มาต่อค่ะ
“ ถ่ายรูปกันมั๊ยครับ? ”
“ เป็นความคิดที่ดีเลยค่ะ แยมจะเอาไปลงไอจีแล้วแท็กทุกคนเลย ”
แยมยิ้มหวานให้กับพี่ปังที่เสนอความคิดเห็นในหัวข้อ หาอะไรทำดีระหว่างที่เรากำลังรอของหวานที่เพิ่งสั่งไป
“ งั้นเดียวพี่ถ่ายให้ครับ ” คุณฎียิ้มอาสาพร้อมยื่นมือไปรับโทรศัพท์ของแยม
“ พี่ฎีนี่ หล่อแล้วยังใจดีเหมือนเดิม ” แยมยกนิ้วให้ ทุกคนก็ยิ้มชื่นชมจนผักกาดนึกหมั่นไส้ ยังจำได้เลยว่าคนใจดีที่ว่าเนี่ย เคยยืนหัวเราะเขาตอนที่เขาหกล้ม คุณฎีทำเป็นใจดีกับทุกคน ยกเว้นเขานะสิ
“ กวนจะตายเหอะ ”
อุ๊บ!
เชี่ย เผลอลั่น
ผักกาดเม้มปากแน่นหลังจากหลุดปากพูดเสียงที่มีขึ้นมาในความคิดดังเกินไป ทำให้เพื่อนทั้งสองของเขาตาโตรีบหันมาเรียกชื่ออย่างห้ามไม่ทัน
“ ไอ้กาดดด/มึงงงง ”
“ ได้ยินนะครับ ”
แต่ก็นั้นแหละ ไม่ทันแล้ว เพราะคุณฎีที่ตอนแรกกำลังจะลุกขึ้นไปถ่ายรูปให้ กลับเปลี่ยนใจนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม และกอดอกมองมาที่ผักกาด
“ ดะ..ได้ยินว่าอะไรครับ ” ผักกาดพูดเสียงเบาและหลบสายตาในตอนแรก “ ผมไม่ได้ว่าคุณฎีว่ากวนสักหน่อยนะ ” ก่อนคิดได้ว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไร แค่แสดงแสดงความคิดเห็น เลยเงยหน้าส่งสายตาที่คิดว่าท้าทายสุดๆ ไปให้คนด้านหน้า ไม่ได้กลัวใครอยู่แล้ว
เสียงสั่นเพราะหนาว อืม
“ ….. ”
แล้วก็ไม่พูดอีกแล้ว มอง มองอยู่นั้น
คิดว่ามองมาแล้วไม่กล้ามองกลับหรือไง
ผักกาดหน้างอ กอดอกพิงเก้าอี้ในท่าเดียวกัน แต่เบนสายตาไปมองทางอื่น
“ อะไรเล่า ไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ ”
ซึ่งทางอื่นที่ว่าก็คือทางแยมกับวาวา เพื่อนของเขาที่จ้องอยู่กำลังทำสีหน้าคิดหนัก โดยเฉพาะแยมที่เคยพยายามจับคู่ผักกาดกับคุณฎีมาโดยตลอด แต่เพราะทั้งคู่ไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน แถมยังเถียงกันตลอด แต่บางทีก็เหมือนมีแค่เพื่อนตากลมที่เถียงพี่ฎีอยู่ฝ่ายเดียวมากกว่า
บางทีคนสวยก็ถอดใจ ย้ำ แค่บางที
“ พี่ก็ไม่ได้พูดว่าพี่ได้ยินเสียงจากผักกาดหนิครับ พี่ได้ยินเสียงจากแมลงวันน่ะ ”
“ ….. ” นี่.. เขาว่าผักกาดเป็นแมลงวันงั้นหรอ
เอาจริงนะ มีใครเห็นหรือยังว่าคุณฎีอะกวนผักกาดอยู่เนี่ย
“ แล้วพี่ก็เพิ่งได้ยินชัดๆ นี่แหละครับว่าเราพูดอะไร กวนหรอ? แล้วเราว่าใครกวนล่ะครับ ”
เซ็ง อยู่ดีๆในหัวก็มีคำนี้ขึ้นมา ทำไมผักกาดต้องรู้สึกเหมือนโดนจับผิด เหมือนโดนจับเข้าจนมุมด้วย
...อายชะมัด อายได้แต่แพ้ไม่ได้
“ ว่าพี่กวนเราหรอ ”
ก็เออน่ะสิ!
“ ผม ว่าไอ้แยม ”
หึย ผักกาดฝากไว้ก่อนแล้วกัน
“ อ้าวๆ กูไปกวนตอนไหน กูไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์ของมึงนาา ” แยมว่าแล้วลุกขึ้นผลักหัวผักกาดเบาๆ อย่างไม่เข้าข้าง จนคนตากลมหน้างอกว่าเดิม รีบปัดๆ ผมที่เสียทรงจากการโดนผลักหัวเมื่อกี้ลง
“ ..นี่มึงเพื่อนกูนะ ”
“ แต่กูทีมพี่ฎี ยูโน่ว? ”
“ เออ กูว่าตัวเอง กูว่าตัวเองๆ จบม่ะ ”
“ จบ ”
“ หึ ” ไม่ต้องหันไปมอง ผักกาดก็รู้ว่าไอเสียงพ่นลมหายใจกวนๆ แบบนี้เป็นของใคร
จบ ทุกอย่างจบ ครั้งนี้เขาแพ้อีกแล้ว ดูก็รู้ว่าทุกคนนะเข้าไปอยู่ในทีมคุณฎีไปกันหมดแล้ว
“ ใจเย็นๆ นะครับทุกคน เอางี้ๆ เดี๋ยวเราถ่ายรูปกันก่อนเนาะ ” พี่ปังยกมือขึ้นสองข้างเพื่อห้ามทัพ มองหน้าผักกาดและบอกให้ใจเย็นลง
ความจริงผักกาดใจเย็นนะ ไม่ใช่คนโกรธง่าย ไม่ใช่คนหัวร้อน จริงจริ๊งง
“ ดีเลยค่ะ ”
“ ไอ้ฎีมึงน่ะ ลุกไปถ่าย ”
แชะ!
แชะ!
“ นี่ครับ ”
คุณฎีรดลกดชัตเตอร์ถ่ายรูปให้พวกเราที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารอย่างชำนาญและรู้มุม ผักกาดจำได้ดี เพราะเมื่อก่อนเหตุการณ์แบบนี้มันเคยเกิดขึ้นบ่อย ๆ
“ อย่าเพิ่งค่ะพี่ฎี แยมว่าเราเซลฟี่ด้วยดีมั๊ยค่ะ พี่ฎีจะได้เข้ากล้องด้วยกัน ”
“ ไม่เป็นไรหรอกครับ ”
“ ไม่ได้ค่ะ ครั้งนี้แยมอยากมีรูปกับทุกคนนะ กี่ครั้งๆ พี่ฎีก็ไม่ค่อยยอมเข้ากล้องด้วยเท่าไร ครั้งนี้ขออีกสักครั้งนะคะ”
“ ถ่ายด้วยกันมึง ” พี่ปังเพยิกพยักหน้าขอร้องคุณฎีช่วยกันกับแยม เพียงไม่นานคุณฎีก็ตกลง สมกับเป็นพ่อคนดีของทุกคน
“ ก็ได้ครับ ให้พี่ถือกล้องใช่มั๊ย? ”
“ ใช่ค่ะ ”
“ มา ” คุณฎีกดปรับและเปลี่ยนกล้องหลังเป็นกล้องหน้า แล้วขยับมายืนใกล้กับทุกคนที่กำลังยืนจากเก้าอี้จัดมุมให้ตัวเองดูดีที่สุด ต่างจากผักกาดที่แทบไม่เห็นหัวตัวเองในกล้องเลย
แชะ!
“ ไอ้แยม วาวา มึงบังกูอะ ”
ผักกาดโวยวายใส่แยมและวาวา เนื่องจากเขาอยู่ข้างในสุด ภาพที่ได้คือคุณฎีถือกล้องยืนอมยิ้มอยู่หน้าสุด มีแยม พี่ปัง วาวาอยู่หลังคุณฎี ซึ่งทั้งสามคนบังผักกาดที่อยู่หลังสุดอีกทีจนเห็นแค่เส้นผม
“ มึงลุกยัง พวกกูลุกกันหมดแล้วเนี่ย ”
“ ลุกแล้ว ก็มึงบังอะโธ่ -o- ”
“ มึงเตี้ยไง แล้วเนี่ยยังไปยืนอยู่ในสุดอีก ออกมานี่ ”
ว่าไม่ทันจบ แยมก็รีบเอื้อมตัวไปดึงผักกาดที่ถอดใจนั่งลงให้ลุกยืนขึ้นอีกครั้ง และดันหลังเขาให้เดินมายืนข้างคุณฎีที่กำลังถือกล้องรออยู่
แชะ!
“ ไม่เอามึง ”
ไม่ยืนข้างคุณฎีนะ
“ ไม่เอาได้ยังไง เนี่ยเห็นมึงแล้ว หน้าชัดสุดๆ ยิ้มเร็วยิ้ม ”
กลายเป็นว่าภาพที่ปรากฎในกล้องตอนนี้คือ คุณฎีรดลถือกล้องอมยิ้มอยู่หน้าสุดโดยมีผักกาดยืนหน้างงอยู่ข้างๆ ส่วยแยม พี่ปัง และวาวายิ้มแย้มเฮฮาอยู่ด้านหลัง
“ ยิ้มๆ มึงยิ้มเก่งจะตายไอ้กาด ”
“ ไม่ยิ้ม ” แม้จะพูดปฏิเสธว่าไม่ แต่ผักกาดก็ยอมยิงฟันสวยให้กล้องแต่โดยดี
แชะ!
“ นั่นๆ มึงกำลังบังกูอะ แกล้งกูหรอ ”
แยมที่อยู่ตรงกลางด้านหลัง โวยวายบ้างเมื่อถูกผักกาดที่อยู่ข้างหน้ายืดตัวไปบังตัวเองอยู่เหมือนกับตั้งใจแกล้ง จนผักกาดหัวเราะออกมาอย่างชอบใจที่เพื่อนสาวหัวเสีย
“ ไม่ได้แกล้ง จริงๆ ”
“ งั้นขยับหน่อยสิ ” ผักกาดได้ยินแยมบอกอย่างนั้นก็ยอมขยับไปซ้ายแต่โดยดี
“ ไม่ใช่โว๊ย ขยับไปทางขวาสิ ”
“ จิ! ไม่เอา ” ผักกาดส่ายหน้า ถ้าเขาขยับขวา เขาก็ยิ่งจะเข้าไปใกล้คุณฎีอะดิ ไม่เอาหรอก
“ ก็ยิ่งขยับซ้ายมึงยิ่งบังกูอะ เร็วเลยๆ มึงอย่ามาทำเป็นยึกยัก ขยับไปติดพี่ฎีเลย เร็ว ” แยมรีบดันตัวผักกาดให้ขยับไปทางขวาจนตัวผักกาดเซไปชนคุณฎี ก่อนจะรับเด้งตัวออก แยมชอบใจพร้อมกับเสียงหัวเราะคิก จนเขาอดไม่ได้หันไปด่าแบบไม่ออกเสียง
“ ไอ เพื่อน เลว ”
นี่ไง อันนี้ต้องแผนที่มันคิดมาแล้ว หนึ่งในแผนที่แยมมันตั้งใจจะประเคนผักกาดใส่พานให้คุณฎีอีกแผนหนึ่งแน่
“ กลัวอะไรครับ พี่ไม่ทำอะไรหรอกนะ ”
“ ไม่ได้กลัว ”
“ งั้นก็ขยับมาสิครับ ” คุณฎียิ้มมุมปาก ด้วยสีหน้าแบบนี้อีกแล้ว
“ ไอ้กาด จะได้ถ่ายมั๊ยรูปเนี่ย พี่ฎีถือกล้องจนแขนล้าแล้วมั๊ง เพราะมึงเลยนะ ”
ก็ใช่ ตั้งแต่เขาเถียงเรื่องย้ายมาข้างหน้า ขยับซ้ายขยับขวา คุณฎีก็ยังคงถือกล้องโทรศัพท์ค้างไว้แบบนั้นมาตั้งนานแล้ว แต่เจ้าตัวยังไม่บ่นเลยสักคำ มีแต่ผักกาดนี่แหละที่เรื่องมากเอง
“ เออ ก็ได้ ขยับก็ได้ ”
“ ยิ้มด้วย ยิ้มด้วย ”
หนึ่ง สอง สาม!
แชะ!
แชะ!
แชะ!
.
.
.
.
“ อูย พี่ฎีถ่ายได้สวยทุกรูปเลยค่ะ ”
พอถ่ายรูปเกือบสิบๆ รูปเสร็จ ก็ต้องแยกย้ายแบบอายๆ กลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมของแต่ละคน
ถ้าถามว่าทำไมอาย
ก็คนเต็มร้าน ไม่ได้มีแค่พวกเรา จะไม่ให้อายได้ยังไงล่ะครับ ตอนแรกกะถ่ายสองสามรูปก็น่าจะพอ แต่ไอ้แยมดันไม่ยอม อยากได้หลายๆรูปเพื่อหาสามรูปที่ดีที่สุด บอกเลยว่าเป็นผู้ชายมาเซลฟี่ต่อหน้าลูกค้าในร้านคนอื่นๆ ก็ต้องมีอายกันบ้างแหละครับ
“ สวยๆ แสงรูปนี้สวย ”
จะว่าไปพอถ่ายเสร็จ ไอ้แยมที่ดูรูปกับวาวาและพี่ปังก็ชื่นชมการถ่ายรูปของคุณฎีไม่หยุด มันจะอะไรขนาดนั้นกัน
“ รูปนี้ทุกคนดูดีหมดเลย ยกเว้นผักกาดอะนะ ”
“ ฮะ ไหน เอามาดูดิ! ”
คนโดนกล่าวชื่อสะดุ้ง เรื่องความกังวลว่าตัวเองจะดูไม่ดีก็ต้องมีบ้างป่ะ
พอรู้ตัวนะว่ารูปแรกๆ เขาไม่ค่อยเต็มใจเท่าไร แต่พอถ่ายไปๆ ยื่นหน้าเข้ากล้องปุ๊บผักกาดมักจะมีฟิลลิ่งบางอย่างออกมาเองแบบไม่ต้องตั้งใจมาก อย่างยิ้มอย่างหัวเราะ โพสท่านู้นท่านี้ง่ายๆ อย่างสนุก ก็ผักกาดอะชอบถ่ายรูปอยู่พอตัวเลยนี่หน่า
“ ไม่ให้ รูปอะมันเป็นธรรมชาติของมึง ดีแล้ว ”
“ เอามา ”
“ ไม่ให้ แบร่ :p เก็บแล้ว รอไปกดไลค์ในไอจีตอนกูลงนู้น ”
“ ไอ้แยมอ่า ”
“ เออ กูล้อเล่น มึงน่ารักแหละหน่า ”
“ อย่ามาบอกว่ากูน่ารักนะ ”
“ ทำไมเล่า ก็มึงน่ารักๆ ”
“ กูไม่ได้น่ารัก ”
“ เพื่อนรักกกก มึงน่ารักจ้ะ ”
“ จิ! ”
----
.
.
“ กลับแล้วนะ ”
“ อาฮ่ะ บาย เดินทางดีๆนะ มึง ”
“ ต้องไปงานแต่งกูด้วยนะ ”
“ ไปอยู่แล้ว ”
“ พาแฟนมึงมาด้วย ”
“ บ้า ไม่มีแฟนโว้ย ”
ผักกาดโวย ส่วนวาวาแค่ส่ายหน้าให้กับแยม ก่อนที่เขา วาวา และแยมบอกลากันเพื่อแยกย้ายกันจริงๆจังอีกครั้ง ไว้เจอกันใหม่ คือคำสุดท้ายก่อนเพื่อนจะหันหลังเดินออกไป เพราะตอนนี้แยมยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องเคลียร์จึงต้องกลับไปญี่ปุ่น กลับมาอีกรอบก็ตอนเตรียมตัวแต่งงาน และไม่พ้นที่เขาและวาวาต้องไปช่วยเจ้าสาวมือใหม่แน่ๆ ถ้าได้ฤกษ์คงต้องเคลียร์คิวไว้เลย
“ กลับยังไง ”
ผักกาดหันไปมองตามเสียงของคนถาม หลังจากแยกย้ายกับเพื่อน พบว่าตอนนี้เหลือเขา และ คุณฎี ที่ยังยืนอยู่ตรงนี้ ไม่เดินไปไหน
ทำไมยังไม่กลับ
“ ผมขับรถมาครับ คุณรออะไรอะ? ”
“ ….. ”
“ ผมหมายถึง คุณฎีไม่กลับหรอ? ”
“ พี่รอเรา ” เขาชี้ผักกาด
“ รอผมเนี่ยนะ ” ผักกาดชี้ตัวเอง “ รอทำไม? ”
“ ไปส่งพี่หน่อย ได้มั๊ยครับ ”
“ หะ? ” ผักกาดทำหน้างง ผิดกับอีกคนที่ดูไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่คิดหรือไงว่าเอ่ยขอกันง่ายไป ใครจะไปส่งคุณกัน
“ …….”
อ้าว ไม่พูดอะไรต่อล่ะ จะมองหน้าเขาเงียบๆ ทำไม
“ แล้วรถคุณฎีล่ะ ” เป็นผักกาดไม่ชอบบรรยากาศที่ดูเงียบเกินไป เลยเอ่ยถามก่อน
“ จอดอยู่บริษัทครับ ”
“ ละ..แล้วคุณมายังไง ”
“ ผู้ช่วยมาส่ง ”
“ ก็ไหนบอกว่า.. ไปส่งพี่รดามาอะครับ? ” ผักกาดถามย้ำอีกรอบ นึกประโยคที่คุณฎีตอบแยมได้อยู่เลย
‘พี่ต้องแวะไปรับและส่งรดาเขากลับบ้านน่ะ ค่อยตามมาเจอผักกาดทีหลัง’
“ พี่ก็ไปส่งรดาที่บ้าน แล้วแวะเข้าไปบริษัทอีกรอบ ตอนออกมาก็เลยให้ผู้ช่วยมาส่งไงครับ ”
“ อ่อ แล้ว.. ”
นี่ผักกาดต้องไปส่งเขาจริงหรอ
“ ไปส่งพี่หน่อยนะครับ ”
“ คุณรู้ตัวหรือเปล่าเนี่ย ” ผักกาดถามอย่างทำตัวไม่ถูก ถ้าไม่ติดว่ายั้งมือไว้ก่อนคงได้เอื้อมไปแตะหน้าผากคุณฎีแล้ว
“ รู้สิครับ แล้วพี่ก็สบายดีด้วย”
“ รู้จริงหรอ ผมว่าวันนี้คุณแปลกๆ ไม่ใช่สิตอนนี้เลย แปลกสุดๆ ”
เจอกันตอนกลางวันไม่แปลกขนาดนี้ บอกตรงๆ
“ พี่คิดไปคิดมา เลยอยากถามผักกาดว่าเราไม่เบื่อหรือไงที่ชอบชวนพี่ทะเลาะ ” คนตัวโตยืนอมยิ้มรับเหมือนรู้อยู่แล้วว่าผักกาดจะพูดอะไรต่อ
“ ผมเนี่ยนะ ชวนคุณทะเลาะ ”
“ ใช่ จะว่าเราทั้งคู่ชวนกันทะเลาะก็ได้ ”
“ ไม่ใช่ผมสักหน่อย แค่คุณ.. ” ผักกาดเถียงเสียงเบาเหมือนไม่ค่อยมั่นใจ
“ หึๆ พี่เลยอยากจะชวนให้เราลองมาทะเลาะกัน ..น้อยลง ”
“ คะ..ความจริงเราก็ไม่ได้ทะเลาะขนาดนั้นสักหน่อย หรือคุณต้องการอะไร ” เป็นผักกาดที่เริ่มเป๋ มองคุณฎีอย่างไม่เข้าใจ
“ ไปส่งพี่หน่อยนะครับ เดี๋ยวพี่ขับให้ ”
ผักกาดมองคนที่เริ่มขอร้องเขาผ่านทางสายตาที่คาดหวัง บ้าา คุณฎีจะมาคาดหวังอะไรจากเขากัน ก็แค่ขอร้องให้ไปส่งเพราะไม่มีรถกลับ แล้วอีกอย่างฝ่ายนั้นอาจคิดว่าเขาเป็นคนใจดี ต้องไปส่งแน่
แต่ถ้าเขาอยากจะปฏิเสธจริงๆ ก็คง..ไม่เป็นไรหรอก
“ นะ ”
-o-
“ ผมไปส่งก็ได้ ให้ผมไปส่งที่บริษัทใช่มั๊ย? "
ผักกาดเม้มปากหลังตอบออกไป ปากมันตรงกับใจเกินไปตรงที่ว่า ยอมไปส่งก็ได้ แล้วไหนว่าจะปฏิเสธไงว่ะ ผักกาด
“ ใช่ครับ ”
ส่วนคนที่เหมือนส่งสายตาคาดหวัง ก็ตอบซะเร็วจริงเชียวล่ะ
“ แต่..เดี๋ยวผมขับเองนะ ”
ไม่ได้อะไรสักหน่อย ยอมไปส่งก็เพราะ..ทางนั้นเป็นอีกทางผ่านหนึ่งที่จะไปหอพักของผักกาดเองอะ
“ ครับ พี่ขับให้นะ ”
“ ผมขอคิดดูก่อน ”
ผักกาดพูดจบแล้วก็เดินนำคุณฎีทันที โดยมีจุดหมายที่ลานจอดรถชั้น 2
ก็ไม่รู้ว่าเมื่อกี้ก่อนจะหันหลังเดินนำออกมา ตาของผักกาดมันฝาดไปหรือเปล่าที่เห็นคุณฎียิ้มกว้างขนาดนั้น
ไม่ฝาดหรอก เพราะนอกจากฎีรดลจะยิ้มกว้าง ลับหลังเขาไปแล้ว ฎีรดลทำมากกว่าที่ผักกาดเห็นอีก
‘ เยส! ’
❤ 70 เปอร์เซนต์ (%)
-----