เหตุเกิดในร้านเนื้อย่าง ตอน 10 [2.12.20]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุเกิดในร้านเนื้อย่าง ตอน 10 [2.12.20]  (อ่าน 3514 ครั้ง)

ออฟไลน์ แก่ เหี่ยว เคี้ยวยาก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
พี่ไทม์อ้อนๆน่ารัก :impress2: :-[

ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
6
วริศคิดว่า เรื่องใครเป็นอะไร รับบทไหน ไม่ใช่ประเด็นหลักสำหรับเขา เรื่องสำคัญคือตอนนี้เขารู้สึกอย่างไรกับไทม์มากกว่า พูดตามตรง วริศรู้สึกดีเวลาอยู่กับไทม์ บางทีก็ใจเต้นแรง บางทีก็ตื่นเต้นจนไม่รู้จะเอามือไม้ไปไว้ตรงไหน แค่เห็นไทม์ยิ้มให้ ก็ใจสั่นแปลกๆ แล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ใจ ว่าเป็นเพราะชอบ หรือแค่ไม่เคยใกล้ชิดกับใครแบบนี้มาก่อน เพราะไทม์ไม่ได้เข้ามาหาในฐานะเพื่อนหรือพี่ตั้งแต่แรก และวริศก็ไม่เคยเจอคนที่ตั้งใจจีบแบบจริงจังขนาดนี้มาก่อน

“คืนนี้ไปนอนห้องพี่อีกมั้ยครับ” คนที่ดื่มวิสกี้ไปสองแก้ว กับค็อกเทลอีก 3 มองวริศด้วยดวงตาเยิ้มๆ คล้ายคนเมา แต่ก็ไม่ได้ถึงกับขาดสติ ไทม์ไม่ใช่คนคออ่อนอย่างที่เขาคิดในทีแรก สมเป็นผู้ใหญ่วัยเกือบสามสิบ คงผ่านอะไรมาเยอะพอสมควร

“แต่ผมเลิกดึกนะครับ น่าจะตี 2 เลย” วริศเช็ดแก้วไวน์ไปคุยไป มองไทม์อย่างเป็นห่วง “พี่ดื่มขนาดนี้ เดี๋ยวก็ขับรถกลับไม่ไหว...”

“ก็ให้แซนด์ขับไปส่งไง เนอะ”

“มาน้งมาเนอะอะไรล่ะครับ ไหนคราวก่อนยังบอกไม่อยากให้ผมเหนื่อย จะใช้ผมขับรถให้อีกแล้วเหรอ” วริศเอียงคอมองคนพี่ สีหน้าเหมือนเวลาคุณครูดุเด็กอนุบาลที่ซนจนไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว

“โหยยย พี่ขอโทษคร้าบ ไม่ดื่มแล้ว ยังขับไหวอยู่น่าแค่นี้” ไทม์ปล่อยแก้วลง นอนเอาคางเกยบนแขนที่วางทาบบนเคาน์เตอร์ มองดูวริศทำงานอย่างขยันขันแข็ง

“แต่ไปนอนห้องพี่เถอะ จะได้หลับในรถไปเลย พี่กลัวแซนด์นอนไม่พอ”

วริศกระแอมไอเบาๆ รู้สึกว่าหน้ามันร้อนขึ้นมานิดหน่อย กับคำพูดแสดงความห่วงใยอย่างจริงจังของไทม์

“แล้วพรุ่งนี้เช้า ก็ทำอาหารให้พี่กินด้วยไง ซื้อไปตุนไว้เพียบเลย กลัวมันเสียอ่ะ” ไทม์ทำเสียงอ้อนสุดฤทธิ์ ตาเยิ้มๆ มองบาร์เทนเดอร์หนุ่มไม่วางตา ไทม์ชอบมองมือเรียวสวยของวริศที่กำลังหยิบจับแก้วและเขย่าเชคเกอร์

“ก็ใครให้พี่รีบซื้อมาล่ะครับ ผมยังไม่ทันบอกจะไปเมื่อไหร่เลย” วริศนิ่วหน้าน้อยๆ ไม่ได้หงุดหงิด แต่แค่หมั่นไส้คนชอบมัดมือชกและช่างตื้อตรงหน้า

“ก็นี่ไง ไปคืนนี้เลยไง”

“พี่ไทม์นี่จริงๆ เลย” สุดท้ายก็ยิ้มขำ เพราะไทม์ก็สมเป็นไทม์จริงๆ ตื้อเก่งเสมอต้นเสมอปลาย

“ตกลงไปใช่มั้ยครับ น้องแซนด์” ยังมาทำตาวิบวับใส่อีก วริศอมยิ้ม

“อือ ไปก็ได้ครับ”

สุดท้ายก็มาที่ห้องของไทม์เป็นครั้งที่สองจนได้ ระหว่างทางวริศได้นอนหลับมาในรถของไทม์ กลิ่นหอมอ่อนๆ ในรถ ที่คาดว่าคงเป็นกลิ่นน้ำหอมจากตัวคนพี่ ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและหลับลึกโดยไม่รู้ตัว โดนปลุกก็ตอนไทม์จอดรถเรียบร้อยแล้ว วริศงัวเงียตื่นมา ก็ยังง่วงๆ อยู่ไม่น้อย เลยเดินตามหลังไทม์ต้อยๆ เหมือนเคย

“คราวหน้าแซนด์ต้องเอาชุดมาไว้ที่ห้องพี่แล้วล่ะ” ไทม์พูดกลั้วหัวเราะ รู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่กับวริศบ่อยขึ้น เดี๋ยวนี้น้องยอมให้กอดแขน จับมือ ยิ่งมีความสุข ความคาดหวังเพิ่มขึ้นอีกเป็นกอง แต่อีกใจก็กลัว ถ้าเกิดวริศยังไม่ได้ชอบ แต่แค่ทำเพราะเริ่มชินกับการกระทำของตน ก็คงผิดหวัง

จะถามดีมั้ย หรือจะปล่อยไว้ ให้มันค่อยเป็นค่อยไปดี

ไทม์เคยมีแฟนมาแล้ว 3 คน คนแรกสมัยมัธยม เป็นหนุ่มนักกีฬาประจำโรงเรียน คบกันแบบปั๊ปปี้เลิฟผิวเผิน แค่เดินเที่ยวด้วยกัน จับมือกัน มีจูบกันบ้างนิดหน่อย พอเรียนจบม.ปลายก็เลิกรา คนที่สองคบสมัยมหาวิทยาลัย คบนานกว่าคนแรก และเป็นคนแรกที่ยอมมอบทุกอย่างให้ ทั้งที่คิดว่าคนนี้จะเป็นตัวจริง สุดท้ายก็เลิกกันไป เพราะอีกฝ่ายต้องไปอยู่เมืองนอกเมื่อ 4 ปีก่อน ทุกวันนี้ก็ยังเห็นหน้าใน IG อยู่บ้าง แต่ไม่ได้คิดถึงอะไรมากแล้ว ส่วนคนล่าสุดก็เทรนเนอร์จอมเจ้าชู้ที่ฟิตเนส เจอกันตอนเริ่มเล่น พอรู้ว่าเลิกกับแฟนแล้ว ก็เข้ามาจีบ คบไปสักพักก็รู้ว่ามีกิ๊กอีกเพียบ ไทม์เจ็บใจ แต่ไม่ได้เสียใจมาก เลยตัดใจเลิกแบบหักดิบ เข้าหน้ากันไม่ติดไปพักใหญ่

ทุกคนก็ล้วนแต่เข้ามาหาเองทั้งนั้น แม้ตอนนี้ก็ยังมีพวกที่คอยส่งข้อความมาคุยมาจีบเรื่อยๆ แต่ไทม์สนใจแค่วริศ เลยไม่ได้คุยกับใครเลย เป็นครั้งแรกที่ตามตื้อคนคนหนึ่งได้นานขนาดนี้ เพราะเริ่มต้นด้วยความสนใจ และปกติไม่เคยมีใครปฏิเสธไทม์ได้นานขนาดนี้ด้วย เขาเลยยิ่งตื้อหนักกว่าเก่า ไทม์เป็นพวก ยิ่งหนีก็ยิ่งอยากตาม

“มาบ่อย ก็เกรงใจเปล่าๆ ครับ” วริศส่ายหน้าน้อยๆ รับผ้าเช็ดตัวกับชุดนอนมาจากไทม์ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป และยื่นเสื้อผ้าออกมาให้ไทม์เอาไปซักไว้เหมือนเดิม

“เกรงใจอะไรล่ะ พี่เป็นคนชวน พี่อยากให้มาเอง” ไทม์รับเสื้อผ้ามาใส่เครื่องซักอบแห้งให้เรียบร้อยพลางตะโกนคุยกับน้องที่อาบน้ำอยู่ วริศอาบน้ำเสร็จ อยู่ในชุดนอนเสื้อยืดกางเกงขาสั้นของไทม์

“นอนบนเตียงเลยนะ เดี๋ยวพี่อาบน้ำแป้ป แซนด์หลับก่อนได้เลย” ไทม์หันไปขยิบตาให้น้อง วริศแก้มแดงนิดหน่อย เอามือเกาคอตัวเองพลางนั่งลงบนเตียงนุ่ม กลิ่นหอมอ่อนๆ ภายในห้องนอน  ทำให้รู้สึกอยากหลับขึ้นมาทันที วริศเอนตัวลงนอนตะแคงหันหน้าไปทางหน้าต่างกระจกบานใหญ่ เปลือกตาหนักอึ้งลงเรื่อยๆ

ไทม์อาบน้ำเสร็จ ก็เห็นน้องนอนหลับไปแล้วเหมือนคราวก่อน อดไม่ได้ที่จะเดินไปชะโงกหน้าดูใกล้ๆ อยากจะหอมแก้มสักฟอด แต่ก็พยายามอดใจไว้ เพราะไม่อยากลักหลับน้อง

“อยากกอดง่ะ” ไทม์บ่นเบาๆ กับตัวเอง แอบจิ้มนิ้วที่แก้มใสๆ ของน้องเล่น วริศเหมือนจะรำคาญ ยกแขนขึ้นปัดๆ ออก แล้วพลิกตัวหันหน้ามาทางไทม์ ทำเอาคนพี่ใจกระตุกวูบ นึกว่าวริศจะตื่น พอมองหน้าใกล้ๆ ก็ยิ่งใจเต้นแรง หายใจถี่ขึ้นเล็กน้อย จนเผลอยื่นหน้าเข้าไปหาใกล้ๆ แต่พอริมฝีปากเกือบแตะโดน ไทม์ก็ยั้งตัวเองสุดชีวิต เบนไปแตะปากกับปลายจมูกของน้องแทน ก่อนจะผละออกมาหัวเราะกับตัวเอง

“ทำพี่หัวใจจะวายเรื่อยเลยนะ ไอ้ตัวแสบเอ๊ย”

แล้วไทม์ก็พยายามข่มตาหลับ โดยที่หันหลังไปอีกทาง เพราะขืนยังได้ยินเสียงหายใจกับได้กลิ่นกายอีกคนใกล้ๆ มันเหมือนจะทนไม่ไหวเอา

ในความมืดสลัว ดวงตาเป็นประกายของวริศ ลืมขึ้นอย่างช้าๆ พลางมองแผ่นหลังของคนข้างๆ รอยยิ้มผุดขึ้นบนมุมปากเรียวสวย และมืออุ่นๆ ที่ยื่นออกไปแตะแผ่นหลังนั้นแผ่วเบา แค่ทาบมือไว้กับหลังของไทม์ แล้วก็หลับตาลงอย่างมีความสุขไม่แพ้กัน

เช้าวันต่อมา วริสตื่นก่อนเหมือนเคย แม้วันนี้จะไม่ได้มีเรียนเช้าก็ตาม ที่รีบตื่น เพราะกลัวไทม์จะรู้ตัว ว่าโดนเขานอนกอดมาทั้งคืน

“เห็นพี่ซื้อของมาไว้ ผมเลยเอามาทำข้าวต้มปลา แล้วก็คั้นน้ำส้มไว้ให้” วริศยิ้มหวานให้แต่เช้า ไทม์ที่ตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว นั่งลงตรงข้ามกัน มองอาหารบนโต๊ะที่ส่งกลิ่นหอมยวนใจ

“น่ากินมาก หอมอ่ะ” ไทม์สูดจมูกพลางตักข้าวต้มขึ้นเป่าแล้วเอาเข้าปาก “โห อร่อย”

วริศอมยิ้ม “เอากาแฟเพิ่มมั้ยครับ”

“ไม่ต้องๆ แค่นี้โอเคแล้ว” ไทม์ตักข้าวต้มเข้าปากเรื่อยๆ มองวริศที่กำลังกินเหมือนกันเป็นพักๆ ด้วยความเอ็นดู ก่อนจะขอหยอดเล็กๆ น้อยๆ ให้น้องเขินเล่น

“อยากให้แซนด์มาอยู่ด้วยเลยเนี่ย”

ได้ผล วริศแก้มแดงระเรื่อขึ้นมาทันที หรุบตาลงก้มหน้ากินข้าวต้ม

“พี่ไทม์อย่าล้อเล่นด้วยหน้าจริงจังแบบนั้นสิ”

“พี่พูดจริงๆ ต่างหาก” ไทม์จ้องหน้าน้อง จนวริศหายใจหายคอไม่ค่อยคล่อง ทั้งที่เปิดแอร์ แต่กลับร้อนพิกล

“แซนด์เริ่มรู้สึกอะไรกับพี่บ้างแล้วหรือยังล่ะ”

วริศกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไอ้รู้สึกก็รู้สึกอยู่ แถมมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย แต่ก็ไม่ค่อยแน่ใจตัวเอง

“ก็...นิดหน่อยมั้งครับ” ตอบไปก็เขินไป

“นิดหน่อยเองเหรอ แล้วเมื่อไหร่มันจะมากถึงขนาดคบกับพี่แบบคนรักได้ล่ะ”

วริศเงยหน้ามองไทม์ ที่ถามออกมาตรงมาก จนเขาไม่รู้จะตอบยังไงดี ไทม์ไม่ใช่เด็กมัธยม ที่จะมานั่งอ้อมค้อม

“พี่ไม่ได้เร่งเรานะ แต่แค่อยากรู้ว่ามันพัฒนาขึ้นบ้างมั้ย แล้วพี่ควรจะต้องรออีกนานแค่ไหน”

“ผม...ยังไม่แน่ใจ” คำตอบของวริศ ทำให้ไทม์ถอนหายใจเบาๆ วริศมือสั่นน้อยๆ ตื่นเต้นจนเหงื่อชื้นไปหมด ก่อนจะรีบพูดออกมา ก่อนที่ไทม์จะเข้าใจผิด

“แต่ผมรู้สึกดีกับพี่นะ ผมว่าผม...น่าจะชอบพี่”

“น่าจะเองเหรอ” ไทม์พ่นลมหายใจออกมาอีกระลอกพลางเสยผมแล้วเอนตัวพิงเก้าอี้ สีหน้าคล้ายผิดหวังนั้น ทำให้วริศใจคอไม่ดีเลย

“ก็ผมไม่เคยมีแฟนนี่ แต่ก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับคนอื่น”

“อืม” ไทม์กอดอก “พี่เข้าใจ เรายังเด็กอยู่นี่นะ คงต้องใช้เวลา”

วริสกะพริบตาปริบๆ เหมือนหมาน้อยน่าสงสาร ไทม์อมยิ้มน้อยๆ ยื่นมือไปลูบหัวให้เบาๆ อย่างปลอบโยน

“ไม่เป็นไรๆ อย่าคิดมากเลยครับ พี่รอได้ แต่แซนด์เข้าใจใช่มั้ย พี่อายุไม่ใช่น้อยๆ แล้ว บางทีก็ต้องทำอะไรให้ชัดเจนเร็วๆ”

วริศพยักหน้ารับ มือของไทม์อบอุ่นดีจริงๆ กลิ่นหอมจากตัวไทม์ก็ทำให้ใจสงบ

“ถ้าคบกันแล้ว”

“ครับ?” ไทม์เอียงคอมองน้อง หูแดงๆ ของวริศให้ความรู้สึกน่ารักน่าเอ็นดูจนอยากเข้าไปจูบใบหูนั้นสักที

“ถ้าคบกัน แล้ววันหนึ่งต้องเลิกกันล่ะ คือ ผมกลัว ผมคิดว่าผมไม่อยากเสียพี่ไป”

น่ารักไม่ไหวแล้วว้อยยยย ไทม์โวยวายในใจ ลุกขึ้นเดินอ้อมไปด้านหลังคนน้องแล้วโอบกอดลงมาอย่างอดรนทนไม่ไหว วริศไม่ได้ปฏิเสธ แต่ยอมนั่งนิ่งๆ ให้กอด

“งั้นเรามาคบกันดู พี่เองก็ไม่อยากเสียแซนด์ไป อยากอยู่ด้วยกันมากกว่านี้ อยากแสดงความรักที่มากกว่านี้” เสียงนุ่มๆ ดังอยู่ข้างหู วริศใจเต้นรัว และได้ยินเสียงหัวใจของไทม์ที่ดังไม่แพ้กันที่ด้านหลังด้วย

ไทม์โน้มใบหน้าลงอีก ริมฝีปากชิดที่ข้างใบหูของน้อง พร้อมกับอ้อมกอดที่กระชับแน่นขึ้นบนช่วงบ่าของวริศ

“ถ้าวันหนึ่งเราจะต้องจากกัน ก็ขอให้มันเป็นความทรงจำที่ดีที่สุด ดีมั้ยครับ”

***

 :pig4:

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
เชียร์ เพราะว่าพี่ไทม์น่ารัก อยากให้ดูแลแซนต์  :mc4: :n1:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น่ารัก ๆ ค่อย ๆ ดูแลกันไปนะทั้งสองคนเลย

ออฟไลน์ แก่ เหี่ยว เคี้ยวยาก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่ารักทั้งคู่

ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
7
“ทำไมผมต้องเลิกทำงานที่บาร์ด้วยล่ะ” พอตกลงคบกัน ไทม์ก็มาขอให้วริศเลิกทำงานกลางคืนเป็นอย่างแรก

“ก็มันอันตรายด้วย ดึกด้วย พี่อยากให้เราตั้งใจเรียน เรื่องเงิน ค่าใช้จ่ายต่างๆ พี่จะออกให้เอง ไม่ดีเหรอ” สีหน้าของไทม์จริงจังมาก จนวริศลำบากใจ

“แต่พี่เจ้าของเขาไม่อยากให้ผมเลิก ผมเกรงใจเขา”

“ก็บอกเขาไปตามตรง อยู่กับพี่ ไม่จำเป็นต้องทำงานหนักแล้ว พี่ดูแลเราได้” ไทม์จับมือน้องไว้ ตลอดเวลา 2 เดือนกว่าที่ตามจีบวริศมา เห็นทำงานจนเหนื่อยล้า เลิกดึกดื่น เช้าไปเรียน เสาร์อาทิตย์ก็ทำงานเป็นวันๆ ไทม์ตั้งใจว่า ถ้าน้องตกลงคบกันเมื่อไหร่ จะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและค่าเล่าเรียนให้ ไม่อยากให้วริศลำบาก

“ผมไม่ได้อยากเกาะพี่กินสักหน่อย” วริศหน้างอเล็กน้อย เขาเป็นผู้ชาย ถึงจะลำบากยังไงก็อยากดูแลตัวเองให้ได้มากกว่า

“อย่าคิดแบบนั้นดิ พอเรียนจบ ทำงาน ค่อยดูแลพี่บ้างไง”

“พี่ไทม์ก็ชอบอ้างแบบนั้นตลอด กว่าผมจะเรียนจบ พี่ต้องดูแลผมตั้งกี่ปี แล้วถ้าวันนึงเราต้องเลิกกันล่ะ ผมจะทำยังไง”

“พี่จะไม่มีวันทิ้งแซนด์ เชื่อพี่นะครับ” ไทม์ดึงร่างสูงโปร่งมากอดไว้ อยากให้มั่นใจ เชื่อใจกันมากกว่านี้ ไทม์ไม่ใช่คนที่ชอบคบใครเล่นๆ มีแต่อยากจะอยู่ด้วยไปตลอด ถ้าอีกฝ่ายไม่ทิ้งกันไปก่อน

วริศถอนหายใจเบาๆ “พี่ทำแบบนี้ ผมลำบากใจจริงๆ นะ ผมยังอยากทำงาน หาเงินเองอยู่”

“งั้นพี่ให้เวลาเราอีกสักพักก็ได้ แต่ถ้าต้องเรียนหนักขึ้นเมื่อไหร่ ต้องเลิกทำงานแล้วตั้งใจเรียนอย่างเดียวนะ” ไทม์ผละออกมามองหน้าน้อง มันเป็นความตั้งใจดี ที่อยากให้วริศได้เรียนเต็มที่ และได้ใช้ชีวิตอย่างเด็กวัยรุ่นคนอื่นบ้าง

“งั้นผมจะขอลดวันทำงานลงก่อนแล้วกัน” สุดท้ายวริศก็ใจอ่อนกับไทม์ตามเคย คนพี่ได้ฟังก็ยิ้มหน้าบาน กอดเด็กหนุ่มอีกครั้งด้วยความดีใจ

***

วริศเงยหน้ามองคนที่โยนสมุดโน๊ตกับกองเอกสารลงบนโต๊ะ แล้วนั่งลงข้างๆ ด้วยหน้าตาหงุดหงิดงุ่นง่านแปลกๆ

“ทำไมมึงไม่ไปทำงานที่บาร์เมื่อคืน”

“อ้าว นี่มึงไปหากูเหรอ” วริศขมวดคิ้วมองหน้าเวย์ แล้วหันมาสนใจงานตรงหน้าต่อ

“เออสิ แล้วก็ไม่บอกกูด้วยว่าไม่ไปทำงาน พักนี้มึงหายหัวบ่อยมากนะ”

“เออๆ โทษทีว่ะ กูลืมบอก หลังจากนี้กูไปทำแค่วันศุกร์นะ”

“มึงไม่ต้องหาเงินเยอะๆ แล้วเหรอ ทำไมลดวันลง หรือว่าเหนื่อยแล้ว” เวย์เขยิบเข้าไปเบียดใกล้ๆ วริศขยับแขนหนีนิดหน่อย เพราะมันเขียนไม่ถนัด เหลือบสายตาลงก็เห็นเวย์ยื่นหน้ามามองใกล้ๆ

“อือ ไม่ได้ต้องใช้เงินเยอะแล้ว แต่ก็อยากทำต่อ เลยลดวันลง”

“มึงมีอะไรอยากบอกกูอีกมั้ย กูว่ามีนะ” เวย์จ้องไม่เลิก และวริศก็ตาลอกแล่กแปลกๆ ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง พลางลุกขึ้น

“ไม่มีหรอกน่า เออ เดี๋ยวกูไปซื้อชีทจารย์โมทช์แป้ป มึงซื้อยัง”

“ยัง ฝากซื้อด้วย” เวย์มองตามหลังวริศไปด้วยความสงสัย

วริศก็ยังไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมไม่กล้าบอกเวย์ ไม่อยากให้เพื่อนเสียใจก็ใช่ แต่อีกใจน่าจะกลัวมากกว่า กลัวว่าเวย์จะไม่ยอมตัดใจ และยิ่งออกตัวแรงกว่าเก่า แค่ที่ผ่านมาก็พยายามมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ตอนเมาก็พออ้างได้ว่าขาดสติ ลืมๆ ไปได้ แต่ถ้าเวย์ตั้งใจจะรุกเขาจริงจัง วริศก็กลัวว่ามันจะแตกหักกันได้ เขาไม่อยากเสียเพื่อนดีๆ อย่างเวย์ไปเลยจริงๆ

ตกเย็น ไทม์ก็มารับวริศที่หน้าตึกคณะ วันนี้เป็นวันแรกที่มารับในฐานะแฟนเต็มตัว ไม่ใช่แค่คนมาตามจีบเหมือนครั้งก่อนๆ ไทม์เลยรู้สึกเหมือนยืดอกได้อย่างเต็มภาคภูมิ

“พี่ไทม์ รอนานมั้ย”

“ไม่เลยคร้าบ” ไทม์ขานรับเสียงหวานเมื่อเห็นร่างสูงโปร่งของน้องคนหล่อเดินลงมาจากบันไดหน้าตึก ทีแรกกะจะเก๊กเท่ให้น้องเขินเล่น แต่กลายเป็นตัวเองต้องอายม้วน เพราะวริศเอียงคอนิดๆ พลางส่งยิ้มให้ ทั้งเท่และสดใสในคนเดียว

ฮรื่อออ น้องแม่งหล่อออร่าเกิน

ไทม์กรี้ดกร้าดกับตัวเองในใจ พยายามทำหน้านิ่ง ทั้งที่มุมปากคอยแต่จะยกยิ้ม แถมหูก็แดงไปเรียบร้อยแล้ว

“ไม่ขึ้นรถเหรอพี่ไทม์” วริศเดินมาจนถึงรถ กำลังจะเปิดประตู แต่เห็นคนพี่เอาแต่ยืนนิ่ง เลยหันไปมอง ไทม์รีบก้มหน้าก้มตาวิ่งไปขึ้นฝั่งคนขับ เห็นท่าทางเขินจัดของพี่ตัวดุ๊กดิ๊กแล้ว วริศก็อมยิ้ม

“ถามจริงๆ นะ ไม่มีใครมาทาบทามเราเป็นดาราหรือนายแบบมั่งเหรอ หน้าแบบนี้ หุ่นแบบนี้” พอขึ้นไปนั่งบนรถ ไทม์ก็อดถามไม่ได้ วริศคาดเข็มขัดนิรภัยพลางตอบ

“อืม...ก็เคยมีนะ แต่ผมไม่ถนัดแนวนั้น”

“โห จริงดิ เงินดีออกนะ” ไทม์เสียดายแทน

“มันก็ไม่ได้จะดังกันทุกคนมั้ยอ่ะพี่ กว่าจะได้เงินได้งานขนาดนั้น เสียเวลาไปทำงานอย่างอื่นเปล่าๆ”

ไทม์พยักหน้าเข้าใจ จริงอย่างที่วริศว่า ถ้าไม่ได้มีเวลามาฝึกฝนตัวเองให้ทำงานด้านนั้นได้ แถมไม่ได้ชอบเป็นทุนเดิม ก็ไม่เสี่ยงดีกว่า

“แล้ววันนี้จะไปไหนกันดีครับ”

“แล้วแต่พี่ไทม์เลยครับ แต่พรุ่งนี้ผมมีเรียนเช้านะ ห้ามดึก” วริศกำชับ เพราะบางทีคนพี่ก็ชอบพาเที่ยวเพลินจนลืมเวลา ไทม์ขานรับเสียงใสเช่นเคย

“โอเคครับผม”

“ขอพี่กินเบียร์ได้มั้ย ไหนๆ ก็มาละ” ร้านที่ไทม์พามาวันนี้เป็นร้านเหล้าในตลาดรถไฟแถวรัชดา ขนาดวันธรรมดาคนก็ยังค่อนข้างหนาตา พวกเขาสั่งอาหารมาสามสี่อย่าง วริศดื่มน้ำเปล่า ส่วนไทม์ พอเห็นเบียร์กับเหล้าก็ตาวาว เกิดอยากขึ้นมาบ้าง

“พี่นี่ดื่มหนักอยู่นะเนี่ย อย่าให้เมาจนขับไม่ไหวล่ะ” วริศหรี่ตามอง ยังดีที่ไทม์ไม่สูบบุหรี่ ไม่อย่างนั้นคงคบสูตรหนุ่มเสเพลไปแล้ว ท่าทางไทม์ก็น่าจะป๊อปไม่เบา คงมีคนมาจีบมาคุยเยอะด้วย แต่ไม่รู้ยังไง ถึงได้ตามตื้อเขา ทั้งที่ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ

“ครับพ้ม ไม่เมาครับ” พอไทม์สัญญาด้วยท่าตะเบ๊ะแบบลูกเสือแล้ว ก็เรียกพนักงานมาสั่งเบียร์สดเย็นๆ แก้วใหญ่ ดื่มให้ฉ่ำปอด พอเริ่มกรึ่มๆ ได้ที่ คนตาเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็เริ่มออกอาการอ้อน

“แซนด์ อันนั้นอร่อยมั้ย”

วริศมองตามปลายนิ้วที่ชี้มาที่จานข้าวของตน “อร่อยดีครับ ปลาหมึกสดมาก กินมั้ย”

คนพี่พยักหน้าหงึกๆ อ้าปากรอ วริศยิ้มขำจนตาหยี ตักปลาหมึกในจานป้อนเข้าปาก ไทม์เคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยเหมือนเด็กน้อย

“พี่ต้องเมาแล้วแน่ๆ เดี๋ยวขากลับผมขับรถเองนะ” คนป้อนยื่นมือไปเช็ดมุมปากให้

“ไม่เมาสักหน่อย” ไทม์เถียงแก้มแดง ดื่มไปแค่สามสี่แก้ว ไม่คิดว่าจะเมาเบียร์หรอก แต่น่าจะเมาคนตรงหน้ามากกว่า

“ไม่ดื้อสิพี่ไทม์ ผมขับเอง นะ” วริศทำหน้าดุนิดๆ จนคนแก้มป่องยอมแพ้ ไม่วายขอของรางวัลที่ยอมเป็นเด็กดีด้วย

“ก็ได้ แต่แซนด์ต้องป้อนอีกคำนะ”

Rrr

เสียงสายเรียกเข้าดังขัดขึ้นพอดี วริศเลยยกมือขอเวลานอก ก่อนจะหยิบมือถือมากดรับสาย พร้อมกับตักปลาหมึกส่งเข้าปากคนพี่อีกรอบ

“ว่า?”

[มึงอยู่ไหน เสียงดังจัง ร้านเหล้าเหรอวะ]

วริศเหลือบมองไทม์ที่กำลังเคี้ยวปลาหมึกและดื่มเบียร์อย่างมีความสุข ก่อนจะขอลุกไปคุยโทรศัพท์ห่างจากเสียงเพลงในร้าน

“เออ มีไร”

[ร้านไร กูไปหา]

“ไม่ต้องมา กูจะกลับแล้ว”

[อะไรวะ เมื่อเย็นมึงก็รีบไปไหนไม่รู้ ไม่รอกูเลย ร้านก็ไม่ได้ไปทำ มึงก็ต้องว่างดิ อย่าบอกนะว่ามึงแอบมีกิ๊กที่ไหน]

“กิ๊กพ่อง แค่นี้ก่อนแล้วกัน เสียงดังไม่ค่อยได้ยิน”

[อ้าว ไอ้แซนด์ ถึงห้องแล้วโทรหากูด้วยนะ]

“เออๆ ถ้าไม่ลืมนะ” แล้วเขาก็รีบกดวางสายจากเวย์ไป เดินกลับมาที่โต๊ะอีกที ไทม์ก็เมาแอ๋ไปเรียบร้อย วริศถึงกับกุมขมับ

“โธ่ พี่ไทม์ เผลอแป้ปเดียวสั่งเพิ่มมาอีกแล้ว”

“แหะๆ” คนเมายิ้มหวานตาเยิ้มใส่ ไอ้น่ารักก็น่ารักอยู่ แต่ก็น่าหมั่นไส้มากๆ ด้วยเช่นกัน

“กินข้าวให้หมดจานเลยครับ จะได้กลับ เลิกซดเบียร์ด้วย ข้าวก่อน” วริศนั่งลง ข้าวในจานของเขาหมดแล้ว แต่ก็ช่วยกินกับข้าวที่เหลือต่อ ทั้งยังต้องคอยคะยั้นคะยอไปป้อนข้าวใส่ปากคนพี่ไปด้วย

กิจวัตรประจำวันของพวกเขา ส่วนมากก็ยังเหมือนเดิม คนหนึ่งทำงาน คนหนึ่งเรียน เย็นก็กินข้าวด้วยกัน เดินเที่ยวบ้างบางครั้ง ในช่วงที่วริศไม่มีเรียนเช้าหรือต้องทำงานพิเศษ ไปค้างที่ห้องไทม์บ้างแล้วแต่โอกาส วันอาทิตย์ไทม์ก็แวะไปหาที่ร้านเนื้อย่างเหมือนเดิม

แต่เพราะมีเวลาอยู่ด้วยกันเต็มที่จริงจังแค่ช่วงเย็นหลังวริศเลิกเรียน ไม่นาน เวย์ก็เริ่มผิดสังเกต

“มึงรีบกลับป่ะวันนี้ กูว่าจะชวนไปซื้อของขวัญวันเกิดไอ้แบงค์อ่ะ”

วริศอึกอัก “เอ่อ กูมีนัดว่ะ”

“นัดใครวะ มึงมีแฟนแล้วใช่มั้ย ไม่บอกกู” เวย์นิ่วหน้า

“บอกไปแล้วไงวะ” เขาส่ายหน้าพลางถอนหายใจ ใจหนึ่งก็อยากบอกไปให้จบๆ เวย์เองก็ไม่ได้โง่ หลอกไม่ได้ตลอดอยู่แล้ว ยิ่งพักหลังเขาไม่มีเวลาให้มัน มันก็ต้องรู้แน่ๆ

“ตกลงมึงมีแล้วใช่มั้ย ใคร”

“มึงไม่ต้องรู้หรอก” ต่างคนต่างมองหน้ากัน แววตาของเวย์วูบไหวเล็กน้อย และเขาก็สังเกตได้

“ทำไม มึงกลัวอะไร ถึงให้กูรู้จักไม่ได้ ผู้หญิงหรือผู้ชาย คณะเราเหรอ”

“ไว้กูพร้อมกูจะบอกแล้วกัน มึงอย่าเพิ่งกดดันกูเลย” เขาห่อไหล่อย่างอ่อนใจ เห็นท่าทางของเขาแล้ว เวย์ก็ยอมถอยแต่โดยดี แม้จะยังคาใจมาก

และเย็นวันนั้น ในตอนที่วริศรีบเร่งเพื่อไปหาไทม์ที่หน้าตึกคณะเหมือนทุกครั้ง ก็มีสายตาของใครบางคนไล่ตามไปจากบนระเบียงตึก โดยที่วริศไม่ทันรู้ตัว

***

นังเวย์มาแน้ววว  :ling3:

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
น้องเวย์มา แต่เราทีมพี่ไทมีค่ะ :mc4:
แต่แอบวงสัยทำไมแซนต์ไม่บอกเวย์ไปตรงๆต้องมีอะไรแน่ๆ รอรอค่ะ

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
เหมือนจะมีดราม่า :serius2:
อย่ารุ่นแรงนะสงสารพี่ไทม์   :mew2:

ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
8
“ริศ จารย์ชัยเรียกว่ะ อยู่ที่ภาค”

วริศหันกลับไปมองเพื่อนที่เดินมาเรียกไว้ก่อนที่เขาจะเข้าลิฟท์

“แกบอกป่ะว่ามีไร”

“ไม่รู้อ่ะ เขาให้มาเรียกมึง”

“เออๆ ขอบใจ” วริศพยักหน้าให้เพื่อน ก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟท์ ระหว่างนั้นก็กดส่งไลน์ไปบอกไทม์ให้หาที่นั่งรอก่อน เพราะอาจารย์เรียกไปคุย อาจจะนาน ช่วงนี้มีงานวิชาการประจำภาค คิดว่าคงเป็นเรื่องงาน ตึกภาควิชาพลศึกษาของอาจารย์วรชัยที่เขาต้องไปหาก็ค่อนข้างไกลจากตึกเรียนด้านหน้าพอสมควรด้วย แค่เดินไปกว่าจะถึงก็เกิน 5 นาทีแล้ว

ไทม์ตอบกลับไปว่าจะหาที่นั่งรอหน้าตึกคณะ พลางมองหาที่นั่งหลบมุมหน่อย เพื่อจะได้ไม่สะดุดตามาก นั่งเล่นโทรศัพท์รอ เห็นพวกเพื่อนๆ โวยวายกันในไลน์ว่าช่วงนี้ไทม์ไม่ค่อยไปไหนมาไหนกับเพื่อนเลย เอาแต่ติดแฟนเด็ก เลยได้แต่ส่งสติ๊กเกอร์หน้าเขินไปให้เพื่อนหมั่นไส้เล่น

ทำไงได้ล่ะ มีเวลาอยู่ด้วยกันน้อยเกินไป จนไม่อยากให้มันเสียเปล่า อยากอยู่ด้วยกัน เรียนรู้กันให้มากขึ้นอีกสักนิดก็ยังดี ทั้งเรื่องที่ชอบ อาหารที่ชอบ สิ่งที่เกลียด อยากเข้าถึงตัวตนของอีกคนให้มากกว่านี้

นั่นสินะ จะใกล้ชิดกันมากกว่านี้ได้มั้ยนะ ไทม์นั่งท้าวคางพลางคิด หลังๆ มานี้ก็ถือว่าใกล้ชิดอยู่ ทั้งจับมือ กอดไหล่ ได้สัมผัสกันบ้างในบางครั้งเวลาอยู่ด้วยกัน แต่จะให้เกินเลยกว่านั้น มันจะยากไปสำหรับน้องหรือเปล่านะ

ถึงจะคิดแบบนั้น แต่แซนด์ก็อายุ 19 แล้ว โตพอที่จะมีความสัมพันธ์แบบผู้ใหญ่ อีกอย่างน้องไม่ใช่ผู้หญิงเสียหน่อย แค่ป้องกันให้ดีก็พอแล้ว แต่แซนด์เคยบอกว่าโสดมาตลอด ไทม์จึงคิดว่าครั้งแรก อยากให้น้องเป็นฝ่ายทำดีกว่า แล้วหลังจากนั้นน้องชอบแบบไหนก็ค่อยว่ากัน เพราะสำหรับไทม์ เขายังไงก็ได้หมด อายุขนาดไทม์ น้องคงพอเดาได้ว่าไม่บริสุทธิ์ผุดผ่องแน่นอน ก่อนจะรู้ตัวว่าชอบผู้ชายด้วยกัน ไทม์ก็ผ่านผู้หญิงมาบ้างแล้ว เพราะอย่างนั้น ถึงได้รู้ตัวว่าไม่ได้ชอบผู้หญิง

นั่งคิดอะไรไปเพลินๆ อยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงดังโครม ไทม์สะดุ้งหลุดจากภวังค์ ชะเง้อคอมองไปที่รถตัวเอง เห็นมีมอเตอร์ไซค์ขับมาชนท้ายเข้าจังๆ เขาตกใจรีบวิ่งลงไปดู เด็กนักศึกษาที่ขับมาชนหน้าตาเลิกลั่กหันมามองน้ำตาคลอ

“รถพี่เหรอครับ ผมขอโทษ ผมไม่ทันมอง”

“อ่า ไม่เป็นไรครับน้อง ไม่ได้บุบสลายอะไร” ไทม์เช็คดูท้ายรถ มีแค่รอยขีดข่วนนิดหน่อยเท่านั้น เสียงดังน่ากลัว แต่คงไม่ได้ชนแรงอะไร

“ผม ผมจะชดใช้ค่าเสียหายให้ พี่เอาเบอร์ผมไปเลย” เด็กหนุ่มหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา “เอาเบอร์พี่มา เดี๋ยวผมยิงไป ผมไม่หนีแน่นอน”

“ไม่ต้องก็ได้นะ ไม่ได้เป็นไรมาก น้องนั่นแหละเป็นอะไรหรือเปล่า ไม่ได้เจ็บตรงไหนใช่มั้ยครับ”

“ไม่เป็นไรเลยครับ แต่รถพี่อ่ะเป็นรอยยาวเลย เอาเบอร์มาเลยครับ ค่าซ่อมทำสีใหม่เท่าไหร่ โทรบอกผมเลย” เด็กหนุ่มไม่ยอมท่าเดียว จนสุดท้ายไทม์ก็ต้องยอมบอกเบอร์โทรให้ พอได้เบอร์ไปก็ยิงมาเข้าเครื่องของเขา

“พี่ชื่ออะไรนะครับ”

“ไทม์ครับ แล้วน้องล่ะ” ไทม์เตรียมกดเมมเบอร์

“วันเวย์ครับ”

ไทม์เลิกคิ้ว “หือ ชื่อแปลกดีจัง”

“เหรอครับ พี่ก็ชื่อเท่ดีนะ”

“อืม” ไทม์เพิ่งได้สังเกตคนตรงหน้า นอกจากชื่อแปลกแล้วยังหน้าตาดีไม่น้อย ตัวเล็กๆ ดูน่ารักน่าทนุถนอม ตากลมโตจ้องมองเขาเป็นประกาย อย่างกับลูกหมา

“งั้นพี่โทรมานะ ผมจะได้โอนค่าเสียหายให้ พร้อมเพย์เบอร์นี้เลยมั้ยครับ หรือบอกเลขบัญชีในไลน์ได้เลย ผมแอดพี่ไปแล้ว”

ไทม์นิ่งอึ้งเล็กน้อย ถึงขนาดแอดไลน์มาแล้วเหรอเนี่ย

“โอเคครับ ถ้าน้องอยากรับผิดชอบมากขนาดนั้น ไว้พี่จะไลน์ไปบอกแล้วกัน” เขาตอบพลางส่งยิ้มให้ตามมารยาท แม้คนตรงหน้านี้จะน่ารักแค่ไหน ก็ไม่เท่าแฟนของเขาหรอก แซนด์ทั้งหล่อทั้งเท่ แล้วก็น่ารักในคนเดียวเลย

เด็กหนุ่มที่ชื่อวันเวย์ยิ้มหวานให้ไทม์อีกครั้ง ก่อนจะรีบขี่มอเตอร์ไซค์จากไป ไทม์เดินกลับไปนั่งรอที่เดิม ไม่นานวริศก็มาถึง

“พี่ไทม์ รอนานมั้ย”

“ไม่นานๆ เสร็จธุระแล้วเหรอครับ” ไทม์ยิ้มให้

“ครับ ไปกันเถอะ” วริศว่า ก่อนจะเดินนำไปที่รถของไทม์ ให้คนพี่เดินตาม

“พรุ่งนี้ผมหยุดนะ” พอขึ้นมานั่งบนรถแล้ว วริศก็เอ่ยขึ้น พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ ปกติจะไปทำงานที่ร้านเนื้อย่าง

“จริงเหรอ” ไทม์หันไปมองตาวาว และพอน้องพยักหน้ารับ ก็ดีใจจนเกือบร้องออกมา

“งั้นไปเที่ยวไหนกันมั้ย เอาแบบทั้งวันเต็มๆ วันยันดึกเลย”

วริศอมยิ้ม ดีใจกับปฏิกิริยาของคนพี่ “ไปไหนก็ได้ ให้พี่ไทม์พาไป”

คำตอบก็ช่างน่ารัก จนไทม์อดไม่ได้ที่จะโผเข้าไปกอดร่างสูงโปร่งข้างๆ

“งั้นพี่จัดทริปคืนนี้เลย ไปนอนห้องพี่นะ จะได้ตื่นเช้าไปพร้อมกัน” ไทม์กอดรัดน้อง อยากจะหอมแก้มเลยด้วยซ้ำ แต่ต้องอดใจไว้ก่อน ส่วนวริศก็นั่งตัวเกร็ง หูแดงไปเรียบร้อย

“อือ ปล่อยได้แล้วพี่ไทม์ เดี๋ยวใครมองเข้ามา รีบออกรถเลย”

***

แพลนเที่ยวของไทม์เริ่มต้นตั้งแต่ 6 โมงเช้า เพราะเขาอยากใช้เวลาทั้งวันนี้ให้มีค่ามากที่สุด ขับรถจากกรุงเทพฯ ไปถึงพัทยาก็แค่สองชั่วโมง หาข้าวเช้ากินที่นั่นตอนประมาณ 8 โมง แล้วก็ไปขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมบาลีฮาย ฝั่งพัทยาใต้ ซึ่งไทม์เหมาสปีดโบ๊ทไปราวๆ 15 นาทีก็ถึงเกาะล้าน

“เช่ามอเตอร์ไซค์ก่อน” พอถึงเกาะล้าน ก็เจอด่านแรก คือร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ทั้งหลาย ไทม์เลือกเช่าได้ก็จูงรถออกมาเตรียมสตาร์ท ให้วริศเป็นคนซ้อน

“เดี๋ยวพี่จะพาทัวร์เกาะเอง”

“เคยมาเหรอครับ” วริศขึ้นไปนั่งคร่อม เกาะเอวไทม์ไว้กันตก

“มากับเพื่อนบ่อยอยู่ ส่วนมากก็ไปนั่งเล่นแถวหาดตาแหวนกับหาดเทียนน่ะ เดี๋ยวพี่พาไป หาดที่นี่บางหาดก็ไม่ค่อยสวยแล้ว เพราะคนมาเยอะ แต่อาหารทะเลก็โอเคอยู่ ไม่มีเวลาไปไหนไกลก็มาเกาะล้าน ข้ามกลับไปพัทยาก็เที่ยวบาร์เที่ยวผับต่อได้อีก”

 “พี่ไทม์ดูเที่ยวเก่งเนอะ” วริศโน้มตัวไปกอดไทม์ไว้ เพราะเสียงลมพัดดังจนไม่ค่อยได้ยินเวลาคุยกัน เขาวางคางเกยบนบ่าคนพี่

“ไม่ขนาดนั้นหรอกคร้าบ นานๆ ทีเอง ส่วนมากก็ไปแต่พวกผับบาร์ในเมือง”

“ก็นั่นแหละครับ ที่เรียกว่าเที่ยวเก่ง” ถ้าไทม์หันหน้ามา ก็จะเห็นคนทำหน้างอใส่ วริศยอมรับตรงๆ กับตัวเองว่าเริ่มจะหวงไทม์ขึ้นมานิดๆ เพราะคนพี่ทั้งชอบดื่มชอบเที่ยวเป็นกิจวัตรขนาดนี้ ต้องมีคนมาจีบเยอะแน่ๆ พอคิดแบบนั้น แขนที่กอดเอวของไทม์ไว้ก็รัดแน่นขึ้นอีก ไทม์รู้สึกหน้าร้อนๆ ยิ่งน้องเอาหน้าซุกซบบนบ่ายิ่งใจสั่น จนเผลอทำรถเซไปเล็กน้อย

บางทีวริศก็อยากบอกให้คนอื่นรู้ ว่าคนคนนี้เป็นแฟนของเขา ห้ามใครมายุ่ง แต่ก็นะ จะไปป่าวประกาศบอกใครล่ะ ขนาดกับเพื่อนๆ ตัวเองยังไม่กล้าเลย เกิดมาก็เพิ่งเคยมีคนที่เรียกว่าแฟนได้เต็มปาก เพิ่งเคยรู้สึกอยากครอบครองใครสักคน อยากให้เป็นของตัวเองคนเดียว ก็ครั้งนี้แหละ

หาดแรกที่ไทม์พามาคือหาดเทียน หาดนี้คนไม่เยอะมาก เพราะเป็นหาดเล็ก ไม่มีพวกเก้าอี้ผ้าใบให้นั่งเล่น แต่มีร้านอาหารใหญ่ ไทม์กะจะถ่ายรูปแล้วก็กินข้าวกลางวันกันที่นี่ ซ้ายมือของหาดมีสะพานเล็กๆ ให้เดินเล่น วิวค่อนข้างดี เหมาะกับการถ่ายรูป

“เล่นน้ำมั้ย” ไทม์ฉุดข้อมือวริศให้เดินลงไปในน้ำทะเล เพราะน้องไม่ยอมลงน้ำ วริศตัวเซไปตามแรงดึง ดีที่รู้ว่าจะมาทะเล เลยใส่กางเกงขาสั้นแค่เข่า ส่วนไทม์ใส่กางเกงขาสั้นสำหรับว่ายน้ำมาพร้อม

“ไม่เอาอ่ะพี่ ผมไม่ได้เอาชุดมาเปลี่ยน”

“เดี๋ยวตากลมก็แห้ง”

“มันเหนียวตัว” วริศหน้ามุ่ย เพราะไทม์ก็ดื้อน่าดู บอกไม่เล่นๆ ก็ยังจะเตะน้ำใส่ให้เปียกอีก

“พี่ไทม์!”

“ฮ่าๆ หน้ายุ่งเลย มาทะเลทั้งทีน่า” ไทม์หัวเราะ “ดูดิๆ มีหอยด้วย น่ารักอ่ะ”

วริศเดินตามลงไปดูด้วยความสนใจ เขาจำได้ว่าตอนเด็กๆ ที่พ่อแม่ยังอยู่ พวกท่านเคยพาไปเที่ยวทะเล แต่ไม่ค่อยเจอพวกกุ้งหอยปูปลา มีแต่วิวทะเลกับสระว่ายน้ำมากกว่า

“มันเดินแบบนี้เอง”

“น่ารักเนอะ” ไทม์เงยหน้ามองคนที่ยืนก้มตัวลงมาดูเจ้าหอยตัวเล็กๆ ที่พยายามจะขยับไปทีละนิดบนผืนทรายใต้น้ำ และไหนๆ ตัวเขาก็เปียกไปครึ่งท่อนแล้ว เลยอยากให้น้องได้เปียกด้วย ไทม์แสยะยิ้มพลางฉุดแขนวริศลงน้ำ เด็กหนุ่มไม่ทันตั้งตัว เซถลาล้มลงทับคนพี่ กลิ้งลงไปในทะเลด้วยกัน

“ฮ่าๆๆๆ”

“พี่ไทม์! ขี้แกล้งอ่ะ” วริศหน้ามุ่ย แต่ก็อดขำตามไม่ได้ ตอนนี้เปียกไปทั้งตัวทั้งคู่

“แซนด์ว่ายน้ำเป็นมั้ย” ไทม์ถามพลางตีแขนออกไปจากฝั่ง ส่วนวริศยังนั่งอยู่ตรงน้ำตื้น

“ว่ายได้ แต่ไม่ค่อยแข็ง”

“งั้นเกาะคอพี่ไว้ เดี๋ยวพาไปลอยคอ”

“ไม่เอาหรอก” คนน้องส่ายหน้า เขาตัวใหญ่กว่าไทม์ตั้งเยอะ ขืนกอดคอไปด้วยกัน ได้จมพอดี แต่ไทม์ก็คะยั้นคะยอเหมือนเดิม แถมยังว่ายกลับมา ลากเขาลงทะเลไปด้วย

“พี่ดำน้ำเก่ง ไม่ต้องกลัว มาเลย”

วริศถอนหายใจแต่อมยิ้มนิดๆ ก่อนจะยอมตามไป เพราะไม่เคยจะปฏิเสธไทม์ได้สักที

“พี่เนี่ย ทั้งดื้อ ทั้งขี้ตื้อ ทั้งชอบแกล้ง ผมไม่น่าชอบพี่เลย” พอลอยมาลึกหน่อยจนขาหยั่งพื้นไม่ถึง วริศก็กอดคอของไทม์ ที่กำลังลอยตัวอยู่ในน้ำไว้ ไทม์เอี้ยวคอหันไปมองน้อง ดวงตาแวววาว

“ไม่ต้องชอบก็ได้ ให้รักเลย”

“แล้วทำตัวน่ารักหรือเปล่าล่ะ” วริศเลิกคิ้วมอง ไทม์หัวเราะลั่นอย่างถูกใจ

“พี่ก็ทำตัวน่ารักกับแซนด์อยู่แล้วนี่”

“ไม่เห็นจริง” คนน้องเชิดหน้าใส่นิดๆ ไทม์ขมวดคิ้วฉับ

“ตรงไหนกัน”

“พี่ไม่ค่อยยอมฟังผมอ่ะ ดื้อ” วริศบีบจมูกไทม์เบาๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว คนแก่กว่าชอบทำตัวเหมือนเด็กตลอด จนบางทีวริศก็คุมไม่ค่อยอยู่ แต่ก็อยากให้ฟังกันบ้าง

“โหย นี่เราพูดเหมือนแก่กว่าพี่เลยนะ แก่แดดจัง” ไทม์หัวเราะอีกรอบ

“พี่ก็ทำตัวเด็กเกินไปแล้ว”

“ไม่ชอบแบบนี้เหรอ” ไทม์คลี่ยิ้มบางๆ สบตากับวริศที่ยังกอดคอไว้ แล้วค่อยๆ พลิกตัวหันไปหา ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าวริศกำลังคล้องแขนโอบคอของคนพี่ ส่วนมือของไทม์กอดที่เอวของวริศ

“ถ้าไม่ชอบ ก็ไม่มาด้วยถึงนี่หรอก” ทั้งที่เขินจนหน้าร้อนเห่อ แต่วริศก็ไม่หลบสายตา ทั้งยังจ้องมองไทม์ด้วยดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ทั้งอ่อนโยนและคล้ายกับมีความต้องการบางอย่างแฝงอยู่ ไทม์ก็ไม่ใช่เด็กน้อยที่จะไม่รู้ว่าน้องต้องการอะไร

บางที ความสัมพันธ์ของพวกเขา คงกำลังเริ่มก้าวหน้าขึ้นอีกหน่อยแล้ว

ไทม์หรุบตาลงเล็กน้อย มองลูกกระเดือกที่ลำคอของร่างสูงโปร่งที่เคลื่อนไหวคล้ายกับกำลังกลืนน้ำลาย ลมหายใจของน้องร้อนและแรงขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากอุ่นๆ นั่นคลอเคลียอยู่ที่ใบหู

มันอาจจะเพราะบรรยากาศพาไป อาจเพราะร่างกายที่เปียกปอนและหนาวเย็น

ทำให้ต่างคนต่างอยากได้ความอบอุ่นของกันและกัน

“ผม...” น้ำเสียงทุ้มต่ำดังอยู่ข้างหู ไทม์ใจเต้นแรงไม่แพ้กัน ก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยและกอดเอวของร่างสูงไว้แน่นขึ้นอีก กับประโยคแผ่วเบาที่ลอดออกจากริมฝีปากสีส้มอ่อนนั้น

“ขอผมจูบพี่ได้มั้ย”

***

พี่เขารอหนูรุกมานานละลูก 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
ใช่เลยรออยู่ รีบๆรุกพี่ไทม์ค่ะลูก หรือให้พี่ไทม์รุกก็ได้น่ะ
ตอนนี้คนรอลุ้น (ได้หมดถ้าสดชื้น ) เพราะว่าทีมพี่ไทม์
แต่วันเวย์ตั้งใจแน่ๆ เลย คิดจะทำอะไร :hao4:

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
 :hao6: มารอเพื่อสิ่งนี้  :m3:
พี่ไทม์เซย์เยส หรือเซย์โน น่ะ

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
รอพี่ไทม์ กับน้องแซนต์  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
9
ไทม์พาแซนด์ขึ้นฝั่ง เดินเลียบไปริมทาง กลับไปที่รถมอเตอร์ไซค์ โดยที่มือของแซนด์ก็จับที่ชายเสื้อของคนพี่ไว้ตลอด พอมาถึงที่จอดรถ ซึ่งไม่ค่อยมีคน ไทม์ก็ดึงแขนน้องให้เดินตามไปอีกมุม ที่มีต้นไม้บังให้

ต่างคนต่างสบตากันในความเงียบสงบ เสียงคลื่นลมดังอยู่ไกลๆ ไทม์ใจเต้นแรง และอีกคนก็ไม่ต่างกัน มือเรียวยาวที่ไทม์ชอบมองเวลามันเคลื่อนไหว ตอนนี้กำลังเกาะอยู่ที่สะโพก แซนด์โน้มคอลงมาเล็กน้อย ตอนอยู่ในน้ำ แซนด์กอดคอไทม์ แต่ตอนนี้ ด้วยส่วนสูงของน้อง ทำให้ไทม์ต้องเป็นฝ่ายโอบคอร่างสูงโปร่งแทน

“กลิ่นทะเลอ่ะ” ปลายจมูกคมสันแนบลงกับแก้มแดงๆ ของไทม์ พร้อมเสียงหัวเราะเบาๆ

“แซนด์ก็กลิ่นเดียวกันแหละ” ไทม์ว่าพลางจูบเบาๆ ที่ซอกคอคนตัวสูง “รสทะเลด้วย เค็มปี๋เลย”

“ฮ่าๆ” แซนด์หัวเราะดังขึ้น เพราะจั๊กจี้

“ไหนบอกจะให้ผมจูบไง แล้วมาจูบผมก่อนทำไมเนี่ย”

“แค่ที่คอเอง หมั่นเขี้ยว” ไทม์ผละออกมา สบตากันอีกครั้ง หัวใจยังคงเต้นรัว แซนด์กลืนน้ำลาย ใบหน้าค่อยเอนลงมาเรื่อยๆ จนริมฝีปากเกือบจะแตะกัน

“พี่ไม่หลับตาเหรอ”

“อยากเห็นหน้าแซนด์ใกล้ๆ นี่” ไทม์เอ่ยตาใส

“แต่ผมเขิน” แซนด์เกาแก้มตัวเองอย่างเก้ๆ กังๆ เล่นลืมตาโพลงมองกันแบบนี้ ไม่กล้าจูบเลย

“อ่ะ หลับก็ได้” ไทม์อมยิ้ม ยอมหลับตาพริ้มรอ แซนด์โอบเอวคนพี่มาแนบชิดอีกครั้ง ก่อนจะโน้มใบหน้าลง กะมุมให้พอดีและทาบริมฝีปากลงไป

สัมผัสนั้นอ่อนนุ่มมาก หัวใจของเขาเหมือนจะหยุดเต้นเสียให้ได้ มือที่โอบเอวของไทม์ไว้สั่นเล็กน้อย จูบที่เขาเป็นฝ่ายเริ่ม เป็นฝ่ายต้องการ มันต่างจากตอนที่จูบกับเวย์ลิบลับ

รู้สึกดี

“อืม” มือนุ่มๆ ของไทม์สอดเข้าไปในกลุ่มผมสีดำสนิท เมื่อแซนด์เปลี่ยนจากแค่แตะเบาๆ เป็นบดเบียดลงมามากขึ้น ด้วยความที่มีประสบการณ์มากกว่า ไทม์จึงเผยอปากรอ และดูเหมือนเด็กหนุ่มจะรู้งานดี เรียวลิ้นร้อนๆ สอดแทรกอย่างกล้าๆ กลัวๆ ทว่าความต้องการตามธรรมชาติ ทำให้เขาเริ่มรุกเร้าหนักหน่วงขึ้นเอง และไทม์ก็ตอบรับอย่างดี

“พี่จูบเก่งจัง” แซนด์ผละออกมาหอบหายใจเบาๆ ใบหน้าร้อนผ่าว และร่างกายก็รู้สึกร้อนไม่ต่างกัน กลิ่นน้ำทะเลเหมือนหายไปหมดแล้ว ได้แต่กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวคนพี่ จนทำเอาแทบทนไม่ไหว

“เราก็ใช่ย่อยนะ ไหนบอกไม่เคยมีแฟน” ไทม์เหลือบตาขึ้นมองหน้าน้องอย่างขัดเขิน แซนด์ไม่ตอบอะไร แต่แนบริมฝีปากลงมาคลึงเบาๆ กับเรียวปากบางอีกครั้ง งับเม้มนิดหน่อยพอให้คนพี่สะดุ้งเล่น ไทม์ทุบไหล่น้องด้วยความตกใจ

“พี่น่ารักจัง” ดวงตาเยิ้มๆ ของแซนด์ ทำเอาหัวใจกระตุก ไทม์รั้งคอร่างสูงลงมา แล้วจูบกลับไปแรงๆ อีกครั้ง เอาให้เจ้าเด็กน้อยมันหายอยากไปเลย

เวลาตลอดช่วงบ่ายวันนั้น ทำให้ความสัมพันธ์กระชับขึ้นมาอีกขั้น ขากลับไทม์พาแซนด์ไปกินบุฟเฟ่ต์ทะเลเผาที่ฝั่งพัทยา แล้วก็ขับรถกลับคอนโดกัน

“วันนี้ขอบคุณนะครับ ที่พาไปเที่ยว” พอมาถึงที่ห้อง แซนด์ก็คว้าตัวไทม์ไปกอดไว้ พอได้ใกล้ชิดมากขึ้น แซนด์ก็เริ่มแสดงออกมากขึ้น แม้จะยังมีความเคอะเขินบ้างก็ตาม

“พี่ก็ต้องขอบคุณเหมือนกัน ที่แซนด์อยู่กับพี่ และเลือกพี่” ไทม์จับแขนที่กอดเอวแล้วลูบไปมา แผ่นหลังที่แนบชิดกับแผงอกของเด็กหนุ่มรับรู้ได้ถึงแรงเต้นของหัวใจ แซนด์ซุกหน้าลงบนลาดไหล่ของคนพี่ เขาเองก็ไม่คิดว่าจะมาถึงวันนี้ได้ แม้จะเป็นเวลาแค่ไม่กี่เดือนที่รู้จักกัน แต่การมีไทม์อยู่ข้างๆ มันมีความสุขมากจริงๆ

“ไว้แซนด์มีเวลา เราไปเที่ยวกันอีกนะ” ไทม์พลิกตัวไปกอดคอคนน้อง ส่งยิ้มให้กัน แซนด์พยักหน้ารับ แล้วหอมแก้มไทม์ไปฟอดใหญ่ พอผละออกมามองหน้ากัน ต่างคนต่างก็เขินจนแก้มแดงก่ำ แซนด์หัวเราะน้อยๆ แปะหน้าผากลงบนหน้าผากของไทม์ ปลายจมูกถูกันเล็กน้อย ส่วนไทม์ก็อมยิ้มดึงแก้มแดงๆ ของน้องเล่นแก้เขินไป

***

“ไทม์ พักนี้มึงหน้าตาเบิกบานนะ มีอะไรดีๆ เหรอวะ” เสียงเพื่อนร่วมงานตัวโตถามขึ้นน้ำเสียงสนอกสนใจเป็นพิเศษ “กูเห็นมึงลงรูปไปเที่ยวด้วย ไปกับใคร บอกได้ป่ะ”

“อืม...” ไทม์ทำหน้าคิด “โทษที กูลืมบอกมึงเลยว่ะ ว่าน้องคนที่กูจีบอยู่ เขาตกลงคบกับกูแล้ว”

“เฮ้ย จริงดิ! ไหนๆ ขอกูดูรูปน้องเขาได้มั้ย” กั้นดั้มรีบเลื่อนเก้าอี้มาใกล้ๆ ไทม์ ที่กำลังเปิดรูปในสมาร์ทโฟนยื่นให้ดู ตอนไปเที่ยวมีรูปถ่ายเซลฟี่คู่กันและรูปเดี่ยวของแซนด์อยู่ แต่ไทม์ไม่ได้เอาลงโซเชี่ยลทั้งหลาย เพราะยังอยากเก็บน้องไว้ดูคนเดียว

“หล่อนะเนี่ย แม่ง มึงได้แต่ของดีๆ อีกแล้ว กูเนี่ยห่อเหี่ยวตัลลอด” กันดั้มทำหน้าเซ็ง

“ไม่นอยน่าดั้ม มึงก็ออกจะน่ารัก” ไทม์ตบบ่าเพื่อน

“แต่กูจีบใครก็ไม่เห็นจะติดง่ายๆ แบบมึงเลยอ่ะ บางคนคุยเป็นปี แม่งบอกกู ขอเป็นพี่น้อง พี่น้องเหี้ยไร เอากันเป็นสิบรอบละ คิดแล้วก็แค้น” กันดั้มยิ่งหน้ามุ่ยกว่าเดิม มีแต่คนคุย บางครั้งก็นัดเจอบ้าง สุดท้ายจบที่เซ็กส์ แล้วก็กลับมาเป็นแค่คนคุยเหมือนเดิม

“มึงก็เลิกคุยไปทั่วสิ จีบใครจริงๆ จังๆ สักคน มันก็ได้เอง”

“ก็เผื่อเลือกอ่ะ”

“คนอื่นก็คงเผื่อเลือกมึงเหมือนกันแหละ แล้วกับพี่เอ็มล่ะว่าไง กูเห็นเหมือนมีโมเม้นนะดั้ม” ไทม์หรี่ตามองอย่างจับผิด ล่าสุดเห็นกันดั้มไปเล่นยิม มีพี่เอ็ม แฟนเก่าของไทม์มาช่วยเทรนให้ ท่าทางสนิทกันกว่าเมื่อก่อน แถมมีไปกินข้าวด้วยกันอีก

“นั่นก็พี่น้อง โว้ย กูไม่เอาหรอก เจ้าชู้แบบนั้น รับไม่ได้อ่ะ แต่ก็ยอมรับนะว่าพี่เขาเอาใจเก่ง” กันดั้มเอาปลายนิ้วชี้แตะริมฝีปากตัวเอง นึกถึงตอนที่เอ็มมาเสนอตัวเทรนให้อย่างใกล้ชิด

“ระวังไว้ด้วยก็ดีนะ พี่เอ็มมันหวังเคลมมึงแน่ๆ แต่ถ้ามึงทำให้มันจริงจังกับมึงได้ก็ดีไป”

“ว่าแต่กูแหละ ของมึงน่ะ ได้เคลมยังล่ะ น้องมันเป็นแบบไหนวะ” กันดั้มรีบเปลี่ยนเรื่อง

“ไม่รู้แฮะ เขาเพิ่งเคยมีแฟน แต่แบบไหนกูก็โอเคหมดแหละ”

“ดีจังนะ”

ระหว่างคุยกันเพลินๆ ในช่วงพัก เสียงสายเรียกเข้าของไทม์ก็ดังขึ้น หน้าจอแสดงชื่อ “วันเวย์” ไทม์นิ่งนึก เพราะผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วที่ลืมเรื่องที่รถชนกันไป สีที่ถลอกก็พอจะซ่อมเองได้ ไม่ได้เสียหายอะไรมาก เลยไม่ได้โทรไปบอกเด็กคนนั้น

“ครับ น้องวันเวย์” ไทม์ขอตัวลุกจากโต๊ะทำงานไปคุยโทรศัพท์ที่ด้านนอกห้อง เสียงจากปลายสายฟังดูกังวล

[พี่ไทม์ไม่เห็นติดต่อมาเรื่องค่าเสียหายเลย]

“อ่า โทษทีครับ พอดีพี่ซ่อมเองน่ะ มันไม่ได้ถลอกมาก พ่นสีทับก็หายแล้ว” ไทม์หัวเราะฝืดๆ

[งั้นก็ค่อยยังชั่ว แต่คิดค่าสีกับผมก็ได้นะ]

ไทม์อมยิ้ม เด็กคนนี้ช่างมีความรับผิดชอบจริงๆ “ไม่เป็นไร พอดีพี่มีตุนไว้อยู่แล้ว”

[แบบนี้ผมก็ไม่ได้ชดใช้ค่าเสียหายเลยสิ]

“อยากจ่ายเงินขนาดนั้นเชียวเหรอครับ” เสียงกระเง้ากระงอดเล็กๆ ของเวย์ ทำให้ไทม์นึกเอ็นดู

[ผมก็แค่อยากเจอพี่ไทม์อีก]

“หืม...นี่อยากจีบพี่เหรอ” ไทม์รู้สึกสะกิดใจ เหมือนเด็กมันอ่อยแปลกๆ

[ไม่ได้เหรอ]

ไทม์ถอนหายใจเบาๆ “ขอโทษด้วยครับ พี่มีแฟนแล้วน่ะ”

[โหย เสียดายอ่ะ งั้นคุยกันแบบพี่น้องได้มั้ยล่ะ]

จากน้ำเสียงแล้ว ไทม์คิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้คงกำลังทำหน้าเซ็งเหมือนเพื่อนของตนอยู่แน่ๆ พี่เอ็มจีบกันดั้มมันก็น่าห่วง ไม่รู้พี่มันจริงจังหรือแค่หวังฟันเล่นๆ แต่ถ้าให้กันดั้มเจอน้องวันเวย์ อาจจะมีเรื่องดีๆ ก็ได้

“ก็ได้นะ ถ้าสะดวก วันเวย์อยากมาเจอพวกพี่ๆ หน่อยมั้ยล่ะ คืนนี้พวกพี่จะไปร้าน xx กัน”

[เพื่อนๆ พี่ไทม์ไม่ดุใช่มั้ย]

“ไม่ครับ มีแต่คนใจดี น้องวันเวย์มาได้เลย พี่จะแนะนำให้รู้จัก”

[โอเคครับ ไว้เจอกันนะพี่ไทม์ ขอบคุณที่รับผมเป็นน้องชายนะฮะ] เด็กหนุ่มหัวเราะเสียงสดใสขึ้น ไทม์ก็รู้สึกดีที่ได้สร้างโอกาสให้กับคนอื่นบ้าง เรื่องความรัก จะมัวแต่รอให้มันมาเอง ก็อาจจะเสียเวลารอทั้งชีวิตได้

หลังจากนัดวันเวย์แล้ว ไทม์ก็โทรบอกแซนด์อีกที ว่าคืนนี้จะไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ถ้าแซนด์ว่างก็จะไปรับด้วย และแซนด์ก็ว่างพอดี

คืนนี้จะเป็นการเปิดตัวแฟนของไทม์ครั้งแรกกับเพื่อนสนิททุกคน แม้ทั้งหมดจะเคยเจอแซนด์มาแล้ว ยกเว้นกันดั้มที่ไม่เคยเจอตัวจริง ไทม์รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย เฝ้ารอให้ถึงคืนนี้อย่างใจจดใจจ่อ

***

เพิ่งกลับจากเขาค้อ ไม่ค่อยหนาวเลย ไปนอนบนเขา ตอนเช้าแค่ 19องศาเองง่ะ นี่คาดหวังกับ10 ลงไป เสียจัย เราชอบที่เย็นๆ
ไม่ได้ใส่เสื้อกันหนาวเบย

ตอนนี้แต่งค้างไว้ก่อนไป แล้วมาแต่งต่อ อาจจะเบลอๆ งงๆ นะ

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
วันเวย์มีแผนอะไรหรือเปล่าน่ะ  :ling3:
รอตอนต่อไป  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4: :L1:

ลุ้นไปกลัวไป เวย์ อ่าาา กลัวใจ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ปะทะกันแน่ๆ ระหว่างเพื่อนสองคน

ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
10
“คืนนี้มึงว่างนี่ ไปเที่ยวกับกูมั้ยแซนด์” เวย์โผเข้ามากอดคอเพื่อนรักอย่างแซนด์จากด้านหลัง แซนด์ที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋าแทบจะหน้าคะมำ ต้องหันไปแยกเขี้ยวใส่ไอ้ตัวดี

“ไม่ถีบกูให้หน้าคว่ำเลยล่ะ แหม”

“ฮ่าๆ โทษๆ ว่าไง ไปมั้ย กูรู้มึงว่าง” เวย์เขย่งขารัดคอแซนด์ไว้หลวมๆ

“ไปไหนของมึงล่ะ กูไม่ค่อยอยากใช้เงิน มึงก็น่าจะรู้นี่” แซนด์ยัดสมุดเล่มสุดท้ายลงกระเป๋า ก่อนจะสะพายไว้บนบ่า เดินออกจากห้องเรียนโดยมีเวย์กอดแขนเดินไปด้วยกัน

ปกติเวย์ก็ชอบเกาะติดแจอยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยมัธยม แซนด์เลยไม่ได้ว่าอะไร แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเวย์คิดกับตนอย่างไร แต่คำว่า “เพื่อนสนิท” แถมยังมีเพียงคนเดียว ทำให้ตัดยังไงก็คงไม่ขาดง่ายๆ แซนด์ไม่อยากทิ้งเวย์ ไม่อยากทำให้เวย์เสียใจ แต่ไม่ได้อยากให้ความหวัง

บางที อาจจะต้องหาเวลาคุยกันตรงๆ สักครั้ง เขาคิดพลางปล่อยให้เพื่อนรักกอดแขนแนบสนิท

“กูนัดคนรู้จักไว้ไง พี่เขาน่ารักดี เขาบอกจะแนะนำเพื่อนๆ ให้รู้จักด้วย มึงเองก็ยังว่าง กูก็ว่าง น่าจะหาใครไว้คุยบ้างน้า เราอยู่กันสองคนตลอดไม่เบื่อเหรอวะ”

แซนด์สบตากับเพื่อนนิ่งๆ ไม่คิดว่าจะมีวันที่เวย์พูดอะไรแบบนี้ ทุกทีมีแต่ไม่อยากให้เขาไปยุ่งกับใคร แต่ครั้งนี้มันดันบอกให้หาคนคุย แปลกมาก

“มึงกินยาผิดหรือเปล่า คิดยังไงอยากหาแฟน”

“กูไม่ได้บอกจะหาแฟนสักหน่อย” เวย์ยู่ปากน้อยๆ สะบัดมือที่กอดแขนของแซนด์ไว้เบาๆ “แค่คนคุยแก้เซ็ง”

“ก็คุยกับพวกไอ้ตุ่นไปดิ พวกไอ้หน่อยงี้ เพื่อนเยอะแยะไป มึงมีเพื่อนไปทั่วเลยไม่ใช่เหรอ คณะอื่นอีก ไม่เห็นจะน่าเซ็งตรงไหน”

“เพื่อนมันก็แค่เพื่อนป่ะ กูอยากได้มากกว่านั้นหน่อย แต่ยังไม่คบจริงจังไง”

เขาทำหน้าเหม็นเบื่อใส่มัน “หล่อเลือกได้มากอ่ะมึง แล้วแต่ มึงอยากทำก็ทำ แต่กูไม่เอาด้วยหรอก”

“ทำไม? เพราะเรื่องเงินเหรอ เลยไม่กล้าจีบใคร หรือคบกับใคร” เวย์ช้อนสายตาขึ้นมองเขา ก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟท์ แซนด์ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก เพราะในลิฟท์มีคนเยอะ พอออกจากลิฟท์ เวย์ก็วิ่งตามมาเขย่าแขน

“ว่าไง มึงไม่อยากลองคบกับใครเหรอ”

“แล้วทำไมกูต้องลอง” แซนด์ถอนหายใจ ดึงมือของเวย์ออกจากต้นแขน แล้วรีบเดินขึ้นรถของมหาวิทยาลัย ไม่ฟังเสียงโวยวายของเวย์ “แล้วก็คืนนี้ กูมีนัด โทษทีนะ ต้องรีบกลับหอไปเปลี่ยนชุดก่อน”

“อะไรวะ แซนด์อ่ะ”

***

แซนด์กลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หอพัก รอไทม์มารับตอนทุ่มครึ่ง แล้วจึงไปที่ผับด้วยกัน คืนนี้แซนด์ใส่ชุดสบายๆ แค่เสื้อเชิ้ตสีอ่อนกับกางเกงยีนส์เรียบๆ แม้จะไม่ได้มีราคาหรือแบรนด์หรูหรา แต่รูปร่างสูงโปร่งและใบหน้าหล่อเหลาของแซนด์ ไม่ว่าใส่อะไร ก็ดูดีไปหมดในสายตาคนรัก

“วันนี้แต่งหล่อเลยน้า พี่ล่ะกลัวเพื่อนพี่จะหลงแซนด์แล้วเนี่ย” ไทม์เอ่ยแซวเมื่อแซนด์ขึ้นไปนั่งบนรถและกำลังคาดเข็มขัดนิรภัย แซนด์หน้าขึ้นสีนิดๆ

“พี่ก็พูดไป ผมนี่ดูธรรมดาสุดๆ แล้ว มีแต่พี่นั่นแหละที่มาหลงผม”

ไทม์ยิ้มขำ “อะไรเรา นี่คิดว่าพี่หลงเรามากเหรอ”

แซนด์คาดเข็มขัดเสร็จพอดี รู้สึกไม่แฟร์ที่ตัวเองเขินคนเดียว เลยเอาแขนซ้ายวางพาดกับคอนโซลรถและโน้มตัวไปหาคนพี่ที่ยังไม่ทันออกรถ ไทม์ถึงกับชะงัก ลมหายใจสะดุดขึ้นมาเมื่อเห็นใบหน้าของแซนด์อยู่ใกล้มาก แถมคนน้องยังคลี่ยิ้มสว่างสดใสจนแสบตา

“ถ้าไม่หลงมาก คงไม่ตามตื้อผมจนตัวกลมเพราะเนื้อย่างหรอก ใช่มั้ยครับ”

ไทม์อ้าปากพะงาบ นึกคำตอบโต้ไม่ทัน สีแดงลามจากใบหูมาที่แก้มและลำคอ ก่อนจะรีบหลับตาลงแทบไม่ทัน เมื่อริมฝีปากอุ่นๆ ของน้องแตะลงมาเบาๆ บนกลีบปากของตน ไทม์ยกมือขึ้นกำแขนเสื้อของแซนด์ ความอุ่นชื้นแทรกสู่โพรงปากอย่างเชื่องช้าและอ้อยอิ่ง แต่กลับยิ่งพาให้ใจสั่น

ไทม์กรีดร้องในใจ จูบของแซนด์อ่อนโยนมาก แต่ก็แฝงด้วยความปรารถนาลึกล้ำ และไทม์ก็ค่อนข้างชอบมันมากทีเดียว

“จูบเก่งขึ้นอีกแล้วนะ” พอผละจากกัน ไทม์ก็ก้มหน้าเล็กน้อยด้วยความเขิน

“พี่ไทม์สอนมาดีไงครับ” แซนด์ตอบพลางใช้ปลายนิ้วเกลี่ยปอยผมที่ระคอของคนพี่ เขาเพิ่งเคยมีแฟนคนแรก เพิ่งเคยรู้สึกต้องการใครสักคนมากขนาดนี้ มันขัดๆ เขินๆ ก็จริง แต่เพราะไทม์ที่เคยรุกเข้าใส่มาตลอด แสดงอาการเขินอายไปด้วยแบบนี้ เลยทำให้เขาอยากเห็นไทม์เขินอีกเยอะๆ อยากเห็นเวลาที่ไทม์ควบคุมตัวเองไม่ได้มากกว่านี้อีก

“ไว้สอนผมอีกหลายๆ เรื่องได้มั้ย”

ไทม์เงยหน้ามองคนน้อง ก่อนจะกลั้นยิ้มไว้แทบไม่อยู่ ทำไมจะไม่รู้ ว่าเจ้าเด็กน้อยนี่หมายความว่าอะไร แต่มันทั้งน่ารักน่าหมั่นไส้ จนอดหยิกแก้มนุ่มๆ ของน้องไม่ได้

“รีบเหรอเราอ่ะ คบกันไม่ทันถึงเดือนดีเลยนะ” พูดไปงั้นแหละ บางคนเจอกันวันเดียวก็ได้กันแล้ว ไทม์ไม่ได้ซีเรียสเรื่องเซ็กส์ชนาดนั้น แค่ไม่คิดว่าเด็กใสๆ อย่างแซนด์จะกล้าพูดเรื่องนี้ก่อน

“พี่ไทม์ไม่รีบเหรอ” น้ำเสียงออดอ้อนนั้น ทำเอาไทม์หน้าร้อนวาบ พลางผลักอกของแซนด์ออกห่างเบาๆ แล้งรีบตัดบท

“ไม่คุยเรื่องนี้ละ เดี๋ยวไม่ได้ไปไหนพอดี นั่งดีๆ เลย พี่จะขับรถแล้ว”

***

เวย์มารอไทม์ที่ผับแล้ว แต่ไม่รู้ว่าโต๊ะไหนเป็นของเพื่อนๆ ของไทม์ เลยเลือกนั่งคนเดียวมุมในสุดก่อน ในสายตาของเวย์ไม่เคยมองหรือสนใจใครมากไปกว่าเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว ต่อให้มีคนมาทักมาคุย ก็ไม่เคยสน ได้แต่นั่งดื่มน้ำผลไม้รออย่างเงียบเชียบ

“น้องคนนั้นน่ารักว่ะมึง จีบดีมั้ย เผื่อได้หิ้วกลับบ้านคืนนี้” เกม หนึ่งในกลุ่มเพื่อนของไทม์ที่ไปกินเนื้อย่างด้วยกันบ่อยๆ จิบค็อกเทลพลางเหล่มองเด็กหนุ่มร่างเล็กที่นั่งหน้าซังกะตายอยู่คนเดียวมุมร้าน

“เขารอใครหรือเปล่า เกิดมีผัวแล้วยุ่งเลยนะมึง” กันดั้ม อันเป็นชื่อเล่นที่เพื่อนๆ ตั้งให้ชายหนุ่มร่างใหญ่หน้าคมสันเอ่ยขัดขึ้น

“มันก็ต้องลองก่อนป่ะวะ ว่าแต่มึงกับไอ้พี่เอ็ม ผัวเก่าอีไทม์เหอะ ไปถึงไหนละ”

“ไม่ถึงไหนทั้งนั้น พี่มันไม่มีทางได้แดกกูแน่ กูไม่ชอบคนเจ้าชู้” กันดั้มเบะปาก กระดกเหล้าเข้าปากเล็กน้อยพอเป็นพิธี เพื่อนยังมากันไม่ครบคน ไม่ควรรีบเมา

“แล้วคืนนี้ไทม์มันบอกจะพาแฟนมาเปิดตัวนี่ น้องเนื้อย่างอ่ะ” ตุลย์แทรกขึ้น

“น้องเนื้อย่างอะไรวะ?” กันดั้มทำหน้างง เพราะไม่เคยไปกินเนื้อย่างร้านนั้นด้วย

“ก็แฟนใหม่ไอ้ไทม์ไง มันไปตามจีบเขาตอนทำงานที่ร้านเนื้อย่าง” ตุลย์อธิบายให้ฟัง กันดั้มร้องอ๋อ

“งี้นี่เอง แต่กูเห็นรูปละ แม่งหล่อสัด ควรแหละที่ไอ้ไทม์จะตามจีบขนาดนั้น”

“ใช่มะ จริงๆ กูก็แอบมองๆ นะตอนแรก แต่แบบ น้องแม่งดูเล่นยาก เลยยกให้คนว่างจัดพร้อมรออย่างไอ้ไทม์มันลุย ไม่คิดว่าแม่งจะตกได้จริง สุดอ่ะเพื่อนพวกมึง”

“มันจริงจังมากเหมือนกันนะ เห็นส่งไลน์ไม่ก็โทรคุยกันหนุงหนิงเชียว มีไปรับไปส่งกันด้วย”

“สายเปย์คร่า เพื่อนกู” ตุลย์สะบัดเสียงเพื่ออรรถรส “คืนนี้เห็นบอกจะพามาด้วย อยากรู้เหมือนกันว่านิสัยยังไง ไทม์แม่งยิ่งโดนเด็กหลอกง่าย”


“เออจริง ต้องช่วยกันแสกนดีๆ” กันดั้มหัวเราะ คุยกันสักพัก คนที่นินทาก็มาถึงพอดี แซนด์เดินตามหลังไทม์มา พอเพื่อนๆ เห็นแซนด์ก็ตาวาว มองกันตาเป็นมัน

“แน่ะๆๆ ใครอ่ะมึง”

ไทม์หันไปมองหน้าแซนด์ ที่คงจะเขินเพื่อนๆ ของเขาไม่น้อย ก่อนจะแนะนำ

“แฟนกูเอง แซนด์ นี่ไอ้ตุลย์กับไอ้เกม เพื่อนสมัยเรียน ส่วนนี่กันดั้ม เพื่อนที่ทำงานพี่”

“สวัสดีครับพี่ๆ” แซนด์ยกมือไหว้ทุกคนรอบวงอย่างนอบน้อม พวกพี่ๆ ยิ้มรับอย่างเป็นกันเอง ชักชวนให้น้องนั่ง สั่งเครื่องดื่มมาเพิ่ม

“แล้วไอ้บาสอ่ะ” ไทม์ถามถึงเพื่อนอีกคนที่ยังไม่เห็นหน้า พลางกดสมาร์ทโฟน ส่งข้อความบอกเวย์ที่นัดกันไว้ทางไลน์

“ติดเมีย เดี๋ยวมา” เกมตอบ ก่อนจะยื่นแก้วเหล้าที่ชงเองให้แซนด์ลองดื่ม แซนด์จะปฏิเสธก็ไม่ทัน เลยต้องรับไปถือไว้ แล้วลองจิบ ไม่ใช่ว่าไม่เคยดื่มเหล้า แต่ไม่อยากเมามากกว่า

“เออ จริงๆ กูนัดเด็กไว้อีกคนด้วย น้องที่เพิ่งรู้จักกัน”

“แหม เด็กเยอะนะมึง เอามาแบ่งเพื่อนเลย” กันดั้มยกศอกถองเพื่อนอย่างหมั่นไส้ ไทม์รีบส่ายหน้า

“ก็แค่น้องเว้ย แต่คนนี้อ่ะแฟน” ไทม์คว้าคอร่างสูงข้างๆ มากอดไว้ เพื่อนๆ ส่งสายตาแซวแรง ก่อนจะได้ยินเสียงของคนมาใหม่ดังขึ้น

“พี่ไทม์”

“อ้าว น้องวันเวย์ มาเลยๆ”

แซนด์ไหล่กระตุก เงยหน้าขึ้นมอง และคนที่ไม่คาดคิดว่าจะอยู่ตรงนี้ที่นี่ ก็กำลังเลิกคิ้ว พร้อมกับยกยิ้มให้

“นี่น้องวันเวย์ พอดีเคยรถชนกันนิดหน่อย เลยรู้จักกัน อยู่มหาลัยเดียวกับแซนด์ด้วยนะ” ไทม์ที่ยังไม่รู้อะไร แนะนำแซนด์กับเวย์

สองเพื่อนซี้ต่างมองหน้ากัน เวย์ยิ้ม แต่แซนด์ขมวดคิ้ว

“ส่วนนี่เพื่อนๆ พี่ แนะนำกันเองเลยแล้วกัน และคนนี้...” ไทม์กำลังจะบอกว่าแซนด์เป็นแฟน แต่ถูกขัดขึ้นก่อน

“มึงมาได้ไงวะ แซนด์” เวย์เอียงคอน้อยๆ ทำหน้าคล้ายตกใจก็ไม่เชิง ไทม์มองเวย์สลับกับแซนด์

“หือ? นี่รู้จักกันเหรอ”

“เรียนด้วยกันน่ะครับ” แซนด์ตอบเบาๆ หรุบตาลงอย่างไม่รู้จะมองไปทางไหนดี ไทม์ไม่คิดอะไรมาก

“อ้าว งั้นก็ดีเลย น้องเวย์นั่งนี่เลย” ไทม์ตบเบาะเรียกเวย์มานั่งแทนที่ตัวเอง แล้วเขยิบไปหาเพื่อนๆ แทน ทุกคนแนะนำตัวและคุยกันเล็กน้อย เกมที่เล็งๆ เวย์ในตอนแรกดูกระตือรือล้นเป็นพิเศษ ชวนเวย์คุยไม่ขาดปาก

แซนด์มองตามไทม์เป็นระยะด้วยความกังวล แต่เวย์ก็ไม่ได้พูดอะไรถึงเขา คุยกับเพื่อนๆ ของไทม์อย่างออกรส ไทม์เองก็ดูเข้ากับเวย์ได้ดี

แต่ไม่รู้ทำไม ความกังวลเล็กๆ นี้มันเหมือนจะก่อตัวและแพร่กระจายมากขึ้นเรื่อยๆ ในใจของแซนด์

***

แซนด์เริ่มจะรุกพี่เขามั่งละ แต่ตอนนี้มาลุ้นกับนังเวย์ไปก่อน เพื่อนพี่ไทม์รอเสียบหลายคนเลยลูก จะตกไปที่ใคร โสดสามอ่ะงานนี้

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
โอ๊ยดีใจได้อ่านต่อแล้ว เชียร์พี่ไทม์ที่ดูอบอุ่น แต่มองอีกมุมทำให้น้องแซนต์รุกพี่เขาเร็วขึ้นด้วยไหมอ่ะ
และเราก็จะช่วยคนเขียนดัน วันเวย์ไปให้เพื่อนพี่เขา เพราะเราทีม ไทม์แซนต์  :mc4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
เดือนสองเดือนนี้จะมาลงช้าหน่อยนะฮัฟ เป็นช่วงญาติมิตรหยุดยาวกัน นัดรัวมาก เที่ยวเหนื่อย กลับมาทำงานต่ออีก

สมองเบลอไปหมด จะค่อยๆ ตั้งสติมาอัพเรื่อยๆ นะ แค่ไม่ถี่เหมือนเดิม

รักคนอ่านน้า รอเค้าโด้ยน้า

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
แซนด์ควรบอกพี่ไทม์นะเรื่องเป็นเพื่อนสนิทกันกับเวย์
เวลาเวย์เข้าหาพี่ไทม์ๆจะได้ระวังตัวไว้บ้าง

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
 :serius2: ตกลงวันเวย์ต้องการอะไร
อย่ามาทำให้ความรักของพี่ไทม์กับน้องแซนต์สั่นคอนน่ะ  :ling1: :ling1:
ตั้งตารอตลอดค่ะคนแต่ง   :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด