☁▧☀▧☁ คิด(ไม่)ถึง .. คะนึง(ไม่)หา ☁▨☀▨☁ ๑๘/๖/๖๔ ‡ บทที่ ๓๕ {จบ} หน้า ๑๔
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☁▧☀▧☁ คิด(ไม่)ถึง .. คะนึง(ไม่)หา ☁▨☀▨☁ ๑๘/๖/๖๔ ‡ บทที่ ๓๕ {จบ} หน้า ๑๔  (อ่าน 35114 ครั้ง)

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
ได้เวลาอ่อยแล้วณิช 555555 ชาติที่แล้วคุณปราณอ่อยหนักมาก คึคึ  :-[

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
รู้อดีตครบหมดแล้ว ตอนนี้ก็เป็นเรื่องของปัจจุบันละจ้า
อยู่ที่ตรีจะร่วมมือไหม หรือจะไม่ยอมรับเลย
แต่ณิชพร้อมมากละนะ พร้อมจะแก้ไขไปด้วยกัน
ไม่รู้ว่าเกิดจากผูกพันกันมา หรือเริ่มรักแล้วก็ตาม

มั่นเป็นคนดีเสมอต้นเสมอปลายเลยค่ะ
มีแต่คำสาปแช่ง มีแต่คำสาบาน แต่เชื่อว่าณิชจะช่วยทุกคนได้

ออฟไลน์ mister

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
    • https://www.facebook.com/JJSonkFanclub
คนเขียนจ๋า เลย3วันแล้วยังไม่มาต่ออีกหรอ คิดถึงคุณณิชมากแล้วจ้า  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ :นางสาวผอบ:

  • ความเคลื่อนไหวในเงามืด
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +649/-4
บทที่ ๑๕ (ครึ่งแรก)


วันหยุดวนกลับมาอีกครั้ง มิ้งชวนณิชเข้าไปในเมืองเพื่อหากิจกรรมทำในวันว่าง แน่นอนว่าคนที่มาจากสังคมคนเมืองคงหนีไม่พ้นห้างสรรพสินค้า ตอนแรกคิดยาวไปถึงการเที่ยวร้านเหล้าผับบาร์ แต่เพราะพรุ่งนี้มีงานต่อจึงต้องระงับไว้ก่อน

เข้าช่วงบ่ายพวกเขาดูหนังไปหนึ่งเรื่อง หลังดูเสร็จมิ้งจึงเดินซื้อของโดยมีณิชเดินเป็นเพื่อน จนทั้งคู่มาถึงชั้นซูเปอร์มาร์เก็ต พวกเขาไม่รอช้าหาเสบียงที่ตนต้องการกักตุนไว้ทันที

“หนูอยากกินอาหารฝรั่งบ้างอ่ะ ซื้อเส้นมักกะโรนีไปให้ป้าแจ่มทำให้ดีไหมพี่ณิช คุณตรีบอกว่าป้าแจ่มทำได้นะ อร่อยด้วย”

หญิงสาวตัวเล็กผมฟูทันสมัยพูดอย่างขอความเห็น ขณะที่เธอกำลังเลือกซื้อของกินจำพวกขนมไปตุนไว้ แน่นอนว่าซูเปอร์มาร์เก็ตในห้างสรรพสินค้าย่อมมีสินค้าทั้งของสดของแห้ง นี่เธอก็เพิ่งขนขนมเกาหลีลงรถเข็นไปเป็นกระบุง

“พี่ก็ไม่เคยเห็นป้าแจ่มทำอะไรไม่อร่อย” ณิชพูด

เขาเห็นด้วยกับมิ้ง ไม่ใช่พวกเขาเบื่ออาหารไทยหรืออาหารใต้ แต่เพราะคิดถึงอาหารชาติอื่นด้วยเลยซื้อไปติดครัวไว้ วันไหนว่างๆ ถ้าป้าแจ่มไม่สะดวกทำให้ เขาค่อยทำกินเองก็ยังได้ นี่กำลังคิดอยู่ว่าจะลองทำอาหารเมนูง่ายๆ ให้จีรัชญ์ทานดู

“ยิ้มอะไรคนเดียวน่ะพี่ณิช”

“คิดอะไรเพลินๆ น่ะ”

“คิดถึงคุณตรีรึเปล่า รู้นะว่าตอนนี้หายใจเข้าออกก็คุณตรีๆ น่ะ” มิ้งยิ้มล้อเพราะเธอรู้ดีว่าตอนนี้รุ่นพี่เธอไม่มีใจไปผูกพันกับใคร นอกจากหนุ่มในฝันที่ดันมีชีวิตจริงขึ้นมาเสียได้

สายตาของณิชเผลอมองตามจีรัชญ์ตลอด และเธอคิดว่าเจ้าตัวก็คงไม่รู้ว่าเวลาเห็นจีรัชญ์กลับมาถึงบ้านหลังจากเลิกงาน ใบหน้าหวานของรุ่นพี่เธอยิ้มหน้าบานเสียยิ่งกว่าอะไร

เธอเคยถามณิชว่าเหตุใดถึงไม่บอกไปว่าจำอดีตได้ทั้งหมดแล้ว ณิชบอกว่าเพราะอยากรอดูท่าทีของจีรัชญ์ เหมือนเป็นการหยั่งเชิงอีกฝ่ายว่าจะทำเช่นไร แต่คงไม่ปล่อยไว้นานหรอก เพราะทุกวันนี้จีรัชญ์แทบจะพูดนับคำกับณิชได้

คนทั้งคู่กลับมาถึงวังปริพัตรอีกครั้งในช่วงบ่ายคล้อย นายพลีคนสวนกำลังขุดดินอยู่แถวรั้ววังไกลๆ กับคนงานอีกสองสามคน มีเจ้านายของคนเหล่านั้นกำลังลงแรงอยู่เช่นกัน ทำราวกับว่าตนก็คือหนึ่งในคนงานที่ถูกจ้างมา

ณิชยืนมองกายกำยำของไอ้หาญ คนคนนี้มีชีวิตผ่านมานับร้อยปีได้ยังไง เหงามากไหม มีเพื่อนใหม่บ้างหรือเปล่า เคยร้องไห้กี่ร้อยกี่พันครั้งกับความทรมานที่ตกอยู่ในห้วงเวลาของฝ่ายที่ต้องรอเช่นนี้

“กลับกันมาแล้วเหรอคะ ป้าทำเค้กมะตูมเสร็จพอดี คุณณิชคุณมิ้งลองไปชิมสิคะ เดี๋ยวป้าเอาน้ำไปให้คุณตรีก่อนแล้วป้าจะตามไปที่ครัวค่ะ”

ป้าแจ่มเดินออกมาพร้อมพี่หวีแม่บ้านอีกคน ในมือหญิงสูงวัยถือถาดที่มีแก้วหลายใบ และน้ำมะตูมที่อยู่ในขวดพลาสติกแช่เย็นไว้แล้ว ส่วนพี่หวีก็ถือกระติกที่ภายในบรรจุน้ำแข็งมาจำนวนหนึ่ง ป้าแจ่มเสริมว่าจีรัชญ์ย้ำเสมอเรื่องอาหารการกิน หากตนได้ทานอะไร คนที่มาช่วยงานก็ต้องได้ทานเช่นนั้น ไม่มีการแบ่งชนชั้นใครคือนายใครคือบ่าว ท้ายสุดทุกคนก็มีชีวิตและจิตใจไม่ต่างกัน

“เดี๋ยวผมยกไปให้เองครับ รบกวนป้าแจ่มกับพี่หวีไปช่วยมิ้งขนของเธอครับ รายนั้นซื้อของมาเยอะมาก” ณิชพูดก่อนจะรับของเหล่านั้นมาถือไว้เอง กระติกน้ำแข็งที่มีน้ำหนักไม่น้อยถูกคล้องไว้ที่แขน ถาดแก้วและขวดน้ำมะตูมก็อยู่บนถาดที่ถือด้วยมือสั่นๆ แต่เขาก็ยังยืนยันจะเอาไปให้จีรัชญ์เองให้ได้

“คุณจีรัชญ์ครับ ผมเอาน้ำมะตูมมาให้” หนุ่มกรุงเรียกอีกฝ่ายก่อนจะรีบวางของทั้งหมดลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นลีลาวดี สะบัดอาการปวดแขนที่เกร็งมาตั้งแต่หน้ามุขคฤหาสน์จนถึงขอบรั้วกำแพงสูง

ชายหนุ่มเจ้าของชื่อที่โดนเรียกหันมามอง ใบหน้าคมเข้มเต็มไปด้วยเหงื่อ แต่เจ้าตัวกลับยกแขนขึ้นซับลวกๆ พอให้ไม่เข้าตาก็เท่านั้น ก่อนจะเดินมาหาณิชที่รินน้ำใส่แก้วยื่นให้ตน

“ป้าแจ่มบอกคุณเข้าในเมืองไปซื้อของ ได้ของครบไหม” คนถามถามพลางรับน้ำมะตูมมาดื่ม รสชาติหวานอ่อนๆ และกลิ่นเฉพาะตัว ทำให้รู้สึกคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานพอได้บ้าง

“ผมไม่ค่อยได้ซื้อหรอกครับ ส่วนใหญ่เป็นมิ้งมากกว่า” ณิชตอบก่อนจะมองสำรวจพื้นที่โดนรอบ ซึ่งตอนนี้คนงานยังคงทำหน้าที่ต่อไป

“คุณจะทำอะไรเหรอครับ ขุดทำไม”

“ว่าจะลงต้นแก้วสักหน่อย”

“ผมชอบดอกไม้หอม ชอบมาก โดยเฉพาะดอกพุดน้ำบุษย์” ณิชโพล่งกลับไปทันทีแล้วรอดูปฏิกิริยาของอีกฝ่าย แต่ดูเหมือนจีรัชญ์จะเก็บอาการเก่งเสียเหลือเกิน นอกจากจะทำทีเป็นดื่มน้ำจนหมดแก้วแล้ว ยังหันไปคุยกับนายพลีไม่สนใจเขาอีก

เหงื่อเม็ดเป้งผุดซึมตามกรอบหน้า เพราะอากาศร้อนและมาจากการออกแรง ทำให้ณิชเลือกจะซับหน้าให้อีกฝ่ายด้วยผ้าเช็ดหน้าของตน เขาทำเพราะใจอยากทำ และคิดว่าหากเป็นตัวเองในอดีตก็คงทำแบบนี้เช่นเดียวกัน

แต่จีรัชญ์ที่หันกลับมาเห็นว่าณิชกำลังจะทำอะไร เขากลับจับข้อมืออีกฝ่ายไว้มั่น จ้องมองนัยน์ตาสวยที่กำลังมองเขาและเต็มไปด้วยความใน ตั้งแต่ณิชฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหลที่ยาวนาน ท่าทีของอีกฝ่ายก็เปลี่ยนไป ณิชดูพยายามเข้าหาเขามากขึ้น อาจเพราะอยากรู้เรื่องราวของหาญ หรือไม่ก็เพราะเห็นว่าอยากทดแทนบุญคุณที่เขาเคยช่วยอีกฝ่ายไว้ก็เป็นได้

ความใกล้ชิดที่ณิชพยายามลดระยะห่างระหว่างเขาสองคนทำให้เขาหวั่นใจ กลัวเหลือเกินว่าตนเองจะเผลอใจไปรักอีกฝ่ายเข้าอีกครั้ง เพราะมันคือสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในชาตินี้ แม้บ่วงชะตาที่ผูกพันกันมาแต่ชาติปางก่อนโน้น จะทำให้ต้องมาวนเวียนประสบพบเจอกันทุกครั้งไป แต่ชาตินี้เขาขอทรมานด้วยใจที่ตัดขาด อยู่ไปกับวันเวลาที่หาจุดสิ้นสุดนี้ไม่ได้ด้วยใจที่ไร้รักยังดีเสียกว่า

“จะทำอะไร”

“ผมจะซับเหงื่อให้ รู้ไหมว่าสภาพคุณตอนนี้เป็นยังไง เหงื่อทั้งตัวทั้งหน้าแล้ว”

“ไม่เป็นไร ผมไม่ต้องการ”

คำพูดปฏิเสธที่จะรับน้ำใจจากอีกฝ่ายทำณิชถึงกับหน้าชา ใบหน้าที่เคยแต้มไปด้วยรอยยิ้มสวยสลดลงด้วยความใจเสีย หาญไม่ให้อภัยในสิ่งที่เขาเคยทำไว้เมื่อชาติที่แล้วหรือยังไง ทำไมถึงได้เฉยเมยใส่กันได้ ทำราวกับแค่คนร่วมงานกันเพียงเท่านั้น

เขารู้สึกได้ว่ากำแพงที่จีรัชญ์สร้างขึ้นมาหนามาก และถ้าหากเขายังหยั่งเชิงอยู่อย่างนี้ เห็นทีคงจะไปไม่ถึงไหน นอกจากจะช่วยกันให้หลุดพ้นคำสาปไม่ได้แล้ว จะยิ่งห่างเหินกันไปใหญ่

“เย็นนี้คุณว่างไหม ผมมีเรื่องจะคุยด้วย” ณิชตัดสินใจที่จะบอกความจริงวันนี้ คงไม่เก็บไว้อีกต่อไปแล้ว

“ไม่ว่าง” จีรัชญ์ตอบเสียงห้วน ไม่หันมองอีกฝ่ายสักนิด

“งั้นคืนนี้”

“ไม่”

“คุณจีรัชญ์ ถ้าคุณยังหลบผมอยู่อย่างนี้ ผมจะขโมยกุญแจจากคุณอีก เพื่อหาสมุดและจดหมายที่ตอนนี้คุณเอาไปซ่อนอีกครั้ง ต้องพลิกวังปริพัตรหาผมก็จะทำ ต่อให้คุณโกรธหรือเกลียด หรือจะไล่ผมออกจากที่นี่ผมก็จะไม่ไป เพราะสมุดเล่มนั้นคือของผมไม่ใช่ของคุณ!”

ณิชพูดอย่างเหลืออด ข้อมือที่เคยถูกกำไว้ถูกอีกฝ่ายปล่อยทิ้งราวกับข้อมือเขาคือของร้อน เขากำหมัดด้วยความโกรธและน้อยใจก่อนจะเดินหนี ไม่สนใจจีรัชญ์อีกเลย

สีหน้าจีรัชญ์เมื่อได้ฟังคำพูดณิชจบก็อึ้งไปไม่น้อย แต่เพราะความนิ่งขรึมทำให้ไม่มีใครจับสังเกตได้ว่าคนทั้งสองมีปากเสียงกัน นายพลีหันมาเรียกเจ้านายให้ไปตรวจงาน จีรัชญ์จึงปัดเรื่องณิชออกไปก่อน แม้ในใจตอนนี้จะเรียกหาไอ้มั่นเสียงแข็งก็ตาม

‘ไอ้มั่น! คุณณิชมองเห็นมึงแล้วใช่ไหม’

ดวงวิญญาณของบ่าวผู้ซื่อสัตย์ที่กำลังนั่งดูมิ้งรื้อถุงเครื่องประทินโฉมอยู่สะดุ้งโหยง เมื่อได้ยินเสียงไอ้เกลอเรียกลั่นกระแทกกระแสจิต แต่มันกลับเงียบไม่ตอบ เพราะมันคือบ่าวของคุณปราณ เจ้านายสั่งอย่างไรไว้ก็ต้องทำตาม จะให้ปริปากเรื่องที่คุณปราณสั่งไว้หรือ นั่นคงเป็นสิ่งสุดท้ายที่มันจะทำ ได้แค่ลอบขอโทษไอ้เกลอในใจเพียงเท่านั้น

‘มึงเงียบใส่กูเช่นนี้หมายความว่าอะไร เขาเห็นมึงแล้วใช่ไหม’

ยิ่งไอ้มั่นไม่ตอบก็ทำให้จีรัชญ์เครียดหนัก กลายเป็นปล่อยให้นายพลีคุมคนงานที่จ้างมา ส่วนตนนั้นเดินเข้าคฤหาสน์เพื่อไปตามหาณิช จะได้คุยกันให้รู้เรื่อง แต่อีกฝ่ายกลับหายต๋อมไปขลุกอยู่ในครัวกับป้าแจ่ม จะเข้าไปขัดตอนนี้ก็คงแปลกไปหน่อย จึงเลือกจะเดินขึ้นห้องตัวเองไปอาบน้ำเสียก่อน ลงมาอีกทีก็ได้เวลามื้อเย็นแล้ว

หญิงสาวเพียงคนเดียวบนโต๊ะอาหารมองรุ่นพี่ของเธอสลับกับเจ้าของวัง บรรยากาศระหว่างคนทั้งสองมันแปลกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จีรัชญ์เงียบเป็นปกติแต่รู้สึกได้ถึงความกดดันที่แผ่ออกมาจากตัว ส่วนณิชเงียบจนผิดปกติ หน้าตาก็ติดไปทางบึ้งตึงและไม่เงยหน้าขึ้นจากจานข้าวเลยสักนิด

“ผมอิ่มแล้ว ขอตัว” ณิชยอมเสียมารยาทแม้อาหารในจานจะพร่องไปเพียงครึ่งก็ตาม รู้สึกทานอะไรไม่ลงเมื่อต้องมาร่วมโต๊ะกับคนที่ไม่คิดจะสนใจตนแบบนี้

“เอ่อ...พี่ณิช...” มิ้งเรียกเสียงเบา แต่อีกฝ่ายไม่ได้หันกลับมามองแล้ว เธอเหลือบมองจีรัชญ์ที่มองตามหลังคนที่จากไป จากนั้นไม่นานจีรัชญ์ก็ลุกตามไปอีกคน

‘เกิดอะไรขึ้นน่ะพี่มั่น’

‘คุณปราณโวยใส่ไอ้หาญเรื่องที่ไม่ยอมเข้าใกล้น่ะสิ คืนนี้ข้าว่าคงคุยกันยาว’

‘พี่ไปดูหน่อยสิ หนูอยากรู้ว่าเขาคุยกันว่ายังไงบ้าง’

‘ไม่เอา ข้าไม่ยุ่งเรื่องเจ้าเรื่องนาย’

‘วุ้ย! พี่มั่นนี่ซื่อจริง’

มิ้งถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะตักข้าวเข้าปากคำโต ตอนนี้ทั้งโต๊ะอาหารมีแค่เธอเพียงคนเดียวที่ยังทานอยู่ ป้าแจ่มก็ยังไม่เข้ามาเพราะยังไม่ถึงเวลาเก็บโต๊ะ เธอจึงแอบตักอาหารและวิ่งไปหยิบธูปในห้องพระมาจุดให้ไอ้มั่นได้กินเป็นเพื่อนเธอ

วิญญาณของไอ้บ่าวตัวดำตักข้าวเข้าปาก แม้จะไม่ได้รับรู้รสชาติเต็มๆ อย่างตอนมีชีวิต แต่ก็ทำให้มันมีเพื่อนนั่งเล่าเรื่องราวชีวิตของคนสมัยนี้ฟังแก้เบื่อ โดยหารู้ไม่ว่าชั้นบนนั้นกำลังเกิดอารมณ์มาคุระหว่างคนสองคน

“คุณณิช เดี๋ยวก่อน” จีรัญ์รีบเข้าไปคว้าแขนอีกฝ่ายไว้ก่อนเจ้าตัวจะเดินเข้าห้องตัวเองไป ณิชหันมามองด้วยสายตาโกรธๆ ก่อนจะมองเมินไปอื่นเสีย

“คุณรู้เรื่องผมแล้วทำไมไม่บอก”

“เพราะผมอยากรู้ว่าคุณจะทำยังไงกับสิ่งที่ตัวเองต้องเจอ แต่นอกจากคุณจะไม่ยุ่งกับผมแล้ว ยังทำตัวห่างเหินราวผมเป็นคนอื่น” พูดมาถึงตรงนี้ความน้อยใจที่สะสมมาตั้งแต่บ่ายก็เอ่อล้นเกือบเป็นน้ำตา เขาจึงกะพริบตาถี่ๆ ไล่มันไป

เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน จากที่ไม่ใช่คนขี้แย แต่พอมารู้เรื่องราวอดีตของตัวเองและผู้ชายคนหนึ่งที่รอเขามาเป็นร้อยปื ความอ่อนแอก็มีมาเรื่อยๆ ราวกับไม่ใช่ตัวเอง จากที่เคยเป็นผู้ชายธรรมดาๆ ก็รู้สึกตัวเล็กขึ้นมาจนอยากให้อีกฝ่ายปกป้อง

จีรัชญ์ดึงณิชให้มาที่ห้องนอนของเขา ปิดประตูลงกลอนให้เรียบร้อยเพื่อจะได้แน่ใจว่าจะไม่มีใครแอบฟัง มองไปรอบห้องไม่เจอไอ้เพื่อนเกลอ เขาก็วางใจในการรู้ความของมันว่าไม่ควรเข้ามายุ่งในเวลานี้

“คุณรู้แค่ไหน รู้มากแค่ไหนคุณณิชบอกผมมาให้หมด” ใจคนถามเต้นรัวอยู่ในอกเพราะลุ้นกับคำตอบ ณิชเก็บงำเรื่องนี้ไม่บอกเขามานานแค่ไหน ตั้งแต่วันที่ฟื้นเลยหรือเปล่า

“รู้ว่าคุณอยู่อย่างทรมานเพราะคำสาปที่พ่อผมเป็นคนแช่งไว้ ผม...”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ก้อนความเสียใจก็จุกตื้อที่ลำคอจนพูดไม่ออก ยิ่งมองใบหน้าอีกฝ่ายใกล้ๆ ก็ยิ่งเสียใจที่เขาเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด แม้ไอ้หาญจะเปลี่ยนไปจากเดิมตามยุคตามสมัย แต่นัยตาซื่อก็ยังคงเป็นแววตาคู่เดิมที่มองเขาไม่เคยเปลี่ยน

“ฮึก...” แล้วมันก็สุดทนจนณิชต้องโผเข้ากอดอีกฝ่ายเต็มรัก ปล่อยเสียงร้องไห้โฮกับอกกว้างที่รองรับเขาไว้ไม่ถอยห่างอีกต่อไป ยิ่งเสียใจมากเท่าไหร่ คนตัวเล็กกว่าก็ยิ่งกอดรัดอีกฝ่ายไว้แน่นมากขึ้นเท่านั้น

จีรัชญ์ลมหายใจสะดุด เสียงสะอื้นของณิชฟังดูน่าสงสารจับใจ มันร้าวรานทรมานจนเขาเองก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นหลังจากณิชตื่นจากฝันร้าย หรือละเมอหาไอ้หาญคนในฝันอีกแล้ว แรงกอดกระชับที่เขาได้รับ มันทำให้รู้สึกว่าคนคนนี้กอดราวกับกลัวว่าเขาจะหายไปในนาทีใดนาทีหนึ่ง หากถามว่าชาตินี้เขามีความสุขมากที่สุดตอนไหน คงตอบได้ว่าตอนนี้ และเขาอยากหยุดนาทีนี้ไว้ให้นานที่สุด เพราะหลังจากนี้ไม่รู้ว่าเขาจะได้เจอความสุขเช่นนี้อีกไหม

อ้อมกอดที่โหยหามานานแสนนาน ห้วงเวลาที่แสนทรมานราวชั่วกัปชั่วกัลป์ ทำให้จีรัชญ์เผลอกอดตอบอีกฝ่ายไป น้ำตาของมันไหลเป็นสายเงียบๆ ไปพร้อมกับเสียงสะอื้นของยอดดวงใจ

“หะ...หาญ ผมขอโทษ ขอโทษจริงๆ อึก...ฮือ” ณิชพยายามหาช่องว่างระหว่างเสียงสะอื้นของตัวเองเพื่อตั้งสติ จะได้พูดกับอีกฝ่ายให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่มันก็ยากเหลือเกินเมื่อเขาห้ามร่างกายตัวเองไม่ได้ สะอึกสะอื้นราวเด็กน้อยจนจีรัชญ์ลอบยิ้มขำทั้งน้ำตา

ใบหน้าของชายหนุ่มที่มีเสี้ยวความหวานก้มงุดติดอก บี้ไปมาเหมือนออดอ้อน จีรัชญ์ลอบเช็ดน้ำตาของตัวเองก่อนจะลูบกลุ่มผมนุ่ม ใจหนึ่งก็ดีใจที่ได้ยินอีกฝ่ายเรียกชื่อตนอีกครั้งในวันที่จำเรื่องราวในอดีตได้ แต่อีกใจก็ปวดหนึบเพราะสิ่งที่ณิชรู้คงมีเพียงเสี้ยวของเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมด

จีรัชญ์ปล่อยให้ณิชร้องไห้กับอกตนจนเสื้อเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา ก่อนณิชจะยอมผละออกทำให้เห็นปลายจมูกแดงจัด และดวงตาที่แดงก่ำพร้อมแพขนตาที่ยังมีหยาดน้ำตาเกาะ ท่าทางน่าเอ็นดูจนเขาอดใจไม่ไหวต้องเช็ดคราบน้ำตาให้

“ผมใจร้ายกับคุณมากเลย ผมขอโทษจริงๆ” ณิชพูดไปปากก็เริ่มเบะ เพราะพอเริ่มพูดน้ำตาก็พาลจะไหลอยู่ร่ำไป

“ผมไม่โกรธ ไม่เคยโกรธคุณเลย”

คนที่ยอมโน้มกายลงมาเพื่อให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกัน ทำให้ณิชมองหน้าอีกฝ่ายไม่ละสายตา ความอบอุ่นของหาญในความฝันเขาได้สัมผัสมันจริงๆ แล้วในวันนี้ จากที่คิดเคืองน้อยใจก่อนหน้านี้หายเป็นปลิดทิ้ง เพราะไม่ว่ายังไงเขาก็คือคนผิดอยู่ดี หากจีรัชญ์จะระวังตัวก็ไม่แปลกหรอก ยิ่งถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมเข้าใกล้ เขาก็ต้องรุกเข้าหา ไม่ว่าอย่างไรในชาตินี้หาญจะต้องถูกปลดปล่อยจากคำสาปนี้

เจ้าของห้องขอตัวเข้าไปเปลี่ยนเสื้อ เนื่องจากเสื้อเลอะไปด้วยน้ำตาและน้ำมูกของเขาเต็มไปหมด น่าอายเหมือนกันแต่จะทำอย่างไรได้เมื่อมันห้ามตัวเองไม่ได้ เขาแอบเดินตามไปที่ห้องแต่งตัว แผ่นหลังกว้างที่เต็มไปด้วยบาดแผลจากการถูกเฆี่ยนตี คาดว่ามาจากครั้งหลังสุดที่โดนจับขังในกระท่อม มันยังคงเห็นชัดเจนราวกับรอยเพิ่งเกิดได้ไม่นาน

ณิชแอบย่องเข้าไปใกล้ขณะที่จีรัชญ์กำลังยืนเลือกเสื้ออยู่ ภายในห้องแต่งตัวจัดวางเป็นระเบียบและมีกลิ่นสะอาด เขาเดินเข้าไปใกล้แผ่นหลังกว้างมากยิ่งขึ้น ความทรงจำที่ได้รู้ความจริงมาไหลพรั่งพรูเข้าหัวราวกับฉายหนังซ้ำ ก่อนมือเรียวจะแตะไปบนผิวขรุขระตามรอยแผลที่เคยเห็นมาก่อนหน้านี้แล้ว และโอบกอดอีกฝ่ายจากทางด้านหลังไว้

จีรัชญ์ยืนนิ่ง เขารับรู้นานแล้วว่าณิชเข้ามาในห้อง แต่ที่ไม่สนใจเพราะคิดว่าอีกฝ่ายก็คงเข้ามาล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ แต่ผิดจากที่คิดไว้อยู่มากโข อ้อมกอดที่อีกฝ่ายมอบให้พร้อมแรงจูบซับแผ่วเบาตามรอยแผลทำใจเขาเต้นอย่างหนักหน่วง หากยังเป็นแบบนี้ต่อให้เขาหักห้ามจิตอย่างไร โชคชะตาที่ถูกกำหนดมาแล้วก็คงฝืนไม่ได้อย่างที่ไอ้มั่นเคยพูดไว้





โปรดติดตามส่วนต่อไป

ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
ใจร้ายๆ :ling1: ค้างตัดจบแบบนี้ใจจะขาด

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
สิ่งที่ณิชรู้จากชาติแรก เป็นแค่ส่วนหนึ่งเองหรอ หาญเจออะไรมาอีกบ้างก่อนจะเจอณิชชาตินี้

รออ่านตอนต่อไปครับ

ชอบมั่นอะ

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ตัดชับเลย เอายังไงต่อดีหาญ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ mister

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
    • https://www.facebook.com/JJSonkFanclub

ออฟไลน์ nakahiro

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ค้างมากกค่ะ อีกชาติภพนึงเกี่ยวกับคนที่วาดรูปภาพนั้นใช่มั้ยน้า รอๆๆๆๆ ค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Slotala

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
ุวุ้ยมีความเขิน  :o8: ในความอึมครึม ณิชรุกเลย อย่าช้า อะไรๆมันจะได้ดีขึ้นในเร็ววัน  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ :นางสาวผอบ:

  • ความเคลื่อนไหวในเงามืด
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +649/-4
บทที่ ๑๕ (ครึ่งหลัง)


“อย่า...”

“ชู่ว... อย่าห้ามไม่ให้ผมทำในสิ่งที่ควรทำให้คุณตั้งนานแล้วเลย”

ณิชกระซิบบอก เขาอยากปลอบประโลมความเจ็บปวดทั้งกายและใจของหาญ แม้รอยจูบที่ทิ้งไว้จะลบเลือนความทรงจำที่เลวร้ายไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็อยากให้จีรัชญ์ได้รับรู้ว่าเขาจะไม่ยอมแพ้เช่นกัน ในชาตินี้เขาสองคนต้องพิสูจน์ว่าโชคชะตานำพาเขาสองคนให้มาเจอกัน และความรักที่เคยมีนั้น มันมั่นคงแข็งแกร่งกว่าคำสาปคำแช่งใด

“คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลยคุณณิช”

จีรัชญ์จับมือที่กำลังเลื่อนขึ้นมาลูบไล้หน้าท้อง ซึ่งมันเต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขาออก แต่ณิชกลับยื้อมือไว้และยังคงกอดเขาไม่ปล่อย พรมจูบไปทั่วบาดแผลที่ทิ้งไว้เพียงรอยนูน

หัวใจที่เคยคิดปิดตาย เก็บทุกอย่างกดทับไว้จนใจด้านชาเริ่มหวั่นไหวอีกครั้ง เสียงร้องห้ามในจิตใจดังผะแผ่วราวเสียงจูบของอีกฝ่ายที่มอบให้เขา ตั้งแต่วันนั้นวันที่เขาเจ็บปวดเจียนตายอีกครั้ง เขาปฏิญาณกับตัวเองไว้ว่าจะไม่ขอมีรักกับชายคนนี้อีก ต่อให้อยากรักมากเท่าไหร่ โหยหามากแค่ไหน ก็ขอให้หยุดทุกอย่างไว้แต่เพียงเท่านั้น อย่าได้มีข้อผูกพันสิ่งใดต่อกันอีกเลย

น้ำตาเม็ดโตหยดลงบนมือเรียวสวย ณิชชะงักไปก่อนจะจับตัวอีกฝ่ายให้หันมามองตน จีรัชญ์กำลังร้องไห้แบบไร้เสียงสะอื้น ดวงตาคมสวยที่เศร้าสร้อยทอดมองเขาด้วยความอาลัย แต่มันก็แฝงไปด้วยความเย็นชา

“หากคุณรู้เรื่องราวทั้งหมดคุณจะเข้าใจ ว่าคำสาปที่พ่อคุณให้ไว้มันไม่มีทางทำให้ผมหลุดพ้นได้ ต่อให้เราพยายามมากแค่ไหน ท้ายสุดเราก็ต้องจากกัน” จีรัชญ์พูดด้วยเสียงสั่นเครือ

ผู้ชายตัวโตตรงหน้าณิชตอนนี้ ดูอ่อนแอราวไม้ที่กำลังจะล้ม เขายกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้อีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นจูบที่แก้มสากทั้งสองข้าง

“ผมไม่รู้ว่าที่ผ่านมาคุณเจออะไรมาบ้าง แต่ผมในชาตินี้ไม่ใช่ปราณคนอ่อนแอและขี้ขลาดคนนั้น ที่จะทิ้งคุณให้อยู่เพียงลำพังอีกแล้ว” ณิชบอก ก่อนจะนึกคำพูดอะไรขึ้นมาได้แล้วพูดต่อ เพื่อให้อีกฝ่ายใจอ่อนกับตนเสียที

“คุณจำคำที่ผมเคยบอกได้ไหม ข้ามิได้อยากได้อันใดจากเอ็งเลย ขอเพียงเราสองคนรักกันแบบนี้ต่อไปก็พอแล้ว หรือไม่...หากชาติหน้าฉันใดได้พบเจอกัน ก็ขอให้ได้ครองรักกันแบบไม่ต้องปิดบังเช่นชาตินี้เท่านั้นพอ และผมก็ต้องการให้เป็นแบบนั้นจริงๆ ขอแค่เราได้รักกัน ได้มีเวลาร่วมกัน ฝ่าฟันทุกอย่างไปด้วยกันอีกครั้ง...ได้ไหมครับ”

ดวงตาเรียวสวยจ้องมองลึกเข้าไปในตาคมเพื่อสื่อถึงความต้องการ และความรู้สึกจากอดีตชาติที่ส่งต่อมาจนถึงปัจจุบันหลังจากจำความได้ทั้งหมด หัวใจที่ไม่เคยรักใครดวงนี้มันกำลังเรียกหาเจ้าของเดิมที่เขาเคยยกให้เมื่อนานมาแล้ว เมื่อเจอกันอีกครั้งเขาก็อยากให้อีกฝ่ายดูแลหัวใจของเขาเช่นเดิม

หวังเพียงเสี้ยวว่าคำพูดเขาจะทลายกำแพงหนาที่ไอ้หาญสร้างขึ้นมาได้บ้าง แต่ถึงแม้จะไม่สำเร็จเขาก็จะพยายามต่อไป ณิชกอดจีรัชญ์ไว้โดยอีกฝ่ายไม่มีท่าทีขัดขืนใดๆ เขาโยกตัวเบาๆ ราวปลอบเด็กน้อยที่กำลังเสียขวัญ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเมื่อรู้สึกได้ว่าจีรัชญ์กอดตอบตนเช่นกัน

ใบหน้าคมสันของไอ้บ่าวซื่อค่อยๆ โน้มเข้าหา ใจที่คิดหักห้ามหรือจะสู้ความโหยหาในรักนี้ได้ ยิ่งคนตรงหน้ามามอบอ้อมกอดนี้ให้ พร้อมถ้อยคำหวานที่เคยพร่ำบอกตนเมื่อครั้งกาลก่อน สติที่เคยยั้งคิดไว้ก็ขาดสะบั้นลง วินาทีเดียวกับกลีบปากอุ่นของคนทั้งสองแตะกัน จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นแรงปรารถนาที่แสนหนักหน่วง

ร่างกายที่บอบบางกว่าถูกโอบยกขึ้นตัวลอย ขาเรียวเกี่ยวกระชับเข้าเอวสอบทันควันเมื่อโดนอุ้ม ริมฝีปากที่ปิดประกบไม่ห่างดูดดึงเข้าหากันตามแรงปรารถนาที่เอ่อล้นอก ความวาบหวามที่ต่างฝ่ายต่างโหยหาปรนเปรอให้กันไม่รู้จบ

ณิชมารู้สึกตัวอีกครั้งก็เมื่อแผ่นหลังสัมผัสกับที่นอน ก่อนที่ริมฝีปากของคนด้านบนจะผละออก เขาทำท่าจะต่อว่าแต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไรเขาจึงยิ้มให้ แม้จะเขินอายอยู่ไม่น้อย แต่เมื่อคิดว่าผู้ชายคนนี้คือเจ้าของตนมาตั้งแต่แรก จึงปัดทิ้งความอายนั้นไปให้หมด ถอดเสื้อผ้าและกางเกงที่สวมอยู่ออกจนเปลือยเปล่าตามๆ กัน

หุ่นกำยำล่ำสัน ผิวกายที่ไม่ได้หยาบกร้านเหมือนอย่างตอนเป็นทาส เพราะผ่านการดูแลบำรุงช่างลื่นมือ อกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามโดนณิชลูบไล้อย่างเผลอไผล บนกายของคนตัวใหญ่ไม่มีเนื้อส่วนเกินใดให้ได้ระคายตา ส่วนร่างบางของคนใต้ร่างก็ขาวผ่องสะอาดตาดูน่ามอง

ราวกับภาพฝัน ฝันที่เขาวาดเอาไว้ว่าสักวันจะได้กกกอดร่างบางนี้อีกครั้ง แต่มันเพียงแค่ความฝันที่เขาเก็บงำไว้ลึกสุดใจ ไม่อยากแม้แต่จะนึกถึง แต่บัดนี้นิ้วเขากำลังไล้ไปตามเนื้อตัวของณิช คนที่เป็นคุณปราณในชาตินี้ และอีกฝ่ายก็ยินดีมอบกายให้เขาอย่างไม่นึกรังเกียจกัน

ณิชรั้งคอคนบนร่างลงมาประกบจูบอีกครั้ง จูบให้หายคิดถึง จุมพิตที่ดูดดื่มนี้ตอกย้ำว่าเขายินยอมให้จีรัชญ์ทำอะไรๆ ตนได้ตามใจต้องการ มือเรียวลูบสะกิดยอดอกของไอ้บ่าวซื่อจนเจ้าของร่างสะดุ้ง ก่อนณิชจะโดนเอาคืนเป็นแรงจูบที่หนักหน่วง อีกทั้งรอยขบกัดตามเนื้อตัวขาว

“อื้ม...อ๊ะ...”

เสียงครางผะแผ่ว ดังคลอเสียงหอบกระเส่าของคนที่กำลังทำหน้าที่เล้าโลม เพื่อเตรียมพร้อมให้ณิชได้รองรับตัวตนของคนด้านบนต่อจากนี้ ความกำหนัดที่สุมในกายมานานกำลังจะถูกสนอง ใจของจีรัชญ์เต้นรัวในอกด้วยความตื่นเต้น กลบความคิดที่ไม่อยากเข้าใกล้ร่างนี้ไปจนหมดสิ้น

อกจีรัชญ์แทบระเบิดยามเห็นช่วงล่างของณิชที่กำลังโดนเขาสอดนิ้วเข้าใส่บิดเร่าๆ แก่นกายสมส่วนกำลังกระตุกน้ำหวานเยิ้มจากส่วนปลาย สื่อให้รู้ว่าเจ้าตัวกำลังเสียวซ่านได้ที เขาก้มลงใช้น้ำลายเสริมความหล่อลื่นอีกเล็กน้อย ก่อนจะเพิ่มนิ้วเข้าไปอีกหนึ่งจนณิชครางเบาๆ จากนั้นขาเรียวก็อ้าออกกว้างเพื่อรอรับเอวสอบ ที่กำลังจ่ออาวุธแท่งเขื่องตรงปากทางเข้า

สายตาหวานเยิ้มมองจีรัชญ์จนชายหนุ่มอดใจไม่ไหว ก้มลงไปจูบฟัดแก้มฟัดคออีกสักทีสองทีจนหนำใจ จากนั้นก็ค่อยๆ สอดใส่กายส่วนล่างที่พร้อมรบ เข้าไปในช่องทางรักที่จีบปิดสนิทแต่กลับเยิ้มไปด้วยน้ำลายของเขา

“อ๊ะ!! เจ็บ!”

“จะให้หยุดไหม” เพราะยอดดวงใจของมันเจ็บ มีหรือไอ้หาญจะไม่หยุดการกระทำ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด มันก็พร้อมจะอ่อนโยนกับอีกฝ่ายเสมอ

“ไม่ ทำต่อเลย” ณิชกัดฟันบอก

“คุณจะเจ็บมากกว่านี้เพราะมันต้องใส่ทั้งหมด” จีรัชญ์จับหน้าอีกฝ่ายให้มองกันตรงๆ น้ำเสียงอ่อนโยนจนณิชยิ้มเขิน เขาจึงจูบฝ่ามือใหญ่ข้างที่ประคองใบหน้าตนอยู่

“ทำต่อเถิดหาญ อย่าได้เป็นห่วงข้าเลย ข้าอยากให้เอ็งเข้ามา...อ๊ะ!!!”

ร้องแทบสุดเสียงเมื่อส่วนแข็งขืนสอดผ่านความฝืดเคืองเข้ามาเต็มลำ แม้น้ำลายที่จีรัชญ์ถ่มไว้จะบรรเทาได้บ้าง แต่ความเสียดเสียวก็ไม่คลายเลย ณิชมองคนที่กล้าทำเขาทีเดียวด้วยสายตาไม่พอใจนัก แต่มีหรือที่จีรัชญ์จะสน เขาเพียงยิ้มมุมปากแล้วก้มลงกระซิบใกล้ๆ

“อย่าคิดใช้คำเหล่านั้นอีกเลยขอรับ เพราะถ้าบ่าวได้ยินอีกคงทำคุณปราณเดินขาถ่างทั้งวันเป็นแน่”

คำพูดหยาบโลนจากคนที่มาจากอดีตจริงๆ พูดให้ฟัง ทำคนฟังได้ยินถึงกับหน้าร้อนผ่าว เพราะไม่คิดว่าคนอย่างจีรัชญ์จะกล้าพูด ไม่ว่าจะในด้านที่เป็นหาญหรือด้านที่เป็นจีรัชญ์เอง เขาก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพูดเช่นนี้ได้ ยิ่งสายตาที่ไม่ปิดบังความต้องการ และส่วนนั้นที่อุ่นกระตุกอยู่ภายในตัวเขา ยิ่งทำให้เขินจนหน้าร้อนฉ่า ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาคงเปลี่ยนไอ้บ่าวสื่อเป็นเสือป่าไปซะแล้ว คงไม่มีแล้วคนที่เขินอายยามโดนโอ้โลมก่อน

“ซี้ด...แน่น...”

จีรัชญ์พึมพำเบาๆ เอวสอบเริ่มขยับเมื่อเริ่มทนไม่ไหว ณิชกัดฟันทน แม้เจ็บแต่ใจก็สุขสม นี่เป็นครั้งแรกของการมีสัมพันธ์ทางกายกับผู้ชายที่เป็นคนรักเมื่อชาติก่อน เขาไม่รู้ว่าตอนแรกเขากล้าเริ่มเข้าถึงตัวจีรัชญ์แบบนั้นได้อย่างไร แต่เมื่อมาถึงจุดนี้แล้วเขาก็ไม่คิดถอยอีก

ส่วนกลางกายของเขาที่ตอนแรกชูชัน ก่อนจะหมดกำลังคอตกเพราะความเจ็บ ตอนนี้กำลังอยู่ในอุ้งมือของจีรัชญ์ที่กอบกุมไว้เพื่อรูดรั้งไปตามจังหวะการสอดใส่ แรงกระแทกกระทั้นกายที่รัวเร็วและดุดันของชายหนุ่มทำเตียงสี่เสาไหวโยก ม่านที่ถูกมัดหลวมๆ ติดไว้กับเสาทั้งสี่ค่อยๆ หลุดออก ก่อนผ้าม่านจะคลี่ออกคลุมเตียง 4 ด้าน

ณิชสะดุ้งเฮือกยามโดนตอกกระแทกโดนจุดเสียวกระสัน ภาพบางอย่างซ้อนทับราวกับว่าเขาเคยทำแบบนี้มาก่อน เป็นภาพย้อนอดีตที่เป็นเขากับจีรัชญ์มีสัมพันธ์กันในบรรยากาศแบบนี้ มันเป็นเพียงภาพที่แวบเข้ามาในหัวก่อนจะมลายหายไป เขาพยายามนึกว่าตัวเองเคยมีอะไรกับหาญในห้องแบบนี้หรือไม่ แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก

“อ่า...ซี้ด”

จีรัชญ์คำรามในลำคอยามช่องทางรักของณิชตอดเขาถี่ๆ เป็นสัญญาณว่าอีกฝ่ายกำลังจะถึงฝั่งฝัน เขาจึงโยกเอวดึงจังหวะให้ช้าลง เพราะยังไม่อยากโดนแรงตอดรัดเร่งให้ปลดปล่อยในตอนนี้ ยังอยากสนุกกับร่างกายของณิชต่อ เพราะระยะเวลาที่เขารอคอยตั้งแต่ได้เจออีกฝ่ายครั้งล่าสุดก็ร่วม 40 ปีมาแล้ว

“คุ...คุณจีรัชญ์ อย่าแกล้งผมแบบนี้ อื้อ...”

จีรัชญ์ไม่สนใจ ยิ่งเห็นอีกฝ่ายดิ้นเร่าๆ ยิ่งอยากแกล้ง ณิชปรือตามองคนใจร้ายที่กล้าดึงจังหวะไม่กระแทกกายดุดันอย่างก่อนหน้านี้

“อ้ะ...หะ...หาญ...อย่าใจร้ายนักเลย” ณิชร้องขอเสียงอ่อนระโหย ทำเอาเลือดในกายจีรัชญ์สูบฉีด เขาบอกแล้วว่าอย่าได้พูดแบบนี้อีก เพราะมันจะยิ่งทำให้เขามีอารมณ์มากยิ่งขึ้น

เสียงเตียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดและกระทบกับฝาผนังเสียงดังลั่น ร่างกายใหญ่โตคร่อมตัวณิชไว้เสียมิด เพื่อส่งแรงที่เอวสอบตอกเข้าหาช่องทางรักไม่คิดถนอมอีก สันกรามชายหนุ่มนูนเด่นเพราะถูกเจ้าตัวขบกัดด้วยความกำหนัด ก่อนณิชจะเกร็งไปทั้งตัวและสาวรูดส่วนนั้นของตนเองเพื่อปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมาจากกาย

“อ๊ะ...อ๊ะ...อ่ะ...ซี้ด...อื้อ”

เพราะเสียงครางที่กระตุ้นเร้าอารมณ์จากปากสวยทำให้จีรัชญ์อดที่จะก้มลงไปจูบไม่ได้ เขาขบเม้มจนกลีบปากนิ่มบวมเจ่อ ก่อนที่ท้ายสุดก็ทนแรงตอดรัดของณิชไม่ไหว ปลดปล่อยออกมาเต็มช่องทางรัก จนมันเอ่อล้นตามออกมายามเขาถอนกายออก

ผิวเข้มมีเหงื่อผุดซึมเพราะความร้อนรุ่มในกาย บวกกับภายในห้องไม่มีแอร์ทำให้กิจกรรมที่ทำอยู่ทำคนทั้งคู่เหงื่อโทรมกาย คราบน้ำรักต่างๆ เลอะเปรอะเปื้อนไปทั่ว ทั้งผ้าปูที่นอนและเนื้อตัว ณิชนอนหอบหายใจรู้สึกจุกเสียดที่ช่องทางด้านหลัง ตอนแรกก็สุขสมดีแต่มาตอนนี้กลับรู้สึกเสียดๆ จนลุกไม่ไหว

จีรัชญ์เห็นอีกฝ่ายยังนอนนิ่งจึงอุ้มไปเข้าห้องน้ำ ณิชได้รับคำตอบทันทีว่าตอนที่ตนเป็นลมหน้าห้องจีรัชญ์นั้น อีกฝ่ายอุ้มเขามาได้อย่างไร ก็จีรัชญ์ทำกับเขาราวกับเขาคือปุยนุ่นที่เบาหวิว

เมื่อพาเข้ามาในห้องน้ำได้ก็วางลงในอ่าง เปิดน้ำให้ได้ล้างเนื้อล้างตัว พวกเขาเปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่ ณิชรู้สึกกระดากอายเล็กน้อยเมื่อหันไปเห็นของจีรัชญ์ในสายตาพอดี เพราะอีกฝ่ายยืนอยู่นอกอ่างคอยส่งอุปกรณ์อาบน้ำให้เขาใช้ ตอนนี้แม้จะไม่ขึ้นเต็มลำแต่มันก็ไม่ได้หดลงจนเหี่ยวแฟบ ขนาดเช่นนี้เองที่เข้าไปอยู่ในตัวเขา ตอนเห็นในฝันก็ไม่ได้มองให้ถนัดด้วย

“ผมคงทำให้คุณอีกไม่ได้ คุณจะเจ็บมากกว่านี้”

“ผมยังไม่ได้คิดอะไรเลย” ณิชรีบพูดก่อนจะหลบสายตา แต่พอหันกลับไปก็เห็นว่าจีรัชญ์มองอยู่ ฝ่ายนั้นส่ายหน้าเบาๆ ราวไม่เชื่อ

“สายตาคุณมันฟ้อง” จีรัชญ์ใช้นิ้วชี้ชี้วนๆ ที่ตาของณิช ทำเอาคนที่นั่งอยู่ในอ่างถึงกับอายหน้าแดง จากนั้นก็ดึงม่านอาบน้ำมาปิด กันไม่ให้จีรัชญ์มองตนได้อีก

กว่าพวกเขาจะอาบน้ำเสร็จก็ใช้เวลาไปราว 10 กว่านาที ครั้งนี้ณิชฝืนเดินออกมาเองไม่ต้องรอให้ใครอุ้ม จีรัชญ์แต่งตัวด้วยชุดนอนส่วนเขาก็ยืมชุดของจีรัชญ์มาใส่ไปก่อน

“เอ่อ...งั้นผม...กลับห้องแล้วนะ” หนุ่มเมืองกรุงพูดด้วยท่าทีเคอะเขิน ก็เขาไม่รู้จะทำหน้าอย่างไรดี จะมองจีรัชญ์ก็เขินเกินกว่าจะมองได้ พอมองไปที่เตียงภาพเมื่อครู่ก็ฉายทับว่าพวกเขาเร่าร้อนใส่กันมากแค่ไหน เชื่อแล้วจริงๆ ว่าความโหยหาของจีรัชญ์มันดุดันร้อนแรงจริงๆ

จีรัชญ์ไม่ตอบแต่เดินตามมาส่งที่หน้าห้อง ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว ชั้นบนของวังปริพัตรเงียบสงัด พวกเขาจึงต้องทำอะไรเบาๆ ไม่เป็นการปลุกมิ้งที่อยู่ชั้นเดียวกัน

“เอ่อ...” ณิชอ้ำอึ้งเมื่อยืนอยู่หน้าห้องตัวเอง ใจเต้นถี่รัวจนเลือดฝาดสูบฉีดขึ้นแก้มตลอดเวลา เขาเงยหน้ามองจีรัชญ์ก่อนจะตัดสินใจบอกราตรีสวัสดิ์

“ฝันดีเช่นกันครับ” จีรัชญ์ตอบกลับ ทำท่าจะเดินกลับห้องแต่ณิชกลับรั้งอีกฝ่ายไว้ จากนั้นก็เขย่งปลายเท้าขึ้นหอมแก้มอีกฝ่ายเร็วๆ แล้วหนีเข้าห้องไปเลย

ทันทีที่อีกฝ่ายปิดประตู ก็เหมือนเป็นการบอกว่าความสุขในค่ำคืนนี้ของจีรัชญ์ได้สิ้นสุดลงแล้ว เขามีความสุขที่ได้สัมผัสคุณปราณอีกครั้ง แต่ความสุขเหล่านั้นก็ผ่านไปเร็วเหลือเกิน ยามเมื่อคิดว่าวันเวลาของเขากับอีกฝ่ายก็กำลังถอยหลังหมดลงเช่นเดียวกัน

‘อิจฉาคนมีความรักเสียจริง นี่ถ้าข้าเชื่อเจ้ามิ่งตามมาดูเอ็งกับคุณปราณ ป่านนี้ตาคงบอดเสียแล้ว’

‘หุบปากมึงไป กูยังไม่ได้ชำระความที่มึงกล้าปิดบังกูเลยนะ’

‘นายกูสั่งสิ่งใด มีหรือบ่าวอย่างกูจะไม่ทำตามไอ้เพื่อนเกลอ มึงก็รู้ว่ากูซื่อสัตย์ต่อคุณปราณมากเพียงใด’

‘ถ้าอย่างงั้นคืนนี้มึงก็ดูแลนายมึงด้วยแล้วกัน วันรุ่งขึ้นคงจับไข้’

จีรัชญ์ทิ้งคำเพียงแค่นั้นก็ปิดประตูเสียงดังปัง ไอ้มั่นถึงกับสะดุ้งแต่ก็เข้าใจในความหงุดหงิดของไอ้เกลอได้ ใครบ้างจะไม่เครียดเวลาที่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดสิ่งใดขึ้น อนาคตที่พอจะคาดเดาได้ และมันก็ได้แต่ภาวนาขออย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิมอีกเลย







โปรดติดตามตอนต่อไป

ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ ^^

ออฟไลน์ แก่ เหี่ยว เคี้ยวยาก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ิอจฉา คนมีความรัก

แต่ ชอบอ่ะ


ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
จะเกิดอะไรขึ้นอีกแน่ๆเลย สงสารทั้งสองคน

รอตอนต่อไปครับ

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Nc แบบไม่คาดคิด ไอ้หาญรุนแรงเวอร์ ทำครั้งล่าสุดก่40ปีมาแล้วสินะ เข้าใจๆ o18

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
นานแล้วสินะหาญ อยากให้คำสาปให้ไปเร็วๆ

ออฟไลน์ mister

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
    • https://www.facebook.com/JJSonkFanclub

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ชาตินีสองคนจะฝ่าฟันจนพ้นคำสาปได้ไหมนะ  :mew2:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
+เป็ดเป็นกำลังใจให้หาญกับณิช :L2:

ออฟไลน์ :นางสาวผอบ:

  • ความเคลื่อนไหวในเงามืด
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +649/-4
บทที่ ๑๖ (ครึ่งหลัง)


ไอ้มั่นยืนกอดอกตรงปลายเตียงสี่เสาของไอ้เพื่อนเกลอ หน้าดำทะมึนของมันกำลังบึ้งตึง บ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างที่สุด โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ตื่นมารับรู้เรื่องราวใดๆ ยังคงนอนหลับส่งเสียงกรน จนดวงวิญญาณของไอ้บ่าวผู้ซื่อสัตย์ต้องส่งลมพัดแรงๆ ผ่านหน้าต่างเข้ามา

ลมพัดระลอกแรกผ่านไปไม่มีทีท่าว่าจะปลุกไอ้เกลอได้ ไอ้มั่นขบฟันกรอดนึกแค้นใจที่เพื่อนรักช่างกล้าทำกับมันเช่นนี้ หากมือมันหยิบจับสิ่งใดได้ ป่านนี้หัวไอ้หาญคงแตกเป็นเสี่ยงๆ

“อือ...เห้ย!” จีรัชญ์สะดุ้งตกใจหลังจากรู้สึกได้ว่ามีคนมอง เขาจึงปรือตาขึ้นดูอย่างคนกึ่งหลับกึ่งตื่น ก่อนจะเห็นเป็นไอ้มั่นที่ยืนกอดอกจ้องมองอยู่ปลายเตียง หน้าตาโกรธขึ้งของมันสื่อว่ากำลังเกิดเรื่องที่ทำให้มันไม่พอใจ

“เกิดอะไรขึ้นอีก” จีรัชญ์ถามออกเสียง น้ำเสียงแหบพร่าเพราะยังไม่ตื่นดี เขาหาววอดใหญ่ก่อนจะเกาหลังที่เปลือยเปล่าเพราะไม่ได้ใส่เสื้อนอน ขนาดปิดม่านแล้วยุงก็ยังลอดเข้ามากัดได้ มุ้งลวดที่หน้าต่างก็สั่งทำมาอย่างดี พรุ่งนี้คงต้องฉีดยากันยุงสักหน่อยแล้ว

“เพราะมึง”

“อะไร” จีรัชญ์ถามเสียงงึมงำตาปิด ทำท่าจะหลับอีกรอบ

“คุณปราณของข้าจับไข้!”

พอได้ฟังคำเพื่อนรักที่ไร้กายหยาบจีรัชญ์ก็ถอนหายใจ มองเวลาตอนนี้คือตีสองครึ่ง เป็นช่วงเวลาที่คนเราต้องพักผ่อนมากที่สุด แต่ไอ้มั่นกลับมายืนกดดันให้เขาลุกเสียได้

“กูบอกมึงแล้วว่าให้ดูแลนายมึงให้ดี” เขาพูดทั้งที่ยังหลับตาอยู่เช่นเดิม

“มึงอย่ามาไร้ความรับผิดชอบเยี่ยงนี้ไอ้เกลอ หากกูไปตามเจ้ามิ่งได้คงตามเสียนานแล้ว”

“แล้วทำไมไม่ไป”

“มึงจะให้เจ้ามิ่งมันเห็นรอยอุบาทว์ที่มึงทำไว้บนตัวนายกูรึ! ไป...มึงต้องไปดูคุณปราณให้กู”

จีรัชญ์เอาหน้าซุกหมอนเพราะง่วงเกินบรรยาย หลังจากส่งณิชเข้าห้องเขาก็กลับมานั่งทำงานต่อ กว่าจะได้นอนก็เมื่อสองชั่วโมงก่อนนี่เอง แต่เพราะฝ่ายนั้นไม่สบาย อย่างไรเสียก็ต้องไปดูแลสักหน่อย

เขาตวัดผ้าห่มออกจากกายแล้วลงจากเตียง คว้าเสื้อคลุมมาใส่ทับกายพอไม่ให้น่าเกลียด ช่วงล่างมีเพียงกางเกงผ้าแพรที่ใส่นอนเป็นประจำเท่านั้นที่ใส่อยู่ ก่อนจะเดินไปที่ห้องของณิชซึ่งอีกฝ่ายล็อกประตู เขาจึงต้องเดินกลับห้องตัวเองมาหยิบกุญแจ โดยมีไอ้มั่นตัวดำทะมึนเดินตามอย่างกดดัน

แน่ล่ะ... มันรักนายของมันขนาดนี้ พอเห็นว่าเจ้านายโดนเขารังแกจึงมาไล่บี้ ไม่คิดถึงความเป็นเพื่อนที่มีให้กันมายาวนานหรอก

เมื่อเข้ามาในห้องของณิชได้เขาก็ตรงไปหายอดดวงใจของตัวเองในทันที อีกฝ่ายกำลังนอนหลับสนิทไม่ได้รู้เรื่องรู้ราว แต่เมื่อเอามือแตะที่หน้าผากจึงรู้ว่าณิชตัวร้อนมาก มีเหงื่อผุดซึมตามกรอบหน้า เขาจึงรีบเอาผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำแล้วบิดให้พอน้ำไม่หยด จากนั้นก็เริ่มเช็ดตัวให้คนป่วย

“ออกไป” จีรัชญ์พูดขณะที่กำลังจะถอดเสื้อให้คนป่วย แต่หางตาเห็นว่าไอ้มั่นยังคงยืนมองอยู่จึงออกปากไล่

“กูไม่ออก ประเดี๋ยวมึงจะทำอันใดนายกู”

“ไอ้มั่น มึงจะห่วงนายมึงกูไม่ว่า แต่กูก็ไม่อยากให้ใครเห็นร่างกายคนของกูเช่นเดียวกัน” จีรัชญ์เสียงแข็ง ไอ้มั่นจึงได้แค่ฮึดฮัดและหายออกจากห้องไป แต่มันก็ไปไหนไม่ไกล ยังเงี่ยหูฟังอยู่นอกประตูด้วยความเป็นห่วงคุณปราณจับใจ

ชายหนุ่มถอดเสื้อผ้าของณิชออกจนหมด และเพิ่งรู้ว่าณิชไม่ใส่ชั้นในนอน เพราะอีกฝ่ายใส่แค่กางเกงบ็อกเซอร์ย้วยๆ ปิดช่วงล่าง กับเสื้อกล้ามเว้าแขนกว้างมีรอยขาดตรงไหล่เท่านั้น เขาเริ่มต้นเช็ดที่แขนก่อน จากนั้นค่อยไล่มาตามตัวและขา เว้นส่วนนั้นที่กำลังหลับสนิทตามเจ้านายไว้

นึกไปถึงเรื่องเมื่อหัวค่ำก็นึกขำไม่ได้ ตอนนั้นยังกล้าเรียกร้องให้เขาใส่เข้าไปในตัวอยู่เลย มาตอนนี้ดันเป็นไข้ซะแล้ว ระหว่างที่เช็ดตัวให้ณิชครางเบาๆ บ่นว่าหนาว แต่เขาก็ไม่สามารถหยุดมือได้เพราะต้องทำให้ไข้ลดก่อน เช็ดไปเช็ดมาคนป่วยก็ตื่น

ณิชปรือตามองว่าใครมาทำอะไรร่างกายเขา เมื่อเห็นว่าเป็นจีรัชญ์จึงหันไปกอดหมับเข้าเอวทันที รู้สึกได้ว่าลมหายใจตัวเองร้อนผ่าวและมีอาการมึนหัวร่วมด้วย ส่วนช่วงล่างนั้นราวกับเป็นอัมพาต เขาไม่อยากขยับแม้แต่น้อยเพราะปวดไปหมด ยิ่งช่องทางด้านหลังไม่ต้องพูดถึง เขาจะไม่ถ่ายหนักเลยคอยดู

“คุณณิช นอนดีๆ ครับ ผมจะได้เช็ดตัวให้”

“ผมเจ็บตรงนั้นอ่ะ” ณิชบอกเสียงเบาเหมือนอ้อน ทำเอาจีรัชญ์ผู้นิ่งขรึมเกือบหลุดขำ ก่อนจะดันอีกฝ่ายให้นอนลงดีๆ เขาจะได้เช็ดตัวให้ต่อ

ณิชนอนให้จีรัชญ์เช็ดตัวให้จนผล็อยหลับไปเพราะความเพลีย คุณหมอจำเป็นใส่เสื้อผ้าให้อีกฝ่ายจนเสร็จ ทำท่าจะกลับห้องแต่กลับลังเลกลัวว่าณิชอาจมีไข้สูงอีก เหมือนเช่นวันนั้นที่เขาเคยมาดูแล จึงเลือกที่จะล้มตัวลงนอนข้างกัน และหลับไปเพราะความง่วงในที่สุด

::::::::::

ณิชสะดุ้งตื่นในตอนเช้าเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือ ตอนนี้อาการไข้ไม่ค่อยมีแต่อาการปวดก้นยังคงอยู่ หันไปมองข้างกายก็พบว่ามีผู้ชายตัวใหญ่ที่ดูแลเขาเมื่อคืนนอนอยู่ข้างกัน เขารีบหยิบโทรศัพท์มารับสายก่อนที่อีกฝ่ายจะตื่น และเดินเลี่ยงไปทางหน้าต่างให้ห่างจากเตียงสักหน่อย

“ครับพี่โอ๋”

[เออ เมื่อไหร่จะกลับวะ คิดถึงแล้วเนี่ย]

“งานยังไม่เสร็จเลยพี่ ก็ใครใช้ให้คุณแขโยนผมกับไอ้มิ้งมาที่นี่ล่ะ” ณิชป้องปากกระซิบตอบกลับไป

[นี่มีงานลูกค้ามาอีกแล้ว เขาระบุมาเลยว่าจะให้มึงทำ เพราะเขาเห็นประวัติว่ามึงเคยชนะประกวดออกแบบ]

“ใครวะ เป็นบริษัทหรือเป็นลูกค้ารายบุคคล”

[เป็นเจ้าของโรงแรมริมแม่น้ำเลย เขามีแพลนจะสร้างและกำลังหามัณฑนากร พอเห็นชื่อมึงในเน็ตก็เลยพุ่งมาคว้าไว้ แต่คุณแขบอกมึงติดงานอยู่ใต้]

“แล้วจะให้ผมทำไง เร่งงานที่นี่เหรอพี่ คือ...” ณิชลังเลก่อนจะมองไปที่เตียงนอน งานที่นี่ทำใกล้เสร็จแล้ว เหลืออีกเพียงสองห้องพวกเขาก็จะกลับกรุงเทพฯ ได้ แต่ใจเขายังอยากจะอยู่ที่นี่ต่อ ไม่อยากไปไหนอีกแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจีรัชญ์จะอนุญาตให้อยู่ไหมนี่สิ

[มึงก็เร่งงานหน่อยก็แล้วกัน เขาบอกจะรอมึง ไม่ว่ายังไงก็รอ คุณแขเขาก็อยากรับงานนี้เพราะได้เงินดี เขายอมทุ่มเพื่อให้ได้ตัวมึงมาทำงานให้เขาเลยนะเว้ย]

“แหม คุณแขได้แล้วผมจะได้ด้วยไหม ขอแบบหนักๆ เลยได้รึเปล่า” ณิชถามพลางกลั้วหัวเราะ จึงได้ยินหัวหน้าตัวเองบ่นมาตามสายแบบไม่จริงจังนัก

[งั้นตกลงตามนี้นะ เร่งช่างหน่อย คนทางนี้เขารอมึงอยู่]

“ครับ” ณิชรับคำเบาก่อนจะวางสาย เมื่อหันกลับไปก็พบว่าจีรัชญ์ตื่นแล้ว และกำลังมองเขาอยู่

“ผมเสียงดังจนทำให้คุณตื่นเหรอ ขอโทษทีครับพอดีคุยเรื่องงานน่ะ” ณิชกล่าวก่อนจะเดินกระย่องกระแย่งกลับมาที่เตียง

จีรัชญ์เห็นท่าทางเก้ๆ กังๆ เวลาเดินของอีกฝ่ายก็รู้สึกผิดจับใจ เพราะความขาดสติยั้งคิดของเขาทำให้ณิชต้องเป็นแบบนี้ พอได้ใกล้ได้เล้าโลมเข้าหน่อยเขาก็เตลิดได้ง่าย เพราะใจลึกๆ ก็อยากครอบครองอีกฝ่ายอยู่ร่ำไป

“ไม่หรอก แล้วนี่คุณเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นรึยัง”

“ก็...เจ็บแหละครับ” ณิชตอบพลางยิ้มอ่อน

มาตอนนี้บรรยากาศมันกระอักกระอ่วนบอกไม่ถูก เขาไม่รู้จะโฟกัสตรงไหนดี เพราะบนตัวจีรัชญ์ไม่มีอะไรคลุมกายเลย มีเพียงกางเกงผ้าแพรเท่านั้น

“ผมขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณเจ็บขนาดนี้”

จีรัชญ์กล่าวจากใจจริง แต่กลับเรียกรอยยิ้มเขินและแก้มสีระเรื่อจากณิชได้เป็นอย่างดี จนเจ้าตัวต้องหันหน้าหลับไปทางอื่น เพราะยิ่งจีรัชญ์พูดว่า ‘ไม่ตั้งใจ’ มันทำให้เขาคิดถึงตอนที่เสียงเตียงลั่นไม่ได้ นั่นขนาดไม่ตั้งใจนะ ถ้าตั้งใจเตียงคงพัง

แล้วตัวเขานี่อะไร ไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน แต่เมื่อโดนจีรัชญ์ปลุกอารมณ์เข้าหน่อยก็ไปสุดหยุดไม่อยู่ ท่าทางยั่วยวนราวไม่ใช่ตัวเอง ทั้งเขินทั้งอายที่กล้าเชิญชวนอีกฝ่ายให้มามีอะไรด้วยกัน ออกปากเองด้วยว่ายินดีให้อีกฝ่ายทำ ความสุขสมจากเมื่อคืนยังกรุ่นอยู่ในใจ มันทำให้เขามีความสุขมากกว่าวันไหนๆ ในชีวิตนี้เลย

“จะเป็นอะไรไหมถ้าผมจะขอดู...เอ่อ...” ชายหนุ่มอึกอักขึ้นมาทันทีเพราะยิ่งเห็นณิชหน้าแดงก็ยิ่งพูดไม่ออก ไม่รู้อีกฝ่ายกำลังเขินหรือโกรธเขากันแน่

“เอ่อ...ดะ...ได้ แต่คุณห้ามหัวเราะนะ”

“ทำไมต้องหัวเราะ”

“ไม่รู้สิ มันก็น่าอายอยู่เหมือนกันนะที่ให้ใครมาดูก้นให้”

“เมื่อคืนคุณยังไม่อายอยู่เลย” จีรัชญพูดหน้าซื่อๆ แต่ณิชคิดว่ามันคือสีหน้าของคนกวนแบบไม่แสดงสีหน้ามากกว่า ซึ่งมันยิ่งทำให้เขาอยากจะข่วนหน้าอีกฝ่ายจริงๆ

“ก็ตอนนั้นมัน...เห้อ! ช่างเถอะ ไม่ต้องดูหรอก เดี๋ยวก็คงหายละมั้ง” ณิชตัดบทก่อนจะลุกขึ้นยืน แต่ดันหน้ามืดเซเกือบล้ม ดีที่จีรัชญ์คว้าแขนได้ทันจึงไม่ร่วงไปกองกับพื้นเสียก่อน ไม่งั้นไอ้ที่เจ็บๆ อยู่ก็คงเจ็บจนเดินไม่ได้แน่ๆ

ก๊อกๆๆ

“พี่ณิช ตื่นรึยัง ลงไปกินข้าวได้แล้ว เดี๋ยวคุณตรีรอนะ ปล่อยให้เขารอมาเป็นร้อยปี ถ้ารอนานกว่านี้ระวังเขาจะเปลี่ยนใจนะ”

เสียงทะเล้นของมิ้งดังขึ้นหน้าห้อง จีรัชญ์มองณิชพร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย แสดงว่าณิชบอกเรื่องนี้ให้กับมิ้งรู้แล้วอย่างนั้นเหรอ แล้วมีใครอีกบ้างที่รู้เรื่องคำสาปนี่ เรื่องราวที่เขาปิดบังไว้ไม่ให้คนนอกรู้แม้แต่คนเดียวนอกจากสุทิน ยังมีคนอื่นรู้เรื่องอีกมากน้อยแค่ไหน คิดมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกเหมือนโดนอีกฝ่ายหักหลังกลายๆ เขาใช้ความพยายามในการปกปิดตัวตนมานานมาก แต่ณิชกลับพูดเรื่องนี้ให้คนนอกฟังได้ง่ายดาย

“นี่คุณ...”

ณิชยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากหยักของอีกฝ่ายไม่ให้พูด เขามองหน้าเจ้าของชื่อที่มิ้งเอ่ยถึง ก่อนจะรีบตอบหญิงสาวกลับไปเสียงละล่ำละลัก

“อะ...เออ...เดี๋ยว...เดี๋ยวลงไป ขออาบน้ำก่อน”

“งั้นให้หนูเข้าไปรอในห้องได้ป่ะ หนูไม่อยากลงไปเจอหน้าคุณตรีอ่ะ กลัวอดใจไม่ไหวจีบคุณเขาตัดหน้าพี่ณิช” มิ้งเย้าแหย่เพราะคิดว่าคนที่อยู่อีกฝั่งของประตูคงเขินหน้าแดง ซึ่งมันก็จริงเพราะนอกจากมิ้งจะแซวเขาได้แล้ว ยังพูดให้จีรัชญ์ได้ยินทั้งหมดอีกด้วย

จีรัชญ์ทำเพียงแค่ลุกขึ้นแล้วหยิบเสื้อคลุมมาสวม เขากระแอมเล็กน้อยก่อนจะเดินไปทางประตู ณิชตามไปจะห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้ว จีรัชญ์เปิดประตูออกไปเจอมิ้งยืนยิ้มกว้างก่อนหน้าอีกฝ่ายจะค่อยๆ เจื่อนลง แล้วมองเลยเข้าไปในห้องของรุ่นพี่เธอด้วยสีหน้าสงสัยปิดไม่มิด

“ไม่ต้องรีบหรอกครับ ผมแวะมาคุยธุระกับคุณณิชตั้งแต่เช้าเพลินไปหน่อย กินเวลาอาบน้ำเขาไปพอสมควร ต้องขอโทษด้วย” ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ ใบหน้านิ่งขรึมดูเรียบนิ่งก่อนจีรัชญ์จะเดินกลับห้องไป ทิ้งมิ้งให้ยืนอึ้งอยู่ที่เดิม ส่วนณิชนั้นหายเข้าห้องน้ำไปแล้ว

::::::::::::

“พี่ก็ไม่บอกหนูเลยว่าคุณตรีอยู่ในห้อง แล้วนี่เป็นไง เขาก็รู้แล้วสิว่าพี่เข้าหาเขาอ่ะ หนูขอโทษจริงๆ นะพี่ณิช หนูไม่รู้จริงๆ” มิ้งยกมือไหว้ท่วมหัวในขณะที่เขาสองคนกำลังคุมช่างทำงานอยู่

ตอนนี้ของตกแต่งที่สั่งมาก็ทยอยมาส่งแล้ว งานห้องนั่งเล่นสองห้องเสร็จไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ห้องดนตรีที่มีเพดานสูงจากห้องอื่น ตอนเห็นครั้งแรกก็รู้สึกว่าเก่ามาก มีเปียโนหลังใหญ่วางเด่นเป็นสง่าอยู่มุมหนึ่งของห้อง พวกเขาไม่ได้ไปยุ่งกับมันเนื่องจากตรงโซนนั้นจีรัชญ์ไม่ได้ต้องการตกแต่งใหม่

หน้าต่างที่เคยเป็นไม้ถูกเปลี่ยนเป็นกระจกแทน พรมถูกรื้อออกเปลี่ยนเป็นกระเบื้อง เก้าอี้และโต๊ะที่เคยดูไม่เข้ากันถูกรื้อออก และสั่งชุดใหม่เข้ามาวางให้เข้ากับคอนเซปที่ทันสมัยขึ้น จากห้องที่ดูทึบทึมในตอนแรก ณิชออกแบบให้เป็นห้องที่โล่งโปร่งสบาย เหมาะแก่การฟังเปียโนในยามค่ำคืนและใช้เป็นที่สังสรรค์ได้ด้วย

เขาไม่รู้ว่าหาญเอาเงินจากไหนมาสร้างวังที่ใหญ่ขนาดนี้ได้ อายุคฤหาสน์ไม่น้อยเลยทีเดียว เขาไม่รู้ว่าวังปริพัตรเจ้าของเดิมคือใคร หรือเป็นของหาญมาตั้งแต่แรก แต่เมื่ออาจารย์มหา’ ลัยได้ครอบครองพื้นที่เป็นสิบๆ ไร่ตรงนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว

“ช่างเถอะ พี่มีเรื่องให้เครียดกว่านั้นว่ะ”

“เรื่องไร” มิ้งรีบถามทันที โล่งใจที่อีกฝ่ายไม่ถือโทษโกรธเธอที่ดันแซวไม่รู้เวลา

“พี่โอ๋บอกให้เร่งงานทางนี้ เพราะที่บริษัทมีลูกค้ามาระบุเจาะจงว่าจะจ้างพี่”

“อ่าว แล้วคุณแขว่าไง เธอไม่ได้บอกเหรอว่าพี่ติดงานทางนี้”

“บอกแล้ว แต่เขาบอกว่าจะรอ พี่โอ๋บอกเขาทุ่มเงินเพื่อจะจ้างพี่โดยเฉพาะ คุณแขก็ไม่อยากเสียโอกาสส่วนนี้ไปด้วย” ณิชตอบเสียงเครียด เขาเข้าใจอารมณ์คนเป็นเจ้าของธุรกิจดี หากมีเงินจ้างทำงานในจำนวนที่เพิ่มขึ้นจากเดิม ยังไงก็อยากคว้าไว้ก่อนจะเสียโอกาสไป ส่วนมิ้งที่รับรู้เรื่องราวมาตั้งแต่ต้นเลยเครียดตามไปด้วย

“หรือพี่จะขึ้นไปคุยกับเขาก่อนล่ะ หนูดูทางนี้ให้เอง” เธอลองเสนอทางเลือกให้ เพราะเข้าใจคิดว่าที่ณิชเป็นแบบนี้เพราะห่วงหน้าพะวงหลังเรื่องงาน

“ไม่เว้ย คือพี่...” ณิชถอนหายใจเฮือกใหญ่

ตั้งแต่เขารู้เรื่องราวในอดีตทั้งหมดเขาก็ไม่อยากทิ้งหาญไปไหนอีก หาญรอเขามานานมากเกินไปแล้ว และเขาก็ไม่อยากห่างจากอีกฝ่ายแม้แต่นาทีเดียว หัวใจที่ไม่เคยออกอาการบัดนี้มันเต้นได้ด้วยเพราะจีรัชญ์ทั้งหมด เขาไม่คิดเลยว่าความรู้สึกเหมือนเขากำลังรอใครสักคนให้มารัก จะถูกเติมเต็มในวัยนี้

ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเขามีชีวิตเรียบเรื่อย โดดเด่นแค่เรื่องเรียนกับเรื่องงานเพียงเท่านั้น ชีวิตรักที่เขามีนับคนได้เลย และคนเหล่านั้นก็ไปด้วยกันไม่รอด ด้วยเหตุผลว่าเขาไม่รู้จักความรักมากพอ จนมาตอนนี้ถึงได้รู้ว่าจริงๆ แล้ว ไม่ใช่เขาไม่รู้จักความรักไม่มากพอ แต่เป็นเพราะกำลังรอใครคนนั้นที่สอนให้เขาได้รู้จักรักมานานแล้วต่างหาก

ทางฝั่งจีรัชญ์ที่เมื่อทานมื้อเช้าเสร็จก็ปลีกตัวออกมาอยู่คนเดียว เขาไม่ได้เข้าไปคุมงานตกแต่งอย่างที่เคยทำเป็นปกติ เพราะเขายังรู้สึกเคืองอีกฝ่ายอยู่ไม่น้อย ที่กล้าเอาเรื่องเหลือเชื่อที่วิทยาศาสตร์ก็อธิบายไม่ได้ไปเล่าให้คนอื่นฟัง ทั้งที่ตอนนี้โลกพัฒนาไปไกลแล้ว การที่จะมีเรื่องเหนือธรรมชาติแบบนี้คนอื่นคงได้มองว่าบ้า ป่านนี้มิ้งจะมองเขาอย่างไร มองเป็นผีหรือซูเปอร์ฮีโร่ฆ่าไม่ตายไปแล้วรึเปล่า

ไหนจะเรื่องที่ทำให้ณิชเครียดมาตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์นั่นอีก ภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มปกติ เขาเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความกังวลของอีกฝ่ายด้วย จีรัชญ์เห็นใบหน้าอีกฝ่ายเครียดขรึมไปถนัดตาตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์เมื่อช่วงเช้า เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าณิชมีเรื่องอะไรทำไมถึงได้มีท่าทีเช่นนี้ ไอ้มั่นที่รู้ใจเพื่อนรักดีจึงไปสืบมาให้จนได้ความว่า...

‘คุณปราณต้องกลับบางกอกแล้ว เพราะมีคนรอคุณเขาอยู่ที่นั่น’


ข้อความที่ไอ้มั่นถอดมาให้จีรัชญ์สั้นกระชับ เพราะมันได้ยินแว่วๆ ตอนมิ้งกับณิชคุยกัน เพียงแต่ไม่ได้เข้าไปใกล้เพื่อไม่ให้คนทั้งสองรู้ตัวว่ามันกำลังแอบฟังอยู่ด้วย แต่ใจความกลับกลายเป็นอื่น ซึ่งนั่นทำให้จีรัชญ์ถึงกับใจหายวาบ

ลึกๆ ความสุขที่ณิชมอบให้เมื่อคืนก็เปรียบเหมือนน้ำหยดลงบนหน้าดินที่แห้งแล้ง ให้มันได้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง แต่หากความสุขที่เขาได้แตะต้องเพียงเสี้ยวจะจากไป เขาก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยอีกฝ่ายไปเหมือนดั่งที่แล้วมา

‘หากเขาจะไปก็ให้เขาไป กูจะไม่ห้าม’

‘ถ้าคุณเขากลับไปแล้ว มึงจะหาโอกาสเจอคุณเขาได้อีกที่ไหนล่ะวะ อย่าปล่อยให้กลับไปสิ ให้อยู่ด้วยกันที่นี่ มึงอย่าฝืนใจตัวเองอีกเลย’

‘รั้งให้เขาอยู่ เพื่อรอวันที่เขาจะทิ้งกูไปอีกหนนะหรือ’


ไอ้มั่นเงียบเพราะเถียงไม่ออก ได้แค่นั่งข้างไอ้เกลอที่ทำราวกับทองไม่รู้ร้อน ไม่คิดจะทำการอันใดเพื่อแก้ไข้โชคชะตาในชาตินี้ให้ดีขึ้น แต่ในใจมันรู้ดีว่าไอ้หาญก็คงเจ็บปวดดังเช่นที่แล้วมาเช่นกัน

‘ถ้าเช่นนั้นชาตินี้มึงต้องการสิ่งใด อยู่รอเวลาให้คนรอบข้างหมดอายุขัย และเปลี่ยนตัวตนไปเรื่อยๆ รอเวลาให้คุณปราณสิ้นใจและกูหายไปอีกครั้ง ค่อยมาพบมึงในชาติใหม่ที่คุณปราณกลับมาจำเรื่องราวได้อีกกระนั้นหรือ’

‘มันต้องเป็นอย่างนั้นไม่ใช่รึไง มีชีวิตอยู่เพื่อเจอกันและมองดูเขาจากไป’


เสียงตอบในใจของจีรัชญ์มันเต็มไปด้วยความสมเพชตัวเอง รอยยิ้มหยันผุดขึ้นบนใบหน้าคมคายเหมือนจะหัวเราะกับชะตาชีวิตที่ไร้จุดจบ หากถามว่าไอ้หาญยังรักคุณปราณอยู่ไหม เขาตอบได้เต็มปากว่ารักนี้ไม่เคยเปลี่ยน แต่หากถามว่าเขาอยากจะสู้อีกสักครั้งเพื่อจะได้หลุดพ้นจากคำสาปไหม เขาก็ตอบได้เช่นเดียวกันว่าไม่

“ผมง่วงแล้ว คุณช่วยเล่นเพลงนั้นให้ผมฟังหน่อยได้ไหม ผมอยากให้มันกล่อมผมนอนสักหน่อย”

“ได้ครับ”

“ขอบคุณครับ...คุณอนันต์”

ถ้อยคำสุดท้ายที่ฝากไว้ พร้อมลมหายใจที่ค่อยๆ แผ่วลงจนหยุดไปในที่สุด






โปรดติดตามส่วนต่อไป

ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-09-2020 17:47:24 โดย :นางสาวผอบ: »

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
ชาติก่อนหน้านี้เริ่มมาแล้ว

หาญคือคุณอนันต์ แล้วปราญคือใคร

รออ่านต่อครับ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
อ่าว เพิ่งได้กัน จะดราม่าแล้ว ฮื่อออออ :sad4:

ออฟไลน์ mister

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
    • https://www.facebook.com/JJSonkFanclub
อยากรู้เรื่องชาติก่อนๆของณิชอีก :mew2:

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
อยากให้คำสาปหายไปไวๆจัง กำลังจะหวานอยู่แล้ว

ออฟไลน์ แก่ เหี่ยว เคี้ยวยาก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กว่าจะพ้นคำสาป

จะต้องผิดหวังอีกแล้ว ?

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด