พิมพ์หน้านี้ - คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 46| 04.07.2020 ❤️❤️ (End)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Ppeachmm ที่ 02-05-2020 17:08:32

หัวข้อ: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 46| 04.07.2020 ❤️❤️ (End)
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 02-05-2020 17:08:32
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 02-05-2020 17:10:56
---ตอนที่ 1---

"สวัสดีคร้าบบบบเพื่อนๆ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครัช ผมหายไปหนึ่งวันคงจะคิดถึงกันน่าดูเลยใช่มั้ยครัชชชช" ผมเอื้อมมือไปขยับกล้องที่อยู่ด้านหน้าเพราะมองจากจอแล้วเหมือนหูข้างขวาผมจะกายไป สงสัยหลุดจอ ไม่ได้ครับ ยูทูปเบอร์คูลๆอย่างผมต้องโชว์หน้าตาที่หล่อเหลาเพื่อเรียกผู้ชม และเรียกยอดสับตะไคร้!

ผ่านไปสักสิบนาที ยอดผู้ชมพู่งปรี๊ดเห็นแล้วก็แทบอยากจะพุ่งจากหน้าจอออกไปจูจุ๊บเรียงตัว

ยอดคนดู 113 watching

คุณพระคุณเจ้า คนดูเพิ่มจากเมื่อวานตั้งสองคน ถุย!

นี่แหละครับชีวิตในวันว่างๆของผมในช่วงที่แฮชแท็ก #IStayHomeFor กำลังขึ้นเทรนฮิตอันดับหนึ่ง

ผมเป็นคนไม่อยู่นิ่ง อยู่เฉยๆไม่เป็น ทำโน่นทำนี่ไปเรื่อย หลายคนชอบบอกว่าผมมันไร้สาระ เฮ้ย! แต่ผมว่าผมทำเรื่องมีประโยชน์มากมายเลยนะครับ อาทิตย์ที่แล้วผมก็เพิ่งปลูกถั่วงอกไปหมาดๆ แต่สงสัยจะปลูกเยอะไปหน่อยเลยล้นออกมาเต็มกะละมัง ก็ใครจะไปรู้ละครับว่าเมล็ดถั่วเมล็ดเล็กๆจะงอกออกมามายมายวายป่วงขนาดนั้น ไอ้ด้วยที่ไม่รู้นี่แหละผมถึงเทถั่วเขียวเมล็ดเล็กๆลงไปจนหมดห่อ สามวันผ่านไป ไปเปิดกะละมังดู โอ้โหแม่เจ้า นี่มันอาณาจักรถั่วงอกดีๆนี่เอง ไม่รู้จะกินหมดมั๊ยเนี่ย จะทิ้งก็เสียดายเลยเก็บใส่กล่องเข้าตู้เย็นไว้ ใส่กล่องไปใส่กล่องมาก็ไม่ได้เยอะเท่าไกร่หรอกครับ ได้แค่สิบกล่องเอง! จากที่ตั้งใจว่าจะปลูกถั่วงอกมาใส่มาม่ากินสักมื้อ ไหงผลออกมาเป็นแบบนี้วะเนี่ย นี่คือผมต้องบริโพคถั่วงอกไปอีกสองอาทิตย์เลยหรอวะเนี่ย พอคิดได้ดังนั้นก็คิดถึงเพื่อนข้างห้องขึ้นมาเลยครับ ผมมันคนใจดีมีน้ำใจ เลยรีบหยิบกล่องถั่วงอกขึ้นมาห้ากล่อง วิ่ง4x100 ออกไปจากห้องทันที

ก๊อก ๆ

ก๊อก ๆ

เคาะประตูอยู่นานก็ไม่มีใครออกมาเปิดประตูสักที แอ๋..ทำไมน้า เมื่อห้านาทีที่แล้วผมยังได้ยินเสียงเพื่อนข้างห้องกดชักโครกอยู่เลย ต้องอยู่ห้องสิ คิดได้ดังนั้นก็เคาะห้องข้างๆอีกสองที คราวนี้มีเสียงตอบรับจากคนในห้องครับ

"รอเดี๋ยว มึงจะเคาะทำพ่องงง" เสียงทุ้มจากคนในห้องดังลอดประตูออกมา ก่อนจะได้ยินเสียงอะไรสักอย่างหล่น แล้วประตูสีขาวบานใหญ่ก็เปิดออก ผมยิ้มกว้างให้กับเพื่อนข้างห้องทันทีที่ประตูเปิดออก พร้อมกับยกกล่องถั่วงอกขึ้นมาตรงหน้า

ปึง!

ประตูบานสีขาวปิดลงทันทีโดยที่ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลยด้วยซ้ำ ผมได้แต่ยืนทำหน้าเหวอทำอะไรไม่ถูก แล้วทำไมคนข้างห้องต้องปิดประตูใส่หน้าผมด้วยเนี่ย

ก๊อกๆ ก๊อกๆ

ผมเคาะประตูอีกครั้ง สงสัยเหมือนกันว่าเขาปิดประตูทำไม ทั้งๆที่ผมยังไม่ได้เอ่ยทักทายด้วยซ้ำ คุณเพื่อนข้างห้องคนใหม่นี่ไม่ค่อยมีมารยาทเลยแฮะ

สักพักเสียงทุ้มของคนในห้องตะโกนออกมาอีกครั้ง

"กูไม่ได้สั่งอาหาร มึงส่งผิดห้องแล้ว" อ้อ ที่แท้เพื่อนข้างห้องผมก็คิดว่าผมเป็นไลน์แมนนี่เอง เอ๊ะหรือคิดว่าผมเป็นแกร็ปกันนะ....

ผมมองดูกล่องถั่วงอกในมือก่อนจะตัดสินใจเคาะประตูอีกครั้ง ผมอยากให้คุณข้างห้องได้ทานถั่วงอกออแกนิคของผมไงครับ ปลอดสาร ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพสุดๆ

ก๊อกๆ ก๊อกๆ

แกร๊ก!

"โว้ย นี่มึงพูดไม่รู้เรื่องหรือว่าหูหนวกวะ กูบอกว่าไม่ได้สั่งอาหาร ไปส่งห้องอื่นไป!" ผู้ชายที่ไม่สวมเสื้อมีเพียงกางเกงบ๊อกเซอร์สีดำตัวเดียวเอ่ยออกมา เมื่อครู่มีกล่องถั่วงอกปิดหน้าอยู่ผมเลยไม่เห็นว่าเขาแต่งตัวไม่เรียบร้อยแบบนี้ ผมมองผู้ชายตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความสงสัย ไหนพี่ รปภ ด้านล่างโดถึงบอกว่าเพื่อนข้างห้องผมเป็นเด็กมหาวิทยาลัยเหมือนผมไง แต่ทำไมคุณคนนี้ถึงดูน่ากลัวแบบนี้ก็ไม่รู้ เขารูปร่างสูง สูงกว่าผมมาก ดูคร่าวๆอาจจะเกือบ 190 ซม. ด้วยซ้ำ ผิวสีเหลืองเข้ม ไม่ขาวไม่คล้ำ ดูกร้านแดดหน่อยๆ ตามกรอบหน้ามีหนวดอ่อนๆขึ้นรำไร อึ๋ย เหมือนโจรอะ!

"สายตามึงเหยียดกูมากไอ้เตี้ย"

"ฮะ ครับ?"

"นี่มึงใช้สายตาแบบนี้มองคนอื่นตลอดกรอ ระวังนะจะโดนแจกตีน"

"ปะ ป่าวครับ"

ผมไม่รู้เหมือนกันว่าใช้สายตาแบบไกนมองปู้ชายคนนี้ แต่ที่แน่ๆ ผมมั่นใจว่าไม่ได้มองเขาแบบนั้นแน่ๆ ยืนคิดอยู่นาน คนตรงหน้าก็หันหลังกลับเตรียมจะปิดประตู

"เดี๋ยวก่อนครับ" ผมรีบห้ามไว้ทันที ด้วยความที่กลัวว่าคนตรงหน้าจะหายกลับเข้าไปในห้อง เลยรีบยื่นมือไปข้างหน้าคว้ากางเกงบ็อกเซอร์ของเขาไว้ทันที

"เฮ้ย ไอ้เห้ย มีจะถอดกางเกงกูทำไมเนี่ย" คนตรงหน้ารีบเอามือจับกางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเองไว้ทันที ก่อนใช้มืออีกข้างปัดมือผมออก

"เอ่อ คุณ คือผมไม่ได้จะถอดกางเกงคุณ แค่จับไว้เฉยๆ"

"มึงอย่ามาโกหกไอ้เด็กลามก"

"ผมไม่ได้ลามกนะ!"

"งั้นมึงเอามือมาล้วงกางเกงกูทำไม หะ?"

"ผมไม่ได้ล้วง ผมแค่ดึงไว้...นิดเดียว"

"นี่คือมึงดึงนิดเดียวหรอ มึงดูสภาพกางเกงกูนี่!"

ผมรีบมองตามนิ้วหนาที่ชี้ไปยังเสื้อผ้าชิ้นเดียวบนร่างกายผู้ชายตรงหน้าทันที อย่ามาใส่ร้ายผมหน่อยเลย ผมแค่จับกางเกงเขาไว้เฉยๆเองเถอะเมื่อกี้..นะ..อะ ฮะ? อึ๋ย....แล้วทำไมตอนนี้กางเกงมาหล่นลงมาต่ำขนาดนั้นวะนั่นนะ มันเลื่อนลงมาจนเห็นอะไรบางอย่างโผล่รำไรออกมาแล้วเนี่ย หมิ่นเหม่มาก...โห...แต่หุ่นผู้ชายคนนี้ดีจังเลยอะ ดูกล้ามหน้าท้องที่เป็นลอนใหญ่ๆนั่นสิ แถมไอ้เส้นตรงเอวนั้นคืออะไรอะ ทำไมผมไม่มี!

"ไอ้เด็กลามก มึงเช็ดน้ำลายมึงด้วย ไอ้เด็ก เ*ี้ย"

"เอ่อ..คุณ อย่าเข้าใจผิด ผมไม่ได้มอง ไม่ได้คิด ไม่ได้จินตนาการอะไรทั้งนั้น" ผมรีบปฏิเสธออกไปทันที จริงๆนะ ผมไม่ได้คิดอะไรเลย!

"จะคิดไม่คิดก็เรื่องของมึง อย่ามาเคาะห้องกูอีก ไม่งั้นกูจะเรียกยามมาลากมึงออกไป" เฮ้ย เขาจะเรียกยามมาลากผมทำไมกันเนี่ย ผมแค่จะเอาถั่วงอกมาให้ อ้อ จริงสิ เกือบลืมไปว่าผมมาที่นี่ทำไม

"เดี๋ยวๆ คุณ"

"อะไรของมึงอีกเนี่ย"

"นี่ครับผมให้" กล่องถั่วงอกห้ากล่องถูกยื่นไปตรงหน้า

"กูบอกแล้วไงว่าไม่ได้สั่งของ มึงนี่ท่าทางจะพูดไม่รู้เรื่อง"

"เปล่าๆ ผมไม่ใช่เด็กส่งของ ผมอยู่ข้างห้องคุณ ห้องนั่นไงที่ประตูเปิดอยู่" ผมรีบชี้ไปมี่ห้องผมที่อยู่ติดกับห้องปู้ชายคนนี้ ส่วนเขาก็ชะโงกหน้าออกมามองตามทิศทางที่ผมชี้ไป

"แล้ว?"

"ให้" ผมยิ่นกล่องถั่วงอกไปตรงหน้าอีกครั้ง นี่เป็นครั้งที่สามแล้วนะที่ผมยื่นกล่องไปให้ผู้ชายตรงหน้า

"ให้เพื่อ?"

"ก็ผมให้เฉยๆ"

"แล้วกูต้องรับ?"

"ใช่สิครับ ผมเป็นเพื่อนบ้านคุณ ผมมีน้ำใจเอาของมาให้ คุณก็ควรจะรับ ถือว่าต้อนรับเพื่อนข้างห้องคนใหม่ไงครับ ไหนเราก็ต้องอยู่ข้างห้องด้วยกันอีกนาน"

"แค่นั้น?"

"ใช่ครับ"

"ถ้ากูรับแล้วมึงจะรีบไสหัวไปใช่มั๊ย"

"ถ้าคุณรับผมก็กลับห้องเลยไงครับ"

"งั้นรีบเอามา แล้วก็รีบไสหัวไป เสียเวลาชิบหาย" เขารีบรับกล่องจากในมือผมไปแล้วปิดประตูใส่หน้าผมอีกครั้ง คนอะไรหยาบคายจริงๆ

นั่นแหละครับสตอรี่ปลูกถั่วงอกกับเพื่อนข้างห้องคนใหม่ของผม นอกเรื่องไปนานละ ขอกลับมาสู่ปัจจุบันนิดนึง ผมมองดูยอดคนดูไลฟ์สดของผมที่ตอนนี้เพิ่มขึ้นมาเป็น 115 คนแล้ว ชื่นใจจริงๆ คอมเมนท์ที่ส่งเข้ามาก็มีทักทายบ้าง ส่งหัวใจบ้าง แต่ที่ดึงความสนใจผมที่สุดก็คงจะเป็น

"คนสวยครับ พี่ขอเบอร์หน่อยสิ อยากจีบ"

เห็นแค่นั้นผมก็รีบจบการไลฟ์สดทันที แล้วเอสตัวนอนบนเตียงด้วยความเซ็ง ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมคนดูช่องยูทูปของผมถึงชอบมีแต่พวกแบบนี้ตลอด เข้ามาขอเบอร์บ้างละ ขอจีบบ้างละ ชมว่าน่ารักบ้างละ บางคนพูดจาลามกกับผมอีกต่างหาก เฮ้อ คุน อยากจะกรี๊ดดดดด

พูดเรื่องชีวิตผมมาสักพัก ขอแนะนำตัวนิดนึงนะครับ ผมชื่อเล่นว่า คุน เป็นภาษาจีนครับแปลว่าแผ่นดิน ซึ่งก็เป็นชื่อจริงของผมเอง พ่อผมเป็นจีนมาจากปักกิ่ง แม่เป็นสาวหมวยไทยแท้ ทั้งสองท่านทำงานและอาศัยอยู่ที่ปักกิ่ง ส่วนผมก็อยู่ที่เมืองไทยคนเดียว ผมเกิดและโตที่จีน พูดได้สามภาษา จีน อังกฤษและภาษาไทยที่เรียนมาจากคุณแม่และตามช่องยูทูป การมาเรียนมหาวิทยาลัยที่เมืองไทยเป็นความฝันอันสูงสุด กว่าผมจะขอพ่อแม่มาอยู่ที่นี่ได้ต้องใช้เวลาขอร้องอ้อนวอนพวกท่านนานมาก ผมดีใจสุดๆที่ได้บินเดี่ยวออกจากกรงทองสักที มาอยู่เมืองไทยนี่อะไรก็อิสระ ไม่มีพ่อแม่มาคอยบังคับโน่นนี้ สบ๊าย สบาย!!! เลิฟสุดๆ ได้ท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ ได้ทานอาหารข้างทางที่มักจะชอบดูผ่านยูทูปเบอร์ช่องกินโชว์ แต่ความฝันนั้นก็ดับลงเมื่อ COVID19 ระบาด ผมใช้ชีวิตอิสระได้แค่เทอมเท่านั้น พอขึ้นเทอมสองเรียนไปได้ไม่เท่าไหร่ มหาวิทยาลัยก็ให้เรียนออนไลน์แทนเพื่อตอบรับมาตรการของรัฐบาลในการควบคุมโรค ผมออกไปไหนไม่ได้ ไปกินชาบูร้านโปรดข้างมหาวิทยาลัยกับเพื่อนๆก็ไม่ได้ ทำได้เพียงลงไปซุปเปอร์มาเก็ตด้านล่างคอนโดเท่านั้น เพราะผมไม่ชอบใส่หน้ากากอนามัยครับ มันหายใจไม่ออก ผมไม่ชอบใส่ มันอึดอัด ก็เลยเลือกที่จะไม่ออกไปไหนเลยจะดีกว่า จากที่ทำอาหารไม่ค่อยเป็น ผมทำอาหารกินเองมาเกือบเดือนแล้ว จนตอนนี้แทบจะไปประกวด Master Chef ได้แล้วครับ

ผมเรียนที่มหาวิทยาลัย SU ครับ อยู่ปี 1 นิติศาสตร์ ภาคอินเตอร์ ผมอ่านภาษาไทยได้บ้าง แต่ไม่เก่งพอที่จะอ่านตำราเรียนเป็นภาษาไทยจึงเลือกเรียนภาคอินเตอร์แทน เมื่อ 8 เดือนที่แล้วตอนที่ผมมาที่นี่ผมยังพูดภาษาไม่คล่องขนาดนี้ แต่เพราะผมได้เพื่อนดีไงครับ เพื่อนที่เรียนคณะเดียวกันกับผม สองคนนั้นเป็นฝาแฝดกันครับ แฝดน้องชื่อ 'กองทัพ' เรียกสั้นๆว่า'ทัพ' ส่วนแฝดพี่ชื่อ 'ขุนพล' เรียกสั้นๆว่า 'ขุน' สองคนนี้เป็นครูสอนภาษาไทยชั้นเลิศของผมเลยครับ ที่ผมพูดได้ขนาดนี้ ต้องขอบคุณสองแฝดเพื่อนเลิฟที่สอนทั้งคำสุภาพและคำหนาบคายให้ผม แต่บางครั้งก็จะหนักไปทางคำหยาบคายเสียมากกว่า ตอนนี้ไม่ได้เจอกันมาเดือนกว่าละ เฮ้อ พูดถึงแล้วก็คิดถึง คิดถึงคนไปกินชาบูด้วย! คิดถึงฝุดๆ ชาบูเจ๊โรสสุดสวยหน้าประตู 3

นั่งๆนอนๆได้สักพัก ก็ได้เวลาเรียนวิชา Legal History ผมรีบเปิดแมคบุ๊คเพื่อนรักขึ้นมาก่อนกดเข้าไปในลิงค์เพื่อเข้าสู่ห้องเรียนออนไลน์

ไลน์~~

สักพักเสียงแต้งเตือนไลน์ก็ดังขึ้น เป็นการแจ้งเตือนข้อความเข้าใหม่ในกลุ่มเพื่อน ซึ่งในนี้ก็จะมี ผม แอนด์เดอะสองแฝด ครับ

Thappy: เสียงอาจารย์แม่งโคตรง่วง

Khunny: กูว่าเสียงเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน

Kunie: เราว่าจารก็พูดทำดานะ

Thappy: ธรรมดาที่ไหน พูดเสียงยานแบบนี้

Khunny: ยานกว่านี้อีกนิดกูคิดว่าเป็นนมยายกูแล้วเนี่ย

Thappy: มึงเอายายมาประจานทำไมวะ ไอ้หลานเ*ี้ย

Khunny: ก็แค่เปรียบเปรย

Kunnie: เราว่าขุนเปรียบเปยได้แย่มาก สงสารยายจุง

Thappy: มึงได้ยินเสียงมั้ย

Khunny: เสียงไรวะ

Thappy: เสียงตุ๊บเมื่อกี้ไง

Khunny: ได้ยิน แต่ตอนนี้เสียงอาจารย์หายไปไหนวะ

Khunny: หรือว่าจารย์ฟุบหลับคาโต๊ะไปแล้ววะ

Thappy: เห***ด ขนาดนั้นเลยนะมึง

Khunny: หรือมึงคิดว่าไม่จริงเสียงจารย์แม่งเงียบไปเลยนะเว้ย

บทสนทนาในไลน์ของพวกเราก็เป็นแบบนั้นไปเรื่อยจนจบสามชั่วโมง ทุกครั้งที่เรียนออนไลน์ก็เป็นแบบนี้ครับ เรียนบ้าง แชทบ้าง สองคนนั้นชอบชวนคุย แล้วผมก็เป็นพวกแยกประสาทไม่ค่อยจะได้ เลยทำให้ต้องมานั่งอ่านสไลด์จารย์ใหม่อีกรอบเพราะไม่ได้ฟังมัวแต่นั่งขำแชทสองแฝดอยู่ ส่วนของคนนั้นผมบอกเลยว่าไม่ได้ฟังอาจารย์เท่าไหร่หรอกครับ เพราะบางครั้งก็เล่นเกมส์ไปด้วย แชทไปด้วย เฮ้อ ไม่รู้ตอนสอบคะแนนของพวกเราจะออกมาเป็นอย่างไงกัน ผมว่าคงรุ่งริ่งกันน่าดู เรียนออนไลน์นี่ไม่ใช่แนวผมเลยจริงๆ

ครืด ครืด

ผมหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนเตียงขึ้นมา พอเห็นว่าเป็น ขุนพลโทรมาก็รีบกดรับทันที

"ว่าไงมึง แอบหลับตอนเรียนละสิ" เสียงทุ้มติดห้าวดังขึ้น

"เราเปล่านะ"

"อย่ามาโกหก เพราะกูก็เพิ่งตื่น ฮ่าๆๆๆๆ"

"ขุนนี่นะ ทำไมไม่ตั้งใจฟังจารบ้าง"

"จะฟังทำไมวะ อ่านหนังสือเอาก็ได้ เสียงจารย์แม่งเหมือนยานอนหลับ ยิ่งฟังยิ่งง่วง"

"ก็จริง"

"เออ คุน วันนี้กูไปหามึงที่ห้องได้ปะ"

"ไม่ได้"

"ทำไม"

"เดี๋ยวนายเอาโควิทมาติดเราอะ"

"กูจะไปเอาที่ไหนมาติดมึง อยู่ห้องตลอดเนี่ย"

"แต่นายออกไปสนามบินมาเมื่อสิบวันที่แล้ว เราจำได้"

"โอ้ย ไอ้ห่า กูไม่ได้ลงจากรถด้วยซ้ำ"

"นั่นแหละ ไว้ใจไม่ได้ นายไปอยู่ในจุดเสี่ยง เราห่างกันสักพักเถอะ"

"แต่พี่กูเพิ่งซื้อเค้กร้านที่มึงชอบกินมาฝากดูตั้งหลายชิ้น กูกินไม่หมดไง เลยจะเอาไปฝากมึง สรุปมึงไม่เอาใช่ปะ งั้นกูวางสายละ

"เอ่อ ขุน เราว่า ขุนอาจจะมาหาเราได้นะ"

"หึ"

"เอ่อ....ขุนใส่แมสมาด้วยนะ"

"เห็นแก่กิน"

"เราเปล่า"

"สรุปยังไง ให้กูไปหรือไม่ให้ไป"

"ก็มาสิ เราก็คิดถึงขุน" เราไม่ได้อยากกินเค้กนั่นเลยสักนิด สาบานได้!



#คุนแฟง
By ppeachmm

......................,.........

เรื่องนี้ตลกโปกฮาไปเรื่อยคะ ใครชอบแนวสบายสมอง เมื่อยกราม เชิญทางนี้เลย
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 02-05-2020 17:34:34
 :mew1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 02-05-2020 18:28:24
---ตอนที่ 2---


ครืด ครืด


"ครับ"


(อาหารมาส่งครับ)


"โอเคครับ เดี๋ยวลงไป ทั้งหมดเท่าไหร่ครับ"


(635 บาทครับ)


"เคคร้าบบบบ"


ผมรีบหยิบกระเป๋าสตางค์หนังราคาแพงสีดำที่วางอยู่บนโต๊ะกลางโซฟาขึ้นมาก่อนจะพุ่งไปที่ลิฟต์คนโดเพื่อลงไปรับอาหารที่ผมสั่งจากไลน์แมนเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว เนื่องจากตอนนี้ร้านอาหารตามสั่งแถวคอนโดนั้นปิดกิจการชั่วคราว ไลน์แมนกับแกร๊ปเลยกลายเป็นเพื่อนสุดที่รักของผมที่ผมใช้บริการวันละหนึ่งถึงสองครั้งทุกวัน


"ขอบคุณคร้าบบบบ"


ผมรับถุงอาหารมาจากพี่ไลน์แมนก่อนจะเดินกลับไปยังลิฟต์คอนโด ในขณะที่มือข้างหนึ่งก็ล้วงเฟรนซ์ฟรายชิ้นใหญ่ออกมาจากถุงในมือในขณะที่รอลิฟต์


ตึ๊ง


ลิฟต์โดยสายเปิดออก ผมเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับใครบางคนที่เดินตามหลังเข้ามา ชายรูปร่างสูงโปร่งที่ผมคุ้นเคยดี ผมคิดว่าเราสนิทกันนะครับ เพราะผมเอาถั่งงอกไปแย่งเขาทานตั้งครั้งหนึ่ง


"สวัสดีครับคุณข้างห้อง" ผมยิ้มกว้างก่อนเอ่ยทักทายคนที่ยืนอยู่ข้างผมในลิฟต์ แม้เขาจะใส่แมสสีดำปิดครึ่งหน้าแต่ผมก็จำเขาได้ รอยสักตัวหนังสือโรมันตัว F ที่อยู่ตรงข้อเท้าขวาของเขายังไงละครับ ผมจำได้ว่าเห็นคุณหนวดข้างห้องมีรอยสักนี้


"อือ"


"ไปซื้อของมาหรอครับ" ผมถามขึ้นเมื่อเห็นถุงจากซุปเปอร์ด้านล่างคอนโดในมือเขา


"เออ"


"ผมชื่อคุนนะครับ คุณชื่ออะไร" ผมถามออกไปด้วยอยากทำความรู้จักครับ เพราะยังไงเราก็เป็นเพื่อนบ้านกันต้องทำความรู้ตักดันไว้จริงมั๊ยครับ ม๊าบอกว่ามนุษย์เราเป็นสัตว์สังคมครับ การมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีทำให้เราอยู่ในโลกนี้ได้ 


"กูต้องบอกรึไง กูไม่รู้จักมึง" 


"ผมเองครับ จำได้มั้ย" สงสัยเขาจะจำผมไม่ได้ ฝเพราะผมใส่แมสนี่เอง ผมเลยตัดสินใจเปิดแมสผมออก จริงๆภายใต้สถานการณ์แบบนี้เราไม่ควรเปิดแมสออกนะครับน้องๆ อย่าทำตามนะ เดี๋ยวติดโควิท!


"ไม่" เขามองหน้าผมสามสิก่อนหันหน้ากลับไปมองประตูลิฟต์ตามเดิม


"ผมเอาถั่วงอกไปให้คุณอาทิตย์ก่อนไงครับ"


"อ้อ ไลน์แมน"


"ผมไม่ใช่ไลน์แมน"


ตึง!


ลิฟต์โดยสารเปิดออก พร้อมกับร่างสูงใหญ่ของคุณข้างห้องที่เดินจ้ำอ้าวออกไปทันที ผมเองก็รีบเดินตามออกไปเหมือนกัน ก็ผมยังไม่รึจักชื่อเขานี่นา! 


"คุณห้อง 1507" ผมเรียกคุณหนวดที่กำลังไขกุญแจประตูห้องตัวเองอยู่ เขาหันมามองผมแว็ยหนึ่งก่อนหันหน้ากลับไปสนใจลูกบิดประตูต่อ


"คุณ"


"มึงจะยุ่งอะไรกับกูนักหนา"


"ไม่ได้ยุ่งนะครับ แค่อยากทำความรู้จัก คุณชื่ออะไร"


"มึงถอยไปให้ห่างกูหนึ่งเมตร มึงออกไปจ้างนอกเดี๋ยวเอาโควิทมาติดกู"


"อึ๋ย ผมไม่ได้ออกไปไกนนะครับ แค่ลงไปข้างล่างเอง"


"เออนั่นแหละ ถอยออกไป"


"คุณบอกชื่อผมก่อนสิครับ"


"ถ้ากูบอกแล้วมึงจะรีบเข้าห้องมึงไปมั๊ย"


"โห ถ้าคุณบอกนะ ผมจะรีบวิ่งกลับเข้าห้องทันทีด้วยสปีดเท่าความเร็วแสงเลยครับ"


"แฟง" เขาเอ่ยเสียงเบาก่อนบิดลูกบิดเปิดประตึคอนโดออก


"ฮะ? อะไรนะครับ"


"แฟง"


"แฟน?"


"แฟง"


"แฟ?"


"โว้ย สระแอ ฟอฟัน งองู"


"สระแอ ฟอฟัน งองู อ่านว่าอะไรหรอครับ ผมสะกดไม่ค่อยถูก"


"นี่มึงเรียนอยู่ชั้นไหนเนี่ย ถึงสะกดไม่เป็น"


"ผมก็เรียนหลายชั้นนะครับแล้วแต่วิชา บางวิชาก็เรียนชั้นหนึ่ง บางวิชาก็ชั้นสาม บางทีก็ชั้นห้าครับ ส่วนขั้นสองกับชั้นสี่นี่ผมยังไม่เคยเข้าเรียน น่าจะเป็นปีหน้าครับ"


"นี่มึงกวนตีนกูอยู่?"


"ผมเปล่านะครับ ผมเรียนชั้นพวกนั้นจริงๆ" ผมตอยไปตามความจริงนะ ก็ผมเรียนหลายวิชานี่นา เลยต้องเข้าชั้นเรียนหลายห้อง ผมตอบผิดตรงไหนหรอ ผมงง?


"มึงมาจากดาวอังคาร?"


"เปล่าครับ ผมมาจากห้อง 1505 นั่นไงครับ" ผมพูดพรางชี้นิ้วไปที่ห้องของผมที่อยู่ถัดจากห้องของคุณแฟ..แฟน..อะไรสักอย่าง


"กวนตีน!"


ปัง! 


ประตูคอนโดมีขาวบานใหญ่ถูกปิดลงเสียงดัง คุณแฟ..แฟน..ปิดประตูใส่หน้าผมอีกแล้วครับ อะไรของเขานะ ผมยังไม่รู้ชื่อเขาเลยนะ เดี๋ยวเรียกผิดแล้วจะโมโหมั๊ยเนี่ย ยิ่งดูเป็นคนอารมณ์ร้ายอยู่ เฮ้อ...กลับห้องไปกินมอสเบอร์เกอร์ที่สั่งมาดีกว่า คุนหิว!

.

.

.

.

.


แกร๊ก!


เมี๊ยว!


ผมเปิดประตูคอนโดตัวเองออก ยังไม่ทันจะได้ก้าวเข้าไปลูกชายสุดที่รักของผมก็ออกมายืนทักทายรอหน้าประตูเรียบร้อยแล้ว สงสัยจะหิวละครับทำหน้าแบบนี้


"อันอัน"


เมี๊ยว


"หิวหรอคร้าบบบบ"


เมี๊ยว


สงสัยจะหิวครับถ้ามาอีหรอบนี้ มาร้องเหมียวๆใส่หน้าแถมยังเอาหน้ามาถูขาอีก ผมวางถุงอาหารของตัวเองไว้บนโต๊ะก่อนจะรีบไปหยิบถุงอาหารของอันอันมาเทใส่ถ้วยเซรามิครูปแมวสีขาวที่วางอยู่ข้างโต๊ะทานอาหารทันทีโดยมีอันอันผู้หิวโหยเดินตามมาติดๆ


"ว้าาา อาหารอันอัน จะหมดแล้วนี่นา สงสัยต้องรีบสั่งแล้ว" 


ผมเดินไปหยิบถุงอาหารและจานก่อนเดินมาทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวใหญ่แล้วกดเล่นไอแพดที่เชื่อมต่อเข้ากับทีวีเพื่อเปิดดูหนังเรื่องที่เปิดค้างไว้ใน Netflix ก่อนลงไปรับอาหารจากไลน์แมน ในขณะที่มือหยิบไรซ์เบอร์เกอร์ปลาหมึกยักษ์ขึ้นมากัดหนึ่งคำ ส่วนมืออีกข้างก็ไถลาซาด้าไปด้วย 


"อร่อยจัวเลย อันอัน ข้าวอร่อยมั้ย"


เมี๊ยว!


"ทำไมช่วงนี้อาหารอันอันแพงขึ้นตั้งเยอะ" ผมไถมือถือในมือไปเรื่อยเข้าร้านอาหารแมวร้านโน้นทีร้านนี้ที อาหารอันอันเป็นอาหารรำเข้าครับ ตั้งแต่มีโควิทเนี่ยข้าวของก็แพงขึ้น อาหารอันๆที่ผมเคยสั่งสามพันนิดๆ ตอนนี้ราคาเพิ่งขึ้นเป็นเกือบห้าพัน ดูเหมือนแต่ละร้านจะพร้อมใจกันอัพราคาจริงๆ เฮ้อ! 


ก๊อก ก๊อก


เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้นผมรีบวางเบอร์ในมือลงบนจานทันทีก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเช็ดมือแล้วเดินไปที่ประตู


"ใครครับ" ม๊าบอกว่าเวลามีคนมาเคาะประตูให้ถามก่อนว่าเป็นใครอย่าเพิ่งรีบเปิด เดี๋ยวเป็นฉจรขึ้นมาแล้วจะอันตราย 


"กูเอง" เสียงทุ้มดังบอดผ่านประตูเข้ามา


"กูไหน" ผมถามออกไป


"คุนคุน มึงอย่ามากวนตีน"


"อ้อ ทัพเองหรอ" ผมรีบเปิดประตูทันที กองทัพครับ แก๊งค์เดอะแฝดเพื่อนรัก ทำไมผมถึงรู้ว่าเป็นทัพนะหรอ ก็เพราะทัพเป็นคนเดียวที่เรียกผมว่า'คุนคุน' นะสิครับ


แกร๊ก


"ขอเข้าไปหน่อย" ทัพที่มีสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัดยืนอยู่หน้าประตูห้องของผม คิ้วสองข้างชนกันจะเป็นรูปโบว์อยู่แล้ว


"อ้อ ได้สิ เข้ามาเลย"


ผมปิดประตูทันทีที่ทัพเดินเข้ามาก่อนที่เราสองคนจะเดินไปนั่งที่โซฟาด้วยกัน


"ทัพหิวหรอ" ผมถามขึ้น


"ทำไมถึงคิดว่าหิว"


"ก็ทัพขมวดคิ้ว เวลาเราผิวเราก็ทำหน้าแบบนั้นแหละ


"ฮะๆๆๆ คุนคุน เอ้ย คุนคุน สมองเม็ดถั่วเขียวของมึงเนี่ยคิดได้แค่นี้ใช่มั้ย"


"แล้วไม่ใช่หรอ" ผมเอียงคอมองหน้าทัพอย่างไม่เข้าใจ ก็ผมพูดจริงนี่นา เวลาผมหิวผมทำหน้าแบบนั้นจริงๆนะ 


"ไม่ใช่....กูคิดถูกจริงๆเลยที่มาหามึงเนี่ย" มือหนาของทัพยื่นมายีหัวผมเบาๆ เบาของทัพนะครับ ไม่ใช่เบาของผมหรอก เพราะผมรู้สึกได้เลยว่าหัวผมตอนนี้คงยุ่งเป็นรังนกแล้ว เคยบอกหลายครั้งแล้วว่าให้ทัพทำหัวผมเบาๆหน่อย แต่ทัพก็บอกว่านี่คือเบาที่สุดแล้ว เออ เบาก็เบาครับ เบาเขาไม่เบาเราอะเนอะ!

"ทัพ กินเบอร์เกอร์มั๊ย เราสั่งมาหลายชิ้นหลายรสเลย" ผมนื่นถุงมอสเบอร์เกอร์ให้ทัพที่เอนกายเลื้อยไปตามพนักพิงโซฟา แล้วก็ยกขายาวๆนั้นขึ้นมาว่งพาดบนโต๊ะกลางทันที ผมมองขายาวๆสองข้างนั้นแล้วก็นึกอิจฉา ผู้ชานเหมือนกันแต่ทำไมอวัยวะต่างๆมันถึงขนาดต่างกันแบบนี้ แค่ขาอย่างเดียวของทัพก็คงยางกว่าผมสักห้าเซนติเมตร ส่วนลำตัวก็คงยาววกว่าผมอีกสักห้าเซนติเมตร แล้วส่วนหัวอีกสักหนึ่งเซนติเมตร บวกดับส่วนคออีกหนึ่งเซนติเมตร ผลรวมโดยรวมคือทัพสูงกว่าผมตั้ง 12 เซนติเมตร! ถ้าทัพสูง 185 แล้วผมสูงเท่าไหร่กันน้า ติก ตอก คิก ตอก..คิดเอาเองคร๊าบ!!!

"มีไรบ้าง"

"ปลาหมึกยักษ์ ปลาหมึกยักษ์ ปลาหมึกยักษ์ โอ้ย!" ผมร้อยขึ้นแ้วยความเจ็บปวดเมื่อนิ้วหนาของทัพยื่นมาดีดที่หน้าผากผมอย่างแรง อู๊ย..แสบจัง แดงแน่ๆ!!

"กวนตีน"

"อู๊ย เจ็บๆ สรุปกินป่าววัยรุ่น"

"เออๆ เอามาอันนึงก็ได้ แก้เซ็ง"

"อ๊ะ นี่ แล้วเซ็งไรอะ" ผมหยิบไรซ์เบอร์รีอาร์ออกมาจากถุงแล้วยื่นให้ทัพที่นั่งเอนจ้องมองซีรี่ย์ที่ผมเปิดค้างไว้ในหน้าจอทีวี

"ก็ไอ้ขุนอะดิ ชอบเรียกแฟนมันมาจู๋จี๋กันในห้อง หวานกันจนกูต้องรีบชิ่งออกมาเนี่ย"

"อ้อ ที่แท้ก็อิจฉาคนมีแฟนนี่เอง ไม่ต้องน้อยใจนะที่ไม่มีใครเอาอะ" ผมยกมือขึ้นไปลูบแขนทัพสองสามทีเป็นเชิงปลอบใจ สงสัยครับ เพิ่งเลิกกัยแฟนมาด้วย ทั้งทัพทั้งขุนหน้าตาดีทั้งคู่ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมทัพชอบถูกผู้หญิงยอกเลิกอยู่เสมอๆ เฮ้อ คิดแล้วก็สงสารจริงๆ

"คุนคุน ถ้ากูไม่รู้จักมึงนี่กูคิดว่ามึงหลอกด่ากูอยู่นะเนี่ย"

"เราเปล่านะ" ผมเปล่าจริงจริงนะครับ!

"เออ แล้วนี่ดูเรื่องไรอยู่"

"อ้อ ซีรีย์จีนนะ ป่าท้อสิบหลี่ สนุกมากเลยนะเรื่องนี้ นี่เราดูสามรอบละ คือนางเองอะนะ...." ผมอ้าปากกำลังจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทัพฟัง ผมชอบดูซีรีย์จีนมากแล้วเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องโปรดของผมซะด้วย ม๊าบอกมีอะไรดีๆต้องแบ่งปันให้คนอื่นด้วย ผมเลยชอบเล่าเรื่องซีรีย์ดีๆให้ทัพกับขุนฟังครับ ดูเหมือนสองคนนั้นจะชอบฟังที่ผมเล่าด้วยนะครับ เล่าไปเล่นโทรศัพท์ไปทุกที สงสัยฟังจนเพลิน...

"คุน มึงอย่าคิดจะเล่าอีก มึงเล่ามาหลายรอบละ ขนาดกูไม่เคยดูยังรู้เรื่องเลย"

"อ้าว เราเคยเล่าให้ฟังแล้วหรอ"

"เออ แล้วนี่จะเอาไง" ทัพกัดเบอร์เกอร์คำสุดท้ายเข้าปากก่อนขยำกระดาษห่อทิ้งลงไปในถุงตามเดิม อื้ม..ทำไมกินเร็วจังอ่า...ของผมยังกินไม่ถึงครึ่งเลย!

"เรื่องไรหรอ"

"อ้าวก็เรื่องพ่อแม่มึงเรียกกลับปักกิ่งไง" อ้อ เรื่องนี้นี่เอง คือช่วงนี้ไม่ต้องเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาบัยครับ ทุกอย่างเรียนออนไลน์หมด และก็คงจะเป็นแบบนี้ไปิีกหลายเดือน ป๊ากับม๊าเลยสั่งให้ผมกลับบ้าน แต่ผมไม่อยากกลับไงครับ ป๊าเลยยื่นคำขาดว่าจะไม่ส่งเงินมาให้ใช้ถ้าผมไม่กลับ แต่ผมไม่อยากกลับไงครับ คุนคุนอยากมีอิสระ!!!

"เราไม่กลับอะ"

"แล้วมึงจะเอาเงินที่ไหนใช้ แต่ละเดือนมึงใช้เงินยังกะกระดาษทิชชู่ ไหนจะค่าอาหารที่มึงสั่งมาแดก ค่าชานมไข่มุกวันละสองแก้วของมึง ค่าอาหารแมวป่ามึงอีก"

"ทัพ! อย่าว่าอันอันนะ อันอันไม่ใช่แมวป่า!"

"อีกไม่กี่วันมันก็จะตัวเท่ามึงแล้วเนี่ยมึงดู มันเองก็แดกเหมือนมีหลุมดำอยู่ในท้องเหมือนเจ้าของเปี๊ยบ"

"ทัพอะ!" ผมมองดูอันอันที่เงยหน้าขึ้นมาจากจานข้าวของตัวเอง อาหารที่ผมเทให้เผลอแป๊บเดียวก็เกือบหมดแล้ว อืม...อันอันกินเยอะจริงๆนั่นแหละ..เอ๋

"จะด่าก็ด่า อย่ามาตี แรงเท่าแมวอย่างมึงตีหมดแรงก็ก็รู้สึกเหมือนแค่แรงสะกิดเท่านั้นแหละ เก็บแรงมึงไว้เถอะ" กองทัพนะกองทัพ แบบนี้ทุกทีเลย! รังแกผมตลอด เอะอะก็ว่าผมแรงน้อย! ม๊าสอนว่าไมืให้โกรธ ต้องใจเย็น ฮึบไว้คุน ฮึบไว้!

"เดี๋ยวเราทำคลิปมีคนติดตามเยอะก็มีรายได้เองแหละ"

"โห นี่มึงยังไม่เลิกคิดทำคลิปคอนเทนท์อนุบาลอีกหรอวะ" กองทัพอะ! ชอบว่าคอนเทนต์ในคลิปผมเหมือนเด็กอนุบาลตลอด ผมขอเถียงคอเป็นเอ็นเลยครับ ใช่ที่ไหน...คลิปผมมีวาระจะตาย..ทั้งสอนปลูกถั่วงอก สอนหวีขนอันอัน เล่นกับอันอันโชว์...เห็นมั๊ยครับ ดูมีสาระสุดๆ...แต่ทำไมไม่ค่อยมีคนดูก็ไม่รู้

"ทัพ หรือว่าเราต้องแปลงโฉมชาแนลเรา" ผมลืมบอกครับว่าผมมีชาแนบในยูทูปเป็นของตัวเองครับ ชื่อว่า คุนคุน ชาแนล ฝากติดตามด้วยนะคร้าบ แล้วก็อย่าลืมสับตะไคร้ เอ้ย subscribe ครับ แล้วกดกระดิ่งด้วย!

"มึงควรคิดได้ตั้งนานแล้วนะ"
.
.
.
.
.

ทัพ's part

ผมงังเงียตื่นขึ้นมาแล้วรู้ตัวว่าตัวเองนอนหลับอยู่บนโซฟาในคอนโดของคุนคุน สงสัยจะเผลอหลับไป จะไม่หลับได้ไงครับ ก็ไอ้เจ้าของห้องมันดูซีรีย์จีนรักหวานแหววใช่แนวผมที่ไหน อย่างผมนี่ต้องแนวฆาตกรรมหรือแนวแอ็คชั่นเท่านั้น เหลือบดูจอทีวีที่เคยมีภาพผู้ชายผมยาวจากซีรีส์จีนที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นรูปผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งกำลังกินซูชิคำโตๆอยู่

"คุนคุน มึงดูไรเนี่ย" ผมเอ่ยถามคนที่นั่งจ้องหน้าจอทีวีอยู่ข้างๆ

"ก็หาอินสไปเรชั่นไง" พอมันพูดออกมาก็ถึงบางอ้อเลยครับ สงสัยหาไอเดียทำคอนเทนต์ช่องยูทูปของมันอยู่ เห็นแล้วก็เอ็นดู คุนคุนมันหน้าตาน่ารักครับ เหมือนหมาตัวน้อยๆ ไม่มีพิษมีภัย อยู่ด้วยแล้วสบายใจ พูดอะไรก็เชื่อไปหมด ผมกับไอ้ขุนหลอกสอนคำหยาบมันไปหลายครั้งมันก็ซื่อก็เอาไปพูดจริงๆ มีครั้งหนึ่งมันเอาไปพูดกับอาจารย์อีกต่างหาก ลากตัวออกมาจากห้องแทบไม่ทัน นึกแล้วก็ขำแต่ก็สงสารมันด้วย ไอ้ลูกครึ่งไทยจีนที่สกิลภาษาไทยต่ำเตี้ยเรี่ยดินสุดๆ

"แล้วได้บ้างมั้ย"

"ก็พอได้นีสนึง" ส่วนไอ้ภาษาวิบัตินี้ผมกับไอ้ขุนไม่ได้สอนมันนะครับ มันจำมาจากช่องยูทูปเนี่ยแหละ เฮ้อ เห็นละเอ็นดูจริงๆ บางครั้งละก็อยากจับเข้าห้องไปดูเอ็นผมแทน เฮ้ย! ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้คิดแบบนั้น แม้ว่ามันจะน่ารักเข้าขั้นนั้นก็เถอะ แต่ผมมีคติไม่กินเพื่อนไง แล้วไอ้คุนคุนหน้าลูกหมานี่ก็เป็นเพื่อนสนิทด้วย!

"ทัพ ช่องพวกนี้มีแต่ผู้หญิงดูอะ ดูผู้ชายคนนั้นสิ ตอนนี้เค้าไลฟ์สดอยู่ มีผู้หญิงเข้ามาคอมเมนต์โซมัช"

"เออ ก็ธรรมดาเปล่าวะ ผู้หญิงก็ชอบดูผู้ชาย" ผมว่า มันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ผู้หญิงวันๆหนึ่งไม่ทำไรหรอกครับส่องแต่ผู้ชาย

"เราได้นิวไอเดียละ" ไอ้หมาน้อยบะสายตาจากหน้าจอทีวีหันมาทำตาแป๋วใส่ผมทันที อยากรู้เหลือเกิ้นว่าไอเดียมึงเนี่ยจะอนุบาลขนาดไหน มันคิดไรไม่ได้มากหรอกเชื่อผม ความคิดแม่งเด็กๆอะ!

"เราจะกินโชว์" เห็นมะผมบอกแล้ว ไอเดียเด็กๆ

"แล้วเราจะถอดเสื้อด้วยโชว์หน้าท้องแมนๆ" เป็นไงละครับ ความคิดเด็กๆของมัน...อะ..อะไรนะ? เฮ้ย หมาอัพเลเวลวะ!!!!

"มึงมีกล้ามท้องหรอ" ผมถามออกไปด้วยความสงสัย ไม่เคยเห็นมันถอดเสื้อหรอกนะ แต่ดูจากสกิลการแดกของมันเนี่ย ไหนจะชานม ไหนจะของหวาน อีกไม่กี่วัรได้ตัดขาแน่หมาน้อย กูมั่นใจล้านเปอร์เซนต์ว่ากล้ามหน้าท้องที่มึงหมายถึงเนี่ยหมายถึงพุงน้อยๆของมึงชัวร์

"เรามี นี่ไง" มันไม่ว่าเปล่า ้ลิกเสื้อยืดสีขาวลายหมาขึ้นมาถึงหน้าอก โห! เชี่ย! แม่งขาวสัสสสส

"..."


"ทัพ"

"..."

"ทัพ"

"..."

"กองทัพ เมธีภักดีกุล!"

"ฮะ? เสียงดังทำไมวะ"

"ก็นายเงียบ เราเรียกตั้งหลายทีแล้ว"

"อ้าวหรอ แล้วเรียกทำไม"

"เราถามว่าเรี่ย ท้องเราแบบนี้โชว์ได้มั้ยอะ" ไอ้หมาน้อยมันใข้นิ้วจิ้มพุงน้อยๆใต้ร่มผ้าของมันให้ผมดู

"มึงเอาเสื้อลงเหอะ กล้ามไม่มีสักมัด ผู้หญิงที่ไหนจะอยากดู" ผมรีบดึงเสื้อยืดของมันลงทันที ไอ้หมาน้อยเอ้ย มึงนะไม่มีกล้ามเลยสักนิดผู้หญิงที่ไหนเขาจะมาดู แต่เ*ดแม่ ทำไมแม่งขาวโอโม่ขนาดนั้นวะ น่าจับมาฟัดจริงๆ ไม่ได้การละกูกลับคอนโดก่อนดีกว่า

"อ้าว จะกลับแล้วหรอ" คุนคุนถามขึ้นเมื่อผมลุกขึ้นเดินไปที่ประตู

"เออ กูง่วงจะกลับไปนอน ออกค่ำกว่านี้เดี๋ยวรถติด"

"ทัพ แต่นายอยู่คอนโดเดียวกับเราไม่ใช่หรอ"

"!!!"

ชิบหายเหตุผลอะไรของกูวะเนี่ย! ช่างแม่งอย่าไปสนใจ ตีมึนเข้าไว้...อีกไม่กี่นาทีไอ้หมาน้อยมันก็ลืม! ลงไปหาอะไรซ่าๆมากระแทกปากดีกว่า ไปแมกซ์แวลูใต้คอนโดละกัน!

------------------
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 2 | 02.05.2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 02-05-2020 22:51:24
----ตอนที่ 3----

ผมนั่งดูคลิปในยูทูปติดต่อกันมาสามวันละครับ แล้วก็ได้ไอเดียดีๆมาเยอะแยะเลย ถ้าอยากให้คนเข้ามาดูแชแนลของเราเยอะ ๆ ต้องเป็นแบบนี้ น้องคุนวิเคราะห์มาแล้ว!!!

ข้อแรก ถ้าเจ้าของชาแนลเป็นผู้หญิงต้องหน้าตาน่ารักหรือไม่ก็สวย

ข้อนี้ตัดไปเพราะผมเป็นผู้ชาย

ข้อสอง คนชอบดูอะไรที่เกรียนๆ เช่น ทำอะไรบ้าๆบอๆ ดูพิลึก ดูพิสดาร

ข้อนี้ก็ตัดไปผมทำไม่ได้หรอก จะให้ผมมาทำคลิปอยู่ในห้องเดียวกับงูเหลือม 24 ชม. เหมือนพี่คิงคอง ผมไม่ไหวอะ แค่คิดก็ขนลุกแล้วเนี่ย หยึ๋ยยย...พี่คิงคองยูทูปเบอร์คนเกรียนทำไปได้ไงอะ ผมทึ่งสุดๆ

ข้อสาม คนชอบดูสาวๆหนุ่มๆหน้าตาดี cover เพลงเพราะ ๆ

อันนี้พอได้นีสนึง ผมร้องเพลงได้ครับ แต่ไม่ได้เพราะขนาดนั้น สงสัยต้องซื้อไมค์ออโต้ทูนมาก่อน อันนี้อย่าเพิ่งตัดทิ้งเก็บไว้เป็นตัวเลือก ผมอาจจะทำได้ก็ได้ แต่ไอ้ไมค์ออโต้ทูนดีๆนี่มันราคาเท่าไหร่อะ....

ข้อสี่ คนดูเป็นผู้หญิง 80% และผู้หญิงชอบดูผู้ชาย หน้าตาดี อวดรูปร่าง

 อันนี้น่าสนใจมาก เพราะยอดคนดูสูงปรี้ดกว่าชาแนลไหนๆที่ว่ามาก่อนหน้านี้ แต่ประเด็นคือผมคงต้องใช้เวลาในการฟิตกล้ามเนื้อสักพัก อืม... น่าสนใจสุดๆเลยข้อนี้

เฮ้อ คิดได้ดังนั้นก็วางไอแพดในมือลงบนโซฟาทันที ผมมองต้องไอแพดช่อง คุนคุน ชาแนลของตัวเองที่มีผู้ติดตามไม่ถึงสองร้อย กับชานมไข่มุกที่วางอยู่ข้างกัน ถ้าให้ผมเลืิอกระหว่างยอดผู้ชมที่เพิ่มมากขึ้นกับชานมไข่มุก แทบไม่ต้องคิดเลยครับ เพื่ออนาคต! เพื่อเงินในบัญชี! และเพื่อค่าอาหารของอันอัน! ผมเลือกชานมไข่มุก!! 

ขอโทษนะอันอัน วันนี้ป๊าๆขอเลือกชานมไข่มุกก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ป๊าๆจะไปฟิตหุ่นที่ฟิตเนสด้านล่าง ป๊าๆสัญญาด้วยเกียรติอาตี๋น้อยของม๊าม๊าพราว!!!

.
.
.
.

ผมปิดหน้าจอแมคบุ๊คลง พร้อมลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียดหลังจากนั่งฟังอาจารย์บรรยายวิชา Juristic Acts and Contracts Law วิชานี้น่าสนใจครับแล้วอาจารย์ก็มีเทคนิคในการสอนที่ทำให้เข้าใจง่ายแถมน้ำเสียงอาจารย์ยังน่าฟังอีกด้วย ผมชอบวิชานี้ครับ และที่สำคัญอาจารย์สวยด้วย ผ่าม!

ไลน์~~

เสียงเตือนข้อความเข้าดังขึ้นทันทีที่ผมบิดขี้เกียจเสร็จไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร คงจะหนีไม่พ้นเดอะแฝดคนใดคนหนึ่งแน่ๆ

Khunny: จะไปฟิตเนสเลยรึเปล่า

นั่นไงครับผมทายแม่นมั๊ยละ วันนี้เรานัดกันว่าจะไปฟิตเนสครับ ผมกับขุนนะ เพราะทัพเบี้ยวนัด เห็นบอกว่าจะออกไปข้างนอก อึ๋ยยย ออกไปนอกคอนโดแบบนี้ผมต้องห้ามทัพเข้าห้อมผม 14 วัน เดี๋ยวเอาเชื้อโควิดมาติดผม ทัพนะทัพ จะออกไปทำไมก็ไม่รู้เสี่ยงติดโรคจะตาย ดื้อจริงๆ ต้องโทรไปว่าเสียหน่อย น่าตีจริงๆ

Kunnie: สิบนาทีนะ เราเปลี่ยนชุดก่อน
Khunny: งั้นไปเจอที่ฟิตเนสชั้นสิบเลยละกันนะ
Kunnie: ครับผม !!

ผมวางมือถือลงก่อนเดินเข้าห้องไปเปลี่ยนเป็นชุดออกกำลังกาย เอ..แต่ผมไม่เคยไปออกกำลังสักที มันต้องใส่ขุดแบบไหนกันน้าาาา
.
.
.
.

"ขุนนนนน" ผมร้องเรียกคนที่กำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่งด้านในฟิตเนสของคอนโดทันทีที่ไปถึง เพื่อนรักของผมรีบหันมาตามเสียงทันที

"เฮ้ยยย ขุน ขุน" ผมรีบวิ่งเข้าไปหาขุนเพื่อนรักที่หล่นลงมากองอยู่หลังลู่วิ่ง ไม่รู้เมื่อตะกี้เกิดอะไรขึ้นผมมองไม่ทันอะ รู้แต่ว่าพอขุนหันมาเห็นผมก็หล่นลงมานอกลู่วิ่งทันที อู้วว เจ็บมากแน่ๆเลย ผมเห็นนะว่าก้นขุนกระแทกพื้นด้วย เห็นแล้วเจ็บแทนจัง ขุนน่าสงสารอะ...

"เ*ี้ยเอ้ย เจ็บสัส" ขุนเอื้อมมือไปจับก้นของตัวเองก่อนร้องโอดโอยออกมา

"ขุนเป็นไรอะ ทำไมตกลงมาจากเครื่องวิ่งอะ"

"เออ กูวิ่งไม่ระวังเองแหละ แล้วนี่มึงใส่ชุดไรมาเนี่ย" ผมช่วยพยุงเพื่อนตัวโตลุกขึ้นจากพื้น ตอนนี้ในฟิตเนสมีคนมาออกกำลังกายอยู่สี่ห้าคนรวมผมกับขุนแล้วนะครับ อีกสามคนที่เหลือกำลังจ้องมองขุนอย่างสงสัย คงจะงงกันแหละครับว่าวิ่งอีท่าไหนถึงได้ตกลงมาจากลู่วิ่งแบบนี้ คือผมเองก็สงสัยเหมือนกันไง ขุนวิ่งยังไงขิงเค้ากันน้า...

"ชุดออกกำลังกายไง" ผมตอบไปพรางก้มลงมองชุดที่ตัวเองใส่อยู่ มันไม่เห็นมีอะไรแปลกตรงไหนก็แค่กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ๆเท่านั้นเอง พ่วงด้วยถุงเท้าสีขาวทรงสูงกับรองเท้าผ้าใบคู่เก่งยี่ห้อดังสีแดงที่ผมไม่เคยได้ใส่ด้วยซ้ำ อ้อ

"ใครเขาใส่ชุดแบบมึงมาออกกำลังกายบ้างวะเนี่ย มึงแหกตาดูชาวบ้านเขาบ้างนะ ไอ้ลูกคุณหนู!"

"ทำไมอะ ก็เรามีแค่ชุดนี้"

"โอ้ยกูจะบ้าตาย แล้วกางเกงมึงนี่มีสั้นกว่านี้อีกมั๊ย" ขุนมองผมด้วยสายตาแปลกๆ ก่อนจะถามขึ้น ทำไมอะ ชุดผมมันตลกขนาดนั้นเลยรึไง คุนงง! คุนไม่เข้าจายยย!!

"มีสิ เยอะแยะ ต้องใส่ตัวที่สั้นกว่านี้หรอ เรามีอีสองสามตัวสั้นกว่านี้อีกนิดนึง"

"กูถามประชด! โว้ย สั้นกว่านี้ก็กางเกงในแล้วมั๊ยมึง!"

"เราก็คิดว่างั้นแหละ คือเราต้องใส่แค่กางเกงในมาออกกำลังกายหรอขุน"

"ไอ้คู้นนนนน นี่มึงแบ๊วหรือโง่เนี่ย เ*ดแม่ นี่เพื่อนหรือลูกวะเนี่ย โอ้ยยย ไอ้ทัพมึงไปไหนนนนน"
.
.
.
.
.

ขุน's part

วันนี้ไอ้คุณชายคุนมันนัดผมมาฟิตเนสครับ มันบอกว่าจะออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้อ อยากมีซิกแพคจะได้มีคนมาดูมันในช่องปัญญาอ่อนที่ขื่อว่า คุนคุน ชาแนล ของมันเยอะขึ้น มันบอกจะหาเงินไปซื้อข้าวแมวครับ ฟังแล้วก็เห็นใจมันเหมือนกัน แมวห่าไรไม่รู้แดกอาหารเม็ดของแมวถุงละสามพันกว่าต่อเดือน ถุงแม่งก็ใหญ่นะแต่ตัวแมวมันเล็กนิดเดียวไม่รู้แดกอะไรนักหนา เหมือนเจ้าของมันแป๊ะ มีหลุมดำในกระเพาะทั้งคู่ ทั้งแมวทั้งคนแดกวันละมากกว่าสิบรอบ แต่แมวมันไม่น่าห่วงไงเพราะอาหารที่สั่งมานี่ล้วนอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ล้วนๆ สั่งอิมพอร์ตมาจากต่างประเทศอีกต่างหาก แมวห่าไรไม่รู้แดกดีกว่าคนอีก ช่างหัวแมวมันไปก่อน คือแมวไม่น่าห่วงไง แต่คนนี่สิน่าห่วงกว่าเป็นไหนๆ ของที่สั่งมากินเหมือนซื้อตั๋วเชื้อเชิญเบาหวานให้เข้ามาในชีวิตอะ ชานมไข่มุกเอย เค้กเอย ฮันนี่โทส สารพัดขนมหวานที่มีปริมาณน้ำตาลมากกว่า 90% กูละห่วงมึงจริงจี๊งไอ้คุนเอ้ย กลัวได้ตัดขาในเร็ววันนี้ ช่างแม่งเรื่องอาหารการกินมันก่อน ขอกลับเข้ามาเรื่องออกกำลังกายก่อน ตัดภาพมาที่ผมกำลังวิ่งบนลู่วิ่งด้วยความชัน 7 ความเร็วระดับ 6.5 แล้วไอ้คุนก็ร้องเรียกผมตั้งแต่หน้าประตูฟิตเนส แค่เห็นชุดมันผมก็สะดุดลู่วิ่งตะลงมาก้นทิ่มอยู่บนพื้น!

เ*ดแม่! นั่นชุดออกกำลังกายมึงเร้ออออ ใครสั่งใครสอนให้ใส่แบบนั้น พอเห็นแล้วรู้ทันทีเลยว่าตัวเองทำพลาด พลาดที่ลงมารอมันที่นี่ ถ้ารู้ว่าชุดมันเป็นแบบนี้ผมจะไปหามันที่ห้องก่อนเลย คือชุดมันมีปัญหาทุกจุดอะครับบอกเลย! มึงคิดว่าตัวเองจะไปเต้นแอโรบิคโชว์ที่โอเรียนเต็ลรึไง ไอ้บ้า!

ตัดภาพมาที่เสื้อเลยอย่างแรกเลย เสื้อกุชชี่สีขาวเรียบๆ เพิ่มเติมคือลายงูเขียวแดงเทาตรงกลาง ใส่เสื้อราคาเหยียบหมื่นมาออกกำลังกายบอกเลยว่าไม่ผิด ตำรวจไม่จับ แต่มึงเล่นใส่เสื้อที่ผ้าทั้งหนา ขนาดก็โคตรใหญ่ มึงจะไปแร๊ปโย่วที่ไหน ไอ้เ*ดแม่!!!

ตัดภาพมาที่ส่วนล่างอันนี้ประเด็นสำคัญเลยนะ กางเกงธรรมด๊าๆๆๆๆๆนี่แหละครับ อาดิดาสออริจินอลส์สีขาว เข้าสีกับเสื้อด้านบน แต่แม่งคือโคตรพ่อโคตรแม่สั้น สั้นกว่านี้อีกไม่กี่เซนก็จะเท่ากางเกงในละ ถามว่าเสื้อตัวใหญ่ขนาดนั้นมันน่าจะคลุมกางเกงมิดแล้วผมเห็นได้ไงว่ากางเกงมันเป็นแบบไหน ตอบเลยว่าไอ้คุนมันพิเรนมัดเสื้อขึ้นมาไงครับ! กูรู้ว่ามึงมันเจ้าพ่อแฟชั่น แต่มึงเอามาทำกับชุดออกกำลังกายแบบนี้ไม่ได้!!! แล้วขามึงก็โคตรพ่อโคตรแม่ขาวอีก ขนาดกูที่เป็นเพื่อนมึงเห็นยังเผลอคิดไปไกล แล้วคนอื่นที่เห็นนี่เขาจะคิดไปถึงไหนกันวะ โอ้ยยยยย ช่วยบอกกูทีว่าต้องทำไงกับมันเนี่ย! ขนาดกูชอบผู้หญิงยังมีแอบเผลอใจทุกทีที่เห็นขาขาวๆของมึงอะพูดเลย พูดแล้วเหยียบนะครับ อย่าให้มันรู้!!!

อีกอย่างคือมันไม่เคยรู้ตัวไงว่ามันอะเป็นทาเก็ตของพวกผู้ชายตลอดเวลา ตัวขาวๆ ไม่สูงมาก รูปร่างบอบบาง กล้ามเนื้อไม่มี แถมหน้าตาน่ารักและยังมีแก้มอีก เป็นไงละ เคะในอุดมคติชัดๆ ไอ้ลูกหมาเอ้ย มันเคยรู้ที่ไหนละว่าคนจ้องจะเคลมมันตั้งเยอะ ถ้าผมกับไอ้ทัพไม่คอยกันท่าให้มันนะ ป่านนี้.....ไปแล้ว โอ้ย กูเครียด!
.
.
.
.

"ขุน อันนี้เราว่ามันเร็วไปอะ เราเหนื่อยอะ ช้าลงกว่านี้ไม่ได้หรอ นะขุนนะ" ไอ้ลูกหมาที่ตอนนี้ผมจัดแจงเสื้อผ้าให้ดูโอเคขึ้น เอาเสื้อตัวโคร่งๆที่มันมัดไว้เหนือสะโพกปล่อยลงมาเต็มความยาวแล้วก็พับแขนเสื้อที่ยาวลงมาจนถึงศอกให้สั้นขึ้นมาแค่ครึ่งแขนบนจะได้ไม่เกะกะเวลาวิ่ง จะให้มันไปเปลี่ยนชุดก็คงต้องรออีกเป็นชั่วโมง กว่าจะเลือกเสื้อผ้าได้ แต่งตัวก็นานขิบหายวายป่วง เคยนั่งรอมันแต่งตัวจะออกไปดูหนังกัน บอกเลยว่าผมหลับไปหนึ่งตื่นมันยังแต่งตัวไม่เสร็จอะบอกเลย  ผมเลยตัดปัญหาด้วยการแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน แล้วนี่เป็นการออกกำลังกายของมันครั้งแรกในรอบ...กี่ปีผมไม่รู้นะ...แต่จากที่ดูคือสกิลการออกกำลังกายมึงติดลบมากอะ แล้วตอนนี้ไอ้คุนที่วิ่งอยู่บนลู่วิ่งข้างๆผมหันหน้ามาทำตาแป๋วออดอ้อน มันบอกว่าเหนื่อยครับ ทั้งที่ผมปรับลู่วิ่งให้มันที่ความชัน 0 ความเร็ว 4.5....แล้วนี่ก็เพิ่งผ่านมาเพียงห้านาที ขอย้ำว่า แค่ ห้านาที โอ้ย พ่อมหาจำเริญ! กูอยากจับมึงยัดใส่กล่องส่ง DHL มึงกลับไปหาป๊าม๊ามึงจริงจี้งงงง แต่ติดตรงเขาปิดสนามบินนี่สิมึงเลยได้อยู่ต่อ
.
.
.
.
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ผมเดินลงมาจากลู่วิ่งในสภาพเหงื่อท่วมตัว ปกติผมจะวิ่งบนลู่หนึ่งชั่วโมง แล้วก็ไปใช้เครื่องจำพวกออกกำลังกายกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนพวกเวทเทรนนิ่งอะไรพวกนั้น แต่วันนี้คงต้องพอแค่นี้ เพราะไอ้หมาคุนที่นั่งเอนพิงกระจกอยู่มันส่งไลน์มาบอกผมว่าหิวแล้วเป็นรอบที่สามล้าน มึงจะไลน์มาทำเพื่อ ตะโกนบอกกูก็ได้มั้ยอยู่ใกล้กันแค่นี้ เห้อ....นี่ถ้ามันออกกำลังกายแล้วบ่นว่าหิวผมจะไม่บ่นสักคำ นี่อะไรวิ่งบนลู่วิ่งไปได้แค่สิบนาทีก็อู้ลงไปนั่งไถมือถือเล่นอยู่ข้างลู่วิ่งผมซะงั้น มึงจะมาทำม้ายยยยไอ้หมาน้อยยยย!
.
.
.
.

วันนี้เป็นวันที่สามแล้วครับที่ผมถูกลากมาฟิตเนส แล้วสิบห้านาทีต่อมาทุกอย่างก็เริ่มต้นและจบตอนเหมือนวันอื่นๆที่ผ่านมา แดจาวูสัสๆๆ

ตอนเดินเข้ามาในฟิตเนส

"ขุนๆๆ วันนี้เราจะฟิตจริงๆ เราจะตั้งใจฟังขุนทุกอย่าง ไม่ดื้อ ไม่อู้ เราจะสู้เพื่ออันอัน!"

15 นาทีผ่านไป

"ขูนนนน ขาเราไม่มีแรงแล้ว เรานั่งพักก่อนนะ" แล้วมันก็ลงไปนอนแหมะอยู่บนพื้น ทำหน้าเหมือนเพิ่งวิ่งขึ้นลงหิมาลัยมาสักสามรอบ ทั้งๆที่มึงแค่เดินบนลู่วิ่งระดับความเร็ว 4.5 ...... กูไม่เข้าใจอะไรคือเลเวลความเหนื่อยของมึง เหงื่อยังไม่ออกซักหยด!?!?!

25 นาทีผ่านไป

"คุน มึงจะลุกขึ้นมาออกกำลังกายต่อได้รึยัง พักนานเกินไปละ"

"วันนี้พอก่อนอะขุน เราเหนื่อย ไว้เราค่อยทำเพื่ออันอันพรุ่งนี้ละกัน ตอนนี้ขอดูพี่ฟีฟี่กินบิงซูก่อน" แล้วมันก็ก้นหน้าลงไปดูผู้ชายที่ชื่อฟีฟี่ที่ไลฟ์สดนั่งกินบิงซู 15 ถ้วยโชว์ เวลาเห็นของกินนี่ตาลุกวาวขึ้นมาเลยนะมึง!

อืม...มึงอยากทำไรมึงทำเลย กูพูดเลยว่ากูหมดความอดทนละ ถึงแม้พรุ่งนี้มึงจะไปร้องไห้หน้าประตูห้องกูให้กูพามาฟิตเนสก็ก็จะทำเป็นโนสนโนแคร์ ไอ้คุนหน้าหมา!!!!

#คุนแฟง

by ppeachmm


----+++---++----
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 3 | 02.05.2019
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 02-05-2020 23:51:09
 o13
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP.4 | 03.05.2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 03-05-2020 11:59:24
---ตอนที่ 4---


"เออ ก็ได้" เสียงทุ้มหนาของคนที่นั่งอยู่บนโซฟาห่างจากจุดที่ผมยืนอยู่หลายเมตรเอ่ยขึ้น

"เย้ คุณใจดีที่สุดเลย ผมจะทำอาหารให้คุณทานทุกวันเลย ไม่ใช่สิ ผมจะทำให้ทานทุกมื้อเลยครับคุณแฟง!!" ผมทิ้งอันอันในมือลงก่อนโผลเข้าไปกอดเพื่อนข้างห้องจนเขาล้มลงบนโซฟา

"พอ พอ พอเลย ไอ้ถั่วงอก มึงลุกไปจากตัวกู หยี๋ อะไรวะเนี่ย น้ำลายหรอ ฮะ? มึงถ่มน้ำลายใส่หน้ากูหรอ!!!!"

"ผมเปล่านะ แค่หอมแก้มเฉยๆ"

"หอมแก้มแล้วมันจะมีน้ำได้ยังไงฮะ!!"

"สงสัยน้ำลายผมซึมออกมานิดหน่อยครับ!"

"มึงเช็ดเลยนะ เช็ดเดี๋ยวนี้ เหม็นชิบหาย" คุณแฟงจ้องตาผมเขม็งแถมยังใช้นิ้วชี้ไปที่แก้มของตัวเองที่มีน้ำลายผมติดอยู่หยดสองหยด แค่นั้นจริงๆนะครับ แต่คุณเขาทำเหมือนผมไปบ้วนน้ำลายใส่แก้มเขาอย่างนั้นแหละ มันก็ปกตินี่นาเวลาที่ผมหอมแก้มม่าม๊าก็ต้องมีน้ำลายติดบ้างเป็นธรรมดา เนอะ...ไม่เข้าใจว่าเขาจะรังเกียจทำไม ผมเลยต้องจำใจจรดริมฝีปากลงไปซับน้ำลายสองหยดนั้นออกจากแก้มของคุณแฟงอย่างไม่เต็มใจนัก

"เฮ้ยยย! ไอ้แคระ! มึงหอมแก้มกูอีกทำไมเนี่ย!"

"อ้าว คุณบอกให้ผมเช็ดน้ำลายให้ ผมก็เช็ดไงครับ เอาปากเช็ด น้ำลายจะได้กลับเข้าไปอยู่ที่เดิม" ผมทำผิดหรอครับ น้องคุนงง น้องคุนไม่เข้าใจ ทำอะไรคุณแฟงก็บอกว่าผิดไปหมด!

"เ*ดแม่ มึงโตมายังไงวะเนี่ย"

"ป๊ากับม๊าเลี้ยงมาครับ"

"กูจะประสาทแ*ก มึงลุกไปจากตัวกู เฮ้ยยยย! ไอ้เ*ี้ย มึงเอาแมวมึงไปออกไปด้วย มันจะกินกูแล้ว ว้ายยยย ไอ้เ*ี่ย แมวมึงเลียตีนกู ไอ้ชิบหาย ไอ้คู้นนนน เอาแมวมึงออกไป!!!"

.
.
.
.
.

แฟง's part

20 นาทีก่อนหน้านั้น

วันนี้วันเสาร์ครับผมลงไปฟิตเนสมาเมื่อตอนเช้า แล้วตอนนี้ก็นอนแหมะอยู่บนโซฟาดูซีรี่ย์ฝรั่งตอนใหม่ที่เพิ่งฉายเมื่อคืนอยู่ ปกติถ้าเป็นเมื่อก่อนผมยังไม่ตื่นหรอกนะเวลานี้อะ ตื่นอีกทีบ่ายโน่น...เพราะคืนวันศุกร์มันคือคืนปล่อยผีของผมกับเพื่อนๆ มันก็เรื่องธรรมดามั๊ยละครับเรียนเครียดๆมาทั้งห้าวันแล้วก็ต้องปลดปล่อยกันบ้าง คือปลดปล่อยในแบบที่ว่าถ้าสติยังอยู่ครบไม่มีใครแยกย้ายกลับบ้านอะบอกเลย ส่วนบิลค่าเหล้าค่าอาหารก็ปล่อยให้ไอ้เหนือจัดการไปเพราะไปแ*กเหล้าร้านพี่มันตลอด แล้ววันรุ่งขึ้นก็ค่อยมาเคลียค่าเหล้าค่าอาหารกันอีกทีตอนสร่างเมา พออยู่ในช่วงโควิดแบบนี้ ร้านเหล้าปิด ห้างปิด ร้านอาหารปิด ผมก็ไปไหนไม่ได้ ได้แต่นอนเหี่ยวเฉาอยู่ในบ้าน แม่งเซ็งชิบหาย คือถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปอีกหลายเดือนผมต้องลงแดงแน่ๆ ดีหน่อยที่ซื้อของมึนเมามากักตุนไว้ในห้องแล้ว แต่ของในสต๊อกมันก็ร่อยหรอลงทุกวันไง แถมเขายังไม่ขายกันอีก ทำไงได้ละครับ ก็ต้องแ*กประหยัดๆหน่อยนะสิ โว้ย กูอยากก๊งเหล้ากับเพื่อน กูอยากไปนั่งมองนมสาวในผับ กูเกลียดมึงไอ้โควิด!!! แต่มึงก็ทำให้กูไม่ต้องแหกขี้ตาตื่นไปเรียนตอนเช้าถ้าตื่นมาไม่ทันอาจารย์ไลฟ์สอนสดก็มานั่งดูวีดีโอได้ อันนี้กูทดความเกลียดโควิดลงมาให้นิดหน่อยก็ได้ ถือว่ามีข้อดีอยู่บ้างละนะ

ก๊อกแก๊ก

ก๊อกแก๊ก

ในขณะที่นั่งจ้องนางเอกอกตู้มในจอทีวีอยู่ผมก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างอยู่หลังผ้าม่าน คือวันนี้ครึ้มๆไม่มีแดดครับ ผมเลยเปิดประตูระเบียงไว้ รับลมหน่อย เปิดแอร์ทุกวันไม่ไหวอะ ภูมิแพ้จะแ*กเอาได้ ทุกวันนี้ก็อยู่ในห้องแอร์จะ24 ชั่วโมงอยู่แล้วขอเปิดรับอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกบ้างเถอะ

ผ้าม่านสีเทาเข้มตรงประตูระเบียงสั่นไหวขยับไปมาเหมือนมีอะไรบางอย่างนูนๆอยู่ใต้ผ้าม่าน มันขยับยุกยิกอยู่สักพักก็หยุด แล้วอีกสักพักก็ขยับ ผมลุกขึ้นยืนจ้องตรงนั้นอยู่สักพัก แล้วแม่งจู่ๆก็มีขนอะไรสักอย่างโผล่ออกมาจากหลังผ้าม่าน ผมเลยเดินเข้าไปใกล้ๆ

ใกล้ๆ

ใกล้ๆ

เมี๊ยว!!!

"ไอ้เ*ี้ย ตัวอะไรวะเนี่ย ว้ายยยยยยย เ*ี้ยๆๆ" ไอ้ตัวหน้าขนสีน้ำตาลโผล่หน้าออกมาจากหลังผ้าม่าน ในปากคาบจิ้งจกหางขาดอยู่ มันวิ่งรอบห้องผมทันทีที่ผมตะโกนกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ

"ไอ้สัสสส เ*ดแม่ มึงมันสัตว์ประหลาดอะไรวะเนี่ย ว้ายยย อย่าวิ่งมาทางกู ว้ายยย ไอ้เ*ี้ย มนุษย์ต่างดาว มึงกลับขึ้นยานมึงไป อะกูหลับตาละ กูไม่เห็นมึง กูจำไม่ได้ว่าเคยเห็นมึง อะ ความจำกูเสื่อมละ ไปเลยไป" มันตัวอะไรก็ไม่รู้ครับจะว่าแมวก็ไม่ใช่ จะว่าหมาป่าก็ไม่ใช่ แล้วนั่นคือหูมันหรือเขาวะนั่นนะ เชี่ยยยย น่ากลัวสัส ผมกระโดดขึ้นไปอยู่บนเคาน์เตอร์ครัวทันทีที่ไอ้สัตว์ประหลาดนั้นวิ่งมาทางผม โชคดีหน่อยที่มันไม่กระโดดขึ้นมา มันนั่งอยู่ที่พื้นอ้าปากแล้วไอ้จิ้งจกตัวที่มันคาบไว้ก็หล่นลงบนพื้นวิ่งดุ๊กดิ๊กๆพยายามจะหนี ไอ้สัตว์ประหลาดนัานก็วิ่งตาม เอาอุ้มมือของมันไปตะปบจิ้งจกไว้ เชรดดดด โหดสัสสสส

กูอยากจะช่วยมึงนะจิ้งจก แต่ไอ้สัตว์ประหลาดนั่นมันน่ากลัวไง กูไม่กล้าลงจากเคาน์เตอร์ครัวอะ กูจะแผ่เมตตาให้มึงละกันนะจิ้งจกผู้น่าสงสาร ไอ้สัตว์ประหลาดก้มหน้าลงไปคาบจิ้งจกแล้วก็วิ่งรอบห้องผมเลยครับ

"เฮ้ยยยย ว้ายยยย ไอ้เ*ี้ย ของกูพังหมด เฮ้ยยยยย"

ก๊อกๆๆ

เชรดดด เสียงสวรรค์ มีใครไม่รู้มาเคาะประตูห้องผม แต่ผมไม่กล้าไปเปิดไง ไอ้สัตว์ประหลาดตอนนี้ลงไปนอนใต้โซฟาแล้ว ส่วนเคาน์เตอร์ครัวที่ผมอยู่ก็ไม่ได้ห่างจากประตูเท่าไหร่ ผมลองคำนวณตามหลักฟิสิกส์แล้วผมน่าจะถึงประตูก่อนที่ไอ้หน้าขนนั่นจะวิ่งมาตะปบผมได้ คิดได้แบบนั้นผมก็ถลาลงจากเคาน์เตอร์ครัวพุ่งไปยังประตูห้องทันที เปิดประตูออกแล้วเอาตัวเองออกมาจากห้องแล้วรีบปิดประตูคอนโดลงทันที

แฮกๆๆๆๆ

เ*ี้ย เหนื่อยสัส วิ่งแค่นี้ทำไมมันเหนื่อยแบบนี้วะ หัวใจกูเต้งแรงกว่าตอนทำคาดิโออีก ว่าแต่ใครมาเคาะประตูห้องกูวะ

"คุณครับ" อ้อ ไอ้เด็กข้างห้องนี่เอง มันชื่อไรนะ..ตุง..คุง..คัง??? ช่างแม่ง กูจำไม่ได้ มีปัญหาเรื่องจำชื่อคนอะบอกไว้ตรงนี้ กูจำได้แค่มึงเอาถั่วงอกมาให้กูห้ากล่องเมื่ออาทิตย์ก่อน ถามว่ามันเอามาให้ผมทำไม ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าไม่รับไว้ก็สงสาร มันมายืนตีหน้าเศร้าเหมือนจะร้องไห้เอาให้ได้ถ้าผมไม่รับกล่องถั่วงอกมันมา ปกติผมไม่รับของจากคนแปลกหน้านะบอกเลย แต่ไอ้เด็กนี่มันเป็นพ่อมดครับ! พอมันมองตาแล้วคุณต้องทำตามอะ เป็นไรไม่รู้ จู่ๆมือก็ยื่นออกไปรับกล่องถั่วงอกในมือมันมาไว้เฉย...เอ่อ! มึงเล่นของใส่กูใช่มั้ย!?!?!

"เออ"

"คุณร้องเสียงดังผมเลยมาเคาะ คุณเป็นไรรึเปล่าครับ" เชรดดด มันเป็นคนดีอะ มีเป็นห่วงเป็นใยด้วย ถ้าเป็นผมได้ยินคนร้องนะผมต้องโทรเรียกรปภละ ไม่มาเองหรอก อันตรายเหอะ!

"เชี่ยยย มึงมาก็ดี มีโทรศัพท์ป่าวขอยืมหน่อย" ผมนึกได้ว่าไม่ได้หยิบมือถือออกมาจากห้อง เลยยืมโทรศัพท์ของไอ้ถั่วงอกมันก่อน จะโทรไปเรียกรปภด้านล่างมาจับไอ้สัตว์ประหลาดอะครับ

"นี่ครับ" มันยื่นมือถือมาให้ผม ผมก็ยื่นมือไปรับมา แต่ที่พีคกว่านั้นคือ ในหน้าจอมือถือมันมีรูปไอ้สัตว์ประหลาดตัวเดียวกันกับที่อยู่ในห้องผม!!!!

"นี่มึง มึงรู้จักไอ้นี่หรอ" ผมยกโทรศัพท์มันที่มีรูปแบคกราวน์เป็นไอ้สัตว์ประหลาดสีส้มหน้าขนที่กินจิ้งจกอยู่ใต้โซฟาห้องผม

"ใช่ครับ นั่นอันอัน คุณเห็นอันอันมั๊ยครับ หายไปไหนไม่รู้ ผมเรียกหาตั้งนาน หาไม่เจอเลย" มันมองผมตาใสแบ๊วไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรทั้งนั้น เอาอีกแล้วครับ เวลามองตามันเหมือนถูกสะกดให้ต้องทำตามสิ่งที่มันพูด

"โห ไอ้สัตว์ประหลาดสีส้มนั่นสัตว์เลี้ยงมึงหรอ"

"ใช่ครับ อันอัน ลูกผมเอง"

"งั้นมึงไปเก็บมันออกมาจากห้องกูเดี๋ยวนี้เลย ตัวเ*ี้ยไรไม่รู้หน้าตาประหลาด มึงก็ดูแบ๊วๆ ทำไมเลี้ยงอะไรแบบนี้วะ"

"อันอันไม่ใช่สัตว์ประหลาดนะครับ อันอันเป็นแมว"

"..." เชี่ย กูไม่เชื่อ ดูยังไงก็ไม่ใช่แมว มันสัตว์ประหลาดชัดๆ อึ๋ย นึกภาพยังขนลุกเลย คนอะไรวะเลี้ยงสัตว์น่สตาพิลึกกึกกือ ผมเปิดประตูห้องให้ไฮ้ั่วงอกนั้นเข้าไปแล้วก็ปิดประตูลง ผมรออยู่หน้าห้องละกัน ให้เจ้าของมันไปจัดการแมวมันเองละกัน เรื่องอะไรกูจะเข้าไป เชี่ยยย ขนลุก! แล้วกูก็ไม่เชื่อด้วยว่านั่นอะคือแมว มึงอย่ามาหลอกกู สัตว์พิสดารอะไรวะ กูไม่เคยเห็น!!!! มึงเป็นพ่อมดแหละกูรู้!

ใช้เวลาไม่นาน ประตูคอนโดของผมก็เปิดออก พร้อมกับไอ้ถั่วงอกที่อุ้มสิ่งที่มันเรียกว่าแมวอยู่ในอ้อมอก เชี่ยยยย แล้วไอ้แมวนั่นก็อยู่นิ่งซะงั้น ทีเมื่อกี้ละวิ่งรอยห้องกูเชียว มันตัวเดียวกันแน่หรอวะ? อ๋อ มึงคือพ่อมดนี่เอง พูดแล้วสัตว์เชื่อฟังแบบนี้ใช่มั้ย กูรู้ละ กูเข้าใจ!

"อันอัน ทักทายคุณข้างห้องหน่อยสิ" ไอ้เด็กแคระมันใช้นิ้วจิ้มลงไปที่ท้องสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดสองสามที

เมี๊ยว!!


เชี่ยยยย บอกให้ร้องก็ร้องหรอวะ เ*ดแม่ โอ้ มาย ก๊อดดดด อีอันอัน! ตอนกูบอกให้มึงหยุดวิ่งในห้องกูทำไมมึงไม่ฟัง หะ?!?!?

"คุณข้างห้องทักทายอันอันหน่อยสิครับ ท่าทางอันอันจะขอบคุณนะครับ" มันมองตาผมครับ สั่งให้ผมทักทายแมวมัน คือผมพูดภาษาแมวไม่ได้ไง ปกติต้องทักทายยังไงวะ อ้อ กูนึกออกละ...


"เมี้ยยยยยวววว"

"ฮะๆๆๆๆ คุณตลกจัง ร้องเมี๊ยวด้วย" อ้าว นี่กูร้องหรอ กูนึกว่าพูดออกเสียงธรรมดานะเนี่ย

เมี้ยว! เมี้ยว!

แล้วอีอันอันก็ร้องตอบผมเพิ่มเติม มึงไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีกับกูอีแมวประหลาด!

"อันอันชอบคุึจริงๆด้วย อุ้มมั๊ยครับ" มันยื่นแมวสีส้มมาให้ผมครับ! มึงจะบ้าหรอ ใครจะอุ้ม! มึงดจฟันมัน ถ้ากัดแขนกูเข้าไปนี่กูไม่กลายเป็นซอมบี้หรอ ไม่เอ๊าาาา


"มึงอุ้มมันถอยไปไกลๆกู คือ กู กู ไม่ค่อยชอบสัตว์" ปกติกูชอบนะหมาแมว แต่กับอันอันของมึงเนี่ยกูไม่ไกวจริงๆถั่วงอกเอ้ยยย...

"อ้อ ไม่เป็นไรครับ คุณแฟน"

"แฟง ไม่ใช่แฟน"

"อ้อ แฟง งอ งู นี่เอง" ทำหน้าเหมือนบรรลุโสดาบันอะเวลาพูดชื่อกูถูก คราวที่แล้วกูก็สะกดให้ฟังไปแล้วนะ มึงเสือกสะกดตามไม่เป็นเอง ช่วยไม่ได้

"คุณแฟงผมขอเข้าไปในห้องคุณหน่อยสิครับ มีอะไรอยากคุยกับคุณหน่อย"

"เออ มาๆ เข้ามา"

แล้วผมก็มานั่งอยู่บนโซฟาที่เดิมก่อนเกิดเหตุ ส่วนมันก็นั่งอยู่ตรงเก้าอี้โต๊ะกินข้าว เพราะผมบอกว่าไม่ค่อยเลิฟสัตว์เท่าไหร่ แต่ที่ไหนได้คือบอกเลยว่ากูกลัวอีอันอันบนอกมึงอะ

"มึงมีไรก็รีบพูด"

ผมมองหน้าเด็กส่งถั่วงอกอยู่นาน มันพล่ามอะไรสักอย่างไม่รู้เกี่ยวกับช่องยูทูป ผมฟังบ้างไม่ฟังบ้าง ตาก็จ้องไอ้อันอันไปด้วย กลัวมันกระโดดออกจากอกพ่อมันกระโจนมาใส่ผม ผวาครับ บอกเลย น่าตาแม่งน่ากลัวสัสสส แมวห่าไรวะ ให้ฟรีกูยังต้องคิดดูอีกทีเลย ผิดกับเจ้าของมันลิบลับ ไอ้เด็กข้างห้องนี่ชื่อ คุน ครางนี้ผมจำได้ละ มันบอกว่า คุน ที่สะกดด้วย นอ หนู ไม่ใช่ ณอ เณร แปลว่าแผ่นดิน เป็นภาษาจีน ชื่อน่สรักเข้ากับกน้าตามันแหละ อืม...มันน่ารักจริง ตัวขาวๆ นุ่มนิ่ม ไม่สูงมาก แถมมีแก้มย้วยๆด้วย เออ น่ารักวะ ถ้าเอามันมาเป็นสัตว์เลี้ยงผมยอมเลี้ยงนะบอกเลย ..เชี่ย....นี่กูคิดอะไรอยู่วะเนี่ย กูเลยไม่ได้ฟังที่มันพูดเลย

"แบบนี้คุณตกลงมั๊ยครับ"

"โอเค ตกลง"

"จริงหรอครับ" ฮ๊ะ อะไรนะ ตกลงอะไร นี่กูไปเอออกห่อหมกตกลงอะไรกับมันวะเนี่ย เอาอีกแล้วมั๊ยละ มึงใช้ไสยศาสตร์กับกูอีกแล้ว!!

"ถ้างั้นเราเริ่มพรุ่งนี้เลยได้มั้ยครับ....." แล้วมันก็สาธยายออกมาเป็นวรรคเป็นเวร คราวนี้ผมฟังอย่างตั้งใจอะ พยายามไม่มองหน้ามันแล้วก็อันอันด้วย สรุปได้ว่ามันให้ผมไปช่วยทำช่องยูทูปของมัน แล้วมันจะตอบแทนผมด้วยการทำกับข้าวให้กิน อืม...ก็ฟังเข้าท่านะ ตอนนี้เบื่ออาหารซุปเปอร์ด้านล่างแล้ว ละก็ขี้เกียจสั่งแกร๊ปฟู๊ดแล้วด้วย แล้วประเด็นคือว่างอะ ว่างถึงว่างที่สุด ออกไปไหนก็ไม่ค่อยได้ หาอะไรปัญญาอ่อนทำแก้เบื่อก็น่าจะดีๆ

พอตอบตกลงไปมันก็พุ่งถลาเข้ามากอดผม ไม่ใช่สิต้องบอกว่ามันจับผมกดลงนอนบนโซฟาแล้วก็เอาตัวเองขึ้นมานั่งคร่อมมม เชี่ย! ล่อแหลม อริยาบทล่อแหลมสัสสสสส แล้วคือกูไม่ได้ใส่เสื้อไง มือบางๆนิ่มๆของมึงมาวางตรงอกกูนี่ของกูแทบขึ้น จะวางพ่องงงง!

ไม่ใช่แค่นั้น มันยังหอมแก้มผมสลับกันไปมาอีก ไอ้ เ*ดแม่ ใครสั่งใครสอนให้มึงทำกับคนแปลกหน้าแบบนี้ กูขอสรุปว่ามึงมาจากดาวอังคาร มึงไม่ใช่ชาวโลก แล้วมึงก็มีเวทย์มนต์! อ้อ มึงเล่นของด้วย!?!?!

ใช่! ต้องเป็นแบบนั้น! ทำไมนะหรอ..คือใจกูเต้นอะ เต้นแรง..แม่งโคตรพ่อโคตรแม่แรงมาก ตอนที่มันเอาปากลงมาซับน้ำลาย มึงฆ่ากูเลยเถอะ ไอ้คู้นนนนนนน!!!!

#คุนแฟง

by ppeachmm

-----+++++-----

ขอให้สนุกสนานกันถ้วนหน้านะครัชชชชชชช
บอกแล้วไงว่าเรื่องนี้เบาสมอง อ่านจบรอยหยักในสมองหายเกลี้ยงงงรับประกันความวายป่วง!

อันอันเป็นแมวพันธุ์คาราคัล นะคะ ลองหาดูในอากู๋ได้ถ้าอยากรู้ว่าเจ้าหนูหน้าตาแบบไหน


หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP.4 | 03.05.2019
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 03-05-2020 13:35:25
 :pig4:
 o13
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP.4 | 03.05.2020
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 03-05-2020 18:29:33
แวะมาแปะรูปน้องอันอัน แมวพันธุ์คาราคัลคะ

หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP.4 | 03.05.2020
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 03-05-2020 18:33:10
 :L1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP.4 | 03.05.2020
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 03-05-2020 19:18:17
เเมวน่ารัก
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP.4 | 03.05.2020 ❤️❤️
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 04-05-2020 00:10:44
---ตอนที่ 5---

แฟง's part

"คุณใส่เสื้อทำไมครับ" ไอ้เด็กถั่วงอกที่นั่งเท้าคางอยู่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามผมเอ่ยถามขึ้น ตอนนี้สิบโมงแล้วครับ มันนัดผมมาทำไลฟ์ลงยูทูป ผมยังไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะทำคลิปอะไร คือมึงจะทำคลิปอะไรกูก็ไม่ว่า ขอแค่อย่างเดียวคืออย่าทำคลิปโป๊เท่านั้นแหละ แม่งอุจาดตา  ตำรวจจะมาหามไปโรงพักซะก่อน เรียนก็ยังไม่จบ ถ้านิรันดร์รู้นิรันดร์ไม่โอนค่าขนมให้กูแน่ๆ

"อ้าว ออกจากห้องก็ต้องใส่เสื้อสิวะ มึงจะให้กูแก้ผ้ามาห้องคนอื่นหรอ ไอ้เด็กนี่" ผมบ่นพึงพำก่อนตักข้าวผัดกุ้งตัวโตๆเข้าปาก แม่ง ข้าวผัดอะไรวะกูไม่เคยกิน หน้าตาเหมือนใส่ผักมาทั้งสวน ทั้งแครอท ทั้งผักคะน้า ทั้งเห็ดหอม สุขภาพสัสๆ แถมมีกุ้งตัวเกือบเท่าลูกกุ้งมังกรวางแปะอยู่บนข้าว ส่วนรสชาติ...เ*ดแม่...โคตรพ่อโคตรแม่อร่อย ไอ้ถั่วงอกมันไม่ได้มาเล่นๆวะ มันจริงจังอะ เชฟเอียนมาเองหรอวะเนี่ย

"ก็เปล่าครับ แต่ปกติเราเห็นคุณไม่ใส่เสื้อไง นึกว่าแบบ ชอบโชว์ไรงี้"

"เอ๊ะ ไอ้นี่ กูร้อนไงกูก็เลยถอด ถ้าห้องมึงร้อนกูก็จะถอดเสื้อแล้วเนี่ย"

"ห้องผมเปิดแอร์ตลอดไม่ร้อนหรอกครับรับรอง คุณทานกุ้งด้วยสิผมสั่งมาพิเศษเลยนะ"

"มึงสั่งมาจากไหนหรอ" ผมเคี้ยวข้าวในปากแล้วเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัยเพราะไม่เคยเห็นกุ้งไซส์นี้ในซุปเปอร์ด้านล่างเลย

"ภูเก็ต"

"ฮ๊ะ? มึงลงไปซื้อซุปเปอร์ข้างล่างไม่ได้หรอ"

"ไม่ได้หรอกครับ คุณแฟงบอกว่าให้ผมทำอาหารสุขภาพให้ทานไงครับ"

"แล้วมันต้องสั่งกุ้งมาจากภูเก็ตเลยหรอวะคุน?"

"ใช่สิครับ กุ้งสดๆ จากฟาร์มสะอาด การันตีโดยเชฟโรงแรมห้าดาว สะอาดไม่มีสารปนเปื้อน เชื่อผมได้ครับ ผมสั่งมาทานประจำ นี่จากฟาร์มเจ้าประจำผมเลยครับ"

"มึงสั่งกุ้งแบบนี้มากินบ่อยๆ?"

"ไม่บ่อยหรอกครับ เดือนละครั้งสองครั้งเอง คุณแฟนทานเยอะๆนะครับผมทำไว้เยอะกลัวคุณแฟงไม่อิ่ม" โห สั่งกุ้งตัวขนาดนี้มากินเดือนละสองครั้ง พ่อแม่มึงไม่ด่าให้รึ ไอ้เด็กตัวเล็กมันนั่งมองหน้าผม เหมือนหมานั่งมองเจ้าของยังไงยังงั้น แล้วไหนมึงบอกว่าไม่มีเงินซื้อข้างให้อีอันอันจนต้องมาทำช่องยูทูป แต่มึงมีเงินซื้อกุ้งตัวเท่าควาย?!?! ย้อนแย้งนะมึงเนี่ย...

"แล้วมึงไม่กินรึไงนั่งมองหน้ากูอยู่ได้"

"ผมทานแล้วครับ คุณแฟงทานตามสบายเลยไม่ต้องเกรงใจ ทานเยอะๆเลยครับ อร่อยมั้ยครับ"

"ก็ดี"

"อ้าว ไม่อร่อยหรอ" มันทำหน้าหงอยทันทีที่ผมตอบว่ารสชาติอาหารมัน 'ก็ดี' จริงมันก็อร่อยแหละ แต่กูไม่เคยชมใครไง กูไม่บอกว่ารสชาติแย่ก็ดีแค่ไหนแล้ว

"กูบอกตอนไหนว่าไม่อร่อย"

"ก็คุณแฟงบอกว่า ก็ดี ไม่ได้บอกว่าอร่อย" มันขมวดคิ้วเอียงคอมองหน้าผมทำตาปริบๆ ส่งสายตาพ่อมดมาอีกแล้ว มึงเล่นไสยศาสตร์ใส่กูอีกแล้วไอ้เด็กเวร

"เออ อร่อย"

"..."  และแล้วผมก็ต้องพูดสิ่งที่ไม่เคยพูดออกไปจนได้ ไอ้ถั่วงอกยิ้มตาหยี ปกติตาชั้นเดียวของมันก็แทบจะมองไม่เห็นลูกกะตาอยู่แล้ว นี่ยิ้มกว้างขนาดนี้ ตาแม่งเหลือแค่เส้นเดียวเอง ไอ้ตี๋แคระเอ้ย

"นี่มึงเรียนโรงเรียนเอกชนตรงข้ามนี่หรอ" ผมถามออกไปเพราะสงสัยมานานละ เดี๋ยวนี้เด็กมัธยมสมัยนี้พ่อแม่ปล่อยให้อยู่คอนโดคนเดียวได้แล้วหรอวะ สมัยผมนะนิรันดร์โทรตามให้กลับบ้านทุกวันอะ ขอไปนอนบ้านเพื่อนก็ไม่ได้ ตามติดชีวิตผมแจยังกะเป็นเป็นพวกใต้เตียงดารา สามทุ่มปุ๊บถ้ายังไม่ถึงบ้านนี่ต้องรอรับโทรศัพท์นิรันดร์ได้เลย แล้วก็ต้องเตรียมหูชาด้วย แม่งบ่นอย่างต่ำสิบนาทีอะ ขี้บ่นชิบหาย นี่ถ้าไม่ใช่พ่อนะผม...ละ...อย่าบอกนิรันดร์นะ เดี๋ยวโดนลดค่าขนม นิรันดร์ครับผมรักนิรันดร์ที่สุดนะ!

"เปล่า เราอยู่มหาลัย SU "

"ฮ๊ะ นี่มึงอยู่มหาลัยแล้วหรอวะ"

"ใช่ครับ ผมอยู่ปีหนึ่ง นิติศาสตร์ภาคอินเตอร์" อ้อ ที่แท้ก็พวกลูกคุณหนูมีตังค์จ่ายค่าเทอมราคาหลักแสนนี่เอง มิน่าละข้าวของเครื่องใช้แต่ละอย่างในห้องมึงถึงดูแพงทั้งนั้น

"แล้วคุณแฟงละ เรียนช่างกล วิทยาลัยตรงสี่แยกนั่นหรอ"

"มึงคิดว่ากูเป็นเด็กช่าง?" อืม เจริญ...ทำไมใครๆก็คิดว่ากูเป็นเด็กช่างกลจังวะ นิรันดร์รู้นิรันดร์จะเสียใจมั๊ยเนี่ยส่งกูเรียนหมอแต่กลับมีคนคิดว่ากูเรียนช่าง!

"ครับ"

"ทำไมไม่คิดว่าหน้าตาอย่างกูจะเรียนหมอวะ"

"เห้ย ไม่ได้หรอกครับ คุณแฟงเรียนหมอไม่ได้หรอก หมอต้องดูสะอาดๆ เรียบร้อยๆ ดูสุภาพๆด้วยครับ"

"อืม แล้วแต่มึงจะคิดเถอะถ้างั้น" ไอ้ถั่วงอก! ผีเจาะปากมึงมาพูดรึไง กูดูไม่สะอาดตรงไหนวะ เสื้อผ้ากูก็ซักซะหอม กูใส่กางเกงยีนส์เดปขาขาดเข่าเข้าหน่อยหาว่ากูสกปรก แค่กูมีหนวดอ่อนๆขึ้นมาหาว่ากูดูไม่เรียบร้อย โอ้ย ตรรกะความคิดมึงนี่ต้องเอามาตบเรียบเรียงใหม่เลยนะ

"คุน"

"ครับ"

"ไม่ต้องเรียกกูว่าคุณแฟงก็ได้ เรียกกูว่าพี่ก็พอ คำว่าคุณมันเหมือนห่างเหินวะ"

"ก็ถูกแล้วนี่ครับ เราไม่รู้จักกันซะหน่อย"

"เอ้า ไอ้เด็กเวรนี่ สรุปนี่ที่เรียกกูเข้ามาในห้องนี่คืิอเรายังไม่รู้จักกันหรอวะ มึงปล่อยให้คนที่ไหนไม่รู้เข้ามาในห้องมึงง่ายๆแบบนี้ได้ไงวะ" งง กับมันจริงๆ นี่กูคิดว่ากูเริ่มสนิทกับมึงพอประมาณแล้วนะเนี่ย เห็นคุยเล่นกับกูเป็นวรรคเป็นเวรเมื่อวาน กว่ากูจะไล่มึงกลับมาห้องมึงได้นี่เกือบสามทุ่มนะได้ยินข่าว แล้วกูเป็นอะไรในสายตามึงวะไอ้แคระ!

"ก็จริงอย่างคุณแฟงพูดนะครับ งั้นผมว่าเราสนิทกันแล้วนิดนึงนะครับ"

"..." กูปวดประสาท แม่งซื่อจนโง่ โอ้ย นี่ถ้ากูเป็นมิจฉาชีพกูจะยกเค้าของทุกอย่างในห้องมึงไปขายซะเลย คงซื้อรถได้สักคันละกูว่า แค่ทีวีก็หลักแสนแล้วนะ สมาร์ททีวีจอแบนขนาด 65" จอทัชสกรีนซะด้วย ที่รู้ราคาเพราะเดือนที่แล้วร้องไห้อยากได้มากแต่นิรันดร์ไม่ซื้อให้เลยได้แบบจอไม่ทัชสกรีนมา นิรันดร์ใจร้ายกับผมมากเลยช่วงนี้ ลดค่าขนมผมอีกบอกว่าอยู่แต่ห้องไม่ได้ออกไปไหนน้ำมันรถไม่ได้เติมก็ต้องลดเงินรายเดือนลง แต่นิรันดร์จะไปรู้อะไรอยู่แต่ในห้องนี่แหละค่าใช้จ่ายบานเบรอะไหนจะค่าแอร์จากที่เคยจ่ายเดือนละไม่กี่ร้อยเพราะไม่เคยอยู่ห้องเดือนที่แล้วค่าไปขึ้นมาตั้งสี่พัน โอ้ย! ไม่ขึ้นก็ให้มันรู้ไปสิอยู่ห้องเปิดแอร์มันเกือบ 24 ชม.ขนาดนี้ รัฐลดค่าไฟลงให้หน่วยละ 11 สต. จะไปช่วยไรได้วะแม่ง ไหนจะค่าแกร็ปฟู้ดที่สั่งมาแ*กทุกวัน มีตัวเลือกที่ไหน แล้วเจ้มณร้านตามสั่งหน้าคอนโดเสือกปิดอีกไงเห็นคนแถวนั้นบอกแกกลับต่างจังหวัดจนป่านนี้ยังไม่กลับมาเลยกูก็สัางแกร็ปฟู้ดวนไปสิครับ จากที่เคยกินข้าวกระเพราะไข่ดาวจานละห้าสิบ ตอนนี้ต้องสั่งข้าวหน้าเทอริยากิจานละ159 มาแ*กแทน เห็นมั้ย รายจ่ายเพิ่มอะนิรันดร์!

ผมตัดสินใจไม่ถามอะไรมันต่อ เดี๋ยวยาวไง มันยิ่งพูดมากอยู่ ผมรีบจัดการข้าวผัดในจานให้เรียบร้อยตบท้ายด้วยกุ้งตัวยักษ์ แม่ง กุ้งห่าไรวะ อร่อยชิบหายยย พอเห็นผมกวาดข้าวเม็ดสุดท้ายในจานเรียบร้อยไอ้ถั่วงอกก็ยกจานผมไปล้างทันที แล้วก็เอาแก้วน้ำมาวางไว้ให้ผมดื่ม แม่ง บริการดีวะ
.
.
.
.
.

"ไหนบอกมาซิว่ากูต้องทำไรบ้าง" ผมถามออกไป ตอนนี้นั่งรอไอ้ชายคุนอยู่ตรงโซฟา มันกำลังไปหยิบกล้องกับแมคบุ๊คอยู่แล้วก็ไมค์อนู่ อย่าทำเป็นเล่นนะเว้ย อุปกรณ์แม่งพร้อมอะมีไฟด้วย เชรดดดด ยังกะสตูดิโอขนาดย่อมเลยเนี่ย ก่อนหน้านี้มันเล่าว่ามันทำไลฟ์สดมาได้สิบกว่าคลิปแล้วแต่ยอดผู้ชมน้อยมาก แล้วก็ชอบมีพวกโรคจิตเข้ามาก่อกวน ขอเบอร์บ้างละ ขอจีบบ้างละ อืม...ก็สมควรอะ..มึงก็ แบบ ดูน่ารักไง...เอ๊ะ นี่กูเป็นอะไรวะ โดนไสยศาสตร์มันอีกแล้วหรอถึงบอกว่ามันน่ารัก ผู้ชายน่ารักได้ด้วยหรอวะ!?!?! มันต้องมีอะไรในกุ้งยักษ์ตัวเมื่อกี้แน่ๆ กูรู้ กูเห็น!

"เราว่าจะทำคลิปออกกำลังกาย"

"ฮ๊ะ มึงนี่นะ เนื้อย้วยๆแบบมึงนี่นะจะทำคลิปออกกำลังกาย" มึงเอาอะไรมาคิดดดด ใครจะมาดูมึ้งงงงกล้ามเนื้อไม่มีเลยสักนิด เนื้อนี่นุ่มนิ่มไปหมด แบบนี้ใครเขาจะเข้ามาดูมึง โอ้ย ปวดประสาท เอ๊ะแต่เดี๋ยวก่อน....หรือว่า....

"ไม่ใช่เรา พี่ต่างหาก"

"..." นั่นไง กูว่าละ มิน่าละถึงเรียกกูมา แล้วก็บริการดีชิบหาย เสริฟข้าวเสริฟน้ำให้กินเยี่ยงราชา ที่แท้มึงหวังผลตอบแทนสูงแบบนี้นี่เอง

"พี่ไง อย่าเบี้ยวเรานะ เราจ่ายค่าจ้างเป็นข้าวผัดกุ้งแล้วด้วย" กูคายออกมาตอนนี้ทันมั้ยวะ ละมันก็เอาอีกแล้วครับท่าน มองตาผมปริบๆ แล้วก็จบอีหรอบเดิม

"เออ ก็ได้" นั่นไง เคยค้านสายตาขอร้องวิงวอนของมันได้ที่ไหน โอ้ยยยยย นิรันดร์ช่วยผมด้วย! ผมอยากกลับบ้าน! แล้วมันก็บังคับให้ผมถอดเสื้อ แล้วก็ใส่กางเกงออกกำลังกายที่มันแกะออกมาจากห่อ โห นี่มึงลงทุนซื้อชุดออกกำลังกายให้กูใหม่เลยหรอวะ? คราวหลังมึงบอกกูก็ได้กูจะได้หยิบมาจากห้องกู แต่ปล่อยมันคับอย่าไปทักท้วงอะไรเดี๋ยวยาว อะ! มึงอยากซื้อก็ซื้อ กูก็แค่ใส่ จบป๊ะ!

แล้วก็มีเรื่องให้กูปวดหัวอีกจนได้ คือสรุปมันคิดแค่ว่าวันนี้จะทำคลิปที่มีคอนเทนต์เป็นการสอนออกกำลังกาย มันคิดแค่นั้นจริงๆครับ ที่เหลือผมต้องคิดและทำเองหมด ผมต้องมานั่งคิดว่าจะสอนท่าไหนบ้าง และก็ต้องทำโชว์ ส่วนมันก็นั่งประดับกล้องโชว์หน้าตาน่ารักของมันเฉยๆ จนจบสามสิบนาที กูนี่เหนื่อยเลยนะ ทั้งพูดทั้งออกกำลังกายโชว์ หลังๆก็นั่งเปลี่ยนเพลงไป คุยตอบกับคนที่เข้ามาชมไปด้วย

"คุน" มันกำลังเก็บอุปกรณ์กล้องและไมค์ใส่กล่องอยู่

"ครับผม"

"กูว่าให้กูทำขนาดนี้ ข้าวผัดจานเดียวไม่คุ้มละนะ" ผมพูดพรางหยิบเสื้อยืดของตัวเองที่วางพาดอยู่บนโซฟาขึ้นมาสวม แล้วก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาหนา

"พี่แฟงอยากกินอะไรละครับ เดี๋ยวเราทำให้ วันนี้พี่แฟงเก่งมากเลย มีคนมาดูเราเยอะมากกกก คุนดีใจม๊ากกกมากกก" อืมมม ขณะที่ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะกินอะไรดีเอาให้คุ้มกับค่าเหนื่อยหน่อย ไอ้ถั่วงอกมันก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ คือใกล้มากอะ อีกนิดคือจมูกจะชนจมูกแล้วนะไอ้คู้นนนน

"คุน ถอยไป เหม็นเหงื่อ" ผมเอื้อมมือไปดันหน้ามันออกทันที แม่งเอ้ย ใจกูเต้นแรงอีกแล้ววะ ไอ้แฟงมึงจะมาทำเหมือนมีป๊อปปี้เลิฟแบบนี้ไม่ได้นะ นี่มันเด็กปัญญาอ่อนเอามาทำแม่พันธุ์ไม่ได้ หยุดคิดอะไรบ้าๆ!?!?!

"อืม ก็เหมือนจริงๆนะครับ แล้วพี่แฟงจะทานอะไร เดี๋ยวเราทำให้" มันเอามือปัดๆตรงจมูก ทำท่าฟึดฟัดเหมือนเวลาเราเอาอะไรไปแหย่จมูกหมาแมวอะครับ เออ ว่าแต่อีอันอันมันไปไหนวะเนี่ย ตั้งแต่เข้ามายังไม่เห็นเลย แต่ก็ดีแล้ว แม่งน่ากลัว โบราณเข้าป่าอย่าถามหาเสือ และถ้าเข้าห้องคุนก็ต้องอย่าถามหาอันอัน!

"แล้วในตู้เย็นมึงมีอะไรบ้างละ"

"ก็มีหลายอย่างนะครับ เดี๋ยวเราไปดูก่อน" ว่าจบมันก็เดินไปเปิดตู้เย็น ผมชะโงกหน้าตามหลังมันไป เชรดดดด ของกินเต็มตู้เย็นเลย นี่มึงยกของสดในซุปเปอร์ด้านล่างมาไว้ในตู้เย็นมึงรึไงหะ?

"ถ้าของในตู้เย็นมึงจะเยอะขนาดนี้ กูว่ามึงเปิดขายอาหารตามสั่งในคอนโดเหอะ ท่าทางจะรุ่ง"

"พี่แฟงว่าอย่างนั้นหรอครับ"

"กูประชดมั๊ยละ!!!"

โอ้ยปวดประสาท ผมปล่อยให้มันจัดการทำอาหารไปแล้วก็ขอตัวกลับไปอาบน้ำที่ห้องตัวเอง ถึงแม้มันจะบอกว่าให้อาบน้ำห้องมันได้ แต่ไม่เอาอะ ชอบอาบห้องตัวเองมากกว่า อีกอย่างห้องผมก็อยู่ตัดกับห้องมันแค่นี้เองไม่ได้ขี้เกียจเดินขนาดนั้นนะ ผมอาบน้ำสระผมแต่งตัวเรียบร้อยใช้เวลาไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็เดินกลับมาที่ห้องของไอ้คุณ

ไอ้เด็กนี่มันไม่ล๊อคประตูครับ!

"คุน ทำไมไม่ล๊อคประตู"

"ก็เดี๋ยวพี่แฟงก็มา เราเลยไม่ล๊อค"

"แต่ชั้นนี้ไม่ได้มีแค่กูกับมึงไง ถ้าคนอื่นที่มึงไม่รู้จักเข้ามาในห้องมึง มึงจะทำยังไง"

"ผมก็บอกว่า 'คุณเข้าผิดห้องครับ' แบบนี้ละครับ"

"แล้วมึงคิดว่ามึงพูดแค่นั้น คนนั้นก็จะเดินออกจากห้องมึงไปเฉยๆงั้นหรอ"

"ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วสิครับ" มันพูดตามทั้งๆที่กำลังสาละวนอยู่กับอะไรบางอย่างในกระทะ ได้ยินคำตอบมันละก็ต้องส่ายหัว นี่มันถูกเลี้ยงดูมาแบบไหนวะเนี่ยถึงได้มองโลกในแง่ดีขนาดนี้

"คุน"

"ครับ" มันตอบรับแล้วก็ตักอะไรบางอย่างในกระทะลงในจานด้วยท่าทางคล่องแคล่ว ไม่รู้ทำไม ทุกท่วงท่าการขยับเขยื้อนของมันถึงดูน่ามองไปหมด จนผมเอามือมาท้าวค้างนั่งมองมันโดยไม่รู้ตัว เพลินอะ บอกเลย.....

"มึงจะทำแบบนี้ไม่ได้ ถ้าเกิดเป็นมิจฉาชีพเข้ามาในห้องมึงจะทำยังไง มันอาจจะทำร้ายมึง ขโมยของมึง อ้อ แล้วก็ขโมยอันอันของมึง"

"หรอครับ" มันทำหน้าสงสัยในสิ่งที่ผมพูด คุนเดินออกมาจากหน้าเตา ยกจานสองจานมาวางไว้บนโต๊ะทานอาหาร ผมว่ามันไม่สนใจเรื่องคนทำร้ายหรือขโมยของหรอก ผมว่ามันสนใจแค่คนจะขโมยอันอันของมันมากกว่า มันดูรักมากอะ แล้วอีกอย่างนะ ผมแอบไปเซิร์สดูราคาอีอันอันมา โอ้โห...ตัวละสามแสน...เชี่ยยยย

"คราวหลังต้องระวังมากกว่านี้ ล๊อคห้องทุกครั้งเข้าใจมั๊ย"

"ก็ได้ครับพี่แฟง แต่อันอันไม่น่าหายหรอกครับ ฟาร์มเค้าฝังไมโครชิพมาให้ด้วย" หือ? ต้องทำขนาดนี้เลยหรอวะ อย่างว่าละนะ แมวราคาสูงแถมยังมีสัญชาตญาณนักล่าด้วย กูนึกไม่ออกเลยว่าตอนมันโตเต็มตัวจะตัวใหญ่แค่ไหน คุนจะถูกแมวกินมั้ยเนี่ย....

ไอ้ถั่วงอกถอดผ้ากับเปื้อนสีขาวลายลูกแมวออกก่อนจะมานั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับผม

"ไม่รู้อร่อยรึเปล่า เราเห็นเค้าสอนทำในยูทูป เลยลองทำตามดู พี่แฟงทานแซลมอนได้มั๊ยครับ"

"กูแ*กได้ทุกอย่างแหละ" ผมมองดูจานอาหารที่น่ากินตรงหน้า นี่มึงเพิ่งเคยทำครั้งแรกหรอวะเนี่ย หน้าตาเหมือนเชฟเอียนทำเองเลย มึงโกหกกูใช่มั้ย!?!?!

"สเต็กแซลมอนไวท์ซอสครับ"

"หน้าตาดี"

"เรารู้ครับ ใครๆก็บอกว่าเราหน้าตาดีทั้งนั้น"

"คุน กูไม่ได้หมายถึงมึง กูหมายถึงแซลมอนในจาน"

"ครับเรารู้ เราแค่ล้อเล่นนนน" ไอ้ถั่วงอกมันรู้จักเล่นมุขแฮะ หัวเราะขำขันให้กับการตบมุขของตัวเองใหญ่เลย เด็กหนอเด็ก มึงอยู่ปีหนึ่งจริงหรอวะเนี่ย กูนึกว่าอยู่อนุบาล โอ้ยปวดกระบาล

"อร่อยมั้ยครับ อร่อยใช่มั้ย"

"คุน กูยังไม่ได้แ*กปลามึงเลย กูกำลังดื่มน้ำอยู่มึงเห็นมั๊ยเนี่ย" แล้วมันก็หัวเราะออกมาเสียงดัง คืออะไรวะ หัวเราะอยู่ได้ทั้งวัน อารมณ์ดีเกินไปละมึง ผมตักแซลมาขึ้นมาใส่ปากหนึ่งชิ้น โดยที่เชฟประจำห้องจ้องผมเหมือนจะกลืนกิน มันคงรอคำตอบแหละว่าจะอร่อยรึเปล่า

"อืม ก็...อร่อย" กำลังจะบอกว่า 'ก็ดี' แล้ว แต่เปลี่ยน ถ้าตอบแบบนั้นเดี๋ยวมันก็มันหน้างอเหมือนตอนสายๆอีก เบื่อต้องมาตอบคำถามมันซ้ำซ้อน อร่อยก็บอกไปว่าอร่อย มันอร่อยจริงๆแหละ นี่มึงทำครั้งแรกหรอวะ แม่งเขฟเอียนชัดๆ พอพูดออกไปแบบนั้นไอ้เด็กถั่วงอกมันก็ยิ้มกว้างชอบใจ เด็กหนอเด็กเวลาชมก็ยิ้มแป้น เวลาไม่ชมก็หน้างอ เราสองคนใช้เวลาในการจัดการสเต็กตรงหน้าไม่ถึงยี่สิบนาที กินไปก็พูดคุยโน่นนี่ไป แต่ส่วนมากไอ้คุณก็จะเป็นคนเปิดเรื่องขึ้นมาก่อน มันคุยเก่งครับ แก่งจนบางครั้งผมคิดว่าผีเจาะปากมันมาพูดรึไง ศัพท์ภาษาทยบางคำก็ฟังไม่เข้าใจ บางครั้งก็พูดไม่ถูกแต่ก็อยากพูด เพิ่งรู้ว่ามันเพิ่งเคยมาเมืองไทยครั้งแรกเมื่อแปดเดือนก่อน เออ..มันเก่งนะ ที่พูดได้ขนาดนี้ นับถือวะ แต่กูติดอยู่อย่าง ตอนที่มันพูดว่า ชอบกินกล้วยทอด แต่เสือกออกเสียงเป็น *วยทอด ผมเกือบสำลักนอร์เวเจียนแซลมอลที่เพิ่งกลืนลงไป โอ้ย!!!! ไอ้คู้นนนนนนนน

#คุนแฟง

by ppeachmm

-----+++---












หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP.5 | 04.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 04-05-2020 08:02:32
 :z1: พระเจ้าช่วย กล้วยทอด
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP.5 | 04.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 04-05-2020 17:55:57
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP.5 | 04.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 04-05-2020 20:10:55
---ตอนที่ 6---

(แฟง ช่วงนี้มึงกลับบ้านหรอวะ)

"เปล่านิ มึงถามทำไมวะ"

(ก็เห็นเงียบไป ไม่เห็นมึงมาขอข้าวกูกินที่ห้อง นึกว่ากลับบ้านไปหาคุณพ่อนิรันดร์แล้ว)

"เรื่องสิ กูจะกลับทำไม ขืนกลับบ้านก็ได้ถูกลดค่าขนมพอดี แล้วพูดออกมาได้นะเรื่องกูไปขอข้าวมึงกินเนี่ย ฟังเหมือนกูเป็นหมาชิบหาย"

(อ้าว ก็พูดจริงเหอะ มาเคาะห้องกูขอข้าวกินวันเว้นวัน)

"เออ ช่วงนี้กูให้โอกาสมึงอยู่กับเมียมึงสองคนไปละกัน ไม่ดีรึไงที่ไม่มีกูไปคอยเป็นก้างมึงอะ ไอ้คุณนาที"

(โห พูดซะกูอยากกราบแทบเท้ามึงเลยไอ้คุณแฟง ที่อุตส่าห์ไม่มารบกวนเวลาส่วนตัวของกูกับมายเวย์ ไม่มากินข้าวห้องกูแล้วมึงมีไรกินที่ห้องรึไงวะ อันนี้กูไม่ได้ถามนะ มายเวย์ฝากถามมาอีกที)

"มึงไม่ต้องห่วงกูหรอกน่า ช่วงนี้กูกินอิ่มนอนหลับทุกมื้อ"

(เออๆ อย่าอดข้าวละ เดี๋ยวพ่อมึงโทรมาเฉ่งกูอีก แค่นี้ก่อนนะเว้ย มายเวย์งอแงอยากลงไปซื้อชานมไข่มุกละ)

"เออ รีบไปเหอะ เดี๋ยวเมียงอนละเดือดร้อนถึงกูอีก"

พอไอ้นาทีวางสายไปแล้วผมก็เลยหยิบหูฟังกับกุญแจห้องมาถือไว้ในมือ ผมกำลังจะลงไปฟิตเนสครับ ปกติเมื่อก่อนผมจะไปเข้าฟิตเนสตอนเช้า แต่พอต้องมาทำคลิปกับคุนคุนผมก็ต้องเปลี่ยนเวลาออกกำลังกายมาเป็นช่วงค่ำแทน (ตอนนี้เรียกไอ้ถั่วงอกคุนว่าคุนคุนแล้วนะครับ เพราะพักหลังมานี้มันน่ารักโคตรๆ ผมว่ามันเหมาะกับชื่อนั้นดี คุนคุน ผู้แสนน่ารักเหมือนลูกหมา น่าถูกจีบมาขยี้..เอ้ย ไม่ใช่!)

นาทีเป็นเพื่อนผมตั้งแต่อนุบาลแล้วครับเรียนที่เดียวกันมาจนถึงมัธยม พอเข้ามหาวิทยาลัยก็คิดว่าจะได้ฉายเดี่ยว ได้สลัดไอ้นทีที่ชอบทำตัวตามติดผมเหมือนขี้ที่ติดตูดสลัดเท่าไหร่ก็ไม่หลุดสักทีซะแล้ว แต่มันก็ดันสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันกับผมอีก ไม่ใช่แค่นั้นนะครับมันยังเลือกเข้าคณะเดียวกันกับผมอีก เฮ้อ! หนีมันไม่พ้นจริงๆ ..... บ่นไปงั้นแหละถ้าไม่มีมันก็ไม่มีใครที่รู้ใจผมขนาดมันแล้ว มันเป็นเพื่อนรักผมครับ มันรู้เรื่องผมทุกอย่าง ส่วนผมก็รู้เรื่องมันทุกอย่างเหมือนกัน ผมมาสนิทกับมายเวย์เมียนาทีมันตอนสอบเข้าแพทย์ได้นี่แหละครับ แอบชอบเธอมาตั้งแต่อยู่ปีหนึ่ง แต่ไม่เคยกล้าเข้าไปจีบสักที มารู้ตัวอีกทีมายด์เวย์ดาวคณะแพทย์สุดสวยก็กลายเป็นแฟนไอ้นาทีเพื่อนรักไปซะแล้ว ผมไม่ได้โกรธมันนะ ทำไงได้ละครับ เรื่องความรักมันบังคับกันไม่ได้ แล้วยิ่งพอได้เห็นนาทีกับมายเวย์อยู่ด้วยกันแล้วละก็ ลืมไปเลยความรู้สึกอกหักอะ กลับรู้สึกดีใจกับสองคนนั้นด้วยซ้ำ มันเข้ากันได้ดีมากๆ ผมรู้สึกว่าตัวเองคิดถูกแล้วที่ไม่ได้เข้าไปจีบมายเวย์ในตอนนี้ เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าคนที่อยู่ข้างๆมายเวย์ตอนนี้เป็นผม แล้วผมจะดูแลเธอได้ดีเหมือนไอ้นาทีมันรึเปล่า

คิดแล้วก็อิจฉาไอ้นาทีมันเหมือนกันนะครับมีเมียสวยแล้วยังเก่งไปแทบทุกอย่างอีกต่างหาก ก่อนที่ผมจะมาเจอคุนคุน ผมก็มักแวะไปฝากท้องที่ห้องไอ้นาทีมัน มันอยู่ที่คอนโดเดียวกับผมนี่แหละครับแต่อยู่คนละชั้น คือกับข้าวห้องนาทีมันอร่อยไง มันกับมายเวย์สลับกันทำอาหาร แล้วก็เสือกทำอร่อยทั้งคู่อีก พูดแล้วก็อิจฉาไอ้สองผัวเมียคู่เพอร์เฟคนี่! มึงจะเก่งไปหมดทุกอย่างไม่ได้!?!?!

.
.
.
.
.

"อ้าว พี่ ทำไมมาออกกำลังกายเวลานี้วะ" ไอ้เด็กแฝดหน้าตาดีที่ผมเจอมันบ่อยๆในฟิตเนสถามขึ้นทันทีที่ผมเดินเข้ามาในฟิตเนส ด้วยที่เจอกันบ่อยจึงค่อนข้างสนิทกันพอสมควร มีไปดื่มรอบนอกกันบ้าง ชวนกันเล่นเกมส์บ้าง ตอนแรกก็แยกไม่ออกหรอกใครขุนพล ใครกองทัพ หลังๆพอเจอบ่อยๆค่อยเริ่มแยกออก ไอ้ตัวที่พูดมากๆที่ชอบยิ้มกวนๆนี่น่าจะเป็นไอ้ขุนมากกว่า เพราะไอ้ทัพมันจะดูนิ่งๆกว่า ถ้ามายืนพร้อมกันสองคนแล้วยืนนิ่งๆไม่มีใครพูด แบบนั้นผมพูดได้เลยนะว่าแยกไม่ออกก็มันเล่นเหมือนกันอย่างกะก๊อปปี้เพสกันมาขนาดนี้ ทำทรงผมเดียวกัน สีผมเดียวกันอีกต่างหาก กลัวไม่รู้รึไงว่าเป็นแฝด ไอ้ห่าราก!

"ตอนนี้ไม่ว่างออกตอนเช้าแล้ววะ เลยมาตอนค่ำแทน" ผมพูดไป ส่วนมือก็กดเลือกโปรแกรมของลู่วิ่งไปด้วย

"ก็ว่า ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นพี่ตอนเช้าเลย"

"อือ"

"พี่พรุ่งนี้ไปเล่นเกมส์ห้องผมป่าว มีเกมส์ใหม่มาลูกพี่ลูกน้องผมกำลังจะเปิดตัวเกมส์ใหม่ เลยให้แผ่นมาทดลองเล่นดู"

"เออ เอาดิ" จะว่าไปก็ไม่ได้เล่นเกมส์นานแล้วนี่หว่า ไปเล่นเกมส์ผ่อนคลายสมองหน่อยก็ดีเหมือนกัน

"สิบโมงมั้ย"

"ไม่ได้วะ ตอนนี้กูไม่ค่อยว่างช่วงเช้าต้องไปช่วยไอ้เด็กแคระมันทำคลิป คงต้องเป็นเย็นๆ นะ "

"หือ? ทำคลิปไรอะพี่"

"หลายอย่างวะ แล้วแต่อารมณ์คนทำ"

"โห ขึ้นอยู่กับอารมณ์ด้วยวะ อย่าบอกนะว่าคลิปโป๊อะพี่มึง"

"โห ไอ้เ*ย กูว่ากูสงวนท่าทีแล้วนะ มึงยังดูออกอีกหรอ เอามั๊ยเดี๋ยวกูแชร์ให้ฟรีๆเลย"

"ส่งมาดิพี่ นี่พี่ร้อนเงินจนขนาดทำคลิปโชว์เลยหรอวะ มันต้องขาดขนาดไหนวะไอ้พี่ถึงขายเรือนร่างกินเนี่ย"

"ไอ้ เ*ย ขุน ใช่ก็แย่แล้ว กูพูดเล่นมั้ยละ ก็มึงชงมากูก็ไหลไปตามน้ำ นี่มึงเห็นกูเป็นคนแบบไหนวะ ไอ้เด็กเวรนี่"

"คนกามๆอะพี่"

"สัสส"

"ฮ่าๆๆๆๆๆ ผมพูดจริงนะพี่ นี่ถ้าผมไม่เคยเห็นพี่ใน ม. นะ ผมไม่เชื่อหรอกว่าพี่เรียนหมออะ"

"ขนาดนั้นเลยหรอวะ"

"เออ ขนาดนั้นเลยแหละพี่มึง ผมนี่นึกว่าเป็นเด็กช่างกลไล่ตีชาวบ้าน ฮ่าๆๆๆๆ" คำก็ช่างกลสองคำก็ช่างกล นี่กูเหมือนขนาดนั้นเลยหรอวะ อารมณ์เสีย!!!

"โอ้ย โยนผ้าเช็ดหน้ามาใส่ผมทำไมเนี่ยไอ้พี่แฟง เหม็นเหงื่อพี่มึงจะตาย"
.
.
.
.

ก๊อกๆๆๆๆ

ผมเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง ตอนนี้ก็สามทุ่มกว่าแล้ว ใครกันวะที่มาเคาะประตามยามวิการแบบนี้ นี่มันจะเวลาเคอร์ฟิวแล้วนะเว้ย เดี๋ยวก็ถูกปรับห้าพันหรอก อย่าหาว่ากูไม่เตือนนะเว้ยเฮ้ย!

แกร๊ก!

"พี่แฟง!!!"

"อะไรของมึงคุนคุน เสียงดัง" ผมยื่นมือไปดีดหน้าผากคุนคุนที่ยืนยิ้มอยู่หน้าห้อง ตอนนี้มันเหมือนหมากระโดดเหยงๆไปหมา ทำหางกระดิก หูชี้ น้ำลายยื่นยังไงยังงั้น ไอ้หมาน้อยยืนห่างจากผมไม่ถึงสิบเซ็นช้อนตาขึ้นมามองกน้าผมแล้วก็ยิ้มกว้าง เชรดด น่ารักสาสสสส!

"นี่ๆ ดู นี่ๆๆๆ ดูๆๆๆๆ คุณพี่แฟงดูๆๆๆๆ" โทรศัพท์ไอโฟนรุ่นเม็ดนมไข่มุกถูกยื่นมาที่หน้าผมแล้วมันก็ส่ายโทรศัพท์ไปมา อืม...แค่ยื่นมาใกล้จนกูหาจุดโฟกัสไม่เจอแล้วมึงยังเพิ่มความเบลอด้วยการเขย่าโทรศัพท์ไปมาอีก สรุปจะให้กูดูมือถือหรือจะให้ดมกลิ่นวะเนี่ย

"อะไรของมึง กูมองไม่เห็น"

แล้วมันก็ลากผมเดินเข้ามาในห้อง ดันผมลงไปนั่งบนโซฟา ส่วนตัวมันก็กระโดดขึ้นมานั่งข้างๆ แล้วก็ยื่นโทรศัพท์เข้ามาให้ผมดู ตอนนี้บอกเลยครับว่าภาพตัดเป็นสโลโมชั่นไปเลย ไม่ได้ยินอะไรแล้ว เห็นแค่ปากคุนคุนสีแดงระเรื่อขยัยไปมาช้าไปอยู่ตรงหน้า อืมอืม...อืมอืม...อืมอืม..ยุบหนอพองหนอ....อย่าพองเลยหนอ


"นี่ไง ยอดสับตะไคร้อะ ดูๆๆ อิอิอิ คุคริคุคริ" เหมือนถูกกระชากออกมาจากภวังครับ เมื่อไอ้ตัวเล็กๆข้างๆนี่พูดเสียงเจื้อยแจ้ว เห้อ กูละเกลียดจริงๆภาษาวิบัติเนี่ย ใครกันวะที่เปิดโลกชักนำให้มันดูคลิปที่สอนพูดภาษาวิบัตืแบบนั้นกูจะไปเผาบ้านมัน! แล้วผมก็หยิบโทรศัพท์ที่มันยื่นขึ้นมาให้ผมดู ตอนนี้ยอด subscribe เพิ่มขึ้นเป็น 50,000 แล้ว จากที่เมื่อก่อนตอนทำคลิปแรกๆ มีคน subscribe แค่ไม่กี่พันเอง เฮ้ย! จริงดิ!

"โห เร็ววะ แค่อาทิตย์เดียวเอง"

"ใช่มะ เลิศสุดๆ แล้วนี่พี่แฟงดูยอดรายได้จากกราฟนี่ พุ่งปรี้ดๆๆๆๆ ฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมวมาก"

ผมมองดูกราฟที่เป็นเส้นชันเมื่อเทียบกับช่วงต้นเดือน คลิปที่เราทำกันได้ร่บการตอบรับค่อนข้างดี นอกจากคนดูในช่วงไลฟ์สดจะเยอะแล้ว ยอดคนดูในคลิปที่ลงไปก็มีจำนวนเป็นแสนๆทุกคลิปเลย

"ทำไมคนชอบดูผู้ชายโป๊กันจัง คุนไม่เข้าใจ" ไอ้เด็กคุนทำหน้าหมางงแถมยังกระเถิบเข้ามาชิดตัวผมอีกต่างหาก

"เขาไม่ใช่แค่มาดูซิกแพคกูอย่างเดียวนะคุน เขาเข้ามาดูหน้าหล่อๆของกูด้วย" กูรู้กูหล่อกูมั่นใจ นิรันดร์ให้เบ้าหน้าหล่อๆแบบนี้กูมาแต่เกิด

"ใช่หรอครับ" มันขมวดคิ้วเข้าหากันจนจะผูกโบว์ได้อยู่แล้ว นี่กูไม่หล่อขนาดมึงสงสัยเลยหรอวะ มึงทำกูหมดความมั่นใจในตำแหน่งรองเดือนคณะเลยนะเนี่ย กูได้มาด้วยความสามารถนะมึง ไม่ได้จับฉลากสักหน่อย...หมดกันความมั่นใจที่กูมีมาเกือบ 21 ปี จบกันวันนี้!

"งั้นก็แล้วแต่มึงจะคิดก็แล้วกัน นี่มึงมีรายได้แล้วนี่ ไม่ต้องใช้บริการกูก็ได้มั้งต่อไปอะ"

"ไม่ได้ๆๆๆ พี่แฟงต้องช่วยเราทำต่อไปสิ" มันทำหน้าหมาหงอยทันทีที่ผมพูดแบบนั้นออกไป หึ! ไอ้อ่อน มึงหรือจะสู้มารยาร้อยเล่มเกวียนที่ฟันหญิงไม่เลือกอย่างกูได้....เห้ย! ไม่ใช่สิ กูเลือกอยู่นะ ไม่ได้มั่วขนาดนั่ส รึเปล่าวะ?

"งั้นก็จ่ายค่าตอบแทนมา"

"อาหารสามมื้อยังไม่พอหรอครับ" ผมละนึกขำในใจตอนที่มันมองหน้าผมแล้วทำตาปริบๆ จะว่าไปอาหารสามมื้อของมึงนั้นก็พอซะยิ่งกว่าพออีก ผมก็ไม่ได้ต้องการเงินมากมายอะไรนะ เงินรายเดือนจากนิรันดร์ก็หลายหมื่นแล้ว คอนโดนี่ก็เป็นของนิรันดร์ไม่ได้เช่าเขา ค่าใช้จ่ายอะไรก็ไม่มีมากมาย มีแค่ค่ากินค่าของใช้เล็กหน่อยแล้วก็ค่าของฟุ่มเฟยตามวิถีวัยรุ่นหล่อๆแบบผมก็แค่นั้น แต่แค่จะแกล้งมันเฉยๆไง จริงๆมันก็ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวหรอกที่ทำให้ยอดคนดูมากขึ้นขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากมันด้วย เห็นพวกผู้ชายเข้ามาคอมเมนต์ว่ามันน่ารักงั้นงี้ แล้วมันก็ตัดต่อคลิปดีด้วยทำให้คลิปดูน่าสนใจมากขึ้น จริงๆหมั่นใส้ไอ้พวกผู้ชายพวกนั้นที่ชอบมาเม้นถึงมันเหมือนกันนะ แล้วอีน้องคุนคุนนี่ก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าไอ่พวกนั้นจะเข้ามาจีบ เสือกตอบกลับคอมเม้นท์ไปด้วยรูปหัวใจสองสามด้วย โอ้ย ไมเกรนจะขึ้น

"ไม่พอ" คือเมื่อก่อนอาการสามมื้อมันคงพอกับผมแหละ แต่ตอนนี้ผมอยากได้มากกว่านั้นอะ อยู่กับมันทุกวันมาเกือบอาทิตย์แล้ว และดูเหมือนคุนไสย์ที่มันดีดใส่ผมไว้จะเริ่มออกฤทธิ์ซะแล้ว ตอนทำคลิปแรกนั้นผมไม่กระตือรือร้นเลยสักนิด แต่พักหลังๆนี่ผมเรียกได้ว่าตั้งหน้าตั้งตารอจะทำคลิปเลยด้วยซ้ำ คืออยากอยู่ใกล้คุนคุนมันอะ ชอบมองดูปากแดงๆของมันขยับไปมาเวลาพูดเจื้อยแจ้ว ชอบดมกลิ่นสบู่ที่ติดตามร่างกายมัน ชอบเวลาที่ตัวเองใจเต้นแรงเวลามันเข้ามาใกล้ๆ เหมือนในตอนนี้ มันทำให้ผมอยากกิน...หญ้าอ่อนๆๆ ที่ชื่อ คุนคุน ที่แปลว่า แผนดินคนนี้!

"พี่แฟงอยากได้อะไรหรอครับ"

"พอดีกูไม่มีตังค์จ่ายค่าห้องนี้แล้ว"

"อ้าว ทำไมพี่แฟงไม่บอกเราละครับ เดี๋ยวคุนโอนเงินให้ พี่แฟงเอาเลขบัญชีมา"

"คุน ไม่ต้อง"

"ทำไมละครับ"

"กูจะย้ายออกจากห้องนี้แล้ว"

"อ้าว แล้วใครจะช่วยผมทำคลิปละครับ" ผมยกยิ้มมุมปากเมื่ิออีกฝ่ายถามคำถามที่ผมอยากให้ถามออกมา หึ...

"มึงอยากให้กูช่วยทำต่อหรอ"

"ใช่สิครับ"

"งั้น...."

"..."

"มึงก็ให้กูย้ายเข้าไปอยู่กับมึงสิ กูจะได้ไม่ต้องย้ายไปที่อื่น"

"..."

"ไม่ได้หรอ"

"..."

"ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร"

"แต่ห้องคุนมีเตียงเดียว"

"กูนอนโซฟาได้"

"โซฟา อันอันนอนแล้ว" อืม กูลืมไปได้ไงวะว่ามีอีอันอันอีกตัว เฮ้ย! แล้วถ้ากูย้ายเข้าไปแล้วมันจะจับกูกินมั้ยนั่นนะ เพราะตอนนี้คุนคุนเลิกให้อาหารเม็ดมันแล้วหันมาให้น่องไก่สดแทน แมวคาราคัลเป็นแมวป่าครับพอโตขึ้นประมาณหนึ่งก็กินพวกเนื้อสดๆแทน ไอ้คุนคุนสาธยายวิธีเลี้ยงของอันอันให้ผมฟังเช้าเย็นนะครับ ผมไม่ได้อยากรู้เรื่องอันอันเลยสักนิด จากที่มีความรู้เป็นศูนย์จสตอนนี้ผมคิดว่าผมน่าจะเปิดฟาร์มแมวได้ละ เล่นยัดข้อมูลใส่หัวผมทุกวันขนาดนั้น แต่ถึงขนาดนั้นผมก็ยังกลัวอันอันอยู่ดี แค่เห็นเขี้ยวมันแล้วก็ยังขยาดเลย นี่ทุกครั้งเวลาไปทำคลิปนะคุนคุนยังต้องอัญเชิญอันอันเข้าไปอยู่ในห้องนอนเลย

"ถ้ามึงไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูย้ายกลับบ้านแถวฝั่งธนก็ได้"

"โห ฝั่งธนเลยหรอครับ ว่าแต่มันอยู่ไหนหรอครับ" ไอ้คู้นนน เห็นมึงทำท่าตกใจกูก็นึกว่ามึงจะรู้ว่าฝั่งธนมันอยู่ส่วนไหนของกรุงเทพ

"ก็อยู่...สักที่แหละ รู้แค่ว่าไกลมาก"

"ไกลมากเลยหรอครับ อืมมมม" หมาทำหน้าคิดครับ มึงคิดไปเถอะ คิดยังไงก็คิดไม่ออกหรอก เพราะกูรู้ว่ามึงรู้จักแค่ในระแวกมหาวิทยาลัยเท่านั้น

"..."

"งั้นพี่แฟง นอนเตียงเดียวกับคุนก็ได้ เราแบ่งเตียงให้ครึ่งหนึ่ง แต่คุนนอนดิ้นนะบอกไว้ก่อน"

"มึงแน่ใจหรอ กูเกรงใจ กูกลับบ้านได้" หึ! มึงตกหลุมพรางกูซะแล้ว ไอ้หมาน้อยเอ๋ย

"ไม่ๆ เรานอนได้จริงๆ ไม่ลำบาก พี่แฟงจะย้ายตอนไหน เดี๋ยวเราช่วย เดี๋ยวเรียกเพื่อนมาช่วยด้วย เพื่อนเราอยู่ในคอนโดนี้เหมือนกัน"

"พรุ่งนี้ กูจะย้ายออกพรุ่งนี้" โอกาสมาต้องรีบคว้าไว้ครับ เดี๋ยวมันเปลี่ยนใจละเสียแผนหมด กูอุตส่าห์คิดมาตั้งหลายคืน แผนชั่วๆแบบนี้กูถนัดนัก นิรันดร์รู้นิรันดร์จะต้องภูมิใจกูบอกไว้ตรงนี้เลย

"ได้ครับผม เดี๋ยวเราให้เพื่อนทัพกับเพื่อนขุนมาช่วยขนของ" ห๊ะ? มึงเป็นเพื่อนไอ้สองแฝดนรกนั่นหรอ??!?!?! แล้วแผนกินมึงของกูจะได้ผลมั้ยเนี่ย ไอ้สองคนนั่นมันยิ่งรู้ใส้รู้พุงกูอยู่ด้วย เวรละมั่ยกู ทำไมโลกกลม พรหมไม่ลิขิตแบบนี้วะ! มั้งเพื่อนทั้งแมว นี่กูต้องเปลืองเอนเนอร์จีในตัวเองขนาดไหนวะเนี่ยกว่ากูจะได้กินมึงเนี่ย คุนคุน!?!?!

#คุนแฟง

by ppeachmm
--------++++------

มาช่วยให้กำลังใจพี่แฟงของคุนคุนด้วยนะคะ ว่าจะผ่านด่านสองแฝดได้รึเปล่า :)

กำลังใจมาด่วนๆๆๆ คอมเมนต์ด้วยนะจร้าาา
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP.6 | 04.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 05-05-2020 11:26:27
---ตอนทีี 7---

คุน's part

22:20

Kunnie: กองทัพ ขุนพล!!!

22.21
Kunnie: กองทัพ ขุนพล!!!

22.25
Kunnie: กองทัพ ขุนพล!!!
Kunnie: ทาพพพพพ( ꈍᴗꈍ)
Kunnie: ขูนนนนนนน(◡ ω ◡)

.
.
.
.

22.35

Khunny: มันอะไรยังไง ทักมารัวขนาดนั้น
Thappy: ยังไม่นอนหรอครับคุณชายคุน
Kunnie: ทุกคนเรามีเรื่องจะขอความช่วยเหลือ (・∀・)
Khunny: เรื่องไร
Khunny: ฝากเลี้ยงอันอันไม่เอานะเว้ย
Khunny: กูเข็ด คราวที่แล้วพังห้องกูซะเละ
Thappy: อันนั้นมึงไปแกล้งมันเองนะขุน
Thappy: ถ้ามึงไม่แกล้งเอาจิ้งจกปลอมไปล่อมััน มันก็ไม่คึกวิ่งรอบห้องแบบนั้นหรอก เล่นไม่รู้เรื่องเอง โทษใครวะ
Thappy: แล้วคุนคุนมีไรให้ช่วย
Kunnie: พรุ่งนี้ว่างมั้ย พี่ข้างห้องเราจะย้ายห้อง มาช่วยเขาย้ายหน่อยสิ
Khunny: คนไหนวะ ใช่คนที่ช่วยมึงทำคลิปรึเปล่า
Kunnie:ใช่ๆคนนั้นแหละ
Khunny: แล้วทำไมมึงต้องไปช่วยเขาย้ายห้องด้วย มันบังคับมึงหรอ หรือมันข่มขู่มึง กูว่าแล้วว่าไอ้นี่ดูไม่น่าไว้ใจ
Kunnie: อึ๋ยๆ ไม่ใช่ๆๆๆ พี่เขาไว้ใจได้ม๊่กๆๆ
Khunny: แล้วไอ้พี่ข้างห้องมึงนี่มันไม่มีเพื่อนหรอวะ ถึงได้ให้คนตัวเล็กๆอย่างมึงช่วยย้ายของเนี่ย
Kunnie: คือว่า..เขาไม่ได้ขอหรอก เราอาสาช่วยเอง ᕙ(  • ‿ •  )ᕗ
Thappy: ลูกกูเป็นคนดีวะ
Khunny: พ่อมหาจำเริญ! คนดีศรีสยาม! คนงามเมืองปักกิ่ง! คนดีที่นำความเดือดร้อนมาสู่คนอย่างพวกกูน่ะสิ
Kunnie: ไม่ว่างกันหรอ ถ้าอย่างงั้นน้องคุนไม่รบกวนก็ได้ เดี๋ยวน้องคุนช่วยพี่เขาย้ายห้องเอง แต่อาจจะต้องย้ายหลายรอบหน่อยเพราะน้องคุนตัวเล็กนิดเดียว ไม่รู้จะมีรอยช้ำตามตัวอีกกี่รอย

Khunny: คุน มึงพูดซะกูรู้สึกผิดเชียว
Thappy: เออจริง อารมณ์เหมือนโดนลูกตัดพ้อยังไงไม่รู้อ่ะ
Kunnie: ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ เราทำเองได้
Khunny: คุนกูถามคำเดียว
Khunny: กูต้องไปกี่โมง
Kunnie: ขุนพลน่ารักที่สุด น้องคุนจะหอมแก้มให้รางวัลสามทีเลย
Thappy: เฮ้ออออ
Thappy: แล้วจะย้ายไปที่ไหนล่ะ
Kunnie: ห้องน้องคุนเอง
Khunny: ฮะ?
Thappy: WTF!!!!
Khunny: มึงให้ผู้ชายที่ไหนไม่รู้ย้ายมาอยู่กับมึงในห้องหรอคู้นนนนนนน!!!
Thappy: กูเกียมไม้เรียวเลยเนี่ย!
Khunny: อ้าว ไม่ตอบหรอ ฮะ?!?!!
Thappy: เปิดประตูห้องรอเดี๋ยวนี้เลยนะ!
Khunny: เกียมรับไม่เรียวเลยไอ้เด็กใจแตก!

.
.
.
.
.

เช้าวันต่อมา

ผมตักข้าวผัดแกงเขียวหวานที่อยู่ในจานตัวเองขึ้นมาทานอย่างเอร็ดอร่อย วันนี้พี่แฟงจะย้ายเข้ามาในห้องเราครับ แล้วคุณคิดว่าเราคงต้องการพลังงานเยอะมากเพราะต้องขนของในห้องพี่แฟงเข้ามาในห้องผม แอบเห็นว่าของในห้องพี่แฟงค่อนข้างเยอะพอสมควร เมื่อคืนผมเลยเคลียร์ห้องนอนเล็กไว้ให้พี่แฟงเก็บของส่วนตัวแล้วด้วยนะ แต่ถึงมันจะมีชื่อว่าห้องนอนเล็กแต่มันก็ไม่มีเตียงหรอกครับเพราะผมใช้ห้องนั้นเป็นห้องวาดรูปกับห้องอ่านหนังสืิอ เมื่อคิดได้ว่าต้องใช้พลังงานมากมายน้องคุนเลยทำมื้อเช้าเป็นข้าวผัดแกงเขียวหวานที่เสริมสร้างพลังงานให้เราสองคนทาน แต่วันนี้พี่แฟงมาแปลกมากเลยครับ ปกติพี่แฟงจะทานอาหารที่คุนทำเร็วมากบางวันเผลอแป๊บเดียวก็ตักข้าวจานที่สองเพิ่มแล้ว วันนี้พี่แฟงแปลกจริงๆ เพราะนั่งจ้องข้าวผัดในจานตัวเองมาสักพักแล้ว

"ไม่ชอบแกงเขียวหวานหรอครับ" ผมตัดสินใจถามขึ้น

"ปกติกูไม่กินกะทิอะ"

"แง เราไม่รู้ครับ ขอโทษที เดี๋ยวเราทำอย่างอื่นให้ใหม่นะ พี่แฟงรอคุนแป๊บนึง" ว้า ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง ก็นั่นสินะคนรักสุขภาพอย่างพี่แฟงจะทานกะทิได้ยังไง พี่แฟงเป็นคนทานง่ายและรักสุขภาพมากครับ แต่พวกของมันๆนี่คือไม่แตะเลย เขาจะเลี่ยงพวกของทอด หมูกรอบของโปรดผมนี่พี่แฟงขอบายเลยนะ ก็ไม่แปลกหรอกครับที่คนออกกำลังกายแบบพี่แฟงจะเลี่ยงของมันของหวาน ขุนกับทัพก็้หมือนกัน แต่นานๆทีก็เห็นขุนกับทัพทานขนมหวานบ้างเป็นบางครั้ง เพราะน้องคุนร้องไห้งอแงอยากกิน!

"ไม่ ไม่ต้อง กูกินได้"

"ไม่เป็นไรครับไม่ต้องฝืน ดูหน้าพี่แฟงกังวลนะเราว่า"

"กูแค่กำลังใช้ความคิด"

"หือ?"

"ช่อง คุนคุน ชาแนลในยูทูปมึงอะ"

"มันทำไมหรอครับ"

"กูไม่มีอะไรจะสอนแล้วอะ ออกกำลังแบบคาร์ดิโอก็ทำแล้ว แบบ Boxing ก็ทำแล้ว แบบเวทเทรนนิ่งก็ทำแล้ว เหลือแต่โยคะกับพีราทิสแล้วที่กูทำไม่เป็นอะ จะให้กูมาโหนเชือกกูไม่เอาด้วยนะ กูว่าเราทำอะไรอย่างอื่นดูมั้ย"

"อย่างอื่นคืออะไรหรอครับ"

"ทำอาหารไง"

"หือ?"

"เนี่ยมึงอะ ทำอาหารโคตรจะอร่อย มึงดูนี่ ไอ้แกงเขียวหวานนี่ปกติกูไม่แตะเลยนะเพราะแม่งมันเ*ยๆๆ แต่ดูจานนี้ของมึงไม่ใช่แค่น่ากินอย่างเดียวนะแม่งเสือกอร่อยเว้อ แถมยังไม่เลี่ยนอีก แบบนี้คนรักสุขภาพแบบกูยังถึงกับมองข้ามได้เลย คือมันกินได้ มันไม่ได้แย่ คือบางทีคนเราก็ต้องการไขมันมึงเข้าใจมั้ยพวก HDL ร่างกายเราก็ต้องการ ส่วนพวก LDL ก็คือต้องเลี่ยง"

"น่าจะ..เอ่อ...เข้าใจมั้งครับ"

"กูพูดเร็วไปใช่มั้ย งั้นเอางี้ มึงฟังใหม่กูจะพูดช้าๆเข้าใจง่ายๆ" คือผมงง ฟังไม่ทันน่ะครับ คิดว่าพี่แฟงคงจะดูสีหน้าผมออกว่าผมฟังสิ่งที่เขาพูดไม่ทันเขาเลยอธิบายทุกอย่างใหม่ให้เข้าใจง่ายขึ้น ที่แฟงน่ารักครับเขาเป็นคนพูดเร็ว แล้วทุกครั้งเวลาเขาพูดเร็วมากแต่พอหันมาเห็นหน้าผมงงๆเขาก็จะพูดประโยคนั้นซ้ำให้ช้าลง ผมฟังไม่ทันไงครับแล้วศัพท์ภาษาไทยบางคำก็ยากเกินกว่าที่ผมจะเข้าใจ แต่บอกแล้วไงครับว่าพี่แทนน่ารัก น่ารักมากๆน่ารักเท่ากองทัพและขุนพลเลย ถึงแม้ว่าพี่แฟงจะพูดจาหยาบคายไปบ้าง..จริงๆไม่บ้างหรอกครับพูดตามตรงคือหยายคายตลอดเวลาแหละ แต่จริงๆแล้วที่แฟนเป็นคนใจดีมากๆเลยนะครับ ทำไมผมถึงรู้นะหรอครับ น้องคุนจะยกตัวอย่างให้ฟังครับ อย่างเช่นเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเราลงไปซุปเปอร์มาร์เก็ตด้านล่างคอนโดด้วยกัน คือผมจะทำสปาเก็ตตี้ปลาสลิตครับดูมาจากรายการสอนทำอาหารแล้วมันต้องใช้ใบโหระพาด้วย แต่ผมไม่รู้ว่ามันหน้าตาเป็นยังไงยืนงงอยู่ตั้งนาน แล้วสักพักก็โดนพี่แฟงด่าไปทีนึงแล้วก็ดีดหัวผมไปอีกหนึ่งที แต่พี่แฟงก็เดินไปหยิบใบโหระพามาให้ผมจนได้ พี่แฟงขี้บ่นครับ ชอบบ่นเวลาผมซื้อชานมไข่มุกแล้วก็พวกขนมหวานหรือเค้กมากิน หลังๆมานี้ผมไม่ค่อยได้กินแล้วครับ ถึงบางทีที่อยากกินมากๆก็ต้องแอบกินไม่ให้พี่แฟงเห็น ดุครับพี่ข้างห้องผมดุมากๆ

"มึงคิดว่าโอเคไหมที่กูพูดมาเนี่ย"

"โอเคครับผม!"

"เค งั้นเดี๋ยวกูช่วยคิดเมนู"

"เราอยากทำบราวนี่"

"นี่แหนะ ไม่ต้องเลย ในหัวมึงนี่นะคิดแต่จะแ*กของหวานตลอด" อู้ยยย เจ็บแฮะ โดนดีดหน้าผากไปทีหนึ่ง ก็ทำไมละครับ คนเราต้องการน้ำตาลนะครับ!

"เริ่มจากอาหารสุขภาพง่ายๆ แครอรี่ต่ำ อย่างปลาแซลม่อนที่มึงทำวันก่อนเป็นไง แต่เปลี่ยนจากไวท์ซอสเป็นอย่างอื่น เพราะไว้ท์ซอสมีครีมถึงแม้จะราดไม่เยอะก็เหอะ แต่บางคนมันเสือกเอามาราดเยอะไง เพราะฉะนั้นต้องเปลี่ยนซอสราดเป็นอย่างอื่น เอาเป็นอะไรดีวะ..."

"ราดเทอริยากิมั้ยครับ"

"เออ ก็ดี เอาตามนั้นแหละ"

พอตกลงเรื่องคอนเทนต์ช่องคุนคุน ชาแนลของเราได้แล้ว พี่แฟงก็จัดการกับข้าวผัดแกงเขียวหวานจนหมดเลยครับ ผมนี่นิ้มแก้มปริเลย บอกแล้วอาหารน้องคุนอร่อยอย่าบอกใครเลยเชียว!

"ของกูไม่เยอะ ไม่ต้องให้เพื่อนมึงมาข่วยขนหรอก"

"ไม่เป็นไรครับ เราบอกไปแล้ว"

ก๊อกๆ

"นั่นไงครับ เพื่อนเรามาแล้ว ตรงเวลาจริงๆเลยสองคนนี้เนี่ย"

"เฮ้ย คุน บอกเพื่อนมึงกลับไปเหอะ กูย้ายคนเดียวได้จริงๆนะ บอกพวกแฝ....เอ่อ พวกมันกลับไปเลย" พี่แฟงดูจะเกรงใจขุนพลกับกองทัพพอสมควร สงสัยจะไม่อยากให้เพื่อนผมเหนื่อย แต่ของพี่แฟงเยอะขนไม่ไหวหรอกครับ อีกอย่างน้องคุนถูกไม่เรียวกองทัพมาแล้วด้วยเมื่อคืน ถ้าไม่ให้สองแฝดมาช่วยน้องคุนก็ขาดทุนสิครับ ถูกตีฟรีด้วย น้องคุนไม่ยอม!

แกร๊ก!

"คุนคุน/คู้นนนน" สองแฝดรีบถลาเข้ามาในห้องทันทีที่ผมเปิดประตู

"มาเร็วจัง"

"ต้องรีบสิวะ กูอยากเห็นหน้าคนที่มึงหนีตามใจจะขาด"

"เราไม่ได้หนีตามใครนะขุน"

"อ้าว ไอ้พี่ มึงเองหรอ/ อ้าวพี่แฟง" สองแฝดพูดออกมาพร้อมกันเมื่อเห็นพี่แฟงยืนอยู่ตรงโต๊ะทานอาหาร

"อือ หวัดดี"

"อ้าว รู้จักกันหรอกหรอครับ ค่อยยังชั่วหน่อย ถ้าอย่างนั้น...."

"ไม่ได้/ไม่!" เดอะแฝดร้องออกมาพร้อมกันเสียงดัง

"สองคนรู้จักพี่แฟงแล้ว งั้นไม่โกรธเราแล้วใช่มั้ยอะ ที่ให้ใครไม่รู้มาอยู่กับเราในห้องอะ"

"ไอ้พี่นี่มันไว้ใจไม่ได้คุน มัน... " จู่ๆพี่แฟงก็พุ่งมาประชิดตัวขุนพลแล้วก็เอามือปิดปากขุนไว้ แถมยังลากขุนกับทัพออกไปนอกห้องอีก สามคนนั้นเล่นอะไรกัน น้องคุนงง!

แฟง's part

"โอ้ยไอ้พี่ มึงปิดปากกูทำไม แล้วนี่คือมือมึงไปจับอะไรมาในเนี่ยเหม็นชิบหายเลย แหวะ" ไอ้ขุนปัดมือผมออกก่อนจะทำหน่าแหยๆ สงสัยนิ้วผมคงยัดเข้าไปในปากมันแน่ๆ โทษทีวะ กูไปล้างจานมาเมื่อกี้ สงสัยลืมล้างมือ

"พี่จะทำอะไร" ไอ้ทัพที่ยืนอยู่ข้างๆพูดขึ้น ไอ้นี่มันนิ่งครับ....เชือดนิ่มๆ!!

"กูก็แค่จะย้ายไปอยู่กับเพื่อนมึงเฉยๆไม่ได้มีอะไร" ผมตอบไปตามความจริง

"แต่คุนบอกว่าไอ้พี่ข้างห้องมันไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า มึงรวยจะตาย มี slk ขับอย่างมึงอะนะพี่จะไม่มีตังค์ คอนโดห้องนี้ก็ของพ่อพี่มึงไม่ใช่หรอ หลอกเพื่อนผมทำไม" แม่งเอ้ย กูไม่น่าไปเล่าให้มันฟังเลยว่าห้องนี้ของกู ทำไงละทีนี้....

"เออ กูยอมรับก็ได้ว่ากูกุเรื่องนี้ขึ้นมา แต่เพื่อนมึงเสือกเสนอให้กูไปอยู่ด้วยเองนะเว้ย"

"คุนคุนบอกว่าพี่ขอมาอยู่ด้วยต่างหาก" เอาแล้วไง ไอ้คู้นนน มึงเล่าทุกประโยคเลยรึไงวะ

"โว้ย! เพื่อนมึงนี่แม่ง" ผมสบถออกไป แล้วขยี้หัวตัวเองระบายอารมณ์สองสามที มึงจะบอกทุกเรื่องกับเพื่อนมึงแบบนี้ไม่ได้นะคุน!

"พี่คิดจะทำอะไรเพื่อนผมกันแน่ไอ้พี่แฟง" ไอ้ทัพจ้องหน้าผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ส่วนไอ้ขุนก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เฮ้ย! กูพี่มึงนะเว้ย จำไว้กูเคยเลี้ยงเหล้ามึงตั้งหลายที

"กูไม่ได้จะทำไรเ*ยๆ หรอกน่าาาา เห็นแก่บุญคุณที่กูเคยแบกพวกมึงที่เมาเหมือนหมากลับห้องบ้างสิวะ"

"มันคนละเรื่องเว้ยไอ้พี่ พี่เนี่ยนะไม่ทำเรื่องเ*ยๆ ผมไม่เชื่อวะพี่"

"เออ ผมด้วย จะทำไรเพื่อนผม เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะไอ้พี่ บอกไว้เลยว่าพวกผมพร้อมบวกนะ" อะไรของพวกมันวะ กูไม่ได้จะไปฆ่าเพื่อนมึงซะหน่อย ห่เกินเบอร์นะมึงอะ

"กู (ยัง) ไม่ได้จะทำไรเพื่อนมึง จริงๆ"

"แล้วพี่ขอย้ายเข้าไปอยู่ห้องมันทำไม"

"ขอเหตุผลที่ฟังขึ้นนะ เหตุผลปัญญาอ่อนไม่เอานะเว้ย"

"กูแค่...."

"แค่อะไร....." โอ้ย คาดคั้นกูจังเว้ยเฮ้ย นี่กูเป็นผู้ต้องหาคุกเดอะแฝดรึไงวะเนี่ย

"กูแค่ชอบเพื่อนมึง!"

"ห๊ะ?/ อะไรนะ?"

แล้วก็เกิดเดดแอร์ขึ้นอยู่หลายนาทีพวกมันจ้องหน้าผม ผมจ้องหน้าพวกมันตอบ พวกมันจ้องตากันเหมือนส่งกระแสจิตคุยกันอยู่สักพัก เฮ้ย! นี่พวกมึงก็เป็นพ่อมดเหมือนเพื่อนมึงหรอวะ มีคุยกันทางสายตาด้วย ...

"พี่ห้ามย้ายไปห้องคุนคุน ผมไม่ยอม" ในที่สุดไอ้ทัพก็พูดขึ้นมา
"เออ ห้ามย้าย พวกผมไม่อนุญาตให้พี่ไปอยู่ห้องมัน"
"ทำไมกูจะย้ายไม่ได้วะ เพื่อนมึงยังไม่เห็นว่าอะไรกูสักคำ"

"พี่ต้องล่อลวงมันแน่ๆ" จริง มึงพูดถูก

"คนเ*ย แผนสูงแบบพี่ต้องใช้แผนชั่วล่อลวงเพื่อนผมชัวร์"

"เฮ้ย กูไม่ได้ล่อลวง จริงจี้งงงง กูแค่อยากอยู่ใกล้เพื่อนมึงก็แค่นั้น แล้วกูก็นอนโซฟาด้วย ไม่ทำไรเพื่อนมึงหรอก"

"พี่มึงอย่ามาตอแหล คุนบอกผมแล้วว่าให้พี่นอนเตียง ที่ตรงโซฟาตรงนั้นมันของอันอัน" ไอ้ห่า รู้ทุกเรื่องจริงๆ!!!

"อ้าวหรอ เพื่อนมึงว่างั้นหรอ กูไม่เห็นรู้เรื่องเลย" นิรันดร์สอนให้เนียนเข้าไว้ครับ ไอ้สองคนนั้นมองตากันเหมือนไม่เชื่อสิ่งที่ผมพูด

"กูไม่ได้เ*ยขนาดจะบังคับขืนใจเพื่อนมึงหรอกน่า คนนี้กูจริงจังนะเว้ย กูชอบของกูจริงๆ กูไม่ได้โกหก"

"เชื่อไม่ได้/ ตอแหลสัส" โอ้ย! อันนี้กูพูดจริง เชื่อกูเท้ออออ

"กูชอบเพื่อนมึงจริงๆ ตั้งแต่รู้จักกับคุนกูก็ไม่สนใจใครที่ไหนเลยนะเว้ย กูเลิกส่งนมโฟร์โมสต์ตามไอจีแล้วด้วยอะเดี๋ยวนี้ ไอ้ตัวน่ารักมันทำกูใจเต้นแรงอะมึงเข้าใจมั้ย ขนาดคนเก่าที่กูแอบชอบกูยังไม่เคยรู้สึกใจเต้นแรงแบบนี้มาก่อนเลยนะเว้ย เพื่อนมึงแม่งน่ารักเ*ยๆ กูไม่ได้จะทำอะไร แค่อยากอยู่ใกล้เฉยๆ จริงๆ"

แกร๊ก!

"ทำอะไรกันหรอทุกคน" ประตูคอนโดเปิดออกพร้อมกับคุนคุนที่ยื่นหน้าออกมาทำหน้าแบ้ว ผมรับคว้าตัวคุยคุนไว้แล้วเดินมาที่ห้องตัวเองทันที

"เปล่าๆ ทักทายกันนิดหน่อย มาขนของได้แล้วพวกมึงอะ" ไอ้สองแฝดทำท่าทางไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา มีแต่กองทัพที่มันเอานิ้วสองนิ้วชี้ที่ตามันแล้วก็ชี้มาที่ผมเหมือนจะบอกว่า กูจับตาดูพี่อยู่นะเว้ย!
.
.
.
.
.

"พี่แฟงเอาของมาแค่นี้หรอครับ" ไอ้หมาน้อยคุนถามขึ้นเมื่อผมลากกระเป๋าลากใบใหญ่สองใบออกมาจากห้อง ส่วนขุนพลก็หอบอุปกรณ์ออกกำลังกาย แล้วก็กีตาร์หนึ่งตัวที่อยู่ในมือกองทัพ

"อือ แค่นี้แหละ" ก็กูแค่จะไปอ่อยหมา กูจะเอาไปทำไมเยอะแยะวะ ที่เหลือก็ทิ้งไว้นี่แหละจะเอาไปทำไมเกะกะห้องมึงเปล่าๆ มั้ยละ ได้แต่คิดในใจแหละครับ บอกมันไม่ได้

"แล้วที่เหลือละครับ" มันกวาดสายตามองรอบห้องผมที่ยังมีข้าวของเครื่องใช้อีกมากมาย

"ทิ้วไว้นี่แหละ"

"หือ? เจ้าของห้องเขาไม่ต้องให้ขนของออกจนหมดหรอครับ"

"นั่นดิไอ้พี่ ไหนบอกว่าไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าไง จะทิ้งของไว้ทำไม"

"เดี๋ยวเจ้าของห้องเขาก็เก็บของพี่มึงไปทิ้งหรอกไอ้พี่ ขนไปให้หมดนั่นแหละ มาพวกผมช่วยขน ขนมันออกให่หมดวันนี้แหละ" โอ้ย กูรู้ว่าพวกมึงรู้ว่ากูทำอะไร แต่แม่งขยี้กูจัง ฝากไว้ก่อนนะแฝดนะ!

"ทาพพพพ ไม่ต้องๆๆๆ เดี๋ยวกูส่งกลับบ้านไง"

"อ้อ ครับ"
"หรออออ"
"ตอแหล" ไอ้ขุน! กูได้ยินนะขุนนะ!

#คุนแฟง
by ppeachmm

---------

พี่แฟงโป๊ะแตกโดนแฝดจับได้เด้อคะเด้อ ถูกแฝดกีดกันแล้วความรักนี้จะสำหร็จรึเปล่าน้าาาาา



หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 7 | 05.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 05-05-2020 12:18:45
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 7 | 05.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 05-05-2020 21:37:34
 o13
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 7 | 05.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 06-05-2020 07:17:51
---ตอนที่ 8---

คุน's part

"คุน"

"คร้าบบบบ"

"กูจะลงไปทำงานกลุ่มห้องเพื่อนกูด้านล่างนะ"

"ครับผม"

"กูซักผ้าแล้วก็ตากไว้ตรงระเบียง ถ้ากูกลับค่ำก็ฝากเก็บด้วย"

"ครับ"

"แล้วก็ตามมาล๊อคห้องด้วย ตอนนี้เลย"

"คร้าบบบบ" ผมรีบลุกขึ้นจากโซฟาทันที แม้ตาจะยังจับจ้องซีรีย์จีนในจอทีวีอยู่แต่ขาก็ก้าวตามพี่แฟงไปถึงหน้าประตูแล้ว

แปะ!

"พี่แฟง ดีดหน้าผากคุนทำไมงะ แงๆๆ" ผมยกมือขึ้นมาลูบหน้าผากที่เพิ่งถูกนิ้วหนาๆของพี่แฟงดีดเข้าให้เต็มๆ ดีดน้องคุนทำไมอะ คุนเจ็บนะ

"คุน มึงอย่าเว้อ กูดีดเบาๆ แค่หนึ่งในล้านของแรงกู"

"แต่คุนเจ็บอะ อู้ยยย แดงรึเปล่าก็ไม่รู้" เนี่ยต้องแดงเถือกแน่ๆเลย คุนว่านะ

"ไม่แดงหรอก ตานี่มองจ้องแต่ทีวี กูจะไปแล้ว แล้วที่ดีดนี่คือลงโทษที่มึงแอบกินเค้กเกินโควต้าไปไง อย่านึกว่ากูไม่เห็นนะ"

"อู้ยยย พี่แฟงเห็นอ่อ แงๆ" ผมว่าผมทำลายหลักฐานดีแล้วนะเนี่ย ทำไมพี่แฟงยังเห็นอีก

"เออสิ กูนับชิ้นด้วยกูบอกมึงไว้ตรงนี้เลย อย่ามาด่ากูด้วยสายตานะคุนคุน"

"คุนป่าววววว"

"กูไปละ ตอนหัวค่ำถ้าจะพาอันอันออกไปวิ่งเล่นก็ดูดีๆว่าประตูปิดแล้วรึยัง มึงชอบปิดประตูไม่สนิทหลายทีละ อย่า....."

"พี่แฟงคร้าบบบ ไปเถอะคร้าบบบ เดี๋ยวเพื่อนรอนะครับผม" ผมต้องรีบผลักพี่แฟงออกไปนอกห้องทันที ไม่อยากฟังพี่แฟงบ่นแล้วอะ น้องคุนเจ็บหู!

ตั้งแต่พี่แฟงย้ายมาอยู่กับผมที่ห้องนี้ก็คอยจัดการโน่นนี่ให้ตลอดเลย เวลาไหนที่มีเรียนก็ต่างคนต่างแยกย้ายเข้าห้องถ้าผมมีเรียนผมก็ปลีกวิเวกเข้าห้องนอน ส่วนพี่แฟงก็เข้าไปอยู่ในห้องทำงาน ถ้ายังไม่ออกมาก็เป็นอันรู้กันว่ายังเรียนไม่เสร็จ ส่วนเรื่องงานบ้าน เราแบ่งหน้าที่กับครับ คุนทำอาหารส่วนพี่แฟงล้างจาน คุนกวาดบ้านส่วนพี่แฟงถูบ้าน ส่วนเรื่องซักผ้าตากผ้าพี่แฟงจัดการทั้งหมดผมไม่ต้องทำครับเพราะเคยซักผ้าแล้วสีถุงเท้าของผมมันตกใส่ชุดพี่แฟง งะ...น้องคุนเลยถูกมองแรงเลย ทำไมละเสื้อสีชมพูสวยดีออกเนอะ อ้าว..ก็ปกติคุนส่งผ้าซักไงพี่แฟง คุนไม่ได้ซักเอง แต่ตอนนี้ร้านซักรีดในคอนโดเขางดให้บริการชั่วคราวเพราะเจ้าของร้านกลับต่างจังหวัดยังไม่มีกำหนดเปิดร้านเลย พอหลังจากวันนั้นพี่แฟงก็ไม่ให้คุนเข้าใกล้เครื่องซักผ้าอีกเลย  ส่วนเรื่องปิดประตูไม่สนิทนี่ก็มีประเด็นเหมือนกันครับเพราะมีครั้งนึงน้องคุนพาอันอันลงไปเดินเล่นที่สนามข้างหลังคอนโดแต่ปิดประตูไม่สนิทแล้วน้องหมาของห้องตรงข้ามก็วิ่งเข้ามาเล่นในห้องกัดรองเท้าพี่แฟงเป็นรอยเขี้ยวเบ้อเริ่ม พี่แฟงเกือบจับน้องไจแอนท์หมาพี่แฟรงค์เฟิร์ตห้องตรงข้ามมาทำต้มยำซะแล้ว ดีนะน้องคุนมาห้ามทัน น้องหมาไม่ถูกกินแต่น้องคุนถูกบ่นสามวันสามคืนโทษฐานที่ทำรองเท้าที่พี่เขาซื้อมาจากญี่ปุ่นพัง

ตั้งแต่พี่แฟงย้ายมาก็มีอะไรเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเลยครับ อย่างแรกเลยคือทัพกับขุนมาห้องน้องคุนทุกวัน บางวันก็มาขอทานข้าวด้วย บางวันก็มานั่งดูทีวี มาแย่งคุนดู Netflix ทั้งๆที่ห้องของตัวเองก็มี ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะมาทำไมทุกวันบางครั้งคุณก็โกรธนะคุนอยากดูป่าท้อสิบหลี่รอบที่สี่! ส่วนพี่แฟงนั้นก็ชอบเล่นสงครามน้ำลายกับขุนพลทุกวัน ไม่รู้สองคนนี้ทำไมชอบทะเลาะกัน แต่พอทะเลาะกันเสร็จก็ชวนกันเล่นเกมส์ต่อ เหมือนเรื่องที่ทะเลาะกันก่อนหน้านั้นไม่เคยเกิดขึ้นอย่างนั้นแหละ ส่วนกองทัพนั้นก็มาแปลกอีกจู่ๆก็ห้ามน้องคุณใส่ขาสั้นซะงั้น แต่น้องคุนขี้ร้อนน้องคุนไม่ชอบใส่ขายาว กองทัพเลยสั่งกางเกงขาสั้นที่ยาวเลยเข่ามาให้น้องคุนใหม่ตั้งหลายตัว ส่วนกางเกงขาสั้นเหนือเข่าที่คุณเคยใส่กองทัพก็เอาใส่ถุงบอกจะเอาไปบริจาคให้เด็กข้างบ้างซะงั้น ก็ดีเหมือนกันนะถือว่าทำบุญละกัน ช่วงนี้โควิดระบาดไปวัดทำบุญไม่ได้ ก็ทำบุญด้วยการบริจาคของก็ได้บุญไปอีกแบบม่าม๊าสอนคุนมาคุนจำได้

พี่แฟงอะดีไปหมดทุกอย่างเลย(ถ้าไม่นับเรื่องพูดคำหยาบแล้วก็ชอบทำเสียงดุนะ)เสียอยู่อย่างเดียวเวลานอนชอบเอาแขนกับขามาทับตัวคุน คุนตื่นมาทีไรรู้สึกหนักตัวทุกทีเลย เอาหมอนข้างกั้นก่อนนอนแล้วนะ ไม่รู้ทำไมพอตื่นเช้ามาหมอนข้างถึงตกไปอยู่ข้างเตียงทุกวันเลย คุนเคยถามพี่แฟงว่าเอาหมอนข้างคุนทิ้งลงไปที่พื้นทำไม แต่พี่แฟงก็บอกว่าไม่รู้เรื่อง ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ บอกว่าสงสัยละเมอขว้างทิ้งละมั้ง อื้อ ก็คงเป็นแบบนั้นแหละเนอะ

ไลน์~~

Khunny: คุน ทำไร

นี่ก็เป็นอีกอย่างที่แปลกไปเหมือนกันครับ ตั้งแต่พี่แฟงย้ายมาอยู่ห้องคุน ทัพกับขุนไลน์มาหาคุนตลอดเวลาเลย บางครั้งน้องคุณก็ยุ่งไม่ได้ตอบ สองคนนั้นก็โทรมาจิกคุนอีก ดุคุนด้วยว่าทำไมคุนไม่ได้รับโทรศัพท์ อ้าว..ก็คุนเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวอยู่นี่ครับ! วันนี้สองแฝดกลับบ้านครับไม่ได้มาหาคุนที่ห้องแต่ก็ไลน์มาทั้งวันไม่รู้เหมือนกันว่าจะไลน์มาทำไมนักหนา สงสัยอยู่ที่บ้านเบื่อไม่มีอะไรทำแน่ๆ ขุนขี้้เหงาขี้เบื่ิอ

Kunnie: ดูป่าท้อสิบหลี่
Khunny: แล้วไอ้พี่แฟงละ
Kunnie: ทำไมเขียนมาหาเราแล้วชอบถามหาพี่แฟงอะขุน
Khunny: เออน่า ตอบมาเหอะ เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าสงสัยมาก
Kunnie:(〒﹏〒)
Kunnie: เราโตแล้ว
Khunny: ตัวเท่าลูกหมา
Khunny: แ*กนมหมดฟาร์มก็สูงไม่เท่ากูหรอก
Kunnie: โป้งขุนละนะ ชอบว่าเรา เราจะบล๊อคขุนด้วย
Khunny: มึงกล้าหรอคุน
Khunny: กูเพื่อนมึงนะ น้องคุน
Kunnie: ไม่บล๊อกก็ได้ สงสารหรอก
Khunny: แล้วสรุปไอ้พี่แฟงมันทำไรอยู่ มันได้ทำไรมึงรึเปล่า
Kunnie: พี่แฟงออกไปข้างนอกไปทำงานห้องเพื่อนอะ
Khunny: อ้อ แล้วมึงปลอดภัยดีใช่มั้ย ไอ้พี่แฟงมันทำอะไรแปลกๆกับมึงรึเปล่า
Kunnie: (˘・_・˘)
Kunnie: อะไรคือที่เรียกว่าแปลกหรอ
Khunny:?!?!?!
Khunny: ก็แบบที่มึงไม่เคยทำมาก่อน อะไรทำนองนั้นอะ
Kunnie: อืม....
Kunnie: จะว่าไป ก็มีนะ เพิ่งเคยทำเมื่อคืน
Khunny: ฮ๊ะ!?!?! มันทำอะไรมึงไอ้คู้น ไอ้เ*ยพี่แฟง กูว่าละ มันไว้ใจไม่ได้ กูจะกลับไปกระทืบมึงไอ้พี่แฟง มึงนะมึง
Kunnie: ขุนว่าพี่แฟงทำไม
Khunny: แล้ว...มึงเจ็บรึเปล่า
Kunnie: ก็เจ็บนิดหน่อยนะ
Khunny: ไอ้เ*ย กูจะกระทืบมึง ไอ้ ฿#@#฿฿##฿##฿#@@#฿_&&฿#
Khunny: มันเอายาให้มึงกินรึเปล่า มึงเป็นไข้ด้วยมั้ย
Kunnie: ขุน
Khunny: ตอบมานะคุน! โอ้ย มึงรออยู่นั่นแหละกูจะรีบกลับไปหา
Kunnie: ขุน! มาทำไม เราไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย
Khunny: มันทำแบบนี้ได้ไงวะ ทำแบบนั้นกับมึงแล้วยังเสือกออกไปข้างนอกแล้วปล่อยมึงไว้ที่ห้องคนเดียวแบบนี้หรอวะ กูต้องโทรไปด่ามันก่อนเลยตอนนี้
Kunnie: เรางงแล้ว แค่พี่แฟงสอนเราเล่นกีตาร์ทำไมขุนต้องว่าพี่แฟงขนาดนั้นอะ
Khunny:....
Khunny:....
Khunny: ไหนมึงบอกว่าเจ็บไงคุน
Kunnie: ก็เราเจ็บนิ้วอะ
Khunny: แค่นี้นะ แม่กูเรียกไปแ*กข้าวละ คุยกับมึงละรู้สึกเหมือนเสียเวลาชีวิตยังไงไม่รู้ เฮ้อ
.
.
.
.
.

"อันอัน ไปวิ่งเล่นที่สวนข้างล่างกัน"  ผมเรียกอันอันที่นอนคุดคู้อยู่ใต้โซฟา กำลังง่วงได้ที่เลยละสิ ทำกน้าไม่พอใจเหมือนมีคนปลุกจากฝันหวาน ตื่นได้ที่สักพักพอได้ยินผมชวนลงไปเดินเล่นก็รีบเดินมาพันแข้งพันขา สงสัยอยากออกไปข้างนอกแน่ๆเลยทำท่าแบบนี้ ผมเดินไปหยิบเชือกผูกคอของอันอันที่มีไว้ใช้ตอนจูงอันอันเดินเล่นแล้วก็ไม่ลืมที่จะหยิบกุญแจแล้วก็โทรศัพท์ด้วย อันอันตัวเริ่มโตแล้ว แล้วตอนนี้ห้องคอนโดดูเหมือนจะเล็กไปสำหรับอันอันพื้นที่ในการวิ่งเล่นน้อยเกินไป การออกมาเดินเล่นที่สวนหลังคอนโดตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเวลาโปรดปรานของอันอันเลยก็ว่าได้ เราเดินเล่นกันเกือบสองชั่วโมงก็กลับขึ้นห้องไปตอนที่ฟ้าเริ่มมืดแล้ว แต่ตอนที่กำลังจะเดินกลับก็ดันมีฝนตกลงมาซะงั้น

"อันอัน ฝนตก วิ่งเร็วๆ" ฝนตกลงมาได้ไงนะเนี่ย ไม่มีวี่แววเลยสักนิด

"ทำไมจู่ๆฝนก็ตกลงมาเนี่ย" ผมอุ้มอันอันขึ้นมาในอดก่อนจะพากันวิ่งเข้ามาใต้คอนโด

"เปียกหมดเลย อันอัน เปียกรึเปล่า รีบขึ้นไปเช็ดตัวกันบนห้องเนอะ หิวมั้ย"

เมี้ยว!

.
.
.
.

"อันอัน อย่าดิ้นสิ ป๊าเช็ดตัวไม่ได้เห็นมั้ยเนี่ย" ผมปล้ำดับอันอันมาเกือบสิบนาทีแล้ว วิ่งหนีไม่ยอมให้เช็ดตัวสักที

แกร๊ก!

"ทำไมเปียกทั้งแม่ทั้งลูกแบบนั่นละ" พี่แฟงที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาถามขึ้นเมื่อเห็นผมกับอันอันเปียกปอนตะลุมบอนกันอยู่บนพื้น แล้วตอนนี้อันอันขึ้นมานั่งทับบนตัวผมแล้วครับ แยกเขี้ยวขู่ฟ่อๆบอกว่าอย่ามาจับตัวช้านนนนน

"พี่แฟง เราเป็นป่าป๊า! บอกหลายทีแล้วนะ ไม่ใช่หม่าม๊า"

"ตัวกะเปี๊ยกอย่างมึงเป็นได้แค่ม๊าแหละ"

"อึ๋ย! อันอัน อย่าดิ้นสิ"

"ให้กูช่วยมา ดูแล้วท่าทางวันนี้เที่ยงคืนก็ไม่เสร็จถ้าปล่อยให้มึงทำคนเดียว โห นี่ข้างนอกฝนตกหนักขนาดนี้เลยหรอ" พี่แฟงพูดแล้วก็วางไอแพดในมือลงก่อนจะเดินมาคุกเข่าข้างๆผม เพราะพี่แฟงไม่กล้าจับอันอันบอกว่ากลัวตาสีฟ้าของอันอันแล้วก็กลัวโดนกัดเลยให้ผมจับไว้แล้วตัวเองก็เอาผ้าเช็ดตัวเช็ดขนให้อันๆ โชคดีที่อันอันขนไม่ยาวเลยใช้เวลาเช็ดไม่นาน

"คุน รีบไปอาบน้ำสระผมเลยเดี๋ยวไม่สบาย"

"เดี๋ยวคุนให้น่องไก่อันอันก่อน"

"คุน"

"ให้เสร็จแล้วก็รีบไปอาบน้ำดิวะ จะนอนเกาพุงแมวเล่นอยู่ทำไมเนี่ย"

"อีกแป๊บนึง"

"ถ้าไม่สบายขึ้นมากูจับตีก้นนะบอกไว้เลย"

"ครับผม" พอได้ยินว่าจะถูกจับตีก้นน้องคุนก็รีบวิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำเลยครับ ทำไมนะหรอ ก็เข็ดนะสิ! เคยโดนพี่แฟงจัดตีก้นไปทีหนึ่งตอนแอบกินชานมไข่มุก พีาแฟงตีเจ็บมาก แถมยังถอดกางเกงตีอีก คุนก็งง จะถอดทำไม?
.
.
.
.

แฟง's part

"คุน"

"คุน"

"คุนคุน"

"อื้อออ"

"ทำไมตัวร้อนแบบนี้วะ" ผมที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก้าวขึ้นมาบนที่นอนก่อนจะโยนหมอนข้างที่คนตัวเล็กที่จับจองที่นอนด้านซ้ายไปเอามากั้นแบ่งเขตแดนไว้ คุนนอนก่อนผมประจำแหละเด็กอนามัยสุดๆหลับตั้งแต่สี่ทุ่ม แล้วก็ชอบเอาหมอนข้างมากั้นกลางไว้ ส่วนผมนะหรอ ก็โยนมันทิ้งข้างเตียงทุกวันแหละ เอาไว้ทำไมเกะกะเว้ย นี่นอนมันไม่ได้แคบนะ ที่นอนขนาดหกฟุตผู้ชายตัวโตอย่างผมสองคนนอนสบายๆเลย แต่แค่ไม่ชอบให้มีอะไรมากันระหว่างผมกับคุนคุนไง เหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันอย่างไงไม่รู้ ต้องโยนหมอนข้างทิ้งแล้วก็รั้งคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขนก่อนดึงผ้าห่มที่คุนคุนชอบเตะไปไว้ปลายเท้าขึ้นมาห่มให้เราสองคน นอนกอดกันอุ่นดีนิรันดร์บอก ผมเชื่อฟังนิรันดร์ไง เด็กดีเชื่อฟังพ่อแม่!
 
แต่วันนี้ตอนที่ผมดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดเหมือนทุกวันกลับสังเกตุเห็นสิ่งปกติ คุนคุนตัวร้อน ร้อนจี๋เลย ผมรีบลุกขึ้นไปเปิดไฟในห้องนอนก่อนเดินกลับมาจับหน้าผากคุนคุนที่นอนหลับปุ๋ยกอดตุ๊กตาแมวน้ำสีขาวตัวใหญ่อยู่

"ตัวมึงร้อนมาก เป็นไข้แน่ๆเลย" สงสัยไข้ขึ้นเพราะโดนฝนตอนเย็นแน่ๆเลย

"คูลฟีเวอร์ไม่มีหรอวะ" ผมเปิดดูในช่องแช่แข็งแต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอแผ่นเจลแปะลดไข้ จึงรีบเดินไปหยิบกุญแจห้องตัวเองที่เก็บไว้ในลิ้นชักข้างเตียงแล้วเดินออกไปยังห้องตัวเองที่อยู่ติดกัน ห้องที่หลอกคนตัวเล็กว่าคืนเจ้าของคอนโดไปแล้ว นี่ถ้าคุนคุนมาเห็นนะว่าในห้องยังมีของของเขาวางอยู่เหมือนเดิมไม่ได้ย้ายไปไหนคงจะแปลกใจน่าดู เออเนอะ..ถ้าคุนคันรู้ว่านี่เป็นแผนของผมน้องมันจะโวยวายมั้ยวะ ช่างแม่ง...นั่นมันเรื่องของอนาคต ถึงแล้วค่อยว่ากัน

ไม่นานผมก็กลับมาพร้อมกับแผ่นเจลแปะลดไข้กับยาลดไข้แล้วก็ปรอท ปรอทวัดไข้ถูกเสียบเข้าไปใต้จักแร้คุนคุนทันที พอถึงเวลาหนึ่งนาทีผมก็รีบชักปรอทออกมา เลขบนหน้าปัดดิจิตอลบอกอุณหภูมิ 39.1°

"ไข้สูงเลย คุน คุน ลุกก่อน กินยาหน่อย"

"อื้อ" คุนคุนงัวเงียไม่รู้เรื่อง แน่ละตัวร้อนจี๋ขนาดนี้ แต่ไข้ขึ้นสูงขนาดนี้ถ้าไม่กินยาอาการมันจะแย่ลงไง ผมใช้ฝ่ามือตบๆไปตรงแก้มขาวๆมี่ตอนนี้แดงระเรื่อด้วยพิษไข้ปากเล็กๆเป็นกระจับนั่นปกติก็แดงน่าสัมผัสอยู่แล้วตอนนี้กับแดงขึ้นไปอีกหลายเลเวล อืม...มันน่า...นัก...ไม่ได้ๆ ไอ้แฟงมึงจะคิดชั่วๆกับคนป่วยไม่ได้ มีสติ! มีสติ! มีสติ! นิดนึงไม่ได้หรอวะ?!?!

"คุนคุน ตื่นมาก่อนนะ ทานยาก่อนนะ"

คนป่วยที่ตัวร้อนจี๋ลืมตาขึ้นมาด้วยแรงตบตรงหน้า อย่าเข้าใจผิดว่าผมเอามือใหญ่เท่าใบพายของผมฟาดไปตรงหน้าไอ้แคระนี่นะ ผมป่าวววว แค่แตะๆสามสี่ทีเท่านั้นเอง ขอย้ำว่าเบาๆ ถ้าขืนออกแรงนิดหน่อยมีหวังขึ้นรอยแน่ๆตัวเล็กๆของมัน ยิ่งขึ้นรอยง่ายอยู่ เคยถูกผมจับขาบนไว้ตอนบังคับให้มันซิทอัพลดหน้าท้องสงสัยเผลอจับแรงไปหน่อยขานี่เป็นรอยนิ้วทั้งสิบของกูซะงั้น อ้าวไรวะ งง นี่กูจับแรงไปหรือตัวมึงนุ่มนิ่มไร้ซึ่งกล้ามเนื้อกันวะ ตอนจับให้เพื่อนกูก็ใช้แรงเท่านี้นะ

"นอนซะเด็กดีเดี๋ยวพี่เช็คตัวให้"

#คุนแฟง

by ppeachmm

-------------



หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 8 | 06.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 06-05-2020 09:39:56
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 8 | 06.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 06-05-2020 09:40:15
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 8 | 06.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 06-05-2020 17:06:22
ป่วยซะละ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 8 | 06.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 07-05-2020 16:43:03
---ตอนทีี 9---

ทัพ's part

"ขุน เดี๋ยวกูจะแวะเอามาการองไปให้คุนคุน มึงขึ้นห้องไปก่อนเลยก็ได้"

"กูไปด้วย ต้องไปดูด้วยว่าไอ้น้องคุนมันยังอยู่รอดปลอดภัยรึเปล่า ไม่ไว้ใจไอ้พี่แฟงวะ"

"พี่มันก็ไม่ได้แย่"

"แต่กูไม่ไว้ใจมัน"

"เออๆ จะไปก็ตามมา กูจะลงไปซุปเปอร์ด้วย"

"วันก่อนมึงก็ไปแล้ว จะไปทำไมทุกวันวะ คราวที่แล้วไปเป็นชั่วโมงได้ชาเขียวมาแค่ขวดเดียว"

"เออน่า อย่ายุ่งนะขุนนะ"

"มีลับลมคมในนะกองทัพ สงสัยวันหลังกูต้องแอบตามลงไปดูซะแล้วว่ามีอะไรดีในซุปเปอร์มาร์เก็ตน้าาาาา"

.
.
.
.

ก๊อกๆๆ

ก๊อกๆๆ

"คุน"

"คุนคุน"

"ไอ้คู้นนน เปิดประตู ทำไรอยู่เนี่ย"

"หรือว่าไม่อยู่"

"อยู่ดิ ถ้ามันไม่อยู่ มันก็เอาป้ายไม่อยู่มาแปะไว้เหมือนทุกครั้งแล้ว" คุนคุนนะทำอะไรธรรมดาเหมือนคนอื่นเค้าที่ไหนทเวลาออกไปข้างนอกก็จะเอาป้าย 'ออกไปข้างนอกคร้าบผม' มาแปะไว้หน้าห้องตลอด

"หรือว่าไอ้พี่แฟงมันทำมิดิมิร้ายน้องคุนลูกกู ไม่ได้การละ" ขุนทำหน้าเลิกลักรุกลี้รุกรน ล้วงมือเข้าไปหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่

"เฮ้ย จะทำอะไรมึง" ผมรีบร้องถามออกไปเมื่อเห็นขุนใส่กุญแจเข้าไปในลูกบิดประตูคอนโดห้องของคุนคุน คุนฝากกุญแจไว้ที่ผมกับขุนคนละชุดครับเผื่อต้องใช้ในเวลาจำเป็น เช่น เวลาที่คุนลืมปิดน้ำ ลืมของในห้องแล้วต้องใช้บริการให้ผมกับขุนเขาไปให้ที่มหาวิทยาลัย ประมาณนั้น แต่สิ่งที่ขุนจะกำลังทำมันตอนนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรอ?

"ก็เข้าไปข้างในไง"

"ทำแบบนี้ไม่ได้นะ"

"ทัพ มึงลองคิดดู คุนอยู่กับไอ้พี่แฟงสองคนนะเว้ย ในห้องนี้สองคน มันทำอะไรกันอยู่ทำไมไม่มาเปิดประตู!"

"ทำคลิปรึเปล่า เลยไม่ว่างมาเปิด"

"มึงได้ยินเสียงคนพูดรึไง มาเลยมาฟัง เอาหูแนบประตูดู เป็นไง เงียบกริ๊บ" ผมเอาหูแนบประตูอย่างที่ขุนบอก จริงอย่างที่ขุนบอกในนั้นไม่มีเสียงอะไรเลย ไม่ได้ยินเสียงคนคุยกัน หรือเสียงอันอัน ไม่ใช่สิ ปกติอันอันไม่ส่งเสียงอยู่แล้วถ้าไม่หิว แมวตะกละเหมือนเจ้าของมันเป๊ะ

"ไม่มีเสียงอะไรเลย"

"เข้าไปดูเถอะนะ เผื่อไอ้พี่แฟงมันล่อลวงคุนอยู่นะเว้ย มึงก็รู้มันมองคุนตาเป็นมันตลอด นี่กูไม่รู้ว่ากูปล่อยมันมาอยู่ห้องคุนนานเป็นอาทิตย์แบบนี้ได้ยังไง ฝากเนื้อไว้กับเสือแท้ๆ" ข้อสันนิษฐานมันน่าคิดตามจริงๆ อย่างที่ขุนพูดพี่แฟงมันไม่ใช่คนไม่ดีหรอก แต่มันแค่จ้องจะกินคุนตลอดเวลา ดูก็รู้!

"เปิดเลย มึงเปิดเลยขุน!"

แกร๊ก!

ขุนผลักประตูห้องคอนโดออก ทุกอย่างดูปกติ ในห้องไม่มีใคร มีเพียงอันอันที่นอนเอกเขนกอยู่บนโซฟา

"รองเท้าก็อยู่ มึงดู" ขุนชี้รองเท้าคุนที่วางอยู่บนชั้นครบทุกคู่ ครบจริงๆนั่นแหละชั้นรองเท้าที่มีช่องใส่รองเท้าสิบกว่าคู่เต็มหมด ไม่มีช่องว่างเลยสักช่อง

"รองเท้าไอ้พี่แฟงก็อยู่" รองเท้าโอนิสุกะไทเกอร์สีขาวคาดแดงน้ำเงินคู่ใหญ่กับรองเท้าแตะคีบสีดำของผู้พักอาศัยคนใหม่วางอยู่บนพื้นครบทั้งสองคู่เหมือนกัน

"ห้องนอน!!!/ห้องนอน!!!"

เราสองคนตะโกนออกมาพร้อมกันก่อนพุ่งตัวไปยังห้องนอนที่ประตูปิดสนิทอยู่

แกร๊ก!

"ไอ้เ*ยพี่แฟง!!!!!!"

"มึงทำไรเพื่อนกู ไอ้พี่!!!"

สิ่งที่ผมกับขุนเห็นมันทำให้ผมโกรธ โกรธมากถึงมากที่สุด ผมที่อารมณ์นิ่งกว่าขุนในทุกสถานการณ์กลับวิ่งเข้าไปกระชากตัวไอ้เ*ยพี่แฟงที่นอนกอดคุนคุนของผมอยู่บนเตียง ทั้งสองคนหลับสนิททั้งคู่ มีเสื้อผ้ากองอยู่บนพื้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสองคนนั้นเพิ่งผ่านอะไรกันมา

ไอ้เ*ยพี่แฟงลืมตาขึ้นทันทีที่ผมกระชากแขนมัน แล้วมันก็จับแขนผมล๊อคไว้ทันที เออวะผมลืมไปว่ามันเรียนการต่อสู้มา การที่ผมเข้าไปประชิดตัวมันตั้งใจว่าจะกระชากให้ตัวมันหลุดออกมาจากเตียงของเพื่อนผม แต่ผลที่ได้ดันกลับกัน เคยเห็นพี่มันถูกรุมแบบห้ารุมหนึ่งอยู่หน้าผับหลังมหาวิทยาลัย ผมกับขุนกำลังจะเข้าไปช่วย แต่ที่ไหนได้คนพวกที่รุมมันดันลงไปกองโอดโอยอยู่บนพื้นในเวลาไม่กี่นาทีต่อมา เห็นสภาพพวกที่กองอยู่บนพื้นก็สยอง บางคนปากแตก บางคนตาบวมเป่ง บางคนนอนคุดคู้เจ็บท้องอยู่ พี่มันแม่งเทพสัสสสสส อย่าเรียนหมอเลยไปเป็นนักมวยเถอะดูท่าจะรุ่งกว่า

"มึงเข้ามาได้ไง" มันเอ่ยเสียงเรียบนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยิ่งมันนิ่งแบบนั้นทั้งผมทั้งขุนยิ่งเดือด เมื่อเห็นว่าแขนผมถูกล๊อคไว้ ไอ้ขุนเลยพุ่งหมัดเข้ามาใส่หน้าพี่แฟงในทันที ด้วยที่มือพี่มันล๊อคแขนผมอยู่มึงจึงยกมือขึ้นมาการ์ดหน้ามันไม่ได้ โดนหมัดขุนไปเต็มๆ

"ไอ้เ*ยพี่ มึงทำแบบนี้ได้ไงวะ นั่นไอ้คุนนะเว้ย มึงนี่เลวจริงๆ" ขุนยกหมัดขึ้นมาพุ่งกระแทกเข้าไปที่หน้าพี่แฟงอีกครั้งแต่ครั้งนี้มันหลบได้ ทำใหคนออกแรงหมัดเซถลาลงไปบนเตียง

"พวกมึงสองคนพูดบ้าอะไรกัน" มันปล่อยมือออกจากแขนผมยกมือขึ้นมาเช็ดเลือดที่ซึมออกมาที่มุมปาก ขุนคงใส่สุดแรงแหละหมัดเดียวถึงได้เลือดซึมขนาดนี้ มันเช็ดเลือดเสร็จก็ลุกขึ้นจากเตียงก่อนก้มลงไปห่มผ้าให้คุนคุนที่ยังหลับสนิทอยู่ โห นี่มันทำกันรุนแขนาดไหนวะเนี่ยเพื่อนผมถึงได้หลับเป็นตายขนาดนั้น นี่ขนสดทะเลาะกันเสียงดังขนาดนี้ยังไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด นี่มึงเล่นเพื่อนกูจนตายเลยรึไง!!!!

"พวกมึงสองคนออกไปคุยกับกูข้างนอก แล้วก็ลดเสียงลงด้วย เอะอะเสียงดัง คุนคุนไม่สบาย" มันเดินออกมาจากห้องนอนปล่อยให้ผมกับขุนมองหน้ากันอยู่สักพัก ก่อนตัดสินใจเดินตามมันออกไป เออ ดีเหมือนกัน ออกไปซัดกับมันนอกห้องนอนจะได้ทำอะไรได้สะดวกๆหน่อย

"มึงกับกูขาดกันไอ้พี่ ต่อไปกูจะไม่เรียกมึงว่าพี่อีกแล้ว" ไอ้ขุนพูดขึ้นก่อนเดินเข้าไปหาพี่แฟงที่เปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำออกมาดื่ม

"พี่ย้ายออกไปจากห้องเพื่อนผมเดี๋ยวนี้" ผมเสริม ถ้ามันจะทำอะไรเพื่อนผมแล้วยังมีหน้ามาลอยหน้าลอยตาอยู่ต่อละก็หน้าด้านเดินไปรึเปล่า ผมไม่เชื่อว่าคุนจะยินยอมให้มันทำอะไร คุนมันไม่ประสีประสาเรื่องนี้ด้วยซ้ำ มันต้องล่อลวงคุนคุนของผมแน่ๆ เสือผู้หญิงอย่างมันถนัดแหละเรื่องพวกนี้ แม่งเอ้ย ไม่น่าปล่อยเพื่อนผมไว้กับมันเลย

"พูดจบยัง" มันวางขวดน้ำลงบนโต๊ะ มองหน้าพวกผมเรียบเฉย ก่อนเอ่ยขึ้น

"กูไม่ได้ทำอะไรเพื่อนมึง อย่ามโนไปเอง เพื่อนมึงไม่สบายไข้ขึ้นกูแค่เช็ดตัวให้เท่านั้น ถ้าการที่กูแทะโลมตัวขาวๆของมันทางสายตาถือเป็นการล่วงเกินมัน งั้นกูก็ไม่เถียง เพราะกูทำจริง"

"โกหกเหอะไอ้พี่ ใครจะเชื่อมึง"

"ไม่เชื่อก็เรื่องของมึง"

"ก็เห็นอยู่ว่ามึงนอนกอดเพื่อนกูกลมอยู่บนเตียงขนาดนั้น" ก็ผมเห็นอยู่ว่ามันนอนกอดกันบนเตียง จะมาบอกว่าไม่ได้ทำอะไรได้ไงวะ

"เพื่อนมึงดึงกูเข้าไปกอดเองนะเว้ย อันนั้นมึงก็ไปก็ว่าเพื่อนมึงดิ"

"แล้วสภาพที่นอนเละเทะ กับเสื้อผ้าที่กองอยู่ตรงพื้นละ พี่มึงจะอธิบายว่ายังไง"

"ก็เมื่อคืนไข้คุนคุนมันสูง ตัวเปียกไปหมดกูก็เลยถอดออก เช็ดตัวให้ แล้วเปลี่ยนชุดใหม่ ส่วนเสื้อผ้าที่ตกอยู่บนพื้นกูยังไม่ได้เก็บ ง่วงก่อน พวกมึงพูดจบยังกูแม่งโคตรเพลีย" มันพูดจบก็เดินไปยังโซฟาที่ตอนนี้ไม่มีอันอันนอนอยู่แล้ว ทิ้งตัวหนาๆของมันนอนลงบนโซฟาตัวยาวทันที

"อะไร? ไม่เชื่อ?" ใครจะเชื่อวะ ของแบบนี้จะพูดยังไงก็ได้ป่าววะ

"งั้นมึงไปค้นถังขยะเลย ไม่มีเศษอะไรทั้งนั้น"

"นี่มึงสดกับเพื่อนกูหรอ?!!!"

"โอ้ย จินตนาการบรรเจิดจริงๆเลยนะมึงไอ้ขุน"

"พี่ไม่ได้ทำอะไรคุนคุนจริงๆใช่มั้ย" ผมลองเรียบเรียงเรื่องราวที่พี่มันเล่ามาทั้งหมด ก็อาจจะเป็นไปได้อย่างที่พี่มันพูด คุนคุนของผมอาจจะยังปลอดภัยอยู่ยังไม่ถูกเสือร้ายอย่างพี่มันตะครุบเอา

"คนอย่างกูนะ กินเฉพาะคนมีสติเท่านั้นวะ แล้วก็ไม่นิยมล่วงเกินคนป่วยด้วย อย่างน้อยกูก็มีจรรยาบรรณหมอนะเว้ย มันคือสิ่งที่กูเรียนมา อย่าลืมว่ากูเป็นนักศึกษาแพทย์"

"หน้าตามึงเหมือนที่ไหนไอ้พี่" ขุนพูดแทรกขึ้นมา ผมหลุดขำออกมาอย่างเก็บไม่อยู่ จริงอย่างที่ขุนพูดแหละ พี่แฟงมันดูภายนอกนั้นเรียกได้ว่าห่างไกลกับคำว่าหมอมากมายหลายหมื่นไมล์ ตอนนี้ผมกับขุนเริ่มเชื่อแล้วว่าคุนคุนนั้นไม่ได้ถูกพี่มันทำมิดิมิร้าย

"พอๆ อย่าซ้ำเติมกัน เดี๋ยวพอร้านตัดผมเปิดกูจะไปทำหล่อให้พวกมึงจำกูไม่ได้เลยคอยดู แล้วที่มึงต่อยกูเมื่อกี้ละ"

"เอ่ออ พี่แฟงงงง ผมไม่ได้ตั้งใจนะพี่ มันโมโหไง อารมณ์มันพาไปพี่เข้าใจรึเปล่า" ขุนที่แทบจะกินเลือดกินเนื้อพี่แฟงเมื่อหเานาทีที่แล้วตอนนี้ลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ข้างโซฟา เอามือใหญ่หนาของมันบีบนวดไปตามขาของพี่แฟงที่นอนเอกเขนกอยู่

"มึงคิดว่าแค่ขอโทษแล้วก็หายหรือไอ้ขุนพล เลิดกลบปากกูเลยนะเมื่อกี้"

"คร้าบบบบ"

"เอาหน้ามึงมาให้กูต่อยคืนสิขุนพล"

"เฮ้ย เอางั้นเลยหรอพี่"

"เออดิวะ ยื่นหน้ามา"

"พี่แฟงงง เบาๆได้มั้ยพี่ ผมกลัวหมดหล่อ"

ผลั๊ก!

ขุนพลหงายหลังไปตามแรงผลัก ใช่ครับ พี่แฟงแค่ผลักไม่ได้ต่อย

"แค่นี้พอ แล้วไปหาซื้อโจ้กมาให้กูด้วย สองถุงนะ ถุงนึงไม่ใส่ตับ อีกถุงไม่ใส่ขิง เพิ่มไข่สองฟอง"

"คุนกินสองถุงเลยหรอพี่"

"อีกถุงของกูไง กูตื่นเช็ดตัวปรนนิบัติเพื่อนสุดที่รักของมึงทั้งคืนยังไม่ได้นอนเลย เพิ่งจะได้นอนเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วก็เสือกมีหมาบ้านที่ไหนไม่รู้มารบกวนเวลานอนอันน้อยนิดของกู แถมยังแถมหมัดหนักๆมากระแทกเข้าหน้ากูอีก"

"เอ่อ  คร้าบบบ เดี๋ยวนี้เลยคร้าบบบ เฮียแฟง!!!' พูดจบขุนพลน้องสุดที่รักของผมก็วิ่งถลาออกไปจากห้องทันที อะไรของมันวะสถาพต่างจากเมื่อครู่ลิบลับ เใื่อกี้ตอนอยู่ในห้องนอนคำรามยังกะสิงโต ตอนนี้เหลือสภาพเหมือนทาสตัวน้อยๆแค่นั้น โวะ! ทำตัวให้สมกับชื่อหน่อย นายขุนพล!!!

"ส่วนมึง เอาน่องไก่ในตู้เย็นออกมาให้อันอันแ*กด้วย กูแบตหมดแล้ววะ ฝากดูคุนคุนด้วยนะสักชั่วโมงเดี๋ยวกูตื่นมาดูมันต่อเองง่วงชิบหาว" พี่มันพูดเสร็จก็นอนเอาหน้าฟุบลงไปบนหมอนอิงที่อยู่บนโซฟา ส่วนผมก็เดินไปหยิบน่องไก่ออกมาจากตู้เย็น

"อย่าให้มันเยอะนะ ให้เยอะมันก็แ*กเยอะ ให้มันสองน่องพอ" เสียงทุ้มอู้อี้ดังลอดออกมาจากโซฟาที่อยู่ห่างออกไป แม้เสียงจะค่อนข้างเบาแต่ผมก็พอจับใจความได้ ผมให้อาหารอันอันเสร็จก็เดินเข้าไปในห้องนอน คุนคุนยังหลับอยู่ ผมเอื้อมมือไปอังหน้าผากอันอัน  ตัวยังรุมๆอยู่ ผมหยิบปรอทที่วางอยู่ข้างเตียงขึ้นมากดดูผลการวัดล่าสุดที่ถูกใช้งาน ตัวเลข 39.1 โชว์หราอยู่บนหน้าจอ ผมวางมันลงตามเดิม คงจะจริงอย่างที่พี่มันพูด คุนคุนป่วย ที่พื้นข้างเตียงอีกฝั่งมีกะละมังกับผ้าชุบน้ำอยู่ในนั้น พอเห็นสิ่งที่มันทำภาพพจน์แย่ๆเรื่องผู้หญิงของมันที่ผมเคยรู้มากลับดูดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูก อย่างน้อยพี่มันก็ไม่ได้ล่วงเกินคุนคุนจริงๆ แถมยังดูแลคุนคุนตอนป่วยอย่างดีอีกต่างหาก สงสัยผมต้องมองพี่แฟงในอีกมุมหนึ่งซะแล้ว

แต่พี่มึงอย่าเพิ่งได้ใจไป เพราะผมแค่มองมันในมุมมองที่ดีขึ้น ยังไม่ได้ปล่อยให้มันยุ่งกับคุนคุนของผมซะหน่อย!

#คุนแฟง

by ppeachmm

+++---+++---+++



 
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 9 | 07.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 07-05-2020 17:57:49
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 9 | 07.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 07-05-2020 20:53:56
 :ruready
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 9 | 07.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 08-05-2020 02:14:54
รีบตื่นเร็วคุนคุน
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 9 | 07.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 08-05-2020 17:58:40
---ตอนที่ 10---

ปวดหัว

ปวดทั้งตัว

แสบจมูก

เจ็บคอ

นั่นคือความรู้สึกทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับผมตอนนี้ ผมขยับตัวไปมาอยู่บนที่นอน ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง แล้วนี่มันกลิ่นละไร เหมือนวิกวาโปรับเลย

ไม่มีแรง

นั่นคือความรู้สึกล่าสุดที่เกิดขึ้นในตอนนี้

"คุน" ผมลืมตาขึ้นมาไม่เห็นอะไรเพราะตอนนี้ในห้องมืดไปหมด มีเพียงแสงไฟจากห้องน้ำที่ลอดออกมา เสียงทุ้มของใครบางคนที่เหมือนอยู่ไม่ไกลจากเตียงนักเอ่ยขึ้น

ปวดตา

ใช่ ผมปวดตา นี่มันเกิดอะไรขึ้นทำไมผมถึงมีความรู้สึกมากมายขนาดนี้

"คุนคุน ค่อยๆลุก" เสียงทุ้มที่คราแรกดังอยู่ห่างจากเตียง ตอนนี้มันกลับดังใกล้เข้ามา ด้วยที่เสียงมันอื้ออึงในหูไปหมด ทำให้ฟังสิ่งที่คนๆนั้นเอ่ยออกมาไม่ค่อยถนัด ตอนนี้ในกูเหมือนมีเสียงอะไรหวัดร้องเบาๆ

"รู้สึกอย่างไงบ้าง ปวดหัวมั้ย" เสียงพี่แฟง ผมจำได้แล้วตอนนี้ เสียงทุ้มนุ่มๆที่ผมคุ้นเคย ถึงแม้พี่แฟงจะชอบทำเสียงดุๆพูดจาห้วนๆ แต่น้ำเสียงพี่แฟงนั้ยทุ้มแลและน่าฟังมากเลยครับ ถ้าคิดไม่ออกก็ลองหลับตาฟังดูสิครับ นุ่มทุ้มใช่มั้ยละ น้องคุนบอกแล้ว...

"พี่แฟง" ผมพยายามเปล่งเสียงออกมา แต่สิ่งที่เปล่งออกมากลับเป็นเสียงที่เบาและแหบพร่า เหมือนเสียงที่ได้ยินบ่อยๆในหนังสยองขวัญยังไงอย่างงั้น

"อื้อหือ เสียงแหบเสน่ห์เลยนะคุนคุน" พี่แฟงก็คือพี่แฟงวันยังค่ำ เสียงหลอนๆของผมเขาก็สามารถโยงเป็นเรื่องดีๆ(มั้ง) ได้ตลอดเวลา

"ปวดหัวครับ" ผมบอกอาการที่ผมรู้สึกตอนนี้ออกไป เพิ่งเคยรู้สึกว่าหมดแรงก็วันนี้แหละ ผมอยากจะลุกไปเข้าห้องน้ำพยายามเอาแขนยันที่นอนไว้ แต่ตัวที่หนักอึ้งก็ฟุบลงไปบนเตียงอีกเหมือนเคย

"จะไปไหน มึงไม่สบายอยู่คุนคุน ต้องนอนพักเยอะๆ"

"ห้อง...น้ำ..ครับ" ผมเอ่ยออกมาเสียงเบา ให้ตายสิผมไม่ชอบเสียงตัวเองตอนนี้เลย มันน่ากลัวจริงๆ ยิ่งห้องนอนที่มืดแบบนี้มาผสมปนเปกับเสียงแหบๆของผมยิ่งดูสยองขึ้นไปอีก พี่แฟงที่ทำเสียงดุก่อนหน้านั้นเข้าใจทันทีว่าผมสื่อว่าอะไร เขาเข้ามานั่งลงบนเตียงก่อนจะพยุงผม สอดแขนข้างหนึ่งเข้าไปใต้จั๊กแร้ผม และพยุงผมไปที่ห้องน้ำ

"พี่แฟงออกไปก่อน" พอมาถึงห้องน้ำพี่แฟงที่ยืนช้อนหลังผมอยู่กลับไม่ขยับไปไหน

"ฉี่ไปเถอะ กูไม่แอบดูหรอก ของมึงเล็กจะตาย" นี่ขนาดไม่แอบดูยังมารู้ขนาดของผมอีก แต่พี่แฟงก็พูดเกินจริงไป ของผมเล็กที่ไหน ก็แค่ขนาดมาตรฐานละน่า

"ไม่เอา" มีคนยืนจ้องอยู่ด้านหลังแบบนี้ใครจะไปฉี่ออกละ ผมเลยหันหน้าไปส่งสายตาขอร้องพี่แฟงว่าให้ออกไปจากห้องน้ำเถอะ ผมอายนะ!

"เดี๋ยวมึงล้ม กูอยู่ตรงนี้แหละ" แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ผมร้องขอจะไม่ได้รับการตอบสนอง เพราะนอกจากพี่แฟงจะไม่ออกไปไหน เขายังขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิมอีก

"มึงไม่ต้องอายหรอก กูเห็นหมดแล้ว" พี่แฟงยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ หรือผมจะมองผิด ตอนนี้ตาผมยิ่งเบลอๆอยู่

"ตอนไหน"

"กูเช็ดตัวให้มึงตั้งหลายรอบแล้ว เปลี่ยนชุดให้มึงด้วย เห็นหมดแล้ว รีบๆฉี่ เร็วๆ ถ้ามึวไม่ทำ เดี๋ยวกูจะทำให้" อึ๋ย! ไม่เอาด้วยหรอก คนบ้าอะไรจะมาฉี่ให้เค้า น่าอายจะตาย....ว่าแต่ ทำไมรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วหน้าแบบนี้ หรือผมเขินที่พี่แฟงมากระซิบข้างๆใบหูกันนะ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราใกล้ชิดกันแบบนี้ แต่ทำไมพักหลังมานี้ผมถึงรู้สึกร้อนหน้าทุกครั้งที่พี่แฟงเข้ามาใกล้ๆ แล้วไหนจะสายตาแปลกๆนั่นอีก พี่แฟงทำตัวเหมือนเดิมแหละครับ เหมือนวันแรกที่เราเจอกันไม่เปลี่ยนไปสักนิด แต่สิ่งที่เปลี่ยนคือสายตาของพี่แฟง บางครั้งมันทำผมร้อนวูบวาบไปทั่วหน้า บางครั้งมันทำผมใจเต้นแรงเหมือนจะทะลุออกมา คล้ายๆกับตอนที่ผมไปเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์เลย ความรู้สึกแบบนั้นแหละ....ผมคิดว่านะ

"เสร็จรึยังเนี่ย มึงจะฉี่จนถึงพรุ่งนี้ใช่มั้ย กูจะได้เอาหมอนกับผ้าห่มมานอนในนี้เลย" นั่นไงครับ บอกแล้วว่าพี่แฟงก็ยังเหมือนเดิม หยาบคายกับผมเหมือนเดิมไม่มีลดลงเลยสักนิด

"จะเสร็จแล้ว รอก่อนครับ" ผมใช้ตัวเองบังหนอนน้อยของตัวเองไว้ก่อนจะปลดปล่อยน้ำออกมา หวังว่าพี่เขาคงไม่ชะโงกหน้าพ้นไหล่ผมมาดูหนอนของผมหรอกนะ มันคงจะเกินไปหน่อบนะแบบนั้น

"เออ ให้ไว กูง่วงละนะคุน ของมึงก็น่ารักดีนะ"

"พี่แฟงงงงงงง"

"อย่าตะโกน เดี๋ยวเส้นเสียงก็อักเสบหรอก เสร็จรึยังวะเนี่ย กูยืนจนขาจะเป็นตะคริวอยู่แล้วนะคุนคุน"

"เสร็จแล้วครับ"

แล้วเขาก็พยุงผมไปล้างมือก่อนจะพากลับขึ้นไปที่เตียงตามเดิม ว่าแจาเมื่อครู่เขาไม่ได้ชะโงกหน้ามาดูหนอนน้อยผมจริงๆใช่มั้ย โอ้ย..น่าอายชะมัด

"เดี๋ยวอย่าเพิ่งนอน วัดไข้ก่อน" เขาจัดผมให้นอนราบลงบนเตียงก่อนจะหยิบอะไรสักอย่างเสียบเข้าไปในหูของผม

"37.8 ไข้ลดลงมาเยอะแล้ว เอาแผ่นเจลแปะไว้อีกหน่อยละกัน"

"ครับ" เผ่นเจลหยุ่นๆแปะลงบนหัวผม

"เดี๋ยวคุน ดื่มน้ำหน่อยดีกว่า จะได้หายไวๆ"

"ครับ" ผมว่าแล้วรับแก้วน้ำที่มีหลอดเสียบอยู่มาจากมือพี่แฟง แต่ถูกมือหนาของคนตัวโตตีเข้าที่มีเบาๆ บอกไม่ให้จับแก้ว หน้าที่ผมคือดูดน้ำในแก้วให้หมดเท่านั้น ผมก็เลยต้องทำตาม พอดื่มจนหมดพี่แฟงก็เอาแก้วน้ำไปวางที่โต๊ะหัวเตียง ก่อนดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวผม

"ถ้าพรุ่งนี้ไม่ดีขึ้น กูจะให้หมอมาฉีดยามึงละนะคุนคุน"

"ไม่เอานะ" ผมกลับเข็มฉีดยา เคยบอกพี่แฟงไปแล้วแต่ไม่รู้ว่าพี่เขาจำได้รึเปล่า ตอนเด็กผมป่วยบ่อยเลยต้องไปหาหมอให้หมอฉีดยาให้ตลอด พอผมโตขึ้นไม่อยากป่วยบ่อยๆแบบนั้น ผมเลยดูแลเรื่องอาหารการกินของตัวเอง พยายามดื่มน้ำมากๆ ทานผักผลไม้ที่มีประโยชน์ ส่วนของหวานต่างๆนั้นข้อยกเว้นครับผม

"กูรู้ว่ามึงไม่ชอบเข็ม เพราะฉะนั้นก็รีบๆหายซะเข้าใจมั่ย" ผมยิ้มให้กับคนที่ยืนอยู่ข้างเตียง เอามือหนามาลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน ดีใจนะที่พี่แฟงจำเรื่องที่ผมเล่าได้ นั่นหมายความว่าเขาใส่ใจกับสิ่งที่ผมเล่า แม้เวลาที่ผมเล่าเขาจะทำเป็นดูทีวี หรือไม่ก็เล่นโทรศัพท์ แต่นั่นคือพี่แฟงครับ คนที่ชอบทำเป็นไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ แต่จริงๆแล้วเขาฟังทุกอย่างที่ผมเล่าเสมอ ทำไมผมถึงรู้นะหรอ เพราะผมเคยจำได้ว่าพี่แฟงบอกว่าอยากกินบล๊อคโคลี่ผัดกุ้ง แต่ประเด็นคือผมเคยบอกเขาว่าผมไม่ชอบทานบล็อกโคลี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจำเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ได้ ขนาดทัพกับขุนยังไม่เคยจำได้ด้วยซ้ำ มีครั้งหนึ่งตอนที่เราไปซื้อของที่ซุปเปอร์ด้านล่าง ผมหยิบบล๊อคโคลี่มาใส่รถเข็นเพราะกะจะทำบล๊อคโคลี่ผัดกุ้งให้พี่แฟงทานซะหน่อย แล้วพอพี่แฟงเห็นพี่แฟงก็เลยหยิบออก พร้อมกับพูดว่า

'อะไรที่มึงไม่กิน มึงก็ไม่ต้องหยิบ กูกินเหมือนมึงแหละ'

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือผมเคยบอกออกไปลอยๆว่าถ้ามีเวลาจะซื้อปลอกคออันใหม่ให้อันอัน แต่ช่วงนั้นยุ่งเพราะมีเรียนติดต่อกันเลยไม่ได้ออกไปไหน แล้วพี่แฟงออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าบอกว่าออกไปทำธุระกับที่บ้าน ตอนเย็นพอพี่แฟงกลับมา เขายื่นถุงกระดาษเล็กๆให้ผม แล้วในนั้นก็มีปลอคคอแมวน่ารักๆสีฟ้าอ่อนอยู่

'ไม่ต้องมองหน้ากูแบบนั้น กูไม่ได้ซื้อ ที่บ้านกูมีพอดีเลยหยิบมา'

อืม..เห็นผมซื่อๆแบบนี้ผมก็ไม่ได้โง่นะครับ พี่แฟงเคยบอกว่าน้องสาวพี่แฟงแพ้ขนสัตว์เลยไม่ได้เลี้ยงสัตว์ไว้ที่บ้าน บ้านที่ไม่มีสัตว์เลี้ยงจะมีปลอกคอแมวได้ยังไงจริงมั้ยครับ นี่แหละ คือวิถีของคนปากแข็งที่ขุนพลชอบแอบว่าลับหลังกองทัพตลอด
.
.
.

สามวันแล้วครับที่ผมป่วย แล้วก็เป็นสามวันที่ผู้ชายตัวโตๆ ที่นั่งอยู่ข้างผมบนโซฟาคอยดูแลผมอย่างดี แล้วก็เป็นอีกสามวันที่เดอะแฝดที่นั่งอยู่ที่พื้นคอยวนเวียนมาหาเรื่องทะเลาะกับพี่แฟงอยู่ทุกวัน

"พี่มึง ช่วยเอาตีนออกจากตักกูด้วย" ขุนพลที่ตากำลังจับจ้องเกมส์ในมือถือเอ่ยขึ้น

"กูอยากวางไว้ตรงนี้ มีปัญหาหรอ" คนตัวโตที่นั่งพิงพนักโซฟาในมือถือมือถือที่เปิดเกมส์เดียวกันกับขุนพลเอ่ยขึ้น

"ได้โปรดเอาออกไอ้พี่ พี่มึงคิดว่าตีนมึงหอมนักรึไง" ขุนพลทำเสียงฟึดฟัดขยับตัวไปมา แต่ก็ไม่เอามือปัดขาพี่แฟงออก คงจะกำลังเล่นเกมส์เข้าด้ายเข้าเข็มอยู่แน่ๆ เพราะตานี่จ้องหน้าจอมือถือไม่ยอมละสายตาไปไหนเลย

"ไม่"

"เอาไปวางที่ขาไอ่ทัพก่อน กูหนักพี่มึง พลีสสสส"

"อย่านะเว้ย" กองทัพที่กำเล่นเกมส์เดียวกันอยู่ร้องขึ้นมา พร้อมกับขยับตัวให้ห่างรัศมีเท้าของพี่แฟง

"เอาน่าขุน ให้กูวางตีนไว้บนตักมึงนี่แหละ เวลามึงทำพวกกูแพ้ กูจะได้เตะปากมึงได้ทันท่วงที"

"ทำไมดูถูกกันแบบนี้วะพี่ ระดับขุนพลแล้ว ต้องชนะเท่านั้น"

"ก่อนถาม ช่วยดูสารรูปตัวมึงก่อน ช่วยก็ไม่ใด้ เสือกเป็นภาระอีก วันหลังกูไม่ให้มึงร่วมทีมละนะขุน ไอ้ตัวภาระ"

"จริง มึงแม่งกากวะขุน ตัวถ่วง สัส"

แล้วในเวลาต่อมาขุนพลก็ถูกกองทัพกัยพี่แฟงเหยียดหยามด้วยถ้อยคำต่างๆนานาเพราะทำทีมแพ้

"คุน กูว่าช่วงนี้มึงติดไอ้พี่แฟงเกินไปรึเปล่า" ขุนพลที่นั่งกินไอติมอยู่ที่พื้นข้างโซฟาเอ่ยขึ้น

"เราไม่ได้ติดสักหน่อย" ผมที่นอนอ่านนิยายจีนจากไอแพดค้านออกไปทันที ขุนเอาอะไรมาพูดกันเนี่ย ติดเติดอะไร ไม่มี๊ไม่มี!

"หรอออ งั้นมึงก็ลุกออกมาจากตักไอ้พี่มันดิ" อู้ยยยยย ลุกก็ได้ น้องคุนไม่ได้ทำอะไรนะ แค่นอนเล่นบนตักพี่แฟงเฉยๆ อีกอย่างน้องคุนก็ไม่ได้ลงมานอนเองด้วย พี่แฟงดึงน้องคุนลงมานอนเองนะ น้องคุนเปล่าาาา

"ไม่ต้องลุก นอนตรงนี้แหละ มึงอย่ายุ่งน่าขุน แ*กไอติมของมันไป" มือหนาของพี่แฟงวางลงบนไหล่ผมเบาๆ ผมคิดว่าเขาทำแบบนั้นเพราะกันไม่ให้ผมลุกขึ้น แต่เปล่าเลย เขาวางมือไว้แบบนั้นไม่ได้เลื่อนมือไปวางไว้ที่ไหน เราสองคนสบตากันในเวลาต่อมา เหมือนพี่แฟงเองจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก้ไม่พูดออกมา จนเขาละสายตาออกไป เป็นแบบนี้หลายครั้งแล้วครับ พี่แฟงชอบมองหน้าผมนานๆแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ทั้งๆที่ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง

"เออ พี่ผมถามหน่อยดิ ว่าจะถามมานานละ" กองทัพที่ขอตัวไปคุยโทรศัพท์เมื่อยี่สิบนาทีที่แล้วเดินกลับเข้ามาในห้อง ช่วงนี้ทัพชอบปลีกตัวออกไปคุยโทรศัพท์บ่อยๆ สงสัยต้องติดสาวแน่ๆ อาการเหมือนขุนพลตอนจีบแฟนแรกๆเปี๊ยบ!

"เรื่องไร" พี่แฟงที่นั่งเลียไอติมอยู่บนหัวผมเอ่ยถามด้วนเสียงเรียบเฉย เฮ้อ! นั่นมันคอเน็ตโต้สตรอเบอร์รี่ของน้องคุนนะ น้องคุนอยากกินแต่พี่แฟงห้าม บอกว่าต้องหายป่วยก่อนถึงจะกินได้ น้องคุนเลยอดกินไอติมเลย

"ล้อแม็กรถพี่สั่งมาจากร้านไหนวะ สวยดีจะสั่งบ้าง"

"อ้อ ร้านเพื่อนพี่กูเอง เดี๋ยวเอาไลน์ให้"

"ได้ส่วนลดด้วยป่าว"

"ไม่รู้วะ มึงลองบอกไปละกันว่าแฟงน้องเฮียไพตอนแนะนำมา"

"เคพี่ ขอบคุณมาก เออว่าแต่รุ่นของเฮียนี่ถอยมาเท่าไหร่อะ ผมอยากได้แบบนั้นบ้าง"

"ของกูรุ่นนำเข้าสั่งทำพิเศษ เฮียแกลดให้เหลือห้าหมื่นนิดๆ"

"เชรดดดด วิถีคนรวยชัดๆ แพงขนาดนั้นแม่ผมฆ่าตายแน่ๆ ผมเอารุ่นรองลงมาหน่อยละกัน"

"ลองถามเฮียตี๋ดู กูว่ามันคงมีแหละ"

"พี่แฟงรวยหรอ" ผมถามขึ้นทันทีทำให้บทสนทนาที่ดูลื่นไหลของกองทัพและพี่แฟงหยุดชะงัดลงทันที ผมสงสัยไงครับ ถึงผมจะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับรถ แต่อุปกรณ์รถที่ราคาห้าหมื่นเนี่ยมันหลายบาทอยู่นะ ห้าหมื่นเนี่ยเมื่อก่อนซื้ออาหารเม็ดอันอันได้หลายเดือนเลยนะเนี่ย

"เฮ้ย รวยเลยอะไร ไอ้ทัพมันก็พูดไปเรื่อย" พี่แฟงเลิกลักอย่างเห็นได้ชัก ส่วนกองทัพก็หน้าถอดสีทันที ผมดูออกนะ!

"ห้าหมื่นนี่ไม่ใช่เงินน้อยๆเลยนะครับ" ผมขยับตัวลุกขึ้นนั่งบนเบาะโซฟา จ้องหน้าพี่แฟงหมายคาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้ สองคนนี้ดูมีพิรุจ ขุนพลอีก ไอติมในมือละลายแล้วนั่น!

"ก็ งะ เงินเก็บกูไง กูเก็บเงินไง กะ เก็บเป็นปีเลยนะเว้ยกว่าจะได้ ไอ้กองทัพมึงก็ต้องเก็บเงินเอานะเว้ย อย่าใช้เงินสิ้นเปลืองรู้มั้ย เงินหายากนะมึงอะ!" พี่แฟงพูดตะกุกตะกักอีกแบ้ว แล้วก็เอามือชี้หน้าขุนพลบอกว่าใช้เงินให้รู้จักคิดเงินสมัยนี้หายาก อะไรฟุ่มเฟือยก็ไม่ต้องไปซื้อ ผมเห็นด้วยนะ กองทัพกับขุนพลนะซื้อของฟุ่มเฟือยเยอะเหมือนผมนั่นแหละ แต่พอพี่แฟงมาอยู่ก็ห้ามผมซื้อโน่นซื้อนี่ จนทุกวันนี้ผมแทบไม่ได้เปิดเข้าไปใยแอปชอปปี้อีกเลย แม้ในเมื่อก่อนจะเปิดแอปนี้วันละสามสี่รอบก็ตาม

"ห้าหมื่นนั่นเอาไปจ่ายค่าคอนโดได้เลยนะพี่แฟง"

"แต่มันเปลืองไงค่าเช่าคอนโดเดือนละตั้งหมื่นกว่า"

"ทำไมถูกจังเลยห้องพี่แฟง เราจำได้ว่าพี่แฟรงค์เฟิร์ตตรงข้ามห้องบอกว่าให้เพื่อนเช้าคอนโดอีกห้องที่อยู่ชั้นล่างเดือนละสามหมื่นนะ" ก็จริงอะ พี่แฟรงค์เฟิร์ตบอกผมเมื่อต้นปีผมจำได้ นี่มันคอนโดในเมืองที่มีขนาดสองห้องนอนที่อยู่ชั้น 15 เลยนะครับ!

"เอ่อ หรอวะ สงสัยเจ้าของห้องเขาลดให้กู เขาเป็นเพื่อนเฮียกูไง เห้ย ต้องไปขอบคุณซะหน่อย ลดค่าเช่าให้กูเยอะขนาดนั้น"

"หรอครับ"

"ใช่ๆๆ หรือว่ามึงไม่เต็มใจให้กูอยู่ด้วย ถ้าเป็นแบบนั้นกูย้ายออกไปอยู่บ้านที่ฝั่งธนก็ได้ จะได้ไม่รบกวนมึง กูเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าพอกูหมดความสำคัญมึงก็ถีบหัวกูส่งแบบนี้นะคุนคุน" พี่แฟงแววตาเศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัด ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะครับพี่แฟง ใครจะไปไล่พี่แฟงได้ลงคอ

"คุนเปล่านะ"

"กูคงหมดความสำคัญแล้วสินะคุนคุน"

"ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ"

"กูมองตามึงกูรู้แล้วคุนคุน ว่ามึงไม่เต็มใจอยากให้กูอยู่ด้วยแล้วตอนนี้"

"ใครบอกพี่ครับ ผมนะอยากให้พี่อยู่ตลอดไปเลยด้วยซ้ำ! แล้วก็ห้ามไปไหนนะ!"

"หือ? อะไรนะ กูไม่ค่อยได้ยิน พูดอีกทีซิน้องคุนคุน"


#คุนแฟง

by ppeachmm


----++++----

อ้าวคดีพลิกซะงั้น!!!


 

หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 10 | 08.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 08-05-2020 20:35:26
อ้าวแล่ววว ....  :katai5:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 10 | 08.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: mylittleY ที่ 09-05-2020 00:02:49
เอ็นดู น้องคุนคุนน่ารัก
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 11 | 09.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 09-05-2020 12:22:47
แค๊กๆๆ

แค๊กๆๆ

"เมื่อไหร่จะหายวะคุน จะอาทิตย์นึงละนะ นี่โดนหวัดแ*ก หรือมึงแ*กหวัดเข้าไปวะมันถึงไม่หมดไปจากตัวมึงสักที" คนที่เพิ่งกลับมาจากทำรายงานกลุ่มห้องเพิ่งบ่นอุบเมื่อเปิดประตูเข้ามาได้ยินเสียงผมไอค๊อกแค๊กนั่งคุดคู้อ่านหนังสืออยู่บนโซฟาหน้าทีวี ไม่ใช่นั่งสิ นอนเหยียดยาวมากกว่า ใครก็เป็นกันเถอะอ่านหนังสือไปนอนหลับไป เนอะ? มันเรื่องธรรมด๊าาาา

"เราไม่รู้" ผมตอบไปตามตรง เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่หายสักที อาการปวดหัวครั่นเนื้อครั่นตัวหายไปได้หลายวันแล้วพร้อมกับอุณภูมิร่างกายที่ลดลงมาในระดับปกติ แต่ว่าอาการไอกับน้ำมูกเนี่ยยังไม่มีวี่แววว่าจะหายเลยสักนิด จนตอนนี้ผมกับพี่แฟงต้องนอนเปิดพัดลมเพราะพอเปิดแอร์แล้วผมไอทั้งคืนจนนอนกันไม่ได้เลย

"กูว่าสงสัยต้องไปฉีดยาแล้วละคุนคุน"

"ไม่เอานะ คุนไม่ไป"

"มึงกินยาที่กูให้จริงรึเปล่า"

"กินครบทุกมื้อเลยครับผม"

"แล้วทำไมยังไม่หายอีกวะ มึงเป็นโควิดรึเปล่าเนี่ยคุนคุน" พี่แฟงไม่ได้พูดเปล่าเขายังขยับตัวออกไปให้ห่างจากผมอีก ทั้งๆที่เมื่อครู่ยื่นหน้ามาใกล้ผมจนแก้มจะชนกันอยู่แล้ว

"หืออออ  พี่ว่าแบบนั้นหรอครับ" หรือว่าจะเป็นจริงอย่างที่พี่แฟงพูด ถ้าอย่างนั้นผมในตอนนี้คงอยู่ในระยะฟักตัวสินะ ผมเริ่มจะกังวลซะแล้วสิ นี่ถ้าผมเป็นโควิดแล้วตายไปป๊ากับม๊าจะเสียใจรึเปล่า แล้วป๊ากับม๊าจะบินมาดูใจผมทันมั้ยเพราะตอนนี้เขาปิดสนามบินกันนะสิ ไม่นะ นี่ผมต้องเป็นผีไม่มีญาติไปอีกกี่เดือนเนี่ย โอ้มายก๊อด!

"ทำหน้าแบบนี้จินตนาการอะไรเพ้อเจ้ออยู่อีกใช่มั้ยครับน้องคุนคุน ใช่ก็บ้าแล้วคุน ถ้ามึงเป็นกูคงติดเป็นคนแรกแล้วตัวติดกันจนจะสิงกันอยู่แล้ว ละก็ไอ้สองแฝดเพื่อนมึงที่ชอบมาสิงห้องนี้เช้าเย็นอีกมันคือผู้เข้าข่ายติดเชื้อลำดับที่สองรองจากกูเลยเนี่ย อย่าทำหน้าแบบนั้น ไม่ใช่หรอกน่ามึงไม่มีความเสี่ยงที่จะติดเลยด้วยซ้ำ ไหนมานี่สิ มาดูใกล้ๆหน่อย" ผมขยับไปใกล้กับพี่แฟงที่นั่งอยู่อีกฟากของโซฟา ไม่รู้เหมือนกันว่าผมทำหน้าแบบไหนออกไปพี่แฟงถึงได้ดึงตาผมเข้ามาใกล้แล้วเอามือยีหีวผมเล่นแบบนี้

"ตัวหายร้อนไปนานแล้ว แอร์ก็ไม่ได้เปิดทำไมน้ำมูกไม่หยุดไหลสักที หรือกูต้องเปลี่ยนตัวยาให้แรงขึ้นวะ ไหนจะไออีก หรือร่างกายมึงไม่ถูกกับยาตัวนี้" เขาพูดไปพร้อมกับทำท่าครุ่นคิดคล้ายกับกำลังนึกอะไรอยู่

"พูดเหมือนเป็นหมอเลยนะพี่เนี่ย"

"กูมันห่างไกลความเป็นหมอขนาดนั้นเลยหรอวะ" ประโยคที่ผมเอ่ยออกไปดึงคนที่ทำหน้าครุ่นคิดให้หันกลัยมามองผมทันที

"ไม่ไกลหรอกครับ คุนว่าแค่พันปีแสงเท่านั้นเอง"

"มึงรู้มั้ยคุน คนอื่นด่ากูหยาบคายกว่านี้มาก แต่กูยังไม่รู้สึกเจ็บจี้ดเท่ามึงพูดประโยคเมื่อกี้เลยนะรู้เปล่า แม่งเจ็บวะถูกถั่วงอกด่า" คนตัวหยาเอามือวางไว้ที่อกด้านซ้ายพร้อมกับทำท่าเจ็บปวดจะเป็นจะตาย มันคือการแสดงที่ห่วยมาก พี่แฟงทำแบบนี้หลายครั้งแล้วครั้งสองครั้งแรกคุนก็เชื่อนะ แต่พอครั้งต่อๆไปคุนเริ่มตาสว่างละว่ามันคือการแสดงละครชัดๆ ครั้งแรกผมทุบลงไปบนอกพี่แฟงเพราะเขาล้อผมเรื่องตัวเล็กนิดเดียวแต่แก้มย้วยจนเกือบติดพื้น นั่นแหละ ผมโมโหเลยทุบเข้าไปที่หน้าอกเขาหนึ่งที แล้วเขาก็ล้มลงไปนอนบนพื้นเอามือจับหน้าอกตัวเองพร้อมกับร้องโอดโอย ผมตกใจมากเลยทำอะไรไม่ถูก ส่วนพี่เขาก็ทำหน้าดำหน้าแดงเจ็บปวด ผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีรีบทรุดตัวลงไปมองพี่คุนใกล้ๆ แต่กลับโดนคนร่างหนาดึงตัวเข้าไปกอดกันอยู่บนพื้นแทน แถมด้วยเสียงหัวเราะกวนๆ

"หรอครับ อื้อออ พี่แฟง" และแล้วผมก็โดนนิ้วหนาๆของพี่แฟงดีดหน้าผากไปหนึ่งที น้องคุนเจ็บนะ! แต่น้องคุนจะไม่ตอบโต้ เพราะคุณแม่ขอร้อง...ไม่ใช่หรอกครับ แต่เพราะคุนสู้ไม่ได้!!!

"อ่านหนังสือถึงไหนแล้ว" พี่แฟงมองไปยังกองหนังสือมากมายที่ผมวางไว้บนโต๊ะกลางหน้าทีวี อาทิตย์หน้าผมจะถึงฤดูกาลสอบแล้วครับ เลยต้องเร่งอ่านหนังสือ เพราะต้องสอบตั้งเจ็ดวิชาแล้วก็เป็นวิชาท่องจำตั้งสี่วิชาแหนะ

"เพิ่งจบไปหนึ่งวิชา ส่วนวิชานี้คุนอ่านไปชั่วโมงหนึ่งแล้วแต่กลับจำอะไรไม่ได้เลยพี่แฟง มันเหมือน....."

"สมองขาดน้ำตาล?"

"ถูกแผ๋ง!"

"เอาน้ำตาละลายน้ำมั้ยจะทำให้ตอนนี้เลย"

"พี่แฟง! ชอบแกล้งคุน พี่ก็รู้ว่าเราหมายถึงอยากอื่นนะ"

"อย่างอื่นที่ว่าคืออะไร ไอติมงี้? ไม่ได้หรอกคุนมึงไม่สบายอยู่"

"ชานมไข่มุก?"

"นั่นก็ไม่ได้มีน้ำแข็ง หรือจะกินชานมไข่มุกร้อนละ อันนั้นได้นะเอามั้ย ชานมไร้ไข่มุกนะ"

"อย่าทำร้ายชานมไข่มุกของผมเราด้วยการไม่ใส่น้ำแข็งนะครับ มันเสียจรรยาบรรณชานมของเราหมด นั่นมันหยาบคายมากเลยรู้มั้ยพี่แฟง"

"งั้นก็แ*กแค่น้ำอุ่นพอ"

"ไม่เอา! ขอขนมปังสังขยาปิ้ง ได้มั้ยครับ ขนมปังร้อนๆราดสังขยาอุ่นๆกับนมอุ่นๆอีกแก้ว โหแค่คิดก็สมองลื่นไหลเลย ความจำโฟลมากโฟลสุดๆ" ผมมองพี่แฟงตาปริบๆเป็นเชิงอ้อนวอน ตั้งแต่ป่วยมานี้ผมยังไม่ได้แตะของหวานเลยสักนิด นี่มันเป็นสถิติใหม่เลยนะเนี่ยที่คุนคุนไม่มีของหวานกระแทกปากนานเกินสองวันเนี่ย น้องคุนต้องการน้ำตาล!แล้วร้านขนมหวานก็ต้องการคุนคุน!

"แผ่นเดียวนะ"

"ครับผม! แผ่นเดียว แผ่นเดียวจริงๆ"

"เออๆ ไปเปลี่ยนชุดด้วย"

"เย้!!! ไม่เปลี่ยนหรอกไปชุดนี้แหละ ไปๆๆ ตุนจะไปกินสังขยา~~~" ผมก้มลงไปสำรวจเสื้อผ้าที่สวมอยู่ ตอนนี้ผมสวมเสื้อยืดคอกว้างสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีครีม ชุดพร้อมออกเดินทาง ลุย!

"เสื้อมันบางแล้วก็คอกว้าง ไปเปลี่ยนเป็นตัวอื่น" แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ได้คิดเหมือนน้องคุนเลยสักนิด

"ไม่เป็นไรหรอกข้างนอกอากาศร้อน ใส่แบบนี้แหละดีแล้ว ไปๆๆๆ ไปกัน คุณหิวน้ำตาล น้ำตาลคิดถึงคุนแล้ว ไปๆๆๆ สังขยาจ๋าอีกห้านาทีเจอกานน~~~

"คุน ถ้ามึงไม่เปลี่ยนเสื้อก็ไม่ต้องไป"

แง! ทำไมต้องดุด้วย ไม่เข้าใจ!!! เปลี่ยนก็ได้!!! เล่นมองตาเขียวปั๊ดแบบนั้นใครจะไปกล้าหือ..

.
.
.
.
.
.

"ร้านปิด" ตอนนี้เรายืนอยู่ที่ร้าน ขนม นม เนย คาเฟ่วินเทจที่อยู่ใต้คอนโดของเรา แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อหน้าร้านมีป้าย Closed แปะอยู่ ทำไมทำกับคุนแบบนี้! คุนจะกิน! คุนจะกิน!

"ไม่เห็นต้องทำหน้าหมาหงอยขนาดนั้นเลยคุน แค่ร้านปิดเองนะ" คนตัวโตที่ยืนอยู่ข้างๆยกมือขึ้นมายีหัวผมก่อนเอ่ยออกมา

"พี่แฟง"

"ว่า"

"พังร้านเข้าไปดีมั้ยครับ"

"มันจะอะไรขนาดนั้นคุน" คนที่ยืนฟังอยู่ข้างๆถอนหายใจเสียงดัง

"แต่คุนอยากกินมากนะพี่แฟง ทุบกระจก บุกเข้าไปเลย คุนได้ยินมาว่าเด็กช่างชอบก่อเรื่องตีกัน เอาเลยพี่คุยบุกร้าน!" ผมทำเสียงผิดหวัง แล้วก็อยากจะร้องไห้ออกมาเป็นสายเลือดด้วยซ้ำ ทำไมสวรรค์ใจร้ายจัง นี้สวรรค์ลงโทษน้องคุนใช่มั้ยที่กื้อกับปาป๊าหม่าม๊า ตอนนี้อะไรก็ขวางคุนไม่ได้แล้ว คุนจะบุกร้าน!

"อยากกินขนาดนั้นเลย" แต่คนข้างๆกันยืนนิ่งพร้อมกับเสียงพูดที่เรียบเฉย โห ไรอะ อุตส่าห์ปลุกระดมทำไมไม่มีอารมณ์ร่วมเลย ใช่ซี้ คนที่ไม่ใช่สาวกน้ำตาลจะมาเข้าใจอะไร..เวลาที่คนขาดน้ำตาล จะบ้าคลั่ง!

"ครับ" ผมเอ่ยตอบไปเบาๆ ตอนนี้รู้สึกผิดหวังอย่างแรง เพราะตอนแรกตั้งใจสุดๆว่าจะมาที่นี่แล้วก็จะสั่งเมนูเด็ดของร้าน แต่พอมาเห็นป้ายปิดแบบนี้มันเหมือนถูกผลักตกหน้าผาอย่างไงไม่รู้

"งั้นเดี๋ยวพาไปกินอีกร้าน อร่อยกว่าอีก" ผมที่กำลังยืนคอตกอยู่รีบเงยหน้าขึ้นมามองพี่แฟงทันที ผมไม่ได้ฟังผิดไปใช่มั้ยเนี่ย!

"จะ จริงหรอครับ"

"จะไปมั้ย ถ้าไปก็รีบตามมา" พี่แฟงเดินออกไปจากตรงนั้น ผมรับก้าวตามไปทันที พอถึงตัวพี่แฟงผมก็รีบเกาะแขนเขาไว้แล้วโยกไปมา ผมชอบทำแบบนี้เวลาที่พี่แฟงตามใจ ส่วนพี่แฟงก็ไม่ได้ว่าอะไรปล่อยให้ผมจับแขนตัวเองโยกไปมาอยู่อย่างนั้น บางที่ก็หัวเราะลอยๆในลำคอ

ตี๊ด!

"ขึ้นรถสิ" คนตัวสูงมองหน้าผม พร้อมกับสั่งให้ผมที่ยืนงงอยู่ใรลานจอดรถของคอนโดให้ขึ้นรถคันสีดำที่จอดอยู่ตรงหน้า

"คุน จะไปรึเปล่า" พี่แฟงที่ขึ้นรถไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ลดกระจกรถลงมาเรียกผมที่ยังยืนอยู่ที่เดิม คือผมงงอยู่ งงกับรถที่พี่แฟงขึ้นไปนั่งเนี่ย อย่าบอกนะว่าไปขโมยรถใครมา นี่มันเบนซ์นะครับ! มีขโมยรถยังทำได้ ทำไมพังร้านขนมให้คุนไม่ได้ โกรธดีมั้ยเนี่ย!

"จะขึ้นไม่ขึ้น จะไปกินมั๊ยขนมปังสังขยานะ นับถึงสาม ถ้าไม่ขึ้นจะกลับห้องละนะ"

"เอ่อ ขึ้นครับ" ผมรีบเปิดประตูฝั่งข้างคนขับเข้ามานั่งในรถทันที คนที่ผมคิดว่าไปขโมยรถมาขับรถออกจากคอนโดด้วยท่าทางคล่องแคล่ว ขับซะคล่องเลยสงสัยขโมยมานานแล้งแหงๆ

"คิดเพ้อเจ้ออะไรอีก นี่รถกู ไม่ได้ขโมยใครมา" เขารู้ว่าผมคิดอะไรอีกแล้ว เวลาที่ผมคิดอะไรเขาจะรู้หมดทุกอย่าง เขาบอกว่าหน้าผมเหมือนจอโปรเจคเตอร์ที่ฉายภาพความคิดผมให้เขารู้ ผมต้องเชื่อมั้ยเนี่ย!

"คาดเข็มขัดด้วย เดี๋ยวพ่อมึงที่อยู่ตรงสี่แยกข้างหน้าจะเชิญกูจอดข้างทาง"

"พ่อพี่อยู่สี่แยกหน้าหรอครับ"

"อืือ"

"พ่อพี่มาทำธุระแถวนี้หรอครับ"

"โอ้ย กูจะบ้าตาย โน่น กูหมายถึงพ่อโน่น ที่ใส่หมวกกันน็อคสีขาวหัวปิงปองยืนอยู่สี่แยกโน่นเห็นรึเปล่า"

"อ้อ คุณตำรวจนี่เอง"

"อ้าว พ่อพี่เป็นตำรวจหรอครับ" ตายแล้วๆๆ นี่ลูกตำรวจขโมยรถหรอเนี่ย!!

"อือ แล้วแต่จะคิด"
.
.
.
.
.

"อิ่มแปร้เลย ลุกไม่ขึ้นแล้ว" ผมนั่งลูบท้องตัวเองหลังจากที่จัดการขนมปังสังขยาตรงหน้าหมดเกลี้ยง ผมฟาดไปสามแผ่นกับนมสดอีกหนึ่งแก้ว ส่วนพี่แฟงไม่ได้แตะขนมเลย สั่งแค่นมอุ่นๆมาหนึ่งแก้วกับเครื่องเคียงพวกธัญพืชเท่านั้น

"สมควร ยัดห่าไปตั้งสามชิ้น เดือนนี้งดไปเลยนะของหวาน ถ้าแ*กเข้าไปอีก เดือนหน้ามึงได้ตัดขาแน่"

"ฮ่าๆๆ อันนี้คุนเข้าใจ มุกนี้กองทัพสอนมา มุกเบาหวาน เราชอบๆๆๆขำดี"

"กูด่ามึงอยู่เนี่ย ใช่เวลามาขำมั้ย"

"อ้าว ว่าเราจริงๆหรอ"

"ก็เออนะสิ"

โครม!

"รถชน!!! มีคนเจ็บ!"

เสียงของหนักๆกระแทกเข้าหากันดังอยู่นอกร้าน พวกกับเสียงเอะอะโวยวายของคนหน้าร้านทำให้เราต้องลุกขึ้นไปมอง บนถนนเกิดอุบัติเหตุ รถยนต์คันหนึ่งพุ่งชนเข้ากับเสาไฟฟ้าที่อยู่ตรงข้ามร้านขนมที่เรานั่งอยู่ คนที่มุงดูเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ทีแรกบอกว่ามีรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งตัดหน้ารถยนต์คันนั้นทำให้รถยนต์หักหลบแล้วเสียหลักพุ่งเข้าชนเสาไฟฟ้า

"มีคนเจ็บ"

"มีเด็กอยู่ในรถด้วย"

"เด็กบาดเจ็บหนักเลย เลือดไหลไม่หยุด"

คนที่มุงดูเหตุการณ์ร้องตะโกนออกมา มีคนสามสี่คนยืนอยู่ใกล้ๆเสาไฟฟ้าที่เกิดเหตุช่วยกันเอสตัวคนเจ็บออกมา

"เรียกรถพยาบาลทีครับ คุนรออยู่ตรงนี้อย่าไปไหนเข้าใจมั้ย" พี่แฟงหันไปบอกพี่ผู้หญิงเจ้าของร้านขนม ก่อนจะหันมาพูดกับผมแล้ววิ่งไปที่รถคันนั้น

ผู้ชายสามสี่คนที่ยืนอยู่ข้างรถอยู่ก่อนหน้านั้นช่วยกันพาผู้โดยสารและคนขับออกมาจากรถ คนขับหัวแตกยังมีสติอยู่ครบถ้วน ส่วนเด็กที่คาดว่าจะนั่งอยู่ด้านข้างคนขับมีเลือดออกตามตัว ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดบาดแผลที่ตรงไหนเพราะตามหน้าไม่มีเลือดแม้แต่น้อย

ดูเหมือนเด็กจะหมดสติ เพราะผมเห็นพี่แฟงพยายามใช้ฝ่ามือตบเข้าไปที่หน้าเด็กเบาๆหลายทีแต่ก็ไม่มีการตอบสนองกลับมา พี่แฟงทำอยู่แบบนั้นสักพักจนเด็กได้สติ ปริมาณเลือดที่หยดลงบนพื้นจากร่างกายเด็กดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นกว่าตอนที่พาออกมาจากรถในคราแลกพอสมควร ผมเห็นพี่แฟงยกเสื้อเด็กออกแล้วใช้มือกดไปตรงบริเวณเอวของเด็กไว้ ก่อนหันไปคุยกับลุงที่ยืนอยู่ใกล้ๆกัน ไม่นานลุงก็ยื่นผ้าอะไรสักอย่างมาให้แล้วพี่แฟงก็กดผ้าผืนนั้นลงไปตรงเอวเด็ก แล้วถอดเสื้อที่ตัวเองสวมอยู่มาพันรอบเอวเด็กไว้อีกชั้นหนึ่ง ไม่นานรถพยาบาลก็มาถึง พี่แฟงคุยอะไรกับพี่พยาบาลสักพักก่อนเดินกลับมาหาผมที่ร้านขนม

"กลับกัน"

"ครับ" ผมเดินตามผู้ชายตัวสูงไป เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วตัวเขายังสะอาดสะอ้านอยู่เลย แต่ตอนนี้เนื้อตัวเต็มไปด้วยคราบเลือด ผมเพิ่งจะรู้วันนี้เองว่าสิ่งที่เขาพยายามพร่ำบอกผมว่าเขาเรียนหมอมันคือความจริง จากที่เห็นเขาช่วยเด็กด้วยท่าทีที่คล่องแคล่วนั้นทำให้ผมเชื่อในที่สุดว่าผู้ชายคนนี้เป็นนักศึกษาแพทย์ปีสามอย่างที่เขาเคยบอกผมจริงๆ สิ่งที่เขาทำเมื่อครู่มันลบล้างภาพพจน์ดิบๆเถื่อนๆของเด็กช่างไปจนหมดสิ้นเลย

"หยิบเสื้อหลังรถให้กูหน่อย กูจะล้างตัวก่อน เหม็นคาวเลือด" เขายอกผมก่อน เอื้อมมือไปหยิบขวดอะไรบางอย่างออกมาจากข้างประตูรถ พร้อมกับทิชชู่เปียก ผมเดินไปด้านหลังรถค้นกระเป๋าสีดำที่วางอยู่ตรงนั้น ในนั้นมีเสื้อยืดสองสามตัวกับกางเกงและเสื้อกาวน์หมอ และนั่นยิ่งตอกย้ำความจริงที่ว่าเขาเป็นนักศึกษาแพทย์จริงๆ ผมหยิบเสื้อยืดสีดำออกมาจากกระเป๋าก่อนเดินมาหาเขาที่ยืนเช็ดตัวอยู่ข้างรถ เพิ่งรู้ว่าขวดอะไรบางอย่างที่เขาหยิบออกมาจากข้างประตูมันคือขวดแอลกอฮอล์

"พี่เป็นหมอจริงๆด้วย"

"ทีนี่ละเชื่อกูแล้วใช่มั้ย"

"คงงั้นแหละครับ"

"ไปกลับกัน อยากอาบน้ำล้างตัวแล้ว"

"ครับ"

.
.
.
.
"พี่แฟงครับ" ผมเรียกคนที่เดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่เขาอาบน้ำไปนานกว่าครึ่งชั่วโมง

"ว่าไง"

"เด็กคนนั้นจะปลอดภัยใช่มั้ยครับ"

"ถึงมือหมอแล้ว ปลอดภัยแหละ" คนร่างหนาขึ้นมานั่งข้างผมบนเตียง มือก็เช็ดผมไปด้วย

"แต่ผมเห็นเลือดน้องเค้าไหลไม่หยุดเลยนะครับ"

"ใช่ ซากของเล่นแทงเข้าไปตรงช่วงท้องนะ ตอนก่อนรถชนเด็กมันนั่งเล่นรถตักอยู่ ตอนชนคงกระแทกแรงตรงที่ตักรถเลยแทงเข้าไปในช่องท้อง แต่โชคดีหน่อยที่ไม่ลึกมาก"

"ถ้าเป็นผมคงร้องไห้งอแงเสียงดังแล้ว" ผมพูดตามความจริง ถ้าเป็นผมเห็นเลือดเต็มตัวเองขนาดนั้นคงจะร้องไห้งอแงงจนสลบไปเลยแหละ ผมไม่ค่อยถูกโฉลกกับเลือดเท่าไหร่เห็นทีไรเหมือนภาพตัดสมองขาวโพลนทุกที

"กลัวเลือดหรอ"

"คงงั้นมั้งครับ เห็นทีไรเหมือนจะหน้ามืดตลอด"

"อืม กูอยู่กับมึงไม่ได้ตลอดเวลาที่จะคอยปกป้องไม่ให้มึงเป็นอันตรายได้ แต่ถ้ามึงเจ็บตัวตอนไหนให้รีบมาหากูเป็นคนแรก กูจะเป็นคนรักษาแผลมึงเอง เข้าใจมั้ย"


#คุนแฟง

by ppeachmm


----+++----

พี่แฟงขาหนูมีดบาดคะ!!!!!!




หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 11 | 09.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 09-05-2020 13:39:08
 :pighaun: อุต๊ะ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 11 | 09.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 09-05-2020 19:25:09
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 11 | 09.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: mylittleY ที่ 10-05-2020 08:32:01
 :mew1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 12.1 | 11.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 11-05-2020 11:05:11
---ตอนที่ 12.1---

"อื้อออ"

"อีกนิดเดียว คุนคุน"

"อะ อื้ออ พะ พี่แฟง"

"ทนอีกนิดเดียวนะ"

"อะ อะ อะ อื้ออออ เราไม่ไหวแล้ว"

"คุน ทำไปไม่กี่ครั้งเอง อย่ามางอแง"

"แต่เราเหนื่อย เราเจ็บ เราไม่ไหวอะ"

"คุน" คนที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงปลายเท้าผมเปล่งเสียงทุ้มที่เรียบเฉยออกมา ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงคิดว่าเขาแค่พูดออกมาเท่านั้นไม่มีอารมณ์ใดๆแฝงอยู่ แต่ตอนนี้เสียงเรียบๆแบบนี้ มันหมายถึงเขากำลังโมโหอยู่ที่เลเวลสอง (เต็มสิบ) หลังจากข่มผมด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งและสายตาเย็นยะเยือกแล้ว พี่แฟงก็ยืนมือหนาของตัวเองมากดขาทั้งสองข้างของผมไว้เหมือนเดิม

"พี่แฟงคร้าบบบ น้องคุนไม่ไหวแล้วจริงๆ ปล่อยน้องคุนไปเถอะนะ" พี่แฟงก็จริงจังกับการออกกำลังกายเกินไปรึเปล่าเนี่ย น้องคุนแค่เผลอบอกว่าอยากมีซิกแพคแบบพี่แฟงบ้าง พี่แฟงกลับบังคับให้คุนทำซิทอัพมาสามวันซ้อนแล้ว คุนเหนื่อย คุนท้อ คุนไม่ชอบออกกำลังกาย!

"อย่ามางอแง ไม่อยากทำก็ต้องทำ กูใจดีกับมึงมานานละ วันนี้กูไม่ใจอ่อนอีกแล้ว" คนตัวโตดูเหมือนจะไม่ใจอ่อนกับท่าทางงอแงของผมในต้องนี้จริงๆ สงสัยลูกไม้เดิมๆจะใช้ไม่ได้ผล ต้องงัดกลยุทธ์ใหม่ออกมาใช่ซะแล้ว สงสัยต้องลองเอาสิ่งที่ขุนพลสอนมาลองใช้ดูเสียหน่อย

"แต่พี่แฟงครับ" ขอให้กลยุทธ์นี้ของขุนพลได้ผลที่เกิด เพี้ยงงงง

"อะไร อย่ามาอ้อน ไม่ได้ผล ขยับเดี๋ยวนี้ นับหนึ่ง นับสอง นับส....." เสียงคนที่กดขาผมไว้เงียบหายไปในทันที

'ไอ้พี่แฟงมันแพ้พุงขาวๆของมึง เชื่อกูนะคุน'

'ถ้าอยากอ้อนอะไรมันก็แค่แกล้งเปิดเสื้อขึ้นมาให้เห็นพุงนิดๆของมึง รับรองเลย ว่าไอ้พี่มันยอมตามใจมึงทันทีเลย ถ้าไม่ได้ผลมาถีบยอดอกกูได้เลย'

"พะ พี่แฟง"

"พี่แฟงครับ"

"พี่แฟง" ผมเรียกผู้ชายร่างสูงใหญ่ที่คุกเข่าอยู่ตรงขาของผมหลายครั้ง แต่ดูเหมือนว่าคนตรงหน้าจะถูกแช่แข็งไปแล้ว สงสัยวิธีของขุนพลจะได้ผลดีเกินจริง

"พี่แฟงครับ"

"อะ ฮะ?"

"คุนพักได้ยัง เหนื่อยแล้ว ซิทอัพมาตั้งสิบนาทีแล้ว"

"อ่อ อะ เออ ได้ๆ พักได้ ไปๆ ไป พักเลย ไปเลย เดี๋ยวกูมา ไปห้องน้ำก่อน" แล้วพี่แฟงก็ลุกขึ้นสาวเท้าเข้าห้องนอนไปอย่างรวดเร็ว กว่าจะออกมาอีกครั้งก็เกือบยี่สิบนาที ไปทำอะไรของเค้ากันนะ
.
.
.
.
.

"แอบกินอะไรคุน" คุ้กกี้ที่อยู่ในมือผมหล่นลงพื้นทันทีที่เสียงทุ้มของใครบางคนดังมาจากด้านหลัง มาตอนไหนกันเนี่ย โถ น้องคุกกี้ที่รักเราเลยไม่ได้ใกล้ชิดกันเลย คุนกะว่าจะรีบมาแอบกินคุกกี้ช๊อกโกแลตชิปซะหน่อย แต่กลับถูกพี่แฟงจับได้อีกแล้ว

"เอ่อ...มาดื่มน้ำครับ นี่ไง นะ น้ำ"

"หรอ แล้วไอ้เศษขนมที่หล่นอยู่ตรงพื้นนั่นอะไร"

"ขนมที่ไหน ไม่มี้ไม่มี สงสัยอันอันแอบมาหยิบขนมไปกินแน่ๆ"

"อือ อันอันนี่มันเก่งขึ้นทุกวันเลยนะ ถึงขนาดเปิดขวดคุกดี้เองได้แล้วนะตอนนี้" ผมรีบมองขวดคุกกี้ที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ครัวทันที คุนคุน! ทำไมหยิบคุกกี้แล้วไม่รีบเอาขวดเก็บเข้าตู้นะ พี่แฟงเลยจับได้เลยเนี่ย!

"ถ้ามึงขยันออกกำลังกายเหมือนขยันแอบกินขนมก็คงดีนะคุน"

"เฮะ"

"อย่ามาทำหน้าแบบนั้น กูไม่หลงกลมึงหรอกนะ"

"แล้วถ้าเราเปิดเสื้อ พี่แฟงจะยอมมั้ย" ผมเอื้อมมือไปจับชายเสื้อไว้ แล้วลอบมมองคนที่ขยับมายืนอยู่ข้างๆกัน

"คุน! ใครสอนมึงทำแบบนี้ ไอ้สองแฝดใช่มั้ย"

"อุ้ยยย รู้ได้ไงเนี่ย อะ อะ อย่านะ จะทำอะไร ปะ ปล่อยเราลงนะ" ร่างขนาดมาตรฐานของผมถูกยกขึ้นลอยจากพื้นขึ้นมาพาดไหล่ของคนที่ตัวใหญ่กว่าผมเกือบยี่สิบเซ็นต์ได้อย่างง่ายดาย ที่บอกว่าง่ายคือง่ายจริงๆ เพราะพี่แฟงยกผมขึ้นด้วยมืดเดียว!

"มึงชักจะเอาใหญ่แล้ว"

"เราเปล่า เอาใหญ่อะไร ไม่รู้เรื่อง" ร่างของผมถูกวางลงบนโซฟา จริงๆถ้าจะพูดให้ถูกต้องบอกว่าทิ้งลงบนโซฟาต่างหาก พร้อมกับหน้าที่เฟิ้มไปด้วยหนวดกดลงมาตรงหน้าท้องผมโดยที่ไม่เปิดเสื้อขึ้น

"อะ ฮะๆๆๆ ฮะๆๆๆ หยุดนะ ปะ ปล่อย ฮะๆๆๆ" ผมกิ้นพล่านอยู่บนโซฟาตัวยาวด้วยรู้สึกจั้กจี้ตรงหน้าท้อง พี่แฟงชอบทำแบบนี้เวลาที่ผมเถียง หรือดื้อไม่ยอมทำตามที่พี่แฟงบอก แต่น้องคุนเด็กเจนวายนะ มีความคิดเป็นอิสระ ทำไมต้องทำตามด้วย!

"อะ อันอัน อะ อันอัน ชะ ช่วย ฮะๆๆ ด้วย ฮะๆๆๆ" ผมร้องเรียกอันอันที่นอนแหมะอยู่ใต้โต๊ะกลางข้างโซฟา เชื่อมั้ยละว่าอีกเดี๋ยวอันอันสุดที่รักของป๊าก็จะรีบเข้ามาช่วย

"มันไม่มาหรอก" และก็จริงอย่างที่พี่แฟงบอก อันอันนอนนิ่งเฉย เอียงคอมองหน้าผมด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง และไม่ขยับเขยื้อน ไม่นะ! ไม่จริง!

"ฮ่าๆๆ อะ อันอัน ช่วยด้วย ฮ่าๆๆๆ" อันอันนิ่งเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเบือนหน้าหนี อ้าว อ้าว อันอั้นนนนนนน

"หึ เห็นมั้ย มันแปรพักตร์มาหากูแล้ว"

"อันอัน ทำไมทำงั้น มาช่วยป๊าเดี๋ยวนี้"

"อย่าเรียกหาพวกซะให้เมื่อยปาก ตอนมึงนอนป่วยอยู่ กูนี่แหละให้ข้าวให้น้ำมัน สงสัยมันจะสำนึกบุญข้าวแดงแกงร้อนที่กูเอาให้มันกิน ไอ้แมวตาฟ้านี่ก็อยู่เป็นนี่หว่าอันอันเดี๋ยวกูเอาขนมแมวเลียให้กิน"

เมี้ยวววว

อ้าว อะไรกันนนน อันอัน อย่าเห็นแก่กิน ไม่ได้ ป๊าไม่นอม หนูมาช่วยป๊าก่อน! แล้วไอ้แกงร้อนๆคืออะไร เอาให้อันๆกินทำมายยยย

"อะไร ฮะๆๆ แกงร้อนอะไร เอาข้าวราดแกงให้อันอันกินหรอ"  จมูกหนาๆกดลงบนท้องผมไม่ขาดสาย จนผมหัวเราะน้ำตาเล็ดออกมาเป็นทาง

"มันเป็นสำนวน มึงไม่ต้องรู้หรอก" อ้อสำนวนไทย มีแต่ยากๆทั้งนั้น ต่อให้เรียนทั้งชีวิตน้องคุนก็ไม่มีวันเข้าใจหรอก มันยากเกินไป

"พี่แฟง คุนจั๊กจี้ ฮ่าๆๆๆ ยะ หยุด ฮ่าๆๆๆ" ผมทั้งหัวเราะทั้งร้องหามไปพร้อมๆกับบิดตัวไปมา ทั้งเอามือสองข้างผลักหัวพี่แฟงที่ผมยาวเฟื้อยไปด้วย เราสองคนไม่ได้ไปตัดผมมาเป็นเดือนแล้วเพราะร้านปิด จนตอนนี้พี่แฟงต้องใช้ยางรัดผมขึ้นไปไว้หนึ่งจุก น้องคุนสัญญาว่าถ้าร้านตัดผมเปิดจะพาพี่แฟงไปตัดผมทันที น้องคุนไม่ชอบคนป่า!

"มึงดื้อ กูก็ต้องลงโทษไง อย่าขยับเยอะ เสื้อเปิดแล้วเห็นมั้ยเนี่ย" จริงด้วย ผมขยับจนเสื้อยืดตัวเดิมเลิกขึ้นมาเหนือหน้าท้อง(อวบๆ)ของผม ขณะที่กำลังขัดขืนคนตัวโตที่เล่นกับท้องผมอยู่นั้น ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรอุ่นๆมาสัมผัสตรงหน้าท้องที่เสื้อถูกเลิกขึ้น ผมก้มลงมองดู มันคือริมฝีปากพี่แฟง

ความร้อนเริ่มแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณหน้าท้องลามขึ้นมาจนถึงช่วงอก ริมฝีปากหยักหนานั้นพรมจูบไปทั่วไม่ยอมหยุด เสื้อยืดตัวเดิมตอนนี้เลิกขึ้นมาอยู่ตรงคอผมแล้วโดยที่ผมไม่รู้ตัว เพราะมันแต่สนใจความรู้สึกมวนๆที่พลุ่งพล่านอยู่ในช่องท้อง และเพราะมัวแต่สนใจความรู้สึกแปลกใหม่นี้จึงเผลอวางมือที่ผักหัวพี่แฟงออกเอามาวางที่ท้ายทอยพี่แฟงตอนไหนก็ไม่รู้

"คุน" เสียงทุ้มหนาที่ฟังกี่ครั้งก็ดูน่าฟังเสมอเอ่ยขึ้นทั้งๆที่หน้ายังจมปลักอยู่กับบริเวณช่วงอกของผม

"ครับ"

"จูบได้มั้ย"

"ครับ?"

"พี่จูบคุนได้มั้ย"

ผมยังไม่ได้ตอบออกไปเพราะไม่รู้เหมือนกันว่าผมควรจะตอบอะไรออกไปอย่างไง และก็ไม่รู้นานเท่าไหร่ที่ร่างหนาจ้องมองตาผมไม่กระพริบ จนในวินาทีนั้นที่หน้าของพีาแฟงเลื่อนเข้ามาใกล้หน้าผมมากขึ้น มากขึ้นจนระยะหว่างระหว่างเราลดลงเป็น
10 เซนติเมตร
9..
8...
7...
6...
5..
4...
3...
2...
1....

และ

ริมฝีปากของเราชนกัน

มันเนิ่นนาน มันเนิบนาบ และมัน...ละมุน และที่สำคัญกว่านั้น คือผมรู้สึกดี ทั้งที่ไม่ควรจะรู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ

เจ้าของริมฝีปากหยักหนาบดเบียดริมฝีปากล่างและบนของผมสลับไปมาคล้ายจะกลืนกินมันเข้าไปในทุกช่วงการเคลื่อนไหวของมัน ก่อนจะใช้ลิ้นร้อนเบิกทางรุกล้ำเข้ามาโดยที่ผมเองเป็นฝ่ายเปิดริมฝีปากตัวเองออกให้ คนมีอายุมากกว่าช่วงชิมโพรงปากผมอย่างอ่อนโยน จนผมรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในอวกาศ มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมรู้สึกว่าผมตัวเบาเหมือนก้อนเมฆ และผมก็รู้สึกดี ดีมากจนบอกไม่ถูกกับสัมผัสที่ยังติดอยู่บนริมฝีปาก กับจูบแรกที่ผู้ชายคนนี้มอบให้

"โอเครึเปล่า" พี่แฟงผละริมฝีปากออก เขาใช้ดวงตาที่ดุดันแต่ทว่ากลับแฝงไปด้วยความอ่อนโยนมองผม แววตานั้นดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย มันดูลุ่มหลง และมันดูแผดเผาไปในเวลาเดียวกัน มันทำให้ผมรู้สึกมวนท้อง มันทำให้ผมรู้สึกร้อนทั่วใบหน้า และ

"คะ ครับ"

มันทำให้ผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

"กูขอโทษ"
 
และ

"..."

ที่แย่ไปกว่านั้น

"กูแค่ห้ามตัวเองไว้ไม่อยู่"

ก็

"คะ ครับ"

คือ

"ถ้ามึงไม่โอเคกับสิ่งที่กูทำไป ก็ยอกได้ กูสัญญาจะไม่ทำ..แบบนั้น...กับมึงอีก"

ว่าผม

"พี่แฟง"

ตึก

"หืม"

ตัก

"เอาอีก"

อยากถูกสัมผัสแบบนั้นอีก

"ฮะ? มึงว่าอะไรนะ"

ตึก ตัก

"เรา...ยะ อยากได้แบบเมื่อกี้นี้อีก"

ไม่รู้ว่าตัวเองพูดแบบนั้นออกไปได้ยังไง ผมควบคุมตัวเองไม่ได้ มีอย่างที่ไหนที่ร้องขอให้ผ๔้ชายมาจูบตัวเอง......อีกครั้ง....


"หึ! อย่าพูดประโยคเมื่อกี้แล้วก็ทำหน้าแบบนี้ให้ใครเห็นเข้าใจมั้ย"

"เอ่อ...ก็ได้"

"รู้มั้ยว่าทำไม"

"ไม่ครับ"

"เพราะมันจะไม่จบแค่จูบนะสิ น้องคุนคุน"

.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm


หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 12.1 | 11.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 11-05-2020 15:21:44
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 12.1 | 11.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 11-05-2020 15:35:11
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 12.1 | 11.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 11-05-2020 17:54:50
 o22
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 12.1 | 11.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: mylittleY ที่ 12-05-2020 11:30:12
 :z1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 12.1 | 11.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 12-05-2020 12:41:16
ช่วงนี้คิดพล๊อดใหม่ได้เลยเขียนเรื่องสั้นขึ้นมา ฝากติดตามด้วยนะคะ พอดีอยากแต่งแนวหน่วงนิดๆพอเป็นกระษัยคะ

พระอาทิตย์สีขาว

https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71920.0
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 12.2 | 13.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 13-05-2020 08:02:52
---ตอนที่ 12.2---


"พี่แฟง" ผมจ้องมองปากแดงๆที่กำลังขยับอยู่นั้นไม่ยอมละสายตาไปไหน ในใจอยากจะบดขยี้ปากนิ่มๆของคนใต้ร่างซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะปากคุนมันน่าทะนุถนอมมากกว่านั้น

"หืม"

"เอาอีก" ไม่รู้คนตัวเล็กพูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง นี่ที่พูดเพราะต้องการแบบนั้นจริง หรือเพราะตกใจ หรือเพราะปากมันหลุดออกมาเองกันแน่ ผมเลยต้องถามย้ำออกไปเพื่อความแน่ใจ แม้จะอยากกระซากตัวนิ่มๆของคุนคุนเข้ามาทำอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่าง ตอนนี้ความคิดผมเตลิดไปไกลแล้วครับ ไกลจนไม่สามารถดึงกลับมาได้แม้ตะใช้รถสิบล้อสามคันมาฉุดก็ไม่อยู่ ไม่รู้คนที่พูดว่าอยากได้อีกนั้นจะเข้าใจตรงกับผมรึเปล่า เดาได้ว่าไม่....

"ฮะ? มึงว่าอะไรนะ" ขอกูย้ำให้ชัดๆอีกทีซิ เผื่อกูคิดไปเอง สมองตอนนี้ยิ่งเลอะเลือนอยู่ บอกตามตรงเลยว่าตอนนี้มองอะไรไม่เห็นแล้ว มีแค่ภาพปากเล็กๆสีแดงตรงหน้าขยับไปมาเท่านั้น ห่าเอ้ย กูอยากกัดปากมึงจริง!คุนคุน

"เรา...ยะ อยากได้แบบเมื่อกี้นี้อีก"

"หึ! อย่าพูดประโยคเมื่อกี้แล้วก็ทำหน้าแบบนี้ให้ใครเห็นเข้าใจมั้ย" ดูมันทำท่าเข้า มึงพูดแบบนั้นออกมาแล้วก็กัดริมฝีปากล่างของตัวเองทันที แบบนี้ผมต้องทำอย่างไง!!!! เห็นแล้วของขึ้น...นั่นไง...ขึ้นแล้ว...ขึ้นแล้ว....

"เอ่อ...ก็ได้"

"รู้มั้ยว่าทำไม"

"ไม่ครับ" คนตัวเล็กมองผมตาใสเหมือนที่ทำประจำเวลาที่มันพยายามจะสื่อว่ามันไม่รู้จริงๆ

"เพราะมันจะไม่จบแค่จูบนะสิ น้องคุนคุน"

แต่ครั้งนี้ถึงแม้มึงจะไม่รู้ กูก็ปล่อยมึงไปไม่ได้แล้วนะคุน!

ผมยกคนตัวเล็กขึ้นมาสลับให้ตัวเองลงไปนอนอยู่บนโซฟาแทน โดยที่คุนคุนนอนทับอยู่บนตัวผม แบบนี้คุนจะได้ไม่หนัก เพราะผมเองก็ไม่ใช่เบาๆเลย พอจัดที่จัดทางเรียบร้อยผมก็ไม่รอช้าจับท้ายทอยเจ้าแก้มยุ้ยลงมาบดริมฝีปากหนาของตัวเองทาบทับไปกับปากสีแดงระเรื่อทันที เด็กสมัยนี้เรียนรู้เร็วจริงๆ ยังไม่เท่าไหร่ก็อ้าปากให้ผมสอดแทรกลิ้นร้อนๆเข้าไปช่วงชิมความหวานจากโพรงปากนั้นอีกรอบ ยิ่งได้สัมผัสยอ่งยากที่จะหยุด มันเหมือนกับคนติดบุหรี่แหละครับ ลองแล้วชอบ ชอบแล้วเลิกยาก ยากจริงๆ เหมือนผมในตอนนี้ที่ดูเลียเล็มปากเล็กๆของคุนคุนอยู่เนินนาน

"พอแค่นี้เถอะ ความอดทนกูน้อย เดี๋ยวมึงจะไปติวสอบไม่ไหว"

"อื้อ"

"ขอกอดอีกหน่อยละกัน"

"อื้อออ"

ไอ้เจ้าแก้มยุ้ยซบหน้าลงบนอกอมเบาเบา แรงกระเพื่อมของหน้าอกคุนคุนขยับแรงมาก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้หัวใจอีกคนนั้นเต้นเร็วแค่ไหน ผมเลื่อนมือขึ้นไปกอดคนตัวเล็กไว้ในอ้อมกันแล้วก็ถูไปตามแผ่นหลังเล็กนั้นเบาๆ ไม่นานจังหวะการเต้นของหัวใจคุนคุนก็กลับมาเป็นปกติ

"ทำบ่อยๆ ก็หายตื่นเต้นไปเอง"

"พี่รู้ได้ไงว่าคุนตื่นเต้น"

"ใจมึงกับใจกูรวมกันเต้นดังขนาดมนุษย์ต่างดาวบนดาวอังคารยังได้ยินเลย"

"อื้อ อย่าล้อ"

"กูไม่ได้ล้อ แค่จะบอกว่ากูเองก็ใจเต้นแรงไม่แพ้มึง" มันคือความจริง และตอนนี้หัวใจผมยังเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่เลย อะไรวะแฟง...นี่มึงจะใจเต้นแรงแต่เพราะจูบไม่ได่นะเว้ย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น

"ตอนนี้ก็ยังเต้นแรงอยู่ คุนได้ยิน ตรงนี้มันดังมาก" คุนขยับตัวเองมาด้านขวา ก่อนเอาใบหูขาวๆของตัวเองวางไว้บนอกข้างซ้ายของผม อืม...มึงนี่น่ารักเสมอต้นเสมอปลายจริงๆเลยนะคุนคุน

"มันกำลังพูดกับมึงไง"

"พี่เป็นมนุษย์วิเศษหรอหัวใจถึงพูดได้"

"ดูเป็นมหาเทพไง เหมือนซีรี่ส์จีนทีีมึงดูทุกวันอะ ชื่อไรนะ ผมขาวๆ ตัวสูงๆอะ"

"อ้อ มหาเทพตงหัว ไม่ใช่แค่ขาว แค่สูงนะ แต่หล่อด้วย"

"ต่อไปนี่ห้ามดูได้มั้ยเรื่องนี้เนี่ย เห็นมันออกมาทีไรมึงจ้องมันตาไม่กระพริบทุกที"

"ไม่ได้หรอ ตี้จวินหล่อไง คุนเลยชอบดู"

"อ้อ ที่มึงดูเรื่องเดินวนซ้ำไปซ้ำมานี่คือดูไอ้พระเอกคนนี้นะหรอ" เอาละ คือ ไอ้แฟง มึงจะมาหึงพระเอกในซีรี่ย์ไม่ได้นะเว้ย

"ตี้จวินไม่ใช่พระเอกครับ แต่เป็นนักแสดงที่มีบทเด่นคนหนึ่งเท่านั้น" เ*ดแม่ นี่ขนาดไม่ใช่พระเอก มึงยังวนดูมันไปกว่าร้อยรอบขนาดนี้ คือวันก่อนกูเห็นไงว่ามึงหมุนวนซ้ำฉากที่มันอุ้มจิ้งจอกสีส้มกว่ายี่สิบรอบ มันเกินไปนะคุนคุน

"จะเป็นไรก็ช่างแม่ง มึงจูบกูแล้ว มึงต้องรับผิดชอบกูด้วยเข้าใจมั้ย" แต่ก่อนอื่นกูต้องหาทางกำจัดซีรีย์เรื่องนี้ออกไปจาก Netflix ซะก่อน หรือไปขอร้องให้นิรันดร์ซื้อ Netflix แล้วถอนซีรีย์เรื่องนี้ออกจากผังโปรแกรมหนังไปเลยดีมั้ยวะ พ่อลูกกันต้องเข้าใจหัวอกคนหวง...ว่าที่...เมียดิวะ เค..คืนนี้กูจะโทรหานิรันดร์!

"พี่แฟงจูบเราก่อนนะ" ไอ้แก้มย้วยเงยหน้าช้อนตาขึ้นมามองหน้าผมทันที แม่เจ้าเว้ย ช็อตนี้กูตาย นิรันดร์มาเก็บศพผมที...

"เอ่อ..อันนั้นก็ใช่อยู่ แต่ครั้งที่สองมึงขอให้กูทำไง คือ อันนั้นมึงต้องรับผิดชอบ" คุนคุนทำท่าคิดเรียบเรียงประโยคที่ผมพูดไป คือ กูตั้งใจพูดเร็วให้มึงไม่เข้าใจ มึงทำเป็นเข้าใจแล้วก็เออออห่อหมกกับกูทีเถอะ โอมเพี้ยง!

"ก็ฟังดูมีเหตุผล" นั่นไง มันคงฟังไม่ทันแหละ ผมออกจะตั้งใจพูดเร็วๆ ซึ่งโดยปกติแล้วผมจะพยายามพูดช้าๆให้มะนฟังทัน เพราะถ้าพูดเร็วมันฟังไม่ทันต้องมานั่งพูดซ้ำ เผลอๆต้องแปลไทยเป็นไทยอีก แรกๆก็งงกับเลเวลภสษาไทยของมัน หลังๆเริ่มจับจุดได้ สรุปคือ พูดให้ช้า และใช้ศัพท์ให้เบสิคที่สุด ส่วนศัพท์ภาษาวิบัติสมัยใหม่ ไม่ต้องแปลอะไรมห้ยุ่ฃย่าง เพราะแม่เสือกเข้าใจและใช้เป็นทุกคำ! นี่ไง ถึงได้บอกว่ามันต้องมีการควบคุมการใช้ภาษาของเด็กสมัยนี้บ้าง เพราะทุกวันนี้จวนจะพูดภาษามนุษย์ต่างดาวกันอยู่แล้ว มันใช่หรอครัช!!!

"เค งั้นก็รับผิดชอบกูด้วย"

"ก็คงต้องเป็นแยยนั้นละครับ แต่ใก็เรารับผิดชอบยังไงหรอ"

"อันนั้นเดี๋ยวบอกอีกที แต่ตอนนี้เอาหน้าออกมาจากนมกูก่อนเถอะ ฟังหัวใจกูพูดนานขนาดนั้น เข้าใจกันบ้างรึยัง"

"แหะ พยายามฟังอยู่ครับ แต่คุนยังฟังไม่เข้าใจ" ก็ต้องเป็นแบบนั้นรึเปล่าวะ ถ้ามึงฟังเข้าใจนี่กูคือรีบวิ่งเลยนะ กูกลัวอะ ยิ่งพวกสิ่งลี้ลับนี่คืออย่าเข้ามาใกล้เลย อยู่ห่างๆกันไว้เป็นดีที่สุด

"มึงไม่ตั้งใจฟังไงคะ งั้นเดี๋ยวกูบอกให้ เอาหูมานี่"

"หือ? พูดว่าอะไรหรอครับ" คุยคุนขยับตัวเล็กน้อยก่อนเอาแก้มมาใกล้ๆหน้าผม แล้วนื่นใบหูขาวๆมาใกล้ๆปากผม แก้มย้วยๆนี่มันคืออะไรกัน ขอกัดได้มั้ยหมั่นเขี้ยวมานานละ

"ก็พูดว่า กู...."

ก๊อกๆๆๆๆ

คนตัวเล็กที่อยู่บนตัวผมสะดุ้งตกใจกับเสียงเคาะประตูทันที ใครมันเสือกมาเคาะประตูตอนนี้วะ

ไอ้...ชิบ....หาย
กู...จะ..ไป...เผา...บ้าน...มึง!!!!

คุนเอามือวางทาบไปที่พนักพิงโซฟาก่อนจะยันตัวเองให้ลุกขึ้น แต่ผมกลับเอามือไปรังเอวคนตัวเล็กไว้ได้ก่อน ใครกันที่บอกว่าคุนมันเจ้าเนื้อ ผมคนหนึ่งละขอเถียง โอเค มันกินเก่ง..ขนมแหละที่กินเก่ง ส่วนอาหารมื้อหลักก็กินปกติตามภาษาผู้ชายผอมๆทั่วไปแหละ แต่ไอ้ขุนนี่สิชอบมาไซโคว่ามันอ้วนบ้างละ เจ้าเนื้อบ้างละ จนมันคิดว่าหนังติดท้องของมันเรียกว่าพุง ช่างเถอะ เพราะนั่นหมายถึงคนอื่นไม่เคยเห็นพุงจริงๆของมันเหมือนที่ผมเห็นไงละ ไม่อ้วนสักนิดแถมยังพอดีกับมื้อผมอีกต่างหาก

ก๊อกๆๆ

"คุนจะไปเปิดประตู"

"เดี๋ยวค่อยไป"

ก๊อกๆๆๆ

"แต่คนด้านนอกเคาะนานแล้วนะครับพี่แฟง"

"ปล่อยมันไปเถอะ คงเป็นไอ้พวกแฝดนั่นแหละ ไม่มีึนเปิดเดี๋ยวมันก็กลับห้องกันเอง"

"ใช่ที่ไหนละครับ พี่บอกเองว่าคราวที่แล้วสองคนนั้นเอากุญแจไขประตูเข้ามา"

เออ...จริง นี่กูลืมไปได้ไงว่ะ

"เค งั้นก็ไปเผิด แต่ไม่ต้องให้พวกมันเข้ามานะ ไล่มันกลับห้องมันไป มีอย่างที่ไหนชอบมาเนียนใช้น้ำใช้ไฟห้องคนอื่น"

"ฮ่าๆๆๆ"

ก๊อกๆๆๆ

นี่ก็เคาะเก่งจัง! พ่อมึงเป็นญาติกับนกหัวขวานรึไง สัสสสส

แกร๊ก!

"เอ๋ มาหาใครครับ"

อ้าวไม่ใช่สองแฝดหรอกหรอวะ แล้วใครมาวะ ผมชะโงกหน้าขึ้นมาจากโซฟาเพื่อดูว่าใครกันที่บังอาจมาขัดจังหวะสวัทกวานแหววของผมกับน้องคุนคุนของผม มันน่าจับหัวมากระแทกเข้ากับกำแพงจริงๆ

อ้าว ชิบหาย นั่นมายเวย์นี่หว่า ขอคืนประโยคจับหัวมากนะแทกกำแพงเมื่อกี้โดยด่วย คนนี้ทำไม่ได้ ต้องอ่อนโยน ผมรีบเด้งตัวขึ้นมาจากโซฟาทันทีเลยครับ

"พี่แฟงคร้าบบบบ มีเพื่อนมาหาครับ" คุนคุนเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับแฟนสุดสวยของไอ้นาทีเำื่อนรักเพื่อนแค้นของผม

"ไงแฟง"

"มายเวย์มาทำไมเนี่ย" ผมถามออกไปด้วยความสงสัย เพราะไม่บ่อยนักหรอกที่มายเวย์จะมาหาผมที่ห้อง แล้วนี่ก็ไม่ใข่ห้องผมอีก แล้วเธอรู้ได้ไงว่าผมอยู่ห้องนี้

"พอดีทำซุปเสฉวน จำได้ว่าแฟงชอบเลยเอาลงมาให้กับทีนะ"

"แล้วไอ้ทีละ"

"คุยโทรศัพท์อยู่ด้านนอก เดี๋ยวอีกสักพักคงตามเข้่มาแหละ"

"อ้อ ขอบใจนะ"

"แล้วนี่เมื่อกี้น้องคนนี้บอกว่าแฟงย้ายมาอยู่ห้องนี้หรอ ทำไมเราไม่เห็นรู้เรื่องเลย นาทีไม่เห็นบอก ห้องมีปัญหาอะไรรึเปล่า ถ้ามีปัญหาไปอยู่ห้องทีได้นะ เดี๋ยวเรากลับไปนอนบ้านได้ เกรงใจน้องเค้า" มีน้ำใจประเสริฐแท้ ถ้าขืนขืนไปอยู่ห้องนาทีแล้วเมียมันต้องอพยพย้านถิ่นฐานกลับบ้านแบบนั้น มีหวังไอ้เพื่อนรักนทีสงสัยจะต้องมีการหักเหลี่ยมโหดกับผมจริงๆแล้วละทีนี้ แต่ประเด็นไม่ใช่ตรงนั้นไง ประเด็นคือผมแค่อยากย้ายเข้ามาอ่อยเด็กเท่านั้น

"เอ่อ เพื่อนพี่ก็อยู่คอนโดนี้หรอครับ" อ้าว ชิบหายรอบที่ลเานของวันนี้ กูไม่เคยบอกคุนคุนนี่หว่าว่ามีเพื่อนอยู่คอนโดนี้ด้วย มันจะขับไล่ไสส่งกูออกจากห้องมั้ยวะเนี่ย

"เอ่อ คือ...."

"ใช่จ้า พี่กับนาทีอยู่ชั้นถัดจากเราลงไปสองชั้น"

ความวอดวายเริ่มก่อตัว

"อ้าว ไอ้เพื่อนรัก" เสียงทุ้มของใครบางคนดังมาจากประตูทางเข้า ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอบคุณพระเจ้า ของคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ไอ้นาทีมันเข้ามาในห้องตอนนี้ ได้จังหวะเหมาะเจาะจริงๆเลยนะมึง ผมมองหน้าเพื่อนผมที่เพิ่งเดินเข้ามา สลับกับหน้าของคุนคุนที่มองเพื่อนรักผมจนตาค้าง เออ..มันหล่อ นาทีมันหล่อ แนวเดียวกับตี้จวินมึงซะด้วยนะคุน!

"มึงเข้ามาทำไม กูได้ซุปแล้ว มึงรับพาเมียมึงกลับไปได้แล้ว" ผมรีบสาวเท่าเข้ามาโอบไหล่เพื่อนรักทันทีที่มันย่างกรายเข้ามาในห้อง

"เฮ้ยกูไม่รีบ กะว่าจะมาทำความรู้จักเด็กมึงซะหน่อย ไหนวะ เฮ้ย คนนี้หรอ น่ารักวะ" ไอ้นาทีปัดแขนผมที่พาดบ่ามันลงก่อนเดินเข้ามาแถวโซฟาที่มายเวย์กับคุนคุนยืนอยู่ แล้วไอ้แก้มย้อนที่ยืนบิดม้วนอยู่นั่นคืออะไร ไอ้นาทีชมว่าน่ารักเข้าหน่อย นี่มึงเขิน!

"อ้าว บี๋รู้จักน้องหรอ" มายเวย์ถามขึ้นด้วยความสงสัย

"รู้จักสิ รู้จักดีเลยด้วย ก็เพื่อนตัวดีอย่างไอ้แฟงนะสิมัน......อุ๊บ!" กูรู้ละว่ามึงมาทำไม ไอ้เพื่อนเลว ไอ้หมาเผือก ไอ้หน้าดินสอ มึงตั้งใจมาแกล้งกูใช่ม้ายยยย ผมรับวิ่งเข้ามารวบตัวเพื่อนปากมากก่อนเอามือหนาปิดปากมันไว้ก่อนที่มันจะแพร่งพรายความลับของผมไปมากกว่านี้ โอเคมึงเอาคืนกู กูเข้าใจความรู้สึกมึงแล้วนาที กูเข้าใจอย่างลึกซึ้งเลยละวินาทีนี้

"กลับเหอะ~~ รบกวนเจ้าของห้องเขา" ผมพูดไปก็ลากไอ้เพื่อนตัวเท้ายักษ์นี่ออกไปจากห้องด้วย ผมกับมันตัวเท่าๆกันแหละครับ ลองนึกสภาพผู้ชายตัวโตๆถูกลากออกจากห้องดูนะครับว่าคนลากต้องใช้แรงแค่ไหน แม่ง หนักชิบหาย!

คุนคุนมองผมกับนาทีสลับไปมา สีหน้ามันดูเหรอหรามาก มึงไม่ต้องงงคุน เดี๋ยวกูปั้นเรื่องมาเล่าให้มึงฟัง ระบรองหายงง!

"มึงกลับไปเดี๋ยวนี้เลยไอ้ห่า มาทำไมเนี่ย" ผมกระซิบเบาๆเมื่อลากไอ้เจ้าเพื่อนรักนาทีออกมาจากห้องได้แล้ว คนถูกลากดูจะพอใจกับท่าทางของผมเหลือเกิน ยืนยิ้มขำอยู่นั่นแหละ แม่งเอ้ย อยากจะเอารองเท้าทาบหน้าจริงๆ

"ร้อนตัวจริงนะเพื่อนแฟง"

"เออ ยอมรับ ไปลากเมียมึงออกมาเลย คนซื่อสองคนอยู่ด้วยกัน บรรลัยละงานนี้" ผมชี้มือเข้าไปในห้อง ให้เจ้าตัวปัญหาจัดการคนของมันเดี๋ยวนี้เมื่อหันไปเห็นว่ามายเวย์กำลังคุยอะไรกับคุนคุนอยู่

"โอ้ย แบบนี้แหละนะ คนมีความลับติดตัว ชนักติดหลัง"

"ไอ้เ*ยที"

"เออๆ หยอกเล่นน่า ทำเป็นโมโห นี่เพื่อนนะเว้ย"

"ถ้าอยากเป็นเพื่อนกับกูอยู่ก็รีบกลับห้องมึงไปเลย เอามายเวย์กลับไปด้วย แล้วก็ไปเคลียร์กับเมียมึงให้กูด้วย จะได้เข้าใจสถานการณ์กู"

"เออๆครับๆ ไอ้คุณเพื่อนบังเกิดเกล้า"

"นับหนึ่ง!" ไอ้ทีที่ยังยกยิ้มที่มถมปากเดินไปที่หน้าประตูก่อนหันมาหาผมอีกครั้ง

"ไปแล้วคร้าบบบ อ้อมึง"

"อะไรอีก"

"เมื่อกี้ทำไรกันอยู่หรอ น้องมึงถึงยืนเคารพธรงชาติแบบนั้น"

ผมรีบก้มลงมองตามสายตาของนาทีที่มองต่ำลงมามองตรงส่วนกลางลำตัวของผมทันที

ชิบ...หาย!

ใครเห็นบ้างวะเนี่ย!



#คุนแฟง

by ppeachmm


------++++--------




หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 12.2 | 13.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 13-05-2020 09:42:55
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 12.2 | 13.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 13-05-2020 11:17:11
 :hao3:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 12.2 | 13.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 13-05-2020 12:31:29
ชอบอ่า คุนๆน่ารักอะซื่อๆ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 12.2 | 13.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 14-05-2020 07:23:17
---ตอนที่ 13---

"เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ก่อนตักเสริฟก็โรยงาลงไปเลยครับ อุ้ยยย"

"คุนคุน ซุมซ่ามอีกแล้ว เลอะเลยเห็นมั้ย"

"แหะ"

"ขยับมานี่ ให้กูเช็ดให้ก่อน"

โดนดุแต่เช้าเลยครับ ตอนนี้เรากำลังถ่ายคลิปเพื่อเอาลง คุนคุน ชาแนล ของผมครับ ตอนนี้ไม่ได้มีเวลาทำเป็นไลฟ์สดแล้ว มีแต่เอาคลิปลงแทนเพราะทั้งผมทั้งพี่แฟงต่างอ่านหนังสือเตรียมสอบจะว่างอีกทีก็ตอนดึกๆโน่นเลย แล้วเราก็เหนื่อยกันมากอ่านหนังสือทั้งวันสูบเอนเนอร์จี้ผมไปเยอะเลย ส่วนอีกคนนี่ไม่ต้องพูดถึงอ่านหนังสือจนเกือบเช้าทุกวัน เห็นลุคเหมือนเด็กช่างแบบนั้น ไม่น่าเชื่อนะครับว่าพี่แฟงนี่ขยันอ่านหนังสือมาก มากจนถ้าวันไหนผมอู้ไม่อยากอ่านหนังสือก็ต้องมองดูพี่แฟงที่นั่งจ้องหนังสือหนาเตอะอยู่หน้าทีวี เห็นแล้วเลิกอู้เลยครับ ต้องฮึบอ่านต่อทันที กดดันอะ พีาแฟงก็ขยันเกินจนบางทีคุณยังรู้สึกผิดที่บางครั้งอู้โดยการแอบดูคลิปน้องแมวน่ารักๆ น้องคุนไม่ได้ดูนานนะ แค่ครั้งละชั่วโมงเอง ห้ามฟ้องพี่แฟงด้วย เดี๋ยวคุนโดนดุ!

และตอนนี้ผมก็โดนพี่แฟงรวบตัวเข้าไปไว้ในอ้อมแขน ส่วนตัวเองก็หยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดเสื้อผมที่สีแดงๆของโคชูจังกระเด็นลอดผ้ากันเปื้อนมาใส่เมื่อครู่ตอนเอื้อมมือไปหยิบขวดงาขาว เละครับ ทั้งงาขาวที่ตกลงพื้น ทั้วโคชูจังในถ้วยที่คว่ำลงบนลนผ้ากันเปิื้อนสีฟ้าอ่อน ที่รูมเมทคนใหม่ของน้องคุนซื้อให้เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว น่ารักมั้ยละ เห็นหยาบคายแบบนี้ก็มีมุมอ่อนโยนนะทุกคน อย่าว่าพี่แฟนของคุนคุนนักเลย

"พวงมึงทำอะไรกันครับ ไอ้คุน ไอ้พี่แฟง" นั่นเสียงกองทัพที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงโซฟาครับ

"บรรยากาศมันแปลกๆนะผมว่า เหมือนมีสีชมพูวิ้งๆอบอวนอยู่แถวเตายังไงไม่รู้" ส่วนนี่ก็เสียงของขุนพลที่ยืนอยู่หน้าตู้เย็น สงสัยจะหิว เห็นเดินมาด้อมๆมองๆแถวตู้เย็นหลายครั้งละแต่ก็ไม่ได้อะไรที่ถูกใจติดไม้ติดมือไปสักที สงสัยจะหิวจัดครั้งนี้เลยต้องคว้าโยเกิร์ตรสธรรมชาติที่เจ้าตัวบ่นนักบ่นหนาว่ารสชาติเหมือนอวกอันอันไปกินแทน ทำเป็นรู้ดีเหมือนเคยกินอวกอันอันอย่างนั้นแหละ แก้วโยเกิร์ตที่เคยถืออยู่ตกลงไปที่พื้นครัวทันทีที่เห็นฉากเช็ดโคชูจังของผมกับหนุ่มช่างกล..เอ้ย ไม่ใช่..หนุ่มนักศึกษาแพทย์ต่างหากละ โชคดีหน่อยที่โยเกิร์ตแก้วนั้นยังไม่ได้เปิดฝา ไม่งั้นละก็ พื้นครัวเหนียวแน่ๆ

"ยุ่ง" ทายสิครับนี่เสียงใคร ถ้าบอกว่าเสียงผมจะเชื่อกันมั้ยครับ เชื่อเถอะครับนั่งเสียงผมจริงๆ ไม่มีสแตนอิน

"เฮ้ย ไอ้พี่ มึงทำไรเพื่อนคุนของผมเนี่ย" ขุนพลที่ก้มลงเก็บแก้วโยเกิร์ตเงยหน้าขึ้นถามด้วยความแปลกใจ ส่วนผมก็ยืนขำอยู่ที่เดิมปล่อยให้หนุ่มนักศึกษาแพทย์เช็ดคราบที่เลอะเทอะตามตัวให้ เพิ่มเติมคือมือพี่แฟงที่โอบเอวผมไว้

"ทำดีคุน เดี๋ยวกูให้รางวัล" พี่แฟงหัวเราะเบาๆดูชอบใจกับสิ่งที่ผมเพิ่งทำไป ท่าทางแตกต่างจากเพื่อนแฝดของผมที่อ้าปากค้างกับคำว่า'ยุ่ง'ที่ผมได้พูดออกไป

"อะไรกันวะนั่นนะ นี่กูพลาดอะไรไป"

"เออ นั่นดิ นี่พวกกูกลับบ้านไปสองวัน มันเกิดออะไรขึ้นนนน" สองแฝดรีบวิ่งมาแยกผมกับพี่แฟงที่อีกนิดจะสิงร่างกันอยู่แล้วออกจากกัน ขุนตีมือพี่แฟงแล้วดึงตัวพี่แฟงออกจากเอวผมเพราะขุนยืนอยู่ด้านหลังพี่แฟงพอดี คนที่ถูกตีมือทำหน้าไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด ส่วนผมนั้นถูกกองทัพดึงมานั่งที่โซฟา สองคนนี้ตลกเป็นบ้าเลย ถ้าคุณได้เห็นสีหน้าของขุนพลและกองทัพตอนนี้นะ คุณจะต้องตลกมากๆ

"ทัพดึงเรามาทำไม เรายังทำหมูผัดกิมจิไม่เสร็จเลย"

"ช่างแม่งหมูผัดกิมจิเถอะ เมื่อกี้มันอะไร สารภาพมาสิคุนคุน เอาความจริง ไม่งั้นกูจะตีปากมึง"

"อะไรเล่า" ผมรีบเอามือสองข้างยกขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้ทันที อย่าตีปากเรานะกองทัพ เรายังเจ็บปากอยู่เลยก็เมื่อเช้าพี่แฟงเล่นจูจุ๊บเราตั้งแต่ตอนตื่นนอน ปากล่างยังบวมเป่งอยู่เลยเห็นมั่ยเนี่ย!

"ที่มึงพูดว่า 'ยุ่ง' อะ มึงไม่เคยพูดนะเว้ย"

"อ้อ นั่นพี่แฟงสอนมาครัช!" ผมพูดจบก็ชี้ไปทางคนต้นเหตุที่สอนผมมาดิบดีตั้งแต่เมื่อคืนก่อนนอน

"คุน ถ้าไอ้แฝดมันถามอะไรน่ารำคาญ มึงก็บอกมันไปเลยนะว่า 'ยุ่ง'"

"ได้ครับผม"

"ว่านอนสอนง่ายจริงๆเลยมึงเนี่ย"

"หม่าม๊าก็พูดแบบนั้นแหละครับ" จำไม่ได้เหมือนกันว่าเราคุยอะไรกันต่อรึเปล่า แต่สิ่งที่จำได้คือพี่แฟงดึงผมเข้ามานอนจมอกตัวเอง ก่อนที่ผมจะเผลอหลับไป อกพีาแฟงอุ่นเป็นบ้าเลยครับผม!

บุคคลที่สามที่ถูกกล่าวถึงที่ยืนอยู่ไม่ไกลยกคิ้วขึ้นมาอย่างพอใจ แถมยังยิ้มมุมปากอีก ว่าแต่ว่า พี่แฟงที่มัดจุกขึ้นไปครึ่งหัวนี่ก็ดูดีเหมือนกันนะ เอ๋..แต่ไอ้ทรงนี้มันเรียกว่าอะไรน้าาาา เมื่อคืนก่อนนอนผมยังนั่งดูทรงผมกับพี่แฟงอยู่เลย อ้อ คิดออกละ ทรงแมนบันนี่เอง เข้ากับพี่แฟงดีนะดูดิบๆเถื่อนๆเซอร์ๆดี ไม่รู้มันเริ่มตั้งแต่ตอนไหนที่ผมมองว่าอีกฝ่ายหน้าตาดีพอสมควร ทั้งๆที่ครั้งแรกที่เจอกันเขาดู เอ่อ...ค่อนข้างหน้ากลัวในสายตาผมพอสมควร ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจดีกว่าเนอะ

"เป็นไงลูกศิษย์กู" คนถูกพาดพิงปิดเตาแก๊สเสร็จก็เดินมาทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างๆผม แทรกกลางระหว่างผมกับกองทัพพอดิบพอดี สีหน้าท่าทางดูก็รู้ว่าพอใจมากที่ศิษย์ดีเด่นอย่างน้องคุนทำตามคุณครูพูดขนาดนั้น

"ไม่ได้ละพี่ สอนอะไรให้คุนคุนเนี่ย พี่จะทำให้มันเ*ยเหมือนตัวพี่ไม่ได้นะเว้ย"

"อ้าวไอ้นี่ วอนโดนตีนกูแล้วมั้ยละ"

"พอๆครับทุกคน ห้ามทะเลาะกัน"

"ไม่ได้ทะเลาะนะครับน้องคุนคุน นี่แค่พูดคุยกันตามปกติเฉยๆ" พี่แฟงยื่นมือมายีหัวผมเบาๆ แล้วส่งยิ้มให้ ส่วนผมก็ยิ้มกว้างตอบไป ช่วงนี้พี่แฟงติดคุนมากบอกเลย เอะอะก็กอด เอะอะก็จับตัวส่วนเรื่อง เอ่อ...คิสคิสอะ นานๆที วันละครั้งเอง วันนี้ก็ทำไปแล้วตอนเช้า....อุ๊ปส์!หลุดอีกแล้ว!

"นี่ไม่ปกติละไอ้พี่ อีกนิดตีนมึงจะโดนหน้าผมละพี่"

ผมลุกขึ้นมาปล่อยให้สองแฝดปะทะคารมกับพี่แฟงต่อไป กลิ่นหมูผัดกิมจิที่อบอวลอยู่ที่บริเวณครัวนั้นเรียกน้ำย่อยได้ดีจริงๆ แต่ก่อนที่จะส่งอาหารหอมๆนั้นลงกระเพาะไป คุนต้องถ่ายรูปก่อนนะครับ จะได้เอาไปใส่ไว้ในคลิป ว้าว น่ากินจังเลย!

"หือ หอมจัง" ขุนพลเดินมาอยู่ข้างหลังผมที่กำลังกดชัตเตอร์จากกล้องมือถือเพื่อเก็บภาพหมูสัญชาติเกาหลีหอมๆน่าเจี๊ยสุดๆ

"โอ้ย ไอ้พีี่ทำไรเนี่ย" ขุนพลที่เคยยืนอยู่ข้างหลังผมจู่ๆก็เด้งไปอยู่มุมห้องซะงั้น  ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นน้องคุนมองไม่เห็นอะครับ หันไปอีกทีก็ไปยืนอยู่ตรงนั้นแถมยังยกมือขึ้นมาลูบจมูกตัวเองไปมาอีก อ้าว นี่ขุนมีวิชากำลังภายในตั้งแต่เมื่อไหร่กัน คุนงง

"มึงกำลังจะทำอะไรละไอ้ขุน" เสียงทุ้มนุ่มที่คุนคุ้นเคยดังขึ้นข้างๆหู ไม่รู้เจ้าตัวเดินมาตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ นี่สองคนนี้แอบไปฝึกวิชากำลังภายในกันมาตั้งแต่ตอนไหนกันถึงได้เคลื่อนไหวได้เร็วขนาดนี้

"ผมทำอะไรพี่ แค่กำลังจะก้มลงไปดมหมูเกาหลีเฉยๆ เห็นมันหอมดี"

"แล้วไป แต่ทีหน้าทีหลังอย่ามาทำลุ่มล่ามกับคุนคุนของกูอีก"

"แหมๆๆ อยากจะแหมไปถึงดาวอังคารโน้นนน ประทานโทษครับคุณพี่ ไม่ทราบไอ้คุนเพื่อนผมมันไปกลายเป็นคุนคุนของพี่มึงตั้งแต่เมื่อไหร่"

"นั่นสิพี่"

"นั่นมันก็เรื่องของกูกับคุน พวกมึงไม่เสือกสักเรื่องจะตายมั้ย"

"ตาย/ตาย" สองแฝดตอบประสานเสียงกันทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอยากรู้เรื่องมากขนาดไหน สมกับเป็นพี่น้องที่คลานตามกันมาดูโลกในเวลาใกล้เคียงกันจริงๆ

"งั้นก็ตายคาจานหมูผัดกิมจิมันนี่แหละ ไอ้พวกขี้เสือก" คนต้นเรื่องยกจานหมูผัดกิมจิขึ้นมาในมือทำท่าจะฟาดลงบนหัวของกองทัพและขุนพล พีาแฟงอย่ารุนแรง ห้ามเข้าโหมดโหดดิคร้าบบ

"เฮ้ย ไม่เอาดิวะพี่ ผมจริงจัง อะไรยังไงกันพูดมา"

"เออ ไอ้พี่ พี่มึงจะมาทำเล่นๆกับเพื่อนผมไม่ได้นะเว้ย สังเกตุมาหลายวันละ อะไรวะเดี๋ยวจับมือ เดี๋ยวจับหัว เดี๋ยวจับแก้ม นี้มีจับตรงอื่นกันอีกรึเปล่าวะเนี่ย" สองแฝดดูมีท่าทางจริงจังขึ้นมาทันที นี่ถ้าสองแฝดรู้ว่าผมจูจุ๊บพี่แฟงไปแล้วจะกรี๊ดสลบมั้ยนั่นนะ

"ไหนมึงลองอธิบายมาซิคุนคุน ว่าไอ้บรรยากาศสีชมพูตอนถ่ายวีดีโอเมื่อกี้มันอะไร"

"ก็ไม่มีอะไรนะทัพ เราก็เป็นแบบนี้ปกติ"

"เออ จริง ไอ้คุนมันพูดถูกของมันนะทัพ มันนะทำแบบนั้นปกติ อยู่กับมึงกับกูก็อ้อน ทำเสียงงุ้งงิ้งตลอด"

"ถ้างั้นคนมี่ไม่ปกติก็คือไอ้พี่สินะ"

"เออ พี่มึงนั่นแหละ ทำตัวผิดปกติ ทำไมช่วงนี้ตัวติดกับเพื่อนผมจังวะ ผมว่าช่วงนี้พี่ถึงเนื้อถึงตัวเพื่อนผมเกินไปรึเปล่า นี่แค่มาเป็นรูมเมทขั่วคราวนะเว้ย ไม่ใช่แฟน ทำตัวอย่างกะแฟน หรือว่า...."

"เออ นั่นดิ"

"ละใครบอกว่าคุนกับกูไม่ใช่แฟนกัน"

"ห๊ะ?/อะไรนะไอ้พี่/ ฮะ อะไรนะครับ" ทั้งผม ทั้งกองทัพ แล้วก็ขุนพลต่างร้องออกมาพร้อมกัน สองคนนั้นดูแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยินซึ่งนั่นก็ไม่แปลกหรอก แต่ผมนี่สิไม่เห็นรู้เรื่องเลยว่าตัวเองไปเป็นแฟนกับพี่แฟงตอนไหน มีอะไรที่ผมพลาดไปรึเปล่าเนี่ย นี่วันนี้คุนตื่นมาไม่มีความทรงจำของเมื่อวานหรอเนี่ย ตายแล้ววว ต้องรีบหาหมอด่วน!

"อ้าวพี่ ทำไมคุนคุนเหมือนไม่รู้เรื่องด้วยอะ"

"เออ จริง ดูทำหน้าเข้าคุน อ้าปากค้างจนแมลงวันจะเข้าปากได้ทั้งฝูงแล้ว"

"กูกับคุนคุนเป็นแฟนกันแล้วไง มึงไม่ต้องทำเป็นตกใจคุน"

"ปะ ปะ เป็นตอนไหนหรอครับ" ความจำหายไปจริงๆด้วย

"อ้าว นี่มึงจะไม่รับผิดชอบที่มึงมาลวนลามกูหรอคุน"

"ฮ๊ะ?!??"

"WTF!!!!"

"คุนลวนลามพี่แฟงตอนไหน?" ไม่เห็นจะจำได้เลย นี่ความจำคุนหายไปกี่เรื่องเนีาย โอ้โนววว

"ก็มึงจูบกูวันก่อนไง"

"ฮ๊ะ!?!/ฮ๊ะ!!?!?" สองแฝดร้องอุทานออกมาเป็นรอบที่สิบของวัน ส่วนผมที่ตอนแรกยังงงอยู่ว่าไปทำแบบนั้นตอนไหนก็ถึงบ้างอ้อขึ้นมาทันที อ้อ แบบนั้นเรียกลวนลามหรอ ถ้าใช่ ก็คงใช่แหละ ก็คุนทำจริงนี่นา

"อ้อ ที่บอกให้รับผิดชอบด้วยใช่มั้ยคะ ได้ครับได้ เป็นแฟนกันเนอะ" อ้อ เรื่องนี้นี่เอง ค่อยโล่งใจหน่อย ที่น้องคุนไม่ได้ความทรงจำขาดหาย ถูกแล้วครับคุนทำคุนต้องรับผิดชอบ ลูกผู้ชายตัวจริงเสียงจริงแบบคุนต้องยืดอกรับเท่านั้น ปาป๊าสอนมา น้องคุนจำได้!

"มึงยอมรับด้วย???? ไอ้ทัพ ดูลูกมึงเดี๋ยวนี้ ใจแตกไปกันใหญ่แล้ว"

"ขุน มึงไปหาไม้เรียวมาเลย นังลูกไม่รักดี ใจแตกนะมึง!"

"เฮ้ย ทุกคน ไม่ต้องทำเป็นเรื่องใหญ่หรอก น้องคุนแค่จูจุ๊บพี่แฟงเอง มาทานข้าวกันเถอะทุกคน คุนหิวมากเลยตอนนี้"

ผมเดินไปหยิบจานมาสี่ใบสำหรับตักข้าวให้ทุกคน พร้อมกับพี่แฟงที่ยก ซุปกิมจิและไก่เทอริยากิที่ทำไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว ปล่อยให้สองแฝดโวยวายกันไปตามปนะสาคนชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ จะโวยวายทำไมไม่รู้ น้องคุนเป็นผู้ชาย ไปจูจุ๊บ คิสคิสพี่แฟง ไม่ผิดสักหน่อย เนอะ?

"จะแ*กมั้ยพวกมึง ถ้าแ*กก็มานั่งนี่ ถ้าไม่ก็ไสหัวกลับห้องไปซะ"

"กินดิพี่ หิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย" ขุนพลที่ยืนงงอยู่สักพักรีบเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ทันที

"อย่าหวังว่าพวกผมจะรีบกลับตอนนี้ ฝันไปเถอะ ผมจะอยู่ทั้งวัน แล้วก็จะนอนนี่ด้วย!" เราสามคนเริ่มจัดการกับอาหารตรงหน้าแล้ว แต่กองทัพยังยืนอยู่ที่เดิม แล้วก็บ่นพึมพำอะไรไม่รู้ ยืนคุยอยู่กับกำแพงคนเดียว สงสัยหิวเจอเบลอแน่ๆ คุนหิวคุนไม่ว่างฟังหรอก ส่วนพี่แฟงที่นั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆผมตักซุปกิมจิเข้าปากเป็นอย่างแรก แล้วก็หันมาชมผมว่าทำอร่อย นี่ขนาดลองทำครั้งแรกยังอร่อยขนาดนี้เลย ใช่สิครับ ผมมันเด็กอัจฉริยะ!

"กินเลอะตลอด" พี่แฟงยื่นมือที่ถือทิชชู่มาเช็ดคราบอะไรสักอย่างที่ติดอยู่ตรงขอบปากผมออกให้ ทั้งๆที่ตัวน้องคุนเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปากตัวเองเลอะ

"ขอบคุณคร้าบผม พี่แฟงทานเยอะๆ อะนี่ คุนตักไก่ให้ อร่อยมากมาย" ผมเอื้อมมือไปตักไก่เทอริยากิที่วางอยู่หน้ากองทัพมาใส่ไว้ในจานพี่แฟง

"กูก็อยากกิน ขอด้วยสิ"

"แต่จานไก่มันวางอยู่หน้าทัพนะ ทัพก็ตักเองสิ ให้เราตักให้ทำไม"

"ทีไอ้พี่แฟงมึงยังตักให้เลยนี่คุนคุน"

"ก็พี่แฟงตักไม่ถึงนี่นา มันอยู่ไกล"

"แขนไอ้พี่แฟงมันยาวจะตาย แค่นี้มันตักถึงอยู่แล้ว ตัวมันยังกะนักบาส NBA"

"โกรธอยู่สินะมึง ทำไมวะ กลัวว่าจะตกกระป๋องหรอ ไม่ต้องกลัวหรอก พวกมึงตกกระป๋องแน่ไอ้แฝดนรกโกรธทีไรออกเสียงชื่อกูผิดตลอด กูบอกหลายทีละให้ออกเสียงชัดๆ แฟง..อะ..แฟง..ออกเสียง F- A -N -G อะมึง เวลาออกเสียงให้เหมือนมีตัวจีด้วย เสียชื่อกูหมด"

"ผมจะเรียกแบบนี้ ให้มันออกเสียงเหมือนฟักแฟงไปเลย! แล้วผมก็ไม่มีวันตกกระป๋องด้วยไอ้พี่!"

"โอ๋ๆ อย่าหงุดหงิดเลยทัพ กินนี่ๆๆๆ เราตักหมูผัดกิมจิให้ อร่อยอย่าบอกใครเชียว" แล้วผมก็ต้องคอยตักโน่นนี่ใส่จานคนนั้นคนที่ตลอด เพราะพอตักให้คนหนึ่ง อีกคนก็งอแงขึ้นมา ทำตัวเหมือนเด็กกันจริงๆเลย ไม่ยอมกันเลยสักคนเดียว นี่โตกันแล้วนะ ชอบทำตัวเป็นเด็กตลอด น้องคุนเบื่อที่ต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่อยู่คนเดียว เฮ้อ!
.
.
.
"คุน" พี่แฟงที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนเอ่ยเรียกผมที่กำลังนั่งเล่นอยู่ที่หน้าประตูระเบียงกับอันอัน ส่วนสองแฝดกำลังล้างจานกันอย่างขะมักเขม้น ว่าแต่ทำไมช่วงนี้อันอันกินเยอะจัง กินไก่มื้อและสี่ชิ้นแหนะ วันหนึ่งกินสามมื้อ เดือนหนึ่งก็ต้อง 360 ชิ้น โอ้โน้ว กินเยอะเหมือนป๊าคุนเลย เด็กดีโตไวๆเล้ยยยย!

"คร้าบผม"

เมี้ยววว

อันอันที่กำลังเคลิบเคลิ้มกับการเกาพุงของผมร้องขึ้นมาทันทีที่ผมหยุดเกา เจ้าแมวน้อยนี่ก็อีกคน อยากให้ผมเอาใจตลอด ชีวิตคุนคุนนี่มันยังไงกันน้าาา ใครๆก็อยากให้เอาใจกันนักหนา บางครั้งน้องคุณก็อยากแยกร่างได้ หรือจะฝึกวิชาถอดจิตเหมือนตี้จวินดีน้าาา

"กล่องนี่ของใคร" พี่แฟงยกกล่องสีขาวขนาดกลางขึ้นมาแกว่งไปมาบนอากาศ

"ของคุนเองครับ"

"สั่งไรมาหรอ"

"ไม่ได้สั่งครับ มีคนส่งมาให้ น่าจะเป็นพวกแฟนคลับจาก คุนคุน ชาแนลละมั้ง"

"หือ นี่มึงบอกที่อยู่ตัวเองไปหรอ"

"เอ้อ จริงด้วย ผมไม่ได้บอกที่อยู่ใครนี่นา"

"ดีแล้วอย่าบอกที่อยู่ให้คนอื่นรู้ สมัยนี้พวกคลั่งไคล้เยอะจะตาย เดี๋ยวมันบุกมาถึงบ้านมึงจะซวยเอา แล้วส่วนกล่องนี่ส่งพัสดุผิดที่รึเปล่า"

"แต่หน้ากล่องเขียนชื่อคุนนะครับ คุนอ่านก่อนหยิบมาจากพี่นิติข้างล่างแล้ว"

"อ้าวหรอ ช่างมัน แล้วตอนลงไปเอาพัสดุมีของส่งถึงกูรึเปล่า"

"ไม่มีนะครับ"

"อ้อ โอเค ถ้ามีแล้วรีบบอกนะ กูรอของที่สั่งออนไลน์อยู่"

"คร้าบผม"
.
.
.


#คุนแฟง

by ppeachmm

----+----+----
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 13 | 14.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 14-05-2020 08:41:45
แอบสั่งของเล่นอะไรให้น้องอะเนี้ย
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 13 | 14.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 14-05-2020 20:07:54
 :o8: เด็กใจแตก ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 13 | 14.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 14-05-2020 23:43:05
คุณพี่คะ ไปจัดการตัวเองเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 14 | 15.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 15-05-2020 07:40:51
---ตอนที่ 14---

สัปดาห์แห่งการสอบผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทั้งผมแล้วก็คุนสอบเสร็จตั้งแต่เช้าวันนี้พร้อมกัน พรุ่งนี้ผมตั้งใจจะไปที่บ้านแม่ที่ฝั่งธนบุรีเสียหน่อย คือ พ่อผมกับแม่ผมหย่ากันเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว และต่างคนต่างก็ยังไม่มีครอบครัวใหม่ อย่าถามถึงสาเหตุที่เลิกกันเพราะผมไม่รู้แล้วก็เพราะนิรันดร์บอกว่ามันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เด็กอย่างพวกผมไม่ควรเข้าไปยุ่ง

ขอท้าวความถึงครอบครัวตัวเองหน่อยละกันนะครับ ขอพระเอกได้มีพื้นที่ในเรื่องนี้บ้าง เดี๋ยวมีคนหาว่าผมค่าตัวแพง เอาละขอเริ่มเล่าตั้งแต่ตอนผมยังไม่เกิดละกัน พ่อและแม่เป็นคนกรุงเทพฯแต่เพราะหลังแต่งงานนิรันดร์ไปทำธุรกิจที่เชียงใหม่ ทั้งพ่อและแม่เลยย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่นั่นตั้งแต่ตอนนั้น ซึ่งมันก็คือเมื่อ 23 ปีที่แล้ว แต่พอทั้งสองแยกทางกันแม่ย้ายกลับมาอยู่กับครอบครัวตัวเองที่กรุงเทพ ส่วนนิรันดร์ยังอยู่ที่เชียงใหม่เหมือนเดิม ผมกับพี่คนโตและน้องคนเล็กอยู่กับพ่อไม่ได้ย้ายตามแม่มาเพราะเราต่างก็เรียนหนังสืออยู่ที่เชียงใหม่ แม่แวะมาเยี่ยมพวกเราปีละหลายๆครั้ง และทุกปีช่วงปิดเทอมพวกเราสามพี่น้องก็จะไปอยู่กับแม่เป็นเดือนๆ เป็นแบบนี้มาหลายปีอยู่เหมือนกัน พอโตขึ้นทุกคนแยกย้ายเข้ามหาวิทยาลัยและสอบติดที่กรุงเทพฯกันหมด น้องสาวคนเล็กของผมก็ย้ายมาอยู่กับแม่เพราะมหาวิทยาลัยที่เธอสอยติดนั้นอยู่ไม่ไกลจากบเานของแม่เท่าไหร่ ส่วนผมกับพี่ชายที่สอบติดอีกมหาวิทยาลัยหนึ่งเราเลือกที่จะอยู่คอนโดใกล้มหาวิทยาลัยเพราะเหตุผลว่าสะดวกในการเดินทาง พ่อแม่ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน หรือทะเลาะอะไรกัน เพราะฉะนั้นลูกๆทั้งสามคนไม่มีใครเป็นเด็กมีปัญหาหรือเป็นเหยี่อจากครอบครัวที่แยกทางกันเหมือนคนอื่น กลับกันคือเราทั้งสามคนต่างก็ได้รับความรักจากทั้งพ่อและแม่อย่างมากมาย บางทีผมยังคิดว่ามันล้นเกินไปด้วยซ้ำ เหมือนเช่นในตอนนี้ ตอนที่ผมกำลังคุยกับพ่อบังเกิดเกล้าทส่งโทรศัพท์

(ได้ข่าวว่าสอบเสร็จแล้วหรอวะ) เสียงห้วนๆ อันคุ้นเคยที่ผมได้ยินตั้งแต่เกิดเอ่ยขึ้นผ่านโทรศัพท์ราคาแพงที่อีกฝ่ายซื้อให้เมื่อต้นปี

"ครับคุณนิรันดร์ แสนรู้จริงๆเลย"

(ไอ้นี่กวนส้นตีนจริงๆ ถ้ารู้ว่ามึงโตมาเป็นแบบนี้กูให้แม่มึงเอาขี้เถ้ายัดปากตั้งแต่เกิดแล้ว) ไม่ต้องพูดอะไรเพิ่มเติมก็คงพอจะรู้แล้วใช่มั้ยครับว่าผมนะสนิทกับพ่อแค่ไหน ขอบอกไว้ก่อรนะครับว่าที่คุยกันอยู่นี่ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันนะ เราคุยแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว พ่อนะสนิทกับผมที่สุด เพราะพ่อให้เหตุผลว่าผมนะมันพวกห่ามเหมือนกับพ่อไม่มีผิด ห่ามแบบไหนนะหรอ เดี๋ยวก็รู้ครับ

"ก็เห็นพูดแบบนี้ตั้งแต่ผมพูดได้แล้วนี่พ่อ"

(กูคิดผิดจริงๆที่ไม่ทำ ปล่อยให้มึงมาลอยกน้าลอยตาเถียงกูจนอายะนี่สิบ เออ ละเป็นไง ทำได้หรือได้ทำละข้อสอบนะ) ปลายสายหัวเราะเบาๆแทรกมาด้วยอย่างคนอารมณ์ดี

"โห่ นิรันดร์ จะดูถูกนายลภัส คนนี้เกินไปละมั้งครับ อย่างผมต้องได้เต็มเท่านั้น ไม่ได้เอ นี่ให้เอาตีนเหยียบหน้าเลยนะเว้ย" คนเอาหัวเกยตักผมนอนดูทีวีอยู่ถึงกับช้อนตาขึ้นมามองเหมือนไม่เชื่อหูตัวเองว่าผมกำลังพูดกับพ่อตัวเองอยู่

 (เดี๋ยวกูจะไปซื้อรองเท้าคู่ใหม่มาเตรียมไว้รอเหยียบหน้ามึง วิชาละคู่เลยเป็นไง)

"งั้นต้องเสียใจด้วยนะครับที่คุณนิรันดร์จะไม่ได้ซื้อรองเท้าใหม่"

(ขี้โม้ได้ใครวะเนี่ย) ปลายสายหัวเราะอย่างชอบใจ แม้ไม่ได้เห็นหน้าก็พอนึกภาพออกว่าอีกคนกำลังนั่งไขว่ห้างหัวเราะร่าอยู่บนโซฟา ที่ประจำคุณเขาละ

"ลูกใครก็เหมือนคนนั้นแหละครับคุณนิรันดร์ แล้วนี่โทรมาทำไมเนี่ยพ่อ" อย่าเข้าใจผิดนะครับ ที่ถามไปนั้นไม่ใช่ว่าผมไม่อยากให้พ่อโทรมา แต่พ่อผมไม่ใช่คนชอบโทรหาลูกๆ ผมรู้ดี บ้านผมไม่ได้เลี้ยงลูกเหมือนไข่ในหินที่ต้องโทรหาเกือบทุกวันเหมือนไอ้ตัวเล็กที่นอนเกยตักผมอยู่แบบนี้ ไม่รู้ว่าคุนคุนมันเชื่อคำขู่ของป๊าม๊ามันได้ไงว่าถ้าไม่กลับปักกิ่งจะไม่ให้ตังค์ใช้ ถึงได้ต้องมาทำช่องในยูทูปเนี่ย วันก่อนก็ยังได้ยินมันวีดีโอคอลคุยกับม๊ามันอยู่เลย แถมม๊ามันยังบอกว่าโอนเงินประจำเดือนให้แล้ว แต่ที่ตกใจคือม๊ามันจะโอนให้มันทำไมเยอะแยะขนาดนั้น รถก็ไม่ได้ขับ คอนโดก็ไม่ได้เช่า จะโอนมาทำไมเดือนละแสน มิน่าละ ไอ้เด็กน้อยนี่ถึงกินดีอยู่ดีขนาดนี้ ถ้าจำครั้งแรกที่มันทำอาหารให้ผมได้ คุณคงจะพอเข้าใจแหละว่าทำไมมันต้องสั่งกุ้งมาจากฟาร์มที่ภูเก็ตด้วย เฮ้อ ก็กินแต่ของดีๆแบบนั้นไงถึงกลัวตัวเองจะไม่มีเงินใช้ถ้าพ่อแม่ไม่โอนเงินให้ เฮ้อ

วนกลับเข้าเรื่องของนิรันดร์กัน ว่าแต่นิรันดร์โทรมาทำไม ถ้านิรันดร์โทรมาต้องมีอะไรแน่ๆ

(มีเรื่องให้ช่วยหน่อย)

"อะไรอีกละคราวนี้ แบบคราวที่แล้วไม่เอานะนิรันดร์ ผมเข็ดวะ" นึกถึงเหตุการณ์คราวที่แล้วยังขยาดอยู่เลยครับ พ่อให้ผมไปนัดดูตัวกับลูกสาวที่เป็นคู่ค้าทางธุรกิจของพ่อครับ คุณอาอดิศรที่ขึ้นชื่อว่ามีลูกสาวสวยพ่วงด้วยตำแหน่งนางงามเชียงใหม่ เออก็สวยจริงแหละ แต่ไม่ใช่สเปกผมวะ แล้วไม่รู้เจ้าหล่อนติดใจผมอีท่าไหนพยายามจะลากผมเข้าโรงแรมให้ได้ กว่าจะหนีเอาตัวรอดมาได้ก็แทบตาย เห็นแบบนี้ผมก็เลือกนะครับ ไม่ใช่ใครมีนมก็ได้หมด ไม่ใช่ๆๆๆ อย่างแฟงละก็ถ้านมไม่ตู้มจริงอย่าเข้ามาเฉียด เอ้ย ไม่ใช่!

(ฮ่าๆๆ เฮ้ย ไม่ๆ ไม่ใช่แบบนั้น คราวนี้คนละแนวกันเลย เออวะพอมึงพูดขึ้นมากูก็เพิ่งนึกได้ว่าต้องให้คนไปจัดการไอ้อดิศรหน่อยวันก่อนเหมือนส่งลูกน้องเข้ามาสืบข่าวอะไรไม่รู้ที่โรงแรม วอนหาเหาใส่หัวชัดๆ ไอ้ห่านี่ ฿&฿#@@#22฿) แล้วก็ตามมาด้วยคำด่าอีกสารพัด ขอเซ็นเซอร์นะครับ เด็กๆอ่านไม่ได้เด้อ ตั้งแต่ผมชิ่งลูกสาวอาอดิศรที่โรงแรมดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างพ่อกับเขาก็ไปได้ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ผมอย่างเดียวไง ปัญหามันอยู่ที่นิรันดร์ด้วย ตามใจผมอย่างกับอะไร ผมไม่ชอบก็คือไม่ชอบ ไม่เอาก็คือไม่เอา แต่อีกฝ่ายอยากได้ผมมากถึงกับยกเอาผลประโยชน์ทางธุรกิจขึ้นมาอ้างหน้าตาเฉย แต่มีหรอที่นิรันดร์จะแคร์ เขาเห็นลูกๆสำคัญกว่าทุกอย่างอยู่แล้ว พ่อตัวอย่างครับบอกไว้ตรงนี้เลย เนี่ยไงละ เพราะตามใจผมแบบนี้ นายลภัสถึงได้โตขึ้นมามีคุณภาพแบบนี้!

"นอกเรื่องอีกแล้วนะนิรันดร์ มีอะไรก็รีบพูดมาสิ เฮ้ย อย่าขยับเยอะกูจั้กจี้" ประโยคหลังผมดุเจ้าตัวเล็กที่นอนอยู่บนตักไป ไม่รู้ทำอะไรอยู่ขยับไปมาไม่หยุด นิ้วที่วางอยู่บนขาผมก็หยุกหยิกตามไปด้วย มันเสียววาบไปถึงกระดูกสันหลังเลยครับ

(นี่มึงทำไรอยู่ไอ้แฟง มึงอยู่กับใครเนี่ย แต่หัววันเลยนะมึง ไหนบอกเก็บตัวอยู่คอนโด แอบไปห้องสาวที่ไหนอีก แรดจริงๆ ติดโควิดขึ้นมากูจะปล่อยมึงตายห่าอยู่โรงบาลเลยนะเว้ย)

"เฮ้ย ใจเย็นนิรันดร์ ผมก็อยู่ที่คอนโดนี่แหละไม่ได้ออกไปไหน รับรองว่าห่างไกลโควิดแน่ๆ ห่วงผมหรอกดูออก"

(แล้วไป ห่วงเหิ่งอะไร ไม่มีมึงชีวิตกูคงจะสงบสุขน่าดู ในบรรดาพี่น้องมึงอะเรื่องเยอะ ปัญหาแยะสุดละ แล้วนั่นเสียงอะไร) ปลายสายถามขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงอื้อ อ้า อื้อ อ้า ของไอ้ตัวเล็กที่นอนเล่นอยู่บนตักผม แล้วคู้นนน มึงเป็นไรเนี่ยมาส่งเสียงล้อแหลมอะไรตอนนี้ ฮะ!

"เสียงแมว" ผมรีบเอามือปิดปากคุนคุนทันที เพื่อไม่ให้มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมาอีก ถ้าขืนนิรันดร์รู้เรื่องคุนคุนนะคงจะเรื่องใหญ่ เชื่อเหอะ มีอันตีตั๋วลงมากรุงเทพตอนนี้เลย ฟันธง! สายเผือกแห่งนิมมานเหมินทร์บอกเลย!

(มึงนี่นะเลี้ยงแมว ร้อยไม่เชื่อพันไม่เชื่อ หน้าอย่างมึงรักสัตว์ตายห่าละ)

"แล้วแต่จะคิดเลย แต่โห น่าน้อยใจวะ มีพ่อพ่อก็ไม่รัก ขนาดตายไปพ่อยังไม่แคร์"

(มึงอย่าดึงดราม่า ช่างหัวแมวมึงก่อนตอนนี้ กูขอเข้าเรื่องดูก่อนเดี๋ยวกูลืม พักหลังยิ่งขี้หลงขี้ลืมอยู่)

"ก็แก่แล้วมั้ยละ เรื่องสาวๆก็เพลาๆบ้างเหอะจะได้อยู่ดูหลานวิ่งยั้วเยี้ย ระวังจะตายคาอกนะนิรันดร์"

(พวกมึงก็สาบแช่งกูจัง เมื่อวานนิวเยียร์ก็พูดเหมือนมึงเป๊ะ) ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับนั่นน้องสาวผมเองตัวแสบเลยละ นิวเยียร์เดอะชิปเปอร์

"เข้าเรื่องเถอะนิรันดร์ ไม่งั้นวางละนะ จะดูหนัง" คนที่นอนอยู่บนตักผมขยับตัวไปมาอยู่หลายครั้ง และทุกครั้งที่ขยับแก้มยุ้ยๆของคุนก็เคลื่อนไปบนขาผม แม่งโคตรนิ่มเลยวะ อยากฟัดถั่วงอกแล้ว!

(โอเค แค่จะบอกว่าให้ช่วย......) นิรันดร์เล่าเรื่องที่ไหวเวานให้ผมไปทำต่ออีกสักพักก็วางไป ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเพราะผมเคยทำมาแล้วหลายครั้ง บางครั้งก็งงเหมือนกันว่านี่ลูกหรือลูกน้องกันแน่ ใช้กูจัง เอะอะเรียกหา เอะอะใช้ แต่ผมก็ต้องยอมละครับ ก็พ่อนี่นาแถมงานยังมาพร้อมค่าตอบแทนราคาสูงด้วย ใครจะไม่ทำละเนอะ!

"มึงจะขยับอะไรนักหนาเนี่ยคุนคุน" ผมเอ็ดไอ้ตัวเล็กที่กระสับกระส่ายไปมาไม่หยุดสักที

"ก็อันอันแกล้ง เอาลิ้นมาเลียนิ้วเท้าคุน คุนจั้กจี้นี่นา" อ้อ ไอ้ตัวต้นเหตุอยู่ตรงข้างๆโซฟานี่เอง ผมชะโงกหน้าออกไปดู พอมันเห็นหน้าผมก็รับมุดลงไปอยู่ใต้โซฟาทันที อันอันขี้แกล้งครับ เวลาไหนที่นั่งเหงาๆก็จะชอบมาเลียนิ้วเท้าคนอื่นเล่น ที่หนีเข้าไปแอบใต้โซฟานั่นไม่ใช่เพราะกลัวนะครับ แต่คิดว่าผมกำลังเล่นด้วยอยู่ เดี๋ยวอีกสักพักก็จะชะโงกหน้าออกมาดู เหมือนเด็กแหละครับ แต่ตัวมันใหญ่ไงอารมณ์เลยไม่ได้ แมวห่าไรตัวมหึมาขนาดนี้ ไม่รู้โตกว่านี้ตัวจะใหญ่แค่ไหน ขนาดตอนนี้ก็เกือบโตกว่าเจ้าของมันละเนี่ย นี่ผมยังนึกสงสัยเลยว่าจะมีวันไหนที่มันหิวจนจับผมสองคนกินบ้างรึเปล่า ยิ่งมันโตเขี้ยวมันก็ใหญ่ขึ้นไปพร้อมกับขนาดตัว มีครั้งหนึ่งผมอ่านหนังสือดึกๆแล้วหิวเลยเดินออกมาหาอะไรที่ครัวกิน แต่เพราะแสงจากด้านนอกมันส่องผ่านหน้าต่างที่ไม่ได้ปิดผ้าม่านเข้ามาสว่างพอมองเห็นได้ทำให้ผมไม่ได้เปิดไฟ ตอนที่กำลังหาอะไรกินจากตู้เย็นอยู่ จู่ๆอันอันก็เดินมาข้างหลัง แล้วตาสีฟ้าของมันดันสว่างในความมืดอีก ใจผมนี่หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเลยคืนนั้น บอกแล้วว่าแฟงไม่ถูกกับสิ่งลี้ลับ! หลังจากวันนั้นถ้าจะเดินไปไหนมาไหนกลางคืนนี่คือต้องเปิดไฟตลอดเลย ไม่เอาอะ เข็ด แม่งเยี่ยวเล็ดเลยนะคืนนั้น

พออันอันหายเข้าไปใต้โซฟา คุนคุนก็ใจจดใจจ่ออยู่ที่ทีวีจอขนาดมหึมาต่อ ทายสิครับว่ามันดูเรื่องอะไร ทายผิดมีตีปากอะบอกเลย  อืม...นั่นแหละ...ดูมาชั่วโมงกว่าละตอนนี้ จะดูไรนักหนา กูงง แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมันหรอก เด็กเพิ่งสอบเสร็จคงอยากจะผ่อนคลายปล่อยมันไป ส่วนผมก็เทะเล็มมันไปเรื่อยแหละ จับแก้มบ้าง จับหัวบ้าง จับเองบ้าง จับ....บ้าง  อย่านะ อย่าคิดไปไกล มันไม่ใช่แบบนั้น เอาเหอะบอกได้แค่ว่าเวลามันดูทีวีแล้วมันมีสมาธิมาก มันไม่สนใจหรอกว่าผมจะทำอะไรมันบ้าง และนั้นก็เข้าทางผมคนดีศรีสยามของแท้ อิอิ

ดูทีวีกับมันไปสักพักก็หยิบมือถือขึ้นมาดูช่อง คุนคุน ชาแนล นี่ไม่ได้มาโปรโมทนะ ไม่มี้ไม่มี แต่ถ้าจะให้ดีแวะเข้าไปให้กำลังใจ กดไลค์ กดแชร์ให้ไอ้ตัวเล็กของผมด้วยคร้าบ ขอให้ทะยานสู่ห้าแสนวสับตะไคร้ในเร็ววัน แล้วคือตอนนี้ยอดสับตะไคร้สามแสนกว่าแล้วเหอะ ไม่ได้โม้นะ ไม่รู้ว่าคลิปที่เราสองคนทำมันไปปังได้อย่างไง ดังชั่วข้ามคืนเลยนะครับ จากห้าหมื่นสับตะไคร้เลื่อนขึ้นมาสองแสนในคืนเดียว ไอ้ตัวเล็กนี่กรี้ดแทบห้องแตกตอนที่ตื่นมาตอนเช้าแล้วเห็นยอดสับตะไคร้

"คุน"

"คร้าบบบ"

"ไอ้คนนี้ใครวะ มึงรู้จักรึเปล่า" ผมถามขึ้นเมื่อเห็นคอมเมนท์แปลกๆ

"ใครอะ" ไอ้ตัวเล็กตอบทั้งที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่ไอ้หัวขาวชุดม่วงในจอทีวี ดูจังเลยไอ้ตี้จวินเนี่ย ดูตรงไหนว่าหล่อวะ กูหล่อกว่าตั้งเยอะ

"นี่ไง ไอ้คนที่ชอบมาคอมเมนท์ใต้คลิปมึงเนี่ย ชื่อมันอ่านว่าอะไรวะ อ่านไม่ออกอะเป็นภาษาจีน"

"อ้อๆๆ รู้ๆ คนนี้คุนรู้ นั่นแฟนตัวยงของชาแนลเราเลยนะ" อย่างที่คุนพูดก็คงจะจริงนั่นแหละ มันโผล่มาคอมเม้นท์ทุกคลิป แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นไง ประเด็นคืออ่านดูก็รู้ว่ามึงเป็นแฟนคลับหวังเลื่อนขั้นอะ จากแฟนคลับกลายเป็นแฟนครับไรงี้ ส้นตีนเหอะ ถ้ากูยังมีชีวิตอยู่มึงอย่าหวัง  ไม่สิ ต่อให้กูตายไปกูก็จะคอยหวงก้างคุนคุนตลอดไป ผู้ชายคนอื่นอย่าได้ฝัน!

"ชื่อมันอ่านว่าไรวะ"

"ตง แปลว่าทิศอะไรอะ ทิศที่พระอาทิตย์ขึ้นอะครับ"

"ทิศตะวันออก"

 "อ้อ นั่นแหละครับ ตาวันออก แต่คนนี้เขาเขียนซ้ำกันสองครั้ง เป็น ตงตง คุนว่าน่าจะเป็นเด็กๆนะ" เด็กพ่อง! ดูก็รู้ว่ามันจะมาม่อมึง ไอ้คู้น เด็กที่ไหนเขียนคอมเมนท์แบบนี้วะ

'คุนคุนมองมุมไหนก็น่ารัก'

'อยากเป็นผ้ากันเปื้อนสีฟ้าอ่อนผืนนั้นของคุนจัง'

'คุนยิ้มแล้วเหมือนพระอาทิตย์เลย พระอาทิตย์ที่ขึ้นทางทิศตะวันออก'

'มือคุนคุนสวยมาก'

'แก้มคุนแดงมากเลยตอนออกกำลังกาย'

'ตัดอีกคนออกจากคลิปเถอะ มีแค่คุนคุนก็พอแล้ว'

เห็นมั้ย มันต้องมีซัมติง ไอ้นี่มันหวังเลื่อนขั้น แล้วนี่ก็ใส่มาจังไอ้อีโมติคอนรูปหัวใจเนี่ย ใส่มาจนล้นเลยไอ้ห่ารากตงตง เดี๋ยวมึงได้กระเด็นไปทางทิศตะวันออกเหมือนชื่อมึงนั่นแหละ รีพอร์ตคอมเมนท์ล่อแหลมได้ป่าววะ?

"พี่แฟง"

"อื้อ ว่า"

"มีพัสดุมา คุนวางไว้บนโต๊ะอาหาร"

"หรอ เออ กูขอไปดูหน่อย" ผมพูดจบก็จับหัวไอ้ตัวเล็กไปวางไว้บนหมอนที่ผมเอามารองแทนขาผม แล้วสาวเท้าไปที่โซนครัวทันที ผมรอมาสามวันแล้วไอ้ของที่สั่งจากร้านออนไลน์เนี่ย

"ทำไมกล่องเล็กจังวะ ลายมือคุ้นจังเหมือนเคยเห็นที่ไหน" ผมหยิบกล่องไปรษณีย์สีขาวขึ้นมาแล้วเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักหยิบมีดออกมากรีดกล่องเพื่อจะดูของข้างใน

"ทำไมตอนสั่งมันดูใหญ่กว่านี้วะ ส่งของผิดมาให้กูรึเปล่าเนี่ย"

"ถ้าไม่เหมือนในรูปนะ กูจะให้นิรันดร์ปิดเว็บแม่งเลย" ปากก็บ่นพึมพำ มือก็แกะห่อพัสดุไปด้วย ว่าแต่ว่าทำไมมันห่อแน่นหนาจังเลยวะร้านนี้

"เ*ย!" ผมอุทานออกมาเมื่อเห็นว่าข้างในกล่องเป็นอะไร ก่อนจะรีบคว้างมันลงพื้น ใครแม่งเล่นพิเรนแบบนี้วะ

คุนคุนที่นอนดูทีวีอยู่ถึงกับสะดุ้งโยงลุกขึ้นมายืนทันที คงตกใจเสียงผมที่ร้องแหละครับ แต่พอผมบอกว่าไม่มีอะไรอีกฝ่ายก็นอนลงไปเหมือนเดิม

เมื่ออีกฝ่ายกลับไปให้ความสนใจกับภาพเคลื่อนไหวในจอทีวี ผมก็หยิบกล่องที่หล่นลงไปที่พื้นขึ้นมาทันที ในกล่องนั้นมีภาพนกถูกปาดคอ เลือดอาบเต็มพื้น แต่บนภาพมีของเหลวสีแดงๆบรรจุมาด้วย ที่ตกใจเพราะตอนแรกผมคิดว่ามันคือเลือดจริงๆ แต่พอดมกลิ่นแล้วไม่มีความคาวปนอยู่ถึงได้รู้ว่าเป็นเลือดปลอม แถมด้านหลังรูปยังมีข้อความเขียนด้วยลายมือไว้หนึ่งประโยค

'อยู่ให้ห่างน้องคุนของกู ไม่งั้นมึงจะเป็นเหมือนไอ้นกตัวนี้'

"ไอ้เ*ย ไอ้เวร ไอ้อุบาท มึงเล่นเ*ยอะไรเนี่ย อย่าให้กูเจอนะมึง ลายมือก็เ*ยกูเกือบอ่านไม่ออกยังเสือกจะเขียนอีก"

ไม่รู้ว่าไอ้คนที่ส่งของชิ้นนี้มามันใช้สมองส่วนไหนของมันคิดกันว่าผมจะกลัวคำขู่โรคจิตของมัน มึงเล่นผิดคนแล้วไอ้เวรตะไล!

#คุนแฟง


by ppeachmm







หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 14 | 15.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 15-05-2020 19:41:30
 :pig4:
 :katai1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 14 | 15.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 15-05-2020 20:11:47
 :z6:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 14 | 15.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 15-05-2020 21:15:39
ใครหว่า รู้ที่อยู่ด้วย น่ากลัว
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 15 | 16.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 16-05-2020 06:47:17
---ตอนที่ 15---

แฟง's part

"ไอ้พี่ มีพัสดุถึงมึงอะ" ขุนพลที่โทรมาบอกว่าจะมาขอกินข้าวกลางวันด้วยยื่นกล่องพัสดุที่ผมคุ้นตาให้ ที่บอกว่าคุ้นตานั้นก็เพราะสามสี่วันมานี้ผมได้รับกล่องพัสดุแบบนี้ติดต่อกันมาวันนี้เป็นวันที่สี่แล้ว แต่ที่แปลกกว่าเดิมคือวันนี้มีกล่องพัสดุสองกล่อง กล่องหนึ่งสีขาว อีกกล่องสีส้ม

"อืม ขอบใจ เอาวางไว้บนโต๊ะนั่นแหละ" ผมที่นั่งเล่นเกมส์อยู่ที่โซฟาข้างๆกับกองทัพเอ่ยขึ้น ไอ้ทัพมันมานั่งเล่นเกมส์กับผมตั้งแต่บ่ายสามแล้วครับ มันบอกว่าอยู่ห้องคนเดียวเหงาเพราะน้องฝาแฝดหน้ากวนๆของมันออกไปหาแฟนมันที่บ้าน และก็เพิ่งจะกลับมาเมื่อครู่นี่เอง ส่วนเจ้าของห้องไม่อยู่พาหมา เอ้ย แมวอันอันลงไปเดินเล่นด้านล่างตั้งแต่หกโมงแล้ว ซึ่งปกตินี่ก็ได้เวลาที่คุนคุนจะกลับห้องแล้ว ทำไมยังไม่มาน้อออออ ไอ้แก้มยุ้ย

"สั่งไรมาอะพี่ อย่าบอกนะว่าสั่งอะไรพิเรนมาเล่นกับเพื่อนผมอะ" ไอ้ขุนจอมสอดรู้สอดเห็นถามขึ้น แถมยังถือวิสาสะยกกล่องทั้งสองขึ้นมาเขย่าเพื่อฟังเสียงของที่บรรจุอยู่ด้านในกล่องอีก ที่รู้ว่ามันเขย่าทั้งๆที่ตาผมจับจ้องอยู่ที่จอทีวีนั่นไม่ใช่เพราะว่าผมเป็นมหาเทพแห่งสงรรค์ชั้นเก้าที่มีตาทิพย์เห็นด้านหลังหรอกครับ แต่เพราะมันเดินมายืนหลังโซฟาแล้วโบกกล่องไปมาข้างๆหูผม จนผมต้องหันไปดูว่าเสียงกึกๆดังอยู่ด้านหลังนั้นคือเสียงอะไร เฮ้ย! นี่กูเปรียบเทียบตัวเองเป็นตัวละครในซีรี่ย์จีนได้ยังไงวะเนี่ย ชิบหายละ นี่กูจะเป็นสาวกป่าท้อสิบหลี่แล้วหรอวะ ไม่ได้นะ ไม่ได้การละ กูจะหลงป่าท้อไม่ได้ เดี๋ยวหาทางออกไม่เจอเหมือนคุนคุน

"เฮ้ยมึงอย่าเขย่า ไอ้ชิบหาย พังหมดของกู" ผมรีบวางจอยเกมส์ลงทันทีแล้วก้าวขายาวๆกระโดดข้ามโซฟาไปแย่งกล่องสีส้มออกจากมือของไอ้เด็กแฝดขี้เสือกอย่างเร็ว คือเดินอ้อมไม่ได้แล้วนาทีนี้ เดี๋ยวของด้านในพังหมด ส่วนไอ้ขุนนี่ก็เขย่ากล่องของกูเหมือนผสมค็อกเทลอยู่อย่างนั้นแหละ

"แหนะ มีพิรุธ" ไอ้แฝดคนน้องยักคิ้วหรี่ตาดูก็รู้ว่าอยากรู้อยากเห็นสุดๆ นี่พ่อแม่มึงเอาอะไรให้แ*กวะถึงได้ขี้เสือกขนาดนี้

"เฮ้ย พี่ รีบมาเล่นต่อเร็ว เดี๋ยวได้ตายห่าพอดี ผมสู้คนเดียวไม่ไหวนะเว้ย ไอ้พี่!" ส่วนไอ้คนพี่นี่ไม่ได้ขี้เสือกเหมือนแฝดน้อง เท่าที่สังเกตคือมันจะยุ่งแค่เรื่องของคุนคุนเท่านั้น เรื่องอื่นมันไม่ได้มีความอยากรู้อยากเห็นเท่าไหร่ ต่างกับไอ้แฝดนรกตัวน้องลิบลับ ขี้เสือกจนอยากมอบรางวัลมนุษย์เสือกแห่งจักรวาลให้ไปเลย ขี้เสือกอย่างมันเอารางวัลของชาวโลกให้ไปดูเหมือนว่าจะเป็นการดูถูกมันเกินไป เกิดมายังไม่เคยเจอใครขี้เสือกเท่ามันมาก่อน และเพราะความขี้เสือกของมันนี่แหละที่ชอบอยากรู้อยากเห็นเรื่องโน่นนั่นนี่ของผมจนสนิทกันมาถึงตอนนี้ จำได้ว่าเจอกันครั้งแรกที่ร้านเหล้าเฮียต้าหน้ามอ หลังจากนั้นก็เริ่มสนิทกันเพราะมันถามซอกแซกจนรู้ว่าเผมกับมันเรียนที่เดียวกันแถมยังอยู่คอนโดเดียวกันอีก คือถ้าย้อนเวลากลับไปได้กูจะไม่เดินชนมึงที่หน้าร้านเลยไอ้ขุนพล

"เออๆ ไปแล้ว ส่วนมึงไอ้ขุนเอากล่องมานี่เลย ถ้าของกูชำรุดนะกูจะไปเก็บตังค์กับมึง" ผมดึงกล่องพัสดุที่สีส้มที่ขนาดใหญ่กว่าอีกกล่องออกมาจากมือขุนพบ แล้วกระโดดข้ามโซฟากลับมานั่งลงประจำที่ ก่อนจะวางกล่องสีส้มนั้นลงข้างๆ กว่าจะมาส่งนะมึง รอแล้วรออีก มาส่งวันไหนไม่มาเสือกมาส่งวันที่ไอ้แฝดนรกขี้เสือกมาที่ห้องอีก รอให้กูแกะดูของดเานในก่อนเถอะ ถ้าคุณภาพห่วย ไม่ดีเลิศเหมือนที่โฆษณาไว้ในหน้าเว็บนะ กูจะให้นิรันดร์ปิดเว็บมึงแม่งเลย กูยิ่งขี้ฟ้องอยู่ด้วย!

"อ้าว ทำไมเอาไปกล่องเดียวละ" ขุนพลถามขึ้นเมื่อเห็นผมกระชากกล่องสีส้มออกมาจากมือมัน แต่ยังปล่อยกล่องสีขาวทิ้งไว้ในมืออีกข้างของมันโดยที่ไม่ได้มีท่าทีสนใจกล่องนั้นแม้แต่นิด จะสนใจทำไมละ ก็รู้อยู่แล้วว่าในนั้นมีอะไร ตั้งใจว่าตั้งแต่วันวันนี้เป็นต้นไปจะไม่เปิดกล่องพัสดุแบบนั้นดูอีกแล้ว แม่งอุจาดตา ชอบเอารูป นกตาย หนูตาย หมาตายแล้วก็ใส่เลือดปลอมมา มุขแม่งปัญญาอ่อนชิบหาย โรคจิตแน่ๆ อย่าให้กูเจอหน้ามึงนะแม่ง กูจะฟ้องนิรันดร์!!

"อันนั้นกูไม่ได้สั่ง มึงจะเอาไปทิ้งก็เชิญ"

"โห ไรวะ ไม่หนุกเลย อยากดูของข้างในกล่องนั้นอะ กล่องที่พี่รีบดึงกลับไปอะ"

"ของส่วนตัวกูมั้ยละ"

"อย่าซื้อของเล่นพิเรนมาใช้กับเพื่อนผมนะพี่ ผมเป็นห่วงมัน" กองทัพที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยขึ้น

"นี่มึงคิดว่ากูเป็นคนแบบนั้นหรอวะไอ้ทัพ"

"ก็ประมาณนั้น" กองทัพตอบเสียงเรียบเหมือนที่มันชอบทำเป็นประจำ เคยได้ยินมั้ยครับ เค้าบอกว่าคนพูดน้อยเวลาด่าแล้วเจ็บเจียนตาย นี่ขนาดมันยังไม่ด่าตรงๆเลยนะ ทำไมกูจุกวะ เ*ดแม่ หน่วงชิบหาย

"แต่ผมว่าไม่" ส่วนนี้ก็เสียงสัมภะเวสีที่ยืนจะกินหัวผมอยู่หลังโซฟา แต่คำตอบมันกลับทำผมแปลกใจ เออ ในที่สุดมึงก็เห็นกูเป็นคนดีในสายตามึงสักทีนะขุนพล

"กูเพิ่งรู้ว่ากูเป็นคนดีในสายตามึงนะขุนพล" ผมเอ่ยออกไปด้วยความแปลกใจ มันเคยชมผมที่ไหน ไอ้เด็กนี่  บางทีก็เล่นหัวเหมือนเป็นรุ่นเดียวกัน งงเหมือนกันว่สเอ๊ะ กูพี่หรือเพื่อนว้าาาาา

"เปล่า ผมว่าพี่แย่กว่านั้น" กูว่าละ คนอย่างกูนี่ไม่เคยดีในสายตามันจริงๆด้วย  เมื่อสามวินาทีที่แล้วกูเผลอมโนไปคนเดียวหรอวะว่ามันคิดว่าผมเป็นคนดี เผลอคิดไปได้ยังไงวะกู

"สัสสส พวกมึงนี่ ถึงกูจะไม่ใช่คนดีห่าเหวอะไร แต่กูก็ไม่ได้คิดจะซื้ออะไรพิเรนๆมาเล่นกับเพื่อนมึงหรอกน่า แล้วกูก็ไม่ชอบเล่นของเล่นด้วย" เสียเวลา ของจริงสนุกกว่า  ...กว่าตั้งเยอะเนอะ มีแต่พวกอ่อนเท่านั้นแหละที่ใช้ของเล่น ไม่เร้าใจสินะมึงถึงต้องหาตัวช่วยอะ

"ขอเหอะพี่"

"ให้มันจริงเถอะ ผมรู้ว่าพี่ก็คิดจะเคลมมันเถอะ หรือไม่จริง"

"จริง" ผมคิดจริงๆนั่นแหละแค่ยังไม่ลงมือทำเท่านั้น

"ไม่ทำไม่ได้หรอพี่" บนหน้าจอทีวีแสดงคำว่า winner  กองทัพวางจอยลงก่อนจะหันมามองผมด้วยแววตาที่ดูจริงจังกว่าปกติ ไอ้สองตัวนี้มันรักเพื่อนตัวเล็กของมันมาก เลี้ยงดูอย่างกับลูกตัวเองที่คลอดออกมากับมือ

"ทัพกูไม่ใช่พระอิฐพระปูน นอนเตียงเดียวกันแล้วมันรอดมาได้ถึงทุกวันนี้กูก็นับถือตัวเองสุดๆละ ถ้ามึงรักใครสักคน มึงก็อยากสกินชิพกับเค้าป่าววะ แล้วไอ้สกินชิพเนี่ยมันก็เลยเถิดไปถึงเรื่องอย่างว่าไม่ใช่รึไง แล้วมึงดูเพื่อนมึง เกาะแข้งเกาะขากูเก่งจะตาย ใครจะไปทนไหว ตัวแม่งก็นุ่มนิ่ม แถมยังหอมชิบหาย"

"ก็จริง/เออ เห็นด้วย"

"ทุกวันนี้กูก็อดทนจนไม่รู้จะอดทนยังไงแล้วเนี่ย คุนคุนแม่งก็น่ารักชิบหายวายวอด กูสารภาพตรงนี้เลยว่าอยากจับมันฟัดวันละไม่ต่ำกว่าห้ารอบ"

"อันนี้ไม่ปฏิเสธ คุนคุนมันน่ารักจริงนั่นแหละ"

"ลูกผมนี่สุดยอดแห่งความน่ารักเลยนะพี่ เป็นไงละ ผมเลี้ยงดูฟูมฟักมากับมือ"

"นั่นไง ใครจะไปทนไหว กูทำได้แค่เล็มและไปเรื่อยก็แค่นั้น นี่กูยังงงอยู่เลยว่ามันรอดมาได้ถึงทุกวันนี้ได้ยังไง คนในคณะไม่เข้ามาจีบมันทุกวันหรอวะ"

"โหพี่ ตอนเปิดเทอมเดือนแรกๆเนี่ยผมสองคนไม่ได้เป็นอันทำอะไรเลยนะ วันๆเอาแต่กันพวกเห็บหมัดที่เข้ามาจีบมัน ขนงขนมนี่ได้กลับบ้านมาเต็มคันรถทุกวัน มันนะฮ๊อตจะตาย แบบว่าตัวโซแดมฮ็อตของคณะอะบอกไว้ตรงนี้เลย พี่ผู้หญิงปีสูงเรียกมันว่าหอยสังข์ปักกิ่งกันทุกคน ใครๆก็เอ็นดูมัน ส่วนพวกผู้ชายนะอยากให้มันมาดูเอ็นจะตายห่า พูดละของขึ้นเลยเนี่ย! "

"ก็พอเดาออก แล้วทำไมไม่มีใครจีบติดสักคนวะ"

"โอ้ยจะจีบติดได้ไงพี่ ก็ไอ้ทัพเล่นไปบอกพวกผู้ชายพวกนั้นว่าคุนคุนนะเป็นแฟนมัน ไอ้พวกนั้นเลยไม่กล้ามายุ่งกับมันตรงๆ จะมีโผล่มาบ้างก็พวกคนนอกคณะที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะ เพราะในคณะอะไม่มีใครกล้ามาแหยมหรอกเพราะพวกผมตามคิดมันยังกะขี้ติดตูดตลอดเวลา"

"อ้อ มิน่าละเลยรอดมาถึงกู แล้วทำไมมึงไม่กันท่ากูวะทัพ"

"ไม่รู้ดิ พี่ดู....ไว้ใจ....ได้....มั้ง"

"โห ถือเป็นคำชมจากคนที่ด่ากูเช้าเย็นเลยนะเนี่ย"

"เอาจริงๆปะไอ้พี่"

"อือ ว่ามา"

"จริงๆพวกผมก็คิดจะกีดกันพี่เหมือนกันแหละ แต่พวกผมก็รู้จักพี่อยู่ก่อนด้วยไง อีกอย่างพี่ก็ไม่ได้นิสัยเ*ยๆเหมือนคนอื่นๆ ถึงเราจะไปนั่งมองนมสาวในผับด้วยกัน หรือชวนกันไปตีกะ*รี่ แต่มันก็แค่เรื่องที่ชวนกันทำขำๆฆ่าเวลาป่าววะ ผมก็ไม่เคยเห็นพี่ทำจริงสักทีเหอะ นายลภัสมันเก่งแต่ปากอะพี่ เอาจริงไม่รู้ทำเป็นรึเปล่า"

"สัส ไอ้ขุนพล อีกนิดกูจะซาบซึ้งกับคำอวยของมึงละ ถ้าไม่ใช่ประโยคเก่งแต่ปากของมึงอะ เก่งแต่ปากพ่อง ลองดูหน่อยมั้ยละ เผื่อมึงติดใจกูจะสงเคราะให้" ผมดึงลำตัวไอ้เด็กพูดมากที่นั่งบนพนักพิงโซฟาลงมานอนแอ้งแม้งอยู่บนโซฟาแล้วขึ้นคร่อมมันทันที


"ไอ้เ*ยพี่ จะทำอารายยยย อร้ายยยย ไม่เอ้าาาา ออกปายยยยยย" ไอ้แฝดนรกคนน้องดิ้นไปดิ้นมาใต้ร่างผมในตอนที่ผมก้มหน้าลงไปใกล้ๆหน้ามัน หึ! กล้านักนะมึง มาสบประมาทกูแบบนี้

"จะดิ้นทำไม ลองดูก่อนจะได้รู้ว่าเก่งแต่ปากจริงรึเปล่า อ้อ กูใช้ปากเก่งด้วยนะเผื่อมึงอยากลอง อย่าขยับดิวะ"

"อร้ายยยย ทัพ ทัพ ช่วยกูด้วย ไอ้สัสสพี่ มึงออกไปจากตัวกู ฟ้าจะผ่า ไอ้เ*ย"

"ฮ่าๆๆๆๆๆๆ/ฮ่าๆๆๆๆ" ทั้งผมทั้งทัพหัวเราะออกมาพร้อมกัน ส่วนขุนพลก็ดิ้นจนตกลงไปบนพื้น สมน้ำหน้า หาเรื่องดวนตีนกูเก่งนัก ผมหันไปมองหน้ามันที่ตอนนี้ซีดยังกะไก่ต้ม คงกลัวผมจะจูบมันแหละครับ

"อย่าทำอีกนะพี่ ถ้าทำอีกผมต่องจริงๆด้วย" คนที่ลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่มี่พื้นเอามือปิดปากตัวเองไว้ทั้งสองข้าง มีเพียงเสียงอู้อี้ที่เล็ดลอดออกมาผ่านช่องนิ้วมือ

"ใครจะไปทำลงวะ กล้ามชนกล้ามไม่ใช่แนวกูวะโทษที" ไอ้แฝดน้องถอยหลังไปกับพื้นจนชิดทีวี ก่อนจะหยิบหมอนที่หล่นอยู่ตรงพื้นขึ้นมาปิดตามลำตัว ไอ้เด็กอ่อนเอ้ย เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับกู ไปเรียนมาใหม่ไป!

"แต่ผมไว้ใจพี่นะ อย่าทำให้ผมผิดหวังนะพี่"ส่วนนี่ก็ประโยคที่ออกมาจากแฝดหน้าเรียบที่นั่งขำน้องตัวเองอยู่ด้านหลังผม

"เออ รู้ไว้แค่ว่ากูไม่ได้มาเล่นๆกับเพื่อนมึงละกัน จริงจังกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ขนาดมายเวย์กูยังไม่ได้รู้สึกขนาดนี้เลย" พวกมันสองคนรู้ครับว่าผมชอบมายเวย์มาก่อน ก็ตอนวันที่นาทีบอกขอมายเวย์เป็นแฟนผมก็ไปดื่มย้อมใจที่ร้านเฮียต้า เมารั่วจนมันสองตัวแบกกลับบ้านทุกลักทุเล ดีหน่อยที่มันไม่ใช่พวกขี้ล้อ คือมันฟังผมระบายความรู้สึกในคืนนั้นแล้วก็ไม่ได้พูดถึงอีก ไอ้ทัพมันเคยถามครั้งหนึ่งว่าเจอคนที่เคยชอบมากๆที่คอนโดหรือตอนเรียนบ่อยๆแล้วผมไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรอ รู้สิครับ รู้สึกเศร้า ผิดหวัง แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกดีใจกับเพื่อนผมทั้งสองคนมากกว่า อย่างที่เคยบอก สองคนนั้นเหมาะกันมากกว่าผมซะอีก และยิ่งเวลาเนิ่นนานไปความรู้สึกที่ผมมีกับมายเวย์ก็ลดลงไปเรื่อยๆ จนกลับมายังจุดริ่มต้นอีกครั้ง เหมือนเมื่อครั้งแรกที่เจอกัน นั่นคือ เหลือแค่ความรู้สึกดีๆที่มีให้กับเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น

"ก็ดีแล้ว ผมไว้ใจพี่นะ ผมเลยให้โอกาสพี่" กองทัพยิ้มบางๆให้ผม แต่ผมก็พอรู้แหละว่ามันเป็นห่วงเพื่อนมัน ก็ขอบคุณมันนะที่ให้โอกาสผม

"เออ มึงไว้ใจกูได้มึงก็รู้"

"ไอ้พี่"

"อะไรของมึงอีกขุนพล"

"ไอ้คุนอะมันไม่น่าจะเคยนะไอ้เรื่องอย่างว่านะ เบาๆหน่อยนะ สงสารมัน ตัวก็เล็ก เบาได้เบานะเว้ย"

"อย่าบังคับมันด้วย"

"เออ รู้แล้ว กูไม่ทำหรอกถ้ามันไม่ยอม มึงก็รู้จักดูดี ส่วนเพื่อนมึงนะ บอกให้มันน่ารักน้อยๆลงหน่อยละกันกูแม่งจะอดทนไม่ไหวเข้าสักวัน โคตรพ่อโคตรแม่น่านัก กูโคตรหลง เรื่องนั้นค่อยว่ากันตอนมันพร้อมดีกว่า"  ตอนนี้กูก็ใช้นิ้วทั้งห้าของกูไปก่อนละกัน แล้วกูต้องพึ่งนิ้วของกูไปถึงเมื่อไหร่วะ คุนคุนแม่งก็ไร้เดียงสาเกิ้น กูจะพรากผู้เยาว์ลงคอหรอเนี่ย คิดแล้วแม่งเศร้าชิบหาย ชีวิตคู่ของนายลภัส ไม่เคยคิดเคยฝันว่าวันนี้จะต้องมาพึ่งนิ้วทั้งห้าของตัวเองแบบนี้

"เออ จริง อย่าว่าแต่พี่เลยพวกผมก็หลงมัน ไอ้คู้นนน" ขุนพลยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แม่งจินตนาการอะไรเ*ยๆอยู่แน่ๆ พวกเดียวกันมองกันออก แล้วนั่นมันทำอะไรวะนั่นนะ แอบแกะพัสดุกู? ช่างมันอยากแกะก็แกะ อย่าหาว่ากูไม่เตือนละกัน เผลอแป๊บเดียวลืมไปแล้วรึไงว่าเมื่อกี้ยังถอยหนีกูอยู่เลย ทำไมมึงกลับมานั่งตรงโซฟาได้เร็วขนาดนี้วะ อะไรก็ทำลายความเสือกของมึงไม่ได้เลยนะขุนพล

"เฮ้ยๆๆ ไม่ได้นะเว้ย ตอนนี้คุณคุณเป็นของกูคนเดียว พวกมึงห่างไปเลย ห่างได้ห่าง มันเป็นเด็กกูแล้ว กูหวงบอกเลย"

"ว้ายยยย ไอ้เ*ย มึงสั่งไรมาเนี่ยพี่ อุบาทชิบหาย พิเรนสัสสส หยี สยอง แหวะ" ผมนั่งขำกับท่าทางของมัน เพราะความขี้เสือกของมันแท้ๆ หยดเลือดที่อยู่ในพัสดุถึงประเด็นมาเปรอะเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนของมัน ส่วนแฝดคนพี่เมื่อเห็นน้องเปื้อนเลือดก็กระโดดลุดขึ้นจากโซฟาไปไกลหลายเมตร โห รักกันจริงๆเลยนะพวกมึง

"สมน้ำหน้า เสือกจนเข้าเส้นเลือดละมึงอะ เป็นไง สาสมกับความขี้เสือกของมึงมั้ย" ผมหยิบกล่องที่ตกลงบนตักขุนพลขึ้นมา โชคดีที่เลือดไม่หยดโดนโซฟา ไม่งั้นละเรื่องใหญ่ต้องทำความสะอาดกันวุ่นวายอีก ใครทำใครซักบอกเลยไม่โกง

"หยี เหม็นชิบหาย อะไรวะไอ้พี่ มึงสั่งอะไรพิเรนมา แหวะ" ขุนพลปัดเลือดที่เปื้อนเสื้อตัวเองออก แต่ยิ่งปัดก็ยิ่งเลอะ โง่ชิบหายเลยมึงเนี่ย!

"อะ อะ อะไรอะพี่"  นี่ก็อีกคน อยู่ๆก็กลายเป็นคนติดอ่างซะงั้น เห็นละขำวะ นี่หรอวะสมบัติคณะนิติศาสตร์อินเตอร์ของม.กู

"อย่าขยับนะมึง ถ้าเลือดหยดใส่โซฟากูจะกระทืบมึงจริงๆด้วย แล้วนี่คุนคุนทำไมยังไม่กลับอีกวะ มืดแล้วเนี่ย" ผมหยิบกล่องพัสดุที่เลอะเทอะออกจากตักไอ้ขุนถึงได้เห็นว่ากางเกงขาสั้นสีครีมของมันก็เลอะเหมือนกัน เลยรีบเดินไปเอาผ้ามาเช็ดคราบเลือดออกให้ แต่ตอนกำลังเดินกลับมาผมบังเอิญเหลือบมองนาฬิกาจึงเห็นว่านี่ก็เกือบทุ่มหนึ่งแล้ว และมันก็เลยเวลาที่คุนคุนกลับบ้านมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ทำไมวันนี้กลับผิดเวลาขนาดนี้

"หยุดกรี๊ดได้แล้ว กรี๊ดเป็นตุ๊ดเลยนะมึง"

"ก็ผมกลัวนี่พี่ หยี เลือดสดๆเลยนะไอ้พี่"

"เลือดสดพ่อง จะกลัวทำไมนี่มันเลือดปลอม"

"อ้าวหรอ โถ่ ไอ้เราก็คิดว่าเลือดจริง พี่มึงสั่งของแบบนี้มาทำห่าอะไรวะ แหวะ แหยสัสสส"

"ใครมันจะบ้าสั่งมา มึงก็คิดหน่อย ที่แฟนคลับคุนคุนส่งมาขู่กูนะ ส่งมาหลายครั้งละ"

"เฮ้ย/ จริงดิพี่"

"จริง" แล้วผมก็เล่าให้ไอ้สองแฝดฟังทั้งหมด แต่ด้วยเพราะพัสดุเหล่านี้ส่งมาถึงผมโดยตรงเป็นเวลาสี่วันแล้วทำให้ผมสังเกตอะไรได้หลายๆอย่าง อย่างแรกที่เห็นได้ชัดเจนคือกล่องพัสดุพวกนี้ไม่ได้ถูกตีตราไปรษณีย์หรือตราของบริษัทขนส่งเอกชนใดๆทั้งสิ้น ซึ่งนั่นหมายถึงคนส่งต้องเอามาส่งให้กับทางคอนโดโดยตรง สองคือคนส่งต้องเป็นใครบางคนที่รู้จักทั้งคุนคุนและผมพอสมควร เพราะไอ้โรคจิตคนนี้รู้จักเลขที่ห้องคุนคุน และที่สำคัญคือรู้จักชื่อจริงผมด้วย และอย่างสุดท้ายคือลายมือมันคุ้นมากเหมือนเคยเห็นที่ไหนแต่นึกไม่ออก ลายมือไก่เขี่ยแบบนั้นยิ่งดูก็ยิ่งคุ้น

"เชี่ยยยย โรคจิตวะ" ไอ้ขุนพลที่กำลังเปลี่ยนจากเสื้อเชิ้ตเป็นเสื้อยืดสีเทาของผมเอ่ยขึ้น ผมหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้มันเปลี่ยน ทนดํไม่ได้จริงๆ เลอะเทอะไปหมด เหมือนวิ่งผ่านโรงเชือดมายังไงยังงั้น ไม่อยสกคิดเลยว่าถ้าสีแดงๆบนเสื้อมันเป็นเลือดจริงขึ้นมาจะคาวคับห้องขนาดไหน

"มันต้องเป็นคนใกล้ตัวนี่แหละผมว่า" กองทัพที่ตอนนี้เดินกลับมานั่งที่เบาะโซฟาแล้วทำหน้านิ่วเหมือนคนกำลังคิดอะไรอยู่ ผมว่าแฝดคนพี่มีความเป็นผู้เป็นคนมากกว่าคนน้องพอสมควร

"กูก็คิดแบบนั้น"

"แย่แล้วพี่" จู่ๆกองทัพที่นั่งหน้านิ่วก็พูดขึ้นมาเสียงดัง

"โอ้ย อะไรของมึงเนี่ย จะตะโกนทำ *วยอะไร"

"ถ้ามันเป็นคนใกล้ตัว แสดงว่ามันต้องมาสอดแนมแถวนี้บ่อยๆ ถึงได้รู้เรื่องของพี่กับคุนคุนขนาดนั้น แล้วมันก็ต้องรู้ด้วยว่าคุนจะพาอันอันออกไปเดินเกือบทุกเย็น"

"ชิบหาย!/จริงด้วย/แย่แล้ว"
.
.
.
.
.
.


#คุนแฟง

by ppeachmm



----++++----
ใครก็ได้ช่วยน้องคุนด้วย!
 :mew6: :mew5:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 15 | 16.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: mylittleY ที่ 16-05-2020 16:49:11
 :laugh: :mew6:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 15 | 16.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 16-05-2020 17:43:13
 :mew5:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 15 | 16.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 16-05-2020 22:23:09
เอ๋ คุนๆไปไหนแล้วหว่า
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 16 | 17.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 17-05-2020 08:39:41
---ตอนที่ 16---

"มึงเจอมั้ย"

"ไม่เจอเลยพี่"

"ทางโน้นก็ไม่มี"

"ไอ้เ*ยเอ้ย ไอ้เวร ถ้าคุนคุนของกูมีรอยขีดข่วยแม้แต่นิดเดียว กูจะกระทืบมันจมดินเลยคอยดู" ตอนนี้ผมกับสองแฝดวิ่งตามหาคุนคุนที่สวนหย่อมหลังคอนโดอยู่เกือบยี่สิบนาทีแต่ก็ไร้วี่แววคนตัวเล็กกับแมวยักษ์ที่ขนาดเท่าคน ตั้งแต่คุยกันเรื่องพัสดุจากคนโรคจิต และคุนคุนก็ยังกลับบ้านผิดเวลาอีก พวกเราสามคนจึงรีบรุดลงมาตามหาเจ้าตัวนุ่มนิ่มกันทันทีเพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น และดูเหมือนว่าสิ่งที่คิดไว้มันจะเป็นความจริง ในสวนหย่อมท้ายคอนโดขนาดใหญ่กว่าหนึ่งไร่ที่มีบริเวณให้สัตว์เลี้ยงวิ่งเล่น ให้คนวิ่งออกกำลังกาย ให้ผู้สูงวัยได้พักผ่อน ให้เด็กได้เล่นของเล่นและสำหรับทำกิจกรรม ตอนนี้ผู้คนเบาบางลงกว่าต่อนหัวค่ำ เหลือเพียงผู้ชายวัยรุ่นสองสามคนที่วิ่งจ็อกกิ้งอยู่ กับอาซิ่มที่นั่งพักเสวนาหลังจากรำไทเก๊ก ผมควานหาร่างเล็กที่คุ้นเคยทุกซอกมุม แต่ไม่ว่าหายังไงก็ไร้วี่แววของคนที่กำลังตามหา ถามคนที่กำลังวิ่งออกกำลังกายอยู่บริเวณนั้นก็ไม่มีใครเห็นสักคน พอเดินไปถามแก๊งอาซิ่มรำไท้เก็กที่คุนคุนเคยเล่าให้ฟังว่าชอบเอากุนเชียงสูตรพิเศษมาให้กินบ่อยๆก็บอกว่าคุนคุนพาอันอันกลับคอนโดไปตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อนแล้ว พอได้ยินดังนั้นผมก็รีบรุดหน้ากลับมาที่ส่วนล๊อบบี้ของคอนโดทันที แต่พอถามรปภหน้าคอนโดคนที่คุนเคยบอกว่าชื่อพี่ศัก แกกลับบอกว่าคุนยังไม่กลับเข้ามาเลย เห็นพาอันอันออกจากคอนโดไปตอนเกือบห้าโมงแค่นั้น

ผมวิ่งหาคุนคุนทั้งด้านในและด้านนอกคอนโดจนลืมเหนื่อย คุนเคยควานหาเข็มในมหาสมุทรมั้ย ใครจะเคยใช่มั้ย ผมเองก็ไม่เคย แต่ตอนนี้ผมเองกลับเข้าใจความหมายของสำนวนนี้ดียิ่งกว่าใคร การหาใครสักคนแล้วมันจบด้วยการที่ไม่ว่าเราจะทุ่มแรงกายแรงใจไปเท่าไหร่แต่กลับคว้าน้ำเหลวมันเป็นแบบนี้นี่เอง การงมเข็มในมหาสมุทรมันยากแบบนี้เองสินะ เพราะในน้ำทะเลที่ลึกจนไม่รู้ว่าก้นมหาสมุทรมันมีอยู่จริงหรือไม่อาจจะทำให้คุณตายได้ เหมือนผมตอนนี้ที่กำลังรู้สึกว่าตัวเองขาดอากาศหายใจ หัวใจเต้นแรง แต่กระนั้นแม้คุณจะรู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่ทำอาจจะไร้ประโยชน์แต่คุณก็ไม่หยุด เครื่องมือสื่อสารที่ควรจะมีประโยชน์ในเวลานี้กลับไร้ประโยชน์ ไม่ว่าผมจะกดโทรศัพท์หาปลายสายกี่ครั้งต่อกี่ครั้งสิ่งที่ได้กลับมากลับเป็นความว่างเปล่า คุนคุนไม่รับสายมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ซึ่งมันคือเรื่องที่แปลกมาก คุนคุนไม่เคยไม่รับสายผมและคุนคุนไม่เคยปล่อยให้แบตโทรศัพท์ตัวเองหมดเลยสักครั้ง ด้วยเหตุที่ว่า

หม่าม๊าจะโกรธถ้าม๊าโทรมาแล้วคุนไม่ได้รับสาย เพราะม๊าคิดถึงคุนมากถึงได้โทรหา คุนไม่ควรปล่อยให้ม๊าคิดถึงนาน

ตอนนี้คิดได้อย่างเดียวคือความปลอดภัยของคนตัวเล็ก ตอนนี้ผมเป็นกังวลมาก กระสับกระส่ายไปหมด และที่สำคัญ ผมโกรธตัวเองที่ทำเฉยจนปล่อยให้เรื่องเลยเถิดมาจนถึงตอนนี้ ในหัวคิดถึงเรื่องเลวร้ายสารพัดที่อาจจะเกิดขึ้นกับคุนคุน แค่คิดผมก็รู้สึกว่าจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ถ้าเกิด...นะ...แค่...ถ้าเกิดว่าคุนเป็นอะไรขึ้นมา ทุกอย่างผมล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งนั้น ถ้าผมดูแลคุนคุนดีกว่านี้ มันก็จะไม่เป็นเหมือนตอนนี้ และยิ่งไปกว่านั้น ผมรู้สึกผิดที่ไม่บอกคุนคุนไปว่ามีไอ้โรคจิตส่งพัสดุุอุบาทๆมาหาผม ถ้าผมตัดสินใจบอกไป คุนคุนอาจจะระวังตัวมากกว่าเดิม คนที่เป็นมิตรกับคนทั้งโลกขนาดนั้นไม่มีวันเอะใจหรอกว่าจะมีคนคิดไม่ดีเข้ามาใกล้ แม่งเอ้ย ไอ้แฟง มึงมันโง่ในโง่!

"เฮ้ย พี่ ใจเย็น!" กองทัพที่ยืนอยู่ข้างๆผมร้องห้ามเมื่อเห็นผมชกกำปั้นหนาของตัวเองเข้ากับกำแพงด้านข้างคอนโดที่ติดกับบริเวณสวนหย่อม ส่วนขุนพลที่เพิ่งวางสายโทรศัพท์จากใครสักคนก็รีบวิ่งเข้ามาดึงผมออกจากตรงนั้นทันที ไม่รู้ว่าผมใช้กำลังไปมากแค่ไหน เห็นเพียงรอยสีแดงประมาณหนึ่งที่ติดอยู่ตรงกำแพง ส่วนมือผมก็มีเลือดไหลออกมาเล็กน้อย แต่ถ้าถามหาความเจ็บละก็ บอกเลยผมไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น ความรู้สึกเดียวที่มีตอนนี้คือความรู้สึกห่วงคุนคุน ไอ้เด็กที่มีรอยยิ้มบนหน้าตลอดเวลา

"เลือดไหลวะ พี่มันชกไปกี่ทีวะเนี่ย เลือดอาบขนาดนี้" ขุนพลมีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อจับมือผมขึ้นมาดูรอยแผล

"ทีเดียว" กองทัพที่เห็นทุกอย่างเอ่ยตอบออกมาด้วยเสียงเรียบเฉย

"เชรดดด ทีเดียวเองหรอวะ หมัดหนักชิบหาย"

"เออ กูว่าพาพี่ไปทำแผลก่อนเถอะ"

"กูไม่ไป มึงหาด้านข้างคอนโดดีแล้วหรอวะไอ้ขุน ส่วนมึงไอ้ทัพตรงแถวซุปเปอร์ก็หามทั่วแล้วจริงหรอ"

"ซุกซอกทุกมุม"

"ผมเดินวนจะสิบรอบแล้วพี่ ไม่มีใครเห็นคุนเลย นี่ผมเดินไปดูแถวร้านขนมซอยข้างๆที่มันชอบไปกินก็ยังไม่มีเลย เมื่อกี้เจ้าของร้านก็โทรมาบอกว่าจะปิดร้านแล้วละก็ยังไม่เห็นคุนคุนเลย"

"โถ่เว้ย!" ผมง้างหมัดขึ้นมาจะชกเข้าไปที่กำแพงคอนโดอีกครั้งเพื่อระบายความโกรธ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อแขนด้านซ้ายถูกกองทัพรั้งไว้ ผมหันไปมองมันตาเขียว

"หยุดเถอะพี่ คุนอาจจะไม่เป็นไรก็ได้ ถ้ามันเห็นพี่เป็นแบบนี้มันจะไม่เสียใจหรอ" คนที่รั้งแขนผมไว้เอ่ยขึ้น มันเองก็กังวลไม่แพ้กันหรอก ดูจากท่าทางมันก็รู้ แต่คนเฉยๆแบบนั้นกลับควบคุมอารมณ์ดีกว่าผมเป็นไหนๆ แล้วไงว่าก็แฟนกูหายไปทั้งคนนะเว้ย!

"มึงจะไปรู้อะไรวะ นั่นมันคุนของกู กูห่วงมันชิบหาย เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้ คนอย่างมันถูกใครล่อลวงง่ายจะตายทำไมกูจะไม่รู้เพราะกูเองก็ชอบหลอกล่อใันบ่อยๆ เด็กตัวเล็กๆแบบมันจะไปสู้แรงใครได้ แค่ซิทอัพไม่ถึงสิบทีก็เหนื่อยแล้ว คนมองโลกในแง่ดีจะตาย ถูกหลอกไปนี่รู้ตัวรึยังเหอะว่าตัวเองถูกหลอก กูแม่งก็คิดว่าตัวเองเก่งคุมสถานการณ์ได้แล้วเป็นไง มึงดู แค่ผู้ชายตัวเล็กๆคนเดียวกับแมวโง่ๆหนึ่งตัวยังดูแลไม่ได้ แล้วกูจะไปทำอะไรกินวะ ไอ้เ*ยเอ้ย" ยิ่งพูดก็ยิ่งเหมือนด่าตัวเองเข้าไปอีก นี่ถ้านิรันดร์รู้คงขับผมออกจากวงตระกูล ทำไมนะหรอ ก็เพราะคนที่เรียนรู้การต่อสู้มาทั้งชีวิตกับคนที่เจอเรื่องข่มขู่เรื่องแบลคเมลล์มานับไม่ถ้วนอย่างคนในครอบครัววิสุทธิ์รังสรรค์ไม่ควรจะให้เรื่องมันเลยเถิดมาถึงขั้นนี้ยังไงละ กะอีแค่โรคจิตกระจอกๆยังจัดการไมาได้ จะทำไรกินวะนายลภัส!

"อย่าเพิ่งคิดอะไรไปไกลพี่ เรื่องมันอาจจะไม่เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้" ผมรู้ว่ากองทัพมันก็แค่พยายามปลอบ แต่สภาพผมตอนนี้คำปลอบโยนมันไร้ประโยชน์แล้ว

"จริงพี่ ตอนนี้มันอาจจะกำลังไปแอบกินขนมอยู่ที่ไหนก็ได้ อาจจะลืมทางกลับบ้านไรงี้" และยิ่งเป็นคำปลอบโยนปัญญาอ่อนแบบนี้ด้วย นี่มึงเห็นกูมีสมองเท่าเมจถั่วเขียวรึไงถึงคิดอะไรไม่ได้ ใครเชื่อมึงก็โง่ละขุน

"แล้วทำไมคุนมันไม่รับโทรศัพท์วะ มันมัวแต่แ*กขนมจนลืมกลับบ้านแบบงี้หรอ คุนมันแค่มองโลกในแง่ดี มันไม่ได้โง่จนขนาดจำทางกลับบ้านไม่ได้นะขุน"

"แฮะ...." อืม คำปลอบใจมึงนี่โง่เง่าสิ้นดี โง่จนเจ้าของคำพูดที่พูดออกมายังรู้สึกว่าพูดอะไรโง่ๆออกมาเลย ดูจากหน้าที่ยิ้มแหยๆของก็รู้ เหตุผลโคตรห่วยแตก ถึงจะมีความเป็นไปได้อยู่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ก็เถอะ

"ขุนมึงพาพี่แฟงเข้าไปรอตรงล๊อบบี้โรงแรมไป เดี๋ยวกูจะไปถามร้านคาเฟ่ตรงข้ามคอนโดหน่อย"

เราสามคนเดินออกจากส่วนสวนหย่อม เข้ามาในบริเวณคอนโดที่มีโซนโซฟาไว้สำหรับผู้พักอาศัยในคอนโดนี้และแขกผู้มาเยี่ยมได้นั่งพักผ่อน ทันทีที่เห็นเราเดินเข้ามาพี่ศักเจ้าหน้าที่รปภก็เข้ามาแจ้งว่ายังไม่เห็นคุนคุนกลับเข้ามา ตัวผมเองยังไม่อยากจะหยุดการค้นหา แต่เพราะตอนนี้เลือดตรงกำปั้นผมมันไหลไม่หยุดสองแฝดเลยคะยั้นคะยอให้มามานั่งในคอนโดเพื่อล้างแผลและทำแผลก่อน แต่ผมกลับดื้อดังจะไปหาต่อให้ได้ ใครจะไปมีกระจิตกระใจนั่งทำแผลกับครับ คนที่คุนรักหายไปทั้งคนนะ อย่าว่าแต่แผลที่มือเลย ถ้าตอนนี้ผมมีแผลทั้งตัวปางตายผมก็จะไม่หยุดการค้นหา แต่สองแฝดก็ดื้อดึงอีกเช่นกัน มันบอกทำแผลไม่ถึงห้านาทีก็เสร็จแล้ว ส่วนระหว่างนี้กองทัพจะไปหาที่บริเวณร้านค้าแถวถนนฝั่งตรงข้ามคอนโด ผมเถียงกับไอ้น้องสองตัวนี้อีกสักพัก ร่างคุ้นตาก็เดินเข้ามาพร้อมกับแมวป่าตัวยักษ์ ในมือถือไอศกรีมแท่งสีแดง ใบหน้าหัวเราะร่าเริ่งกับใครคนหนึ่งที่เดินตามหลังเข้ามา ไอ้ขุนที่กำลังมองไปทางเดินกับผมรีบลุกขึ้นจากโซฟาทันที พุ่งตัวไปยังผู้ชายคนที่ยืนอยู่หลังคุนคุนคนนั้น

"ไอ้เวรนั่นแน่ๆพี่ ผมจะไปตั้นหน้ามันสักที" กล่องปฐมพยาบาลที่มันเพิ่งไปขอพี่รปภมาหล่นลงพื้นทันที

"เฮ้ยขุน อย่านะเว้ย!" ผมร้องห้ามทันที แต่ด้วยความที่อีกคนขาค่อนข้างยาวบวกกับความมันทะลุพ่วงด้วยความโกรธ มันใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็ถลาตัวไปอยู่ตรงหน้าผู้ชายคนนั้นแล้ว

"ไอ้เลวมึง!" มันตะโกนออกไป พร้อมกับกำหมัดแน่น ง้างมือปล่องวงสวิวออกไปด้วยความเร็วสูง ถ้าโดนกำปั้นนั้นเต็มๆผู้ชายวัยกลางคนคนนั้นคงจะล้มไม่เป็นท่าแน่ๆ

ฟรึบ!

"โอ้ย มึง!" แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ล้มลงไปด้วยแรงหมัด กลับกลายเป็นขุนพลเองที่นอนแอ่งแม้งอยู่ที่พื้นหินอ่อนสีดำของคอนโด ส่วนคนที่ควรจะถูกกำปั้นของขุนพลทักทายกลับยืนเฉยๆไม่มีรอยขีดข่วนเลยสักนิด แน่ละ พุ่งไปหาจะทำร้ายเขาแต่กลับตะโกนซะดังให้เขารู้ตัว โง่ในโง่จริงๆนะมึง เล่นกันใครไม่เล่นมึงเสือกมาเล่นกับคนที่เก่งด้านการต่อสู้แบบนี้ ผมส่ายหน้าชายตามองขุนพลที่นอนเอ้งแม้งอยู่กับพื้นก่อนเดินตามมันไปตรงจุดนั้นพร้อมกับกองทัพที่ตอนนี้ยังมีสีหน้าเรียบนิ่งเหมือนเดิม แม้มันจะไม่ใจร้อนเหมือนน้องฝาแฝดแต่ผมก็เห็นว่ามือสองข้างของมันกำแน่นพอสมควร

"เอ้อ ไอ้เสือ มาทำไรตรงนี้" เสียงทุ้มของชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่กับไอ้แก้มนุ้ยเอ่ยขึ้นทันทีที่เผิมเดินเข้าไปหา

"นี่พี่รู้จักมันหรอ" กองทัพหันมาหาผมแล้วถามด้วยเสียงเรียบ

"รู้จักดีเลยละ" ผมเองก็ตอบไปด้วยเสียงเรียบเฉยเช่นกัน ความหงุดหงิดความโกรธความเป็นห่วงหายไปหมดแล้วตอนนี้

"มันแม่งเ*ยวะถ้างั้น มันใช้ความสนิทเข้ามาล่อลวงคุนหรอวะ ขอผมจัดการมันนะพี่" กองทัพที่กำลังเดินอยู่ข้างๆผมเอ่ยขึ้น ผมสังเกตได้ว่าน้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความโกรธในระดับที่มากขึ้นไปอีก แตกต่างกับผมอย่างสิ้นเชิง ส่วนแฝดน้องตอนนี้ยันตัวเองขึ้นมายืนเหมือนเดิมได้แล้ว

"ไม่ต้องมึงอยู่เฉยๆ กูจัดการเอง" ผมรุดเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าคุนคุรกับผู้ชายคนนั้น โดยมีขุนพลยืนเป็นตัวประกอบอยู่ ที่บอกว่าเป็นตัวประกอบเพราะตอนนี้มันถูกผู้ชายคนนั้นล็อคคอไว้เพราะจะพุ่งเข้าไปต่อยเขาอีกรอบ

"ทำอะไรเนี่ยนิรันดร์!"



#คุนแฟง

by ppeachmm


-----++++----

อ้าวๆ อีหยังน้อ
คุณพ่อนิรันดร์มาได้ไงอะ
เดี๋ยวมาต่อเน่อ บอกได้เลยว่าคุณนิรันดร์แซบมาก!




หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 16 | 17.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 17-05-2020 09:37:58
พ่อรู้เรื่องแลัว เอาสิ ยังไง
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 16 | 17.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: mylittleY ที่ 17-05-2020 11:19:53
อร้ายยย นิรันดร์มาแล้ว อยากเจอมานานแล้วคนนี้ ลูกชนาดนี้พ่อจะชนาดไหน :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 16 | 17.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 17-05-2020 13:08:40
 :pig4:
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 16 | 17.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 17-05-2020 20:18:42
 o22
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 17 | 18.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 18-05-2020 07:26:50
---ตอนที่ 17---


"ทำอะไรเนี่ยนิรันดร์!" ผมพูดออกไปด้วยเสียงที่ดังพอประมาณ นึกโกรธอีกคนอยู่เหมือนกันที่จู่ๆก็โผล่มาอยู่กันคนของผมแบบนี้ แต่อีกใจก็โล่งใจไปได้มากโขเมื่อคนที่คิดว่าอยู่ในอันตรายกลับมายืนยิ้มหน้าสลอนอย่างไม่ยุบสลายแถมยังมากับพ่อบังเกิดเกล้าของผมอีก ถ้าอยู่กับนิรันดร์ก็ไม่มีอะไรต้องห่วง คุณคุณคงจะปลอดภัยมากกว่าอยู่กับผมเสียด้วยซ้ำ

"ฮะ?/ อะไรนะ?/ ว่าไงนะครับ?" กองทัพ ขุนพล และคุนคุนร้องออกมาพร้อมกัน จ้องผมกับชายวันกลางคนคนนั้นสลับไปสลับมาคล้ายไม่เชื่อว่าผู้ชายคนนี้คือพ่อบังเกิดเกล้าของผม คนใกล้ตัวผมที่สนิทกับต่างก็รู้ว่านิรันดร์คือบิดาสุดที่รักของนายลภัส วิสุทธิ์รังสรรค์คนนี้ แม้ผมจะไม่ค่อยเรียกผู้ชายวัยกลางคนตรงนี้ว่าพ่อให้ใครได้ยินบ่อยๆ ออกจะติดเรียกชื่อจริงมากกว่าเพราะนิรันดร์ชอบให้ผมเรียกแบบนี้ นิรันดร์เป็นพวกไม่อยากแก่ เวลาออกไปไหนมาไหนไม่เคยให้ลูกเรียกพ่อเลยสักที นิรันดร์บอกว่าจะให้เรียกพี่ก็ดูกระดากปากไปซะหน่อย เลยให้ลูกๆเรียกชื่อจริงตัวเองแทน เวลาไปหลีสาวแล้วมีลูกตามติดไปด้วยจะได้เนียนไปบอกเป็นน้องไรงี้ ร้ายมั้ยครับพ่อผม ผมตอบให้เลยว่าร้ายซะยิ่งกว่าร้าย แล้วดูเอาเถอะผู้ชายอายุขึ้นเลขสี่แล้วแต่หน้าตานี่ไม่ได้ร่วงโรยไปตามอายุเลยสักนิด บอกใครต่อใครว่าเป็นพี่ผมใครก็เชื่อ แล้วมันไม่ใช่แค่นั้นไง นิรันดร์แบบหน้าตาโคตรดีอะ แนวแด๊ดดี้แซบๆอะบอกเลย ทุกวันนี้หัวกะไดบ้านไม่เคยแห้งเลยสักวัน สาวน้อยสาวใหญ่ในเชียงใหม่ตามติดกันค่อนเมือง ก็นั่นแหละนะ ไปลองดูกระปุกครีมเซรั่มที่ในห้องน้ำสิราคารวมกันเป็นแสน กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมที่นั่งรอนี่หลับแล้วหลับอีก บำรุงดีชิบหาย เอาจริงนะอีกสิบปีข้างหน้านี่ผมอาจจะดูแก่กว่าพ่อตัวเองก็ได้เพราะผมแทบไม่ได้บำรุงอะไรเลยด้วยซ้ำ ส่วนหุ่นที่ผู้ชายวันสี่สิบควรจะมีกันคือมันต้องมาพร้อมพุงกับความท้วมหน่อยๆใช่มั้ยละ ขอบอกเลยว่านั่นไม่ใช่นิรันดร์ ถึงแม้จะยุ่งแค่ไหนกลับบ้านดึกแค่ไหนนิรันดร์ก็ต้องออกกำลังกายก่อนนอน บอกได้เลยว่าในเสื้อเชิ้ตที่เปิดกระดุมสองเม็ดนั่นมีก้อนแข็งๆหกลูกบรรจุเรียงตัวอยู่อย่างสวยงาม วินัยในการออกกำลังกายดีชิบหาย แล้วดูการแต่งตัว เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มแขนยาวพับขึ้นมาถึงศอกกับกางเกงขาสั้นสีครีมยาวแค่เข่า ตบด้วยรองเท้าผ้าใบที่ซื้อมาคู่กับผมตอนไปญี่ปุ่น เฮ้อ มีพ่อแอ๊บเด็กแม่งหนื่อยวะ!

"ปล่อยไอ้ขุนเถอะ เพื่อนผมเอง" ผมรีบพูดออกไปเมื่อเห็นว่าตอนนี้แฝดคนน้องเริ่มหน้าเขียวแล้วเพราะขาดอากาศหายใจจากแขนที่ล็อคคออยู่

"อ้าว นี่เพื่อนมึงหรอ กูไม่รู้นี่หว่า เห็นพุ่งถลาเข้ามาจะต่อยกู เกือบไปแล้วมั้ยละ" นิรันดร์ปล่อยวงแขนหนาออก ทำให้ขุนพลหล่นลงไปกองที่พื้นอีกรอบ ผมถอนหายใจที่ห้ามไว้ได้ทัน ไม่งั้นละก็ขุนพลอาจจะกลายเป็นผีเฝ้าคอนโดนี้เป็นเพื่อนพี่ศักแน่ๆ ถ้านิรันดร์เอาจริงขึ้นมาอะนะ

"พะ พี่รันเป็นพ่อพี่แฟงหรอครับ" คุนคุนที่ยืนอ้าปากงงอยู่ถามขึ้นมาตะกุกตะกัก นั่นไงหลอกเด็กว่าตัวเองยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยอยู่สินะ ผมเห็นประจำแหละมุขนี้นะ เออ เอาเหอะ หน้านิรันดร์ก็ยังได้อยู่ แต่ให้คุนคุนเรียกตัวเองว่า พี่รัน มันเกินไปมั้ยพ่อ! เอาไว้ให้สาวๆเรียกเถอะ แล้วนี่ไปสนิทกันอีท่าไหนถึงให้เด็กผมเรียกชื่อตัวเองอย่างสนิทสนมขนาดนี้

"แหะ ถูกจับได้แล้วสินะ" คนที่รู้ตัวว่าแผนหลอกโกงอายุของตัวเองไม่ได้ผลก็ต้องจำใจยอมรับหน้าตาเฉย

"อะไรกันวะพี่ ผมงงแล้วนะเนี่ย นี่พ่อพี่จริงๆหรอ"

"เออ นั่นดิพี่ หน้าไม่เห็นเหมือนกันเลย"

สองแฝดพูดออกมาพร้อมกัน แต่ผมเห็นนะว่ามันสองตัวแอบก้วถอยห่างนิรันดร์ออกไปอีกคนละก้าวสองก้าว ไอ้ขุนคงกลัวโดนล็อคคออีก ส่วนไอ้ทัพคงกลัวจะโดนเหมือนแฝดมัน เพราะเมื่อกี้มันก็ง้างมือเตรียมจะต่อยนิรันดร์แล้วดีที่ชักกำปั้นกลับมาทัน ไม่งั้นผลลัพธ์คงกลายเป็นมะนลงไปกองที่พื้นข้างน้องแฝดของทันแน่ๆ

"อืือ ทุกคน นี่นิรันดร์ พ่อกูเอง ถ้ากูหน้าเหมือนแม่ตำรวจจะจำกูรึไง ประสาท" ทำท่าตกใจทำไมวะ อย่างน้อยกูก็หน้าเหมือนแม่ มั่นใจได้ว่าพ่อแม่กูไม่ได้หยิบมาผิดจากโรงพยาบาลแน่ๆ

"สะ สวัสดีครับ/ หวัดดีครับพ่อ" สองแฟนพนมมือขึ้นมาแทบจะก้มกราบนิรันดร์ที่อมรอยยิ้มนึกสนุดยืนอยู่ที่เดิม นิรันดร์คงเห็นแหละว่าไอ้สองตัวนั้นสั่นเทาดูเหมือนจะกลัวตัวเองแค่ไหน

"ไม่ต้องไหว้ ฉันไม่ใช่พ่อพวกเธอ" คนมีอายุที่สุดเอ่ยเสียงเรียบติดเย็น คนนอกฟังคงรู้สึกเหมือนนิรันดร์กำลังไม่พอใจอยู่ นั่นยิ่งทำให้สองแฝดแทบจะทรุดเข่าลงไปกราบแทบเท้าพ่อบังเกิดเกล้าของผมแค่ไหน มันคงทั้งกลัวทั้งรู้สึกผิดที่หวังจะทำร้ายพ่อผมแหละ โถ เด็กหนอ พ่อกูจะไปโกรธอะไร นี่ก็แกล้งทำแอ๊บเสียงเย็นชาใส่ไอ้สองตัวนั้นอีกเล่นใหญ่ไฟกระพริบอีกละพ่อกู วันๆไม่หำห่าไรหรอกนิรันดร์อะ แกล้งคนไปเรื่อนเปื่อย สนุกเขาละ

"คะ คร้าบบบบ"

"ผมขอโทษครับที่เข้าไปต่อยพ่อ"

สองแฝดเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกผิด ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตา เข่าสองข้างทรุดลงบนพื้น นั่งสำนึกผิดไปสิ ส่วนคนที่ควรจะโกรธกลับยิ้มอย่าสนุกสนาน มีแค่ผมที่ยืนเฉยไร้อารมณ์ใดๆเพราะรู้ว่าไอ้สองตัวนี้กำลังโดนนิรันดร์เล่นอยู่ ส่วนเจ้าคุนคุนของผมก็ยืนนิ่งสีหน้าหลากหลายอารมณ์มากเพราะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แล้วก็ยังเห็นอีกด้วยว่านิรันดร์อะยกนิ้วชี้ขึ้นมาจ่อที่ปากตัวเองเพื่อบอกให้คุนคุนเงียบไว้ อือ...ไม่ต้องบอกอะไรมันก็เงียบอยู่แล้วละไอ้แก้มยุ้ยนั่นนะ ผมปล่อยให้พ่อเล่นสนุกไป ส่วนผมก็จับข้อมือคนตัวเล็กให้เกินออกมาจากตรงนั้นทันที

"ไปไหนมา มึงรู้รึเปล่าว่ากูตามหามึงให้วุ่น" ผมบ่นออกไปแต่ทว่าสายตาก็สำรวจตามร่างกายคนตัวเล็ก เผื่อแผ่ไปถึงแมวยักษ์ข้างๆกันด้วย ทั้งสองดูมีสภาพเหมือนเมื่อตอนหัวค่ำที่ออกจากคอนโดไม่มีผิดเพี้ยน เห็นเท่านั้นผมก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

"คุนขอโทษ" คุนคุนเอ่ยเสียงเบาด้วยความรู้สึกผิดที่ท่วมท้น ถามว่ารู้ได้ไง ลองมองตามันดูสิ คงรู้สึกผิดจนแทบบ้าแล้วมั้งนั่นนะ เห็นแบบนั้นผมก็รีบดึงคุนคุนเข้ามาไว้ในอ้อมกอดทันที ไอ้เด็กตัวนิ่มก็ยกแขนสองข้างขึ้นมาโอบรอบคอผมไว้

"กูเป็นห่วงมึงรู้มั้ยคุน อย่าหายไปแบบนี้อีก"

"ครับพี่แฟง"

.
.
.
.
.

"มานั่งนี่เดี๋ยวกูเช็ดผมให้" ผมเรียกคนตัวเล็กที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำให้มานั่งระหว่างขาตัวเองที่นั่งรออยู่ที่ปลายเตียงได้สักพักแล้ว  พอกลับมาที่ห้องผมก็ไล่คุนคุนให้ไปอาบน้ำ ส่วนสองแฝดกับนิรันดร์ก็เพิ่งกลับมาเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว นิรันดร์คงเล่นกับพวกมันหนักน่าดู เสื้อนี่เปียกมาเชียว คงไม่พ้นถูกสั่งให้วิ่งรอบสนามหลังคอนโดแน่ๆ ที่ผมรู้เพราะเจอมากับตัวบ่อยๆ แล้วก็เห็นลูกน้องของพ่อโดนแบบนี้ประจำ ไม่รู้โดนไปคนละกี่รอบคนที่ออกกำลังทุกวันอย่างกองทัพกับขุนพลถึงได้หมดเรี่ยวแรงนอนตายกองอยู่บนโซฟาเหมือนอาจารย์ใหญ่ไม่มีผิด ส่วนคนที่เป็นตัวการนั่งเหยียดขาผิวปากสบายใจเฉิบอยู่บนเก้าอี้เอนข้างประตูระเบียงตรงข้ามกับห้องนอน มือก็ลูบท้องอันอันไปด้วย มันต้องเป็นคนประเภทไหนวะขนาดแมวที่น่ากลัวแบบนั้นถึงยอมนอนเฉยไม่ส่งเสียง ขนาดผมเจอหน้ามันทุกวันกว่ามันจะยอมให้ลูบท้องได้แบบนั้นก็เป็นเดือนนะขอบอก ไอ้อันอันก็เหลือเกินใจง่ายชิบเป่ง หรือนิรันดร์ป้ายยามันวะ

"พี่แฟง คุนเจ็บ" คนที่นั่งอยู่ตรงหว่างขาผมบนเตียงพูดขึ้น

"เออ โทษๆ" ผมเอ่ยออกไปพรางรู้สึกผิดที่ลงน้ำหนักมือไปบนหัวคนตัวเล็ก แม่ง หงุดหงิดไอ้อันอันแมวสองหน้าไง ดูมัน ฟินเชียวนะมึง แถมเอาหน้าถูกับอกนิรันดร์ไปมาอีก โอ้โห มันจะมากไปมั้ย

"พี่แฟงคุยขอโทษจริงๆนะครับ คุนไม่น่าลืมมือถือไว้ในห้องเลย" คุนคุนหันหน้ามามองผมด้วยหน้าที่สลดลงเหลือแค่สองนิ้ว

"อือ ไม่โกรธแล้ว แล้วทำไมไม่ขึ้นมาเรียกกูลงไปช่วยหา" ตอนนี้ผมเส้นเล็กสีดำสนิทของคุนคุนแห้งเก็บหมดแล้ว ผมจึงโยนผ้าเช็ดผมลงไปใส่ตะกร้าหน้าห้องน้ำ ก่อนวางมือลงบนกลุ่มผมสีดำของคนตัวเล็กตรงหน้าที่ตอนนี้โชยกลิ่นหอมฟุ้งเตะจมูกไม่หยุด

"คุนจะขึ้นมาหาพี่แฟงแล้ว แต่พี่รัน เอ้ย พ่อพี่แฟงผ่านมาก่อน เขาบอกจะช่วยหา" คุนคุนเอียงคอเอามือสองข้างขึ้นมาคล้องคอผม คุนคุนบอกว่าอันอันหลุดหายวิ่งตามนกไปตามหาอยู่นานก็ไม่เจอ

"แล้วไปเจออันอันที่ไหนละ" ผมเอามือสองข้างเลื่อนลงมสโอบเอวเล็กๆของคุนก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กให้ขยับท่าหันตัวมาหาผมเอาขาสองข้างนั้นเกี่ยวไว้ที่เอวผม เพราะตอนนี้ผมนั่งอยู่ปลายเตียง ถ้าไม่เกี่ยวไว้ สักพักคงต้องหล่นลงไปกองที่พื้นแน่ๆ

"พี่แฟงรู้มั้ยว่าอันอันวิ่งไปไกลมาก โน่นไปถึงคอนโดสีเทาสูงๆตรงโน้น" โห ไอ้แมวนี่มันวิ่งไปไกลวะ คอนโดสีเทานั่นมันอยู่ห่างไปตั้งหลายซอย

"ฮะแฮ่ม เกรงใจกูบ้าง จะทำอะไรนะ" เสียงทุ้มติดแหบของนิรันดร์ดังเข้ามาในห้อง ร่างสูงใหญ่ของพ่อบังเกิดเกล้ายืนพิงขอบประตูอยู่ คนตัวเล็กรีบเอาแขนที่คล้องคอผมออกทันที แต่ผมไวกว่าคว้ามือสองข้างนั้นวางกลับไปไว้ที่เดิม

"เกรงใจทำไม นี่ห้องคุน ไม่ใช่บ้านนิรันดร์" ผมดึงชายเสื้อคุนคุนลงมาเมื่อเห็นสายตาของนิรันดร์ที่มองมายังคนตัวเล็กของผม มันคงเลิกขึ้นมาตอนผมจับคุนคุนพลิกกลับมาหาผม ว่าแต่นิรันดร์เห็นแค่ไหนวะ หวังว่าเสื้อที่เลิกขึ้นมาเมื่อกี้คงไม่ขึ้นมาสูงมากนะ แล้วนิรันดร์จะมามองคนของผมแบบนี้ไม่ได้นะ!

"งั้นมึงก็กลับห้องสิ กูจะได้อยู้ห้องที่เป็นชื่อกูไง" นิรันดร์เลิกคิ้วขึ้นอย่างกวนๆ ผมบอกนิรันดร์ไปตอนที่คุนคุนอาบน้ำอยู่ว่าผมย้ายมาอยู่ห้องนี้ได้สักพักแล้ว ส่วนเหตุผลคืออะไร อันนั้นผมก็บอกไป แล้วสิ่งที่ได้กลับมาคือเสียงหัวเราะดังๆของนิรันดร์ พร้อมกับประโยคที่ว่า 'เจ้าแผนการเหมือนกูไม่มีผิด ภูมิใจจริงเว้ยไอ้ลูกชาย' อืม นี่แหละครับพ่อผม ชอบนักละเรื่องแบบนี้ ถ้าเป็นพ่อคนอื่นผมอาจจะถูกกระทืบไปแล้วโทษฐานที่ไปหลอกลวงลูกชาวบ้านเขาแถมยังจ้องจะจับลูกเขากินอีก แล้วลูกชางบ้านนี้ก็นะ อายเขินม้วนซบลงมาตรงอกอมจนจะจมเข้าไปอยู่ละ แม่งเอ้ย ถ้าไม่มีใครอยู่นี่ขอจับฟัดทีหนึ่งเหอะ! เอะ มีใครอยู่แล้วทำไม่ได้หรอวะ มึงแค่ปิดประตูห้องนอนก็ได้แล้วมั้ยแฟง....ฮะ? ไม่ได้หรอ...เคๆ ไม่ได้ก็ไม่ได้

"นิรันดร์!" ผมพูดออกมาเสียงดัง พรางส่งสายตาขอร้องว่านิรันดร์อย่าพูดอะไรให้มันมากกวานี้อีก ไม่งั้นละก็ความได้แตกกันพอดี ชายวัยกลางคนที่ยืนพิงขอบประตูอยู่ยกมือขึ้นมาสองข้างคล้ายคนยอมแพ้ พร้อมกระตุกยิ่มอย่างคนเจ้าเล่ห์ ก่อนสาวเท้าก้าวออกไป

ผมปล่อยคนที่ซบจมอกผมไว้แบบนั้นสักพัก กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำกับยาสระผมโชยเตะจมูกผมเป็นระรอกไม่ขาดสาย กูอยากจับมึงฟัดจริงๆแล้วนะคุน

"คุน"

"ครับ พี่แฟง" ไอ้ตัวเล็กผละออกจากอก ทำให้ตอนนี้หน้าเราอยู่ในระดับเดียวกัน

"สัญญากับกู คราวหน้าอย่าลืมโทรศัพท์เด็ดขาด"

"ครับ" ปากแดงๆ ขยับไปมาอยู่ห่างจากผมเพียงคืบ

"คุน มึงรู้มั้ยว่ากูเป็นห่วงแค่ไหน"

"..."

"กูคิดไปถึงเรื่องเลวร้ายสารพัดที่อาจจะเกิดขึ้นกับมึง"

".."

"กูแม่งเป็นห่วงมึงโคตรๆ มึงสำคัญกับกูมากนะคุน"

"พี่แฟง"

"จำไว้ว่ากูรักมึงชิบหาย"

"ฮะ?"

"รักกูบ้างรึเปล่า"

"คุน...."

"ไม่ต้องรักกูมากก็ได้ รักแค่พอที่มึงจะคิดถึงกูบางครั้งเวลาที่กูไม่อยู่ใกล้มึงแค่นั้นพอ"

"ถ้าคิดถึงบางครั้งแบบนั้นมันคือความรักระดับไหนหรอครับ"

"อืม..คิดถึงบางครั้งหรอ...อืม...ถ้าเต็ม 10 ก็คงระดับ 3-4 มั้ง"

"ถ้างั้นคุน...."

"หืม?"

"คุนคงชอบพี่ระดับ 8 แล้ว เพราะคุนคิดถึงพี่แฟงตลอดเวลา"

 

#คุนแฟง

by ppeachmm







หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 17 | 18.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 18-05-2020 10:59:52
 o13 ระดับแปด อาจจะเกิด สึนามิ ได้
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 17 | 18.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 18-05-2020 18:27:59
คุนๆทิ้งละเบิดลูกใหญ่ดังตู้ม 5555
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 17 | 18.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: mylittleY ที่ 18-05-2020 22:48:13
เด็กหนอเด็ก ระดับแปดนี่เยอะนะลูก
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 18 | 19.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 19-05-2020 05:54:49
---ตอนที่ 18---



"ถ้างั้นคุน...."

"หืม?"

"คุนคงชอบพี่ระดับ 8 แล้ว เพราะคุนคิดถึงพี่แฟงตลอดเวลา" ดูเอาเถอะคำพูดคำจาชวนให้หัวใจผมเต้นเป็นเด็กหัดมีป๊อปปี้เลิฟอีกจนได้ ไอ้คำพูดลอยหน้าลอยตา ทำตาใสๆแล้วก็มุดหน้าเล็กๆลงไปในอกกูแบบนี้แหละทำกูหลงจนโงหัวไม่ขึ้นอีกละ

"รักกูแล้ว นี่ไงกูดูออก" ไอ้เด็กตัวนิ่มคงอายที่พูดแบบนั้นออกมา ดูจากหน้าแดงๆของมันก็พอเดาออก แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ปัญหามันอยู่ตรงอวัยวะสีแดงเล็กๆบนใบหน้านั่น เห็นทีไรอยากกัดให้เลือดออกทุกที ผมรีบวางลูกหมีโคล่าแบร์ที่เกาะเอวอยู่ลงบนเตียงก่อนเดินไปปิดประตูห้องนอนเบาๆ ไม่ให้สามหน่อขี้เสือกได้ยิน ก่อนปิดประตูก็สังเกตสิ่งมีชีวิตด้านนอกก่อน ศพอาจารย์ใหญ่ยังไม่ฟื้นยังนอนแอ้งแม้งอยู่ที่เดิมอันนี้ผ่าน ส่วนนิรันดร์ อืม..ไปไหนวะ..อ้อ ยืนคุยโทรศัพท์อยู่นอกระเบียงอืม..ก้างตัวนี้ก็ผ่าน เคร ประตูพร้อมคนพร้อม ลงกลอนประตูกันไว้แม่งเลย หากพวกนั้นได้ยินอะไรแปลกๆจะได้ไม่พรวดพราดเปิดประตูเข้ามา กันไว้ก่อนยิ่งขี้เสือกเป็นสันดานอยู่

"ล็อคประตูทำไมครับ" คุนคุนที่ถูกผมจับนั่งอยู่ปลายเตียงเอ่ยถามด้วยความสงสัยที่จู่ๆผมก็เดินไปล็อคประตู

"ก็กูจะฟัดมึง"

"แล้วตอนฟัดคุน เปิดประตูไว้ไม่ได้หรอ" เด็กน้อยเอียงคอถามด้วยความสงสัย สงสัยจะไม่เข้าใจคำว่าฟัด โอเค ภาษาไทยวันละคำวันนี้ขอเสนอคำว่า ฟัด เป็นคำกริยา แปลว่า....นั่นแหละ เติมคำในช่องว่างเอาเอง

"หึ ถ้ามึงชอบโชว์ ก็คงเปิดได้แหละ แต่กูไม่ชอบไง" ผมก้าวขึ้นมาบนเตียงก่อนจับคนตัวเล็กยกขึ้นมาวางบนตักจัดท่าทางให้เหมือนตอนก่อนปิดประตู พร้อมคว้าเอวบางเข้ามาแนบชิด จับขาเรียวเล็กๆสองข้างเกี่ยวไว้รอบเอวตัวเอง

"อึ๊ย ทำไรอีกเนี่ย คุนหิวแล้ว จะไปทำกับข้า....อิ้อ" ผมไท่เปิดโอกาสให้ร่างบางได้พูดต่อจนจบประโยค ใช้ปากหนาๆของตัวเองประกบไปบนปากแดงๆที่ขยับเคลื่อนไปมาทันที ครั้งนี้ไม่ต้องใช้ลิ้นดันเปิดทางโพรงปาก เพราะมันอ้าไว้อยู่แล้วจากการที่อีกฝ่ายกำลังเปิดปากพูด ไม่รอช้าลิ้นร้อนของผมแทรกเข้าไปตวัดชิมความหวานของคนตรงหน้าเหมือนคนโหยหาที่ไม่เคยได้ช่วฃชิมริมฝีปากนี้มาก่อนทั้งๆที่เราก็จูบกันวันละหลายครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนทุกครั้งเพราะผมตั้งใจให้มันมากกว่านั้น

"อื้ออ" เสียงร้องประท้วงดังรอดออกมาตามไรฟันเมื่อรสจูบที่ผมหยิบยื่นให้มันหนักหน่วงและร้อนแรงมากดว่าทุกครั้ง แค่คิดว่าคุนคุนได้รับอันตรายเมื่อชั่วโมงก่อนมันก็ทำให้ผมแทบบ้า โกรธตัวเองชิบหาย แค่คิดว่าผมเกือบจะไม่ได้จูบปากแดงระเรื่อนี้อีกมันก็ยิ่งทำให้ผมอยากตักตวงมากขึ้น รสหวานจากโพรงปากเล็กเปลี่ยนเป็นกลิ่นคาวคลุ้งเมื่อผมเผลอกันริมฝีปากบางเบาๆจนเลือดซิบ

"พี่ขอโทษ" ผมผละปากหนาออกมาดูผลงานความผิดพลาดที่ตัวเองทำไว้ น้ำสีแดงเจือปนกับน้ำใสซึมอยู่ตรงขอบปากล่างของคุนคุน ด้วยความรู้สึกผิดที่เผลอทำรุนแรงไปจึงยกมือขึ้นมาหวังจะเช็ดเลือดที่กำลังซึมออกมาจากปากบางนั้นออกให้ แต่คนตัวเล็กนั้นกลับยื่นปากแดงระเรื่อของตัวเองมาประกบปากผมในทันที คุนคุนไม่ได้ลุกล้ำเข้าไปในโปรงปากผมเหมือนที่ผมทำกับเขา เจ้าตัวเล็กขบเม้มปากบนสลับกับปากล่างผมอย่างอ่อนโยนอยู่หลายนาที เดี๋ยวนี้คนตัวเล็กดูเหมือนจะช่ำชองจังหวะจูบที่ผมพร่ำพรูสอนให้มากโขแล้ว และยังกล้ามาแล่นกับริมฝีปากผมแบบนี้อีก

"พี่แฟงใช้ปากทำคุนเลือดออก ก็ต้องใช้ปากเช็ดให้เราสิ" อืม เอาเข้าไป อายตัวเองมั้ยนั่นนะที่พูดออกมา หน้าเอยหูเอย แดงเถือกเชียว ผมได้แต่ขำในใจในท่าทางน่ารักของเจ้าตัวนุ่มนิ่มที่อยู่บนตัก

"ปากเก่งเกินไปแล้วเดียวนี้" ผมพูดจบก็ไม่รอช้าบดริมฝีปากตัวเองกับริมฝีปากอ่อนนุ่มนั้นอีกครั้ง เราแลกลิ้นอุ่นๆกันอยู่เนิ่นนาน มือบางที่คล้องคอผมไว้ในทีแรกเริ่มสอดแทรกนิ้วเรียวไปตามกลุ่มผมของผมแล้วขยี้มันแรงขึ้นแรงขึ้น ตามจังหวะจูบที่ผมมอบให้ เสียงหายใจหอบหืดของร่างเล็กที่บ่งบอกว่าแทบขาดใจแล้วทำมห้ผมต้องผละริมฝีปากออกเพื่อให้อีกคนสูดจังหวะหายใจ แต่ตอนนี้ผมไม่ใช่คนใจดีที่เว้นช่วงไว้นานๆ คนเราไม่ต้องใช้เวลาเป็นนาทีในกายโกยลมหายใจหรอก แค่สองวิพอ เพราะผมให้ได้มากสุดเท่านั้นตอนนี้ คุนมันไม่ได้จูบเก่งหรอกนะบอกเลย จูบที่เก้ๆกังๆของคนอ่อนประสบการณ์ในตอนแรกๆ ที่ตอนนี้พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เด็กสมัยนี้เรียนรู้เร็วชิบหาย คอยดูเถอะสอนอีกไม่กี่ครั้งคงได้เก่งล้ำหน้าอาจารย์อย่างผมไปแล้วแน่ๆ แต่ก็นะแม้ตอนนี้จะไม่ได้เก่งกาจอะไร แต่มันก็ทำให้ผมโคตรติดใจในรสหวานจากปากเล็กๆของมันได้ในทุกครั้งไป

เสื้อยืดตัวโคร่งที่อีกคนชอบสวมใส่เวลานอนถูกถอดออก ตามมาด้วยเสื้อยืดสีเทาของผมตัวเดิมที่ใส่ไว้ตั้งแต่เช้าเพราะยังไม่ได้อาบน้ำเลยทั้งวัน

"ไม่ต้องทำหน้าตกใจ ไม่ทำไรมากหรอกน่า" ผมพูดออกไปเมื่อเห็นอีกคนหน้าถอดสีทันทีที่เสื้อของเราสองคนถูกถอดออกทิ้งไว้บนพื้น คลาสนี้ไม่ใช่คลาสบรรยาย มันคือคลาสปฏิบัติ! เอาน่า ไม่ได้จะพาไปถึงดวงจันทร์วันนี้เสียหน่อย แค่พาไปแตะเส้นขอบฟ้าเฉยๆ ขอเหอะนะ อย่าทรมานนายลภัสคนนี้อีกเลย

ร่างเล็กถูกวางลงบนเตียงนุ่มโดยมีผมทาบทับอยู่ด้านบนในท่าเดิม แขนเล็กก็ยังตวัดรอบเอวหมเหมือนเดิม เราแค่เปลี่ยนจากแนวตั้งแกนโลก เป็นแนวราบตามพื้นโลกเท่านั้น ริมฝีปากผมที่เคยช่วงชิมความนถ่มจากปากแดงระเรื่อ เลื่อนลงมาที่ซอกคอขาวของคุนคุน ด้วยความที่เป็นลูกครึ่งจีน ทำให้ผิวของคุนขาวคว่าคนไทยทั่วไป ขาวจัดขนาดที่ว่าถ้าเอาไฟส่งอาจจะมองทุลุเห็นอีกฝั่งได้ ขาวจนมันทำผมตาพร่ามัวมาหลายครั้งแล้วที่เสื้อตัวโคร่งๆนั้นเลิกขึ้นเวลาเจ้าของร่างขยับตัวโดยไม่ระวัง ซึ่งถามว่าคุนคุนเคยทำอะไรระวังตัวด้วยรึไง คำตอบก็คือไม่ แบะความจริงก็คือ ผมตาพร่ามัวตลอดเวลาเพราะเสื้อของคุนนั้นเลิกขึ้นทุกสิบนาที ไม่ตาบอดให้มันรู้ไป นี่คิดไว้ว่าก่อนมหาลัยเปิดอาจจะต้องมีการไปวัดสายตาตัดแว่นกันแล้วละ

"อื้ออ" เสียงหวานครางขึ้นเมื่อผมขบเม้มปากดังคอขาวๆนั่นจนมันขึ้นสีกลีบกุหลาบ มีหนึ่งรอย ก็ต้องมีสองรอย สามรอยตามมาไล่เรี่ยกัน ปากก็ทำหน้าที่ดูดเม้มไปตามเรือนร่างเนื้อนุ่มนิ่มที่ไร้ซึ่งกล้ามเนื้อแต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้มีส่วนไหนของร่างกายนี้ที่เรียกได้ว่าส่วนเกินเลยสักนิด กลิ่นครีมอาบน้ำที่ติดตามตัวของคุนคุนมันกำลังสูบสติที่เหลืออยู่น้อยนิดของผมให้หายไป
ผมจรดจมูกหนาลงบนหน้าท้องขาวไปสูดกลิ่นกายของคุณคุณเข้าไปเต็มปอดก่อนเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของร่างที่นอนบิดอยู่บนเตียงด้วยปากที่แดงระเรื่อและบวมเจ่อจากฝีมือของตัวเองอยู่สักพัก ผอมรับในต้อนนี้เลยว่าไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน และยิ่งไปกว่านั้นคือไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะมีความรู้สึกดีๆดีจนถึงขั้นรักเพศเดียวกันได้ขนาดนี้ แต่ถ้าจะให้มองผู้ชายคนอื่นหรือรู้สึกแบบนี้กับคนอื่นคงต้องบอกว่าผมคงทำไม่ได้วะ เพราะมันคงมีได้แค่กับคนนี้คนเดียว ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย ผมแค่ชอบคุนคุน ที่ชื่อแปลว่าแผ่นดินคนนี้

เมี้ยว!

เมี้ยว!

"อะ อันอัน" คุนคุนสะดุ้งเฮือก ยันตัวขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วดันผมออกจากตัวอย่างเร็ว เมื่อได้ยินเสียงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมาร้องโวยวายอยู่ข้างเตียง ผมที่โดนผลักออกลื่นตกลงมาข้างเตียงอย่างไม่ได้ตั้งตัว โดยมีเจ้าของเสียงเหมียวๆง่าวยืนอยู่ข้างๆ

มึงเข้ามาตอนไหนวะไอ้อันอัน!

เมี้ยว

เมี้ยว


เมี้ยวพ่อง!

กูเกลียดแมว!

#คุนแฟง

by ppeachmm


หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 18 | 19.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 19-05-2020 08:32:36
จับแมวกินดีมั้ง ขัดจังหวะเนี้ย
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 18 | 19.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 19-05-2020 20:24:50
 :really2:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 18 | 19.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 19-05-2020 23:21:03
โดนอันอันขัดซะได้
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 18 | 19.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 20-05-2020 01:42:03
อันอันไม่ปลอดภัยซะแล้ว 5555555555555
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 18 | 19.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 20-05-2020 06:33:23
---ตอนที่ 19---


.
.
.
.
.
มึงเข้ามาตอนไหนวะไอ้อันอัน!
.
.
.


เมี้ยว
.
.
.

เมี้ยว
.
.
.

เมี้ยวพ่อง!
.
.
.
กู---เกลียด---แมว!

กูจะพูดอะไรได้ในเวลานี้ ประท้วงได้มั้ย ลงไปชักดิ้นชักงอแล้วบอกให้ม๊ามันอัญเชิญมันออกไปจากห้องตอนนี้ได้มั้ยวะ คือกูกำลังเข้าได้เข้าเข็มอยู่ไง กูไม่ได้จะจัดการม๊ามึงถึงขั้นนั้นซะหน่อย แค่จะขอกินนมเฉยๆไง แต่นี่อะไรกูอุตส่าห์เก็บของดีไว้แ*กตอนสุดท้าย นมก็ยังไม่ได้แ*ก และเสือกยังไม่ได้จับอีก! นี่แหละน้าที่เขาบอกกันว่าอย่าเก็บของดีไว้กินทีหลัง รู้ซึ้งก็วันนี้แหละ อดแ*กขอรับ!

ผมปรายตามองคนบนเตียงด้วยสายตาเชิงขอร้อง มึงอย่าปล่อยกูค้างแบบนี้ มันไม่ดี๊ไม่ดี แต่อีกคนไม่สนใจหยิบเสื้อยืดตัวโคร่งสีขาวของตัวเองมาใส่ก่อนจะก้าวเท้าลงมาจากเตียง เอามือมาลูบหัวแมวยักษ์ตัวเขื่องที่ยืนอยู่ข้างผม แถมยังจ้องหน้าผมเหมือนอยากจะเขมือบอีก กูไม่ได้จะทำอะไรม๊ามึงนะเว้ย แค่เล่นกันตามวิถีมนุษย์อะมึงเข้าใจม้ายยยย

"อันอันเด็กดี"

"เด็กดีพ่อง!"

"พี่อย่าว่าอันอันสิครับ อันอันตกใจนะ"

ตกใจพ่อง!

ไอ้ตัวนุ่มนิ่มอุ้มแมวตะเล็กตะน้อยในสายตามันขึ้นมาไว้แนบอก ตัวเล็กตายละ อีกนิดจะสิบโลละแ*กเข้าไปสิน่องไก่อะ คนตัวเล็กเอามือขาวๆบางๆของมันลูบไปบนหัวของไอ้ขนเตียนนั้นเบาๆ ส่วนคนที่ถูกลูบก็เอาหัวถูอกคุนคุน อืม อืม สิ่งที่กูเก็บไว้กินแต่มึงสึกสอยไปซะได้นะไอ้อันอัน หมั่นใส้แมววะ

"สักวันกูจะบีบไข่มันแตกเลยคอยดู เนี่ยมึงทำกูค้างด้วยนะคุน จะไม่รับผิดชอบหน่อยรึไง" ผมเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเง้างอน หวังลึกๆว่าคนที่มันห่วงใยแมวจะหันมามองกันสักนิด เรื่องบีบไข่กูพูดจริงเถอะ ม๊ามึงเผลอละเจอกัน!

เมี้ยว!

มองหน้ากูหาเรื่องอีกนะมึง รู้รึไงว่ากูคิดไร อ้าวๆ จ้องหน้าอีก คิดว่ากูกลัวนักรึไงไอ้ตาแมวป่าสีฟ้าๆของมึงเนี่ย! เออ กลัว!

"อะไรนะ อันอันหิวข้าวหรอ เครคร้าบเดี๋ยวปาป๊าพาไปหาอะไรอร่อยๆกินเนอะ" เปลี่ยนเรื่องเก่ง

เมี้ยว!

เจ้าของแมวสาวท้าวตรงไปหน้าประตูห้องนอนโดยไม่สนใจหันกลับมามองว่าที่ผัวที่นอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้นเลยสักนิด พูดไปเหอะ ไม่รู้จะได้เป็นมั้ยเหอะไอ้ผัวเนี่ย ดีไม่ดีอีกห้าสิบปีข้างหน้ากูอาจจะนอนตายอย่างสงบอยู่บนเตียงทั้งที่นมยังไม่ได้ดูดก็เป็นได้ แค่คิดชีวิตก็เศร้า หนทางแม่งลำบากยากเย็น จะกินเด็กทั้งทีกลับมีอุปสรรคต่างๆเหนือคณานับ ยุบหนอ พองหนอ

พอคิดถึงอนาคตข้างหน้าที่แสนเศร้านักศึกษาแพทย์ปีสามอย่างผมก็ต้องปลงไปสิครับ ทำไงได้ เขาเดินหนีเรา! ต้องจำใจยอมลุกขึ้นมาจากพื้นทั้งๆที่โคตรพ่อโคตรแม่พร้อมจะรบอะบอกเลย ก้มลงมองลูกชายตัวเองที่ดุดันออกมานอกกางเกงก็อยากจะร้องไห้ เกือบแล้วเชียว อีกนิดเดียว อีกนิดกูก็จะได้บอกลานิ้วน้องนางทั้งห้าแล้วเหอะ น้ำตาตกในมันเป็นแบบนี้เองสินะ

"พี่แฟง" เสียงติดหวานดังอยู่หน้าประตู ผมที่ยืนหันหลังหยิบผ้าเช็ดตัวอยู่ไม่ได้หันไปมองทางต้นเสียง คือตอนนี้งอนอะ ให้มันรู้ซะบ้างว่าคนอย่างนายลภัสโกรธเป็นนะ!

"พี่แฟงครับ" ยวบเลยกู มันส่งเสียงอ้อนๆมาทีหนึ่ง กูก็แทบอยากพุ่งเข้าไปซุกพุงขาวๆนุ่มนิ่ม หางกูนี่กระดิกแล้วนะบอกเลย แต่เอามือจับลิ้นชักไว้กลัวห้ามตัวเองไม่อยู่

"พี่แฟงคร้าบบบ"

อ้อนชิบหาย!

 เสียงติดหวานร้องเรียกอีกครั้ง มันคงยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนที่เดิมนั่นแหละ ไม่ได้หันไปดูหรอกนะเห็นผ่านกระจกติดประตูตู้เสื้อผ้าเฉยๆ

"อะไร" ใจแข็งเข้าไว้ ต้องทำเป็นไม่สนใจ นะโม พุทโธ

"คืนนี้" เจ้าตัวนุ่มนิ่มพูดออกมาเบาๆ แต่ทว่ามันก็ดังพอให้ผมได้ยินแหละ แต่ผมก็แกล้งทำเป็นเมินไม่สนใจ มือไม้ทำเป็นควานหาชุดนอนอยู่ในเสื้อผ้าเพื่อเตรียมจะไปอาบน้ำ ให้มั้นง้อ! ให้มันง้อ! เด็กมันจะได้สำนึกว่านายลภัสก็ควรค่าแก่การสนใจ!

"ทำไม"

"คืนนี้เดี๋ยวคุนมาทำต่อให้นะครับ"

โอ้โห!

บู้ม!

แล้วช็อคโกแลตลาวาก็ระเบิดออกมากระจายทั่วห้อง เด็กมันทิ้งระเบิดไว้วะ ไอ้เ*ย! พูดแล้วเดินหนีเฉย เออ..อืม..เดี๋ยวนี้มันแพรวพราว

ผมเดินผิวปากฮัมเพลง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เข้าไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย เ*ดแม่ กูแม่งโคตรดีใจ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จจะรีบไล่ไอ้ก้างสองตัวกับพ่อบังเกิดเกล้าให้กลับไปโดยเร็ว นายลภัสมีความสุขชิบหาย

วิ่งวุ่นหาคุนคุนทั่วคอนโดจนเหงื่ออกเปียกเสื้ออะ แต่โชคดีหน่อยที่ไม่ใช่คนมีกลิ่นเหงื่อแรง ไม่งั้นไอ้คุนคงหยีไปแล้วที่ผมไปซานตามตัวมัน คิดแล้วก็ น้อนนนน คิดถึงแก้มย้วยๆของมันอีกแล้ว! ห่างกันไม่ถึงยี่สิบเมตรก็ยังคิดถึงอีกหรอวะ มึงป้ายยากูแน่ๆไอ้แก้มยุ้ย

ผมใช้เวลาในการอาบน้ำไปกว่าครึ่งชั่วโมง อาบน้ำอะไม่นานหรอก แต่ทำอย่างอื่นสินาน ทำไงได้ก็น้องชายมันพร้อมรบขนาดนั้น จะให้นั่งจงกรมรอมันลงเองหรอ นานเหอะ คนแมนๆคูลๆอย่างเราก็ใช้นิ้วน้องนางทั้งห้าวนไปสิครับ เศร้าชิบหายชีวิยนายลภัสเนี่ย เฮ้อ!

"หอมจังวะ ทำไรกินอะ" กลิ่นหอมของอาหารหลายอย่างลอยวนอยู่ในห้อง แค่ได้กลิ่นน้ำย่อยก็ทะลักออกมาทักทายละ

"หลายอย่างเลยครับ อยู่บนโต๊ะโน่น" คนตัวเล็กที่กำลังตักแกงอะไรซักอย่างออกจากหม้อใส่ลงไปในถ้วยเอ่ยขึ้นเมื่อผมเดินเข้ามาใกล้ๆ

"ทำเยอะจังวะ จะเอาไปทำทานที่ไหน" ผมถามออกไปเมื่อเห็นอาหารสี่ห้าอย่างวางอยู่บนโต๊ะอาหาร

"ก็เรามีแขกนี่ครับ" คนตัวเล็กหยิบถ้วยชามออกมาจากตู้ ส่วนผมก็เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำเปล่าออกมา

"ก็ไล่มันกลับดิวะ ไม่รู้จักเกรงใจเจ้าของห้อง มาเนียนแ*กฟรีอยู่ได้ทุกวี่วัน ความเกรงใจมันคงฝังไว้ใจกลางโลกแล้วละมั้งนั่นนะ" ปากก็ด่ามันนะ แต่มือนี่ยื่นไปหยิบแก้วน้ำออกมาจากชั้นสี่ใบด้วยความเคยชิน ก่อนจะเอื้อมไปหยิบอีกใบให้นิรันดร์ด้วย

"ว่าแต่เขา ตัวมึงละ มาอาศัยอยู่ห้องเขาเนี่ย ความเกรงใจมึงคงฝังในชั้นแก่นโลกแล้ววะ" ฟังแล้วแทบอยากจะขว้างแก้วใบที่ห้าทิ้ง แต่มันคือความจริงวะ กูเถียงนิรันดร์ไม่ออกด้วยสิ

"โหนิรันดร์ นี่ลูกนะเข้าข้างกันบ้าง" ผมเหวพ่อตัวเองทันที มีอย่างที่ไหนเข้าข้างคนอื่นเนี่ย ส่วนไอ้คนที่เหลือก็หัวเราะออกมาอย่างได้ใจ สนุกมากใช่มั้ยเห็นพ่อด่าลูกเนี่ยพวกมึง เดี๋ยวจับมาตบปากรายตัวเลย ตกแล้วโรยเกลือด้วยอะ เอาให้แสบไปถึงทรวงเลย

"อ้าว นี่มึงลูกกูหรอ กูนึกว่าตัวเองโสดนะเนี่ย" นั่น ยังจะเล่นอีกนะ

"งั้นวันนี้เลิกเป็นพ่อลูกกันหนึ่งวันก็ได้ ว่าแต่พวกมึงเหอะโดนไรมาวะถึงได้นอนตายเป็นอาจารย์ใหญ่แบบนั้น ซ้อมตายหรอ" ผมถามขึ้นเมื่อสองแฝดนรกเดินลากขามานั่นร่วมโต๊ะอาหาร

"ก็คุณพี่รันเนี่ยให้พวกเราวิ่งรอบสวนหย่อมสิบรอบอะ" ไอ้ขุนพลที่นั่งตรงข้ามกับผมเอ่ยขึ้น เรียกพี่รันซะเต็มปากเต็มคำ สงสัยถูกข่มขู่ให้เรียก ส่วนแฝดพี่นี่ไม่พูดไม่จามาถึงก็โซ้ยอาหารบนโต๊ะอย่างเดียว ตายอดตายอยากมาจากไหนวะมึง

"แค่นี้ยังน้อยไป เป็นเด็กเป็นเล็กเข้ามาหาเรื่องผู้ใหญ่แบบนั้นไม่ได้"

"คร้าบบ" หงอเลยนะมึง นิรันดร์พูดแล้วหน้าซีดชิบหาย สงสัยโดนสั่งสอนมา สมน้ำหน้าเหอะ

"นิรันดร์ก็ไปแกล้งมัน ดูดิ หอบจนลิ้นห้อยแล้วมั้ยละ"

"ไม่ใช่หมาไอ้พี่"

"อ้าว ไม่ใช่หรอ เห็นหน้าเหมือน หูลู่ หางตก กูก็คิดว่าสปีชี่ส์เดียวกัน"

"ผมจะไม่โต้ตอบ"

"ฮ่าๆๆๆๆ"

"ว่าแต่นิรันดร์มาทำไม แล้วไปเจอคุนคุนได้ไง" ผมเอ่ยถามสิ่งที่สงสัยออกไป ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะมาหาลูกชายคนนี้สักที

"กูขึ้นมาทำธุระ แล้วก็ว่าจะแวะมาชวนมึงไปหาไรกิน แต่ตอนขับรถผ่านหน้าคอนโดเห็นเด็กมันยืนร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่เลยจอดรถแล้วลงไปดู อื้ออันนี้ อร่อยวะ ทำอาหารอร่อยนะเรา" นิรันดร์พูดเสียงเรียบก่อนตักต้มยำกุ้งซดเข้าปากคำโต ส่วนคนถูกชมก็ยิ้มแก้มบานตาตี่เหลือเพียงเส้นโค้งสองเส้นบนหน้าเท่านั้น

"อือ คุนมันทำอาหารอร่อย แล้วนี่มึงไปยืนร้องไห้หน้าคอนโดหรอ" ผมหันไปหาเด็กแก้มยุ้ยที่ตอนนี้กำลังจ้วงข้าวผัดต้มยำเข้าปาก แก้มที่ยุ้ยเป็นทุนเดิมอยู่แล้วกลับพองขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อมีอาหารอนู่ในนั้น มันพองจนปิดลักยิ้มไปจนหมด น่ารักชิบหาย ลภัสมึงจะมองทุกอย่างที่มันทำว่าน่ารักไม่ได้นะเว้ย!
 
"ก็เราหาอันอันไม่เจอไง"

"มึงนี่น้า กินเลอะอีกแล้ว เช็ดก่อน" ผมหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็คมุมปากให้คุนคุนที่นั่งอยู่ด้านขวา มีพริกเผาติดอยู่ตรงมุมปาก

"เบาหวานจะขึ้นตากู เพลาๆลงหน่อยเหอะมึง ตั้งแต่ในห้องละ"

"นี่ยังเบาะๆนะพี่รัน มียิ่งกว่านี้อีก พวกผมเห็นทุกวันจนจะเตรียมนัดหมอตัดขากันอยู่แล้วเนี่ย" ฟ้องเก่งนักนะไอ้ขุน ช่างแม่ง อยากฟ้องไรก็ฟ้องไป กูหน้าด้าน อะไรก็ทำร้ายกูไม่ได้บอกไว้ตรงนี้เลย

"ขี้ฟ้อง ส่วนนิรันดร์อะ อายมั้ยเนี่ย ให้เด็กรุ่นลูกมันเรียกพี่"

"อายทำไม กูยังหนุ่มยังแน่น อีกอย่างเด็กมันก็เต็มใจเรียก" คนเป็นพ่อเอ่ยขึ้นด้วยความมั่นใจ อยากจะ หรอออออยาวไปถึงดาวอังคาร บังคับมันละสิไม่ว่า

"สี่สิบกว่าแล้วเหอะ"

"หะ? พี่รันสี่สิบแล้วหรอครับ คุนนึกว่ายี่สิบกว่าๆ" คุนคุนมีสีหน้าแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด นั่นมันเชื่อจริงๆนะนั่นนะว่านิรันดร์อายุยี่สิบกว่า โถๆๆ

"โถไอ้คู้นนน"

"ฮ่าๆๆๆๆ" สองแฝดหัวเราะออกมาพร้อมกัน

"เฮ้ย กูชอบวะแฟง คนนี้กูให้ผ่าน สินสอดเอาเท่าไหร่บอกมากูจ่ายไม่อั้น พร้อมขบวนขันหมากยาวเป็นกิโลเลยอะ เอ้า คุน กินนี่เยอะๆจะได้โตไวๆ" คนถูกชมว่าหนุ่มตักไข่เจียวปูที่อยู่ในจานหน้าตัวเองไปวางไว้ในจานข้าวคุนคุนทันที เขาพอใจของเขาแหละ คนชมว่าหนุ่มแบบนั้นนะ ดูสิยิ้มหน้าบานตีนกาขึ้นเลย ยี่สิบห่าเหวอะไร ถุย ส่วนอีกคนพอได้ยินว่าพูดถึงเรื่องสินสอดก็คิ้วขมดทำหน้าฉงนขึ้นมาทันที สงสัยยังไม่รู้จักคำนี้ ดีแล้วละ ไม่งั้นได้ม้วนย้วยลงไปดิ้นใต้โต๊ะกินข้าวแน่ๆ

"มึงก็พูดไปคุนคุน ถ้าตอนนี้พ่อกูอายุยี่สิบกว่า งั้นแปลว่าพ่อกูมีกูตอนสี่ขวบนะมึง ถึงพ่อกูจะหมกมุ่นเรื่องอย่างว่า แต่สี่ขวบนี่ไม่ไหวนะ"

"จริงด้วย แฮะ"

"เด็กมันตาแหลม มึงอย่าไปขัดจินตนาการเขา คุน เอาใหม่ เอาความคิดเดิมใส่กลับเข้าไปใหม่นะ ส่วนข้อมูลที่ไอ้แฟงมันยัดเยียดให้เอาลบทิ้งถังขยะไปซะ กู้คืนข้อมูลเก่าด่วนๆ"

"ครับ?"

"ฮ่าๆๆๆ พ่อ มันฟังไม่รู้เรื่องหรอก เอาศัพท์ง่ายๆ" ผมหัวเราะออกไปเมื่อคนข้างข้างมีสีหน้างงงวยกับประโยคยาวๆ ที่นิรันดร์พูดออกมา

"เอ้าหรอ งั้นช่างแม่ง จำแค่ว่าคนนี้ชื่อพี่รันพอ อย่างอื่นไม่ต้องจำ"

"ได้ครับผม"

นิรันดร์หัวเราะชอบใจกับท่าทางไร้เดียงสาของคุนคุน เราใช้เวลาในการทานมื้อค่ำกันนานกว่าทุกวัน จริงๆมันควรจะจบลงตั้งแต่เมื่อชั่วโมงที่แล้วๆ แต่นิรันดร์กลับยกเรื่องน่าอายสมัยเด็กๆของผมมาเผาซะงั้น พ่อเขาประจานลูกแบบนี้หรอทุกคน ผมไม่ยอมนะ! คอยดูนะไอ้แฝดนรกร่วมคอนโดเดียวกันมันต้องยกเรื่องพวกนี้ขึ้นมาล้อผมสนุกปากแน่ๆ แม่งเอ้ย เห็นอนาคตเลยกู

"ผมแม่งชอบพ่อพี่เลยวะ" ไอ้ขุนที่เร่งจังหวะยัดห่าอาหารในจานตัวเองจนเกลี้ยงนั่งลูบท้องตัวเองปุ้ยๆเอ่ยขึ้น

"มึงอยากได้มั้ย กูยกให้" เอาไปเหอะ แถมแตงโมให้อีกหนึ่งกระสอบ! ไอ้คนถามพอได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าหงึกๆขอบใจ ทำเหมือนการขอพ่อคนอื่นมาเป็นของตัวเองมันทำได้ด้วยการขอปากเปล่าอย่างนั้นแหละ

"อ้าว ไม่หวงพ่อบังเกิดเกล้าหน่อยหรอวะ ไอ้ลูกเวรนี่" นิรันดร์ที่กำลังโซ้ยแตงโมอยู่เหวขึ้นมา แถมยังโยนเม็ดแตงโมงมาใส่หน้าผมอีก

"ก็บอกแล้วไงว่าวันนี้เราเลิกเป็นพ่อลูกกันหนึ่งวัน หยี! แล้วโยนมาทำไมสกปรกนะนิรันดร์" ผมตอบไปด้วยความหมั่นใส้ ตัวเองพูดเองเหอะว่าไมามีลูกอะ นี่ความจำดีจะตายจำได้ทุกประโยคแหละ

"พี่แฟงขยับมานี่ครับ คุนเช็ดให้ ฮะๆๆ เต็มหน้าเลยครับพี่แฟง" คุนคุนที่พูดตามใครเขาไม่ทันได้แต่นั่งหัวเราะแก้มยุ้ยอยู่ข้างๆผมดึงชายเสื้อผมเข้ามาใกล้ตัวเองก่อนหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดเม็ดแตงโมงที่แปะอยู่ตามใบหน้าผมให้ โห นี่โยนมาห้าเม็ดก็แปะอยู่บนหน้าผมห้าเม็ดเลยหรอวะ นิรันดร์แม่งโคตรแม่น รู้ว่าเป็นนักแม่นปืนนะ แต่นี่เป็นนักแม่นเม็ดแตงโมงด้วยหรอวะ พ่อกูแม่งยอดมนุษย์มาเกิดแน่ๆเลยวะ ถุย!


#คุนแฟง


by ppeachmm
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 19 | 20.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 20-05-2020 12:56:19
พ่อให้ผ่านแล้ว ลุยต่อเลยพี่แฟง
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 19 | 20.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 20-05-2020 16:50:56
 :mew1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 19 | 20.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 21-05-2020 01:16:57
คุณพ่อวัยรุ่นมากอ่ะ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 20 | 21.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 21-05-2020 07:20:21
---ตอนที่---


"พี่รันนอนนี่ใช่มั้ยครับ" คนตัวเล็กที่กำลังนั่งเล่นอยู่กับอันอันตรงประตูระเบียงที่แง้มไว้เล็กน้อยเอ่ยถามนิรันทร์ที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ที่นอกระเบียงกับผม ผมไม่ได้สูบนะแค่ออกมายืนคุยกับพ่อเฉยๆ ส่วนสองแฝดก็ขอตัวกลับไปแล้วหลังจากล้างจานจ่ายค่าข้าววนไป จริงๆมันก็ไม่ได้มาแ*กฟรีหรอก พวกมันก็หอบวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารมาใส่ตู้เย็นไว้ให้ตลอดแหละ บางครั้งก็แอบเอาเค้กเอย ขนมหวานๆชวนตัดขาทั้งหลายแหล่มาให้คุนคุน เข้าขากันดีจริงๆ วันไหนว่าที่เมียกูต้องตัดขาเพราะเบาหวานละก็ พวกมึงสองตัวเตรียมตัวไว้เลยกูจะตัดเอาขาพวกมึงมาสวมขาคุนคุนของกู สาบานต่อหน้าพระจันทร์ดวงกลมๆบนฟ้ามันตอนนี้เลย  แล้วไอ้สองแฝดมันไม่ชอบทำอาหารกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยมาอาศัยให้ว่าทีเมียกูทำให้ เมื่อก่อนตอนที่ขุนพลมันยังหวานแหววกับแฟนมัน เห็นทัพบอกว่าแฟนมันก็แวะเวียนมาทำอาหารให้กินบ่อยๆ แต่รู้สึกว่าพักหลังนี้จะทะเลาะกันค่อนข้างบ่อยอีกฝ่ายเลยไม่ได้เข้ามาที่คอนโด ความรักแม่งก็งี้ เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก อะไรก็ไม่จีรังยั่งยืน

"นอน"

"ไม่ๆ นอนไม่ได้"

"ทำไมจะไม่ได้วะ ก็เจ้าของห้องเขาถามเชิงอนุญาตแล้วไง"

"นิรันดร์ไปนอนห้อง(โน้น)ไป เถอะนะขอร้อง"

เราสองคนทะเลาะกันอยู่สักพัก ผมพยายามกดเสียงตัวเองให้เบาลงเพื่อไม่ให้เสียงมันลอดเข้าไปในห้อง

"ตกลงนอนใช่มั้ยครับ คุนจะได้ไปเตรียมที่นอนให้" คนตัวเล็กที่นั่งหันหน้าออกมาระเบียงตะโกนถามอีกครั้ง ส่วนนิรันดร์ที่ตอนนี้หันหน้ามามองผมที่ทำหน้าเว้าวอนแล้วกระตุกยิ้มบางๆ ก่อนจะตอบออกไป

"ไม่ละ เดี๋ยวไปนอนที่อื่น" ค่อยยังชั่ว!

"โอเคคร้าบ" คุนคุนตอบรับแล้วก็ก้มลงไปนอนเล่นกันอันอันต่อ ไอ้แมวป่าตาฟ้าศรัตรูหัวใจตัวเดิมมองมาที่ผม เหมือนมันรู้อะ จู่ๆมันก็เอาหัวไปถูไถหน้าอกคุนคุนอีกแล้ว ผมจะไม่รู้สึกอะไรเลยถ้าตอนที่มันเอาหัวถูๆแล้วมันไม่หันมามองหน้าผม เวร นี่มึงเยาะเย้ยกูหรอ!

"ไอเแมวเ*ย วันนี้มันกวนตีนจริงๆ ไม่รู้เป็นเ*ยอะไร วางท่าเป็นศัตรูผมตั้งแต่ค่ำมาละ ทุกทีก็รักกันดีอยู่นี่หว่า" ผมบ่นออกไปอย่างอดไม่ได้ วันก่อนๆเราก็สงบศึกกันแล้วนี่หว่า วันนี้ไม่รู้มันเป็นไรของมัน ขัดขวางผมจัง ไปโดนใครป้ายยามารึไงวะ

"หึ! ขนาดแมวยังจัดการไม่ได้ มึงจะทำไรได้วะไอ้แฟง อย่าไปบอกใครนะว่าเป็นลูกกู" มือหนายกบุหรี่ขึ้นมาอัดนิโคตินเข้าปอดก่อนหัวเราะออกมาในลำคอ

"ทำอย่างกับทุกวันนี้เวลาไปไหนมาไหนกับนิรันทร์ให้ผมบอกคนอื่นได้งั้นแหละว่านิรันทร์เป็นพ่อผม" ชอบบอกว่าเป็นน้องชายตลอดเหอะ

"พูดมาก เอากุญแจคอนโดมึงมา กูง่วงละเนี่ย เดินตามหาแมวช่วยเมียมึงจนเหนื่อย"

"เดี๋ยวไปเอาให้"

"ว่าแต่มึงเหอะ จริงจังหรอคนนี้"

"พ่อ"

"อะไร จู่ๆมาเรียกพ่อ ขนลุกวะ" ดูเข้าเถอะพอผมจะพาเข้าโหมดจริงจังเสียหน่อยก็มาล้อเลียนเอามือมาโอบโหล่ตัวเองลูบแขนไปมา เรียกพ่อมันน่าขนลุกตรงไหนวะ แค่ผมไม่ได้เรียกบ่อยเท่านั้นเอง

"..."

"อ้าว เรียกแล้วเงียบ เงียบทำไม"

"ผิดหวังรึเปล่าที่ผมชอบผู้ชาย"

"แฟง  กูผิดหวังกับมึงมาก็เยอะนะแฟง"

"..." ผมคิดตามไปถึงเรื่องเ*ยๆที่ผมเคยก่อไว้ตอนเด็กๆ ตั้งแต่สมัยเรียนม.ต้นแล้ว หาเรื่องต่อยตีกับชาวบ้านไปเรื่อย ทำตัวกร่างเป็นหัวโจกในโรงเรียน ห้องปกครองเรียกพ่อแม่เข้าพบรายอาทิตย์ จนพ่อสนิทกับครูณรงค์ฝ่ายปกครองมาจนถึงทุกวันนี้คิดดูเอาเถอะ กว่าจะจบม.3ได้นี่พ่อต้องบริจาคอุดหนูนการศึกษาให้โรงเรียนประจำจังหวัดไปมากโขอยู่ กลัวเขาไล่ออกไง แต่พอขึ้นม.ปลายผมก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมาหันมาตั้งใจเรียนจนสอบเข้าคณะแพทย์ติด

"แต่เรื่องที่มึงทำให้กูภูมิใจในตัวมึงก็มีไม่ใช่น้อย"

"..." เราสองพ่อลูกสนิทกันมากแต่ก็มีน้อยครั้งที่จะมีโมเมนต์มานั่งชมกันแบบนี้ ได้ยินแล้วเหมือนตัวลอยวะ นิรันดร์เคยพูดที่ไหนว่าภูมิใจในตัวผม ขนาดตอนผมสอบติดหมอ นิรันดร์ยังพูดแค่ว่า 'หรอ' ผมก็นึกว่าไม่ดีใจกับผมซะอีก แต่มารู้ทีหลังจากน้องสาวจอมพูดมากว่านิรันดร์ไปโม้ทั้งจังหวัดว่าลูกชายสอบติดแพทย์ แหมๆๆๆ ภูมิใจก็ไม่เคยบอกกันนะนิรันดร์นะ

"กูถามว่ามึงจริงจังหรอคนนี้ มึงตอบกูมาก่อนสิ แล้วกูถึงจะตอบคำถามมึงได้"

"ถ้าผมบอกว่าไม่จริงจังพ่อจะบอกว่าไง"

"กูก็ไม่ว่าอะไร"

"แล้วถ้าผมบอกว่าผมโคตรจริงจังละ"

"กูก็คง...." อีกฝ่ายเงียบไป มือหนากดบุหรี่สูตรเย็นกลิ่นมิ้นลงในแก้วก่อนหันหน้ามามองผม

"..."

"ดีใจแหละมั้ง ไม่รู้สิ แต่ไม่ผิดหวังหรอก"

"..."

"แค่รู้สึกว่า ดีใจวะ ลูกกูโตเป็นผู้ใหญ่ แล้วก็รักใครเป็นสักที"

"นิรันดร์" แม่งซาบซึ้งจนน้ำตาจะไหลแล้วเนี่ย

"มึงก็รู้กูรักมึงที่สุดในบรรดาลูกๆของกู เพราะมึงอะดื้อเหมือนกูไม่มีผิด มึงจะรักใคร ผู้หญิง ผู้ชาย หมา แมว ผี คน กูก็รักกับมึงแหละ กูไม่ดราม่าเหมือนละครไทยหรอกนะเว้ย ไม่ต้องคิดมาก"

"ขอบคุณมากนะนิรันทร์ ผมแม่งรักนิรันดร์วะ" ตัวชายวัยกลางคนถลาด้วยแรงกอดจากร่างใหญ่อย่างผม เราสองคนตัวสูงใหญ่พอๆกันนั่นแหละ แต่เพราะอีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัวจึงเซไปหน่อย

"อย่ามาทำซึ้ง กูจะอวก" ปากก็บอกไม่ชอบแต่แขนที่โอบรอบตัวผมแล้วเหอะ

"ทำไมวะ เข้าโหมดพ่อรักลูกหน่อยไม่ได้รึไง" ผมกระชับวงแขนของตัวเองแน่นขึ้น ด้วยที่เราเป็นผู้ชายทั้งคู่ ผมเลยไม่ค่อยได้แสดงความรักกับพ่อด้วยการกอดกันมากนัก ต่างจากแม่ที่เจอกันทีไรก็กอดกันทุกที ส่วนผมกับนิรันดร์นั้นจะเป็นการตบไหล่ตบหัวกันซะมากกว่า

เราสองคนยืนอยู่ตรงนั้นกันสักพัก ก่อนที่นิรันดร์จะพูดบางอย่างออกมา

"แฟง"

"ครับ"

"ถ้ารักเขา ก็อย่าหลอกเขาอีกเลย มันไม่ดี ของแบบนี้มันสนุกแค่ตอนแรกๆแหละ นานๆไปมันจะถลำลึกนะเว้ย ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนั้นมันจะถอนตัวลำบาก เรื่องของความรักนะ อย่าให้มีเรื่องโกหกหรือปิดบังกันจะดีที่สุด มึงเข้าใจมั้ย" อย่างที่นิรันดร์พูดผมก็พอเข้าใจนะ คิดไว้อยู่แล้วว่าจะบอกคุนคุนเร็วๆนี้แหละเรื่องที่หลอกน้องมันว่าไม่มีตังค์จ่ายค่าเช่าอะ หวังว่ามันคงจะไม่โกรธนะ

"อื้อ"

"แฟง"

"ครับ"

"เรื่องจดหมายขู่ มึงก็รีบจัดการซะ ดีแค่ไหนที่วันนี้คุนหายไปกับกู ถ้าเกิดวันนี้ไม่ใช่กูแต่เป็นไอ้โรคจิตนั่น มันจะจบยังไง"

"ผมก็คิดว่าจะรีบจัดการให้จบในเร็วๆนี้แหละ"

"ถ้าอยากให้ช่วยอะไรก็บอก กูรู้จักตำรวจผู้หลักผู้ใหญ่เยอะ"

"เอาไว้ถ้าผมอยากให้ช่วยจะบอกละกัน แต่ตอนนี้ขอผมจัดการด้วยวิธีของตัวเองก่อนละกัน"

"เค งั้นกูไปก่อน ง่วงชิบหาย"

ผมเดินเข้ามาหยิบกุญแจคอนโดยื่นให้นิรันดร์ที่กำลังยืนร่ำลาคุนคุนกับอันอันอยู่ อีกสักพักก็กอดกันกลม เฮ้ยแบบนี้ก็ได้หรอวะ แหมสนิทสนมกันเร็วเหลือเกินนะ ถ้าไม่ติดว่าเป็นพ่อบังเกิดเกล้านี่จะเข้าไปยืนกั้นกลางซะหน่อย แล้วนี่อะไรยืดกอดว่าที่เมียผมแถมยังยกยิ้มมุมปากเยาะเย้ยผมอีก เหมือนไอ้อันอันไม่มีผิด

"ไว้เจอกันใหม่นะครับพี่รัน"

"เค เดี๋ยวแวะมาหาบ่อยๆ"

"ได้เล้ยยย"

"ไปได้แล้วนิรันดร์ แล้วก็ไม่ต้องแวะมาบ่อยๆ งานการไม่มีทำรึไง" ผมรีบดันคนตัวหนาที่ยืนแจกยิ้มให้กับไอ้แก้มย้อยที่ยืนฉีกยิ้มอุ้มแมวยักษ์อยู่หน้าห้อง นี่ก็อีกคน ผลิตง่ายนักรึไงวะรอยยิ้มมึงเนี่ย เที่ยวแจกชาวบ้านเรี่ยราดไปหมด หวงเว้ย! กับพ่อก็หวง!

"คุนล็อกห้องนะ เดี๋ยวกูไปส่งนิรันดร์แป๊บ"

"ครับผม!"

แกร๊ก!

"พอเลยนิรันดร์ นั่นว่าที่เมียผมนะเว้ย จะมายืนร่ำลากอดกันนานๆแบบนั้นได้ไง"

"โหไอ้กระจอก อยู่กับเขามาตั้งเป็นเดือนๆ ยังไม่ได้เขาอีก อย่าบอกใครนะว่าเป็นลูกกกูเนี่ย"

"อะไรเล่า ผมเป็นสุภาพบุรุษเหอะ"

"สุภาพบุรุษแล้วอดแดกกูไม่เอาด้วยหรอก เอากุญแจมา"

"เดี๋ยวผมเปิดให้" กุญแจดอกเดียวในมือที่ห้อยคล้องอยู่กับพวงกุญแจแจแมวที่คุนคุนซื้อมาไว้คู่กันถูกหยิบออกมาจากกระเป๋ากางเกง

"แล้วจะนอนกี่คืนนิรันดร์" ผมเดินเข้ามาในห้อง ตรงไปยังห้องนอนเพื่อหาเสื้อผ้าไว้ให้นิรันดร์ใส่นอน นิรันดร์เคบมาค้างที่นี่สามสี่ครั้งแล้ว มาทีไรไม่เคยเอาเสื้อผ้ามาหรอก เพราะด้วยที่หุ่นเราใกล้เคียงกันนิรันดร์เลยเอาเสื้อผ้าผมไปใส่ตลอด ขนาดกางเกงในยังไม่เอามาเลยเหอะ ส่วนผมก็ต้องมีกางเกงในสำรองไว้หนึ่งแพคสำหรับนิรันทร์ คนนี้นะอยากจะมาก็มาปุบปับไม่เคยบอกล่วงหน้าหรอก นี่ถ้าไม่บอกนะไม่มีใครรู้หรอกว่าผู้ชายคนนี้จบวิศวะการบินมา นึกว่าเด็กนิเทศทำตัวติสๆไปวันๆ

"คืนเดียว เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปนอนกับไทเกอร์" คนตัวหนาเดินมาหยิบผ้าเช็ดตัวที่ผมวางไว้ให้บนเตียงขึ้นมาห่อเอวตัวเองก่อนจัดแจงถอดเสื้อผ้าตัวเองออก

"ได้หรอ ช่วงนี้มันไม่ได้ติดเมียไปอยู่คอนโดเมียรึไง" ไทเกอร์คือพี่ชายคนโตของผมครับ เรียนวิศวะที่มหาลัยเดียวกันกับผมนั่นแหละเพิ่งจบเมื่อปีที่แล้วแต่ตอนนี้ต่อโทอยู่ พ่อเรียกตัวให้กลับไปช่วยบริหารโรงแรมที่เชียงใหม่แต่มันไม่อยากกลับเลยหาเรื่องอยู่ต่อด้วยการเรียนปริญญาโท เหตุผลคือติดเมีย จบข่าว!

"เมียที่ไหน ทำไมกูไม่รู้" นิรันดร์ที่เดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วโผล่หน้าออกมาด้วยความสงสัย อ้าวเวรแล้วกู นี่นิรันดร์ยังไม่รู้หรอวะ

"เอ่อ..."

"แฟง บอกกูมา" น้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่สายตาที่ส่งมานั้นดุดันกว่ามาก

"นิรันดร์ถามมันเองดีกว่า ก่อนเข้าไปโทรหามันก่อนก็ดี"

"กูโทรแล้วตอนเย็น มันบอกไปได้ ไม่เห็นว่าอะไร เมียมันคือใครกูรู้จักมั้ย" นี่ก็ยังไม่เลิกอยากรู้อีก โอ้ย!

"นิรันดร์จะรู้จักทุกคนบนโลกใบนี้ไม่ได้นะเว้ย"

"มึงพูดแบบนี้แสดงว่ากูรู้จักชัวร์ จะเป็นใครก็ได้ขอแค่อย่าให้เป็นลูกไอ้จุมพลพอ"

"แค๊กๆๆๆๆ" เชี่ย เหมือนรู้ มีตาทิพย์รึไงวะ ใครคือจุมพล คำตอบคืออดีตเพื่อนนิรันดร์ที่ทะเลาะกันมาร่วมยี่สิบปีเพราะแย่งผู้หญิงคนเดียวกันมาก่อน และผู้หญิงคนนั้นก็คือแม่ผมเอง เรื่องแม่งซับซ้อนอีรุงตุงนัง ไม่เล่านะขอผ่าน

"..." อ้าวนิ่ง มองหน้าเหมือนจับผิดผมอีก ทำไงดีวะ

"ไม่รู้ ไม่เคยเห็น จริงๆนะนิรันดร์ ไปถามมันเองเหอะ ผมกลับละ มีแมวนอนรอในห้อง.ห้กลับไปกล่อมอีก ฝันดีนะนิรันดร์ ไปละ" เผ่นครับเผ่น ไปเคลียร์กันเอง แฟงไม่รู้แฟงจะไม่ยุ่ง

"เออ"

ผมวางชุดนอนกับชุดสำหรับพรุ่งนี้ไว้บนเตียงให้นิรันดร์ก็หันหลังเตรียมจะเดินกลับมาห้องข้างๆ

"แฟง"

"คร้าบผม" เชี่ย เสียงเรียบๆแบบนี้ดังมาจากข้างหลังฟังแล้วหลอนสัส พ่อคร้าบบอย่าจับผมเค้นความจริงเลยนะครับ ผมไม่รู้เรื่องเลยจริงจิ้งงงง ไปถามเฮียเกอร์เองสิ

"ว่าที่เมียมึงขาวสัส ตากูนี่พร่าไปหมด"

"นิรันดร์!" กูว่าแล้วว่านิรันดร์ต้องเห็น! แม่งเอ้ย

"อ้อ อีกอย่าง"

"อะไรอีกเล่า!"

"กูเป็นคนปล่อยอันอันเข้าไปในห้องก่อนมึงจะล็อคประตูเองหละ"

"นิรันดร์!"

จับได้แล้วผู้ร้ายตัวจริง หนอยๆๆๆๆๆๆ ฝากไว้ก่อนเถอะ! ตอนนี้เรามีความผิดติดตัวต้องรีบเผ่นอย่างเดียวเลยครับ ถ้าอยู่ต่อมีหวังโดนสอบสวนเรื่องเมียเฮียเกอร์ยาวแน่ๆ

พอเปิดประตูห้องคุนคุนเข้ามาก็เดินตามหาโทรศัพท์ตัวเองทันที จำได้ว่าเอาวางไว้โต๊ะกลางหนาทีวีทำไมไม่มีวะ มองหาโทรศัพท์เครื่องสีดำของตัวเองรอบห้องไม่เจอ เลยกะว่าจะเข้าไปดูในห้องนอนซะหน่อย แต่ยังเดินไปไม่ถึงห้องนอนก็เห็นโทรศัพท์เครื่องคุ้นตาวางอยู่โต๊ะหน้าห้องนอนที่ตอนนี้กำลังเสียบชาร์ตแบตอยู่ ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ห้องนี้บอกไว้เลยว่าโทรศัพท์ผมไม่เคยแยตหมด เพราะคุนคุนชาร์ตให้ทุกวัน แล้วตอนนี้โทรศัพท์สองเครื่องที่หน้าตาเหมือนกันสีเดียวกันต่างกันตรงสีปลอกโทรศัพท์ก็วางชาร์ตแบตอยู่ข้างกัน ทุกครั้งที่ไอ้ตัวนุ่มนิ่มชาร์ตแบตของตัวเองก็มันจะเอาของผมมาชาร์ตให้เสมอ ผมถึงบอกว่าคุนมันน่ารักไง แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เพราะมันเป็นคนใส่ใจคนอื่นถึงเก็บรายละเอียดเรื่องเล็กน้อยพวกนี้มาทำให้ผมยิ่งรักมันมากขึ้นไปอีก

เจอโทรศัพท์ของตัวเองแล้วก็รีบหยิบขึ้นมากดเข้าแอพพลิเคชั่นชั้นไลน์ แล้วค้นหาแชตล่าสุดที่คุยไว้กับพี่ชายคนโตของตระกูลวิสุทธิ์รังสรรค์ทันที

FanG: เกอร์
TiGeRR: ว่าไงแฟง
FanG: งานเข้า
TiGeRR: ไปทำไรไว้อีกแล้วเนี่ย
FanG: ขอโทษวะ
FanG: ขอโทษจากใจดวงน้อยๆของนายลภัสคนนี้
TiGeRR: มาขอโทษพี่ทำไม
FanG: นิรันดร์จะไปหาพรุ่งนี้รู้ยัง
TiGeRR: รู้แล้ว นิรันดร์โทรมาแล้ว
FanG: เกอร์
TiGeRR: ทำไมครับน้องชาย เรียกจัง
FanG: เกอร์
TiGeRR: ถ้าไม่บอกพี่จะนอนละนะ เฟิร์สงอแงแล้วเนี่ย
TiGeRR: ทำไมเงียบละ
FanG: เกอร์ คือกู....
TiGeRR: นอนก่อนนะ บาย
FanG: เกอร์ กูหลุดปากเรื่องเมียมึงให้นิรันดร์ได้ยินอะ
TiGeRR: ....
TiGeRR: ....
TiGeRR: ....
FanG: แต่นิรันดร์ยังไม่รู้หรอกนะว่าเมียมึงคือพี่เฟิร์สอะ
TiGeRR: อืม แล้วไป เดี๋ยวที่เหลือพี่จัดการเอง ขอบใจนะที่บอก
FanG: ครับผม ไปนอนละนะ บาย

โทษทีวะพี่มึง โชคดีละกันนะ หวังว่านิรันดร์จะไม่อาละวาดละกัน คืนนี้กูจะสวดมนต์ภาวนาเผื่อมึงทั้งคืนเลย แด่พี่ชายสุดที่รัก!
.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 20 | 21.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 21-05-2020 09:07:49
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 20 | 21.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 21-05-2020 11:24:33
ทำไมอะ คนกันเองไม่ได้หรอ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 20 | 21.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 21-05-2020 18:41:04
 :hao3:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 21 | 22.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 22-05-2020 06:45:37
---ตอนที่ 21---


ผมวางโทรศัพท์ไว้บนตู้อันเดิม ก่อนจะเดินไปปิดไฟในห้องครัวและห้องนั่งเล่นเหลือไว้เพียงไฟดวงสีเหลืองดวงเล็กที่ตรงทางเดินเท่านั้น เอาไว้เวลาออกมาดื่มน้ำกลางดึกจะได้ไม่เดินชนข้าวของ และที่สำคัญคือไม่ต้องตกใจเวลาแมวยักษ์มันเดินเดินเพ่นพล่านไปมาในห้องด้วย ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าห้องนอนก็เหลือบมองอันอันที่นอนอุตุอย่างสบายอยู่บนโซฟา นอนหลับสบายจนน่าหมั่นใส้เชียวนะมึง แกล้งกูทั้งวันแล้วยังจะหลับสบายอีกหรอก คิดในใจว่าจะเดินไปบีบไข่มันเล่นก่อนเข้านอนแต่ก็เปลี่ยนใจเดินเข้าห้องไปเพราะเหลือบไปเห็นก้อนกลมๆขาวนอนขดอยู่บนเตียง เห็นแล้วน่าจับมาฟัดชิบหาย กูไปฟัดแมวในห้องกูก่อนดีกว่า ปล่อยมึงรอดไปก่อนละกันนะอันอัน

ไอ้ลูกหมาคุนเอ้ย ไหนบอกจะทำไรให้กูเนี่ย มาชิ่งหลับก่อนแบบนี้ได้ยังไงวะ

ผมปิดประตูห้องนอนตามหลังก่อนเดินเข้าไปใกล้เตียง ก้มลงมองคนตัวขาวๆเล็กๆที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงกว้าง น่ารักชิบหาย ขนาดนอนนิ่งๆยังโคตรของโคตรของความน่ารักเลยวะ ยืนมองสักพักก็หยิบผ้าห่มที่อีกคนถีบไปไว้ปลายเตียงขึ้นมาคลุมให้ ก่อนเดินไปปิดไฟแล้วปีนขึ้นเตียงแล้วคว้าร่างนุ่มๆเข้ามาใกล้ๆ เหมือนที่ทำอยู่ทุกคืน

"อื้อ" คนที่ผลอยหลับไปแล้วส่งเสียงขัดใจที่มีคนไปรบกวนเวลานอนหลับ แถมยังย่นคิ้วเข้าหากันอีก

"ฮึๆ มึงมันน่ารักเกินบรรยายคุน วันนี้จะปล่อยไปก่อนละกัน" ผมดึงร่างเล็กเข้ามาฝังในอ้อมกอดก่อนจะก้มลงไปหอมกลิ่มผมสีดำหอมฟุ้งด้วยนยาสระผมกลุ่มดอกไม้อ่อนๆ คิ้วที่ขมวดเข้าหากันในคราแรกคลายออกทันที พร้อมกับแขนเล็กที่ย้ายมาโอบกอดรอบเอวหนาของผม

"วันนี้จะยกผลประโยชน์ให้จำเลยหนึ่งวันละกัน"

ผมไม่ใช่คนโหยหาความรักเหมือนบางคนที่ขาด ไม่ใช่หนุ่มคลั่งรักเหมือนไอ้นาที ไม่เคยคิดโหยหาอ้อมกอดหรือสัมผัสที่อบอุ่นจากใคร เพราะคนในครอบครัวผมก็ให้ผมไม่เคยขาด แต่ไม่รู้ทำไมตั้งแต่มีคุนคุนเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดผมกลับไม่เคยคิดอยากจะปล่อยมันไปเลยสักวัน ถ้าวันไหนที่ไม่มีคนข้างๆนอนอยู่ด้วยกัน เดาไม่ถูกเหมือนกันว่าคืนนั้นผมจะรู้สึกขาดอะไรบางอย่างไปรึเปล่า
.
.
.
.

"พี่ ผมร้อนวะ"

"เออ ทนอีกแป๊บ"

"แป๊บนี่นานแค่ไหนวะ"

"เออ อีกแป๊บนึง"

"พี่พูดแบบนี้มาตั้งแต่บ่ายละนะ"

"โวะ มึงนี่ ความอดทนโคตรต่ำ ไอ้ทัพไม่เห็นมันบ่นอะไรเลย นั่งเฉยๆ ไม่ปากมากเหมือนมึง"

"โถพี่ พี่รู้ได้ไงว่ามันไม่บ่น มันอาจบ่นในใจก็ได้ กลับกันเถอะนะ ผมหิวแล้ววะ"

"เออน่า อีกแป๊บนึง"

"..." ไอ้ห่า ทำหน้างอแงใส่กูอีก น่ารักตายละ ตัวใหญ่อย่างกะควาย มันเข้ากันรึไงหน้างอนๆของมึงกับกล้ามล่ำบึกของมึงเนี่ย

"สิบนาที อะ"

"ห้ามเกินแม้แต่วินาทีเดียวเลยนะพี่ ผมแม่งโคตรร้อนเลย" แบะปากอีก อยากจะดึงปากล่างมันออกมาดีดจริงๆ

ผมละสายตาออกจากไอ้แฝดนรกตัวน้องคนนี้ตัวขี้บ่นที่นั่งอยู่ข้างๆผมในรถ มองทอดออกไปยังทางเข้าออกคอนโดสลับกับบริเวณโดยรอบคอนโด แม้ลึกๆจะนึกสงสารไอ้สองแฝดคู่นี้ที่ต้องสลับวันกันมาสอดส่องโรคจิตที่ด้านหน้าคอนโดกับผมเป็นเวลาสี่วันแล้ว พูดได้ว่ากินนอนในรถตั้งแต่บ่ายโมงจนถึงเวลาที่คุนคุนกลับขึ้นคอนโดหลังจากพาอันอันมาวิ่งเล่นเสร็จ ผมให้นิรันดร์ส่งรถ SUV คันใหญ่ที่กระจกดำสนิทมาให้ใช้ในช่วงสอดแนมนี้ เพราะรถที่ผมใช้ประจำนั้นกระจกใสแล้วก็คับแคบเกินไปจะขยับตัวทีแม่งก็แทบหายใจไม่ออก ลองนึกภาพผู้ชายสูงเกือบ190ตัวโตสองคนนั่งอยู่ในรถยนต์สองที่นั่งด้วยกันเป็นเวลาห้าชั่วโมงดูสิคับ อึดอัดชิบหาย อย่าว่าแต่ห้าชั่วโมงเลย ครึ่งชั่วโมงจะอยู่ถึงรึเปล่าเถอะ แล้วถ้าจะให้สตาร์ทรถไว้ตลอดมันก็ดูจะเพิ่มมลพิษให้โลกนี้เกินไป ก็นั่งร้อนมองหน้ากันวนไปสิครับ

จากที่สอดแนมมาวันนี้เป็นวันที่สี่พบผู้เข้าข่ายต้องสงสัยสองคน คนแรกคือ ไอ้ผู้ชายหน้าเนิร์ดๆ ตรงข้ามห้องที่เป็นเจ้าของหมาเวรที่มาแ*กรองเท้าที่ผมรัก มันชอบพาหมาลงมาเดินในเวลาใกล้เคียงกับคุนคุน แล้วก็ชอบเข้าไปคุยกับคุนอยู่บ่อยๆ ส่วนคนที่สองคือผู้ชายวัยกลางคนที่มาวิ่งออกกำลังช่วงห้าโมงเย็นทุกวัน ไอ้นี่น่าสงสัยกว่าคนแรกอีกเพราะมันชอบนั่งจ้องคุนคุนเล่นกันอันอัน ไอ้นี่ออกแนวหื่นสายตาที่มันมองคุนคุนนั้นราวกลับจะกลืนกินคนของผม แต่คือมันเอาแต่มองไงไม่เคยเข้าใกล้คุนคุนสักที เราเลยเอาผิดมันไม่ได้ ลวนลามทางสายตาไม่ผิดกฎหมายวะ แต่ถ้าวันไหนมึงเข้าใกล้คุนคุนของกูละก็มึงตาย กูพูดได้แค่นี้!

"พีี่"

"อะไร"

"ผมว่าพี่แฟรงค์เฟิร์ตไม่น่าใช่ไอ้โรคจิตนั่นหรอก"

"ทำไม กูว่ามันแหละมีความเป็นไปได้สูงอยู่นะ"

"เฮียแกเป็นลูกครึ่ง เรียนเมกาตั้งแต่เด็ก จะเขียนภาษาไทยได้หรอวะ อีกอย่างนะ ไม่เคยได้ยินคุนมันบอกว่าเฮียเฟิร์ตมายุ่มยุ่มอะไรกับมันเลยนอกจากทักทายกันเวลาพาอันอันออกมาวิ่งเล่น"

"มึงเชื่อกู มันนี่แหละเข้าข่าย เพราะมันใช้หมาหน้าตาน่ากลัวของมันมาทำลายรองเท้าคู่เลิฟของกู"

"โถ ที่แท้ก็แค้นเรื่องนี้นี่เอง นี่แหละน้าพวกมีอคติ"

"หุบปาก แล้วใช้สายตากับสมองมึงให้มีประโยชน์สักที โน่น มองไปรอบๆ" อย่างที่มันพูดก็ถูกแหละ จริงๆไอ้หน้านิ่งตรงข้ามห้องมันก็ไม่ได้ดูมีพิษมีภัยขนาดนั้นหรอก แต่ตัดมันทิ้งออกจากผู้ต้องสงสัยไม่ได้เพราะหมามันกัดรองเท้ากู!

"พี่"

"อะไร เรียกกูเก่งจังเลยเว้ยเฮ้ย"

"พี่ว่าพี่ศักแกแปลกๆมั้ย"

"ยังไงวะที่ว่าแปลก" ผมหันไปมองหน้าขุนพลด้วยความสงสัย

"พี่ลองดู คนพักอาศัยเดินเข้าออกตั้งมากมายไม่เห็นพี่แกเอ่ยทักใครเลยด้วยซ้ำ นี่แล้วพี่ดู พอไอ้คุนกำลังจะเดินเข้าคอนโดนะ พี่แกรีบวิ่งมาหาเลย ดูดิ" ผมมองไปยังประตูหน้าคอนโดอย่างที่ไอ้ขุนมันบอก จริงๆผมก็เคยคิดว่าสายตาพี่ศัก รปภ ของคอนโดที่มองผมกับไอ้สองแฝดมันดูมีอะไรบางอย่าง

"มึง"

"ไรพี่"

"พี่ศักแกเคยทักพวกมึงรึเปล่า" ผมเคยยิ้มให้แกหลายทีละแต่แกไม่เห็นยิ้มตอบมาสักครั้ง ตอนแรกก็นึกว่าแกเป็นคนอัธยาศัยไม่ค่อยดี แต่เคยได้ยินคุนคุนบอกหลายทีละว่าพี่ศักนะชอบชวนมัยคุย ตอนแรกก็นึกว่ามีรปภที่ชื่อศักหลายคน แต่ที่ไหนได้ดันมีคนเดียว และเป็นพี่ศักคนเดียวกันสะอีก แต่ทำไมถึงได้ปฏิบัติต่างกันแบบนี้วะ กูงง

"โอ้ย แกไม่ค่อยชอบขี้หน้าพวกผมเท่าไหร่หรอก ขนาดผมถือของหนักๆเข้ามายังไม่เปิดประตูให้เลยบางที"

"ทำไมวะ"

"ไม่รู้สิ สงสัยเคยไปกวนตีนอะไรพี่แกละมั้งจำไม่ได้เหมือนกันวะ"

"หน้ามึงมันไม่ถูกระเบียบไง เดินไปไหนก็วอนโดนตีน" หน้าตามันดีนะ แต่คิ้วหนาๆกับหน้ากวนเบื้องล่างของมันนี่สิ เห็นแล้วตีนกระตุกทุกที ไม่ใช่แค่ไอ้พี่ศักหรอกที่ไม่ชอบขี้หน้ามึง กูยังอยากเสยปากมึงเลยบางที

"โถๆๆ คุณแฟงครับ คุณรู้มั้ยว่าเบ้าหน้านี้นี่สาวคณะผมยกให้เป็นเดือนนะเว้ย พูดแล้วจะหาว่าคุย" แล้วที่มึงพูดอยู่นี่ไม่ได้คุยโวโอ้อวดเลยว่างั้น

"สาวคณะมึงแม่งตาบอด ช่างแม่งเรื่องหน้าตาวอนบาทาของมึงก่อน ช่วยกลับมาที่เรื่องความปลอดภัยว่าทีเมียกูสักหน่อยเถอะ" ผมดึงไอ้แฝดที่ชอบชวนคุยออกนอกเรื่องกลับเข้ามาหาประเด็นเก่าที่เราคุยกันอยู่ก่อนหน้า ส่วนสายตาก็ยังจับจ้องอยู่ที่รปภหนุ่มกับคุนคุนตัวนุ่มนิ่มของผมที่ยืนคุยกันหัวเราะดังลั่นอยู่หน้าคอนโด คุยไรกันนักหนาวะ จนคิ้วกูกระตุกแล้วกระตุกอีก เมื่อไหร่จะเลิกคุยวะ แม่ง!

"มึง กูว่าพี่ศักแม่งแปลกจริงวะ เออ กูก็เพิ่งสังเกตุเห็นวันนี้แหละ" รปภหนุ่มคุยกับคุนคุนได้สักพักก็รีบวิ่งไปที่ไหนสักที่แล้ววิ่งกลับมาด้วยถุงกระดาษเล็กๆในมือ ผมจำได้ดีว่าถุงนั้นคืออะไร

"เฮ้ย นั่นพี่แกเอาไรให้คุนวะ"

"กล้วยทอด"

"พี่มองเห็นได้ไงวะ รถจอดอยู่ไกลขนาดนี้ แม่งยอดมนุษย์วะ"

"ใช่ที่ไหนละ โว๊ะ กูเห็นคุนเอากลับมาที่ห้องบ่อยๆ แล้วกูก็ชอบเอาไปทิ้ง" คุนคุนมักจะถือถุงกล้วยทอดกลับมาที่ห้องตอนค่ำแทบทุกวัน แต่ผมไม่เคยถามสักทีว่าเอามาจากไหนเพราะนึกว่าอีกฝ่ายซื้อกลับมา เพิ่งมารู้ความริงเอาวันนี้ว่าพี่ศักเป็นคนให้มา ให้กล้วยทอดมันไม่แปลกหรอก แต่ที่แปลกคือพอคุนคุนกลับเข้าคอนโดไปพี่มันมองตาตามเยิ้มเขียว ขนาดลูกบ้านคนอื่นๆเดินผ่านไปพี่มันยังไม่หันมาทำหน้าที่เปิดประตูคอนโดให้ด้วยซ้ำ

ผู้ต้องสงสัยรายที่สาม รปภ.คอนโด พี่ศัก
.
.
.
.
.
.

"เฮ้ย เหนื่อย" ผมทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาทันทีที่เข้ามาในห้อง ส่วนขุนพลก็ขอตัวกลับห้องตัวเองหลังจากที่แยกกัน เห็นบอกว่าต้องกลับไปกินข้าวที่บ้านแม่โทรตามบอกคิดถึง สองแฝดเลยต้องถ่อสังขารขับรถกลับบ้านแสดงความเป็นลูกกตัญญูเมื่อคุณณาสมรศรีโทรเรียก แม่มันเป็นคุณหญิงครับ ดูไม่ออกเลยใช่มั้ยละ ผมเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลยถ้าไม่เคยเห็นว่าแม่มันตีโป่งใส่ชุดผ้าไหมราคาแพงมาหามันที่คอนโด ใครจะไปเชื่อวะ

"ดื่มน้ำครับพี่แฟง วันนี้มีอะไรคืบหน้าบ้างรึเปล่าครับ" คนตัวเล็กเดินมาพร้อมกับแก้วน้ำดื่มเย็นๆ ผมรีบหยิบแก้วน้ำมากระดกจนหมดในทันที เฮ้อ เย็นชื่นใจจริงๆ

"ก็ได้ผู้ต้องสงสัยใหม่อีกราย ส่วนมึงละ ตอนพาอันอันไปเดินเล่นมีอะไรน่าสงสัย หรือมีใครที่มีท่าทางแปลกๆมั้ย" ผมถามออกไปพรางเอนตัวลงนอนราบยาวบนโซฟาโดยที่เอาหัวที่บรรจุหน้าหล่อๆของตัวเองวางบนตักนุ่มๆของเด็กตัวขาวนุ่มนิ่ม ตักมันนุ่มครับ เหมือนแก้มมันแหละ

"อืม....จะว่าไปก็มีนะครับ"

"หืม?" ตาที่กำลังจะปิดลงเพราะความเหนื่อยล้าเปิดโพลงขึ้นมาทันทีที่ได้ยินปากเล็กๆแดงๆนั้นเอ่ยประโยคเหล่านั้นออกมา คือผมว่าผมก็ดูดีแล้วนะ แถมยังใส่แว่นสายตาที่ปกติจะใช้แค่ตอนอ่านหนังสือเท่านั้นไปด้วย นี่ผมพลาดช็อตไหนไปวะ กูว่ากูสแกนทุกอย่างใส่เมโมรี่ในหัวแล้วนะเว้ย

"ก็มีอาซิ่มในแก๊งไทเก็กอะครับ"

"อาซิ่ม?" ใช่หรอวะ อาซิ่มเป็นโรคจิตเนี่ยนะ อึ๋ย ก็ไม่แปลกหรอกที่จะหลุดรอดสายตากูไปนะ

"ใช่ครับ อาซิ่ม วันนี้แกเดินกะเผลก เพราะบอกว่าลื่นล้มในห้องน้ำ อันนี้ละครับที่แปลกไปจากเมื่อวาน"

"คุน ไม่ใช่แปลกแบบนั้น"

"แล้วแปลกแบบไหนละครับที่พี่แฟงเรียกว่าแปลก"

"ก็อย่างเช่นมีคนหน้าแปลกๆมาวนเวียนรอบตัวมึง หรือมีใครที่ทำตัวน่าสงสัยอะไรแบบนี้"

"อืม ถ้างั้น....ก็...คุนคิดว่าคงไม่มีแล้วนะครับ" ไอ้ตัวเล็กทำท่าคิดหนัก อืม พอเถอะ แค่มึงคิดว่าการที่อาซิ่มเดินกะเผลกมานั่นคือสิ่งแปลกที่มึงควรจะเก็ยมาใส่ใจในกรณีที่มีโรคจิตตามติดชีวิตดาวขนาดนี้ กูก็หมดคำจะพูดแล้ว กูขอนอนพักสายตาดีกว่า

"พี่แฟงตัดผมมั้ยครับคุนมีกรรไกรนะ ผมพี่ยาวมากเลย" มือบางจับผมผมขึ้นมาก่อนเอียงคอเอาหน้าก้มลงมาชิดกับหน้าผมมำให้ตอนนี้เหลือระยะห่างระหว่างจมูกเราไม่ถึงคืบ

"ไม่เอา เดี๋ยวกูหมดหล่อ ไอ้ขุนบอกร้านตัดผมเปิดแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้กูออกไปหาพี่ชายกูแล้วแวะตัดขากลับ"

"เอางั้นก็ได้ครับ แต่ว่า ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ"

"หื่อ อย่ามาหลอกล่อกูหน่อยเลย กูไม่หลงกลมึงหรอก คิดจะเอากรรไกรตัดขนอันอันมาตัดผมกูรึไง หืม จุ๊บ" ผมเอื้อมมือขึ้นไปคว้าหน้าจิ้มลิ้มของคนตรงหน้าลงมาประกบริมฝีปากนิ่มๆหนึ่งที

"อื้อ รู้ทันได้ไงอะ"

"ฮะๆๆๆ ไอ้นุ่มนิ่ม คิดว่ากูโง่รึไง ฮะ"

"ครับ"

ดูคำพูดคำจา นอกจากยอมรับหน้าตาเฉยยังมีหน้ามายิ้มกรุ้มกริ่มอย่างคนพอใจในคำตอบตัวเองเหลือหลายอีก จะน่ารักเกินไปแล้ว

"อื้อ อื้อ พีาแฟง อะ อ๊ะ ไม่เอาาาาา ปล่อยคุนนนนน" ร่างนุ่มนิ่มดิ้นพล่านอยู่บนโซฟาเมื่อผมจับคุนคุนลงมาฟัดหน้าท้องขาวๆของมัน มือบางปัดป่ายหัวผมจนมันยุ่งเหยิงไปหมด

"ไม่" ผมซุกไซร้จมูกหนาลงรอบเอวนิ่มๆที่มีกลเามเนื้ออยู่เพียงน้อยนิด

"คุนจะไปทำกับข้าวแล้ว มะ มะ ไม่เอา คุนจั้กจี้" ผมไม่สนใจเสียงติดหวานที่ร้องลั่นอยู่บนโซฟาตัวยาว ยังเลื่อนไซร้จมูกโด่งๆของผมไปทั่วหน้าท้องขาว

"ข้าวปลาอาหารไม่ต้องทำมันหรอก เดี๋ยวกูโทรสั่งแกร๊ปเอา ขอฟัดต่ออีกหน่อยเถอะ!"

"ม่ายยยย ยะ อย่า คุนจั๊กจี้ หนวดพี่แฟงแข็ง อะ อ้ายยย"

"จะดิ้นหนีไปไหน คิดว่าหนีกพีาพ้นหรอ หืม?"

"ฮะๆๆๆ อะ อ้ายย"


.
.
.
.
.



#คุนแฟง

by ppeachmm


หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 21 | 22.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 22-05-2020 09:04:17
 o13
 :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 21 | 22.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 22-05-2020 11:25:31
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 21 | 22.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 22-05-2020 15:47:12
 :hao3:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 21 | 22.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 22-05-2020 19:59:01
เค้าจะได้กันแล้วๆ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 22 | 23.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 23-05-2020 07:36:14
---ตอนที่ 22---


"วันนี้ไม่ต้องออกไปข้างนอกนะเข้าใจรึเปล่า" พี่แฟงที่ก้มลงสวมรองเท้าผ้าใบคู่โปรดคู่ใหม่อยู่หน้าประตูคอนโดเอ่ยขึ้น

"ครับผม"

"ครับผมแล้วก็ต้องทำตามด้วย วันนี้กูไม่อยู่ ไอ้แฝดก็ไม่อยู่ห้ามออกไปข้างนอกเด็ดขาดเข้าใจมั้ย"

"เข้าใจแล้วครับคุณลภัส!"

"อย่ามาทะลึ่งเรียกชื่อจริงกูไอ้คุนคุนที่แปลว่าแผ่นดิน"

"โอ้ย แงๆๆๆ" มือหนาส่งนิ้วสองนิ้วมาดีดเข้าที่หน้าผากผมสองทีก่อนจะยื่นมือมาขยี้หัวผมเล่นจนผมที่จัดทรงไว้เสียทรงผม โถ่เอ้ย ทรงคอมม่าคูลๆของน้องคุนเสียทรงหมด อุตส่าห์ตั้งใจทำตั้งครึ่งชั่วโมง พี่แฟงนะพี่แฟง งอนดีมั้ยเนี่ย

"ไม่ต้องมาทำปากแบะ ไม่เกินห้าโมงกูก็กลับมาแล้ว ห้ามดื้อห้ามซน"

"ครับผม! ถ้าไม่เชื่อก็เปิดกล้องดูได้"

"ไม่ต้องบอกกูก็เปิดดูอยู่แล้ว ไปละ ล็อคประตูดีๆ"

"ครับ ขับรถดีๆนะครับ"

"อืม"

หลังจากเหตุการณ์ที่ผมหายไปขาดการติดต่อเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ที่ผมวิ่งตามหาอันอันแล้วก็ไปเจอพี่รันพ่อของพี่แฟงเข้า พี่แฟงก็เอากล้องมาติดไว้ตามจุดต่างๆของบ้านเผื่อไว้นะครับ กลัวว่าผมจะเป็นอันตราย แล้วก็ยังใส่แอพลิเคชั่นอะไรสักอย่างไว้สำหรับติดตามตัวผมไว้ในโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่หม่าม๊าถอยให้น้องคุนเมื่อสี่เดือนที่แล้วด้วย

วันนี้พี่แฟงไม่อยู่ครับ เห็นบอกว่าจะไปธุระที่คอนโดของพี่ชายแล้วก็จะแวะตัดผมด้วย ส่วนผมเมื่อไม่ได้ออกไปไหน ขนาดจะลงไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำพี่แฟงยังไม่อนุญาตเลย ก็เลยต้องอยู่ห้องคนเดียววนไป แต่คุนจะไม่นั่งเล่นมือถือไร้ประโยชน์ คุณจะดูตงหัวตี้จวิน! แล้วก็จะตัดต่อคลิปด้วย ถ่ายคลิปมาสองคลิปแล้วแต่ยังไม่ได้มีเวลาตัดต่อแล้วอัพโหลดขึ้นคุนคุน ชาแนลเลย แฟนๆก็เริ่มถามหาแล้วด้วย เพราะฉะนั้นเป้าหมายของคุนวันนี้คือลงคลิปหนึ่งคลิป แล้วดูตี้จวิน 10 ตอน! อ้อ คุนลืมบอกไปครับว่าตอนนี้คุนเปลี่ยนมาดูลิขิตเหนือเขนยแล้ว เพราะเริ่มเบื่อภาคแรกแล้วด้วย มีฉากตี้จวินน้อยเกินไป คุนเลยต้องมูฟออนมาดูภาคถัดมา คราวนี้แหละเห้นตี้จวินทุกฉากไม่ต้องกดข้ามด้วย คนอะไรหล่อจริงๆ ไม่เคยคิดเลยว่าพี่ชายห่างๆคนนี้จะหล่อขนาดนี้ งงละสิครับ ใช่ครับ  เฮียเกาที่แสดงเป็นตี้จวินนั้นเป็นญาติของน้องคุนเอง หล่อใช่มั้ยละ หม่าม๊าก็บอกเหมือนกันว่าเราสองคนนะหน้าคล้ายกัน แต่คนละแนว เฮียเกานะหล่อบาดใจสาว ส่วนน้องคุนอะน่ารักน่าหยิก หม่าม๊าบอกมาแบบนี้แล้วน้องคุนก็จำได้!

นั่งตัดคลิปไปได้หนึ่งคลิป คุนก็ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจพร้อมกับอันอันที่ลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากนอนกลางวันไปจนอิ่ม

"อยากกินหรอ ไม่น่าจะกินได้นะ นี่ปาป๊ายังแอบกินเลย เพราะพี่แฟงไม่ให้กิน" ผมหยิบบราวนี่ออกมาจากตู้เย็น กัดเข้าปากหนึ่งคำ ในขณะที่อันอันก็กระโดดขึ้นมาบนเคาน์เตอร์กลางแล้วจ้องหน้าผมเหมือนอยากจะกินบราวนี่ด้วย

เมี้ยว!

"อึ๋ย ปาป๊าบอกว่าไม่ได้ไงครับ นี่มันของคน แมวกินไม่ได้"

เมี้ยว!

"อันอันดื้อจัง"

เมี้ยว!
.
.
.
.
.

"อันอัน ไปนั่งเล่นระเบียงกัน" ผมเอ่ยเรียกแมวอ้วนที่นอนอยู่ข้างกันบนโซฟา ฝนที่กรมอุตุฯ อะไรสักอย่างจำชื่อจริงไม่ได้ จำได้แค่อุตุเพราะขุนพลบอกว่ากรมนี้ชอบนอนอุตุอยู่ที่บ้านเลยพยากรณ์อากาศเพี้ยนตลอด อุ้ย!...จะอะไรก็ช่างเถอะครับ สรุปว่ากรมนี้เค้าพยากรณ์ไว้ว่าฝนจะตกตั้งแต่สามวันที่แล้วแต่ไม่เห็นตกเลยสักหยดแต่กลับมาตกเอาวันนี้ทั้งที่พยากรณ์อากาศเช้านี้บอกว่าบ่ายนี้อากาศแจ่มใส อืม อืม...นั่นแหละครับ สรุปว่าฝนเพิ่งหยุดตกไปครับ อากาศด้านนอกกำลังดี เลยอยากชวนอันอันแมวอ้วนออกไปสูดอากาศดีๆด้านนอกด้วย แต่ดูเหมือนอันอันจะยังงอนผมอยู่ที่ไม่ยอมให้กินบราวนี่ ผมเรียกไม่ยอมหันแถมยังตีหางแปะๆ อีก งอนจริงไรจริง เด็กดื้ออันอัน น่าตีนัก!

"อันอันดื้อ ปาป๊าไม่รักแล้ว" พูดจบผมก็เดินออกไปสูดอากาศด้านนอกทันที อื้อ อากาศหลังฝนตกนี่ดีจัง เย็นสดชื่น หอมไอฝน ได้กลิ่นแล้วสบ๊าย สบาย คุนชอบจัง

แกร๊ก!

เสียงประตูห้องเปิดออก

"อ๊ะ  สงสัยพี่แฟงจะมาแล้ว" ผมที่อยู่ห้องเหงาๆคนเดียวมาทั้งวันรีบวิ่งเข้ามาในห้องทันทีที่ได้ยินเสียงประตูหน้าห้องเปิดออก คุนไม่ได้คิดถึงพี่แฟงขนาดนั้นหรอกนะ ที่วิ่งอยู่นี่เพราะอีกฝ่ายสัญญาว่าจะซื้อบัวลอยนมสดเจ้าดังมาฝากต่างหาก แต่ก็ต้องชะงักงันเมื่อคนที่ยืนอยู่ตรงประตูคือใครก็ไม่รู้ ที่ไม่คุ้นหน้าเลยสักนิด

"คะ คุณ มาหาใครหรอครับ" ผมถามผู้ชายคนนั้นออกไปด้วยความสงสัย แต่ เอ๋ คนคนนี้เข้ามาในห้องน้องคุนได้อย่างไง น้องคุนลืมล็อคประตูอย่างนั้นหรอ ตายแล้ว ถ้าพี่แฟงรู้ต้องดุน้องคุนแน่ๆ

"ไม่ได้มาหาใคร" อีกฝ่ายตอบกลับมา และนั่นยิ่งทำให้คุนงงขึ้นไปอีก อ้าว...ไม่ได้มาหาใคร แล้ว...

"แล้วมาทำไมอะครับ"

"อะไรของมึงเนี่ย ยืนทำหน้างงอยู่นั่นแหละ" แต่เอ๋ ทำไมเสียงคนคนนี้ดูคุ้นจัง รองเท้าก็คุ้น แต่เสื้อผ้าไม่คุ้นแฮะ แถมคนคนนี้ยังดูดีมาก ถึงมากที่สุด เต่งตัวก็ดี หน้าตาก็ดี ดูสะอาดสะอ้าน เกลี้ยงเกลา ไร้หนวดเครา ดูดีมีชาติตระกูลจริงๆ ดูน่าคบหาสุดๆ

"..."

"นี่กูเอง จำไม่ได้รึไง"

"กูไหน หรอ ครับ เราไม่เคยรู้จักคนชื่อ กู"

"ไอ้คู้นนน"

"คะ ครับ?"

"จะมองอะไรกูนักหนา นี่มึงเพิ่งตื่นนอนใช่มั้ย ถึงยังเบลอๆอยู่ กูจะไปอาบน้ำแล้ว โดนฝนมานิดหน่อยด้วย" ผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นถอดรองเท้าออกแล้วทำท่าจะเดินเข้าไปในห้องนอนของผมทันที

"คะ คุน จะทำอะไรนะ" ผมรีบเอาตัวไปขวางทางไว้ นี่คนคนนี้จะถือวิสาสะเกินไปรึเปล่า เข้ามาห้องผิดแล้วยังจะถือวิสาสะเดินเข้าห้องนอนคนอื่นอีกหรอ มันจะมากเกินไปแล้วนะครับ คุนขอถอนคำพูดที่พูดไปเมื่อกี้ด้วยว่าคนคนนี้ดูน่าคบหาคืนมาให้หมด ทำไมไม่เกรงใจกันแบบนี้ น้องคุนไม่ชอบนะ จะฟ้องพี่แฟง!

"กูเปียกเห็นมั้ย จะอาบน้ำ" อีกฝ่ายยกตัวผมที่ยืนขวางประตูขึ้น แล้วจับวางไว้ที่หน้าตู้วางของ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนต่อ

"แต่นี่ห้องเรา คุนเข้าไปไม่ได้นะครับ คุนเข้าห้องผิดนะรู้ตัวรึเปล่า" ผมรีบเดินตามผู้ชายร่างสูงใหญ่คนนั้นทันที แต่เขากลับไม่มีท่าทีสนใจสิ่งที่ผมพูดเลยแม้แต่น้อย ถือวิสาสะเปิดตู้เสื้อผ้าหยิงชุดของพี่แฟงออกมาแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวที่พาดอยู่ที่ราวหน้าห้องน้ำมาพาดไว้ที่ไหล่ตัวเอง แต่เอ๋ ทำไมท่าทางดูคุ้นๆจัง

"ทำไมจะเข้าไม่ได้ ห้องนี้กูก็นอนกอดกับมึงทั้งคืน จำไม่ได้รึไง"

"ฮะ?"

"จำกูไม่ได้รึไง"

"..."

"คนที่มึงนอนกอดทุกคืนนะไอ้ตัวนุ่มนิ่มคุนคุน"

"พะ พะ พี่แฟง!" ผมมองสำรวจคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า จะให้น้องคุนจำได้ได้อย่างไง ในเมื่อพี่แฟงตอนก่อนออกไปข้างนอกหนวดเฟิ้ม ผมยาวมัดผมทรงแมนบันขึ้นไปกลางหัว ใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น แต่คนตรงนี้กลับดู เอ่อ... ตรงกันข้าม คนที่ยืนอยู่หน้ากลับดูแตกต่าง หน้าตาเกลี้ยงเกลาสะอาดสะอ้านไร้ซึ่งหนวดเครา ผมสั้นเซ็ททรง อันเดอร์คัท ไถข้างเรียบแปล้ ด้านบนเซ็ททรงอย่างดีถึงแม้จะเปียกฝนหน่อยๆแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารับกับรูปหน้าหล่อๆของเขาได้ดีทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มกับกาเกงขายาวสีขาวตัวนี้กลับทำให้เขาดูดีมีสไตล์ขึ้นไปอีก ขอยืนยันว่านี่ไม่ใช่พี่แฟง!

"เออกูเอง"

แปะ!

"ทำไมถึง?..." อ้าว ใช่จริงๆ อะ เสียงนี้ หน้าแบบนี้ ขมวดคิ้วแบบนี้ แถมยังดีดหน้าผาดผมแบบนี้อีก อู้ย เจ็บ นายลภัสตัวจริงเสียงจริง!

"ทำไมอะไร ถอยไปขออาบน้ำก่อน ตัวเปียก"

"อะ เอ่อ คือ"

"อะไร อยากอาบน้ำกับกูรึไง ได้นะ มาสิ กูอาบให้ มาเร็ว"

"เปล่าๆ ครับ คุนยังไม่อาบ พี่แฟงอาบเลยตามสบาย" ผมปัดเป่ามือไปมาเพื่อปฏิเสธสิ่งที่อีกคนคิดไปเอง ใครจะอยากอาบน้ำกับพี่แฟงกันเล่า อึ๋ย ไม่เอาด้วยหรอก อายตายเลย!
.
.
.
.
.
.

"จะแ*กมั้ยข้าว นั่งจ้องหน้ากูอยู่นั่นแหละ" พี่แฟงที่กำลังใช้ตะเกียบคีบลูกชิ้นเข้าปากเอ่ยถามออกมาเมื่อผมเอาแต่เท้าคางมองหน้าพี่เขาอยู่ ร้านบัวลอยนมสดปิดเลยได้ก๋วยเตี๋ยวเจ้าดังมา แต่คุนอยากกินบัวลอย ร่างกายต่องการบัวลอย!

"กิน คุนกิน กินอยู่นี่ไง"

"กินห่าไร ตะเกียบคีบอากาศรึไง ใครเขาคีบนอกชามกัน คีบวิญญาณลูกชิ้นหรอ"

"อู้ยยยย" ผมมองตามตะเกียบของตัวเองตามที่พี่แฟงบอกทันที อย่างที่พี่เค้าพูดแหละครับ ผมเอาตะเกียบไปคีบโต๊ะอยู่นั่นแหละ มิน่าละคีบเท่าไหร่ไม่มีอะไรติดตะเกียบขึ้นมาสักที

"นี่มึงเพิ่งตื่นนอนใช่มั้ยเนี่ย หรือเมาบราวนี่ ตลกนะมึงเนี่ย"

"ใช่ที่ไหนละครับ เมา..." พี่แฟงนี่แหละ ไม่เคยคิดว่าพี่แฟงตัดผมแล้วก็โกนหนวดแล้วจะหล่อขนาดนี้ พี่นาทีที่ว่าหล่อแล้วยังต้องชิดซ้ายไปเลย กองทัพกับขุนพลสมบัติคณะนิติศาสตร์อินเตอร์ของผมยังเทียบไม่ติดแม้เส้นผม

"อะ อ้ำ แ*กซะ" มือหนาคีบลูกชิ้นมาจ่อปากผม

"..."

"อ้าปากสิ ก๋วยเตี๋ยวเจ้านี้อร่อยนะเว้ย ดังมากด้วย กูต้องไปต่อคิวตั้งครึ่งชั่วโมง อยากให้มึงลองกิน"

"อื้ม อร่อย" ผมงับลูกชิ้นที่อีกฝ่ายยื่นมาให้ก่อนลงมือเคี้ยวตุ้ยๆ อร่อยแบบที่อีกฝ่ายคุยไว้จริงๆ โหน ลูกชิ้นร้านนี้อร่อย งะ คุนจะเอาอีก!

"อร่อยก็กินเยอะๆ ด้วย"

"ครับผม" ว่าแล้วผมก็รีบโซ้ยลูกชิ้นในชามเข้าปากแล้วเคี้ยวหงับๆทันที แต่ก็ยังไม่วายที่จะเหลือบมองคนที่นั่งตรงข้ามกัน แถมยังเผลอยิ้มออกมาอีกต่างหาก

"แล้วนี่เป็นไร ยิ้มอยู่ได้ มึงเมาบรางนี่ใช่มั้ยเนี่ยคุน สารภาพมา"

"ใช่ที่ไหนเล่า....."

"แล้วเป็นไร" พี่คุนจ้องหน้าผม แล้วขมวดคิ้ว คงกำลังงงกับอาการที่ผมเป็นอยู่

"ก็พี่แฟงหล่ออะ" กล่อจริง จนผมละสายตาออกไม่ได้เลย

"..." อีกฝ่ายเงียบไปทันทีที่ผมเอ่ยออกไป หน้าที่งงงวยอยู่กลับกลายเป็นเรียบเฉยขึ้นมาทันที

"จริงๆ ไม่ได้โกหก"

"ฮะๆๆๆๆๆๆๆ"

"...."

"ฮ่าๆๆๆๆ"  อ้าวหัวเราะอะไรอะ หัวเราะไม่หยุดเลย หรือร้านนี้ใส่กัญชาในก๋วยเตี๋ยวกันนะ กองทัพเคยบอกว่าบางร้านเขาก็ใสเข้าไปในน้ำซุปให้รสชาติกลมกล่ม ให้ลูกค้าติดลูกค้าหลง ท่าทางพี่แฟงตอนนี้ต้องใช่แน่ๆ

"เอ่อ...."

"ทำไม กูหล่อขนาดนั้นเลยรึไงคุนคุน"

"อื้อ หล่อมากกกกกกกกก เลยครับ"

"เมื่อก่อนกูไม่หล่อรึไง" คนที่หยุดหัวเราะแล้วถามขึ้นมา

"ก็...หล่อ...แต่ตอนนี้หล่อกว่า"

"แล้วมึงชอบแบบไหนละ"

"แบบนี้" ผมชี้มือไปที่คนที่นั่งอยู่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามทันที ไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยครับ คุนชอบคนสะอาดสะอ้าน คุนจะเอาคนนี้! แต่เดี๋ยวก่อน ไม่ใช่คุนไม่ชอบพี่แฟงคนเมื่อเช้านะ คนนั้นคุณก็ชอบมากเหมือนกัน แต่แค่ชอบคนนี้มากกว่าเท่านั้นเอง

"พี่แฟงไม่มีหนวด ต่อไปน้องคุนก็ไม่ต้องจั้กจี้ คันคัน เวลาพี่แฟงฟัดพุงคุนแล้ว"

"ใครบอกมึง งับ"

"อื้อ กัดนิ้วคุนทำไมเนี่ย" คุนรีบดึงนิ้วกลับทันที พี่แฟงเล่นอะไรเนี่ยจู่ๆก็มางับนิ้วน้องคุนเฉยเลย อู้ยๆๆ นิ้วขาดมั้ยเนี่ย

"นิ้วมึงน่ากัดนี่หว่า แล้วก็ไม่ต้องดีใจไป มีหนวดไม่มีหนวดเวลากูฟัดพุงมึงมึงก็จั้กจี้เหมือนเดิม"

"ไม่จริง คุนไม่เชื่อ"

"หึ พิสูจน์มั้ยละ"

"อื้อ ไม่เอา ม่ายยย อ้า  ฮะๆๆๆๆ" อีกฝ่ายไม่ฟังคำทักท้วงอุ้มน้องคุนขึ้นจากเก้าอี้มาวางไว้บนโต๊ะทานอาหาร แล้วถลกเสื้อยืดสีฟ้าของคุนขึ้น ก่อนซุกหน้าลงไปฟัดพุงคุนเหมือนที่เคยทำทันที

"เป็นไง เหมือนรึเปล่า"

"อะ ฮะๆๆๆๆ มะ มะ เหมือน ไม่เอาแล้ว คุนจั้กจี้ อะ อะ ฮะๆๆๆๆ" อีกฝ่ายไม่ยอมถอนหน้าออกไปทั้งที่ผมพยายามดันหัวทุยๆของคนผมสั้นออกไปแล้วหลายครั้ง ว่าแต่พี่แฟงผมสั้นแบบนี้คุนไม่ชินเลย ดึงก็ไม่ค่อยได้ ไม่เหมือนพี่แฟงตอนผมยาว

"ยอมรึยัง"

"ยะ ยอ ยอมแล้ว ยอมแล้วครับ ฮะๆๆๆๆ"
.
.
.
.
.

"นอนได้แล้ว จะนอนจ้องหน้ากูอีกนานมั้ย"

"อู้ย พี่แฟงรู้ได้ไงว่าคุนมอง" พี่แฟงที่นั่งชันเข่าหลังพิงหัวเตียงที่กำลังอ่านอะไรบางอย่างจากในไอแพดอยู่เอ่ยขึ้น

"จ้องกูซะขนาดนี้ กูจะมีสมาธิอ่านหนังสือมั้ยเนี่ยคุนคุน จ้องพี่ทำไมครับ หืม?" ไอแพดในมือคนร่างสูงถูกวางลงบนโต๊ะหัวเตียงก่อนพี่แฟงจะหันมาจ้องหน้าผมไม่ละสายตา

"อย่าพูดครับสิครับพี่แฟง คุนใจไม่ดี"

"ทำไม ไม่ชอบให้พี่พูดเพราะๆหรอครับน้องคุนคุน"

"กะ ก็ชอบ แต่...."

"แต่อะไร ครับ หืม?"

"แต่มันเพราะเกิน คุนไม่ชิน คะ คุนจะละลายเอา"

"ใครสอนให้พูดแบบนี้ไอ้ตัวเล็ก"

"ไม่มีใครสอนคุนจำมาจากทีวี"

"สงสัยต้องล็อคทีวีไว้แล้วมั้ง เนื้อหาไม่เหมาะสมกับเด็กอย่างมึง"

"อื้อ พี่แฟงจะทำอะไร"

"จูบ พี่จูบหน่อย ไม่เจอทั้งวัน คิดถึง"

"คิดถึงอะไรเล่า ห่างกันยังไม่ถึง 24 ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ"

อื้อ อื้อ

อีกฝ่ายไม่สนใจคำประท้วง บดริมฝีปากตัวเองลงมาบนริมฝีปากอุ่นๆของผมทันที แถมยังดึงตัวผมเข้าไปไว้บนตัวของตัวเองอีก จูบของพี่แฟงมันเริ่มจากเนิบนาบ อ่อนโยน เชื่องช้า ก่อนจะเริ่มรุกล้ำ และหนักหน่วง จนตอนนี้หัวใจของน้องคุนเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาอยู่แล้ว

"ใจแต้งแรงจัง ตื่นเต้นรึไง" พี่แฟงผละริมฝีปากตัวเองออก ก่อนจะยกยิ้มมุมปากขึ้นมา พี่แฟงเวอร์ชั่นสองก็ไม่ต่างอะไรกับพี่แฟงเวอร์ชั่นหนึ่งเลยสักนิดเวลายกยิ้มแบบนี้ มันดูร้ายกาจจนน้องคุนเสียวสันหลังวาบ

"อื้อ"

"ง่วงยัง"

"ง่วงแล้วครับ"

"งั้นนอนกัน"

"อื้อ พี่แฟง"

"อะไร"

"เอาคุนลงไปจากตัวก่อน"

"ลงทำไมนอนแบบนี้แหละ อุ่นดี"

"เดี๋ยวหนักนะ"

"ไม่หนักหรอก"

"ตามใจนะ ถ้าพรุ่งนี้ตื่นมาชาเป็นอามาพาสคุนไม่รู้ด้วยนะ"

"อามาพาสอะไรของมึง หืม เขาเรียกว่า อัม มะ พาต เว้ย"

"อือ นั่นแหละ คำเดียวกัน"

"เคๆ นอนๆๆ เอาแขนมาโอบคอกูไว้"

"แบบไหนครับ"

"วางแบบนี้" พี่แฟงจับแขนผมทั้งสองข้างขึ้นมาวางพาดหัวไล่ยาวไปถึงกลังคอ แล้วเอาหัวผมซบไปตรงอกตัวเอง ส่วนเขาเอาแขนวางพาดตรงเอวผมแบบนั้น ก่อนที่จะตบมือ ไม่นานไฟอัตโนมัติในห้องก็ดับลง พร้อมกับเราทั้งคู่ที่จมสู่ห้วงนิทราในเวลาต่อมา

พี่แฟงเวอร์ชั่นหนึ่งหรือพี่แฟงเวอร์ชั่นสองก็ยังกอดอุ่นเหมือนเดิม


#คุนแฟง

by ppeachmm







หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 22 | 23.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 23-05-2020 08:04:38
 :mew1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 22 | 23.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 23-05-2020 10:07:27
หล่อถึงขนาดจำไม่ได้ 555
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 22 | 23.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: mylittleY ที่ 24-05-2020 10:26:36
อั้ยยะ หล่อขนาดไหนกันเนี่ย :hao7:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 23 | 24.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 24-05-2020 11:09:12
---ตอนที่ 23---



"อะ ให้" ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมยื่นกล่องกำมะหยี่สีเทาใบเล็กมาให้ ก่อนจะก้มลงไปจัดการกับสลัดแซลมอลรมควันในจานของตัวเองต่อวันนี้พี่แฟงเป็นคนทำอาหารเช้าครับ เจ้าตัวบอกว่าจะทำมื้อเช้าแสนพิเศษให้ผมทาน ส่วนผมไม่ต้องทำอะไรเลยให้นั่งรอที่โซฟาเฉยๆ อืม...การนั่งรอใครสักคนทำอาหารให้ทานมันรู้สึกดีแบบนี้ี่เอง  แล้วตอนนี้ก็มีสลัดแซลมอลรมควัน ขนมปังโฮลวีทพีนัทบัตเตอร์กับกล้วยหอมน่าตาน่ากินสุดๆ วางอยู่บนโต๊ะ

สงสัยต้องให้พี่แฟงเวอร์ชั่นสองทำแบบนี้บ่อยๆซะแล้ว

"อะไรหรอครับ"

"ของขวัญ"

"ของคุนหรอ"

"ของหมามั้ง สุขสันต์วันเกิด" ตาผมเบิกกว้างด้วยความแปลกใจ ส่วนคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามยิ้มกว้างให้ผมทันทีที่ผมเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา ไม่รู้มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมรู้สึกว่ารอยยิ้มของคนคนนี้มันอบอุ่นเหมือนแสงอาทิตย์ในฤดูหนาว คล้ายรอยยิ้มของหมาม๊ากับปาป๊า ต่างกันตรงที่รอยยิ้มของผู้ชายคนนี้มันพิเศษกว่านั้น เพราะมันทำให้ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายของคุนเต้นแรง จนบางทีก็กลัวว่ามันจะระเบิดออกมาไม่วันใดก็วันหนึ่ง

"พี่แฟงรู้"

"รู้สิ เรื่องของมึงกูรู้ทุกอย่างแหละไอ้ตัวนุ่มนิ่ม"

ตึก

ตัก

"พี่แฟงเวอร์ รู้ทุกอย่างไหนลองบอกซิครับว่าวันนี้เราใส่กางเกงในสีอะไร" ใจมันเต้นแรงเกินจนต้องหาอะไรบางอย่างพูดแก้เขินออกไป

"ขาว"

"อึ๋ยยยย นี่แอบดู กกน คุนหรอ"

"ใช่ที่ไหน ในตู้มึงมีแต่กางเกงในสีขาว ถ้ามึงใส่สีอื่นแสดงว่ามึงเอาของกูไปใส่แล้วคุนคุน"

"แงะ จริงด้วย แต่ของพีแฟงคุนไม่น่าใส่ได้หรอกมันตัวใหญ่"

"แหงละ ก็ *กูใหญ่"

"เฮ้อ ขี้โม้"

คนตรงข้ามหัวเราะในลำคอ ส่วนผมก็ได้แต่ส่ายหน้าให้กับประโยคห่ามๆขี้อวดที่อีกฝ่ายชอบอวดอ้างสรรพคุณอยู่บ่อยๆ ใครจะอยากรู้กัน ผมงับขนมปังโฮลวีทคำสุดท้ายเข้าปากก่อนจะเช็ดมือกับผ้าเช็ดมือบนตัก แล้วเอื้อมมือไปหยิบกล่องกำมะหยี่สีเทาที่วางอยู่ด้านหน้ามาเปิดดูของข้างใน เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในแล้วผมก็ยิ้มออกมาอย่างหยุดไม่ได้ พี่แฟงไม่ใช่คนอ่อนหวาน พี่แฟงไม่ใช่คนพูดเพราะ พี่แฟงเป็นคนห่ามหยาบคายที่สุด พี่แฟงไม่เคยตามใจคุนเวลาคุนอ้อนกินขนม แต่พี่แฟงกลับเป็นคนละเอียดอ่อนที่สุด นี่แหละที่เขาเรียกว่าความโรแมนติกของผู้ชายห่ามๆ

"ชอบมั้ย"

"ไม่อะ" คนตรงหน้าหน้าถอดสีขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ผมก้มลงมองของที่อยู่ในมือผมก็รู้ว่าเขาตั้งใจกับมันมากแค่ไหน คงผิดหวังน่าดูที่ผมบอกว่าไม่ชอบมัน

ใช่อยู่ว่าผมไม่ชอบสร้อยเส้นนี้

"..."

แต่ผมนะ....

"คุนรักเลยละ" สร้อยเงินที่มาพร้อมจี้รูปแมว มันไม่ใช่สร้อยกับจี้ธรรมดาที่มีอยู่ทั่วไป มันพิเศษกว่าเส้นอื่น และคงเป็นเส้นเดียวบนโลกใบนี้ด้วยซ้ำ ตรงที่จี้อันนี้เป็นจี้ที่หล่อขึ้นมาจากหน้าอันอัน เหมือนกันอย่างกะเกะ ส่วนตรงดวงตายังมีเพชรเม็ดเล็กๆอีกสองเม็ดประดับอยู่ด้วย นี่ไงครับผมถึงบอกว่าพี่แฟงละเอียดอ่อน

"ไอ้ตัวนุ่มนิ่มแกล้งพี่หรอ" อีกฝ่ายที่หน้าถอดสีกลับยิ้มกว้างทันทีที่ผมพูดออกไปว่ารักสิ่งที่เขามอบให้

"อื้อ แกล้ง หยอกๆ พี่แฟงดูผิดหวังมากเลย"

"ร้ายนักนะเดี๋ยวนี้ มานี่เลย"

"ก็ร้ายกับพี่แฟงคนเดียวแหละครับ จุ้บ" ผมเดินไปนั่งลงที่ตักของพี่แฟง แล้วก็แถมคิสคิสให้พี่เขาตรงหน้าผากด้วยหนึ่งที

"เอามานี่ พี่ใส่ให้" มือหนาหยิบสร้อยที่อยู่ในมือผมไป

"จับผมขึ้นด้วย ยาวแล้ว" ก่อนจะบรรจงสวมมันลงไปในคอผม

จุ้บ จุ้บ จุ้บ

ตบท้ายด้วยคิสคิสตรงหลังคอน้องคุนอีกสามสี่คิส ริมฝีปากพี่แฟงอุ่นจัง มันทำให้ผมรู้สึกดีทุกครั้งที่ริมฝีปากอุ่นไปนั้นสัมผัสไปตามร่างกาย

"กูตั้งใจทำมานะจี้อันนี้ ด้านหลังสลักชื่อกูด้วย"

"ทำไมเป็นชื่อพี่ละ ต้องเป็นชื่อคุนสิ"

"อ้าวดูจ่ายตังค์ก็ต้องเป็นชื่อกูอะถูกแล้ว"

"อย่างนี้ก็ได้หรอครับ"

"เออ เวลามึงเห็นชื่อกูจะได้คิดถึงกูไง"

"ไม่เห็นชื่อ ก็คิดถึงอยู่แล้วมั้ย" ประโยคนี้ผมไม่ได้ตั้งใจพ฿ดให้อีกคนได้ยิน มันเป็นเพียงประโยคพึงพำที่ติดอยู่ที่ลำคอเท่านั้น

"แล้วก็ ใส่ไว้ตลอดห้ามถอดเข้าใจมั้ย"

"ครับผม"

"กูใส่เครื่องติดตามไว้ในจี้ด้วย"

"โห นี่คุนหนีไปไหนไม่ได้เลยนะเนี่ย"

"มึงเพิ่งรู้ตัวหรอว่าหนีกูไม่พ้น"

"แงะ งั้นถอดคืนดีกว่า ขืนใส่ไว้คุนก็แอบไปซื้อชานมไข่มุกร้านฝั่งตรงข้ามคอนโดไม่ได้แล้วสิเนี่ย"

"เห็นชานมไข่มุกสำคัญกว่าของขวัญกูหรอ เฮอะ ไอ้เด็กอ้วน"

แปะ

"อู้ยยย คุนพูดเล่น ทำไมชอบดีดหน้าผากคุนจัง แดงหมดแล้วเนี่ย" ผมเอามือขึ้นมาลูบหน้าผากตัวเองสองสามที จริงๆมันก็ไม่เจ็บหรอกครับ แค่แกล้งพี่คุนเล่นเฉยๆ

"เจ็บมากใช่มั้ย งั้นเอาไปอีกที"

"ม่ายยย หยอกๆ คุนหยอกไง"

"มึงมันตัวน่ารัก น่าฟัดชิบหาย" อีกฝ่ายกอดผมแน่นขึ้นจนแทบจะหายใจไม่ออก แถมยังเอาหน้ามาซุกไซร้คอผมจนจั้กจี้ไปหมด

"อื้อ รู้ตัวดี"

"หึ คุน"

"คร้ามผม" ผมก้มลงหยิบจี้ขึ้นมาหมุนดู มันน่ารักมากเลย คุนชอบที่สุด จะใส่ติดตัวไว้ตลอดเวลา

"คือ..กู....มีเรื่องจะสารภาพ" มือที่รัดเอวผมแน่นในคราแรกตอนนี้คลายออกเป็นแรงกอดหลวมๆจากทางด้านหลัง หน้าที่เคยซุกไซร้อยู่ที่หลังคอถูกเอามาวางพาดไว้บนไหล่ผม ทำให้ตอนนี้หน้าเราอยู่ชิดกัน หูผมได้ยินลมหายใจของอีกคนที่พ่นลมเข้าออกได้ชัดเจน

"พี่ไปทำผู้หญิงท้องมาหรอ" คุนเคยเห็นในละครที่คุนชอบเปิดดูเพื่อรียนภาษาไทยนะว่าเวลาที่ผู้ชายบอกว่ามีอะไรจะมาสารภาพ 99% บอกไว้ว่าเขาไปทำผู้หญิงท้องมา คุนรู้คุนจำได้ แล้วฉากที่เกิดขึ้นหลังจากนี้คือนางเอกจะต้องหันไปตบหน้าผู้ชายคนนั้นทันที อึ๋ย รุนแรงชะมัด

"ดูละครไทยมากไปรึเปล่า สงสัยกูต้องล็อคโปรแกรมทีวีให้มันเหมาะสมกับวัยมึงจริงๆแล้วเนี่ย เอาแบบ 13+ ละกัน"

"แล้วใช่มั้ยละครับ" หวังว่าชีวิตพี่แฟงจะไม่เหมือนในละครนะ

"ใช่ที่ไหนเล่า กูอยู่กับมึง 24 ชั่วโมงขนาดนี้ ถ้าจะมีคนท้อง คงต้องเป็นมึงแล้วละ"

"พี่ทำคุนท้องหรอ"

"กูจะบ้าตาย"

"..." อ้าวแล้วสรุปใครท้องอะ

"หรือมึงอยากท้องละ"

"ได้หรอ"

"ได้สิ กูทำให้ได้ แต่เราต้องเริ่มทำลูกกันก่อนมึงถึงจะท้องได้"

"เพ้อเจ้อแล้ว คุนไม่ใช่เด็กนะ ผู้ชายท้องได้ที่ไหนเล่าพี่แฟงนี่"

"ฮ่าๆๆๆๆ ไอ้เด็กน้อยเอ้ย"

"แล้วสรุปมีไรจะสารภาพละครับ"

"คือ กูโกหกมึง เรื่อง...."

"คอนโดกูอะ ไม่ใช่ว่ากูไม่มีตังค์เช่าหรอก จริงๆกูไม่ได้เช่าด้วยซ้ำเพราะพ่อกูซื้อให้ แต่กูอยากมาอยู่กับมึง ก็เลยสร้างเรื่องหลอกมึง กูขอโทษ"

"..."

"โกรธใช่มั้ย"

"..."

"คุน อย่าเงียบดิ กูให้มึงลงโทษเลย จะทำอะไรก็ได้กูยอม แต่คุนต้องยกโทษให้พี่ นะครับ นะครับคุนคุน"

"..."

"คุน น้องคุน น้องคุนคุน ไม่เอาสิครับ อย่าเงียบแบบนี้ พี่ใจไม่ดี คุนคุน" พี่แฟงหน้าถอดสียิ่งกว่าตอนที่ผมบอกว่าไม่ชอบสร้อยที่เขาให้เป็นของขวัญวันเกิดเสียอีก  อีกฝ่ายอุ้มผมวางไว้บนโต๊ะก่อนจะจับให้ผมหันหน้าเข้าหาตัวเขา เพิ่งเคยเห็นพี่แฟงคนโหดทำหน้าหมาหงอยก็วันนี้แหละ เขาพยายามพูดจาออดอ้อนให้ผมยกโทษให้ ส่วนผมได้ทีก็หยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ใกล้ๆขึ้นมา

แชะ แชะ แชะ

"คุน! ทำอะไร"

"ฮะๆๆๆ ถ่ายรูปคนหน้าหงอยไว้ดูเล่นแก้เบื่อไงครับ"

"แกล้งพี่หรอ"

"ใช่ คุนรู้อยู่แล้วว่าพี่แฟงโกหกคุน"

"มึง......รู้ได้ไง แล้วรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่"

"ก็ตั้งแต่ตอนแรกเลย สองแฝดบอกน้องคุน" ใช่ครับ ถ้าทุกคนจำได้วันนั้นคุนเขียนไปบอกสองแฝดว่าให้มาช่วยย้ายของเพราะพี่ชายข้างห้องจะย้ายมาอยู่ด้วย คุนรู้ตั้งแต่วันนั้นแหละครับ

"อ้าว แล้วมึงไม่โกรธกูรึไง"

"ก็โกรธนิดหน่อย นิดเดียวจริงๆ กินเค้กไปคำเดียวก็ลืมแล้ว"

"หึ สมเป็นมึงจริงๆ แล้วไอ้สองแฝดมันบอกรึเปล่าว่ากูขอย้ายมาอยู่ห้องมึงทำไม"

"รู้ครับ แฝดบอกว่าพี่แฟงจะมาจับคุนกิน" คุนจำได้เลยว่าวันนี้ทะเลาะกับกองทัพและขุนพลยกใหญ่เลย เพราะไม่ว่าอย่างไงสองแฝดก็ไม่ยอมให้พี่แฟงย้ายเข้ามาห้องน้องคุนเด็ดขาดกลัวจะถูกจับกิน แต่คุนดื้อไง แล้วน้องคุนซะอย่างเรียนการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก ปาป๊าส่งน้องคุนเรียนยูโด เทควันโด มวยไทย มาตั้งแต่จำความได้ ถ้าพี่แฟงจะทำอะไรคุนจริงๆ มีหรือที่คุนจะเอาตัวรอดไม่ได้ ยกเว้นคุนจะยอมเอง ซึ่งมันก็จะกลายเป็นอย่างหลังเสียมากกว่า อุ้ยยย จะโดนไม้เรียวมั้ยเนี่ย

"มึงนี่ร้ายกว่าที่กูคิดอีกนะเนี่ย รู้ว่ากูจะมาจับมึงกินก็ยังกล้าให้กูเข้ามาอยู่ด้วยเนี่ยนะ แถมยังให้นอนเตียงเดียวกันอีก เกินไปแล้วคุน มึงมันเกินไปจริงๆ"

"คุนร้ายที่ไหน พี่แฟงต่างหากที่ร้ายวางแผนเจ้าเล่ห์ แต่ถึงจะร้ายยังไง ก็ยังไม่เห็นจับคุนกินได้สักที โอ้ยย กัดพุงคุนทำไมเนี่ย"

"เดี๋ยวกูจะจับมึงกินตอนนี้นี่แหละ กัดพุงขาดเลยดีมั้ย พุงขาวๆของมึงเนี่ย เอาให้จมเขี้ยวเลย หมั่นใส้"

"โอ้ย เจ็บๆๆ ยอมแล้ว ไม่เอาๆๆๆ อื้ออ"

"ถึงกูจะยังไม่ได้จับมึงกิน แต่กูก็จีบติดละกัน ใช่มั้ย"

"ก็...คงงั้นมั้งครับ"

"แล้วให้จับกินได้ยัง วันนี้สิบแปดแล้วนะ กูไม่ติดคุกแล้วด้วย" ใช่ครับฟังไม่ผิดหรอก คุนเพิ่งจะอายุสิบแปดเอง คุนเข้าเรียนเร็วครับแล้วก็ข้ามชั้นด้วยเลยเข้ามหาวิทยาลัยเร็วกว่าคนอื่นหนึ่งปี และวันนี้เป็นวันที่คุนอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์

"ใครบอกว่าไม่ติดคุก"

"อ้าว ก็มึงสิบแปดแล้ว"

"ถึงจะสิบแปดแล้ว แต่กฎหมายบอกไว้ว่าถ้าไม่เต็มใจ ก็ผิดกฎหมาย ถูกจำคุกโทษฐานกระทำชำเราอยู่ดีครับคุณลภัส" ถึงผมจะไม่เก่งภาษาไทย แต่ศัพท์ทางกฎหมายน้องคุนถนัดนะขอบอก ก็เรียนมานิคร้าบบบบ

"ก็เต็มใจซะสิ กูจะได้ไม่ต้องติดคุก นะ นะ กูจะตายเอาแล้วเนี่ย ขอเหอะ นะคับน้องคุนคุน" มือหนาที่โอบเอวผมอยู่ลูบไล้ไปตามหน้าท้องและข้างลำตัวผมไม่หยุดขณะที่พูดจาออดอ้อนหว่านล้อมผม ผมชอบสัมผัสของผู้ชายคนนี้นะ ไม่เข้าใจว่าทำไมมือที่หยาบกระด้างมันจะสร้างความอบอุ่นในสัมผัสได้ขนาดนี้ ผมก้มหน้าลงไปประทับริมฝีปากตัวเองบนปากหยักหนาของคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เบื้องล่าง ขบเม้มปากบนสลับกับปากล่างก่อนจะลุกล้ำเข้าไปในโพรงปากตามแบบฉบับที่อีกคนสอนมาไม่ผิดเพี้ยนจนคุณครูหนุ่มรูปหล่อถึงกับคำรามอย่างถูกใจในลำคอ

"หึ จูบกูขนาดนี้ยังจะบอกอีกหรอว่าไม่เต็มใจ"

"ก็เต็มใจให้แค่นี้ไปก่อนไงครับ ส่วนอย่างอื่นคุนยังไม่พร้อม"

"อืม เข้าใจ ไม่เป็นไร กูรอได้ ทนกอดมึง แบบ*แข็งๆต่อไปก็ได้"

"ลามก"

"อะไร ลามกที่ไหน กูพูดเรื่องจริง มันเรื่องธรรมชาติล้วนๆ นักศึกษาแพทย์อย่างกูพูดเรื่องสรีระคนเป็นปกติในบทสนทนาอยู่แล้ว"

"หรออออออออ"

"เออ"

"จับมั้ย"

"จับอะไรละ ไม่เอาาาา!"

.
.
.
.
.
.
กว่าจะผ่านพ้นช่วงเวลาอาหารเช้าแสนอีโรติกมาได้ก็แทบหอบจับ อย่าคิดลึกครับไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ แค่น้องคุนวิ่งหนีพี่แฟงเวอร์ชั่นสองจนเหนื่อยหอบต่างหากละครับ แล้วตอนนี้ก็นอนกองกันอยู่ที่พื้นในส่วนห้องนั่งเล่นกันทั้งสองคน นี่เหนื่อยกว่าตอนที่พี่แฟงบังคับให้คุนออกกำลังกายอะนะเนี่ย เหนื่อยจุง เวลาเหนื่อยๆแบบนี้ร่างกายต้องการน้ำตาล หันไปสบตากับคนที่นอนข้างกันก็เหมือนเขาอ่านใจเราออก เอานิ้วมาจิ้มแก้วแล้วก็ส่งสายตาเป็นเชิงบอกว่า อย่าได้แม้แต่จะคิดแตะขนมหวานเด็ดขาด นั่นปะไร ไม่น่าหันไปสบตาเลย รู้งี้แอบย่องทำท่าเป็นดื่มน้ำแล้วหยิบคุ้กกี้ช๊อคชิพออกมาจากตู้เย็นก็สิ้นเรื่อง เออ ความคิดดีเฮะ เริ่มแผนเลยดีกว่า

"คุน" เสียงทุ้มดังตามหลังมา มือที่กำลังแง้มฝากล่องคุ้กกี้ต้องรีบชักออกโดยด่วน

"อึ๋ยยยยย" พี่แฟงรู้ทันอะ งือๆๆ

 "นี่กล่องอะไร" อีกฝ่ายยกกล่องที่วางอยู่ตรงชั้นรองเท้าข้างห้องครัวขึ้นมา ลืมไปเลยนะเนี่ยว่าได้กล่องนั้นมาตั้งแต่เมื่อวาน หาอยู่ตั้งนานไม่เจอ ที่แท้ก็ลืมวางไว้ตรงชั้นรองเท้านี่เอง แฟนคลับรู้ต้องเสียใจแน่ๆ น้องคุนผิดไปแล้ว งือๆๆ

"กล่องขนมแฟนคลับส่งมาให้น้องคุนครับ"

"หืม?"

"ส่งมาสามสี่ครั้งแล้วครับ"

"ลายมือด้านหน้าคุ้นจังวะ"

"ก็ส่งมาให้คุนหลายครั้งแล้วไงครับ พี่แฟงก็อาจจะเคยเห็นผ่านๆนะครับ"

"หรอ...วะ" อีกฝ่ายยืนจ้องกล่องใบนั้นเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่างอยู่

"อะฮะ"

"คุน"

"คร้าบบบ"

"มาถ่ายคลิปใหม่ลงคุนคุน ชาแนลกัน"

"วันนี้อะนะ"

"อือ ตอนนี้เลย"

"เฮ้ยยยย"
.
.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm

.
.
.
ช่วยเม้นต์ติชมกันด้วยน้าาาา
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 23 | 24.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 24-05-2020 21:47:39
 :mew1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 24 | 25.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 24-05-2020 23:59:26
---ตอนที่ 24---


คุน's part

"ถ้างั้นอาทิตย์หน้าพี่ก็ต้องเริ่มเรียนแล้วหรอวะ" ขุนพลที่นั่งเล่นเกมส์อยู่ตรงโซฟากลางห้องเอ่ยขึ้น

"เออ"

"โหดสัส แบบนี้เรียกปิดเทอมได้ไงวะ" กองทัพเอ่ยเสริมทันทีหลังจากที่พี่แฟงบอกว่าต้องเริ่มเรียนแล้วตั้งแต่อาทิตย์หน้าเป็นต้นไป ต่างกับพวกผมที่ปิดเทอมไปอีกเดือนกว่าๆ

"ก็กูเรียนหมอมั้ย" เจ้าของประเด็นเอ่ยขึ้นในขณะที่ถอดเสื้อสวมกางเกงกีฬาตัวเดียวนอนออกกำลังกายอยู่ที่พื้นหน้าประตูระเบียง ออกมาสักพักแล้วครับ เนื้อตัวนี่มีแต่เหงื่อเต็มไปหมด

"แต่มันเกินไป คนเรามันก็ต้องพักป่าววะ จะเรียนอะไรขนาดนั้นวะไอ้พี่ นี่มึงเตรียมตัวไปออกรบรึไง ยังกะฝึกทหาร" ขุนพลหันมามองพี่แฟงด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ

"ใช่ครับ พี่แฟงควรจะได้พักบ้าง" เพราะผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคนเราจะต้องเรียนอะไรหนักขนาดนั้น

"นี่ยังน้อยไป พอกูเริ่มขึ้นวอร์ดแล้ว อย่าว่าแต่เวลาปิดเทอมเลย เวลานอนกับเวลาแ*กข้าวกูยังไม่รู้จะมีรึเปล่า คุนมานี่หน่อย"

"ครับ"

"ไอ้เ*ยเป็นหมอนี่แม่งโคตรทรหดเลยวะ มีลูกมีหลานกูจะสั่งห้ามจะไม่ให้เข้าใกล้เลยนะคณะนี้เนี่ย ใครอยากเรียนกูจะตัดออกจากกองมรดกให้หมด"

"ขุน มรดกมึงคืออะไร ช่วยบอกกูที ตอนนี้ยังขอเงินคุณแม่ท่านใช้อยู่เลย" กองทัพส่ายหน้าเอือมระอาให้กับฝาแฝดของตัวเอง คงไม่เข้าใจว่าตอนนี้น้องชายฝาแฝดของตัวเองมีอะไรเป็นมรดก เพราะรถเอยคอนโดเอยล้วนแล้วแต่เป็นของคุณนายสมรศรีทั้งนั้น

"เออน่า เดี๋ยวก็มี เฮ้ย! ทำไรกันวะ" ขุนพลหันมาเห็นผมนั่งอยู่บนขาพี่แฟงแล้วถูกยกขึ้นยกลงก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ คงจะไม่เคยเห็นแหละครับ เพราะน้องคุนเองก็ยังไม่เคยเห็นใครออกกำลังกายแบบนี้สักคน ก็พี่แฟงนะสิครับให้คุนมานั่งตรงขาแล้วตัวเองก็ยกขาขึ้นลงทั้งๆที่คุนเองก็นั่งอนู่ตรงขาแบบนั้น ตอนแรกที่ถูกขอให้มานั่งแบบนี้แทบล้มแล้วล้มอีก ตัวเอียงกะเท่เร่ แต่ตอนนี้ชินแล้วครับ เริ่มจะบาลานซ์ตัวให้ไม่เอนไปเอนมาเวลาถูกยกขึ้นลงได้

"ออกกำลังกาย"

"แล้วเอาเพื่อนผมไปทำอะไรตรงนั้นไอ้พี่ ส่วงมึงก็นะไอ้คุนไปนั่งขามันทำไม เดี๋ยวกูไปหาไม้เรียวมาก่อนเถอะ จะตีให้ก้นลายเลย นังลูกไม่รักนวลสงวนตัว!"

"ทำไม ก็แฟนกู กูจะให้มันนั่งตนไหนบนตัวกูมันหนักหัวมึงรึไง ทะเลาะกับแฟนมาแล้วอย่ามาทำนิสัยขี้อิจฉาแบบนั้นขุนพล"

"สัสไอ้พี่ จี้ใจดำกูเหลือเกิน"

"แล้วเอาคุนคุนไปนั่งแบบนั้นมันช่วยอะไรหรอพี่"

"เสริมกล้ามเนื้อขา หน้าท้องด้วย เนี่ยยกขึ้นลงแบบนี้ เหมือนเอาดัมเบลมาวางไง"

"แต่ดัมเบลอันนี้หกสิบกว่าโลเลยนะพี่มึง"

"กูสะดวกแบบนี้มึงจะทำไม" คนตอบดูไม่ได้สนใจเสียงนกเสียงกาที่ดังมาจากโซฟาเลยสักนิด แถมยังยกขาที่มีผมนั่งอยู่ขึ้นลงเหมือนไม่ได้หนักอะไรเลยด้วยซ้ำ

"โคตรจะขี้อวด"

"ส่วนมึงก็โคตรจะขี้อิจฉาไอ้ขุนพล พี่มึงไม่เห็นว่าอะไรสักคำ"

"มันจะว่าไรละ ความรักกำลังเบ่งบาน ไม่เห็นหรอรอบตัวมันเป็นสีชมพูสว่างจ้าาาาาซะเหลือเกิน" ผมรีบหันควับไปมองกองทัพที่ถูกพาดพิงทันที เฮ้ยทุกคนนี่คือข่าวใหม่เลยนะครับ

"ทัพ อะไรยังไง เราไม่เห็นรู้เรื่องเลย" ผมรีบลุกขึ้นจากขาพี่แฟงแล้วกระโจนไปนั่งแทรกกลางระหว่างขุนพลและกองทัพที่นั่งอยู่บนโซฟาทันที

"โห กูกราบความอยากรู้อยากเห็นของมึงจริงๆ"

"ก็ไม่มีอะไร แค่คนที่เจอกันตอนไปแคสติ้งงานนะ"

"อะเนอะ แล้วก็บังเอิญอยู่คอนโดเดียวกันด้วย พรหมลิขิตชัดๆ"

"จริงหรอ ใครอะ น่ารักมั้ย"

"แม่งโคตรน่ารักเลย มีวันหนึ่งกูแอบตามไปส่องดูมันที่ซุปเปอร์ด้านล่าง น่ารักพอๆกับมึงนั่นแหละคุน"

"หรอๆๆ แล้วๆๆ..คือ..."

"คุน กูยังออกกำลังกายไม่เสร็จเลย กลับมานี่ก่อน"

"แงๆๆ คุนคุยกับทัพก่อนสิพี่แฟงอะ" ชอบขัดตลอดเลยพี่แฟงนี่ น่าตีจัง!

"มานี่เลยมา มีไอ้ขุนอยู่เสือกแทนมึงแล้วไง เดี๋ยวมึงก็รู้ทุกเรื่องเองแหละ ไม่ต้องไปเสียเวลาถามไอ้ทัพมันด้วยซ้ำ ปากหนักอย่างมันจะบอกอะไร รอฟังจากไอ้พวกปากไม่มีหูรูดดีกว่า"

"จริงด้วย ขุนจอมวุ่นวาย"

เมี้ยว!

ดูสิขนาดอันอันยังเห็นด้วยเลย พออันอันส่งเสียงออกมาทุกคนก็มองหน้ากันแล้วขำออกมาเสียงดังพร้อมเพรียงกัน จนอันอันที่นอนเอนกายอยู่หน้าห้องนอนมองหน้าเราทุกคนสลับกันไปมาอยู่สักพัก สงสัยจะงงว่าเราหัวเราะอะไรกันนักหนาไม่ยอมหยุดสักที
.
.
.
.
.
"อะไรติดแก้มเนี่ย แอบไปกินคุ้กกี้มาอีกแล้วหรอ เดี๋ยวกูกลับมานะจะเอาไปทิ้งให้หมดเลย เอามาจากไหนนักหนาวะไอ้คุ้กกี้เนี่ย" คนตัวหนาที่ยืนอยู่ข้างๆผมในลิฟท์ก้มหน้าลงมาใกล้ๆ ก่อนจะเอามือมาเช็ดอะไรบางอย่างออกจากข้างแก้มผม ถ้าให้เดาคงเป็นเศษคุ้กกี้ที่ผมพึ่งแอบกัดมาหนึ่งคำก่อนออกจากห้องมาแน่ๆ

"แงงง"

"อยู่นิ่งๆ ทำไมปากมึงแดงจังวะ แล้วก็เลิกทำได้แล้วไอ้ปากแบะๆเนี่ย" มือหนาปัดไปมาบนแก้มผมอยู่แบบนั้นไม่เคลื่อนมือออกสักที นี่คือผมกินเปื้อนขนาดนั้นเลยหรอ

"ไม่รู้ อื้อออ" ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปากตอบคนตัวสูงไป ริมฝีปากหยักหนาก็บดเบียดลงมาบนปากที่อีกคนบอกว่ามันสีแดงเกินไป ไม่ใช่แค่ริมฝีปากที่ถูกกลืนกิน มือหนายังโอบเอวผมเข้าไปประชิดตัวเองแล้วก็กอดผมไว้แน่นๆอีกต่างหาก โอเค ยอมรับว่ารสจูบของพี่แฟงมันหวานหอมเป็นอย่างมาก แล้วยิ่งพี่แฟงเวอร์ชั่นสองตอนนี้ที่ไม่มีหนวดเคราแล้วด้วยคือมันดีงามมากจนผมยอมรับเลยว่าไม่เคยจะปฏิเสธได้เลยสักครั้ง แต่ประเด็นคือนี่มันใช่ที่ๆควรทำแบบนี้ที่ไหนเล่าพี่แฟง!

ตึ้ง!

"เอ่อ..."

นั่นไงพูดยังไม่ทันขาดคำ ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกบุคคลที่สามที่ยืนอยู่ที่หน้าลิฟต์ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจ แต่คนที่เป็นผู้กระทำกลับยังไม่หยุดสิ่งที่ทำอยู่ หรือพูดง่ายๆว่าไม่คิดจะหยุดเลยด้วยซ้ำ ลิ้นร้อนยังตวัดชิมโพรงปากผมไม่หยุดหย่อนอย่างไม่อายสายตาคนอื่น แหงสิก็ตัวเองยืนหันหลังให้ประตูลิฟต์หนิ ต่างกับผมที่หันหลังเข้าตัวลิฟต์และหันหน้าออกไปทางประตูลิฟต์ และผมที่เห็นบุคคลที่สามยืนอยู่ด้านนอกลิฟต์ก็แทบอยากซุกแผ่นดินหนี พยายามใช้มือทั้งสองข้างดันคนตัวหนาออกแต่อีกคนไม่ให้ความร่วมมือเลยสักนิด นอกจากไม่ขยับเขยื้อนยังดึงตัวผมเข้ามาชิดอีก โถ่เอ้ย แล้วน้องคุนทำอะไรได้ช่วยบอกที คงไม่กล้าลงมาจากห้องอีกหลายวันเลยเนี่ย ฮือๆๆๆ

"เอ่อ ขอโทษครับ" บุคคลที่สามที่ยืนอยู่หน้าลิฟต์ตัดสินใจพูดขึ้นเมื่อเราสองคนไม่มีท่าทีจะออกจากลิฟต์สักที จะพูดว่าเราสองคนไม่ได้สิต้องบอกว่าพี่แฟงต่างหากที่ไม่ยอมออกจากลิฟต์! ดูเหมือนเสียงทักท้วงของผู้ชายคนนั้นจะทำให้พี่แฟงไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ คนร่างสูงถอนหายใจเสียงดังก่อนจะกัดริมฝีปากล่างผมแรงๆครั้งสุดท้าย แล้วก็ยอมละริมฝีปากออกจากกัน และปล่อยผมออกจากอ้อมแขนอย่างไม่ยินยอมเท่าไหร่ เนี่ยหงุดหงิดดูออก เวลาหงุดหงิดทีไรเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มทุกที

"สวัสดีครับพี่ศัก" พี่แฟงส่งยิ้มทักทายผู้ชายคนนั้นด้วยท่าทีเรียบเฉยไม่มีความเขินอายปรากฎบนใบหน้าเลยแม้แต่น้อย ส่วนผมนั้นหลบไปอยู่ด้านหลังคนตัวหนาด้วยไม่กล้าสบตาพี่รปภคนนั้นเพราะรู้สึกอายกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เหลือเกิน คนตัวสูงไร้ยางอายจูงมือผมออกมาจากลิฟต์แต่ก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยทักคนที่ยืนอยู่ที่หน้าลิฟต์ และเป็นบุคคลที่ยืนเป็นพยานความรักของเราอยู่นานแสนนาน

"เอ่อ ครับ" อีกฝ่ายตอบกลับมาทั้งที่สีหน้ายังดูตกใจอยู่ใบหน้าแดงก่ำคงจะเขินกับสิ่งที่เพิ่งเห็นไปแน่ๆ อย่าว่าแต่พี่ศักแกเลยผมเองก็หน้าแดงไม่ต่างกันไม่ใช่แดงเฉยๆนะยังรู้สึกร้อนไปทั้งหน้าทั้งตัวเลยด้วย รู้ได้อย่างไงนะหรอ ก็เห็นหน้าตัวเองที่แดงเถือกสะท้อนอยู่บนผนังลิฟต์ที่เป็นกระจกนะสิครับ

เราสองคนเดินออกไปจากตรงนั้น ส่วนพี่ศักรปภหนุ่มประจำคอนโดนั้นยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน สงจะสตั้นกัยสิ่งที่เห็นอยู่แน่ๆ เฮ้อ ขอโทษนะครับที่ต้องมาเห็นอะไรแบบนี้

"ซื้อของเสร็จแล้วก็รีบกลับห้องอย่าไปเถลถไลที่ไหนเข้าใจมั้ย"

"โอเค ครัชชช"

"ครัชเคิดอะไร ลิ้นพันกันรึไง คุนกว่ากูกับไอ้สองแฝดจะกลับมาก็ดึกๆเลยนะ แล้วก็ไม่ต้องพาอันอันออกไปเดินเล่นด้วย ไม่งั้นกูจะตีให้ขาลายเลย" โดนเขกหัวไปทีหนึ่งอีกต่างหาก อะไรกันก็มันศัพท์วัยรุ่นนะ โถววว พี่แฟงไม่เข้าใจวัยรุ่นเซ็ง

"โอเค รู้แล้วน่า สั่งคุนรอบที่สามร้อยแล้วนะ"

"ก็ต้องย้ำบ่อยๆ มึงมันดื้อไง"

"ดื้อที่ไหนเล่าาา"

"ก็ดื้อที่หน้านี่ไง ดูหน้าตัวเองในกระจกบ้าง ไอ้หน้าดื้อๆแบบนี้เมื่อไหร่จะเลิกทำสักที"

"งืออ หน้าคุนไม่ได้ดื้อสักหน่อย พี่หยิกแก้มคุนอีกแล้ว คุนเจ็บนะ" ผมยกมือขึ้นไปลูบแก้มตัวเองเบาๆ รู้สึกเจ็บนิดๆเมื่ออีกฝ่ายเอานิ้วมาบิดเนื้อแก้มของผมเบาๆเหมือนที่ทำเป็นประจำเวลาที่เขาหมั่นเขี้ยวผม ผมละก็อยากบิดพี่แฟงคืนบ้างแต่ไม่ว่าจะบิดไปตรงไหนก็มีแต่กล้ามเนื้อแข็งๆหาตรงนุ่มๆไม่ได้สักจุด ขนาดแก้มยังแข็งเลยคิดดู คุนเซ็ง! แล้วหน้าคุนมันดื้อตรงไหนถามหน่อย!

"ไปแล้วนะ ไอ้แฝดเอารถมารอแล้ว"

"เคคร้าบ บ๊ายบาย"

"บาย" พี่แฝงขยี้ผมของผมสักพักก่อนผละตัวออกจากผม เดินไปขึ้นรถ BMW คันสีดำของขุนพลที่จอดรออยู่ที่หน้าคอนโด ผมมองรถคันนั้นเคลื่อนออกไปจากคอนโดจนลับสายตาไป ก่อนที่ตัวเองจะมุ่งหน้าไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ชั้นหนึ่งของคอนโดแทน วันนี้เป้าหมายน้องคุนคือซื้อวัตถุดิบทำสุกี้ชาบูน้ำดำ!
.
.
.
.
.
.

"อื้อ หนักจังเลย" ถุงผ้าใบใหญ่สองใบที่บรรจุของสดมากมายเอาไว้ถูกวางลงตรงพื้นทันทีที่เดินมาอยู่ที่หน้าลิฟต์คอนโด ระยะทางจากซุปเปอร์มาเก็ตมาถึงลิฟต์คอนโดนั้นก็เป็นระยะทางพอสมควร ผมยกแขนขึ้นบิดไปมาขณะที่รอกดลิฟต์อยู่ ถือถุงหนักจนแขนแทบเคล็ดแหนะ

"เฮ้อ เมื่อยจัง"

"คุณคุน" เสียงทุ้มของใครบางคนดังมาจากด้านหลัง ผมเลยหันไปดู พบว่าเป็นพี่รปภหนุ่มเจ้าเดิมที่เป็นสักขีพยานรักของผมเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน

"อ้าวพี่ศัก ยังไม่กลับหรอครับ"

"เปลี่ยนกะพอดีครับ กำลังจะกลับ แล้วนี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะเลยครับเนี่ย"

"ของสดครับ สงสัยจะซื้อเยอะไปหน่อย เป็นแบบนี้ทุกทีครับเวลามาซื้อของที่ซุปเปอร์คนเดียว เห็นอะไรก็อยากหยิบไปหมด แต่เวลามาซื้อกับพี่แฟงนี่ต้องหยิบเฉพาะของที่จะใช้เท่านั้น ไม่งั้นจะโดนบ่นยาวเหยียดเป็นชั่วโมงเลย บางทีบ่นจนคุนหูชาไปสามวันเลยนะครับ" ผมเล่าให้พี่ศักฟัง ส่วนแกก็ยิ้มรับ ยืนฟังผมบ่นเรื่องพี่แฟงให้ฟังโดยไม่ขัดอะไรเลย

"อ้อครับ"

ตึ้ง!

"ลิฟต์มาแล้ว คุนไปก่อนนะคร้าบบบพี่ศัก" ประตูลิฟต์เปิดออก ผมก้มลงหยิบถุงผ้าทั้งสองขึ้นมา แต่ด้วยความที่ของด้านในมันเยอะมาก ทำให้ของหลายอย่างหล่นออกมาด้านนอก มะนาวสองสามลูกกลิ้งไปโน่นแล้วด้วย โอ้วโนววว

"ให้ผมช่วยถือขึ้นไปบนห้องมั้ยครับ"

"พี่ศักใจดีจัง คุนเกรงใจ แต่ถ้าไม่เป็นการรบกวนพี่ศักจะช่วยคุนจะโอเคมากๆเลยครับ"

"ไม่รบกวนเลยครับ งั้นผมช่วยนะครับ" พี่ศักหยิบถุงผ้าขึ้นมาก่อนจะก้มลงเก็บลูกมะนาวสามสี่ลูกที่กลิ้งอยู่บนพื้นก่อนเดินตามผมเข้ามาในลิฟต์

"ขอบคุณคร้าบบบ" พี่ศักกับผมเราไม่ได้พูดอะไรกันต่างคนต่างยืนเฉย ผมเพิ่งสังเกตวันนี้เองว่าพี่ศักมีกล้ามแขนด้วยนะเนี่ย ทุกครั้งที่เจอก็จะเห็นแกใส่ชุดรปภแขนยาวเต็มยศ แต่วันนี้แกคงถอดเสื้อยูนิฟอร์มออกเหลือแต่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงทำงาน พี่ศักคงอายุไล่เลี่ยกับพี่แฟงแต่ผิวพรรณดูหยาบกร้านกว่ามาก คงเพราะต้องทำงานตากแดดตากลม


แกร๊ก!

"เชิญครับ เข้ามาในห้องเลย ไม่ต้องถอดรองเท้าก็ได้ครับ" ผมเปิดประตูคอนโดออก เดินนำพี่รปภคนมีน้ำใจเข้าไปในห้อง อีกฝ่ายเดินตามเข้ามาติดๆ และทำท่าจะถอดรองเท้าผมเลยต้องห้ามไว้ กลัวแกเสียเวลาถอดรองเท้าเข้าออก

"อ้อครับ แล้วให้ผมวางไว้ตรงไหนครับ"

"อ้อ วางไว้ตรงเคาน์เตอร์ครัวเลยคร้าบบบพี่ศัก"

"ครับ"

"วันนี้คุนจะทำซุปเสฉวนให้พี่แฟงกิน พี่แฟงชอบครับ"

"หรอ...ครับ"

แกร๊กๆๆ

"เสียงอะไรครับ" พี่ศักที่กำลังช่วยผมหยิบของออกมาจากถุงผ้าเอ่ยถามขึ้นเมื่อได้ยินเสียงอะไรตะกุกตะกักอยู่ในห้องนอน

"อ้อ สงสัยอันอันเล่นของเล่นอยู่ในห้องนอนละครับ" ผมหันไปตามเสียง ก่อนจะตอบอีกฝ่ายไปด้วยน้ำเสียงเรียบ

"คุณคุนอยู่คนเดียวหรอครับ"

"วันนี้มีคุนคนเดียวครับ พี่แฟงกลับมาดึกๆโน้นเลย ออกไปเตะบอลกับสองแฝดนะครับ"

"คุณแฟงอยู่กับคุณคุนที่ห้องนี้หรอครับ"

"ใช่ครับ พี่แฟงก็นอนกับคุณทุกคืนในห้องนอนใหญ่แหละครับ"

"..."

"พี่ศักชอบทานอะไรครับ เผื่อวันไหนคุนทำให้พี่แฟงทานจะได้เอาไปฝากพี่ศักด้วย"

"หึ"

"ว่ายังไงครับพี่ศัก"

"นี่มันนอนกับคุนทุกคืนเลยหรอ" สีหน้าของพี่ศักดูแปลกไป คนที่มักหัวเราะและยิ้มด้วยความอ่อนโยนให้คุนทุกครั้งที่เจอกลับแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าเย็นชาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

"เอ่อ หมายถึงพี่แฟงหรอครับ"

"ใช่ หรือว่ามีคนอื่นอีกหรอที่มานอนที่นี่"

"ก็มีนะครับ บางทีขุนพลกับกองทัพก็มา" ผมที่กำลังเก็บของเข้าตู้เย็นยืนหันหลังให้พี่ศักจู่ๆก็รู้สึกว่าน้ำเสียงของอีกคนดูหงุดหงิดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

"แรดจริงๆ"

"ฮะ? อะไรนะครับ คุนได้ยินไม่ค่อยถนัด"

"กูบอกว่ามึงแรดไง ไม่ได้ยินหรอ อ่อยผู้ชายไปทั่ว ทำไมมึงต้องมีคนอื่น มีกูคนเดียวไม่ได้รึไง"

"เอ่อ พี่ศักพูดอะไรนะครับ คุนไม่เข้าใจ" พี่ศักที่เมื่อครู่ยืนอยู่อีกฝั่งของครัว ตอนนี้กลับเดินเข้ามายืนอยู่ด้านหลังของผมแล้ว

หมับ!

"ร่านนักใช่มั้ย มึงนะ!" ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พี่ศักในตอนนี้แตกต่างจากคนที่ให้กล้วยทอดผมทุกเย็นราวกับคนละคน เขาคว้าข้อมือผมไว้แล้วก็บีบมันอย่างแรง

"พี่ศักทำอะไรครับเนี่ย"

"ก็ทำอย่างที่ผู้ชายคนอื่นทำกับมึงไง"

"พี่ศักปล่อยคุนนะคุนเจ็บ" เขาบีบข้อมือผมแน่น ก่อนจะดึงผมออกมาจากครัว ลากผมไปยังห้องนอนอย่างทุลักทุเลเพราะผมพยายามแกะมือเขาออก แล้วก็ขืนตัวเองไว้

"ไอ้แฟงก็หน้าด้านหน้าทน กูส่งของไปขู่มันมากมายมันไม่สนใจเลยสักนิด มึงคงลีลาเด็ดสินะ มันถึงไม่กลัวคำขู่ของกู"

"โอ้ย พี่ศัก คุนเจ็บ พี่เป็นคนสั่งพัสดุพวกนั้นมาหรอ"

"ใช่กูนี่แหละเป็นคนส่งมาให้มัน มึงไม่ต้องมาทำเป็นดิ้นเรียกร้องความสนใจกู อ่อยกูทุกวันแล้วยังจะไปอ่อยคนอื่นต่ออีกนะ ร่านจริงๆ" เขาลากผมมาถึงปลายเตียงแล้วโยนผมลงไปบนเตียงหนานุ่มในทันที ก่อนจะกระโดดตามขึ้นมา แล้วพ่นคำหยาบคายมากมายใส่ผมไม่หยุดหย่อน พี่ศักคนนี้ไม่ใช่คนที่ผมเคยพูดคุยด้วยเลยสักนิด เขาเปลี่ยนไปจนผมเองก็ตกใจพอสมควร

"คุนไปทำแบบนั้นตอนไหน พี่ศักปล่อยคุนนะ โอ้ย" ผมดิ้นไปมาจนเขาเอามือมาจับข้อเท้าผมทั้งสองข้างไว้

"ทำไมกูต้องปล่อย ผัวมึงไม่อยู่ก็มาเล่นสนุกกับกูหน่อยจะเป็นไรไป"

"ใครบอกมึงว่าผัวคุนไม่อยู่"
.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm


----++++-----
อึ๋ยยย ทุกคน มาจัดการไอ้โรคจิตกัน!!










หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 24 | 25.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 25-05-2020 00:02:22
 :pig4:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 24 | 25.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 25-05-2020 00:07:21
 :katai2-1:
มีคนได้ลาบเลือดแน่ อิอิ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 24 | 25.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 25-05-2020 12:31:57
ฆ่ามันเลย เอามันให้ตายไปเลย
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 24 | 25.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 25-05-2020 13:07:59
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 24 | 25.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: mylittleY ที่ 25-05-2020 19:44:47
คือมันดี บอกมันเลย ว่านี่เมียช้านนนน อย่ามายุ่ง!
 :hao7:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 22 | 23.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 25-05-2020 23:59:59
ชอบมาก สนุกมากครับ,,,
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 24 | 25.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 26-05-2020 06:33:32
 o22
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 25 | 26.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 26-05-2020 09:58:12
---ตอนที่ 25---


แฟง's part

"คุนไปทำแบบนั้นตอนไหน พี่ศักปล่อยคุนนะ โอ้ย"

"ทำไมกูต้องปล่อย ผัวมึงไม่อยู่ก็มาเล่นสนุกกับกูหน่อยจะเป็นไรไป"

"ใครบอกมึงว่าผัวคุนไม่อยู่"

ผมที่หลบอยู่หลังประตูห้องนอนตะโกนออกไปในทันทีที่ไอ้เ*ยรปภโรคจิตนั้นมันบอกจะลวนลามคุนคุนของผม ผมอยากจะออกไปกระทีบมันตั้งแต่มันตะโกนใส่คุนคุนอยู่ในครัวแล้วแต่ไอ้ทัพที่ยืนอยู่ข้างกันก็ห้ามผมไว้ก่อนเพราะถ้าออกไปตอนนี้มีหวังทุกอย่างที่เตรียมวางแผนมาคงคว้าน้ำเหลว ไอ้เ*ยกูบอกเลยว่าตอนนี้พร้อมบวกมาก

"มะ มึง มึงมาได้ไง" ไอ้เ*ยพี่ศักที่กำลังคร่อมคุนคุนนอยู่บนเตียงหันมาทางผมที่ยืนอยู่ปลายเตียงทันที สีหน้ามันดูตกใจเล็กน้อย แต่ก็ถูกรอยยิ้มโรคจิตของมันเข้ามาแทนที่ในวินาทีต่อมา เป็นรอยยิ้มที่ดูน่าขยะแขยงที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

"ออกมาจากตัวคนของกู!" ผมตะโกนออกไปอีกครั้งแต่ดูเหมือนว่าไอ้สันดานนั้นมันจะไม่สนใจฟังสิ่งที่ผมพูดแม้แต่น้อย นอกจากมันจะไม่ขยับไปไหนแล้ว มันยังจะก้มหน้าลงไปใกล้ๆซอกคอขาวๆของว่าที่เมียกูอีก ไอ้เ*ย! วอนตีนซะแล้ว!

"ทำไมวะ มีของดีก็แบ่งๆกันใช้ไม่ได้รึไง" สันดานทรามจริงๆเลยนะมึง

"แบ่งพ่องงงง! ของของกูทำไมต้องแบ่งใคร ไอ้เ*ย!!" ผมรีบพุ่งเข้าไปเตรียมจะกระชากมันให้ออกมาจากตัวคุนคุน แต่มือผมที่ยื่นไปกลับคว้าได้เพียงอากาศ เพราะจู่ๆร่างทุเรศๆของมันก็ถูกจับกดลงบนเตียง คอถูกล็อคไว้ขยับเขยื้อนไม่ได้ มือทั้งสองข้างถูกจับไปไขว้หลังไว้แล้วจับหัวกดลงบนเตียง เ*ดแม่! ว่าทีเมียกูเป็นโทนี่จาวะ!

"ผมบอกแล้วคุนคุนมันจัดการได้พี่ก็ไม่เชื่อ" กองทัพที่ยืนหลบอยู่หลังประตูห้องนอนเดินออกมา แล้วเอามือมาตบแปะๆที่ไหล่ของผมสองถามที ส่วนผมก็ยืนอ้าปากค้างอยู่แบบนั้น คือก่อนหน้านี้ไอ้สองแฝดมันบอกผมแล้วว่าคุนคุนนะเรียนวิชาการป้องกันตัวมาพอสมควร แล้วก็คงจะเอาตัวรอดกับสถานการณ์นี้ได้ ไม่ต้องให้ผมเป็นห่วง แต่จะให้ผมไว้ใจได้อย่างไงในเมื่ออีกคนตัวเล็กนิดเดียวจะให้ไปสู้แรงควายของผู้ชายตัวใหญ่ได้หรอ แล้วไอ้เ*ยโรคจิตนี่ก็ตัวไม่ต่างจากผมเลยสักนิด แฟนใครใครก็ห่วงป่าวครับถามหน่อยเถอะ ของแบบนี้มันจะนิ่งนอนใจได้อย่างไง ขนาดโลกิที่ว่าแน่ยังพลาดท่าเสียทีธานอสมาแล้ว จงอย่าได้ชะล่าใจ

"แค๊กๆๆ โอ้ย ปล่อยกู" คนที่ถูกจับกดไว้บนเตียงร้องโวยวายเมื่อเริ่มหายใจไม่ออก หน้าเริ่มไร้สีเพราะขาดอากาศหายใจ ว่าแต่ไอ้แก้มยุ้ยนี่ก็โหดไม่เบาเลยนะเนี่ย ถ้ากูทำไรผิดมามันจะหักคอกูมั้ยวะเนี่ย ตาย ตาย ตาย แววตายก่อนแก่มาแต่ไกลเลยกู

"คุนเจ็บตรงไหนรึเปล่า" ผมไม่สนใจไอ้สันดานเลวนั่น แต่หันไปถามคนตัวเล็กที่ล๊อคคอไอ้เลวนั่นอยู่

"คุนไม่เป็นไรครับ" คนตัวเล็กยิ้มตอบกลับมาจนตาหยี แถมยังยกนิ้วโป้งขึ้นมาเป็นสัญญาณว่าสบายมากกกก มึงมันน่ารักเกินบรรยายจริงๆเด็กชายคุนคุน

"เดี๋ยวพี่จัดการต่อเองคุน มึงมานี่ ไอ้เ*ย คิดจะเคลมคนของกูหรอ มึงมาเจอตีนกูหน่อยเป็นไง" ผมกระชากตัวไอ้เลวนั่นออกมาจากเตียง ลากมันลงมาตามพื้นจนมาถึงบริเวณทางเดินห้องนั่งเล่น คนที่หายใจติดขัดเมื่อครู่ดูเหมือนตอนนี้จะเริ่มกลับมาหายใจปกติแล้ว มันเงยหน้าขึ้นมาจ้องผม สายตาไม่ได้มีความสำนึกผิดอยู่ในนั้นเลยแม้แต่น้อย ขุนพลที่หลบอยู่ในห้องน้ำเดินตามออกมาพร้อมกับกองทัพและคุนคุนที่เดินบิดข้อมือตัวเองไปมา เพราะคนตัวเล็กจับข้อมือตัวเองทำให้ผมสังเกตเห็นว่าข้อมือสองข้างของเขาแดงเถือกเป็นรอยมือ

"เมียมึงมันอ่อยกูก่อน"

"ไอ้เ*ย คิดเองเออเอง" ขุนพลเดินมายืนข้างผม หน้าตามันจริงจังขึ้นกว่าเวลาปกติหลายเท่าตัว มันเอ่ยออกไปพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก แม้ปกติมันจะดูทำตัวไร้สาระลอยไปลายมาแต่ถ้าเป็นเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับคนที่มันให้ความสำคัญมันก็จะจริงจังขึ้นมาทันที คุนคุนก็คงจะเป็นหนึ่งในนั้น

"กูพูดเรื่องจริง มึงไม่เห็นมึงจะไปรู้ได้ไง ว่าเมียพวกมึงนะชอบมาอ่อยกูชิบหาย"

ปึก!

ผมทนไม่ได้ที่มันพูดจาไม่ให้เกียรติคุนคุนเลยฝากฝ่าเท้าไว้ที่หน้าอกมันไปหนึ่งที ไอ้ห่านี่พูดจาวอนส้นตีน

"พูดจาอะไรให้เกียรติคนของกูหน่อย คุนมันไปอ่อยมึงตอนไหน มึงมันโรคจิตคิดไปเอง"

"หึ พวกมึงมันโง่ ลับหลังพวกมึงมันอ่อยกูตลอดแหละ ยิ้มให้กู ซื้อของมาให้กู แถมยังชอบมาถูกเนื้อต้องตัวกูอีก"

"มึงนี่แม่งขี้มโนได้โล่เลยวะ คุนคุนก็แค่อัธยาศัยดีกับทุกคนปะวะ" กองทัพที่ยืนอยู่ไม่ไกลคงอดไม่ได้ถึงได้พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเหยียดๆ

"พวกมึงไม่เชื่อก็ช่าง แต่คุนเป็นของกู กูรู้จักคุนก่อนพวกมึง มันต้องเป็นของกูเท่านั้น กูรักของกูมาตั้งนาน น้องคุนของพี่ศัก" มันพยุงตัวเองขึ้นก่อนจะถลาตัวเข้ามาจะกอดคุนคุน แต่ถูกผมยันกองลงไปกับพื้นก่อน

"มันเป็นของกูของกูคนเดียว น้องคุนเมื่อคืนเรายังมีความสุขกันอยู่เลยจำไม่ได้หรอ" สายตาคนที่นอนกองอยู่บนพื้นเริ่มเลื่อนลอย แล้วก็พ่นคำพูดต่างๆนานาออกมา แต่สิ่งเหล่านั้นล้วนไม่ใช่ความจริงเลยสักนิด มันบอกว่ามันกับคุนคุนรักกันแล้วก็เป็นแฟนกันมานาน คุนบอกให้มันรอแล้วก็จะหนีตามมันไป ถุย ไอ้ขี้มโน แต่ดูจากลักษณะท่าทางไอ้สันดานเลวนี่คงจะมีปัญหาสุขภาพจิตพอสมควร เมื่ออีกฝ่ายพูดจาไม่รู้เรื่อง เราเลยจับมัดไว้กับโต๊ะกินข้าวรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจัดการดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ในระหว่างที่ถูกมัดมันกลับพูดจาลวนลามคุนคุนออกมาตลอดเวลาจนผมทนไม่ได้ ฝากรอยเท้าไปที่ตัวมันไปอีกสองสามรอย และแถมข้อมือเคล็ดให้อีกสองข้างโทษฐานที่ทำข้อมือว่าทีเมียกูแดงเถือกขนาดนั้น ไม่นานตำรวจก็มาและจับกุมตัวมันไปดำเนินคดี พร้อมกับคลิปเสียงที่เราแอบอัดกันไว้ตอนที่มันสารภาพว่าส่งพัสดุมาขู่ผมด้วย หลักฐานคาตาแบบนี้คงจะดิ้นไม่หลุด

"ตามตัวคนร้ายฟกช้ำพอสมควรเลยนะครับ" ตำรวจที่กำลังพาตัวไอ้เลวนั่นออกไปเอ่ยขึ้น

"อ้อ สงสัยสะดุดล้มชนขอบโต๊ะนะครับ" ผมตอบไปอย่างไม่ได้สนใจมากนัก เพราะรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาคงจะเห็น ก็ไอ้เลวนั่นมันพูดจาวอนส้นตีนไง ไม่ใช่แค่ผมที่ฝากรอยตีนไว้ ไอ้แฝดก็ฝากไว้พอสมควรเหมือนกัน ช่วยไม่ได้ปากหมาเอง เลือดกลบปากเพราะตีนไอ้ทัพ คิ้วแตกเพราะไอ้ขุนฝากหมัดไว้ คุณตำรวจก็เออออห่อหมกตามผมไปด้วยโดนที่ไม่ได้ทักท้วง ลุงณรงค์คงกำชับมาแล้วว่าให้จัดการให้เรียบร้อย อ้อ ลืมบอกไปครับว่าพ่อผมโทรหาเพื่อนที่เป็นนายตำรวจใหญ่ชื่อลุงณรงค์ให้ช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ แกเลยส่งลูกน้องมาจับกุมไอ้โรคจิตนี่ให้ ถ้าเป็นทีมอื่นเห็นรอยฝ่าตีนตามตัวมันพวกผมสามคนคงถูกเรียกไปรับข้อหาที่โรงพักแน่ๆ แต่ดีหน่อยที่คิดได้เลยโทรให้นิรันดร์จัดการให้เรื่องเลยง่ายดายแบบนี้

"อ้อ ครับ เดี๋ยวจะได้ลงบันทึกไว้ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"

"ขอบคุณมากครับ"

ไม่นานตำรวจสองนายกับผู้ต้องหาที่อยู่ในสภาพสะบักสะบอมก็ถูกพาตัวออกไปจากคอนโด สองแฝดขอตัวกลับไปที่ห้องของตัวเองด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก เพราะยังจัดการกับไอ้คนเ*ยปากดีได้ไม่สาสมแต่ตำรวจก็มาถึงเสียก่อน แฝดพี่นะไม่เท่าไหร่หรอกเพราะมันเป็นคนเก็บอารมณ์อยู่แล้ว แต่ไอ้คนน้องนี่สิอย่าให้เซดหน้านี้มุ่ยเป็นตูดหมึกเลยตอนเดินออกจากห้องไป

.
.
.
.

24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น

"เอาช๊อตนี้ลงด้วย"

"ไม่เอา คุนอายเค้า หน้าคุนแดงแจ๋เลยครับพี่แฟง"

"กูบอกให้เอาลงก็เอาลงเถอะน่า อย่าเถียง มึงน่ารักจะตาย เชื่อกู"

ไอ้ตัวนุ่มนิ่มนั่งเบะปากแต่ก็ยอมทำตามที่ผมบอก เราถ่ายคลิปล่าสุดสำหรับลงคุนคุน ชาแนล แล้วตอนนี้เด็กดื้อปากแบะคนนี้ก็กำลังตัดต่อคลิปอยู่ สาเหตุที่นั่งคว่ำปากเป็นตูดแบบนี้เพราะผมให้เอาฉากตอนที่ผมเดินมาหอมหัวมันตอนที่มันป้อนขนมอันอันลงในคลิปด้วย คลิปนี้ไม่ใช่คลิปออกกำลังกายหรือทำอาหาร แต่คอนเทนต์ของมันคือ One Day with AnAn หรือตามติดชีวิตหนึ่งวันของอันอัน เห็นแฟนคลับเขียนมาขอให้ทำคอนเทนต์ของไอ้แมวยักษ์จอมขี้เกียจที่นอนอืดอยู่ใต้โซฟานี้ได้สักพักแล้วเลยทำตามใจแฟนคลับเสียหน่อย แต่นั่นก็ไม่ใช่สาเหตุหลักของการทำคลิปวันนี้ เพราะสาเหตุจริงๆมันคือการล่อคนโรคจิตให้เข้ามาติดกับต่างหาก การถ่ายคลิปครั้งนี้ไม่ใช่ผมหรือคุนคุนที่ผลัดกันถ่ายเหมือนทุกครั้ง แต่เป็นขุนพลกับกองทัพที่มาช่วยถ่ายให้ มีหลายช๊อตที่เกิดขึ้นเพราะเราจงใจให้เป็นแบบนั้น ทั้งช๊อตหอมหัว ช๊อตคุนถอยหลังมาชนผมแล้วผมสวมกอดจากทางด้านหลัง ช๊อตเช็ดคุ้กกี้ออกจากมุมมาก ตามมาด้วยช๊อตอื่นๆอีกมากมายที่ทำให้คนดูมองออกว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน
ถามว่าทำไมผมถึงมั่นใจว่าไอ้โรคจิตที่ตามรังความส่งพัสดุมาให้ผมคือพี่ศักนะหรอ เพราะวันที่ผมไปตัดผม ขากลับผมบังเอิญช่วยพี่ศักหยิบกระดาษลงบันทึกเวรที่มันเขียนด้วยลายมือมันหราบนหน้ากระดาษ มันคือลายมือเดียวกันกับบนกล่องพัสดุอุบาทๆของผม และบนกล่องขนมที่คุนคุนได้รับทุกอาทิตย์ แถมสายตาที่มันมองผมยังดูไม่เป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัดเลยด้วย แค่นี้ก็พอจับต้นชนปลายได้แล้ว

ผู้ต้องสงสัยรายที่สาม รปภ คือ ไอ้โรคจิตตัวจริง


หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านั้น

ขุนพลส่งข้อความมาว่าเป้าหมายกำลังจะกลับบ้านแล้ว

"พร้อมมั้ย" ผมกุมมือคุนคุนที่ยืนอยู่ข้างกันในลิฟต์ไว้

"คร้าบผม"

"กลัวรึเปล่า"

"สบ๊ายยย เรื่องน่าสนุกแบบนี้คุนชอบอยู่แล้ว"

"ระวังตัวด้วย เป็นห่วง แล้วโทรศัพท์นี้ห้ามกดวางนะกูจะได้ฟังเสียงมึงได้ตลอดเผื่อไอ้เลวนั่นมันทำอะไรมึงคุนคุน" ผมจับโทรศัพท์ของคุนคุนที่ตอนนี้ต่อสายเข้ากับเครื่องผมอยู่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงคนตัวเล็ก

"คร้าบผม พี่แฟงเชื่อมือคุน คุนเอาอยู่"

"อย่าทำเป็นเรื่องสนุกเข้าใจมั้ย ระวังตัว กูไม่อยากให้มึงเป็นอันตราย กูเป็นห่วง แล้วนี่อะไรติดแก้มเนี่ย แอบไปกินคุ้กกี้มาอีกแล้วหรอ เดี๋ยวกูกลับมานะจะเอาไปทิ้งให้หมดเลย เอามาจากไหนนักหนาวะไอ้คุ้กกี้เนี่ย" ผมยื่นมือไปเช็ดเศษคุ้กกี้ที่ติดอยู่างแก้มเด็กดื้ออก นี่คงจะไปแอบหยิบกินคุ้กกี้ก่อนออกมาจากห้องแน่ๆ

"แงงง" เป็นแบบนี้ทุกทีเวลาถูกจับได้ เบะปาก ทำเสียงงอแง น่าฟัดให้จมเตียงเป็นที่สุด

"อยู่นิ่งๆ ทำไมปากมึงแดงจังวะ แล้วก็เลิกทำได้แล้วไอ้ปากแบะๆเนี่ย" พอโดนดุเข้าหน่อยก็ยิ่งเบะปากมากขึ้น แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ปากเบะๆของมันไง ปัญหามันอยู่ที่ริมฝีปากแดงๆของมันต่างหาก แรกๆตอนเห็นมันเบะปากทำตาปริบๆนะ พอมันขออะไรอ้อนอะไรก็ตามใจหมด แต่คือตอนนี้ผมเริ่มมีภูมิต้านทานลูกอ้อนของไอ้เด็กนุ่มนิ่มนี่แล้ว เลยไม่ตามใจมันมากเหมือนเมื่อก่อน

"ไม่รู้ อื้อออ" ไอ้ตัวเล็กอ้าปากทำท่าจะพูดอะไรสักอย่างแต่ริมฝีปากมันยั่วยวนผมจนทนไม่ไว้ต้องเชยคางมันขึ้นมาแล้วประทับริมฝีปากตัวเองลงไปกับปากแดงระเรื่อทันที พร้อมกับโอบเอวอีกคนดึงเข้ามาใกล้ตัว นี่ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในลิฟต์นะจะยกมันขึ้นเป็นลิงอุ้มแตงเลยคอยดู ในลิฟต์กูก็โนสนโนแคร์อะบอกไว้เลย ที่ตกลงกันตามแผนคือผมกับคุนลงลิฟต์มาแล้วผมก็หอมแก้มคุนให้ไอ้รปภโรคจิตนั่นเห็น แต่ตอนนี้ดูเหมือนทุกอย่างจะเลยเถิดไปพอสมควร ผมจมอยู่กับริมฝีปากเล็กแดงระเรื่อนี้จนถอนตัวไม่ขึ้น

ตึ้ง!

"เอ่อ..."

เสียงประตูลิฟต์เปิดไอ้เด็กดื้อสะกิดผมตรงเอวเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าเป้าหมายยืนอยู่ด้านนอก จริงๆผมควรจะผละริมฝีปากออกจากคุนคุนได้แล้ว แต่ไม่รู้เพราะอะไรผมถึงยังดูดเล็มริมฝีปากคนตัวเล็กต่ออีกสักพัก อาจจะเป็นเพราะอยากเติมเชื้อเพลิงให้แผนการครั้งนี้ หรืออาจจะเป็นเพราะผมต้องการบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าคุณคุณนะเป็นของผม แต่พอคนตัวเล็กเริ่มหน้าแดงหูแดงผมก็ผละออกทันที สงสารมันคงจะอายน่าดู

"เอ่อ ขอโทษครับ" เสียงเป้าหมายที่ยืนอยู่หน้าลิฟต์ดังขึ้น ผมถอนหายใจเสียงดังเพื่อให้คนที่อยู่ด้านนอกคิดว่าผมไม่พอใจที่อีกฝ่ายมาขัดจังหวะเวลาสวีทของผมกับคุนคุน ผมเอี้ยวตัวเดินออกมาจากลิฟต์เพื่อหันมาเผชิญกับเป้าหมาย เอาจริงๆ คือเห็นหน้ามันแล้วคันฝ่าตีนวะ แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ก่อน ทำได้แค่เอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มไปพรางๆ ผมเอ่ยทักพี่ศักพร้อมกับคว้าข้อมือคนตัวเล็กให้เดินออกมาจากลิฟต์ด้ายกัน

"สวัสดีครับพี่ศัก" หน้าไอ้พี่ศักแม่งโคตรเหวอ แต่ผมแอบเห็นเหอะว่ามันกำมือแน่นเชียว

แต่การแสดงละครมันยังไม่จบแค่นี้ไง ผมเดินโอบเอวคุนคุนมาที่หน้าประตูคอนโดส่วนพี่ศักมันก็ยืนมองผมสองคนอยู่หน้าลิฟต์ ทุกบทสนทนาของเราผมตั้งใจพูดให้เสียงดังเพื่ออีกฝ่ายจะได้ยิน และมันก็เป็นไปตามแผน ไอ้พี่ศักยืนมองมาทางผมกับคุนคุนด้วยสีหน้าหลายหลายอารมณ์ ผมก้มลงกระซิบข้างหูคุนคุน ก่อนจะเดินไปขึ้นรถขุนพลที่จอดรออยู่แล้วหน้าคอนโด

"ระวังตัวด้วย"

"ครับพี่แฟง"

"ห้ามให้สร้อยเส้นนี้หลุดออกจากตัว" ผมกำชับคนตัวเล็ก เพราะถ้าทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนแล้วไอ้พี่ศักพาคุนคุนไปที่อื่นอย่างน้อยผมก็ยังใช้สัญญาณจากเครื่องติดตามในจี้ตามคุนคุนไปได้

"ครับ"

หลังจากที่ผมนั่งรถขุนพลออกไป เราก็น้อนกลับเข้ามมาที่คอนโดอีกครั้ง ซ่อนตัวอยู่ในห้องนอนรอจนเป้าหมายเข้ามาในห้อง แต่ก็เกือบแผนแตกเมื่อผมกับไอ้กองทัพเบียดกันจนแขนเผลอไปชนกับประตูห้องนอนเข้า โชคดีที่คุนคุนไหวตัวทันบอกว่าเป็นเสียงอันอัน ทั้งๆที่อันอันตัวจริงตอนนี้ถูกเอาไปเก็บไว้ในห้องนอนเล็กแล้ว

ปัจจุบัน

"ข้อมือแดงมากเลย มึงเจ็บมั้ยเนี่ยคุน" ผมคว้าข้อมือคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างกันบนโซฟาขึ้นมาดูใกล้ๆ

"ไม่เจ็บเลยครับ"

"กลัวรึเปล่า"

"หื่อ ตื่นเต้นดี คุนชอบ"

"มันใช่เรื่องที่จะมาชอบมั้ย มึงควรจะกลัวมากกว่า"

"คุนจะกลัวทำไม มีพี่แฟงอยู่ด้วยทั้งคน"

"เชื่อใจกูขนาดนั้นเลยรึไง"

"เชื่อครับ คุนเชื่อว่าพี่แฟงต้องไม่ปล่อยให้คุณเป็นอันตรายแน่ๆ"

"พูดขนาดนี้ถึงวันนี้มึงไม่ยินยอม กูก็คงต้องยอมติกคุกแล้ววะ มึงมันน่ารักเกินห้ามใจจริงๆ" ผมอุ้มคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างกันขึ้นมานั่งบนตัก กดจมูกหนาของตัวเองลงไปบนหน้าท้องขาวๆของอีกคนเหมือนที่เคยทำประจำ

"ขนาดนั้นเลยหรอครับ"

"เออ ขนาดนั้นแหละ จำคุกกี่ปีนะถ้าอีกฝ่ายไม่ยินยอมอะ" จมูกก็เลื่อนไล้ไปตามหน้าท้องขาวนุ่มนุ่มพรางสูดกลิ่นหอมอ่อนๆประจำกายของอีกคนไปด้วย

"โทษจำคุก 4-20 ปี ปรับ 80,000-400,000 บาท"

"ได้ เดี๋ยวกูโทรบอกนิรันดร์ให้เตรียมค่าปรับพร้อมกับโอเลี้ยงไว้ให้กูตอนนี้เลย"

"ยังไม่หมดแค่นี้นะครับ"

"อะไรอีก"

"ถ้าผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายสาหัส พี่จะต้องถูกจำคุก 15-20 ปี ปรับ 300,000-400,000 บาท"

"พูดแบบนี้อยากเจ็บสาหัสรึไง หืม"

"คริคริ"

"มึงมันร้าย"

ตัดจบกล้องแพลนไปที่โคมไฟบนเพดาน!

.
.
.



#คุนแฟง

by ppeachmm
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 25 | 26.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: mylittleY ที่ 26-05-2020 19:23:41
เฮียแฟงหล่ออะตอนนี้
แล้วก็อยากอ่านเรื่องตอนตัดเข้าโคมไฟคะไรท์
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 25 | 26.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 26-05-2020 19:31:46
 :hao6:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 25 | 26.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 26-05-2020 19:44:34
คุณๆสายอ่อยมาก
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 25 | 26.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 26-05-2020 23:23:09
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 25 | 26.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 26-05-2020 23:38:37
จับได้แล้ว โรคจิต,,,
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 26| 27.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 27-05-2020 08:00:14
---ตอนที่ 26---

แฟง's part

"ต้องไปจริงๆหรอ" ผมกดส่งงานผ่านอีเมลล์เสร็จก็คว่ำหน้าไอแพดลงบนโซฟาก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับเจ้าของกลิ่นหอมอ่อนๆที่ลอยมาเตะจมูกผมตลอดเวลาหนึ่งชั่วโมงที่ผมนั่งทำงานส่งอาจารย์อยู่บนโซฟาตัวยาวนี้ มันคือการทดความความอดทนขั้นสูง ที่คนภูมิต้านทานต่ำคงทนได้ไม่ถึงสิบนาทีด้วย แต่ผมมันเทพไง ทนไม่ได้ตั้งแต่หนึ่ฃนาทีแรก ผ่าม! ไร้สาระชิบหายตัดภาพข้ามไปเลย

"อะฮะ" คนตัวเล็กที่นอนเอาหัวเกยตักผม ในมือถือโทรศัพท์หน้าจอแสดงให้เห็นว่ากำลังคุยกับปาป๊าที่อยู่ไกลถึงกรุงปักกิ่งประเทศจีน ในหน้าจอแชทแสดงตัวหนังสือจีนเด่นหราเต็มหน้าจอ จะขอเสือกอ่านหน่อยก็อ่านไม่ออกอีก อยากรู้ว่าคุยอะไรกันนักหนา คุยไปหัวเราะไป ไอ้ตัวนุ่มนิ่มนี่มันโคตรของโคตรของความน่ารักอะบอกไว้เลย คิดดูเอาเองละกันว่าผมอะอยากเสือกมากแค่ไหนจนต้องไปลงคอร์สเรียนภาษาจีนออนไลน์อะ จริงจังแต่ไหนเรียกจริงจัง นายลภัสไม่ได้มาเล่นๆ!

"อย่าไปเลย" คุนคุนจะกลับปักกิ่งคืนพรุ่งนี้ครับ แล้วผมก็ไม่อยากให้มันกลับ อ้อนมันมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแล้ว แต่มันก็ไม่ใจอ่อน จริงๆก็เข้าใจมันแหละถ้าเป็นผมผมก็คงต้องกลับเหมือนกัน พ่อแม่ก็คงคิดถึงผมเหมือนที่ม๊ากับป๊ามันคิดถึงมันนั่นแหละ ก็ไม่มีไรมากแค่งอแงงไปตามประสาคนติดเมียแหละครับ เข้าใจความรู้สึกไอ้นาทีเลยตอนที่มายด์เวย์กลับบ้านไปหาพ่อแม่ที่ภูเก็ต มันนี่นั่งหน้าหงอยแล้วหงอยอีก บางทีก็มาสิงอยู่ห้องผมเป็นวันๆ เคยด่ามันว่าอ่อน กล้องแพลนกลับมาหากูตอนนี้คืออ่อนเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน แบบนี้เองสินะที่เขาเรียกว่าติดเมียอะ เดี๋ยวนี้เรียกเมียได้เต็มปากเต็มคำแล้วนะครับ เพราะเราสองคนฮึ่มฮ่ำกันไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่กล้องแพลนตัดไปที่โคมไฟบนเพดาน เชี่ยยย ฟินโคตร ที่เหลือขอไม่เล่านะ มันเป็นเรื่องส่วนตั๊วส่วนตัว ไม่ควรเอามาตีแผ่ เดี๋ยวเมียเด็กน้อยขี้อายจะงอนเอา อดฮึ่มฮ่ำขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ

"ไม่ได้หรอกครับ สนามบินเปิดแล้ว หมาม๊ากับปาป๊าคิดถึงคุน คุนต้องกลับบ้าน"

"แต่กูก็คิดถึงมึงเหมือนกัน" นิรันดร์สอนมาว่าให้ตื๊อเข้าไว้ ได้ไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที

"พี่แฟงไม่มีเวลาคิดถึงคุนหรอพี่แฟงต้องไปเรียนทุกวัน แต่ถ้าคิดถึงคุนก็คอลหาคุนได้ตลอดเวลา" เชี่ยมันพูดถูกวะ ตอนนี้เรียนมันแม่งทุกวัน จันทร์ถึงเสาร์ ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตกกูยังไม่ได้โผล่หัวออกจากโรงพยาบาล กินในโรงพยาบาล เรียนในโรงพยาบาล ขี้เยี่ยวในโรงพยาบาล ประหนึ่งเหมือนผู้ป่วย ต่างกันตรงที่กูใส่ชุดกาวน์สีขาวยาวๆ มองไกลๆนึกว่าช่างตัดผม อ้าว ด่าตัวเองเข้าไป

"แต่กูไม่มีคนกอดตอนนอนกูนอนไม่หลับ" ถึงจะอยู่ในโรงพยาบาลแทบทั้งวัน แต่กลางคืนผมก็ยังได้กลับมากอดไอ้ตัวนุ่มนิ่มนอนทุกคืนไงครับ กอดอะไรก็ไม่อุ่นเท่ากอดเมีย ต้องเอาไออุ่นจากอ้อมแขนเราเข้าล่อ เผื่อมันจะเห็นใจร่นระยะเวลาอยู่ในอ้อมกอดพ่อแม่เจียดมาให้กูบ้าง

"กอดหมอนข้างไปก่อนนะ" โว้ย! ดับฝันกูซะงั้น

"ไม่เอามันไม่อุ่น" ถ้าลูกอ้อนไม่เวิร์คก็ต้องใช้ลูกแถ แถไปจนสีข้างถลกกันไปข้างหนึ่งเลย อันนี้นิรันดร์ก็ย้ำมาเหมือนกัน

"งั้นกอดอันอันสิ" มันไม่เล่นด้วยวะ

"ไม่เอาเดี๋ยวมันแ*กหัวกู ตอนนี้มันตัวจะเท่ามึงแล้วเนี่ย ให้มึงให้มันแ*กเยอะเกิน"

"เอางี้แล้วกัน เดี๋ยวคุนให้กองทัพกับขุนพลสลับกันมานอนให้พี่กอดดีมั้ยครับ"

"เชี่ยยยย ไม่เอา ฟ้าผ่าตายพอดี" แค่คิดก็สยองนอนไม่หลับไปสามวันสามคืน ถ้าขืนตื่นมาแล้วเจอไอ้สองแฝดนั้นมาอยู่ในอ้อมกอดมีหวังได้ตาค้างไปขึ้นวอร์ดแน่ๆ เชี่ย ขนแขนสแตนอัพ!

"ฮ่าๆๆๆๆ"

"ไม่ต้องมาขำเลย มึงไม่คิดถึงกูบ้างรึไง ฮือๆๆ" ไอ้คุนแม่งนับวันยิ่งต่อรองเก่ง กูต้องเล่นใหญ่ไฟกระพริบเข้าไว้ เดินมาไกลแล้วลภัสถอยไม่ได้ บีบน้ำตาแม่งเลย! น้ำตาลูกผู้ชายที่สะสมมายี่สิบปีกูบีบมาใช้ให้หมดในวันนี้แหละ

"คุนไปแค่สามอาทิตย์เอง เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว" แต่มันไม่หลงกลกูอะ ดูดน้ำตากลับคืนแทบไม่ทัน

"มึงควรจะเปลี่ยนประโยคใหม่นะคุน ต้องบอกว่าไปตั้งสามอาทิตย์ ไม่ใช่แค่สามอาทิตย์ มันนานนะเว้ย กูใจขาดตายพอดี ไม่มีคนกอด ไม่มีคนให้เอา" อันหลังนี่สำคัญนะโว้ย ขาดเธอเหมือนขาดใจ ขาดเมียที่รู้ใจเอายังไงก็ไม่มัน ผ่าม!

"ทะลึ่ง คิดถึงแต่เรื่องอย่างว่าตลอดเวลา" เออ กูคิดตลอดแหละ ยอมรับมันตรงนี้เลย

"อ้าว กูก็ผู้ชายห่ามๆหื่นๆคนหนึ่งบนโลกใบนี้เท่านั้นเอง ไม่ใช่เสาไฟฟ้าไร้ความรู้สึกนะเว้ย"

"อะไรกันเล่า งั้นพี่ก็ทำเหมือนที่เคยทำก่อนมารังแกคุนสิ" ดูคำพูดคำจา เออ กูยอมรับว่ากูรังแกมึง แต่ตอนจบของเรื่องมึงก็ฟินพอๆกับกูแหละว้าาา เชี่ย แค่คิดก็ฟุ้งซ่านไปไกล เฮ้อ ฮึ่มฮ่ำฮึ่มฮ่ำ ยุบหนอ พองหนอ

"ไม่เอา กูลาขาดแล้วนิ้วน้องนางทั้งห้าอะ กูใส่ซองยัดเข้าจรวดส่งไปนอกอวกาศแล้วด้วย" อันนี้พูดจริงนะ ได้แต่ได้ฮึ่มฮ่ำกันวันนั้นนี่กูลืมนิ้วนางทั้งห้าไปเลย แม่งอารมณ์แบบเฉดหัวเมียหลวงแก่ๆออกจากบ้านหลังพาเมียน้อยวัยคราวลูกเข้าบ้านอะ 

"งั้นคุนก็ต้องเสียใจด้วยนะครับ เพราะพี่ต้องนอนปวดหนึบไปคนเดียวสามอาทิตย์"

"คู้นนนน ไม่เอาแบบนั้นสิ ไปสองวันไม่ได้หรอ"

"จะบ้าหรอพี่แฟง แบบนั้นหม่าม๊าตีคุนตูดลายกันพอดี ถ้าทำจริงคราวนี้คุนคงอดได้ค่าขนมจริงๆแน่ๆ"

"ไม่เป็นไรกูเลี้ยงมึงได้ เอาไปเลยกระเป๋าตังกู อะ" ผมเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าสตางค์ที่วางอยู่บนโต๊ะกลางหน้าทีวีมายัดใส่มือเล็กๆของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักตอนนี้ ลูกอ้อนไม่รอด ลูกแถไม่เวิร์ค บีบน้ำตาไม่เนียน ก็ต้องเอาเงินนิรันดร์มาเปย์แล้วละ ว่าแต่กูมีเงินสดอยู่เม่าไหร่วะ วันก่อนถอนมาสามพัน ซื้อของในซุปเปอร์ไปสองพัน จ่ายค่าแกร๊ปไปอีกสามร้อยกว่า จ่ายค่าของชอปปี้ให้ขุนพลไปสองร้อยกว่า อ้าวชิบหายเหลือสี่ร้อยกว่าบาท

"คุนกินจุนะ" นั่นไง สี่ร้อยจะพออะไร

"ไม่เป็นไรกูเลี้ยงไหวละกัน เมียทั้งคน" เงินสดไม่มีไม่เป็นไร เงินในบัญชีกูมีเพียบ บัตรเครดิตนิรันดร์อีกสามใบ เลี้ยงได้สบ๊ายยยย

"อวดรวย"

"ไม่ได้อวดรวยจริง"

"พี่ไม่ได้รวยซะหน่อย พี่รันต่างหากที่รวย"

"ก็เหมือนกันแหละ สมบัตินิรันดร์ก็สมบัติกู กูยักยอกเงินนิรันดร์มาให้มึงได้นะบอกไว้เลย"

"คุนจะฟ้องพี่รัน" ไอ้คนตัวเล็กที่นอนเถียงผมฉอดๆลุกขึ้นมานั่งบนโซฟา เลื่อนหน้าขาวๆแก้มยุ้ยๆของมันเข้ามาใกล้

ปากแดงๆขยับไปมา ใกล้เข้ามาเรื่อยย เวร หูกูดับเฉยเลย

"คุน"

 เชี่ย มันมาอีกแล้ว

"ครับ"

ไอ้อารมณ์ฮึ่มฮ่ำตัดภาพไปที่โคมไฟอะ มันมาอีกแล้ว

"ขอรอบนึงดิ"

"อะไร ไม่เอาแล้ว เมื่อเช้าก็ทำไปแล้ว"

"ก็ทำเก็บไว้ไง เหมือนอูฐเก็บน้ำไว้ใช้กลางทะเลทรายอะ"

"เดี๋ยวนี้เป็นอูฐแล้วหรอ"

"กูเป็นได้หมดทุกอย่างแหละที่มึงอยากให้กูเป็นอะ แต่ตอนนี้มาให้กูเก็บสะสมน้ำไว้ใช้อีกสามอาทิตย์ก่อน"

"อื้ออออ ไม่เอาาาาา"

ตัดภาพไปที่โคมไฟ!
.
.
.
.
.
.

"คุน ลุกมากินข้าวก่อน"

"อื้อออ ไม่เอาคุนจะนอน"

"ตัวรุมๆนะเนี่ย ไม่สบายหรือปวดเนื้อตัวตรงไหนรึเปล่า"

"อื้อ คุนสบายดี ไม่ปวดตรงไหน คุนแค่จะนอน คุนง่วง"

"ลุกมากินข้าวก่อนดีมั้ย"

"ไม่เอาาาา คุนง่วง"

"ก็กินข้าวเสร็จก่อน แล้วค่อยนอน คราวนี้มึงจะนอนไปถึงพรุ่งนี้เช้าเลยก็ได้"

"คนที่ทำให้คุนไม่ได้นอนไม่มีสิทธิ์มาต่อรองแบบนี้นะ" ก้อนขาวๆที่นอนเปลือยหลังอยู่บนเตียง ดึงผ้าห่มที่หล่นลงไปอยู่เหนือสะโพกขึ้นมาคลุมไปถึงหัว ก่อนส่งเสียงโวยวายอะไรบางอย่างลอดผ่านผ้าห่มมา

"ขอโทษ"

"ไม่รับคำขอโทษหรอก ชอบรังแกคุณอยู่เรื่อย"

"รังแกที่ไหน มึงไม่ใช่รึไงร้องเอาอีกเมื่อกี้อะ"

"โอ้ยย"

"งือๆๆๆ พี่แฟงเอาแต่แกล้งคุน"

หมอนกระเด็นครับ แต่คนโยนหมอนนี่มุดหน้าเข้าไปซ่อนในผ้าห่มแล้วก็งอแงเรียบร้อยโรงเรียนจีนไปแล้ว

"โอ๋ๆ ไม่แกล้งแล้ว ไม่กินก็ไม่กิน จะนอนใช่มั้ย งั้นนอนเลย มานี่พี่กอด โอ๋ไม่งอแงนะ" สรุปคืนนั้นไม่มีใครได้แ*กข้าว ไอ้แก้มยุ้ยก็งอแงไปตามท้องเรื่องจนถึงสายวันต่อมา
.
.
.
.

สนามบิน

เด็กดื้อคนที่ทำปากดีเมื่อสองวันก่อน ลั่นวาจาว่าจะกลับปักกิ่งทั้งๆที่ผมอ้อนวอนว่าไม่ให้กลับ คนที่บอกให้ผมนอนกอดหมอนข้างไปเป็นเวลาสามอาทิตย์ ตอนนี้ยืนน้ำตาซึมอยู่หน้าทางเข้าจุดตรวจหนังสือเดินทาง

"พี่แฟง" ดวงตาใสๆทั้งสองข้างตอนนี้คลอไปด้วยน้ำใสๆ จนเอ่อล้นออกมาทางหางตาย คุนเอ้ย ใจกูจะขาดมันตรงนี้เลย

"อะไร ไม่ต้องมาทำหน้าหงอยน้ำตาซึมเลย ไปได้แล้ว" ปากนี่บ่นออกไป แต่ใจนี่หล่นวูบไปอยู่ตาตุ่มแล้ว เห็นแล้วก็สงสาร อยากหิ้วกลับบ้านตอนนี้เลย แต่ทำไม่ได้

"กอดก่อน" คนตัวเล็กที่มือถือหนังสือเดินทางกับบอร์ดดิ้งพาสอยู่โผลเข้ามากอดมาอย่างแรงจนผมเซไปด้านหลังด้วยไม่ทันได้ตั้งตัว

"ไม่งอแง อยากไปเองไม่ใช่รึไง หืม" ผมเลื่อนมือหนาของตัวเองขึ้นไปวางบนหัวของคนตัวเล็กก่อนจะขยี้มือเบาๆเพื่อปลอบใจ แต่ดูเหมือนว่าจะคิดผิด แทนที่จะปลอบใจอีกฝ่ายกลับร้องไห้โฮออกมา

"อือ แต่ไม่รู้ทำไมพอจะไปแล้วกลับคิดถึงคนนี้ ฮือๆๆ"

"พูดแบบนี้แสดงว่าไม่อยากกลับแล้วใช่มั้ยปักกิ่งอะ กูบอกเลยนะว่ากูอุ้มมึงกลับคอนโดตอนนี้เลยยังได้นะคุน"

"ปะไปกัน ฮือๆๆ"

"เอ้ย ไม่ได้สิ ป๊าม๊ารออยู่ โอ๋ๆ อย่าร้องสิเด็กดี เดี๋ยวอีกสามอาทิตย์ก็เจอกันแล้ว สามอาทิตย์เองไม่นานหรอก ใครน้าพูดแบบนี้" ผมกอดคนตัวเล็กแน่นขึ้น เสียงร้องไห้ของอีกคนจมหายไปกับเสื้อยืดสีดำของผม เสียงสะอึกสะอื้นของคนตัวเล็กทำหัวใจผมกระตุกเต้นไม่เป็นจังหวะ

"ฮึก ฮือๆๆ คุนพูดเอง แต่ตอนนี้คุนคิดถึงพี่แฟงจัง"

"ยังไม่ได้ไปเลย จะมาคิดถึงทำไม ไม่เอานะไม่ร้องนะเด็กดี"

"ฮึกฮือๆๆ ก็คิดถึงจะให้ทำไง กลับกันเถอะนะ คุนไม่ขึ้นเครื่องแล้ว"

"คุนไม่เอา ไม่ทำแบบนี้ เดี๋ยวป๊ากับม๊าเสียใจนะ ไม่งอแง คิดถึงก็คอลมา สัญญาว่าจะรับสายตลอด เรียนอยู่ก็จะออกมารับ ตรวจคนไข้อยู่ก็จะแอบคุยใต้โต๊ะ อาบน้ำอยู่ก็จะเปิดวีดีโอโชว์งูเลย เป็นไงดีมั้ย โอ้ย" แม้ใจจริงจะอยากอุ้มอีกคนยัดเข้าไปในรถแล้วขับกลับคอนโดมากแค่ไหน แต่ก็ต้องห้ามใจไว้

"ทะลึ่ง"

"มานี่พี่เช็ดน้ำตาให้ แล้วก็ไม่ต้องร้องแล้วนะรู้มั้ย" ผมผละคนตัวเล็กออกก่อนที่ตัวเองจะย่อตัวลงไปเอานิ้วโป้งปาดน้ำตาออกจากแก้มทั้งสองข้างของอีกฝ่าย เชี่ยเอ้ย ใจกูเหลวไปหมด

"ครับ ฮือๆ"

"ฮึบก่อนเร็วคนเก่ง"

"ฮือๆๆ ฮึบ ฮึบ"

"ดีมาก"

"ถึงแล้วก็ไลน์มาบอกด้วย พี่จะได้สบายใจ แล้วก็หมั่นล้างมือด้วยแอลกอฮอล์บ่อยๆ แมสนี่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องถอด"

"ครับ"

"ไปได้แล้ว ชักช้าเดี๋ยวหิ้วกลับคอนโดเลย"

"โอเคครับ บ๊ายๆ อย่าลืมคิดถึงน้องคุนด้วยนะ"

"หึ ไม่ลืมหรอก ยังไม่ไปพี่ก็คิดถึงคุนแล้ว"

"คุนก็เหมือนกัน"

"รีบกลับมาหาพี่นะคุน"

"คุนจะกลับพรุ่งนี้เลย"

"อย่าน่ารักให้มันมาก ไปได้แล้ว"

คนตัวเล็กหันหลังให้ผมก่อนเดินเข้าไปในส่วนตรวจพาสปอร์ต มีหันหลังกลับมาผมแล้วโบกมือให้บ้าง ส่วนผมก็ยืนมองแผ่นหลังเล็กๆนั้นห่างออกไปเรื่อยๆ ทำให้เห็นว่าอีกคนยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาเป็นระยะ เห็นแล้วก็สงสารจับใจ ทั้งสงสารคนตรงนั้น แล้วก็สงสารตัวเองด้วย กูจะอยู่อย่างไงโดยไร้คนกอดสามอาทิตย์ เชี่ย กูจะนอนหลับได้มั้ยเนี่ยคุนคุนมันวางยากูไว้ขนาดนี้ เฮ้อ นี่กูมาถึงจุดนี้ได้ยังไงวะเนี่ย ไอ้แฟงคนห่ามหายไปไหนแล้ววะเนี่ย ถ้าพูดให้นิรันดร์ฟังนิรันดร์จะเชื่อกูรึเปล่าวะ หรือจะหาว่ากูบ้า

"อ่อน" เสียงทุ้มของเพื่อนสนิทของผมดังขึ้นทันทีที่คนตัวเล็กหายเข้าไปด้านใน นาทีติดรถผมมาสนามบินด้วยเพราะมันเอารถไปเข้าศูนย์ แล้วมายด์เวย์ก็ไม่มีเรียนวันนี้ เช้านี้เลยได้สัมภเวสีตามติดมาหนึ่งตัว

"เออ ยอมรับ"

"ฮะๆๆๆๆ กูนับถือน้องถั่วงอกจริงๆเลยวะที่ทำให้คนอย่างมึงมายืนน้ำตาซึมแบบนี้ ทำไมวะ คิดถึงเค้าอ๋อตัวเอง~" เชี่ยกูเกลียดเสียงตอแหลของมึงจริงๆ

"อย่าเหยียบย่ำ" ได้ทีแล้วเอาคืนกูเชียวนะมึง ไอ้นาทีเพื่อนเ*ย กูไม่น่าไปล้อมันไว้เลย

"เช็ดน้ำตาแล้วก็ไปได้แล้ว มีราวด์วอร์ดเช้า อีกชั่วโมงครึ่ง เดี๋ยวไปไม่ทัน"

"เออ ไปก็ไปดิวะ แล้วมึงก็เหยียบไว้เลยนะเรื่องที่กูยืนน้ำตาซึมเนี่ย"

"เออ คนอย่างนาทีเพื่อนรักลภัสซะอย่าง กูเหยียบแน่ เหยียบมึงจบดินเลยคอยดู"

"ไอ้หัวค*ย ไอ้เพื่อนเ*ย กูไม่น่าให้มึงติดรถมาด้วยเลย"

"ประกาศ ประกาศ เวลา 6:45 น. นายลภัสยืนน้ำตาซึมที่สนามบิน"

"สัสสส มึงวิ่งไปอย่าได้หยุดเลยนะ ถ้ากูจับมึงได้กูสาบานว่าจะเหยียบมึงจมดินเลยคอยดู ไอ้เ*ยนาที!!!"


#คุนแฟง

by ppeachmm
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 26| 27.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 27-05-2020 16:50:58
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 26| 27.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 27-05-2020 19:43:47
 :o12:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 27| 28.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 28-05-2020 06:31:00
---ตอนที่---


"หน้ามึงเหียกมากแฟง ไปทำเ*ยไรมา" เสียงทุ้มติดแหบดังแทรกประตูเข้ามาทันทีที่ผมเดินเข้ามาในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เสียงใครที่ไหนหรอกครับ เสียงกวนตีนติดแหบแบบนี้คงหนีไม่พ้นไอ้ธันวาเพื่อนร่วมรุ่นที่ชอบแวะมาลับฝีปากกับผมประจำ ไม่รู้มันเป็นไรของมันนักหนา เจอผมทีไรชอบหาเรื่องให้โดนด่าตลอด เชี่ยนี่มันคงจะจิตอ่อนๆระดับหนึ่งแหละผมว่า มันบอกว่าวันไหนไม่ได้ยินเสียงด่าผมแล้วนอนไม่หลับ เออ ช่างหัวมึงเถอะ

"เสือก"

"อะ หยอกๆ ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง กลัวจะตายห่าไปก่อนกู" นอกจากจะพูดจาวอนส้นตีนแล้วยังเสือกเดินเอามือมาพาดไหล่กูอีก ได้ข่าวว่ากูกับมึงไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นนะเว้ย แค่เพื่อนร่วมรุ่นที่ทักทายลับคมฝีปากกันกับคนที่เดินผ่านกันในร้านเหล้าเฉยๆ

"กูจะตายก่อนหรือหลังมึงมันก็เรื่องของกู แต่ที่แน่ๆถ้ากูเลือกได้กูไม่ขอตายพร้อมมึงละกัน กูคงนอนตายตาไม่หลับวะ" วันนี้กูก้าวเท้าไหนออกมาจากคอนโดวะถึงได้ซวยเจอไอ้ธันวาตั้งแต่เช้า เมื่อคืนกูยิ่งนอนไม่หลับอยู่ คิดถึงคุนคุนชิบหาย สามวันแล้วที่ไม่มีคนตัวนุ่มๆให้กอดตอนนอน บอกเลยว่าอาการผมหนักกว่าที่คิดไว้เยอะ ปกติหัวถึงหมอนดึงคุนมาไว้ในอ้อมกอดไม่ถึงห้านาทีก็หลับลึกไม่เคยฝัน ตื่นอีกทีเช้าวันต่อมา แต่สามวันมานี้ผมใช้มันสารพัดวิธีที่ทำให้นอนหลับ มึงวานถึงขนาดเซิร์สกูเกิ้ลทำตามวิธีที่มันเขียนไว้สารพัดก็ยังไม่หลับ หลอกลวงชิบหาย กูจะให้นิรันดร์สั่งปิดกูเกิ้ล!

เฮ้อ! ถ้าคืนนี้ยังนอนไม่หลับอีกคงตื่นขึ้นมาสภาพเป็นศพเดินแน่ๆ เพราะตอนนี้แบตเตอรี่ชีวิตกูเหลือไม่ถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์

"ฮะๆๆๆๆ มีปากก็พูดไป มีใจก็พูดมา" โถไอ้เ*ย มึงก็คิดได้เนาะ มโนเก่งเหลือเกิน เต๊าะกูได้ทุกทีที่เจอ ตัวมึงกับกูก็พอๆกัน ประสาทจะกินหัว ลองนึกภาพกล้ามชนกล้ามดู เชี่ยยย ขนลุกสัส

"มีใจพ่องงงงง ไปไกลๆตีนกู ยิ่งหงุดหงิดอยู่" ผมสะบัดหัวไหล่เอาแขนหนาๆของมันออกไปจากตัว ไอ้สัส กูอยากจะด่ามึงด้วยคำหยายคายสารพัดที่นึกได้แต่คือตอนนี้ไม่มีแรงโต้ตอบมันต้องเก็บแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่น้อยนิดไว้ไปต่อปสกต่อคำกับเจ๊จูอีก แค่หอบสังขารตัวเองมาราวด์วอร์ดตอนเช้าได้นี่ก็บุญของกูแล้ว ใครก็ได้ช่วยกูออกไปจากตรงนี้ที

"ไอ้แฟง" เชี่ย เสียงสวรรค์ที่แท้ทรู ผมรีบหันควับไปหาต้นเสียงทันที ไอ้คุณนาทีเพื่อนรักนี่เอง

"ไงมึง" ผมเอ่ยทักทายมันตามปกติ แต่พอมันเห็นว่าใครยืนอยู่ข้างผมบวกกับสายตาผมที่ส่งขอความช่วยเหลือให้เลยสงเคราะห์ให้ผมออกจากขุมนรกนี้ทันที

"เฮ้ยกินข้าว หิว ไปแฟง ไปธันวา กูหาเพื่อนแ*กข้าวเช้าพอดี เล็ทส์โกมายด์เฟรนส์"

ถุย!

มายเฟรนด์พ่องงง

ไอ้เพื่อนเวร มึงก็รู้กูไม่อยากสุงสิงกับไอ้ธันวา มึงยังจะชวนมันไปแ*กข้าวร่วมโต๊ะกับกูอีก เจริญพรญาติโยม สงสัยเมื่อเช้ากูก้าวเท้าขวาออกจากห้องแน่ๆ เห็นเค้าลางความวายป่วงมาแต่ไกล ไอ้หน้าด้านนั่นยังเสือกเดินตามมาอีก ไม่มีเพื่อนรึไงวะ

แต่ชีวิตคนเราก็ต้องดำเนินต่อไป วอร์ดเช้าก็ต้องราวด์ ข้าวก็ต้อวแ*ก เดี๋ยวแรงไม่มีจะเคี้ยวหมาก ผ่าม!

"กินไร" ไอ้นาทีเพื่อนเวรประจำวันนี้เอ่ยถามขึ้นเมื่อเราสองคนกับหนึ่งตัวเดินเข้ามาในโรงอาหารโรงพยาบาล

"โจ๊ก อยากกินไรที่ย่อยง่ายๆ ฝากซื้อหน่อย กูจะไปจองโต๊ะ"

"ไม่อยากเคี้ยวก็กินน้ำสิ ไม่ต้องย่อย" เสียงนรกแทรกขึ้นทันที ไอ้เ*ยเอ้ย ชาติก่อนกูไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้นักหนาวะถึงได้เกิดมาเจอมันในรั้วมหาวิทยาลัยเนี่ย

"*วย" สั้นๆได้ใจความ ด่ามันเสร็จก็สอดส่งสายตามองหาโต๊ะว่างทันที ส่วนไอ้นรกธันวานั่นก็หัวเราะลั่น เชี่ยนี่แม่งโรคจิต ชอบให้ด่า ไม่โดนด่าแล้วแม่งนอนไม่หลับรึไงไม่รู้ อย่าไปสนใจมันเลย ปล่อยแม่งยืนหัวเราะเหมือนคนบ้าไปคนเดียว ก่อนจะสาวท้าวยาวๆเดินมานั่งที่โต๊ะที่ว่างด้านในสุดริมหน้าต่าง ช่วงเช้ายังดีหน่อยที่พอมีโต๊ะว่างอยู่บ้าง ถ้าเป็นข่วงกลวงวันนะเหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรียังไงไม่รู้ เห็นโต๊ะไหนว่างนี่คือต้องรีบวิ่ง 4*100 มาจองโต๊ะเลยเหอะ รากเลือดชิบหาย บางครั้งก็ไม่แน่ใจว่านี่โต๊ะในโรงอาหารหรือบ่อทอง แย่งกันจัง

รอสักพักไอ้นาทีเพื่อนนรกประจำวันก็ยกชามโจ๊กหมูสับไม่ตับไม่ขิงใส่พริกไทยเยอะๆมาให้ เป็นเพื่อนกันมานานไม่ต้องพูดมากว่าชอบแ*กอะไรไม่ชอบแ*กอะไร แค่บอกว่าจะแ*กอะไรอีกฝ่ายก็รู้ว่าต้องสั่งแบบไหน มันก็เป็นเพื่อนที่ดี...บางเวลา ขอย้ำว่าบางเวลาเท่านั้น!

"นอนไม่หลับอีกแล้วอะดิ" นาทีถามขึ้นทันทีที่หย่อนก้นลงบนเก้าอี้ พร้อมกับจ้วงผัดกระเพราหมูกรอบพริกหนึ่งสวนเข้าปากในนาทีต่อมา ไอ้นี่ก็ซาดิสแ*กของเผ็ดแต่เช้า

"เออดิ สามวันแล้ววะมึง กูจะตายห่าอยู่แล้วเนี่ย"

"อือ มองก็รู้ มึงก็พยายามนอนหน่อยดิวะ อาจจะลองนอนเร็วขึ้นกว่าเวลาปกติหน่อยมั้ย หรือแบบลองออกกำลังกายให้ตัวเองเหนื่อยๆก่อนนอนอะ"

"นาที กูลองมาหมดทุกวิธีแล้ว นี่กูทำขนาดเซิร์สหาวิธีช่วยให้นอนหลับในอากู๋เลยนะเว้ย"

"เชรสสส น้องถั่วงอกไม่อยู่นี่มึงเป็นเอามากขนาดนี้เลยหรอวะ คิดถึงเค้าอ่อ"

"เออ กูแม่งคิดถึงมันจะตายห่า"

"ว้ายยย นายแฟง นายคิดถึงเราเหรอ" โอ้ยย ใครเอาอีนี่ไปเก็บที กูรำคาญ ตัวอย่างกับควาย ใช้เสียงสองแปดหลอดตะโกนมาข้างหูกูอีก บอกแล้วว่าอยู่กับมันแล้วประสาทจะแดก กรี๊ดมาได้ไม่เกรงใจหน้าตาตัวเองเลย หน้าแม่งเถื่อนชิบหาย เถื่อนกว่ากูตอนยังไม่ตัดผมโกนหนวดอีก กูละเอือมกับมึงจริงๆ ธันวา เห็บหมา!

"สัสธันวา แหกปากทำพ่อง แก้วหูกูจะทะลุ ทำไรเกรงใจเสื้อกาวน์มึงบ้าง"

"หยอกๆๆ" ไอ้หมอปัญญาอ่อน บางทีก็สงสัยว่ามันจับฉลากมาเรียนคณะนี้หรือไงวะ

"อย่าไปสนใจมัน สรุปแล่วนี่มึงจะทำไง ถ้านอนไม่หลับอีกคืนพรุ่งนี้มึงตื่นมาเป็นศพแน่แฟง"

"ไม่รู้ กูคิดไม่ออก"

"แล้วเมียมึงรู้รึเปล่าเนี่ยว่ามึงตาค้างเป็นซอมบี้มาสามคืนแล้ว"

"รู้"

"นี่มึงมีเมียตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ทำไมกูไม่รู้" อะไรของมันวะ เมื่อนาทีที่แล้วยังกรี๊ดแต๋วแตกอยู่เลย ทีนี้ละมาทำเสียงเข้ม มึงควรไปเรียนการแสดงนะขอบอก คงรุ่งแน่ๆ

"เรื่องของกูมั้ย ละทำไมมึงต้องรู้ด้วยวะ สัสธัน"

"สัสแฟง กูก็แค่อยากถามไถ่เรื่องของเพื่อนเฉยๆมั้ยละ"

"แถวบ้านกูเรียกเสือก แ*กเสร็จยัง จะถึงเวลาราวด์วอร์ดเช้าแล้ว ไปสายเดี๋ยวเจ๊จูตบกะโหลกกูอีก วันก่อนก็โดนมาทีนึงแล้ว เป็นไรกับกูนักหนาไม่รู้ เอะอะก็เรียกกูให้ตอบคำถาม คนในห้องมีเป็นสามสิบสี่สิบ หวยมาออกที่กูตลอด"

"ก็มึงลูกรักอาจารย์จุไรรัตน์แกไง"

"ลูกรักพ่อง"

"เออๆ คำสุดท้ายแล้ว ไปๆ"

"ไปนาที"

"เออ แ*กน้ำก่อน อย่าเร่งดิวะ"

หลังจากนั้นผมก็ใช้เวลาแปดชั่วโมงในการคลุกคลีกับคนไข้ ซักประวัติคนไข้วนไปจนน้ำลายแตกฟอง ไม่พอยังต้องมาถูกอาจารย์ซักถามต่อจนกูขาวเป็นชุดนักเรียนมัธยม บ่ายเข้าคลาส เย็นมาราวด์วอร์ดต่อ วนลูปเดิมไปทุกวันจนจะอวก ยิ่งคนไม่ได้นอนมาสามคืนติดแบบผมนี่สมองคือเบลอแล้งเบลออีก ภาพอาจารย์แม่งกลายเป็นภาพซ้อนเหมือนทะลุมิติออกมาจากเตียงคนไข้สามร้อยตลบ กว่าจะจบวันแทบสำลักออกมาเป็นเลือดกว่าจะลากสังขารตัวเองกลับมาที่ห้องได้ก็เลือดตาแทบกระเด็น ดีหน่อยที่ให้สองแฝดผลัดเวรกันมาป้อนข้าวป้อนน้ำอันอันให้ ไม่งั้นถ้าอยู่กับผมมันคงอดตายเข้าสักวันเพราะผมกลับไม่เคยตรงเวลาเลยสักวัน เห็นแมวแล้วก็นึกถึงแม่มันวะ เชี่ยคิดถึงอีกแล้ว ชีวิตกูแม่งวนลูปเดิมอีกแล้ว เช้าคิดถึงคุน กลางวันคิดถึงคุน กลางคืนอยากแดกคุน ผ่าม!

ครืด ครืด

นอนแผ่หลาพักสายอยู่บนโซฟาตัวยาวได้สักพักโทรศัพท์คู่ใจก็สั่นครืดจนต้องเด้งตัวขึ้นมานั่งหลังตรง รู้เลยว่าใครโทรมาในเวลานี้

"พี่แฟง" ไอ้ตัวน่ารักแก้มย้อยโผล่หน้าเข้ามาในโทรศัพท์ที่เปิดเป็นวีดีโอคอล ปากเคี้ยวอะไรสักอย่างหมุบหมับ

"ไง" มองหน้าตัวเองในโทรศัพท์แล้วแม่งโคตรตกใจ หัวเหอะกระเซอะกระเซิง อดไม่ได้ที่เอามือขึ้นมาลูบตัดทรงผมเสียหน่อย ส่วนอีกฝ่ายนี่คือแม่ง...น่ารักอีกแล้ว หน้าขาวๆ แก้มยุ้ยๆ ปากแดงๆ อยากดึงออกมาจากหน้าจอโทรศัพท์ทำไงดี

"คิดถึงพี่แฟงจังเลยครับ"

"คิดถึงเหมือนกัน" เชี่ยเอ้ย เชื่อมั้ยครับ นาทีที่หน้าคุนคุนมันโผล่ขึ้นมาบนโทรศัพท์ ความเหนื่อยที่มีมาทั้งวันเสือกหายเป็นปลิดทิ้ง เนี่ยไง ถึงบอกว่ามันป้ายยาผม แล้วตอนนี้มันก็มาป้ายเพิ่ม เอนเนอร์จีที่แห้งเหือดกลับมาเต็มในทันใด

"วันนี้คุนไม่ได้นอนกับหมาม๊าแล้วนะ"

"อ้าวทำไมละ ไม่ต้องกอดม๊านอนแล้วหรอ"

"ไม่ครับ วันนี้คุนจะมากอดพี่แฟงนอนหลับปุ๋ย เดี๋ยวพี่แฟงนอนไม่หลับอีก คุนสงสาร" โอ้ยน้อ คำพูดคำจามึงนี่น้าาา ทำใจกูสั่นระริกเลยนะคุนคุน

"ไม่เป็นไร นอนกับม๊าได้ ม๊าคงคิดถึงแหละ" กัดฟัดพูดดีไปสิมึง ถ้ามันไปนอนกับม๊าจริงละจะหนาว

"แต่พี่แฟงคิดถึงคุนมากกว่า ใช่มั้ยครับ"

"อือ ใจจะขาดแล้วเนี่ยกู"

"โถๆ น่าสงสาร เดี๋ยววันนี้คุนจะตบตูดพี่แฟงนอนเอง เชื่อใจคุนนะ"

"อือ" จ้าาา จะทำอะไรก็ทำเลยกูยอมมึงหมดแล้วคุนเอ้ย เราคุยกันต่ออีกสักพักเราก็ต่างคนต่างไปอาบน้ำก่อนที่ผมจะคอลหาคุนกลับไปใหม่หลังอาบน้ำเสร็จ

"พี่แฟง" เสียงใสๆลอดออกมาจากโทรศัพท์คู่ใจทันทีที่อีกฝ่ายกดรับวีดีโอคอลของผม อีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นชุดนอนลายแมวมารีสีขาว ส่วนผมก็เหมือนเดิมมีอค่กางเกงนอนขายาวตัวเดียว วันนี้ห้องที่อีกคนอยู่มันดูแปลกตาไปจากทุกวัน เพราะสามวันที่ผ่านมาคุนคุนไปนอนที่ห้องหม่าม๊า แต่วันนี้กลับมานอนห้องตัวเองหน้าตาภายในห้องเลยดูแปลกไป อืม สมเป็นคุนดี ตุ๊กตาแมวมารีเต็มเตียงเลย แล้วนั่นจะมีที่ตรงไหนให้มึงนอนวะ

"วันนี้ไปทำไรมา" เราสองคนแลกเปลี่ยนเรื่องราวในแต่ละวันของกันและกันแบบนี้ทุกวัน ถึงผมจะไม่ได้ไปอยู่ที่ปักกิ่งกับอีกคน แต่ฟังจากเรื่องที่คุนเล่ามามันก็เหมือนว่าผมได้เดินทางไปกับอีกคนในทุกที่ ทุกเวลา

"วันนี้หมาม๊าพาคุนไปบ้านอากงครับ เพิ่งจะกลับมาตอนเย็นนี่เอง...."  แล้วเรื่องราวตั้งแต่เช้าจนเย็นก็ถูกเล่าออกมาโดยละเอียดยิบ ผมก็ได้แต่นั่งฟังอีกคนขยับริบฝีปากแดงระเรื่อไปมาอยู่ในหน้าจอโทรศัพท์ คิดถึงริมฝีปากนั้นเหลือเกิน คิดถึงรสสัมผัส คิดถึงกลิ่น คิดถึงทุกๆอย่าง และที่สำคัญ คิดถึงคุนคุนที่สุด เราคุยกันนานจนเวลาบนหน้สปัดนาฬิกาล่วงเลยไปจนถึงสี่ทุ่มกว่าโดยที่ผมไม่รู้ตัวเลยสักนิด จำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าเมื่อสองสามชั่วโมงก่อนหน้านั้นเรี่ยวแรงแทบไม่มี แขนขาแทบอ่อนแรง แต่ตอนนี้กลับกระชุ่มกระชวย เออ....แปลกดีแท้

"พี่แฟงปิดไฟสิครับ คุนจะตบตูดกล่อมนอนให้" ผมตบมือปิดไฟอัตโนมัติก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียงไว้เพื่อคุนคุนจะได้มองเห็นผม ส่วนอีกฝ่ายก็ปิดไฟในห้องเรียบร้อยแล้วเหลือแต่ไฟบนหัวเตียงสีส้มเหมือนกัน

"เปลี่ยนจากตบตูดกูเป็นจับตูดมึงแทนได้มั้ย"

"ทะลึ่ง"

"ทะลึ่งที่ไหนกัน ก็พี่คิดถึงตูดคุนนี่นา"

"อีก 18 วันคุนก็กลับแล้ว"

"ลงแดงตายพอดี"

"ยังไม่เคยได้ยินว่ามีใครไม่มีเซ็กซ์ 3 อาทิตย์แล้วตายเลยนะครับ"

"กูคงเป็นคนแรก"

"ฮ่าๆๆ พี่แฟงตลกจัง"

"กูไม่ใช่คนตลก กูแค่เป็นคนที่คิดถึงมึงเท่านั้น"

"คุนก็คิดถึงพี่แฟงเหมือนกัน"

" กูนอนไม่หลับ"

"พี่แฟงดูเพลียมากเลยรู้มั้ยครับ"

"หรอ"

"ขยับหน้าเข้ามาใกล้หน้าจอสิครับ คุนจะหอมแก้มชาร์ตพลังขั้นสูงสุดให้" ผมหยิบโทรศัพท์ที่วางพิงหมอนไว้ขึ้นมา ขยับหน้าตัวเองเข้าไปใกบ้หน้าจอโทรศัพท์อย่างที่อีกฝ่ายบอก ไม่นานก็มีเสียง จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ รัวๆ ดังลอดมาจากปลายสาย

"คุนเอาปากมาให้พี่หอมบ้างสิ" อีกฝ่ายขยับหน้าเข้าทาใกล้หน้าจอเหมือนที่ผมทำเมื่อกี้ไม่มีผิดเพี้ยน ต่างกัรตรงที่ส่วนที่ค้างอยู่บนหน้าจอตอนนี้คือปากสีแดงระเรื่อชุ่มฉ่ำที่ผมมักดูดกินก่อนนอนทุกคืน

"วันนี้คุนจะต้องทำให้พี่แฟงหลับให้ได้ เชื่อใจคุน"

"อือ ลองดู"

"คุณลิสต์เป็นข้อๆมาด้วยนะ นี่คือห้าวิธีในการกล่อมเด็กให้นอนหลับ" ผมหัวเราะออกมาทันทีที่อีกฝ่ายยกกระดาษที่เขียนวิธีกล่อมนอนขึ้นมาให้ดู บ่งบอกว่าอีกฝ่ายให้ความสำคัญกับผมแค่ไหน มีไม่กี่คนบนโลกใบนี้หรอกครับที่จะเป็นห่วงเป็นใยเรา และผมก็ดีใจที่ผมมีคุนคุนเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น เราคุยกันไปอีกชั่วโมงกว่าๆ และอีกฝ่ายก็ลองใช้วิธีทั้งห้าอย่างที่ลิสต์มาในกระดาษจนหมด และผลที่ได้ตอนนี้คือ ผมหาว ใช่ครับฟังไม่ผิดหรอก และบอกไว้เลยว่าไม่ใช่ห้าวิธีเหล่านั้นหรอกที่ทำให้ผมง่วงนอน แต่เพราะคุนคุนต่างหาก เสียงคุนคุนที่ดังอยู่ข้างหูตลอดเวลามันเลยทำให้ผมเหมือนมีใครอีกคนนอนอยู่ข้างกันตรงนี้ ผมเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็เช้าวันใหม่ตอนที่นาฬิกาหัวเตียงดังบ่งบอกว่าได้เวลาทำหน้าที่ของวันนี้แล้ว

ผมลืมตาขึ้นมาด้วยความสดชื่น มองดูโทรศัพท์เครื่องเดิมที่วางอยู่ที่เดิมก่อนที่ผมจะผลอยหลับไป อีกฝ่ายไม่ได้วางสายไปทำให้ผมเห็นคุณคุณที่กำลังนอนขดอยู่บนเตียงสีขาวหลังใหญ่ คงจะเผลอหลับไปพร้อมๆกับผม ผมหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป ปล่อยโทรศัพท์วางไว้แบบนั้นปล่อยให้มันรันเวลาคอลต่อไปเรื่อยๆ

call time : 7  ชั่วโมง 5 นาที

แบตเตอรี่เหลือ 12%

เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จปลายสายก็ยังไม่ตื่นขึ้นมา สงสัยจะหลับหลังจากผมแหงๆ เพราะปกติคุนไม่ใช่เด็กตื่นสาย ผมเลยกดวางสายไป ก่อนจะส่งข้อความไปหาอีกคนที่กำลังหลับฝันดีอยู่ ขอให้เขาฝันถึงผมเหมือนที่ผมฝันถึงเขาเมื่อคืนนี้

"ไปโรงพยาบาลแล้วนะ คิดถึงมาก เดี๋ยวกลางวัลคอลหา อย่ากินขนมหวานเยอะ แก้มยุ้ยแล้ว"

.
.
.
.
.



#คุนแฟง

by ppeachmm


----+++--++---
เราขอข้ามช่วงกักตัว14 วัน self quarantine ไปนะคะ ไม่งั้นคงยาวเหยียดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 27| 28.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: KhunYingJung ที่ 28-05-2020 11:58:48
ชอบเรื่องนี้ แต่เพิ่งอ่านไปแค่ 4 บทเอง แต่มีคิวต้องอ่านอีกหลายเรื่อง สัญญาว่าจะมาอ่านต่อให้ทัน  :o12:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 27| 28.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 28-05-2020 12:47:01
คิดถึงคุณๆเหมือนกัน งื้อ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 27| 28.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 28-05-2020 20:21:39
 :hao4:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 27| 28.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 28-05-2020 23:32:55
คุนคุนน่ารักมาก,,,
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 28| 29.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 29-05-2020 06:55:54
---ตอนที่ 28---


แฟง's part

หลังจากที่เมื่อคืนนอนหลับเต็มอิ่มครั้งแรกในรอบสี่วัน ผมก็ตื่นเช้าขึ้นมาด้วยความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เดินทางมาราวด์วอร์ดที่โรงพยาบาลในมหาวิทยาลัยด้วยความสุข แต่ความสุขมันมักอยู่กับเราไม่นานหรอกครับ

"โอ้โห เช้านี้ลภัสมันดูเปล่งปลั่งเว้ยเฮ้ย"

มันมาอีกล่ะ เสียงสัมภเวสีแหบแห้งตัวเดิม นี่เมื่อเช้าก่อนออกจากคอนโดก็ดูแล้วนะว่าใช้เท้าซ้ายก้าวออกจากห้อง ยั้งงงงจะมาเจอไอ้สัสเห็บหมานี่แต่เช้าอีก

"เรื่องของกู" ผมหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์พร้อมกับสวมเสื้อกาวน์แล้วกดล๊อครถก่อนจะเดินไปยังลิฟต์ของอาคารจอดรถโรงพยาบาลไม่หันไปมองเสียงหมาเห่าหอนจากรถที่จอดอยู่ข้างกัน ปล่อยให้มันเห่าต่อไป กูจะไม่ยุ่ง! อุตส่าห์อารมณ์ดีได้นอนกอดคุนคุนในโทรศัพท์ทั้งคืน เสือกมาเจอไอ้ธันวาตามหลอกหลอนแต่เช้า อารมณ์ดีๆเริ่มจะขุ่นมัวขึ้นมาซะงั้น

"นั่น ต่อปากต่อคำ เมื่อคืนได้ยาดีหรอตะเอง" เอออ!

"ตะเองพ่องงง ไปไกลๆตีนกูธันวา"

"ปะไปกินเบรคฟาสต์กันตะเอง" ไล่ไม่ยอมไป พูดอย่างเดียวไม่พอยังเอาแขนมาพาดบ่ากูอีก ใครจะไปแ*กเบรคฟาสต์กับมึ้งงงงง

"ลภัส" เสียงทุ้มของใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลัง

"อ้าวพี่ยู สวัสดีครับ" พี่ยูเดือนคณะแพทย์ในตำนานครับ ตอนนี้แกอยู่ปี6ละ แต่ความหล่อกับความฮ๊อตนี่ไม่เคยดร๊อปลงเลย

"กราบสวัสดีตอนเช้าครับพี่ยชญ์ชวินทร์" เรียกเขาซะเต็มยศเชียวนะไอ้ธันวา เดี๋ยวก็โดนโบกหรอก ได้จ่าวว่าพี่แกไม่ชอบให้รุ่นน้องมาปืนเกลียวเสียด้วย

"กวนตีนแต่เช้าเลยนะธันวา" นั่นไง สงครามเริ่มมาคุ กูจะไม่ห้าม ขอเชียร์ข้างสนาม พี่ยูสู้ๆๆๆ

"ทำด๊าาา" ไอ้เ*ยนี่นอกจากจะชอบกวนตีนผมแล้ว นี่มันยังปีนเกลียวกวนตีนพี่ปีหกอีกหรอวะ ทำด๊าาาที่ไหน อย่างมึงนี่เรียกว่าธรรมดาได้ด้วยรึไง

"กินมื้อเช้ากันมายัง ไปกินข้าวกัน" พี่ปีหกเอ่ยชวนในขณะที่เราเดินเข้ามาในลิฟต์ อ้าว ทำไมไม่บวกกันวะ ไอ้ธันมันกวนตีนพี่นะเว้ยยย เสีย'รมย์จริงๆ!

"ยังครับ"

"เฮียเลี้ยงปะ ถ้าเลี้ยงผมก็กิน"

"หลอกแดกจากกูประจำเลยนะธัน"

"มีเฮียหล่อรวย ก็ต้องเกาะแข้งเกาะขาไว้"

"รำคาญ นี่มึงคบกับมันได้ไงวะลภัส"

"มันใช่เพื่อนผมที่ไหนละพี่ ตัวสัมภเวสีดีๆนี่เอง ไล่ไม่ยอมไป นี่ก็กะว่าจะเอาเดทตอลมาล้างฆ่าเชื่ออยู่เนี่ย" เอาซี้วันนี้กูพกเอนเนอร์จีมาพร้อม แบตเตอรี่กูเต็ม พร้อมสู้ไม่ถอย

"ว้ายย ตายแล้วที่รัก ตัดเยื่อใยกันแบบนี้ทำไม" แต่ดูเหมือนเอนเนอร์จีของมันจะเยอะกว่าผมล้านเท่า เชี่ย กูสู้ไม่ไหวจริงๆถ้ามึงจะเล่นเบอร์นี้ เกาะกูยังกะลูกลิง ไม่พอยังเอาหัวมาถูแขนกูอีก เขี่ยขนลุก ผมแข็งชิบหาย ใช้อะไรสระผมวะ

"สัสธัน เสียงมึงนี่โคตรแสบแก้วหูเลย ขยับไปไกลๆตีนกู" ผมผลักมันออกไปไกลๆตัว มันก็ยอมแต่โดยดี แต่มันไม่จบแค่นั้นอะครับ มันดันไปเกาะแขนพี่ยูต่อ ไอ้นี่สงสัยขาดความอบอุ่น ที่บ้านไม่รัก

ไม่รู้ระหว่างนั้นเกิดอะไรขึ้น อยู่เฉยๆภาพตัดเป็นผมมานั่งแ*กเบรคฟาสต์ที่โรงอาหารของโรงพยาบาลกับพี่ยู สัสธัน แล้วก็นาทีที่เพิ่งตามมาเมื่อกี้ คุยไปคุยมาถึงได้รู้ว่าไอ้ธันวามันเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพี่ยูอดีตเดือนคนหล่อลากดินของคณะเรา ใครจะไปดูออกว่าเป็นญาติกันก็หน้าตามันนี่ไม่ได้ขี้เล็บพี่ยูแกเลยสักนิด นี่ถ้าบอกว่าเป็นคนขับรถของพี่แกก็ค่อยดูเข้าท่าหน่อย

"เออ ไหนๆก็อยู่กันพร้อมหน้าแล้ว กูมีเรื่องให้พวกมึงช่วยหน่อยวะ"

"เรื่องไรพี่"

"กูกำลังทำโปรเจคหาเงินเข้าสโมสรอยู่ พอดีมีโรงเรียนทางภาคเหนือติดต่อมาขอความช่วยเหลือให้ช่วยบริจาคอุปกรณ์กีฬากับเครื่องดนตรี...."  แล้วพี่ยูก็เล่าต่อว่าสมาชิกสโมสรนักศึกษาแพทย์ได้ลงมติกันว่าหาเงินบริจาคโดยการทำคลิปโคฟเวอร์แดนซ์ให้สาวๆเข้ามาบริจาค มันก็ฟังดูเข้าท่าดี การหาเงินแบบขายเสื้อขายหมวกสมัยนี้มันเรียกยอดบริจาคได้น้อย แต่ถ้าทำอะไรอินเทรนด์แบบนี้สาวๆที่ชอบตามติดผู้ชายหน้าตาดีๆก็จะเข้ามาเปย์กันเยอะ

"น่าสนใจดีนิพี่ ให้พวกผมช่วยไรละ" นาทีที่กำลังโซ้ยผัดพริกแกงไก่เข้าปากเอ่ยถามขึ้น

"กูจะให้พวกมึงสามคนไปร่วมเต้นโคฟเวอร์ไง"

พร๊วดดด

สามพรวดเลยครับ

ทั้งผม ทั้งนาที แล้วก็สัสธันวา

"เฮ้ย เฮียไม่เอ๊าาาา" หัวกุ้งกระเด็นตกลงบนโต๊ะกินข้าวทันที เสียงสูงเป็นนกแก้วนกขุนทองเลยนะมึง นี่เป็นครั้งแรกในรอบสามปีเลยนะที่ผมมีความเห็นตรงกันกับธันวา

"ไม่ไหวหรอกพี่ ผมเต้นไม่เป็น" ผมรีบปฏิเสธไป จะบ้าหรอ ใครจะไปเต้นแรงเต้นกาโชว์ให้คนอื่นดูวะ

"แต่มึงร้องเพลงได้ไงลภัส" รู้อีก สงสัยเตรียมตัวมาหว่านล้อมผมเต็มที่ แต่ผมไม่มีวันหลงกลหรอก ต่อให้กระทืบผมจนจมดินผมก็ไม่มีวันทำเด็ดขาด

หนึ่งอาทิตย์ต่อมา

"หมอแฟงดูเท่ห์มากเลยนะคะ" พี่พยาบาลสาวสวยที่ยืนคุยกันอยู่ตรงหน้าลิฟต์เอ่ยขึ้นเมื่อผมเดินมาถึง

"หมอนาทีก็ด้วยคะ พี่ไม่รู้เลยนะคะว่าหมอทั้งสองคนจะมีพรสวรรค์แบบนี้ เพชรผมวิบ วิบ วิบ~~" พูดไม่พอยังร้องออกมาแล้วทำท่าเลียนแบบคลิปอีก เฮ้อออ อยากมุดดินหนี

ผมกับนาทีที่ยืนมองหน้ากันได้แต่ยิ้มเจื่อนให้แก๊งค์พยาบาลสาวไปก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์ โชคดีหน่อยที่อีกฝ่ายไม่ได้ตามเข้ามาทำให้เหลือเพียงผมกับนาทีกันแค่สองคน นาทีไม่ได้ดูเดือดร้อนอะไรเท่าไหร่ มีแต่ผมนี่สิที่ดูไม่ชอบใจกับฟีดแบ็คเลย การเป็นคนที่มีคนให้ความสนใจมันก็ดี แต่บางทีความส่วนตัวมันก็ลดน้อยลง

"กูสาบานว่ากูจะไม่มีวันทำอะไรแบบนั้นอีกแล้ว" เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าต่อให้กระทืบผมให้จมดินผมก็จะไม่มีวันทำ แต่เจ้จูคู่ปรับเก่าดันบอกว่าจะหักคะแนนยี่สิบคะแนนถ้าไม่ช่วยสโมสรนักศึกษาแพทย์หาเงินบริจาคในครั้งนี้ ซวยในซวยจริงๆที่อาจารย์ที่ปรึกษาของสโมดันเป็นอาจารย์จุไรรัตน์ผู้ไม่ค่อยชอบขี้หน้านายลภัสคนนี้

"เฮ้ยทำไมวะ สาวๆชอบออก กูเดินไปไหนมาไหนนี่มีคนเข้ามาขอถ่ายรูปด้วยนะเว้ย"

"มึงลองมาใส่แหวนเพชรเม็ดโตบนนิ้วเหมือนกูมั้ยละ สัสนาที ใครๆก็พูดถึงหมอแฟงเพชรเม็ดเป้งถุย"

"ฮ่าๆๆๆๆ อย่าคิดมาก มันเข้ากับมึงจะตายเพื่อนรัก"

เพื่อนรักพ่องงงงง!

ตึ้ง!

ตั้งแต่คลิปโคฟเวอร์เพลงวิบวับของ mindset ออกมาสู่สายตาชาวโลกในชื่อคลิปว่า The D4 วิบวับ เชี่ย ชื่อโคตรเสี่ยว D ย่อมาจาก Doctor ส่วน 4  ก็ง่ายๆตายตัวคือพวกผมสี่คน ชีวิตผมกับผู้ร่วมชะตากรรมอีกสามคนก็ไม่สงบสุขอีกต่อไป ทุกสายตาในโรงพยาบาลจับจ้องมาที่เราเป็นหนึ่งเดียวกันในทุกก้าวที่ย่างไป เชี่ยเอ้ย ไอ้พี่ยูแม่ง ทำกูสาหัสจริงๆ แต่ดูเหมือนว่าจะมีแค่ผมคนเดียวที่รู้สึกเหมือนตกนรก เพราะอีกสามชีวิตที่เหลือดูจะมีความสุขเหลือเกิน ดูอย่างไอ้นาทีที่เดินอยู่ข้างๆกันนี่สิ ยิ้มจนปากจะฉีกทักทายชาวบ้านเขาไปทั่วมันเิดนไปไหนมาไหนพยาบาลก็โปรยยิ้มให้ ส่วนไอ้นรกธันวาก็เหมือนกันชอบใจนักที่สาวๆพากันมาขอถ่ายรูป ไม่ว่าจะเจอมันตรงซอกหลืบมุมไหนของโรงพยาบาลก็เห็นยืนแอคท่าให้คนถ่ายรูป มีความสุขจริงงงงนะมึ๊งงงง ทีตอนแรกร้องไห้จะเป็นจะตายบอกไม่ทำไม่ทำ ถุย! ส่วนพี่ยูประธานสโมฯ เจ้านั้นก็ไม่ได้มีปฎิกริยาอะไรมากมายเพราะพี่แกเป็นดาราอยู่แล้ว การเป็นจุดสนใจมันเลยเป็นเรื่องปกติต่างจากผมที่ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายเป็นที่สุด ความสงบสุขในชีวิตนายลภัส วิสุทธิ์รังสรรค์หายไปในวินาทีที่คลิป The D4 วิบวับ ออกสผู่สายตาชาวโลก ทั้งFB,IG, Twitter แจ้งเตือนมันทั้งวนจนต้องปิดโนติหนี น่ารำคาญชิบหาย กูก็นึกว่าคุณคุยไลน์หากูทั้งวัน

ครืด ครืด

เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่น พอหยิบขึ้นมาดูว่าใครโทรมาก็เลยหันไปบอกไอ้นาทีให้เข้าห้องเรียนไปก่อน บ่ายนี้มีเรียนในโรงพยาบาลนี่แหละครับ คลาสเจ้จูเจ้าประจำ

"ว่าไงไอ้ดื้อ"

"พี่แฟงงงงง"

"อะไร ทำเสียงตื่นเต้นอะไรนักหนา หรือชักว่าวแล้วนึกถึงหน้ากูอยู่"

"พี่ทะลึ่งอีกแล้ว น้องคุนเคยทำที่ไหนกันเล่า เดี๋ยววางซะเลย"

"ฮะๆๆๆ โอ๋ๆๆ ไม่วางนะเด็กดี คิดถึงพี่เลยโทรมาหรอ"

"ใช่ครับผม พี่แฟงทานข้าวรึยังครับ"

"เรียบร้อยแล้ว นี่กำลังจะเข้าเรียน"

"มีเวลาให้คุนกี่นาทีเนี่ยวันนี้"

"ทั้งชีวิต"

"พี่แฟงบ้า"

"บ้าแล้วแล้วรักมั้ยละ"

"อื้อ รักที่สุดเลย"

"คิดถึงมึงวะไอ้ตัวเล็ก"

"คุนก็คิดถึงพี่แฟงเหมือนกัน พี่แฟงครับ"

"ครับ"

"พูดครับอีกแล้ว น้องคุนเขิน"

"ก็เขินต่อไป"

"นี่ๆ คุนเห็นพี่แฟงเต้นวิบวับด้วย" เชี่ยยยย คลิปกูไปไกลถึงปักกิ่งเลยหรอวะ นี่กะจะปิดเป็นความลับไม่ให้คุนคุนเห็นแล้วนะเนี่ย ใครมันบังอาจเอาความทุเรศของกูไปตีแผ่ให้ที่รักกูเห็นเนี่ย อย่าให้กูรู้นะกูจะจับตบกะโหลกแตกเลยคอยดู

"ใครส่งให้ดู"

"พี่รันครับ" เชี่ย พ่อบังเกิดเกล้า!!!! แล้วนี่นิรันดร์มีคลิปนั้นได้ไงวะ สงสัยกูต้องไปตบกะโหลกคนที่ส่งให้นิรันดร์แทนแล้วละ มันต้องมีที่ระบาย!

"คุนชอบ พี่แฟงหล่อมากกกก เพชรผมวิบวิบวิบวิบวิบ~~~...เพลงผม hit hit hit hit hit~~~ ...พวกผมแม่ง fucking lit~~.." ไอ้เชี่ย ท่อนนี้มันตามมาหลอกหลอนกูอีกแล้ว กูจะไปตามลบมันออกจากยูทูป จากทวิตเตอร์ จากไอจี จากทุกอย่างบนโลกนี้ ปิดบัญชีเงินบริจาคไปเลย ได้แค่ไหนแค่นั้น ที่เหลือกูจะบังคับให้นิรันดร์บริจาคเพิ่มเอง!

"คุนชอบนะครับ พี่แฟงอะดูดีมากๆๆเลย ร้องเพลงเพราะฝุดๆๆ" เฮ้ย จริงดิ? บ้า เอาความจริงมาพูดอะไรตอนนี้เล่าาาา~~~

"อือ กลับมาเดี๋ยวร้องให้ฟัง"

"เย้! ก่อนนอนทุกคืนเลยนะครับ"

"อือ"

นี่กูเป็นอะไรอีกแล้ววะเนี่ย ถูกป้ายยาอีกแล้ว พอคุนคุนบอกว่าชอบกูเสือกรู้สึกดีกับคลิปโคฟเวอร์ขึ้นมาเฉยเลย เชี่ยยย คุนคุน มึงนี่มันเป็นข้อยกเว้นของทุกอย่างบนโลกใบนี้จริงๆ ผมคุยกับคุนคุนต่ออีกหน่อยก็วางสายก่อนจะเดินเข้ามาในห้องเรียนไปนั่งลงข้างกับนาทีที่จองที่แถวกลางๆไว้ให้ผมแล้ว

"บ้าแล้วรักมั่ยละ~~" เอาแล้วไง ไอ้เ*ยธันมันเล่นกูอีกแล้ว ผมหันไปหามันที่นั่งอยู่ด้านหลัง ผมว่าผมเดินไปคุยในที่ที่ไม่มีใครเดินผ่านแล้วนะ ไอ้ขี้เสือกนี่ยังเสือกจะตามมาได้ยินอีก มันได้ยินนะไม่เท่าไหร่หรอก แต่เอามาล้อกูนี่คือกูเคืองบอกไว้เลย ไอ้สัสหมา!

"กลับมาเดี๋ยวร้องให้ฟัง" มันพูดทวนประโยคที่ผมคุยกับคุนคุน

"มึงยืนแอบฟังกูรึไง"

"เออดิ"

"สัสธัน"

"บ้าแล้วรักมั้ยละตัวเองงงงง~~~"

"ไอเ*ย!"

"นักศึกษาตรงกลางช่วยเงียบเสียงด้วยคะ อาจารย์จะเริ่มสอนแล้ว ส่วนเธอลภัสทำตัวให้เหมาะกับเป็นนักศึกษาแพทย์หน่อยนะคะ ช่วยเอาเท้าลงมาจากโต๊ะด้วย หักหนึ่งคะแนน" อย่าาาาา เจ้จู~~ คะแนนผมจะไม่เหลือแล้วววววววววว!!!

.
.
.
.
.
.

คุน's part

"คุนลูก นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรอยู่คนเดียวคะ"

"หม่าม๊าาาา"

"คะลูก ดูอะไรอยู่ขอหม่าม๊าดูบ้าง'

"หมาม๊ามานั่งข้างๆน้องคุนครับ มาดูคลิปนี่"

เย้เยเย เย้เยเย เยเยเย้เย
เพชรผมวิบวิบวิบวิบวิบ
เพลงผม hit hit hit hit hit
พวกผมแม่ง fucking lit
Man she loves my drip drip drip drip
เพชรผมโคตรวิบวับวิบวับ
ผู้หญิงอยากจะเข้ามาจับ
เยอะจนผมปวดขมับ
Man she loves my drip drip drip drip

"นักร้องสมัยนี้นี่หล่อๆกันทั้งนั้นเลยเนอะ"

"ไม่ใช่นักร้องครับ พวกพี่ๆเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยคุนเอง"

"อ้าวตายจริง นี่ถ้าน้องคุนไม่บอกหม่าม๊าไม่รู้เลยนะเนี่ย เห็นหล่อๆกันทั้งนั้น ม๊าก็นึกว่าเป็นดารานักร้องกัน"

"ใช่มั้ยละครับ พี่แฟงอะหล่อจะตาย"

"หืม พี่แฟงไหน ใช่คนที่มาอยู่ห้องน้องคุนรึเปล่าลูก"

"ใช่ครับ คนนี้ไงครับพี่แฟง คนที่ใส่เพชรเม็ดโตๆคนนี้"

"ตายแล้ว หล่อขนาดนี้เลยหรอลูก อุ้ยย ถ้าหล่อขนาดนี้เป็นหมาม๊า ม๊าก็ให้อยู่ที่ห้องเหมือนกันแหละคะลูก ว่าแต่แม่ขอได้มั้ยคนนี้เนี่ย สเป็คม๊าเลย"

"หม่าม๊าาาาา คนนี้ไม่ได้"

"ขี้หวง"

"ใช่ หวงมากกกก"

"อยากเจอตัวจริงซะแล้วว่าคนที่ทำให้ลูกหมาม๊านั่งเฝ้าโทรศัพท์ทั้งวัน นั่งเหม่อทั้งวัน นั่งคุยโทรศัพท์น้ำตาซึมทุกวันเนี่ยเป็นคนแบบไหนกันน้าาาา"

"หมาม๊าห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกพี่แฟงเลยนะครับ น้องคุนอุตส่าห์ไม่ทำให้พี่แฟงเห็นแล้วว่าร้องไห้คิดถึงพี่แฟง"

"จ้าาาาา แต่ตอนนี้ม๊าของดูคลิปอีกหน่อยสิ คนใส่เสื้อสีขาวก็หล่อใช่ย่อย"

"คนไหนครับ อ้อออ นั่นพี่นาที เพื่อนสนิทพี่แฟง"

"ว้ายตายแล้ว เดี๋ยวนี่จะคบกันเป็นเพื่อนต้องเลือกแต่หน้าตาดีๆรึยังไงน้าหนุ่มๆสมัยนี้"

"หม่าม๊ามาดูคนนี้สิครับ คุ้นมั้ยเอ่ย"

"หือ นั่นอาธันนี่"

"ใช่ครับ เฮียธัน"

"หล่อขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย หม่าม๊าไม่เห็นมาหลายปี เกือบจำไม่ได้แหนะ"

"น้องคุนก็จำไม่ได้เหมือนกัน แต่พอพี่แฟงพูดชื่อขึ้นมาน้องคุนเลยร้องอ๋ออออ นี่เฮียธันลูกป้ากรองแก้วนี่เอง พี่ชายผมมมมมม"

"ตายแล้วนี่หลานชายหม่าม๊าหล่อขนาดนี้เลยหรอเนี่ย กลับไปเมืองไทยครั้งหน้าต้องให้พี่แก้วเรียกตัวลูกชายกลับมาบ้านซะแล้ว ไปทีไรก็ไม่เคยอยู่บ้านสักทีเลยไม่เจอเลย ไม่นึกไม่ฝันว่าหลายชายของตัวเองจะหล่อขนาดนี้"

"ที่เฮียธันไม่กลับบ้านนี่ต้องติดสาวแน่ๆ หม่าม๊าเชื่อน้องคุน นี่ๆคนนี้ก็หล่อครับม๊า นี่พี่ยูเห็นพี่แฟงบอกว่าเป็นดารา"

"หล่อกันจัง แต่แม่ชอบคนที่ชื่อนาทีมากกว่า ขอจองคนนี้ละกัน สเป๊คม๊า"

"เสป็คอีกแล้วหรอครับ แต่เสียใจด้วยนะครับเพราะพี่นาทีมีพี่มายด์เวย์แล้ว หม่าม๊าจองไม่ได้"

"งั้นจองคนนี้แทนละกันได้มั้ย ลูกชายหม่าม๊าก็น่ารักน้อยซะที่ไหนกัน"

"ได้ครับ คนนี้จองได้ตลอดเลยยยย เพราะน้องคุนเป็นลูกชายหมาม๊า"

"ลูกชายหม่าม๊าน่ารักเท่าโลกเลยยย"

"พี่แฟงบอกว่าน้องคุนน่ารักเท่ากาแล็กซี่"

"จ้าาาาา เท่ากาแล็คซี่ก็เท่ากาแล็คซี่"

.
.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm






หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 28| 29.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 29-05-2020 09:40:16
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 28| 29.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 29-05-2020 21:38:28
 o13
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 29| 30.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 30-05-2020 07:57:41
---ตอนที่ 29---


"เหม่อๆๆ"

"แฟง"

"สัสแฟง"

"เชี่ยแฟงเว้ย"

"อะไร สัสธัน มึงจะตีหัวกูทำพ่องงง" นั่งคิดถึงคุนคุนอยู่ดีๆ ก็มีมารผจญจนได้ ภาพ 3D full HD คุนคุนของกูลอยหายวั๊บไปกับตา เพื่อนกูก็ไม่ใช่ เสือกเอามือใบพายมาโบกหัวกูอีก เดี๋ยวปั๊ด!

"สัสแฟง กูกับนาทีเรียกมึงตั้งนานแล้วเนี่ย นั่งเหม่ออยู่ได้ จะทำมั้ยงานกลุ่มเนี่ย" ยัง ยัง ยังไม่รู้ตัวอีกว่าทำอะไรผิด รำคาญหน้ามันชิบหาย นี่ถ้าเจ้จูไม่บังคับผมให้อยู่กลุ่มเดียวกับมันจ้างให้ผมก็ไม่มีวันญาติดีกับมันหรอก แล้วดูสาระร่างการแต่งตัวของมัน เสื้อยืดอาแปะสีขาว กางเกงบอลสีดำ คีบแตะสีชมพู โคตรจะเอ้าท์ ไม่เข้ากันสุดๆ แม่งไม่ให้เกียรติสถานที่คอนโดใจกลางเมืองสุดหรูของกูเลย ทำตัวอย่างกับอยู่บ้านตัวเอง สาบานได้ว่านี่คือการแต่งตัวออกจากบ้านเพื่อมาทำรายงานกลุ่มไม่ใช่คีบแตะมาซื้อน้ำเต้าหู้หน้าปากซอย ถุย!

"เออ ก็ทำอยู่นี่ไง แหกตาดู" ผมยื่นแมคบุ๊คที่อยู่บนตักให้มันดู จะมาหาว่ากูอู้ไม่ได้นะเว้ย นี่ไงพิมพ์งานอยู่เชิญแหกตามึงดูเดี๋ยวนี้

"ก็เพราะแหกตาดูไงถึงเห็นว่ามึงนั่งพิมตัวค.ควายเต็มหน้า ไอ้คนติดเมียเอ้ย" เอ้าาา ไอ้ที่กูพิมพ์มาเมื่อกี้นี่หายไปไหนหมดวะ ทำไมมีแต่ตัวค.ควายเต็มหน้าจอ เอ่อ....

"เชี่ยยยย มึงนี่เป็นเอามากนะเนี่ย"

"พูดมาก ไอ้นาที ทำงานของมึงไปเถอะ"

"คร้าบบบบ"

เมี้ยวววว!

"เฮ้ย เดี๋ยวกูมา อันอันหิวข้าวแล้ว" ผมรีบลุกขึ้นจากพื้นหน้าทีวีทันทีที่อันอันเดินมาอ้อนหิวข้าว ไม่รู้จะเรียกว่สอ้อนได้มั้ย เพราะถ้าหากมันอ้าปากกว้างกว่านี้อีกนิดหนึ่ง คือแ*กหูกูได้แล้วอะ พูดเลย ว่าแล้วก็เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน่องไก่ที่อยู่ในกล่องออกมาสี่ชิ้น เดี๋ยวนี้ให้สามชิ้นมันจ้องหน้าหาเรื่องครับ บ่งบอกว่า ไอ้เชี่ย กูแ*กไม่อิ่ม เออๆ แ*กเข้าไป แ*กละก็นอน นอนละก็ตื่นมาแ*ก ชีวิตแม่งโคตรสุขสบาย ผิดกับชีวิตกูเวลาเจอเจ้จูลิบลับ

"แหมๆๆๆ นอกจากเป็นทาสเมีย แล้วยังเป็นทาสแมวอีกหรอมึง" ไม่พูดก็ไม่ได้มีใครหาว่ามึงเป็นไบ้หรอกนะ นาทีเพื่อนเลิฟ

"เชี่ยยย นั่นแมวหรอวะ" ไอ้นี่ก็อีกคน ความรู้สึกโคตรช้า ถ้าเป็นงูเหลือมมันคงดิ้นแด่วๆอยู่ในท้องอันอันเป็นที่เรียบร้อย เออวะ ฟังแล้วดูดี หรือกูเสกอันอันเป็นงูเหลือมดีวะจะได้แ*กสัสธันวาเข้าท้องไปเลย

"เออ แมวเมียมัน"

"เ*ดแม่ เมียมันเป็นคนประเภทไหนวะ ทำไมสัตว์เลี้ยงแม่งดูโหดสัส สาบานว่านั่นคือแมว"

"นินทาไรกู เดี๋ยวกูสั่งให้อันอันกัดหัวมึงนะเว้ย สัสธัน แล้วก็อย่ารื้อของห้องเมียกู ซนจริงนะมึง" เชี่ยยย มันถือวิสาสะเปิดลิ้นชักหน้าทีวีรื้อของในนั้นดูหน้าตาเฉย มารยาทมึงอยู่หนายยย!

"รื้อของไร ก็แค่เปิดดูว่าในนี้มีซีดีหนังอะไรน่าดูบ้าง" หราาาาา

"ไม่มี ปิดลิ้นชักเลยมึง แล้วก็อย่าหยิบของในนั้นมาเล่นด้วย ไอ้คุนมันขี้หวงของ ยังอีก ยัง!" อันนี้ไม่ได้โม้ คุนมันไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับของของมัน ขนาดผมยุ่งยังมีมองหน้าแล้วทำปากแบะๆใส่เลย เชี่ยพูดแล้วก็คิดถึงอีกละ โว้ยยยยยย!

"เออๆ วางก็ได้ไรวะ แล้วนี่คือไร มึงติดกล้องวงจรปิดไว้ในห้องด้วยหรอวะ หรือว่าต้องรายงานตัวผ่านกล้องให้เมียเห็นตลอดเวลา ว้ายยยย นี่มึงเป็นคนกลัวเมียหรอวะลภัส" มันปิดลิ้นชักหน้าทีวีแล้วก็เดินสำรวจห้องประหนึ่งว่ามาเดินเล่นดูห้องตัวอย่าง ถุย! แล้วนี่อะไร เกลียดจริงๆเวลามันทำท่ากรี้ดแต๋วแตกเนี่ย ช่วยดูสาระร่างถึกๆของมึงทีเถอะ กูขอร้องในใจ

"มึงจะกรี๊ดทำพ่อง รำคาญ ซวยชิบหายต้องได้มาทำงานกลุ่มเดียวกับมึงเนี่ย"

"ทำไมครับคุณลภัส ทำงานกับผมมันยังไง" ยีงจะมีหน้ามาถามอีก

"มันรำคาญลูกกะตาอะ มึงเข้าใจมั้ย เห็นหน้ามึงละคิ้วกระตุก"

เมี้ยว!

อ้าวๆ แล้วไอ้อันอันมันจะมองหน้ากูเหมือนหาเรื่องแบบนี้ทำไมวะ นี่มึงเข้าข้างคนอื่นอีกแล้วหรอ หาาาา?

แกร๊ก!

เสียงประตูหน้าคอนโดเปิดออก พร้อมกับร่างเด็กแฝดตัวโข่งที่เดินโซซัดโซเซเข้ามา ในขณะที่ผมกำลังรบราฆ่าฟันกับลูกไม่รักดีอยู่

"อ้าว อันอัน มึงจะกัดกูทำไมเนี่ย ไอ้แมวไม่รักดี มึงรักทุกคนบนโลกนี้แต่มึงแม่งไม่เคยรักกูเลยนะอันอัน เสียแรงที่กูป้อนข้าวป้อนน้ำมึง"

"โหพี่ พูดออกมาได้ว่าป้อนข้าวป้อนน้ำอันอัน ผมต่างหากที่ให้น่องไก่อันอันกิน นั่นไง แมวมันรู้ เนอะอันอันเนอะ" นั่นไง เห็นคนอื่นดีกว่ากูอีกแล้ว มันรักทุกคน ยกเว้นกู!

เมี้ยววว!

"มึงมาก็ดีแล้วขุน ฝากพามันไปเดินเล่นด้านล่างด้วย วันนี้กูต้องทำงานกลุ่ม" ในเมื่อไอ้ขุนมามันมาได้เวลาพอดี ก็ถือโอกาสใช้มันหน่อยละกัน ผมจะได้กลับไปทำงานกลุ่มที่ยังไม่กระเตื้องไปไหนเลยสักนิด

"เออๆ เดี๋ยวพาไปให้ แต่ตอนนี้ขอนอนพักก่อน ไปข้างนอกมาเหนื่อย ร้อนชิบหาย แล้วนั่นใครอะ เพื่อนพี่หรอไม่เคยเห็นหน้า"

"ไอ้นั่นชื่อธันวา ไม่ใช่เพื่อนกูหรอก มันมาขอทำงานกลุ่มกับกู ส่วนสัสธันนี่ขุนพล มันอยู่ห้องบนหัวกูนี่แหละ"

"อ้าววว พูดดีๆนะเชี่ยแฟงกูมาขอทำงานกลุ่มกับมึงที่ไหน จารย์จุไรรัตน์ให้กูมาช่วยมึงต่างหาก"

"หรออออ ทำไมคนอย่างกูต้องให้มึงช่วยวะ"

"มึงเล่นกวนตีนอาจารย์จนเจ้แกหักคะแนนมึงวันเว้นวันขนาดนั้น ยังจะมาทำพูดดีอีกนะ"

"พี่ทะเลาะกันต่อไปนะ ผมง่วงขอไปนอนก่อน พี่ใช้โซฟากันงั้นผมไปนอนบนเตียงนะ" ไอ้คนที่มาใหม่เดินไปตรงโซฟาที่ประจำที่มันชอบมาเอนตัวนอนเวลาคุนคุนอยู่ แต่พอเห็นกระดาษกองชีทกับหนังสือสารพัดวางเกลื่อนอยู่บนนั้นมันก็เลนเข็มเดินเข้าห้อฃนอนทันที

"เออๆๆ รีบไสหัวไป รำคาญหน้า" ทำตัวยังกะห้องตัวเอง

เมี้ยว!

"ไป อันอัน ไปนอนกัน" เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะมึง เรียกปุ๊บเดินตามปั๊บ ทีกูเรียกจนคอจะแตกหูไม่เคยกระดิกด้วยซ้ำ แมวไม่รักดี กํจะบีบไข่มึงแตก!

เมี้ยว!

ไอ้แมวไม่รักดี ตามผู้ชายเข้าไปนอนในห้องเฉย แต่จะว่าไปคือมันชอบผู้ชายทุกคนยกเว้นผมนะเนี่ย เอ๋หรือว่าจริงๆอันอันมัรแอบรักผมวะ แบบว่ารักนะแต่ไม่แสดงออกไรงี้
.
.
.
.
.

"เหม่ออีกละ คิดไรนักหนาวะ" ทำงานกันจนลืมเวลา รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ขุนพลกลับมาจากพาอันอันเดินเล่นตอนทุ่มกว่าๆ พวกเราเลยสั่งแกร๊ปร้านอาหารไทยเจ้าดังแถวๆนี้มากินกัน

"คิดถึงคุน มันชอบกินกุ้ง" เห็นต้มยำกุ้งก็คิดถึงเมียนัก มันชอบกินกุ้ง แต่ไม่ค่อยชอบแกะ กลายเป็นผมที่ต้องทำหน้าที่แกะให้คุนคุนกินประจำ

"โอ้ย ไม่ต้องคิดถึงมันหรอกพี่ อยู่โน่นมันคงได้กินกุ้งมังกรแทบทุกมื้อ"

"เรื่องของกู กูจะคิดถึงคุนแล้วมันหนักหัวมึงรึไงเฮาะไอ้ขุนพล"

"คร้าบบๆ ไม่หนักหัวผมหรอก สรุปจะกินมั้ยไอ้กุ้งในจานอะ ถ้าไม่กินผมขอนะ" ยังไม่ทันจะได้อนุญาต ไอ้แฝดนรกนี่ก็ยื่นส้อมมาจิ้มกุ้งตัวเดียวในจานผมเรียบร้อย

"หยุด เอาช้อนมึงออกไป นี่กุ้งกู อย่ามาแย่ง" แต่คนอย่างกูมีหรือจะให้ กูจะเอาแ*กไม่แ*กก็อีกเรื่องหนึ่ง เขี่ยเลยครับ เขี่ยส้อมมันออกจากจานผมทันทีทันใด

"ไรวะ ขี้หวงวะ" เอะไอ้นี่ ไม่ได้ของก็ทำปากแบะ

"อะ เอาของกูไป กูไม่แ*กกุ้ง" จู่ๆกุ้งตัวใหญ่ๆหนึ่งตัวที่เคยอยู่ในจานของธันวาก็ถูกเคลื่อนย้ายมาอยู่ในจานของขุนพลทันที น้ำใจงามสัสสัส

"เฮ้ย พี่แม่งใจดีวะ มาๆ เอามาให้หมดจานนั่นแหละ ผมเลิฟมากกุ้งตัวงอๆเนี่ย" โวะไอ้นี่ ได้คืบจะเอาศอก ใครจะไปให้วะ ไอ้ธันวามันยังไม่ได้แ*กสักคำเถอะ

"เออ อะ เอาไป กูไม่แ*กกุ้ง" อ้าวไอ้นี่ เสือกใจดีได้โล่อีกวันนี้

"มึงเนี่ยนะไม่แ*กกุ้ง วันก่อนกูยังเห็นมึงสั่งกระเพราะกุ้งอยู่เลยไอ้ธัน" กูจำได้ ความจำกูดี วันก่อนมึงสั่งกระเพราะกุ้งพิเศษขอกุ้งตัวโตๆด้วยซ้ำ แล้วไหงวันนี้มากระแดะไม่แ*กกุ้งวะ คนเรามันเปลี่ยนความชอบชั่วข้ามคืนได้ด้วยรึไง งงกะมัน

"กูเลิกกินแล้ว กินเยอะเบื่อ" อย่างนี้ก็มีด้วยยยย

"หรออออ" กูไม่เชื่ออออ

"เออพี่ พรุงนี้เครื่องคุนมันแลนดิ้งกี่โมงวะ"

"สองทุ่มกว่า"

"ไปรับด้วยดิ คิดถึงวะ อยากหยิกแก้ม"

"ไม่ต้องสะเออะไป กูจะสวีทกับเมียกู" อย่าได้เสนอหน้าไปเชียวนะ กูจะพาเมียไปดินเนอร์ใต้แสงเทียน ถ้ามึงจะไปกูจะเจาะยางรถยนต์มึง!

"ไอ้เชี่ยพี่แฟง พี่มึงเรียกเพื่อนผมว่าเมียเต็มปากเต็มคำเลยนะ ได้เค้าละหรออออ ถึงสะเออะเรียกคุนมันว่าเมียเนี่ย ว้ายยย ขี้ตู่" ปากยื่นปากยาวเดี๋ยวกูดึงปากออกมาดีดแม่งเลย ไอเนี่ก็อีกคน เอะอะกรี้ดๆ จะได้ไม่ได้กันดูจำเป็นต้องเอาเรื่องบนเตียงไปตีแผ่ให้มึงฟังรึไง เรื่องสิ

"เสือก"

"โอ้ยย เจ็บจังโดนด่าว่าเสือกเนี่ย"ท่าทางตอแหลชิบหาย เดี๋ยวก็ถีบตกเก้าอี้ซะเลีย ว่าแล้วก็ง้างขารอเลยละกัน ถ้ามันพูดไม่เข้าหูอีกรอบจะได้พร้อมถีบ

"เชี่ยขุนอย่าไปแหย่มัน ช่วงนี้อารมณ์หมาบ้าของมันยิ่งขึ้นๆลงๆอยู่ โดนตีนขึ้นมาอย่าหาว่ากูไม่เตือนนะเว้ย" ไอ้นาทีนี่ก็แสนรู้

"แ*กเข้าไปกุ้งเนี่ย แ*ก็ให้คลอเรสเตอรอลขึ้นไปเลย เอาไป" อยากกินนักใช่มั้ยกุ้งเนี่ย เอาไปเลย มองอยู่นั่นแหละกุ้งในจานกูเนี่ย มองจนกูรู้สึกผิดเลย ไอ้ชิบหาย!

"อ้ำ!"

"แ*กแล้วก็ไม่ต้องสะเออะไปโผล่หน้าที่สนามบินละพรุ่งนี้"

"อือ รู้แล้วน่า ไอ้คนขี้หวง ใช่ซี้ความสัมพันธ์พี่น้องของเรามันสั้น ฮือๆๆ" บีบน้ำตาอีก รำคาญ!

"รีบแ*กแล้วก็กลับห้องมึงไปซะรำคาญ"

"ไรว้าาา พอใช้งานเราเสร็จ เราหมดประโยชน์ก็ถีบหัวส่ง เค้าเสียใจนะตัวเอง"

"นาที ตอนมึงกลับลากมันไปด้วย เกลียดชิบหายเสียงสองเสียงสามของมันเนี่ย"

"เออๆ ว่าแต่ทำไมมึงทำเสียงสูงได้วะ สอนกูบ้างดิ จะเอาไปเล่นกับมายด์เวย์บ้าง"เอ้า ไอ้นี่ ไปย้าจี้เล่นกับมันอีก

"สนใจอ่อพี่ นี่ๆต้องทำแบบนี้ อ้าปากกว้างๆ ....."

รอบตัวกูมีแต่คนไม่เต็มบาท ชาติที่แล้วสงสัยทำบุญให้พวกปัญญาอ่อนเยอะ เกิดมาชาตินี้ถึงมีแต่พวกนี้รายล้อม ได้

"พี่ๆ นี่ๆ เพื่อนผู้หญิงผมนี่ชอบมากกกก พวกพี่กลายเป็นไอดอลชั่งข้ามคืนเลยรู้ป่าว" ผมทำเป็นไม่สนใจที่ขุนพลพูด จ้วงอาหารเข้าปากเหมือนคนหิวมาสามวันไม่มีอะไรตกถึงท้อง แต่ไอ้ที่กลืนลงคอเกือบสำลักออกมาทางเดิมเมื่อไอ้ขุนพลเปิดคลิปเวรนั่นอีกแล้ว เชี่ยยยย มึงตามมาหลอกหลอนกูอีกแล้วหรอวะ

เย้เยเย เย้เยเย เยเยเย้เย
เพชรผมวิบวิบวิบวิบวิบ
เพลงผม hit hit hit hit hit
....

มึงรู้อยู่แล้ว
ว่ากูนะมีอะไร(มีอะไร)
แต่พอคนถามกูบอกว่าไม่เท่าไหร่(ไม่เท่าไหร่)
มึงลองมองดิ

"เปิดทำห่าไร ปิดซะ เอามานี่"

"เฮ้ยๆๆ ไม่ให้ๆ ไอ้พี่ ผมจะฟัง พี่นาทีช่วยผมด้วยยย"

"มันเขิน" เขินพ่องงงง อยากจะถีบเพื่อนักให้กระเด็นตกเก้าอี้อีกคน

"เฮ้ย เขินแรงไปมั้ยเนี่ย โทรศัพท์โผมมมม" ผมดึงโทรศัพท์ที่อยู่ในมือขุนพล แต่มือใันเหนียวชิบหาย ถ้าบอกว่าเป็นตุ๊กแกนี่กูเชื่อนะ

"สัสแฟง มึงก็ให้น้องมันเปิดไปจะเป็นไรไปวะ มีแต่คนชมว่ามึงหล่อกันทั้งนั้น จะเขินทำหอกอะไร"

"สัส เรื่องของกู"

"มันอายเพชรบนนิ้วมัน ฮ่าๆๆๆ" นาทีหัว*วย!

"เออ แต่เพชรแม่เม็ดใหญ่จริง ไปเอามาจากไหนวะพี่ ฮ่าๆๆๆ" ไอ้นี่ก็ล้อกูจังเรื่องเพชรเนี่ย กูยิ่งเกลียดๆอยู่

"กูไม่รู้วะ พี่เชอรี่รองประธานสโมเป็นคนหาพร๊อพให้"

"เฮ้ย แต่ไอ้พี่ พี่มึงแม่งหล่อสัส ขยับเอวทีนี่สาวกรี้ดทั้งมอเลยนะเว้ย นี่ผมพูดจริงนะ พี่สองคนด้วย นี่ๆ ท่อนนี้ผมชอบ ที่พี่ธันแร๊พอะ แม่งสุดตีน"

มึงรู้อยู่แล้ว
ว่ากูนะมีอะไร(มีอะไร)
แต่พอคนถามกูบอกว่าไม่เท่าไหร่(ไม่เท่าไหร่)

"หน้าพี่แม่งเข้ากับท่อนนี้มาก อยากกราบตีนโปรดิวเซอร์เลยผมอะ"

"ไปกราบทำเ*ยไรโปรดิวเซอร์ มากราบกูนี่กูคนร้อง กูหล่อกูรู้" ไอ้ธันนี่ก็บ้ายอ โดนชมเข้าหน่อยดูทำหน้าทำตาเข้า

"เ*ดดด อวยตัวเอง เฮ้ย ผมชอบๆๆๆ"

"ถ้าชอบขนาดนั้นก็กลับบ้านกับกูเลยมั้ยละ" เอ้าไอ้นี่ ว่าไปโน่น ว่าแต่ไอ้ธันมันบ้ายอตั้งแต่เมื่อไหร่วะ

"เฮ้ย เอาผมไปทำไรที่บ้าน ผมถูบ้านไม่เป็นหรอกนะเว้ยไอ้พี่"

"ไม่เป็นไร เอามึงไปไว้อุ่นเตียงก็ได้" เชรดดดดดด กูว่าละสายตาไอ้ธันมันมองขุนพลแปลกๆ ที่ไหนได้มันจ้องจะเคลมไอ้แฝดนี่เอง เชี่ยตัวโตไซส์ควายทั้งคู่ ฟ้าไม่ผ่าหรอวะ

"หึ" ช่างแม่ง กูขอขำในลำคอหน่อยละกัน เชี่ยธันแม่งออกตัวแรงชิบหาย ไอ้ขุนจะมีผัวววว!!!

"หึ" ส่วนนี่ก็เสียงนาทีที่แกล้งทำเป็นตักผัดกระเพราะเข้าปากไม่รู้ไม่ชี้ มันคงมองออกเหมือนผมแหละ มึงเสร็จแน่ไอ้ขุนพล กูอยากจะหัวเราะให้ปากฉีกกกกกก

"อุ่นทำแป๊ะอะไรพี่ ชอบนอนร้อนๆหรอ ประสาทวะ" อ้าว ใช้ศัพท์ยาก เด็กมันเลยไม่รับมุกวะธันวา ฮ่าๆๆๆๆๆๆ สงสัยต้องลงทุนลงแรงมากกว่านี้ละมั้ง
.
.
.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm

------++++-----
คำว่า อุ่นเตียง มักใช้ในนิยายจีนโบราณ มีความหมายคล้ายๆ ฮึ่มฮ่ำ อะคะ :)

ช่วงนี้คุนคุนหายนะคะ นานๆออกมาที ค่าตัวนางแพงนีสสสนึง

หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 29| 30.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 30-05-2020 10:18:08
ธันนี่ยังไงอะ ตามจีบใครรึเปล่า
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 29| 30.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 30-05-2020 15:01:37
 :hao3:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 29| 30.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 31-05-2020 00:21:04
งานนี้มีเฮ!!!

สนุกมากครับ,,,,
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 30| 31.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 31-05-2020 08:04:33
---ตอนที่ 30---


"เจ้จูแม่งฝอยนานอีกละ" ผมบ่นอุบเมื่ออาจารย์จุไรรัตน์เจ้าเดิม ส่วนเข็มนาฬิกาบนข้อมือก็เดินไปจนล่วงเลยเวลาเลิกคลาสมานานพอสมควรแล้ว

"รีบหรอ" นาทีที่ยืนอยู่ข้างๆผมถามขึ้นเมื่อเห็นว่าผมยืนอยู่ไม่เป็นสุขมาสักพักแล้ว ดีนะที่ตอนนี้เราสองคนยืนอยู่ด้านหลังห้อง ไม่งั้นคงโดนเจ้จูหักคะแนนอีกตามระเบียบ

"เออ วันนี้คุนคุนกลับ"

"อ้าว เครื่องแลนดิ้งกี่โมง"

"สองทุ่มครึ่ง"

"เจ้แกพูดไม่จบง่ายๆหรอก มึงก็แอบเนียนออกจากห้องไปเลย"

"เอางั้นหรอวะ"

"เออ เดี๋ยวกูรับหน้าให้ไม่ต้องห่วง ถ้ามึงไม่ออกตอนนี้มึงจะถึงสนามบินทันเวลาได้ไงวะ รถติดจะตายห่า" นาทีตบไหล่ผมเบาๆสองสามที

"เออ ขอบใจมากมึง"

แล้วผมก็ใช้จังหวะที่อาจารย์จุไรรัตน์ก้มลงไปหยิบกระดาษอะไรบางอย่างบนโต๊ะแอบย่องออกไปทางหลังห้องเงียบๆ พอออกมาจากห้องได้ก็รีบสาวท้าวยาวๆของตัวเองไปยังรถที่จอดไว้ในอาคารจอดรถด้านหลังทันที

ครืด ครืด

"ว่าไงนิรันดร์" ผมหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อกาน์ออกมาดูว่าใครโทรมาในใตภาวนาว่าไม่ใช่นาที เพราะถ้าเป็นนาทีโทรมาคงไม้พ้นเรื่องอาจารย์จุไรรัตน์จับได้ว่าผมแอบเนียนโดนคลาสแกออกมา พอเห็นหน้าจอแสดงชื่อพ่อยังเกิดเกล้าก็กดรับทันที

(เลิกเรียนแล้วหรอไอ้เสือ)

"ยังหรอก แต่แอบโดดออกมา" ผมไม่เคยโกหกนิรันดร์ เราไม่เคยมีความลับต่อกัน ถ้าผมโดดเรียนผมก็จะบอกว่าโดด ถ้าผมมีเรื่องชกต่อยกับใครแล้วถ้าผมเป็นฝ่ายเริ่มก่อนผมก็จะบอกไปตามความตริง ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก นิรันดร์ไม่เคยสปอยล์ผม ถ้าทำผิดก็ถูกลงโทษไปตามท้องเรื่อง นิรันดร์ไม่ใช่คนเคร่ง ำม่เคยบังคับว่าผมจะต้องตั้งใจเรียน ไม่เคยขีดกรอบชีวิตให้ผม ให้เฮียเกอร์ หรือนิวเยียร์ เราสามคนใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ความเข้าใจของนิรันดร์และแม่ ถูกตามใตตามประสาพ่อแม่ที่รักลูก และถูกลงโทษหากทำอะไรที่เลยเถิดเกินพอดี ซึ่งเราทั้งสามคนก็โดนกันทั่วหน้า

"ไรวะ กูส่งเรียนนะไม่ได้ส่งให้โดดเรียน กูควรภูมิใจมั้ยเนี่ย"

"ภูมิใจเถอะนะ ลูกหล่อขนาดนี้" รู้แหละว่านิรันดร์ก็บ่นไปงั้น ปากก็บ่นเหอะ แต่ใจจริงไม่เห็นนิรันดร์จะโกรธผมจริงๆสักครั้ง คงเพราะเขารู้แหละว่าผมรู้หน้าที่ตัวเอง ถึงแม้ผมจะเกเรบ้าง โดดเรียนบ้าง แต่ผลการเรียนผมก็ยังติดอันดับท๊อปๆของรุ่นอยู่ดี

"หลงตัวเองชิบหาย"

"เหมือนใครละ"

"นั่นสินะ เหมือนใครกัน เออแฟง เมื่อกี้นิวเยียร์โทรมาหากูบอกตอนนี้อยู่ห้าง x น้องล้มข้อเท้าพลิกเดินไม่ได้ กูโทรหาไทเกอร์แล้วแต่มันไปสัมมนาต่างจังหวัด มึงแวะไปรับน้องหน่อยสิ"

"แม่ละ" ที่ถามออกไปแบบนั้นไม่ใช่เพราะไม่ห่วงน้องนะ แต่คือห้าง x มันอยู่ใกล้บ้านแม่มาก ถ้าแม่มารับอาจจะเร็วกว่สผมไปถึงด้วยซ้ำ เพราะถ้าน้องเป็นอะไรมากแม่จะได้รีบพาไปโรงพยาบาลได้เลย

"ไม่อยู่ไปเที่ยวกับเพื่อนที่ภูเก็ต"

"อ้าว ทำไงดีวะแม่ง"

"มึงติดธุระหรอ"

"คือผมกำลังจะไปรับคุนคุนอะนิรันดร์  คุนมันกลับมาจากปักกิ่งวันนี้ อีกไม่ถึงสองชั่วโมงเครื่องก็จะแลนด์แล้ว"

"ก็ไลน์ไปบอกให้รอก่อน มึงไปรับนิวเยียร์ที่ห้างก่อนรู้สึกตอนนี้ข้อเท้าเริ่มจะบวมแล้วด้วย แล้วตอนนี้เพื่อนที่ไปด้วยกันก็กลับหมดแล้ว หรือมึงเห็นว่าที่เมียสำคัญกว่าน้องรึไง"

"ป่าว ก็สำคัญเท่ากันนั่นแหละ งั้นเดี๋ยวแวะไปรับนิวเยียร์ก่อนละกัน นิรันดร์โทรบอกให้นิวเยียร์หาร้านนั่งรอสบายๆไปก่อนนะ อีกชั่วโมงหนึ่งผมถึงจะถึง ตอนนี้รถติดอยู่หน้ามหาลัย"

"เออ เดี๋ยวบอกให้น้องรออยู่ที่ Greyhound รีบไปละกัน มึงก็รู้นิวเยียร์ชอบงอแง"

"ครับ" พอนิรันดร์พูดหน้านิวเยียร์ที่งอแงน้ำตาซึมหางตาก็ลอยเข้ามาในหัวทันที นิวเยียร์เป็นน้องคนสุดท้องที่มีนิสัยตามแบบฉบับลูกคนสุดท้องมาเต็มๆ ขร้อ้อน ขี้งอแง และที่สำคัญคือจุ้นจ้านสุดๆๆ

ผมกดวางสายพรางเหลือบมองนาฬิกาดิจิตัลในรถแล้วถอนหายใจ ถ้าแวะไปรับนิวเยียร์ก่อนแล้วเลยไปสนามบินนั่นหมายถึงว่าคุนคุนต้องรอผมชั่วโมงครึ่ง แม้จะรู้สึกผิดแต่ตอนนี้น้องสาวผมก็ต้องการผมเหมือนกัน ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ผมเชื่อว่าคุนคุนคงจะเข้าใจ กดส่งข้อความผ่านไลน์ไปหาใครอีกคนที่กำลังอยู่บนท้องฟ้าก่อนจะหักรถยูเทิร์นเปลี่ยนเส้นทางไปยังห้าง x ที่อยู่คนละทางกับทางไปสนามบิน

FanG: พี่จะไปถึงช้าสักชั่วโมงนะคุน รอพี่หน่อย ต้องไปรับนิวเยียร์

FanG: อย่าโกรธนะ

FanG: ห้ามเรียกแทกซี่กลับเองด้วย ยังไงพี่ก็จะไปรับ อย่าดื้อเข้าใจมั้ย มาถึงแล้วโทรมาด้วย

เวลาที่คนเรารีบๆ มันมักเหมือนจะมีอะไรมาประดังเข้ามาขวางทางอยู่ตลอดเวลาอย่างเช่นที่ผมกำลังเจออยู่ตอนนี้

ฝนตกหนัก

พ่วงด้วยรถติดแสนสาหัส

และรถบนถนนไม่มีวี่แววว่าจะขยับเขยื้อนไปไหนได้เลย ผมจอดรถแช่อยู่ตรงสี่แยกไฟแดงก่อนถึงห้าง x มาร่วมยี่สิบนาทีแล้ว แล้วอีกไม่ถึงชั่วโมงมันก็ถึงเวลาที่เครื่องของคุนคุนจะแลนด์ดิ้งแล้วด้วย โถ่เว้ย ถ้าจะซื้อถนนสายนี้เป็นของตัวเองตอนนี้มันจะสานเกินไปมั้ยวะ หงุดหงิดชิบหาย นิวเยียร์ก็รอผมอยู่ คุนคุนก็เหมือนกัน ทำไมฝนห่ารากนี่ต้องมาตกเอาวันนี้ด้วยวะ

19.35 น.

FanG: รอหน่อยนะนิวเยียร์พี่รถติดอยู่ใกล้ๆนี่เอง ฝนตกหนักรถเลยติด

หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 30| 31.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 31-05-2020 22:25:15
ต่อคร่า

FanG: รอหน่อยนะนิวเยียร์พี่รถติดอยู่ใกล้ๆนี่เอง ฝนตกหนักรถเลยติด

????N*Y????: ไม่เป็นไรคะ น้องรอได้

FanG: ขาเป็นไงบ้าง

????N*Y????: ปวดคะ แต่ทนได้

FanG: หาอะไรกินรองท้องไปก่อนนะ เดี๋ยวโรคกระเพาะกำเริบอีก พี่จะรีบไป

????N*Y????: คะ ไม่ต้องห่วงน้องหรอกคะพี่แฟง น้องรอได้จริงๆ ตั้งใจขับรถเถอะคะ

FanG: KK


19.55

ผมเพิ่งจะหาที่จอดรถในห้างได้ ห้างในกรุงเทพเย็นวันศุกร์มันคือตลาดนัดดีๆนี่เอง แต่โชคดีหน่อยที่ช่วงนี้คนยังกลัวการระบาดของโควิดถึงได้ยังไม่ออกมาจับจ่ายใช้สอยกันมากนัก ทำให้พอจะหาที่จอดรถได้ง่ายกว่าทุกครั้ง ไม่งั้นละก็เชื่อเหอะวนรถสามรอบยังหาที่จอดไม่ได้เลย ผมรีบจอดรถแล้ววิ่งขึ้นไปหาน้องสาวที่นั่งรออยู่ในร้านอาหารชั้นห้าของห้างแห่งนี้ มองดูลิฟท์โดยสารที่มีคนยืนรอมากมายก็เลือกใช้บันไดในลานจอดรถแทนเพื่อย่นระยะเวลา วิ่งผ่านร้านขายยาก็เข้าไปซื้อเจลประคบเพื่อทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น พอได้ของทร่ต้องการ ขาก็สาวเท้าจ้ำเอ้าเพื่อไปให้ถึงร้านที่นัดกับน้องสาว ส่วนตาก็เหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือไปด้วย แต่พอเข้ามาในร้านอาหารขายาวๆของผมที่เคยสาวถี่ยิบกลับช้าลงเหมือนมีอะไรมาฉุดรั้งไว้ ที่โต๊ะด้านในสุดของร้านอาหารไม่ได้มีเพียงน้องสาวของผมที่นั่งอยู่ แต่ยังมีนิรันดร์ แล้วก็คนตัวเล็กที่ผมคิดว่าเขากำลังอยู่บนฟ้าในตอนนี้ ผมก้มลงมองข้อเท้าของนิวเยียร์ที่ควรจะบวมช้ำจากการข้อเท้าพลิกแต่ก็พบว่าข้อเท้าเธอไม่ได้มีอาการบวมเลยแม้แต่น้อย แทบอยากจะขว้างถุงยาในมือทิ้งลงมันตรงนั้น

"คุน"

"พี่แฟงงง"

"มาได้ไง"

"พี่รันไปรับครับ" นิรันดร์สินะที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

"นี่มันเรื่องอะไรกันนิรันดร์ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่งานการไม่มีทำรึไง แล้วคุนคุนมาถึงตอนไหน"

"นั่งก่อนอย่างเพิ่งถาม วิ่งมาเหนื่อยๆไม่ใช่รึไง เหงื่อโชกเลยนะมึง"

"ก็ผมรีบวิ่งมาหานิวเยียร์ ก็พ่อบอกน้องขาเจ็บ ผมก็เป็นห่วงมั๊ยละ นี่แวะซื้อเจลประคบมาด้วย แต่ยัยตัวดีคงไม่ต้องใช้แล้วละมั้ง"

"น้องไม่เป็นไรคะพี่แฟง"

"เล่นไรกันเนี่ย ผมอุตส่าห์รีบขับรถมา ถ้าแหกโค้งขึ้นมาจะทำไงวะ"

"หนูไม่เกี่ยวนะคะ คนนี้ให้หนูทำ" นิวเยียร์ยกมือขึ้นมาสองข้างเหมือนสารภาพผิด ก่อนจะชี้นิ้วเล็กๆของเธอไปยังทิศทางที่พ่อบังเกิดเกล้าของผมนั่งอยู่ คนเจ้าแผนการทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบ

"จะเอาที่ไหนมาแหกโค้ง รถติดจะตายห่า เหยียบเกินสี่สิบได้กูก็นับถือมึงละ"

"ฝนตกโคตรหนักเลยด้านนอก"

"เออเห็นละ สั่งอาหารก่อน จะกินไร"

"ไม่อะ นิรันดร์สั่งเหอะ แล้วมึงก็เล่นกับเค้าด้วยหรอคุน" ผมหันมาหาคนที่นั่งอยู่ด้านข้สง ยกมือขึ้นมาขยี้หัวคนตัวเล็กเบาๆ

"คุณก็ถูกบังคับมาอีกทีเหมือนกันครับพี่แฟง"

"ไหนบอกเครื่องแลนด์ดิ้งตอนสองทุ่มครึ่งไง"

"แหงะ...." เป็นแบบนี้ทุกที พอตอบไม่ได้ก็ยิ้มตาหยีจนเป็นเส้นตรง ยิ่มแบบนี้ทีไร ลักยิ้มบนแก้มสองข้างก็เด่นหราขึ้นมา มันน่าเอานิ้วจิ้มให้จมลงไปในแก้มเลยจริงๆ

"กูบอกให้คุนมันบอกมึงไปแบบนั้นเอง"

"ทำไปเพื่ออะไรเนี่ยนิรันดร์ คนรีบมันเหนื่อยนะเว้ย" ผมแหวไป เหนื่อยจริงนะเหนื่อยใจอะ ไหนจะห่วงน้อง ไหนจะกังวลว่าคุนคุนจะรอนานอีก แถมเมื่อครู่ยังวิ่งมาจนเหนื่อย รถจอดอยู่ชั้นใต้ดินแต่วิ่งขึ้นบันไดลานจอดรถมาถึงชั้นห้า คิดดูละกัน เหนื่อยขาลากเลยเหอะ

"อ้าว ก็กูอยากเห็นว่ามึงจะเห็นว่าทีเมียสำคัญกว่าน้องรึเปล่า"

"ใช่เรื่องหรอมาเล่นแบบนี้ น้องผมผมก็ห่วงรึเปล่าวะ"

"เห็นมั้ยนิวเยียร์บอกแล้วว่าพี่ชายนะรักน้องที่สุด น้องรักพี่แฟงที่สุดเลยคะ"

"ไม่ต้องพูดเลยยัยตัวดี พี่ต้องคิดบัญชีเราด้วย ข้อหาสมรู้ร่วมคิด" ผมยื่นมือไปเขกหน้าผากน้องตัวดีที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน

"อู้ยยย ช่วยหนูด้วยพี่รัน" ส่วนเจ้าตัวดีพอโดนเขกหัวไปก็รีบไออ้อนซบอกนิรันทร์ทันที

"อย่าไปทำอะไรน้อง น้องตัวเล็กนิดเดียว เนอะตัวเล็กเนอะ" แถมยังกอดนิวเยียร์จนจมเข้าไปในอกอีก นี่ถ้ามากันสองคน คนอื่นคงมองว่าเสี่ยมากินข้าวกับเด็กเลี้ยงแน่ๆ เล่นกอดกันจมขนาดนี้ แถมยังไม่ให้เรียกพ่ออีก คนนอกนี่คิดไปไกลเลยแหละครับ

"ช่ายยย นิวเยียร์ตัวเล็กนีสสสเดียว แล้วตอนนี้คนตัวเล็กก็หิวมากแล้วด้วยคะพี่รัน"

"อยากกินอะไรสั่งเลยตัวเล็ก"

"งั้นหนูสั่งเลยนะคะ"

"อือ คุนอยากกินอะไรก็สั่งเลยนะไม่ต้องเกรงใจพี่"

"ครับพี่รัน"

"ไม่ต้องมามองหน้าทำตาละห้อย กูก็ต้องคิดบัญชีมึงด้วยเหมือนกัน" ผมหยิบเมนูขึ้นมาดูก่อนจะหันไปมองหน้าคุนคุนที่นั่งอยู่ข้างกัน อีกฝ่ายแอบมองลอดเมนูมามองผมเป็ยระยะ คงกลัวว่าผมจะโกรธเจ้าตัวนั่นแหละ ผมเลยยกมือขึ้นมายื่นไปเตรียมจะดีดหน้าผากไอ้แก้มยุ้ยซะหน่อย

"พี่รันครับ พี่แฟงจะลงโทษคุน" พอเห็นว่าอ้อนผมไม่สำเร็จก็เรียกหาตัวช่วยเลยนะ....แล้วสองคนนี้ไปสนิทกันตอนไหนวะ ลภัสรู้สึกงง

"ฮะๆๆๆ เฮ้ยอย่าลงโทษน้องตรงนี้ มีอะไรก็กลับไปทำที่ห้องโน่น อายเค้า" นิรันดร์มองดูผมจับคุนคุนเข้ามาดีดหน้าผสกก็หัวเราะชอบใจออกมา คุนเอ้ย ร้องขอความช่วยเหลือผิดคนแล้ว นิรันดร์อะไม่ช่วยหรอก ฝ่านนั้นนะชอบดูคนทะเลาะกันเป็นที่สุด

"พี่รัน!"

"มึงไม่รอดแน่คุน"

.
.
.
.
.

เราใช้เวลาทานอาหารมื้อค่ำไปกว่าสองชั่วโมง ส่วนผมก็หายหงุดหงิดไปได้บ้างแล้ว เพราะคุนคุนแอบกุมมือผมไว้ที่ใต้โต๊ะอาหารตลอดเวลา ไอ้คนตัวเล็กคงกลัวว่าผมจะโกรธจัดที่มันร่วมมือกับนิรันดร์มาแกล้งผม พูดตามตรงคือผมก็โกรธแหละ แต่เพราะรู้จักนิสัยขี้แกล้งของนิรันดร์อยู่แล้วก็เลยไม่ได้อะไรมาก แต่ก็ต้องวางฟอร์มว่าตัวเองยังโกรธอยู่ให้คนตัวเล็กรู้สึกผิด กลับไปจะได้หาเรื่องลงโทษได้ยังไงละครับ ส่วนเหตุผลในการแกล้งครั้งนี้ของนิรันดร์มันก็มีความห่วงใยซ่อนอยู่เหมือนทุกครั้งแหละ นิรันดร์แค่ต้องการให้คุนคุนมาร่วมทานอาหารกับครอบครัวเราจะได้ทำความรู้จักสนิทสนมกันไว้ แต่ที่น่าเสียดายคือเฮียเกอร์กับแม่ไม่อยู่เลยได้ทานอาหารกันแค่สี่คน

"ถ้าว่างคุนก็ไปเที่ยวบ้านเราบ้างนะ" นิวเยียร์เอ่ยก่อนจะเดินขึ้นลิฟต์ไปกับนิรันดร์ แม้นิวเยียร์จะอยู่ชั้นม.6 แต่ก็อายุเท่ากับคุนคุนต่างฝ่ายต่างไม่มีใครเรียกพี่ หวยเลยมาออกที่เรียกชื่อกันเองอย่างสนิทสนมแบบที่เห็น ส่วนผมก็ดีใจที่คนที่ผมรักเข้ากันได้ดีกับคนในครอบครัวผม

วันนี้นิรันดร์ตั้งใจมาทานมื้อค่ำกับพวกเราโดยเฉพาะ นั่งเครื่องมาจากเชียงใหม่เครื่องลงในเวลาใกล้เคียงกับคุนคุนเลยมาที่ห้างนี้พร้อมกัน แล้ววันนี้นิรันดร์ก็จะไปอยู่ที่บ้านเป็นเพื่อนนิวเยียร์เพราะแม่ไม่อยู่ ยัยน้องสาวตัวแสบก็เลยได้ทีอ้อนนิรันดร์ให้ไปเดินช้อปปิ้งเลือกซื้อเครื่องสำอางค์กับเสื้อผ้า นึกภาพออกเลยว่าอีกชั่วโมงข้าฃหน้ายัยตัวดีคงหิ้วถุงเต็มสองมือพร้อมกับยิ้มแก้มปริ ส่วนผมกับคุนก็ขึ้นลิฟต์อีกตัวมายังลานจอดรถที่อยู่ชั้นบนสุด

"ได้เลย"

"มานี่เลยตัวดี แล้วกระเป๋าเดินทางอยู่ไหน"

"พี่รันให้คนเอาไปฝากไว้ที่คอนโดแล้วครับ"

"เค ก็ดี แต่ตอนนี้เรามีเรื่องต้องคุยกันยาว"

.
.
.
.
.
.



#คุนแฟง

by ppeachmm









หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 30| 31.05.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 31-05-2020 23:43:44
พี่รันนี่ชอบแกล้งจริงๆเนาะ,,,
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 31| 1.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 01-06-2020 07:52:31
---ตอนที่ 31---

แฟง's part

"แฟง ไปแ*กข้าวกัน หิว วันนี้คนไข้เยอะชิบหาย" นาทีที่เพิ่งเดินออกมาจากลิฟต์เอ่ยขึ้น พรางเอาแขนพาดไหล่ผมที่ยืนอ่านข้อมูลคนไข้ที่มาใหม่เมื่อเช้านี้จากแฟ้มข้อมูงที่พยาบาลยื่นให้ที่หน้าเคาน์เตอร์อยู่

"มึงไปก่อนเดี๋ยวตามไป" ผมยังคงอ่านข้อมูลคนไข้รายนี้ต่อไปอีกสักพัก ก่อนจะปิดแฟ้มข้อมูลคนไข้แล้วยื่นคืนให้พยาบาลคนเดิม

"ทำไมไม่ไปพร้อมกัน ให้กูรอก็ได้นะ เพื่อนรัก"

"หื่อ ไม่ต้อง มึงไปก่อนเลย" ผมเดินออกมาจากเคาน์เตอร์พยาบาลโดยมีนาทีเดินเอาแขนพาดไหล่ผมเดินมาข้างๆกัน เรามีส่วนสูงใกล้เคียงกันเพราะฉะนั้นการที่มันโอบไหล่ผมแล้วเดินไปแบบนี้จึงเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยาก แล้วมันก็ชอบทำด้วย ไม่รู้เป็นไรชอบเอาแขนมาพาดไหล่ผม บางทีก็นึกสงสัยว่ามันเมื่อยไม่รู้จะเอาแขนไปวางที่ไหนรึเปล่า

"แหนะ มีพิรุจวะ" นาทียื่นหน้ามาใกล้ๆ แถมยังจ้องตาผมเหมือนจะจับผิดอะไรผมสักอย่าง

"พิรุจพ่องงง รีบไสหัวไปไกลๆ" ผมผลักหัวมันออกไปไกลๆ

"กูไม่ไป จะยืนจับผิดคนอยู่ตรงนี้แหละ"

"กวนตีน"

"เรื่องของกู หน้ามึงโคตรมีซัมติงอะ"

"ซัมติงบ้างพ่องง ไหนบอกหิว ก็ไปหาอะไรแ*กสิวะ จะมายืนเกาะกูเป็นปลิงดูดเลือดอยู่ทำไม รำคาญ" ผมจับมือมันที่พาดไหล่อยู่ออก ก่อนจะเดินจ้ำอ้าวออกไปทางประตูหน้าโรงพยาบาล ผมยืนอยู่ตรงนั้นสักพักเมื่อไม่เห็นนาทีเดินตามมาก็คิดว่ามันปลีกตัวไปหาอะไรกินที่โรงอาหารแล้ว

"หึ กูรู้แล้วว่ามึงยืนทำหล่ออะไรอยู่ตรงนี้" แต่จู่ๆมันก็โผล่มายืนช้อนหลังผมแล้วกระซิบเบาๆ

"อะไรของมึงเนี่ย" เชี่ยยย กูตกใจหมด เสียงแม่งหลอนสัส แล้วแม่งไม่รู้เป็นห่าอะไรต้องทำเสียงแหบๆเบา โคตรจะขนลุก

"โน่นไง มาโน่นแล้ว ที่แท้ก็มีปิ่นโตภัตตาคารจีนสั่งตรงจากปักกิ่งมาส่งนี่หว่า"  มันใช้ปากยื่นๆของมันชี้ไปทางถนนหน้าโรงพยาบาลที่มีคนตัวเล็กถือปิ่นโตสีขาวลายมารีกำลังเดินมาหาผม วันนี้คุนคุนในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนตัวใหญ่กับกางเกงขาสั้นเหนือเข่าสีครีมอ่อนดูน่ารักสดใสยิ่งกว่าทุกวัน

"ยุ่ง" เสือกทุกวินาทีจริงๆ เปลี่ยนชื่อเถอะ จากนาที เป็นวินาที โคตรจะเข้ากับหน้าตาสอดรู้สอดเห็นของมันตอนนี้ชิบหาย

"พี่แฟงคร้าบบบ รอนานมั้ยเอ่ย อ้าวพี่นาทีสวัสดีครับผม" คนตัวเล็กยกมือขึ้นไหว้นาทีทันทีที่เดินมาหยุดยืนด้านหน้าผม

"ไม่ต้องไหว้ๆ ไม่อยากแก่ วันหลังเดินมากอดเฉยๆเป็นพิธีพอ มาๆมากอดกันหน่อย" ว่ายังไม่ทันจบประโยคดี ไอ้คนที่พูดปาวๆเมื่อครู่ว่าเป็นเพื่อนรักผมก็โผลจะเข้าไปกอดคุนคุนที่ยกมือไหว้ค้างไว้อยู่

"เอ่อ..."

"กอดพ่องงง ไปไกลๆตีนกู เกะกะน่ารำคาญ" ผมรีบยื่นมือเข้าไปดึงคอเสื้อกาวน์นาทีไว้ก่อนที่มันจะเข้าประชิดตัวคุนคุน

"โอ้ย อะไรวะ แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยนะคนนี้เนี่ย" สงสัยจะดึงแรงไปหน่อย อีกฝ่ายเซถอนหลังไปเกือบชนเสาข้างๆ

"หิวแล้วไปกินข้าวกันดีกว่า วันนี้มีอะไรมากิน" นาทีโวยวายเป็นวรรคเป็นเวรแต่ผมก็ไม่ได้หันไปสนใจมัน เดินเข้าไปโอบเอวคุนคุรแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น เป้าหมายของเราวันนี้คือเก้าอี้ในสวนหย่อมข้างโรงพยาบาลเนี่ยแหละ ตรงนั้นบรรยากาศดี ไม่อุดอู้ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหลายคนก็มานั่งทานอาหารกลางวันกันตรงนี้เหมือนกัน

"วันนี้คุนมีสลัดแซลม่อน กับปลาหิมะย่างเกลือมาให้พีาแฟงครับ แล้วก็มีผลไม้ กับ..." คนตัวเล็กแกะปิ่นโตลายมารีออก ก่อนจะสาธยายอาหารด้านในที่ล้วนน่าตาน่าทานทั้งนั้น ผมท้าวคางนั่งมองหน้าคนตัวเล็กที่ขยับปากสีแดงระเรื่ออธิบายเมนูนี้ทีเมนูโน้นที สามวันมานี้ผมไม่แตะข้าวโรงพยาบาลอีกเลยครับ มื้อเช้าคุนคุนก็ทำใส่กล่องทาให้ ส่วนมื้อกลางวันก็เอาใส่ปิ่นโตมานั่งทานด้วยกันที่โรงพยาบาล อาหารคุนคุนอร่อยกว่าของโรงพยาบาลเยอะ แถมยังได้กินข้าวกับไอ้หน้าจิ้มลิ้มทุกเที่ยงอีก เพื่อนๆในโรงพยาบาลนี่อิจฉาผมกันทั้งนั้น ทำไงได้ละก็แฟนเรามันแม่ศรีเรือนนี่เนอะ

"มึงจะตามติดกูเป็นขี้อีกนานมั้ยนาที" แต่โมเมนต์สีชมพูวิ้งๆก็หายวับไปกับตาเมื่อเพื่อนรักหน้ามึนหน้าหนาเหมือนโบกปูนซีเมนต์ไว้สิบชั้นมานั่งหน้าสลอนร่วมโต๊ะกับผมซะงั้น

"ก็กูหิว" ยังหน้าด้านตอบมาได้ดูมัน

"มึงหิวก็ไปหาอะไรกินที่โรงอาหารโน่น"

"ไม่ กูจะกินปลาหิมะ!" นาทีไม่นั่งเฉย หยิบปิ่นโตปลาหิมะของผมไปวางตรงหน้ามันอีก หน้าด้านไม่มีใครเกิน

"กูไม่ให้กิน! จะไปไหนก็ไป ไปแ*กข้าวกับเพื่อนใหม่มึงโน่น นั่นไงมันลงมาจากตึกแล้ว" ผมแย่งปิ่นโตปลาหิมะมาจากมัน เหลือบไปเห็นธันวากำลังเดินลงมาจากตึกพอดีเลยเสนอให้มันไปกินข้าวด้วยกัน ช่วงนี้ธันวามันมากินข้าวกับพวกผมบ่อยครับ เพราะเพื่อนในกลุ่มมันได้ไปขึ้นวอร์ดแผนกฉุกเฉินเลยกินอาหารไม่ค่อยเป็นเวลา ต่างจากพวกเราที่ได้วอร์ดอายุรกรรมเลยโชคดีนิดหน่อย แต่ความโชคดีนี้อยู่ได้ไม่นานหรอกเพราะอีกไม่กี่เดือนก็ต้องสลับกันไปวอร์ดอื่นอยู่ดี

"ไม่ๆ วันนี้เบื่อขี้หน้ามัน เบื่อโรงอาหารโรงพยาบาล เบื่ออาหารโรงพยาบาล อยากกินอาหารของน้องคุนคนน่ารัก พี่กินด้วยนะคร้าบบบ" พอผมแย่งปลาหิมะมาจากมัน มันก็เอื้อมมือไปลากปิ่นโตสลัดแซลม่อนมาแทน

"ไม่" แต่มีหรือที่ผมจะยอม คุนคุนทำมาให้ผมนะโว้ย ผมแย่งคืนแม่งเลย กลายเป็นสงครามแย่งปิ่นโตไปในทันที

"เฮ้ย ไรวะ ขัดขวางหรอมึงอะ ไม่ทำงี้ดิเพื่อนรัก"

"นาทีไปเล่นไกลๆ" ผมวางปิ่นโตในมือลง ก่อนจะมองหน้ามันด้วยสายตาที่บอกว่าไม่เล่นด้วยแล้ว มึงจะไปไหนก็ไป อย่ามากวนตีนกู! เราสองคนจ้องหน้ากันได้สักพัก คุนคุนก็เอ่ยขึ้นมา คงกลัวว่าเราจะฆ่ากันด้วยสายตาตายไปก่อนจะได้กินอาหารมื้อนี้ที่ตั้งใจเตรียมมาให้

"เอ่อ พี่นาทีครับ คือคุนไม่ได้ทำมาเผื่ออะครับ" คนตัวเล็กเอ่ยออกมาเสียงเบาด้วยความรู้สึกผิดที่ไม่ได้ทำมาเผื่อส่วนเกินอย่างนาที

"ได้ยินรึยัง ไสหัวไป กูจะไปนั่งแ*กข้าวกับที่รักกู"

"แหมๆๆ เต็มปากเต็มคำเลยนะตัวเอง แล้วเค้าอะ ลืมเค้าแล้วอ่ออออ" มันยังไม่ไปอีกนะ ไล่ขนาดนี้แล้ว แถมยังมีหน้ามาทำท่าเล่นหูเล่นตากับผมอีก เอ๊ะไอ้นี่!

"ฮ่าๆๆๆ" คุนคุนเห็นแบบนั้นก็หัวเราะออกมา

"กวนส้นตีน ไปไกลๆ" แต่ผมไม่อยากเล่นด้วยไงตอนนี้ เสียเวลาแ*กข้าว เสียเวลาจู๋จี๋กับที่รักกู!

"หรือถ้าพี่นาทีอยากทานงั้นทานส่วนของคุนก็ได้ครับ" อ้าว ไอ้คุนนี่ก็ใจดีเข้าไปอีก โอ้ยน้อ!

"เชี่ย น้ำใจงามสุดๆ"

"ซึ้งมั้ย ถ้าซึ้งก็บีบน้ำตาออกมา กูจะแบ่งเศษผักให้สักสองสามใบ"

"ส่วนเพื่อนแฟงก็เ*ยสุดๆ หิวเว้ย ไปชวนไอ้ธันหาไรอร่อยๆแ*กนอกมหาลัยดีกว่า เชิญมึงจู๋จี๋กับที่รักของมึงตามสบาย พี่ไปแล้วน้องถั่วงอก" ว่าแล้วมันก็ลูกขึ้นปัดตูดสองสามทีแล้วก็เดินไปหาเพื่อนคนใหม่ของมันที่ยืนอยู่หน้าอาคาร มันคงนัดกันไว้แล้วแหละ แต่ตั้งใจมากวนตีนผมฆ่าเวลารอธันวาเท่านั้นเอง เป็นเพื่อนกันมานานทำไมจะไม่รู้นิสัยของมัน

"เออ รีบๆไปรำคาญ"

"คร้าบผม" ไอ้ตัวเล็กยิ้มแก้มปริ โบกไม้โบกมือให้นาทีที่เดินห่างออกไป

"ยิ้มให้มันทำไมห้ามยิ้ม เก็บปากเดี๋ยวนี้เลย"

"ยิ้มไม่ได้หรอครับ เพื่อนพี่แฟงตลกนิครับ"

"ห้ามยิ้ม กูหวง" จบมั้ย?!!

พอมารผจญจากไป โลกสีชมพูของเราก็สงบสุขอีกครั้ง เราใช้เวลาในการทานอาหารไม่นาน ตัวผมเป็นคนกินเร็วอยู่แล้ว ด้วยการเป็นจะหมอนั้นเวลาเป็นสิ่งสำคัญจะมาเอ้อระเหยลอยชายแ*กข้าวเคี้ยวข้าวทีละเม็ดมันทำไม่ได้ไง เลยติดนิสัยกินเร็วมาตั้งแต่เข้าปีหนึ่ง ส่วนคุนเองด้วยมีพื้นฐานเป็นคนจีนอยู่แล้ว กินเร็วเหมือนกันถึงสปีดการกินจะไม่เร็วเท่าความเร็วแสงเหมือนผม แต่ก็จัดได้ว่าเร็วกว่าคนทั่วไปอยู่ประมาณหนึ่ง

"เออ อาทิตย์หน้่วันหยุดยาว ทางสโมสรนักศึกษาแพทย์จะไปออกค่ายช่วยเหลือชุมชนที่เชียงใหม่นะ ไปห้าวัน" ผมเอ่ยขึ้นทันทีที่ทานอาหารเสร็จ

"นานจัง" คนตัวเล็กที่กำลังเก็บปิ่นโตซ้อนทับกันอยู่หันหน้ามามองผมด้วยสายตาละห้อยทันที

"ไม่ต้องทำหน้าหงอย" แม่งเอ้ย ทำหน้าแบบนี้ทีไร ใจกูอ่อนปวกเปียกทุกที

"ก็คุนคิดถึง"

"ก็เดี๋ยวคอลหาก็ได้"

"ไปด้วยสิ" คนตัวเล็กวางปิ่นโตลง ก่อนจะนั่งท้าวคางแล้วหันหน้ามาทำตาปริบๆเชิงอ้อนส่งให้ผม

"อยากไปหรอ" ผมเลยถามออกไป

"อะฮะ" อีกฝ่ายรีบทำตาโตกระพริบตาปริบๆ เหมือนแมวเวลาอยากกินขนมยังไงยังงั้น

"ไปไม่ได้ มันร้อน แดดแรง" ด้วยค่ายอาสาที่ผมจะไปนั้นนอกจากจะไปบริจาคสิ่งของพวกเครื่องดนตรีกับอุปกรณ์กีฬา แต่ต้องไปทำนุบำรุงอาคารเรียนตากแดดตากฝนห้าวันด้วย เพราะยอดเงินบริจาคที่ได้มานั้นเกินเป้าที่ตั้งไปเยอะมาก จากที่ตั้งยอดบริจาคไว้ที่สองแสน ผลตอบรับคลิปวีดีโอนั้นท่วมท้น ทำให้มียอดบริจาคเข้ามาเกือบแปดแสน ผมเห็นยอดละงงเลยครับ นี่มันยิ่งกว่ายอดกฐินวัดแถวบ้านอีกนะ หรือผมจะลาออกจากเรียนหมอแล้วไปเป็นนักร้องดีวะ เงินดีชิบหาย

"คุนทาครีมกันแดดได้ เอ่อ ใส่หมวกด้วยก็ได้" ดูเหมือนอีกคนจะไม่ยอมง่ายๆ ขนาดครีมกันแดดที่ไม่ชอบทายังเสนอตัวว่าจะทาซะด้วย

"หึๆ อยากไปขนาดนั้นเชียว"

"ก็อยู่คอนโดคนเดียวคุนเหงา ยังไม่เปิดเทอมด้วยสองแฝดก็ออกไปเที่ยวตลอด ไม่มีเพื่อนเล่นเลย" ฟังเหตุผลแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ช่วงนี้สองแฝดแม่งก็เดินสายออกนอกคอนโดเป็นว่าเล่นจริงๆนัานแหละ อยู่ไม่ติดคอนโดเลยสักวัน ไอ้ทัพนั้นพอรู้อยู่ว่ามันไปถ่ายแบบ ถ่าย MV อะไรของมัน แต่ไอ้ขุนนี่สิ เลิกกับแฟนมาได้สักพักแล้วยังไม่มีข่าวว่าจีบใครสักหน่อยแล้วแม่งออกไปไหนทุกวันวะ ทีเมื่อก่อนตอนกูจีบคุนใหม่ๆนี่มาคอยเคาะห้องกูเช้า กลางวัน เย็น เลยนะมึง

"ไปไม่ได้หรอก อาจารย์จุไรรัตน์ไม่ให้คนนอกไปด้วย" ผมตอบไปตามตรง แม้ใจจริงจะวางแผนไว้แต่แรกแล้วว่าจะเอาคุนคุนไปด้วย แต่พอไปคุยกับอาจารย์จุไรรัตน์ที่ปรึกษาสโมฯ แกกลับไม่อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องไปด้วย คือก็เข้าใจแกแหละ เพราะแกต้องรับผิดของชีวิตนักศึกษาร่วมกว่ายี่สิบชีวิต ถ้าเกิดอะไรขึ้นมามันจะมีปัญญาภายหลังนะสิ

"พี่ถามแล้วหรอ" อีกฝ่ายหน้าหงอยกับคำตอบที่ได้รับจากผมทันทีอย่างเห็นได้ชัด

"อืม ถามแล้วตั้งแต่เมื่อวาน ตอนแรกก็ว่าจะพาไปด้วยแหละ กูว่ากูก็คงคิดถึงมึงเหมือนกัน"

"พี่แฟงน่ารักที่สุด ทานฝรั่งนี่เยอะๆครับ คุนปลอกมาใหม่ๆ หวานกรอบมากครับ" คุณเป็นคนพูดง่ายและมีเหตุผลเสมอ พอรู้ว่าไปไม่ได้จริงๆก็ไม่ได้เซ้าซี้ แต่ก็ยังทำหน้าหงอยเป็นลูกแมวหิวขนมอยู่เหมือนเดิม

"อือ กรอบดี หวานด้วย ไม่ทำหน้าหงอยแบบนั้นสิ เดี๋ยวเลิกแล้วพาไปกินขนม"

"ก็ได้ครับ"

คนหน้าหงอยมีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย สฃสัยอยากไปด้วยมากมากขนาดเอาขนมมาล่อยังไม่ดีใจเลย เห็นแล้วก็สงสารจับใจ อดไม่ได้ที่จะดึงคนตัวเล็กเข้ามากอด เราคุยกันอีกสักพักผมก็ต้องเข้าเรียนคลาสบ่ายแล้ว ส่วนคุนคุนก็ขับรถผมกลับคอนโด ตั้งแต่กลับมาจากปักกิ่งคุนคุนก็ทำหน้าที่เป็นสารถีให้ผมครับ มาส่งตอนเช้า มาทานมื้อกลางวันด้วยกันที่โรงพยาบาล ส่วนตอนเย็นก็ขับรถมารับ เจ้าตัวบอกว่าปาป๊าเพิ่งสอนขับรถมาเลยอยากฝึกขับรถให้เก่งขึ้น ผมก็เป็นพวกตามใจไง อยากทำไรก็ทำเลย แล้วอีกอย่างคอนโดเราก็อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยด้วยเลยไม่ต้องห่วงมากนัก ถนนแถวนี้ก็ไม่มีพวกขับรถเร็วด้วย ถือว่าสบายใจไปเปราะหนึ่ง
.
.
.
.
.
.

วันนี้เป็นวันที่ผมต้องเดินทางไปเชียงใหม่กับทางมหาวิทยาลัยครับ อาจารย์นัดให้มารวมตัวกันตอนแปดโมงที่หน้าคณะแพทยศาสตร์

"นักศึกษานำกระเป๋ามาไว้ใต้ท้องรถได้เลยคะ อีกสิบนาทีเราจะเดินทางกันแล้ว" อาจารย์โยธินหัวหน้าภาควิชาตะโกนบอกนักศึกษาที่เพิ่งมาถึง ซึ่งนั่นรวมถึงผมที่ยืนอยู่ข้างรถSLK ของตัวเองด้วย

"ต้องไปแล้ว" ผมหยิบกระเป๋าเป้ใบใหญ่ออกมาจากรถ

"พี่แฟง" คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นเมื่อผมหันหลังทำท่าจะเดินไปที่รถบัส

"อะไร" ผมหันกลับมาตามเสียง เห็นคนที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับเดินตามผมมาติดๆ

"คอลหาคุนทุกวันได้มั้ยครับ"

"ต้องทำแบบนั้นอยู่แล้ว แล้วพี่ไม่อยู่ก็ดูแลตัวเองดีๆ ห้ามไปซนที่ไหนรู้มั้ย" ผมยกมือขึ้นไปขยี้หัวฟูๆของคุนคุนทันทีที่อีกคนเดินเข้ามาใกล้

"โอเคครับ" คนตัวเล็กตอบรับด้วยน้ำเสียงที่เบากว่าทุกที ฟังดูก็รู้ว่าเจ้าตัวเริ่มจะงอแงแล้ว แต่คงจะพยายามเก็บอาการอยู่ พอตอบรับผมเสร็จก็รีบหันหลังจะเดินกลับรถทันที

"คุน" ผมรีบเรียกอีกคนไว้ทันที

"ครับ" อีกฝ่ายตอบรับเสียงอ่อยทั้งๆที่ไม่หันหน้ามาหาผมด้วยซ้ำ อีหรอบนี้คือน้ำตาซึมอยู่แน่ๆ โถเด็กน้อยเอ้ย

"มากอดก่อน"

"..."

"ห้าวันเอง ไม่งอแง" ผมเดินเข้าไปใกล้จับตัวอีกคนหันหน้าเข้ามาซุกอกก่อนจะดึงตัวเข้ามากอดไว้แน่นๆ โชคดีที่ตรงนี้มีต้นไม่ใหญ่สองสามต้นกั้นไว้ทำให้คนในรถมองไม่เห็นว่าเรากอดกันอยู่

"จะไม่งอแงได้ไง ในเมื่อพี่แฟงทำให้คุนติดพี่แฟงจนขาดไม่ได้เแบบนี้" นั่นไง บอกแล้วว่ากำลังงอแงอยู่แน่ๆ ฟังเสียงก็รู้แล้วเนี่ย

"หืม? ติดจนขาดไม่ได้ขนาดนั้นเลยหรอ"

"ก็ใช่นะสิ คนขี้โกง" น้ำตาซึมแหงๆ รู้สึกเย็นๆหน้าอกขึ้นมาทันที

"งั้นกลับมาจะให้กอดสามวันสามคืนไม่ลุกออกจากเตียงเลยดีมั้ย" ผมรีบกอดอีกคนแน่นขึ้นแล้วก็หอมลงไปบนหัวอีกสองสามที

"ห้ามคืนคำนะ"

"พี่เคยโกหกคุนรึไง เด็กดื้อ"

"ไปได้แล้วครับ คนในรถรอแล้ว" คุนคุนยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงอู้อี้

"จะให้ไปก็ปล่อยก่อนมั้ย เล่นกอดแน่นแบบนี้จะไปได้ไง ไม่งอแงนะ เป็นเด็กดีด้วย" ปากก็บอกให้ผมรีบไป แต่แจนที่โอบรอบเอวนี่แน่นกว่ากอดตอนแรกๆอีกนะ ผมจับหน้าอีกคนเงยขึ้นก่อนก้มลงไปจูบริมฝีปากแดงระเรื่อนั้นเบาๆอย่างอ่อนโยน

"อื้อ"

"ต้องไปแล้ว ไม่งอแง ถึงแล้วจะโทรหา"

"คร้าบบ"
.
.
.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 31| 1.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 01-06-2020 09:15:46
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 31| 1.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 01-06-2020 12:42:12
มีคนหลงเมียครับ มีคนหลงผัวครับ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 31| 1.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 01-06-2020 20:43:57
 :o8:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 32| 02.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 02-06-2020 08:32:18
--- ตอนที่ 32 ---


แฟง's part

ผมเดินทางมาถึงโรงเรียนม่อนเคียงดาววิทยาได้สองวันแล้วครับ ไม่รู้ว่าเราเลือกมากันผิดฤดูรึเปล่าแดดถึงได้ร้อนจ้าแสบกระบานขนาดนี้ แดดเดือนมิถุนายนนี่มันแผดเผาแสบผิวขนาดนี้เลยหรอเนี่ย แต่แดดไม่ใช่อุปสรรคเดียวที่ชาวค่ายอย่างเราเผชิญครับ อีกอุปสรรคหนึ่งคือที่นี่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ และไม่ต้องพูดถึงสัญญาณอินเตอร์เน็ตนะครับไม่เคยมีตั้งแต่เหยียบมาบนเขาลูกนี้เลยก็ว่าได้ จะโทรหาคุนคุนทั้งทีต้องถ่อขึ้นมาบนยอดดอยแถวเสาสัญญาณโทรศัพท์ข้างอ่างเก็บน้ำ แล้วระยะทางใช่ใกล้ๆที่ไหน วันแรกเดินขึ้นมานี่ลมแทบจับ ลูกสาวผู้ใหญ่บ้านบอกให้ลัดเลาะมาตามคูน้ำหนึ่งกิโลก็จะถึงเสารับสัญญาณ เชี่ยหนึ่งกิโลแม้วชัดๆ เดินมาเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเสารับสัญญาณโทรศัพท์ร้างๆหนึ่งเสา ถ้ามากลางคืนนี่คงจะไม่ได้กลับลงไปคงตายเป็นศพอยู่แถวทางลงนั่นแหละ ทางแม่งโคตรแคบโคตรชัน ถ้าฝนตกนี่คือลื่นชิบหายวายป่วง วันที่สองค่อยฉลาดขึ้นมาหน่อย ขอยืมมอไซค์ผู้ใหญ่บ้านขึ้นมา เชี่ย ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ตัดภาพไปเมื่อวานขาแทบเป็นอัมพาต ทางขึ้นโคตรชัน กูเดินมาได้ไงวะเมื่อวาน ยอมใจตัวเองสุดๆ

วันนี้งานทาสีเสร็จเร็วกว่าตารางที่วางไว้ พากเราจึงมีเวลาพักผ่อนเพิ่มอีกสองชั่วโมงกว่าจะถึงเวลามื้อค่ำ พออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าล้างตัวที่เต็มไปด้วยสีออกจนหมดแล้ว จุดหมายต่อไปของผมคือบ้านผู้ใหญ่บ้านทีี่มีน้องเบลล่าลูกสาวหน้าขาวปากแดงของเฮียผู้ใหญ่นั่งรอแทะโลมผมอยู่ก่อนแล้ว ก็อยากจะยืมมอไซค์เค้าก็ต้องปล่อยให้น้องเค้าแทะโลมเล็กๆน้อยเป็นค่าเช่ามอไซค์ไป กว่าจะได้มอไซค์มาใช้แขนผมนี่แทบถลอก เบลล่าทั้งลูบทั้งถูอย่างกับจะขอหวย โอ้ย! แขนคนนะเว้ยไม่ใช่ต้นไทร!

"จะไปไหน" นาทีเอ่ยถามผมทันทีที่ผมจูงรถมอไซค์าีแดงคันเก่าๆออกมาจากโรงจอดรถข้างบ้านเฮียผู้ใหญ่บ้าน ตัวมันเองก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามาเสร็จสรรพ

"ไปโทรศัพท์"

"กูไปด้วยดิ"

"เออๆ ขึ้นมา จับดีๆนะมึง เสือกหล่นขึ้นมากลางทางกูไม่ลงไปเก็บนะเว้ย" ผมพูดดักไว้ก่อน เพราะถ้ามันหล่นจากมอไซค์จริงๆผมคงตามไปเก็บมันไม่ไหวอย่างที่พูด เพราะทางขึ้นไปจุดรับสัญญาณนั้นเป็นทางค่อนข้างชัน ถ้าหล่นลงมาบอกไว้เลยว่าจุดหมายมึงคือตีนดอย กลิ้งจนสมองไหลออกมาไม่รู้ตัวเลยละ

"เออ รู้แล้ว"

เราสองคนใช้เวลาในการขึ้นดอยมาไม่ถึงสิบนาทีเพราะตอนนี้ผมเริ่มชำนาญเส้นทางแล้ว รู้แม้กระทั่งว่าหลุมอุกกาบาตอยู่ตรงไหนบ้าง แม่ง ไม่ได้แอ้มกูหรอกไอ้หลุมเวร พอมาถึงก็ต่างคนต่างแยกย้ายไปหามุมใครมุมมัน ใช้เวลาไม่นานต่างคนต่างทำธุระขอตัวเองเสร็จก็มาเจอกันที่มอไซค์คันเก่าๆสีแดงที่จอดพิงไว้ข้างเสาสัญญาณร้างคันเดิม

"แถวนี้มีสัญญาณก็ไม่บอกกันเลยนะมึง" นาทีเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าก่อนหยิบบุหรี่ออกมาจุด

"กูจะบอกมึงแล้ว แต่มึงดันถูกแมลงวันหัวสีเขียวลากตัวไปก่อน" เมื่อวานก่อนที่ผมจะขึ้นมาตรงนี้ผมก็เดินตามหานาทีมันอยู่สักพัก พอเห็นมันยืนคุยกับป้าแม่ครัวอยู่ก็ว่าจะเดินไปชวนมันขึ้นมาบนนี้ด้วยกัน แต่มันดันโดนสาวในหมู่บ้านที่ย้อมผมสีเขียวทั้งหัวชื่ออะไรสักอย่างจำไม่ได้ ลากไปที่ไหนก็ไม่รู้ ผมเลยฉายเดี่ยวมาบนนี้คนเดียว ขืนรอมันคงได้มืดกันพอดี

"น้องแอปเปิ้ล ลูกป้าแม่ครัว"

"เออนั่นแหละ เห็นน้องมันเกาะแข้งเกาะขามึงอยู่นั่นไม่ยอมปล่อยกูเลยขี้เกียจรอ บนดอยยังเสน่ห์แรงเลยนะมึง สมแล้วไอ้เดือนแพทย์ น่าภูมิใจจิงจี้งงง"

"ว่าแต่กู มึงก็เหมือนกันแหละ ลูกสาวผู้ใหญ่บ้านก็เกาะติดมึงยังกะขี้ติดตูด แม่เบลล่าปากแดง"

"เออ พอกันแหละวะ คนมันหล่อให้ทำไงได้"

"หรออออ แล้วนี่โทรคุยกับน้องถั่วงอกเสร็จแล้วหรอ"

"ป่าว คุนไม่รับสาย เลยส่งข้อความไป แล้วมึงละ"

"คุยกับมายด์เวย์เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้มีแมวมาเลี้ยงที่ห้องเลยไม่เหงาเวลากูไม่อยู่ แล้วตอนนี้ก็ขึ้นคลีนิกเหมือนกันเลยยุ่งพอๆกัน" มายด์เวย์เรียนทันตะครับ พอขึ้นปีสี่ก็ขึ้นคลีนิคเหมือนกันโรงพยาบาลเดียวกันกับพสกผมนี่แหละแต่คนละตึกกัน

"อือ ก็ดีแล้ว แล้วพี่ปีออกจากโรงพยาบาลแล้วหรอ" เพิ่งนึกได้ว่าพี่ชายมันประสบอุบัติเหตุรถชนเมื่ออาทิตย์ก่อน เลยเอ่ยถามออกไป กะว่าพอจบค่ายจะแวะไปเยี่ยมพี่มันซะหน่อย ได้ยินข่าวว่าพักนักตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในตัวเมืองเชียงใหม่นี่แหละ อย่างที่เคยบอกแหละครับว่ามันกับผมรู้จักกันมาแล้วก็เรียนด้วยกันมาแต่เด็ก มันเกิดและโตที่เชียงใหม่เหมือนกับผมนี่แหละครับ ครอบครัวมันก็เป็นชาวเชียงใหม่แท้ๆนี่แหละ

"หมอให้กลับบ้านแล้วตั้งแต่วันก่อน"

"แล้วคู่กรณีละ"

"เจ็บพอกัน แต่อีกฝ่ายหมอยังให้รักษาตัวในโรงพยาบาลต่อ"

"อ้าวหรอ แต่พี่ปีไม่เป็นไรมากก็ดีแล้ว"

"อือ แค่กระดูกแขนเคลื่อนเฉยๆ ใส่เฝือกอ่อนไว้"

"กลับมั้ย เดี๋ยวมืดจะลงดอยลำบาก"

"อือ ไปดิ" นาทีทิ้งบุหรี่ที่สูบไปเพียงครึ่งมวลลงพื้นก่อนจะใช้เท้าขยี้เพื่อดับไฟ

"พรุ่งนี้มึงจะมากับกูอีกมั้ย"

"มาดิ เรียกกูด้วย"

"เออๆ เจอกันหน้าบ้านผู้ใหญ่ตอนห้าโมงนะ ห้ามเลทนะเว้ย กูเบื่อเวลาน้องเบลล่าลูบแขนกู"

"เชี่ยยย นี่มึงเอาตัวเข้าแลกเพื่อมอไซค์คันเดียวหรอวะ คนจริงสัสสส" มันหันหน้ามายิ้มเยาะผม

"หรือมึงจะทำแทนกูมั้ยพรุ่งนี้"

"ไม่อะ มึงจัดการเหอะ น้องเบลล่าชอบมึงไม่ใช่กู" มันตบไหล่ผมแปะๆ ก่อนจะหัวเราะในลำคอ

"จะกลับมั้ย จะกลับก็ขึ้นมา ไม่งั้นกูปล่อยมึงแห้งเหี่ยวอยู่บนนี้แน่ๆสัสที" ผมขึ้นคร่อมมอไซค์ก่อนจะหันมาเรียกไอ้ทีที่ยืนมองนกมองไม้อยู่

เราใช้เวลาสักพักกว่าจะลงมาจากดอยได้ ขาลงใช้เวลานานกว่าขาขึ้นเพราะต้องขับช้าๆเนื่องจากทางค่อนข้างชัน

"พี่แฟง มาทานข้าวในบ้านเบลล่าก่อนมั้ยคะ" เสียงแหลมของเจ้าของมอไซค์เอ่ยขึ้นทันทีที่ผมดับเครื่องมอไซค์ที่หน้าบ้านผู้ใหญ่บ้าน ส่วนไอ้นาทีนั้นมันกระโดดลงจากมอไซค์ตั้งแต่เห็นน้องเบลล่านั่งรอผมที่หน้าบ้านแล้ว ไอ้เพื่อนรักหน้าเ*ย ไม่คิดจะช่วยกูสักนิดเลยนะมึง

"คงไม่ได้หรอกเบลล่า พี่ต้องไปทานอาหารกับเพื่อนๆที่ศาลาโรงเรียนนะ ขอบคุณนะ พี่ต้องไปแล้วเพื่อนรอ" ผมรีบปฏิเสธไป ก่อนจะชี้ไปทางนาทีที่ยืนรออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ไม่ห่างจากบ้านผู้ใหญ่มากนัก

"เสียดายจัง เอาไว้วันหลังเนาะ"

"ได้ๆ งั้นพี่ไปก่อนนะ ไปสายเดี๋ยวอาจารย์ดุเอา"

"ได้คะ แต่ว่าไม่มีค่าใช้มอไซค์ให้เบลล่าหน่อยหรอคะ" เธอดึงแขนผมไว้ก่อนที่ผมจะได้ขยับตัวไปไหน เชี่ยเอ้ย อุตส่าห์ทำเนียนลืมไปแล้วเชียว

"อ่า  ครับ งั้นเชิญตามสบายเลย"

"พี่แฟงน่ารักที่สุดดดด" พูดจบเธอก็ดึงหน้าผมลงไปจุ๊บแก้มสากๆของผมไปหนึ่งที พอเสร็จสิ้นค่าเช่ามอไซค์ผมก็รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากตรงนั้นทันที ไอ้นาทียืนยิ้มผมอย่างล้อๆรออยู่ก่อนแล้ว

"ค่าใช้มอไซค์แม่งโคตรแพงเลยวะ"

"เหยียบไว้เลยนะมึง"

"ลงทุนสัส"

"พรุ่งนี้มึงเป็นคนจ่ายนะ กูแม่งไม่ไหวแล้ววะ สาวๆที่นี่แม่งโคตรไวไฟ"

"จริง" มันพยักหน้าหงึกๆเป็นเชิงเห็นด้วย มันคงหัวอกเดียวกับผมแหละ เพราะจากที่เห็นน้องแมลงวันหัวเขียวเกาะแข้งขามันวันก่อนก็พอจะเดาได้ว่าคงมีชะตากรรมเดียวกับผมแน่ๆ

เราสองคนเดินเข้ามาในศาลาที่ตอนนี้ถูกเปลี่ยนเป็นที่ทานอาหารสำหรับนักศึกษา20คน กับอาจารย์อีก 3 คน เพื่อนคนอื่นๆเริ่มทะยอยเข้ามาในศาลานี้กันหลังจากที่ผมกับนาทีเดินเข้ามาไม่นาน ผู้ร่วมทริปนี้เป็นสมาชิกสโมสรนักศึกษา 15 คน ส่วนผม นาที กับธันวานั้นเป็นตัวเสริมที่ถูกเรียกให้มาด้วยเพราะเราสามคนมีส่วนช่วยในการหาเงินบริจาคครั้งนี้ ส่วนอีกสองคนที่เหลือคือ ลูกสาวสองคนของผู้บริจาครายใหญ่ที่ใช้เส้นในการมาค่ายครั้งนี้ด้วยแม้เจ้าตัวจะไม่ใช่สมาชิกสโมสร พอรู้ว่ามีคนนอกมาด้วยผมก็แอบเซ็งนิดหน่อย แม่งเอ้ยถ้ารู้ว่าบริจาคเยอะแล้วได้มาออกค่ายแบบนี้ ผมให้นิรันดร์บริจาคแล้วอุ้มคุนคุนมาด้วยก็ดีหรอก

"แฟงคะ" เสียงใสที่ฟังทีไรก็แสบแก้วหูทุกทีดังขึ้นทันทีที่ผมเดินเข้ามาในศาลา

"อือ ว่าไงมิน"

"มานั่งข้างมินสิคะ มินจองที่ไว้ให้แฟงแล้ว" เธอเดินมาคล้องแขนผมไว้ กึ่งลากกึ่งจูงผมไปนั่งโต๊ะเดียวกับเธอและเพื่อนๆ ผู้หญิงคนนี้ชื่อมินตรา ไม่ใช่สมาชิกสโมสรครับ เป็นหนึ่งในสองคนที่ใช้เส้นเข้ามาร่วมทริปครั้งนี้ เธอเป็นหนึ่งในบรรดาคนเคยถูกผมควงครับ เราเคยควงกันตอนปีหนึ่งอยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์ แต่ผมรำคาญเสียงแหลมๆของเธอเลยไม่ได้สานต่อ ส่วนเธอก็เปลี่ยนไปควงเดือนคณะวิศวะแทน ได้ยินข่าวว่าเปลี่ยนคนคบไปหลายคนแล้วเหมือนกัน

"ไม่เป็นไรผมจะไปนั่งกันพี่ยูตรงโน้น" ผมจับมือเธอออกจากแขนผมก่อนจะผละตัวเดินไปที่โต๊ะอีกตัวที่มีพี่ยู ธันวา แล้วก็นาทีนั่งรออยู่แล้ว แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมเลิกรา เดินตามผมมาติดๆ

"งั้นมินนั่งด้วยคนได้มั้ยคะ"

"ไม่น่าจะได้นะมิน ที่เต็มแล้ว" ผมมองเก้าอี้ตัวยาวสองฝั่งที่มีที่ว่างสำหรับผมแค่คนเดียว แต่จริงๆถ้าเบียดกันก็พอจะนั่งได้อีกคนเพราะมินตราเองก็ตัวบางร่างน้อย แต่ด้วยที่ผมไม่อยากยุ่งกับเธอเท่าไหร่จึงตอบปัดไป

"มินนั่งเบียดกับแฟงได้นะคะ"แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ได้คิดแบบนั้น เธอมาทำตัวใกล้ชิดกับผมตั้งแต่รถบัสล้อหมุนออกจากกรุงเทพฯแล้ว สงสัยอยากจะรีเทิร์น เล่นแสดงออกแบบออกนอกหน้าขนาดนั้น

"อย่าเลยมิน คุณไปนั่งกับเพื่อนๆตรงโน้นเถอะ นั่งสบายๆจะได้ไม่ต้องมานั่งเบียดอยู่ตรงนี้"

"ไม่เอาอะ มินจะนั่งกับแฟง" คนบางคนพูดภาษาคนไม่ค่อยเข้าใจ ผมละทนนิสัยแบบนี้ไม่ได้ที่สุด นี่คงตั้งใจมาค่ายนี้เพื่ออยากจะรื้อฟื้นอดีตกับผมแน่ๆ เพรสะตั้งแต่มาถึงทั้งมินตราทั้งน้องสาวไม่ได้ช่วยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักนิด เห็นทีไรก็นั่งอยู่ในร่มตลอด ออกมาเจอแดดนิดหน่อยก็บ่นร้อน ถ้ามาออกค่ายอาสาแล้วทำแบบนี้ อย่ามาเลยดีกว่านะ

"นักศึกษาทุกคนคะ วันเย็นนี้เรามีผู้บริจาครายใหญ่ของเราให้เกียรติมาร่วมทานมื้อค่ำกับเรานะคะ" อาจารย์จุไรรัตน์ที่เดินเข้ามาศาลาเอ่ยขึ้น ข้างๆเจ้จูมีคนสองคนยืนอยู่ซึ่งมันทำให้ผมถึงกับหยุดบทสนทนาที่กำลังต่อปากต่อคำกับมินตราลงทันที คนหนึ่งคือคนที่ผมเห็นหน้ามาตั้งแต่ลืมตาดูโลก ส่วนอีกคนที่คนที่ถ่อสังขารขึ้นไปค้นหาสัญญาณโทรศัพท์เมื่อชั่วโมงที่แล้ว มิน่าละ ถึงไม่รับสาย

"อาจารย์ขอแนะนำให้รู้จักคุณนิรันดร์คะ ท่านเป็นผู้ใหญ่ใจดีที่ให้การสนับสนุนค่ายของเราในครั้งนี้ อุปกรณ์กีฬาทั้งหมดคุณนิรันดร์เป็นคนจัดหามาให้คะ รวมถึงเงินบริจาคบางส่วนด้วย"

"ไม่รู้ว่ามีโต๊ะไหนว่าให้ผู้สนับสนุนของเรานั่งบ้างมั้ยคะ โต๊ะด้านหลังขางลภัสว่างสักสองที่มั้ยเอ่ย" เจ้จูเอ่ยขึ้นพรางเดินนำนิรันดร์มาที่โต๊ะที่พวกผมนั่งอยู่

"เอ่อ ว่างครับ" ผมรีบตอบไปในทันทีโดยไม่สนใจอีกคนที่มายืนจองที่อยากจะนั่งร่วมโต๊ะกับผมใจจะขาด

"แฟง!" เธอระเบิดเสียงออกมาทันทีที่ผมตอบไปแบบนั้น แถมยังสะบัดตูดสะบัดหน้าเดินกระทืบเท้ากลับไปยังโต๊ะเพื่อนๆเธออย่างไม่ยินยอมนัก แต่เพราะสู้สายตาที่เจ้จูส่งมาไม่ไหวจึงยอมกลับที่ของตัวเองไปแต่โดยดี

"สวัสดีครับ" พี่ยู ธันวา กับนาที ต่างยกมือขึ้นไหว้นิรันดร์

"สวัสดีเด็กๆ ขอนั่งด้วยคนนะ"

"ได้ครับ เชิญเลยครับเดี๋ยวผมหยิบเก้าอี้ตรงโน้นมาเสริมให้" พี่ยูที่นั่งอยู่ข้างผมลุกขึ้นก่อนจะสละที่ตัวเอง แล้วเดินไปยกเก้าอี้พลาสติกมาเพิ่มสองตัว

"มาทำไมเนี่ยนิรันดร์"

"พาลูกรักคนใหม่มาเที่ยวดอย" นิรันดร์หยิบเก้าอี้มาจากพี่ยูก่อนจะทิ้งตัวลง ส่วนอาจารย์จุไรรัตน์ก็เดินไปสมทบกับกลุ่มอาจารย์ที่นั่งอยู่ฝั่งซ้ายของศาลาเป็นที่เรียบร้อย

"แล้วลูกคนใหม่ของนิรันดร์เนี่ยมาได้ไงครับ"

"นั่งเครื่องบิน แล้วก็รถยนต์มาครับผม"

"พร๊วดดด ฮ่าๆๆๆ" สามสี่คนที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารอยู่หัวเราะออกมาทันที ส่วนธันวาที่กำลังยกแก้วน้ำขึ้นดื่มถึงกับสำลักน้ำออกมาในทันทีที่ลูกรักคนใหม่ของนิรันดร์ตอบออกมา

"เชี่ยยย แม่งได้วะ กูชอบ" พี่ยูถึงกับเคาะช้อนกับโต๊ะด้วยความพอใจ

"น่ารักเ*ยๆๆ" ส่วนธันวานี่มองคุนคุนตาเยิ้มเลยนะมึง เดี๋ยวกูจกตาแตกเลย ไอ้สัส!

"น้องคู้นนนน" อันนี้เสียงแปดหลอดของไอ้ทีมัน ไม่แหกปากอย่างเดียว เอามือตีอกชกลมเหมือนพอใจในคำตอบสุดๆ ทั้งๆที่คนพูดยังทำหน้างงอยู่เลยว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปหรอ

ผมไม่สนใจเสียงนกเสียงกาที่ดังขึ้นมาดึงคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ด้านหลังนิรันดร์มานั่งข้างๆผมทันที

"แสบนักนะคุน" ผมยกมือขึ้นมาดึงแก้มสองข้างของเด็กแก้มยุ้ยอย่างหมั่นเขี้ยว

"แสบแล้วรักมั้ยละครับ"

"แง่ววววว/ วี้ดวี่ววว/ หูยยยย" หมาสามตัวบนโต๊ะเห่าหอนกันไม่หยุดเมื่อคุนคุนโพล่งประโยคนั้นออกมา จนคนในศาลากหันมามองโต๊ะเรากันหมด ตอนนี้ผมไม่นับถือมันละไอ้พี่ยู กวนตีนเหมือนลูกพี่ลูกน้องพี่มันไม่มีผิด ดูทำท่าเข้าเอามือป้องปาก ตะโกนแหกปากอยู่นั่นแหละ ไม่เหลือแล้วมาดประธานชมรมสุดหล่อของคณะแพทย์ผู้เงียบขรึม

"เออ โคตรรัก"
.

.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm






หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 32| 02.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 02-06-2020 10:53:56
 :pig4:
 :3123:
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 32| 02.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 02-06-2020 20:31:39
 :o8:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 32| 02.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 02-06-2020 21:01:49
รักด้วยได้มั้ยคู่นี้ เขิลอะ งี้สิใช้พ่อสามีให้เป็นประโยชน์
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 33| 03.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 03-06-2020 07:43:46
---ตอนที่ 33---


คุนคุน's part

หนึ่งวันก่อนหน้านั้น

วันนี้หลังจากไปส่งพี่แฟงขึ้นรถบัสเพื่อไปออกค่ายอาสาพัฒนาของทางมหาวิทยาลัยแล้ว ผมก็แวะซื้อน่องไก่ที่ซุปเปอร์ด้านล่างคอนโดไว้ให้อันอันลูกเลิฟ เพราะในตู้เย็นเหลือไม่กี่น่องแล้ง อันอันกินแก่งมากต้องซื้อเข้าไปให้อาทิตย์ละสองครั้งแหนะ ซื้อตอนนี้แหละดีแล้วเพราะถ้าเกิดอันอันหิวระหว่างวันขึ้นมาจะได้ไม่ต้องลงมาซื้อให้เสียเวลา ช่วงเช้าหมดไปกับการอาบน้ำประแป้งให้อันอันตัวหอมฉุย กว่าจะจัดการอาบน้ำให้เรียบร้อยก็ถูกข่วนไปหลายรอยเลย คอยดูนะปาป๊าจะห้องพี่แฟงว่าอันอันข่วน! ส่วนช่วงบ่ายวางแผนไว้ว่าจะลองทำแอปเปิ้ลครัมเบิ้ลดูเห็นพี่มายด์เวย์บอกว่าอยากทาน คุนเลยลองไปหาสูตรหวานน้อยมาจากในอินเตอร์เน็ตดู หน้าตาออกมาน่าทานทีเดียวเชียว กดถ่ายรูปขนมหน้าตาน่ากินส่งไปให้พี่มายด์เวย์ ไม่ถึงห้านาทีเสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

"น้องคุน" พี่มายด์เวย์ในชุดนักศึกษาเต็มยศยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับแมวสก๊อตทิชโฟลสีขาวตัวจ้ำม่ำในอ้อมแขน แมวตัวใหม่ของพี่มายด์เวย์เธอครับน้องคุณเป็นคนแนะนำฟาร์มนี้เอง

"คร้าบผม ตามกลิ่นขนมมาใช่มั้ยเนี่ย" ผมเปิดประตูให้กว้าง

"ใช่แล้ว แล้วก็พามายสกายมาเล่นกับอันอันด้วย"

เมี้ยว!

"เข้ามาเลยครับ แล้ววันนี้ไม่ขึ้นคลีนิคหรอครับ"

"ไปมาแล้วตอนเช้าจ้ะ ส่วนตอนบ่ายคนไข้ที่นัดไว้แคลเซิล เลยมีเวลาว่าง อู้วหู กลิ่นขนมหอมมาก" พอเข้ามาในห้องมาย์สกายก็กระโดดออกจากอ้อมแขนเจ้าของแสนสวยทันที แล้วเดินส่ายตูดไปนอนเล่นกับอันอันที่หน้าทีวี สองตัวนี้สนิทกับครับมาเล่นด้วยกันบ่อยๆ

"แล้วก็อร่อยมากด้วยคร้าบบบ คุนขอคอนเฟิร์ม" พี่คนสวยเดินมาที่เคาน์เตอร์ครัวหน้าเตาอบ ก้มหน้าลงมาสูดกลิ่นชินเนม่อนหอมๆจากถาดพายหน้าตาน่าทาน

"ไม่เชื่อคะ ต้องชิมก่อนถึงจะคอนเฟิร์มได้" พอเธอพูดแบบนั้นผมก็เปิดลิ้นชักตู้หยิบจานเล็กกับส้อมออกมา พร้อมกับตัดแอปเปิ้ลครัมเบิ้ลใส่จานแล้วยื่นให้พี่สาวคนสวยที่ยื่นมือออกมารอรับอยู่แล้ว

"อื้มมม อร่อยจริงๆด้วย" น้องคุนบอกแล้วไงว่ามันอร่อย!

"ใช่มั้ยละครับ"

"สุดๆ อือ แล้วนี่คณะคุนจะเปิดเทอมรึยัง หรือเรียนออนไลน์ไปอีกหนึ่งเทอม" เราเดินมานั่งคุยกันที่โต๊ะอาหาร

"เปิดครับ อาทิตย์หน้าคุนต้องไปเรียนแล้ว" หยุดมานานจนลืมไปเลยว่าตัวเองยังเป็นนักศึกษาอยู่

"ก็ดีเหมือนกัน เรียนออนไลน์ไม่ไหวอะ อาจารย์สอนอะไรไม่เข้าหัวเลย ตามองแต่ของกินในไอจีอย่างเดียว"

"หืออ เป็นเหมือนคุนเลย ไม่ค่อยสนใจอาจารย์พูดเท่าไหร่หรอก ดูรูปบิงซู ฮันนี่โทสต์อย่างเดียว" ผมขำออกมา เพราะนึกภาพออกเลย ผมก็เป็นแบบพี่มายด์เวย์เป๊ะๆ

"พอกันเลย นี่ๆ เคยไปร้านนี้ยัง อยู่หลัง ม. อร่อยมาก เป็นคาเฟ่แมวด้วย" เธอยื่นโทรศัพท์มาให้ผมดู ในหน้าจอมีรูปร้านขนมหวานแนววินเทจแต่งด้วยโทรสีชมพูขาวน่ารักน่าไปอุดหนุนมากๆ

"ยังเลยครับ พรุ่งนี้เราไปกันมั้ยครับพี่มายด์เวย์"

"พรุ่งนี้ไม่ดีพี่ขึ้นคลีนิคทั้งวัน เอาเป็นวันเสาร์มั้ย"

"วันเสาร์พี่แฟงกลับมาแล้ว สงสัยจะไม่ได้" ว้า รู้สึกเสียดายจังที่ไม่ได้ไปทานขนมอร่อยๆ ดูท่าพี่มายด์เวย์นี่คงเป็นสายขนมเหมือนน้องคุนแน่ๆ ผมรู้สึกดีใจจนบอกไม่ถูกที่ได้เพื่อนสายขนมที่ไฝ่ฝันมานาน สองแฝดอะชวนก็ไปด้วยอยู่หรอกแต่ไม่เห็นกินอะไรเลยสั่งมาแต่กาแฟอย่างเดียว ส่วนพี่แฟงของผมนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับเจ้านั้นนะเป็นศัตรูกับร้านขนมทั่วราชอาณาจักรเลยก็ว่าได้ ถ้าไม่อยากจะเอาใจคุนหรืออยากจะง้อคุนนะไม่เคยพาไปหรอก นอกจากไม่พาไปนะยังห้ามไม่ให้คุนกินขนมด้วย เฮ้อ บ่นถึงแล้วก็คิดถึงเหมือนกันแฮะไม่รู้ว่าป่านนี้จะทำอะไรอยู่บนเขาสูงๆนั่นกันน้าาาา คิดถึงน้องคุนบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้

"อะไรกันพ่อคนนี้ กักตัวแฟนอยู่แต่ในห้องรึไง" พี่มายด์เวย์คนสวยทำตาโตขึ้นมาเหมือนคนตื่นเต้นกับอะไรสักอย่าง หรือว่าผมพูดอะไรผิดไป ก็ไม่มีนี่นา ก็พี่แฟงเป็นแบบนั้นจริงๆนี่ วันหยุดทีไรกักตัวคุนอยู่ในห้องไม่ให้ไปไหนตลอด บ่นว่าอยากอยู่ด้วยกันทั้งวันบ้างละ บ่นว่าวันธรรมดาตังเองเรียนกับตรวจคนไข้เหนื่อยอยากพักผ่อนนอนตักน้องคุนอยู่ในห้องบ้างละ



"แหะๆๆ ไม่ต้องเขินๆๆ เข้าใจ นาทีก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน"

"ขี้หวงเนอะ" อ่าาาา ที่แท้พี่นาทีก็คงเป็นเหมือนกันกับพี่แฟงแน่ๆ

"อู้ย อย่าให้เซด สุดๆไปเลย แต่แฟงนี่มาแปลก พี่ไม่เคยเห็นจะหวงใครแบบนี้มาก่อนเลยนะ แฟนคนก่อนๆก็ไม่ค่อยจะดูสนใจกันเท่าไหร่ เหมือนเลี้ยงแฟนแบบบุฟเฟต์อะ"

"งง" อะไรคือเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ งงครับผม

"ก็แบบ อยากทำไรทำ อยากไปไหนไป ไม่สนใจตาม ไม่สนใจโทรหา อยากมาหาก็มา ไรงี้"

"อ้อ  แล้วพี่แฟงมีแฟนเยอะมั้ยครับ"

"ก็ไม่เยอะนะถ้าเป็นแฟนอะ แต่ถ้าคนควงนี่เปลี่ยน ปีละสามสี่คน"

"ห๊ะ?" อะไรือเปลี่ยนคนควงปีละสามสี่คน นั่นมันเปลี่ยนสามเดือนคนลนนะนั่น นี่น้องคุนควรจะหึงย้อนหลังรึเปล่าเนี่ย!

ครืด ครืด

"ขอคุยโทรศัพท์แป๊บนะครับ" ผมหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดูพอเห็นว่าเป็นพี่รันก็เลยขออนุญาตพี่มายเวย์ก่อนกลัวจะเสียมารยาทนะครับ

"ตามสบายเลยจ้าาา" พี่คนสวยดูจะไม่ถือสาเท่าไหร่ ตั้งใจตักครัมเบิ้ลของน้องคุนเข้าปากช้าๆ แถมยังถ่ายรูปลงไอจีอีก สงสัยจะติดใจขนมน้องคุนซะแล้ว

"ครับพี่รัน"

(ทำไรอยู่เรา)

"ทานแอปเปิ้ลครัมเบิ้ลกับพี่มายด์เวย์อยู่ครับ"

(หรอ นี่แล้วทำไมไม่ไปค่ายกับไอ้แฟงมัน)

"พอดีอาจารย์เค้าไม่ให้คนนอกไปนะครับ"

(ก็งอแงมันหน่อย มันก็จับเรายัดเข้ากระเป๋าไปด้วยแล้วละ วันหลังต้องอ้อนมันเยอะๆหน่อย มันแพ้คนอ้อน)

"คุนทำแล้ว แต่พี่แฟงก็ยังไม่ให้ไป"

(หรอ งั้นสองสามวันนี้ว่างรึเปล่า มีธุระอะไรสำคัญต้องไปทำมั้ย)

"อื่มมม ไม่มีนะครับ"

(งั้นมาเที่ยวเชียงใหม่มั้ย พี่จะพาขึ้นดอย)

"ไปคร้าบบบ"

(พรุ่งนี้บินมาเลยนะ พี่จะไปรอที่สนามบิน)

"โอเค้!" ผมวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะทานอาหาร ยิ้มกว้าง แทบจะกระโดดโลดเต้นอย่างตรฃนั้นด้วยซ้ำถ้าพี่สาวคนสวยไม่นั่งอยู่ตรงนี้ ก็น้องคุนตื่นเต้น น้องคุนไม่เคยไปเชียงใหม่นี่นา แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว เย้ๆๆๆ คุนจะไปภูเขา คุนจะไปน้ำตก คุนจะไปขี่ช้าง เย้เย้~~~


"ดีใจอะไรนักหนาอะเรา" พี่สาวคนสวยคงจะเห็นท่าทางดีใจของคุนถึงได้ถามออกมา

"คุนจะไปเชียงใหม่!"

"อ้าวหรอ ไปเมื่อไหร่ละ" อีกฝ่ายทำตาโตเล็กน้อย

"พรุ่งนี้เช้าครับ"

"แล้วอันอันละ"

"อืม นั่นสิ ทำไงดีน้า" อันอันต้องเสียใจแน่ๆเลยถ้ารู้ว่าปาป๊าสุดที่รักคิดถึงแต่เรื่องไปเที่ยวจนลืมเจ้าตัวไป แต่จะทำอย่างไงกับอันอันดีน้า สองแฝดก็ไม่ค่อยอยู่คอนโดด้วยช่วงนี้ หรือจะเอาไปเชียงใหม่ด้วยดี ไปได้รึเปล่าน้าาา ต้องเช็คกับสายการบินดูก่อน

"เดี๋ยวพี่ดูให้ก็ได้นะ" เสียงของพี่มายด์เวย์เหมือนเทพเจ้ากวนอูมาโปรดน้องคุนแท้ๆ ถ้าเป็นพี่สาวคนสวยน้องคุนไว้ใจได้แน่ๆ!

"จะดีหรอครับ"

"ดีสิ แต่ขากลับต้องซื้อใส่อั่ว แคปหมูกับน้ำพริกหนุ่มมาฝากพี่ด้วย"

"มันคืออะไรอะ" ได้เสมอแหละครับ แต่ว่าไอ้อั่วๆ นั่นคืออะไรอะ น้องคุนงง

"ไปถามคนในตลาดก็รู้เองละจ้ะ"

"โอเค้! น้าพิหนุ่ม กะ แค้ปหมู! ตามนั้น!"

"อ้าวแล้วจะไปไหนนั่นนะ"

"ไปเก็บกระเป๋าครับผม! คุนจะไปเที่ยวเชียงใหม่ เย้เย เย้เย" พอดีลของฝากกันเสร็จแล้วน้องคุนก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องนอนเพื่อเก็บเสื้อผ้าทันที คุนจะไปเชียงหม่ายยยยย ดีใจๆๆๆๆ

ปัจจุบัน

"กินเป็นมั้ย" พี่แฟงที่นั่งอยู่ข้างๆผมถามขึ้นทันทีที่ผมตักหมูสับสีดำๆเข้าปาก หน้าตาเขาดูเป็นห่วงผมมาก อยากบอกว่าน้องคุนเป็นคนกินง่ายเหอะ กินได้หมดแหละแค่อย่าเผ็ดมากพอ น้องคุนไหว!

"รสชาติแปลกๆ แต่ก็อร่อยดีครับ มันคืออะไรหรอครับ" ผมรีบตอบกลับไปทันที รสชาติเหมือนลาบอีสานแต่มีกลิ่นอะไรสักอย่างแปลกๆเตะจมูกเจือปนมา  คงจะเป็นสมุนไพรพื้นบ้านของคนแถวนี้ รสชาติโดยรวมก็โอเคแปลกใหม่ดีครับ

"ลาบหมูใส่เลือดนะ"

พร๊วด

อาการคำเมื่อกี้ที่ยังถูกเคี้ยวอยู่ในปากถูกพ่นออกมาทันที โชคดีที่พี่นาทีที่นั่งอยู่ตรงข้างกับผมเบี่ยงตัวหลบทัน ไม่งั้นละก็น้องคุนนึกสภาพพี่นาทีสุดหล่อไม่ออกเลยจริงๆ

"ละ เลือด หรอครับ"

"อือ เลอะหมดแล้ว มานี่กูเช็ดให้ มันสุกแล้วกินได้ ไม่ใช่เลือดสด ลาบคั่วอาหารพื้นเมืองทางเหนือนะ" คนในโต๊ะต่างขำกับท่าทางของผมกันหมด พี่แฟงเองก็ขำไปกับคนอื่นด้วยก่อนเอื้อมมือไปหยิบทิชชู่มาเช็ดปากเช็ดคางให้ ก่อนเอ่ยเสียงเรียบอธิบายเพิ่มเติมตามสไตล์เจ้าตัว

"แน่นะครับ" ค่อยยังชั่วหน่อย กำลังจะงอนพี่แฟงอยู่เลยว่าเอาอะไรพิเรนให้คุนกินเนี่ย

"แน่สิ นี่ไงกินให้ดู มึงไม่ต้องกินแล้วของแปลกๆ กินนี่ละกันง่ายสุด" เจ้าตัวกลัวว่าผมจะไม่เชื่อว่าลาบเลือดคั่วจานนั้นทุกคนกินได้เลยตักมาใส่ข้าวแล้วหม่ำๆให้ดู พี่เขาดูชินกับอาหารที่นี่เหลือเกิน จริงๆน้องคุนก็เกือบกินได้แล้วเหอะถ้าพี่แฟงไม่บอกมาก่อนว่ามันเป็นเลือดอะ พอเจ้าตัวทานคำนั้นเรียกร้อยก็เอื้อมมือไปตักอาหารธรรมดาๆที่กินกันเป็นทุกคนมาใส่จานข้าวของผม

"ไข่เจียว?"

"ใช่ไข่เจียวผัดหวาน เค็มไปนิด แต่ก็พอแ*กได้" ผมตักไข่เจียวที่พี่แฟงตักให้เข้าปาก อาหารของที่นี่รสชาติหนักไปทางเค็มเสียส่วนมาก ต้องทานกับข้าวเปล่าเนอะๆหน่อยจะได้ลดความเค็มลงมาได้บ้าง ตั้งแต่เจอลายพิสดารเข้าไป ผมเลยเลือกที่จะไม่ลองเมนูหน้าตาแปลกไปบนโต๊ะอีกเลย แล้วเจ้าไข่เจียวฟูๆเลยกลายเป็นเมนูเด่นของมื้อนี้ไปโดยปริยาย น้องคุนขอถอนคำพูดเรื่องที่ตัวเองเป็นคนกินง่ายออกละกันนะครับ เจออาหารที่นี่เข้าไปขอถอยไปตั้งหลักสักประเดี๋ยว

"แล้วนี่จะกลับกันเลยหรือนอนนี่" พี่แฟงหันไปถามพี่รันที่นั่งตักแกงผักอะไรสักอย่างเข้าปาก พี่รันดูจะชื่นชอบอาหารของที่นี่มาก ดูเชี่ยวชาญไปเสียหมด แถมยังอธิบายให้พี่ๆที่นั่งอยู่ในโต๊ะฟังด้วยว่าเมนูไหนชื่ออะไรแล้วใช้วัตถุดิบอะไรบ้าง โดยรวมแล้วอาหารของคนเหนือมักใช้สมุนไพรพื้นบ้านชื่อแปลกๆที่คุนไม่คุนหูเลยสักนิด

"อะไรวะ พวกกูเพิ่งมาถึงมึงก็จะไล่ให้กลับเลยรึไง" พี่รันตอบเหมือนจะหาเรื่องคนฟังหน่อยๆ แต่ผมชินแล้วครับ นี่มันคือลักษณะการพูดจาโต้ตอบของคนบ้านนี้เขาละ เหมือนจะหาเรื่องกันอยู่ตลอดเวลา พี่ยูกับพี่ธันวาที่ไม่เคยสัมผัสกับพี่รันถึงกับอ้าปากค้างทันทีที่พี่รันถามแบบนั้นออกมา

"เปล่าซะหน่อย นิรันดร์ก็พูดไป" คนถูกถามกลับก็ดูจะไม่ได้สนใจคำถามเชิงหาเรื่องของผู้เป็นพ่อเสียด้วยซ้ำ ดูจากการตักอาหารในจานตัวเองเข้าปาก แถมยังตักมาวางไว้ที่จานผมไม่หยุดก็รู้

"อะไรวะ กลัวกูกับลูกรักคนใหม่ของกูมาขัดจังหวะนัวเนียสาวของมึงรึไง" พี่รันนี่ก็ชอบแกล้งหาเรื่องพี่แฟงตลอดเวลาเลย บางทีน้องคุนก็อยากจะตีแขนพี่รันหนักๆสักที เนี่ย ชอบแกล้งคนรักของน้องคุนจังเลย!

"ใช่ที่ไหนเล่า คุนไม่ต้องไปฟัง" พี่แฟงวางช้องส้มลงเอามือสองข้างมาปิดหูผมไว้

"แต่คุนได้ยิน" แต่ตัวเองคงลืมไปว่า ตัวเองปิดหูคุนหลังจากที่พี่รันพูดจบนะครับพี่แฟง คุนได้ยินหมดแล้ว!

"งั้นก็อย่าไปเชื่อนิรันดร์มากนัก"

"แต่คุนเห็นว่าผู้หญิงโต๊ะนั้นมาเกาะแกะพี่แฟงจริงๆนะครับเมื่อกี้" ใช่ คุณเห็นจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นมาเกาะแขนพี่แฟงตอนที่คุนกับพี่รันเดินตามอาจารย์คนที่หน้าดุๆเข้ามาในศาลา แถมตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นยังคอยมองคุนเหมือนเสือจะขย้ำคุนอยู่ตลอดเวลาอย่างนั้นแหละ อู้ยย น่าตาน่ากลัวชะมัดเลย

"เป็นไงลูกรักกู มันได้มั้ย หูตาไวชิบหาย หึๆ" พี่รันหัวเราะชอบใจคำตอบของผมเป็นอย่างมาก

"นิรันดร์อย่าไปเซี่ยม"

"พ่อมึงเซี่ยมที่ไหนพวกกูก็เห็นอยู่ว่ามินตรามาเกาะแกะมึงจริงๆ เนอะไอ้ธัน มึงก็เห็นใช่?" อันนี้พี่นาทีเป็นคนพูดขึ้นมาหลังจากที่นั่งฟังสองพ่อลูกสนทนากันอยู่นาน พรางเอาศอกสะกิดพี่ธันวาที่นั่งอยู่ข้างกัน ส่วนพี่ธันวาก็ครางตอบรับในลำคออย่างขอไปที

"ไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่ามึงเป็นใบ้ไอ้สัสที" กลายเป็นสงคราวปะทะคารมย่อมไปบนโต๊ะอาหารขึ้นมาซะงั้น เพราะต่างคนต่างไม่มีใครยอมใคร พี่รันก็แกล้งลูกตัวเองไม่หยุด พีาแฟงก็ตีมึนหน้าตาย ทั้งที่เพื่อนคนอื่นบนโต๊ะต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าผู้หญิงคนนั้นตั้งใจเข้าหาพี่แฟงกันทั้งนั้น แหมๆๆๆ เสน่ห์แรงจังเลยนะครับคุณลภัส

"พี่รันเรานอนบนนี้ได้มั้ยครับ" ผมตัดสินใจพูดออกไป ทำเสียงออดอ้อนพี่รันที่นั่งอยู่ไม่ไกล

"ได้สิ" พี่รันตอบรับกลับมาทันที จริงๆเราสองคนก็เตรียมเสื้อผ้ามาแต่แรกแล้วแหละครับ เพราะพี่รันบอกว่าเผื่อเปลี่ยนใจอยากเปลี่ยนบรรยากาศนอนบนดอยดูอากาศน่าจะดีเลยให้ผมเตรียมเสื้อผ้ามาเผื่อ

"นอนไม่สะดวกหรอก ที่นอนก็แข็ง เดี๋ยวไม่สบายตัว" แต่ดูเหมือนว่าคนข้างผมจะไม่เห็นด้วยกับการอยู่ต่อของผมในครั้งนี้นะสิครับ เอ๋ๆๆๆ มีพิรุธอะไรรึเปล่า หรือพี่แฟงมีซัมติงกับผู้หญิงที่ชื่อมินตราจริงๆเนี่ย น้องคุนไม่ยอมนะ!

"คืนเดียวเองคุนนอนได้" ที่นอนแข็งหรือจะสู้ความดื้อของคุน

"เออ ใช่แค่คืนเดียวจะเป็นไรวะ ให้มันปวดไปเลยตัวอะ เดี๋ยวกูพาคุนไปนวดเอง" ดูเหมือนพี่รันเองจะเข้าข้างคุนสุดขีด มีแอบยักคิ้วให้ด้วย ชอบพี่รันที่สุด นอกจากหล่อแล้วยังใจดีอีก พี่รันพูดถูกครับ ถ้าเมื่อยก็แค่ไปนวดเอง ง่ายจะตาย คุนชอบนวดสปา สบายตัวเบาหวิวเลย

"นวดแบบนิรันดร์อะนะ ไม่ต้องพาคุนไปเลยน่าเกลียด" นีาเขาพวกเรื่องอะไรกันนะ นวดๆๆ นาวดอะไรหรอ ทำไมต้อฃน่าเกลียดด้วย หรือไม่อยากให้คนไม่รู้จักมานวดให้คุนกันแน่นะ

"งั้นพี่แฟงก็นวดให้คุน"

พร๊วดดดดด!!!

พี่ๆคนอื่นๆสำลักน้ำที่กำลังดื่มเข้าไปทันทีที่คุนพูดแบบนั้นออกมา อ้าว งงนะครับ ก็ในเมื่อพี่แฟงไม่ให้คุนไปนวดที่ร้าน พี่แฟงก็ต้องนวดให้คุนเองถูกแล้วไม่ใช่หรอ เอ๋ น้องคุนพูดผิดตรงไหนหว่าาาา

"อ้าวทำไมทำหน้าแบบนั้นกันละครับ หรือว่านวดให้คุนแบบนั้นไม่ได้" แต่ละคนทำหน้าตาแปลกๆกัน มีแอบยิ้ม แอบขำกันด้วย นี่ทุกคนเป็นอะไรกันไปหมดแล้วเนี่ย

"พอเลยหยุดขำเลยนะพวกมึง พี่ด้วย นิรันดร์ด้วยตัวดีโยงไม่เข้าเรื่อง"

"อะ พี่แฟงจะพาคุนไปไหนครับ" พี่แฟงชี้หน้าทุกคนก่อนจะเอามือมาดึงแขนคุนให้ลุกออกมาจากโต๊ะทานอาหาร

"ไปนวด" ฮะ? คุนงงแล้วนะครับ ทำไมต้องนวดตอนนี้ทั้งๆที่คุนยังไม่ปวดหลังเลยสักนิด

"เชี่ยยย แม่งเอาจริงวะ" พี่ธันเอ่ยขึ้นจัดเป็นคนแรก

"เบาๆนะเว้ย กลางป่ากลางเขา" ตามด้วยพี่ยูที่ยิ้มกรุ้มกริ่มมีเลศนัยอะไรบางอย่าง

"เชรดดด" พี่นาทีก็อีกคน นี่ทุกคนเป็นอะไรกันไปหมด

"พี่แฟง แต่คุนยังกินข้าวไม่อิ่มเลยนะครับ" ผมรีบร้องออกมาทันทีที่ถูกพาตัวออกมาจากศาลา คุนยังกินข้าวไม่อิ่มเลยนะครับ กินให้เสร็จก่อนค่อยนวดไม่ได้รึไงครับเนี่ย

"กินแค่นั้นก็พอแล้ว จะกินอะไรเยอะ"

"แต่คุนกินไปแค่สามคำเองนะ"

"อือ พอแล้ว เดี๋ยวจุก ตามมานี่เลย" อีกคนดูไม่สนใจฟังคำประท้วงของผมเลยสักนิด เดินนำหน้าแล้วจูงมือผมให้เดินตามตัวเองไป

"คุนไม่นวดนะ ยังไม่เมื่อยเลย" คุนยังไม่เมื่อยเสียหน่อยจะนวดทำไม คุนหิวอะพี่แฟง คุนหิวเข้าใจมั้ย เสียดายไข่เจียวในจานด้วย ฮือๆๆ

"นวดแบบกูอะไม่เป็นไรหรอก ไม่เมื่อยก็นวดได้" คนเอาแต่ใจที่สุดเลยคุณนภัสเนี่ย

.
.
.
.
.

"พี่แฟงทำอะไรเนี่ย!"

"อย่าเสียงดัง จะแหกปากทำไม"

"ไม่เอานะคุนไม่ทำแบบนี้"

"ไม่ทำไรเกินเลยหรอกน่า"

"ล้วงมือเข้ามาในกางเกงนี่ยังไม่เกินเลยอีกหรอครับ!"

"ชู้ววว ไม่เอาอย่าเสียงดังที่รัก"

"อื้อออ อื้ออออ"
.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm



หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 33| 03.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 03-06-2020 09:27:12
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 34| 04.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 04-06-2020 07:47:31
---ตอนที่ 34---


คุนคุน's part

สรุปเมื่อคืนถูกรังแกไปโดยคนที่อ้างว่าคิดถึงผมมากมาย อะๆๆ อย่าคิดลึกขนาดนั้นครับ ที่ว่าถูกรังแกก็แค่ถูกลวนลามภายนอกเฉยๆไม่ได้เกินเลยไปไกลถึงขนาดกู่ไม่กลับแบบนั้น จริงๆถ้าพี่แฟงไม่ถูกคุนกัดหูเสียก่อนเรื่องมันอาจจะเกินเลยไปมากกว่านั้นก็ได้ เจ้าตัวเลยงอนผมจนถึงตอนนี้ แต่ถึงงอนยังไงเมื่อคืนพี่เขาก็นอนกอดผมทั้งคืน โชคดีครับที่ทุกคนทีี่มาเข้าค่ายนี้ได้นอนในห้องกันไม่ใช่ห้องรวมเป็นสิบๆคน แต่เป็นห้องเล็กที่นอนกันสี่คน เมื่อคืนผมเลยต้องไปนอนเบียดบนฟูกเดียวกันกับพี่แฟงในห้องที่มีพี่นาที พี่ธันวา แล้วก็พี่ยูอยู่ด้วย ส่วนพี่รันนั้นทางอาจารย์เขาจัดให้นอนห้องแยกต่างหากคนเดียว ถึงห้องจะเล็กแต่เราห้าคนนอนด้วยกันก็ไม่ได้แออัดขนาดนั้น จัดว่านอนสบายด้วยซ้ำ จริงๆปูฟูกเพิ่มอีกอันได้สบายๆเลย แต่เด็กโข่งก็งอแงจะให้ผมนอนบนฟูกเดียวกันจนได้ โดยไม่สนใจเสียงโวยวายของเพื่อนร่วมห้องที่กระหน่ำกราดใส่เลยสักนิด

'ไปกอดกันตรงมุมโน้นเลยอย่ามาอยู่ใกล้กูไอ้สัสแฟง'

'ห้ามทำอะไรกันนะเว้ย ห้องมันแคบกูหูดี'

'มึงจะกอดกันเงียบๆได้มั้ย จะจู๋จี๋กันทำเพื่อ'

'เห็นใจคนโสดด้วยครับคุณลภัส'

กว่าจะได้นอนก็น่าจะดึกพอสมควร ก็พี่ๆคนอื่นๆเล่นแซวเราสองคนไม่หยุด คนตัวโตไม่สนใจคำแซวเลยสักนิดตีหน้ามีกอดหอมผมตลอดเงลา ส่วนผมก็เขินวนไปสิครับ

ผมนั่งมองผู้ชายตัวโตตอกตะปูเพื่อซ่อมหน้าต่างอาคารสำหรับเด็กอนุบาลให้กับโรงเรียนอยู่ ไม่เคยเห็นพี่แฟงมุมนี้เลยครับ ตัวเปียกชุ่มไปด้วยเหงือเกือบครึ่งตัวในเสื้อยืดสีเทากับหมวกทรวงเบสบอลสีขาว ยืนถือค้อนกับไม้ในมือ ดูจริงจังเอามากๆ แลดูเป็นช่างไม้สุดๆ นี่ถ้าพี่เขายังไว้ผมยาวกับไว้เคราอยู่บอกได้เลยครับว่าเหมือนช่างไม้มาเองเลยนะเนี่ย

"หมอแฟง ดื่มน้ำกระเจี้ยบเย็นๆหน่อยจ้า เบลล่าเอามาจากบ้าน เย็นชื่นใจมาก"

"แฟงคะดื่มน้ำแดงแฟนต้าของมินดีกว่า อร่อยซาบซ่ากว่าน้ำกระเจี๊ยบบ้านๆเยอะ"

"ของแต่งสีแต่งกลิ่นหรือจะดีสู้ของธรรมชาติได้"

"ของบ้านๆ มันจะจี้ดถึงใจได้ยังไงกันคะคุณชาวดอย"

"อ้ายยยย"

"อะไรๆๆ จะทำไม"

และแล้วภาพเคลื่อนไหวที่ผมคิดว่าดูแล้วบันเทิงสายตาก็ถูกรบกวนด้วยละครหลังข่าวที่มีตัวอิจฉาสองคนมาตบตีแย่งพระเอกกัน โอ้โห ละครน้ำเน่าสุดๆ เสน่ห์แรงจริงนะพ่อคู้น มีสาวๆเอาน้ำมาประเคนให้ แถมยังเอาผ้าเช็ดหน้าสีสวยๆมาซับเหงื่อให้อีก และเจ้าตัวก็ยังดูพอใจกับการบริการทั่วถึงแบบนั้นจริงๆ

"นี่ เอาน้ำไปให้พี่เขาหน่อยสิ แดดร้อนคงหิวน้ำ" พี่รันเดินมาพร้อมกับขวดน้ำเปล่าเย็นๆในมือ

"ไม่เอาดีกว่าครับ ให้สาวๆสองคนนั้นปรนนิบัติไปละกัน" ผมรีบปฏิเสธไปด้วยไม่อยากไปแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกับใคร เพราะรู้สึกว่ามันดูไร้สาระ

"ได้ไง คนของเราต้องแสดงความเป็นเจ้าของสิ" แต่พี่รันดูเหมือนจะไม่ชอบใจคำตอบของผมเท่าไหร่ เขายังยัดขวดน้ำเย็นไนั้นมาไว้ในมือผม แล้วก็ผลักผมให้เดินไปในทิศทางที่คนตัวสูงยืนอยู่อีก

"จะดีหรอครับ"

"ไปเหอะน่า เชื่อพี่"

"ก็ได้ครับ"

"ขอบใจนะเบลล่า ขอบใจเธอด้วยมิน แต่เผอิญชอบดื่มน้ำเปล่ามากกว่า คุนเอาน้ำมาให้พี่ใช่มั้ย มาป้อนพี่หน่อยมือพี่เปื้อน" พี่แฟงพูดขึ้นทันทีที่ผมเดินมาใกล้ เจ้าตัววางค้อนกับไม้ในมือลงก่อนจะอ้าปากรับน้ำจากมือผมที่เอียงขวดให้เขาได้ดื่มได้สะดวกๆ

"ชื่นใจจัง ออกมาจากร่มทำไมไม่ใส่หมวก เอาของพี่ไปใส่ก่อน" พี่แฟงขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าผมเดินออกมาตัวเปล่า ก่อนจะถอดหมวกบนหัวตัวเองมาสวมให้ผมในทันที

"ขอบคุณครับ"

"ทากันแดดรึยังเดี๋ยวผิวก็เสียหมด" มือหนายื่นมาลูบแขนผมเบาๆ เหมือนจะเช็คดูว่ามันลื่นเพราะทากันแดดมารึยัง

"ทาเรียบร้อยตั้งแต่เช้าแล้วครับ"

"เค งั้นไปนั่งรออยู่ในร่มกับนิรันดร์ไป ตรงนี้มันร้อน พี่เป็นห่วง หน้าแดงหมดแล้ว เป็นไข้แดดขึ้นมาแล้วจะแย่เอา" พี่แฟงยื่นมือมาจับหมวกให้ขยับเข้าที่อีกครั้ง ก่อนจะจับแกมผมที่คงจะแดงระเรื่อเพราะความร้อนจาดแดดที่แผดเผาบอดไปมาอยู่สักพัก พรางผลักหลังผมเบาๆให้เดินกลับไปยังใต้อาคารที่มีพี่รันนั่งคอยอยู่

สองสาวคงจะทนกับภาพบาดตาไม่ไหว รีบสะบัดตูดเดินหายไปคนละทิศคนละทาง ขวดน้ำแดงถูกโยนทิ้งไว้กับพื้น พร้อมกับขันน้ำกระเจี๊ยบที่ถูกวางไว้ตรงขอบหน้าต่างอย่างไม่ใยดี

"เสน่ห์แรงจังเลยนะครับ" ผมรีบหันไปแซวพี่แฟงทันทีที่ผู้หญิงสองคนนั้นหายไปจากจอเรดาร์

"ทำด๊า คนมันหล่อ" คนที่บริหารเสน่ห์อยู่เมื่อครู่ตอบกลับมาด้วยท่าทางที่ชวนให้ถูกหยอดจมูกสุดๆ คนอะไรจะต้องมีความมั่นใจในเบ้าหน้าตัวเองเบอร์นั้น โอเคแหละ รู้ว่าหล่อ แต่ถ่อมตัวบ้างก็ได้ แล้วแค่มาออกค่าอาสาก็ไม่เห็นต้องแต่งตัวหล่อดูดีขนาดนี้เลยนี่นา

"อย่าให้เห็นนะว่าเล่นด้วยกับผู้หญิงพวกนั้นนะ" ผมหันมาจ้องหน้าคาดโทษคนที่ยืนจับหมวกสีขาวบนหัวผมก่อนจะพูดเน้นย้ำทุกคำในประโยคนั้นออกมาช้าๆ

"จะทำไม" อีกฝ่ายทำตาโตขึ้นมาทันที เหมือนจะกลัว ที่ถูกผมคาดโทษ ถ้าไม่ติดรอยยิ้มตรงมุมปากของพี่แฟงผมคงเชื่อว่าพี่เขาคงกลัวผมจริงๆ

"อยากรู้ก็ลองทำดูสิครับ" โอเค อยากรู้ก็ลองทำดูสิครับคุณลภัส! ผมเดินออกไปทันที ปล่อยให้อีกคนยืนยืนยกยิ้มกวนๆอยู่ที่เดิม เห็นน้องคุนเป็นคนง่ายๆไม่อะไรมากแบบนี้ แต่กับเรื่องบางเรื่องน้องคุนไม่ใช่คนใจดีนะบอกไว้ก่อน

.
.
.
.

"นี่นาย มาคุยกันหน่อยสิ" เสียงแหลมแสบแก้วหูดังขึ้นข้างหลังผมในขณะที่ผมยืนล้างมืออยู่ข้างอาคารเรียนที่อยู่ห่างจากศาลาหลบร้อนมาไม่ไกลนัก

"นาย เรียกไม่ได้ยินรึไง หูหนวกหรอ"

"เรียกผมหรอครับ" ผมหันไปตามเสียงเรียก พยายามมองซ้ายมองขวาดูว่ามีใครอยู่ตรงนี้อีก เธอคงเรียกผมแหละ แต่พอดีผมๆไม่ได้ชื่อนายไงเลยไม่ได้หัน

"ใช่สิ ถ้าไม่ใช่นายจะให้เรียกใครยะ ก็เห็นอยู่ว่ามีนายยืนอยู่ตรงนี้คนเดียว" พี่มินตราเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับเอามือเท้าสะเอว น้ำเสียงเธอดูไม่พอใจสุดๆ ส่วนที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ดูท่าทางหาเรื่องพอๆกัน

"นี่ชื่อคุน ไม่ใช่นายนะ" ผมชี้มือเข้าหาตัวเอง พร้อมเอ่ยบอกเธอว่าผมอะ ชื่อคุน ไม่ใช่ นาย ซะหน่อย ไปได้ยินมาจากไหนกันว่าน้องคุนชื่อนายอะ งงใจ

"ต๊ายยย กวนชั้นรึไง" อ้าว ไหงเป็นงั้นไป

"คุนเปล่า"

"ก็ได้ จะเล่นแบบนี้ใช่มั้ย ไม่คงไม่คุยมันแล้ว ตบเลยละกัน" ยังพูดไม่ทันจบประโยคเธอก็พุ่งเข้ามาหาผมง้างมือเหวี่ยงสุดแรงทันทีเลยครับ ส่วนผมก็รีบเบี่ยงตัวหลบ แล้วก็ร้องออกไปด้วยความแปลกใจปนตกใจหน่อยๆ

"นี่พี่มิน จะทำอะไรนะ"

"ว้าย แกกล้าหลบชั้นหรอ อ้ายยย เจ็บ ไอ้เด็กเวร" อ้าว ก็ตัวเองพุ่งมาใส่เค้า จะให้เค้ายืนเฉยรึไง ตลกแล้วนะครับเนี่ย พี่มินที่พุงชนที่ล้างมือที่ก่อขึ้นมาเป็นปูนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง หน้าตาที่เคยดูสะสวยตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยความเกรี้ยวกราดเต็มรูปแบบ

 "มานี่เลยนะ แฟงนะเป็นคนรักของชั้นมาก่อน แกมาทีหลังไม่มีสิทธิ์มาแย่งเค้าไป" อ้อ ที่แท้ก็มาแสดงความเป็นเจ้าของนี่เอง

"อ้าว ก็พี่จะเข้ามาทำร้ายคุน จะให้คุนยืนอยู่เฉยๆรึไง"

"ปากดีนักนะแก มาแตร์จับมัน พี่จะตบมัน อ่อยแฟงดีนัก ชอบยุ่งกับของคนอื่นนักใช่มั้ย ฮะ?!" เธอพูดขึ้นเสียงแหลม ส่วนผู้หญิงอีกคนที่มาด่วยกันก็เข้ามาจับแขนทั้งสองข้างของผมไว้ ด้วยส่วนสูงที่ไม่ต่างกันนักจากการที่สั้งสองคนใส่รองเท้าผ้าใบเพิ่มความสูงทำให้มาแตร์ล๊อคแขนทั้งสองข้างของผมไว้ได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังบีบรัดข้อมือทั้งสองข้างผมไว้อย่างแรงอีก ผู้หญิงอะไรแรงเยอะชะมัด ทำอย่างกับผมเป็นผู้ร้ายอย่างนั้นแหละ เจ็บข้อมือไปหมดแล้วเนี่ย ส่วนพี่มินตราก็ยืนออกคำสั่งอยู่นั้น ก็รีบสาวเท้าเข้ามาพร้อมง้างมือข้างขวาของเธอขึ้นเหวี่ยงสุดแรง

ป๊าบ!

"ว้าย พี่มินตบหน้ามาร์ทำไมเนี่ย" มือที่ตั้งใจเหวี่ยงมาที่ใบหน้าขอผมถูกสัมผัสเข้ากับใบหน้าคนที่ล๊อคแขนสองข้างผมเต็มๆ เพราะผมเบี่ยงหน้าหลบ

"พี่ไม่ได้ตั้งใจ ไอ้เด็กนี่มันเบี่ยงหน้าลบมือพี่ จับมันดีๆมาแตร์ พี่หมั่นใส้มันจริงๆ ทำท่าไร้เดียงสาให้แฟงเทคแคร์อยู่นั่นแหละ" คนที่ถูกตบร้องโวยวายออกมาเสียงดังก่อนจะปล่อยแขนสองข้างของผมออกจากการจับกุม ส่วนพี่มินตราที่สะบัดแขนสุดแรงเกิดหน้าเสียขึ้นมาทันทีทีีใ่าฝ่ามืออรหันต์ของเธอพลาดเป้าอย่างไม่น่าให้อภัยแบบนั้น สองสาวยืนทะเลาะกันอยู่อย่างนั้นสักพัก

"ทำอะไรกัน"

"แฟงคะ แฟง แฟงมาพอดีเลย ไอ้เด็กนี่มันรังแกมินกับน้อง" อะไรกัน นี่บีบน้ำตาหรอ พี่มินตรานี่ยิ่งกว่านักแสดงในละครหลังข่าวอีกนะเนี่ย เมี้ยกี้ยังกรี้ดๆใส่หูผมอยู่เลย ทำไมตอนนี้ทำตัวอ่อนแอวิ่งเข้าไปเกาะแขนพี่แฟงไว้แบบนั้นละ

"หือ?"

"ดูสิคะเข้ามินถลอกเลย ส่วนบนหน้ามาแตร์ก็มีรอยฝ่ามือด้วย" ผมก้มลงไปมองเข้าพี่มินตราที่มีเลือดไหลซึมออกมา อ้าว นี่เป็นแผลตอนไหนกัน ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ หรือว่าตอนที่ล้มลงไปโดนอ่างล้างมือ

"..."

"เจ็บจังเลยคะแฟง แฟงต้องเอาคืนให้มินนะคะ มาทำร้ายกันแบบนี้มินไม่ยอมจริงๆด้วย" สองสาวฟ้องพี่แฟงใหญ่เลยครับว่าตัวเองเจ็บตรงนั้นทีตรงนี้ที ส่วนพี่แฟงเองก็มองแผลของหญิงสาวสลับไปมา ผมมองละครฉากน้ำเน่าตรงหน้าไปพรางส่ายหัวไปด้วย ถ้าพีาแฟงเชื่อสองคนนี้ขึ้นมาบอกไว้เลยว่าคุนจะไม่พูดกับพี่แฟงอีกเลยตลอดชีวิตคอยดู

"ใช่ทำร้ายกันแบบนี้ ไม่ควรปล่อยไว้" อ้าว นี่พี่แฟงเชื่อสองคนนี้งั้นหรอ ทำไมทำแบบนี้ น้องคุนผิดหวังนะครับ ใจมันเจ็บแปล๊บขึ้นมาทันทีที่พี่แฟงพูดแบบนั้นออกมา

"จัดการเลยคะแฟง จัดการให้มินเลย" สองสาวดูท่าจะพอใจ ดูสิ ยิ้มเยาะเย้ยผมใหญ่ ไม่ชอบเลยที่ต้องมาอยู่ในสถาณการณ์ไร้สาระแบบนี้ ผมหันหลังจะเดินออกไปจากตรงนั้น ไม่แก้ตัว ไม่ขอโทษ ไม่อะไรทั้งใน ใครอยากคิดอะไรก็คิดไป ใครอยากเชื่ออะไรก็เชื่อไปเถอะ

"ผมว่าผมต้องจัดการพวกคุณมากกว่าที่มาทำให้ข้อมือแฟนผมเป็นรอยแดงเถือกขนาดนี้" แต่พอผมก้วเดินไปเพียงสามก้าว พี่แฟงก็เดินมายกข้อมือผมขึ้นมาพร้อมกับพูดประโยคที่ผมไม่คิดว่าจะได้ยินออกไป

"แฟง!"

"เจ็บตรงไหนอีกรึเปล่า" ผู้ชายที่ยืนข้างผมคนนี้เอามือโอบเอวผมไว้แล้วดึงตัวเข้ามาใกล้ ก่อนจะจับผมหมุน 360° เพื่อดูว่าผมมีรอยฟกช้ำตรงไหนเพิ่มเติมอีกหรือเปล่า และนั่นทำให้ผมที่เศร้าไปสองนาทีกลับมายิ้มได้เหมือนเดิม พี่แฟงไม่เคยทำให้คุณผิดหวังจริงๆเลยนะครับ

"ไม่ครับ"

"ภายนอกเสื้อผ้าไม่มีรอย แล้วข้างในละมีรึเปล่า"

"ไม่มีครับ"

"แน่นะ"

"อื้อ แน่สิ"

พี่แฟงจังคางผมเลยขึ้นก่อนจะถามย้ำให้แน่ใจว่าผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ เขาคงเป็นห่วงผมพอดู เพราะดูจากสีหน้าท่าทางแล้วดูไม่สบอารมณ์พอสมควร พูดตามตรงเลยนะครับ แม้พี่แฟงจะพูดจาห่ามๆหยาบคายตลอดเวลา แต่ผมยังไม่เคยเห็นพี่แฟงดูหงุดหงิดขนาดนี้มาก่อนถ้าไม่นับรวมเรื่องพี่ศักนะครับ

"นี่แฟงเป็นเกย์ตั้งแต่เมื่อไหร่"
อ้าว สองคนนี้ยังอยู่อีกหรอเนี่ย นึกว่าวิ่งหนีไปแล้วเสียอีก
พี่มินตราพูดขึ้น ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองรึเปล่า แต่ยิ่งฟังเสียงเธอทีไร เหมือนมันแสบแก้วหูทุกที


"ใครบอกว่าผมเป็นเกย์" พี่แฟงถามไปเหมือนคนไม่ค่อยสนใจนักเพราะมัวแต่จับข้อมือผมมาลูบรอยแดงๆอยู่นั่นแหละ คือตอนแรกน้องคุนไม่ได้เจ็บหรอกนะ มาเริ่มเจ็บตอนพี่แฟงลูบนี่แหละครับ

"ก็แฟงบอกว่าเป็นแฟนกันมัน มันเป็นผู้ชายนะ แฟงชอบผู้ชายตั้งแต่เมื่อไหร่ แฟงต้องชอบผู้หญิงสิ!" อ้าว แล้วพี่มินตราเป็นไรอีกละครับเนี่ย ตะโกนซะหูแทบชา เป็นผู้หญิงที่ไม่น่าเอามาเป็นเพื่อนจริงๆเลยเธอคนนี้เนี่ย

"ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย แต่ผมชอบคุน และมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของผม ส่วนคุณสองคนถ้าผมเห็นว่ายังมาวุ่นวายกับคนของผมอีก อย่าหาว่าผมไม่เตือน" อุ้ย เขินอะ ผมชอบคำตอบนี้นะ เพราะผมเองก็ไม่เคยชอบผู้ชาย ไม่คิดชอบผู้ชายคนไหนเลยด้วยซ้ำ แต่ผมดันชอบพี่แฟง ถ้าหากถามว่าในอนาคตถ้าเราเลิกกันผมจะไปคบผู้ชายคนอื่นอีกมั้ย คงตอบได้เลยว่าไม่ แปลกดีเหมือนกันนะครับ ความรักมันเข้าใจยากชะมัด

"คุนไปกัน" พอพูดจบ พี่แฟงก็โอบเอวผมแล้วพาเดินออกมาจากตรงนั้นทันที

"เอ่อ ครับ"

ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น ผมไม่ได้หันไปดู พี่แฟงก็เหมือนกัน แต่ผมได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้แล้วก็กรี้ดเสียงดัง ทำให้มีใครหลายคนวิ่งมาแถวนี้เพื่อมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ผมจะหันหลังไปดูแต่ก็ถูกคนที่โอบเอวผมห้ามไว้ก่อน

.
.
.
.


"แดงมากเลย เจ็บรึเปล่า" เราสองคนเข้ามานั่งในซุ้มพยาบาลที่ทางค่ายจัดเตรียมไว้สำหรับใครที่ไม่สบาย พี่แฟงที่กำลังหยิบยาที่เป็นเหมือนเจลใสๆมานวดที่ข้อมือผมเบาๆ ไม่น่าเชื่อนะครับว่าผู้ชายตัวโตดูบึกบึนอย่างพี่แฟงเนี่ยเวลาทำหน้าที่หมอแล้วโคตรจะอ่อนโยน มือนิ่มมากเลยครับ นวดข้อมือคุนนี่คุนยังไม่รู้สึกเลยด้วยซ้ำ

"ตอนแรกก็เจ็บ แต่ตอนนี้ไม่เจ็บแล้วครับ"

"ทายากันไว้ดีกว่า เดี๋ยวมันจะช้ำกว่าเดิม" เขาหยิบยาอีกหลอดมาบีบใส่นิ้วแล้วบรรจงทามันลงข้อมือที่แดงเถือกเป็นรอยนิ้วทั้งห้านิ้วเบาๆ ผมมองข้อมือตัวเองแล้วก็ยังสงสัยอยู่เลยว่ามันแดงขนาดนี้เลยหรอ ทำไมไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรเลยสักนิด

"โอเค"

"ไม่มีตรงไหนที่มีแผลอีกจริงๆใช่มั้ย"

"ไม่มีครับ"

"ทำไมไม่สู้ ปล่อยให้สองคนนั้นมาทำแบบนั้นได้ไง" มือหนายื่นมาขยี้หัวผมที่ถูกถอดหมวกออกแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น พี่แฟงยังดึงเก้าอี้ผมเข้ามาใกล้อีกต่างหาก นี่น้องคุนตัวเบาขนาดนั้นเลยรึไง ถึงขนาดที่พี่แฟงใช้มือข้างเดียวดึงเก้าอี้ที่คุนนั่งอยู่ให้เคลื่อนได้เนี่ย

"ก็ผมเป็นผู้ชาย ผู้ชายจะทำร้ายผู้หญิงได้ยังไงครับ" ผมตอบไปตามจริง แม้จะเรียนการต่อสู้มาแต่เด็ก แต่กับผู้หญิงเราก็ไม่ควรจะใช้กำลังด้วย แล้วอีกอย่าง สองคนนั้นก็ยังไม่ได้ทำอะไรที่มันเรียกว่าทำร้่ยร่างกายคุนด้วยซ้ำ เพราะถ้าเกิดทำขึ้นมา คุนคงไม่ยอมอยู่เฉยๆเหมือนเมื่อครู่หรอก

"ก็ไม่ต้องถึงขั้นทำร้าย แค่ไม่ต้องปล่อยให้ผู้หญิงพวกนั้นมารังแกแบบนี้" พี่แฟงก้มหน้่าลงมา ดวงตาเราสองคนอยู่ในระดับเดียวกัน แววตาพี่แฟงดูจริงจังมาก

"คุนก็กำลังจะตอบโต้อยู่พอดี แต่พี่แฟงเข้ามาก่อน"

"เฮ้อ วันหลังก็ตอบโต้ไปเลยจะรอทำไม"

"ก็รอฟังว่าสาวๆในคลังพี่แฟงจะคายความลับอะไรออกมาบ้างไงครับ" ผมรู้ว่าพี่แฟงเป็นห่วง แต่ผมจัดการได้จริงๆนะ ที่ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนั้นเพราะอยากรู้เหมือนกันว่าพี่มินตราเคยมีความสัมพันธ์อะไรกับพี่แฟงถึงได้ออกตัวแรงเบอร์นั้น

"ความลับอะไรไม่มีหรอก อยากรู้อะไรก็ถามกูมาตามตรง กูไม่คิดจะมีความลับกับมึงอยู่แล้ว แล้วตอนนี้กูก็มีแค่มึงไม่ได้มีใคร ตรงนี้แสบมั้ย" เราอยู่จักกันมาหลายเดือน พี่แฟงไม่ได้โกหกอะไรคุนเลย ยกเว้นเรื่องคอนโด ถามอะไรไปเขาก็ตอบหมดไม่เคยปิดบัง ขนาดเรื่องที่ตัวเองเคยชอบพี่มายด์เวย์เขายังบอกผมเลย ขนาดพี่นาทียังไม่รู้เลยนะเรื่องนี้ขอบอก

"ไม่แสบครับ"

"มีรอยเล็บ" เขาจับไปที่คอของผมแล้วบีบเจลใสๆหลอดแรกมาทา

"อ้าวหรอ ไม่เห็นรู้สึกเลยครับ" ตอนแรกไม่รู้สึกแสบเลยครับสารภาพตรงนี้ แต่พอโดนยาเข้าหน่อยแสบขึ้นมาเลยนะครับคุณแผล!

"มีรอยเล็บสองรอย"

 "จะว่าไปสาวๆที่หลงเสน่ห์พี่นี่เยอะเหมือนกันนะครับ"

"ก็บอกแล้วว่ากูอะหล่อมาก"

"ชักจะหล่อเกินไปซะแล้วสิ หรือคุนจะยอมแพ้ดี"

"เฮ้ย ไม่เอาดิ มึงจะยอมแพ้ทำไม" แค่ผมแกล้งพูดว่าจะยอมแพ้เข้าหน่อย พี่แฟงก็คิ้วผูกโบว์ขึ้นมาทันที แถมยังมีสีหน้าจริงจังขึ้นมากว่าเดิมหลายเท่าตัว พูดตรงนี้เลยนะครับ ว่าน้องคุนไม่ยอมแพ้ใครหรอก ถ้าเป็นอะไรที่คุนรักคุนจะสู้เพื่อถนอมมันเอาไว้ และบอกไว้ตรงนี้เลยว่าคุณเป็นคนหวงของที่สุด!

"ก็สาวๆพี่เยอะเกิน คุนเหนื่อยตามเก็บกวาด" ผมแกล้งทำหน้าสิ้นหวังให้อีกฝ่ายตกใจเล่น ตอนนี้ยังไม่เหนื่อยหรอกครับ กำลังสนุกพอดีเลยแหละ เวลาเห็นสาวๆของพี่แฟงมาเหวี่ยงวีนใส่แบบนี้ มันดูตลกดีครับ เหมือนดูละครน้ำเน่าแบบไลฟ์สดเลย แต่ถ้ามันมากขึ้นกว่านี้คุนคงตลกไม่ออกแน่ๆครับ

"มึงไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นแหละ แค่มึงอยู่เฉยๆมึงก็ชนะคนพวกนั้นแล้ว เพราะกูรักมึง กูไม่ได้รักคนอื่น" อ้าว แทนที่จะได้แกล้งเขา ตัวเองกลับโดนซะเอง เขินเลยทีนี้ ชอบอะ แค่อยู่เฉยๆคุนก็ชนะแล้ว ฟังแล้วใจบ่อดี! พูดไม่พอยังก้มหน้าลงมาหอมหน้าผากคุนอีก พี่แฟงนี่น้าาา ชอบทำให้หัวใจคุนเต้นแรงตลอดเลย ไม่ไหวไม่ไหว สักวันคุนจะต้องเป็นโรคหัวใจแน่ๆ ขอน้องคุนลงไปนอนตายแป๊บนะครับ

"คะ ครับ"
.
.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 34| 04.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 04-06-2020 20:50:00
 o13
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 34| 04.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 04-06-2020 21:06:25
 :pig4:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 35| 05.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 05-06-2020 06:38:27
---ตอนที่ 35---

หลังทำการปฐมพยาบาลข้อมือทั้งสองข้างกับต้นคอรอยเล็บข่วนเสร็จเราก็เดินกลับไปที่ศาลาพักที่พี่รันนั่งรออยู่ก่อนแล้ว

"คุน" แต่พี่แฟงก็เรียกผมเอาไว้ก่อนที่ผมจะเดินเข้าไปข้างใน

"หือ?"

"อยู่ต่ออีกคืนสิ มีมึงนอนกอดแล้วอุ่นสบาย อากาศกลางคืนมันหนาวมึงก็รู้นี่นา"

"อื้อ แต่คุนต้องถามพี่รันก่อนครับ ไม่รู้ว่าพี่รันมีธุระต้องรีบกลับรึเปล่า" ไม่ใช่ไม่อยากอยู่นะครับแต่คุนเอาเสื้อผ้ามาแค่ชุดเดียว แล้วก็เกรงใจพ่อพี่แฟงด้วย ท่านน่าจะต้องกลับไปทำงานเหมือนกัน

"ก็ให้นิรันดร์กลับไปก่อน อีกสองวันค่อยให้คนมารับก็ได้"

"แล้วอาจารย์จะไม่ว่าหรอครับ"

"ไม่ว่าหรอก เจ้จูเป็นเพื่อนกับนิรันดร์ เดี๋ยวกูจัดการเอง"

"อื้อ เอางั้นก็ได้ครับ"

"อย่าเพิ่งไป มาให้กอดก่อน"

"ไม่เอา เดี๋ยวมีคนเห็น"

"เค้าก็เห็นกันจนเบื่อแล้วมั้ย มานี่"

.
.
.
.
.

พอเข้ามาในศาลาพี่แฟงก็เดินตรงเข้าไปคุยกับพี่รันและอาจารย์จุไรรัตน์ที่นั่งอยู่กันอยู่ก่อนหน้านั้นทันที ส่วนคุนนั้นเดินไปที่ส่วนด้านหลังของศาลาเห็นพี่ๆกำลังนั่งตัดกระดาษกันอยู่เลยเดินเข้าไปช่วย พี่ๆบอกว่ากำลังทำว่าวไว้ให้เด็กไปในหมู่บ้านเล่นกันในช่วงเย็น มีกระดาษสีสันหลากตาเต็มไปหมด เพราะคุนไม่มีอะไรทำอยู่แล้วเลยอาสาเป็นคนทากาวเอากระดาษแปะใส่โครงไม้ที่ดัดขึ้นมาเป็นรูปว่าวหน้าตาสวยงาม แต่จู่ๆก็มีเสียงโวยวายดังแสบแก้วหูดังขึ้นมาตรงส่วนที่อาจารย์ตุไรรัตน์กับพี่รันอยู่ ทำให้พวกเราสามสี่คนที่นั่งประกอบว่าวอยู่ต้องหันไปดูที่ต้นเสียง

"อาจารย์จะทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ จะให้คนนอกมายุ่งวุ่นวายกับค่ายเราได้ยังไงกัน" เสียงพี่มินตราครับ เธอแผดเสียงอยู่ จากที่ไม่มีใครสนใจตอนนี้คนในศาลาหันมามองเธอเป็นตาเดียว เก่งจังเลยนะครับที่ชอบทำตัวเป็นจุดสนใจเนี่ย ไม่เจ้าใตเหมือนกันว่าคนที่อายุขนาดนี้บวกกับมีการศึกษาแบบเธอทำไมถึงชอบแสดงกิริยาเกรี้ยวกราดให้คนอื่นเห็นตลอดเวลา ไม่รู้ว่าโตมาภายใต้การเลี้ยงดูแบบไหนกัน

"ใครกันที่เธอว่าเป็นคนนอกหรอมินตรา" อาจารย์จุไรรัตน์ที่กำลังจัดการกับกองเอกสารอยู่ถึงกับเอ่ยเสียงแข็งขึ้นมาทันที ปกติอาจารย์เป็นคนดุอยู่แล้วนะครับจากที่พี่แฟงเคยเล่าให้ฟัง พอเริ่มทำเสียงเย็นชาแบบนี้ ผมนี่รู้สึกเสียวสันหลังวาบเลยละครับ แต่คนต้นเรื่องกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรเลย

"ก็ไอ้เด็กหน้าขาวนั่นไงละคะอาจารย์ จะให้อยู่ต่อจนจบค่ายไม่ได้นะคะมินไม่ยอม" แถมยังชี้นิ้วมาที่ผมที่นั่งอยู่ตรงนี้ด้วย อ้าว แล้วน้องคุนเกี่ยวอะไรด้วย พอรู้ว่าตัวเองเป็นประเด็นในบทสนทนาก็ตั้งใจฟังจึ้นมาทันทีเลยละครับ ส่วนพี่ๆที่นั่งอยู่ด้วยกันก็ยอกเบาๆว่าไม่ต้องไปสนใจเพราะพี่มินตราขี้โวยวายแบบนี้ตลอด ลํกนักการเมืองที่พ่อตามใจก็แบบนี้แหละ น้องคุนเลยถึงบาวอ้อยึ้นมาเลยละครับ พ่อแม่ตามใจมากเลยเป็นแบบนี้สินะ พ่อแม่รังแกฉันแท้ๆเลย

"ทำไมเด็กคนนั้นถึงจะอยู่ไม่ได้เธอช่วยบอกอาจารย์ทีสิ"

"ก็อาจารย์บอกเองว่าห้ามให้คนนอกมาร่วมเข้าค่ายนี้"

"เธอเองก็เป็นคนนอก" อาจารย์จุไรรัตน์พูดข้อเท็จจริงออกมา จะพูดไปตามตรงเธอก็เป็นคนนอกคณะจริงๆแหละครับเพราะพี่นาทีบอกว่าเธออยู่คณะบัญชีไม่ใข่นักศึกษาคณะแพทย์เหมือนคนอื่นๆ

"แต่พ่อมินเป็นบริจาครายใหญ่นะคะ"

"แล้วยังไง" ดูเหมือนขีดความอดทนของอาจารย์ใดล้จะหมดลงเต็มที

"ก็เพราะพ่อมินบริจาคเงินให้โครงการนี้ตั้งหนึ่งแสนมินก็ต้องมีสิทธิ์มาร่วมค่ายนี้สิคะ"

"ถ้าบริจาคเงินแล้วมีสิทธิ์อยู่ช่วยค่ายอาสาครั้งนี้ ถ้างั้นคุนของผมก็มีสิทธิ์อยู่ในค่ายนี้เหมือนกันสินะ" เสียงของพี่รันดังขึ้นขัดจังหวะมินตราที่กำลังแหวใส่อาจารย์จุไรรัตน์อยู่ พี่รันที่นั่งนิ่งมาตั้งแต่แรกลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพรางบิดไหล่เหมือนคนบิดขี้เกียจเวลาที่นั่งท่าเดิมนานนาน ก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่มินตราที่ตอนนี้ทำหน้าเหรอหราอยู่ ผมไม่เข้าใจพี่มินตราเลยจริงๆ ทำไมต้องแสดงท่าทางเสียมารยาทกับผู้ใหญ่แบบนั้นด้วย

"นิรันดร์" พี่แฟงที่ยืนอยู่ข้างพี่รันเดินตามมาทันทีก่อนจะถูกพี่รันรั้งไว้ เหมือนบอกว่าเรื่องนี้เขาจะจัดการเองพี่แฟงอย่าเข้ามายุ่ง

"ใช่รึเปล่าจุไรรัตน์" แต่พอเดินมาหยุดตรงหน้าพี่มินตราพี่รันก็หันไปถามอาจารย์จุไรรัตน์

"ตามนั้น"

"เพราะผมบริจาคให้ค่ายนี้สามแสน คนของผมก็มีสิทธิ์อยู่ในค่ายนี้เหมือนกันใช่มั้ยครับอาจารย์จุไรรัตน์"

"ใช่"

"ห๊ะ ว่ายังไงนะ บริจาคสามแสน?" ดูเหมือนพี่มินตราจะตกใจกับข้อมูลใหม่ที่ได้รับน่าดู ผมเองก็ยังตกใจเลยครับที่พ่อพี่แฟงบริจาคให้กับสโมสรนักศึกษาแพทย์มากมายขนาดนั้น ไม่แปลกใจเลยที่อาจารย์ให้การต้อนรับพี่รันเป็นอย่างดี

"ใช่ เธอฟังไม่ผิดหรอก คุณนิรันดร์บริจาคให้เราสามแสน เป็นผู้บริจาครายใหญ่เลยแหละ แล้วก็เลิกคิดสักทีนะว่าคุณพ่อของเธอเป็นผู้บริจครายใหญ่ เพราะคุณนิรันดร์เค้าบริจาคมากกว่าและที่สำคัญคือไม่ทำตัววุ่นวายด้วย เชิญคุณนิรันดร์กับน้องคุนตามสบายเลยนะคะ จะอยู่กี่วันก็ได้เอาที่สะดวกเลยคะ ไม่ต้องสนใจเสียงนกเสียงกา" อาจารย์เอ่ยแล้วหันมายิ้มให้พี่รันก่อนจะหยิบเอกสารที่วางไว้บนโต๊ะแล้วเดินออกไปโดยไม่สนใจเสียงโวยวายตามหลังของพี่มินตรา

"อาจารย์!" พี่มินตราหวีดเสียงดังลั่นก่อนจะเงียบลงเมื่อพี่รันหันไปมองหน้า สำหรับผมพี่รันดูเป็นคนใจเย็นและใจดีตลอดเวลาตอนนี้กลับดูไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด พี่มินตรานี่เก่งมากเลยนะเนี่ยที่ทำให้พี่รันหงุดหงิดได้ขนาดนี้

"อะไรกันนิรันดร์ ทำไมบริจาคเยอะขนาดนั้น" อ้าว นี่พี่แฟงก็ไม่รู้เรื่องหรอเนี่ย

"อ้าว  มีปากก็ร้องไป ส่วนกูมีตังค์ก็เปย์ไปก็แค่นั้น กูเป็นพวกโอนเก่งมึงก็รู้ กูพอใจจะเปย์ให้ลูกกูที่ร้องเต้นวิบวับ ใส่เพชรเม็ดเป้งไม่ได้รึไง"  พี่รันละสายตาจากพี่มินตราก่อนจะหันมายิ้มให้ลูกชายตัวเอง และเหมือนเขานึกอะไรสนุกขึ้นมาได้ สีหน้าหงุดหงิดฉายแววสนุกสนานขึ้นมาทันที อ้าว ทำไมเปลี่ยนอารมณ์ง่ายแบบนั้นละครับเนี่ย

"นิรันดร์!"

"เพชรผมวิบ วิบ วิบ เพลงผม hit hit hit ~~~~"

คนลูกร้องห้าม ส่วนคนพ่อก็ยิ่งร้องดังขึ้น

อืม....

อ้อ เข้าใจละครับ ที่แท้ก็พอใจในการแสดงของลูกชายสุดที่รักนี่เอง สงสัยพี่รันจะเป็นหนึ่งในผู้ชมที่มียอดวิวสูงสุดใกล้เคียงกับผม นอกจากจะร้องท่อนที่พี่แฟวร้องได้แล้ว ยังเต้นได้อีกต่างหาก ดูสิครับพลิ้วเชียว นี่สี่สิบกว่าจริงๆหรอเนี่ย ให้ตายเถอะไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ แล้วดูนะครับส่วนในหมู่บ้านนี่เอาจ้ำกับขนมมาฝากพี่รันตั้งแต่เช้าแล้ว ตอนนี้กลายเป็นแดดดี้หนุ่มที่เป็นที่หมายปองของสาวๆกลางดอยนี้ไปเสียแล้ว

"หยุดร้องได้แล้ว" แต่รู้สึกว่าคนที่อยู่ในคลิปจะดูไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก ดูทำหน้าเข้าสิครับ คิ้วผูกโบว์พร้อมบวกชัดๆ แต่พี่แฟงจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ นั่นพ่อนะพี่!

"เออๆ หยุดก็หยุด กูไปนั่งดูคลิปกับคุณก็ได้ มึงแม่งไม่เข้าใจกูเลย กูไปเที่ยวกับลูกคนใหม่ของกูดีกว่า คุนไปเดินเล่นในหมู่บ้านกัน ไปเร็วผู้ใหญ่บ้านบอกท้ายหมู่บ้านมีไร่ชาสวยเชียว แดดหมดแล้วไม่ร้อนแล้ว ปะไปกัน"

"เอ่อ ครับผม" ผมหันไปหาพี่ๆที่นั่งทำว่าวอยู่ด้วยกันเป็นเชิงถามว่าผมไปได้มั่ยเพราะตอนนี้เรายังทำว่าวกันไม่เสร็จเลยครับแต่พี่ๆก็บอกว่าให้ผมไปได้เพราะเหลืออีกไม่กี่ชิ้นก็เสร็จแล้ว ผมเลยลุกขึ้นปัดเศษฝุ่นออกจากกางเกงก่อนจะเดินมาหาพี่รันที่ยืนอยู่ข้างพี่มินตราที่ยืนมองน้องคุนตาเขียวปั๊ด ก่อนหันไปถามพี่แฟงด้วยสายตาว่าผมไปได้มั้ย อีกฝ่ายก็พยักหน้ากลับมาบอกว่าไปได้

"ส่วนเธอ อย่าให้เห็นว่าเข้ามาวุ่นวายกับคุนอีก ไม่งั้นอย่าหาว่าผู้ใหญ่รังแกเด็กละกัน แล้วก็จำไว้ด้วยว่าคุนนะลูกสะใภ้ผม ถ้าไม่ใช่คนนี้ผมก็ไม่เอา"

"พี่รัน" พี่รันโอบไหล่ผมไว้ ก่อนจะพาผมเดินออกไปจากตรงนั้น ส่วนพี่มินตราก็ยืนอ้าปากค้างอยู่ตรงนั้นไม่ยอมขยับไปไหน อู้ยย แต่ที่พี่รันพูดเมื่อกี้นี่น้องคุนเขินนะครับ แอบเหลือบไปมองหน้าพี่แฟงนิดหน่อย ฝ่ายนั้นยกยิ้มอย่างชอบใจเลยละ

"ไปกันคุน ไปละแฟง เดี๋ยวค่ำๆพามาส่ง ไม่ต้องทำตาละห้อย ห่างนิดห่างหน่อยไม่ได้เลยนะมึง"

"รู้ดี"

พี่แฟงบ่นพึมพำอะไรสักอย่างในลำคอผมได้ยินไม่ค่อยถนัดนักเพราะพี่รันลากผมออกมาจากศาลาแล้ว พอหันกลับไปเจ้าตัวก็ไม่ได้อยู่ในศาลาแต่กลับออกมายืนอยู่ข้างนอกศาลากับพี่มินตราแล้วก็มาแตร์ ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันแต่พี่แฟงหน้านิ่งมาก

พี่รันพาผมขับรถมาท้ายหมู่บ้าน ที่นี่มีไร่ชาขนาดกว้างสุดลูกหูลูกตาเรียงรายอยู่เต็มภูเขาเลย พี่รันบอกว่านี่เป็นไร่ชาแบบขั้นบันได้ อืม เหมือนขึ้นบันไดจริงๆนั้นแหละครับ มีการปลูกลดหลั่นกันตามความชันของภูเขาสีเขียวสุดลูกหูลูกตาสวยงามมากเลยครับ แถมยังมีลำธารเล็กๆที้สามารถลงไปเล่นน้ำได้อีกต่างหาก ตอนนี้เป็นช่วงเย็นแล้วแสงแดดที่แผดเผาช่วงกลางวันหนีกลับบ้านไม่หมดแล้วครับ เราเดินเข้าไปในไร่ชากันส่วนพี่รันก็พูดคุยกับชาวไร่ไปด้วย พี่รันมีความรู้เรื่องใบชาพอสมควรเลยครับ ชาวไร่อธิบายอะไรมาก็เข้าใจหมดต่างจากน้องคุนที่ยืนงงกลางดงชาสารพัดสายพันธุ์ เราใช้เวลาไปชั่วโมงกว่าๆในการเที่ยวชมไร่ชา ชาวไร่ก็ใจดีมากเลยครับนำชาอุ่นๆจากใบชาในไร่มาต้มให้เราชิมด้วย ส่วนพี่รันก็ยังอุดหนุนใบชาของชาวบ้านกลับไปฝากเพื่อนๆหลายถุงเลยทีเดียว

คืนนี้พี่รันไม่ได้อยู่ทานข้าวกับพวกเราครับ เขาขอตัวกลับก่อนแล้วจะมารับอีกทีสองวันข้างหน้าเพราะต้องเข้าไปดูแลโรงแรมที่จะมีแขกสำคัญมาเข้าพักในวันพรุ่งนี้ อยู่ที่นี่ไม่ค่อยสะดวกมากนักเพราะไม่ค่อยมีสัญญาณมือถือ ส่วนคุนเองพี่รันบอกว่าถ้าอยากอยู่ต่อก็อยู่ได้ไม่ต้องห่วง คุนเลยเลือกที่จะอยู่ต่อครับ พี่รันเลยโทรบอกให้คนเอาเสื้อผ้ามาให้คุนเพิ่ม พอส่งพี่รันกลับผมก็ไปช่วยพี่ๆกับชาวบ้านในครัวครับ เพราะคุนทำอย่างอื่นไม่ถนัดกลัวจะไปเกะกะคนอื่นเขา

"คุน" ผมที่กำลังเล่นกับเจ้าเหมียวสีดำเงยหน้าขึ้นมามองผู้ชายตัวสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านหลังตัวเอง คือหบังจากทำอาหารเสร็จคุนก็ไปอาบน้ำครับ แต่ด้้วนที่นี่เป็นห้องน้ำรวมแยกชายหญิงพี่แฟงเลยสั่งห้ามให้คุนมาอาบคนเดียวต้องรอให้พี่แฟงมาด้วยทุกครั้ง แล้วเราก็เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จตอนนี้กำลังจะเดินกันไปที่ลานกิจกรรมด้านล่างครับ วันนี้ชาวบ้านจัดงานเลี้ยงให้พี่ๆค่ายอาสา เลยจะมีอาหารและการแสดงด้วย ฟังแล้วน่าสนุกมากเลย คุนนี่คือตื่นเต้นตั้งแต่ตอนอาบน้ำแล้ว เร่งพีาแฟงแล้วเร่งอีกให้รีบอาบน้ำเพราะคุนอยากลงมาลานกิจกรรมจะแย่ แต่อีกฝ่ายกลับไม่เข้าใจคุนเลยสักนิดเล่นแกล้งคุนตอนอาบน้ำอยู่นั่นแหละ กว่าจะอาบเสร็จปาไปเกือบสี่สิบนาที

"เฮียธัน"

"มานั่งทำไรตรงนี้เดี๋ยวยุงกัดพอดี"

"อ้อ คุนกำลังจะเดินไปลานกิจกรรมครับ แต่เห็นน้องแมวสีดำตัวนี้น่ารักดีเลยเดินตามมา"

"แล้วนี่ไอ้แฟงไปไหนถึงปล่อยเราไว้คนเดียว"

"โน่นครับ คุยกับพี่สาวสวยที่เป็นฝ่ายสวัสดิการอยู่"ทคุนชี้ไปทางใต้ต้นไม่ที่ไม่ไกลจากตรงนี้มากนัก พอดีตอนเดินมาพี่คนสวยจอคุยอะไรบางอย่างกับพี่แฟงครับ คุนเลยปลีกตัวออกมารออยู่ตรงนี้เผื่อว่าพี่เค้าจะคุยธุระอะไรกันคุนไม่อยากรบกวน

"ปล่อยมันคุยไป เราเดินไปลานกิจกรรมกับเฮีย จะมานั่งให้ยุงกัดทำไม ลุกขึ้นมานี่ มืดก็มืด" แต่คุนทายากันยุงมาแล้วนะครับเฮียธัน

"แต่ว่า พี่แฟง..." บอกให้คุนรออยู่ตรงนี้ห้ามไปไหนนี่นา

"เดี๋ยวมันคุยเสร็จก็เดินตามมา ลุกเร็ว"

"เอ่อ ก็ได้ครับ" พอหันไปมองก็เห็นว่าพี่แฟงกำลังคุยอะไรบางอย่างที่ดูค่อนข้างซีเรียสกันอยู่ คุนเดินไปก่อนก็ไม่น่าจะมีปัญหาหรอกมั้ง

"อ้าว รีบเดินสิจะยืนตาละห้อยอีกนานมั้ย ถ้าอยากเล่นแมวก็อุ้มไปด้วย"

"เอาไปได้จริงๆหรอครับ"

"เออ อุ้มมาเหอะน่า ปะไปเร็ว"

"โอเคคร้าบผม" ผมก้มลงไปอุ้มเจ้าแมวเหมียวสีดำขึ้นมาแนบอก ก่อนที่เฮียธันจะพาดแขนลงมาโอบรอบไหล่คุนไว้แล้วรั้งให้เดินไปพร้อมกัน แต่เราเดินออกมาจากตรงนั้นได้ไม่นานเท่าไหร่เสียงเรียกของพี่แฟงก็ดังตามหลังมา


"คุน จะไปไหน"

"พี่แฟง"

"กูจะพาน้องไปลานกิจกรรม เห็นนั่งให้ยุงหามอยู่คนเดียวตรงโน้น"

"ยุงกัดหรอ" พี่แฟงเดินตามมาทันเราสองคนก่อนจะยกแขนทั้งสองข้างของผมขึ้นมาสำรวจดู

"อือออ น่าจะยังไม่กัดนะครับ ไม่เห็นมีตรงไหนคัน"

"แล้วต้องรอให้กัดก่อนรึไง"

"ปล่อยมือจากคุนได้แล้ว จะโอบไหล่กันอีกนานมั้ย คุนมานี่ ส่วนมึงจะไปไหนก็ไป"

"ครับผม" ผมเบี่ยงตัวออกจากแขนเฮียธันทันทีที่เห็นสีหน้าพี่แฟงตอนนี้ อู้ววว หน้านิ่งเชียว โกรธอะไรน้องคุนน้าาาา

"ไม่ต้อง คุนไปกับเฮียนี่แหละ คนมาทีหลังก็เดินตามมาเอาเองละกัน" แต่ยังไม่ทันทีผมจะเบี่ยงตัวออกจากวงแขนของเฮียธัน เฮียก็ดึงผมกลับไป อ้าว ดึงทำไมอะ น้องคุนจะไปหาพี่แฟง!

"สัสธัน มึงจะปล่อยไม่ปล่อย" โอเค เข้าใจละ เฮียธันจะแกล้งพี่แฟงนี่เอง คุนได้ยินนะเสียงหัวเราะหึๆในลำคอเนี่ย นิสัยไม่ดีเลยนะครับเฮียธัน!

"ไม่" นั่นไง ขี้แกล้งตลอด

"ที่มึงโอบไหล่นั้นแฟนกูมึงรู้ใช่มั้ย!" เอาละครับ พี่แฟงขึ้นเสียงแล้วตอนนี้ แต่เฮียธันยังทำหน้านิ่งเฉยอยู่อีก

"แล้วไงครับสัสแฟง"

"มึงกวนตีนกูใช่มั้ย"

"ป๊าววว"

"มึง!"

"พี่แฟงครับ เฮียธันครับ เลิกแกล้งพี่แฟงสักทีนะครับ"

"เฮ้ย เฮียไม่ได้แกล้งซะหน่อย แค่จะพาน้องชายไปลานกิจกรรมเท่านั้นเอง" แหนะ ยังมีหน้ามาทำท่าไม่รู้ไม่ชี้อีก คุณรู้นะว่าเฮียกำลังทำอะไรนะ

"งั้นก็เอาแขนออกก่อนดีมั้ยครับ"

"เออๆ เอาออกก็ได้วะ สงสารหมาที่มันยืนน้ำลายย้อยเป็นหมาบ้าหรอกนะ" หมาบ้าที่ไหนละครับ ระเบิดปรมาณูกำลังจะลงเลยต่างหาก

"หมาบ้าพ่องงงง" นั่นไง เห็นมั้ยละ

"แล้วเจอกันที่ลานนะน้องรัก จุ้บ" เฮียธันเอาแขนที่โอบรอบไหล่คุนออกก่อนจะก้มลงมาหอมหัวน้องคุน แล้วก็หันหลังสาวเท้าลงไปยังลานกิจกรรมทันที

"ไอ้เ*ยธัน มึงมาหอมหัวเมียกูทำไม กูจะเอาเลือดหัวมึงออก ไอ้สัสหมา ไอ้เลว หัว*วย"

"โอ้ยด่าเจ็บจี้ดเลยเว้ยเห้ย"

"คุน มึงจะยืนเฉยๆให้มันหอมทำไม" อ้าว มาลงกันคุนทำไมเนี่ย!

"อ้าว ไม่ได้หรอครับ"

"ได้ที่ไหนกันเล่า! คุนมึงเป็นแฟนกูนะจะให้คนอื่นมาทำแบบนี้ไม่ได้ กูไม่ยอมนะเว้ย ครั้งเดียวก็ไม่ได้" ดุจังเลยพี่แฟงเนี่ย

"แต่เฮียธันหอมคุนหลายครั้งแล้วนะครับ"

"ฮะ? มึงว่าไงนะ หนอยไอ้เ*ยธัน วันนี้มึงคงได้ตายอยู่บนม่อนเคียงดาวนี่แล้วแหละ กูจะเอาตีนลูบหน้ามึงสักครึ่งโหลลลล" แล้วพี่แฟงก็วิ่งตามเฮียธันไปทันที ปล่อยให้น้องคุนยืนงงอยู่คนเดียว

.
.
.
.
.

"ทำไมไม่บอกมันไปว่าคุนเป็นน้องเฮีย" เฮียธันที่นั่งจับจมูกตัวเองบ่นอุบ จะอะไรซะอีกครับ ก็สองคนนั้นลากกันไปฟัดใต้ต้นไม้นะสิครับ เฮียธันนี่นะหาเรื่องจริงๆเลย กว่าจะห้ามได้แทบแย่ คือพี่แฟงไม่รู้ไงครับว่าเฮียธันอะเป็นลูกของป้าแก้วพี่สาวของหมาม๊า แต่เฮียธันนี่รู้อยู่เต็มอกยังไปแหย่อีกน่าตีจริงๆ

"ก็พี่แฟงไม่เคยถามคุนนี่ครับ"

"เนี่ย เห็นมั้ยหมาบ้าเข้าสิงมัน ดูหน้าเฮียนี่ ถ้าจมูกเคลื่อนแล้วหมดหล่อเฮียจะให้คุนรับผิดชอบ" เฮียธันโดนต่อยหน้าไปครับ แก้มนี่ช้ำเชียว แต่สงสัยชอบ ยังหัวเราะไม่หยุด นี่น้องคุนมีพี่ชายเป็นพวกชอบความรุนแรงหรอเนี่ยต้องรีบบอกหมาม๊าซะแล้ว

"หุบปากมึงเลย แล้วก็เอามืออกจากหัวแฟนกูด้วย เป็นญาติกันก็ห้ามจับตัวกูไม่โอเค" ส่วนพี่แฟงก็เละพอกัน ขอบปากแตกเลือดซึมออกมายังไม่หยุดเลย นี่ก็ใจร้อนเกินเบอร์ไปนะครับ สรุปคือพอกันทั้งคู่

"ไม่โอเคก็เรื่องของมึง กูสะดวกใจจะจับหัวน้องกู มันหนักหัวมึงรึไง"

"ไม่หนักหัวหรอก แต่หนักตีน จะเอาตีนลูบหน้าอีกสักแผลมั้ย" ผมรีบจับแขนพี่แฟงที่ทำท่าจะเหวี่ยงขาขวาไปหาเฮียธันทันที โอ้ย ขาพี่แฟงนี่ก็ยาวจริง ยื่นไปนิดเดียวเกือบถึงหน้าเฮียธันแล้วเนี่ย

"พอๆเลยครับ ทั้งคู่นั่นแหละ แหย่กันเป็นเด็กไปได้ พี่แฟงก็อย่าขยับสิครับ คุนทาแผลให้ไม่ได้เลย"

"ต่อไปห้ามให้มันจับตัวเข้าใจมั้ยคุน"

"แต่ว่า...."

"เฮ้ย นั่นน้องกูนะโว้ย กูจับของกูมาแต่เด็ก อาบน้ำด้วยกันมาตั้งแต่จำความไม่ได้"

"ไอ้เ*ย คุนเคยอาบน้ำกับมันด้วยหรอ"

"โอ้ย" ขอร้องคำว่าสมน้ำหน้าดังๆละกันนะครับเฮียธัน ชอบหาเรื่องตลอดเลย นี่ก็โดนพี่แฟงขว้างอะไรสักอย่างไปใส่หัว

"ใช่ที่ไหนละครับ เฮียธันก็ไปแหย่พี่แฟงอีกแล้ว แบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ คุนจะโทรฟ้องหม่าม๊าให้บอกคุณป้า"

"เฮ้ยๆ คุนคุน อย่าๆ พี่ขี้เกียจฟังแม่บ่น เออๆ ไม่แหย่มันละไอ้หมีควายเนี่ย" ต้องให้เล่นท่าไม้ตายตลอดเลยนะครับ

"สัสธัน มึงกลัวแม่หรอวะ ว้ายย ไอ้ลูกแหง่"

"เชี่ยยแฟง อยากกินตีนกูใช่มั้ยมึง หะ?!"

"กลัวตายละ"

อืม ยกที่สองเริ่มอีกแล้วครับ คุนว่าคุนไปดูเด็กๆทำการแสดงตรงโน้นดีกว่า เบื่อเด็กโข่งสองคนนี้แย่แล้ว เฮ้อ!


#คุนแฟง

by ppeachmm


หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 35| 05.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 05-06-2020 20:25:26
 o13
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 36| 06.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 06-06-2020 00:24:42
---ตอนที่ 36---


คุน's part

"ไงเรา คล้ำขึ้นนะเนี่ย" พี่รันถามขึ้นทันทีที่ผมพาตัวเองเข้ามาอยู่ในรถสัญชาติยุโรปสีดำแอร์เย็นฉ่ำ ค่ายอาสาผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ คนอื่นๆนั่งรถบัสกลับกรุงเทพกันเลยหลังทานอาหารกลางวันเสร็จ ส่วนผมกับพี่แฟงตอนนี้เรากำลังเดินทางไปเชียงใหม่ พี่รันอาสาจะพาไปทัวร์เมืองเชียงใหม่สองวันแล้วค่อยนั่งเครื่องกับกรุงเทพเย็นวันอาทิตย์ พี่แฟงมีเข้าวอร์ดเช้า ส่วนผมก็เปิดเรียนวันแรก ตื่นเต้นเหมือนกันครับน้องคุนจะขึ้นปีสองแล้วกก็จะมีรุ่นน้องแล้วด้วย จะเป็นพี่คุนคนหล่อแล้วเนี่ย อิอิ

"วิ่งตากแดดไงนิรันดร์ บอกให้อยู่แต่ในศาลาก็ไม่ฟัง ดื้อจนน่าตี" พี่แฟงได้ทีฟ้องพี่รันใหญ่เชียวนะ เดี๋ยวเถอะเป็นเด็กขี้ฟ้องหรอเรา คล้ำขึ้นนิดเดียวเอง แมนๆไง ทีตัวเองคล้ำขึ้นตั้งเยอะน้องคุนยังไม่เห็นบ่นอะไรเลย

"ก็คุนอยากช่วยนี่นา สนุกดีออก ดีกว่านั่งอยู่ในศาลาเฉยๆ มันดูไม่มีประโยชน์เท่าไหร่เลยครับ" ตามนั้นแหละครับ พี่แฟงอะให้คุนนั่งอยู่แต่ในศาลาน่าเบื่อจะตาย คุนเลยแอบไปช่วยเฮียธันทาสีบ้าง ช่วยพี่นาทีกับพี่แฟงตรวจสุขภาพเด็กๆด้วย เห็นมั้ยละทำตัวมีประโยชน์จะตาย

"อืม แล้วเป็นไง ทำตัวมีประโยชน์แล้วได้แผลมาด้วยเนี่ย" แฮะ จริงอย่าที่พี่แฟงพูดแหละครับ ได้แผลมาหลายแผลเลย ทั้งแผลตรงข้อศอกตอนลื่นน้ำล้างหลังคา แล้วก็แผลตรงหัวเข่าตอนที่ช่วยเด็กตัวเล็กลงมาจากต้นไม้ ก็น้องเค้าปีนขึ้นไปบนต้นไม้แล้วลงมาเองไม่ได้ คุนเดินผ่านไปพอดีเลยอุ้มลงมาแล้วพลาดอีท่าไหนไม่รู้สะดุดกิ่งไม้ล้มลงบนพื้นได้แผลถลอกเล็กๆมาหนึ่งแผล ส่วนน้องคนนั้นไม่เป็นอะไรเลยเพราะหล่นลงมาทับตัวคุนเต็มๆเลย จุกสิครับ!

"งือๆๆ วันนี้พี่รันจะพาคุนไปเที่ยวไหนน้าาาาา" ไม่ได้การละ ถ้าขืนยังคุยเรื่องนี้อยู่สฃสัยได้โดนพี่แฟงบ่นจนถึงตัวเมืองเชียงใหม่แน่ๆ คุนต้องทำเรื่องที่ปาป๊าถนัดที่สุดซะแล้ว เห็นป๊าทำบ่อยๆตอนม๊าบ่น เชื่อสิว่ามันต้องได้ผลแน่ๆ

"อย่าเปลี่ยนเรื่อง" คนตัวโตที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับด้านหน้าหันมาทำตาดุใส่น้องคุนอะ

เทคนิคเปลี่ยนเรื่องของปาป๊าท่าจะไม่ได้ผลกับพี่แฟงแฮะ งั้นสงสัยต้องใช้ท่าไม้ตาย

"แงๆๆ พี่รันช่วยคุนด้วยคร้าบบบ"

"มึงอย่าบ่นเป็นคนแก่นัก รำคาญ คุนอยากไปไหน ตีนเขามีปางช้างด้วย สนใจมั้ย ขี้ช้าง ล่องแพมั้ย" โป๊ะเชะ! มิชชั่นคอมพลีท!

"ไปโลดดดด" อะไรก็ได้ครับตอนนี้ คุนทำหมดแหละ ตั้งใจมาเที่ยวนี่นา คุนนี่ยกมือขึ้นสูงด้วยความดีใจเลยละครับ ยิ้มกว้าง ยื่นหน้าไประหว่างเบาะทำหน้าดุกดิกไปมาด้วยความดีใจ

"เชี่ยยยย"

"แฟงกูขอเหอะคนนี้"

"นิรันดร์!"

.
.
.
.
.

ฟุบ!

น้องคุนวิ่งเข้ามาในห้องนอนก็รีบทิ้งตัวลงบนเตียงทันที คุนเหนื่อยยยยย

"อาบน้ำก่อนสิอย่าเพิ่งขึ้นเตียงตัวสกปรกมาทั้งวัน"

"คุนไม่ไหวแล้วครับ เหนื่อยมากกกกก ของีบสิบนาที" เหนื่อยจริงๆครับ ขนาดแรงจะพูดยังไม่มี พี่รันจัดเต็มมาก ทั้งพาขี่ช้าง ล่องแพ เล่นฟอร์มูล่าม้ง เที่ยวสวนพฤกษศาสตร์ แบตเตอรี่ที่คุนเติมมาเมื่อเช้าหมดเกลี้ยงไม่เหลือซักเปอร์เซ็นต์เดียว

"ไม่เอาลุกเลย ที่นอนเปื้อนหมด" พี่แฟงคงจะเดินมายืนข้างเตียง ก่อนผมจะรู้สึกว่าเตียงยุบลงไปแล้วแขนผมก็ถูกยื้อให้ลุกขึ้นจากเตียง ไม่เอา คุนไม่ลุก!

"งือๆๆๆ" ม่ายยยย คุนจะนอนนนนน

"เค งั้นก็ไม่ต้องลุก" หือ? ทำไมพูดง่ายจัง

"..."

"เดี๋ยวพี่อุ้มไปห้องน้ำเอง"

ฟุบ!

"ไม่ๆๆๆ ไม่เอา อื้อออ พี่แฟง ปล่อยๆๆๆๆ" คนตัวโตอุ้มคุนขึ้นมาจากเตียง คุนมองหาอะไรที่พอจะคว้าดึงไว้ได้ก็ไม่มีเลย หัวเตียงก็อยู่ไกลเกินไป อื้อออ ไม่ไปอาบน้ำจะนอน! ทำไงดี อ้อ ดิ้นแม่งเลย นี่ไง ดิ้นๆๆๆๆ

"ไหนบอกเหนื่อย ดิ้นแรงขนาดนี้เนี่ยนะเหนื่อย" พอดิ้นเยอะเข้าพีาแฟงก็เอาขาน้องคุนมาเกี่ยวเอวไว้กลัวตก

"ปล่อยๆๆๆ คุนไปอาบเองได้ ลงๆๆ" ผมดิ้นไปมาในอ้อมแขนของพี่แฟง แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมปล่อยผมลงง่ายๆ ผมถึงจนาดทุบหลังเขาแล้วก็ยังไม่ยอมปล่อยผมลงสักที

"อย่าหวังว่าจะได้อาบเอง หนูเลือกเองนะน้องคุนคุน"

"พี่แฟง อื้อออ งือๆๆๆๆ" เสียงแบบนี้อีกแล้ว ไม่เอาๆๆๆ คุนไม่อยากได้ยินน้ำเสียงแบบแหบพร่าของพี่แฟงตอนนี้ น้องคุนเหนื่อย น้องคุนไม่พร้อม ไม่อาวววว

ร่างหนาวางผมลงบนเคาน์เตอร์ล้างหน้าก่อนจะถอดเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สีฟ้าของผมออกแล้วประกบปากหนาลงมาบดขยี้ปากของผม ไม่นานก็ส่งลิ้นร้อนเข้ามาโลมเลียในโพรงปากส่งเสียงเปียกเฉะน่าอายขึ้นกลางห้องน้ำ เห็นมั้ยละ ทำเสียงแหบทุ้มต่ำที่ไรภาพต้องได้ตัดเข้าโคมไฟตลอดสิท่า ถ้าคุณเคยเมาคุณก็จะเข้าใจเลยนะครับว่ามันถลำลึกแค่ไหน แล้วจูบพี่แฟงมันยิ่งมอมเมาอยู่ด้วย จูบทีไรน้องคุนย้วยทุกที เรี่ยวแรงหายไปไหนหมดไม่รู้

"ตัวคุนเหม็น" ผมเอ่ยขึ้นเมื่อปากหยักหนาผละออกเพื่อให้ผมได้โดยอากาศหายใจ

"หืม? เหม็นที่ไหน" คนตัวหนาก้มลงมาวางจมูกไว้ตรงซอกคอ ไซร้จมูกโด่งคมสันนั้นไปมาตามซอกคอผมช้าๆ ลมหายใจร้อนๆรดต้นคอลามขึ้นมาถึงใบหู

"ไม่เอา เหงื่อออกทั้งวัน" ผมเอามือดันหน้าอกคนตัวหนาให้ออกไปทันที แต่ไม่ว่าจะผลักยังไงคนตรงหน้าก็ไม่ขยับเสียสักนิด โอ้ย! นีาผลักสุดแรงแล้วนะเนี่ย

"อย่าขัดใจ บอกไม่เหม็นก็ไม่เหม็นสิ" ร่างหนาจัดการปลดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด ก่อนจะวกมาจัดการกับกางเกงขาสั้นของผมในเวลาต่อมา พี่แฟงดึงตัวผมเข้ามาแนบชิดอกแกร่งของตัวเองก่อนจะก้มลงมาประกบปากผมอีกครั้ง แล้วยกมือผมที่วางเท้าเคาน์เตอร์อยู่ขึ้นมาคล้องคอเขา ทำให้ด้านล่างเขาเราแนบชิดกันนิ่งขึ้นจนผมสัมผัสได้ถึงบางส่วนที่พร้อมรับอยู่ก่อนแล้ว

"อื้อ พี่แฟง" พี่แฟงคุกเข่าลงบนพื้นแกรนิตสีขาวในห้องน้ำก่อนจะดันตัวผมให้ชิดกระจกส่องหน้าที่อยู่ด้านหลัง

"แหกขาออก" คำสั่งที่น่าอายหลุดออกจากปากคนร่างหนา ไม่ใช่ว่าไม่เคยได้ยิน แต่ไม่ว่าจะได้ยินเท่าไหร่ก็ยังทำให้หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทุกที ขาสองข้างของผมถูกจับให้อ้าออกกว้างก่อนที่ส่วนล่างของผมจะถูกครอบครองด้วยโพรงปากอุ่นร้อน แล้วอารมณ์วูบหวามก็กลืนกินสติสัมปชัญญะที่มีอยู่น้อยนิดไปจนหมด เสียงหยาบโลนดังขึ้นจากการครอบครองแก่นกายด้วยปากร้อน มันเสียวซ่านจนผมต้องขยุ้มหัวคนร่างหนาอย่างแรงในขณะที่คนด้านล่างนั้นขยับจังหวะเข้าออกอย่างคนเชี่ยวชาญ ไม่นานเสียงครางด้วยความสุขสมก็ดังออกมาจากปากผมในเวลาเดียวกันนั้นสายน้ำสีขาวก็พวยพุ่งออกมาใส่คนตัวโต

"หวาน" คนตัวหนายืนขึ้นเต็มความสูงเช็ดคราบที่เลอะตามขอบปากก่อนจะยกยิ้มอย่างคนเจ้าเล่ห์ ที่ผมมองกี่ทีก็เหมือนตกอยู่ในภวังค์ทุกครั้ง เขามีเสน่ห์มากในทุกท่วงท่าขยับเขยื้อน เวลาที่เจ้าตัวชอบบอกว่าตัวเองหล่อนักหล่อหนานั้นจริงซะยิ่งกว่าจริงขอคอนเฟิร์มเลยครับ

"หวานที่ไหนกัน คาวเหอะ..." ผมเอ่ยท้วงออกไปทันที ก็เคยชิมเหมือนกันนี่นาทำไมจะไม่รู้ว่ารสชาติเป็นแบบไหน

"อ๊ะ จะทำอะไรครับ" คนตัวหนาอุ้มร่างผมลอยขึ้นสูงจากเคาน์เตอร์อ่างหน้าก่อนจะพาออกมาจากห้องน้ำที่เราเพิ่งเข้าไปกันไม่ถึงสิบนาทีเลยด้วยซ้ำ

"ไปที่เตียง พี่ชอบเตียงมากกว่า เวลาคุนร้องเสียงจะได้ไม่ดังออกไปข้างนอก ในห้องน้ำมีหน้าต่างระบายอากาศเสียงมันลอดออกไป"

"หะ?" แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่ตอนแรก เมื่อกี้ร้องไปตั้งเท่าไหร่แล้ว พี่แฟง!ได้ยินทั้งบ้านแล้วมั้ยเนี่ย!

.
.
.
.
.

"นึกว่าจะไม่แ*กข้าวกันซะละ" พี่รันที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเอ่ยขึ้นทันทีที่ผมกับพี่แฟงเดินลงบันไดมา จริงๆเราควรจะลงมาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้วแล้วละครับ แต่ก็ เอ่อ ...นั่นแหละ เลยลงมาช้า

"กินดินิรันดร์หิวจะแยก" พี่แฟงดึงข้อมือผมให้นั่งลงข้างกัน ส่วนพี่รันนั้นนั่งอีกฝั่งหนึ่งที่ตรงข้ามกับเรา โต๊ะทานอาหารของบ้านพี่รันยาวมากมีที่นั่งสิบสองที่แหนะ โห ทำไมต้องมีโต๊ะใหญ่ขนาดนี้นะ ทั้งๆที่บ้านนี้ก็มีพี่รันอยู่คนเดียว ถึงแม้ลูกๆมากับครบหน้าก็รวมเป็นสี่ที่เอง สงสัยจัง

"กูก็นึกว่ากินกันจนอิ่มแล้ว" อื้อหือ พอได้ยินประโยคนั้นเท่านั้นแหละไอ้ความสงสัยเรื่องโต๊ะอาหารละลายหายไปในคราใด พี่รัน!!!! ก้นที่กำลังจะหย่นลงบนเก้าอี้ชะงักทันที

!!!!!

"เฮ้ยคุน ไม่ต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้น พูดเล่น แซวขำๆเฉยๆ" พี่รันรีบโบกมือไปมาทันทีที่เห็นท่าทางของผม

"นั่งลงคุน" ส่วนพี่แฟงก็มีสีหน้าเรียบนิ่งเหมือนเดิม คนนี้ก็เงียบเกิ้น นี่ไม่ได้ยินพี่รันแซวรึไงหะ?

มือหนาเอื้อมมาดึงชายเสื้อผมให้รีบนั่งลง คงจะเห็นผมค้างอยู่ท่านั้นนานเกินไป

"โห สั่งไรมาเยอะแยะเนี่ย" พี่แฟงเอ่ยขึ้นเมื่อกวาดสายตามองไปเห็นอาหารมากมายละลานตาอยู่บนโต๊ะอาหารร่วมสิบกว่สเมนู หน้าตาแปลกตาทั้งนั้นเลย

"ก็ร้านโปรดมึงทั้งนั้น นานๆกลับมาที คุนลองกินนี่ดู ต้มไก่บ้านใบมะขาม" พี่รันยกมือเรียกให้แม่บ้านตักข้าวสวยร้อนๆใส่ในจานทุกคน ส่วนพีาแฟงก็ตักไก่หนึ่งชิ้นมาราดไว้บนข้าวสวยหอมๆในจานผมทันที

"ขอบคุณครับ" ผมหันไปยิ้มให้พี่รันก่อนจะตักไก่ชิ้นนั้นเข้าปาก อื้อหือ อร่อยจังเลยครับผม

"เยอะเกิน กินกันสามคนจะหมดถึงครึ่งมั้ยเนี่ย" จริงครับ อันนี้คุณเห็นด้วย อาหารเยอะมากกกก เหมือนจัดงานเลี้ยงย่อมๆเลยก็ว่าได้ เชื่อเหอะว่าถ้าเรียกแฝดทัพแฝดขุนมาทานยังทานไม่หมดเลยครับ

"ใครบอกว่ากินกันสามคน เดี๋ยวมีคนมาร่วมวงด้วย นั่นไงมาแล้ว" พี่รันยังพูดไม่จบประโยคเลยด้วยซ้ำ ก็มีผู้หญิงวัยกลางคนหน้าตาสะสวยแต่งตัวทันสมัยเดินเข้ามาในบ้าน ผมสั้นข้างยาวข้างของเธอลับกันหน้าเรียวของเธอมากมาย แถมการแต่งตัวยังดูเรียบหรูปนเปรี้ยวอีกต่างหาก เอาจริงๆคือผมละสายตาจากเธอไม่ได้เลย

"แม่มาได้ไง" หือ??

"ไงเรา นี่คำทักทายแม่หรอ แล้วนี่ใครจ้ะหน้าตาน่ารักเชียว เด็กใหม่พี่รันหรอคะ" แขกคนสวยยิ้มกว้างให้ผม ถึงเธอจะดูเป็นสาวทันสมัย แต่ทั้งแววตาทั้งรอยยิ้มกลับดูใจดีและอบอุ่นเหลือเกิน

!!!

"ใช่ เดาเก่งนี่" พี่รานนนนนนน อย่าล้อเล่นแบบนี้

"ใช่ที่ไหนละแม่!" พี่แฟง ต้องสู้นะครับ คุนเชียร์พี่แฟงนะ!

"เอ่อ สวัสดีครับ"

"สวัสดีดีจ้ะ หนูน้อย"

"พี่รันเข้าใจหานะคะ น้องหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักเชียว คนนี้พริ้งให้ผ่านคะ"

"อือ"

"แม่! ก็บอกว่าไม่ใช่ไงเล่า"

"อะๆๆๆ ไม่เล่นแล้วก็ได้ ดูสิลูกชายแม่หน้าเครียดเชียว โกรธแม่หรอคะลูกแฟง"

"..." พี่แฟงหน้ามุ่ยเลยครับ สงสัยจะโกรธจริง แต่คนหย่อนระเบิดไว้เนี่ยนั่งตักอาหารเข้าปากหน้าตาเฉย

"พี่รัน ลูกพี่รันงอนพริ้งคะ"

"ช่างมัน พริ้งทานข้าวเถอะมาเหนื่อยๆ พี่สั่งตำขนุนมาให้ด้วย" พี่รันเอื้อมมือไปตักสิ่งที่เรียกว่าตำขนุนมาใส่จานให้คุณแม่พี่แฟง ก่อนที่เธอจะตักอาหารคำนั้นเข้าปาก เอาจริงๆนะครับ หน้าตาอาหารจานนั้นไม่ค่อยน่ากินเท่าไหร่เลย คุนว่าต้องไม่อร่อยแน่ๆ ฟันธง!

"อื้อ อร่อย" อ้าว อร่อยเฉย อาหารของเชียงใหม่นี่ตัดสินความอร่อยจากหน้าตาภายนอกไม่ได้จริงๆ

"ร้านเดิมที่พริ้งชอบนั่นแหละ"

"แล้วก็บอกว่าสั่งอาหารมาให้ผม ดูเมนูซิ ของโปรดแม่ทั้งนั้น คุนลองกินใส้อั่วดู น่าจะกินง่าย เจ้านี้อร่อย เป็นไง" แล้วไอ้สิ่งที่หน้าตาคล้ายใส้กรอกอีสานก็ถูกตักมาไว้ในจานผม อันนี้ก็หน้าตาไม่ค่อยน่ากินเท่าไหล่ สีเข้มไปนิด

"อร่อยครับ" แต่ว่า อื้อหือ อร่อยอะ เอาอีก!

"ชื่อคุนหรอหนูน้อย เป็นไรกับลูกแฟงละ" คุณแม่พี่แฟงที่ตอนนี้กำลังนั่งเท้าคางส่งยิ้มมาให้ผมอยู่เอ่ยถามขึ้น

"เมียไอ้แฟงมัน" ลูกดอกยาสลบลูกที่สามล้านแปดพุ่งออกมาจากพี่รันอีกแล้ววว

พร้วด!..
น้ำมี่กำลังจิบอยู่นั้นพุ่งออกมาจากปากทันที

แค๊กๆๆๆ

แถมน้องคุนยังสำลักน้ำอีก อู้ย ขึ้นสมองมั่ยเนี่ย

"เอาน้ำให้น้องลูกแฟง พี่รันก็ไปแกล้งหนูน้อย ดูสิสำลักจนน้ำหูน้ำตาไหลหมดแล้ว"

"แฟนก็พอมั้ยนิรันดร์"

"อ้าว กูก็ไม่ได้พูดเกินจริงนี่หว่า เมื่อตอนเย็นก็ยังเห็นฮึ่มฮ่ำๆกันดังลงมาถึงชั้นล่างขนาดนั้น"

แค๊กๆๆๆ

"พอๆเลยคะ พี่รันก็พูดอะไรก็ไม่รู้"

"แม่ก็ปรามพ่อบ้างเหอะ เย็บไปเลยก็ได้ปากแบบนั้นอะ ดื่มน้ำอีกมั้ยคุน" พี่แฟงเทน้ำจากขวดลงในแก้วที่ผมเพิ่งดื่มหมดไป ก่อนจะเอื้อมมือมาลูบแผ่นหลังผมเบาๆ

"พะ พะ พอแล้วครับ"

"หยอกๆหรอกน่า กินข้าวกันต่อเถอะ ทานข้าวคุนพี่ไม่แกล้งละ" หยอกแรงไปมั้ยครับคุณพี่รัน!

"แล้วนี่มาเชียงใหม่กันได้ไปเที่ยวไหนแล้วรึยัง"

"ไปเที่ยวมาแล้วครับ ไป...." หลังจากนั้นผมก็เล่าให้คุณแม่พี่แฟงฟังว่าวันนี้เราไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง ท่านก็เสริมว่าเคยไปเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยชอบขี่ช้างเท่าไหร่เพราะมันโคลงเครงเกินไป แต่คุนโอเคมันโคลงเคลงดีคุนชอบ

"พรุ่งนี้มีโปรแกรมรึยัง ถ้ายังแม่จะพาไปเที่ยวไร่เพื่อนแม่มี่แม่ริม" ฟังดูน่าสนใจดีเหมือนกันนะครับืกำลังจะอ้าปากรับข้อเสนอคุณแม่อยู่เลย แต่กลับโดนพี่รันพูดแทรกขึ้นมาก่อนด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งที่นานๆทีจะได้ยินสักครั้ง

"ไร่ใคร ถ้าไอ้จุมพลผมไม่ให้ไป" ทำไมมันฟังดูเย็นหลังยังไงไม่รู้ พอหันไปมองหน้าพี่แฟง ฝ่ายนั้นก็ไดเแต่กระซิบกลับมาบอกว่าอย่าไปสนใจให่กินๆต่อไป

"ใช่คะไร่พี่พล เดี๋ยวเราไปเที่ยวไร่เมล่อนกันเนอะน้องคุน" โอเค คุณแม่บังไม่เลิกทริปไร่เมล่อน

"พริ้ง" อื้มมม ส่วนพี่รันก็เสียงเย็นขึ้นเย็นขึ้น พี่แฟงงงงพาผมออกไปจากตรงนี้เถอะนะ

"มีแฟนน่ารักแบบนี้ วันหลังเอาไปปล่อยให้วิ่งเล่นที่บ้านแม่บ้างสิคะลูกแฟง"

"พริ้ง"

"กลับกรุงเทพฯแล้วไปเที่ยวแวะหาแม่บ้างนะ อยู่บ้านเฉยๆแม่เหงา"

"พริ้ง"

"แฟง ตักไก่นึ่งให้น้องสิลูก"

"ครับ"

"พริ้ง คุณได้ยินที่ผมพูดบ้างรึเปล่า!" โอเค บรรยากาศบนโต๊ะอาหารกลายเป็นขั้วโลกเหนือไปแล้วครับเอเวอรี่บอดี้!

"ได้ยินคะ เห็นมั้ยว่าแกล้งคนอื่นมันไม่สนุกหรอกนะ เลิกแกล้งเด็กๆได้แล้ว แล้วก็พรุ่งนี้เราไปเที่ยววัดกันเนอะน้องคุน ไร่ไม่ต้องไปหรอก อากาศร้อนแม่ไม่ค่อยชอบ"

อิหยังวะ!
.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm


หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 36| 06.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 06-06-2020 05:07:10
 o13
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 36| 06.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 06-06-2020 08:26:01
 o13
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 37| 07.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 07-06-2020 08:31:01
---ตอนที่ 37---

แฟง's part

"อื้ออ" ผมร้องเสียงอู้อี้ในลำคอเมื่อรู้สึกว่าคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมแขนขยับตัวไปมาได้สักพักใหญ่ๆแล้ว

"ตื่นเถอะครับพี่แฟงสายแล้ว" เสียงหวานของคนในอ้อมกอดดังลอดออกมาจากอ้อมอกผมนั้นแผ่วเบา แต่ผมก็ยังไม่ยอมลืมตาขึ้นมา รู้แหละว่าเช้าแล้ว แต่ยังไม่อยากลุกตอนนี้ไง ขอนอนกอดร่างนิ่มๆในอ้อมอกอีกสักนิดก็ยังดี

"ไม่เอา จะนอน"

"แต่คุนหิว" หึ นึกว่าอะไร ที่แท้ก็ตื่นเพราะหิวนี่เอง

"ยังไม่อิ่มอีกหรอ เพิ่งกินไปเองตอนฟ้าสาง"

"พี่แฟงคร้าบบบ มันคนละอย่างกันมั้ย คุนหิวข้าว" ดูทำเสียงเข้า งอแงงุ้งงิ้งน่าจับฟัดจริงๆ ไม่ใช่ว่าเมื่อคืนผมไม่ได้จับอีกคนฟัดนะครับ โดนฟัดไปสองสามรอบพอหอมปากหอมคอจะได้นอนหลับสบายไง

"ขอครึ่งชั่วโมง"

"ครึ่งชั่วโมงมาสามครั้งแล้วนะ" อ้าว ผมพูดไปแล้วหรอวะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย

"เอาน่า ขอนอนเตียงนิ่มๆหน่อย นอนฟูกมาห้าคืน ปวดหลังชิบหาย" อย่างที่พูดแหละครับ ตอนไปค่ายอาสานั้นผมไม่ได้นอนเตียง ได้นอนฟูกแบนๆเท่านั้นเอง แต่ก็ยังดีกว่านอนพื้นแหละครับ นอนคืนสองคืนแรกก็ไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก แต่พอขึ้นคืนที่สามนี่สิครับ ปวดตั้งแต่ต้นคอยันน่อง ไม่รู้เพราะฟูกหรือเพราะไปช่วยซ่อมแซมอาคารเรียนกันแน่ แต่ไม่ว่าด้วยอะไรก็ขอไม่บ่นนะครับ ทำความดีมาเมื่อยนิดๆหน่อยๆถือว่าโอเคแลกกับความอิ่มอกอิ่มใจที่ได้รับจากการช่วยเหลือคนอื่น คนได้รับมีความสุข คนให้ก็อิ่มอกอิ่มใจตามไป

"โอเค ครึ่งชั่วโมงสุดท้ายแล้วนะ ห้ามต่อเวลาด้วย ไม่ให้แล้ว ทดเวลาบาดเจ็บก็ไม่ได้ด้วย" หึ คำพูดคำจามันน่ารักตลอดแหละคนนี้อะ ตั้งแต่ชวนดูบอลนี่รู้จักคำศัพท์ใหม่ๆขึ้นมาเยอะละไอ้ตัวนุ่มนิ่มเนี่ย

"ได้ๆ ไม่ต่อ ไม่ทด"

"งั้นคุนไปอาบน้ำรอละกัน" มือบางที่เคยโอบเอวผมไว้ เลื่อนมาดันหน้าอกของผมออก

"ไม่เอา อยู่ให้พี่กอดก่อนสิครับน้องคุน ค่อยอาบน้ำพร้อมกัน" แต่ยิ่งดันผมก็ยิ่งเพิ่มแรงกอดให้มากขึ้นไปอีก

"อื้อ ไม่เอาหรอก ขืนอาบพร้อมพี่แฟงคุนคงได้กินข้าวอีกทีตอนเย็นเลย" นั่นไง บอกแล้วว่ารู้ดี ฉลาดเป็นกรดเลยคนนี้เนี่ย

"แสนรู้" เหมือนหมาขนสีขาวๆฟูๆ วิ่งสั่นหางดุ๊กดิ๊ก

"คุนไม่ใช่หมาน้าาาา" รู้อีก

"นี่แหละหมา น่ารักดุ้กดิ้ก น่าย่ำยีที่สุด" ทำเสียงง๊อกแง็งอยู่ในอกไม่หยุดสักที ผมเลยเอานิ้วไปจิ้มที่เอวที่ไร้กล้ามเนื้อของอีกคนทันที

"อื้อ อย่าจี้เอว จั้กจี้ อ้ายยย ม่ายยเอาาา พะ พี่แฟงงงง" อีกฝ่ายจั๊กจี้จนน้ำหูน้ำตาไหลออกทางหางตา ร้องลั่นห้องไม่ยอมหยุด เอวคือจุดยุทธศาสตร์ของเด็กชายคุนคุนครับ โดนทีไรดิ้นพล่านทุกที บ้าจี้เป็นที่สุด

"เดี๋ยวนี้หัดเสียงดังโวยวายหรอ หืมมมม"

"ม่ายเอา ไม่จั้กจี้ อะๆๆๆ " ยิ่งร้อง ผมก็ยิ่งจิ้ม

"เรียกพี่หวานๆก่อนแล้วจะปล่อย" ผมเลื่อนหน้าตัวเองเข้าไปชิดใบหูขาวระเรื่อของอีคน

"อะๆๆ พะ พี่แฟง" แต่เมื่อพูดไปแล้วอีกฝากทำตีมึนตอบสิ่งที่ผมยังไม่ค่อยพอใจออกมาให้ได้ยิน ก็ต้องขยับนิ้วต่อไปสิครับ เอาให้จั๊กจี้จนไม่มีเสียงร้องออกมาเลยละกัน

"ไม่เอาแบบนี้" นิ้วทั้งสิบก็ขยับต่อไป ส่วนผมก็กระซิบข้างใบหูของอีกฝ่ายต่อไปเรื่อยๆ

"อะ เอาแบบไหนนน"

"แบบเมื่อคืน ขอเสียงหวานๆอ้อนๆด้วย" นึกไปถึงเมื่อคืนก็ยิ่งอยากจับฟัด เชี่ย แม่งเอ๊ย น่ารักเท่าจักรวาลแล้วมึงเนี่ย

"อื้อ ทะ ที่รักครับ"

"!!!"

เชี่ยยยย โคตรมีผลต่อหัวใจกูเลย แม่ง มันเหมือนหมดแรงอะ เวลาคุนคุนเรียกว่าที่รักเนี่ย มันสุดอะ!

"อ้าว นิ่งเฉย เป็นไรไปครับเนี่ย ช็อกไปเลยหรอ"

"อือ ตาย ตายตาหลับ" ผมหยุดนิ้วทั้งสิบทันทีก่อนจะเอื้อมมือไปดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้ในอ้อมอก แล้วก้มหน้าลงไปหอมขมับของอีกคนทันที

"พูดอะไรเนี่ย"

"เชี่ยยย กูโคตรหลงมึงเลยวะคุน กูต้องไปเลิกที่ไหนวะเนี่ย" ชาตินี้กูจะไปไหนรอดวะเนี่ย กูโดนยาเสน่ห์แน่ๆ ยาเสน่ห์จากนอกจักรวาล

"ลองไปหาที่เลิกดูสิครับ คุนจะจัดการพี่แฟงให้หลาบจำเลย" อื้อหือ ดูทำเสียงเข้า เดี๋ยวนี้เด็กมันเข้าใจภาษาไทยขึ่นเยอะ พูดอะไรไปก็เข้าใจเก่งแล้ว ไม่ต้องคอยพูดช้าเหมือนแต่ก่อน แล้วเวลาแซวเนี่ยคุนคุนเค้ามีเคืองนะขอบอก ทำเสียงฟึดฟัดฉุนเฉียว เด็กมันหวงวะ

"น่ากลัวชิบหาย ปากเล็กไปเวลาพูดออกมานี่คิดว่ามันน่ากลัว?" คนตัวเล็กเบะปากเต็มที่เลย โอ้โห โคตรกลัว

"ไม่หรอ?"

"โคตร"

"น่ากลัวโคตร?"

"หื่อ ห่างไกลคำว่าน่ากลัวโคตรๆมากกว่า โอ๊ะๆๆ โอ้ยยย โอ้ยยย คุน โอ้ยยย" เนี่ยไง บอกแล้วว่าเดี๋ยวนี้มันฉุนเฉียว มีกดผมคล่ำหน้าลงบนเตียงแล้วก็ขึ้นมานั่งทัยตรงสะโพก แถมยังเอาแขนสองข้างผมไปไขว้หลังแล้วกดไว้อีก เชี่ย แม่งโคตรเจ็บ นี่สินะมีเมียที่รู้วิชาการต่อสู้มันเสียเปรียบตรงนี้นี่เอง เพราะวันดีคือนดีถ้าไม่พอใจเราขึ้นมาเราก็จะถูกจับกดแบบนี้แหละครับ

"ยอมรึยัง"

"ยะ ยะ ยอมๆๆ ยอมแล้วๆๆ หลังหักแล้วเนี่ย" โอ้ย ทับหลังกู สะโพกกู

"ก็จะทำให้หักไง" ดูเด็กมันพูด ทำเสียงแข็งอีกนะ รู้แล้วจ้าว่าโกรธพี่อะนังหนู!

"โอ้ยๆ หลังหัก สะโพกหักแล้วจะใช้งานยังไง" ทำเสียงดุไม่พอ ยังกดน้ำหนักตัวลงมาบนเอวกูอีก ตายๆๆ เจ็บชิบหาย เมื่อคืนใช้งานหนักไปหลายชั่วโมง เช้ามายังถูกเมียซ้อมอีก เอวกูพิการซ้ำซ้อนแน่ๆ!

"ใช้ทำอะไร?"

"ก็ใช้ทำแบบนี้ไง" หึ! ไม่ได้แอ้มพี่หรอกน้อง หลอกให้ตายใจไปงั้นแหละ พอเด็กมันเผลอเราก็สวนกลับดิครับ

"อื้อ พี่แฟงงงง ปล่อย" จับกดแม่งเลย คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าผัวอย่างเราๆ มันต้องถนัดอยู่แล้วไอ้เรื่องจับกดเนี่ย

"ก็จะทำให้ดูไงว่าสะโพกใช้ทำอะไร"

"อื้อ อะ พะ พี่แฟง คุนรู้แล้ว ปะ ปล่อยนะ คุนไม่ไหวแล้ว พอๆ เหนื่อย" คนตัวเล็กที่ถูกกดหลังทาบลงบนเตียง โดยมีผมแทรกตัวตรงหว่างขา ถูกจับแยกขาเรียวทั้งสองข้างออกมาเกี่ยวไว้ตรงเอวสอบของผม ก่อนแขนเล็กที่สองข้างจะถูกจับขึงไว้บนศรีษะ ยังไม่พอแค่นั้นคนอย่างนายลภัสต้องสาธิตให้เด็กมันดูเสียหน่อย สอนมันหน่อยว่าสะโพกอะมีไว้ทำอะไร ทำไงอะหรอครับ ก็ขยับสิครับ!

"อะไร คุนคนแมนๆ ต่อปากต่อคำเมื่อกี้หายไปไหนแล้ววะ เรียกมาหน่อยซิ" พอผมขยับถี่ขึ้นหน่อยก็หน้าแดงขึ้นมาซะงั้น แถมยังไม่กล้ามองหน้าผมอีก เป็นแบบนี้ประจำแหละคุนคุนเนี่ย

"อื้อ พะ พี่แฟง ที่รักครับ ที่รักของน้องคุน"

!!!!!

เชี่ย

ถูกคุนคุนเล่นเป็นรอบที่สองของเช้านี้ อ่อนเปลี้ยเพลียแรงขึ้นมาทันที แล้วก็ต้อฃยอมไปอาบน้ำแต่โดนดี แต่คนอย่าผมไม่ยอมอาบคนเดียวหรอกครับ มีเมียก็ต้องกลับกับเมียมั้ยยยยย
.
.
.
.
.

"กว่าจะลงมาได้นะคะเด็กๆ" เสียงแม่ที่นั่งดูทีวีอยู่ตรงโซฟาดังขึ้นทันทีที่ผมจูงมือคุนคุนลงมาจากบันได

"แงๆ ขอโทษคร้าบคุณแม่"

"คุนมันช้าอะแม่"

"คุนหรอช้า พี่แฟงนั่นแหละ ที่..." เด็กมันไม่ยอมให้กล่าวโทษง่ายไปเลยครับเดี๋ยวนี้ มันหันมาจ้องตาแล้วถลึงตาใส่ โถๆๆๆ ตาเล็กๆ ชั้นเดียวของมึงเนี่ยนะจะเอามาสู้ตาโตๆของกูได้ เมียจ๋าาา

"มึงนั่นแหละ...เสร็จช้า" ผมไม่ปล่อยให้อีกคนได้พูดอะไรต่อ ก้มลงกระซิบเบาๆข้างหูคุนคุนทันที

"พี่แฟง!" เนี่ย เขินทีไร มือหนักตีนหนักตลอด ตบมาได้นะแขนกูเนี่ย แต่แม่งไม่เจ็บเท่าไหร่หรอกชินแล้ว

"ไม่ทะเลาะกันนะเด็กๆ มาทานข้าวเร็วจะได้ไปไหว้พระเก้าวัดกัน เก้าโมงกว่าแล้ว"

"โอเคคร้าบผม" ผมจูงมือคุณคุณมานั่งลงที่โต๊ะทานอาหาร ไม่นานแม่บ้านก็ตักข้าวต้มหอมกรุ่นมาใส่ชามให้เราสองคน

"แล้วนิรันดร์อะแม่" ผมถามขึ้นเมื่อไม่เห็นร่างของผู้เป็นพ่อในส่วนใดของบ้าน ทั้งๆที่เมื่อคืนก็คุยกันว่าจะไปไหว้พระด้วยกัน

"ออกไปแต่เช้าแล้ว เห็นบอกจะเข้าไปดูที่ดินที่จะซื้อทำรีสอร์ทที่แม่ริมนะ รู้สึกจะมีปัญหาอะไรสักอย่าง"

"อ้อ สงสัยตกลงราคาไม่ลงตัว เห็นบ่นว่ามีคนมาปั่นราคาหลายเจ้าทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้น" เดือนที่แล้วนิรันดร์ก็เคยบ่นให้ฟังครับว่าที่ตรงแม่ริมที่อยากได้มาทำรีสอร์ทนั้นสวยมาก มีลำธารสายเล็กๆตัดผ่านด้วย แต่เห็นบอกว่ามีผู้มีอิทธิพลของภาคเหนือนั้นก็ต้องการที่ดินผืนนั้นเหมือนกัน เลยมาเสนอราคาตัดหน้า แต่ด้วยที่นิรันดร์อยากได้ที่ตรงนั้นมากก็เลยเสนอราคาที่สูงขึ้นให้กับเจ้าของที่ดิน แต่ด้วยต่างฝ่ายต่างเสนอราคาแข่งกันทำให้การซื้อขายครั้งนี้ไม่สำเร็จสักที

"ก็ไม่ต้องซื้อสิ ชอบเอาตัวเข้าไปมีปัญหาแบบนี้ตลอด" แม่บ่นเสียงเบา แต่ผมดันได้ยินทุกคำ ผมเคยบอกใช่มั้ยครับว่าพ่อแม่เลิกกันทั้งๆที่ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน แล้วอีกฝ่ายต่างก็ไม่ได้มีใครใหม่ แต่ผมคิดว่าแม่นั้นคงจะไม่ค่อยชอบใจกับการที่นิรันดร์ชอบเอาตัวเองเข้าไปมีปัญหาในการทำธุรกิจตลอดเวลา บ้างก็ไปขัดขาคนใหญ่คนโตบ้างละ บ้างก็ไปลงทุนในกิจการที่ไม่ควร แม่เคยบอกไปหลายครั้งแล้วว่าไม่อยากให้ทำแบบนั้น แต่นิรันดร์นั้นก็เป็นคนดื้ออีกคนหนึ่งแหละครับ คิดว่าตัวเองเป็นคนมีอิทธิพลในพื้นที่พอสมควร ทั้งมีเพื่อนเป็นตำรวจ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ และเหล่าเพื่อนๆที่ลงทุนในธุรกิจร่วมกันอีก และนั่นคงเป็นหนึ่งในสาเหตุของการแยกทางของพ่อแม่ผมแหละ

"ก็เป็นแบบนี้มานานแล้วไม่ใช่รึไง ถ้าใช้ชีวิตธรรมดาก็ไม่ใช่นิรันดร์สิแม่" ผมพูดไปตามที่เห็น เพราะพ่อเป็นคนที่คิดทำโร่นทำนี่ตบอดเวลา ไม่เคยอยู่นิ่ง บางครั้งผมก็คิดเหมือนกันนะว่าไอ้สมบัติกับธุรกิจแปดพันอย่างที่มีอยู่นี่มันก็มีกินมีใช้สบายยันสิบชั่วโคตรแล้วทำไมจะต้องต่อยอดไปอีกให้เหนื่อย แต่นิรันดร์ก็บอกมาคำเดียวสั้นๆว่า เสือก

โอเค กูไม่เสือกก็ได้วะ! งั้นผลาญเงินเล่นไปวันๆแล้วกัน!

"อืม ก็คงงั้น น้องคุนทานเยอะๆนะลูก ข้าวต้มหมูสับนี่เมนูเด็ดของป้าเกื้อเลยนะ ลูกแฟงติดใจตั้งแต่เด็กจนโต" ป้าเกื้อนี่คือแม่บ้านผมครับ ป้าแกเลี้ยงทั้งเฮียเกอร์ ทั้งผม แล้วก็มาจบที่นิวเยียร์นี่แหละ เรียกได้ว่าลูกบ้านนี้ผ่านมือป้าเกื้อมาหมดทุกคน เหมือนแม่อีกคนหนึ่งเลยแหละครับ

"ใช่ อร่อยมาก กินที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าฝีมือป้าเกื้อ คุนไปถามสูตรมาดิ แล้วทำให้กินหน่อย" บางครั้งคิดถึงข้าวต้มรสมือป้าเกื้อก็อยากจะตีตั๋วมาเชียงใหม่มันเดี๋ยวนั้น แต่มันทำไม่ได้ไง ก็ต้องแ*กโจ้กหน้าโรงพยายาลไป แต่ตอนนี้มีเมียแล้ว อ้อนให้เมียตะเล็กตะน้อยทำให้ดีกว่าาาา

"คร้าบผม อื้อ อร่อยจริงๆด้วย เดี๋ยวกลับไปจะลองทำให้ทานนะครับ" ไอ้ตัวเล็กตักข้าวต้มควันหอมฉุยขึ้นมาชิมไปหนึ่งคำก็ทำตาโตขึ้นมาเชียว

"พี่แฟงไม่ทานหรอครับ"

"ตอบไลน์เพื่อนอยู่เดี๋ยวกิน มือยังไม่ว่าง"

"คุนป้อนให้มั้ย"

"เอาดิ" พูดจบอีกฝ่ายก็ตักข้าวต้มในชามตัวเองขึ้นมาเป่าสองสามทีก่อนจัยื่นช้อนมาตรงหน้าผม ผมรีบอ้าปากงับช้อนทันที ไม่ใช่สนใจมือถืออะไรขนาดนั้นหรอก แต่รู้ไงว่าเวลาทำแบบนี้แล้วอีกคนจะป้อนให้ ก็เลยชอบทำ

"อะๆๆ รีบกินได้แล้ว อย่ามาสวีทกันแถวนี้ เห็นใจคนโสดบ้าง"

"ก็เลิกทำตัวเป็นคนโสดสะทีสิแม่"

"ก็แก่แล้วใครจะมาจีบละ"

"อู้ย แก่ที่ไหนกันครับ คุนเห็นครั้งแรกนึกว่าเป็นพี่สาวพี่แฟงซะอีก คุณแม่ยังสาว แล้วก็สวยมากเลยรู้มั้ยครับเนี่ย"

"อยากได้อะไรคุณเดี๋ยวแม่เซ็นโอนให้เลย คอนโดมั้ย หรือรถ?" คุณพริ่งพราวรีบกดปิดรีโมททีวีแล้วเดินมานั่งร่วมโต๊ะอาหารทันที ดูหน้าก็รู้ว่าถูกใจคำชมจากปากเด็กน้อยของผมอย่างแรง ดูสิขนาดเสนอว่าจะโอนบ้านโอนรถให้นี่คือเกินไปมั้ย ไอ้คุนก็ปากหวานเกิ้นนน

"คุนเอารถดีกว่าครับ คอนโดมีแล้ว" แหนะ เดี๋ยวนี้มันมีตบมุกครับ เก่งเกินไปแล้วนะเรา น้องคุนซื่อๆของกูเดี๋ยวนี้เชี่ยวเกินไปละ อยู่กับไอ้สองแฝดมากไปจนกร้านโลกแล้วเนี่ย แต่เอ๊ะ หรือว่าติดมาจากผมวะ?

"ฮะๆๆ น่ารักอะเรา มิน่าละพี่รันพูดถึงไม่หยุดปาก"

"คุยกันบ่อยรึไงแม่ นิรันดร์ถึงพูดถึงคุนคุนของผมให้ฟังเนี่ย"ืผมเอ่ยแซวทันที เอาจริงๆ คือตั้งแต่ทั้งสองเลิกกัน ผมก็เรียนอยู่ที่เชียงใหม่ไง อยู่กับนิรันดร์ตลอด แม่ก็ย้ายกลับไปอยู่กรุ่งเทพแต่ก็โทรมาหาบ่อยๆ หรือไม่ก็ขึ้นมาเชียงใหม่เดือนละครั้งสองครั้ง นิรันดร์ไม่เคยมีใครใหม่เลย แม้จะมีผู้หญิงค่อนเชียงใหม่เสรอตัวให้ หรือไม่ก็เอาตัวเองใส่พานมาถวายให้ถึงที่นิรันดร์ก็ไม่ได้สนใจจะเอาใครมาแทนแม่สักคน แล้วไอ้ที่ผมชอบล้อว่าเปย์สาวหนักๆอะ ก็แค่เรื่องขำๆเฉยๆ อย่างนิรันดร์อะ หน้าตาโคตรดี แถมหน้ายังดูอ่อนกว่าอายุเป็นไหนๆ ไม่ต้องไปเปย์ใครหรอก แค่กระดิกนิ้วก็มีคนวิ่งแจ้นเข้าหาแล้ว แต่ผมรู้แหละว่าพ่อก็อยากกลับไปคืนดีกับแม่จะตาย ที่เทียวไปกรุงเทพนั่นก็ไปหาแม่แหละ แต่อ้างว่ามาหาลูกบ้างละ มาทำธุระบ้างละ ปากแข็งไปเถอะ เวลามีคนมีจีบแม่ก็โทรมาหาผมให้วิ่งแจ้นไปเฝ้ายามให้ตลอด นิวเยียร์นี่ก็ตัวดีคอยรายงานความเคลื่อนไหวตลอด 24 ชั่วโมง

"ก็ไม่บ่อยหรอก"

"ไม่บ่อยคือยังไง เดือนละสี่ห้าครั้งงี้หรอ"

"สองครั้ง"

"นิรันดร์โทรหาเดือนละสองครั้งเองหรอ" เฮ้ย รู้สึกผิดหวังวะ นึกว่านิรันดร์จะตามติดแม่มากกว่านี้ซะอีก โถ่เอ้ย แล้วอย่างงี้เมื่อไหร่จะกลับมาคืนดีกันละวะ

"วันละสองครั้ง"

!!!

ถุย! วันละสองครั้ง นี่โทรคุยกันมากกว่าผมกับคุนอีกนะเนี่ย ผมยังไม่ค่อยโทรหาคุนเลย ส่งไลน์เอา ผ่าม!

"นั่นไงถึงบอกว่าเลิกทำตัวโสดสักที"

"ก็บอกพ่อเราเลิกสนใจแต่งานบ้างสิ" อ้อ.....

"โจทย์ยากแฮะ แต่ที่ไม่เข้าใจคือ ยังรักกันอยู่แล้วเลิกกันทำไมวะ"

"ไว้โตกว่านี้ลูกก็จะเข้าใจเอง บางครั้งความรักอย่างเดียวมันไม่เพียงพอที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้หรอกนะ มันต้องมีส่วนประกอบอย่างอื่นด้วย"

"เช่น?"

"อย่างเช่น เซ็กส์"

!!!

"เฮ้ย คือไร นิรันดร์ตายด้านหรอแม่" เชี่ยยยย ประเด็นนี้โคตรพีค นิรันดร์ตายด้าน เหลือเชื่อสุดๆ

"ใช่ที่ไหนเล่า แม่ก็พูดไปงั้นแหละ รู้ไว้แค่ว่าความรักอย่างเดียวมันอยู่กันไม่ยืดก็พอ อิ่มยังเด็กๆ เดี๋ยวแดดร้อนนะ" อ้าววว หลงเชื่อไปแล้วนะเนี่ย ก็ว่าอยู่อย่างนิรันดร์อะนะ ไม่น่าใช่ แม่นะแม่ อำมาได้ ดูคนอำสิ หัวเราะมีความสุขสุดๆ ผมได้แต่ส่ายหน้าไปมา พอโยงเข้าเรื่องพวกนี้ทีไรแม่ก็ทำเฉไฉเนียนพาออกไปเรื่องอื่นตลอด

.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm

Talk: มีรีดถามมาเรื่องความสัมพันธ์ของพ่อแม่หมอแฟงคะ ไรท์ขอชี้แจงนิดนึงเพราะต่อจากตอนนี้คุณแม่อาจจะหายไปแล้ว ค่าตัวนางแพ๊งงงแพงงง

ทั้งสองหย่ากันหลายปีแล้วคะ แยกกันอยู่ คุณนิรันดร์อยู่เชียงใหม่ ส่วนคุณพริ้งย้ายกลับไปกรุงเทพกับครอบครัวตัวเองซึ่งก็คือคุณตาคุณยายของหมอแฟง ต่างฝ่ายต่างไม่ได้มีครอบครัวใหม่ เพราะจริงๆก็ยังรักกันอยู่ ส่วนเหตุผลที่หย่านั้น ก็เป็นเรื่องของอะไรหลายๆอย่างในความสัมพันธ์ที่มันไม่ลงตัวทั้งเรื่องงานของคุณนิรันดร์ที่คุณพริ้งเธอคะยั้นคะยอให้เพลาๆลงบ้าง ทั้งเรื่องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายบ่อยๆ แล้วอีกอย่างคือตอนที่เลิกกันลูกๆก็โตกันหมดแล้ว แต่สรุปคือเลิกกันด้วยดีแต่ก็ยังคงเหลือความรักและความรู้สึกดีๆให้กันเหมือนเดิม คุณนิรันดร์เองก็ยังส่งลูกๆตามติดชีวิตเมียเก่าไม่ห่าง บางครั้งก็ยังตามหึงตามไปจัดการคนที่เข้ามาขายขนมจีบให้คุณพริ้งอยู่เรื่อยๆ ทำไงได้คะ ก็คุณพริ้งเธอยังสวยยังสาวขนาดนั้น ส่วนลูกๆไม่เคยคิดว่าพ่อแม่เลิกกันสักคน แค่เอาใบหย่ามาประดับฝาบ้านแค่นั้น เพราะพ่อแม่ก็ยังคุยกันเทียวไปหากันอยู่บ่อยๆ อารมณ์เหมือนแม่งอนพ่อแล้วหนีมากรุงเทพเป็นปีๆเท่านั้นเอง







หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 37| 07.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 07-06-2020 16:04:09
 :hao3:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 37| 07.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 07-06-2020 21:03:00
เก็บไว้อ่านนานๆทีให้จุใจก็ยังไม่จุใจซักที
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 38| 08.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 08-06-2020 07:27:26
---ตอนที่ 38---


แฟง's part

เราเดินสายไหว้พระกันตั้งแต่ออกจากบ้านจนตอนนี้มาจบที่วัดที่เก้า วัดสุดท้ายของวันนี้ซึ่งตั้งอยู่บนเขานอกเมืองเชียงใหม่ เป็นวัดเก่าแก่ทั้งกำแพงวัด อุโบสถ และเจดีย์ล้วนแล้วแต่สร้างจากอิฐมอญสีแดง เพราะข้ามผ่านกาลเวลามานานพอสมควรเราจึงได้เห็นร่องรอยอารยธรรมซากปรักหักพังตามส่วนต่างๆของวัดอยู่หลายจุด มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นกลางวัดและรอบนอกวัดมากมาว ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในสวนหิมพานต์ยังไงอย่างงั้น เจ้าตัวเล็กที่ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ก็ดูตื่นเต้นกับบรรยากาศรอบวัดเอามากๆ ทั้งยังขอให้ผมถ่ายรูปให้อีกมากมาย บางรูปก็ถ่ายเซลฟี่เอง มีถ่ายกับผมบ้างถ่ายกับแม่บ้าง แต่ถ้าให้นับจริงๆ รูปคุณพริ้งพราวในมือถือคุนคุนคงเกือบร้อยแล้วตอนนี้ พอถ่ายรูปเสร็จทั้งสองก็เข้าไปในศาลาเสี่ยงเซียมซีที่คุณพริ้งเธอบอกนักหนาว่าคำทำนายนั้นแม่นมากอยากให้ผมเสี่ยงดวงดู แต่เรื่องดวงอะไรพวกนี้ผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่เลยปฏิเสธไปแล้วก็ส่งตัวแทนเป็นเจ้าตัวเล็กที่เดินดุ้กดิกตามแม่เข้าไปในศาลาแต่โดยดี

แต๊ก แต๊ก แต๊ก

แกร๊ก


"คุน หนูได้เลขไรคะ"

"คุน อ่านไม่ออกครับ"

"ไหนแม่ขอดูหน่อย อ้อ มันเป็นเลขไทยนี่เอง อันนี้หมายเลข 7"

"อ้อ ครับ"

"เดี๋ยวไปดูคำทำนายกันจ้ะ"

"หมายเลขเจ็ด อยู่ตรง....นี้ อะ นี่ของคุนลูก เอาไปให้พี่เค้าแปลให้นะ เดี๋ยวแม่เข้าไปรับน้ำมนต์กับหลวงพ่อก่อน รออยู่แถวนี้นะเด็กๆ อย่าไปไหนไกล" พอแม่พูดเสร็จก็หันมาบอกผมที่ยืนรออยู่ใต้ต้นไม่นอกศาลา ก่อนเจ้าตัวจะเดินเข้าไปในกุฎิเจ้าอาวาสที่ตั้งอยู่ติดกัน

"อ้อ ครับ"

"ไหน ได้อะไรมา ดีมั้ย"

"นี่ครับ" คำทำนายใบสีน้ำตาลอ่อนถูกยื่นมาให้ผมตรงหน้าพร้อมกับสีหน้าคนถือที่ดูงุนงงเหลือเกิน

"ทำไมทำหน้างงงวยแบบนั้นละ"

"คือคุนอ่านไม่เข้าใจเลย"

"ไหนมาดูซิ เดี๋ยวจะอ่านให้ฟัง" ผมยื่นมือไปหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาแล้วอ่านออกเสียงให้เสียงดังพอที่ทำให้เราสองคนได้ยิน พยายามไม่ให้ดังจนเกินไปกลัวจะไปรบกวนคนอื่นๆภายในวัด


"ทำนายเซียมซีใบที่ ๗
ใบที่เจ็ด ยอดดี เป็นศรีสุข
ร่วมสนุก เพื่อนบ้าน วงศ์วานพร้อม
แต่มีกรรม มาบัง รั้งพะยอม
จงเตรียมพร้อม น้อมทำบุญ สุนทรทาน

ทั้งคู่ครอง เป็นคนดี อย่างที่สุด
สามเดือนผุด เป็นเนื้อคู่ ร่วมอาศัย
หากพบแล้ว ได้เห็น เป็นบุญใจ
พูดกับใคร ก็อ่อนน้อม พร้อมไมตรี

ถามหาสุขภาพ ไม่ดี ดังที่คิด
เพราะยังติด ขัดข้อง ไม่ต้องหมาย
โปรดระวัง ภยัน อันตราย
ระวังกาย ให้มั่น ทุกวันเอยฯ";

คำทำนาย ไม่ค่อยดีเท่าไหร่...

"ไม่เข้าใจเลยสักนิด แปลเป็นภาษาไทยให้ด้วยสิครับ" อืม ยิ่งอ่านยิ่งงละสิ มาเป็นกลอนขนาดนั้น ผมยื่นมือไปลูบหัวอีกคนก่อนจะตอบออกไปเบาๆ ส่วนอีกคนดึงกระดาษในมือผมออกไปอ่าน ทำท่าอ่านเหมือนรู้เรื่องทั้งๆที่ไม่รู้อะไรสักอย่าง ไอ้ตัวน่ารักเอ้ยยย

"สรุปว่าดีก็แล้วกัน"

"ดียังไงหรอ"

"ในนี้บอกว่าจะเจอแฟนดี เป็นเนื้อคู่" ผมเลือกบอกแต่สิ่งที่ดี ส่วนคำทำนายส่วนไม่ดีขอละไว้ละกัน มันก็แค่คำทำนายไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นเสียหน่อย

"มั่วแล้ว" คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองผมเหมือนกับไม่เชื่อสิ่งที่พูด แถมยังทำปากแบะๆ น่าดึงปากออกมากัดจริงๆเลย แต่นี่คือวัดไงครับ ต้องสำรวมมั้ย แล้วที่กำลังคิดในใจนี่บาปมั้ยวะ?

"จริงๆ ไม่ได้โกหก แม่ออกมาแล้ว ไปเหอะ กลับกัน" ผมใช้ฝ่ามือหนาขยี้หัวอีกคน ในจังหวะเดียวกันกับที่เห็นแม่เดินออกมาจากกุฎิเจ้าอาวาสพอดี

"อะ โอเค"

"ไงจ้ะหนุ่มๆ รอกันนานมั้ย กลับกันเถอะ บ่ายแก่แล้วเดี๋ยวต้องขับรถเข้าเมืองอีก นี่แม่ได้น้ำมนต์มาด้วย เดี๋ยวเอาไปดื่มที่บ้านกันนะคะน้องคุน"

"คร้าบผม เอ่อ คุณแม่ได้เซียมซีหมายเลขอะไรหรอครับ"

"ได้เหมือนน้องคุนเลยลูก"

หือ? ผมหันไปมองแม่ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ได้เลขเหมือนกันก็แสดงว่าได้คำทำนายที่ไม่ดีนะสิ

"ว้าว จริงหรอครับ งั้นบอกหน่อยสิครับว่าแปลว่าอะไร พี่แฟงแปลให้ฟังสั้นเชียวทั้งๆที่ในนั้นเขียนไว้ยาวเหยียด"

"แล้วพี่เค้าบอกว่าอะไรละคะ"

"บอกว่าจะเจอแฟนดี เป็นเนื้อคู่กัน"

"อืม ก็ถูกต้องนี่คะ"

"แล้วอย่างอื่นละครับ ที่เหลืออะ อันที่ยาวๆอะครับ"

"ที่เหลือก็ไม่ต้องรู้หรอก ไม่ค่อยสำคัญ เอามานี่ ต้องเอาไปเผา เอาใบของแม่ด้วยครับ" ผมรีบตัดบทไปทันทีก่อนจะยื่นมือไปหยิบกระดาษคำทำนายออกจากมือคุน และขอใบที่อยู่ในมือแม่มาด้วย แม่เคยบอกว่าถ้าเราได้คำทำนายที่ไม่ดีควรจะเผามันทิ้งในวัดเลยสิ่งไม่ดีจะได้ไม่ต้องติดตัวเราออกไปด้วย

"อ้าว ทำไมต้องเผาละครับ"

"อ่านเสร็จแล้วก็ต้องเผา ห้ามเอากลับ"

"อย่างนั้นหรอครับคุณแม่"

"เอ่อ ใช่จ้ะ ต้องเผา นี่ของแม่คะลูกแฟง"

ผมหยิบกระดาษมาจากแม่ก่อนจะเดินไปที่กระถางตะเกียงแล้วเผากระดาษสองใบในมือทิ้งทันที พรางคิดภาวนาไปด้วยว่าอย่าให้สิ่งไม่ดีในกระดาษใบนี้เกิดขึ้นกับคนที่ผมรักทั้งสองคนด้วยเถิด

"เสร็จละไปกัน นิรันดร์รอทานข้าวอยู่ที่ร้านกาสะลอง"

"โอเค ไปกันจ้ะเด็กๆ"

.
.
.
.
.
.

"สั่งของหวานเพิ่มมั้ยเด็กๆ" แม่เอ่ยถามขึ้นเมื่อเราทุกคนต่างนั่งลูบท้องหลังจากสว่ปามมือเย็นจนเกลี้ยงโต๊ะ ยิ่งเจ้าตัวนุ่มนิ่มที่นั่งข้างๆผมนี่ยิ่งอิ้มแปล้ กินกุ้งทอดกระเทียมไปเกือบครึ่งจานคนเดียว ของโปรดเขาแหละกุ้งเนี่ย ดีหน่อยที่วันนี้ผมไม่ต้องแกะเปลือกให้เพราะทางร้านแกะมาให้เรียบร้อยแล้ว

"คุนไม่ไหวแล้วครับ อื่มมากกกก" ดูเหมือนอีกคนคงจะไม่ไม่ไหวเหมือนที่พูดจริงๆแหละครับ เพราะตั้งแต่รู้จักคุนคุนมาไม่เห็นคุณคุณปฏิเสธของหวานเลยสักครั้ง

"แน่ใจนะ ไม่ใช่ร้องอยากกินขนมกลางดึกนะ" นิรันดร์รีบถามดักคอไว้ นี่ก็รู้ดีเหมือนไปอยู่ใต้เตียงบ้านผมอย่างนั้นแหละ ก็เจ้าตัวเล็กนี่ชอบงอแงร้องอยากกินอะไรหวานๆตอนดึกๆตลอด ถ้าอยู่คอนโดก็แอบย่องออกมากินคุ้กกี้ คิดว่าผมไม่รู้เรื่องทั้งๆที่ตอนกลับเข้ามานอนยังมีเศษคุกกี้ติดริมขอบปากอยู่เลย เด็กหนอเด็ก

"แฮะๆๆ"

"ปล่อยให้ร้องไป เดี๋ยวหลับก็เลิกร้องเอง" คือถ้าคุนคุนงอแงอยากกินของหวานตอนที่ผมยังไม่หลับผมก็จะไม่ให้กินหรอกครับ แต่จะบังคับให้นอนหลับเสียมากกว่า

"พี่แฟงอะ" แหนะ ทำปากแบะอีกละ

"อะไร ก็พูดความจริง"

"ข้าวเหนียวมะม่วงที่นี่อร่อยนะน้องคุน"

"จริงหรอครับ"

"เจ้าเด็ดเลยละคะ"

"เอ่ออ คุน.."

"พอแล้วไม่ต้องกิน"

"แง"

"อร่อยจริงๆนะ"

"แม่!"

"โอเคๆ งั้นกลับกันเลยมั้ยจ้ะ"

"คร้าบผม"

นิรันดร์ลุกขึ้นไปยืนรอรถอยู่ที่หน้าร้านกับแม่ เราแยกกันไปคนละคันเพราะกะไว้ว่าจะพาคุนขับรถเที่ยวชมเมืองเชียงใหม่ตอนกลางคืนเสียหน่อย ส่วนผมกับคุนคุนเดินออกมาทีหลังเพราะเจ้าตัวเล็กเสียดายน้ำเก็กฮวยในแก้วเลยกระดกขึ้นมาซัดจนหมด วันนี้นิรันดร์เอารถตู้มาครับ คงไม่อยากขับเองเพราะต้องไปดูที่ดินนอกเมืองที่อยู่ค่อนข้างไกลอยู่เลยให้พี่ชัยคนขับรถของที่บ้านมาขับรถให้ทั้งวัน ปกติถ้าไปไหนในตัวเมืองนิรันดร์ก็ขับรถไปเองตลอดไม่ค่อยให้พี่ชัยขับให้เท่าไหร่ นอกจากจะไปจ่างจังหวัด หรืองานสังสรรค์อะไรที่ต้องดื่มแอลกอฮอล์

"พี่แฟง พี่รันลืมโทรศัพท์ครับ งั้นเดี๋ยวคุนวิ่งเอาไปให้ก่อนนะครับ" คุณคุณหันไปเห็นโทรศัพท์เครื่องสีดำก่อนหยิบมันขึ้นมาให้ผมดู และมันก็เป็นโทรศัพท์พ่อผมจริงๆนั่นแหละ ผมจึงพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตให้อีกฝ่ายเอามือถือไปคืนพ่อผมที่ยืนรอรถอยู่หน้าร้าน ส่วนผมก็เตรียมตัวจะออกไปด้านข้างร้านเพราะรถผมจอดไว้ตรงนั้นพอดี

"เค เดี๋ยวกูไปเอารถมา แล้วก็รออยู่ด้านหน้าเลยนะเดี๋ยวไปรับ"

"ได้ครับ"

ปัง!

ปัง!

ปัง!

!!!

เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นสามครั้งติดต่อกันที่หน้าร้านตามมาด้วยเสียงกรีดร้อง ผมที่เคยได้ยินเสียงแบบนี้มาแล้วรู้ทันทีว่ามันคือเสียงปืน มือที่กำลังจะเปิดประตูรถชะงักไปในทันที ก่อนจะรีบวิ่งไปที่ต้นเสียง ซึ่งก็คือหน้าร้านอาหาร ภาวนาในใจว่าเสียงปืนสามนัดเมื่อครู่นั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนที่ผมรักทั้งสามคน เพราะตั้งแต่ออกมาจากวัดบนเขานั้นตาขวาผมก็กระตุกตลอดเลย

"กรี้ดดดดดด"

"แม่! นิรันดร์!"

แม่ยืนอยู่หน้าร้านพยุงนิรันดร์ที่มีเลือดไหลลงมาตามแขนอยู่ ส่วนคนตัวเล็กของผมนอนอยู่ที่พื้น แค่เห็นแบบนั้นใจผมก็หล่นวูบไปอยู่ตาตุ่มเลย

"คุน!! เกินอะไรขึ้น" ผมพุ่งเข้าไปหาคนตัวเล็กที่นอนอยู่ตรงพื้น ที่ตอนนี้มีเลือดไหลออกมาเลอะพื้นเป็นจำนวนมาก ผมมองดูตรงหน้าอกด้านขวาที่มีเลือดเปื้อนเป็นดวงเลอะเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สีขาวที่ผมจำได้ว่าเราซื้อมาคู่กันตอนไปเดินห้างแถวๆมหาลัยในครั้งที่ทำคลิปล่อไอ้พี่ชัยโรคจิต ผมรีบถอดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวที่สวมทับเสื้อยืดสีดำออกมาพร้อมกดมันลงไปที่แผลเพื่อห้ามเลือดที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย

"ไอ้คนชุดดำขี่มอไซค์คันเมื่อกี้มันยิงมาที่กู แล้วคุนวิ่งเข้ามาพอดี เลยโดนไปเต็มๆ" นิรันดร์พูดขึ้น ก่อนจะนั่งลงมาดูคุนคุนกับผม

"แล้วนิรันดร์กับแม่ละ"

"กูหลบทันเลยโดนแค่ถากๆ ส่วนแม่ไม่เป็นไร" ผมมองดูแขนพ่อที่มีเลือดไหลออกมา ดูจากปริมาณเลือดแล้วกระสุนคงจะแค่ถากๆอย่างที่นิรันดร์ว่าจริงๆนั่นแหละ ส่วนแม่ก็มีสีหน้าตกใจปนกังวลอย่างมาก แต่คุนของผมนี่สิ คงโดนกระสุนเข้าเต็มๆ

"แล้วอีกนัดละ" ผมถามออกไปเพราะจำได้ว่าได้ยีนเสียงลั่นไกลปืนสามครั้ง

"มันยิงขึ้นฟ้า" โชคดีที่ไอ้พวกนั้นมันไม่ยิงนัดที่สามมาใส่ใครสักคนตรงนี้

"คุน คุน!" ผมเอื้อมมืออีกข้างที่ไม่ได้กดแผลไว้ไปปัดผมที่ปิดหน้าคนตัวเล็กออก ตอนนี้ตรงกรอบหน้าขาวเล็กนั้นมีเหงือซึมออกมาอย่างเห็นได้ชัด

"พี่แฟง คุนเจ็บ" มือบางยกขึ้นมากุมมือผมไว้แล้วบีบเบาๆหลายที มือบางมีแต่เหงื่อเปียกไปหมด บ่งบอกให้รู้ว่าอีกคนคงกลัวแค่ไหน ส่วนตาก็จ้องผมไม่ละไปไหนราวกับว่าไม่อยากให้ผมห่างไปไหนเลยในตอนนี้

"ไม่เป็นไร พี่อยู่นี่ ไม่ร้องนะ เดี๋ยวรีบพาไปหาหมอ กลัวมั้ย" อีกฝ่ายส่ายหน้าเบาๆผมรีบบีบมืออีกคนตอบทันที ก่อนจะก้มลงไปหอมหน้าผากอีกคนให้กำลังใจ รู้แหละว่าเจ็บ ผมเองก็เคยโดน น้ำใสๆไหลออกมาจากหางตาทั้งสองข้างของร่างเล็กที่ไร้เสียงสะอื้นใดๆให้ผมได้ยิน ขนาดเจ็บยังไม่ร้องออกมาเลย ตัวเล็กของพี่ เลือดออกเนอะขนาดนี้ถ้าเรีนกรถพยาบาลอีกคนคงทนรอไม่ไหว ถึงแม้จะห้ามเลือดรอก็ตาม

"นิรันดร์อุ้มคุนขึ้นหลังผม ผมจะพาคุนไปที่รถ"

"รถของมึงอะนะ ไม่ต้องเลย ไปรถกู ชัยเอารถมาโน่นพอดี ชัยช่วยแฟงอุ้มคุนขึ้นรถตู้"

"ครับคุณรัน" พี่ชัยที่เพิ่งลงมาจากรถทำหน้าตกใจในสิ่งที่เห็น แต่ก็เรีนกสติกลับมาทัน แล้วมาช่วยผมพยุงคุนขึ้นรถตู้ ก่อนที่พ่อ แม่ และผมจะตามขึ้นไปหลังจากนั้น

"รถมึงจอดไว้นี่แหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้ให้ชัยมาเอา ชัยพาไปโรงบาลที่ใกล้ที่สุด"

"ครับ"

"คุน เจ็บมั้ย เดี๋ยวก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว อีกแป๊บเดียว เลือดออกเยอะเลย ไม่ต้องกลัวนะ พี่พันแผลห้ามเลือดให้แล้ว" ผมกล่าวส่วนมือก็กุมมือบางของคนตัวเล็กที่ตอนนี้มีเหงื่อปกคลุมเต็มนี้ มือที่เปียกชื้นไปด้วยเหวื่อเริ่มลดอุณหภูมิลงจนรู้สึกเย็น  ดึงคนตัวเล็กเข้ามาชิดในอ้อมอกที่เปลือยเปล่าเพราะเสื้อนืดตัวสีดำที่ใส่มาตั้งแต่เช้าถูกฉีกไปพันแผลห้ามเลือดให้คนในอ้อมอกแล้ว

"พี่แฟง" คนตัวเล็กเอ่ยเสียงเบา ริมฝีปากที่เคยแดงระเรื่อซีดลงอย่างเห็นได้ชัด

"คุน อย่าหลับนะ ห้ามหลับ คุน!"

"พี่แฟง คุนง่วง อือออ" ตาชั้นเดียวที่มักยิ้มเป็นสระอิปิดลงหลายต่อหลายครั้ง แต่เจ้าตัวก็พยายามที่จะบังคับให้ตัวเองรู้สึกตัวตลอดเวลา

"คุนคุน คุนกับพี่ คุน พี่ชัยขับเร็วกว่านี้หน่อยสิพี่ เมียผมจะตายห่าแล้วเนี่ย!"

"นี่ก็ 130 แล้วนะ ขับเร็วกว่านี้ก็ตายห่ากันทั้งคันนี่แหละ ชัยออกเส้นซุปเปอร์ไฮเวย์เลย"

"ครับ"

"เลือดพ่อก็ออกเยอะนะ พันแผลไว้ก่อน ห้ามเลือด" ผมหนิบเสื้ออีกครึ่งตัวขึ้นมาก่อนจะยื่นมันไปให้แม่ที่นั่งกุมมือพ่ออยู่ที่เบาะหลัง แม่ผมก็พอทำแผลได้ครับ แม่บอกตอนหนุ่มๆนิรันดร์ชอบเจ็บตัวกลับมาบ้านประตำ แล้วแม่ก็ต้องเป็นใ่ายทายากับทำแผลให้ตลอด ทำจนเก่งเลยแหละแม่เล่าให้ฟัง

"ไม่ต้องแผลแค่นี้ กระจอก มึงดูคุนไปเถอะ"

"พี่แฟง คุนเจ็บ" เชี่ยเอ้ย แค่อรกฝ่ายเอ่ยออกมาว่าเจ็บเบาๆ ทำไมผมเหมือนเจ็บจี้ดไปทั้งร่างกายแบบนี้วะ แล้วทำไมผมถึงไม่อยู่ตรงนั้นด้วย ถ้าผมอยู่ป่านนี้คนตัวเล็กในอ้อมกอดคงไม่เป็นแบบนี้ ทำไมมึงต้องไปเอารถด้วยวะไอ้เ*ยแฟง!!

"ไม่เจ็บนะ พี่กอดแล้ว ไม่เจ็บแล้ว เดี๋ยวก็ถึงโรงพยาบาล อดทนหน่อยนะคนเก่งของพี่" ผมกอดคนตัวเล็กไปน้ำตาก็ไหลออกมาจากหางตาไปด้วย เกิดมายังไม่เคยร้องไห้สักครั้ง ทำไมครั้งนี้มันเจ็บจี้ดในใจจนน้ำตาไหลออกมาเองแบบนร้วะ เชี่ยยย มึงจะมาอ่อนแอให้คุนคุนดูตอนนี้ไม่ได้นะเว้ย!

"ไม่ร้อง นะ ครับ" มือบางยกขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากหางตาให้ผม พรางส่งยิ้มที่ผมคุ้นเคยมาให้

 "ไอ้พวกนั้นมันเป็นใครนิรันดร์ เอาเลือดหัวมันมาชดใช้ให้เมียผมเดี๋ยวนี้เลย!" มึงเป็นใครกูจะเอาให้ตายเลยคอยดู!

"ใจเย็นนะคะลูกแฟง อย่าเสียงดังคะลูกเดี๋ยวน้องตกใจ"

"กูให้คนไปตามล่ามันละ เดี๋ยวคงได้เรื่อง คงเป็นพวกมือปืนรับจ้างโง่ๆ"

"ถ้าคุณเป็นอะไรไปนะ ผมจะเอามันตายทั้งโคตรเลยคอยดู"

"ใจเย็นๆลูกแฟง น้องไม่เป็นอะไรหรอกเชื่อแม่"

"คุนคุน! ทำไมหัวมีเลือดด้วยวะ! เชี่ยเอ้ย"
.
.
.
.


#คุนแฟง

by ppeachmm




หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 38| 08.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 08-06-2020 12:20:34
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 38| 08.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 08-06-2020 13:25:36
 :pig4:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 39| 09.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 09-06-2020 06:59:06
---ตอนที่ 39---

คุน's part

ผมลืมตาขึ้นมากลางดึก ในห้องมืดสนิทมีเพียงแสงไฟจากห้องน้ำและแสงไฟจากถนนสาดส่องเข้ามา แต่ทว่าแค่เพียงแสงน้อยนิดที่สาดส่องภายในห้องก็ยังพอให้ผมรับรู้ได้ว่าตัวผมอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคย โคมไฟบนเพดานยังเป็นแบบยาวที่ไม่เคยเห็นในห้องนอนห้องไหนมาก่อน เมื่อมองไปรอบๆก็ยิ่งรู้สึกถึงความแปลกใหม่ แถมกลิ่นที่อบอวลอยู่ในห้องนี้ยังมีกลิ่นที่ผมไม่ค่อยชอบด้วย กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่มักได้กลิ่นตามโรงพยาบาล กลิ่นนี้ทำให้รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที พอจะยกมือขึ้นมาจับขมับต้นเหตุของความเจ็บก็ถึงได้รู้ว่ามือผมนั้นถูกใครบางคนจับกุมไว้หลวมๆ จึงใช้สายตาเพ่งมองเงาดำๆของใครบางคนที่ฟุบหลับอยู่ข้างเตียง แถมตามแขนของผมยังมีสายอะไรบางอย่างระโยงระยางเต็มไปหมด นี่ผมอยู่ที่โรงพยาบาลจริงๆนะหรอ

"อื้ออ" ผมพยายามขยับตัวแต่กลับรู้สึกว่าร่างกายตัวเองหนักราวกับแบกก้อนหินนับร้อยไว้บนตัว รู้สึกปวดหัวตุบตุบ ตามตัวยังรู้สึกเมื่อยไปหมด ตามมาด้วยความรู้สึกเหมือนคอแห้งผากราวกับไม่ได้ดื่มน้ำมาหนึ่งอาทิตย์ก็ไม่เชิง

คนที่นอนกุมมือผมอยู่ที่ข้างเตียงยังไม่ขยับไปไหน แม้กลิ่นเฉพาะของโรงพยาบาลจะแรงเสียงจนกลบกลิ่นอื่นๆมิด แต่กลิ่นเฉพาะกายของคนที่นอนฟุบอยู่ตรงนี้ยังคงโชยกลิ่นอ่อนๆมากระทบจมูกผมให้รับรู้ได้ว่าเขาเป็นใคร ผมเริ่มจับต้นชนปลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ร้านอาหาร ในรถ และความเจ็บที่เข้าครอบงำที่อกด้านขวา จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่มีสติคือตอนที่พี่แฟงกอดผมไว้ในรถแล้วหลังจากนั้นภาพก็ตัดไป มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ลืมตาขึ้นมาเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วนี้เอง

"คุน ตื่นแล้วหรอ" พี่แฟงลืมตาขึ้นมาก่อนจะลุกขึ้นมานั่งเต็มความสูง เขาเอ่ยถามขึ้นทันทีที่รู้สึกว่ามือผมขยับบีบมือเขาไว้ด้วยน้ำเสียงงัวเงียของเจ้าตัวเวลาเพิ่งตื่นนอน

"อื้ออ" ผมเปล่งเสียงออกไปตามปกติ แต่เสียงที่เล็ดลอดออกมานั้นกลับเบามากแถมยังแหบพร่าอีกต่างหาก เสียงผมหายไปไหนหมดเนี่ย

"เจ็บตรงไหนมั้ย" เขาเอ่ยถามเสียงเบาก่อนจะเอื้อมมือสากมาลูบข้างๆแก้มผมเบาๆ ราวกับกลัวว่ามันจะบุบสลาย พี่แฟงชอบจับแก้มผมบ่อยๆ แต่ทุกครั้งที่เขาจับเขาจะหยิกมันด้วยความหมั่นเขี้ยว ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาสัมผัสผมเบามือเท่าครั้งนี้มาก่อน

ผมพยักหน้าก่อนจะเอ่ยตอบไปว่ารู้สึกปวดตัวและปวดหัว เขาบอกว่าอย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้ก็ได้ เพราะเหมือนผมจะไม่ค่อยมีเสียงเท่าไหร่

"นะ น้ำ" ผมพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยออกไปอีกครั้งว่าผมหิวน้ำ เขารับลุกขึ้นเทน้ำจากเหยือกที่วางอยู่หัวเตียงลงในแก้ว ก่อนจะหยิบหลอดในลิ้นชักออกมาแกะใส่เข้าไปในแก้ว แล้วปรับเตียงผมให้สูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ดื่มน้ำได้สะดวก

"นอนหลับนานเกินไปแล้วเรา พี่เป็นห่วงแทบแย่รู้มั้ย" เขาเอาแก้วไปวางไว้ที่ชั้นข้างหัวเตียงก่อนจะกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงตัวเดิม เอามือมาลูบหัวผมเบาๆ ก่อนจะกดจมูกลงไปตรงซอกคอผม หลังจากนั้นผมก็รู้สึกว่าร่างกายผมสั่นไหวแถมตรงซอกคอยังรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างเย็นๆหยดลงคอผมสองสามหยด

"หลับไปนานขนาดนั้นไม่คิดถึงพี่บ้างรึไงคุน" เสียงอู้อี้ติดแหบดังลอดออกมาจากซอกคอของผม อีกฝ่ายยังเอาหน้าจมไว้ตรงนั้น แม้เสียงที่ถูกเปล่องออกมาจะขาดๆหายๆไปบ้าง แต่ผมก็จับใจความได้ทุกคำ และรับรู้ได้ถึงความเป็นห่วงที่แฝงอยู่ภายใต้เสียงนั้น เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ แล้วก็ไม่ได้ละจมูกออกไปจากซอกคอผม ส่วนผมนั้นก็ไม่ได้ตอบอะไรทำได้เพียงพยักหน้าสองสามทีก่อนจะเอื้อมมืออีกข้างที่ไม่มีสายน้ำเกลือขึ้นมาวาบบนแผ่นหลังหนาของผู้ชายคนนี้

พี่แฟงร้องไห้

ผมรับรู้ได้จากน้ำเสียงที่เปล่องออกมานั้น และจากการสั่นไหวของหัวไหล่หนา แต่ทว่าเขาก็ยังกอดผมไว้แบบนั้นไม่ขยับไปไหนราวกลับกลัวว่าผมจะหลุดหายไปไม่กลับมาหาเขาอีก เขาคงคิดว่าผมจะหายไป เพราะผมจำเสียงหวีดร้องสุดท้ายของเขาบนรถได้ มันคล้ายกับเขาไม่อยากจะเสียผมไปมากแค่ไหน

ผมไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปอีกตอนไหน หรือหลับไปอีกนานเท่าไหร่ ลืมตามาอีกครั้งภายในห้องก็สว่างสไวแถมคนที่นอนกอดผมไว้นั้นก็ไม่อยู่ตรงนี้แล้วด้วย มืออุ่นที่เคยกุมมือผมไว้ก่อนผมจะหลับมันหายไปเหลือไว้เพียงความรู้สึกอุ่นๆที่ยังค้างไว้บนฝ่ามือ

"ไอ้คุน ตื่นแล้วหรอ"

"คุนคุน เป็นไง"

ผมพยายามโฟกัสคนที่ลุกขึ้นจากโซฟาที่กำลังเดินมาทางผมสองคน สงสัยจะพักสายตานานไปหน่อยถึงต้องใช้เวลาในการโฟกัสภาพเคลื่อนไหวสักพัก

"ทัพ ขุน" เมื่อสายตาเริ่มปรับแสงได้ บวกกับตาที่เริ่มปรับจุดโฟกัสสายตาได้ ถึงได้เห็นว่าสองคนที่ยืนอยู่ข้างเตียงเป็นเพื่อนฝาแฝดของผมนั่นเอง

"หลับฝันหวานน้ำลายยืดไปหลายวันเลยนะมึง" ขุนพลเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขี้เล่นประจำตัว นี่ผมหลับไปหลายวันขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมถึงรู้สึกว่าตัวเองเพิ่งหลับไปเมื่อเช้าตรู่นี่เอง ผมกวาดสายตาไปมองในห้อง ไม่มีคนที่ผมอยากเจอ มีเพียงสองพี่น้องฝาแฝดที่อยู่ตรงนี้ กับใครอีกคนที่ผมไม่รู้จักนั่งอยู่ที่โซฟา

"ตื่นขึ้นมาก็มองหาแฟนเลยนะเรา เพื่อนต้องน้อยใจมั้ยเนี่ย" กองทัพเอ่ย พรางทำหน้าล้อเลียน

"ไอ้พี่มันออกไปคุยกับหมอ เดี๋ยวก็เข้ามา" ขุนพลเอ่ย ในขณะเดียวกันกับที่ประตูห้องเปิดออก

"นั่นไง พูดถึงก็มาเลย ตายยากชิบหาย" ขุนพลบ่นพึมพำ ส่วนประโยคหลังนั้นทำเพียงพึมพำมันในลำคอเบาๆ แต่ก็ดังพอให้คนอื่นในห้องได้ยิน

"นินทาอะไรกูไอ้เชี่ยขุน อ้าว คุนตื่นแล้วหรอ เป็นไงบ้าง เจ็บตรงไหนรึเปล่า หิวน้ำมั้ย ปวดหัวมั้ย" ผมส่ายหน้าเมื่ออีกคนยิงคำถามใส่ผมรัวๆ ก่อนอีกฝ่ายจะลากเก้าอี้มาวางข้างเตียงแล้วนั่งลง

"โหพี่ ถามอะไรเยอะแยะขนาดนั้น มันจะฟังทันรึเปล่าเถอะ ดูหน้ามันดิ เอ๋อไปแล้วแน่ๆเลยผมว่า" ขุนนะขุน ถ้าผมไม่ป่วยนอนอยู่บนเตียงแบบนี้ผมจะสิ่งไปตีแขนเลยนะ มาว่าเราเอ๋อได้ไงเนี่ย

"ไอ้ห่านี่ เอ๋อพ่องงง ปากมึงหรอนั่นนะ เดี๋ยวกูให้ไอ้ธันจัดการปิดปากมึงซะเลย" ผมรีบหันไปยิ้มขอบคุณคนตัวสูงที่นั่งจับมือผมอยู่ข้างเตียงทันทีที่จัดการขุนพลปากพล่อยให้ เอ...ว่าแต่ เกี่ยวอะไรกับเฮียธันอะ? แล้วพอพี่แฟงพูดถึงพี่ธันนะ ขุนพลหน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัด มันแปลกๆแฮะ สองคนนี้

"เฮ้ย เกี่ยวไรกันวะ" ขุนพลเหวเสียงดัง แถมยังทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอคล้ายไม่พอใจอะไรสักอย่าง ส่วนพี่แฟงก็เอามือกุมผมไว้ ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปทำเพียงแค่บีบมือหนาตอบเขาเท่านั้น

"จะจ้องกันให้ท้องเลยใช่มั้ยเนี่ย ผมขอตัวไปซื้ออะไรกินด้านล่างหน่อยละกัน อยู่แล้วรู้สึกเป็นส่วนเกินวะ ไอ้ขุนไป เธอลงไปข้างล่างกัน" กองทัพเอ่ยก่อนจะลากตัวขุนพลออกมาจากข้างเตียง แล้วเดินเลยไปจูงมือผู้ชายตัวขาวๆที่นั่งอยู่บนโซฟานั้นออกไปข้างนอกห้อง ทันทีที่เสียงปิดประตูดังขึ้น พี่แฟงก็ก้มลงมาประกบปากผมทันที ครั้งนี้เขาไม่รุกล้ำเข้ามาในโพรงปากเหมือนที่ทำเป็นประจำ ทำเพียงแค่ลิ้มเลียขอบปากล่างบนสลับไปมาอยู่สักพัก เสียงคำรามของคนตัวหนาดังขึ้นสองสามครั้งก่อนที่เจ้าตัวจะผละออกจากปากผม

"ไปเที่ยวเล่นในฝันจนไม่อยากกลับมาแล้วใช่มั้ย" มือหนาเอื้อมมาเช็ดน้ำตรงริมฝีปากผมเบาๆก่อนจะเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มอันอบอุ่นที่ผมคุ้นเคย

"คุนป่าว"

"หลับไปนานมาก นึกว่าหนีไปหาตี้จวินหัวขาวซะแล้ว"

"..." ผมหัวเราะออกมาในลำคอกับประโยคนั้นของอีกคน ผมชอบที่เขาจำตัวละครในซีรีย์ที่ผมชอบดูได้ ผมชอบที่เขาจำรายละเอียดอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับเรื่องต่างๆรอบตัวผม ทั้งจากสิ่งที่ผมเล่าให้ฟังหรือจากสิ่งที่เขาสังเกตุเอง มันคือความใส่ใจที่เขามอบให้ผมตั้งแต่ครั้งๆแรกๆที่เราเจอกัน และนั่นทำให้ผมประทับใจในตัวผู้ชายคนนี้จนเลยเถิดมาเป็นความรักเหมือนในตอนนี้

เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของผม ตัวเขาเองก็หัวเราะออกมาเช่นเดียวกัน ผมไม่ได้พูดอะไรอีกได้แต่นั่งฟังเขาเล่าเรื่องโน่นนี่ตอนที่ผมหลับไปให้ฟัง ครั้งแรกผมหลับไปสองวันเต็มๆ แล้วก็ตื่นขึ้นมากลางดึงเจอคนตัวหนานอนกุมมือแล้วเราก็หลับไปพร้อมกันในคืนนั้น ส่วนครั้งที่สองผมหลับไปวันกว่าๆ เพิ่งจะตื่นขึ้นมาเนี่ยแหละ จริงเราทั้งคู่ควรจะกลับกรุงเทพฯแล้วตั้งแต่เมื่อสามวันก่อน ผมเองก็ต้องไปเรียนเพราะมหาวิทยาลัยเปิดแล้ว ส่วนพี่แฟงก็ต้องขึ้นคลีนิคที่โรงพยาบาลเหมือนกัน แต่พี่รันจัดการเรื่องลากับทางมหาวิทยาลัยให้เราทั้งสองคนเรียบร้อยแล้ว ของผมเนื่องจากต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลทางพี่รันเลยทำเรื่องลาให้หนึ่งเดือน ส่วนของพี่แฟงเขาต้องกลับไปเรียนแล้วอาทิตย์หน้า เฮียธันรู้เรื่องทุกอย่างแต่ดีที่เขาไม่ได้โทรบอกป๊ากับม๊าไม่งั้นคงเป็นเรื่องใหญ่ ก่อนผมออกจากโรงพยาบาลหนึ่งวันก็โทรมาโวยวายเสียงดังใส่พี่แฟง แล้วก็ขอคุยกับผมบอกว่าขอโทษทีีมาเยี่ยมไม่ได้เพราะต้องขึ้นคลีนิคทุกวันแถมยังต้องเข้าเวรตอนกลางคืนอีกต่างหาก ส่วนผมก็ตอบกลับไปว่าไม่ต้องเป็นห่วงเพราะผมดีขึ้นมาแล้วค่อยมาเยี่ยมผมตอนกลับถึงกรุงเทพฯก็ได้ แล้วก็ยังไม่ลืมที่จะเอ่ยขอบคุณเฮียธันที่ไม่ได้บอกเรื่องนี้มห้ป๊ากับม๊ารจเพราะผมอยากจะเป็นฝ่ายบอกทั้งคู่เองมากกว่า

ส่วนเรื่องเหตุการณ์ที่ร้านอาหาร พี่แฟงเล่าให้ฟังว่าคนที่ยังนั้นเป็นมือปืนรับจ้างที่ถูกเสี่ยกำธรคนที่ต้องการซื้อที่ดินที่แม่ริมแข่งกับนิรันดร์นั้นจ้างมา แต่เกิดความผิดพลาดขึ้นเพราะตอนแรกมือปืนตั้งใจจะยิ่งขู่เท่านั้นแต่บังเอิญผมเข้ามาในวิธีกระสุนพอดีเลยได้รับลูกปืนไปเต็มๆ โชคดีที่มันไม่ได้โดนอวัยวะสำคัญเสียหาย ใช้เวลารักษาตัวอีกอาทิตย์กว่าๆก็คงกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ด้วยเพราะแผลที่ถูกยิงเป็นไหล่ขวาด้วยเลยไม่ส่งผลกระทบกับคนถนัดซ้ายอย่างผม

แม้เสี่ยกำธรจะต้องการแค่มาข่มขู่ให้พี่รันถอนตัวจากการซื้อที่ดินผืนนั้นแต่เรื่องมันบานปลายจนผมได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ ทั้งพี่รันและพี่แฟงต่างไม่ยอมความเรื่องจึงถึงตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่พี่รันสนิทสนมด้วยเป็นการส่วนตัว ฟังจากที่พี่แฟงเล่าก็พอเข้าใจว่ามีการดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด แต่ผมได้ยินสองแฝดคุนกันได้ยินว่าจู่ๆธุรกิจบางอย่างของเสี่ยกำธรก็เกิดปัญหาขึ้นจนต้องประกาศขายกิจการโรงงานและอสังหาริมทรัพย์ด้วยซ้ำ คิดว่าสองพ่อลูกคงไม่ได้ต้องการแค่ให้อีกฝ่ายถูกดำเนินคดีทางกฎหมายเท่านั้นแน่ๆ

ผมกลับมาอยู่กรุงเทพได้สามวันแล้วครับ แต่ไม่ได้กลับคอนโดนะ ตอนนี้ผมมาอาศัยอยู่กับคุณแม่พริ้ง ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว แต่ทั้งผม ทั้งพี่แฟง แล้วก็อันอันด้วย เราย้ายมาอยู่ที่นี่ชั่วคราว พี่แฟงอยากให้มีคนอยู่เป็นเพื่อนผมในตอนที่ตัวเองต้องไปโรงพยาบาลและตอนนี้เขาย้ายขึ้นคลีนิคแผนกฉุกเฉินแล้วต้องมีการเข้าเวรกลางคืนด้วย เลยไม่อยากปล่อยผมไว้คนเดียว แม้ผมจะเอ่ยปากบอกว่าผมโอเคผมอยู่ได้แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมฟังเลยต้องย้ายสัมมโนครัวมาอยู่ที่บ้านคุณแม่พริ้งเนี่ยแหละ

"น้องคุน หิวรึยังคะ" เสียงหวานของคุณแม่พริ้งดังขึ้นทำให้ผมที่นั่งมองอันอันวิ่งเล่นอยู่ในห้องหลังบ้านผ้านกระจกใสที่กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องหลังบ้านหันไปมองเธอในทันที เพราะนิวเยียร์แพ้ขนสัตว์อันอันเลยเข้ามาวิ่งเล่นในบ้านไม่ได้ แต่โชคดีหน่อยที่พื้นที่บริเวณบ้านของคุณแม่พริ้งกว้างขวางมากทำให้อันอันมีที่สิ่งเล่นอย่างสบายใจ นิวเยียร์เองก็ชอบมานั่งดูอันอันผ่านกระจกแบบนี้ แม้ตัวเองจะรักสัตว์แต่ก็รู้สึกเสียดายที่เข้าใกล้ไม่ได้ด้วยอาการแพ้ขนสัตว์ที่มีมาแต่กำเนิด ทำได้เพียงนั่งมองแล้วก็ซื้อขนมกับของเล่นมาให้ผมแทบทุกวันเลย

"ยังเลยครับ" ผมเอ่ยตอบไปแม้ตอนนี้จะรู้สึกเริ่มหิวขึ้นมาเล็กน้อยก็ตาม

"รอลูกแฟงหรอลูก" คุณแม่ยิ้มให้ผมเล็กน้อยเพราะรู้ทัน ถ้าวันไหนที่พี่แฟงไม่เข้าเวรผมก็จะรอเขากลับมาทานมื้อค่ำด้วยทุกครั้ง เหมือนอย่างวันนี้ แต่วันนี้อีกฝ่ายคงจะถึงบ้านค่ำเพราะด้านนอกฝนตกหนักมาก

"ครับ"

"ตอนนี้ฝนตก รถคงติดน่าดู หนูมาทานอะไรรองท้องก่อนดีมั้ยคะ" คุณแม่เดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารกับนิวเยียร์ก่อนจะหันมาเรียกผมอีกครั้ง ปกติทั้งสองคนก็รอทานอาหารพร้อมพี่แฟงแหละครับแต่เพราะวันนี้ทั้งสองตั้งใจว่าจะออกไปดูหนังทานอาหารข้าฃนอกกัน แต่พอเห็นอาหารที่ผมทำก็เลยเปลี่ยนใจทานอาหารที่บ้านก่อนแล้วค่อยออก

"เอ่อ ไม่เป็นไรครับ คุนยังไม่ค่อยหิว คุณแม่กับนิวเยียร์ทานกันตามสบายเลยครับ"

"แม่คะ คนเค้ามีแฟนก็ต้องรอทานพร้อมแฟนสิคะ คนโสดอย่างเราก็นั่งเหงามองหน้ากันไปแบบนี้แหละคะ" นิวเยียร์ชอบแซวผมแบบนี้ตลอดเลย ตอนแรกก็เขินๆนะแต่ตอนนี้เริ่มชินซะแล้ว

"คะลูก งั้นสาวโสดสองคนขอทานข้าวก่อนละกันนะลูกคุน"

"แฮะ" ผมยิ้มเขินๆกลับไปไม่ได้ตอบอะไร เพราะว่าไม่รู้ว่าจะต้องตอบว่าอะไรด้วยแหละครับ

"ทำอะไรกัน รุมแฟนผมหรอ" เสียงประตูหน้าบ้านเปิดออกพร้อมกับเสียงหนาของคนที่ผมคุ้นเคย

"น้องเปล่านะ" นิวเยียร์ยกมือขึ้นเหนือหัวสองข้างทันทีเหมือนผู้ร้ายมอบตัวกับตำรวจยังไงยังงั้น

"แม่ก็ด้วย" ส่วนคุณแม่เองก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ตักอาหารเข้าปากหน้าตาเฉย


"โดนรุมใช่มั้ยคุน มีอะไรบอกพี่ได้เลยนะไม่ต้องกลัว"

อยากจะร้องตะโกนออกไปเสียงดังว่าสองคนนี้นะชอบแซวผมมม แต่สิ่งที่ร่างกายทำตอนนี้กลับเป็นเพียงการส่ายหัวไปมาเท่านั้น อ้าววว คุณไม่ใช่เด็กขี้ฟ้องไงครับ

"โหหหห อะไรกันคะพี่แฟงมาถึงก็ใส่ร้ายแม่กับร้องเลย"

"นั่นสิ แม่ควรจะน้อยใจดีมั้ยคะลูก"

"ดีคะคุณแม่ มีลูกชายก็แบบนี้แหละคะ สนใจแฟนมากกว่าเรา ฮือๆๆๆ" นิวเยียร์เอามือสองข้างเลื่อนมาปิดหน้าแล้วทำเสียงเหมือนคนร้องไห้เบาๆ นิวเยียร์เป็นคนตลกครับ ตลกมากเลยด้วย ผมที่เพิ่งเจอเธอไม่กี่ครั้งเรากัยคุยกันได้อย่างไม่เกร็งเลยด้วยซ้ำ เธอเข้ากับคนง่ายมาก

"ปลอมมากเลยนิวเยียร์" ดูเหมือนคนตัวสูงจะรู้ทันว่าน้องสาวตัวเองแกล้งร้อวไห้ เขาส่ายหัวสามสี่ทีก่อนจะวางกระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถไว้ที่โต๊ะหน้าทีวีแล้วนั่งลงที่ประตูกระจกข้างผม

"แม่คะ พี่ว่าหนู แม่ต้องช่วยนิวเยียร์นะคะ" ดูเหมือนนักแสดงบทร้องไห้จะไม่ยอมแพ้ ร้องเรียกขอความช่วยเหลือจากฝ่ายสมทบทันที แต่ฝ่ายสมทบอย่างคุณแม่พริ้งนี่นอกจากจะไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยแล้วยังนั่งหัวเราะสองพี่น้องที่ชี้ไม้ชี้มือใส่กันไม่ยอมเลิกรา คนพี่ก็ไม่ยอม คนน้องก็สู้

"พี่แฟง ไม่ได้มีใครทำอะไรคุนซะหน่อย อย่าแกล้งน้องสิครับ" จนผมต้องพูดปราม

"โอเคครับน้องคุนนนน" พอผมปรามเสร็จคนที่นั่งใกล้กันก็ขยับเข้ามากอดจนผมล้มลงไปนอนอยู่ที่พื้นเลยด้วยซ้ำ อื้อออ กอดแรงไปมั้ยเนี่ยคุณลภัส!

"ไปรักกันไกลๆเลยพี่แฟงงง น้องจะเป็นตากุ้งยิงแล้วเนี่ย เนอะคุนแม่เนอะ"

"ไม่เอา รักกันตรงนี้แหละลูก แม่ชอบดู อิอิ วันก่อนแม่เห็นมากกว่านี้อีกคะลูก"

!!!!
.
.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm




หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 39| 09.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 09-06-2020 21:18:29
 o13
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 40| 10.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 10-06-2020 07:27:09
---ตอนที่ 40---

แฟง's part

สองอาทิตย์หลังจากนั้นผมกับคุนก็ย้ายสัมมะโนครัวกลับมาคอนโด ส่วนคุนก็เริ่มกลับไปเรียนได้สามวันแล้ว แผลที่ถูกยิงก็หายเร็วเกินคาดหมอยังชมเลยว่าเชื่อฟังหมอดีมากมีวินัยสุดๆ อยากจะยกมือบอกหมอเหลือเกินว่าผมดูแลเองงงงง แล้วแผลนั้นยังทิ้งรอยแผลเป็นไว้ไม่ใหญ่มากด้วย ส่วนแผลตรงท้ายทอยที่ได้มาจากตอนถูกยิงแล้วล้มลงโดนหินก็ไม่ได้ใหญ่มากจนถึงขั้นต้องเย็บเลยไม่ต้องห่วงอีกเหมือนกัน แม้จะยังมีอาหารขัดๆตรงหัวไหล่ขวาเวลายกแขนสูงๆอยู่บ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่าหายสนิทแล้ว ผมเลยปล่อยให้อีกฝ่ายไปเรียนหนังสือได้โดยไม่ต้องห่วง

"คุน อาบน้ำเสร็จยัง" ผมที่ลุกขึ้นมานั่งอยู่ขอบเตียงร้องถามคนตัวเล็กที่อยู่ในห้องน้ำ เห็นเข้าไปตั้งนานแล้วไม่ออกมาสักทีเลยร้องเรียกกลัวว่าอีกฝ่ายจะลื่นล้มในห้องน้ำ เพราะเสียงน้ำไหลจากฝักบัวหยุดไปได้สักพักแล้ว

"เสร็จแล้วครับ พี่แฟงตื่นมาทำไมเนี่ย เพิ่งนอนเองไม่ใช่หรอ" ไม่นานอีกฝ่ายก็เปิดประตูห้องน้ำออกมา คุนคุนในชุดเสื้อกล้ามสีขาวหลวมๆกับกางเกงบอกเซอร์สีดำมันดูตัดกับผิวจนอยากจับมาฟัดให้จมคาเตียง ตอนกลับมาจากค่ายแรกๆยังดูคล้ำแดดอยู่เลย ผ่านมาไม่กี่อาทิตย์ทำไมมันขาวเร็วจังวะ ของผมนี่ยังดำเหมือนเดิมไม่ขยับไปไหน น้องมันขาวจนผมเนี่ยตาพร่าไปหมด หรือว่าแดดส่องเข้ามาวะ เชี่ยยย ขาวเชี่ยยยๆๆๆ ขาวจนต้องกวักมือเรียกคนตัวเล็กที่ยืนเช็ดผมอยู่หน้าห้องน้ำให้เข้ามาใกล้

"มีเรียนกี่โมง" เอ่ยถามออกไปเมื่ออีกฝ่ายเดินมาหยุดตรงหน้า อดไม่ได้ที่จะดึงอีกฝ่ายให้ลงมานั่งบนตัก ก่อนจะจัดขาเล็กสองข้างให้เกี่ยวเอวผมไว้ แล้วดึงผ้าเช็ดผมออกจากมือคนตัวเล็กมาไว้ในมือ ผมชอบเช็ดผมให้เขา เขาชอบเช็ดผมให้ผม เราชอบเช็ดผมให้กัน อิจฉาละสิ?

"เก้าโมงครับ"

"เดี๋ยวพี่ไปส่ง รีบแต่งตัวสิ เดี๋ยวก็สายหรอก รถติดนะวันนี้ฝนตกด้วย" ข้างนอกฝนตกหนักครับ ตกตั้งแต่ผมขับออกมาจากโรงพยาบาลตอนตีหนึ่งนิดๆ จนป่านนี้แปดโมงแล้วยังไม่เลิกตกเลย ไม่รู้ในซอยน้ำท่วมรึเปล่า เพราะถ้าท่วมคงแย่เลย รถคงติดยาวไปจนถึงถนนใหญ่ และนั่นหมายึงการจราจรในซอยนี้จะกลายเป็นอัมพาตในทันที แค่คิดก็สยอง อ้อ ผมเลิกใช้กูมึงกับน้องแล้วนะครับ รู้สึกว่าตัวเองกยาบคายกับคนทั้งโลกได้แต่ไม่ควรหยาบคายกับเด็กน่ารักคนนี้ ยิ่งพออีกคนนอนหลับไปหลายคืนที่โรงพยาบาลก็ยิ่งรู้สึกอยากจะทำดีกัยคนคนนี้ให้มากที่สุด ในเมื่อผมรักคุนขนาดนี้ การจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนที่เรารักมันก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงเราด้วย แม้ตอนที่เปลี่ยนสรรพนามแรกจะไม่ค่อยชิน แต่พอพูดบ่อยๆก็ชินไปเองแหละครับ แล้วอีกฝ่ายก็ชอบให้ผมพูดเพราะๆด้วย

"ไม่ต้องๆๆ พี่แฟงนอนต่อเลยเพิ่งออกเวรมาตอนตีหนึ่งกว่าๆเองไม่ใช่หรอครับ คุนไปเองได้"

"นอนพอแล้ว" เมื่อคืนผมเข้าเวรถึงเที่ยงคืนครับ ตอนมาถึงห้อง อาบน้ำเสร็จ หัวถึงหมอนดึงคนตัวเล็กที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรหลับสนิทเหมือนกสวิทเซฟพลังงานเข้ามากอดไว้ก็หลับเลย ตื่นมาอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงน้ำในห้องน้ำไหล นอนมาห้าชั่วโมงกว่าๆแล้ว นี่ก็มากพอแล้วละเด็กน้อยเอ๋ย

"ดื้อจัง นอนน้อยไม่ดีต่อสุขภาพนะครับว่าที่คุณหมอ"

ดูทำท่าสิ น่ารักชิบหาย ไอ้ตัวเล็กยกนิ้วชี้ขึ้นมาส่ายไปมาก่อนจะเอียงหัวไปด้ายซ้าย ส่งสายตาปริบๆมาให้ เคยเห็นแมวนั่งแล้วเอียงคอขอขนมมั้ยครับ นั่นแหละท่าเดียวกับเป๊ะ

"ว่าที่คุณหมอคนนี้อยากไปส่งแฟนไปเรียนไม่ได้รึไงครับ"

"จะไปส่งจริงๆอะ?"

"จริงสิ แต่ถ้ายังนั่งอยู่ในท่านี้คงไม่ได้ไปเรียนกันพอดี"

"พี่แฟงอะ แต่เช้าเลยนะ" คนตัวเล็กกำมือขึ้นก่อนจะทุบมันลงบนอกผมที่ไม่ได้สวมเสื้อ แถมยังทำหน้างอๆอีก เดี๋ยวนี้พูดอะไรไปรู้ทันหมดแหละ ตอนนี้กลายเป็นคุนคุนรุ่นแอดวานซ์ไปซะแล้ว ไอ้เด็กหัวช้าเมื่อก่อนไม่รู้หายไปไหน นอกจากทุบอกผมแล้วยังขยับตัวไปมาจะลงออกจากตักผมเอาเสียให้ได้ แต่มีหรอที่ผมจะปล่อยไปง่ายๆ

"นี่ได้ตลอดเวลานะ บอกเลย"

"พอเลย เอามือตัวเองออกไปเลย คุนจะไปแต่งตัว" คนตัวเล็กดึงมือผมที่ล้วงเข้าไปในเสื้อกล้ามตัวเองออก แต่ผมก็ไม่ยอมไง ยิ่งดึงออกผมก็ยิ่งล้วงเข้าไปลึกกว่าเดิม จนอีกคนทำหน้างอแงเหมือนจะร้องไห้นั่นแหละถึงได้ยอมเอามือออก

"โอเคๆๆๆ แล้ววันนี้เลิกกี่โมง" ผมปล่อยมือจากคนตัวเล็กให้เขาไปแต่งตัว เพราะเหลือบดูนาฬิกาตรงผนังแล้วถ้ายังมัวโอ้เอ้อยู่แบบนี้คงไม่ได้ไปเรียนแน่ๆ

"ห้าโมงครับ" คุนคุรที่เดินเข้าไปใส่ชุดนักศึกษาในห้อฝน้ำโผล่หัวออกมาตอบ ส่วนผมก็ลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าไปแปรงฟันในห้องน้ำเมื่ออีกคนแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุนไม่ชอบให้ผมดูเวลาที่เจ้าตัวแต่งตัวใส่เสื้อผ้า ไม่รู้เหมือนกันว่าจะอายทำไม ก็เคยเห็นมาหมดแล้วป่าววะ ช่างเหอะ เค้าบอกไม่ให้ดูก็คือไม่ให้ดูแหละ อย่าไปขัด เดี๋ยวเมียงอนอดอีก ไม่ได้นะเว้ย ถ้าเป็นแบบนั้นนี่เรื่องยาวเลยนะ ไม่ไหวๆๆๆ

"เดี๋ยวพี่ไปรับ เรียนตึกไหนก็ไลน์มาบอกละกัน" หลังแปรงฟันล้างหน้าเสร็จผมก็เดินออกมาหยิบเสื้อยืดสีดำไม่มีลายออกมาใส่ กางเกงก็ใส่กางเกงนอนตัวเดิมนี่แหละไม่ต้องเปลี่ยน แค่ขับไปส่งไม่ได้ลงไปไหนสักหน่อย แต่ถึงต้องออกจากรถชุดนี้ก็พอไปวัดไปวาได้ คนหน้าตาดีใส่อะไรก็ดูดีป่าววะ หราาาาาา!!!

"ครับ"
.
.
.
.

5 โมงเย็น

ฝนยังไม่หยุดตกตั้งแต่เมื่อเช้า แล้วตอนนี้น้ำในซอยเริ่มท่วมแล้วครับ จากที่คุยกันไว้เมื่อเช้าว่าจะพาคนตัวเล็กไปกินราดหน้าทะเลร้านดังหลังมหาวิทยาลัยเลยต้องยกเลิกไปเพราะคงเดินฝ่าน้ำขังไปไม่ไหว ทั้งสกปรก ทั้งเชื้อโรค ดูไม่ค่อยมีสุขอนามัยเท่าไหร่ขอผ่านครับ เมื่อแผนดินเนอร์ร้านด้านนอกต้องตกไป ผมเลยคิดว่าจะกลับไปทำอะไรทานที่ห้องกัน

"รอนานมั้ยครับ" เมื่อเห็นคนตัวเล็กเดินลงมาจากบันไดเโดยมีสองแฝดขนาบข้างซ้ายขวา ผมก็รีบเปิดประตูลงจากรถ กางร่ม แล้วสาวเท้าไปหาอีกคนทันที อีกฝ่ายเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นผมเดินกางร่มเข้าไปใต้อาคารเรียน

"ไม่นาน เพิ่งมาได้ไม่ถึงสิบนาที" ผมเอ่ยตอบก่อนจะยื่นมือไปหยิบกระเป๋าที่คนตัวเล็กสัพายไว้มาถือให้

"ลมอะไรหอบมาวะพี่ ตึกแพทย์อยู่อีกฝั่งไม่ใช่รึไง" ขุนพลที่ก้มเก็บสมุดเข้ากระเป๋าเอ่ยเสียงดังก่อนจะเดินมาตบไหล่ผมสองสามที ไอ้นี่มันปีนเกลียวครับ ไม่รู้มันเคยรู้รึเปล่าว่าผมอะเป็นรุ่นพี่มันสองปี ยิ่งตอนนี้ถูกไอ้ธันฉีดยาไป ความกวนตีนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

"ลมคิดถึงเมีย พอใจมั้ยกับคำตอบ" ผมหันไปมองหน้ามันก่อนจะเอ่ยตอบไป โอเค มึงอยากได้ยินแบบนี้กูก็จัดให้

"พี่แฟง!" อู้ยยย เมียไม่ปลื้มกับคำตอบครับ ทำตาเขียวปั้ด ส่วนไอ้คนถามก็ทำหน้ากวนตีน กลอกตาไปมา

"อ้าว ก็มันอยากได้ยินแบบนั้น ก็สงเคราะห์มันเฉยๆ" ก่อนที่อีกคนจะไม่ปลื้มกับผมไปมากกว่านี้ ผมรีบยื่นมือไปจับแก้มอีกคนเบาๆ จับแก้มทีไรหายงอนทุกที เชื่อเหอะทำบ่อย

"แม่งเอาวะ หลงขั้นไหนวะเนี่ย ถ่อจากตึกแพทย์ฝั่งหลังมหาลัยมาถึงด้านหน้ามหาวิทยาลัยแบบนี้" มหาลัยเราค่อนข้างใหญ่ครับ คณะผมกับคณะคุนคุนนี่อยู่คนละทิศคนละทางเลย ถ้านับเป็นระยะทางก็เกือบๆ ห้ากิโลเห็นจะได้คิดดูละกันว่ารักหลฃเมียแค่ไหน ผมไม่เคยคิดอยากมาแถวนี้หรอก เพราะมันไกล แล้วคอนโดผมก็อยู่แถวคณะผมด้วย ถ้าไม่ติดว่าเมียเรียนที่นี่อย่าหวังเลยว่าจะมา

"ขั้นไหนก็เรื่องของกู ว่าแต่มึงเถอะ ไปทำอีท่าไหนให้เพื่อนกูหลงมึงได้ขนาดนี้"

"พูดบ้าอะไรของพี่วะ ไปดีกว่า หิวข้าว ทัพ กลับกัน กูหิว เร็วๆ" เนี่ยพอมันสู้ไม่ได้ก็หนีตลอด แซวกูจัง พอกูแซวกลับละหน้าซีดเป็นไก่ต้ม โถ่เอ้ย ไอ้ขุนคนไม่จริง!

"อะไรวะ ทำไมรีบกลับไหนบอกจะไปเล่นบาสก่อน" กองทัพที่ยืนคุยกับใครสักคนอยู่ตรงบันไดเดินมา ก่อนจะเอ่ยปากโวยวายใส่ฝาแฝดที่ตอนนี้ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ มันเขินแหละดูออก

"ไม่เล่นแล้ว หิวเว้ย ไปๆ คุนไปแล้วนะ เจอกันพรุ่งนี้ ไปแล้วไอ้พี่" ไอ้ขุนที่หน้างอนเป็นตูดหมึกหันหลังให้พวกเราก่อนจะยกมือขึ้นมาโบกลาก เชี่ยยย ตัวใหญ่อย่างกับหมีควายทำหน้างอนเป็นน้อนไปได้ มันเข้ากันมั้ยวะ

"เค เจอกันนะขุน บายทัพ"

"เออ"

"เออ เจอกันเว้ย"

สองแฝดรีบวิ่งตากฝนไปลานจอดรถที่อยู่ข้างอาคารเรียน ตอนนี้ฝนไม่ได้ตกหนักมาก แค่ยังตกปรอยๆให้คนเดินตากฝนเป็นหวัดเล่นเฉยๆ ผมมองตามแผ่นหลังสองคนนั้นไปก็นึกขำในใจ

"ชอบไปแกล้งขุน" คนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างกันเอื้อมมือมาหยิกแขนผมเบาๆ

"โอ้ย ก็มันปากดี" ผมจับมือคุนคุนไว้ก่อนจะกางร่มที่ถือไว้ออก ไม่รอช้าจูงมืออีกคนออกมาจากอาคารมุ่งหน้าไปที่รถที่จอดอยู่ห่างออกไปไม่ไกลมากทันที

"วันนี้คงไปกินราดหน้าทะเลไม่ได้แล้วใช่มั้ยครับ" อีกฝ่ายถามขึ้นทันทีผมเอนตัวไปคาดเข็มขัดนิรภัยภัยให้

"ใช่ น้ำท่วมในซอย"

"งั้นเราไดเอ็ตกันดีมั้ยครับ"

"ไม่ต้องเลย อาทิตย์หน้าป๊ากับม๊าก็จะมาแล้ว เดี๋ยวก็หาว่าพี่ดูแลลูกเค้าไม่ดีหรอก ห้ามเลยนะไอ้ความคิดจะไดเอ็ดเนี่ย" ใช่ครับ ป๊ากับม๊าคุนจะมาเยี่ยม ท่านรู้เรื่องที่คุณถูกยิงแล้วเมื่ออาทิตย์ก่อน ผมก็โดนม๊าคุณดุไปยกใหญ่ ส่วนป๊าไม่ได้พูดอะไรตอบเพียงว่าอาทิตย์หน้าจะมาจัดการด้วยตัวเอง นั่นแหละครับ ช่วงนี้เลยต้องขุนคนตัวเล็กหน่อยเดี๋ยวพ่อแม่น้องห่ว่าผมเลี้ยงลูกเค้าไม่ดี

"ก็พี่แฟงชอบว่าคุนอ้วน"

"ก็พูดเล่นมั้ย" ผมหัวเราะในลำคอให้กับประโยคที่คนน่ารักพูดออกมา ใช่ครับ ผมชอบแกล้งพูดว่าคุนคุนนะอ้วนบ่อยๆ ทั้งที่เจ้าตัวนะห่างไกลคำว่าอ้วนหลายขุม

"พี่แฟงชอบว่าแก้มคุนย้อย" นั่นไง มาอีกดอก ทำหน้างอนใส่อีก

"มันไม่ได้ย้อย มันแค่เยอะ" จนผมต้องเอื้อมมือไปหยิกแก้มย้อยๆนั้นอย่างหมั่นเขี้ยว

"แล้วก็ชอบว่าพุงคุนใหญ่"

"ใหญที่ไหนแค่นุ่มนิ่ม" ใช่ครับ มันไม่ใหญ่เลย จับทีไรก็นิ่มติดมือตลอด คนอะไรไร้ซึ่งกล้ามเนื้อ ยังกะผู้หญิงตัวเล็กๆ

"แต่พูดแบบนั้นทุกวันเลยยะครับ สรุปคือคุนอ้วนหรือไม่อ้วนกันแน่" อ้าว ไหงพูดเองงอนเองวะ

"แค่บ่นเล่นเฉยๆน่า ไม่อ้วนหรอก นุ่มนิ่มน่ารัก นี่ๆ ทำอะไรกินกันมั้ย วันนี้เหนื่อยรึเปล่า ถ้าเหนื่อยเดี๋ยวพี่ทำเอง" ผมตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องทันทีเลยครับ เพราะถ้าขืนยังอยู่ประเด็นเดิมมีหวังได้ทะเลาะกันตลอดทางแน่

"ไม่ๆ ไม่เหนื่อย แต่ช่วงนี้คิดเมนูไม่ออกเลยครับ" นั่นไงเห็นมั้ย เปลี่ยนเรื่องปุ๊บ ยิ้มปั๊บ เหมือนกดสวิตช์เปลี่ยนช่อง พอช่องเก่าเริ่มดราม่าเราต้องกดเปลี่ยนไปช่องอื่นทันทีเลยครับ เดี๋ยวน้ำตานองหน้าาาา

"งั้นเดี๋ยวพี่ทำเอง" จริงๆผมตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าจะทำอาหารเองสำหรับมื้อค่ำ ก็อุตส่าห์เปลี่ยนเวรได้ทั้งที ของทำหน้าที่แฟนที่ดีสักวันหน่อยละกัน

"แล้วคุนหมอไม่ต้องเข้าเวรหรอครับคืนนี้" คุณเคยรู้สึกมั้ยว่าคำเดียวกัน พอคนอื่นพูดมันโคตรจะธรรมดา แต่พอเป็นคนที่คุณรักพูดเนี่ยแม่งโคตรจะพิเศษชิบหายวายป่วง คนเรียกผมว่าหมอทั้งโรงพยาบาลผมไม่รู้สึกว่ามันพิเศษตรงไหน แต่พอคุนคุนพูดเนี่ย แม่ง ฟังแล้วเหมือนตัวลอยเฉยเลย อย่างงี้ก็ได้หรอวะหมอแฟงงงฝฝ

"ไม่ๆ แลกเวรกับเพื่อนนะ เข้าอีกทีพรุ่งนี้เช้า"

"จริงหรอครับ!" ดูสิครับ เด็กน้อยของผมดีใจจนออกนอกหน้า โผลเข้ามากอดผมเต็มแรง ดีนะที่รถจอดติดอยู่ในซอย ไม่งั้นคงได้หักพวงมาลัยชนเสาไฟห้าตายห่ากันทั้งคู่ไปแล้ว เมียกูก็พุ่งมาเต็มความแรงไม่มียั้งไว้เล้ยยย

"เฮ้ย ต้องตกใจอะไรเบอร์นั้น"

"ก็ดีใจได้อยู่กับพี่แฟงนี่นา นึกว่าต้องนอนคนเดียวซะแล้ว" ดูทำท่าเข้า ยิ้มจนแก้มจะปริ ลักยิ้มตรงแก้มขึ้นชัดแจ๋วมองจากดาวพลูโตยังเห็นเลยให้ตายเหอะ น่ารักชิบหาย โอ้ยยย กูหลงเมีย!


สรุปเย็นนี้ผมกับคุนทำอาหารกันคนละอย่างครับ ผมทำสเต็กปลาแซลมอน ส่วนคุนทำสลัดเต้าหู้ซอสญี่ปุ่น ทานอาหารกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ช่วยกันล้างช่วยกันเก็บ แล้วก็มานอนเล่นกันต่อที่หน้าทีวีเหมือนเคย

"คุน เบื่อมั้ย" ผมเอ่ยถามขึ้นก่อนจะดึงคนตัวเล็กลงมานอนหนุนตักบนโซฟา หลังจากที่อีกคนเลือกหนังสำหรับดูคืนนี้ได้แล้ว คืนนี้คุนเลือกหนังเกาหลีครับ ผมไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ดูจากชื่อเรื่องแล้วคงจะเป็นหนังรักไม่ก็หนังเศร้าเทือกนั้น เอาจริงนะ ตั้งแต่เกิดมานี่ยังไม่เคยดูหนังรักมาก่อนเลยด้วยซ้ำ และก็ไม่คิดอยากดูด้วย แต่ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ห้องไอ้ตัวเล็กนี่คือดูบ่อยมากเพราะอีกคนชอบดู ดูไปยิ้มไป ร้องไห้ไป เหมือนเป็นไบโพล่าร์ จนตอนนี้ผมกลายเป็นคนเสพติดหนังรักไปแล้ว

"เบื่ออะไรอะ" คนบนตักช้อยตาขึ้นมามองผมตาปริบๆ ทำหน้างงๆ คล้ายไม่เข้าใจว่าผมถามอะไร

"ก็มีแฟนเป็นว่าที่หมอ ไม่ค่อยมีเวลาไง ไหนจะเรียนหนัก ไหนจะต้องเข้าเวรอีก" ที่ถามเพราะเห็นเพื่อนๆในรุ่นหลายคนมาบ่นกันว่าเลิกกับแฟนเพราะแฟนบ่นว่าไม่มีเวลาให้ ทั้งๆที่บางคู่คบกันมาตั้งแต่สมัยม.ปลายด้วยซ้ำ

"ไม่เบื่อนะครับ"

"พอขึ้นปีห้า ปีหก พี่จะมีเวลาน้อยกว่านี้อีกนะรู้มั้ย"

"เพิ่งรู้ตอนที่พี่บอกนี่ละครับ" อีกฝ่ายทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะตอบออกมา คำตอบก็สมเป็นคุนคุนของผมจริงๆ

"แล้วก็อาจจะไม่ได้กลับห้องบ่อยๆ"

"..."

"ไม่ได้กินข้าวด้วยกันด้วย"

"งั้นคุนไปกินข้าวที่โรงพยาบาลกับพี่แฟงก็ได้"

"แล้วก็อาจจะเหนื่อยจนต้องนอนหอพักนักศึกษาแพทย์ในโรงพยาบาล คงขับรถไม่ไหว"

"ถ้าพี่แฟงเหนื่อย คุนขับรถไปรับได้รึเปล่า"

"ถ้าพี่ออกเวรดึกๆละ"

"คุนก็ไปรับไงใกล้แค่นี้เอง"

"แล้วถ้าพี่ต้องนอนในหอพัก คุณนอนคนเดียวได้มั้ย"

"คุนแอบย่องไปในหอพักพี่ได้รึเปล่า"

"หึๆๆๆ ไม่รู้เหมือนกัน" ชอบคำตอบที่ตอบออกมาเป็นประโยคคำถามจริงๆเลย

"ต่อไปเราอาจจะไม่มีเวลามาทานข้าวกันข้างนอกแบบนี้บ่อยๆแล้ว" อันนี้คือความจริงครับ พอขึ้นปีสูงๆ ทุกคนต้องใช้ชีวิตในโรงพยาบาลเกือบ 24 ชั่วโมงด้วยซ้ำ ไม่มีเวลาออกมาดูเดือนดูตะวันข้างนอกหรอก อีกฝ่ายเงียบไป ส่วนผมก็ไม่ได้พูดอะไร แม้สายตาจะจ้องหน้าจอทีวี 65" แต่สมองคิดเรื่องที่พูดอยู่วนไปมา จนเสียงหวานที่คุ้นเคยดึงผมออกจากห้วงความคิด

"พี่แฟงครับ"

"หือ ว่าไง"

"ที่พี่แฟงพูดมาทั้งหมดหมายความว่ายังไงหรอครับ พี่แฟงอยากบอกอะไรคุน"

"ไม่มีอะไร แค่บอกไว้ว่าต่อไปคุนจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ถ้ารับไม่ไหว แล้วคุนอยากจะไปตอนนี้ พี่...ก็คงไม่ว่า" ผมพูดออกไปตามที่ใจคิด เข้าใจว่าความสัมพันธ์ของเราสองคนนั้นมันเกิดขึ้นไม่นาน แล้วผมก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในอนาคต แต่ที่พูดออกไปทั้งหมดก่อนหน้านั้นไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเลย แค่อยากให้อีกฝ่ายรับรู้ไว้ว่าอีกหน่อยจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ถ้าเขาไม่โอเคกับอนาคตแบบนั้น ผมก็ไม่ควรรั้งเค้าไว้ใช่รึเปล่า อย่างน้อยคุนก็ควรมีสิทธิ์ได้เลือก ไม่ใช่ให้ผมปล่อยเลยตามเลยไปจนมันไปถึงทางตันเหมือนคู่ของเพื่อนผมคนอื่นๆ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นมันคงจะไม่ดีกับอีกฝ่ายแน่ๆ

"พี่แฟงพูดแบบนี้ทำไมครับ อยากให้เราเลิกกันหรอ"
.
.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm

อ้าววววๆๆๆ ไหงจบเศร้าแบบนี้ละ อย่าเพิ่งดักตีหัวไรท์นะทุกคน มันต้องมีบ้างอารมณ์แบบนี้อะ จะรักกันตลอดไม่ได้!!

หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 40| 10.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 10-06-2020 22:18:53
มีตบนะบอกเลยคุณๆงอลเลยลูก
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 40| 10.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 11-06-2020 07:18:01
 :mew6:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 40| 10.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 11-06-2020 16:57:17
วันนี้งดอัพหนึ่งวันนะคะ :)
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 40| 10.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 11-06-2020 21:16:35
 :3123:
 o13
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 40| 10.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: mylittleY ที่ 14-06-2020 22:10:07
 :mew1: :mew2:

รออยู่นะคะ
รีบมาต่อน้าาาา
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 40| 10.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 15-06-2020 06:17:36
“ อัพทุกวันคะ “

หรือ “ อัพทุกวันนะคะ “

หรือ “ อัพทุกวันค่ะ “
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 41| 16.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 16-06-2020 20:21:36
---ตอนที่ 41---

แฟง's part

ปัง!

ประตูห้องนอนถูกกระแทกเข้ากับกรอบประตูเสียงดังจากอารมณ์ของคนตัวเล็กที่ไม่พูดพร่ำทำเพลง ลุกออกจากโซฟาเดินดุ่มๆเข้าห้องไม่หันกลับมามองผมอีกเลย

โอเค

โกรธชัวร์!

ตั้งแต่รู้จักกันมา ไม่เคยมีครั้งไหนที่อีกคนจะปิดประตูใส่หน้าผมเหมือนกับครั้งนี้มาก่อน ถ้าจะพูดให้ถูกต้องบอกว่าไม่เคยทะเลาะกันเลยจะดีกว่า อย่างมากก็แค่งอนกันไม่ถึงสิบนาที ไม่ผมแกล้งคุน คุนก็แกล้งผม แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ ฟังจากเสียงกระแทกประตูห้องนอนก็พอเดาสถานการณ์ออกแล้ว

มึงนี่ปากไม่ดีจริงๆเลยนะไอ้แฟง! ต้องโกรธเบอร์ไหนวะถึงได้ล๊อคห้องนอนแล้วไม่ออกมาจากในนั้นอีกเลย

โอ้ยยยยย!

คงจะโกรธจริงจัง เพราะดูจากสายตาอีกคนก่อนลุกออกจากโซฟาก็รู้ ผมไม่เคยเห็นสายตาแบบนั้นของอีกคนมาก่อน มันไม่ได้มีแค่ความโกรธอย่างเดียว มันทั้งผิดหวัง ทั้งเศร้าปนอยู่ในนั้น นี่ผมทำอะไรไปวะเนี่ย

ตั้งแต่ประตูบานนั้นปิดลงผมเดินไปเคาะประตูห้องนอนเกือบสามสิบรอบเห็นจะได้ แต่อีกคนก็ไม่เปิดประตูออกมาเลยสักครั้ง พอโกรธแล้วใจแข็งชิบหายเลยเมียกู!

"คุน พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น"

"คุนคุน"

"คุนครับ เปิดประตูให้พี่หน่อย"

"ที่รัก"

"น้องคุน"

"พี่รู้ว่าพี่มันแย่พูดจาอะไรไม่เข้าท่า พี่ให้คุนตีพี่เลย มาเร็วออกมาตี"

"คุน อย่าโกรธพี่แบบนี้ พี่ไม่อยากนอนข้างนอกคนเดียว นะ คุนคุน"


โอเค

เมียโคตรโกรธ

พูดเลย.....

ถ้าขอพรจากฟ้าได้ตอนนี้ผมขอย้อนเวลาไปเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วได้มั้ยครับ ถ้าย้อนไปได้ผมจะไม่พูดประโยคบ้าๆนั้นออกมาเลย ไอ้ประโยคบ้าๆนั้นที่ทำคนที่ผมรักเสียใจแบบนี้

ผมยืนเคาะประตูห้องนอนอยู่เกือบสองชั่วโมง แต่คนด้านในก็ไม่ยอมเปิดมันออกมา ร้อยคำขอโทษที่ถูกเอื้อนเอ่ยออกไป ร้อยคำอ้อนวอนที่ถูกสรรหามา สารพัดวิธีสำนึกผิดที่ได้จากเพื่อนเลิฟอย่างนาที กับเพื่อนห่างเหินอย่างธันวาล้วนถูกนำมาใช้หลายต่อหลายวิธีแต่ดูเหมือนไอ้เด็กตัวนุ่มนิ่มที่อยู่อีกฝั่งของประตูจะไม่ยอมอ่อนข้อให้กับวิธีไหนเลยสักนิด

ผมนั่งลงเอาหลังพิงประตูห้องนอนอยู่นานเพราะยืนเคาะประตูอยู่เกือบสองชั่วโมงนั้นเล่นเอาขาแทบทรุด

ไลน์~~

Minute: ไง ง้อเมียสำเร็จรึเปล่า
fAnG: ห่างไกลคำว่าสำเร็จหลายขุม ไอ้เหี้ย ใจแข็งชิบหาย
Minute: กูขอร้องสมน้ำหน้าดังๆหน่อยเหอะ มึงใช้สมองหรือส้นตีนคิดวะ พูดอะไรแบบนั้นออกไปได้ไง
fAnG: เออกูโง่เองแหละ สงสัยทุกวันนี้ใช้ส้นตีนนำทางชีวิตอยู่ ซ้ำเติมเหลือเกิน นี่เพื่อนนะนาที
Minute: เลิกเป็นเพื่อนกันคนโง่วะ ส่วนน้องแม่งก็ใจแข็งชิบหาย เห็นอะไรๆก็คร้าบบบๆๆตลอด โกรธทีนี่เอาเรื่องนะแฟงนะ
fAnG: เออใจแข็งยิ่งกว่าเพชรอีกมึง นี่ขนาดกูบอกว่าจะเอาอันอันไปปล่อย คุนมันยังไม่ออกมาจากห้องเลยคิดดู
Minute: เชี่ยย คดีแรกยังไม่หลุด ก่อคดีสองอีกหรอมึง
fAnG: ก็ล้อเล่นเฉยๆ เผื่อฟลุ๊ค คิดว่ากูทำจริงไรงี้
Minute: เล่นเป็นเด็กเลยนะมึง เปลี่ยนไปเยอะรู้ตัวมั้ย
fAnG: ?
Minute: มึงเคยสนใจใครที่ไหน คนก่อนๆของมึงกูก็ไม่เห็นมึงเคยไปง้อเค้า อยากไปไหนก็ไป อยากโกรธก็โกรธ โนสนโนแคร์ ขนาดมาร้องไห้หน้าคณะมึงยังไม่ลงมาดูเลย
fAnG: อืมจริง คนนี้กูรักมากมั้ง
Minute: หมดกันพ่อนักตกมือทอง แคร์เค้าขนาดนั้นแล้วบอกให้เค้าไปทำไม ไอ้ควาย ขอด่าอีกสักรอบ คันปาก
fAnG: ไม่ได้อยากให้ไป ก็แค่ถามเฉยๆ
Minute: มึงจะเอาเรื่องของไอ้จูกับฟาร์มาอ้างอิงไม่ได้ ความสัมพันธ์ใครความสัมพันธ์มัน
fAnG: เดี๋ยวก็กูไม่มีเวลา มึงก็รู้
Minute: กูรู้ แต่ไม่ใช่ทุกคู่จะเลิกกันด้วยเหตุผลนี้ป่าววะ บางคนมีเวลาให้กันก็ยังเลิกกันเลย เหตุผลในการเลิกกันมีเป็นหมื่นอย่าง
fAnG: กูก็ไม่ได้อยากเลิก แค่บอกคุนมันไปเฉยๆว่าต่อไปมันจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ถ้ามันไม่โอเค กูก็ไม่อยากรั้งไว้ น้องมันยังเด็ก
Minute: ถ้าคิดแบบนั้น แล้วเข้าหาเค้าแต่แรกทำไม
.
.
.
Minute: อ้าว เงียบ ไอ้สัส หลับหรือจุกกับคำถามกู?
fAnG: อย่างหลังวะ
Minute: โตแล้ว ทำอะไรรับผิดชอบด้วย ทั้งความรู้สึกตัวเอง และความรู้สึกคนอื่น ถ้าอยากปล่อยไปก็ทำให้ได้ตามนั้น แต่ถ้าไม่อยากปล่อยมือเค้า ก็จับไว้ให้แน่น จำไว้ คุนคุน มีคนเดียวในโลก เหมือนกับที่กมายเวย์ก็มีคนเดียวใรโลกเหมือนกัน มึงอยู่กับกูตอนที่กูอ่อนแอที่สุด มึงเป็นคนพูดประโยคนี้เองจำได้รึเปล่า
fAnG: พึ่งจะจำได้ ขอบใจมาก
Minute: อือ รีบตาสว่างสักที ไม่อยากมีเพื่อนโง่วะ เอาจริงๆ
.
.
.
.
.

แกร๊ก!

ผมตัดสินใจหยิบกุญแจห้องนอนที่วางอยู่ในลิ้นชักหน้าห้องออกมาไขประตูห้องเข้าไป ใจจริงไม่อยากทำแบบนี้ แต่ไม่อยากให้เรื่องมันคาราคาซังไปถึงวันพรุ่งนี้

กึก!

"คุน มานั่งตรงประตูทำไม" ผมเอ่ยขึ้นเมื่อประตูที่ผลักเข้าไปนั้นมันไปชนกันคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ที่พื้น คุนคงจะนั่งพิงประตูเหมือนที่ผมทำอยู่เมื่อครู่ โชคดีที่ผมไม่ไดเผลักประตูเข้าไปแรง ไม่งั้นอีกฝ่ายคงได้กระเด็นไปอยู่ปลายเตียงแล้วแน่ๆ

"ขอพี่เข้าไปหน่อยนะครับ" ผมเอ่ยขึ้นเมื่ออีกฝ่ายไม่มีท่าทีจะขยับออกจากประตูทำให้ไม่สามารถเปิดประตูเข้าไปได้ ทำได้เพียงแค่แง้มให้มันเปิดออกได้เพียงเล็กน้อย

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคงจะไม่ขยับตามที่ร้องขอผมจึงนั่งลงที่พื้นเอาหบังพิงประตูบานเดียวกันอยู่แบบนั้นสักพัก เสียงสะอื้นจากด้านในห้องดังออกมาเป็นระยะๆกระทบประสาทการรับฟังอยู่หลายนาที อยากจะเข้าไปกอดแต่ก็ทพไม่ได้ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมขยับตัวออกจากประตู ผมเองก็ไม่อยากจะผลักมะนเข้าไปให้อีกฝ่ายเจ็บตัว สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือนั่งฟังเสียงสะอื้นที่ลอดผ่านประตูห้องนอนที่มือสนิทออกมาเพียงเท่านั้น

เชี่ย คุนร้องไห้ แต่ทำไมใจผมมันเจ็บวะ

"คุน ไม่ร้องได้มั้ย ถ้าโกรธก็ออกมาตีพี่แทนเถอะ ร้องแบบนี้พี่เจ็บจนจะตายแล้วนะ" นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้รับรู้ถึงความรู้สึกเจ็บในหน้าอกเมื่อได้ยินเสียงใครบางคนร้องไห้

ฮือๆๆๆ

"พี่ขอโทษ" อีกฝ่ายหยุดเสียงสะอื้นไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้เอ่ยตอบอะไรกลับมา ผมจึงตัดสินใจพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาทั้งหมด อย่างน้อยก็ให้อีกฝ่ายได้รับรู้ว่าผมคิดอะไร ถ้าเขาเลือกจะไปจริงๆ ก็อยากให้เขารู้เหตุผลของการเริ่มต้นเรื่องนี้

"พี่ไม่ได้อยากให้คุนไปไหน ไม่ได้อยากเลิก ไอ้ความคิดเห็นแบบนั้นไม่เคยอยู่ในหัวเลยด้วยซ้ำ ที่ถามออกไปคือพี่ไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวไงคุนเข้าใจพี่มั้ย เป็นแฟนพี่ต่อไปคุนอาจจะต้องเหนื่อยกับการรอพี่มากินข้าวด้วย รอพี่กลับบ้าน อาทิตย์หนึ่งอาจจะเจอกันไม่ถึงสองครั้งด้วยซ้ำ ต่อไปพี่คงไม่มีเวลามาดูแลเอาใจใส่คุนเหมือนตอนนี้ พี่แค่อยากให้โอกาสคุนได้ลองคิดทบทวนดู ถ้าคุนไม่โอเคกับอนาคตแบบนี้ พี่ก็ไม่อยากรั้งคุนไว้ อยากให้คุณได้มีโอกาสไปเจอคนดีๆ พี่แค่..." ผมหยุดประโยคไว้แค่นั้นเมื่อรู้สึกถึงแขนเล็กที่เอื้อมมาโอบรอบคอผมไว้ พร้อมกับกลิ่นหอมที่คุนเคยที่ซบลงบนบ่าผม

"คุนไม่เลิก ฮือๆๆๆ ไม่เอา ไม่เลิก ฮือๆๆ"

คนตัวเล็กร้องไห้สะอื้นส่งเสียงสั่นเครือเบาๆออกมา จนผมต้องดึงเจ้าตัวมานั่งคุกเข่าที่ด้านหน้าผม แล้วสอดแขนหนาของตัวเองโอบรอบเอวของของอีกคนไว้แทน

"พี่แฟง จะ ใจร้าย ฮือๆๆ" เสียงหวานตัดพ้อผมแถมยังเอากำปั้นทุบลงไปบนแผ่นอกกว้างของผมอย่างแรงอีกหลายที โอเค มันเจ็บ แต่คงไม่เจ็บเท่าใจของอีกคนที่ผมได้ทำลายไปในตอนนี้

"ไม่ได้ใจร้าย"

"อย่าร้องนะ หยุดร้องก่อน เนี่ยตาบวมหมดแล้ว หมดหล่อแล้วเนี่ย" คนที่ห่วงหล่ออย่าคุนคุนพอได้ยินคำนี้ก็รีบยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากแก้มทันที ผมมองการกระทำนั้นอย่างเอ็นดู

"พี่ไม่ได้ใจร้าย"

"ฮือๆ ใจร้ายมาก"

"โอ๋ๆๆ ไม่ร้องแล้วนะ" คนตัวเล็กเอื้อมมือมาโอบรอบคอผมไว้ทั้งที่น้ำใสๆยังไหลออกมาจากหางตาไม่หยุด ตาบวมแดง จมูกที่มักจะรั้นๆตอนเถียงผมเรื่องขอกินขนมก่อนนอนแดงเถือกเหมือนโดนน้ำร้อนลวก ส่วนปากเป็นกระจับจิ้มลิ้มนั้นก็บวมแดงเถือกอย่างเห็นได้ชัด ผมเอื้อมนิ้วมือไปปาดน้ำตาออกจากพวงแก้มยุ้ยทั้งสองข้างก่อนเลื่อนจมูกโด่งเป็นสันของตัวเองเข้าไปจรดลงบนหน้าผากขาวสองสามที สูดกลิ่นคุ้นเคยจากหน้าผากหอมที่ผมยอมรับว่าขาดกลิ่นนี้ไม่ได้เลยแม้แต่วันเดียว

"พี่ขอโทษ ....ที่ทำให้ร้องไห้"

ผมดึงคนตัวเล็กเข้ามาซบบนบ่าก่อนตบหลังอีกคนที่เริ่มสะอื้นอีกครั้งเบาๆ เราไม่ได้พูดอะไรกันอีก อีกคนกอดเอวผมแน่นรวมกับกลัวว่าผมจะหายไป ผมเองก็เช่นกัน การมีตัวตนของอีกคนมันเติมเต็มชีวิตธรรมดาๆของผมมาหลายเดือนแล้ว คิดไม่ออกเลยว่าถ้าขาดอีกคนไป ชีวิตของผมจะเป็นยังไง

"พี่แฟง"

"ครับน้องคุน"

"อย่าพูดเพราะเกินคุนไม่ชิน"

"เดี๋ยวก็ชิน อยากพูดเพราะกับเมีย"

"อย่าพูดเมีย ห้าม!"

"เคๆ ไม่เมียก็ไม่เมีย" ผมหัวเราะในลำคอ เมื่ออีกฝ่ายเหวใส่เวลาที่ผมเรียกแทนสถานะว่าเมีย คุนไม่ค่อยชอบคำนี้เท่าไหร่ ยอกว่าถ้าคนได้ยินเดี๋ยวจะเสียลุคคนแมนๆได้ ไม่รู้ไปเอาความคิดคนแมนๆแยยนั้นมาจากไหน มองยังไงก็ไม่เคยเห็นอะไอ้ความหล่อที่อีกคนน้ำนักย้ำหนาว่ามี ตีลังกามองกลับมามีแต่ความน่ารักเท่านั้นที่ปรากฏบนใบหน้าจิ้มลิ้มนี้

"คุนไม่เลิก"

"รู้แล้ว พี่ก็ไม่เลิก ไม่มีวันเลิก คุนเลือกแล้วนะ ต่อไปพี่จะขังคุนไว้เลย ต่อให้ขอร้องอ้อนวอนจะไปพี่ก็ไม่มีทางให้ไป ต้องอยู่กับพี่ไปตลอดชีวิตเลย"

"โหด"

"อือ ยอมรับ"

"..."

"อดทนหน่อยนะ อีกสามปีเอง เรียนจบแล้วพี่ก็มีเวลาให้คุนแล้ว"

"นาน คุนไม่มีความอดทนขนาดหรอก"

"อ้าว"

"พี่แฟงไม่มีเวลา แต่คุนมีเวลาเหลือเฟือ"

"ยังไง"

"ก็ถ้าพี่แฟงไม่มีเวลามาหาคุน คุณก็จะไปหาพี่แฟงเอง ไปกินข้าวกับพี่แฟง ไปรับพี่แฟง ไปส่งพี่แฟง จะอดทนไม่ต้องเจอหน้ากันทำไมจริงมั้ยครับ คุนไปเฝ้าพี่แฟงที่โรงพยาบาลก็ยังได้ สบ๊ายยย"

"..."

"อ้าว เงียบทำไมครับ ไม่ดีหรอแบบนี้"

"คุน" คนตัวเล็กเงียบไปเพราะผมนิ่งกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินไป ผมดันอีกคนที่แนบอยู่กับอกผมออก เราสองคนมองตากัน มันทำให้ผมรู้ว่าสิ่งที่อีกคนพูดนั้นมันหมายความตามนั้นจริงๆ ทั้งแววตาทั้งท่าทางที่แสดงออกมันทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายจะทำแบบที่พูดได้แน่ๆ แม้น้ำเสียงจะติดขี้เล่นตามฉบับไอ้แก้มยุ้ย

"..."

"ขอบคุณนะ พี่โคตรรักคุนเลยรู้ตัวมั้ย"

"ไม่เชื่อ"

"เชื่อเถอะ"

"ถ้ารักแล้วทำคุนร้องไห้ทำไม"

"ขอโทษครั้งที่ล้าน ขอโทษจริงๆ ได้ยินเสียงคุนร้องไห้พี่ก็เจ็บในใจไม่แพ้กันเชื่อเถอะนะคนดีของพี่ คุนไม่พูดกับพี่เมื่อสองชั่วโมงที่แล้วพี่เหมือนใจจะขาดเลยวะ เนี่ยจับดูหัวใจเต้นช้ามากเลย จะตายแล้ว" ผมกุมมือเล็กขึ้นมาวางทาบอก

"อือ"

"รักจนไม่รู้จะรักยังไงแล้ว"

"รักเหมือนกัน แล้วถ้าคุนไปจริงๆ พี่จะทำไง"

"คงนอนเฉาตายในห้องนี่แหละ รอให้นิรันดร์มาเก็บศพ"

"อยากเห็นคนเฉาตายจัง อิอิ"

"ร้ายนักนะตัวแค่นี้ หัวเราะเหมือนนางมารในหนังจีนไปได้" ผมเอื้อมมือไปบิดแก้มยุ้ยๆที่แดงเถือกและเปรอะไปด้วยคราบน้ำตาของคนตัวเล็กเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว

ไม่เคยคิดมาก่อนว่าผู้ชายดิบๆเถื่อนๆอย่างนายลภัสคนนี้จะมาตกม้าตายให้กับเด็กนุ่มนิ่มแก้มย้วยคนนี้จนกู่ไม่กลับแบบนี้ แค่เห็นอีกคนเสียใจกับสิ่งที่ผมเอ่ยออกไป แค่ได้ยินเสียงร้องไห้ของอีกฝ่าย ใจผมก็เหมือนแตกสลาย แต่พออีกฝ่ายยิ้มน้อยๆแล้วก็หัวเราะเบาๆออกมาเท่านั้นแหละ เล่นเอาใจผมพองโตตามไปด้วยเลยทีเดียว เชื่อเหอะนี่แหละสาเหตุของการเป็นไบโพล่าร์ดีๆนี่เอง

ผมไม่เคยคิดเลยว่าคนที่อายุน้อยกว่าผมถึงสามปีจะมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่กว่าผมได้ขนาดนี้ ผมรู้ว่าเขาจะต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหนในอีกหลายปีข้างหน้า แต่ผมเชื่อว่าเราจะผ่านมันไปได้ด้วยกัน เพราะแค่มีเขาอยู่ข้างๆ ผมก็สามารถทำอะไรทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้ทั้งนั้นแหละบอกไว้ตรงนี้เลย แค่ตื่นมาได้เห็นรอยยิ้มที่สดใสเหมือนพระอาทิตย์แบบนี้ทุกวันมันก็เหมือนเป็นการเติมพลังให้ผมในทุกๆเช้าได้แล้ว
.
.
.
.

"ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิต"

"ขอบคุณที่เลือกอยู่ด้วยกัน"

ผมกระซิบข้างหูคนตัวเล็กที่กำลังสลึมสลือในอ้อมกอดผมบนเตียงกว้างก่อนที่อีกฝ่ายจะผลอยหลับไปหลังจากนั้นไม่กี่นาที


#คุนแฟง

by ppeachmm


Note: อีกไม่กี่ตอนจะจบละนะค่ะ ขอโทษที่หายไปหลายวันเลย พอดีติดธุระด่วนค่ะ กลับมาแล้วเด้อ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 41| 16.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 16-06-2020 21:31:50
 :pig4:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 41| 16.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 17-06-2020 20:07:14
 :hao4:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 41| 16.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าน้อย ที่ 19-06-2020 16:18:04
สนุกไม่อยากให้จบเลย :z3:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 41| 16.06.2020 ❤️❤️ อัพทุกวันค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 21-06-2020 09:11:07
มาต่ออีกนะครับ อย่าพึ่งรีบจบสิ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 42| 22.06.2020 ❤️❤️
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 22-06-2020 08:56:27
---ตอนที่ 42---


"งานวิจัยตัวนี้ อาจารย์ขอให้พรีเซ็นต์อีกสองอาทิตย์นะคะนักศึกษา งั้นวันนี้พอแค่นี้ แยกย้ายได้คะ ส่วนคลาสบรรยายวันจันทร์หน้ารบกวนมาให้ตรงเวลาด้วยนะคะ" อาจารย์หญิงวัยกลางคนที่ถูกเชิญมาเป็นอาจารย์พิเศศกล่าวเสร็จก็เดินออกไปจากห้องบรรยาย ทิ้งนักศึกษาปี 4 คณะแพทย์กว่าห้าสิบคนให้บ่นพึมพำกันเองต่อในห้อง บางครั้งอาจารย์ก็สั่งงานเหมือนเราเป็นซุปเปอร์แมนวะ  คิดว่าพวกเราเหล่านักศึกษาแพทย์มีเวลากันวันละ 30 ชั่วโมงรึไงวะ ราวด์วอร์ดเช้าบ่าย เข้าเวร เข้าเรียน ทำวิจัย เชี่ยยย เวลาหลับนอนกับเวลาแดกข้าวนี่แทบไม่เหลือ โหดร้ายทารุณกรรมกันจริงๆ นี่บางทีก็คิดว่ากูเรียนหมอหรือฝึกรบวะ แม่ง แทบไม่ต่างเลย อีกนิดจะพร้อมออกไปกู้ระเบิดละ

นายลภัส วิสุทธิ์รังสรรค์ หน่วยอรินทราชรุ่นที่ 21! พร้อมรบ! ผ่าม!!!!

"หิว" นาทีบ่นอุบเมื่อเราสองคนเตรียมจะเดินออกมาจากห้องบรรยายบนชั้นสามของโรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัย

"เหมือนกัน" ผมตอบกลับคนที่เอาแขนมาพาดบ่าผมทันที พรางก้มลงเก็บไอแพดกับโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ

"ง่วงด้วย จะแดกข้าวหรือยัดกาแฟดีวะ มีเวลาแค่ยี่สิบนาที เวลาโคตรเป็นเงินเป็นทอง" นาทียกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาก่อนจะเริ่มขมวดคิ้ว เพราะเราสองคนมีเวลาเพียงแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้นก่อนจะต้องไปเข้าเวรที่ห้องฉุกเฉินต่อ คือทุกวันนี้ทำอะไรแทบจะต้องดูเวลาทุกครั้ง เวลาจะทำอะไรก็ดูจะจำกัดไปหมด รู้สึกเหมือนตัวเองมีเวลาไม่เท่ามนุษย์คนอื่นวะ ขนาดกินข้าวยังต้องรีบยัดเลยคิดดู

"เออจริง อยากซื้อเวลาเพิ่มชิบหาย" ผมเห็นด้วยกับสิ่งที่นาทีเพิ่งพูดไป อยากซื้อมาก อยากได้เวลาเพิ่มจริงๆตอนนี้

"เห็นด้วย แล้วแดกไรดีเพื่อนรัก"

"มึงเลือกเอาเหอะ" ผมเอ่ย ก่อนจะตบบ่ามันแล้วเดินลงบันไดไป นาทีไม่รอช้ารีบสาวเท้าเดินตามผมลงบันไดมาทันที

"แล้วมึงอะ กาแฟมั้ย ร้านข้าง รพ. เจ้าประจำ พักนี้มึงไม่ค่อยได้ไปน้องหมวยสุดสวยถามถึงมึงทุกวันจนกูเบื่อจะตอบ"

"ไม่อะ ไม่ไป กาแฟคุนอร่อยกว่าตั้งเยอะ"

"จ้าา พ่อคนมีเมียประเสริฐ ส่งข้าวส่งน้ำเช้าเย็น ขนาดกาแฟยังเอามาส่ง แล้วตอนนี้ยังไงไม่ไปหาไรแดกรึไง ไม่หิว!?"

"หิว แต่ไม่แดกอะไรของโรงบาลทั้งนั้น"

"ไรวะ อ้อออออออ"

"สัส! จะหวีดทำพ่องงง เสียงแหลมยังกะนกแก้ว กูว่ามึงเลิกยุ่งกับเชี่ยธันเหอะ ชักจะเหมือนมันเข้าไปทุกวันละ" ผมบ่นอุบ พักหลังมานี้นาทีมันออกไปเอาท์ติ้งน้ำเมากับธันวาบ่อยเหลือเกิน สนิทกันพอดู แถมยังติดนิสัยหวีดเสียงแหลมมาจากไอ้ธันวาอีกด้วย รำคาญชิบหายบอกเลย ผมหันไปทำหน้าเบื่อหน่ายมันก่อนจะเดินไปหาใครบางคนที่นั่งรอที่เก้าอี้หน้าโรงพยาบาล ไม่ได้หันไปดูว่ามันยืนอยู่ที่เดิมหรือเดินไปหาอะไรกินตามที่มันบอก คือเมียมาไม่สนใครทั้งนั้นแล้วตอนนี้ รีบสาวท้าวก้าวไปหาอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลพร้อมรอยยิ้มประดับบนใบหน้าเหมือนทุกครั้งที่เจอกัน รอยยิ้มเดิมที่เห็นทีไรก็หายเหนื่อยทุกที นี่มันรอยยอมชาร์จพลังชัดๆ อยากจับมายัดใส่กระเป๋าจะได้พกไปไหนมาไหนได้ทุกที่ทุกเวลา ฮะ? อะไรนะ? ทำไม่ได้หรอ?  เคๆเข้าใจ

"พี่แฟง" คุนคุนยิ้มเมื่อเห็นผมเดินมา พร้อมกับยกมือขึ้นโบกไปมาเหมือนกลัวว่าผมจะมองไม่เห็นเจ้าตัว คือบอกตามตรงเลยนะ แม้เขาจะยืนอยู่ท่ามกลางฝูนชนเป็นพันคน ผมก็หาเขาเจอบอกเลย ก็เล่นขาวออร่าซะขนาดนั้น ยืนอยู่ตรงไหนก็วิ้งๆๆๆๆ ตลอดเวลา ไม่ใช่ขาวอย่างเดียวนะ ผิวเนียนด้วยขอบอก จับลูบคลำตรงไหนนี่โคตรลื่นอะ ลื่นจนอยากจับทั้งวันทั้งคืน

"หิว"

"มาๆ มานี่เลยครับ วันนี้คุนมีสเต็กหมูคุโรบูตะ กับน้ำผลไม้มาด้วยครับผม" มือบางคว้าข้อมือผมให้นั่งลงส่งเสียงเจื้อยแจ้วเหมือนทุกครั้ง ก่อนจะจัดแจงกล่องแกะปิ่นโตลายแมวมารีออกเป็นชั้นๆ กลิ่นอาหารหอมโชยออกมาเตะจมูกในทันที ผมมองดูคนด้านหน้าเคลื่อนตัวไปมาจัดแจงของบนโต๊ะหินอ่อนด้านข้างโรงพยาบาลอย่างคล่องแคล่ว ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่โต๊ะนี้กลายเป็นโต๊ะทานอาหารประจำของเราสองคนไปเสียแล้ว

"คิดถึง อยากหอม" ผมเอามือท้าวคางมองคนตัวเล็กจัดแจงอาหารตรงหน้าก่อนจะเอ่ยออกมา ตั้งแต่วันนั้นที่เราทะเลาะกัน คุนก็ทำตามที่พูดไว้ทุกอย่าง มาทานข้าวกับผมที่โรงอาหารของโรงพยาบาลแทบทุกเที่ยง วันไหนมีเรียนบ้านก็จะทำอาหารจากที่คอนโดมาส่งให้ ส่วนมื้อเย็นไม่ต้องพูดถึง เขาลงมือทำอาหารมาให้ผมทานที่โรงพยาบาลทุกวัน ถ้าวันไหนผมเข้าเวรแล้วต้องค้างคืนที่โรงพยาบาลอีกคนจะแวะเอาอาหารเช้ามาให้ก่อนไปเรียนทุกครั้ง ไม่รู้อีกฝ่ายเหนื่อยรึเปล่า แต่เห็นหน้าทีไรก็ยิ้มกว้างทุกที เอาอาหารมาส่งผมวันละหลายๆมื้อขนาดนี้ จากคนที่ขับรถไม่แข็งกลายเป็นคุนคุนตีนผีไปแล้ว ขับแซงซ้ายทีขวาที อีกนิดก็จะดริฟท์ได้แล้วเนี่ยไอ้ตัวเล็กของผมเนี่ย

"ตรงนี้ได้หรอครับ" คุนจับช้อนกับมีดใส่ในมือผมก่อนจะเอ่ยถามเบาๆ เหมือนไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ผมขอนั้นมันสามารถทำได้ในที่แบบนี้ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆก่อาจะเอ่ยออกมาเสียงเบา น่ารักไม่มีใครเกินละคนนี้ คำว่าน่ารักเท่าจักรวาลที่เคยบอกยังดูน้อยไปเลยเถอะ

"ไม่ได้ไง ถึงต้องบอกว่าอยากหอม เพราะถ้าอยู่ที่ห้องนี่คือหอมไปแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาพูดหรอก ยังอุ่นอยู่เลย อร่อย" ผมเอ่ยชมอีกคนเมื่อลิ้นสัมผัสรสชาติกลมกล่อมจากหมูที่กำลังเคี้ยวอยู่ในปาก

"ทานให้หมดนะครับ คุนได้สูตรมาจากหม่าม๊า หมูนิ่มมมมาก หมักไว้ตั้งนานแหนะ" เชฟใหญ่ได้ทีก็เริ่มสาธยายสูตรอาหารให้ผมฟัง ตั้งแต่เริ่มขั้นตอนจนถึงขั้นตักใส่ปิ่นโต ฟังแล้วก็เหนื่อนแทนเอาจริงๆ

"วันหลังทำอะไรง่ายๆก็ได้ เหนื่อยเปล่าๆ" ผมเอ่ยบอกไป

"ไม่เหนื่อยๆ คุนชอบทำ สนุกดี" ส่วนอีกฝ่ายก็ตอบกลับมาในทันที เห็นสายตาที่ส่งมาก็ดูออกว่าอีกฝ่ายตั้งใจและอยากทำให้แค่ไหน คุนคุนเป็นคนชอบทำอาหาร และที่สำคัญที่สุดคือเขาชอบทำให้ผมกิน เพราะเขาบอกว่าเห็นผมกินอร่อยแล้วเจ้าตัวก็มีความสุขไปด้วย
.
.
.
.

"แล้วพรุ่งนี้ป๊ากับม๊าเครื่องแลนด์กี่โมง"

"บ่ายสามครับผม พี่แฟงเหนื่อยรึเปล่า ถ้าเหนื่อยคุนไปคนเดียวได้นะครับ"

"ไม่ๆ คืนนี้ออกเวรเที่ยงคืนก็จบแล้ว แลกเวรแล้วด้วย พรุ่งนี้ว่างทั้งวัน ให้เฮียเกอร์เอารถคันใหญ่มาให้แล้วด้วย" ผมบอกไปตามจริงเพราะสองวันที่ผ่านมาเข้าเวรแทนเพื่อนไปแล้ว แพลนไว้ว่าจะหยุดวันพรุ่งนี้เพื่อจะไปรับป๊ากับม๊าของคนตัวเล็กที่สนามบินด้วยกัน แถมยังให้เฮียเกอร์เอารถคันใหญ่สำหรับนั่งได้หลายคนมาให้ด้วย เพราะคันที่ขับอยู่ประจำนั้นนั่งได้แค่สองคนคงจะไม่สะดวกเท่าไหร่ นิรันดร์เอารถมาจอดไว้ที่คอนโดเฮียเกอร์หลายคันพอสมควร เพื่อจะได้สะดวกเวลาที่ตัวเองลงมากรุงเทพจะได้มีรถขับ ผมเลยขอยืมมาใช้สักคัน

"เฮียเกอร์จะมาหรอครับ" อีกคนทำตาโตขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินชื่อพี่ชายคนโตที่เจ้าตัวไม่เคยเจอหน้าค่าตามาก่อน

"ใช่ มาตอนเที่ยงๆ เอารถมาให้ใช้ จะตื่นเต้นทำไม รีบกินซะ" ผมยืนมือไปดีดหน้าผากอีกคนที่ทำสีหน้าท่าทางตื่นเต้นเกินหน้าเกินตาทันที ก่อนจะยื่นมือไปหั่นหมูส่วนของคุนคุนขึ้นมาจ่อไว้ที่ปากบางของคนตัวเล็ก ก่อนจะสะบักส้อมไปมาให้อีกคนอ้าปากรับมันเข้าไปอย่างว่าง่าย

"ก็นิวเยียร์บอกว่าเฮียไทเกอร์หล่อมาก" เจ้าตัวเล็กเคี้ยวสเต็กหมูแก้มตุ้ยก่อนเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้ม นี่คงแอบไปคุยอะไรกับนิวเยียร์มาเยอะละสิ ถึงได้ทำสายตาอยากเจอเฮียเกอร์ขนาดนั้น กลับไปต้องตัดการยัยนิวเยียร์ตัวแสบเสียหน่อย มีอย่างที่ไหนชักชูงให้เจ้าตัวเล็กเมียพี่ชายคนกลางให้ปราบปลื้มพี่ชายคนโตของตัวเอง

"หล่อน้อยกว่าคนนี้เยอะ รีบกินซะ อย่าไปเชื่อนิวเยียร์มาก เพ้อเจ้อ" ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเองก่อนจะจิ้มมะเขือเทศในส่วนของตัวเองให้อีกคน แล้วบ่นอีกฝ่ายที่ไม่สนใจทานอาหารมัวแต่สนใจพี่ชายคนโตผมอยู่นั่นแหละ เฮียเกอร์มันก็ใช่ว่าจะหน้าตาดีเกินเบอร์ผมมากมายอะไร แค่ดูอบอุ่นกว่า ดูสุภาพกว่า ดูใจดีกว่า อืม....ก็แค่นั้นป่าววะ

"โอเครครับผม พี่แฟงดื่มน้ำผลไม้ครับ คุนสกัดเองกับมือ นี่คุนเลือกสูตรช่วยบำรุงผิวพรรณแล้วก็ชะลอวัยมาให้พี่แฟงโดนเฉพาะเลยนะ"

"เดี๋ยวจะโดน ยังไม่แก่ซะหน่อย ไม่ต้องชะลอวัยอะไรทั้งนั้น"

"อือฮึ ยังไม่แก่..แต่.."

"แต่อะไร" ผมเงยหน้าขึ้นมามองอีกคนที่ส่งยิ้มกรุ้มกริ่มกลับมา ทำท่าแบบนี้มันน่านัก....ถ้าอยู่ในคอนโดละก้อ.....

"แต่... แก่มากแล้วต่างหาก"

"หึเดี๋ยวจะโดน ถึงจะแก่แต่ก็ทำใครบางคนร้องครางทั้งคืนได้ก็แล้วกัน"

"พี่แฟง!"
.
.
.
.
.

บรรยากาศโคตรเครียด

โคตรอึดอัด

และที่สำคัญ
.
.
.
โคตรหิว!

จะไม่ให้หิวได้ยังไงครับก็ตัั้งแต่รับป๊ากับม๊าของไอ้เจ้าตัวเล็กมาจากสนามบินจนกลับมาถึงคอนโดของคุน ป๊าคุนคุนก็ทำเหมือนผมเป็นอากาศธาตุ แถมตอนนี้ยังจ้องหน้าผมไม่ละสายตาอีก อยากจะขยับมือไปตักปูผัดผงกะหรี่ที่อยู่ในจานด้านหน้ามาใส่จานตัวเองยังไม่กล้ากระดิกนิ้วเลยครับผม ไหนไอ้ตัวเล็กบอกว่าป๊าใจดีไงวะ ไหงจ้องผมราวกับจะเหยียบย่ำผมให้จมลงไปในดินแบบงี้วะ แล้วไอ้ประโยึปลอบใจต่างๆนานาจากไอ้สองแฝดนั่นอีก มันยังคงตราตรึงในหัวผมทุกวันนี้

'ไอ้พี่ ไม่ต้องกลัวเว้ย อย่าคิดมาก ป๊าไอ้น้องคุนแม่งโคตรใจดี บอกได้เลยว่าทางพี่สะด๊วกกกก พ่อตาเปิดไฟเขียวแน่ๆ'

'ยืนยันอีกเสียง ป๊าคุนใจดีจริงๆพี่ ดูโกรธใครไม่เป็น เหมือนคุนคุนมันนั่นแหละ'


ทางสะดวกพ่องงงงง! ไฟเขียวพ่องงงง!!!

"เฉิงอวี้คะ เลิกจ้องแฟงได้แล้วมั้งคะ ทานข้าวเถอะคะ แฟงคะทานข้าวลูกไม่ต้องเกร็ง" หม่าม๊าคุนคุนที่นั่งอยู่ข้างผู้ชายวัยกลางคน ดูทรงแล้วน่าจะอายุใกล้เคียงกับนิรันดร์ แต่เพราะอีกฝากเป็นคนจีนโดยกำเนิดผิวพรรณจึงได้ขาวผ่องตามฉบับคนแถวนั้น รูปร่างสูงโปร่ง เรื่องหน้าตาไม่ต้องบอกก็รู้ เพราะลูกชายของเขานั้นถอดแบบมาอย่างกับแกะ ผิดกันที่ฝ่ายลูกนั้นมองกี่ทีก็ดูน่ารักจิ้มลิ้ม ส่วนผู้เป็นพ่อนั้นหน้าตาติดไปทางหล่อเสียมากกว่า หากจะถามว่าต่างกันตรงไหน คงตอบได้ว่าสายตา เพราะผู้ชายคนนี้เล่นนั่นจ้องผมเขม็งตั้งแต่ผมหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ทานอาหารตั้งแต่เมื่อสิบห้านาทีที่แล้วจนป่านนี้ยังนั่งกอดอกจ้องผมไม่ละสายตาเลย แสงเลเซอร์ที่ส่องออกมาจากสายตานี่คือเจาะร่างผมแทบพรุนแล้วเหอะ

ส่วนหม่าม๊านั้นก็ใจดีสมคำล่ำลือแถมยังสาวยังสวยอีกด้วย รอยยิ้มนั้นถ่ายถอดมาสู่ลูกชายตัวเล็กอย่างไม่ต้องสงสัยพิมพ์เดียวกันอย่างกับแกะ เธอวิ่งเข้ามากอดผมตั้งแต่เดินออกมาจากเกทในสนามบินแล้ว ทำราวกับว่ารู้จักกันมาแต่ชาติปางก่อน นี่ก็เฟรนลี่เกินเบอร์ไม่แปลกใจเลยที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนั้นเข้ากับใครก็ง่ายไปซะหมด

"ได้กันรึยัง" เสียงทุ้มแหบต่ำสำเนียงไทยชัดแจ๋วแหววของปาป๊าคุนคุนที่นั่งเงียบอยู่นานดังขึ้นทำลายความเงียบของห้อง คำถามนั้นเล่นเอาผมตาเบิกกว้าง แทบสำลักน้ำลายตัวเองเลยทีเดียว ด้วยไม่คิดว่าประโยคแรกที่ได้ยินจากปากป๊าของไอ้เด็กแก้มยุ้ยที่นั่งข้างกันนั้นจะตรงชนิดขวานผ่าซากตัดฉับฉับขนาดนี้ ผมหันไปมองหน้าเจ้าแก้มยุ้ยที่นั่งดูดชานมไข่มุกอย่างสบายใจอยู่ด้านข้าง เห็นรอยยิ้มแหยๆส่งมาให้กำลังใจเป็นเนืองๆ ที่ไม่ปฏิเสธคือจะให้ตอบตามความจริงใช่มั้ยเนี่ย ส่วนหมาม๊าของคุณนั้นก็ไม่ได้ดูมีท่าทีโวยวายหรือตกใจกับคำถามนั้นของสามีเธอเลย แถมยังมองผมพรางเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามอีกด้วย

"ได้แล้วครับ" ทำให้ผมต้องเอ่ยคำตอบที่อาจทำให้ชีวิตผมจบสิ้นในห้องคอนโดหรูใจกลางเมืองชั้น 15 นี้ได้ง่ายๆ แต่ไม่ว่าตอนจบมันจะเป็นอย่างไง นี่คือความจริง ความจริงที่ว่าผมกับคุณเราเป็นของกันและกันแล้ว และผมเองจะพยายามสุดความสามารถที่จะรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้แม้จะถูกขัดขวางจากใครก็ตาม แม้นั่นหมายถึงผมจะต้องจบชีวิตลงภายใต้ฝ่ามือฝ่าเท้าของผู้ชายวัยกลางคนที่เพิ่งเคยเห็นหน้ากันไม่ถึงสองชั่วโมงคนนี้ก็ตาม แต่ก็แล้วไงวะ นั่นพ่อเมีย เขาจะทำอะไรกับเราก็ได้มั้ย ก็เล่นได้ลูกเค้ามาหลายท่าหลายทีขนาดนี้

นิรันดร์สอนกรอกหูผมมาแต่เด็ก เกิดเป็นลูกผู้ชายกล้าทำกล้ารับ ทำผิดก็ยอมรับ ทำผิดก็ขอโทษอย่าโกหกเพื่อเอาตัวรอด มันเสียศักดิ์ศรีความเป็นผู้ชาย

ดูเหมือนอีกคนจะไม่ยินดียินร้ายกับคำตอบผม ซึ่งนั่นผิดคาดพอดู ผมคาดไว้ว่าอาจจะได้บาทาฟาดมาที่ต้นคอสักป๊าบสองป๊าบหลังจากที่ตอบไปด้วยความหนักแน่น แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือหน้านิ่งๆไร้อารมณ์ของปาป๊าคุนคุนเหมือนเดิมเพอ่มเติมคือรอยยกยิ้มมุมปากที่เบาบางจนแทบจะมองไม่เห็นถ้าไม่ทันสังเกตุดีๆ ส่วนหม่าม๊าคุนคุนก็เอามือสองปิดปากไว้สักพักพร้อมกับทำตาโต ก่อนจะปล่อยมือสองข้างออกจากปากแล้วยกขึ้นมาชูนิ้วโป้งให้ผมทั้งสองข้าง เออดี...อย่างน้อยแม่เมียก็มีอารมณ์ร่วมแหละวะ ส่วนเมียที่นั่งข้างๆก็ดูดชานมไข่มุกต่อไปไม่สนใจใดๆทั้งสิ้น ทำเหมือนนั่งดูหนังอยู่ยังไงยังงั้น อือ ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ ดูดจังไอ้ชานมเนี่ยดูดจนได้ยินเสียงกรอดๆของคนที่พยายามดูดหยดสุดท้ายจากก้นแก้ว พอมีพ่อแม่มาให้ท้ายหน่อยก็แดกจนหมดแก้ว อยู่กับผมนี่คือสั่งห้ามเลยนะครับ ห้ามแตะเลย ของต้องห้ามเบอร์หนึ่งชวยตัดขาเบาหวานถามหาเลยก็ว่าได้ นีี่ไม่รู้เหมือนกันจะแดกทำไมรู้ทั้งรู้ว่าไม่ดีต่อสุขภาพยังอยากจะร้องกินทุกวัน

"กี่ครั้ง" พอได้ยินคำถามนั้น ความเคืองเรื่องชานมไข่มุกก็มลายหายไปเหมือนปลิดทิ้ง นี่ผมต้องตอบจริงๆหรือวะเนี่ยว่ากี่ครั้ง แม่ง เอาไงดีวะ คือผมไม่ได้นับมั้ยละ

"โห ป๊าครับ เกินไปน้องคุนว่า" เจ้าตัวเล็กวางแก้วชานมที่ไร้ซึ่งน้ำสีชาลงบนโต๊ะก่อนเอ่ยออกมาแช้วถอนหายใจดังเฮือก

จริง อันนี้เห็นด้วย ป๊าไอ้ตัวเล็กนี่เล่นสัมภาษณ์ลูกเขยบทแรกแม่งมีแต่เรื่องติดเรท โอ้ย ป๊าครับ ต่อยผมเลยเหอะ หรือเอาฝ่าเท้าทาบหน้าผมเลยก็ได้ แต่อย่าถามอีกเลยไอ้คำถามพวกนี้เนี่ย ส่วนตัวไปนิด

"น้องคุนครับ หนูอยู่เฉยๆ นะจ้ะ ผู้ใหญ่เค้าจะคุยกันห้ามแทรกเข้าใจมั้ยคนดีของป๊า ป๊ารักหนูนะจ้ะ"

อีหยังวะ! พูดกับลูกนี่จ๊ะจ๋า ช่องเสียงเปลี่ยนไปอยู่เสียงสองทันที ส่งยิ้มเอ็นดูให้ไอ้ตัวเล็กแถมยังยื่นมือมาลูบหัวคุนคุนเอ็นดูอีก ทำไมอารมณ์มันเปลี่ยนกันง่ายแบบนี่ละครับคุณพ่อตา! ส่วนไอ้คนถูกลูบหัวก็พยักหน้าหงึกๆสองสามทีก่อนจะนั่งเงียบชายตามองแก้วชานมว่างเปล่าบนโต๊ะ ร่องรอยความหนักใจบรใบหน้าหายไปราวปลิดทิ้งทันทีที่ถูกลูบหัว ส่วนสายตาก็ยังอาลัยอาวรณ์แก้วชานมอยู่

หึ! อยากแดกอีกอะดิอีแก้มยุ้ย!

"ตอบ" ช่องเสียงเปลี่ยนเชียวนะครับคุณพ่อตา ผ่านไปไม่ถึงนาทีเสียงกลับมาดุดันน่าเกรงขามอีกแล้ว คือถ้าอยากรู้จริงผมก็จะตอบให้ เมื่ออีกฝากเล่นถามด้วยเสียงหนักแน่นคาดคั้นแบบนั้น

"สอง สามครั้งครับ"

ควับ!

ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ ไอ้ตัวเล็กข้างๆนี่แหละที่หันควับมามองหน้าผมอย่างเอาเรื่อง เบะปากเหมือนจะบอกเป็นนัยๆว่าผมโกหก ส่วนปาป๊าคุนก็เริ่มขมวดคิ้วนิดๆ มองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตัวเองสลับไปมากับหน้าผม เหมือนจะคาดคั้นให้ผมสารภาพออกมาตามความจริง

เห้ย! นี่ผมไม่ได้โกหกจริงๆ แค่ยังพูดไม่จบเท่านั้น

"เอ่อ ผมหมายถึงวันละสองสามครั้งครับ"

"ว้ายตายแล้ว!/พี่แฟง!" พอพูดความจริงก็โวยวายเลยสิครับทีนี้ทั้งเมียทั้งแม่เมีย


#คุนแฟง

by ppeachmm

----++++-----

วันละสองสามครั้ง ว้ายตายยยยยยย อกอีแป้นจะแตกเด้อคะเด้อ

หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 42| 22.06.2020 ❤️❤️
เริ่มหัวข้อโดย: psychological ที่ 22-06-2020 10:15:29
 :pig4:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 42| 22.06.2020 ❤️❤️
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 22-06-2020 20:20:53
 :hao6:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 42| 22.06.2020 ❤️❤️
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 22-06-2020 21:43:56
ไงล่ะน้องคุน
ตอบความจริง มีหวีดเลยนะ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 43| 23.06.2020 ❤️❤️
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 23-06-2020 14:59:18
---ตอนที่ 43---


แฟง's part

ดูเหมือนหม่าม๊าของเจ้าแก้มย้อยจะตกใจจนเบลอไปแล้ว ส่วนไอ้แก้มย้อยที่นั่งข้างกันก็แบะปากบ่นพึมพำอะไรสักอย่างจับใจความไม่ได้ แต่ดูจากสีหน้าก็พอเดาได้ว่าคงทั้งเขินทั้งอาย อ้าว! ก็เห็นเหมือนอยากให้พูดความจริง ก็เลยบอกป๊าไปตามความจริงไง ผมผิดตรงไหนวะ?! นายลภัสงงนะ ก็บอกไปตามความจริงป่าว ฮึ่มฮั่มกันแต่ละทีก็ไม่เคยจบที่รอบเดียวมั้ย พูดความจริงก็ผิดหรอวะกู

นั่น! หันหน้ามามองผมแล้วก็สะบัดหน้าหนี งอนไรวะ

"ขนาดนั้นเลยหรอลูกคุน" ป๊าคนที่ไม่ได้มีท่าทีตกใจเหมือนคนอื่นๆในห้องเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นท่าทางของลูกชายตัวเองที่ทำหน้างองุ้มยิ่งกว่าปลาทูแม่กลองเสียอีก

"ปะ ป่าว ใช่ที่ไหนละครับป๊า พี่แฟงก็พูดเกินจริง บอกป๊าไปสิครับว่าหยอกๆ แหะๆๆ" ไอ้ตัวเล็กติดอ่างขึ้นมาทันที แถมยังยื่นมือมาดึงแขนเสื้อเชิ้ตผมสองสามที พร้อมกับถลึงตากลมๆโตๆส่งมาให้

"ไม่อะ ไม่อยากโกหกผู้ใหญ่"

"พี่แฟง!!" มือที่จับชายเสื้อเชิ้ตอยู่เปลี่ยนเป็นแรงฟาดที่ต้นแขนอย่างแรง เชี่ย! เจ็บสัส คงจะโกรธมาก ดูจากระดับความแรงในการฟาดแล้ว ผมได้แต่หัวเราะในใจกับท่าทางอยากจะปฏิเสธของคนตัวเล็ก แต่ผู้ใหญ่ถามมาผมก็ตามไปตามจริง ด้วยท่าทางจริงจังของป๊าคุนคุนที่ถามออกมาแล้วด้วย อีกฝ่ายไม่ได้ดูถามเล่นๆขอไปทีเลยสักนิด แต่มันดูจริงจังมากต่างหาก ทั้งน้ำเสียงทั้งแววตา มองอย่างไงก็ป๊าก็ต้องการจะรู้ว่าระดับความสัมพันธ์ของผมกับลูกชายตัวเองไปถึงขั้นไหนแล้ว

"นี่คือ...ทุกวัน วันละหลายรอบด้วยหรอ" เสียงติดทุ้มเอ่ยถามเสียงเรียบอีกครั้ง คนพูดยังคงท่าทางเรียบเฉยอยู่ ไม่มีความโกรธหรือความสงสัยอยู่ในแววตาคู่นั้น

"ใช่ที่ไหนละป๊า น้องคุนไม่ได้ทำแบบนั้นทุกวันซะหน่อย" ส่วนเจ้าตัวเล็กที่ปกติก็ไม่ค่อยพูดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอยู่แล้ว ก็ยิ่งม้วนอายเข้าไปใหญ่ แล้วประโยคหลังที่เอ่ยออกมาก็เบาเสียแทบจะไม่ได้ยินถ้าไม่ได้ตั้งใจฟังจริงๆ ผมเอื้อมมือหนาไปกุมมือเล็กของอีกคนที่กำแขนเสื้อผมแน่น ก่อนจะจับมือเล็กนั้นมากุมไปหลวมๆ

"เอาไง เห็นอยู่ว่าลูกผมเสียหาย จะรับผิดชอบรึเปล่า ได้กันขนาดนี้ผมเอาลูกไปใส่ตะกร้าล้างน้ำสิบแม่น้ำก็ไม่มีใครเอาแล้วมั้ง ลูกผมเสียหายมากนะแบบนี้"

"ป๊า!!"

"ผมรับผิดชอบแน่ๆครับ"

"แล้วไหนจะเรื่องที่ถูกยิงคราวก่อนอีก"

"อันนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ แล้วผมก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้น ถ้าผมอยู่ผมไม่มีทางให้ใครหน้าไหนมาทำอะไรคุนได้"

"พูดง่ายจังนะ"

"ใช่ครับ พูดง่าย แต่ถ้าถึงวันนั้นจริงๆ ผมก็สามารภตายแทนลูกชายป๊าได้"

"ทำให้ได้เหมือนที่พูดไว้ละกัน แล้วนี่ยังไง ยังเรียนกันอยู่เลย ย้ายเข้ามาอยู่ห้องลูกชายผมแบบนี้ได้ไง มันไม่เกินไปหน่อยหรอ"

"ผมขอโทษครับ ยอมรับว่าตอนนั้นคิดน้อยไปหน่อย แค่รู้สึกว่าอยากอยู่กับคุนคุนทุกวันตลอดเวลาก็เท่านั้น ผมรักลูกชายป๊าครับ อยากอยู่ด้วยทุกวันไปแบบนี้นานๆ ผมยินดีรับผิดชอบทุกการกระทำที่เหมือนไม่ให้เกียรติลูกชายป๊า"

"นักศึกษาอย่างคุณจะรับผิดชอบชีวิตใครตอนนี้ได้หรอ"

"งั้นแต่งเลยได้มั้ยครับ ผมพร้อม"

"หือ ยังไงนะ" เหมือนป๊าจะไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยินจากปากผมเมื่อครู่ เขาเอ่ยถามอีกครั้ง คิ้วหนาสองข้างของคนถามขมวดเข้าหากันอย่างเห็นได้ชัด

"ให้คุนแต่งกับผมเลยได้มั้ยละครับ เดี๋ยวผมโทรบอกพ่อผมให้มาจัดการให้วันนี้เลย ผู้ใหญ่ฝ่ายผมรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่าง ผมไม่ได้ปิดบัง ผมรักคุนคุน อยากแต่งงานกับคุน ป๊าเรียกสินสอดมาได้ตามสมควรเลยครับ ผมโอเค เท่าไหร่ผมก็จะหามา" ผมพรั่งพรูสิ่งที่คิดไว้ในใจออกมาจนหมด ก็ในเมื่อบุพการีของอีกฝ่ายรู้แล้วว่าเราสองคนไปถึงขั้นไหนต่อขั้นไหน แล้วผมเองก็ไม่อยากให้คนตัวเล็กต้องเสื่อมเสียเหมือนที่ป๊าบอก ถ้าการแต่งงานของเราสองคนมันจะทำให้ป๊าวางใจผมก็ยินดี ไม่ใช่ไม่อยากแต่งนะ บอกเลยว่าไม่เคยคิดไปถึงขั้นนั้น แต่แค่รู้สึกว่ามีคนอย่างคุนคุนอยู่ข้างกันทุกวันมันคือดีมาก ดีจนไม่รู้จะดียังไงมากกว่านี้แล้ว และก็อยากมีเขาแบบนี้ในทุกๆวันอีกเรื่อยๆไปจนแก่ แล้วจู่ๆคำว่าแต่งงานมันก็วิ่งเข้ามาในหัว ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าตัวเองจะรู้จักกับคำคำนี้ในตอนนี้ มันเหมือจะเร็วไปสำหรับผมและคุนคุน แต่พอคิดไปอีกที ถ้าไม่ใช่คุน ผมก็ไม่อยากแต่งงานกับใครแล้วละ จะแต่งอีกสิบปีข้างหน้า หรือแต่งวันนี้ ผลลัพธ์ที่ได้มันก็เหมือนกันมั้ย เพราะนั่นหมายถึงผมจะมีอีกคนมาอยู่เคียงข้างตลอดไปในทุกๆวัน ผมกุมมือเล็กในมือไว้แน่นเมื่อป๊าคุนนิ่งเงียบกับสิ่งที่ผมกล่าวออกไป คนตัวเล็กมองผมเหมือนไม่เชืื่อว่าจะได้ยินในสิ่งที่ผมเพิ่งพูดไปเช่นเดียวกับหม่าม๊าคุนที่หยิบยาดมออกมาสูดตั้งแต่เมื่อหลายนาทีก่อนแล้ว

"มันได้วะไอ้ลูกเขยคนนี้ มันคนจริงเว้ย ไอ้ลูกแมว ป๊าชอบคนนี้ ฮ่าๆๆๆๆ ป๊าชอบ" ป๊าคุนหัวเราะออกมาเสียงดังทำลายความเงียบที่เกิดขึ้นเป็นเดดแอร์อยู่หลายนาทีหลังจากที่ผมพูดแบบนั้นออกไป ผมกับคุนหันมามองหน้ากันด้วยยังตั้งตัวไม่ถูกกับสถานการณ์ตรงหน้าที่ป๊าคุณหัวเราะชอบใจอย่างเอาเป็นเอาตาย

อิหยังวะ!

.
.
.
.
.

คุน's part

"ป๊าแกล้งน้องคุน"

ผมลากป๊าออกมาคุยกันที่ระเบียงหลังจากที่เราทานอาหารมื้อค่ำกันเสร็จ ส่วนพี่แฟงก็ช่วยหม่าม๊าล้างจานอยู่ในครัว ดูสองคนนั้นจะเข้ากันได้ดีเกินคาด คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าคนอย่างพี่แฟงจะมีมุมอ่อนน้อมเอาอกเอาใจแม่ผมได้ถึงเพียงนี้ เล่นปากหวานชมโน่นชมนี่จนหม่าม๊าหลงแล้วหลงอีก น้องคุนคงตกกระป๋องในเร็ววันนี้แน่ๆ

"ป๊าไม่ได้แกล้งไอ้แมวน้อย ป๊าแค่ลองใจผู้ชายของลูกรักเฉยๆ"

"ผู้ชายของลูกอะไรเล่าป๊า พูดไรก็ไม่รู้"

"ป๊าชอบ คนนี้ป๊าชอบ"

"ชอบไม่ได้นะป๊า"

"ทำไมละครับลูก ไม่อยากให้ป๊าชอบแฟนของลูกหรอจ้ะ"

"ชอบไม่ได้ พี่แฟงของน้องคุน น้องคุนชอบได้คนเดียว"

"โอเค ป๊าไม่ยุ่งกับพี่แฟงของลูกก็ได้ แต่ป๊าให้ผ่านนะคนนี้ ถึงแม้จะแอบฮึ่มฮ่ำลูกป๊าก่อนมาขอป๊าก็ตาม"

"ป๊าเลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว!" ป๊าอะ อะไรก็ไม่รู้ชอบโยงเข้าประเด็นเรื่องฮึ่มฮ่ำตลอดเลย น้องคุนไม่คุนด้วยแล้ว เข้าก้องไปหาพี่แฟงดีกว่า ไปขอกอดพี่แฟงก่อนพี่แฟงกลับห้องตัวเองเสียหน่อย

ได้ยินไม่ผิดหรอกครับ วันนี้พี่แฟงต้องกลับไปนอนห้องตัวเองเพราะป๊าไล่ ถามว่าคนอย่างนายลภัสจะยอมง่ายๆอย่างนั้นหรอ ตอบเลยว่าไม่ พอเถียงสู้ป๊าไม่ได้ก็หันมางอแงกับผมแทน ขอนอนโซฟาแล้วป๊าก็ไม่ให้ผมเข้าใจนะคนมันนอนเตียงเดียวกันแทบทุกคืน จู่ๆจะให้แยกไปนอนที่อื่น มันเลยเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป ผมต้องปลอบอยู่นานแสนนานกว่าอีกฝ่ายจะยอมกลับห้องคอนโดตัวเองไปแต่โดยดี

"นี่ไอ้ลูกแมวน้อย จะมานอนได้ยัง แชตอยู่นั่นแหละ" ป๊าที่นั่งพิงหลังกับหัวเตียงเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นผมเอาแต่แชตกับคนข้างห้องอยู่ที่โซฟาปลายเตียง วันนี้เราสามคนนอนเตียงเดียวกันครับ ไม่ต้องแปลกใจหรอก ผมชอบไปแทรกกลางบนเตียงป๊าม๊าประจำ นอนกอดกันสามคนอบอุ่นจะตาย แต่ไอ้ความอบอุ่นที่คุ้นเคยนั้นตอนนี้มันมีคนอื่นเข้ามาแทนที่ซะแล้วสิ ถ้าป๊าม๊ารู้จะน้อยใจรึเปล่าน้าาาาา

"ไปแล้วๆๆๆ ครับ" ผมรีบเซย์กู๊ดไนท์เด็กโข่งขี้งอแงข้างห้องทันทีก่อนจะวางโทรศัพท์ลงบนโซฟาแล้วคลานขึ้นเตียงไป

"เมื่อกี้ก็ร่ำรากันหน้าห้องแล้ว ยังจะคุยอะไรกันอีกนักหนา"

"ม๊ารู้ได้ไงว่าน้องคุนคุยกับใคร"

"แหมๆๆ ไอ้ตัวเล็กเอ้ย มองจากดาวอังคารก็รู้มั้ย พิมพ์ไปยิ้มไป"

"ป๊าอะล้อคุนตลอด"

"จะอะไรกันนักหนา ก่อนแยกกันก็ล้วงแล้วล้วงอีก"

"ล้วงอะไรป๊า!"

"อย่าคิดว่าป๊าไม่เห็นนะว่าลูกเอามือล้วงเข้าไปในเสื้อเจ้าแฟงมันนะ นี่ป๊าพึ่งรู้นะเนี่ยว่าไอ้ตัวจุดชนวดเพลิงนี่มันไอ้ตัวดีของป๊านี่เอง"

"ป๊า!"
.
.
.
.
.

แฟง's part

ตืด ตืด ตืด

(ไงมึง โทรมาดึกดื่น หัดเกรงใจคนอื่นบ้าง)

"จะเกรงใจทำไมโทรหาพ่อตัวเอง"

(เป็นลูกก็ต้องรู้จักเกรงใจพ่อบ้างดิวะ นี่กูพ่อมึง ไม่ใช่เพื่อนเล่นที่ไหน ดึกดื่น จะนอนเว้ย เรื่องไร้สาระใช่มั้ยที่โทรมา งั้นจะวางละนะ)

"เฮ้ยๆ นี่มีธุระอย่าวางนะ"

(ไหนมีไร รีบพูดคนจะนอน ถ้าไม่มีสาระนะกูด่าพ่อให้จริงๆด้วย)

"ด่าพ่อผมก็เท่ากับด่าตัวเองเหอะ"

(เรื่องของกู ยังไง จะพูดไม่พูด ง่วงแล้ว)

"เชื่อตายละ สี่ทุ่มครึ่งเนี่ยนะนิรันดร์จะนอน"

(ทำไม คนอย่างกูจะเข้านอนตอนสี่ทุ่มไม่ได้รึไง วันนี้กูต้องการนอนอย่างมีประสิทธิภาพ และนั่นหมายถึงต้องนอนไม่เกินสี่ทุ่ม และตอนนี้มึงกำลังขัดขวางการนอนที่มีประสิทธิภาพของกู)

"เก็บการนอนอย่างมีประสิทธิภาพบ้าบออะไรนั่นไปทำวันอื่นเหอะนิรันดร์ วันนี้มีเรื่องจะคุย"

(เออ ไหนมีไร แถลงไขมา กูให้สามนาที หมดเวลาปุ๊บตัดสายปั๊บบอกเลย)

"ขอเงินสิบล้าน"

(มึงจะบ้าหรอ เอาไปทำไรมากมาย แล้วมึงขอกูก็ต้องไห้งี้?)

"อะไรวะ แค่สิบล้าน ขนหน้าแข้งนิรันดร์ไม่ร่วงหรอกน่า ถ้าไม่ให้งั้นก็ขอยืมก่อนเดี๋ยวคืนให้"

(สิบล้านมึงก็มี จะเอาไปทำไร แล้วจะมาเอาที่กูอีกทำไม)

"ผมนะมีแต่มันไม่พอไง มันขาดสิบล้านเลยต้องมาเอาจากนิรันทร์เนี่ย"

(แฟง มึงจะเอาเงินไปทำไรเยอะแยะ นี่กูเริ่มซีเรียสละนะ ไม่นงไม่นอนมันละ นอนอย่างมีประสิทธิภาพบ้าบออะไรช่างแม่ง ไหนมึงเล่ามาซิ เรื่องมันเป็นมายังไง มึงไม่ได้ไปทำอะไรผิดกฎหมายมาใช่มั้ยเนี่ย กูเริ่มเครียดแล้วนะเว้ย ไอ้ลูกเวร)

"ด่าเป็นชุดเลยนะนิรันดร์ ไม่มีไรหรอก จะเอาไปแต่งเมีย"

(ฮ๊ะ? แต่งเมีย มึงไปทำใครท้องมาใช่มั้ยเค้าถึงเรียกโหดขนาดนี้ แล้วคุนลูกรักกูละ ไอ้ลูกเ*ย มึงนอกใจลูกรักกูหรอ ฮ๊ะ!? ตอบ!)

"ใจเย็นนิรันดร์"

(ไม่ยงไม่เย็นมันแล้ว มึงพูดมาเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ตอบกูขับรถไปฟันคอมึงตอนนี้เลยยังได้)

"พูดเหมือนตัวเองอยู่กรุงเทพอย่างนั้นแหละ"

(ก็ใช่ไง)

"อ้าว มากรุงเทพทำไมไม่เห็นบอก"

(นั่นมันเรื่องของกู มึงอย่ามาชวนนอกเรื่อง เล่ามาให้หมด ถ้าไม่ดีนะก็พร้อมต่อยอะบอกเลย นี่หยิบกุญแจรถแล้วด้วยนะ)

"เฮ้ยใจเย็นนิรันดร์ ไม่ได้ทำใครท้อง จะเอาไปสู่ขอคุน ป๊าม๊าคุนมา เจอกัน คุยกัน แล้วผู้ใหญ่ฝ่ายโน้นก็รู้ว่าผมไปฮึ่มฮ่ำลูกชายคนเดียวของเค้าแล้วไง ผมเลยบอกจะรับผิดชอบทั้งหมด จะให้พ่อมาสู่ขอ"

(เออ ค่อยยังชั่ว แล้วฝ่ายโน้นเรียกเท่าไหร่)

"20 ล้าน"

(แล้วมึงมีแล้วสิบล้าน เลยมาขอกูเพิ่มอีกสิบล้านว่างั้น)

"ใช่ ถ้าไม่ให้เลยงั้นขอยืมก็ได้ เดี๋ยวทำงานใช้คืนให้"

(มึงอย่ามาสะเออะคิดแทนกูอีกแล้ว นั่นมันเรื่องของผู้ใหญ่ มึงเก็บเงินมึงไว้เถอะ บอกฝ่ายโน้นไปว่ากูให้สามสิบล้านเลย กูพอใจลูกสะใภ้คนนี้ แล้วมึงก็ไม่ต้องออกสักบาท เดี๋ยวกูจัดการเอง นัดฝ่ายโน้นมาคุยกับกูเลยพรุ่งนี้เดี๋ยวกูเคลียคิวให้)

"ซึ้งวะ"

(ซึ้งเรื่องไรของมึง)

"ซึ้งที่พ่อจะไปขอเมียให้วะ"

(ไม่ต้องมาซึ้ง กูจะขอคุนมาเป็นของกู ไอ้ตัวน่ารักแก้มยุ้ย คิดละหมั่นเขี้ยว ในที่สุดเราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันเสียทีนะคุนคุน)

"พูดแบบนี้ สายสัมพันธ์พ่อลูกนี่ตัดขาดฉับๆเลยนะ"

(แม่ง มันได้วะ ลูกกูโตแล้วจริงๆนะเนี่ย หวงเมีย จะมีเมียแล้วโว้ย เชี่ย กูลูกจะเป็นฝั่งเป็นฝา โอ้ยน้ำตาจะแตก)

"เพ้อเจ้อเหอะนิรันดร์ เค้าให้หมั้นไว้ก่อนเรียนจบแล้วค่อยแต่ง"

(ไรวะ ไม่แต่งไปให้จบๆ กูอยากอุ้มหลาน)

"เพ้อเจ้ออีกละ คุนมันก็ผู้ชายจะมาท้องได้ไง แล้วอีกอย่างผมก็ยังเรียนไม่จบ คุนก็ด้วย หมั้นไว้ก็โอเค"

(มึงแน่ใจหรอว่าพอใจแค่หมั้น หมั้นได้ก็ถอนได้นะเว้ย อะไรก็ไม่แน่นอน คุนมันน่ารักจะตาย ใครเห็นใครก็ชอบนะเว้ย)

"แม่ง น่าคิด งั้นไม่หมั้นละจับแต่งเลยจะได้หนีไปไหนไม่รอดดีมั้ยวะนิรันดร์"

(ดีสิวะ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจัดการให้รวบหัวรวบหางแม่งเลย เรื่องเจรจาขอให้บอก นิรันดร์ถนัดนักแล ข้ามขั้นไปเลย จะมงจะหมั้นอะไรเสียเวลา แต่งไปให้จบๆ เดี๋ยวเอาพริ้งไปด้วย)

"ผมเพิ่งเห็นความดีของนิรันดร์ก็วันนี้แหละ เชี่ย รักนิรันดร์วะ"

(ไอ้ลูกเ*ย มึงชมหรือมึงด่ากูชักเริ่มไม่แน่ใจ)

"ชมๆๆ แล้วเรื่องแม่นี่ผมต้องโทรบอกเองหรือนิรันดร์จะบอกให้"

(มึงไม่ต้องโทร เดี๋ยวกูบอกเอง อยู่ด้วยกันกับพริ้งนี่แหละ)

"อะไรยังไงวะนิรันดร์ ไหนบอกกำลังจะนอน แล้วทำไมมาอยู่กับแม่ได้ กลิ่นตุๆนะเนี่ยเรา"

(เออน่า เรื่องของผู้ใหญ่เด็กอย่างมึงอย่ายุ่ง จัดการเรื่องของตัวเองไป กลับไปนอนกอดว่าที่เมียมึงโน่น)

"เอาอะไรมากอดเล่า ถูกไล่กลับมานอนห้องตัวเองเนี่ย"

(อ้าว งั้นก็นอนเหงาๆบนเตียงกว้างไปละกันนะมึง กูไปนอนก่อนละ เฮ้อ เตียงก็นุ่ม แถมยังมีคนให้กอดอีก ใครเหงาๆก็กอดหมอนข้างไปละกันนะ กู๊ดไนท์)

ตูดๆๆๆๆ

"นิรันดร์ ไรวะ! วางเฉย"


#คุนแฟง

by ppeachmm


หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 43| 23.06.2020 ❤️❤️
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 23-06-2020 21:50:41
พ่อแม่จะได้เจอกันแล้ว หุย 30ล้านขาดตัว
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 43| 23.06.2020 ❤️❤️
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าน้อย ที่ 24-06-2020 07:47:12
ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 44| 24.06.2020 ❤️❤️
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 24-06-2020 17:15:04
---ตอนที่ 44---

แฟง's part

ไลน์กลุ่มพี่น้องตระกูลพิสุทธิ์รังสรรค์

TiGeRR: บางคนมีเรื่องดีๆ แล้วเก็บเงียบ
????N*Y????: บางคนกำลังมีความสุขแล้วเมินเราคะเฮียเกอร์
TiGeRR: ใช่สิ
????N*Y????: คำว่าพี่น้องมันสั้น!
TiGeRR: เรามันคนไม่สำคัญเนอะเยียร์เนอะ
????N*Y????: น้องน้อยใจ น้องท้อคะเฮียเกอร์
TiGeRR: มันยังไงคะน้องเยียร์ที่รักของเฮีย
????N*Y????: พี่ชายคนกลางไม่รักน้องแล้ว เค้าไม่สนใจเราคะเฮียเกอร์
TiGeRR: นั่นสิเนอะ คำว่าพี่น้องมันสั้นจริงๆด้วย
????N*Y????: สั้นมากๆเลยคะ
FanG: ....
FanG: เอะอะ อะไรกันแต่เช้า
TiGeRR: มาแล้วเหรอ สิบโมงนี่ไม่เช้าแล้วนะแฟง
FanG: ก็เพิ่งได้นอนมั้ยละเฮีย
????N*Y????: อุ้ย ทำไรอะ เพิ่งได้นอน
FanG: ทะลึ่งนะนิวเยียร์ เป็นเด็กเป็นเล็ก
TiGeRR: อย่าดุน้อง แล้วนี่ทำไรมาถึงเพิ่งตื่น
????N*Y????: รักเฮียเกอร์ที่สุด
FanG: อย่าคิดไปไกลกัน
FanG: เพิ่งออกเวรมาเมื่อเช้า
TiGeRR: อ้อ
????N*Y????: อ้อออออ
FanG: ยาวไปมั้ย แล้วนี่โวยวายอะไรกันเยอะแยะแต่เช้า ยาวเหยียดเลย
????N*Y????: ต้องกลับขึ้นไปอ่านคะพี่แฟง
FanG: ไม่อะ ขี้เกียจ จะนอนต่อง่วง ไปละ
????N*Y????: อย่างพึ่งงงงงงง พี่ชายยยย อย่าพึ่งปายยยยย
TiGeRR: เดี๋ยวนี้เค้าไม่ค่อยแคร์เราเลยเนอะเยียร์
????N*Y????: +1
FanG: อะไรกันอีก ดราม่าสุดๆ
FanG: แล้วสรุปมีเรื่องไร พูดมาเลย
????N*Y????: ให้น้องพูดหรือเฮียจะเริ่มคะ
TiGeRR: เยียร์เปิดเลย
????N*Y????: แงงงง จะดีอ่อ
FanG: ไว้ตกลงกันได้ค่อยทักมานะ ขอนอนก่อน
????N*Y????: ม่ายยยย พี่แฟงอย่าปายยยย
????N*Y????: คือ เค้ากับเฮียอะ
????N*Y????: แค่จะมา แบบว่า....
????N*Y????: แบบว่า....
????N*Y????: เขินอะ ทำไงดี
TiGeRR: ได้ยินข่าวว่านิรันดร์หอบเงินสามสิบล้านไปขอสาวให้หรอ
????N*Y????: ขอบคุณมาเลยคะเฮียเก้อออ น้องเขินอะพูดไม่ออก
TiGeRR: :)
????N*Y????: ข่าวลือ หรือ ข่าวมีมูลคะพี่ชายคนกลางงงง
FanG: ใครบอกละ
????N*Y????: พี่รัน
TiGeRR: นิรันดร์
FanG: งั้นก็คงจริง
????N*Y????: กรี๊ดดดดดดด น้องจะกรี๊ดดดดดด
FanG: กรี๊ดไปแล้วมั้ย
TiGeRR: เงียบเลยนะ ลืมหัวเฮียคนนี้ไปเลยนะ
FanG: ไม่ใช่อย่างงั้น กำลังจะบอกพอดี
TiGeRR: กำลังนี่คือเมื่อไหร่
FanG: วันนี้แหละ ว่าจะเล่าให้ฟังตอนเย็นไง เดี๋ยวก็เจอกันแล้วมั้ย ค่อยเล่าตอนนั้น
????N*Y????: โนเวย์ เล่ามาตอนนี้คะพี่ชาย อย่าลีลา น้องอยากรู้จะแย่
????N*Y????: เร็วๆๆๆๆ
????N*Y????: อยากรู้มากมายยย
TiGeRR: +1
FanG: ก็ไม่ไง แค่ให้นิรันดร์ไปขอคุนคุนให้ แต่ฝ่ายโน้นเค้าให้หมั้นไว้ก่อน ปิดเทอมค่อยแต่ง ส่วนเรื่องสินสอดฝ่านโน้นเรียกมายี่สิบ แต่นิรันดร์บอกจะให้สามสิบ คุยไปคุยมาป๊าคุนบอกว่าแค่หยอกเล่นไม่ได้จะเอาอะไร แต่คือนิรันดร์เตรียมไปแล้วไง เลยไม่เอาคืน
????N*Y????: OMG?!!!
TiGeRR: คุนคุนนี่ของจริงวะ ทำนายหยุดได้เนี่ย
FanG: ไม่เถียง
TiGeRR: แล้วคือนิรันดร์ถูกใจคนนี้ด้วยอ่อ? ถึงยอมถอนขนสามสิบล้าน
FanG: อือ
????N*Y????: ไม่ใช่แค่พี่รันนะคะเฮียเกอร์ คุณแม่ก็ปลื้มคะคนนี้ นิวเยียร์ก็ปลื้มด้วยเหมือนกัน คุนน่าร้ากกกกก เพื่อนกานนน
TiGeRR: อยากเจอซะแล้ว เย็นนี้พามาด้วยสิ
FanG: กะว่าจะพาไปอยู่แล้ว แต่คงไปถึงช้าหน่อยนะ คุนเลิกเรียนหกโมง
TiGeRR: มาเหอะ กี่โมงก็มา จะรอเจอว่าที่น้องสะใภ้เสียหน่อย
FanG: ได้ ถ้าไม่มีไรแล้วขอไปนอนต่อนะ ง่วงมาก เพิ่งนอนไปไม่กี่ชั่วโมงเอง
TiGeRR: K เจอกันคืนนี้
????N*Y????: เคคร้าบบบบผม

.
.
.
.
.

คุน's part

"โอ้ย กว่าจะจบคลาส ตาจะปิดอยู่แล้ว" ขุนพลยืนขึ้นบิดตัวก่อนจะอ้าปากหาวฟอดๆ หน้าตายังดูงัวเงียตามแบบฉบับของคนพึ่งตื่น

"ตาจะปิดอะไร เห็นปิดสนิทกว่าครึ่งคาบ" กองทัพที่กำลังเก็บชีทเรียนใส่กระเป๋าสะพายถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้น้องชายฝาแฝดเอ่ยขึ้น จริงอย่างที่ทัพพูดนั่นแหละครับ ขุนพลเล่นหลับตั้งแต่ครึ่งหลัง หลับไปชั่วโมงกว่าๆเลยนะนั่นนะ หลักฐานการนอนหลับยังแปะอยู่บนแก้มอยู่เลย ก็เจ้าตัวเล่นนอนหน้าฟุบลงบนโต๊ะจนหน้าเป็นรอยโทรศัพท์ที่ตัวเองนอนเอาแก้มทับชั่วโมงกว่า ตลกดี ไม่รู้เจ้าตัวจะรู้ตัวรึเปล่าเนี่ยว่าหน้าตัวเองเป็นรอยกดทัพยาวเหยียด ผมเกือบจะหัวเราะออกไปแต่ถูกกองทัพห้ามไว้เสียก่อน ก่อนที่เจ้าตัวจะก้มหน้ามากระซิบข้างหูผมที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ในคลาสเรียน

"อย่าไปบอกมัน ให้มันออกไปแบบนี้แหละ" ผมพยักหน้าหงึกๆ เห็นด้วยกับไอเดียนี้ พยายามหุบยิ้มอย่างสุดความสามารถไม่ให้คนที่กำลังบิดขี้เกียจรู้ตัว

เราใช้เวลาไม่นานในการเก็บของ ไม่ถึงห้านาทีเราทั้งสามคนก็มายืนอยู่ที่ใต้ตึกคณะ คนที่เดินผ่านไปผ่านมามองรอยบนแก้มขุนพลก็หัวเราะกันคิกคัก แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้สึกผิดสังเกตใดๆทั้งสิ้น คงคิดว่าสาวๆแอบมองแล้วเขินความหล่อของตัวเองเหมือนทุกครั้ง

"อยากกินชาบู" ขุนพลที่ตอนนี้สลัดอาการงัวเงียทิ้งไปแล้วเอ่ยขึ้น

"เออไปดิ คุนคุนไปป่าว"

"ไม่อะ"

"แล้วเอารถมาป่าววันนี้" กองทัพถามขึ้นเพราะเมื่อก่อนสองแฝดจะไปรับไปส่งผมตลอดเพราะนอกจากเราจะอยู่คอนโดเดียวกันแลเวเราสามคนยังลงเรียนวิชาเดียวกันทุกตัวอีกต่างหาก แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว ส่วนมากผมจะขับรถพี่แฟงมา แต่ถ้าวันไหนพี่แฟงไม่เข้าเวรดึกก็จะมารับส่งผมตามปกติ ทำให้ช่วงหลังมานี้ผมไม่ได้ใช้เซอร์วิสของแฝดบ่อยนัก หรือจะบอกว่าตั้งแต่เปิดเทอมมานี้ผมแทบจะไม่เคยใช้เลยน่าจะใกล้เคียงความจริงมากกว่า

"เราไม่ได้เอามา พี่แฟงมาส่งตอนเช้า" เอ่ยบอกไปตามความจริง เมื่อเช้าผมมีเรียนตั้งแต่แปดโมง เวลาเดียวกันกับที่พี่แฟงราวด์วอร์ดเช้า วันนี้เลยไม่ต้องขับรถมาเองเพราะพี่แฟงแวะมาส่งผมก่อนไปราวด์วอร์ดที่โรงพยาบาลด้านหลังมหาวิทยาลัย

"งั้นเดี๋ยวทัพไปส่งที่คอนโดก่อนละกัน ค่อยเลยไปกินชาบู" กองทัพเอาแขนพาดบ่าผมก่อนจะพาผมเดินออกมาจากใต้ตึกคณะ ช่วงนี้เป็นเวลาที่คนพลุกพล่านมาก เพราะนักศึกษาส่วนมาจะเลิกเรียนกันตอนหกโมง ทำให้คนเดินไปมาขวักไขว่ใต้ตึกเต็มไปหมด แถมตึกคณะเรายังมีเด็กคณะอื่นมาเรียนเยอะด้วยเนื่องจากชั้นบนของอาคารนี้เป็นชั้นเรียนบรรยายห้องใหญ่

"มึงไม่ต้องไปส่งมันหรอก โน่นคนขับรถมันเดินกระดิกหางมาโน่นแล้ว" ขุนพลที่เดินไปกดโทรศัพท์ไปด้วยเอ่ยขึ้นก่อนจะใช้ปากชี้ไปทางลานจอดรถหน้าอาคาร ผมมองไปตามทิศทางที่ขุนพลบอกก่อสายตาจะไปปะให้กับร่างสูงใหญ่ที่คุ้นเคย วันนี้อีกคนมาในชุดกาวน์สีขาวที่สวมทับชุดนักศึกษา ผมไม่ค่อยเห็นพี่แฟงในลุคนี้นอกโรงพยาบาลหรอกครับ เจอข้างนอกทีไรก็ถอดเสื้อกาวน์ออกก่อนตลอด ยกเว้นตอนที่ไปหาอีกคนที่โรงพยาบาล ว่าแต่พี่แฟงในชุดกาวน์สีขาวเดินออกมาจากรถนี่ทำไมมันดูน่ามองอะ ปกติตอนอยู่ในโรงพยาบาลมันดูธรรมดาอะเพราะใครๆก็ใส่กัน แต่พอพี่แฟงมาอยู่จรงนี้คนเดียวในชุดสีขาวตัวยาวแบบนี้มันดูน่ามองจัง แล้วยิ่งอีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้ๆ ฝ่าฝูงชนท่ามกลางชุดนักศึกษามาแบบนี้ ทำไมเค้าดูเท่กว่าทุกวันอย่างไงไม่รู้ วันนี้แฟนผมหล่อมากๆเลยนะเนี่ยขอบอก

"เชี่ยยย กระดิกหางเลยหรอวะ"

"เออดิ มึงคอยดู คุนพูดไรไอ้พี่มันแม่งเออออคล้อยตาม คร้าบบๆๆ น้องคุนงั้นงี้ มึงคอยดู"นายขุนพลคนนี้ก็แบบนี้ตลอด ชอบแหย่พี่แฟงให้พี่แฟงว่าเอา ชอบให้พี่แฟงจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบให้ตลอด ไม่รู้อะไรนักหนา สงสัยเสพติดความกระโชกโฮกฮากของแฟนน้องคุน

"มึงก็พูดไป" กองทัพเอ่ยตอบเหมือนไม่เชื่อ

"นินทาไรกูไอ้แฝดนรก" ว่าที่คุณหมอเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเราสามคน ก่อนจะเอ่ยทักทายสองแฝดที่ยืนอมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แต่คำทักทายของว่าทีาคุณหมอดูจะรุนแรงไปสักหน่อยนะน้องคุนว่า

"พี่แฟงอะอย่าว่าเพื่อนคุนสิครับ พูดไม่เพราะด้วยเนี่ย" เลยโดนผมเอ็ดไปเล็กน้อย

"โอ๋ๆ ไม่ว่าก็ไม่ว่าครับน้องคุน งั้นพี่เปลี่ยนคำพูดใหม่ละกัน หวัดดีไอ้เพื่อนน้องคุน เป็นไงแบบนี้ดีมั้ยครับ " ดูเหมือนว่าที่คุณหมอจะสำนึกผิดเล็กๆ ยื่นมือมาขยี้หัวผมเล่นสองสามที ก่อนจะเอ่ยคำทักทายที่สุภาพกว่าประโยคก่อนหน้านั้น อืม ต้องแบบนี้สิพี่แฟงของน้องคุน น่ารักขึ้นทุกวันอะคนนี้เนี่ย อดไม่ได้ที่จะยื่นมือสองข้างไปบิดแก้มคนตัวโตอยู่เกือบนาที

"เป็นไงมึงกูบอกแล้ว หมาตัวโต"

"อือ หมาจริงๆด้วยวะ ฮ่าๆๆๆ"

"ไง มึงเห็นหางหมากระดิกป่าววะ"

"เห็นวะ"

"หัวเราะเ*ยไรกัน จะไปไหนก็ไรไปเลยพวกมึง รำคาญ" ดูเหมือนหมาตัวโตของสองแฝดจะได้ยินที่สองพี่น้องกระซิบกระซาบกัน จนถูกชี้หน้าคาดโทษรายตัวเลยก็ว่าได้

"อ้าวไรวะ ยืนเฉยๆก็ผิดอ่อ" ขุนพลพูดออกมาก่อนจะทำหน้าเมือนคนไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ยอมรับว่าตัวเองเพิ่งว่าอีกฝ่ายว่าเป็นหมาตัวโต ยกคิ้วสูงส่งรอยยิ้มกวนๆกลับมาให้ว่าที่คุณหมอของผม เหมือนคนอยากถูกด่ายังไงยังไง

"อย่าว่าแต่ยืนเฉยๆเลย แค่เห็นเงามึงโผล่มาดูก็รำคาญละ" นั่นไง คุณหมอเค้ายอมซะที่ไหน

"อุ้ยตาย ว้ายกรี๊ดดด ไอ้พี่อย่ารำคาญเค้านะตัวเอง" ขุนพลยกมือขึ้นสองข้างก่อนวิ่งเอาหน้ามาถูแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของพี่แฟง นี่ก็อะไรไม่รู้ เล่นเป็นเด็กอีกแล้ว คนเดินผ่านไปมามองแล้วก็ไม่อายรึไง

"หวีดอะไรของมึง ทุเรศ ตัวยังกะควาย มาเค้ากะตัวเองอะไร คิดว่าน่ารักนักรึไง แล้วหน้ามึงไปโดนตีนใครมา รอยโคตรชัด"

"รอยไรพี่ บ้าน่า ผมเพิ่งเลิกเรียน รอยตงรอยตีนไร มั่ว" ผมกับกองทัพมองหน้ากันแล้วก็แอบอมยิ้ม ส่วนคนที่มีรอยบนหน้าก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งหน้าตัวเองทันที

"เชี่ยยยย นี่กูหลับทับโทรศัพท์จนเป็นรอยแบบนี้เลยหรอวะ แล้วทำไมมึงสองคนไม่บอกกู ปล่อยให้กูเดินรอบตึกเลยนะ มิน่าละคนมองกูจัง"

ขุนพลเห็นรอยบนหน้าตัวเองก็โวยวายคาดโทษเราสองคนยกใหญ่ จนผมเองอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมกับกองทัพที่เหมือนจะเก็บอาการไว้มานาน ขุนพลดูเหมือนจะไม่พอใจพอสมควรจับแขนผมบิดไปมาอยู่สักพัก

"คุนคุน ไปกันเหอะ ไอ้สองคนนี่มันไร้สาระอยู่ไปก็บั่นทอนอารมณ์เปล่าๆ" ว่าที่คุณหมอแกะมือหนาของขุนพลออกจากแขนผม ก่อนจะเอาเอื้อมแขนตัวเองมาโอบเอวผมแล้วดึงออกไปจากตรงนั้น

"คืนนี้อย่าลืมโทรหาเค้านะตัวเอง" ยังเดินไปได้ไม่เท่าไหร่ ขุนพลก็ตะโกนตามมา ก่อนคนข้างๆผมจะชูนิ้วกลางให้เป็นรางวัล ผมเห็นแล้วก็ขำ สองคนนี้เป็นแบบนี้ตลอด

.
.
.
.
.

"ไหนบอกว่าไปหาเฮียเกอร์ไม่ใช่หรอครับ" ผมถามขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อรถหรูของคนข้างๆเลื่อนเข้ามาจอดในบ้านย่านฝั่งธนที่ผมคุ้นเคย พี่แฟงบอกไว้เมื่อวานว่าวันนี้จะพามาทานอาหารกับพี่ชายคนโตของตระกูลพิสุทธิ์รังสรรค์คนที่ผมเคยได้ยินแค่ชื่อ แต่ยังไม่มีโอกาสได้เห็นตัวเป็นๆเลยสักครั้ง และก็จำได้ด้วยว่าเมื่อคืนพี่แฟงบอกว่าจะไปทานอาหารที่ร้านแถวคอนโดพี่ชายตัวเอง แต่ทำไมตอนนี้ถึงเคลื่อนรถเข้ามาจอดในบ้านของคุณแม่พริ้งได้เนี่ย

"ก็ใช่ แต่แม่กลับมาพอดี เลยเรียกให้มาทานที่บ้านเลย นิวเยียร์ก็อยู่"

"อยู่กันครบเลยหรอครับเนี่ย"

"ใช่ ยกเว้นนิรันดร์ รายนั้นกลับเชียงใหม่ไปคืนเดียวกันกับป๊าม๊าคุนนั่นแหละ"

"อ้อ"

เครื่องยนต์รถคันหรูถูกดับลง ผมปลดสายเข็มขัดออกก่อนจะเลื่อนมือไปเปิดประตู แต่มือหนาของคนข้างๆกันนั้นดันดึงมือผมมากำไว้เสียก่อน ผมรีบมองตามอย่างไม่เข้าใจ ยังไม่ทันจะได้ตั้งตัวก็รู้สึกเหมือนมีอะไรเย็นๆตรงนิ้วนางข้างขวาเลยชายตาลงไปมอง

"พี่แฟง"

"ชอบรึเปล่า"

"..."

"อ้าวเงียบ"

"..."

"ไม่ชอบหรอ ไม่ชอบงั้นเดี๋ยวพี่เอาไปเปลี่ยนให้"

ที่เงียบไปไม่ใช่ว่าไม่ชอบวัตถุสีเงินทรงกลมที่ถูกสวมอยู่ในนิ้วของผม แต่ผมแค่กำลังตกใจและทำตัวไม่ถูก รู้สึกเหมือนใจกำลังพองฟู ฟู จนจะระเบิดออกมาให้ได้

"คุน อย่าร้องไห้สิ นี่ไม่ชอบจนร้องไห้เลยเหรอ" พี่แฟงมีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด แถมหน้าที่ปกติจะมีเลือดฝาดตามแบบฉบับของคนออกกำลังกายนั้นก็ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด มือหนาละออกจากมือผมก่อนจะเคลื่อนมันมาปาดน้ำใสๆตรงแก้มทั้งสองข้างของผมออกให้อย่างเบามือ

"ปะ เปล่า"

"แล้วเป็นอะไร ร้องไห้แบบนี้พี่ใจไม่ดีรู้มั้ย" คนตัวหน้าขมวดคิ้วเข้าหากันบ่งบอกให้รู้ว่าคงเป็นกังวลมากพอสมควรที่จู่ๆผมก็ร้องไห้ออกมา

"คุน แค่ดีใจ"

"..."

"แล้วแหวนนี่คุนก็ชอบมาก ชอบมากที่สุดในจักรวาลเลยด้วยซ้ำ" ผมยกมือขวาขึ้นมาดูแหวนวงสวยบนนิ้วนาฃของตัวเองไปมา

คนตัวหนาไม่ปล่อยผมไว้เขาดึงร่างผมเข้าไปในอ้อมกอดในทันที ก่อนจะกดจมูกโด่งของเขาลงบนหน้าผากผมอย่างอ่อนโยน

"ร้องไห้ขนาดนั้น พี่ก็นึกว่าไม่ชอบ ใจหายหมดเลย"

"ชอบสิครับ บอกแล้วไงว่าชอบมาก ที่ร้องไห้คือดีใจ แล้วก็ตกใจนิดหน่อย"

"โอ๋ ขวัญเอ๋ยขวัญมา ตกใจเลยหรอเรา"

"อื้อ ก็ใครจะไปคิดเล่าว่าจู่ๆจะมีคนมาสวมแหวนให้แบบนี้ เราก็คิดว่าจะมีคนมาคุกเข่าสวมแหวนให้บนยอดตึกวิวสวยพร้อมดอกไม้ช่อโตซะอีก"

"หือ อยากได้แบบนั้นหรอ แต่โทษที พี่ไม่โรแมนติกขนาดนั้นวะ ได้แค่นี้แหละ"

"หยอกเล่นน่า ไม่ได้หวังแบบนั้นซะหน่อย ขนาดแบบนี้คุนยังไม่หวังเลย แค่นี้ก็โรแมนติกมากพอแล้วที่เห็นคุณลภัสทำแบบนี้เนี่ย" รู้ครับว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนโรแมนติก อย่าหวังจะได้ดอกไม้จากว่าที่คุณหมอเลย ไม่มีทางซะหรอก แต่ผมเองก็ไม่ใช่พวกชอบดอกไม่อยู่แล้วเลยไม่ได้รู้สึกอะไร ผมไม่ได้ชอบเขาที่สิ่งของเสียหน่อย ชอบความตรงไปตรงมาของอีกฝ่ายต่างหาก ชอบเขาก็บอกว่าชอบ รักเขาก็บอกว่ารัก เขาอยากบอกรักผมตรงไหนเขาก็ทำแม้จะมีสักขีพยานนับร้อยเขาก็ไม่สนใจ ผู้ชายที่ชื่อลภัสไม่เคยอายที่จะแสดงความรักกับผมและเขาไม่เคยปิดบังการมีตัวตนของผมเลยสักครั้ง และนั่นทำให้ผมรักเขามากมายขนาดนี้

"เดี๋ยวเหอะ ไอ้ตัวเล็กนี่ มันก็ต้องมีบ้าง ความโรแมนติกที่ฝังอยู่ในผู้ชายดิบเถื่อนแบบผมคนนี้เนี่ย"

"อือฮึ"

"..."

"แหวนสวย คุนชอบ"

"ชอบก็ดีแล้ว ใส่ให้แล้วห้ามถอดด้วย ไม่งั้นโดนดี"

"แน่นอน พี่เองก็ห้ามขอคืนด้วยนะ คุนไม่คืนให้เด็ดขาด อ้าว มีอีกวงหรอครับ" ผมเหลือบไปเห็นแหวนสีเงินลักษณะคล้ายกันกับวงที่อยู่บนนิ้วผมที่วางอยู่ในกล่องกำมะหยี่

"ใช่ ของพี่ สวมให้พี่บ้างสิคับที่รัก" คุณเคยเห็นหมาตัวโตอ้อนมั้ยครับ นั่นแหละ ท่าทางของพี่แฟงเป็นแบบนั้นเปี๊ยบเลย พี่แฟงผละผมออกจากอ้อมกอด ก่อนที่ผมเอื้อมมือไปดึงแหวนวางที่ใหญ่กว่าของผมขึ้นมาจากกล่อง

"ทำไมซื้อให้ตัวเองละครับ ของพี่แฟงคุนต้องซื้อให้สิถึงจะถูก"

"ใครซื้อก็เหมือนกันแหละ เพราะตอนสุดท้ายมันก็เป็นแหวนของเราอยู่ดี"

ผมยิ้มกว้างให้กับคำว่า แหวนของเรา

มันไม่ใช่คำที่แต่งแต้มให้พิเศษเลิศเลอ เป็นเพียงแค่คำธรรมดา ที่ทำให้หัวใจผมเต้นแรง ผมยิ้มให้ตัวเอง ก่อนจะหันไปยิ้มให้ว่าที่คุณหมอ

"ขอมือหน่อยครับ" ว่าที่คุณหมอยื่นมือหนาๆของตัวเองมาให้ผม ก่อนที่ผมจะบรรจงสวมแหวนสีเงินเกลี้ยงลงบนนิ้วนางข้างขวาของอีกคนบ้าง

"คุนใส่ให้แล้ว พี่แฟงก็ห้ามถอดเข้าใจมั้ยครับ"

"ใครจะไปถอด ถึงอยากได้คืนพี่ก็ไม่ให้ ถ้าอยากได้คืนก็ต้องตัดนิ้วพี่ไปแล้วละ"

"เวอร์"

"รักคุนแบบเวอร์ๆด้วยเหมือนกัน อื้อออ" ยังไม่ทันที่ผมจะตอบรับรักอีกคนกลับไปริมฝีปากหนาก็เคลื่อนมาประกบริมฝีปากของผมเสียแล้ว แต่ครั้งนี้อีกฝ่ายไม่ได้รุกล้ำเข้ามาด้านในเหมือนทุกครั้ง มีเพียงรสสัมผัสนุ่มๆด้านนอกที่มันช่างอ่อนโยนเหลือเกิน อ่อนโยนจนผมรู้สึกว่าตัวเองล่องลอยอยู่ในอวกาศ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

"จะเข้ามั้ยบ้าน จอดรถนานละนะไอ้น้องชาย!"

"จะสวีทกันเกินไปมั้ยเนี่ยพี่!"

เราสองคนผละออกจากกันก่อนจะมองออกไปตามเสียงเคาะกระจกรถฝั่งคนขับ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ ก็น้องสาวว่าที่คุณหมอนั่นแหละ ที่ยืนกอดอกทำหน้าล้อเลียนเราสองคนอยู่ แต่นิวเยียร์ไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว ข้างเธอมีผู้ชายร่างสูงใหญ่อีกคนยืนอยู่ข้างกัน ถ้าให้เดา คงเป็นเฮียเกอร์ ลูกชายคนโตของบ้านพิสุทธิ์รังสรรค์


#คุนแฟง

by ppeachmm
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 44| 24.06.2020 ❤️❤️
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 24-06-2020 23:09:24
ตอนนี้สั้นไปนะ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 44| 24.06.2020 ❤️❤️
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 24-06-2020 23:39:27
มาแก้ไขให้แล้วคะ ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ข้อความถูกตัดไปเกือบหมด แงงงๆๆๆ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 44| 24.06.2020 ❤️❤️
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 25-06-2020 00:38:59
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 44| 24.06.2020 ❤️❤️
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 25-06-2020 08:05:56
 :hao3:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 44| 24.06.2020 ❤️❤️
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 25-06-2020 11:57:57
หวานซะ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 44| 24.06.2020 ❤️❤️
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 26-06-2020 22:13:07
อ้าย เขิลอะ งือ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 45| 27.06.2020 ❤️❤️
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 27-06-2020 21:44:27
---ตอนที่ 45---


คุน's part

คิกๆ คิกๆ

แกร๊ก

ผมที่นอนหัวเราะคิกๆอยู่บนเตียงหันไปมองเสียงประตูห้องน้ำเปิดออก ก่อนที่ร่างสูงจะเดินออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวสีเทาปกปิดช่วงล่างไว้ หยดน้ำบางส่วนยังคงเกาะบนร่างกายของอีกคนประปราย เส้นผมสีดำสนิทที่เริ่มจะยาวจนจะมุดได้อีกครั้งแล้วเปียกชุ่มไปด้วยน้ำแถมด้วยกลิ่นแชมพูหอมฟุ้งไปทั่วห้องนอนเพียงแค่อีกฝ่ายเดินเอ้อระเหยไปมาในห้องนอนราวกับหาอะไรบางอย่างอยู่ ผมมองตามร่างหนากับผมยาวถึงต้นคอที่ทำให้อีกคนเริ่มบ่นรำคาญอยู่เนืองๆอยู่เป็นอาทิตย์แล้วแต่ก็ยังไม่มีเวลาไปเยี่ยมเยียนร้านตัดผมสักที สงสัยวันอาทิตย์นี้คงต้องพาไปตัดผมเสียหน่อย เดี๋ยวว่าที่คุณหมอจะไม่หล่อดูไม่ดีเท่าไหร่

"หัวเราะอะไรเสียงดังเข้าไปในห้องน้ำ" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับแรงยวบบนเตียงหนาบ่งบอกให้รู้ว่าอีกคนขึ้นมาอยู่บนเตียงเดียวกันแล้ว แถมด้วยหน้าหล่อๆที่ยื่นเข้ามาใกล้ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเอาคางวางแหมะไว้บนไหล่ผมที่นอนคว่ำหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ ผมไม่ได้ตอบอะไร ยังคงตั้งใจพิมพ์ข้อความตอบกลับไปในแชตกลุ่มที่นิวเยียร์ตั้งขึ้นมา และคนบนเตียงเดียวกันกับผมก็ยังเป็นสมาชิกในกลุ่มแชตนี้ด้วยซ้ำ ถ้าตั้งใจฟังดีๆ ก็จะได้ยินเสียงร้องเตือนเบาๆที่ดังออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเจ้าตัวที่แขวนอยู่บนราวหน้าห้องน้ำ แชตกลุ่มนี้เพิ่งก่อตั้งมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วสมาชิกมีทั้งหมดห้าคน สมาชิกหลักคือสามพี่น้องตระกูลพิสุทธิ์รังสรรค์ อีกคนคือตัวผม ส่วนสมาชิกคนสุดท้ายคือแฟนที่หน้าตาหน้าร้ากกกของพี่ชายคนโตของตระกูลพิสุทธิ์รังสรรค์ที่ผมเพิ่งเคยเจอ หน้าตาดีสมคำร่ำลือที่นิวเยียร์คอยโฆษณา ดีจนผมคิดไม่ถึงว่าจะเป็นพี่ชายของคุณลภัส เพราะอีกฝ่ายนั้นดูต่างกันกับพี่แฟงราวเทวดา....กับ....ซาตาน คงไม่ต้องบอกว่าใครเปรียบเสมือนอะไร ผมขอไม่พูดต่อ ไปคิดกันเอาเองนะเออ แต่ที่พูดนี่ไม่ได้หมายความว่าคนของผมนั้นไม่หล่อนะครับ พี่แฟงก็หล่อ หล่อมากด้วน แต่แค่หล่อกันคนละฟีลกับพี่ไทเกอร์เท่านั้นเอง

ผมตั้งใจตอบแชตของนิวเยียร์อย่างตั้งใจ หัวข้อในสนทนาก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย เพราะตอนนี้เรื่องที่เป็นที่น่าจับตามองของตระกูลพิสุทธิ์รังสรรค์ก็เห็นจะเป็นแหวนสีเงินวงเกลี้ยงที่มีเม็ดเล็กสามเม็ดประดับอยู่รอบวงบนนิ้วนางข้างขวาของผม แม้เรื่องนี้จะกลายเป็นหัวข้อสนทนามื้อค่ำที่บ้านคุณแม่พริ้งเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว แต่ความฮ๊อตของมันก็ไม่ได้มีวี่แววจะซาลงเลย นิวเยียร์กับเฮียเกอร์ยังลากเรื่องนี้มาจุดชนวนเพิ่มในไลน์กลุ่ม แต่ด้วยคนคุยในตอนนี้เป็นนิวเยียร์มันเลยทำให้คำถามนั้นดูตลกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ด้วยเพราะน้องสาวคนเล็กของบ้านนี้เป็นคนตลกเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ถามตอบอะไรเลยเรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดเวลา

คิ้ก คิ้ก

"หัวเราะไรนักหนา หืม?" มัวแต่สนใจโทรศัพท์ในมือจนลืมสังเกตไปว่าเจ้าของแหวนบนนิ้วผมขึ้นมาบนเตียงโดยมีผ้าเช็ดตัวผืนเดียวห่อหุ้มร่างกายไว้ มิน่าละ ถึงรู้สึกว่ามีอะไรเย็นๆ ทาบอยู่ที่หลัง ที่แท้ก็หน้าอกเปียกๆ ของอีกคนนั่นเอง ป่านนี้เสื้อผมคงเป็นรอยน้ำเป็นดวงๆแล้วแหงๆ แต่ก็ได้แค่คิดแค่นั้นผมเองก็ไม่ได้ขยับตัวออกไปไหนปล่อยให้อีกคนทาบทับมาเหมือนทุกครั้ง รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ลงน้ำหนักมาจนหมด ไม่งั้นผมคงได้แบนราบติดเตียงไปแล้ว

"นิวเยียร์ครับ"

"คุยไรกัน" คนด้านหลังแนบหน้าเข้ามาชิดแก้มผม ก่อนจะโอบกอดจากทางด้านหลังรับรู้ถึงไออุ่นจากอกอีกคนที่ถ่ายทอดผ่านเสื้อเชิ้ตนักศึกษาตัวบางมายังแผ่นหลัง ความอบอุ่นที่คุ้นเคยที่ผมมักได้รับจากอ้อมกอดของอีกคนเสมอๆ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้ ในวันนี้ทีี่มีอีกคนอยู่เคียงข้างแบบนี้ พร้อมกับคำมั่นสัญญาเป็นแหวนสีเงินบนนิ้วนางข้างขวาของเราสองคน

"ก็ทั่วไปครับผม"

"อะไรคือทั่วไป หืม" เสียงทุ้มของพี่แฟงที่ดังขึ้นข้างหูมันฟังดูทุ้มต่ำกว่าปกติ ส่วนมือหนาที่เคยวางพาดเอวผมอยู่ก็ดูเหมือนจะซุกซนจนเกินไป มันเลื้อยลงต่ำไปยังที่ๆไม่ควรในเวลานี้

"ก็ถามเรื่องแหวน เรื่องของเรา อะไรประมาณนี้ อื้ออ"

"อือฮึ แล้วไรอีก" ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกฝ่ายถามเอาคำตอบจริงๆ หรือแค่ถามไปเพราะอยากจะดึงความสนใจกันแน่

"อื้ออ ก็แค่นั้นครับ อื้ออ" ผมหดคอลงอย่างรวดเร็วเมื่อจมูกโด่งกดฝังลงข้างใบหูก่อนจะซุกไซร้ใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายลงไปตรงซอกคอของผมอย่างเนิบนาบ ความเสียวซ่านถาโถมเข้ามาเมื่อสัมผัสอีกหลายอย่างเกิดขึ้นตามส่วนต่างๆของร่างกายพร้อมๆกัน เคยสงสัยเหมือนกันว่าอีกฝ่ายไปฝึกทำเรื่องแบบนี้มาจากไหนถึงได้เชี่ยวชาญไหลลื่นขนาดนี้จนต้องถามออกไป แล้วก็ได้คำตอบจากหน้านิ่งๆของอีกคนเหมือนผมถามคำถามเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป ตอบกลับมาว่าก็ลองมาเยอะแล้วแต่ก็ยังไม่เคยถูกใจเลยสักคน อีกฝ่ายเลยไม่คิดสานต่อกับใครจนมาติดใจที่น้องคุนคนนี้ ขอยืมคำว่าติดใจของอีกคนมาใช้นะครับ ไม่ได้พูดเอง ตอนนั้นที่ฟังก็รู้สึกโหวงๆในใจเหมือนกันที่รับรู้ว่าอีกฝ่ายเคยทำเรื่องแบบนี้กับใครคนอื่นมาแล้ว ก็ยังดีที่พี่แฟงไม่ได้คิดโกหกกัน ซึ่งนั่นก็เป็นอีกข้อดีหนึ่งที่ผมค้นพบในผู้ชายคนนี้ เขาไม่เคยโกหกผมถึงแม้บางเรื่องถ้าเขาโกหกไปมันจะทำให้ผมสบายใจมากกว่าคำตอบที่เป็นความจริงเสียอีก เขาบอกว่าพูดโกหกไปให้สบายใจแล้วมันจะดีอย่างไงในเมื่อมันทำให้อีกฝ่ายเลือกที่จะโกหก เพราะถ้าโกหกครั้งหนึ่งแล้วมันก็จะต้องมีครั้งต่อไปตามมา แล้วถ้าผมรู้ความจริงนั้นจากปากคนอื่นผมเองนั่นแหละที่จะไม่สบายใจและเสียความรู้สึกเอง ซึ่งผมเองก็เห็นด้วยนะ ส่วนเรื่องที่ิีอีกฝ่ายเคยมีใครมาก่อนนั้นมันก็เป็นเรื่องในอดีตผมไม่ได้ติดใจอะไร ทุกคนล้วนผ่านเรื่องราวชีวิตของตัวเองมาทั้งนั้นและเราไม่ควรจะตัดสินใครที่อดีต ตราบใดที่ปัจจุบันอีกฝ่ายไม่ได้นอกกายหรือนอกใจผมไปมีอะไรกับคนอื่นผมก็ไม่คิดจะถือสา และก็ไม่ควรจะถือสาด้วย เพราะอดีตก็คืออดีตวันยังค่ำ ไม่มีใครชุบชีวิตอดีตให้กลายมาเป็นปัจจุบันหรืออนาคตได้ มันผ่านไปแล้วก็คือผ่านไป ถ้ายังเก็บมันมาทำร้ายซึ่งกันและกันมันจะบั่นทอนความรู้สึกดีๆในปัจจุบันที่เรามีให้กันไปเสียมากกว่า และผมไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น เพราะในอนาคตไม่มีใครหยั่งรู้ได้ อาจจะมีอะไรหลายอย่างเข้ามาทดสอบความสัมพันธ์ของเราสองคน และนั่นก็ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต ไม่ควรเอาอดีตเข้ามาสร้างความวุ่นวายกับปัจจุบัน

เคยสงสัยเหมือนกันว่าทำไมคนคนนั้นของเขาต้องเป็นผม อีกฝ่ายไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ เหมือนกับผมเองที่ก็ตอบไม่ได้ว่าทำไมถึงเป็นพี่แฟง ผมรู้แค่ว่ามีเขาแล้วมันดี เหมือนกับที่เขาพร่ำบอกผมเสมอว่าไม่รู้ว่าทำไมต้องเป็นผม รู้แค่ว่าอยู่กับผมแล้วมันดี ก็แค่นั้น เมื่อเหตุผลมันไม่ได้สละสำคัญอะไร ก็ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความรักจองเราสองคนไป ไม่มีใครรู้ว่ามันจะยาวนานเป็นเดือนเป็นปีหรือตะแค่ไม่กี่วัน รู้เพียงว่าตอนนี้ผมมีความสุขที่มีเค้าในทุกวันก็พอ

"พี่แฟงงงง อื้อออ"

"ครับ เรียกพี่ทำไมหืม" ผมเอื้อมมือไปจับฝ่ามือหนาที่กำลังบีบคลึงก้อนเนื้อสองก้อนที่บั้นท้ายของผมอย่างมันมือ ขืนปล่อยผ่สน รับรองต้องเลยเถิดไปไกลแน่ๆ

"จะทำอะไรครับ ไม่เอา อื้อ" ผมรีบตอบปัดไปเพราะรู้ว่าอีกคนกำลังปลุกปั่นอะไร สัญชาติญานภายใต้เสื้อผ้าที่ถูกปลุกปั่นกำลังจะตื่นตัว แต่ผมเพิ่งกลับมาจากข้างนอก น้ำยังไม่ได้อาบน้ำเลย แถมวันนี้ยังเรียนตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ เสร็จจากเรียนก็ยังต้องไปทานมื้อค่ำที่บ้านคัณแม่พริ้งกว่าจะได้กลับมาถึงคอนโดก็เกือบสี่ทุ่ม เนื้อตัวทั้งเหนียวทั้งเหม็น จะให้มาทำอะไรแบบนี้ผมไม่ไหวหรอก พอดีเป็นคนชอบอาบน้ำก่อนทำกิจกรรมฮึ่มฮ่ำเสียด้วย แล้วคนเริ่มปลุกอารมณ์เองก็รู้ดียิ่งกว่าใคร

"โอเค ไม่เอาก็ไม่เอา" ปากพูดอย่าง แต่จมูกก็ยังซุกไซร้ลำคอผมไม่ห่างออกไปไหน มือหนาที่ผมจับไว้ก็ผละออกเลื่อนมาขยำติ่งสีสวยกลางหน้าอกผมแทน นี่เข้าใจที่ผมพูดบ้างมั้ยเนี่ย

"ก็หยุดสิครับ"

"อื้อออ อีกนิด" เสียงทุ้มกดต่ำลงกว่าเดิมเพิ่มเติมมาด้วยเสียงกระเส่าที่แหบพร่า อีกนิดอะไรเล่า อีกนิดก็เสื้อผ้าหลุดรุ่ยแล้วเหอะ อย่านึกว่ารู้ไม่ทันนะ

คิดในใจได้ไม่ถึงนาที มือหนาก็ดึงโทรศัพท์ในมือผมออกแล้วจะโยนมันไปไว้ที่โซฟาปลายเตียง ก่อนจะดึงผมที่นอนคว่ำหน้าอยู่ให้เอาหลังไปสัมผัสเตียงแทน เราเผชิญหน้ากัน หยดน้ำจากผมที่ยังเปียกหมาดๆของอีกคนหยดลงมากระทบใบหน้าและลำคอของผม แต่คนด้านบนก็ไม่มีท่าทีจะขยับไปไหน จนรู้สึกได้ว่าเสื้อนักศึกษาสีขาวของตัวเองเริ่มเปียกเฉะ มือสองข้างถูกอีกฝ่ายรวบไว้เหนือหัว ก่อนดวงตาคมจะจ้องเข้ามาในดวงตาของผม มันดูแข็งกร้าวเหมือนชื่อเล่นของเขา ดวงตาเขามันเหมือนเขี้ยว ที่พร้อมจะตะปบผมได้ทุกเมื่อ และเชื่อเถอะว่าถ้าเขาอยากจะตะปบฝังเขี้ยวลงบนส่วนไหนของร่างกายผม ผมไม่มีทางขัดขืนได้เลย นายแฟงที่แปลว่าเขี้ยวคนนี้นั้นแผดเผา เร่าร้อน และบางครั้งผมก็ทรมานจนเหมือนจะขาดใจตายถ้าอีกฝ่ายกลั่นแกล้งกัน แต่ก็แค่นั้น เพราะในตอนจบเขี้ยวอันนี้ก็พาผมข้ามแม่น้ำแห่งความสุขไปได้แทบทุกครั้งไป

"อะ อาบน้ำก่อน" ผมตัดสินใจเอ่ยออกไปเสียงเบา แม้จะรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่างที่ดุดันอยู่ตรงส่วนล่าง ถึงไม่ได้หันไปมองก็พอเดาได้ว่ามันคืออะไร

"ก็ไปอาบสิ ไม่ได้ว่า" อีกฝ่ายตอบกลับมาพร้อมกับยกยิ้มขึ้น รอยยิ้มที่ผมเห็นที่ไรต้องขยาดเพราะนั่นหมายถึงว่าผมกำลังจะถูกเสือตัวนี้ฝังเขี้ยวลงไปตามจุดต่างๆของร่างกายในไม่ช้า

"งั้นก็ปล่อยคุนสิครับ" ผมขยับตัว พยายามส่ายข้อมือไปมาให้หลุดจากการรัดกุมของอีกฝ่าย แต่ดูเหมือนว่าจะไร้ประโยชน์ ยิ่งขยับ อีกฝ่ายก็ยิ่งออกแรงรัดมากขึ้น ยิ่งอ้าปากประท้วงก็ยิ่งถูกปิดปากด้วยริมฝีปากหนาที่บดคลึงรุกล้ำและหลอมละลาย และที่แย่ไปกว่านั้น ยิ่งขยับช่วงล่าง ก็ยิ่งรู้สึกว่าอะไรบางยังมันขยับขยายเพิ่มขนาดขึ้นไปอีก

อ่าาาา..แย่แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้จะได้ไปอาบน้ำตอนไหน

อีกฝ่ายผละออกก่อนยกยิ้มมุมปากอย่างผู้มีชัยเมื่อผมไม่สามารถขัดขืนแรงอีกคนได้ ผ่านมากว่าหลายนาทีข้อมือผมก็ยังถูกกอบกุมอยู่เหนือศรีษะเหมือนเดิม

"ที่รักครับ น้องคุนอยากอาบน้ำ" ดูเหมือนคำอ้อนของผลจะยังคงใช้ได้ผลอยู่เสมอ มือหนาที่กอบกุมข้อมือผมคลายลงจนผมสามารถดึงแขนของตัวเองออกมาได้ ดวงตาเรียวคู่นั้นดูววูบไหวกับคำสรรพนามนี้ทุกครั้งที่ถูกนำมาใช้ เรี่ยวแรงมหาศาลที่เคยมีดูเหมือนจะเบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผมจะลุกออกจากเตียงได้ทั้งๆที่อีกฝ่ายทาบทับผมอยู่

"ขอพี่ก่อนรอบนึงสิ แล้วค่อยอาบ" อีกฝ่ายเลื่อนหน้าลงมาประชิดหน้าผม เราห่างกันไม่ถึงหนึ่งฝ่ามือด้วยซ้ำ จนหยดน้ำหยดใหญ่จากเส้นผมหนาหยดลงมากระทบรมฝีปากผม ก่อนที่ผมจะได้ยกมือตัวเองขึ้นมาเช็ดมันก็ถูกเช็ดด้วยริมฝีปากหนาของคนบนร่างเรียบร้อยแล้ว

"แต่คุนยังไม่ได้อาบน้ำ" เป็นอันรู้กันว่าถ้าไม่อาบน้ำผมไม่ทำ แล้วอีกฝ่ายก็รู้ดี เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาหลายครั้งแล้ว และมันก็จบลงด้วยการที่อักฝ่ายยอมให้ผมเข้าไปอาบร้ำแต่โดยดี คนบนตัวผมถอยออกไปจากตัว ผมส่งยิ้มให้อีกฝ่ายที่ยอมทำตามอย่างว่าง่าย แต่ผมก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเหตุการณ์ตรงหน้าไม่ใช่อย่างที่คิดรอนยิ้มเมื่อครู่รีบหุบลงแทบไม่ทันเมื่อคนที่คุกเข่าที่ตรงหว่างขาผมดึงผ้าเช็ดตัวผืนสีเทาออกไปทิ้งไวเบนพื้นอย่างรวดเร็ว ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถามทันที ว่านี่มันอะไร?

"คุนยังไม่อาบ พี่ก็ไม่ทำไรคุน"

"แต่...." ดูรูปประโยคแล้วเหมือนอีกฝ่ายจะยอมปล่อยผมไปอาบน้ำแต่โดยดี แต่ทว่าการกระทำนั้นมันดูสวนทางอย่างสิ้นเชิง นอกจากจะโยนเครื่องห่มหุ้มร่างกายของตัวเองทิ้งไปแล้ว อีกฝ่ายยังดึงผมขึ้นมานอนทับบนตัวตัวเองอีก

"แต่คุนต้องใช้ไอ้นี่ ทำ ให้พี่สักรอบก่อน นะครับ แล้วพี่จะปล่อยคุนไปอาบน้ำแต่โดยดี"

พอได้ฟังสิ่งที่อีกคนต้องการ ก็ได้แต่ร้องอ้ออออออในใจ แล้วไอ้นี่ที่อีกฝ่ายพูดถึงก็ไม่ใช่อะไร ไม่ค้องเดาอะไรให้ยากเลย เพราะอีกฝ่ายยื่นนิ้วชี้มาแตะลงบนริมฝีปากของผมแล้วขยี้มันเบาเหมือนทุกครั้งที่เขาต้องการให้ผมทำอะไรแบบนี้

ผมก้มลงมองส่วนที่เคยดันหน้าขาผมเมื่อครู่ก็ยกยิ้มขึ้นมาก่อนจะก้มหน้าลงไปทักทายลูกชายฝาแฝดของพี่แฟงอยู่หลายนาที จนอีกฝ่ายร้องคำรามในคอแล้วเอามือหนากดขยับหัวผมให้เป็นไปตามจังหวะที่อีกคนพอใจเมื่ออารมณ์ของเจ้าตัวถูกปลุกปั่นขึ้นมาถึงขีดที่ควบคุมไว้แทบไม่ได้ ผมเองก็ไม่อยู่เฉยยื่นมมือไปควบคุมจังหวะมือบางสาวขึ้นลงไปด้วยพร้อมๆกัน รู้ดีว่าจุดไหนที่อีกฝ่ายชื่นชอบ รู้ดีว่าความเร็วระดับไหนที่อีกฝ่ายพอใจ แล้วก็ใช้นิ้วเน้นย้ำตรงจุดนั้นซ้ำๆให้อีกฝ่ายครางออกมาไม่เป็นภาษา ใช้เวลาไม่นานเสียงครางทุ้มต่ำของอีกฝ่ายก็ดังขึ้นพร้อมกับสายน้ำที่พรั่งพรูออกมาเลอะขอบปากของผม กลิ่นเฉพาะตัวของอีกฝ่ายคลุ้งเตะจมูกผมเช็ดของเหลวออกจากปากก่อนจะลุกเดินเข้าห้องน้ำไป ทิ้งอีกคนให้นอนหอบอยู่บนเตียงกว้าง

ทิ้งช่วงไม่นานอีกฝ่ายก็เดินตามเข้ามาพร้อมกับมือหนาที่สอดมาโอบเอวผมจากด้านหลังในตอนที่ไม่มีเสื้อผ้าปกปิดร่างกายผมไว้แล้ว

"เดี๋ยวพี่ช่วยอาบ"

"ไม่เอา"

"ทำไม"

"เดี๋ยวไม่ได้อาบกันพอดีครับ"

"อืม คิดถูกแล้ว"

แล้วก็เป็นอย่างที่คิด อีกฝ่ายจัดการเริ่มจังหวะรักทันทีที่อาบน้ำชำระล้างร่างกายให้ผมเสร็จ อาบให้เองกับมือ แล้วก็ทำให้เลอะเองกับมือเขาด้วยนั่นแหละ จากที่เคยอาบน้ำไม่ถึงครึ่งชั่วโมง คืนนั้นกว่าจะได้กลับมานอนบนเตียงก็เกือบขึ้นวันใหม่ แล้วขอบอกเลยว่าผมไม่ได้เดินมานอนบนเตียงด้วยตัวเองด้วยซ้ำ เพราะสลึมสลือจากความเหนื่อยหอบอันเป็นผลจากกิจกรรมฮึ่มฮ่ำที่เจ้าของแหวนบนนิ้วผมมอบให้ ผมถูกอุ้มกลับมานอนที่เตียงได้ยังไงยังไม่รู้เลย รู้ตัวอีกที่ก็ตอนที่อีกฝ่ายลุกขึ้นไปปิดไฟในห้องนอนแล้วแทรกตัวเข้ามาในผ้าห่มก่อนจะดึงตัวผมเจ้าไปซุกอกแกร่งเหมือนทุกคืนที่อีกฝ่ายทำเป็นประจำทุกวัน

"พี่รักคุนนะ"

"รักพี่แฟงเหมือนกันครับ"

"นอนซะเด็กดี"

"อื้อ"

"หลับฝันดี ฝันถึงพี่ด้วย"

"คุนก็ฝันถึงพี่อยู่ทุกคืน"

"ขอบคุณที่เดินเข้ามาหาพี่ในวันนั้น"

"หือออ วันไหนหรอครับ"

อีกฝ่ายตอบอะไรสักอย่างกลับมา คำตอบของพี่แฟงสั่นเครืออยู่ในโสตประสาท แต่เพราะตอนนี้ผมเหนื่อยเหลือเกินจึงจับใจความประโยคนั้นไม่ได้ ภาพด้านหน้าก็ดูเหมือนจะดับวูบไปได้ทุกเมื่อ ไม่เป็นไรไว้พรุ่งนี้ค่อยถามใหม่แล้วกัน


#คุนแฟง

by ppeachmm

-------+++++------

จะจบแล้วน้าาาา ตอนหน้าตอนสุดท้ายแล้วนะคะ
มาส่งน้องคุนกับพี่แฟงไปถึงฝั่งพร้อมกันนะคะ

หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 45| 27.06.2020 ❤️❤️
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 28-06-2020 06:29:19
 :hao3:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 45| 27.06.2020 ❤️❤️
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 29-06-2020 20:52:49
อิจฉาคนมีความรัก หุวๆ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 45| 27.06.2020 ❤️❤️
เริ่มหัวข้อโดย: mylittleY ที่ 03-07-2020 16:06:19
เข้าใจการกระทำของทุกตัวละครในเรื่องนี้นะคะ และใจจริงไม่คิดเลยว่าหมอแฟงจะมาโรแมนติกได้ในตอนท้าย ชอบความรักที่ต่างฝ่ายต่างให้ ต่างฝ่ายต่างเข้าใจแบบนี้ มันดีคะ ไม่อยากให้จบเลย แต่ก็รออ่านตอนจบอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 46| 04.07.2020 ❤️❤️ (End)
เริ่มหัวข้อโดย: Ppeachmm ที่ 04-07-2020 16:20:00
---ตอนที่ 46(จบ)---

(ยาวนิดนึงนะคะ)
.
.
.

5 ปีที่แล้ว

แฟง's part

ผมชื่อแฟงครับ แฟง ที่ออกเสียงเหมือน แฟงค์ เป็นภาษาอังกฤษมีความหมายว่าเขี้ยว นิรันดร์ตั้งชื่อนี้ให้ผมเพราะหลังจากที่คลอดออกมาได้สักอาทิตย์ผมก็ชอบงับนิ้วนิรันดร์ประจำ นิรันดร์บอกผมดุดันแต่เด็กแล้วก็ยังเกรี้ยวกราดอีก อยากตั้งชื่อว่าเสือ แต่ก็จะไปซ้ำกับชื่อลูกชายคนโตของบ้านพิสุทธิ์รังสรรค์ที่ชื่อว่า ไทเกอร์ เลยได้ชื่อเล่นเด็ดดวงเป็นภาษาอังกฤษมาว่า แฟง
ไม่ใช่แค่ชื่อที่แสดงถึงความเกรี้ยวกราดอย่างเดียว นิสัยก็เกรี้ยวกรสดไม่แพ้ชื่อเลย มีเรื่องชกต่อยที่โรงเรียนประจำจนถูกเรียกผู้ปกครองเป็นว่าเล่น ผมไม่ใช่คนชอบหาเรื่องนะครับอย่าเข้าใจผิด ผมแค่เป็นคนชอบความถูกต้องเท่านั้น มีเรื่องชกต่อยแต่ละครั้งก็ล้วนแล้วแต่เข้าไปช่วยเพื่อนที่โดนรังแก แต่พักหลังนั้นกลับกลายเป็นโดนไอ้พวกเหล่านั้นมาหาเรื่องผมที่โรงเรียนบ่อยๆ ก็มีคนมาหาเรื่องจะให้ผมยืนเฉยๆรึไงกันครับ ก็สวนกลับดิคร้าบบบบ
เกเรแหละ พูดได้เต็มปากว่าเกเรเ*ยๆๆ เกเรจนตอนจบ ม.3 นิรันดร์ทนไม่ไหวต้องส่งผมไปสำนึกผิดที่ปักกิ่งถึงหนึ่งเดือน หนึ่งเดือนที่ห่างไกลบ้านเป็นครั้งแรก หนึ่งเดือนที่ไม่มีความสะดวกสบายใดๆที่เคยได้รับเหมือนตอนอยู่บ้านพูดเลยว่าไม่ต้องทำอะไร บ้านไม่ต้องทำความสะอาด อาหารไม่ต้องทำ กินเสร็จไม่เคยต้องล้างจาน ผ้าไม่เคยซัก ที่บ้านมีแม่บ้านทำให้หมด ตื่นขึ้นอาบน้ำ กินมื้อเช้า แบมือขอเงินนิรันดร์แล้วก็ไปโรงเรียน ชีวิตช่างสุขสยายจนหลงลืมหน้าที่ของลูกคนหนึ่งที่พึงกระทำไป คือ การตั้งใจเรียนและเชื่อฟังพ่อแม่
ช่วงม.3 ชีวิตผมดิ่งมาก ใช้ชีวิตได้ห่าเหวสุดๆ โดดเรียนเป็นว่าเล่น ถูกเรียกพบผู้ปกครองเกือบทุกอาทิตย์ ผลการเรียนตกต่ำ เข้าออกโรงพยาบาลเกือบทุกเดือน ชีวิตโคตรลงเหวอะช่วงนั้น ช่วงวัยรุ่นหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตแล้วผมก็ใช้ชีวิตช่วงนั้นสุดตีนมาก
จนนิรันดร์สายหัวคงเอือมระอากับลูกนิสัยเสียอย่างผมเต็มที พราะวันสุดท้ายของการเรียนจบม.3 นิรันดร์ยื่นตั๋วเครื่องบินใบนึงให้ผม แล้วก็ขัยรถไปส่งผมที่สนามบิน พร้อมกับพูดกับผมว่า "ถ้ามึงยังไม่เลิกทำตัวเ*้ยก็ไม่ต้องกลับมาให้กูเห็นหน้าอีก" เป็นไงล่ะครับเจ็บจี๊ดสิครับ พ่อบังเกิดเกล้าถีบหัวส่งให้ไปอยู่ในที่แสนไกลที่ไม่รู้จักใครเลยสักคน

ในซองตั๋วเครื่องบินมีเงินอยู่ในนั้น 1 ก้อนที่พอจะประทังชีวิตในต่างแดนได้ไม่ถึงเดือน แล้วผมต้องทำยังไงหรอครับ ผมก็ไม่รู้ไงว่าต้องทำยังไงไง ความสำนึกผิดมีอยู่น้อยนิดเลือนลางแทบจะมองไม่เห็น อาทิตย์แรกนี่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายโดยใช้เงินไปเกือบครึ่งของเงินทั้งก้อนที่มีอยู่ แล้วก็ยกหูโทรศัพท์ต่อสายกลับมาหานิรันดร์ขอเงินเพิ่ม แต่ได้คำตอบกลับมาว่า

'อยากได้เงินมึงก็หาเอาเอง แต่ถ้าอยากกลับบ้านก็หาเงินซื้อตั๋วเครื่องบินกลับมาเอง'

 เป็นไงล่ะครับตาสว่างเลยทีนี้ นิรันดร์เป็นคนพูดจริงทำจริงเสมอ ถ้าบอกว่าไม่ให้ก็คือไม่ให้ จากที่กินเที่ยวเล่นกับเพื่อนไปวันๆ ต้องหยุดลงทันที โชคดีที่เพื่อนผมมีญาติที่นี่จึงฝากงานให้ผมที่ร้านไอศครีมแห่งหนึ่ง แล้วก็โชคดีไปกว่านั้นคือผมพูดภาษาจีนได้เพราะนิรันดร์เคี่ยวเข็ญให้ไปเรียนภาษาจีนตั้งแต่เด็กก็ตั้งใจเรียนแบบเด็กนั่งหลังห้องอะครับ ไอ้ที่ว่าพูดได้ไม่ใช่พูดคล่องนะครับก็แค่แบบพอไปวัดไปวาได้ ก็จะเอาชีวิตรอดในต่างแดนได้ก็แล้วกัน

"สวัสดีครับ" ผมที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ที่ก้มเก็บไปส่งของที่หล่นอยู่ที่พื้นเอ่ยกล่าวต้อนรับลูกค้าได้เข้ามาในร้านทันทีเมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้น เสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งเดินมาอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ก่อนที่ผมจะยืนขึ้นมาเต็มความสูง

"ครับ" เด็กชายตัวขาวโปร่งบางแก้มยุ้ยส่งยิ้มให้ผมก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองเมนูที่แปะไว้ด้านหลังผม

"วันนี้กินอะไรดีน้า" เด็กน้อยบ่นพึมพำกับตัวเอง เอนคอมองดูเมนูไอศกรีมด้านบนพร้อมขมวดคิ้วเหมือนคิดไม่ตก ท่าทางไร้เดียงสาจนลมละสายตาไม่ได้ ปากแดงระเรื่อขมุบขมิบไปมาเมื่ออ่านชื่อเมนูบนผนัง

"ชอบกินรสอะไรละ" ผมเอ่ยถามขึ้นเมื่ออีกคนตัดสินใจเลือกไม่ได้สักที ดีหน่อยที่ตอนนี้เป็นช่วงบ่ายคล้อย ไม่ค่อยมีลูกค้า ไม่งั้นเจ้าเด็กนี่คงไม่มีเวลามายืนงงเลือกรสชาติไอศกรีมอยู่แบบนี้หรอก

"หวานฮะ" เด็กน้อยมองหน้าผมอย่างงงๆก่อนเอ่ยตอบ

"กล้วยอัลมอลมั้ย" ผมเสนอเมนูที่คิดว่าอีกคนน่าจะชอบให้

"ไม่เอาฮะ ผมแพ้ถั่ว" อีกคนตอบกลับมาหน้าเศร้า

"แพ้ก็เอารสอื่น จะทำหน้าเศร้าทำไม"

"ก็อยากลองกินถั่วดูบ้างนี่ฮะ อยากรู้ว่ารสชาติเป็นยังไง"

"ก็เหม็นๆ มันๆ กรุปๆ"

"ฟังดูไม่น่าทานเลยนะฮะ"

"ก็ใช่ไง ถั่วนะไม่อร่อยหรอก กินไม่ได้นะดีแล้วแม่จะได้ไม่ต้องบังคับให้กินไง"

"จริงด้วยแฮะ ฟังพี่พูดแบบนี้แล้วผมค่อยสบายใจหน่อย แอบเสียใจอยู่ตั้งนานที่กินไม่ได้"

"เออ รู้แบบนี้แล้วก็เลิกเสียใจซะ มีของกินอีกตั้งเยอะแยะที่กินได้"

"จริงด้วย พี่ใจดีจัง"

"หล่อด้วย ใจดีด้วย"

"ใจดีอย่างเดียว ไม่หล่อฮะ"

"ใครๆก็ว่าหล่อ"

"ก็บนหน้าพี่มีแมส ผมไม่รู้หรอกว่าหล่อรึเปล่า"

"เออน่า บอกว่าหล่อก็หล่อ"

"เชื่อได้หรอฮะ"

"เออ แล้วสรุปจะกินอะไร ลอง cotton candy ดูมั้ย"

"อันไหนหรอฮะ"

"อันที่สีเหมือนสายรุ้งนะ"

"โหหน้าตาหวานมากเลยนะฮะ"

"ไม่เอา?"

"เอาสิฮะ ผมสายหวานนนน"

"ฮ่าๆๆ ตลกนะเรา"

"ตลกที่ไหนละฮะ น่ารักต่างหาก"

"แปลกคนนะ ชมตัวเองก็ได้ด้วย"

"ใช่ฮะ ชอบชมตัวเอง"

ผมหัวเราะในลำคอก่อนจะเดินไปตักไอศครีมสีสายรุ้งใส่โคนแล้วยื่นให้เด็กน้อยหน้าตาน่ารัก เจ้าตัวแก้มยุ้ยจ่ายเงินแล้วก็เดินถือไอศกรีมโคนออกไปด้วยร้อยยิ้มที่กว้างที่สุดที่ผมเคยเห็นใครยิ้มในโลกใบนี้

"พี่ฮะ" เสียงเล็กหวานดังขึ้นที่หน้าตู้ไอศครีมเหมือนทุกวัน ตั้งแต่วันนั้นเด็กตัวขาวแก้มยุ้ยก็มาซื้อไอศครีมที่นี่ทุกวันเป็นเวลาสองอาทิตย์แล้ว แปลกที่เราสนิทกันทั้งๆที่สันๆหนึ่งคุยกันไม่กี่ประโยค

"ว่าไง"

"วันนี้ไม่อยากกิน cotton candy แล้วฮะ"

"เออ ก็สมควรอยู่หรอก กินอยู่ได้ทุกวันไม่เบื่อรึไง"

"ตอนนี้เบื่อแล้ว พี่เลือกรสใหม่ให้ผมหน่อยฮะ"

"งั้นลองแมชแมโล่กล้วยดูมั้ย"

"อันไหนฮะ"

"อันนั้นอะที่สีเหลืองแล้วก็มีสีฟ้าแทรกอยู่ด้านในอะ"

"อ้ออออ น่ากินจัง งั้นน้องคุนเอาอันนี้ฮะ"

"กี่ก้อน"

"สามฮะ"

"เกินไป กินมากเดี๋ยวอ้วน เอาไปสองก้อนก็พอ"

"แต่คุนอยากกินสามก้อน"

"ไม่ขาย จะขายแค่สอง กินเยอะอ้วน แก้มนี่จะลากพื้นอยู่แล้ว"

"พี่ชายก็พูดเกินไป สองก้อนก็สองก้อนฮะ เท่าไหร่ฮะ"

"ฟรี"

"อ้าว ทำไมฟรีละฮะ"

"พี่เลี้ยง"

"ใจดีจัง ทำไมเลี้ยงอะ หรือเห็นว่าน้องคุนมาเป็นลูกค้าประจำใช่มั้ย"

"ก็ใช่ แต่พรุ่งนี้พี่จะกลับบ้านแล้ว"

"อ้าว กลับไปไหนอะ"

"เมืองไทย รู้จักมั้ย"

"รู้ๆ คุนรู้ หม่าม๊าก็เป็นคนไทย คุนพูดภาษาไทยได้ด้วยนะครับ"

แล้วเจ้าเด็กแก้มยุ้ยที่กำลังเลียไอศกรีมอยู่ก็พูดภาษาไทยใส่ผมฉอดๆ ผมฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ก็มันเล่นพูดภาษาไทยสำเนียงจีนแถมยังสลับคำในประโยคมั่วซั่วไปหมด ฟังไปขำไป ขอร้องให้ผมเล่าเรื่องเกี่ยวกับเมืองไทยให้ฟังต่างๆนานาๆ ดูท่าจะชื่นชอบเมืองไทยมาก พอผมเล่าเรื่องโน่นเรื่องนี่ให้ฟังอีกคนก็ดูตื่นเต้นจนออกนอกหน้า เราคุยกันได้เหลายชั่วโมงอยู่ ก่อนที่จะเจ้าตัวเล็กจะขอตัวกลับบ้านเพราะมืดค่ำแล้ว

"พี่ชาย" ผมที่กำลังเช็ดโต๊ะอยู่เงยหน้าขึ้นมามองเด็กน้อยที่อำลากันไปเมื่อสิบนาทีที่แล้วด้วยความไม่เข้าใจ ไหนบอกจะกลับบ้านแล้วนี่เข้ามาในร้านทำไมอีก

"อะไร"

"คุนให้" มือเล็กยื่นถุงกระดาษใบสีขาวเล็กๆมาให้ผม ผมยื่นมือออกไปรับก่อนจะเปิดดูว่าในนั้นมีอะไร

"ชอบมั้ยฮะ" เจ้าแก้มยุ้ยยอ้มกว้างก่อนเอ่ยถามออกมาเมื่อผมหยิบของด้านในออกมา

"ให้ทำไม"

"เพื่อนกัน พี่เอาไว้ดูต่างหน้าไงครับ จะได้คิดถึงน้องคุนตอนกลับบ้านไปแล้ว"

ผมหัวเราะในลำคอก่อนจะเก็บของชิ้นนั้นใส่กระเป๋าเสื้อคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายพอรู้ว่าจะจากกันก็ถึงกลับไปซื้อของฝากมาให้ผม มันน่ารักเกินไปแล้วไอ้เด็กแก้มยุ้ย รู้สึกเสียดายเหมือนกันที่ต้องจากกัน แต่ชีวิตคนเรามันก็แบบนี้ พบแล้วก็ต้องจาก มันเป็นเรื่องธรรมดา

"ขอบใจ"

"คุนไปแล้วนะ อย่าลืมคิดถึงน้องคุนด้วยเข้าใจมั้ยครับ"

"รู้แล้วน่า"

คำพูดประโยคสุดท้ายที่เราร่ำลากันก่อนเด็กแก้มยุ้ยจะวิ่งออกไปขึ้นรถราคาแพงที่จอดรออยู่หน้าร้านเหมือนทุกวัน
.
.
.
.

หลังจากใช้ชีวิตในปักกิ่งตัวคนเดียวได้เดือนกว่าก็มีเงินซื้อตั๋วเครื่องบินกลับบ้าน ทั้งๆที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะอยู่แค่เดือนเดียวแต่เอาไปเอามาผมอยู่ที่โน่นตั้งสี่สิบกว่าวัน ไม่ได้อยากอยู่หรอกนะครับ แต่ยังเก็บเงินซื้อตั๋วไม่ได้ต่างหากละ

พอกลับมาถึงแม่ก็บ่นนิรันดร์ใหญ่ว่าให้ลูกไปลำบากแบบนั้นได้ยังไง บ่นว่าผมผอมลงบ้างละ คล้ำขึ้นบ้างละ ต่างๆนาๆคำบ่นถูกสาดใส่นิรันดร์ไม่ยั้ง ส่วนนิรันดร์ก็เงียบฟังเมียตัวเองบ่นวนไป

หลังจากประสบการณ์ชีวิตที่ยืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้สอนอะไรผมต่างๆนาๆ พอขึ้นม.ปลายผมก็เปลี่ยนเป็นคนละคน เอาการเอางานตั้งใจเรียนมากขึ้นจนสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ได้ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพ วงศ์ตระกูลก็หน้าบานไปสิครับ ไม่มีใครคิดหรอกว่าเด็กเกเรในวันนั้นจะกลายมาเป็นนิสิตคณะแพทยศาสตร์ได้ในวันนี้

"สรุปมึงจะเอายังไงแฟง นี่กูขับรถวนพามึงดูคอนโดมาจะสิบที่ละนะ เลือกมาสักที่เถอะวะ" นิรันดร์ที่นั่งอยู่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามผมบ่นอุบเมื่อผมเลือกไม่ได้สักทีว่าจะย้ายมาอยู่คอนโดไหน เพราะต้องย้ายมาเรียนที่กรุงเทพฯนิรันดร์เลยให้อยู่กับแม่ที่บ้านแต่ด้วยช่วงหลังนั้นผมเรียนหนักขึ้นทำให้มีปัญหาด้านการเดินทางพอสมควร เพราะถ้าไปกลับบ้านแม่กับมหาวิทยาลับแบบต่อไปคงเหนื่อยน่าดูเพราะอยู่คนละฝั่งของเมืองเลย วันนี้นิรันดร์เลยลงมาจากเชียงใหม่ พาขับรถดูคอนโดในระแวกมหาวิทยาลัยตั้งแต่ช่วงสายของวันแล้ว

"ยังไม่ถูกใจ" ผมตักผัดกระเพราปลาหมึกในจานอาหารของตัวเองเข้าปากก่อนมองออกไปนอกร้าน เนื่องจากวนดูคอนโดมาตั้งแต่เช้าทำให้กระเพราะร้องหาพลังงานเพิ่มเติม นิรันดร์เลยจอดรถตรงร้านอาหารไทยข้างทางที่ตกแต่งสวยงามราคาเทียบเท่าร้านที่ขายในห้าง งงเหมือนกันว่าร้านริมถนนทำไมต้องขายแพงแบบนี้ แต่ก็ต้องเข้าใจแหละว่านี่มันกรุงเทพไม่ใช่เชียงใหม่ ข้าวกระเพราะปลาหมึกจานละ 150 ที่ขายในร้านกึ่งคาเฟ่แบบนี้ก็ถือว่าราคาปกติแหละ

สมองคิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อย ส่วนสายตาที่สอดส่ายไปด้านนอกร้านก็ไปหยุดอยู่ที่ใครคนหนึ่งที่กำลังเดินออกมาจากคอนโดฝั่งหรูฝั่งตรงข้ามร้านที่ผมนั่งอยู่ ถ้าเป็นเวลาปกติสายตาผมคงเลื่อนไปมองที่อื่นแล้วถ้าหากคนที่เดินออกมาจากคอนโดนั้นไม่ใช่เด็กน้อยคนที่ชอบมาซื้อไอศกรีมรสชาติหวานๆในร้านที่ผมเคยทำงานอยู่ในปักกิ่งเมื่อห้าปีก่อน ผมหัวเราะให้กับโชคชะตาที่นำพาคนสองคนที่คิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีกมาพบกันอีกจนได้ เมื่ออีกคนข้ามน้ำข้ามทะเลมาให้ผมได้ทำความรู้จักถึงที่นี่ ตอนแยกกันเราไม่ได้แลกเปลี่ยนช่องทางการติดต่อกันเลย ตอนนั้นในใจก็นึกเสียดายอยู่เหมือนกันที่จะไม่ได้เจอหน้าเด็กน้อยแก้มยุ้ยคนที่ยิ้มกว้างเท่าจักรวาลคนนั้นแล้ว

เด็กน้อยในวันนั้นตอนนี้โตขึ้นและสวมใส่ชุดนักศึกษาสถาบันเดียวกันกับผม

โชคชะตานำพาโดยแท้

"นิรันดร์ ผมจะอยู่คอนโดนี้"

"ยังไงนะ"

"ผมจะเอาคอนโดนี้"

"ไหนมึงบอกว่าห้องมันเล็ก"

"ก็ถ้าเทียบกับราคาขนาดห้องมันกูดูเล็กไปแหละ แต่ตอนนี้มันไม่เล็กแล้วไง จะเอาที่นี่แหละ จะย้ายเข้าพรุ่งนี้เลยด้วย"

"เจริญ นึกจะเอาก็เอา นึกอยากจะย้ายก็ย้าย เอาแต่ใจเหมือนใครวะ"

"เหมือนพ่อ"

"ใครกันวะพ่อมึง กูอยากเห็นหน้าจริงๆ"

ก็ตัวเองนั่นแหละพ่อบังเกิดเกล้าของผม!
.
.
.
.
.

ผมย้ายเข้ามาอยู่ในคอนโดนี้หลายเดือนแล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววที่จะพบเจอเด็กตัวขาวแก้มยุ้ยที่เป็นสาเหตุให้ผมตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่ในตึกสูงระฟ้านี้เลยสักครั้ง ถอดใจไปแล้วว่าอีกคนอาจจะไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ วันนั้นที่บังเอิญเจออาจะมาหาใครสักคนที่นี่ แล้วด้วยตารางเรียนของผมค่อนข้างแน่นจึงไม่ค่อยมีเวลาไปตามหาอีกฝ่าย ประจวบกันหลังจากนั้นไม่นานเกิด COVID19 ระบาด มหาวิทยาลัยจัดให้มีการเรียนออนไลน์แล้วผมก็ไม่ได้ออกไปไหนมาไหนอีก ไปไกลสุดก็ซุปเปอร์มาเก็ตด้านล่างคอนโด วันนี้ผมนัดเพื่อนในกลุ่มมาทำรายงานกันที่ห้องและในระหว่างที่เรากำลังประชุมหารืองานกันอยู่นั้นก็มีเสียงเคาะประตูที่หน้าห้อง

"ใครวะ" ผมเอ่ยขึ้นทันที

"กูจะไปรู้หรอ นี่ห้องมึง มึงนัดใครไว้ละ" นาทีเพื่อนสมัยเด็กของผมเอ่ยขึ้น จริงของมัน แล้ววันนี้ผมก็ไม่ได้นัดใครไว้อีก แล้วใครมาเคาะประตูห้องวะ

ปึก!

"โอ้ย เชี่ย ใครเอาหนังสือมากองไว้ตรงนี้วะแม่ง" ผมร้องออกมาเสียงดังเมื่อหลังเท้าเตะเข้ากับกองหนังสือมหึมาที่ไม่รู้มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงเข้าอย่างจังจนหน้าเท้าแดงเถือกชัดเจน

"กูวางเองแหละ" แล้วไอ้ตัวต้นเหตุอย่างไอ้นาทีก็พูดขึ้น มันเงยหน้าขึ้นมาจากแมคบุ๊คมาดูว่าผมเป็นอะไรมากรึเปล่า พอเห็นผมไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมันก็ก้มหน้าลงไปมองแมคบุ๊คต่อ เจริญจริงๆ...เอาหนังสือมาวางแกะกะในห้องกูแล้วเสือกไม่ขอโทษอีก เพื่อนเวรเอ้ย

ก๊อกๆๆ ส่วนไอ้คนที่เคาะประตูหน้าห้องก็เคาะซะรัวจนผมนึกว่ามันสแครสแผ่นอยู่

"รอเดี๋ยว มึงจะเคาะทำพ่องงง"

"โอ้ยเชี่ย อะไรอีกวะเนี่ย" ผมมองดูวัตถุอะไรบางที่กลิ้งกระเด็นไปโดนกำแพง ลูกบาส...ไอ้เ*ยนาที มึงเอามาทำมายยยยย ถ้าคว้าลูกบิดประตูไว้ไม่ทันป่านนี้หน้าผมทิ่มคะมำลงพื้นแล้วเนี่ย

ช่างเป็นวันที่โชคไม่ดีจริงๆ เจ็บตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ใครจะรู้ว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีซ่อนอยู่เสมอ ผมเปิดประตูออกไปเพื่อพบกันเด็กผู้ชายตัวขาวแก้มยุ้ยทีี่ผมเฝ้ามองหามาหลายเดือนที่มาพร้อมกล่องถั่วงอกหลายกล่องในมือ ที่อีกฝ่ายยื่นมาให้บอกว่าเอามาต้อนรับเพื่อนบ้าน ช่างเป็นของต้อนรับที่เข้ากับคนให้จริงๆ

...น่ารัก....

อืมมมม

หาอยู่ตั้งนาน ที่แท้ก็อยู่ห้องติดกันนี่เอง

เส้นผมบังภูเขาแท้ๆ

"ยิ้มเ*ยไร เป็นบ้าหรอ" นาทีที่ขมักเขม้นทำรายงานอยู่ที่โซฟาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นผมยืนยิ้มให้กล่องถั่วงอกในมืออยู่หน้าประตูคอนโด พรางนึกไปว่าจะเอามาทำอะไรกิน ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะซื้อถั่วงอกเข้าคอนโดเลยสักครั้ง

"ยุ่ง ทำงานของมึงไป"

"ได้ข่าวว่างานกลุ่ม ใจคอมึงจะเอาเปรียบกูจริงๆใช่มั้ย สัสแฟง"

"...." เสียงนาทีบ่นพึมพำอะไรเพิ่มเติมอีกมากมายดังมาจากโซฟาแต่ผมไม่ได้หันไปโต้ตอบ ปล่อยมันบ่นไปเรื่อย เดี๋ยวมันเหนื่อยก็หยุดเอง ปล่อยคนบ่นๆไปไม่ต้องสนใจมัน ส่วนผมก็ก้มลงจ้องกล่องถั่วงอกในมือไม่ละสายตา เห็นกล่องแล้วก็คิดถึงหน้าคนให้....

"โอเค เพื่อนกูบ้า ยืนยิ้มให้กล่องถั่วงอก"

"..."

"มึงจะยืนให้มันงอกออกมาเป็นต้นเลยมั้ย หรือยืนไว้อาลัยให้ตัวเอง"

"พูดมาก รำคาญหู"

"แล้วนั่นถั่วงอกมาจากไหนเยอะแยะ"

"เด็กแก้มยุ้ยเอามาให้"

"เด็กที่ไหนวะ เด็กแก้มยุ้ย เชี่ยยย"

"..."

"อย่าบอกนะว่า เป็นคนที่มึงตามหานะ"

"อืม อยู่ข้างห้องนี่เอง"

"เชี่ย พรหมลิขิตชัดๆ"

"ใช่มั้ย กูก็ว่างั้น"

"ช่างหัวพรหมลิขิตก่อนเหอะ ถ้าอีกชั่วโมงงานไม่เสร็จ ชีวิตกูกับมึงสู่ขิตเพราะเจ๊จูแน่ๆ"

"เออๆ"

แล้วความดีใจก็ต้องถูกพับเก็บไปเพราะไฟลนตูดนั่งเผางานส่งอาจารย์จุไรรัตน์เพื่อนสนิทนิรันดร์ที่ชอบจับผิดผมทุกกระเบียดนิ้ว

หลายคนคงคิดว่าโชคชะตานั้นเป็นสิ่งมหัศจรรย์ แต่สำหรับผม ผมว่า ไอ้โชคชะตามันกวนตีน! ผมใช้เวลาหาเด็กแก้มย้อยมานานหลายเดือนไม่เคยเจอ แต่หลังจากวันนั้นที่เจ้าตัวเอาถั่วงอกมาให้ผม ผมก็เจอเจ้าตัวเล็กเกือบแทบทุกวัน และวันนี้ผมก็เจอเด็กน้อยที่ถือถุงอาหารที่คาดว่าคงจะลงมารับจากไลน์แมนเมื่อครู่ เรายืนรอลิฟท์อยู่ที่ด้านล่างคอนโด ทำไมผมถึงต้องบอกว่าโชคชะตากวนตีนนะหรอก ก็เพราะตอนนี้ผมกำลังใส่หูฟังบลูทูธในหูฟังอาจารย์บรรยายผ่าน e-learning อยู่ อยากจะชวนคนตัวขาวที่ยืนอยู่อีกมุมในลิฟท์คุยเรื่องสรรพเพเหระก็ทำไม่ได้เพราะกำลังตั้งใจฟังอาจารย์บรรยายอยู่ แต่ดูเหมือนความอัธยาศัยดีของอีกคนจะยังมีเหมือนเดิม พยายามชวนผมคุยโน่นนี่แต่ผมเองก็ตอบกลับไปเพียงคำห้วนๆสั้นๆเพียงไม่กี่คำเพราะสมองจดจ่อยู่กับเนื้อหาในหู ประโยคชวนคุยที่แสนน่ารักเริ่มต้นด้วย

"สวัสดีครับคุณข้างห้อง" พร้อมกับอากับกิริยาที่อีกคนเอียงคอตาหยีภายใต้แมสนั้นผมคิดว่าอีกฝ่ายคงจะยิ้มกว้างเหมือนเคย

"ผมเองครับ จำได้มั้ย" และนี่คือประโยคถัดมาที่ผมอยากจะตอบกลับไปเป็นคำถามเหลือเกินว่าน้องคุนเถอะจำพี่ได้รึเปล่า แต่ผมก็เลือกที่จะไม่ถาม วันนั้นจบลงที่อีกฝ่ายเดินมาส่งที่ห้องแล้วก็ดื้อดึงถามเอาชื่อผมให้ได้ ก่อนจะยิ้มดีใจวิ่งกลับห้องไปเมื่อได้สิ่งที่เต้าตัวต้องการ พูดได้คำเดียวว่าน่ารักเหมือนเดิม

สิ่งที่สนับสนุนความคิดผมที่บอกว่าโชคชะตากวนตีนนั้นคือ กองทัพกับขุนพล ใครนะหรอครับ ก็ไอ้เด็กแฝดปีหนึ่งต่างคณะที่สนิทกันเพราะร้านเหล้าแต่ดันจับพลัดจับผลูมาอยู่คอนโดเดียวกันจนกลายเป็นเพื่อนเล่นฟิตเนสของผมกับนาทีไปแล้ว แล้ววันหนึ่งผมก็ได้รู้ว่ามันสองตัวเป็นเพื่อนสนิทของเจ้าแก้มยุ้ยข้างห้อง คนใกล้ตัวอยู่ใกล้แค่ปลายจมูกนี่เองแต่กลับหาไม่เจอสักที เห็นด้วยรึยังว่า

โชคชะตานะ..กวนตีนกับนายลภัสเหลือเกิน

.
.
.
แต่ก็ช่างแม่งโชคชะตาเถอะ

ผมขอลิขิตชีวิตตัวเองโดยมัดมือชกคนตัวเล็กเข้ามาอาศัยอยู่ในคอนโดของอีกคนด้วยเหตุผลที่โคตรจะจอมปลอม

ไม่มีเงินจ่ายค่าคอนโด เลยจะต้องย้ายออก

เหตุผล...ดู ไม่น่าเชื่อ แต่อีกคนกลับเชื่อจับใจ เห็นแววตาสงสารในดวงตาตี่คู่สวยแล้วก็นึกสึกผิดขึ้นมาในใจ
แต่มันถลำลึกไปแล้ว เริ่มเดินหมากไปแล้ว มันหยุดไม่ได้หรอกครับ คนเราจะทำอะไรก็ทำให้สุดแรง ผมไม่ใช่พวกทำอะไรขอไปที จะจีบเด็กน้อยไร้เดียงสาก็ต้องลงทุนลงแรงหน่อย


จากวันนั้นจนมาถึงวันนี้ก็ผ่านมา 9 เดือนแล้ว มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นทำให้เราได้เรียนรู้และรู้จักกันและกันมากขึ้น คุนคุนก็ยังเป็นคุนคุนคนเดิมกับที่ผมเคยเจอเมื่อห้าปีก่อน ต่างไปตรงที่อีกฝ่ายโตขึ้น และที่สำคัญ....น่ารักมากขึ้น และที่สำคัญคือตอนนี้อีกคนกลางมาเป็นแฟนของนายลถัสคนนี้ไปเสียแล้ว

"คุน" ผมเอ่ยเรียกอีกคนที่นอนมองท้องฟ้ายามค่ำคืนอยู่ในอ้อมกอดผม ช่วงนี้หยุดยาวคนตัวเล็กเลยร้องงอแงอยากมาเที่ยวเชียงใหม่ ส่วนผมผู้ไม่ตามใจแฟนก็รียเก็บของจองตัวทันที ทำให้ตอนนี้เรานอนดูดาวด้วยกันที่รีสอร์ทท่ามกลางไร่ชาของนิรันดร์

"ครับ" เสียงหวานใสตอบกลับมาในความมืด มือบางรั้งเอวผมไว้ก่อนจะขยับตัวเข้ามาชิดเมื่อลมเย็นๆเริ่มพัดผ่าน

"จำวันที่เราเจอกันวันแรกได้มั้ย"

"จำได้ครับ คุนเอาถั่วงอกไปให้พี่แฟง"

"ไม่ใช่"

"หือ?"

"เราเคยเจอกันก่อนหน้านั้นอีก"

"ที่ไหนหรอครับ"

"ปักกิ่ง"

"ไม่น่าใช่นะคุนว่า คุนไม่เคยเจอพี่แฟงที่ปักกิ่งสักหน่อย"

"เคยสิ ให้โอกาสคิดอีกรอย"

"อือออ คุนคิดไม่ออกอะ"

"คุนให้ไอ้นี่พี่ไว้จำได้มั้ย" ผมล้วงพวงกุญแจรูปไอศกรีมออกมาจากกระเป๋ากางเกง เก็บมันไว้มาร่วมห้าปี เป็นของดูเล่นต่างหน้าที่เด็กแก้มยุ้ยให้ผมในวันสุดท้ายที่เราเจอกัน

"พวงกุญแจไอศกรีมเรนโบว์"

"ใช่"

"ไม่จริงอะ"

"อะไรคือไม่จริง"

"พี่เป็นพี่ชายที่ร้านไอติมหรอ"

"อะฮะ"

"บ้าน่า"

"อย่าบอกว่าจำกันไม่ได้ นี่พี่จำคุนได้ตั้งแต่มาเคาะหน้าห้องเลยนะ"

"ก็ตอนอยู่ร้านไอติมพี่แฟงใส่แมสตลอดเวลา ใครจะไปจำได้ละครับ"

"แล้วตอนนี้จำได้ยัง"

"คุนไม่เชื่อ ตอบคำถามมาก่อน"

"ถามอะไร"

"คำถามยืนยันตัวตนไง ตอบผิดถูกลงโทษ"

"ลงโทษแบบไหน"

"ไม่รู้ยังไม่ได้คิด เอาไว้ให้คนชนะคิดเองละกัน"

"แบบนี้ก็มีด้วย"

"มีสิครับ งั้นน้องคุนถาม"

"ว่ามา"

"ตอนนั้นน้องคุนชอบกินไอติมรสอะไร"

"ทุกรสที่เป็นรสหวาน อย่าง Cotton candy, marshmallow banana"

"เฮ้ยยย สตอร์กเกอร์ชัดๆ"

"เพ้อเจอ"

"พี่ว่ามันเป็นพรหมลิขิตหรือโชคชะตามั้ยอะ"

"ไม่อะ ชีวิตนี้พี่ลิขิตเองทั้งนั้น"

"หลงตัวเอง"

"แล้วตามจีบคุนเนี่ย ชอบตั้งแต่ตอนเจอที่ปักกิ่งอ่ออออ"

"บ้าน่า ตอนนั้นยังไม่ได้คิดอะไร"

"ชิ"

"คิดแค่ว่าไอ้เด็กนี่มันน่ารัก แล้วก็....."

"แล้วก็อะไรครับ"

"น่ากดให้จมเตียงชะมัด"

"คนลามก! นั่นน้องคุณอยู่ ม.1เองนะ"

"ถึงได้ไม่ทำอะไรไง กลัวตำรวจจับ กลับไทยไม่ได้"

"จริงจัง?"

"มาก"

"คุณลภัสนี่เป็นคนแบบนี้เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ"

"แล้วก็รักคุนคุน ที่แปลว่าแผ่นดินคนนี้เสมอต้นเสมอปลายเหมือนกัน พี่รักคุนนะ รักมากขึ้นในทุกๆวันด้วย คิดไม่ออกเลยว่าถ้าวันหนึ่งพี่ไม่มีคุนอยู่ในชีวิต วันนั้นมันจะเป็นแบบไหน ถ้าตอนนี้พี่อธิษฐานขออะไรได้หนึ่งอย่าง พี่ก็อยากขอให้พี่มีคุนอยู่ในชีวิตพี่แบบนี้ตลอดไป รักกันแบบนี้ตลอดไปจนวันสุดท้ายของชีวิต ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่จะพยายามทำให้ปัจจุบันเป็นวันที่ดีที่สุดของคุนในทุกๆวัน สัญญาจากผู้ชายที่ชื่อลภัส พิสุทธิ์รังสรรค์"

"งั้นคุนก็ไม่ขออะไรมาก ขอแค่ให้คำอธิษฐานของพี่แฟงเป็นจริงทุกประการเลยครับ"

ขอให้คำอธิษฐานของเราสองคนเป็นจริง


.
.
.
.
.
.

#คุนแฟง

by ppeachmm

ขอบคุณนักอ่านที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนจบของการเดินทางในครั้งนี้นะคะ ความรักของสองคนนี้อาจจะดูเรียบง่าย อุปสรรคน้อย เรื่อยเปื่อย แต่อยากให้ทุกคนมองที่การกระทำของทั้งสองคนคะ แม้สิ่งที่หมอแฟงทำให้น้องคุน หรือสิ่งที่น้องคุนทำให้หมอแฟงมันจะไม่ได้มีอะไรที่ดูพิเศษตลอดเวลา แต่เรื่องเล็กน้อยที่อีกฝ่ายทำให้กันมันช่วยหล่อหลอมความสัมพันธ์ของทั้งคู่นะคะ ความรักบางทีไม่ต้องหวือหวา แต่แค่เสมอต้นเสมอปลายก็เพียงพอแล้วคะ

ตั้งใจไว้ว่าจะมีสเปต่อให้อีกสามสี่บท
จะมาทยอยอัพให้นะคะ แต่อาจจะเว้นช่วงสักนี้ เพราะตอนนี้เวลาหายากกกกกก

ขอให้ทุกคนมีวันที่ดีค่ะ!

จาก ppeachmm










หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 46| 04.07.2020 ❤️❤️ (End)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 04-07-2020 17:09:25
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 46| 04.07.2020 ❤️❤️ (End)
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 04-07-2020 18:04:32
 :pig4:
หัวข้อ: Re: คุนคุน ชาแนล #คุนแฟง| EP. 46| 04.07.2020 ❤️❤️ (End)
เริ่มหัวข้อโดย: Kunjirawaracom ที่ 07-07-2020 00:59:53
เป็นนิยายที่น่ารักมากน้องคุนก็น่ารักเหลือเกิน