ไอ้เดี่ยว เพื่อนใหม่
ผมชื่อเดี่ยว หรือกิตติศักดิ์ ผมเคยเรียนโรงเรียนนี้มาก่อนและอยู่แก้งเดี่ยวกับไอ้พวกภาคิน แต่ผมดันมีเรื่องกับไอ้ธงรบ เพื่อนของไอ้ภาคินมัน ตอนนี้มันไปเรียนอยู่โรงเรียนเตรียมทหาร ผมดันไปแท่งมันเข้าและนั้นก็ทำให้ผมต้องถูกย้ายไปเรียนที่อื่น เพราะว่าแม่ผมกลัวว่าผมจะเสียคนไปมากกว่านี้ และนี้พอดีแม่ผมต้องการจะเดินทางไปต่างประเทศแม่ผมพบรักกับต่างชาติและแฟนแม่ผมคนนี้ก็เคยแต่งงานกับคนไทยมาก่อนจนมีลูกสาวที่เป็นลูกครึ้งไทยอังกฤษหนึ่งคน แต่ภรรยาเขามาเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยโรคซึมเศร้าและฆ่าตัวตาย เขาก็พาแม่ผมไปๆมาๆที่ไทยและอังกฤษ เพราะว่าพ่อเลี้ยงผมเขามีฟาร์มอยู่ที่ไทยด้วยกับภรรยาคนไทยคนเก่าและเขาก็เรียนรู้ภาษาไทยจนพูดได้คล้องเช่นกัน
ผมเบื่อก็เลยเลยขอแม่ผมว่าจะกลับมาเรียนโรงเรียนเดิม แต่กว่าผมจะขอแม่มาได้แม่คัดค้านผมตอนแรกแต่แม่ก็ยอมผมจนได้ และผมก็ระบุว่าจะเรียนที่ห้องเรียนไอ้ภาคินมัน ผมรู้ว่าห้องไหน แต่พอมาถึงกลับไม่ได้เรียนก็โมโห และดันมาเจอคนพ่นสีรถคันโปรดของผม คันนี้พ่อผมซื้อให้และพ่อกับผมก็ช่วยกันปรับแต่งแม้บางอย่างจะให้อู่ทำให้เช่นลงสีตามที่พ่อกับผมออกแบบเอาไว้ พ่อผมเป็นทหารแต่เป็นทหารช่าง พ่อผมเสียไปได้สามปีแล้ว เนื่องจากมีการวางระเบิด ผมเลยรักรถคันนี้มาก
“เดี่ยว” ไอ้คนที่เรียกชื่อผม คือคนที่ทผมต่อยกับมันเมื่อสักพักนี้ มันบอกว่ามันชื่อไอ้ดิว
“มึงต่อยมวยเก่งวะ มึงเคยเรียนต่อยมวยมาใช่ไหมวะ” ไอ้ดิวมันถามผม
“พ่อกูเป็นคนสอนกูเองและพ่อกูก็เป็นทหารช่างด้วยและพ่อกูก็เป็นนักมวยมาก่อน” ผมบอกมัน ผมเห็นมีคนหน้าหวานวิ่งตามมันมาและไอ้หน้าคนที่ทำรถผมซะเละเทะไปด้วยสีสเปย์ ผมหันไปมองหน้ามันแต่มันดันแอบด้านหลังไอ้คนหน้าหวานทันที
“อะไรของมึงวะไอ้ติ๊ก” หนุ่มหน้าหวานหันไปถาม ผมก็ยิ้มที่มุมปากหยักคิ้วให้
“ก็ดูไอ้นี้ดิ หน้ามัน ยังกะพวกหื่นกาม” ดูมันชมผมซะหุบยิ้มแทบไม่ทัน
“มึงอย่าบอกนะว่า พ่อมึงคือจ่าสิบเอกชาติชาย” ไอ้ดิวมันพูด ผมสะบัดหน้าไปมองหน้ามันแปลกใจว่ามันรู้ได้ยังไง
“มึงรู้จักด้วยเหรอวะ “
“ใช่ดิกูก็เรียนต่อยมวยกับเขามาเพราะว่าพ่อกูเป็นแพทย์ทหารที่ดูแลค่ายทหารและโรงพยาบาลในค่ายทหารนั้น ” ไอ้ดิวมันพูด
“ทำไมกูไม่เคยเจอมึงเลยวะ” ไอ้ดิวมันถามผม
“กูไม่ได้เข้าไปในค่ายหรอกวะ พ่อกูนะพอเวลาลากลับมาบ้านก็จะฝึกกูต่อยมวยอย่างหนัก แม่กูนะไม่ค่อยชอบหรอก เขาไม่อยากให้กูไปท้าตีท้าต่อยกับใคร “ ผมพูด
“แต่พ่อกูก็สอนเสมอว่า ให้ใช้ในยามจำเป็นเท่านั้นวิชาที่พ่อกูสอนนะ พ่อกูบอกห้ามเอาไปรังแกใครและกูก็ทำตามที่พ่อกูสอนมาตลอด........แต่วันนี้ กูขอโทษวะ กู”ผมพูด
“เฮ้ย! กูเข้าใจวะ รถของใครใครก็รักวะ “ ไอ้ดิวมันพูดและหันไปมองไอ้คนต้นเหตุ
“แต่กูไม่เจอจ่าแกนานมากแล้วนะ จ่าแกเป็นไงบ้างวะ” ไอ้ดิวมันถามผม
“พ่อกูเสียไปได้สามปีแล้วจากเหตุวางระเบิด ตอนนั้นพ่อกูติดรถขบวนทหารไปด้วยและนั้นก็คือวันสุดท้ายทั้งที่พ่อบอกว่าจะขอกลับมาอยู่กับกู” ผมพูด ไอ้ดิวมันหน้าเสียไปเลย
“เสียใจด้วยวะเดี่ยว” ไอ้ดิวมันพูด ผมหันไปมองคนข้างๆมัน
“อ้อไอ้นี้ชื่อ แอ้ ลูกท่านนายพล ภีมปภพนะ”
“ปกติพ่อกูจะขับรถให้ทานนั่ง “ ผมพูดและพยักหน้าให้แอ้ ผมรู้ว่าหน้าเขาหวานจน
“อะแฮม “ อีกคนก็กระแอมใส่ผมซะนี้
“ไอ้นี้ติ๊กวะ คนที่จะซ่อมรถให้มึงนะ”ไอ้ดิวมันลืมไม่ได้แนะนำตัวมันก็เหมือนเรียกร้องหน่อยๆ
“นี่คือดาราหรอ ...มีแต่คนบอก ว่าแต่เป็นดาราช่องไหนอ่ะ ไม่เคยเห็นแสดงเลย” ผมหันไปถามมีแอบค้อนผมขวับเลย จริงๆผมก็เคยเห็นหน้าเห็นตาที่หน้าจออยู่หรอกแต่ผมนี้แกล้งมันนะ
“ดาราแสดงแต่หนัง ไม่ได้แสดงละคร และส่วนใหญ่จะหนังอินเตอร์ บ้านไม่มีเน็ตฟิกซ์ ไม่รู้จักหรอก”
“ไอ้ติ๊กปากมึงเหรอวะ” ไอ้คนหน้าหวานหันไปต่อว่า
“มีเน็ตฟิกซ์แต่ดูเฉพาะหนังโหดๆ ระบิดลงตูมๆ “ผมพูดและก้าวเท้าเข้าไป มันก็ถอย
“และยิ่งหนังที่พระเอกซาดิสนี้ชอบมากกก” ผมพูด
“เออ ..กูรู้แล้วไม่ต้องมาใกล้ขนาดนี้หรอก หน้ามึงมันก็บอกแล้วว่าโรคจิต” ไอ้ที่ชื่อติ๊กพูด ผมก็ยิ้มและหยักคิ้ว
“ไปเถอะวะ ไปทำแผลกันดีกว่าวะจะได้เข้าห้องเรียนกัน”ไอ้ดิวมันพูดและผมก็เดินพากันเข้าไปในห้องพยาบาล มีครูที่เป็นพยาบาลประจำห้องเดินออกมาพอดีเลย
“อ้าวพวกเธอ เป็นอะไรกันมาเหรอ” ครูที่ห้องพยาบาลถามพวกผม
“คือว่ามีเรื่องเข้าใจผิดกันเลยชกต่อยกันนิดหน่อยนะครับ ครูพัฒน์ให้พวกผมมาทำแผลครับ”
“คือว่าครูมีเรื่องด่วนนะพวกเธอ”
“ไม่เป็นไรครับ พวกผมหายาทาเองได้ครับ “ ไอ้ดิวมันพูด
“แน่ใจเหรอ งันดูแลตัวเองกันก่อนนะคะ ครูรีบจริงๆ” ครูประจำห้องพยาบาลพูดและรีบวิ่งไป คงมีเรื่องรีบจริงๆ ผมพากันเดินเข้าไปในห้อง ไอ้ดิวมันเดินไปเปิดตู้ยาอย่างชำนาญและคนหน้าหวานที่ชื่อแอ้ก็เข้าไปหยิบอะไรสักอย่างออกมา มันหยิบเอาถุงคล้ายกับโคลด์แพ็คมาและส่งให้ผม
“ประคบซะ” แอ้บอกผม ผมพยักหน้าและรับมา
“อ่ะ นี้ว่ะยาทาแก้ฟกช้ำ “ ไอ้ดิวมันส่งหลอดยาให้ผม และพอมันนั่งลง
“Rrrr “ เสียงมือถือไอ้ดาราข้างๆผมดังขึ้น
“ฉิบหายแล้วพ่อกูโทรมา กูรับสายก่อนนะมึง” ไอ้ดารานั้นมันพูดและก็รีบเดินออกไปทันที
“พ่อมันเป็นเจ้าของโรงเรียนนี้ไง” ไอ้ดิวมันอบกผม ผมก็พยักหน้า ผมเองเคยเจอเจ้าของโรงเรียนนี้ครั้งหนึ่งตอนนั้นท่านมาประชุมและพ่อผมก็มาให้การดูแลความปลอดภัย ท่านดูอายุไม่น่าจะใกล้หลักห้าเลยนะ ดูแล้วไม่เกินสี่สิบปีด้วยซ้ำ แต่ผมก็ยอมรับได้ดารานี่มันน่าตาดีจริงๆ
“ดิวประคบหรือยัง” แอ้หันไปถามดิว ผมว่าเหมือนสองคนนี้มีอะไรบางอย่างแม้ว่าการแสดงมันไม่ได้บ่งบอกชัดเจนว่าเขาเป็นอะไรกัน
“มึงสองคนเป็นแฟนกันหรือเปล่าวะ” ผมถามไปแบบตรงๆทันที เพราะเห็นแอ้กำลังจะเอาประคบที่มุมปากไอ้ดิว
“ไม่..” “ ใช่” มันสองคนตอบพร้อมกันแต่ตอบกันคนละคำตอบเลย
“โอ๊ย!” ดิวมันร้องลั่นทันทีแอ้มันคงกดแรงแน่ๆ ผมก็เอามือเกาหัวแทน ไม่น่าถามมันตอนนี้เลยผม แอ้มันคงเขินมั้ง
“โอ้ยแอ้ ตอนไอ้เดี่ยวต่อยนะไม่เจ็บเท่าแอ้กดลงมาเลยนะ ซี้ด” ดิวมันพูดและบ่นแอ้อีกต่างหาก
“ไม่ใช่ เพื่อนกัน”ไอ้แอ้มันพูดและรีบหยัดเอาที่ใช้ประคบมุมปากให้ดิวมันไปประคบเองทันที ผมก็เห็นสีหน้าไอ้ดิว มันผิดหวังแต่มันก็รับคืนมา
“อ้าวติ๊กมาแล้วเหรอมึง ว่าไง พ่อว่าไงวะ”แอ้ถามติ๊ก ที่เดินหน้ามุ้ยเข้ามา
“พ่อบอกว่ากูต้องไปงานอาทิตย์เดียวกับที่กูบอกว่าจะไป เที่ยวบ้านมรึงอ่ะแอ้” ติ๊กมันพูด ไอ้ดิวสะบัดหน้าอย่างตกใจ
“ไม่เห็นเคยบอกเลยว่าจะมันจะไปด้วยนะ” ไอ้ดิวหันไปถามแอ้ ผมว่าสามคนนี้มีอะไรซับซ้อนกันอยู่แน่ๆ
“ก็กู”
“ทำไมกูไปเที่ยวบ้านไอ้แอ้ไม่ได้ว่ะ และก็ไม่ได้ขอไปบ้านมึงซักหน่อยไอ้ดิว” ติ๊กพูด ผมหันมามองติ๊กและหันไปหล่ตามองไอ้ดิว มันแอบทำนิ้วเฉือดคอใส่ติ๊กและพยักเพย้อให้ผม ผมก็พอจะเดาออกว่าทำไม แสดงว่าคนนี้คงเป็นก้างชิ้นใหญ่ของมันละซิ แต่คำถามคือใครกันที่ไอ้ดาราพยายามกั้นท่าอยู่
“กูว่าจะหาเรื่องเบี้ยวงานวะ “ ไอ้ติ๊กพูด
“เออ! ถ้ามึงสองคนดีขึ้นแล้วไปขึ้นห้องดีกว่ามั้ยวะ”ไอ้แอ้มันเปลี่ยนเรื่องเฉยเลย ผมเห็นไอ้ดิวมันลุกขึ้นแต่ติ๊กนะดึงแขนไอ้แอ้ออกไปก่อน ผมหันไปมองไอ้ดิว มันก็เก็บพวกยาเข้าที
“มึงชอบแอ้เหรอวะ” ผมถามไอ้ดิว มันก็นิ่งไปทันที
“กูขอโทษวะ แต่กูว่ากูดูออกวะ” ผมบอกไอ้ดิว
“กูรักมัน แต่มัน กลัว อนาคตที่ยังมาไม่ถึงแอ้มันกังวลเยอะไปหมดว่ะ ” ไอ้ดิวมันพูด
“อนาคตอย่างพวกมึงยังต้องกลัวอะไรอีกว่ะ” ผมถามเพราะว่าผมก็รู้จักครอบครัวพวกมันมาบ้าง แต่ละคนโปรไฟว์ดีขนาดนี้
“อันนี้จริงพวกกูควรจะไปเรียนตามที่วางแผนกันไว้แล้วว่ะ พวกกูเรียนจบมัธยมปีที่หกกันมาแล้ว บางคนก็เรียนกมหาวิทยาลัยออนไลน์กันบ้างแล้ว” ไอ้ดิวมัน
“กูกับแอ้รอเรียกตัวว่ะ แอ้ต้องไปเรียนสายทหารส่วนกูเลือกจะไปเรียนแพทย์ทหารเพราะว่ากูมีบางสิ่งที่ต้องการจัดการแต่กูบอกมึงไม่ได้ในตอนนี้ว่ะเดี่ยวว่ากูกับแอ้เป็นยังไงกัน” ไอ้ดิวมันพูดกับผมสายตามันมองไปที่แอ้กับติ๊กทีเดินคุยกัน
“มึงกับแอ้เป็นแฟนกันแบบลับๆเหรอว่ะ”ผมถามไอ้ดิว
“กูกับแอ้ ไม่ได้แค่เพื่อน หรือคนรัก แต่กูมากกว่านั้นวะ”ไอ้ดิวมันพูด ผมพยักหน้า
“เออ..ขึ้นห้องเถอะวะ” ไอ้ดิวมันพูด ผมก็เดินขึ้นห้องเรียนไปพร้อมกับไอ้ดิวมัน ผมว่ามันคงมีปัญหามาจากไอ้ดารานั้นด้วย แต่จะให้ผมถามมันตอนนี้คงเร็วเกินไปสำหรับคนที่เพิ่งเป็นเพื่อนกัน ผมเดินมาหยุดที่หน้าห้อง 311 ผมก็สูดลมหายใจยาวๆ ถึงจะแค่สองปีแต่ว่า
“อ้าว ไอ้เดี่ยวไม่เข้าห้องวะ”ไอ้ดิวมันถามผม เพราะผมยื่นอยู่หน้าห้อง
“อ้าวดิว และนายกิตติศักดิ์ใช่ไหม”ครูพัฒน์มาพอดีเลย
“ครับครู เออ เรียกผมเดี่ยวก็ได้ครับ”ผมบอกครูพัฒน์ ครูพัฒน์พยักหน้าและผมสองคนก็ให้ครูพัฒน์เข้าไปก่อน ไอ้ดิวมันมองหน้าผม ผมก็ยิ้มให้มัน
“สวัสดีครับคุณครู “
“สวัสดีครับนักเรียน”
“ดิวเข้ามาก่อนซิ” ครูพัฒน์บอกไอ้ดิวและ
“เออ วันนี้ครูมีนักเรียนใหม่มาอีกหนึ่งคนนะ ชื่อนายกิตติศักดิ์ “ ครูพัฒน์บอกผมให้ผมเดินเข้าไป พอผมเดินเข้าไปหยุดที่หน้าห้องเรียน
“ครื้น!” เสียงเก้าอี้ถูกเลื่อนออกจากพวกเพื่อนไอ้ภาคิน แต่ไอ้ภาคินมนเงยหน้าขึ้นมามองผมทำหน้าตกใจที่เห็นผมกลับมายืนที่นี้อีกครั้ง
“ไอ้เดี่ยวนี้หว่า” พวกมันกระซิบกระซาบกันทำให้พวกไอ้ดิว หันมามองผม
“สวัดดีครับ ผมชื่อกิตติศักดิ์ ชื่อเล่นชื่อเดี่ยว”
“วี้ดวิว “ไอ้แจ็คมันแซวผม
“เออ..นาย” ครูพัฒน์กำลังจะหาที่นั่งให้ผมแต่พวกไอ้ดิวมันยกมือขึ้น
“ให้นั่งโต๊ะข้างไอ้ติ๊กก็ได้ครับ” ไอ้แจ็คมันก็ยกมือเรียกให้ผมไปนั่งข้างไอ้ดารานั้น
“ทำไมต้องให้มันมา”
“เออ น่ะ แค่นั่งตรงข้ามมึงไม่ได้นั่งกลับมึงซะหน่อย” ผมได้ยินไอ้หลุยส์มันพูด ผมเดินเข้าไปนั่งและครูพัฒน์ก็เริ่มสอน ผมก็หันไปยิ้มให้ทุกคนแต่ยกเว้นพวกไอ้ภาคิน เพราะว่าผมีความหลังที่จบไม่ค่อยสวยกับพวกมัน
“ดีวะเดี่ยว” อีกคนที่ทักผม ผมหันไปมอง ไอ้คนนี้หน้าคุ้นๆ
“จำเราได้ป่ะ เราน้องพี่ข้าวปั้นอ่ะ”
“เออ เหมือนจะจำได้วะ แต่กูคิดอีกทีจำไมได้วะ”
“ขอบใจมาก!” มันทำน้ำเสียงโมโหผมอีกนะ และอีกคนก็ยิ้มตาหยีมาให้ ผมก็ยิ้มกลับ
“ดีนาย เราพายนะ “ อีกคนที่นั่งข้างไอ้ติ๊กดารา ผมก็ยิ้มให้
ผมเห็นดิวมันนั่งกับแอ้ ผมก็เผลอแอบมองแอ้ตลอด ทำไมเขาเหมือนบางสิ่งให้สะกดสายตาอยู่ที่เขายังไงก็ไม่รู้ จนกระทั่ง
“เดี่ยว ไปหาอะไรกินกันวะ” สะดุ้งเพราะมีคนมาเรียกชื่อผม ก็คือไอ้แจ็คมัน
“เออ...ไปไหน ..นะ”
“ไปหาอะไรกินกันด้านล่างไง”ไอ้แจ็คมันบอกผม ผมก็พยักหน้า
“แม้เห็นนะแอบมองแอ้เหรอ” มีคนทักผม ผมหันไปมองไอ้คนที่ชื่อบลูนั้นเอง ไอ้ดิวมันหันมามองผมพร้อมกับแอ้
“จริงดิ มึงชอบแอ้เหรอ” ติ๊กมันถามผมทันที
“ชอบ..ชอบอะไร..เปล่า” ผมพูดและยิ้มๆให้ไอ้ดิวมัน ผมก็ลุกขึ้นพร้อมทันที ผมเดินลงมาพร้อมๆกับพวกนั้น ก็เดินคุยมากับไอ้แจ็ค ไอ้หลุยส์ พวกมันสองคนก็แนะนำบอยกับธรรณ์
“ไอ้เดี่ยวมึงจะเอารถไปซ่อมทีไหนวะ” ไอ้ดิวมันถามผม ผมนะมีอุ้แห่งหนึ่ง ผมรู้จักเขาดี
“กูมีอู่ซ่อมของลุงกูวะ เขาเป็นคนที่พ่อกูเคารพ เขาเปิดอู่อยู่ที่นี้” ผมพูดบอกไอ้ดิวว
“ไอ้ติ๊กมรึงอย่าลืมจัดการรถให้มันนะมึง”ไอ้ดิวหันบอกไอ้ติ๊กที่เดินกับแอ้และพาย
“เออ กูรู้แล้ว” ไอ้ติ๊กพุด
“งั้นกูโทรหาเขาก่อนวะ” ผมพูดและเดินเลี่ยงไปเพื่อหาที่คุย ผมกดมือถือลุงของผม แม้ไม่ใช่ลุงแท้ๆก็เถอะ
//ดีวะเดี่ยวแล้วนี้ว่าไง โทรมาหาลุง//
//ลุงเทพผมกลับมาเรียนที่เดิมแล้วครับ// ผมบอกลุง
//เออแล้วแม่มรึงเขาให้กลับมาเหรอว่ะ// ลุงเทพถามผม
//ให้ครับและแม่ผมเขาไปอยู่ต่างประเทศแล้วครับ//
//เออ ...// ลุงเทพ
// ผมจะเอารถไปซ่อมนะครับ คือผมต้องลงสีใหม่ //
//อ้าวทำไมละ เพิ่งลงไปเมื่อปลายปีที่แล้วนิ//
//คือมี คนมือบอนนะครับยำรถผม ผมพูดเสียงดังหน่อยประโย//คนี้เพราะว่ามีคนมาแอบฟังผม
//เวรจริงๆ ใครวะมันทำกับมึงได้ //
//ถ้าเจออีกทีผมว่าจะจับทำเมียเลยลุง// ผมพูด ไอ้คนที่แอบฟังผมรีบออกมาทันที
“ปากดีนะมรึงนะ”นั้นมันออกมาแสดงตัว
“แอบฟังเหรอ”ผมเอามือปิดโทรศัพท์ของผมและเดินย่างสามขุมเข้าไปหา อีกคนก็เดินถอยหลังหนีผมแต่มันติดกำแพง ผมก็เดินย่างเข้าไปต่อ
//ลุงผมเรียนนะซิ ถ้าอย่างนั้นลุงมาเอารถผมได้ไหมครับ เพราะลุงมีกุลแจสำรองของผมนิครับ//
//เออได้ได้เดี๋ยวลุงให้คนไปเอานะ// ลุงเทพพูด ผมก็กดวางสายก่อน เพราะกลัวคนที่มาแอบฟังผมจะหนี
“หมับ” ผมใช่มือดันกั้นไว้ไม่ให้ออกไปไหนได้ คนที่ยืนแหนบชิดติดกับแพง ถึงกับทำตัวลีบ
“มึงจะทำอะไรกู “ ไอ้ติ๊กมันพูด
“ทำไมไม่ปากดีแล้วละ” ผมถามติ๊ก
“ปากดีแบบนี้หน้าตบด้วยปากกระฉากด้วยลิ้น”ผมพูดผมันก็หลับตาปรี่แต่ก็เหล่ตามองเป็นระยะพอผมยิ่งเข้าใกล้ม้ันก็หลับตาหนีผมอีก จนผมหยุดและยิ้มที่มุมปาก
“แล้วมายื่นแอบฟังคนอื่นเขาคุยกัน มันเสียมารยาทนะครับคุณหนู” ผมพูด
“ก็ กูแค่ให้แน่ใจว่ามรึงไม่ได้ต้องการเงินและหลอกว่า”
“นิ กูไม่ใช่คนแบบนั้นวะ แค่ต้องการเงินของมึง ถ้ามึงไม่อยากก็ไม่ต้อง กูจัดการได้” ผมขึ้นและเดินถอยหลังจะออกทันที ทำไมพอเป็นไอ้คนนี้มันพูดเรื่องเงินกับผมแล้วผมต้องปรี้ดทันที
“เฮ้ยย! กูไม่ได้ความว่าแบบนั้น เออ กูเชื่อมึงและกูก็”ผมหันมามองว่ายังไง
“ไม่อยากเสียคำพูดกับเพื่อนๆกู มึงก็ให้เขาทำบิลมาเก็บที่กู” ติ๊กมันพูด ผมพยักหน้าและเดินออกมา ทันที
“มึงจะไปไหนนะไอ้เดี่ยว” ไอ้ดิวมันเรียกผม มันเห็นว่าผมเดินไปอีกทางที่ไม่ใช่ห้องเรียน
“กูจะไปเอาของที่รถวะ เพราะว่าลุงเขาจะส่งคนมาเอารถกูไปซ้อม “ ผมบอกไอ้ดิว
“ไปด้วยดิวะ”ไอ้ดิวมันบอกผม ผมก็พงกหัวว่ามาดิ และไอ้คนหน้าหวานพร้อมกับดาราจอมกวนนั้นก็วิ่งตามมาติดๆ เหลือแต่พายที่กำลังกินน้ำปั่นอยู่กับบอยและธรรณ์แฟนไอ้หลุยส์มัน ผมเดินมาที่ผมจอดรถไว้ โธ่ เอ่ย เปรี้ยวลูกรักของพ่อ ผมคิดในใจ
“เวรเลย “ ไอ้ดิวพอมันเห็นสภาพรถผม
“ไอ้ติ๊กมึงงนี้เชี้ยมากทำรถมันเละขนาดนี้วะ” ไอ้ดิวมันพูดแสดงว่ามันก็เป็นคนรักรถมากเช่นกัน และไอ้แอ้ก็ยืนมองแบบเสียดายเช่นกัน
“แม้ มันดันปากดีด่าพวกเราก่อนนี้หว่า” ไอ้ติ๊กมันแถ ผมก็เปิดประตูหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าอาดิด๊าสและกีตาร์ตัวโปรดของผมออกมา
“เออ นี้มึงมาเรียนต้องพกกระเป๋าเดินทางมาด้วยเหรอวะ “ไอ้ติ๊กมันถามผม
“กูเพิ่งจะย้ายมาจากหอโรงเรียนเดิมและกูว่าจะมาหาหอพักแถวนี้ “ผมหันไปบอกพวกมัน
“อ้าวมึงไม่มีบ้านทีนี้เหอรวะเดี่ยว”แอ้มันถามผม หน้าหวานแต่ดูมันพูดหมดราคาเลย อุตสาแอบชอบแต่ผมคิดว่าผมคงเข้าไม่ถึงเพราะไอ้ดิวนี้แหละ
“ไม่มีหรอก แม่ขายไปแล้วตั้งแต่พ่อกูเสีย” ผมพูดกับแอ้
“เออ พวกกูมีห้องว่างวะแต่ยังไม่มีเฟอร์นิเจอ มรึงไปเข้าไปอยู่ก่อน พวกกูจะขอพ่อพวกกูให้เอาเฟอร์เข้ามา” ไอ้ดิวมันพูด
“อะไรนะ” ไอ้ติ๊กมันทำท่าจะค้าน
“ทำไมวะ กูว่าไอ้หลุยส์ไอ้แจ็คมันก็เห็นด้วยกับที่กูพูด “ ไอ้ดิวมันพูด
“เฮ้ย!ไม่เป็นไร”ผมทำท่าจะปฏิเสธเช่นกัน
“ไม่เอานะ อยู่กับพวกกู บ้านกว้างวะ” ไอ้ดิวมันพูด ไอ้แอ้มันพยักหน้าอีกคน ผมก็โอเค
“อะไรวะ ไอ้นี้มาไม่ทันถึงวันเลยได้นั้นได้นี้” ติ๊กที่ทำท่างอดแงดใส่ และพาแอ้เดินออกไปทันที
“อย่าไปถือสามันเลยวะ แต่จริงๆมันเพื่อนที่ดีนะโว้ย” ไอ้ดิวมันพูด ผมหยักไหล่ น่าจะนะ แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นข้อดีเลย แต่มันก็ยิ่งทำให้ผมอยากแกล้งมากขึ้น
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาของมึงไปใส่ไว้ที่รถกูว่ะ กูเอารถมาใช้ ช่วงนี้มึงก็ใช้รถกูแทนได้นะโว้ย เพราะว่าพวกกูก็มีรถที่มารับส่งอยู่แล้ว “ ไอ้ดิวมันพูด ผมก็พยักหน้าตามนั้น พวกไอ้ดิว แอ้ อีกคนก็จำใจช่วยจะดีกว่า ช่วยผมขนของไปใส่ไว้ในรถของไอ้ดิวที่จอดไปไม่ไกลกันมาก
“มึงเล่นกีตาร์ด้วยเหรอว่ะ”ติ๊กมันถามผม ผมหันไปหยักคิ้วให้ เพรวาะติ๊กมันถือกีตาร์โปร่งของผมอยู่ กีตาร์ตัวนี้ผมรักเลย พ่อผมซื้อเอาไว้ก่อนที่พ่อจะเสียไม่กี่เดือน ผมนำสำภาระทุกอย่างใส่ไว้ในรถดิวและพากันเดินกลับมาที่ห้องเรียน
“เฮ้ยแจ็ค หลุยส์ พวกกูชวนไอ้เดี่ยวอยู่บ้านพวกเราวะ” ดิวบอกไอ้แจ็คกับไอ้หลุยส์ มันหันมามองผม
“ดีเลยวะ ว่าแต่ห้องนั้นไม่มีเฟอร์นิเจอนี่หว่า” แจ็คพูด
“กูจัดให้ไม่ถึงครึ้งชั่วโมงเฟอร์มา” ไอ้หลุยส์พูดและมันก็โทรศัพท์ทันทีสั่งเฟอร์นิเจอร์ ไอ้นี้มันไวมาก ผมหันนั่งดูพวกสาวๆ ขอเรียกสาวๆนะเพราะดูก็รู้ว่าน่าทะนุทะนอม แอ้ ติ๊ก พาย เขาคุยกัน
“เดี่ยว” ผมหันไปมองคนที่เรียกชื่อผม ไอ้ภาคิน
“ไงวะภาคิน” ผมหันไปทักทายมัน พวกเพื่อนมันมองผม โดยเฉพาะไอ้โซ๋ ไอ้นี้มันต่อยกับผมมาแล้ว เรียกว่าแลกหมัดกันหน้าตาปูนไปหมดแต่คนที่สภาพย่ำแย่ก็คือไอ้โซ่ว์ ผมว่ามันจำไม่มีวันลืมแน่ๆ
“กูไม่คิดว่ามรึงจะกลับมาวะ”
“กูก็คิดว่าจะไม่แต่กูคิดว่ากูควรจะกลับมาว่ะ” ผมหันไปบอไอ้ภาคินและหันมาหยักคิ้วให้ไอ้ดิวและพวกเพื่อนๆมันที่หันมองผมสลับไปมากับไอ้ภาคิน
“ยินดีวะ”
“มึงงจะบอกเพื่อนมึงก็ได้นะว่ากูกลับมา” ผมบอกไอ้ภาคิน เพื่อนมันที่ผมหมายถึงนั้นคือไอ้ธงรบ ไอ้นี้ปลาไหลตัวพ่อ มันเอาหมดทัั้งชายและหญิง แม้กระทั้งแฟนของไอ้ภาคินมันยังเอาเลยแต่ก็อย่างว่าแฟนไอ้ภาคินมันมันอ่อยเขาด้วยแหละ แฟนมันเป็นผู้หญิงแต่ตอนนี้ผมไม่รู้รสนิยมมันแล้ว
“มันคงจะรู้เองในไม่ช้าเพราะว่ามันก็เทียวไปเทียวมาอยู่ ที่นี้ “ ไอ้ภาคินพูดและเดินหันหลังกลับไปทันที
“คุยกันได้คุสาดมาก มึงมีความหลังกับมันเหรอวะ”ไอ้ดิวมันกระซิบถามผม
“มี กับเพื่อนมัน พวกมันกูก็มีกับไอ้โซ่ว์ เพราะว่ามันปากเสียกับกู แต่ เห็นไอ้โซ่ว์ปากแบบนี้ มันโคตรรักเพื่อนเลยวะ”
“กูกับมันเป็นเพื่อนกันก็หลังจากได้ปล่อยหมัดใส่กันเหมือนกูกับมึงอ่ะ และวันหนึ่ง ขณะที่กูกำลังขับรถมอเตอร์ไซด์กลับบ้าน” ผมพูด ไอ้ดิวมันขมวยคิ้วมองผม
“เมื่อก่อนกูชอบแว่นบอกตรงๆ แต่อายุยังไม่ถึงที่จะทำใบขับขี่ไง” มันพยักหน้าว่าให้เล่าต่อ
“ก็มีคนดักทำร้ายกู มันอัดกูด้วยไม้เบสบอล และคนที่เข้าไปช่วยกูคือไอ้โซ่ว์”ผมบอกไอ้ดิว
“พวกมันก็มีดีใช่ไหมวะ” ไอ้แจ็คถามผม
“ดีมากถ้าพวกมึงได้มันเป็นเพื่อนวะ” ผมพูด
“แต่สำหรับกูพวกมันทำให้พี่กูติดคุก” ไอ้ต้นข้าวพูดโพลงขึ้นมาแต่ไม่ดังมากกลัวมันได้ยินแน่ๆ
“พี่มึงพี่ข้าวปั้นเหรอวะ ที่เป็นหัวหน้าแก้ง”
“เอออะดิ มึงจำได้แล้วหรือไง”
“กูจำมึงไม่ได้แต่กูจำพี่มึงได้และ”ผมกำลังจะพูด
“พี่มึงไม่ได้ติดคุกเพราะไอ้พวกนี้ พี่มึงนะมีผู้หญิงจากคอนแว้นมาติดและคนนี้สวยมากจนเข้าตาพี่บอส ที่เป็นเพื่อนสนิทพี่มึงนะ “ ผมพูดเพราะผมรู้เหตุการณ์วันนั้นผมโดนย้ายไปก่อนแล้ว ไม่ซิ โดนไล่ออก แต่ท่านผอ ใจดีให้ผมมีโอกาสย้ายไปต่อที่อื่น ไม่อยากนั้นผมคงลอยแพไม่มีที่เรียนแน่ๆ
“พี่กูโดนหักหลังเหรอวะ” ไอ้ต้นข้าวมันพูดด้วยสีหน้าที่ตกใจ ผมพยักหน้าแค่นั้น
“เออ กูรู้แค่นี้ จะมีเรื่องอื่นอีกมั้ยกูไม่แน่ใจว่ะ แต่ที่แน่ๆ พวกไอ้ภาคินไม่รู้เรื่อง มันเคารพพี่มึง” ผมบอกไอ้ต้นข้าว มันทำหน้าเสียใจขึ้นมาทันที
“ไอ้บอสไปไหนวะ กูไม่เคยเห็นมันอีกเลย” ไอ้ต้นข้าวพูดมันคงอยากเอาคืนไอ้บอสแต่ไอ้นี้นี่นะ ผมส่ายหัวมันเด็กอนุบาลสำหรับไอ้บอสถ้ามันยังอยู่ แต่
“ไอ้บอสมันก็ถูกพ่อแม่มันส่งไปเรียนต่างประเทศก่อนที่ลูกมันจะติดคุกเพราะยาเสพติดไง “ผมหันไปบอกไอ้ต้นข้าว
“ไอ้นี้คือคนแรกที่ดึงยาเข้ามาในโรงเรียนนี้ และกูคิดว่ามันมีคนสืบต่อวะ “ ผมพูด
“ไอ้เชี้ยเอ้ย” ไอ้แจ็คมันสะบด ทำเอาผมนี้ตกใจ
“มึงไปอยู่ที่ไหนมา ทำไมพึ่งโผ่มาวะเดี่ยว มึงช่วยพวกกูได้เยอะเลยวะ” ไอ้แจ็คพูด
“แล้วพวกกูอะ”ไอ้ต้นข้าว
“ไม่เลย ได้แต่ทำน่ารักไปวันวัน ห่าน!” ไอ้ติํ๊กมันพูด พวกผมก็หัวเราะเพราะมันทำหน้างอนนั้นเองไอ้ต้นข้าว พวกผมนั่งเรียนช่วงบ่ายกันจนได้เวลาเลิกเรียน
“กูหวังว่าจะไม่มีใครมาดักรอกระทืบอีกนะ ขอพักบ้างเหอะ”ไอ้ติ๊กมันพูด
“แสดงว่าพวกมึงงานเข้าเยอะละซิ”ผมพูดขึ้นขำๆ
“เออ แม่งทุกวันเลยว่ะ” ไอ้แอ้พูด ผมก็ยิ้ม คนนี้มันพูดน้อย ผมหันเจอไอ้ดิวมันยิ้มให้ผม ผมก็รีบมุดหลบเดี๋ยวมันรู้ว่าผมแอบชอบแอ้ ไม่รู้ผมรู้สึกใจสั่นๆเวลาแอ้ยิ้มแต่ผมก็รู้สึกอยากจะแกล้งไอ้ดารา เห็นมันทำหน้าโกรธหน้างอนแล้ว มันมีความสุขแปลกๆ
**********
ขอบคุณน่ะ คุณ Lambosasha มาให้กำลังใจกันเหมือนเดิม และคุณ AKuapink ด้วยน่ะ