฮียมันแกล้งด้วย
“กูชวนไอซ์ก็ได้! ไอซ์!” ตะโกนเรียกพี่ไอซ์ พี่ไอซ์เดินเข้ามา หน้าแบบนี้ค้างแน่ๆ555
“ว่าไงเฮีย” ยิ้ม แล้วมองผมแบบไม่พอใจ คือผมผิดอะไร
“ไปว่ายน้ำกัน” (ยิ้ม)
“เอาดิเฮีย!” ยิ้ม เหมือนอยากไปมาก “ตัวไปใช่ไหม?”
“ไปดูนะไม่ว่าย ว่ายไม่เป็น” ทำหน้าสยอง
“เดี๋ยวเค้าสอน” พี่ไอซ์พูดพร้อมกับยิ้มขึ้นมา
“อ่าๆ ก็ได้” ที่ยอมไปเพราะเดี๋ยวพี่ไอซ์งอนแล้วจะยาวอีก
แล้วผมก็เตรียมผ้าเช็ดตัวใส่กระเป๋าไปชุดค่อยไปเช่าเอาที่สระ ไปว่ายที่สระหมู่บ้านผม แล้วก็พากันไปพี่ไอซ์ก็โทรชวนพี่อ๊อฟด้วย ก็ไปเจอที่นั้นเลย ผมก็ไปขนขนมในครัวไปด้วย เผื่อหิว5555นี่ก็กะจะไปกินอย่างเดียว พอไปถึงพี่อ๊อฟนั่งรออยู่ด้านหน้าแล้ว เราก็เคลียล์ค่าเข้าค่าชุดแล้วก็เข้าไปกัน พากันไปเปลี่ยนชุด.....
“ผมไปจองโต๊ะนั่งก่อนนะ” ผมเปลี่ยนเสร็จหิ้วกระเป๋าออกไปก่อนเลย
แล้วผมก็หาที่นั่ง4คน ริมสระพอดีเลย แดดส่องนิดนึงแต่ไลฟ์การ์ดเอาร่มมากางให้บริการดีเชียว ผมใส่เสื้อที่ใส่มาจากบ้านแล้วก็ใส่กางเกงว่ายน้ำ เด็กวัยรุ่นเยอะอยู่ เด็กน้อยก็เยอะผมจะไปเล่นสระเด็กชัวร์ๆ ผมจองไว้แล้ว....
“ตัวมองอะไร!” พี่ไอซ์ที่เดินมาหลังเปลี่ยนชุดเสร็จถามขึ้น
“มองสระที่เค้าจะว่ายยังไงเล่า!” ผมตอบกลับ
“สระเด็กเนี่ยนะ!” พี่อ๊อฟถามขึ้น
“มึงก็ไปว่ายกับพวกกูเนี่ยแหละไม่จมหรอก!” เฮียบอมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“ไปว่ายกันเถอะ นทกลัว” ทำท่ากลัว
แล้วพวกมันสามคนก็มองหน้ากัน แล้วค่อยๆเดินมาหาผม ผมก็ค่อยๆถอย มันต้องเล่นอะไรแผงๆแน่ ผมกำลังจะวิ่งหนีพี่ไอซ์จับแขนผมไว้ คราวนี้เฮียจับขาผม พี่อ๊อฟช่วยจับขาคนละข้างกับเฮีย ผมดิ้นสุดฤทธิ์คนมองกันทั้งสระแถมส่งเสียงเชียร์อีก เวรเอ๊ย!
“อย่านะเว้ยยยยยยยยยยย!” เสื้อก็ยังไม่ได้ถอดเลย “เห้ยยยยยยยยยยย! ตู้ม! อ๊ากกกกกกกกก ช่วยด้วยๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
พวกนั้นและคนรอบสระหัวเราะผมเต็มไปหมด
“มึงลองยืนดีๆสิ” เฮียบอมตะโกนบอก
“ไอเฮียชะช่วย ดะด้วย” ตีน้ำขาดใจดิ้นแล้วพวกมันก็ลงมาช่วยพยุงผม
“ตัวมันไม่ลึกเลยนะเนี่ย” ผมกอดคอแล้วก็เอาขาคล้องเอวพี่ไอซ์ไว้แน่นเลย
“พวกบ้า!” ก้มหน้าเลย น้ำสูงบริณเอวผมเอง “ถอยไปเลย!” ผมลงมายืนเองแล้วก็ไปเกาะขอบสระ “ดูดิเสื้อเปียกหมดเลย!”
“ขึ้นไปถอดแล้วเอาพาดกับเก้าอี้ไว้ไป” เฮียบอมเอ่ยขึ้นมา
“ไม่ได้!” พี่ไอซ์และพี่อ๊อฟพูดขึ้นพร้อมกัน แล้วมันมองหน้ากัน
ผมไม่สนใครทั้งนั้น ขึ้นสระแล้วถอดเสื้อไปพาดไว้ แล้วหนีไปเล่นสระเด็ก พวกพี่มันก็มองมาทางผม ผมไม่สนสักพักก็มีเด็กมาเล่นด้วยน่ารักดี มีเด็กประมาน5คน....
“เมื่อกี้พี่โดนพี่พวกนั้นแกล้งเหรอ”น้องผู้ชายพูดขึ้นมาแล้วยิ้ม น่ารักเชียว น่าจะ6-7ขวบ
“เจ็บหรือเปล่าคะ” น้องผู้หญิงจับมือผมแล้วทำหน้าเศร้า
“ไม่เจ็บครับ พี่โตแล้วแข็งแรงดี” (ยิ้ม) “ไหนน้องคนไหนสอนพี่ว่ายน้ำได้บ้าง” ยกมือกันเต็มเลย “แล้วชื่ออะไรกันบ้างครับ”
แล้วก็แนะนำตัวกันทีละคน มีน้องเฟิส น้องปาล์ม น้องตั้น น้องพิ้ง น้องหวาน น่ารักทุกคนเลย เด็กๆอัธยาศัยดีมาก และน้องๆทุกคนว่ายน้ำเป็นกันหมด เราชวนกันดำน้ำแข็งกัน เล่นปาบอลในน้ำ ทำหลายกิจกรรมเลย เล่นไปสักพักเหนื่อยกันเลยทีนี้ เด็กพวกนั้นเล่นบอลแปปเดี๋ยวก็ไล่จับกันในน้ำ แถมบางคนหนีลงสระใหญ่ ผมก็นั่งสักพัก เด็กๆก็นั่งข้างๆผมเนี่ยแหละยังไม่ขึ้นจากสระ.....
“มากับน้องๆเหรอ” ผมหันไปมองเป็นผู้หญิงหน้าตาน่ารัก น่าจะรุ่นเดียวกับผม
“เปล่า ครับมากับพวกพี่ๆ” ชี้ไปทางสามคนนั้น สามคนนั้นคือจะสนุกไปไหน ว่ายน้ำแข่งกันแข่งกันเอาเป็นเอาตายเชียว แล้วก็จับกลุ่มเล่นวอลเล่ในน้ำกับคนแถวนั้นสนุกสนานเชียว ชิ!
“เราแซนนะ แล้ว..?” มองผมด้วยท่าทางแอ๊บแบ๊ว ผมไม่ได้อคติกับผู้หญิงนะ แต่มาแนวนี้ผมรู้เลยว่าต้องการอะไร
“เรานท” (ยิ้ม) “แล้วแซนมากับใครเหรอ บ้านอยู่แถวนี้เหรอ?”
ผมกับแซนก็คุยกันไป แซนอยู่ในหมู่บ้านเดียวกับผม อยู่ซอยเดียวกับพี่อ๊อฟเลย และมาที่นี่ทุกวัน เป็นนักกีฬาว่ายน้ำด้วย คุยกันไปมาซักพักเด็กๆก็ชวนเล่นอีก เหนื่อยเลย เด็กพวกนี้แรงเยอะใช้ได้ แซนก็เกาะแกะอยู่กับผมเนี่แหละ ไม่รู้จะทำไมนักหนา.......
“กลับกันได้แล้ว!” พี่ไอซ์เดินมาตามพร้อมทำเสียงเข้ม
“อ้าว!พี่อ๊อฟ” แซนด์ทักขึ้น พร้อมกับ โบกไม้โบกมือให้กัน
“มาทุกวันเลยเหรอแซน?” พี่อ๊อฟถามขึ้นมา
แล้วก็สนทนากันเล็กน้อย แซนอยู่ข้างบ้านพี่อ๊อฟ รู้จักกัน คุยกันไปสักพักแล้วผมก็ขึ้นจากสระ แซนก็ตามมาคุยนู่นคุยนี่กับผม ส่วนพี่ไอซ์เริ่มไม่พอใจหนักแล้ว เฮียก็ไม่สนใจ พี่อ๊อฟก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง คือแซนต้องการอะไร จะไล่ก็หาได้ใช่เรื่องไม่
“แซนเดี๋ยวเราจะกลับแล้วไว้ค่อยเจอกันเนอะ” ผมตัดบทไปเลย
“อื้ม มีเฟสป่ะ?”แซนถามกลับ
“มีดิ” ผมตอบอย่างไม่ใส่ใจ ใครตอบไม่มีก็คงจะโกหกไม่เนียน ยุคนี้แล้วนะ
“อะ” ยื่นโทรศัพท์มาให้ผม ผมก็พิมพ์ไป “โอเครับด้วยน้า ไปแล้ว” โบกไม้โบกมือแล้วก็เดินไป
เราก็พากันไปล้างตัว ผมก็หยิบผ้าเช็ดตัวให้เฮีย แล้วก็พาดไปที่ประตูให้พี่ไอซ์ แล้วผมก็เข้าไปล้างตัว แต่งตัวอะไรกันเรียบร้อยคืนชุด ก็พากันกลับ พี่อ๊อฟก็แยกไป เดินมาพี่ไอซ์คุยแต่กับเฮียไม่คุยกับผม คืออะไร พอถึงบ้านผมก็เอาผ้าไปเก็บ เฮียก็นั่งดูทีวี ตอนแรกพี่ไอซ์จะกลับเลยแต่ผมจูงมือมาบนห้องกับผม...
“ตัวเป็นอะไร?” ผมถามขึ้น เมื่อพอเข้าห้องมาแล้วก็ยังเงียบใส่ผม
หันหน้าหนี งอล 100% ดีที่ยังไม่ปล่อยให้กลับ ถ้ากลับ ก็คงเดือดร้อนผมอีก
“ตัว มีอะไรก็พูดมา อย่ามาเป็นแบบนี้นะ!” เสียงดุ พี่ไอซ์หันกลับมามองผม
“ก็ตัวไปให้แซนเกาะแกะทำไม เสื้อก็ไม่ใส่” ทำเสียงไม่พอใจ
“ว่ายน้ำมาใส่เสื้อเขาไล่ออกจากสระพอดี! แล้วแซนก็เพิ่งรู้จักเขามาเกาะแกะเอง อย่างอนดินะๆ” ดึงมือพี่ไอซ์มาถูแก้ม
“ก็ตัวไม่ห่วงตัวเลย” พี่ไอซ์พูดพร้อมกับดึงมือออก
“ทำยังไงให้หายโกรธดี” ผมเข้าไปกอด พี่ไอซ์ก็ลูบหัว
“ก็อย่าทำอีกแล้วกัน” พูดเสียงอ่อนลง
ผมง้อพี่แกอีกสักพักก็ดูจะอารมณ์ดีขึ้นแล้ว ผมก็ชวนคุยไปเรื่อย....
“อยากต่อจากเมื่อตอนก่อนไปว่ายน้ำ...” พี่ไอซ์พูดพร้อมส่งยิ้มหื่นมาให้ผม
“เย็นแล้วนะ” เขินเอาจริงๆเมื่อเย็นก็แค่แกล้งนะ เฮียดันมาพอดี
“ไปนอนกับเค้า” จับมือผม
“ไม่ได้หรอก โดนป๊าด่าพอดีไปถี่ขนาดนี้” จริงๆควรรู้จักเพราๆ ไม่งั้นโดนป๊ากักบริเวณจะซวย
“เฮ้อ!” หันหลังให้ผมเลยทีนี้
“ตัว” สะกิดพี่ไอซ์ ก็ไม่หันไม่ตอบ “ตัว แล้วทำไมเมื่อคืนไม่บอกเล่า! นอนด้วยกันแท้ๆ”
“ก็เค้าเห็นตัวเหนื่อย” หันกลับมามองหน้าผม
“เค้าไปไม่ได้ ตัวจะเอายังไง” ถามพี่ไอซ์อย่างอ่อนโยน
“ช่วยเค้าหน่อยได้ไหม” โน้มหน้าเข้ามาใกล้ๆผม
“เดี๋ยวเฮียขึ้นมาจะค้างเอานะ” ผมอมยิ้ม “เดี๋ยวนะ เค้าถามก่อน?” พี่ไอซ์ก็ตั้งใจฟัง “แล้วตอนที่ตัวฝึกเป็นอาทิตย์ตัวทำยังไง”ผมมองพี่ไอซ์ด้วยความอยากรู้
“เค้าไม่ได้ทำเลย! อดมาหาตัวเลยนะเนี่ย!” ทำท่าภูมิใจ
“แล้วตกลงยังไงเค้าไปไม่ได้ ทำที่นี่เดี๋ยวเฮียขึ้นมานะ” ผมรู้สึกอายมาก มาพูดเรื่องแบบนี้ แต่พี่ไอซ์กลับหน้าเฉยชา ผมนี่ร้อนหน้าไปหมด
แกร๊ก ! นั่นไง พูดไม่ทันขาดคำ
“ทำอะไรกันวะ?” พี่ไอซ์เอาหน้าซบไหล่ผม
“พี่ไอซ์ง่วง” (ยิ้ม)
“ อืมๆ” เฮียพยักหน้าตอบ แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
“ตัวกลับก่อนดีไหม (ยิ้มให้พี่ไอซ์) “พรุ่งนี้มารับเค้าด้วย” ผมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“อืมๆ” หน้าเป็นตูดเลย
ผมก็ลงไปส่งพี่ไอซ์ พี่เขาก็ลาป๊ากับแม่ยังมีขอนะ แต่ผมรู้ว่าควรเบาๆกับการไปนอนบ้านพี่เขา ผมไปทั้งบ้านพี่อ๊อฟและพี่ไอซ์ มันเลยดูเยอะไป ก็ต้องเป็นไปแบบนี้แล้วพี่ไอซ์ก็กลับ ผมละสงสารจริงๆ แต่ใจนึงก็อยากช่วยนะ อ่านมาเยอะอยู่ที่ไม่ยอมแล้วเขาก็ไปมีใหม่ แต่ผมไม่กลัวหรอกมีสำรองเยอะ พูดเป็นเล่นไปนั่น...
พอถึงเวลาเข้านอนเฮียก็กวนผมเหมือนเดิม พอเช้ามาพี่ไอซ์มารับไปโรงเรียน ก็พากันไปพอถึงโรงเรียนก็แยกย้ายเข้าแถวขึ้นเรียนตอนเที่ยงพี่เขาก็มากินข้าวด้วย ตอนเย็นพี่ไอซ์ต้องซ้อมบอล ส่วนผมมีนัดกับสิงโตบอกพี่ไอซ์ไปแล้ว พี่อ๊อฟเข้าชมรมผมบอกไปแล้วว่าจะไปกับเพื่อนพี่อ๊อฟก็ไม่ได้ว่าอะไร มันบอกจะต้องฝึกอะไรของมันไม่รู้ไม่ว่างอยู่แล้ววันนี้ พอเลิกเรียนผมแยกกับเพื่อนแล้วก็ไปหาพี่ไอซ์ตามปกติ บอกเพื่อนๆไปแล้ว ว่าวันนี้มีนัดกับสิงโตพวกมันด่าผมกันใหญ่หาว่าผมหลายใจ ผมบอกพวกมันไปแล้วว่าไม่ได้คิดอะไรเลย แต่พวกมันก็ยังค้านอยู่เบาๆ ผมก็ไม่สนใจ ก็เป็นพวกมันเองไม่ใช่เหรอที่คะยั้นคะยอให้ผมไปขอโทษมัน ผมก็ทำแล้วนี่ จะเอาอะไรอีก ผมเดินมาหาพี่ไอซ์ข้างสนาม พี่ไอซ์ก็วิ่งมาหาผม....
“ตัวซ้อมดีๆล่ะ อย่าหักโหมนะ” เอาผ้ามาซับเหงื่อให้เช่นทุกวัน
“แต่เค้าซ้อมเย็นๆก็เลิกแล้วนะ ตัวไม่รอเหรอ?” พี่ไอซ์ถามขึ้น
“ก็มีนัดกับเพื่อน บอกแล้วไง!” ย้ำอย่างชัดเจน
“งั้นเดี๋ยวซ้อมเสร็จเค้าจะโทรหานะ ห้ามไปแรดนะ!” ทำหน้าดุ
“โอเค ไปแล้วนะ”(ยิ้ม)
“โอเคๆ” แล้วพี่ไอซ์ก็วิ่งกลับไปซ้อมต่อ
สิงโตมันโทรมารอบนึงแล้ว ผมก็เดินไปหามันหน้าโรงเรียน มองซ้ายมองขวาไม่เห็น แต่เห็นมีคนมุงอะไรกันตรงหน้าโรงเรียน ผมเดินไปดูสักหน่อยเขามีขายดอกไม้ด้วย ไอสิงโตกำลังเลือกเลย ผมเข้าไปสะกิดมัน....

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
“ซื้อให้ใคร” มันหันมา “ติดใจสาวโรงเรียนกูเหรอเสี่ย!” ยิ้ม คนมองมันเยอะอยู่ เพราะโรงเรียนผมกางเกงดำมีมันกางน้ำเงินมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้คนเดียว แล้วไม่พอ ยังหล่อขั้นเทพแบบนี้ด้วย
“อืม ติดใจวะ!” (ยิ้ม) “ช่วยเลือกหน่อย” มันก้มเลือกต่อ เป็นร้านดอกไม้แบบชุด จัดใส่ในกระถางเล็กๆน่ารักเชียว
“แถวโรงเรียนมึงไม่มีขายเหรอ” ผมก็ไล่ดูว่าอันไหนสวย “อันนี้ดีเปล่า” ผมชี้ไปให้มันดูเป็นกระถางสีขาวและข้างในเป็นดอกไม้สีแดงทั้งหมด จัดเรียงเป็นรูปหัวใจ
“อืมอันนั้นก็ได้”  แล้วมันก็หยิบให้แม่ค้า
“เอาไปให้ใครวะ?” ทำหน้าสงสัย
“เรื่องของกูน่า!” แล้วเดินนำไปที่รถ
“รถสวยนี่หว่า” ผมเดินดูรถมัน เป็นรถดูคาติ แต่งมาจนเด่นมาก สีลายกัปตันอเมริกา ดูท่าน่าจะแพงน่าดู
“ขึ้นเถอะน่า !” มันขึ้นรถ คนแถวนั้นมองด้วยความสนใจ คือหล่อ และก็ขี่รถเท่ด้วยเพอเฟคไปหมด
แล้วผมก็ขึ้นรถมัน มันบอกอยากไปหาอะไรกินในห้าง ผมก็ตามใจมันไป พอไปถึงมันก็พาเดินไปนู่นไปนี่ไม่เข้าร้านของกินสักที.....
“ตกลงมึงจะกินอะไรเนี่ย พาเข้านู่นออกนี่อยู่ได้” บ่นนิดนึง ผมก็ไม่สะดวกใจจะอยู่กับมันนานสักเท่าไหร่ มันไม่งาม
“มึงจะบ่นทำไม? หรือมึงไม่อยากมาเหรอ?” ทำหน้านอย
“เปล่าๆๆๆ อยากไปไหนเชิญเลยครับป่ะๆ” ผมก็ลากมันเข้าทุกร้าน หยิบนู่นหยิบนั้นมาดูทำเหมือนว่าเราก็สนใจจะช๊อปปิ้งกับมัน
“กินอะไรดีอ่า” ไอสิงโตพูดขึ้นพร้อม ลูบท้อง
“มึงหิวขนาดนั้นเลยเหรอวะ?” มองอย่างสงสัย
“กูอดมาตั้งแต่เที่ยงรอมึงเลี้ยงเลยนะเนี่ย!” ทุ่มทุนมาก
“มึงก็เกินไปไอห่า เดี๋ยวก็เป็นโรคกระเพาะหรอก ถ้าหิวแล้วจะชวนกูเดินทำไมเยอะแยะ” พูดตำหนิมันนิดหน่อย
“ก็กูอยากเดินกับมึงนานๆนี่” ทำเสียงอ่อย
“กินเสร็จก็เดินได้ไหม? ไปเลยๆ เดี๋ยวปวดท้องมาโทษกูอีก” ผมพูดพร้อมกับเดินนำมันไป....
ผมก็ลากมันไปกินบุฟเฟ่อาหารญี่ปุ่น มันกินเยอะจริงๆ กินเหมือนอดอยากนี่แค่มื้อเดียวนะเนี่ย ผมก็นั่งกินไปคุยกับมันไป....
“อะ” มันยื่นดอกไม้ที่ซื้อหน้าโรงเรียนให้ผมผมก็รับไว้
“ทำไมอ่ะ? มึงไม่ชอบเหรอ มันสวยดีนะ” ผมก็จับกระถางหมุนไปมา
“กูซื้อให้มึงแหละ” (ยิ้ม)
“เอ่อ...” (เขินสิทีนี้) “บะ...บ้าซื้อให้ทำไม” ทำไมรู้สึกร้อนที่หน้านะ แค่มันให้ดอกไม้ที่มันซื้อมา
“เอาน่า ทำเป็นเขินไปได้!” เอาจริงๆหน้ามันก็แดงนะ
“แหม! ถ้ารู้ว่าจะซื้อให้รู้งี้ซื้ออันที่แพงๆเลยดีกว่า555” กลบเกลื่อนเขิน55
“กี่บาทกูก็จ่าย” (ยิ้ม) หล่อรวย มันจะเพรียบพร้อมไปไหม
“พอ พอเลย กินๆไป จะได้ไม่ต้องพูดให้กูทำตัวไม่ถูก อะ” ผมตักผักให้มัน
“ดีอ่ะ” มันก็ตักผักที่ผมให้กินเข้าไป ไม่รู้เสียแล้วว่าผมไม่ชอบกินผักมันเป็นคนเอาผักใส่หม้อสะเยอะเลย
“เอาอีกเปล่า” ยิ้ม มันพยักหน้าผมก็ตักผักที่เหลือให้มัน มันจะมีเนื้อติดไปบ้าง ไม่ใช่ว่าตักแต่ผักให้มัน
“ทำไมมีแต่ผักว้า” (มันขมวดคิ้ว)
“อ้าว! มึงไม่ชอบผักเหรอ?” ผมถาม เพราะเห็นมันเอาลงหม้อเยอะ เลยนึกว่าผมเฮลที่ อะไรแบบนี้
“ก็กินได้นะไม่ถึงกับไม่ชอบ แต่มึงเล่นเอามาให้แต่ผักเลยอ่ะ” พูดแล้วดูดน้ำในแก้ว
“แหะๆ...อะ” (หยิบไก่ทอดให้มัน) “คราวนี้มีเนื้อแล้วนะ เลิกพูดมากแล้วก็กินสะ555” ผมตลกกับท่าทางมันมาก เหมือนฝืนใจจะกินแล้ว
เราก็กินไปสักพักก็อิ่ม เหลือเวลานิดหน่อยก็หาขอหวานมากินแล้วก็ไปเช็คบิลที่เคาท์เตอร์.....
“เท่าไหร่ครับ” ผมถามพนักงาน
แคชเชียร์กดนั่นนี่ เพื่อสรุปค่าเสียหาย “ทั้งหมดสองท่าน 1880.84 บาทค่ะ” (ยิ้ม)
พรึ่บ! แบงค์พัน 2 ใบ ถูกยื่นให้กับแคชเชียร์ตัดหน้าผมไป
“นี่ครับ” ไอสิงโตเอ่ยขึ้นมา
“เห้ย!” พนักงานมองด้วยความตกใจที่ผมอุทานออกมาเสียงดัง “กูออกเอง กูบอกแล้วไง”
“ไม่เอาๆ กูอยากเลี้ยงมึง” มันก็ยังท้วงไม่หยุด
“ไม่เอากูจะออก พี่ครับเอานี่” ผมยื่นแบงค์พัน2ใบของผมให้แคชเชียร์ แล้วดึงแบงค์พัน2ใบของไอสิงโตคืนมา “อะเอาไปไม่งั้นกูจะเลิกคบมึงไอสิงโต กูไม่ชอบผิดคำพูด” ทำโกรธครับ ไอสิงโตหน้าหงอยเลย
“สรุปคือ....” แคชเชียร์เอ่ยขึ้นมา คือทำหน้างงครับประมานว่า มึงสองคนจะเอายังไงอะไรทำนองนั้น
“คิดเงินเลยครับ ที่เหลือไม่ต้องก็ได้”  ยิ้มแล้วเดินลากไอสิงโตออกมาเลย บริการดี ผมไม่เอาก็ได้ตังทอน ผมใจพอ
แล้วพอออกมา ไอสิงโตก็นอยผมนิดหน่อย ที่กลัวผมจะโกรธมัน เราพูดคุยเคลียล์กันสักพัก ไอสิงโตชวนไปเกมส์เซ็นเตอร์เล่นกับมันสักพักก็ไอสิงโตก็อยากไปดูนาฬิกา ก็พามันไป....
ครืด...โทรศัพท์ผมเข้าพี่ไอซ์โทรมา ผมก็บอกไอสิงโตไปเลือกดูเลยเดี๋ยวตามไป ...
“ฮัลโหลลลลลลล”ผมลากเสียงยาว
“อยู่หนายยยยยยยยย” พี่ไอซ์ก็เล่นด้วย 5555ทำเสียงตลกเชียว
“55555 ทำเสียงอะไรแบบนั้น” ผมถามกลับอย่างอารมณ์ดี
“เค้ากลับบ้านแล้วเนี่ย! ปวดขา!”  พี่ไอซ์ทำเสียงอวดครวญ
“อ่าวตัวเป็นอะไร เจ็บมากไหม!” ถามแบบตกใจ
“เปล่าๆ เค้าแค่เมื่อย ตัวอยู่ไหน?”
“ยังอยู่ห้างอยู่เลย ใกล้จะกลับแล้ว”
“รู้แบบนี้ตามตัวไปดีกว่า เอ๊ะ! หรือไปเลยดี” แล้วก็มีเสียงกุกักเหมือนกำลังเตรียมข้าวของ
“ไม่ต้องเลย! เมื่อยขาก็พักไปเลย อย่ามานะไม่งั้นเค้าโกรธ!” ทำเสียงดุ แสดงว่าวันนี้ซ้อมหนักแน่เลยถึงกับเมื่อยจนปวด
“ตัว!.” ขึ้นเสียงใส่ผม
“ทายาหรือยัง” ผมยังคงเย็นอยู่ ไม่อยากพากันร้อนเดี๋ยวเป็นเรื่อง
“ไม่ทา รอตัวมาทาให้” เอาแล้วไง
“พี่ไอซ์!”
“ไม่รู้ยังไงก็ต้องมา! ตึ๊ด!”
วางสายไปเลย ผมละปวดหัวกับอารมณ์เด็กๆของพี่ไอซ์จริงๆเลย แล้วผมก็เดินไปหาสิงโต มันบอกยังไม่มีที่ถูกใจวันหลังค่อยมาก็ได้ ผมก็บอกมันว่ามีธุระจะไปต่อ มันก็บอกว่าจะไปส่ง ผมก็เถียงกับมันไปสักพัก มันไม่ยอม จะไปส่งให้ได้.....
“ให้ กู ไป ส่ง!” พูดเสียงแข็ง เพราะเถียงกันมาสักพักแล้ว
ผมที่เหนื่อยจะเถียงกับมันมาสักพักก็ต้องยอม มันก็ขี่รถมาส่งผมถึงหน้าบ้านพี่ไอซ์ ผมก็ไม่ลืมที่จะซื้อยานวดแก้ปวดเมื่อยมาให้พี่ไอซ์ด้วย.....
“ให้กูไปช่วยดูไหม?” ถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ล่ะมึง มาส่งก็ดีแล้ว” (ยิ้ม)
“มึงนี่ชอบดูแลคนอื่นจังวะ?” ไอสิงโตเอ่ยถามพร้อมทำหน้าหล่อ
“ก็กูเป็นคนดีไง” (ทำหน้าภูมิใจ)
“งั้นถ้ากูป่วยหรือเจ็บ มึงมาดูกูบ้างนะ” โน้มหน้ามาใกล้ๆผมแล้วยิ้ม ผมก็ลงจากรถไปยืนข้างๆมัน
“ไอเวร!” เคาะหัวมัน “มึงอย่าพูดอะไรเป็นลางไม่ดีสิวะ!” โกรธ ผมไม่ชอบเลยมันรู้สึกไม่ดี ไม่อยากให้คนใกล้ตัวเจ็บป่วยด้วย
“กูแค่หมายถึง” มันพูดแล้วลูบหัวมัน
“กูก็ดูแลสิเป็นห่วงนั่นแหละ” (ยิ้ม)
“อื้ม กูไปแล้วดีกว่า ไว้กูจะโทรหานะ” (ยิ้ม)
“อื้มๆ ขับรถดีๆล่ะ บาย” มันขับรถออกไปส่วนผมก็กดกริ่งหน้าบ้าน
สักพักแม่พี่ไอซ์ก็ออกมารับเข้าบ้าน วันนี้พี่อาร์มกับพ่อไปธุระ ส่วนพี่ไอซ์ก็หมกอยู่บนห้องผมคุยกับแม่พี่ไอซ์ซักพักก็ขอตัวขึ้นไปหาพี่ไอซ์ โดยไม่ลืมหยิบน้ำไปให้ด้วย พอถึงหน้าห้องผมก็เคาะประตู แต่ไม่มีการตอบรับ ผมเลยบิดประตูเข้าห้องไปเลย คือห้องไม่ได้ล็อค พี่ไอซ์นอนคว่ำอยู่บนเตียง ผมก็เอาของไปวาง โดยไม่ลืมเก็บดอกไม้ไอสิงโตเข้ากระเป๋า แล้วก็ไปนั่งบนเตียง......
“ตัว!” ผมเรียกพร้อมกับดูที่ขา เป็นรอยช้ำนิดหน่อย ผมก็ยกดูทั่วๆก็ไม่มีอะไรมาก
“อื้อ!” ยกขาออกทำท่าจะถีบมาทางผม ผมลุกหนีแทบไม่ทัน “เห้ย!ตัว” พี่ไอซ์รีบเด้งขึ้นมานั่ง
“คือจะทำร้ายร่างกายเหรอ?” ผมหยิบหมอนขึ้นมากอด ใจจริงรู้อยุ่แล้วว่าพี่ไอซ์แค่สะดุ้งที่มีคนไปกวนการนอน
“ตัวเค้าขอโทษ เค้ากระตุก” ทำหน้าสำนึกผิดแล้วเดินมากอด
“พอเลยๆ” ผมโยนหมอนลงเตียง “ทายาด้วย” หยิบกล่องยาแล้วยื่นให้พี่ไอซ์ “แล้วเค้าเอาน้ำมาให้นู่นนะ” ชี้ไปที่โต๊ะ “เค้ากลับแล้วน้ามันเย็นแล้ว” ยิ้มแล้วเดินไปหยิบกระเป๋า แต่พี่ไอซ์ก็ล้มตัวนอนท่าเดิม “ตัวลุกขึ้นมาทายาเลย”
“.......”(เงียบ)
“ตัว!” งอนอีกแล้วสินะ “เฮ้อ!” ผมเอากระเป๋าไปวางไว้ที่เดิมแล้วก็เดินออกไประเบียงโทรศัพท์บอกแม่ว่าจะกลับค่ำหน่อยแล้วก็เดินมาในห้องพี่ไอซ์นอนคว่ำทำไม่รับรู้อะไร
ผมก็ไปแกะกล่องยา แล้วยกขาพี่ไอซ์ขึ้นมาทายาเพื่อบรรเทาให้ไปก่อน ลำบากเหลือเกินต้องทำขนาดนี้เลยนะ! พอทายาเสร็จก็นอนข้างๆพี่ไอซ์...
“โอเคหรือยัง?” ยังไม่มืดมาก 6โมงกว่าอยู่ยังพอมีเวลาอยู่กับพี่ไอซ์
“อืม” พลิกตัวนอนหงายขึ้นมา
“เจ็บมากไหม?” ผมถามด้วยความห่วงใย
“เมื่อยๆ ปวดๆ” ยกขาขึ้นมาดู
“กินยาสักหน่อยดีกว่า กินข้าวยัง?” พี่ไอซ์ส่ายหน้า
ผมก็ลุกลงไปจัดนู่นนี่ให้โดยบอกแม่พี่ไอซ์ไป แม่พี่ไอซ์ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าพี่ไอซ์ปวดขา แม่พี่ไอซ์ก็ให้ผมเตรียมข้าวไปแล้วแม่ก็ขึ้นไปดูพี่ไอซ์ สักพักก็ลงมาเอายาให้ผมเพื่อเอาไปให้พี่ไอซ์ พอเข้าไปในห้องพี่ไอซ์นั่งหน้างอใหญ่เลยสงสัยโดนบ่น.....
“มาแล้วววว”(ยิ้ม)
“ตัวไปบอกแม่เค้าทำไม เค้าโดนบ่นเลย” เอาแล้วไง
“เค้าเป็นห่วงตัวกันทั้งนั้นแหละ มีอะไรก็รีบบอกดีที่สุดแล้ว ถ้าเป็นหนักจะทำยังไง!” หงุดหงิดจริงไม่รู้จักโตเลย
“ตัว!” โอย หน้าตอนงอแงนี่ ทำผมใจเต้นแรงเชียว โอย ไม่ใช่แล้ว
“มากินข้าวกินยาเลย! แล้วรีบไปอาบน้ำจะทายาซ้ำให้” ผมดึงพี่ไอซ์ให้ลุกมา ยากเย็นเหลือเกิน
แล้วผมก็จัดข้าวยาให้พี่ไอซ์ พอกินเสร็จก็ไล่ไปอาบน้ำผมจะได้ทายาให้พี่เขาอีกรอบ พอออกมาก็ไม่ยอมให้ทายา เดินไปเดินมาผมละหน่ายเลย กว่าจะทำอะไรเสร็จ.....
“ตัวนอนได้แล้วเดี๋ยวเค้าจะเอาของไปเก็บให้” ยิ้ม แล้วผมก็เอาถาดลงไปเก็บข้างล้าง คุยกับแม่พี่ไอซ์นิดหน่อยแล้วขึ้นมา พี่ไอซ์ก็หลับไปแล้ว
ผมก็จัดการห่มผ้าห่มให้ แล้วเขียนโพสอิทแปะไว้บนหัวเตียง จากนั้นผมก็กลับบ้าน แต่มันค่ำแล้วรถไม่มีน่ะสิ ผมเลยโทรหาเฮีย แปปเดียวก็รับ.......
“ ว่า!” 
“ผมเฮียมารับหน่อยยยยย”(ทำเสียงอ้อน)
ผมคุยและบอกพิกัดเฮียนิดหน่อย แล้วผมก็มายืนรอหน้าซอยหมู่บ้านพี่ไอซ์ รถผ่านค่อนข้างเยอะไม่เปลี่ยวสักเท่าไหร่ ผมกดโทรศัพท์เล่นไปเรื่อย ผมก็เข้าเฟส พอเข้าไปแชทเด้งเพียบเลย ผมก็ไม่สน เปล่าหยิ่งแต่ขี้เกียจจะตอบ ยืนรอนานเว่อร์ ผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่มา โทรหาก็ไม่รับ น่าหงุดหงิดจริง ผมก็นั่งแถวริมฟุตบาทรอ สักพักรถเฮียก็มาจอด แล้วเลื่อนกระจกลง.....
“ขึ้นมาดิ้!” ตะโกนเรียก
“เฮียช้าจังอะ!” พูดด้วยความหงุดหงิดแล้วก็เดินขึ้นรถ
ผมบ่นเฮียมันนิดหน่อย เราก็พากันกลับมาบ้าน ทำอะไรเสร็จก็เข้านอนพอมาอีกวันพี่ไอซ์บ่นใหญ่เลย เรื่องที่ผมกลับแล้วไม่บอก ส่วนพี่อ๊อฟช่วงนี้ก็ยุ่งๆกับการฝึกอะไรของแกก็ไม่รู้ ไอสิงโตก็ทักมาตลอดชวนผมไปเที่ยวบ้าง ส่วนแซนที่ไปเจอกันที่สระน้ำก็มาหาผมถึงบ้านเลย บอกแอดเฟสมาแล้วไม่รับสักทีอย่างนู้นอย่างนี้ ง่ายๆคือเขาจะจีบ แต่ผมก็บอกไปว่าผมไม่ได้ชอบผู้หญิง แต่ก็ยังตื้อไม่เลิก ออกตัวแรงขนาดนั้นเป็นใครๆก็กลัว พี่ไอซ์ก็น่ารักขี้งอนเป็นเด็กเหมือนเดิม เป็นแบบบนี้จนเวลาผ่านไป 3 เดือน มันก็มีบางอย่างเปลี่ยนไป…….
การแข่งบอลของพี่ไอซ์ก็แข่งกับโรงเรียนไอสิงโต แถมไอสิงโตแข่งด้วย แข่งกันตรงสนามกีฬาประจำจังหวัด แต่ก่อนที่พี่ไอซ์จะไปแข่งพี่ไอซ์ก็ซ้อมหนักเหมือนเดิม ไม่ได้เจอไม่ได้คุยเลยเป็นอาทิตย์ ผมกับพี่อ๊อฟก็จะอยู่ด้วยกันเป็นส่วนมาก พี่อ๊อฟก็น่ารักขึ้นทุกวัน นับวันยิ่งทำตัวหวาน ไม่กระด้างเหมือนเมื่อก่อน และพี่ไอซ์ ก่อนแข่งก็ทำตัวปกติ ไปซ้อมอะไรก็พยายามติดต่อหาผม แต่พอก่อนแข่ง2-3วันเขาก็หายไปเลย ผมก็ไม่แปลกใจอะไรหรอก เพราะอาจจะซ้อมหนัก และพี่อ๊อฟก็มีท่าทีแปลกๆไป ทำตัวดีกับผมแบบเหมือนเป็นคนละคน เทคแคร์ดีเว่อร์ และบางครั้งก็ทำหน้าเครียดๆเหมือนอยากจะบอกอะไรผมสักอย่าง แต่ก็ไม่บอกผมก็ไม่ใส่ใจ คิดว่าคงไม่มีอะไรมาก
ก่อนวันแข่ง 1 วันผมจำได้ว่าโค้ชจะให้นักกีฬาพักผ่อนอย่างเต็มที่ ผมจึงไปหาพี่ไอซ์ โดยไม่ลืมที่จะซื้อขนมน้ำของชอบพี่เขาไปให้ด้วย ผมไปหาพี่ไอซ์ที่สนามกีฬาที่จะแข่งเพราะเขาต้องไปซ้อมและเก็บตัวอยู่ที่นั่นเลย พี่อ๊อฟไม่ว่างผมเลยมาคนเดียว แต่ก่อนจะไปถึงห้องเก็บตัวของพีไอซ์ผมต้องเดินผ่านห้องเก็บตัวของไอสิงโตผมเห็นไอสิงโตคุยกับเพื่อนอยู่เลยไปทักมัน......
“เสี่ย!” ยิ้มหน้าบาน พวกไอสิงโตก็หันมามอง พวกมันทำหน้าสงสัย
“อ้าว! มาได้ไง” มันวิ่งมาหาผม
“มาหาพี่ไอซ์อะเส้” ยิ้มสิงโตทำหน้าเซ็งเลย
“กูก็นึกว่ามาหากู!” ทำหน้าเซ็ง ไอสิงโตกับพี่ไอซ์เคยได้เจอกันแล้ว แต่ก็ปกติดี คุยกันปกติไม่ได้มีทีท่าว่าจะเกลียดอะไรกัน
“โห อย่างอนเลย! อะ” ผมยื่นนมกล้วยของโปรดมันให้ ผมหยิบมาเผื่อมันด้วย เพราะรู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ต้องเจอ
“แสนรู้จังว่ากูชอบ”(ยิ้ม )
“ไอห่า!” มองค้อนมันไปทีนึง “แล้วพวกไอโค้กไม่แข่งเหรอ ทำไมมีมึงมาแข่งอยู่คนเดียว” ผมมองหาเพื่อนมัน
“ไม่ว่ะ กูลงคนเดียวพวกนั้นขี้เกียจกันจะตายห่า!”(ยิ้ม)
“ห้องน้ำอยู่ไหนว้า” ปวดฉี่สะงั้น
“อยู่ตรงกลางนั้นไง” มันชี้ไปที่ห้องน้ำที่คั่นกลางระหว่างห้องพักทีมมันกับห้องพักทีมพี่ไอซ์ คือผมไม่เคยมาดูพี่ไอซ์ฝึกที่นี่หรอก มันค่อนข้างไกลเลยมาวันนี้ที่พี่เขาพัก และพรุ่งนี้มาดูเขาแข่งกันเลย “และนั่นก็ห้องแฟนมึง!” ทำเสียงติดจะไม่พอใจ
“โห!ดูพูดเข้า! ไปส่งเข้าห้องน้ำหน่อยกูกลัว” คนเยอะไม่ได้อะไร555มันมีทั้งนักกีฬาและก็คนมาออกกำลังกาย
“เออๆ” มันลากแขนผมให้ไปกับมัน แต่ว่า...
“มึงจะพากูไปไหนห้องน้ำอยู่นั่น” ผมหันกลับไปดู มันพาผมเข้ามาในห้องพักนักกีฬา
“ตามมาเถอะน่า” เพื่อนมันก็มองกัน ผมนี่ก้มหน้าอย่างเดียวเลย
เดินทะลุไปทางด้านหลังจะมีห้องน้ำอีกห้อง เป็นห้องน้ำนักกีฬาสำหรับอาบน้ำด้วย ใหญ่กว้างพอสมควร มันดีขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย.....
“รีบเข้าไปได้แล้ว มัวแต่ยืนดูอยู่ได้!” ดันผมเข้าไปในห้องน้ำ
“เออๆ มึงห้ามไปไหนนะเว้ย!พากูมาแล้วอย่าทิ้งนะ!” ทำหน้าระแวงมัน มันก็พยักหน้าตอบรับ 
แล้วผมก็เข้าห้องน้ำไป ขณะที่ผมทำธุระส่วนตัวผมก็ได้ยินเสียงไอสิงโตคุยกับใครบางคน....
“ไงวะพวกมึง”ไอสิงโตเอ่ยทัก
“ไง ซ้อมเป็นไงวะโรงเรียนมึง”เสียงคุ้นๆ พี่ไอซ์หรือเปล่านะ ผมฟังไม่ค่อยชัดเลยรีบฉี่แล้วเอาหูไปแนบฟังจะเซอร์ไพร์ซสักหน่อย
“ก็ดีวะ แล้วมึงล่ะไอซ์?” ไอสิงโตถามกลับ ใช่พี่ไอซ์จริงๆด้วย
“ก็ดีวะ โรงเรียนกูเคร่งตลอดแหละ” ทำเสียงเหนื่อยๆ ผมก็ยิ้มขึ้นมา
“อืมๆ แฟนมึงมานะ” ไอสิงโตพูดขึ้นมา
“คนไหนวะ” เสียงร่าเริงเชียว แต่คนไหนนี่มันหมายความว่าไงกัน
“มึงมีแฟนเยอะขนาดนั้นเลย?’ ไอสิงโตถามย้ำ
“ก็คนมันหน้าตาดีนี่หว่า”พี่ไอซ์พูดทีเล่นทีจริง
“ถุยไอห่า! แฟนมึงก็เพื่อนกูไง!” หมายถึงผมสินะ
“อ่อๆ” พี่ไอซ์ตอบ
“ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่ายังไง?” ไอสิงโตถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ทำหน้ายังไงวะ
“เปล่าๆ กูแค่....เบื่อๆ”(!!)
“มึงพูดอะไรเกรงใจกูหน่อย ไม่กลัวกูเอาไปบอกมันหรือยังไง!” สิงโตตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดูจะไม่พอใจ
“ช่างเถอะมึง! แล้วอยู่ไหน” คงถามว่าผมอยู่ไหนสินะ
“รอมึงอยู่ข้างนอกนู่นแหละมั้ง!” ไอสิงโตบอก
“อืมๆ” แล้วผมก็ได้ยินเสียงคนเดินไป..
ผมค่อนข้างจะคิดมากกับคำพูดพี่ไอซ์ ตั้งแต่คบกันมามันก็ไม่มีทีท่าว่าจะเบื่อผมสักนิด ผมหรือเปล่าที่เป็นฝ่ายต้องเบื่อที่ต้องคอยตามใจมัน! คิดแล้วหงุดหงิด
ก๊อกๆ!
“ออกมาได้แล้วมั้ง!” สิงโตตะโกนเรียกผมผมก็เปิดประตูออกมา
“……” เงียบยังคงจมอยู่ในความคิดตัวเอง
“มึงไม่เป็นอะไรนะ?” จับไหล่ผม
“คนที่มึงพูดด้วยเมื่อกี้ใช่พี่ไอซ์หรือเปล่า?” ถามมันเผื่อผมจะคิดไปเอง
“ใช่ดิ! ทำไมวะ!” หน้านิ่ง
“พี่เขามีแฟนเยอะเหรอวะ? ทำไมกูไม่รู้” เอาจริงๆไม่รู้อะไรเลย อยู่ด้วยกันก็แทบทุกวันโทรศัพท์ก็เช็คทุกวัน นอกจากมาแข่งเนี่ยที่ไม่ได้คุย มันจะเร็วไปไหมแค่อาทิตย์เดียว! ผมมัวแต่ตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง โดยไม่ได้ถามถึงการกระทำที่ไอสิงโตมันทำ มันก็รู้อยู่แล้วผมอยู่ในห้องน้ำ ทำไมต้องบอกว่ารอข้างนอก ต้องการให้ผมได้ยินอะไรงั้นสินะ....
“กูจะไปรู้มึงเหรอ แต่กูก็เห็นมีผู้หญิงไปคุยกับมันบ้าง ไม่ได้สังเกตุตลอดเวลา” ทำไมมันตอบเลี่ยงๆเหมือนไม่อยากบอก
“แล้วที่ทำหน้าเมื่อกี้เขาทำหน้ายังไง?” ตอนนี้ความรู้สึกคือตัวเบาๆ มันเหมือนว่างเปล่าและรู้สึกหน่วงๆ
“มึงอย่าใส่ใจเลย มันก็พูดเลอะเทอะไปทั่วแหละ ออกไปหามันก่อนไหม” ยิ้มอ่อนโยนให้ผม
“อืมๆ” ผมพยักหน้าตอบรับ 
แล้วมันก็พาผมออกไปผมเห็นพี่ไอซ์นั่งอยู่ตรงแสตน สิงโตมันก็พาผมเดินไปหาพี่ไอซ์ พอเดินไปถึงเพื่อนพี่ไอซ์ก็ยิ้มทักทายผม แล้วก็ลุกไปกัน ไอสิงโตก็เดินไปหาเพื่อนมันที่นั่งอยู่แถวนั้น....

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
“ไงตัว” (ยิ้ม)
“อะ...ตัวเค้าซื้อมาให้” ยิ้ม มันคือยิ้มแบบฝืนๆ ผมว่ามันมีอะไรแปลกๆพี่อ๊อฟกับไอสิงโตต้องรู้อะไรมาแน่ๆ
“อื้ม ทำไมไม่บอกก่อนจะมา แล้วมาคนเดียวเหรอ?” ดึงผมไปนั่งข้างๆ
“อะ...อื้ม พี่อ๊อฟไม่ว่าง แล้ว....ตัวเหนื่อยหรือเปล่า เป็นยังไงบ้าง” เป็นคำถามเดิมๆ ที่ผมมาหาตอนที่พี่ไอซ์ซ้อมบอลแต่ทำไมความรู้สึกผมเปลี่ยนไป หรือเพราะสิ่งที่ได้ยินมา
“ไม่เหนื่อยเลยนะ แค่ตัวมาก็ไม่เหนื่อยแล้ว” ยิ้มร่า ก็ปกติดี....
“คือ....ตัว...มีอะไรจะบอกเค้าหรือเปล่า” ผมพูดจบ ผมเอามือเช็ดน้ำที่คางให้พี่ไอซ์
“บอกอะไร” ทำหน้าไม่รู้เรื่อง
“อื้ม...เปล่า” ผมฝืนยิ้ม พร้อมกับส่ายหัว “ตัวปวดขาหรือเปล่าเค้าจะนวดให้” ผมก้มไปดูที่ขา
“ไม่เป็นอะไรตัว ไม่เมื่อย มันชินแล้ว” ยิ้ม
ผมกับพี่ไอซ์ก็นั่งคุยกันไป แต่ทำไมแค่เวลาอาทิตย์นึง ความรู้สึกของพี่เขาทำไมมันเปลี่ยนไปแปลกๆ หรือเพียงแค่ผมได้ยินที่พี่ไอซ์คุยกับไอสิงโต คุยไปสักพักผมก็กลับพี่ไอซ์ก็มาส่งผมขึ้นรถพี่ไอซ์ก็ยังคงปกติ ไม่มีอะไรผมนั่งรถสองแถวกลับบ้านมาผมก็นอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เฮียกลับไปแล้วกลับไปได้2อาทิตแล้ว ผมนอนคิดไปคิดมาสักพักโทรศัพท์เข้า ไอสิงโตโทรมา....
“ว่า?”
“มึงโอเคหรือเปล่า”
“โอเคดิ...” ใจจริงก็ไม่แน่ใจว่าโอเคไหม
“คือถ้ามึงรู้สึกไม่ดีกูขอโทษนะ” 
“เรื่องอะไร มึงไม่ได้ทำไรผิดนะ”
“อื้มๆ มึงโอเคก็ดีแล้ว พรุ่งนี้มาดูกูแข่งด้วยนะ” มันพูดด้วยเสียงที่ดูร่าเริง
“ได้....กูจะซื้อดอกไม้ไปให้ด้วย โอเคไหม?”
คุยกันอีกหน่อย แล้วมันก็วางสายไปผมก็โทรหาพี่อ๊อฟ ก็ไม่รับสาย ผมก็เลยโทรหาปอแทน....
“ว่าไงมึง” ปอรับพร้อมกับพูดขึ้น
“มึงกูมีเรื่องเครียดๆวะ” ผมเอ่ยขึ้นมาเสียงไม่ดังมากนัก
“อะไรวะ แจ่บๆ!” มันเคี้ยวอะไรอยู่นะ -_-“”
“เอาจริงมึงว่างไหม?” ผมถามมัน
“นั่งแดกเค้กกับไอโต้อยู่ แต่คุยได้ๆ”
“แดกไปเถอะจ้ะ ไว้กูจะโทรหา!”
แล้วผมก็วางสายไปเลย ผมใจไม่ดียังไงไม่รู้ กลัวว่าพี่ไอซ์จะเบื่อผมอย่างที่พูด คือถ้าจะเลิกผมก็คงไม่เฮิร์ทอะไรขนาดนั้นหรอก แต่มันเหมือนก้ำกึ่ง คือถ้าเบื่อทำไมไม่เลิกแล้วผู้หญิงที่คุยด้วยคนนั้นคือใคร ผมอาจจะทำตัวน่าเบื่อหรือดีไม่พอหรือเปล่าหรือยังไง แต่พูดถึงผมกับพี่ไอซ์ก็ยังไม่เคยมีอะไรกันเลย เพียงแค่ช่วยพี่ไอซ์บ่อย แต่คงไม่ใช่เพราะเรื่องนี้หรอก คือในหัวผมตอนนี้คือมันคิดไปหมด ผมเสียดายเวลา ผมยอมตามใจยอมเอาใจพี่ไอซ์ คือผมกลัวถูกทิ้งแบบไม่รู้ตัวจริงๆ หรือที่ผมทำกับไอเบสมันจะย้อมมาทำร้ายผมเอง แต่นั้นไอเบสมันก็เลวเองด้วย คิดมากไปหมด ผมเลยลุกขึ้นแล้วเดินออกบ้านไปหาพี่อ๊อฟ ไม่รู้ว่ากลับมาจากข้างนอกหรือยัง พอไปถึงผมก็เห็นรถจอดอยู่น่าจะมาแล้วผมเลยกดกริ่ง สักพักพี่อิฐวิ่งออกมา เขาบอกว่าเพิ่งกลับมาได้สักพักนี่เองพี่อ๊อฟอยู่ด้านบน พี่เขาพาผมเข้าบ้านผมก็ทักทายพ่อแม่พี่อ๊อฟแล้วขอตัวขึ้นไปหาพี่อ๊อฟ ประตูไม่ได้ล๊อคผมเข้าไปเลย ไม่คงไม่เคาะหรอกประตูอ่ะ.......
“อ้าว!มาได้ยังไง” พี่อ๊อฟเดินโป๊ออกมาจากห้องน้ำ มีการยิ้มให้ด้วยนะ
“เห้ย!!” หันหน้าเข้าประตู “ทำไมไม่ล๊อคห้อง!ยังมีหน้ามายิ้มอีกไอบ้า!”
“อะไรของมึง!” แล้วมันก็เดินไปใส่ผ้า
ผมก็นั่งรอที่เตียง พี่อ๊อฟเอาผ้าพันเอวไว้แล้วผมนั่งดูพี่อ๊อฟแต่งตัว.....
“อยากจับเหรอ มองอยู่ได้” ยิ้มหล่อส่งมา
“บ้าแล้ว!” รู้สึกร้อนๆที่หน้ายังไงไม่รู้ “มานี่เลย  ปุปๆ!” ผมตบที่ข้างๆผมแล้วพี่อ๊อฟก็เดินมานั่ง
“ทำไมวะ?” ผมหยิบผ้าในมือพี่อ๊อฟมาเช็ดหัวให้พี่มัน “น่ารักนะเนี่ย” หูมันแดงเชียว
“ไม่ชอบหรือยังไง?”  ผมถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ชอบๆๆ ทำนานๆเลยก็ได้” เสียงหวานเชียว
“พี่เบื่อผมป่ะ?” เช็ดไปสักพักก็ถามมัน
“โครตๆๆๆๆเบื่อมึงเลย” ทำเสียงเซ็ง ผมถึงกับหยุดเช็ดหัวแล้วเอาผ้าโยนใส่หน้ามันเลย “โอ๊ย! กูล้อเล่น ซีเรียสอะไรวะดูทำหน้าเข้า” (ยิ้ม)
“ผมน่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ” คือไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้ายังไงแต่รู้ว่าแย่มาก
“กูล้อเล่นมึง กูไม่เคยเบื่อมึงหรอก” จับมือผม “ไปได้ยินอะไรมา?” ทำหน้าสงสัย
“เปล่าๆ แล้วพี่....มีอะไรจะบอกผมไหม” พี่อ๊อฟชะงักไปนิดผมก็มองอย่างสงสัย
“อะ....เอ่อคือ.....” ผมก็มองมันอย่างตั้งใจ “มะ...ไม่มีอะไรหรอก” มันทำหน้ามีพิรุธ
“………” เงียบแล้วหันหลังให้มัน มันต้องมีอะไรจริงๆแหละ แต่เอาจริงๆเราพร้อมจะฟังเหรอผมคิดไปทั่ว พี่อ๊อฟก็สะกิด
“โกรธเหรอวะ” ทำเสียงหงอย
“เปล่า แค่ผมคิดว่ามีอะไรจะบอกก็รีบบอกเหอะ จะได้รีบเตรียมใจ” รู้สึกโหวงเหวงในใจแปลกๆ “ไม่ช้าก็เร็วยังไงก็ต้องรู้”ผมหันหน้าไปหาพี่อ๊อฟ “จะบอกอะไรก็บอกมา!” ทำหน้าจริงจังพี่อ๊อฟก็ชะงักไปนิด
“มึงนี่น้า” ส่ายหัวให้ผมแล้วลูบหัวผม
“มีอะไรก็บอกเถอะ อย่าทำให้ผมเป็นคนโง่เลยนะ” จับมือพี่อ๊อฟ
“ใจจริงกูอยากจะให้มึงรู้เองนะเนี่ย แต่กูไม่อยากเห็นมึงเสียใจว่ะ” ทำหน้าเศร้า
“ตกลงมันคืออะไร ที่พี่จะบอกมันเรื่องเดียวกับที่ผมคิดหรือเปล่า!” เริ่มไม่แน่ใจ
“เรื่องเดียวกันนั้นแหละ เรื่องไอไอซ์ใช่ไหม!” ทำไมดูหงุดหงิด? ผมก็พยักหน้า
“เฮ้อ!” ผมถอนหายใจแบบรู้สึก ท้อยังไงไม่รู้ ร้อนที่ตาด้วย
“เห้ย!มึงอย่าร้องน่า” โอบไหล่ผม “ยังมีกูเสมอ” ยิ้ม พี่อ๊อฟน่ารักเสมอจริงๆ
“ปะ..เปล่าใครร้อง แค่หาว” แถไปสิ
“ปากแข็ง!” ขยี้หัวผม ผมก็หัวเราะ พี่อ๊อฟก็มองผม “มึงอยากฟังจริงๆเหรอ?” โน้มหน้าเข้ามาถามใกล้ๆ
“ยังไงก็ต้องรู้ป่ะ! ฟอด!” พูดจบโน้มหน้าไปหอมพี่อ๊อฟ พี่อ๊อฟหูแดงเขินสินะ
“มึงนี่นะ” หอมผมคืน
“เล่าเถอะเดี๋ยวก็ได้ทำอย่างอื่นแทนก่อนแล้ว” เขิน..พูดเองเขินเอง
“งั้นทำอย่างอื่นก่อนได้หรือเปล่าวะ” ทำหน้าหื่น
“พอเลย! มีอะไรจะบอกก็บอกเถอะ” ผมพูดพร้อมกับเปลี่ยนสีหน้าจริงจังขึ้นมา
“เอ่อคือ.....” มองผมด้วยสีหน้าเรียบนิ่งทันที
“ถ้ายังทำหน้าแบบนั้นอยู่นะ” ชี้หน้ามัน
“โอเคๆ ดุจังวะ!”ยิ้ม “ก็คือว่าเอ่อ....คือ...จะเริ่มยังไงดีวะ” ทำหน้าเหมือนไม่อยากเล่า “กูถามมึงก่อนแล้วกัน มึงมีความสุขใช่ไหมที่ได้อยู่กับไอไอซ์?”
“ก็มีดิ” ผมตอบทันที โดยไม่ลังเล
“อืมๆ” พยักหน้า “แล้วเวลามันงอนมึงก็ง้อมันทุกอย่างใช่ไหม?”
“พี่ถามเหมือนไม่รู้เนอะ! ผมมีอะไรก็เล่าให้พี่ฟังตลอด!” จริงๆก็เล่าให้พี่อ๊อฟฟังไปเกือบหมด
“แล้วมึงเคย....กับไอไอซ์ป่ะ?!” ถามผมมีการทำหน้าลุ้นๆ เอาจริงๆถึงจะเล่าเกือบทุกเรื่องแต่ผมว่าเรื่องนี้ไม่ควรเล่าหรอก5555
“ไม่นะ!” ผมพูดพร้อมทำหน้าเฉยๆ พี่อ๊อฟนี่ยิ้มบาน “แต่ก็มีเคยช่วยพี่ไอซ์”ผมยกมือขึ้นมาแล้วกำ“คงเข้าใจความหมายนะ”พี่อ๊อฟเผยยิ้มออกมา ผมก็อายนะ ทำไมต้องพูดด้วยก็ไม่รู้
“เป็นบ้าอะไรยิ้มอยู่ได้” ผมอายมากนะ เรื่องพวกนี้มัน เป็นเรื่องส่วนตัวสุดๆ
“แล้วมึงรักมันมากไหม?”เปลี่ยนน้ำเสียงพร้อมทำหน้าจริงจัง
“ไม่รู้ดิ นานไปยิ่งเหมือนพี่กับน้องมากกว่า คือพี่ไอซ์นิสัยเด็กมากเลย อย่างที่เคยบอก แต่ก็รู้สึกดีด้วยนะ” คือก็รัก แต่คงไม่มากหรอกมั้ง ไม่รู้ดิบอกไม่ถูก
“คือจริงๆ ไอไอซ์มันมาบ่นกับกูสักพักแล้วว่ามัน เอ่อคือ….” มันพูดแล้วหลบตาผม
“พูดเถอะพี่ ไม่มีอะไรจะเสียแล้วมั้งได้ยินมาขนาดนี้!” น่าหงุหงิดจริง
“ก็มันมาบ่นๆว่ามัน...เบื่อมึง” ผมชะงักไปนิด “ช่วงก่อนที่มันจะไปซ้อม!” พูดจบก็จับมือผม
“อืมๆ แต่พี่ไอซ์ก็ยังทำตัวปกตินะ” ผมหันไปถามด้วยสีหน้าเศร้าๆ
“อืมมันเป็นแบบนั้นแหละ! มึงก็รู้มันดื้อเงียบ” บีบมือผมเบาๆ ประมานให้รู้ว่ามึงยังมีกูอะไรทำนองนั้นมั้ง
“โห! นี่ผมกำลังจะโดนทิ้งเหรอเนี่ย” ฝืนยิ้มส่งไปให้พี่อ๊อฟ
“ใช่ที่ไหน!” พูดจบก็โอบไหล่ผม
“แล้วพี่ไม่ดีใจเหรอ ที่มันต้องเป็นแบบนี้” ผมหันไปถามมัน
“ไม่...กูไม่ชอบเห็นมึงเสียใจ” (ยิ้ม) “ตอนแรกกูกับสิงโตอยากให้มึงรู้เองนะเนี่ย!”
“เดี๋ยวนะ! ไอสิงโต?ทำไม?” (ทำหน้างง)
“ตอนแรกที่ไอไอซ์บอกกูกูก็คิดนะว่าถ้ามึงรู้จะโอเคไหม อีกใจนึงกูก็อยากจะบอกมึงนะแต่กลัวว่าบอกมึงไปก็จะเป็นการใส่ร้ายหาว่ากูทำลายความรักมึงกับมัน” มันหันมายิ้มอ่อนให้ผม “จนมันไปซ้อมได้2วันไอสิงโตก็นัดกูไปเจอแล้วถามเรื่องไอไอซ์แล้วมันก็บอกว่าไอไอซ์...มันมีผู้หญิงมาหาที่สนามทุกวันแล้วมึงหายไปไหน กูก็เลยบอกมันไปว่ามึงไม่ได้มาเพราะมันไกลทั้งเรื่องที่มึงคบกับไอไอซ์ก็ปกติ จนวันนี้ที่มึงไปไอสิงโตก็พยายามจะทำให้มึงรู้นะ” บีบไหล่ผม ผมก็นั่งคิดตามที่มันพูด ก็จริง ถ้าอยู่ๆพี่อ๊อฟมาบอกผมก็ต้องไม่เชื่ออย่างแน่นอน เฮ้อ! เอายังไงดีทีนี้ ผมกำลังจะโดนทิ้งเหรอเนี่ย
“แล้วพี่กับไอสิงโตไปสนิทกันตอนไหน เห็นเจอกันทีไรก็ได้แค่มองกัน ไม่เห็นจะคุยกัน?” สงสัยจริงๆ เพราะที่ผ่านมาตอนพี่มันไปกับผมกับไอสิงโตไม่เห็นจะพูดอะไรมาก
“ไอสิงโตมันจะจีบมึง แล้วมันก็เข้าทางกูมันเห็นมึงสนิทกับกู” ทำหน้าโหด
“แล้วพี่ก็จะช่วยมันเนี่ยนะ จะเป็นพระเอกอีกแล้วเหรอ” (ยิ้ม)
“กูไม่ได้บอกว่าจะช่วยนะ แต่มันคิดเองเออเอง5555” ผมก็ยิ้ม “ส่วนเรื่องวันนี้มันก็โทรมาบอกกูแล้ว มันเดาถูกด้วยนะ! ว่ามึงต้องมาหากู”
“เฮ้อ! ตอนนี้ก็เหลือแค่....รอพี่ไอซ์เขี่ยทิ้งใช่ไหมเนี่ย” ทำหน้าเซ็งแล้วก็ล้มตัวนอน
“มึงโอเคนะ” ลูบหัวผม
“อืม แค่สงสัยน่ะ เบื่อผมเบื่อเรื่องอะไร เพราะอะไร ผมทำไม่ดีพอ หรือเขามีคนใหม่แล้วเหรอ? ไปมีตอนไหนทำไมเร็วจัง” คิดไปหมด นี่ผมทำตัวน่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ?
“ถ้ามึงน่าเบื่อนะ ในโลกนี่คงไม่มีใครน่าคบ” พูดจบมันส่งยิ้มให้ผม ปากหวานตลอด
“บ้า!” ยิ้มเขินสิ “….พี่ไอซ์แค่บอกว่าเบื่อเหรอ?” ผมหันไปถามมันมองผมอยู่
“อืม แต่กูไม่รู้อะไรอย่างอื่นนะ ถึงจะสนิทกับมันเรื่องแฟนๆอะไรของมันกูไม่ยุ่งอยู่แล้ว นอกจากมึงเนี่ย กูจะรู้เยอะสุด”(ยิ้ม)
“อ๋อที่ทำตัวน่ารักขึ้นเพราะเร่งทำคะแนนว่างั้น พี่ไอซ์เขี่ยผมทิ้งจะได้เสียบแทนที่เลยว่างั้น” ผมพูด มันทำหน้าเจ้าเล่ห์
“มึงก็คิดได้เนอะ! กูก็แค่อยากทำตัวให้ดีที่สุด อย่างน้อยวันที่มึงรู้เรื่องไอไอซ์ มึงเสียใจ มึงก็รู้ไว้ว่ายังมีกูอยู่ข้างๆ ไม่ว่าจะในฐานะอะไร” ยิ้มแบบอบอุ่น แต่มันก็เรื่องจริง ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าการกำลังจะโดนทิ้งมันแย่เลยเมื่ออยู่กับพี่อ๊อฟ
“พระเอกตลอด” (ยิ้ม) “แล้วผมต้องทำยังไงต่อไป?”
“ก็ทำตัวปกติดิวะ! แต่แปลกทำไมมึงไม่เศร้าเลยวะ เห็นทำหน้าเซ็งอย่างเดียว” มองหน้าผม
“ไม่รู้ดิแค่กำลังคิดเนี่ย ผมน่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ?” พี่อ๊อฟมองผมนิ่งๆ “ ปล่อยมันไปเถอะ ผมคงไม่รั้งหรอกพี่ ถ้าเขาเบื่อก็ไปเหอะอยู่ไปก็อึดอัด คนจะไปก็ต้องไป” หันไปยิ้มให้พี่อ๊อฟ
“ต้องแบบนี้ดิว้า” (จับมือผม) “ไปเดินเล่นกันไหม?”
“อืม ไปดิ” (ยิ้ม)
แล้วพี่อ๊อฟก็พาผมไปเดินเล่นแถวสนามเด็กเล่นของหมู่บ้าน ชวนพูดนั่นนี่ไปเรื่อย โดยไม่พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นคงไม่อยากทำให้ผมคิดมาก ตอนนี้ผมแค่อึนๆเซ็งๆไม่รู้ทำไมทั้งๆที่ก็ยอมเขาขนาดนั้น ทุ่มเทเท่าที่ทำได้ไปแล้ว เอาจริงๆก็นอยและเสียความรู้สึกมากๆเลย แต่จะทำไงได้ ผมก็เดินเล่นไปสักพักก็จะกลับตอนแรกพี่อ๊อฟชวนนอนด้วยกัน แต่ผมก็บอกไปว่าวันหลังดีกว่าและเราก็นัดถึงวันพรุ่งนี้ที่จะไปดูพี่ไอซ์แข่งบอล ก็อย่างที่พี่อ๊อฟว่าทำตัวตามปกติ ผมก็จะยื้อไปให้ถึงที่สุด ถือว่าผมพยายามกับรักครั้งนี้จนสุดความสามารถผมแล้วกัน พี่อ๊อฟเดินมาส่งผมถึงหน้าบ้านแล้วก็เดินย้อนกลับไปส่วนผมก็เข้าบ้านแล้วก็ขึ้นห้องไปพักสมอง จนเย็นแม่ก็เรียกไปกินข้าวครับทำอะไรเสร็จก็ขึ้นอาบน้ำนอน
พอเช้ามาผมตื่นเพราะพี่อ๊อฟโทรมาปลุก ก็เตรียมอาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวเพื่อที่จะไปดูการแข่งฟุตบอล บอกป๊าและแม่ก็ออกไปรอพี่อ๊อฟหน้าบ้านสักพักก็มา เราก็ไปสนามกีฬากัน........
“พี่อ๊อฟ แวะตลาดด้วยจะซื้อดอกไม้!” ต้องตะโกนบอกอะลมมันโต้หน้า
“ซื้อไปให้ใครวะ!” ตะโกนตอบกลับเสียงโหดเชียว
“ก็ซื้อให้พี่ไอซ์กับไอสิงโตไง!”
“ซื้อให้สิงโตทำไมวะ!” มันถามอย่างไม่พอใจ
“อ่าว!มันก็เพื่อนเนอะ ให้กำลังใจมันหน่อย!”
แล้วพี่อ๊อฟก็พาผมแวะตลาด ผมก็เข้าไปร้านดอกไม้ซื้อดอกไม้มาสองช่อ แต่พี่อ๊อฟนี่บ่นผมตลอดทาง จะซื้อให้ทำไม บลาๆๆๆ จนผมทำไม่สนใจ เข้ามาร้านดอกไม้ทำหน้าเป็นตูดเลยสิ พอซื้อเสร็จก็พากันไปสนามกีฬากันทันที คนเยอะเชียว ผมก็ขึ้นไปนั่งบนแสตนโรงเรียนผม พี่อ๊อฟก็แยกไปหาเพื่อนผมก็นั่งกับกลุ่มเพื่อนผม คนแน่นเสียงดังมากด้วย.....
“มึงเอาดอกไม้มาอะไรเยอะแยะวะ!”ปอเอ่ยถามขึ้น
“ให้พี่ไอซ์กับไอสิงโตไง” ผมตอบแบบไม่ใส่ใจ
แล้วพวกเราก็แหกปาก คุยกันไปสักพัก นักกีฬาลงสนาม ทุกสแตนก็ส่งเสียงกรีดร้องเชียร์กันสุดใจขาด พอเริ่มแข่ง พวกเราก็เชียร์กันมันเชียว....
“แกดูไอซ์สิ กรี๊ด!”
“เท่มากดูคนนั้นสิ”เสียงพวกผู้หญิงที่ดูผู้ชายหล่อๆแล้วส่งเสียงร้อง เอาจริงพวกนั้นมาดูผู้ชายไม่ได้มาดูบอล
“ไอซ์เป็นเกย์นะมึง”เสียงมาจากด้านหลัง
“ใช่เหรอมึง ก็เห็นพลอยมาหาบ่อยๆ”
“ก็กูเห็นมันคบก็เด็กม.4ที่เป็นผู้ชายอ่ะ”
“เห้ยๆ แต่กูคุยกับพลอยอยู่ เขาบอกคนนั้นเป็นแค่น้องชายนะ ที่ขอเป็นแฟนอะไรแค่แกล้งเล่นกันเท่านั้น”
“จริงเหรอวะ แต่ก็คงจริงแหละ หล่อๆแบบนั้นไปเอาผู้ชายด้วยกันกูเสียดายว่ะ”
“เออกูว่าพลอยกับไอซ์เข้ากันมากนะมึง”
“เออพวกไม่เหมาะไม่ควรมึงไม่ต้องไปพูดถึงหรอก!”เสียงกระแทกด้วยนะ
“น่าสงสาร ไอนั่นคงมโนไปไกลว่าไอซ์ชอบ”
“เออ ไอซ์มันก็แกล้งเล่นตามประสาผู้ชาย”แล้วก็พูดกันไปอีกมากมาย
และนี่คือคำพูดเม้าแตกของพวกผู้หญิงประมาน 3-4คน ที่คุยกันอยู่ด้านหลังผม เอาจริงๆคือเหมือนพวกมันจะพูดให้ผมได้ยินและเหมือนจะพึ่งมานั่งด้วยเพราะตอนผมมานั่งแถวข้างหลังผมไม่มีคนนั่ง และแน่นอนคือผมไม่ได้ยินคนเดียวหรอก เพื่อนๆผมหันมามองผมกันแบบสงสายตาว่ามึงโอเคนะอะไรทำนองนั้น ซึ่งผมตอบเลยว่าไม่! ทำไมผมถึงได้ดูหน้าสมเพสขนาดนี้ แล้วเพื่อนๆคนอื่นๆนอกจากกลุ่มผมที่ได้ยินก็หันมามองผมกัน จะใครอื่นไม่ได้ ตอนที่ผมคบกับพี่ไอซ์มันเป็นทอล์คออฟเดอะสคูลเลยนะ ผมนี่ทำหน้าไม่ถูก พวกมันก็ไม่หยุดพูดกันสักที......
“โอ๊ย! จะมาเชียร์บอลหรือจะมาหาผู้ชายแดกวะ!” ปอมันตะโกนขึ้นมา อีพวกข้างหลังที่กำลังพ่นสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกแย่ก็เงียบทันที
“พวกมึงไปเถอะ รำคาญ” ไอมินหันไปพูดคำว่ารำคาญใส่พวกข้างหลัง
“มองอะไรกันวะ!” ไอวิวตะคอกใส่พวกที่มองมาทางพวกเรา ปอมันก็ดึงมือผมให้ตามไป
“ไม่ต้องไปฟังหรอกมึง หมาเห่าซี้ซั้วไปทั่ว!” ไอนัทมันแหกปากพูดแล้วก็พากันเดินลงไปด้านล่างแสตน
ตอนนี้พวกมันพาผมมานั่งตรงม้าหินอ่อนข้างร้านขายของที่ไกลออกมาจากแสตนหน่อยเพราะแถวนั้นเสียงดัง ผมก็เงียบตลอด เอาจริงๆทำตัวไม่ถูก ยิ่งมาเจอคำพูดคนพวกนั้น ความจริงผมจะลุกขึ้นมาแล้วหันไปด่าพวกมันก็ได้แต่จะทำเพื่ออะไร เพราะทั้งหมดคือเรื่องจริง? พลอยที่พวกมันพูดถึง มีใครบ้างไม่รู้จัก เขาก็สวยเป็นถึงดรัมไม้1ของโรงเรียนเป็นที่รู้จักของรุ่นน้องรุ่นพี่เหมาะกับพี่ไอซ์มากขนาดไหนผมยังรู้เลย แถมตอนนี้พี่ไอซ์ก็เบื่อผมแล้วจะโดนบอกเลิกเมื่อไหร่ยังไม่รู้ ทำตัวไม่ถูกจริงๆ เฮ้อ!........

ออฟไลน์ Mr.hasey14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
“อะ” ปอยื่นน้ำให้ผมผมก็ยิ้มแล้วรับมา
“เอ่อ....เห้ย!พวกมึงเขาแข่งกันถึงไหนแล้ววะ!” ไอวิวพูดขึ้นมาแบบอึกอัก
“อะ เออนั่นดิ” ไอนัทก็เอ่ยตาม และไอมินก็ด้วย
“นท” (ลูบหลังผม) “มึงโอเคนะ” ผมที่นั่งเหม่ออยู่หันไปมองทางพวกเพื่อน พวกมันดูเป็นห่วงผมมากเลย
“อื้ม โอเคดิ้!” ฝืนยิ้มให้พวกมัน
“มีอะไรเล่าให้พวกกูฟังได้นะเว้ย!”ปอพูดขึ้น
“เออเพื่อนกันอ่ะมึง มีอะไรก็บอก” มินก็สมทบ
“ระบายนะเว้ย! แบบเนี่ย” ไอนัทพูดขึ้นแล้วหันไปตบหัวไอวิว
“โอ๊ยไอสัส” ไอวิวลูบหัวตัวเอง พวกผมก็หัวเราะกัน “อะเออมีอะไรก็เล่าเถอะ” (ยิ้ม)
“ใช่เรื่องนี้ ที่มึงโทรมาเมื่อวาน ?” ผมพยักหน้า
“ก็คือ.....” ผมก็เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมด ทั้งจากที่พี่อ๊อฟเล่าให้ฟังและที่ไปได้ยินเอง “มันก็เป็นแบบนี้แหละ” ฝืนยิ้มไปให้พวกมัน พวกมันนี่อึ้งกันไปหมด
“คะ...คือกูว่าแล้วถ้าปกติมีคนมาพูดส่อเสียดมึงแบบนั้นมึงคงลุกขึ้นไปด่าแล้วแต่นี่มัน...” ไอวิวพูดขึ้น พร้อมกับส่งยิ้มมาแบบไม่รู้จะปลอบหรือทำยังไงให้ผมสบายใจ ผมเข้าใจมันนะ
“ทำไมวะ? เบื่อ! แค่เพราะเบื่อเนี่ยนะ มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอวะ!” ปอพูดด้วยความไม่พอใจ คงจะโกรธแทนผม
“เอาน่ามึง ตอนนี้พี่ไอซ์ก็ปกติ มึงก็ทำตัวปกติไปก่อนแล้วกัน” ไอนัทกล่าวไว้
“ปกติห่าอะไรวะ ไปบอกกับพี่พลอยว่าไอนทเป็นน้องชาย เนี่ยนะปกติ” ไอมินพูดขึ้น
“เออกูว่ามันมากไปหน่อย ทำแบบนี้กับเพื่อนกู!” ไอปอพูดจบก็ลุกขึ้น “กูจะไปเคลียล์กับไอพี่ไอซ์หน่อย!”
“เห้ย! ไม่ต้องหรอกมึง” จับมือมันไว้ “พอเถอะ กูคงน่าเบื่อเองแหละ ปล่อยไปอะไรจะเกิดก็เกิดเถอะว่ะกูเตรียมใจไว้แล้ว แต่คนจะไปก็ต้องไป ไม่เคยฟังอ่อ พี่ปาล์มมี่” พูดทีเล่นทีจริงไม่อยากให้เพื่อนกังวลเรื่องผมไปด้วย
“มึงจะมานางเอกตลกแดกอะไรตอนนี้เนี่ย” ไอมินมันพูดแบบเครียดๆ
“เออนั่นดิ กูหงุดหงิดว่ะ!” ไอปอพูดพร้อมกับกระแทกตัวนั่งลง
แล้วเพื่อนๆผมก็ออกความคิดกันมากมาย ผมก็ฟังบ้างเหม่อบ้าง ผมรู้สึกสมเพชตัวเองจัง รักที่กำลังไปได้ดี อยู่ๆ กลับกลายเป็นผมกำลังจะถูกทิ้งอีกแล้ว ทำไม ผมถึงโชคร้ายในเรื่องความรักขนาดนี้.....
“เห้ย! พวกมึงกูโอเคเว้ย! เอาจริงๆถึงไปด่าไปว่าพี่ไอซ์ก็เท่านั้นแหละ เขาเบื่อแล้วทำไปก็เท่านั้น!” ยิ้ม รู้เลยว่าตัวเองไม่โอเค พวกมันก็รู้แน่นอน เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแล้วนี่นะ
“ก็จริงนะ แต่มึงจะรอแบบนี้เหรอ?” ไอวิวหันมาถามผม
“อืม อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดไง ถึงตอนนั้นตัวกูเองคงจะรู้ดีแหละว่าต้องทำยังไง พวกมึงไม่ต้องห่วงกูหรอก แค่มีพวกมึงอยู่ข้างๆกูก็ดีใจมากแล้ว” หันไปยิ้มให้พวกมัน
พวกมันก็ปลอบใจผมไป ดึงเข้าตลกกันตลอด จริงๆเมื่อกี้ผมแค่ทำตัวไม่ถูกเท่านั้นแหละ จนเรานั่งไปสักพักก็ขึ้นไปนั่งบนสแตนอีกครั้ง แต่คราวนี้นั่งแยกออกมา นั่งตรงที่คนไม่ค่อยนั่งกันเพราะมันมองไม่ค่อยเห็น เรานั่งกันส่วนมากคุยกันมากกว่า จนแข่งกันเสร็จประกาศผลสรุปโรงเรียนผมชนะ ดีใจเฮกันใหญ่ แล้วคนบนแสตนก็ลงไปหาพวกนักบอลกัน ส่วนมากก็ขอถ่ายรูปและก็พากันกลับ
ผมกับเพื่อนๆก็พากันไปหาพี่ไอซ์ตอนแรกพวกมันบอกไม่ต้องไปหรอกแย้งกันนู่นนี่นั้น แต่ผมบอกไปแล้ว ว่าจะทำตัวให้ปกติที่สุด ผมยื่นดอกไม้ที่จะเอาให้สิงโตฝากไว้ที่ไอมินก่อนแล้วก็เดินตรงไปหาพี่ไอซ์ พี่อ๊อฟก็คุยกับเพื่อนๆ แต่พวกผมก็ต้องหยุดเดินเพราะภาพตรงหน้าทำให้ผมใจโหวงเหวงมากตอนนี้ พี่พลอยเอาดอกไม้มาให้พี่ไอซ์และมีอีพวกปากผีที่นั่งพูดเรื่องพี่ไอซ์ไปกระแนะกระแหนพี่พลอย เชียร์ให้ถ่ายรูปกันท่านู้นท่านี้ ผมมองด้วยสายตาที่ผิดหวัง........
“นทกูว่าไม่ต้องให้หรอก....” ปอพูดขึ้นมา หลังจากที่ผมนิ่งไปสักพัก
“เออเดินไปให้ไอสิงโตเถอะ!” ไอมินไอห่านี่ ไอสิงโตมันจ้างมาเท่าไหร่อยากรู้จริงๆ
“เออนท” ไอนัทพูดพร้อมกับจับไหล่ผม
“เอายังไงละทีนี้” ไอวิวพูดแบบไม่มั่นใจ
คือจริงๆผมก็ยืนไม่ไกลจากพี่ไอซ์เลยนะ แต่เขากลับไม่เหลียวตามามองเลย หรือเห็นแล้วทำเป็นไม่เห็นนะ?
“อืม พวกมึงก็รอนี่แล้วกันกูเอาไปให้แปปเดียว!” พวกมันก็เงียบกัน แต่ที่ผมพูดออกจะเป็นคำสั่งมากกว่าคำบอกเล่า ที่อยากให้พวกมันยืนรอนี่เพราะเดี๋ยวมันจะไปพูดอะไรที่ไม่ควรพูดในตอนนี้น่ะสิ
ผมก็เดินตรงไปหาพี่ไอซ์เลย พวกปากผีมันเห็นผมทำหน้าทำตาตอแหลกันใหญ่แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมสนใจเลย พี่ไอซ์เห็นผมแล้วก็มองยิ้มให้ปกติพี่พลอยก็ยิ้มด้วย ผมก็ยิ้มส่งกลับไป......
“ไงตัว” พี่ไอซ์เอ่ยทักทายผมด้วยรอยยิ้ม
“อื้มอ่ะ” ฝืนยิ้มส่งให้พี่ไอซ์ไป พร้อมกับเอาดอกไม้ยื่นให้
“ดอกไม้สวยจังเลย” ยิ้มให้ผม ผมก็มองนิ่งๆ
“ครับ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงปกติไม่ได้ประชดแต่อย่างใด
“มายังไงอ่ะตัว?” พี่ไอซ์เอ่ยถามขึ้น
“มากับพี่อ๊อฟ เหนื่อยหรือเปล่า?” ผมเอาผ้าเช็ดหน้าเอื้อมจะซับเหงื่อให้อย่างที่เคยทำ แต่พี่ไอซ์เอนหน้าหนี ผมชะงักไปนิดนึงแล้วก็เก็บผ้าลง
“มะ....ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวเค้าเอาน้ำล้างหน้านะ” (ยิ้ม)
“พี่น้องคู่นี้น่ารักจังเลยเนอะ” ยิ้ม ผมถึงกับหน้าเจื่อนเลย คือไม่คิดว่าพี่ไอซ์จะบอกว่าผมเป็นน้องชายจริงๆอีกอย่างพี่ไอซ์ก็ใช้คำว่าเค้ากับตัวนี่พี่พลอยคิดว่าพี่น้องเขาพูดกันแบบนี้เหรอ จะโลกสวยไปไหม
“งี้แหละ” พี่ไอซ์ยิ้มหวานมากๆให้พี่พลอย แล้วคือไม่ได้แคร์ผมเลยสักนิดสินะ?
“แล้ว...พี่ไอซ์จะกลับหรือยัง” ผมเปลี่ยนมาเรียกพี่แล้ว เพราะตอนนี้มันเริ่มหมดความอดทน
“ยัง เดี๋ยวต้องไปกับโค้ชต่อ ตัวกลับก่อนก็ได้นะ” ยังคงยิ้ม ยิ้มได้ไร้เดียงสามาก
“อ้าว!ไม่ได้ชวนน้องไปฉลองด้วยกันเหรอ?” พี่พลอยเอ่ยขึ้นมา
“ฉลอง??” ผมพูดขึ้นพร้อมทำหน้าสงสัยไปทางพี่ไอซ์
“ก็ฉลองหลังแข่งเสร็จไง ไปด้วยกันไหม?” พี่พลอยตอบคำถามของผม เขาก็ดูเป็นมิตรดีเนอะ
“คะ คือ” ผมมองไปทาพี่ไอซ์เขาก็ทำเหมือนไม่รับไม่รู้แบบมึนๆ แล้วผมควรตอบยังไงละ?
“นท ไปเถอะ!” เสียงแข็งมาแต่ไกล พี่อ๊อฟนั่นเองเพื่อนๆผมก็ตามมาข้างหลังพี่อ๊อฟมา
“ไปไหน” ผมหันไปถามพี่อ๊อฟ
“ไปเถอะ!” พี่อ๊อฟดึงแขนผมให้ตามไป ไม่รู้สิ ว่าทำไมผมไม่เดินหนีไปตั้งแต่แรก เหมือนอยากฟังจากปากพี่ไอซ์ว่าจะเอายัง ไงกับผมกันแน่ คือมันเร็วไปไหม มันไม่ได้มีอะไรเลยด้วยซ้ำแล้วผมก็ไม่ได้ทำผิด ทำไมอยู่ๆถึงเป็นแบบนี้ได้ละ!
“พี่ไอซ์!” ผมโน้มตัวไปจับมือพี่ไอซ์ พี่พลอยก็ไม่ไปไหนสักที ยืนอยู่นั่นแหละ พวกอีผีเจาะปากอีก ตอนนี้ผมไม่เหลือความอดทนอีกต่อไปแล้ว “มากับผมแปปนึง!” ผมสะบัดมือพี่อ๊อฟออก แล้วจับแขนพี่ไอซ์ให้ตามผมมาอีกทางที่ไม่มีคน พี่ไอซ์ก็ตามมาง่ายๆ
“ตัวมีอะไรหรือเปล่าเนี่ย อยู่ๆเป็นอะไร?” คืออะไรจะไม่รับไม่รู้อะไรเลยใช่ไหม
“ผมถามจริงๆนะพี่ไม่รู้อะไรเลยเหรอพี่ไอซ์” ผมรู้สึกมือเริ่มสั่น เพื่อนๆผมพี่อ๊อฟพี่พลอยก็มองอยู่
“จะให้เค้ารู้อะไร?” ทำหน้านิ่งๆแล้วมองผม
“บอกผมมาเลย จะบอกอะไรก็บอกมาผมจะฟังทุกอย่าง พี่อย่าทำให้มันค้างคาแบบนี้ได้ไหม!” ไม่รู้รู้ว่าตอนนี้รู้สึกยังไง โมโห หงุดหงิด คือมันไม่เคลียล์เลย
“จะให้เค้าบอกอะไรอะเค้าไม่มีอะไรนะ” เริ่มทำหน้าเป็นตีนแล้วสินะ
“พี่ชอบพี่พลอยเหรอ?” ถามน้ำเสียงสั่น
“ก็ชอบนะ” (ยิ้ม)
“แล้วผมล่ะ?” ผมถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
“ก็ชอบนะ ตัวเป็นอะไรเนี่ยมาถามอะไรแบบนี้ล่ะ” ตอบหน้าตาย
“แล้วผมเป็นน้องชายหรือเป็นแฟน?” เป็นสิ่งที่ไม่คิดว่าจะถาม แต่ก็ขอถามหน่อย
“........” เงียบ แต่ยังมองหน้าผม
“พี่เบื่อผมเหรอ?” คือผมพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ เพราะพี่ไอซ์ยังคงมึน และเลือกที่จะไม่รับรู้อะไร
ตอนนี้ตกอยู่ในสภาวะเงียบ ทั้งคู่ คือผมก็จ้องหน้าพี่มันก็จ้องหน้าผม โดยไม่ลดละ คือจะเอายังไง ผมถามถึงขนาดนี้แล้วยังมึน แค่บอกว่าเลิกผมก็จะเดินกลับไปเลย นี่เงียบบ้าง ตอบทีนี้หน้าเสยหน้ามาก 
“พี่ไอซ์จะเลิกกับผมใช่ไหม?” ผมหมดความอดทนจริงๆแล้ว มันเกินไปจริงๆ
“......” เงียบแต่หันหน้าไปทางอื่น
“จะเอาไงพี่ไอซ์? บอกผมมาตรงๆ คือพี่เงียบก็ไม่มีประโยชน์แล้วตอนนี้” เริ่มเสียงดังแล้ว ผมเดาว่า สถานการณ์และบทสนทนาของผม ก็คงได้ยินกันทั่ว
“เค้าเบื่อแล้ว! เค้าอยากมีแฟนเป็นผู้หญิงบ้าง” ง่ายมากเลย แค่คำว่าเบื่อ แค่อารมณ์เบื่อ แค่รู้สึกว่าเบื่อ ดีที่สุด!!!!!ผมนี่ปวดหนึบที่ใจยังไงไม่รู้เลย
“แล้วยังไงต่อ?” พยายามข่มอารมณ์ มันพูดเหมือนมันเป็นเด็กที่เบื่อของเล่นแล้วอยากได้ของเล่นชิ้นใหม่
“เค้าจะลองคบกับพลอยได้ไหม แล้วตัวก็รอเค้า...เค้าจะ..”พูดแบบทำหน้าจริงจัง และผมไม่ทนอีกต่อไป
ผัวะ เพี๊ยะ! ตุบ ผมทั้งต่อยทั้งตบแล้วก็ถีบมันล้มลงกับพื้นหญ้า แล้วคร่อมตัวมันจับคอเสื้อไว้ มันก็ยอมให้ผมทำ เอาจริงๆมันแรงเยอะกว่าผมอยู่แล้ว......
“ไอเหี้ย! มึงเบื่อกูยังไม่พอ นี่มึงยังจะทำสันดานเอาแต่ใจอีกเหรอ หน้ากูดูเหมือนลามากเลยหรือยังไงมึงถึงกล้ามาพูดแบบนี้!”  ผมตะหวาดลั่น พวกเพื่อนผม และคนอื่นๆบริเวณนั้นวิ่งมากันหมด คนแถวนั้นก็เริ่มมองมาด้วยความสนใจ  “มึงไม่บอกกูบอกเอง เลิกกันเถอะไอคนเหี้ย!” รัวหมัดใส่หน้ามัน อันนี้ความสะใจล้วนๆ คือสู้มันบอกเลิกผมผมจะไม่โกรธมันขนาดนี้เลย แล้วพวกเพื่อนผมกับพี่อ๊อฟก็มาดึงผมออก
“นท หยุด!” พี่อ๊อฟมาดึงตัวผมออก ผมรั้งตัวไว้แล้วยังใส่ไม่ยั้ง
“ปล่อยโว้ย!” ผมเอาแต่สาดหมัดใส่มันด้วยความโมโห เพื่อนๆผมที่เห็นท่าไม่ดีรีบมาดึงผมแยกออกจากพี่ไอซ์ ผมก็ยังไม่ได้ไปไหนไกล และยังไม่ห่างจากมัน ยังยืนประชันหน้าด้วยอารมณ์ ที่พร้อมจะทำลายทุกอย่างตรงนี้เลย
“นททำไอซ์ทำไม!” พี่พลอยตะคอกใส่ผม แล้วก็ช่วยพยุงพี่ไอซ์ลุกขึ้น พี่อ๊อฟกับพวกเพื่อนผมก็ช่วยจับผมไว้ไอพี่ไอซ์มันก็เงียบ เหมือนเดิม
“อย่ามาสาระแน!” ตะคอกกลับไป ผมหันไปจิกตาใส่ทั้งพี่พลอยและพวกปากผีที่เกาะยัยพี่พลอยมา พวกมันก็เงียบกัน
พวกพี่อ๊อฟกับเพื่อนๆผมก็พูดให้ผมใจเย็น ผมก็ยืนมองพี่ไอซ์ตาขวาง...
“มันพูดอะไรนท!” ถามอย่างเป็นห่วงและดูจะโมโหนิดหน่อย ซึ่งเดาอารมณ์มันไม่ถูก และผมก็ไม่ได้สนใจขนาดนั้นด้วย
“ถามมันเองแล้วกัน!” ตะคอกตอบกลับแล้วผมก็เดินหันหลังออกจากตรงนี้ทันที
เพื่อนๆพี่อ๊อฟก็เดินตามผมมา หงุดหงิดมาก เห็นแก่ตัวเกินไป มากเกินไปจริงๆ คือผมยอมมันแทบทุกอย่าง คือถ้ามันบอกเลิกผม ผมก็มีคำถามจะถามมันไม่กี่คำ หรือเดินกลับเลย แต่คำตอบมันทำผมหมดความอดทนจริงๆ พูดมาได้ยังไงวะ! ….
หมับ! ช่วงที่ผมเดินไปคิดอะไรไปทั่ว มีคนกอดผมจากด้านหลัง....

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด