เล่มที่ 1 ตอนที่ 17 ผลของการพังประตู
หลังจากงานเลี้ยงบ้านตระกูลอู่เลิกรา เย่ฝานกลับไปยังอะพาร์ตเมนต์ของตน เขาปิดประตูลงกลอนไม่ออกไปไหน กักตัวฝึกปราณอย่างหนัก
หลังจากงานเลี้ยงวันเกิดผ่านพ้นไป ชื่อเสียงของเย่ฝานกลับโด่งดังยิ่งกว่าเดิม เรื่องราวของเขาถูกเล่าลือในวงกว้าง
“ถิงถิง เย่ฝานทำเกินไปจริงๆ ไอ้โรคจิตนั่นกล้าบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงหยาบคาย และยังบอกกับคนอื่นว่าเธอเป็นหญิงสำส่อนอีก” เจียงโหยวหม่านพูดอย่างนึกโมโห
เฉียนอวี้เป็นคนปากสว่าง มักจะเปิดเผยเรื่องของผู้อื่น มีครั้งหนึ่งเขาดื่มจนเมาในวงเหล้า แล้วเผลอพูดถึงเรื่องราวการแต่งงานของเลี่ยวถิงถิงกับเย่จื้อเจ๋ออย่างเมามัน
เขาบอกกับคนอื่นๆ ว่าเย่ฝานเป็นบุคคลที่มีความสามารถ แต่ถ่อมตัวไม่โอ้อวดตนเอง ยังบอกอีกว่าเย่ฝานมีสายตาแหลมคม ผู้หญิงหยาบคายและสำส่อนอย่างเลี่ยวถิงถิงไม่อยู่ในสายตาของเย่ฝานสักนิด
เมื่อเขาสร่างเมา กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว เพราะข่าวที่ออกมาจากปากเขาได้แพร่สะพัดไปทั่ว
ในสังคมชั้นสูงเมื่อเกิดข่าวลือขึ้นเรื่องหนึ่งก็จะถูกเล่าต่อๆ กันอย่างสนุกปาก เรื่องการแต่งงานของเลี่ยวถิงถิงและเย่จื้อเจ๋อเป็นที่พูดถึงมากในแวดวงตระกูลดังแห่งเมืองชาง เดิมทีเรื่องนี้ก็เป็นที่จับตามองอยู่แล้ว พอมีข่าวแบบนี้หลุดออกมาอีก ผู้คนจึงยิ่งนินทากันสนุกปาก
หูอวี่ฉินมองเจียงโหยวแวบหนึ่งก่อนเอ่ยว่า “เอาล่ะเสี่ยวโหยว เธอหยุดพูดได้แล้ว คำพูดแบบนี้จำเป็นต้องพูดออกมาไหม ปัญญาอ่อน!” หูอวี่ฉินด่าเจียงโหยวเบาๆ "ถิงถิง เธออย่าไปสนใจเลย แค่คำพูดของทายาทเศรษฐีที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อคนหนึ่ง ไม่น่าเชื่อถือหรอก"
“ช่วงนี้เย่ฝานดูผิดปกติ ดูแปลกไป” เลี่ยวเหอไปสืบเสาะเรื่องของซ่งป๋อฮุยและพรรคพวก ทำให้ได้รู้ว่าก่อนหน้านั้นซ่งป๋อฮุยถูกผีสิง และเป็นเย่ฝานที่เป็นคนรักษาเขาจนหาย เรื่องผีสางเทวดาพวกนี้เป็นเรื่องเชื่อถือไม่ได้ แต่ไม่เชื่อเลยก็ไม่ดีเช่นกัน
เย่ฝานไปเกี่ยวพันกับพวกซ่งป๋อฮุยยังพอเข้าใจได้ แต่สิ่งสำคัญมันอยู่ที่คนเอาใจยากอย่างโจวจิ่นจือ ซึ่งดันไปสนใจคนอย่างเย่ฝานเสียได้
…
ณ บ้านตระกูลเย่
“ไอ้คนสารเลว ฉันจะทำให้มันเห็นดีสักวันหนึ่ง” เย่อิ้งหลันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงโกรธจัด
หวังเสี่ยวเฟยกำหมัดแน่น ความรู้สึกมากมายประดังเข้ามาในจิตใจ อุตส่าห์ทำให้เย่ฝานถูกขับไล่ออกจากบ้านแล้วแท้ๆ ยังก่อเรื่องวุ่นวายเดือดร้อนมาถึงพวกเขาจนได้ อาจเป็นเพราะเขาหมดหนทางอื่นแล้ว ทำให้ตอนนี้อยากพูดอะไรก็กล้าพูดออกมาทั้งหมด
เรื่องราวที่เย่ฝานก่อไว้ ทำให้ชีวิตรักของเย่จื้อเจ๋อกับเลี่ยวถิงถิงเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
คำพูดว่าผู้หญิงสำส่อนของเย่ฝาน ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์และเสียงหัวเราะเยาะในหมู่ผู้คนไปทั่ว
แน่นอนว่าเรื่องราวทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับเย่ฝานเลยแม้แต่น้อย หลังจากกลับจากงานเลี้ยง เย่ฝานก็ขังตัวเองอยู่ในห้องเพื่อฝึกพลังปราณอย่างแข็งขัน
เย่ฝานฝึกพลังปราณโดยพึ่งพาพลังจากโสมโลหิตและเต่ากักพลัง หลังจากมุมานะมาสิบกว่าวัน ในที่สุดโอกาสที่จะทำให้เขาทะลวงไปสู่อีกขั้นก็มาถึง
พลังปราณไหลเข้าสู่ร่างกายของเย่ฝานเป็นระลอก เขาดูดซับพลังปราณรอบกายอย่างบ้าคลั่ง
เย่ฝานดูดซับพลังปราณเข้าไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้นรัวๆ เย่ฝานเลือกที่จะไม่ลุกไปเปิดประตู แต่เสียงเคาะประตูกลับยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ “พังประตูเข้าไป” เสียงสั่งการของหญิงสาวดังลอดเข้าไปถึงหูของเย่ฝาน
ประตูถูกพังเข้ามา เย่ฝานลืมตาขึ้น นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด
“พวกสารเลว!” เกิดประกายอำมหิตขึ้นในดวงตาของเย่ฝาน ในอาณาจักรของผู้ฝึกตน การบุกรุกเข้าไปในถ้ำฝึกตนของผู้อื่นถือเป็นโทษมหันต์ ระหว่างเข้าฌานฝึกฝนพลังปราณหากถูกขัดขวางกลางคัน อาจทำให้บาดเจ็บสาหัส สิ่งที่ฝึกมาทั้งหมดจะสูญสลายไป
ตอนแรกเย่อิ้งหลันพาลูกน้องมาเพื่อจะหาเรื่องเย่ฝาน แต่เมื่อมองเห็นนัยน์ตาแดงก่ำของเย่ฝาน เธอก็รู้สึกตกใจกลัวจนอยากหันหลังกลับกลางคัน
“เย่ฝาน ไอ้คนระยำ แกกล้าทำให้พี่ถิงถิงเสื่อมเสียเหรอ” เย่อิ้งหลันด่าเย่ฝาน
พอเย่ฝานขยับตัว เพียงชั่วพริบตาก็มายืนอยู่เบื้องหน้าของเย่อิ้งหลัน ฝ่ามือของเย่ฝานพุ่งไปบีบคอของเย่อิ้งหลันโดยไม่ลังเล
“นายจะทำอะไร ฆ่าคนมันผิดกฎหมายนะ" เย่อิ้งหลันตะโกนออกมา
ชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งที่ติดตามเย่อิ้งหลันมา เห็นสถานการณ์เช่นนั้นจึงรีบพุ่งตัวใส่เย่ฝาน เย่ฝานซึ่งตอนนั้นกำลังฝึกพลังปราณขั้นที่สอง ทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นมาก แต่ละคนโดนเย่ฝานใช้เท้าเตะ เพียงอึดใจเดียวชายฉกรรจ์เหล่านั้นต่างถูกเตะกระเด็นออกไปนอกห้อง
เย่ฝานตบหน้าของเย่อิ้งหลันทั้งสองข้าง แล้วโยนหล่อนออกไปนอกห้อง จากนั้นก็ก่นด่าอย่างเกรี้ยวกราดว่า “ครั้งหน้าถ้ายังกล้ามารบกวนฉันอีกล่ะก็ ฉันจะจับเธอแก้ผ้าแล้วเอาไปโยนทิ้งที่สี่แยกไฟแดงตรงถนนใหญ่”
เย่ฝานตบแก้มของเธออีกหนึ่งฉาด เย่อิ้งหลันทนไม่ไหวถึงกับปล่อยโฮออกมา
เฉียนอวี้เข้ามาถึงหน้าห้องเย่ฝาน ภาพที่เห็นคือชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งที่ลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น กับเย่อิ้งหลันที่ร้องไห้ฟูมฟายปานจะขาดใจ
เฉียนอวี้ขมวดคิ้วมองไปทางเย่ฝานแวบหนึ่ง เย่ฝานเอามือเท้าเอว ส่งสายตาให้เฉียนอวี้ เขาจึงเดินตามเย่ฝานเข้าไปในห้องอย่างรู้กัน
“คุณชายเย่ คุณตบเย่อิ้งหลันอีกแล้วเหรอครับ?” เฉียนอวี้ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
“ฉันไม่เปิดประตูให้เธอ เธอก็เลยพังประตูห้องของฉันเข้ามา ยัยนี้ช่างกล้านัก ได้ยินว่าในต่างประเทศสามารถยิงผู้ที่มาบุกรุกบ้านได้ น่าเสียดาย! ที่นี่กลับทำอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าฆ่าคนตายจะยุ่งยากเปล่าๆ” เย่ฝานพูดอย่างเสียดาย
เฉียนอวี้หัวเราะแห้งๆ แล้วคิดในใจ ถ้าในประเทศนี้ฆ่าคนแล้วไม่ผิดกฎหมาย เย่ฝานคงตั้งใจจะฆ่าคนจริงๆ หรือเนี่ย?
“คุณชายเย่ สมุนไพรที่คุณให้ผมไปหา ผมหามาได้แล้วครับ” เฉียนอวี้กล่าว
ในงานเลี้ยงวันเกิดคราวนั้น เย่ฝานตรวจร่างกายให้กับซ่งป๋อฮุยโดยไม่คิดค่าตอบแทน แค่ให้พวกเขาช่วยหาสมุนไพรให้เท่านั้น
“อืม ใช้ได้ เป็นเงินเท่าไรล่ะ”
เฉียนอวี้รีบโบกมือปฏิเสธแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรครับ สมุนไพรเพียงแค่นี้จะเก็บเงินจากคุณได้ยังไงกัน!”
เฉียนอวี้รู้ดีว่าใบสั่งยาที่เย่ฝานเขียนให้กับคุณชายบ้านตระกูลไป๋นั้น แม้แต่หมอแผนจีนอาวุโสยังชื่นชม หมอท่านนั้นมีสมญานามว่าหมอหลวงและจะรักษาให้กับคนชั้นสูงเท่านั้น
ประตูถูกผลักออกช้าๆ เฉียนอวี้รู้สึกกลัวจนขนลุก ใครกล้าผลักประตูเข้ามากันนะ? หรือจะเป็นผู้บุกรุกอีก ซวยแล้ว ซวยแล้ว! เจ้าหมอนี้คงจะถูกเตะจนกระเด็นออกไปนอกห้องแน่ๆ