คุณฎีของผักกาด ʕ·ᴥ·ʔ ตอนที่ 06 :: ฝนอะไรเป็นใจจัง (100%) [07/04/20]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณฎีของผักกาด ʕ·ᴥ·ʔ ตอนที่ 06 :: ฝนอะไรเป็นใจจัง (100%) [07/04/20]  (อ่าน 6311 ครั้ง)

ออฟไลน์ pimpipam_s

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-04-2020 02:25:05 โดย pimpipam_s »


ออฟไลน์ pimpipam_s

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คุณฎีของผักกาด ʕ·ᴥ·ʔ

ตอนที่ 00 ::ฎีรดลวงศ์รวี (ดี-ระ-ดน & วง-ระ-วี)


อยากให้ได้รู้จัก จะได้รักกันและกัน


ผักกาด วงศ์รวี
อายุ 25 ปี

" ให้ผักกาดเป็นคนโสดต่อไปไม่ได้หรอ คุณฏี เอ่อ..พี่ฎี "



คุณฎี (D) ฎีรดล อายุ 28 ปี

" จะโสดไม่ได้แล้ว ผักกาดต้องเป็นของพี่ เข้าใจไหมครับ "





ถูกจีบแบบไม่รู้ตัว พอรู้ตัวแล้วต้องทำยังไง...

#คุณฎีของผักกาด #ฎีรดลวงศ์รวี



------------------------


คำชี้แจง

1. นิยายวาย ชายรักชาย เขารักกันมันไม่ผิด

2. เขียนขึ้นมาเนื่องจากอยากเขียนเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง

3. ทุกเรื่องราวและทุกเหตุการณ์ เป็นเพียงสถานการณ์สมมติ

4. มีการพูดคำหยาบ และคำสแลง

5. ภาษาที่ใช้อาจไม่สละสลวย อาจมีจุดผิดพลาด หรือบกพร่อง หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

---ไม่อนุญาตให้คัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไขเด็ดขาด---

นักเขียน
            เรื่องราวนี้เป็นเรื่องของผู้จัดการนักแสดง อย่างผักกาด วงศ์รวี (โสด) กับนักธุรกิจสุดคูล ซึ่งเป็นพี่ชายของผู้จัดซีรีย์ อย่างคุณฎี (D) ฎีรดล (อยากจีบคนโสด) และร่วมกับนักแสดงอีกมากมาย
            ฝากคุณฎี และคุณผักกาดไว้ในอ้อมอกอ้อมใจนักอ่านทุกท่านด้วยนะคะ ครั้งนี้เราขอสร้างโลกสมมติโลกหนึ่งขึ้นมาค่ะ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ใด เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในนิยายวายเรื่องนี้เกิดจากการสมมติขึ้นมาในโลกของผู้แต่งค่ะ

             


เปิดเรื่อง 21/02/2563

จบ xx/xx/25xx



:: pimpipam



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-03-2020 19:16:56 โดย pimpipam_s »

ออฟไลน์ pimpipam_s

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คุณฎีของผักกาด ʕ·ᴥ·ʔ

ตอนที่ 01 :: ผักกาดและงานที่เขารัก  รักไม่ยุ่งมุ่งแต่งาน



           
 
 


 
   ผมชื่อ (ผัก) กาด วงศ์รวี อายุ 25 ปี ชีวิตของผมหรอ… ช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่เรียนจบจนถึงปัจจุบันนี้ก็มีแต่งาน งาน และก็งานนะฮะ

   ถามถึงความรักก็ตอบได้เลยว่าพักก่อน

   หลายคนบอกกันว่าผมเป็นคนจริงจังและบ้างานเกินไป แต่ความจริงก็ไม่ขนาดนั้นผมไม่ได้บ้างาน แต่ที่ทำงานเยอะก็เพราะหาเงิน

   เงินมาอันดับหนึ่ง ทำงานก็ได้เงิน

   ทุกๆบาท ทุกๆแบงค์สำคัญจริงๆนะ ช่วงนี้เศรษฐกิจยิ่งย่ำแย่อยู่ด้วย

“ สวัสดีครับ กาดพูดครับพี่.. ”

   ผมว่าทุกคนมีจุดมุ่งหมายในชีวิตไม่เหมือนกันหรอกครับ เมื่อโตขึ้นคนเราจะรู้เองว่าอะไรต้องทำ อะไรควรทำ..

   ผมเป็นลูกคนโตมีหน้าที่และความรับผิดชอบที่มากที่สุด และสำหรับผมต่อให้มันมากขึ้นแค่ไหน ผมก็จะต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้ใครในครอบครัวของผมต้องลำบาก

“ งานคู่หรอพี่.. วันไหนครับ..เสาร์? ”

   ผมมีหลายชีวิตที่ต้องรับผิดชอบ แต่ดีหน่อยที่ตอนนี้ทุกอย่างดีขึ้นมากแล้ว

   เหมือนสวรรค์มีตา ฟ้าปลง นรกให้อภัย มอบเด็กหน้าตาดีความสามารถเด่นหลายคนให้เข้ามาอยู่ในสังกัด U และมีไอ้กาดคนนี้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการดูแลเด็กหน้าตาดีเหล่านั้น ในการส่งไปแคสงานทางด้านการแสดง การถ่ายแบบ และทำงานในวงการบันเทิงโดยมีผู้จ้างงานพวกเขามากมาย จนช่วงที่ผ่านมาก็ทำให้มีรายได้ และเงินเข้ากระเป๋ามามากมายทั้งนักแสดงและผู้จัดการอย่างผม

   และตอนนี้เงินเหล่านั้นมันเพียงพอต่อการปลดหนี้ปลดสิน จนเหลือกินเหลือใช้เลี้ยงดูคนในครอบครัวได้สบายไปอีกหลายปีๆ แต่ผมคงยังไม่หยุดทำงาน เหนื่อยแต่สนุก เหนื่อยแต่มีความสุข ผมนี่รักงานนี้ที่สุดเลยล่ะ

“ ติดต่อพี่ขนมผู้จัดการเก่งกล้าแลัวใช่มั๊ยครับ ..ทางนี้ก็รับครับ น้องคิวท์ว่างครับ ”


ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ อะแฮ่มๆ คิวท์มาแล้วฮะ..จึยย! ”

“ ชู่ววว เบาเราเบา พี่ติดสายอยู่.. ”

   ผมเอ่ยเสียงเบาด้วยสีหน้าดุเหมือนเสือในคราบแมวเมี๊ยวเพื่อติติงคนเสียงดังที่เปิดประตูเข้ามาใหม่ จนคนที่เพิ่งถูกเอ่ยชื่อในบทสนทนาก่อนหน้าตาโตนิ่งค้าง

   คิวท์ที่รีบดึงสติกลับมายิ้มแห้งๆ พร้อมค่อยๆ เอ่ย ‘ขอโทษฮะพี่กาด’ เบาๆ ก่อนเงียบเสียงลงอีกครั้ง และพาตัวเองเดินมานั่งเล่นโทรศัพท์ เช็กความเคลื่อนไหวในทวิตเตอร์ โดยมีชื่อแอคเคาท์ว่า Cute Ariya (@CuteAriya_U) ระหว่างรอให้ผู้จัดการตัวเล็กของเขาคุยงานจนเสร็จ
 
 
“ พี่ไปรับชุดงานพรุ่งนี้มาแล้ว คิวท์จะลองอีกรอบมั๊ย พี่ว่าลองก็ดีนะเผื่อหลวมเผื่อแน่นยังไง จะได้ให้พี่เกดแก้ให้ ” ผมเอ่ยถามความคิดเห็นกับคิวท์ด้วยน้ำเสียงใจดี และสรุปให้เจ้าตัวลองชุดอีกรอบ หลังจากวางสายโทรศัพท์

“ ได้ครับพี่ เดี๋ยวคิวท์ลองอีกรอบฮะ ”

   คิวท์ยู้หน้าเล็กน้อย เมื่อเข้ามาในห้องผมก็พูดถึงเรื่องงานเป็นเรื่องแรกเลย ก่อนพยักหน้าตกลงตามคำแนะนำของผู้จัดการคนนี้อย่างเชื่อฟัง
 
   คิวท์ อริยะ อายุ 21 ปี ผู้เป็นเด็กในสังกัด U ที่ผมกำลังดูแล และยังเป็นนักแสดงนำชาย ซีรีย์วายที่กำลังโด่งดังอันดับต้น ๆ ของประเทศในขณะนี้

   สำหรับผม คิวท์คือน้องน้อยขี้อายที่น่ารักและมีความสามารถ จนได้รับบทบาทนักแสดงซีรีย์วาย และโด่งดังจนสามารถสร้างรายได้มหาศาลให้กับตัวเขาเอง สังกัด U และผลพลอยได้จากหน้าที่การงานนี้ทำให้ผู้จัดการอย่างผมที่ได้รับรายได้มากมายเช่นกัน ผมจึงขอปฏิญาณกับตัวเองเลยว่าจะทำหน้าที่ผู้จัดการและดูแลเด็กคนนี้อย่างดีที่สุด

“ อื้ม เห็นยังช่วงนี้แฟนคลับเขาทวิตจิ้นเรากับเก่งกล้าเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ เลยนะ ”

   ผมพูดเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานหลังจากตัวอย่างตอนต่อไปของซีรีย์ออนแอร์ ก็มีแท็ก #เก่งกล้าคิวท์ ขึ้นเทรนทวิตเตอร์ทันที จนผู้จัดการอย่างผมอดไม่ได้ที่จะทวิตข้อความบอกแฟนซีรีย์ว่า ‘ต้องรอดู คุ้มต่อการรอคอย’

“ ครับผม ผมก็เห็นบ่อยๆ อะฮะ ” คิวท์ยิ้มเล็กน้อย

   ผมมองรอยยิ้มของน้อง และยิ้มล้อเลียน เพราะดูออก

   ถ้าไม่ติดว่าเขินอยู่ คิวท์คงบอกกับผมมาแล้วว่าน้องมันเข้าเช็คในทวิตเตอร์ตลอดเวลาที่ว่างเลยก็ว่าได้
 

   นอกจากหน้าที่การเป็นผู้จัดการรับงานตามงานให้นักแสดงแล้ว ผมยังมีหน้าที่และตำแหน่งพ่วงที่ได้รับมอบหมายมาเป็นพิเศษจากแฟนคลับของคิวท์และเก่งกล้า นั้นก็คือ มือพายอันดับหนึ่ง

   นึกแล้วก็ตลกดีนะ ตอนนั้นซีรีย์เรื่อง ‘เพื่อน(ไม่)รักก็บ้าแล้ว’ ซึ่งเป็นซีรีย์เรื่องแรกของนักแสดงหน้าใหม่ทั้ง 2 คน อย่างคิวท์กับเก่งกล้า กำลังออกอากาศในอีพีแรก ผมเพียงแค่ตั้งใจว่าจะทวีตรูปภาพและข้อความสั้นๆ เกี่ยวกับเรื่องน่าขำของการเริ่มรู้จักกันและกันของคนทั้งคู่ที่ตอนแรกช่างเงอะงะ ทำตัวไม่ถูก ต่างคนต่างพากันยืนอยู่คนละมุมห้อง แต่หลังจากผ่านการเวิร์คช็อปละลายพฤติกรรมทำให้ทั้งคิวท์และเก่งกล้าสวมบทบาทตัวพระนายออกมาได้อย่างดีเยี่ยม

   แถมเมื่อรับงานอีเว้นท์คู่กัน ยังมีการเซอร์วิสชนิดที่แฟนคลับเขินบิดจนเลือดสูบฉีดขึ้นหน้าไม่หยุดหย่อน และเผลอๆ ท้องไส้ปั่นป่วนกันเลยทีเดียว จนผมเองยังแอบคิดว่าถ้าน้องน้อยของผมเปลี่ยนสถานะจากคู่จิ้นมาเป็นคู่จริงคงไม่มีปัญหาอะไรแน่ เพราะพ่อแม่ไฟเขียว แฟนคลับก็กลมเกลียวเชียร์ให้ได้กัน ส่วนเก่งกล้าก็ดูเหมือนจะรักจริงหวังแต่ง หึๆ

“ อีกอย่าง เมื่อวันก่อนที่ไปออกรายการแฟนคลับฝากพี่มาบอกว่าเราผอมไปนะ อยากให้เรากินเยอะขึ้นอีกนิดน่ะ ”

   ผมพูดแต่ไม่ได้มองหน้าน้องเพราะตั้งใจจดจ่อกับงานที่กำลังทำอยู่ แต่ก็คงสร้างความลังเลให้คนที่ผอมลงเกือบ 6 กิโล ในช่วง 2 เดือนมานี่ ผมสังเกตได้จากการที่น้องเริ่มส่งเสียงถอนหายใจออกมาหน่อยๆ แล้ว

“ ผมว่าแบบนี้กำลังพอดีแล้วนี่หน่า ”

“ ยังไงก็แล้วแต่เราตัดสินใจ ช่วงนี้งานเยอะด้วย ดูแลตัวเองดีๆ กินเยอะๆ พี่นี่แอบเห็นด้วยกับแฟนคลับเรานะ ”

“ ครับ เอ่อ.. พี่กาด.. ”
 

ครืดดดด ครืดดด

“ แป๊บนะ..สวัสดีครับ.. ”

   ผมกดรับสายสำคัญที่โทรเข้ามาเรื่องงานพร้อมอมยิ้มขำ หลังจากที่มองหน้างอแงของคิวท์ ทั้งยังทำปากขมุบขมิบบ่น พร้อมจ้องมองโทรศัพท์ของผมที่โทรเข้ามาอีกครั้งที่เท่าไร่ไม่รู้ของวันอย่างคาดโทษ

“ครับๆ ได้ครับพี่ยุ้ย ..อ่อ กลัวน้องเสร็จงานเช้าไม่ทันหรอฮะ.. ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ทันแน่นอน ..ครับผม .. ครับ .. สวัสดีครับ … เฮ้อ ..”

   ผมถอนหายใจไล่ความกังวล ก่อนละสายตาจากโทรศัพท์คู่ใจที่ถูกใช้งานมาเป็นระยะเวลา 3 ปีกว่าๆ ไปที่แท็บเล็ตเพื่อจดบันทึกข้อมูลที่คุยงานรายที่ 4 ที่โทรเขามาจองตัวและจ้างงานนักแสดงในสังกัดที่ผมดูแลไปร่วมงานด้วย

“ ผมว่านะ… ”

“ นี่งานเช้า …ต่อด้วยงานบ่าย จากนี่ห่างกัน 20 นาทีน่าจะทันนะ ”

“ พี่กาดน่ะ… ”

“ คิวงานของเราเยอะ และยาวจนพี่กลัวลืมเลยนะเนี่ย ”

“ พี่กาด..พี่.. พี่กาดโว๊ยยย ”

“ หือ ว่าๆ ..”

   เสียงเรียกชื่อเจื้อยแจ้วของคิวท์ทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมาหาเจ้าของเสียง แต่เพียงแว็บเดียวเท่านั้น ก่อนผมจะกลับไปสนใจข้อมูลในแท็บเล็ตต่อ

“ โห ไรอะ ไม่ฟังที่คิวท์พูดเลยหรอ เนี่ยๆ จะงอนแล้วนาา..”

“ ทันใช่ป่าววะ.. รับงานไปแล้วต้องทันดิ ”

“ พี่กาดอ่ะ! ”

“ เอ้า! อะไรนะ? ขอโทษๆ ไม่ต้องหน้างอเลยยัยปลาทูน้อย มา..ว่ามาพี่จะตั้งใจฟังเราแล้ว ”

   ก่อนที่ผู้จัดการหัวฟูอย่างผมจะโดนงอนที่ไม่สนใจน้องน้อย ผมเลยรีบหอบแท็บเล็ตตรงดิ่งมาทิ้งตัวนั่งข้างนายคิวท์ที่กำลังกอดอก งอแงแก้มป่องทันที

“ พี่ฟังแล้วพี่ทำตามด้วยนาาา ต้องทำตามที่คิวท์บอกนะ ” เจ้าน้องก็รีบชี้นิ้วสั่งสอนใหญ่เชียว

“ ยากมั๊ย..? ” ผมเกิดอาการคิดหนัก กลัวเด็กน้อยบอกให้ทำอะไรที่ยากพิสดารหรืออะไรที่มันเกินตัวกว่าที่เราจะทำได้

“ ไม่ยากเลยพี่กาด จริงๆ ” คิวท์ส่ายหน้ารัวๆ เมื่อเห็นว่าผมไม่เออ-ออ

“ อะไรล่ะ? ”

   ถามไปแบบนั้น ก็เริ่มกังวลนิดหน่อย ได้แต่บอกตัวเองในใจว่าคงไม่มีอะไรเกินกว่าที่ผมจะทำไม่ได้ ยกเว้นเรื่องนั่นแหละนะ

“ คิวท์ว่าพี่กาดหาแฟนมั๊ย ”

“ เอิ่ม.. ก็นึกว่าเรื่องอะไร เรื่องเดิมเลยนะไอ้ปลาทู ”

   ผมทำหน้าเอื้อมระอา ส่งเสียงหัวเราะเหมือนเด็กตรงหน้ากำลังพูดเรื่องตลกกับผม ทั้งที่ในใจก็ขำไม่ออกเท่าไร

   ความจริงเรื่องนี้ก็ถูกคิวท์ยกเอามาเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาในแต่ละวันมาสักพักสองพักแล้วละ

   ไม่รู้อยู่ดีๆ ไอ้ตัวดีมันคิดอะไรถึงอยากให้ผมมีแฟนนักหนา ผมอยู่อย่างนี้ ทำงานไปแต่ละวันอย่างนี้ก็ดีแล้ว และไม่ได้มีเวลาไปคิดเรื่องอื่นนอกจากเรื่องงานหรอกนะ

“ มีแฟนหน่อยเถอะพี่ ” คิวท์ยังเอ่ยต่อ

“ หึ เพ้อเจ้อใหญ่แล้วเรา ” ผมได้แต่ส่ายหน้า แม้ติดรำคาญยามคิวท์พูดถึงเรื่องนี้ทีไร ผมก็ยังไม่ลุกไปไหน นั่งทำงานโดยกลับไปสนใจแท็บเล็ตตามเดิม

“ ไม่ได้เพ้อเจ้อ พี่พักบ้างเถอะ ไปหาแฟนให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ ผมอยากให้พี่พักบ้าง ” คิวท์ปฏิเสธเสียงเบา ว่าไม่ได้เพ้อเจ้อ แต่ดูก็รู้ว่าเขากำลังคาดหวังกับคนไม่เคยมีแฟนอย่างผม

‘ หาแฟนมั๊ยพี่กาด ’

‘ ลองมีแฟนดูมั๊ยพี่ ’

‘ ถ้าพี่กาดมีความรักจะเป็นยังไง ’



“ คิวท์ อยากให้พี่กาดมีแฟนนน ”

“ พูดบ้าอะไรของแกวะ ไอ้คิวท์ แค่นี่กูยุ่งเรื่องงานเดี่ยวงานคู่ของแกกับฮันแทบตาย ยังจะไล่พี่ไปมีแฟน”

   อ้าว! ลืมตัว ต่อให้น้ำเสียงจะนิ่งๆ แต่พอรำคาญ ผมก็จะเริ่มขึ้นกูมึงกับน้องมันออกไปรัวๆ พอดีมันติดปากอะ สงสัยคำหยาบจะอยู่ในสมองไปแล้ว 50 เปอร์เซนต์ของพื้นที่สมอง

“ ของขึ้นซะงั้น ความจริงพี่ก็อยากมีแฟนใช่ป่าวล่ะ? ทำไมพี่กาดถึงไม่ชอบใคร แล้วทำไมไม่มีใครมาจีบพี่บ้างเลยอะ หน้าตาก็ไม่ได้แย่ แค่หน้าเหมือนแมวขี้งกเอง ”

   เอ๊ะ ตกลงเมื่อกี้ชมหรือด่า?

“ ผมชมนะพี่ แหะๆ ” คิวท์รีบเกาะไหล่ทั้งสองข้างของผมโยกไปมาเพื่อเรียกร้องความสนใจ

“ ยุ่งอยู่น้า ออกๆ อย่าเกาะแกะ พี่กำลังทำงาน อย่ากวนดิ ไปลองชุดไปๆ ” ผมเอ่ยไล่คิวท์ด้วยน้ำเสียงเอื้อย สีหน้าเอือมระอา

“ แหะๆ ก็ได้ครับ ก็ได้ ”

   เมื่อคิวท์เดินออกไปแล้ว ผมก็พรู่ลมหายใจ และพยายามกลับมาจดจ่อกับตารางงานของเด็กในสังกัดอีกครั้ง แต่ต้องหยุดลงอีกครั้งเช่นกันเมื่อคำพูดของคิวท์มันยังวนกลับเข้ามาอยู่ในหัวของผม

   เกิดอาการตะหงิดและรำคาญใจอย่างบอกไม่ถูก

   นั่นสิ.. พอเรียนจบมาทำงาน ทำไม เขาไม่ชอบใคร

   แถมไม่มีสาวๆ คนไหนเข้ามาจีบ.. เลย
 


   จะมีก็แต่..
 
   ..ผู้ชาย

   เอ่อ! ได้ยินไม่ผิด ผู้ชายด้วยกันนี่แหละไอ้เหี้ยเอ้ย
 
 
 


 

เช้าวันใหม่ สดใสมากกก
 

“ น้องคิวท์ มาทำผมลูก ”

“ อ่า ครับ… ” คิวท์ที่นั่งเล่นเกมส์งูฆ่าเวลาอยู่เอ่ยตอบรับพี่ติ๊ด ช่างทำผม ก่อนลุกขึ้นพาตัวเองไปนั่งแหมะลงที่เก้าอี้หน้ากระจก

“ สวัสดีครับทุกคนนนน ”

“ พี่กล้า! พี่กล้ามาแล้วหรอ กินข้าวยัง? คิวท์มีขนมอยู่กับพี่กาดนะ พี่กาดฮะ.. ”

“ ได้ๆ เดี๋ยวพี่เอามาให้ ” ผมพยักหน้าให้กับคิวท์ พร้อมหยิบถุงบราวนี่กรอบออกจากกระเป๋าเป้ มายื่นให้กับเก่งกล้าที่เดินเข้ามาในห้องแต่งตัว พร้อมกับพี่ขนมผู้จัดการส่วนตัว ทั้งคู่กล่าวทักทายกับทีมงาน รวมถึงผมด้วย

“ สวัสดีครับ โห ขอบคุณมากเลยครับพี่กาด ของพี่กาดซื้อมาหรอ ”

“ ……… ”

“ ไม่ใช่นะสิ นู้นๆ ”

   ผมส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนส่งสายตาให้เก่งกล้าหันไปมองทางคิวท์ที่นั่งตัวตรงให้ช่างผมทำผมอยู่ ทางนู้นยิ้มเก้อเล็กน้อยเมื่อพี่กล้าของตัวเองทำเหมือนไม่สนใจที่เขาพูด และหันมาคุยกับผู้จัดการอย่างผมแทน

“ ขนมนี่น่าจะเป็นของพี่กาด ไม่ใช่หรอครับ? ” เก่งกล้ายังถามต่อกับพร้อมยิ้มขำ จนทำให้ผมรู้ทันทีว่าเก่งกล้าตั้งใจจะแกล้งไม่สนใจน้องน้อยของผม

“ หึ ของไอ้ปลาทูนู้น ..หน้างอแล้วนั้น ” ผมยิ้มขำ ก่อนตบไหล่เก่งกล้าที่ตัวสูงกว่าแปะๆ ให้หันกลับไปมองทางคิวท์ที่จ้องมองเราทั้งคู่ด้วยหน้างอแงผ่านทางกระจก

“ ไม่ได้หน้างอครับ คิวท์แค่ตึงๆ หนังหัว หน้า จมูก ปาก และคิ้วมันก็เลยไปเอง หึ! ”

“ หะ? พี่ติ๊ดได้ดึงผมแน่นไปหรอลูก ” ช่างผมตกใจตาโต พร้อมกับหวีเก็บทรงด้านข้างของคิวท์ให้อย่างเบามือเพราะกลัวจะทำให้น้องเจ็บ

“ เออ.. ไม่ขนาดนั้นครับพี่ติ๊ด ผมทนได้ฮะ ” คิวท์ส่ายหน้าเบาๆ ไม่ได้มองมาที่พวกเราเหมือนเดิมแล้ว แต่ผู้จัดการอย่างผมก็รู้ดีแหละนะว่าคิวท์น่ะมักไม่ชอบใจเวลาที่เก่งกล้าไม่สนใจตัวเองที่สุดแล้ว

“ หาเรื่องง้อกันหรือไงนะเก่งกล้า ” ผมพูดแซว ในขณะที่เก่งกล้าหยิบบราวนี่ขึ้นมากินเรื่อยๆ

“ หยอกๆ น่ะพี่กาด ก็เมื่อคืนเด็กมันหลับก่อนแล้วไม่ได้บอกฝันดีผมนี่หน่า เลยต้องแกล้งหน่อย ” เก่งกล้าพูดเสียงเบาให้เราได้ยินกันสองคน ก่อนที่จะหยิบบราวนี่กรอบชิ้นสุดท้ายขึ้นมากิน แล้วเอ่ยขึ้นลอยๆ พอให้น้องน้อยของผมได้แอบหลุดยิ้ม “ อร่อยนะครับเนี่ย คนซื้อมาให้นี่รู้ใจพี่จริงๆ ”

“ ………. ” แหม แค่เก่งกล้าพูดแค่นี้ ไอ้น้องน้อยยิ้มไม่หุบเลยน้าา


   จริงๆ ช่วงนี้กำลังอยู่ในการถ่ายทำซีรีย์วายเรื่องใหม่ที่เก่งกล้าและคิวท์ได้รับโอกาสแสดงเป็นพระนายคู่กันอีกครั้ง ทำให้กระแสคู่จิ้นที่เป็นที่นิยมของทั้งคู่ที่มีอยู่เดิมแล้ว กลับมาขึ้นเทรนทวิตเตอร์แทบทุกวัน

   ผู้จัดการนักแสดงอย่างผมไม่อยากเดาไปเองหรอกว่าความจิ้นที่แฟนคลับจิ้น และการใกล้ชิดกันของคนทั้งคู่จะทำให้พวกเขาเผลอมีใจให้กันมากพอที่จะเป็นคู่จริงได้หรือเปล่า

   แต่ในฐานะผู้สังเกตการณ์ ก็ขอเป็นกำลังใจอยู่ห่างๆแล้วกัน เรื่องหัวใจของน้องน้อยผมจะไม่เข้าไปยุ่งมากมาย ตัดสินใจเองได้อยู่แล้วแหละ อื้ม! ..ถ้าไม่มีมือที่สามอะนะ!

   แล้วเรื่องหัวใจตัวเองล่ะวะผักกาด..

   เหอะ ไหนว่าโสดก็ไม่ตาย โสดก็อยู่ได้ โสดสบายไงผักกาด อยู่ดีๆจะมาคิดถึงเรื่องนี้ทำไมกัน
 



----------


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-04-2020 15:31:42 โดย pimpipam_s »

ออฟไลน์ pimpipam_s

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ต่อ





 
“ น้องรดา คุณฎี เชิญเข้าไปรอที่ห้องรับรองก่อนมั๊ยคะ? ”

“ ได้ค่ะ หวังว่าขนมที่ซื้อมาน้องๆ จะชอบนะคะ ”

“ พี่แอบชิมแล้วค่ะ อร่อยมากค่ะ ”

“ ฮ่ะๆ เหลือเผื่อน้องๆ ด้วยนะคะ ...พี่ฎี แน่..มองหาใครอะ? รีบเดินตามดาสิคะ ”

   ผมเอียงหูฟังเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงใครหลายคนกำลังพูดคุยกันอยู่ด้านนอก และเหมือนกับว่ากำลังจะเดินผ่านมาทางนี้..

“ น้องคิวท์ล่ะครับ? ”

   แหม มาถึงก็ถามถึงคิวท์เลยนะ ผมพอจะรู้แล้วล่ะครับว่าใครมา..

“ น่าจะอยู่ในห้องแต่งตัวนะคะ อ้าว! น้องกาด ”

   O.O

   ผมละสายตาจากโทรศัพท์ขึ้นมองกลุ่มคนที่เดินเข้ามาใหม่ในห้องรับรอง รีบเด้งตัวยืนขึ้น หลังจากที่ตัวเองเพิ่งทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟารับรองได้ไม่นาน เมื่อกี้เพิ่งแอบฟังเสียงพวกเขา แต่ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะพากันเดินเข้ามาในห้องนี้ด้วย

“ สะ..สวัสดีครับพี่นีน่า สวัสดีครับพี่รดา สวัสดีครับ… ” ผมฉีกยิ้มบางๆ พร้อมกล่าวทักทายกับทั้งสามคน แต่เอ่ยชื่อเพียงแค่สองคนที่อยากเอ่ยเท่านั้น เพราะคนที่สามน่ะ เขาคือคนประเภทที่ผมไม่อยากสนทนาด้วย

   ถึงแม้ช่วงนี้ผมกับเขาจะเจอกันบ่อยเป็นพิเศษกว่าเมื่อก่อนก็ตาม แต่เขาก็ยังเป็นคนกวนประสาทและขี้แกล้งอันดับหนึ่งในใจ ที่ผมไม่อยากเอาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยเหมือนเดิมและตลอดไป

   และ! และ! และที่สำคัญตอนนี้เขายังเป็นมือที่สามในความรักของน้องน้อยของผมอีกด้วย เข้าใจให้ตรงกันเลยนะว่าผมน่ะ.. #ทีมเก่งกล้าคิวท์ เท่านั้น!

“ สวัสดีจ้ะน้องกาด น้องนักแสดงของเราอยู่ข้างในเนาะ? ” พี่นีน่าผู้ช่วยผู้จัดเอ่ยถาม พร้อมชี้นิ้วไปทางห้องๆหนึ่งที่เขียนป้ายกำกับหน้าห้องว่า ‘ห้องแต่งตัวนักแสดง’

“ ครับ แล้ว..พอดีข้างในคนค่อนข้างเยอะนะครับ ผมก็เพิ่งออกมาจากห้องน่ะครับ ”

   ผมคงไม่ได้แสดงท่าทีพิรงพิรุธอะไรออกไปหรอกนะ

   ผมแค่จะบอกว่าผมไม่ได้อู้งานนะ และไม่ได้ร้อนตัวด้วย! ที่พูดเมื้อกี้ก็แค่พูดดักไว้ก่อน เพราะกลัวจะมีคนๆหนึ่งหาเรื่องมาว่าผมว่าอู้งานน่ะสิ

   ตอนแรกก็กะจะนั่งรอคิวท์อยู่ในห้องแต่งตัวด้วย แต่เนื่องจากทีมงานและนักแสดงมีจำนวนค่อนข้างเยอะมาก ผมก็เลยตัดสินใจบอกคิวท์ว่าจะออกมานั่งรอด้านนอกแทน เพื่อจะได้ไม่ไปเกะกะหรือขวางทางทีมงานที่กำลังทำงานกันอย่างแข็งขัน

“ สบายๆ เถอะจ้ะ นี่พี่ดีใจจังที่เจอน้องผักกาด” พี่รดาเอ่ย

“ ครับ ดีใจเหมือนกันครับ ” ผมตกใจเล็กน้อย ก่อนยิ้มตอบรับให้ผู้จัดคนสวยเดินเข้ามาจับมือผมอย่างตื่นเต้น

   แม้จะอายุเพียง 26 ปี แต่พี่รดาก็เป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในงานที่เขารัก เพราะพี่เขาเป็นทั้งเจ้าของนิยายวายที่โด่งดังหลายๆเรื่อง และยังเป็นเจ้าของบทประพันธ์ รวมถึงเป็นผู้จัดใหญ่ของซีรีย์วายที่สร้างชื่อเสียงให้กับคิวท์ที่รับบทเป็นนักแสดงนำด้วยกันมาแล้วสองเรื่อง และปัจจุบันเรื่องนี้คือเรื่องที่สาม

“ พี่นีก็นึกว่าผักกาดจะให้วาวามาดูแลน้องคิวท์ซะอีก ” ผู้ช่วยผู้จัดเอ่ยพร้อมวางถุงขนมหวานต่างๆ ที่หัวหน้าอายุน้อยของเธอตั้งใจซื้อมาให้ทีมงานและนักแสดงลงบนโต๊ะทั้งหมดจนเต็มโต๊ะ ก่อนพี่นีน่าจะทิ้งตัวนั่งลงเก้าอี้ใกล้ๆ

“ ช่วงนี้พี่ติณเขาให้เจ้าวาไปดูแลน้องจั๊บน่ะครับ ส่วนผมก็เลยสลับกลับมาดูแลคิวท์เหมือนเดิม ” ผมเอ่ยยิ้มๆ มองคนสวยใจดีทั้งสองที่ทั้งใส่ใจและช่างสังเกต

“ ดีเลย พี่อยากเจอเราบ่อยๆ พอดีพี่กำลังคิดพล็อตจะแต่งนิยายเรื่องใหม่อยู่นะ เห็นเราแล้วนึกออกมาได้เยอะแยะเลย เนาะพี่นีน่า>< ” พี่รดาที่ยังจับมือผมอยู่เอ่ยขึ้น แล้วหันไปหากำลังเสริมอย่างพี่นีน่า ก่อนที่ทั้งสองคนจะพยักหน้าเห็นดีเห็นงามพร้อมกัน เหมือนรู้เรื่องนี้กันอยู่แล้ว

“ อ่า ครับ ” ส่วนคนที่ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนอย่างผม ก็ได้แต่ยิ้มแห้งและเกาหน้าผากตัวเองเบาๆ

   เห็นผมแล้ว พี่รดาเขาจะคิดพล็อตนิยายออกได้ไงว่ะ งง

   ผมหวังว่าพี่รดาคงไม่ได้เอาผมไปเป็นอิมเมจตัวละครหรอกนะ

   เนื้อหานิยายหรือพล็อตก็คงจะประมาณว่า.. พระเอกนิยายบ้างาน หาแต่เงินไม่สนใจความรัก เป็นโสดจนแก่ และตายไป..

“ ฮ่ะๆ ” นึกแล้วก็ขำ ^^

“ อะไรหรอจ้ะ? ”

“ อ่อ เปล่าครับ พอดีกำลังคิดว่า..ถ้าตัวเองเป็นพระเอกนิยายของพี่รดาแล้วเรื่องราวมันจะเป็นยังไง ”

“ หืม? แต่พี่ไม่ได้ให้อิมเมจผักกาดเป็นพระเอกนิยายน่ะสิ ”

“ อะ..อ้าวหรอครับ แล้วอิมเมจผมเหมาะกับเป็นอะไรหรอครับ ”

“ เป็นนายเอก

“ หาา! นายเอกเนี่ยนะ? ” ผมตกใจตาโต ถ้าไม่ติดที่ว่ามีสติอยู่บ้างคงเกือบสะบัดมือคนสวยตรงหน้าไปแล้วล่ะ

“ หึๆ ”

   ระหว่างที่ผมกำลังมองพี่รดาที่พยักหน้ายืนยันคำตอบ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของใครสักคน ซึ่งก็เดาไม่ยากหรอกครับว่าใคร

“ ขำอะไรไม่ทราบครับ? ”

“ ขำคุณผักกาด ”

“ พี่ฎี! อย่าขำน้อง น้องไม่รู้ ” พี่รดาปล่อยผมเป็นอิสระแล้วหันไปห้ามปราบคนตัวสูงที่ยืนฟังบทสนทนา และหลุดหัวเราะออกมาหลังจากเห็นหน้าตาเหลอหลาของผม

“ ก็เวลาตกใจ หน้าคุณผักกาดเขามันนะ.. ”

“ ……. ” อะไร? พูดออกมาสิ จะจ้องหน้าผมนานๆเพื่อ

“ มัน.. ตลก ”

“ ตลก? ”

   เสียงหัวเราะในลำคอต่อเนื่องและเสียงพูดติดๆขัดๆของคนตัวสูงที่ถูกพี่รดาเอ่ยชื่อก่อนหน้า ทำให้ผมต้องเหลือบสายตาไปมองหน้าเขาอีกครั้งด้วยความไม่ชอบใจนัก แต่เจ้าตัวกลับทำเพียงแค่ส่งยิ้มมุมปากกลับมาให้กับผมแทน

“ ไม่ค่ะไม่ตลกเลย ไม่ต้องไปฟังพี่ฎีนะผักกาด ” พี่รดาหันมาพูดยืนยันกับผมอีกครั้งด้วยสีหน้าลำบากใจ ผมจึงพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อให้เธอสบายใจ แต่เหมือนพี่ชายของพี่รดาจะไม่ยอมจบ

“ หึๆ ก็คุณผักกาดเล่นตกใจ ตาโต อ้าปากค้าง จมูกกระตุกๆแบบนััน ไม่ตลกก็ไม่ไหวนะ ”

   เหอะ! พูดมาได้ ว่าหน้าตาผมมันตลก

   ตกใจแล้วมันตลกตรงไหนกัน ก็แค่ไม่รู้มาก่อนว่าตัวเองถูกเอาอิมเมจไปเขียนเป็นนายเอกนิยาย มันน่าตลกมากหรือไง!

   ไม่ชอบหน้าตาล้อเลียนของเขา

   ..และโคตรจะไม่ชอบรอยยิ้มของเขาเลยด้วย


“ พี่ฎีพอเลย ผักกาดไม่เห็นหน้าตาตลกเลย พี่ฎีห้ามไปว่าน้องแบบนั้นนะ! ผักกาดออกจะน่ารัก เหมาะกับเป็นอิมเมจนายเอกนิยายของดาที่สุด ”

   ผมยิ้มเห็นด้วยเล็กๆกับพี่รดาเรื่องห้ามคุณฎีว่าหน้าตาผมตลก แต่ไม่ค่อยเห็นด้วยที่ชมกันว่าผมน่ารักแล้วเอาไปเป็นอิมเมจนายเอกนิยาย ไม่เห็นด้วยอย่างแรงงง

“ เรื่องอิมเมจ... ”

“ ผักกาดอย่าคิดมากนะ พี่แค่อยากคิดพล็อตใหม่ๆ พอเจอผักกาดแล้วมันคิดอะไรออกมาได้เยอะแยะเลย ถ้าผักกาดไม่ชอบ..ก็ไม่เป็นไร พี่ไม่อยากสร้างความลำบากใจให้เรา ” พี่รดาเอ่ยโบกมือไปมาด้วยสีหน้ารู้สึกผิด

“ อ่า.. ไม่เป็นไรครับ กาดไม่คิดมาก ถ้า..พี่รดาอยากแต่งก็แต่งได้เลย ผมโอเค  ” ผมพยักหน้ายืนยันอีกหนึ่งครั้ง

“ แงงง น่ารักมาก น่ารักแล้วยังใจดีอีก อนุญาตพี่แล้วนะ ”

“ เออ.. ครับผม ”

“ เย้ ขอบคุณนะคะ >< ” คนสวยยิ้มหวานจนตาหยี ผมเลยยิ้มรับรอยยิ้มสวยที่ยิ้มมาให้อย่างโล่งใจ เป็นอิมเมจนายเอกในนิยายมันคงไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอกมั๊ง โอเค..เราสบายใจกันทั้งสองฝ่ายแหละ

“ รดาครับ ”

“ คะพี่ฎี? ”

“ ……… ” คุณฎีรดลกวักมือเรียกพี่รดาให้ขยับเข้าไปใกล้ๆ และเขาก็ก้มมากระซิบอะไรบางอย่างข้างหูพี่รดาไม่รู้ ปฏิกิริยาของเธอถึงได้แสดงถึงคงามตกใจจนตาโตขนาดนั้น

“ โอ้! มาย ก๊อดดดดด พี่ฎี! จริงมั๊ย.. รดาขอฟังอีกครั้งหนึ่ง ”

“ หึ ” คนตัวสูงอมยิ้มให้น้องสาวที่ยกมือไหว้เชิงขอร้อง ก่อนจะมองมาที่ผมด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วพูดประโยคที่ผมไม่อยากจะเชื่อออกมา “ พี่บอกว่า.. ถ้าผักกาดเป็นอิมเมจนายเอกของดาแล้ว งั้น..อิมเมจพระเอกก็ต้องเป็นพี่คนเดียว ”

“ หะ? ” อะไรนะ? ผมร้องออกมาอย่างไม่เก็บอาการ ขมวดคิ้วมองที่คนพูดอย่างไม่เข้าใจ

“ พี่ฎีจะเป็นอิมเมจพระเอกนิยายให้ดาจริงหรอคะ? ”

“ ครับ ”

“ พี่ฎีจะอนุญาตแล้ว..จริงๆนะคะ? ” พี่รดารีบพูดอย่างตื่นเต้น และเข้าไปกอดพี่ชายของเธออย่างดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่

“ ครับ พี่อนุญาต แต่..เฉพาะนายเอกที่เป็นผักกาดเท่านั้นนะ ”

   อันนี้ผมก็ไม่เห็นด้วยอะ ไม่โอเค ผมไม่อนุญาตโว๊ยย

“ กรี๊ดดด งั้นตกลงเลยค่ะ พี่ฎีได้รับอิมเมจเป็นพระเอกนิยายของดา ”

   พี่รดาก็อีกคน ได้ยินเสียงในใจผมมั๊ย ผมไม่เห็นด้วย ไม่โอเค ไม่อนุญาตอะ

   ผมยืนฟังบทสนทนาของพี่น้องหน้าตาดีคู่นี้ด้วยความกล้ำกลืนฝืนทน หันไปมองทางพี่นี่น่าเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ก็พบว่าเธอได้นั่งกินขนมอย่างเอร็ดอร่อย ไม่สนใจใครมานานแล้ว

   ส่วนพี่รดาก็กระโดดโหยงๆดีใจอยู่ข้างๆคนกวนประสาทที่พูดบ้าอะไรขึ้นมาไม่รู้ วันนี้เขามาเพื่อกวนประสาทผมโดยเฉพาะเลยสินะ

“ พี่รดา ผมว่าไม่เอาดีกว่าครับ ” ผมเอ่ยกระซิบกับพี่รดาเบาๆ แต่พบว่าเธอกำลังทำหน้าตาน่าสงสารส่งกลับมาให้ผมอีกครั้ง จนผมต้องรีบแก้ตัวและหันหน้ามองคนตัวสูงด้วยสายตาคาดโทษ “ เอ่อ..คือ กาดหมายความว่าคุณฎีเขาอาจจะแค่พูดเล่น.. ”

“ พี่ไม่ได้พูดเล่นครับ ”

“ พูด เล่น สิ ครับ! ” ผมกัดฟันพูดและพยักหน้ายิ้มเล็กน้อยให้กับเขาเพื่อขอร้องให้เออ-ออและคล้อยตามไปด้วยกัน แต่..

“ ไม่ได้พูดเล่นครับ ” เขายังยืนยันชัดเจน โว๊ยย

“ ….. ” นี่คุณ!

“ จริงนะคะ ”

“ จริงค่ะ ”

“ พี่ฎียอมให้ดาแต่งได้แน่นะ ”

“ ตามสบายเลยค่ะน้องสาว ” เขาตอบได้หน้าตาเฉยมาก

   ผมกัดฟันยิ้มค้างมาซักพัก ค่อยๆทิ้งตัวนั่งลงโซฟาตัวเดิมอย่างไม่สบอารมณ์ ชำเลืองมองคนตัวสูงที่ขอตัวออกไปรับโทรศัพท์และยืนคุยอยู่ด้านนอกนานสองนานอย่างไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไร้ลยกับเหตุการณ์ก่อนหน้า

   ส่วนที่รดาหรอ.. ตอนนี้ก็เอาแม็คบุ๊คขึ้นมานั่งพิมพ์อะไรต่อมิอะไรใหญ่เลย นั่งพิมพ์ไปด้วยแล้วก็ยิ้มไปด้วย พลางเงยหน้าขึ้นมามองผมสลับกันคุณฎีเป็นระยะๆ

   เฮ้อ ผมคิดถูกจริงๆใช่มั๊ยเนี่ย! 

“ อ่อ ผักกาด พี่ลืมสนิทเลย พี่ว่าจะเอาบทฉบับแก้ไขฝากให้น้องคิวท์พอดีเลย ” พี่รดาเอ่ยพร้อมยื่นหนังสือรวมบทฉบับแก้ไขมาให้กับผม เพื่อให้ทำหน้าที่เก็บไว้ให้กับน้องคิวท์

“ ครับผม ”

“ เอ่อ พี่นีน่า งั้นเราไปหาพี่สมาร์ทเพื่อคุยเรื่องงานฉากที่ต้องไปถ่ายต่างจังหวัดกันเถอะค่ะ พี่ฎีจะไปด้วยมั๊ยคะ หรือ..จะนั่งรอที่นี่ก็ได้นะ ”

   พี่รดาเอ่ยถามคุณฎีที่เดินกลับเข้ามาหลังจากออกไปรับโทรศัพท์ด้านนอก ผมเห็นเขาทำหน้าคิดสักพักหนึ่ง ก่อนจะเลื่อนสายตาเจ้าเล่ห์มาทางผม ผมจึงรีบหลบสายตาไปมองทางอื่น หลังจากที่เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองได้เผลอมองคุณเขามาตั้งนานแบบไม่รู้ตัว

   เชี่ย ..มารู้ตัวอีกทีก็คือโดนเขามองกลับมาซะแล้ว 

“ ไม่เป็นไรครับรดา เดี๋ยว..พี่นั่งรอน้องคิวท์อยู่กับคุณผักกาดขาวตรงนี้ก็ได้ ” 

   เหอะ ย้ำชื่อน้องคิวท์จังเลยนะ!

   แล้วยังมาย้ำชื่อเราอีก อะไรนะ.. คุณผักกาดขาวงั้นหรอ?

“ แน่ใจนะคะ ”

“ ครับ แน่ใจ พี่ว่าผักกาดเขาก็คงอยากให้พี่นั่งตรงนี้เป็นเพื่อนเขาด้วย ใช่มั๊ยครับ? ”

“ ……. ” ใครอยากให้คุณฎีนั่งอยู่ตรงนี้ด้วยไม่ทราบ  “ ไม่.. ”

“ ไม่ปฏิเสธสินะครับ ”

“  ….. ” ไม่อยากนั่งด้วยโว้ยย

“ ไม่ตอบแสดงว่าอยากให้นั่งด้วย เดี๋ยวพี่รออยู่นี้ครับรดา ”

“ ….. ” แล้ว แต่ จะ คิด!

“ โอเคค่ะ รออยู่ที่นี่นะคะคุณพี่ชาย ”

   พี่รดายิ้มอีกครั้งจนตาหยีก่อนเดินออกไปจากห้องพร้อมกับพี่นีน่า ทิ้งให้ผมอยู่กับคนกวนประสาทอันดับหนึ่งที่เพิ่งก่อคดีไว้ แต่เขากลับนั่งยิ้มอารมณ์ดีอย่างไม่เป็นเดือดเป็นร้อน เหอะ!

   ผมจะปล่อยไป ผมจะไม่สนใจๆ อยากทำอะไรก็ทำ อยากพูดอะไรก็พูด 
 
 



 
“ กินขนมได้นะ รดาเขาตั้งใจซื้อมาฝากทีมงานทุกคนน่ะ ”

“ ครับ ” ตอบรับเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงคุณฎีรดลที่พูดเหมือนกำลังบอกกับผม ยังไม่หายหงุดหงิดเรื่องเมื่อกี้หรอกนะ

   แต่ในการทำงานกับผู้ใหญ่หรือรุ่นพี่ แม้ตนจะไม่ค่อยชื่นชอบคนๆ นั้นสักเท่าไหร่ แต่ผมก็จะพยายามนึกเสมอว่างานก็คืองาน ทำงานก็ได้เงิน มันไม่ยากเท่าไหร่หรอก (มั๊ง?)

“ ช่วงนี้คิวท์เป็นไงบ้าง ”

“ ก็.. ปกติดีนะครับ ”

   เป็นไงบ้างเรื่องไหนล่ะครับ

   ? แม้จะตอบไปแล้วผมก็แอบทวนคำถามในใจ และค่อยๆ เงยหน้ามองคนที่นั่งลงโซฟาด้านขวาของตัวเองเล็กน้อย ก่อนหันกลับมาสนใจแท็บเล็ตอีกครั้ง แต่กลายเป็นว่าไม่ค่อยจะมีสมาธิเลย เพราะเหมือนถูกอีกคนจ้องอยู่ตลอดเวลา

ขวับ!

   นั้นไง .. ยังจ้องเราอยู่เลย

“ กินหน่อยสิ เดี๋ยวคนอื่นออกมาผักกาดก็อดกินพอดี ” คุณฎีเอ่ย พร้อมยื่นกล่องขนมมาให้ แม้ผมจะไม่อยากกิน แต่ผู้ใหญ่ให้ของก็ต้องรับสิ

“ ขอบคุณครับ แต่ผมยังอิ่มอยู่ เดี๋ยวกินทีหลังแล้วกันครับ ” ผมรับมาแล้วนำมาวางข้างกระเป๋าของตัวเอง พร้อมเอ่ยบอกคนที่ยื่นมาให้จะได้ไม่เสียน้ำใจคุณเขา

“ อืม ”

   วันนี้แม้คุณสปอนเซอร์ใหญ่จะมาในลุคสบายๆ เสื้อยืดกางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบคู่เท่ แต่มันกลับดูดี ออร่าพุ่งมากๆ ไม่ต่างจากลุคหนุ่มนักศึกษาสมัยที่ผมเคยเห็นเมื่อหลายปีก่อนเลย

   คุณฏี ฎีรดล หรือพี่ฎี หนุ่มหล่อหน้าตาดี กีฬาเด่น แถมยังเคยเป็นเดือนมหาวิทยาลัยที่สาวๆ ชื่นชอบ จนถึงปัจจุบันนอกจากความหล่อที่มีแต่เพิ่มไม่เคยลดลง เขายังเป็นนักธุรกิจที่เพรียบพร้อมไปด้วยความเก่งกาจทางด้านบริหาร การจัดการและการสื่อสารทางด้านภาษาถึงห้าภาษา คนอะไรวะหล่อ รวย เก่ง สามผ่าน!

   ถ้าไม่ติดว่าเป็นคนนิสัยขี้บังคับและชอบแกล้งกันมาก่อน เขาคงเป็นคนๆหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าเขาน่าอิจฉาชะมัด

   แค่หน้าตาหล่อก็กินขาดแล้ว ผิวหน้าผิวพรรณดีอีก

   ก็อย่างนี้แหละนะครับคนมีเชื้อสายฝรั่ง และเสี้ยวเวียดนาม ไหนจะส่วนสูง 185 ซม. ไหนจะหุ่นจะเหิ่นที่ได้มาจากการออกกำลังกาย แล้วเส้นเลือดที่แขนบึกนั้นอีก.. เพอร์เฟ็คเวอร์ๆ
 
   หื้ม?

   ว่าแต่ผมจะบรรยายถึงเขาทำไมนะ อุตส่าห์พยายามไม่นึกถึง

“ ทำไมทำหน้าเหมือนกำลังทะเลาะกับตัวเองล่ะครับ ”

   ระหว่างที่ผมกำลังสั่นหัวตัวเองไปมาเพื่อเรียกสติ ก็มีเสียงพูดติดตลกทักขึ้นมา ผมถอนหายใจ ทำเพียงมองเขานิ่งๆแล้วพูดแบบไม่ออกเสียงว่า ‘ผมกำลังใช้สมาธิในการทำงาน’ เพราะไม่อยากให้เขามายุ่งมายุ่มหย่ามกัน รายนั้นจึงทำเพียงส่ายหน้าให้เล็กน้อยอย่างไม่ใส่ใจ

   เฮ้อ ผมว่าเขาจะช่างสังเกตเกินไปแล้วนะ


“ วันนี้หลังจากเสร็จงานคิวท์มีคิวงานที่ไหนหรือเปล่า ”

“ …….. ”

“ ว่าไง? ”

   ยังไม่จบ คุณฎีเขาก็เป็นแบบนี้ ยิ่งเห็นว่าผมไม่อยากคุย เขาก็ยิ่งจะหาเรื่องมาพูดมาถาม โดยเฉพาะเรื่องของคิวท์เนี่ย เป็นประเด็นที่ถูกยกมาถามบ่อยที่สุดเลย

“ คือมันเป็นตารางงานของน้องอะครับ ”

“ ทำไม? ผมอยากรู้นี่หรือบอกไม่ได้ ”

“ ก็.. น้อง ว่าง ครับ ” ผมไม่อยากมีปัญหากับคุณฎีในตอนนี้เท่าไร เพราะยุ่งมากๆจนไม่มีเวลาไปทะเลาะ เลยตอบเสียงเบาหลังจากเปิดดูตารางงานเพื่อดูเวลาว่างของคิวท์ให้

“ อืม แล้วพรุ่งนี้ล่ะ? นอกจากมาที่กอง มีงานที่ไหนมั๊ย? ”

“ ..ไม่ครับ ” เขายังไม่หยุดอีกนะ ยังถามต่อไม่จบ

“ ทำไมคุณผักกาดดูเหมือนไม่อยากจะบอกผมเลยล่ะครับ? ”

   ก็ไม่อยากบอกไงโว้ย หมดคำจะพูด

“ เปล่าครับ.. ผมแค่คิดว่าบางทีน้องไม่มีงานตามตารางก็จริง แต่น้องก็ต้องมีเวลาส่วนตัวน่ะ มันไม่จำเป็นเลยที่ต้องเปิดเผยให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องรู้ ” ผมทำหน้าจริงจังขึ้นเล็กน้อย แล้วเอ่ยตอบแม้ในใจจะคิดอีกแบบก็เถอะ

“ แล้วทำไมชอบทำหน้าบึ้ง ไม่ยิ้มให้กันเลย ”

“ ตอนนี้ผมยุ่ง กำลังทำงาน ไว้ว่างๆจะยิ้มให้นะครับ  ” ผมตอบเขาด้วยคำพูดคำจากึ่งประชดประชัน ก่อนจะฉีกยิ้มให้เขากว้างๆ แล้วก้มหน้าสนใจแท็ปเล็ตในมือต่อ

“ อ่ะ แค่ก! ”

   ผมไม่รู้หรอกว่าคุณฎีเขาจะคิดอะไร จะตลกท่าทางและหน้าตาของผมเมื่อกี้มั๊ย ลองใช้หางตาเหลือบไปมองก็เห็นว่าคนตัวสูงกำลังยกขวดน้ำขึ้นมายกดื่มแก้อาการไอค่อกๆแค่กๆของตัวเอง สงสัยคงจะสำลักน้ำลายตัวเองล่ะมั๊ง

“ หึ ” ผมยิ้มขำคนเดียวเพราะตลกกับอากัปกริยาแปลกๆของเขา แต่เพียงเสี้ยววินาทีก็รีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นนิ่งเฉย

“ ลองยิ้มอีกได้มั๊ยครับ ” คุณฎีพูดขึ้นเมื่อเขาหายจากอาการไอ

   ในจังหวะที่ผมเงยหน้าขึ้นมามอง เราก็สบสายตากันพอดี ครั้งนี้ฝ่ายนั้นกำลังส่งยิ้มด้วยสายตาแห่งความท้าทายและแฝงไปด้วยความคาดหวัง ซึ่งกวนลูกหูลูกตาสำหรับผมมาก 

   จะกวนกันอีกแล้วสินะ!
 
   แล้วนี่.. คุณฎีคนนี้เขาจะมองผมไม่วางตาเลยหรือไง

   ผมก็ทำได้แค่บ่นในใจ งับริมฝีปากตัวเองไว้แน่น และเป็นฝ่ายหลบสายตาก่อน ให้ตายเถอะ..เจอสายตาแบบนี้ไปใครจะไปยิ้มออก

“ ไม่ยิ้มก็ไม่ยิ้มครับ ”

“ …….. ”

“ แล้วตารางงานที่ว่า ทำไมยังมีให้แฟนคลับรู้ล่ะว่าน้องไปงานที่ไหนบ้าง ” เขาถามต่อเหมือนเพิ่งนึกขึ้นมาได้

“ ครับ แต่ตารางงานนั้น เป็นตารางงานที่ผมตกลงกับน้องและแฟนคลับของน้องแล้วว่า มันจะเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่เราเปิดเผยให้รับรู้ได้ ”

“ อืม พอเข้าใจแล้วครับ ”

“ บางทีเพื่อกันการวุ่นวาย เราเลยลงตารางงานผ่านโซเชียล เช่น ทวิตเตอร์ เราลงเฉพาะงานที่สามารถพบปะแฟนคลับได้ เราไม่จำเป็นต้องเปิดเผยทั้งหมด เพราะงานบางงานก็ยังเป็นความลับอยู่ ”

“ แล้วถ้าผมอยากรู้ล่ะ.. ”

“ ทะ..ทำไมครับ? ”

   ผมเผลอติดอ่าง เอ่ยถามไปอย่างอ้ำอึ้ง เมื่อเห็นคุณฎีเขยิบตัวจากโซฟาตัวเดิมเข้ามาใกล้โซฟาของผมมากขึ้น

“ ก็เปล่า ผมแค่จะได้แวะมาให้กำลังใจกันบ่อยๆ ”

“ ค..คงไม่ได้หรอกครับ ”

“ ไม่ได้ที่ว่านี่คือไม่ให้ตารางงาน หรือไม่ให้มาหากันแน่ ”

“ เอ่อ.. ผมหมายถึง ตารางงานน่ะครับคงให้ไม่ได้ เพราะอย่างที่บอกบางงานยังเป็นโปรเจ็คลับอยู่ ชะ..ช่วยอย่าเอาหน้าเข้ามาใกล้ขนาดนี้สิครับ ”

   นอกจากคุณฎีจะเขยิบตัวมานั่งใกล้กับผมแล้ว ยังยื่นใบหน้าที่มีจมูกโด่งๆ สันกรามชัดๆ เข้ามาใกล้กันอีก คมขนาดนี้ ถ้าบาดมือไอ้กาดได้คงบาดไปแล้ว เหอะ!

“ หึ ”

“ ……… ” อึดอัดชิบ

   รู้หรอกนะว่าคุณฎีคนนี้ต้องการจะกวนประสาทและแกล้งผม

   ผมเผลอคิดมาตลอดเลยว่านอกจากเคยเหยียบเท้าแล้ว ผมเคยไปทำอะไรให้ไม่พอใจอีกหรือเปล่า ถึงได้มากวนกันแกล้งกันแบบนี้ทุกครั้งที่เจอ ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ใหญ่กว่าไอ้กาดคนนี้จะผลักหน้าหงายให้

“ งั้นแสดงว่าถ้าผมรู้เอง คุณก็อนุญาตให้ผมแวะไปหาได้ ”

“ ตามสะดวกเถอะครับคุณฎี คุณเป็นถึงสปอนเซอร์ใหญ่ แถมยังเป็นพี่ชายผู้จัดซีรีย์ คุณไม่ต้องขออนุญาตหรอกครับ ”

   นึกแล้วขำ.. อนุญาตหรอ? ใครจะกล้าห้ามกล้าขัดคุณกันล่ะ

“ งั้นก็ดีสิ งั้นผมจะแวะไปหาบ่อยๆ นะ ” คุณฏีรดลเอ่ยต่อ แล้วกระตุกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ แม้จะไม่ได้บอกว่าแวะไปหาใคร แต่ผมก็เข้าใจในความหมาย ณ ที่นี้ ว่าต้องหมายถึงคิวท์อยู่แล้ว

“ ครับ คิวท์คงดีใจนะครับ ” ผมตอบ พร้อมกับรอยยิ้มที่ค้างนานๆอีกหน่อยมอบให้กับคุณฎี ก่อนละสายตาไปหยิบโทรศํพท์มือถือขึ้นมากะว่าจะเช็คทวิตเตอร์ซะหน่อย เพราะก่อนออกมาจากห้องแต่งตัวได้ยินทีมงานข้างในแซวเก่งกล้ากับคิวท์เรื่องบราวนี่กรอบไม่หยุด

“ หึ อะแค่กๆ! ”

   ผมพยายามไม่สนใจเสียงพ่นลมหายใจหรือรอยยิ้มของคนตัวขาวที่กำลังแก้มขึ้นสีแดงแจ๋เพราะอาการร้อน แต่ก็ต้องเหลือบตาไปมองเป็นระยะๆอย่างเป็นห่วง เพราะคนตรงหน้าไอขึ้นมาอีกแล้ว
 
.
.
.

ผมเข้าทวิตเตอร์ในแอคเคาน์ Pakkard (@Pak_wongrawee) เลื่อนฟีดไปได้ไม่นาน ก็เห็นทวิตของเก่งกล้าที่แนบรูปรูปภาพถุงขนมเปล่าที่กินหมด มีฉากหลังเป็นรูปน้องน้อยที่ชื่อว่าคิวท์กำลังหน้างออยู่ จนทำให้ผมอดยิ้มตามไม่ได้
นี่ไงล่ะ!
_____________________________
KengKar @Bodin_kenhkar · 38 นาที
ปลาทูหน้างอและบราวนี่กรอบของเขา @CuteAriya_U
ขออนุญาตแนบรูปฮะ

////////////////
#เก่งกล้าคิวท์
______________________________

   แฟนคลับจะว่ายังไงนะ คงชอบใจและแซวกันใหญ่ว่าลูกเรือไม่ต้องพาย เพราะกัปตันเขาพายเองละ

“ ถ้าผมจะแวะไปหาบ่อยๆ คิวท์คงดีใจ? แล้วคุณผักกาดล่ะ... ”

   ขณะที่ผมกำลังก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์มือถือ และตอบทวิตกับแฟนคลับของคิวท์อยู่ด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเสียงสดใสก็ต้องปรับอารมณ์ เมื่อเจอคำถามแปลกๆของคุณฎีรดลที่นั่งเงียบมาสักพักแล้วเหมือนอดไม่ได้จนต้องเอ่ยกวนผมขึ้นมาอีกครั้ง

“ หะ.. อะไรหรอครับ ” เขาทำไมนะ

“ ทำหน้าตลกดีนะ ผมหมายถึง..คุณก็ต้องไปอยู่ดูแลน้องคิวท์ทุกที่เลยใช่มั๊ย? คุณผู้จัดการส่วนตัว ”

“ อ่อ ..ใช่ครับ ”

   ผมตอบแบบเอ๋อๆเมื่อประมวลผลคำถามเมื่อกี้ของเขา

   อดนึกในใจไม่ได้ นึกว่าคุณฎีเขาจะถามผมว่า ‘ผมจะดีใจมั๊ยที่เขาจะแวะไปหาบ่อยๆ’ ซะอีก ถ้าให้ตอบก็คงตอบได้เลยว่า ‘ไม่’ ไม่ดีใจหรอกที่เจอ ไม่อยากเจอ หมั่นไส้

“ งั้นก็ดีเลย ผมจะได้เจอน้อง และเราสองคนก็จะได้เจอกันบ่อยๆ คุณอาจไม่ดีใจ แต่ผม..ดีใจนะ ”

“ ...... ” หะ! เออ..ทำไมคำพูดว่า งั้นก็ดีเลย กับ แต่ผมดีใจนะ ของคุณฎีรดลทำให้ผมรู้สึกเสียวสันหลังและขนหัวลุกแปลกๆ นะ ให้ตายเถอะ

“ พอดีช่วงนี้ผมก็ต้องดูแลโปรเจ็คนี้ร่วมกับรดา ได้เจอกันบ่อยๆ ก็..ดี ”
 
 
   O.O ดีกะผีสิ ผักกาดไม่อยากจะเจอคุณเลยเถอะ!




❤ 100 เปอร์เซนต์ (%)

----------------------



1 ไลค์ 1 คอมเมนต์ = 1 กำลังใจ ❤

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ

(◜◡‾) (‾◡◝)




นักเขียน :: ชอบตัวเองเวลาลงเรือ แล้วเป็นลูกเรือที่ไม่ต้องพาย เพราะกัปตันเเขาทำหน้าที่ได้ดี


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-04-2020 15:51:01 โดย pimpipam_s »

ออฟไลน์ ΩPRESTOΩ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-1
ผักกาดขาวของคุณฎีเป็นคนซึน 555

รออ่านตอนต่อไป

เป็นกำลังใจให้คุณนักเขียน

ออฟไลน์ Nadaii20

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หึย เรื่องนี้น่ารักดีนะเนี่ยยย

จะติดตามฮับบ

ออฟไลน์ Tawanwee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
วัยทำงานด้วยอะ ผักกาดน่ารักดี คุณฎีก็คงกรุบๆ ชอบน้องอะดิ จีบเลยๆ

น้องคิวท์กับเก่งกล้า ขอพายเรือนี้ด้วยค่าา

ออฟไลน์ Yeewajj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
เนื้อเรื่องน่ารักค่ะ
มีหลายคู่ให้ติดตามแน่  ๆ

 :L2: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pimpipam_s

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คุณฎีของผักกาด ʕ·ᴥ·ʔ

ตอนที่ 02 :: ไม่ชอบ..ก็มีเหตุผลที่ไม่ชอบ



2 สัปดาห์ต่อมา

12.45 น.


ครืดดดด ครืดดดด

“ พี่กาด โทรศัพท์พี่ ”

“ หืม? ”

          ผักกาดบิดขี้เกียจไล่ความง่วง และหยี๋ตาเพื่อปรับการมองเห็นให้ภาพตรงหน้าโฟกัสและชัดขึ้น ก่อนค่อยๆหันไปมองตามเสียงนุ่มปนแหบของคิวท์ที่เดินเข้ามาหาพร้อมกับโทรศัพท์มือถือเครื่องดีเครื่องทนทานของผม จำได้ว่าก่อนหน้านี้เหลือแบตเตอรี่อยู่เพียง 14 % เลยเอาไปชาร์ตไว้ตรงปลั๊กไฟมุมห้อง แล้วกลับมานั่งพักสายตาที่โซฟาจนเผลอหลับไป

          สองสามวันมานี้ ผมต้องตื่นไปรับคิวท์ที่บ้านตั้งแต่เช้าตรู่ทุกวันเพื่อมาทำงาน เพราะคุณแม่ของคิวท์ติดสัมนากับบริษัท และได้ยินว่าจะกลับมาวันนี้เพื่อมารับคิวท์กลับต่างจังหวัด เนื่องจากเป็นวันหยุดของน้อง

“ ผมเห็นพี่ชาร์ตไว้อยู่นู้น พอดีรู้สึกว่ามันสั่นอยู่อะ เลยเอามาให้ ”

“ ขอบคุณมากคิวท์ ” ผมเอ่ยขณะที่ยื่นมือไปรับโทรศัพท์มือถือของตนมาดูว่าใครโทรมา หึ แกล้งไม่รับสายได้หรือเปล่านะ รายนั้นคงโกรธเขาแน่ๆ

“ ไม่เป็นไรครับ แอบหลับอีกแล้วนะคนเรา ” คิวท์เอ่ยด้วยสายตาล้อเลียน

“ อื้อหน่าา ”

“ ล้อเล่นครับ พักผ่อนเยอะๆนะพี่ ” คิวท์เอ่ยและเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานมาให้ 

“ จ้าๆ รับทราบ ” ผมพยักหน้า และทำมือปัดไล่น้องมันให้กลับไปที่เดิม


          หลังจากคิวท์เดินกลับไปนั่งเล่นเกมส์โทรศัพท์มือถือต่อกับเก่งกล้า และน้องๆ นักแสดงคนอื่นๆ ต่อ ผมก็กลับมาสนใจโทรศัพท์เครื่องเดิมที่ยังสั่นอยู่ต่อเนื่อง



ครืดด

F’ YamYu

“ ฮัลโล ว่าไงมึง คิด.. ”

‘ ผักกาด กรี๊ดดด! กูคิดถึงงงงง เย็นนี้ว่างมั๊ย? มาเจอกัน ‘

          ผมสะดุ้งถึงกับต้องเอียงคอเอียงหูหลบเสียงจากโทรศัพท์ที่แผดเสียงออกมา ก่อนนึกขึ้นได้ว่าควรกดลดระดับความดังของเสียง เพราะเสียงกรีดร้องราวกับเปิดลำโพงของคนในสาย ดังมากจนเกือบทำลายโสตประสาทการได้ยิน รู้แหละนะว่าตื่นเต้น

          แต่เดี๋ยวนะ.. มาเจอกัน?

“ ยังเสียงดังเสียงแหลมเหมือนเดิม นี่มึงกลับมาไทย? ”

‘ ช่ายยยย ฉลาดมากมึงหนิ นะ..เย็นนี้เจอกันหน่อย กูรู้มึงต้องว่าง ’

“ รู้ดีนักนะ หึ แต่..กูไม่ว่าง ”

‘ นิ! สัย! นี่กูกลับมาจากญี่ปุ่นเพื่อมาหามึงเลยนะ ’

“ คิดว่ากูจะเชื่อหรือไง ”

          ผมส่ายหัวอย่างไม่เชื่อ เมื่อได้ยินประโยคที่เพื่อนสนิทสุดรักบอกว่ากลับมาจากต่างประเทศเพื่อมาหา นี่เพื่อนไม่ใช่ผั.. เออ.. ไม่ใช่แฟน ใครก็รู้ว่ามันกลับมาหาแฟน

          คนในสาย คือแยม นลนัส เพื่อนสนิทของผมที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น ไว้ถ้ามีโอกาสได้เจอคงได้แนะนำให้รู้จักอย่างเป็นทางการ และเมื่อได้รู้จักทุกคนจะคิดผิดที่อยากรู้จัก อึย ล้อเล่นครับ ต้องดีใจที่ได้รู้จักต่างหาก ^^

‘ อื้ออออ ไม่ว่างจริงอะ กูอยากเจอออ กูมีเรื่องจะบอกพวกมึง ขนาดไอ้วามันยังว่างเลย มึงทำงานที่เดียวกันทำไมมึงไม่ว่างหะ? พลีสส นะะเพื่อน ’ แยมเริ่มงอแงสลับกับโวยวาย ถ้าไม่ติดน้ำเสียงสุดท้ายที่เอ่ยออกมาเพื่อขอร้องผม เสียงอ้อนเชียวนะมึง

“ งานกูกับไอ้วาวันมีเวลาแน่นอนที่ไหนล่ะ แล้ว..เรื่องอะไร? บอกทางโทรศัพท์ไม่ได้หรือไง ”

‘ ไม่ได้จ้ะ ไม่ได้สิจ๊ะเพื่อน เรื่องนี่มันสำคัญนะ เจอกันนะ นะๆๆ  ’

“ อื้อๆ ก็ได้ เจอกันไหนล่ะ? ”

‘ เย้! ร้านเดิมเลยมึง เดี๋ยวกูจองร้าน 6 โมงเย็นนะ ’

“ อืม โอเค ”

          ผมยิ้มตอบพร้อมพยักหน้าให้คนในสายแม้มองไม่หน้าเห็นกัน ใจจริงผมก็อยากแกล้งให้คนในสายใจเสียไปอีกสักนิดเรื่องที่ตนไม่ว่าง แต่ก็ไม่สามารถทำได้นาน ไม่ใช่เพราะสงสารอะไรนะ แต่ถ้าไอ้แยมดันร้องไห้ขี้มูกโป่งขึ้นมา คนปลอบก็ต้องตกเป็นหน้าที่ผมเองไงล่ะ

          อืม.. การปลอบไอ้แยมนี่คืองานยากสุดขั้วเลยล่ะครับ

‘ น่ารักที่สุด ไอ้ต้าวผักกาด ’

“ ต้าวอะไรของมึง ฮ่ะๆ ”

‘ เออหน่า แค่นี่ก่อนนะ กูอยู่กับพี่ปัง รักนะจุ๊บๆ ไว้เจอกันมึงงงง ’

ตี๊ด!

“ อ่าๆ เจอกันๆ ” เอ่ยเบาๆ กับสายที่เพิ่งถูกตัดไปจากเพื่อนสนิท แหม..กะจะพูดยาวกว่านี้หน่อย แต่พูดทันมันที่ไหนล่ะ


          เรื่องสำคัญ? เรื่องไหนกันนะ หวังว่า..จะเป็นเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของมันอีกเรื่องแล้วกันนะ

 “ ว้าวววว เมื่อกี้ใครโทรมากันนะ หนุ่มหรือสาวที่ไหนหน่า ”

“ หือ? ” ผักกาดหันไปมองตามเสียงแซวของคิวท์ที่เดินถือหนังสือบทเข้ามา แถมยังเอาดินสอคาดหูจนต้องหลุดหัวเราะ รอดูเลยน้องมันจะลืมและหาดินสอไม่เจอ

“ มองอยู่ไกลๆ พี่กาดนี่ยิ้มเชียวนาา คุยกะใครอะ? ”

          นั่นมองไกลๆ ไง เลยเห็นว่าผักกาดยิ้ม แต่ถ้ามาได้ยินใกล้ๆ นี่เขาพูดมึงกูเต็มๆ หูเลยล่ะ ไอ้ปลาทูน้อยเอ้ยย

“ อะไรๆ ไปท่องบทนู้น เดี๋ยวพี่รดามาแล้วต้องซ้อมบทกับเก่งกล้าไม่ใช่หรือไง ” ผักกาดว่าให้เด็กที่ยืนอมยิ้ม และกอดหนังสือบทมองอย่างจับผิด

“ ใช่ครับ แต่..ให้คิวท์แซวพี่ก่อนไม่ได้หรือไง ไหนๆ เล่าหน่อยครับ ” คิวท์รีบสะกิดให้ผักกาดกระเถิบเว้นที่นั่งให้กับตน แล้วนั่งลงข้างๆ จนไหล่ติดกับผักกาดทันที

          เหอะ เด็กนี่เป็นคนอยากรู้อยากเห็นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร

“ ไม่เอาอ่ะ>< ไม่มีอะไรให้แซวหรอกหน่า ”

“ ถ้าคนโทรมาหาพี่เรื่องงานนี่คิวท์จะไม่ถามเลย แต่นี่คิวท์แอบมองและได้ยินไม่ใช่เรื่องงานชัวร์ แหม! คิวท์ล่ะดีใจที่มีคนโทรมาชวนพี่ไปนั่นไปนี ” คิวท์ถึงกับว่างหนังสือบทลงที่ตัก ก่อนประกบมือประสานไว้ใต้คางด้วยสีหน้าที่ปลื้มปิติ

“ เกินไปแล้วเรา รู้ได้ไงว่าชวนไปไหน ” ผักกาดแกล้งจิ้มหน้าผากของคิวท์เบาๆ โดยที่คิวท์ก็พยายามเกร็งคอไว้ไม่ให้ตัวเองหงายหลัง

“ แฮร่! ก็แอบได้ยินว่า เจอกันๆ นะสิ ต้องเป็นคนคุยพี่แน่เลย ” ^^ คิวท์ย่นคอตอบเสียงใส

“ หึ ไม่คิดหรอว่านอกจากคุยเรื่องงาน พี่ก็คุยกับแม่ น้อง แล้วก็เพื่อนพี่อีกเยอะแยะ เมื่อกี้ที่โทรมาคุย ก็คือไอ้แยม โอเค้? หูดีจริงๆ ”

          ผักกาดเอื้อมมือไปปัดหูไอ้น้องน้อยเบาๆ จนดินสอที่เหน็บหูตกลงไป คิวท์ก็โวยใหญ่ว่าหาดินสอตั้งนาน ที่แท้อยู่นี่เอง จนทีมงานหลายคนที่ได้ยินบทสนทนาหลุดขำไปด้วย

“ เมื่อกี้พี่กาดบอกว่าพี่แยมสุดสวยของคิวท์เองหรอฮะ ” คิวท์ยิ้มบางๆ ระหว่างที่กำลังก้มลงไปเก็บดินสอขึ้นมา และเขาก็ไม่ได้รู้สึกเขินอายที่ทายคนที่โทรมาหาพี่ผักกาดผิด

“ ^^ อืมมม มันโทรมาชวนไปกินข้าว ”

“ หรอฮะ งั้นคิวท์ฝากบอกพี่แยมด้วยนะพี่ ว่าคิวท์คิดถึ๊งคิดถึงงง ”

          ผักกาดส่ายหน้าน้อยๆ นึกถึงตอนที่คิวท์เจอกับแยมครั้งแรก ทั้งคู่นะดูสนิทกันเร็วมากเหมือนกับว่าเคยรู้จักกันมาเป็นปีๆ คิวท์ก็อัธยาศัยดี ส่วนไอ้แยมก็เข้ากับคนอื่นได้ง่ายแถมด้วยความพูดเก่ง กลายเป็นว่าพอไปด้วยกัน นอกจากจะชวนกันคุยแล้วยังแย่งกันพูดอีก

“ ไม่ไปด้วยกันเลยล่ะ ”

“ โอยพี่กาด วันนี้แม่ผมกลับมารับแล้วอะดิ แถมกลับภูเก็ตพรุ่งนี้ครับ พี่ลืมอะดิ ”

“ ไม่ได้ลืม แต่ชวนเพราะรู้ว่าแกไปไม่ได้ ”

“ ฮ่ะๆๆ พี่กาดร้ายๆ ”

“ ร้ายตรงไหน? ”

“ ตรงนี่แหละ กับน้องนี่แหละ ว่าแต่.. นอกจากพี่แยม ไม่มีสาวคนเลยโทรมาเลยหรอพี่ ”

“ ไม่มีโว้ย ” ผมส่ายหน้า

“ งั้นเปลี่ยน ...มีผู้ชายโทรมาหาพี่บ้างป่ะ ”

“ ……….. ” เฮ้อออ ไม่ตอบคิวท์เพียงแต่มองหน้ามันอย่างเหนื่อยหน่ายใจ หวังให้น้องมันเข้าใจที่ผมจะสื่อ


          ไอ้ผักกาดเอ้ยยย นี่เอ็งกลายเป็นสเป็กผู้ชายที่ชอบผู้ชายหรือเกย์ตั้งแต่เมื่อไรรรร


“ ไม่ตอบ..อย่างนี้แสดงว่ามีอะดิ ”

“ อืม แต่พี่ก็ไม่รับสายไง ถ้าไม่ใช่เรื่องงาน ”

“ ทำไมอะพี่ ไม่ลองเปิดใจหรือศึกษากันดูอะ ”

“ ก็ไม่ได้ชอบแบบนั้นนี่หว่า ” ผมตอบเบาๆ ..ถ้าถามว่าแบบไหน ก็คงจะตอบว่าแบบผู้ชายที่มาชอบเขาอะ

          ผักกาดไม่ค่อยอยากพูดถึงเรื่องนี่เลย พูดแล้วก็อายที่เขาดันไม่เคยรู้ตัวมาก่อน จนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัยมานั่นแหละที่เริ่มมีผู้ชายเข้ามาจีบ แต่ก็อย่างที่บอกว่า ตอนนั้นในหัวของไอ้กาดคนนี้มีแต่เรื่องเรียนกับทำงานพิเศษที่เยอะแยะไปหมด จนไม่มีเวลาสนใจเรื่องความรักเลย และหลายๆครั้งที่ผ่านมานั้น มันดันเป็นผู้ชายด้วยกันมากกว่าผู้หญิงอีกไงครับ

          ไม่ได้รังเกียจหรือปิดกั้นนะ เพียงแค่ยังไม่ชอบใคร เพราะแม้แต่ผู้หญิงยังไม่ได้ทำให้เขารู้สึกชอบหรือใจเต้นเลยนี่หน่า

“ ก็อย่างที่เคยเล่าให้ฟัง ถ้าไม่มีใครทำให้ใจเต้นหรือรู้สึกรัก พี่ก็จะโสดต่อไป ”

“ แต่คิวท์อุตส่าห์รอดู รอแซวตอนพี่มีแฟนเลยนาา ” คิวท์ตอบเสียงแผ่วเบา จนผมต้องเงยหน้าขึ้นมามองอีกรอบ

“ ก็หาให้แล้วกัน ถ้าอยากให้มีแฟนอะ ”

          พอเห็นคิวท์ทำหน้าหงอยอย่างคาดหวัง ผักกาดก็เผลอพูดบางอย่างออกไปด้วยความปากไว โดยไม่คิดเลยว่าสิ่งที่พูดออกไปเมื่อกี้จะจุดประกายความคิดหนึ่งขึ้นมาให้น้องน้อย

“ อ้าวๆ พูดแล้วนาาา งั้น..เอาแบบที่คนนั้นมาที ทำให้พี่กาดใจเต้นแรง แถมแก้มน้องนางนั้นแดงอ่องต่องเลยนะ โอเค้?? ” คิวท์เอ่ยด้วยสีหน้าสดใส แฝงไปด้วยความตื่นเต้น และดูจะคิดจริงคิดจัง

“ …... ” O.O

“ พี่กาดของคิวท์ต้องมีแฟนเร็วๆ นี้แน่นอน คิวท์พูดเลย ><  ”

          เหมือนมีพลังในแววตาเปล่งประกายคู่นั่นของคิวท์ นั่นคือสิ่งที่ผักกาดสัมผัสได้ว่าน้องน้อยของเขากำลังจริงจัง เอาไงดี.. เริ่มหวั่นๆ ในใจขึ้นมานิดหน่อยแล้วสิ

          แต่..ช่างเถอะ แค่นี้เด็กน้อยของเขาก็งานยุ่งจนแทบไม่มีเวลานอน จะเอาเวลาที่ไหนมาหาแฟนให้เขากัน เลิกกลัวไปเองได้แล้ว ผักกาด




“ ซงแซว ฟงแฟนอะไรกันหน้อ มาช้าพี่เลยพลาดหรอ? ไหนพูดดด   ”

“ …….. ” เอ๊?

“ อ้าว? พี่ฎี พี่รดา มาแแล้วววว หวัดดีครับผม ” คิวท์ยิ้มกว้าง ถลาเข้าไปกอดพี่รดาอย่างดีใจ ซึ่งพี่รดาก็เอ็นดูและกอดตอบ ก่อนคนน้องค่อยๆ ผละตัวเองออกมายืนข้างผักกาดเหมือนเดิม

“ สวัสดีครับพี่รดา ” ผมเอ่ยพร้อมกับยิ้มบางๆ ให้กับรดา แล้วเลื่อนสายตาไปมองคนข้างๆ รดา “ …คุณฎีรดล ”

          แม้ผักกาดยังยิ้มค้างไว้ให้กับคุณฎีรดล แต่สายตาที่สื่อและความหมายแฝงที่อยู่ในใจกลับไม่ใช่อย่างรอยยิ้ม เบื่อหน้าจริงๆ มาบ่อยเหมือนกันเนาะช่วงนี้ (?)


          ถ้าผมไม่ได้คิดไปเอง ..ฝ่ายนั่นก็เหมือนจะมองมาที่เขาก่อนแล้ว แต่แค่ไม่ได้ยิ้มกวนตี.. กวนสมาธิเขาเหมือนวันก่อนๆ เพียงแค่ทำหน้านิ่งๆ เหมือนคนขี้เก๊ก แต่..จะเก๊กทำไมเล่าคุณฎีรดล

“ มาด้วยหรอครับวันนี้ พี่ฎี?” คิวท์เอ่ยถาม พร้อมเดินเข้ามารับพวกถุงชาไข่มุกหลายๆถุงจากคุณฎี ที่แน่นอนว่าหนึ่งในนั่นต้องมีแก้วของน้องมันด้วย

“ พี่แวะมาส่งรดาเขานะ ” คุณฎีตอบ ทันทีที่รู้ว่าน้องคิวท์พูดกับตน แต่สายตาดันมองผ่านน้องมันมาอีกทาง


“ ครับ เออ.. ” คิวท์ยังขานรับคำตอบ และเอะใจ



.

.

เพราะดันสังเกตเห็นความไม่ปกติของแววตาที่จ้องมองผ่านเขาไปอย่างปกปิดไม่มิด จนต้องหันมองตามไปยังจุดโฟกัสของสายตาพี่ฎี “ หือ มีอะไรหรือเปล่านะ? ”



พี่ฎี มอง ...พี่กาด หรอ? แล้วสายตา แบบ.. แบบว่า...



“ อัยย๊ะ! ”



“ พึมพัมอะไร? ”

         เป็นผักกาดเองที่ยืนเยื้องไปด้านหลัง ได้ยินคนน้องพึมพัม และสั่นหัวแบบไม่เก็บอาการจนต้องชะโงกหน้ามามองด้วยความงุนงง



“ เปล่าครับ^^ ” คิวท์ส่ายหน้า และยิ้มอย่างกรุ่มกริ่มมาให้


          ไม่น่าไว้ใจเลยไอ้เด็กคนนี้


“ พอดี.. รถพี่เข้าอู่น่ะ พี่ชายสุดหล่อเลยอาสามาส่ง แล้วแวะซื้อชาไข่มุกมาให้น้องๆ ด้วย หยิบได้เลยนะจ๊ะ พี่ฎีเขาเลี้ยง ” พี่รดาทำท่ากระซิบท้ายประโยคพร้อมชี้ไปที่แก้วชาไข่มุกในถุงใหญ่นับสิบแก้ว

“ ฮ่ะๆ  ครับผม คิวท์อยากมีพี่ชายหล่อๆ บ้างเลยนะครับเนี่ย ”

“ แหม ก็พูดไปนะเราน่ะ ว่าแต่เมื่อกี้แซวอะไรผักกาดกันจ๊ะ ฟงแฟน? ” พี่รดาสะกิดถามคิวท์ แล้วชี้มาที่ผม

“ …… ” ผักกาดแกล้งยิ้มแทนคำตอบ มองไปที่คิวท์อีกคน เหมือนจะซวยเลยแฮะ -=-

          เพียงแค่คิดในใจว่า ถ้าหวังให้คิวท์ช่วยตอบพี่รดาว่า ‘ไม่มีอะไรหรอกครับ’ แล้วทุกอย่างจะจบ คงไม่มีทาง เพราะไม่ว่าพี่รดาจะถามอะไรมา ไอ้เจ้าคิวท์มันจะบอกทุกอย่างเลย

“ เออ.. คือ ”

          คิวท์ค่อยๆ หันมองพี่กาดที่(แกล้ง)ยิ้มบางๆ สลับกับพี่ฎีที่ยังมองมาที่ผักกาดอยู่หน่อยๆ ก่อนสะดุ้งเมื่อหันมองสบตารดาที่รอฟังคำตอบ “ ฮ่ะๆ ผมแซวไปเยอะเลยฮะพี่ดา ทั้งเรื่องพักผ่อนน้อย แล้วก็ไม่ค่อยกินข้าวเช้า แล้วเรื่องล่าสุดก็เรื่องมีสาวโทรมาหานะสิฮะ ”

นั่นไง

“ ล่าสุดของล่าสุดก็เรื่องแฟ… ”

“ ไอ้คิวท์ ๆ เบาได้เบาาา ” ผมรีบปราม ก่อนที่น้องมันจะหลุดพูดออกมาซะหมด แม้รู้ว่าจะไม่ทันแล้วก็ตาม เพราะจากสีหน้าของพี่รดาและคนข้างๆ ก็น่าจะเข้าใจหมดแล้วว่าเรื่องอะไรบ้าง

“ ดูคนน้องเผาพี่ผู้จัดการซะ ”

“ ไว้ใจไม่ได้หรอกครับ เจ้าคิวท์เนี่ย ” ผักส่งสายตาคาดโทษใส่คิวท์

“ รักแหละหน่าา ”

          คิวท์ไม่ได้สำนึกผิดแต่อย่างใด กลับทำท่าส่งมินิฮาร์ทให้ผักกาดอย่างกวนๆ แหม..ใครๆ ก็รู้ว่าผู้จักการของเขาน่ะ น่าแกล้งที่สุดในโลก^^

“ ไม่ต้องรักกันมากขนาดนั้น ไอ้ตัวดี ”

          ผักกาดส่ายหน้าให้พร้อมคำตอบ จนทำทุกคนหลุดหัวเราะออกมา ยกเว้นก็แต่คุณฎีที่ยังทำเป็นเหมือนไม่สนใจอะไร

“ เออ.. แล้วสาวที่ว่านี่แฟนหรอจ้ะ ”

“ เพื่อนน่ะครับ คิวท์มันแซวเล่นอะครับพี่ดา ” ผักกาดเอ่ย

“ แซวเล่นครับพี่ ” คิวท์สมทบ

“ อื้ม^^ ขอโทษที่ต้องถามนะ แต่พี่อะอยากรู้จริงๆ แล้วก็.. ถามให้ คน..แถวๆ..แถวๆเนี้ย ”

“ ครับ..”  (?)

          ผักกาดแสดงสีหน้าสงสัยว่าเรื่องอะไร แต่ก็พอเข้าใจเมื่อรดาขยายใจความสำคัญของเรื่อง ในประโยคถัดมา

“ ผักกาดไม่มีแฟนใช่มั๊ยจ๊ะ?  คือ.. พี่เห็นเรางานยุ่งตลอดเลย ทำงานทุกวัน ..มีเวลามีแฟนมั๊ย หรือยังโสดจ๊ะ เพราะพี่อะไม่เคยเห็นแฟนเราเลย ใช่มั๊ยคะน้องคิวท์ ..พี่ฎี ? ” พี่รดาเอ่ย และหาแนวร่วม นั่นก็หนีไม่พ้นคิวท์ที่เป็นคนเปิดประเด็น กับพี่ชายที่ยืนทำเหมือนไม่สนใจโลกอยู่ข้าง ๆ

“ อืม ”

“ ใช่ครับ ใช่ ..ตอบพี่รดาดิพี่กาด ” คิวท์พยักหน้ามายุให้ผมพูด จนผมอดไม่ได้แอบหันไปแยกเขี้ยวขู่ตอนพี่รดาเผลอ -////-



“ ก็เอ่อ.. โสดครับพี่ ”

           ผักกาดเอ่ยตอบrujรดา โดยไม่เข้าใจตัวเองว่าจะใช้ดวงตากลมๆ เหลือบไปมองทางคุณฎีรดลทำไม หรือ..อยากจะเห็นว่าคุณเขาจะทำหน้ายังไง เมื่อได้ยินคำตอบว่าตนยังโสด

“ ……. ” แต่..ก็ไม่เห็นจะทำหน้ายังไง แถมยังเก๊กยังนิ่งเหมือนเดิม เหอะ


“ หืม โสด>< โสดก็ดีแล้วล่ะค่ะ รอเจอคนดีๆที่รักเราดีกว่าเนอะ ผักกาดเนาะๆ ”

“ ครับ ”


.
.
.
          พอหาทางออกจากเรื่องนี้ไม่ได้ผักกาดเลยขอตัวพาคิวท์ไปเตรียมตัวในห้องซ้อมรอระหว่างรดาคุยกับทีมงานคนอื่นๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่า คนขี้เก็กที่ผักกาดว่าจะแอบหลุดยิ้มออกมาทันทีที่ผักกาดหันหลัง


“ น้องกาดจ้ะ อย่าเพิ่งไปลูก พี่ถามเรื่องคิวงานน้องคิวท์สักครู่สิ ”

“ อ่อ ได้ครับ ”

          ระหว่างที่กำลังจะเดินออกมา พี่นีก็ได้เดินเอา schedule ของตัวเองเข้ามาหาผม เพื่อคุยเรื่องคิวงานของคิวท์ที่ต้องขอเปลี่ยนแปลง ต่อด้วยเรื่องการเดินทางไปต่างจังหวัด จนเริ่มยาวขึ้น ผมเลยต้องบอกคิวท์ที่ยืนรอด้วยสัญลักษณ์มือว่าให้เดินไปก่อน

“ คิวท์ ”

          แต่ก็นั่นแหละ มีเสียงหนึ่งที่เรียกคิวท์ไว้ก่อนที่น้องจะเดินไป จนผมต้องหันไปมองอีกครั้ง

“ ครับพี่ฎี ”

“ อย่าลืมชาไข่มุกสิ มาเอาเร็ว ”

“ คร้าบบบ พี่กาดๆ เดี๋ยวคิวท์มานะพี่ ไปเอาชาไข่มุกแป๊บหนึ่งครับ ”

“ อ่าฮะๆ ” ผมพยักหน้า พร้อมมองตามน้องไป

          ผมรู้ว่าคุณฎีรดลและพี่รดาค่อนข้างจะสนิทกับคิวท์ และรู้จักกันมาก่อนที่คิวท์จะเข้าวงการเนื่องจากรุ่นพ่อแม่ของพวกเขาทำธุรกิจร่วมกัน

          แต่ตอนนี้นอกจากเรียกไปเอาชาไข่มุก ยังชวนกันคุยอะไรกันอีก ที่แท้คุณฎีก็เรียกร้องความสนใจของน้องด้วยชาไข่มุกสินะ

          ผมก็ได้แต่ใช้สายตามองตามเป็นระยะ แต่ไม่อาจได้ยินบทสนทนา เพียงเห็นรอยยิ้มของทั้งคู่เวลาคุยกัน รวมถึงสายตาเอ็นดูปนหยอกล้อกันที่คุณฎีมองคิวท์ และคิวท์มองคุณฎี ก็อดเกิดความกังวลขึ้นมาเล็กๆ ในใจ

          คุณฎีคงไม่ได้ชอบไอ้น้องน้อยของผมหรอกนะ



❤ 30 เปอร์เซนต์ (%)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-03-2020 15:16:41 โดย pimpipam_s »

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
ถ้าคุณฏียังไม่ทำอะไรสักอย่าง
ระวังผักกาดเข้าใจผิดนะ


 :L2: :L2:

ออฟไลน์ pimpipam_s

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
มาต่อค่ะ


16.32 น.

“ โอเค วันนี้ดีมากเลยนะ เก่งกันมาก ขอบคุณน้องๆ มากเลยค่ะ ”

“ เฮ้ ขอบคุณคร้าบบ ขอบคุณนะครับ ”

“ กลับบ้านกันดีๆ นะ ”


   ทันทีที่เลิกงานผักกาดและคิวท์ก็บอกลาทีมงานทุกคน โดยผักกาดถือของและกระเป๋าสัมภาระช่วยคิวท์ไปที่รถแม่บัว แม่ของคิวท์ที่มารอรับน้องกลับบ้าน ก่อนที่ผักกาดจะขอตัวก่อนเพื่อขับรถของตัวเองไปยังห้างสรรพสินค้าที่นัดกันกับเพื่อนไว้ เขาตั้งใจเผื่อเวลาในการขับรถมากขึ้น เพราะเวลาช่วงนี้การจราจรคงค่อนข้างติดขัด


ไลน์กลุ่ม “กลุ่มผักแยมวา”

F’ YamYu
เจอกันร้านเดิมมึง ห้ามเบี้ยวนะ ใครเบี้ยวกูโกรธแน่
จุ๊บๆ

   ผักกาดเปิดดูข้อความทางไลน์กลุ่มที่ส่งเข้ามาจากแยม โดยสมาชิกกลุ่มก็ประกอบด้วยผักกาด แยม และวาวา สามคนนี่แหละ

F’ YamYu
ขึ้นอ่านหมดแล้วทำไมพวกมึงไม่ตอบ
หรือ..หรือพวกมึงจะไม่มา
ไม่ได้นะๆ

F’ WaWa
กู เพิ่งเลิกงานม่ะ
มึงหยุดโวยวายสักที

   ผักกาดส่ายหน้าให้กับนิสัยที่ชอบคิดไปก่อนของแยม พร้อมกับหลุดขำเมื่อเห็นไลน์จากวาวาที่ตอบกลับเข้าไปในไลน์กลุ่ม เขากำลังจะพิมพ์ตอบก็ดันเหลือบสายตาไปที่ไฟจราจรปรากฎสีเขียวก่อน เขาจึงตัดสินใจวางโทรศัพท์ลงเพื่อออกรถทันที โทษทีแล้วกันนะแยม กูขับรถไปหามึงอยู่ มึงอย่าเพิ่งโวยวายใส่กูนะ



-----

17.55 น.

“ สวัสดีค่ะ คุณลูกค้ามีที่นั่งหรือยังค่ะ ” พนักงานหญิงหน้าตาน่ารักกล่าวต้อนรับทันทีที่ผักกาดเดินมาถึงทางเข้าร้าน

          ตอนนี้ก็ใกล้เวลาแล้วละนะ ผักกาดมาถึงห้างสรรพสินค้าก็ประมาณ 17.30 น. เลยพาตัวเองไปเดินดูของใช้พวกเครื่องครัวนิดหน่อย จนได้กระทะกับตะหลิวมา 1 ชุด จนกระทั่งใกล้ถึงเวลานัด จึงตัดสินใจเดินมารอที่หน้าร้านอาหาร เพราะจากที่ผักกาดทักหาแยม มันก็บอกว่าถึงแล้ว แต่กำลังวนหาที่จอดรถ ซึ่งคงต้องวนหาต่อไปอีกซักพักใหญ่ และแยมยังบอกอีกว่าให้เขาเข้าไปนั่งรอในร้านอาหารก่อนเลย

“ มีแล้วครับ จองไว้ 6 โมงเย็น ” ผักกาดยิ้มให้กับพนักงานหญิง พลางมองหน้าอย่างตั้งใจ จากที่สังเกตน้องหน้าตาดีและดูสดใส อายุน่าจะ 19-20 ปี ถ้าน้องไปแคสเป็นนักแสดงหน้าใหม่น่าจะรุ่งนะ อื้ม! ผักกาดคงต้องให้นามบัตรสังกัด U ไว้ซะแล้ว

“ มะ..ไม่ทราบว่าจองชื่อว่าคุณอะไรคะ ” พนักงานหญิงเอ่ยถามอย่างขวยเขินเมื่อรู้ว่าถูกจ้องอยู่ ก่อนเดินเข้าไปในเคาน์เตอร์และกดคลิกที่จอแท็บเล็ต

“ เออ.. ขอโทษครับ ชื่อหรอ? ” ผักกาดได้สติ เอ่ยขอโทษที่จ้องหน้าจ้องตาของน้องเขานานเกินไปหน่อย พร้อมเดินตามน้องพนักงาน พลางนึกได้ว่าไม่ได้ถามเพื่อนเขาไว้เลยเรื่องการใช้ชื่อจองโต๊ะ

          ลืมสนิทเลย ไม่แน่ใจว่าแยม จะจองด้วยชื่อใคร ชื่อแยม หรือชื่อพี่ปัง

“ น่าจะ นลนัส หรือ ชิน..ดนัย ประมาณนี้อะครับ ”

“ สักครู่นะคะ เอ๊...ไม่มีชื่อนี้เลยค่ะ ” พนักงานเงยหน้ามาตอบ เมื่อเลื่อนหาแต่ไม่พบรายชื่อ ส่วนผักกาดก็แสดงอาการงุนงงและเหวอขึ้นมาทันที

“ หะ.. ”

          เดี๋ยวนะ หรือว่าไอ้แยมมันจะไม่ได้จองร้านนี้ แต่ปกติเวลาที่นัดเจอกันเราก็มักจะเป็นร้านนี้หนิหน่า ไอ้แยมมันคงไม่ได้แกล้งอะไรเขาหรอกนะ

“ อืม.. งั้นขอทราบจำนวนท่านที่ลูกค้าจองไว้ได้มั๊ยคะ ? ”

“ น่าจะ 4 คน ครับ ” ผักกาดคิดคำนวณ วันนี้ก็น่าจะมี แยม พี่ปัง ผักกาด และวาวา

“ 4 ท่าน สักครู่นะคะ.. ช่วง 6 โมงเย็น มีแค่หนึ่งโต๊ะ 5 ท่าน ใช่คุณฎะ.. ”

“ เออ! งั้นไม่เป็นไรครับน้อง เดี๋ยวพี่ไปรอข้างนอก รอให้เพื่อนพี่มาก่อนดีกว่า^^ ” เมื่อเห็นว่าน้องพนักงานยังเลื่อนหารายชื่อและจำนวน ด้วยความเกรงใจ และกลัวว่าตัวเองจะเข้ามาผิดร้านที่เพื่อนจอง จึงทำให้ผักกาดต้องรีบเอ่ยเพื่อขอตัวไปรอด้านนอกแทน

“ งั้นเชิญเข้ามานั่งรอในร้านก่อนก็ได้นะคะ ”

“ ไม่เป… ”

เราจองไว้ 5 ที่ครับ ชื่อฏีรดล

“ …….... ” หะ?

ฎี ร ดล !!

          ผักกาดหันไปมองตามเสียงของผู้มาใหม่ แล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อเจ้าของเสียงและชื่อดันเป็นคนที่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เจอกันอีกในวันนี้ คุณฎีรดล

“ คุณลูกค้า มา..ด้วยกันใช่มั๊ยคะ? ”

   หมับ

“ มะ/ใช่ครับ ” ผักกาดตอบไม่ทันจบ คุณฎีรดลก็เข้ามาโอบไหล่ของเขาไว้จนตัวจมไปในอ้อมแขน และตอบกลับพนักงานด้วยเสียงทุ้มข้างๆ หูของผักกาด จนเผลอกำมือที่ถือถุงหูหิ้วชุดกระทะตะหลิวแน่นขึ้น พร้อมเบิกตากลมขึ้นด้วยความตกใจ

          คือ..ตอนนี้ ตัวของเขาเองดันอยู่ในอ้อมแขนคุณฎีเนี่ยนะ

          เกิดอะไรขึ้นวะ?

“ หึ ” เป็นเรื่องน่าขำสำหรับฎีรดล แต่ก็กลัวว่าคนตากลมจะตกใจไปมากกว่านี้ ฏีรดลจึงเอ่ยกระซิบคำตอบเพื่อไขข้อสงสัยให้กับคนในอ้อมแขนทันที “ วันนี้น้องแยมกับไอ้ปังนัดพี่มาพร้อมๆกับเรา และให้พี่เป็นคนจองร้านนี้น่ะครับ ”

“ หาา? ” แทนตัวเองว่าพี่ด้วย?

“ เลิกเหวอได้แล้วครับ น้องผักกาด ”

          ไม่เหวอก็เหวอแหละวะ ร้อยวันพันปีคุณฎีไม่เคยแทนตัวเองว่าพี่ แถมตอนนี้ยังเรียกเขาว่าน้องผักกาดอีก ฟังแล้วมันจั๊กจี้หูไม่รู้หรือไงโว้ยยย

“ เออ งั้นเชิญลูกค้าด้านในเลยค่ะ 5 ที่ ยังไม่สั่งอาหารค่ะ ”

          ฎีรดลผละอ้อมแขนออกจากผักกาด เปลี่ยนไปใช้ฝ่ามือหนาจับเข้าที่ข้อมือเล็กจูงแขนให้เดินตามเขาเข้ามาแทน เมื่อมาถึงโต๊ะก็ดันหลังและกดไหล่คนตัวเล็กกว่าเบาๆ เพื่อให้นั่งลงที่เก้าอี้ ก่อนที่เขาเองจะเดินไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกัน

          แม้ฏีรดลจะสังเกตเห็นว่าผักกาดตกใจ แต่เขาก็ดีใจที่ไม่ถูกคนตัวเล็กสะบัดมือออก หรือหยิบกระทะตะหลิวที่ซื้อขึ้นมาฟาดหัวเขา อีกทั้งยังยอมเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับเขา สงสัยตอนเจอหน้าเขาคงตกใจจนสติรวนไปหมดล่ะมั๊ง

“ คุณฎี ” ผักกาดหลุดเรียกชื่อคนที่นั่งตรงข้ามขึ้น

“ ใช่ พี่เอง ”

“ เออ.. คุณฎีมาด้วยหรอครับ ”

“ ใช่ ไอ้ปังชวนน่ะ ”

“ ครับ ” ผักกาดตอบตัดจบบทสนทนา เมื่อกี้ก็พอจะรู้คำตอบอยู่แล้วแม้คุณฎีรดลไม่ได้อธิบายอะไรออกมา

          มันจะบังเอิญมั๊ยล่ะ ถ้าคุณฎีจะเป็นเพื่อนสนิทของพี่ปัง (แฟนของไอ้แยม) ตั้งแต่มัธยมและมหาวิทยาลัย ซึ่งการที่คุณฎีจะมาปรากฎตัวที่นี้ก็ไม่แปลก เพราะพี่ปังคงเป็นคนนัดมาแน่นอน แต่..พี่ปัังจะนัดคุณฎีมาพร้อมกันกับเขาทำไมวะ

“ ผักกาด ความจริงไม่ต้องเรียกพี่ว่าคุณฎีก็ได้นะ อย่างน้อยก็นอกเวลางานจะเรียกพี่ฎีเหมือนคนอื่นเขาเรียกก็ได้ ”

          ผักกาดเลิกคิ้มสงสัย กับข้อแนะนำของคุณฎี เพราะถ้าไม่ติดที่ผักกาดอคติจากการโดนแกล้งหรือกวนบาทาของคุณฎี คุณเขาก็ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไร(มั้ง?)

          คนสนิท หรือรุ่นน้องมหาวิทยาลัยเดียวกัน รวมถึงน้องๆ นักแสดงหลายคนก็เรียกคุณฎีว่าพี่ฎีกันอย่างสนิทสนม มีแต่เขานี่แหละที่ไม่เรียก

          ก็เขา..ไม่ได้อยากสนิทกับคุณฎีสักหน่อยย

“ อืม ไม่เป็นไรดีกว่าครับ ผมเรียกแบบนั้นไม่ค่อยถนัดแล้ว ”

“ ก็ลองๆ เรียกดู เดี๋ยวก็ถนัดไปเอง เมื่อก่อนยังเคยเรียกเลย ”

          เมื่อก่อน.. มันก็นานมากๆ แล้วไง

“ ไว้จะเก็บไปพิจารณาแล้วกันนะครับ ” ผักกาดตอบแบบหลบสายตาพร้อมพยักหน้าน้อยๆ

“ ครับผม ”

          ผักกาดอยู่ในโหมดทำตัวไม่ค่อยถูก ปกติไม่เคยจะต้องมานั่งจ้องหน้ากับคุณฎีรดล สองต่อสองนานขนาดนี้ แล้วอีกอย่างคุณฎียังพูดจาดีด้วย ไม่กวนประสาทกันอีก

“ ช่วงนี้เราเจอกันบ่อย หรือผักกาดไม่คิดเหมือนพี่ ”

“ ก็..เราทำงานด้วยกันนี่ครับ แค่ทำงานน่ะ ”

“ หึ แล้วทุกๆ ครั้งก็ทำเหมือนไม่อยากเจอกับพี่เลยนะ หรือไม่อยากสนิทกัน ” คุณฏีเอ่ยเสียงนิ่งขรึม ก่อนจะค่อยๆ เผยยิ้มที่มุมปากเหมือนกำลังให้กำลังใจตัวเอง จนผักกาดต้องชะงักไปทันทีที่เห็น

“ เปล่า..ครับ ”

“ การกระทำชัดขนาดนี้ ยังปฏิเสธเก่งอีก ”

“ …… ” เอิ่ม เสียงโคตรหงอย แต่จะยิ้มให้ทำไมกัน

          เหมือนกับว่าคุณฎีตั้งใจจะทำให้ผักกาดสับสน อาการเดี๋ยวหงอยเดี๋ยวยิ้มกวนนี้มันยังไงกันนะ
   
          ผักกาดขอถอนคำพูดก่อนแล้วกันเรื่องคุณฎีพูดจาดี เพราะต่อจากนี้ไม่นานคุณฎีคงจะกลับมากวนประสาทเขาเหมือนเดิมแล้วล่ะ ดูจากรอยยิ้มนี้สิ ผักกาดไม่อาจจะเข้าใจในความหมายของมันเลยจริงๆ

“ ความจริงพี่ก็สนิทกับคิวท์ พี่ว่าผักกาดก็น่าจะลองสนิทกับพี่ดูบ้าง ”

          พูดเข้าเรื่องคิวท์จนได้ อดคิดไม่ได้จริงๆ ว่าคุณฎีรดลเขาคิดอะไรอยู่ เขาชอบคิวท์เกินกว่าพี่น้องหรือไง

“ อืม.. เรื่องคิวท์ ..งั้นระหว่างรอไอ้แยมกับพี่ปังมา ผมมีเรื่องจะถามคุณฎี ” ผักกาดยืดตัวขึ้นพร้อมเอามือขึ้นมาประสานกันบนโต๊ะ

“ ว่ามาสิ ” ฎีรดลทำเช่นเดียวกัน ทั้งยังมองผักกาดด้วยสีหน้าเดิม คือรอยยิ้มที่ผักกาดไม่ค่อยเข้าใจความหมาย

“ คุณฎีคิดยังไงกับคิวท์ ”

“ หือ? ” คนถูกถามเลิกคิ้ว

“ คือ.. ผมอยากรู้ว่าคุณฎีชอบคิวท์หรือเปล่า? ” ผักกาดถามตรงๆ ตามนิสัยของตัวเองที่เป็นคนที่ตรงประเด็น คิดยังไงก็มักจะพูดอย่างนั้น

“ อะไรทำให้คิดอย่างนั้นกัน เรานี่ดูหวงน้องจังนะ ”

“ ก็ผมเป็นผู้จัดการของน้อง ..ตกลงคุณฎีชอบคิวท์หรือเปล่า? ”

“ แล้ว..คิดว่าไงล่ะ? ” คุณฎีย้อนถาม

          ยังจะมากวนประสาทอีกนะคนเรา..

“ การที่คุณฎีสนิทกับคิวท์ก็ไม่แปลกนะครับ แต่ถ้าคุณคิดกับคิวท์มากกว่าพี่น้อง ผมว่ามันไม่น่าเหมาะ และคุณก็อย่าคิดแบบนั้นกับน้องเลยนะ เพราะตอนนี้น้องกำลังดัง แถมมีฐานแฟนคลับที่เป็นฐานคู่จิ้นคู่กับเก่งกล้า น้องและคุณอาจจะโดนตำหนิ ”

“ …... ”

“ หวังว่าคุณจะพอเข้าใจ มันมีผลกับตัวน้อง และงานของน้องด้วย ” คนโดนย้อนถามอย่างผักกาดเอ่ยตอบตรงๆ แบบไม่ยั้งคำตอบ เนื่องจากไม่ชอบความค้างคา ซึ่งสร้างความไม่พอใจเล็กๆให้กับฎีรดลเช่นกัน

“ พี่กับคิวท์รู้ดีว่ามันเป็นยังไง แล้วผักกาดเป็นถึงผู้จัดการของน้อง ก่อนที่จะมาถามพี่เราเคยถามคิวท์ก่อนหรือยังว่าน้องเขาคิดยังไงในเรื่องนี้ ” ฎีรดลเอ่ยออกมาเชิงติติงผักกาด ลึกๆ เขาก็ไม่ชอบใจนักกับประโยคที่คนอายุน้อยกว่าใช้ และกล่าวราวกับตำหนิในสิ่งที่เขาทำว่าไม่เหมาะสม ทั้งยังดูก้าวก่ายเขา แทนที่จะถามกับคิวท์ซึ่งเป็นเด็กในสังกัดที่ตัวเองดูแลมากกว่า

“ ผมขอโทษครับ ความจริงเรื่องนี้ผมยังไม่เคยถามกับน้อง ” ผักกาดเอ่ยพร้อมคิ้วขมวด เขาผิดจริง เขาเพิ่งรู้ตัวว่ากำลังพูดกับผู้ใหญ่ ทั้งยังเปรียบเสมือนนายจ้างของเขาด้วย

          ผักกาดเหมือนเป็นคนกลางในเรื่องนี้มากกว่า ผักกาดรู้ว่าคิวท์กับเก่งกล้าอาจรู้สึกชอบกัน และที่เขาพูดถึงเรื่องความรู้สึกของคุณฎีที่มีต่อคิวท์ เพราะไม่อยากให้เกิดการถลำลึกของความรู้สึก แต่ดันใช้คำพูดที่ไม่ดีนัก
   

“ แล้วต้องให้พี่ทำยังไง เลิกยุ่งกับคิวท์? ” ฎีรดลเอ่ยและใช้สายตาสื่อว่าไม่เข้าใจมองมาที่ผักกาด

“ ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ” ผักกาดปฏิเสธ

“ แล้วต้องการให้มันเป็นแบบไหนครับคุณผู้จัดการ ”


ผมแค่ไม่อยากให้คุณชอบคิวท์

“ ทะ..ทำไม? ”

          คำตอบของผักกาดที่เอ่ยออกมา ทำให้คุณฎีที่นั่งอยู่ตรงข้ามมีอาการชะงักไปครู่หนึ่งเลย ฎีรดลบอกไม่ถูกว่าไม่เข้าใจในคำตอบ หรือดีใจเกินไปที่ได้ยินคำตอบกันแน่

ผม เท่ากับ ผักกาด

ผักกาดไม่อยากให้คุณชอบคิวท์



“ คือคิวท์กับเก่งกล้าเขา.. อาจชอบกันมากกว่าคู่จิ้นที่แฟนคลับจิ้น ผม.. ผมไม่อยากให้คนที่มาชอบน้องต้องเสียใจ ”

“ หึ.. ” ฎีรดลหลุดยิ้มเมื่อได้ยินคำตอบ ความไม่พอใจเล็กๆก่อนหน้าพลันสลายหายไปหมด

          ในความไม่เข้าใจ ฎีรดลก็พอจะเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว ผู้จัดการคนนี้ชักจะน่ารักเกินไปแล้วนะ

“ ถ้า..คุณชอบน้อง คุณอาจจะเสียใจได้ ” ผักกาดตอบเสียงแผ่วเบา เพราะนี้คือเหตุผลที่เขาต้องการบอก เขา.. ไม่อยากให้มีใครต้องเสียใจ

“ ฟังพี่นะ ..เรื่องคิวท์กับเก่งกล้าก็คือเรื่องของพวกเขาสองคน ส่วนเรื่องพี่กับคิวท์ก็อยู่คนละส่วนกัน อีกทั้งพี่ว่าพี่ก็ชัดเจนนะว่าพี่คิดยังไง มีแค่เราหรือเปล่าผักกาดที่ดูไม่ออก ”

“ ผมดูไม่ออก? ดูไม่ออกตรงไหนกะ.. ” ผักกาดกำลังจะเถียง แต่ก็ต้องกลืนประโยคเหล่านั้นกลับคืนไป เมื่อเงยหน้ามาพบว่ารอยยิ้ม และสายตาที่มองมาที่เขา มันช่างกำลังมีความสุข ปนเอ็นดูเขาเหลือเกิน

-//////- ไม่ใช่หน่าา

“ เป็นไรไป แก้มแดงๆ นะเรา ”

“ เปล่าครับ! เอาเป็นว่า ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว ” ผักกาดรนราน ทำตัวไม่ถูกจนเผลอเอามือไปแตะแก้มของตัวเอง

   
“ แต่ถ้า..อยากให้มีอะไร เดี๋ยวพี่จะลองดู ” ฏีรดลเอ่ยบอกคนน่าแกล้ง

“ ลองดูอะไรล่ะ.. คือผมต้องการขอร้องให้คุณวางตัวใหม่ และขอให้คุณเข้าใจในเรื่องนี้ว่าน้องเป็นนักแสดง กำลังมีชื่อเสียง น้องมีคู่จิ้น เออ..น้องอาจไม่ได้ชอบคุณแบบนั้น ขอให้คุณเข้าใจ คุณจะได้ไม่เสียใจด้วย ”

          ผักกาดที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกแกล้ง ทั้งยังคิดเป็นจริงเป็นจังเมื่อได้ยินคุณฎีรดลบอกจนเผลอขมวดคิ้วอย่างอารมณ์เสียในที่สุด คนอะไรเข้าใจยากเหลือเกิน ผักกาดอุตส่าห์อธิบายมาตั้งนาน

“ พี่เริ่มไม่ค่อยเข้าใจแล้วสิ ไว้..ผักกาดค่อยมาอธิบายให้พี่ฟังอีกทีนะครับ ”

“ ....คุณฎี! ”


“ ผักกาดดดด พี่ฎี มาแล้วหรอค่ะเนี่ย >< สวัสดีค่ะ ”

“ ครับผม ”

“ วาวา มึงไปนั่งข้างไอ้กาดๆ ”

          ผักกาดยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรต่อไป ก็เหลือบเห็นแยมกับปังที่กำลังเดินเข้ามาที่โต๊ะพร้อมกับวาวา ซึ่งน่าจะบังเอิญเจอกันหน้าร้านพอดี

          ผักกาดแอบเห็นฎีรดลอบยิ้มอย่างพอใจ ผิดกับผักกาดที่ต้องเก็บความสงสัยและคับข้องหมองใจไว้เต็มอก คำว่า ‘จะลองดู’ ของคุณฎีรดลมันคืออะไรกันแน่

“ มึงมาถึงนานยัง? ” วาวาเอ่ยถามกับผักกาดที่นั่งคิ้วขมวด ผักกาดเพียงส่ายหน้าเบาๆ เป็นคำตอบ

          วาวาที่ช่างสังเกต ก็พอจะเข้าใจว่าเหตุของอารมณ์เสียน่าจะมาจากพี่ฎี รุ่นพี่มหาวิทยาลัยที่มักจะมีประเด็นกับผักกาดมาตลอดทุกครั้งที่เจอกัน แกล้งกันตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย จนปัจจุบันแม้ทั้งคู่ต้องทำงานเกี่ยวข้องกันก็ตาม

          แกล้งเพราะอะไร โดนแกล้งเพราะอะไรนี่วาวาก็พอจะดูออกอยู่นะ มีแต่เพื่อนชื่อผักกาดของเขาเท่านั้นแหละที่ไม่รู้

“ สั่งอาหารกันหรือยังมึง โทษทีที่ช้า หาที่จอดรถไม่ได้นะ ” ปังเอ่ยถามกับฎีที่นั่งยิ้มอยู่อย่างอารมณ์ดี

“ ยังๆ กูคุยกับผักกาดเพลินเลย มึงกับน้องแยมมากันพอดี ก็สั่งเลยแล้วกัน ” ฎีรดลตอบพร้อมยิ้มมุมปากให้กับผักกาดที่กำลังทำหน้าประหลาดใจ

          คุยกันเพลินเนี่ยนะ คุณฏีรดลช่างกล้าพูด

“ งั้นเดี๋ยวแยมเรียกพนักงาน โทษนะคะสั่งอาหารหน่อยค่ะ มึงกินอะไรผักกาด? ” แยมที่จัดแจงให้พี่ปัง แฟนหนุ่มของเธอไปนั่งข้างฎีรดล และเธอนั่งหัวโต๊ะยกมือเรียกพนักงานด้วยเสียงสดใส ก่อนหันมาสะกิดถามผักกาด

“ อืม.. ” ผักกาดค่อยๆ ปรับอารมณ์เผื่อไม่ให้คนอื่นสงสัย ก่อนเลื่อนสายตาดูเมนูที่พนักงานนำมาวางไว้ตั้งแต่เขาเข้ามานั่ง “ เอานี่แล้วกัน นั่งหัวโต๊ะแสดงว่ามึงเลี้ยงนะ ”

“ โอเค พี่ปังเลี้ยง! คิคิ ”


❤ 70 เปอร์เซนต์ (%)





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-03-2020 15:29:05 โดย pimpipam_s »

ออฟไลน์ Nadaii20

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ๋อ ผักกาดกลัวคุณฎีเสียใจ :mew3:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6

ออฟไลน์ pimpipam_s

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ต่อ

---------------

“ พี่ฏีมาพร้อมผักกาดหรอคะ ” หลังจากที่ทานอาหารไปได้ซักพัก แยมก็เริ่มเปิดประเด็นเพื่อแซวผักกาดและพี่ฎีโดยเฉพาะ หลังจากไม่ได้เอ่ยแซวแบบนี้กับทั้งคู่มาเป็นเวลาหลายปี

          ถ้าไม่บอกจะมีคนรู้มั๊ยนะ ว่าแยม นลนัสน่ะ เธอเป็นสาววายตัวยงตั้งแต่มัธยม และยังเป็นจอมจิ้นเพื่อนสนิทกับรุ่นพี่ผู้เป็นเพื่อนของแฟนอีกด้วย แยมเคยปฏิญาณว่าจะจิ้นจนกว่าเขาจะได้กัน แต่ตอนนี้กินเวลามา 7 ปีแล้วยังไม่ได้กันสักทีนี่น่ะสิ

          ผักกาดนี่ไม่รู้ตัวเลยหรือไง ว่าตัวเองน่ะเหมาะสมกับพี่ฎีมากแค่ไหน ลึกๆที่ไม่ชอบใคร ไม่คบกับใคร เพราะรอใครที่ตัวเองมีใจมาจีบอยู่หรือเปล่าล่ะ

          ส่วนพี่ฏีก็ไม่ยอมทำตามหัวใจตัวเองซักที ไม่รู้จะกักไปทำไม เดี๋ยวเพื่อนเขาไปใจเต้นแรงกับคนอื่นแล้วจะมาเสียใจทีหลัง ใครจะมาปลอบ

          แยมรู้ แยมสัมผัสได้ ..

“ ไอ้แยม ถามอะไรของมึง รถใครรถมัน ป่าวมาด้วยกันสักหน่อย ”

“ เอ๊ะ มึงนี่! กูถามพี่ฎี”

“ จิ! ..ก็มึงเอ่ยถึงชื่อกู กูก็ตอบได้มั๊ยล่ะ ” ผักกาดส่งเสียงจิปาก อย่างไม่ชอบใจ เขาจะตอบเธอไม่ได้หรือไง ก็ชื่อเขามันอยู่ในประโยคคำถามเมื่อกี้นิหน่า

“ แต่กูถามพี่ฎี พี่ฎีขาา ไว้คราวหน้าแยมต้องฝากดูแลเพื่อนแยมหน่อยนะคะพี่ฎี ช่วงนี้ขาดคนดูแลค่ะ ”

“ ไอ้แยมมม ” ผักกาดเรียก พร้อมส่งสายตาห้ามปราบ ไม่ว่ากี่ปีๆ เพื่อนของเขาก็ชอบยกเขาใส่พานถวายให้กับคุณฎีเสมอเลยนะ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรจริงๆ

“ ได้ครับผม เนาะน้องผักกาด”

          เอ้า! ครั้งนี้คุณฎีก็เล่นกับไอ้แยมด้วยเฉย นอกจากจะพยักหน้าให้กัน ยังหันมาแจกรอยยิ้มให้กับเขาอีก มันจะเกินไปมั๊ย ผักกาดไม่ได้ตกลงหรือเห็นด้วยสักหน่อย

“ นี่แยม มึงเป็นล่ามหรือเป็นคนขายกาแฟ ชงเก่งจริง ”

“ แน่น้อนนน ว่าคนขายกาแฟ >< ” ว่าแล้วแยมก็ตบแปะมือกับวาวาที่เล่นมุขตบมุขกันอย่างชอบใจ

“ นอกจากเป็นคนขายกาแฟยังเป็นแฟนของพี่ด้วยนะครับ ” พี่ปังเอ่ยขึ้นมาด้วย และช่างเป็นคำตอบที่ถูกใจแยมที่สุด

“ ค่าๆ ”  แยมยิ้มหวานยีงฟันให้พี่ปัง ก่อนหันไปเอ่ยถามคุณฎีต่อด้วยความอยากรู้  “ แต่..ทำไมไม่ได้มาด้วยกันล่ะคะ เห็นว่าทำงานด้วยกันนี่หน่า ”

“ ส่วนใหญ่เป็นรดาเขาลุยหน้างานเองน่ะครับน้องแยม พี่แค่แวะไปบ้าง อาจไม่ได้เจอผักกาดบ่อยมากนัก ”

“ …… ” ไม่ต้องบ่อยก็ได้ครับคู้ณณณ!

“ อ้าว แล้ววันนี้ไม่ได้ไปที่กองหรอคะ? ทำไมไม่เลยมาด้วยกัน>< ”

“ ไอ้แยม ถามอะไรของมึง ก็..กูกับคุณฎีไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ได้เกี่ยวข้องกันขนาดนั้น จะไปมาด้วยกันได้ยังไง ” ผักกาดพูดดักคอก่อนเพื่อนจะพูดอะไรที่เป็นไปไม่ได้ไปมากกว่านี้

“ ก็แบบพี่น้องไงมึง นี่พวกเรารู้จักกันเกือบตั้ง 7 ปี หรืออยากให้เป็นสถานะคนรู้ใจที่มากกว่านั้น ”

“ ไม่ใช่อย่างนั้น ”

“ รีบตอบเชียวน้าาา กลัวอะไรป่าวเนี่ย>< ” แยมยังยิ้มล้อ

“ ก็ไม่เสียหายนะครับถ้าจะเป็น.. พี่หรือน้อง หรือ..มากกว่านั้น ” ฎีรดลเอ่ยต่อด้วยสีหน้าท้าทาย จนผักกาดแทบตาถลน

“ ...... ” เอิม “ ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้อง ผมเกรงใจ ” ผักกาดไม่ยอมแพ้ แม้จะอึ้งไปพักนึง ก่อนเอ่ยคำตอบที่โดนใจ โดนแล้วเจ็บใจน่ะครับ

“ หึๆ วันนี้พี่ก็ไปครับน้องแยม แต่พี่ต้องแวะไปรับและส่งรดาเขากลับบ้านน่ะ ค่อยตามมาเจอผักกาดทีหลัง ” ฎีรดลเอ่ยเรียบๆเหมือนไม่ได้รู้สึกสะเทือน พร้อมยักคิ้วให้ผักกาดที่จ้องหน้าเขาอยู่ เหมือนพร้อมจะตอบกลับ

“ คุณตามมาเจอผมที่ไหน ผมมาถึงตั้งนานแล้ว ส่วนพวกเราก็..มาเจอกันหน้าร้าน ต่างหาก ” ผักกาดเอ่ยด้วยเสียงเบาท้ายประโยค เมื่อนึกถึงตอนที่ยืนงุนงงอยู่หน้าร้าน จู่ๆก็ถูกคุณฎีเข้ามาโอบไหล่ อีกทั้งยังจูงข้อมือให้เดินตามเข้ามาในร้านนี้อีก

          ไม่รู้ว่าพอนึกถึง ..ทำไมตอนนี้มันเกิดอาการร้อนหน้าแปลกๆ ด้วย

“ ใช่ครับ ตามที่ผักกาดบอกครับ เรา เจอ กัน หน้า ร้าน และ เดิน เข้า มา ใน ร้าน พร้อม กัน ” ฎีรดลพยักหน้า เอ่ยบอกช้าๆ ก่อนยกมือข้างขวาขึ้นมามองแล้วทำเป็นจับๆหมุนๆข้อมือข้างซ้ายที่สวมนาฬิกา จนผักกาดเข้าใจในความหมายที่คุณฎีต้องการจะสื่อ ก่อนรีบก้มหน้าหลบสายตาไปแล้ว

          หนอย นี่คุณฎีตั้งใจล้อเลียนเขาใช่มั๊ย ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนั้นเขาสติรวน ประมวลผลไม่ออก จนไม่รู้ว่าตัวว่าถูกจูงข้อมือเดินตามอีกฝ่ายเข้ามาในร้าน เขาคงยกชุดกระทะตะหลิวขึ้นมาฟาด ข้อหาที่คุณฎีแตะเนื้อต้องตัวกันโดยไม่ได้รับอนุญาตแน่ๆ

“ แยมครับ น้องผักกาดว่ายังไง ไอ้ฎีมันก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ ” พี่ปังเสริมพร้อมยิ้มให้แฟนสาว

“ เอ๋ ไม่ใช่ว่าพี่ฎี แอบเดินตามผักกาดอยู่ไกลๆ นะครับ ” วาวาที่นั่งฟังอยู่นานเอ่ยถาม จนผักกาดต้องเงยหน้าขึ้นมาส่งสายตาอย่างคาดโทษ แอบเดินตามอะไร ก็บอกว่าเรามาเจอกันหน้าร้านไง

“ พี่ว่าพี่ก็ไม่ได้แอบเดินตามนะครับ ก็เดินปกติ แค่ผักกาดเขาไม่เห็นต่างหาก ”

          ว่าไงนะ ไม่ได้แอบ เดินปกติ ..เดินตามเราเนี่ยนะ?

“ นี่คุณ..จริงหรอครับ ”

“ หึ แล้วผักกาดคิดว่าไง? ” คุณฎีถามย้อน พร้อมยักคิ้วก่อกวนให้กับผักกาดที่เหวอไปแล้ว

          แย่แล้ว..

          ถ้าอย่างนั้นคุณฎีก็ต้องเห็นตอนเขาแวะไปที่ชอปกางเกงชั้นในชายอะดิ!

          แม่ง จริงป่ะเนี่ย..น่าอายชิบ
          คุณฎีจะมาเดินตามเขาทำไมเล่า!

“ อ้าวๆ จริงหรือค่ะเนี่ย ผักกาดไม่รู้ตัวหรอกหรอ ” แยมเผยยิ้มกว้างกว่าเดิม

“ …. " คุณฎีส่งเสียงหัวเราะในลำคอ จนผักกาดต้องเงยหน้ามองคุณฎีอีกครั้ง การที่ไม่ตอบ แสดงว่าจริง ก็เชี้ยแล้ว><

“ มึงมันร้าย ” พี่ปังเอ่ยและตบไหล่คุณฎีอย่างพออกพอใจ

“  แซวเด็กมันเล่นหน่าา ”

“ ฮ่ะๆๆๆ ” 

          ชิ! รู้สึกหมั้นไส้คุณฎีที่สุด

          ทุกครั้งเลยสินะที่มีคุณฎีกับไอ้ผักกาดอยู่ด้วยกัน คนจะเลือกสนใจคุณฎีมากกว่า

          ไม่ว่าคุณฎีจะพูดอะไร ทุกคนก็พร้อมจะเห็นด้วย ชอบอกชอบใจอย่างเกินหน้าเกินตา ส่วนไอ้ผักกาดนะ พอพูดอะไรไป ไม่มีคนฟังเลย ...ให้ตายสิ ไม่มีคนเข้าข้างเข้าเลยแม้แต่เพื่อนของเขา

          อยากจะทำเป็นหูทวนลม ทำเป็นเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา แต่พอทุกคนหัวเราะชอบใจ กลับเป็นผักกาดเองที่ทำตัวไม่ถูก

“ เลิกแซวแล้วก็เลิกหัวเราะเถอะครับทุกคน ไอ้แยม>< หยุดหัวเราะเลยนะ! ” ลงกับใครไม่ได้ผักกาดเลยลงที่แยม เพราะรายนั้นหัวเราะชอบใจที่สุดในบรรดาทุกคนแล้ว

“ ทำไม กูแค่หัวเราะเรื่องที่พี่ฎีเขาบอกเองนะ ”

“ แต่มึงกำลังหัวเราะกูใช่มั๊ยล่ะ ” ผักกาดเอ่ยน้ำเสียงติดงอน

“ โหห กูหยอกเล่นนน ” แยมกลัวผักกาดโกรธ จึงรีบสะกิดให้หันกลับมามอง พร้อมพูดต่อเหมือนเป็นการย้อนความหลังให้กับผักกาด “ หรือเรื่องนั้น? โห กาดด มึงนี้ฝังใจอะไรขนาดนั้น เรื่องตอนนั้นมันก็ผ่านมานานแล้วนะ อีกอย่างหลังจากนั้นมามึงก็ไม่เคยสะดุดล้มให้กูเห็นอีกเลย แถมเป็นเรื่องดีที่มึงเป็นคนรอบคอบ ระมัดระวังขึ้นด้วยนะ ”

“ ไม่ต้องมาพูดเลย ตอนนั้นมีพี่ปังคนเดียวที่ช่วยกู ส่วนพวกมึง และคนอื่น หัวเราะกูกันหมด หึ ” ผักกาดว่าให้เพื่อนทั้งสอง รวมถึงคนที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างคุณฏี ก่อนแกล้งสะบัดหน้าไปอีกทาง

“ ไม่เอาหน่า น้องผักกาด ตอนนั้นพี่ก็รีบเข้าไปช่วย จนสะดุดขาตัวเองเหมือนกันเพียงแต่พี่แค่ไม่ล้มเหมือนกับผักกาด พี่อุตส่าห์จะโชว์แมนช่วยพยุงผักกาดต่อหน้าน้องแยมเลยนะครับ ถ้าพี่ล้มไปอีกคนตอนนั้นฮากระจายแน่ๆ ” เมื่อเห็นว่าผักกาดจะงอนให้แยม พี่ปังก็รีบห้ามทัพ พร้อมกับเอ่ยเล่าเรื่องราวด้วยน้ำเสียงติดตลก จนผักกาดก็นึกขำไปด้วย

“ โห นี่พี่ปังก็จะล้มด้วยหรอเนี่ย ”

“ ฮ่ะๆๆ ใช่น่ะสิครับ พื้นมันไม่เท่ากัน ส่วนขาเรามันก็เดินไม่ดี ใช่มั๊ยล่ะ ฮ่ะๆๆ ”

“ โธ่ พี่ปังงง ” ผักกาดเอ่ยและหัวเราะไปด้วยตามที่พี่ปังเล่า

          ความจริงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะพี่ปังคงไม่ได้ซุ่มซ่ามเหมือนเขา

          ในสถานการณ์ตอนนั้นพี่ปังเป็นคนดี และเป็นคนเดียวที่ช่วยเหลือเขาตอนที่เขาหกล้ม แถมยังซื้อชามะนาวแก้วใหม่ รวมถึงน้ำเกลือล้างแผล ยาใส่แผล ยาแก้ปวด ผ้ากลอส เทป และพลาสเตอร์ติดแผลมาให้เขาด้วยนะ

“ ตอนนี้กาดยังนึกขอบคุณที่พี่เลี้ยงชามะนาว แถมซื้อยามาให้กันอีก ”

“ หือ? ชามะนาวกับยาหรอ ” พี่ปังเลิกคิ้วในขณะที่กำลังกินถั่วทอดที่เหลือในจานออเดิร์ฟ ก่อนทวนคำพูดของผักกาดเหมือนลืมสิ่งเหล่านั้น เขาไม่ได้ซื้อนะ คนซื้อมันไอ้...

          ปังคิดในใจ เขาไม่ได้ซื้อเองนะ เขาแค่ถูกคนซื้อจริงๆ ฝากไปให้น้องต่างหาก

“ พี่ว่าพี่ปะ.. "

“ ไอ้ปังกินอีกสิ นี่อะชิ้นสุดท้ายพอดี ”

“ เออๆ ขอบคุณมึง อะแฮ่มม! แค่กๆ ”

          ไม่รู้กฏีรดลใจดีมาจากไหน รีบจิ้มขนมปังกระเทียมชิ้นสุดท้ายมาป้อนพี่ปังทั้งชิ้น ขณะที่พี่ปังกำลังจะตอบผักกาด ทำให้พี่ปังต้องหยุดพูดและเคี้ยวก่อน แต่คงไม่ละเอียดพอ จนทำให้ขณะกลืนเกิดอาการสำลักเพราะขนมปังที่กินเข้าไปแทน

“ คุณฎีทำอะไรน่ะ ” ผักกาดหันไปมองคนด้านหน้า นึกเป็นห่วงพี่ปังขึ้นมาทันที เพราะพี่ปังเริ่มไอเสียงดังขึ้น จนทุกคนต้องหยุดพูดคุยแล้วหันมามอง

“ มึงเป็นไรไอ้ปัง? ”

“ กู..แค่ก ติด..คอ ..ไอ้ฎี ทุบ..หลัง ”

“ สัดปัง! เคี้ยวยังไงของมึง ..น้องแยมวาวาขอทิชชูหน่อยครับ ผักกาดเติมน้ำให้พี่ที ” ฏีรดลรีบจัดแจ้งให้ทุกคนก่อนจะทำการช่วยเหลือโดยลุกขึ้นไปประกบด้านหลัง เอื้อมมือมฝโอบรอบเอวตรงบริเวณลิ้นปี่แล้วออกแรงกระทุ้ง สลับกับทุบสะบักหรือบริเวณหลังของพี่ปัง เพื่อให้เศษอาหารที่ติดอยู่กระเด็นออกมา จนอาการดีขึ้น

“ พี่ปังโอเคหรือเปล่าค่ะ น้องค่ะๆ พี่ขอทิชชูๆ ค่ะ ”

          แยมกับวาวารีบยกมือเรียกพนักงาน และรับกล่องทิชชูกับพนักงานมาดึงส่งให้กับพี่ปัง ส่วนผักกาดก็เอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำดื่มที่หมดไปแล้วของปังมาเติม โดยตอนที่ทุกคนกำลังอลมานก็ไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าคุณฏีกำลังบอกอะไรกับพี่ปังที่ทำได้เพียงพยักหน้าเข้าใจ

“ ดื่มน้ำหน่อยนะพี่ ” ผักกาดถือแก้วน้ำที่ถูกเติมยื่นให้กับพี่ปัง โดยมีฏีรดลคอยจับประคองแก้วไว้ให้

“ นี่ทิชชูนะคะ ดีขึ้นแน่นะคะพี่ปัง ”

“ ครับแยม พอดี.. พี่รีบกลืนไปหน่อยนะ แค่ก! ”

“ ทำแยมใจหายหมดเลย ” แยมเอ่ยด้วยความตกใจไม่หาย

“ เมื่อกี้คุณฏีเล่นยัดขนมปังเข้าปากพี่ปังแบบนั้นมัน..” ผักกาดพูดอย่างอดไม่ได้ที่ถึงคนผิดตัวจริง

“ ไม่เป็นไรเลยครับผักกาด พี่เองพี่กินเอง พี่เคี้ยวไม่ละเอียด รีบกลืนจนมันติดคอ ไม่เกี่ยวกับไอ้ฎีเลยครับผม ”

“ ครับพี่ ทีหลังค่อยๆเคี้ยวนะพี่ ” ผักกาดพยักหน้าไม่ได้ติดใจอะไร ยังเอ่ยแนะนำด้วยความเป็นห่วง


“ อ่า ฮ่ะๆ เรามาเปลี่ยนเรื่องกันดีกว่า เอ๋..เรื่องไหนดีครับน้องแยม ”

“ อืม เมื่อวานกูกลับไปกาญมา อะนี่! แม่กูให้เอามาฝาก ” แยมหยิบถุงที่ใส่กล่องขนมและลูกชุบมายื่นให้ผักกาดและวาวาคนละกล่อง ทำให้ทั้งสองคนที่เห็นแสดงอาการดีใจออกมาอย่างเก็บไม่อยู่

          ขนมและลูกชุบ ฝีมือแม่ยิ้ม แม่ของไอ้แยม พวกเขาไม่ได้กินมานาน ยังคงอร่อยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแน่นอน


“ เออใช่ ก็ว่าจะถามอยู่เหมือนกัน แต่ดันลืมไปน่ะ ” ผักกาดเอ่ยเมื่อนึกขึ้นได้ พร้อมหยิบลูกชุบที่เพิ่งได้มาเข้าปากของตัวเอง

“ กูกลับมาถึงไทยเมื่อวาน แต่ไปหาแม่กับป๊าก่อน เพิ่งมากรุงเทพก็วันนี้ มาถึงก็บึ่งรถมาหาพวกมึงเลย ”

“ แสดงว่าเดินทางกันตลอดเลยหรอ ได้พักป่ะเนี่ย? ” เอ่ยถามต่อแม้จะเคี้ยวขนมจนแก้มตุ้ย

“ พักบ้างแล้ว แต่ไม่เหนื่อยหรอกเพราะกูนั่งเฉยๆ คนขับนู้น เหนื่อยมั๊ยคะที่รัก ” แยมตอบเพื่อนเสียงสดใส ก่อนเอื้อมมือเล็กไปหยิกแก้มและเอ่ยถามพี่ปังที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนเสียงอ่อนเสียงหวาน จนคนที่เป็นเพื่อนสองคนอย่างผักกาดและวาวาได้แต่มองหน้ากันอย่างเลิกลั้ก ส่วนคุณฎีก็เพียงยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบเหมือนไม่สนใจ เพราะเห็นบ่อยแล้ว

“ ไม่เหนื่อยค่ะที่รัก ” พี่ปังก็ใช้น้ำเสียงไม่แพ้ไอ้แยมเช่นกัน


“ ว่าแต่.. ที่นัดมามีอะไร เห็นบอกว่าเรื่องสำคัญใช่ไหม ” วาวาถาม

“ อืม ”  แยมพยักหน้าและอมยิ้ม “ แต่ความจริงก็คืออยากกินข้าวนั่นแหละ คิดถึง>< ”

“ กินจะหมดทุกอย่างแล้วนี่ไง อย่ามาทำเป็นอ้ำๆ อึ้งๆ พูดมา! ” ผักกาดชูนิ้วชี้ส่ายไปมา พร้อมทำหน้าเล่นหูเล่นตาให้กับแยม ซึ่งไม่รู้ตัวว่าเป็นการเรียกรอยยิ้มให้กับคนที่กำลังมองมา

“ ทำหน้าซะน่ารักเลยนะมึงอะ ”

“ อ่ะๆ อย่าเปลี่ยนเรื่อง ที่สำคัญกูไม่ได้น่ารักซักหน่อย ”

“ ย๊ะ ” แยมส่งเสียงพร้อมยื่นจมูกให้ผักกาดรู้ว่ากำลังหมั่นไส้

“ ว่ามาเร็ว ”

“ อืม.. มึงจำตอนปี 1 วันแรกๆ ที่กูพูดถึงเรื่องพี่ปัง ได้ป่ะ ”

“ อืม จำได้ ” วาวาพยักหน้า

" จำได้หมดแหละ เรื่องของมึงน่ะ เล่นพูดกรอกหูพวกกูตั้งแต่ตอนชอบ ตอนคบ ตอนเลิก ตอนกลับมาคบ เหอะ! กูจำได้หมดอะ ” ส่วนผักกาดร่ายยาว

          นึกถึงเหตุการณ์ แต่ละเหตุการณ์ตอนนั้น ถ้าให้เล่าก็ยาว ผักกาดยังจำไม่ลืมเลย..




❤ 100 เปอร์เซนต์ (%)

----------------------



1 ไลค์ 1 คอมเมนต์ = 1 กำลังใจ ❤

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ

(◜◡‾) (‾◡◝)






นักเขียน :: ขอมีความสุขนานๆ ในโลกนิยาย ดีกว่าต้องรู้สึกชิบหายในโลกของชีวิตจริง

คำเตือน >> ถ้าคนพี่จะลุย คนน้องต้องทรงตัวให้มั่นคงล่ะ อย่าเซ อย่าหวั่นไหว โอเคไหม?



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-02-2020 19:19:00 โดย pimpipam_s »

ออฟไลน์ funndee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เป็นกำลังใจให้ค่าา

รู้สึกว่าคุณฎีก็ชอบผักกาดมานานแล้วรึป่าว อาจจะตั้งแต่ 7ปีก่อน  :hao3:



ออฟไลน์ Tawanwee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

เชียร์คุณฎีให้จีบน้องได้แล้วค่ะ เลิกแกล้งน้องได้แล้ว :impress3:


ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
แอบชอบกันทั้งคู่เหรอเนี่ย

ออฟไลน์ Yeewajj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณฎีก็แกล้งเก่งจังเลย :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pimpipam_s

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คุณฎีของผักกาด ʕ·ᴥ·ʔ

ตอนที่ 03 :: ทะเลาะกัน ..น้อยลง



ความทรงจำสมัยมหาวิทยาลัย ปี 1 ว่าด้วยเรื่องความรักของไอ้แยม

          ตอนนั้นพวกเราสามคนน่าจะกำลังนั่งอยู่ตรงลานม้าหินอ่อน คณะมนุษย์ศาสตร์ ช่วงนั้นเป็นช่วงเลิกเรียน พวกเราจึงตัดสินใจนัดรวมตัวกันเพื่อไปกินข้าว ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับหอพัก

‘ ผักกาด วาวา มึงจำรุ่นพี่ปี 4 ที่กูเคยพูดถึงได้มั๊ย ว่า… ’

‘ จำไม่ได้อะ! ’ ผักกาดตอบอย่างไม่รีรอ

‘ ………. ‘

‘ เอ้ย! ก็รีบตอบจังเลยล่ะกาด กูยังพูดไม่จบเลย แล้วมึงจะเก็ตป่ะว่าพี่คนไหน ’

          เสียงคนที่กำลังยืนค้ำเอวและโวยวายใส่ผักกาด คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก แยม นลนัส สาวสวยจากคณะมนุษยศาสตร์ สาขาเอกวิชาภาษาญี่ปุ่น เพื่อนรักเพื่อนสนิทของเขาเอง

‘ ฟังๆๆ เงยหน้ามาฟังกันหน่อยสิ เพื่อนรักทั้งสองของกู ’

‘ ไม่! / ว่ามา! ’

          หึย

          แยมวางช้อนที่กำลังจะตักเจลลี่องุ่นเข้าปากลงทันที เมื่อได้ยินคำตอบที่ฟังแล้วไม่ค่อยจะลื่นเสนาะหูของผักกาด แถมยังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือต่ออย่างไม่สนใจ ผิดกับวาวา เพื่อนอีกคนที่เงยหน้าจากโทรศํพท์ขึ้นมาเพื่อจะฟังอย่างตั้งใจแล้ว

พรึบ

‘ ไอ้แยมอ่า ’
   
‘ อ่ะ นี่ชามะนาวของมึง มึงอะ..สนใจกันหน่อยสิผักกาด นี่กูอุตส่าห์เลี้ยงมึงเลยนะ ’

‘ งืมม มึงนี่นะ ’ ผักกาดขมวดคิ้วเบะปากพึมพัม เมื่อแยมปิดหน้าหนังสือพร้อมดึงออกจากมือของเขา แล้วเลื่อนแก้วชามะนาวที่เสียบหลอดสีเขียวเข้ามาแทน เพราะรู้ว่าผักกาดชอบ

‘ อย่ามางอแงใส่กันนะ >< ’ แยมเบะปากตามด้วยสีหน้าที่ล้อเลียนผักกาด

‘ ใครงอแง? ’

‘ ไม่ใช่กูก็แล้วกันค่ะ ’

‘ อ่าๆ ใจเย็นๆ นี่กูต้องมาเพื่อฟังมึงเถียงกันหรือไง ’ วาวาได้แต่ส่ายหัวให้กับความเด็กของทั้งคู่ แยมเป็นคนไม่ยอมใครส่วนผักกาดก็ไม่ใช่คนยอมคน เนี่ยถึงได้เถียงกันตลอด โดยมักมีวาวาเป็นกรรมการไงหละ
 
          ด้วยความที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมต้นและเป็นคนกาญจนบุรีด้วยกัน พวกเขาทั้ง 3 คน จึงสนิทกันมาก จนมหาวิทยาลัยปี 1 ก็เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน แม้จะคนละคณะก็ตาม แต่แยม วาวา และผักกาดได้ทำสัญญาใจกันว่าพวกเขาจะต้องนัดเจอกัน ต่อให้ยุ่งมากแค่ไหน ก็ต้องหาเวลาที่จะมาเจอกันให้ได้ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และวันนี้ก็คือ วันที่พวกเขานัดกินข้าวเย็นกันก่อนแยกย้ายกับหอพัก

‘ ก็มึงเคยพูดถึงรุ่นพี่ปี 4 ไปตั้งหลายคนหนิ ’ ผักกาดพูดก่อนจิบชามะนาวแก้วโปรด

‘ แต่ไม่ใช่ไง.. ที่กูกำลังพูดถึง กูหมายถึงพี่ปัง ปี 4 คณะทันตะ ’

‘ โอย นึกไม่ออกหรอกนะะ ’ ผักกาดส่งเสียงโอดโอยพร้อมกับส่ายหน้า

‘ เอางี้ งั้น..พี่ปังนะเขาเป็นเพื่อนสนิทกับพี่ฎี ฎีรดล ปี 4 คณะบริหารอะ ’

‘ อืม พอคุ้นชื่อ พี่ฎีอะไรนี่แหละ แต่นึกหน้าไม่ออก ทำไมอ่ะ? ’ ผักกาดเลิกคิ้ว

‘ ก็นึกหน่อยสิไอ้นี่ กูว่ามึงไม่คุ้นพี่ปังไม่เป็นไรนะ แต่นี่..มึงต้องคุ้นพี่ฎีดิวะ แต่จริงๆมึงควรคุ้นกับทั้งสองคนนั้นแหละ ’

‘ เอ่อ ไม่เอาๆ กูไม่นึก ทำไมมีไร? รีบพูดดิ ’ ผักกาดเอ่ยอย่างรำคาญ ไม่เข้าใจว่าช่วงนี้ทำไมแยมชอบเอาเรื่องผู้ชายมาใส่ให้เขาหนักสมองด้วย

‘ ไม่ได้เด็ดขาด มึงต้องนึกให้ออกเดี๋ยวนี้ เอางี้มึงนึกหน้าพี่ฏีก่อนเลย ถ้ามึงนึกหน้าพี่เขาออกนะ มึงก็จะได้รับรู้ถึงคุณภาพของพวกพี่เขาไง เร็ว! ’ คุณภาพอิหยังวะ

‘ เอ่อๆ ก็ได้ นึกๆ ’ ผักกาดทำท่าคิด และพยายามคิด ประมวลผลว่าไอ้แยมมันหมายถึงใคร

          เพราะตั้งแต่เป็นเพื่อนกับมันมาตั้งแต่มอต้น มันก็มักจะชอบพูดแต่เรื่องความรงความรัก เรื่องแฟน เรื่องผู้ชาย หึ

          แล้วยิ่งเข้ามหาวิทยาลัยมานะครับ ด้วยความที่แยมมันเป็นพูดเก่ง คนร่าเริง อัธยาศัยดี เข้าชมรมไหนมันก็รู้จักเพื่อนรู้จักรุ่นพี่คนนั้นคนนี้ไปหมดทุกคณะเลย แถมยังว่านเสน่ห์ไปทั่ว

          แล้วใครต้องมาคุย มารับฟังเรื่องพวกนี้จากมัน ถ้าไม่ใช่ไอ้วาวา กับไอ้ผักกาดคนนี้!

‘ เอางี้ กูว่ากูหารูปให้ดู ’
 
‘ ไม่ต้องๆ เอาเป็นว่านึกไม่ออก ’

‘ จิ! เอางี้ดีกว่า กูว่ามึงต้องนึกออก.. แน่ๆ ’

‘ งืม ’ งืมตัดรำคาญมากแม่

‘ เอาพี่ฎีก่อนนะ พี่เขาเป็นผู้ชายตัวสูงงง ผิวขาว ผมน้ำตาลเข้ม ปลายผมลอนสั้นประมาณนี้ จมูกโด่งๆ หน้าคมๆ นึกนะ ’ แยมพูดพร้อมทำท่าทางประกอบ

‘ อืม นึกอยู่ ’ การเรียนพยายามอย่างนี้มั๊ย ไอ้แยม


‘ แล้วเราอะ เคยเดินผ่านพี่เขาที่ลานจอดรถคณะมนุษย์ตอนเราไปซื้อกาแฟด้วย ’

…ลานจอดรถ     …ซื้อกาแฟ


‘ กูกับวากำลังจะเข้าไปขอถ่ายรูปพี่เขา ’

..ถ่ายรูป


‘ แล้วมึงดันเดินสะดุดขาตัวเองหน้าคะมำ จนชามะนาวหก ’

อ่า กู..สะดุดขาตัวเองไปอีกก

อ่ะ เริ่มมารางๆ


‘ แล้ว… พี่ฎีเขาเลย.. หัวเราะมึงไง ’

ชัด!


‘ สัด นึกออกแล้ว ’

หน้าพี่มันอย่างชัด
 

‘ ฮ่ะๆๆ ’

‘ ยังมานั่งขำกูนะวาวา ’ เจ้าของมือเล็กฟาดเปี๊ยะลงที่มือวาวา แต่คนถูกตีก็ไม่ได้สะทกสะท้าน แต่กลับหัวเราะเสียงดังมากกว่าเดิม

‘ ก็มันขำจริงนี่หว่า ตอนนั้นมึงมันซุ่มซ่ามเก่งจะตาย ’

‘ จิ! มันคืออุบัติเหตุ ใครจะคิดว่ากูจะสะดุดขาตัวเอง ’ ผักกาดตาล่อกแล่ก ทั้งยังพยายามแก้ตัวต่อไป

‘ ฮ่ะๆๆ ’ วาวากุมท้องที่หัวเราะจนเจ็บ

‘ กูก็นึกว่าตอนกูล้มหน้าคะมำขนาดนั้น แล้วพี่มันจะเดินเข้ามาช่วยกัน ที่ไหนได้ ยืนหัวเราะกูพร้อมกับพวกมึงเฉย ’ น้ำเสียงบ่งบอกถึงความเสียอารมณ์โหมดอับอาย ชี้หน้าชี้ตาเพื่อนทั้งคู่

‘ มึงเดินไม่ดูทางเอง ’ วาวาตบมือชอบอกชอบใจกันกับแยม แหม..เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย

‘ ……. ’ ขออนุญาตปลง ทำใจ เพื่อนไม่รัก แถมพอใจที่มีคนมาหัวเราะผมอีก


‘ เออ นั่นแหละ นึกออกแล้วใช่ป่ะ ’  แยมเอ่ยถามหน้าเปื้อนยิ้ม หลังจากที่พยายามหยุดหัวเราะผักกาดอยู่นานแสนนาน

          ตอนแรกแยมไม่ได้ตั้งใจจะรื้อฟื้นเรื่องนี้ แต่เพราะพูดไปเท่าไรผักกาดก็นึกไม่ออกสักที

‘ อืม ก็ชัดเลยแหละ! ’

‘ นั่นแหละ ส่วนพี่ปังของกู เป็นเพื่อนพี่ฎีนี่แหละ หน้าตาดีโคตรๆคนหนึ่งเลยเว้ย พี่ปังน่ะเขาคือคนที่เดินตามพี่ฎีมา แล้วมาช่วยพยุงมึงไง แถมเคยเอาชามะนาวและถุงยามาให้มึงด้วย ’

?

‘ รู้งี้กูแกล้งล้มตามมึงก็คงจะดี พี่ปังแม่งอย่างน่ารัก มาช่วยด้วย>< ’

‘ เออๆ นึกออกแล้ว พี่มันคนดีขนาดนั้นกูก็ต้องนึกออกแล้วล่ะ แต่ถ้าจำไม่ลืมก็ไอ้พี่ที่หัวเราะกูนั่นแหละ ’ ชื่อฎีฎีอะไรนั้นน่ะ

‘ เขาชื่อ พี่ฎีกับพี่ปังเว้ย ’

‘ อืมมม แล้วทำไมอ่ะ มีอะไรก็พูดเถอะ กูขี้เกียจนึกแล้วนะ ’

‘ มึงจะหัวร้อนทำไมอ่า กูไม่ได้ต้องการจะรื้อฟื้นนะ แค่อยากช่วยให้มึงนึกออกไวไว ’

‘ เออ รู้แล้วจ่ะ แต่ถ้าตอนนี้มึงไม่ยอมเข้าเรื่องสักที กูจะกลับหอแล้วนะ ข้าวก็ไม่ต้องกิน ’ ผักกาดกอดอกขู่เพื่อนคนสวย พลางนึกว่าตอนที่เขาล้มลำพังเพื่อนหัวเราะ ยังไม่อายเท่าโดนคนอื่นมาหัวเราะ มันน่าอายไม่รู้หรือไง

‘ กูจะตามมึงไปผักกาด ’ กรรมการอย่างวาวาพูดอย่างรำคาญมานาน ครั้งนี้ยืดเยื้อจนเลือกเข้าข้างและเชียร์ฝั่งผักกาด

‘ เดี๋ยวดิๆ ก็พี่ปังอะ พี่ปัง ทันตะ ’

‘ …… ’ ?

‘ คือกูชอบพี่เขา พี่เขาคือสเป็กกู แล้วคือ..พี่เขามีเล่นดนตรี กูจะมาชวนมึงไปดูพี่เขาเล่นดนตรีวันสุดท้ายของกีฬาเฟรชชี้ นะมึงงงงงง ’

‘ ……. ’

‘ กูชอบพี่ปัง กูอยากไปดูพี่เขาเล่นกีต้าร์สักครั้ง มึงเข้าใจอนาคตหมอฟันสุดหล่อแล้วมีโมเม้นต์เล่นดนตรีป่ะ โคตรชอบเลยยยย ’

เป็นเอามากเหมือนกันนะ เพื่อนเขาเนี่ย

‘ กูชอบเขา แค่ไปดู คนนี้ขอแค่ได้มอง นะๆๆๆ ไปกับกูน้าาาา ’ แยมที่ตอนแรกอ้ำๆอึ้งๆ รีบเอ่ยต่อเมื่อเห็นผักกาดและวาวากำลังเหวอ

‘ อืมมม ก็ได้ๆ"

" อืม จะไปเป็นเพื่อนมึงแล้วกัน ’ ผักกาดพยักหน้าตามวาวา

‘ เย้ มึงมันเพื่อนรักกกก ไว้ไปหน้าเวทีกันน! ’


-----


แล้วก็ผ่านไป 3 เดือน หลังจากที่ไอ้แยมชวนผักกาดและวาวาไปที่งานปิดกีฬาเฟรชขี่

          หลังจากวันนั้น ผักกาดกับวาวาก็รู้สึกเบาสบายหูขึ้น เพราะตั้วแต่ครั้งที่ไปกรี๊ดหน้าเวทีวันนั้น แยมก็ไม่ได้มากรี๊ดกร๊าดหรือพูดถึงพี่กลุ่มนั้นให้ฟังอีก  ถ้าคิดในแง่ดีแยมอาจจะเลิกสนใจพี่ปังไปแล้วก็ได้ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่เริ่มเรียนหนังสืออย่างจริงจังและเข้มข้น แถมกำลังอยู่ในช่วงกีฬาระหว่างคณะคาบเกี่ยวกับการสอบมิทเทอมอีกด้วย ทำให้มันคงไม่ได้มีเวลามาสนใจเรื่องความรงความรัก  หรอก ..มั้ง (?)

          แต่นั่น..มันก็แค่ความคิดของผักกาดครับ

          เพราะ
          ความจริงแล้ว การเงียบของไอ้แยม คือลางที่บอกว่ากำลังจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น..



          ณ ลานคณะมนุษยศาสตร์ ที่เก่าที่เดิม


‘ ผักกาด วาวา กูมีเรื่องจะบอก กูมีแฟนแล้วนะ กูกำลังคบกับพี่ปัง ’

‘ หะ! ว่าไงนะ? / คบตอนไหนเนี่ย! ’

          จากเสียงร้องอุทานและเสียงเอ่ยถาม คงแทบไม่ต้องเฉลยว่าเป็นเสียงของใครกับใคร นอกจากผักกาดที่ช็อคจนแทบพูดไม่ออก กับวาวาที่แค่ประหลาดใจแต่ก็อยากรู้มากกว่าไงล่ะ

‘ อืม กูคบกับพี่เขาแล้ว เมื่อวานนี้>< ’ แยมย้ำบอกกับเพื่อนสนิท เสมือนกับเป็นลูกสาวตัวน้อยที่กำลังสารภาพกับแม่ว่าตัวเองมีแฟน ด้วยรอยยิ้มขวยเขิน ยืนบิดไปมา มือไม้จับจีบกระโปรงยึกยักยึกยือ สะเปะสะปะเหมือนไม่มีที่ไว้

‘ ไปจีบกันตอนไหนเนี่ย? ’ วาวาเลิกคิ้วถามแทนผักกาด เพราะสังเกตได้ว่าผักกาดดูช็อคไปแล้วเรียบร้อยแล้ว คงประมาณแบบ นังลูกสาวตัวดี มันมีแฟนใหม่อีกแล้ว

          ก็คงจะช็อคอยู่หรอกนะ ผักกาดน่ะ คิดมาตลอดช่วงเริ่มเข้ามหาวิทยาลัย ว่าแยมน่าจะไม่จริงจังกับใครง่ายๆ เหมือนตอนสมัยเรียนมัธยม เพราะพอแยมจริงจังกับใคร ก็มักจะถูกนอกใจและเกิดการเลิกลาเสมอ

          10 ครั้งที่มันมีแฟน ก็คือ 10 ครั้งที่แยมต้องเลิกรา และเขาเองที่ต้องเห็นเพื่อนอย่างแยมร้องไห้

          นี้คือครั้งที่ 11 ที่มันบอกว่ากำลังคบกับคนๆ หนึ่ง

          ผักกาดเคยมั่นใจว่าแยมจะเข็ดขยาด และไม่น่าจะคบใครเป็นแฟนอีกง่ายๆ แต่ตอนนี้มันผิดคาดไปหมด เพื่อนสาวเดินเข้ามาบอกพวกเขาว่า มันมีแฟน

‘ ก็วันที่เราไปดูพี่เขาเล่นดนตรีไง ตอนพวกมึงเผลอกูเข้าไปขอไลน์พี่เขา ’

‘ มึงจีบพี่เขาก่อนเนี่ยนะ ’ วาวาถามต่อ

‘ ก็เปล่าป่ะวะ แค่ขอไลน์และแอดก่อน แต่หลังจากนั้นเขาทักมาคุยก่อน ก็เลย..คุยกัน 3 เดือน เมื่อวานก็..คบ ’

‘ เห็นเงียบๆ นี่ฟาดเรียบเลยนะ ’

‘ มึงแน่ใจใช่มั๊ย ’ ผักกาดเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

‘ คนนี้กูจริงจัง ..แหน่ๆ มึงจะบอกว่ากูจริงจังทีไรก็เสียใจทุกทีใช่มั๊ยล่ะ ’

‘ ก็กูเป็นห่วงมึง มึงก็รู้ ’

‘ กูไม่เคยกลัวว่าจะต้องเสียใจ กูขอแค่ได้ใช้หัวใจรักใครสักคน ’

‘ ….. ’

‘ กูเกิดมาเพื่อมีความรัก กูไม่รู้ว่าความรักครั้งนี้จะอยู่ตลอดไปหรือเปล่า แต่ตอนนี้เขารักกู กูรักเขา ถ้ามันจะใช่มันก็ใช่อะ ’

‘ …… ’ ผักกาดไม่เอ่ยอะไร เพียงพยักหน้าให้เพื่อนรู้ว่าเข้าใจ แต่ก็ยังไม่คลายความกังวล

‘ เอางี้ วันไหนกูเสียใจ กูขอแค่พวกมึงไม่ทิ้งกู อยู่กับกูตอนกูร้องไห้ โอเคม่ะ ’ แยมพูดติดตลก

‘ อืม ทางที่ดีมึงไม่ต้องร้องไห้มาหาพวกกูเลยก็จะดี ’

‘ ^^ ’

‘ กูขี้เกียจโอ๋มึงแล้ว บอกเลย ’

‘ หน่า โอ๋กูหน่อยน้าา ’

‘ หึๆ เออๆ มึงนี่..มีแต่เรื่องให้กูเซอร์ไพรส์ ’

‘ กูเห็นด้วย ฮ่ะๆๆ ’

 
----------


4 ปีต่อมา

          หลังจากนั้น ผ่านมา 4 ปีก็ถึงเวลาได้โอ๋มันจริงๆ สินะ

          เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดของไอ้แยมล้วนๆ เริ่มจากไอ้แยมถูกพี่ปังเลื่อนนัดหลายรอบ เลยเกิดความสงสัยและตามพี่ปังไป ทุกวันมันจะเห็นว่าพี่ปังขับรถไปรับและส่งผู้หญิงคนหนึ่งที่ร้านอาหารแถวหลังมหาวิทยาลัย โดยพี่ปังบอกแยมว่าไปส่งญาติ แต่ไอ้แยมไม่เชื่อ มันคิดเองเออเองว่าพี่ปังนอกใจ เพราะครั้งสุดท้ายที่มันไปเห็นคือผู้หญิงคนนั้นกำลังกอดพี่ปัง ไอ้แยมจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหา และบอกเลิกโดยไม่ถามพี่ปังสักคำ

          สรุปเข้าใจผิดไอ้เพื่อนง้าว ดีนะที่พี่ปังเขามาง้อและอธิบายว่าที่ไอ้แยมไปเห็นคือเขากอดลากันเพราะลูกพี่ลูกน้องพี่ปังจะเดินทางไปเรียนต่างประเทศ โดยพี่ปังไม่มีเวลาไปส่งที่สนามบิน ซึ่งพอพี่ปังมาง้อมัน ไอ้แยมก็เข้าใจ หายโกรธและกลับไปคืนดีด้วยทันที ไม่งั้นผักกาดกับวาวาได้ปลอบไอ้แยมครั้งที่ 11 ต่อด้วย 12 แน่ๆ

          จบ ขอตัดไปปัจจุบันเหอะ


----------


ปัจจุบัน

          ตั้งแต่วันแรกที่มันบอกชอบพี่ปัง จนถึงวันนี้ก็ผ่านมาเกือบ 7 ปีแล้ว


“ มึง..กูกำลังจะแต่งงาน ”

“ แต่งงาน! ” ผัดกาดหันไปสบตาวาวาด้วยสีหน้าและอาการเดียวกัน นี่มัน.. เรื่องจริงใช่มั๊ยมึง


“ หะ อะไรนะ มึงพูดว่าไงนะเมื่อกี้ ”

“ อืมมม เรียนจบกูจะแต่งงานกับคนที่กูรัก กูเคยพูดไว้แบบนั้น ”

“ ใช่ มึงเคยพูด แต่แบบว่ากู..แค่ ถามย้ำเพราะยืนยัน ว่า..ไม่ได้ฟังอะไรผิดไป ” ผักกาดพูดแบบเว้นวรรคประโยคแทบไม่ถูก


“ ไม่ได้ฟังผิด หึๆ พวกมึงนี่ทำหน้าตาตลกแล้ว ” แยมเอื้อมมือมือหยิกแก้มผักกาดเบาๆ และสะกิดวาวาเพื่อเรียกสติ

“ ขอชัดๆ อีกสักรอบสิ ” ผักกาดชูนิ้วชี้ขึ้นมา แถมยังทำตากลมแป๋วมองแยมและพี่ปังสลับกันไปมา

“ กูกำลังจะแต่งงาน แงงง ” แยมย้ำโดยมีพี่ปังพยักหน้ายืนยันอีกครั้ง

“ มึง.. ไม่ได้ท้อง? ” วาวาถามเสียงกระซิบๆ

“ ใช่.. กูไม่ได้ท้อง ” แยมก็ตอบเสียงกระซิบๆ

“ มึงขอพี่ปังแต่งงานก่อนใช่มั๊ยเนี่ย ”

“ บ้าา ไม่ใช่โว้ย! ”

          แล้วทุกคนก็หัวเราะชอบใจ เมื่อแยมร้องโวยใส่ผักกาดที่ถามตัวเองเสียงดัง เพราะนึกย้อนกลับไปสมัยจีบกัน ก็ไอ้แยมมันเคยเข้าไปขอไลน์พี่ปังก่อนนิหน่า

“ เป็นมึง ไม่ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น คำนี้คือจริง”

“ ย๊ะ! แต่กูไม่ได้จะคุยนะ แต่พี่ปังไปขอกูแต่งงานที่ญี่ปุ่น ม่ะม๊าพี่ปังก็ชอบกูมาก ซึ่งกูแฮปปี้ พวกเขาอยากได้กูเป็นสะใภ้ ม่ะม๊าบอกว่าอยากให้กูมีลูกมีหลานให้พวกเขา”

“ อะ..โอเค แล้ว.. กูควรพูดยังไงดี ไอ้วาๆ ”

“ เออๆ ดีใจด้วยไงว่ะ ไอ้กาดนี่มึงอึ้งจนคิดคำพูดไม่ออกหรอ ” วาวาตอบหน้ามึนๆ เพราะเจอคำถามอ๋องๆของผักกาด

“ เออใช่! ดีใจด้วยนะ จริงๆนะ ดีใจด้วย^^ มึง..แฮปปี้ใช่มั๊ย ” เสียงที่ผักกาดพูดตะกุกตะกักเพราะอาการตื่นเต้น ทำตัวไม่ค่อยถูก

          ผักกาดดีใจ แต่ไม่รู้ว่าแสดงสีหน้าประหลาดอะไรออกไป  จนเพื่อนสาวคนสวยที่บอกว่ากำลังจะแต่งงานหยกๆ ยกหลังมือขึ้นมาเช็ดแก้มที่มีหยดน้ำตาอยู่ปรอยๆ

“ แฮปปี้สิ ”

“ แล้วจะร้องไห้ทำไมเนี่ย ” แม้ถามแยมไป แต่ก็เผลอหลุดขำเลยสิ ผักกาดอะ

“ มึงบอกดีใจกับกู แล้วกูสัมผัสได้ น้ำตามันเลยไหล ฮึก ”

“ ไม่งอแงดิ ”

“ สัด รักพวกมึง ”

“ พี่ปังแน่ใจนะ ไอ้แยมมันงี่เง่านะ ”

“ ครับน้องวา พี่แน่ใจมา 7 ปีแล้ว ”

“ ไอ้แยม มากอดดิ ”

“ ฮื้ออออ กูกำลังจะมีครอบครัวมึงงงง ”

“ อือ มีหลานให้กูอุ้มด้วย กูจะทำงานเยอะๆ เลี้ยงเขาให้เอง ” ผักกาดพูดติดตลก แต่ในใจคือเขาคิดไปถึงขนาดนั้นแล้วจริงๆ หลานชายหลานหญิง กี่คนจัดมา น้าผักกาดคนนี้ พร้อมเปย์


          น่ารัก ..

          ผักกาดไม่อาจรู้เลยว่า ความน่ารักน่าเอ็นดูของตัวเองที่แสดงออกกับเพื่อนมันดันสร้างความประทับใจ และอยู่ในสายตาคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามจนไม่สามารถวางสายตาไปจากคนตากลมที่มีแววตาและสีหน้าเปลี่ยนไปตามความรู้สึก ริมฝีปากตอนพูดตอนจา ละสายตาไม่ได้เลย..




❤ 30 เปอร์เซนต์ (%)


----

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2020 01:50:20 โดย pimpipam_s »

ออฟไลน์ pimpipam_s

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
มาต่อค่ะ


“ ถ่ายรูปกันมั๊ยครับ? ”

“ เป็นความคิดที่ดีเลยค่ะ แยมจะเอาไปลงไอจีแล้วแท็กทุกคนเลย ”

          แยมยิ้มหวานให้กับพี่ปังที่เสนอความคิดเห็นในหัวข้อ หาอะไรทำดีระหว่างที่เรากำลังรอของหวานที่เพิ่งสั่งไป


“ งั้นเดียวพี่ถ่ายให้ครับ ”  คุณฎียิ้มอาสาพร้อมยื่นมือไปรับโทรศัพท์ของแยม

“ พี่ฎีนี่ หล่อแล้วยังใจดีเหมือนเดิม ” แยมยกนิ้วให้ ทุกคนก็ยิ้มชื่นชมจนผักกาดนึกหมั่นไส้ ยังจำได้เลยว่าคนใจดีที่ว่าเนี่ย เคยยืนหัวเราะเขาตอนที่เขาหกล้ม คุณฎีทำเป็นใจดีกับทุกคน ยกเว้นเขานะสิ


กวนจะตายเหอะ

อุ๊บ!

เชี่ย เผลอลั่น

          ผักกาดเม้มปากแน่นหลังจากหลุดปากพูดเสียงที่มีขึ้นมาในความคิดดังเกินไป ทำให้เพื่อนทั้งสองของเขาตาโตรีบหันมาเรียกชื่ออย่างห้ามไม่ทัน

“ ไอ้กาดดด/มึงงงง ”

ได้ยินนะครับ

          แต่ก็นั้นแหละ ไม่ทันแล้ว เพราะคุณฎีที่ตอนแรกกำลังจะลุกขึ้นไปถ่ายรูปให้ กลับเปลี่ยนใจนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม และกอดอกมองมาที่ผักกาด



“ ดะ..ได้ยินว่าอะไรครับ ” ผักกาดพูดเสียงเบาและหลบสายตาในตอนแรก “ ผมไม่ได้ว่าคุณฎีว่ากวนสักหน่อยนะ ” ก่อนคิดได้ว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไร แค่แสดงแสดงความคิดเห็น เลยเงยหน้าส่งสายตาที่คิดว่าท้าทายสุดๆ ไปให้คนด้านหน้า ไม่ได้กลัวใครอยู่แล้ว

เสียงสั่นเพราะหนาว อืม


“ ….. ”

          แล้วก็ไม่พูดอีกแล้ว มอง มองอยู่นั้น

          คิดว่ามองมาแล้วไม่กล้ามองกลับหรือไง

          ผักกาดหน้างอ กอดอกพิงเก้าอี้ในท่าเดียวกัน แต่เบนสายตาไปมองทางอื่น

“ อะไรเล่า ไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ ”

          ซึ่งทางอื่นที่ว่าก็คือทางแยมกับวาวา เพื่อนของเขาที่จ้องอยู่กำลังทำสีหน้าคิดหนัก โดยเฉพาะแยมที่เคยพยายามจับคู่ผักกาดกับคุณฎีมาโดยตลอด แต่เพราะทั้งคู่ไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน แถมยังเถียงกันตลอด แต่บางทีก็เหมือนมีแค่เพื่อนตากลมที่เถียงพี่ฎีอยู่ฝ่ายเดียวมากกว่า

          บางทีคนสวยก็ถอดใจ ย้ำ แค่บางที

“ พี่ก็ไม่ได้พูดว่าพี่ได้ยินเสียงจากผักกาดหนิครับ พี่ได้ยินเสียงจากแมลงวันน่ะ ”

“ ….. ”   นี่.. เขาว่าผักกาดเป็นแมลงวันงั้นหรอ

          เอาจริงนะ มีใครเห็นหรือยังว่าคุณฎีอะกวนผักกาดอยู่เนี่ย

“ แล้วพี่ก็เพิ่งได้ยินชัดๆ นี่แหละครับว่าเราพูดอะไร กวนหรอ? แล้วเราว่าใครกวนล่ะครับ ”

          เซ็ง อยู่ดีๆในหัวก็มีคำนี้ขึ้นมา ทำไมผักกาดต้องรู้สึกเหมือนโดนจับผิด เหมือนโดนจับเข้าจนมุมด้วย

          ...อายชะมัด อายได้แต่แพ้ไม่ได้

“ ว่าพี่กวนเราหรอ ”

   ก็เออน่ะสิ!


“ ผม ว่าไอ้แยม ”

   หึย ผักกาดฝากไว้ก่อนแล้วกัน

“ อ้าวๆ กูไปกวนตอนไหน กูไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์ของมึงนาา ” แยมว่าแล้วลุกขึ้นผลักหัวผักกาดเบาๆ อย่างไม่เข้าข้าง จนคนตากลมหน้างอกว่าเดิม รีบปัดๆ ผมที่เสียทรงจากการโดนผลักหัวเมื่อกี้ลง

“ ..นี่มึงเพื่อนกูนะ ”

“ แต่กูทีมพี่ฎี ยูโน่ว? ”

“ เออ กูว่าตัวเอง กูว่าตัวเองๆ จบม่ะ ”

“ จบ ”

“ หึ ” ไม่ต้องหันไปมอง ผักกาดก็รู้ว่าไอเสียงพ่นลมหายใจกวนๆ แบบนี้เป็นของใคร

          จบ ทุกอย่างจบ ครั้งนี้เขาแพ้อีกแล้ว ดูก็รู้ว่าทุกคนนะเข้าไปอยู่ในทีมคุณฎีไปกันหมดแล้ว


“ ใจเย็นๆ นะครับทุกคน เอางี้ๆ เดี๋ยวเราถ่ายรูปกันก่อนเนาะ ” พี่ปังยกมือขึ้นสองข้างเพื่อห้ามทัพ มองหน้าผักกาดและบอกให้ใจเย็นลง

          ความจริงผักกาดใจเย็นนะ ไม่ใช่คนโกรธง่าย ไม่ใช่คนหัวร้อน จริงจริ๊งง

“ ดีเลยค่ะ ”

“ ไอ้ฎีมึงน่ะ ลุกไปถ่าย ”





แชะ!

แชะ!

“ นี่ครับ ”

          คุณฎีรดลกดชัตเตอร์ถ่ายรูปให้พวกเราที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารอย่างชำนาญและรู้มุม ผักกาดจำได้ดี เพราะเมื่อก่อนเหตุการณ์แบบนี้มันเคยเกิดขึ้นบ่อย ๆ

“ อย่าเพิ่งค่ะพี่ฎี แยมว่าเราเซลฟี่ด้วยดีมั๊ยค่ะ พี่ฎีจะได้เข้ากล้องด้วยกัน ”

“ ไม่เป็นไรหรอกครับ ”

“ ไม่ได้ค่ะ ครั้งนี้แยมอยากมีรูปกับทุกคนนะ กี่ครั้งๆ พี่ฎีก็ไม่ค่อยยอมเข้ากล้องด้วยเท่าไร ครั้งนี้ขออีกสักครั้งนะคะ”

“ ถ่ายด้วยกันมึง ” พี่ปังเพยิกพยักหน้าขอร้องคุณฎีช่วยกันกับแยม เพียงไม่นานคุณฎีก็ตกลง สมกับเป็นพ่อคนดีของทุกคน

“ ก็ได้ครับ ให้พี่ถือกล้องใช่มั๊ย? ”

“ ใช่ค่ะ ”

“ มา ” คุณฎีกดปรับและเปลี่ยนกล้องหลังเป็นกล้องหน้า แล้วขยับมายืนใกล้กับทุกคนที่กำลังยืนจากเก้าอี้จัดมุมให้ตัวเองดูดีที่สุด ต่างจากผักกาดที่แทบไม่เห็นหัวตัวเองในกล้องเลย

แชะ!

“ ไอ้แยม วาวา มึงบังกูอะ ”

          ผักกาดโวยวายใส่แยมและวาวา เนื่องจากเขาอยู่ข้างในสุด ภาพที่ได้คือคุณฎีถือกล้องยืนอมยิ้มอยู่หน้าสุด มีแยม พี่ปัง วาวาอยู่หลังคุณฎี ซึ่งทั้งสามคนบังผักกาดที่อยู่หลังสุดอีกทีจนเห็นแค่เส้นผม

“ มึงลุกยัง พวกกูลุกกันหมดแล้วเนี่ย ”

“ ลุกแล้ว ก็มึงบังอะโธ่ -o- ”

“ มึงเตี้ยไง แล้วเนี่ยยังไปยืนอยู่ในสุดอีก ออกมานี่ ”

          ว่าไม่ทันจบ แยมก็รีบเอื้อมตัวไปดึงผักกาดที่ถอดใจนั่งลงให้ลุกยืนขึ้นอีกครั้ง และดันหลังเขาให้เดินมายืนข้างคุณฎีที่กำลังถือกล้องรออยู่

แชะ!

“ ไม่เอามึง ”

   ไม่ยืนข้างคุณฎีนะ

“ ไม่เอาได้ยังไง เนี่ยเห็นมึงแล้ว หน้าชัดสุดๆ ยิ้มเร็วยิ้ม ”

          กลายเป็นว่าภาพที่ปรากฎในกล้องตอนนี้คือ คุณฎีรดลถือกล้องอมยิ้มอยู่หน้าสุดโดยมีผักกาดยืนหน้างงอยู่ข้างๆ ส่วยแยม พี่ปัง และวาวายิ้มแย้มเฮฮาอยู่ด้านหลัง

“ ยิ้มๆ มึงยิ้มเก่งจะตายไอ้กาด ”

“ ไม่ยิ้ม ” แม้จะพูดปฏิเสธว่าไม่ แต่ผักกาดก็ยอมยิงฟันสวยให้กล้องแต่โดยดี

แชะ!


“ นั่นๆ มึงกำลังบังกูอะ แกล้งกูหรอ ”

          แยมที่อยู่ตรงกลางด้านหลัง โวยวายบ้างเมื่อถูกผักกาดที่อยู่ข้างหน้ายืดตัวไปบังตัวเองอยู่เหมือนกับตั้งใจแกล้ง จนผักกาดหัวเราะออกมาอย่างชอบใจที่เพื่อนสาวหัวเสีย

“ ไม่ได้แกล้ง จริงๆ ”

“ งั้นขยับหน่อยสิ ” ผักกาดได้ยินแยมบอกอย่างนั้นก็ยอมขยับไปซ้ายแต่โดยดี

“ ไม่ใช่โว๊ย ขยับไปทางขวาสิ ”


“ จิ! ไม่เอา ” ผักกาดส่ายหน้า ถ้าเขาขยับขวา เขาก็ยิ่งจะเข้าไปใกล้คุณฎีอะดิ ไม่เอาหรอก

“ ก็ยิ่งขยับซ้ายมึงยิ่งบังกูอะ เร็วเลยๆ มึงอย่ามาทำเป็นยึกยัก ขยับไปติดพี่ฎีเลย เร็ว ” แยมรีบดันตัวผักกาดให้ขยับไปทางขวาจนตัวผักกาดเซไปชนคุณฎี ก่อนจะรับเด้งตัวออก แยมชอบใจพร้อมกับเสียงหัวเราะคิก จนเขาอดไม่ได้หันไปด่าแบบไม่ออกเสียง

“ ไอ เพื่อน เลว ”

          นี่ไง อันนี้ต้องแผนที่มันคิดมาแล้ว หนึ่งในแผนที่แยมมันตั้งใจจะประเคนผักกาดใส่พานให้คุณฎีอีกแผนหนึ่งแน่

“ กลัวอะไรครับ พี่ไม่ทำอะไรหรอกนะ ”

“ ไม่ได้กลัว ”

“ งั้นก็ขยับมาสิครับ ” คุณฎียิ้มมุมปาก ด้วยสีหน้าแบบนี้อีกแล้ว

“ ไอ้กาด จะได้ถ่ายมั๊ยรูปเนี่ย พี่ฎีถือกล้องจนแขนล้าแล้วมั๊ง เพราะมึงเลยนะ ”

          ก็ใช่ ตั้งแต่เขาเถียงเรื่องย้ายมาข้างหน้า ขยับซ้ายขยับขวา คุณฎีก็ยังคงถือกล้องโทรศัพท์ค้างไว้แบบนั้นมาตั้งนานแล้ว แต่เจ้าตัวยังไม่บ่นเลยสักคำ มีแต่ผักกาดนี่แหละที่เรื่องมากเอง

“ เออ ก็ได้ ขยับก็ได้ ”

“ ยิ้มด้วย ยิ้มด้วย ”



หนึ่ง สอง สาม!



แชะ!



แชะ!



แชะ!



.
.
.
.

“ อูย พี่ฎีถ่ายได้สวยทุกรูปเลยค่ะ ”

          พอถ่ายรูปเกือบสิบๆ รูปเสร็จ ก็ต้องแยกย้ายแบบอายๆ กลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมของแต่ละคน

          ถ้าถามว่าทำไมอาย

          ก็คนเต็มร้าน ไม่ได้มีแค่พวกเรา จะไม่ให้อายได้ยังไงล่ะครับ ตอนแรกกะถ่ายสองสามรูปก็น่าจะพอ แต่ไอ้แยมดันไม่ยอม อยากได้หลายๆรูปเพื่อหาสามรูปที่ดีที่สุด บอกเลยว่าเป็นผู้ชายมาเซลฟี่ต่อหน้าลูกค้าในร้านคนอื่นๆ ก็ต้องมีอายกันบ้างแหละครับ

“ สวยๆ แสงรูปนี้สวย ”

          จะว่าไปพอถ่ายเสร็จ ไอ้แยมที่ดูรูปกับวาวาและพี่ปังก็ชื่นชมการถ่ายรูปของคุณฎีไม่หยุด มันจะอะไรขนาดนั้นกัน

“ รูปนี้ทุกคนดูดีหมดเลย ยกเว้นผักกาดอะนะ ”

“ ฮะ ไหน เอามาดูดิ! ”

          คนโดนกล่าวชื่อสะดุ้ง เรื่องความกังวลว่าตัวเองจะดูไม่ดีก็ต้องมีบ้างป่ะ

          พอรู้ตัวนะว่ารูปแรกๆ เขาไม่ค่อยเต็มใจเท่าไร แต่พอถ่ายไปๆ ยื่นหน้าเข้ากล้องปุ๊บผักกาดมักจะมีฟิลลิ่งบางอย่างออกมาเองแบบไม่ต้องตั้งใจมาก อย่างยิ้มอย่างหัวเราะ โพสท่านู้นท่านี้ง่ายๆ อย่างสนุก ก็ผักกาดอะชอบถ่ายรูปอยู่พอตัวเลยนี่หน่า

“ ไม่ให้ รูปอะมันเป็นธรรมชาติของมึง ดีแล้ว ”

“ เอามา ”

“ ไม่ให้ แบร่ :p เก็บแล้ว รอไปกดไลค์ในไอจีตอนกูลงนู้น ”

“ ไอ้แยมอ่า ”

“ เออ กูล้อเล่น มึงน่ารักแหละหน่า ”

“ อย่ามาบอกว่ากูน่ารักนะ ”

“ ทำไมเล่า ก็มึงน่ารักๆ ”

“ กูไม่ได้น่ารัก ”

“ เพื่อนรักกกก มึงน่ารักจ้ะ ”

“ จิ! ”





----

.
.

“ กลับแล้วนะ ”

“ อาฮ่ะ บาย เดินทางดีๆนะ มึง ”

“ ต้องไปงานแต่งกูด้วยนะ ”

“ ไปอยู่แล้ว ”

“ พาแฟนมึงมาด้วย ”

“ บ้า ไม่มีแฟนโว้ย ”

          ผักกาดโวย ส่วนวาวาแค่ส่ายหน้าให้กับแยม ก่อนที่เขา วาวา และแยมบอกลากันเพื่อแยกย้ายกันจริงๆจังอีกครั้ง ไว้เจอกันใหม่ คือคำสุดท้ายก่อนเพื่อนจะหันหลังเดินออกไป เพราะตอนนี้แยมยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องเคลียร์จึงต้องกลับไปญี่ปุ่น กลับมาอีกรอบก็ตอนเตรียมตัวแต่งงาน และไม่พ้นที่เขาและวาวาต้องไปช่วยเจ้าสาวมือใหม่แน่ๆ ถ้าได้ฤกษ์คงต้องเคลียร์คิวไว้เลย




“ กลับยังไง ”

          ผักกาดหันไปมองตามเสียงของคนถาม หลังจากแยกย้ายกับเพื่อน พบว่าตอนนี้เหลือเขา และ คุณฎี ที่ยังยืนอยู่ตรงนี้ ไม่เดินไปไหน

          ทำไมยังไม่กลับ

“ ผมขับรถมาครับ คุณรออะไรอะ? ”

“ ….. ”

“ ผมหมายถึง คุณฎีไม่กลับหรอ? ”

“ พี่รอเรา ” เขาชี้ผักกาด

“ รอผมเนี่ยนะ ” ผักกาดชี้ตัวเอง “ รอทำไม? ”



“ ไปส่งพี่หน่อย ได้มั๊ยครับ ”

“ หะ? ” ผักกาดทำหน้างง ผิดกับอีกคนที่ดูไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่คิดหรือไงว่าเอ่ยขอกันง่ายไป ใครจะไปส่งคุณกัน


“ …….”

          อ้าว ไม่พูดอะไรต่อล่ะ จะมองหน้าเขาเงียบๆ ทำไม



“ แล้วรถคุณฎีล่ะ ” เป็นผักกาดไม่ชอบบรรยากาศที่ดูเงียบเกินไป เลยเอ่ยถามก่อน

“ จอดอยู่บริษัทครับ ”

“ ละ..แล้วคุณมายังไง ”

“ ผู้ช่วยมาส่ง ”

“ ก็ไหนบอกว่า.. ไปส่งพี่รดามาอะครับ? ” ผักกาดถามย้ำอีกรอบ นึกประโยคที่คุณฎีตอบแยมได้อยู่เลย

‘พี่ต้องแวะไปรับและส่งรดาเขากลับบ้านน่ะ ค่อยตามมาเจอผักกาดทีหลัง’



“ พี่ก็ไปส่งรดาที่บ้าน แล้วแวะเข้าไปบริษัทอีกรอบ ตอนออกมาก็เลยให้ผู้ช่วยมาส่งไงครับ ”

“ อ่อ แล้ว.. ”

          นี่ผักกาดต้องไปส่งเขาจริงหรอ

“ ไปส่งพี่หน่อยนะครับ ”

“ คุณรู้ตัวหรือเปล่าเนี่ย ” ผักกาดถามอย่างทำตัวไม่ถูก ถ้าไม่ติดว่ายั้งมือไว้ก่อนคงได้เอื้อมไปแตะหน้าผากคุณฎีแล้ว

“ รู้สิครับ แล้วพี่ก็สบายดีด้วย”

“ รู้จริงหรอ ผมว่าวันนี้คุณแปลกๆ ไม่ใช่สิตอนนี้เลย แปลกสุดๆ ”

          เจอกันตอนกลางวันไม่แปลกขนาดนี้ บอกตรงๆ

“ พี่คิดไปคิดมา เลยอยากถามผักกาดว่าเราไม่เบื่อหรือไงที่ชอบชวนพี่ทะเลาะ ” คนตัวโตยืนอมยิ้มรับเหมือนรู้อยู่แล้วว่าผักกาดจะพูดอะไรต่อ

“ ผมเนี่ยนะ ชวนคุณทะเลาะ ”

“ ใช่ จะว่าเราทั้งคู่ชวนกันทะเลาะก็ได้ ”

“ ไม่ใช่ผมสักหน่อย แค่คุณ.. ” ผักกาดเถียงเสียงเบาเหมือนไม่ค่อยมั่นใจ

“ หึๆ พี่เลยอยากจะชวนให้เราลองมาทะเลาะกัน ..น้อยลง ”

“ คะ..ความจริงเราก็ไม่ได้ทะเลาะขนาดนั้นสักหน่อย หรือคุณต้องการอะไร ” เป็นผักกาดที่เริ่มเป๋ มองคุณฎีอย่างไม่เข้าใจ

“ ไปส่งพี่หน่อยนะครับ เดี๋ยวพี่ขับให้ ”

          ผักกาดมองคนที่เริ่มขอร้องเขาผ่านทางสายตาที่คาดหวัง บ้าา คุณฎีจะมาคาดหวังอะไรจากเขากัน ก็แค่ขอร้องให้ไปส่งเพราะไม่มีรถกลับ แล้วอีกอย่างฝ่ายนั้นอาจคิดว่าเขาเป็นคนใจดี ต้องไปส่งแน่

          แต่ถ้าเขาอยากจะปฏิเสธจริงๆ ก็คง..ไม่เป็นไรหรอก

“ นะ ”

-o-

“ ผมไปส่งก็ได้ ให้ผมไปส่งที่บริษัทใช่มั๊ย? "

          ผักกาดเม้มปากหลังตอบออกไป ปากมันตรงกับใจเกินไปตรงที่ว่า ยอมไปส่งก็ได้ แล้วไหนว่าจะปฏิเสธไงว่ะ ผักกาด

“ ใช่ครับ ”

          ส่วนคนที่เหมือนส่งสายตาคาดหวัง ก็ตอบซะเร็วจริงเชียวล่ะ


“ แต่..เดี๋ยวผมขับเองนะ ”

          ไม่ได้อะไรสักหน่อย ยอมไปส่งก็เพราะ..ทางนั้นเป็นอีกทางผ่านหนึ่งที่จะไปหอพักของผักกาดเองอะ

“ ครับ พี่ขับให้นะ ”

“ ผมขอคิดดูก่อน ”

          ผักกาดพูดจบแล้วก็เดินนำคุณฎีทันที โดยมีจุดหมายที่ลานจอดรถชั้น 2

          ก็ไม่รู้ว่าเมื่อกี้ก่อนจะหันหลังเดินนำออกมา ตาของผักกาดมันฝาดไปหรือเปล่าที่เห็นคุณฎียิ้มกว้างขนาดนั้น







          ไม่ฝาดหรอก เพราะนอกจากฎีรดลจะยิ้มกว้าง ลับหลังเขาไปแล้ว ฎีรดลทำมากกว่าที่ผักกาดเห็นอีก


เยส!



❤ 70 เปอร์เซนต์ (%)





-----

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2020 02:25:50 โดย pimpipam_s »

ออฟไลน์ pimpipam_s

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ต่อ



.
.
.

“ เอากุญแจรถมาเถอะ เดี๋ยวพี่ขับเอง ”

          คุณฎียื่นมือมาขอกุญแจรถกับผักกาดทันทีที่ทั้งคู่เดินมาถึงรถคันเล็กๆ สีขาว ที่ช่างน่ารักเหมาะกับเจ้าของ

“ พี่ขับรถไม่น่ากลัวหรอก ให้พี่ขับเถอะครับ ”

          คิดว่าจะลองเชื่อใจดูดีมั๊ย

          ผักกาดทำท่าคิดหนัก เขาไม่ไว้ใจใครสักคนเวลาขับรถนอกจากตัวเขาเองเลย เขาจึงคิดแล้วคิดอีก แม้ว่าสุดท้ายจะยอมยื่นกุญแจรถที่ห้อยตุ๊กตาหุ่นไม้ตัวเล็กให้คุณฎีไปแล้ว ตามที่อีกฝ่ายบอก


.
.
.

“ โอเคใช่มั๊ย ”

“ ครับ? ”

“ พี่ขับรถ โอเคใช่มั๊ยครับ? ”

          ลองดูแล้ว.. ก็ไม่ได้แย่เลยสักนิด

“ ครับ ” ตอบแค่นั้นพร้อมกับพยักหน้า


“ วันนี้ที่น้องแยมบอกคงตกใจมากสินะ ”

“ อ๋อ เรื่องแต่งงานน่ะหรอครับ ”

          เมื่อรถเริ่มเคลื่อนตัวมาได้สักพัก ผักกาดไม่ต้องการให้บรรยากาศในรถมันเงียบเกินไป จึงเอื้อมมือมาบลูทูธของรถกดให้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ เพื่อเปิดเพลงที่อยู่ในเพลย์ลิสต์โปรด เป็นจังหวะเดียวกันที่คุณฎีเอ่ยถามเขาขึ้นมา

“ ใช่ ”

“ ก็ไม่คาดฝันมาก่อนเลยครับ อึ้งเลยอย่างที่เห็น ” ผักกาดพูดแล้วอมยิ้ม

“ ความจริงพี่เตรียมยาดมไว้ เพราะกลัวเราช็อคไปก่อน ”

          หาา ยาดมเนี่ยนะ?

“ จริงๆ นะ พี่เตรียมไว้เผื่อเราเป็นลม ”

“ เวอร์น่า..คุณฎี ผมดูตกใจมากหรือไงเล่า ”

“ หึ ”

          ผักกาดเหร่สายตามามองคนที่นั่งฝั่งคนขับอย่างเคืองๆ  เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะในลำคออย่างพอออกพอใจ

          นี่จะเยาะเย้ยเขาหรือไง ท่าทีที่เขาตกใจมันน่าตลกตรงไหน


“ ก็ใช่! ผมตกใจมาก แทบเป็นลม ”

          การยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น ก็ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้น่าภูมิใจหนักหรอกหนาา


“ แยมมันเป็นเพื่อน แต่บางทีก็เหมือนลูกสาวของผม.. รู้สึกเหมือนลูกกำลังมาบอกว่าจะแต่งงาน ไม่อยากคิดว่าพ่อจริงๆของไอ้แยมจะอาการเป็นยังไง ” ผักกาดเล่าเสียงเบา นึกขำตัวเอง

          ไม่ได้ต้องการให้มีคนรับฟังหรอก แต่คุณฎีดันมานั่งอยู่ในรถของเขาเองนี่หน่า

“ อ่ะ พี่ให้ ”

          ผักกาดมองหลอดยาดมสีขาวๆ ที่คุณฎียื่นมาให้กับตน หลังจากหยิบออกจากกระเป๋าเสื้อ

“ ขะ..ขอบคุณ ครับ ”


          รับไว้ก็ไม่เสียหาย


          ก็คุณเขาบอกว่าเตรียมไว้ให้เรา


สูดดดดด~

          ดมซักเฮือกสองเฮือกก่อนเก็บใส่กระเป๋าหน่อยก็แล้วกัน



“ เชื่อใจไอ้ปังนะ มันไม่ทำแยมเสียใจหรอก ”

“ ครับ ผมเชื่อ ” ผักกาดหันไปตอบคุณฎีที่เอ่ยประโยคนั้นขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

          คุณฎีคงมั่นใจในความดีของเพื่อนอย่างพี่ปัง ไม่ต่างจากที่ผักกาดเชื่อในความมั่นคงและเต็มไปด้วยความรักของแยม

“ แล้ว..วันนี้คุณฎีไม่ตกใจหรอครับที่พี่ปังบอกว่าจะแต่งงานกับไอ้แยม ”

“ ไม่หรอกครับ ความจริงพี่รู้มาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะมันบอกพี่เองว่าจะขอน้องแยมแต่งงานที่ญี่ปุ่น”

“ รู้อยู่แล้วนี่เอง ”




“ เอ่อ.. ”

“ ครับ? ” ผักกาดมองเล็กน้อย เมื่อสังเกตมาสักพักเหมือนว่าคุณฎีจะพูดอะไรออกมา แต่ไม่พูดสักทีเอาแต่พึมพำในลำคอ


“ ช่วงนี้งานยุ่งมากมั๊ย? ”

          อ๋อ สงสัยจะวกเข้าเรื่องคิวท์เหมือนเดิมสินะ


“ ตารางงานของคิวท์ค่อนข้างแน่นเลยครับ ”

" …… "


          เอ้า เงียบไปซะงั้น

          ถ้าคุณเงียบ ผมก็จะเงียบ ลองมาดูกันว่าใครจะทนไม่ไหวพูดออกมาก่อนกัน



.
.
          ระหว่างที่ทุกอย่างเงียบลง รถทั้งคันมีเพียงเสียงเพลง เสียงฮัมเพลงตามเพลงในเพลย์ลิสต์ที่เปิดไปเรื่อยๆ และลมหายใจของผักกาด จะว่าไปนี่เป็นเพลงโปรดของเขาหรือของคุณฎีกันแน่ เพราะฝ่ายนั้นเหมือนจะรู้จักทุกเพลงเลย ร้องตามทุกเพลง

          แหนะ! มีการเคาะนิ้วตามจังหวะที่พวงมาลัยด้วย

“ คุณชอบหรอครับ ”

          ผักกาด อดถามไม่ได้ สรุปสุดท้ายเขาก็เป็นคนพูดขึ้นมาก่อน

“ ? ”

          คนถูกถามก็ทำสีหน้างง ทั้งยังมีคำถามกลับออกมาอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่จะเผยยิ้มมุมปากแบบที่ผักกาดเคยไม่ชอบ

          เออคุณ! จะงงหรือจะยิ้ม เอาให้แน่นะ


“ หมายถึงชอบอะไรหรือครับ? ”

          สงสัยคำถามของเราไม่เคลียร์เองล่ะมั๊ง ถึงถูกมองหน้าแบบนี้

“ ชอบลิสต์เพลงที่กำลังเปิดอยู่มั๊ย ผมเห็นคุณฎีร้องได้ทุกเพลง ”

“ ได้ยินหรอครับ? ”

“ ได้ยินสิครับ คุณฮึมฮัมๆ แต่มันก็เป็นเสียงร้องนะ ผมจำได้นะ คุณฎีร้องเพลงเก่ง ”

“ จำได้หรอครับ? ”

“ จำได้สิครับ ก็ตอนนั้นเคยได้ยิน ”

“ ตอนไหนหรอครับ? ”

“ ตอนที่อยู่มหาวิทยาลัย ผมเคยไปฟังกลุ่มคุณเล่นดนตรีบ่อยๆกับไอ้แยมไงครับ เสียงคุณเพราะนะ ”

“ แล้วตอนนี้ล่ะครับ ”

“ ตอนนี้ก็..ก็ยังเพราะนะครับ ”

“ …. ”

          คุณฎีไม่ได้ตอบอะไรต่อ เขาแค่พยักหน้าน้อยๆ และยิ้มออกมา ซึ่งดูอารมณ์ดีมากจนผักกาดแอบหมั่นไส้ จะว่าไปรอยยิ้มเมื่อกี้ที่มีออกมาก็ไม่ได้ยิ้มกวน แถมยังดูดีจนที่ผักกาดเผลอยิ้มตาม

          เดี๋ยวนะ ยิ้มตามเนี่ยนะ

          บ้าา เราไม่ได้ยิ้ม

          ..สักนิด

“ รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังชมพี่ ”

“ ผมเปล่าชมสักหน่อย ”

“ ก็ชมเมื่อกี้ ”

“ เปล่าชมนะ ”

“ ครับๆ ไม่ชมก็ไม่ชม แต่พี่ดีใจนะ ”

“ กะ..ก็ถ้าคิดว่ามันเป็นคำชม ก็แล้วแต่คุณฎีเลยแล้วกัน ”

“ งั้นพี่คิดนะครับ ”

“ ก็แล้วแต่คุณไงครับ ..เออ ตกลงผมถามคุณหรือคุณถามผมก่อนกันแน่ ไม่เห็นจะได้คำตอบเลย ”



          แล้วเมื่อกี้เหมือนจำได้ว่าผักกาดถามคุณเขาก่อน แต่กลายเป็นว่าถูกถามกลับซะงั้น ผักกาดน่ะ ยังไม่ได้คำตอบเลยว่าคุณฎีชอบเพลงในเพลย์ลิสต์นี่มั๊ย


“ พี่ก็ชอบนะ ”

เพลงอะหรอ?


“ ชอบทั้งหมด ”

หมายถึงเพลงทั้งหมด?


“ ทั้งหมดในรถคันนี้เลย ”

เอ๋ เขาถามแค่เรื่องเพลงนะ ทั้งหมดนี่คืออะไรบ้างอะ




เดี๋ยวนะ!!

“ นี่คุณฏี ตอนนี้คุณขับเลยบริษัทคุณมาแล้วนะครับ ”

“ สงสัยคุยเพลินน่ะครับ ”


หะ! พูดว่าคุยเพลินเนี่ยนะ แค่นี้?

          ระหว่างที่ผักกาดกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เมื่อฟังคำตอบของคุณฎี 'ทั้งหมดในรถ' นี่เขาชอบอะไรกัน ไม่เห็นมีอะไรที่น่าชอบเลยในรถกระจอกกระจ๋อยของผักกาดอะ แต่ตอนนี้พักเรื่องนั้นก่อน เพราะคุณฎีเล่นขับรถเลนใน แถมขับรถเลยบริษัทตัวเองเหมือนกับตั้งใจจะไม่จอด

“ คุณไม่จอดหรอครับ วนรถกลับก็ได้นะ ”

“ ไม่เป็นไรครับ ”

“ ได้ไงล่ะครับ แล้วนี่คุณฎีจะขับไปไหนเนี่ย? ”

“ เดี๋ยวพี่ไปส่งที่หอ ”

“ เฮ้ย แต่คุณให้ผมมาส่งคุณนะ ”

“ พี่รู้ ”

“ นี่รถผมนะ ..อย่าบอกนะครับว่าที่บอกว่าชอบรถผมเลยจะขโมยน่ะ ”

“ คิดอย่างนั้นหรอครับ คนเรา ” คุณฎีรดลหันมายิ้มขำ จนทำให้ผักกาดที่เป็นคนถามได้สติคืนมา

          บ้าแล้ว โชว์โง่อีกแล้ว คุณฎีเขารวยกว่าผักกาดจะตาย จะมาขโมยรถน้อยๆของเขาเผื่ออะไรกัน

“ ไม่ได้คิดจะขโมย แล้วจะทำอะไรอะครับ ”

“ พี่บอกไปแล้ว จะไปส่งที่หอไงครับ ”

“ จะไปส่งที่หอผมได้ยังไงกัน ”

“ ก็นี่ไง พี่กำลังทำอยู่ ”

          คนพูดพูดออกมาหน้าซื่อๆ พูดได้ง่ายๆ จนผักกาดเผลอตบแปะเข้าหน้าผากของตัวเอง คุณฎีหัวเราะก่อนหันกลับไปมองทางถนนด้านหน้า พร้อมหมุนพวงมาลัยเลี้ยวขวา นี่มันทางไปหอพักเขาชัดๆ

“ คุณฎีแป๊บหนึ่งนะครับ ผมหมายถึงถ้าคุณไปส่งผม แล้ว..คุณจะกลับยังไง ”

“ พี่นั่งแท็กซี่กลับก็ได้ ”

“ แล้วทำไมเมื่อกี้.. ” ไม่จอดเล่าาา


“ พี่แค่อยากไปส่งไงครับ ”


          คุณเขาเบลอป่ะ เขาพูดอะไรของเขาอีกเนี่ย


“ งั้นแสดงว่าตั้งใจไม่จอดหรอ ”

“ เก่งมาก รู้แล้วใช่มั๊ยว่าพี่ตั้งใจจริงๆครับ ”

“ อย่าเพิ่งพูดกวนกันสิครับ ”

“ ไม่ได้กวน จริงๆนะ เดี๋ยวเดือนหน้าพี่จะไม่ว่างพอที่จะไปเจอแล้ว ”

          เดือนหน้า หมายถึงทั้งเดือนเลยหรอ

“ ทั้งเดือนเลยครับ ที่พี่จะไม่อยู่ไทย แล้วก็ไม่ได้ไปกอง ”

“ กะ..ก็ดีแล้วครับ ห่างๆ จากคิวท์ไว้บ้างแบบที่ผมบอก คุณฎีจะได้ไม่ต้องเสียใจมาก ” ผักกาดพูดพร้อมกับเหร่สายตาไปมองคุณฎีเป็นระยะๆ

" เฮ้อ เรานี่นะ "

          อ้าว ..ผมหันขวับไปมองคนที่ถอนหายใจเหมือนเหนื่อยหน่ายกับอะไรมากๆ แต่ก็ยังตั้งใจขับรถต่อไป คนที่ต้องถอนหายใจมันควรเป็นไอ้ผักกาดคนนี้มั๊ยเล่า

          หรือ เขาเป็นอะไรไปอีกอะ หายใจทางจมูกไม่ออกหรือไง


“ ไม่ต้องทำหน้าตลกขนาดนั้น มองขนาดนี้ หรือว่ากลัวพี่เป็นอะไร ” ฎีรดลมองหน้าคนที่คิ้วขมวดเป็นปม

“ มองที่ไหน ผมไม่ได้มองคุณ ” ว่าแล้วก็หันหน้าหนีทันที

“ ขอไม่เชื่อนะครับ เห็นๆ กันอยู่น่ะ ”

          เหอะ ใครๆ ก็เคยบอกว่าพี่ฎี บริหาร ขึ้นชื่อเรื่องหน้าตาดี และความใจดี แต่ใครจะรู้ว่าจริงๆแล้วเขาคนเนี่ย โคตรจะกวนตีน แถมหลงตัวเองด้วย

.
.

“ ผักกาดครับ ”

“ อะไรอีกอะครับ คุณฎี หืออ? ”  -.-


“ ที่บอกว่าโสด ทำไม..ถึงยังโสดล่ะ ”

O.O

“ ครับ? ”

“ คิดซะว่าพี่ถามเพราะหาเรื่องคุยแล้วกันนะ ”

          หาเรื่องคุย โดยเน้นคุยเรื่องของเราเนี่ยนะะ


“ ก็เห็นบอกทุกคนว่าไม่มีแฟน เห็นบอกว่าอยากเป็นโสด ”

“ โสดเพราะว่าไม่มีแฟนไงครับ ”

“ แล้วทำไมไม่มีล่ะ ” คุณฎีถามย้ำอย่างไม่ยอมแพ้

          เหอะ! ทีคุณฎียังตอบกวนผักกาดได้เลย แล้วทำไมผักกาดตอบกวนๆ กลับบ้างไม่ได้

    อยากรู้มากหรือไงกัน

“ พี่อยากรู้ ”


“ ก็ผม..ยังไม่มี ไม่มีคนทำให้รู้สึกเขิน หรือหัวใจเต้นแรงเลยนิหน่า ”

          ผักกาดเม้มริมฝีปากเข้าหากัน เพียงอึดใจเดียวก็คลายออก ก็นั่นแหละคำตอบเค้าอะ


“ ไม่มี..จริงๆ เลยหรอครับ? ”

“ ไม่มี ” อย่าถามย้ำ อย่าถามย้ำ จะไม่ตอบแล้วนะ


“ แล้วอยากมีมั๊ยครับ ”

“ …… ” ////

          ผักกาดเผลอหันไปมองหน้าคนที่จอดรถนิ่งระหว่างติดไฟแดงอย่างจริงจังอีกครั้ง แต่ก็พบว่าเขาถูกมองอยู่ก่อนแล้ว

          ตา สบ ตา


“ ไม่อยากมีหรอครับ หรือว่ากลัวอะไร? ”

“ ……. ” คุณฎี นี่คุณถามอะไรออกมาเนี่ย


          ก็ไม่เข้าใจคุณฎีเท่าไรหรอกนะ ไม่อยากตอบอะไรไปด้วย เพราะพอถูกจ้องนานเข้า ปากมันก็พูดไม่ออก เลยทำได้เพียงแค่พยักหน้าเบาๆ แล้วเบนสายตาไปมองทางอื่นแทน

          ไม่อยากมี มันก็คือคำพูดของคนไม่มีอย่างเขาแค่นั้น

          ความจริง
          กลัวว่าจะมี เริ่มกลัวว่าจะมีบางคนจะทำได้แล้วเหมือนกัน ..ให้ตายเถอะผักกาด


.
.
.


“ ไว้เจอกันนะครับ ”

“ เออ ..ครับ ”

          ตอนนี้ถึงหน้าหอพักผักกาดแล้วเรียบร้อย ผักกาดรีบลงจากรถมาสงบจิตสงบใจก่อน แอร์ข้างในรถหนาวมากจนเขาขนหัวลุก แต่ใบหน้าทั้งใบกลับรู้สึกเห่อร้อนไปหมด

          ผักกาดไม่รู้ว่าคุณฎียังจำทางมาหอพักของเขาได้ยังไง ทั้งที่ก็ผ่านมานานมากแล้วตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยที่ตอนนั้นไอ้แยมรีบยัดเขาใส่รถคุณฎีและขอให้มาส่ง


“ รถแท็กซี่มาพอดีเลย ”

          ผักกาดที่กำลังจะเดินนำคุณฎี ออกจากประตูรั้วหอพักไปที่ริมฟุตบาทเพื่อเรียกแท็กซี่ให้คนที่บอกว่าตั้งใจมาส่ง แต่ทุกอย่างก็ต้องหยุดชะงักไปหมด

หมับ!

“ ผักกาด เดี๋ยวก่อน ”

          ผักกาดไม่รู้ว่าคุณฎีกำลังคิดอะไรอยู่ถึงเอื้อมมือมารั้งเขาไว้ ฝ่ามือเย็นๆของเขากำลังถูกคนๆนี้กำลังจับเอาไว้

          และครั้งนี้ผักกาดรู้ตัวดี รู้ว่ามือนั้นมันอุ่นมากๆ

“ คุณฎี ? ”

          อยากจะถามว่ารั้งเขาไว้ทำไม รถแท็กซี่ไปนู้นแล้วเนี่ย! เห็นมั๊ย



.
.

“ รู้มั๊ยครับว่าเราน่ะ น่ารัก ”

“ หะ.. คุณพูดอะไรเนี่ย ” O.O


“ น่ารักครับ ”

“ คุณฎี ”


“ ตอนไหนก็น่ารัก ”

“ อย่าพูดแบบนี้ กะ..กลับเถอะครับ ”


“ พี่อยากบอกไว้ว่าเราน่ารัก ”

“ ผมขอร้อง คุณกำลัง.. ” ทำให้ผม..


“ ไม่รู้ตัวหรอครับ ”

“ ...... ”

“ น่ารักที่สุดเลยครับ ”

;")


คุณฎี
.
.
.
พอแล้ว


“ ผะ..ผมขอตัวนะครับ ”

ขอเผ่นไปตั้งหลักก่อนแล้วกัน


.
.

.
บ้าหน่าา




ไม่ใช่หรอก


เต้นแรงขนาดนี้ไม่ใช่หัวใจของไอ้ผักกาดแล้วแน่ ๆ






❤ 100 เปอร์เซนต์ (%)

----------------------



1 ไลค์ 1 คอมเมนต์ = 1 กำลังใจ ❤

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ

(◜◡‾) (‾◡◝)






นักเขียน :: ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ ตอนที่ 3 แล้วเป็นยังไงกันบ้างเอ่ย



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2020 02:32:24 โดย pimpipam_s »

ออฟไลน์ Nadaii20

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai5: มาแล้ว น่ารักจังเลยค่ะ เขินดี

ออฟไลน์ funndee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พอคุณฎีเรียก "ผักกาดครับ" นี่เราคิดถึงเสียงออกแล้วเขินน้วยไปหมดเลยอะ :-[

ออฟไลน์ hunya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
นิยายฟีลกู้ดใช่มั๊ยคะ :n1:

ออฟไลน์ luklukky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
" แล้วอยากมีมั๊ยครับ "

หมายถึงอยากมีแฟน หรืออยากมีพี่ฎีมั๊ยครับ หรอคุณฎี><
:-[ :-[

ออฟไลน์ orayassa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Tawanwee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอค่า มาต่อตอนไหนน้าาา o18

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด