ตอน 07
"น้ำ"
"ครับ"
"เสาร์อาทิตย์นี้ว่างมั้ย?"
ร่างสูงที่เข้าออกห้องทำงานผมแบบอำเภอใจเปิดประตูเข้ามา นี่ตั้งแต่เจอโฟนวันก่อนนี่ยิ่งดูทำตัวแปลกขึ้นไปอีก เหมือนทำตัวประชดแล้วก็เอาแต่ใจตัวเองมากขึ้นเลยแหะ
"ว่างครับ ทำไมเหรอ"
"ไปภูเก็ตกัน"
"หะ? มีถ่ายงานวันอาทิตย์นี้เหรอ? แต่เดี๋ยวนะ ผมไม่จำเป็นต้องลงไปดูด้วยก็ได้นี่นา"
"ไม่ใช่ไปถ่ายงาน พอดี พี่ชายพี่กลับมาจากอังกฤษ พ่อแม่พี่เลยอยากให้กลับบ้าน พี่เลยจะชวนน้ำไปเที่ยวด้วย"
"เอ่อ มันงานของครอบครัวนี่ครับ น้ำไปคงจะไม่ดี"
"ก็.. พี่คิดว่าน้ำคือคนในครอบครัวพี่นะ"
'ไอ้พี่วี พูดอะไรออกมารู้ตัวบ้างรึเปล่าเนี่ย!!'"ไม่ดีกว่าครับ"
"ไม่ต้องคิดมาก มันไม่พิเศษขนาดนั้น แก้วก็มาด้วย ก็คิดซะว่าไปเที่ยวนะ"
"..."
"ไม่ต้องคิดเลย ไปนะ!"
"แต่โฟน.."
"เดี๋ยวพี่ให้แก้วจัดการเอง"
"จะดีเหรอ?"
"ดีสิ คิดซะว่าไปพักผ่อน แถมได้ดูโลด้วย"
"เอ่อ แค่คืนเดียวใช่ป่าว"
"อื้อ พี่ไม่ทำไรเราหรอกน่า"
คนข้างๆผมยิ้มมุมปากใส่ผม
"บ้า ไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย"
"ก็บอกไว้เฉยๆ"
"ไปก็ได้ครับ"
ผมที่นิ่งเงียบอยู่พักนึกก่อนจะตัดสินใจตอบไป
แล้วก็ถึงวันหยุดที่นัดไว้ หลังจากนั่งเครื่องไฟท์เที่ยงมาลงที่ภูเก็ต ก็มีรถของที่บ้านพี่วีมารอรับหน้าสนามบินแล้ว
"อื้อ เครื่องลงแล้ว
เดี๋ยวกำลังนั่งรถไปเจอพี่แก้ว
พรุ่งนี้คงถึงบ่ายๆอ่ะ
อื้อ
คิดถึงเหมือนกัน
เดี๋ยวถ่ายรูปไปอวด
บายครับผม"
ผมวางสายจากแฟนตัวเองแล้วหันหน้าไปมองคนข้างๆที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่
'เออ งอนตรงคำว่าคิดถึงสินะ นี่ทำถูกแล้วรึเปล่าเนี่ยที่มาเนี่ย' แต่ข้ออ้างที่ผมบอกแฟนในการมาเที่ยววันนี้นี่สิ
'ไปดูโลเคชั่นช่วยทีมงาน' แถมพี่แก้วก็เป็นคนออกตัวให้อีก แต่ก็ไม่ได้โกหกทั้งหมดนี่นะ มาดูของจริงเลย จะได้บรีพงานง่ายๆ' รถวิ่งช้าๆผ่านบ้านเมืองที่ดูแปลกตาไปจนสุดหาดแห่งหนึ่งจนเจอบ้านหลังใหญ่ตั้งอยู่
"คุณแม่!!"
"อ้าว มาพอดีเลย พี่แกเพิ่งขับรถสวนออกไปหาพ่อแกเมื่อกี้เลย คงทนคิดถึงกันไม่ไหว"
"สวัสดีครับ"
"สวัสดีจ้ะ น้ำ สินะ"
หญิงวัยกลางคนแต่งชุดยาวสีฟ้าสดใสกล่าวทักทายพร้อมรอยยิ้ม
"ใช่ครับ"
"ยัยแก้วกับตาเล็กพูดถึงบ่อยๆ ได้เจอสักที เข้ามาก่อนๆ เดี๋ยวแม่ให้คนยกน้ำมาให้ มากันร้อนๆ"
"เล็ก?"
ผมกระซิบถามร่างสูงข้างๆขณะเดินเข้าบ้านไปที่โถงโซฟาด้านหน้า
"อ๋อ พี่กับพี่ชายชื่อวีรภพกับวีรภาพ เพื่อนพวกพี่ก็เรียกว่าวีเหมือนกัน แต่จริงๆพวกพี่ชื่อใหญ่กับเล็ก มีแต่คนในครอบครับรึไม่ก็สนิทมากๆถึงเรียก ยกเว้นแก้วไว้คนนะ ที่เรียกวีตามคนอื่น"
"งั้นผมก็เรียกพี่ว่าเล็กไม่ได้สิ"
"ก็ใช่ไง น้ำต้องเรียกพี่ว่าที่รัก!"
"พี่วี!!"
ร่างสูงหยอดผมกลับ ทำเอาผมต้องทำหน้าดุใส่ นี่ยิ่งพอรู้ว่าผมคิดรึรู้สึกยังไงนี่เริ่มเอาใหญ่เลย เฮ้อ
"แต่ถ้าอยากเรียกว่าเล็กก็ได้นะ แต่จะบอกอะไรอีกอย่าง.."
"บอกอะไร?"
ผมถามกลับแบบเอือมๆ
"ชื่อเล็กแต่อย่างอื่นไม่เล็กนะครับ"
"ไอ้พี่วีบ้า!"
"พี่หมายถึงแขนเนี่ย!! คิดอะไร?!"
"ไม่คุยด้วยละ"
ร่างสูงที่ขำกับการหยอดมุกของตัว ทำเอาผมถึงกลับเขินและพยายามตีลงไปที่แขนคนข้างๆแก้เขิน
"กระซิบกระซาบอะไรกันสอง"
คุณแม่พี่วีเดินเข้ามาพอดี
"เปล่าครับ"
"หยอกกันเป็นเด็กเลย"
"เอ่ออ คุณแม่ครับผมหิ้วหิว มีอะไรให้กินบ้าง"
ร่างสูงข้างๆผมตรงเข้ากอดและซบไหล่คนตรงหน้า
"แหน่ะ มาก็อ้อนเลย นี่เพิ่งบ่ายกว่า กินผลไม้รอละกัน เดี๋ยวแม่บอกเด็กยกมาให้ น้ำล่ะลูกหิวมั้ย?"
"ไม่ครับ"
ผมตอบกลับพร้อมยิ้มให้สองคนตรงหน้า อยู่ต่อหน้าคนอื่นทำเข้มทำนิ่ง แต่พออยู่กับแม่นี่ก็เด็กเหมือนกันแหะ ผมคิดตามภาพตรงหน้า ถึงมันจะดูเป็นเรื่องธรรมดารึไม่สำคัญอะไร แต่ในใจผมกลับรู้สึกว่านี่ผมรู้เรื่องเค้าน้อยมากเลย แม้กระทั่งเรื่องชื่อ แล้วแบบนี้มันจะเป็นยังไงต่อละเนี่ย
"ไอ้เล็ก!!!"
"พี่ใหญ่!!!"
"ไม่เจอแปปเดียว ล่ำขึ้นป่าวเนี่ย!"
ทันที่เจอหน้ากัน พี่วีก็วิ่งไปหาเจ้าของเสียง ร่างสองร่างก็กระโจนกอดกันในทันที ผมกับคุณแม่ของพี่วีก็ลุกขึ้นมองและยิ้มกับภาพตรงหน้า
"พี่ก็เหมือนกัน ว่าแต่ตากแดดเยอะไปป่าวเนี่ย ผิวเข้มมาเลย"
"โถ สาวๆชอบคนผิวแทนๆเว้ย!"
"เออนี่พี่ใหญ่ คนนี้คือ.."
"อ้าวน้ำ!!"
ผู้ชายตัวสูงผิวเข้มเรียกชื่อผมเสียงดังทันทีที่เดินขยับตัวเข้ามาตรงที่ผมยืนอยู่
"หือ.. พี่ภพเหรอ?"
ผมที่หรี่ตามองหน้าชายตรงหน้าก่อนจะตอบกลับไป
"หะ รู้จักกันเหรอ?"
พี่วีถามผมสองคนพร้อมขมวดคิ้ว
"แหงล่ะ พี่ภพเคยหักอกเพื่อนน้ำนี่! แล้วสรุปจะชื่อใหญ่ ชื่อวี รึชื่อภพ!"
ผมย้อนถามคืนพร้อมทำหน้าดุใส่
"โหยยย มีแค้นฝังหุ่นแทนเพื่อนด้วยแหะ"
"ว่าไงนะ?!!"
"โหย เอาเรื่องเว้ย พี่ล้อเล่นนน เรื่องมันผ่านไปละ ช่างมันเถอะนะ"
คนตรงหน้ายกมือทำท่ายอมแพ้
"อือ"
"แล้วเพื่อนเราเป็นไงมั่ง"
"แต่งงานไปละ"
"ดีจัง"
"รอดจากมือพี่ไปถือว่าโชคดีละ"
"ขนาดนั้นเลย"
ยังไม่ทันที่จะจบบทสนทนาก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น
"ทุกคนนนนนนนนน!"
"คุณนายแก้วเสด็จมาละ!"
"พี่ใหญ่สวัสดีค่ะ"
"ไงเรา ไม่เจอแปปเดียว สวยขึ้นเยอะเลย"
พี่ใหญ่เปิดฉากแซวคนมาใหม่ทันที
"หนูสวยอยู่แล้วเถอะ"
"แล้วมาคนเดียวเหรอเรา"
"คุณพ่อคุณแม่ติดงาน น่าจะมาพรุ่งนี้ แต่พี่ใหญ่มาก็ดีละ มาช่วยทำงานเลย วีคนเดียวจะตายละ หายไปตั้งครึ่งปี ขี้โกงชะมัดเลย นี่แหน่ะๆๆ"
พี่แก้วที่ไม่พูดเปล่าตีลงไปที่แขนพี่ใหญ่หลายที
"โอ้ยยย เจ็บ นี่พี่ก็ไปทำงานนะ"
"เห็นแต่เที่ยวตลอด หนูส่องไอจีอยู่นะ"
"จ้าาาาา ไม่เถียงละดีกว่า"
"ไหนของฝาก"
"ไม่มี"
"พี่ใหญ่อ่ะ"
"พี่แก้วกับพี่ใหญ่เค้า.."
ผมกระซิบถามคนข้างๆทันทีที่เห็นชายหญิงคนสองคนแซวกันไปมา
"ไม่ใช่ๆ เราโตมาด้วยกันแต่เด็กเลย จริงๆเราเหมือนพี่น้องกันมากกว่า พ่อพี่กับพ่อแก้วเค้าเป็นเพื่อนสนิทกัน จริงๆเค้าจะให้พี่กับแก้วหมั้นกันเลยนะ แต่ดีนะที่มันไม่เกิดขึ้น"
"อ่อออ พี่แก้วก็น่ารักดีออก"
"ไม่ไหวอ่ะ โตมาด้วยกัน รู้เรื่องกันหมด แค่คิดก็ขนลุกละ"
"เออ นั้นสินะ.."
"ปะ ปล่อยเค้าตีกันไปเถอะ เดี๋ยวพี่พาดูบ้าน"
"อื้อ"
พี่วีพาผมเดินไปมารอบๆบ้าน มีแนะนำคนที่เดินผ่านไปมาบ้าง จนเดินมาสุดระเบียงด้านหลังบ้านที่ติดกับทะเล
"บรรยากาศดีจัง"
"ชอบมั้ย?"
"ครับ"
"อยากมาอยู่ป่าว"
"บ้านพี่รับคนงานเพิ่มเหรอ?"
"เปล่า ตอนนี้รับแต่สะใภ้!"
"พี่วี!"
ผมกระทุ้งศอกใส่ท้องร่างสูงข้างๆ
"โอ้ยย! เจ็บนะ!"
"ก็ทำให้เจ็บไง จะได้รู้ตัว"
"ดุจัง นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นแฟนเลยนะ"
"เดี๋ยวจะโดนอีกที!"
"กลัวแล้วๆ"
ร่างสูงยกมือขึ้นปิดท้องตัวเองไว้ พร้อมหัวเราะเสียงดัง
"เล็ก คุณพ่อมาแล้ว เข้ามาหาคุณพ่อก่อน"
เสียงแม่พี่วีดังมาจากด้านหลังของเรา เรียกให้ผมสองคนกลับเข้าไปที่หน้าบ้าน
"สวัสดีครับคุณพ่อ"
"สวัสดีครับ"
"สวัสดีๆ เดี๋ยวนะ ลุงคุ้นๆหน้าเรา"
ชายวัยกลางคน แต่งตัวภูมิฐานรับไหว้พร้อมทำหน้าพินิจใบหน้าของผมในทันที
"พ่อเคยเจอเหรอครับ?"
"บริษัทอานพรรึเปล่าคะ น้ำเค้าทำงานที่นั้น"
"ไม่ใช่ๆ"
พ่อพี่วียังพยายามนึกอยู่แปปนึง
"อ๋ออ!! หนูคนที่เก็บกระเป๋าตังให้ลุงไง"
"หะ?"
ทุกคนส่งเสียงเดียวกันออกมาทันทีที่จบประโยค
"จริงด้วย ลุงคนนั้น"
ผมเองที่ก็เพิ่งจะนึกออกตอบกลับไป
"อะไรอะคุณพ่อ"
พี่ใหญ่ถามด้วยความสงสัย
"ก็ตอนที่พ่อขึ้นไปกรุงเทพครั้งนู้น พ่อทำกระเป๋าตังตกแล้วมีคนช่วยเก็บมาคืนพ่อที่เคยเล่าให้ฟังไง ไม่งั้นพ่อคงแย่เอา"
"อ๋ออ คนนั้นคือหนูน้ำเองเหรอ?"
คุณแม่พี่วีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแปลกใจ
"โลกกลมจังเลยนะครับคุณพ่อ ผมก็รู้จักน้ำมาก่อนด้วย"
"นั้นสิคะคุณ งั้นแฟนตาเล็กคนนี้คงเข้าตาแม่แล้วล่ะ"
แม่พี่วีหันหน้ามามองผมกับพี่วีสลับกัน ทำเอาผมไปต่อไม่ถูก ส่วนไอ้พี่วีก็ได้แต่ยิ้ม
"เอ่อ คือ.."
"แฟนที่ไหนล่ะคุณป้า ยังเป็นเพื่อนกันอยู่เลย"
พี่แก้วรีบแก้ต่างให้ผมทันทีเพราะคงรู้ว่าผมรู้สึกยังไง
"แต่ผมก็พยายามจีบอยู่นะครับ!"
"พี่วี!!"
'ไอ้พี่วีจะพูดขึ้นมาทำไมเนี่ย!!'
"อ้าวเขินซะละ ไปกินข้าวกันเถอะ หิวแล้วๆ!!"
คุณพ่อของพี่วีพูดก่อนจะเดินนำไปที่โต๊ะกินข้าว
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พี่ใหญ่สนุกกับการเล่าชีวิตที่นู้น และทุกคนเป็นกันเองกับผมมา พี่ใหญ่กับพี่แก้วก็เถียงกันได้ตลอด คุณป้าต้องคอยห้ามทุกที ทำให้ผมเข้าใจแล้วว่าพี่แก้วทำไมรักพี่วีและพี่วีถึงตามใจพี่แก้วมาก เพราะทั้งสามคนรักกันเหมือนพี่น้องเลยจริงๆ
"น้ำอายุเท่าไหร่แล้วล่ะ"
"26ครับ"
คุณลุงถามหลังจากทานข้าวกันเสร็จ
"น้องหนูกับวี2ปีเลย"
"แต่หน้าแกแก่กว่าเค้าเป็นสิบปีเลย"
"พี่ใหญ่อ่ะ!!"
"ตาใหญ่นี่ก็แกล้งน้อง!"
คุณป้าเองก็ยังเป็นคนห้ามมวยเช่นเดิม
"แล้วที่บ้านทำงานอะไรอ่ะเรา?"
"ที่บ้านผมเปิดบริษัทขายส่งครับ"
"อ้าว แบบนี้ก็ไม่ได้ช่วยที่บ้านเลยสิ"
"ผมมันแกะดำครับ หัวรั้นกว่าพี่ๆเค้า ปล่อยให้พี่ๆผมทำไปดีกว่า ผมชอบงานผมในตอนนี้มากกว่าครับ"
ผมอธิบายไปยืดยาว
"แต่น้ำเก่งมากเลยค่ะคุณลุง ส่งเสียตัวเองเรียนเองด้วย"
"เหมือนลุงเลย ปู่พวกแกก็อยากให้ฉันเป็นหมอตามเค้า แต่ฉันก็ไม่ฟัง แอบไปลงเรียนอีกอย่างพอโดนจับได้ก็โดนไล่ออกจากบ้าน ก็ทำงานส่งตัวเองเรียนจนจบ ปู่พวกแกถึงทำใจยอมรับในความรั้นของฉันได้ และเพราะหัวรั้นนี่แหล่ะถึงมีได้ตอนนี้.. หัวรั้นไม่ได้แปลว่าไม่ดีเสมอไปหรอกนะ ถ้ารั้นไปในทางที่ดี"
เราสี่คนเงียบฟัง ความรู้สึกในตอนนี้คือพ่อสอนลูกๆที่มีผมเพิ่มเข้ามาอีกคน
"จะสามทุ่มแล้วเหรอเนี่ย แก้วค้างที่นี่มั้ย?"
คุณป้าที่หันไปมองนาฬิกาแล้วถามออกมา
"ไม่ดีกว่าค่ะ พรุ่งนี้ต้องเข้าโรงแรมแต่เช้า"
"งั้นรีบกลับเถอะ เดี๋ยวคุณพ่อเรารอ"
"ค่ะ"
"มา เดี๋ยวป้าเดินออกไปส่ง"
"งั้นหนูไปแล้วนะคะคุณลุง พี่ใหญ่ วี น้ำ"
หญิงสาวกล่าวลาพร้อมเดินออกไปกับคุณแม่ของพี่วี
"เอ่ออ พ่อลืมบอกว่าแอร์ห้องนอนแขกเสีย"
"อ้าว แล้วจะให้น้ำนอนห้องไหนล่ะคุณพ่อ"
"ก็นอนห้องตาเล็กก็ได้มั้ง"
"จะดีเหรอครับคุณลุง"
"ดีสิ! ใช่มั้ยตาเล็ก!"
"ครับคุณพ่อ"
"..."
สองพ่อลูกยิ้มให้กันแบบเข้าใจ แต่ทำเอาผมขนลุกเลย 'คนบ้านนี้ก็น่ากลัวแหะ'
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมก็ทิ้งร่างตัวเองลงอีกฝั่งของเตียงนอน พร้อมคว้าหมอนข้างมาวางไว้ตรงกลางเตียง
"งั้นน้ำนอนฝั่งนี้นะ และพี่วีห้ามเอาหมอนข้างออก"
"พี่ไม่ปล้ำเราหรอกน่า นอกซะจากน้ำจะยอม"
"อย่ามายิ้มเจ้าเล่ห์นะ"
"เปล่าสักหน่อย"
"ไปอาบน้ำเลย!"
"รู้แล้วๆ"
สิ้นประโยค ร่างสูงตรงหน้าก็ถอดเสื้อออกในทันที เผยให้เห็นกล้ามแขนเป็นมัดที่เชื่อมอยู่กับกล้ามหน้าอกและซิกแพกเล็กๆที่ดูไม่เด่นมากแต่ก็ทำให้ชวนมอง ก่อนจะหันไปทิ้งเสื้อลงตะกร้าพร้อมเริ่มปลดกระดุมกางเกงทำให้เห็นขอบกางเกงในสีขาว แต่ก่อนที่คนตรงหน้าจะดึงกางเกงลงผมก็ตะโกนออกไปก่อน
"พี่วี! แล้วจะมาถอดทำไมตรงนี้เนี่ย!"
"อ้าว ก็นี่ห้องพี่ พี่จะถอดเสื้อผ้าตรงไหนก็ได้นะ"
"โอ้ยยย ก็ไปถอดในห้องน้ำสิ!"
"ทำไมเหรออออออ?!"
ไม่พูดเปล่า ร่างสูงค่อยๆก้มตัวเข้ามาหาผม จนผมต้องเอาผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าไว้
"อยากลองจับมั้ย? ให้จับคนเดียวเลยนะ"
"ไอ้พี่วีบ้า!!"
ผมที่ยังเอาผ้าห่มปิดหน้าอยู่ตะโกนออกมา
"อะๆ ไม่แกล้งก็ได้ ฮ่าๆๆ"
"รีบไปเลย!!"
พี่วีหัวเราะเบาๆ พอผมพูดจบคนตรงหน้าก็คว้าผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
'ไอ้พี่วี แกล้งเราได้ตลอดจริงๆ'
หลังจากผมทั้งคู่ขึ้นเตียงและปิดไฟเพื่อเตรียมตัวนอน แสงของพระจันทร์สาดผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่เข้ามา แม้จะเป็นเวลาห้าทุ่มกว่า แต่แสงจากดวงจันทร์ในคืนนี้ยังทำให้ผมเห็นหน้าชายที่นอนข้างๆอย่างชัดเจน เสียงคลื่นทะเลสาดเข้าฝั่งดังแทรกมาเบาๆ มันเป็นเสียงที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ได้ ผมนอนห่างกันกับพี่วีแค่หมอนข้างกั้น
"พ่อแม่พี่เค้าชอบน้ำนะ"
ร่างสูงพูดขึ้นมาเบาๆ
"รู้ได้ไง"
"ก็พี่รู้ละกัน"
"พ่อแม่พี่ใจดีมากเลย"
"อื้อ ใจดีมาก คนอื่นปู่ย่าตายายตามใจใช่มะ แต่ของพี่มีแต่พ่อกับแม่นี่แหล่ะคอยตามใจ"
"ที่บ้านนี้มีแค่พ่อแม่พี่เหรอ?"
ผมที่สนใจเรื่องครอบครัวของพี่วีถามออกไป
"อื้อ ญาติผู้ใหญ่ก็อยู่กรุงเทพหมดอ่ะ ตอนเด็กๆพี่ก็อยู่กับคุณปู่คุณย่า เพราะพ่อแม่พี่ไม่ค่อยว่างเลย พอพ่อพี่ตัดสินใจมาทำธุรกิจที่นี่ก็เลยสร้างบ้านนี้ไว้เลย ตอนแรกพี่ก็ไม่ได้อยากมาอยู่ที่นี่นะเพราะไม่มีเพื่อน แต่พอพ่อแก้วมาสร้างบ้านที่นี่ด้วย พี่เลยลงมาอยู่บ่อยขึ้นเพราะแก้วก็จะมาด้วย"
"แล้วพี่ใหญ่อ่ะ?"
"พี่ใหญ่อยู่กับตายายมากกว่า แต่เสาร์อาทิตย์รึปิดเทอมพวกพี่สามคนก็จะลงอยู่ที่นี่ด้วยกัน แต่ต้องมาด้วยกันสามคนด้วยนะถึงจะมา ตลกป่ะ?!"
คนข้างๆผมเล่าไปยิ้มไป
"งั้นพี่แก้วก็เป็นเหมือนเพื่อนคนเดียวของพี่เลยดิ"
"จะว่างั้นก็ได้ ตั้งแต่เด็กจนโตก็เรียนที่เดียวกัน มีอะไรก็เล่าให้กันฟังหมดอ่ะ เหมือนแก้วเป็นพี่สาวพี่อีกคนเลย ขนาดพี่ใหญ่เองพี่ยังไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟังเยอะเลย"
"แล้ว.. ทำไมแม่พี่พูดว่าน้ำเป็นแฟนพี่ล่ะ?"
คำถามนี้ทำให้คนข้างๆพลิกตัวหันมาทางผม และผมที่สนใจในคำตอบจนต้องหันกลับไปรอฟังเช่นกัน มันทำให้เราสองคนหันมาจ้องตากัน แววตาของพี่วีดูอบอุ่นและจริงจัง และมันก็เป็นแววตาที่ผมพยายามหลบอยู่ตลอดเพราะกลัวใจตัวเองจะคิดไกลไปมากกว่านี้
"ก็ พี่บอกเค้าไปว่าชอบคนแถวนี้อยู่"
"เอ่อ มิน่าล่ะ แล้ว.. ไม่ตกใจกันเหรอ?"
พี่วีตอบมาแบบเรียบๆ แต่สายตาของเค้าก็พูดมันออกมาเช่นกัน ทั้งคำตอบและสายตาที่มองมาตอนนี้ มันทำให้หัวใจผมเต้นแรงขึ้นทันที อีกเพราะไม่คิดว่าเค้าจะกล้าบอกพ่อแม่ไปตรงๆแบบนั้น
"ก็ตกใจนะ แต่เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร"
"งี้ก็แปลว่าพี่เคยมีแฟนเป็นผู้ชายอะดิ"
"ไม่เคยนะ แต่ก็รู้ว่าทำยังไง"
คนข้างๆผมยิ้มมุมปากเล็กๆพร้อมทำหน้าเจ้าเล่ห์อีกแล้ว
"ไอ้พี่วี!"
"ฮ่าๆๆๆ ก็พี่เป็นผู้ชาย มีคนน่ารักๆมานอนข้างๆแบบนี้ มันก็ต้องรู้สึกป่ะ"
"หยุดเลย!!"
"ก็ได้ๆ"
ผมที่ออกคำสั่งใส่คนข้างๆพร้อมทำหน้าค้อนใส่ ทำให้คนข้างๆยอมแพ้แต่โดยดี
"แล้วที่บ้านน้ำรู้มั้ย?"
"ว่าเป็นเกย์เหรอ? รู้สิ!"
"เค้าไม่ว่าเหรอ?"
"ไม่นะ น้ำก็เป็นน้ำ เคยเป็นมายังไงก็เป็นเหมือนเดิม หัวรั้นยังไงก็ยังรั้นอยู่ แต่จริงๆคงเพราะ น้ำมีพี่ชายสองคนมั้ง ขาดลูกชายไปคนคงไม่เป็นไร"
"แล้วพ่อกับแม่หวงป่ะ?"
"ก็หวงนะ แต่พอเริ่มทำงานก็ปล่อยแล้ว ทำไมเหรอ?"
"จะได้ทำตัวถูกถ้าเจอพ่อตากับแม่ยายไง"
"พี่วี!!"
ร่างสูงที่นอนอยู่ข้างๆหัวเราะออกมาเสียงชอบใจที่ยั่วโมโหผมได้อีก
"พี่มีความสุขมากเลยรู้มั้ย?"
พี่วีพูดออกมาทั้งที่ยังจ้องตาผมอยู่
"แล้วยิ่งเห็นน้ำเข้ากับคนสำคัญของพี่ได้ทุกคน พี่ยิ่งดีใจ ถ้าน้ำไม่มีแฟน เราจะเป็นแฟนกันรึเปล่า?"
ณ เวลานี้ผมเลือกที่จะไม่ตอบอะไรเพราะไม่อยากทำให้คนข้างๆคิดไกลไปมากกว่านี้ แต่สายตาที่ผมกับเค้ามองกันตอนนี้ เค้าคงรู้คำตอบจากในใจผมแล้วล่ะ เพราะมันยากเหลือเกินที่จะโกหกความรู้สึกลึกๆของตัวเอง