10
ท่ามกลางความสับสนของคนเป็นใบ้ หัวสมองมีแต่ภาพสีขาววิบๆ ลอยเต็มไปหมด ในหูก็ได้ยินแต่เสียงพุจนหูอื้อตาลายไปหมด มานะงงมาก เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วจนเขาไม่ทันตั้งตัว ยามริมฝีปากหนาฉกเข้ามาที่กลับปากนุ่มละมุน มือหนึ่งจับล็อกใบหน้าเอาไว้ไม่ให้ขยับหนีอีกมือก็รัดเอวบางเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหลุด แม้จะไม่ใช้จูบที่รุนแรงแต่ก็ไม่ได้อ่อนโยนมากมายนัก ดลขบเม้มไปทั่วทั้งกลับปากบางสีชมพูอย่างคนหื่นกระหาย ไม่เว้นช่วยให้อีกคนได้ต่อต้าน บีบบังคับให้อีกฝ่ายเผยอปากเพื่อที่ลิ้นร้อนของตนจะได้มุดเข้าไปสำรวจ ดลตะกละตะกลาม เขาไม่เคยพอกับรสหวานติดลิ้น ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดจนอีกคนไร้ทางหนี จากแรกที่แข็งขืนตอนนี้เริ่มอ่อนเอนร่างกายเริ่มไม่มีแรง ดวงตากลมปรือลงอย่างช้าๆและยอมรับรสชาติแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้ลิ้มลอง
"อึก อืมม" พอกินจนอิ่มเขาก็ผละออกมองใบหน้าหวานซีดด้วยใจที่เต้นระทึก มานะดูเหมือนแมวสิ้นฤทธิ์ ตากลมฉ่ำเยิ้ม ปากเล็กบวมแดง มุมปากมีรอยกัดจนเลือดซิบ ดลยกยิ้มอย่างพอใจ เขาไม่เคยรู้สึกกับใครได้เท่ามานะมาก่อนและเป็นจูบแรกที่เขาตั้งใจมอบให้ด้วย
"เอาอีกไหม?"เขาเอ่ยถามเสียงพร่า ดวงตาดุคมเหมือนราชสีห์กำลังใช้สายตาโลมเลียคนในอ้อมกอด
"หึ"มานะส่ายหน้าแดงๆของตัวเองไปมา ไม่กล้าแม้ที่จะสบตากับร่างสูงทั้ง ๆที่ก่อนหน้านี้ สู้ไม่ถอยแท้ๆ
"ทีหลังอย่าดื้อ"น้ำเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยอีกครั้งแต่กดเสียงลงต่ำกว่าเล็กน้อยเพื่อให้คนฟังยอมรับคำสั่งจากเขา มานะเม้มปากแน่น ปฏิเสธในใจ ใครกันแน่ที่ดื้อ!
"ถ้าดื้อจะโดนหนักกว่าจับกดน้ำนะ"คำขู่ที่ทำเอาคนฟังแยกเขี้ยวใส่ อยากจะเอามือตะกุยหน้า หายแค้น คนบ้าอะไรเอะอะจับเขากดน้ำ แค่เมื่อกี้ก็คิดถึงหน้าพ่อแม่แล้ว มานะยู่ปากเชิดหน้าใส่ พร้อมกับดันตัวเองออกห่างเพื่อจะหนีขึ้นจากสระ ดลไม่ยอมให้มานะหนีไปง่ายๆ เขาลากมานะลงไปในส่วนที่ลึกกว่าเดิม คนใบ้ร้องโวยวายไร้เสียงใบหน้าซีดเซียวตื่นตระหนก รีบกอดคอหนาของคุณเจ้าของบ้านไว้เเน่น
"บอกสิว่าจะไม่ดื้อกับกูอีก" ดลขู่ มานะจ้องหน้าคนที่ตัวเองกอดเอาไว้แน่น ใบหน้าที่ห่างกันเพียงคืบมือ
"ไม่พูดก็จะปล่อยลงตรงนี้นะ"
"อื้อๆ ๆ"ยอมก็ได้วะ!!! มานะพยักหน้าระรัวเมื่อเห็นว่าดลกำลังจะดันตัวเขาออกห่าง ร่างสูงยกยิ้มแล้วกระชับกอดให้แน่นขึ้น แล้วลูบแผ่นหลังเล็กๆ ที่กำลังสั่นเอาไว้ เขาค่อยๆพา มานะเดิน ขึ้นจากสระ อุ้มส่งให้อีกคนได้ขึ้นก่อนที่ตัวเองจะขึ้นตาม
"ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วตามกูขึ้นไปบนห้องด้วย"
"อื้อ"มานะครางรับแล้วรีบวิ่งออกไปอีกทาง
"หึ..น่ารักฉิบหาย"ดลมองตามแผ่นหลังเล็กๆ นั่นไปแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินยิ้มเข้าบ้านไป
หลังพุ่มไม้ที่เดิม
"เชี้ยยยยยยยย ไอ้ดลมันยิ้ม มินมึงตบหน้ากูดิ๊ นี่กูฝันหรือเพ้อยาแก้ไอ้"
เพี่้ยะ!
"โอ้ยย ไอ้เชี้ยะมินมึงตบจริงเลยเรอะ!"
"เอ้า ก็มึงบอกให้กูตบ"
"ไอ้คิ้วบาง ไอ้ เวรตะไล"กรด่าเพื่อนตัวเองด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับมองค้อนให้อีกวงใหญ่
"มาบูลี่คิ้วกูอีก ไอ้เพื่อนชั่ว!"
"แล้วไอ้มือขวามันไปไหน"มินมองหาเพื่อนอีกคนที่เงียบหายไป ก่อนจะเห็นเพื่อนตัวดีนั่งยิ้มปริ่มน้ำตาไหลอยู่
"เป็นห่าอะไรอีก ร้องไห้ทำไม?"
"มึงกูรู้สึกได้ถึงความหวังเรื่องไอ้ดลเเล้ววะ"
"หวังอะไรของมึง"กรเอ่ยขัดพร้อมกับทำหน้าไม่เข้าใจ
"เมื่่อก่อนไอ้ดลไม่เคยยิ้ม มันไม่เคยให้ใครได้เข้าใกล้มันขนาดนี้ กูว่า น้องใบ้นี่แหละยาวิเศษของไอ้ดล"แซกพรั่งพรูความคิดของตัวเองออกมา
"อืม กูก็คิดแบบมึง กูเลยปล่อยให้ไอ้ดลมันทำอะไรตามใจตัวเองมาสักพักละ อีกอย่างกุลองลดยาคลายเครียดของมันมาสักพักแล้ว"มินบอกด้วยสีหน้าที่คลายกังวลลงบ้างแม้จะยังไม่แน่ใจว่าวิธีนี้จะได้ผลไหมแต่เขาก็พร้อมที่จะเสี่ยงดู
"มันไม่ค่อยอาละวาดเหมือนแต่ก่อน ดูสงบขึ้น"มินอธิบายเพิ่มขณะที่พากันเดินกลับเข้าไปในตัวบ้าน
"แต่มันติดน้องมากขึ้น ให้ห่างตัวไม่ได้เลย"กรพูดเสริม กับสิ่งที่ตัวเองสังเกตเห็น
"พวกเราเองก็ต้องคอยดุมันไว้ด้วย เผื่อมันคลั่งขึ้นมาอีก น้องใบ้กูได้ตายก่อนแน่ๆ"
ไอ้อาการเขินเวลาเจอหน้ากันดูเหมือนจะกลายเป็นสิ่งที่คนในบ้านเริ่มจะสังเกตเห็น มานะจะหน้าแดงทุกครั้งที่เผลอไปสบตากับดลโดยบังเอิญ ยิ่งเห็นอาการแบบนี้ ดลก็ยิ่งอยากจะแกล้ง
"มานะ"ร่างสูงเดินเข้ามาประชิดตัวจากทางด้านหลังขณะที่คนใบ้ กำลังเช็ดกระจกห้องทำงานของเขาอยู่ ร่างสูงยกสองแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามกักตัวเขาไว้ไม่ให้ไปไหน เสียงทุ้มนุ่มกระซิบเรียกชื่อเขาตรงข้างๆใบหู ดลจงใจเป่าลมหายใจร้อนๆใส่จนอีกคนออกอาการทำตัวไม่ถูกหน้าแดงหูแดงไปหมด ยิ่งดลเบียดตัวเข้าใกล้มานะก็ยิ่งเอาตัวแนบกระจกมากขึ้นเท่านั้น จนแทบจะสิงกับกระจกอยู่แล้ว
"กูอยากได้กาแฟสักแก้ว"ดลก้มใบหน้าลงมาต่ำจนปลายจะมูกชิดกับแก้มนุ่ม
"อะ อื้ออ -///-" มานะสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็รีบเบี่ยงตัวเองให้ออกมาจากวงแขนนั้น ก่อนจะรีบวิ่งหนีออกจากห้องทำงานเขาไป กลิ่นหอมอ่อนๆ ยังติดอยู่ที่ปลายจมูก ใบหน้าหล่อร้ายยกยิ้มเป็นรอบที่สิบของวัน เขาเดินเอื่อยๆมานั่งรอกาแฟโต๊ะทำงานเอนหลังพิงพนักอย่างสบายอารมณ์ ผิดกับอีกคนที่ตอนนี้มือยังสั่นไม่หายจับช้อนกาแฟยังแทบจะร่วงลงพื้น ใจสั่นจนเลือดสูบฉีดขึ้นหน้าไปหมด เดินผ่านใคร ใครก็ถามว่าไม่สบายรึเปล่า
อิคุณชายผีบ้า! ชอบทำให้เขาอับอาย
................
ดล บรรยาย
ในช่วงชีวิตของผมที่ผ่านมา มันมีแต่ความน่าเบื่อและน่าหงุดหงิดมาตลอด ผมเป็นผู้ชายที่ใคร หลายๆอาจจะอิจฉา เป็นคุณหนูคุณชายอาศัยเงินที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ มีบ้านมีรถ มีบริษัทเป็นของตัวเอง เป็นมหาเศษฐีที่มีชีวิตที่สมบูณร์แบบ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนไม่เคยรู้ นั้นคือผมมีอาการทางจิตที่เรียกว่า PTSD (มีอาการเครียด เนื่อจากเหตุการณ์เลวร้ายในอดีตมักจะมีอาการได้ยินหรือเห็นภาพจนเกิดอาการคลุ้มคลั่งและจะทำร้ายตัวเองและคนรอบข้าง อาการเหล่านี้มันมักจะมาพร้อมกับแรงกดดันหรือก็ต่อเมื่อผมมีอาการเครียดมากๆ แต่ในทุก ๆ วัน ตายของพ่อกับแม่ผม อาการมันก็ยิ่งกำเริบหนัก เหมือนวันนั้น วันที่ผมเกือบจะฆ่ามานะ มีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นในคืนนั้นและมันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จู่ๆอาการคลั่งของผมมันค่อยๆสงบลง สงบลงในอ้อมกอดของคนใบ้ ที่ผมคอยแต่จะแกล้งให้เจ็บตัว ผมยอมรับตรงนี้เลยก็ได้ครับว่า ผมถูกใจมานะตั้งแต่แรกเจอ อย่่างที่ไอ้มินมันบอกว่ามานะมันคือไทป์ของผม ตั้งแต่มานะเข้ามา ชีวิตผมก็มีสีสันขึ้นมาทันที
ผมนั่งรอกาแฟจากคนใบ้อย่างใจจดใจจ่อ จมูกของผมยังได้กลิ่นหอมอ่อนๆของเขา กลิ่นที่ทำให้ผมต้องคอยให้เขาอยู่ใกล้ๆ ไหนจะใบหน้าคล้ายแมวนั่นอีกถ้าสังเกตดีๆบนแก้มด้านขวาจะมีจุดสามจุดที่เรียงตัวกันคลายรูปดาวอยู่ มันทำให้ผมแอบมองหน้าเขาบ่อยๆจนกลายเป็นจุดวางสายตาของผมไปแล้ว
ก็อก ๆ ๆ
เสียงเคาะดังมาจากทางหน้าประตูเป็นสัญญาณให้ผมรู้ว่าเขากำลังกลับเข้ามาอีกครั้งผมรีบตีหน้านิ่งๆเพื่อปกปิดอาการที่กำลังเป็นอยู่ทันที มานะเป็นเด็กที่ตัวผอมสูงไหล่เล็กกว่าผู้ชายในวัยเดียวกันมากยิ่งท่าเทียบกับผมมานะกลายเป็นตัวเล็กตัวน้อยทันที ผมมองคนใบ้ด้วยสีหน้าที่เก็บอาการอยากจะจับเขาฟัดเอาไว้ ปล่อยให้เขาเอากาแฟมาวางแล้วเดินกลับไปเช็ดกระจกต่อ ส่วนตัวผมก็นั่งทำงานไปเงียบๆ มีบ้างที่แอบมองเขาเวฃาทำงานจนบางครั้งเราก็สบตากันเข้าโดยบังเอิญ พอมานะเห็นว่าผมมองอยู่ก็รีบก้มหน้าทำงานต่อ แต่ผมรู้ว่าเขากำลังเขิน เพราะใบหูสีขาวนั่นกำลังกลายเป็นสีแดง
"หึหึ"
เด็กบ้าอะไรน่ารักฉิบหาย!
อาการแบบนี้เค้าเรียกว่าคนคลั่งแมวได้รึเปล่าครับ
จบบรรยายของดล (มาแบบสั้นๆ 555)
พอได้ยินเสียงหัวเราะของคนเป็นเจ้านาย เด็กชายใบ้ก็หันมามองด้วยความสงสัย หัวเราะแบบคนไม่น่าไว้ใจ มานะเลยทำงานแบบหลบๆ ยืนแอบหลังตู้บ้าง แอบหลังม่านบ้างเพื่อไม่ให้ดลมองเห็นตนเองชัดๆ จนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องออกไปข้างนอก ดลบอกให้มานะไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วมารอเขาที่โรงจอดรถวันนี้เขาจะขับรถเอง มานะเลยต้องรีบเก็บของเพราะดลบอกว่าให้เวลาสิบนาที
มานะใช้เวลาในการอาบน้ำไม่นานออกมาแต่วตัวด้วยชุดที่ดลซื้อให้ เสื้อเชิตโคล่งสีขาวกับกางเกงสกินนี่สีดำขาดเข่าแล้วสวมทับด้วยรองเท้าผ้าใบซึ่งดลก็เป็นคนซื้อให้อีก มานะรีบวิ่งมาที่โรงจอดรถ เขาเห็นชายเจ้าของบ้านยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงรอเขาที่รถ ดลเปลี่ยนแค่เสื้อผ้าชุดที่เขาใส่ก็คล้ายกับมานะต่างกันที่สีสลับกันเท่านั้น ดวงตากลมมองคนเป็นเจ้านายด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย
คิดว่าเท่มากมั้ง -///- ในใจคิดแต่ก็ใจเต้นแรงกับภาพที่เห็น นั่นคือรอยยิ้มุมปากที่จุดขึ้นมาให้เห็น
ยิ้มก็เป็นนี่หว่า นึกว่าทำเป็นแต่หน้าตึง มานะแอบนินทาในใจอีกครั้ง ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินไปหาเจ้านายที่ชอบทำตัวเหมือนคนผีเข้าผีออก
"ขึ้นรถ"เขาสั่งเสียงเรียบมานะเดินไปเปิดปรูรถอีกข้างส่วนดลก็ประจำที่นั่งคนขับ พอเข้ามาด้านใน ดลก็ทำให้มานะต้องหายใจไม่ทั่วท้องอีกครั้ง เพราะจู่ๆดลก็โน้มตัวมาคาดเข็มขัดให้คนใบ้อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
"ต้องให้บอกกี่ครั้งว่าขึ้นรถแล้วให้คาดเข็มขัด"เขาใช้น้ำเสียงดุๆ แต่มานะกรอกตาขึ้นมองบน ใจอยากจะเถียงแทบขาด
ก็ยังไม่ทันได้นั่งดีๆเลยไหม?! มานะทำหน้ายู่ไม่รู็ด้วยซ้ำว่ามันเป็นเจตนาของดลที่พยายามจะทำตัวใกล้ชิดกับเขา
บ่ายสามโมงรถก็เคลื่อนออกจากตัวบ้านจุดมุ่งหมายคือห้างสรรพสินค้าในเครือของ K.กรุป ซึ่งที่นี่มานะยังไม่เคยมาเอาจริง ๆ มานะไม่เคยเดินห้างเลยด้วยซ้ำยิ่งเป็นห้างที่ใหญ่โตแบบนี้เจ้าตัวอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ เลยเก็บอาการไม่ค่อยจะอยู่ พอยิ่งรถขับเข้ามาใกล้มากขึ้นเท่าไหล่สองมือเล็กก็จับกระจกแล้วหันหน้าไปมองไม่หยุด ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อเห็นความอลังการของที่นี่ ทั้งสวนสวย ทั้งความกว้างขวาง ทั้งผู้คน ยิ่งทำให้มานะเผลอร้องอู้ อ้า ออกมาเสียทุกครั้งที่ตัวเองรู็สึกทึ่งหรือตื่นเต้น ดลแอบชำเลืองมองด้วยความเอ็นดู เพราะมานะเป็นแบบนี้เขาเลยชอบพามานะออกมาข้างนอกด้วยบ่อยๆ ยิ่งถ้าพาไปกินของอร่อยมานะจะเหมือนลูกแมวที่เห็นถาดนมวางอยู่ตรงหน้า ดวงตาสุกใสเป็นประกายจนดลต้องกลั้นยิ้มจนจมูกบาน
อิคุณชายผีบ้า
5555555555555