Ch.16 จีบแหละคนเขาดูออก
"แน่ใจนะครับแม่ว่าไม่ให้สินไปส่ง"
"ไม่เป็นไรหรอกลูก เดี๋ยวแม่กลับเอง เห็นว่าน้องปอนด์ต้องรีบกลับไปทำรายงานต่อด้วยใช่มั้ย? รีบกลับกันได้แล้ว กับข้าวอย่าลืมเอามาอุ่นกินกันตอนเย็นนะลูก"
"แต่นี่ก็เย็นแล้วนะครับ จะให้กินอีกหรอแม่ ผมท้องแตกกันพอดี"
"ก็กินมื้อดึกสิลูกคนนี้หนิ หิวก็อุ่นกิน เข้าใจมั้ย? "
"ครับๆ " ผมกับพี่สินเดินลงมาส่งคุณแม่ที่ลานจอดรถเห็นว่าท่านขับรถมาเองด้วย
"งั้นแม่ไปก่อนนะ ไหนมากอดทีสิลูก" พี่สินเดินเข้าไปหาคุณแม่ที่อ้าแขนรออยู่แต่ท่านหุบแขนฉับแล้วหันมาทางผม
"ไม่ใช่สิน แม่หมายถึง น้องปอนด์มาให้แม่กอดทีหนึ่งสิลูก" พี่สินหันมาตาขวางเบะปากส่ผมหนึ่งทีก่อนจะเดินหลบทางให้แบบไม่เต็มใจ ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างมึนๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหาท่านที่อ้าแขนรออยู่ก่อนแล้ว อบอุ่น ไม่ดีเลย
"ว่างๆ ก็เข้าให้พี่เขาพามาหาแม่ที่บ้านใหญ่นะลูก คุณพ่อต้องอยากเจอหนูแน่ๆ เลย แม่รู้สึกชนะยังไงก็ไม่รู้" คุณแม่ผละออกก่อนจะลูบหัวผมอีกที
"แล้วสินล่ะแม่"
"กอดบ่อยแล้ว แม่เบื่อ อยากให้แม่กอดก็พาน้องเข้าไปบ้านใหญ่ด้วย เดี๋ยวแม่จะเข้าไปอวดพ่อว่าเจอแฟนสินแล้ว รับรองว่าวันนี้สายโทรศัพท์สินไหม้แน่นอน"
"คือ ผมไม่ใช่..." ผมพยายามปฏิเสธอีกครั้งว่าตัวเองไม่ใช่แฟนพี่สิน แต่ดูทุกคนจะไม่ให้ความร่วมมือผมเลยสักนิดเดียว
"โห่ แม่ งั้นเดี๋ยวสินปิดเครื่องเลยดีกว่า น้องต้องทำงาน โทรเข้ามาแบบนี้ก็รบกวนน้องสิ" ผมขนลุกซู่ เมื่อพี่สินแทนตัวผมด้วยคำว่าน้อง แถมยังโอบไหล่ผมอีกต่างหาก
"เออ ใช่แม่ก็ลืมเลย เดี๋ยวแม่ค่อยอวดตอนดึกๆ ดีกว่า งั้นแม่ไปก่อนนะลูก"
"ครับ ขับรถดีๆ นะครับ" ผมยกมือไหว้ท่านอีกรอบ รอจนท่านขับรถไปลับสายตาแล้วถึงได้เงยมองหน้าคนที่เนียนโอบไหล่ผมอยู่
"ปล่อยได้แล้วครับ" พี่สินสะดุ้งนิดหนึ่งพลางละมือออกเกาหัวแกรกๆ
"งั้นเราก็กลับห้องกันเลยมั้ย? " ผมพยักหน้าเดินตามพี่สินไปที่รถ
********************************
"เฮ้อ เหนื่อยว่ะ" พี่สินว่าพลางนั่งลงกับพื้นข้างโซฟาหลังจากขนของทุกอย่างขึ้นมาแล้ว กว่าพวกเราจะกลับมาถึงห้องก็จะค่ำแล้ว เพราะการจราจรที่ติดขัดช่วงเย็น
"เดี๋ยวพี่สินเอาของไว้ที่ห้องผมก่อนก็ได้ครับ แล้วเดี๋ยวเคลียร์ห้องพี่เป้เสร็จค่อยย้ายของไป" พีี่สินพยักหน้าพลางลุกขึ้นเตรียมขนของเข้าไปไว้ในห้องผมก่อน
"วางไว้ตรงนี้ได้มั้ยวะ?"
"ได้ครับ"
"เสื้อผ้านี่ก็ขอแขวนไว้ในตู้มึงก่อนได้ป้ะ" ผมพยักหน้าพลางเดินไปเคลียร์ตู้ฝั่งหนึ่งให้พี่สินทันที ส่วนเจ้าตัวนั่งกับพื้นเปิดลิ้นชักข้างตู้ผมเล่น
"กางเกงในมึงเล็กจังวะ ฮ่าๆๆ นึกว่ากางเกงในเด็ก" ผมรีบก้มไปฉวยกางเกงในตัวเองมาซ่อนไว้ข้างหลังทันที พี่สินนิสัยไม่ดี
"นิสัยไม่ดี" ผมว่าพลางรีบเอากางเกงในตัวเองยัดเก็บที่เดิมแล้วจัดการปิดลิ้นชักทันที
"อายอะไรวะ ผู้ชายด้วยกัน ถึงของมึงจะไซส์เด็กก็เถอะ"
"ไม่เด็ก พี่สินออกไปเลยไป เดี๋ยวผมเก็บเอง" พี่สินหัวเราะอีกเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นขยี้ผมแรงๆทีนึงก่อนจะเดินออกไปยกกล่องใบอื่นเข้ามาเก็บ ผมกับพี่สินช่วยกันเก็บของที่เขาขนมาจนเสร็จ ผมก็เดินไปหุงข้าวไว้ เพราะวันนี้มีกับข้าวเยอะมาก ส่วนพี่สินนอนแผ่อยู่ที่เตียงในห้องไม่ยอมขยับไปไหนที่เดิม ผมเดินไปเคลียร์โต๊ะทำงานตัวเองนิดหน่อยให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามา พี่เป้น่าจะกลับมาแล้ว
"ทำไรกันน่ะ" พี่เป้ยืนชะโงกหน้าตรงหน้าประตูเข้ามา พลางคลายเนกไทตรงคอ
"จัดของนิดหน่อยครับ นั่นก็กองของพี่สินเขาครับ" ผมพยักหน้าไปทางกองกล่องต่างๆที่เรียงกันข้างๆประตู
"แล้วทำไมไม่เอาของมันไปไว้ห้องพี่" พี่เป้ขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางดึงเนกไทจนหลุดพลางมองไปที่พี่สินอย่างไม่สบอารมณ์
"ห้องพี่เป้รกจะตาย เดี๋ยวรอพี่จัดของก่อนแล้วค่อยขนไปก็ได้ครับ ตอนนี้ก็ให้พี่สินนอนห้องปอนด์ไปก่อน"
"งั้นเดี๋ยวพี่เก็บของเลย เดี๋ยวย้ายของมันมาห้องพี่ด้วย"
"วันหลังก็ได้ครับ วันนี้เหนื่อยแล้ว พี่เป้กินข้าวมาหรือยัง?" พี่เป้พยักหน้าติดไม่พอใจอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยอมเพราะคงเหนื่อยจริงๆ
"ยังเลย เราล่ะ" ผมเดินเข้าไปแล้วหยิบเนกไทจากมืออีกฝ่ายมาถือไว้เองแล้วแกะตรงปมออก
"ปอนด์เพิ่งกินมา แต่ว่าใช้แรงไปเริ่มหิวแล้ว" พี่ปอนด์ยิ้มพลางยกมือมาลูบหัวผมเบาๆ
"งั้นสั่งอะไรมากินดีมั้ย เราจะได้ไม่ต้องเหนื่อยทำ" ผมส่ายหน้าพลางยิ้ม
"ไม่เอา วันนี้ปอนด์ไปช่วยพี่สินขนของมา คุณแม่พี่สินทำกับข้าวมาให้เยอะเลย เดี๋ยวปอนด์เอาไปอุ่นกินกันนะ" ผมยิ้มให้พลางเดินไปทางห้องครัว
"เอ้อ พี่สินกินด้วยมั้ย"
"อืม"
"โอเค งั้นเดี๋ยวปอนด์อุ่นสำหรับสามคนเลย" พี่เป้เดินมานั่งรอที่โต๊ะ แต่ยังคงขมวดคิ้วอยู่ไม่คลาย เครียดอะไรนักหนาเดี๋ยวก็แก่เร็ว
"ปอนด์ไปเจอแม่มา...เอ่อ แม่สินมาหรอ" ผมพยักหน้าตอบพี่เป้พลางแกะถุงกับข้าวเทใส่จานเพื่อเอาไปอุ่นให้
"ใช่ แม่ยกให้เป็นลูกรักนัมเบอร์วันแล้วด้วย คนบางคนอ้ะ ตกกระป๋องแล้ว" พี่สินตอบพลางนั่งลอยหน้าลอยตาตรงข้ามพี่เป้ จะภูมิใจทำไม ก็ตัวเองนั่นแหละที่ตกกระป๋อง ประหลาดจริง
"แล้วแม่ว่ายังไงบ้าง" พี่เป้หันไปถลึงตาใส่พี่สินแล้วหันมาถามผมอีกครั้ง
"คุณแม่พี่สินใจดีมากๆเลย นี่ก็ให้กับข้าวปอนด์มาเยอะแยะ บอกให้เอามาอุ่นกินกับพี่สิน" พี่เป้ พยักหน้าพึมพำว่าดีแล้วแค่นั้น ผมจัดการเอาอาหารที่จะกินเข้าไมโครเวฟ รอแค่นาทีครึ่งก๋็กินได้แล้วเพราะเพิ่งเอาเข้าตู้เย็นไปไม่นานเท่าไหร่
"พี่เป้กินเยอะๆเลย" ผมยื่นจานข้าวที่ตักจนพูนจานยื่นไปทางพี่เป้ แล้วตักอีกจานให้พี่สิน
"ทำไมของกูแค่นี้อ้ะ จะอิ่มหรือไง" พี่สินบ่นพลางยื่นจานข้าวกลับมาให้ผม
"กินๆไปเถอะเรื่องมาก ไม่อิ่มก็เดินไปตักเพิ่มเอง" ผมส่ายหัวให้ผู้ใหญ่สองคนที่จ้องแต่จะตีกันตรงหน้าก่อนจะหยิบจานมาตักข้าวเพิ่มให้พี่สินอีก
"นี่ครับ" พี่สินยิ้มลอยหน้าลอยตา ยักคิ้วใส่พี่เป้ไปอีกทีนึง จะอยู่กันดีๆสักวันไม่ได้เลยสองคนนี้
*************************
ติ๊ดๆๆๆ
ผมเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ตัวเองแล้วรีบกดปิดเพราะกลัวรบกวนพี่เป้ที่นอนอยู่ ปกติแล้วถ้ามีเรียนเช้าผมต้องตื่นเร็วกว่านี้ แต่ว่าเพราะมีกับข้าวจากคุณแม่พี่สินแล้ว ผมเลยไม่ต้องรีบตื่นมาทำ ผมย่องออกจากห้องนอนพี่เป้เพื่อไปรดน้ำต้นไม้แล้วแต่งตัวไปเรียน แต่ออกมาก็เห็นพี่สินนั่งดูทีวีอยู่ตรงโซฟาแล้ว
"ทำไมตื่นแต่เช้าจังครับ" ผมปิดประตูเบาๆพลางเดินไปหยิบผ้าขนหนูกะจะไปแปรงฟันล้างหน้าก่อน
"ทำไมเมื่อคืนไม่นอนตรงโซฟา?" หืม? ผมเอียงคอมองพี่สินที่ขมวดคิ้วอย่างงงๆ เมื่อคืนพี่เป้ลากผมไปนอนด้วย เห็นบอกว่าจะนอนกับผมจนกว่าจะบินไปทำงานต่างประเทศเลย
"พี่เป้ให้ไปนอนในห้องครับ พี่สินมีอะไรหรือเปล่า?"
"แล้วกูจะเข้าไปอุ้มมึงมานอนด้วยยังไง พี่มึงล็อคห้องอ้ะ" พี่สินทำเสียงงอแงเล็กน้อยพลางเบะปากเหมือนเด็ก ห๊ะ? ผมยืนทำความเข้าใจสักพักก่อนจะรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว อุ้ม? นอนด้วย?
"ละ..แล้วทำไมพี่ต้องมาอุ้มผมไปนอนด้วยล่ะ?"
"ก็มึงไม่ยอมนอนกับกู" ผมใบ้กินก่อนจะรีบหนีเข้าห้องน้ำทันที ผมแค่หวังว่าน้ำน่าจะช่วยให้ผมหายร้อนหน้าได้นะ
**********************
"มีเรียนสิบโมงใช่มั้ย? เดี๋ยววันนี้พี่ไปส่ง" พี่เป้พูดขึ้นเรียบๆขณะที่เราสามคนนั่งกินข้าวอยู่ด้วยกัน
"พี่เป้เข้างานกี่โมง?"
"เที่ยง"
"งั้นเดี๋ยวปอนด์ไปเอง ไม่เป็นไร พี่เป้ไปนอนต่อก็ได้"
"เดี๋ยวผมพาน้องไปเอง" พี่สินที่นั่งเงียบตั้งแต่แรกแทรกขึ้น
"ไม่ต้อง เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง มีธุระแถวนั้นพอดี" ผมพยักหน้ารับพลางกินข้าวต่อ พี่สินก็เงียบไม่ได้พูดอะไร พอเจ้าตัวกินเสร็จก็ลุกเอาจานไปวางที่ซิงก์แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ
"ปอนด์" ผมเงยหน้ามองพี่เป้ที่เรียกผมเบาๆ ทำไมต้องกระซิบด้วยเนี่ย
"ครับ"
"คือ...กับสินนี่น้องคิดยังไง?"
"คิดยังไง หมายถึงอะไรครับ?"
"ก็แบบสิน...ได้แบบ..." แบบ? ผมรอพี่เป้พูดต่อ แต่เจ้าตัวดูเหมือนจะไม่ค่อยอยากพูดเท่าไหร่ เอาแต่อ้ำๆอึ้งๆ แล้วก็ก้มหน้าไปกินข้าวต่อ สักพักก็เงยหน้าขึ้นมาใหม่ เหมือนมีอะไรอยากจะพูด แล้วก็ส่ายหัวเล็กน้อยเป็นเชิงช่างมันอยู่แบบนั้นซ้ำๆ เรานั่งกินข้าวกันต่อสักพัก พี่สินก็เดินออกมาพร้อมชุดนักศึกษาเต็มยศแล้วเดินมานั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงโซฟา
"พี่สินมีเรียนกี่โมงหรอครับ"
"เหมือนมึง"
"เสร็จแล้วก็ไปดิ" พี่เป้หันไปพูดด้วยอย่างไม่ใส่ใจ ผมกับพี่เป้รวบช้อนเก็บเพราะกินข้าวเสร็จพอดี
"รอปอนด์อยู่"
"เดี๋ยวกูไปส่งเอง"
"อืม รู้แล้ว"
"รู้แล้วก็ไปดิวะ รอทำไม?"
"ไหนๆพี่ก็จะไปส่งแล้ว ผมขอติดรถไปด้วยแล้วกัน" พี่เป้ขมวดคิ้วหันไปมองพี่สินทันที
"ทำไม? ทางเดียวกันไปด้วยกัน ประหยัดน้ำมัน"
"แล้วขากลับมึงจะกลับยังไง?"
"บีทีเอสก็ได้ รถเมล์ก็เยอะแยะ"
"ห๊ะ มึงอ้ะนะนั่งรถเมล์?"
"อืม ทำไมอ้ะ" พี่สินถามกลับทำท่าไม่ทุกข์ร้อนอะไร
"เป็นไปได้หรอวะคุณชาย แค่แอร์ถูกปรับองศาลงนิดเดียวมึงก็ร้อนจนโวยวายลั่นบ้าน อย่างมึงจะทนนั่งรถเมล์ไหวหรอ?" พี่เป้พูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยพี่สินเต็มที่ แต่ผมฟังแล้วรู้สึกแปลกๆนิดหน่อย ตั้งแต่พี่สินมานอนค้างที่ห้อง ผมยังไม่เคยเห็นเขาโวยวายเรื่องอุณหภูมิแอร์สักครั้ง ก็เลยหันไปมองหน้าพี่เป้เป็นเชิงถาม
"แล้วพี่เป้รู้ได้ยังไงครับว่าพี่สินขี้ร้อน?"
"ห๊ะ! อ่อ...ก็...เดาๆเอา"
"เดา? เดาว่าโวยวายลั่นบ้าน?"
"หึๆ โป๊ะ" พี่สินหัวเราะในลำคอแล้วพูดออกมาแค่คำเดียว พี่เป้ก็ทำท่าจะเข้าไปขย้ำคออีกฝ่ายแล้ว
"พี่เป้เคยไปนอนค้างบ้านพี่สินด้วยหรอครับ?"
"อ่า...ก็..." นั่นสินะ ตอนเจอกันครั้งแรกที่ห้อง ทั้งคู่ก็ดูเหมือนรู้จักกันมาก่อน ผมก็ไม่ได้ถามว่ารู้จักกันได้ยังไงเพราะไม่ใช่ธุระกงการอะไรที่ต้องรู้จักคนที่รู้จักกับพี่ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกแย่ยังไงก็ไม่รูัที่พี่เป้ดูมีเรื่องปิดบังผมอยู่ ทั้งๆที่ก็เป็นคนอยากให้พี่เขามีเวลาส่วนตัวมากๆ ถ้าจะมีความลับก็ไม่เห็นแปลก
"ไม่เป็นไร ปอนด์ไปเรียนดีกว่าครับ" ผมรีบตัดบทเดินเอาจานของตัวเองกับพี่เป้ไปเก็บตรงซิงก์ล้างจานแล้วฉวยดระเป๋าเป้ตั้งท่าเตรียมพร้อมออกเดินทาง
"ปอนด์คือพี่..." พี่เป้พูดขึ้นแต่แล้วก็เงียบไป ผมเลือกที่จะยิ้มให้อีกฝ่ายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเดินนำไปที่ประตู
"ป้ะ"
***********************
"ขอบคุณที่มาส่งครับ" ผมยกมือไหว้พี่เป้พลางเดินดิ่งตรงไปทางคณะตัวเองทันที ยังมีเวลาเหลืออีกกว่าจะเข้าเรียน ก็เลยกะไปนั่งรอเพื่อนตรงม้าหินใต้คณะ
"ปอนด์ ปอนด์! รอกูด้วย!!" ผมหันไปตามเสียงเรียกเห็นพี่สินที่คิดว่าน่าจะแยกตัวไปทางคณะตัวเองวิ่งกระหืดกระหอบตามมา ผมเลยหยุดยืนรออีกฝ่าย
"พี่สินไม่ไปเรียนหรอครับ"
"กูไม่รีบ เดี๋ยวอยู่เป็นเพื่อน"
"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยววิวกับโฟล์คก็มาแล้ว"
"อย่าพูดมาก ไป" พี่สินเดินมากอดคอผมพลางลากไปทางใต้คณะ พอสาวๆเห็นเขาเท่านั้นแหละ หูผมแทบดับเลย ความหล่อนี่เป็นภัยจริงๆ ผมนั่งรอเพื่อนตรงที่ประจำโดยมีพี่สินนั่งอยู่ข้างๆ ถ้าสิงได้ผมว่าเขาคงสิงผมไปแล้ว แต่พี่เขาไม่ใช่ผีไง
"เถิบไปนิดก็ได้ครับ ที่ตั้งกว้าง ผมอึดอัด"
"กูพอใจ" พี่สินพูดแล้วนั่งเล่นโทรศัพท์ต่อโดยไม่สนใจผมอีก ผมเลยจะเขยิบตัวเองไปนั่งเก้าอี้อีกตัวแทน แต่คนที่ทำท่าไม่สนใจผมเมื่อสักครู่กลับดึงข้อมือผมไว้ไม่ให้ขยับหนี
"จะไปไหน"
"ไปนั่งอีกตัวครับ"
"กูไม่ให้ไป นั่งตรงนี้แหละ" ผมนั่งอยู่ที่เดิมอย่างจนใจ สักพักผู้หญิงที่ด้อมๆมองๆ พี่สินอยู่รอบๆ ก็เริ่มใจกล้าเดินเข้ามาทักเขาสองสามคน บางคนแค่ให้ขนมแล้วก็ไป บางคนก็พยายามชวนอีกฝ่ายคุยต่อ
"พี่สินคะ คือเย็นนี้พี่สินว่างมั้ยคะ หนูอยากชวนไปดูหนัง" เช่นหญิงสาวตรงหน้าผมที่ยืนบิดไปบิดมาเหมือนคนปวดท้องเข้าห้องน้ำโดยมีเพื่อนๆอีกสองคนดันๆให้มาข้างหน้า
"ไม่ว่างครับ"
"งั้นวันหลัง..."
"ไม่ว่างครับ"
"ฉันบอกแกแล้วว่าพี่เขาจีบคนนี้อยู่" เพื่อนคนหนึ่งด้านหลังกระซิบบอกคนที่มาชวนพี่สินไปดูหนัง กระซิบดังขนาดนี้คนที่นั่งห่างออกไปอีกโต๊ะยังได้ยินเลย ส่วนผมได้แต่หน้าเหวอ เพราะโดนพาดพิง
"เอ่อ ไม่ชะ..."
"เพื่อนน้องก็บอกแล้วหนิครับ แล้วทำไมยังกล้ามาชวนพี่ไปดูหนังอีก"
"นี่พี่สินเป็นเกะ...เกย์หรอคะ?"
"ก็ถ้าชอบคนนี้แล้วเป็นเกย์ พี่ก็เป็นเกย์นั่นแหละครับ เพราะใครๆเขาก็ดูออกว่าพี่จีบคนนี้อยู่" ผมอ้าปากค้าง ในขณะที่ผู้หญิงตรงหน้าผมหน้าเสียแล้วรีบขอตัวไปเลย ส่วนพี่สินก็เล่นโทรศัพท์ต่ออย่างไม่ใส่ใจ
"พี่สินทำไมพูดแบบนั้น" ผมหันไปมองหน้าพี่สินอย่างอึ้งๆ นี่คือเขาพูดเพียงเพื่อจะตัดรำคาญใช่มั้ย?
"คนเขาดูออกกันหมดแล้ว มีแต่มึงเนี่ยแหละ เมื่อไหร่จะรู้ตัวสักทีว่ากูชอบ"
************
tbc.
มาแล้วจ้า ขอโทษจริงๆ ที่หายไป ย่าเราเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากกะเพาะปัสสาวะอักเสบ ก็เลยวุ่นๆกันทั้งบ้านเลย ถึงจะว่างอยู่บ้าน work from home แต่ก็ค่อนข้างวุ่นวายอยู่ดี ตอนนี้เอาตัวกลับมาที่บ้านแล้ว เพราะยังไงก็รักษาไม่ได้แล้ว ได้แต่ทำใจกันค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ จะพยายามมาอัพนะ บายๆ