เด็กเกษตรของนายวิศวะ ( Special 2 ( End ) : 13/01/63 )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กเกษตรของนายวิศวะ ( Special 2 ( End ) : 13/01/63 )  (อ่าน 53489 ครั้ง)

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: เด็กเกษตรของนายวิศวะ
«ตอบ #30 เมื่อ26-11-2019 23:40:20 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: เด็กเกษตรของนายวิศวะ
«ตอบ #31 เมื่อ27-11-2019 02:43:55 »

สนุกดีครับ มาต่อเรื่อยๆนะ

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
Re: เด็กเกษตรของนายวิศวะ
«ตอบ #32 เมื่อ27-11-2019 17:11:17 »

มาต่อบ่อยๆ รอจ้า ปล.หากมาอัพลงวันที่อัพจะดีมากเลยจ้า จะได้รู้ว่ามีตอนใหม่มา ขอบคุณนะคะ  :L2:

ออฟไลน์ Blackcrow

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Re: เด็กเกษตรของนายวิศวะ
«ตอบ #33 เมื่อ27-11-2019 20:37:59 »

Chapter 9
คนที่ไม่รู้สึก...คงไม่เข้าใจ


ตอนนี้ผมกำลังงงว่าคนที่เดินนำหน้าผมเป็นอะไร หน้ามันโคตรเหวี่ยง หลังจากที่มันจ้องผมแล้วก็หันหลังเดินเข้าไปในร้านทันทีผมจึงเดินมันตามมันเข้ามาอย่างงงๆ
เอาจริงๆนะผมไม่กล้าแม้แต่จะเรียกมันก็ดูหน้ามันสิครับใครจะกล้าเรียกวะ
“ ไอ้ลมไอ้อิฐ พวกกูจะไปต่อไปด้วยปะ ” พอเดินมาถึงโต๊ะพวกไอ้ไม้ก็เหมือนจะเตรียมตัวออกจากร้านกันแล้ว
“ พวกมึงไปเลย ” แล้วมันก็เดินออกไปท่ามกล่างความงุนงงของผองเพื่อน
“ มันเป็นอะไรวะ ” ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ
“ กูกลับพร้อมไอ้อิฐนะ ” ผมบอกแบบนั้นไอ้ไม้ก็พยักหน้าให้ ผมจึงเดินตามไอ้อิฐออกมา
“ เป็นอะไร ” ไอ้อิฐมันหยุดเดินก่อนจะหันมามองผม
 หน้าตามันเริ่มโอเคขึ้นแล้ว แค่เริ่มนะครับ…
“ หงุดหงิด ” รู้แล้วว่าหงุดหงิด
“ หงุดหงิดอะไร ”
“ มึงยิ้ม ”
“ หะ! ”
ที่ทำหน้าอย่างกับจะฆ่าคนเหตุผลเพราะผมยิ้มหรอ อึ้งสิครับ เหตุผลมันไร้สาระมาก
“ มึงยิ้มให้มัน ” มันไหนวะ
“ กูยิ้มให้ใคร ”
“ ก็เพื่อนรักมึงไง ” แล้วผมก็ถึงบางอ้อเมื่อมันหมายถึงไอ้กิม แต่ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันจะหงุดหงุดอะไรขนาดนั้น
“ แล้วมึงจะหงุดหงิดทำไม ”
“ มึงไม่เคยยิ้มให้กู ” ผมนี่อึ้งแดกเลยครับ ก่อนจะนึกขำเมื่อไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องนี้    เข้าใจอารมณ์เด็กที่อิจฉาเวลาที่เพื่อนตัวเองสนใจเพื่อนอีกคนไหมครับ
“ อิจฉารึไง ทำตัวเป็น…”
“ ใช่ อิจฉา ” ผมยังพูดไม่จบไอ้อิฐก็พูดแทรกขึ้นมา มันทำหน้าจริงจังจนผมไม่กล้าพูดอะไรต่อ
“ ทำไมต้องจริงขนาดนั้น ”
“ ก็มันสำคัญ ”
“ ทำคัญยังไง ”
“ เห้อออ มึงไม่เข้าใจอะ ” แล้วมันก็ทำหน้าเหมือนขัดใจหลายอารมณ์จนผมเริ่มจะตามไม่ทันแล้ว มันเป็นไบโพลาร์รึเปล่าวะ
ผมก็คงจะไม่เข้าใจจริงๆน่ะแหละแต่พอมองอีกคนตอนนี้กับก่อนหน้าผมชอบเวลาที่มันทำหน้าเหมือนขัดใจแบบนี้มากกว่า
“ เชี่ย! มึงยิ้มแล้ว ” ร้องซะกูตกใจไปด้วยเลยไอ้นี่
ผมขำกับท่าทางของไอ้อิฐมันตัวโตก็จริงแต่นิสัยมันกลับสวนทางซึ่งผมมองว่ามันก็...น่ารักดี
“ พอใจรึยัง”
“ โคตรๆเลย ” มันพุ่งมากอดคอผมทันทีก่อนจะเนียนๆลากผมให้เดินตามมัน
“ เดินเองก็ได้ ”
“ กอดหน่อยน่า กูมึนๆอะเดินไม่ไหว ” ไอ้อิฐคนเนียนมาแล้วครับ


“ บรรยากาศดีเนาะ ” ผมมองดาวบนท้องฟ้าที่ไม่ค่อยได้เห็นมากนักในเมืองก่อนจะคิดว่าเดินเวลานี้มันก็ไม่เลวเท่าไหร่
พอหันไปมองคนข้างๆก็เห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มทำให้มันดูน่ามองมากกว่าเดิม ผมชอบเวลาไอ้อิฐยิ้มพอมันยิ้มแล้วรู้สึกถึงพลังบวกถึงตอนแรกผมจะคิดว่ามันกวนประสาทก็เถอะ
“ ทำไมกูไม่เคยเห็นเพื่อนมึงคนนั้นเลย ”
“ เพื่อนสมัยมัธยม ”
“ กูนึกว่ามึงโดนจีบซะอีก ” ผมนี่แทบสำลักอากาศ คิดได้ยังไงวะนั่น
“ ก็เลยหงุดหงิดว่างั้น ”
“ อื้อ ” จากที่ถามมันเล่นๆกลับกลายเป็นว่าผมเหวอกับคำตอบของมัน สรุปแล้วมันหงุดหงิดที่ผมคุยกับยิ้มให้ไอ้กิมสินะ
แล้วอยู่ๆใจมันก็เต็นเร็วแปลกๆ ผมคงไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำตอบของมันใช่ไหม…
“ ถึงเป็นเพื่อนก็หงุดหงิดอยู่ดี ทีกูไม่เห็นมึงจะยิ้มให้บ้างเลย ” ไอ้อิฐมันยีหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด
ผมมองท่าทางมันแล้วนึกเอ็นดู ทำไมจะไม่รู้ว่าทุกครั้งที่เจอกันมันจะมีวิธีเรียกร้องความสนใจจากผมอย่างไรบ้าง จากที่ไม่คิดจะใส่ใจกลับกลายเป็นว่าผมต่างหากที่ไม่ชอบเวลาที่มันหงุดหงิด




....................


‘ ไปกินชาบูกัน ’ เสียงไอ้กิมดังมาจากปลายสาย
“ วันไหน ”
' วันนี้เย็นๆ บ่ายกูมีเรียน '
“ เลี้ยงปะ ”
‘ นี้มึงยังไม่เลิกขี้งกอีกหรอ บ้านก็รวยแต่ทำตัวเหมือนยาจกนะมึง ’ ผมขำออกมาทันทีเมื่อไอ้กิมพูดแบบนั้น เมื่อก่อนมันก็เลี้ยงผมบ่อยๆ
“ แล้วจะเลี้ยงปะ ”
‘กูเคยปฏิเสธได้หรอ’
“ 5555 กูล้อเล่นนะ เลิกเรียนแล้วโทรมาหากูอีกทีแล้วกัน ” ไอ้กิมตอบรับแล้วมันก็ตัดสายทันที  เห็นทีต้องชวนไอ้จินมาด้วยซะแล้ว
“ มึงเป็นใคร ออกไปจากเพื่อนกูเดี๋ยวนี้นะ! ” ผมตกใจเมื่ออยู่ๆไอ้ไม้ก็ตะโกนขึ้นมาแถมมองผมด้วยสายตาจริงจัง
“ มึงเป็นอะไรไอ้ไม้ ”
“ เพื่อนกูไม่ยิ้มเวลาคุยโทรศัพท์ มึงเป็นใครบอกมา ”
“ ปัญญาอ่อน ” ผมส่ายหน้าให้ไอ้ไม้นับวันมันยิ่งบ้า ตอนนี้ผมกำลังภาวนาให้มันมีแฟนใหม่เร็วๆเพราะตั้งแต่เลิกกับแฟนนี่มันเป็นบ้าขึ้นเยอะ
“ ก็ปกติมึงยิ้มที่ไหน แล้วคุยกับใครมีหัวเราะคิกคักด้วย ” ถามเป็นพ่อเลยวุ้ย
“ เพื่อน ” ไอ้ไม้ทำหน้าไม่เชื่อ นี่แหละครับพอเราพูดความจริงคนอื่นก็มักจะไม่เชื่อ
“ เพื่อนแน่หร๊ออ ” ทำหน้ากวนส้นตีนอีกละ
“ มึงไร้สาระว่ะไม้ ”
“ 55555 กูออกไปข้างนอกนะ ”
“ ไปไหนก็ไป ” ไอ้ไม้มันหัวเราะชอบใจก่อนจะเดินออกจากห้องไปทิ้งผมไว้เพียงลำพัง...
สบายหูชิบหาย!

ตอนบ่ายผมไม่มีเรียนก็จะสบายหน่อย กลับห้องมานอนหรือไม่ก็วาดรูปไปเรื่อยชีวิตผมมันค่อนข้างจะน่าเบื่อสำหรับใครหลายๆ ปกติคนอื่นเขาอาจจะไปเที่ยวหรือไปหาไรทำกับเพื่อน แต่สำหรับผมนานๆทีค่อยไปดีกว่าแค่เรียนก็ปวดหัวพอแล้วกลับห้องมานอนสบายกว่าเยอะ
ผมเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าก่อนจะยกกล่องขนาดปานกลางออกมา อยู่ๆก็นึกอยากเปิดดูสิ่งที่อยู่ข้างในหลังจากที่ไม่ได้เปิดมานาน
ข้างในกล่องเป็นสมุดวาดรูปขนาดปานกลางสองเล่ม หน้าปกมีชื่อของใครคนหนึ่งที่ผมรู้จักเป็นอย่างดี
แต่สุดท้ายแล้วผมก็ไม่กล้าเปิดมันออกมา ขี้ขลาดอีกแล้ว...
ผมได้แต่จ้องชื่อหน้าปกอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเสียงมือถือดังขึ้น
ผมจึงเก็บกล่องไว้ที่เดิมก่อนจะรีบเดินไปรับโทรศัพท์
ตุบ
หนังสือเล่มหนึ่งตกลงมาพร้อมกับกระดาษวาดรูปแผ่นหนึ่งหล่นลงมาด้วย
มันเป็นภาพที่ผมไม่ได้ตั้งใจวาด
ภาพวาดผู้ชายคนหนึ่งกำลังยืนคุยโทรศัพท์โดยด้านหลังเป็นตึกคณะวิศวะ
คนในภาพคือไอ้อิฐ
ผมหยิบภาพวาดไอ้อิฐขึ้นมา ถ้ามันรู้ว่าผมแอบวาดรูปมันมันจะว่ายังไงวะเนี่ย
แต่ช่างเถอะอย่าให้มันเห็นแล้วกัน
ดูเหมือนผมจะลืมว่ามีสายเข้า ไอ้กิมแน่ๆมันคงบ่นผมแล้วมั้งป่านนี้



“ ไม่ได้เจอกันนานนะมึง ดีที่ยังไม่ตาย ” ประโยคแรกที่ไอ้จินมันทักไอ้กิมดูก็รู้ว่ารักกัน...
“ ยังปากหมาเหมือนเดิมนะมึง ”
“ 5555 ”
“ กินร้านนั้นปะ กูมาบ่อย ” ไอ้กิมชี้ไปที่ร้านตรงหน้าที่ค่อยข้างมีคนเยอะ
“ พาสาวมากินบ่อยหรือมึง ”
“ ก็นะ ” ไอ้กิมหันมามองผมก่อนจะยิ้ม เกลียดรอยยิ้มมันว่ะ
“ เข้าไปข้างในเถอะ ”
ถ้ายืนอยู่ตรงนี้คงไม่ได้กินกันพอดีคนเยอะจะตาย แล้วมีที่นั่งไหมวะเนี่ย ถ้าไม่มีคงหัวเสียแน่ๆเพราะผมไม่ได้กินข้าวตั้งแต่ตอนเที่ยง รอกินชาบูลงทุนสุดๆ
“ มากี่ท่านคะ ”
“ 3ครับ ” ไอ้กิมหันไปบอกพนักงานก่อนจะยิ้มหวานให้ จนพนักงานหน้าขึ้นสีก่อนจะเดินออกไป
งานหลักเมื่อก่อนคือกวนตีนชาวบ้าน งานรองคือบริหารเสน่ห์
ผมยังไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะมาชอบผม ทั้งที่มันก็มองหญิงอยู่ทุกวัน
“ เต็มที่เลยนะไอ้จินเลี้ยง ”
“ สัสเถอะ ” ไอ้กิมมันหัวเราะชอบใจ
ผมมองพวกมันแล้วยิ้ม นานแค่ไหนแล้วที่พวกผมไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้
“ ยิ้มอะไรไอ้ลม อย่ามายิ้มอ่อยแถวนี้นะมึง ” ยิ้มอ่อยเชี้ยไร กูยิ้มให้พวกมึงเนี่ย
“ มันดีใจที่มึงกลับมาไงไอ้กิม ควรดีใจไว้ซะนะ ”
“ เขินเลยว่ะ เหมือนสำคัญ ”
“ กูแค่ไม่รู้จะด่าใคร ” ไอ้กิมมันมันหน้างอทันที ก่อนจะใช้ตะเกียบชี้หน้าผมแล้วพูดว่า..
“ เดี๋ยวมึงจะโดน ”
 “ กูคิดไปเองรึเปล่าว่ามึงดูดีขึ้น ” ไอ้จินถามพลางยื่นหน้าไปมามองไอ้กิมใกล้ๆ
“ ใครจะขี้เหล่เหมือนมึงล่ะ ”
“ ห่า กูอุตส่าห์ชม ”
ก่อนที่พวกมันจะเถียงกันไปมากกว่านี้ผมก็ลุกกะจะไปหาของกินมาเตรียมไว้ สายตาก็เหลือบไปเห็นโต๊ะถัดไปไม่ห่างจากโต๊ะของผมเท่าไหร่
 มีผู้ชายกับผู้หญิงนั่งด้วยกันซึ่งผู้ชายคนนั้นเป็นคนที่ผมรู้จัก
ไอ้อิฐ...
อยู่ๆผมก็รู้สึกโหวงๆขึ้นมาเมื่อเห็นไอ้อิฐยิ้มให้กับผู้หญิงคนนั้น
“ เป็นอะไร ”
เสียงไอ้กิมทำให้ผมรีบส่ายหัวก่อนจะตอบไอ้กิมไปว่าไม่มีอะไร


" มากินชาบูไม่ได้มากินมังสวิรัติไอ้สัสลม มึงใส่ผักเยอะขนาดนี้จะให้กูกินอะไร " ไอ้จินมันโวยวายเมื่อในหม้อมีแต่ผักเป็นส่วนมาก
“ มึงก็ไปตักเองดิ กูอยากกินผักนี่หว่า ”
“ ไอ้กิม.. ” มันหันไม่มองหน้าไอ้กิมอย่างอ้อนวอน
“ ไปตักเองไอ้สัส ” เมื่อก่อนไอ้จินมันโดนสปอยจากไอ้กิมครับ ได้ใจมาจนถึงทุกวันนี้แต่โทษนะ ตอนนี้ไม่มีใครสปอยมึงแล้วว่ะ
หลังจากไอ้จินลุกไปตักของกินไอ้กิมก็เปลี่ยนมานั่งข้างผม
“ มึง ” มันขยับเข้ามากระซิบผม
“ มึงจะกระซิบทำไมเนี่ย ”
“ ไอ้นั่นเพื่อนมึงปะ ” มันพยักเพยิดไปทางโต๊ะที่มีผู้หญิงกับผู้ชายสองคนนั่งอยู่
โต๊ะไอ้อิฐนั่นแหละครับ
แต่ผมก็ต้องแปลกใจเมื่อไอ้อิฐมันมองมาทางพวกผมอยู่ก่อนแล้ว แถมยังทำหน้านิ่งจ้องพวกผมเขม็ง
“ มันมองมาสักพักละ ”
“ อืม เพื่อนกู ”
“ แฟนปะ น่ารักดี ” กูจะรู้กับเขาไหมล่ะ
“ ขยับไปเลยกูจะกินชาบู ” แล้วมันก็ไม่ฟังผมครับแถมขยับมาใกล้กว่าเดิมอีก
“ แม่งจะกินชาบูหรือจะกินหัวกูละนั่น ” ไอ้กิมมันขยับออกไปเล็กน้อยแต่เปลี่ยนเป็นกอดคอผมแทน
กูจะกินชาบูเว้ย
“ อะไรของมึง วอแวชิบหาย ”
“ กูรู้ละ ” มันยกยิ้มแล้วเอามือออกจากคอผมก่อนจะหันไปจัดการของกินตรงหน้า
“ มาละ ห้ามแย่งกูนะไอ้กิม ”
“ กูไปตักใหม่ก็ได้เถอะ ”
ผมหันไปมองทางเดิมก็พบว่าไอ้อิฐไม่ได้ละสายตาไปเลยยังจ้องมาทางผมอยู่เหมือนเดิมซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรหรือผมไปทำอะไรผิดรึเปล่า
และเป็นผมที่หลบสายตามันก่อน ไม่ชอบเวลามันทำสายตาแบบนี้เลยจริงๆ




“ ชาบูอร่อยปะ ”
พอผมถึงหอก็เห็นไอ้อิฐนั่งอยู่หน้าหอมันถามผมก่อนจะเดินเข้ามาหา
“ ก็ร้านเดียวกันกับมึง ” ถามเหมือนกินคนละร้านอย่างนั้นแหละ
“ ไม่เห็นชวน ” ผมขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินมันพูดแบบนั้น มันก็ไปกินไม่ใช่รึไง
“ มึงก็ไปกินไหมไอ้อิฐ อะไรของมึงเนี่ย ”
“ ก็อยากไปกินกับมึง แล้วก็…ผู้หญิงที่ไปกับกูคือลูกพี่ลูกน้องกูเองนะ ” นั่นยิ่งทำให้ผมไม่เข้าใจว่ามันต้องการจะสื่ออะไร ตั้งแต่นั่งจ้องผมอย่างกับผมทำอะไรผิดที่ร้านชาบูจนตอนนี้ที่มันพูดผมก็ยังไม่เข้าใจว่ามันต้องการอะไร
“ มีอะไรก็พูดมา มึงมีปัญอะไรกับกูรึเปล่าตั้งแต่ที่ร้านชาบูละ ” มันทำหน้าตกใจก่อนจะรีบปฏิเสธ
“ ไม่ใช่แบบนั้น จะบอกยังไงดีวะ ” มันทึ้งหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด เป็นไรของมันอีกล่ะเนี่ย ช่วงนี้ผีเข้าผีออก
“ ก็บอกมาตรงๆ ”
“ กูไม่ชอบเวลามึงอยู่ใกล้ใคร ” จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจ..
“ มันเกี่ยวอะไร ”
“ ก็กูหวงมึง! ” ไอ้อิฐพูดเสียงดังจนผมอึ้งไป ไม่ใช่อึ้งเพราะมันเสียงดังแต่อึ้งเพราะสิ่งที่มันพูดออกมา และประโยคที่ไอ้กิมพูดกับผมก่อนจะแยกกันก็ลอยเข้ามาในหัว


‘ สายตาไอ้อิฐที่มองมึง เหมือนตอนที่กูมองมึงกับแฟนเมื่อก่อนเลยว่ะ’ ก่อนมันจะยิ้มมุมปากแล้วเดินจากไป


“ อย่ามาทำตัวเป็นเด็กหวงเพื่อนได้ไหม ”
พอเงียบไปพักนึงผมก็พูดขึ้นแบบไม่จริงจังนัก
“ ขึ้นห้องเถอะ ” ผมไม่รอให้มันได้พูดอะไรต่อก็เดินไปก่อนทันที
ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ แต่ผมแค่ยังไม่แน่ใจทั้งสิ่งที่มันแสดงออกมาแล้วก็ตัวผม…
“ เห้อ มึงไม่เข้าใจว่ะลม มึงไม่เข้าใจ ”
อีกคนที่อยู่ด้านหลังพรึมพรำอย่างอ่อนใจก่อนจะเดินตามไป แล้วก็ควรรีบจัดการความรู้สึกตอนนี้ให้เร็วที่สุดก่อนมันจะไปทำให้อีกฝ่ายอึดอัด
อิฐรู้ตัวดีว่าตัวเองงี่เง่าแค่ไหนที่ทำตัวแบบนั้นต่อหน้าอีกคน แต่ความรู้สึกหวงมันมีมากจนแสดงออกมา
แค่เห็นมันยิ้มให้คนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเองก็หวงจะตายอยู่แล้วนี่หว่า!




ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เด็กชายอิฐ  อิอิ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อิฐ ขี้หวงจริงๆ ขนาดยังไม่เป็นแฟนนะเนี่ยะ ถ้าเป็นแฟนแล้วจะขนาดไหนเนี่ยะ

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
หวงเก่งนะอิฐ เป็นไรกับเขาแล้วยัง ตอนนี้สถานะ แค่เพื่อนนะเราอะ 5555  :hao7:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แฮ่ ...... พลาดไปสองตอนเพราะไม่รู้   o22
โทษไรท์เลย ไม่ลงวันที่  :mew2:
วันนี้เลยได้อ่านทีเดียวสามตอน  :katai2-1:

ให้รู้สึกว่านังตัวดี จะหวนกลับมาหาลมนะ  ชิ้วๆ ไม่ต้องมาเลย   :angry2:
ลม เริ่มรู้ใจตัวเองหน่อยๆแล้ว
อิฐ เริ่มแสดงออกว่าหวงลม ชอบลม  :impress2:
อิฐ  ลม    :กอด1: :กอด1: :กอด1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
อิฐพอรู้ตัวว่าชอบก็หึงเรี่ยราดเลยนะ  :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Blackcrow

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Chapter 10
คนที่อยู่ด้วยกันตรงนี้

Aid'Part


“ ไอ้อิฐมึงลงชื่อไปค่ายรึยัง ” ผมเงยหน้ามองไอ้แคมป์
“ ค่ายอะไรวะ ”
“ ค่าย ‘เราช่วย น้องได้’ ไง ” ไอ้ศิลป์เสริม
เออว่ะ ลืมเลย จริงๆมันเป็นค่ายที่คณะประชาสัมพันธ์มาตั้งแต่ต้นเทอมผมก็นึกว่าจัดไปแล้วชะอีก
“ มึงลงยัง ” ผมถามพวกมัน
“ ลงละ คิดว่าพวกมึงยังไม่น่าจะลงเลยลงให้ละ ” แล้วก็ไม่คิดจะถามกูเลยหรอ
“ ก่อนลงพวกมึงอ่านรายละเอียดรึยัง ” ไอ้ติณณ์ที่นั่งกับผมอยู่ก่อนแล้วเอ่ยถาม
“ ไม่อะ กูลงไปก่อน ” ไอ้ศิลป์พูดอย่างไม่สะทกสะท้าน เจริญล่ะเพื่อนผม
“ ห่า แล้วก็ลงไปมัวๆเนี่ยนะ ” ไอ้ติณณ์มันพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ
อย่าให้พ่อเซ็งนะพวกมึงเดี๋ยวจะหนาว
“ ก็กูต้องเก็บกิจกรรมไง มีอะไรก็ลงไปหมดแหละ ”
นึกแล้วก็สมน้ำหน้าพวกมันครับไอ้สองตัวนี้มันซ่าตั้งแต่ปี1โดดได้โดดแล้วมาตามเก็บทีหลัง ต่างจากผมกับไอ้ติณณ์ที่เป็นสายกิจกรรม ตอนนี้เลยสบายๆแต่ที่ไม่สบายคือพวกมันลากพวกผมไปด้วยนี่แหละ งานในห้องเรียนมึงยังมีไม่พอสินะถึงอยากไปทำอย่างอื่น
อย่าคิดว่าวิศวะจะชิลๆนะครับไม่ใช่แค่เดินใส่ช้อปทำลอยหน้าตาให้สาวกรี๊ดนี่คิดผิดนะเวลางานเยอะๆก็เป็นซอมบี้เหมือนกันนั่นแหละ
“ แล้วนี่เขาเอารถอะไรไป ”
“ รถบัส ” ไอ้ติณณ์นี่หน้าเหยเกทันที เพราะมันไม่ถูกกับรถบัสอย่างแรงขึ้นทีไรอ้วกทุกที
“ ไอ้ติณณ์ก็ไปกับกูไง พวกมึงสองตัวก็นั่งรถบัสไปดิ ” ไอ้แคมป์มันรีบหาข้อเสนอทันทีครับ ไม่งั้นไอ้ติณณ์ไม่ไปแน่ๆแต่หวยดันมาตกที่พวกผมนี่สิโดนทิ้งให้นั่งรถบัสเฉย
“ ทำไมพวกกูไปรถมึงไม่ได้ ”
“ เต็ม ”
“  มึงไปกับไอ้ติณณ์แค่สองคนจะเต็มได้ไง ”
“ ใครบอกว่าแค่กูกับไอ้ติณณ์ ” ไอ้แคมป์มันบอกยิ้มๆ
“ อย่าบอกนะว่าแฟนมึงไปด้วย ” ไอ้ศิลป์ถาม
“ ถูกต้องแล้วครับบบ ” ไอ้แคมป์คนติดแฟน ฉายานี้ไม่ได้ว่าเพราะโชคช่วยครับ
แต่แฟนมันก็สวยจริงมีตำแหน่งดาวมาการันตีไม่แปลกใจที่จะติดขนาดนั้น อย่าให้กูมีแฟนนะมึงจะขิงแม่งอยู่นั่นแหละ
พอพูดถึงแฟนหน้าใครคนหนึ่งก็ลอยมาทันที
ลม...
บอกเลยว่าคนนี้ยากไม่กล้าทำอะไรเลยแม้กระทั่งจีบจริงจัง จะว่าผมขี้ขลาดก็ได้แต่เพราะเป็นเขา เขาที่คิดว่าผมเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งผมยิ่งไม่กล้า กลัวว่าสักวันเขาจะถอยห่างออกไป
ผมชอบลม รู้ตัวมาสักพักแล้วทั้งที่ตอนแรกคิดว่าแค่สนใจแค่อยากเป็นเพื่อนเฉยๆแต่พอได้รู้จักความรู้สึกมันก็ไม่ใช่แค่นั้นอีกทั้งผมยังไปทำตัวงี่เง่าใส่เขา ผมยิ่งเป็นคนรู้สึกอะไรก็แสดงไปอยู่ด้วย
“ นี่ไอ้อิฐ ” แรงสะกิดจากไอ้ศิลป์ทำให้ผมหลุดจากความคิดของตัวเอง
“ อะไร ”
“ มึงก็ชวนลมไปด้วยกันดิ ” ผมมองหน้าไอ้คนเสนอความคิดอย่างหมั่นไส้ หน้ามึงจะบานไปไหนไอ้ศิลป์!
แต่พอมาคิดตามมันก็ดูเป็นความคิดที่ดี ถ้าชวนไปด้วยได้คงดีไม่น้อยแถมยังมีกำลังใจทำงานด้วย
ถือว่าว่าดี!
“ หน้าตามึงชั่วมากไอ้อิฐ ” ไอ้ศิลป์มันมองมาก่อนจะทำหน้ายี๋ๆใส่ผม
โถ่ กูนี่คนดีที่สุดแล้ว ถ้ากูไม่ดีแล้วใครจะดีวะ...
ว่าแล้วก็หยิบมือถือขึ้นมาเข้าแชทคนที่เข้าอยู่เป็นประจำทันที

A_d: เสาร์-อาทิตย์นี้ว่างปะ

จริงๆก็ไม่ได้คาดหวังนะ ไม่ว่างก็คงไม่เป็นไรแต่ถ้าว่างอันดับต่อไปคือเกลี่ยกล่อม หึๆ
“ มึงโอเคนะ ” ไอ้ติณณ์หันมาถาม
ผมนี่โอเคสุดๆแล้วเหอะ

LM: ว่าง

ข้อความที่ตอบกลับมาทำให้ผมยิ้มออกมา ด่านต่อไปคือเกลี่ยกล่อมสินะ
“ งานอาจารย์เอกเสร็จยังวะ ”
“ งานไรวะ ” ผมถาม
“ รายงานไง ”
“ เสร็จละ ”
“ เฮียอิฐครับบบบ ” ไอ้แคมป์มันถลาเข้ามากอดแขนผมก่อนจะทำหน้าตาอ้อนวอน อยากให้แฟนมันมาเห็นสภาพตอนนี้จังเลยครับหมดหมาดผู้นำเลยมึง
“ อยู่ในกระเป๋า ” ได้ยินดังนั้นมันก็ผละออกจากผมอย่างไวก่อนจะไปเปิดกระเป๋าหยิบรายงานออกมา
“ เดี๋ยวกูมานะ รออยู่ตรงนี้นะพวกมึง ”
ถามว่าพวกผมจะรอมันไหม???
หลังจากไอ้แคมป์เดินออกไปพวกผมก็ลุกแล้วเดินขึ้นห้องเรียนทันที
 ไม่มีการรอในหมู่เพื่อนหรอกครับ…




“ ไม่ว่าง ” ผมเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา เมื่อคนตอบคำถามไม่ใช่ลมแต่เป็นคือคนที่บอกว่าเป็นเพื่อนรักลม รักเพื่อนต่างหากล่ะไม่ว่ามองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่ามันคิดไม่ซื่อ!
“ กูถามลม ” ผมมองไอ้ตัวที่ขัดผมอย่างหงุดหงิด เมื่อก่อนก็ไอ้ไม้ตอนนี้อุตส่าห์เป็นมิตรกันแล้วแต่ก็มีใครไม่รู้โผล่มาแถมยังมาแบบเหนือเมฆได้ทุกอย่างที่ผมไม่เคยได้จากลม ตัวก็แทบจะติดกันได้ข่าวมึงเรียนคนละมอใช่รึไง
“ กูตอบแทนให้ไง ” หน้าหล่อๆของมันทำเอาตีนผมกระตุก มีหน้าตาเป็นอาวุธสินะเรียกตีนได้ดีชิบหาย
“ เดี๋ยวดูก่อนแล้วกัน ” ลมเอ่ยขึ้นมาก่อนที่ผมจะได้พูดอะไร เอาวะอย่างน้อยก็ยังมีโอกาส
“ ไปกันยัง ”
ลมพยักหน้าก่อนจะหันมาคุยกับผม
“ ไว้เดี๋ยวกูบอกอีกที ไปละ ” แล้วก็เดินออกไปกันเลยทิ้งให้ผมยืนงงๆอยู่ตรงนี้คนเดียว
โดนเมินไอ้สัส!
เอาจริงมึงไม่ควรได้ตำแหน่งเดือนมหาลัยเลยไอ้อิฐถ้าจะโดนเมินขนาดนี้
แสดงออกว่าไม่พอใจก็ไม่ได้ ทำไมไอ้นั่นมันดูสำคัญจังวะ
แต่หลังจากไม่รู้จะทำยังไงผมก็นึกอะไรดีๆออก มีมิตรเราก็ต้องใช้มิตรให้เป็นประโยชน์สิครับ
‘ ว่าไง ’ รอสักพักปลายสายก็รับ น้ำเสียงมันดูอารมณ์ดีวันนี้ต้องได้เรื่องล่ะวะ
“ มึงรู้จักเพื่อนลมปะ ที่หน้าหล่อๆกวนตีนๆอะ ” ผมถามไอ้ไม้
ใช่ครับไอ้ไม้เพื่อนผม พูดเหมือนจะภูมิใจแต่ไม่ขนาดนั้นหรอกแค่ดีที่มันเลิกปากหมาใส่ผมแค่นั้นแหละแต่ก็กลายเป็นกวนตีนแทนอยู่ดี
จากวันแข่งกีฬาผมก็เป็นมิตรกับมันแบบงงๆ แข่งเสร็จมันพุ่งมาหาผมทันทีนึกว่าจะพุ่งมาต่อยแต่กลับมากอดคอผมก่อนจะชมผมเรื่องสกิลการเตะบอล เทพอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วผมจะทำไรได้ล่ะครับก็ตามน้ำไปดิ มีมิตรดีกว่าศัตรูเป็นไหนๆโดยเฉพาะมิตรที่อยู่ใกล้ตัวคนที่เราชอบน่ะ
‘ นี่มึงหมายถึงกูรึเปล่า ’ นั่นไงครับดีได้แปปเดียวสักพักก็กับมากวนตีนอีกแล้ว
“ ห่า กูหมายถึงเพื่อนสนิทตอนมัธยมของลมเว้ย ”
‘ อ๋ออออออ ไอ้นั่นอะนะ ’
“ เออไอ้นั่นแหละมันเป็นใคร ”
‘ อ้าว มึงไม่รู้หรอ ’ ถ้ารู้ก็จะถามไหมไอ้ห่านี่
‘ มันชื่อกิมเรียนอยู่มอข้างๆเรานี่แหละ ได้ข่าวว่าดังมากเลยนะมึงขนาดคนในมอเรายังรู้จัก สไตล์แบดๆไรงี้ ’
มีชมมันด้วย รู้แล้วว่ามันหล่อ
อย่างที่ไอ้ไม้ว่าครับมันหล่อสไตล์แบดๆ แต่ผมหล่อแบบคนดีไงหรือผมต้องเป็นผู้แพ้วะแบบดีเกินไปไรงี้
“ แล้วรู้ไรอีก ”
‘ ก็รู้ ’
ในขณะที่ผมกำลังตั้งใจฟังอยู่นั้น มันก็ตอบมาว่า...
‘ รู้ว่ามึงไม่มีทางสู้เขาได้ อิอิ ’ ไอ้ไม้ไอ้สัส!!!!
 ไม่ทันที่จะให้ผมได้ด่า มันก็ชิ่งตัดสายผมทันทีไอ้มิตรไม่แท้มึงควรจะสนับสนุนกูสิ!!



.....................


ในที่สุดผมก็สมดั่งใจปรารถนา…
 ลมยอมมากับผมหลังจากที่ผมใช้สารพัดวิธีเพื่อให้ลมมาด้วย
ผมล้อนเล่นน่ะครับจริงๆก็ได้ทำอะไรหรอกแค่ลมว่างพอดี แต่แล้วไงผมว่าผมชนะใสๆนะ ไม่ต้องทำอะไรมากลมก็ยอมมากับผมแล้ว หึๆ
“ เป็นอะไร ” เสียงคนข้างๆทำให้ผมหลุดจากความคิดของตัวเอง นี่หน้าทำผมชั่วอีกแล้วหรอ
“ เปล่า ”
พอผมตอบแบบนั้นคนข้างๆก็ไม่ได้ถามอะไรต่อจึงหันกลับไปหยิบหูฟังแล้วเปิดเพลงฟังเข้าสู่โลกส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อย
ตอนนี้ผมกับลมกำลังเดินทางไปที่โรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งต้องการการพัฒนาแต่ไม่มีกำลังทรัพย์ ถามว่าที่ไปไปบริจาคหรอ ก็ไม่ใช่แต่จะไปช่วยสร้างมากกว่าเพราะเขากำลังปรับปรุงโรงเรียนอยู่
ส่วนเงินบริจาคคณะจัดหาให้อยู่แล้วคนที่ร่วมกิจกรรมแบบพวกผมก็ใช้แรงงานกันไป
การนั่งรถบัสไม่ใช่สิ่งที่ใฝ่ฝันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าได้นั่งกับคนที่อยากนั่งมันก็โอเค
โอเคมากๆเลยด้วย
ผมมองอีกคนที่หันหน้าไปมองข้างทางก่อนจะสะกิด ลมหันมามองผมก่อนจะทำหน้าเหมือนจะถามว่ามีอะไร
“ ขอฟังด้วยหน่อย ” ผมชี้ไปที่หูฟังของอีกคน
ลมถอดหูฟังข้างนึงออกแล้วยื่นมาให้ผม เห็นดังนั้นผมจึงขยับเข้าไปใกล้อีกอีกคน
ลมเคยบอกว่าผมชอบตีเนียน ถ้าไม่ตีเนียนก็ไม่ได้เข้าใกล้ขนาดนี้หรอกครับ จริงไหม?
และคงต้องขอบคุณที่ผมหน้าด้านด้วยล่ะมั้งได้ใกล้ขนาดนี้มันเกินความคาดหมายมากๆ เพราะฉะนั้นขอผมมีความสุขอยู่ตรงนี้สักหน่อยก็ยังดี...




“ กูถามจริง เด็กวิศวะกับงานศิลปะ...มันใช่หรอวะ ” ไอ้แคมป์มันทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกหลังจากที่รู้ว่าต้องมาทำอะไรบ้าง
เอาจริงๆนะผมก็คิดเหมือนมันนั้นแหละ พวกผมมันพวกใช้แรงงานนะเว้ย
หน้าตาพวกผมแต่ละคนเริ่มไม่โอเคแต่มีคนหนึ่งที่ดูจะไม่เดือดร้อนอะไรแถมยังดูเหมือนจะพอใจซะอีก
ลมชอบวาดรูป...
ผมลืมไปได้ยังไง งั้นผมก็พามาถูกคนแล้วสินะ
“ ขนของไปไว้ที่พักก่อนเถอะ ” พวกผมต้องพักอยู่ที่นี่1คืนที่นอนก็คือบ้านที่เขาจัดหาไว้ให้ก็บ้านของชาวบ้านแถวนี้แล้วก็ห้องประชุมของโรงเรียน คนในคณะกับต่างคณะที่มาด้วยกันก็ประมาณ30คนได้ ส่วนที่พักก็อย่างที่บอกไปถ้ามันสะดวกพวกผมคงไม่ต้องมาช่วยเขาหรอกเนาะ
สภาพแวดล้อมแถวนี้ไม่ได้แย่ออกจะดีด้วยซ้ำแต่ขาดการพัฒนาอากาศก็บริสุทธิ์กว่าในเมืองตั้งเยอะ
“ เด็กไปไหนหมดวะ ”
“ ไอ้ศิลป์นี่มันวันศุกร์ แล้วก็เลิกเรียนแล้วจะมีเด็กได้ไง ” ผมว่าพลางวางกระเป๋าไว้เมื่อถึงทีพัก ห้องถูกทำความสะอาดไว้อย่างดีในห้องน่าจะนอนได้สักสิบกว่าคน มีพวกผมแล้วก็เพื่อนในคณะอีกส่วนหนึ่ง ส่วนแฟนไอ้แคมป์กับเพื่อนก็ไปนอนบ้านของชาวบ้าน
“ เดี๋ยวกูไปหากิ่งนะ ” พูดไม่ทันขาดคำมันก็ปลีกตัวไปหาแฟน แฟนไอ้ศิลป์เป็นสายลุยครับไม่ห่วงสวยแต่โคตรสวย
“ มีใครจะไปตลาดกับป้าไหมจ๊ะ ” อยู่ๆคุณป้าก็โผล่เข้ามาซึ่งพอดีกับพวกผมไม่รู้จะไปไหนหลังจากเอาของมาใว้ที่พักเสร็จ
“ ไปครับ ” ไอ้ศิลปฺ์มันตอบอย่างกระตือรือร้น สายเที่ยวอยู่ไหนก็อยากเที่ยวจริงๆ
“ งั้นก็ไปกันหมดนี่แหละครับ ”
พวกผมเดินตามคุณป้าไปตอนแรก็คิดว่าจะได้นั่งรถแต่ไม่ครับ เดินเพราะตลาดมันอยู่ไม่ไกลมากนัก เดินชมบรรยากาศได้เต็มที่เลยตอนนี้ก็ยังไม่เย็นมากนักแต่บรรยากาศที่นี่มันต่างจากในเมืองอยู่แล้วที่นี่ค่ำเร็วแล้วก็บรรยากาศดีมากๆ
ผมหันไปมองคนที่เดินอยู่ข้างๆ ก็ต้องแปลกใจเมื่อสีหน้าอีกคนดูเหมือนจะชอบอยู่พอสมควร
“ ชอบหรอ ”
“ ชอบอะไร ”
“ บรรยากาศไง ”
“ ชอบ เหมือนที่บ้าน ” แล้วลมก็อมยิ้มแต่ผมนี่ชะงักเลยครับ ตายกูตาย
ผมยักมือกุมหน้าอกก็พบว่ามันเต้นแรงผิดปกติ หันไปมองคนข้างๆก็คิดได้ว่าคนข้างๆนี่อันตรายต่อหัวใจผมจริงๆ แค่ทำอะไรนิดหน่อยผมก็เสียอาการแล้ว
ไม่น่าไปว่าไอ้ศิลป์ตั้งแต่แรกเลย
“ เดี๋ยวกูกับไอ้ศิลป์ไปกับคุณป้านะ พวกมึงเดินกันเลย ” ไอ้ติณณ์แจกแจงอย่างรู้งานแต่ไอ้คนที่ไม่รู้งานคือไอ้ศิลป์นี่แหละ
“ แต่กูอยากไปกับพวกมันอะ ”
“ ไปกับกูนี่มา ” ไม่รอให้ไอ้ศิลป์ได้โวยวายไอ้ติณณ์มันก็กอดคอแล้วลากไปทันที
ทำดีมากเพื่อน
แต่พอหันกลับมามองอีกคนก็ไม่อยู่แล้ว เชี่ย หายไปไหนวะเนี่ย
ผมมองหาลมสักพักก่อนจะเห็นเจ้าตัวกำลังคุยกับเด็กคนหนึ่งอยู่ เผลอไม่ได้เลยนะเนี่ย
“ พี่จะมาช่วยสร้างโรงเรียนให้ผมใช่ไหมครับ ” เด็กน้อยตัวกลมเอียงคอถามคนที่ย่อตัวให้อยู่ในนะดับเดียวกันกับเด็กน้อยอยู่
“ ใช่ครับพรุ่งนี้น้องมาหาพวกพี่ได้นะ ” แล้วลมก็ยิ้มให้เด็กตัวกลมอย่างอบอุ่น รู้สึกอิจฉาเด็กชะมัดเลยเว้ยย
ขอสิงร่างแปปนึงได้ไหม อยากได้รอยยิ้มแบบนั้นบ้าง
“ จริงหรอครับ ”
“ จริงสิครับ พรุ่งนี้พี่มีขนมให้กินด้วยนะ ” เป็นผมที่พูดแทรกขึ้น เด็กน้อยตาโตทันทีที่ได้ยินว่ามีขนม
“ ผมต้องกลับบ้านแล้ว เดี๋ยวแม่ด่า ” เด็กน้อยทำท่าเหมือนจะร้องไห้เมื่อพูดถึงแม่
" กลับดีๆนะ " ลมลูบหัวเด็กน้อยอย่างเอ็นดู เด็กน้อยตัวกลมหันมายิ้มตาหยีให้พวกผมก่อนจะรีบวิ่งออกไป
“ รักเด็กนะเนี่ย ” ผมพูดแซวเมื่อเด็กน้อยวิ่งออกไปแล้ว
“ ก็ผู้ใหญ่มันไม่น่ารัก ”
โอ้โห...ลมมมมม
ใครจะคิดว่าคนแบบลมจะพูดแบบนี้ เอาชะอยากเป็นคนน่ารักเลยวุ้ย
ทำไมกูไม่เกิดมาน่ารักวะเนี่ยยย





ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
คู่นี้นี่จีบกันอย่างเป็นทางการซักทีสิน่ะ.  :katai2-1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :katai2- :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
กลัวดราม่าแฟนเก่าของลมจังครับ

ออฟไลน์ Blackcrow

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Chapter 11
คนที่กวนใจ


วันแรกของการสร้างสรรค์งานศิลปะ…

คนวาดได้ก็พอมี คนวาดไม่ดีก็เยอะ พวกผมเป็นกลุ่มคนส่วนหลัง จากที่คิดว่าจะมาใช้แรงงานกลับต้องมานั่งไร้ประโยชน์อยู่อย่างนี้
งานส่วนที่ซ่อมแซ่มโรงเรียนชาวบ้านก็ช่วยกันทำเสร็จก่อนที่พวกผมจะมาถึง เหลือแต่สร้างสีสันให้กับพื้นที่ในโรงเรียนโดยการวาดรูปตามทางเดิน ผนัง หรือแม้แต่สื่อเรียนรู้เล็กๆน้อยๆ เนื่องจากเด็กที่นี่เป็นเด็กอนุบาลและเด็กประถม การมีรูปภาพประกอบจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อความสนใจที่จะเรียนรู้ของเด็กๆ งานส่วนนี้ก็เป็นของผู้หญิงกับคนที่มีฝีมือด้านนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคนที่กำลังตั้งอกตั้งใจวาดทางเดินที่อยู่ห่างจากจุดที่ผมยืนมองอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก
“ ลมวาดรูปสวยว่ะ ปลื้มชิบหาย ” ลมทำอะไรไอ้ศิลป์มันก็ปลื้มไปหมด ว่ามันไม่ได้หรอกครับเพราะตอนนี้ผมก็ไม่ต่างอะไรจากมันแถมยังหนักกว่ามันด้วยซ้ำ
“ ไปช่วยเขาผสมสีกัน ” ไอ้ติณณ์เสนอ ซึ่งพวกผมก็เห็นด้วย
“ ให้ช่วยไหม ” พวกปล่อยให้ไอ้ติณณ์กับไอ้ศิลป์ไปช่วยเขาผสมสีส่วนผมเดินไปหาเพื่อนในคณะคนหนึ่งที่ถือกล้องถ่ายรูปซึ่งผมก็จำไม่ได้หรอกว่าคนนี้ชื่ออะไร
“ ก็ดี งั้นช่วงเช้าช่วยเราถ่ายก่อนนะเดี๋ยวมาเปลี่ยน ”
ผมพยักหน้าให้กับอีกฝ่ายก่อนจะทำหน้าที่เป็นตากล้องจำเป็นเดินถ่ายภาพกิจกรรมในแต่ละมุม
ผมชอบถ่ายรูปซึ่งมันเป็นงานอดิเรกอีกอย่างหนึ่งของผม เวลาเจอวิวสวยๆหรืออะไรที่ชอบก็มักจะถ่ายเก็บไว้เสมอ ผมว่ามันเป็นการเก็บความทรงจำได้ดีเชียวล่ะ
จากที่คาดว่าจะมีเด็กๆมาแต่ต้องเสียดายเมื่อคุณครูที่นี่บอกว่าไม่ค่อยอยากให้เด็กๆมารบกวนเวลาทำงานเท่าไหร่อีกทั้งมันเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งมันก็จริงเพราะเวลาในการทำกิจกรรมของพวกผมก็มีน้อยเหมือนกัน
ผมถ่ายไอ้แคมป์กับแฟนที่กำลังตั้งใจระบายสีก่อนจะยิ้มออกมา ไอ้แคมป์เวลาอยู่กับแฟนมันดูเป็นคนจริงจังและอบอุ่นมากแต่พออยู่กับพวกผมมันเป็นบ้า
ผมตามเก็บภาพไปเรื่อยๆแล้วก็ถ่ายเพื่อนๆในคณะอีกหลายรูปก่อนจะมาหยุดอยู่ที่คนที่นั่งห่างจากเพื่อนพอสมควร นอกจากจะตั้งใจทำงานแล้วยังไม่ได้รู้ตัวเลยว่าผมถ่ายรูปตัวเองไปหลายรูปแล้ว
“ ลม ”
เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมาพอดีกับจังหวะที่ผมกดชัตเตอร์
รูปโคตรดี!
ลมไม่ได้พูดอะไรแต่กลับก้มหน้าทำงานต่อ  เมื่อเจ้าตัวไม่ได้ว่าอะไรผมก็ถ่ายอีกหลายรูปจนกระทั่งพอใจนั่นแหละครับ นานๆทีจะมีโอกาส
จากนั้นผมก็ทำหน้าที่เป็นตากล้องจำเป็นถ่ายกิจกรรมเกือบทั้งวัน



งานที่ทำเกินคาดเมื่อเหลืออีกไม่กี่อย่างก็จะเสร็จแล้ว คงเป็นเพราะพวกเรามีจำนวนคนค่อนข้างเยอะงานเลยเสร็จเร็ว
และตอนนี้ผมกำลังนั่งระบายสีทางเดินอยู่ รูปเดียวนั่งมาเป็นชั่วโมงแล้วจนสำนึกได้ว่า ผมกับศิลปะนี่ไปกันไม่ได้จริงๆ
“ ทำไมระบายแบบนั้น ” เห็นทีคนที่ทนไม่ไหวคงจะเป็นคนข้างๆนี่แหละครับ คิ้วขมวดมาเชียว
ก็คนมันทำไม่เป็นนี่หว่า
“ ระบายไปทางเดียวกันสิ มึงอายุเท่าไหร่แล้วไอ้อิฐขนาดเด็กอนุบาลยังระบายสวยกว่ามึงเลย ”    แทนที่ผมจะโกรธแต่ผมกลับยิ้มออกมาเมื่อใบหน้าได้รูปนั้นแสดงความหงุดหงิดออกมาอย่างชัดเจน ควรใจไหมเนี่ยที่อีกคนเริ่มมีปฏิกิริยามากขึ้นแล้ว
“ ระบายอย่างนี้หรอ ” ผมปาดพู่กันไปมาอย่างสะเปะสะปะ
“ ไม่ใช่ ” ลมทำท่าจะแย่งพู่กันไปจากมือผม แต่มีหรอที่ผมจะยอม
“ สอนสิ ”
“ ก็จะทำให้ดู ”
“ ทำให้ดูมันไม่เข้าใจไง ” ลมทำหน้าเซ็งใส่ก่อนจะขยับมาจับมือข้างที่ผมถือพู่กันแล้วจับมือผมเพื่อช่วยในการระบายสีลงบนภาพที่วาดไว้
ใครจะดีเท่าผมล่ะครับ หึๆ
ดีใจได้ไม่นานคนที่จับมือผมอยู่ก็เอ่ยขึ้น
“ โตเป็นควายแล้วยังระบายสีไม่เป็นอีก ” Kเน้นๆเลยครับ
ดอกนี้แรงมากก ถ้าเป็นคนอื่นไม่อยู่เฉยๆอย่างนี้นะครับ แต่นี่ใคร ลมไง ด่าได้ด่าไปครับผมไม่สะเทือน
แค่...เจ็บนิดๆนะเจ็บนิดๆ




“ ขอบคุณนะที่ไปช่วย ” ผมเอ่ยเมื่อถึงหน้าประตูห้องของลม
พวกเรากลับจากค่ายแล้ว ตอนนี้ผมมาส่งลมที่ห้องถึงเจ้าตัวจะบอกว่าไม่ต้องมาส่งก็เถอะ
“ ลม ”
ยังไม่ทันที่คนตรงหน้าผมจะได้ตอบกลับมาก็มีมารเข้ามาแทรกซะก่อน
ให้ทายว่าใครครับ
ผมมีศัตรูอยู่คนเดียวนั่นแหละ
“ อ้าวไอ้กิม มาทำไรวะ ” ลมหันไปให้ความสนใจมันทันที แย่งซีนเก่งก็มันนี่แหละครับ
“ มีเรื่องจะคุยด้วย ”
มันมองผมประหนึ่งว่าผมเป็นคนไม่มีมารยาทที่กำลังจะยืนฟังมันคุยกับลม
แล้วไงก็ผมหน้าด้านอยู่แล้วอะ
“ เรื่องอะไร ”
“ ได้ยินม๊าบอกว่า บ้านข้างๆย้ายกลับมาแล้ว ” ไอ้กิมทำหน้าจริงจังส่วนลมก็ไม่ต่างกัน ใบหน้าได้รูปนิ่งเสียจนผมสงสัยว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นเลยหรอ
“ แล้ว...เธอกลับมาไหม ” แววตาคู่สวยสะท้อนความหวังในคำตอบอย่างเห็นได้ชัดจนผมนึกสงสัยว่า ' เธอ ' ที่ลมพูดถึงเป็นใคร
“ ไม่รู้ ” แววตาหม่นลงจนสังเกตได้ ก่อนที่แววตานั้นจะหันมามองผม
“ กูเข้าห้องก่อนนะ ” ลมแย่งกระเป๋าไปจากมือผมก่อนจะเดินเข้าห้องไป ขณะที่ผมกำลังจะเดินตามไอ้กิมก็พูดขึ้นมา
“ หมดธุระแล้วก็กลับไปดิ ” พอหันกลับมาก็ต้องเจอกับใบหน้ากวนตีนของมัน
“ มึงก็หมดธุระแล้วไม่ใช่รึไง กลับไปดิ ” ผมจ้องหน้ามัน
“ พอดีกูยังไม่หมดธุระน่ะ คงกลับตอนนี้ไม่ได้ว่ะ ” มันเดินมาผลักไหล่ผมก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องลมแล้วปิดประตูใส่ผมทันที
สายตาที่ทำเหมือนว่าตัวเองเหนือกว่าผมนั้นอยากจะเข้าไปซัดหน้ามันให้หายหมั่นไส้สักหมัดจริงๆ
ถึงวันที่มันหมดความสำคัญแล้วผมจะหัวเราะให้




................


วันนี้เป็นวันที่ผมมาเรียนแล้วก็กำลังเลิกเรียนตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือไอ้หน้าหล่อๆที่ยืนทำหน้ากวนตีนอยู่ตรงหน้าผมนี่แหละ
“ มีธุระอะไร ” ผมถามคนที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ได้กวนตีนสุดๆ คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้กิม
“ แค่มาดูสภาพความเป็นอยู่ของเพื่อนใหม่ไอ้ลม ” มันเน้นคำว่าสภาพชะเหมือนพวกผมไม่มีความเป็นอยู่ที่ดีเลยสักนิด
“ ไอ้หน้าหล่อนี่ใครวะ ” ไอ้แคมป์กระซิบถามผม
“ เพื่อนลม ”
“ ทำไมเพื่อนแต่ละคนหน้าตากวนตีนกันจังวะ ” ยกเว้นกูคนหนึ่งเหอะ
“ ถ้ามาแค่นี้ก็หลบ พวกกูจะกลับ ”
“ ให้เพื่อนมึงกลับไปก่อนสิ กูมีเรื่องจะคุยกับมึง ” พวกได้แคมป์มองไอ้กิมอย่างไม่ไว้ใจก่อนที่ผมจะหันไปพยักหน้าให้พวกมันเป็นเชิงบอกว่าให้กลับไปก่อน
“ มีอะไรก็โทรมาแล้วกัน ” ผมพยักหน้าให้ไอ้ติณณ์ก่อนมันจะเดินตามไอ้แคมป์กับไอ้ศิลป์ออกไป
“ พูดมา ”
“ หาที่คุยดีๆกว่านี้หน่อยสิ ” มันว่าแล้วยิ้ม ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ไม่เป็นมิตรเท่าไหร่
จริงๆมันก็ไม่เคยเป็นมิตรกับผมเลยนั่นแหละ
ผมไม่รู้ว่ามันจะมาไม้ไหน ถึงจะเคยรู้จักตอนลมแนะนำแต่ไม่คิดว่ามันจะมีเรื่องอะไรที่ถึงขั้นต้องมาหานอกชะจากว่าเป็นเรื่องของลม
“ ร้านกาแฟใกล้ๆนี่ก็แล้วกัน ” ผมว่าพลางเดินนำมันไปยังร้านกาแฟที่อยู่ตรงข้ามตึกเรียน


“ มึงชอบลมหรอ ” หลังจากที่มันสั่งกาแฟมาแล้วมันก็ถามขึ้น คำถามมันไม่เกินความคาดหมายเท่าไหร่นัก
“ แล้วมึงล่ะชอบลมหรอ ” ผมไม่ตอบแต่ถามกลับแทน
มันยักไหล่ก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้ผมต้องขมวดคิ้ว
“ ไม่รู้หรอว่าลมมีคนที่รักอยู่แล้ว ”
“ ลมมีแฟนแล้ว? ”
“ เปล่า ” มันยกยิ้มก่อนจะกอดยกแล้วจ้องหน้าผม
คิดจะกวนตีนกันจริงๆสินะ
“ งั้นกูก็มีสิทธิ์ ”
“ สิทธิ์อะมี แต่จะได้ไหมก็อีกเรื่อง ”
“ หมายความว่ายังไง ” ผมจ้องหน้ามันกลับ
“ ก็อย่างที่บอก ลมมันมีคนที่รักแล้ว ” ผมเกลียดเวลามันทำหน้าเหมือนผู้ถือไพ่เหนือกว่าชะมัด
“ หึ เพราะงี้มึงถึงได้อกหักงั้นสินะ ” มันหุบยิ้มก่อนหัวเราะออกมา
“ ถึงกูจะไม่ได้ใจมันกูก็สำคัญกว่ามึงก็แล้วกัน ” สะอึกเลยครับพูดอะไรไม่ได้เพราะมันเป็นความจริง ผมรู้ตัวดีว่าผมอยู่ตรงไหน
“ มึงไม่สงสัยรึไงว่าทำไมลมมันถึงไม่มีแฟน ” รอยยิ้มของมันทำให้ผมคาดเดาไม่ได้เลยว่ามันจะพูดอะไรอีก
“ เพราะมันรอใครบางคนอยู่ไง ”
 ตอนนี้ผมกำลังบอกกับตัวเองว่าอย่าไปเชื่อคำที่มันพูด แต่มันห้ามได้ที่ไหนกันล่ะวะ
เพราะที่มันพูดมาผมแทบจะคิดหาเหตุผลมาเถียงไม่ได้เลย
“ ใคร ” ผมตัดสินใจถามออกไป
“ เดี๋ยวมึงก็ได้เจอ เพราะอีกไม่นานเธอก็กลับมาแล้ว ” รอยยิ้มของผู้ที่เหนือกว่าปรากฏขึ้นบนใบหน้ามันอีกครั้ง
“ ตอนแรกกูก็ไม่คิดจะมาบอกมึงหรอกนะ  แต่กูคิดว่ามึงน่าจะรู้เลยมาบอกสักหน่อย เผื่อมึงจะได้เตรียมตัวเตรียมใจหรือบางทีอาจจะเลิกยุ่งกับเพื่อนกูสักที ”
ประโยคสุดท้ายคงเป็นจุดประสงค์ของมันจริงๆ แต่เรื่องอะไรผมจะเลิกยุ่งวะ ไม่มีทางหรอก
“ ขอบใจในความหวังดีประสงค์ร้ายของมึงนะ แต่บางที...กูอาจจะได้ในสิ่งที่มึงไม่เคยได้ก็ได้นะ ”
คิดว่าผมจะนั่งให้มันหัวเราะเยาะอยู่ฝ่ายเดียวรึไง รู้จักไอ้อิฐน้อยไปชะแล้ว
“ มึงประเมินกูต่ำไปนะ ”
“ งั้นหรอ ” มันยกแก้วกาแฟขึ้นมาดูดก่อนจะลุกขึ้น
“ จ่ายให้ด้วยนะ ไอ้คนที่จะได้ในสิ่งที่กูไม่เคยได้ ” ว่าแล้วมันก็เดินออกไปจากร้านทันที
ขนาดกาแฟแก้วเดียวยังให้กูจ่ายอีกไอ้สัส!



ผมบอกตัวเองว่าอย่าคิดมาก แต่ไม่ทันแล้วครับ ต่อให้ไอ้กิมมันพูดจริงหรือแค่ปั่นหัวผมผมก็คิดมากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มันทำสำเร็จ! เพราะตอนนี้ผมกำลังเดินวนอยู่หน้าห้องของลมมาสักพักแล้ว ใช่ครับผมอยู่หน้าห้องลม ผมข้องใจจนอยากมาถามให้มันรู้แล้วรู้รอดแต่ยังไม่กล้าที่จะเคาะประตูห้องอีกฝ่าย
เคาะไปแล้วถ้าลมเปิดออกมาผมจะถามยังไงดี นั่นแหละครับเหตุผลที่ทำให้ผมเป็นหนูติดจั่นอยู่ตรงนี้ กับคนอื่นผมคงไม่ต้องมาคิดเยอะอะไรขนาดนี้สงสัยก็ถามแต่นี้มันลมไง ทำอะไรตามใจชอบไม่ได้สักอย่างเลย
“ ไอ้อิฐ... มาทำอะไร แล้วทำไมไม่เคาะประตู ” ผมแทบผงะออกจากประตูเมื่อคนที่ผมกำลังนึกถึงเปิดประตูออกมา
“ เอ่อ...คือ มึงกินข้าวยัง ” ตอบไม่ตรงคำถามอีกกู
“ กินแล้ว หลบหน่อยจะไปทิ้งขยะ ” ผมหลบให้ลมก่อนยืนรอที่หน้าประตูจนกระทั่งอีกคนเดินกลับมา
“ เข้ามาไหม ” ชวนแบบนี้ก็ต้องเข้าไปแล้วไหมครับ
“ แล้วไอ้ไม้ไปไหน ”
“ เที่ยวมั้ง ” ลมนั่งลงตรงโต๊ะญี่ปุ่นที่มีหนังสือเกี่ยวกับวิชาเอกกางอยู่หลายเล่ม เรื่องเกษตรผมจะไม่ยุ่งแล้วกัน
ขณะที่เจ้าของห้องกำลังตั้งใจทำงานอยู่ผมก็เดินดูห้องไปเรื่อย ก็ไม่ต่างจากห้องผมหรอกแต่แค่อยากดู ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่กล่องกล่องหนึ่งซึ่งวางอยู่ใต้โต๊ะที่ตอนนี้แทบไม่มีที่เขียนหนังสือเพราะมันถูกแทนที่ด้วยหนังสือหลายเล่มจนเจ้าของโต๊ะต้องไปนั่งกางโต๊ะญี่ปุ่นเขียนงานแทน
พอเปิดกล่องออกมาก็พบว่าข้างในมีภาพที่ลมวาดอยู่ค่อนข้างเยอะผมจึงหยิบกระดาษออกมาก่อนจะเปิดดูทีละแผ่น แต่ผมก็ต้องอึ้งเมื่อมันมีรูปผมรวมอยู่ด้วย แล้วภาพวันที่ผมยืนคุยโทรศัพท์วันนั้นก็ลอยเข้ามาในหัว ลมวาดรูปผมจริงๆด้วย
หน้าอกข้างซ้ายมันยิ่งเต้นแรงกว่าเดิมเมื่อคิดว่าลมมองผมก่อนที่ผมจะมาตีสนิทกับลมชะอีก นี่มันยิ่งกว่าถูกหวยแล้ว!
ขณะที่ผมกำลังดีใจผมก็มองในกล่องที่ยังมีอีกหลายภาพ แต่ผมกลับสนใจภาพวาดภาพหนึ่งซึ่งนอกจากรูปผมที่เป็นรูปเหมือนแล้วก็ยังมีอีกภาพหนึ่งซึ่งเป็นผู้หญิง
ใคร?
เกิดคำถามขึ้นมาในใจ
“ มึงทำอะไร ” เสียงจากข้างหลังทำให้ผมไม่อยากแม้แต่จะหันไปมอง
โดนด่าแน่ๆ
“ กูถามว่ามึงทำอะไร ” เสียงเข้มมาเชียว
“ เก็บกล่องไง เห็นมันวางไม่เป็นระเบียบ ” ผมรีบปิดกล่องแล้วหันไปฉีกยิ้มให้อีกคนทันที
“ แล้วมึงเห็นอะไรบ้าง ”
“ ก็เห็นรูป.... ”
ไอ้เชี้ยอิฐ! โป๊ะแตกแล้วมึง
“ เผลอไม่ได้เลยจริงๆ ” ลมทำหน้าตึงใส่ผมทันที โทษผมไม่ได้นะก็กล่องมันโผล่ออกมาเอง
“ ไหนๆก็จับได้แล้ว ขอรูปหน่อยสิ ”
“ รูปอะไร ”
“ รูปกูไง ” ลมหันมามองผมอย่างตกใจ
“ นี่มึงเห็นหรอ ”
“ ชัดๆเลย โถ่แอบมองกูก็ไม่บอก ” แซวชะหน่อยครับโอกาสมันมา
ลมไม่ตอบอะไรแต่ปั้นหน้านิ่งตามสไตล์ของเขาล่ะ แต่หูแดงๆนั้นแหละที่ทำให้ผมยิ้มกว้างแปลได้สองอย่างคือโกรธที่ผมละเมิดความเป็นส่วนตัวกับเขินที่ถูกจับได้ว่าแอบวาดรูปผม
แต่ผมจะคิดว่าเป็นอย่างที่สองก็แล้วกัน สบายใจดี
“ เอาไปเลย ” ผมรับกระดาษจากลมที่เจ้าตัวแทบจะปาใส่หน้าผมอยู่แล้วก่อนลมจะเดินกลับไปทำงานต่อ
โถ่ ไม่บอกก็รู้ว่าเขิน
ผมดีใจกับภาพวาดในมือจนลืมไปว่าก่อนหน้านี้ผมกังวลเรื่องอะไร
.
.
.
และผมก็ไม่รู้เลยว่าเรื่องที่ผมกังวลมันกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า...



ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีชะนีจะมาทำไมเนี่ยะ เฮ้อออ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เตรียมตัวเตรียมไว้นะอิฐ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ Blackcrow

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Chapter 12
คนที่เขาไม่รู้ว่าใคร

Lm'Part


ผมสอบสามวันติดกันแล้ว!
ช่วงนี้ผมมีควิซบ่อยมากปฎิบัติไม่เท่าไหร่แต่ทฤษฎีนี่สิจำจนจะเป็นประสาทอยู่แล้ว
ในใจนี่เทตั้งแต่เห็นเนื้อหาแล้ว แต่ถ้าไม่อ่านเอฟลอยมาแน่ๆ
สภาพตอนนี้ก็คือซอมบี้ดีๆนี่เอง
“ กูนึกว่าจะไม่รอดไอ้สัส มึงดูขอบตากูดิไอ้ลมจะเป็นญาติกับหมีแพนด้าแล้วเนี่ย ”
ผมก็ไม่ต่างจากมันเท่าไหร่หรอกครับ ไม่ได้นอนเหมือนกัน
“ พี่ลมคะ ” ผมหันไปมองเด็กต่างคณะที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมพร้อมกับถือกล่องบางอย่าง
“ มีอะไรรึเปล่าครับ ” ผมถามคนตรงหน้า
“ สุขสันต์วันเกิดนะคะ ”  ผมรับกล่องของขวัญที่คนตรงหน้ายื่นมาให้
“ ขอบ…” ยังไม่ทันขอบคุณเธอก็วิ่งออกไปชะก่อน
ผมมองกล่องของขวัญในมือ
สุขสันต์วันเกิดงั้นหรอ...
วันนี้วันเกิดผมนี่หว่า ลืมไปเลย
“ ทำหน้าแบบนี้อย่าบอกนะว่ามึงลืมวันเกิดตัวเองอะ ” ลืมสนิทเลยล่ะ
“ อืม ”
“ คืนนี้ไปฉลองกันปะ ” เมื่อกี้ยังทำหน้าเหมือนจะไม่รอดอยู่เลยตอนนี้กลับดี้ด้าขึ้นมาซะงั้น
“ ไปแทบทุกวันไม่เบื่อหรอวะ ”
“ คลายเครียดไงมึง เรียนก็หนักก็ต้องไปหาที่ที่มันเจริญหูเจริญตาดิวะ ”
“ จะไปไหนหรอครับ พวกผมไปด้วยสิ ”
เสียงไอ้เนมดังมาแต่ไกลพร้อมกับไอ้เฟรมที่เดินตามกันมา
“ ก็ไป...ไปไหนล่ะก็จะกลับห้องไปนอนไง เนาะไอ้ลม ” พอเห็นยิ้มเย็นๆของไอ้เฟรมไอ้ไม้มันก็เลี้ยวกลับแทบไม่ทันเลยครับ
คงสงสัยกันใช่ไหมครับว่าทำไมมันถึงวกกลับแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยแบบนี้ ก็ไอ้ไม้มันกำลังคบหาดูใจกับไอ้เฟรมอยู่ ตอนผมรู้เรื่องผมก็ตกใจเหมือนกันไม่รู้มันไปสปาคกันตอนไหน จนมันเล่าให้ฟังว่าไปกินเหล้าด้วยกันบ่อยแล้วก็คุยกันถูกคอ คุยไปคุยมาก็ชอบ แถมมันยังโม้ให้ฟังว่าดูไปดูมาไอ้เฟรมมันก็น่ารักดี คบใครมันอวยคนนั้นครับอวยจนคนโสดอย่างผมรำคาญ
“ ไม่ไปแล้วหรอครับพี่ต้นไม้ ”
“ ไม่ไปแล้ว ง่วง ” เห็นอนาคตมาแต่ไกลเลยว่ะ
“ สุขสันต์วันเกิดครับพี่ลม  นี่เป็นผักจากแปลงที่ผมดูแลเลยน้า ” ไอ้เนมยื่นถุงผักนานาชนิดให้ผมแถมยังผูกโบว์ไว้เป็นอย่างดี
“ นี่มึงคิดว่าพี่รหัสมึงเป็นหนอนหรอไอ้เนมเอาผักมาให้มันทำไม บางทีมันอาจจะอยากแดกเหล้าก็ได้ ”
“ พี่ลมนะไม่ใช่พี่จะได้แดกเหล้าทุกวัน ” หนึ่งดอกจากไอ้เฟรมครับเอาชะไอ้ไม่เถียงไม่ออกเลย
ผมว่าคู่นี้เหมาะกันดีนะ
“ มึงเกลียดกูหรอไอ้เฟรม ”
“ คิดเองดิ ” เริ่มตั้งการ์ดใส่กันแล้วครับ
“ กินให้หมดนะพี่ แปลงนี้ผมดูแลเป็นอย่างดี ” สำหรับเด็กเกษตรแล้วการให้ผลผลิตจากแปลงที่ตัวเองดูแลมันมีความหมายนะ เพราะเขาดูแลและถนอมพืชพันธุ์นั้นเป็นอย่างดี ก่อนที่จะถึงมือผู้รับ
“ ขอบใจ ”
“ สรุปคืนนี้ไปฉลองกัน เดี๋ยวจองร้านไว้ ” ไอ้ไม้ในสรุปเองเสร็จสรรพไม่ถามความเห็นใครเลยสักนิด
“ พวกผมไปด้วยได้ปะ ” ไอ้เฟรมถาม
“ ได้ดิ แต่จ่ายเองนะ ”
“ เลี้ยงน้องหน่อยดิ เนาะไอ้เนม ” ไอ้เฟรมมันหันไปหาแนวร่วม ไอ้เนมนี่ตัวดีเลยครับพยักหน้าจนหัวแทบจะหลุดอยู่ละ
“ หารกันดิวะ เงินไม่ได้ผลิตเองนะเว้ย ”
“ ไม่ป๋าเลยว่ะเฟรม มึงเปลี่ยนคนคบมะ ”
“ ความคิดดีนะ ”
“ มึงอยากตายหรอไอ้เนมม ” ไอ้เนมเอียงตัวหลบลูกเตะของไอ้ไม้ก่อนจะไปหลบอยู่หลังไอ้เฟรม
ไลน์~
ผมเปิดหน้าจอตอบแชทคนที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร
   
A_d: สอบเสร็จยัง
LM: เสร็จแล้ว
A_d: ตอนเย็นว่างปะ
LM: จะไปแดกเหล้ากับไอ้ไม้

เมื่อผมเห็นว่าไม่มีข้อความอะไรตอบกลับมาก็เก็บมือถือลงกระเป๋า
 ผมไม่ตื่นเต้นกับวันเกิดมาสักพักแล้ว เพราะมันก็ไม่ต่างจากวันธรรมดาที่ไม่ได้มีความพิเศษอะไร




ตื๊ด~~~ตื๊ด~~~
“  หวัดดีครับบ ”
‘ ร่าเริงเชียวนะ ’ ผมยิ้มให้กับคนในสายที่นานๆทีจะโทรมา ไม่ใช่ใครที่ไหนครับคุณแม่ของผมเอง
“ แน่นอนสิครับ ก็คุณนายอุตส่าห์โทรมาหาผมนี่นา ”
‘ ก็ใครบางคนแถวนี้ไม่ยอมโทรมาหาแม่นี่คะ ’
“ ช่วงนี้ลมยุ่งนิดหน่อยครับ ” อ้อนสักหน่อยครับเดี๋ยวคุณนายท่านจะโกรธเอา
‘ ยุ่งจนลืมวันเกิดตัวเองรึเปล่าเอ่ย ’
“ เกือบลืมครับ ”
‘ ว่าแล้วเชียว ’ ผมยิ้มให้กับความรู้ทันของคนในสาย
“ ก็มีคนคอยเตือนอยู่นี่ไงครับ ”
‘ จริงๆเลยเจ้าลูกคนนี้....สุขสันต์วันเกิดนะแม่ขอให้ลูกมีความสุขแล้วก็โทรมาหาแม่บ้าง คนทางนี้เหงานะรู้ไหม ’ ไม่ว่าจะกี่ปีคุณแม่ก็บอกผมแบบนี้เสมอ แค่ประโยคเดียวแต่มีความหมาย
‘ วันเกิดปีนี้ขอให้เป็นปีที่ดีนะเจ้าลม ’
“ ขอบคุณนะครับ ผมคิดถึงแม่นะไว้ว่างๆผมจะโทรไปหา ”
‘ ให้มันจริงเถอะ ’ แล้วคุณแม่ก็ตัดสายไปโดนที่ผมไม่ทันได้พูดอะไรต่อ จริงๆก็กลายเป็นเรื่องชินสำหรับผมไปชะแล้วล่ะครับ
ก็ได้แต่หวังว่าวันเกิดปีนี้จะเป็นปีที่ดี...



.................


ผมกำลังมองหาคนที่ไม่ตอบแชทผมตั้งแต่ตอนบ่าย จากที่คิดว่ามันน่าจะมาด้วยก็ไม่เห็นโผล่มาทั้งที่คนอื่นก็มากันเกือบหมดแล้ว
ไปไหนของมัน
“ มองหาไอ้อิฐหรอ ” ไอ้กิมที่นั่งอยู่ข้างๆผมเอ่ยขึ้น
ขนาดไอ้กิมยังมาแล้วคนที่ไม่น่าจะพลาดมันหายหัวไปไหน
“ เปล่า ” ใครจะไปยอมรับวะ
“ โกหกไม่เนียนไปเรียนมาใหม่ ”  มึงเป็นเครื่องจับโกหกรึไงเนี่ย
“ มองหาเขาก็บอกมาตรงๆ ”
“ ก็มองหาปกติปะ เพื่อนคนอื่นก็มากันหมด ” ผมตอบไอ้กิมก่อนจะยกแก้วของตัวเองขึ้นดื่ม
“ มึงจะแถทำไหมเนี่ย มองหามันก็ยอมรับมาตรงๆดิ ”
“ เออ ”
“ ลีลา ” กูไม่ได้ลีลาเว้ยแค่ไม่ยอมรับ
ไอ้กิมเลิกสนใจผมก่อนจะหันไปสนใจเครื่องดื่มตรงหน้า
จริงๆเรามากันหลายคนนะครับแต่คนที่นั่งอยู่โต๊ะก็มีแค่ผมกับไอ้กิมนี่แหละ นอกนั้นอยู่หน้าเวทีนู่น
ร้านที่ไอ้ไม้มันจองเป็นร้านที่ค่อยข้างหรูในระดับหนึ่งต่างกับร้านสาติกันคนละเรื่องเลย
วันเกิดผมแต่คนสนุกคือพวกไอ้ไม้ มันก็แทนกันได้อยู่นะผมว่า
ขณะที่ผมกำลังนั่งดื่มไปเรื่อยๆดนตรีสดที่กำลังเล่นก็หยุดพร้อมกับไฟที่ดับลง
ร้านออกจะใหญ่โต ไฟคงไม่ดับใช่ไหม
แต่แล้วผมก็ต้องอึ้งเมื่ออยู่ๆคนที่ผมคิดว่าไม่มากำลังถือเค้กออกมาจากข้างเวทีเดินตรงมาหาผมพร้อมกับร้องเพลง
“ แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู…” แล้วคนทั้งร้านก็พร้อมใจกันร้องตามและปรบมือ
จริงๆก็รู้สึกดีนะ แต่แบบมึงลงทุนไปรึเปล่า!!
สักพักไอ้อิฐมันก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผมพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่ส่งมา
ผมเคยบอกใช่ไหมครับว่าไอ้อิฐมันมีพลังบวกค่อนข้างเยอะ แล้วตอนนี้มันก็ส่งมาถึงผม
“ อธิษฐานแล้วเป่าเทียนสิ ” ผมมองหน้าไอ้อิฐก่อนจะหลับตาแล้วอธิษฐานจากนั้นก็เป่าเทียน
เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมกับไฟที่สว่าง และใบหน้าของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมชัดขึ้น
“ สุขสันต์วันเกิดนะ เค้กนี่กูทำเองเลยนะ ” มันพูดแล้วยิ้มกว้าง
“ กินได้แน่หรอ ” เสียงไอ้กิมดังขึ้นทำให้ไอ้อิฐหุบยิ้มทันที
" สุขสันต์วันเกิดนะครับ ขอให้เจ้าของวันเกิดมีความสุขมากๆและขอให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่มีความสุขกับค่ำคืนนี้กันอย่างเต็มที่นะครับบบบ " เสียงนักร้องนำพูดผ่านไมค์ ผมโค้งหัวให้แทนคำขอบคุณก่อนจะรับเค้กจากไอ้อิฐ
“ ทำเองจริงดิ ” ผมมองเค้กก้อนโตอย่างไม่เชื่อสายตา
“ จริง นี่ทำทั้งวันเลยนะ เจ๋งปะล่ะ ”
“ โม้ ” ไอ้กิมเจ้าเก่าเจ้าเดิมครับ
“ ไม่มีบทก็หุบปากไป”
“ พี่ลมแบ่งเค้กดิ ” ไอ้เนมผู้ชอบของหวานเป็นชีวิตจิตใจจ้องเค้กอย่างไม่วางตา
“ มึงนั่งเลยเดี๋ยวกูแบ่งให้ ”
“ บริการดีจนไอ้ลมมันจะเป็นง้อยแล้วมั้ง สปอยอะไรของมึงนักหนาไอ้อิฐ ” ที่ไอ้ไม้พูดมันก็เกินไปครับ ไอ้นี่พอไม่ตีกับไอ้เฟรมก็หาเรื่องตีกับคนอื่นไปเรื่อย
“ เรื่องของกูปะ จะแดกไหมเค้ก ”
“ แดกครับพ่อออ ”
ไอ้อิฐแบ่งเค้กให้เพื่อนจนหมดและชิ้นที่ใหญ่ที่สุดก็ถูกวางไว้ตรงหน้าผม
ผมไม่ชอบของหวาน...
รับรู้ได้ถึงการกลั้นขำของไอ้กิมที่นั่งอยู่ข้างๆโดยตอนนี้ด้านข้างผมก็มีไอ้อิฐนั่งประกบอยู่
แล้วดูหน้าไอ้อิฐสิครับใครจะไปกล้าปฏิเสธวะ
“ ชิมสักหน่อยดิ ”
ของหวานกับแอลกอฮอล์มันไปกันได้แน่หรอวะ
ผมกลั้นใจตักเค้กเข้าปากก่อนจะพบว่ารสชาติมันไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ชอบอยู่ดีนั่นแหละครับ
“ ลงทุนว่ะ อิจฉาเลยนะเนี่ย ” ไอ้กิมมันพูดก่อนจะมองผมแล้วอมยิ้ม
“ ไปเข้าห้องน้ำแปป ”
ผมพยักหน้าให้ไอ้กิมก่อนจะมันเดินออกไป
“ มีอะไร ” พอหันมาก็เจอสายตาของไอ้อิฐที่มองผมอยู่ก่อนแล้ว
“ มีของขวัญจะให้ ” ไอ้อิฐยื่นกล่องของขวัญสีดำมาตรงหน้าก่อนผมจะรับไว้แล้วทำท่าจะเปิดแต่คนที่ให้กลับห้ามไว้ชะก่อน
“ อย่าเพิ่งเปิด ”
“ ทำไม ”
“ เอาไว้...ถ้ามึงคิดถึงกูเมื่อไหร่ค่อยเปิด ” ไอ้อิฐมันหลบสายตาก่อนจะเกาท้ายทอยแก้เขิน    ผมคิดงั้นนะเพราะหูทั้งสองข้างของมันแดง
คิดถึงงั้นหรอ เหมือนกับที่ผมรู้สึกตอนที่ไม่เจอมันวันนี้รึเปล่า
“ ไม่รู้จะได้เปิดไหมนะ ” ผมแกล้งแหย่มันเล่นแล้วเก็บกล่องของขวัญใส่กระเป๋า
“ ไม่เปิดไม่เป็นไร แค่เก็บมันไว้ก็พอ ” นับวันคำพูดของมันยิ่งเสี่ยวมากขึ้น แล้วก็ใจผมที่มันชอบเต้นแรงทุกครั้งเวลาไอ้อิฐมันพูดหรือทำอะไรแบบนี้ให้
อยู่กับมันผมรู้สึกอบอุ่นทุกครั้ง และผมก็ชอบที่มันอยู่ข้างๆผมแบบนี้
“ ขอบคุณนะ ”
ไอ้อิฐทำหน้าแปลกใจใส่ผม
“ วันเกิดปีนี้ พิเศษขึ้นเยอะเลย ” ผมยิ้มให้ไอ้อิฐมันจึงยิ้มกว้างก่อนจะยีหัวผมเบาๆ
ความเนียนของมันทำให้หัวใจผมทำงานหนักและเริ่มรู้สึกว่ามันอันตรายต่อใจผมมากขึ้นเรื่อยๆ
ที่ผมบอกว่าพิเศษ มันพิเศษจริงๆ คงเป็นเพราะไอ้คนที่นั่งยิ้มหน้าบานอยู่ข้างๆด้วยล่ะมั้ง
...ก็หวังว่าวันเกิดผม จะมีมันอยู่ข้างๆแบบนี้อีก...





G___G: ถึงห้องยัง
    LM: ยัง อยู่หน้าหอกำลังจะขึ้นห้อง
G___G: มีเรื่องจะคุยด้วย รอตรงนั้นนะ
    LM: โอเค

“ มีอะไรรึเปล่า ” เสียงไอ้อิฐทำให้ผมหันไปสายหน้าแทนคำตอบ
“ มึงขึ้นห้องไปก่อนเลยก็ได้นะ ”
“ ทำไมอะ ”
“ ไอ้กิมมีเรื่องจะคุยด้วย เดี๋ยวมันมา ” ไอ้อิฐขมวดคิ้วทันที
“ งั้นกูรอเป็นเพื่อน มันมาเดี๋ยวกูค่อยขึ้นไปก็ได้ ” ไอ้อิฐก็คือไอ้อิฐ ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ซึ่งผมก็ไม่ได้ติดอะไรอยากรอเป็นเพื่อนก็รอ
ก่อนจะแยกกันไอ้กิมก็ไม่มีท่าทีที่จะมีเรื่องต้องคุยกับผม ซึ่งผมกำลังคิดอยู่ว่ามันมีเรื่องอะไรกันแน่
“ ลม ”
“ ครับ ”
ผมตอบทั้งยังไม่รู้ว่าเป็นเสียงของใครแต่ที่แน่ๆไม่ใช่เสียงคนที่ยืนอยู่ข้างๆผมแน่นอนเพราะเสียงนั้นเป็นเสียงของผู้หญิง
พอหันไปมองผมก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าคือใคร
“ สุขสันต์วันเกิดนะ ” รอยยิ้มที่ผมไม่ได้เห็นมานานถูกส่งมาจากคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล
ผมยังจำรอยยิ้มนั้นได้ดี
“ เธอ... ”
.
.
รักแรกของผม



ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ชะนีมาทำไม  :z6: :z6: :z6:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
งานนี้น่าจะพบคนอกหัก 1 อัตราล่ะมั้งนะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :pig4:
 :3123:

ออฟไลน์ Blackcrow

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Chapter 13
คนที่เธอรัก...

มัธยมปลาย


‘ โอ้ย! เธอเบาๆหน่อยสิ ’ ผมร้องเสียงหลงเมื่อคนที่กำลังทำแผลให้ผมกดแผลชะเต็มแรง
‘ ทีอย่างนี้ล่ะเจ็บ ตอนตีกันทำไมปากดีจังคะ ’ คนที่บ่นผมอยู่คือ เม็ดทราย แฟนของผมเอง
เธออายุมากกว่าผม1ปี แต่ผมไม่เคยเรียกพี่เลยสักครั้ง
เม็ดทรายเป็นดาวโรงเรียนทั้งสวยทั้งเรียนเก่ง เป็นคนที่มีพร้อมเกือบทุกอย่าง ใครๆก็ชอบเธอ ส่วนผมก็เป็นนักเลงกระจอกๆคนหนึ่งที่มีเรื่องต่อยตีเป็นประจำ โดดเรียนบ้างตามประสาคนติดเพื่อน    ผมกับเธอต่างกันราวฟ้ากับเหว
ใครๆก็บอกว่าผมไม่คู่ควรกับเธอ แต่เธอก็ยังเลือกผม
เราคบกันมาได้สักพักแล้ว เธอบอกผมตลอดว่าให้เลิกมีเรื่องชกต่อยสักทีแต่มันทำได้ที่ไหนล่ะครับ ไม่ใช่ว่าจะเลิกง่ายๆซะหน่อยพอเจอคู่อริมันก็ใส่พวกผมไม่ยั้งแล้วจะให้พวกผมอยู่เฉยๆหรอ
‘ เราขอได้ไหม เลิกทำให้ตัวเองเจ็บตัวแบบนี้สักที ’ สีหน้าและแววตาที่แสดงความเป็นห่วงจนผมไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมา
เธอมีอิทธิพลต่อใจผมมาก เพราะเมื่อไหร่ที่เธอขอผมก็จะพยายามทำให้
และนั่นทำให้ผมไปหาเพื่อนน้อยลง เข้าเรียนทุกคาบ ผมไม่ใช่คนเรียนเก่งแต่มีแฟนเรียนเก่งนี่ครับ หลังเลิกเรียนเธอจะติวหนังสือให้ผมเกือบทุกวัน จนกลายเป็นว่าผมมีแค่เธอ ไม่ได้สนใจเพื่อนเลย    
ผมเลิกมีเรื่องชกต่อยตามที่เธอขอได้จริงๆและเพื่อนก็ถอยห่างจากผมด้วย โดยเฉพาะไอ้กิมเมินผมอย่างเห็นได้ชัด จากที่เคยไปบ้านมันบ่อยๆผมก็เลือกที่จะไปบ้านข้างๆแทนนั่นก็คือบ้านของเธอ
ผมเจอเธอเพราะไปหาไอ้กิมบ่อยๆ แต่หลังจากนั้นผมไปเพราะอยากเจอเธอ
ผมติดแฟนจนลืมเพื่อน
ผมอยากแก้ตัวแต่มันสายเกินไปสำหรับไอ้กิม เรากลายเป็นคนไม่รู้จักกันไปแล้ว
‘ ไอ้กิมมันไม่ได้โกรธมึงหรอก  อย่าคิดมาก ’ ไอ้จินเป็นคนที่คอยทำให้ไอ้กิมกับผมคืนดีกันแต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ
มันบอกว่าดีด้วยซ้ำที่เธอทำให้ผมกลับมาตั้งใจเรียนเพราะเมื่อก่อนก็เป็นมันนี่แหละที่มักจะคอยเตือนเวลาที่ผมเกเร
ไม่ใช่ว่าไอ้กิมไม่ดี แต่เป็นที่ผมที่เป็นแบบนั้นอยู่แล้วเราจึงเข้ากันได้ดี ไอ้กิมมันเรียนเก่ง แต่ผมกลับไม่เอาอ่ะไรสักอย่าง
‘ แต่มันไม่คุยกับกู ’
‘ มันคงมีเหตุผมของมันแหละ ’
และเหตุผลของไอ้กิมก็เกินความคาดหมายของผมมาก
เพราะมันชอบผม



ดอกฟ้ากับหมาวัด นี่คือคำที่เพื่อนเธอมักจะพูดให้ผมหรือแม้แต่คนอื่นที่มองมา เมื่อก่อนอาจจะใช่แต่คอนนี้ผมปรับปรุงตัวเองทุกอย่างเพื่อให้เธอไม่อายใครเวลาเดินกับผม
ผมตั้งใจเรียน เล่นกีฬาจนได้เป็นตัวแทนของโรงเรียน และเริ่มดังในระดับหนึ่ง อยากจะเคียงข้างดาวผมจึงต้องพยายามทำตัวให้เป็นเดือน..และมันก็สำเร็จ
‘ มีแฟนหล่อต้องทำใจรึเปล่าเนี่ย ’ เธอเอ่ยแซวผมขณะที่มีรุ่นน้องเอาของมาให้แต่ผมไม่ได้รับและบอกไปว่ามีแฟนแล้ว
‘ หล่อเพราะใครล่ะ ’ ผมยีผมเธออย่างนึกเอ็นดู
เธอเป็นคนมีเหตุผล อาจจะเป็นเพราะเธออายุมากกว่าผมด้วยล่ะมั้ง
เราไม่เคยทะเลาะกันเลยสักครั้ง อย่างมากเธอแค่บ่นที่ผมทำตัวเกเร
‘ สุขสันต์วันเกิดนะสายลม ’
สายลม เป็นชื่อเล่นของผม คนอื่นมักจะเรียกผมว่าลม ก็มีเธอและคนในครอบครัวที่เรียกผมแบบนี้
ผมรับกล่องของขวัญจากเธอก่อนจะเปิดดู
สร้อยที่เธอบอกว่าหวงนักหวงหนาตอนนี้อยู่ในมือของผม
‘ ให้เราจริงหรอ เธอหวงมากไม่ใช่รึไง ’
‘ ก็เพราะหวงไงถึงให้ ’
ผมยิ้มกว้างเมื่อเธอพูดจบ เธอมักจะทำตัวน่ารักแบบนี้เสมอ
‘ อยากมีเธออยู่กับเราในวันเกิดแบบนี้ทุกปีจัง ’
‘ เราจะอยู่บอกสุขสันต์วันเกิดเธอทุกปีเลยนะ ’ เธอยิ้ม
‘ สัญญานะ ’ ผมยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าอีกคน
‘ สัญญา ’
เธอเกี่ยวก้อยผมก่อนจะยิ้มกว้าง
ผมชอบเวลาเธอยิ้มเพราะมันทำให้โลกของผมสดใส และทำให้ผมรู้สึกโชคดีเสมอที่เธอเลือกผม



แต่เพราะความสุขมันมักจะอยู่กับเราได้ไม่นาน
วันนี้เป็นวันที่เธอเรียนจบผมก็คิดไว้แล้วว่าเราต้องห่างกัน แต่แล้วไงผมสามารถไปหาเธอได้อยู่แล้ว
งานปัจฉิมของรุ่นพี่ม.6 รุ่นน้องต่างมาแสดงความยินดีรวมถึงผู้ปกครองและผมที่กำลังถือกล่องของขวัญไปให้เธอ
ในกล่องมีสมุดวาดรูปที่ผมวาดรูปเธอตั้งแต่แอบมองเธอข้างเดียวจนคบกันและถึงตอนนี้เพราะมันเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สื่อถึงความรู้สึกของผมที่มีต่อเธอนอกจากคำพูดและการกระทำ
‘ เธอ ’ เมื่อได้ยินเสียงผมเธอที่กำลังคุยกับเพื่อนอยู่ก็หันมา
เธอคุยกับเพื่อนสักพักก่อนจะแยกตัวมาหาผม
‘ ยินดีด้วยนะ เรามีของ…’
‘ เรามีเรื่องจะคุยด้วย ’
ผมไม่ได้พูดอะไรต่อเมื่อเห็นสีหน้าของเธอ ใบหน้าที่ไม่ได้ยิ้มเหมือนทุกครั้งที่เจอผม จนผมคิดว่าผมไปทำอะไรผิดไว้รึเปล่า
‘ จำทุนที่เราเคยเล่าให้ฟังได้ไหม ’ ผมพยักหน้า
เธอเคยบอกผมว่าเธออยากได้ทุน แต่ผมจะยินดีมากถ้ามันไม่ใช่ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ
‘ เราได้ทุนนั้น ’ ผมคงไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมว่านี่อาจจะหมายถึงการบอกลา
‘ ประเทศไหนอะ เราไปเรียนด้วยได้ปะ ’ ผมหมายถึงอย่างที่พูดจริงๆ เรื่องแค่นี้ทำไมผมจะตามเธอไปไม่ได้
‘ ไม่ต้องหรอกลม เรารู้ว่าเธอเหนื่อยที่วิ่งตามเราขนาดนี้ ’ ผมยิ้มไม่ออกที่อยู่ๆเธอพูดออกมาแบบนี้
ผมไม่เคยเหนื่อยและผมก็ไม่ได้วิ่งตามเธอผมแค่พยายามทำด้วยให้ดีขึ้นเพื่อเธอ
‘ เราไม่ได้เหนื่อยเลยนะ ’
‘ เราขอไปทำตามความฝันของเราได้ไหม ’
‘ เรารอได้ ’
‘ ไม่มีใครรอได้หรอกลม ’ ใบหน้านิ่งๆไม่ได้บ่งบอกว่าพูดเล่นแต่อย่างใด
ถ้าเธอขอผมก็พยายามทำให้...ครั้งนี้ก็เช่นกัน
เธอเดินจากไปโดยที่ของขวัญยังอยู่ในมือผม ผมไม่ได้ให้เธอและดูเหมือนเธอก็ไม่ได้สนใจที่จะมองมันด้วยซ้ำ
วินาทีนั้นผมถึงได้เข้าใจความหมายของคำว่า ใจสลาย เป็นครั้งแรก
ไม่เคยทะเลาะกันก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เลิกกัน
ผมไม่กล้าแม้แต่จะรั้งเธอไว้ นั่นเป็นความฝันและอนาคตของเธอที่เธอไม่อนุญาตให้มีผมอยู่ในนั้น
มันคงเป็นเหมือนกับที่คนอื่นบอกไว้
ผมมันไม่คู่ควรกับเธอตั้งแต่แรกแล้ว...



.....................


ปัจจุบัน


“ เธอ....มาได้ไง ” ผมมองคนตรงหน้าอย่างตกใจ เมื่อคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอกลับมายืนอยู่ตรงหน้าผม
เธอคือเม็ดทราย แฟนเก่าของผม
“ แม่เราอยากกลับบ้านน่ะเลยมาส่ง ” เธอพูดแล้วยิ้ม
เธอยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ทั้งแววตาและรอยยิ้มที่ส่งมา ต่างจากครั้งสุดท้ายที่ผมได้เจอตอนที่เราเลิกกัน
“แล้ว…มาหาเราได้ยังไง ”
“ กิมบอกมาน่ะ จำได้ว่าวันนี้วันเกิดเธอเลยมา ” ไม่รู้ว่าเธอมาเพราะยังจำวันเกิดได้หรือคำที่เคยสัญญากันไว้
แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไรผมก็ดีใจ....ที่ได้เจอเธออีกครั้ง
ผมคิดถึงเธอมาตลอดและวันนี้เธอก็อยู่ตรงหน้าผม แต่อีกความรู้สึกมันกลับรู้สึกว่าแค่ได้เห็นหน้าอีกครั้งก็พอแล้วทั้งที่มันควรจะรู้สึกมากกว่านี้
“ ลม ” เสียงคนข้างๆทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่ายังมีอีกคนอยู่ตรงนี้
สายตาของไอ้อิฐที่ไม่รู้ว่าตอนนี้คิดอะไรอยู่กำลังมองผมสลับกับเธอ
“ เพื่อนหรอลม ” เธอมองไอ้อิฐแล้วถามผม
“ ใช่ อิฐนี่ทราย…”
“ เพื่อนลมค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ” เธอยิ้มให้ไอ้อิฐ
ผมกำลังจะบอกว่าเธอคือแฟนเก่าแต่ก็ดีแล้วแหละ เพราะตอนนี้ก็เราเป็นเพื่อนกันจริงๆ
“ ดึกแล้ว ” น้ำเสียงไอ้อิฐนิ่งจนผมไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร
“ นั่นสิ เรามาซะดึกเลย ขอโทษนะ ”
“ ไม่เป็นไร แค่เธอมาเราก็ดีใจแล้ว ” นั่นเป็นความรู้สึกจากใจจริงๆแค่เธอไม่ลืมผม ผมก็ดีใจมากแล้ว
“ เธอพักอยู่ที่ไหน ให้เราไปส่งไหม ” เธอส่ายหน้าแทนคำตอบ
“ ดึกแล้วเดี๋ยวไปส่ง ” ผมยังยืนยันคำเดิม ก่อนจะหันไปหาไอ้อิฐแล้วบอกมันให้ขึ้นห้องไปก่อน
“ มึงขึ้นห้องก่อนเลยนะ ” ไอ้อิฐไม่ได้ตอบอะไร มันยืนทำหน้านิ่งๆจนผมไม่รอคำตอบของมันแล้วเดินไปหาเธอ มันก็พูดขึ้น
“ มึงกลับมาแล้วไลน์บอกกูด้วย ” ผมหันไปพยักหน้าให้มัน
“ เดี๋ยว ” ไอ้อิฐมันร้องทัก
“ กูมีรถ เดี๋ยวไปส่ง ” ว่าแล้วมันก็เดินไปโรงรถทันที อะไรของมันหลายความคิดเหลือเกิน
สักพักรถคันหรูก็ขับมาจอดใกล้ๆมีรถก็ไม่ยอมขับ มาแย่งจักรยานผมขี่อยู่ได้
“ มึงมานั่งหน้า ” ผมเปิดประตูให้เธอก่อนจะเดินไปนั่งหน้าตามที่ไอ้อิฐบอก
“ จริงๆเรากลับเองก็ได้ เธอไม่เห็นต้องรบกวนเพื่อนเลย ”
“ ไม่รบกวนหรอก ” ผมหันไปยิ้มให้เธอ แต่ก็ต้องกลับมาเจอสายตาไอ้อิฐที่นิ่งจนผมไม่กล้าพูดอะไรต่อ



ไอ้อิฐจอดรถหน้าโรงแรมหรูที่ไม่ไกลจากมอเท่าไหร่
“ พรุ่งเธอว่างไหม ” เธอถามผมขณะที่ผมเดินมาเปิดประตูให้
“ ทำไมหรอ อยากเที่ยวแต่ไม่มีเพื่อนรึไง ”
“ รู้ใจตลอด ”
“ ขึ้นห้องเถอะ พรุ่นี้เจอกัน ”
“ งั้นฝันดีนะ ” ผมพยักหน้าให้เธอก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปในโรงแรม
“ ฝันดี…”
ความรู้สึกหลายอย่างกำลังตีกันผมไม่รู้ว่าผมรู้สึกแบบไหนกันแน่ ไอ้ดีใจมันก็ดีใจอยู่แล้ว แต่มันยังมีอะไรบางอย่างที่กวนใจผมอยู่
พอขึ้นรถมาไอ้อิฐก็ไม่ได้เอ่ยถามเกี่ยวกับเธอเลยสักคำ ยังทำหน้านิ่งอยู่แบบนั้น

G___G: เจอพี่ทรายรึยัง
LM: เจอแล้ว

อาจเป็นเพราะการกลับมาของไอ้กิมที่ทำให้เธอก็กลับมาหาผมด้วย...






ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ดูทรงแล้ว  เม็ดทรายคงไม่หวนรีเทิร์นหรอกเนอะ

แต่นู๋ลมอาจจะยังสลัดความรู้สึกเก่า ๆ ไม่เด็ดขาดสักทีแน่นวล

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด