☁▧☀▧☁ คิด(ไม่)ถึง .. คะนึง(ไม่)หา ☁▨☀▨☁ ๑๘/๖/๖๔ ‡ บทที่ ๓๕ {จบ} หน้า ๑๔
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☁▧☀▧☁ คิด(ไม่)ถึง .. คะนึง(ไม่)หา ☁▨☀▨☁ ๑๘/๖/๖๔ ‡ บทที่ ๓๕ {จบ} หน้า ๑๔  (อ่าน 35158 ครั้ง)

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ฟื้นแล้วววววววว กรี๊ดด

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
ขอให้ได้อยู่ด้วยกันจริงๆสักที

ออฟไลน์ แก่ เหี่ยว เคี้ยวยาก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอคอยตอนต่อไป

ขออย่าให้เศร้าไปกว่านี้นะ

ออฟไลน์ mister

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
    • https://www.facebook.com/JJSonkFanclub
อยากให้มาอัพทุกวันเลย  ติดงอมแงม :hao7:

ออฟไลน์ ruby

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 477
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-3
สนุกมากค่ะ ติดตามนิยายของคุณตลอดเลยนะคะ แต่ไม่ค่อยได้แสดงความคิดเห็น :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
จำได้ ระลึกชาติได้แล้วใช่ไหม  :mew6:

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
จำได้แล้วรู้ทุกอย่างแล้ว

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
มาม่ากำลังได้ที่ สงสารหาญ

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ :นางสาวผอบ:

  • ความเคลื่อนไหวในเงามืด
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +649/-4
บทที่ ๑๔ (ครึ่งแรก)



เปลือกตาของคนป่วยที่หลับข้ามวันข้ามคืน ค่อยๆ กะพริบเพื่อตื่นลืมตาขึ้น แต่ความมึนเบลอยังคงอยู่ เพราะระยะเวลาของร่างกายที่พักไปนานกว่าปกติอยู่มาก ทำให้ตอนนี้สติยังไม่เต็มร้อยเท่าไหร่นัก รับรู้เพียงแค่เสียงจากโทรทัศน์ที่กำลังรายงานข่าวเที่ยง และมีคนเดินไปมาในห้อง กลิ่นอาหารที่โชยมาเตะจมูกหอมยั่วยวนใจ

หนุ่มร่างบางนอนอยู่บนเตียงไม่ขยับกาย สายตาเหม่อมองไม่ได้จับจุดโฟกัสใดเป็นพิเศษ เพราะกำลังดึงสิ่งที่ฝันมาเก็บไว้เป็นความทรงจำให้มากที่สุด ครั้งนี้เป็นการฝันที่ยาวนานที่สุดเท่าที่เคยฝันมา เรื่องราวที่ได้รับรู้หนักหน่วงจนแทบหายใจไม่ออก และสิ่งที่ไม่อยากเชื่อกลับต้องเชื่อ

เขาไม่เคยคิดว่าอดีตชาติของเขาทำร้ายคนได้มากขนาดนี้ เพราะเหตุนี้ในชาตินี้เขาจึงไม่เหลือใครเลย พ่อ แม่ ญาติสนิทใดๆ ก็ไม่มี เหมือนอยู่ตัวคนเดียว เหมือนเขาใช้ชีวิตมาเพื่อรอพบใครคนหนึ่งที่โชคชะตาผูกกันไว้เท่านั้น

คิดมาถึงตรงนี้น้ำตาก็ไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความเสียใจมันมากล้นจนเขาคิดว่าตัวเองไม่เคยรู้สึกผิดขนาดนี้มาก่อน เสียงสะอื้นเขาค่อยๆ ดังขึ้น ก่อนจะเป็นการร้องไห้ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ราวกับกำลังทุรนทุรายกับความบาดเจ็บทางอารมณ์

หญิงสาวรุ่นน้องคนเฝ้าไข้ตกใจที่เขาฟื้นแล้ว แต่ตกใจยิ่งกว่าเมื่อเห็นว่าเขาตื่นขึ้นมาแล้วร้องไห้อย่างหนัก เสียงร้องไห้โฮของผู้ชายที่ไม่คิดว่าเธอจะได้เห็นทำให้มิ้งทำอะไรไม่ถูก เธอรีบเข้าไปกอดปลอบรุ่นพี่ของตนที่ร้องไห้ปานจะขาดใจ

มือของณิชกำจิกเข้าเนื้อตัวเองจนเห็นรอยแดงชัด น้ำตาที่ไหลพรากราวทำนบแตกนั้นไม่อาจหยุดไหลได้ เพราะความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ภายในมันมากล้นจนไม่อาจหาคำใดมาบรรยายได้ มือเรียวเล็กของหญิงสาวลูบหลังของณิชเบาๆ เธอไม่รู้จะพูดอะไรเพราะไม่รู้ว่าณิชร้องไห้เพราะอะไร ได้แค่ยืนเป็นที่พึ่งข้างเตียงเท่านั้น

จนเมื่อณิชสงบลงมิ้งจึงเรียกพยาบาล และหลังจากนั้นหมอก็เข้ามาตรวจ หญิงสาวอยู่ข้างเตียงไม่ห่าง คอยสอบถามหมอนั่นนี่เพราะกลัวรุ่นพี่เธอจะมีอะไรผิดปกติ แต่หมอบอกว่าไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว ส่วนเรื่องที่หลับไปนานนั้นหมอก็หาคำตอบให้ไม่ได้เช่นเดียวกัน อาจเพราะร่างกายของคนไข้ต้องการพักให้มากก็เป็นได้ เพราะที่ณิชเป็นแบบนี้ก็เพราะความเครียดด้วยส่วนหนึ่ง

มิ้งลอบมองชายหนุ่มคนที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง แขนขาขยับไปมาได้ปกติ แต่ณิชไม่ยักจะขยับตัวใดๆ หากว่าณิชมีคนรักอาการนี้ก็เหมือนกับคนอกหัก ที่หมดอาลัยตายอยากจนไม่อยากทำอะไร แต่นี่ไม่ใช่ ก่อนนี้รุ่นพี่ของเธอยังดีๆ อยู่เลย แต่พอตกบันไดก็นิ่งเงียบไปราวกับเป็นคนละคน

“คุณจีรัชญ์ล่ะ” ณิชถามเสียงแผ่ว เขาคิดว่าจีรัชญ์จะอยู่ที่นี่เสียอีก แต่ฟื้นขึ้นมานานแล้วกลับไม่เห็นอีกฝ่ายจะโผล่หน้ามาให้เห็น

“ยังไม่มาเลยพี่ ไปมหา’ ลัยน่ะ แต่คงจะเข้ามาตอนเย็นๆ”

ณิชเงียบไปอีกครั้ง มิ้งจัดกล้วยปิ้งที่เธอบอกว่าน่าทานใส่มาในจาน ก่อนจะวางบนโต๊ะล้อเลื่อนเอามาให้คนป่วย ส่วนตัวเองก็จิ้มกินไปพลาง

“หืมมม อร่อยจริงพี่ณิช พี่ลองกินสิ กินเลยๆ” มิ้งคะยั้นคะยอคนป่วยที่ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาก็ดูจะเงียบผิดปกติ

“ขอเป็นอะไรที่ย่อยง่ายก่อนดีกว่านะ” ณิชบอกปัด เพราะจริงๆ แล้วเขาไม่ได้รู้สึกหิวเลย

มิ้งเล่าให้ฟังว่าตอนเขาหลับไป มีอาการคล้ายคนละเมอพึมพำไม่ได้ศัพท์หลายครั้ง มีท่าทีจะตื่นอยู่หลายทีแต่ก็ไม่ยักจะลืมตา พอสะกิดเรียกเขาก็เงียบไป วันแรกยังไม่น่าห่วง แต่วันที่สองเหมือนเขาจะละเมอหนักขึ้น มิ้งย้ำหลายครั้งบอกว่าเขาร้องไห้ ซึ่งนั่นทำให้เธอยิ่งร้อนใจเพราะไม่เข้าใจว่าเขากำลังเป็นอะไร ยังคิดอยู่เลยว่าหากเขายังไม่ฟื้นจะเชิญพระให้มาสวดแล้ว เพราะกลัวว่าณิชจะโดนใครมาพาวิญญาณไป แต่พอมาวันนี้เขากลับตื่นลืมตาขึ้นมาเสียอย่างนั้น แถมยังร้องไห้เหมือนคนเพิ่งเจอฝันร้ายมา

“งั้นข้าวต้มนะ ไม่ก็โจ๊กกุ้งเป็นไง เดี๋ยวหนูลงไปซื้อให้”

“อืม ก็ได้ขอบใจมาก แล้วงานเป็นไงบ้าง”

“คุณตรีสั่งระงับไปก่อนเพราะเขาห่วงกลัวพี่ณิชจะเป็นอะไรมาก และหนูต้องมาเฝ้าพี่ด้วยเขาเลยบอกรอได้ แต่เอาจริงๆ คุณตรีเขาเฝ้าพี่มากกว่าหนูอีกนะ เป็นลูกค้าที่น่ารักดีจริงๆ อ้อ! คุณแขไขกับพี่โอ๋ก็โทรมาถาม แต่พอดีงานทางโน้นยุ่งเลยลงมาไม่ได้” พูดจบสาวเจ้าก็หยิบกระเป๋าตังค์ทำท่าจะเดินออกไป แต่ณิชกลับเรียกไว้เสียก่อน

“มิ้ง พี่ฝากซื้อพวงมาลัยมาสักสองพวงนะ พวงมาลัยไหว้พระน่ะ”

แม้หญิงสาวรุ่นน้องจะไม่เข้าใจนัก แต่ก็พยักหน้ารับปากณิชไป ตั้งแต่ณิชฟื้นขึ้นมาดูแปลกตาไปจริงๆ สำหรับเธอ ไม่ได้ร่าเริงเหมือนก่อน หรือเพราะหลับไปหลายวันการฟื้นตัวต่างๆ เลยยังไม่คงที่ก็ไม่รู้

มิ้งออกจากห้องไปแล้ว ตอนนี้ในห้องเหลือเพียงเขาคนเดียวเพียงเท่านั้น ชายหนุ่มกวาดสายตามองไปทั่วห้อง ก่อนจะกลั้นใจเรียกหาใครบางคน แม้จะกลัวความจริงจับจิต แต่ก็อยากพิสูจน์ว่าสิ่งที่ตนฝันนั้นเป็นเรื่องจริงแน่นอนใช่หรือไม่

“มั่น... มั่นอยู่ไหม”

ตั้งแต่เกิดมาเขากลัวสิ่งลี้ลับเป็นที่สุด ยิ่งในตอนกลางคืนที่ความมืดมิดคืบคลานเข้ามา พร้อมบรรยากาศชวนขนหัวลุกมันยิ่งทำให้เขากลัว แต่เวลานี้หลังจากการหลับที่ยาวนานเพื่อรับรู้เรื่องราวต่างๆ ทำให้เขากล้าที่จะตื่นขึ้นมาเพื่อเรียกหาใครบางคน ใครคนนั้นที่คิดว่าคงอยู่กับเขาไม่ไปไหน ดั่งคำสาบานที่ให้ไว้ในชาติก่อน

“ขอรับ”

เสียงตอบรับราวกับดังมาจากที่ไกลๆ เสียงนี้ที่คุ้นหู เพราะเหมือนจะเคยได้ยินมานานแล้วตั้งแต่อยู่กรุงเทพฯ ม่านหน้าต่างพลิ้วปลิวสะบัดเบาๆ ทั้งที่ไม่มีหน้าต่างบานไหนเปิดเลย ก่อนที่เงาเลือนรางจะค่อยๆ ปรากฏชัดขึ้นที่มุมห้อง เป็นชายชุดโบราณหุ่นกำยำ แต่ใบหน้าติดจะหวานไปสักหน่อย อีกฝ่ายกำลังนั่งคุกเข่ามองมาที่เขา แม้จะเป็นเพียงดวงวิญญาณที่เห็นได้เลือนราง แต่ท่าทีนอบน้อมและดวงตาเศร้าสร้อยนั้นทำให้พอจำได้ เพราะอีกฝ่ายไม่ต่างจากตอนอยู่ในฝันนัก

“อึก...”

ขนลุกไปทั่วร่างเมื่อประจักแล้วว่าสิ่งที่ฝันทั้งหมดคือเรื่องจริง ก้อนความเสียใจจึงตีตื้นขึ้นมาจุกที่ลำคอ ณิชมองไอ้มั่นที่มองตอบเข้ากลับมาด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ตรงลำคอของอีกฝ่ายมีรอยแผลให้เห็น แต่ไม่ได้น่ากลัวเหมือนเช่นหนังผีในละครที่เขาไม่ชอบดู ทั้งที่รู้ว่ามั่นไม่มีชีวิต เป็นเพียงวิญญาณเร่ร่อน แต่เขากลับไม่กลัวเลยสักนิด อาจเพราะเคราะห์กรรมที่ได้สร้างร่วมกันไว้ ทำให้เขามองว่าอีกฝ่ายเป็นคนคนหนึ่งเพียงแค่ไร้กายหยาบก็เท่านั้น

ภาพในหัวย้อนกลับไปเป็นฉากๆ ว่าตอนเขาหลับไปนั้นได้รับรู้เรื่องอะไรบ้าง ไอ้มั่นทำอะไรเพื่อเขาบ้าง และเขาทิ้งความทุกข์ระทมไว้ให้ใครบ้าง แค่นี้น้ำตาก็ไหลรินไม่ขาดสาย เสียใจเป็นที่สุดที่ความคิดสั้นเห็นแก่ตัวของเขาทิ้งบาดแผลไว้ให้คนมากมาย ทั้งพ่อแม่ ทั้งคนรัก และทาสที่ซื่อสัตย์

“ฮึก...ขะ...ขอโทษนะ ผมขอโทษ”

ณิชพนมมือไหว้ นี่เป็นคำแรกที่เอ่ยบอก ความเสียใจของเขาคงไม่เท่ากับความซื่อสัตย์ของบ่าวที่เคยรับใช้เขาคนนี้ มันมากมายมหาศาลจนคิดว่าหากอีกฝ่ายหลุดพ้น คงได้เกิดเป็นคนมียศมีศักดิ์ ฐานะสูงส่งและไม่ลำบากอย่างแน่นอน น้ำตาเขาไหลอาบแก้มอีกครั้ง ยามคิดถึงบิดาตัวเองเมื่อชาติก่อนที่สำเร็จโทษอีกฝ่ายอย่างไรความปรานี รู้สึกผิดจนอยากจะชดใช้ให้ทุกสิ่งทุกอย่าง

“มิเป็นไรเลยขอรับ บ่าวไม่เคยโกรธคุณปราณเลยขอรับ” ไอ้มั่นรีบส่ายหน้าโบกมือเป็นพัลวัน เพื่อไม่ให้เจ้านายเก่าของมันคิดมาก แต่ดูเหมือนยิ่งพูดอีกฝ่ายก็ยิ่งร้องไห้

“ผมเสียใจ...ที่...ที่ทำให้คุณต้องมาเจออะไรแบบนี้ มีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ไหม คุณ...อยากได้อะไรไหม ผมจะได้ทำบุญไปให้” ชายหนุ่มหน้าหวานถามเสียงสั่นเครือ เขาทำท่าจะลงจากเตียง แต่แค่ลุกขึ้นมานั่งก็ยังมึนเลยยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เพียงแค่ห้อยขาลงข้างเตียงเท่านั้น เพื่อจะได้พูดกับมั่นได้สะดวก

“หากจะมี...ก็คงเพียงแต่ชาตินี้คุณปราณอย่าจากไอ้หาญไปอีกเลยขอรับ บ่าวสงสารมัน มันรอคุณปราณมาหลายชาติแล้วขอรับ”

ความสุขของมันเต็มอกจนแทบพูดไม่ออก เป็นอีกครั้งที่เวลาแห่งการรอคอยของมันก็มาถึงตรงนี้ ยิ่งคุณปราณจำมันได้มันก็ยิ่งดีใจหนัก เพราะสื่อให้รู้ว่าโชคชะตากำลังทำงานอย่างเต็มที่อีกครั้ง เหมือนมันที่พยายามช่วยคนทั้งสองทุกทางเท่าที่ดวงวิญญาณจะทำได้

“หมายความว่ายังไง”

“นานไปประเดี๋ยวคุณปราณจะรู้เองขอรับ บ่าวไม่สามารถบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดได้ เพราะต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโชคชะตา ไม่เช่นนั้นไอ้หาญจะไม่พ้นคำสาปขอรับ”

ณิชพยักหน้ารับรู้ เขาคงต้องให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ควรจะเป็น ตอนนี้คงทำได้แค่เก็บเกี่ยวข้อมูลที่อีกฝ่ายพอจะบอกได้เท่านั้น

“คุณอยู่กับผมมานานแล้วเหรอ ทำไมผมไม่เคยรู้”

ณิชหยิบทิชชูมาเช็ดน้ำมูกน้ำตา ปลายจมูกแดงเพราะโดนเจ้าตัวสั่งน้ำมูก ดูน่าเอ็นดูเหมือนตอนที่ยังเป็นคุณปราณไม่มีผิด แม้รูปร่างจะต่างไปจากเดิมสักหน่อย ไม่ได้ตัวเล็กบอบบางมากเท่าตอนเป็นคุณปราณ แต่โดยนิสัยส่วนตัวแล้วก็คล้ายกัน ไอ้มั่นมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเอ็นดู เพราะกรรมที่ทำมาไม่ได้มีแค่นี้ ความเศร้าโศกความเสียใจยังเหลือให้ต้องรับรู้อีกมาก

“บ่าวจะปรากฏตัวได้แจ่มชัดเมื่อคุณปราณจำทุกอย่างได้หมดขอรับ จะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง”

“แล้วคุณจีรัชญ์...เอ่อ...หาญ คือชาตินี้เขาคือคุณจีรัชญ์ เขารู้ไหมว่านายคือวิญญาณ”

“รู้ขอรับ”

ณิชนั่งมึนไปกับคำบอกเล่าไปอีกพักใหญ่ พูดชื่อผิดๆ ถูกๆ เพราะไม่รู้จะเรียกชื่อกันอย่างไรดี

ก๊อกๆๆ

“มาแล้วจ้า โจ๊กร้อนๆ กินได้คล่องคอ กรี๊ดดด!!”

มิ้งหวีดเสียงหลง เมื่อเห็นวิญญาณที่ตนคิดว่าเป็นไอ้หาญนั่งคุกเข่าอยู่ตรงมุมห้อง ถุงโจ๊กเกือบหลุดมือ ดีที่นิ้วเกี่ยวไว้ได้ทัน แต่เธอหลับตาสนิทพนมมือไหว้ปิดหน้าตัวสั่นงันงก ส่วนณิชที่พึ่งคิดได้ว่ามิ้งเล่าให้ฟังเรื่องเห็นวิญญาณของไอ้หาญก็หลุดขำ ก่อนจะกวักมือเรียกให้หญิงสาวเดินไปหาตน เพราะกลัวพยาบาลจะเข้ามาต่อว่าที่ทำเสียงดัง มิ้งรีบวิ่งไปซ่อนหลังรุ่นพี่ของเธอทันที กระโดดพรึบขึ้นเตียงคนป่วยเบียดชิดติดตัวชายหนุ่มราวกับจะสิงให้ได้

“นุ...หนู...หนูเห็นไอ้หาญอีกแล้วพี่ณิช ฮืออออ” มิ้งกลัวจนตัวสั่น เธอกอดณิชไว้แน่นไม่กล้าแม้แต่จะลืมตามอง ขาทั้งสองข้างยกขึ้นชันเข่าไว้ เพื่อว่าวิญญาณตนนั้นจะได้ไม่มาดึงขาเธอได้

“ฮือออ พี่...หนูกลัว พี่อาจไม่เห็นแต่หนูเห็นอ่ะ หนูกลัวจริงๆ นะ พี่บอกเขาสิว่าพี่ไม่เห็น อย่ามาหลอกมาหลอนกันแบบนี้” หญิงสาวยังคงพูดต่อ ชีวิตนี้ไม่เคยเห็นผีเลยสักครั้ง แต่พอเห็นได้เท่านั้นแหละ อีกฝ่ายก็โผล่มาให้เจอกันโต้งๆ แบบนี้ ขนาดกลางวันแสกๆ ก็ไม่เว้น ต่อให้มีเรื่องราวรักโรแมนติกมากแค่ไหน เธอก็ไม่ได้รู้สึกดีเวลาเห็นอีกฝ่ายหรอกนะ

“มิ้ง แกฟังพี่ก่อน” ณิชเขย่าตัวอีกฝ่ายเบาๆ เพื่อเรียกสติ ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าสิ่งที่มิ้งเห็นก่อนหน้านี้คืออะไร และคือใคร มิ้งเข้าใจผิดว่านี่คือหาญ อาจเพราะชุดที่อีกฝ่ายใส่ราวกับหลุดมาจากละครที่มีทาสในเรือน อีกทั้งผิวกายที่ดำคล้ำ กายกำยำของชายไทยสมัยก่อน ทำให้หญิงสาวคิดเป็นอื่นไปไม่ได้

“ฟังได้นะพี่ แต่หนูไม่ลืมตานะ ไม่เอา กลัว” มิ้งยังยืนยันคำเดิมว่าเธอกลัว ยิ่งอาการขนลุกขนพองทั้งตัวยิ่งเป็นตัวการันตีได้ว่าเธอกลัวจริงๆ ณิชหันไปมองมั่นที่ยังคงนั่งคุกเข่าอยู่ที่เดิม ก่อนจะบอกอีกฝ่ายในใจว่าให้ไปที่อื่นก่อน เพราะเขาขอเล่าเรื่องราวให้รุ่นน้องฟังก่อน

เขามีมิ้งเหมือนเป็นเพื่อนที่คอยรับรู้เรื่องราวทุกอย่าง อย่างไรเขาก็ต้องเล่าให้อีกฝ่ายฟังอยู่แล้ว ในเมื่อตอนนี้มีเวลาก็อยากเล่าให้เสร็จ เพื่อที่มิ้งจะได้ไม่อกสั่นขวัญแขวนกับวิญญาณเร่ร่อนตนนั้นอีก

“ได้ แต่ตั้งใจฟังพี่ดีๆ คนที่แกเห็นนั่นไม่ใช้หาญ แต่เป็นมั่น”

“มั่นคือใคร”

“เพื่อนของหาญไง” เขาเคยเล่าเรื่องในความฝันให้มิ้งฟังก่อนหน้านี้ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องของมั่นนัก เมื่อมาเจอกันแบบนี้ก็คงต้องพูดถึงกันเสียหน่อย

“แล้วเขามาหาพี่ทำไม พี่เห็นเขาเหมือนหนูใช่ไหม เห็นเมื่อไหร่ พี่เพิ่งฟื้นเองนะ นี่ตอนกลางวันแสกๆ ก็ยังมาหลอกกัน เขาอยากได้อะไร อาฆาตพี่รึเปล่า ไปทำบุญให้กันเถอะพี่ พวงมาลัยก็ซื้อมาแล้วเราไปไหว้พระกันไหม”

“มิ้ง! ใจเย็นๆ ก่อน แกพูดรัวเลยฟังไม่ทันแล้วเนี่ย”

“ก็หนูกลัวนี่! นั่นผีนะพี่ไม่ใช่ลูกหมา ถึงจะได้ทำตัวน่ารักใส่เวลาเจออ่ะ” มิ้งเปิดตาขึ้นมาเถียงอีกฝ่ายใบหน้างอง้ำ เหลือบมองไปรอบๆ ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ เงาทะมึนนั้นหายไปแล้ว แต่เธอก็ยังหวาดกลัวอยู่ดี ไม่รู้อีกฝ่ายจะโผล่มาตอนไหนนี่สิ

ณิชตัดสินใจเล่าเรื่องที่ตนพอจะจำได้จากในฝันให้หญิงสาวฟังทั้งหมด มิ้งถึงกับอึ้งไปหลายนาที หญิงสาวนั่งนิ่งราวกับโดนมนต์สะกดไว้ คงกำลังเรียบเรียงความคิดในหัวอยู่ ก่อนจะเริ่มถามเขาอีกครั้ง

“สะ...แสดงว่าคุณตรีก็มีชีวิตอมตะเหรอ”

“ก็คงอย่างนั้น”

“โห... ถึงว่าทำไมตอนเจอคนทำร้ายตัวคุณตรีไม่เป็นอะไรเลย มันโคตรเหลือเชื่อเลยนะพี่” พูดไปก็ถูแขนตัวเองไปเพราะขนลุกอยู่ตลอดเวลากับเรื่องเหนือธรรมชาตินี้

“เออ! ถ้างั้นทำไมคุณเขาดูนิ่งๆ กับพี่ล่ะ”

“พี่ก็ไม่รู้ สับสนว่ะมิ้ง คือ...”

“แต่หนูเห็นว่าเขาแอบหอมหน้าผากพี่ด้วยนะ สายตาหวานเยิ้มตอนแอบมองพี่” หญิงสาวยิ้มล้อเลียน เพราะเธอจำได้ว่าตอนนั้นทำเอาตกใจไปเหมือนกันที่แอบเห็น คิดว่าระหว่างคนทั้งสองคงถูกจุดไฟรักเข้าแล้ว แต่พอณิชตื่นจีรัชญ์ก็ดูนิ่งเฉยปกติ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“เมื่อไหร่”

“ตอนพี่เป็นไข้ที่บ้านอ่ะ คุณตรีเขาเข้าไปดูแลพี่ตลอด ไหนจะตอนมองพี่อีก หนูพอรู้สึกได้นะว่าเขามองแบบหวานๆ อ่ะ”

“ตอนแรกไม่เห็นคิดแบบนี้” ณิชสวนกลับ

“ก็ตอนแรกไม่รู้ไง ยิ่งคุณตรีคบอยู่กับคุณแขไขด้วยแล้วใครจะไปคิดถึงเรื่องนี้” มิ้งพูดจบก่อนจะสะดุ้งเมื่อคิดได้ว่าตนไม่ควรพูดออกไป เพราะถ้ารุ่นพี่เธอกับเจ้าของวังปริพัตรมีดวงชะตาผูกพันกันจริง ในชาตินี้คงยุ่งไปสักหน่อยเพราะไอ้หาญนั้นมีคนรักเสียแล้ว

“อย่าได้คิดเป็นอื่นขอรับ ไอ้หาญไม่เคยมีใจให้ใครนอกจากคุณปราณนะขอรับ”

“กรี๊ด!! มาอีกแล้ว! โผล่มาอีกแล้วอ่ะพี่ณิช!” มิ้งกรี๊ดอีกครั้งตาปิดสนิท เธอเขย่าตัวณิชรัวๆ เมื่อเห็นมั่นยืนอยู่ที่หน้าต่าง ไม่ชินเสียทีกับการปรากฏตัวของอีกฝ่ายที่คิดจะมาก็มา

ณิชถอนหายใจกุมขมับเพราะตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร มั่นดีใจที่เขาจำทุกอย่างได้ แววตาเศร้าของมันดูมีความหวังที่เขาจำอดีตและกำลังจะทำให้ปัจจุบันดำเนินไป การปรากฏกายก็ทำได้มากขึ้นเพราะเขาจำทุกอย่างได้แล้ว แต่คนอย่างมิ้งที่ไม่ได้รู้เรื่องราวในอดีตเหมือนที่เขาพบเจอเองยังไม่ชิน จึงอกสั่นขวัญแขวนกับเรื่องแบบนี้ได้ง่ายๆ

“มั่น... คุณอย่าเพิ่งมาก่อนนะ คือ...คนอื่นเขายังไม่ชินกับอะไรแบบนี้ ต้องให้เวลาหน่อย”

“แต่บ่าวอยากอยู่กับคุณปราณนะขอรับ ไอ้หาญกำชับว่าต้องอยู่ดูแลคุณปราณระหว่างที่มันยังไม่กลับมา” ไอ้มั่นตอบหน้าซื่อ

“งะ...งั้นส่งสัญญาณก่อนได้ไหม เวลาจะปรากฏตัวน่ะ เอาแบบมีเสียงมีกลิ่นมาเตือนก่อน ฉะ...ฉันกลัว” มิ้งพูดเสียงอ่อน เธอไม่ใช่คนมีสัมผัสพิเศษ แต่คงเพราะสนิทกับณิชและรับรู้เรื่องราวผ่านจากอีกฝ่ายเลยทำให้เห็นอะไรแบบนี้ไปด้วย

“งั้นเอาตามนี้นะมั่น ไว้ให้มิ้งเขาชินก่อน อ้อ! ไม่ต้องบอกคุณจีรัชญ์เรื่องที่ผมจำเรื่องทั้งหมดได้แล้วด้วยนะ ผมอยากรู้ว่าเขาจะทำยังไงต่อจากนี้ มิ้งด้วยนะ ห้ามบอกใครเรื่องนี้เข้าใจไหม”

“เข้าใจค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับหงึกหงัก เธอจะไปเล่าให้ใครฟังได้ล่ะ ไม่มีใครเขาเชื่อหรอกถ้าไม่ได้เจอด้วยตาตัวเองแบบเธอน่ะ

“อ่าว...ขอรับ” ไอ้มั่นรับคำหน้าหงอย ใครเลยจะรู้ว่ามันก็เฝ้ารอให้คุณปราณจำได้ และได้คุยกับมันอีกครั้งนานแค่ไหน หากไม่นับไอ้หาญก็ไม่มีใครรับรู้ถึงความคิดถึงนี้ดอก





โปรดติดตามส่วนต่อไป

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
จะเป็นไงต่อนะ แล้วเรื่องของชาติที่แล้วก่อนจะถึงชาตินี้เป็นยังไง รอลุ้นอยู่ครับ

ออฟไลน์ Slotala

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เนื้อเรื่องชวนติดตามมากค่ะ อยากให้ชาตินี้หาญได้พ้นจากคำสาปสักที

ออฟไลน์ mister

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
    • https://www.facebook.com/JJSonkFanclub
 :ling1: :ling1: อยากกอ่านต่อแล้วอ่า :z13:

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
สงสารไอ้มั่นจนน้ำตาซึมเลย  :mew6: รีบๆรักกัน ไอ้มั่นจะได้ไปผุดไปเกิด  :katai2-1:

ออฟไลน์ แก่ เหี่ยว เคี้ยวยาก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนนี้ไม่เศร้าแล้ว

รอคุณตรีมา

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
น้ำตาซึมไปกับมั่น ชอบมั่นอยากให้ได้พบเจอกับสิ่งดีๆ

ออฟไลน์ :นางสาวผอบ:

  • ความเคลื่อนไหวในเงามืด
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +649/-4
บทที่ ๑๔ (ครึ่งหลัง)



เสียงเคาะประตูห้องพักผู้ป่วยดังขึ้นในช่วงค่ำ ก่อนจะเห็นป้าแจ่มเปิดประตูเข้ามาก่อนเป็นคนแรก ตามมาด้วยเจ้านายของป้าแจ่มที่อยู่ในชุดเสื้อเชื้ตสีฟ้าอ่อนแขนยาว พับแขนขึ้นถึงข้อศอก กับกางเกงผ้าเนื้อดีสีดำเข้ารูปพอดีตัว สไตล์การแต่งตัวของอาจารย์มหา’ ลัยดูดีทันสมัย เข้ากับหุ่นและรูปร่างสูงใหญ่ของอีกฝ่าย

“สวัสดีครับป้าแจ่ม สวัสดีครับคุณจีรัชญ์” เขาเอ่ยทักทายคนทั้งสอง

“โถ ขวัญเอ๊ยขวัญมานะคะคุณณิช” ป้าแจ่มเข้ามาหาก่อนจะกอดชายหนุ่มต่างถิ่นเต็มรัก เพราะอยู่ด้วยกันมาร่วมเดือน เห็นหน้ากันทุกวันก็ย่อมผูกพันกันเป็นธรรมดา ความห่วงใยของหญิงสูงวัยที่ณิชรับรู้ได้ทำเขาน้ำตาซึม ส่วนคนที่อยากเจอมาทั้งวันกลับนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา

“ตอนแรกขวัญเกือบหายแล้วครับ แต่เพราะอยากกินอาหารฝีมือป้าแจ่มเลยต้องกลับมา” ณิชเอ่ยแซวเพื่อไม่ให้บรรยากาศมันโศกเศร้าเกินจำเป็น หญิงสูงวัยยิ้มกว้างพร้อมหัวเราะ ก่อนจะขอปิ่นโตจากจีรัชญ์ที่อาสาถือมาให้วางบนโต๊ะล้อเลื่อน

“ป้าต้มซุปมาให้ค่ะ เป็นซุปกระดูกหมูใส่มะเขือเทศต้มจนเปื่อย รับรองว่าอร่อยค่ะ คุณตรีเธอบอกให้ทำอาหารรสชาติอ่อนๆ ย่อยง่ายมาก่อน คุณณิชหลับไปหลายวันเกรงว่ากระเพาะจะยังทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่ถ้ากลับไปป้าจะทำแกงเทโพของชอบคุณณิชให้นะคะ”

“มีแต่ของชอบพี่ณิช แล้วของหนูล่ะคะป้าแจ่ม หนูอยากกินข้าวยำ”

“พรุ่งนี้นะคะคุณมิ้ง ป้าจะให้แม่หวีไปหาผักเตรียมไว้ทำหมวดข้าวยำ”

‘หมวด’ ข้าวยำที่คนใต้เรียก คือผักชนิดต่างๆ ที่ซอยละเอียดเพื่อไว้ทานกับข้าวและน้ำบูดู ซึ่งฝีมือการซอยผักของป้าแจ่มสวยไม่เป็นรองใคร ใบชะพลูนั้นถูกซอยเหลือเป็นเส้นเล็กๆ เท่ากัน ดูสวยงามน่าทาน

“งั้นพี่ณิชทานข้าวเถอะ เดี๋ยวหนูกับป้าแจ่มจัดใส่จานให้” หญิงสาวขยิบตาให้ณิช เป็นอันรู้กันว่าเธอกำลังเปิดทางให้ณิชได้คุยกับจีรัชญ์บ้าง

ทางด้านจีรัชญ์ที่ได้รับข่าวเรื่องของณิชจากมิ้งตั้งแต่ช่วงกลางวัน แต่เขาไม่สามารถปลีกตัวได้จึงต้องมาเยี่ยมคนป่วยพร้อมป้าแจ่ม เขาได้คุยกับพยาบาลหน้าห้องเกี่ยวกับอาการของณิชมาแล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงพรุ่งนี้คงกลับบ้านได้

แต่กระนั้นความผิดของอีกฝ่ายก็ยังมี สมุดบันทึก จดหมาย และกุญแจที่หายไป ถือว่าคนป่วยแอบขโมยของเขาไปได้อย่างแนบเนียน คงต้องชำระความกันหลังจากนี้ ยังไม่รวมไปถึงท่าทีรีบร้อนจนทำให้ตกบันไดอีก เขาไม่รู้ว่าณิชรู้เรื่องอะไรบ้าง แต่อีกฝ่ายก็คงระแคะระคายเรื่องของหาญมากพอดู ไม่เช่นนั้นคงไม่วิ่งหน้าตั้ง พร้อมตาที่แดงก่ำที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักลงมาหาเขาหรอก

ณิชมองจีรัชญ์ที่มองเขาด้วยสายตาดุๆ ก่อนชายหนุ่มร่างใหญ่จะเดินไปนั่งที่โซฟาไม่พูดอะไรกับเขาสักคำ ราวกับกำลังโกรธกันอยู่นั่นแหละ หรือเพราะก่อนหน้านี้ที่เขาก่อเรื่องก่อนจะสลบไป เพราะจีรัชญ์ก็คงเห็นสมุดบันทึกที่เขาหยิบมาด้วยแล้ว

คิดมาถึงตรงนี้หน้าใบหน้าติดหวานของชายหนุ่มก็สลดในทันที ใจอยากคุยด้วยแทบขาดแต่อีกฝ่ายกลับเมินเสีย ราวกับไม่ได้ทุกข์ร้อนเรื่องที่เขานอนป่วยอยู่ที่นี่

แต่หากสังเกตดูแล้ว หาญก็ยังคงพูดน้อยเช่นเดิมไม่ว่าจะชาติที่แล้วหรือชาตินี้ ดูหาญจะอายุมากกว่าเขาไปสักหน่อยเพียงแต่ไม่แก่ลง หรือมีริ้วรอยที่บ่งบอกว่าชีวิตของอีกฝ่ายดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น ราวกับเวลาอายุของหาญถูกหยุดไว้ให้มีอายุเท่าคนวัย 30 กว่าเท่านั้น

“ถึงคุณจะหิว แต่การจ้องผมตาไม่กะพริบแบบนั้นก็ทำให้คุณอิ่มไม่ได้หรอกนะ ต้องรอป้าแจ่มกับคุณมิ้งจัดให้เสร็จก่อน” จีรัชญ์พูดขึ้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งมองตนอยู่บนเตียง ณิชสะดุ้งเล็กน้อยที่อีกฝ่ายรู้ตัวก่อนจะยิ้มให้

“คุณเป็นยังไงบ้าง” เขาพยายามควมคุมเสียงไม่ให้สั่น รู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ไม่เคยคิดว่าจะได้คุยกับหาญตัวจริงอีกครั้ง เพราะที่ผ่านมารับรู้เรื่องราวอีกฝ่ายเพียงฝันเท่านั้น

ใจจริงเขาอยากถามถึงเรื่องในอดีตด้วยซ้ำ อยากรู้ว่าตอนนี้บึงบัวที่เคยไปนั้นอยู่ที่ใด ยังมีอยู่หรือไม่ แล้วตอนที่หาญได้รู้ความจริงทุกอย่างแล้วมีชีวิตอย่างไร เขามีแต่ความสงสัยเต็มไปหมด แต่ก็ต้องห้ามใจไว้เพราะหากบุ่มบ่ามไปจีรัชญ์จะยิ่งถอยห่างเขา

เพราะที่ผ่านมาจีรัชญ์แทบจะไม่เข้าใกล้เขาเกินความจำเป็น เหมือนอีกฝ่ายกำลังพยายามหักห้ามใจ คงเพราะมีคุณแขไขด้วยจีรัชญ์จึงไม่อยากทำอะไรที่ไม่ควร แต่เขาก็อยากให้จีรัชญ์หลุดพ้นจากคำสาปเหมือนกัน

“แน่นอนว่าผมสบายดี ผมไม่ได้ตกบันไดจนหัวแตกเลือดอาบเหมือนคุณนี่”

คำพูดคำจายังคมกริบเหมือนมีดบาด ณิชเม้มปากสนิทครุ่นคิดว่าจะช่วยอีกฝ่ายคุยเรื่องอะไรดี แต่ยังไม่ทันได้ถามต่อป้าแจ่มก็ยกอาหารมาให้ตรงหน้า กลายเป็นการปิดปากปิดบทสนทนาระหว่างเขากับจีรัชญ์ไปโดยปริยาย

::::::::::::

ณิชออกจากโรงพยาบาลมาได้สองวันแล้ว เขากลับมาลุยงานต่อได้เหมือนเดิม ส่วนเจ้าของวังก็ยุ่งกับงานที่มหา’ ลัย เพราะอยู่ในช่วงสอบจนไม่มีเวลาพูดคุยกัน ส่วนเรื่องเขาขโมยกุญแจจีรัชญ์นั้นเจ้าตัวไม่ถือโทษเอาความ แต่มีคำสั่งห้ามว่าไม่ให้เขาเข้าไปยุ่งในห้องทำงานของอีกฝ่ายอีก หากจะยืมหนังสือก็ต้องยืมในเวลาที่ตัวเองอยู่เท่านั้น ถือเป็นคำขาดที่แม้แต่ป้าแจ่มก็ต้องให้ความร่วมมือด้วย

“คุณณิชไม่ต้องช่วยป้าหรอกค่ะ แค่แม่หวีคนเดียวก็พอแล้ว ยังมีเด็กคนอื่นเป็นลูกมือด้วยยิ่งไม่ต้องห่วง”

“แต่ผมอยากทำอาหารตอบแทนคุณจีรัชญ์ที่ช่วยผมนี่ครับ วันนี้ทำต้มกะทิสายบัวปลาทูใช่ไหมครับ ป้าแจ่มสอนหน่อยสิครับ ผมอยากเซอร์ไพรส์เขาในฐานะผู้รอดชีวิตไม่ตกบันไดคอหักตาย”

ชายหนุ่มพูดขึ้นในช่วงว่างของวัน ตอนนี้บ่ายคล้อยใกล้เวลาจีรัชญ์กลับมาแล้ว เขาอยากทำของโปรดให้อีกฝ่ายได้ทานเสริมความประทับใจที่มีบ้าง ไม่เช่นนั้นจีรัชญ์ก็คงยังมึนตึงใส่เขาไม่เปลี่ยน

“โอ๊ยยย คุณณิชก็พูดเกินไป ดีแล้วล่ะค่ะที่ไม่เป็นอะไรมาก ที่คุณตรีเธอช่วยนั่นก็เพราะคุณณิชเป็นแขกของที่นี่ ใครจะปล่อยให้แขกของตัวเองบาดเจ็บได้ล่ะคะ แต่ถ้าอยากให้ป้าสอนก็ได้ค่ะ งั้นก็มาเริ่มกันเลยนะคะ”

ไอ้มั่นแอบมองเจ้านายของมันลงครัว ท่าทางดูเก้ๆ กังๆ ไม่หยอกแต่ก็ไม่ถึงขั้นหยิบโหย่ง รอยยิ้มของไอ้ทาสผู้ซื่อสัตย์ประดับขึ้นบนใบหน้า ยามที่เห็นคุณปราณทำอาหารที่ครั้งหนึ่งเจ้าตัวเคยชอบ และที่ไอ้หาญชอบก็เพราะคุณปราณชอบนี่แหละ เป็นอาหารที่ไอ้เพื่อนเกลอกินบ่อยที่สุด หากไม่เทียบกับน้ำพริกกะปิที่ต้องมีขึ้นโต๊ะเกือบทุกวันน่ะนะ

ณิชยึดของในครัวมาถือจับด้วยมือตนเองทั้งหมด ไม่ให้ป้าแจ่มได้แตะต้องอะไรเลย เพียงแค่เป็นคนบอกวิธีทำและสัดส่วนการปรุงเท่านั้น ส่วนวัตถุดิบต่างๆ ป้าแจ่มก็จัดเตรียมไว้แล้วว่าจะลงมือทำเอง แต่ในเมื่อณิชขอลองทำเธอจึงปล่อยให้ทำไป

หลังจากเสร็จงานกับช่างจรูญวันนี้ มิ้งจึงเดินมาที่โรงครัวเพราะก่อนหน้านี้ณิชบอกว่าให้เธออยู่คุมงานไปก่อน ส่วนตนนั้นจะขอมาทำอะไรเซอร์ไพรส์จีรัชญ์สักหน่อย ท่าทางราวกับคนมีความลับจนเธออยากรู้จึงต้องมาที่ครัว

หญิงสาวเห็นเงาตะคุ่มๆ ของไอ้มั่นยืนอยู่ข้างครัว ใจเธอสั่นเพราะไม่ชินเสียทีแม้อีกฝ่ายจะทำตามสัญญา เมื่อเวลาปรากฏตัวจะมีลมพัดมาวูบหนึ่งพร้อมกลิ่นดอกไม้หอม เพื่อให้เธอได้รู้ตัวว่าเจ้าตัวมาแล้ว แต่กระนั้นความไร้กายหยาบของมั่นก็ทำเธอหวั่นๆ อยู่ดี และต้องแอบคุยด้วยนะ เพราะหากคนอื่นมาเห็นจะหาว่าเธอกับณิชบ้าเอาได้ที่คุยคนเดียวเป็นวรรคเป็นเวร

“พี่...พี่มั่น...” เสียงหญิงสาวเรียกไอ้มั่นจนเจ้าตัวสะดุ้ง หันมามองก็พบว่ามิ้งยืนอยู่ หน้าตาไม่ได้หวาดกลัวตนเท่าวันแรกๆ ที่เจอ แต่ก็ยังมีเค้าของความเกร็งอยู่บ้าง

“กระไรหรือ”

“พี่ณิชเขาทำอะไรน่ะ ทำไมดูลับๆ ล่อๆ แม้แต่แม่ครัวคนอื่นก็ไม่ให้เข้าไปยุ่ง” มิ้งถามพลางยืนแอบที่หน้าต่างครัวไม่ต่างจากไอ้มั่น ชะโงกหน้าเข้าไปดูณิชแวบหนึ่งด้วยความอยากรู้ ท่าทางไม่ต่างกับไอ้มั่นชายผู้มีแต่ดวงวิญญาณ

“คุณเขากำลังให้ป้าแจ่มสอนทำต้มกะทิสายบัวปลาทู เจ้าอย่าเอ็ดไปประเดี๋ยวคุณเขาจะว่าเอา”

“ทำไมต้องว่า”

“ก็คุณปราณว่านี่มันคือเรื่องสะใภ้ไอ้หาญ”

“ห้ะ! สะใภ้?” เรียกได้ว่างงหนักเมื่อได้พูดกับบ่าวตัวดำที่ยังไม่ชินถ้อยคำในสมัยนี้ มิ้งขมวดคิ้วครุ่นคิดว่าคำว่าสะใภ้ที่ว่าของมั่นมันคือคำว่าอะไรในตอนนี้

“เซอร์ไพรส์รึเปล่า”

“สะใภ้สิวะ หน้าที่เมียก็ต้องหุงหาอาหารให้ผัวกินน่ะถูกแล้ว”

พูดมาถึงตรงนี้มิ้งถึงกับสำลักน้ำลายทันที คนสมัยก่อนเขาเถรตรงเรื่องคำพูดกันแบบนี้เลยเหรอ แล้วเรื่องสะใภ้นี่มันยังห่างไกลในตอนนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างไอ้หาญกับคุณปราณเธอไม่เถียง แต่ชาตินี้คนทั้งสองยังห่างไกลกันอยู่มากโข จะรวบรัดใช้คำนี้เลยก็คงไม่ได้

“พี่ณิชเขาใช้คำว่าเซอร์ไพรส์เถอะพี่มั่น ชาติก่อนรักกันยังไงไม่ว่า แต่ชาตินี้แม้แต่จะเข้าใกล้พี่ณิช คุณตรียังเว้นระยะห่างราวพระกับสีกาอยู่เลย”

มิ้งหน้ามุ่ย นึกสงสารรุ่นพี่เธอจับใจ เพราะตั้งแต่ฟื้นขึ้นมารู้เรื่องราวทั้งหมดได้ก็พยายามเข้าหาจีรัชญ์ทุกทาง แต่ฝ่ายนั้นก็พร้อมถอยห่างทุกทีเช่นเดียวกัน จนเธอสงสัยว่าจีรัชญ์ไม่อยากหลุดพ้นคำสาปหรืออย่างไร ทำไมถึงได้ไว้ตัวแบบนี้

ไอ้มั่นหน้ายุ่งเมื่อโดนขัดคอก่อนจะหันไปสนใจเจ้านายของมันต่อ ตอนนี้กลิ่นหอมของแกงส่งกลิ่นอวลไปทั่ว เมื่อแกงเดือดได้ที่ณิชจึงยกลงจากเตา ประจวบกับนายพลีวิ่งมาบอกว่าจีรัชญ์กลับมาแล้วพอดี

“น่ากินจัง” มิ้งเดินเข้าไปในครัวแล้ว โดยมีไอ้มั่นตามเข้าไปด้วย ณิชหันมามองหญิงสาวก่อนจะยิ้มให้ ยกถ้วยที่ตักแกงใส่ไว้สวยๆ ให้มิ้งดู

“พี่ทำเองเลยนะ เดี๋ยวลองกินกันว่าอร่อยสู้ป้าแจ่มทำเองได้ไหม”

“โห ได้อยู่แล้วแหละ แม่ครัวใหญ่สอนเองแบบนี้ไม่มีทางที่จะไม่อร่อย” มิ้งเอ่ยแซวจนคนเป็นครูต้องยิ้มเขิน

“มิ้ง พี่ฝากตักใส่ถ้วยเล็กๆ ให้มั่นด้วยนะ เดี๋ยวพี่ยกอาการไปเสิร์ฟก่อน”

“ได้จ้า งั้นเดี๋ยวพี่กินไปก่อนเลยนะไม่ต้องรอ” หญิงสาวยิ้มล้อเพราะเข้าใจเจตนาของรุ่นพี่เธอดี ณิชพยักหน้ารับก่อนจะถลึงตาใส่ จากนั้นเดินตามแม่บ้านคนอื่นๆ ที่กำลังยกสำรับออกไปแล้ว

มิ้งจัดการตักต้มกะทิสายบัวปลาทูใส่ถ้วยขนาดกลาง พร้อมข้าวสวยร้อนๆ อีกหนึ่งจาน ก่อนจะวางใส่ถาดแล้วยกไปที่ต้นพุดน้ำบุษย์ ตรงนี้มีม้านั่งอยู่ด้วยเธอจึงจัดแจงหาธูปมาจุดไหว้ ตั้งจิตอธิษฐานบอกว่าส่งอาหารส่วนนี้ให้ไอ้มั่นแต่เพียงผู้เดียว

“ขอบใจเจ้ามาก” ไอ้มั่นยิ้มเมื่อเห็นว่าอาหารเหล่านั้นมาถึงมันแล้ว

“หนูพยายามไม่กลัวพี่ แถมยังทำดีขนาดนี้ พี่ก็ให้หวยหนูบ้างนะพี่มั่น” มิ้งกอดอกมองคนที่กำลังกินข้าวอยู่ ไอ้มั่นถึงกับเงยหน้าขึ้นมอง

“32”

“งวดนี้เหรอพี่! เห้ย! จริงนะ” หญิงสาวตาเป็นประกายเมื่อคิดว่าเธออาจจะถูกหวยงวดนี้ กะไว้ว่าจะซื้อสักสิบใบ ทุ่มหมดหน้าตักเอาให้รวยเลย

“เชื่อข้าก็บ้าแล้วเจ้ามิ่ง!”

ไอ้มั่นตอบเสร็จก็หัวเราะท้องแข็ง อย่างน้อยๆ ชาตินี้มันก็มีหญิงสาวตัวเล็กหัวฟูเป็นเพื่อนใหม่ แม้อีกฝ่ายจะมีท่าทีหวาดกลัว แต่ก็พอทำให้มันหายเหงาได้บ้าง ไม่ได้เปล่าเปลี่ยวต้องจมอยู่กับความทุกข์ทรมานเหมือนอย่างที่แล้วมา

มิ้งถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดที่โดนผีหลอก นอกจากหวยจะไม่ได้ยังจะมาเรียกชื่อเธอผิดอีก บอกไปไม่รู้กี่ครั้งว่าชื่อมิ้ง ดันเรียกมิ่งอยู่ได้ แถมยังต่อท้ายให้ด้วยว่ามิ่งขวัญ เห้อ...

::::::::::::

จีรัชญ์เดินเข้ามาในบ้าน ไม่พบใครสักคนให้ได้เห็นหน้า แม้แต่คนที่พยายามเข้าหาตนก็ไม่เห็น เขาจึงขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองอยู่บ้านสบายๆ เมื่อลงมาข้างล่างอีกครั้งก็เห็นว่าแม่บ้านกำลังยกสำรับขึ้นโต๊ะเป็นมื้อเย็น มีต้มกะทิสายบัวปลาทูของโปรดส่งกลิ่นหอมยั่ยวนจนน้ำลายสอ โดยคนที่ยกมาก็ไม่ใช่ใครอื่น ชายหนุ่มสถาปนิกที่เขาจ้างมาทำงานตกแต่งภายใน ที่ตอนนี้ดูเหมือนจะผันตัวไปเป็นคนครัวของเขาเสียแล้ว

“คุณมิ้งล่ะ”

“เธอบอกให้ทานก่อนได้เลยค่ะ เห็นทำอะไรอยู่ข้างนอกโน่นแน่ะ” ป้าแจ่มตอบ

“วันนี้ผมลงมือทำของโปรดของคุณ เพื่อเป็นการตอบแทนที่ช่วยเหลือผมในวันนั้น ลองทานดูนะครับ” ณิชเอ่ยพรีเซนต์เต็มที่ ใบหน้าหวานเผยรอยยิ้ม แก้มขึ้นสีระเรื่อยามโดนอีกฝ่ายจ้องมองด้วยสายตาคมดุ แต่เสี้ยวแววตาเขากลับรู้สึกถึงความอ่อนโยนที่แอบแฝงอยู่

“ป้าแจ่มแน่ใจในตัวศิษย์คนนี้ไหม” จีรัชญ์หันไปถามแม่บ้านใหญ่ที่ยืนอยู่ ข้าวสวยร้อนๆ ถูกตักใส่จานให้ในปริมาณพอเหมาะ

“มั่นใจสิคะ คุณณิชหัวไว ทำการบ้านมาดี ป้าบอกอะไรไปคุณเขาเข้าใจหมด นี่ถ้าเกิดป้าไม่อยู่ คุณตรีไม่ต้องห่วงเลยนะคะว่าจะไม่มีใครทำของโปรดให้ทาน” ป้าแจ่มไม่รอช้ารีบเติมความเชื่อมั่นให้ลูกศิษย์ใหญ่ จีรัชญ์ลอบยิ้มขำก่อนจะลงมือทานมื้อเย็นเสียที

ณิชนั่งลุ้นตัวโก่งยามจีรัชญ์ตักแกงราดบนข้าวจากนั้นก็ตักเข้าปาก อีกฝ่ายเงียบไปนาน ค่อยๆ เคี้ยวข้าวอย่างละเอียด กำลังละเมียดชิมรสชาติของโปรดของตัวเอง เขาเผลอกลั้นหายใจเมื่อเห็นว่าจีรัชญ์ตักคำที่สองเข้าปากอีกครั้ง

“รสชาติดี ถูกปาก” จีรัชญพูดขึ้นเพราะเขารู้สึกได้ว่าณิชยังคงมองตนอยู่ อาจจะรอคำชม อาจจะรอดูปฏิกิริยาของเขา หรืออะไรก็แล้วแต่ เขาจึงต้องบอกออกไปให้อีกฝ่ายสบายใจ

“หากคุณชอบต่อไปเมนูนี้ผมจะทำให้คุณทานอีกนะ และเมนูอื่นๆ ผมจะลองทำด้วย ให้ป้าแจ่มสอนให้” ณิชพูดออกมาอย่างลืมตัว ใจอยากจะดูแลหาญให้มากกว่านี้ ให้สมกับเวลาที่หายไป อย่างน้อยเขาก็อยากทำให้หาญรู้ว่าเวลาแห่งการรอคอยของอีกฝ่ายไม่สูญเปล่า

ฝ่ายคนฟังเมื่อได้ยินดังนั้นจึงเงยหน้าจากจานข้าว มองดวงตาเป็นประกายของณิชพร้อมรอยยิ้มที่ช่างน่าดู เขาจึงตอบกลับไป

“ผมจ้างคุณมาตกแต่งภายใน แต่หากคุณจะช่วยงานป้าแจ่มด้วยก็ตามใจ ถ้าอย่างนั้นป้าแจ่มช่วยสอนคุณณิชทำเต้าเจี้ยวหลนด้วยละกัน ไม่ได้ทานนานแล้ว” ท้ายประโยคชายหนุ่มหันไปพูดกับแม่บ้านของตัวเอง

สิ้นคำของเจ้านาย ป้าแจ่มถึงกับยิ้มกว้าง เพราะเรื่องอาหารที่ชายหนุ่มทานแล้วจะถูกปากถูกใจนั้นยากมาก เวลาทำอาหารทีต้องเป็นรสชาติไทยแท้ๆ ไม่มีการผสมกลิ่นอายของชาติใดเลย หากจะเป็นอาหารตะวันตกก็ต้องเป็นรสชาติของฝั่งนั้นจริงๆ นี่ถึงกับออกปากให้เธอสอนณิชด้วยตัวเอง แสดงว่าแกงวันนี้คงถูกปากไม่น้อย

ฝ่ายณิชพยายามซ่อนใบหน้าแห่งความสุขไว้ด้วยการกินข้าวกลบเกลื่อน แต่มันก็ปิดไม่มิดเพราะหน้าเขาแดงลามไปจนถึงใบหู อาการดีใจที่อีกฝ่ายชอบอาหารฝีมือเขาทำให้รู้สึกราวกับตัวเองล่องลอยอยู่ในอากาศ เขินจนถือช้อนมือสั่น

จีรัชญ์ลอบมองคนเขินอายด้วยสายตาเอ็นดู คงจะดีกว่านี้ หากโชคชะตานำพาให้เขาสองคนเป็นคู่แท้ของกันและกัน และไม่พรากจากกันดังเช่นวันวาน







โปรดติดตามตอนต่อไป

ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ evanescence_69

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
ชาตินี้จะได้คู่กันเลยรึเปล่า หรือหาญต้องรอต่อไปอีกชาติ

รอตอนต่อไปครับ

ออฟไลน์ mister

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
    • https://www.facebook.com/JJSonkFanclub

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ แก่ เหี่ยว เคี้ยวยาก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด