-- คนแปลกหน้าคือคู่ชีวิต...บทพิเศษ ไม่พิเศษ -- (อัพเดต 21/01/2021) หน้า 20
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -- คนแปลกหน้าคือคู่ชีวิต...บทพิเศษ ไม่พิเศษ -- (อัพเดต 21/01/2021) หน้า 20  (อ่าน 104617 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tassanee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พึ่งเคยเห็นรติโกรธ

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ฟังน้องก่อนนะคะรติน้องอาจมีเหตุผล

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ขุ่นพี่ฟังเหตุผลน้องก่อน.นะเจ้าคะ

ออฟไลน์ THAMON926

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
คนแปลกหน้าคือคู่ชีวิต

บทที่ 53

รู้จักรู้ใจ

---------


   รุจีอายุถึงเกณฑ์เข้าโรงเรียนแล้ว


   โรงเรียนถูกแบ่งออกเป็นโรงเรียนระดับต้นสำหรับเด็กอายุ 7-12 ปี โรงเรียนระดับกลางสำหรับเด็กอายุ 12-15 ปี และโรงเรียนระดับสูงที่รับเด็กอายุ 15 ปีขึ้นไป และศึกษาในหมวดวิชาเฉพาะทาง


   โดยปกติแล้ว โรงเรียนระดับต้นไม่เป็นที่นิยมนัก เพราะในสกุลที่มีฐานะ เด็กอายุ 7-12 ปีมักเรียนอ่านเขียนและวิชาเฉพาะของสกุลจากที่บ้าน ในขณะที่สกุลชาวบ้านทั่วไป เด็กวัยเท่านี้ก็มักจะถูกเลี้ยงดูโดยปู่ย่าตายาย พออายุเกิน 12 ปี เด็กในสกุลที่มีฐานะก็มักจะสอบเข้าเรียนในโรงเรียนระดับกลาง ส่วนเด็กจากสกุลชาวบ้านก็มักมีความรู้ไม่สู้ เด็กในกลุ่มหลังนี้จึงเข้าสู่ตลาดแรงงานแทน ในโรงเรียนระดับกลางจะเน้นสอนวิชาพื้นฐานทั่วไป และหากใครมีความสามารถทางด้านใดหรือถนัดวิชาใดเป็นพิเศษ เมื่ออายุเกิน 15 ปี ก็มักจะไปสอบเข้าโรงเรียนระดับสูงที่สอนวิชาเฉพาะทาง อย่างเช่นตรัสที่เคยคิดจะสอบเข้าเรียนในโรงเรียนแพทย์ของส่วนกลางเมื่อครั้งอายุ 15 ปี


   รุจีอายุเกิน 12 แล้ว นางมีความรู้เรื่องการเขียนอ่านเป็นอย่างดี เด็กหญิงเล่าว่าคนที่กวดขันให้นางอ่านหนังสือให้มากก็คือรติ ผลผลิตออกดอกผลก็ตอนนางเริ่มโต จึงอ่านออกเขียนได้คล่องแคล่ว หากจะสอบเข้าโรงเรียนระดับกลางก็คงมีหวังทีเดียว


   แต่ติดที่ว่า...พี่ชายผู้เคยกวดขันให้นางมีความรู้ กลับเริ่มหวงน้องขึ้นมา


   โต๊ะอาหารเงียบกริบ ท่านอมราเองก็ยังไม่กล้าพูด ตรัสรู้ว่าถ้าเขาไม่พูด รุจีอาจยิ่งฝ่อ


   “รติ...การศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ” ชายหนุ่มกล่อม


   “ข้าไม่เถียงว่าการศึกษาไม่สำคัญ แต่ทำไมต้องไปสอบเข้าโรงเรียนประจำอะไรเทือกนั้น?!” รติแย้ง หันมองน้องสาวที่หงอจนกินข้าวไม่ลง เพราะคำว่า ‘ไม่อนุญาต’


   แม้จะไม่เห็นด้วยและไม่อนุญาต แต่รติก็เกรงใจท่านอมราผู้อาวุโส เขาควบคุมอารมณ์ของตนเองแล้วจึงวางมือจากชามข้าว ก่อนจะหันไปกล่าวกับหญิงชรา


   “ข้ารู้สึกไม่ค่อยหิว ขอตัวไปทำผงสมุนไพรนะขอรับ”


   สถานการณ์มึนตึงเช่นนี้ ย่อมไม่สมควรประจันหน้า เมื่อรติหาทางเลี่ยงจากน้องสาว หญิงชราจึงไม่รั้งไว้ พอนางพยักหน้าอนุญาต เขาก็ลุกออกจากโต๊ะ


   รุจีได้แต่มองตามอย่างเสียใจ แม้กระทั่งระพียังรับรู้ได้จนต้องลูบหลังปลอบ


   ตรัสถอนหายใจเบา เขารู้ว่าเรื่องนี้หากปล่อยให้รติและรุจีคุยกัน เด็กหญิงคนไม่มีทางได้เรียนในสิ่งที่อยากเรียน


   ชายหนุ่มหันไปขอตัวกับผู้เป็นย่า ก่อนจะลุกตามรติไปอีกคน


ตอนที่ตามภรรยามาถึงโรงครัว ก็พบว่าในโรงครัวปราศจากผู้อื่น มีเพียงรติกำลังทำผงสมุนไพรหน้าตาบึ้งตึง ดูก็รู้ว่าเจ้าตัวไม่พอใจกับบทสนทนาเมื่อครู่เลยสักนิด


   “รุจีเสียใจ ที่เจ้าไม่ฟังนาง”


   รติเม้มปากแน่น หันกลับไปมองเจ้าของเสียง แม้ไม่พูดอะไร แต่ดวงตาดื้อดึง ให้อย่างไรก็ไม่ยอมปล่อยน้องสาวห่างหูห่างตา


   “โรงเรียนประจำดรุณีพิไลเป็นโรงเรียนมีชื่อเสียง ไม่เพียงแค่ในเมืองตะวันออก แต่สตรีจากเมืองอื่นก็ยังอยากเข้าเรียน” ฝ่ายสามียังเป็นเพียงผู้เดียวที่ใช้น้ำเย็นเข้าลูบ กระนั้น สีหน้าของรติก็ยังดูไม่เห็นด้วย


   “โรงเรียนไม่ประจำที่มีชื่อเสียงก็มีอีกถมไป” ใบหน้าของรติบูดบึ้ง ดูก็รู้ว่าเขาห่วงหวงมากเพียงใด



พี่ชายผู้นี้เห็นน้องสาวมาแต่เล็ก วันหนึ่งรุจีจะต้องไปเรียนต่อ จะได้พบหน้าแค่เฉพาะวันหยุด หัวอกคนเป็นพี่ก็โหวงเหวงไปหมด


   “รติ...รุจีเป็นสตรี จริงอยู่ว่าเมื่อเติบใหญ่ก็ต้องแต่งงานเข้าสกุลอื่น แต่ความรู้ติดตัวเป็นเรื่องสำคัญ เจ้าก็รู้ใช่ไหม”


   “โรงเรียนไหนก็ให้ความรู้ได้”


   “โรงเรียนดรุณีพิไลมีชื่อเสียง รุจีจะไม่ได้มีเพียงแค่ความรู้ แต่ถ้านางเรียนจบจากที่นั่น จะเป็นใบเบิกทาง หากนางอยากทำกิจการ หรือประกอบสัมมาอาชีพ เจ้าจะไม่ยินดีเชียวหรือ”


   คราวนี้รติเงียบ


   “ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วง แต่รุจีก็มิได้ย้ายไปกินนอนที่นั่นเป็นปีเสียเมื่อไร ทุกวันหยุด ข้าจะส่งรถม้าไปรับนางกลับมา หรือถ้าเจ้าอยากจะไปเยี่ยมนางที่โรงเรียนบ้าง ก็แวะไป ดีไหม”


รติหันมามองคนพูด ใบหน้ายังมู่ทู่


   “รุจีให้ท่านมาพูดหรือ”


   “ข้าเพียงเห็นว่าเป็นโอกาสของนาง จริงอยู่ว่ากว่าจะได้เข้าเรียนที่นั่นต้องสอบให้ผ่านเสียก่อน แต่นางเป็นคนมีความรู้ รุจีเองก็บอกว่าเจ้าคือคนกวดขันให้นางหัดอ่านเขียน เวลานี้โอกาสของนางอยู่ตรงหน้า อนาคตของนางจะอีกยาวไกล เจ้าจะไม่สนับสนุนนางหรือ”


   รติเงียบ สิ่งที่ตรัสพูดมา ไม่ใช่ว่าเขาเห็นต่าง การศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ รุจีจะมีทางเลือกอีกมากหากนางมีความรู้


   “เอาอย่างนี้ดีไหม เราไปดูโรงเรียนนั้นก่อน เจ้าจะได้สบายใจ หากรุจีสอบเข้าได้ ที่นั่นจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับนาง”


   ฝ่ายภรรยาเหลือบมองคนกล่อม แล้วก็ไม่พูดกระไร หันไปผสมผงสมุนไพรต่อ อย่างไรก็ตามท่าทีของเขามิได้ขึงขังตึงตังเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว ตรัสพอจะเห็นสัญญานที่ดี


   “รติ...” เขาเรียกเสียงเบา ขยับเข้าไปโอบไหล่ภรรยาอย่างปลอบประโลม


   “รู้แล้ว ก็จะไปดูโรงเรียนนั่นอย่างไรล่ะ...”


   “เจ้าต้องชอบที่นั่น ข้ารับรอง”


   “ถ้าไม่ดีล่ะก็ น่าดู” คนในอ้อมแขนขู่ฟ่อ ตรัสหัวเราะเบาโยกภรรยาอย่างรักใคร่ เขาไม่พูดอะไรให้ระคายหู รติเป็นคนสดใส แต่เวลาจริงจังก็น่ากริ่นเกรง คราวนี้ไม่อนุญาตให้รุจีไปเรียนโรงเรียนประจำก็ดุจริงจนรุจีใจเสีย ท่านอมรายังไม่กล้าพูด หากภายภาคหน้าตรัสทำเรื่องผิดหูผิดตาถูกดุบ้าง เห็นทีเขาเองก็คงหงอให้อีกฝ่ายเช่นกัน


    “ว่ากันว่า เรือนใดสามีกลัวภรรยา เรือนนั้นจะสงบสุข” ตรัสเปรย ทำเอาคนในอ้อมแขนหันมอง


   “ไม่เห็นจริง ทำไมต้องมีใครกลัวใครด้วยเล่า สามีภรรยาไม่ใช่คนน่ากลัว เพียงแต่ต้องรู้จักรู้ใจกัน” คราวนี้คนฟังยิ้มจาง มองภรรยาด้วยสายตาหวานฉ่ำ


   “แล้วข้ากับเจ้า รู้จักรู้ใจกันไหม”


   รติทำปากยื่น “หากไม่รู้จักรู้ใจ ท่านจะพูดจนทำให้ข้ายอมไปดูโรงเรียนนั้นหรือ”


   ตรัสหัวเราะเบา “นั่นเพราะเจ้าหวังดีกับรุจีอยู่แล้ว เพียงแต่ห่วงน้องก็เท่านั้น”


   พูดมาถึงความห่วง รติก็ถอนหายใจ


   “รุจีเป็นสตรี ถึงนางจะช่วยตัวเองได้ แต่เป็นหญิงก็คือเป็นหญิง แข็งแรงปานใดก็สู้ชายไม่ได้ นอกจากความปลอดภัยแล้ว นางยังเป็นคนมองโลกในแง่ดี ข้าก็กลัวว่าห่างหูห่างตาแล้วนางจะถูกหลอก ถึงนางจะฉลาดเฉลียวแต่...คนเราก็ใช่จะฉลาดไปทุกวัน”


   “ความห่วงใยของเจ้า นางย่อมซาบซึ้ง แต่อย่าใช้ความห่วงใยเป็นบ่วงรัดนางไว้กับตัวเลย วันนี้นางได้ออกไปเรียนรู้ วันหน้านางจะเติบใหญ่อย่างมีความรู้ความสามารถ”


   “ลงท้ายเรื่องมีความรู้ แล้วข้าจะพูดอะไรได้อีก” รติย้อน ตรัสหัวเราะเบาที่ถูกจับได้ เสียงหัวเราะของตรัสและการชวนพูดคุยด้วยน้ำเสียงราบเรื่อย ย่อมทำให้บรรยากาศรอบตัวรติเบาบางลง


   ท้ายที่สุด ค่ำวันนั้น รติก็ไปพบน้องสาวที่ห้องพักผ่อนเพื่อแจ้งข่าวแก่นางว่าเขาจะตัดสินใจใหม่อีกครั้ง หลังจากไปสำรวจโรงเรียนประจำแล้ว เพียงเท่านั้นดวงตาของเด็กสาวก็เต็มไปด้วยความหวัง


   เห็นสายตาเช่นนั้นแล้ว รติก็รู้ว่าการที่ตรัสให้เขามาแจ้งข่าวเรื่องนี้กับรุจีด้วยตนเองก็เพื่อให้เขาเห็นว่านางจะดีใจเพียงใด หากไปสำรวจโรงเรียนดรุณีพิไลแล้วมิได้ดีเด่นอย่างที่ใครเยินยอ แต่ไม่เลวร้ายนัก เมื่อบวกลบกับความปรารถนาของน้องแล้ว พี่ชายเช่นเขาย่อมไม่อยากขัดใจ


   “ท่านรู้จักข้าดีเกินไปแล้วจริงๆด้วย” รติได้แต่บ่นงึมงำ ตอนที่เดินกลับเรือนพักผ่อนพร้อมสามี ตรัสยิ้มจาง จับมือภรรยาเอาไว้


   “สามีภรรยา รู้จักรู้ใจ เจ้าพูดเองไม่ใช่หรือ”


   ค้านไม่ได้แล้ว จากคนแปลกหน้า มาวันนี้รู้จักรู้ใจสมกับเป็นสามีภรรยา

---------
#คนแปลกหน้าคือคู่ชีวิต

ธ ม น

THAMON926

---------

ตรัสก็สายตะล่อมเหมือนกันนะคะ ฮ่าฮ่า กล่อมจนรติยอมเปลี่ยนใจ กลายเป็นสามีภรรยาที่รู้ใจกันมากขึ้นแล้วอีกนิด

ขอบคุณสำหรับทุกการอ่านนะคะ

เจอกันวันศุกร์ค่ะ

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Tassanee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น่ารัก...รู้จักคุยกันด้วยเหตุด้วยผล  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
สงสัย จะปูเรื่อง ที่รติ ป่วยแล้วจะตาบอดแน่ๆ

ออฟไลน์ PoyPay

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
แบบนี้สามีควรต้องได้รางวัลในคืนนี้เพิ่มป่าวเอ่ย... คุคุ...

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น่ารักมากๆ ตรัสหรือเปล่า ตรัสกลัวเมียหรือป่าว5555  :pig4: :L1:

ออฟไลน์ Pinkmoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ THAMON926

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
คนแปลกหน้าคือคู่ชีวิต

บทที่ 54

ผู้ปกครองบุกโรงเรียน

---------


   โรงเรียนประจำดรุณีพิไลเป็นโรงเรียนมีชื่อเสียงของเมืองตะวันออก


   นักเรียนหญิงแทบทั้งหมดของที่นี่ล้วนมาจากสกุลคหบดี ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ ส่วนน้อยเป็นลูกชาวบ้านผู้หัวดี ได้รับทุนของโรงเรียน ผู้ที่จะเข้าศึกษาได้ล้วนต้องผ่านการสอบ เมื่อเข้ามาแล้ว จะได้ร่ำเรียนทั้งวิชามารยาท การเข้าสังคม การเมือง คณิตศาสตร์ การค้า เครื่องดนตรี การทำอาหาร แม้กระทั่งการบริหารกิจการในเรือน


   กระนั้น แม้ชื่อเสียงจะโด่งดัง ศิษย์เก่าของที่นี่เป็นสตรีเก่งในหลายแวดวง แต่รติก็ต้องมาดูที่ทางด้วยตาของตนเองเสียก่อน


   “ท่านอมราแจ้งว่าพวกท่านจะมาขอชมโรงเรียน” ครูใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้ เป็นสหายของหญิงชราผู้อาวุโสแห่งอหัสกร ก่อนที่ตรัสจะพารติมาที่นี่ นางส่งสารหนึ่งฉบับมาแล้วล่วงหน้า มีใจความขอชมโรงเรียนเพื่อตัดสินใจส่งหลานสาวเข้าร่วมการสอบเข้าเรียนในภาคเรียนที่จะถึงนี้


   “ข้ากับรติ ขอเพียงชมโดยรอบ จะมิให้รบกวนการเรียนการสอนแต่อย่างใด”


   “ยินดี ข้าจะให้ปราณพาพวกท่านชมโรงเรียนและห้องเรียนของเรา ปราณเป็นบุตรชายของข้า และเป็นครูสอนคณิตศาสตร์” ครูใหญ่หันไปทางชายหนุ่มร่างสูงโปร่งสวมแว่นผู้ยืนอยู่เบื้องหลัง เมื่อนั้น...ตรัสถึงกับชะงัก


   ชายหนุ่มร่างสูงผู้ที่ถูกแนะนำว่าเป็นครูของที่นี่ คือชายหนุ่มที่เขาพบที่งานเลี้ยงเมื่อครั้งก่อน


   งานเลี้ยงครั้งนั้น ผู้คนมากหน้าหลายตา เขาจำได้ว่าแทบทั้งหมดล้วนมองพวกเขาด้วยสายตาอิจฉาที่รติปรนนิบัติเขาอย่างดี แต่...มีสายตาคู่หนึ่งแตกต่างจากผู้อื่น เพราะหาใช่มองด้วยความอิจฉา แต่มองด้วยความปรารถนา


   ...ปรารถนา...


   ...ปรารถนาอะไรไม่ทราบ ทราบแต่จับจ้องแต่ภรรยาของเขา...


   “ยินดีที่ได้รู้จักขอรับ ข้าชื่อปราณ เป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ที่นี่” ชายผู้นั้นแนะนำตัวแล้วยิ้มแย้มจนดวงตาใต้แว่นสายตาทรงกลมยกโค้งอย่างเป็นมิตร


   แต่...ตรัสไม่รู้สึกเป็นมิตรด้วยเลยสักนิด



เขาเหลือบตามองภรรยาที่ยืนเคียงข้าง โชคดีที่รติมัวแต่กังวลใจเรื่องน้องสาวต้องห่างตาจึงไม่มีอารมณ์ผูกไมตรีมากนัก นอกจากยิ้มจางแล้วค้อมศีรษะ


   แต่เพียงเท่านั้น ตรัสก็หึงแล้ว เขาก้าวเท้าขึ้นหน้าก้าวหนึ่ง เบี่ยงกายบังภรรยาเอาไว้ แล้วจ้องมองอาจารย์หนุ่ม


มิได้สร้างศัตรูโจ่งแจ้ง แต่ก็ไม่ได้ผูกมิตรมากนักเช่นกัน


   “อย่างไรต้องรบกวนอาจารย์พาพวกเราสามีภรรยาดูโรงเรียนด้วย”


   จากชายผู้พูดไม่เกินความจำเป็น มาถึงวันที่ต้องเน้นย้ำคำว่าสามีภรรยาด้วยหัวใจรู้สึกจำเป็นแล้ว


   ...พวกเราสามีภรรยา...


   ...ส่วนผู้อื่น หากกล้ำกรายก็ล้วนเรียกว่ามือที่สาม...


---------


   อาจารย์ปราณเป็นชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับตรัส แต่เป็นมิตรกว่ามาก เขาพาเดินนำดูรอบโรงเรียนอย่างเป็นกันเอง มีความรู้เกี่ยวกับประวัติของโรงเรียนและหลักสูตรอย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังเป็นครู ทักษะการพูดของเขาจัดว่าดี จึงทั้งให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเรียนการสอนผสานไปกับการโฆษณาโรงเรียนได้อย่างดี



แม้ใจของรติจะไม่อยากให้น้องสาวห่างตา แต่ก็ต้องยอมรับว่าหากฟังความตามที่อาจารย์ปราณผู้นี้กล่าวแล้ว โรงเรียนประจำแห่งนี้จะเป็นสถานศึกษาฟูมฟักรุจีให้เติบโตเป็นสตรีผู้มีความสามารถไม่เป็นสองรองใคร


   หลังจากเยี่ยมชมโรงเรียนจนทั่ว ตรัสและรติก็ขอตัวกลับ ระหว่างโดยสารรถม้าส่วนตัว รติที่เงียบมานานก็เอ่ยขึ้นมา


“ตรัส ท่าน...คิดว่าที่นี่ดีใช่ไหม”


   แต่...ไร้คำตอบ


   ตอนนั้นเองที่รตินึกขึ้นได้ว่าตลอดเวลาที่เยี่ยมชมโรงเรียน เขาแทบไม่ได้ยินเสียงของคนที่เดินอยู่ข้างกายเลย


   “ตรัส?”


   เจ้าของชื่อดูจะเพิ่งรู้สติ เหลือบสายตามองภรรยา ที่กำลังมองเขาด้วยความเป็นห่วง


   “ท่านเป็นอะไรไป หรือไม่สบาย?”


   “เปล่า เมื่อครู่นี้เจ้าถามอะไรหรือ” ตรัสย้อนถาม แน่นอนว่าเขาไม่กล้าเอ่ย ว่าเขาหวงภรรยาขึ้นมาครามครัน ยิ่งเห็นอาจารย์หนุ่มผู้นั้นเป็นมิตรกับรติมากเพียงใด เขาก็ยิ่งหงุดหงิด ถึงขั้นไม่อยากให้รุจีสมัครสอบเข้าเรียนที่นี่แล้ว



   แม้ท่าทีของอีกฝ่ายจะผิดไปจากเคย แต่เรื่องโรงเรียนดรุณีพิไลก็ยังคงเป็นเรื่องคาใจลำดับแรกของรติอยู่ดี




   “ถ้ารุจีเรียนที่นั่น จะดีใช่ไหม”


   อันที่จริงคำตอบคือดี แต่...โรงเรียนประจำแห่งนั้นมีอาจารย์นามว่าปราณ สำหรับตรัส ถือว่าไม่ดี


   รติขมวดคิ้ว คิดไม่ตก


   “อาจารย์ปราณก็บอกว่าดรุณีพิไลเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาโรงเรียนสำหรับสตรี คนที่จบจากที่นั่นล้วนมีความรู้ความสามารถ ข้าไม่ได้คาดหวังว่ารุจีจะต้องเก่งกาจเกินใคร แต่ถ้านางมีความรู้ความสามารถก็ย่อมดีกว่าไม่มี จะได้ไม่มีใครรังแก ท่านคิดเห็นเช่นไร”


   ตรัสเงียบไปอึดใจหนึ่ง เดิมทีเป็นคนมีเหตุผลกำกับทุกการกระทำมาโดยตลอด คราวนี้ก็ควรมี แม้จะไม่อยากมีก็ตามที


   “โรงเรียนนั่น...ดี...” เขาพูดได้เพียงเท่านั้น


โรงเรียนดีจริง สกุลใดก็ล้วนอยากให้ธิดาเข้าเรียนทั้งนั้น เขาเองก็อยากให้รุจีได้เรียนในโรงเรียนที่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถของนาง แต่...ติดที่อาจารย์ผู้นั้น


   “นั่นสินะ...” รติมัวแต่คิดสะระตะเรื่องน้องสาว ย่อมไม่ทันสังเกตอาการสามี


   ภายในห้องโดยสารของรถม้าตกอยู่ภายใต้ความเงียบ มีเพียงเสียงล้อบดไปตามถนนปูหินที่ดังเข้ามา แต่ปราศจากการพูดคุยอีก



ต่างฝ่ายต่างตกอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง โดยเฉพาะห้วงความคิดของตรัส...ไม่มีผู้ใดรู้



---------


#คนแปลกหน้าคือคู่ชีวิต

ธ ม น

THAMON926


   --------

   มีคนหึงหนึ่งอัตราค่ะ ส่วนอีกหนึ่งอัตรายังไม่รู้ตัวว่าถูกรักมากขนาดนี้ ฮ่าฮ่า

   ขอบคุณสำหรับทุกการอ่านค่ะ

   เจอกันวันจันทร์ค่ะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ตรัสก้อมีมุมนี้นะ...หึงๆๆๆๆๆๆ   :hao7:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตรัสหรือเปล่า ตรัสหึงหรือเปล่า5555 คุณตรัสต้องแสดงออกเน้นๆแล้วค่ะว่าเป็นสามีภรรยากับรติ ขำที่บอกว่ารร.ดีแต่ครูไม่ดี จนไม่อยากให้เข้าเรียน555  สนุกมากๆเลยค่ะ :pig4: :L1:

ออฟไลน์ psychological

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0

ออฟไลน์ THAMON926

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
คนแปลกหน้าคือคู่ชีวิต

บทที่ 55

หึง

---------
   

แม้จะห่วงหวงน้องสาว ไม่อยากให้รุจีห่างหูห่างตา แต่รติก็มิอาจปฏิเสธความเหมาะสมของโรงเรียนแห่งนั้น


   ท้ายที่สุด จึงยินยอมให้รุจีสมัครสอบ


   รุจีอ่านออกเขียนได้ อีกทั้งยังอ่านหนังสือให้ท่านอมราฟังบ่อยๆ ความรู้ของนางจึงกว้างขวางหลายแขนง คนเช่นนี้หากสอบไม่ติด ก็ไม่รู้จะมีผู้ใดสอบติดแล้ว


   ภายหลังประกาศผลสอบ ท่านอมราดีใจ รุจีดีใจ ระพีก็ดีใจ ในขณะที่รติเป็นกังวลอยู่บ้างแต่ก็ต้องหักห้ามใจยอมปล่อยน้องสาวย้ายไปเรียนโรงเรียนประจำ



ส่วนตรัส...เขาชมเชยเด็กสาวอย่างยินดีด้วยใจจริง ปลอบประโลมรติไม่ให้คิดมากเรื่องรุจีจะห่างสายตา แต่เมื่อถึงเวลาไปส่งเด็กสาวที่โรงเรียน กลายเป็นเขาเครียดขมึงทันทีที่ใครบางคนพุ่งตัวมาแสดงความยินดี


   “ยินดีด้วย รุจีเก่งมาก” ผู้นั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ปราณ...อาจารย์สอนวิชาคณิตศาสตร์


   เมื่อครั้งที่มาเยี่ยมชมโรงเรียน รติมิได้มีปฏิสัมพันธ์กับอาจารย์ผู้นี้มากนัก เพราะยังคิดไม่ตกว่าควรให้น้องสาวสอบเข้าเรียนที่นี่ดีหรือไม่ แต่บัดนี้ตัดสินใจให้รุจีเรียนที่นี่แล้ว การผูกสัมพันธ์กับอาจารย์ของที่นี่ย่อมเป็นการดีที่จะฝากฝังให้ช่วยเป็นหูเป็นตาแทนเขา


   “ขอบคุณ ข้าต้องฝากน้องสาวด้วย”


   “ไม่ต้องห่วง เราดูแลนักเรียนทุกคนเป็นอย่างดี ในหอพักนักเรียนก็มีอาจารย์ผู้หญิงพักด้วย หากมีปัญหาอะไร สามารถปรึกษาอาจารย์ได้ทุกเมื่อ”


   รติพอจะเบาใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาพูดคุยกับอาจารย์ปราณเกี่ยวกับชีวิตในหอพักของโรงเรียนประจำแห่งนี้ ทั้งเรื่องอาหารการกิน เรื่องพักผ่อน รวมถึงเรื่องความปลอดภัย ปราณเป็นบุตรชายของครูใหญ่ และสอนที่นี่มาสามปีแล้ว ย่อมสามารถให้ข้อมูลที่รติต้องการ ซึ่งนั่นทำให้คนเป็นพี่ชายสบายใจขึ้นมากทีเดียว


   แต่...กลับมีคนไม่พอใจ


   ตรัสยืนเงียบมาตั้งแต่ต้น จ้องมองภรรยาพูดคุยกับชายอื่นด้วยสายตาหงุดหงิด แต่ครั้นจะเข้าไปขวางก็ไม่รู้จะขวางด้วยเหตุผลใด


รติมิได้ซักถามเรื่องส่วนตัว แต่สิ่งที่ถามล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับน้องสาว ในขณะที่อาจารย์หนุ่มก็มิได้รุ่มร่าม แต่...การพูดคุยอย่างเป็นกันเองทั้งๆที่เพิ่งพบกันเป็นครั้งที่สาม และพูดคุยเป็นครั้งที่สอง แต่กลับดูสนิทสนมยิ้มแย้มแจ่มใส ทำให้ตรัสไม่พอใจ


   เย็นนั้น หลังจากส่งรุจีที่โรงเรียนประจำแล้ว สมาชิกอหัสกรก็พากันกลับเรือน รติมีท่าทีกังวล แต่ไม่ทันจะได้ปรับทุกข์กับสามี อีกฝ่ายก็เดินหนีกลับเรือนพักผ่อนไปแล้ว


   ฝ่ายรติงงงัน ก้าวเท้าตามกลับไป พอปิดประตูเรือนพักผ่อนได้ หันกลับไปมองคนที่ยืนนิ่งอยู่กลางห้อง ไม่ทันได้ซักถาม อีกฝ่ายก็คว้ามือโดยไร้คำชวน...จูงเข้าห้องอาบน้ำไป


   รติหน้าแดงเรื่อตอนที่ฝ่ายสามีปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาอย่างตั้งหน้าตั้งตา พอจะยื้อมือเอาไว้ ดวงตาดุของตรัสก็เหลือบมาสบ กลายเป็นมือไม้อ่อนไปโดยปริยาย


   วันนี้ตรัสไร้คำพูด แต่เปลื้องผ้าทั้งของตนเองและภรรยาจนเปลือยเปล่า


   ฝ่ายสามีเป็นคนจูงพาไปล้างตัว ก่อนจะดึงมือไปยังอ่างไม้สำหรับแช่ตัว



รติไม่รู้ว่าสถานการณ์เช่นนี้ เขาต้องทำเช่นไร ตรัสมิได้เข้ามาอ้อล้อกอดก่าย ปล่อยให้เขาลูบน้ำอุ่นกับผิวกาย แต่พอเขาจะลุกจากอ่างไม้ กลับกลายเป็นตรัสดึงเขาเข้าหาแล้วมอบรสจูบหนักหน่วง


   ไม่แน่ใจนักว่าวันนี้อีกฝ่ายเป็นอะไร ไม่เพียงจุมพิตเท่านั้น แต่อารมณ์รักของตรัสก็ร้อนรุ่มแม้กระทั่งในอ่างไม้ ทั้งรุกเร้าและปลุกปั่น แม้กระทั่งรติบอกว่า ‘ในน้ำ...ฝืด’ ตรัสก็ไม่หยุด ซ้ำยังดึงร่างภรรยาขึ้นยืน ชะโลมร่างกายด้วยน้ำมันหอมจนเนื้อตัวเปียกลื่น แล้วแนบชิดเข้าไปใหม่ คราวนี้ รติไร้ซึ่งเสียงทัดทานแล้ว อารมณ์วาบหวามร้อนระอุพุ่งพล่านไปทั่วเนื้อตัว



ตรัสหนักหน่วงทุกการกระทำ ท่วงท่าใดที่จะแนบชิดกันและกัน เขาไม่รอช้า ทั้งบดเบียด อัดกระแทก รติแทบขาดใจ แต่มิได้ห้ามปรามหรือถอยหนี เพราะต่อให้บทรักในวันนี้จะแตกต่างจากเคย แต่ยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกท่วมท้นของตรัสเหมือนทุกคราว


   กระนั้น...ความรู้สึกบางอย่างก็บอกรติว่าวันนี้ตรัสไม่เหมือนเดิม


   กว่าจะได้ออกจากอ่างไม้อาบน้ำ ก็ตอนที่รติถูกความรัญจวนเร่งเร้าจนถึงสวรรค์ไปแล้วถึงสองครั้ง อีกฝ่ายจึงยอมหยุดความปรารถนาลง



เขาต้องนั่งพักอยู่ในอ่างไม้ที่น้ำกระฉอกหายไปมากกว่าครึ่งอยู่อีกพักใหญ่ ก่อนจะขอใช้ห้องน้ำเป็นการส่วนตัวเพื่อล้างคราบไคล ตรัสจูบหนักๆที่ข้างขมับ แล้วจึงยอมออกไปรอข้างนอกอย่างเงียบๆ พักใหญ่ รติจึงออกมาด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ ตอนนั้นตรัสถึงได้กลับเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้างเช่นกัน


   จนกระทั่งตอนที่ตรัสกลับเข้ามาในส่วนพักผ่อน แล้วเอนกายลงนอนเคียงข้างรติ จากนั้นจึงรั้งภรรยาเข้าไปนอนกอดอย่างทุกที คำถามจึงดังขึ้นจากคนที่ซุกอยู่กับอ้อมแขนอุ่น


   “ตรัส...วันนี้...ท่านเป็นอะไรหรือ”


   ตรัสก้มลงมองคนที่เงยหน้ามองเขา ดวงตาของรติใสแจ๋ว เต็มไปด้วยความห่วงหาห่วงใยจนเขารู้สึกผิด


เมื่อครู่นี้เหมือนเขาเอาอารมณ์ทั้งหมดผสมกับความต้องการ แล้วกอดก่ายร่างนี้อย่างตะกรุมตะกราม ไม่ถามภรรยาสักคำว่าเจ็บปวดตรงใดหรือไม่ เพียงแต่ต้องการแสดงความเป็นเจ้าของเท่านั้นเอง


   อ้อมแขนของตรัสกระชับแน่นขึ้น มอบจูบอ่อนโยนลงกับหน้าผากของรติ


   “ขอโทษ เจ็บไหม”


   “ไม่เลย ท่านต่างหาก วันนี้เป็นอะไร”


   ตรัสไม่รู้จะพูดเช่นไรว่าเขาทั้งหึงทั้งหวงที่รติสนิทสนมกับชายอื่นที่มองรติอย่างปรารถนา ตัวรติอาจไม่รู้ แต่สามีเช่นเขา รู้เต็มอกว่าชายผู้นั้นมองภรรยาของเขาเช่นไร


   ยิ่งคิดยิ่งหวง ยิ่งคิดยิ่งหึง อยากเก็บรติเอาไว้ในอ้อมแขนนี้ ไม่ให้ออกไปที่ใดอีก


   แต่...เรื่องนี้พูดออกไปจะถูกมองเช่นไร ตรัสที่เคยเป็นคนมีเหตุผล กลับไร้เหตุผลเพราะความหึงหวงที่มีต่อภรรยาตนเองเช่นนั้นหรือ


   “ขอโทษ ไม่มีอะไรหรอก”


   แม้จะรู้สึกว่าวันนี้ตรัสแปลกไป แต่รติก็ไม่ซักไซ้ ทว่าก็ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายรู้สึกโดดเดี่ยว แม้จะซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของสามี แต่เขาก็โอบแขนกอดร่างของตรัสเช่นกัน


   หัวใจของคนหึงคล้ายเป็นขี้ผึ้งถูกไฟลน เมื่อรับรู้ถึงการกอดกระชับของภรรยา ตรัสฝังจมูกลงกับหน้าผากของรติอีกครั้ง


   หัวใจที่ร้อนผ่าวเมื่อครู่นี้สงบสุขอยู่กับการกอดภรรยาในค่ำคืนนี้

--------
#คนแปลกหน้าคือคู่ชีวิต

ธ ม น

THAMON926

--------

หึงเงียบ แต่หึงรุนแรงอยู่นะคะ ฮ่าฮ่า

ขอบคุณสำหรับทุกการอ่านเลยค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2020 17:43:33 โดย THAMON926 »

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
หึงหน้ามืดเลยพ่อ

55555

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
คุยกัน อธิบายให้รติเข้าใจด้วย เพราะกว่ารุจีจะเรียนจบ ยังต้องเจอปราณอีกหลายครั้งแน่ ไม่งั้นรติไม่รู้ตัวหรอก

ออฟไลน์ psychological

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เอ็นดูคนขี้หึง   :katai2-1:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด