♪ดังต้องมนตร์♫ ตอนพิเศษ ปัจจุบัน (หน้า12|18062020)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♪ดังต้องมนตร์♫ ตอนพิเศษ ปัจจุบัน (หน้า12|18062020)  (อ่าน 85707 ครั้ง)

ออฟไลน์ Plakhem

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :mew6:  ความไม่ชัดเจน จะทำให้หัวใจเจ็บ  :ling2:

ออฟไลน์ Jely

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พี่ทิคุยกับน้องก่อนก็ได้นะ ไม่ต้องรอให้น้องถามก่อน   T . T

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เอ็นดูน้ำมนต์ เจอความจริงแบบไม่ได้ตั้งใจ
ถ้ารับมือถือแต่แรกก็ไม่เป็นแบบนี้หรอกกะทิ
กำลังจะดี ความห่วงใย ความคิดถึง กำลังกัดกิน
มาเจอช็อตนี้ไปคือสงบเลยค่ะ ทำน้ำมนต์เสียใจ

กะทิเอ้ยย พยายามอีกนิด อดทนอีกหน่อยนะ
น้องแค่ขอทำใจอีกสักพัก

เจนทำแบบนี้ แน่ใจใช่ไหมว่าเพื่อกะทิกับเจน
ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง กะทิพูดถูกนะ ใครจะทำใจได้
ที่ต้องยอมให้คนรักตัวเองไปเป็นของคนอื่น

ก่อนหน้านี้เคืองลม ตอนนี้ลมเป็นกำลังใจให้น้องละ
แต่เริ่มงงกับฟ้าว่ายังไง ต้องการอะไร

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
คสามักช่างยาก
เอาแน่ๆ ยากเพราะอะไรน้ำมนต์

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
ต้องมนตร์




        แต่ละวันของผมเดินไปอย่างเชื่องช้าจนน่ารำคาญ ทุกครั้งที่เห็นโฆษณาคอนเสิร์ตตามสื่อต่างๆ ก็อดคิดไม่ได้ว่าช่วงนี้พี่ทิเป็นยังไง ซ้อมหนักไหม มีคนดูแลหรือเปล่า

        พี่ลมไม่รบเร้าให้ผมไปหาพี่ทิอีก แต่ผมเองที่เป็นฝ่ายเปลี่ยนเบอร์กลับมาใช้เบอร์เก่า ย้ายกลับไปอยู่หอกับไอ้นิว ทำตัวซึมเซาจนเพื่อนแซวว่าแฟนงานยุ่งจนผมกลายเป็นหมาจ๋อย ส่วนเรื่องเปลี่ยนเบอร์ชั่วคราวก็โกหกไปว่าเป็นเหตุผลของการแก้ชง คนงมงายกับทุกเรื่องอย่างผมเพื่อนๆ ก็ไม่เคลือบแคลงสงสัยว่าเปลี่ยนเพราะหนีไม่อยากให้พี่ทิตาม ส่วนหนึ่งก็ไม่อยากให้เพื่อนแซวว่าไม่โสดได้แป๊บๆ ก็ทะเลาะกับแฟนจนต้องหนีไม่ให้เขาง้อหัวซุกหัวซุน แต่พอถึงเวลาก็กลับมารอเขาเหมือนหมาเฝ้ารั้วบ้าน

        ข้อความของพี่ทิฝากทิ้งไว้สามข้อความ เป็นคำว่าคิดถึง คิดถึง และคิดถึง บอกตรงๆ ใจผมเหลวเป็นน้ำเลย อยากกลับไปหาแต่ก็พะวักพะวงทั้งกับเรื่องงานของพี่ทิที่ไม่ควรเสียสมาธิไปมากกว่านี้ ไหนจะไม่อยากฟังเรื่องของเขากับเจนอีก

        แม้ว่าไม่อยากได้ยิน ระหว่างเราก็ต้องพูดเรื่องนี้กันอยู่ดี ผมขอแค่เวลามาตั้งหลักก่อนเถอะ เข้มแข็งกว่านี้แล้วจะยอมให้พูดใส่หน้าเลยว่ารักผู้หญิงคนนั้นมากแค่ไหน

        กระนั้นก็หักห้ามใจไม่ให้ส่งข้อความไปให้กำลังใจเขาไม่ได้ แม้ว่ากดส่งแล้วปิดเครื่องหนีทันทีเลยก็ตาม



        ทำไมเป็นคนปอดแหกขนาดนี้วะ



        แต่เหมือนพี่ทิจะรับรู้ถึงความประหม่าอายผ่านตัวอักษรไม่กี่ตัว เพราะเขาก็แทบไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย



        “ถามจริง มึงมโนไปคนเดียวปะน้ำมนต์ว่าคบกับพี่ทิอะ”

        วันที่อากาศร้อนจัดในฤดูหนาว ทิวฟ้างอแงว่าอยากกินไอติมในห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ เรื่องของกินเข้าทางไอ้นิว มันสมัครบัตรสมาชิกทุกร้านอาหารจนกระเป๋าตังค์ตุงไปด้วยบัตรสะสมแต้มและสิทธิพิเศษ

        ผมเขี่ยวิปครีมบนไอศกรีมทั้งแปดลูกถ้วยใหญ่ที่สั่งมากินด้วยกัน เรื่องที่ผมกับพี่ทิห่างกันออกมามีแค่ฟ้าที่พอจะรู้ที่มาที่ไป สนับสนุนว่าผมน่าจะทิ้งระยะห่างออกมาหน่อย อย่างน้อยก็เพื่อให้ความรู้สึกของเราทั้งคู่ชัดแบบที่ไม่มีอะไรมากระทบได้

        จริงอย่างผู้มีประสบการณ์ว่า ผมเปราะบางและอ่อนไหวเกินไป มากจนกระทั่งสูญเสียความเป็นตัวเองได้ไม่ใช่เรื่องดีหากคิดคบหากับใครสักคนในระยะยาว

        “ทำไม ตั๋วคอนเสิร์ตฟรียังไม่ตอบอีกเหรอ” ผมทำทีข่มทับ บัตรขายเกลี้ยงในชั่วโมงแรก นับว่าเป็นคอนเสิร์ตไทยที่ขายได้ไวจนหลายสื่อจับตามอง

        “พี่ลมให้มาปะ ไม่ใช่พี่ทิ”

        “เออ เหมือนกันล่ะน่า” เป็นบัตรโซนวีไอพีที่สงวนไว้สำหรับแจกแต่แรก ส่วนมากจะแจกสื่อเพื่อทำข่าว ซึ่งไม่ใช่แถวหน้าสุดเหมือนประธานในพิธีสงฆ์ตามประสาไทยบ้านแต่เป็นบัตรชั้นลอยที่สูงกว่าดอย และปลีกวิเวกจากกลุ่มแฟนคลับระดับหนึ่งเลยทีเดียว
       
        “ฟ้า มึงคุยกับไอ้อุ้ยบ่อยไหม โทรหากัน ฝันดีนะคะไรงี้”

        “ก็ทุกวันอะ ทำไม”

        “เนี่ย” ไอ้นิวใช้ช้อนยาวชี้ผม “กูไม่เห็นมึงคุยโทรศัพท์จนหลับเหมือนคนเป็นแฟนกันทำกันเลยวะ”

        “ก็พี่ทิยุ่ง”

        “ยุ่งแค่ไหนก็ต้องคุยกับแฟนเว้ย”

        “เขาโตแล้วไง จะมาหยุมหยิมอะไรกับเรื่องพวกนี้”

        “อวดแฟนเหรอจ๊ะ” คนเรื่องเยอะประจำกลุ่มทำตาเล็กตาน้อย แย่งลูกเชอรี่ที่ผมกำลังใช้ช้อนตะล่อมตักด้วยมือเปล่า “หรือเพราะเป็นผู้ชาย มึงเลยสวีทกันไม่ได้? อายกูเหรอ”

        “ไม่ใช่” ผมปฏิเสธ เริ่มหงุดหงิดที่ไอ้นิวแย่งของกิน “อยู่ที่นิสัยคน พี่ทิไม่ใช่คนตอแหลแบบไอ้อุ้ยไง”

        “อ้าว โยนมาที่กูอีก”

        ฟ้ามองหน้าผม ก่อนถามเสียงแผ่ว “ยังไม่คุยกันเหรอ”

        “ก็ ไม่เชิง คุยผ่านพี่ลมมากกว่า”

        สื่อสารด้วยวิธีฝากบอกเป็นหลัก พี่ลมยอมรับว่าโคตรรำคาญ แต่เขาก็ไม่อยากให้ผมกับพี่ทิมีเรื่องวุ่นวายในช่วงนี้ เลยต้องอดทนเป็นนกพิราบสื่อสารให้อีกพักใหญ่ อย่างน้อยๆ ก็จนกว่าหลังคอนเสิร์ตจบ

        “มีแฟนก็เหมือนไม่มี จะมีไปทำไมวะ”

        ไอ้นิวยังไม่เลิกเสี้ยม ชาติก่อนเป็นบ่างหรือไงช่างยุเหลือเกิน “เรื่องของกูน่า”

        ผมตอบพลางมองไอศกรีมรสที่ตัวเองสั่งมา สีน้ำตาลของช็อกโกแลตและชมพูสดใสของสตรอวเบอรี่เชอร์เบต หวานอมเปรี้ยวของจูบวันนั้นฉายชัด วันที่ความรู้สึกของเราสดใหม่และไร้ความหวาดระแวง ตักสองรสนี้ให้ผสมบนช้อนคันเดียวกัน เอาเข้าปากแล้วคิดถึงสัมผัสวันนั้น

        ผมอยากจูบเขาที่สุดเลย

       

        ผมขีดปฏิทินตั้งโต๊ะของตัวเองนับตั้งแต่วันที่ได้บัตรคอนเสิร์ตมาจากพี่ลม ให้ปากกาเมจิกสีดำเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ลดระยะเวลาที่รอคอยเจอพี่ทิอีกครั้งจนหน้าปฎิทินยับเยิน คอนเสิร์ตวันแรกของพี่ทิผ่านไปด้วยดี ดีจนติดท็อปเทรนด์ในทวิตเตอร์หนึ่งวันเต็มๆ ส่วนมากแล้วจะพูดถึงทิวากรในตำนาน ภาพที่ถ่ายจากคนไปดูเป็นภาพที่เบลอนักร้องที่อยู่ด้านหน้า โฟกัสไปยังชายหนุ่มในชุดสูทสีขาวหลังแกรนด์เปียโนสีดำสนิท

        คอนเสิร์ตจัดแสงไฟให้สปอร์ตไลท์ลงมาสองจุด จุดหนึ่งเป็นนักร้อง อีกจุดคือนักดนตรีโดยเฉพาะในเพลงสุดท้ายที่พี่ทินั่งไขว่ห้าง เล่นกีตาร์ร้อง แฮชแท็กที่มากับชื่องานคือเพลงที่มีชื่อผมเป็นส่วนประกอบ นอกจากนี้ยังมีคลิปสั้นๆ ที่ผู้เข้าชมอัพไว้ในสตอรี่อินสตราแกรมหรือในทวิตเตอร์ แต่ยังไม่ทันกดดูก็ถูกไอ้นิวฟาดหลังมือแทบหัก มันว่าห้ามดูสปอยล์ ให้ไปตื่นเต้นในงานด้วยกัน ผมตัดอกตัดใจอยู่นานแต่ขี้เกียจเถียงกับมันเลยหยุดเสิร์ชหาคลิปดูล่วงหน้า แต่ภาพนิ่งนี่ห้ามไม่ได้จริงๆ อย่างกับเทวดามาจุติ หล่อจนไม่ควรเป็นมนุษย์แล้ว

        พอมองจากสายตาแฟนคลับ ก็ยินดีที่เขาถูกกล่าวถึงอย่างรวดเร็วในข้ามคืนเดียว

        จากการมีแฟนคลับเฉพาะกลุ่ม หรือคนคุ้นหูได้ยินแค่ชื่อว่าเป็นนักเขียนเพลงมือดีของค่าย แม้แต่ตอนออกอัลบั้มยังไม่ค่อยมีภาพถ่ายปรากฏชัด วันนี้ภาพของพี่ทิถูกสืบค้นอย่างกว้างขวาง แต่พี่ทิก็คือพี่ทิ เป็นบุคคลที่แทบไม่มีข้อมูลในสารระบบอะไรมากไปกว่าที่ทางค่ายปล่อยออกมา

        เขาไม่ได้ทำตัวลึกลับ เพียงแต่ว่าช่วงที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นแฟนหนุ่มของนักร้องสาวเจนจิราถูกพวกโอตะคุกคามจนรำคาญและงดออกสื่อไปเอง

        หนึ่งคืนก่อนคอนเสิร์ต ผมนอนไม่หลับ

        การไม่ได้พบกันอาจเริ่มต้นจากการที่เขาอยากให้ผมกลับมาอยู่ที่หอ สานต่อด้วยเรื่องที่พี่ทิไม่ได้เล่าบางประการ เพิ่มด้วยความรู้สึกหวาดกลัวขลาดเขลา และยืดยาวเพราะพี่ลมอยากให้พี่ทิมีสมาธิกับเรื่องงานมากกว่าเรื่องของผม กว่าจะรู้ตัวอีกที ผมก็แทบลืมไปแล้วว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าทิวากร เขามองผมด้วยสายตาแบบไหน

        อย่างที่พี่ลมว่า ผมถูกปรุงแต่งด้วยอคติมากเกินไป สิ่งที่สั่งให้ผมตระเตรียมหัวใจว่าบางทีแล้วผมอาจไม่ได้มีความหมายมากพอ

        สองทุ่มตรง พี่ลมเป็นคนเดินนำเราทุกคนไปที่อัฒจรรย์ชั้นบนเยื้องมาทางซ้ายของเวที ผมไม่ได้รับอนุญาตให้ไปหลังเวที แต่มานั่งรวมกันกับตากล้องมุมสูง เพลงแรกจะเริ่มตอนสองทุ่ม นักร้องสับเปลี่ยนกันขึ้นมาเฉลิมฉลองให้กับค่ายด้วยเพลงที่พี่ทิเขียนเป็นส่วนมาก นักร้องชายและหญิงขึ้นมาแสดงโชว์ พิธีกรนำเข้างานเป็นนักแสดงชื่อดังที่เป็นที่รู้จัก

        หลายเพลงเป็นเพลงซึ่งโด่งดังดั่งดาวค้างฟ้า ผ่านมากี่ปีก็ยังไพเราะติดหู เกือบครึ่งเป็นเพลงใหม่ที่พี่ทิเคยเล่นให้ผมฟัง เมื่อรวมกับเสียงเครื่องดนตรีครบทุกอย่างก็อดขนลุกซู่ไม่ได้ โดยปกติพี่ทิมักใช้เปียโนกำหนดเมโลดี้ บางทีก็ใช้กีตาร์เล่นพลางร้องไม่เป็นคำอยู่ในลำคอ จริงที่ว่าคอนเสิร์ตเป็นศาสตร์ที่รวมทั้งดนตรี การแสดง พลังเสียง เนื้อร้อง แสง สี และบรรยากาศชวนขับกล่อมให้เหมือนเป็นเมฆวิเศษพาผู้ชมลอยไปไกลแสนไกล จังหวะสนุกสนานเหล่าคนแปลกหน้าโยกตัวกันตามทำนองอย่างไม่กระดากอาย เพลงที่เคยได้ยินจนคุ้นหู เมื่อนักร้องเงียบเสียงไปนักฟังกลับร้องต่อประสานเสียงให้เป็นหนึ่งเดียว

        พี่ลมยืนกอดอก ในหูใส่หูฟังเอาไว้ เขามองจากบนอัฒจันทร์เดียวกัน ไม่นานก็วิ่งลงไป ท่าทางเครียดขมึง จริงจัง และเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ

        “มีอะไรหรือเปล่า”

        “อย่างนี้แหละ ปัญหาหน้างาน มีตลอด” ฟ้าพูดอย่างคนรู้จักหน้าที่ของพี่ชายดี วันนี้คงวุ่นวายจนนาทีสุดท้าย “เดี๋ยวพี่ทิจะออกแล้วใช่ไหม”

        หญิงสาวถาม ผมได้แต่ส่ายหัว ไม่รู้กำหนดการเลย

        “บอกแล้วว่าไอ้น้ำมนต์มันมโน” ไอ้นิวไม่หยุดแซว มันเป็นคนเห็นช่องห่างระหว่างผมกับพี่ทิมากที่สุดเพราะอยู่ด้วยกัน ผมชูนิ้วกลางให้มันโดยไม่ออกเสียงอีกฝ่ายก็หัวเราะคิกคักกลับมา

        ไม่มีเงาของพี่ทิปรากฏบนเวทีสักที

        จากตรงนี้เราได้แต่มองคนบนเวทีผ่านจอฉายภาพขนาดยักษ์ที่ขนาบทั้งสองข้าง นักร้องที่อยู่บนเวทีคนนี้คือเสี้ยนเล็กๆ ที่ปักอยู่ในใจผมจนอักเสบระบม แววตาสุกใสแบบนั้น ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู ขยับตัวนิดหน่อยก็มีเสียงกรี๊ดกระหึ่มดังทั้งฮอลล์

        “โคตรน่ารักเลย” ไอ้นิวเพ้อ ผมไม่ตอบอะไร ก็น่ารักจริงๆ ร่าเริง สดใส หันไปเล่นกับนะกดนตรีบ้างแม้อีกฝ่ายจะไม่ได้ตอบรับหรือบ่ายเบี่ยงเมื่อเห็นสายตาอดีตคนรักมองมา

        พี่ทิจะรู้สึกยังไงบ้างนะ อยากได้ผู้หญิงคนนั้นกลับไปหรือเปล่า

        ผมกัดปากล่างของตัวเอง รู้สึกโกรธที่มัวแต่พะวงจนไม่ได้ซึมซับรสชาติของงานเต็มอิ่มอย่างที่ควร

        ครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของการแสดง เจนจิรากล่าวขอบคุณวงดนตรี สปอนเซอร์ แนะนำโปรดิวเซอร์และผู้เกี่ยวข้องคลอไปกับทำนองเร็วช้าเร่งสลับ จากนั้นไฟสปอร์ตไลท์ก็หมุนวนอยู่ตรงนั้น ก่อนนักร้องสาวจะเอ่ยชื่อผู้ประพันธ์เพลงหลักของการแสดง ไฟสีขาวจึงเลื่อนไปด้านหลัง ตำแหน่งเดียวกับที่ภาพถ่ายจากงานเมื่อวานถ่ายให้เห็น นักเปียโนที่นั่งอยู่เป็นเอกเทศจากเครื่องดนตรีอื่นๆ คือคนที่ผมมองหาตั้งแต่ต้นงาน คนที่ละเมียดละไมในความรู้สึก เฝ้าสังเกตและถ่ายทอดส่วนลึกของหัวใจออกมาด้วยทำนอง ไม่กี่ประโยคของพี่ทิในบทเพลงสามารถขโมยหัวใจ เข้าปากและติดหูอย่างเหลือเชื่อ

        เขาเปลี่ยนจังหวะเล่นกีตาร์ต่อ ก่อนขึ้นเพลงใหม่ที่เขียนให้เจนจิรา แน่นอนว่าเป็นเพลงที่ผมได้ฟังมาแล้วบางช่วงอย่างตรงท่อนฮุคที่มีความหมายของความคิดถึง

        ผมมองพี่ทิบนจอฉาย ด้านซ้ายเป็นชายหนุ่มด้านขวาเป็นนักร้องสาว ทั้งคู่เล่นส่งรับกันไม่มีสะดุด พี่ทิผอมลงกว่าตอนนั้น ดูดีกว่าครั้งสุดท้ายที่เจอกัน ไม่ว่าจะด้วยเสื้อผ้า หน้า ผม แสงไฟ หรือท่าทางจริงจังหลังเครื่องดนตรีขนาดใหญ่ เขาไม่เหมือนพี่ทิของผม คนที่กวนประสาทและทำตัวเป็นเด็ก เขาคือทิวากรที่เป็นดังดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า

        ผมเข้าใจเหตุผลที่เจนบอกว่าพี่ทิควรไปได้ไกลกว่าที่เขาเป็น

        ในฐานะศิลปิน สิ่งที่เจนพูดไม่เกินจริงสักนิด

        แต่ในฐานะคนรัก ผมอยากให้พี่ทิอยู่ในจุดที่ได้เป็นตัวเองก็เท่านั้น

        “พี่ทิแม่งเจ๋งว่ะ เพลงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายเป็นเพลงที่เขาเขียนใหม่ทั้งหมดเลยใช่ไหม”

        ผมพยักหน้า บางเพลงเคยได้ฟังก่อนหน้านี้ บางเพลงพี่ทิเขียนตอนผมไม่อยู่ ดนตรีเล่นบรรเลงอย่างคนซ้อมจนคล่องมือ ไม่ว่าจะเป็นช่วงจังหวะที่เปียโนเดี่ยวนำเนื้อเพลง บ้างก็เป็นคอร์ดกีตาร์ไฟฟ้า หรือยามดนตรีผสานรวมด้วยกัน นักร้องคนอื่นๆ นอกจากเจนขึ้นสลับสับเปลี่ยน แต่สปอร์ตไลท์ที่ส่องยังคนเขียนเพลงนั้นแน่นิ่งไม่ขยับไปไหน

        สายตาของผมจ้องไปที่คนคนเดียว ชั่วขณะหนึ่งเขาละสายตาจากเครื่องดนตรีตรงหน้ามองมาทางที่ผมนั่ง เพียงเท่านั้นหัวใจผมก็สั่นเหมือนมีกลองรัวอยู่ด้านใน

        นักร้องที่ยืนอยู่คนละสเตจกับเปียโนพูดอะไรบางอย่าง ผมไม่ได้สนใจฟัง ดนตรีเปลี่ยนเป็นเบาคลอไปไม่สะดุด ไฟทุกที่ค่อยๆ มัวแสงลง เครื่องดนตรีแต่ละชิ้น ค่อยๆ เงียบเสียงลง พี่ทิกลับไปที่เปียโนหลังนั้นอีกครั้ง เหลือเพียงเมโลดี้เนิบช้าบนปลายนิ้วที่พลิ้วไหว เขาโยกตัวเล็กน้อย หลับตาเหมือนกำลังล่องลอยออกไป

       

        ใครคนหนึ่ง

        มอบความรักอบอุ่นในคืนที่เหน็บหนาว

        สายตาละมุน รอยยิ้มสุกสกาว

        มีเธอเป็นดังดวงดาว เฝ้าฟังคำอธิษฐานของหัวใจ

        มีเธอเป็นดังดวงดาว คอยชี้นำทางไป

        สายลมพัดผ่าน ดอกไม้ผลิบาน เหมือนฉันได้ชีวิตใหม่

        จูบแผ่วเบาฝังในใจ อธิษฐานให้เธอเคียงข้างกันไป

        ไม่อาจทัดทานได้ ความรู้สึกทั้งหัวใจ ดังต้องมนตร์



        ฉากหลังเวทีประดับด้วยแสงสีที่เป็นไฟคล้ายกลีบดอกซากุระ เมโลดี้สุดท้ายค่อยๆ จางแผ่วเบาทีละห้วงทำนอง เอฟเฟ็กต์ที่เป็นคล้ายกลีบดอกไม้แห้งโปรยปลิวด้านล่าง กล้องจับไปยังใบหน้าของแฟนคลับบ้างก็ยิ้ม บ้างก็มีน้ำตา เป็นเพลงรักที่ไม่มีคำว่ารัก อัดแน่นไปด้วยความรู้สึก มัวเมาคนฟังด้วยทำนองเนิบช้า ซาบซึ้ง ผมเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง ความหมายของเพลงนั้น...เพลงที่ผมไม่เคยฟังมาก่อน

        แม้ไม่ได้หันมาบอกว่าหมายถึงใคร แต่ก็สามารถรับรู้ได้

        “มีแฟนเป็นคนเขียนเพลงมันดีอย่างนี้นี่เอง”

        ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะแสดงความรู้สึกแบบไหนออกไประหว่างเขินอายกับซาบซึ้ง ทั้งที่หน้าร้อนผ่าวแต่มือกลับเย็นเฉียบ เหมือนเลือดวิ่งมาหล่อเลี้ยงที่แก้มทั้งสองข้าง

        “เชื่อเขาเลย เอาชื่อน้ำมนตร์ไปใส่ในเพลงด้วย” ฟ้าคลี่ยิ้มบาง วางมือบนหัวไหล่ผม บีบเบาๆ “น้ำมนต์คงเลือกคนไม่ผิดแล้วล่ะ ถึงกับมีเพลงเป็นของตัวเองอย่างนี้”

        “เออ คบกับน้องเจนตั้งนานทำไมไม่มีเพลงรักชัดเจน รักเดียวของเจนจิรา อะไรอย่างนี้บ้างวะ”

        “เขาอาจจะมีเพลงที่เคยเป็นของทั้งสองคนแต่ไม่ได้เปิดเผยให้ใครรู้ก็ได้นี่” ผมเสนอความเห็น ก้อนหินที่ถ่วงรั้งในใจเบาลง พี่ทิอาจพูดถึงอดีต หรือความสัมพันธ์ที่มันดับสลายและต้นสายปลายเหตุ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าปัจจุบันเขายังปรารถนาให้วันคืนหวนกลับมาอีกต่อไป

        พี่ทิขยับก้าวเดินออกมาจากความสัมพันธ์นั้นเด็ดเดี่ยวและชัดเจน

        เขาไม่ได้พยายามแก้ตัวแก้ต่าง แต่พิสูจน์ให้ผมเห็นกับตาว่าในใจเขามีเรื่องของผมมากแค่ไหน

        ความรู้สึกที่ขุ่นมัวราวเมฆหมอกในใจค่อยๆ ชัดเจนขึ้น

        และคนที่ทำให้เขาเดินต่อไปได้ เรื่องเล่าระหว่างบรรทัดของเพลงเพราะความศรัทธาของผม

        ความศรัทธาที่ผู้หญิงคนนั้นไม่เคยมี

        “แล้วยังงายๆ จะไปกินข้าวต้มกับพวกกูต่อหรือเปล่า”

        เรายังนั่งอยู่ที่เดิมกันกระทั่งผู้ชมทยอยออกไปจากฮอลล์ไปจนหมด ไอ้อุ้ยถามเสียงยานกวนประสาท ผมเผลอยิ้มอย่างอดไม่ได้ ส่ายหน้าระวิง “เดี๋ยวรอเจอพี่ทิดีกว่า ไม่ได้เจอตั้งหลายวัน”

        “เห่อแฟนจ้า” เครื่องค่อนแคะประจำกลุ่มกระเซ้า ใช้ศอกสะกิดหยอกผมเบาๆ ก่อนหันไปพูดกับอุ้ย “กูบอกแล้วว่างอนกัน ห่า คนเป็นแฟนกันอะไรนั่งจ๋อยมองโทรศัพท์แต่ไม่โทรหาเขาได้เป็นเดือน”

        “พวกมึงเมาท์กูเหรอ”

        “เสือกปากแข็งบอกยุ่งๆ ว่างไม่ตรงกัน กูว่ามึงได้แล้วน้ำมนต์ เป็นแฟนดาราแล้วแล้วไอ้เหี้ย ตอบเพื่อนเหมือนสัมภาษณ์”

        มะ...ไม่รู้มาก่อนเลยว่าตัวเองเป็นที่ถูกใส่ใจขนาดนี้ ไอ้นิวหัวเราะลงคอ

        “สรุปงอนที่พี่ทิบ้างานเหรอ”

        “เปล่า”

        จ้างให้ก็ไม่บอก

        “ทำฟอร์ม แหม มีอะไรเล่าให้พวกกูฟังได้รู้ปะ มึงคบใครพวกกูก็ห่วง แต่ที่สำคัญคือเราทุกคนเคารพการตัดสินใจของมึงนะเว้ย”

        “เออ ต่อให้มึงคบเหี้ย กูก็จะไปบอกให้เหี้ยเลิกคบกับมึงแล้วไปหาอนาคตดีๆ แทน”

        “รู้สึกได้ว่าเพื่อนรักกูมากแน่ๆ” ผมแกล้งประชด ที่กังวลว่าพวกมันจะไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์นี้ก็จริงอยู่ นั่นเป็นเหตุผลที่เวลาใครถามก็จะบ่ายเบี่ยง ไม่บอกใครนอกจากพี่ลม “ยังไงก็ขอบใจพวกมึงมากนะ”

        ฟ้ายิ้ม มองเลยไปด้านหลังก่อนพูด “ไปเถอะ หมดหน้าที่ตัวประกอบแล้ว โน่น พระเอกเดินมาโน่น”

        คนถูกกล่าวถึงเพิ่งลงจากเวที ปลดไมค์และหูฟังสำหรับใส่ตอนขึ้นเวทีออกแล้ว ยังคงสวมเสื้อผ้าชุดเดิม ไม่ทันล้างเครื่องสำอางออกด้วยซ้ำ

        “พี่ทิ”

        “อื้มม...”

        ไอ้สามตัวส่งเสียงแซวในลำคอ ผมกับคนมาใหม่ได้แต่แสร้งมองไปคนละทาง แต่กลับจับกุมมือกันเอาไว้แนบแน่น ราวกับให้มือเป็นตัวแทนของร่างที่โผเข้ากอดกัน พี่ทิเลียริมฝีปากเล็กน้อย หลุบสายตามองปลายนิ้วที่สอดประสาน บื้อใบ้ไปชั่วขณะ ไม่ทันตั้งตัวแม้แต่ตั้งรับไหว้จากเพื่อนผมที่เป็นรุ่นน้องเขาทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ

        “พี่ทิ ผมเคยได้ยินไอ้น้ำมนต์มันบอกว่าต้องดูพี่เล่นสักครั้งแล้วจะเข้าใจว่าทำไมมันติ่งพี่ เฮ้ย พี่สุดยอดจริงว่ะ” ไอ้อุ้ยพยายามทำลายบรรยากาศประดักประเดิดด้วยการชวนคุย ก่อนเจ้าของหัวข้อสนทนาจะเกาท้ายทอยตัวเองเก้อๆ

        “อือ...ขอบใจ แล้วกลับกันยังไง”

        “ผมขับรถมา ติดรถผมออกไปข้างนอกไหมครับ ผมว่าแท็กซี่ในนี้น่าจะหายาก”

        พี่ทันมองผมเชิงปรึกษา “จะออกไปพร้อมอุ้ยหรือให้ทีมงานไปส่ง”

        ผมเห็นว่ารถไอ้อุ้ยน่าจะเต็ม ไหนจะข้าวของเครื่องใช้ของพี่ทิคงอยู่หลังเวทีพอประมาณ “ไปกับทีมงานก็ได้ครับ”

        “เจนติดรถไปด้วยนะ” เขาเว้นจังหวะช่วงหนึ่ง “ถ้าไม่สบายใจ...”

        “ไม่เป็นไรหรอกครับ” ผมพรายยิ้มออกมาด้วยความจริงใจอย่างที่สุด “เรื่องมันผ่านไปแล้วนี่นา”

        ไม่ว่าจะผ่านมาด้วยความยากเย็นแค่ไหน

        ไม่ว่าใช้เวลานานเท่าไหร่

        ผมจะมั่นใจในมือที่จับเอาไว้ตอนนี้ให้มาก

        “ขอบคุณนะ”

        “เรื่องอะไรเหรอครับ”

        เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง อีกฝ่ายก็เขินจนหน้าแดงก่ำ เห็นสายตาสอดรู้สอดเห็นของเพื่อนๆ แล้วก็หวงขึ้นมา ไม่อยากให้ใครเห็นพี่ทิที่ประหม่าจนเสียอาการแบบนี้เลย

        “มองอาราย” ผมลากถามเสียงยาว สามทหารเสือก็ไหวไหล่ไม่ยอมรับข้อกล่าวหา

        “เปล๊า ไปๆ หิวแล้วๆ ไอ้นิวไป ไปกันเถอะค่ะฟ้า” คุณชายนนท์รีบเปลี่ยนเรื่องโอบแขนรอบบ่าเล็กให้หมุนตัวกลับไปยังประตูที่มีสัญญาณไฟว่าเป็นทางออกผมกับพี่ทิยังจับมือเกี่ยวประสานกันไว้แน่นอย่างนั้น ทั้งที่ใจนึกอยากทำยิ่งกว่านั้นให้สาสมกับรอคอยเวลา

        “ขอบคุณที่อดทนตั้งแต่วันที่โดนไล่กลับ”

        เมื่อปราศจากผู้คน เขาก็สารภาพสิ่งที่อยู่ในใจออกมา

        “ขอบคุณที่ฉันทำให้ผิดหวัง แต่ก็ยังให้โอกาส”

        พี่ทิสบตาผมขณะกล่าวช้าๆ

        “ขอบคุณที่เชื่อในตัวฉัน วันที่ฉันไม่เชื่อในตัวเอง”

        ภายนอกเขาไม่เหมือนทิวากรที่เป็นของผมเลยสักนิด ดูดีเกินไป จริงจังเกินไป แต่ข้างในก็คือคนนั้น เหมือนเด็กชายทิวากรที่กำลังกล่าวสุนทรพจน์หน้าชั้น ตื่นเต้น ประหม่าอาย มีถ้อยคำมากมาย เช่นกันกับเพลงนั้นที่ไม่บอกรักแต่เปี่ยมด้วยความหมายลึกซึ้งกินใจยิ่งกว่า

        ฐานะนักเขียนเพลงมือวางอันดับหนึ่งเขาเก่งกาจในการพรรณนาให้ผู้ฟังเข้าซึ้งถึงรสชาติของความรู้สึกนั้นจริงๆ

        “ตอนแรกก็อดทนนะครับ พอรักแล้วก็ไม่ได้ทนเลยอะ แค่อยากอยู่ข้างๆ พี่ แต่ก็...ไม่รู้ว่าพี่อยากให้ผมอยู่ข้างๆ แค่คนเดียวหรือเปล่า ไม่รู้สิ...ผม....”

        ชายหนุ่มถอนหายใจแล้วดึงผมไปกอดในที่สุดผมยกแขนขึ้นกอดเขากลับ สิ่งที่ปรารถนาจะทำมาเนิ่นนาน ผ่องถ่ายความเหน็ดเหนื่อยจากงานมาที่ผมด้วยสองแขนที่มี

        “ผอมลงหรือเปล่าครับ”

        “อือ โดนสั่งให้ออกกำลังกาย คุมอาหารด้วย”

        “เตรียมตัวเป็นนักร้องแมสแล้วสินะครับ”

        “เปล่า” เขากระชับอ้อมแขนหนักขึ้นจนผมหายใจลำบาก “พี่ลมบอกว่าถ้าตอนทำมีพุงพลุ้ยออกมามันชวนหมดอารมณ์ได้น่ะ”

        เดี๋ยว...

        เมื่อกี๊ผมไม่ได้หูฝาดใช่ไหมนะ

        “ล้อเล่น”

        ผมหลุดหัวเราะ ไม่โต้ตอบ ยอมให้เป็นวันของทิวากรหนึ่งวันแล้วกัน

        “งั้นกลับคอนโดกันเถอะครับ ทีมงานอาจจะรอแล้วก็ได้”

        ขณะนั้นมีใครคนหนึ่งเดินมา หยุดยืนนิ่งเมื่อผมหันไปเจอ เราเคยเจอกันโดยบังเอิญหนึ่งครั้ง เจนอ้างว่าเมา จำไม่ได้ แต่สายตาไม่ชอบใจที่มองมาทำให้ผมเดาว่าที่จริงแล้วเรื่องจำไม่ได้คงโกหกเพราะไม่อยากพูดให้ใครฟังมากกว่า

        “พี่ลมให้มาถามว่ากลับด้วยกันไหม”

        เสียงนั้นสะบัดห้วน มองมือพี่ทิที่จับผมไว้แล้วเบือนสายตาหนี

        เรื่องที่เจนรักพี่ทิมากๆ คงไม่ใช่เรื่องโกหก และที่พี่ทิเคยรักเจนมากๆ ก็ไม่ใช่เรื่องโกหกเหมือนกัน

        ส่วนที่พีทิรู้สึกกับผมยังไงนั้น เขาก็บอกมันด้วยการกระทำให้ผมรับรู้อย่างชัดเจน

        “อือ กำลังจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” พี่ทิพูดเรียบง่าย ไม่มีร่องรอยของอารมณ์ใดๆ หลงเหลือก่อนเอ่ยประโยคถัดมาให้ผมใจเต้นระส่ำ “เดี๋ยวแฟนพี่ไปด้วยอีกคน คงมีที่ว่างนะ”

        หญิงสาวผู้เป็นอดีตนิ่งงัน พี่ทิจูงมือผมเดินผ่านหัวไหล่เล็กลู่ไป

        ผมก้มลงมองฝ่ามือที่สอดประสาน

        ความชัดเจนที่ไม่ต้องประดิษฐ์คำมาบรรยาย

        ที่ตรงนี้เป็นของผม ของผมแต่เพียงผู้เดียว

        "พูดแบบนั้นไปจะดีเหรอ"

        "ทำไม หรือไม่ใช่?"

        เอ้อ...อืม ผู้ชายคนนี้มันยังไง ขอเป็นแฟนสักคำก็ไม่เคย พูดคำว่ารักให้ได้ยินก็ไม่มี ทำคนอื่นเสียใจ ไม่ทันง้อก็ทึกทักว่าเป็นแฟนเสียแล้ว พอทักท้วงหน่อยก็ทำเสียงงอนสะบัด บีบมือผมแน่นยิ่งกว่าเก่า

        "เดี๋ยวก็เป็นข่าวไม่ดีหรอก"

        "เป็นแฟนน้ำมนต์มีอะไรไม่ดี"

        "ก็ ถ้าเป็นข่าวแล้วเรตติ้งตกผมไม่รู้จะช่วยยังไงเลยนะ"

        พี่ทิหยุดฝีเท้า ผมที่ถูกจูงมือให้เดินตามถึงกับเบรคไม่ทัน หน้าผากชนแผ่นหลังกว้างเข้าอย่างจัง ยกมือขึ้นลูบหัวป้อยๆ ยังไม่ทันบ่นคนตัวสูงกว่าก็โน้มร่างลงมาจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากโดยไม่ทันตั้งตัว

        "มีสองอย่างที่ต้องรู้ หนึ่ง แฟนนายเป็นคนเก่ง สอง แฟนนายแคร์นายมากที่สุด"

        ท่าทีหยิ่งผยอง แสนดื้อรั้นเอาแต่ใจ ลบภาพชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์บนเวทีนั้นไป เมื่ออยู่นอกสปอร์ตไลท์ เขาก็คือไอ้พี่ทิที่ชอบทำตัวเป็นมนุษย์ลุงจอมเกเรของผมคนเดิม

        "รับทราบครับ" ผมอ้อมแอ้มตอบในลำคอ "แต่แฟนพี่ไม่ค่อยเก่งนะ แค่รักพี่มากๆ ไม่ว่าพี่จะเป็นยังไงเท่าน้นเอง"

        ผมใช้ความกล้าทั้งหมดพูดมันออกมาโดยที่ไม่มองหน้า ก็เลยไม่รู้ว่าระหว่างผมกับเขา ใครจะเขินใครมากกว่ากัน

        "เท่านั้นก็พอแล้วล่ะ"

        เสียงทุ้มพูดแผ่วเบา ก่อนเดินเข้ามากอดผมอีกครั้ง ซบหน้าผากลงบนบ่าลาด คล้ายกับว่าเขาอนุญาตให้ผมเป็นคนที่รัก และสยบยอมให้ผมรักแต่โดยดี







end

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
+++

behind scence


          “น้ำมนต์ไปอาบน้ำก่อนเลย”

          ทันทีที่กลับถึงห้องพี่ทิก็ออกปากบอกให้ผมไปอาบน้ำคนแรก เพนส์เฮาส์หรูหราที่ควรจะหรูหราเป็นระเบียบเรียบร้อยกว่าวันที่ผมเข้ามาเหยียบที่นี่เป็นครั้งแรก แต่ฝุ่นในห้องปิดตายยังนับว่ามากจนเดาได้ว่าช่วงระยะหลังๆ พี่ทิคงไม่ได้อยู่ห้องเลยอย่างมากก็กลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเท่านั้น

          หลังจากมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับพี่ทิผมก็แอบหาข้อมูลการเตรียมตัวก่อนเผด็จศึกจากในอินเตอร์เน็ตไว้พอประมาณ สารภาพว่าพักหลังๆ เมื่อถึงคราวช่วยตัวเองผมก็คิดถึงจูบของพี่ทิไปด้วย เสียดายที่ไม่ได้จิ๊กเสื้อใส่แล้วที่มีกลิ่นเหงื่อของพี่ทิไปบิวท์อารมณ์เพราะกลัวจะเหมือนโรคจิต แต่ตลอดเวลาที่ผมคิดถึงพี่ทิ ก็นึกถึงกลิ่นบอดี้เชฟอ่อนๆ ผสานกับกลิ่นตัวอันเป็นเอกลักษณ์ของพี่ทิยามเขาโอบผมไว้ทั้งร่างทุกที

          ผมเปิดน้ำอุ่นใส่อ่าง มีบาธบอมของบาธแอนด์บอดี้เวิร์คกลิ่นมาร์ชเมลโล่วางไว้ ไม่รู้ว่าพี่ทิซื้อมาตั้งแต่เมื่อไหร่แต่ผมถือวิสาสะใช้มันเพื่อให้กลิ่นหอมหวานน่ารับประทานติดอยู่บนผิว ผมตื่นเต้นแทบบ้ากับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้ ดูก็รู้ว่าพี่ทิมีความตั้งใจจริงที่จะเป็นฝ่ายทำ เพราะเมื่อเปิดเข้าประตูห้องนอนมาผมก็เห็นอุปกรณ์ทั้งเจลหล่อลื่นและกล่องถุงยางอนามัยวางอล่างฉ่างข่มขวัญอยู่ข้างหัวเตียง

          ผมน่ะ ไม่ติดปัญหาอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายทำหรือถูกกระทำ ถ้าได้ใกล้ชิดกับพี่ทิจนรวมเป็นคนเดียวกันได้ผมก็ยินดีทั้งหมด ความรู้สึกที่อดกลั้นมาตลอดของผมมันหมดลงแล้ว ผมไม่สามารถทนห่างเหินกับพี่ทิได้อีก เวลานี้ต้องการเพียงชดเชยช่วงเวลาที่หายไปให้สาสมกับที่รอคอย ผมพยายามเตรียมตัวให้สะอาดที่สุด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อด้วยน้ำอุ่น กลบเกลื่อนความเครียดด้วยเพลงแจ๊สบัลลาร์ดในห้องน้ำ เมื่อคิดว่าสมควรแก่เวลาก็ลุกมาสวมชุดคลุมอาบน้ำสีขาวของพี่ทิ ไม่ใส่ชุดนอน ไม่ปกปิดอะไรไว้ข้างใน ผมอาจนั่งรอให้พี่ทิอาบน้ำก่อนก็ได้ หรือถ้าพี่ทิต้องการทั้งที่ไม่ชำระล้างร่างกายผมก็ไม่ขัด

          เมื่อเปิดประตูห้องออกมา เสียงเพลงจากแผ่นเสียงดังกระจายตามลำโพงที่ติดมุมต่างๆ ของห้อง พี่ทินอนอยู่บนเตียง น่าจะล้างเท้าอย่างเดียวเพราะเสื้อผ้ายังอยู่ครบทุกอย่าง

          นึกไปถึงเรื่องที่เขาเปิดตัวว่าคบกับผมต่อหน้าธารกำนัลแล้วก็เขินไม่หาย นี่น้ำมนต์ แฟนผมครับ พูดแบบไม่เหลือบตามองคนรักเก่าสักนิดว่ากำลังส่งสายตาตัดพ้อให้รุนแรงและโจ่งแจ้งเพียงใด

          แต่ช่างมันเถอะ สุดท้ายแล้วชีวิตใครก็ต่างต้องจัดการมันอยู่ดี

          “พี่ทิ”

          ผมกระซิบ ถ้าสะกินจะดูจงใจมากไปหรือเปล่านะ หรือผมควรกอดเขาจากด้านหลังเลย ผมจะหอมแก้มเขาก่อนแล้วบอกให้ไปอาบน้ำ หรือว่าผมควรจะเริ่มจากนวดที่หัวไหล่เขาก่อน

          หัวใจของผม มันกลับมาเต้นแรงเสียยิ่งกว่าก่อนฟังผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสียอีก

          “พะ..พี่ทิ”

          สาบานเลย ผมไม่เคย ไม่เคยคิดว่าจะเรียกใครสักคนด้วยน้ำเสียงที่สั่นพร่าขนาดนี้ จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนคอแห้ง ผมเดินออกจากห้องนอนไปที่ครัว หยิบน้ำออกมาดื่มอึกๆ คิดว่าคงช่วยให้ภาวะตื่นเต้นแบบนี้แผ่วเบาลงบ้าง

          บางทีแล้ว ผมอาจถ่วงเวลาได้อีกนิดถ้าพี่ทิตัดสินใจไปอาบน้ำก่อน ระหว่างนั้นผมอาจไม่เผลอทำอะไรที่มันน่าอายไปมากกว่านี้

          ทำอะไรที่มันน่าอาย...

          ชั่ววินาทีนั้น ผมก็ตรัสรู้ชอบได้ด้วยตัวเอง เซ็กซ์มันเป็นเรื่องน่าอายตั้งแต่เมื่อไหร่วะ

          จริงๆ แล้ววิวัฒนาการของมนุษย์ มันก็เริ่มต้นมาจากการที่มนุษย์มีเซ็กซ์กันไม่ใช่เหรอ ผมเอง ก็เป็นผลผลิตของการมีเซ็กซ์แท้ๆ การโอบกอดกัน ร่างกายสอดประสาน เสพความสุขอิ่มเอม เหน็ดเหนื่อยและหอมหวาน การเกาะก่ายและฟังเสียงของหัวใจของตัวเองเต้นไปพร้อมอีกคน โห มันโคตรโรแมนติกและสวยงามเลยนะครับ

          ทำไมเราถึงได้มองว่าเป็นเรื่องน่าอายกันนะ

          ยังไงเสีย...ทั้งผมทั้งพี่ทิก็ต่างบรรลุนิติภาวะและรับความเสี่ยงได้แล้ว

          ผมเลียริมฝีปาก กลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก่อนปิดตู้เย็นแล้วผลักประตูห้องนอนกลับเข้าไปอีกครั้ง พี่ทิยังนอนหันหลังในท่าเดียวกับก่อนผมจะเข้าไปอาบน้ำเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน

          แต่ว่า...นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ...

          ผมมองเข็มนาฬิกา ตีสามแล้ว เรื่องของเราจะเกิดในคืนที่ดึกสงัดแบบนี้ เวลาที่ทุกคนหลับไหล โมงยามที่พระอาทิตย์ยังไม่ทันรู้ว่าทิวากรที่แสนดีกำลังถูกผมช่วงชิงไป ผมขยับตัวขึ้นเตียงช้าๆ วางแขนพาดกับเอวแข็งแรงของอีกฝ่ายงอตัวเล็กน้อยเพื่อให้หน้าผากจรดกับต้นคอของอีกฝ่าย

          “พี่ทิครับ”

          “....”

          “พี่ทิจะอาบน้ำก่อนไหม ให้ผมช่วย...”

          “คร่อก....”

          มะ...หมายความว่าไงนะ?
          เสียงเมื่อกี๊นี้????

          “พี่ทิ”

          ผมเลื่อนมือขึ้นมาที่หัวไหล่ เขย่าเบาๆ ชายหนุ่มครางอือในลำคอก่อนพลิกตัวนอนหงาย เปลือกตาสองข้างปิดสนิท ลมหายใจผ่อนเข้าออกสม่ำเสมอ เคี้ยวน้ำลายแจ๊บๆ สองครั้งปิดท้ายเป็นอันรู้กันว่าอีกฝ่ายกลายเป็นเจ้าชายนิทราเข้าเฝ้าพระอินทร์ไปเรียบร้อยแล้ว

          คนอุตส่าห์เตรียมตัวโว้ยยย!

          บอกตามตรงแม่งโคตรหัวเสีย เหมือนทำมื้อเย็นไว้ให้ใครสักคนแล้วเขาบอกว่ากินมาจากข้างนอกแล้ว ครั้นจะโกรธก็โกรธไม่ลง พี่ทิผอมลงกว่าตอนที่เจอ แต่เป็นความผอมที่ดูสุขภาพดีกว่าบวมเบียร์แน่ๆ ผมใช้ปลายนิ้วลูบใบหน้า สันกรามลงมาจนถึงคางอีกฝ่าย ยืดตัวไปจูบเบาๆ แล้วเปลี่ยนเป็นนอนทับบนแผ่นอกแข็งแรงช้าๆ

          ช่วงที่ผ่านมาเหนื่อยมากใช่ไหมครับ

          ผมก็เหนื่อยนะ ทนคิดถึงพี่จนเหนื่อยไปหมด

          ผมกลัวมากเลยว่าพี่จะกลับไปหาคุณเจนอีกหรือเปล่า ผมรู้ว่าตัวเองไม่ได้มีอะไรยึดเหนี่ยวดึงรั้งพี่ไว้ รวมทั้งผลักดันให้พี่โดดเด่นมีอนาคตก้าวไกล

          ผมแค่รักพี่อย่างที่พี่เป็น อยากให้พี่ได้กินอิ่ม นอนหลับ และมีความสุขกับสิ่งที่พี่ชอบเท่านั้น

          พี่จะหลับใส่ผมในคืนที่ผมเตรียมตัวเตรียมใจจะนอนกับพี่ก็ได้

          พักผ่อนให้มากๆ นะครับ

          เพราะน้ำมนต์คนนี้อยากเห็นพี่ทิตื่นมามีโลกที่สดใส มีเป้าหมายจะใช้ชีวิตเป็นอย่างดีต่อไป

          “พี่ทิ...ผมรักพี่นะ”

          ความรักของผมอาจไม่เหมือนคนอื่น แต่ถ้าพี่ต้องการ ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่มอบมันให้ใครอีกเลย




จบจริงๆแล้วๆๆๆๆๆ

เรื่องนี้หมดไปกับการพาอีพี่ทิเข้าไปรักษาค่อนเรื่อง อุงแงงงง ไฟนัลลี่น้ำมนต์กับพี่ทิก็ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ สักคำให้ลึกซึ้งแล้วนะคะ เค้าดีกันแล้วค่ะะะ ขอมาชดเชยความหวานด้วยตอนพิเศษนะคะ

ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนกันมาจนถึงตอนนี้กั๊บ
         
รัก

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
แฟนนายแคร์นายมากที่สุด​ แม้จะมาใช้คำว่าแฟนเอาตอนนี้แต่มันก็ปลื้มใจที่สุด​ ได้เป็นคนสำคัญในวันสำคัญ
ปล.ขอตอนพิเศษมาช่วยสานฝันของน้ำมนต์ทีอุตส่าห์เตรียมหาข้อมูล​ 55

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ฉันล่ะสงสารน้ำมนต์จริง ๆ
ขำที่น้องบิ๊วต์ตัวเองไปไกลมาก
ส่วนอิพี่ทินั้น...คร่อกเดียวจบ ปัดโถ่เอ๊ย

ออฟไลน์ lonesomeness

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
สงสารนัำมนต์ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่อง 55555555555
ยัยน้องโดนหลับใส่แง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
 :katai2-1: :katai2-1:

รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ OrangeryLemon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0

ขอบคุณมากๆนะคะ สำหรับนิยายน่ารักๆ

ออฟไลน์ ป้าหมีโคตรขี้เกียจ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
ทางนี้ที่แอบดูอยู่ริมระเบียงคือหน้สแห้งมาก ยิ่งกว่าตัดเข้าโคมไฟอีก พี่ทิโว้ยยยยยยย 

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ไม่รู้จะขำหรือสงสารน้ำมนต์ดี
เมื่อพี่ทิ ครอกกกๆๆๆๆ ในวันที่น้ำมนต์เตรียมเสียตัว

ออฟไลน์ Jnchnn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พี่ทิจริงใจกับความรู้สึกตัวเองมาก เหมือนลุงกับเด็กน้อยในคนเดียวกัน
คนที่จะมาอยู่ข้างๆพี่ทิได้ก็คือคนที่เข้าใจ เชื่อในความเป็นพี่ทิ
ไม่คิดเปลี่ยนแปลงอะไร แต่พร้อมจะเดินไปข้างๆกัน supportกันและกัน
ซึ่งน้ำมนต์นี่แหละคือคนที่ใช่ที่สุดของพี่ทิ
ขอบคุณคุณเว้ดมากเลยนะคะสำหรับนิยายเรื่องนี้
รัก
 :mew1:

ออฟไลน์ Jely

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พี่ทิแกคงเหนื่อยอะแหละ ฮ่าๆ
น้ำมนต์น่ารักเชียวว ขอบคุณนิยายดีๆอีกเรื่องนะคะคุณเวสต์

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 693
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
พี่ทิก็ยังมีบทน้อยอยู่นะ 5555

ขอบคุณนะคะ :mew1:

ออฟไลน์ sugarcane_aoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
555พี่ทิมาชิงหลับไปก่อนซะนี่ คนเขาอุตส่าห์เตรียมตัว :ling1:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
เขินผู้ชายแบบพี่ทิ ปากแข็งแต่ความจริงคือขี้อาย :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ มนุษย์บิน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
พระเอกดิฉันบทน้อยกว่าตัวประกอบคนอื่นๆอีกจ่ะจุดนี้ 555555555 ขอตอนพิเศษปามาฮีลใจทีอยากเห็นอิพี่ทิมันหึงน้องอยากเห็นมันหวงมันบอกรักน้องบ้างงงงงง น้ำมนตร์ของแม่น่าสงสารตั้งแต่แรกเริ่มจนจบโอ๊ยยยยยเสียมู้ดหมดอิพี่ทิมาหลับกลางคัน 555555555 ผีบ้าาาา

ออฟไลน์ cookie8009

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ลักหลับ พี่ทิ ไปเลยน้อง

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
หลับ  :m20: สงสารใครดี  :pig4:

ออฟไลน์ kedtawan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เป็นนิยายที่ไม่มี NC มันดีมากเลยค่ะ  ขอบคุณค่ะ สำหรับนิยายดีดีมาให้อ่าน  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Plakhem

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :mew6:  จบแล้ว  ทำไง จะอ่านอะไรต่อดี โอ้ยยยยย   :ling3:

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
น้ำมนตร์โว้ย5555555 
อดกินเรย พี่ทิคงเหนื่อยมากจีๆ :ling1:

ออฟไลน์ noomasoi3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
 "มีสองอย่างที่ต้องรู้ หนึ่ง แฟนนายเป็นคนเก่ง สอง แฟนนายแคร์นายมากที่สุด"
ชอบประโยคนี้ที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ค้าง
เว้ดเว้ดทำแบบนี้ได้ไง เว้ดดดดดดด ตอนพิเศษมาให้ไวเลย  :z3: :z3:

ปล.ขอให้รู้ว่าบ่นไปรักไปนะจ๊ะเว้ด

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
เตรียมการนานไปจนหลับเลย

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ดีอ่ะ ต่างคนต่างอคร์กัน อ่านชิวๆ ได้เรื่อยๆ น่ารักดี ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆให้อ่านนะคะ

ออฟไลน์ airicha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 855
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อิพี่ทิหลับใส่น้องเฉย  :laugh: :laugh:
น้องอุตส่าเตรียมตัวเตรียมใจ  :laugh:
ขอบคุณนิยายน่ารักๆค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด