แฟนเด็กพี่ภาคิน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แฟนเด็กพี่ภาคิน  (อ่าน 7774 ครั้ง)

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
«ตอบ #60 เมื่อ19-11-2021 15:23:19 »

 :pig4:
 o13

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
«ตอบ #61 เมื่อ19-11-2021 22:09:09 »

แรงมากครับ

ออฟไลน์ Oncloud69_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 27
«ตอบ #62 เมื่อ22-11-2021 18:42:01 »


 EPISODE : 27 เจ้ารักโหมดไม่น่ารัก



ไม่ชอบเลย ไม่ชอบความรู้สึกหงุดหงิดที่มี ผมไม่อยากให้ตัวเองหงุดหงิดเรื่องพี่เบลล์แต่มันก็อดไม่ได้ พี่เบียร์เดินมาพร้อมจับแขนผมให้หันมาคุยด้วยแม้ผมไม่มีอารมณ์จะคุยก็ตาม 

"เป็นอะไรไปครับน้องหนู" ร่างสูงถามผมกับเรื่องที่ตัวเองน่าจะรู้ดีแล้ว ผมงอน ผมโกรธก็เรื่องของพี่เบลล์นั่นแหละ ผมพยายามปรับอารมณ์และควบคุมสีหน้าตัวเอง อยากพาลใส่คนตัวสูงแต่ก็รู้ว่าพี่เบียร์ไม่ได้ทำผิดอะไร

"รักโกรธตัวเองครับ" พี่เบียร์รวบมือผมทั้งสองข้างคล้ายแกมง้อ 

"โกรธเรื่องพี่เบลล์กับพี่ใช่ไหมครับ" คนตัวโตรู้ว่าผมกำลังคิดมากเรื่องตัวเองอยู่ ผมถอนหายใจเบา ๆ มันไม่สามารถปฏิเสธได้ ร่างสูงจ้องมองผมราวกับอ้อนวอน พี่เบียร์คงไม่ชอบที่ผมกำลังงอนเขาอยู่แน่เลย 

"ก็ครับ"

"พี่ขอโทษที่ทำให้น้องหนูคิดมากนะครับแต่พี่กับเบลล์เราเลิกกันไปแล้ว" พี่บียร์ยืนยันหนักแน่น ผมเองก็ได้ยินมาหลายรอบแล้วแต่จะให้เชื่อใจหมดใจยอมรับว่าตอนนี้ผมแอบลังเลเรื่องพี่เบลล์ไม่น้อย ผมอยากเชื่อใจสนิทแต่ทำไมผมจึงทำไม่ได้ก็ไม่รู้ 

"รักรู้ครับรักแค่โมโหตัวเองด้วย" พี่เบียร์ยกมือขึ้นมาดึงแก้มผมเพื่อให้ผมได้หายกังวล 

"ถึงพี่เบียร์จะบอกว่าเลิกกันไปแล้วแต่พี่เบลล์ไม่เลิกรากันแบบนี้รักก็ต้องมีหวั่นไหวบ้างสิครับ ความจริงในใจพี่อาจจะมีพี่เบลล์อยู่อีกก็ได้"

"ไม่อยู่แล้ว พี่จัดการหัวใจตัวเองไปหมดแล้วครับ" พี่เบียร์ว่าอย่างนั้นเพื่อให้ผมได้สบายใจ ผมยังแบะปากอยากงอแงเพราะไม่เชื่อสักเท่าไหร่พี่เบียร์กับพี่เบลล์เลิกกันไปแน่เหรอ

"ถ้ารักจะรู้สึกดีแบบนี้กับพี่เบียร์ต่อไปมันดีใช่ไหมครับ" ผมไม่อยากให้เรื่องของเราต้องกลายเป็นเรื่องอดีต เพราะผมยังไม่ได้เริ่มรู้จักกับพี่เบียร์มากกว่าที่ใจต้องการ ถ้าผมอยากจะรู้จักพี่เบียร์ให้มากกว่าเดิมผมก็คงต้องไว้ใจพี่เบียร์ด้วยเหมือนกัน 

"ถ้าตอนนี้พี่ก็ตอบว่าดีครับเพราะพี่ชอบที่มีเราอยู่อย่างนี้" ได้ฟังแบบนั้นผมก็ชื่นใจอย่างน้อยพี่เบียร์ก็รู้สึกดีกับผม มีเยื่อใยให้ผมบ้าง ผมไม่อยากคิดมากเรื่องของพี่เบลล์แล้ว 

"แต่รักไม่ได้น่ารักกับทุกเรื่องหรอกนะครับ" ผมคงต้องบอกเรื่องนี้ให้พี่เบียร์ได้รู้ นิสัยหลายอย่างของตัวเองผมก็ไม่ค่อยชอบแต่ก็พยายามปรับปรุงตัวเองเพื่อให้เป็นคนที่ดียิ่งกว่าเดิม ผมไม่อยากไม่น่ารักเหมือนอย่างน้องเจ้าขา  

"ครับพี่รู้ พี่เองก็ไม่ต่างกันแต่พี่สลัดเบลล์เธอออกไปจากใจไปหมดแล้ว" พี่เบียร์ยืนยันหนักแน่น ผมก็จะเชื่อใจ ยอมให้โอกาสตัวเองได้ยอมเชื่อใจพี่เบียร์และตัวเอง 

"รักจะพยายามไม่คิดมากเรื่องพี่เบลล์อีกก็แล้วกันครับ" ได้ยินอย่างนั้นพี่เบียร์ก็ดึงแก้มงอนนั้นอีก ผมยู่หน้า แก้มผมมันน่าจับมากหรือยังไงพี่เบียร์หัวเราะเมื่อเห็นผมกำลังงอนเจ้าตัวอีก

"ไม่ต้องคิดเรื่องเบลล์แล้วเพราะเขาเป็นคนอื่นสำหรับเราสองคนนะครับ" 

"มันอดที่จะคิดไม่ได้ครับ" ผมบอกอย่างนั้นแต่ในใจเริ่มรู้สึกดีขึ้นมาก พี่เบลล์คือคนอื่นสำหรับเราผมจะทำใจให้สบายและไม่คิดมากเรื่องนี้อีกแล้วเพื่อจิตใจของตัวเอง 

"พี่ชัดเจนกับเราขนาดนี้เรายังไม่เชื่ออีกเหรอครับ"

"ชัดเจนอะไรครับรักไม่เห็นว่าเรื่องของเราจะคืบหน้าไปไหน" เพราะความงอนผมเลยพูดออกไปอย่างนั้น พี่เบียร์จับมือผมแล้วยกขึ้นมาพร้อมจูบหลังมือทำเอาผมตกใจ 

"กลับห้องไหมครับเดี๋ยวพี่พิสูจน์ให้เอง" คำพูดสองแง่สองง่ามนั้นทำเอาผมต้องรีบดึงมือกลับมา 

"พี่เบียร์ ทะลึ่ง"

"ฮ่า ๆ ทะลึ่งอะไรครับ พี่แค่จะอธิบายเรื่องของเราให้น้องหนูเข้าใจไงครับหรือเราคิดว่าพี่จะทำอะไรครับ" คนเจ้าเล่ห์ถามผมในสิ่งที่คิดผมกอดอกตัวเองแล้วหันหน้าหนีทันที

"รักไม่รู้ครับ"

"แต่จะให้พี่ทำอย่างอื่นพี่ก็ทำได้นะครับ" ร่างสูงเดินมาประชิดใกล้อีก ผมหันหน้าไปว่าคนตัวโตอีกครั้ง 

"คนลามก" พี่เบียร์ก็แปลกพอถูกผมว่าแล้วชอบหัวเราะ อยากถูกผมว่าตลอดใช่ไหม พี่เบียร์จับมือผมเพื่อชวนไปเที่ยวกันต่อ แต่ผมไม่มีอารมณ์ไปไหนต่อแล้ว 

"ไปเดินเล่นกันไหมครับ"

"รักอยากกลับห้องครับวันนี้ไม่มีอารมณ์ไปไหนแล้ว"

"ได้ครับ" ร่างสูงยอมเอาใจผมเพราะไม่อยากเห็นผมงอแงและงอนอีกเราเดินไปยังรถเพื่อกลับห้องอย่างที่ผมต้องการ พี่เบียร์เดินมาส่งผมถึงห้อง ผมแปลกใจเมื่อร่างสูงเดินตามจะเข้ามาในห้องผมด้วย

"พี่เบียร์จะเข้ามาทำไมครับ" ผมไม่ยอมให้ร่างสูงได้เข้ามา 

"ก็พี่ยังไม่อยากกลับห้องไปนอนคนเดียวอีกนะครับ" พี่เบียร์หาข้ออ้างให้ตัวเอง ผมมองดูนาฬิกาแล้วแอบหมั่นไส้คนตัวโต ยังไม่หัวค่ำด้วยซ้ำใครเขาจะนอนกัน

"ป่านนี้ยังไม่ถึงเวลานอนสักหน่อย"

"ก็เวลากลางคืนมันยาวนาน มีคนรักแล้วพี่ก็อยากอ้อนบ้าง" พี่เบียร์เบียดตัวจะเข้ามาแต่ผมยืนขวางไม่ยอมให้ได้เข้าไป วันนี้เราเจอกันแค่นี้พอ

"ใครคนรักพี่ครับ ที่ห้องนี้ไม่เห็นจะมีใครเป็นคนรักพี่สักหน่อย"

"แล้วคนนี้ไม่ใช่คนรักพี่แล้วเหรอครับ" ผมมองมือพี่เบียร์ที่จิ้มบริเวณหัวใจของผม 

"ตอนนี้งอนอยู่ ไม่อยากตอบครับ" ผมเล่นตัวบ้างไม่อยากให้พี่เบียร์ได้ใจ บอกรักทุกวันก็ใช่ว่าพี่เบียร์จะรับรักเร็วสักหน่อย พี่เบียร์โผกอดผมอย่างไม่คาดคิด ผมแอบหวั่นกลัวว่าเพื่อนจะมาเห็นเข้า 

"แล้วต้องทำยังไงถึงจะหายงอนครับ หอมแก้ม" ฟอด บอกผมพร้อมหอมแก้มผมเข้าอีก "หรือจูบ" ผมรีบห้ามปากที่เตรียมจะจูบผมอย่างที่บอก  

"พี่เบียร์อย่าแกล้งสิครับ" 

"พี่ไม่ได้แกล้งครับแต่อยากให้เราหายเครียดเรื่องพี่กับเบลล์ เรื่องนั้นมันจบไปแล้วจริง ๆ ครับ" ผมยิ้มออกอย่างน้อยก็รู้สึกสบายใจขึ้นมากเมื่อพี่เบียร์ยืนยันหนักแน่นเช่นเดิม แววตาอ้อนวอนของพี่เบียร์ทำเอาผมใจอ่อนยวบ 

"ครับ รักจะไม่คิดมากแล้วครับ"

"ดีครับ" ร่างสูงอุ้มผมเข้ามาแล้วพามานั่งบนโซฟาแต่เพราะเผลอสะดุดล้มหัวโขกกัน เราสองคนจึงต่างขำกัน

 "งั้นคืนนี้พี่ขอนอนนี่นะครับ"

"..." ร่างกายผมตอบรับอย่างไวรีบพยักหน้าตอบคนตัวโตให้รู้ว่าอนุญาต เนี่ยผมเป็นแบบนี้ทุกทีเลย 














ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
«ตอบ #63 เมื่อ24-11-2021 21:39:58 »

 :hao6:

ออฟไลน์ Oncloud69_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 28
«ตอบ #64 เมื่อ25-11-2021 21:14:06 »


 EPISODE : 28 เจ้าขาจอมแสบ





"เจ้าขา มาได้ไง!" ผมมองคนที่นั่งรอหน้าห้องเรียนด้วยความตกใจ เจ้าขาในชุดไพรเวทแสนเซ็กซี่ชวนมองเหงื่อตกไม่น้อยคงเพราะอากาศร้อน น้องมาที่ตึกคณะผมได้ยังไง 

"ก็โดดเรียนแล้วก็ขึ้นแท็กซี่มาหา จะไปยากอะไร" ถ้าใครมองก็คงไม่คิดว่าเราสองคนจะเป็นพี่น้องกัน เมื่อผมแทบจะไม่ค่อยแต่งตัวเก่งแต่เจ้าขาเป็นเด็กแต่งตัวเก่งและจัดเต็มตั้งแต่ทรงผมจรดเท้า เจ้าขาเป็นเด็กมั่นใจในตัวเองสูงกว่าผมเกือบจะสิบเท่า

"ทำแบบนี้ไม่ดีนะ คุณป๊ากับคุณแม่รู้เข้าคงเสียใจ" ผมไม่ได้โกรธน้องที่แวะมาหา แต่การมาแต่ละครั้งของเจ้าขาล้วนมีเรื่องไม่ดีเสมอ ตั้งแต่เด็กผมไม่เคยเถียงหรือดุน้องได้ทั้งที่ตัวเองเป็นพี่ชายคนรอง

"ใช่ คุณป๊ากับคุณแม่รู้คงเสียใจแย่" ผมขมวดคิ้วเมื่อน้องแกว่งโทรศัพท์เล่นคล้ายกับกำลังจะแบล็กเมล์ผมอีกแล้ว "ถ้ารู้เรื่องนี้"

"น้องเจ้า!!" ยิ่งได้เห็นรูปตัวเองกับพี่เบียร์แนบชิดชนิดที่แบบแนบเนื้อกันก็น้ำลายฝืดคอ "คือมันไม่ใช่อย่างที่น้องเจ้าเห็นนะ"

"ไม่สน ใครจะอยากใส่ใจ" น้องพูดเหมือนทุกครั้ง

"งั้นก็ลบนะ เค้าขอร้องนะน้องเจ้า" พี่ชายอ่อนแอผู้โดนน้องรังแกตั้งแต่เด็กรีบยกมือไหว้ขอให้น้องชายช่วยลบ ผมยังไม่กล้าบอกคุณป๊ากับคุณแม่รู้เรื่องพี่เบียร์อีก ถ้าคนในบ้านรู้คงกลายเป็นเรื่องใหญ่

คนถือไพ่เหนือกว่ายกยิ้มพอใจ อย่างน้อยก็คุ้มค่ากับการโดดเรียนเพื่อมาแบล็กเมล์พี่ชาย "ลบก็ได้แต่ตัวก็ต้องมีของมาปิดปากเค้าเหมือนเดิม"

ผมไม่ชอบเวลาที่แทนตัวเอง ตัว เค้ากับเจ้าขา เพราะเมื่อไรที่พูดอย่างนี้แปลว่าผมต้องเสียเปรียบให้น้องทุกครั้ง "แต่เค้าไม่มีเงินให้นะ"

"ก็ไม่ได้อยากได้เงิน ที่มาวันนี้เพราะอยากได้อย่างอื่นมากกว่า" ได้ยินน้องพูดแล้วผมอยากจะร้องไห้อยู่ร่ำไร สิ่งที่เจ้าขาต้องการไม่เคยได้มาง่ายๆ

ผมมองดูรูปที่น้องชายเปิดให้ดู "รู้จักคนนี้ไหม หาคอนเทคของเขามาให้หน่อยสิเค้าอยากได้" ดวงตาหวานกะพริบถี่ รู้สึกกลัวกับภารกิจที่น้องต้องการ บอกแล้วไงว่าของที่เจ้าขาต้องการไม่ได้มาง่าย ๆ

"ก็รู้จัก" รุ่นพี่ข้างห้องลูกแพร์เอง แต่ผมไม่ได้สนิทถึงขั้นมีคอนเทคพี่เขา

"ดี ได้แล้วก็ทักมาบอกด้วยละกัน" ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ผมจะชนะน้องชายได้สักครั้ง เจ้าขาหยิบกระเป๋าเมื่อตั้งใจจะแวะเที่ยวเล่นก่อนกลับบ้าน

"แต่นี่ แฟนหล่อขนาดนั้นระวังด้วยล่ะ" ท่าทีและสายตาของน้องนั้นดูก็รู้ว่าเจ้าขาสนใจพี่เบียร์ ผมเม้มปากแน่นได้แต่มองน้องชายที่ห่างกันปีเดียวเดินจากไป

เจ้าขาก็แบบนี้เสมอ ชอบเอาเปรียบผม ไม่เคารพผมเป็นพี่สักนิด "ไม่ให้หรอก ถ้าเป็นพี่เบียร์ไม่ยอมให้เด็ดขาด!"



ผมกลับคอนโดด้วยท่าทีครุ่นคิด ในสมองกำลังคิดแผนการเพื่อได้ใกล้ชิดคนที่น้องชายหมายปอง

"เครียดจริง" ผมบ่นกับตัวด้วยความหงุดหงิด "หรือว่าเราจะเข้าไปอ่อยเอง" ผมเหม่อคิดอยู่หน้าประตูห้องโดยไม่รู้ว่ามีร่างสูงเดินมาพร้อมกับขนมในมือ

"คิดอะไรอยู่ครับน้องหนู" ผมหันหน้าไปมอง

"พี่เบียร์ทำงานเสร็จแล้วหรือครับ" แค่ได้เห็นหน้าพี่เบียร์ผมก็รู้สึกดี เราสองคนเดินเข้ามาในห้องของผม พี่เบียร์เข้ามาห้องผมจนชินเสียแล้ว

"เพิ่งเสร็จครับพี่เลยแวะมาหาแต่เมื่อกี้ได้ยินอะไรอ่อย ๆ" ผมร้อนรนเพราะไม่คิดว่าพี่เบียร์จะได้ยินที่ผมเผลอพูดหน้าปะตู พี่เบียร์มองผมราวกับกำลังจ้องจับผิด ผมไม่ได้คิดจะอ่อยใคร ถ้าไม่จำเป็นนะ

"อือ ไม่เลยครับพี่เบียร์หูแว่วแล้ว" พี่เบียร์แกะขนมแล้วป้อนให้ผมกิน ผมพยายามไม่สบตารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังแอบคิดนอกใจพี่เบียร์ยังไงก็ไม่รู้ พี่เบียร์มองมือสั่น ๆ ของผมในตอนที่หยิบขนมมาป้อนให้พี่เบียร์กิน

"อาการน้องหนูออกชัดมากเลยครับ"

"ไม่มี๊จริงๆ ครับ รักไม่ได้จะอ่อยใครเลย" พลั้งปากบอกความคิดแล้วผมก็รีบปิดปากตัวเอง จะบอกความลับให้พี่เบียร์รู้ไม่ได้

"น้องหนูคิดจะอ่อยใครนอกจากพี่ครับ" 

"ไม่มีเลยครับ" ความสัมพันธ์ระหว่างพี่เบียร์กับผมยังคงคบหากันโดยไม่มีสถานะที่ชัดเจน แต่ที่ผมรู้สึกชัดเจนนั่นคือความรู้สึกของตัวเอง ผมมั่นใจว่าไม่อยากห่างจากพี่เบียร์แม้แต่สักวันเดียว

"พี่ไปเรียนก่อนนะครับ ไว้พี่จะโทรหานะ" ผมมายืนส่งพี่เบียร์หน้าประตูเมื่อใกล้ถึงเวลาที่พี่เบียร์ต้องไปเรียน มือเราประสานกันราวกับไม่อยากปล่อยจากกัน

"อย่าไปอ่อยใครนอกจากพี่นะครับ" ผมหัวเราะ พี่เบียร์จะกังวลเรื่องนี้ไปทำไมผมไม่มีใครนอกจากพี่เบียร์อยู่แล้ว

"ครับ รักจะอ่อยแค่พี่เบียร์เท่านั้น" ผมสัญญาเลย 



"ได้มาแล้ว ๆ เจ้าขาจะได้ไม่ต้องขู่เราอีก" ผมโล่งใจกระโดดโลดเต้นดีใจกับผลงานของตัวเอง เบอร์ติดต่อของพี่ฟ้าครามคงพอใจเจ้าขา

ผมใช้ความพยายามเต็มที่กับการโกหกครั้งแรกด้วยแรงกายและแรงใจที่มี ความจริงผมก็ไม่ได้ทำอะไรมากมายแค่รอเวลาที่พี่ฟ้าครามกลับมาหอแล้วไปเคาะประตูเรียกเพื่อไปทำความรู้จัก ก่อนจะขอเบอร์ติดต่อและคอนเทคไลน์มาเอาไว้ติดต่อกันยามฉุกเฉิน พี่ฟ้าครามก็ใจดีไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ผมกังวลอย่างตอนแรก หลังกดส่งให้น้องชายได้ในสิ่งที่ต้องการเสร็จ ผมก็เพิ่งจะรู้สึกว่ามันเงียบผิดปกติ ไม่มีข้อความหรือสายที่โทรเข้ามาจากพี่เบียร์

ผิดแปลกเกินไป

เสียงมือถือดังผมเลื่อนกดรับสายจากเพื่อนพี่เบียร์ด้วยความสงสัย ปกติหากไม่มีเรื่องด่วนพี่เบียร์จะไม่ให้ใครโทรเข้ามาเบอร์ผมเด็ดขาดแม้ว่าผมจะมีเบอร์เพื่อนพี่เบียร์ทุกคน

"สวัสดีครับพี่ริท"

(น้องรักมารับไอ้เบียร์หน่อยครับ มันเมาไม่ยอมกลับครับ) ปลายสายบอกผมยิ่งขมวดคิ้วใหญ่

"พี่เบียร์เมาแล้ว มันยังไม่ดึกมากเลยครับพี่ริท"

(ก็ครับ มันบ่นว่ามีเรื่องกลุ้มต้องดื่มเท่านั้น)

"มีเรื่องกลุ้มใจหรือครับ ได้ครับเดี๋ยวรักรีบไปรับ ร้านเฮียใช่ไหมครับ"

(ใช่ครับ แต่น้องรักไม่ต้องมาเองนะครับพี่ธีร์ขับรถไปรับแล้วเดี๋ยวคงถึง)

"ได้ ๆ ๆ ครับ" เชื่อเขาเลยต้องเป็นพี่เบียร์พี่กำชับให้มารับแน่ทั้งที่ตัวเองยังเมา ผมเดินลงไปรอล็อบบี้ไม่นานก็เห็นรถพี่ธีร์มารับจริงอย่างที่พี่ริทบอกไว้

"พี่ธีร์สวัสดีครับ" ผมยกมือทักทายพี่ธีร์

"น้องรักขึ้นมาเลยครับ" พี่ธีร์เปิดประตูรถให้ผมได้เข้ามานั่ง พี่ธีร์ไม่ใช่คนพูดน้อยเหมือนพี่เพื่อน แค่เป็นคนนิ่ง ๆ ติดจะหยิ่งหากไม่ได้รู้จักกันแต่พอได้สนิทด้วยก็พบว่าพี่ธีร์ก็ช่างพูดเหมือนกัน

"ทะเลาะกันมาหรือเปล่าครับ พี่ไม่เคยเห็นไอ้เบียร์มันเป็นแบบนี้มาก่อน" พี่ธีร์ถามขณะขับรถ

"เอะ ก็ไม่นะครับ ล่าสุดที่เจอกันก็ตอนเช้าครับหลังพี่เบียร์ออกไปเรียนรักก็ยังไม่ได้เจอกันนะครับ" เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องของเจ้าขา ผมเลยไม่ได้โทรหาพี่เบียร์ แต่เรื่องที่จะให้ทะเลาะกับพี่เบียร์นั้นเป็นเรื่องที่ไม่เป็นไปไม่ได้

"แต่มันบอกกลุ้มใจเรื่องของเรานะ" ผมได้แต่ยิ้มเจื่อน ใจร้อนรนเป็นห่วงพี่เบียร์ "ปกติมีเรื่องอะไรมันบอกเราทุกเรื่องไหม"

"ก็บอกนะครับ เราคุยกันทุกเรื่อง"

"เอาน่าเราอย่าคิดมากเลย ไปเจอมันก็คุยกัน เคลียร์กันให้จบ มันก็ทุกทีขนาดเมายังให้พี่มารับเราอีก เป็นห่วงขนาดนี้ไม่รู้ว่าจะกลุ้มใจเรื่องเราอีกทำไม" ผมเงียบไปครู่เดียว ใจอยากเจอหน้าพีเบียร์โดยไว 

"เราไม่ได้นอกใจมันใช่ไหม" ใจผมเริ่มเต้นแรงดังหลังพี่ธีร์ถามเมื่อเงียบกันนาน

ผมนะเหรอจะนอกใจพี่เบียร์

"มาแล้ว น้องรักเชิญพามันกลับเลยนะครับ" พอมาถึงพวกพี่กันต์ก็หลีกทางให้ผมไปดูแลพี่เบียร์โดยไว สภาพโต๊ะที่ถูกปัดป่ายจนแก้วและขวดเหล้าตกแตกเกลื่อนกราย ไม่แปลกใจทำไมเฮียถึงได้ยืนจ้องหน้าผมเขม่ง ผมรีบยกมือไหว้ทักทายพี่เทคฯ พร้อมพยายามเข้าไปพยุงตัวพี่เบียร์ให้ลุกขึ้นนั่งบนเก้าอี้ 

"สภาพยังกับหมา"

"หยุดบ่นดิไอ้กันต์ น้องรักพามันกลับไปเลยก็ดีนะครับพวกพี่ปวดหัวกับมันมาก" คนเมาไม่ยอมลุกถึงแม้ว่าผมจะช่วยพยุง

"พี่เบียร์ครับ กลับห้องกันนะครับ" พี่เบียร์มองหน้าผมด้วยสีหน้ามึนเมา หน้าแดงขนาดนี้พี่เบียร์กำลังกลุ้มใจเรื่องอะไรกันแน่ ผมไม่เคยเห็นพี่เบียร์เมาขนาดนี้มาก่อน

"น้องหนูใจร้าย" ว่าไปด้วยท่าทีเมามาย อาการแบะปากงอนคล้ายเด็กน้อยชวนขยาดสายตา เพื่อน ๆ พี่เบียร์ต่างพากันเงียบกริบแม้จะสงสัยเรื่องที่เกิดขึ้นก็ตาม ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพี่เบียร์ถึงได้มาว่าผมอย่างนั้น

"หนูนอกใจพี่ หนูไปกอดคนอื่น" ผมตาโตตกใจกับสิ่งที่พี่เบียร์พูด "หนูให้คนอื่นกอดด้วยนะพี่ไม่ยอม" คนเมาเปลี่ยนอารมณ์อย่างไว ตะครุบตัวร่างเล็กพร้อมทั้งร้องไห้งอแงกลายเป็นเด็ก ดูน่าเวทนาสำหรับเพื่อนที่มอง

"หนูไปยุ่งกับไอ้ฟ้าครามอะ พี่ไม่ยอมนะครับ พี่ไม่ยอม ไหนน้องหนูบอกว่ารักแค่พี่ มีพี่คนเดียวแต่หนูเข้าไปห้องมันทำไม"

"พี่เบียร์เห็นหรือครับ" ผมตกอยู่ในอ้อมกอดแน่น รู้สึกหายใจติดขัดถึงพวกเพื่อนของพี่เบียร์จะแยกย้ายกันไปแค่สายตายังคงมองเพื่อน ผมรู้สึกอายและอยากจะพาคนเมากลับเคลียร์กันที่ห้องแต่เหมือนพี่เบียร์จะไม่ยอมกลับง่าย ๆ ถ้าไม่ได้คุยกัน

"ใช่พี่เห็น พี่เห็นหนูกอดกับไอ้นั่น"

"มันไม่ใช่อย่างที่พี่เบียร์เข้าใจเลยนะครับ จะพูดยังไงดี คือเจ้าขาน่ะครับน้องชายรักเขาชอบพี่ฟ้าครามเลยบอกให้รักเอาคอนแทคพี่เขาให้ เจ้าขาวานให้รักช่วยเฉย ๆ ครับ" เมื่อเรื่องมันเริ่มจะไปกันใหญ่ผมจึงตัดสินใจบอก ไม่เข้าใจว่าทำไมแผนการถึงได้ล่มไม่เป็นท่าและพี่เบียร์จับได้จนน้อยใจมาดื่มจนเมาเละเทะอย่างที่เห็น

"แน่นะครับ" ผมเช็ดน้ำตาที่หางตาให้พี่เบียร์ เป็นครั้งแรกที่เห็นพี่เบียร์มีเรื่องกังวลใจอย่างนี้ ต่อไปถ้ามีเรื่องอะไรผมคงต้องบอกพี่เบียร์ไปตามตรง หากเราจะคบหากันในอนาคตผมก็ไม่อยากให้คนรักของผมต้องกังวลเพราะผม

"แน่ครับ รักไม่นอกใจพี่เบียร์อยู่แล้ว รักชอบพี่มากพี่ก็รู้"

"แต่พี่น้อยใจกลัวหนูจะไปรักคนอื่นมากกว่าพี่" ผมยิ้มกว้าง รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกอย่างน้อยพี่เบียร์ก็เริ่มผูกพันกับผมทีละนิด พี่เบียร์ค่อย ๆ รักผมวันละนิดก็ได้ มั่นใจว่าผมคือคนที่ใช่เมื่อไหร่เราค่อยคบกัน ผมรอได้เสมอ

"ไม่มีใครเหมาะกับรักเท่าพี่แล้วครับ" ผมคิดอย่างนั้นเสมอ "กลับห้องกันไหมครับพี่เมาแบบนี้มันไม่ใช่ตัวพี่เลย"

"ก็ได้ครับ แต่น้องหนูต้องกลับไปปลอบใจพี่ให้สงบด้วยนะครับ วันนี้ทั้งวันพี่ร้อนใจเรื่องน้องหนูมากเลย" เสียงออดอ้อนทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้ เวลาพี่เบียร์เมาก็อ้อนเก่ง

"ครับ" ผมมองเพื่อนพี่เบียร์ แต่ละคนทำหน้าตาโล่งอกที่พี่เบียร์ยอมสงบลงและพร้อมจะกลับห้องแล้ว ผมค่อย ๆ พยุงร่างสูงให้ลุกขึ้นจากพื้น เล่นเมาแต่หัวค่ำเลยไม่แปลกที่เพื่อน ๆ พี่เบียร์จะไม่เป็นห่วง

"กอดด้วยนะ" ผมขานตอบให้รู้

"ครับ"

"หอมแก้มด้วย"

"ครับ"

"จุ้บจุ้บด้วย"

"ครับ ๆ"

"เพื่อนอย่างกูเป็นหมาเลย" พี่กันต์กล่าวหลังผมขอตัวพาพี่เบียร์กลับ พี่ธีร์ยกแก้วมาชนเพราะเห็นด้วยกับพี่กันต์ เฮียเดินมาพยุงช่วยผมพาพี่เบียร์ไปยังรถ เพราะเจ้าขาตัวแสบเลยพี่เบียร์ถึงได้เศร้าอย่างนี้ คอยดูเถอะผมจะไม่ยอมน้องอีกต่อไปแล้ว ผมจะสู้กับเจ้าขาให้ได้!!






ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
«ตอบ #65 เมื่อ25-11-2021 22:14:52 »

 :hao3:

ออฟไลน์ Oncloud69_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 29
«ตอบ #66 เมื่อ29-11-2021 16:32:29 »


EPISODE : 29 เจ้าขามาป่วนอีกแล้ว



"น้องเจ้า เข้ามาไม่ได้นะพี่เบียร์นอนอยู่" หลังเคลียร์กับพี่เบียร์เรื่องในวันนั้น พี่เบียร์ก็ได้รู้จักหน้าตาของน้องชายผมและผมจำเป็นต้องคอลหาเพื่อให้น้องชายยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเองและเพื่อความสบายใจของพี่เบียร์มันคือสิ่งที่ผมใส่ใจ เรื่องวันนั้นถึงได้จบเรื่องไป 

"ก็เค้ามาแล้วนี่ไง" น้องผู้ไม่เกรงใจบุกเข้าห้องผมทันทีที่ผมเผลอ

"ทำไมไม่บอกว่าพี่คนนั้นอยู่ห้องข้าง ๆ" ผมไม่แปลกใจกับการมาของน้องชาย เจ้าขานั่งลงบนโซฟาราวกับเป็นห้องตัวเอง

"ก็พี่เพิ่งรู้เหมือนกัน" ผมแกล้งโกหกไปเพราะไม่อยากคุยกับน้อง ผมให้คำสัญญากับตัวเองแล้วว่าผมจะไม่ยอมน้องอีกแล้ว

"โกหกหรือเปล่า" เจ้าขาถามเหมือนจะรู้ทัน ผมรีบแย้งทันที

"จะโกหกทำไมล่ะ แล้วเจ้ามีเรื่องอะไรเราไปคุยข้างนอกกันดีไหม" ผมกลัวจะรบกวนการนอนของพี่เบียร์ เมื่อคืนพี่เบียร์บ่นปวดหัวผมเลยให้นอนที่ห้องเพราะจะได้ดูแลพี่เบียร์ด้วยหากป่วยไข้กลางดึกมันจะลำบากเพราะอยู่ตัวคนเดียว

"ไม่เอา เจ้าขี้เกียจเดินไปแล้ว มีน้ำให้ดื่มไหมคอแห้งแล้วนะ" คนน้องบ่นหิวแต่ไม่ยอมไปหาน้ำดื่มเอง ผมจึงไปหยิบมาให้น้อง ก็แล้วทำไมผมถึงได้เดินไปอย่างง่าย ๆ ไม่โต้เถียงอะไรแล้วแบบนี้เมื่อไหร่ผมจะกล้า ผมเดินมาวางน้ำบนโต๊ะน้องเปิดทีวีดูสบายใจเฉิบ น่าโมโหตัวเองจริง

"งั้นเจ้ามาหาพี่มีเรื่องอะไรหรือเปล่า คงไม่ได้จะแบล็กเมล์พี่อีกนะ พี่ก็ขอคอนแทคพี่ฟ้าครามให้แล้ว" ผมมองน้องชายที่ดื่มน้ำเย็นด้วยใจฉงน ผมไม่อยากโดนน้องใช้งานอีกครั้งที่สอง

"เค้าอยากได้ห้องของตัวน่ะ ยกให้ได้ไหม"

"ไม่ได้!" ยังไงก็ให้ไม่ได้เด็ดขาด ผมยอมสละเงินที่เขาได้จากการขายรถสุดรักเพราะไม่อยากรบกวนคุณป๊ากับคุณแม่เลยนะกว่าจะได้คอนโดนี้มา ใครจะยกให้น้องไปง่าย ๆ "ถ้าเจ้าเอาไปแล้วพี่จะไปอยู่ไหนล่ะ"

"ก็มีผัวแล้วหนิพี่ก็ไปอยู่กับผัวสิ เพราะงั้นก็ยกห้องให้เค้าอยู่ดีกว่าปล่อยให้ห้องมันว่าง" เจ้าขาบอกอย่างน่าไม่อาย

"แต่.." แต่ผมยังไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เบียร์สักหน่อยอีกอย่างมาบอกว่าพี่เบียร์เป็นผัวแบบนั้นมันฟังดูแปลก ๆ เจ้าขามองผมพลางกอดอกเหมือนติดจะรำคาญที่ผมไม่ยอมให้ง่าย ๆ

"เอาเถอะ ไม่ต้องบอกตอนนี้ก็ได้แล้วผั-"

"พี่เบียร์นอนอยู่เจ้าอย่าเรียกพี่เบียร์ด้วยคำนั้นสิ พี่อายนะ!" ผมรีบเถียงก่อนน้องจะพูดคำเรียกพี่เบียร์ที่ชวนเขินอายอีก เจ้าขาคว่ำปาก ก็รู้ว่าพี่ชายเป็นคนน่าแกล้ง "ผัว จะเรียกใครจะทำไม"

"เจ้าขา" ระหว่างเราสองคนคุยกันนั้น พี่เบียร์ที่ตื่นแล้วเดินออกมา ผมไม่อยากให้น้องชายได้รู้จักกับพี่เบียร์สักนิด

"ตื่นแล้วหรือครับพี่เบียร์" เจ้าขาแจกยิ้มหวานให้คนที่เข้าใจว่าเป็นคนรักของพี่ชาย มือก็ไหว้คนอายุมากกว่าเห็นสายตาพี่ชายมองคนเพิ่งตื่นนอนแล้วเจ้าขาก็คิดแกล้ง

"สวัสดีครับพี่เบียร์ เจ้าขานะครับเรียกเจ้าเฉย ๆ ก็ได้" แนะนำตัวพร้อมจะเข้าใกล้ไปกอด ผมดึงแขนน้องไว้ รั้งไม่ให้ไปใกล้ชิดตัวพี่เบียร์

"ห้ามกอดนะเจ้า" เสียงน้องจิ๊ปากเมื่อโดนผมรู้ทัน "น้องชายรักครับที่คุยกับพี่เบียร์เมื่อวันก่อน" พี่เบียร์รับไหว้และจำน้องชายของผมได้

"สวัสดีครับน้องเจ้า เจอกันสักทีนะครับ" เจ้าขาดึงมือผมออกไปจากแขนเล็ก ผมรีบวิ่งไปอยู่คั่นกลางเพราะไม่อยากเห็นเจ้าขาโปรยเสน่ห์ใส่พี่เบียร์ น้องชักสีหน้าใส่ผมแล้วหันไปยิ้มหวานกับพี่เบียร์

เด็กร้อยมารยา ผมจ้องมองน้องด้วยสายตาไม่ยอมแพ้เช่นกัน

"ครับ เจ้าก็อยากเจอพี่เบียร์เหมือนกัน ถ้าเจ้าจะขออยู่ด้วยทั้งสองสามวันจะได้ไหมครับ"

"ได้ครับ/ไม่ได้!!" เจ้าขาหันขวับมองเมื่อผมปฏิเสธ ผมส่ายหน้าไม่ยอมให้น้องได้อยู่ห้องเดียวกันหรอก เราเข้ากันไม่ได้สักนิดเดียว พี่เบียร์มองผมกับน้องสลับกันไปมา

"เราสองคนทะเลาะกันเหรอครับ"

"ไม่ครับ แค่น้องเจ้าพูดเล่นแค่นั้นเอง" ผมแอบไม่พอใจ แค่คิดว่าเจ้าขามาเกาะแกะตัวพี่เบียร์ ผมก็ทนรับไม่ไหวแล้ว "จริงไหมเมื่อกี้เจ้ายังบอกเลยว่าจะกลับแล้วเนอะ"

"แต่เจ้าเปลี่ยนใจแล้ว" น้องตอบกลับมาอย่างไว เด็กคนนี้มันร้ายเกินไป

"งั้นก็อยู่นั่งเล่นด้วยกันก่อนก็ได้ครับ กินอะไรไหมเดี๋ยวพี่ลงไปซื้อให้นะ" พี่เบียร์ใจดีจะลงไปซื้อของกินมาให้ ไม่ทันน้องจะเอ่ยปากพูดผมก็พูดแทรกอีกครั้ง

"ไม่เป็นไรเลยครับพี่เบียร์ น้องเจ้าจะกลับแล้ว ไว้เจอกันที่บ้านนะ" โดนผลักหลังให้ออกไปจากห้อง เจ้าขากระฟัดกระเฟียดกระทืบเท้าโมโห ผมไม่ยอมให้น้องได้อยู่ต่อรีบล็อคประตูหันมายิ้มเจื่อนให้พี่เบียร์ที่ยืนมอง คนที่มองพฤติกรรมของผมขมวดคิ้วสงสัย

"มีพิรุธนะครับ" พี่เบียร์ถาม

"เปล๊า ไม่มีเลยครับ" ผมปฏิเสธอีกครั้ง

"ถ้าไม่มีทำไมต้องไล่น้องไปแบบนั้นล่ะครับ" พี่เบียร์ถามถึงเหตุผลที่ผมแสดงนิสัยอย่างนั้นกับน้องชาย คงเพราะเป็นพี่ชายที่แสนดีให้กับน้องคอกเทลด้วยมั้งพี่เบียร์จึงได้ไม่ชอบที่ผมแสดงออกกับเจ้าขาอย่างนั้น

"ก็..." อ่ำอึ้งอยู่นาน ก็ผมไม่อยากจะบอก

"ว่าไงครับ"

"ก็รักหึง รักกลัวเจ้าขาจะมายุ่งกับพี่เบียร์ไงครับ" ได้ฟังคำตอบคนคาดคั้นก็เผยยิ้มพอใจ เสียงเคาะประตูยังดังแต่ผมไม่ยอมเปิดประตูให้น้องชายได้เข้า ผมจะไม่ยอมเปิดให้น้องเข้ามาก่อกวนให้อารมณ์เสียแต่เช้าแล้ว

'กลับไปก่อนนะเจ้าไว้พี่จะตัดสินใจเรื่องห้องก่อนแล้วจะให้คำตอบ'

ส่งข้อความบอกน้องอย่างนั้นเสียงเคาะประตูก็หยุด ผมเงี่ยหูฟังและมองไปยังช่องตาแมวไม่พบน้องก็ถอนหายใจโล่งอก ถึงอย่างนั้นผมก็ยังคงยืนส่องเกาะเป็นตุ๊กแกที่ประตู

"ทำอะไรอยู่ตรงนั้นอีกครับ" ผมรีบเดินไปยังห้องครัว ขอแค่น้องชายไม่มากวนหนึ่งวันของผมก็เป็นสุข

"พี่เบียร์ครับเช้านี้เราไปกินข้าวข้างนอกกันไหมครับ" ผมชวนพี่เบียร์เพราะเกิดหิวโจ๊กหน้ามหาลัยร้านดังที่ลูกแพร์กับนายโนแนะนำ

"ก็ได้ครับ ตื่นสายจนไม่ได้ไปวิ่งเลยถ้าอย่างนั้นเย็นนี้เราไปวิ่งด้วยกันนะครับ" ผมพยักหน้าเป็นเชิงรับปาก ขอแค่ได้อยู่กับพี่เบียร์ ให้ไปไหนผมก็ยอม ผมขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกไปข้างนอกด้วยกัน

แกร็ก

"พี่เบียร์" เสียงใสของเจ้าขาดังขึ้น

"อ้าว เน้องเจ้าทำไมมานั่งอยู่หน้าห้องล่ะครับ" คนไม่ยอมกลับง่าย ๆ ยังคงนั่งรอ เจ้าขาเบื่อและการแกล้งพี่ชายเป็นสิ่งที่เขาชอบ

"เจ้าขี้เกียจกลับบ้านครับเลยกะว่าจะมานั่งเล่นกับพี่รักน่ะครับ" คนใจดียิ้มให้ น้องคงไม่อยากให้น้องชายได้อยู่แต่เขาอนุญาต เข้าทางครอบครัวน้องไว้เขาจะได้มีโอกาสชิดใกล้กับคนในครอบครัวน้องมากขึ้น ต่อไปในอนาคตจะไม่ต้องลำบากทำความรู้จักกันใหม่

"ได้สิอยู่ด้วยก็ได้แต่ห้ามทำให้พี่ชายเราหึงล่ะพี่ไม่เห็นเขางอแง"

"ก็ได้ครับ" คนเจ้าเล่ห์เหลี่ยมเยอะยอมตกปากรับคำเพราะไม่อยากโดนไล่ให้กลับไปนอนเหงาที่บ้านคนเดียว "แต่ไม่สัญญาว่าจะทำให้ได้ไหมนะ" เจ้าขาบ่นมุบมิบคนเดียว เห็นพี่ชายเดินมาหาที่ประตูเจ้าขาก็รีบเกาะแขนพี่เบียร์เพื่อเป็นเกราะปกป้องเขาไม่ให้โดนไล่กลับบ้าน

"เจ้าขา" ทำไมไม่กลับบ้านอีก ผมเหนื่อยกับน้องชายตัวเอง

"อย่าไล่น้องเลย ไหน ๆ ก็ไหนแล้วพี่ชวนน้องเจ้าไปกินข้าวเช้าด้วยกันเลย ดีไหมครับ"

"ดีครับ" เจ้าขาขานตอบด้วยสีหน้าพอใจผิดกับผมที่ยังคงหน้านิ่ง พี่เบียร์สัมผัสความรู้สึกได้ถึงได้จับมือผมเพื่ออ้อน

"น้องหนูไม่โกรธพี่ใช่ไหมครับ" จะบอกว่าโกรธก็ไม่เชิงผมแค่ไม่ชอบที่น้องชายวุ่นวายกับพี่เบียร์

"ก็ถ้าพี่เบียร์อยากให้เจ้าขาไปด้วยรักก็ไม่ได้ว่าอะไร" แต่หน้าตาผมไม่ยิ้มแย้มมาก เจ้าขายิ้มขำ คงพอใจแล้วสินะที่พี่เบียร์เอาใจใส่ดูแล

"ขอบคุณครับ งั้นเราไปกันเลยนะ" พี่เบียร์แกะมือเจ้าขาให้ปล่อยแขนเขาอย่างสุภาพก่อนจะยื่นมือไปหาคนขี้น้อยใจ งอนจนแก้มป่องอย่างผม ผมยอมให้จับมือกันแม้จะยังเคือง ๆ เรื่องเจ้าขาก็ตาม


ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
«ตอบ #67 เมื่อ30-11-2021 22:55:30 »

 :sad4:

ออฟไลน์ Oncloud69_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอนที่ 30
«ตอบ #68 เมื่อ02-12-2021 16:34:33 »


 EPISODE : 30 หึงเพราะน้องชาย 



ครึ่งวันที่มีน้องชายอยู่ด้วยผมหน้างอเพราะเจ้าขาเอาแต่เกาะแกะพี่เบียร์ชนิดที่แบบติดหนึบ ไม่ยอมออกห่าง เมื่อพี่เบียร์ถูกเพื่อนเรียกรวมตัวที่คณะ เจ้าขาก็ขอตามไปด้วยแต่ผมไม่ขอไปด้วยถึงได้แวะมาหาเพื่อนแทน ลูกแพร์นั่งทำการ์ดบนโต๊ะหน้าจกเหลือบมองผมหลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่มาหาเพื่อนผมก็ไม่พูดไม่จา เพื่อนถามอะไรไปผมก็บอกว่าไม่มีอะไร รู้แหละว่าลูกแพร์ต้องเป็นห่วงอยู่แน่ ๆ

"พวกมึง กูมาแล้ว" คนติดเรียนรีบวิ่งมาหา ลูกแพร์เป็นคนบอกให้นายโนมาที่ห้องเพราะผมกำลังมีปัญหาอยู่ คนหงุดหงิดอารมณ์เย็นลงหลังนั่งเงียบ ผมแก้เครียดด้วยการวาดรูปในไอแพดเล่น "กูซื้อส้มตำไก่ย่างมาด้วย มากินกัน ๆ ๆ"

"รักมาเร็ว" ถึงจะไม่มีอารมณ์กินแต่พอเห็นอาหารท้องว่างก็ร้องประท้วง ผมลากขาตัวเองมานั่งกินกับเพื่อนด้วยความจำใจ

"เฮิร์ตหรือมึงหรือพี่เบียร์ทิ้งมึงแล้ว"

"เปล่า" ตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน พี่เบียร์ไม่ได้ทิ้งผมไปสักหน่อย

"แล้วมีเรื่องอะไรทำไมมึงถึงได้นั่งหน้าอมขี้ในห้องไอ้แพร์อย่างนี้ล่ะ" เพื่อนถามย้ำ "ถ้ามึงไม่บอกพวกกูไม่รู้จะปลอบยังไงนะ" ผมมองหน้าเพื่อนสองคน ก็รู้ว่าทำเพื่อนเป็นห่วง แต่ผมแค่เหนื่อยใจ

"ว่าไงล่ะรัก พวกเรายังเป็นเพื่อนกันนี่น่า"

"ก็.." พูดแค่นั้นแล้วเว้นวรรคอยู่นาน เพื่อนทั้งสองก็รอฟังแววตาลุ้น "น้องเจ้ามาหา บอกจะขออยู่ด้วยสองสามวัน" เท่านั้นเพื่อนสองคนก็ต่างมองหน้ากันอย่างรู้ความหมาย พวกเราต่างรู้ว่าน้องเจ้าเป็นเด็กนิสัยไม่ดี

"แล้วตอนนี้น้องเจ้าอยู่ไหนแล้วล่ะ"

"อยู่กับพี่เบียร์ที่คณะมั้ง" ผมบอกเพื่อนอย่างนั้น ไม่แน่ใจว่าพี่เบียร์จะพาน้องไปที่ไหนอีกไหม ไม่อยากรู้แล้วมันทำให้ผมปวดหัว

"แล้วปล่อยให้ไปเหรอ เดี๋ยวน้องเจ้าก็เขมือบพี่เบียร์ของมึงหรอก" นายโนถามเพื่อย้ำเตือนให้ผมรู้ตัวว่าไม่ควรปล่อยให้น้องอยู่กับพี่เบียร์ ผมก็ไม่ได้อยากปล่อยแต่ผมทนเห็นเจ้าขาออเซาะใส่พี่เบียร์ไม่ได้ มันรู้สึกอิจฉาจนอยากจะผลักน้องออกไปไกล ๆ แต่ผมทำไม่ลง ถึงจะไม่ชอบหน้ากันแต่ยังไงเจ้าขาก็เป็นน้องชายของผม

"ก็กลัว แต่น้องเจ้าบอกอยากไปด้วย พี่เบียร์ก็ใจดีให้ไปแถมบอกด้วยว่าจะดูแลน้องเจ้าให้ดี"

"แล้วรักยอมให้ไปเหรอ" ลูกแพร์ถามบ้าง

"รักไม่ยอม ตอนแรกก็บอกน้องเจ้าแล้วว่าให้กลับไปอยู่ห้องด้วยกันไม่ต้องไปรบกวนพี่เบียร์แต่เจ้าขาก็ไม่ยอม บ่นว่าอยากเดินเล่นดูคณะพี่เบียร์เผื่อปีหน้าจะสอบติดมหาลัยนี้นะ" ผมรู้ว่าน้องเล่ห์เหลี่ยมเยอะ มีข้ออ้างโน้นนี่ให้คนอื่นตามใจโดยง่ายแต่ผมไม่คิดว่าพี่เบียร์จะเป็นเหมือนคนอื่นด้วย

"กลัวเหรอรัก" โดนถามจี้จุดรผมก็พยักหน้าตอบเพื่อนอย่างไม่อาย ผมกลัวว่าพี่เบียร์จะหวั่นไหวเพราะน้องชายตัวเอง

"งั้นก็ไปอยู่เป็นก้างสองคนนั้นซิ จะเปิดโอกาสให้น้องเจ้าเขมือบพี่เบียร์ทำไมวะ" นายโนไม่เข้าเพื่อนเท่าไหร่ "มึงมานั่งซึมแบบนี้มันก็ไม่มีประโยชน์นะเว้ยไอ้รัก"

"แต่รักไม่อยากงี่เง่าต่อหน้าพี่เบียร์"

"โอ้ยกูจะบ้าตายกับมึง" มือเพื่อนจับผมมาเขย่าๆ ให้หายซื่อบื้อ "เอาจริงนะเว้ย ถึงมึงจะงี่เง่าใส่ถ้าพี่เบียร์ชอบมึงจริงเขาก็ต้องรับได้ป่ะวะ"

"ก็จริงนะ" ลูกแพร์เองก็เห็นด้วยกับนายโน

"ไม่เอา รักกลัวพี่เบียร์จะไม่รัก" นายโนถึงกับถอนหายใจดังหลังได้ยินผมพูดอย่างนั้น

"งั้นก็รีบกิน เดี๋ยวพวกกูไปเป็นเพื่อนมึงเอง ปล่อยผัวไว้กับน้องเจ้าแบบนั้นอันตรายยิ่งกว่าระเบิดปรมาณูอีก" ผมสบตากับเพื่อนทันที อาการหน้าแดงเห่อร้อนกลับมาหาอีก 

"ห้ามพูดนะ"

"อะไร"

"ก็คำนั้นไง ห้ามพูด" ผมบอกนายโนและสั่งห้ามเด็ดขาด อย่าพูดถึงคำนั้นเชียว

"ผัวเหรอ" ลูกแพร์ถามผมเพื่อความแน่ใจ ผมพยักหน้าแก้มเริ่มแดงเพราะอาการเขิน

"ทำไมชอบพูดคำนั้นกันก็ไม่รู้" นายโนกรอกตา ถอนหายใจรอบที่ห้าแล้ว

"โอเค กูไม่พูดแล้วก็ได้แต่ใคร ๆ ก็ดูออกไหมว่ามึงกับพี่เบียร์กำลังคบหาดูใจกันนะ" ผมนิ่งเงียบ เรื่องนั้นมันก็จริงแต่สถานะของผมกับพี่เบียร์มันยังไม่ชัดเจน เราก็แค่กำลังดูใจตัวเองอยู่แต่เรายังไม่ได้เป็นแฟนจริง ๆ สักหน่อย

"พี่เบียร์แสนดีขนาดนั้นไม่หลงน้องเจ้าหรอกรัก" ลูกแพร์เชื่ออย่างนั้น

"เอาเถอะ แต่ให้ปลาย่างอยู่ใกล้กับแมวนานๆ ก็ไม่ได้หรอกนะ กินเสร็จแล้วไปกัน จะได้รู้ว่าพี่เบียร์จะทนแรงยั่วของน้องเจ้าได้แค่ไหนกัน"

นั่นสินะ เจ้าขาขี้ยั่วมาแต่ไหนแต่ไรแล้วพี่เบียร์จะเผลอตัว เผลอใจบ้างแค่ไหนก็ต้องวัดใจกันดู หลังกินส้มตำจนหมดผมกับเพื่อนตั้งใจไปหาพี่เบียร์กับเจ้าขา เราสามคนอยู่ในรถของลูกแพร์ ผมกวาดสายตามองหน้าคณะก็พบว่ามันเงียบเกิน หรือพวกพี่เบียร์จะนัดกันที่อื่น

"พี่เบียร์อยู่ไหนวะมึง" ผมเองก็ได้แต่ส่ายหน้า เพราะไม่ได้บอกพี่เบียร์ไว้ก่อนว่าจะมาหา ผมไม่รู้ว่าพี่เบียร์จะยังอยู่ที่คณะหรือเปล่า "อ้าว แล้วมึงจะให้พวกกูมากับมึงด้วยทำไม ถ้าไม่เจอพี่เขาวะ"

"ขอโทษ รักคิดว่าพี่เบียร์น่าจะอยู่ที่นี่อีก เดี๋ยวรักโทรหาก่อนนะ" ลูกแพร์พยักหน้า เราต่างเหงื่อไหลเพราะอากาศร้อน

"มึงนี่นะ" นายโนคงเหนื่อยใจ "กูน่าจะเตือนก่อนจะมา"

"อ้าวน้องรัก มาหาไอ้เบียร์เหรอไปดิ มันไปเข้าห้องน้ำ" เสียงพี่วอร์มเอ่ยทักขึ้น เราสามคนเลยหันไปมอง พี่วอร์มเดินมาพร้อมกับถุงขนมคิดว่าคงออกไปซื้อขนมมา

"ครับ" เราสามคนเดินตามพี่วอร์มมายังโต๊ะนั่งเล่นประจำของกลุ่มพี่เบียร์ พี่ที่เหลือรับไหว้รุ่นน้องอย่างพวกผม

"ไอ้เบียร์มันไปห้องน้ำน่ะกับน้องชายเราหรือเปล่า" ผมตอบรับเพราะก็มีแค่เจ้าขานั่นแหละที่มากับพี่เบียร์ แถมยังตัวติดกับพี่เบียร์แน่น ไม่ยอมห่างไปไหน

"แต่ก็เข้าไปนานแล้วนะกับน้องเจ้าขา" ผมฟังเม้มปากตัวเองพยายามไม่คิดมาก มือถูกนายโนดึง

"พวกมึงตามกูมานี่ พวกเราไปซื้อขนมก่อนนะพี่เดี๋ยวมานั่งครับ" นายโนพูดโกหกรุ่นพี่อยู่

"เออ ๆ " ผมโดนเพื่อนลากมาเพื่อตามหาพี่เบียร์และน้องเจ้าในห้องน้ำ แอบไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนต้องโกหกว่าจะไปซื้อขนมมากินทั้งที่ลากเขาและลูกแพร์มาทางห้องน้ำ บอกว่ามาห้องน้ำก็ไม่มีใครว่าอะไร

"หาให้ทั่วเลย ผัวมึงอย่าให้น้องมึงคาบไปแดก" ผมตีแขนเพื่อนที่พูดไม่เพราะใส่ ถึงจะหวั่นไหวนิดแต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดไม่ไว้ใจพี่เบียร์

"รักไม่ชอบนะโน" ผมไม่ชอบจริง ๆ กับคำนั้น แต่ทำไมเพื่อนชอบพูด

"ช่างก่อนๆ ไอ้แพร์เจอไหม" นายโนถามคนที่เข้าไปในห้องน้ำ  

"ไม่เจอ อยู่ห้องน้ำอีกฝั่งหรือเปล่า" พอเพื่อนบอกอย่างนั้นผมก็โดนนายโนจับมือลากอีก ชักสงสัยแล้วว่าที่เพื่อนสองคนจริงจังมากเกินไปเพราะคิดจะช่วยผมหรือเพราะเกลียดขี้หน้าน้องผมกันแน่

"รักว่าเราไม่ต้องตามหาก็ได้นะบางทีพี่เบียร์กับน้องเจ้าอาจจะกลับไปนั่งที่โต๊ะแล้วก็ได้"

"มาถึงขั้นนี้แล้วนะเว้ย ยังไงกูสองคนก็จะตามหาให้เจอ มึงน่ะไอ้รัก ยอมน้องมึงตลอด ถ้าน้องเจ้าบอกอยากได้พี่เบียร์ขึ้นมามึงจะยกให้หรือไง" ผมนิ่งคิด ก็จริงอย่างที่เพื่อนบอก ผมจะใจอ่อนให้น้องเจ้าไม่ได้ พี่เบียร์เป็นคนที่ผมรักยังไงก็ยกให้ใครไม่ได้

"ไปเถอะ หาไม่เจอก็ค่อยไปนั่งรอที่โต๊ะกัน" ลูกแพร์ยุติความตึงเครียดของพวกเรา ระหว่างเราสามคนเดินไปหาห้องน้ำอีกฝั่งจนมาถึงหน้าห้องน้ำชายผมเป็นฝ่ายยืนอึ้งเมื่อเห็นภาพบาดตาบาดใจเข้าโดยไม่ทันตั้งตัว

ทำไมพี่เบียร์กับเจ้าขายืนจูบกัน!!



"อะไร หนีมาทำไรเนี่ยไอ้รัก" นายโนยื้อแขนผมไว้หลังเห็นภาพบาดตาผมหันหลังเดินออกมา เพื่อนก็คงไม่เข้าใจว่าทำไมผมไม่ยอมเข้าไปข้างในแต่เลือกจะเดินหนี

"รัก ไปถามให้รู้เรื่องดีกว่าไหม บางทีอาจไม่มีอะไรก็ได้" แต่ผมยังไม่พร้อมจะไปถาม เริ่มรู้สึกน้ำตาคลอเบ้า ผมอยากจะร้องไห้ถ้าหากพี่เบียร์กับน้องเจ้าจูบกันจริง ๆ ผมจะรับได้ไหม

"ไม่เอา รักกลัว"

"กลัวอะไร" นายโนถามหน้านิ่วคิ้วขมวด ผมรู้ว่าเพื่อนไม่พอใจ แต่ผมไม่มีความกล้าพอ

"กลัวว่าพี่เบียร์จะชอบน้องเจ้ามากกว่า" สองเพื่อนรักได้แต่ถอนหายใจ

"เพราะแบบนี้เลยต้องบุกไปให้รู้ไง พี่เบียร์จะได้ชัดเจนว่าชอบคนพี่หรือชอบคนน้อง"

"นั่นสิรัก เรายังไม่รู้เรื่องราวเลยว่าทำไมสองคนถึงได้จูบกันน่ะ ไปถามเถอะ" ลูกแพร์อยากให้ผมกล้าเผชิญหน้ากับความจริง แต่ผมส่ายหน้า ผมไม่พร้อมรับรู้เรื่องอื่น พอผมดื้อไม่ยอมไป เพื่อนทั้งสองก็ล็อคแขนผมเพื่อจะพาไปเคลียร์กับพี่เบียร์ คนที่ออกมาจากห้องน้ำดูตกใจที่เห็นผมโดนเพื่อนหิ้วปีกทั้งสองข้าง

"พี่เบียร์" ผมเริ่มตาแดง เห็น้องเจ้าเดินตามหลังพี่เบียร์ก็ยิ่งเจ็บปวด

"มาได้ไงครับ" พี่เบียร์ถามผมกับเพื่อน มือของเพื่อนก็สะกิดให้ผมถาม ผมฝืนยิ้มให้พี่เบียร์

"รักกับเพื่อนแค่แวะมานะครับ แต่พวกเรากำลังจะกลับแล้วครับ" ผมรวบแขนเพื่อนให้กลับแต่ทั้งนายโนและลูกแพร์ไม่มีใครยอมให้ลาก

"พี่ทำแบบนั้นได้ไงวะ"

"ตะกี้พวกเราเห็นพี่เบียร์กับน้องเจ้าจูบกันครับ" ผมปิดปากเพื่อนไม่ทัน ลูกแพร์ไม่อยากให้เพื่อนหนีความจริง เพราะถ้าต้องมีคนรู้สึกผิดต้องไม่ใช่เพื่อนรักของเขา

"น้องเจ้าชอบพี่เบียร์หรือไง"

พี่เบียร์มองมายังผม เราสองคนสบตากันผมรู้สึกตาแดงคล้ายจะร้องไห้ดีหรือควรกักเก็บน้ำตาไว้ ความกังวลทำให้ผมเม้มปากแน่น ปากอิ่มกลายเป็นสีช้ำ นัยน์ตาไหวระริก ไม่ชอบที่เห็นน้องชายยืนอยู่ข้างกายพี่เบียร์ ภาพที่คนสองคนตรงหน้าจูบกันยังคงฉายซ้ำให้ชวนร้องไห้

พี่เบียร์เดินเข้าใกล้ อ้อมกอดที่แสนอุ่นโอบกอดผมไว้ผมถึงได้หลั่งน้ำตา เพื่อนทั้งสองปลีกตัวขยับห่างปล่อยให้เราสองคนได้ปรับความเข้าใจกันเอาเอง เจ้าขากรอกตามองพร้อมกอดอก พี่ชายของเขาขี้แงไม่เคยเปลี่ยน

"ขี้แงตลอดเลย น่ารำคาญจริง"

"แล้วใครล่ะที่ชอบแกล้งไอ้รักมันให้ร้องไห้บ่อย เป็นน้องชายทำไมชอบแกล้งพี่" ถึงนายโนจะบ่นแต่เจ้าขาก็ไม่คิดฟัง

ผมยังคงน้พตาคลอในอ้อมอกของพี่เบียร์ ลูกแพร์ลากนายโนและเจ้าขาให้ออกห่าง ยืนทะเลาะกันไปก็ไม่มีใครหันมาสนใจ ผมเองก็อยากมีเวลาเคลียร์กับพี่เบียร์เหมือนกัน

"หย่าร้องไห้นะครับ พี่ไม่ได้จูบน้องเจ้าจริง ๆ" คำยืนยันหนักแน่นยังไม่เพียงพอจะทำให้ความน้อยใจน้องชายจากหายไป มือหนาโอบกอดปลอบผมและบอกความจริง

 "แค่ขนตาเข้าตาของน้องเจ้าพี่เลยช่วยเอาออกมาแค่นั้นเองครับ"

"..." ผมเชื่อแต่ผมแค่น้อยใจ

"เจ้าขาเป็นน้องชายของเรา พี่ก็แค่ดูแลในฐานะพี่ชายคนนึง ไม่ได้คิดอะไรมากกว่านั้นเลยครับ" ยิ่งพี่เบียร์พูดผมยิ่งร้องไห้ ทำไมต้องไปสนใจเจ้าขาขนาดนั้น

"แต่รักไม่อยากให้พี่เบียร์ดูแลน้องเจ้า รักหึง พี่เบียร์ไม่เข้าใจรักหรอกก็พี่เบียร์ไม่ได้รู้สึกเหมือนอย่างรัก" ความในใจของผมถูกกลั่นออกมาเป็นคำพูด พี่เบียร์ขยับตัวผมให้ออกห่างจากตัว สายตาอ่อนโยนมองผมและเช็ดน้ำตาให้

"ใครบอกว่าพี่ไม่รู้สึกเหมือนกับเราครับ ถ้าพี่ไม่รัก ไม่ชอบพี่จะใส่ใจครอบครัวของเราทำไม" ผมพยายามสะอื้นให้เบา "เพราะตอนนี้พี่สนใจเราอยู่พี่ก็อยากใส่ใจครอบครัวของเราเหมือนกันแต่ถ้ามันทำให้เราไม่สบายใจขนาดนี้ต่อไปพี่จะระวังไม่ให้น้องเจ้าอยู่ใกล้เกินไปดีไหมครับ" ผมพยักหน้าพอใจกับคำพูดของพี่เบียร์ เราสองคนยืนเคลียร์กันอยู่สักพักจนผมเลิกร้องไห้พี่เบียร์ถึงได้พามานั่งร่วมกับกลุ่มเพื่อนไม่ยอมให้ผมหายไปไหนไกลตัวอีก

เจ้าขาขอตัวกลับบ้านเพราะไม่มีเรื่องสนุกให้แกล้งแล้ว ผมขอบคุณเพื่อนทั้งสองที่ช่วยผมเรื่องน้องเจ้า นายโนกับลูกแพร์ขอตัวกลับไปเรียนเมื่อพี่เบียร์บอกจะดูแลผมเอง กลายเป็นว่าคืนนี้พี่เบียร์ก็ขอนอนที่ห้องผมอีกคืน

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
«ตอบ #69 เมื่อ02-12-2021 22:39:35 »

 :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
« ตอบ #69 เมื่อ: 02-12-2021 22:39:35 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Oncloud69_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอนที่ 31
«ตอบ #70 เมื่อ06-12-2021 17:00:37 »




 EPISODE : 31 ออกกำลังกายด้วยกัน 

"ตื่นได้แล้วครับ ไหนบอกจะไปออกกำลังกายกับพี่ไงครับน้องหนู" เสียงปลุกแสนหวานไม่ได้ช่วยให้อยากลุกจากที่นอน ผมงอแงเพราะไม่อยากลุกจากเตียงแต่เช้า ก็เมื่อคืนเล่นนอนดึกเช้านี้จึงขี้เกียจลุก

"ทำไมเวลานอนแป๊ปเดียวเองล่ะครับ รักยังนอนไม่เต็มอิ่มเลย" บอกพี่เบียร์พลางกอดคนตัวโต เมื่อคืนเรานอนด้วยกัน ผมเล่าเรื่องที่น้องเจ้าขาแกล้งผมตอนเด็กให้พี่เบียร์ฟังจนเผลอหลับไป

"สำหรับน้องหนูนอนทั้งวันก็นอนไม่อิ่มครับ"

"พี่เบียร์อะ" โดนแซวเรื่องจริงเข้าหน่อยผมก็ค้อนใส่ "รักตื่นก็ได้ครับ แต่อุ้มไปส่งห้องน้ำหน่อยสิครับ" อ้าแขนรอจนคนมองอดใจไม่ไหวก้มลงฟัดแก้ม

"ค่ามัดจำครับ" พี่เบียร์บอกหลังได้เอาค่ามัดจำไปแล้ว

"พี่เบียร์ขี้แกล้ง" บอกอย่างนั้นแต่ก็ยิ้มชอบแหละที่โดนพี่เบียร์หอมแก้ม

"ค่ามัดจำได้แล้วแล้วของรางวัลล่ะครับ"

"ของรางวัลตอบแทนต้องให้หลังจากทำงานเสร็จครับ" ผมลุกขึ้นนั่งพิงไหล่พี่เบียร์อย่างอิดออด อยากไปออกกำลังกับพี่เบียร์ก็อยาก แต่ง่วงนอนผมอยากนอนต่อรอให้แสงอาทิตย์ขึ้นทักทายมาก่อน "แต่รักง่วง"

"น้องหนูไม่ไปพี่ก็ไม่ว่านะครับ"

"อือ อยากไปด้วย รักอยากเห็นพี่บียร์ออกกำลังกายเท่ ๆ"

"ฮา ๆ นั่นเหรอเหตุผลของเราน่ะ"

"ก็แค่นี้แหละ พี่เบียร์เป็นเหตุผลของรักทุกอย่างแหละครับ" ตายแล้ว ผมกลายเป็นคนช่างกล้าพูดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน พอเห็นหน้าพี่เบียร์กับผมยุ่ง ๆ แล้วเรื่องที่เฮียโซดาส่งรูปในวัยเด็กของพี่เบียร์ก็ผุดเข้ามาในหัวจนเขาอดขำไม่ได้ พี่เบียร์ตอนเด็กถูกคุณแม่จับแต่งตัวเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์แล้วน่ารักมาก เขาจะบอกพี่เบียร์เรื่องนี้ไม่ได้เพราะมันเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ได้มาจากเฮียโซดาเวลาที่ถูกขอร้องให้ช่วยงานที่ร้าน

คนปลุกขมวดคิ้วสงสัย "ขำเรื่องอะไรครับ"

"ก็มีเรื่องให้ยิ้มครับ อุ้มไปแปรงฟันหน่อยนะครับ" ผมอ้อนแล้วกอดคอของพี่เบียร์ ไม่รู้ทำไมพอเป็นพี่เบียร์ผมจึงได้ชอบอ้อนหนักทั้งที่อยู่กับพี่น้องตัวเองผมไม่ค่อยจะกล้า

"ก็ได้ครับ" พี่เบียร์อุ้มลูกลิงอย่างผมพามาเข้าห้องน้ำ ตัวผมถูกวางให้นั่งบนเคาน์เตอร์

"ขอบคุณครับ"

"ยินดีครับ"

"อะ" และแล้วรางวัลตอบแทนก็ถูกเรียกเก็บอีก "พี่เบียร์อีกแล้วนะครับ" พี่เบียร์ฉวยโอกาสหอมแก้มผมอีกครั้ง

"รอบนี้พี่ตั้งใจครับ"

"ไม่คุยด้วยแล้ว" จะตั้งใจหรือจะแกล้งเรียกค่าตอบแทนผมก็เขินทั้งนั้น เราสองคนแปรงฟันกันหยอกล้อกันมีความสุขรับยามเช้า

จนกระทั่งแต่งตัวพร้อมผมก็รู้สึกตาสว่าง เมื่อถึงสวนสาธารณะ แดดยามเช้ายังไม่ร้อนมาก เช้านี้ท้องฟ้าแจ่มใสผมทำตามที่พี่เบียร์แนะนำนั่นคือการวอร์มอัพร่างกายก่อนเริ่มออกวิ่ง

"คนตื่นกันมาออกกำลังกายเยอะจังเลยนะครับ" ผมชวนคุยระหว่างยืดแขนยืดขาทำตามพี่เบียร์

"ปกตินะครับ" สำหรับพี่เบียร์แล้วกวาดตามองก็เจอคนรักสุขภาพที่หมั่นมาออกกำลังกายทุกวันอย่างคุ้นตา สาวหลายคนที่มาวิ่งต่างหันมายิ้มหวานทอดสะพานใส่ ผมหันมองพี่เบียร์ คนรู้ตัวรีบตอบคลายความสงสัยทันที 

"พี่มาออกกำลังกายเท่านั้นครับ"

"รักก็ไม่ได้ว่าอะไรหนิคะ" พี่เบียร์ขำกับน้ำเสียงนั้นเวลาน้องพูดคะขาแล้วเขาคิดว่ามันน่าฟัง "ต่อไปรักจะมาวิ่งกับพี่เบียร์ทุกวัน"

"พี่เพิ่งรู้ว่าคนน่ารักเป็นพวกหวงเก่งด้วย"

"รักไม่ได้หวงสักหน่อยครับ รักแค่ไม่ชอบเวลาใครมองคนของรัก"

"พูดว่า 'หวง' ยังสั้นกว่านะครับน้องหนู"

หึย..พี่เบียร์ทำไมเข้าใจยากจัง ผมไม่ได้หวงแค่ไม่พอใจเอง คนตัวเล็กคว่ำปากเชิดใส่พอหันไปเห็นพี่ผู้หญิงส่งสายตาให้พี่เบียร์ ผมก็ขยับชิดใกล้แสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ

"พี่เบียร์วิ่งกันเถอะครับ" ผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร มันหงุดหงิดใจแปลกๆ ไหนพี่เบียร์บอกว่าออกกำลังจะสนุกผมไม่เห็นจะสนุกสักนิด

นิดเดียวก็ไม่!

พี่เบียร์เสน่ห์แรงเกินไปแล้ว...

"ภาคินวันนี้ก็มาออกกำลังเหมือนกันอีกแล้ว ใจตรงกันเลย" เธอที่วิ่งเยาะเข้ามาทักพี่เบียร์ ผมขยับเข้าชิดพี่เบียร์เพราะไม่อยากให้เธอได้เข้าใกล้

"ครับ"

"วันนี้มีคนมาวิ่งเป็นเพื่อน น้องชายเหรอคะ" เธอยังคงต่อบทสนทนา ผมร้อนรนพูดแทรกก่อน

"ไม่ใช่ครับ!" เผลอตะโกนดังจนเธอคนนั้นสะดุ้ง "ไม่ใช่น้องชายครับ" บอกเสียงอ่อนลง พี่เบียร์โอบเอวผมเอาไว้ เหมือนจะบอกผมว่าร้อนใจไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะพี่เบียร์ไม่ได้คิดกับผมแค่น้องชายเหมือนกัน

"ไม่ใช่น้องชายหรอกครับ คนนี้คนพิเศษ" ประกาศชัดให้เธอได้รับรู้ ผมรู้สึกเหมือนเป็นต่อเหนือเธอ ก็บอกแล้วว่าผมไม่ใช่น้องชาย

"คะ..คนพิเศษ"

"..."

"เหรอคะ" เธอดูสับสน

"ครับ คนนี้ผมกำลังดู ๆ ใจกันอยู่นะครับ"

"พี่เบียร์" ผมตกใจเมื่อคนข้างกายกล้ายอมรับอย่างนั้น สำหรับพี่เบียร์ผมเป็นคนพิเศษจริงเหรอ น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว

"ขอตัวนะครับ น้องหนูไปวิ่งกันต่อเถอะครับ" เสียงหวานหูนั้นมีไว้คุยกับผมคนเดียว

"ครับ" เผลออมยิ้มพอใจกับการกระทำของพี่เบียร์เข้าแล้ว "ชอบล่ะซิ" พี่เบียร์วิ่งถอยหลังถามผมระหว่างที่เรากำลังวิ่ง

"ครับ รักชอบพี่เบียร์ทุกวันเลย" ผมค่อย ๆ ส่งมือไปให้พี่เบียร์จับมือไว้ ผมต้องใช้ความกล้ามากในการจะแสดงออกความรู้สึกโดยไม่ให้หน้าแดง "คนนี้ของรัก" จิ้มชี้ตรงหัวใจของพี่เบียร์อย่างเขินอาย คนโดนแอทเทคหยุดวิ่งแล้วหยิกแก้มผมทั้งสองข้างด้วยความหมั่นเขี้ยว

"โห น้องหนูน่ารักอีกแล้ว"


"โอ้ยเมื่อยขาจังเลยครับ รักปวดตัวไปหมดแล้ว" ผมเมื่อยขาแล้วแกล้งร้องโอดครวญดัง มือก็นวดขาไปปากก็พร่ำบ่นเรียกร้องความสนใจจากคนที่กำลังเดินมาหา

"วันแรกก็ต้องปวดเมื่อยตัวเป็นธรรมดาครับ แต่น้องหนูหักดิบไปหน่อยที่วิ่งไปกับพี่ด้วยตลอด พี่บอกให้พักก็ไม่ยอม" พี่เบียร์เดินมาหาพร้อมน้ำอุ่นให้ผมได้ดื่ม ร่างสูงนั่งลงข้างล่างจัดการฉีดสเปรย์ทั่วบริเวณกล้ามเนื้อที่ผมปวด

"ก็รัก...เก่ง" เกือบเผลอจะบอกว่ากลัวมีผู้หญิงเข้ามาทักทายพี่เบียร์อีกผมจึงไม่คิดยอมห่าง พอเซล้มเพราะปวดขานั่นแหละพี่เบียร์จึงรีบพากลับมาปฐมพยาบาล

"คนเก่งแต่กลัวโรงพยาบาล"

"คนเก่งก็ต้องมีจุดอ่อนบ้าง"

"ครับ พี่เชื่อ" พี่เบียร์ย่นจมูกให้ผมที่ช่างพูดมากขึ้น ผมมองมือที่บรรจงนวดให้เขาผ่อนคลาย "พี่ว่าหาหมอก็ดีนะครับ ขาน้องหนูเริ่มบวมแดงแล้ว"

"ไม่เอาครับ เดี๋ยวนั่งนิ่งสักพักก็หาย" คนกลัวโรงพยาบาลปฏิเสธเสียงค้าน ผมไม่อยากไปโรงพยาบาล

"ไม่หายครับ"

"พี่เบียร์ก็ดูแลรักสิครับ ดูแลให้หาย ถ้ารักหายรักจะไม่ดื้อนะ" ผมชี้โพรงให้คนตัวสูงได้เห็นหนทาง พี่เบียร์เหมือนจะสองจิตสองใจ คงอยากให้ผมหายแต่ก็อยากจะดูแลผมนั่นแหละ

"แน่นะครับ"

"แน่ครับ" ผมเป็นคนดื้อเงียบต่อให้ปวดเมื่อยแค่ไหนหรือเป็นตายร้ายดียังไงก็จะไม่ไปโรงพยาบาลเป็นอันขาด เมื่อผมต้องการอย่างนั้นพี่เบียร์จึงตามใจผม

"ไม่ไปก็ไม่ไปครับ พี่จะดูแลเราให้หายเองครับ" ผมดีใจที่พี่เบียร์ยอมตามใจ เอาไว้ผมจะตามใจพี่เบียร์หนึ่งเรื่องก็แล้วกันเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน

ช่วงบ่ายของวันหลังจากที่เผลอหลับเพราะความง่วงและอาการปวดเมื่อย ผมตื่นมาเห็นพี่เบียร์กำลังขมักเขม้นทำรายงานอยู่กับโต๊ะญี่ปุ่นเล็กข้างเตียงที่ผมนอน

พี่เบียร์หันมามองเมื่อได้ยินเสียงแรงขยับเพียงนิดของผ้าห่ม ผมยิ้มให้ พี่เบียร์ก็ยิ้มตาม

"ตื่นแล้วหรือครับ"

"ครับ รักหลับไปนานไหมครับ" พี่เบียร์ก้มมองนาฬิกาของตัวเอง

"ไม่นานเท่าไรครับยังปวดเมื่อยขาอีกไหม" พอถูกถามเรื่องอาการเมื่อยบริเวณเท้าผมก็พยักหน้า ขยับตัวไปกอดแขนใหญ่เพื่ออ้อน

"รักอยากกินไอศกรีม อยากกินข้าวด้วย หิวแล้วครับ" ก็เล่นหลับไปก่อนจะกินข้าวเช้าไม่แปลกที่ตื่นมาแล้วผมจะร้องหาของกิน

"ถ้าอย่างนั้นพี่ลงไปซื้อให้นะครับ" พี่เบียร์ใจดีแต่ผมปฏิเสธ

"สั่งเอาดีกว่าครับ เดี๋ยวรักสั่งให้เอง" ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์เปิดแอปพลิเคชันยอดฮิตจัดส่งไว พี่เบียร์หยีหัวคนร่าเริงเมื่อพูดถึงของกิน ร่างสูงเดินไปยังตู้เย็นเพื่อหยิบไอศกรีมที่ตุนไว้มานั่งกินด้วยกัน

"เป็นคนกินเยอะแต่ไม่อ้วนนะเรา" ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาพี่เบียร์ยังคงสงสัยว่ากระเพาะน้อย ๆ กับพุงแบน ๆ นั่นกักเก็บอาหารที่กินเข้าไปตรงไหน

"ทั้งบ้านก็กินเยอะแต่ผอมครับ พี่หมอกับน้องเจ้ากินจุกว่ารักอีก" ผมเคยเล่าเรื่องตัวเองให้พี่เบียร์ฟังหลายครั้ง บ่นถึงพี่ชายที่เป็นสัตวแพทย์และน้องชายที่เรียนมัธยมปลายเกือบทุกวัน พี่เบียร์เคยเจอเจ้าขามาแล้วแต่ยังไม่เคยเจอพี่เจ้าคุณอีก

"กรรมพันธุ์สินะ"

"จะพูดว่างั้นก็ได้ครับ ครอบครัวฝั่งคุณป๋าค่อนข้างสมบูรณ์ มีน้ำมีนวล จะเรียกว่าอ้วนก็ได้ครับคุณป๋าเลยดูแลตัวเองมากๆ แต่ถึงอย่างนั้นสำหรับรักคุณป๋าก็ไม่ได้ดูอ้วนเหมือนพวกคุณลุงเลยครับ" ผมหันมายิ้ม ขยับแนบชิดข้างกายพี่เบียร์ทีกำลังใจดีเปิดฝาไอศกรีมถ้วยใหญ่

"แล้วทำไมหนูไม่เห็นอ้วนเลย"

"เราสามพี่น้องได้ฝั่งคุณแม่มานะครับ ผอมบาง ถึงจะขุนมากแค่ไหนก็ไม่อ้วน กรรมพันธุ์ฝั่งคุณแม่เป็นนายแบบ นางแบบทั้งตระกูล บางคนก็ซุบซิบนินทากันว่าพวกดราคลั่งผอมครับแต่เปล่า คุณป๋าบอกว่าอยากกินได้แบบพวกเราและคุณแม่กินเท่าไรก็ไม่อ้วน ส่วนคุณป๋ากินนิดเดียวก็อ้วน ถ้าไม่ขยับตัวขยันออกกำลังก็อ้วนลงพุงเลยครับ พูดแล้วก็คิดถึงร่างกายตัวใหญ่กับอ้อมกอดของคุณป๋าเลยครับ" พี่เบียร์ป้อนไอศกรีมคำพอดีให้คนช่างพูด ยิ่งรู้จักก็ยิ่งหลง ผมรู้สึกชื้นใจเมื่อได้กินของเย็น ๆ

"พี่เบียร์อยากกินอะไรเพิ่มอีกไหมครับ"

"เอาอันนี้ก็ได้ครับ" อะเมซ่อนแก้วโปรดยังคงวางอยู่ พี่เบียร์คงลงไปซื้อช่วงระหว่างผมหลับแน่

"สั่งน้ำเพิ่มไหมครับหรือไม่ต้องแล้ว"

"สั่งเพิ่มก็ได้ค่ะแก้วนี้พี่ดื่มหมดแล้ว"

"จัดไปเลยครับ" กระทั่งยืนยันสั่งซื้อรายการอาหารและเครื่องดื่มเรียบร้อย มุมปากผมเลอะไอศกรีมพี่เบียร์ก็ใจดีเช็ดให้ หัวใจดวงน้อยทำงานหนักทุกวันแต่ก็ยังไม่ชิน

"มื้อนี้รักเลี้ยงนะครับ" เพราะไม่ต้องการเอาเปรียบ แม้พี่เบียร์จะเต็มใจจ่ายทุกครั้งแต่ผมไม่ยอม เลยออกกฏไว้ว่าต้องผลักกันจ่ายคนละรอบถึงจะแฟร์ต่อกัน

"แล้วครอบครัวพี่เบียร์ล่ะครับ เป็นไงบ้าง" ล่าสุดพี่เบียร์บอกว่าคุณพ่อหน้าวูบไปขณะทำงานผมเลยอดห่วงไม่ได้ แต่โชคดีที่คุณพ่อของพี่เบียร์ไม่ได้เป็นโรคอะไรร้ายแรง แค่ขาดสารอาหารเท่านั้น

"ก็เหมือนเดิมครับบ้างานทั้งคู่"

"เหมือนคุณป๋ากับคุณแม่รักเลยครับ" ผมตักไอศกรีมให้พี่เบียร์ได้กินบ้าง "ครั้งก่อนที่ไปบ้านพี่เบียร์ผมเห็นว่ามีรูปถ่ายกับแมวด้วยนี่ครับ แต่ไม่เห็นว่าที่บ้านจะมีแมวเลยสักตัว"

"อ้อคุณแม่เคยเลี้ยงไว้ตัวหนึ่งครับ คุณแม่รักแมวมาก รักมากกว่าพี่ที่เป็นลูกชายคนเดียวซะอีก" ได้พูดถึงบุพการีรอยยิ้มของพี่เบียร์ก็อ่อนโยนอีกครั้ง "ตอนน้องหนูไปบ้านพี่ คุณแซวม่อนป่วยเลยอยู่ที่คลีนิกน่ะครับ"

"อ้อ"

"แต่ตอนนี้หายดีแล้วครับ วิ่งเล่นได้อย่างเดิม" ผมโล่งใจขึ้น ก่อนหน้านี้จะถามก็ไม่กล้าเลยมาถามเอาป่านนี้

"รักก็เลี้ยงแมวหนึ่งตัวที่บ้านเหมือนกันครับ แล้วคุณแซวม่อนน่ารักไหมครับ" ผมอยากรู้เรื่องราวของครอบครัวพี่เบียร์

"อือ ก็ไม่ค่อยน่ารักเท่าไร คุณแซวม่อนชอบแย่งความรักจากคุณแม่พี่ไป พี่เลยหมั่นไส้" ผมหัวเราะขำใหญ่ เข้าใจความรู้สึกของพี่เบียร์เพราะคุณแม่ก็รักทาร์กไข่ยิ่งกว่าลูกเหมือนกัน

"ทาร์กไข่ก็ชอบอ้อนคุณแม่รักบ่อยครับ ตอนจะย้ายมาคอนโดรักก็อยากพาทาร์กไข่มาด้วยแต่คุณแม่ไม่อนุญาตครับ"

"งั้นไว้เราค่อยพาคุณแซวม่อนกับทาร์กไข่ไปเที่ยวกันนะครับ" พี่เบียร์บอกอย่างใจดี ผมพยักหน้าทันที

"ตกลงครับ" นั่งคุยกันสักพักอาหารที่สั่งก็มา พี่เบียร์เป็นคนลงไปรับ หนึ่งวันที่แสนจะธรรมดาหมดไปเพราะการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของเราทั้งสองคน

มีกันแค่นี้

มันก็มีความสุขมากพอแล้ว.


ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
«ตอบ #71 เมื่อ06-12-2021 21:11:43 »

 :hao7:

ออฟไลน์ Oncloud69_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 32
«ตอบ #72 เมื่อ08-12-2021 09:32:07 »


 EPISODE : 32 หนึ่งวันกับพี่หมอ 



"พี่หมอครับ" หลังวุ่นวายกับเรื่องความรักของตัวเอง จนเมื่อเคลียร์การบ้านเรียบร้อยพอมีวันหยุดทั้งทีผมเลยหาโอกาสเพื่อแวะมาหาพี่ชายสุดที่รัก พี่หมอก็หายหน้าไปนาน ไม่แวะมาหาผมเมื่อมีเคสเข้ามาเยอะ พี่ชายแสนดีที่กำลังจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เงยหน้ามองผมด้วยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย

"อ้าวน้องมาได้ไง" ผมฉีกยิ้มกว้าง ใบหน้าอิดโรยของพี่ชายคนบ้างานนั้นเป็นอย่างนี้มาโดยตลอดตั้งแต่พี่เลือกเรียนสัตวแพทย์ พี่บอกว่ารักสัตว์และอยากดูแลสัตว์ทุกตัวให้มีชีวิตที่ดีตั้งแต่นั้นมาพี่ก็ทำตามความปรารถนาของตัวเองโดยมีครอบครัวของเราสนับสนุน พี่หมอจึงได้เป็นสัตวแพทย์และเพิ่งจะมีคลีนิกของตัวเองเมื่อสามปีก่อน

"รักก็แวะมาหาพี่ชายสุดที่รักยังไงละครับ" ผมบอกพี่ชาย อยากอ้อนอยู่หรอกแต่พี่เหมือนจะยังทำงานไม่เสร็จ ถ้าพี่ชายทำงานไม่เสร็จก็จะไม่หันสนใจอย่างอื่นเป็นอันขาด

"เรื่องนั้นพี่รู้ครับ พี่แค่แปลกใจว่าทำไมวันนี้น้องมาหาพี่ได้" คนสายตาสั้นขยับแว่นตาของตัวเองพลางมองผมให้ชัด พี่ชายก็น่ารักทุกอริยบทแค่พี่ชายขยับตัวผมก็ว่าน่ามองหมด

"ก็รักคิดถึงพี่หมอนี่ครับ" ผมบอกน้ำเสียงอ้อน พี่หมอมองผมแล้วหันไปสนใจงานในจอคอมพิวเตอร์อีก ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเป็นผมเองที่มารบกวนเวลาทำงานของพี่ชาย

"ไม่ใช่ว่ามีแฟนแล้วหายหน้าจนลืมหน้าพี่ชายคนนี้ไปแล้วเหรอครับ" ผมสะดุ้งที่ได้ยินพี่ชายพูดอย่างนั้น พี่หมอรู้เรื่องที่ผมกำลังดูใจกับพี่เบียร์แล้วงั้นเหรอ ไม่รู้ว่าพี่จะโอเคกับคนนี้ไหม

"แฟนอะไรครับรักยังโสด ยังเป็นน้องชายของพี่หมอเหมือนเดิม"

"ถึงพี่จะงานยุ่งแต่ก็มีเวลาเล่นโซเชียลนะครับ" ผมอมยิ้ม ไม่ได้อยากปิดบังอะไรพี่ชายอยู่แล้ว เว้นแต่คุณป๊ารายนั้นไม่ชอบเล่นโซเชียลอยู่แล้วผมเลยถือว่าโชคดี พี่หมอเงยหน้าขึ้นมามองผม "แล้วเขาไม่มาด้วยเหรอ"

"ใครครับ" ผมรู้ว่าพี่หมอถามถึงพี่เบียร์แต่วันนี้พี่เบียร์ติดเรียนผมจึงได้แวะมาหาพี่ชายด้วยตนเอง

"แฟนน้องไงครับ ชื่อภาคินเรียนวิศวะใช่ไหม"

"โหสืบเยอะเลยแฮะ" กลายเป็นผมที่ตกใจเพราะพี่ชายรู้เรื่องของพี่เบียร์ ผมยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพี่เพราะที่ผ่านมามันเป็นแค่การแอบรัก เมื่อตอนนี้สถานะหัวใจผมมันพัฒนามากกว่าเดิม ผมจึงอยากจะมาบอกพี่ชายให้รับรู้ด้วยตนเอง

"บนโปรไฟล์เขาบอกแค่นั้น พี่ดูรอบเดียวก็จำได้" พี่หมอรีบอธิบาย ผมกลับรู้สึกชอบมากกว่าที่พี่ชายใส่ใจเรื่องคนรักของผม

"ฮ่า ๆ ครับรักรู้ว่าพี่หมอไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น" เพราะปกติถ้าไม่ใช่คนสำคัญในชีวิตพี่หมอจะไม่สนใจสักนิด ถ้าจะให้พูดถูกก็คือพี่หมอสนใจพวกสัตว์ตัวน้อยมากกว่าคนเสียอีก "แล้วในสายตาพี่หมอพี่เบียร์เขาเป็นไงบ้างครับ"

"ก็..." พี่ชายผมพูดแล้วเว้นช่วงไปยาว ทำเอาคนอยากรู้อย่างผมลุ้น ก็ผมอยากรู้ว่าพี่ชายจะชอบพี่เบียร์บ้างหรือเปล่า

"ว่าไงครับพี่หมอ พี่เบียร์คนนี้ผ่านไหมครับ น้องแอบรักเขาตั้งแต่เทอมที่แล้วแล้วไม่คิดไม่ฝันว่าเทอมนี้จะได้ใกล้ชิดกันนะครับ" ผมคาดคั้นเพราะคาดหวังกับคำตอบของพี่ชาย อยากให้พี่ชอบพี่เบียร์เหมือนอย่างที่ผมชอบ

"ก็แสดงว่าตอนนี้สมหวังแล้วใช่ไหม"

"สมหวังนิดเดียวครับ เรายังไม่ได้ตกลงคบหากัน แค่ดู ๆ ใจกันก่อน" ผมบอกตามความเป็นจริง ขอแค่พี่ชายชอบคนนี้ผมจะได้โล่งใจ เวลาผมรักใครผมก็อยากให้ครอบครัวของผมได้รักคนนั้นบ้าง

"ดูใจกันก่อนก็ดี ถ้าไม่ใช่สิ่งที่ต้องการทั้งสองฝ่ายจะได้เลิกกันไปได้ง่าย" เรื่องนั้นผมรู้

"แต่คนนี้รักจริงจังนะครับ ถ้าพี่หมอเจอคนที่ทำให้หัวใจเต้นรัวทุกครั้งที่เจอหน้าพี่หมอจะรู้ว่าเขาคือคนพิเศษ" แค่คิดถึงหน้าพี่เบียร์ความรู้สึกมายมากก็ถาโถมจนอยากเจอหน้ากันอีกแล้ว

"ครับ พอมีความรักแล้วพูดเก่ง" ผมคงพูดมากมากกว่าเดิม ก็มีแต่เรื่องพี่เบียร์นั่นแหละที่ผมพูดบ่อย "รอพี่แป๊ปเดียวนะ ใกล้จะเสร็จแล้ว"

"ครับ" ผมจำเป็นต้องนั่งรอพี่ชาย ระหว่างพี่หมอทำงานผมก็ถือโอกาสถ่ายรูปแล้วส่งให้น้องชายตัวดี เจ้าขาจะได้รู้ว่าวันนี้พี่ชายสุดรักถูกผมจองตัวหนึ่งวัน

ระหว่างนั้นมีลูกค้าเข้ามาในร้าน โดนที่มีคนรับใช้อุ้มสัตว์ตัวใหญ่ไว้ในอ้อมอก พี่หมอรีบลุกแล้วบอกให้พาเจ้าแมวไปข้างในห้องตรวจทันที

"คุณแม่" ผมแปลกใจมากเมื่อได้เจอคุณแม่ของพี่เบียร์ที่คลีนิคชองพี่ชายตัวเอง มันไม่บังเอิญเกินไปหน่อยเหรอ

"อ้าว น้องรักมาทำอะไรที่นี่คะ"

"รักมาหาพี่ชายครับ แล้วคุณแม่พาแมวมารักษาที่นี่ประจำเหรอครับ" ผมเอ่ยถามอย่างประหม่าและตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อบังเอิญเจอกับคุณแม่ของรุ่นพี่ที่กำลังดูใจกัน คุณแม่ของพี่เบียร์เดินมาใกล้พร้อมกับจับมือผม

"ใช่ค่ะ คุณแซม่อนไม่สบายอีกแล้วน่ะค่ะแม่เลยต้องพามาหาคุณหมออีก" น้ำเสียงดูกังวลเพราะเป็นห่วงสัตว์เลี้ยง แต่ผมมั่นใจในฝีมือของพี่ชายตัวเอง พี่หมอต้องรักษาคุณแซวม่อนได้แน่

"คุณหมอคนนั้นพี่ชายรักเองครับ ชื่อพี่เจ้าคุณ" 

"ตายจริง โลกกลมอีกแล้วนะคะ แล้ววันนี้น้องรักมาคนเดียวเหรอคะ" บอกออกไปแล้วคุณแม่ก็ประหลาดใจอีกรอบเมื่อพี่ชายที่ผมพูดถึงคือคุณหมอที่รักษาคุณแซวม่อน 

"ครับ พี่เบียร์มีเรียนผมคิดถึงพี่หมอก็เลยแวะมาครับ" 

"ค่ะ งั้นเดี๋ยวแม่มาคุยด้วยนะคะ"

"ครับ" ว่าแต่ทำไมผมต้องคิดถึงพี่เบียร์ด้วย บอกไปว่ามาหาพี่ชายก็จบจะไปพูดถึงพี่เบียร์ไปทำไม คุณแม่เดินเข้าไปข้างในด้วยสีหน้ากังวล ผ่านไปหลายนาทีคุณแม่ก็เดินออกมา ผมลุกขึ้นไปหาพร้อมถามอาการแมวตัวนั้น

"เป็นไงบ้างครับ คุณแซวม่อนปลอดภัยนะครับ"

"อาการแย่ลงค่ะแต่อยู่ในมือคุณหมอแล้วแม่ก็หายห่วงค่ะ" คุณแม่ยิ้มสู้แม้ว่าอาการคุณแซวม่อนจะไม่ได้ดีขึ้นมาในทันตา ผมพาคุณแม่พี่เบียร์มานั่งแล้วปลอบโยน คุณแม่คงรักเจ้าแมวมากแน่

"ครับ พี่หมอเขาเก่ง รักษาสัตว์ทุกตัวด้วยใจรักและจิตวิญญาณ รักว่ายังไงคุณแซวม่อนก็หายป่วยอีกครับ" ผมมั่นใจสุด ๆ คุณแม่ระบายยิ้มพลางสำรวจมองหน้าผมจนผมรู้สึกประหม่า

"ค่ะแม่ก็เชื่ออย่างนั้น แล้วช่วงนี้น้องรักเป็นยังไงบ้างคะไม่แวะไปที่บ้านอีกเลย" ได้ยินคุณแม่พูดแล้วผมก็รู้สึกตื่นเต้นกว่าเดิม คุณแม่พี่เบียร์ยินดีให้ผมไปที่บ้านอีก 

"ช่วงนี้ก็งานเยอะนิดหน่อยครับแล้วคุณแม่สบายดีนะครับ"

"สบายดีค่ะ แม่คิดถึงน้องรักนะคะถ้าว่างก็แวะไปหาที่บ้านได้เสมอ"

"ครับคุณแม่" แม้จะฟังดูแปลกไปหน่อยแต่ผมกลับชื้นใจที่คุณแม่ของคนที่แอบรักรู้สึกดีด้วย ผมนั่งมองไปยังประตูห้อง เฝ้ารอการออกมาของคุณหมอเพื่อบอกอาการของเจ้าแมวตัวนั้น ขอให้คุณแซวม่อนหายป่วยไว ๆ

"ว่าแต่ทานข้าวกันมาหรือยังคะ ชวนคุณหมอไปทานข้าวด้วยกัน นี่ก็ใกล้เวลาพักเที่ยงแล้ว" คุณแม่ใจดีชวนไปทานข้าวด้วย จะปฏิเสธผมก็เกรงใจเพราะตอนเช้ามาผมก็ทานแค่ซีเรียลกับนมแค่นั้น ตั้งใจว่าจะมาทานมื้อเที่ยงกับพี่หมอ

"รักยังไม่ทานเลยครับ แต่เรื่องจะไปทานข้าวด้วยกันรักคงต้องถามพี่หมอก่อนนะครับว่าสะดวกไปด้วยไหม" หากพี่หมอสบายใจจะไปทานข้าวด้วยกันมันก็ยิ่งดี เพราะผมเองก็อยากให้พี่ชายได้รู้จักกับคุณแม่ของพี่เบียร์ในฐานะคุณแม่ของคนที่ผมแอบรักไม่ใช่ในฐานะลูกค้าที่พาแมวมารักษา

"ค่ะลูก น้องรักถามคุณหมอก่อนก็ได้ค่ะถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรค่ะ"

"ครับ" นั่งรอจนพี่หมอรักษาคุณแซวม่อนเสร็จ คุณแซวม่อนปลอดภัยดีแล้วแต่ต้องอยู่รออาการที่คลีนิกก่อน ผมถามถึงเรื่องไปทานมื้อเที่ยงแม้จะโดนเขกหัวไปหนึ่งครั้งแต่สุดท้ายพี่หมอก็ยอมไปทานข้าวด้วย กลายเป็นว่าพี่เบียร์เห็นรูปผมทานข้าวกับแม่ของตัวเองด้วยความงุนงงจึงได้ทักมาหา



'อยู่ไหนแล้วครับ'

'อยู่ข้างนอกครับ'

'ทานข้าวกับใครอยู่เหรอครับ'

'พี่เบียร์พูดถึงเรื่องอะไรครับ'

'นั่นสิ พี่พูดถึงเรื่องอะไรอยู่'

'ส่งสติกเกอร์หน้ายิ้ม'

'ส่งรูปภาพ'

'แม่พี่อวดใหญ่เลยครับ ว่าแต่ไปเจอกันได้ยังไงครับ'

'ความลับครับ'

'ความลับอีกแล้วนะครับ' 

'พี่เบียร์มีเรียนอีกไหมครับ' 

'วันนี้หมดแล้วครับแต่พี่แวะมาร้านเฮียกับเพื่อนครับ ว่าแต่เราจะกลับมอ.เมื่อไหร่ครับ พี่คิดถึง' 

'ส่งสติกเกอร์ยิ้มกว้าง' 

'ทุ่มนึงครับพี่หมอไปส่ง' 

'โอเคครับ ฝากหอมแก้มคุณแม่พี่ก่อนจะกลับด้วยนะครับ บอกว่าพี่ฝากมา' 

'จะบ้าเหรอครับ รักไม่กล้าทำหรอก' 

'เป็นลูกชายสุดรักของคุณแม่พี่แล้ว เรื่องแค่นี้คุณแม่อนุญาตแน่ครับ' 



"นั่งยิ้มอยู่นั่น ข้าวล่ะเมื่อไหร่จะกิน" ผมละสายตาจากมือถือแล้วเงยหน้ามองพี่ชายกับคุณแม่ของพี่เบียร์ กลางโต๊ะอาหารที่มีผู้ใหญ่คุยกันแต่ผมกลับเสียมารยาทมาคุยแชทกับพี่เบียร์ 

"พี่หมออย่าดุสิครับ" พอโดนดุเข้าผมก็ใช้ไม้อ้อนเข้าสู้ คุณแม่ที่นั่งข้าง ๆ ถามผมด้วยรอยยิ้มหวาน 

"ว่าแต่คุยกับพี่เบียร์เหรอลูก ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลย" 

"ครับ พี่เบียร์บอกว่าก่อนกลับฝากหอมแก้มคุณแม่แทนพี่เบียร์ด้วยครับ" ก็พี่เบียร์ฝากมาอย่างนั้นผมก็บอกไปถึงแม้จะรู้สึกเขินเล็กน้อย คุณแม่พี่เบียร์ก็ช่างน่ารัก นอกจากไม่ถือตัวแล้วยังทำตัวสนิทสนมกับผมด้วย แบบนี้ผมก็ยิ่งได้ใจนะซิ 

"เอาสิ ๆ ตาลูกคนนี้ก็ช่างร้ายนักนะไม่บอกแม่ก็รู้ว่าพี่เบียร์อยากให้น้องรักมาเป็นลูกแม่อีกคน" 

"รักไม่กล้าหรอกครับ" ผมส่ายหน้าเพราะความเขิน ยิ่งมีพี่ชายอยู่ด้วยผมก็ยิ่งเขิน กับคุณแม่ตัวเองที่นานครั้งจะเจอกันก็มีหอมแก้มกันบ้างแต่มาเป็นคุณแม่ของพี่เบียร์มาก็ขัดเขินเล็กน้อย 

"มา ๆ ขยับมาค่ะลูกเดี๋ยวแม่ถ่ายรูปอวดคนไม่มาค่ะ" 

"ครับ" และต่อมาพี่เบียร์ก็ได้รูปที่ผมหอมแก้มคุณแม่ส่งไปให้ หลังทานมื้อเที่ยงเสร็จคุณแม่ก็ขอตัวกลับเหลือเพียงผมกับพี่หมอแค่สองคน 

"โอ๊ย ๆ เจ็บจังเลย" ผมแกล้งร้องโอดครวญเมื่อถูกพี่ชายเขกหัวให้อีกรอบ ทำไมชอบเขกหัวผมก็ไม่รู้ พี่หมอส่ายหน้าคล้ายกับเอือมระอากับมุขเจ็บตัวของผม

"ทะเล้นละ พี่ไม่ได้มือหนักขนาดนั้น" 

"ฮา ๆ รักล้อเล่นครับ แล้วเราจะไปไหนกันต่อดีครับนานทีพี่หมอจะว่างมีเวลาให้น้องชาย" ก็เพราะเป็นพี่ชายที่รักเลยรู้ว่าผมแค่แกล้งเรียกร้องความสนใจ พี่หมอเช็ดแว่นตัวเองแล้วใส่กลับไปใหม่ ในบ้านของเราก็มีพี่หมอกับคุณแม่นี่แหละที่ใส่แว่นเพราะสายตาสั้น

"ว่างที่ไหนเรามาขโมยเวลาทำงานของพี่ต่างหาก"

"โห ปากคอเราะรายจัง" ผมยู่ปากเมื่อถูกพี่ชายบ่น แต่ผมก็มาขโมยเวลาทำงานของพี่หมอจริงนั่นแหละ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด 

"ไปดูหนังกันไหมหรือไปช็อปปิ้งดี" ผมครุ่นคิดหลังจากพี่ชายเสนอ ความจริงก็มีอีกหลายสถานที่ที่อยากไปเพราะผมเบื่อกับสองตัวเลือกนี้แล้ว

"รักอยากนั่งชมวิวมากกว่า แต่ช่วงบ่ายแดดแรง เราไปหอศิลป์ฆ่าเวลาแถมยังมีรูปอวดน้องเจ้าดีกว่านะครับ" ผมลองเสนอ ก็มันนานแล้วที่ไม่ได้เดินเล่นกับพี่ชาย ถ้ามีเวลาอีกหน่อยผมอยากพาพี่ชายไปสวนสนุกมากกว่า  

"เราน่ะนะ เป็นพี่น้องคลานตามกันมาแท้ ๆ ทำไมถึงได้ไม่ถูกชะตากัน" พี่ชายคนโตก็คงแปลกใจนั่นแหละว่าทำไมผมกับน้องเจ้าถึงได้ทะเลาะกันตั้งแต่เด็กจนโต

"ก็น้องเจ้านิสัยไม่ดี วันก่อนก็ยังมาป่วนทำให้รักกับพี่เบียร์ทะเลาะกัน" 

"จริงร้อยเปอร์เซ็นแน่นะ" ผมเห็นพี่หมอหรี่ตามอง คงรู้ดีอีกว่าผมกำลังใส่ร้ายน้องเจ้าอีก พอโดนจับไต๋ได้ผมก็ได้แต่บอกเสียงอ่อน จะหลอกพี่หมอหลอกไม่เคยจะได้เลย 

"ก็เจ็ดสิบเปอร์เซ็นส่วนอีกสามสิบเปอร์รักเติมแต่งเอง" พูดออกไปแล้วพี่หมอก็ดีดหน้าผากใส่หน้าผม "โอ๊ย พี่หมอ" 

"เห็นไหม เราน่ะคิดมากเรื่องเจ้าขา เป็นพี่น้องกันก็รักกันสิจะทะเลาะกันตั้งแต่เล็กจนโตหรือไง" พี่ชายบ่นผมเรื่องน้องเจ้าอีก รายนั้นเกิดมาแล้วทำให้ผมดูไม่ดีกับทุกคนเลย ยังโชคดีที่มีเพื่อนแสนดีทั้งสองคนเข้าใจผม ก็น้องเจ้ามาแกล้งผมก่อน

"ไม่รู้แหละถ้าน้องเจ้ายังแกล้งรัก รักก็ไม่ยอม" 

"นิสัยดื้อรั้นกันทั้งสองเลย" พี่หมอโอบกอดผมแทนเมื่อเราพากันเดินมายังรถ ถึงพี่หมอจะไม่เลือกเข้าข้างใครแต่พี่หมอเป็นพี่ชายที่ดีมาก ๆ รักน้องและไม่ชอบให้ผมกับเจ้าขาทะเลาะกัน 

"งั้นถ้าให้เลือกระหว่างรักกับน้องเจ้าพี่หมอรักใครมากกว่ากันครับ" ผมถามพี่ชายขึ้น ก็มันอยากรู้นี่น่า พี่หมอมุ่นคิ้วเล็กน้อย เท้าหยุดเดินเพื่อมาคุยกัน

"อย่าถามเหมือนให้พี่เลือกระหว่างคุณป๊ากับคุณแม่สิ พี่เลือกใครสักคนไม่ได้เพราะพี่รักทั้งสอง น้องของพี่สองคนพี่ก็รักเท่ากัน" ซีเรียสมากจนผมอดที่จะขำพี่ชายไม่ได้ พี่หมอช่างไม่รู้จักวิธีเอาใจเสียเลย

"พี่หมอนี่ไม่ได้เรื่องเลย เป็นรักล่ะก็ถ้าตอนนั้นใครถามก็บอกว่ารักคนนั้นครับ เพราะยังไงคนถามก็อยากได้คำตอบว่าเป็นตัวเองอยู่ดี" 

"อ้อ งั้นพี่ต้องตอบว่ารักน้องมากกว่าน้องเจ้าสินะ" เหมือนพี่หมอจะเพิ่งเข้าใจผมพยักหน้าทันที ก็ที่อยากได้ยินคือพี่หมอรักผมมากกว่าน้องเจ้านั่นแหละ ผมยิ้มพอใจทันทีเมื่อพี่ชายเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการ 

"ถูกต้องนะครับ พี่หมอพูดบอกรักรักใหม่นะครับ รักจะถ่ายวิดีโออวดน้องเจ้า" 

"ครับ ๆ" เมื่อพี่หมอยอมพูดบอกรักให้ผมได้ถ่ายวิดีโอเพื่อแกล้งน้องเจ้าเสร็จ เราก็เดินกันมาถึงรถของพี่หมอ ผมมัวแต่กดส่งวิดีโอและคุยแชทกับน้องเจ้าอย่างดุเดือด คอยดูวันนี้ผมจะอวดรูปส่งไปให้เจ้าขาได้กระอัดไปเลย มาแกล้งผมก่อนดีนัก จนเมื่อพี่หมอเปิดประตูจะขึ้นรถผมเลยเงยหน้าเรียก

"พี่หมอ" 

"ครับ" 

"ตอนนี้รักกำลังมีความรักนะครับ พี่หมออาจจะเคยเห็นรูปพี่เขามาบ้างแล้วและก็เพิ่งจะเจอคุณแม่ของพี่เบียร์เขาด้วย แต่กับคนนี้รักจริงจังนะครับ รักชอบพี่เขามากและอยากอยู่กับพี่เขาไปนาน ๆ" ผมบอกในเรื่องที่อยากจะบอกมานาน อย่างน้อยผมก็อยากให้มีคนในครอบครัวได้ยินดีกับความรักของผม แต่ก่อนที่คุณป๊าจะรู้เรื่องผมต้องบอกทุกคนเพื่อเป็นกำลังเสริมไว้ต่อกรกับคุณป๊า เมื่อตอนนี้น้องเจ้าขารู้แล้ว พี่หมอก็รู้ ก็เหลือแต่คุณแม่ ผมจะรีบหาโอกาสเหมาะเพื่อแนะนำคนที่ผมรักให้ เชื่อว่าคุณแม่ต้องรักพี่เบียร์เหมือนอย่างที่ผมรัก 

"อือพี่รู้แล้ว วันว่าง ๆ ก็พาเขามาแนะนำให้พี่รู้จักด้วยละ" 

"ครับ แต่พี่หมอห้ามบอกคุณป๊าเรื่องพี่เบียร์นะครับรักไม่อยากถูกคุณป๊าดุ" ผมเอ่ยขอเพราะหากคุณป๊ารู้เรื่องเมื่อไหร่ คนหวงลูกอย่างคุณป๊าคงไม่ยอมให้ผมได้คบหากับพี่เบียร์

"ได้สิ" 

"น่ารักที่สุด พี่ชายสุดที่รักของรักน่ารักกว่าใครเลย" ผมชอบพี่หมอก็ตรงนี้ ตามใจผมทุกอย่างไม่ขัดใจและชวนทะเลาะเหมือนน้องเจ้า เราต่างเปิดประตูรถแล้วขึ้นรถเพื่อออกเดินทางกัน

"น่ารักกว่าแฟนน้องหรือเปล่า" พี่หมอไม่วายล้อผมเรื่องพี่เบียร์

"ตอนนี้ยังไม่ใช่แฟนสักหน่อยครับ" 

"เดี๋ยวก็เป็น" ผมยิ้มกว้างเมื่อคิดว่าจะได้เป็นแฟนของพี่เบียร์อย่างที่พี่หมอบอก 

"พี่หมออย่าพูดให้ดีใจสิครับ ดีใจมาก ๆ รักก็คิดถึงพี่เขาอีก" 

"อาการหนักแล้ว" ฮา ๆ คงใช่อย่างที่พี่หมอว่านั่นแหละว่าแล้วผมก็หยิบมือถือมาแชทคุยกับเบียร์ ผมเชื่อแล้วว่าความคิดถึงมันฆ่าคนได้






ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
«ตอบ #73 เมื่อ08-12-2021 22:51:48 »

 :hao5:

ออฟไลน์ Oncloud69_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 33
«ตอบ #74 เมื่อ11-12-2021 19:52:25 »



 EPISODE : 33 นายจีบได้ป่าว

'รักเรียนก่อนนะครับพี่เบียร์'

มือกดส่งข้อความให้พี่เบียร์ได้รับรู้ เรียนจวนจะหมดคาบอาจารย์ก็สั่งให้หากลุ่มเพื่อทำรายงานกลุ่มกัน ทุกครั้งที่เรียนวิชามหาลัยงานกลุ่มหกคนเมื่อไหร่ผมกับเพ้นส์ต้องหาเพื่อนใหม่จากคณะอื่นเข้ามารวมกลุ่มทุกครั้งเมื่อเด็กประยุกต์ศิลป์มาลงกลุ่มนี้เพียงแค่สี่คนเลยต้องหาอีกสองคนจึงจะครบกลุ่ม

"เธอ ๆ มาสี่คนใช่ไหม ขอเข้ากลุ่มด้วยได้ป่าว" เสียงผู้หญิงที่นั่งถัดจากเก้าอี้พวกเราไปหนึ่งแถวสะกิดมาขอเข้ากลุ่ม ผม เพ้นส์และเพื่อนผู้หญิงสองคนสบตากัน "คือพวกเราลงวิชานี้สองคนหนะ" เธอคนนั้นบอก

"งั้นก็ดีสิ ครบกลุ่มพอดี" เพื่อนผู้หญิงผมสั้นกล่าวขึ้น

"ตกลงไหม" เพื่อนผู้หญิงที่นั่งข้างเพ้นส์หันมาถามความสมัครใจจากพวกเราสองคน ผมกับเพ้นส์พยักหน้าเห็นด้วยอย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาเพื่อนร่วมกลุ่มอีก

"ได้ ๆ"

"ได้เลย จะได้ไม่ต้องหาใหม่ให้เหนื่อยด้วย"

"งั้นเราเขียนชื่อส่งอาจารย์กัน" เมื่อเสร็จเรื่องผมหันไปพิมพ์ตอบข้อความจากพี่เบียร์ต่อ เพราะแค่รอเพื่อนเขียนชื่อกลุ่มเสร็จเราก็จะได้เลิกเรียน

"เธอ เธอชื่ออะไร" มีคนสะกิดเรียกอีกผมจึงเงยหน้าไปมอง เป็นนักศึกษาชายที่เข้ามาอยู่ในกลุ่มนั่นแหละที่ทักทายขึ้น

"เราเหรอครับ" ผมชี้มาที่ตัวเอง เพ้นส์เองหันมามองด้วย

"ใช่ เธอนั่นแหละชื่ออะไรเหรอ เราชอบ" ทั้งผมและเพ้นส์ต่างมองหน้ากันอย่างแอบหวั่น เพ้นส์ส่ายหน้าเมื่อมีคนน่ารำคาญอีกคนเข้ามาทักทายผม

"เจ้ารักครับส่วนนี่เพ้นส์เพื่อนเราครับ ส่วนผู้หญิงสองคนชื่อมิ้มกับส้มโอครับ" ผมพยายามพูดสุภาพที่สุดเพื่อบ่งบอกถึงการวางตัวห่างเหินให้เขารับรู้ อยู่ดี ๆ ก็โพล่งบอกว่าชอบต่อหน้าคนอื่น ผมรู้สึกอายสายตาเพื่อนที่มองมา

"เห้ย ชื่อเพราะจังครับคนก็น่ารัก ส่วนเราชื่อดัค เรียนจีนนะ" อ่าครับ ผมได้แต่ยิ้มแหย่น้อย ๆ ให้เขา

"ดักเหรอ ดักแด้งี้เหรอ" เพ้นส์หันไปถามเพราะสงสัย ผมเองก็สงสัยไม่ต่างจากเพ้นส์

"ดัคที่แปลว่าเป็ดนะเธอ เป็ดก๊าบ ก๊าบ" เขาอธิบายด้วยรอยยิ้มนั่น ไม่ชอบที่หมอนั่นเอาแต่มองมาที่ผมทั้งที่ในกลุ่มเรามีคนอื่น ๆ อยู่ด้วย เห็นแบบนี้แล้วผมคิดถึงพี่เบียร์ขึ้นมา อยากให้พี่เบียร์อยู่ด้วย

"อ้อ" ผมเองก็พยักหน้าตามเพื่อน "แต่ชอบรักก็เหนื่อยหน่อยนะ มันมีแฟนแล้ว" เพ้นส์พูดขึ้นผมหันขวับมองเพื่อน

"เหรอ มีแล้วเหรอ ทำไมคนน่ารักจึงรีบมีเจ้าของกันหมด ไม่โสดอยู่รอพี่ดัคเลยสักคน" เพ้นส์พยายามกลั้นขำ เพื่อนใหม่ดูท่าจะโอเว่อร์ ออกอาการเล่นใหญ่เกินจริงมาก ไม่ควรสนิทจะดีกว่า ผมเองก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องมีแฟน เมื่อผมก็ไม่ต้องการมีใครอื่นนอกจากพี่เบียร์

"มันอาจจะมีสักคนที่อยู่รอดัคก็ได้" ผมให้กำลังใจเขา อยากให้ดักรู้ว่าผมเองไม่ได้คิดสนใจดัคสักนิดเดียว

"ใครสักคนที่ว่านั้น ใช่เธอหรือเปล่า" ดัคขยิบตาเริ่มหว่านเสน่ห์ ผมก้มหน้ากลับไปคุยกับพี่เบียร์ต่อ เพ้นส์ขยับมากระซิบใกล้ ๆ

"ท่าทางจะเพี้ยน อย่าสนิทดีกว่า"

"เห็นด้วย" ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับเพื่อน จนเมื่อนักศึกษาส่งรายชื่อกลุ่มครบกันทุกคน อาจารย์ก็สั่งงานกลุ่มให้ไปทำ ดัคขอเบอร์ติดต่อผมอย่างไม่ลดละ เพื่อนผู้หญิงที่มาด้วยก็ขอโทษแทนหลายครั้งเพราะบางครั้งเธอก็เหนื่อยกับความหลงตัวเองของหมอนี่

"อย่าดีกว่าครับ ติดต่อกันในกลุ่มดีกว่า" ผมพยายามเลี่ยง ไม่รู้ว่ามาชอบผมเพราะอะไร

"เห้ยชอบ คนที่ไม่แจกเบอร์ให้คนอื่นง่าย ๆ แบบนี้เป็นแฟนกันก็อยากได้แฟนแบบนี้นะ มาเป็นแฟนกันไหมเธอ" ผมและเพ้นส์หน้าเหวอกับคนตรงหน้า เขาดูมีความมั่นใจกับความรู้สึกตัวเองดี

"ไม่อยากเป็นแฟนคุณครับ"

"โหเธอ ตอนปฏิเสธก็น่ารัก ไม่เป็นไรนะเราจะพยายามจีบเธอทุกวัน เธอต้องชอบเราแน่" มาแนวเดียวกับพี่เด็มเลย ที่บอกจะจีบทุกวันเอาเข้าจริงก็หายหน้าหายตาไปเลย ผมเองก็ไม่ได้คิดจะสนใจอยู่แล้ว

"โอกาสเป็นศูนย์และไม่มีทางเป็นไปได้ครับ" ผมบอกชัดคำ เก็บกระเป๋าสะพายแล้วเดินไปกับเพ้นส์เมื่อเพื่อนผู้หญิงลุกขึ้นกันเพื่อออกจากห้องเรียนกว้าง

"เพิ่งจะเจอหน้ากัน จะมาจีบรักทำไมก็ไม่รู้" ผมถอนหายใจ ไม่ชอบให้ใครล้อเล่นกับเรื่องความรัก เวลาผมมีความรักผมจะจริงจังกับมันเสมอ เพ้นส์ขำเล็กน้อยแล้วกระทุ้งแขนผม

"ก็ลองให้เขาจีบดิ เผื่อพี่เบียร์จะรู้สึกหึงขึ้นมาบ้าง" ผมไม่คิดอย่างนั้น

"พี่เบียร์จะหึงทำไม เขาก็ไม่ได้ชอบรักมากสักหน่อย" ถ้าเป็นผมก็พอจะมีแววหึงพี่เบียร์ถ้ารู้ว่ามีคนจะจีบพี่เบียร์

"แต่ได้ยินบางคนบอกว่าพาพี่เขาไปนอนห้องมาด้วย พาไปทำไมเอ่ย หรือตกลงเป็นแฟนกันแล้วนะ" เพื่อนผมก็ชอบล้อ พี่เบียร์ก็แวะมาหาผมที่คอนโดเป็นเรื่องปกติไปแล้ว นั่นสิ มันกลายเป็นเรื่องปกติตั้งแต่ตอนไหน ผมไม่ทันได้สังเกต

"ไม่ใช่แฟน ยังเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้อง" ผมยืนยันสถานะหนักแน่น เรายังไม่ใช่แฟนผมไม่สามารถเรียกตัวเองด้วยคำนั้นไม่ได้

"อ้อ พี่น้อง... ประโยคคุ้น ๆ ตอบเหมือนดาราเลยเนอะ"

"ไม่ใช่พี่น้อง รุ่นพี่รุ่นน้องต่างหาก"

"รุ่นพี่รุ่นน้อง" เพ้นส์ล้อไม่หยุด "แล้วใครเล่านะว่าถูกรุ่นพี่หอมแก้มแล้วก็กอดด้วยน้าาา"

"เพ้นส์ ชูว์ เงียบไปเลยนะ" เรื่องนี้ผมเผลอพูดแค่ครั้งเดียวเพ้นส์เอามาล้อผมหลายครั้งเชียว น่าจะทำเป็นลืมแล้วแกล้งไม่ได้ยินก็ยังดี

"เป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันเขาไม่หอมแก้ม ไม่นอนกอดกันหรอกนะรัก" ผมรู้แต่ผมต้องการฟังสถานะที่ชัดเจนจากพี่เบียร์มากกว่า ถึงตอนนั้นแล้วผมจะเลี้ยงฉลองที่ตัวเองได้เป็นแฟนของพี่เบียร์ทุกวันเลย เพ้นส์กอดคอผมระหว่างที่เรากำลังเดินลงบันไดอาคาร

"แล้วจะไปกินข้าวเย็นที่ไหน"

"พี่เบียร์จองร้านไว้แล้ว เดี๋ยวจะมารับเพ้นส์ก็ไปด้วยได้นะ"

"หือ หน้าที่รุ่นพี่มีแบบนี้ด้วยเหรอ อิจฉาจังนะ"

"จะล้อกันให้ได้ใช่ไหมคุณเพ้นส์" เพื่อนผมหัวเราะเมื่อถูกผมว่า เพ้นส์เกาหัวผม นี่ก็อีกคนชอบมายุ่งวุ่นวายกับหัวผมอีกคน ผมหน้าหงิกหน้างอใส่เพื่อน

"ก็รักน่าแกล้งดี เราไปด้วยก็ได้เบื่ออาหารในมอ.แล้ว"

"อือ บอกพี่เบียร์ไว้แล้วแหละ" ผมบอกพี่เบียร์ไว้แล้วจริง ๆ เพราะอยากพาเพ้นส์ไปทานอาหารนอกมหาลัยด้วยกัน เรายืนรอพี่เบียร์มารับสักพัก รถคันเดิมก็ขับมาจอด ผมฉีกยิ้มให้คนตัวโตที่วันนี้เพิ่งจะได้เจอหน้ากัน พี่เบียร์ตัดสินใจจะพาไปทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารอีตาเลียน ระหว่างนั้นดัคขับรถผ่านแล้วส่งจุบให้ทำเอาผมต้องรีบหลบหน้าส่วนเพ้นส์ก็ขำไม่หยุด ต้องมาทำรายงานกลุ่มเดียวกันด้วย แบบนี้ผมต้องรู้สึกลำบากใจไปถึงตอนไหน

"วันนี้เรียนเป็นไงบ้างครับ" พี่เบียร์ถามระหว่างขับรถ ใบหน้าก็ขมวดตั้งแต่ตอนที่ดักบีบแตรแล้วส่งจูบมาให้ผมแล้ว

"เรียนกลุ่มอาจารย์วิเนื้อหาแน่นไปหน่อยครับ รักจดตามแทบไม่ทัน ยังดีที่อาจารย์มีไฟล์แจกไว้ให้อ่าน"

"ข้อสอบอาจารย์แกชอบบรรยายนะครับ เขียนเยอะ แต่ถ้าจับใจความได้ เน้นเนื้อความก็ยิ่งได้คะแนนสูง อย่างงานกลุ่มของแกก็มีคนไม่ได้คะแนนด้วยนะครับ ใครทำชุ่ยไปส่ง ได้ศูนย์คะแนนไม่ก็ติดลบด้วย" คนเคยเรียนมาก่อนบอกเคล็ดลับให้ผมและเพ้นส์ได้รู้

"โห"

"ถึงอาจารย์แกซื่อตรง และเข้มงวดมากแต่เวลามีใครป่วยลาหรือมีเหตุผลที่รองรับได้ก็ผ่อนปรนให้นะครับ ดูใจดีกว่าที่เคยได้ยินรุ่นพี่ขู่กันมาอีก" เห็นผมกังวล พี่เบียร์จึงได้หาข้อดีของอาจารย์วิมาให้ผมหายกังวล

"งานอาจารย์ต้องเนี้ยบจริงครับ" ตั้งแต่เรียนกับอาจารย์มา รู้ซึ้งทันทีว่าอาจารย์คนนี้ต้องงานหินแน่

"แล้วเมื่อกี้ใครหรือครับ ที่บีบแตรใส่" ผมกลืนน้ำลายลงคอ ขนาดแกล้งทำเป็นไม่สนใจเรื่องดัคแล้ว พี่เบียร์ยังจะใส่ใจ

"อ้อ เพื่อนร่วมงานกลุ่มนะครับ ชื่อดัคเรียนเอกจีน แต่หมอนี้นชอบรักนะครับ ประกาศในกลุ่มด้วยว่าจะจีบรัก" เพ้นส์ได้ทีก็รีบบอกพี่เบียร์ ผมหันไปมองเพื่อนที่นั่งเบาะหลังให้เงียบแต่เพ้นส์ก็ยังยิ้มยียวนและบอกพี่เบียร์จนหมดเปลือก ถ้าอยู่ใกล้กันผมจะหยิกเพื่อนและปิดปากไม่ให้เพื่อนได้พูด เพ้นส์จะพูดเรื่องนั้นทำไม

"หือ ประกาศเลยหรือครับ"

"ใช่ครับ ลุกขึ้นบอกเลยว่าจะจีบจนกว่ารักจะตกลงเป็นแฟน ความมั่นใจของหมอนั่นนี่สุดยอดจริง ๆ ครับพี่เบียร์"

"..."

"แล้วน้องหนูให้คำตอบเขาไหมครับ"

"ก็ให้-"

"รักบอกว่าจะจีบก็ได้แต่ยากหน่อยนะครับ" เพื่อนผมกำลังโกหกอีก ผมไปพูดแบบนั้นกับดัคตอนไหน

"เพ้นส์"

"ดูซิครับ เห็นแบบนี้รักมันก็มีรุ่นพี่ รุ่นเดียวกันชอบมันเยอะนะครับ" ผมไม่รู้ว่าเพ้นส์จะพูดไปทำไมแต่ผมไม่อยากให้พี่เบียร์มารู้เรื่องไร้สาระพวกนี้ อีกอย่างดักเองก็ไม่รู้ว่าจะชอบผมได้กี่วัน พี่เบียร์มองผมวูบหนึ่ง

"นั่นซิครับ สงสัยจะโปรยความน่ารักใส่คนอื่นเลยมีแต่คนมาชอบ"

"ไม่ใช่สักหน่อยนะครับ รักไม่ได้ชอบดัคสักนิด" ทำไมต้องรีบแก้ตัวเหมือนทำตัวผิดกับแฟนด้วยนะผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเอง ได้ยินเสียงเพ้นส์หัวเราะ คอยดูเถอะผมจะไม่พูดกับเพื่อนหนึ่งวัน พี่เบียร์ขับรถมาถึงร้าน เราก็สั่งอาหารกันเป็นปกติแต่ดูเหมือนบรรยากาศมันไม่ปกติ

"รักจะไปเข้าห้องน้ำครับ" ผมลนลานรีบลุกเดินไม่ดูคนอื่นจนไปชนกับใครบางคนเข้าหน้าห้องน้ำ คนที่ชนกับผมยิ้มกว้างเมื่อเราเจอกัน

"เธอ นางฟ้าของดัค มาร้านนี้เหมือนกันเหรอ เสียดายถ้ารู้ว่ามาร้านเดียวกันจะได้ขับรถมาพร้อมกัน"

"ไม่เป็นไร ๆ เรามากับแฟนนะ" รีบบอกและแอบอ้างว่าพี่เบียร์คือแฟน ผมไม่อยากให้ดัคมาชอบหรือมาจีบผม ก็เพราะผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้ว

"คนนั้นเหรอแฟนเธอ" ดัคชี้ไปที่พี่เบียร์ ผมพยักหน้าและเผลอสบตากับพี่เบียร์เข้า ร่างสูงเดินมาหาทำเอาผมหัวใจหวาดหวั่น "เธอชอบแบบนั้นเหรอ ดัคเป็นให้เธอได้นะ"

"ไม่เป็นไร" ผมอยากให้ดัคเงียบและหยุดพูดก่อนพี่เบียร์จะมาถึง แล้วทำไมผมต้องรู้สึกกลัวด้วยเล่าเนี่ย

"เราจะไปเข้าห้องน้ำ ดัคจะไปเข้าไหม"

"เธอจับมือเรา มือเธอนุ่มมากหรือเธอจะชอบเราแล้วใช่ไหม" พี่เบียร์เดินมาใกล้พร้อมดึงมือผมให้ออกห่างจากเด็กรุ่นน้องที่ประกาศจะจีบ ผมอยากจะบ้าตาย ไม่รู้ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่

"ไม่ไปเข้าห้องน้ำหรือครับ"

"เข้าครับ แต่บังเอิ้นบังเอิญเจอดัคนะครับ"

"ดัค" พี่เบียร์หันไปสนใจเพื่อนใหม่ของผม คนถูกเรียกก็ยังยืนยิ้มสบตากันพี่เบียร์

"ผมดัคเอกจีน ชอบเธอมาก เป้าหมายตอนนี้ของผมคือตามจีบเธอให้ติดก่อนจบเทอมครับ" พี่เบียร์โอบเอวผมไว้หลวม ๆ เหมือนกำลังประกาศให้รุ่นน้องแสนมั่นหน้ารู้ว่าคนนี้นะพี่จองแล้วจีบยากหน่อยนะ

"แต่พี่คงไม่อนุญาตให้จีบคนของพี่หรอกนะครับ น้องหนูไปเข้าห้องน้ำกันครับเดี๋ยวพี่ไปด้วย" ผมพยักหน้าน้อย ๆ แล้วเดินเข้าไปห้องน้ำกับพี่เบียร์ เพ้นส์มองดูห่าง ๆ ที่โต๊ะแล้วนั่งสั่งอาหารคนเดียว เด็กอนุบาลยังดูออกเลยว่าพี่เบียร์กำลังหึง ไม่เข้าใจว่าเพื่อนของเขาไม่มีเซ้นส์เรื่องแบบนี้ได้ยังไงทั้งที่แอบรักคนอื่นเป็น

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
«ตอบ #75 เมื่อ12-12-2021 00:12:44 »

 :fire:

ออฟไลน์ Oncloud69_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 34
«ตอบ #76 เมื่อ16-12-2021 20:05:12 »

EPISODE : 34 ข่าวในเพจแอนตี้

"พวกมึงเห็นเพจนี้หรือยัง" ช่วงสองสามวันมานี้ผมรู้สึกว่าถูกมองจากเพื่อนในมหาลัยด้วยสายตาแปลก บ่อยครั้งที่สงสัยแต่ก็ไม่รู้จนเมื่อนายโนวิ่งมาบอกให้ผมรู้ เพ้นส์กับลูกแพร์ก็มองผมเลื่อนอ่านข้อความในเพจพลางบ่น

"ทำไมเพจนี้ถึงได้มีเรื่องรักเขียนทุกวันล่ะ รักไม่ใช่คนดังสักหน่อยผมไม่เข้าใจ" พอได้อ่านข้อความหมิ่นประมาทแต่ละข้อความก็เล่นเอาใจหาย ผมไม่เคยว่าใส่ร้ายคนอื่นมาก่อน

"กูเห็นมานานละ รำคาญมากเพจนี้แม่งแอนตี้มึงชัด ๆ" นายโนพูดด้วยอารมณ์ฉุน ผมก็ไม่รู้ว่าใครเป็นเพจนี้ทำไมถึงได้มาแอนตี้ผมขนาดนี้ 

"แต่รักไม่ได้เป็นศัตรูกับใครเลยนะ ทำไมเขาต้องมาเกลียดรักด้วย" 

"แค่รักสนิทสนมกับพี่เบียร์มันก็พอเป็นเหตุผลได้นะ" เพ้นส์พูดขึ้น เนื้อหาแอนตี้ส่วนใหญ่ก็มีแต่เรื่องแซะผมเวลาที่อยู่ใกล้พี่เบียร์ 

"แอนตี้รักเพราะชอบพี่เบียร์เหมือนกันนะเหรอ"

"เออ" แต่ผมไม่เข้าใจ ความรักของผมมันไม่มีค่าพอที่คนอื่นจะเห็นค่าเลยเหรอ ผมก็รักพี่เบียร์อยู่ในส่วนของตัวเอง ไม่เคยก่าวกายชีวิตของใคร ขนาดตอนนั้นพี่เบลล์ใกล้ชิดกับพี่เบียร์ผมก็ไม่เคยว่าร้ายอะไรเธอเลย 

"โน อย่าด่วนสรุปสิ บางทีคนพวกนี้อาจจะไม่ชอบแค่รักอย่างเดียวก็ได้เลยทำแบบนั้นลงไป" ลูกแพร์พูดขึ้นบ้างหลังเงียบอยู่นาน นายโนถอนหายใจดังเพราะแอบไม่พอใจที่ถูกเพื่อนขัดใจ

"ไม่ชอบรักก็ไม่เป็นไรแต่ไม่เห็นต้องเขียนแอนตี้กันเลย" ผมว่า

"อย่าคิดมากสิรัก ใครไม่ชอบรักก็ช่างเขา เขาเขียนสนุกปากไปอย่างนั้นแหละพอเหนื่อยเดี๋ยวเงียบเอง" 

"แต่รักไม่อยากถูกคนเกลียดเยอะ มันรู้สึกไม่ดี" ผมมองลูกแพร์ เพื่อนก็โอบไหล่ผมเพื่อปลอบโยน ไม่มีใครอยากถูกเกลียดหรอก ยิ่งผมไม่ได้ทำอะไรใครมาก่อนผมยิ่งเครียดหนัก หรือผมไม่เหมาะสมกับพี่เบียร์เหมือนอย่างที่แอดมินเขาโพสต์

"กูรู้จักรุ่นพี่คนนึง เรียนไอที เป็นแฮกเกอร์คนเก่ง พี่มันเก่งเรื่องการตามหาคนมาก อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าคนโพสต์นี้เป็นใคร กูนัดพี่มันไว้แล้วเดี๋ยวก็มาน่ะ" คนเรียกรวมกลุ่มบอกอย่างภูมิใจ ผมใจชื้นขึ้นมาเมื่อเพื่อนก็ใจดีช่วยเหลือผม 

"ทำงานเร็วไปนะ" ลูกแพร์เอ่ยชม

"กูไม่ชอบให้ใครว่าเพื่อนรักของกูนี่หว๋า" ผมขยับตัวเลื่อนไปโอบกอดเพื่อนรัก  

"ขอบคุณนะโน" ผมไม่อายสายตาเพื่อนของเพื่อนที่มากับลูกแพร์ด้วย 

"เออ ว่าแต่พวกมึงไม่มีเรียนกันเหรอถึงได้มาด้วย" เห็นมะนาวกับว่านน้ำนั่งบ่นเมื่อเลื่อนดูเพจนั่นเขียนถึงผม นายโนก็หันไปชวนคุยต่อ เพื่อนผมก็คุยเก่ง สนิทกับทุกคนไปทั่ว 

"ก็ลงคาบเรียนพร้อมกับลินหมดทุกตัว จะให้มีเหรอครับในเมื่อลินก็อยู่ตรงนี้" 

"กวนตีนเหรอ กูถามดี ๆ" ผมรีบห้ามเพื่อนไม่ให้ทะเลาะกับมะนาว คู่นี้ก็ชอบคุยกันด้วยหมัดด้วยลูกแตะตัดสินกันเสมอ ลูกแพร์ปล่อยให้เพื่อนได้ทะเลาะกันโดยไม่คิดจะห้ามศึกอีกแล้ว 

"เออ ก็พอรู้ว่ามึงเรียกประชุมด่วนพวกกูว่างอยู่เลยขอตามมาด้วย เพราะอยากเผือก" ว่านน้ำแทรกขึ้น และก็ได้รับความพอใจจากนายโน เพ้นส์ขำเมื่อได้ยินอย่างนั้น 

"อันนี้ฟังเข้าหูสุดละ เหมาะกับพวกมึงดี" ลูกแพร์เหนื่อยจะฟังพวกนี้คุยจึงได้แทรกขึ้นมา 

"เพจนี้เปิดมาหลายปีแล้วนะ ที่ผ่านมาก็โพสต์เรื่องคู่จิ้นในมหาลัยแต่ไม่ดังเท่าเพจเอเวอร์รี่วายเดย์ แต่ทำไมช่วงนี้ถึงได้มาโพสต์แอนตี้รักด้วยล่ะ ไม่เห็นจะดีตรงไหน คนเข้าไปเม้นด่าให้ลบก็เยอะก็ยังดื้อด้านไม่ยอมลบอีก" 

 "ดูเหมือนช่วงนี้เพจจะกลายเป็นแอนตี้แฟนทุกคู่จิ้นที่เพจเวอร์รี่วายด้วยนะ ดูสิ งานนี้โดนทุกคู่เลยแต่รักถูกพูดถึงทุกวัน" เพ้นส์ที่เลื่อนดูก็วิเคราะห์ตาม ผมไม่อยากดูเท่าไหร่เพราะใจยังไม่หายกังวล โกรธเกลียดผมมากถึงขั้นต้องโพสต์กันเลยหรือไง ลูกแพร์ยื่นมือถือให้ผมได้ดูรูปบางอย่าง ผมเบิกตากว้าง นี่มันรูปตอนที่ผมไปเที่ยวกับพี่หมอเมื่ออาทิตย์ก่อน

"นี่มันรูปตอนรักอยู่กับพี่หมอด้วยนะ เขาดูพยายามจังเลย" ผมชักหงุดหงิด แบบนี้มันคุกคามชีวิตของผมแล้ว เราต่างหันไปมองตามเมื่อนายโนโบกมือเรียกใครสักคน 

"พี่มึงทางนี้เว้ย ทางนี้" ร่างสูงของรุ่นพี่ตัวสูงเดินมาหาพวกเรา นายโนก็ช่างเอาใจรีบเคลียร์ที่นั่งให้รุ่นพี่ได้นั่ง เพ้นส์กับมาะนาวต้องเสียสละที่นั่งเพื่อให้พี่เขาได้นั่งแทรกกลาง 

"เรียกกูได้เพราะมากเลยนะไอ้โน" เราต่างก็ไหว้ทักทายรุ่นพี่ ผมไม่เคยเจอหน้ารุ่นพี่คนนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าเพื่อนไปรู้จักมักดีกับรุ่นพี่ได้ยังไง

"ก็สนิทกันแล้วเรียกแบบคนที่สบายใจกันไงพี่" นายโนพูดอย่างอวดดี ตีสนิทกับเขาไปทั่วอย่างนี้ผมทำไม่เป็นหรอก อย่างมากก็แค่ทำความรู้จักชื่อก็จบ แต่นายโนเก่งเรื่องการรักษาความสัมพันธ์กับคนอื่น

"เออว่าแต่เรียกมามีเรื่องอะไรให้ช่วย" รุ่นพี่วางโน๊ตบุ๊กที่พกมาแล้วถาม เชื่อแล้วว่ารุ่นพี่เก่งไอทีขนาดอุปกรณ์คู่ใจที่มานั้นยังดูมีออร่าไม่เหมือนโน๊ตบุ๊คธรรมดาของผม ที่วัน ๆ ก็เปิดแค่ดูหนังไม่ก็ทำรายงานแค่นั้น 

"หาเจ้าของเพจนี้ให้หน่อยสิ มันด่าเพื่อนผมทุกวันจนผมทนไม่ไหวละ" นายโนบอกแล้วให้ชื่อเพจให้พี่เขาได้ตามหา รุ่นพี่ดูแล้วยิ้มกว้างเหมือนเป็นเรื่องง่าย

"หาได้สบายมาก แต่มีอะไรเป็นค่าขนมให้กูล่ะ กูมีฝีมือแต่กูไม่ทำให้ฟรีนะเว้ย" ผมเข้าใจดี ไม่มีใครมาเสียเวลาช่วยเหลือคนฟรีหรอก 

"รักจ่ายค่าเสียเวลากับค่างานได้ครับ" 

"แบบนี้ค่อยน่าคุยหน่อยครับ หือ เด็กไอ้ภาคินหรือเปล่านะเรา" รุ่นพี่สบตากับผมแล้วถามเหมือนจะเพิ่งได้สบตากันละมั้งพี่เขาเลยถามอย่างนั้น พวกเพื่อนผมต่างก็ยิ้มแซวกันใหญ่ 

"เอ่อ..." ผมเกาหลังคอเพราะไม่รู้จะตอบยังไง

"ใช่พี่คนนี้แหละเด็กพี่เบียร์มัน" เพื่อนตัวดีของผมบอกแทน นายโนก็เหมือนเพ้นส์ชอบป่าวประกาศว่าผมเป็นแฟนกับพี่เบียร์ทั้งที่เรายังไม่ได้คบกันเป็นจริงเป็นจังสักหน่อย 

"ได้ยินมันบ่นว่าน่ารัก เออน่ารักจริงด้วย สเปกมันยิ่งชอบคนมีแก้มนุ่ม ๆ ด้วย สมัยมอปลายพี่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกับไอ้ภาคินมันน่ะ" 

"อ้อครับ" ผมก็เพิ่งจะรู้ว่ารุ่นพี่ตรงหน้าเคยเรียนโรงเรียนเดียวกับพี่เบียร์

"คนกันเองเดี๋ยวพี่ลดราคาครึ่งหนึ่งให้ละกัน" พี่เขาใจดีลดราคาให้ด้วย ผมยังไงก็ได้เพราะต่อให้จ่ายแพงแค่ไหนแค่ได้รู้ตัวของเจ้าของเพจนั้นผมก็จ่ายไหว 

"โอ้ยพี่มึงรีบ ๆ เถอะ เรื่องเงินพวกผมไม่มีปัญหาค้าบ" 

"เออ ๆ พูดมากนะมึงไอ้โน" หลังถูกนายโนรบเร้า รุ่นพี่ก็เปิดโน๊ตบุ๊กแล้วง่วนอยู่กับการทำงานโดยมีเพื่อนผมหลายคนมุงดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผมก็อยากดูแต่ไม่อยากชะโงกดูเพราะรู้สึกเกรงใจรุ่นพี่เขา

"อะได้แล้ว ของจิ๊บจ๊อยมาก" รอเพียงไม่นาน พวกเราก็ได้รู้ว่าเจ้าของเพจนั้นเป็นใคร นายโนเอ่ยขอบคุณก่อนใคร 

"ขอบคุณครับพี่" ผมเองก็เอ่ยขอบคุณรุ่นพี่และเห็นร่างสูงของพี่เบียร์เดินมาหาพร้อมรอยยิ้ม ผมไม่ได้นัดพี่เบียร์เลยแต่ไม่คิดว่าเราจะบังเอิญเจอกันที่ลานอาหาร

"มีเรื่องอะไรกันครับ" พี่เบียร์ถามพวกเราจนเหลือบไปเห็นเพื่อนของตัวเอง "ไอ้เคโอ"

"ไงครับไอ้ภาคิน" รู้จักกันจริงด้วย

"เรากำลังให้พี่มึงหาเจ้าของเพจแอนตี้นี่นะพี่ ก็ช่วงนี้เพจนี้มันชอบด่าไอ้รักทุกวัน" ผมไม่ทันจะได้บอกอะไรนายโนก็ชิงบอกก่อน พี่เบียร์มุ่นคิ้วไม่เข้าใจแล้วขยับมานั่งใกล้ผมเมื่อที่ว่างข้างผมนั้นนายโนไม่ยอมมานั่งอย่างเดิม 

"เพจอะไรครับ"

"เพจนี้ครับพี่เบียร์ แต่พี่เขาหาเจ้าของเพจได้แล้วครับ" ผมยื่นมือถือให้พี่เบียร์ได้รู้ มีพี่เบียร์อยู่ด้วยมันก็รู้สึกแปลกแต่ผมกลับยิ้มชอบใจ 

"ไหนดูซิครับ" พี่เบียร์เลื่อนดูพร้อมทำหน้าจริงจัง พี่เคโอพูดสวนขึ้นนั่นแหละที่ทำให้ผมตั้งใจฟัง 

"เป็นเด็กบัญชีปีสามคิดว่ามึงก็น่าจะรู้จักด้วย"

"ซีแนนเหรอวะ ทำไมต้องมาเขียนแอนตี้ด้วย"

"กูไม่รู้ คงต้องไปถามเจ้าตัวเองมึงเองก็เป็นเพื่อนกับมันหนิ"

"เออ ขอบคุณ" ผมและเพื่อนต่างเงียบ ไม่คิดว่างานนี้คนที่พี่เบียร์รู้จักจะเป็นเจ้าของเพจแอนตี้ ผมมองพี่เบียร์ก็เห็นว่าพี่เบียร์หันมามองผมด้วย 

"กูทำงานเสร็จแล้ว ไอ้โนอย่าลืมโอนมานะเว้ยกูต้องไปเรียนละ" 

"เออพี่ ขอบคุณค้าบ" นายโนไหว้อย่างมีมารยาท พี่เคโอเตรียมตัวเก็บสัมภาระของตัวเองเมื่อมีเรียนต่อ ผมขอจ่ายค่าทำงานเองเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของผม จนพี่เคโอเดินออกไปเราถึงได้นั่งหารือกันต่อ 

"พี่รู้จักซีแนนเขาครับ ถ้าจะไปหาเดี๋ยวพี่นัดให้เอง"

"ดีเลยพี่ นัดมาเลยจะได้ไปถามให้รู้เรื่อง" ผมก็แล้วแต่พี่เบียร์จะจัดการ พี่เบียร์พิมพ์ข้อความส่งไปหาพี่ซีแนน งานนี้โชคดีมากที่เจ้าของเพจนั้นเป็นคนในมหาลัยและยังเป็นคนที่พี่เบียร์รู้จักเราจงไม่ต้องเสียเวลาหากันนาน

"จริง ๆ เราสนับสนุนให้รักฟ้องนะ โดนด่าขนาดนั้น" เพื่อนผมต่างเห็นด้วยกับลูกแพร์ ผมยังไม่คิดถึงเรื่องนั้นเลยอย่างน้อยก็อยากจะฟังเหตุผลที่เขาโพสต์แอนตี้ผมก่อน

"ฟ้องก็ดีครับ พี่ก็ไม่ชอบให้ใครว่าน้องหนูเหมือนกัน" พี่เบียร์เสนอความคิดเห็นด้วยท่าทีจริงจัง

"เออครับ" ถ้าพี่เบียร์บอกว่าฟ้องผมฟ้องด้วยก็ได้ครับ พี่เบียร์นั่งรอจนคุยกับฝ่ายนั้นแล้วนัดเจอกันที่คณะของพี่ซีแนน ผม พี่เบียร์และเพื่อนรักสองคนจึงได้ขับรถมาหา เรามองหาพี่คนนั้นจนพี่เบียร์บังเอิญไปเจอแล้วสกัดทางเดินของเธอ คงเพราะเห็นผมมาด้วยหรือเปล่าเธอถึงได้ดูลุกลี้ลุกลนทำท่าจะหนีพี่เบียร์ทั้งที่นัดกันไว้แล้ว

"มีอะไรเหรอภาคิน"

"คิดว่าเธอน่าจะพอรู้เรื่องของน้องเจ้ารักมากบ้างใช่ไหม" พี่เบียร์จับแขนเธอไว้เพราะกลัวพี่ซีแนนจะวิ่งหนี นายโนกับลูกแพร์เดินไปสกัดทางข้างหลังเพื่อไม่ให้พี่เขาคิดหนีไปไหน 

"อ้อน้องคนนี้ก็เห็นผ่านเฟสบุ๊คภาคินบ่อย ๆ นี่น่า คบกันแล้วเหรอ" ผมมองเธอ ถือเป็นรุ่นพี่ที่สวยคนนึงและผมไม่รู้จักหน้าตามาก่อน ทำไมถึงได้เขียนแอนตี้ผมขนาดนั้น  

"ผมไม่ได้ถามในฐานะนั้นครับ แต่ถามในฐานะเจ้าของเพจเพอเพิลวาย" พี่เบียร์จี้ถามอีก พี่ซีแนนตกใจแสดงอาการออกมาชัดเจน "ทำไมต้องเขียนแอนตี้น้องหนูด้วย"

"ภาคินพูดอะไรอย่างนั้น เราจะไปรู้ได้ยังไงเราไม่ใช่เจ้าของเพจสักหน่อย" เธอปฏิเสธเสียงแข็ง

"เหรอครับ พิสูจน์ได้ไหมครับว่าไม่ใช่เธอ เอามือถือมาพิสูจน์ตอนนี้สิครับ" ผมไม่คิดว่าพี่เบียร์จะจริงจังขนาดนี้ แค่เรื่องเล็กน้อยของผมพี่เบียร์ดูใส่ใจจนผมแอบปลื้มพี่เบียร์เพิ่ม

"ถ้าแน่ใจพิสูจน์สิครับเจ๊"

"นี่ใครเป็นเจ๊แกห๊ะ" เสียงนายโนรบกวนสมาธิพี่ซีแนนเข้า พี่เขาถึงได้หันไปโวยวาย

"ไม่เป็นแต่จะเรียกแบบนี้ถ้าเจ๊ยังไม่หยุดว่าร้ายเพื่อนผม"

"ผมขอทราบเหตุผลที่เธอทำอย่างนี้ด้วยครับ ถ้าไม่พูดผมคงต้องใช้หมายศาลคุยกัน" 

"ภาคินจะฟ้องเราเหรอ ทำเกินไปไหม เราเพื่อนกันนะ" ผมปล่อยให้พี่เบียร์ได้เคลียร์กับพี่ซีแนนไปก่อน

"เพื่อนเขาไม่ทำร้ายคนรักของเพื่อนหรอกว่าไหม" คำพูดของพี่เบียร์เล่นเอาผมรู้สึกดีและอมยิ้มบาง ๆ ลูกแพร์มองผมตลอด คงอยากจะดุผมที่มัวแต่เขินไม่ดูเวล่ำเวลา

"นี่ภาคินตกลงคบหากับเด็กคนนี้แล้วงั้นเหรอ"

"ใช่" แววตาดุดันกดดันพี่ซีแนนทำเอาเธอไหวหวั่น พี่เบียร์ช่างดูน่ากลัว ผมไม่เคยเห็นพี่เบียร์โกรธใครขนาดนี้มาก่อน 

"ยัยเบลล์จ้างเรามาน่ะ จ้างให้เราเขียนว่าน้องเขาทุกวันแต่เราไม่ได้อยากทำนะ เราจำเป็นต้องใช้เงินจ่ายค่าเที่ยวเรือสำราญน่ะเราเลยต้องทำ" คำสารภาพของเธอถูกบันทึกไว้ในมือถือของผมเรียบร้อย ลูกแพร์เสนอให้ผมบันทึกทุกคำพูดและการกระทำของพี่ซีแนน เพื่อนผมแต่ละคนดูร้ายกาจไม่ต่างจากพี่เบียร์ 

"เห็นแก่ตัวไปไหมเจ๊ จะเที่ยวเองก็หาเงินเองสิครับยอมใส่ร้ายว่าเพื่อนผมเพื่อแลกค่าเที่ยวเนี่ยนะ"

"เด็กบ้า อย่ามาด่าฉันนะ ก็ฉันจำเป็นต้องไป" เธอบอกอย่างนั้น ผมก็อยากจะเห็นใจแต่พี่ซีแนนเห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว คงไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะไม่ฟ้องพี่เธอแล้วละ

"งั้นผมก็จำเป็นต้องฟ้องเธอเหมือนกัน บอกเบลล์ให้ไปเจอกันที่ศาลได้เลย" พี่เบียร์ดูหนักแน่นจนผมแอบกลัว พี่ซีแนนจับมือขอร้องพี่เบียร์ด้วยความกลัว

"ภาคินใจเย็น ๆ ก่อนนะ ก็ได้ ๆ ต่อไปนี้เราจะไม่เขียนถึงน้องเขาแล้ว แต่ภาคินอย่าฟ้องเลยนะ"

"ทำอะไรไว้ก็น่าจะรับผลที่ตามมาด้วยสิครับ ผมว่าเรื่องนี้พี่กับพี่เบลล์ก็น่าจะคิดกันเอาไว้แล้ว ทนายที่บ้านผมจะดำเนินเรื่องฟ้องคาดว่าคงจะได้รับหมายศาลภายในสองสามวันนี้ครับ" คนจริงจังอย่างลูกแพร์พูดขึ้นเมื่อเริ่มทนไม่ไหว 

"เดี๋ยว ๆ น้องเจ้ารัก คือพี่ขอโทษนะคะน้องอย่าฟ้องพี่เลยนะ" เมื่ออ้อนวอนพี่เบียร์ไม่สำเร็จ มือของพี่ซีแนก็มาอ้อนวอนผมต่อ

"รักว่าพี่คุยกับทนายของรักดีกว่านะครับ รักไม่อยากคุยกับคนที่ไม่รู้จักรักแต่กลับมาทำร้ายกัน" ผมยืนยันหนักแน่น พี่ซีแนนหน้าซีดลงแล้วขอตัวไปหาทนายเพื่อเจราจาในทันที พี่เบียร์คงรู้ว่าผมกังวลจึงได้จับมือผมแน่น 

"ทำดีแล้วครับน้องหนู" ผมเพียงยิ้มบาง นึกขอบคุณที่พี่เบียร์อยู่เคียงข้างผมตลอดมา  




ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
«ตอบ #77 เมื่อ17-12-2021 23:15:08 »

 :hao3:

ออฟไลน์ Oncloud69_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 35
«ตอบ #78 เมื่อ19-01-2022 19:19:55 »

EPISODE : 35 พี่เบียร์คนโกหก



ผมรออย่างมีความหวัง ทั้งคาบที่เรียนก็แทบจะไม่มีสมาธิ เพ้นส์มองผมแล้วดึงสติให้ผมกลับมาเรียนอยู่ตั้งหลายครั้ง วันนี้ผมไม่พกสติมาเรียนแล้ว

"รัก โอเคแน่ใช่ไหม" เพ้นส์ดูเป็นห่วงผมมาก สีหน้าบ่งบอกได้ชัดว่ากังวลที่จะปล่อยให้ผมกลับคนเดียว ผมหันมายิ้มหวานพร้อมพยักหน้ามั่นใจ "อือ"

"อือบ้าอะไรเนี่ย สติน่ะพกมาด้วยสิ ตะกี้ไม่เห็นรักจะจดอะไร ไม่รู้ได้ฟังที่อาจารย์บรรยายหรือเปล่า" เพ้นส์บ่นยาว ผมเป็นเพื่อนที่ทำให้ต้องเป็นห่วง ทั้งที่อายุเท่ากันแต่ความรู้สึกมันบอกว่าผมถูกคนอื่นดูแลตลอด

"ฟังสิ อาจารย์ก็บรรยายเข้าใจ"

"เข้าใจก็ทำสรุปด้วย อย่าปล่อยผ่านเผื่อว่าออกสอบ"

"โอเคครับ" ผมรู้ว่าเพื่อนหวังดีแต่ผมตั้งใจเรียนอยู่แล้ว

"เป็นห่วงจริง แต่เราต้องไปเจอเพื่อนหน่อย กลับถึงห้องแล้วทักบอกด้วยนะ" เพราะมีนัดเดินตลาดนัดยามเย็นกับเพื่อนรูมเมท เพ้นส์จึงไม่สามารถกลับด้วยกันเหมือนทุกครั้ง

"ได้ รักกลับได้สบายมาก เพ้นส์อย่าห่วงเลย" เพราะผมเองก็มีนัดกับพี่เบียร์ อยากเจอจะแย่แล้ว

"โทรตามไอ้แพร์ไอ้โนดีไหม บอกตามตรงว่าเป็นห่วง วันนี้รักดูแปลก ๆ" คนเป็นห่วงไม่วายคิดถึงเพื่อนสนิทของผม ถ้าสองคนนั้นมาผมก็ไม่ได้อยู่กับพี่เบียร์กันสองคน ผมหันมองเพื่อนแล้วรีบปฏิเสธขณะเดินลงบันไดไปยังชั้นล่างเมื่อเลิกคลาส นักศึกษาหลายคนเดินลงไปพูดคุยกันเสียงดัง เพ้นส์ดึงผมให้ขยับมาชิดราวบันได คงเห็นว่าผมขวางทางคนอื่น

"ไม่ต้อง ไม่ต้องเลย รักกลับได้ รักสบายดีมากเลยนะเพ้นส์" ผมรีบหาข้อแก้ตัว

"งั้นก็ดูแลตัวเองดี ๆ หลงทาง รถยางแบนหรือน้ำมันรถหมดก็อย่าลืมโทร ฯ มาล่ะ" เพ้นส์บ่นเหมือนลูกแพร์ไม่มีผิด

"โอเค เจอกัน" ผมเห็นว่าเพื่อนรูมเมทของเพ้นส์กำลังเดินมาหา ความจริงผมดูแลตัวเองได้แต่เพื่อน ๆ ชอบเป็นห่วงผมเกิน จนเมื่อรูมเมทของเพ้นส์เดินมาใกล้เพ้นส์จึงขอตัว

"เจอกัน บาย"

"บายบาย" ผมมองเพื่อนเดินไปกับรูมเมทจึงวิ่งไปรอข้างหลังตึกบริเวณลานจอดรถตรงข้ามตึกคณะวิทยาศาสตร์ พี่เบียร์นัดกันว่าหลังเรียนเสร็จแล้วจะขับรถผ่านเส้นทางนี้ ผมรอยังคงยิ้มเก้อมองดูนาฬิกาแล้วสำรวจตัวเอง ได้เจอพี่เบียร์ทุกครั้งมันก็ไม่หายตื่นเต้นทุกที

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป

จากคนรอที่มีรอยยิ้มแต้มใบหน้าหวานกลายเป็นคนเริ่มกังวล ผมยืนไล่ยุงที่บินรอบตัวเพื่อดูดเลือด แม้จะปัดก็ยังรำคาญเสียงพวกมันที่เข้ามาวนเวียนอยู่ดี

"เมื่อไหร่พี่เบียร์จะมานะ" ทักไลน์ถามแล้วแต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ตอบกลับมา

"ไปรอหน้าตึกดีกว่า" เมื่อรอเท่าไหร่พี่เบียร์ก็ไม่มาผมจึงคิดจะไปรอหน้าตึกเพื่อเลี่ยงยุงและอากาศร้อน ซ้ำข้างหน้าก็มีนักศึกษาเดินผ่านไปผ่านมา ระหว่างเดินคอตกมาบริเวณหน้าตึกผมก็เห็นภาพของคนที่นัดเจอ พี่เบียร์กำลังถูกผู้หญิงคนหนึ่งควงแขนไว้ไม่ปล่อย รอบข้างก็มีเหล่านักศึกษาหญิงมองกันอย่างสงสัยในความสัมพันธ์

"แฟนเด็กของรองเดือนเหรอ คนนี้ฉันไม่เคยเห็นนะ แต่อิจฉาจัง"

"น้องคนนั้นก็สวยมาก เด็กม.ปลายด้วย การแต่งตัวดูเก๋มาก" ผมฟังคำพูดของผู้หญิงกลุ่มข้างหน้าตัวเองด้วยสายตาหวั่นไหว พี่เบียร์ยิ้มให้เธอแล้วเธอก็อ้อนซบอก กอดกันไม่อายสายตาใคร ผมมองภาพตรงหน้าด้วยความข่มขื่น 

เสียงกลุ่มผู้หญิงข้างหน้ายังคงพูด ผมรู้สึกเหมือนขาไม่มีแรงจะเดิน สองเท้ารีบหันหลังเพื่อให้พ้นจากภาพที่ไม่อยากเห็น ผมคงหวังมากไป เป็นความคาดหวังที่ลม ๆ แล้ง ๆ และคิดไปเองคนเดียว หรือที่ผ่านมาพี่เบียร์แค่ทำดีกับผมเหมือนรุ่นน้องคนอื่น ๆ

"ไม่ร้องสิรัก เรื่องแค่นี้เองจะร้องไห้ทำไม" แปลกเมื่อเข้ามาในรถตัวเอง น้ำตาที่ฝืนก็หลั่งออกมา ผมได้รับข้อความจากเพ้นส์ที่ทักมาถามด้วยความเป็นห่วง ผมจึงปล่อยน้ำตาอีกระลอก พี่เบียร์โกหกผมทำไม นัดกันแล้วทำไมถึงได้ไปกับคนอื่นได้ล่ะ แล้วปล่อยให้ผมรอเก้อทำไม 

หลังร้องไห้เพราะความเสียใจผมก็เตรียมจะกลับคอนโดตัวเองระหว่างถอยหลังรถก็มีรถคันหนึ่งขับเข้ามาจนเกือบจะชนกัน โชคดีที่เขาเบรกได้ทัน คนใจไม่อยู่กับตัวตกใจ เมื่อตั้งสติก็รีบลงมาเพื่อขอโทษทั้งที่ไม่ใช่ความผิดตัวเอง

"รักขอโทษนะครับ รักไม่ทันมองว่ามีรถ-"

"เอ๋ น้องหน้าหวานนี่น่า" ผมกัดปากตัวเอง เผลอเลียริมฝีปากแห้งด้วยความกังวล ผู้ชายคนนี้อันตราย พี่เด็มทำท่าทีจะเดินมาหาแต่มีรถอีกคันที่ขับผ่านมาบีบแตรพอดี ผมรู้สึกโชคดีที่คนขับคนนั้นคือพี่เพื่อน

"ถนนส่วนรวมนะเว้ย ช่วยขยับให้คนที่มีธุระด้วยครับไอ้พี่เด็ม" เสียงพี่เพื่อนบ่งบอกชัดว่าไม่สบอารมณ์ที่จะเสวนากับรุ่นพี่

"รบกวนมึงขับผ่านไปเลยนะครับ เพราะกูมีธุระกับน้องเจ้ารักครับ"

"..." ผมมองพี่เพื่อนพร้อมเม้มปาก

"เออ เรื่องรถพี่คงต้องติดค้างเราเอาไว้ก่อนนะครับ บอกไว้ก่อนพี่ไม่ยกโทษให้ง่าย ๆ"

"ไม่เป็นไรมั้งพี่ เดี๋ยวกูเคลียร์ให้ตรงนี้เลย ห้าพันพอไหมครับ" เป็นพี่เพื่อนที่เดินลงมาจากรถแล้วหยิบธนบัตรหลายใบยื่นให้อย่างใจเด็ด ผมขยับมายืนใกล้พี่เพื่อน รู้สึกอุ่นใจมากและแอบกลัวกับสายตาของพี่เด็มที่มองมา ไม่ชอบเวลาถูกมองอย่างนั้น

"ไอ้เพื่อน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกันมึง"

"ก็นี่น้องเฮีย ใครเป็นน้องเฮียก็น้องกูเหมือนกันกูเคลียร์ให้เองเลย ห้าพันก็แยกครับ" พี่เพื่อนเป็นคนที่ใจร้อนและน่าเกรงขามคนหนึ่ง "หรือพี่จะแลกมัดกันก่อนไปก็ได้นะ" ผมตาโต ไม่แลกมัดกันสิ ผมไม่สนับสนุนความรุนแรง

"ผมขอโทษอีกครั้งนะครับพี่เด็ม" พี่เพื่อนบังตัวผมเอาไว้ไม่ให้พี่เด็มได้มอง ธนบัตรหลายใบในมือพี่เพื่อนปาเข้าไปในรถพี่เด็มอย่างไม่แยแส ผมกำเสื้อพี่เพื่อนแน่น โชคดีที่มีรถอีกคันขับผ่านมา พี่เด็มจึงยอมถอยขับรถผ่านไปแต่โดยดี ผมเอ่ยขอบคุณพี่เพื่อนที่มาช่วยได้ทันเวลาพอดิบพอดี 

"ขอบคุณครับ"

"แล้วจะไปไหนครับ กลับเลยไหมให้พี่ไปส่งหรือเปล่าไอ้เบียร์มันก็ไม่ว่างด้วย"

พอได้ยินชื่อของพี่เบียร์แล้วก็พาลจะร้องไห้อีก พี่เพื่อนพูดก็ยิ่งย้ำว่าพี่เบียร์เลือกจะไปกับเธอคนนั้นมากกว่าผม

"กลับคอนโดครับ" ตอบเสียงเบาหวิว พี่เพื่อนก็พยักหน้าแล้วให้ผมรีบขึ้นรถ ร่างสูงอาสาขับรถตามไปส่งถึงหน้ามหาลัยก่อนเราจะแยกย้ายกันไป ผมนึกขอบคุณพี่เพื่อนจากใจ คงต้องกลับห้องไปนอนทบทวนเรื่องเรียน เพื่อจะได้ไม่ต้องฟุ่งซ่านคิดถึงเรื่องพี่เบียร์

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
«ตอบ #79 เมื่อ20-01-2022 00:41:21 »

เลิก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
« ตอบ #79 เมื่อ: 20-01-2022 00:41:21 »





ออฟไลน์ Oncloud69_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 36
«ตอบ #80 เมื่อ23-01-2022 17:17:24 »

EPISODE : 36 เจ้ารักไม่พร้อมจะคุย



เช้าวันต่อมาผมนั่งซึม ไม่มีรอยยิ้มและไม่ได้พูดถึงพี่เบียร์ให้เพื่อนได้ฟัง 

"ไม่สบายหรือเปล่ารัก" ลูกแพร์ที่มาถึงเห็นว่าผมเศร้าซึมอย่างที่เพ้นส์บอกแล้วก็อังหน้าผากเพื่อตรวจสอบ เพราะมีงานกลุ่มเข้ามาช่วงนี้เราจึงไม่ได้เจอกันบ่อย  นายโนเดินมาพร้อมกับจิน เพื่อนในเอกเศรษศาสตร์ที่สนิทด้วยคนนึง 

"สวัสดีรัก" ผมมองหน้าเพื่อนของเพื่อนพลางทักทายกลับอย่างไร้วิญญาณ

"สวัสดีจิน"

"โอ้โห น่าเป็นห่วงแหะ" จินกล่าว เมื่อวางกระเป๋าสะพายเรียบร้อยก็นั่งลงใกล้นายโน เพื่อนในเอกมนุษย์อิ้งอีกสองคนของลูกแพร์เดินเข้ามาตามหลัง คือมะนาวและว่านน้ำ ไม่คิดว่าจะได้เจอเพื่อนของเพื่อนครบกันทุกคนขนาดนี้แต่ว่ามากันครบในวันที่ใจผมห่อเหี่ยว ถึงต่อให้มีเพื่อนเยอะผมก็ยังรู้สึกไม่สนุกเต็มร้อยอยู่ดี 

"เพื่อนอกหักเหรอ หน้าหงึเชียว" ผมหน้ามุ่ยมองหน้าเพื่อนจอมมั่นใจของลูกแพร์ มะนาวยิ้มเมื่อได้แหย่ผมก่อนจะหันไปทักทายจิน ว่านน้ำเองก็ให้กำลังใจผม 

 อาหารมื้อใหญ่กับปีหนึ่งหกคนสร้างเสียงเฮฮาในลานอาหารและเรียกสายตาจากคนรอบข้าง

"สวัสดีครับพี่ ๆ" ดูเหมือนเพื่อนต่างคณะทุกคนก็รู้จักกลุ่มเพื่อนพี่เบียร์ ผมยังคงก้มหน้าเขี่ยข้าว รู้สึกดีที่เพื่อนพี่เบียร์เข้าถึงได้ง่ายและสนิทด้วยดีแต่เวลานี้ผมยังไม่พร้อมจะคุยกับใคร 

"ทำไมน้องเจ้ารักซึมอย่างนั้นล่ะครับ" พี่ริทดูเป็นห่วง ผมแค่ยิ้มเยาะตัวเอง วันนี้ผมเหนื่อยเกินกว่าจะทักทายใคร 

"มันไม่ค่อยสบายนะครับพี่" นายโนสรุปอาการให้แทน ผมป่วยใจมากกว่า

"ปกติจะเห็นพวกพี่มากันเป็นกลุ่ม" มะนาวถามขึ้นราวกับสนิทกันมาก่อน ผมเผลอกวาดตามองหาพี่เบียร์อย่างลืมตัว 

"อ้อ พี่เบียร์กับพี่วอร์มไปส่งงานกลุ่มครับ เดี๋ยวก็มา" พี่ธีร์รีบบอกอย่างใจดี 

"ก็ว่าละ" ผมเองก็ตั้งใจฟังพอรู้ว่าพี่เบียร์อาจจะมา ใจก็อยากจะลุกหนี แต่อีกใจก็อยากเจอหน้าพี่เบียร์

ทำไมหัวใจไม่รักดี

เพื่อนในกลุ่มของพี่เบียร์กำลังสั่งอาหารกันใหญ่พี่เพื่อนนั่งหน้าเข้มก็ทักถามขึ้นกลางโต๊ะอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย 

"เรื่องไอ้เด็มเป็นไงบ้าง มันไม่ได้มายุ่งอีกใช่ไหม" ผมเงยหน้ามองพี่เพื่อน ทุกคนก็ดูเหมือนจะหยุดทุกอย่างที่ทำแล้วหันมาสนใจบทสนทนาของเราสองคน

"ครับ"

"เรื่องอะไรวะ ไอ้เหี้ยพี่เด็มนะเหรอ" พี่ริทถามด้วยความสงสัย สีหน้าขมวดทันทีที่เอ่ยถึงพี่เด็ม 

"เออ"

"ไอ้พี่เด็มมันมายุ่งอะไรกับมึงเหรอไอ้รัก" ผมไม่รู้จะตอบคำถามเพื่อนยังไง นายโนหน้าตึงขึ้นมา รายนี้ก็อีกคน เพราะอย่างนั้นผมถึงไม่อยากจะบอกเพื่อน รู้ดีว่าเพื่อนต้องเป็นห่วง 

"อือ แต่มันไม่มีอะไรแล้ว พี่เพื่อนช่วยไว้ก่อนนะ"

"มิน่าเมื่อคืนพี่เด็มทักมาขอคอนแทคของรักอะ แต่ไม่ได้ให้นะ!" เพ้นส์บอกก่อนจะรีบชิงตอบก่อนว่าไม่ได้ให้คอนแทคผมไปทั้งสิ้น 

"มันมายุ่งแบบนี้ คงไม่ปล่อยง่าย ๆ แน่ น้องเจ้ารักระวังตัวด้วยนะครับ" พี่กันย์รู้สึกเป็นห่วงรุ่นน้องหน้าหวานขึ้นมา ผมเอ่ยขอบคุณ พอโดนเพื่อนซักไซ้สักพักผมก็ขอตัวเข้าห้องน้ำเมื่อเห็นร่างของพี่เบียร์กำลังลงจากรถพร้อมกับพี่วอร์ม 

"รักเข้าห้องน้ำนะ เดี๋ยวมา" ลูกแพร์ลุกขึ้นไปห้องน้ำด้วยกัน ร่างสูงของคนที่เพิ่งมาในลานอาหารเห็นน้องเดินไปกับเพื่อนอีกทาง คิดว่าน่าจะไปห้องน้ำกัน พี่เบียร์รับไหว้รุ่นน้องที่ทักทายเขา เพื่อนที่นั่งก่อนหน้าก็บ่นใหญ่แล้วเล่าเรื่องของไอ้พี่เด็มให้ฟัง ร่างสูงดูตกใจไม่ต่างจากคนอื่น

ผมไม่ได้เข้าห้องน้ำอย่างที่บอกและเอาแต่หลบหลังห้องน้ำ ลูกแพร์ยืนเท้าสะเอวมองผมอย่างหน่ายใจ เชื่อว่าที่ซึม ๆ ไม่ร่าเริงทั้งวันก็น่าจะเป็นเพราะพี่เบียร์

"รัก เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า" ผมไม่ได้มองเพื่อน ยังคงมองพี่เบียร์ อยากอยู่ใกล้แต่ไม่มีสิทธิ์ "รัก หันมาคุยกันก่อน"

"ก็ได้" ถึงจะไม่อยากเอ่ยถึงแต่ผมก็ปิดบังเพื่อนไม่ได้ "เมื่อวานพี่เบียร์นัดกับรักหลังจากเรียนคาบอาจารย์ป่าน" ลูกแพร์ตั้งใจฟังเพื่อนอย่างใจเย็น

"แล้ว"

"แต่พี่เบียร์ไม่มาตามนัด รักไปรอที่ลานจอดรถครึ่งชั่วโมงพี่เขาก็ไม่มา" ผมอึดอัดเล็กน้อยที่จะเล่า "แต่พอรักจะไปรอหน้าตึกรักก็เห็นพี่เบียร์เดินกับผู้หญิงคนหนึ่ง" ลูกแพร์ขมวดคิ้วสงสัย

"แค่เดินเหรอ ไม่ใช่แค่เดินปกติใช่ไหม" คนฉลาดคิดจี้ถามผมพยักหน้าพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น

"อือ เขาควงแขนกัน" กว่าผมจะพูดออกมา มันช่างเจ็บปวด ภาพเมื่อคืนยังคงติดตา 

"แล้วรักเลยเสียใจกับเรื่องนี้นะเหรอ"

"ก็ส่วนหนึ่งแต่อีกส่วนหนึ่งก็คือ ตอนนั้นพี่เพื่อนบอกว่าพี่เบียร์ไม่ว่าง รักเลยรู้สึกว่ามันคงเป็นเรื่องจริงที่พี่เบียร์เลือกจะไปกับเธอคนนั้นแต่กลับลืมนัดของรักนะ รักเลยเสียใจ"

"แล้วพี่เบียร์ได้บอกเหตุผลบ้างไหม"

"ก็มีทักไลน์มาขอโทษ บอกไม่ว่างและไม่ได้ตั้งใจลืมนัดเพราะมีเหตุสุตวิสัยเข้ามา แต่เหตุสุตวิสัยของพี่เบียร์คือเธอคนนั้นรักก็เลยเสียใจมาก ๆ รักร้องไห้ทั้งคืนเลย มันบ้าดี" เพื่อนดึงผมมาปลอบ หวังว่าเพื่อนคงไม่ได้มองว่าผมไร้สาระและงี่เง่า ผมก็แค่พยายามเข้าใจความรู้สึกตัวเองและกำลังจัดการกับเรื่องการแสดงออกของตัวเองอยู่

"รักได้ถามไหมว่าเธอคนนั้นเป็นใคร บางทีคงไม่ใช่แฟนพี่เบียร์อย่างที่รักกำลังคิดอยู่ก็ได้" ลูกแพร์ลองพยายามประติประต่อเรื่องราว ผมส่ายหน้า น้ำตาใสที่คลอเบ้าตาพลันไหลออกมาด้วยความน้อยใจ 

"ไม่ได้ถาม รักไม่มีสิทธิ์ขนาดนั้น รักรู้ตัวดี" 



บรรยากาศในตอนนั้นดูผิดปกติไม่เหมือนเดิม นั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึก ระหว่างกำลังนั่งกินข้าวผมก็พยายามมองหน้าน้องแต่น้องก็ตั้งใจหลบหน้าและแทบจะไม่หันมาคุย อยากถามเรื่องไอ้เด็มที่เพื่อนเล่าก็แทบไม่มีโอกาส ไอ้ธีร์สะกิดขาผมให้ชวนน้องคุย ผมส่ายหน้าไม่กล้า

ทำไมรู้สึกว่าโดนน้องงอนเข้าอย่างนั้น

"อะอ้าวน้องหน้าหวานของพี่เด็ม" เสียงน่ารำคาญของไอ้พี่เด็มดังมาแต่ไกล ทั้งที่ทั้งโต๊ะไม่มีใครเชิญมาก็ยังอุตส่าห์พาร่างกายมายืนอยู่ต่อหน้าเขา น้องเกาะแขนน้องโนไว้ราวกับเป็นเกราะกำบัง 

พี่มันจะไม่เลิกยุ่งกับน้องใช่ไหม 

"เหี้ยอะไรของพี่อีก น้องรักไม่ใช่ของพี่สักหน่อย" ไอ้วอร์มฉอดใส่ เราทุกคนต่างไม่ชอบหน้าไอ้พี่เด็ม

"น้องวอร์มยังดุไม่เปลี่ยนนะครับ" เพื่อนทั้งกลุ่มแทบจะลุกหาเรื่องพี่มันแล้ว 

"พี่มึงก็นิสัยเหี้ยไม่เปลี่ยนหนิ" ไอ้ธีร์ไม่วายเสริม น้องลูกแพร์หักมือพี่มันที่กำลังตั้งใจจะลูบผม ไม่คิดว่าน้องลูกแพร์จะเก่งการป้องกันตัว ผมแอบสะใจ

"ไม่ยุ่งกับผมจะดีกว่านะครับ บังเอิญคนอย่างพี่ไม่ใช่สเปกผม" นายโนออกโรงปกป้องเพื่อนด้วย ผมเดินมาใกล้น้องลูกแพร์แล้วผลักไอ้พี่เด็มออกห่าง ไอ้เพื่อนก็เข้ามาพร้อมช่วยเหลือ เมื่อสุดท้ายโดนไล่ไปพี่เด็มตั้งใจแวะจะมาทักทายก็ต้องจำยอมเดินจากไปกับเพื่อนที่มากินข้าวเที่ยงด้วยกัน

"..." 

"เหี้ยอะไรเนี่ย มาทีไรก็ทำเสียบรรยากาศหมด" ผมยังคงได้ยินพวกไอ้ธีร์บ่นเพราะหงุดหงิด ผมเองก็หงุดหงิดไม่ต่างกัน แต่เรื่องน้องนี่สิ ผมยังไม่รู้เลยว่าน้องเป็นอะไร ทำไมต้องหลบหน้าผมด้วย 

"น้องหนูครับ พี่ขอคุยด้วยหน่อยครับ" หลังทนกับความอึดอัดอยู่นาน เมื่อน้องและเพื่อนลุกขึ้นจะกลับผมจึงลุกเดินตามเพื่อนขอเคลียร์ให้เข้าใจ มันต้องมีเรื่องที่ทำให้น้องเข้าใจผิดแน่แถมเรื่องไอ้เด็มนั่นอีก ผมอยากรู้ว่าน้องเป็นยังไง อยากถามว่ามันทำอะไรน้องไหมแต่น้องไม่ยอมสบตาผมสักนิด มันทำให้ผมกระวนกระวาย 

"รักไม่มีอะไรจะคุยครับ" ผมแทบจะอ้อนวอนแล้ว ทำหน้างอนอย่างนั้นคงมีเรื่องอะไรแน่ปกติน้องไม่แสดงสีหน้าอย่างนั้นยกเว้นตอนที่เข้าใจผิดเรื่องน้องเจ้าขา น้องโนจิ๊ปากเหมือนจะรำคาญ

"หน้ามึงฟ้องขนาดนั้นอยู่เคลียร์ไปเลย หรือจะให้พวกกูสองคนช่วยเคลียร์ด้วย" คนเพิ่งจะรู้เรื่องราวจากเพื่อนแอบหงุดหงิด นี่ถ้าลูกแพร์ไม่เล่าให้ฟัง เขาก็ไม่มีทางได้รู้เพื่อนคนนี้ก็อีกคน จะปกปิดกันทำไม 

"ไม่-" ผมเห็นน้องจะห้ามเพื่อนแต่น้องโนชิงพูดออกมาก่อน 

"ตกลงพี่มีแฟนหรือไม่มีกันแน่แล้วพี่คิดจริงจังกับเพื่อนผมหรือคิดแค่เล่น ๆ วะ พี่ก็รู้ไอ้รักมันชอบพี่มากนะเว้ย" ผมขมวดคิ้วมองดูน้องห้ามเพื่อนตัวเอง

"โน"

"มึงเงียบไปเลยไอ้รัก" น้องเผลอสบตาผมแล้วหันหนีอีก 

"พูดเรื่องอะไรกันครับพี่ไม่เข้าใจ" ผมค่อนข้างไม่เข้าใจ เพราะถ้าแค่เรื่องที่ผมยกเลิกนัดกับน้องเมื่อวานมันก็ไม่น่าจะถึงขั้นโดนเพื่อนน้องโกรธแทนขนาดนี้ ผมทำอะไรที่บ่งบอกว่าตัวเองไม่จริงจังกับน้องงั้นเหรอ

"ก็รักบอกว่าเมื่อคืนพี่เบี้ยวนัดแต่เห็นพี่ควงกับผู้หญิง" น้องลูกแพร์บอกให้ผมได้กระจ่าง ผมจึงได้เข้าใจเหตุการณ์

"ควงผู้หญิง อ้อ" เรื่องนี้นี่เอง เรื่องที่ผมยกเลิกนัดกับน้องเมื่อวานแล้วไปกับผู้หญิงมันคือเรื่องจริงนั่นแหละ แต่น้องกำลังเข้าใจผิด ผู้หญิงที่ผมไปด้วยนั่นคือ

"รักไม่อยากคุยตอนนี้ครับ โน แพร์ไปกันเถอะ" ผมกำลังง้างปากจะพูดแล้วแต่ก็ไม่ทันจะบอกเมื่อน้องไม่พร้อมจะรับฟัง แต่เพื่อนน้องก็นิสัยดีที่ไม่ยอมให้น้องได้หันหลังหนีปัญหา 

"มึงต้องอยู่ อย่าคิดหนีเด็ดขาดไอ้รัก" ผมมองหน้าน้อง พยายามจะสบสายตาที่คอยหลบหนี ปกติน้องชอบมองผมตลอดเวลาพอน้องคอยหลบสายตาแล้วผมรู้สึกแปลก 

"ผู้หญิงที่พี่ควงด้วยเมื่อคืนไม่ใช่แฟนพี่ครับ" ผมพูดออกมาอย่างมั่นใจ ก็เธอไม่ใช่แฟนผมอย่างที่น้องกำลังเข้าใจ น้องโนกับน้องลูกแพร์ปล่อยแขนน้องเพราะอยากให้น้องอยู่เคลียร์กับผมให้รู้เรื่องกันก่อน

"ครับ รักเข้าใจแล้วพี่เบียร์ก็ชอบควงคนอื่นไปทั่วนั่นแหละครับ พี่เบียร์ก็ชอบเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นอยู่แล้วรวมทั้งรักด้วย"

ไปกันใหญ่แล้ว 

"ไม่ใช่แบบนั้นครับ" ผมกลืนคำพูดตัวเองเมื่อเห็นน้ำตาน้องคลอเบ้า ร่างกายมันขยับไปกอดอย่างอัตโนมัติ ไม่ชอบที่เห็นน้องร้องไห้เลยแล้วทำไมผมจึงทำให้น้องต้องร้องไห้ทุกที รู้แบบนี้ก็น่าจะบอกเหตุผลกับน้องไปตามตรง น้องแพร์กับน้องโนเดินถอยห่างไปคงเพราะอยากให้เราสองคนคุยกัน

"ผู้หญิงที่พี่อยู่ด้วยคือน้องพันช์ครับ น้องสาวพี่เอง" 

"คนโกหก พี่เบียร์โกหก รักเกลียดพี่เบียร์แล้ว" น้องกล่าวตัดพ้อและไม่เชื่อสิ่งที่ผมได้อธิบายไป เพราะน้องดิ้นจะหนีผมเลยกอดเจ้าตัวให้แน่น บอกควาจริงแล้วก็ไม่เชื่อแล้วผมต้องทำยังไงแต่เมื่อวานผมไปกับน้องสาวจริง ๆ ผมไม่ได้โกหกอย่างที่น้องเข้าใจเลย

"จะงอน จะโกรธพี่ก็ได้แต่อย่าเกลียดพี่เลยนะครับ" เพราะผมคงทนไม่ได้ถ้าถูกน้องเกลียดขึ้นมาจริง ๆ 

"เรื่องเมื่อวานพี่ขอโทษนะครับ" 




ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
«ตอบ #81 เมื่อ24-01-2022 22:31:57 »

 :hao5:

ออฟไลน์ Oncloud69_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 37
«ตอบ #82 เมื่อ11-02-2022 15:07:31 »

EPISODE : 37 สแกนว่าที่คนรักของพี่ชาย

"อะไรอีกล่ะ" เจ้าของใบหน้านิ่ง เพ่งมองไปยังร่างของคนเมาที่ถูกหิ้วปีกมาหาเขา แพมรู้จักเจ้ารัก น้องเทคแคร์ของเฮียภาวิคดี 

"ฝากหาที่นอนให้น้องมันนอนสักคืนได้ไหมเตง คนนี้ทำไม่ลงแล้ว" แพมถอนหายใจ ก็พอรู้ว่าพี่เด็มตามจีบน้องมันเล่น แต่ไม่คิดว่าน้องจะพลาดท่าเมาจนคนหน้าด้านตรงหน้าหอบขึ้นรถมาได้

"แล้วทำไมไม่ไปส่งที่ห้องของเขา" แพมไม่อยากรับฝากหรือยุ่งเกี่ยวเรื่องของพี่เด็ม

"เค้าถามแล้วแต่น้องมันไม่ตอบ ตอนไปเจอก็เมาแล้วเค้าเลยใจดีอาสาพาออกมาจากร้านเอง"

"..." แพมถอนหายใจดัง คนอย่างพี่เด็มก็มีอยู่แค่เรื่องเดียวนั่นแหละ เรื่องบนเตียง 

"ฝากสักคืนนะ จะไม่ลืมความใจดีของเตงเลย" พี่เด็มพาเจ้ารักเข้ามาอยู่ในบ้านแสนกว้าง เชื่อว่าหากฝากแพมดูแล ยังไงน้องมันก็ปลอดภัย

"ไม่พาไปห้องพี่ล่ะ"

"ไม่เอาหรอกเตง คืนนี้ขอไปหาเหยื่อใหม่ดีกว่า ขอบคุณน้า ไปละ" แพมมองร่างสูงเดินออกจากห้องไปด้วยสายตานิ่งเฉยแล้วหันมามองคนเมา

"เห้อ ภาระอีกแล้ว" 

ภายในร้านของเฮียภาวิค ยูโนต้องออกมาถามหาเพื่อนอีกเมื่อเข้าไปข้างในแล้วไม่พบเพื่อนอย่างที่เฮียบอก 

"อ้าวเฮียไหนบอกไอ้รักอยู่ข้างใน ผมไปหาแล้วไม่เจอ" 

"ทำไมไม่เจอ กูให้รอข้างในจริง ๆ" เจ้าของร้านสงสัยเขาเป็นหิ้วน้องเทคให้ไปนอนในห้องนั่งเล่นกับมือเองแล้วน้องมันหายไปไหน"มันเมาอยู่ด้วย"

"ถ้ามันเมาก็น่าจะนอนหลับที่ไหนสักแห่ง เดี๋ยวผมจะไปหาในห้องน้ำก่อน" 

"เดี๋ยว ไอ้เด็มมันไม่อยู่" พอลองสำรวจมองไปยังโต๊ะของเพื่อนตัวดีก็ไม่เจอเจ้าตัว ยูโนตกใจตาโตเมื่อเผลอคิดบางอย่างที่ไม่ดี 

"อะไร หรือเฮียจะบอกว่าพี่เด็มหิ้วไอ้รักไป" 

"ก็เป็นไปได้ ไอ้นี่มัน กูห้ามแล้วว่านั่นน้องกูห้ามยุ่ง" คนหัวเสียพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง เขาเคยเตือนหลายครั้งว่าให้เลิกยุ่งกับน้องของเขา ถ้าหากว่าเจ้ารักเป็นอะไรเพราะไอ้เด็มมัน เขาจะไม่ให้อภัยมันเลย 

"เหี้ยเอ้ย ไอ้รักมันเมาแล้วไม่ค่อยได้สติด้วย" ยูโนเริ่มกังวลเพราะเป็นห่วงเพื่อน ระหว่างนั้นพี่ภาคินและเพื่อนสองคนเดินมาพอดี 

"มีอะไรหรือเปล่า" ผมถามเฮียด้วยความสงสัย เห็นเฮียกับน้องโนมีท่าทีตึงเครียดตั้งแต่ผมและเพื่อนก้าวย่างเข้ามาในร้านแล้ว 

"ไอ้รักมันหายไปนะพี่ มันเมาด้วย" น้องโนบอกมาอย่างนั้นทำเอาผมตกใจขึ้นมา เรายังไม่ได้เคลียร์กันด้วยซ้ำเพราะน้องยังไม่อยากจะคุยกับผม 

"กูสงสัยว่าไอ้เด็มมันจะพาไป ไอ้นี่มันจ้องจะเคลมตั้งแต่หัวค่ำแล้ว" ยิ่งได้ยินเฮียพูดใจผมยิ่งร้อนรุ่ม ไอ้เหี้ยเด็ม มันจะไม่หยุดกันจริง ๆ ใช่ไหม 

"เดี๋ยวกูโทรถามมันก่อน" เฮียหยิบมือถือต่อสายหามันทันที 

"งั้นเดี๋ยวเช็คเฟสมันก่อนเผื่อมันจะโพสต์การเคลื่อนไหว" ไอ้กันย์รีบเช็คเฟสบุ๊คของไอ้เด็มทันที ผมหยิบมือถือติดต่อหาน้องก็พบว่ามือถือปิดเครื่องไปแล้ว น้องโนก็บอกว่าลองโทรเข้าเครื่องน้องแต่ก็ติดต่อไม่ได้เหมือนกัน 

เมื่อติดต่อแล้วคนก่อเรื่องรับสายแต่กลับยั่วบอกว่าน้องเจ้ารักอยู่กับเขา พวกผมต่างก็รีบไปหามันยังสถานที่ล่าสุดที่มันปักหมุดโพสต์ในเฟสบุ๊คอย่างรวดเร็ว

ผัวะ!!

และใช่ผมต่อยหน้าพี่มันทันทีที่เผชิญหน้ากัน เกิดการชกต่อยกันในคลับไนท์ขึ้นเมื่อมันก็ไม่ยอมให้ผมชกฝ่ายเดียว 

หมับ เฮียจับมือมันไม่ให้ต่อยผมได้ 

"มึงเอาน้องหนูไปไว้ไหนห๊า!" ผมถามด้วยความโมโหสุด ๆ อารมณ์หงุดหงิด โกรธและเกลียดพาลรวมกันจนผมควบคุมตัวเองไม่อยู่ 

"หึ พวกมึงนี่มันจริง ๆ เลยนะ" เฮียผมมันบีบคอไอ้เหี้ยนั่นเมื่อมันยังพูดพล่ามอยู่ 

"ไอ้รักอยู่ไหน" ผมรู้สึกสงบสติอารมณ์ลงเมื่อเฮียลงมือจัดการเพื่อนเอง ไอ้เด็มมันไม่ยอมบอก แถมยังกวนตีนไม่เลิก 

ผมเห็นมันล้มลงเพราะถูกเฮียผลักล้มลงพื้น แต่มันจะเจ็บตัวแค่ไหนใครจะสน ผมเดินมาเผชิญหน้ากับพี่มันที่ยังคงนั่งบนพื้นระหว่างที่เฮียรับสายที่โทรเข้ามา หวังว่าจะมีใครสักคนเจอน้องหนูก่อนที่ผมจะถีบหน้าไอ้พี่เหี้ยตรงหน้า 

(น้องเทคของคุณอยู่กัยผม ช่วยมาเอาเขากลับไปทีครับ)

"มึงกลับ เจอตัวไอ้รักแล้ว" เฮียวางสายทันทีเมื่อรู้แล้วว่าน้องไปอยู่ที่ไหน เจอน้องหนูแล้วจริง ๆ ใช่ไหม 

"แล้วมัน" ผมชี้หน้าไอ้พี่เด็มที่พยายามลุกขึ้น คนรอบข้างจะมองกันเยอะแค่ไหนนาทีนี้ผมไม่สนใครทั้งนั้น ในใจร้อนรุ่มอยากเจอน้องไว ๆ 

"เออคงเป็นมันนั่นแหละ แต่ตอนนี้ไปรับน้องกูก่อน" ไอ้พี่เด็มมันเดาะลิ้นเพราะรู้สึกแสบ ผมจ้องหน้าพี่มันบ่งบอกให้รู้ว่าผมเกลียด  มันทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักคำออกมาแต่เฮียผมชี้หน้ามันก่อนด้วยแววตาเย็นชา

"ต่อจากนี้มึงกับกูตัดขาดความเป็นเพื่อนกัน แล้วอย่าเสนอหน้ามาร้านกูอีก" ผมว่างานนี้มันเล่นผิดคนแล้วละ มายุ่งกับน้องเทคที่เฮียรักมากก็ไม่แปลกที่จะโกรธมากเช่นกัน เป็นผมก็ไม่คบเพื่อนเลว ๆ แบบนี้เหมือนกัน 

"เห้ย ไอ้โซ" เฮียเลือกจะไม่ฟังมันอีกและหันหลังเดินออกมา ผมโดนเพื่อนลากให้กลับไป กับเฮีย ส่วนเรื่องทางนี้เพื่อนทั้งสองอาสาจัดการให้เอง  ก็ดีเหมือนกันนาทีนี้ผมอยากเจอน้องหนูมากกว่าใคร

"แล้วน้องหนูอยู่ไหนวะเฮีย" 

"บ้านน้องแพม" ผมขมวดคิ้ว แปลกใจที่น้องหนูไปอยู่กับน้องแพมคนนั้น 

"ทำไมไปอยู่นั่น"

"รู้สึกไอ้เด็มจะรู้จักกับน้องแพมมันเลยไปฝากที่นั่น" ผมไม่สนอะไรทั้งนั้นแล้ว ตอนนี้อยากไปรับน้องให้อยู่ใกล้ตัวที่สุด ทำไมพอคลาดสายตาแล้วมีแต่เรื่องให้ต้องเป็นห่วงทุกทีนะ เพราะแบบนี้ผมเลยอยากอยู่ใกล้น้องตลอด

"น้องปลอดภัยใช่ไหม" ถึงน้องแพมจะใจดีโทรมาบอกแต่ผมก็แอบเป็นห่วง ตอนนี้จะรู้สึกตัวหรือยังก็ไม่รู้ เฮียมันมองผมแล้วถามคำถามบ้าบอ

"ทำไมวะ หึงหรือหวง"

"..." ผมไม่ได้ตอบอะไร ไม่ได้หึง ไม่ได้หวงทั้งนั้น แค่เป็นห่วงน้องเฉย ๆ เฮียมันแสยะยิ้มเมื่อผมไม่ได้ตอบอะไร

"น้องแพมไม่ทำอะไรไอ้รักมันหรอก แล้วนี่มึงไปทำอะไรให้ไอ้รักเข้าใจผิดอีก มันเสียใจอยู่นะเว้ย"

"รู้ ก็เรื่องน้องพันช์นั่นแหละ อธิบายไปแล้วแต่น้องไม่เชื่อ"

"มึงต้องยืนยันหนักแน่นสิวะ สมองมันยิ่งชอบคิดอะไรแปลก ๆ ด้วย" เฮียมันว่าน้องหนูของผม เราเดินมายังรถแล้วรีบขึ้นรถเพื่อไปยังบ้านของน้องแพมกัน ผมไม่คิดว่าน้องหนูจะแปลกตรงไหน แค่นี้ก็น่ารักแล้วสำหรับผม

เมื่อขับรถไปถึงบ้านของน้องแพม เจ้าของบ้านเปิดประตูรออยู่แล้วเพราะเชื่อว่าเฮียต้องมารับน้องหนูกลับ เราเดินตามเข้ามาในบ้าน ผมวิ่งไปหาคนที่นอนอยู่บนโซฟาตัวยาว มานอนบ้านคนอื่นแล้วยังจะเปิดเสื้ออวดพุงน้อย ๆ ได้ยังไง 

"ขอบคุณที่โทรมาบอกนะครับ" เฮียมันเอ่ยบอกอย่างสุภาพ ผมพยายามปลุกน้องแต่คนเมามากก็ไม่ยอมตื่น 

"ครับ พี่เด็มเองก็เอาภาระมาฝากโดยไม่ถามผมสักคำว่าสะดวกดูแลไหม" จุกมาก คำพูดคำจาของน้องคนนี้ทำไมถึงได้ดูมีพลังบางอย่างก็ไม่รู้ ผมหันไปมองหน้าน้องแพมก็พบว่าเจ้าตัวจ้องผมพอดี

"เขาเอาแต่พูดถึงคุณ ร้องไห้เพราะคุณ ผมว่ายังไงคืนนี้ก็คงไม่ได้หลับถ้าเขายังอยู่ รบกวนคุณเอาเขากลับไปด้วยครับ" ผมไม่ชอบสายตาเฉี่ยวของน้องมันเท่าไหร่ มาหาว่านองหนูเป็นภาระได้ยังไง

"ผมพาไปแน่ ฝากบอกไอ้เด็มด้วยว่าอย่ามายุ่งกับคนของผมอีก"

"ถ้าไม่ลืม จะบอกให้ครับ"

"ขอบคุณครับ" เราสองคนเหมือนกำลังเล่นสงครามทางจิตกัน รู้จักกับไอ้เด็ม ก็คงนิสัยเหมือนไอ้เด็มมันนั่นแหละ ผมจัดการอุ้มน้องออกมาจากบ้านของน้องแพมด้วยใบหน้าดุปนโมโห เฮียมันเปิดประตูรถให้ผมได้เข้าไปดูแลน้องที่เบาะหลังโดยเจ้าตัวเป็นคนขับรถให้อย่างใจดี

"เฮีย รู้จักกันเหรอ" ผมถามขึ้นเมื่อรถขับออกมาจากบ้านของน้องแพมนั่น 

"เออ แต่ไม่ได้สนิท น้องเขาเป็นลูกค้าประจำของร้าน เขาพูดเพราะตลอดแต่ติดจะเย็นชา เป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใครง่าย ๆ  กูยังแปลกใจที่เขารู้จักกับไอ้เด็ม" ผมกอดน้องแล้วให้น้องได้นอนซบไหล่ตัวเอง รายนี้ก็ยังเข้าใจผิดเรื่องผมกับน้องพันช์จนเกิดเรื่องใหญ่ ตื่นมาละน่าดู ผมบี้จมูกน้องเบา ๆ มือน้อยก็ปัดเพราะรำคาญ

"เด็กไอ้เด็มหรือเปล่า" ผมคิด มันมีความเป็นไปได้สูงที่น้องแพมจะเป็นเด็กของไอ้เด็ม 

"คงไม่ กูเห็นไอ้เด็มวอแวตามน้องเขาบ่อย แต่ก็โดนเมิน"

"สมควร" เราเลิกพูดถึงเรื่องไอ้เด็มกับน้องแพม เฮียผมมีสมาธิกับการขับรถส่วนผมก็คอยดูแลน้องตลอดทาง ถ้าน้องตื่นมาเราคงต้องมีเรื่องคุยกัน ผมจับมือของน้องแล้วจุมพิตแผ่วเบา ตอนรู้ว่าไอ้เด็มพาตัวน้องไปใจผมหล่นไปอยู่ตาตุ่มเลย

"พี่ไม่ได้มีใครนอกจากน้องหนูเลยนะครับ"

เฮียขับรถมาส่งผมที่คอนโดตามที่ผมขอร้อง ก็แค่อยากคุยกับน้องให้เคลียร์ผมไม่อยากถูกน้องเข้าใจผิดอีก เฮียมันก็ใจดีอนุญาตและไม่วายติดต่อบอกเพื่อนของน้องให้รู้ เพราะกลัวจะเป็นห่วงกัน

"ใครคะ พามานอนที่ห้องทำไม" เสียงสาวน้อยที่นั่งเล่นในห้องรับแขกเดินออกมาถามด้วยความสงสัย เมื่อเห็นพี่ชายอุ้มใครบางคนเดินเลยผ่านเข้าห้องตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์ เฮียภาวิคแปลกใจเมื่อเห็นลูกพี่ลูกน้องฝาแฝดสองคนเดินออกมาตามหลังน้องสาวคนเล็ก

"น้องเจ้ารักนี่น่า"

"เกิดอะไรขึ้นเหรอเฮีย" ไวน์เหมือนจะเห็นผ่าน ๆ ว่าเป็นน้องเจ้ารัก สีหน้าอยากรู้และสงสัยไม่ต่างอะไรกับน้องสาว ร่างสูงเดินไปนั่งปิดทีวีที่เปิดเสียงดัง

"เฮียควรถามพวกนายไหม ทำไมมารวมตัวห้องไอ้เบียร์มัน" ทั้งที่ไม่ได้นัดเจอกันแต่เขากลับได้เจอน้องทั้งสี่พร้อมกันโดยบังเอิญ ไวน์กอดคอน้องสาวตัวเล็กจอมจุ้นและฟ้องเฮียให้รู้ทันที

"ก็ยัยนี่นะซิครับ งอแงให้มาเล่นเกมด้วย ถ้าไม่เล่นก็บอกจะหนีไปร้านเฮียอะ" คนถูกฟ้องชักสีหน้าใส่พี่ชายฝาแฝดเมื่อรู้สึกโดนสองแฝดกำลังรังแก 

"ช่วงนี้มาบ่อยไปไหมเราน่ะ" คนถูกถามยิ้มกว้างเมื่อเฮียคนโตแอบสังเกตเห็น เธอไม่อยากอยู่บ้านนี่น่า มันเหงา 

"ก็พันช์มีพี่ชายถึงสี่คน แถมหน้าตาดีกันทุกคนพันช์ก็ต้องหวงพี่ชายสิคะ ว่าแต่นั่นใช่เด็กปีหนึ่งที่พี่เบียร์บอกว่าจีบ ๆ กันอยู่หรือเปล่าคะ" 

"ใช่แล้วละ พอดีเกิดเรื่องขึ้นเลยหน้าดุกลับมาอย่างนั้น" เฮียบอกเพราะไม่อยากให้น้องสาวคิดมากว่าพี่ชายตัวเองพาคนอื่นเข้ามานอนด้วย 

"เรื่องที่ไอ้เด็มมันหิ้วน้องเจ้ารักไปสินะ" เหล้าเอ่ยบอกด้วยสีหน้าจริงจัง เขาเพิ่งจะรู้เรื่องนี้ไม่แปลกที่พี่ชายจะโมโหอย่างนี้น ขนาดเขาเองก็ยังรู้สึกอยากชกหน้าพี่เด็มมัน 

"ข่าวไวไปไหม" สาวน้อยไม่ได้รู้เรื่องราวอะไร จับประเด็นได้แต่เรื่องที่ตัวเองสนใจ

"อ้อชื่อน้องเจ้ารัก" ท่าทีของน้องทำให้ไวน์นึกหมั่นใส้ในความแก่แดดของเจ้าตัว 

"น้องเจ้ารักแก่กว่าเรานะพันช์ อย่าแก่แดดนักสิ" พันช์กอดอกตัวเอง เธอไม่ได้แก่แดดสักหน่อย 

"แก่กว่าสามปีเองค่ะ หนูถือว่าเพื่อนกัน" เฮียส่ายหน้ากับน้องสาวคนเล็ก 

"อย่าแพลงฤทธิ์เยอะ คนนี้พี่ชายเราจริงจัง" เฮียเตือนเจ้าเด็กแสบ พันช์ยู่ปากเหมือนถูกจับได้ว่าตัวเองกำลังจะแพลงฤทธิ์ใส่ทุกคนที่ยุ่งเกี่ยวกับพี่ชายสุดที่รัก

"แล้วสรุปมันเกิดเรื่องอะไรคะหนูอยากรู้"

"ไม่ใช่เรื่องของเด็กน่า" เจ้าตัวยังไม่ยอมรับอีกว่ากำลังวุ่นวาย 

"พันช์อายุสิบหกปีแล้วค่า ไม่ใช่เด็กน้อยแล้ว"

"ถึงจะอายุห้าสิบเราก็เป็นน้องของพี่เถอะ" พี่ไวน์ผลักหัวน้องสาวด้วยความหมั่นไส้ เมื่อเห็นพี่ชายสุดรักเดินออกมาจากห้องนอน พันช์ก็รีบไปอ้อนพี่ชายทันที 

"พี่เบียร์ขาตกลงหิ้วแฟนมานอนด้วยใช่ไหมคะ หนูอยากเห็นหน้าก่อนจะได้ประเมินถูกว่าสมควรได้เป็นแฟนพี่ชายของหนูไหม"

"เอาไว้พรุ่งนี้นะคะ น้องหนูเมาอยู่พี่ขอตัวดูแลน้องหนูก่อน เฮียขอบคุณนะ" เอ่ยบอกน้องสาวแล้วขอบคุณเฮียสำหรับการช่วยเหลือครั้งนี้ 

"เออ ดูแลน้องเทคกูดี ๆ"

"รู้แล้ว พี่ไปนอนก่อนนะคะ" พี่เบียร์ขอตัวเข้าห้องนอนเพื่อดูแลเจ้ารัก ส่วนเฮียก็ขอตัวกลับหลังจากทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พันช์ยืนกอดอกมองพี่ชายทั้งสองว่าจะเอายังไงกันต่อ 

"ไปเล่นเกมกันต่อเถอะ ไม่งั้นพี่กลับละนะ" เมื่อพี่ไวน์ว่าอย่างนั้นพันช์ก็ไม่มีข้อโต้เถียงใด ๆ 

"ไปค่ะ ๆ" ร่างเล็กควงแขนลากพี่ชายเข้ามายังห้องนั่งเล่นอย่างเดิม พรุ่งนี้เธอจะต้องสแกนว่าที่คนรักของพี่ชายให้ได้เลย

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
«ตอบ #83 เมื่อ11-02-2022 22:17:22 »

 :hao6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด