เคลวินน์มีสระว่ายน้ำส่วนตัวที่สวยกว่ามหาเศรษฐีทุกคนบนโลกใบนี้ แวนกัสคิดแล้วก้มลงใช้เท้าหย่อนลงในน้ำ เพราะฤดูร้อนทำให้น้ำอุ่นจนรู้สึกสบาย ไหนจะมีแสงของหิ่งห้อยหลายร้อยตัวบินออกมาต้อนรับชายหนุ่มอีก “นายอยู่ในที่แบบนี้มาตลอดสองร้อยกว่าปีเหรอ ไม่แย่เลยนะ”
“หิ่งห้อยจะมีนาน ๆ ครั้ง” ยักษ์ข้างกายบอก “แฟนเกิซโชคดีที่ได้เห็น”
“ลางบอกเหตุที่ดี คงบอกว่าต่อไปนี้ฉันจะมีความสุขกับนายตลอดไปสินะ ฮิฮิ”
“เจ้าจะมีความสุขกับข้า” เคลวินน์โน้มตัวใหญ่ลงมาใกล้ ให้ได้สัมผัสถึงความอุ่นร้อนของลมหายใจ ราวกับรู้ว่าตัวเองจะถูกทำอะไร และด้วยบรรยากาศที่เอื้ออำนวยทำให้แวนกัสอดไม่ได้ที่จะยืดคอไปหา แล้วพริ้มตารับจูบของเคลวินน์ในความเงียบ
แสงของพระจันทร์ทำให้ทุกอย่างสว่างขึ้นมา แต่ใบหน้าของยักษ์รูปหล่อที่ผละออกจากกันยามจูบแล้ว แวนกัสรู้สึกเหมือนมันส่องสว่างไสวกว่าดวงจันทร์เสียอีก สงสัยเพราะอานุภาพความรักที่เขามีต่ออีกฝ่ายแน่ ๆ ชายหนุ่มยกยิ้ม ยามนิ้วหัวแม่มือใหญ่ลากไล้ริมฝีปากเขาอย่างอ่อนโยนหลงใหล “รสชาติของปากเจ้า หอมหวาน”
“นายจูบฉันแบบนี้ เลิกกินแมงมุมแล้วเหรอ” ชายหนุ่มมองที่ริมฝีปากของยักษ์ตรงหน้าราวกับติดใจไม่ต่างกัน รสชาติของจูบจากยักษ์แปลกที่ตรงมีเขี้ยวให้ได้สัมผัสกดทับริมฝีปาก ยามบดเบียดดูดดุนมันสร้างอารมณ์ได้ดีนัก
เจ้ายักษ์หัวเราะ “ข้าทำความสะอาด แฟนเกิซไม่รังเกียจข้า”
“ฉันไม่อยากห้ามนายกินของที่นายชอบ”
“ข้าไม่ชอบสิ่งที่แฟนเกิซไม่ชอบ”
“รักฉันขนาดนั้นเลยเหรอ” แวนกัสกุมจับมือใหญ่ แกว่งไกวขาของตัวเองในน้ำที่เรืองแสงจากด้านใต้ เป็นสีมรกตสวย เจ้ายักษ์พยักหน้ายามสบตายอมรับ แสงของแผ่นน้ำ สาดมาให้เห็นโครงหน้ารูปงามที่แวนกัสหลงใหลให้ดูดีขึ้นหลายเท่านั้น เห็นแล้วชายหนุ่มก็ยกยิ้มอย่างนึกสนุกขึ้นมา กุลีกุจอลุกขึ้นปลดกระดุมเสื้อนอนของตัวเองออกตั้งใจจะว่ายน้ำ
ครั้นเสื้อตัวบางร่วงลงกองบนพื้น เจ้ายักษ์ก็ใจเต้น
“แฟนเกิซร่างกายอ่อนแอ” มันลุกขึ้นยืน มองมนุษย์น้อยยักไหล่หลังถอดกางเกงจนเหลือร่างเปลือยเปล่า ยามที่แวนกัสไร้อาภรณ์ปกปิดทำเอายักษ์ตัวใหญ่เลือดลมวิ่งพล่าน มันกลืนน้ำลายรู้สึกหิว มองตามเรือนร่างขาวสะอ้านค่อย ๆ เดินลงน้ำไปจนลึกถึงคอ แต่แม้ร่างจะจมลงไปแล้ว ความใสทำให้มันก็ยังเห็นความเปลือยเปล่าของอีกฝ่ายอยู่ดี
ช่างชั่วยวนชวนให้กำหนัดดีแท้ มนุษย์น้อย
“เคลวินน์” เจ้ายักษ์มองคู่ครองที่เพิ่งจะได้ลิ้มลองไปเพียงครั้งเดียวร้องเรียก อีกฝ่ายมองตาเขาในความสลัวยามค่ำคืน ก่อนจะอ้าแขนเรียกให้มันถอดผ้าผ่อนตามลงไป “เล่นน้ำกัน”
หรือแวนกัสตั้งใจเชิญชวนมันอีกครั้งกันหนอ เจ้ายักษ์ครุ่นคิดแล้วปลดกางเกงอย่างไม่ต้องคิดให้เสียเวลา “รอข้าครู่เดียวแฟนเกิซ ข้ากำลังไป”
ไม่นาน เจ้ายักษ์ตัวใหญ่ก็ลงตามไปหาในนั้น มนุษย์ลอยตุบป่องด้วยรอยยิ้มหวานพิฆาตอารมณ์มันนัก เอื้อมมือน้อยเกาะตัวให้มันช่วยพยุงพากันไปลอยคอบริเวณกลางบ่อ ทั้งที่เคยเล่นน้ำด้วยกันมาคลายครั้งหลายครา แต่เจ้ายักษ์กลับทำตัวไม่ถูกเอาเสียเลย ฝ่ายมนุษย์จับได้ก็ยิ้มร่าอย่างนึกขัน “นายเกร็งขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ข้าไม่คุ้นที่เจ้าไม่สวมอันใดต่อหน้าข้า”
“ทำไม” แวนกัสหรี่ตาล้อ “นายเกิดอารมณ์งั้นสิ ยักษ์ทะลึ่ง”
“เป็นเรื่องยากที่จะต้องอดกลั้น เพราะรู้ว่าเมื่อคืนมันยอดเยี่ยมเพียงไหน” ยักษ์ร้ายดึงมนุษย์เข้าห้าให้ใกล้กว่าเก่า “ครั้งก่อนข้าได้ทำเพียงแค่น้อยนิด เพราะเกรงว่ามนุษย์ของข้าจะบุบสลาย”
“งั้นเหรอ แย่จัง”
“ไม่อยากให้แฟนเกิซบาดเจ็บเพราะสมสู่กับข้า”
คนฟังก้มหน้า ซุกแก้มร้อนของตัวเองกับอกเจ้ายักษ์อย่างเหนียมอาย
“งั้น...คราวนี้ก็อย่าทำแรงกับฉันนักนะ ตัวฉันเล็ก”
อสูรตัวใหญ่เบิกตากับประโยคที่ได้ยิน ดูเหมือนว่าแวนกัสจะอยากร่วมใช้ช่วงเวลากับมันอย่างคุ่มค่าสมคำบอกกล่าว เจ้ายักษ์พยักหน้าให้คำมั่น โน้มลงไปมอบหวามไหวให้อีกฝ่ายด้วยจูบเบาอ่อน สองมือประคองเอวน้อยที่ลอยตัวบนน้ำเพราะขาไม่ถึงอย่างนึกรักและต้องการมากกว่าจูบ
ตัวใหญ่ประคองอุ้มร่างน้อย ทั้งคู่เปียกโชกไปด้วยหยดใสของน้ำ พากันขึ้นฝั่งในสภาพเปล่าเปลือยกันทั่งคู่ เสียงหยดน้ำเปาะแปะกระทบกับโขดหินอยู่หลายคราจนหายไปแล้ว แล้วคนโดนอุ้มก็หน้าแดงขึ้นมา แปลกใจที่จุดหมายของเคลวินน์ไม่ใช่รังของยักษ์อย่างที่คิดไว้ แต่เป็นทุ่งหญ้าอ่อนแถวนั้น ที่มีขนาดกว้างเหมาะเจาะสำหรับทำกิจกามเสียจนชายหนุ่มนึกกระดาก
“น..นายจะทำตรงนี้เหรอ”
“ไม่ได้หรือ” เจ้ายักษ์ย้อนด้วยคำถาม
“ม..มีแมลงหรือพวกงูรึเปล่า ฉันกลัวโดนกัด”
“ไม่ต้องกลัว พวกมันรู้ว่าข้าอยู่แถวนี้” เจ้ายักษ์โน้มลงวางแวนกัสไว้ที่พื้นหญ้า ความเย็นเยียบทำชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย เกาะกอดคอใหญ่ให้ไม่ยอมห่างหายไปไกล เห็นเคลวินน์ยกยิ้ม สายตาคมสีแดงเพลิงสำรวจมองเขาไร้เสื้อผ้าอย่างพึงพอใจ “เจ้างดงามมาก คู่ของข้า”
คนฟังยกยิ้ม “ฉันดูดีขนาดไหนในสายตานาย”
“กว่าทุกสิ่งบนโลกใบนี้” คำหวานของเคลวินน์เป็นสิ่งที่ทำให้แวนกัสรู้สึกราวกับฝัน ใช่ว่าคนทุกคนจะพูดคำเหล่านี้ออกมาแล้วจะยังน่าฟัง ชายหนุ่มพริ้มตารับความสุขที่อีกฝ่ายมอบให้ สิ่งทำได้คือครวญคราง จิกเท้าไว้กับพื้นหญ้าอย่างไม่อาจบังคับกายตัวเองได้
----------------------------------------
CUT สำหรับคนที่รู้รหัสแล้วให้กด
https://writernoonaa.blogspot.com/2019/10/nc.htmlใครที่ยังไม่รู้รหัสให้ไปหาที่แฟนเพจ แท็กนิยาย #ดอกไม้ป่าที่ริมหน้าต่าง
---------------------------------------
“แฟนเกิซ”
ยักษ์ที่ยังคงเปลือยในบ่อน้ำตกร้องเรียกผ่านเสียงน้ำไหล ขณะที่มองร่างน้อยหยิบเสื้อผ้าชุดนอนขึ้นสวมทับหลังจากล้างเนื้อล้างกันเสร็จแล้ว อยู่บนโขดหิน แวนกัสผละไปส่งยิ้มหวานให้ยักษ์ที่ร้องเรียก “ว่าไง หรือว่า...นายติดใจฉันจนไม่อยากให้กลับ”
“เจ้าพูดถูกมนุษย์น้อยของข้า” เคลวินน์เดินขึ้นมาหยุดอยู่ตรงหน้า ประคองใบหน้าเล็กอย่างเอ็นดู “ข้าลุ่มหลงเจ้า”
“งั้นก็จงลุ่มหลงให้มากกว่านี้ เพี้ยง!” คนตัวน้อยร่ายมนต์ใส่เสียงสดใส
“แต่ข้าคาดหวังที่จะสืบพันธุ์”
คนฟังละสีหน้าลง แล้วรอยยิ้มก็หายไป “แล้วไง นายจะบอกว่าฉันเป็นคู่ครองที่บกพร่องเหรอ ฉันทำหน้าที่เมียให้นายไม่ดีหรือไง เมื่อกี้ฉันก็ทำให้นายมีความสุขน้อยไปเหรอ หรือเพราะฉันด่านายที่ทำท่านั้นนายเลยไม่พอใจ...ต่อไปฉันจะไม่ว่านายอีกแล้วก็ได้”
“ข้าหมายถึงอยากมีลูก”
“ก็นั่นแหละ” แวนกัสลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แสดงออกถึงความไม่พอใจ “นายอยากจะไปมีเมียเป็นมนุษย์ที่เป็นผู้หญิงล่ะสิ เพราะฉันไม่สามารถมีลูกให้นายได้ ให้ตายสิ...” คนกล่าวกอดอกเสียงดังขึ้นเพราะความอารมณ์เสีย ทั้งที่ก่อนหน้านั้นยังมีความสุขอยู่ด้วยกันอย่างถึงอกถึงใจแท้ ๆ แต่มาพูดเรื่องลูกอะไรไร้สาระอยู่ได้
“ข้า...”
“งั้นถือว่าเรื่องของเราเป็นโมฆะก็แล้วกัน เรายกเลิกเรื่องจับคู่ นายจะไปมีเมียคนใหม่ที่ไหนก็ไป”
“แฟนเกิซ” เจ้ายักษ์เหมือนจะมีอารมณ์น้อยใจ แต่แล้วก็ฉุกคิดได้ขึ้นมาว่าที่มนุษย์กำลังอารมณ์เสียและเสียงดังใส่เป็นเพราะอะไร มันเดินตรงไปหา สวมกอดร่างนุ่มนิ่มไว้ในอก เมื่อเห็นมันกระทำเช่นนี้ มนุษย์ตัวน้อยของมันที่กำลังพยายามเข็มแข็งที่สุดนั้น ก็อ่อนไหวขึ้นมาอีกครั้ง น้ำตาหล่นแหมะราวกับฝนสั่งได้ของมันในระหว่างที่ถูกกอด
“ฉันไม่ได้เสียใจหรอก นายจะไปหาใครก็เชิญ”
“แฟนเกิซ ได้โปรดฟังข้าก่อน” มันจับคนกอดผละออกมาสบตา ประคองไว้อย่างหวงแหน “ข้าไม่เคยคิดมองมนุษย์ผู้อื่น ข้ารักเจ้ากว่าชีวิตของข้า เหตุใดข้าต้องไปจับคู่กับผู้อื่น ทั้งที่คู่ของข้างดงามกว่าอะไรทั้งโลก”
“แต่นายก็รู้ว่าฉันเป็นผู้ชาย ฉันให้อย่างที่นายหวังไม่ได้”
“ข้ารู้” เคลวินน์จูบเรือนผมคนเศร้า “ข้าขอโทษที่ไม่ได้พูดให้เข้าใจ ข้าหมายถึงต้องการมีลูกกับมนุษย์น้อยของข้าเท่านั้น ไม่ได้หมายถึงมนุษย์ที่ไหนอีก”
“ฉันเองก็ไม่ได้อยากให้นายหมายถึงใครที่ไหน นายเป็นของฉัน”
“ข้าเป็นของเจ้าผู้เดียว แฟนเกิซ ชีวิตของข้าเป็นของเจ้า” เคลวินน์ยังคงยืนยันคำเดิม ฝังริมฝีปากไว้ที่หน้าผากมนุษย์ตัวน้อยที่กำลังหวาดกลัวให้วางใจ แวนกัสถูกอุ้มให้นั่งตัก ปลอบประโลมกอดหอมเอาใจ พร่ำบอกว่าหัวใจของเคลวินน์เป็นเพียงของมนุษย์ผู้นี้เท่านั้น
สองมือต่างขนาดกุมจับกันด้วยความหวงแหน ความเศร้าเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มได้เพียงแค่ไม่กี่ประโยค แม้ในความมืดของค่ำคืนไม่ได้ทำให้แวนกัสรู้สึกหวาดกลัวได้อีก ยามถูกอุ้มพาเดินกันไปทั่วทั้งป่า พูดคุย จีบกันด้วยคำพูดหวานจนพอใจ ก่อนเคลวินน์จะพาชายหนุ่มกลับมายังที่พัก แวนกัสพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ให้คนหลับรู้สึกตัวตื่นในความมืด ยามที่เขาสอดแทรกตัวเข้าไปในผ้าห่มเดียวกันกับเชนที่กำลังหลับ
ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี พร้อมความรักของเขาที่เบ่งบานส่งกลิ่นหอมราวเกสรดอกไม้
ระหว่างที่เชนยังอยู่ การลักลอบพบกันยามค่ำคืนด้วยความคิดถึงของทั้งคู่เกิดขึ้นอยู่ทุกวัน ยิ่งตอกย้ำภายในหัวใจว่าความรู้สึกของสองชีวิตต่างสายพันธุ์แน่นแฟ้นต่อกันมากเพียงไหน แวนกัสรู้สึกว่าตัวเองโหยหา อยากได้รับไออุ่นจากยักษ์ตัวใหญ่ คุ้นชินกับกลิ่นสาบสางความเป็นตัวผู้ของอีกฝ่ายราวกับเป็นสารเสพติดเข้าให้แล้ว
เคลวินน์ไม่ต่างกันนักชายหนุ่มรู้ พบเจอกันบ่อยเข้า แวนกัสไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายเชิญชวนเจ้าอสูรอีกต่อไปแล้ว กลับกันเป็นฝ่ายชายหนุ่มเสียอีกที่ต้องห้ามปรามให้มันอยู่ในขอบเขตบ้าง เคลวินน์พยายามจะจับคู่กับเขาแทบจะตลอดเวลา ทุกที่ในป่า เป็นยักษ์หนุ่มกลัดมันที่หมกมุ่นกับร่างกายมนุษย์ผู้เป็นคู่ครองของมันอย่างไม่เคยหน่าย และนั่น ก็ทำให้แวนกัสรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกเติมเต็ม
เชนกลับไปแล้ว วินาทีที่เพื่อนรักกลับไป แวนกัสตัดสินใจเรียกให้เคลวินน์มาหา เขาขนข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นของมนุษย์ออกมาวางกองไว้ ส่วนมากจะเป็นของที่เก่าแล้ว และเขาสามารถเอาไปใช้เป็นของสำรองเมื่ออาศัยอยู่ในรังของเคลวินน์ได้ “แฟนเกิซ ของมากมายนี่”
มันก้มลงมองฟูกนอน โต๊ะน้อยสำหรับวางของจิปาถะ กล่องจานชามและถุงผ้าผ่อนส่วนหนึ่งที่ชายหนุ่มวางไว้ให้อย่างงุนงงไม่เข้าใจ
“ขนไปที่รังนายสิ”
“ขนไปที่รังข้า” ยักษ์เอียงคอไม่เข้าใจ ครุ่นคิดแล้วฉีกยิ้มกว้าง “เจ้าจะไปอยู่ในรังกับข้า!”
“แต่รังของนายทำให้เมียนายไม่สบายตัวซะเลย เลยต้องใช้ของพวกนี้ด้วย”
“เมียข้า” เคลวินน์ย้อนสีหน้าลิงโลด ไม่รู้จะดีใจกับคำไหนดีระหว่างที่แวนกัสตัดสินใจตามมาอยู่ที่รังด้วย หรือยามที่อีกฝ่ายแทนตัวเองด้วยคำว่าเมีย มันเดินตรงมาหา กกกอดแวนกัสย้ำกับสิ่งที่ได้ฟัง “เมียของข้า”
คนฟังยกยิ้ม ยังไม่ยักชิน “ในที่สุดนายก็หลอกล่อให้ฉันตกเป็นของนายจนได้”
“ข้าไม่ได้...” มันเถียง แล้วยกอุ้ม “เจ้าต่างหาก ที่หลอกล่อ”
“ใช่ซะที่ไหน ฉันไม่เห็นรู้เรื่อง”
“หรือข้าคิดไปเอง เพราะเรือนร่างของเจ้าเชิญชวนข้าจนทนไม่ไหว” เจ้ายักษ์งุดมองคนในอก คนฟังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ราวกับไม่เข้าใจในสิ่งที่ยักษ์พูด ทั้งที่ตัวเองเข้าใจไปหมดเสียตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกเจ้ายักษ์ถามแล้ว ชายหนุ่มซุกแก้มกับบ่าใหญ่ ทำทีเป็นเปลี่ยนเรื่องไป “นายเคยขอให้ฉันไปอยู่กับนาย แต่ฉันเป็นคนที่รักสบาย เพราะงั้นนายจะดูแลฉันได้มั้ยนะ”
“ข้าดูแลได้”
“สัญญาแล้วนะ”
“ไปอยู่ร่วมชีวิตกับข้า เป็นคู่ของข้าตลอดไป” เจ้ายักษ์ใช้คำพูดหวานจีบเขาอีกแล้ว แวนกัสยกยิ้มยามได้ฟัง แก้ขัดเขินด้วยการพยักหน้าตอบกลับไปเท่านั้นอย่างเป็นสุข
แต่ถึงจะพูดเช่นนั้น ทั้งสองก็ได้อยู่กันเพียงเป็นพักเท่านั้น แวนกัสของต้องกลับมาที่กระท่อมทำความสะอาดอยู่บ้างสองสามวันครั้งหนึ่ง เกรงว่าผู้คนจะสงสัยว่าเขาหายไปไหน ไหนจะเชนที่เทียวเดินทางมาเยี่ยมเขาเพราะพ่อแม่ของแวนกัสคอยกำชับให้แวะมาอีกด้วย
กี่เดือนไม่รู้ที่ไป ๆ มา ๆ ระหว่างบ้านกับรังของอสูรผู้ที่พ่วงตำแหน่งคนรัก แต่แวนกัสกลับไม่รู้สึกเหนื่อยเลย
เขาเคยชินกับการเดินถอดผ้าผ่อนในรังยามกลางวัน ลงเล่นน้ำ วิ่งไล่จับกัน ความรักของทั้งคู่งอกงามจนไม่รู้ตัวสักนิดเลยว่าดอกไม้ที่เบ่งบานแสนสวย บริเวณเกสรตัวเมียของตนนั้นผสมติดแล้ว มีบางอย่างกำลังเจริญพันธุ์อยู่ในท้องของชายหนุ่มทีละเล็กน้อยอย่างไม่ผิดสังเกตอันใด ทั้งสองยังคงพอใจกับการสมสู่นับครั้งไม่ถ้วนด้วยความรัก อย่างไม่รู้เรื่องอันใดเลยสักนิดเดียว
จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง แวนกัสตื่นขึ้นมาด้วยอาการวิงเวียนเสียยกใหญ่
เจ้าเมล็ดพันธุ์น้อย ๆ เหล่านั้น กำลังจะบอกอะไรบางอย่างให้ชายหนุ่มรับรู้เข้าแล้ว
ทั้งคู่ กำลังจะเป็นพ่อแม่ของเจ้าลูกครึ่งยักษ์ตัวน้อย...
-----------------------------------------------------
กรี๊ดดดด เป็นตอนที่เขียนแล้วมีความสุขมาก ไม่รู้ทำไม ชอบความรักและความอิสระของคู่นี้มากเลยแง้ อยากใช้เวลาด้วยกันทุกวินาที แต่แล้วโชคชะตาก็ทำให้ต้องเสียเวลาไปตั้งสิบหกปี คนเมียก็รอ คนผัวก็อยากไปแต่ไปไม่ได้ แง...
อ่านแล้วฝากคอมเม้นคนละ 12345678910 คอมเม้นด้วยนะคะ 55555 เอาแบบคนงงว่าเม้นอะไรเยอะแยะ เฟบไม่ขึ้นไม่เป็นไร แบบคนเขียนไม่จริงจัง ขอเม้นอลังการไว้ก่อน // กราบเบญจางคประดิษฐ์ 55555555555