เหตุเกิดในร้านเนื้อย่าง ตอน 10 [2.12.20]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุเกิดในร้านเนื้อย่าง ตอน 10 [2.12.20]  (อ่าน 3512 ครั้ง)

ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-12-2020 21:27:58 โดย Lambosasha »

ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: เหตุเกิดในร้านเนื้อย่าง Intro
«ตอบ #1 เมื่อ26-10-2020 15:40:29 »

แนวเรทๆ ไม่ไหวละ กลับมาแนวทำดาๆ เหมือนเดิมดีก่า

พอดีไปกินเนื้อย่างมาเมื่อวาน หิวอีกก็เลยแต่ง 555

เหตุเกิดในร้านเนื้อย่าง


“น้องครับ ช่วยเขี่ยไฟให้หน่อย”
“น้องครับ ขอเปลี่ยนตะแกรง”
“น้องครับ สั่งเพิ่มหน่อย”
“น้องครับ ไฟไม่แรงอีกแล้ว”
“น้องครับ ขอมะนาว”


“น้องครับ”

“...”




“ขอไลน์หน่อยได้มั้ยครับ”

***

อยากเอารูปเนื้อย่างลงจริงๆ

ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: เหตุเกิดในร้านเนื้อย่าง Intro
«ตอบ #2 เมื่อ26-10-2020 15:47:28 »

Intro
16.30 น. วันอาทิตย์

“มึงๆ ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปอีก อยากจีบเลย”
“ก็จีบดิ รอไร”
“แต่เขาทำงานอยู่ เอาไงดีวะ”
“มึงก็เรียกมาที่โต๊ะบ่อยๆ แล้วขอไลน์ขอเบอร์เลย”

“น้องครับ ช่วยเขี่ยไฟให้หน่อย”

วริศ เด็กหนุ่มวัย 19 ปี ที่กำลังจะเดินผ่านโต๊ะเบอร์ 6 หยุดขาไว้แล้วหมุนตัวกลับไป คีบตะแกรงย่างขึ้นมา แล้วจัดการเขี่ยถ่านไฟในเตาด้วยท่าทางทะมัดทะแมง โดยมีสายตาเป็นประกายวิบวับของลูกค้าในโต๊ะจ้องมอง แต่คนทำงานไม่ทันรู้ตัว พอเขี่ยถ่านจนไฟแรงขึ้นแล้ว ก็ผงกหัวแล้วเดินไปโต๊ะอื่นต่อ

“เอานี่ไปเสิร์ฟโต๊ะ 8”

พนักงานรุ่นพี่กวักมือเรียก วริศคว้าถาดเนื้อที่ซ้อนกัน 7 แถวด้วยมือซ้าย มือขวาถือถาดปลาหมึกสดอีก 5 แถว พอจะเดินผ่านโต๊ะ 6 ก็ได้ยินเสียงเรียกของลูกค้าดังมา

“น้องครับ สั่งเพิ่มหน่อย”

วริศหันมอง ไม่มีพนักงานคนไหนว่าง เขารีบเสิร์ฟอาหารให้โต๊ะ 8 แล้วเดินกลับมาที่โต๊ะ 6 รอฟังลูกค้าสั่งโดยไม่ต้องจดหรือใช้แทปเลตใดๆ เพราะที่นี่เป็นร้านบุฟเฟ่ต์เนื้อย่าง อาหารมีไม่กี่รายการ คนที่มาเน้นกินแค่เนื้อสูตรพิเศษของทางร้านอยู่แล้ว

ลูกค้าคนเดิมที่ตะโกนเรียกจ้องมองเขาดวงตาเป็นประกาย และครั้งนี้เหมือนวริศจะรู้สึกได้ เขาเลยยิ้มน้อยๆ ให้ ทำเอาคุณลูกค้าถึงกับหูแดง

“เอ่อ ขอปลาหมึกอีก 2 เนื้อสันออส 2 ฮารามิ 1 แล้วก็สลัดแซลม่อน ผักคอสแล้วก็กระเทียมนะครับ”

“ครับผม” วริศรับคำก่อนหมุนตัวไปทางครัว หูได้ยินเสียงแว่วๆ มาจากโต๊ะ 6

“โอ๊ย มึง เสียงยังโครตหล่อ กูอยากได้”
“งั้นมึงต้องรุกแรงขึ้นอีกหน่อยแล้ว”
“น้องเขายิ้มให้ด้วยนี่เมื่อกี้ น่าลุ้นๆ”

“น้องครับ ขอเปลี่ยนตะแกรง”

มาอีกแล้ว เสียงเดิม โต๊ะเดิม ตอนที่เขาเดินผ่านทุกที วริศอมยิ้ม หันไปรับคำ แล้วกลับไปเอาตะแกรงมาเปลี่ยนให้ คุณลูกค้าที่น่ารักยังคงจ้องมองดวงตาวิบวับ

“น้องชื่ออะไรอ่ะครับ บอกได้มั้ย”

นั่นไง มาแล้ว

“ไม่ได้ครับ”

“โห นิดเดียว แค่ชื่อเล่นเอง” คนถามทำหน้ามุ่ย แต่วริศอยู่ในเวลางาน ไม่สะดวกคุย เขาแค่ทำหน้าที่ของตัวเองจนเสร็จเรียบร้อย ยิ้มน้อยๆ ให้ตามมารยาทแล้วเอาตะแกรงเก่าที่เปลี่ยนไปเก็บเข้าที่

“มีลูกค้ามาจีบมึงอีกแล้วดิ เห็นโต๊ะ 6 เรียกมึงรัวเชียว” ชัย เพื่อนร่วมงานเดินเข้ามากอดคอถาม เพราะมีเพจอะไรสักอย่างเอารูปของวริศไปลง ว่าเป็นพนักงานร้านเนื้อย่างที่หล่อที่สุดในย่านนี้ เลยมีลูกค้าตามมากินและมาจีบอยู่เป็นประจำ จนชินไปแล้ว

“น้องเลิกงานกี่โมงครับ”

วริศส่ายหน้า อมยิ้มนิดๆ ตามเคย ครั้งนี้ลูกค้าโต๊ะ 6 เรียกมาเติมน้ำเป็นรอบที่ 5 ได้แล้ว เติมกันทีละแก้ว เพราะแค่อยากเรียกใช้บริการเขาบ่อยๆ

“จะไม่บอกชื่อกันจริงๆ เหรอ พี่บอกก่อนก็ได้นะ” น้ำเสียงติดออดอ้อนนั้นน่าฟังไม่น้อย แต่วริศยังคงส่ายหน้า

“พี่ชื่อ ไทม์ นะครับ”

“ครับ” วริศตอบสั้นๆ เติมน้ำเสร็จก็กลับไปทำงานของตัวเองต่อ

ไม่ว่าจะมีใครหน้าไหนมาจีบมาเต๊าะเท่าไหร่ วริศไม่เคยหวั่นไหวและทำนอกเหนือจากหน้าที่ เพราะงานและเงินคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเด็กนักศึกษาจนๆ อย่างเขา

จนกระทั่งเจอกับคนคนนี้นี่แหละ วันแรกที่โดนจีบก็ไม่คิดอะไร เพราะคงเจอกันแค่ครั้งสองครั้งในร้าน ลูกค้าส่วนใหญ่ พอเห็นไม่เล่นด้วย สักพักก็เลิกราไปเอง แต่แปลกที่ลูกค้าโต๊ะ 6 ยังคงแวะเวียนมาทุกอาทิตย์ ในเวลาเดิม จองที่นั่งเดิมล่วงหน้า 2 วันก่อนเสมอ จนผ่านมาเกือบ 2 เดือนแล้ว

“ตกลงจะไม่บอกชื่อพี่จริงๆ เหรอ”

และก็ยังคงวนเวียนเฝ้าถามคำถามเดิมๆ เสมอ ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าออดอ้อนสุดชีวิตทุกครั้ง

“ขอไลน์หรือแค่ IG ก็ยังดี”

วริศยิ้มอ่อน เติมน้ำเสร็จก็ขอตัวไปบริการโต๊ะอื่นต่อ

ไทม์นั่งท้าวคางมองร่างสูงที่เดินหนีไปเรียบร้อยแล้วด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ จีบมาจะสองเดือนแล้ว มากินบุฟเฟ่ต์ทุกอาทิตย์ จนต้องเข้าฟิตเนสรัวๆ เพื่อลดหุ่นที่เริ่มจะลงพุง แต่น้องคนนั้นกลับไม่สนใจใยดีเลยสักนิด ถามพนักงานคนอื่น ก็ไม่มีใครกล้าบอกอะไร เพราะมันเป็นข้อมูลส่วนตัวของคนในร้าน

แต่ยิ่งยากก็ยิ่งน่าสนใจ สำหรับคนอย่างไทม์

“น้องครับ ขอมะนาวเพิ่มหน่อย”

วริศเดินกลับไปหยิบมะนาวมาเพิ่มให้ แต่พอวางถ้วยที่ใส่มะนาวผ่าซีกลง มือขาวๆ ของลูกค้าก็ยื่นมาจับข้อมือไว้

“บอกชื่อหน่อยนะ” ถึงกับช้อนสายตามอง อ่อยกันสุดๆ

วริศยิ้มขำ “ผมต้องไปเสิร์ฟอาหารต่อแล้วครับ”

“ก็บอกชื่อมาก่อน แป้ปเดียวเอง นะครับ” อีกฝ่ายส่งเสียงอ้อนขึ้นอีกระดับ พร้อมทำตาเหมือนลูกหมาโดนทิ้ง

วริศมองใบหน้านั้นนิ่งๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ แล้วดึงข้อมือออกมา พร้อมกับคำตอบที่ทำให้คนฟังมัวแต่นั่งกะพริบตา

“วันนี้เลิก 3 ทุ่มครับ”

tbc
 :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-10-2020 16:02:24 โดย Lambosasha »

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: เหตุเกิดในร้านเนื้อย่าง Intro
«ตอบ #3 เมื่อ26-10-2020 16:08:13 »

 :pighaun:

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
Re: เหตุเกิดในร้านเนื้อย่าง Intro
«ตอบ #4 เมื่อ26-10-2020 16:38:59 »

 :-[ :o8: น่าติดตามเลย ปู่เสื้อรอเลยค่ะ

ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
1
“วันนี้เลิก 3 ทุ่มครับ”

วริศตอบไปแบบนั้นจริงๆ แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะอดทนรอถึงขนาดนั้นหรอก เพราะเวลาที่คนคนนั้นมากินคือสี่โมงครึ่ง เวลาจำกัดที่ 2 ชั่วโมง อีกฝ่ายต้องจ่ายเงินออกจากร้านตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง เหลือเวลาอีกตั้ง 2 ชั่วโมงครึ่งกว่าเขาจะเลิกงาน

ไม่มีทางรอแน่ๆ ยังไงก็ไม่มีทาง

“กลับแล้วเหรอ” ผู้จัดการสาวของร้านชะโงกหน้ามาถาม เมื่อเห็นวริศกำลังจะเดินออกจากหลังร้าน หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เพื่อไม่ให้มีกลิ่นเนื้อย่างติดตัว เขาหันไปตอบเธอ

“ครับพี่กิ่ง เจอกันเสาร์หน้านะครับ”

“จ้าๆ” กิ่งโบกมือให้

วริศเดินออกมาจากหลังร้าน ผ่านซอยแคบๆ แล้วออกไปยังถนนใหญ่ด้านนอก ปกติเขาจะนั่งรถเมล์ที่หน้าปากซอยนี้ไปลงที่หน้าซอยหอพักเลย คืนวันอาทิตย์รถก็ยังเยอะพอสมควร ผู้คนสัญจรไปมาคับคั่ง เพราะย่านนี้มีแต่ร้านอาหารอร่อยๆ ที่ลงรีวิวตามเวบ

แต่ก่อนจะขึ้นรถกลับหอ ก็ขอแวะเซเว่นซื้ออะไรไปกินสักหน่อยก่อน พอได้ของกินสองสามอย่างที่พอใจแล้ว ก็เดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์

“ทั้งหมด 54 บาทค่ะ”

วริศกำลังจะล้วงเศษเหรียญมาเพิ่ม เพราะนึกได้ว่าน่าจะมี แต่กลับมีมือใครก็ไม่รู้ ยื่นแบงค์ร้อยไปให้พนักงานสาวแทนเขา วริศเงยหน้าขึ้นทันที

“พี่จ่ายให้”

“...” ไม่นึกว่าจะยังรออยู่ แถมแอบตามมาจนถึงนี่ แล้วยังจะแย่งจ่ายเงินอีก วริศถึงกับทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว และพนักงานก็รับเงินไปใส่เครื่อง คีย์เงินทอนออกมาแล้วด้วย คงนึกว่ามาด้วยกัน

“ขอบคุณมากค่ะ”

วริศถอนหายใจเบาๆ “งั้นคุณเอาไปเถอะครับ ผมจะซื้อใหม่”

“อ้าว” อีกคนรีบคว้าแขนของเขาไว้ มืออีกข้างรีบหยิบห่อขนมปัง นมกล่องกับซองขนมเล็กๆ มารวบไว้ “น้องรับไว้เถอะ นะครับ นะ”

สุดท้ายวริศก็ยอมรับของพวกนั้นมาใส่กระเป๋าเป้ไว้ ก่อนจะยื่นเงินคืนให้ตอนออกจากร้านมาแล้ว

“ไม่เป็นไร พี่เลี้ยงไง”

“เราไม่รู้จักกันสักหน่อย” วริศนิ่วหน้า จะยัดเงินใส่มือ แต่ไทม์ไม่ยอมรับ เลยเปลี่ยนมายัดใส่กระเป๋าเสื้อเชิ้ตแล้วรีบหมุนตัวเดินไปทางป้ายรถเมล์ที่อยู่ไม่ไกลจากเซเว่น ไทม์รีบเดินตามไปติดๆ

“ให้พี่ไปส่งมั้ย จอดรถไว้ตรงนั้น”

ช่างตื้อจริงๆ ผู้ชายคนนี้ หน้าตาก็ดี น่าจะมีคนอยากได้เป็นแฟนเยอะแยะไป ไม่น่ามาคอยตามเด็กร้านเนื้อย่างธรรมดาๆ แบบนี้เลย อาจจะเป็นพวกชอบลองของแปลก

วริศล้วงกระเป๋า หยิบเศษสตางค์มาถือไว้ แต่ไทม์ยังไม่ยอมไปไหน แถมยังมายืนใกล้ๆ เหมือนมาด้วยกันจริงๆ

“นี่ ตกลงชื่ออะไร ยังไม่บอกเลย”

วริสทำเป็นไม่สนใจ จนรู้สึกว่ามีมือมาแตะที่ไหล่ เลยต้องหันไปหรี่ตามองคนที่พยายามจะทำความรู้จักให้ได้

“นอกเวลางานแล้ว คุยกันหน่อยสิ”

“รถผมมาแล้ว ขอตัวนะครับ” เขาขยับไหล่นิดเดียวก็หลุดจากมือนั้น รถจอดใกล้ๆ พอดี เลยรีบวิ่งไปขึ้น พอมองจากหน้าต่างรถลงไป ก็เห็นคนนั้นกำลังทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กเวลาไม่ได้ของที่ต้องการ เห็นแล้วก็น่ารักดีอยู่หรอก แต่ช่วยไม่ได้ ทั้งอายุและฐานะน่าจะต่างกันมากเกินไป

อย่ารู้จักผมไปมากกว่านี้เลย

เขาคิดในใจ พลางเหม่อมองไปนอกตัวรถ มองไปที่ไหนสักแห่ง ที่มันไกลห่างออกไป

วันอาทิตย์ถัดมา เวลาเดิม 16.30 น.

“จองไว้หรือเปล่าคะ”

“ไทม์ครับ 4 ที่”

“สักครู่นะคะ” พนักงานสาวรับคำ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปเคลียร์โต๊ะ “เชิญเลยค่ะ”

ไทม์และเพื่อนอีก 3 คนเดินเข้าไปในร้าน หนนี้ได้โต๊ะ 7 ไทม์กวาดสายตามองหาน้องพนักงานคนเดิม และก็พบว่ากำลังเสิร์ฟอาหารให้โต๊ะอื่นอยู่ เพื่อนๆ สั่งอาหารกันเรียบร้อยแล้ว แต่ไทม์ยังลังเล

“พวกมึง สองเดือนแล้วว่ะ”

“นี่มึงมาตามจีบเขาที่ร้านทุกอาทิตย์เลยว่างั้น”

“เออดิ แค่ชื่อยังไม่ยอมบอกเลย ถามใครก็ไม่มีใครบอก” ไทม์ถอนหายใจ เพิ่งเคยเจอเด็กที่จีบยากเย็นได้ขนาดนี้ ทั้งที่ถูกสเปคมาก ทั้งรูปร่าง หน้าตา และบุคลิกนิ่งๆ ยิ้มนิดๆ แต่โครตเท่นั่น

อยากรู้จักมากกว่านี้

“ก็พยายามไปนะบางที มีคนรอมึงเยอะแยะ ไม่เอาสักคนวะ จะมายึดติดอะไรกับเด็กนั่น” ถูกอย่างที่บาสว่า

“ก็กูสนใจมากกว่าคนอื่นไง” ไทม์นิ่วหน้า “วันนี้ต้องรู้ชื่อให้ได้”

“เออๆ ตามสบายแล้วกัน น้องๆ ขอสั่งเพิ่มหน่อยครับ” ตุลย์ เพื่อนอีกคนยกมือเรียกวริศทันทีที่เห็นเดินย้อนกลับมา

วริศขมวดคิ้วเล็กน้อยตอนที่เห็นหน้าคนคุ้นเคย ทั้งที่ไม่รู้จักกัน

“รับอะไรเพิ่มดีครับ”

“ขอไลน์กับเบอร์น้องเพิ่มได้มั้ยครับ” เป็นตุลย์เองที่สั่ง ไม่ใช่ไทม์ วริศเลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ พลางเหลือบตาไปทางคนที่มาตามตื้อทุกอาทิตย์ ไทม์เขินจนคว้าเอาทิชชู่มาปิดหน้า แต่ก็ปิดไม่มิดเท่าไหร่ เห็นหูแดงๆ แก้มแดงๆ ที่โผล่ออกมานิดๆ แล้วก็เอ็นดู

เห็นแก่ความพยายามมานาน จะยอมให้สักทีแล้วกัน เป็นกรณีพิเศษสำหรับคนน่ารัก

“ฝากบอกคุณคนนั้นนะครับ ว่าวันนี้ผมเลิกหกโมง”

พอวริศพูดจบก็เดินหนีไป ทั้งโต๊ะเงียบอยู่นาน กว่าจะเฮกันเบาๆ ให้เพื่อนที่เหมือนจะก้าวหน้าขึ้นแล้ว

“แบบนี้น่าจะพอหวังได้มั้ยวะ” ตุลย์ตื่นเต้นแทนเพื่อน

“คราวก่อนเขาก็บอกแค่เวลาเลิกงานแบบนี้แหละ กูก็รอไง” ไทม์ห่อไหล่ ท่าทางท้อแท้ พลันนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้นี้มันเป็นเวลาที่เร็วขึ้นกว่าเดิม

“เอ๊ะ เดี๋ยวนะพวกมึง ตะกี้น้องเขาบอกว่ากี่โมงนะ”

“เขาบอกเลิกหกโมงไง” พลับ เพื่อนอีกคนเอ่ยขึ้น

ไทม์นิ่งคิด หกโมง นี่สี่โมงครึ่ง เวลาในการกินมื้อนี้คือถึงหกโมงครึ่ง ก็แสดงว่า น้องเขาเลิกงานก่อนหมดเวลามื้อนี้ แล้วไทม์ก็ค่อยๆ ยิ้มออกมาด้วยความดีใจอย่างปิดไม่มิด จนเพื่อนๆ แซวกันยกใหญ่ ดีใจไปกับเพื่อนด้วย

วริศเลิกงานหกโมงตรง แต่กว่าจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับ ก็เกือบครึ่ง พวกไทม์จ่ายเงินออกจากร้านเรียบร้อย เพื่อนๆ ขอไปสตาร์ทรถรออยู่ข้างร้าน เพื่อดูผลงาน ส่วนไทม์ยืนชะเง้อมองหลังร้าน เพราะคิดว่าพนักงานน่าจะออกมาทางนั้น

แล้ววริศก็เดินออกมาจากหลังร้านจริงๆ อย่างที่คิด ไทม์ดีใจจนแทบกระโดด ยืนยิ้มแฉ่งรอ

“ไง จะบอกชื่อพี่ได้หรือยังเอ่ย”

วริศเลิกคิ้ว ก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ “แซนด์ครับ”

“เอ๊ะ อ่ะ ชื่อใช่มั้ยครับ” จู่ๆ ก็บอกขึ้นมาดื้อๆ ไทม์ตั้งรับไม่ทัน แถมยังยิ้มน่ารักขนาดนั้นใส่อีก คนจีบก็เขินน่ะสิ

“แล้วคุณถามอะไรล่ะครับ”

“กวนเหมือนกันนะเราน่ะ” ไทม์ยิ้มขำ “แล้วจำชื่อพี่ได้มั้ยครับ”

“ไทม์”

“ดีใจจัง” คนฟังยิ้มแก้มแทบปริ เพื่อนๆ เห็นแบบนั้นก็ตะโกนบอกว่าขอกลับก่อน เพราะคิดว่าเพื่อนคงอยากได้เวลาส่วนตัว ไทม์โบกมือลากึ่งไล่ โดนเพื่อนแซวแล้วเขินจัด

“กลับบ้านเลยหรือไปไหนต่อมั้ยครับ น้องแซนด์” ไทม์หันไปหาคนที่เดินตามหลังมา ไม่ยอมเดินข้างๆ กัน วริศบอกว่าทางมันแคบ เดินคู่กันไปมันเกะกะทางคนอื่นเดินสวน

“หาอะไรกินก่อนครับ” เขาหรุบตาลงเล็กน้อย เพื่อมองคนข้างหน้า แก้มแดงๆ นั่นให้ความรู้สึกดีกว่าที่คิด

“งั้นให้พี่กินด้วยคนสิ”

“แต่คุณเพิ่งกินมา...” แซนด์กะพริบตาเล็กน้อย จริงๆ คนตรงหน้ามากินเนื้อย่างทุกอาทิตย์ แม้จะเพื่อตามจีบเขา แต่ก็สั่งไม่อั้นตลอด แถมกินหมดด้วยตัวคนเดียวอีก แต่กลับไม่อ้วนลงพุงเลยสักนิด แถมยังดูลีนๆ กำลังพอดีมือ

พอดีมือ? เขานิ่วหน้ากับความคิดแปลกๆ ของตัวเอง

“กินนิดๆ หน่อยๆ ยังพอไหวอยู่ นะ ไปกินด้วย” พอเริ่มทำความรู้จักกัน ก็อ้อนทันทีเลย วริศนิ่งคิด

“กินข้างทางนะครับ ได้เหรอ”

ไทม์พยักหน้ารัว ดวงตาแวววาวส่องประกายอย่างกับเด็กน้อยที่กำลังจะได้ของเล่นถูกใจ จากนั้นเขาก็พาไทม์ไปกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางแถวที่ทำงานของตัวเอง ไทม์สั่งเหมือนเขาเป๊ะ พอกินเข้าไปคำหนึ่งก็ตาโต แล้วกินเอาๆ เหมือนเมื่อกี้ไม่ได้กินบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างมา

“คุณ...กินจุดีนะ” วริศอมยิ้ม ค่อยๆ เป่าก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ แล้วเอาเข้าปาก เขาไม่ค่อยถูกกับของร้อนๆ แต่ชอบกินก๋วยเตี๋ยวร้านนี้

“ก็มันอร่อย ไม่ได้กินแบบนี้มานานแล้วด้วย” ไทม์เคี้ยวแก้มตุ่ย

“งั้นก็ดีแล้วครับ” ไทม์ก้มหน้ากินต่อ วริศกับเพื่อนๆ แต่งตัวดี มีรถขับ น่าจะทำงานดี เงินเดือนเยอะ หรือไม่ก็เป็นพวกลูกคนรวย ต่างจากเขาที่เป็นแค่พนักงานในร้านเนื้อย่าง เรียนก็ยังไม่จบ พ่อแม่ก็ไม่มี

“ถามได้มั้ย ว่าอายุเท่าไหร่”

วริศเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “19”

“เด็กจัง” ไทม์หันไปพึมพำกับตัวเอง

“แล้วคุณล่ะครับ” ในเมื่ออีกฝ่ายถามแล้ว เขาก็ขอเสียมารยาทบ้าง

“พี่เหรอ? โหยยย ไม่อยากบอกเลย”

“งั้นไม่ต้องบอกก็ได้” วริศก้มหน้ากินต่อ อีกสองสามคำก็หมดชามแล้ว แต่ไทม์ที่ไม่น่าจะหิวมากขนาดนั้น ดันกินหมดก่อนตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ มิน่าถึงมีเวลามาชวนคุย

“โธ่ จะไม่เดาหน่อยเหรอ เอางี้ คิดว่าพี่อายุเท่าไหร่” คนถามทำตาวิ้งๆ แอ๊บแบ๊วสุดๆ

วริศจ้องมองใบหน้าขาวผ่อง กับแก้มสีอมชมพูของคนตรงหน้า ริ้วรอยไม่มี หน้าใสเด้งจนน่าหยิก ปากสีอ่อน ไม่คล้ำ น่าจะไม่ได้สูบบุหรี่ ไร้หนวดเครา

“สัก 24”

“หูววว”

วริศชะงักไปหน่อยกับเสียงประหลาดๆ ของคนที่น่าจะอายุมากกว่า

“ถูกเหรอครับ”

“ห่างไปหลายปีเลยล่ะ พี่อายุ 28 แล้วคร้าบ” ไทม์เอามือลูบๆ หน้าตัวเอง “พี่หน้าเด็กขนาดนั้นเลยเหรอ”

“หึ” วริศหลุดขำเบาๆ แต่คนฟังถึงกับใจเต้นแรง “ก็ทำนองนั้นมั้งฮะ”

“อยู่ที่ร้าน แซนด์ไม่ค่อยยิ้มแบบนี้เลยเนอะ”

“ผมก็ยิ้มต้อนรับลูกค้าตามปกตินะ” เขาทำหน้างง แม้จะไม่ได้ยิ้มกว้างจนตาหยีเหมือนคนอารมณ์ดีจัด แต่ก็มียิ้มรับลูกค้าเป็นพักๆ ตามมารยาท

“แล้วเคยมีคนมาจีบแบบพี่เยอะมั้ย” ก็หล่อขนาดมีคนแอบถ่ายรูปไปลงเพจรวมพนักงานหล่อแต่ละร้านในกรุงเทพฯ แถมมีคนกดไลค์เป็นพัน น่าจะมีคนตามมาดูตัวจริงและเข้ามาจีบอยู่ไม่น้อย

“ก็มีเยอะแหละครับ” วริศตอบตามตรง

“แต่ที่จีบแบบคุณน่ะ มีแค่คุณคนเดียวเลย”

***

สงสัยมันจะหาของกินกันทั้งเรื่องแน่ๆ อ่ะ ถึงว่า อย่าแต่งอะไรตอนหิว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-10-2020 22:56:24 โดย Lambosasha »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
อ่านเรื่องนี้แล้ว นึกถึงตอนที่เรามีแฟน แล้วเราก็ไปร้านหมูย่างเหมือนกัน
แต่ดันเจอเด็กเสิร์ฟหน้าตาหล่อ (สำหรับเราอ่ะ ฮาๆ) แถมคอยมองเราตลอดเลย
หลังจากนั้น ถูกอาทิตย์ค่ะ ชวนแฟนไป  อ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงมันผ่านมาหลายปีแล้ว  :o8: :-[

ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
อ่านเรื่องนี้แล้ว นึกถึงตอนที่เรามีแฟน แล้วเราก็ไปร้านหมูย่างเหมือนกัน
แต่ดันเจอเด็กเสิร์ฟหน้าตาหล่อ (สำหรับเราอ่ะ ฮาๆ) แถมคอยมองเราตลอดเลย
หลังจากนั้น ถูกอาทิตย์ค่ะ ชวนแฟนไป  อ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงมันผ่านมาหลายปีแล้ว  :o8: :-[

ไม่จีบเด็กเสิร์ฟซะเลย 555 นี่เราไปนั่งกินเป็นกลุ่ม แล้วมันนึกโมเม้นท์ว่า ถ้าเพื่อนเกิดจะจีบพนักงานทำไง พอดีเราพาแฟนไปกินด้วย แล้วเพื่อนโสดทั้งโต๊ะ พวกนางเลยคุยกันเรื่องนี้ ได้เรื่องเลย

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
2
วริศกำลังนั่งอ่านบทเรียนที่จดไว้ในสมุดอยู่หน้าตึกคณะ ไม่นานเพื่อนๆ ก็ทยอยมากัน

“ขยันๆ งานที่ร้านพี่กูเป็นไงมั่ง โอเคมั้ยไอ้แซนด์” เวย์ เพื่อนเก่าแก่ตั้งแต่สมัยมัธยมปลายเอ่ยทัก ร้านเนื้อย่างที่วริศทำงานพิเศษเสาร์อาทิตย์ เป็นร้านของพี่ชายเพื่อน ไม่อย่างนั้นคงทำแค่เสาร์อาทิตย์ไม่ได้

“ก็ดี” เขาตอบพลางพลิกหน้าต่อไป

“เห็นพี่กูบอก ลูกค้าตั้งหน้าตั้งตาจีบมึงเป็นแถว ถ้ามึงไปทำพวกบาร์โฮสท์คงได้หลายอ่ะ”

“แค่นี้ก็โอเคแล้ว” วริสยิ้มบางๆ ให้เพื่อน รู้สึกขอบคุณเวย์จริงๆ ที่หางานดีๆ มาให้

“แล้วเย็นนี้ไปทำที่ร้านพี่ต้นด้วยป่ะ กูจะแวะไปดูมึงชงเหล้า”

“ไป” เขาตอบสั้นๆ เวย์ขยับเข้ามานั่งใกล้ๆ

“อ่านของจารย์พรเหรอ กูอ่านด้วยดิ ลายมือมึงอ่านง่ายดีอ่ะ”

“ทำเหมือนมึงอ่านลายมือตัวเองไม่ออก” วริศหัวเราะเบาๆ เวย์จ้องมอง ถ้าไม่คบมานานหลายปี คงยากที่จะได้เห็นวริศหัวเราะแบบนี้

เวย์เกาหัวแก้เก้อ รู้สึกหน้าร้อนๆ นิดหน่อยเวลามองวริศ “เออ ก็อยากอ่านของมึงมากกว่าอ่ะ ไม่ได้เหรอวะ”

“ได้สิ” วริศเลื่อนหนังสือไปไว้ตรงกลาง เขยิบเข้าหาเวย์อีกนิด แบ่งกันอ่านไป คุยกันไป

***

ช่วงกลางวัน วริศเป็นนักศึกษาปี 1 คณะศึกษาศาสตร์ แม้ไม่มีพ่อแม่ แต่มีป้าที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก แต่พอป้าอายุมากขึ้น ทำงานหนักเหมือนเมื่อก่อนไม่ไหว วริศเลยต้องออกหางานทำเล็กๆ น้อยๆ แถวบ้านตั้งแต่อายุ 15 โชคดีที่มีคนแถวบ้านใจดี ช่วยฝากงานในเซเว่นให้ทั้งที่อายุยังไม่ถึง ไม่นานนักป้าก็ป่วยหนักและเสียไปตอนก่อนจบม.ปลาย ทิ้งเงินไว้ให้ก้อนหนึ่ง ซึ่งไม่ได้มากพอจะส่งเสียตัวเองจนเรียนจบ พอเข้ามหาวิทยาลัย เขาเลยมองหางานที่เงินดีขึ้นอีก จนมีเพื่อนชวนไปทำร้านกลางคืน ได้เงินดีกว่าเดิม เขาเลยรับจ๊อบทำงานที่บาร์ทุกวันอังคาร พุธและศุกร์ เสาร์อาทิตย์ไปทำร้านเนื้อย่างของพี่ชายเพื่อน บวกกับกู้เงินกยศ.ที่ได้อาจารย์สมัยมัธยมช่วยยื่นด้วย ก็พอเรียนจนจบได้อยู่

“ขอเซ็กส์ออนเดอะบีชครับผม”

วริศเงยหน้ามองลูกค้าที่นั่งลงสั่งค็อกเทล เขาส่งยิ้มให้เวย์ เพื่อนสนิทที่อุตส่าห์แวะมาหาจริงๆ

“รอสักครู่ครับ”

เวย์นั่งท้าวคางมองวริศที่กำลังผสมค็อกเทลด้วยท่าทางทะมัดทะแมง วริศเป็นคนเก่ง ไม่ว่าทำอะไรก็ใช้เวลาเรียนรู้ไม่นาน ชงค็อกเทลก็เก่ง ทำงานในร้านเนื้อย่างก็เก่ง เรียนก็เก่ง เล่นกีฬาก็ยังเก่ง เพอร์เฟคไปหมดทุกอย่าง และเวย์ก็หลงใหลในตัวเพื่อนคนนี้ไม่น้อย

“เซ็กส์ออนเดอะบีชครับ” วริศยื่นแก้วค็อกเทลทรงสูงสีแดงเข้มที่ตกแต่งด้วยส้มฟานบางๆ ให้ เวย์รับไปจิบเบาๆ พลางคลี่ยิ้ม

“อร่อยที่ซู้ด”

“ขอบคุณครับ คุณลูกค้า”

“คืนนี้เลิกกี่ทุ่มอ่ะ กูอยู่รอมึงได้มั้ย” เวย์เอาคางเกยแขนตัวเองบนเคาน์เตอร์พลางเหลือบตาขึ้นมองวริศ ที่กำลังผสมค็อกเทลแก้วต่อไปให้ลูกค้าคนใหม่

“ไม่ต้องหรอก วันนี้ยันร้านปิด กว่าจะเก็บของอะไรเสร็จ คงเกือบเช้า” เขาตอบพลางเขย่าเชคเกอร์ด้ววยท่วงท่าสง่างาม ตั้งแต่ได้วริศมาเป็นบาร์เทนเดอร์ มีลูกค้าหญิงชายในบาร์เพิ่มขึ้นมาก กำไรงาม พี่เจ้าของร้านก็เลยขึ้นเงินให้เขาอีกเท่าตัว เพื่อให้อยู่ทำงานกันไปนานๆ

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูนอนรอ”

วริศหรี่ตามองเพื่อน “มันอันตราย” เขาเตือนเพราะเป็นห่วงจริงๆ บาร์นี้ เหมือนแค่แหล่งบันเทิงทั่วไปก็จริง แต่ขึ้นชื่อว่าสถานที่อโคจรยามราตรีแล้ว ไม่มีที่ไหนที่ปลอดภัย ยิ่งกับผู้ชายผิวขาวหน้าตาละอ่อน ตัวบางร่างน้อยอย่างเวย์ด้วยแล้ว

“อันตรายอะไรวะ กูไม่ไปฉุดใครมาปล้ำหรอกน่า” เวย์เถียงแก้มป่อง แค่ดื่มค็อกเทลแก้วเดียว หน้าก็เริ่มแดงแล้ว แบบนี้จะไม่ให้ห่วงยังไงไหว แล้ววริศอยู่ในเวลางาน คงดูแลตลอดไม่ได้ เพื่อนคนอื่นก็ไม่ได้มากัน

“กูไม่ได้ห่วงเรื่องนั้น” อยากจะบอกว่า มึงนั่นแหละ จะโดนใครฉุดไป แต่ก็ไม่กล้าพูด เพราะเพื่อนเป็นผู้ชาย พูดแบบนั้นก็เหมือนดูถูกมันเปล่าๆ

“งั้นกูก็รอได้ เดี๋ยวไปหาโซฟานั่งรอแถวนั้นนะ มึงว่างๆ ก็มาหาบ้างล่ะ คิดถึง” เวย์พูดกลั้วหัวเราะ วริศส่ายหน้ายิ้มๆ รู้ว่าเพื่อนพูดเพราะเมา เวย์คออ่อนเกินไปแล้ว

“ตกลงมึงก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ววะ เรื่องน้องเนื้อย่างคนนั้น”
“ยังไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไหร่ว่ะ”

เสียงลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาในร้าน วริศเงยหน้ามองไป ก่อนจะทักทาย

“ยินดีต้อนรับครับ”

ลูกค้าที่กำลังหันหลังไปคุยกับเพื่อน ถึงกับรีบหันหน้ามามอง เพราะจำเสียงของเขาได้แม่นยำ

“น้องแซนด์!”

“อ้าว คุณไทม์ ยินดีต้อนรับครับ” วริศคลี่ยิ้ม ไทม์รีบขอตัวแยกมานั่งที่เคาน์เตอร์คนเดียว เพื่อนๆ ทำหน้าเซ็งแบบล้อๆ แล้วพากันไปหาที่นั่งที่อื่น

“นี่ทำงานหลายที่จัง ไม่คิดว่าจะทำแนวนี้ด้วย” ไทม์ยิ้มแก้มปริ ดีใจจนปิดไม่มิด

“ทำแค่บางวันน่ะครับ” วริศตอบ “รับอะไรดีครับ”

“เออ จริงด้วย พี่ขอดรายมาตินี่แล้วกันครับ” เพราะไม่คิดว่าวันธรรมดาตอนดึกๆ จะได้เจอกัน ไทม์เลยดูอารมณ์ดีสุดๆ รับค็อกเทลที่สั่งจากบาร์เทนเดอร์หนุ่มรูปงามที่หลงรักแล้วก็จิบไปชวนคุยไปไม่ขาดปาก

“แซนด์ทำงานที่นี่นานยัง พี่ไม่ได้มาหลายเดือนแล้ว เพิ่งเคยเจอเรา”

“มาทำเมื่อเดือนที่แล้วครับ”

“ทำวันอะไรมั่งเหรอ จะได้มาหาบ่อยๆ”

“อังคาร พุธ ศุกร์ครับ”

“งั้นอังคารหน้าพี่มาอีกดีกว่า อยากดื่มค็อกเทลของแซนด์” คนพูดเลียริมฝีปากสีแดงสดของตัวเองไปด้วย วริศกะพริบตาเล็กน้อย ไม่คิดว่าพอตกกลางคืน ไทม์จะกล้าส่งสายตาและทำท่าเชิญชวนเขาขนาดนี้

“แล้วจะไม่ไปกินเนื้อย่างที่ร้านแล้วเหรอครับ”

“ใครบอก ไปเหมือนเดิมสิ ไปทุกที่ที่มีแซนด์เลย” ไทม์หัวเราะ วริศอมยิ้มน้อยๆ และเวย์ที่นั่งมองอยู่ตลอด ก็รู้สึกตะหงิดใจ เพราะดูเหมือนวริศจะรู้จักกับลูกค้าคนนั้นมาก่อน ถึงได้คุยกันท่าทางสนิทผิดปกติ ต้องเป็นพวกลูกค้าที่มาตามจีบวริศแน่ๆ

“แล้วแซนด์เรียนที่ไหน ยังอยู่ปี 1 ใช่มั้ย” ไทม์ยังคงชวนคุยต่อ กับดรายมาตินี่แก้วที่ 2

“ครับ ที่ม.xx”

“คณะอะไรอ่า” วริศมองหน้าไทม์ที่ดูจะเริ่มตาเยิ้มๆ นี่ก็คออ่อนอีกคนล่ะมั้งเนี่ย เขาคิดอย่างขำๆ ในใจ

“ศึกษาศาสตร์ครับ”

“อยากเป็นครูเหรอ” ไทม์ท้าวคาง มองหน้าแซนด์ตาแทบไม่กะพริบ ยิ่งมองก็ยิ่งชอบ ใบหน้าของวริศดูหล่อและน่ารักในคนเดียว หน้านิ่งๆ จะดูหล่อคม แบบเท่ๆ แต่พอยิ้มก็น่ารัก ตัวสูง ไหล่ผึ่งผาย มองมุมไหนก็ดูดี 

“ทำนองนั้นมั้งครับ”

“อยากเป็นนักเรียนเลยอ่ะ อยาก โดน สอน” ไทม์ส่งสายตายั่วยวนสุดฤทธิ์ แถมยังยกนิ้วขึ้นทำมินิฮาร์ทใส่อีก วริสคลี่ยิ้ม แม้จะทำงานกลางคืน แต่เขาก็ไม่ได้มั่วกับลูกค้าคนไหนเลย เจอสายยั่วมาหลายรายแล้ว แต่ไม่เคยเจอคนที่ยั่วได้น่ารักน่าชังขนาดนี้

“ผมว่าคุณน่าจะเมาแล้วล่ะ”

“อะไร ไม่เมาหรอก แค่ค็อกเทลสองแก้วเอง” ไทม์หน้ามุ่ย แก้มแดงระเรื่อ

“ให้ผมพาไปส่งที่โต๊ะเพื่อนๆ ของคุณดีมั้ยครับ” วริศเดินออกจากเคาน์เตอร์ จะช่วยพยุงร่างโปร่งให้ลุกขึ้น

“ไม่เอา ไม่ไปหรอก แล้วเลิกเรียกคุณสักทีสิ อยากให้เรียกพี่” ไทม์งอแง สะบัดตัวออกแล้วคล้องแขนกับลำคอของร่างสูง รั้งให้โน้มลงมาใกล้ๆ จนปลายจมูกเกือบจะสัมผัสกัน

วริศยังคงเจือรอยยิ้มบางๆ บนริมฝีปาก “งั้นให้ผมไปส่งที่โต๊ะนะครับ พี่ไทม์”

“อือ” พอวริศทำตามที่ขอ ไทม์ก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ยอมให้พาไปส่งที่โต๊ะ เสียงเพื่อนๆ ของไทม์แซวดัง จนวริศแอบเขินนิดๆ ก่อนจะขอตัวไปทำงานต่อ พลันสายตาก็สะดุดเข้ากับเพื่อนของตัวเองที่เหมือนจะเมาหนักจนเลื้อยไปกับโซฟา เสื้อเชิ้ตลายกราฟฟิคสีขาวน้ำเงินที่สวมอยู่หลุดรุ่ยไปหมด และมีผู้ชายที่ไหนไม่รู้กำลังจะเดินไปทางนั้น

วริศรีบวิ่งพรวดเข้าไปพยุงร่างของเพื่อนได้ก่อน “ไอ้เวย์ เวย์”

“อือออ” เวย์ครางงึมงำในคอ ท่าจะเมาหนักแน่ๆ ไม่รู้ดื่มอะไรไป เขาขมวดคิ้วมองบนโต๊ะ เห็นมีเหล้าสองขวด วอดก้าอีก 1

“ให้ตายสิวะ ทำไมกินขนาดนี้เนี่ย กลับบ้านเหอะมึง” วริศแทบจะอุ้มเพื่อนตัวเล็กขึ้น แต่เกรงใจสายตาคนอื่น เลยค่อยๆ ประคอง ลูกค้าที่เดินมาดูอาการของเวย์ ทำหน้างุนงง

“เพื่อนน้องเหรอ พอดีพี่เห็นเขาเมา เลยว่าจะมาช่วย”

“ครับ เพื่อนผมเอง ไม่เป็นไรแล้ว ขอบคุณมากนะครับ” วริศรีบผงกหัวขอบคุณ รู้หรอกว่าไม่ได้เจตนาดีแบบนั้น แต่รีบพาเพื่อนออกจากร้านก่อนดีกว่า เขาตะโกนบอกพี่ๆ ในร้าน แล้วรีบพาเวย์ไปด้านนอก

“แบบนี้มึงจะขับรถกลับยังไงล่ะวะ เฮ้อ” เขาประคองเพื่อนให้นั่งลงบนพื้น แล้วนั่งยองๆ ลงข้างๆ พลางถอนหายใจอย่างเซ็งๆ จะขอเลิกงานก่อน แล้วพาเวย์กลับคอนโดเลยดีมั้ย

คิดไปคิดมา ก็คงต้องแบบนั้น เขาถอนหายใจอีกระลอกพลางเหลือบมองคนเมาอย่างเอือมระอา

***

สามีแห่งชาติ น้องแซนด์ 555 นี่นั่งแต่งตอนกินเบียร์กับหนมปัง ก็จะเมาๆ หน่อย

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
เวย์ก็ขอบแซนด์เหรอ แล้วพี่ไทม์ละ
เชื่อแล้วว่าสามีแห่งชาติจริง
เป็นกำลังใจให้แซนด์นะ น่าเห็นใจเลยที่ต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
แต่เราเชียร์พี่ไทม์มากกว่า เขาตามจีบน้องมาตั้งนาน :mc4:
 ส่วนเวย์ยังไม่รู้จักเลยยังไม่เชียร์

ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
3
ไทม์รู้ตัวอีกที คนที่อยากเจอก็หายไปเสียแล้ว

“น้องบาร์เทนเดอร์ที่หล่อๆ ตัวสูงๆ ตรงนี้ไปไหนแล้วอ่ะครับ” ชายหนุ่มเดินโซเซเข้าไปถามหาคนที่อยากคุยตรงเคาน์เตอร์ ที่ตอนนี้บาร์เทนเดอร์อีกคนกำลังทำงานอยู่

“แซนด์เหรอครับพี่”

“ครับ”

“มันพาเพื่อนออกไปแล้วอ่ะ เห็นว่าเพื่อนมันเมาหนัก เลยต้องพากลับบ้าน คงไม่เข้ามาแล้วล่ะครับ” หนุ่มน้อยร่างเล็กยิ้มหวานให้ ไทม์ทำหน้าเสียดายอย่างเห็นได้ชัด

“พี่อยากเจอไอ้แซนด์เหรอ ใครๆ ก็มาเพราะอยากกินมัน เอ๊ย กินค็อกเทลฝีมือมัน” ไอ้หนุ่มหน้าอ่อนหัวเราะคิก

“น้องรู้จักแซนด์มานานยัง พี่อยากรู้จักเพื่อนน้องมากๆ เลย” ไทม์มองหน้าเด็กหนุ่มอย่างคาดหวัง คนตัวเล็กยักไหล่

“ก็เดือนกว่าๆ เองครับ มาทำพร้อมกัน เลยคุยกันบ้าง”

คราวนี้ไทม์นั่งลง สั่งค็อกเทลและยื่นทิปให้อีก 500 เจ้าหนูหน้าอ่อนตาวาว รีบเล่าทุกอย่างเท่าที่รู้ทันที

“มันอยู่คนเดียวพี่ ไม่มีพ่อแม่ เลยต้องทำงานหนัก ผมยังดีที่มีแม่ เออ แล้วมันก็โสดนะพี่ มีลูกค้ามาจีบเยอะมากอ่ะ แต่มันไม่เอาสักคนเลย มันบอกมันไม่มีเวลาให้ใครหรอก แค่ตัวมันเองก็จะเอาไม่รอดแล้ว พี่จะจีบมันก็ยากหน่อยนะ”

ไทม์นิ่งฟัง ชีวิตของแซนด์ดูน่าจะลำบากไม่น้อย นอกจากงานที่นี่แล้ว เสาร์อาทิตย์ยังต้องไปทำร้านเนื้อย่างทั้งวันอีก รู้สึกอยากเลี้ยงเด็กขึ้นมาทันที ตามประสาคนวัยเกือบ 30 ที่มีฐานะการเงินการงานมั่นคงแล้ว

ทางด้านวริศ ขับรถพาเวย์กลับมาถึงคอนโดของเพื่อนได้อย่างปลอดภัย เพราะเวย์ชอบไปเฝ้าเวลาทำงาน พอเมาก็ลำบาก แซนด์เลยต้องไปหัดขับรถไว้เพื่อการนี้

“เหนื่อยกับมึงจริงๆ” เขาบ่นเบาๆ พลางทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ข้างๆ เวย์ ก่อนจะสะดุ้งเพราะอีกคนพลิกตัวมากอดไว้ พอหันไปมอง ก็ยังเห็นว่าหลับอยู่ แถมยังกลิ้งมาเบียดใกล้ๆ ซุกหน้ากับหัวไหล่ของเขาเหมือนเด็กๆ

วริศถอนหายใจ ปล่อยให้เพื่อนนอนกอดไปทั้งอย่างนั้น พวกเขาเป็นเพื่อนกันมาหลายปีแล้ว เวลาเวย์เมาก็ชอบมานอนกอดทุกที เจอกันครั้งแรกตอนม.4 เวย์เข้ามาทักก่อน เพราะเห็นเขาชอบอยู่คนเดียวประจำ จากนั้นก็ค่อยๆ สนิทกัน เวย์เป็นลูกคนเล็กในตระกูลคนจีนที่ค่อนข้างร่ำรวย มีธุรกิจส่วนตัวที่บ้านในรูปแบบกงสี ชีวิตของมันไม่เคยต้องลำบากเลยสักนิด เขายังเคยสงสัย ว่าคนอย่างเวย์คิดยังไงมาคบเพื่อนแบบเขา

“เพราะมึงจริงใจ ไม่ปั้นหน้าใส่กู”

มันเคยบอกเขาอย่างนั้น วริศนึกแล้วก็อมยิ้ม เวย์เป็นเพื่อนที่ดีมาตลอด คอยช่วยเหลือโดยไม่ต้องร้องขอ และเขาก็ไม่เคยคิดจะขอให้มันช่วยเหลืออยู่แล้วด้วย ด้วยความเป็นเพื่อนกัน บางครั้งก็อิจฉามันนิดๆ ถ้าพ่อกับแม่ของเขายังอยู่ เขาอาจจะไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้

วริศสูญเสียพ่อแม่ไปพร้อมกันในคืนคริสมาสต์เมื่อ 13 ปีก่อน เพราะตอนนั้นเขาอยากได้ต้นคริสมาสต์ใหญ่ๆ พ่อเลยขับรถไปหาซื้อให้ แม่นั่งไปด้วย ส่วนเขาอยู่กับพี่เลี้ยงที่บ้าน รอคอยอย่างใจจดใจจ่อกับของขวัญวันคริสมาสต์ แต่แล้วกลับได้ข่าวร้ายมาแทนที่ ความสุขหายไปในพริบตาเพียงชั่วข้ามคืน

เขาเกลียดวันคริสมาสต์ตั้งแต่นั้นมา

“อือ” เสียงเวย์ครางเบาๆ ในคอ วริศหันไปมองอีกที ท่าทางเพื่อนจะนอนไม่ค่อยสบาย เลยปรับแอร์ให้แล้วช่วยคลายกระดุมเสื้อกับเข็มขัดกางเกง ตอนที่มือกำลังช่วยดึงเข็มขัดออกให้ เวย์ก็ยกแขนมาคล้องที่คอ ใบหน้าเลื่อนมาใกล้จนริมฝีปากบางแตะโดนหน้าผากของเขา วริศรู้สึกเหมือนลมหายใจติดขัดเล็กน้อย เขาเคยใกล้ชิดกับเวย์มานับครั้งไม่ถ้วน แต่ท่าทางล่อแหลมแบบนี้จะเกิดขึ้นเวลามันเมาเท่านั้น

“แซนด์” ริมฝีปากบางเอื้อนเอ่ยเสียงแหบพร่า แขนที่คล้องบนบ่ากระชับแน่นขึ้นอีก ทำให้มือที่กำลังช่วยคลายเข็มขัดแนบไปกับกลางลำตัวของเพื่อนสนิท เขารีบชักมือออกมา เพราะเหมือนมันจะแข็งนิดๆ ตอนแตะโดน ใบหน้าหล่อเหลาขึ้นสีระเรื่อ พยายามรั้งคอตัวเองไว้ไม่ให้ใบหน้าโดนกับส่วนไหนบนใบหน้าอีกฝ่าย

“ไอ้เวย์” เขาลองเรียกมันเบาๆ แต่ได้คำตอบเป็นการกอดรัดทั้งร่าง และริมฝีปากที่แนบลงมากับลำคอ นาทีนี้เขาอดคิดไม่ได้ว่า มันไม่ได้เมา

“เวย์! ปล่อย”

“แซนด์...” เสียงสั่นๆ ของมันดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่ริมฝีปากจะเลื่อนขึ้นมาประกบกับปากของเขาเบาๆ วริศผลักออกสุดแรง จนคนตัวเล็กกว่ากระเด็นไปอีกฟากของเตียง เสียงสะอึกสะอื้นค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ เขารีบลุกขึ้น คลานไปหามัน

“โทษที เจ็บตรงไหน...” ลำคอถูกรั้งลงอย่างไม่ทันตั้งตัว เขาเอามือยันเตียงไว้ แต่สุดท้ายก็ถูกจูบอยู่ดี ลิ้นร้อนๆ แทรกผ่านในทันที ในหัวของวริศหมุนวนเป็นวงกลม หน้าร้อนผ่าว กลิ่นแอลกอฮอล์ในปากของเวย์ไม่ชวนให้รู้สึกดีเลยสักนิด พอตั้งสติได้ เขาก็ดันตัวออกมา

“แซนด์...กู...” ดวงตาคลอน้ำใสมองมา วริศยกมือขึ้นเช็ดมุมปาก อีกมือผลักหัวเพื่อนให้ลงไปนอน

“นอนไป มึงเมามากแล้ว”

แต่ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นยังคงมองเขาอย่างเว้าวอน อ้อนขอในสิ่งที่ต้องการ ทว่ามันก็ต้องปิดลง ทั้งน้ำตา

“กูจะอยู่เป็นเพื่อนมึง นอนซะ”

***

วันอาทิตย์ เวลาเดิม วริศเดินมาต้อนรับลูกค้าประจำอย่างรู้งาน ด้วยรอยยิ้มหวานๆ

“เหมือนเดิมใช่มั้ยครับ”

ไทม์คลี่ยิ้มตอบ “จำได้เหรอว่าสั่งอะไรเท่าไหร่”

“รอสักครู่นะครับ” วริศตอบแค่นั้น แล้วเดินไปสั่งของสดมาให้ ทุกอย่างครบถ้วน เหมือนที่ไทม์สั่งประจำ

“วันนี้เลิกกี่โมงครับ” ไทม์ชวนคุยตอนที่เขามาช่วยเขี่ยไฟในเตาให้

“หกโมงครับ” เดี๋ยวนี้วริศยอมคุยด้วยแบบปกติแล้ว ลูกตื้อของไทม์ได้ผลดีทีเดียว

“เลิกแล้วไปไหนต่อเหรอ”

“ไว้ค่อยคุยนะครับ” วริศอมยิ้ม หมุนตัวไปบริการลูกค้าโต๊ะอื่นต่อ ทิ้งให้ไทม์นั่งหน้ามุ่ย กินเนื้อย่างคนเดียวเหงาๆ

หลังเลิกงาน วริศใช้เวลาอยู่กับไทม์ก่อนจะแยกกันกลับทุกอาทิตย์ ค่อยๆ ทำความรู้จักกันไปอย่างเนิบช้า แม้ไทม์จะอยากรวบหัวรวบหางเร็วๆ แต่ก็เข้าใจว่าวริศไม่ค่อยสนใจเรื่องรักใคร่ เพราะตัวคนเดียว และต้องทำงานหนักหาเงินเรียนหนังสือ

“วันไหนเลิกเรียนเร็ว ไปเดทกันมั้ย” ไทม์เอ่ยชวนตรงๆ ยังไงก็รู้อยู่แล้วว่าจีบ ถ้าน้องไม่เล่นด้วย คงไม่มาเดินข้างๆ กันแบบนี้ทุกอาทิตย์ จริงๆ ก็คงเหงาล่ะนะ ไทม์คิดในใจ

“ที่ทำอยู่นี่ไม่เรียกเดทเหรอครับ” วริศมองหน้าไทม์อย่างซื่อๆ เห็นแล้วเหมือนลาบราดอร์ทำหน้างง น่ารักจนไทม์อดขำด้วยความเอ็นดูไม่ได้

“แค่นั่งกินข้าวเย็นด้วยกันเนี่ยนะ มันต้องมากกว่านี้สิ”

วริศเอียงคอน้อยๆ พลางเกาคาง “งั้นเหรอครับ” เขาไม่ค่อยถนัดเรื่องพวกนี้ เพราะไม่เคยจีบใคร หรือออกเดทกับใครมาก่อน ชีวิตมีแต่เรียนกับงาน เพื่อนก็มีแค่เวย์ ที่ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยที่สุดแล้ว

“นี่ไม่เคยมีแฟนเลยใช่มั้ย”

“ก็ผมต้องทำงาน” วริศกลอกตาไปมา รู้สึกขัดๆ เขินๆ นิดหน่อยตอนที่ไทม์อมยิ้มกับคำตอบของตน

“งั้นให้เป็นหน้าที่พี่เอง เผื่อวันไหนเกิดสนใจใคร อยากจะไปจีบเขา จะได้รู้ว่าต้องทำยังไงบ้าง เนอะ”

“อือ...ครับ” เด็กหนุ่มร่างสูงพยักหน้ารับ ดีที่อีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่ ดูมีประสบการณ์ และไม่ถือสาเด็กน้อยอย่างเขา

“งั้นพี่ขอเบอร์กับไลน์ไว้ได้มั้ย เผื่อโทรหา เวลานัดกัน” ไทม์หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาตั้งท่ารอ วริศตอบตกลงอย่างว่าง่าย ไทม์รู้สึกมีความหวังขึ้นมาอีกเป็นกอง แบบนี้แสดงว่าน้องเริ่มสนใจอยากจะรู้จักกันจริงๆ แล้ว

“แล้ววันนี้จะพาพี่ไปร้านไหนเอ่ย” ไทม์ที่เพิ่งกินเนื้อย่างที่ร้านมาหมาดๆ ลูบท้องตัวเองเหมือนหิวอีกรอบ

“พี่กินจุมากนะเนี่ย” วริศหัวเราะชอบใจ “จริงๆ มาหาผมแค่ตอนเลิกงานก็ได้ ไม่ต้องมานั่งกินตลอดหรอก”

“ก็อยากเห็นตอนทำงานด้วย” ไทม์ยู่ปาก

“แต่พี่ดูเนื้อเยอะขึ้นกว่าช่วงแรกๆ ที่เจอกันแล้วนะ” เขาแกล้งแซว ไทม์หน้าขึ้นสี ยกมือตีแขนเด็กหนุ่มไปที

“หาว่าพี่อ้วนเหรอ”

“เปล่า แค่เจ้าเนื้อขึ้น” วริศยิ้มขำ ยิ่งแกล้งแหย่แล้วอีกฝ่ายมีปฏิกิริยาน่ารักๆ แก้มแดง ปากเบะ เห็นแล้วมันน่ารังแกบอกไม่ถูก

“ยังไม่หยุดอีก เดี๋ยวโกรธนะ”

“พี่ไม่โกรธผมหรอก” เขาเขยิบไปให้ไหล่ชนกันนิดๆ แล้วก้มลงยิ้มหวานใส่ จนคนพี่ถึงกับไปไม่เป็น มือที่ตีแขนของเด็กหนุ่มหยุดชะงัก กลายเป็นคว้าจับแขนเสื้อยืดสีดำไว้แทน

“รู้ได้ไงว่าจะไม่โกรธ เรื่องอ้วนนี่ใครเขาเอามาแซวกัน” ไทม์เบะปาก เชิดหน้า ยิ่งทำให้วริศชอบใจ แกล้งกระซิบข้างหูไทม์เบาๆ ยั่วให้เขินหนักกว่าเก่าอีกที

“พี่ไม่โกรธหรอก ก็พี่ชอบผม”

“หลงตัวเองอ่ะ” ปากว่าแบบนั้น แต่กลั้นยิ้มแทบไม่อยู่ วริศหัวเราะเบาๆ อีกรอบอย่างถูกใจ

***

พน.วันฮัลโหลวีน อยากอ่านเรื่องผีจุง

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
ลุ้นตั้งแต่แบกเวย์แล้ว กลัวน้องแซนด์เก็บไว้ให้พี่ไทม์เถอะค่ะ  :hao6: ไม่ลำเอียงน่า!!!

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
เราชอบพี่ไทม์มากกว่า เราว่าไทม์จะดูแลแซนด์ได้ สงสารชีวิตของแซนด์

ออฟไลน์ แก่ เหี่ยว เคี้ยวยาก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทีม ไทม์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้องแซนด์น่ารักอ่ะ พี่ไทม์ก็อย่าล้อเล่นกับน้องนะครับ :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
4
วริศอ่านข้อความในไลน์ที่ส่งมาจากไทม์พลางอมยิ้ม

Timez: วันนี้พี่ไปรับที่มอนะครับ จะพาไปเที่ยว

“ทำไรวะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่” เวย์โผล่หน้ามา วริศรีบกดปิดหน้าจอ แล้วเงยหน้ามองเพื่อนที่กำลังนั่งลงข้างๆ

หลังจากคืนนั้น เวย์กับเขาก็ยังทำตัวเหมือนปกติ ต่างคนต่างไม่มีใครพูดถึงเรื่องนั้น เพราะไม่ใช่ครั้งแรก เวย์เองก็รู้ตัวดี ว่าต่อให้พยายามแค่ไหน ก็เป็นได้แค่เพื่อน ขนาดลงทุนยั่วแล้วยั่วอีก วริศก็ไม่เคยสนใจจะแตะต้องกันสักครั้ง แต่ก็ไม่เคยหลีกหนีหรือหลบหน้า และวริศก็ไม่เคยแสดงท่าทีสนใจใครคนอื่นด้วย เวย์จึงวางใจมาตลอด

“ดูอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ” อยากพิมพ์ตอบ แต่ดูท่าจะไม่สะดวกเท่าไหร่ เขายังไม่อยากบอกเวย์เรื่องของไทม์

“เออ แล้วเย็นนี้ไปกินข้าวด้วยกันมั้ย กูนัดพวกไอ้ทอมไว้” เวย์พูดถึงเพื่อนสมัยม.ปลายที่ชวนกันมาสังสรรค์ อุตส่าห์เลือกวันที่วริศไม่ไปทำงานที่บาร์ เพราะเวย์อยากให้เขาไปด้วย 

“ไม่ได้ว่ะ กูมีนัด”

“น่าสงสัย มึงจีบใครอยู่หรือเปล่า” เวย์หรี่ตามองอย่างรู้ทัน คนอย่างวริศที่มีแค่เรียนกับทำงาน จะนัดกับใครได้ เพื่อนก็ไม่มีใครนัดไปไหน เพราะเพื่อนของวริศก็คือเพื่อนของเวย์ทั้งนั้น

แต่วริศไม่ตอบ เพียงแค่ยักไหล่นิดๆ และลุกขึ้น ขอไปเข้าห้องน้ำ เพื่อจะได้ส่งข้อความตอบไทม์ว่า เจอกันตอน 5 โมงครึ่ง

ไทม์รีบเคลียร์งานสุดชีวิต ยังดีที่ไม่ใช่ช่วงเดดไลน์ แต่ก็มีรายละเอียดหลายอย่างที่ต้องเช็คก่อนส่งให้บอสใหญ่ตรวจ งานกราฟฟิคค่อนข้างใช้เวลาและต้องมีอารมณ์ทำควบคู่กัน แต่ไทม์คิดเร็วทำเร็ว และสายตาค่อนข้างแม่นยำเกี่ยวกับเรื่องการจำแนกสี

“รีบไปไหนน่ะ ไม่ใช่ว่าเผางานหรอกนะ” กันดั้ม เพื่อนร่วมงานตัวโตที่ใส่แว่นตากรอบดำท่าทางเนิร์ดสุดขั้วเลื่อนเก้าอี้มามองหน้าจอของไทม์พลางขยับแว่นตาของมันไปด้วย และแน่นอนว่าชื่อกันดั้มเป็นแค่ฉายาของมัน เพราะมันบ้าต่อกันดั้มและตัวใหญ่เหมือนหุ่นยนต์

“ตรงนี้เปลี่ยนเป็น #FE0000 ด้วย บอสสั่งมาในเมลเมื่อกี้”

“เคๆ” ไทม์ตอบรับพลางกดเลือกแถบสีตามรหัส เปลี่ยนพื้นหลังผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบเป็นสีแดงตามโค้ดที่บอสสั่งเรียบร้อย

“ช่วงนี้มึงดูมีน้ำมีนวลนะ ได้ผัวใหม่แล้วเหรอ”

ดูมันถาม ไทม์อยากจะตบปากเพื่อนสักที คบมานานตั้งแต่ทำงานที่นี่ใหม่ๆ เลยกล้าคุยแบบเล่นหัวกันได้ขนาดนี้

“จีบอยู่ ไอ้น้ำนวลของมึงนี่คือ จะด่ากูว่าอ้วนก็บอก”

“เข้ายิมมั่งเปล่า พี่เอ็มร่ำๆ อยากจะเจอมึงเหลือเกิน กูนี่ขี้เกียจตอบ” มันหมายถึงแฟนเก่าของไทม์ที่เป็นเทรนเนอร์ในยิม เลิกกันไปเมื่อปีที่แล้ว ก่อนจะมาเจอวริศ

“ก็ไปบ้าง”

“ไม่ไปวันที่พี่มันอยู่สิ แม่งเจอหน้ากูถามหาแต่มึง หน้ากูก็รับแขกมาก ยังจะด้านมาถามหา” คนที่ได้ชื่อว่าเป็นหุ่นยนต์กันดั้มประจำแผนกนิ่วหน้ากอดอก ยิ่งดูเหมือนยักษ์หน้าวัดแจ้งหนักกว่าเดิม ไทม์เห็นแล้วอดขำไม่ได้

“เอาน่า คุยเป็นเพื่อนพี่เขาไป อีกหน่อยมึงอาจจะได้เขาเป็นผัวก็ได้นะ” ไทม์ตบบ่าเพื่อนเบาๆ กันดั้มหน้าหงิกเข้าไปอีก

“ถ้ากูจะมี กูจะไม่เอาแบบไอ้พี่เอ็มแน่ คนเหี้ยอะไร เจ้าชู้ฉิบหาย ถามหามึงไม่ทันไร ก็ม่อคนอื่นต่อละ ต่อหน้ากูเนี่ย”

“ฮ่าๆ เขาก็เป็นงั้นมานานแล้วล่ะ หาแดกไปเรื่อย ดีที่กูจบก่อนเจ็บ มึงระวังไว้ก็ดีนะดั้ม พี่มันตัวเตี้ยกว่ามึงก็จริง แต่แรงเยอะอย่างควาย กูเกือบโดนปล้ำมาแล้ว ดีไอ้ตุลย์กับไอ้เวฟช่วยไว้ทัน ไม่งั้นกูจะเสียใจกว่านี้ตอนเลิกกับแม่ง” ไทม์นึกถึงภาพสยองขวัญตอนคืนวันสงกรานต์ ที่เมากันแล้วโดนแฟนเก่าขึ้นคร่อม ตอนนั้นเริ่มจับได้ว่ามีกิ๊ก และกำลังจะตัดใจเลิก เลยขัดขืนแทบตาย

“มันไม่เอากูหรอก ชอบตัวเล็กๆ น่ารักๆ นู่น” กั้นดั้มเบะปาก “แล้วงานมึงเสร็จแล้วยัง จะไปไหนก็รีบไป”

“เออๆ กูฝากต่องานกับบอสด้วยนะ”

***

ไทม์ขับรถฝ่าการจราจรบนท้องถนนช่วงเย็นที่มีรถเป็นล้านล้านคัน เพื่อไปยังมหาวิทยาลัยของวริศ พอไปถึงหน้าตึกคณะศึกษาศาสตร์ ก็โทรหาคนที่นัดไว้ทันที

“พี่รออยู่หน้าตึกคณะครับ ที่มีลานน้ำพุ โอเค เจอกัน” ไทม์กดวางสาย ชะเง้อคอรอเด็กหนุ่มร่างสูง มีนักศึกษาสาวๆ หลายคนมองมาที่เขา คณะนี้ผู้หญิงเยอะน่าดู เห็นพนักงานบริษัทหนุ่มๆ มายืนพิงรถรอใคร ก็สนใจกันใหญ่ วันนี้ไทม์มาทั้งชุดทำงาน เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว มีกระเป๋าเสื้อสีดำเล็กๆ บนอกซ้าย กับกางเกงผ้าชิโนสีน้ำตาลทอง และรองเท้าหนังด้านสีน้ำตาลเข้มแบบผูกเชือก แม้หน้าตาจะดูอ่อนเยาว์ แต่บุคลิกแบบผู้ใหญ่ เลยดูเท่ในสายตาสาวมหาลัย

“พี่ไทม์” เสียงนุ่มๆ ที่ไทม์จำได้แม่นยำดังมาจากด้านหน้า ไทม์เงยหน้าขึ้นนิดๆ แล้วส่งยิ้มหวานให้

“เพิ่งเคยเห็นใส่ชุดนักศึกษา พี่รู้สึกเหมือนเป็นเสี่ยหลอกเด็กขึ้นมาเลยอ่ะ”

วริศยิ้มขำจนตาหยี ช่างดึงดูดสายตาคนมอง จนไทม์รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมา

“ผมก็เพิ่งเคยเห็นเสี่ยในชุดทำงานเหมือนกัน”

“หล่อกว่าปกติมั้ยล่ะ แล้วไม่เรียกแบบนั้นนะ ฟังดูแก่” คนพี่ทำปากยู่นิดๆ

“ก็พี่แซวตัวเองเองนี่” วริศส่ายหน้ายิ้มๆ และไม่ลืมตอบคำถามแรก ด้วยคำยอที่มาจากใจจริง

“วันนี้พี่หล่อมากเลยครับ เท่สุดๆ”

คนฟังถึงกับหูแดง ยกมือเกาคอแก้เก้อ “ขึ้นรถเถอะ เริ่มจะร้อนละ”

“เขินจนร้อนเลยเหรอครับ” วริสเลิกคิ้วกวนๆ จนโดนคนพี่ตีแขนไปที เขาหัวเราะอารมณ์ดีที่ได้แกล้งแหย่ไทม์เล่น ก่อนจะขึ้นรถไปด้วยกัน

ไทม์เปิดเพลงยุค ’90 เบาๆ ระหว่างเดินทาง วริศเคยฟังเพลงพวกนี้สมัยป้ายังอยู่ ป้ามีเทปกับซีดีเต็มบ้าน แต่พอต้องขายบ้านทิ้ง เขาก็เอาของพวกนั้นบางส่วนไปขายบ้าง บริจาคบ้าง เหลือที่ชอบๆ เก็บไว้นิดหน่อย เพราะหอพักคับแคบ เก็บของเยอะก็รก

“จะพาผมไปเที่ยวไหนเหรอครับ”

“เวลาน้อยก็ไปแค่ห้างฯ นี่แหละ กินข้าวเย็นก่อน แล้วค่อยดูหนังกัน อยากดูเรื่องไหนเป็นพิเศษมั้ย พี่จะได้จองตั๋ว” ไทม์ขับรถไปคุยไป เคาะจังหวะเพลงไป มีความสุขสุดๆ ที่วันนี้ได้ออกเดทแบบจริงจัง แม้จะมีเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม

“ไม่มีครับ พี่เลือกเลย” วริศไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน เลยไม่รู้ต้องเลือกอะไรยังไงบ้าง ไม่ได้เข้าโรงหนังมานานมากแล้ว ตั้งแต่ต้องเริ่มทำงานพิเศษ นานๆ ทีเวย์ก็ชวนไปบ้าง แต่เขาไม่อยากให้มันเลี้ยงบ่อยๆ

“เอ่อ เดี๋ยวผมจ่ายเองนะ”

“ไม่เป็นไร พี่มีส่วนลดจากบัตรเครดิตอยู่”

“งั้นค่าข้าวให้ผมหาร” วริสรู้สึกตัวหดนิดหน่อย ไม่ค่อยชอบให้มีคนมาคอยจ่ายเงินให้แบบนี้เลย

“ไม่ต้องหรอก มันมีส่วนลดจากบัตร เอางี้” ไทม์คิดหาทางออก ให้วริศสบายใจ

“คราวหน้าค่อยพาพี่ไปเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวร้านลุงดีมั้ย”

แต่วริศก็ยังไม่รู้สึกขึ้นเท่าไหร่ “มันถูกกว่าที่พี่จะจ่ายตั้งเยอะ”

“งั้น งั้น” ไทม์พยายามคิดต่อ “งั้นพี่ขออะไรแลกแทนเงินอีกอย่างได้มั้ย”

วริสนิ่วหน้า ก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ และพยักหน้ารับ เพราะเรื่องที่ไทม์ขอ มันดูน่ารักกว่าที่คิด

มื้อเย็นวันนั้น ไทม์พาวริศไปกินข้าวในห้างสรรพสินค้า เป็นร้านชื่อแบบไทยๆ และเน้นอาหารไทยเป็นหลัก แต่รสชาติอ่อนกว่าที่วริศเคยกินตามร้านตามสั่งข้างทางมาก แม้รสจะอ่อน แต่ความสดใหม่และคุณภาพของวัตถุดิบกลับขับออกมาได้ดีกว่า ทำให้อร่อยทุกคำที่กินเข้าไป

“คราวหน้าพี่ต้องให้ผมช่วยจ่ายนะ ผมเกรงใจ”

“พี่เป็นคนชวน เป็นคนจีบ ก็ต้องจ่ายให้ ถูกแล้ว” ไทม์หาข้ออ้างไปเรื่อย เพราะรู้ว่าน้องต้องเก็บเงินไว้ส่งตัวเองเรียน จะให้มากินข้าวร้านหรูๆ หรือไปเที่ยวด้วยบ่อยๆ ก็สิ้นเปลือง คนจีบเป็นคนจ่ายน่ะดีแล้ว

“แต่ผมก็เกรงใจอยู่ดี” วริศถอนหายใจเบาๆ

“บอกแล้วไงว่าแลกกับเรื่องที่พี่ขอ ไม่อึดอัดใจใช่มั้ย” ขอไปแล้ว แต่ไทม์ก็กลัวน้องจะลำบากใจเหมือนกัน

วริศส่ายหน้าช้าๆ เอาแต่มองข้าวในจานที่ยังกินไม่หมด “ผมแค่คิดว่ามันเอาเปรียบพี่มากเกินไปหรือเปล่ามากกว่า”

“ไม่เลยๆ พี่ต่างหากที่เอาเปรียบแซนด์”

วริศเงยหน้ามองคนตรงหน้าที่ทำหน้าสำนึกผิดสุดชีวิต พลันรู้สึกว่าใจมันเต้นแรงขึ้นนิดหน่อย

“พี่ไม่ได้เอาเปรียบอะไรผมเลยสักนิด จริงๆ นะครับ” วริศกระแอมไอเบาๆ แก้มขึ้นสีแดงจางๆ เขารู้สึกเหมือนตัวเองต่างหากที่กำลังจะเอาเปรียบอีกฝ่ายแบบสุดๆ ทั้งเรื่องเงินและเรื่องหลังจากนี้ด้วย ไม่ทันได้ลงทุน แต่กลับจะกอบโกยกำไรจากคนตรงหน้าเสียแล้ว

และเพราะเถียงเรื่องนั้นกันไปก็คงหาจุดจบไม่ได้ สุดท้ายวริศก็เลยยอมให้คนพี่ได้จ่ายทุกอย่าง แต่ถ้าวันไหนเขาเป็นคนชวน เขาจะเป็นคนจ่ายเองบ้าง

หลังมื้อเย็น พวกเขาก็ไปดูหนังกันต่อ ไทม์จองที่นั่งแบบโอเปร่าชั้นบนสุดไว้ จะได้นั่งดูแบบส่วนตัวสบายๆ เห็นวริศท่าทางตื่นเต้นเหมือนเด็กๆ ก็ยิ่งเอ็นดู

“ปกติมากับเพื่อนก็นั่งแค่ที่นั่งธรรมดา เพิ่งเคยนั่งแบบนี้” ดวงตาแวววาวของวริศ ทำให้ไทม์หัวใจพองโตสุดๆ ดีที่ตัดสินใจเลือกที่นั่งพิเศษให้

“แต่คราวหน้าแบบธรรมดาก็ได้นะครับ มันแพงออก”

“ก็พี่อยากนั่งสบายๆ กับแซนด์นี่นา” ไทม์เอนหัวซบบ่ากว้างของคนน้องทันทีที่นั่งลง พร้อมกับเหลือบตาขึ้นมองนิดๆ เหมือนจะรอของแลกเปลี่ยนที่ขอไว้ วริศเห็นแล้วก็อมยิ้มกับความขี้อ้อนน่ารักๆ นั้น พลางมองมือขาวๆ ที่เด่นชัดในความมืดสลัวตรงหน้าตัก

และยกมือขึ้น วางทาบลงไปบนฝ่ามือนุ่มๆ นั้น สอดประสานนิ้วทั้งห้า กุมกันไว้ตลอดการดูหนังในค่ำคืนนั้น

***

ต้อนรับฮาโลวีน 555 เอาไปอีกตอน

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
ฟินได้อีกค่ะ :-[ ทีมพี่ไทม์ น้องแซนด์ก็น่ารักได้อีก  o13

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
น้องแซนต์ก็น่ารัก พี่ไทม์ก็เอาใจน้องเก่ง  :mc4:

ออฟไลน์ แก่ เหี่ยว เคี้ยวยาก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
วันปล่อยผี แต่อย่าปล่อยใจ ดิ น้องวริศ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
5
“พี่ไทม์ หนังจบแล้ว” วริศสะกิดเรียกคนข้างๆ ที่ผลอยหลับไปตั้งแต่ช่วงกลางเรื่อง ไทม์งัวเงียลืมตาขึ้นบนไหล่ของวริศ

“อือ เช้าแล้วเหรอ”

วริศหัวเราะเบาๆ “เช้าอะไรล่ะพี่ หนังจบแล้ว ไหวมั้ยเนี่ย”

“อ้าว เอ๊ะ เออว่ะ เรามาดูหนังนี่นา” ไทม์สะบัดหน้าไล่ความง่วง แต่สีหน้ายังอิดโรย ช่วงนี้ปั่นงานรัว เพราะอยากมีเวลามาหาวริศหลังเลิกเรียน

“ถ้าไม่ไหว เดี๋ยวผมขับรถให้มั้ย กลัวพี่หลับใน”

“ขับเป็นเหรอ” คนพี่ทำหน้าแปลกใจเล็กน้อย

“เป็นครับ เชื่อใจผมมั้ยล่ะ”

ไทม์มองหน้าวริศสักพัก ก็คลี่ยิ้ม “เชื่อสิ”

แต่เหมือนทั้งสองคนจะลืมอะไรไป เพราะพอวริศขับรถมาส่งไทม์ที่คอนโดแล้ว ก็ต้องหาแท็กซี่หรือเรียกแกรบกลับหอพักอีกต่อ

“ค้างเถอะ นะ ไม่รบกวนเลย ห้ามเกรงใจด้วย” ไทม์คว้าข้อมือของน้องไว้ ไม่อยากให้สิ้นเปลือง พรุ่งนี้จะได้ไปส่งที่มหาลัยให้ด้วย

“แต่...” วริศตั้งท่าจะปฏิเสธ แต่ไทม์ไม่ยอมปล่อยมือ แถมยังทำหน้าจริงจังสุดชีวิต ตาจ้องเขม็ง ปากเม้มสนิท แก้มก็แดงนิดๆ คงเขินเหมือนกัน พอเห็นแบบนั้นวริศก็หลุดขำอย่างช่วยไม่ได้

“ก็ได้ครับ”

วริศเคยไปนอนค้างที่ห้องของเวย์บ่อยๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ค้างห้องคนที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน อาจเพราะบรรยากาศเป็นกันเองรอบๆ ตัวของไทม์ และรอยยิ้มน่ารักสดใส ทำให้รู้สึกวางใจและสนิทใจที่จะอยู่ด้วย

“ของในห้องน้ำใช้ได้ตามสบายเลยนะ นี่ผ้าเช็ดตัวกับชุดนอน เดี๋ยวพี่เอาชุดของแซนด์ไปซักแล้วอบแห้งให้ พรุ่งนี้ได้ใส่ไปเรียน” ไทม์ยื่นผ้าเช็ดตัวและชุดนอนให้ พอแซนด์รับไป ก็ยังยื่นมือค้างอยู่

“อะไรครับ” วริศเลิกคิ้ว

“ชุดของแซนด์ไง เดี๋ยวเอาไปซักให้”

วริศเปลี่ยนมาขมวดคิ้วแล้วยกมุมปากขึ้นนิดๆ แทน “เอ่อ จะให้ผมถอดตรงนี้เลยเหรอ”

พอได้ยินที่ถาม ไทม์ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ แก้มขาวๆ แดงจัดขึ้นมาทันที

“อ่า โทษที ลืมอ่ะ ไปถอดในห้องน้ำแล้...” ยังพูดไม่ทันจบ ก็ต้องเขินหนักกว่าเก่า เพราะวริศถอดเสื้อออกแล้วส่งมาให้ ร่างกายของเด็กหนุ่มมีกล้ามเนื้อสมส่วน เห็นแล้วคนแก่กว่าน้ำลายแทบหก ยืนถือเสื้อนักศึกษาค้างนาน จนคนน้องถอดเสื้อผ้าในห้องน้ำเสร็จแล้วยื่นออกมาให้

“พี่ไทม์ ชุดครับ”

“อ่ะ หวา ครับๆ เดี๋ยวเอาไปซักให้เนาะ” ไทม์ได้สติ รีบวิ่งไปรับกางเกงของวริศมารวมกับเสื้อ ส่วนชั้นใน วริศบอกจะซักในห้องน้ำเอง ขอยืมตากที่ระเบียงด้วย

ไทม์อาบน้ำหลังวริศ พออาบเสร็จ เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นร่างสูงนอนคุดคู้อยู่บนโซฟาไปเรียบร้อยแล้ว ไทม์เดินเข้าไปใกล้ๆ มองดูใบหน้ายามหลับสนิทของน้อง วริสมีใบหน้าเรียวสวย จมูกโด่งเป็นสัน ขนตายาวงอน ริมฝีปากเรียวบางได้รูปสีออกส้มอ่อนๆ เผยอเล็กน้อยและคอยพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ท่าทางคงจะเพลียมากจนรอเขาออกจากห้องน้ำไม่ไหว

เรียนก็ต้องเรียน งานก็ต้องทำ แล้วยังโดนเขาลากไปเที่ยวจนดึกดื่น แถมต้องมาขับรถให้อีก

“ขอโทษนะแซนด์ พี่แค่อยากมีเวลาอยู่กับแซนด์มากกว่านี้” ไทม์เอานิ้วจิ้มแก้มน้องเบาๆ วริศเลยรู้สึกตัว ลืมตาขึ้นมามอง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มหยาดเยิ้มอย่างคนที่กำลังง่วงเหงาหาวนอนสุดๆ

“อือ”

“อ่า โทษที ทำให้ตื่นจนได้” ไทม์รีบดึงมือกลับมา “ไหนๆ ก็ตื่นแล้ว ไปนอนบนเตียงมั้ย ตรงนี้น่าจะนอนไม่สบาย”

ด้วยความง่วง วริศจึงลุกขึ้น เดินตามไทม์ไปอย่างว่าง่าย เพราะบนโซฟามันแคบไปสำหรับเขาจริงๆ พอหัวถึงหมอน แถมเตียงก็นุ่มมาก วริศก็หลับไปอีกรอบทันที ไทม์นิ่งค้าง มองคนน้องที่เวลาง่วงแล้วยิ่งน่ารักกว่าปกติหลายเท่าอย่างอึ้งๆ หัวใจเต้นผิดจังหวะตั้งแต่วริศยอมเดินตามมาต้อยๆ แล้ว ไทม์ก้มหน้าลงมอง วริศหลับปุ๋ยไปแล้วจริงๆ เสียงลมหายใจสม่ำเสมอ หลับง่ายและเร็วมาก น่ารักจนไทม์อดอมยิ้มไม่ได้

“ไม่ระวังตัวเลยน้า ทำพี่ใจเต้นจนนอนไม่หลับแล้วเนี่ย”

***

ไทม์ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ก็พบว่าวริศอาบน้ำแต่งตัวอยู่ในชุดนักศึกษาที่ซักอบแห้งไว้ให้เมื่อคืนเรียบร้อยแล้ว ดีที่บ๊อกเซอร์แห้งทันด้วย ไม่อย่างนั้นคงต้องขอยืมของไทม์ ซึ่งวริศก็ไม่ได้อยากทำขนาดนั้น เพราะมันดูน่าอายนิดๆ

“พี่ไทม์ครับ ปกติตอนเช้ากินอะไร...” วริศขออนุญาตใช้ครัว เพื่อจะทำอาหารเช้าให้ ตอบแทนที่ไทม์ให้ค้างด้วย แต่พอเปิดตู้เย็นดู ก็เจอแต่กระป๋องเบียร์ กับน้ำเปล่า อ้อ มีช็อคโกแลตอีกสองกล่อง วริศยืนนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะกลอกตาไปมาแล้วปิดตู้เย็นไว้ตามเดิม

“ก็สั่งแค่กาแฟกับขนมปังอะไรก็ได้” ไทม์ตอบพลางสวมกางเกงยีนส์ ชุดทำงานวันนี้เป็นแบบสบายๆ เสื้อโปโลกับยีนส์แบบสลิมฟิตพับขาให้ลอยๆ นิดหน่อย

“งั้นผมชงกาแฟให้นะ” ในที่สุดก็หาสิ่งที่จะทำได้เสียที วริศหยิบซองกาแฟสำเร็จรูปในโหลแก้วบนเคาน์เตอร์ครัวออกมา

“แก้วอยู่นี่ครับ” ไทม์ก้มลงไปหยิบแก้วในตู้บานซิงค์ด้านล่างขึ้นมาให้พร้อมรอยยิ้มหวาน วริศรีบเบือนหน้าหนี เพราะเขินในรอยยิ้มนั้น ไทม์มองหูแดงๆ ของน้องด้วยความเอ็นดู หัวใจพองโตขึ้นมานิดหน่อย มีเขินแบบนี้ ดูท่าจะหวังได้อีกเยอะ

“ปกติทำอาหารกินเองเหรอเรา” ไทม์นั่งลงจิบกาแฟหอมๆ ที่วริศชงให้

“ครับ ทำทุกวันเลย”

“อืม” ไทม์เหลือบตาขึ้นมองไปเรื่อยเปื่อยพลางครุ่นคิด “งั้นไว้พี่ซื้อของสดมาไว้ในตู้ แล้วให้แซนด์มาทำให้กินบ้างดีมั้ย”

“ก็ได้นะครับ อ่า แต่ จะให้ผมมาอีกเหรอ” วริศกะพริบตาปริบๆ

“ถ้าพี่บอกว่าอยากให้มาบ่อยๆ จะมามั้ย” ไทม์วางแก้วลง แล้วยื่นหน้าไปหาคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันด้วยแววตาคาดหวังสุดฤทธิ์

“ถ้าไม่รบกวนพี่” วริศตอบอย่างเกรงใจ จู่ๆ ก็สนิทกันถึงขั้นนี้ตั้งแต่ตอนไหน ตัวเขาเองก็ยังงงๆ

“งั้นมานะ พี่อยากให้แซนด์มา” ไทม์คลี่ยิ้มหวาน “พี่พาแซนด์ไปเที่ยว แลกกับอาหารที่แซนด์ทำ ดีมั้ย ทีนี้จะได้ไม่ต้องกังวลเวลาไปกับพี่ แล้วไม่ได้ช่วยออกเงินไง”

“มันแทนกันได้เหรอครับ” วริศนิ่วหน้าเล็กน้อย แต่คำตอบและรอยยิ้มของไทม์ ก็ทำให้หมดคำจะแย้ง

“ได้สิ เนอะ”

***

ความสัมพันธ์ของไทม์และวริศดูจะคืบหน้าไปด้วยดี อย่างสม่ำเสมอ วริศเองก็ไม่รู้สึกรังเกียจไทม์เลยสักนิด กลับรู้สึกดีและอบอุ่นเวลามีไทม์อยู่ด้วย ถึงวันอาทิตย์ทีไรก็ต้องคอยมองหา ว่าไทม์จะมากินที่ร้านมั้ย ที่ผ่านมา วริศไม่เคยกล้าเปิดใจให้ใคร และไม่คิดว่าจะชอบใครได้ เพราะคงไม่มีเวลาให้มากพอ แต่กับไทม์ เขารู้สึกคิดถูกนิดหน่อยที่วันนั้นยอมใจอ่อน ไม่เคยมีใครที่ตามตื้อเขาได้นานเท่าไทม์เลย แถมยังคอยหาเวลามาให้ตลอด

“เพราะแซนด์ไม่มีเวลา พี่เลยต้องเป็นฝ่ายให้เวลากับแซนด์เองไง”


ไทม์เคยพูดแบบนั้น และยังคงทำอย่างที่ปากว่าเสมอต้นเสมอปลาย แม้วริศจะยังไม่ได้ตอบตกลงว่าจะคบหาด้วยในแบบคนรักก็ตาม

“เขาดีออกขนาดนี้ มึงจะยังสับสนอะไรวะ” นอกจากเวย์แล้ว วริศยังมีแต้ว เพื่อนผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ให้คำปรึกษาได้ เพราะเรื่องของไทม์ ถ้าบอกเวย์ คงเป็นเรื่องใหญ่ วริศรู้ว่าเวย์คิดยังไง และเขาไม่อยากเสียเพื่อนไป

“ก็กูไม่แน่ใจว่าชอบพี่เขาหรือเปล่า กูไม่เคยรู้สึกชอบใครมาก่อน”

“เด็กน้อยจริงๆ นะมึงเนี่ย แค่มึงรู้สึกดีกับเขาก็พอแล้ว ลองคบๆ ดู ใช่ก็ไปต่อ” แต้วว่าพลางเคี้ยวหมากฝรั่งหนุบหนับ

“แล้วถ้าไม่ใช่ขึ้นมาล่ะ กูไม่อยากทำเขาเสียใจ” วริศหน้าสลดลง เพราะไทม์ดีกับเขามาก จนไม่อยากทำร้ายคนดีๆ แบบนั้น

“แต่ถ้ามึงคบแบบนี้ เหมือนให้ความหวังเขาไปวันๆ เขาก็เจ็บอยู่ดีป่ะวะ”

มันก็จริง วริศยอมรับอยู่ในใจ รู้ตัวว่าทำให้ไทม์หวังไปมากแล้ว แต่ก็ไม่อยากปล่อยให้มันคาราคาซัง แม้ไทม์จะไม่เคยเร่งรัดอะไรก็ตาม

“ว่าแต่” เพื่อนสาวบ้วนหมากฝรั่งทิ้งลงในทิชชู่ ก่อนจะโยนมันลงถังขยะใกล้ๆ โต๊ะไม้ที่นั่งคุยกันอยู่แถวหน้าตึกเรียน แล้วหันมามองหน้าวริศด้วยความสงสัยปนหยอกล้อ

“มึงกับพี่เขาเนี่ย ใครรุกใครรับวะ”

***

จะบอกว่า ไทม์น่ะ มันโบ๊ท 555555 :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2020 12:31:19 โดย Lambosasha »

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
แต่ที่เราแอบเชียร์ อยากให้แซนต์เป็นเคะนะ  เพราะดูแล้วพี่ไทม์เป็นผู้ชายที่อบอุ่น
ทีมพี่ไทม์  :mc4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด