คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 46| 04.07.2020 ❤️❤️ (End)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 46| 04.07.2020 ❤️❤️ (End)  (อ่าน 12623 ครั้ง)

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ mylittleY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่ 12.1---

"อื้อออ"

"อีกนิดเดียว คุนคุน"

"อะ อื้ออ พะ พี่แฟง"

"ทนอีกนิดเดียวนะ"

"อะ อะ อะ อื้ออออ เราไม่ไหวแล้ว"

"คุน ทำไปไม่กี่ครั้งเอง อย่ามางอแง"

"แต่เราเหนื่อย เราเจ็บ เราไม่ไหวอะ"

"คุน" คนที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงปลายเท้าผมเปล่งเสียงทุ้มที่เรียบเฉยออกมา ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงคิดว่าเขาแค่พูดออกมาเท่านั้นไม่มีอารมณ์ใดๆแฝงอยู่ แต่ตอนนี้เสียงเรียบๆแบบนี้ มันหมายถึงเขากำลังโมโหอยู่ที่เลเวลสอง (เต็มสิบ) หลังจากข่มผมด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งและสายตาเย็นยะเยือกแล้ว พี่แฟงก็ยืนมือหนาของตัวเองมากดขาทั้งสองข้างของผมไว้เหมือนเดิม

"พี่แฟงคร้าบบบ น้องคุนไม่ไหวแล้วจริงๆ ปล่อยน้องคุนไปเถอะนะ" พี่แฟงก็จริงจังกับการออกกำลังกายเกินไปรึเปล่าเนี่ย น้องคุนแค่เผลอบอกว่าอยากมีซิกแพคแบบพี่แฟงบ้าง พี่แฟงกลับบังคับให้คุนทำซิทอัพมาสามวันซ้อนแล้ว คุนเหนื่อย คุนท้อ คุนไม่ชอบออกกำลังกาย!

"อย่ามางอแง ไม่อยากทำก็ต้องทำ กูใจดีกับมึงมานานละ วันนี้กูไม่ใจอ่อนอีกแล้ว" คนตัวโตดูเหมือนจะไม่ใจอ่อนกับท่าทางงอแงของผมในต้องนี้จริงๆ สงสัยลูกไม้เดิมๆจะใช้ไม่ได้ผล ต้องงัดกลยุทธ์ใหม่ออกมาใช่ซะแล้ว สงสัยต้องลองเอาสิ่งที่ขุนพลสอนมาลองใช้ดูเสียหน่อย

"แต่พี่แฟงครับ" ขอให้กลยุทธ์นี้ของขุนพลได้ผลที่เกิด เพี้ยงงงง

"อะไร อย่ามาอ้อน ไม่ได้ผล ขยับเดี๋ยวนี้ นับหนึ่ง นับสอง นับส....." เสียงคนที่กดขาผมไว้เงียบหายไปในทันที

'ไอ้พี่แฟงมันแพ้พุงขาวๆของมึง เชื่อกูนะคุน'

'ถ้าอยากอ้อนอะไรมันก็แค่แกล้งเปิดเสื้อขึ้นมาให้เห็นพุงนิดๆของมึง รับรองเลย ว่าไอ้พี่มันยอมตามใจมึงทันทีเลย ถ้าไม่ได้ผลมาถีบยอดอกกูได้เลย'

"พะ พี่แฟง"

"พี่แฟงครับ"

"พี่แฟง" ผมเรียกผู้ชายร่างสูงใหญ่ที่คุกเข่าอยู่ตรงขาของผมหลายครั้ง แต่ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะถูกแช่แข็งไปแล้ว สงสัยวิธีของขุนพลจะได้ผลดีเกินจริง

"พี่แฟงครับ"

"อะ ฮะ?"

"คุนพักได้ยัง เหนื่อยแล้ว ซิทอัพมาตั้งสิบนาทีแล้ว"

"อ่อ อะ เออ ได้ๆ พักได้ ไปๆ ไป พักเลย ไปเลย เดี๋ยวกูมา ไปห้องน้ำก่อน" แล้วพี่แฟงก็ลุกขึ้นสาวเท้าเข้าห้องนอนไปอย่างรวดเร็ว กว่าจะออกมาอีกครั้งก็เกือบยี่สิบนาที ไปทำอะไรของเค้ากันนะ
.
.
.
.
.

"แอบกินอะไรคุน" คุ้กกี้ที่อยู่ในมือผมหล่นลงพื้นทันทีที่เสียงทุ้มของใครบางคนดังมาจากด้านหลัง มาตอนไหนกันเนี่ย โถ น้องคุกกี้ที่รักเราเลยไม่ได้ใกล้ชิดกันเลย คุนกะว่าจะรีบมาแอบกินคุกกี้ช๊อกโกแลตชิปซะหน่อย แต่กลับถูกพี่แฟงจับได้อีกแล้ว

"เอ่อ...มาดื่มน้ำครับ นี่ไง นะ น้ำ"

"หรอ แล้วไอ้เศษขนมที่หล่นอยู่ตรงพื้นนั่นอะไร"

"ขนมที่ไหน ไม่มี้ไม่มี สงสัยอันอันแอบมาหยิบขนมไปกินแน่ๆ"

"อือ อันอันนี่มันเก่งขึ้นทุกวันเลยนะ ถึงขนาดเปิดขวดคุกดี้เองได้แล้วนะตอนนี้" ผมรีบมองขวดคุกกี้ที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ครัวทันที คุนคุน! ทำไมหยิบคุกกี้แล้วไม่รีบเอาขวดเก็บเข้าตู้นะ พี่แฟงเลยจับได้เลยเนี่ย!

"ถ้ามึงขยันออกกำลังกายเหมือนขยันแอบกินขนมก็คงดีนะคุน"

"เฮะ"

"อย่ามาทำหน้าแบบนั้น กูไม่หลงกลมึงหรอกนะ"

"แล้วถ้าเราเปิดเสื้อ พี่แฟงจะยอมมั้ย" ผมเอื้อมมือไปจับชายเสื้อไว้ แล้วลอบมมองคนที่ขยับมายืนอยู่ข้างๆกัน

"คุน! ใครสอนมึงทำแบบนี้ ไอ้สองแฝดใช่มั้ย"

"อุ้ยยย รู้ได้ไงเนี่ย อะ อะ อย่านะ จะทำอะไร ปะ ปล่อยเราลงนะ" ร่างขนาดมาตรฐานของผมถูกยกขึ้นลอยจากพื้นขึ้นมาพาดไหล่ของคนที่ตัวใหญ่กว่าผมเกือบยี่สิบเซ็นต์ได้อย่างง่ายดาย ที่บอกว่าง่ายคือง่ายจริงๆ เพราะพี่แฟงยกผมขึ้นด้วยมืดเดียว!

"มึงชักจะเอาใหญ่แล้ว"

"เราเปล่า เอาใหญ่อะไร ไม่รู้เรื่อง" ร่างของผมถูกวางลงบนโซฟา จริงๆถ้าจะพูดให้ถูกต้องบอกว่าทิ้งลงบนโซฟาต่างหาก พร้อมกับหน้าที่เฟิ้มไปด้วยหนวดกดลงมาตรงหน้าท้องผมโดยที่ไม่เปิดเสื้อขึ้น

"อะ ฮะๆๆๆ ฮะๆๆๆ หยุดนะ ปะ ปล่อย ฮะๆๆๆ" ผมกิ้นพล่านอยู่บนโซฟาตัวยาวด้วยรู้สึกจั้กจี้ตรงหน้าท้อง พี่แฟงชอบทำแบบนี้เวลาที่ผมเถียง หรือดื้อไม่ยอมทำตามที่พี่แฟงบอก แต่น้องคุนเด็กเจนวายนะ มีความคิดเป็นอิสระ ทำไมต้องทำตามด้วย!

"อะ อันอัน อะ อันอัน ชะ ช่วย ฮะๆๆ ด้วย ฮะๆๆๆ" ผมร้องเรียกอันอันที่นอนแหมะอยู่ใต้โต๊ะกลางข้างโซฟา เชื่อมั้ยละว่าอีกเดี๋ยวอันอันสุดที่รักของป๊าก็จะรีบเข้ามาช่วย

"มันไม่มาหรอก" และก็จริงอย่างที่พี่แฟงบอก อันอันนอนนิ่งเฉย เอียงคอมองหน้าผมด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง และไม่ขยับเขยื้อน ไม่นะ! ไม่จริง!

"ฮ่าๆๆ อะ อันอัน ช่วยด้วย ฮ่าๆๆๆ" อันอันนิ่งเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเบือนหน้าหนี อ้าว อ้าว อันอั้นนนนนนน

"หึ เห็นมั้ย มันแปรพักตร์มาหากูแล้ว"

"อันอัน ทำไมทำงั้น มาช่วยป๊าเดี๋ยวนี้"

"อย่าเรียกหาพวกซะให้เมื่อยปาก ตอนมึงนอนป่วยอยู่ กูนี่แหละให้ข้าวให้น้ำมัน สงสัยมันจะสำนึกบุญข้าวแดงแกงร้อนที่กูเอาให้มันกิน ไอ้แมวตาฟ้านี่ก็อยู่เป็นนี่หว่าอันอันเดี๋ยวกูเอาขนมแมวเลียให้กิน"

เมี้ยวววว

อ้าว อะไรกันนนน อันอัน อย่าเห็นแก่กิน ไม่ได้ ป๊าไม่นอม หนูมาช่วยป๊าก่อน! แล้วไอ้แกงร้อนๆคืออะไร เอาให้อันๆกินทำมายยยย

"อะไร ฮะๆๆ แกงร้อนอะไร เอาข้าวราดแกงให้อันอันกินหรอ"  จมูกหนาๆกดลงบนท้องผมไม่ขาดสาย จนผมหัวเราะน้ำตาเล็ดออกมาเป็นทาง

"มันเป็นสำนวน มึงไม่ต้องรู้หรอก" อ้อสำนวนไทย มีแต่ยากๆทั้งนั้น ต่อให้เรียนทั้งชีวิตน้องคุนก็ไม่มีวันเข้าใจหรอก มันยากเกินไป

"พี่แฟง คุนจั๊กจี้ ฮ่าๆๆๆ ยะ หยุด ฮ่าๆๆๆ" ผมทั้งหัวเราะทั้งร้องหามไปพร้อมๆกับบิดตัวไปมา ทั้งเอามือสองข้างผลักหัวพี่แฟงที่ผมยาวเฟื้อยไปด้วย เราสองคนไม่ได้ไปตัดผมมาเป็นเดือนแล้วเพราะร้านปิด จนตอนนี้พี่แฟงต้องใช้ยางรัดผมขึ้นไปไว้หนึ่งจุก น้องคุนสัญญาว่าถ้าร้านตัดผมเปิดจะพาพี่แฟงไปตัดผมทันที น้องคุนไม่ชอบคนป่า!

"มึงดื้อ กูก็ต้องลงโทษไง อย่าขยับเยอะ เสื้อเปิดแล้วเห็นมั้ยเนี่ย" จริงด้วย ผมขยับจนเสื้อยืดตัวเดิมเลิกขึ้นมาเหนือหน้าท้อง(อวบๆ)ของผม ขณะที่กำลังขัดขืนคนตัวโตที่เล่นกับท้องผมอยู่นั้น ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรอุ่นๆมาสัมผัสตรงหน้าท้องที่เสื้อถูกเลิกขึ้น ผมก้มลงมองดู มันคือริมฝีปากพี่แฟง

ความร้อนเริ่มแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณหน้าท้องลามขึ้นมาจนถึงช่วงอก ริมฝีปากหยักหนานั้นพรมจูบไปทั่วไม่ยอมหยุด เสื้อยืดตัวเดิมตอนนี้เลิกขึ้นมาอยู่ตรงคอผมแล้วโดยที่ผมไม่รู้ตัว เพราะมันแต่สนใจความรู้สึกมวนๆที่พลุ่งพล่านอยู่ในช่องท้อง และเพราะมัวแต่สนใจความรู้สึกแปลกใหม่นี้จึงเผลอวางมือที่ผักหัวพี่แฟงออกเอามาวางที่ท้ายทอยพี่แฟงตอนไหนก็ไม่รู้

"คุน" เสียงทุ้มหนาที่ฟังกี่ครั้งก็ดูน่าฟังเสมอเอ่ยขึ้นทั้งๆที่หน้ายังจมปลักอยู่กับบริเวณช่วงอกของผม

"ครับ"

"จูบได้มั้ย"

"ครับ?"

"พี่จูบคุนได้มั้ย"

ผมยังไม่ได้ตอบออกไปเพราะไม่รู้เหมือนกันว่าผมควรจะตอบอะไรออกไปอย่างไง และก็ไม่รู้นานเท่าไหร่ที่ร่างหนาจ้องมองตาผมไม่กระพริบ จนในวินาทีนั้นที่หน้าของพีาแฟงเลื่อนเข้ามาใกล้หน้าผมมากขึ้น มากขึ้นจนระยะหว่างระหว่างเราลดลงเป็น
10 เซนติเมตร
9..
8...
7...
6...
5..
4...
3...
2...
1....

และ

ริมฝีปากของเราชนกัน

มันเนิ่นนาน มันเนิบนาบ และมัน...ละมุน และที่สำคัญกว่านั้น คือผมรู้สึกดี ทั้งที่ไม่ควรจะรู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ

เจ้าของริมฝีปากหยักหนาบดเบียดริมฝีปากล่างและบนของผมสลับไปมาคล้ายจะกลืนกินมันเข้าไปในทุกช่วงการเคลื่อนไหวของมัน ก่อนจะใช้ลิ้นร้อนเบิกทางรุกล้ำเข้ามาโดยที่ผมเองเป็นฝ่ายเปิดริมฝีปากตัวเองออกให้ คนมีอายุมากกว่าช่วงชิมโพรงปากผมอย่างอ่อนโยน จนผมรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในอวกาศ มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมรู้สึกว่าผมตัวเบาเหมือนก้อนเมฆ และผมก็รู้สึกดี ดีมากจนบอกไม่ถูกกับสัมผัสที่ยังติดอยู่บนริมฝีปาก กับจูบแรกที่ผู้ชายคนนี้มอบให้

"โอเครึเปล่า" พี่แฟงผละริมฝีปากออก เขาใช้ดวงตาที่ดุดันแต่ทว่ากลับแฝงไปด้วยความอ่อนโยนมองผม แววตานั้นดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย มันดูลุ่มหลง และมันดูแผดเผาไปในเวลาเดียวกัน มันทำให้ผมรู้สึกมวนท้อง มันทำให้ผมรู้สึกร้อนทั่วใบหน้า และ

"คะ ครับ"

มันทำให้ผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

"กูขอโทษ"
 
และ

"..."

ที่แย่ไปกว่านั้น

"กูแค่ห้ามตัวเองไว้ไม่อยู่"

ก็

"คะ ครับ"

คือ

"ถ้ามึงไม่โอเคกับสิ่งที่กูทำไป ก็ยอกได้ กูสัญญาจะไม่ทำ..แบบนั้น...กับมึงอีก"

ว่าผม

"พี่แฟง"

ตึก

"หืม"

ตัก

"เอาอีก"

อยากถูกสัมผัสแบบนั้นอีก

"ฮะ? มึงว่าอะไรนะ"

ตึก ตัก

"เรา...ยะ อยากได้แบบเมื่อกี้นี้อีก"

ไม่รู้ว่าตัวเองพูดแบบนั้นออกไปได้ยังไง ผมควบคุมตัวเองไม่ได้ มีอย่างที่ไหนที่ร้องขอให้ผ๔้ชายมาจูบตัวเอง......อีกครั้ง....


"หึ! อย่าพูดประโยคเมื่อกี้แล้วก็ทำหน้าแบบนี้ให้ใครเห็นเข้าใจมั้ย"

"เอ่อ...ก็ได้"

"รู้มั้ยว่าทำไม"

"ไม่ครับ"

"เพราะมันจะไม่จบแค่จูบนะสิ น้องคุนคุน"

.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm



ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ mylittleY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ช่วงนี้คิดพล๊อดใหม่ได้เลยเขียนเรื่องสั้นขึ้นมา ฝากติดตามด้วยนะคะ พอดีอยากแต่งแนวหน่วงนิดๆพอเป็นกระษัยคะ

พระอาทิตย์สีขาว

https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71920.0

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่ 12.2---


"พี่แฟง" ผมจ้องมองปากแดงๆที่กำลังขยับอยู่นั้นไม่ยอมละสายตาไปไหน ในใจอยากจะบดขยี้ปากนิ่มๆของคนใต้ร่างซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะปากคุนมันน่าทะนุถนอมมากกว่านั้น

"หืม"

"เอาอีก" ไม่รู้คนตัวเล็กพูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง นี่ที่พูดเพราะต้องการแบบนั้นจริง หรือเพราะตกใจ หรือเพราะปากมันหลุดออกมาเองกันแน่ ผมเลยต้องถามย้ำออกไปเพื่อความแน่ใจ แม้จะอยากกระซากตัวนิ่มๆของคุนคุนเข้ามาทำอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่าง ตอนนี้ความคิดผมเตลิดไปไกลแล้วครับ ไกลจนไม่สามารถดึงกลับมาได้แม้ตะใช้รถสิบล้อสามคันมาฉุดก็ไม่อยู่ ไม่รู้คนที่พูดว่าอยากได้อีกนั้นจะเข้าใจตรงกับผมรึเปล่า เดาได้ว่าไม่....

"ฮะ? มึงว่าอะไรนะ" ขอกูย้ำให้ชัดๆอีกทีซิ เผื่อกูคิดไปเอง สมองตอนนี้ยิ่งเลอะเลือนอยู่ บอกตามตรงเลยว่าตอนนี้มองอะไรไม่เห็นแล้ว มีแค่ภาพปากเล็กๆสีแดงตรงหน้าขยับไปมาเท่านั้น ห่าเอ้ย กูอยากกัดปากมึงจริง!คุนคุน

"เรา...ยะ อยากได้แบบเมื่อกี้นี้อีก"

"หึ! อย่าพูดประโยคเมื่อกี้แล้วก็ทำหน้าแบบนี้ให้ใครเห็นเข้าใจมั้ย" ดูมันทำท่าเข้า มึงพูดแบบนั้นออกมาแล้วก็กัดริมฝีปากล่างของตัวเองทันที แบบนี้ผมต้องทำอย่างไง!!!! เห็นแล้วของขึ้น...นั่นไง...ขึ้นแล้ว...ขึ้นแล้ว....

"เอ่อ...ก็ได้"

"รู้มั้ยว่าทำไม"

"ไม่ครับ" คนตัวเล็กมองผมตาใสเหมือนที่ทำประจำเวลาที่มันพยายามจะสื่อว่ามันไม่รู้จริงๆ

"เพราะมันจะไม่จบแค่จูบนะสิ น้องคุนคุน"

แต่ครั้งนี้ถึงแม้มึงจะไม่รู้ กูก็ปล่อยมึงไปไม่ได้แล้วนะคุน!

ผมยกคนตัวเล็กขึ้นมาสลับให้ตัวเองลงไปนอนอยู่บนโซฟาแทน โดยที่คุนคุนนอนทับอยู่บนตัวผม แบบนี้คุนจะได้ไม่หนัก เพราะผมเองก็ไม่ใช่เบาๆเลย พอจัดที่จัดทางเรียบร้อยผมก็ไม่รอช้าจับท้ายทอยเจ้าแก้มยุ้ยลงมาบดริมฝีปากหนาของตัวเองทาบทับไปกับปากสีแดงระเรื่อทันที เด็กสมัยนี้เรียนรู้เร็วจริงๆ ยังไม่เท่าไหร่ก็อ้าปากให้ผมสอดแทรกลิ้นร้อนๆเข้าไปช่วงชิมความหวานจากโพรงปากนั้นอีกรอบ ยิ่งได้สัมผัสยอ่งยากที่จะหยุด มันเหมือนกับคนติดบุหรี่แหละครับ ลองแล้วชอบ ชอบแล้วเลิกยาก ยากจริงๆ เหมือนผมในตอนนี้ที่ดูเลียเล็มปากเล็กๆของคุนคุนอยู่เนินนาน

"พอแค่นี้เถอะ ความอดทนกูน้อย เดี๋ยวมึงจะไปติวสอบไม่ไหว"

"อื้อ"

"ขอกอดอีกหน่อยละกัน"

"อื้อออ"

ไอ้เจ้าแก้มยุ้ยซบหน้าลงบนอกอมเบาเบา แรงกระเพื่อมของหน้าอกคุนคุนขยับแรงมาก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้หัวใจอีกคนนั้นเต้นเร็วแค่ไหน ผมเลื่อนมือขึ้นไปกอดคนตัวเล็กไว้ในอ้อมกันแล้วก็ถูไปตามแผ่นหลังเล็กนั้นเบาๆ ไม่นานจังหวะการเต้นของหัวใจคุนคุนก็กลับมาเป็นปกติ

"ทำบ่อยๆ ก็หายตื่นเต้นไปเอง"

"พี่รู้ได้ไงว่าคุนตื่นเต้น"

"ใจมึงกับใจกูรวมกันเต้นดังขนาดมนุษย์ต่างดาวบนดาวอังคารยังได้ยินเลย"

"อื้อ อย่าล้อ"

"กูไม่ได้ล้อ แค่จะบอกว่ากูเองก็ใจเต้นแรงไม่แพ้มึง" มันคือความจริง และตอนนี้หัวใจผมยังเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่เลย อะไรวะแฟง...นี่มึงจะใจเต้นแรงแต่เพราะจูบไม่ได่นะเว้ย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น

"ตอนนี้ก็ยังเต้นแรงอยู่ คุนได้ยิน ตรงนี้มันดังมาก" คุนขยับตัวเองมาด้านขวา ก่อนเอาใบหูขาวๆของตัวเองวางไว้บนอกข้างซ้ายของผม อืม...มึงนี่น่ารักเสมอต้นเสมอปลายจริงๆเลยนะคุนคุน

"มันกำลังพูดกับมึงไง"

"พี่เป็นมนุษย์วิเศษหรอหัวใจถึงพูดได้"

"ดูเป็นมหาเทพไง เหมือนซีรี่ส์จีนทีีมึงดูทุกวันอะ ชื่อไรนะ ผมขาวๆ ตัวสูงๆอะ"

"อ้อ มหาเทพตงหัว ไม่ใช่แค่ขาว แค่สูงนะ แต่หล่อด้วย"

"ต่อไปนี่ห้ามดูได้มั้ยเรื่องนี้เนี่ย เห็นมันออกมาทีไรมึงจ้องมันตาไม่กระพริบทุกที"

"ไม่ได้หรอ ตี้จวินหล่อไง คุนเลยชอบดู"

"อ้อ ที่มึงดูเรื่องเดินวนซ้ำไปซ้ำมานี่คือดูไอ้พระเอกคนนี้นะหรอ" เอาละ คือ ไอ้แฟง มึงจะมาหึงพระเอกในซีรี่ย์ไม่ได้นะเว้ย

"ตี้จวินไม่ใช่พระเอกครับ แต่เป็นนักแสดงที่มีบทเด่นคนหนึ่งเท่านั้น" เ*ดแม่ นี่ขนาดไม่ใช่พระเอก มึงยังวนดูมันไปกว่าร้อยรอบขนาดนี้ คือวันก่อนกูเห็นไงว่ามึงหมุนวนซ้ำฉากที่มันอุ้มจิ้งจอกสีส้มกว่ายี่สิบรอบ มันเกินไปนะคุนคุน

"จะเป็นไรก็ช่างแม่ง มึงจูบกูแล้ว มึงต้องรับผิดชอบกูด้วยเข้าใจมั้ย" แต่ก่อนอื่นกูต้องหาทางกำจัดซีรีย์เรื่องนี้ออกไปจาก Netflix ซะก่อน หรือไปขอร้องให้นิรันดร์ซื้อ Netflix แล้วถอนซีรีย์เรื่องนี้ออกจากผังโปรแกรมหนังไปเลยดีมั้ยวะ พ่อลูกกันต้องเข้าใจหัวอกคนหวง...ว่าที่...เมียดิวะ เค..คืนนี้กูจะโทรหานิรันดร์!

"พี่แฟงจูบเราก่อนนะ" ไอ้แก้มย้วยเงยหน้าช้อนตาขึ้นมามองหน้าผมทันที แม่เจ้าเว้ย ช็อตนี้กูตาย นิรันดร์มาเก็บศพผมที...

"เอ่อ..อันนั้นก็ใช่อยู่ แต่ครั้งที่สองมึงขอให้กูทำไง คือ อันนั้นมึงต้องรับผิดชอบ" คุนคุนทำท่าคิดเรียบเรียงประโยคที่ผมพูดไป คือ กูตั้งใจพูดเร็วให้มึงไม่เข้าใจ มึงทำเป็นเข้าใจแล้วก็เออออห่อหมกกับกูทีเถอะ โอมเพี้ยง!

"ก็ฟังดูมีเหตุผล" นั่นไง มันคงฟังไม่ทันแหละ ผมออกจะตั้งใจพูดเร็วๆ ซึ่งโดยปกติแล้วผมจะพยายามพูดช้าๆให้มะนฟังทัน เพราะถ้าพูดเร็วมันฟังไม่ทันต้องมานั่งพูดซ้ำ เผลอๆต้องแปลไทยเป็นไทยอีก แรกๆก็งงกับเลเวลภสษาไทยของมัน หลังๆเริ่มจับจุดได้ สรุปคือ พูดให้ช้า และใช้ศัพท์ให้เบสิคที่สุด ส่วนศัพท์ภาษาวิบัติสมัยใหม่ ไม่ต้องแปลอะไรมห้ยุ่ฃย่าง เพราะแม่เสือกเข้าใจและใช้เป็นทุกคำ! นี่ไง ถึงได้บอกว่ามันต้องมีการควบคุมการใช้ภาษาของเด็กสมัยนี้บ้าง เพราะทุกวันนี้จวนจะพูดภาษามนุษย์ต่างดาวกันอยู่แล้ว มันใช่หรอครัช!!!

"เค งั้นก็รับผิดชอบกูด้วย"

"ก็คงต้องเป็นแยยนั้นละครับ แต่ใก็เรารับผิดชอบยังไงหรอ"

"อันนั้นเดี๋ยวบอกอีกที แต่ตอนนี้เอาหน้าออกมาจากนมกูก่อนเถอะ ฟังหัวใจกูพูดนานขนาดนั้น เข้าใจกันบ้างรึยัง"

"แหะ พยายามฟังอยู่ครับ แต่คุนยังฟังไม่เข้าใจ" ก็ต้องเป็นแบบนั้นรึเปล่าวะ ถ้ามึงฟังเข้าใจนี่กูคือรีบวิ่งเลยนะ กูกลัวอะ ยิ่งพวกสิ่งลี้ลับนี่คืออย่าเข้ามาใกล้เลย อยู่ห่างๆกันไว้เป็นดีที่สุด

"มึงไม่ตั้งใจฟังไงคะ งั้นเดี๋ยวกูบอกให้ เอาหูมานี่"

"หือ? พูดว่าอะไรหรอครับ" คุยคุนขยับตัวเล็กน้อยก่อนเอาแก้มมาใกล้ๆหน้าผม แล้วนื่นใบหูขาวๆมาใกล้ๆปากผม แก้มย้วยๆนี่มันคืออะไรกัน ขอกัดได้มั้ยหมั่นเขี้ยวมานานละ

"ก็พูดว่า กู...."

ก๊อกๆๆๆๆ

คนตัวเล็กที่อยู่บนตัวผมสะดุ้งตกใจกับเสียงเคาะประตูทันที ใครมันเสือกมาเคาะประตูตอนนี้วะ

ไอ้...ชิบ....หาย
กู...จะ..ไป...เผา...บ้าน...มึง!!!!

คุนเอามือวางทาบไปที่พนักพิงโซฟาก่อนจะยันตัวเองให้ลุกขึ้น แต่ผมกลับเอามือไปรังเอวคนตัวเล็กไว้ได้ก่อน ใครกันที่บอกว่าคุนมันเจ้าเนื้อ ผมคนหนึ่งละขอเถียง โอเค มันกินเก่ง..ขนมแหละที่กินเก่ง ส่วนอาหารมื้อหลักก็กินปกติตามภาษาผู้ชายผอมๆทั่วไปแหละ แต่ไอ้ขุนนี่สิชอบมาไซโคว่ามันอ้วนบ้างละ เจ้าเนื้อบ้างละ จนมันคิดว่าหนังติดท้องของมันเรียกว่าพุง ช่างเถอะ เพราะนั่นหมายถึงคนอื่นไม่เคยเห็นพุงจริงๆของมันเหมือนที่ผมเห็นไงละ ไม่อ้วนสักนิดแถมยังพอดีกับมื้อผมอีกต่างหาก

ก๊อกๆๆ

"คุนจะไปเปิดประตู"

"เดี๋ยวค่อยไป"

ก๊อกๆๆๆ

"แต่คนด้านนอกเคาะนานแล้วนะครับพี่แฟง"

"ปล่อยมันไปเถอะ คงเป็นไอ้พวกแฝดนั่นแหละ ไม่มีึนเปิดเดี๋ยวมันก็กลับห้องกันเอง"

"ใช่ที่ไหนละครับ พี่บอกเองว่าคราวที่แล้วสองคนนั้นเอากุญแจไขประตูเข้ามา"

เออ...จริง นี่กูลืมไปได้ไงว่ะ

"เค งั้นก็ไปเผิด แต่ไม่ต้องให้พวกมันเข้ามานะ ไล่มันกลับห้องมันไป มีอย่างที่ไหนชอบมาเนียนใช้น้ำใช้ไฟห้องคนอื่น"

"ฮ่าๆๆๆ"

ก๊อกๆๆๆ

นี่ก็เคาะเก่งจัง! พ่อมึงเป็นญาติกับนกหัวขวานรึไง สัสสสส

แกร๊ก!

"เอ๋ มาหาใครครับ"

อ้าวไม่ใช่สองแฝดหรอกหรอวะ แล้วใครมาวะ ผมชะโงกหน้าขึ้นมาจากโซฟาเพื่อดูว่าใครกันที่บังอาจมาขัดจังหวะสวัทกวานแหววของผมกับน้องคุนคุนของผม มันน่าจับหัวมากระแทกเข้ากับกำแพงจริงๆ

อ้าว ชิบหาย นั่นมายเวย์นี่หว่า ขอคืนประโยคจับหัวมากนะแทกกำแพงเมื่อกี้โดยด่วย คนนี้ทำไม่ได้ ต้องอ่อนโยน ผมรีบเด้งตัวขึ้นมาจากโซฟาทันทีเลยครับ

"พี่แฟงคร้าบบบบ มีเพื่อนมาหาครับ" คุนคุนเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับแฟนสุดสวยของไอ้นาทีเำื่อนรักเพื่อนแค้นของผม

"ไงแฟง"

"มายเวย์มาทำไมเนี่ย" ผมถามออกไปด้วยความสงสัย เพราะไม่บ่อยนักหรอกที่มายเวย์จะมาหาผมที่ห้อง แล้วนี่ก็ไม่ใข่ห้องผมอีก แล้วเธอรู้ได้ไงว่าผมอยู่ห้องนี้

"พอดีทำซุปเสฉวน จำได้ว่าแฟงชอบเลยเอาลงมาให้กับทีนะ"

"แล้วไอ้ทีละ"

"คุยโทรศัพท์อยู่ด้านนอก เดี๋ยวอีกสักพักคงตามเข้่มาแหละ"

"อ้อ ขอบใจนะ"

"แล้วนี่เมื่อกี้น้องคนนี้บอกว่าแฟงย้ายมาอยู่ห้องนี้หรอ ทำไมเราไม่เห็นรู้เรื่องเลย นาทีไม่เห็นบอก ห้องมีปัญหาอะไรรึเปล่า ถ้ามีปัญหาไปอยู่ห้องทีได้นะ เดี๋ยวเรากลับไปนอนบ้านได้ เกรงใจน้องเค้า" มีน้ำใจประเสริฐแท้ ถ้าขืนขืนไปอยู่ห้องนาทีแล้วเมียมันต้องอพยพย้านถิ่นฐานกลับบ้านแบบนั้น มีหวังไอ้เพื่อนรักนทีสงสัยจะต้องมีการหักเหลี่ยมโหดกับผมจริงๆแล้วละทีนี้ แต่ประเด็นไม่ใช่ตรงนั้นไง ประเด็นคือผมแค่อยากย้ายเข้ามาอ่อยเด็กเท่านั้น

"เอ่อ เพื่อนพี่ก็อยู่คอนโดนี้หรอครับ" อ้าว ชิบหายรอบที่ลเานของวันนี้ กูไม่เคยบอกคุนคุนนี่หว่าว่ามีเพื่อนอยู่คอนโดนี้ด้วย มันจะขับไล่ไสส่งกูออกจากห้องมั้ยวะเนี่ย

"เอ่อ คือ...."

"ใช่จ้า พี่กับนาทีอยู่ชั้นถัดจากเราลงไปสองชั้น"

ความวอดวายเริ่มก่อตัว

"อ้าว ไอ้เพื่อนรัก" เสียงทุ้มของใครบางคนดังมาจากประตูทางเข้า ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอบคุณพระเจ้า ของคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ไอ้นาทีมันเข้ามาในห้องตอนนี้ ได้จังหวะเหมาะเจาะจริงๆเลยนะมึง ผมมองหน้าเพื่อนผมที่เพิ่งเดินเข้ามา สลับกับหน้าของคุนคุนที่มองเพื่อนรักผมจนตาค้าง เออ..มันหล่อ นาทีมันหล่อ แนวเดียวกับตี้จวินมึงซะด้วยนะคุน!

"มึงเข้ามาทำไม กูได้ซุปแล้ว มึงรับพาเมียมึงกลับไปได้แล้ว" ผมรีบสาวเท่าเข้ามาโอบไหล่เพื่อนรักทันทีที่มันย่างกรายเข้ามาในห้อง

"เฮ้ยกูไม่รีบ กะว่าจะมาทำความรู้จักเด็กมึงซะหน่อย ไหนวะ เฮ้ย คนนี้หรอ น่ารักวะ" ไอ้นาทีปัดแขนผมที่พาดบ่ามันลงก่อนเดินเข้ามาแถวโซฟาที่มายเวย์กับคุนคุนยืนอยู่ แล้วไอ้แก้มย้อนที่ยืนบิดม้วนอยู่นั่นคืออะไร ไอ้นาทีชมว่าน่ารักเข้าหน่อย นี่มึงเขิน!

"อ้าว บี๋รู้จักน้องหรอ" มายเวย์ถามขึ้นด้วยความสงสัย

"รู้จักสิ รู้จักดีเลยด้วย ก็เพื่อนตัวดีอย่างไอ้แฟงนะสิมัน......อุ๊บ!" กูรู้ละว่ามึงมาทำไม ไอ้เพื่อนเลว ไอ้หมาเผือก ไอ้หน้าดินสอ มึงตั้งใจมาแกล้งกูใช่ม้ายยยย ผมรับวิ่งเข้ามารวบตัวเพื่อนปากมากก่อนเอามือหนาปิดปากมันไว้ก่อนที่มันจะแพร่งพรายความลับของผมไปมากกว่านี้ โอเคมึงเอาคืนกู กูเข้าใจความรู้สึกมึงแล้วนาที กูเข้าใจอย่างลึกซึ้งเลยละวินาทีนี้

"กลับเหอะ~~ รบกวนเจ้าของห้องเขา" ผมพูดไปก็ลากไอ้เพื่อนตัวเท้ายักษ์นี่ออกไปจากห้องด้วย ผมกับมันตัวเท่าๆกันแหละครับ ลองนึกสภาพผู้ชายตัวโตๆถูกลากออกจากห้องดูนะครับว่าคนลากต้องใช้แรงแค่ไหน แม่ง หนักชิบหาย!

คุนคุนมองผมกับนาทีสลับไปมา สีหน้ามันดูเหรอหรามาก มึงไม่ต้องงงคุน เดี๋ยวกูปั้นเรื่องมาเล่าให้มึงฟัง ระบรองหายงง!

"มึงกลับไปเดี๋ยวนี้เลยไอ้ห่า มาทำไมเนี่ย" ผมกระซิบเบาๆเมื่อลากไอ้เจ้าเพื่อนรักนาทีออกมาจากห้องได้แล้ว คนถูกลากดูจะพอใจกับท่าทางของผมเหลือเกิน ยืนยิ้มขำอยู่นั่นแหละ แม่งเอ้ย อยากจะเอารองเท้าทาบหน้าจริงๆ

"ร้อนตัวจริงนะเพื่อนแฟง"

"เออ ยอมรับ ไปลากเมียมึงออกมาเลย คนซื่อสองคนอยู่ด้วยกัน บรรลัยละงานนี้" ผมชี้มือเข้าไปในห้อง ให้เจ้าตัวปัญหาจัดการคนของมันเดี๋ยวนี้เมื่อหันไปเห็นว่ามายเวย์กำลังคุยอะไรกับคุนคุนอยู่

"โอ้ย แบบนี้แหละนะ คนมีความลับติดตัว ชนักติดหลัง"

"ไอ้เ*ยที"

"เออๆ หยอกเล่นน่า ทำเป็นโมโห นี่เพื่อนนะเว้ย"

"ถ้าอยากเป็นเพื่อนกับกูอยู่ก็รีบกลับห้องมึงไปเลย เอามายเวย์กลับไปด้วย แล้วก็ไปเคลียร์กับเมียมึงให้กูด้วย จะได้เข้าใจสถานการณ์กู"

"เออๆครับๆ ไอ้คุณเพื่อนบังเกิดเกล้า"

"นับหนึ่ง!" ไอ้ทีที่ยังยกยิ้มที่มถมปากเดินไปที่หน้าประตูก่อนหันมาหาผมอีกครั้ง

"ไปแล้วคร้าบบบ อ้อมึง"

"อะไรอีก"

"เมื่อกี้ทำไรกันอยู่หรอ น้องมึงถึงยืนเคารพธรงชาติแบบนั้น"

ผมรีบก้มลงมองตามสายตาของนาทีที่มองต่ำลงมามองตรงส่วนกลางลำตัวของผมทันที

ชิบ...หาย!

ใครเห็นบ้างวะเนี่ย!



#คุนแฟง

by ppeachmm


------++++--------





CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ชอบอ่า คุนๆน่ารักอะซื่อๆ

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่ 13---

"เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ก่อนตักเสริฟก็โรยงาลงไปเลยครับ อุ้ยยย"

"คุนคุน ซุมซ่ามอีกแล้ว เลอะเลยเห็นมั้ย"

"แหะ"

"ขยับมานี่ ให้กูเช็ดให้ก่อน"

โดนดุแต่เช้าเลยครับ ตอนนี้เรากำลังถ่ายคลิปเพื่อเอาลง คุนคุน ชาแนล ของผมครับ ตอนนี้ไม่ได้มีเวลาทำเป็นไลฟ์สดแล้ว มีแต่เอาคลิปลงแทนเพราะทั้งผมทั้งพี่แฟงต่างอ่านหนังสือเตรียมสอบจะว่างอีกทีก็ตอนดึกๆโน่นเลย แล้วเราก็เหนื่อยกันมากอ่านหนังสือทั้งวันสูบเอนเนอร์จี้ผมไปเยอะเลย ส่วนอีกคนนี่ไม่ต้องพูดถึงอ่านหนังสือจนเกือบเช้าทุกวัน เห็นลุคเหมือนเด็กช่างแบบนั้น ไม่น่าเชื่อนะครับว่าพี่แฟงนี่ขยันอ่านหนังสือมาก มากจนถ้าวันไหนผมอู้ไม่อยากอ่านหนังสือก็ต้องมองดูพี่แฟงที่นั่งจ้องหนังสือหนาเตอะอยู่หน้าทีวี เห็นแล้วเลิกอู้เลยครับ ต้องฮึบอ่านต่อทันที กดดันอะ พีาแฟงก็ขยันเกินจนบางทีคุณยังรู้สึกผิดที่บางครั้งอู้โดยการแอบดูคลิปน้องแมวน่ารักๆ น้องคุนไม่ได้ดูนานนะ แค่ครั้งละชั่วโมงเอง ห้ามฟ้องพี่แฟงด้วย เดี๋ยวคุนโดนดุ!

และตอนนี้ผมก็โดนพี่แฟงรวบตัวเข้าไปไว้ในอ้อมแขน ส่วนตัวเองก็หยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดเสื้อผมที่สีแดงๆของโคชูจังกระเด็นลอดผ้ากันเปื้อนมาใส่เมื่อครู่ตอนเอื้อมมือไปหยิบขวดงาขาว เละครับ ทั้งงาขาวที่ตกลงพื้น ทั้วโคชูจังในถ้วยที่คว่ำลงบนลนผ้ากันเปิื้อนสีฟ้าอ่อน ที่รูมเมทคนใหม่ของน้องคุนซื้อให้เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว น่ารักมั้ยละ เห็นหยาบคายแบบนี้ก็มีมุมอ่อนโยนนะทุกคน อย่าว่าพี่แฟนของคุนคุนนักเลย

"พวงมึงทำอะไรกันครับ ไอ้คุน ไอ้พี่แฟง" นั่นเสียงกองทัพที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงโซฟาครับ

"บรรยากาศมันแปลกๆนะผมว่า เหมือนมีสีชมพูวิ้งๆอบอวนอยู่แถวเตายังไงไม่รู้" ส่วนนี่ก็เสียงของขุนพลที่ยืนอยู่หน้าตู้เย็น สงสัยจะหิว เห็นเดินมาด้อมๆมองๆแถวตู้เย็นหลายครั้งละแต่ก็ไม่ได้อะไรที่ถูกใจติดไม้ติดมือไปสักที สงสัยจะหิวจัดครั้งนี้เลยต้องคว้าโยเกิร์ตรสธรรมชาติที่เจ้าตัวบ่นนักบ่นหนาว่ารสชาติเหมือนอวกอันอันไปกินแทน ทำเป็นรู้ดีเหมือนเคยกินอวกอันอันอย่างนั้นแหละ แก้วโยเกิร์ตที่เคยถืออยู่ตกลงไปที่พื้นครัวทันทีที่เห็นฉากเช็ดโคชูจังของผมกับหนุ่มช่างกล..เอ้ย ไม่ใช่..หนุ่มนักศึกษาแพทย์ต่างหากละ โชคดีหน่อยที่โยเกิร์ตแก้วนั้นยังไม่ได้เปิดฝา ไม่งั้นละก็ พื้นครัวเหนียวแน่ๆ

"ยุ่ง" ทายสิครับนี่เสียงใคร ถ้าบอกว่าเสียงผมจะเชื่อกันมั้ยครับ เชื่อเถอะครับนั่งเสียงผมจริงๆ ไม่มีสแตนอิน

"เฮ้ย ไอ้พี่ มึงทำไรเพื่อนคุนของผมเนี่ย" ขุนพลที่ก้มลงเก็บแก้วโยเกิร์ตเงยหน้าขึ้นถามด้วยความแปลกใจ ส่วนผมก็ยืนขำอยู่ที่เดิมปล่อยให้หนุ่มนักศึกษาแพทย์เช็ดคราบที่เลอะเทอะตามตัวให้ เพิ่มเติมคือมือพี่แฟงที่โอบเอวผมไว้

"ทำดีคุน เดี๋ยวกูให้รางวัล" พี่แฟงหัวเราะเบาๆดูชอบใจกับสิ่งที่ผมเพิ่งทำไป ท่าทางแตกต่างจากเพื่อนแฝดของผมที่อ้าปากค้างกับคำว่า'ยุ่ง'ที่ผมได้พูดออกไป

"อะไรกันวะนั่นนะ นี่กูพลาดอะไรไป"

"เออ นั่นดิ นี่พวกกูกลับบ้านไปสองวัน มันเกิดออะไรขึ้นนนน" สองแฝดรีบวิ่งมาแยกผมกับพี่แฟงที่อีกนิดจะสิงร่างกันอยู่แล้วออกจากกัน ขุนตีมือพี่แฟงแล้วดึงตัวพี่แฟงออกจากเอวผมเพราะขุนยืนอยู่ด้านหลังพี่แฟงพอดี คนที่ถูกตีมือทำหน้าไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด ส่วนผมนั้นถูกกองทัพดึงมานั่งที่โซฟา สองคนนี้ตลกเป็นบ้าเลย ถ้าคุณได้เห็นสีหน้าของขุนพลและกองทัพตอนนี้นะ คุณจะต้องตลกมากๆ

"ทัพดึงเรามาทำไม เรายังทำหมูผัดกิมจิไม่เสร็จเลย"

"ช่างแม่งหมูผัดกิมจิเถอะ เมื่อกี้มันอะไร สารภาพมาสิคุนคุน เอาความจริง ไม่งั้นกูจะตีปากมึง"

"อะไรเล่า" ผมรีบเอามือสองข้างยกขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้ทันที อย่าตีปากเรานะกองทัพ เรายังเจ็บปากอยู่เลยก็เมื่อเช้าพี่แฟงเล่นจูจุ๊บเราตั้งแต่ตอนตื่นนอน ปากล่างยังบวมเป่งอยู่เลยเห็นมั่ยเนี่ย!

"ที่มึงพูดว่า 'ยุ่ง' อะ มึงไม่เคยพูดนะเว้ย"

"อ้อ นั่นพี่แฟงสอนมาครัช!" ผมพูดจบก็ชี้ไปทางคนต้นเหตุที่สอนผมมาดิบดีตั้งแต่เมื่อคืนก่อนนอน

"คุน ถ้าไอ้แฝดมันถามอะไรน่ารำคาญ มึงก็บอกมันไปเลยนะว่า 'ยุ่ง'"

"ได้ครับผม"

"ว่านอนสอนง่ายจริงๆเลยมึงเนี่ย"

"หม่าม๊าก็พูดแบบนั้นแหละครับ" จำไม่ได้เหมือนกันว่าเราคุยอะไรกันต่อรึเปล่า แต่สิ่งที่จำได้คือพี่แฟงดึงผมเข้ามานอนจมอกตัวเอง ก่อนที่ผมจะเผลอหลับไป อกพีาแฟงอุ่นเป็นบ้าเลยครับผม!

บุคคลที่สามที่ถูกกล่าวถึงที่ยืนอยู่ไม่ไกลยกคิ้วขึ้นมาอย่างพอใจ แถมยังยิ้มมุมปากอีก ว่าแต่ว่า พี่แฟงที่มัดจุกขึ้นไปครึ่งหัวนี่ก็ดูดีเหมือนกันนะ เอ๋..แต่ไอ้ทรงนี้มันเรียกว่าอะไรน้าาาา เมื่อคืนก่อนนอนผมยังนั่งดูทรงผมกับพี่แฟงอยู่เลย อ้อ คิดออกละ ทรงแมนบันนี่เอง เข้ากับพี่แฟงดีนะดูดิบๆเถื่อนๆเซอร์ๆดี ไม่รู้มันเริ่มตั้งแต่ตอนไหนที่ผมมองว่าอีกฝ่ายหน้าตาดีพอสมควร ทั้งๆที่ครั้งแรกที่เจอกันเขาดู เอ่อ...ค่อนข้างหน้ากลัวในสายตาผมพอสมควร ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจดีกว่าเนอะ

"เป็นไงลูกศิษย์กู" คนถูกพาดพิงปิดเตาแก๊สเสร็จก็เดินมาทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างๆผม แทรกกลางระหว่างผมกับกองทัพพอดิบพอดี สีหน้าท่าทางดูก็รู้ว่าพอใจมากที่ศิษย์ดีเด่นอย่างน้องคุนทำตามคุณครูพูดขนาดนั้น

"ไม่ได้ละพี่ สอนอะไรให้คุนคุนเนี่ย พี่จะทำให้มันเ*ยเหมือนตัวพี่ไม่ได้นะเว้ย"

"อ้าวไอ้นี่ วอนโดนตีนกูแล้วมั้ยละ"

"พอๆครับทุกคน ห้ามทะเลาะกัน"

"ไม่ได้ทะเลาะนะครับน้องคุนคุน นี่แค่พูดคุยกันตามปกติเฉยๆ" พี่แฟงยื่นมือมายีหัวผมเบาๆ แล้วส่งยิ้มให้ ส่วนผมก็ยิ้มกว้างตอบไป ช่วงนี้พี่แฟงติดคุนมากบอกเลย เอะอะก็กอด เอะอะก็จับตัวส่วนเรื่อง เอ่อ...คิสคิสอะ นานๆที วันละครั้งเอง วันนี้ก็ทำไปแล้วตอนเช้า....อุ๊ปส์!หลุดอีกแล้ว!

"นี่ไม่ปกติละไอ้พี่ อีกนิดตีนมึงจะโดนหน้าผมละพี่"

ผมลุกขึ้นมาปล่อยให้สองแฝดปะทะคารมกับพี่แฟงต่อไป กลิ่นหมูผัดกิมจิที่อบอวลอยู่ที่บริเวณครัวนั้นเรียกน้ำย่อยได้ดีจริงๆ แต่ก่อนที่จะส่งอาหารหอมๆนั้นลงกระเพาะไป คุนต้องถ่ายรูปก่อนนะครับ จะได้เอาไปใส่ไว้ในคลิป ว้าว น่ากินจังเลย!

"หือ หอมจัง" ขุนพลเดินมาอยู่ข้างหลังผมที่กำลังกดชัตเตอร์จากกล้องมือถือเพื่อเก็บภาพหมูสัญชาติเกาหลีหอมๆน่าเจี๊ยสุดๆ

"โอ้ย ไอ้พีี่ทำไรเนี่ย" ขุนพลที่เคยยืนอยู่ข้างหลังผมจู่ๆก็เด้งไปอยู่มุมห้องซะงั้น  ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นน้องคุนมองไม่เห็นอะครับ หันไปอีกทีก็ไปยืนอยู่ตรงนั้นแถมยังยกมือขึ้นมาลูบจมูกตัวเองไปมาอีก อ้าว นี่ขุนมีวิชากำลังภายในตั้งแต่เมื่อไหร่กัน คุนงง

"มึงกำลังจะทำอะไรละไอ้ขุน" เสียงทุ้มนุ่มที่คุนคุ้นเคยดังขึ้นข้างๆหู ไม่รู้เจ้าตัวเดินมาตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ นี่สองคนนี้แอบไปฝึกวิชากำลังภายในกันมาตั้งแต่ตอนไหนกันถึงได้เคลื่อนไหวได้เร็วขนาดนี้

"ผมทำอะไรพี่ แค่กำลังจะก้มลงไปดมหมูเกาหลีเฉยๆ เห็นมันหอมดี"

"แล้วไป แต่ทีหน้าทีหลังอย่ามาทำลุ่มล่ามกับคุนคุนของกูอีก"

"แหมๆๆ อยากจะแหมไปถึงดาวอังคารโน้นนน ประทานโทษครับคุณพี่ ไม่ทราบไอ้คุนเพื่อนผมมันไปกลายเป็นคุนคุนของพี่มึงตั้งแต่เมื่อไหร่"

"นั่นสิพี่"

"นั่นมันก็เรื่องของกูกับคุน พวกมึงไม่เสือกสักเรื่องจะตายมั้ย"

"ตาย/ตาย" สองแฝดตอบประสานเสียงกันทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอยากรู้เรื่องมากขนาดไหน สมกับเป็นพี่น้องที่คลานตามกันมาดูโลกในเวลาใกล้เคียงกันจริงๆ

"งั้นก็ตายคาจานหมูผัดกิมจิมันนี่แหละ ไอ้พวกขี้เสือก" คนต้นเรื่องยกจานหมูผัดกิมจิขึ้นมาในมือทำท่าจะฟาดลงบนหัวของกองทัพและขุนพล พีาแฟงอย่ารุนแรง ห้ามเข้าโหมดโหดดิคร้าบบ

"เฮ้ย ไม่เอาดิวะพี่ ผมจริงจัง อะไรยังไงกันพูดมา"

"เออ ไอ้พี่ พี่มึงจะมาทำเล่นๆกับเพื่อนผมไม่ได้นะเว้ย สังเกตุมาหลายวันละ อะไรวะเดี๋ยวจับมือ เดี๋ยวจับหัว เดี๋ยวจับแก้ม นี้มีจับตรงอื่นกันอีกรึเปล่าวะเนี่ย" สองแฝดดูมีท่าทางจริงจังขึ้นมาทันที นี่ถ้าสองแฝดรู้ว่าผมจูจุ๊บพี่แฟงไปแล้วจะกรี๊ดสลบมั้ยนั่นนะ

"ไหนมึงลองอธิบายมาซิคุนคุน ว่าไอ้บรรยากาศสีชมพูตอนถ่ายวีดีโอเมื่อกี้มันอะไร"

"ก็ไม่มีอะไรนะทัพ เราก็เป็นแบบนี้ปกติ"

"เออ จริง ไอ้คุนมันพูดถูกของมันนะทัพ มันนะทำแบบนั้นปกติ อยู่กับมึงกับกูก็อ้อน ทำเสียงงุ้งงิ้งตลอด"

"ถ้างั้นคนมี่ไม่ปกติก็คือไอ้พี่สินะ"

"เออ พี่มึงนั่นแหละ ทำตัวผิดปกติ ทำไมช่วงนี้ตัวติดกับเพื่อนผมจังวะ ผมว่าช่วงนี้พี่ถึงเนื้อถึงตัวเพื่อนผมเกินไปรึเปล่า นี่แค่มาเป็นรูมเมทขั่วคราวนะเว้ย ไม่ใช่แฟน ทำตัวอย่างกะแฟน หรือว่า...."

"เออ นั่นดิ"

"ละใครบอกว่าคุนกับกูไม่ใช่แฟนกัน"

"ห๊ะ?/อะไรนะไอ้พี่/ ฮะ อะไรนะครับ" ทั้งผม ทั้งกองทัพ แล้วก็ขุนพลต่างร้องออกมาพร้อมกัน สองคนนั้นดูแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยินซึ่งนั่นก็ไม่แปลกหรอก แต่ผมนี่สิไม่เห็นรู้เรื่องเลยว่าตัวเองไปเป็นแฟนกับพี่แฟงตอนไหน มีอะไรที่ผมพลาดไปรึเปล่าเนี่ย นี่วันนี้คุนตื่นมาไม่มีความทรงจำของเมื่อวานหรอเนี่ย ตายแล้ววว ต้องรีบหาหมอด่วน!

"อ้าวพี่ ทำไมคุนคุนเหมือนไม่รู้เรื่องด้วยอะ"

"เออ จริง ดูทำหน้าเข้าคุน อ้าปากค้างจนแมลงวันจะเข้าปากได้ทั้งฝูงแล้ว"

"กูกับคุนคุนเป็นแฟนกันแล้วไง มึงไม่ต้องทำเป็นตกใจคุน"

"ปะ ปะ เป็นตอนไหนหรอครับ" ความจำหายไปจริงๆด้วย

"อ้าว นี่มึงจะไม่รับผิดชอบที่มึงมาลวนลามกูหรอคุน"

"ฮ๊ะ?!??"

"WTF!!!!"

"คุนลวนลามพี่แฟงตอนไหน?" ไม่เห็นจะจำได้เลย นี่ความจำคุนหายไปกี่เรื่องเนีาย โอ้โนววว

"ก็มึงจูบกูวันก่อนไง"

"ฮ๊ะ!?!/ฮ๊ะ!!?!?" สองแฝดร้องอุทานออกมาเป็นรอบที่สิบของวัน ส่วนผมที่ตอนแรกยังงงอยู่ว่าไปทำแบบนั้นตอนไหนก็ถึงบ้างอ้อขึ้นมาทันที อ้อ แบบนั้นเรียกลวนลามหรอ ถ้าใช่ ก็คงใช่แหละ ก็คุนทำจริงนี่นา

"อ้อ ที่บอกให้รับผิดชอบด้วยใช่มั้ยคะ ได้ครับได้ เป็นแฟนกันเนอะ" อ้อ เรื่องนี้นี่เอง ค่อยโล่งใจหน่อย ที่น้องคุนไม่ได้ความทรงจำขาดหาย ถูกแล้วครับคุนทำคุนต้องรับผิดชอบ ลูกผู้ชายตัวจริงเสียงจริงแบบคุนต้องยืดอกรับเท่านั้น ปาป๊าสอนมา น้องคุนจำได้!

"มึงยอมรับด้วย???? ไอ้ทัพ ดูลูกมึงเดี๋ยวนี้ ใจแตกไปกันใหญ่แล้ว"

"ขุน มึงไปหาไม้เรียวมาเลย นังลูกไม่รักดี ใจแตกนะมึง!"

"เฮ้ย ทุกคน ไม่ต้องทำเป็นเรื่องใหญ่หรอก น้องคุนแค่จูจุ๊บพี่แฟงเอง มาทานข้าวกันเถอะทุกคน คุนหิวมากเลยตอนนี้"

ผมเดินไปหยิบจานมาสี่ใบสำหรับตักข้าวให้ทุกคน พร้อมกับพี่แฟงที่ยก ซุปกิมจิและไก่เทอริยากิที่ทำไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว ปล่อยให้สองแฝดโวยวายกันไปตามปนะสาคนชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ จะโวยวายทำไมไม่รู้ น้องคุนเป็นผู้ชาย ไปจูจุ๊บ คิสคิสพี่แฟง ไม่ผิดสักหน่อย เนอะ?

"จะแ*กมั้ยพวกมึง ถ้าแ*กก็มานั่งนี่ ถ้าไม่ก็ไสหัวกลับห้องไปซะ"

"กินดิพี่ หิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย" ขุนพลที่ยืนงงอยู่สักพักรีบเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ทันที

"อย่าหวังว่าพวกผมจะรีบกลับตอนนี้ ฝันไปเถอะ ผมจะอยู่ทั้งวัน แล้วก็จะนอนนี่ด้วย!" เราสามคนเริ่มจัดการกับอาหารตรงหน้าแล้ว แต่กองทัพยังยืนอยู่ที่เดิม แล้วก็บ่นพึมพำอะไรไม่รู้ ยืนคุยอยู่กับกำแพงคนเดียว สงสัยหิวเจอเบลอแน่ๆ คุนหิวคุนไม่ว่างฟังหรอก ส่วนพี่แฟงที่นั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆผมตักซุปกิมจิเข้าปากเป็นอย่างแรก แล้วก็หันมาชมผมว่าทำอร่อย นี่ขนาดลองทำครั้งแรกยังอร่อยขนาดนี้เลย ใช่สิครับ ผมมันเด็กอัจฉริยะ!

"กินเลอะตลอด" พี่แฟงยื่นมือที่ถือทิชชู่มาเช็ดคราบอะไรสักอย่างที่ติดอยู่ตรงขอบปากผมออกให้ ทั้งๆที่ตัวน้องคุนเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปากตัวเองเลอะ

"ขอบคุณคร้าบผม พี่แฟงทานเยอะๆ อะนี่ คุนตักไก่ให้ อร่อยมากมาย" ผมเอื้อมมือไปตักไก่เทอริยากิที่วางอยู่หน้ากองทัพมาใส่ไว้ในจานพี่แฟง

"กูก็อยากกิน ขอด้วยสิ"

"แต่จานไก่มันวางอยู่หน้าทัพนะ ทัพก็ตักเองสิ ให้เราตักให้ทำไม"

"ทีไอ้พี่แฟงมึงยังตักให้เลยนี่คุนคุน"

"ก็พี่แฟงตักไม่ถึงนี่นา มันอยู่ไกล"

"แขนไอ้พี่แฟงมันยาวจะตาย แค่นี้มันตักถึงอยู่แล้ว ตัวมันยังกะนักบาส NBA"

"โกรธอยู่สินะมึง ทำไมวะ กลัวว่าจะตกกระป๋องหรอ ไม่ต้องกลัวหรอก พวกมึงตกกระป๋องแน่ไอ้แฝดนรกโกรธทีไรออกเสียงชื่อกูผิดตลอด กูบอกหลายทีละให้ออกเสียงชัดๆ แฟง..อะ..แฟง..ออกเสียง F- A -N -G อะมึง เวลาออกเสียงให้เหมือนมีตัวจีด้วย เสียชื่อกูหมด"

"ผมจะเรียกแบบนี้ ให้มันออกเสียงเหมือนฟักแฟงไปเลย! แล้วผมก็ไม่มีวันตกกระป๋องด้วยไอ้พี่!"

"โอ๋ๆ อย่าหงุดหงิดเลยทัพ กินนี่ๆๆๆ เราตักหมูผัดกิมจิให้ อร่อยอย่าบอกใครเชียว" แล้วผมก็ต้องคอยตักโน่นนี่ใส่จานคนนั้นคนที่ตลอด เพราะพอตักให้คนหนึ่ง อีกคนก็งอแงขึ้นมา ทำตัวเหมือนเด็กกันจริงๆเลย ไม่ยอมกันเลยสักคนเดียว นี่โตกันแล้วนะ ชอบทำตัวเป็นเด็กตลอด น้องคุนเบื่อที่ต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่อยู่คนเดียว เฮ้อ!
.
.
.
"คุน" พี่แฟงที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนเอ่ยเรียกผมที่กำลังนั่งเล่นอยู่ที่หน้าประตูระเบียงกับอันอัน ส่วนสองแฝดกำลังล้างจานกันอย่างขะมักเขม้น ว่าแต่ทำไมช่วงนี้อันอันกินเยอะจัง กินไก่มื้อและสี่ชิ้นแหนะ วันหนึ่งกินสามมื้อ เดือนหนึ่งก็ต้อง 360 ชิ้น โอ้โน้ว กินเยอะเหมือนป๊าคุนเลย เด็กดีโตไวๆเล้ยยยย!

"คร้าบผม"

เมี้ยววว

อันอันที่กำลังเคลิบเคลิ้มกับการเกาพุงของผมร้องขึ้นมาทันทีที่ผมหยุดเกา เจ้าแมวน้อยนี่ก็อีกคน อยากให้ผมเอาใจตลอด ชีวิตคุนคุนนี่มันยังไงกันน้าาา ใครๆก็อยากให้เอาใจกันนักหนา บางครั้งน้องคุณก็อยากแยกร่างได้ หรือจะฝึกวิชาถอดจิตเหมือนตี้จวินดีน้าาา

"กล่องนี่ของใคร" พี่แฟงยกกล่องสีขาวขนาดกลางขึ้นมาแกว่งไปมาบนอากาศ

"ของคุนเองครับ"

"สั่งไรมาหรอ"

"ไม่ได้สั่งครับ มีคนส่งมาให้ น่าจะเป็นพวกแฟนคลับจาก คุนคุน ชาแนลละมั้ง"

"หือ นี่มึงบอกที่อยู่ตัวเองไปหรอ"

"เอ้อ จริงด้วย ผมไม่ได้บอกที่อยู่ใครนี่นา"

"ดีแล้วอย่าบอกที่อยู่ให้คนอื่นรู้ สมัยนี้พวกคลั่งไคล้เยอะจะตาย เดี๋ยวมันบุกมาถึงบ้านมึงจะซวยเอา แล้วส่วนกล่องนี่ส่งพัสดุผิดที่รึเปล่า"

"แต่หน้ากล่องเขียนชื่อคุนนะครับ คุนอ่านก่อนหยิบมาจากพี่นิติข้างล่างแล้ว"

"อ้าวหรอ ช่างมัน แล้วตอนลงไปเอาพัสดุมีของส่งถึงกูรึเปล่า"

"ไม่มีนะครับ"

"อ้อ โอเค ถ้ามีแล้วรีบบอกนะ กูรอของที่สั่งออนไลน์อยู่"

"คร้าบผม"
.
.
.


#คุนแฟง

by ppeachmm

----+----+----

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
แอบสั่งของเล่นอะไรให้น้องอะเนี้ย

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
 :o8: เด็กใจแตก ๆ ๆ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
คุณพี่คะ ไปจัดการตัวเองเลยค่ะ

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่ 14---

สัปดาห์แห่งการสอบผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทั้งผมแล้วก็คุนสอบเสร็จตั้งแต่เช้าวันนี้พร้อมกัน พรุ่งนี้ผมตั้งใจจะไปที่บ้านแม่ที่ฝั่งธนบุรีเสียหน่อย คือ พ่อผมกับแม่ผมหย่ากันเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว และต่างคนต่างก็ยังไม่มีครอบครัวใหม่ อย่าถามถึงสาเหตุที่เลิกกันเพราะผมไม่รู้แล้วก็เพราะนิรันดร์บอกว่ามันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เด็กอย่างพวกผมไม่ควรเข้าไปยุ่ง

ขอท้าวความถึงครอบครัวตัวเองหน่อยละกันนะครับ ขอพระเอกได้มีพื้นที่ในเรื่องนี้บ้าง เดี๋ยวมีคนหาว่าผมค่าตัวแพง เอาละขอเริ่มเล่าตั้งแต่ตอนผมยังไม่เกิดละกัน พ่อและแม่เป็นคนกรุงเทพฯแต่เพราะหลังแต่งงานนิรันดร์ไปทำธุรกิจที่เชียงใหม่ ทั้งพ่อและแม่เลยย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่นั่นตั้งแต่ตอนนั้น ซึ่งมันก็คือเมื่อ 23 ปีที่แล้ว แต่พอทั้งสองแยกทางกันแม่ย้ายกลับมาอยู่กับครอบครัวตัวเองที่กรุงเทพ ส่วนนิรันดร์ยังอยู่ที่เชียงใหม่เหมือนเดิม ผมกับพี่คนโตและน้องคนเล็กอยู่กับพ่อไม่ได้ย้ายตามแม่มาเพราะเราต่างก็เรียนหนังสืออยู่ที่เชียงใหม่ แม่แวะมาเยี่ยมพวกเราปีละหลายๆครั้ง และทุกปีช่วงปิดเทอมพวกเราสามพี่น้องก็จะไปอยู่กับแม่เป็นเดือนๆ เป็นแบบนี้มาหลายปีอยู่เหมือนกัน พอโตขึ้นทุกคนแยกย้ายเข้ามหาวิทยาลัยและสอบติดที่กรุงเทพฯกันหมด น้องสาวคนเล็กของผมก็ย้ายมาอยู่กับแม่เพราะมหาวิทยาลัยที่เธอสอยติดนั้นอยู่ไม่ไกลจากบเานของแม่เท่าไหร่ ส่วนผมกับพี่ชายที่สอบติดอีกมหาวิทยาลัยหนึ่งเราเลือกที่จะอยู่คอนโดใกล้มหาวิทยาลัยเพราะเหตุผลว่าสะดวกในการเดินทาง พ่อแม่ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน หรือทะเลาะอะไรกัน เพราะฉะนั้นลูกๆทั้งสามคนไม่มีใครเป็นเด็กมีปัญหาหรือเป็นเหยี่อจากครอบครัวที่แยกทางกันเหมือนคนอื่น กลับกันคือเราทั้งสามคนต่างก็ได้รับความรักจากทั้งพ่อและแม่อย่างมากมาย บางทีผมยังคิดว่ามันล้นเกินไปด้วยซ้ำ เหมือนเช่นในตอนนี้ ตอนที่ผมกำลังคุยกับพ่อบังเกิดเกล้าทส่งโทรศัพท์

(ได้ข่าวว่าสอบเสร็จแล้วหรอวะ) เสียงห้วนๆ อันคุ้นเคยที่ผมได้ยินตั้งแต่เกิดเอ่ยขึ้นผ่านโทรศัพท์ราคาแพงที่อีกฝ่ายซื้อให้เมื่อต้นปี

"ครับคุณนิรันดร์ แสนรู้จริงๆเลย"

(ไอ้นี่กวนส้นตีนจริงๆ ถ้ารู้ว่ามึงโตมาเป็นแบบนี้กูให้แม่มึงเอาขี้เถ้ายัดปากตั้งแต่เกิดแล้ว) ไม่ต้องพูดอะไรเพิ่มเติมก็คงพอจะรู้แล้วใช่มั้ยครับว่าผมนะสนิทกับพ่อแค่ไหน ขอบอกไว้ก่อรนะครับว่าที่คุยกันอยู่นี่ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันนะ เราคุยแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว พ่อนะสนิทกับผมที่สุด เพราะพ่อให้เหตุผลว่าผมนะมันพวกห่ามเหมือนกับพ่อไม่มีผิด ห่ามแบบไหนนะหรอ เดี๋ยวก็รู้ครับ

"ก็เห็นพูดแบบนี้ตั้งแต่ผมพูดได้แล้วนี่พ่อ"

(กูคิดผิดจริงๆที่ไม่ทำ ปล่อยให้มึงมาลอยกน้าลอยตาเถียงกูจนอายะนี่สิบ เออ ละเป็นไง ทำได้หรือได้ทำละข้อสอบนะ) ปลายสายหัวเราะเบาๆแทรกมาด้วยอย่างคนอารมณ์ดี

"โห่ นิรันดร์ จะดูถูกนายลภัส คนนี้เกินไปละมั้งครับ อย่างผมต้องได้เต็มเท่านั้น ไม่ได้เอ นี่ให้เอาตีนเหยียบหน้าเลยนะเว้ย" คนเอาหัวเกยตักผมนอนดูทีวีอยู่ถึงกับช้อนตาขึ้นมามองเหมือนไม่เชื่อหูตัวเองว่าผมกำลังพูดกับพ่อตัวเองอยู่

 (เดี๋ยวกูจะไปซื้อรองเท้าคู่ใหม่มาเตรียมไว้รอเหยียบหน้ามึง วิชาละคู่เลยเป็นไง)

"งั้นต้องเสียใจด้วยนะครับที่คุณนิรันดร์จะไม่ได้ซื้อรองเท้าใหม่"

(ขี้โม้ได้ใครวะเนี่ย) ปลายสายหัวเราะอย่างชอบใจ แม้ไม่ได้เห็นหน้าก็พอนึกภาพออกว่าอีกคนกำลังนั่งไขว่ห้างหัวเราะร่าอยู่บนโซฟา ที่ประจำคุณเขาละ

"ลูกใครก็เหมือนคนนั้นแหละครับคุณนิรันดร์ แล้วนี่โทรมาทำไมเนี่ยพ่อ" อย่าเข้าใจผิดนะครับ ที่ถามไปนั้นไม่ใช่ว่าผมไม่อยากให้พ่อโทรมา แต่พ่อผมไม่ใช่คนชอบโทรหาลูกๆ ผมรู้ดี บ้านผมไม่ได้เลี้ยงลูกเหมือนไข่ในหินที่ต้องโทรหาเกือบทุกวันเหมือนไอ้ตัวเล็กที่นอนเกยตักผมอยู่แบบนี้ ไม่รู้ว่าคุนคุนมันเชื่อคำขู่ของป๊าม๊ามันได้ไงว่าถ้าไม่กลับปักกิ่งจะไม่ให้ตังค์ใช้ ถึงได้ต้องมาทำช่องในยูทูปเนี่ย วันก่อนก็ยังได้ยินมันวีดีโอคอลคุยกับม๊ามันอยู่เลย แถมม๊ามันยังบอกว่าโอนเงินประจำเดือนให้แล้ว แต่ที่ตกใจคือม๊ามันจะโอนให้มันทำไมเยอะแยะขนาดนั้น รถก็ไม่ได้ขับ คอนโดก็ไม่ได้เช่า จะโอนมาทำไมเดือนละแสน มิน่าละ ไอ้เด็กน้อยนี่ถึงกินดีอยู่ดีขนาดนี้ ถ้าจำครั้งแรกที่มันทำอาหารให้ผมได้ คุณคงจะพอเข้าใจแหละว่าทำไมมันต้องสั่งกุ้งมาจากฟาร์มที่ภูเก็ตด้วย เฮ้อ ก็กินแต่ของดีๆแบบนั้นไงถึงกลัวตัวเองจะไม่มีเงินใช้ถ้าพ่อแม่ไม่โอนเงินให้ เฮ้อ

วนกลับเข้าเรื่องของนิรันดร์กัน ว่าแต่นิรันดร์โทรมาทำไม ถ้านิรันดร์โทรมาต้องมีอะไรแน่ๆ

(มีเรื่องให้ช่วยหน่อย)

"อะไรอีกละคราวนี้ แบบคราวที่แล้วไม่เอานะนิรันดร์ ผมเข็ดวะ" นึกถึงเหตุการณ์คราวที่แล้วยังขยาดอยู่เลยครับ พ่อให้ผมไปนัดดูตัวกับลูกสาวที่เป็นคู่ค้าทางธุรกิจของพ่อครับ คุณอาอดิศรที่ขึ้นชื่อว่ามีลูกสาวสวยพ่วงด้วยตำแหน่งนางงามเชียงใหม่ เออก็สวยจริงแหละ แต่ไม่ใช่สเปกผมวะ แล้วไม่รู้เจ้าหล่อนติดใจผมอีท่าไหนพยายามจะลากผมเข้าโรงแรมให้ได้ กว่าจะหนีเอาตัวรอดมาได้ก็แทบตาย เห็นแบบนี้ผมก็เลือกนะครับ ไม่ใช่ใครมีนมก็ได้หมด ไม่ใช่ๆๆๆ อย่างแฟงละก็ถ้านมไม่ตู้มจริงอย่าเข้ามาเฉียด เอ้ย ไม่ใช่!

(ฮ่าๆๆ เฮ้ย ไม่ๆ ไม่ใช่แบบนั้น คราวนี้คนละแนวกันเลย เออวะพอมึงพูดขึ้นมากูก็เพิ่งนึกได้ว่าต้องให้คนไปจัดการไอ้อดิศรหน่อยวันก่อนเหมือนส่งลูกน้องเข้ามาสืบข่าวอะไรไม่รู้ที่โรงแรม วอนหาเหาใส่หัวชัดๆ ไอ้ห่านี่ ฿&฿#@@#22฿) แล้วก็ตามมาด้วยคำด่าอีกสารพัด ขอเซ็นเซอร์นะครับ เด็กๆอ่านไม่ได้เด้อ ตั้งแต่ผมชิ่งลูกสาวอาอดิศรที่โรงแรมดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างพ่อกับเขาก็ไปได้ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ผมอย่างเดียวไง ปัญหามันอยู่ที่นิรันดร์ด้วย ตามใจผมอย่างกับอะไร ผมไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ไม่เอาก็คือไม่เอา แต่อีกฝ่ายอยากได้ผมมากถึงกับยกเอาผลประโยชน์ทางธุรกิจขึ้นมาอ้างหน้าตาเฉย แต่มีหรอที่นิรันดร์จะแคร์ เขาเห็นลูกๆสำคัญกว่าทุกอย่างอยู่แล้ว พ่อตัวอย่างครับบอกไว้ตรงนี้เลย เนี่ยไงละ เพราะตามใจผมแบบนี้ นายลภัสถึงได้โตขึ้นมามีคุณภาพแบบนี้!

"นอกเรื่องอีกแล้วนะนิรันดร์ มีอะไรก็รีบพูดมาสิ เฮ้ย อย่าขยับเยอะกูจั้กจี้" ประโยคหลังผมดุเจ้าตัวเล็กที่นอนอยู่บนตักไป ไม่รู้ทำอะไรอยู่ขยับไปมาไม่หยุด นิ้วที่วางอยู่บนขาผมก็หยุกหยิกตามไปด้วย มันเสียววาบไปถึงกระดูกสันหลังเลยครับ

(นี่มึงทำไรอยู่ไอ้แฟง มึงอยู่กับใครเนี่ย แต่หัววันเลยนะมึง ไหนบอกเก็บตัวอยู่คอนโด แอบไปห้องสาวที่ไหนอีก แรดจริงๆ ติดโควิดขึ้นมากูจะปล่อยมึงตายห่าอยู่โรงบาลเลยนะเว้ย)

"เฮ้ย ใจเย็นนิรันดร์ ผมก็อยู่ที่คอนโดนี่แหละไม่ได้ออกไปไหน รับรองว่าห่างไกลโควิดแน่ๆ ห่วงผมหรอกดูออก"

(แล้วไป ห่วงเหิ่งอะไร ไม่มีมึงชีวิตกูคงจะสงบสุขน่าดู ในบรรดาพี่น้องมึงอะเรื่องเยอะ ปัญหาแยะสุดละ แล้วนั่นเสียงอะไร) ปลายสายถามขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงอื้อ อ้า อื้อ อ้า ของไอ้ตัวเล็กที่นอนเล่นอยู่บนตักผม แล้วคู้นนน มึงเป็นไรเนี่ยมาส่งเสียงล้อแหลมอะไรตอนนี้ ฮะ!

"เสียงแมว" ผมรีบเอามือปิดปากคุนคุนทันที เพื่อไม่ให้มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมาอีก ถ้าขืนนิรันดร์รู้เรื่องคุนคุนนะคงจะเรื่องใหญ่ เชื่อเหอะ มีอันตีตั๋วลงมากรุงเทพตอนนี้เลย ฟันธง! สายเผือกแห่งนิมมานเหมินทร์บอกเลย!

(มึงนี่นะเลี้ยงแมว ร้อยไม่เชื่อพันไม่เชื่อ หน้าอย่างมึงรักสัตว์ตายห่าละ)

"แล้วแต่จะคิดเลย แต่โห น่าน้อยใจวะ มีพ่อพ่อก็ไม่รัก ขนาดตายไปพ่อยังไม่แคร์"

(มึงอย่าดึงดราม่า ช่างหัวแมวมึงก่อนตอนนี้ กูขอเข้าเรื่องดูก่อนเดี๋ยวกูลืม พักหลังยิ่งขี้หลงขี้ลืมอยู่)

"ก็แก่แล้วมั้ยละ เรื่องสาวๆก็เพลาๆบ้างเหอะจะได้อยู่ดูหลานวิ่งยั้วเยี้ย ระวังจะตายคาอกนะนิรันดร์"

(พวกมึงก็สาบแช่งกูจัง เมื่อวานนิวเยียร์ก็พูดเหมือนมึงเป๊ะ) ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับนั่นน้องสาวผมเองตัวแสบเลยละ นิวเยียร์เดอะชิปเปอร์

"เข้าเรื่องเถอะนิรันดร์ ไม่งั้นวางละนะ จะดูหนัง" คนที่นอนอยู่บนตักผมขยับตัวไปมาอยู่หลายครั้ง และทุกครั้งที่ขยับแก้มยุ้ยๆของคุนก็เคลื่อนไปบนขาผม แม่งโคตรนิ่มเลยวะ อยากฟัดถั่วงอกแล้ว!

(โอเค แค่จะบอกว่าให้ช่วย......) นิรันดร์เล่าเรื่องที่ไหวเวานให้ผมไปทำต่ออีกสักพักก็วางไป ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเพราะผมเคยทำมาแล้วหลายครั้ง บางครั้งก็งงเหมือนกันว่านี่ลูกหรือลูกน้องกันแน่ ใช้กูจัง เอะอะเรียกหา เอะอะใช้ แต่ผมก็ต้องยอมละครับ ก็พ่อนี่นาแถมงานยังมาพร้อมค่าตอบแทนราคาสูงด้วย ใครจะไม่ทำละเนอะ!

"มึงจะขยับอะไรนักหนาเนี่ยคุนคุน" ผมเอ็ดไอ้ตัวเล็กที่กระสับกระส่ายไปมาไม่หยุดสักที

"ก็อันอันแกล้ง เอาลิ้นมาเลียนิ้วเท้าคุน คุนจั้กจี้นี่นา" อ้อ ไอ้ตัวต้นเหตุอยู่ตรงข้างๆโซฟานี่เอง ผมชะโงกหน้าออกไปดู พอมันเห็นหน้าผมก็รับมุดลงไปอยู่ใต้โซฟาทันที อันอันขี้แกล้งครับ เวลาไหนที่นั่งเหงาๆก็จะชอบมาเลียนิ้วเท้าคนอื่นเล่น ที่หนีเข้าไปแอบใต้โซฟานั่นไม่ใช่เพราะกลัวนะครับ แต่คิดว่าผมกำลังเล่นด้วยอยู่ เดี๋ยวอีกสักพักก็จะชะโงกหน้าออกมาดู เหมือนเด็กแหละครับ แต่ตัวมันใหญ่ไงอารมณ์เลยไม่ได้ แมวห่าไรตัวมหึมาขนาดนี้ ไม่รู้โตกว่านี้ตัวจะใหญ่แค่ไหน ขนาดตอนนี้ก็เกือบโตกว่าเจ้าของมันละเนี่ย นี่ผมยังนึกสงสัยเลยว่าจะมีวันไหนที่มันหิวจนจับผมสองคนกินบ้างรึเปล่า ยิ่งมันโตเขี้ยวมันก็ใหญ่ขึ้นไปพร้อมกับขนาดตัว มีครั้งหนึ่งผมอ่านหนังสือดึกๆแล้วหิวเลยเดินออกมาหาอะไรที่ครัวกิน แต่เพราะแสงจากด้านนอกมันส่องผ่านหน้าต่างที่ไม่ได้ปิดผ้าม่านเข้ามาสว่างพอมองเห็นได้ทำให้ผมไม่ได้เปิดไฟ ตอนที่กำลังหาอะไรกินจากตู้เย็นอยู่ จู่ๆอันอันก็เดินมาข้างหลัง แล้วตาสีฟ้าของมันดันสว่างในความมืดอีก ใจผมนี่หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเลยคืนนั้น บอกแล้วว่าแฟงไม่ถูกกับสิ่งลี้ลับ! หลังจากวันนั้นถ้าจะเดินไปไหนมาไหนกลางคืนนี่คือต้องเปิดไฟตลอดเลย ไม่เอาอะ เข็ด แม่งเยี่ยวเล็ดเลยนะคืนนั้น

พออันอันหายเข้าไปใต้โซฟา คุนคุนก็ใจจดใจจ่ออยู่ที่ทีวีจอขนาดมหึมาต่อ ทายสิครับว่ามันดูเรื่องอะไร ทายผิดมีตีปากอะบอกเลย  อืม...นั่นแหละ...ดูมาชั่วโมงกว่าละตอนนี้ จะดูไรนักหนา กูงง แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมันหรอก เด็กเพิ่งสอบเสร็จคงอยากจะผ่อนคลายปล่อยมันไป ส่วนผมก็เทะเล็มมันไปเรื่อยแหละ จับแก้มบ้าง จับหัวบ้าง จับเองบ้าง จับ....บ้าง  อย่านะ อย่าคิดไปไกล มันไม่ใช่แบบนั้น เอาเหอะบอกได้แค่ว่าเวลามันดูทีวีแล้วมันมีสมาธิมาก มันไม่สนใจหรอกว่าผมจะทำอะไรมันบ้าง และนั้นก็เข้าทางผมคนดีศรีสยามของแท้ อิอิ

ดูทีวีกับมันไปสักพักก็หยิบมือถือขึ้นมาดูช่อง คุนคุน ชาแนล นี่ไม่ได้มาโปรโมทนะ ไม่มี้ไม่มี แต่ถ้าจะให้ดีแวะเข้าไปให้กำลังใจ กดไลค์ กดแชร์ให้ไอ้ตัวเล็กของผมด้วยคร้าบ ขอให้ทะยานสู่ห้าแสนวสับตะไคร้ในเร็ววัน แล้วคือตอนนี้ยอดสับตะไคร้สามแสนกว่าแล้วเหอะ ไม่ได้โม้นะ ไม่รู้ว่าคลิปที่เราสองคนทำมันไปปังได้อย่างไง ดังชั่วข้ามคืนเลยนะครับ จากห้าหมื่นสับตะไคร้เลื่อนขึ้นมาสองแสนในคืนเดียว ไอ้ตัวเล็กนี่กรี้ดแทบห้องแตกตอนที่ตื่นมาตอนเช้าแล้วเห็นยอดสับตะไคร้

"คุน"

"คร้าบบบ"

"ไอ้คนนี้ใครวะ มึงรู้จักรึเปล่า" ผมถามขึ้นเมื่อเห็นคอมเมนท์แปลกๆ

"ใครอะ" ไอ้ตัวเล็กตอบทั้งที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่ไอ้หัวขาวชุดม่วงในจอทีวี ดูจังเลยไอ้ตี้จวินเนี่ย ดูตรงไหนว่าหล่อวะ กูหล่อกว่าตั้งเยอะ

"นี่ไง ไอ้คนที่ชอบมาคอมเมนท์ใต้คลิปมึงเนี่ย ชื่อมันอ่านว่าอะไรวะ อ่านไม่ออกอะเป็นภาษาจีน"

"อ้อๆๆ รู้ๆ คนนี้คุนรู้ นั่นแฟนตัวยงของชาแนลเราเลยนะ" อย่างที่คุนพูดก็คงจะจริงนั่นแหละ มันโผล่มาคอมเม้นท์ทุกคลิป แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นไง ประเด็นคืออ่านดูก็รู้ว่ามึงเป็นแฟนคลับหวังเลื่อนขั้นอะ จากแฟนคลับกลายเป็นแฟนครับไรงี้ ส้นตีนเหอะ ถ้ากูยังมีชีวิตอยู่มึงอย่าหวัง  ไม่สิ ต่อให้กูตายไปกูก็จะคอยหวงก้างคุนคุนตลอดไป ผู้ชายคนอื่นอย่าได้ฝัน!

"ชื่อมันอ่านว่าไรวะ"

"ตง แปลว่าทิศอะไรอะ ทิศที่พระอาทิตย์ขึ้นอะครับ"

"ทิศตะวันออก"

 "อ้อ นั่นแหละครับ ตาวันออก แต่คนนี้เขาเขียนซ้ำกันสองครั้ง เป็น ตงตง คุนว่าน่าจะเป็นเด็กๆนะ" เด็กพ่อง! ดูก็รู้ว่ามันจะมาม่อมึง ไอ้คู้น เด็กที่ไหนเขียนคอมเมนท์แบบนี้วะ

'คุนคุนมองมุมไหนก็น่ารัก'

'อยากเป็นผ้ากันเปื้อนสีฟ้าอ่อนผืนนั้นของคุนจัง'

'คุนยิ้มแล้วเหมือนพระอาทิตย์เลย พระอาทิตย์ที่ขึ้นทางทิศตะวันออก'

'มือคุนคุนสวยมาก'

'แก้มคุนแดงมากเลยตอนออกกำลังกาย'

'ตัดอีกคนออกจากคลิปเถอะ มีแค่คุนคุนก็พอแล้ว'

เห็นมั้ย มันต้องมีซัมติง ไอ้นี่มันหวังเลื่อนขั้น แล้วนี่ก็ใส่มาจังไอ้อีโมติคอนรูปหัวใจเนี่ย ใส่มาจนล้นเลยไอ้ห่ารากตงตง เดี๋ยวมึงได้กระเด็นไปทางทิศตะวันออกเหมือนชื่อมึงนั่นแหละ รีพอร์ตคอมเมนท์ล่อแหลมได้ป่าววะ?

"พี่แฟง"

"อื้อ ว่า"

"มีพัสดุมา คุนวางไว้บนโต๊ะอาหาร"

"หรอ เออ กูขอไปดูหน่อย" ผมพูดจบก็จับหัวไอ้ตัวเล็กไปวางไว้บนหมอนที่ผมเอามารองแทนขาผม แล้วสาวเท้าไปที่โซนครัวทันที ผมรอมาสามวันแล้วไอ้ของที่สั่งจากร้านออนไลน์เนี่ย

"ทำไมกล่องเล็กจังวะ ลายมือคุ้นจังเหมือนเคยเห็นที่ไหน" ผมหยิบกล่องไปรษณีย์สีขาวขึ้นมาแล้วเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักหยิบมีดออกมากรีดกล่องเพื่อจะดูของข้างใน

"ทำไมตอนสั่งมันดูใหญ่กว่านี้วะ ส่งของผิดมาให้กูรึเปล่าเนี่ย"

"ถ้าไม่เหมือนในรูปนะ กูจะให้นิรันดร์ปิดเว็บแม่งเลย" ปากก็บ่นพึมพำ มือก็แกะห่อพัสดุไปด้วย ว่าแต่ว่าทำไมมันห่อแน่นหนาจังเลยวะร้านนี้

"เ*ย!" ผมอุทานออกมาเมื่อเห็นว่าข้างในกล่องเป็นอะไร ก่อนจะรีบคว้างมันลงพื้น ใครแม่งเล่นพิเรนแบบนี้วะ

คุนคุนที่นอนดูทีวีอยู่ถึงกับสะดุ้งโยงลุกขึ้นมายืนทันที คงตกใจเสียงผมที่ร้องแหละครับ แต่พอผมบอกว่าไม่มีอะไรอีกฝ่ายก็นอนลงไปเหมือนเดิม

เมื่ออีกฝ่ายกลับไปให้ความสนใจกับภาพเคลื่อนไหวในจอทีวี ผมก็หยิบกล่องที่หล่นลงไปที่พื้นขึ้นมาทันที ในกล่องนั้นมีภาพนกถูกปาดคอ เลือดอาบเต็มพื้น แต่บนภาพมีของเหลวสีแดงๆบรรจุมาด้วย ที่ตกใจเพราะตอนแรกผมคิดว่ามันคือเลือดจริงๆ แต่พอดมกลิ่นแล้วไม่มีความคาวปนอยู่ถึงได้รู้ว่าเป็นเลือดปลอม แถมด้านหลังรูปยังมีข้อความเขียนด้วยลายมือไว้หนึ่งประโยค

'อยู่ให้ห่างน้องคุนของกู ไม่งั้นมึงจะเป็นเหมือนไอ้นกตัวนี้'

"ไอ้เ*ย ไอ้เวร ไอ้อุบาท มึงเล่นเ*ยอะไรเนี่ย อย่าให้กูเจอนะมึง ลายมือก็เ*ยกูเกือบอ่านไม่ออกยังเสือกจะเขียนอีก"

ไม่รู้ว่าไอ้คนที่ส่งของชิ้นนี้มามันใช้สมองส่วนไหนของมันคิดกันว่าผมจะกลัวคำขู่โรคจิตของมัน มึงเล่นผิดคนแล้วไอ้เวรตะไล!

#คุนแฟง


by ppeachmm








ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ใครหว่า รู้ที่อยู่ด้วย น่ากลัว

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่ 15---

แฟง's part

"ไอ้พี่ มีพัสดุถึงมึงอะ" ขุนพลที่โทรมาบอกว่าจะมาขอกินข้าวกลางวันด้วยยื่นกล่องพัสดุที่ผมคุ้นตาให้ ที่บอกว่าคุ้นตานั้นก็เพราะสามสี่วันมานี้ผมได้รับกล่องพัสดุแบบนี้ติดต่อกันมาวันนี้เป็นวันที่สี่แล้ว แต่ที่แปลกกว่าเดิมคือวันนี้มีกล่องพัสดุสองกล่อง กล่องหนึ่งสีขาว อีกกล่องสีส้ม

"อืม ขอบใจ เอาวางไว้บนโต๊ะนั่นแหละ" ผมที่นั่งเล่นเกมส์อยู่ที่โซฟาข้างๆกับกองทัพเอ่ยขึ้น ไอ้ทัพมันมานั่งเล่นเกมส์กับผมตั้งแต่บ่ายสามแล้วครับ มันบอกว่าอยู่ห้องคนเดียวเหงาเพราะน้องฝาแฝดหน้ากวนๆของมันออกไปหาแฟนมันที่บ้าน และก็เพิ่งจะกลับมาเมื่อครู่นี่เอง ส่วนเจ้าของห้องไม่อยู่พาหมา เอ้ย แมวอันอันลงไปเดินเล่นด้านล่างตั้งแต่หกโมงแล้ว ซึ่งปกตินี่ก็ได้เวลาที่คุนคุนจะกลับห้องแล้ว ทำไมยังไม่มาน้อออออ ไอ้แก้มยุ้ย

"สั่งไรมาอะพี่ อย่าบอกนะว่าสั่งอะไรพิเรนมาเล่นกับเพื่อนผมอะ" ไอ้ขุนจอมสอดรู้สอดเห็นถามขึ้น แถมยังถือวิสาสะยกกล่องทั้งสองขึ้นมาเขย่าเพื่อฟังเสียงของที่บรรจุอยู่ด้านในกล่องอีก ที่รู้ว่ามันเขย่าทั้งๆที่ตาผมจับจ้องอยู่ที่จอทีวีนั่นไม่ใช่เพราะว่าผมเป็นมหาเทพแห่งสงรรค์ชั้นเก้าที่มีตาทิพย์เห็นด้านหลังหรอกครับ แต่เพราะมันเดินมายืนหลังโซฟาแล้วโบกกล่องไปมาข้างๆหูผม จนผมต้องหันไปดูว่าเสียงกึกๆดังอยู่ด้านหลังนั้นคือเสียงอะไร เฮ้ย! นี่กูเปรียบเทียบตัวเองเป็นตัวละครในซีรี่ย์จีนได้ยังไงวะเนี่ย ชิบหายละ นี่กูจะเป็นสาวกป่าท้อสิบหลี่แล้วหรอวะ ไม่ได้นะ ไม่ได้การละ กูจะหลงป่าท้อไม่ได้ เดี๋ยวหาทางออกไม่เจอเหมือนคุนคุน

"เฮ้ยมึงอย่าเขย่า ไอ้ชิบหาย พังหมดของกู" ผมรีบวางจอยเกมส์ลงทันทีแล้วก้าวขายาวๆกระโดดข้ามโซฟาไปแย่งกล่องสีส้มออกจากมือของไอ้เด็กแฝดขี้เสือกอย่างเร็ว คือเดินอ้อมไม่ได้แล้วนาทีนี้ เดี๋ยวของด้านในพังหมด ส่วนไอ้ขุนนี่ก็เขย่ากล่องของกูเหมือนผสมค็อกเทลอยู่อย่างนั้นแหละ

"แหนะ มีพิรุธ" ไอ้แฝดคนน้องยักคิ้วหรี่ตาดูก็รู้ว่าอยากรู้อยากเห็นสุดๆ นี่พ่อแม่มึงเอาอะไรให้แ*กวะถึงได้ขี้เสือกขนาดนี้

"เฮ้ย พี่ รีบมาเล่นต่อเร็ว เดี๋ยวได้ตายห่าพอดี ผมสู้คนเดียวไม่ไหวนะเว้ย ไอ้พี่!" ส่วนไอ้คนพี่นี่ไม่ได้ขี้เสือกเหมือนแฝดน้อง เท่าที่สังเกตคือมันจะยุ่งแค่เรื่องของคุนคุนเท่านั้น เรื่องอื่นมันไม่ได้มีความอยากรู้อยากเห็นเท่าไหร่ ต่างกับไอ้แฝดนรกตัวน้องลิบลับ ขี้เสือกจนอยากมอบรางวัลมนุษย์เสือกแห่งจักรวาลให้ไปเลย ขี้เสือกอย่างมันเอารางวัลของชาวโลกให้ไปดูเหมือนว่าจะเป็นการดูถูกมันเกินไป เกิดมายังไม่เคยเจอใครขี้เสือกเท่ามันมาก่อน และเพราะความขี้เสือกของมันนี่แหละที่ชอบอยากรู้อยากเห็นเรื่องโน่นนั่นนี่ของผมจนสนิทกันมาถึงตอนนี้ จำได้ว่าเจอกันครั้งแรกที่ร้านเหล้าเฮียต้าหน้ามอ หลังจากนั้นก็เริ่มสนิทกันเพราะมันถามซอกแซกจนรู้ว่าเผมกับมันเรียนที่เดียวกันแถมยังอยู่คอนโดเดียวกันอีก คือถ้าย้อนเวลากลับไปได้กูจะไม่เดินชนมึงที่หน้าร้านเลยไอ้ขุนพล

"เออๆ ไปแล้ว ส่วนมึงไอ้ขุนเอากล่องมานี่เลย ถ้าของกูชำรุดนะกูจะไปเก็บตังค์กับมึง" ผมดึงกล่องพัสดุที่สีส้มที่ขนาดใหญ่กว่าอีกกล่องออกมาจากมือขุนพบ แล้วกระโดดข้ามโซฟากลับมานั่งลงประจำที่ ก่อนจะวางกล่องสีส้มนั้นลงข้างๆ กว่าจะมาส่งนะมึง รอแล้วรออีก มาส่งวันไหนไม่มาเสือกมาส่งวันที่ไอ้แฝดนรกขี้เสือกมาที่ห้องอีก รอให้กูแกะดูของดเานในก่อนเถอะ ถ้าคุณภาพห่วย ไม่ดีเลิศเหมือนที่โฆษณาไว้ในหน้าเว็บนะ กูจะให้นิรันดร์ปิดเว็บมึงแม่งเลย กูยิ่งขี้ฟ้องอยู่ด้วย!

"อ้าว ทำไมเอาไปกล่องเดียวละ" ขุนพลถามขึ้นเมื่อเห็นผมกระชากกล่องสีส้มออกมาจากมือมัน แต่ยังปล่อยกล่องสีขาวทิ้งไว้ในมืออีกข้างของมันโดยที่ไม่ได้มีท่าทีสนใจกล่องนั้นแม้แต่นิด จะสนใจทำไมละ ก็รู้อยู่แล้วว่าในนั้นมีอะไร ตั้งใจว่าตั้งแต่วันวันนี้เป็นต้นไปจะไม่เปิดกล่องพัสดุแบบนั้นดูอีกแล้ว แม่งอุจาดตา ชอบเอารูป นกตาย หนูตาย หมาตายแล้วก็ใส่เลือดปลอมมา มุขแม่งปัญญาอ่อนชิบหาย โรคจิตแน่ๆ อย่าให้กูเจอหน้ามึงนะแม่ง กูจะฟ้องนิรันดร์!!

"อันนั้นกูไม่ได้สั่ง มึงจะเอาไปทิ้งก็เชิญ"

"โห ไรวะ ไม่หนุกเลย อยากดูของข้างในกล่องนั้นอะ กล่องที่พี่รีบดึงกลับไปอะ"

"ของส่วนตัวกูมั้ยละ"

"อย่าซื้อของเล่นพิเรนมาใช้กับเพื่อนผมนะพี่ ผมเป็นห่วงมัน" กองทัพที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยขึ้น

"นี่มึงคิดว่ากูเป็นคนแบบนั้นหรอวะไอ้ทัพ"

"ก็ประมาณนั้น" กองทัพตอบเสียงเรียบเหมือนที่มันชอบทำเป็นประจำ เคยได้ยินมั้ยครับ เค้าบอกว่าคนพูดน้อยเวลาด่าแล้วเจ็บเจียนตาย นี่ขนาดมันยังไม่ด่าตรงๆเลยนะ ทำไมกูจุกวะ เ*ดแม่ หน่วงชิบหาย

"แต่ผมว่าไม่" ส่วนนี้ก็เสียงสัมภะเวสีที่ยืนจะกินหัวผมอยู่หลังโซฟา แต่คำตอบมันกลับทำผมแปลกใจ เออ ในที่สุดมึงก็เห็นกูเป็นคนดีในสายตามึงสักทีนะขุนพล

"กูเพิ่งรู้ว่ากูเป็นคนดีในสายตามึงนะขุนพล" ผมเอ่ยออกไปด้วยความแปลกใจ มันเคยชมผมที่ไหน ไอ้เด็กนี่  บางทีก็เล่นหัวเหมือนเป็นรุ่นเดียวกัน งงเหมือนกันว่สเอ๊ะ กูพี่หรือเพื่อนว้าาาาา

"เปล่า ผมว่าพี่แย่กว่านั้น" กูว่าละ คนอย่างกูนี่ไม่เคยดีในสายตามันจริงๆด้วย  เมื่อสามวินาทีที่แล้วกูเผลอมโนไปคนเดียวหรอวะว่ามันคิดว่าผมเป็นคนดี เผลอคิดไปได้ยังไงวะกู

"สัสสส พวกมึงนี่ ถึงกูจะไม่ใช่คนดีห่าเหวอะไร แต่กูก็ไม่ได้คิดจะซื้ออะไรพิเรนๆมาเล่นกับเพื่อนมึงหรอกน่า แล้วกูก็ไม่ชอบเล่นของเล่นด้วย" เสียเวลา ของจริงสนุกกว่า  ...กว่าตั้งเยอะเนอะ มีแต่พวกอ่อนเท่านั้นแหละที่ใช้ของเล่น ไม่เร้าใจสินะมึงถึงต้องหาตัวช่วยอะ

"ขอเหอะพี่"

"ให้มันจริงเถอะ ผมรู้ว่าพี่ก็คิดจะเคลมมันเถอะ หรือไม่จริง"

"จริง" ผมคิดจริงๆนั่นแหละแค่ยังไม่ลงมือทำเท่านั้น

"ไม่ทำไม่ได้หรอพี่" บนหน้าจอทีวีแสดงคำว่า winner  กองทัพวางจอยลงก่อนจะหันมามองผมด้วยแววตาที่ดูจริงจังกว่าปกติ ไอ้สองตัวนี้มันรักเพื่อนตัวเล็กของมันมาก เลี้ยงดูอย่างกับลูกตัวเองที่คลอดออกมากับมือ

"ทัพกูไม่ใช่พระอิฐพระปูน นอนเตียงเดียวกันแล้วมันรอดมาได้ถึงทุกวันนี้กูก็นับถือตัวเองสุดๆละ ถ้ามึงรักใครสักคน มึงก็อยากสกินชิพกับเค้าป่าววะ แล้วไอ้สกินชิพเนี่ยมันก็เลยเถิดไปถึงเรื่องอย่างว่าไม่ใช่รึไง แล้วมึงดูเพื่อนมึง เกาะแข้งเกาะขากูเก่งจะตาย ใครจะไปทนไหว ตัวแม่งก็นุ่มนิ่ม แถมยังหอมชิบหาย"

"ก็จริง/เออ เห็นด้วย"

"ทุกวันนี้กูก็อดทนจนไม่รู้จะอดทนยังไงแล้วเนี่ย คุนคุนแม่งก็น่ารักชิบหายวายวอด กูสารภาพตรงนี้เลยว่าอยากจับมันฟัดวันละไม่ต่ำกว่าห้ารอบ"

"อันนี้ไม่ปฏิเสธ คุนคุนมันน่ารักจริงนั่นแหละ"

"ลูกผมนี่สุดยอดแห่งความน่ารักเลยนะพี่ เป็นไงละ ผมเลี้ยงดูฟูมฟักมากับมือ"

"นั่นไง ใครจะไปทนไหว กูทำได้แค่เล็มและไปเรื่อยก็แค่นั้น นี่กูยังงงอยู่เลยว่ามันรอดมาได้ถึงทุกวันนี้ได้ยังไง คนในคณะไม่เข้ามาจีบมันทุกวันหรอวะ"

"โหพี่ ตอนเปิดเทอมเดือนแรกๆเนี่ยผมสองคนไม่ได้เป็นอันทำอะไรเลยนะ วันๆเอาแต่กันพวกเห็บหมัดที่เข้ามาจีบมัน ขนงขนมนี่ได้กลับบ้านมาเต็มคันรถทุกวัน มันนะฮ๊อตจะตาย แบบว่าตัวโซแดมฮ็อตของคณะอะบอกไว้ตรงนี้เลย พี่ผู้หญิงปีสูงเรียกมันว่าหอยสังข์ปักกิ่งกันทุกคน ใครๆก็เอ็นดูมัน ส่วนพวกผู้ชายนะอยากให้มันมาดูเอ็นจะตายห่า พูดละของขึ้นเลยเนี่ย! "

"ก็พอเดาออก แล้วทำไมไม่มีใครจีบติดสักคนวะ"

"โอ้ยจะจีบติดได้ไงพี่ ก็ไอ้ทัพเล่นไปบอกพวกผู้ชายพวกนั้นว่าคุนคุนนะเป็นแฟนมัน ไอ้พวกนั้นเลยไม่กล้ามายุ่งกับมันตรงๆ จะมีโผล่มาบ้างก็พวกคนนอกคณะที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะ เพราะในคณะอะไม่มีใครกล้ามาแหยมหรอกเพราะพวกผมตามคิดมันยังกะขี้ติดตูดตลอดเวลา"

"อ้อ มิน่าละเลยรอดมาถึงกู แล้วทำไมมึงไม่กันท่ากูวะทัพ"

"ไม่รู้ดิ พี่ดู....ไว้ใจ....ได้....มั้ง"

"โห ถือเป็นคำชมจากคนที่ด่ากูเช้าเย็นเลยนะเนี่ย"

"เอาจริงๆปะไอ้พี่"

"อือ ว่ามา"

"จริงๆพวกผมก็คิดจะกีดกันพี่เหมือนกันแหละ แต่พวกผมก็รู้จักพี่อยู่ก่อนด้วยไง อีกอย่างพี่ก็ไม่ได้นิสัยเ*ยๆเหมือนคนอื่นๆ ถึงเราจะไปนั่งมองนมสาวในผับด้วยกัน หรือชวนกันไปตีกะ*รี่ แต่มันก็แค่เรื่องที่ชวนกันทำขำๆฆ่าเวลาป่าววะ ผมก็ไม่เคยเห็นพี่ทำจริงสักทีเหอะ นายลภัสมันเก่งแต่ปากอะพี่ เอาจริงไม่รู้ทำเป็นรึเปล่า"

"สัส ไอ้ขุนพล อีกนิดกูจะซาบซึ้งกับคำอวยของมึงละ ถ้าไม่ใช่ประโยคเก่งแต่ปากของมึงอะ เก่งแต่ปากพ่อง ลองดูหน่อยมั้ยละ เผื่อมึงติดใจกูจะสงเคราะให้" ผมดึงลำตัวไอ้เด็กพูดมากที่นั่งบนพนักพิงโซฟาลงมานอนแอ้งแม้งอยู่บนโซฟาแล้วขึ้นคร่อมมันทันที


"ไอ้เ*ยพี่ จะทำอารายยยย อร้ายยยย ไม่เอ้าาาา ออกปายยยยยย" ไอ้แฝดนรกคนน้องดิ้นไปดิ้นมาใต้ร่างผมในตอนที่ผมก้มหน้าลงไปใกล้ๆหน้ามัน หึ! กล้านักนะมึง มาสบประมาทกูแบบนี้

"จะดิ้นทำไม ลองดูก่อนจะได้รู้ว่าเก่งแต่ปากจริงรึเปล่า อ้อ กูใช้ปากเก่งด้วยนะเผื่อมึงอยากลอง อย่าขยับดิวะ"

"อร้ายยยย ทัพ ทัพ ช่วยกูด้วย ไอ้สัสสพี่ มึงออกไปจากตัวกู ฟ้าจะผ่า ไอ้เ*ย"

"ฮ่าๆๆๆๆๆๆ/ฮ่าๆๆๆๆ" ทั้งผมทั้งทัพหัวเราะออกมาพร้อมกัน ส่วนขุนพลก็ดิ้นจนตกลงไปบนพื้น สมน้ำหน้า หาเรื่องดวนตีนกูเก่งนัก ผมหันไปมองหน้ามันที่ตอนนี้ซีดยังกะไก่ต้ม คงกลัวผมจะจูบมันแหละครับ

"อย่าทำอีกนะพี่ ถ้าทำอีกผมต่องจริงๆด้วย" คนที่ลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่มี่พื้นเอามือปิดปากตัวเองไว้ทั้งสองข้าง มีเพียงเสียงอู้อี้ที่เล็ดลอดออกมาผ่านช่องนิ้วมือ

"ใครจะไปทำลงวะ กล้ามชนกล้ามไม่ใช่แนวกูวะโทษที" ไอ้แฝดน้องถอยหลังไปกับพื้นจนชิดทีวี ก่อนจะหยิบหมอนที่หล่นอยู่ตรงพื้นขึ้นมาปิดตามลำตัว ไอ้เด็กอ่อนเอ้ย เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับกู ไปเรียนมาใหม่ไป!

"แต่ผมไว้ใจพี่นะ อย่าทำให้ผมผิดหวังนะพี่"ส่วนนี่ก็ประโยคที่ออกมาจากแฝดหน้าเรียบที่นั่งขำน้องตัวเองอยู่ด้านหลังผม

"เออ รู้ไว้แค่ว่ากูไม่ได้มาเล่นๆกับเพื่อนมึงละกัน จริงจังกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ขนาดมายเวย์กูยังไม่ได้รู้สึกขนาดนี้เลย" พวกมันสองคนรู้ครับว่าผมชอบมายเวย์มาก่อน ก็ตอนวันที่นาทีบอกขอมายเวย์เป็นแฟนผมก็ไปดื่มย้อมใจที่ร้านเฮียต้า เมารั่วจนมันสองตัวแบกกลับบ้านทุกลักทุเล ดีหน่อยที่มันไม่ใช่พวกขี้ล้อ คือมันฟังผมระบายความรู้สึกในคืนนั้นแล้วก็ไม่ได้พูดถึงอีก ไอ้ทัพมันเคยถามครั้งหนึ่งว่าเจอคนที่เคยชอบมากๆที่คอนโดหรือตอนเรียนบ่อยๆแล้วผมไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรอ รู้สิครับ รู้สึกเศร้า ผิดหวัง แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกดีใจกับเพื่อนผมทั้งสองคนมากกว่า อย่างที่เคยบอก สองคนนั้นเหมาะกันมากกว่าผมซะอีก และยิ่งเวลาเนิ่นนานไปความรู้สึกที่ผมมีกับมายเวย์ก็ลดลงไปเรื่อยๆ จนกลับมายังจุดริ่มต้นอีกครั้ง เหมือนเมื่อครั้งแรกที่เจอกัน นั่นคือ เหลือแค่ความรู้สึกดีๆที่มีให้กับเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น

"ก็ดีแล้ว ผมไว้ใจพี่นะ ผมเลยให้โอกาสพี่" กองทัพยิ้มบางๆให้ผม แต่ผมก็พอรู้แหละว่ามันเป็นห่วงเพื่อนมัน ก็ขอบคุณมันนะที่ให้โอกาสผม

"เออ มึงไว้ใจกูได้มึงก็รู้"

"ไอ้พี่"

"อะไรของมึงอีกขุนพล"

"ไอ้คุนอะมันไม่น่าจะเคยนะไอ้เรื่องอย่างว่านะ เบาๆหน่อยนะ สงสารมัน ตัวก็เล็ก เบาได้เบานะเว้ย"

"อย่าบังคับมันด้วย"

"เออ รู้แล้ว กูไม่ทำหรอกถ้ามันไม่ยอม มึงก็รู้จักดูดี ส่วนเพื่อนมึงนะ บอกให้มันน่ารักน้อยๆลงหน่อยละกันกูแม่งจะอดทนไม่ไหวเข้าสักวัน โคตรพ่อโคตรแม่น่านัก กูโคตรหลง เรื่องนั้นค่อยว่ากันตอนมันพร้อมดีกว่า"  ตอนนี้กูก็ใช้นิ้วทั้งห้าของกูไปก่อนละกัน แล้วกูต้องพึ่งนิ้วของกูไปถึงเมื่อไหร่วะ คุนคุนแม่งก็ไร้เดียงสาเกิ้น กูจะพรากผู้เยาว์ลงคอหรอเนี่ย คิดแล้วแม่งเศร้าชิบหาย ชีวิตคู่ของนายลภัส ไม่เคยคิดเคยฝันว่าวันนี้จะต้องมาพึ่งนิ้วทั้งห้าของตัวเองแบบนี้

"เออ จริง อย่าว่าแต่พี่เลยพวกผมก็หลงมัน ไอ้คู้นนน" ขุนพลยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แม่งจินตนาการอะไรเ*ยๆอยู่แน่ๆ พวกเดียวกันมองกันออก แล้วนั่นมันทำอะไรวะนั่นนะ แอบแกะพัสดุกู? ช่างมันอยากแกะก็แกะ อย่าหาว่ากูไม่เตือนละกัน เผลอแป๊บเดียวลืมไปแล้วรึไงว่าเมื่อกี้ยังถอยหนีกูอยู่เลย ทำไมมึงกลับมานั่งตรงโซฟาได้เร็วขนาดนี้วะ อะไรก็ทำลายความเสือกของมึงไม่ได้เลยนะขุนพล

"เฮ้ยๆๆ ไม่ได้นะเว้ย ตอนนี้คุณคุณเป็นของกูคนเดียว พวกมึงห่างไปเลย ห่างได้ห่าง มันเป็นเด็กกูแล้ว กูหวงบอกเลย"

"ว้ายยยย ไอ้เ*ย มึงสั่งไรมาเนี่ยพี่ อุบาทชิบหาย พิเรนสัสสส หยี สยอง แหวะ" ผมนั่งขำกับท่าทางของมัน เพราะความขี้เสือกของมันแท้ๆ หยดเลือดที่อยู่ในพัสดุถึงประเด็นมาเปรอะเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนของมัน ส่วนแฝดคนพี่เมื่อเห็นน้องเปื้อนเลือดก็กระโดดลุดขึ้นจากโซฟาไปไกลหลายเมตร โห รักกันจริงๆเลยนะพวกมึง

"สมน้ำหน้า เสือกจนเข้าเส้นเลือดละมึงอะ เป็นไง สาสมกับความขี้เสือกของมึงมั้ย" ผมหยิบกล่องที่ตกลงบนตักขุนพลขึ้นมา โชคดีที่เลือดไม่หยดโดนโซฟา ไม่งั้นละเรื่องใหญ่ต้องทำความสะอาดกันวุ่นวายอีก ใครทำใครซักบอกเลยไม่โกง

"หยี เหม็นชิบหาย อะไรวะไอ้พี่ มึงสั่งอะไรพิเรนมา แหวะ" ขุนพลปัดเลือดที่เปื้อนเสื้อตัวเองออก แต่ยิ่งปัดก็ยิ่งเลอะ โง่ชิบหายเลยมึงเนี่ย!

"อะ อะ อะไรอะพี่"  นี่ก็อีกคน อยู่ๆก็กลายเป็นคนติดอ่างซะงั้น เห็นละขำวะ นี่หรอวะสมบัติคณะนิติศาสตร์อินเตอร์ของม.กู

"อย่าขยับนะมึง ถ้าเลือดหยดใส่โซฟากูจะกระทืบมึงจริงๆด้วย แล้วนี่คุนคุนทำไมยังไม่กลับอีกวะ มืดแล้วเนี่ย" ผมหยิบกล่องพัสดุที่เลอะเทอะออกจากตักไอ้ขุนถึงได้เห็นว่ากางเกงขาสั้นสีครีมของมันก็เลอะเหมือนกัน เลยรีบเดินไปเอาผ้ามาเช็ดคราบเลือดออกให้ แต่ตอนกำลังเดินกลับมาผมบังเอิญเหลือบมองนาฬิกาจึงเห็นว่านี่ก็เกือบทุ่มหนึ่งแล้ว และมันก็เลยเวลาที่คุนคุนกลับบ้านมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ทำไมวันนี้กลับผิดเวลาขนาดนี้

"หยุดกรี๊ดได้แล้ว กรี๊ดเป็นตุ๊ดเลยนะมึง"

"ก็ผมกลัวนี่พี่ หยี เลือดสดๆเลยนะไอ้พี่"

"เลือดสดพ่อง จะกลัวทำไมนี่มันเลือดปลอม"

"อ้าวหรอ โถ่ ไอ้เราก็คิดว่าเลือดจริง พี่มึงสั่งของแบบนี้มาทำห่าอะไรวะ แหวะ แหยสัสสส"

"ใครมันจะบ้าสั่งมา มึงก็คิดหน่อย ที่แฟนคลับคุนคุนส่งมาขู่กูนะ ส่งมาหลายครั้งละ"

"เฮ้ย/ จริงดิพี่"

"จริง" แล้วผมก็เล่าให้ไอ้สองแฝดฟังทั้งหมด แต่ด้วยเพราะพัสดุเหล่านี้ส่งมาถึงผมโดยตรงเป็นเวลาสี่วันแล้วทำให้ผมสังเกตอะไรได้หลายๆอย่าง อย่างแรกที่เห็นได้ชัดเจนคือกล่องพัสดุพวกนี้ไม่ได้ถูกตีตราไปรษณีย์หรือตราของบริษัทขนส่งเอกชนใดๆทั้งสิ้น ซึ่งนั่นหมายถึงคนส่งต้องเอามาส่งให้กับทางคอนโดโดยตรง สองคือคนส่งต้องเป็นใครบางคนที่รู้จักทั้งคุนคุนและผมพอสมควร เพราะไอ้โรคจิตคนนี้รู้จักเลขที่ห้องคุนคุน และที่สำคัญคือรู้จักชื่อจริงผมด้วย และอย่างสุดท้ายคือลายมือมันคุ้นมากเหมือนเคยเห็นที่ไหนแต่นึกไม่ออก ลายมือไก่เขี่ยแบบนั้นยิ่งดูก็ยิ่งคุ้น

"เชี่ยยยย โรคจิตวะ" ไอ้ขุนพลที่กำลังเปลี่ยนจากเสื้อเชิ้ตเป็นเสื้อยืดสีเทาของผมเอ่ยขึ้น ผมหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้มันเปลี่ยน ทนดํไม่ได้จริงๆ เลอะเทอะไปหมด เหมือนวิ่งผ่านโรงเชือดมายังไงยังงั้น ไม่อยสกคิดเลยว่าถ้าสีแดงๆบนเสื้อมันเป็นเลือดจริงขึ้นมาจะคาวคับห้องขนาดไหน

"มันต้องเป็นคนใกล้ตัวนี่แหละผมว่า" กองทัพที่ตอนนี้เดินกลับมานั่งที่เบาะโซฟาแล้วทำหน้านิ่วเหมือนคนกำลังคิดอะไรอยู่ ผมว่าแฝดคนพี่มีความเป็นผู้เป็นคนมากกว่าคนน้องพอสมควร

"กูก็คิดแบบนั้น"

"แย่แล้วพี่" จู่ๆกองทัพที่นั่งหน้านิ่วก็พูดขึ้นมาเสียงดัง

"โอ้ย อะไรของมึงเนี่ย จะตะโกนทำ *วยอะไร"

"ถ้ามันเป็นคนใกล้ตัว แสดงว่ามันต้องมาสอดแนมแถวนี้บ่อยๆ ถึงได้รู้เรื่องของพี่กับคุนคุนขนาดนั้น แล้วมันก็ต้องรู้ด้วยว่าคุนจะพาอันอันออกไปเดินเกือบทุกเย็น"

"ชิบหาย!/จริงด้วย/แย่แล้ว"
.
.
.
.
.
.


#คุนแฟง

by ppeachmm



----++++----
ใครก็ได้ช่วยน้องคุนด้วย!
 :mew6: :mew5:

ออฟไลน์ mylittleY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
เอ๋ คุนๆไปไหนแล้วหว่า

ออฟไลน์ Ppeachmm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
---ตอนที่ 16---

"มึงเจอมั้ย"

"ไม่เจอเลยพี่"

"ทางโน้นก็ไม่มี"

"ไอ้เ*ยเอ้ย ไอ้เวร ถ้าคุนคุนของกูมีรอยขีดข่วยแม้แต่นิดเดียว กูจะกระทืบมันจมดินเลยคอยดู" ตอนนี้ผมกับสองแฝดวิ่งตามหาคุนคุนที่สวนหย่อมหลังคอนโดอยู่เกือบยี่สิบนาทีแต่ก็ไร้วี่แววคนตัวเล็กกับแมวยักษ์ที่ขนาดเท่าคน ตั้งแต่คุยกันเรื่องพัสดุจากคนโรคจิต และคุนคุนก็ยังกลับบ้านผิดเวลาอีก พวกเราสามคนจึงรีบรุดลงมาตามหาเจ้าตัวนุ่มนิ่มกันทันทีเพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น และดูเหมือนว่าสิ่งที่คิดไว้มันจะเป็นความจริง ในสวนหย่อมท้ายคอนโดขนาดใหญ่กว่าหนึ่งไร่ที่มีบริเวณให้สัตว์เลี้ยงวิ่งเล่น ให้คนวิ่งออกกำลังกาย ให้ผู้สูงวัยได้พักผ่อน ให้เด็กได้เล่นของเล่นและสำหรับทำกิจกรรม ตอนนี้ผู้คนเบาบางลงกว่าต่อนหัวค่ำ เหลือเพียงผู้ชายวัยรุ่นสองสามคนที่วิ่งจ็อกกิ้งอยู่ กับอาซิ่มที่นั่งพักเสวนาหลังจากรำไทเก๊ก ผมควานหาร่างเล็กที่คุ้นเคยทุกซอกมุม แต่ไม่ว่าหายังไงก็ไร้วี่แววของคนที่กำลังตามหา ถามคนที่กำลังวิ่งออกกำลังกายอยู่บริเวณนั้นก็ไม่มีใครเห็นสักคน พอเดินไปถามแก๊งอาซิ่มรำไท้เก็กที่คุนคุนเคยเล่าให้ฟังว่าชอบเอากุนเชียงสูตรพิเศษมาให้กินบ่อยๆก็บอกว่าคุนคุนพาอันอันกลับคอนโดไปตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อนแล้ว พอได้ยินดังนั้นผมก็รีบรุดหน้ากลับมาที่ส่วนล๊อบบี้ของคอนโดทันที แต่พอถามรปภหน้าคอนโดคนที่คุนเคยบอกว่าชื่อพี่ศัก แกกลับบอกว่าคุนยังไม่กลับเข้ามาเลย เห็นพาอันอันออกจากคอนโดไปตอนเกือบห้าโมงแค่นั้น

ผมวิ่งหาคุนคุนทั้งด้านในและด้านนอกคอนโดจนลืมเหนื่อย คุนเคยควานหาเข็มในมหาสมุทรมั้ย ใครจะเคยใช่มั้ย ผมเองก็ไม่เคย แต่ตอนนี้ผมเองกลับเข้าใจความหมายของสำนวนนี้ดียิ่งกว่าใคร การหาใครสักคนแล้วมันจบด้วยการที่ไม่ว่าเราจะทุ่มแรงกายแรงใจไปเท่าไหร่แต่กลับคว้าน้ำเหลวมันเป็นแบบนี้นี่เอง การงมเข็มในมหาสมุทรมันยากแบบนี้เองสินะ เพราะในน้ำทะเลที่ลึกจนไม่รู้ว่าก้นมหาสมุทรมันมีอยู่จริงหรือไม่อาจจะทำให้คุณตายได้ เหมือนผมตอนนี้ที่กำลังรู้สึกว่าตัวเองขาดอากาศหายใจ หัวใจเต้นแรง แต่กระนั้นแม้คุณจะรู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่ทำอาจจะไร้ประโยชน์แต่คุณก็ไม่หยุด เครื่องมือสื่อสารที่ควรจะมีประโยชน์ในเวลานี้กลับไร้ประโยชน์ ไม่ว่าผมจะกดโทรศัพท์หาปลายสายกี่ครั้งต่อกี่ครั้งสิ่งที่ได้กลับมากลับเป็นความว่างเปล่า คุนคุนไม่รับสายมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ซึ่งมันคือเรื่องที่แปลกมาก คุนคุนไม่เคยไม่รับสายผมและคุนคุนไม่เคยปล่อยให้แบตโทรศัพท์ตัวเองหมดเลยสักครั้ง ด้วยเหตุที่ว่า

หม่าม๊าจะโกรธถ้าม๊าโทรมาแล้วคุนไม่ได้รับสาย เพราะม๊าคิดถึงคุนมากถึงได้โทรหา คุนไม่ควรปล่อยให้ม๊าคิดถึงนาน

ตอนนี้คิดได้อย่างเดียวคือความปลอดภัยของคนตัวเล็ก ตอนนี้ผมเป็นกังวลมาก กระสับกระส่ายไปหมด และที่สำคัญ ผมโกรธตัวเองที่ทำเฉยจนปล่อยให้เรื่องเลยเถิดมาจนถึงตอนนี้ ในหัวคิดถึงเรื่องเลวร้ายสารพัดที่อาจจะเกิดขึ้นกับคุนคุน แค่คิดผมก็รู้สึกว่าจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ถ้าเกิด...นะ...แค่...ถ้าเกิดว่าคุนเป็นอะไรขึ้นมา ทุกอย่างผมล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งนั้น ถ้าผมดูแลคุนคุนดีกว่านี้ มันก็จะไม่เป็นเหมือนตอนนี้ และยิ่งไปกว่านั้น ผมรู้สึกผิดที่ไม่บอกคุนคุนไปว่ามีไอ้โรคจิตส่งพัสดุุอุบาทๆมาหาผม ถ้าผมตัดสินใจบอกไป คุนคุนอาจจะระวังตัวมากกว่าเดิม คนที่เป็นมิตรกับคนทั้งโลกขนาดนั้นไม่มีวันเอะใจหรอกว่าจะมีคนคิดไม่ดีเข้ามาใกล้ แม่งเอ้ย ไอ้แฟง มึงมันโง่ในโง่!

"เฮ้ย พี่ ใจเย็น!" กองทัพที่ยืนอยู่ข้างๆผมร้องห้ามเมื่อเห็นผมชกกำปั้นหนาของตัวเองเข้ากับกำแพงด้านข้างคอนโดที่ติดกับบริเวณสวนหย่อม ส่วนขุนพลที่เพิ่งวางสายโทรศัพท์จากใครสักคนก็รีบวิ่งเข้ามาดึงผมออกจากตรงนั้นทันที ไม่รู้ว่าผมใช้กำลังไปมากแค่ไหน เห็นเพียงรอยสีแดงประมาณหนึ่งที่ติดอยู่ตรงกำแพง ส่วนมือผมก็มีเลือดไหลออกมาเล็กน้อย แต่ถ้าถามหาความเจ็บละก็ บอกเลยผมไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น ความรู้สึกเดียวที่มีตอนนี้คือความรู้สึกห่วงคุนคุน ไอ้เด็กที่มีรอยยิ้มบนหน้าตลอดเวลา

"เลือดไหลวะ พี่มันชกไปกี่ทีวะเนี่ย เลือดอาบขนาดนี้" ขุนพลมีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อจับมือผมขึ้นมาดูรอยแผล

"ทีเดียว" กองทัพที่เห็นทุกอย่างเอ่ยตอบออกมาด้วยเสียงเรียบเฉย

"เชรดดด ทีเดียวเองหรอวะ หมัดหนักชิบหาย"

"เออ กูว่าพาพี่ไปทำแผลก่อนเถอะ"

"กูไม่ไป มึงหาด้านข้างคอนโดดีแล้วหรอวะไอ้ขุน ส่วนมึงไอ้ทัพตรงแถวซุปเปอร์ก็หามทั่วแล้วจริงหรอ"

"ซุกซอกทุกมุม"

"ผมเดินวนจะสิบรอบแล้วพี่ ไม่มีใครเห็นคุนเลย นี่ผมเดินไปดูแถวร้านขนมซอยข้างๆที่มันชอบไปกินก็ยังไม่มีเลย เมื่อกี้เจ้าของร้านก็โทรมาบอกว่าจะปิดร้านแล้วละก็ยังไม่เห็นคุนคุนเลย"

"โถ่เว้ย!" ผมง้างหมัดขึ้นมาจะชกเข้าไปที่กำแพงคอนโดอีกครั้งเพื่อระบายความโกรธ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อแขนด้านซ้ายถูกกองทัพรั้งไว้ ผมหันไปมองมันตาเขียว

"หยุดเถอะพี่ คุนอาจจะไม่เป็นไรก็ได้ ถ้ามันเห็นพี่เป็นแบบนี้มันจะไม่เสียใจหรอ" คนที่รั้งแขนผมไว้เอ่ยขึ้น มันเองก็กังวลไม่แพ้กันหรอก ดูจากท่าทางมันก็รู้ แต่คนเฉยๆแบบนั้นกลับควบคุมอารมณ์ดีกว่าผมเป็นไหนๆ แล้วไงว่าก็แฟนกูหายไปทั้งคนนะเว้ย!

"มึงจะไปรู้อะไรวะ นั่นมันคุนของกู กูห่วงมันชิบหาย เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้ คนอย่างมันถูกใครล่อลวงง่ายจะตายทำไมกูจะไม่รู้เพราะกูเองก็ชอบหลอกล่อใันบ่อยๆ เด็กตัวเล็กๆแบบมันจะไปสู้แรงใครได้ แค่ซิทอัพไม่ถึงสิบทีก็เหนื่อยแล้ว คนมองโลกในแง่ดีจะตาย ถูกหลอกไปนี่รู้ตัวรึยังเหอะว่าตัวเองถูกหลอก กูแม่งก็คิดว่าตัวเองเก่งคุมสถานการณ์ได้แล้วเป็นไง มึงดู แค่ผู้ชายตัวเล็กๆคนเดียวกับแมวโง่ๆหนึ่งตัวยังดูแลไม่ได้ แล้วกูจะไปทำอะไรกินวะ ไอ้เ*ยเอ้ย" ยิ่งพูดก็ยิ่งเหมือนด่าตัวเองเข้าไปอีก นี่ถ้านิรันดร์รู้คงขับผมออกจากวงตระกูล ทำไมนะหรอ ก็เพราะคนที่เรียนรู้การต่อสู้มาทั้งชีวิตกับคนที่เจอเรื่องข่มขู่เรื่องแบลคเมลล์มานับไม่ถ้วนอย่างคนในครอบครัววิสุทธิ์รังสรรค์ไม่ควรจะให้เรื่องมันเลยเถิดมาถึงขั้นนี้ยังไงละ กะอีแค่โรคจิตกระจอกๆยังจัดการไมาได้ จะทำไรกินวะนายลภัส!

"อย่าเพิ่งคิดอะไรไปไกลพี่ เรื่องมันอาจจะไม่เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้" ผมรู้ว่ากองทัพมันก็แค่พยายามปลอบ แต่สภาพผมตอนนี้คำปลอบโยนมันไร้ประโยชน์แล้ว

"จริงพี่ ตอนนี้มันอาจจะกำลังไปแอบกินขนมอยู่ที่ไหนก็ได้ อาจจะลืมทางกลับบ้านไรงี้" และยิ่งเป็นคำปลอบโยนปัญญาอ่อนแบบนี้ด้วย นี่มึงเห็นกูมีสมองเท่าเมจถั่วเขียวรึไงถึงคิดอะไรไม่ได้ ใครเชื่อมึงก็โง่ละขุน

"แล้วทำไมคุนมันไม่รับโทรศัพท์วะ มันมัวแต่แ*กขนมจนลืมกลับบ้านแบบงี้หรอ คุนมันแค่มองโลกในแง่ดี มันไม่ได้โง่จนขนาดจำทางกลับบ้านไม่ได้นะขุน"

"แฮะ...." อืม คำปลอบใจมึงนี่โง่เง่าสิ้นดี โง่จนเจ้าของคำพูดที่พูดออกมายังรู้สึกว่าพูดอะไรโง่ๆออกมาเลย ดูจากหน้าที่ยิ้มแหยๆของก็รู้ เหตุผลโคตรห่วยแตก ถึงจะมีความเป็นไปได้อยู่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ก็เถอะ

"ขุนมึงพาพี่แฟงเข้าไปรอตรงล๊อบบี้โรงแรมไป เดี๋ยวกูจะไปถามร้านคาเฟ่ตรงข้ามคอนโดหน่อย"

เราสามคนเดินออกจากส่วนสวนหย่อม เข้ามาในบริเวณคอนโดที่มีโซนโซฟาไว้สำหรับผู้พักอาศัยในคอนโดนี้และแขกผู้มาเยี่ยมได้นั่งพักผ่อน ทันทีที่เห็นเราเดินเข้ามาพี่ศักเจ้าหน้าที่รปภก็เข้ามาแจ้งว่ายังไม่เห็นคุนคุนกลับเข้ามา ตัวผมเองยังไม่อยากจะหยุดการค้นหา แต่เพราะตอนนี้เลือดตรงกำปั้นผมมันไหลไม่หยุดสองแฝดเลยคะยั้นคะยอให้มามานั่งในคอนโดเพื่อล้างแผลและทำแผลก่อน แต่ผมกลับดื้อดังจะไปหาต่อให้ได้ ใครจะไปมีกระจิตกระใจนั่งทำแผลกับครับ คนที่คุนรักหายไปทั้งคนนะ อย่าว่าแต่แผลที่มือเลย ถ้าตอนนี้ผมมีแผลทั้งตัวปางตายผมก็จะไม่หยุดการค้นหา แต่สองแฝดก็ดื้อดึงอีกเช่นกัน มันบอกทำแผลไม่ถึงห้านาทีก็เสร็จแล้ว ส่วนระหว่างนี้กองทัพจะไปหาที่บริเวณร้านค้าแถวถนนฝั่งตรงข้ามคอนโด ผมเถียงกับไอ้น้องสองตัวนี้อีกสักพัก ร่างคุ้นตาก็เดินเข้ามาพร้อมกับแมวป่าตัวยักษ์ ในมือถือไอศกรีมแท่งสีแดง ใบหน้าหัวเราะร่าเริ่งกับใครคนหนึ่งที่เดินตามหลังเข้ามา ไอ้ขุนที่กำลังมองไปทางเดินกับผมรีบลุกขึ้นจากโซฟาทันที พุ่งตัวไปยังผู้ชายคนที่ยืนอยู่หลังคุนคุนคนนั้น

"ไอ้เวรนั่นแน่ๆพี่ ผมจะไปตั้นหน้ามันสักที" กล่องปฐมพยาบาลที่มันเพิ่งไปขอพี่รปภมาหล่นลงพื้นทันที

"เฮ้ยขุน อย่านะเว้ย!" ผมร้องห้ามทันที แต่ด้วยความที่อีกคนขาค่อนข้างยาวบวกกับความมันทะลุพ่วงด้วยความโกรธ มันใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็ถลาตัวไปอยู่ตรงหน้าผู้ชายคนนั้นแล้ว

"ไอ้เลวมึง!" มันตะโกนออกไป พร้อมกับกำหมัดแน่น ง้างมือปล่องวงสวิวออกไปด้วยความเร็วสูง ถ้าโดนกำปั้นนั้นเต็มๆผู้ชายวัยกลางคนคนนั้นคงจะล้มไม่เป็นท่าแน่ๆ

ฟรึบ!

"โอ้ย มึง!" แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ล้มลงไปด้วยแรงหมัด กลับกลายเป็นขุนพลเองที่นอนแอ่งแม้งอยู่ที่พื้นหินอ่อนสีดำของคอนโด ส่วนคนที่ควรจะถูกกำปั้นของขุนพลทักทายกลับยืนเฉยๆไม่มีรอยขีดข่วนเลยสักนิด แน่ละ พุ่งไปหาจะทำร้ายเขาแต่กลับตะโกนซะดังให้เขารู้ตัว โง่ในโง่จริงๆนะมึง เล่นกันใครไม่เล่นมึงเสือกมาเล่นกับคนที่เก่งด้านการต่อสู้แบบนี้ ผมส่ายหน้าชายตามองขุนพลที่นอนเอ้งแม้งอยู่กับพื้นก่อนเดินตามมันไปตรงจุดนั้นพร้อมกับกองทัพที่ตอนนี้ยังมีสีหน้าเรียบนิ่งเหมือนเดิม แม้มันจะไม่ใจร้อนเหมือนน้องฝาแฝดแต่ผมก็เห็นว่ามือสองข้างของมันกำแน่นพอสมควร

"เอ้อ ไอ้เสือ มาทำไรตรงนี้" เสียงทุ้มของชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่กับไอ้แก้มนุ้ยเอ่ยขึ้นทันทีที่เผิมเดินเข้าไปหา

"นี่พี่รู้จักมันหรอ" กองทัพหันมาหาผมแล้วถามด้วยเสียงเรียบ

"รู้จักดีเลยละ" ผมเองก็ตอบไปด้วยเสียงเรียบเฉยเช่นกัน ความหงุดหงิดความโกรธความเป็นห่วงหายไปหมดแล้วตอนนี้

"มันแม่งเ*ยวะถ้างั้น มันใช้ความสนิทเข้ามาล่อลวงคุนหรอวะ ขอผมจัดการมันนะพี่" กองทัพที่กำลังเดินอยู่ข้างๆผมเอ่ยขึ้น ผมสังเกตได้ว่าน้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความโกรธในระดับที่มากขึ้นไปอีก แตกต่างกับผมอย่างสิ้นเชิง ส่วนแฝดน้องตอนนี้ยันตัวเองขึ้นมายืนเหมือนเดิมได้แล้ว

"ไม่ต้องมึงอยู่เฉยๆ กูจัดการเอง" ผมรุดเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าคุนคุรกับผู้ชายคนนั้น โดยมีขุนพลยืนเป็นตัวประกอบอยู่ ที่บอกว่าเป็นตัวประกอบเพราะตอนนี้มันถูกผู้ชายคนนั้นล็อคคอไว้เพราะจะพุ่งเข้าไปต่อยเขาอีกรอบ

"ทำอะไรเนี่ยนิรันดร์!"



#คุนแฟง

by ppeachmm


-----++++----

อ้าวๆ อีหยังน้อ
คุณพ่อนิรันดร์มาได้ไงอะ
เดี๋ยวมาต่อเน่อ บอกได้เลยว่าคุณนิรันดร์แซบมาก!





ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
พ่อรู้เรื่องแลัว เอาสิ ยังไง

ออฟไลน์ mylittleY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อร้ายยย นิรันดร์มาแล้ว อยากเจอมานานแล้วคนนี้ ลูกชนาดนี้พ่อจะชนาดไหน :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด