6
ตอนแรกก็รู้สึกเหมือนเป็นเบ๊ ตอนนี้กลายเป็นทาสกามไปซะงั้น
ตั้งแต่วันที่ผมเผลอไผลเสียตัวให้มัน ไอ้เบ๊บ เกย์หื่นกาม รูมเมทแสนจัญไรของผม ก็ขยันใช้งานผมเหมือนเป็นไวเบรเตอร์ส่วนตัว
“อื้อ อ่ะ...ฮึก” เหี้ยมากครับ แม่งมานั่งขย่มตอผมแล้วส่งเสียงครางยวนยั่ว โดยที่ในมือของผมก็ถือหนังสือ อ่านแบบไม่มีสมาธิเท่าไหร่ พยายามไม่สนใจช่วงล่างที่ถูกมันตอดเอาๆ แต่หน้าหวานๆ ที่แม่งกำลังหลับตาพริ้ม เหงื่อซ่ก แก้มแดงปลั่ง แถมยังกัดปากซี้ดซ้าดแบบนั้น แม่งเอ๊ย ของกูไม่แข็งสู้ ก็ตายด้านอ่ะ นี่แทบจะเอากันหลังอาหารวันละสามเวลา ถ้าไม่ติดว่าต้องไปเรียนด้วย มันคงจัดให้ผม 24 ชม. ไม่ต้องหลับต้องนอน ทุกวันนี้ผมแทบจะนอนแค่วันละ 3-4 ชั่วโมงอยู่แล้ว ทั้งที่แม่งก็โดนถี่ๆ แต่รูแม่งดันโครตฟิต รัดซะผมแทบทนไม่ไหวทุกที
“อา...ปาล์ม...อ่ะ อ๊า”
พรวด!
สัส...แม่งน้ำแตกกระเด็นใส่หนังสือกู
“พอได้แล้วมั้งเบ๊บ มันเลอะเทอะ” ผมปรามมันเบาๆ เสียงแอบสั่น คือผมไม่ใช่ตุ๊กตาไม้นะเว้ย แค่ตอนมันช่วยตัวเองยังพอทน นี่ต้องมาโดนมันขย่มเอาๆ เสียวแบบแทบไม่ได้ผุดได้เกิด
ไอ้เบ๊บไม่ตอบ อ้าปากหอบหายใจ แล้วปัดหนังสือผมออก เอนลงมากอดซบผมไว้ ท่าทางจะเหนื่อยเหมือนกัน แต่ก็ยั่วไม่เลิก
“อยากจูบอ่ะ” มันเงยหน้า ช้อนสายตาเยิ้มๆ ขึ้นมองผม อกข้างซ้ายของผมคือสั่นรัว จะใจเต้นทำห่าไรวะ
“กูมีสอบจันทร์นี้ ช่วยอย่า...” ไม่ทันละ แม่งไม่เคยฟังกันเลย ประกบปากสอดลิ้นเสร็จสรรพ เสียงดูดปากดังจ๊วบๆ แล้วจะให้ผมทำยังไง นอกจากทิ้งหนังสือกองไว้ตรงนั้น แล้วจัดการมันให้หายคันสิครับ!
ส่วนสถานะของพวกเราตอนนี้...น่าจะเป็น
SEX FRIEND
“เย็นนี้มีประกวดดาวเดือนมหาลัย กูต้องไปแต่งหน้าทำผมที่สตู 10 มึงจะไปดูหรือกลับห้องไปก่อนก็ได้” ผมรายงานมันประหนึ่งมันเป็นเจ้านาย ไอ้เบ๊บยืนดูดนมกล่องพยักหน้ารับหงึกๆ เห็นปากสีชมพูอ่อนงับหลอดดูดเลอะน้ำลายนิดๆ เซ็กซี่ฉิบหาย ผมกลืนน้ำลาย พักนี้ชักจะหื่นขึ้นตาเหมือนรูมเมทไปทุกทีแล้ว เพราะไอ้ตัวเล็กนี่แท้ๆ
“อิ่มอ่ะ กินต่อที” มันว่าพลางยื่นกล่องนมยัดใส่มือผม ผมก็รับมาดูดต่อ ก่อนจะจูบกัน ยังกล้ากินข้าวช้อนเดียวกับมันเลย กะอีแค่ดูดหลอดเดียวกันนี่คือจิ๊บๆ อ่ะ ดูดหมดผมก็โยนกล่องทิ้งลงถังขยะแถวนั้น แล้วขึ้นไปสตาร์ทมอเตอร์ไซค์ รอมันกระโดดขึ้นมานั่งซ้อน วันนี้รีบกินแค่ขนมปังกับนม
ส่งไอ้เบ๊บที่หน้าตึกคณะวิศวะเสร็จ ผมก็ขี่รถไปเรียนต่อ เดี๋ยวนี้ไม่ต้องไปส่งถึงหน้าห้องแล้ว พวกรุ่นพี่ไปฝึกงานหมด ไม่มีใครมาคอยดักตีหัว ทุกวันนี้ผมยังไม่เข้าใจเลย ว่าพวกพี่ปี 3 แม่งเก็บกดเหี้ยไร แค่โดนสั่งยกเลิกว้าก ต้องหาที่ระบายกับรุ่นน้องด้วยวิธีอื่น ประสาทแดก
“เย็นนี้เจอที่สตู 10 เลยนะลูกปาล์ม” พี่ปุ๊กกี้ ประธานสโมปี 2 คณะเรา เจอหน้าผมปุ๊บก็เตือนทันที เดี๋ยวนี้กลายเป็นลูกรักเจ๊แกไปแล้ว
“ดูจากคะแนนโหวตแล้ว ลูกๆ มีสิทธิเข้าชิงดาวเดือนมหาลัยกันนะ คนกดไลค์เยอะเชียว” เจ๊แกยื่นหน้าจอมาให้ผมดู คือผมแทบไม่ได้เข้าโซเชียลเลย ไม่รู้โลกไปถึงแล้วป่านนี้ เห็นพวกไอ้แก๊บบอกจะเกณฑ์กันโหวตให้ เพราะหมั่นไส้เดือนคณะตัวเอง แบบนี้ก็มีด้วยเหรอวะ
“แต่ป๊อปปูลาร์โหวตนี่ยังไง แม่ว่าลูกปาล์มได้แน่ๆ ลูก เชื่อแม่”
“อ่า ครับ” ผมก็พยักหน้ารับๆ ไป ไม่ค่อยเข้าใจหรอก ว่าได้ตำแหน่งพวกนั้นแล้วมันดียังไง ผมไม่ชอบโดนถ่ายรูป ไม่ชอบเป็นจุดสนใจเท่าไหร่ มีคนคอยมองมันน่าเบื่อ อยากอยู่แบบเงียบๆ มากกว่า
วันนั้นมีเรียนสามวิชา เลิกตอนสี่ครึ่ง แล้วผมก็ต้องไปแสตนด์บายที่สตู 10 จริงๆ มันเป็นโรงละครครับ โรงละครที่ใหญ่ที่สุดของมหาวิทยาลัย และเป็นของคณะอักษรเรานี่แหละ มันมีอยู่ 3 สตู คือ 1 7 แล้วก็ 10 เลขโดดๆ เพราะถือเคล็ดอะไรสักอย่างไม่รู้ สตูอื่นเอาไว้ใช้เวลาเอกโทการแสดงมีงานละคร ส่วนสตู 10 เอาไว้จัดงานใหญ่ๆ อย่างการประกวดดาวเดือนมหาลัย เออ รู้สึกจะมีดาวหลงฟ้าอะไรด้วยมั้ง คณะผมส่งพอลลี่ไป จริงๆ มันชื่อพบพร เป็นกะเทยแต่งหญิงที่สวยที่สุดของปี 1 แล้ว แม้จะตัวสูงเป็นเปรตไปหน่อยก็ตาม แต่จริงๆ ไอ้ตัวเล็กของผม...น่ารักกว่านะ
“ช่วงนี้ขอบตาคล้ำๆ นะคะน้องปาล์ม” พี่แพนด้า กะเทยสวยปี 3 ของคณะเรา เป็นช่างแต่งหน้าให้พวกผม “แต่นอกจากขอบตาแล้ว อย่างอื่นเปล่งปลั่งมากค่ะ”
ผมนิ่วหน้า อะไรเปล่งปลั่งวะ “อ่านหนังสือดึกอ่ะครับ”
“แหม ขยันจังเลย พ่อหนุ่ม” โดนเจ๊แพนหยิกแก้มไปอีก ผมนี่มีสเน่ห์กับเก้งกวางมากกว่าที่คิดหรือเปล่าวะ คือสมัยอยู่บ้านนอกมันไม่มีกะเทยไง เลยไม่รู้ตัว
“ปาล์มอย่าขยันมากดิ มันกดเกรดนะ” เสียงรุ้งดังมา เธอนั่งรอแต่งหน้าต่อจากผมอยู่ใกล้ๆ กัน กำลังอ่านนิยายอะไรไม่รู้ ท่าทางตั้งใจมาก
“ก็เราเรียนไม่เก่ง” ผมหัวเราะ รุ้งรีบโวย
“โห สอบกลางภาคคะแนนสูงสุด 4 วิชารวด จากทั้งหมด 7 รายวิชา ยังมีหน้ามาพูดอีก”
“โห น้องปาล์มเป็นเด็กเรียนเหรอคะเนี่ย” เจ๊แพนตาโต
“ไม่ขนาดนั้นหรอกพี่ ก็มันมีแต่คนเก่งๆ ผมเลยยิ่งต้องพยายาม” ผมหลับตาลง ให้เจ๊แพนเขียนขอบตา ทาครีมกลบรอยคล้ำใต้ตา แบบที่ไอ้ตัวเล็กมันเคยทาให้
“เออ ไอ้ครีมนี่มันคืออะไรอ่ะพี่”
“หือ ที่กลบรอยใต้ตาเหรอคะ” ผมพยักหน้า “เขาเรียกอายครีมอ่ะลูก สั่งซื้อตามช้อปปี้ก็มี หรือจะไปตามช้อปในห้างฯ ก็ได้ หนูอยากได้ยี่ห้อไหนล่ะคะ”
“ไม่แน่ใจอ่ะครับ ขอกลับไปดูชื่อก่อนแล้วกัน” เหมือนจะเป็นกระปุกขาวๆ แดงๆ ป่ะวะ ดันลืมดูชื่อยี่ห้อ
“จะซื้อใช้เอง หรือเอาไว้ให้ใครหรือเปล่าคะเนี่ย”
“ใช้เองสิครับ โธ่” ผมโกหกไป ใครจะบอกว่าซื้อไปให้รูมเมทกันล่ะ
กว่างานประกวดจะเริ่มก็เกือบ 6 โมงเย็น ด้านนอกมีงานขายของ แต่ละคณะมาออกบูธกันเต็ม เหมือนตลาดนัดวันพุธกลางมอ ของกิน เสื้อผ้า ของกระจุกกระจิกเพียบ แล้วแต่ความครีเอทของแต่ละคณะ ที่จะสรรหามาขาย ของคณะผมแม่งโครตเรียบง่าย ขายข้าวไข่เจียว
“ตื่นเต้นมั้ย” รุ้งหันมาถามผม รอบข้างมีแต่หนุ่มหล่อสาวสวย เดือนดาวแต่ละคณะที่มารวมตัวกันในแบบจัดเต็ม ต่างจากตอนที่ไปถ่ายรูปรวมคราวก่อนมาก เรื่องแสดงความสามารถพวกผมเตรียมกันมาแล้ว เพราะรุ้งเรียนสาขาละคร ก็เลยจะเล่นละครเวที แถมเป็นละครร้องด้วย รุ้งเสียงดีมากบอกเลย แสดงกันสองคนนี่แหละ ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย
“ก็นิดหน่อยมั้ง” ผมถูมือไปมา มันค่อนข้างชื้นเหงื่อนิดๆ ทั้งที่ในสตู 10 ก็เปิดแอร์เย็นเจี๊ยบ จริงๆ บทของผมมีไม่เยอะ เน้นให้รุ้งเล่นและร้องมากกว่า นี่แค่ประกอบฉาก แต่ก็มีท่อนที่ต้องร้องนิดหน่อย แล้วคือ เสียงดีมากอ่ะครับ ประชดนะ
“แฟนมาดูมั้ย ออกไปแล้วมองหน้าเขาไว้ จะได้ไม่ตื่นเต้น” รุ้งยิ้มหวาน แต่คำพูดมันแปลกๆ
“เฮ้ย เรายังไม่มีแฟนสักหน่อย” ผมรีบปฏิเสธ อะไรวะ คราวก่อนไอ้พี่ดิวก็หาว่าเบ๊บเป็นแฟนผม แล้วคราวนี้ใครอีกล่ะเนี่ยที่โดนเข้าใจผิด
“อ้าว เห็นในเพจลับมีคนเอารูปคู่ลงเยอะแยะเลย ไม่ใช่แฟนหรอกเหรอ”
เพจลับอะไรวะ ผมเกาหัวงงๆ ก่อนจะก้มมองหน้าจอสมาร์ทโฟนที่รุ้งยื่นมาให้ดู พลันต้องตกใจจนตาถลน ใครแม่งแอบถ่ายวะ รูปผมกับไอ้ตัวเล็กว่อนเพจ เพจลับคู่จิ้นมอxx ห่าไรเนี่ย รุ้งเป็นคนแบบนี้เหรอวะ เพิ่งรู้ สมัยนี้เขานิยมเรื่องพรรค์นี้กันเหรอวะ
“มันคืออะไรเนี่ย”
“ก็แบบเพจเกี่ยวกับคู่จิ้นในมออ่ะ มีทั้งชายหญิง หญิงหญิง ชายชาย แต่ส่วนใหญ่ก็เน้นชายชาย”
“แล้วมันยังไงอ่ะ” นี่ก็โง่ครับ เรื่องพวกนี้ยอมรับตรงๆ ว่าผมไม่รู้ห่าอะไรเลยจริงๆ
“ก็แบบคู่ที่ใครๆ เขาเห็นแล้วมันน่ารักไง อยู่ด้วยกันแล้วมันดีต่อใจ มีโมเม้นท์น่ารักๆ แบบแฟนกัน แต่ที่ดูนี่ ของคู่ปาล์มอ่ะเรียลมากเลยนะ มีป้อนข้าวกันด้วย กินนมต่อกันงี้ สนิทกันดีจัง” ไอ้กินนมต่อกันนี่เมื่อเช้าเลยนี่หว่า ไวมาก ไอ้ตากล้อง
“เหอๆๆ” ผมหัวเราะเหมือนตุ๊กตาไขลานที่พังแล้ว สนิทกันยิ่งกว่าที่เห็นในรูปอีกครับเพื่อน แต่ออกสื่อไม่ได้
“ตกลงใช่มั้ยอ่ะ แฟนกันป่าว” รุ้งเอียงคอสบตาผมอย่างสงสัย ไอ้ผมก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูก
“เอ่อ ไม่ใช่หรอก แค่รูมเมทน่ะ”
“มิน่า ถึงได้ดูสนิทกันมากเลย อยู่ด้วยกันแล้วนี่เอง”
“ไม่ใช่ดิวะ แค่รูมเมท ไม่ใช่อยู่กันแบบนั้น” ผมล่ะละเหี่ยใจที่จะเถียง รุ้งก็ยิ้มกริ่มใหญ่ ทำหน้าเหมือนจับผิดอะไรสักอย่างด้วย บ้าบอไปใหญ่แล้ว สวยแต่เพี้ยนสินะเนี่ย
แล้วก็ถึงเวลาที่พวกเราต้องขึ้นไปแนะนำตัวทีละคณะบนเวที ก่อนจะเข้าสู่การแสดงของแต่ละคู่ ส่วนมากก็ร้องเพลง เล่นดนตรี รำ เต้น เดือนคณะวิดยาที่พวกไอ้แก๊บหมั่นไส้ก็ใช้ได้นะ มันโชว์มวยไทยครับ เท่ดีออก ทำไมพวกแม่งไม่ชอบกันก็ไม่รู้ ไม่รู้ไอ้ตัวเล็กมันมาดูผมมั้ย เพราะมองไม่ค่อยเห็นหรอก ตัวแม่งเตี้ย
แต่พอชะเง้อไป ก็เจอเลยว่ะ แม่งชูป้ายไฟซะใหญ่ ไอ้ห่า กูอายเค้าไอ้เบ๊บ!
เหมือนมันจะตะโกนอะไรมาด้วย กระโดดเหยงๆ ใหญ่เลย ผมไม่ค่อยได้ยินหรอก เสียงคนกำลังกรี้ดที่พวกเดือนดาวเดินออกมาเรียงกันหน้าสลอนบนเวทีอีกรอบ เพื่อรอรับดอกไม้ เอาไปรวมกับคะแนนโหวตในเนต เป็นผลป๊อปปูลาร์อะไรนั่น จากนั้นพี่พิธีกรก็ประกาศให้ส่งดอกไม้ได้ ก็มีคนทยอยเอามาให้เรื่อยๆ พวกเพื่อนๆ กันเองนี่แหละ ใครอยากให้คณะตัวเองชนะก็มาช่วยกัน แต่เพื่อนผมแม่งกวนตีนฉิบหาย เด็กวิดยาเกือบทั้งฝูง เสือกเอาดอกไม้ให้ผมหมดเลย ไอ้เดือนคณะมันนี่เหล่กูตาแทบหลุด แล้วเขาให้ได้คนละดอกด้วยไง เหมามากองไม่ได้ หนึ่งดอกต่อหนึ่งคนและหนึ่งเดือนดาว
สรุปผลเลยละกันครับ ผมได้ป๊อปปูลาร์โหวตจริงๆ แต่เดือนดาวประจำมอ คณะดุริยางค์ได้ไป ม้ามืดฉิบหาย แต่มองๆ ไปก็โอเคแหละ ดาวดุริยางค์อย่างน่ารัก ตัวเล็กๆ จิ้มลิ้มดี ส่วนเดือนดุอย่าถามผมครับ ไปถามคนอื่นเหอะ ไม่ได้มอง
“ปาล์ม! ปาล์ม!” เบ๊บแม่งแหกปากเรียกมาแต่ไกล พอผมหันไป ก็เจอมันโผเข้าใส่ เกือบรับไว้ไม่ทัน ล้มไปทั้งยืนนี่ภาพไม่น่าสวยเหมือนในละครนะไอ้ห่า
“ดีๆ เดี๋ยวล้ม” ผมดุเบาๆ มันเลยยืนใหม่ กอดผมตั้งหลัก แล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มแฉ่ง อดไม่ได้ที่จะบีบแก้มแม่งเล่นด้วยความหมั่นเขี้ยวสักที
“คืนนี้ไปฉลองกัน ที่ปาล์มได้ป๊อปปูลาร์โหวต” มันเปลี่ยนมากอดแขนผม ชวนไปเที่ยวกลางคืน เด็กวิดวะนี่ขึ้นชื่อเรื่องแดกเหล้าเคล้านารี แต่ไอ้เบ๊บคงเคล้าบุรุษเพศมากกว่าผมว่า แต่ผมอ่ะ เลิกเหล้าเลิกบุหรี่มาเป็นปีแล้วไง
“ที่ไหนวะ”
“ไปกับพวกแก๊บด้วย แล้วก็มีเพื่อนคณะเรา” มันมองไปทางด้านหลังผม แล้วตะโกนเรียกเพื่อนมัน “อ๊ะ คนนั้นไง เดือนวิดวะ เต็ม!”
“ไง เบ๊บ ไม่โหวตเราเลยนะ” ผมหันไปมอง เห็นเดือนคณะวิศวะเดินยิ้มมาแต่ไกล ขาวออร่ามาก ดูสำอางไม่เหมือนชุมนุมคนเถื่อนของวิดวะเลยว่ะ มิน่าถึงเด่นจนได้เป็นเดือนคณะ แล้วดูผมดิ สภาพแม่งเหมือนบ้านนอกเข้ากรุง ขนาดใส่ชุดนักศึกษาเหมือนกัน ยังรู้สึกแตกต่างกับพวกคุณชายในเมืองหลวง
“หวัดดี นี่เดือนอักษรป่ะ แย่งคะแนนเดือนวิดยา จนมันหน้าหงิกเป็นตูดเลย” รู้สึกไอ้เบ๊บจะเรียกมันว่า เต็ม มันหัวเราะใหญ่ ผมก็แค่ยกมุมปากเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม ขำก็ไม่ออก เสียวๆ โดนดักตีหัวอยู่เหมือนกันแหละ เดือนวิดยาแม่งตาเขใส่ทั้งงาน
“ก็ทำไงได้ล่ะ ปาล์มหล่อกว่านี่ แล้วเพื่อนๆ ก็รักปาล์มมากกว่า ปาล์มน่ารัก นิสัยดี”
“ชมแต่ปาล์มอ่ะ ไม่ชมเรามั่งเหรอ” ไอ้เดือนเต็มยื่นปากยื่นหน้าหยอกล้อกับไอ้ตัวเล็ก ต่อหน้าต่อตากูเลยนะพวกมึง
“เต็มมีคนอื่นชมเยอะแยะแล้วนี่”
“โหย แต่ปาล์มเขาได้ป๊อปปูลาร์นา ต้องมีคนชมเยอะกว่าเราสิ” หน้าแม่งมาใกล้เกินแล้วว้อย ไอ้ห่านี่ ผมเริ่มนิ่วหน้า จ้องไอ้เดือนวิดวะ ที่แม่งก็เหมือนจะสนใจอ้อล้อกับเบ๊บ จนลืมผมกันเลย
แล้วทำไมกูต้องหงุดหงิดวะเนี่ย
ทนไม่ไหว ผมดึงแขนไอ้ตัวเล็กให้ถอยห่างจากหน้าหล่อๆ ของไอ้เดือนวิดวะ แล้วหันไปพูดกับมันเสียงแข็งสุดๆ จนตัวเองยังต้องตกใจ
“ไหนบอกจะไปฉลองไรไง ไปได้ยังวะ เบ๊บ”
***
อ่านวนกันไปก่อน 555 อีกตอนน่าจะเสร็จทันก่อนไปข้างนอกมั้งนะ