พิมพ์หน้านี้ - เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า ch.12 up 1/12/2020

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => ข้อความที่เริ่มโดย: สามภพ ที่ 05-11-2020 17:05:56

หัวข้อ: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า ch.12 up 1/12/2020
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 05-11-2020 17:05:56
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 05-11-2020 17:07:47
       เมื่อคนบ้า มาเจอกับคนใบ้ อะไรจะเกิดขึ้น!! มานะคือยาวิเศษ แต่กับดลเขาคือยาเบื่อหนู โชคชะตานำพาให้เขาทั้งคู่มาเจอกัน เพื่อสะสางอดีตที่เลวร้าย


มานะ อายุ19 ปี บ้านยากจน

มีอาชีพรับจ้างทั่วไปกับเก็บของเก่าขาย

นิสัยร่าเริง เป็นคนคิดบวก เอาการเอางาน

มีความรับผิดชอบสูง เป็นคนสมาถะ ประหยัดอดออม ใจเย็นดั่งสายน้ำ

ความสามารถพิเศษ:เป็นไบ้

นดล อายุ 27 รูปหล่อ บ้านรวย

นิสัย ตรงข้ามกับมานะทุกประการ

ความสามารถพิเศษ: เป็นบ้า

คุณพ่อบ้าน มิน อายุ 27 ปี

นิสัย เจ้าระเบียบรักสะอาด ปากจัดกัดเก่งทำงานเก่งด้วยเป็นทั้งเลขา เพื่อน พ่อ พี่ เป็นทุกอย่างให้เธอแล้วกับนดล

ความสามารถพิเศษ: พ่อบ้านระดับพรีเมี่ยม

จักร อายุ 20 เป็นคนขับรถ เป็นเพื่อนด้วย

นิสัย ตรงข้ามกับมิน เข้ากับคนง่าย

ความสามารภพิเศษ: ขับรถ(โปรดเรียกผม ว่าดอมินิก โทเรสโต้แห่งสยามครับ)

 ดาวี หรืออีหวีที่คุณพ่อบ้านชอบเรียก อายุ19เป็นหลายคุณพ่อบ้าน

นิสัย ตุ๊ดหัวโปก แด็ดแด๊ แต่จริงใจกว่าใคร รักเรียน ใฝ่ดี มีคุณธรรม แอบชอบมานะ

และเดอะแก้งอีกมากมาย เขียนไม่ไหมดไว้ค่อยเจอในเรื่องนะ

ปล. นิยายเรื่องนี้เขียนเพื่อความบันเทิงและหาสาระไม่ได้ เนื้อเรื่องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับอิมเมจ มันเป็นเพียงบทบาทสมมุติขึ้นเขียนจากจินตนาการล้วนๆ นะคะ

เรื่องนี้มีคำหยาบ เพื่ออรรถรส มีฉากบั้วบ๊ะปะจึ้งคึ้งอยู่ เด็กน้อยมิควรเอาเป็น
เยี่ยงอย่าง [/pre]
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 05-11-2020 17:09:23
เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 00

หลายชีวิตเกิดมามีวาสนาไม่เท่ากัน ล้วนแล้วแต่บุญแต่กรรมที่สั่งสมกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน อย่างเช่น ไอ้ไบ้ พ่อแม่มันคงจะทำบุญมาน้อย เลยไม่เคยได้ยินเสียงมันมาตั้งแต่อายุได้ขวบกว่า ตอนคลอดมันก็ร้องปรกตินะ แต่สักพักมันก็ไม่ร้อง โตมาหน่อยมันก็ไม่พูด เลยโดนหาว่าเป็นไบ้ อันที่จริงไบ้มีชื่อที่พ่อกับแม่ตั้งให้ตั้งแต่เกิดว่า "มานะ" โตมาจะได้มีความมานะอดทน แต่ทว่ากลับไม่เคยมีใครเรียกชื่อมันว่ามานะเลยเรียกแต่ไอ้ไบ้ๆจนมันชินไปแล้ว

ครอบครัวของมานะ มีอาชีพเก็บของเก่าขายวันหนึ่งมีรายได้ไม่กี่ร้อยบาท ไม่พอเลี้ยงคนห้าหกคนหรอก มานะเลยต้องเสียสละ ลาออกจากโรงเรียนมาช่วยพ่อแม่ทำมาหากินตั้งแต่จบม.3 พ่อกับแม่บอกมานะว่า แค่อ่านออกเขียนได้ก็พอ เพราะอยากให้น้องได้เรียนหนังสือบ้างมานะถึงได้ตัดใจจากสิ่งที่ตนเองรัก มานะชอบเรียนหนังสือ มานะเรียนเก่ง สอบได้ที่หนึ่งมาตลอด เสียดายที่ฝันของมานะไปถึงปลายทาง มานะมันอยากเป็นหมอ

มานะเป็นพี่คนโต มีน้องชายสองคนแล้วมีน้องคนเล็กเป็นผู้หญิงอายุพึ่งได้ขวบกว่าๆ กำลังซนเลย มานะต้องออกไปช่วยพ่อแม่เก็บขยะตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างกลับมาก็แทบจะมืดค่ำ ดีที่น้องของมานะเริ่มดูแลตัวเองและน้องๆ ได้เขาเลยหมดห่วงไปบ้าง วันนี้เก็บขยะได้น้อยเงินก็น้อยตาม

ไหนจะต้องเอามาจ่ายดอกรายวันให้กับเจ้าหนี้ที่จะมาเก็บทุกๆ เย็นอีก วันนี้ก็ไม่รู้ว่าเงินจะพอซื้อนมซื้อกับข้าวพอไหม เห็นเมื่อเช้าเจ้านทมันบ่นว่าข้าวสารจะหมด

“พี่นะ พ่อกับแม่ละ ไม่เห็นเลย” นทน้องชายวันสิบสองเดินออกมารับเขาหน้าบ้านโดยอุ้มน้องน้ำออกมาด้วยเอ่ยถามพี่ชายที่ยืนล้างหน้าอยู่ตรงโอ่งน้ำหน้าบ้าน ที่ปลูกด้วยสังกะสีเก่าๆ ในบ้านไม่มีของใช้มากมายมีแค่ตู้เย้นเก่าๆกับทีวีขาวดำกับพัดลมตัวเล็กๆที่เก็บได้จากกองขยะเท่านั้น ส่วนเจ้านบน้องคนที่สองนั่งทำการบ้านหน้าดำคล่ำเครียดอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือเก่าๆ ที่พ่อไปเก็บมาจากกองขยะมาให้ แสงสว่างเดียวที่มีคือหลอดไฟนีออนเหนือหัว

“อะ..” มานะตอบกับน้องโดยการส่ายหน้า แล้วใช้ภาษามือโต้ตอบ ว่าไม่รู้ รอยขมวดที่หัวคิ้วเริ่มมุ่นลง

“สงสัยแวะซื้อกับข้าวมั้ง นทอาบน้ำให้น้องแล้วนะพี่”

“อื้อๆ”

“เอ่อพี่นะวันนี้บังมันมาเก็บค่าดอกแต่พวกพี่ยังไม่กลับ เห็นมันบอกว่าเราค้างค่าดอกมาหลายวันแล้ว มันหมายความว่ายังไงอะพี่ ผมเห็นพี่ก็จ่ายให้มันทุกวัน” เจ้านทเอ่ยถามเพราะเงินดอกพี่นะไม่เคยขาดจ่าย อาจจะช้าบ้างแต่ไม่เคยขาด

“....” ไม่จริงหรอกพี่ให้เค้าทุกวัน มานะทำมือบอกกับนบ

“ก็ใช่ไงพี่นะ นบยังงอยู่เลยเนี้ยะ”

“ไปอาบน้ำเถอะเดี๋ยวพี่ดุน้ำให้” มานะทำมือบอกให้นบไปอาบน้ำแล้วเขาจะดูน้องให้แทน นบทำตามอย่างว่าง่าย ถึงมานะจะพูดไม่ได้แต่หูเขาได้ยินชัดเจน ภาษามือก็ใช้แบบบ้านๆ เอาที่เข้าใจกันได้ในครอบครัว ถ้าจะสื่อสารกับคนอื่นก็ใช้เขียนเอา

สามวันต่อมา

“พี่นะ ทำไมพ่อแม่ยังไม่กลับบ้านอีกละ หายไปไหน ตามหาก็ไม่เจอ” เสียงเจ้านทน้องชายคนที่สองถามกับมานะที่มีสีหน้าที่เป็นกังวล

“พี่ไม่รู้” มานะโบกมือไปมา

“ข้าวสารหมดแล้วพี่ นมน้องน้ำก็หมด” นบเดินมาบอก ทั้งสามพี่น้องมีสีหน้าที่เครียดลง เพราะถ้าพ่อกับแม่ไม่กลับมา เท่ากับว่าพวกเขาไม่มีพี่พึ่งอีกต่อไป ใจหนึ่งก็กลัวว่าพ่อกับแม่จะเป็นอะไรไป แต่อีกใจก็คิดว่าพ่อแม่อาจจะไปหาเงินมาจุนเจือครอบครัวเลยไม่กลับมาบ้าน

เมื่อพ่อกับแม่หายไปคนที่ต้องแบกรับภาระหน้าที่ทุกอย่างไว้บนบ่าก็คือมานะ เด็กชายวัยเพียง15ปี ที่ตอนนี้ต้องทำงานทุกอย่างตั้งแต่รับจ้างล้างจาน คนสวน เด็กส่งของ อะไรก็ตามที่ทำแล้วได้เงินมานะไม่เกี่ยง เพราะยังมีอีกสามชีวิตรอคอยเขาอยู่ที่บ้าน วันหนึ่งมานะเดินเก็บขยะเข้าไปในป่าลึกทึบที่ไม่มีใครเคยได้เข้าไป เพราะมีข่าวลือแปลกๆ ว่า ในป่าทึบนั่นมีบ้านผีสิง หลายคนเคยเข้าไป แต่ก็ต้องวิ่งป่าราบออกมาจับไข้หัวโกร๋นกันเป็นแถวๆ เรียกได้ว่าเฮี้ยนหนัก มานะเดินเพลินไปหน่อยจนเลยเถิดเข้ามา ดวงตากลมกวาดมองไปรอบๆ ด้วยใจที่หวาดหวั่น มานะกลัวผี กลัวมากถึงมากที่สุด แถมบรรยากาศโดยรอบก็เป็นใจ ให้ซะเหลือเกิน มันทั้งอึมครึม ทั้งเย็นๆ เหมาะแก่การที่ผีจะปรากฏตัวให้เห็น แต่ว่า ขวดแก้วที่วางเรียงรายมันล่อตาล่อใจมานะมาก เก็บจนกระสอบป่านใบใหญ่เกือบจะเต็มหนักจนต้องลากไปตามพื้นแทนการแบกไว้บนหลัง

ขวดพวกนี้เหมือนเศษขนมที่หลอกล่อให้เด็กน้อยอย่างมานะเดินตามเก็บไปยังบ้านขนมหวานของแม่มดชั่วร้าย กว่ามานะจะเงยหน้าขึ้นมามองได้ ร่างบางๆ ก็หยุดยืนอยู่ที่ประตูรั้วเก่าๆ สนิมเขรอะ มีป้ายห้ามเข้าป้ายเตือนสารพัด ว่าผีแมร่งโคตระดุ ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ปากสบถไร้เสียงออกมาว่าเหี้ยแล้วไอ้นะ ระหว่างที่กำลังจะหันหลังกลับ จู่ๆ ประตูรั้วเก่าๆ มันก็ลั่นเอี้ยด แล้วค่อยเปิดออกต่อหน้าต่อตาเขาทั้งๆ ที่ไม่มีใครไปแตะ ขาเล็กเริ่มสั่น มือกำกระสอบที่ใส่ขวดไว้แน่น

“ขอร้องอย่าพึ่งมานะ ให้ผมได้วิ่งก่อน” มานะพูดโดยไร้เสียง

ปึง!!

“ม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” แหกปากไร้เสียงพร้อมกับแบกกระสอบขึ้นหลังแล้วโกยอ้าววิ่งออกมาจากที่ตรงนั้นด้วยความหวาดกลัว ลืมแม้กระทั้งว่าไอ้ที่แบกอยู่บนหลังมันหนักขนาดไหน วิ่งจนรองเท้าหูคีบคู่ใจขาดกระเด็นหาย นี่แหละถึงมีคนบอกไว้ว่า เสียอะไรก็เสียได้แต่มานะจะไม่ยอมเสียขวดให้ใคร!

จากสามวัน เป็นสามปี ที่พ่อกับแม่เค้าหายไป มานะต้องกลายมาเป็นเสาหลักของครอบครัว หาเงินส่งเสียเลี้ยงดูน้องๆ ทั้งสามคนด้วยตัวเองเพียงลำพัง จนกระทั้งมีญาติห่างๆ จากเมืองแพร่ลงมาหาเขาในกทม มารับเอาน้องน้ำไปเลี้ยง เพราะรู้ข่าวว่าพ่อกับแม่ทิ้งพวกเขาไป แต่จะให้รับเลี้ยงทั้งสามคนคงไม่ไหว เพราะทางนั้นก็ไม่ได้ร่ำรวยหาเช้ากินค่ำไม่ต่างกัน เอาเป็นว่าตอนนี้เหลือเขาแค่สามคนพี่น้องเท่านั้น

นบ เรียนอยู่ป.4 นทเรียนอยู่ป.6 สองคนนี้มีหน้าที่ทำงานบ้านและทำกับข้าวและช่วยหาของเก่าขายในวันเสาอาทิตย์ โดยที่พวกเขายังต้องหาเงินมาจ่ายหนี้ที่พ่อกับแม่กู้มาแบบรายวันอีก มานะไม่ได้มีทางเลือกอะไรมากมาย เรียนมาก็น้อยใครเขาจะให้ทำงาน เงินเดือนรายหมื่นอย่าหวังเพราะเขาเรียนจบแค่ม.3 อย่างมากก็งานในร้านสะดวกซื้อ กับงานใช้แรงงานทั่วไป

แต่ดูเหมือนเทวดาจะเห็นใจในความดีของมานะ พระเจ้าเลยส่งตัวช่วยมาให้

แปะ!

อะไรวะ? จู่ๆ ใบปลิวเก่าๆ ก็ถูกกระแสลมพัดเข้ามาปะทะใบหน้าสวยๆ ของมานะ สองมือเล็กหยิบขึ้นมาอ่านก่อนที่เขาจะเผยรอยยิ้มกว้าง

รับสมัคพ่อบ้าน รายได้ดี ไม่จำกัดวุฒิ และเพศ ขอแค่มีความอดทนและขยัน รายได้ 20000/เดือน ไม่รวมโอที สนใจติดต่อ 085 6xxxxxx k.มิน



[/pre]

 :pig4: :pig2: :pig2:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 05-11-2020 17:10:24


สองมือน้อยๆ สั่นระริกกำใบปลิวนั้นไว้ในมือแล้วรีบกลับบ้านทันที มาถึงก็บอกให้นทรีบโทรหาเจ้าของเบอร์ติดต่อทันที ซัมซุงรุ่นรัดหนังยางที่นานๆ ทีจะได้หยิบออกมาใช้ เติมเงินไว้ครั้งละสามสิบบาทไว้ซื้อวันใช้งานเท่านั้น

ใบหน้าสวยกำลังส่งยิ้มอย่างมีความหวังแล้วเขียนข้อความลงบนกระดาษให้น้องชายพูดแทนให้

“สวัสดีครับ ผมโทรมาสมัคงานตามใบปลิวครับ” นทกรอกเสียงพูดทันทีที่มีคนรับสาย

“ (อ่า...สมัคพ่อบ้านใช่ไหม) เสียงนั้นตอบกลับมา

“ครับสมัคพ่อบ้าน” สองพี่น้องตั้งใจฟังด้วยความหวัง

“ (โทษทีน้องตอนนี้พ่อบ้านเต็มแล้ว) ” เหมือนฝันสลายใบหน้าของสองพี่น้องสลดลงทันที

“อย่างนั้นเหรอครับ” นทตอบกลับเสียงเศร้า

“ (อื้อ เอาไว้คนขาด เราจะติดกลับไปหาละกันแค่นี้ก่อนนะผมงานยุ่ง) ”

ติ๊ด! เสียงตัดเหมือนเสียงตัดขั้วหัวใจ มานะทำหน้าเศร้าเงินเยอะขนาดนั้นมันน่าเสียดายออก ไหนว่าสวรรค์กำลังเห็นใจ โกหกกันชัดๆ เด็กหนุ่มบ่นในใจอย่างไร้เสียง สายตากลมมองกระดาษในมืออย่างนึกเสียดาย ถ้าเขาเจอใบปลิวนี้เร็วกว่านี้โอกาสเขาคงจะเยอะมากกว่านี้แน่ๆ

“ไม่เป็นไรพี่นะ เดี๋ยวนทจะไปขอเจ้าแม่งูให้พ่อบ้านพวกนั้นลาออกเอง” คำพูดของเจ้านททำให้คนหน้าหงอยเผยรอยยิ้มมออกมา ก่อนจะทำมือบอกว่า

เพ้อเจ้อแล้วเจ้านท ขอแบบนั้นเจ้าแม่ไม่ทำให้หรอก

สามวันผ่านไป

ตี่ ตี้ตี่ๆๆๆ เสียงเรียกเข้าแบบโมโนโทนดังขึ้นในช่วงเย็นของวันในขณะที่สามพี่น้องกำลังกินข้าว นบเป็นคนเดินไปหยิบโทรศัพท์มาให้นทรับโดยเปิดสปีกเก้อโฟนเอาไว้

สามคนทำหน้าฉงนเพราะร้อยวันพันปีไม่เคยมีใครโทรเข้ามา นทกดรับสาย

“สวัสดีครับ”

“น้องพ่อบ้านพี่ขาดเรายังสนใจมาทำงานนี้ไหม” มานะเบิกตากว้างพร้อมกับพยักหน้ารัวๆ

“ทำครับทำ” นทรีบตอบ

“ดีถ้างั้นบอกที่อยู่มาผมจะไปรับเดี๋ยวนี้”

“คะ ครับ ว่าอะไรนะครับ คือ”

“บอกที่อยู่มาผมจะไปรับ คุณต้องเริ่มงานตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เก็บเสื้อผ้าข้าวของให้เรียบร้อย ผมจะทำสัญญาเมื่อเรามาถึงบ้านแล้ว” สามคนอึ้งพร้อมกับเดทแอร์ มานะได้สติก่อนถึงได้ให้นทบอกที่อยู่ไป ทางนั้นรับรู้แล้วกดวางสายไม่ให้พวกเขาได้มีโอกาสได้ถามอะไร

อิทธิฤทธิ์ของเจ้าแม่งู!!! 

ทั้งสามวางจานข้าวลงแล้วช่วยกันเก็บของๆพี่ชายด้วยความเร่งรีบ ทั้งๆที่มีแค่เสื้อผ้าไม่กี่ตัวกับของใช้ส่วนตัวสองสามชิ้น

ก้คนมันตื่นเต้น!

"พี่นะแล้วพี่จะกลับมาไหม ทำไมเค้าต้องให้เราเก็บของด้วย"เจ้านบเอ่ยถามพี่ชายด้วยความกังวล

ไม่รู้สิ เดี๋ยวค่อยว่ากันทีหลัง มานะเขียนใส่กระดาษให้น้องอ่าน

"คนพวกนั้นไม่รู้ว่าพี่พูดไม่ได้ แล้วจะทำยังไง"เป็นนทที่ถามขึ้นมา เพราะถ้าพูดไม่ได้มันจะมีปัยหากับงานรึเปล่า

มานะส่ายหน้าแล้วยักไหล่ เพราะตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไง เอาไว้ค่อยคิด

ไม่นานรถคันหรูก็ขับเข้ามาจอดในซอยเเคบๆ ประตุรถถูดเปิดออก ขายาวๆก้าวลงจากรถ ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำสนิท ใบหน้าหล่อเนียบแสดงสีหน้าออกมาอย่างชัดเจนว่ารังเกียจพื้นที่แบบนี้ขนาดไหน ดวงตาดุกวาดมองไปรอบๆ สองมือจัดระเบียบเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่ ก่อนจะเอ่ยเสียงดังฟังชัดว่า

"ผมมารับ พ่อบ้าน"น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยออกมา เด็กทั้งสามมองหน้ากันด้วยความรู้สึกหวั่นใจ และเกร็งกับท่าทีของคนตรงหน้าไม่น้อย 

"ผมหัวหน้าพ่อบ้านมินยินดีที่ได้รู้จัก แต่แบบเอ่อ ผมขอไม่ลงไปได้ไหม มัน เอ่อ ออกจะสกปรกไปนิด"คุณพ่อบ้านไม่กล้าแม้แต่จะเดินลงมาจากขอบถนน เขายืนมองพวกเด็กๆจากบนนั้นด้วยสายตาน่ากลัวปนขยะแขยง

"ครับ รอตรงนั้นก็ได้ พี่ผมจะเดินไปหาเอง"นทยื่นของใช้ให้กับพี่ชาย แล้วเดินมาส่ง ส่วนเจ้านบได้แต่ยืนมองห่างๆเพราะกลัวสายตาของคุณพ่อบ้านด้วย

"ดี"มินตอบแล้วเหลือบมองคนที่เดินมาหา

"มอมแมมจังวะ"เขาสบถเสียงเบากับตนเองแต่มานะได้ยิน ใบหน้าหวานเจื่อนลงไปนิดพร้อมกับปัดเนื้อัดตัวตัวหวังว่ามันจะสะอาดขึ้นมาสักนิดก็ยังดี  เพราะมานะเองก็ไม่ชอบสายตาดูหมิ่นของคุณพ่อบ้านสักเท่าไหร่เหมือนกัน

"สะ สวัสดีครับ ผมชื่อนท นี่พี่มานะ พี่ชายผมที่สมัคเป็นพ่อบ้าน คือเรา เอ่อไม่ใช่สิ พี่ผมพูดไม่ได้นะครับ"นทเริ่มบทสนทนากับพ่อบ้านมินด้วยความประหม่า แต่สิ่งที่ทำให้สองพี่น้องแทบจะร้องไห้คือเสียงตะโกนลั่นของพ่อบ้านมินต่างหาก

"อะไรนะ!!!เป็นไบ้เหรอ เวรเอ้ยยกูแ้วจะพูดกันรู้เรื่องเหรอวะ! ไอ้คุณชายแมร่งยิ่งบ้าๆบอๆอยู่ด้วย"พ่อบ้านมินเริ่มจะไม่พอใจเพราะเขาไม่คิดว่า จะเจอกับสถานการณืแบบนี้

"รู้เรื่องครับพี่ผมได้ยินแค่พูดไม่ได้ อีกอย่างพี่ผมอ่านออกเขียนได้ พี่นะเรียนหนังสือจบมอสามครับ"นทรีบอธิบายให้พ่อบ้านฟัง มือหนายกขึ้นมานวดขับ เพราะนิสัยส่วนตัวที่ทุกอย่างต้องเพอเฟค ต้องเป๊ะ ต้องเป้นไปตามแผน แต่นี่มันไม่ใช่! พ่อบ้านมินเลยหัวเสียนิดน่อย

"ก็ดี รีบไปกันได้ละ ผมไม่ได้มีเวลาว่างมากมาย เชิญ"พ่อบ้านมินหลีกทางให้มานะเดินขึ้นรถ ร่างโปร่งหันไปมองบ้านและน้องที่คอยส่งยิ้มเป็นกำลังใจให้ มานะยิ้มตอบ เพื่อให้น้องคลายความกังวล ยามที่ขาก้าวขึ้นรถนั้นใจดวงน้อยมันสั่นไหว จะหันหน้าไปหาอีกครั้งก็โดนคนที่ยืนอยู่ผลักให้ขึ้นรถ

"ออกรถเลยจักร"

"ครับคุณพ่อบ้าน"

ล้อรถขับเคลื่อนออกจากซอยแคบมุ่งหน้าสู่ถนนหลัก ก่อนจะลัดเลาะไปยังเส้นทางที่แสนจะคุ้นตา มานะเกาะขอบกระจกแน่น ดวงตากลมหลุกหลิก เมื่อตัวรถขับเข้าไปยังเส้นทางที่มืดทึบปกคลุมไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่

ชิบหาย!นี่มันทางไปบ้านผีสิงนี่หว่า!!!

"อะ อะ อือออออี้อิง อี๊อิ้ง"ใจอยากจะบอกว่านี่มันบ้านผีสิงแต่ปากมันกลับส่งเสียงไม่ออก

"อะไรของนาย อยู่เงียบๆสิ"พ่อบ้านมินหันมาดุ มานะกรอกตามองบน เขาจะเตือนว่าไม่ควรมาทางนี้

"อัน อะ อายยย อี๊อิ้งงงงง"อันตรายผีสิงนั่นคือคำที่มานะอยากจะพูดสองมือตบลงไปยังเบาะคนขับ แล้วทำมือให้เลี้ยวรถกลับ

"เอ๊ะ นายนี่บอกให้อยู่เฉยๆไม่พาไปฆ่าหรอก"พ่อบ้านมินบอกเสียงเขียวเพราะรำคาญที่มานะทำตัววุ่นวาย

"ฮือออออ"มานะทำท่าจะร้องไห้ กลัวจนฉี่จะราด ยิ่งขับเข้าไปลึกเท่าไหร่มันก้ยิ่งมืดลงเท่านั้น หัวทุยสั่นไปมาด้วยความหวาดกลัว

"ไอ ไหน"ไปไหนบอกหน่อยเถอะ เผื่อคนรถหลงทางมานะ ร้องถามอยู่ในใจ

"อะไร ไอ ไหน?"

"ไอ อี้ ไอ๊ ฮืออออ ออดๆๆ"

"อะไรวะ!!"พ่อบ้านมินเริ่มอารมณ์เสียอีกครั้ง

"น้องคงถามว่าไปไหน มั้งครับคุณมิน"

"อื้อๆๆ"มานะพยักหน้าระรัว

"อ้อ ก็กลับบ้านไง"

"ห๊ะ?"หรือฟังผิดกลับบ้านเหรอ?ไม่ม้างงง คงไม่ใช่อย่างที่คิดหรอก

"ก็บ้านของเจ้านายไง บ้านที่นายจะต้องไปทำงานให้" เพราะเห้นว่าอีกคนคิ้วขมวดกันยุ่งก็เลยพูดให้เข้าใจ

ฉิบหายยยยยยยยยยยยย ของจริง

มานะนั่งเงียบตลอดทางในหัวคิดแต่เพียงว่าจะเอาชีวิตให้รอกกลับไปหาน้องได้ยังไง สองตากวาดมองหาทางหนีทีไล่ จนอีกคนจับสังเกตได้ว่าหวาดกลัวสิ่งรอบข้างขนาดไหน

"หึหึ กลัวเหรอ"น้ำเสียงเย็นๆดังขัดความคิดของมานะ

"อืออ"มานะพยักหน้าตอบ

"ไม่ต้องกลัวหรอก"ไม่กลัวก้บ้าแล้วคนพวกนี้ปรกติดีไหมเนี้ยะ ฮือออ อยากกลับบ้านแล้วว้อยย

"เจ้านายใจดี" พ่อบ้านมินสบตากับจักรอย่างรู้กันโดยที่มะนะไม่ทันได้มอง

ใจดีไม่ดีผมไม่อยากรับรู้หรอกนะ แต่ทำไมพระเจ้าต้งแกล้งมานะ!!! ตอบ!





ลึกเข้ามาในพื้นที่ป่าใครจะไปคิดว่าผ่านประตูรั้วสูงกว่าสามเมตร แถมยังเก่าสนิมเขรอะ มีแต่เถาวัลเกาะ มีป้ายเตือนด้วยคำขู่ต่างๆนาๆว่าอย่าเข้าไป ผีดุบ้าง ลานฆ่าตกรรมบ้าง จะเป็นสวนสวยกว้างสุดลูกหูลูกตา และถัดจากสวนสวยๆ ทำเอาคนที่พึ่งมาใหม่อ้าปากว้างด้วยความตื่นเต้น

บ้านโคตรสวยยยยยยแถมใหญ่โตยังกับวัง เชี้ยยยยยย ใครมันบอกว่านี่มันบ้านผีสิงกันวะ โกหกชัดๆ มานะพูดกับตัวเอง

"ถึงแล้ว ลงไปสิ"ขัดมูดตลอดเลยอะคุณพ่อบ้าน -3-

"อย่ามัวแต่มอง เดินตามผมมาสิ"พ่อบ้านมินเรียกมานะเสียงเเข็ง  ก่อนจะเดินนำมานะไปยังด้านหลัง ที่มีบ้านพักอยู่หลายหลังปลูกติดๆกัน

"หลังนั้น คือบ้านพักของนาย เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ สภาพนายมันดูไม่จืดเลย ชุดฟรอม เดี๋ยวจะให้เด็กเอามาส่งให้"พ่อบ้านหนุ่มยื่นกุญแจให้

มานะยกมือไหว้แล้วเดินไปยังบ้านหลังนั้น ด้วยความรู้สึกประหม่า ปะกับความงงนิดๆ ต้องมีชุดฟร์อมด้วยหรอวะ มาทำงานบ้านไม่ใช่มาเป็นพนักงานต้อนรับ นึกๆดูแล้วมันก็ออกจะแปลกใจนิดๆ บ้านหลังออกใหญ่โตแต่ทำไมต้องมาอยู่ในป่าเปลี่ยวๆอยุ่หลังเดียว

"เร็วๆละเจ้านายรอ"พ่อบ้านมินสั่งทิ้งท้ายก่อนจะเดินหายไป มานะไขกุญแแจเข้าไป

อื้ออ หือออ อย่างหรู มีของใช้ให้ทุกอย่างเลยทั้งทีวีตู้เย็นโซฟา มีห้องน้ำห้องครัวแยกอีกต่างหาก ติดแอร์ด้วย มานะอ้าปากกว้างเป้นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ขาเรียวเดินสำรวจทุกๆอย่างด้วยความตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยได้สัมผัวสิ่งของพวกนี้เลยสักครั้ง นี่ถ้าน้องๆได้มาอยู่ด้วยก็คงจะดี ไม่ว่าคิดอะไรเพลินไปถึงไหนต่อไหน เสียงเคาะประตูก็ดังขัดอีกครั้ง มานะสะดุ้งเล็กน้อย

ก็อกๆ

ใครมา? เดินไปเปิดประตู ก็เจอเข้ากับเด็กชายอายุน่าจะประมาณรุ่นเดียวกับเขาใบหน้าน่ารักๆผมสั้นแต่ไม่ถึงกับเกรียนยืยยิ้มกว้างให้



"หวัดดี เราชื่อดาวี หรือจะเรียกหวีก็ได้นะ เราเอาเสื้อผ้ามาให้"มานะมองคนตรงหน้าแล้วยิ้มออกมานิดๆ กับสีหน้าท่าทางที่เป็นมิตรไม่เหมือนกับอิคุณพ่อบ้านอะไรนั่น

"อ่า"มานะชี้ที่ปากตัวเองแล้วโบกมือไปมา พร้อมกับส่งเสียงเอาะๆให้อีกคนได้รู้ว่าตัวเขานั้นพูดไม่ได้ หวีทำตาโต ตกใจกับความจริงที่ได้รับรู้

"โหยยย หล่อแต่ดันพูดไม่ได้ เสียดายของงะ"

 อะไรของเขาวะ มานะยกมือเกาแก้มตัวเอง เพราะเริ่มจะทำตัวไม่ถูก ยื่นมือไปรับเสื้อแล้วเดินเข้ามาในตัวบ้าน

"แต่ไม่เป็นไรพูดไม่ได้ก็ไม่เป็นไร หวีเป็นคนเข้าใจง่าย"พููดเองเออเองเสียหมด แล้วก็แทรกตัวเองผ่านประตูเข้ามา มานะทำหน้างง

เข้ามาทำไมวะ?

"รีบอาบน้ำสิ น้ามินรอ"น้าเหรอ?ทำไมถึงเรียกน้า นึกว่าเป็นคนงานที่นี่เสียอีกแสดงว่าคงจะสนิทกัน

มานะรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ ดีหน่อยที่เป็นฝักบัวเขาพอจะใช้เป็นอยู่ อาบเสร็จมานะก็เดินออกมาโดยใช้ผ้าเช็ดตัวพันเอวไว้

"โอ้โห้วววว หุ่นดีเชียวขาวด้วย"หวีเอามือป้องปากตัวเองเเล้วส่งสายตากรุ้มกริ่มมาให้ มานะรีบเอามือปิดบังร่างกายตัวเอง ก่อนจะรีบหยิบเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ

นึกว่าออกไปแล้วซะอีก ตกใจหมด!

หน้าตาก็น่ารักอยู่หรอกแต่ทำไมต้องทำท่าคุกคามขนาดนั้นด้วย น่ากลัว บรื้ยยย 

มานะลูบแขนตัวเองเพราะรู้สึกขนลุกกับสายตาของหวีที่มองมา ก่อนจะรีบแต่งตัว เสื้อเชิตสีขาวเนคไทน์สีดำกับกางเกงแสล็กดำ ขนาดพอดีตัวถูกสวมใส่อย่างรวดเร็ว ติดแค่เนคไทนืที่เขายังผูกไม่ป็นเท่าน้ัน

"อ่า"เอามือชี้ไปที่เนคไทน์เจ้าปัญหาให้ดาวีดู

"ผูกไม่เป็นหรอ มาเดี๊ยวหวีสอนให้"ร่างบางเดินเขามาประชิดตัว แล้วส่งยิ้มกรุ้มกริ่ม มานะขยับตัวถอยหลังอย่างอัตโนมัติ 

"นี่ทำแบบนี้นะ แล้วก็แบบนี้ จำได้ไหมจ้ะ"ดาวีสอนอย่างค่อยเป้นค่อยไป ปากพูดแต่ตากลับจ้องหน้ามานะ

"อ่า อ่า"พอเห้นว่าผูกเสร็จแล้วก็รีบดีดตัวออกห่างแล้วยกมือไหว้

"อุ้ย มารยาทงามซะด้วย"ดาวียกมือรับไหว้แล้วยิ้มหวานใส่

ไปได้แล้วม้างงงงง ไหนว่า คุณพ่อบ้านเค้ารอ มานะพูดในใจแล้วชี้ไปที่ประตู

"อ่อใช่ลืมเลย ปะเดี๊ยวอามินจะกินหัวหวีเอา" ทำไมคุณพ่อบ้านถึงได้โหดร้ายจังวะไม่อยากจะคิดว่าทำอะไรผิดพลาดสภาพเขาจะเป็นยังไง

ตลอดทางที่ต้องเดินไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่ ดวงตากลมก็คอยสอดส่อง สภาพแวดล้อมไปด้วย

ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดแฮะ

"เนี้ยเป็นทางเข้าสำหรับพวกลูกน้องอย่างพวกเรา เข้าทางด้านหลังเท่านั้น ตรงนั้นเป็นสระว่ายน้ำห้ามเข้าไปเด็ดขาด คุณเค้าไม่ชอบให้ใครเข้าไปวุ่นวายตอนว่ายน้ำ"หวีอธิบายกฎต่างๆของที่นี่ให้ฟัง ซึ่งมันก็เยอะเสียจนจำแทบไม่หมด ได้แต่พยักหน้าหงึกหงักให้

"แล้วตรงนั้น เห็นไหม? ตรงสวนเล็กๆที่มีโดมแก้วนั่น ตรงนั้นยิ่งห้ามเข้าใกล้ เขตหวงห้าม ห้ามเด็ดขาดเลยนะ เข้าได้เฉพาะอามินกับคุณท่านเท่านั้น" ด้วยความสงสัยมานะเลยหยิบสมุดเล่มเล็กๆที่พกติดตัวไว้ตลอดออกมาแล้วเขียนข้อความบางอย่างส่งให้หวี

"ทำไมนะเหรอ เอ่อออ จะว่ายังไงดี คุณท่านไม่ค่อยเหมือนคนอื่น เป็นพวกโลกส่วนตัวสูง แล้วก็ไม่ชอบความวุ่นวาย แล้วในโดมนั่นมีของสำคัญของคุณท่าน ของที่มีค่ามากๆ หวีเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่แบบมีคนเคยเข้าไปในนั้น วันต่อมาก็เไม่เห็นคนที่เข้าไปในนั้นอีกเลย" หวีเล่ามาเป็นฉากๆ มานะเขียนข้อความส่งให้ีก

"คุณท่านดุเหรอ ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ เอ่ออ เอาเป็นว่าอยู่ไปมานะก็จะรู้เองแหละ"

พอเข้ามาด้านในทุกอย่างมันดูหรูหราไปหมด ไม่ว่าจะเก้าอี้โซฟา เครื่องครัว ทุกๆอย่างเหมือนหลุดออกมาจากละครในทีวี บันไดวนสูงจนต้องเเหงนหน้าขึ้นมอง ตรงชั้นพักมีรูปครอบคัวขนาดใหญ่ตั้งไว้ มานะถูกพาไปยังห้องรับแขก 

ใครบางคนนั่งหันหลังให้ แค่ดูจากความกว้างของไหล่ก้บอกได้ว่าผู้ชายตงหน้าตัวใหญ่แค่ไหน

โหหห ไหล่หรือกระดานโต้คลื่น ใหญ่ชิบหาย

"อามิน"หวีเรียกพ่อบ้านมินที่ยืนอยู่ข้างๆโซฟาเสียงเบา

"มาแล้วครับคุณท่าน"คุณพ่อบ้านกระซิบบอก

"อืม"เสียงรับคำในลำคอดังขึ้น มานะลอบกลืนน้ำลาย แค่เสียงก็รู้สึกขนลุกแปลกๆ

"มาให้ดูหน้าหน่อย"พอได้ยินแบบนั้นมานะเลยต้องเดินไปด้านหน้า

ชายหนุ่มวัยยี่สิบปลายๆผู้มีใบหน้าหล่อคม ดวงตาเรียวสีดำดูมีเสน่ห์ จมูกโด่งสัน คิ้วเข้มเรียงตัวสวย ใตดวงตาข้างซ้ายมีจุดดำเล็กๆดูเป็นเอกลักษณ์ โครงหน้าหล่อเหลาราวกับเครื่องปั้นโดยจิตกรผู้มากฝีมือ หล่อจนมานะต้องร้องโหอยู่ในใจ

มานะยกมือไหว้เมื่อได้ยินเสียงกระแอมของคุณพ่อบ้านมิน

"ชื่ออะไร"ผู้เป็นเจ้าของบ้านถามเสียงเข้ม มานะพูดไม่ได้ เขาหยิบเอาสมุดออกมาเขียนชื่อแล้วส่งให้

"ชื่อมานะ หึ ชื่อโคตรบ้านนนอก"  โอ้โห โอ้โห!!! ชื่อบ้านนนอกเหรอ ชื่อนี้แม่กูตั้งให้เลยนะ จะมาดูถูกกันแบบนี้มันจะมากเกินไปแล้ว

"คุณดล เบาได้เบาก่อนนะครับ ผมขี้เกียจหาคนใหม่ เหนื่อยครับ"พ่อบ้านมินใช้มือตะปบไหล่คนที่พึ่งปากพล่อยใส่พ่อบ้านคนใหม่พร้อมกับเอ่ยเสียงเครียดๆ

"ก็มันจริงอะ มานะ ชื่อโครตเชย ใครคิดให้วะ ฮ่าๆๆๆๆ"

ไอ้คุณดล บักห่ามึงนี่!!!กูกำหมัดแล้วนะ!

"ดูทำหน้าเข้า ฮ่าๆหน้าตาก็เห่ยชื่ก็เห่ย  แถมเป็นไบ้อีก ฮ่าๆ"

มึงตลกมากอ่อ ห้ะ!ไอ้คุณดล เดี๊ยวก่อนเดี๊ยวเจอกู

"ไอ้ดล!อย่าไปว่ามานะแบบนั้น" เอ๊ะทำไมพ่อบ้านมินถึงได้พูดกับไอ้คุณดลแบบนั้น พูดเหมือนเป็นเพื่อนกันเลย

"ทำไมกูจะพูดไม่ได้ กูเป็นนายจ้าง ส่วนมันคือลูกจ้าง"

"-*-"

นับหนึ่งร้อยไอ้มานะมึงต้องนับหนึ่งให้ถึงร้อยยยยยย!! เสียงกรีดร้องของมานะดังก้องอยู่ในใจ แล้วสูดลมหายใจลึกๆ ปั้นหน้ายิ้ม ทำใจดีเข้าสู้ ด่ามาเลยจ้า เอาให้เต็มที่ เพื่อเงินสองหมื่น เพื่อให้น้องๆได้เรียนหนังสือ กู ทน ได้ จ้าาาา

......................................................



หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 05-11-2020 17:49:27
 :katai2-1:
 o13
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 05-11-2020 21:59:13
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 05-11-2020 23:31:45
 :jul1:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 03
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 06-11-2020 12:43:15
วันนี้เขาได้รับรู้ว่าการเป็นพ่อบ้านไม่ใช่แค่ทำความสะอาดบ้านเท่านั้นแต่มันหมายถึงการดูแลเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ในแต่ละวันของผู้ว่าจ้าง และความเอาใจใส่ในรายละเอียดต่างๆที่ผู้ว่าจ้างกำหนด

อย่างเขา คือพ่อบ้าน หรือบัทเลอร์ที่ต้องทำงานใกล้ชิดกับคุณดล ดูแลในเรื่องต่างๆ อำนวยความสะดวกให้เขาในการใช้ชีวิต เหมือนเลขาส่วนตัวแต่ไม่ถึงขั้นนั้น จะเรียกให้ง่ายๆ ก็ เบ้จิปาถะ

 ส่วนคุณพ่อบ้านมิน นอกจะจะดูในเรื่องส่วนตัวแล้วยังรวมไปถึงเรื่องในงานต่างๆด้วย ซึ่งน่าจะพ่วงตำแหน่งเลขาส่วนตัวของคุณเจ้าของบ้านด้วย

"นายต้องตื่นตั้งแต่ตีห้า เพื่อเตรียมของใช้ให้กับคุณดลทั้งเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับต่างๆนายต้องจัดเตรียมตามที่ผมจดไว้ให้เท่านั้น"คุณหัวหน้าะพ่อบ้านแจกแจงรายละเอียดให้กับมานะฟัง ด้วยสีหน้าที่เรียบขรึม 

"เรื่องอาหารคุณดลแพ้อาหารทะเลทุกชนิด แล้วก็ไม่ชอบกินของที่ไม่ประโยชน์ คุณดลจะตื่นก่อนหกโมง และเมื่อตื่นมาต้องได้กินน้ำแร่ผสมน้ำมะนาว  และเข้ายิมตอนหกโมง มื้อเช้าคือ เจ็ดโมงครึ่ง นายจะต้องชงกาแฟดำออร์แกนิคให้ทุกๆสามชั่วโมง ห้ามกวนเขาเวลาทำงาน ให้รออยู่ด้านนอก หรือจะไปทำงานอย่างอื่นก็ไม่ว่า ส่วนนี่วอล์คกี้ทอล์คกี้ ต้องติดตัวไว้ตลอดเวลา เพราะคุณดลจะเรียกใช้นายผ่านเครื่องมือนี้ เอาละส่วนงานที่เหลือผมจะแจงรายละเอียดให้ทราบทีหลังแล้วกัน ตอนนี้คุณไปพักผ่อนได้แล้ว"พ่อบ้านมินอธิบายงานให้อย่างละเอียด ก่อนจะสั่งให้มานะไปพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้เขาต้องเริ่มงานแต่เช้า

"มานะหิวไหม"หวีเดินเข้ามาหลังจากที่มินเดินออกไปแล้ว หัวทุยพยักหน้าตอบ 

หิวจะตายห่า แค่ฟังคำสั่งจากอิคุณพ่อบ้านนั่นก็แทบจะยืนไม่ไหว ไหนจะกฎพ่อบ้านที่ต้องอ่านอีก ฮรือออออ อยากลาออก

เพราะพูดออกมาไม่ได้ก็เลยต้องบ่นกับตัวเองในใจ ดาวีหรือหวีจูงมือเขาไปที่ห้องครัว ในนั้นมีพวกพี่ๆนั่งกินข้างอยู่หลายคน และหนึ่งในนั้นก็คนขับรถที่ขับไปรับเขามาวันนี้ 

"พี่กร กินอะไรอะ?"หวีจูงคนเป็นใบ้ไปนั่งข้างๆก่อนจะชะโงกหน้าเข้าไปดูจานข้าวของอีกฝ่าย 

"แกงไตปลา กับใบเหลียงผัดไข่ ไปตักกินเอาเองอย่ามาแย่งพี่ อ่อมียำวุ้นเส้น กับ แกงบวดเผือกด้วย"กรหันมาบอกแล้วยกยิ้มให้ คนอื่นๆก็ทยอยกันไปตักอาหารมากิน 

"พี่ๆหวีมีคนมาแนะนำให้รู้จัก คนนี้คือพ่อบ้านคนใหม่ที่จะมาดูแลคุณดล ชื่อมานะ อายุ 19 พี่มานะเป็นใบ้นะพูดไม่ได้  หล่อใช่ไหมล่ะ" หวีพูดแทนคนตรงหน้าเสร็จสรรพ มานะยิ้มรับแล้วยกมือไหว้ทุกคน ติดแค่ตรงสีหน้าพะเน้าพะนอของหวีที่ดูจะนำเสนอความหล่อของเขาด้วยรอยยิ้มพิลึกพิลั่น จนเขาแอบกลัวหวีขึ้นมานิดๆ 

"เออๆสวัสดีๆ แล้วจะคุยกันรู้เรื่องเหรอวะเป็นใบ้แบบนี้" บิน บอดีการ์ด หนุ่มหล่อ เอ่ยถามด้วยความสงสัย มานะเลยหยิบสมุดกับดินสอขึ้นมาโชวให้ดู ทุกคนพยักหน้ารับเป็นอันเข้าใจ

"เออ แล้ว เจอคุณดลแล้วใช่ไหมมานะ"บินถามอีก

"อื้อ"

"อ่อ แล้วเอ่อ โดนทำให้ทำอะไรแปลกๆไหม?" หมายความว่ายังไงอะ ให้ทำอะไรแปลกๆ ?คืออะไรวะ 

เพราะไม่รู้ว่าอะไรที่ว่าแปลกๆก็เลยส่ายหน้าปฏิเสธออกไป

"ดีละ ถ้าเจออะไรแปลกๆก็ไม่ต้องตกใจนะ มันเป็นเรื่องปรกติของคนบ้านนี้"

"ไอ้บิน พูดมากนะมึงอะ เดี๋ยวน้องมันก็กลัว มานะอย่าไปฟังไอ้บินมันมาก"จักรปรามเพื่อนตัวเองไม่ให้พูดอะไรออกไปมากกว่านี้ ร่างโปร่งได้แต่มองสองคนสลับกันไปมา ด้วยความสงสัย หวีเลยช่วยพูดแก้สถานการณ์ให้

"ไม่มีอะไรหรอกมานะแค่คุณดลแกมีนิสัยแปลกๆ ก็อย่างที่มานะโดนเมื่อกี้ไง คุณดลชอบพูดอะไรตามที่ตัวเองคิด อยู่ไปมานะก้จะรู้เอง ไม่ต้องคิดมาก"มือเล็กตบลงบนบ่าเพื่อให้คลายกังวล

อ่อถ้าแค่ปากหมาก็พอรับได้อยู่ ว่าแต่คนที่นี่เค้าเน้นเรื่องหน้าตากันหรอวะ ทำไมแต่ละคนหล่อเหมือนดารา เหมือนพวกไอดอลเกาหลีกันหมดเลย หล่อยันยามเฝ้าประตู 

มานะได้แต่พูดคนเดียวในใจ พร้อมกับกวาดตามองทุกคนและสิ่งรอบๆตัว ก่อนจะลอบถอนหายใจออกมา 

คิดถึงพวกน้องๆไม่รู้ป่านนี้ทำอะไรกันอยู่

(หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปไวเหมือนโกหก)

หนึ่งอาทิตย์ ที่ผมคิดว่าตัวผมเองนั้นกำลังทัวน์นรกอยู่ก็ไม่ปาน ใครบอกว่าอิคุณชายดลมันแค่ปากหมา!! มันคือคนโรคจิตชัดๆ หน้าหล่อแต่ใจทราม! วันแรกของการทำงานเป็นพ่อบ้านของผม คือการที่ผมโดนไอ้คุณชายมันจับผมกดลงกับที่นอนแล้วบีบคอ หน้าพ่อแม่นี่ลอยมาแล้ว เหตุเพราะผมดันไปเปิดผ้าม่านเพื่อให้ห้องมีแสงสว่างตอนมันหลับอยู่

"กูไม่ชอบแสง"คำตอบที่ได้รับไม่ใช่คำขอโทษ ผมได้แต่ร้องในใจว่า  ไอ้แม่เยกกก

วันที่สองโดนรัดคอด้วยกล้ามแขนเดอะฮัคของมัน เหตุเพราะ ผมเข้าไปใกล้มันเกิน ในหัวผมมีแต่คำว่าอิหยังวะ?เต็มไปหมด

วันที่สามวันที่สี่ โดนสกัดขาหัวทิ่มบ้าง โดนผลักลงสระบัวบ้าง  

ทำไมมันเป็นคนหัวร้อนง่ายแบบนี้วะ! อะไรนิดอะไรหน่อยไม่ได้เลย! มันต้องมาลงที่ผมตลอด ถึงว่าตำแหน่งนี้ถึงได้ว่างบ่อยๆเพราะอิคุณชายผีบ้านี่เอง! ฮ่วย! นี่ยังไม่นับความกวนตีนของอิคุณชายมันนะครับ มันสั่งให้ผมชงกาแฟ ผมก็ชงตามสูตรที่คุณพ่อบ้านคิ้วบาง เอ้ยคุณพ่อบ้านมิน ที่เขียนไว้ทุกประการ คือ กาแฟดำออร์แกนิคไม่ใส่น้ำตาล แต่เชื่อไหมมันบอกว่าไม่อร่อย ไปชงมาใหม่ เห้ย!! ก็สูตรที่มึงกินอยู่ทุกวันรึเปล่าววะ ผมชงเป็นสิบแก้วมันก็ไล่ไปชงใหม่ตลอด จนเมล็ดกาแฟหมด นั่นแหละมันถึงได้ หยุดสั่ง แล้วที่มันน่าโมโหคืออะไรรู้ไหม? สีหน้ามันอะ บอกว่าสะใจแค่ไหนที่แกล้งผมได้ ชาติที่แล้วกูไปทำอะไรให้มันวะ มันถึงกลับมาเป็นเจ้ากรรมนายเวรในคราบเจ้านายของผมแบบนี้!



 ผมเดินมานั่งขัดสมาธิตรงประตูหน้าห้องเขา เผื่อคุณเขาจะเรียกอีก  เหนื่อย!

บ่นไปก็เท่านั้นครับทำอะไรไม่ได้ บ่นก็ไม่ได้ เถียงยิ่งไม่ได้ใหญ่ เพราะผมพูดไม่ได้ อยากจะพูด อยากจะด่าใจจะขาด 

"มาน้าาาาาาาาาาาาาา"นั่นไงครับ พูดไม่ทันขาดคำมันเอาอีกแล้ว ไอ้คุณชายผีบ้า และนี่ก็เป็นอีกอย่างที่ทำให้ผมหงุดหงิด มันใช้เสียงที่ฟังแล้วกวนตีน เรียกชื่อของผม!

"อื้อๆๆๆ"รีบขานรับแล้วเปิดประตูเข้าไป

 ผมเดินมานั่งขัดสมาธิตรงประตูหน้าห้องเขา เผื่อคุณเขาจะเรียกอีก  เหนื่อย!

"อื้อ"รับคำสั่งเสร็จก็เดินไปที่ห้องน้ำ ไอ้ฉิบหายห้องน้ำมันกว้างกว่าบ้านที่ผมอยู่เสียอีก ผมกวาดตามองไปรอบๆด้วยความทึ่ง มีทุกอย่างแบบในหนังเลย ทั้งอ่างอาบน้ำสวยๆแบ่งโซนห้องอาบน้ำห้องส้วม แยกโซนฝักบัวอีก คือจะหรูไปไหน ผมเดินเก้ๆกังๆไปยังอ่างอาบน้ำ มองมันสักพัก พยายามหาก๊อกน้ำว่ามันอยู่ตรงไหน แต่หายังไงก็หาไม่เจอ มีแต่ปุ่มอะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด เอาวะ มันต้องมีสักปุ่มแหละที่เป็นปุ่มปล่อยน้ำ ผมเลยลองกดมั่วๆไป แต่น้ำมันไม่ได้ไหลครับมันมีควันออกมาแทน ในใจผมนี่ร้องว่าฉิบหายไปแล้วครับ

"ทำอะไรของนาย"จู่ๆก็มีเสียงดังอยู่ข้างตัว ผมสะดุ้งแล้วหันไปหา หน้าผมเลยชนกับ อกแข็งๆนั่นเต็มๆ

ปัก! อื้ออ ดั้งกู้วววววว

"โง่!" 

ด่าผมว่าโง่ไม่เจ็บเท่ากับสายตาที่มองมา ไอ้คุณชายผีบ้ามันผลักผมออกแล้วกดปุ่มข้างๆอ่างสักพักน้ำมันก็ไหลออกมา ผมมองทุกการกระทำของมันแล้วจำเอาไว้ว่าไอ้อ่างอาบน้ำนี่มันทำงานยังไง ครั้งหน้าเขาจะไม่ได้ด่าผมว่าโง่ได้อีก

พรึบ!

*0*

ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยย

ไอ้คุณชายผีบ้า มัน มัน ปลดผ้าเช็ดตัวที่พันท่อนล่างของมันครับ! ปลดต่อหน้าผม 

เห็นหมดเลย เห็นหมดทุกอย่าง ทั้งด้านหน้า  ด้านหลัง ไอ้เหี้ยยยย มึงไม่อาย แต่กูอาย!! บัดสีที่สุด ผมรีบเอามือปิดตาแล้ววิ่งออกมาจากที่ตรงนั้น แล้วผมก็ได้ยินเสียงหัวเราะของมัน! เสียงหัวเราะสะใจของมัน !

ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้คุณชาย!!!

ผมวิ่งลงมาด้านล่างก็เจอกับหวีที่พึ่งเลิกเรียนมาพอดี ร่างบางใส่ชุดนักศึกษาผมมองแล้วรู้สึกอิจฉาน้อยๆเพราะผมไม่ได้เรียนต่อ อยากใส่ชุดครุย อยากเรียนจบสูงๆจะได้มีงานดีๆทำหาเงินมาเลี้ยงน้องได้ พวกเราจะได้ไม่ต้องลำบากแบบนี้ หวีคงเห็นสายตาของผมที่มองไปใบหน้าน่ารักเหมือนนากตัวน้อยๆเจื่อนลงนิดๆก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างให้ผมแทน

"มานะ วิ่งหนีอะไรมาเหรอ^^" ผมชี้นิ้วไปที่ด้านบนแล้วทำหน้าหงิก แล้วหวีก็หัวเราะเสียงใส

"โดนแกล้งอีกแล้วเหรอ ปรกติคุณดลไม่เคยแกล้งใครนะ มีแต่...เอ่อ ช่างมันเถอะ"หวีเลี่ยงที่จะบอกผม แล้วไอ้ที่บอกว่า ไม่แกล้งใคร นี่เรียกว่าเเกล้งเหรอ! ให้ตายสิ อีกนิดก็เข้าข่ายฆ่าตกรรมแล้วนะ

"แล้วนี่คุณดลทำอะไรให้อะถึงได้วิ่งหน้าแดงลงมา" จะให้บอกว่ายังไงล่ะ พูดไม่ได้นี่ ผมเลยหยิบสมุดเล่มเล็กๆของผมออกมา แล้วเขียนใส่กระดาษ

"ทำเรื่องทุเรศใส่ คุณดลแก้ผ้าให้เราดู!" พอหวีอ่านจบก็ทำตาโตใส่

"ใหญ่ไหม?มานะ!" โอ้โหดาวี น้องหวีทำไมถามแบบนี้! ผมนี่ตกใจจนผงะ กับท่าทางันเเสนจะกระตือรือร้นของหวี

ผมรีบส่ายหน้าไม่ตอบแล้วรีบเดินหนี บ้าใครมันจะไปบอกว่าใหญ่ฟาดปากแตกได้เลย น่าอายออก หวีเห็นว่าผมเขินก็รีบวิ่งตาม

"ใหญ่แน่เลย วี๊ดดดดดดด อยากเห็น!" หวี!!! หมดกันภาพลักษณ์อันแสนน่ารักที่ผมตั้งไว้

"นี่มานะ หวีจะบอกอะไรให้นะ ร่างกายของคุณดลนะคือของแร เป็นอะไรที่หาดูได้ยากยิ่ง มานะนี่บุญถึงจริงๆ" อ้อบุญถึงหรอผมว่าเวรกรรมมากกว่า ใครมันจะไปอยากมองไอ้กล้ามท้องแน่นๆนั่นกัน เชอะ! ไอ้พวกขี้อวด



ร่างกายผอมบางปรากฏขึ้นในสายตาอีกครั้งหลังจากที่แกล้งให้อาย ดลยืนอยู่บริเวณหน้าต่างห้องเขามองลงไปยังสวนด้านล่าง ในสายตาเขาเห็นมานะกำลังก้มๆเงยๆ อยู่ตรงข้างสระว่ายน้ำ นี่ก็ดึกแล้ว เด็กนั่นลงมาทำอะไร

สายตาคู่คมยังคงจับจ้องไปยังเด็กหนุ่มบัทเลอร์คนใหม่  คนที่เขารู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นหน้า อาจจะเพราะไม่สามารถสือสารโต้ตอบกันได้เลยทำให้รู้สึกเหมือนเขาคุยอยู่คนเดียว 

"หึ" ร่างสูงสง่าเค้นเสียงหึออกมา เมื่อเห็นว่าคนที่เขาเฝ้าจับตามองอยู่นั้นค่อยๆถอดเสื้อผ้าออกเหลือเพียงกางเกงขาสั้น ดวงตากลมกวาดมองไปทั่วบริเวณ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครแอบมองหรืออยู่บริเวณนี้ ก่อนจะค่อยๆๆหย่อนเท้าตัวเองลงสระทีละนิด

"หนูสกปรก"ใช่เขาด่าคนที่กำลังบังอาจเอาขาหย่อนลงสระน้ำส่วนตัวของเขา ใบหน้าหล่อบิดเบี้ยวเพราะรู้สึกไม่พอใจและกำลังจะหงุดหงิด เขาหันหลังจากหน้าต่างบานนนั้นกอ่นจะสาวเท้ายาวๆออกจากห้องนอน

"อู้วว น้ำเย็นดีจัง"มานะค่อยๆหย่อนตัวลงกับขอบสระ โดยไม่รู้ว่าบริเวณที่เขาตั้งใจจะลงไปนั้นน้ำลึกเกือบห้าเมตร ส่งผลให้ร่างทั้งร่างจมลงสู่ก้นสระ

"เป็นหนูสกปรกแล้วยังโง่อีก!!"กายใหญ่วิ่งพรวดออกมาจากประตูด้านหลังทันเห็นว่าร่างบางนั้นได้จมลงสู่ก้นสระเป็นที่เรียบร้อยเขาสบถเสียงลั่นก่อนจะกระโจนลงไปยังสระน้ำทันที

ใต้น้ำลึกสีฟ้าใส ดลเห็นมานะกำลังตะเกียกตะกายอยู่ใต้น้ำ ใบหน้าหวานกำลังทรมานอย่างหนักจากการขาดอากาศหายใจสองมืองไขว่คว้าไปมาอยู่ใต้ผืนน้ำ ดวงตากลมตื่นกลัวและไม่มีสติ ก่อนจะค่อยๆๆแน่นิ่งไป ร่างสูงใช้ท่อนเเขนแหวกผืนน้ำแค่สองสามครั้งก็ถึงตัวคนโง่ที่เขาก่นด่า ก่อนจะพาร่างอันไร้สติกลับขึ้นมาเหนือน้ำ

พรวด!!

"มานะ มานะ!"

แปะ แปะ  เสียงฝ่ามือตบเบาๆบนใบหน้าอันซีดเซียว แต่มานะก็ยังไม่ตอบสนอง ดลเกลียดการสัมผัสผู้อื่นเป็นที่สุด เขาต้องลดตัวลงมาช่วยไอ้หนูสกปรกนี่ก็บุญถมถืดแล้ว แต่จะให้ผายปอดด้วยก็คงยาก เขาเลยทำแค่ปั๊มฝ่ามือลงไปบนอกเล็ก เพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้นแทน

"อยากตายก็ไปตายที่อื่น อย่ามาตายในบ้านของฉัน"ดลขบกรามแน่นก่อนจะออกแรงปั้มหัวใจให้มานะ  

แคกๆ เป็นสัญญาณที่ดีว่าคนตรงหน้ากลับมามีชีวิตอีกครั้งแล้ว  ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งแล้วถอนหายใจแรง เขาทั้งเหนื่อยทั้งโกรธคนตรงหน้า

"ถ้าไม่ตายก็ไสหัวไปซะ" เขามองคนที่นอนหอบหายใจโรยรินด้วยสายตาขุ่นเคือง มันใช่เวลาที่จะมาเล่นน้ำตอนนี้เหรอ ถ้าเกิดเขาไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้น ...ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

" อึก ฮึก.."สองมือเล็กยกขึ้นไหว้คนที่ช่วยชีวิตเอาไว้ปะหรกปะหรก ก่อนจะกอดตัวเองเอาไว้ด้วยความกลัว เพราะคิดว่าน้ำไม่ลึกเลยใจกล้าลงไปทั้งๆที่ตัวเองก็ว่ายน้ำไม่เเข็ง 

"จะร้องไห้ทำไม ไม่ได้ตายสักหน่อย สำออย!"ยิ่งโดนว่าน้ำตามันยิ่งไหล

"ฮึก ฮืออออ"

"หยุดร้องสิวะ จะร้องทำไม!"

มานะไม่ได้อยากร้องไห้ต่อหน้าคนอย่างดลหรอกแต่เพราะเขากลัว แค่คิดว่าตัวเองจะต้องตายแล้วน้องๆเขาจะอยู่ยังไง คิดแค่นี้น้ำตามันก็ไหลไม่หยุดแล้ว 

"แมร่ง"

หมับ!

"?"ใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาดูตกตะลึงเมื่อโดนคนที่ด่าไม่หยุดดึงตัวเข้าไปกอด พร้อมกับลูบหลังเขาเบาๆ ใบหน้าหวานแนบอยู่กับอกแกร่งที่เปียกปอน

ตึกตึก ตึกตึก เขาได้ยินเสียงหัวใจเต้น

เขาก็ไม่ได้เป็นคนไร้หัวใจนี่ มานะแอบคิด เพราะรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่ออกมา

"อย่าร้อง หยุดร้องได้แล้ว กูไม่ชอบน้ำตา"ดลกลั้นใจเอ่ยคำพวกนี้ออกไป ใช่เขาไม่ชอบน้ำตาแล้วเขาก็ไม่ชอบเห็นคนร้องไห้ด้วย เพราะเขาปลอบใครไม่เป็นและไม่คิดจะปลอบใครด้วย เพราะเขาเกลียดการถูกสัมผัสตัวจากคนอื่น!

กว่าคนในอ้อมแขนจะคลายสะอื้นได้ เสื้อผ้าเขาก็แห้งพอดี มานะค่อยๆดันตัวเองออกห่าง ดวงตากลมแดงช้ำช้อนขึ้นมามองคนที่กอดเขาอยู่ ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้เป็นการขอบคุณที่ช่วยชีวิต นดลทำเพียงแค่พยักหน้ารับเบาๆก่อนจะยันตัวลุกขึ้นยืน

"กลับไปได้แล้วไป เดี๋ยวจะไม่สบายแล้วจะลำบากคนอื่นเค้าอีก"ร่างสูงเอ่ยก่อนจะหันหลังเดินเข้าบ้านไป ทิ้งให้คนที่พูดไม่ได้นั่งซึมอยู่ด้านหลัง 

เมื่อเจ้าของบ้านเดินไปจนพ้นสายตา มานะถึงได้ลุกขึ้นยืนแล้วเดินกลับไปยังบ้านพักของตัวเอง



หลับไปได้ไม่นานมานะก็ต้องตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ของตัวเอง วันนี้เขารู้สึกว่าตัวเองจะไม่สบาย เลยกินยาดักเอาไว้ตั้งแต่ตื่นนอน หกโมงเขามาถึงห้องนอนของคนตัวสูงเพื่อมาปลุกให้ตื่นนอนอย่างที่เคยทำเช่นทุกวัน 

"อื้อๆ"มือบางสะกิดคนที่นอนจมอยู่กับเตียงนอนกว้าง 

"อืมม รู้แล้ว นายไปเตรียมทำอย่างอื่นเถอะ"เจ้าของนัยน์ตาสีเข้มเอ่ยก่อนจะยันตัวลุกขึ้นจากที่นอน มือหนาสัมผัสโดนแขนของอีกฝ่ายเพียงนิดก็รับรู้ได้ถึงอุณหภูมิที่แตกต่างของอีกฝ่ายทันที

"นายตัวร้อน?"

"อื้อๆ"มานะโบกมือไปมาบอกว่าตนเองไม่ได้เป็นอะไร

"มาใกล้ๆ"ดลกวักมือเรียกให้อีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้ๆกับตนเอง ก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสที่บริเวณหน้าผากเล็ก มานะตกใจเล็กน้อยที่จู่ๆคนตรงหน้าก็จับเขามาวัดไข้

"หรือผีจะออกจากร่างแล้ว?"มานะคิด

 :pig4: :pig4:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 03 up 6/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 06-11-2020 17:25:38
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 03 up 6/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 06-11-2020 22:38:15
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 04 up 8/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 08-11-2020 00:20:05
4

    "ตัวร้อนขนาดนี้ยังจะบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรอีก"

"อื้อๆ"มานะโบกมือพร้อมกับหยิบสมุดเขียนออกมา

(ผมเเข็งแรงมากคุณดลไม่ต้องห่วงหรอกครับ) พร้อมกับทำท่าเบ่งกล้ามให้ดู ดลส่ายหัวเอือมระอากับกล้ามขนาดเท่ากล้ามกุ้งของคนใบ้

"อวดดีจริงๆ"

(ผมไม่ได้อวดดี ผมเป็นแบบนี้บ่อยเดี๋ยวก็ดีขึ้นครับ คุณไม่ต้องห่วง)เขียนเสร็จก็ยื่นให้อีกคนอ่าน

"เหอะ! ใครบอกว่าเป็นห่วง ไม่ได้พูดสักคำ แล้วแต่เธอละกัน ถ้าป่วยขึ้นมา ฉันจะหักเงิน" พอได้ยินคำว่าหักเงินมานะทำตาโตทันที

(อย่าหักเงินผมนะครับ!! ผมจะไม่ป่วยเด็ดขาด)

"ไม่มีทางที่นายจะไม่ป่วยมานะ ไปได้ละเดี๋ยวไข้จะมาติดฉัน"

"อื้อ"คนใบ้พยักหน้ารับคำแล้วตั้งท่าจะเดินออกจากห้อง

"เอ้อ เดี๋ยว"ดลเรียกมานะไว้

"?"

"เรียกมินให้ด้วย"

"อื้อ"

หลังจากออกจากห้องนอนของร่างสูงมานะก็ลงไปหาคุณหัวหน้าพ่อบ้าน ที่กำลังจัดเตรียมเอกสารสำหรับการประชุมวันนี้ให้กับดลอยู่ มินรับรู้ได้ถึงแรงสะกิดเล็ก ๆ ที่แผ่นหลัง พอหันมาก็เจอเข้ากับมานะ

"มีอะไรมานะ?"

(คุณดลเรียกคุณมินให้ขึ้นไปพบครับ) มินอ่านข้อความแบบออกเสียงไปด้วย

"อืม แล้วเรามีอะไรอีกไหม?"มินเอ่ยถามเพราะมานะยังยืนอยู่ที่เดิม ดวงตาเรียวจ้องมองเด็กตรงหน้า ด้วยความสงสัย กับท่าทางที่เป็นกังวลของมานะ

มานะลังเลที่จะบอก ก่อนจะส่ายหน้า ปฏิเสธไป  แล้วเดินเลี่ยงไปที่ครัวเพื่อจัดเตรียมมื้อเช้าให้กับเจ้าของบ้านที่กำลังอาบน้ำแต่งตัวอยู่  ในครัวมานะเห็นหวีกับบีนั่งคุยกันอยู่ พอหวีเห็นมานะก็ยิ้มหวานใส่มานะพร้อมกับลากแขนเล็กให้ไปร่วมวงสนทนาด้วย หวีคงจะลืมไปว่ามานะพูดไม่ได้!

"มานะ!นี่รู้รึเปล่าว่ามือคืนคุณดลไข้ขึ้น เกือบแย่เลยละ ถ้าอามินไม่โทรหาก็คงไม่รู้"หวีบอกด้วยสีหน้าเป็นกังวล คนใบ้ส่ายหน้าไปมาเพราะเขาเองกลับมาก็หลับเป็นตายไปแล้ว

"ไม่รู้ว่าไปทำอะไรมาถึงได้เป็นไข้ ร่างกายก็ไม่ค่อยจะแข็งแรงอยู่แล้วด้วย"หวีบ่นออกมาไม่หยุดเพราะตัวหวีเองก็วุ่นไม่แพ้กัน

(เหรอ? ตอนเราไปปลุกก็เห็นว่าปรกติดีนี่)มานะเขียนข้อความลงบนสมุดแล้วให้หวีอ่าน

"ก็อามีนฉีดยาให้ตั้งแต่เมื่อคืน"มานะพยักหน้าเข้าใจ เขาแอบกังวลว่าที่ดลเป็นไข้เมื่อคืนน่าจะเป็นเพราะดลไปช่วยตนเองจากการจมน้ำเมื่อคืนแน่ๆ มือบางกำเข้าหากันเพราะความรู้สึกผิดกัดกินในใจ มานะเลยเดินออกจากวงสนทนามุ่งตรงไปยังห้องนอนใหญ่ ระหว่างทางเขาเจอกับพ่อบ้านมินที่กำลังถืออุปกรณ์สำหรับเช็ดตัวออกมาจากห้องของดลพอดี

"อ่าวมานะ มาพอดีเลย ตามผมมา"ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยถาม เขาก็โดนมินลากไปอีกทาง

"กินยานี่ซะ ถ้าไม่ไหวก็บอกผมจะได้พาไปหาหมอ" มานะทำหน้างง เพราะจู่ ๆ พ่อบ้านมินก็ยื่นถุงยาแก้ไข้อย่างดีมาให้

(ผมกินแล้วครับ)มานะยื่นสมุดให้อ่าน

"ยาพาราที่นายกินมันไม่ได้ผลหรอก กินยานี่ซะ อย่าดื้อ!"มานะจำต้องรับยามาถือไว้ เพราะโดนสายตาขู่บังคับจากคุณพ่อบ้านคิ้วบาง พอให้ยาเสร็จมินก็ทำท่าจะเดินออก แต่มานะรีบดึงชายเสื้อเอาไว้

"(คุณดล เค้าเป็นยังไงบ้างครับ)

"ก็ดีขึ้นแล้ว คราวหน้าคราวหลังทำอะไรก็ระวังตัวให้มากกว่านี้นะ มานะ ถ้าไอ้ดล เอ้ยคุณดลไม่ได้อยู่ตรงนั้น มันจะเกิดอะไรขึ้น น้องๆนายจะอยู่ยังไง"มินพูดตักเตือนด้วยความหวังดี มานะมีสีหน้าที่สลดลง เขาเองก็ยังรู้สึกไม่ดีกับเรื่องที่เกิดขึ้น มานะพยักหน้ารับเบาๆ มินสัเกตว่าหาตาของคนตรงหน้ามีน้ำใส ๆ ปริ่มออกมาตรงขอบตา

"ไม่เป็นก็ดีแล้ว"มินยกมือขึ้นลูบหัวมานะเบาๆ

"กินยาแล้วก็ไปทำงานได้แล้ว วันนี้คุณดลมีประชุม นายไม่มีงานแล้วละ รอหลังเที่ยงก็แล้วกัน ระหว่างนั้นนายอยากทำอะไรก็ไปทำละกัน" มินพูดออกมายาวๆ มานะ อยากไปหาน้องๆ เขาลังเลอยู่นานกว่าจะเอ่ยขออนุญาตจากมิน

"(ผมไปหาน้องๆได้ไหมครับ")

"เอ่อ เรื่องนั้น นายต้องไปขอคุณดลเขาเอง ฉันไม่ได้มีอำนาจที่จะอนุญาตให้ใครไปไหนมาไหนได้ตามอำเภอใจหรอกนะ" มินเอ่ยเสียงเรียบ

"อื้อ"มานะพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะเดินกลับไปหาเจ้านายผู้มากอารมณ์

ก๊อก ๆ เสียเคาะประตูดังขึ้นในขณะที่ดลกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า อาการไข้ของเขาไม่ได้ดีขึ้นอย่างที่มินบอก ใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพเจ้ากำลังเเสดงความอิดโรยออกมา ดวงตาคู่คมดูอ่อนล้า จนคนที่มาใหม่สังเกตเห็น มือเล็ก ๆ ยกขึ้นสะกิดเบา ๆ ที่ด้านหลัง เรียกให้คนที่กำลังติดกระดุมเสื้อต้องหันมามอง

"มีอะไร"แค่เสียงที่เอ่ยออกมายังแหบแห้งขนาดนี้ เอาตรงไหนมาบอกว่าอาการดีขึ้นแล้ว มานะขมวดคิ้วจนเป็นปม

"(คุณไม่สบาย?)"เขายื่นสมุดให้อีกคนอ่าน ดลเหลือบตามองบนอย่าคนขี้รำคาญ

"ไม่ใช่เรื่องของเธอ"ดลบอกปัด เขาไม่ได้อ่อนแอจนต้องให้ใครต่อใครมาเป็นห่วง

"(เพราะผม)"

"เห้ออ ฉันบอกเธอเเล้ว ว่ามันไม่ใช่เรื่องของเธอ ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ออกไปซะ วันนี้ฉันไม่รับอาหารเช้า เอาแค่กาแฟมาก็พอ"ดลเดินออกมาจากห้องแต่งตัว เขาอยู่ในชุดที่เป็นทางการ สูทสีน้ำเงินเข้มกับเสื้อเชิทสีขาวผูกเนกไทสีเดียวกันกับสูทราคาแพง ข้อมือใหญ่สวมนาฬิกาเรือนหรูสีทอง ผมสีเข้มถูกเซทเป็นทรงส่งผลให้ความดูดีของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสิบระดับ มานะมองคนตรงหน้าด้วยสายตาชื่นชม ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตนเองมาหาดลด้วยเหตุผลอันใด มานะรีบเขียนข้อความลงในกระดาษ ก่อนจะยื่นให้เจ้าของบ้านอ่าน

"เธอจะขอออกไปข้างนอก?"

"อื้อ"มานะขานรับในลำคอ

"ฉัน อนุญาต แต่ต้องกลับเข้ามาก่อนฉันประชุมเสร็จ" มานะพยักหน้ารับระรัวด้วยความดีใจ จนดลคิดว่าถ้าพยักหน้ามากกว่านี้คอเล็กๆนั่นจะหักเอา เขาเลยยกมือห้าม แล้วโบกมือไล่

มานะยกมือไหว้คนตรงหน้าด้วยความดีใจ ก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้อง ร่างโปร่งลงไปชงกาแฟให้ดลก่อนจะไปเตรียมตัว เขาหยิบเงินก้อนแรกที่ได้จากการทำงานออกมา แม้ว่าเขาจะมาทำงานได้แค่สองอาทิตย์แต่พอสิ้นเดือน ดลก็จ่ายเงินเขาตามจำนวนวันที่เขาทำงาน มานะยิ้มแก้มแทบปริในหัวคิดว่าจะพาน้อง ๆไปกินของอร่อย พาไปซื้อของใช้ ถ้าเขาได้เงินเยอะกว่านี้ เขาจะหาที่อยู่ใหม่ให้น้อง ๆ ด้วย  เขาอยากให้น้อง ๆ ได้อยู่ดีกินดีและมีการศึกษา จะได้ไม่ต้องมาเป็นแบบเขาที่เรียนน้อย มานะเดินตรงไปยังทางเดินที่ขนาบไปด้วยสวนสวย ใบหน้าอิ่มเอมเพราะกำลังคิดถึงน้อง ๆ ที่รออยู่

ปิ้นๆ เสียงแตรรถดังขึ้นในขณะที่เขากำลังเดินอยู่ รถยนต์สีดำสนิทมีตราห้าห่วงประดับ ขับมาจอดเทียบกับคนใบ้ ก่อนกระจกรถจะเลื่อนลง

"มานะขึ้นรถพี่จะไปส่ง"กรเอ่ยทักก่อนจะกวักมือให้มานะขึ้นรถ คนเป็นใบ้โบกมือว่าไม่เอา เขาเกรงใจและอีกอย่างเขาไม่กล้าที่จะนั่งรถราคาแพงด้วย พอเห็นว่ามานะไม่ยอมขึ้นรถ กระจกอีกบานที่อยู่ด้านหลังก็เลือนลง

"ขึ้นมา ฉันรีบ"น้ำเสียงทุ้มติดเข้มอันเเสนคุ้นเคยเอ่ยออกมา ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นทันทีที่เห็นว่ามีใครอีกคนนั่งอยู่บนรถด้วย ดลส่งสายตาบังคับให้มานะรีบขึ้นรถเพราะเขาต้องไปประชุมที่บริษัท พอเห็นว่าเด็กใบ้ลังเลที่จะร่วมเดินทาง ดลก็ขู่ด้วยการหักเงิน

"หักเงินห้าร้อย ถ้าเธอทำให้ฉันเสียเวลา"

"อื้อๆ"มานะพอได้ยินดังนั้นก็รีบเปิดประตูข้างๆคนขับแล้วขึ้นไปนั่งทันที

"รัดเข็มขัดด้วยมานะ"กรเอ่ยเตือน มานะรีบดึงเข็มขัดมารัดด้วยท่าทางที่เก้ ๆ กัง ๆ เพราะไม่เคยทำมาก่อน  สายตาคู่คมแอบมองการกระทำของมานะอยู่เงียบ ๆ จากทางด้านหลัง อย่างรำคาญเขาเลยเอื้อมมือไปดึงสายรัดให้แล้วกดลงล็อกให้ เป็นอันว่ามานะได้ขาดเข็มขัดเป็นครั้งแรกในชีวิต กรแอบอึ้งอยู่ไม่น้อยที่เจ้านายจอมโหดและไม่เคยให้ใครแตะตัวง่ายๆอย่างดล เขาจะกระทำเช่นนี้กับผู้อื่นได้ โดยเฉพาะกับเด็กอย่ามานะที่ไม่มีอะไร ตรงกับความชอบของดลเลยสักอย่าง

เรื่องมันต้องขยาย!!

แชทนี้ไม่มีเจ้านาย(7)

kronkrub:กูมีเรื่องมาเหลา

คุณพ่อบ้านมิน:เรื่อง?

kronkrub:ไอ้คุณเจ้านายของเรา หึหึ

bee:ไหนว่ามาสิจ้ะ เรื่องขอไอ้คุณดลกูพร้อมเสือกมาก

เจต:นินทาเจ้านายกันเหรอไอ้พวกเหี้ย!

(read6)

หมี:มีคนซุ่มหนึ่งอัตรา อิแซกมึงจงออกมาบัดเดี๋ยวนี้!!!

zax:กูขอนั่งอ่านอย่างเงียบๆ เรื่องคราวที่แล้วภาพยังจำติดตา

หมี:ที่ไอ้มินมันโดนถีบลงกลางทะเลอะเหรอ

zax:เออ ไอ้สัส ขนาดเพื่อนมันยังถีบลงกลางทะเล

เจต:เสือกไปกวนตรีนมันก่อนทำไมละ พวกมึงก็รู้ว่ามันขี้โมโหขี้หงุดหงิด

kronkrub:ยังมีคนอยากรู้เรื่องของกูอยู่ไหมเอ่ย?

พ่อบ้านมิน:ว่ามากูพร้อมแล้ว

kronkrub:มึงว่าไอ้ดลมันไม่ชอบให้ใครแตะตัว แล้วมันก็ไม่ยอมแตะตัวใครนอกจากพวกเราใช่ปะวะ

เจต:เออ ทำไม

พ่อบ้านมิน:ไอ้กร มึงขับรถอยู่ไม่ใช่เหรอวะ

kronkrub: เออ มันติดไฟแดงอยู่

พ่อบ้านมิน: แล้วไป แล้วไอ้ดลมันทำอะไร

kronkrub:คาดเข็มขัดให้น้องใบ้

นุ้งหวีผู้ผดุงความยุติธรรม: นานิ๊

bin:.....

หมี:.....

เจต:.....

พ่อบ้านมิน:....



"กร ไฟเขียวแล้ว"เสียทุ้มติดจะตำหนินิดหน่อยเมื่อเห็นว่าคนขับรถที่พ่วงสถานะเพื่อนสนิทกำลังตั้งอกตั้งใจคุยแชทกับใครก็ไม่รู้ มานะนั่งมองกรด้วยความอยากรู้ เพราะพึ่งจะเคยเห็นการแชทคุยกันผ่านตัวหนังสือเป็นครั้งแรก คุยกันได้โดยที่ไม่ต้องพูด ดวงตากลมมองด้วยความอยากรู้มากขึ้นเรื่อยๆ

"เอ่อ ว่าจะถามนานละ มานะมีมือถือไหม?"กรเห็นว่ามานะมองเวลาเขาเล่นมือถือตลอดเลยสงสัยว่ามานะมีเครื่องมือสื่อสารแบบคนทั่วไปบ้างรึเปล่า

"หึ"มานะตอบเสียงในลำคอ พร้อมกับส่ายหน้า กรดูจะตกใจไม่น้อย เพราะสมัยนี้ไม่มีใครไม่มีมือถือใช้กันหรอก

"อ่าว แล้วเวลาจะคุยกับน้องละ"

ดลเองก็สงสัยเช่นกัน เขาลอบมองคนที่นั่งหน้าคู่กับกร  มานะทำมือบอกว่าใช้เขียนจดหมายเอา ทำเอากรหัวเราะขำ

"เขียนจดหมายนี่นะ กว่าจะถึง กว่าจะคุยกันรู้เรื่อง รอตายเลย" มานะทำหน้าจ๋อย เพราะเป็นอย่างที่กรว่าจริงๆ แต่จะให้ทำอย่างไร เพราะเขาพูดไม่ได้แถมบ้านยังจน เงินแทบจะไม่มีซื้อข้าวกิน ดีที่แม่ทิ้งโทรศัพท์รุ่น ฮีโร่ไว้ให้ใช้  ดลฟังอยู่เงียบ ๆ ก่อนจะหันไปสนใจไอแพดในมือแทน

"มานะจะให้พี่ส่งเราลงตรงไหน?"หลังจากที่ต่างคนต่างเงียบมาสักพัก กรก็เอ่ยถามคนข้างกายในขณะที่เขาขับรถเลยออกมาจากซอยบ้านเรียบร้อยแล้ว  มานะกวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะชี้ให้จอดข้างทาง

"แน่ใจเหรอ จากตรงนี้มันไกลจากบ้านเธอมากเลยนะ" เพราะจากที่เคยไปรับมานะที่บ้าน กรพอจะเดาได้ว่า จากตรงนี้ไปมันค่อนข้างไกล กว่าจะถึงบ้านหลังนั้น มานะโบกมือว่าไม่เป็นไร ก่อนจะเขียนข้อความให้กรอ่าน

(ซอยบ้านผมมันแคบครับ พี่กรจะลำบากส่งผมแค่ตรงนี้ก็พอปรารถนากรอ่านออกเสียงแล้วพยักหน้าเข้าใจ อีกอย่างดลมีประชุมด้วย มานะหันหลังไปยกมือไหว้ขอบคุณดลก่อนจะไหว้กรด้วย แล้วปลดเข็มขัดที่รัดอยู่ออก ก่อนจะเดินลงจากรถไป กรออกตัวรถทันที เพราะถ้าช้าไปมากกว่านี้เจ้านายเขาจะอารมณ์เสียเอา

ตลอดทางเดินกลับบ้าน มานะเดินยิ้มมาตลอดทาง เขาแวะซื้อของกินมากมายตามใจปรารถนา อันไหนที่น้อง ๆ ชอบเขาก็ซื้อมาหมด ทั้งไก่ทอด หมูทอด ไอศกรีม ขนมนมเนยจนเต็มสองมือถือกลับแทบจะไม่ไหว มานะเรียกวินสามล้อให้มาส่งที่บ้าน ก่อนจะจ่ายเงินและรีบเข้าไปยังบ้านมุงหลังคาสังกะสีหลังเก่าๆ ดีที่วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ น้อง ๆ เขาเลยอยู่บ้าน

ป็อกๆๆ มานะเคาะมือลงกับพื้นบ้านที่เป็นไม้ จนนบหันมามองก่อนจะร้องเรียกเขาเสียงหลง

"พี่มานะ!!!"สองพี่น้องที่เห็นพี่ชายกลับมาหาก็ดีใจใหญ่ กระโดดกอดเขาจนแทบจะล้มหงายหลัง

"นบคิดถึง"

"นทด้วย" มานะยิ้มพร้อมกับวาดมือไปมาบอกว่าเขาก็คิดถึงน้อง ๆ เหมือนกันก่อนจะยกถุงข้าวของที่ซื้อมาให้น้องดู นบกับนทตาลุกวาว เพราะไม่เคยได้เห็นของกินเยอะแยะมากมายขนาดนี้มาก่อน

"ของเราเหรอพี่ พี่ซื้อมาให้เหรอ!"นทยิ้มร่า

"อื้อ"มานะยิ้มอ่อนโยนเมื่อเห็นสีหน้าของน้อง ๆ ว่าดีใจขนาดไหน ไม่เสียเเรงที่เขาตั้งใจทำงาน มานะสำรวจบ้านขอตัวเองไปรอบๆ ตอนนี้เขามีเงินพอที่จะพาน้อง ๆ ออกไปจากที่นี่แล้ว ระหว่างทางเขาก็เดินดูตามห้องเช่า หรือหอพักมาบ้าง และก็เจอหอพักใกล้ ๆ กับโรงเรียนของน้อง เดินทางสะดวกและปลอดภัย

นทเอาของกินต่างๆออกมาจัดใส่จานนบเตรียมน้ำมาให้ ทั้งสามกินข้าวด้วยกันในรอบเดือน ต่างคนต่างยิ้มให้กัน ข้าวมื้อนี้มันอร่อยมากจนเขาน้ำตาซึมออกมา ระหว่างนั้นเขาก็บอกกับน้อง ๆ ว่าเราจะย้ายที่อยู่กัน นบกับนทตกใจ เพราะมันกะทันหันเกิน แต่มานะตัดสินใจแล้ว เดือนหน้าเขาจะพาน้องออกไปจากที่นี่

ในขณะเดียวกันที่ บริษัทคังกรุป ดลมีสีหน้าที่เคร่งเครียดจากการประชุมผู้ถือหุ้น มินที่ขับรถตามมาทีหลังกำลังเดินตามหลังเจ้านายพ่วงตำแหน่งเพื่อนตายด้วยสีหน้าเครียดพอๆกัน หลังจากเขาเจอผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ กดดันเรื่องผลตอบแทนในไตรมาสที่ผ่านมา

มันไม่ได้น้อยเกินไปแต่มันมากไปด้วยซ้ำกับพวกเห็บเหาที่คอยแต่จะดูดเลือดจากเขา

"เอาไงไอ้ดล พวกลุง ๆ ป้า ๆ มึงเขาไม่ยอมง่าย ๆ หรอก"มินเอ่ยขึ้นทันทีที่เขาเดินเข้ามาในห้องทำงานของดลเรียบร้อย

"ปล่อยไปก่อน กูมีเรื่องอื่นที่ต้องจัดการอีก"ดลเอ่ยเสียงเรียบพร้อมกับอ่านเอกสารที่ได้จากสายสืบ

"เรื่องของพ่อกับแม่ของมึงใช่ไหม?"

"อืม มึงก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร พ่อไอ้กร พ่อมึง ต้องมาตายก็เพราะคนชั่วพวกนั้น"ดลขบกรามแน่นด้วยความเคียดแค้น พวกเขาไม่ปล่อยมันผ่านไปด้วยเหตุผลที่ตำรวจบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุหรอกนะ

"อีกนิดเดียวกูก็จะได้รู้แล้วมิน อีกแค่นิดเดียว" ใบหน้าอันหล่อเหลาเรียบตึง พอๆกับมินที่มีสีหน้าแบบเดียวกัน พวกเขาสบตากัน ต่างคนต่างนึกถึงวันที่เสียหลักเพราะเสาหลักขอครอบครัวได้ตายจากไป ตอนนั้นพวกเขาอายุแค่สิบกว่าขวบ คนที่หนักที่สุดเหมือนจะเป็นดลเพราะว่าวันนั้นดลก็อยู่ในเหตุการณ์ และเขาเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด ภาพเหตุการณในวันนั้นมันฉายซ้ำเข้ามาอีก มือหนาสั่นและบีบเข้าหากันจนเส้นเลือดปูดโปน

"ไอ้ดล! ใจเย็น" พอเห็นว่าอาการของเพื่อนรักจะกำเริบมินรีบพุ่งตัวเข้าไปกอด แล้วลูบหลัง แต่มันไม่ได้ช่วยให้เขาสงบลงเลย เสียงให้ใจฟืดฟาด ราวกับสิงโตคลั่งดังไม่ขาด ทำเอามินใจคอไม่ดี ถ้าเพื่อนของเขาเกิดอาการคลุ้มคลั่งที่นี่ มันจะเป็นเรื่องใหญ่

"หายใจเขาลึกๆ ดล หายใจเข้าลึกๆ"

"มึง กู อยากจะ ฆ่ามัน! ฆ่ามันให้หมดทุกคน! คนที่ทำให้กูต้องเป็นแบบนี้!"ดลตวาดเสียงดังออกมาอย่างคนควบคุมตัวเองไม่ได้



เอ้ อิพี่มันเป็นอะไรน้าาาาา ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 03 up 6/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 08-11-2020 00:27:08
 :angry2: :fire:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 04 up 8/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 10-11-2020 22:31:56
ติดตาม
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 04 up 8/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 11-11-2020 03:25:31
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 04 up 8/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 11-11-2020 22:26:10
มานะ รีบมาดูไอ้คุณชายดล คลั่งใหญ่แล้ว เท่าที่ดูไอ้คุณดลนี่ว่าไม่บ้านะ แต่ประสาทแดกมากกว่า 55555 เรื่องนี้ไม่ต้องซีเรียสคิดไรเยอะนะ ให้คิดว่ามันเป็นนิยาย แล้วก็จะอ่านสนุกเอง 5555 รอตอนต่อไปเลย ตามๆจ้า  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 05 up 12/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 12-11-2020 00:08:37
ตอนที่ 5



มานะกลับมาจากไปเยี่ยมน้องที่บ้าน ดีหน่อยที่ขากลับเขาเจอเข้ากับกรที่กลับมาพอดี  เลยได้ติดรถเข้ามา พอถามหาเจ้าขอบ้าน ก็ได้คำตอบว่า คุณเจ้าของบ้านจะกลับพร้อมกับคุณพ่อบ้านมิน มานะเลยไม่ได้เซ้าซี้มาก พอถึงบ้านต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ของตัวเอง มานะมีหน้าที่ทำความสะอาดห้องนอนของดลด้วย คนใบ้จึถือโอกาสนี้เข้าไปทำความสะอาดในห้องทำงาน คนตัวโตด้วยเลย ระหว่างที่ทำงานอยู่เงียบๆไร้เสียงใดๆมานะ เห็นกล่องยามากมายอยู่ในตู้ข้างโต๊ะทำงาน 

จะกินยาอะไรเยอะแยะวะคนรวยพวกนี้ 

ถ้ามานะอ่านภาษาอังกฤษออกเขาจะรู้ว่ายาที่มีมากมายนั้นไม่ใช่วิตามินอย่างที่ตนเองเข้าใจ

"มานะ มานะ คุณดลกลับมาแล้วนะ" เสียงเรียกของคุณพ่อบ้านดังขึ้นมาจากวิทยุสื่อสาร มานะกดตอบรับแล้วส่งเสียงอือๆตอบกลับไป 

ลงมาด้านล่างมานะสังเกตเห็นว่าสีหน้าของดลไม่สู้ดีนัก จมูกแดง ตาแดง 

"พากูขึ้นข้างบนที"ร่างสูงหันมาหาเพื่อนรักที่วางของลงบนโต๊ะ

"อืม แล้วจะกินข้าวเลยไหม?"

"ไม่ กูอยากนอน" ดลเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งกว่าเดิม มานะคิ้วขมวดอีกรอบ 

"แต่ มึงไข้ขึ้นไอ้ดล"มินคงจะลืมไปว่าตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่กันแค่สองคน มานะฟังแล้วแอบตกใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากเพราะเขาพอจะรู้มาอยู่บ้างถึงความสัมพันธ์ของคนในบ้านนนี้

"กู ไม่ ได้เป็นอะไร กูจะนอน"ใช่ดลเอก็คงจะลืมคนที่ไร้เสียงว่ายืนอยู่ด้วย

"มึงนี่ดื้อจังวะ เดี๋ยวกูไปตามพี่เจตก่อน"

"มึงจะตามมันมาทำอะไร กูไม่อยากฟังมันบ่น"ดลพูดอย่างคนหัวเสีย เจตเป็นผู้ช่วยเขาอีกคน  แต่ไม่ได้ทำงานกับเขาโดยตรง เจตเป็นตำรวจสายสืบ และเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของเขา

"ใครเรียกหากู?"ว่ายังไม่ทันขาดคำ เจตที่พึ่งจะมาถึงก็เดินเข้ามา มานะเห็นว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้านก็รีบหลบมุม

"เวร! ตายยากฉิบหาย"ดลสบถ ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงที่โซฟารับแขก

"เออ กูตายยาก แล้วมันจะทำไม?"เจตทำเสียงขึ้นจมูก

"กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะพี่เจต"มินเอ่ยถามพร้อมกับนั่งลงข้างๆกับดล

"เมื่อเช้า นี่กูคิดว่ากูจะไม่ได้กลับมาเจอพวกมึงแล้วนะเนี้ยะ"เจตบ่นออกมา

"ทำไม งานที่กูให้มันน้อยไป?"

"น้อยพ่อง! กูถามมึงจริงๆนะดลมึงเกลียดอะไรกูปะ? ทำไมชอบสั่งให้กูไปเสี่ยงตายตลอด!"เจตแทบจะกินหัวคนที่สั่งงานเขา ดลยกยิ้มขำ กับท่าทีของรุ่นพี่คนสนิท

"แล้วตายไหม?"ดลถามกลับหน้าตาย เขารู้ว่างานที่เขาให้เจตไปทำมันเสี่ยง แต่ค่าตอบแทนที่เขาให้เจตมันก็สูงตามเช่นกัน

"ตายแน่!ถ้ากูไม่ไหวตัวออกมาเสียก่อน พวกแมร่ง รู้มากฉิบ กว่ากูจะเข้าไปใกล้พวกมันได้"

"แล้วได้อะไรมาบ้าง"ดลรีบเปิดประเด็น ใบหน้าหล่อมีสีหน้าที่เข้มขึ้นทันที

"นี่ไง เอาไปอ่านดู เอ่อ แล้วบัดเล่อคนใหม่มึงอะ กูยังไม่เห็นหน้าเลย" ความจริงเขาได้เห็นหน้าของมานะแล้วตอนที่กรคุยผ่านแชทกลุ่ม แต่เขาอยากจะเห็นตัวจริงมากกว่า คนที่ไอ้ดลเพื่อนรักมันยอมให้แตะตัว

"จะเห็นทำไม?"ใช่จะอยากเห็นทำไม ร่างสูงยืดตัวพิงกับพนักพิงแล้วมองรุ่นพี่ของตัวเองด้วยแววตาขุ่นๆ

"เอ้า ก็อยากทำความรู้จักเอาไว้ ทำไมวะ? หวงเหรอ?"

"หวงอะไร อย่ามาบ้า เดี๋ยวกูตามให้" ความจริงถ้าพวกเขามองไปรอบๆก็จะเห็นว่ามานะยืนรออยู่ที่มุมเสาอยู่แล้ว

"อ่าว มานั่นละ"พอได้ยินว่าดลจะเรียกเขาเลยรีบเดินมาหา"

"อยากเห็นก็เห็นซะ กะอีแค่คนใบ้ จะสนใจทำไมนักหนา"ดลถอนหายใจแรงๆ เขาไม่คิดว่าคำพูดของตนเองจะไปทำร้ายจิตใจขอใครเข้า มานะเม้มปากแน่น กับคำพูดจาที่ออกจะดูถูกเขาจากปากของดล

"น้องใบ้"เจตเอ่ยทักมานะยิ้มรับ

"น้องชื่อมานะ"มินแก้แทนให้

"มานะ ชื่อน่ารักดี"เจตเอ่ยชม น้อยคนนักที่จะมาชมว่าชื่อเขาน่ารัก มานะยิ้มเขิน เพราะเริ่มทำตัวไม่ถูก

"เออ น้องพูดไม่ได้แบบนี้จะคุยกันรู้เรื่องเหรอวะ?"เจตเอ่ยคำถามที่ค้างคาใจ

"รู้เรื่องดิ น้องเรียนหนังสือจบมอสาม ใช้วิธีเขียนเอา"มินอธิบาย มานะเลยยื่นสมุดเล่มเล็กที่ตนเองใช้ออกมาให้เจตดู

"โหววว เปลืองตายห่า ทำไมไม่คุยเเชทเอาละ ง่ายออก"เจตเสนอความคิด มานะกำมือนิดๆเพราะตนเองไม่มีโทรศัพท์มือถือ แล้วก็ใช้ไม่เป็นด้วย

"เออวะ มานะมีไลน์ไหม เฟสก็ได้"มินอ่ยถาม เพราะเขาเองก็ลืมคิดเรื่องนี้เช่นกัน มานะส่ายหน้าช้าๆเป็นการบอกว่าเขาไม่มีของอย่างที่มินบอกหรอก

"อ่าว"เจตอุทานออกมาเบาๆ

"ซื้อไหมเดี๊ยวพี่พาไปซื้อ"เจตบอกออกมาอีกมานะส่ายหน้าพร้อมกับเขียนข้อความลงบนกระดาษ

"ผมไม่เงินเยอะขนาดนั้นครับ ผมต้องเก็บเงินเอาไว้ย้ายบ้านให้น้องๆ" เจตอ่านออกเสียงให้คนอื่นได้ยินด้วย มินพยักหน้าเข้าใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ดลเองกนั่งเงียบมาสักพักแล้ว มานะลอบมองเจ้านายขอตนก่อนตาจะเบิกขึ้นนิดๆ แล้วเดินไปหาดลที่นั่งเอนหัวพิงโซฟา มือบางจับลงบนหน้าผากขออีกฝ่ายก่อนจะรีบชักมือออก

ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเพื่อนทั้งสอง ปรกติต่อให้ดลหลับลึกขนาดไหนถ้ามีคนเข้าใกล้ ดลจะต้องรู้สึกตัวก่อนและไม่มีทางให้ใครจับตัวได้ง่ายขนาดนี้

คุณดลตัวร้อนมาก!

มานะรีบเขียนสิ่ที่ตนอยากจะบอกให้มินอ่าน มินเองก็รีบลุกมาดูอาการของเพื่อนด้วย

"พี่เจต ช่วยผมแบกมันขึ้นข้างบนที"



หลังจากพาดลขึ้นมานอนด้านบนแล้ว มานะรีบไปหาผ้ากับน้ำมาเตรียมไว้ให้มิน เพราะยังไงก็ต้องเช็ดตัวไข้จะได้ลด แต่มินกลับให้เขาเป็นคนทำให้เพราะมินจะไปเอายา มานะเลยต้องเป็นคนเช็ดตัวให้ดลแทน แม้จะเห็นเรือนร่างของอีกฝ่ายจนชิน แต่ก็ไม่เคยได้สัมผัสแบบใกล้ชิดขนาดนี้ ทำให้มานะอดที่จะใจเต้นไม่ได้ อาการเขินมันก่อเกิดขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ มานะสูดลมหายใจลึก พร้อมกับบอกกับตัวเองว่าต้องไม่อิจฉา ใช่ที่เขาใจเต้น ออกอาการเลือดสูบฉีดขึ้นหน้าแบบนี้ เขาแค่อิจฉา ดลเท่านั้นแหละ!

หลังจากที่คนใบ้เดินออกไปแล้ว ดวงตาที่เคยพับปิดก็เปิดขึ้นมาแทบจะทันทีที่ได้ยินเสียงประตูปิดลง มุมปากหยักยกขึ้นนิดๆก่อนจะหลับลงไปอีกครั้ง .....



"ข้าวต้มนี่มันร้อนเกินไป"ดลตื่นมาในตอนเช้า อาการไข้เขาลดลงไปมากแล้ว ร่างสูงนอนเหยียดกายบนที่นอนขนาดคิงไซด์ แผ่นหลังกว้างพิงกับหมอน ตรงหน้ามีชามข้าวต้มปลาร้อนๆวางอยู่ แต่เขากลับไม่แตะมันเลยสักนิด มานะมองชามข้าวต้มที่ตัวเองคนเอาไว้จนอุณหภูมิมันลดลงไปแล้วด้วยความสงสัย ว่ามันจะเอาอะไรมาร้อน

"เป่าให้หน่อย" ดลเอ่ยออกมาเมื่อเห็นว่าคนข้างกายยังเงียบ มานะเริกคิ้วนิดๆ

จะให้เป่าอะไรวะ?มันอุ่นจนจจะเย็นอยู่แล้วนะนั่น

"ไม่ได้ยินเหรอมานะ เป็นใบ้ไม่พอ?หูหนวกด้วย?" ดลก็ยังเป็นดลอยู่วันยังค่ำต่อให้หล่อเหมือนเทพบุตขนาดไหนก็ต้องมาตายเพราะปากหมาๆของตัวเอง มานะมองค้อนคนปากไม่ดีไปหนึ่งดอกก่อนจะหยิบเอาถ้วยข้าวต้มมาเป่าให้หายร้อน แล้ววางลงที่เดิม

"ป้อนด้วยสิ"

ต้องป้อนด้วย? มือไม่ได้เป็นง่อยสักหน่อย 

"เอ้า มาสิ"เมื่อเห็นอีกคนยังยืนนิ่งก็แกล้งขึ้นเสียง

"อืม"มานะขานรับในลำคอ ก่อนจะขยับตัวไปนั่งข้างๆคนป่วย แล้วลงมือป้อนข้าวต้ม ไม่นานก็ดลก็อิ่ม มานะยื่นยาให้พร้อมกับแก้วน้ำ ดลรู้สึกสนุกเวลาได้เห็นสีหน้าง้ำงอของอีกฝ่าย ยิ่งมานะพึมพำกับตัวเองหรือทำปากขมุบขมิบเหมือนจะด่าตนก็ยิ่งชอบ วันไหนโดนอีกฝ่ายมองค้อนหรือมีอาการฝึดฝัด ดลยิ่งชอบ 

"สิ้นเดือนนี้จะกลับบ้านใช่ไหม?"ดลเอ่ยถามหลังจากที่มานะเอาจานลงไปเก็บ คนใบ้พยักหน้า

"ให้กรมันเอารถไปส่ง แล้วก็ย้ายของ"ดลพูดจบก็หลับตาลงทันที มานะพยักหน้าตอบเงียบๆเพราะคนที่สั่งไม่ได้รอเอาคำตอบจากเขา สองขาเล็กก้าวออกจากห้องนอนของเจ้านายแล้วเดินลงไปด้านล่าง 

"อ้าวมานะ หาตั้งนานแหนะ เอาข้าวไปให้พี่ดล เอ้ย คุณดลมาเหรอ?"ดาวีเดินหามานะทั่วบ้าน เพราะเจ้าตัวหายไปนาน

"อื้อ"

"เ่ออ มานะ วันนี้ช่วยไปซื้อของกับหวีหน่อยนะ"ดาวีรีบบอกจุดประสงค์ของตนเองทันที 

"อ่า"

"หวีต้องซื้อของหลายอย่างอะ ไปคนเดียวคงไม่ไหว"มานะพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ดาวียืนยิ้มหวานส่งให้คนใบ้ อย่างดีใจ เพราะของที่อามินสั่งให้ตนไปซื้อมียาวเป็นหางว่าว 

ตกบ่ายมินกลับมาจากบริษัทก็สลับเปลี่ยนไปดูแลคนป่วยแทนมานะ ที่ถูกดลเรียกใช้ตลอดช่วงเช้า ไม่ยอมให้คนตัวเล็กได้ออกนอกห้องแม้แต่ก้าวเดียว

"มานะไปไหน?"ทันทีที่มินเข้ามาก็เอ่ยปากถามเพื่อนทันที

"ไปซื้อของกับหวี มึงจะเอาอะไรเพิ่ม?"

"เปล่า"ร่างสูงนอนเหยียดกายลงกับที่นอนนุ่ม ในมือข้างหนึ่งมีไอแพดที่เอาไว้ใช้ทำงาน ถึงตัวเองจะป่วยขนาดไหนดลก็ไม่เคยหยุดทำงานเลย มินมองอาการของเพื่อนที่ดูจะติดบัทเลอร์คนนี้เอาการ

"วันนี้ มึงสั่งห้ามพวกคนงานไม่ให้เข้ามาในนี้แล้วใช่ไหม?"ดลละสายตาจากตัวหนังสือตรงหน้าแล้วเอ่ยถามอีกที่ที่กำลังจัดเอกสารอยู่ตรงโต๊ะทำงาน

"อืม บอกแล้ว"

"ยานอนหลับเริ่มใช้ไม่ได้ผลกับกูแล้ว ครั้งนี้มึงล็อกประตูด้านนอกไว้ด้วย กันไว้"หลังจากที่เงียบไป ดลก็เอ่ยกับมินถึงเรื่องของตัวเอง มินละสายตาขึ้นมามองหน้าเพื่อนตัวเอง แล้วพยักหน้าเข้าใจ 

"ไปหาหมอไหมมึง ขอยาที่มันแรงกว่าเดิม"มินเสนอ

"ยาแรงแค่ไหน มันก็มีค่าเท่าเดิมไหมมิน มึงก็รู้มันไม่เคยได้ผล บางที่กูก็คิดว่ากูน่าจะหลับไปเลยแล้วไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีก"ใช่ไม่ว่าเขาจะรักษาหรือขอยารักษาที่แรงเท่าไหร่อาการคลุ้มคลั่งของเขามันก็ไม่เคยทุเลาลงเลย แผลที่กัดกินหัวใจเขามันลุกลามจนยากจะรักษา 

"....."

"กูจะได้ไม่ต้องทรมาน พวกมึงก็จะได้ไม่ต้องมาคอยดูแลกูแบบนี้"

"มันต้องมีสักวิธีที่ทำให้มึงหายสิวะดล กูจะหาทางช่วยมึงทุกอย่างเอง ทุกคนพร้อมที่จะช่วยมึงนะ  "มินเดินมาตบบ่าเพื่อนรักของตนเองอย่างให้กำลังใจ มินรู้ดีกว่าใครว่าดลต้องทนทุกทรมานขนาดไหนกับโรคที่รักษาไม่หายของตัวเอง เขาต้องทนเจ็บปวดมากมายขนาดไหนกับสิ่งที่ตนเองทำลงไป

"ขอบใจ"







มานะกับหวีออกมาซื้อของที่ห้างใกล้บ้าน ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกของใช้ในบ้าน แต่สิ่งที่ทำให้มานะสงสัยคือเชือกเส้นใหญ่กับโซ่เส้นหนึ่ง และยาทำแผล หรือไอ้คุณดลมันจับใครมาทรมาน!! 

"มานะ เดี๋ยวเราแวะร้านขายขนมตรงนี้ก่อนนะ เราจะซื้อ ทาตไข่ ของโปรดคุณดลอะ"เสียงของหวีดังขัดความคิดบ้าๆของมานะ ร่างโปร่งส่งยิ้มจางๆไปให้ ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านขนมชื่อดัง ทันทีที่เดินเข้าไปกลิ่นหอมของขนมก็ตีเข้าจมูกของมานะทันที  มานะชอบกลิ่นของขนมอบใหม่ มีบางครั้งที่เดินผ่านร้านขนมพวกนี้แล้วมานะหยุดสูดดมกลิ่น แม้อยากจะกินมากเท่าไหร่แต่ตอนนั้นเขาไม่มีแม้แต่เงินที่จะกินข้าว เลยได้แต่ฝันและจินตนาการเอาเท่านั้น 

"มานะอยากกินอันไหน เลือกเลยนะคุณดลให้เราซื้อกินได้"หวีบอกกับคนข้างกายโดยที่สายตาไม่ได้ละจากตู้กระจกตรงหน้าแม้แต่น้อย

ให้กินได้เหรอ คนใบ้ลอบกลืนน้ำลาย กับขนมตรงหน้า ก่อนจะตัดสินใจเลือกเอาทราตผลไม้หนึ่งมาชิ้น นิ้วเรียวจิ้มไปที่กระจกตรงหน้าด้วยแววตาวาววับ หวีเดินมาบอกกับพนักงานว่าจะเอาชิ้นไหนบ้าง ก่อนจะหันไปถามมานะอีก

"เอาอันเดียวเหรอมานะ อันนี้ก็อร่อยนะ"นิ้วเรียวของหวีชี้ไปยังเค้กแครอทด้านหน้า เพราะตนเองมาซื้อขนมร้านนนี้บ่อยเลยรู้ว่าอะไรอร่อยไม่อร่อยบ้าง มานะหยิบเอาสมุดออกมา

(เอาอีกได้เหรอหวี?)

"ได้สิมานะ จะกินกี่อันก็ได้คุณดล เธอให้หมดแหละ คนดลใจดีจะตาย"เสียงเจื้ยแจ้วที่อวยคนเป็นเจ้านายของหวีดังไม่ขาดปาก จนมานะต้องแอบเบะปาก กับเขาไม่เห็นจะใจดีเลย

(งั้นเอา เค้กแครอทอีกอันก็ได้)

"ดีมาก กินเยอะๆนะรู้ไหม มานะน่ะผอมเกินไปแล้ว ดูสิขนาดหวีจับ แบบนี้ยังเจอแต่กระดูกเลย" คนอย่างน้องหวีนี่ปากว่ามือถึงกับเขาตลอด มานะโดนหวีลูบแขน ลูบเอว จนเขาต้องขยับออกห่าง หวีเลยยิ้มขำ แล้วมองเขาด้วยสายตากรุ้มกิ่ม 

หลังจากที่กลับมาจากการซื้อของมานะก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้ขึ้นไปกวนดลที่บ้านใหญ่ ให้เขาหาทำอะไรก็ได้ตามใจ และเย็นวันนั้นทุกคนก็ไม่ออกจากที่พักของตนเลย ทุกอย่างเงียบจนมานะอดที่จะสงสัยไม่ได้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมทุกคนถึงเอาแต่อยู่ในห้องของตัวเอง ทำไมถึงปล่อยให้คนป่วยอย่างดลอยู่บ้านหลังนั้นคนเดียว 

ร่างโปร่งฝ่าฝืนคำสั่งที่ได้รับ หลังจากนอนพลิกไปพลิกมา ทำยังไงก็ไม่อาจจะสลัดความสงสัยและความเป็นห่วงของตนเองลงได้  สองขายาวก้าวออกจากประห้องของตัวเองในเวลาดึกสงัด และมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังใหญ่ ดวงตากลมกวาดมองไปทั่งบริเวณ 

มันแปลกมาก แปลกจนเขาคิดว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในบ้านผีสิงหรือเปล่า มันเงียบและวังเวง ไหนแสงจันทร์ที่สาดลงมาอีก วันนี้เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง มานะเลยไม่ต้องพกไฟฉาย พอไปถึงบ้านใหญ่เขาก็ต้องแปลกใจอีก เพราะในบ้านไม่เปิดไฟเลย เหมือนไม่มีคนอยู่ สองขาเล็กก้าวขึ้นไปตามบันได จุดมุ่งหมายคือห้องนอนของดล แต่ทว่า เขากลับได้ยินเสียง ครางฮึม ๆ อยู่ไม่ไกล เสียงนั้นทำให้มานะรู้สึกขนลุกซู่ เสียงกรีดร้องของความทรมานของใครบางคน เสียงโซ่ดังกระทบกันแว่วมาให้ได้ยิน

หรืออิตาคุณชายนั่นมันจับคนมาทรมานจริง ๆ วะ? ใจของมานะเต้นไม่เป็นสัม ทั้งกลัวและก็อยากรู้ เมื่อขามาหยุดอยู่ตรงหน้าประตู สิ่งแรกที่เห็นคือโซ่เส้นโตถูกคล้องด้วยกุญแจ 

ปึง ๆ ๆ  

เฮือกกกกก !!

"ปล่อยกู ปล่อยกู! ไอ้มิน พี่เจต หวี ไอ้กร พวกมึงปล่อยกู!" เสียงตะโกนโวยวายที่มานะจำได้ดี เสียงแบบนี้คือเสียงของดลแน่นอน มานะตาโต พร้อมกับเขย่าประตู และ ออกแรงทุบให้สัญาณกับคนด้านใน

"ใคร! มานะ มานะเหรอ มานะช่วย ช่วยด้วย ปล่อยผมไปที" พอได้ยินว่าอีกคนขอร้องให้ช่วยเขาก็รีบทุบประตูอีก ตาก็กวาดมองหาอะไรที่จะพอทำลายโซ่ตรงหน้าได้

มานะวิ่งลงไปด้านล่างไปหาค้อนมาทุบกุญแจ 

ปัก ปัก ปัก เคร้ง! มานะออกแรงทั้งหมดเท่าที่มีเพื่อทำลายกุญแจ ไม่นานมันก็หลุดออก สองมือเรียงรีบดึงบานประตูออก โดยไม่รู้เลยว่ามีมัจจุราชรอคอยเขาอยู่ด้านใน

ดลถูกมัดกับเตียงด้วยเชือกเส้นหนา  มานะจำได้ทันทีที่เห็น เพราะเขาเป็นคนไปซื้อมาเองกับมือ ดวงตากลมตื่นตลึ่งกับสิ่งที่เห็น ดลมีสีหน้าที่ทรมาน ร่างกายเต็มไปด้วยเหงื่อจนเสื้อที่ใส่เปียกชื้น ข้อมือมีแผลถลอกจนขึ้นสีแดงขาก็ถูกมัดเอาไว้ ร่างโปร่งรีบแก้มัดให้กับเจ้านายของตัวเองทันที รีบจนไม่ได้มองเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปของดล แววตาของคนที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่งตรงหน้า เมื่อเขาเป็นอิสระ 

"อาาาาา ไอ้ใบ้คนน่ารำคาญ หึหึ"น้ำเสียงเย็นเยียบเอ่ยขึ้นทันทีที่มานะปลดปล่อยเขาให้เป็นอิสระ ร่างบางเงยหน้าขึ้นมามองเจ้านายของตัวเองด้วยแววตาไม่พอใจ

//คนอุตส่าห์มาช่วยแล้วยังจะปากหมาใส่อีก มันน่าเอากระทะฟาดสักทีสองที// 

"ไม่น่าโง่เลย มึงมันไม่น่าโง่แบบนี้เลย" รอยยิ้มที่ผิดปรกติของดล ทำเอามานะต้องก้าวถอยหลัง พอสบตามานะก็ใจกระตุกวูบ แววตาแบบนี้ มันเหมืนแววตาของฆาตกร 

"...."

"ก็บอกแล้วว่าวันนี้อย่าขึ้นมาที่นี่ ทำไมไม่ฟังคำสั่งไอ้มินมันละ ฮ่าๆ " สิ้นคำหัวใจของคนใบ้ก็แทบจะหลุดออกจากอก เมื่อร่างสูงที่อยู่ไม่ห่าง พุ่งตัวเข้าจับที่ลำคอของเขาแล้วออกแรงบีบ มานะตาเหลือกขึ้นด้วยความหวาดกลัว แม้อยากจะเปร่งเสียงร้องมากขนาดไหน เขาก็ไม่สามารถส่งเสียงขอความช่วยเหลือจากใครๆได้ สองมือเล็กพยายามจะแกะฝ่ามือที่บีบออก อีกมือก็ออกแรงทุบลงบนไหล่กว้าง ใบหน้าสวยขึ้นสีคล้ำเพราะเริ่มจะขาดอากาศหายใจ ดลจ้องมองคนตรงหน้าด้วยแววตาสนุก เขาชอบเห็นความทรมาน ยิ่งอีกฝ่ายไม่มีเสียงร้องไห้รำคาญใจอีก เขายิ่งรู้สึกสนุก อยากฆ่าให้ตาย

"ฮ่า ๆ ๆ ๆ ใกล้ตายรึยัง?"น้ำเสียงที่เปร่งอออกมาทำเอาคนฟังตัวสั่น เพราะมันทั้งเย็นชาและไร้หัวใจ ดลคลายแรงบีบออก เพื่อไม่ให้มานะขาดใจตาย เขาลากร่างที่ไร้เรี่ยวแรงนั้นไปยังเตียงนอน ก่อนจะโยนร่างทั้งร่างลงไปแล้วกระโดดขึ้นคร่อมตัวเอาไว้ รวบมือทั้งสองข้างเอาไว้เหนือหัว มานะดิ้นพล่านน้ำตาไหลนอง ความกลัวเข้ากัดกินหัวใจเขาจนไม่เหลือชิ้นดี 

"ทรมานฉิบหายเลยวะ กูทรมานมากๆที่ต้องทนอยู่กับความคิดเหี้ย ๆ แบบนี้ มึงรู้ไหม ว่ากูต้องฝันเห็นพ่อแม่กูตายทุกครั้งที่กูหลับตา อาส์ พ่อแม่กูจะรู้สึกทรมานแบบมึงไหมนะ? รถคว้ำเหรอ ฮ่า ๆ ๆ ตอแหลฉิบหาย พวกแมร่งโกหก โกหก!"ความทรงจำร้ายๆในวัยเด็กกำลังถูกเล่าออกมาจากคนตรงหน้า มานะตื่นตะลึงเมื่อเห็นใบหน้าของซาตาน น้ำตาของซาตานกำลังไหลออกมาจากดวงตาคู่นั้น

"พ่อกูโดนทุบหัวจนหน้าเละ แม่กูโดนตีด้วยไม้จนตาย แล้วอะไรรู้ไหม กูเห็นทุกอย่าง เห็นทุกอย่าง แต่กูช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้เลย" มานะนอนฟังเรื่องราวด้วยความหวาดกลัว ร้องไห้ออกมาโดยที่ไม่มีเสียง ดลยิ้มมุมปากเมื่อเห็นว่ามานะนั้นร้องไห้อย่างทรมาน 

"กูอยากจะทุบหน้าพวกแมร่ง อย่างที่มันทำกับพ่อกู"

ผั้วะ!

"อึ๊ก..ฮืออ"

"มึงเจ็บไหม รู้สึกยังไง เวลาโดนทุบหน้าแบบนี้" ดลเอ่ยถามเหมือนคนอยากรู้ แต่สีหน้าและแววตาที่แสดงออกมานั้นมันไม่ใช่ เขากำลังสนุกกับการทรมานคนอื่น ดวงตาคู่ผมวาววับพร้อมกับเงื้อหมัดขึ้นสูงอีกครั้งก่อนจะเหวี่ยงมันลงมาที่ใบหน้าของมานะ

"ฮึก อื้ออออ "//เจ็บผมเจ็บมากๆเลย พอแล้วครับคุณดล//เขาได้แต่ร้ำร้อง ให้คนตรงหน้าหยุดการกระทำอันป่าเถื่อนแบบนี้กับเขา มุมปากมีเลือดไหลซืมออกมา

"ยังมีอีกนะ...มึงต้องได้รู้ว่าพ่อแม่กูรู้สึกยังไง" ร่างสูงลุกออกจากตัวของมานะ แล้วเดินไปยังตู้กระจกที่เก็บ โมเดลของเล่นเอาไว้ ก่อนจะเหวี่ยงหมัดใส่ตู็กระจกนั้นเต็มแรง มานะสะดุ้งเฮือก และตั้งสติ พยายามจะหนีออกจากห้อง แต่ก็ช้าไป ดลตรงเข้ามากระชากผมจากด้านหลังแล้วลากมานะกลับไปที่เดิม มานะกรีดร้องที่ไร้เสียงออกมาด้วยความตกใจ

"หนี เหรอ รู้ไหม ถ้าหนี จะโดนลงโทษนะ"ในมือที่ชุ่มไปด้วยเลือดนั้นมีเศษกระจกอยู่ มานะส่ายหน้าไปมาอย่างหวาดกลัว

"มันเอากระจกกรีดหน้าแม่กูด้วย"

"ฮืออออออออ"

"ตอนกูเห็นแม่ก็แค่พูดบอกว่าอย่าส่งเสียง ส่งสายตาให้กูแอบอย่าออกมา กูกลัว กลัวมาก กลัวเหมือนมึงตอนนี้เลยล่ะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ"

ตอนนี้มานะไม่รู้จะทำอย่างไรให้ดลสงบสติลงได้ เรื่องราวที่เขาได้รับรู้จากปากของดลทำให้มานะโกรธคนตรงหน้าไม่ลง เข้าใจและรับรู้ถึงความรู้สึกที่ต้องสูญเสียครอบครัวไป ความโศกเศร้าเสียใจ กับอดีตอันเเสนเลวร้ายหล่อหลอมให้ดลกลายเป็นแบบนี้ มานะร้องไห้ออกมา ปากก็บอกว่าขอโทษ ขอโทษ กับ สิ่งที่เกิดขึ้น ร่างบางรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายก่อนที่คมกระจกจะกรีดใบหน้าของตัวเอง โถมใส่ตัวของดลไว้ สองแขนโอบกอดคนตรงหน้าและใช้ฝ่ามือตัวเองลูบแผ่นหลังกว้างนั้นเบา ๆ เสียงสะอื้นดังก้องอยู่ข้างหูของดล เขาชะงักค้างกลางอากาศ มือที่กำแผ่นกระจกแตกบีบแรงเข้าหากันจนเลือดไหลนองออกมา 

ความเจ็บปวดที่ฝ่ามือทำให้เขาเริ่มมีสติ ความรู้สึกอบอุ่น อ้อมแขนที่อ่อนโยน กำลังปลอบประโลมเขาอย่างช้าๆ ดลก้มหน้าลงกับไหล่เล็กที่สั่นไหว แล้วฝังคมเขี้ยวลงไปจนสุดแรง มานะไม่ได้ผลักให้อีกคนหยุดการะกระทำ เขายังคงลูบแผ่นหลังนั้นไว้ ยังคงกอดดลเอาไว้ไม่ปล่อย

"อึก...ฮึก.." //ไม่เป็นไรนะคุณดล ไม่เป็นไรนะ// 

ปัง !!!

"ไอ้ดล!! มานะ!! ชิบหายแล้ว หวีตามหมอมาเร็ว!"



.............................................................................................

ถ้าเขียนให้พระเอกเป็นผีบ้าแบบนี้ยังจะอ่านกันอยู่ไหมคะ 5555555 ปาดน้ำตา รุนแรงเหลือเกิ้นน พ่อคุณ

คำนิยามบ่งบอกถึงตัวตนของคุณดล - คือ เป็นบ้า แล้วปากหมาค่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 05 up 12/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 12-11-2020 15:06:34
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 05 up 12/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 12-11-2020 16:15:13
เออเว้ย!พระเอกไอ้คุณชายดลแม่งบ้าจริง 5555 มานะตัวเล็กเป็นไบ้แต่ใจสู้มาก กลัวก็กลัวอยู่อะนะแต่ก็ยังอยากช่วย น่ารักอ่ะ จิตใจดี คนแบบนี้นี่แหละไอ้คุณชายดลต้องสยบ แต่กว่าจะถึงวันนั้นคือมานะต้องน่วมก่อน 55555555 ความแค้นสุมอกรอวันปะทุ :z6: สนุกๆจ้า อ่านเพลินๆ :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 05 up 12/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 12-11-2020 19:51:28
sm ต้องมาแหละ แบบนี้
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 06 up 15/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 15-11-2020 00:23:47
ภายห้องนอนที่เต็มไปด้วยกลิ่นยาฆ่าเชื้อและเสียงคนเดินไปมา ปลุกให้มานะตื่นขึ้นมารับรู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นเรื่องจริงไม่ใช่ฝัน ดวงตากลมมองร่างกายตัวเองที่ฟกช้ำจากการถูกทำร้าย มองไปรอบๆตัวที่ตอนนี้มีทั้งคุณหัวหน้าพ่อบ้าน และบินกำลังทำความสะอาดแผลให้กับคนที่นอนอยู่ข้างกัน แค่เห็นหน้าของดล มานะก็ผวาและร้องไห้ออกมา ร่างกายขยับลงจากเตียงโดยสัญชาตญาณทันที มินที่อยู่ใกล้สุดจึงรวบตัวมานะไว้ได้ทัน

"ชูววว...  ใจเย็นนะ มานะ ใจเย็นไอ้ดลมันมีสติดีแล้ว มันไม่ทำอะไรเราหรอก" ถึงจะมีสติดีแต่เขาก็กลัวอยู่ดี น้ำตาของมานะไหลออกมาไม่หยุด ไม่รู้ว่าต้องจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงดี ใช่เขาสงสารดล แต่ก็กลัวดลด้วย ไม่กล้าแม้แต่จะอยู่ใกล้ๆด้วยซ้ำ

"มันเป็นอะไร ของมัน"ดลที่ทนฟังเสียงสะอื้นมานานก็เอ่ยถาม คำถามที่เหมือนค้อนปอนด์ทุบใส่หัวของมานะ ร่างโปร่งหันไปหาคนตรงหน้าด้วยแววตาที่ไม่อยากจะเชื่อ ถามมาได้ว่าเป็นอะไร เมื่อคืนคุณทำอะไรไว้ละ! แม้อยากจะตะโกนถาม อยากจะว่าใส่สารพัดแต่ก็ทำไม่ได้ เขาเป็นใบ้ พูดออกไปก็ไม่ได้ยินอยู่ดี มือเล็กกำหมัดแน่น ก่อนจะพุ่วตัวไปหาคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ฝ่ามือเล็กตวัดลงกับใบหน้าหล่อนั่นทันที โดยที่ไม่มีใครคาดคิดว่ามานะ จะกล้าตบหน้าดลแบบนั้น

"ฮึก...คนเลว"ทุกคนอ่านปากมานะออก ดลอึ้ง ทุกคนอึ้ง กว่าสติจะกลับมามานะก็วิ่งออกจากห้องไปแล้ว

"กูทำอะไร มินกูทำอะไรมานะ!" พอโดนตบ เขาก็พอจะรู้ว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นสักอย่างระหว่างเขากับมานะแน่ๆ

"มึงจะฆ่ามานะ"คำตอบของมินทำให้ดลหายใจหอบ เขาจะฆ่าไอ้ตัวเล็กอย่างนั้นเหรอ ดลจำเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้ด้วยซ้ำ และมันก็เป็นแบบนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาไม่มีความทรงจำในค่ำคืนที่เขาอาละวาดเลยสักครั้ง ตื่นมาอีกที คนข้างกายเขาก็ทยอยหายไปทีละคน ๆ เปลี่ยนบัทเลอร์คนไหมราวกับกระดาษทิชชู โดยมีมินคอยจัดการเรื่องยุ่ง ๆ ให้ โดยการปิดปากพวกนั้นด้วยเงินและสัญญาที่ร่างขึ้นมา ถ้าพวกเขาผิดสัญญาเงินที่ให้ไปจะต้องคืนพร้อมกันทั้งต้นทั้งดอก และ เขาสามารถเอาผิดกับคนที่ผิดสัญญาได้ตลอด ดังนั้นที่ผ่านมาจึงไม่มีใครกล้าที่จะเผยแพร่เรื่องราวอันโหดร้ายของดลออกไป  

"กูทำแบบนั้นกับมานะเหรอ"

"อืม"

ดลมีสีหน้าที่สลดลง เขาก้มมือทั้งสองข้างของตัวที่กำตอนนี้มันกำลังสั่น เขามองแล้วรู้สึกผิดกับมานะ และยิ่งเห็นแววตาหวาดกลัวของมานะด้วยแล้วยิ่งทำให้เขามีอารมณ์ที่ดิ่งลง มือหนาค่อยๆกำแน่น จนเส้นเลือดปูดโปน ดลกำลังจมอยู่กับความที่ดำมืดจนกระทั่งเขาได้รับสัมผัสตรงมือที่กำลังกำแน่นนั้น

"มึงแค่ไปขอโทษน้อง มันไม่ใช่ความผิดมึง"คำปลอบโยนของมินทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมา

"กูจะมีหน้าไปขอโทษน้องมันได้ยังไง กูทำน้องเจ็บขนาดนั้น"

"งั้นมึงดูนี่" มินส่งคลิปที่ดลกำลังทำร้ายมานะให้ดู ในตอนสุดท้าย สายตาของมานะไม่ได้หวาดกลัวเขาแต่กำลังร้องไห้กับสิ่งที่เขาเป็น มานะกอดเขาด้วยกำลังทั้งหมดที่มี ภาพที่ตัวเองชะงักค้างและยอมรับสัมผัสแบบนั้น มันกำลังทำให้เขาสับสน ไม่เคยมีใครทำให้เขาสงบลงได้หมือนกับมานะ

"น้องทำได้"

"เป็นไปไม่ได้"ดลยังคงไม่เชื่อสายตาตัวเอง

"เป็นไปแล้ว บางทีน้องอาจเป็นทางรอดเดียวของมังก็ได้นะดล"

"แต่ กู ไม่เข้าใจ.."

"เรื่องบางเรื่องเราไม่จำเป็นต้องเข้าใจอะไรมันมากก็ได้นะมึง"มินทิ้งประโยคไว้ให้ดลได้คิด ร่างสูงของมินเดินออกจากห้องไป ทิ้งเอาไว้เพียงคนที่กำลังคิดไม่ตกในหัวสมอง

เย็นวันนั้นมานะไม่ออกจากห้องเลย ใครไปตามก็ไม่ยอมเปิดหรือ ออกมาคุยเลย มานะเก็บตัวอยู่ในห้องจมอยู่กับความคิดที่ตนเองหวาดกลัว ใครมันจะไปลืมได้ลง ภาพของปีศาจร้ายยังติดตาเขาอยู่เลย ดลเองก็รู้สึกผิดจนไม่กล้าที่จะสู้หน้ามานะได้ในตอนนี้ และดลเองก็ไม่ได้เรียกใช้คนใบ้อีกจนเวลาผ่านไปสามวัน มานะที่ทำงานอยู่แต่ภายในสวน เด็กหนุ่มแย่งงานคนสวนทำแทบจะทุกอย่าง แถมยังโดนสั่งห้ามไม่ให้เข้าไปใกล้โดมแก้ว หรือไปยุ่งอะไรแถวๆนั้น มันเป็นเขตต้องห้ามที่ดลหวงมาก ก่อนที่เท้าจะก้าวออกไปอีกก้าว ก็มีเสียงหนึ่งที่ทำให้มานะต้องหยุดชะงักและหัวใจเต้นแรงด้วยความหวาดกลัว ในโดมแก้วมีใครบางคนนั่งอยู่ตรงม้านั้งไม้สีขาว เงาตะคุ้มๆที่มานะเห็นแล้วก็รู้เลยว่าใคร

"อย่าเข้ามาในนี้"น้ำเสียงแหบๆเอ่ยออกมา ดลเห็นมานะก้มหน้าเดินมาแต่ไกล เขาจ้องมองคนตัวเล็กผ่านกระจกใส โดยที่อีกคนไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เพราะในโดมแก้วมัยมืดและเขาเองก็นั่งนิ่งๆคิดอะไรมาสักพักแล้ว พอมานะได้ยินแบบนั้นก็จะหันหลังกลับ

"เดี๋ยว อย่าพึ่งไป"ดลรั้งเขาไว้ แต่ขาเล็กกลับไม่ยอมหยุดเดิน ดลรีบเดินออกมา

"ขอโทษนะ"เขาได้แต่พูดออกไปไม่รู็ด้วยซ้ำว่าคนไบ้จะได้ยินไหม ดลได้แต่มองไหล่เล็กที่ลู่ลงเดินห่างออกไป

แน่นอนว่ามนะได้ยิน เขาเป็นใบ้แต่หูเขาดี เขาได้ยินสิ่งที่ดลพูดออกมา แม้ในใจจะยังไม่หายโกรธและหวาดกลัว แต่มันก็บรรเทาความขุ่นเคืองลงไปได้ไม่มากก็น้อย มานะเดินมาจนถึงห้องพักของตนเอง ดลแอบเดินมาส่งเงียบๆจนกระทั่งมานะเข้าไป เขาถึงได้เดินกลับไปที่บ้านหลังใหญ่

เช้า

มานะไม่ได้มาทำงานกับเขาอีกตามเคย ซึ่งดลก็ไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ เขาทนรอได้ความจริงมานะจะลาออกก็ได้แต่มานะไม่ได้ทำ เขาเองก็ไม่รู้เหตุผลที่แน่ชัด เพราะถ้าออกตอนนี้มินก็จัดการให้เงินมานะพอที่จะตั้งตัวได้อยู่ดี แต่มานะเลือกที่จะอยู่กับเขา ดลแต่งตัวด้วยชุดสูทสีเข้มเข้ากับรูปร่างสมส่วนดูเป็นทางการมากกว่าที่เคย ข้างกายมีมินที่แต่งตัวแบบเดียวกันแต่คนละสี มินใส่สูทสีเทา พวกเขาเดินออกมาพร้อมกับบอดีการ์ดอีกสามคนหนึ่งในนนั้นมีบินด้วย มานะกำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่เลยอดที่จะหันไปมองไม่ได้ ซึ่งดลก็หันมาเห็นมานะพอดี ทั้งคู่สบตากันเพียงแค่เสี้ยววิ ต่างคนต่างใจเต้นผิดปรกติมานะรีบก้มตัวหลบ ดลก็แกล้งกระแอมเบาๆ ไม่รู้ว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้เวลาเจอหน้ากัน ดลเองก็รู้สึกคันยิบๆในใจอย่างหาสาเหตุไม่ได้ พอก้าวขึ้นรถได้ มานะถึงได้โผล่หัวออกมาดูอีกครั้ง ร่างบางมองตามรถคันหรูออกไป ดลเองก็มองมานะอยู่เช่นกัน มินมองดูเพื่อนของตัวเองเเล้วส่ายหน้าช้าๆ

สนใจเค้าขึ้นมาแล้วละสิ



"เออมึง แวะห้าง xxx ก่อนได้รึเปล่าวะ"มินเอ่ยถามเพื่อนที่พ่วงตำแหน่งเจ้านายเอาไว้ ดลเงยหน้าจากจอไอแพดแล้วมองมินด้วยความสงสัย

"มึงหิว?"

"เปล่า กูจะไปซื้อของ"มินตอบกลับมา

"แล้วแต่มึง จะแวะก็แวะ"ดลตอบแล้วก้มหน้าดูตารางหุ้นต่อ

"กรมึงแวะห้างให้กูที กูจะซื้อโทรศัพท์ให้น้องมานะ"แค่ได้ยินชื่ของมานะ ดลก็หูผึ่งทำเป็นไม่สนใจ

"เออ กูก็ว่าจะซื้อให้น้องมันอยู่เวลาคุยกันจะได้ไม่ต้องเขียนใส่กระดาษมีอะไรจะได้ติดต่อได้ทันที"กรก็มีความคิดแบบมินเช่นกันทั่งคู่เลยตกลงจะซื้อให้น้องคนละเครื่องเครื่องหนึ่งเอาไว้ให้มานะใช้สักเครื่องจะส่งไปให้น้องชายของมานะอีกที ดลฟังอยู๋เงียบๆไม่ได้ออกความคิดเห็นอะไร พอถึงห้างทั้งสามก็ลงไปซื้อของดลทำทีเป็นเลือกดูแมคบุครุ่นใหม่ แต่ตาเหลือบมองเพื่อนทั้งสองที่เถียงกันเรื่องยี่ห้อและรุ่นของโทรศัพท์ที่จะซื้อ ดลเลยพูดแทรกขึ้นมาว่า

"เอาแบบผม หนึ่งเครื่อง อีกเครื่องเอารุ่นนั้น"พร้อมกับยื่นมือถือของตัวเองให้พนักงานดู แล้วชี้ไปยังอีกรุ่นที่ถูกลงกว่า เพราะจะเอาไปให้เด็กใช้เขากลัวว่าเด็กๆจะทำหายหรือโดนขโมยไปเสียก่อน ดลยื่นบัตแบล็กกร์าดให้พนักงานก่อนที่มินจะจัดการเสียอีก มินกับกรอ้างปากค้างนิดๆ ก่อนจะส่งสายตาแบบจับผิดไปให้

"อะไร? ก็กูเห็นพวกมึงเถียงกันไม่เลิก กูรำคาญ"เสียงเข้มเอ่ยก่อนที่ทั้งคู่จะถามออกมาเสียอีก



ร้อนตัวนะไอ้ห่า คิดมานานแล้วดิว่าจะเอารุ่นไหน โด่ววว กรมองเพื่อนตัวเองแล้วพูดในใจ



พอได้ของที่ต้องการก็พากันออกจากร้าน แต่ขณะที่เดินผ่านร้านขนมเจ้าดังขาของดลก็ชะงัก ก่อนจะหันหน้าแล้วเดินเข้าร้านไป มินกับกรเห็นก็เดินเข้าไปในร้านด้วย ดลเดินไปสั่งขนมในตู้กลับบ้านสองสามกล่อง ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นทร์าตผลไม้ของโปรดของมานะบรรจุอยู่ในนั้นเต็มกล่อง ส่วนที่เหลือก็คละ ๆ กันไป

เมื่อถึงบ้านมินก็เรียกให้แม่บ้านมารับของแล้วเรียกมานะให้เขาด้วย ดลเดินไปนั่งที่โซฟารับแขกแต่มือก็ไม่ยอมวางถุงใส่โทรศัพท์กับขนมที่ตนเองซื้อมา จนกระทั่งมานะเดินเข้ามาเขาก็รีบวางของลงบนโตีะกระจกตรงหน้าแล้วหยิบเอาไอแพดขึ้นมาดู มินเห็นอาการของเพื่อนรักก็กลอกตามองบน อยากคุยกับเค้า อยากให้ของทำไมต้องเก๊ก?

"มานะ พี่มีของจะให้"มานะเดินเข้ามาพอเห็นดลก็ชะงักไม่กล้าเข้ามาใกล้สักเท่าไหร่ 

"มานั่งนี่"มินชี้ไปที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับเขาและดล มานะนั่งลงอย่ากล้า ๆ กลัว ๆ จนมินรู้สึกเอ็นดู

"นั่งเถอะ ดลไม่มันทำอะไรเราหรอก อะนี่ โทรศัพท์"มือหนายื่นถุงใส่โทรศัพท์ให้มานะ มานะทำตาลุกวาว ก่อนจะสลดลง แล้วโบกมือไม่เอา

"ทำไม?"ไม่ใช่มินที่เอ่ยถาม แต่เป็นดล น้ำเสียงที่ดูเหมือนจะหงุดหงิดนิดๆทำเอามานะหน้าเสีย ร่างบางหยิบสมุดจดออกมาแล้วเขียนลงไปว่า

"มันแพงมากผมไม่มีปัญญาจ่ายหรอกครับ" พ่ออ่านจบดลก็ถอนหายใจแรง

"กูซื้อให้ฟรี เอาไปเถอะ น้องมึงก็ได้"พอได้ฟังมานะยิ่งทำตาโตมากขึ้นไปอีก

"ไม่ได้นะครับ น้องผมยังเด็กผมกลัวน้องทำหาย"มานะรีบเขียนแล้วยื่นให้อีกคนอ่าน

"มันไม่ได้แพงเท่าของมึง รับ ๆ ไป มึงไม่อยากคุยกับน้องรึไง"ดลเห็นท่าแล้วว่ามานะต้องไม่เอาแน่ๆเชาเลยอ้างเรื่องน้องขึ้นมา และมันก็ได้ผล มานะชะงักไปนิด

"ถ้ามึงยังลังเล ไม่อยากได้กูก็จะเอาไปทิ้งซะ" ทั้งมินและมานะหันมามองดลเป็นตาเดียว มานะโบกมือไปมาว่าห้ามทิ้ง ส่วนมินพอเห็นรอยยิ้มมุมปากก็ถึงบางอ้อทันที

ร้ายนักนะมึง

"กูให้เวลามึงคิด จนถึงเที่ยงคืน ถ้ามึงอยากได้ก็ขึ้นมาเอาที่ห้องกู ถ้าเลยเที่ยงคืนกูจะทิ้งมันลงสระ" สิ้นคำดลก็ลุกขึ้นยืนแล้วหยิบเอาถุงที่ใส่โทรศัพท์เดินขึ้นห้องไป ทิ้งไว้เพียงกล่องทร์าตผลไม้เอาไว้

"เห้อ มานะเอ้ยย รีบตัดสินใจละไอ้ดลมันพูดคำไหนคำนั้น แล้วนี่ ขนมมันซื้อมาให้"พูดจบมินก็เดินออกไปเช่นกันทิ้งให้มานะนั่งงง อยู่ตรงนั้น 

อะไรของเค้าวะ?



23.54น.

เอาก็เอาวะ! เพื่อน้อง



ก็อก ๆ ๆ 



"หึหึ :) "




ู็
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 06 up 15/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 15-11-2020 01:17:51
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 06 up 15/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 15-11-2020 02:29:09
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 06 up 15/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 15-11-2020 08:59:40
 :o8: :-[
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 07 up 16/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 15-11-2020 23:56:51
ตอนที่ 7



ก๊อก ๆ ๆ ๆ เสียงเคาะประตูไม้บานใหญ่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน ณ เวลา ห้าทุ่มห้าสิบหกนาที ร่างหนานอนนิ่งอยู่บนที่นอนกว้างในชุดนอนสีน้ำเงินเข้มที่ทำจากผ้าเนื้อดีราคาแพง 

หึหึ :)  ดลยกยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู เขาขยับตัวเล็กน้อย ดวงตาคู่คมก็จ้องเขม็งไปยังประตูห้องนอน ข้างกายมีถุงกระดาษบรรจุโทรศัพท์ราคาแพงเอาไว้

"เข้ามา"น้ำเสียงของดลดูราบเรียบแต่กลับฟังดูแล้วมีคงามอ่อนนุ่มในนั้น สองมือหนายกขึ้นมาประสานไว้ตรงหน้าตัก รอคอยให้คนใบ้ ก้าวเข้าเข้ามา

ร่างโปร่งบางของบัทเลอหนุ่มน้อยก้าวเข้ามาด้วยท่าทีกล้า ๆ กลัว ๆ ดวงตากลมคล้ายตากวางกำลังมองมาที่เจ้าของบ้าน ด้วยความไม่ไว้ใจ 

"เข้ามาสิ"ดลเอ่ยแล้วขยับตัวลุกขึ้นนั่งตรงขอบเตียง มานะก้าวเข้าไปใกล้แต่ก็ไม่ได้ใกล้ชิดยังเว้นระยะห่างเอาไว้เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ดลมองคนตัวเล็กแล้วแอบขำในใจกับท่าทีหวาดกลัวที่มีให้ แต่เขายังทำเป็นตีหน้าขรึม มือข้างหนึ่งยื่นถุงใส่โทรศัพท์ให้มานะ

"เอาไปสิ"มานะยื่นมือไปรับ แต่ยังไม่ทันที่มือน้อยๆจะได้แตะ ดลก็ชักมือกลับก่อน มานะทำหน้างง 

"เอาไปแล้วใช้เป็นเหรอ"น้ำเสียงเรียบๆแต่สะดุดใจคนฟัง มานะก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วเม้มริมฝีปากนิดๆ 

ใครมันจะใช้เป็นละ! ไม่ได้รวยล้นฟ้าแบบคุณนี่

"หึหึ มาเดี๋ยวสอน"คำพูดสั้นๆที่ทำให้มานะต้องเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความประหลาดใจ 

"งง อะไรก็ว่าจะสอนไง"

รู้แล้วว่าจะสอน แต่คุณคิดอะไรของคุณอยู่ครับ ไอ้คุณชาย

"มานั่งนี่"มือหนาตบลงที่พื้นที่ว่างข้างตัว แต่คนใบ้ก็ไม่กล้าที่จะขยับตัวเข้าไปหา ก่อนจะหยิบสมุดพกออกมาเขียนในสิ่งที่ตนเองคิดออกไป

"ผมศึกษาเอาจากคู่มือก็ได้ครับ"

"มันเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดเลยนะ"ดลเอียงคอเล็กน้อยและสังเกตอาการของคนตรงหน้าไปด้วย เขากำลังต้อนให้มานะจำยอม

"อึก.."คนใบ้ไม่เก่งอังกฤษ

"กูสอนจะง่ายกว่า อย่าดื้อ"เขาเอื้อมมือไปดึงข้อมือเล็กนั่นให้มานั่งข้างๆ มานะตกใจและเกร็งตัวเมื่อตนเองต้องมานั่งข้างกายคนที่เคยทำร้ายตนเอง

"ไม่ต้องเกร็ง"ดลเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลง

ไม่ได้เกร็งครับแต่กูกลัววววว

"ขยับเข้ามาอีก"ดลดึงให้มานะขยับเข้ามาใกล้แต่มานะส่ายหน้าปฏิเสธ

แค่ตรงนี้ก็พอม้างงงง ไอ้คุณชาย 

มานะยังไม่ขยับ ดลถอนหายใจเสียงดังแล้วกลอกตาเหมือนจะรำคาญเขาไม่ได้บังคับให้มานะมานั่งใกล้ๆอีก แตาเอาตัวเองไปนั่งตรงนั้นแทน ดลขยับตัวเองไปด้านหลังมานะแล้วนั่งคล่อมอีกคนเอาไว้ กลายเป็นว่าตอนนี้มานะนั่งอยู่ตรงระหว่างขาของดลโดยที่ดลนั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง 

เอาเป็นว่าตอนนี้กูเกร็งจนฉี่จะราดแล้วครับ

"เริ่มจากเปิดเครื่อง"แล้วดลก็สอนการใช้งานฟังชั่นต่างๆของโทรศัพท์ให้กับคนในอ้อมแขน มานะพยายามทำตัวให้ลีบแบนที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่านไหร่ ลมหายใจอุ่นๆก็ขยับเข้ามาใกล้ต้นคอเขามากขึ้นเรื่อยๆ อยาากจะพูดให้อีกคนถอยห่างก็ทำไม่ได้เพราะเขาเป็นใบ้  ซึ่งบางครั้งสิ่งที่ดลสอนมันก็ไม่เข้าหัวเขาเลยสักนิด เพราะมัวแต่กลัวอีกคนจนสมองมันไม่ทำงาน ยิ่งดลทำตัวใกล้ชิดกับเขามากเกินไปแบบนี้ด้วยแล้ว ใจเขามันก็สั่นจนแทบจะเป็นลม

"ต่อไปก็สมัคไลน์ เฟส ไอจี เดี๋ยวกูสมัคให้เลยแล้วกัน"



กว่าจะได้กลับมาก็เล่นเอาแทบคอพับด้วยความง่วง ตีสามเขาถึงได้กลับมานอน ปวดตัวปวดเอวไปหมดเพราะมัวเเต่เกร็ง พอล้มตัวนอนยังไม่ทันได้หลับตาก็มีเสียงดังติ้งมาจากมือถือเครื่องใหม่ มานะสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดู

ND: นอนรึยัง?

มานะ: ยังครับ

ND: นอนได้แล้ว พรุ่งนี้มึงต้องมาล้างห้องน้ำ

มานะ : ครับ

ND: แปดโมงต้องโผล่หน้ามาให้เห็น

มานะ: รู้แล้วครับ

แล้วบทสนทนาระหว่างเขากับเจ้านายโรคจิตก็จบลง มานะปิดเปลือกตาลงและเข้าสู่ห้วงนิทราทันที

ผิดกับอีกคนที่เอาแต่นอนลืมตามองเพดาน เพราะกลิ่นหอมอ่อนๆยังคงติดอยู่ที่จมูก 

"มันใช้น้ำหอมด้วยเหรอวะ?"





มานะตื่นสาย! กว่าจะรู้สึกตัวก็ตอนที่ดลโทรผ่านแอปสีเขียวมาตาม

"จะเก้าโมงแล้วทำไมกุยังไม่เห็นหัวมึงห๊ะ!" น้ำเสียงติดตะคอกเล็กน้อยเพราะเจ้าของเสียงเอาแต่นั่งรอคนที่รับปากดิบดีว่าจะมาให้เห็นหน้าตั้งแต่แปดโมงแต่ก็ยังไม่มา มานะไม่ได้ตอบกลับ แต่กดวางสายแล้วรีบไปอาบน้ำแต่ตัว ก่อนจะวิ่งหน้าตั้งไปหาคุณชายผีบ้าที่ตนเองแอบตั้งฉายาให้

มาถึงก็เจอกับดลที่นังปั้นหน้ายักษ์ใส่เขาตรงหน้าคือกองเอกสารมากมายที่เขาต้องจัดการให้หมดภายในวันนี้ มานะยืนตัวลีบอยู่ตรงหน้าไม่กล้าขยับไปไหน ดวงตากลมกวาดมองไปรอบ ๆ อย่างหาที่วางสายตาไม่ได้

"มาช่วยจัดเอกสาร เรียงตามวันที่แล้วไปมาวางไว้ตรงนั้น"

"อื้อ" หลังจากที่ได้รับคำสั่งคนใบ้ก็รีบไปนั่งข้างๆโต๊ะทำงานของดลแล้วจัดการเรียงเอกสารตรงหน้าทันที จากที่อ่านผ่านๆตา มันคือเอกสารแสดงรายรับรายจ่ายของแต่ละไตรมาสที่ผ่านเป็นเวลาสามปี มานะใช้เวลาไม่นานก็จัดเรียงได้เรียบร้อยแล้ววางไว้ตรงที่ดลบอก ดลไม่ได้คุยอะไรกับเขาเพราะมัวแต่จดจ่อกับการอ่านเอกสารพวกนั้น พอเห็นว่าไม่มีอะไรทำแล้วมานะก็ลุกและทำท่าจะออกไปจากห้อง

"จะไปไหน? ขอกาแฟแก้วสิ"

"อื้อ" รับคำสั่งเสร็จก็เดินออกไปชงกาแฟ ระหว่างนั้นเขาก็เจอเข้ากับมินและกร ทั้งคู่เอ่ยถามเรื่องโทรศัพท์ มานะเลยหยิบออกมาให้ดู มินรับโทรศัพท์จากมานะไปทำการแอดไลน์และแอฟพลิเคชั่นต่างที่จะติดตามกันได้ในโลกโชว์เชียล กรเองก็ด้วย 

"เออ ว่าแต่ใครทำให้เหรอมานะ"กรเอ่ยคำถามที่มันทำให้เขาคันยุบยิบในใจออกมา

"มึงก็ไม่น่าถามเนอะ ไอ้คุณดลไงครับเพื่อน"มินพูดออกมาด้วยความหมั่นไส้

"มันเนี้ยะอะนะจะสอนน้อง"กรไม่เชื่อในสิ่งที่ตนเองได้ยิน

"เออ กูเห็นกับตา"

"มันคิดอะไรของมัน"

"หลงเสน่ห์น้องใบ้กูละมั้ง"มินว่าโดยที่เขาลืมไปเลยว่ามานะยังยืนอยู่ตรงนี้ คนใบ้พอได้ยินก็รีบโบกไม้โบกมือว่าไม่ใช่

"พี่เห็นกับตาว่ามันมองเรายังไงมานะ อย่าอยู่ใกล้มันมากมันนะตัวอันตราย"มินเอ่ยเตือนอย่างไม่จริงจังนักเพราะเขารู้นิสัยเพื่อนรักตัวเองดี ถ้าไม่สนใจเเล้วละก็แค่ไรขนก็หวังว่าจะได้แตะ แต่นี่อะไรเอาตัวเองไปแนบชิดกับเขาซะขนาดนั้น

ติ้ง ติ้ง

"ของใคร?"มินเป็นคนถามพร้อมกับมองโทรศัพท์ของตัวเอง

"ไม่ใช่ของกูอะ"กรตอบกลับมาแทบจะทันที ดังนั้นทั้งคู่จึงหันไปหามานะ

"อ่า อ่า"มานะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาดู และด้วยความใส่ใจของคนที่อายุมากกว่าก็ชะโงกไปดูหน้าจอของมานะทันที

ND:มึงไปชงกาแฟที่ขั้วโลกเหนือเหรอ ช้าสัส

แค่อ่านก็รับรู้ได้ถึงอารมณ์เกรี้ยวกราดของอีกฝ่ายได้ทันที มินกับกรมองหน้ากันแล้วแอบทำจมูกบาน

มานะ:คุยกับพี่มินกับพี่กรอยู่ครับ

ND: ให้ไว

มานะ: ครับ

"จะไปชงกาแฟให้ไอ้ดลมันเหรอมานะ โทษทีคุยเพลินไปหน่อย เราไปเถอะเดี๋ยวไอ้คุณชายมันจะทรงพระกริ้วเอา มานะผงกหัวรับแล้วก็รีบเดินไปชงกาแฟให้ดลที่ห้องครัวด้านล่างทัน

แน่นอนว่ากลุ่มแชทที่ห่างหายกันไปนานเริ่มมีบทสนทนาเข้ามาอีกครั้ง


คุณพ่อบ้านมินได้เปลี่ยนชื่อกลุ่ม เป็น เรื่องนี้มันต้องขยาย (7)



kronkrub: พวกมึง!

bee:เปิดหัวมาแบบนี้ไม่พ้นเรื่องไอ้ดลแน่นอน

คุณพ่อบ้านมิน:แสนรู้นัก

นุ้งหวีผู้ผดุงความยุติธรรม:มีอะไรคะพี่กร

bin:เร็วไอ้สัส กูมีการมีงานต้องทำ

kronkrub:ใจเย็นสิโว้ย ไอ้คุณพ่อบ้านมึงเล่า

เจต:ไอ้ดลทำเหี้ยไรอีก แล้วชื่อกลุ่มคืออะไร

zax:เร็วโว้ย งานกูเยอะ เสียเวลากู

พ่อบ้านมิน:เสียเวลาก็ไม่ต้องอ่าน จะไปไหนก็ไป!

zax:ไม่ กูจะเสือกเรื่องของเพื่อน!

นุ้งหวีผู้ผดุงความยุติธรรม: วันนี้จะได้รู้ไหมขัดกันเก่งละเกิน ลำไย! ไปหามานะดีกว่า

เจต:น้องมานะของพรี่!

kronkrub:เบาได้เบาพ่อตำรวจ

เจต:?

bin:วันนี้กูจะรู้เรื่องไหม? ใครขัดอีกกูจะไปเตะปากเรียงตัวเลยไอ้เเม่เยก!!!

พ่อบ้านมิน:ไอ้ดลกับน้องใบ้ กูว่ามันต้องมีเงี่ยนงำ

นุ้งหวีผู้ผดุงความยุติธรรม:เงื่อน!! อามิน!! เงื่อน!!!

เจต:มันทำอะไรน้องใบ้ของกู!

kronkrub:แตะเบรกหน่อยพ่อจ๋า เดี๊ยวเจ้าของตัวจริงเค้ามาแล้วจะหน้าทิ่มเอา

bee:มันทำไมวะ หรือมันแกล้งอะไรน้องอีก

พ่อบบ้านมิน:ยิ่งกว่าแกล้ง

พ่อบ้านมินส่งไฟล์วีดีโอ



บอกได้คำเดียวว่าแชทแตกครับงานนนี้

เมื่อได้กาแฟของดลมานะก็รีบเดินเอาไปให้ พอมาถึงก็เจอสีหน้าตึงๆของคุณเจ้าของบ้านมานะอยากจะกลอกตาบนใส่ เพราะแค่ก้าวเข้ามาเขาก็เจอกับคำแขวะใส่

"ห้องชงกาแฟบ้านกูมันอยู่ที่ทิเบตรึไงถึงได้ช้านัก"

"...."

"ใช้ไปชงกาแฟแต่เอาเวลาไปคุยกับพวกนั้นว่างมากรึไง"

"...."

"ถ้าว่างมากก็มาช่วยกูทำงาน"

"อื้อ"

พอเห็นว่าคนใบ้อยู่ใกล้หูใกล้ตาอารมณ์แปรปรวนดังคลื่นลมแรงก็ค่อยๆสงบลงอย่างน่าประหลาดใจ พอมอบหมายงานให้ก็ต่างคนต่างทำงานกับเงียบๆโดยไม่มีบทสนทนาใดๆเกิดขึ้น แน่ละอีกคนเป็นใบ้อีกคนบ้างาน กว่าจะรู้ตัวก็เลยมื้อเที่ยงมาไกลแล้ว 

โคร๊กกกกกกกกก

"เสียงไรวะ"

"อ่า"เสียงท้องร้องกูเองครับไอ้คุณชาย มึงใช้งานกู จนกูไม่ได้กินข้าวนี่ไง!!

โครกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

"อ่อ เสียงพยาธิในท้องมึงนี่เอง"ดลยกนาฬิกาข้อมมือขึ้นมามองเวลาแล้วแสยะยิ้มให้ 

"ลงไปกินข้าวไป กินเสร็จแล้วก็ยกของกูขึ้นมาให้ด้วย"

"อื้อ"

"ภายในห้านาที :J "เพราะเจ้านายตัวร้ายมันเว้นช่วงในการเอ่ยคำพูดออกมาทำให้มานะฟังไม่ทันจบก็เลยรับปาก ดลแสยะยิ้มร้ายออกมา มาได้แต่เบิกตากว้างแล้วกรีดร้องคำว่า อ้อห้อวววว ในใจ

ไอ้คุณชายผีบ้า! ห้านาทีแค่เดินลงไปหาข้าวกินก็หมดเวลาแล้ว! คนใบ้หันไปมองค้อนก่อนจะเดินปึงปังออกไป ร่างสูงโปร่งเดินไปที่ห้องครัว แน่นอนว่ามีมื้อเที่ยงทั้งของเขาและของดลรอไว้อยู่เเล้ว ในเมื่อไม่มีเวลากินที่ด้านล่างทางเดียวเท่านั้นที่จะทำได้คือไปกินกับดลที่ด้านบนแทน มื้อกลางวันของดลเป็นไก่ผัดขิงกับไข่ดาว ส่วนของมานะนั้นเป็นข้าวหน้าไก่กินกับขิงดอง มีของหวานเป็นลูกตาลลอยแก้ว พอได้อาหารครบก็รีบยกขึ้นไปด้านบน

"เลยไปยี่สิบวิ"ดลนั่งเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วใช้นิ้วเคาะที่นาฬิกาเรือนหรูด้วยใบหน้านกวนๆ มานะกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย เขาหยิบเอาอาหารในส่วนของดลไปวางไว้ที่โต๊ะส่วนตัวเองนั่งกินที่พื้น ขณะที่นั่งกินกันเงียบๆดลสังเกตว่ามานะมีของหวานแต่เขากลับไม่มี ร่างสูงกระตุกยิ้มนิดๆเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง

"ขนมนั้น"เพียงเอ่ยออกมามานะก็หลี่ตามองคนเป็นนายทันที ปากบางขยับมุบมิบ ก่นด่าตัวเองว่าทำไมซื้อหวยไม่ถูก ไอ้คุณชายมันเล่นเขาแล้ว

"เอามาให้กู"เรียกร้องเอาสิ่งที่ตนเองไม่ชอบมาจากอีกคนด้วยความสนุกเหมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย ดลส่งสายตาบังคับให้มานะยกถ้วยขนมไปให้ มานะต้องสูดลมหายใจเข้าอย่างสุดกำลังและระงับความหงุดหงิดเอาไว้ในใจ พร้อมกับปั้นหน้ายิ้มเหมือนเต็มใจที่จะยกขนมถ้วยสุดท้ายให้กับคนตรงหน้า พอวางก็ยกมือเชื้อเชิญให้อีกคนตักกินอย่างสบายใจ แต่ผิดคาด ดลไม่ได้แตะมัน เขาทำเพียงตั้งมันไว้ต่อหน้ามานะ

ติ้ง

มานะ:คุณดลไม่ทานขนมหรอครับ?  ข้อความถูกส่งออกไปหาคนที่นั่งแสยะยิ้มร้าย ดลหยิบมือถือขึ้นมาดู

"ไม่ กูไม่ชอบของหวาน"ร่างสูงยักคิ้วใส่

มานะ:แล้วคุณดลแย่งขนมผมไปทำไมครับ!

แค่ใส่อรรศเจรีย์มาก็รับรู็ได้ถึงความเกรี้ยวกราดในอารมณ์ของผู้ส่ง ดลเงยหน้าขึ้นมามองคนที่นั่งหน้าบูดอยู่ที่พื้น แล้วหัวเราะขำ เขาไม่ตอบก่อนจะก้มหน้า กินมื้อกลางวันต่อ

มานะ:ถ้าไม่กิน ผมขอคืน!

"ไม่ให้ อยากกินก็ไปตักเอาใหม่สิ"

มานะ: มันหมดแล้วครับ ถ้วยนั้นเป็นถ้วยสุดท้าย

"อ่า ถ้าอย่างนั้นก็เสียใจด้วยนะ"ดลยกยิ้มอย่างผู้มีชัย มานะนั่งก้มหน้ากำหมัดแน่น 

สักหมัดไหมครับคุณดล? มานะพิมภ์ข้อความลงไปแต่ก็ลบทิ้ง

มานะ: คุณมันคนใจร้าย!

"แล้วกูบอกมึงเหรอว่ากูเป็นคนใจดี ก็ไม่นะ"

กวนตีน แล้วเขาก็ลบข้อความทิ้งอีกรอบ

มานะ: ผมอยากกินลูกตาลลอยแก้ว

"ทำยังไงดีละ"ดลเอ่ยด้วยน้ำเสียงยียวน

มานะ:ยกมันให้ผม

"มีอะไรมาแลก?"

มานะ:คุณอยากได้อะไรละครับ?

"เมื่อเช้ายกเวทหนักไปหน่อย เลยรู้สึกเมื่อยๆ"

มานะ:ผมเข้าใจแล้วครับ กินข้าวเสร็จผมจะนวดให้

"คืนนี้"

มานะ:คืนนี้? อะไรครับ

"มานวดให้กูคืนนี้"

อะไรนะ? มานะได้แต่ร้องเอ๊ะในใจ



มานะหนีป้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย















หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 07 up 16/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 16-11-2020 03:16:15
 :impress2: :-[
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 07 up 16/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 16-11-2020 17:01:20
55555 คนอยากกินก็อยากกิน คนขี้แกล้งก็กวนตีนดีจริงๆ 555 เจ้าเล่ห์สุดอ่ะ แหมมมมอยากวอแวเขามากแต่ก็เก็กไม่รู้เรื่อง 555 คู่นี้เป็นคู่ที่ลงตัวแบบพิลึกๆนะ 5555 มานะจะมีโอกาสพูดได้ไหมนะ  :katai2-1: รอตอนต่อไปเลย สนุกค่ะสนุก :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 08 up 18/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 18-11-2020 20:50:05
8





บรรยายโดยมานะ





ไปนวดให้คืนนี้หรอ ทำไมวะ? ผมได้แต่ตั้งคำถามในใจ ทำไมต้องคืนนี้ นวดตอนนี้ไม่ได้เหรอ ผมก็อยากพักบ้าง ไม่ได้อยากตัวติดกับไอ้คุณชายนั้นตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงหรอกนะ ยิ่งวันนี้พี่มิน บอกว่ามันเป็นคนอันตรายให้อยู่ห่างๆ มันไว้ผมยิ่งระแวงมากขึ้นไปอีก เก็บจานที่ไอ้คุณชายกินเสร็จแล้วลงมาไว้ด้านล่าง กะว่าจะเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาสักหน่อย ยังไม่ทันจะเปิดน้ำเลยครับ มันส่งข้อความมาตามผมแล้ว ให้ตายเถอะ!

ดล:อยู่ไหน ชงกาแฟมาให้ด้วย

มานะ:เข้าห้องน้ำครับ

ดล:อย่าชักช้า

มานะ:ครับ

อยากจะตะโกนถามไอ้คุณชายมันว่า สักหมัดไหมพี่! กวนตีนอยู่นั่นแหละ แต่ก็ทำไมไม่ได้ เลยได้แต่รีบล้างหน้าล้างตา ไปชงกาแฟให้คุณเขา

"อ้าวมานะ^^ ลงมาทำอะไรหรอ"หวี เอ๊ยดาวี ยืนส่งยิ้มหวานมาให้ผมจนผมต้องยิ้มตอบ แล้วชี้ไปที่เครื่องชงกาแฟ น้องพยักหน้ารับเบาๆ

"อ๋อ แล้วหลังจากนั้นล่ะ มานะจะทำอะไรต่อเหรอ? " ผมส่ายหน้า เพราะไม่รู้ว่าอิตาคุณดลมันจะใช้ผมทำอะไรอีก

"ถ้ามานะไม่ได้ทำอะไรแล้วเราไปหาอะไรกินข้างนอกกันไหม? "

"อ่า"ผมไม่รู้จะตอบน้องเค้ายังไง เลยยื่นโทรศัพท์ให้ แล้วเปิดแอปสีเขียว

"อ้อ จะแอดไลน์เหรอ ได้ๆ "น้องรับเอาโทรศัพท์ผมไปแล้วทำการแอดไลน์

มานะ:เราออกไปข้างนอกได้ด้วยหรอครับ

"ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ พี่ดล เอ้ยคุณดลเค้าไม่ได้ห้ามสักหน่อย"

มานะ:ทำไมผมไม่เห็นจะรู้ -*-

"อ่า พี่มินไม่ได้บอกเหรอ แต่ช่างเถอะ ตอนนี้พี่ก็รู้แล้วนี่ สรุปออกไปกันไหม? "

มานะ:อยู่ที่คุณดลแล้วละว่าจะสั่งให้พี่ทำอะไรอีกไหม

"อ่อ ถ้าอย่างนั้นมานะค่อยไลน์มาบอกหวีก็ได้ ว่าจะไปหรือไม่ไป"

"มานะ:โอเคครับ ^^

เห้อออออ อยากไปแหละแต่ติดที่อิคุณชายผีบ้านั่นคนเดียว ผมเดินยกถ้วยกาแฟขึ้นไปด้านบน เคาะประตูสองทีแล้วเปิดเข้าไป สิ่งเเรกที่เห็นคืออิคุณชายมันฟุบหน้าลงกับโต๊ะ สงสัยจะหลับ ผมเลยค่อยๆ เดินไปที่โต๊ะทำงานแล้ววางแก้วกาแฟให้เบาที่สุดเพื่อจะได้ไม่เป็นการรบกวน แล้วยืนมองคนที่กำลังหลับอยู่ใจก็อยากจะปลุกถามแต่อีกใจก็อยากให้ปล่อยเลยตามเลย ระหว่างที่กำลังลังเลอยู่ อิคุณมันก็เงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสีหน้ายุ่งๆ

"มึงช้า กูรอจนหลับ" น้ำเสียงงัวเงียเอ่ยติผมทันทีที่เขาเห็นผม ผมถอนหายใจเสียงดังแล้วยู่ปากใส่ คนอะไรจะบ่นได้ตลอดเวลา

มานะ: คุณดลมีอะไรให้ผมทำอีกไหมครับ?

"ไม่มีแล้ว"เขาตอบกลับมาด้วยเสียงเหนื่อยๆ

มานะ: ถ้าอย่างนั้นผมออกไปข้างนอกนะครับ

"ไปไหน! " ตกใจจนสะดุ้ง เพราะจู๋ๆ เขาก็ตะคอกใส่ โอ้โห เมื่อกี้ยังทำหน้าเหนื่อยๆ อยู่เลยนี่อะไรมาจ้องผมตาเขม็ง

มานะ: ไปหาอะไรกินกับหวีครับ

"มันชวน? "

มานะ: ครับ

"อยากไปก็ไป แต่ต้องกลับมาก่อนห้าโมงเย็น"เขาบอกเสียงเข้ม

มานะ: เข้าใจแล้วครับ

แอบยิ้มอยู่ในใจที่จะได้ออกไปข้างนอกสักที ความจริงผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าเราสามารถออกไปข้างนอกได้ตลอดขอแค่ลงเวลาไปกลับกับพี่ยามหน้าประตู ถ้าเป็นแบบนี้แล้วละก็ผมก็สามารถกลับไปนอนกับน้อง ๆ ที่บ้านได้ทุกวันแล้วกลับเข้ามาที่ในตอนเช้าได้ละสิ เดินยิ้มกริ่มลงมาที่ชั้นล่างโดยไม่ลืมที่จะส่งข้อความบอกหวี ผมกลับไปที่ห้องของตัวเองแล้วอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หยิบเอาเงินเก็บที่ไม่ได้ใช้ติดตัวไปด้วย เพราะคิดว่าก่อนกลับจะแวะซื้อของกินของใช้ไว้ให้น้อง ๆ ไว้ใช้ด้วย เดินชิล ๆ ออกจากห้องของตัวเองแล้วไปยืนรอน้องหวีที่หน้าประตูรั้วสักพักน้องก็วิ่งหอบเข้ามาหาแล้วบอกกับผมว่า

"มานะ อามินจะไปด้วย รออามินแป๊บนึงนะ" ผมนี่ร้องห๊ะในใจเลย เขาไม่อยู่ช่วยงานเจ้านายเขาที่นี่เหรอ น้องหวีส่งยิ้มแห้งๆ มาให้ ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เป็นไปตามแผนที่ผมวางไว้ สักพักคุณพ่อบ้านก็เดินออกมา แต่ที่น่าแปลกก็คือ มีคนอีกคนหนึ่งเดินตามหลังคุณพ่อบ้านมาด้วย

"พี่ดลมาทำอะไร? รึจะมาส่งอามิน? "เสียงหวีพึมพำกับตัวเอง ผมหันไปมองคนที่เดินตามมาทีหลังอย่างไม่เข้าใจ

"ปะ เด็กๆ ขึ้นรถ"เสียงของคุณพ่อบ้านเรียกให้พวกเราเดินตามไปที่รถ

"พี่ดล เอ้ย คุณดลไปด้วยหรออามิน?"

"อืม มันบอกอยากกินชานมไข่มุก" ชานมไข่มุกเนี้ยะนะ คนอย่างอิตาผีบ้านี่นะเหรอจะอยากกินชานมไข่มุก เราสองคนเดินตามพวกเขาทั้งคู่ไปแบบงง ๆ

ติ้ง! เสียงที่เรียกให้คนสองคนหันมามองหน้าผม อะไรอะ?

นุ้งหวีผู้ผดุงความยุติธรรม : มานะจะอึดอัดไหม? ถ้า พวกพี่ๆ เขาไปด้วย

มานะ : ไม่หรอก หรือหวีอึดอัด?

นุ้งหวีผู้ผดุงความยุติธรรม : ไม่ เราชินแล้ว ไปไหนมาไหนกับพวกพี่ๆ เขาบ่อย

มานะ : อ่อ

"จะก้มหน้าอีกนานไหม"น้ำเสียงดุๆ ของอิคุณชายมันทำให้ผมกับน้องหวีรีบเก็บโทรศัพท์แล้วเงยหน้าขึ้นมา

"มึงจะไปดุน้องมันทำไมวะ ไอ้คุณชาย แล้วนี่นึกยังไงจะไปแดกชาไข่มุก ชอบแดกของหวานตั้งแต่เมื่อไหร่มึงอะ" คุณพ่อบ้านหันไปว่าใส่เพื่อนของตัวเอง ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้ผม

"น้องมานะละอยากกินอะไรไหม? "ผมไม่รู้จะตอบว่ายังไง ใจจริงผมกับหวีตั้งใจจะไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือร้านเปิดใหม่ในตลาดใกล้ๆ บ้านเฉยๆ ไม่คิดว่าจะต้องพ่วงผู้ชายสูงวัยสองคนไปด้วย

"ที่จริงพวกหนูจะไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือตรงตลาดนี่เองอามิน ปล่อยพวกหนูลงตรงนั้นก็ได้"

"อ่า เอาอย่างนั้นก็ได้" เราตกลงกันแบบนั้น แต่ลืมไป ว่าอิคุณชายมันเป็นคนขับรถ แน่นอนว่ามันไม่จอดให้พวกผมลง เขาขับพาเราเลยออกไปไกล และมาจอดตรงร้านอะไรสักอย่างที่ตกแต่งได้สวยมากมีต้นไม้ดอกไม้ล้อมรอบ เหมือนพวกเทพนิยายเลย แค่ดูข้างนอกก็โคตรจะหรูแล้ว ผมพกตังค์มาแค่หนึ่งพันบาทเองนะ

"ลงสิ"ผมกับหวีมองหน้ากันเริกลั่ก ก่อนจะพากันลงจากรถเพราะสายตาดุๆ ของเขามันทำให้พวกเราต้องรีบ

"พี่ดล คือแบบว่า หวีพกตังค์มาสองร้อยเองพี่ เปลี่ยนร้านเหอะ"หวีเอ่ยก่อนที่ขาของเราจะก้าวเข้าร้าน

"พี่จ่ายเอง เรากินเถอะ"

"*0* จริงหรอพี่ดล ถ้าอย่างนั้นหนูไม่เกรงใจละนะ! "เสียงของหวีดังขึ้นแทบจะทันทีที่อิคุณชายมันบอกจะจ่ายให้

"ไปมานะ ไปกินของฟรีกัน อยากกินอะไรสั่งเลย พี่ดลจ่ายให้! "ใช่เขาจ่ายให้แต่เขาไม่ได้บอกว่าจะจ่ายให้ผมสักหน่อย ผมได้แต่ยิ้มฝืนๆ จนหันไปสบตากับคุณพ่อบ้าน เขายืนมองเพื่อนตัวเองแล้วทำหน้าสงสัยเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน

"มาแปลกนะมึงวันนี้"

"แปลกอะไร กูแค่อยากกิน"

"ปรกติมึงไม่ค่อยกินของนอกบ้าน แถมพามาแดกขนมอีก"

"เปลี่ยนบรรยากาศบ้างจะเป็นอะไรไป"

"เออ เรื่องของมึงเหอะงั้น ไปน้องมานะ กินให้พุงแตกไปเลย"คุณพ่อบ้านโอบไหล่ผมแล้วพาเดินเข้าร้าน แต่เดินไม่กี่ก้าวก็โดนอิคุณชายผีบ้ามันผลักครับ ผลักผมหน้าแทบทิ่ม -*- ดีที่คุณมินคว้าคอเสื้อผมเอาไว้ได้ทัน

"เล่นอะไรของมึงเนี้ยะ ไอ้ดล ถ้าน้องหน้าทิ่มจะทำยังไง? "คุณมินเอ็ดใส่เพื่อนตัวเอง แต่เขากลับตีหน้านิ่งใส่แล้วผลักให้ผมเดินนำไปข้างหน้า ส่วนหวีนะเหรอนู่นเดินไปนั่งรอที่โต๊ะแล้ว ทิ้งให้ผมต้องรับชะตากรรมจากคนผีบ้าอยู่คนเดียว

"เดินช้ากันจัง พวกแก่แล้วก็อย่างเงี้ยะ"พอมาถึงเสียงหวานๆ ก็เอ่ยเเซวทันทีเรียกสายตาดุๆ ของผู้ใหญ่ที่เดินตามหลังผมมาได้เป็นอย่างดี

"น้อยๆ หน่อยเจ้าหวี อาพึ่งจะ27 ความจริงน่าจะเรียกพี่ ทำไมต้องเรียกอาด้วยก็ไม่รู้! "คุณมินพูดพร้อมทำท่าจะเขกหัวหวีแต่รายนั้นโยกตัวหลบแล้วทำหน้าทะเล้นใส่ ผมแอบชำเลืองมองคนที่เดินมานั่งข้างๆ เขาเบียดผมจนชิดติดผนัง ที่ออกกว้างทำไมต้องมานั่งเบียดผมด้วยเนี้ยะ!

"จะกินอะไรสั่งสิ"น้ำเสียงเข้มๆ หันมาหาผมพร้อมกับยกเมนูมาวางไว้ให้ตรงหน้า ผมกวาดสายตามองที่เมนู ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูของหวานแล้วมันมีบางอย่างที่ผมไม่รู้จัก แถมมันยังเขียนเป็นภาษาอังกฤษอีก แน่นอนว่าคนเรียนน้อยอย่างผมอ่านไม่ค่อยจะออกนั่งสะกดอยู่นานจนคนอื่นๆ สั่งกันไปหมดแล้ว ผมค่อยไเงยหน้ามองหวีเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ยังไม่ทันจะทำอะไรเมนูในมือก็โดนแย่งไปจากคนข้างๆ ตัวผมนี่เอง

"เอาฮันนี่โทสมะม่วง บานอฟฟี่พาย Dalgona Chocolate Iced Coffee Lemonade โอ้โห เขาสั่งอะไรให้ผมครับนั่น สำเนียงอังกฤษของเขาราวกับถอดเเบบออกมาจากเจ้าของภาษาเป๊ะ ๆ ผมฟังไม่ทันสักอย่าง รู้แค่อะไรสปาเกตตีสักอย่างที่เหลือคือ อิหยังวะ? ผมหันไปมองเขา แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือหน้านิ่งๆ นั่นกำลังยกยิ้มมุมปากเหมือนเยาะเย้ยผมอยู่ ได้ ไอ้คุณชายได้!

ผมกับหวีนั่งมองหน้ากันเงียบๆ ปล่อยให้พวกผู้ใหญ่เค้าคุยกันเรื่องงานไป รอจนกระทั่งอาหารที่สั่งมาเสิร์ฟ ผมมองอาหารแต่ละจานอย่างอึ้งๆ เพราะมันน่ากินมาก ใจเต้นจนเก็บสีหน้าไม่อยู่ ของหวีเป็นเค้กผลไม้ดูน่ากินมาก มีนมปั่นสตอว์เบอร์รี่ด้วย ส่วนของพี่มินกับคุณดลสั่งคล้ายๆ กันนั่นคือกาแฟ ส่วนของผมนั้น โอ้โหวววว มันคือขนมปังหน้ามะม่วงที่มีไอศกรีมรสวานิลลาโป๊ะวิปครีมกับซอสสีเหลืองๆ ส่วนน้ำ ของผมได้น้ำที่มีฟองรสช็อกโกเเลตหนานุ่มอยู่ด้านบนมีนมอยู่ด้านล่าง ผมหันไปหาคนที่สั่งเมนูให้ผมด้วยแววตาที่เป็นประกาย และทันทีที่ผมตกของเหล่านั้นเข้าปาก *0* อร่อยฉิบหายเลย! อยากจะร้องกรี๊ดด ออกมาดังๆ แต่ก็ทำไมไม่ได้ ได้เเต่ส่งเสียงร้องอื้อๆ อยู่แบบนั้น หวีหันมายิ้มให้ผม พวกเขาคงกินแบบนี้บ่อยๆ จนผมนึกอิจฉา เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ลิ้นกากๆ ของผมได้สัมผัสอะไรแบบนี้ จนกระทั่งหวนไปคิดถึงน้องๆ ถ้าน้อง ๆ ได้กินแบบนี้บ้างก็คงจะดี

"มานะเป็นอะไร ไม่อร่อยเหรอ ทำไมจู่ ๆ ถึงทำหน้าเศร้าแบบนั้นล่ะ"เสียงของหวี เพื่อนตัวน้อยของผมเอ่ยถามออกมาด้วยความเป็นห่วง ผมได้แต่ส่ายหน้าแล้วฝืนยิ้มกลับไป ผมได้กินดีอยู่ดีแบบนี้ แล้วน้องของผมละ ความคิดนี้มันทำให้รสชาติขนมหวานแสนอร่อยมันกลายเป็นจืดชืดทันที ผมกินมันต่อด้วยใจที่รู้สึกผิด คุณดลมองผมแล้วทำหน้านิ่งๆ ก่อนจะเดินออกไปจากโต๊ะ นี่ผมทำให้เสียบรรยากาศรึเปล่า

ติ้ง

นุ้งหวีผู้ผดุงความยุติธรรม : มานะมีอะไรบอกเราได้นะ อึดอัดหรอ?

มานะ : ป่าวครับ

นุ้งหวีผู้ผดุงความยุติธรรม : แน่นะ

มานะ : ครับ ว่าแต่กินเสร็จรบกวนช่วยบอกให้คุณดลจอดที่ตลาดได้ไหมครับผมจะไปหาน้องๆ

นุ้งหวีผู้ผดุงความยุติธรรม : ได้สิ

มานะ : ขอบคุณนะครับ

หวีส่งข้อความมาหาผม ผมเลยตอบกลับไปว่าไม่มีอะไร แต่ดูเหมือนหวีจะยังไม่ค่อยเชื่อ สักพักคุณดลก็กลับมาพร้อมกับถุงขนมหนึ่งถุงแล้วยื่นให้ผมด้วยสีหน้านิ่งๆ ของเขา





(แชทกลุ่ม) เรื่องนี้มันต้องขยาย (7)

คุณพ่อบ้านมิน : มึง ให้ทายตอนนี้กูอยู่ที่ไหน?

นุ้งหวีผู้ผดุงความยุติธรรม : ร้านคาเฟ่ แถวๆ xxx

คุณพ่อบ้านมิน : หวี!

นุ้งหวีผู้ผดุงความยุติธรรม : ก็อยู่ด้วยกันไหมคะ!

kronkrub : นี่พวกมึงไปคาเฟ่กันเหรอ? ฟ้าจะถล่มไหมวะ?

bin : ไปทำอะไร? นัดลูกค้าไว้ที่นั่นอ่อ แปลกๆ นะ ปรกตินัดกันที่โรงแรม ถ้าลูกค้าเป็นสาวแซ๊บจะได้ไม่เสียเวลา

คุณพ่อบ้านมิน : พวกเหี้ยเห็นพวกกูเป็นคนยังไง

kronkrub : คนเหี้ย 2020

คุณพ่อบ้านมิน : พวกเวร!

zax : แล้วตกลงกูจะรู้ไหมว่าวันนี้พวกมึงไปทำอะไรกันที่คาเฟ่!

kronkrub : เรื่องเพื่อนนะไวนัก เรื่องงานให้มันไวแบบนี้บ้าง!

zax : คำว่าเพื่อนสำคัญที่สุดสำหรับกู จำไว้!

bin : เสือกเรื่องเพื่อนสำคัญที่สุด แบบนี้ไอ้หัวครก!

zax : แสนรู้นัก!

kronkrub : ตกลงไปทำอะไรกัน อย่าบอกนะว่าไปแดกของหวาน น้องหวีอะกูเชื่อ เเต่มึงสองตัวนี่ไม่น่าใช่นะ?

คุณพ่อบ้านมิน : อะถูกต้องนะคร้าบบบบบบบบบบบบบบ เพื่อนมึงขับรถพาน้องไบ้มาแดกขนมครับ!!!

เจต :ใครพูดชื่อน้องใบ้กู

kronkrub : อะนี่ก็มาไวเหมือนได้กลิ่นขี้เชียวนะพ่อคุณตำรวจ

เจต :สัส!! กูไม่ใช่หมา

bin : เพื่อนครับกูว่าเราหลุดประเด็น กลับมาที่น้องใบ้ หยุดเรื่องขี้หมาไว้ก่อนนะครับ บอกกูมาว่ามันทำอะไรน้องใบ้กูบ้าง!

นุ้งหวีผู้ผดุงความยุติธรรม : นั่งมองมานะของหนูด้วยแววตาที่แสนจะโหดเหี้ยมแต่ก็แอบแฝงด้วยฟีลเตอร์ทาสที่เห็นเจ้านายกินของอร่อยแล้วดูมีความสุข

เจต : กูเอ๊ะได้ไหม?

zax : กูด้วย

bin : น้องมันก็หน้าแมวอยู่นา

kronkrub : ไทป์ไอ้ดลมัน หน้าแมว นิสัยแมว แล้วก็เซ็กซี่แบบธรรมชาติๆ ซึ่งมานะตรงเป๊ะทุกอย่าง นี่ยังไม่รวมความใจดีของน้องนะ กูว่าแมร่งแพ้น้องแน่ๆ

คุณพ่อบ้านมิน : แต่เพื่อนมึงไม่เคยจะอ่อนโยนกับน้องเลยไอ้ฉิบหาย เอะอะผลัก เอะอะจับล็อก

นุ้งหวีผู้ผดุงความยุติธรรม : -*- นั่นเรียกว่าชอบเหรอคะ! มานะของหนูน่วมเป็นกระสอบทรายทุกวัน!

zax : มันอาจจะแสดงความรู้สึกออกมาไม่เก่งไง

bin :แหมมมม เข้าข้างง

zax :มันเป็นคนจ่ายเงินเดือนกู

คุณพ่อบ้านมิน : แต่กูเป็นคนโอนครับ ไอ้ตูด

zax : แต่จะว่าไปนี่มันยุคไหนแล้ว! หมดยุคการใช้กำลังตัดสินปัญหาแล้วครับ! เราคือผู้มีอารยะชน

เจต : ตอแหลเก่งนัก!

kronkrub : 55555555555

คุณพ่อบ้านมิน : แล้วมึงรู้ไหม ว่าเพื่อนเหี้ยของมึงอะ พอเห็นสีหน้าจ๋อยๆ ของน้องใบ้ มันรีบเดินออกไปเลยเว้ย เหมือนรู้อะว่าน้องกำลังคิดอะไรอยู่

นุ้งหวีผู้ผดุงความยุติธรรม : สีหน้าของความรู้สึกผิด เดาไม่ยากเลย มานะคิดถึงน้อง แน่ๆ

คุณพ่อบ้านมิน : แล้วเพื่อนมึงอะ แสนรู้ฉิบหายเดินหายไปสั่งขนมเพิ่มใส่กล่องกลับบ้านจ้า

เจต: ดลญาณทิพย์

kronkrub : ดูมันใส่ใจแปลกๆ ทุกทีไม่สนห่าอะไรสักอย่าง ใครจะเป็นจะตายช่างหัวเเมร่งตลอด

bin : แล้วตอนนี้ไอเดลมันทำอะไรอยู่

คุณพ่อบ้านมิน : เหอะ! คนอย่างมันจะทำอะไรได้นอกจากนั่งจ้องหน้ากูอยู่เนี้ยะ! ไอ้เวร วางมือถือด่วน!

"พวกมึงคุยเหี้ยอะไรกัน อยู่ใกล้กันแค่นี้? หรือพวกมึงแอบนินทาอะไรกูลับหลัง? "เสียงดุๆ ของคุณดลทำให้ผมหลุดออกจากความคิดในหัว แล้วหันไปมองหน้าเขา ในมือหนาคู่นั้นมีถุงกระดาษที่มีลายสัญลักษณ์ของร้านในนั้นมีกล่องขนมอยู่หลายกล่อง ไหนว่าไม่ชอบของหวานไง

"อะกูให้"เขาก้มลงมามองแล้วยื่นถุงใบนั้นให้กับผม

"รู้ว่าคิดอะไรอยู่ แดกๆ เข้าไปเถอะ ไม่เคยแดกนี่"ความใจดีของเขาไม่น่ามาพร้อมกับปากหมาๆ ของเขาเลย ผมยื่นมือไปรับถุงนั้นมาแล้วกอดเอาไว้

"อยากแวะหาพวกน้องๆ ไม่ใช่รึไง? " ผมรีบพยักหน้า เขาไม่พูดอะไรต่อแล้วทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ผมเหมือนเดิม

ทำไมวันนี้ใจดีจัง? ผมแอบมองเสี้ยวหน้าหล่อๆ ของเขา ใบหน้านิ่งๆ นั่นทำเอาใจผมสั่งนิดๆ เพราะเขาเองก็เหลือบมองผมเช่นกัน

"หึหึ"

หลังจากฟาดขนมจนเรียบแทบจะเลียจานได้ พวกเราก็ออกจากร้านและตรงกลับบ้านทันที ระหว่างนั้นคุณดลแวะส่งผมที่หน้าตลาด ก่อนจะกำชับกับผมว่าให้กลับก่อนหนึ่งทุ่ม

"อย่าลืม คืนนี้มึงต้องมานวดให้กู"

ผมเดินเข้าไปในตลาดที่แสนจะคุ้นเคย แต่เพราะไม่ได้ออกมาที่นี่นานพอสมควรอะไร ๆ มันก็เปลี่ยนไปเยอะครับร้านบางร้านที่ผมเคยเจอตอนนี้ก็เริ่มหายไปบ้างแล้ว เดินมาถึงด้านในตลาดซื้อของใช้จำเป็นสำหรับน้องๆ เอาไว้เยอะพอสมควร เพราะผมไม่รู้ว่าจะได้ออกมาตอนไหนอีก ไอ้ที่คิดไว้ว่าจะกลับมาอยู่แบบไปเช้าเย็นกลับก็คงต้องขออิคุณชายนั่นเสียก่อน คิดแล้วท้อมากครับ ขนาดออกมาหาอะไรกินเขายังจำกัดเวลาให้ ในมือผมถือถุงเสื้อผ้า ของให้ของกินจนแทบจะถือไม่ไหว เดินไปจนถึงอพาทเมนต์ที่น้องๆ อยู่ ป่านนี้ไม่รู้ว่ากลับมาจากโรงเรียนรึยัง ขึ้นบันไดไปที่ชั้นสาม ห้องน้องผมอยู่ห้องที่สาม ผมเห็นว่าประตูห้องเปิดอยู่สงสัยเจ้านบ กับเจ้านทคงกลับมากันแล้ว แต่ว่าเสียงในห้องนั้นมันไม่ได้มีแค่น้องๆ ของผม มันมีเสียงของผู้ชายอีกคนที่คุยเล่นกับพวกเขา ใจผมหล่นไปถึงตาตุ่ม เพราะไม่รู้ว่าเขาจะมาดีมาร้ายเขาอาจจะมาหลอกน้องผมไปทำอะไรก็ได้ ผมรีบก้าวขายาวๆ เพื่อให้ไปถึงห้องเร็วๆ

"ตรงนี้มันต้องเอาไปคูณไม่ใช่เหรอนบ"

"จริงด้วยครับ"

"พี่กร นทหิวอะ"

ผมมองคนสามคนที่คุยกันอย่างสนิทสนมด้วยความสับสน พี่กรมาทำอะไรที่นี่ จนกระทั่งเจ้านทมันหันมาเห็นผมที่ยืนอยู่

"พี่นะ!!!! "น้องชายคนที่สองของผมตะโกนลั่นห้องด้วยความดีใจแล้ววิ่งมากอดผม

"อ้าวมานะ มาแล้วเหรอ"ทำไมเขาดูไม่ตื่นเต้นหรือตกใจเลยที่ผมมา

"พี่นะมาไงอะ มาไม่เห็นบอกนบเลย"ผมเลยตอบเป็นภาษามือว่าคุณดลมาส่ง อยากมาหาเฉยๆ

"อ๋ออ" ผมเลยถามกลับไปอีกว่าพี่กรมาได้ยังไง สนิทกันเหรอ เจ้านบหันไปยิ้มแฉ่งใส่พี่กรที่นั่งสอนการบ้านน้องผมอยู่ เขาดูไม่ได้อะไรมาก เหมือนกับว่าเขาทำแบบนี้เป็นประจำอยู๋แล้ว

"อื้อ พี่กรมาหาพวกเราบ่อยๆ เอาข้าวเอาขนมมาให้ บางวันก็สอนการบ้านด้วย" ผมเอียงคอมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

มานะ : พี่กรครับอธิบายผมทีว่าทำไมพี่ถึงมาดูแลน้องๆ ผมแบบนี้

kronkrub: อ๋อออ ไอ้ดลมันสั่งไว้ อันที่จริงมันก็ระบุอยู่ในสัญญาอยู่แล้วนะว่าทางเราจะดูแลครอบครัวของมานะอะ

มานะ : แต่ผมอ่านแล้วมันไม่มีข้อนี้นี่ครับ

kronkrub: มี ไม่เชื่อก็ลองถามไอ้มินมันดู มันเป็นคนร่างสัญญา

ผมได้แต่ถอนหายใจแล้วให้นบเอาของที่ซื้อมาไปเก็บให้เรียบร้อย เราคุยกันอยู่หลายเรื่องทั้งเรื่องเรียนเรื่องความเป็นอยู่ ซึ่งผมเองก็เป็นกังวลว่าการที่ผมทิ้งน้อง ๆ ให้อยู่กันตามลำพังมันอาจจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น ดังนั้นผมเลยปรึกษาเรื่องนี้กับพี่กร

"มานะต้องถามไอ้ดลมันเองแล้วละเรื่องนี้เพราะในสัญญามานะต้องอยู่ใกล้ชิดกับไอ้ดลมันตลอด"

ผมหน้าหดเหลือสองนิ้วทันที ไม่มีทางที่อิตาคุณชายนั่นมันจะปล่อยให้ผมออกมาอยู่ข้างนอกแน่ๆ รายนั้นเจ้าระเบียบและไม่นอมฝืนกฎใด ๆ ที่ตนเองตั้งไว้แน่ๆ

"ถ้าอ้อนมัน มันอาจจะยอมก็ได้นะ มันแพ้ลูกอ้อนอะ"จู่ๆ พี่กรก็พูดขึ้นมาเขายิ้มให้ผมแต่ทำไมดูแล้วให้ความรู้สึกถึงหายนะก็ไม่รู้ ผมอยู่เล่นกับน้องๆ ได้ไม่นานก็ได้เวลาที่ต้องกลับแล้วผมโอบกอดน้องๆ ไว้แล้วบอกลานิดหน่อย แล้วบอกพวกเขาว่าจะมาหาอีก และบอกให้อยู่กันดีๆ ปิดห้องห้ามเปิดให้ใครอีกและห้ามไปไหนดึกๆ



"กังวลเหรอ"พี่กรเอ่ยถามผมตอนที่เราออกมาจากอพาทเม้นต์แล้ว ผมพยักหน้า

"เรื่องน้อง? "

"อื้อ"

"ไม่ต้องห่วงหรอกไอ้ดลมันดูแลดีอยู่แล้ว ทั้งมานะทั้งน้องๆ มานะไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยมีคนของไอ้ดลมันคอยตามดูให้ตลอดอยู่แล้ว" พี่กรหันมายิ้มให้ผม

"แต่ถ้ายังอยากมาอยู่กับน้องก็ลองทำตามที่พี่บอก อ้อนมัน" อ้อนยังไละผมพุดไม่ได้จะเอาอะไรไปอ้อนเขา!

กลับมาถึงก็อาบน้ำเตรียมตัวในขณะนั้นก็มีข้อความมาเร่งให้ผมไปหาไวๆ อะไรของเค้า! เดินออกจากโดยที่ไม่ลืมล็อกประตู ทุ่มกว่าเเล้วอิคุณชายนั่นคงกินมื้อเย็นไปแล้ว ผมเลยเดินไปหาขวดน้ำมันหอมที่ใช้สำหรับนวดในตู้เก็บของ ได้มาขวดเป็นกลิ่นลาเวนเดอร์มันคงจะช่วยให้เขาผ่อนคลายได้บ้าง ผมเคยรับจ้างนวดมาก่อนครับ นวดให้คนแก่แถวบ้าน คนในตลาดบ้าง อย่างที่บอกอะไรที่ได้เงินมาจุนเจือครอบครัวผมทำหมดถ้ามันไม่ผิดกฎหมายหรือไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครผมก็พร้อมจะทำ หยิบขวดน้ำมันหอมติดมือขึ้นไปยังชั้นสองของคฤหาสน์ แต่แปลกวันนี้มันดูเงียบๆ มีคนงานอยู่แค่สองคนและผมคิดว่าอีกไม่นานเขาก็น่าจะกลับไปพักกันแล้ว หวีก็ไม่อยู่ คุณพ่อบ้านก็เงียบ พี่กรพี่บินไปไหนกัน ผมได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้และเดินไปเคาะห้องที่มีเจ้าของบ้านอาศัยอยู่เพียงผู้เดียว

ก็อก ก็อก ก็อก 

"อืม เข้ามา"พอได้ยินคำอนุญาตผมก็เปิดประตูเข้าไป กวาดสายตามองรอบๆก็เห็นร่างสูงยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำที่ท่อนบนเปล่าเปลือยมีเพียงแค่ผ้าขนหนูสีดำพันรอบเอวสอบของเขาไว้ รูปร่างสมส่วนดูดีไปหมด ทั้งกล้ามท้อง วีเชฟ วีไลน์ ไหล่กว้างหกสิบเซ็นต์เห็นจะได้มันเพอเฟคไปหมด จนหาที่ติไม่เจอ ผมเกิดอาการใจสั่นขึ้นมาเสียดื้อๆ แต่ไม่อยากจะเสียอาการต่อหน้าคนอย่างอิคุณชายนี่ บอกตามตรงผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลยตลอดสิบเก้าเกือบยี่สิบปี หรือผมอาจจะเป็นโรคหัวใจ คงต้องหาเวลาไปหาหมอดูสักครั้ง 

ผมมองเขาอยู่นานโดยที่ไม่รู้สึกตัวเลยว่าเขาเดินเข้ามาแทบจะชิดกับตัวผมอยู่แล้ว

"มานะ! กูเรียกไม่ได้ยินเหรอ เหม่ออะไร? หรือว่า"เขาเหลือตามองไปที่ท่อนล่างของตัวเอง

โอ้โห นี่เขาคิดอะไรอยู่ หลงตัวเอง! ผมไม่ได้มองตรงนั้นเลยให้ตายสิ ผมรีบหยิบโทรศัพขึ้นมากด

มานะ: บ้า! ใครเค้าจะไปมองของต่ำแบบนั้น โรคจิตนะคุณ

"ก็นึกว่าอยากดูเห็นเหม่อมองแต่กู"เขายังยียวนผมไม่เลิก

มานะ:ผมแค่มองว่าทำไมคุณยังไม่อาบน้ำเตรียมตัวอีก จะให้ผมนวดไม่ใช่เหรอ

"ก็ใช่แต่กูไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะนวดบนเตียง?"

มานะ: เอ้า ไม่นวดบนเตียงแล้วจะนวดที่ไหน บนพื้นเหรอ

"หึหึ ตามมา" เขาเดินเข้าไปในห้องน้ำและก้าวลงไปในอ่างที่มีน้ำอยู่เต็มมันมีกลิ่นหอมแปลกๆโชยออกมา ผมเดินเข้าไปด้วยความประหม่า บรรยากาศมันแปลกๆ มีเทียนหอมจุดอยู่ตามจุดต่างๆ นี่ใครเป็นคนเตรียมไว้ให้ ผมมองแต่ก็ยังไม่ขยับไปใกล้เขา 

อ๊ะ ผมรู้แล้วว่ามันเหมือนอะไร เหมือนมาอาบน้ำให้อาเสี่ยเลย !

......จบบรรยายของมานะ.....

ภาพบรรยากาศที่เจ้าของร่างสูงจงใจสรรค์สร้างมันขึ้นมาเพื่อให้คนตรงหน้าได้ผ่อนคลาย ไม่ตึงเครียดกับการอยู่กันตามลำพังในค่ำคืนกับเขาแบบสองต่อสอง เขาแค่ติดว่าบรรยากาศแบบนี้มานะจะกลัวเขาน้อยลง ซึ่งมันอาจจะได้ผลเพราะมานะดูตกตะลึง ดวงตากลมเหมือนลูกแมวเบิกกว้างเล็กน้อยซึ่งมันดูตลกปนเอ็นดูมาก ๆ สำหรับเขา เขาพยายามใช้เสียงที่ดูนุ่มๆกับคนตรงหน้า เขาแอบเห็นด้วยว่ามานะหน้าแดงแต่ก้เก็บอาการไว้

"มาสิ "เขาเอ่ยเรียกอีกฝ่ายให้มานั่งข้างอ่างอาบน้ำโดยที่เขานั่งหันหลังให้ ดลได้ยินเสียงสูดลมหายใจลึกๆของคนหน้าแมว เหมือนพยายามจะทำใจอะไรสักอย่างอยู่ รอไม่นานฝ่ามืออุ่นร้อนก็จับลงบนบ่ากว้างของเขาและลงมือบีบมันเบาๆเหมือนกลัวเขาเจ็บ

"แรงๆหน่อย พกแรงมาน้อยรึไง?" พอได้ยินให้ออกแรงมากขึ้นมานะก็ลงแรงไปอีกนิด

"แรงอีก" 

ได้แรงอีก

"โอ๊ยยย มานะ!" ร่างบางสะดุ้งทันทีเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่ายโวยวาย ดลทันหันมาเห็นว่าอีกคนแอบยิ้มสะใจ

"นี่แอบหัวเราะเยาะ มึงจงใจแกล้งกูเหรอ?"

"หึหึหึ"อีกคนรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที มีเหรอที่ดลจะเชื่อเพราะเขาเห็นกับตา ไอ้เด็กหน้าแมวนี่!

"มานี่เลย!"ดลคว้าข้อมือเล็กนั่นไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งหนี แล้วออกแรงดึงให้อีกคนลงมาในอ่างน้ำด้วยกัน มานะหงายหลังลงไปในอ่างอาบน้ำทันที  เจ้าแมวตัวแสบยังโชคดีที่มีร่างหนาๆคอยรับไว้อยู่แล้วเว้นแต่ส่วนหัวที่จมลงกับอ่าง

พรวดดด ! 

"แค๊ก ๆ ๆ อื้อ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  ๆ"พอได้อาอาศหายใจ คนหน้าแมวก็หันมามองหน้าเขาแล้วด่าออกมา ดลฟังไม่รู้เรื่องสักอย่าง รู้แต่ว่าไอ้คนใบ้บนตักเขาดูท่าจะตกใจมากเพราะตัวสั่นไปหมด แถมน้ำตายังรื้นอีก 

อา กุพลาดอีกแล้ว!

"พอก่อน กูฟังไม่รู้เรื่อง"ดลเอ่ยตอบพร้อมกับกอดปลอบมานะไปด้วย

"ฮึก"

"ขอโทษ กูไม่ได้ตังใจ"

"ฮึก"

"แต่กูยังเมื่อยอยู่ เพราะฉะนั้นมึงก็ควรนวดให้กูต่อ"

"หึ"มานะเชิดหน้าใส่แถมทำท่าจะลุกเพราะยังโกรธเจ้านายผีบ้าของตัวเองอยู่

"หักเงินเดือน"

อะไรนะ! หน้อยยยย ไอ้คุณชาย! 

"จะไม่นวดก็ได้นะ ไม่ได้ว่า แต่ถ้ายอมนวดเดี๋ยวบวกเงินเพิ่มให้ พันหนึ่ง"

พอเห็นอีกฝ่ายเริ่มลังเลดลเลยรีบสุมไฟ

"คิดนานกูไม่นวดก็ได้"เขาทำท่าจะลุกและแน่นอนว่ามันทำให้มานะรีบดันไหล่เขาให้นั่งลงที่เดิม

"จะนวด?"

"อื้อ"

"ดี แต่นวดท่านี้นะ"คนตัวหนายกยิ้มเจ้าเล่ห์

"เห้อออออ"เสียงถอนหายใจของมานะที่บอกได้ถึงว่าเขาควรจะปลงตกได้แล้วกับความบ้าบอของเจ้านายคนนี้ 

คนบ้าอะไรให้นั่งตักแล้วนวดในอ่างอาบน้ำ!



















หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 08 up 18/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 18-11-2020 21:43:57
55555555 นวดสไตล์ไอ้คุณชายผีบ้าดลไงมานะ  :-[ ไอ้คุณชายดลมันก็พยายามจะทำตัวให้ดีอะนะแต่ดีสไตล์ผาบี้อะ ดีด้วยแกล้งด้วย นั่นละเขาเลย 55555 ถ้าจะเอ็นดูมานะขนาดนั้นให้ทุนน้องๆมานะ ดูแลอย่างดี รับรองมานะคงมองไอ้คุณชายเป็นเทพบุตรไปเลยละ 55555 ลูกน้องก็แบบกินบนเรือนขี้รถบนหลังคาแบบว่านินทาเจ้านาย แต่ก็ฮาดี อย่าคิดมาก 555555 สนุกๆ รอตอนต่อไป  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 08 up 18/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 18-11-2020 21:44:13
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 09 up 20/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 20-11-2020 10:53:32

สีหน้าของผองเพื่อนนในตอนนี้




 

ตอนที่ 9

 

หลังจากผ่านค่ำคืนอันเเสนกระอักกระอ่วนใจ มานะทำงานที่ได้รับมอบหมายได้อย่างดีไม่ข้อบกพร่องใดๆ คนใบ้ที่พยายามทำตัวให้ปรกติ ไม่ว่อกแว่กต่อสิ่งยั่วยุทางอารมณ์(โมโห) เพราะตั้งแต่นวดให้ดลในครั้งนั้น ดูเหมือนเจ้าของบ้านจะสรรหาวิธีมาแกล้งให้อีกคนใจเต้นแรงอยู่ร่ำไป ไม่ว่าจะเป็นการเอาตัวเองมาใกล้ชิด บังคับให้มากินข้าวด้วยกัน จับอีกคนมานั่งข้างๆเวลาทำงาน หรือแม้กระทั่งจงใจกอด ใช่ อ่านไม่ผิดหรอก ดลจงใจกอดมานะทุกครั้งที่มานะไม่ทันระวังตัว

"มานะชงกาแฟให้กินหน่อย"น้ำเสียงนุ่มๆเอ่ยขึ้นขณะที่เจ้าตัวกำลังง่วนอยู่กับเอกสารตรงหน้า มานะพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกไปและกลับเข้ามาพร้อมกับกาแฟดำ

"มันร้อนเป่าให้หน่อย"คนใบ้กลอกตามองบน แล้วจะกินกาแฟร้อนเพื่อ! 

"มานะ ปวดไหล่"

"มานะ เวียนหัว"

"มานะ หิวน้ำ"

"มานะ..."

ติ้ง

มานะ: พอก่อนคุณชาย หยุดเรียกให้ผมทำอะไรที่มันดูไร้สาระสักที ! 

"หึหึหึ  มานวดขมับให้หน่อย" ดลไม่ได้สนใจใบหน้าหงิกงอนั่นสักนิด เขายกยิ้มเหมือนคนอารมณ์ดี แต่เอาเข้าจริงๆคือกวนตีนมานะ

มานะ: คุณควรใช้ผมทำงานที่มีประโยชน์มากกว่านี้นะครับ

"มึงเป็นเบ้จิปาถะ ลืมไปแล้วเหรอ"ดลใช้น้ำเสียงที่เข้มขึ้นเพื่อให้อีกคนได้เข้าใจถึงสถานะของตัวเองในตอนนี้ 

 เออใช่ เขาเป็นเพียงเบ้จิปาถะที่ต้องคอยรับใช้คุณชายนดล มานะลืมข้อนี้ไปเสียสนิท ร่างโปร่งถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายแล้วเดินตรงไปยังด้านหลังของเจ้านายตนเอง ฝ่ามือเรียวนุ่มค่อยๆยกขึ้นมากดเบาๆบริเวณขมับทั้งสองข้าง

"อืมมมม ดี"เสียงครางงึมงำของดลทำเอามานะใจชื้นขึ้นมาหน่อยเพราะกลัวจะทำอะไรไม่ถูกใจเข้าอีก นวดอยู่ไม่นานดลก็สั่งให้พอ แล้วย้ายมานวดด้านหน้าแทน 

นวดอะไรฟระ! มานะนี่ร้องเอ้ะ ในใจหลายรอบมาก คนใบ้ย้ายจากนวดด้านหลังมานวดที่ด้านหน้าและแน่นอนว่ามันนวดไม่ได้ มันไม่ถนัด ในเมื่อดลไม่ขยับตัวออกจากโต๊ะทำงานเลย

อิคุณชายนี่มันจงใจแกล้งเขาชัด ๆ!!!

มือเล็กสะกิดให้คนตัวโตขยับ แต่ดลเอาแต่มองเอกสารในมือ จนมานะต้องออกแรงสะกิดให้แรงขึ้น

"มีอะไร?"เขาถามเสียงกวนๆ มานะจำต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดส่งข้อความ

มานะ: คุณจะให้ผมนวดยังไงในเมื่อคุณทำงานอยู่ ผมนวดไม่ถนัด

"อ่อ ไม่เห็นยาก"พูดจบดลก็ดึงตัวมานะให้นั่งลงบนตักตัวเองทันที คนใบ้ตกใจมากจนแทบจะดิ้นหล่นตัก 

"อื้อ ๆ  ๆ  ๆ"

"พูดอะไรฟังไม่รู้เรื่อง นั่งนิ่งๆสิ เดี๋ยวอย่างอื่นมันก็ตื่นหรอก!" ดลพูดเสียงดุๆแต่มานะก็เอาแต่โวยวายด้วยเสียงเอาะ แอะๆของตัวเอง เพราะจะดันตัวให้ลุกขึ้นแต่ก็โดนวงเเขนแกร่งกอดเอวเอาไว้ไม่ปล่อย

มานะสู้จนเหนื่อย เขาสูดลมหายใจลึกๆแล้วผ่อนมันออกมาช้าๆ ทำเเบบนั้นอยู่สองสามครั้ง ดลมองการกระทำของมานะอยู่ตลอด เขาชอบจริงๆเวลามานะทำหน้าตาเวลาโมโหเขา 

"ทำไมถอนหายใจทำไม? จะต่อยกูหรอ?"

เอออ กูอยากจะต่อยหน้ามึงไอ้เวร มานะอยากจะตะโกนใส่ ดลแบบนี้แต่ทำไม่ได้ ก็เลยได้แต่นั่งทำหน้าหงิกอยู่บนตักแกร่งเท่านั้น ใบหน้างดงามในคราบคนรับใช้กำลังหงุดหงิดจนพวงแก้มนิ่มๆนั้นแดงไปทั้งหน้า ดลเหลือบมองคนบนตกแล้วกลั้นยิ้ม อยากจะหัวเราะแต่ก็ต้องเก๊กทำหน้านิ่งเข้าไว้ ใช้เขาทำหน้านิ่งได้แต่ห้ามจมูกไม่ให้มันบานไม่ได้ ใบหน้าหล่อค่อยก้มลงตรงซอกคอขาว แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ กลิ่นหอมอ่อนๆลอยเข้าจมูก มันไม่ใช่กลิ่นของน้ำหอมแต่มันเป็นกลิ่นของมานะ กลิ่นที่ทำให้เขาสงบและรู้สึกสบายใจ  วงแขนแกร่งกอดกระชับจนเเน่นขึ้น

"นวดให้หน่อย รู้สึกปวดหัว" ดลเอ่ยเสียงนุ่มๆแต่เจือไปด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า มานะมุ่นคิ้วนิดๆ แต่ก็ยอมขยับตัวหันหน้าไปหาคนด้านหลัง ทำให้ใบหน้าของเขาทั้งคู่ห่างกันเพียงคืบ มานะชะงักพอสบตาเข้าตรงๆกับดล ดวงตาคู่คมกำลังจ้องมองมาที่เค้าเหมือนราชสิห์จ้องกับกวางตัวน้อย  มานะเม้มปากตัวเองแน่นรู้สึกว่ากำลังทำตัวไม่ถูก ดลปล่อยมือข้างหนึ่งจากเอวบางแล้วจับมือของมานะขึ้นมาวางไว้ตรงขมับตัวเองโดยที่มือใหญ่ทาบทับเอาไว้ โดยที่ไม่ละสายตาจากมานะเลย นั่นยิ่งทำให้คนใบ้รู้สึกประหม่า แต่ทว่ายิ่งจ้องตากันก็เหมือนมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่างให้ดลค่อยๆเคลื่อนใบหน้านั้นเข้าไปใกล้ ริมฝีปากห่างกันเพียงแค่หนึ่งเซ็น

ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก

ผั้วะ !!

"ไอ้ดล ไอ้ ดะ ...ดล ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยย" เสียงหวีดร้องของบินดังก้องอยู่ในโสตประสาทของคนทั้งคู่ บอดีการ์ดหนุ่มไม่คิดเลยว่าตนเองจะมาเห็นภาพอะไรแบบนี้ในชีวิต

"เห้ออ ไอ้เวรบิน มีอะไร!"ดลดูอารมณ์เสียจนจับสังเกตได้ มานะพอเห็นว่าบินเข้ามาเห็นเขาในท่าล่อแหลมก็พยายามจะลุกหนีดีดตัวเองจนดลแทบจะตกเก้าอี้ ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงด้วยความเขินอาย มานะขยับตัวออกห่างจากเจ้าของบ้านทีละนิด ๆ 

"จะไปไหน?"น้ำเสียงเข้มติดดุเอ่ยเรียกเอาไว้

"มึง จะไปดุน้องมันทำไม อ่อแล้วเมื่อกี้มึงจะทำอะไรไอ้ดล? มึงจะพรากผู้เยาว์เหรอ!" บินทำตาโตขึ้นมาทันที

"พรากผู้เยาว์อะไรของมึง มานะมันอายุสิบเก้าแล้ว!"

"ฮันแน่ แสดงว่ามึงคิด ! ไอ้ดล ไอ้ ไอ้ ไม่ได้ กูไม่ให้! กูจะฟ้องไอ้มิน!"บินกรีดร้องโหยหวนพร้อมกดโทรศัพท์ส่งข้อความเข้ากลุ่มลับของตนเองทันที

(แชท)เบื้องบนเชิญลงทัณฑ์(8)

bin:พวกมึง ไอ้ดลมันจะจูบน้องใบ้! มันจะพรากผู้เยาว์

เลขามินมิน: อะไรนะ!!!!

กรไดรฟ์เว้อ: เอ้ะ เอ้ะ เอ้ะ

คูมตำหนวดเจต:น้องหนีไป! เอาน้องใบ้ของกูออกมาจากตรงนั้น!

DN.K : ใครเป็นของมึง?

zaxมือขวาครับ: เออใครเป็นของมึง ไอ้ตำรวจ

คูมตำหนวดเจต: ยังจะมาถามน้องใบ้ = ของกู

DN.K: สงสัยอยากย้ายไปอยู่ภาคใต้

ฺBee: เอาแล้วไอ้คุณเจตตตต ไปยุ่งกะน้องใบ้ มึงโดนแน่

ดาวีเอง: ทำไมกรุปแชทนี้ถึงได้มีเรื่องอื่นคุยที่ไม่ใช่เรื่องงานคะ หวีว่าเราไปที่ ๆ ของเราดีกว่าค่ะ

DN.K: ที่ไหนอีก หวี

ดาวีเอง:?๊ที่ที่ไม่มีพี่ไง! ห้องนี้เอาไว้คุยเรื่องงานเท่านนั้น!

DN.K: ไม่ได้ใครไปกูตัดเงินเดือนทุกคน!

zaxมือขวาครับ: ว่าแต่มึงทำอะไรน้องนะไอ้คุณชาย?

bin:มันจะจูบน้อง กูเห็นเองกับตา มึงอธิบายมาเดี๋ยวนี้!

DN.K:กูทำอะไร? ไม่ได้ทำอะไร มึงตาฝาด

bin:ตอแหลลลล

ดาวีเอง:พี่ดลทำหนูเจ็บนมอีกแล้ว!

เลขามินมิน:หลานไม่มีนมอย่ามะโน

คุมตำหนวดเจต:มึงจะมาทำแบบนี้กับน้องใบ้ของกูไม่ได้!น้องยังเด็ก น้องบริสุทธิ์ดุจผ้าขาว มึงจะทำให้น้องแปดเปื้อน!

zaxมือขวา:ทำอะไรก็คิดดี ๆ นาไอ้คุณชาย จะเล่นกับใจคนน่ะ

DN.K:กูไม่ได้ทำอะไร

bee:อย่าให้กูมีหลักฐานนนะ ไอ้สัส

bin:กูมี!พยาน!

เลขามินมิน:ใคร?

bee:ใคร ไอ้บิน

ดาวีเอง:พี่บิน

คูมตำหนวดเจต:หาย ไอ้บินหาย

DN.K:ใครเสือกเรื่องของกูอีก กูจะตีให้ยับเลย

ดาวีเอง: r i p พี่บิน

เลขามินมิน:แด่เพื่อนผู้เสียสละ @bin

ดลเหลือบตามองดูเพื่อนสนิทที่สลบกองแทบเท้าด้วยฝ่ามือพิฆาต เมื่อไอ้เพื่อนตัวดีมันจะเอาหลักฐานชิ้นสำคัญของเขาไป มานะยืนอ้าปากพะงาบ ๆอยู่ใกล้ๆ เหตุการณ์ที่เขามองแทบจะไม่ทัน รู้ตัวอีกทีมือของบินที่จับมือเขาก็หลุดออกพร้อมกับร่างของคุณบอดีการ์ดร่วงลงไปกับพื้นเรียบร้อย

ใครใช้ให้มาแตะมานะกันล่ะ

 

 

 

 

"มานะวันนี้ต้องออกไปข้างนอกกับไอ้ดลมันนะ"เสียงของคุณพ่อบ้านมินดังขึ้นในขณะที่มานะกำลังกินมื้อเช้าอยู่

"หนีบเอาน้องไปด้วยอีกละ ไอ้ดลนี่มันยังไง?"กรบ่นออกมาด้วยความรู้สึกสงสัย เพราะตลอดสามวันที่ผ่านมาไม่ว่าดลจะไปไหนเขาก็จะหนีบเอามานะไปด้วยตลอดทั้งๆที่มันไม่ได้มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเอามานะไปด้วย แต่นี่ เขาเอามานะไปด้วย เหมือนต้องให้คนใบ้อยู่ใกล้ๆตลอดเวลา 

"มันคงอยากให้มานะไปเปิดหูเปิดตามั้ง ดูดิเสื้อผ้าก็ได้ใหม่มาตลอด"มินเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้ม เขามองคนใบ้ที่เอาแต่กินอยู่เงียบๆ มานะเวลาใส่เสื้อผ้าดีๆแล้วดูดีขึ้นเยอะยิ่งตอนนี้ผิวดูขาวขึ้นไม่คล้ำแดดเหมือนแต่ก่อนยิ่งทำให้มานะดูน่ารักมากขึ้นกว่าแต่ก่อนหลายเท่า แบบนี้แหละมั้งไอ้ดลเพื่อนเขามันเลยติดน้องมากเป็นพิเศษ

"หึหึหึ เหรอมึงคิดอย่างนั้นเหรอ ถามกูนี้ว่าไอ้ดลมันทำตัวยังไงเวลาอยู่กับน้อง กูบอกได้คำเดียว ว่าโรคจิต"

"เเค๊ก ๆ ๆ ๆ "มานะถึงกับสำลักเมื่อได้ยินคำตอบ ใช่เขานะมันโรคจิต 

"ไอ้สัส สามวันนี้น้องมานะตัวช้ำไปหมดแล้ว มันเอะอะบีบ เอะอะจับ อะไรของมันไม่รู้ เมื่อวานน้องแค่จะไปซื้อชาไข่มุก มันยังเดินตามไปขัดขาน้องเลย บ้าบอ"

"เหอะ ๆ ๆ "มินได้แต่หัวเราะแห้งๆกับพฤติกรรมที่ตรงกันข้ามกับความรู้สึกของตัวอย่างดล มานะก็เอาแต่พยักหน้าเห็นด้วยทุกอย่างกับสิ่งที่กรพูด พร้อมกับทำท่าประกอบให้ดู

"น้องงงงงงงงงงง"กรทำท่าจะร้องไห้เมื่อเห็นหน้าแมวๆเริ่มเบะตอนพยามจะสื่อสารว่าดลชอบเล่นอะไรกับเขาแรงๆ

"มันเป็นคนแบบนั้น มาตั้งแต่พ่อแม่ตาย เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ไม่มีใครทนอยู่กับมันได้นานเพราะมันอารมณ์ร้อน ชอบใช้กำลัง แล้วก็หงุดหงิดง่าย ถ้าใครไม่เข้าใจมันก็จะไม่รู้ว่าที่มันมีอาการแบบนั้นเพราะผลพวงมาจากยารักษาอาการของมัน ฮ่าๆๆ"มานะสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดในน้ำเสียงของมิน ตอนนี้เขาอาจจะไม่เข้าใจถึงความเจ็บปวดของคนทั้งคู่ แต่มานะสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะอดทนให้ถึงที่สุดกับดลจะอดทนจนกว่าตัวเองจะทนไม่ไหวจริงๆ

"มานะเองถ้าไม่ไหวก็บอกพี่ได้นะ พี่จะคุยกับไอ้ดลมันให้"มินพูดเสียงอ่อน เขายกมือลูบหัวมานะเมื่อเห็นอีกฝ่ายส่ายหน้าไปมาแล้วบอกว่าตัวเองไหว กรยิ้มให้กับคนใบ้นับถือในความอดทนที่ใครหลายคนอาจจะยอมแพ้ตั้งแต่สองวันแรกที่ก้าวขาเข้ามา แต่มานะอดทนอยู่มาร่วมสามเดือนเเล้ว แถมดลก็ดูจะใจเย็นมากกว่าแต่ก่อน ไม่ทำลายข้าวของหรือปาอะไรใส่มานะแล้ว ไม่ผลักมานะตกสระหรือไล่มานะไปทำอะไรแปลกๆ ทุกคนในบ้านเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง บ้านดูสงบขึ้น จนน่าตกใจ 

ตื่ ดึ้ง ๆ ๆ

DN.K:ไอ้มินมานะอยู่ไหน? ทำไมมันไม่ตอบข้อความกู!

"หึหึหึ"เสียงหัวเราะที่ดูเหมือนจะชั่วร้ายดังขึ้นจากคุณพ่อบ้านคิ้วบาง รอยยิ้มดูน่ากลัวค่อยๆผุดขึ้นอย่างช้าๆ มินหันไปทำตาแบบรู้กันกับกร ทั้งสองพร้อมใจกันชวนมานะคุยและแอบหยิบโทรศัพท์มานะไปปิดเสียง คุยรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างแต่ก็พยายามที่จะคุยกันเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของคนใบ้ 

วันนี้พวกเขาคงจะได้เห็นคุณเจ้าของบ้านหัวร้อนเป็นเป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์ก็เป็นได้

ตึง  ๆ ๆ ๆ แฮกๆ

"ไอ้พวกเพื่อนเหี้ย! ไม่มีใครตอบข้อความกูสักคน อยากตายนักใช่ไหม!!!"เสียงดลตวาดลั่นบ้านหลังจากวิ่งหามานะไปทั่ว จนสุดท้ายมาเจอสวนหลังบ้านใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่ ๆ เพื่อนๆเขารวมตัวกัน พร้อมกับร่างโปร่งที่เขาโหยหามาตั้งแต่เช้า พอได้ยินเสียงของดล มานะก็สะดุ้งเฮือกตัวสั่น

"อ้าววววคุณเจ้าของบ้านนนน มามะมากินขนม"บินหนึ่งในหน่วยกล้าตายหลังจากได้รับข้อความจากมินว่ามีเรื่องสนุกให้ทำ

"กูไม่แดก! มานะ!มานี่!กูส่งข้อความหามึงเป็นร้อยไม่มีแม้แต่จะอ่าน!" พอได้ยินแบบนั้นมานะก็รีบหาโทรศัพท์ของตนเองทันที 

"*0*"มานะทำตาโตแล้วชี้ไปที่โทรศัพท์ของเอง ข้อความเกือบร้อยกับสายที่ไม่ได้รับขึ้นมาเต็มหน้าจอ แต่ทำไมเขาไม่ได้ยินเสียงละ? 

ดลเดินไปดึงตัวมานะให้ลุกขึ้นยืนแล้วเอาโทรศัพท์ไปดู

"ปิดเสียง! กล้ามากนะมานะกล้าปิดเสียงโทรศัพท์เลยเหรอ!"

"เฮือกกกก!"กูเปล่าาาาาาาาาาาาาาาาา มานะส่ายหย้ายิก ๆ 

"มึงนี่ก็เกรี้ยวกราดเกินเบอร์นะไอ้ดล น้องมันไม่ได้ปิดเองหรอกพวกกุนี่แหละแอบปิด"มินเดินมาอยู่ข้างๆมานะแล้วดึงมานะออกจากมือหนา ๆของดล ร่างสูงทำหน้าไม่พอใจทันที ที่เพื่อนรักเอาคนหน้าแมวออกห่างจากตัวเอง แม้มันจะห่างเพียงแค่ช่วงแขนเดียวก็เถอะ

"เออ เกรี้ยวกราดดดมากเว้อ เป็นอะไรกับน้องมันนักหนา เมื่อก่อนมีแต่ไล่มีแต่แกล้งเขาสารพัด"บินพูดเสริมขึ้นมาอีก

"แล้วไง กูจะทำอะไรมันก็เรื่องของกู มานะ! ขยับมานี่!"

"ดุ ทำดุเข้าไป ระวังน้องมันลาออก" พ่อไดรฟ์เวอร์ของบ้านราดน้ำมันใส่กองไฟเข้าไปอีก

"เอออออ เป็นกูนะลาออกไปนานแล้ว!"มือขวาที่หาตัวไม่ค่อยจะเจอเดินมากอดไหล่มานะไว้อีกคน 

"ใครให้ลาออก กูไม่ให้ออก!"ดลเริ่มจะเสียอาการกังวลว่ามานะจะลาออกจริงๆ

เอ่ออออ มานะได้แต่ร้องเอ่ออ อยู่ในใจ เพราะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ ไม่เข้าใจว่าทำไมดลต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนั้น ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกพี่ๆถึงได้พูดแบบนั้นออกไป แถมยังแอบขยิบตาแอบหัวเราะกันอีก

"ทำไมจะลาออกไม่ได้ มึงอะใจร้ายกับน้องถ้าน้องมันทนไม่ไหวขึ้นมาละก็"มินเเสร้งทำหน้าลำบากใจ

"มานะ เราอยากลาออกไหม?" อ้าวว มานะถึงกับร้องอ้าวในใจแล้วทำหน้าเลิ่กลั่ก มองซ้ายมองขวาแล้วก็มาหยุดที่ใบหน้าของดล ร่างสูงยืนตัวสั่นเทิ้มและเริ่มจะเก็บอาการไม่อยู่ ดลมองหน้ามานะด้วยความกดดัน

"เห้ออออ"มาถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินไปจูงมือดลออกไปโดยที่ดลไม่ขัดขืนแม้แต่น้อย มานะเข้าใจว่าทำไมเพื่อนๆของดลถึงได้ถามดลแบบนั้น 

พวกพี่คงอยากให้อิตาคุณชายมันใจดีกับเขาให้มากกว่านี้สินะ

"จะไปไหน?"มานะลากดลมาถึงสระน้ำที่เขาเคยจมลงไป ร่างโปร่งจับคนตัวโตร่างหมีให้หันหน้าไปทางสระน้ำแล้วก็

ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมม

ถีบ ใช่อ่านไม่ผิดหรอก มานะถีบดลลงไปในสระโดยที่ไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะกระโดดตามลงไป ดลโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำก่อนมานะเขาทั้งตกใจแล้วก็โมโห หัวร้อนหนักกว่าเมื่อกี้นี้อีกพอมานะโผล่พ้นขึ้นมาเหนือน้ำอยู่ตรงหน้าดลพอดี ใบหน้าแมวๆนั่นกลับยิ้มแล้วก็หัวเราะออกมาแม้จะไม่มีเสียงแต่ดลกลับได้ยินมันชัดเต็มสองหูเสียงหัวเราะของมานะ มันทำให้ไฟที่กำลังโหอยู๋ค่อยๆดับมอดลงไป ใบหน้าแมวๆดุซุกซนกำลังมองเขาแล้วยิ้ม พร้อมกับทำท่าทางของคนหัวร้อนใส่เขา แล้วชี้ลงสระ

"เหอะ..คะ..คิดว่าน้ำในสระจะทำให้กุหายโกรธได้รึไง!"ก็หายนั่นแหละแต่ใครมันจะพูดกัน เหอะ!

"อื้อ"มานะพยักหน้าแล้วสาดน้ำใส่ดลอีก

"มานะ! เล่นอะไรของมึงเนี้ยะ!"

"คึคึคึคึ"

"มานะ! ถ้ายังไม่หยุดอย่าหาว่ากูไม่เตือนนะ!"

ซ่า!

"ได้ มานะ ได้ จะเล่นใช่ไหม ด้ายยยยยยยยยยยยยย"

"อ๊ากกก อ๊า ๆ ๆ"

"ไม่ต้องมาทำหน้าแมวใส่ กูไม่ใจอ่อนหรอกเหอะ!"

 

ณ พุ่มไม้ข้างสระ

"มินกูว่าเราไปช่วยน้องดีไหมวะ"

"ไอ้บินมึงอย่าป๊อด"

"แต่ไอ้ดลมันกำลังกดหัวน้องลงน้ำ!"

"เชื่อกู เดี๋ยวมึจะได้ดูของดี กล้องมึงพร้อมไหมไอ้แซก"

"พร้อมมากเพื่อน"

"เชี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย"

"หึหึหึหึ กูบอกแล้ว"

"ไอ้ดลจูบน้อง จูบ จูบที่ไม่เคยมีใครได้!"กรแทบจะล้มทั้งยืน เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองด้วยซ้ำ ดลมีคนเข้าหามานับไม่ถ้วนและมักจะจบลงที่เตียงตลอด แต่ไม่มีใครได้จูบจากดล มันแค่เอาเพื่อระบายสิ่งที่อัดอั้นออก แล้วอีกอย่างมันเป็นคนชอบเซ็กส์ซาดิส ไม่มีใครกลับมาหามันซ้ำเป็นครั้งที่สอง ชื่อเสียงด้านนี้มันเลยติดลบ ว่าหล่อ รวย แต่ดันโรคจิต 

"มึงแต่กูว่าไอ้ดลมันจูบแปลกๆรึเปล่าวะ ดูมัน ไม่ค่อยช่ำเลยอะ"

"ก็มันเคยจูบใครที่ไหน มานะคนแรก"

"อ่อ กูว่าละดูงกๆเงิ่นๆ เหมือนพวกไม่เคยได้สาว"

"ฉายาคุณชายเอวดุไม่ได้มาเล่นๆนะครับเพื่อนๆ"

"เอออันนั้นกูรู้ แหม่!"

 

นี่มันอะไรกัน นี่มันอะร๊ายยยยยยยยยยยยยยยย ผมยังตกใจไม่หายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจู่ๆอิคุณชายมันล็อกคอผมเอาไว้แล้วก็จับจูบ มันไม่ใช่แค่ปากแตะกัน แต่มันเอาลิ้นเข้ามาในปากผมด้วยผมพยายามจะผลักเขาออกแต่ตัวผมกับตัวเขามันช่างต่างกันเหลือเกืน ผมเป็นไม้เสียบผีอย่างผมจะไปงัดกับเสาไม้สักอย่างมันได้ยังไง ยิ่งผมดินมันก็ยิ่งบังคับลากตัวผมลงไปในส่วนของน้ำลึกทำให้ผมต้องใช้ขาเกี่ยวเอวของเขาไว้ด้วยความกลัว

แฮกๆ เหนื่อย หายใจไม่ทันเลย ทำไมเขายังไม่หยุดอีก ผมได้แต่หลับตากอดคอเขาไว้แน่น ปากกับรับหน้าที่รองรับจูบของเขา ผมไม่เคยจูบกับใครแล้วไม่รู้ด้วยว่าการจูบมันจะทำให้หายใจไม่ออกแบบนี้ ผมทรมานมาก ใจเต้นแรงมาก

"อื้ออ อึก อื้ออ"จนผมเริ่มจะทนไม่ไหว เหมือนตัวเองกำลังจะตาย เลยใช้แรงเฮือกสุดท้ายปล่อยมือจากคอเขาแล้วออกแรงจิกผมอิคุณให้หยุดจูบผมเสียที

"อ๊ะ มานะ!"

"แฮ๊กๆๆ -///-"ดลมองหน้ามานะด้วยใจที่เต้นระส่ำ มานะมีผลต่อเขามากเกินไป มากชนิดที่ว่าเขาไม่สามารถจะควบคุมความต้องการของตนเองได้อย่างที่ควรจะเป็น 

"อ่อนชะมัด"กูเนี้ยะอ่อนชะมัด ดลแอบด่าตัวเองในใจ แค่เห็นอีกคนหน้าแดงเขาก็ยกยิ้มอย่างพอใจ อย่างน้อยๆดลก็รู้ว่ามานะหน้าแดงด้วยความเขินไม่ใช่เพราะโกรธ

 

แซกบันทึกภาพทั้งหมดไว้ในโทรศัพท์ นี่ไงหลักฐานว่ามันคิดไม่ซื่อกับน้อง

ไอ้ดลมึงเสร็จพวกกูแน่ ฮ๋าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

"มึงกูเขินอะ อร้ายยยยย"มินยืนบิดกับภาพที่เห็น

"ละมุนมากมึง ไอ้ดลมีมุมนี้กับเขาด้วยเหรอวะ"กร

"ไอ้เจตใจสลายแน่ๆ"

"ไอ้ดลมันร้ายยยยย"

 

......................................................to be con.....................

มานะหนีปายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย อย่าเข้าใกล้อิชายมันนะลูกกกก

จูบแลกของกันและกันด้วย #เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า #น้องมานะกับคุณชายผีบ้า  ไปหวีดกันในทวิตได้นะคะแล้วจะตามไปส่อง555555555 พึ่งจะหัดเล่นทวิต 



 

 

 

 


หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 09 up 20/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 20-11-2020 15:22:44
 :o8: :-[
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 09 up 20/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 20-11-2020 20:39:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 09 up 20/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 20-11-2020 22:03:38
โอ๊ยยยย ไอ้คุณชายด๊ล ผีบ้าไม่พอยังกากอีก จูบไม่เป็น 55555555555555 ต่างเสียจูบแรกให้กันละโว้ย  :-[ เพื่อนๆก็ชงเก่ง ดูๆไปก็น่าจะบ้าพอกันนะเนี้ยทุกคนเลย ดูไม่ค่อยเต็ม ขาดๆเกินๆ 5555555
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 09 up 20/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 21-11-2020 23:02:25
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 09 up 20/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 22-11-2020 20:07:27
 :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า 10 up 23/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 23-11-2020 10:43:39

10

 

ท่ามกลางความสับสนของคนเป็นใบ้ หัวสมองมีแต่ภาพสีขาววิบๆ ลอยเต็มไปหมด ในหูก็ได้ยินแต่เสียงพุจนหูอื้อตาลายไปหมด มานะงงมาก เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วจนเขาไม่ทันตั้งตัว ยามริมฝีปากหนาฉกเข้ามาที่กลับปากนุ่มละมุน มือหนึ่งจับล็อกใบหน้าเอาไว้ไม่ให้ขยับหนีอีกมือก็รัดเอวบางเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหลุด แม้จะไม่ใช้จูบที่รุนแรงแต่ก็ไม่ได้อ่อนโยนมากมายนัก ดลขบเม้มไปทั่วทั้งกลับปากบางสีชมพูอย่างคนหื่นกระหาย ไม่เว้นช่วยให้อีกคนได้ต่อต้าน บีบบังคับให้อีกฝ่ายเผยอปากเพื่อที่ลิ้นร้อนของตนจะได้มุดเข้าไปสำรวจ ดลตะกละตะกลาม เขาไม่เคยพอกับรสหวานติดลิ้น ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดจนอีกคนไร้ทางหนี จากแรกที่แข็งขืนตอนนี้เริ่มอ่อนเอนร่างกายเริ่มไม่มีแรง ดวงตากลมปรือลงอย่างช้าๆและยอมรับรสชาติแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้ลิ้มลอง

"อึก อืมม" พอกินจนอิ่มเขาก็ผละออกมองใบหน้าหวานซีดด้วยใจที่เต้นระทึก มานะดูเหมือนแมวสิ้นฤทธิ์ ตากลมฉ่ำเยิ้ม ปากเล็กบวมแดง มุมปากมีรอยกัดจนเลือดซิบ ดลยกยิ้มอย่างพอใจ เขาไม่เคยรู้สึกกับใครได้เท่ามานะมาก่อนและเป็นจูบแรกที่เขาตั้งใจมอบให้ด้วย

"เอาอีกไหม?"เขาเอ่ยถามเสียงพร่า ดวงตาดุคมเหมือนราชสีห์กำลังใช้สายตาโลมเลียคนในอ้อมกอด

"หึ"มานะส่ายหน้าแดงๆของตัวเองไปมา ไม่กล้าแม้ที่จะสบตากับร่างสูงทั้ง ๆที่ก่อนหน้านี้ สู้ไม่ถอยแท้ๆ

"ทีหลังอย่าดื้อ"น้ำเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยอีกครั้งแต่กดเสียงลงต่ำกว่าเล็กน้อยเพื่อให้คนฟังยอมรับคำสั่งจากเขา มานะเม้มปากแน่น ปฏิเสธในใจ ใครกันแน่ที่ดื้อ!

"ถ้าดื้อจะโดนหนักกว่าจับกดน้ำนะ"คำขู่ที่ทำเอาคนฟังแยกเขี้ยวใส่ อยากจะเอามือตะกุยหน้า หายแค้น คนบ้าอะไรเอะอะจับเขากดน้ำ แค่เมื่อกี้ก็คิดถึงหน้าพ่อแม่แล้ว มานะยู่ปากเชิดหน้าใส่ พร้อมกับดันตัวเองออกห่างเพื่อจะหนีขึ้นจากสระ ดลไม่ยอมให้มานะหนีไปง่ายๆ เขาลากมานะลงไปในส่วนที่ลึกกว่าเดิม คนใบ้ร้องโวยวายไร้เสียงใบหน้าซีดเซียวตื่นตระหนก รีบกอดคอหนาของคุณเจ้าของบ้านไว้เเน่น 

"บอกสิว่าจะไม่ดื้อกับกูอีก" ดลขู่ มานะจ้องหน้าคนที่ตัวเองกอดเอาไว้แน่น ใบหน้าที่ห่างกันเพียงคืบมือ

"ไม่พูดก็จะปล่อยลงตรงนี้นะ"

"อื้อๆ ๆ"ยอมก็ได้วะ!!! มานะพยักหน้าระรัวเมื่อเห็นว่าดลกำลังจะดันตัวเขาออกห่าง ร่างสูงยกยิ้มแล้วกระชับกอดให้แน่นขึ้น แล้วลูบแผ่นหลังเล็กๆ ที่กำลังสั่นเอาไว้ เขาค่อยๆพา มานะเดิน ขึ้นจากสระ อุ้มส่งให้อีกคนได้ขึ้นก่อนที่ตัวเองจะขึ้นตาม

"ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วตามกูขึ้นไปบนห้องด้วย"

"อื้อ"มานะครางรับแล้วรีบวิ่งออกไปอีกทาง

"หึ..น่ารักฉิบหาย"ดลมองตามแผ่นหลังเล็กๆ นั่นไปแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินยิ้มเข้าบ้านไป

 

หลังพุ่มไม้ที่เดิม

 

"เชี้ยยยยยยยย ไอ้ดลมันยิ้ม มินมึงตบหน้ากูดิ๊ นี่กูฝันหรือเพ้อยาแก้ไอ้"

เพี่้ยะ!

"โอ้ยย ไอ้เชี้ยะมินมึงตบจริงเลยเรอะ!"

"เอ้า ก็มึงบอกให้กูตบ"

"ไอ้คิ้วบาง ไอ้ เวรตะไล"กรด่าเพื่อนตัวเองด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับมองค้อนให้อีกวงใหญ่

"มาบูลี่คิ้วกูอีก ไอ้เพื่อนชั่ว!"

"แล้วไอ้มือขวามันไปไหน"มินมองหาเพื่อนอีกคนที่เงียบหายไป ก่อนจะเห็นเพื่อนตัวดีนั่งยิ้มปริ่มน้ำตาไหลอยู่

"เป็นห่าอะไรอีก ร้องไห้ทำไม?"

"มึงกูรู้สึกได้ถึงความหวังเรื่องไอ้ดลเเล้ววะ"

"หวังอะไรของมึง"กรเอ่ยขัดพร้อมกับทำหน้าไม่เข้าใจ

"เมื่่อก่อนไอ้ดลไม่เคยยิ้ม มันไม่เคยให้ใครได้เข้าใกล้มันขนาดนี้ กูว่า น้องใบ้นี่แหละยาวิเศษของไอ้ดล"แซกพรั่งพรูความคิดของตัวเองออกมา

"อืม กูก็คิดแบบมึง กูเลยปล่อยให้ไอ้ดลมันทำอะไรตามใจตัวเองมาสักพักละ อีกอย่างกุลองลดยาคลายเครียดของมันมาสักพักแล้ว"มินบอกด้วยสีหน้าที่คลายกังวลลงบ้างแม้จะยังไม่แน่ใจว่าวิธีนี้จะได้ผลไหมแต่เขาก็พร้อมที่จะเสี่ยงดู

"มันไม่ค่อยอาละวาดเหมือนแต่ก่อน ดูสงบขึ้น"มินอธิบายเพิ่มขณะที่พากันเดินกลับเข้าไปในตัวบ้าน

"แต่มันติดน้องมากขึ้น ให้ห่างตัวไม่ได้เลย"กรพูดเสริม กับสิ่งที่ตัวเองสังเกตเห็น

"พวกเราเองก็ต้องคอยดุมันไว้ด้วย เผื่อมันคลั่งขึ้นมาอีก น้องใบ้กูได้ตายก่อนแน่ๆ"

 

 

ไอ้อาการเขินเวลาเจอหน้ากันดูเหมือนจะกลายเป็นสิ่งที่คนในบ้านเริ่มจะสังเกตเห็น มานะจะหน้าแดงทุกครั้งที่เผลอไปสบตากับดลโดยบังเอิญ ยิ่งเห็นอาการแบบนี้ ดลก็ยิ่งอยากจะแกล้ง

"มานะ"ร่างสูงเดินเข้ามาประชิดตัวจากทางด้านหลังขณะที่คนใบ้ กำลังเช็ดกระจกห้องทำงานของเขาอยู่ ร่างสูงยกสองแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามกักตัวเขาไว้ไม่ให้ไปไหน เสียงทุ้มนุ่มกระซิบเรียกชื่อเขาตรงข้างๆใบหู ดลจงใจเป่าลมหายใจร้อนๆใส่จนอีกคนออกอาการทำตัวไม่ถูกหน้าแดงหูแดงไปหมด ยิ่งดลเบียดตัวเข้าใกล้มานะก็ยิ่งเอาตัวแนบกระจกมากขึ้นเท่านั้น จนแทบจะสิงกับกระจกอยู่แล้ว

"กูอยากได้กาแฟสักแก้ว"ดลก้มใบหน้าลงมาต่ำจนปลายจะมูกชิดกับแก้มนุ่ม

"อะ อื้ออ -///-" มานะสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็รีบเบี่ยงตัวเองให้ออกมาจากวงแขนนั้น ก่อนจะรีบวิ่งหนีออกจากห้องทำงานเขาไป กลิ่นหอมอ่อนๆ ยังติดอยู่ที่ปลายจมูก ใบหน้าหล่อร้ายยกยิ้มเป็นรอบที่สิบของวัน เขาเดินเอื่อยๆมานั่งรอกาแฟโต๊ะทำงานเอนหลังพิงพนักอย่างสบายอารมณ์ ผิดกับอีกคนที่ตอนนี้มือยังสั่นไม่หายจับช้อนกาแฟยังแทบจะร่วงลงพื้น ใจสั่นจนเลือดสูบฉีดขึ้นหน้าไปหมด เดินผ่านใคร ใครก็ถามว่าไม่สบายรึเปล่า 

อิคุณชายผีบ้า! ชอบทำให้เขาอับอาย 

 

................

 

 

ดล บรรยาย

ในช่วงชีวิตของผมที่ผ่านมา มันมีแต่ความน่าเบื่อและน่าหงุดหงิดมาตลอด ผมเป็นผู้ชายที่ใคร หลายๆอาจจะอิจฉา เป็นคุณหนูคุณชายอาศัยเงินที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ มีบ้านมีรถ มีบริษัทเป็นของตัวเอง เป็นมหาเศษฐีที่มีชีวิตที่สมบูณร์แบบ  แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนไม่เคยรู้ นั้นคือผมมีอาการทางจิตที่เรียกว่า PTSD (มีอาการเครียด เนื่อจากเหตุการณ์เลวร้ายในอดีตมักจะมีอาการได้ยินหรือเห็นภาพจนเกิดอาการคลุ้มคลั่งและจะทำร้ายตัวเองและคนรอบข้าง อาการเหล่านี้มันมักจะมาพร้อมกับแรงกดดันหรือก็ต่อเมื่อผมมีอาการเครียดมากๆ แต่ในทุก ๆ วัน ตายของพ่อกับแม่ผม อาการมันก็ยิ่งกำเริบหนัก เหมือนวันนั้น วันที่ผมเกือบจะฆ่ามานะ มีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นในคืนนั้นและมันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จู่ๆอาการคลั่งของผมมันค่อยๆสงบลง สงบลงในอ้อมกอดของคนใบ้ ที่ผมคอยแต่จะแกล้งให้เจ็บตัว ผมยอมรับตรงนี้เลยก็ได้ครับว่า ผมถูกใจมานะตั้งแต่แรกเจอ อย่่างที่ไอ้มินมันบอกว่ามานะมันคือไทป์ของผม ตั้งแต่มานะเข้ามา ชีวิตผมก็มีสีสันขึ้นมาทันที 

ผมนั่งรอกาแฟจากคนใบ้อย่างใจจดใจจ่อ จมูกของผมยังได้กลิ่นหอมอ่อนๆของเขา กลิ่นที่ทำให้ผมต้องคอยให้เขาอยู่ใกล้ๆ ไหนจะใบหน้าคล้ายแมวนั่นอีกถ้าสังเกตดีๆบนแก้มด้านขวาจะมีจุดสามจุดที่เรียงตัวกันคลายรูปดาวอยู่ มันทำให้ผมแอบมองหน้าเขาบ่อยๆจนกลายเป็นจุดวางสายตาของผมไปแล้ว  

ก็อก ๆ ๆ 

เสียงเคาะดังมาจากทางหน้าประตูเป็นสัญญาณให้ผมรู้ว่าเขากำลังกลับเข้ามาอีกครั้งผมรีบตีหน้านิ่งๆเพื่อปกปิดอาการที่กำลังเป็นอยู่ทันที  มานะเป็นเด็กที่ตัวผอมสูงไหล่เล็กกว่าผู้ชายในวัยเดียวกันมากยิ่งท่าเทียบกับผมมานะกลายเป็นตัวเล็กตัวน้อยทันที ผมมองคนใบ้ด้วยสีหน้าที่เก็บอาการอยากจะจับเขาฟัดเอาไว้ ปล่อยให้เขาเอากาแฟมาวางแล้วเดินกลับไปเช็ดกระจกต่อ ส่วนตัวผมก็นั่งทำงานไปเงียบๆ มีบ้างที่แอบมองเขาเวฃาทำงานจนบางครั้งเราก็สบตากันเข้าโดยบังเอิญ พอมานะเห็นว่าผมมองอยู่ก็รีบก้มหน้าทำงานต่อ แต่ผมรู้ว่าเขากำลังเขิน เพราะใบหูสีขาวนั่นกำลังกลายเป็นสีแดง

"หึหึ"

เด็กบ้าอะไรน่ารักฉิบหาย!

อาการแบบนี้เค้าเรียกว่าคนคลั่งแมวได้รึเปล่าครับ

 

จบบรรยายของดล (มาแบบสั้นๆ 555)

 

พอได้ยินเสียงหัวเราะของคนเป็นเจ้านาย เด็กชายใบ้ก็หันมามองด้วยความสงสัย หัวเราะแบบคนไม่น่าไว้ใจ มานะเลยทำงานแบบหลบๆ ยืนแอบหลังตู้บ้าง แอบหลังม่านบ้างเพื่อไม่ให้ดลมองเห็นตนเองชัดๆ จนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องออกไปข้างนอก ดลบอกให้มานะไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วมารอเขาที่โรงจอดรถวันนี้เขาจะขับรถเอง มานะเลยต้องรีบเก็บของเพราะดลบอกว่าให้เวลาสิบนาที

มานะใช้เวลาในการอาบน้ำไม่นานออกมาแต่วตัวด้วยชุดที่ดลซื้อให้ เสื้อเชิตโคล่งสีขาวกับกางเกงสกินนี่สีดำขาดเข่าแล้วสวมทับด้วยรองเท้าผ้าใบซึ่งดลก็เป็นคนซื้อให้อีก มานะรีบวิ่งมาที่โรงจอดรถ เขาเห็นชายเจ้าของบ้านยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงรอเขาที่รถ ดลเปลี่ยนแค่เสื้อผ้าชุดที่เขาใส่ก็คล้ายกับมานะต่างกันที่สีสลับกันเท่านั้น ดวงตากลมมองคนเป็นเจ้านายด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

คิดว่าเท่มากมั้ง -///- ในใจคิดแต่ก็ใจเต้นแรงกับภาพที่เห็น นั่นคือรอยยิ้มุมปากที่จุดขึ้นมาให้เห็น

ยิ้มก็เป็นนี่หว่า นึกว่าทำเป็นแต่หน้าตึง มานะแอบนินทาในใจอีกครั้ง ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินไปหาเจ้านายที่ชอบทำตัวเหมือนคนผีเข้าผีออก

"ขึ้นรถ"เขาสั่งเสียงเรียบมานะเดินไปเปิดปรูรถอีกข้างส่วนดลก็ประจำที่นั่งคนขับ พอเข้ามาด้านใน ดลก็ทำให้มานะต้องหายใจไม่ทั่วท้องอีกครั้ง เพราะจู่ๆดลก็โน้มตัวมาคาดเข็มขัดให้คนใบ้อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

"ต้องให้บอกกี่ครั้งว่าขึ้นรถแล้วให้คาดเข็มขัด"เขาใช้น้ำเสียงดุๆ แต่มานะกรอกตาขึ้นมองบน ใจอยากจะเถียงแทบขาด

ก็ยังไม่ทันได้นั่งดีๆเลยไหม?! มานะทำหน้ายู่ไม่รู็ด้วยซ้ำว่ามันเป็นเจตนาของดลที่พยายามจะทำตัวใกล้ชิดกับเขา

บ่ายสามโมงรถก็เคลื่อนออกจากตัวบ้านจุดมุ่งหมายคือห้างสรรพสินค้าในเครือของ K.กรุป  ซึ่งที่นี่มานะยังไม่เคยมาเอาจริง ๆ มานะไม่เคยเดินห้างเลยด้วยซ้ำยิ่งเป็นห้างที่ใหญ่โตแบบนี้เจ้าตัวอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ เลยเก็บอาการไม่ค่อยจะอยู่ พอยิ่งรถขับเข้ามาใกล้มากขึ้นเท่าไหล่สองมือเล็กก็จับกระจกแล้วหันหน้าไปมองไม่หยุด ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อเห็นความอลังการของที่นี่ ทั้งสวนสวย ทั้งความกว้างขวาง ทั้งผู้คน ยิ่งทำให้มานะเผลอร้องอู้ อ้า ออกมาเสียทุกครั้งที่ตัวเองรู็สึกทึ่งหรือตื่นเต้น ดลแอบชำเลืองมองด้วยความเอ็นดู เพราะมานะเป็นแบบนี้เขาเลยชอบพามานะออกมาข้างนอกด้วยบ่อยๆ ยิ่งถ้าพาไปกินของอร่อยมานะจะเหมือนลูกแมวที่เห็นถาดนมวางอยู่ตรงหน้า ดวงตาสุกใสเป็นประกายจนดลต้องกลั้นยิ้มจนจมูกบาน

 

 อิคุณชายผีบ้า

5555555555555



หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า ch.10 up 23/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 23-11-2020 17:49:45
พามาเดทหรอตาคุณชาย แหมๆ 555555  :-[
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า ch.10 up 23/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 23-11-2020 18:26:40
 :impress2: :-[
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า ch.10 up 23/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 23-11-2020 20:02:56
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า ch.10 up 23/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 24-11-2020 02:09:20
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า ch.11 up 25/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 25-11-2020 13:15:43

สองมือถูกยกขึ้นมาประสานกันไว้ตรงใต้คาง พร้อมกับเลื่อนขึ้นมาปิดปากตนเองเอาไว้ข้างหนึ่งเพื่อปกปิดรอยยิ้มที่กำลังฉีกกว้าง เมื่อจ้องมองแมวในร่างคนที่กำลังมีความสุขกับอาหารตรงหน้า ดวงตากลมสุกใสดูมีความสุขกับขนมหวานตรงหน้า ปากบางงับเจ้าก้อนแป้งนุ่มฟูที่โรยด้วยน้ำตาลสีขาวราวกับหิมะ มันอร่อยจนเจ้าต้องครางอื้ออ ออกมาจากลำคอ นี่ถ้าเจ้าตัวพูดได้คงจะร้องตะโกนว่า อร่อยโคตรๆ

มานะคือแมวที่ดลพยายามจะขุนให้อ้วน เขาพาเจ้าตัวออกมาเที่ยวเล่นข้างนอกอยู่บ่อยครั้งจนเพื่อนๆแซวว่ามานะไม่ใช่พ่อบ้านแต่เป็นเด็กน้อยของไอ้ดล ซึ่งดลเองก็ไม่เคยปฏิเสธเขาทำเพียงแค่ยิ้มมุมปากแล้วเดินหนีออกมา วันนี้นอกจากจะพามากินขนมดลยังพาเจ้าแมวดื้อไปเล่นซนที่โซนเกสม์เซนเตอร์ในห้างของเขาอีกต่างหาก พอมานะเห็นตู้คีบตุ๊กตาก็สับขาเล็กๆนั้นวิ่งออกไปทันที มือเล็กควักเอาแบ้งร้อยใบเดียวที่หยิบติดมือมาออกจากกระเป๋ากางเกง พร้อมกับมองหาที่หยอด แต่กลับไม่เจอมานะยืนงงจนดลเดินเข้ามาประกบจากทางด้านหลังแล้วแย่งแบงค์สีแดงในมือของเขาไป

"อ๊ะ"

"มันต้องแลกเหรียญก่อน"ดลชี้ไปที่ตู้แลกเหรียญเฉพาะในโซนของเล่นมานะพยักหน้าเข้าใจปล่อยดลเป็นคนจัดการ

"งะ"พอดลส่งเหรียญที่มีแค่สิบเหรียญให้ก็ทำหน้าหงอยเพราะคิดว่าหนึ่งร้อยบาทน่าจะได้เยอะกว่านี้

"หนึ่งเหรียญมีค่าสิบบาท จะเอาอะไรเยอะแยะ?" มานะหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาเเล้วกดส่งข้อความ

มานะ:แพงจัง

"มันก็ราคานี้กันทั้งนั้น"ดลอธิบายก่อนจะเดินจูงมือเล็กๆนั่นไปที่ตู้คีบตู้หนึ่ง

"เลือกมาสิว่าจะเอาตัวไหน?"เขาบอกกับคนข้างกายด้วยน้ำเสียงที่จะมั่นอกมั่นใจนิดๆ ว่าไม่ว่าจะตัวไหนเขาก็คีบได้ทั้งนั้น

มานะกวาดสายตามองไปรอบๆตู้จำนวนตุ๊กตาหน้าตาน่ารักเต็มไปไปหมด เขาเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเอาตัวไหน จนกระทั่งสะดุดกับเจ้าแมวน้ำตัวสีขาวที่บังเอิญมีจุดสามจุดตรงแก้มเหมือนกับตนเองเข้า

"อื้อ ๆๆ"เจ้าตัวรีบชี้ไปยังเจ้าแมวน้ำตัวนั้นทันที ดลเห็นแล้วก็ยกยิ้มนิดๆ ก่อนจะลงมือหยอดเหรียญในมือลงไปหนึ่งเหรียญ

เขาค่อยๆจับคันโยกเพื่อให้ตรงกับเป้าหมาย เล็งซ้ายเล็งขวาพอแน่ใจว่าได้แน่ๆก็กดปุ่มให้ที่คีบเลื่อนลงมา

หมับ! 

ตุบ!

"อ๊ะ -*- "พอที่คีบมันคีบหัวตุ๊กตาขึ้นมาได้สักพักขณะที่กำลังจะเคลื่อนตัวไปยังช่องที่ใส่ตุ๊กตา จู่ ๆ ที่คีบมันก็เหมือนไม่มีแรงขึ้นมาซะอย่างนั้นมันปล่อยให้ตุ๊กตาร่วงลงมาต่อหน้าต่อตาคนที่รอลุ้นจนใจสั่นไปหมด ตุ๊กตาร่วงน้ำตาคนรอก็ร่วงมานะเบะปากอย่างนึกเสียดายดลที่ตอนเเรกมั่นใจนักมั่นใจหนาถึงกับหน้าม้านรีบหยอดเหรียญลงไปเพิ่มทันทีและผลที่ได้ก็ไม่ต่างจากครั้งแรกเท่าไหร่นัก จนตอนนี้เขาเหลือเหรียญในมืออีกแค่สองเหรียญเท่านั้น มานะทำตาละห้อยกับความเสียดาย

ติ้ง

มานะ:พอก่อนไหมครับเปลืองเงิน ผมอยากเล่นอันนั้น

"เรือโจรสลัดอะนะ"ดลถามพร้อมกับมุ่นคิ้วนิดๆ เพราะเขายังคาใจกับตู้คีบตรงหน้าอยู่ ดูก็รู้ว่ามานะอยากได้แค่ไหน

"อื้อ"เสียงที่ตอบกลับมาดูจะหงอยๆ

"ขออีกตา ครั้งนี้ได้แน่!"

มานะถอนหายใจออกมาดังเฮือก

นี่คุณเป็นเจ้าของห้างไม่รู้เลยเหรอว่าเล่นมาจะหมดเหรียญแล้ว เป็นแบบนี้เค้าเรียกว่าตู้มันโกงน่ะ เสียงที่ดังก้องอยู่ในใจของเขาบอกกับคนตัวโตที่เริ่มมีนิสัยแบบเด็กๆมากขึ้น รู้ว่าอยากจะเอาชนะ แต่มีพันหมดพันบอกเลย มานะทำท่าจะเดินไปยังเครื่องเล่นที่หมายตากับเหรียญที่ขอมาจากดลเมื่อครู่หนึ่งเหรียญ

"เดี๋ยวสิ อยู่เป็นกำลังใจก่อน"ดลดึงข้อมือเล็กเอาไว้มานะเม้มปากนิดๆอย่างชั่งใจเพราะไม่อยากผิดหวังเป็นรอบที่เก้า

"น่า แป๊บเดียวรอบบนี้ได้แน่"พอได้ยินเสียงที่อ่อนโยนแบบนั้นมานะก็ไม่กล้าที่จะทิ้งให้ดลต้องผิดหวังเพียงลำพัง เอาวะแค่ครั้งที่เก้าเองไม่ใช่สิบสักหน่อย สองขาเล็กเลยขยับเข้าไปใกล้ๆตู้คีบ พร้อมกับกำหมัดขึ้นมาแล้วทำท่าสู้ๆให้กับเจ้านาย

"มา มาะมาหาป๊ะป๊าซะดีๆ"ดลถูมือไปมาพร้อมกับเพ่งสมาธิ มือหนาขยับคันโยกให้ตรงตำแหน่ง ก่อนจะกดปุ่มให้ที่คีบลงมา 

"อุ๊ *0*"

"เย้ๆ"

ใครจะไปรู้ว่าดลจะออกอาการดีใจจนกอดคนหน้าแมวเข้าเต็มรัก มานะเองก็ดีใจกระโดดกอดดลไม่ต่างกัน เสียงของพวกเขาดังจังคนที่อยู่ใกล้ๆหันมามอง มานะรู้ตัวก่อนก็ค่อยๆตีดลให้ได้สติ

"อะ เอ่อ ก็กูดีใจไง ไม่ได้ตั้งใจกอด"เขาแก้เขินด้วยการเดินไปหยิบตุ๊กตาส่งให้คนใบ้ มานะยื่นมือไปรับด้วยใบหน้าที่แดงเป็นลูกตำลึงสุก สองแขนเล็กกอดตุ๊กตาแมวน้ำเอาไว้เเน่นด้วยความดีใจ ใบหน้าเล็กๆยิ้มจนแก้มปริไม่ต่างกับเจ้าของห้างที่ยืนดูอยู่เลยสักนิด

"ปะ"เขาจับข้อมมือเล็กให้เดินต่อแต่มานะขืนตัวไว้แล้วชี้ไปที่เครื่องเล่นที่ตัวเองอยากจะเล่น

"อ่อ นำไปสิ"

 

 

19.30น.

เวลาทุ่มครึ่งที่รถยนตืคันหรูกลับมาจอดที่เดิมที่มันจากมา ร่างสูงโปร่งเดินลงจากฝั่งคนขับก่อนจะเดินอ้อมไปยังอีกฝั่งเขาเปิดประตูแล้วอุ้มคุณพ่อบ้านตัวน้อยออกมาจากเบาะ มานะหลับสนิทหลังจากทานมื้อเย็นเสร็จ เขาอุ้มเจ้าแมวดื้อเข้าไปในบ้านไม่ได้เอาไปส่งที่ห้องของเจ้าตัวแต่อย่างใด มือของมานะยังคงกอดเจ้าตุ๊กตาแมวนั้นเอาไว้เเน่นเหมือนกลัวว่ามันจะหล่นหายไป   

 มินที่นั่งรอพวกเขาอยู่ถึงกับทำตาโต เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักอุ้มมานะเข้ามาในบ้าน ใจเขาหล่นไปถึงตาตุ่ม เพราะคิดว่าดลทำอะไรมานะมาแน่ๆ

"ไอ้ดลมึงทำอะไรน้อง!"เสียงที่ดังออกมาทำให้คนในอ้อมแขนสะดุ้งเบาๆ ดลหันไปจ้องเพื่อนตาดุ

"มันแค่หลับมึงอย่าพึ่งโวยวาย"ดลบอกพร้อมกับจะก้าวผ่านมินขึ้นไปยังชั้นสองของคฤหาสน์

"เอ้า แล้วทำไมไม่พาน้องไปนอนที่ห้องน้องอะ"

"มานะจะนอนกับกู"คำบอกเพียงสั้น ๆ แต่ได้ใจความ มินอ้าปากค้างนิดๆเมื่อดลอุ้มมานะเดินผ่านเขาไปยังห้องนอน

 

ภายในห้องนอนสีทึบผนังห้องถูกทาสีโทนดำ มีรูปถ่ายของเจ้าของห้องประดับไว้ตรงหัวนอน ดลวางมานะลงบนเตียงสีเสาของตัวเอง พื้นที่ส่วนตัวที่ดลหวงนักหวงหนาแต่ตอนนี้มานะกลับได้สิทธิพิเศษในการใช้ร่วมกันกับเขา เตียงขนาดคิงไซต์ถูกปูด้วยผ้าปูหนานุ่มตามราคาเรือนหมื่น หมอนขนเป็ดแแท้ถูกสอดเข้าใต้หัวทุยทันทีเมื่อแผ่นหลังเล็กสัมผัสเตียง ขายาวก้าวไปกดรีโมทเปิดเครื่องปรับอากาศด้วยอุณหภูมิยี่สิบสี่องศา อุณหภูมิที่เขาชอบ ดวงตาคู่คมเหลือบมองคนบนที่นอนเล็กน้อยก่อนจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าที่ถูกใส่มาตลอดวันออก แล้วโยนลงตะกร้าสำหรับส่งซัก ร่างกายกำยำสมส่วน หน้าท้องเต็มไปด้วยมัดกล้ามที่ขึ้นมาถึงหกก้อนเล็กๆ ดลคว้าเอาผ้าเช็ดตัวขึ้นมาพันเอวสอบปกปิดวีเชฟไว้เพียงเสี้ยว ถ้าใครมาเห็นร่างกายของดลในตอนนี้ คงระทวยน้วยลงพื้นกันหมด

เสียงหยดน้ำกระทบพื้นดังอยู่ไม่นานก็สิ้นสุดลงสองขาแกร่งก้าวออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าเช็ดตัวพันรอบเอว หัวที่กำลังเปียกเพราะเจ้าตัวสระผม ก้าวเดินออกมา แต่มีบางอย่างที่สามารถทำให้เขาเดินกลับไปในห้องน้ำแล้วขังตัวเองอยู่สักชั่วโมงได้ นั่นคือ ภาพของมานะนั่งหลับตาหัวฟูฟ่องสองมือยกขึ้นมาขยี้ตาตัวเองแล้วทำหน้าง่วงๆใส่

อึก -///- ดลกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ นี่เขาต้องทำยังไงถึงจะหักห้ามใจของตนเองไม่ให้จับแมวตรงหน้ามาขย่ำให้หายอยาก

"งือออ"มานะยังเมาขี้ตา และดูเหมือนจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นอยู่ที่ไหน 

"มานะ"ดล ลองเรียกคนบนเตียงดู

"อือออ"

"ง่วงก็นอน ลุกมาทำไม" น้ำเสียงนุ่มๆเป็นเหมือนมนต์สะกดจิต มานะค่อยๆเอนตัวลงนอนที่เดิมพร้อมกับกรนนิดๆ

"หึหึ น่ารักชะมัด"ดลจำใจเดินไปแต่งตัวด้วยชุดนอนสีทึบและนั่งเช็ดผมตรงข้างเตียงฝั่งที่มานะนอนอยู่ มือก็ถูเส้นผมตาก็มองคนที่นอนหลับ แต่ดูเหมือนแก้มของมาะนจะมีแรงดึงดูด ดลก้มหน้าลงไปหาดาวสามดวงนั้นเรื่อยๆจนกระทั่ง

จุ๊บ

"เอาแค่นี้ก่อน วันหน้าค่อยว่ากันใหม่"

 

 

เพราะเมื่อวานเสียพลังงานไปเยอะแล้วก็เข้านอนไวมานะตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดที่ไม่คุ้นเคย เพราะอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป ไหนจะรู้สึกหนักๆที่หน้าท้องของตัวเอง ดวงตากวางกวาดมองไปทั่ว ๆ อย่างแปลกใจจนกระทั่งจุดโฟกัสมาหยุดที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของคุณเจ้าของบ้าน

ตึก ตึก

มานะใจกระตุก จนสะอึกออกมา ใบหน้าของดลอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก ดวงตาคู่คมหลับพริ้ม ใกล้จนเห็นแพขนตาของคนนอนหลับ มานะไล่สายตาไปที่สันจมูกโด่งจนตัวเองนึกอิจฉา เลื่อนไปยังริมฝีปากอิ่มที่มักจะพ่นคำด่าออกมาอยู่บ่อยๆ มานะเม้มปากเหมือนจะคิดอกุศล

บีบจมูกให้ตายตรงนี้เลยดีไหมนะ?

มองเจ้านายจนเพลินในหัวก็คิดอะไรที่ร้ายออกมานับไม่ถ้วน 

แอบโกนขนคิ้วดีไหมนะ จะได้เหมือนพี่มิน หรือ เขียนหน้าผากว่าตัวร้ายดี  คิดเพลินจนลืมดุว่าคนที่อยู่ใกล้แค่คืบนั้นลืมตามองตัวเองอยู่นานแล้ว 

"มองกูแล้วทำสีหน้าแบบนั้น คิดอะไรไม่ดีอยู่แน่ๆ"ดลเอ่ยเสียงเรียบๆ มานะเลยได้สติ ร่างบางในอ้อมแขนก็ดีดตัวออกแต่วงเเขนแกร่งกระชับกอดเอวเล็กเอาไว้ได้ทัน

"จะไปไหน?"

"หื่ออออ"มานะทำหน้ายุ่งใส่พร้อมกับแกะมือปลาหมึกออกจากเอว

"ยังเช้ามืดอยู่เลยจะรีบไปไหน?"นี่ดลลืมไปแล้วละมั้งว่ามานะเป็นพ่อบ้าน

"อ่า ๆ อื้ออ" มือเล้กพยายามความหาโทรศัพท์ของตัวเองแล้วพิมข้อความลงไป

มานะ:ผมมีงานต้องทำครับ ปล่อยผมได้แล้ว  นิ้วเล็กพิมระรัว

"นี่ก็เป็นงานของมึงเหมือนกัน"

มานะ: งานอะไรของคุณ?

"หมอนข้าง" คำตอบของดลทำเอาคิ้วเรียวกระตุก หมอนข้างเนี้ยะนะ

มานะ:คุณดล ปล่อยผมนะ หมอนข้างบ้าบออะไรของคุณ มานะจ้องตากับเจ้าของร่างหนาหลังจากที่พิมพ์ข้อความส่งไป

"ก็หน้าที่หมอนข้างไง ช่วงนี้กูติดหมอนข้าง ถ้าไม่ได้นอนกอดจะนอนไม่หลับ" มองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่าโกหก!มานะแทบจะยกมือขึ้นข่วนใบหน้าหล่อๆนั่นให้หายหงุดหงิด

มานะ:ผมต้องลงไปทำอาหารเช้าให้คุณ

"ให้คนอื่นทำ"

มานะ:แต่นั่นมันหน้าที่ผม!

"นี่ก็หน้าที่นายเหมือนกัน"

"หื่้ออออออออออออออ"

"นอนเลิกดื้อ!"

"หึ"

"ไม่นอนกูจูบนะ เอาไหม?"

" = ="

"ถ้าอยากโดนจูบก็นอน"

 

ต่อยหย้าเจ้านายนี่ต้องเสียเงินกี่บาทครับ บอกผมที

 

กว่าจะได้ลุกจากที่นอนก็ปาเข้าไปเจ็ดโมงกว่า นอนตัวเกร็งจนตะคริวกินไปทั้งตัว คนบ้านอะไรใช้เราเป็นหมอนข้าง แขนขาก็ไม่ได้เล็กหนักจาหายใจแทบจะไม่ออก แล้วนี่อะไรตัวเองลุกก่อนแทนที่จะปลุก นู้นออกกำลังกายอยู่อีกห้อง มันน่าโมโหนัก อิคุณชายผีบ้า! 

ผมรีบลุกจากเตียงนอนราคาเรือนแสนยอมรับตรงเลยว่าผมชอบนอนไอ้เตียงใหญ่ๆหลังนี้มากเพราะมันทั้งนุ่มทั้งอุ่น นอนสบายสุดๆไม่เหมือนเตียงแข็งที่ห้อง ผมลุกจากที่นอน อย่างรู้สึกเสียดายแต่สถานะของผมมันคือคนใช้ไม่ใช่เจ้าของ เลยจำใจต้องลุกจากมันแล้วจัดการปัดฝุ่นเก็บที่นอนให้เรียบตึงพับผ้าห่มจัดหมอนให้เหมือนว่ามันไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน ทำเสร็จก็เดินลงไปที่ชั้นล่างของบ้านเพื่อไปอาบน้ำที่ห้องของตัวเอง แต่พอลงมาก็เจอเข้ากับพี่มินที่นั่งทานกาแฟรสชาติขมเหมือนน้ำต้มบอระเพ็ด พร้อมกับอ่านหนังสือพิมพ์ที่ทั้งเล่มมีแต่ภาษาอังกฤษ ข้างๆกันก็มีกระเป๋าเอกสาร แถมวันนี้พี่มินยังเเต่งตัวเต็มยศคือใส่สูทอย่างดี พอเดินลงมาพี่เขาก็สบตาผมแล้วยิ้มแปลกๆ ที่มองแล้วรู้สึกขนลุก ผมก้มหัวทักทายเขาแล้วรีบเดินออกมา และตลอดทางผมก็ได้รับรู้ถึงสายตาแปลกๆจากทุกคน ทั้งหวี พี่กร  พี่บิน พี่แซก และอีกหลายๆคน อะไรกันวะ! ผมพยายามจะไม่สนใจรีบเดินจ้ำๆกลับไปยังห้องของตัวเองแล้วรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อมาทำงาน

ติ้ง!

ดล:หายไปไหน?

มานะ:กลับมาอาบน้ำครับ

ดล:ไหนหลักฐาน

มานะ: = =

ดล:รีบมากูหิวข้าว

มานะ:ไหนบอกให้แม่บ้านทำให้ไงครับ?

ดล:ไม่มีคนกินเป็นเพื่อน

มานะ:พี่มินไงครับ

ดล:ทำไมเรียกไอ้มินว่าพี่มิน

มานะ:ก็เค้าเป็นพี่ อายุมากกว่าผม

ดล:กูก็อายุมากกว่ามึงนะเผื่อลืม

มานะ:คุณดลไม่ใช่พี่ผมครับ

ดล:เออ! กูก็ไม่ได้อยากเป็นพี่ แต่อยากเป็นผัว! (อ่านแล้ว)

(ดลลบข้อความ)

ดล:เออ!ไม่เป็นพี่ก็ได้!

มานะ:คุณดลเป็นเจ้านาย

ดล:เออ!

มานะ:ทำไมต้องหยาบคายผ่านทุกตัวอักษรด้วยครับ? หัดทำตัวน่ารัก ๆ เหมือนหวีมันบ้างสิครับโลกจะได้น่าอยู่มากขึ้น

ดล:มึงด่ากูเรอะ!

มานะ:ตรงไหนเหรอครับที่เรียกว่าด่า? ถ้าด่าต้องไอ้สัสดล มึงมันคนเหี้ย! แบบนี้ครับ

ดล:ไอ้หน้าแมว!รีบมา!

 

ผมได้แต่มองข้อความของไอ้คุณชายมันส่งมาเกรี้ยวกราดใส่ที่ผมเรียกพี่มินว่าพี่ เขาจะโมโหอะไรของเขาหยาบคายได้ทุกที่ทุกเวลา เอาแต่ใจเป็นที่หนึ่งเลยคนคนนี้  ผมรีบเก็บของเเล้วเดินกลับไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่ทันไปช้ากว่านี้มีหลังโดนเฆี่ยนเป็นอีเย็นในละครทีวีแน่ๆ 

พอเข้ามาก็เห็นอิคุณชายมันนั่งทำหน้ายักษ์รออยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหารข้างกายมีพี่มินนั่งกลั้นขำจนหน้าแดง เห็นแล้วสงสาร สายตาก็จับจ้องมาที่ผมแล้วแอบยกนิ้วโป้งให้ใต้โต๊ะ ผมทำอะไรเหรอถึงได้ชมว่าเยี่ยมยอด?

"มานั่งนี่!"เขาแทบจะตวาดใส่ผมซะด้วยซ้ำผมไม่อิดออดเดินไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเขาทันที ผมมองคนที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับแล้วเริกคิ้วเป็นเชิงถามจะให้ผมทำอะไรพร้อมกับทำท่าทางไปด้วย

"กินข้าว!"ผมก้เลยยกมือบอกให้เขา "เชิญกินเลยครับ กินเลย"

"ป้าอรตักข้าว" ป้าอรเดินมาตักข้าวใส่จานที่วางตรงหน้าเขาแล้วเดินมาตักใส่จานของผม ผมรีบยกมือห้ามบอกไม่ต้องตัก เพราะผมจะไปกินในครัว

"ป้าอรตัก"คำสั่งของอิคุณชายมันทำให้ป้าอรต้องตักข้าวใส่จานผมผมมองเขาแล้วทำหน้าไม่เข้าใจ กูคนใช้ไง คนใช้ที่ต้องนั่งกินในครัวมึงไม่เข้าใจเหรออออ

พี่มันหันมามองหน้าผมแล้วพยักหน้าให้ผมทำตามความต้องการของอิคุณชายนั่น ไม่เข้าใจเลย กับข้าววันนี้ก็เป็นกับข้าวพื้นๆที่มันดันเป็นของโปรดผมเกือบทั้งหมด ทั้งผัดฟักทองใส่ไข่ ต้มจืดหน่อไม้ใส่หมูสามชั้น แล้วก็น้ำพริกอ่อง อาหารพวกนี้แม่ชอบทำให้กินบ่อยๆถ้าวันไหนเราขายของได้เยอะหรือมีรายได้เพิ่มขึ้นมานิดหน่อยแม่จะทำอาหารพวกนี้ให้ผมกับน้องกินเสมอ ผมตักอาหารพวกนั้นเข้าปากทีละคำด้วยความคิดถึงแม้ว่ารสชาติมันจะไม่ได้เหมือนกับที่แม่ทำให้แต่ก็ทำให้ผมอดที่จะคิดถึงพวกเขาไม่ได้ ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นตายร้ายดียังไงบ้าง ผมอยากออกตามหาพวกเขานะแต่ทุกอย่างมันไม่ได้เอื้ออำนวยผมขนาดนั้น พวกเรานั่งกินข้าวกันเงียบๆโดยมีเพียงพี่มินเท่านั้นที่ไม่ได้กินร่วมกับพวกเรา พี่มินนั่งจิบกาแฟแล้วอ่านรายงานให้คุณดลฟังไปด้วย ถึงผมจะชวนพี่เขากินด้วยเพื่อลดความอึดอัด แต่ก็ได้รับการปฏิเสธกลับมา

"มื้อเช้าพี่กินกาแฟกับเเซนวิสไปแล้วครับ"

จบมื้อเช้าผมก็รีบช่วยป้าอรเก็บชามไปไว้ในครัว เดินเข้ามาก็เจอกับสายตาที่มองมาแปลกๆหลายคนมองแบบขำๆแต่มีบางคนที่มองมาแบบไม่พอใจอย่างไม่ปกปิดใดๆ ผมก้มหน้าเดินเอาจานไปเก็บแล้วล้างทำความสะอาด จนกระทั่งได้ยินเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมากลางโต๊ะกินข้าวของคนงานและพนักงาน

"ดีจริงโว้ยยย ได้กินร่วมโต๊ะกับเจ้านาย สงสัยอีกไม่นานคงได้ร่วมเตียง"ผมรีบหันหน้ากลับไปมองว่าใครเป็นคนพูด

"อย่าปากมากนะนังดา"ป้าอรเอ็ดใส่หลานสาวที่อายุมากกว่าผมสองปี ก่อนจะหันมาทำหน้าขอโทษให้ผม

"ทำไมละป้า ดูสิเข้ามาทำงานได้ไม่กี่เดิน ดูท่าจะประสบความสำเร็จในหน้าที่ ก้าวหน้าแซงพวกชั้นที่ทำมาหลายปีไปหลายขุม"คนชื่อดาจงใจหาเรื่องผม โกรธครับผมโกรธจนอยากจะด่า อยากจะเถียงว่ามันไม่จริง ผมไม่ไทำอะไรแบบนั้น แต่เพราะผมเป็นใบ้เลยแก้ต่างให้ตัวตัวเองไม่ได้สักอย่าง ผมกำหมัดแน่น หลายคนมองมาที่ผมด้วยสายตาที่เริ่มจะเห็นด้วยกับดา

"เอาตัวเข้าแลกเหรอวะ?"พี่ดาเดินมาประจันหน้ากับผม 

"เอาตัวเข้าแลกหรือไม่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพี่นะพี่ดา!"เหมือนเสียงระฆังสวรรค์ดังช่วยชีวิตผมแท้ๆ หวีเดินเข้ามาในครัวพร้อมกับพี่กรและพี่บินสามคนนั้นทำหน้าเหมือนจะโกรธพี่ดาเอามากโดยเฉพาะหวี ตอนนี้ดันให้ผมหลบไปด้านหลังแล้วตัวเองประจันหน้าแทน

"ทำไม มึงก็ด้วยเหรอ เห็นไปไหนมาไหนกับพวกเพื่อนๆคุณเค้าบ่อยๆ"ดากวาดสายตามองบินกับกรอย่างสื่อความหมายในทางที่ไม่ดี

"อิจฉาเหรอ ที่ตัวเองอ่อยใคร คนนั้นก็เอาแต่วิ่งหนี?"หวีเริ่มใช่เสียงที่แข็งขึ้นไหล่เล็กๆนั่นสั่นจนผมกลัวว่าหวีจะกระโจนใส่พี่ดา

"เอ๊ะอินี่!มึงอย่ามากล่าวหากู กูไม่ได้ใจร่านเหมือนใครบางคน!"พี่ดาหันหน้ามาทางผมแล้วใช้สายตาทิ่มแทง คือทำไมต้องโมโหใส่ผมด้วย!

"เหอะว่าคนอื่นไม่ได้ดูตัวเองเลยสักนิด! มานะมันทำอะไรทุกคนรู้ดีอยู่แก่ใจ น้องมันไม่ได้ทำอะไรผิดก็อย่ามากล่าวหากัน อีกอย่างนะดา ต่อให้ไม่มีมานะ ไอ้ดลมันก็ไม่เอาเธอหรอกจำไว้ อย่าคิดว่าที่ผ่านมาพวกกูไม่รู้ไม่เห็นว่ามึงพยายามจะเข้าหาไอ้ดลมันขนาดไหน ไหนจะพวกกูที่มึงคอยอ่อยตนนั้นทีคนโน้นที เห็นแล้วรำคาญ!"พี่กรเดินแทรกตัวเข้ามาแล้วก็ระเบิดอารมณ์ใส่พี่ดาอย่าโกรธจัด ผมพึ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานเลยไม่รู้ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังก้นครัวของที่นี่มันเป็นยังไง คอยรับใช้แต่อิคุณชายนั้นจนมองไม่เห็นว่าใครเป็นแบบไหนบ้าง

"มึงมีสิทธิอะไรมาว่า ไอ้คนขับรถ!"ดาด่ากราดแล้วชี้หน้าพี่กร

"มีมากพอที่จะไล่คนอย่างมึงออกโดยที่ไม่ต้องผ่านไอ้ดลมันละกัน"พี่กรตอกใส่หน้าพี่ดาอีกครั้ง ก่อนจะดันหลังให้ผมเดินออกไปจากที่นี่

"มานะไม่ต้องไปสนใจพวกนั้นนะ"หวีเดินมาจับมือผมแล้วลุบเบาๆเหมือยปลอบใจ ผมพยักหน้ารับแต่ในใจมันก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่าบางทีผมก้ล้ำเส้นของคำว่าคนรับใช้ไปมากเหมือนกัน

 

กลับไปที่ห้องครัวหลายคนแยกย้ายไปแล้วแต่คนที่อยู่ก็มีสองป้าหลานที่ยืนคุยกันด้วยสีหน้าเครียดๆ ถ้าย้อนกลับไปถ้าคนในนั้นฟังประโยคที่ใช้เรียกเจ้าของบ้านจากปากคนขับรถแล้วพวกเขาน่าจะรู้ว่าพวกของกรสำคัญกับดลมากขนาดไหน

 



 




หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า ch.11 up 25/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 25-11-2020 13:47:47
 :angry2: :fire:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า ch.11 up 25/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 25-11-2020 15:30:23
นิสัยไม่ดี ขี้เหยียดจ้างไว้ทำไม   :a5: นี่ว่าเริ่มชินแล้วกับความผีเข้าผีออกของไอ้คุณชายดล 5555 ผู้แต่งขยันอัพมาก น่ารัก  :mew3:  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า ch.11 up 25/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 25-11-2020 22:05:38
  :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า ch.11 up 25/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 26-11-2020 00:42:13
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า ch.11 up 25/11/20
เริ่มหัวข้อโดย: snoopyme ที่ 30-11-2020 11:38:15
มาอัพบ่อยๆนะคะ สนุกมากเลย ติดตาม :mew1:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า ch.12 up 1/12/20
เริ่มหัวข้อโดย: สามภพ ที่ 01-12-2020 11:38:38

 




 

 

"มานะกลับไปหาพี่ดลได้แล้วละหวีว่า แล้วก็ไม่ต้องคิดมากนะ พวกหวีรู้ว่ามานะไม่ได้เป็นคนแบบนั้น แต่อิพี่ดลอะไม่แน่ อย่าไว้ใจพี่มันมากไปนะรู้ป่าว"เสียงเล็กๆพูดเตือนคนใบ้ไม่ให้คิดมากับเรื่องที่เกิดขึ้นในครัว มานะเองก็ใจชื้นขึ้นมาอยู่บ้างที่หวีไม่ได้คิดแบบดา เขากลัวว่าตัวเองจะทำอะไรไม่ดีให้คนอื่นเขานินทาลับหลัง พอหวีเดินมาส่งมานะที่หน้าประตูสองมือเล็กก็รีบกดเข้าไปในกลุ่มแชททันที

เรื่องนี้มันต้องขยาย(7)

นุ้งหวีผู้ผดุงความยุติธรรม:มานะขึ้นไปแล้ว

kronkrub:น้องดูเป็นไงมั่ง ทำหน้าแมวเศร้าอยู่อีกไหม?

คุณพ่อบ้านมิน:น้องเป็นอะไร?

bin:โดนด่า

zax:ใครมันบังอาจมาด่าแมวน้อยของกู! เป่าหัวแมร่งเลย!

นุ้งหวีผู้ผดุงความยุติธรรม:อิพี่ดา สาระแนนัก!

คุณพ่อบ้านมิน: เกิดอะไรขึ้นวะกูออกมาทำสัญญากับลูกค้าข้างนอก

นุ้งหวีผู้ผดุงความยุติธรรม:ก็อีพี่ดาอะดิอามิน ไม่รู้ไปกินรังแตนที่ไหนมา มันมายืนด่ามานะในครัวว่าไปอ่อยพี่ดลจนได้ขึ้นเตียง

zax:แรงอยู่นะ ด่าแบบนั้น แล้วมานะทำไง

bin:ทำไงละยืนเงียบไงพูดไม่ได้ ไอ้กรกับหวีเลยจัดซะ

bee:ตลาดวายยังก็ย้อนแป๊บ

คุณพ่อบ้านมิน:แล้วไอ้ดลมันรู้รึยัง

นุ้งหวีผู้ผดุงความยุติธรรม: ยังมานะไม่ให้บอก กลัวเป็นเรื่อง

bee:โหยยอิผู้หญิงใจยักษ์มันด่าน้องใบ้กูขนาดนี้เลยเหรอ กูโกรธ

kronkrub:เออ พวกกูก็โกรธ โมโหด้วยไม่ใช่แค่น้องที่โดนด่ามันด่าหวีด้วยว่าอ่อยพวกเราไปทั่ว

คุณพ่อบ้านมิน: หวี ทำไไม่บอกพี่ว่าเราก็โดนด้วย

นุ้งหวีผู้ผดุงความยุติธรรม: ไม่เป็นไรหรอกอามินหวีไม่ได้แคร์ แต่ไว้ค่อยเก็บหนีทีหลัง

bee:มีใครอีกไหมที่ไม่พอใจน้อง

bin:ทำไมครัชชชเพื่อน

bee:กูจะเอาปืนไปเป่าหัวมัน!

zax:เป่ามึงก่อนนี่แหละคนแรกไอ้ตูดแหลม! งานที่กูให้ไปทำได้รึยัง!

bee:เอ็ะมึงนี่ใครเค้าเอาเรื่องงานมาปนกับเรื่องเสือกกัน!

zaxซไอ้มิน ไอ้บีมันอู้งานที่มึงสั่ง @คุณพ่อบ้านมิน

bee:ไอ้ขี้ฟ้อง! @คุณพ่อบ้านมิน กูทำอยู่จ้ะพี่จ๋า อย่าหักเงินเดือนกูนะ!

kronkrub:กลับมาเรื่องน้องใบ้ก่อนไหม ไอ้พวกเหี้ย!

kronkrub:นอกเรื่องอยู่ได้!

zax:ทำไมต้องเก้วกราดอะพ่อไดรฟ์เวอร์

kronkrub:



 

หลังจากที่พวกเขาปรึกษากันเรียบร้อยก็พากันแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง

วันนี้มานะไม่ต้องทำอะไรแล้วเพราะงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จหมดเรียบร้อย เขาจึงใช้เวลาว่างออกมาทำงานในสวน จนเห็นพื้นที่ว่างข้างๆโดมแก้วที่ตอนนี้หญ้าเริ่มจะขึ้นสูง ที่ตรงนี้ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามายุ่งมากนักนอกเสียจากดลจะเป็นคนสั่งให้มาทำความสะอาด ตัวมานะเองก็ไม่ค่อยได้มาสักเท่าไหร่ความอยากรู้อยากเห็นก็มีมากว่าในโดมแก้วนั้นมีอะไรอยู่กันแน่ เด็กหนุ่มเลยไปหากรรไกรตัดหญ้าที่โรงเก็บอุปกรณ์มาจัดการหญ้าที่มันรกชัฏจนเหี้ยนเตียน ระหว่างนั้นเขาไม่ได้สังเกตเลยว่ามีใครบางคนแอบมองมาจากทางหน้าต่างด้านบนห้อง สายตาคู่คมกำลังมองว่าเจ้าแมวน้อยที่เขาเลี้ยงไว้นั้นซุกซนหรือไม่ แต่มานะก็ไม่ได้ย่ำกรายเข้าไปในโดมแก้วดลเลยเบาใจ เขาเฝ้ามองมานะที่ทำงานอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเสร็จงาน มานะเดินกลับไปยังบ้านพักของตัวเองเพื่อที่จะอาบน้ำและเตรียมตัวกินมื้อเย็นกับคนงานคนอื่นๆ แน่นอนสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือสายตาเชือดเฉือนของดา กับเพื่อนสนิทของเธออีกคนที่ตอนนี้คงรวมหัวกันเกลียดมานะไปเรียบร้อย ในเมื่อไม่ชอบหน้ากันก็คงต้องคนต่างอยู่ อย่ามาหาเรื่องกันก็พอมานะพยายามทำเป็นไมาสนใจกับสายตาที่มองมาเขาเดินไปนั่งร่วมโต๊ะกันหวีและบินที่นั่งรอมานะอยู่ก่อนแล้ว พอไปถึงก็เจอรอยยิ้มของหวี

"มานะ ^^ "

"^ ^"

"คุณดลบอกว่าให้มานะไปนั่งกินข้าวเป็นเพื่อนน่ะ"หวีพูดเสียงดังจงใจให้ดากับพวกได้ยินสิ่งที่ตนเองกำลังจะพูด

"หือ"มานะเริกคิ้วสูง อีกแล้วเหรอ อิคุณชายนี่มันเป็นโรคขาดความอบอุ่นด้วยรึไง?

"คุณดลบอกว่าต่อจากนี้ไปมานะต้องไปกินข้าวเป็นเพื่อนกับคุณดลทุกมื้อ!"

"งะ -*-"

"อย่าทำหน้าแบบนั้นซี่มานะ มานะก็รู้ว่าคุณดลน่ะติดมานะจะตายขนาดไม่ต้องอ่อยนะเนี้ยยยยยย"หวีลากเสียงยาวในตอนท้ายประโยคพร้อมกับชำเลืองมองดาด้วยหางตา

"อ่า ๆ"มานะรีบจับหน้าหวีให้หันมาทางตนเพราะไม่อยากให้วีมีเรื่องกับใคร ก่อนจะวาดมือไปมาว่าตนเองจะไปกินข้าวกับคุณดลแล้ว ระหว่างที่เดินผ่านดามานะแอบเห็นสายตาจิกกัดของเธอส่งมาให้ มานะทำเพียงแค่เดินผ่านไปเท่านั้นไม่ได้สนใจอะไรมากมาย 

พอมาถึงห้องอาหารมีดล กับมีนที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว จากคำบอกเล่าของหวีปรกติจะมีเพื่อนๆของดลสลับสับเปลี่ยนกันมากินข้าวเป็นเพื่อนดลทุกวันวันนี้เป็นมีน อีกอย่างหนึ่งคือทุกวันสำคัญดลกับเพื่อนๆจะออกไปสังสรรค์กันข้างนอกแทน และแน่นอนว่าหวีไม่ได้รับอนุญาตให้ไปด้วยได้

บนโต๊ะอาหารมีกับข้าวแบบไทยอยู่สองสามอย่างและหนึ่งในนั้นมีของโปรดเขารวมอยู่ด้วย น้ำพริกะปิผักต้มมีไข่ชะอมทอด แถมด้วยปลาทูทอดอีกหลายตัว นอกจากนั้นก็มีต้มจืดหน่อไม้ใส่กระดูกอ่อนหมู แล้วก็กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา มานะตาวาวทันทีที่เห็นสำรับน้ำพริกตรงหน้า ดลแอบยกยิ้มก่อนจะสั่งให้มานะตักข้าวให้ตนเองแต่พอถึงจานของมีดลกลับสั่งให้แม่บ้านมาตักให้ 

"มึงนี่นะ!"มีนไม่อยากจะด่าเพื่อนต่อหน้าคนงานในบ้าน เขาได้แต่แยกเขี้ยวใส่ กับความขี้หวงและเอาแต่ใจของดล มานะกลับมานั่งที่หลังจากตักข้าวสวยร้อนๆใส่จานตัวเองเรียบร้อย ระหว่างที่รับประทานอาหาร ดลก็สั่งให้มานะแกะปลาทูให้บ้าง ตักนู่นตักนี่ให้บ้าง ทั้ง ๆ ที่จานกับข้าวก็อยู่ตรงหน้า มีนกลอกตาก่อนจะเอ็ดใส่เพื่อนตัวเอง

"มือมึงด้วนเหรอดล ตักเองไม่เป็นรึไง ให้น้องตักให้แบบนี้ทำไมไม่ให้น้องป้อนข้าวด้วยเลยละ"มีนเอ่ยด้วยความรู้สึกหมั่นไส้นิด

"เป็นความคิดที่ดี มานะ"

" = ="ร่างบางหันไปทางคุIชายเอาแต่ใจด้วยสีหน้าเอือมๆ ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธว่าตนเองจะไม่ป้อนข้าวให้

"ดีมากมานะ อย่าไปตามใจมันมากนัก"มานะอยากจะเถียงเหลือเกินว่าเขาไม่ได้ตามใจสักนิดเขาโดนบังคับ!

"ตัดเงินเดือน"ดลเอ่ยเสียงเรียบๆพร้อมกับใช้สายตากดดันคนใบ้

"ไอ้ห่าดล!"มีนแทบจะเอาช้อนจิ้มตาเพื่อนรักของตัวเองเมื่ได้ยินประโยคนั้น ดลก็รู้ว่าน้องเซ้นซิทีฟเรื่องเงินๆทองๆ ทำไมชอบเอามาขู่

"-3-" มานะจำยอมต้องทำตามคำสั่ง มือเล็กตักอาหารแล้วจ่อไปที่ปากของดล ร่างสูงยิ้มกริ่มแล้วงับช้อนนั้น มานะกินข้าวของตัวเองคำป้อนดลคำสลับกันจนหมดจานโดยมีมีนนั่งกินข้าวด้วยอารมณ์เหม็นเบื่อ เมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนตัวเองที่พยายามเก๊กท่าเอาไว้ นี่ท่ามีหางโผล่มา เขาคงได้เห็นมันสะบัดไปมาแรงๆอยู่แน่ๆ  มีนกดเข้ากลุ่มแชทพร้อมกับข้อความที่ใส่อารมณ์ลงไปพร้อมแนบรูป

คุณพ่อบ้านมิน : เพื่อนมึงอาการหนัก กูหมั่นไส้!

คุณพ่อบ้านมิน: แนบรูป

 

หลายวันผ่านไปดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นปรกติ มานะทำหน้าที่ของตนเองเหมือนในทุกๆวัน ถ้าวันไหนดลต้องเข้าบริษัทวันนั้นมานะก็จะว่างไปทำงานอย่างอื่น หรือขออนุญาตออกไปหาน้องๆ มานะคิดอยากจะกลับไปอยู่ดูแลน้องๆที่อพาร์ทเม้นท์มากกว่าวันนี้เลยจะลองขอดลดู เขาคิดไว้แล้วว่าเลิกงานห้าโมงก็กลับไปนอนกับน้องๆตีห้าก็กลับเข้ามาทำงาน ส่วนการเดินทางมีจักรยานสักคันก็โอเคแล้ว เพราะจากคฤหาสน์ไปอพาร์ทเม้นท์ของน้องๆของเขาก็ไม่ได้ไกลกันมาก ถึงแม้จะติดต่อคุยกันทุกวันผ่านโปรแกรมแชท แต่มานะก็อดที่จะเป็นห่วงน้องๆไม่ได้ 

ตกเย็นดลกลับมาในสภาพที่อิดโรยใบหน้าหล่อ ๆ ดูเคร่งเครียดกว่าปรกติ มานะเดินเข้ามารับเสื้อกับกระเป๋าไปเก็บ แต่ก็โดนคนตัวโตดึงตัวเข้าไปกอดพร้อมกับสูดดมความหอมจากตัว มานะตกใจจนทำของในมือหล่น คนที่เดินตามหลังมาอย่างกร กับบีนก็อึ้งไม่แพ้กัน ดลที่โดนความเหนื่อยล้าโจมตีจนสมองทำงานไม่สมดุลกับหัวใจ เขาโหยหากลิ่นอายของคนใบ้จนลืมตัว 

"อืมม อยู่นิ่งๆ"ดลเอ่ยเสียงอู้อี้เพราะจมูกกำลังฝั่งลงกับซอกคอของมานะ 

"อะแฮ่มมมมมมมมมม กูอยู่ตรงนี้เด้อสนใจกูด้วย"บีนที่ทนดูไม่ได้ถึงกับระเบิดเสียงใส่คนที่สติไม่เต็มร้อย 

"อ๊ะ" พอได้สติก็รีบผลักคนในอ้อมแขนไปอีกทางจนหัวทิ่ม มานะช้อนตามองค้อนใส่ทันที

ไอ้คุณชาย! ไอ้เวร มึงเป็นบ้าเร้ออออ มานะตะโกนด่าอีกคนในใจ

"อะไร กูแค่เหนื่อยๆ ไม่ได้มองนึกว่าหมอนข้าง"ดลพูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบตึงเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่ในใจมันกลับเต้นโครมครามเหมือนตีกลอง เขาพยายามเก็บสีหน้าเลิกลักของตัวเอง แต่ก็ไม่พ้นสายตาของกรกับบีน เพื่อนสนิทไปได้

"ตอแหล!"กรพูดก่อนจะไปพยุงมานะให้ลุกขึ้น

"-*-"

"กอดน้องกลมขนาดนั้น ทำมาเป็นอ้าง ใจมึงมันไม่บริสุทธิ์ไอ้ดล!"บีนเสริม

"ไม่เสือกสิ"ดลทำเป็นโมโหแล้วเดินหนีขึ้นห้องทิ้งคนที่โดนทำอนาจารเอาไว้เบื้องหลัง 

"มานะ เป็นไงมั่งเจ็บไหมก้นกระแทกดังปัก"กรเอ่ยถามหลังจากที่ได้ยินเสียงปิดประตูห้องของดล มานะส่ายหน้า แล้วกดส่งข้อความให้

มานะ: ไม่เจ็บหรอกครับ ผมแค่ตกใจ คุณดลเหมือนคนเป็นโรคประสาท 

ข้อความที่เรียกเสียงหัวเราะให้กับคนทั้งสองเป็นอย่าง กรพยักหน้าเห็นด้วย พร้อมกับเหลือบมองขึ้นชั้นบน แอบเห็นคุณชายไพโบล่าแอบแง้มประตูมองลงมา

"ต่อไปมานะต้องระวังนะ ไอ้ดลอะมันเจ้าเล่ห์ เป็นหมาป่าขี้หื่น อยู่ใกล้มาก ๆ ระวังจะโดนกิน"กรตบบ่ามานะ เขาพูดเหมือนพี่เตือนน้องแต่แอบเหน็บคนข้างบนด้วย ผลที่ได้คือสายจ้องฆ่าของดลแทน

มานะไม่เข้าใจคำว่าโดนกินสักเท่าไหร่ แต่เขารับปากว่าจะระวังตัวไม่อยู่ใกล้ดลมาก กรกับบีนลอบยิ้มให้กันอย่างตัวร้ายในนิยาย 

"อีกอย่างนะมานะ ไอ้ดลอะ..."บีนก้มลงกระซิบอะไรบางอย่างกับมานะ พอมาได้ยินก็ทำตาโตเป็นไข่ห่าน พร้่อมกับหันไปมองด้านบน ดลที่แอบมองอยู่รีบหลบทันที เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าเพื่อนๆของเขาเป่าหูอะไรมานะอีก คนหน้าแมวถึงได้ทำหน้าตกใจขนาดนั้น มิหนำซ้ำยังมองมายังห้องเขาด้วยสายตาแปลกๆอีก

"พวกแมร่งบอกอะไรมานะวะ?" ร่างสูงค่อยแง้มประตูปิดเบา ๆ แล้วกลับมาที่่เตียงกว้าง ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความคิดของตัวไป

 

เช้าวันต่อมา มานะมาปลุกเขาเหมือนเคยแต่ที่แปลกไปคือคนหน้าแมวแอบมองเขาแปลกๆ พอสบตาก็หลบสายตาแล้วทำปากมุมมิบ เหมือนสงสัยอะไรสักอย่าง อยากถามแต่ไม่กล้ามากกว่า และมันส่งผลให้เขารู้สึกคันยิบ ๆ ในใจ

"มานะ"ร่างสูงตัดสินใจเรียกคนใบ้ที่เอาแต่แอบมองเขาอยู่หลังผ้าม่าน

"อะ"

"มีอะไรก็พูด..เอ่อ หมายถึงมีอะไรก็พิมพ์มา เอาแต่มองกันแบบนั้นมันน่าหงุดหงิด"ดลพยายามจะไม่ใช้เสียงที่ดูข่มขู่ มานะไม่ยอมออกมาจากหลังม่านเลยด้วยซ้ำ แถมยังทำเหมือนเขาเป็นตาแก่โรคจิตอีก

"มานะ! ออกมาจากตรงนั้นซะ"

"หึ หึ "มานะส่ายหน้าแล้วเอาผ้าม่านห่อตัวเองไว้

"ทำอะไรของนาย ออกมาได้แล้ว" มานะยังห่อตัวเองเข้ากับผ้าม่านและจับมันไว้แน่นกว่าเดิม

"มานะ ไอ้บีนมันบอกอะไรนาย"ดลเริ่มจะหมดความอดทน เขาพยายามจะดึงผ้าม่านออกแต่มานะจับไว้แน่นมาก

เขาเลยตัดสินใจกระชากผ้าม่านนั่นออกจากราวแล้วอุ้มคนดื้อออกมาจากที่ตรงนั้น มานะดิ้นพล่านไม่ยอมง่ายๆ พอถึงห้องมานะก็ถูกจับโยนลงที่นอน ภายใต้ผ้าม่านนั้นมานะมองไม่เห็นอะไรลักอย่างรู้แค่ว่าเจ้าจอมหื่นในความคิดของเขาตอนนี้ กำลังขยับตัวขึ้นมาคล่อมเขาเอาไว้ แล้วใช้แขนเท้าลงมาขนาบข้างเขาเพื่อกันเขาหนี

"จะบอกดีๆหรือต้องบอกด้วยน้ำตา?"

"หึ"จะให้บอกยังไงละว่าคุณมันคือตาแก่ลามกชอบจับก้นคนอื่น

"ไอ้บีนมันบอกอะไรนาย"

"...."

"ได้นายเลือกเองนะ"

ภายใต้ผ้าผืนบางมานะมองเห็นเงาลาง ๆ ได้จากด้านใน ใบหน้าของดลค่อย ๆ ก้มลงมา เป้าหมายคือริมฝีปากอวบอิ่มใต้ผืนผ้า มานะหลับตาแน่นลมหายใจติดขัด มือไม้สั่นไปหมด

จุ๊บ

"0x0"

จุ๊บ

"0.0"

จุ๊บ

"-////-"

เขาโดนจูบผ่านเนื้อผ้าไล่ตั้งแตา จมูก และหยุดอยู่ที่ริมฝีปาก ปลายลิ้นร้อนลากเลียผ่านเนื้อผ้าจนชื้นแฉะ เขาขบเม้มกลีบปากอิ่มนั่นอยากหยอกล้อ ก่อนจะค่อยๆ ผละออกมาเมื่อเห็นคนใต้ผ้าม่านนิ่งไป เขาชันตัวขึ้นแต่ก็ยังคล่อมทับคนใต้ร่างเอาไว้ ก่อนจะกระชากสิ่งที่ปราการกั้นหนึ่งเดียวออกไปให้พ้นทาง มานะนอนหลับตาแน่นใบหน้าสวยแดงซ่านเป็นลูกตำลึงสุก สองมือน้อยๆกำเสื้อตัวเเน่นจนยับ ดลเห็นเต็มสองตา 

"หึหึ"เขาหัวเราะออกมาเบาๆกับความน่ารักของแมวตัวดื้อ จนต้องยกมือขึ้นมากุมใบหน้าเอาไว้ถึงครึ่งเพื่อซ่อนรอยยิ้มที่กำลังฉีกกว้าง

น่ารักฉิบหาย!

มานะหรี่ตาขึ้นมองนิด ๆ เพื่อดูว่าดลกำลังทำอะไรอยู่แต่ก็ต้องรีบหลบสายตาพร้อมกับเอาหน้าซุกที่นอน เพราะอีกคนกำลังจ้องเขาตาเป็นมัน

"จะบอกได้รึยังว่าเป็นอะไร?"

"อื้อ"

"หันมา"

"หึหึ"

"จะพูดกับใครก็ต้องมองหน้าคนคนนั้นด้วย"

ทำไมต้องทำเสียงดุด้วยเล่า!

"-3-"

"บอกมา"

มานะล้วงเข้าไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาแล้วพิมพ์ข้อความส่งไป

มานะ:พี่มีนบอกว่าคุณชอบจับตูดผู้ชาย เป็นตาแก่โรคจิต!

"แล้วนายก็เชื่อ?" มานะพยักหน้า 

แค่ที่เจออยู่ทุกวันนี้จะให้ไม่เชื่อได้ไงล่ะ!

"เหอะ!"ดลเดาะลิ้นเหมือนคนหงุดหงิด ไอ้เพื่อนปากหมา มาว่าเขาเสีย ๆ หาย ๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน ดูสิเนี้ยะ แมวมันกลัวหมด!

มานะ: คุณชอบทำตัวแปลก ๆใส่ผม ชอบลวนลามผมทางสายตา ไหนจะชอบจูบผมอีก! ถ้าไม่ใช่ตาแก่โรคจิตแล้วจะให้ผมเรียกว่าอะไร?

ดลก้มลงอ่านข้อความที่เหมือนเชื้อไฟสุมเข้าไปอีก 

"เรียกว่าโจรปล้นจูบดีไหม? ไหนๆ ก็มองว่ากูโรคจิตแล้วนี่"ดลก้มมองคนใต้ร่างเขาใช้สายตาตัวร้ายมองมานะ

"หึ อะ อะ"

"อะไร?ฟังไม่รู้เรื่อง"ดลขมวดคิ้วนิด ๆ เมื่อมานะพยายามจะพูดอะไรกับเขา

มานะ: นี่ไง ! คุณกำลังทำ สายตาคุณเหมือนคนบ้ากาม!

"บ้ากามเรอะ!!!!" ดลตวาดลั่นจนมานะสะดุ้งโหยง 

"นายไม่รอดแน่มานะ! บังอาจมาว่ากูว่า บ้ากาม!"

เอ้าก็มันจริงนี่! ร่างสูงก้มลงหมายตาไปที่ริมฝีปากอิ่ม ดลบดจูบคนใต้ร่างอย่างมัวเมา ด้วยอารมณืที่พลุ่งพล่าน เขาจะสั่งสอนให้คนใบ้เชื่อเองว่าเขาไม่ใช้คนบ้ากาม แต่เป็น บ้าแมว ต่างหาก!ในระหว่างที่หัวสมองกำลังหาทางหนีจากอ้อมกอดมัจจุราชข จู่ๆ เจตก็เปิดประตูพรวดเข้ามา ใบหน้าหล่อตี๋ในชุดครึ่งท่อนอ้าปากค้างด้วยความตกใจ ก่อนจะตั้งสติแล้วแหกปากร้องตะโกนลั่นบ้าน

"ไอ้ดลมันจะพรากผู้เยาว์! ๆ  ๆ ไอ้มีนช่วยน้องใบ้กูเร้วววววววววววววววววว"พูดจบก็กระโจนตะครุบร่างผู้ต้องหาทันที มานะที่กำลังงงกับเหตุการณ์สมองประมวลผลไม่ทันจึงได้แต่นอนทำปากพะงาบๆ มองคนนั้นที คนนู้นที เพราะตั้งแต่ที่เจตตะโกนออกไป มีนกับแซกก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามาทันได้เห็นช็อตเด็ดพอดี พวกเขาไม่ลืมที่กดบันทึกรูปภาพเอาไว้ ก่อนจะพุ่งหลาวตามเจตไปไปหาผู้ต้องสงสัยอย่างเพื่อนรักของเขาทันที

"ปล่อยกู ไอ้พวกเฮี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย"

"กูจะแจ้ง ๆ คูมตำหนวดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด"แซกตะโกนลั่น พร้อมส่งเสียงหัวเราะ

ในระหว่างที่เกิดการชุลมุนจนลืมไปว่าตอนนี้ผู้เสียหายได้หายออกจากสถานที่เกิดเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยสภาพที่หัวฟูเป็นรังนกและปากที่บวมเจ่อ

 

....................................................................................

ตอนหน้าจะเข้าสู่โหมด จริงจังในเรื่องคดีแล้วนะคะเพื่อไม่ให้เนื้อเรื่องมันยืดเยื้อจนเกินไปและเพื่อ อิคุณชายมันได้กินแมวสักที เจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ



 

 

 

หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า ch.12 up 1/12/2020
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 01-12-2020 12:14:13
 :haun4: :pighaun:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า ch.12 up 1/12/2020
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 01-12-2020 21:26:47
อ่านเรื่องนี้จบใครจะบ้ามากกว่ากัน เรากับไอ้คุณชายดล 555555 เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายแปปๆหื่น สักพักเศร้า เครียดไรอ่ะคุณชาย 5555
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า ch.12 up 1/12/2020
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 01-12-2020 23:45:46
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่องนี้พระเอกเป็นบ้า ch.12 up 1/12/2020
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 02-12-2020 00:08:38
 :katai2-1: