เด็กเกษตรของนายวิศวะ ( Special 2 ( End ) : 13/01/63 )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กเกษตรของนายวิศวะ ( Special 2 ( End ) : 13/01/63 )  (อ่าน 53500 ครั้ง)

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อิฐ ได้ใจแม่ไปละ อิอิอิ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ตามใจแม่สุดๆ  o13 o13

ออฟไลน์ gotcha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ด่านคุณแม่ ผ่านฉลุย ด่านหินน่าจะเป็นคุณพ่อของลม

ออฟไลน์ Rapunzel225

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รีบๆมาต่อนะคร้าบบบบบ

ออฟไลน์ Blackcrow

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Chapter 21
คนที่ชอบ(1)


 Lm'Part

ถ้าถามว่าที่แม่มาหาผมครั้งนี้มีข้อดีไหม ผมบอกเลยว่ามากแต่ข้อดีนั้นไม่ได้มีผลกับผมนะแต่เป็นไอ้อิฐต่างหาก ซึ่งมันก็ดีตรงที่อย่างน้อยแม่ผมก็โอเคกับไอ้อิฐแค่นี้ผมก็สบายใจแล้ว
“ กูจะไปถ่ายแบบ ไปด้วยปะ ”
“ ถ่ายแบบอะไรวะ ” ผมถามไอ้ไม้ หรือว่ามีคนจ้างมันถ่ายแบบวะ
“ ของคณะไง ถ่ายกับน้องด้วย ” พอมันพูดแบบนั้นแล้วผมก็อ๋อทันที แต่วันหยุดแบบนี้ผมไม่อยากออกไปไหนว่ะ
“ ไปดูน้องด้วยก็ดี น้องเริ่มซ้อมรับน้องละ ” เหมือนมันรู้ว่าผมจะไม่ไปเลยยกเอาเรื่องน้องมาอ้าง
น้องปี1คณะผมเริ่มซ้อมรับน้องกันแล้วจริงๆคณะอื่นก็เริ่มซ้อมแล้วเหมือนกัน เพราะน้องใหม่ก็ใกล้จะเข้ามาแล้ว พวกผมปี2ซึ่งจะขึ้นปีสามก็ต้องไปดูความเรียบร้อยของน้องเพื่อที่จะเตรียมความพร้อมในการรับน้องใหม่ในเทอมหน้า
บางคนก็ชอบการรับน้องแต่ผมคนหนึ่งแหละที่ไม่ชอบ ผมไม่ค่อยชอบคนเยอะและหน้าตาผมก็ไม่ได้ดูเป็นมิตรกับใครเท่าไหร่ซึ่งมันเลยเหมือนไม่อยากยุ่งกับใครไปในตัวไม่รู้ว่าเป็นข้อดีหรือข้อเสีย แต่ก็นั่นแหละครับสุดท้ายผมก็เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายของการรับน้องอยู่ดี
“ สรุปจะไปปะ ” ในขณะที่ไอ้ไม้ดูพร้อมมากแต่ผมยังไม่อาบน้ำเลย
“ อาบน้ำก่อนจะรอปะ ถ้าไม่รอก็ไปก่อน ”
“ รีบไปอาบเดี๋ยวรอกว่ามึงจะปั่นจักรยานถึง ไปกับกูนี่แหละดีละ ” ผมพยักหน้าให้มันก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำ


“ ขาวว่ะไอ้ลม ” ผมทำหน้างงทันทีที่ไอ้ไม้พูด
" อะไรขาววะ ”
“ มึงไง ”
เมื่อกี้ผมเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวที่คาดเอวเอาไว้ แล้วอยู่ๆไอ้ไม้ก็มานั่งจ้องผมซะอย่างนั้น
“ ขนลุกว่ะ ”
“ ถ่ายไปอวดไอ้อิฐดีปะ ”
“ กวนตีน ”
“ กูน่าจะได้ของตอบแทนแน่ๆ ”
“ หุบปากแล้วออกไปข้างนอกเลยไป ”
“ เขินอะดิ้ ” ทำไมผมต้องเขินด้วยวะก็มีเหมือนกันอะ
ผมเดินมายังตู้เสื้อผ้าก่อนจะหาตัวที่มันน่าจะโอเคสำหรับออกไปข้างนอก เสื้อผ้าผมเยอะนะแต่มีแค่สีขาวกับสีดำ
“ กูแนะนำให้มึงใส่สีดำ ” เหมือนไอ้ไม้จะรู้ว่าผมตัดสินใจไม่ได้ระหว่างเสื้อเชิ้ตสีขาวกับสีดำมันจึงพูดขึ้น
“ จะดูกูเปลี่ยนเสื้อผ้า? ”
“ ได้หรอ ”
“ ไอ้สัส ออกไป ” ไอ้ไม้หัวเราะก่อนจะเดินออกไป ชอบให้ด่าไม่งั้นไม่ไปไอ้นี่
สุดท้ายผมก็เลือกเสื้อสีดำตามไอ้ไม้นั่นแหละส่วนกางเกงก็เลือกยีนส์ขาดเข่าตามแบบนิยมทั่วไป ผมไม่ใช่คนที่มีรสนิยมในการแต่งตัวเท่าไหร่มีอะไรก็ใส่ๆไป เพราะปกติก็ไม่ค่อยได้ไปไหนอยู่แล้วก็จะมีบ้างเหมือนอย่างเช่นวันนี้ น่าจะโอเคที่สุดสำหรับออกไปข้างนอกที่ไม่ได้ใส่เสื้อช็อปล่ะมั้ง


“ ดูเหมือนคณะไอ้อิฐจะมีซ้อมเหมือนกันนะ ไปดูปะ ” เพิ่งมาถึงก็จะชวนผมไปที่อื่นอีกแล้ว
“ จะไปหาไอ้เฟรม? ”
“ แสนรู้ว่ะ ” ว่าแล้วมันก็กอดคอผมให้เดินตาม
ผมเข้ามาภายในห้องที่เขาจัดเตรียมเพื่อถ่ายแบบ เอาไว้โปรโมทคณะตัวเองตามจริงไอ้ไม้มันไม่ต้องมาก็ได้ เพราะยังไงน้องก็ต้องถ่ายอยู่แล้ว แต่มันบอกว่าถ่ายไปก็ไม่ได้เสียหายอะไรเช็คเรตติ้งด้วยไรงี้
“ มึงนั่งรอตรงนี้แล้วกัน ” ผมพยักหน้าให้ไอ้ไม้ก่อนที่มันจะเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดนักศึกษา
เวลาไอ้ไม้อยู่ในชุดนักศึกษาแล้วมันดูเรียบร้อยดูเด็กเรียนขึ้นเป็นกอง แต่มันไม่ค่อยใส่ส่วนใหญ่จะใส่สื้อช็อปซะมากกว่า
“ หวัดดีครับพี่ลม ”
รุ่นน้องที่เป็นเดือนเดินเข้ามาทักผมเมื่อหมดคิวตนเอง น้องมันเลื่อนเก้าอี้แล้วนั่งลงข้างๆผม
“ จำผมได้ปะ ”
“ จำไม่ได้ ”
“ ล้อเล่นปะเนี่ยพี่ ” น้องมันพูดก่อนจะหัวเราะ ผมจำชื่อมันไม่ได้ครับแต่จำหน้ามันได้
“ ผมชื่อไบร์ท จำได้ยัง ” ได้แต่นึกอ๋ออยู่ในใจ ไอ้ไบร์ทเป็นเดือนเกษตรปี1หน้าตามันก็เหมาะกับเดือนนั่นแหละครับมีแต่คนบอกว่ามันนิสัยดีจากที่ไอ้ไม้บอกอะนะ
“ อืม ” ผมหันไปมองไอ้ไม้ว่าถ่ายไปถึงไหนแล้ว ไอ้รุ่นน้องตรงหน้ามันก็จ้องหน้าผมจนต้องหันกลับมามอง
“ มีอะไร ”
“ พี่คบกับพี่อิฐวิศวะหรอ ” มันถามยิ้มๆ
“ ทำไมคิดงั้น ”
“ โถ่พี่ ในเฟสเขาแชร์กันออกจะเยอะแยะใครเขาจะไม่คิดล่ะ ” สรุปคือรู้กันทั้งมอว่างั้น
“ ไม่ได้คบ ”
“ แค่คู่จิ้นหรอพี่ ” มันทำหน้าเหมือนผิดหวังก่อนจะถามต่อ อะไรของมันวะ
“ งั้นมั้ง ”
“ แฟนผมชอบอิฐลมมากเลยนะพี่ นึกว่าจะเป็นคู่จริงซะอีกว่าจะเอาไปโม้กับแฟนผมชะหน่อย ”
เดี๋ยวก่อน มันจะอะไรขนาดนั้นวะ
“ ไม่คบกันแน่หรอพี่ ”
“ ...ก็ไม่แน่ ”
พอผมพูดแบบนั้นไอ้ไบร์ทมันก็เบิกตากว้างทำหน้าตกใจทันทีก่อนจะหยิบมือถือตัวเองออกมาแล้วพิมพ์อะไรบางอย่าง ผมไม่ได้สนใจหรอกว่ามันจะพิมพ์อะไรถึงแม้ว่ามันจะเกี่ยวกับผมก็เถอะ


A_d: อยู่ไหนอะ
LM: คณะ
A_d: หิวข้าวว
LM: แล้ว?
A_d: ซื้อข้าวมาให้หน่อยย

ผมปิดหน้าจอมอถือก่อนจะคิดว่าคณะไอ้อิฐไม่มีข้าวให้กินรึไง พอดีกับไอ้ไม้เดินมา
“ ไปกินข้าวกันปะ ”
“ ไปดิ ” จะได้ซื้อไปให้ไอ้อิฐด้วย
“ มึง ”
“ อะไร ” ผมหยุดเดินเมื่อไอ้ไม้มันเรียก
“ ซื้อไปกินคณะวิศวะกันดีกว่า กูจะซื้อของไปให้ไอ้เฟรมด้วย ” ผมพยักหน้าให้มันก่อนมันจะเดินนำผมไปที่รถ
“ ไอ้อิฐฝากมึงซื้อข้าวใช่ปะ ”
“ ทำไมรู้ ”
“ เดาไง ” แม่นไปไหมวะ
ไอ้ไม้ยิ้มก่อนจะออกรถไปยังร้านประจำของพวกผมเมนูประจำก็คงไม่พ้นผัดกะเพราอีกตามเคย ไอ้อิฐก็เหมือนกันกินอยู่ได้เกือบทุกวัน



“ พี่อิฐคะ น้ำค่ะ ” ผมมองคนพี่ยิ้มให้รุ่นน้องพร้อมกับรับแก้วน้ำ ก็ดูมีอะไรกินนี่หว่า
“ หวงอะดิ แค่รุ่นน้องเองมึง ”
“ หวงอะไร ”
“ ไอ้อิฐ! ” ทำไมชอบใช้เสียงจังวะคนมองมากันหมดละ ส่วนเจ้าของชื่อก็ยิ้มหน้าบานตามสเตปก่อนมันจะเดินมาหาพวกผม
“ เห็นไม่ตอบแชทนึกว่าจะไม่มา กำลังหิวพอดีเลย ” ไอ้อิฐว่าพลางแย่งถุงข้าวกล่องจากมือของผมไปถือเอง
“ ไม่ใช่ว่ากินไปแล้วหรอ ”
“ เปล๊า ยังไม่กิน ”
“ ตอแหลไอ้อิฐ ” หนึ่งดอกจากไอ้ไม้
“ ขอบใจที่ชม ”
“ นั่นไงไอ้ลมมันยอมรับว่ามันตอแหล เอาข้าวกล่องคืนเลยมึง ”
“ หุบปากแล้วไปหาไอ้เฟรมเลยมึงอะ ” ไอ้อิฐชี้หน้าไอ้ไม้ก่อนไอ้ไม้จะหัวเราะแล้วยอมเดินไปหาไอ้เฟรมแต่โดยดี
“ แล้วนี่กินข้าวยัง ”ไอ้อิฐถามขณะที่ผมกับมันเดินมาถึงโต๊ะ
“ ยัง ”
“ อยากมากินกับกูอะดิ้ ” บางทีมันก็ควรจะดูหน้าผมด้วยนะก่อนจะเล่นอะ
กูหิวข้าวเว้ย!
“ อ้าวพี่อิฐเพิ่งกินข้าวไปเมื่อกี้หิวอีกแล้วหรอคะ ถ้าไม่อิ่มทำไมไม่เรียกมิวล่ะจะได้เอามาให้เพิ่ม ” มือที่กำลังจะเปิดกล่องชะงักไอ้อิฐหันมามองผมก่อนจะยิ้มให้ ตอแหลอย่างที่ไอ้ไม้ว่าจริงๆสินะ
“ เอ่อ ”
ผมไม่ได้สนใจว่ามันจะเอ่อหรืออะไรแต่ที่สนใจคือข้าวตรงหน้า ต้องรีบกินให้อิ่มครับไม่งั้นผมโมโหหิวใส่มันแน่ๆ
" ค่อยๆกินก็ได้เดี๋ยวกูกินเป็นเพื่อน " ผมหันไปมองมันนิ่งๆยังจะมีหน้ามาบอกว่าจะกินเป็นเพื่อนผมอีก
“ กินให้หมดด้วย ” ผมบอกมัน
“ หะ ”
“ ที่กูซื้อมา กินให้หมด ”
“ ได้เลยครับผม… ”
เอาจริงๆผมก็โมโหมันไม่ลงหรอก ให้ตายสิ
“ เดี๋ยวกูจะดูน้องจนถึงตอนเย็น อยู่ด้วยปะ”
“ จะให้กูอยู่ทำไม ”
“ อยู่เป็นกำลังใจ ”
“ น่าจะมีเยอะแล้วนะกูว่า ” ดูจากสายตารุ่นน้องหลายคนที่มองมันก็เยอะพอสมควรนะ มีหลายคนที่อยากเดินเข้ามาแต่คงเพราะเห็นผมนั่งอยู่ล่ะมั้งเลยไม่มีใครกล้าเข้ามา
“ แต่กูอยากได้จากมึงนี่ ” ว่าแล้วไอ้อิฐก็ยิ้มตามสเตปของมัน และนั่นก็ทำให้ผมปฏิเสธมันไม่ได้สักที
ผมแพ้รอยยิ้มของมันว่ะ
“ นะลม ”
“ เออ ”
แต่ช่วงหลังๆมานี่ผมว่าผมแพ้มันบ่อยเกินไปนะ


..........................


“ พี่อิฐคะ ดูเอกสารตรงนี้ให้ปลาหน่อยได้ไหมคะ ” ผมยืนมองภาพไอ้อิฐกับผู้หญิงคนหนึ่งกำลังคุยกันอยู่ ตามจริงผมจะเดินไปหามันนั่นแหละเพราะบอกมันว่าวันนี้ผมจะแวะมาหา เนื่องจากมันก็ต้องดูน้องอีกตามเคย
ไอ้อิฐมีคนชอบเยอะ อันนี้ผมรู้
และบางทีผมก็ลืมไปว่ามันเคยเป็นเดือนมหาลัย
“ ทำไมไม่เดินเข้าไปหามันล่ะ ” ผมหันหลังไปมองก็พบว่าติณณ์เดินมาหาผม
“ .... ”
ผมไม่ได้ตอบอะไร ติณณ์จึงมองตามที่ผมกำลังมองอยู่ก่อนจะพูดว่า
“ ถ้าชอบมันก็บอกมันบ้างนะ อย่าปล่อยให้มันคิดเองคนเดียว ”
ผมอาจจะเป็นคนไม่ค่อยพูดก็จริงแต่ไม่ใช่ว่าผมจะไม่รู้สึก และผมก็รู้สึกชัดขึ้นว่า ผมน่ะชอบไอ้อิฐเข้าแล้วจริงๆ
ชีวิตผมมีมันเป็นส่วนหนึ่งไปแล้ว และผมคงไม่ปล่อยมันไปไหนแน่ๆ
“ แต่ต่อให้มึงไม่บอก มันก็ชอบมึงอยู่ดี ”
“ ทำไมคิดงั้น ”
“ มึงไม่คิดว่าสิ่งที่มันทำให้มึงมันเกินคำว่าชอบหรอ ” เรื่องนั้นผมก็ตอบไม่ได้หรอก ยกเว้นเจ้าตัว
“ ไปกันเถอะ ” ผมพยักหน้าให้ติณณ์แล้วเดินตามหลังไป


“ ลม ” เสียงร่าเริงของไอ้อิฐทักผมทันทีที่เดินมาถึง
“ จะกลับยัง ”
“ เสร็จพอดีเลย ”
“ หุบยิ้มบ้างก็ได้มั้ง แหมม ”
“ มึงอะหุบปากไอ้แคมป์ ” ไอ้อิฐหันไปแยกเขี้ยวใส่แคมป์ก่อนจะหันกลับมายิ้มให้ผมอย่างเคย
“ มีมาหาด้วยอะ มีความแฟนเนาะ ”
ผมยิ้มเมื่อศิลป์พูดแบบนั้น ผมว่ามันเป็นเรื่องปกติของผมกับไอ้อิฐนะแค่ครั้งนี้ผมเป็นฝ่ายมาหามันก็เท่านั้น
“ เห้ยย มียิ้มด้วยสรุปเป็นแฟนกันแล้วหรอ ” ศิลป์ถามอย่างตื่นเต้นตามปกติของเจ้าตัวที่มักจะเป็นเสมอเมื่อถามถึงเรื่องผมกับไอ้อิฐ
“ ตอนนี้ยัง...แต่วันหลังก็ไม่แน่ ”
“ ... ”
“ .... ”

เงียบ

ผมพูดอะไรผิดรึเปล่าวะ

ผมมองไอ้อิฐที่มันเหมือนจะอึ้งๆก่อนจะได้สติแล้วเรียกผมชะตกใจ

“ ลม! ”
“ เชี้ยย ”
“ เพื่อนเราจะเป็นฝั่งเป็นฝาแล้วพวกมึงงงง ”
“ แม่งมาว่ะ ”
เอ่อ ผมว่าผมพลาดมากเลยนะ จากตอนแรกไม่อายตอนนี้ผมเริ่มจะอายแล้วล่ะ


" ที่พูดเมื่อกี้…พูดจริงหรอ "
พอเดินออกจากตึกวิศวะมาสักพักไอ้คนข้างๆมันก็หันมาถามผมอย่างกระตือรือร้น
ไอ้อิฐมันเหมือนเด็ก แต่ก็มีความเป็นผู้ใหญ่เหมือนกัน
“ กูเคยโกหกหรอ ”
“ แม่ง…โคตรน่ารักเลยว่ะ ” ชมอย่างเดียวก็ได้ไม่ต้องมายีหัวกู
“ เผื่อมึงลืมว่ายังไม่ได้คบกันนะ ”
“ วันนี้ยังแต่วันหลังไม่แน่ไง ” ย้อนคำพูดผมอีก
หน้าตาดูมีความสุขจนผมเริ่มจะหมั่นไส้ละ แต่ผมคงไม่ได้หมั่นไส้มันจริงๆหรอกเพราะผมก็มีความสุขเมื่อเห็นมันเป็นแบบนี้เหมือนกัน
“ กูดีใจนะที่มึงพูดแบบนั้น ”
“ อืม ”

และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมกับไอ้อิฐเดินกลับหอด้วยกัน มันกลายเป็นความเคยชินทั้งผมและไอ้อิฐไปแล้ว



ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Netich2876

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :-[ :o8: :impress2: :o8:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
คุ่นแม่อารมณ์ดีไปป่าวเนี่ยะ แอบระแวงนะนี่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เด็กเกษตรของนายวิศวะ ( Chapter 21 : 30/12/62 )
« ตอบ #129 เมื่อ: 31-12-2019 16:21:19 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
รอวันที่ทั้งสองคบกันนะครับ //เป็นกำลังใจให้ ^^

ออฟไลน์ Blackcrow

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Chapter 22
คนที่ชอบ (2)


“ คิดว่ามึงน่าจะสนใจเลยเอามาให้ดู ” ผมรับใบประกาศการประกวดวาดภาพจากพี่เท็น  ซึ่งพี่เท็นเป็นทั้งรุ่นพี่และประธานชมรมวาดภาพที่ผมอยู่
“ ขอบคุณครับ ช่วงนี้ผมยุ่งๆเลยไม่ค่อยได้ติดตามอะไรเลย ”
“ อ่านรายละเอียดดูเผื่อสนใจ คนในชมรมเราก็จะส่งประกวดกันหลายคน ” ผมพยักหน้าให้พี่เท็นแล้วอ่านรายละเอียดการสมัครจากใบประกาศในมือ
เป็นปกติที่จะมีการจัดประกวดวาดภาพในแต่ละปีก็จะเปลี่ยนหัวข้อไปเรื่อยๆปีที่แล้วผมไม่ได้ส่งประกวดเพราะยุ่งๆแต่จริงๆปีนี้ก็ยุ่งนะแต่คิดว่าอยากจะลองดูสักครั้ง เพราะหัวข้อมันก็น่าสนใจดี


“ พี่ลม! แฮ่กๆ ตามหาตั้งนาน ” ไอ้เนมวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ตรงหน้าผม
“ มีอะไร ”
“ มีเรื่องจะถามอะพี่ คือพวกผมติดต่อพี่ปิ๊กไม่ได้อะ ข้อมูลพวกนี้ผมสามารถไปถามใครได้บ้าง ” ไอ้เนมยื่นเอกสารมาให้ผมดูซึ่งมันเป็นเอกสารเรื่องการรับน้องโดยมีรุ่นไอ้เนมรับผิดชอบ รุ่นพี่อย่างพวกผมก็มีหน้าที่ให้คำแนะนำน้องๆ แต่คนที่เป็นประธานรุ่นผมอย่างปิ๊กถ้าบอกว่าตามตัวไม่เจอเห็นทีจะมีก็แต่คนที่คลุกคลีกับงานของมหาลัยมากที่สุดนั่นแหละ
“ ไอ้ไม้ ”
“ แล้วตอนนี้พี่ไม้อยู่ไหนอะพี่ ”
“ น่าจะไปหาไอ้เฟรม ”
“ ฮือออขอบคุณนะพี่ พวกผมต้องส่งเอกสารวันนี้อะแต่มันยังทำไม่ถูก ” ไอ้เนมแทบจะไหว้ผมอยู่แล้ว ดูท่าจะวิ่งวุ่นน่าดู
“ ไม่เป็นไร ” 
“ ไปด้วยกันปะพี่ ”
“ ไม่ล่ะ ”
“ งั้นผมไปละนะ ” ไอ้เนมบอกก่อนจะวิ่งออกไปทันที
ผมหยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความหาไอ้อิฐบอกมันว่าจะกลับก่อน เพราะผมมีงานต้องทำเดี๋ยวส่งไม่ทันวันประกวด



23:25 น.
ผมมองนาฬิกาก่อนจะวางดินสอแล้วยืดเส้นยืดสายสักหน่อย พอวาดรูปก็ลืมเวลาทุกทีลืมว่าตัวเองหิวด้วย แต่ถ้ากินตอนห้าทุ่ม อืม... มันก็เป็นเรื่องปกตินะผมว่า
ไอ้ไม้มันสลบไปเรียบร้อยแล้วและผมก็เพิ่งสำนึกได้ว่าพรุ่งผมมีเรียน
กินก่อนค่อยนอนแล้วกันไม่งั้นนอนไม่หลับแน่ๆ
ขณะที่ต้มมาม่าผมก็เปิดดูมือถือไปด้วย ไอ้อิฐไลน์มาสองสามข้อความผมจึงพิมพ์ตอบกลับไป ช่วงนี้มันก็ยุ่งเหมือนกันทั้งเรียนและดูน้อง มีบ้างที่มันมาหาผมและผมไปหามันจริงๆวันนี้ก็กะว่าจะไปหามันแต่ผมกลับมาวาดรูปชะก่อนก็อารมณ์มันมานี่ครับจะให้ทำไงได้

ไลน์~~

A_d: ยังไม่นอนหรอ
LM: ต้มมาม่าอยู่
A_d: ตอนนี้เนี่ยนะ
LM: ใช่
A_d: ไปหาได้ปะ
LM: ดึกแล้ว จะมาทำไม
A_d: คิดถึง

ผมมองแชทล่าสุดที่ไอ้อิฐส่งมาก่อนจะยิ้ม แล้วพิมพ์ตอบกลับไป

LM: เหมือนกัน

ไม่มีข้อความส่งกลับมาในทันทีผมก็เลยหันมาสนใจมาม่าแทน ไม่รู้ว่าตกใจหรืออะไรแต่ผมคิดว่ามันน่าจะตกใจแหละ ปกติผมก็ไม่พูดอะไรแบบนี้นี่นา

A_d: อยากไปหามากกว่าเดิมแล้วเนี่ยยยยยย

บางทีมันก็น่าแกล้งดีนะ

LM: ไปนอนไป
A_d: อีกหน่อย วันนี้ไม่ได้เจอมึงเลยคุยในนี้ก็ยังดี
LM: โอเค

จริงๆผมก็อยากคุยกับมันเหมือนกัน
.
.
แต่ผมอาจจะลืมไปว่าตอนนี้มันก็ดึกแล้วกว่าจะได้กินมาม่าก็เกือบเที่ยงคืน เพราะอะไรน่ะหรอก็เพราะคุยกับไอ้อิฐไง!



.......................


“ กูมีคำถาม ”
“ ว่า ”
“ มึงกับไอ้อิฐคบกันรึยังวะ ” ขั่นกว่าของคำว่าชอบรึเปล่าก็ถามว่าคบกันนี่แหละครับ ไอ้ไม้มันดูอยากถามผมมาหลายครั้งแล้วแต่เหมือนมันไม่มีโอกาสสักที
“ ยัง ”
“ ลีลา ชอบกันทำไมไม่คบ ” ทุกคนอยากมีสถานะที่ชัดเจนผมเข้าใจนะ แต่บางทีมันก็ไม่ควรรีบร้อนจนเกินไปและไม่ใช่ว่าผมเป็นคนใจเย็นอะไรหรอก แต่ทุกอย่างมันมีเวลาของมันทั้งนั้น
“ ใครจะไปรีบเหมือนมึง ”
“ ชอบก็คบไง ” คติประจำใจของมันล่ะ
ผมส่ายหน้าอย่างเอือมๆแล้วเก็บของเข้ากระเป๋า วันนี้ผมจะเปลี่ยนที่วาดรูปรู้สึกว่าวาดที่ห้องมันไม่สะดวกเท่าไหร่ รบกวนไอ้ไม้ตอนกลางคืนด้วย
“ แล้วนี่จะไปไหน ”
“ ห้องชมรม ” ไอ้ไม้มันทำหน้าเซ็งๆใส่ผม
“ วาดแต่รูประวังไอ้อิฐถูกหมาคาบไปแดก ” ย้ำกูจัง
ไม่ใช่ว่าผมไม่ห่วงเรื่องนี้นะ แต่ใช่ว่าผมจะอยู่กับมันได้ตลอดเวลาปะวะ ถ้ามันไม่เล่นด้วยก็ไม่มีอะไรหรอกแต่ถ้าเล่นด้วยค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน!
“ ไปละ ”
“ ฟังกูบ้างปะเนี่ย ” ผมเก็บของเสร็จแล้วโบกมือให้มันก่อนจะเดินไปหาจักรยานโดนมีเสียงไอ้ไม้ตะโกนตามหลัง

ผมชอบตอนเย็นๆในมอนะ คนไม่ค่อยเยอะแถมบรรยากาศก็ดีซึ่งมันทำให้ผมนึกถึงไอ้อิฐขึ้นมาตอนนี้มันคงยุ่งๆอยู่มั้งหรือว่าผมจะไปหามันสักหน่อยดี
คิดได้ดังนั้นผมจึงเปลี่ยนทิศทางจากชมรมไปยังคณะวิศวะแวะไปดูไอ้อิฐสักหน่อย

ก่อนจะไปหาไอ้อิฐผมก็ไม่ลืมที่จะซื้อของที่มันชอบไปฝากมันด้วย
ชาเย็น ร้านหน้าคณะมันนั่นแหละครับ

“ ทำไมล่ะคะ พี่อิฐก็ยังไม่มีแฟนไม่ใช่หรอ ”
เสียงคนคุยกันดังพอให้คนเดินผ่านมาอย่างผมได้ยินแต่ผมคงจะไม่สนใจหรอกถ้ามันไม่มีชื่อของไอ้อิฐอยู่ในบทสนทนานั้นด้วย
“ ขอโทษนะ พี่มีคนที่ชอบแล้ว ”
ผมเดินไปใกล้อีกนิดหน่อยพอให้ได้ยินชัดๆ ไม่ได้ตั้งใจจะฟังจริงๆนะครับ
ตรงที่ผมอยู่มีต้นไม้ใหญ่บังไว้พอไม่ให้คนที่กำลังคุยกันสนใจว่าผมอยู่ตรงนี้
ไม่ได้คุยกันที่ลับตาคนแต่ก็ไม่มีคนพลุกพล่าน
“ พี่ลมเกษตรหรอคะ ”
“ ใช่ ”
“ เหอะ เขาก็ไม่เห็นจะสนใจใยดีพี่ซะหน่อยยังจะไปชอบอยู่อีก ”
“ พี่ก็ไม่ได้สนใจแบมนะ แล้วจะสนใจพี่อีกทำไม ”
ผมอึ้งกับสิ่งที่ไอ้อิฐพูดเมื่อกี้อยู่นิดหน่อยไม่คิดว่ามันจะพูดแบบนี้ทั้งหน้าตาก็เริ่มจริงจังมากกว่าเมื่อกี้ด้วย
ตอนไอ้อิฐจริงจังหรือโกรธมันค่อนข้างหน้ากลัว
“ พี่อิฐ! ”
“ ขอโทษที่พี่ต้องพูดแบบนี้ แต่เลิกยุ่งกับพี่สักทีเถอะนะ ” ฟังจากน้ำเสียงที่พยายามไม่ให้แข็งเกินไปของไอ้อิฐก็คิดว่ามันน่าจะพยายามควบคุมอารมณ์อยู่
“ แล้วพี่จะเสียใจที่พูดกับแบมแบบนี้ แล้วก็รู้ไว้เลยนะว่าพี่ลมไม่มีทางชอบพี่หรอก ”

ตลกดีนะครับ เธอจะมารู้ได้ยังไง

“ ไม่ทันแล้วล่ะ เพราะเขาก็ชอบพี่ ”
“ กรี๊ด! ”

แล้วรุ่นน้องคนนั้นก็วิ่งออกไปอีกทางอย่างไม่พอใจ ถ้าอยู่ต่อก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนะครับ แต่ที่ไอ้อิฐพูดเมื่อกี้มันก็ค่อนข้างทำร้ายจิตใจคนฟังอยู่พอสมควร แต่ก็นะผมไม่เถียงหรอกว่าที่มันพูด คือความจริง

“ เฮ้อออออ ”
“ หมายถึงใครหรอที่ชอบมึง ”
“ ก็ลมไง...เห้ย! มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ”
มันทำหน้าตกใจอย่างกับเห็นผี เห็นหน้าผมทุกครั้งมันก็ชอบเป็นชะแบบนี้
“ สักพัก ”
“ ได้ยินไรปะ ” ไอ้อิฐทำท่าเหมือนระแวงอะไรซักอย่าง ก็แน่ล่ะมันพูดไปเยอะด้วยนี่
“ ก็ได้ยินดิจะไม่ได้ยินได้ไง ”
“ กวนอะ ”
“ อะนี่ ” ผมยื่นแก้วชาเย็นให้ไอ้อิฐ
“ ซื้อของมาให้นี่มีใจใช่ปะ ”
“ มีเงิน ”
“ 55555 ” บางทีมันก็หลายอารมณ์ดีนะเมื่อกี้ยังทำหน้าตึงอยู่เลยตอนนี้หัวเราะซะงั้น
“ แล้วเป็นไงบ้าง ”
“ จะมาดูวันนี้แล้วที่เหลือก็ให้น้องจัดการกันเองละ จะได้มีเวลาอยู่กับมึงสักที ” ทำอย่างกับไม่ได้เจอกันทุกวัน
“ แค่แวะมาดู กูจะไปชมรมต่อ ”
“ เอาชาเย็นมาให้เนี่ยนะ ”
“ อันนั้นก็ใช่แต่จริงๆอยากเจอ ”
“ ... ”  ไอ้อิฐยืนนิ่งไปแปปนึงก่อนจะยกมือขึ้นมาทาบอกข้างซ้ายของตัวเอง
“ ใจเต้นแรงมากเลยอะ ” เริ่มลอยแล้วครับ ตามันเนี่ย หรือว่าครั้งหน้าผมไม่ควรพูดอะไรแบบนี้อีกวะ
“ ลมมม ทำไมน่ารักได้ขนาดนี้วะ ” ไอ้อิฐดึงแก้มผมจนรู้สึกเจ็บ
“ กูเจ็บ ”
“ โทษๆก็มึงน่ารักอะ ” ผมไม่ชินกับคำว่าน่ารักจริงๆนะ
ฟังแล้วเขินว่ะ โดยเฉพาะออกมาจากปากไอ้อิฐอะ
“ ลม ”
“ ว่า ” ผมกำลังนวดแก้มข้างที่มันดึงก่อนจะเห็นมันมองมาด้วยสายตาที่มีความหมาย
“ วันนี้กลับพร้อมกันนะ ”
ผมไม่เคยปฏิเสธมันอยู่แล้วนี่ครับ
“ อืม ไว้ค่อยทักมาบอกแล้วกัน ”
 “ ครับผม ”

ถ้าถามว่าผมเคยเบื่อไหมที่ในแต่ละวันมีไอ้อิฐวนเวียนอยู่ใกล้ๆคงตอบแบบไม่ต้องคิดให้เสียเวลาเลยล่ะว่า....ผมไม่เคยเบื่อเลย




ผมมองภาพที่ตัวเองวาดซึ่งเหลือแค่ลงสีและตัดเส้น ลงสีต้องใช้เวลานานหน่อยแต่น่าจะทันส่งพอดี ไม่ค่อยได้วาดรูปที่ขนาดใหญ่กว่าสมุดวาดเขียนของตัวเองเท่าไหร่แต่นานๆครั้งก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน

นี่อาจจะเป็นภาพที่ผมจริงจังมากที่สุดเลยก็ว่าได้และผมอยากวาดมันออกมาให้ดีที่สุดเพราะสำหรับผมการวาดรูปมันเหมือนกับส่งผ่านความรู้สึกของคนวาดไปในภาพๆนั้นด้วย…




ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ลมวาดรูปอิฐแน่ๆเลย โอ๊ยย ปากแข็งไม่มีใครเกินลมจริงๆอิอิอิ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
HAPPY NEW YEAR 2020

มีความแฟน  อิฐ  ลม    :o8: :-[ :impress2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อเรื่องภาพวาดคืออัลไลหนอ?  ทำไมถึงทำให้ลมมีความมุ่งมั่นในการวาดได้ขนาดนั้น

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ลมน่ารักขึ้นเยอะเลยอ่ะ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ Blackcrow

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Chapter 23
เด็กเกษตรของนายวิศวะ

Aid'Part


ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้คุยกับลมเท่าที่ควร! ผมควรมีเวลาทำคะแนนมากกว่านี้แต่งานหลายอย่างรุมเร้าดีตรงที่ก็พอแวะไปหาได้บ้างและลมก็มาหาผมเป็นบางครั้ง ผมดีใจนะที่ลมเปิดใจให้ผมขนาดนี้และตอนนี้ผมยอมรับเลยว่ามีความสุขมากๆ ลมไม่ค่อยพูดก็จริงแต่ก็ไม่เคยปล่อยให้ผมคิดมาก ไม่รู้เจ้าตัวจะรู้ตัวไหมนะว่าแคร์ผม อันนี้เรื่องจริงนะผมไม่ได้คิดไปเอง
ตอนนี้ผมว่างจากการดูน้องแล้ว แต่งานอย่างอื่นก็เริ่มเข้ามาเหมือนกันเรียนกับการสอบมันเป็นของคู่กันอยู่แล้ว ไม่อยากจะคิดเลยว่าปีสามปีสี่จะขนาดไหน
“ น้องปีนี้โอเคนะมึง ”
“ โอเคเชี้ยไร กูบอกแม่งทุกอย่างเลยเนี่ยมึงดูขนาดไอ้อิฐยังไม่มีเวลาไปหาหวานใจมันเลยอะ ” คุยกันอยู่ดีๆก็วกมาหาผมเฉยเลยแต่ก็จริงอย่างที่ไอ้แคมป์ว่านั่นแหละ
รุ่นน้องพวกผมเยอะมันเลยคุมยากนิดหน่อยแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ก็ทำงานด้วยกันหลายๆคนมันก็ยากเป็นธรรมดา ดีหน่อยที่มีไอ้ติณณ์ที่มักทำหน้าตึงใส่น้องจนน้องมันเชื่อฟังเป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างนั้นก็ได้ช่วยดูเป็นอาทิตย์เลยทีเดียว
“ เหนื่อยไอ้สัส ”
“ เอาน่า เมื่อก่อนเราก็เป็นแบบนี้แหละ ” จริงๆรุ่นพวกผมหนักกว่านี้อีกครับ
“ แล้วนี่เลิกเรียนไปไหนกันปะ ”
“ ไอ้ศิลป์มึงช่วยดูท็อปปิคก่อนจะพูดได้ไหม อยู่ๆก็พูดขึ้นมา ”
“ ก็อยากรู้ไง ”
“ แล้วจะไปไหนกันวะ ” ไอ้ติณณ์ถาม
“ กูจะไปหาลม ”
“ ไม่ต้องบอกก็รู้ รีบๆคบกันล่ะกูอยากฉลอง ” กูก็อยากคบเว้ย แต่ไม่อยากเร่งรัดทั้งไม่อยากทำให้อีกฝ่ายอึดอัดด้วย
เมื่อไหร่ที่ลมพร้อมผมถึงจะกล้าขอถึงแม้ว่าไม่รู้ว่ามันจะนานเท่าไหร่ก็เถอะ
บางทีผมก็รู้สึกว่าผมกากเหมือนกันนะ ทุกครั้งที่เจอกันอยากขอลมเป็นแฟนแทบตายแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดมันออกไปอยู่ดี
ลมไม่เคยบอกว่าชอบแต่ผมเข้าใจว่าลมก็ชอบผมเหมือนกันนะ และผมจะพิสูจน์ว่าผมไม่ได้คิดไปเอง
“ หาจังหวะดีๆแล้วขอเขาเป็นแฟนสักทีสิ พวกกูขี้เกียจลุ้นแล้วเนี่ย ” ไอ้ติณณ์พูด
“ งั้นกูไปละ ”
“ เออไปดีๆ ” ไอ้นี่พูดเป็นลางไม่ดีเลยเว้ย




“ ไปปั่นจักรยานกัน ”
“ อารมณ์ไหน ”
“ อารมณ์อยากอยู่กับมึงสองคน ” ขอสักหน่อยครับช่วงหลังๆมานี่ไม่ได้ทำคะแนนเลย
“ งั้นกูไม่ไป ”
“ อ้าว ”
“ ล้อเล่น ” เดี๋ยวนี้ก็จะเป็นแบบนี้แหละครับ กวนเก่งขึ้นเยอะ
“ งั้นกูไปเอาจักรยานรอนะ ” ลมพยักหน้าก่อนจะเก็บของตัวเองต่อ ช่วงนี้ดีอีกอย่างหนึ่งคือลมพูดง่ายมากกกก ซึ่งมันโคตรจะดีต่อใจผมเลย
เนี่ย จะไม่ให้ผมคิดได้ยังไงว่าลมก็มีใจ
ผมมองจักรยานของลมที่เป็นเหมือนพาหนะคู่ใจของผมไปแล้วเหมือนกันปั่นบ่อยพอๆกับเจ้าของเลยก็ว่าได้

ลมทำให้ผมชอบปั่นจักรยานมากกว่าขับรถ

ทำให้ผมชอบใช้ชีวิตแบบง่ายๆอย่างที่ไม่เคยทำ

ทำให้ผมมีความสุขกับอะไรเล็กๆน้อยๆในแต่ละวัน

“ ไปยัง ”
ผมหันไปตามเสียงก็พบว่าลมยืนรออยู่แล้วพร้อมกับสะพายกระเป๋าข้างเดียวตามปกติของเจ้าตัว
“ ไปกัน ”
พอลมนั่งซ้อนท้ายผมก็ปั่นออกไปทันที มันค่อยข้างจะแปลกสำหรับคนที่พบเห็นไปหน่อยนะที่ผู้ชายตัวโตๆสองคนปั่นจักรยานซ้อนท้ายกันแบบนี้ แต่มันเป็นเรื่องปกติของพวกผมไปแล้วล่ะ

สวนสาธารณะเป็นสถานที่ที่ผมไม่เคยคิดจะมาแต่วันนี้ผมกำลังปั่นจักรยานโดยมีลมนั่งซ้อนท้าย ทำไมเมื่อก่อนผมถึงไม่อยากมานะ บรรยากาศออกจะดี
" จอดก่อนกูจะไปเช่าจักรยาน " ลมกระตุกเสื้อผมก่อนจะบอกให้หยุด
“ เช่าทำไม นั่งด้วยกันดิ ”
“ กูอยากปั่น ” อารมณ์ติสเขานั่นล่ะครับ เพราะอย่างนั้นผมก็จะไม่ขัดแล้วกันอุตส่าห์วางแผนปั่นจักรยานแบบโรแมนติกซะหน่อย
“ งั้นกูรอตรงนี้นะ ” ลมพยักหน้าให้ผมก่อนจะเดินไปเช่าจักรยานที่เขามีไว้ให้บริการ
“ โอเค ไปกัน ” ลมยิ้มให้ผมอย่างอารมณ์ดีก่อนจะปั่นนำไปก่อนทิ้งให้ผมหัวใจพองโตอยู่คนเดียว
ลมยิ้มเยอะขึ้นมากๆซึ่งเป็นอะไรที่ผมแพ้และดีต่อใจมากๆเช่นกัน
ผมปั่นจักรยานตามหลังพลางมองอีกคนไปด้วย ลมจะรู้ไหมว่าทำให้ผมหลงจนแทบโงหัวไม่ขึ้นทั้งที่ลมก็ไม่ได้ทำอะไรเลย

ชอบก็คือชอบ

ผมยังคงเป็นแบบนี้เสมอ อยู่กับใครแล้วสบายใจและมีความสุขก็อยากอยู่กับเขาและอยากให้เขามีความสุขเวลาที่อยู่กับผมเหมือนกัน
“ เสียดายอะ มึงไม่ซ้อนท้ายกู ” ผมปั่นมาข้างๆลมก่อนจะพูดขึ้น
ลมหันมายิ้มให้ผมก่อนจะพูดว่า
“ ถึงจะไม่ได้ซ้อนท้ายมึง แต่กูก็อยู่ข้างๆมึงอยู่ดีไม่ใช่รึไง ”

โอเค ผมยอมแล้วครับ!



“ ได้ว่างมานั่งเล่นแบบนี้สักทีเนาะ ” ผมหันไปมองอีกคนที่นั่งข้างๆ
ตอนนี้ผมกับลมนั่งอยู่ม้านั่งข้างสระน้ำในสวนสาธารณะ ปั่นจักรยานจนพอใจแล้วครับ
“ ว่างแล้วหรอ ”
“ คิดว่านะ ” เราสองคนต่างคนต่างเงียบไม่ใช่ว่าไม่มีอะไรจะคุยกันจนน่าอึดอัด แต่มันเป็นความเงียบที่ผมรู้สึกสบายใจด้วยซ้ำ
“ เริ่มชอบกูบ้างรึยัง ” ผมหันไปถามอีกคน
ลมไม่ตอบแต่ยิ้มกลับมาแทน โอเคครับไม่บอกก็ไม่บอกเอาเป็นว่าผมรู้ก็แล้วกัน
“ ทำไมตอนปีหนึ่งกูไม่เคยเห็นมึงเลยอะ ”
“ เห็นแล้วจะทำไม ”
“ ก็จะจีบไง ”
ผมคิดแบบนั้นจริงๆนะ ตอนแรกคิดว่าไม่ได้ชอบแต่จริงๆผมอาจจะชอบลมตั้งแต่แรกเจอเลยก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะว่าอะไรที่ทำให้ผมตามตื๊อลมอยู่แบบนี้ ทั้งที่เจ้าตัวก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรแต่ลมไม่เคยทำให้ผมเสียความรู้สึกเลยสักครั้งมีแต่ผมนี่แหละที่ทำตัวเอง

คงเพราะลมเป็นแบบนี้ผมถึงกล้าที่จะเดินเข้าไปหาอย่างไม่ลังเล

ผมเป็นคนเข้ากับคนอื่นง่ายก็จริงแต่ก็ใช่ว่าผมจะแคร์ทุกคน

“ เจอกันตอนนี้แหละดีแล้ว ”
“ ทำไม ”
“ เพราะว่าตอนนี้กูอยากเริ่มต้นใหม่ ” ลมเป็นคนปากแข็งนั่นคือสิ่งที่ผมรู้มาตลอด คำพูดกับการกระทำมันสวนทางกันในหลายๆเรื่องแต่มันกลับทำให้ผมรู้สึกดี
อย่างน้อยลมก็ชอบผม ถึงแม้ว่าลมจะไม่เคยพูดมันออกมาก็ตาม
.
.
และผมจะรอวันนั้น วันที่ลมบอกว่าชอบผม...

“ เริ่มต้นใหม่กับกูใช่ปะ ” ผมแกล้งแหย่อีกฝ่ายเล่นๆ
“ แล้วมึงคิดว่าไงล่ะ ” เป็นครั้งแรกที่เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จากลม จริงๆแล้วคนข้างๆผมน่ะร้ายกาจกว่าที่คิดโดยเฉพาะกับผมเนี่ย!




วันนี้เป็นวันที่ผมจะไปเดทกับลมอย่างเป็นทางการครั้งแรก! สำหรับคนอายุเท่าผมก็ไม่ควรจะตื่นเต้นขนาดนี้นะเพราะไม่ใช่ว่าไม่เคยเดทสักหน่อย
ผมกับลมตกลงกันว่าจะมาดูหนังซึ่งผมเองนี่แหละที่คิดว่าเดทอยู่ฝ่ายเดียวเพราะลมแค่อยากมาดูหนังเท่านั้น

ตอนนี้ลมไปเข้าห้องน้ำ ความแฟนอะครับยืนรอแฟนหน้าห้องน้ำคิดเองก็เขินเองอะ
คนที่เดินผ่านอาจจะคิดว่าผมเป็นบ้าแล้วมั้งที่มายืนยิ้มอยู่หน้าห้องน้ำคนเดียวแบบนี้ ก็คนมันมีความสุขนี่หว่า
“ มึงเริ่มน่ากลัวแล้วนะไอ้อิฐ ” ลมที่ออกมาจากห้องน้ำมองผม
เริ่มน่ากลัวเพราะใครกันล่ะ
“ กูก็ปกติดีนะ ” แค่ยิ้มเยอะกว่าทุกวันแค่นั้นเอง
“ ไม่อะ วันนี้มึงเยอะกว่าปกติ ”
“ ไปกันเถอะเนาะ ” ผมจับมือลมอย่างถือวิสาสะ
เป้าหมายแรกคือ ดูหนัง ส่วนหลังจากนั้นแล้วค่อยคิดอีกที
“ เนียนละ ”
เสียงของคนข้างๆทำให้ผมหันไปยิ้มให้แต่ก็ไม่ได้ปล่อยมือแต่อย่างใด ตราบใดที่อีกฝ่ายยังไม่สะบัดออกผมก็จะจับอยู่แบบนี้แหละ

“ จะดูเรื่องนี้หรอ ” ผมมองโปสเตอร์หนังผีเรื่องหนึ่งที่ลมบอกว่าจะดู ไม่ใช่ว่าผมกลัวผีนะแต่ความโรแมนติกที่คิดไว้พังทลายลงนี่สิ
จบเลยไอ้อิฐเอ้ย หนังผีกับสิ่งที่คิดไปคนละทางกันเลย
“ กลัวผี? ”
“ เปล่าๆ เดี๋ยวกูไปซื้อตั๋วให้ ”
“ ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูไปซื้อเอง ”
“ งั้นก็ไปด้วยกัน ” ผมกอดคอลมแล้วเดินไปด้วยกัน ชอบอะครับเวลาทำอะไรแล้วลมไม่ว่า
“ เอาป๊อบคอร์นปะ ” ผมถามคนข้างๆ
“ ไม่อะ ” หมดกันความคิดที่จะป้อนป๊อบคอร์นตอนดูหนัง
แต่ผมก็ยังเดินไปซื้ออยู่ดีไม่ใช่อะไรนะผมหิวอะ

ตามคาดครับพอหนังเริ่มฉายแล้วผมก็ถูกทิ้งไว้กลางทาง ดูเหมือนว่าลมจะชอบอยู่พอสมควรตั้งใจดูจนลืมผม อารมณ์มันก็จะเซ็งหน่อยๆอุตส่าห์คิดไว้หลายอย่างแต่ไม่ได้สักอย่างคงต้องเริ่มใหม่ตอนออกจากโรงหนังแล้วล่ะมั้ง
ผมขยับเข้าใกล้ๆก่อนจะเนียนๆจับมือลม แต่ลมก็มักจะทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดและเป็นอัตรายต่อหัวใจผมเสมอเมื่ออีกฝ่ายจับมือผมเหมือนกันแต่ตายังคงมองไปที่จออยู่
ในเมื่อเจ้าตัวไม่ได้ว่าแถมยังจับมือผมอีกงั้นก็เลยตามเลยแหละครับ
 คงเป็นหนังผีที่ผมนั่งยิ้มตลอดทั้งเรื่องเลยล่ะมั้ง


“ สนุกไหม ” ผมถามลมขณะที่เราเดินออกมาจากโรงหนัง
“ ก็สนุก แต่ยังไม่สะใจ ” สะใจกว่านี้ก็เข้าไปในจอด้วยเลยไหมครับ
“ จะไปไหนต่อ ”
“ มึงอยากไปไหน ”
“ หิว ” พอออกมาจากโรงหนังก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันที
“ จะกินอะไร ”
“ อยากกินไอติม ” ไม่ได้กินนานละครับไม่มีเวลามากินสักทีแต่จริงๆคือไม่รู้จะมากินกับใครนั่นแหละมากับเพื่อนมันก็คนละอารมณ์กัน
“ ทำไมไม่กินข้าว ”
“ กูอยากกินไอติมอะ ”
“ ร้านไหน ”
“ เดี๋ยวพาไป ” ว่าแล้วผมก็จูงมืออีกคนให้เดินตามทันที เอาให้คุ้มครับโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ
“ จับบ่อยเกินไปละ ”


สุดท้ายเราก็มานั่งที่ร้านไอ้ติมจนได้ ลมไม่ชอบของหวานผมเพิ่งนึกขึ้นได้แต่สั่งไปแล้วคงต้องกินแต่คนที่กินไม่ได้ก็มีได้ว่าอะไรแถมยังนั่งเล่นมือถือไม่สนใจผมอีก
“ ดูอะไร ”
“ เล่นเกม ” โหมดติดเกมเริ่มมาแล้วครับไม่ได้ว่าหรอกเพราะผมก็มีโหมดนี้เหมือนกัน ผมมองไปรอบๆร้านก่อนที่พนักงานจะเอาไอติมมาเสริฟ เสียดายที่คนตรงหน้าไม่กินด้วยเพราะมันดูน่าทานมากๆ
“ ลองไหม ”
ลมส่ายหัวทั้งตายังมองเกมในมือถืออยู่ เกมมันน่าสนใจกว่าผมสินะ!
“ คุยกับกูบ้างสิ ”
“ .... ”
“ ลมมม ”
“ กินอยู่จะคุยอะไร ” เสียงเริ่มติดจะหงุดหงิดขึ้นมาหน่อยแล้ว อย่าหาว่าผมเอาแต่ใจเลยนะแต่มันอดไม่ได้ที่จะเรียกร้องความสนใจนี่หว่า
“ ก็มึงไม่สนใจกู ”
“ รีบกินกูหิวข้าว ”
“ ทำไมไม่บอกจะได้พาไปกินข้าว ”
“ ก็มึงบอกอยากกินไอติม ” เท่านั้นแหละครับผมก็ยิ้มหน้าบานเลยก็เป็นชะอย่างนี้จะไม่ให้หลงได้ไงวะ

ถ้าถามว่าความน่ารักเป็นยังไงก็คงเป็นคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมนี่แหละ



.......................


ผมว่าวันนี้ทุกคนมองผมแปลกๆ ปกติคนก็มองผมอยู่แล้วอันนี้เข้าใจแต่วันนี้มันผิดปกติเพราะแทบจะตั้งแต่มามอจนถึงคณะก็มีคนมองตลอดแถมมองแล้วก็ยิ้มแปลกๆ วันนี้ผมแต่งตัวผิดปกติหรอหรือหน้ามีอะไรติด
“ ไงเพื่อนอิฐ ”
“ ไง หน้ากูมีอะไรติดปะ ” ผมทักไอ้ศิลป์กลับก่อนจะนั่งลงข้างๆมัน
“ ไม่นะ ทำไม ”
“ กูรู้สึกว่าวันนี้คนมองกูแปลกๆว่ะ ”
“ มึงได้เข้าเฟสปะ ” ผมมองหน้าไอ้ศิลป์อย่างงงๆอารมณ์ไหนถึงมาถามวะเนี่ย
“ ไม่ได้เข้า ทำไมวะ ”
“ เฮ้ออ มึงนี่มัน ” ไอ้ศิลป์ถอนหายใจแล้วหันหน้าไปทางอื่น

เป็นอะไรของมันวะ

“ แล้วไอ้สองตัวนั้นไปไหน ”
“ ยังไม่มา ”
ผมไม่ได้ถามอะไรต่อแต่หยิบมือถือขึ้นมาเปิดดู มีอะไรดีๆรึเปล่าไม่งั้นไอ้ศิลป์ไม่ถามหรอกว่าผมได้เข้าเฟสไหม
พอเข้าเฟสก็พบการแจ้งเตือนที่เยอะผิดปกติ ทั้งที่คิดว่าน่าจะเป็นแท็กคู่จิ้นผมกับลมอีกตามเคยแต่พอเปิดดูแล้วมันไม่ใช่แค่นั้น ทั้งที่เพจก็เขียนอวยตามปกติแต่ตอนนี้ผมกลับใจเต้นแรงแทบจะทะลุออกมาอยู่แล้ว

มือสั่นด้วยเนี่ย!

“ เชี้ย... ”
“ เป็นอะไรของมึง ” ไอ้ศิลป์ชะโงกหน้ามามองมือถือผมก่อนจะยักไหล่
" เพิ่งเห็นหรอเขาเห็นกันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้วมั้ง น่าน้อยใจนะเขาอุตส่าห์ทำให้แท้ๆแต่อีกคนดันไม่เห็น "
 ภาพที่ผมกำลังดูมันเป็นภาพจากการประกวดวาดภาพที่เขาแชร์กันมาและยอดแชร์ก็ไม่ใช่น้อยๆเลย

‘ การวาดภาพกับความรัก ’

นั่นคือหัวข้อของการประกวด

ผมมองภาพวาดที่เป็นภาพของตัวเองภายในกระดาษเป็นภาพที่มีทั้งตอนที่ผมยิ้ม ตอนทำหน้าปกติ แม้กระทั่งตอนที่ผมโกรธซึ่งภาพที่ผมยิ้มเป็นภาพที่อยู่ตรงกลางและใหญ่กว่าสองภาพที่อยู่ข้างหลัง ส่วนพื้นหลังเป็นท้องฟ้าซึ่งลงสีและรายละเอียดไว้เป็นอย่างดี ขนาดของภาพจริงก็น่าจะใหญ่พอสมควรแต่ผมจะไม่ได้อะไรเลยถ้าคนวาดไม่ใช่ลม และชื่อหัวข้อมันทำให้ผมสติหลุด หูดับไปชั่วขณะ รู้สึกเบลอๆ

แต่! ดีใจ ดีใจชิบหายเลยตอนนี้

“ สติหลุดไปเลยทีนี้ ”
“ มันใช่อย่างที่กูคิดใช่ไหมวะ ”
“ ถ้ามึงคิดว่าเขาก็ชอบมึงก็คงใช่ ”
ผมมองภาพวาดที่ลมวาดอีกครั้ง ไม่ได้บอกผมตรงๆแต่ประกาศให้คนอื่นรู้ด้วยเลยนะ ร้ายกว่าผมก็ลมนี่แหละ
แต่ผมชอบการที่ลมแสดงออกแบบนี้นะ โคตรชอบเลยด้วย
“ ยิ้มหน้าบานแบบนี้คงเห็นที่เขาแชร์กันแล้วสินะ ” ไอ้ติณณ์กับไอ้แคมป์เดินเข้ามาพอดีก่อนจะนั่งลงตรงข้ามพวกผม
“ สำเร็จสักทีนะมึง ”
“ นี่เพื่อนอิฐจะมีแฟนแล้วสินะ อย่างนี้ต้องฉลองแล้วปะ ” ไอ้ศิลป์ว่าพลางกอดคอผม
เอาจริงๆนะตอนนี้คือดีใจจนพูดไม่ออกเลยว่ะ




พอผมมาถึงแปลงคณะเกษตรก็เห็นอีกคนรดน้ำผักอยู่ผมจึงยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปอีกคนเก็บไว้เป็นความทรงจำ รูปลมในมือถือเยอะกว่ารูปผมที่เป็นเจ้าของซะอีก
ผมชอบช่วงเวลาแบบนี้ชะมัดมันรู้สึกดีจนผมไม่อยากให้มันผ่านไปเลย แต่ผมคงจะมีช่วงเวลาที่อยากจดจำอีกเยอะเลยล่ะเพราะต่อจากนี้ผมคงไม่ห่างจากลมแน่ๆ เตรียมตัวไว้เถอะผมจะคอยอยู่ใกล้ๆจนลมรำคาญไปเลยล่ะ
“ ทำไมไม่เห็นทักบอกว่าจะมา ” ผมยิ้มให้กับคนที่กำลังเดินตรงมาหาผม
“ ไม่ทักบอกก็มาไม่ได้หรอ ”
“ จะกลับแล้วหรอ ” ลมถามพลางเก็บอุปกรณ์ลงแปลง
“ ก็มารอมึง ”
“ งั้นแปปนึงเก็บของก่อน ”
“ วาดภาพกูออกมาได้หล่อกว่าตัวจริงอีกนะ ” ลมเงยหน้าขึ้นมามองผมทันทีผมพูดจบ
“ ภาพอะไร ”
“ นี่ไง ”
ผมเปิดภาพที่บันทึกไว้ให้ลมดูก่อนเจ้าตัวจะเริ่มมีท่าทางเปลี่ยนไป รู้หรอกว่าเขินใครจะไม่เขินบ้างล่ะ
“ ขอบคุณนะที่ตั้งใจวาดขนาดนี้ ”
แก้มที่ขาวอยู่แล้วเริ่มแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด ก่อนเจ้าตัวจะหลบสายตาผมแล้วหันไปอีกทาง
“ ทำไมถึงวาดภาพกูล่ะ ”
“ หัวข้อมันก็ชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่รึไง ”
“ กูไม่เข้าใจอะ ” ผมพยายามทำหน้าตาให้ดูไม่เข้าใจจริงๆ กว่าจะหลอกล่อให้ลมพูดได้นี่มันยากจริงๆเลยนะ
“ แล้วมึงคิดว่ากูวาดภาพมึงทำไม ” นั่น มีถามกลับอีก
“ ไม่รู้สิ อาจจะเป็นเพราะไม่รู้ว่าจะวาดอะไรมั้ง ” อาจจะมีเปอร์เซ็นต์ที่จริงอย่างที่ผมว่าก็ได้เพราะอย่างนั้นผมถึงต้องมาถามลมให้มันรู้ไปเลย
ลมมองหน้าผมพักหนึ่งก่อนจะพูดออกมา

“ การวาดรูปสำหรับกูก็คือการวาดสิ่งที่กูชอบลงไป และถ้ากูไม่ชอบกูคงไม่วาดหรอก ” ก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรสายตาก็ดันไปสะดุดกับบางอย่างที่ลมใส่มา

สร้อยเกียร์ที่ผมให้ตอนวันเกิด
.
.
คำตอบชัดเจนกว่านี้คงไม่มีอีกแล้ว...

“ ขอบคุณนะ ”

ผมคว้าอีกคนมากอดแน่นอย่างกับกลัวว่าอีกคนจะหายไป ความรู้สึกของผมตอนนี้มันมากเกินกว่าจะอธิบายเป็นคำพูดได้จริงๆ

“ กูก็ขอบคุณมึงเหมือนกันที่เข้ามาในชีวิตกู ” ลมกอดตอบ ก่อนจะพูดในสิ่งที่ผมอยากได้ยินมากโดยตลอด
.
.
.
“ อิฐ...กูชอบมึง ”





The End

___________________________________

***ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ติดตาม คอมเม้นท์และเป็นกำลังใจให้กับไรท์น้า อิฐลมไรท์ตั้งใจให้จบแบบนี้เด้อ อาจจะไม่ถูกใจหลายๆคนแต่ก็ขอขอบคุณที่อ่านกันมาจนถึงตอนจบนะฮับ
***เรื่องหน้าไรท์จะพยายามปรับปรุงงานเขียนให้ดีกว่าเดิมนะฮับ❤️
***เจอกับอิฐลมตอนพิเศษได้น้า เร็วๆนี้นะฮับ❤️



ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เด็กเกษตรของนายวิศวะ ( Chapter 23 : 03/01/63 )
« ตอบ #139 เมื่อ: 04-01-2020 00:41:49 »





ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ่าว...จบแระ

ยังไม่เห็นมีจุดพลุฉลองเลย  อิอิ

ออฟไลน์ nut2557

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 :o8: :-[

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :sad4: :-[ o13

ออฟไลน์ cookie8009

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เนื้อเรื่องดี เขียนบรรยายดี อ่านลื่นไหล อ่านสนุก โดยรวมชอบครับ

แต่ตอนจบ มันฟินไม่สุดอ่ะ แบบ .... แค่นี้เหรอ อะไรงี้ อ่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ติดอ่าน หลินต้ง - มหายุทธหยุดพิภพ  :katai2-1:
เลยไม่ได้เข้ามา ดู   :mew2:
ที่ไหนได้ จบแล้ว ..........  :z3:
อิฐ  ลม   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ชอบวิธีการเขียนของไรท์ มีหักมุมบ้าง ชอบบบบบบบบ
ขอบคุณไรท์มาก
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ขอบคุณครับ  :hao6:

ออฟไลน์ Blackcrow

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Special (1)
Lm'Part


ตอนนี้ผมอยู่ในช่วงปิดเทอมจะขึ้นปีสามเวลาผ่านไปเร็วนะครับแปปเดียวก็จะขึ้นปีสามแล้ว ซึ่งมันไม่ใช่ง่ายๆเลยจากนี้น่าจะมีแต่เรื่องวุ่นวายเข้ามาแน่ๆ อย่างแรกคงจะเป็นเรื่องใกล้ตัวนี่แหละ
“ กูถามจริงมึงคบกับไอ้นี่ได้ไงวะ ” เสียงเซ็งๆของไอ้กิมดังขึ้นพลางชี้ไปที่คนที่มันหมายถึง
“ ลมตาถึงไง ”
“ ตาบอดล่ะสิไม่ว่า ”
ระหว่างปิดเทอมผมก็กลับบ้านที่เชียงใหม่ซึ่งมีพองเพื่อนตามมาด้วย จริงๆไอ้อิฐมันอยากมากับผมแค่สองคนแต่มีหรือที่พวกเพื่อนๆสุดที่รักจะไม่ตามมาด้วย แม้กระทั่งเพื่อนไอ้อิฐยังตามมาเลยปิดเทอมไม่มีที่ไปก็งี้
ผมยังไม่บอกใช่ไหมว่าผมกับไอ้อิฐคบกันจริงๆมันก็ไม่ต่างจากตอนเป็นเพื่อนกันเท่าไหร่แค่สถานะเปลี่ยนไป และระดับการเรียกร้องความสนใจของไอ้อิฐเพิ่มขึ้น
“ นี่มึงจะเอาหรอไอ้กิม ” เห็นกัดกันแบบนี้มันสองคนสนิทกันนะครับ แค่พูดดีๆใส่กันไม่ได้แค่นั้นเอง
“ กากอย่างมึงจะทำไรกูได้ครับ ”
“ มึงไม่ห้ามพวกมันหน่อยหรอ  ” ไอ้จินหันมาคุยกับผม
“ ห้ามทำไม มึงไม่สนุกหรอที่เห็นพวกมันกัดกัน ”
ไอ้จินเคยบอกผมว่าลมคนเดิมเริ่มกลับมาแล้วหลังจากที่ได้รู้จักกับไอ้อิฐ ผมไม่ใช่คนเย็นชาแค่ไม่ค่อยพูดจะมีบางครั้งที่พูดมาเป็นพิเศษก็เท่านั้นเอง เห็นผมไม่พูดอะไรแต่ผมรู้ทุกอย่างนะ
“ มีสนุกด้วย กูยอมเลย ”
“ เป็นคนแบบนี้หรอ ” ติณณ์มองมาที่ผม
“ แบบไหน ”
“ เจ้าเล่ห์ ”
“ ไม่เจ้าเล่ห์จะได้คบกับไอ้อิฐหรอ ” ผมยักคิ้วใส่ติณณ์
กลายเป็นว่าช่วงหลังๆผมกับติณณ์ค่อยข้างจะเข้ากันได้ดีเลยทีเดียว ติณณ์เป็นคนประเภทผม เห็นนิ่งๆแบบนั้นแต่จริงๆร้ายใช่ย่อยเลยนะ
“ คุยกับไอ้ติณณ์อีกแล้ว ”
“ ไม่ขังแฟนมึงไว้ในห้องเลยล่ะ ถ้าไม่อยากให้คุยกับคนอื่น ” ติณณ์พูดพลางทำหน้าเซ็งๆ ไอ้อิฐมันขี้หวง หวงแม้กระทั่งกับเพื่อน
“ ขังได้ขังแล้ว ”
มันหมายความอย่างที่พูดจริงๆนะครับไม่รู้จะหวงอะไรนักหนาทีกับตัวเองผู้หญิงเข้าหาเยอะจะตายผมยังไม่ว่าเลยแค่ไม่พอใจนิดหน่อยแค่นั้นเอง
“ มึงบอกว่าจะพาไปไร่ จะพาไปตอนไหน ” ไอ้อิฐขยับมานั่งใกล้ๆผม
“ ตอนเย็น หรืออยากไปตอนนี้ ” สภาพอากาศคือไม่น่าเดินเอามากๆแดดขนาดนั้นผมว่าแต่ละคนคงไม่ไหวหรอก
“ ตอนไหนก็ได้ ” ไอ้อิฐมันเคยบอกว่าอยากมาบ้านผมถามยังโม้ด้วยว่าแม่ผมชวนมันมา
ตอนนี้ไม่มีใครอยู่บ้านไปที่ไร่กันหมดเว้นก็แต่แม่บ้านที่คอยมาตอนรับผมกับเพื่อน ผมก็เลยให้พวกมันพักผ่อนไปก่อนสภาพแต่ละคนเหมือนต้องการหมอนกันเต็มทน จะก็มีแต่ไอ้ที่นั่งข้างๆผมนี่แหละที่พลังงานเยอะเหลือเกินวอแวอยู่ได้
“ ไปพักไปตอนเย็นจะพาไปดูไร่องุ่น ”
“ โอเค ” ว่าแล้วมันก็นอนลงบนตักผมทันที ไม่คิดจะอายเพื่อนเลยมั้ง
ผมหันไปมองติณณ์ก่อนจะเห็นว่าติณณ์ยิ้มมุมปาก
มันไม่อายแต่ผมก็อายอยู่นะถึงจะเป็นเพื่อนกันก็เถอะ
“ ไปนอนดีๆ ”
“ เนี่ยอะดีแล้ว ” ว่าแล้วมันก็หลับตาลงทันที ดื้อที่หนึ่งเลยล่ะคนนี้
“ ปล่อยมันไปเถอะ มันเป็นเด็กขาดความอบอุ่น ” เชื่อเลยครับว่าขาดความอบอุ่นจริง
ผมมองคนบนตักก่อนจะเคาะหน้าผากมันเบาๆข้อหาหมั่นไส้ ชอบทำเหมือนตัวเองตัวเล็กแต่จริงๆแล้วไม่ใช่
หลังจากที่ผมกับไอ้อิฐคบกันตัวก็แทบจะติดกันตลอด ต่อให้เรียนกันคนละคณะก็ไม่มีปัญหาช่วงหลังๆมันยิ่งเหมือนจะย้ายมาเกษตรอยู่แล้ว ตอนเย็นก็มาช่วยลงแปลงเกือบทุกเย็นทำตัวดีจนผมคิดว่ามันไปทำความผิดอะไรไว้
มันทำให้ผมจนไม่รู้จะตอบแทนมันยังไง
อยู่ๆไอ้อิฐก็จับมือผมก่อนจะกุมไว้หลวมๆ รู้หรอกว่ายังไม่หลับเนียนทั้งปีทั้งชาติ
“ ไม่พักรึไง ” ผมเงยหน้าจากไอ้อิฐขึ้นมาถามติณณ์
“ ไม่เหนื่อย กูเดินทางบ่อยมันชิน ”
“ เดี๋ยวกูให้แม่บ้านเอาของกินมาให้ ”
“ ไม่เป็นไรกูจะไปดูไอ้แคมป์ละ ” ติณณ์ว่าแล้วก็ลุกขึ้นเดินไปหาแคมป์ทันที ตอนนั่งรถมาแคมป์เมารถสภาพก็คือเหมือนจะไม่อยากมาอีกเป็นครั้งที่สอง
“ ไอ้อิฐ ”

“ ... ”

ไม่มีเสียงตอบรับแต่รับรู้ถึงลมหายใจที่สม่ำเสมอของคนที่นอนอยู่บนตัก นึกว่าจะแน่ที่แท้มันก็เหนื่อยเหมือนกัน
ผมลูบหัวไอ้อิฐเบาๆอย่างนึกเอ็นดูก่อนจะยิ้มออกมา




“ นี่ไร่ของมึงทั้งหมดหรอ ” ไอ้อิฐถามขณะที่พวกผมมาถึงไร่
“ ใช่ ”
นี่คือเหตุผลว่าทำไมผมถึงเรียนเกษตรก็เพื่อกลับมาทำงานที่ไร่ตัวเองนี่แหละ
ครอบครัวของผมมีไร่เป็นของตัวเองค่อนข้างเยอะพ่อกับแม่ก็ทำงานที่ไร่ด้วย แต่ไม่มีใครบังคับให้ผมเรียนเกษตรนะผมอยากเรียนเองจริงๆเรียนในสิ่งที่ตัวเองต้องกลับมาทำจะดีกว่า
“ สวัสดีครับคุณหนู ”
“ สวัสดีครับลุงพัน บอกแล้วไงครับว่าอย่าเรียกผมว่าคุณหนู ” ผมว่าพลางยิ้มให้ลุงพัน
ลุงพันเป็นคนงานที่อยู่กับครอบครัวของผมมานานตั้งแต่ผมยังเด็กเวลามาไร่ทีไรก็ให้ลุงพันสอนงาน สอนทำนั่นทำนี่หลายอย่างอยู่เหมือนพูดแล้วก็คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ
“ ลุงก็ลืมเลย ไม่ได้เจอกันตั้งนานหล่อขึ้นมากเลยนะครับเนี่ย ”
“ อย่างคุณหนูลมไม่เรียกว่าหล่อหรอกครับคุณลุง เขาเรียกว่าน่ารัก ” ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่ไอ้อิฐหล่อก็หล่อสิจะมาน่ารักอะไรล่ะ
“ พูดถึงเรื่องน่ารักตอนเด็กๆคุณหนูน่ารักกว่านี้อีกนะครับ ” คุณหนูอีกแล้วสิเนี่ย
“ มีรูปไหมครับคุณลุง ”
“ ที่บ้านใหญ่มีเยอะเลยล่ะครับ ” แย่งซีนเก่งแถมตีสนิทกับคนอื่นไปหมดอีกหน่อยคงเป็นขวัญใจแม่ผมจริงๆแล้วล่ะมั้ง ดีที่วันนี้ยังไม่ได้เจอกันไม่งั้นผมคงกลายเป็นตัวประกอบแน่ๆ
นิสัยผมกับไอ้อิฐนี่ต่างกันคนละขั้วเลยแต่อาจจะเป็นเพราะมันเป็นแบบนี้ล่ะมั้งผมถึงเปิดใจให้มัน
“ นี่เพื่อนคุณหนูหรอครับ ”
" แฟนครับ " ผมกำลังจะตอบแต่ไอ้อิฐพูดขึ้นมาซะก่อน
ไม่ต้องพูดไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้นให้ไอ้อิฐมันจัดการเองทุกอย่าง บางทีผมก็แอบเซ็งเหมือนกันนะที่มันพูดมากขนาดนี้ไม่ให้ผมได้พูดบ้างเลย
ลุงพันทำหน้าตกใจนิดหน่อยก่อนจะยิ้มออกมาผมเคยบอกใช่ไหมว่าไม่ใช่ทุกคนจะรับเรื่องแบบนี้ได้แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกนะถ้าถามก็จะบอก
“ แฟนหล่อมากเลยนะครับคุณหนู ” คุณหนูอีกแล้วผมไม่ชอบให้เรียกแบบนี้เลยจริงๆเชื่อเถอะไอ้อิฐมันต้องล้อผมแน่ๆ
“ ขอบคุณครับคุณลุง ” ยิ้มหน้าบานเลยทีนี้พอมีคนชม
" คุณหนูครับทางนั้นองุ่นเริ่มสุกแล้วพาแฟนไปกินได้นะครับ " แล้วทำไมต้องยิ้มขนาดนั้นด้วยครับลุง ไอ้อิฐจ้างมารึเปล่าเนี่ย
“ ครับ ” ผมพยักหน้าพลางเดินไปทางที่ลุงพันบอก
ส่วนเพื่อนคนอื่นก็มีไอ้กิมกับไอ้จินนำทางไปแล้วส่วนผมก็มากับไอ้อิฐซึ่งเป็นมันที่ลากผมมา บอกว่าอยากเดินกับผมสองคน สองคนที่ไหนกันล่ะคนงานเต็มไร่ขนาดนี้
ไอ้กิมกับไอ้จินมันมาบ่อยจนรู้ทางหมดแล้วมาเนียนกินฟรีตลอด เห็นอย่างนี้แม่ผมชอบพวกมันมากเลยนะ ผมไม่ได้บอกเหตุผลกับแม่ว่าทำไมช่วงนั้นไอ้กิมถึงหายไปแต่พอไอ้กิมกลับมาแม่ก็ลืมผมไปเลย เอาจริงๆก็ลืมตลอดเวลาผมพาเพื่อนมาบ้าน แม่ชอบบ่นว่าผมพูดน้อยไม่ค่อยมีเพื่อน
พ่อผมก็พูดน้อยนะส่วนใหญ่มีแต่แม่ผมพูดนี่แหละ ผมสนิทกับแม่มากๆแต่ก็ไม่ได้ถึงกับห่างเหินกับพ่อ จริงๆแล้วพ่อผมน่ะใจดีมากๆแต่ไม่ค่อยยิ้มเลยทำให้ดูดุตลอดเวลา
“ คิดอะไรอยู่ ” แขนที่พาดลงบ่นไหล่ทำให้ผมหยุดคิดเรื่องในหัว
“ คิดว่าถ้ามึงเจอพ่อกูจะเป็นยังไง ”
“ คุณพ่อโหดหรอ ” ไอ้อิฐทำหน้าเครียดทันที
“ เหมือนกู ”
“ หืม...งั้นก็แสดงว่าท่านใจดีน่ะสิ ” ถือว่ามันเดาถูกไปนิดนึงนะ
จากสีหน้าที่ดูเหมือนจะเครียดก็กลับมาร่าเริงเหมือนเดิม
“ ไม่เครียดแล้วหรอ ”
“ ไม่เครียดหรอก ถ้าคุณพ่อเหมือนมึงน่ะ ” ไอ้อิฐว่าพลางยีหัวผม
“ ก็ดี ” เผื่อเจอของจริงจะได้ไม่ตกใจ
พ่อผมไม่ได้ใจร้ายแต่ก็ไม่ได้ใจดีกับคนที่เพิ่งเจอหรอกนะ เหมือนผมนี่แหละ
“ กินได้ปะ ” ไอ้อิฐชี้ไปที่ต้นองุ่นแล้วหันมาถามผม
“ กินได้ ”
“ หมายถึงมึงอะกินได้ปะ ” เอิ่ม...ไม่คิดว่ามันจะมามุขนี้นะ
“ มีปัญญากินได้ก็กินสิ ”
“ โห พูดแบบนี้เดี๋ยวจะโดน ” ไอ้อิฐดึงแก้มผม ดึงบ่อยจนจะยืดอยู่แล้ว
“ ลองชิมดูสิ ” ผมหยิบองุ่นจากตะกร้าที่คนงานตัดไว้ยื่นให้ไอ้อิฐ
“ อยากกินจากต้น ”
“ ตามใจ ” ผมกินเองก็ได้ ไม่ได้กินองุ่นจากไร่นานแล้ว
“ ถ้าเปรียบกูกับผลไม้มึงจะให้กูเป็นผลไม้อะไร ” ไอ้อิฐหันมาถามทั้งกินองุ่นไปด้วย
“ องุ่น ”
“ ทำไม ”
“ เพราะว่า…”
“ ว่า? ”
“ กูชอบ ” ไอ้อิฐยิ้มกว้างแล้วเดินตรงมาหาผม แล้วผมจะอยู่ทำไมล่ะครับในเมื่อรู้ว่ามันจะทำอะไรรู้อย่างนี้แล้วก็ต้องวิ่งดิ
“ มาพูดแบบนี้แล้วจะชิ่งหนีหรอ! ” ไม่หนีก็ซวยสิ ผมไม่อยากเสี่ยงแถวนี้
เดี๋ยวมันแกล้งผมขึ้นมาก็อายคนงานแถวนี้พอดีมันยิ่งคิดแล้วทำเลยไม่อายใครทั้งนั้น ผมว่าผมไม่สนใครแล้วนะแต่ไอ้อิฐมันหนักกว่าผมอีก



........................



บรรยากาศในโต๊ะอาหารเย็นของวันนี้ค่อนข้างเงียบที่เงียบเพราะว่าพ่อของผมเอาแต่จ้องหน้าคนที่นั่งตรงข้ามอย่างไอ้อิฐ จ้องแล้วไม่พูดอะไรยิ่งทำให้คนที่นั่งข้างๆผมเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข
ตอนนี้คือเงียบกันทั้งโต๊ะจนผมต้องหันไม่หาแม่ก่อนที่ท่านจะหาวิธีแก้สถานการณ์
“ กินข้าวกันเถอะทุกคน ตามสบายเลยนะกินเยอะๆ ”
“ ขอบคุณครับบบ ”
“ กินเยอะๆนะครับพ่อ ” ผมตักอาหารตรงหน้าใส่จานของพ่อ
“ กินเยอะๆนะครับคุณพ่อ…” ไอ้อิฐพูดอย่างกล้าๆกลัวๆก่อนจะตักอาหารใส่จานของพ่อผมเหมือนกัน
“ ขอบใจ ” ทันทีที่พ่อพูดจบไอ้อิฐก็หันมายิ้มให้ผม
อย่างน้อยพ่อก็ยอมคุยกับไอ้อิฐล่ะวะ
ดูเหมือนว่าบรรยากาศอึดอัดเมื่อกี้จะดีขึ้นมากอาจเป็นเพราะพ่อยอมคุยกับไอ้อิฐทั้งยังมีเพื่อนมาด้วยซึ่งอาจจะช่วยให้แม่หายเหงาอยู่บ้าง และพ่อของผมถึงท่านจะไม่แสดงออกแต่ผมก็รู้ว่าท่านไม่ได้กีดกันเรื่องผมกับไอ้อิฐ


“ ดูท่ามันจะชอบบ้านมึงนะ ” ขณะที่ผมกำลังเดินออกมาจากห้องครัวก็เจอไอ้ไม้พอดี
“ ใคร ”
“ ไอ้อิฐไง ” ไอ้อิฐมันไม่ชอบอะไรบ้างล่ะ
“ มึงก็ชอบไม่ใช่รึไง ” ไอ้ไม้นี่ตัวดีเลยทำอย่างกับเคยมาหลายครั้งแต่ก็ดีที่พวกมันชอบมีเพื่อนเยอะขึ้นมันก็ดีนะครับ
“ มาบ่อยๆได้ปะ ”
“ เปลือง ” พอผมพูดแบบนั้นมันก็หัวเราะทันที ต่อให้ผมหมายความอย่างที่พูดจริงๆมันก็ไม่รู้สึกอะไรหรอกครับ
“ ดีเลยจะได้มาบ่อยๆ ” ว่าแล้วมันก็เดินไปหาเพื่อนที่ห้องนั่งเล่นทันที ประมุขของบ้านคือแม่ของผมเองครับ คุยกันสนุกสนานใหญ่เลย อยู่บ้านแบบไม่มีเด็กก็คงจะเหงาแหละครับพอมีเด็กมาก็จะคึกคักขึ้นมาหน่อย

ผมเดินออกมาหาคนที่นั่งอยู่ด้านนอกคนเดียว ข้างนอกค่อนข้างหนาวแต่บรรยากาศดีมากผมชอบออกมานั่งดูดาวอยู่หน้าบ้านนี่แหละ นานแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้นั่งดูดาวแบบนี้
“ ดาวสวยมากเลย ” ไอ้อิฐพูดขณะที่ผมนั่งลงข้างๆ
“ อืม กูก็ชอบมานั่งดูเหมือนกัน ”
“ ไม่น่าเชื่อว่ากูจะได้มาบ้านมึงจริงๆเนาะ ”
“ ทำไม ”
“ มึงจำวันแรกที่เราเจอกันได้ปะ ” คนที่กวนตีนผมตั้งแต่วันแรกเลยอะนะ
“ จำได้ ” แล้วอารมณ์ไหนของมันถึงได้มารำลึกความหลังล่ะเนี่ย
“ ตอนนั้นมึงไม่อยากคุยกับกูด้วยซ้ำ ถ้ากูไม่หน้าด้านป่านนี้กูคงไม่ได้มานั่งข้างมึงตอนนี้หรอก ” ไอ้อิฐหันมายิ้มให้ผม ดูเหมือนมันจะภูมิใจกับความหน้าด้านของตัวเองมากเลยนะ
จริงๆมันรู้เรื่องของผมมากกว่าที่ผมรู้เรื่องของมันซะอีก ส่วนมากมันจะเล่าเรื่องของตัวเองให้ผมฟังมากกว่าถ้าอยากรู้ก็ถาม ถามได้ทุกเรื่องมันบอกว่าอย่างนั้นนะ ความจริงผมไม่จำเป็นต้องถามมันทุกเรื่องหรอกเพราะแต่ละวันมีคนกรอกหูผมเกี่ยวกับเรื่องของมันตั้งเยอะ
ผมเงยหน้ามองดาวตามไอ้อิฐจริงๆแล้วผมชอบดูพระอาทิตย์ตกดินมากกว่าดูดาวแต่ดูเหมือนว่าคนข้างๆผมจะชอบดูดาวนะ
“ อยู่บ้านกูไม่ได้ทำอะไรแบบนี้เลย ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ปะ ”
“ อย่ามาเนียน ”
“ อีกหน่อยกูก็จะได้ย้ายมาอยู่ดี ” ดูมั่นใจจริงๆ
.
.
“ ลม ”
“ หือ ” ผมหันมาหาไอ้อิฐก็พบว่าหน้าของผมกับมันใกล้กันจนแทบจะไม่เหลือระยะห่างก่อนเจ้าตัวจะเลื่อนหน้าเข้ามาหาผม
ผมรู้ว่ามันจะทำอะไรและผมก็ไม่หลบด้วย

ริมฝีปากของอีกคนแนบลงกับริมฝีของผมอย่างแผ่วเบา ไอ้อิฐเป็นคนอ่อนโยนและนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันจูบผมแต่ก่อนที่อีกฝ่ายจะลุกล้ำเข้ามามากกว่านี้ผมจึงผละออก
“ พอเลย นี่หน้าบ้านนะไอ้อิฐ ”
“ แสดงว่าในบ้านได้ใช่ไหม ” ไอ้อิฐยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่โทษทีนะนี่มันถิ่นผมว่ะ
“ ได้ ”
“ จริงหรอ ” ตาลุกวาวเชียวนะมึง
“ จะโกหกทำไม ”
“ งั้นขึ้นห้องกัน ” กระตือรือร้นมากไม่ได้บ่งบอกถึงความคิดของมันเลย
แต่อย่าคิดไปไกลนะครับ ผมกับไอ้อิฐไม่เคยทำอะไรมากกว่าจูบนะ
“ ไปชวนไอ้ไม้ดิ ”
“ ชวนมันทำไม ”
“ ก็มึงต้องนอนกับมัน ”
“ ว่าไงนะ ”
“ ระหว่างที่อยู่บ้านกูมึงต้องนอนห้องเดียวกันกับไอ้ไม้ ” พอผมพูดจบก็เหมือนเห็นหูทั้งสองข้างของมันลู่ลงทันที เหมือนหมาที่โดนเจ้านายทิ้งอะครับดูแล้วขำดี
“ ลมมม ” ตัวโตอย่างมันไม่เหมาะจะงอแงนะครับเอาจริงๆ
“ ไปดิ ”
“ เนี่ย! ชอบมาอ่อยให้อยากแล้วจากไป ” ว่าแล้วมันก็นั่งลงที่เดิมพร้อมกับทำหน้าขัดใจ ใครจะไปนอนกับมันวะไม่บอกก็รู้ว่ามันคิดอะไร จ้างให้ผมก็ไม่นอนห้องเดียวกับมันหรอก
“ จะให้กูไปนอนกับไอ้ไม้จริงๆหรอ ”
“ หรือจะไปนอนกับไอ้กิม ”
“ จ้างให้ก็ไม่ไปนอนกับมันหรอก ”
“ งั้นก็ไปนอนกับไอ้ไม้ ” แกล้งคนนี่มันสนุกจริงๆเลยนะ
“ งั้นขอค่าที่ทำให้กูดีใจเก้อหน่อยสิ ” ไอ้อิฐทำหน้าหงอยๆก่อนจะหันมามองหน้าผม
“ ขออะระ… ”

ฟอดดดดดดดดดดดดด

" ไอ้อิฐ! " มันหอมแก้มผมแรงๆก่อนจะวิ่งเข้าไปในบ้านทันที
ใครบอกว่าผมร้ายครับคนที่ร้ายคือไอ้อิฐต่างหาก!




ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบบบบบบบ   :mew1:
อิฐ ลม   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :-[ :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด