SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : E P I L O G U E (E N D) : 25/12/2019
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : E P I L O G U E (E N D) : 25/12/2019  (อ่าน 33385 ครั้ง)

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER F O U R T E E N : 24/11/2019
«ตอบ #120 เมื่อ25-11-2019 20:15:33 »

 :pighaun: :pighaun: :haun4: :haun4: :m25: :m25:

ออฟไลน์ Elle-sama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER F O U R T E E N : 24/11/2019
«ตอบ #121 เมื่อ26-11-2019 15:08:57 »

แซ่บเกินไปแล้วววว หื่นกันทั้งคู่เลยนะเนี่ย เหมาะสมกันจริงๆเลย

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER F O U R T E E N : 24/11/2019
«ตอบ #122 เมื่อ29-11-2019 09:38:09 »

เจ้าเด้นกลายพันธุ์!!!

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER F I F T H T E E N : 30/11/2019
«ตอบ #123 เมื่อ30-11-2019 13:16:30 »

CHAPTER F I F T H T E E N


_________________________________






Scent Project – December 20xx

Information& Perfume Character:

Scent: Silver Bullet

Model: Mikael Gender: Male (Alpha)

Scent: Black Diamond

Model: Wang Lixing Gender:Male (Omega)

Scent: Blue Ocean

Model: Peerat Chodmaetee Gender: Male (Alpha)




ฮานะกวาดสายตาไล่อ่านข้อมูลการประชุมในครั้งนี้เป็นหนที่สาม หลังจากที่ถูกคุณแกเรนตามตัวมา นี่ก็ผ่านไปราวสองชั่วโมงได้แล้วที่เขาต้องมานั่งฟังรายละเอียดของโปรเจกต์ใหญ่ในปลายปีที่ทางโมเดลลิ่งจะจัดขึ้น เป็นโปรเจกต์น้ำหอมคอลเลคชั่นที่สองของคุณจางเฟิงหลง หลังจากที่Rose Amourมีคุณแกเรนเป็นนายแบบให้กับน้ำหอมคอลเลคชั่นแรกนั้นก็มียอดขายถล่มทลายและขึ้นชาร์จเป็นอันดับหนึ่งมาตลอดหลายปี เจ้าตัวจึงอยากลองพัฒนากลิ่นอื่นๆ ออกมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้กว้างมากยิ่งขึ้น โดยคอนเซปหลักของงานในครั้งนี้น้ำหอมแต่ละตัวจะมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน นี่จึงเป็นสาเหตุที่แกเรน ฮาร์ดเนอร์ต้องลงมือทำการคัดเลือกนายแบบที่จะมาสวมคาแรคเตอร์ด้วยตัวเอง




Silver Bullet สุขุม เรียบนิ่ง มีพลัง

Black Diamond หรูหรา ยั่วยวน มากไปด้วยเสน่ห์

Blue Ocean อบอุ่น ร่าเริง มีชีวิตชีวา

สามคน สามสไตล์...งานนี้จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งงานที่จะท้าทายความสามารถของเหล่านายแบบและทีมงานทุกคนเลยก็ว่าได้...

“ทางมิคาเอลกับลี่ชิงผมได้ดูสตูดิโอที่จะใช้ถ่ายแบบเอาไว้แล้ว ส่วนพีทสถานที่คงเป็นทะเลที่ไหนสักที่แถบทางใต้ เอาไว้ถ้าได้ข้อมูลจากฝ่ายสถานที่ผมจะมาแจ้งอีกที” แกเรนยืนพิงขอบโต๊ะด้วยท่าทีที่สบายก่อนจะหันไปหาคนที่นั่งอยู่ทางขวามือแล้วถอนหายใจออกมาอย่างปลงตก

...นั่งหน้าดุจนทีมงานเกร็งไปหมดแล้ว...

“คุณเฟิงหลงครับ ไม่ทราบว่ามีข้อเสนอแนะอะไรอยากจะชี้แจงเพิ่มเติมหรือเปล่า” รอยยิ้มกว้างถูกส่งไปให้แต่สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงแววตานิ่งเรียบเท่านั้น

..เชื่อเขาเลย

“ไม่มี” ร่างสูงใหญ่ของอัลฟ่าหนุ่มขยับเคลื่อนกายเปลี่ยนท่านั่ง ท่วงท่าสง่างามสะกดสายตาคนมองได้เป็นอย่างดี...นัยน์ตาคมเข้มทอแววอ่อนลงเมื่อหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างกาย

หวังลี่ชิงเป็นหนึ่งในนายแบบที่จะเข้าร่วมในโปรเจกต์น้ำหอมครั้งนี้และที่สำคัญ...ยังเป็นคู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายของจางเฟิงหลงอีกด้วย

นี่จึงเป็นสาเหตุที่วันนี้เจ้าตัวลงทุนมาเข้าประชุมสรุปด้วย ทั้งที่ปกติแล้วนับครั้งได้ที่จะเห็นว่าเฟิงหลงมาที่โมเดลลิ่ง

...หวงจนแทบไม่ปล่อยให้ลี่ชิงคาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว...แทบไม่เหลือเค้าเดิมเหมือนอย่างในอดีตอีกแล้ว...

“แล้ว...คุณมิคาเอลล่ะ” แกเรนหันไปถามนายแบบอีกคน ซึ่งฝ่ายนั้นก็ทำเพียงแค่ส่ายหน้าตอบกลับมาเขาจึงได้โอกาสแนะนำสมาชิกคนใหม่ของโปรเจกต์นี้แทน

“อย่างที่ทุกคนรู้กันว่าก่อนหน้านี้เรายังหาคนที่จะมาสวมคาแรคเตอร์Blue Oceanไม่ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วคุณแอนเดอร์สันเองก็เหมือนจะตอบโจทย์แต่ในครั้งนี้...เขายังไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด” ถ้อยคำทุกอย่างถูกเอ่ยออกมาอย่างเนิบนาบโดยประโยคหลังนั้นเน้นย้ำไปถึงฝ่ายคอสตูมอีกฝ่ายที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

...ถึงแม้จะไม่พอใจ แต่การตัดสินของเขาถือว่าเป็นที่สิ้นสุด

“ผมรู้ว่าพวกคุณบางคนคงเคยเห็นผลงานชิ้นแรกของพีทที่ถ่ายแบบร่วมกับอเล็กซ์มาบ้างแล้ว...ก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มว่าทำไมเขาถึงถูกเลือกให้เข้ามารับคาแรคเตอร์Blue Ocean” รอยยิ้มบางเบาถูกจุดขึ้น “คำตอบมันอยู่ในรูปที่ผมแนบลงไปในเอกสารแล้ว”

รูปไฟนอลพรูฟที่เตรียมขึ้นปกนิตยสารอาทิตย์หน้าถูกสายตานับสิบคู่พินิจพิจารณาไปพร้อมกัน

ภาพของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่สวมไว้เพียงแค่กางเกงชายหาดสีดำกำลังถือกระดานโต้คลื่นนั้นสะกดสายตาจนยากที่จะปฏิเสธได้ว่าอีกฝ่ายดูดีจนไร้ที่ติ

ช่วงอกกว้างกำยำคร้ามแดดมีหยดน้ำเกาะพราวบางส่วน เรือนผมสีเข้มถูกปล่อยไปตามธรรมชาติในตอนที่ลมทะเลพัดขึ้นมาบนฝั่ง นัยน์ตาคมส่องสะท้อนกับแสงแดดเปล่งประกายมีชีวิตชีวา รอยยิ้มกดลึกเพียงเล็กน้อยแต่ทรงพลังและมากไปด้วยเสน่ห์สะกดสายตาผู้ที่ได้พบเห็น

....ถ้าไม่บอกว่าเป็นน้องใหม่ในวงการ คงถูกเข้าใจผิดว่าเป็นนายแบบมืออาชีพเสียด้วยซ้ำไป..

ฮานะหันไปมองคนข้างกายที่นั่งเงียบมาตลอดก่อนจะเอื้อมมือไปกุมกับอีกฝ่ายเอาไว้ รอยยิ้มเจือจางถูกส่งไปให้ในตอนที่ทีมงานหลายคนเอ่ยชื่นชมไม่ขาดปาก พีทโค้งตัวรับคำชมอย่างนอบน้อมก่อนจะหันกลับมามองกันแล้วบีบกระชับมือเขาเอาไว้แน่น ฝ่ามือที่ชื้นเหงื่อแสดงให้เห็นว่าเจ้าตัวก็คงรู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยที่เริ่มเป็นที่ยอมรับ

หลังจากที่หมดวาระการประชุมสำหรับวันนี้ทุกฝ่ายก็ต่างแยกย้ายกันออกไปจะมีก็เพียงแค่ฮานะเท่านั้นที่ถูกแกเรนเรียกตัวเอาไว้โดยที่มีใครอีกคนตามติดมาไม่ห่างกาย เด็กหนุ่มตัวสูงยืนประชิดแผ่นหลังของคุณผู้จัดการส่วนตัวโดยที่มือของทั้งสองยังคงสอดประสานกันเอาไว้อย่างแนบแน่นไม่หวั่นแม้กระทั่งถูกเจ้านายมองอย่างล้อเลียน

แกเรนกลั้นยิ้มขำเมื่อถูกสไตล์ลิสต์คนสวยมองมา นัยน์ตาสีชมพูกวาดต้อนไปยังปลอกคอที่เขาเคยให้เป็นของขวัญวันเกิดอีกครั้ง

...ก็ยังปิดรอยไม่มิดอยู่ดี..

“ผมอ่านบรีฟงานที่คุณส่งมาให้แล้ว” ฮานะเปิดประเด็นเรื่องงานเพื่อบ่ายเบี่ยงความสนใจของอีกฝ่าย “…กับอเล็กซ์อีกแล้วเหรอครับ” เจ้าตัวเผลอเม้มปากแน่นเมื่อนึกถึงรายละเอียดงานถ่ายแบบชิ้นต่อไปของพีทที่ต้องทำงานร่วมกับอเล็กซ์อีกเป็นหนที่สอง

เพราะเดือนหน้านั้นทางแบรนด์เจ้าเดิมต้องการที่จะถ่ายแบบคอนเซ็ปเสื้อผ้าแนว Extreme sports และชนิดกีฬาที่ถูกเลือกมาเป็นไอเดียในครั้งนี้ก็คือการปีนหน้าผาจำลองซึ่งนับว่ายากและท้าทายมากขึ้นกว่าครั้งที่แล้วเป็นไหนๆ

แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะเขามั่นใจว่าถ้ารับงานนี้พีทจะสามารถทำมันออกมาได้ดีอย่างแน่นอน...ที่เป็นปัญหาจริงๆ คือเพื่อนร่วมงานต่างหาก

ไม่ใช่ไม่กล้าหรือเพราะต้องการหลบหน้า...แต่มันเป็นเพราะเขาไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับอเล็กซ์อีกแล้ว

…ไม่แม้แต่จะอยากได้ยินชื่อเสียด้วยซ้ำและที่สำคัญเขาไม่อยากให้พีทต้องไปเผชิญหน้ากับทางฝ่ายนั้นเพราะเกรงว่าจะมีปากเสียงกันอีก

“ที่จริง...ผมเคยให้เกรซปฏิเสธงานนี้ไปแล้ว” แกเรนถอนหายใจออกมายาวเหยียดเพราะรับรู้ถึงปัญหาทุกอย่างแต่ก็ไม่สามารถที่จะหาทางออกที่ดีกว่านี้ได้ “แต่ทางนั้นตื๊อไม่เลิกจะเอาสองคนนี้ไปเป็นพาร์ทเนอร์กันให้ได้ ลองเสนอเปลี่ยนนายแบบแล้วก็ไม่เอาลูกเดียว คุณก็รู้ว่าโมเดลลิ่งของเราทำงานร่วมกับทางแบรนด์มานาน...ถึงขั้นมาขอคุยกับผมโดยตรงใครล่ะจะปฏิเสธได้” นิ้วเรียวสวยยกขึ้นนวดคลึงขมับไปมา

“ผมไม่มีปัญหาที่พวกเขาจะต้องร่วมงานกัน...แค่อยากให้งานนี้เป็นงานสุดท้ายแล้ว” ฮานะว่าเสียงเครียดจนฝ่ายนั้นต้องพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

“ผมเข้าใจ” แกแรนรับปากอย่างจำยอมเพราะเขาเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ดึงพีทเข้ามาร่วมงานกับทางนั้นด้วย “แต่ขอแค่ครั้งนี้อีกครั้งเดียว...ครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ”

ฮานะยังคงลังเลก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปหาคนที่ยืนอยู่ข้างกันซึ่งฝ่ายนั้นก็ทำเพียงแค่ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับเป็นเชิงตกลง

“เธอโอเคแน่นะ?” เขาถามย้ำ...ในใจลึกๆ แล้วยังอดห่วงไม่ได้เพราะกลัวว่าทั้งคู่จะมีปากเสียงกันอีก

“ไม่มีปัญหาครับ” พีทคลี่ยิ้มกว้างก่อนจะกระชับฝ่ามือให้แน่นขึ้นเพื่อยืนยันคำตอบ

“รับรองได้ว่ารอบนี้ไม่เกิดปัญหาขึ้นแน่นอน” แกเรนย้ำ “หายห่วงได้เลย”

“ช่างเถอะครับ...ผมไม่คิดจะสนใจทางนั้นอยู่แล้ว” ฮานะยักไหล่ก่อนจะเบนสายตากลับไปหาคนข้างกายอย่างคาดโทษ “แต่คนนี้นี่สิ...กลัวว่าถ้าโดนอเล็กซ์ปั่นประสาทเข้าหน่อยแล้วจะฟิวส์ขาดอีก” คนถูกกล่าวหาทำได้แค่เพียงยกมือขึ้นลูบท้ายทอยตัวเองไปมาแก้เก้อ…เพราะยังจำน้ำหนักมือฮานะที่ทำแผลให้ได้ขึ้นใจ

...มือก็เล็กแค่นี้แท้ๆ ...

“ที่ฟิวส์ขาดขนาดนั้นก็เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคุณไม่ใช่หรือไง” แกเรนถือโอกาสนี้ไล่จี้...อยากจะเห็นคนเสียอาการสักหน่อย

“ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่ควรใช้ความรุนแรงครับ” ฮานะส่ายหน้าไปมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูจะชอบใจเหลือเกิน

เข้ากันได้ดีเชียวนะ

“เอาน่า เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว” แกเรนหลุดขำออกมาพร้อมกับเอื้อมมือไปแตะไหล่ของอีกฝ่าย “ถ้ายังไงงานนี้เอาทีมคอสตูมคุณเข้าไปดูแลพีทได้เลยเพราะทางอเล็กซ์น่ะมีเฮนรี่ย์ดูแลอยู่”

“ถึงคุณไม่บอกผมก็เต็มใจทำให้อยู่แล้วครับ” ใบหน้าสวยยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อของหัวหน้าทีมคอสตูมอีกทีม...ประคบประหงมกันจนออกนอกหน้าแบบนี้เห็นทีคงไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงานกันธรรมดาแล้ว

...รอจังหวะนี้มานานแล้วนี่...สมใจซะทีนะเฮนรีย์ หวัง..

ขอบคุณที่เต็มใจรับความเฮงซวยครั้งใหญ่ในชีวิตไปครอบครองเอาไว้…

...ขอให้โชคดี..













บรรยากาศในกองถ่ายช่วงเช้านั้นค่อนข้างที่จะวุ่นวายพอสมควร แต่ละฝ่ายที่รับผิดชอบงานในส่วนของตัวเองก็ต่างวิ่งวุ่นกันจนไม่มีแม้แต่เวลาที่จะได้พักหายใจเพราะต้องรีบเซ็ทฉากให้เสร็จเรียบร้อยเพื่อที่จะได้ดำเนินงานให้เสร็จทันภายในเวลาที่กำหนด นายแบบและนางแบบบางส่วนยังคงไม่ได้แต่งหน้าแต่งตัวเพราะทีมคอสตูมอีกทีมที่ร่วมกันรับผิดชอบนั้นเดินทางมาถึงช้ากว่ากำหนดจึงเป็นเหตุให้ฮานะต้องคอยรับหน้าที่ประสานงานแทนทุกอย่าง

“แกล้งกันเห็นๆ ...ทุเรศชะมัด” หนึ่งในลูกทีมที่กำลังใส่เครื่องประดับให้นายแบบอีกคนเหน็บแนมขึ้นมาอย่างเหลืออด

“คุณฮานะน่าจะรายงานให้บอสรู้เรื่องนี้นะคะ ทางนั้นน่ะเป็นอย่างนี้ทุกทีเวลาที่ต้องร่วมงานกับทีมเรา” ลูกทีมอีกคนเสริมขึ้นมา เพราะตั้งแต่เช้าเธอเห็นว่าเจ้านายตัวเองวิ่งวุ่นจนหัวหมุน ขนาดหน้าที่แต่งตัวและแต่งหน้าให้คุณพีทพวกเธอยังได้รับช่วงต่อมาอีกทีเพราะฝ่ายนั้นขอตัวไปดูแลคนที่เหลือแทน

“ช่างเขาเถอะ ทำในส่วนของเราให้ดีที่สุดก็พอ” ฮานะตัดบทในขณะที่กำลังวัดรอบเอวของนางแบบ “ช่วยส่งกล่องเข็มกับด้ายให้ผมหน่อย...เจส ฝากแก้ตรงช่วงเอวให้พี่ที” เจ้าตัวหันไปเรียกเด็กฝึกงานที่เข้ามาร่วมงานให้ทีมได้สักพักแต่ฝีมือนั้นดีเยี่ยมไม่แพ้คนอื่น

เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางมากขึ้นจึงถือโอกาสนี้เดินกลับไปหาใครบางคนที่กำลังนั่งนิ่งให้ฝ่ายเมคอัพเซ็ทผมอยู่ พีทหันมาทางเขาก่อนจะยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย นัยน์ตาคมเข้มคู่นั้นเจือแววคิดถึงกันอย่างปิดไม่มิดทำให้ต้องหลุดขำออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ สุดท้ายฮานะจึงต้องขอรับหน้าที่ต่อเพื่อให้ทีมเมคอัพไปดูแลคนอื่นแทน

...ห่างกันยังไม่ถึงชั่วโมงแท้ๆ เลยด้วยซ้ำเจ้าเด็กนี่

“เหนื่อยไหมครับ” เด็กหนุ่มเอื้อมไปกอบกุมข้อมือที่เล็กกว่า กระชับแน่นโดยไม่ได้สนใจสายตาของผู้คนมากมายที่อยู่โดยรอบ ยิ่งได้เห็นว่าแก้มฮานะขึ้นสีก็ยิ่งดึงเข้ามาใกล้

“แค่นี้สบายมาก” เจ้าตัวยักไหล่ ก่อนจะเอื้อมไปหยิบกระป๋องสเปรย์ที่วางอยู่โต๊ะข้างๆ มาเซ็ทผมให้ต่อ “เธอล่ะ...ตื่นเต้นไหม”

หลังจากที่เดินทางมาถึงเขากับพีทก็จำเป็นที่จะต้องแยกกันเพื่อไปทำหน้าที่ของตัวเองเลยไม่มีเวลามากพอที่จะใส่ใจอีกฝ่ายได้เท่าที่ควร แต่ทั้งคู่ก็ต่างรู้ดีว่า...ไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวเลยที่สายตาจะไม่หยุดอยู่ที่ใครอีกคน

“ไม่เลยครับ” รอยยิ้มที่กว้างขึ้นทำให้รู้สึกหายเหนื่อยจากงานที่ผ่านมา ฮานะจึงอดไม่ได้ที่จะบีบเข้าที่ข้างแก้มของเจ้าโกลเดนท์ตัวโตเมื่อนึกมันเขี้ยว

“เก่งมาก...งานแสร็จแล้วเดี๋ยวให้รางวัล” ฝ่ามือข้างหนึ่งอ้อมไปด้านหลังพร้อมกับลูบเข้าที่ต้นคออีกฝ่ายอย่างอ้อยอิ่ง นัยน์ตาสวยช้อนมองอย่างมีความหมายพอดีกับที่ช่วงตัวถูกรวบเอวเข้าไปกอด

ในตอนที่ทุกคนในบริเวณนั้นกำลังวุ่นอยู่กับงานตรงหน้า เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ลมหายใจอุ่นร้อนเข้ามาประชิดข้างซอกคอ...เสียงหายใจและสัมผัสอุ่นแตะลงผ่านคอเสื้อที่ปิดสูงก่อนจะผละออกในเวลาต่อมา

....ร่องรอยแห่งพันธสัญญาที่โผล่ออกมาให้ได้เห็นเพียงเสี้ยวเดียวทำให้เด็กหนุ่มอดที่จะยกมือขึ้นลูบผ่านไม่ได้..

…ลำคอพลันแห้งผากเมื่อความรู้สึกที่อยากเน้นย้ำผุดแทรกขึ้นมาจนสมาธินั้นเริ่มสั่นคลอน

...กลิ่นของฮานะทำให้เข้าไม่อยากจะเอาตัวออกห่างแม้แต่วินาทีเดียว..

“...ตอนนี้ไม่ได้เหรอครับ” เสียงทุ้มต่ำออดอ้อนให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน

“ก็ต้องไม่ได้อยู่แล้วสิ” ฮานะยิ้มขำพร้อมยกมือขึ้นบิดแก้มอีกฝ่ายจนหน้าเบ้ “งานเสร็จค่อยว่ากัน” มือพยายามแกะช่วงแขนที่เกาะเกี่ยวรอบเอวออกแต่ก็ไม่เป็นผล

“พีท~” เขาออกแรงมากขึ้นเมื่อเห็นว่ามีสายตาบางคู่มองมาอย่างมีเลศนัย โดยเฉพาะเด็กในทีมนี่ตัวดีเลย

...ก็ไม่คิดที่จะปิดบังอยู่แล้ว แค่...ยังไม่ชินเท่านั้นเอง..


(มีต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER F I F T H T E E N : 30/11/2019
«ตอบ #124 เมื่อ30-11-2019 13:16:55 »

ในระหว่างที่ทุกคนในกองถ่ายเริ่มหันมาออกปากแซวกันไม่ขาดปาก เสียงเปิดประตูทางเข้าสตูดิโอก็เรียกความสนใจให้ทุกสายตาหันกลับไปมอง ร่างสูงใหญ่ของนายแบบลูกครึ่งผู้ที่เป็นเมนหลักในโปรเจกต์ครั้งนี้เดินนวยนาดเข้ามาอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อนโดยมีสไตล์ลิสต์อีกคนตามหลังมาไม่ห่าง บรรยากาศรอบตัวของทั้งคู่ทำให้รับรู้ได้ว่าระหว่างพวกเขานั้นไม่ได้มีสถานะเป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมงานกันแบบธรรมดาทั่วไป

...เพราะรอยกัดบนคอเฮนรีย์ที่โผล่พ้นออกมาให้ได้เห็นอย่างชัดเจนโจ่งแจ้งคือคำตอบที่ย้ำเตือนว่าเจ้าตัวไม่คิดที่จะปิดบังอะไรทั้งนั้น

โดยเฉพาะกับผู้จัดการคนเก่าของอเล็กซ์ แอนเดอร์สัน...

เฮนรีย์ขยับยิ้มมุมปากเล็กน้อยในตอนที่ถูกอัลฟ่าหนุ่มมคว้าเอวเข้าไปกอด อเล็กซ์ถึงเนื้อถึงตัวเขาโดยไม่คิดแคร์สายตาของทีมงานนับสิบในห้อง...นัยน์ตาฉ่ำน้ำที่มากล้นไปด้วยความมั่นใจกวาดมองไปทั่วก่อนจะหยุดอยู่ที่ร่างสูงใหญ่ของใครบางคนอย่างสนอกสนใจ

...เด็กใหม่ของฮานะ ดูดีขึ้นมากจริงๆ

“พีท” เสียงเรียกช่วยดึงให้เด็กหนุ่มหันกลับมาหา ฮานะกอบกุมมือเขาเอาไว้แน่นพร้อมกับส่งยิ้มมาให้...นัยน์ตาคู่สวยที่สะท้อนเพียงภาพของเขานั้นชัดเจนมากกว่าสิ่งใด “ห้ามมองนะ” เรียวคิ้วได้รูปขมวดเข้าหากันแสดงให้เห็นว่าเจ้าตัวเริ่มรู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาที่เห็นว่าเฮนรีย์มองมาทางเขา

“…”

“พีท” โดยไม่รอคำตอบร่างที่เล็กกว่าก็โถมตัวเข้าไปกอดคู่ของตนอย่างหวงแหน

ความรู้สึกหวาดหวั่นและว้าวุ่นใจตีกันมั่วไปหมด...ในเวลานี้เขาไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าสองคนนั้นจะถึงเนื้อถึงตัวกันแค่ไหน มีเพียงความรู้สึกเดียวที่ฉายชัดขึ้นมาคือหวงคนในอ้อมกอดจนแทบบ้า

“…ฮานะ” เด็กหนุ่มยกแขนขึ้นตอบกลับอย่างเก้กังเพราะไม่ทันได้ตั้งตัวรับกับสถานการณ์แบบนี้

ที่มองเมื่อกี้เพราะฝ่ายนั้นก็มองคนของเขาอยู่ก่อนแล้ว...ไม่ได้คิดสนใจสายตาเชิญชวนจากเฮนรีย์เลยแม้แต่วินาทีเดียว

“พีท พาฮานะออกไปก่อนดีไหม” ผู้กำกับเห็นท่าไม่ค่อยดีเดินเข้ามาสะกิดเรียกเพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เหมือนตอนที่อยู่ทะเลอีกจึงอยากให้ต่างฝ่ายต่างแยกไปควบคุมสติอารมณ์ก่อนที่จะเริ่มงาน

โดยไม่ทันที่จะรอให้อีกฝ่ายตัดสินใจเด็กหนุ่มก็ช้อนอุ้มร่างที่เล็กกว่าเข้ามาไว้ในอ้อมกอดก่อนจะเดินเข้าไปในห้องล็อกเกอร์ตามที่ทีมงานแนะนำ ระหว่างทางฮานะไม่ขัดขืนหรือดีดดิ้นเอาแต่กอดเขาไว้แล้วซุกหน้าลงกับอกแน่น

พีทวางร่างของอีกคนลงที่เคาน์เตอร์หินอ่อนหน้ากระจกแต่ฮานะไม่ยอมปล่อย เอาแต่กอดอยู่อย่างนั้น

“ฮานะครับ” เสียงทุ้มก้มลงพูดข้างใบหู พร้อมกับยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังเล็กไปมาเพื่อปลอบประโลมอย่างไม่นึกสงสัยกับอาการทั้งหมดที่เกิดขึ้น...ฮานะกำลังหวงเขาตามสัญชาตญาณของคู่แห่งโชคชะตา

ที่รับรู้ได้เพราะเขาเองก็กำลังรู้สึกไม่ต่างกัน...

ไม่ได้หึงหวงเพียงเพราะไม่มั่นใจในตัวกันและกัน...แต่มันเป็นความรู้สึกที่รุนแรงเกินขีดจำกัดของการมีอยู่ของเหตุผล...

“ฉันไม่อยากงี่เง่าแบบนี้เลย...” เสียงที่เบาหวิวเอ่ยสารภาพทำให้ต้องสวมกอดแน่นขึ้น “ฉันเชื่อใจเธอ...แต่...แค่ไม่ชอบสายตาที่เฮนรีย์มองเธอ”

“…”

“มันเหมือนกับว่า...เธอจะถูกแย่งไป” คำสารภาพพรั่งพรูออกมาพร้อมน้ำตาหยดแรก “แค่คิด...มันก็ทนไม่ไหวแล้ว” …ยิ่งกว่าความเสียใจทั้งหมดที่เคยพบเจอเพียงแค่ลองนึกภาพว่าจะต้องกลับไปโดดเดี่ยวอีกครั้งก็ทรมานแทบบ้า

“…” สัมผัสอุ่นกดจูบลงบนกลุ่มผมเพื่อย้ำเตือนว่าเขายังอยู่ตรงนี้

“ฉันขอโทษ...ที่ทำให้เธอรู้สึกแย่” ฮานะเงยหน้าขึ้นมามองกัน นัยน์ตาคู่สวยเอ่อคลอไปด้วยน้ำแต่เจ้าตัวกลับกลั้นมันเอาไว้อย่างสุดความสามารถ “ขอโทษนะที่ทำตัวงี่เง่าแบบนี้”

“…”

“ขอโทษที่ชอบทำตัวน่าเบื่อให้เธอต้องหนักใจอยู่เรื่-”

ถ้อยคำพลันกลืนหายกลับไปเมื่อริมฝีปากถูกประกบแนบแน่น แผ่นหลังเอนแนบไปกับแผ่นกระจกใสเมื่อช่วงตัวสูงใหญ่โถมเข้าหา เรียวลิ้นที่บุกรุกมอบสัมผัสวาบหวามจนต้องคล้อยตาม เสียงดูดดุนแผ่วเบาคลอขึ้นมาอย่างอ้อยอิ่ง กลิ่นหอมเจือจางผสมกับไอร้อนระอุจากแผ่นอกกว้างทำให้ต้องยึดท่อนแขนแข็งแรงเอาไว้เพื่อช่วยพยุง ฮานะหลับตาลงเพื่อรับสัมผัสนุ่มนวลก่อนจะต้องหลุดครางในลำคอเมื่อถูกริมฝีปากร้อนจัดลากลิ้นลงมาถึงปลายคาง ความอุ่นชื้นทำให้จังหวะชีพจรเต้นรัวจนหูอื้อ

ปลายนิ้วเกี่ยวคอเสื้อลงต่ำก่อนจะกดย้ำลงไปบนร่องรอยของคู่พันธะ...ซ้ำไปมาจนรู้สึกร้อนจัดบนผิวเนื้อ

ผมที่ยาวเคลียบ่าถูกมัดรวบเอาไว้เพื่อเปิดโชว์ร่องรอยที่ปรากฏอยู่บนลำคอขาว...

ฝ่ายที่มีอำนาจเหนือกว่ากดจูบลงบนลาดไหล่...ไล่เรื่อยมาถึงข้อนิ้ว

..ย้ำเตือนว่าเป็นตัวและหัวใจของเขามีเพียงฮานะคนเดียวเท่านั้นที่ได้ครอบครองทุกอย่างเอาไว้ในกำมือ...และมันจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป..

“ผมเป็นของฮานะ” ถ้อยคำย้ำเตือนผ่านการกดจูบลงไปที่หลังมือข้างซ้าย

ใครอีกคนที่นั่งมองการกระทำทุกอย่างพยักหน้ารับโดยไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายเพิ่มเติม เพราะเพียงเท่านี้มันก็สามารถปัดเป่าความรู้สึกวุ่นวายที่เข้ามาสั่นคลอนจิตใจได้แล้ว

“...และฮานะก็เป็นของผม” เด็กหนุ่มวางแขนลงข้างกาย กักขังอีกฝ่ายเอาไว้ในอ้อมแขน “เข้าใจใช่ไหมครับ” แทนคำตอบคือสัมผัสนุ่มที่ขยับเข้ามาประทับลงบนสันกรามอย่างที่เจ้าตัวชอบทำในเวลาที่อยากจะอ้อนให้เขายอมตามใจ

“อื้ม” เสียงอ้อมแอ้มตอบกลับมาก่อนใบหน้าสวยจะซุกลงที่อกเขาอีกรอบ โผล่มาให้เห็นแค่ใบหูขาวที่เริ่มแดงจัดตามอุณหภูมิร่างกาย “...ฮานะเป็นของพีท”

“…”

“...เป็นของพีทคนเดียว”

ถ้อยคำออดอ้อนที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนทำให้ลมหายใจขาดช่วงไปกะทันหัน เด็กหนุ่มนิ่งงันแต่จังหวะชีพจรกลับเต้นถี่จนปวดหนึบ สันกรามถูกขบแน่นเพื่อระงับอารมณ์ที่กำลังปะทุขึ้นมา

“แบบนี้ก็แย่สิครับ...” เสียงถอนหายใจดังขึ้นอย่างยาวเหยียดก่อความคิดฟุ้งซ่านจะถูกปัดตกไป เขาจัดการรวบกอดร่างที่เล็กกว่าเข้ามาไว้แนบอกโดยที่ไม่ได้สนใจว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่จะยับย่นแค่ไหน “…ฮานะจะฆ่าผมให้ตายอยู่แล้ว รู้ตัวหรือเปล่า”

“เธอ...ไม่ชอบเหรอ” คนขี้กังวลเอ่ยถาม แววตาคู่สวยเอ่อคลอน้ำเล็กน้อยมองช้อนขึ้นมาอย่างออดอ้อน

“ฮานะ” พีทเสียงเข้มขึ้น “…ถ้ายังอ้อนแบบนี้สาบานได้เลยว่าผมจะพาคุณกลับ...ตอนนี้”

“ม...ไม่เอา” เจ้าตัวส่ายหน้าปฏิเสธ พอดีกับที่เสียงทีมงานเคาะเรียกอยู่หน้าประตู “ออกไปข้างนอกกันเถอะนะ ถูกเรียกตัวแล้ว” จู่ๆ ก็เปลี่ยนเรื่องเพียงเพราะไม่สามารถทนมองความรู้สึกวาบหวามผ่านดวงตาคู่นั้นได้

“สัญญาก่อนว่าเสร็จงานฮานะจะตามใจผม” ร่างสูงใหญ่ไม่ยอมเดินตามแรงดึง กลับยื้อตัวเอาไว้จนคนที่เป็นฝ่ายลากนั้นมองค้อนกลับมา

“นี่” ฮานะขู่...ขู่แบบเขินๆ เป็นใครก็ยอมให้ขู่ทั้งนั้น

“ตกลงว่ายังไงครับ” พีทยิ้มขำเมื่อถูกหยิกเข้าที่หน้าท้อง

“พีท ทำไมเป็นคนแบบนี้เนี่ย” คนตัวเล็กกว่าพยายามฝืนแรงดึงเมื่อข้อมือถูกกุมเอาไว้แน่น เสียงเคาะประตูเรียกดังขึ้นอีกครั้งทำให้ต้องตกปากรับคำไปในที่สุด “โอเคๆ เข้าใจแล้ว ทีนี้ออกไปได้แล้วหรือยัง อื้อ!” ก่อนออกไปก็ถูกดึงเข้าไปหอมแก้มอีกครั้งจนเจ็บแก้ม

...นี่พัฒนาจากลูกโกลเดนท์ไปเป็นหมาป่าเจ้าเล่ห์ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย!













หลังจากที่ออกมาพีทก็ถูกเรียกตัวออกไปเพื่ออบรมเกี่ยวกับการใช้งานอุปกรณ์เซฟตี้และวิธีการปีนผาจำลองเบื้องต้นพร้อมกับอเล็กซ์ เพราะระดับที่ต้องปีนขึ้นไปถ่ายนั้นไม่ได้สูงมากจึงใช้เวลาสอนเพียงแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้นก่อนจะทดสอบให้ทั้งสองคนได้ฝึกโรยตัวลงมาถึงพื้นได้อย่างปลอดภัย

“อเล็กซ์ไปแต่งตัวได้แล้ว...ส่วนพีท เดี๋ยวขึ้นไปถ่ายเซ็ทเดี่ยวรอก็แล้วกัน” ผู้กำกับเดินเข้ามาหาเมื่อเห็นว่าทุกอย่างพร้อมถ่ายทำ...จะเหลือก็เพียงแค่นายแบบกิตติมศักดิ์คนนี้ที่ยังคงอ้อยอิ่งไม่รีบร้อน

ร่างสูงใหญ่ยืนให้ทีมงานถอดเซฟตี้ให้ก่อนจะถูกเฮนรีย์พาไปแต่งตัวที่บริเวณห้องออฟฟิศที่เจ้าของสถานที่แนะนำเพราะบริเวณนั้นไม่มีพื้นที่เว้นว่างให้พวกเขา

นัยน์ตาสีฟ้าเพ่งมองไปยังคนสองคนที่ยืนอยู่ด้วยกันตรงลานกว้าง ก่อนประกายเพลิงวาวโรจน์จะฉายแววขึ้นมาหลังจากที่ต้องทนเก็บมาเนิ่นนาน ยิ่งได้เห็นร่องรอยบนคอของฮานะก็ยิ่งรู้สึกเดือดดาลจนแทบระเบิด

...ฮานะเป็นของมันไปแล้ว..โดยสมบูรณ์แบบ..

“อาลัยอาวรณ์อะไรนัก” เสียงคนตรงหน้าเอ่ยทักขึ้น ทำให้ต้องหันกลับมามอง เฮนรีย์มีสีหน้าที่บ่งบอกได้ชัดว่าไม่พอใจที่เขามองใครอีกคน

“อย่าแส่” เสียงทุ้มเย็นเยียบพูดขึ้นให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคนก่อนสายตาคู่นั้นจะกดมองคู่นอนคนล่าสุดตั้งแต่หัวจรดเท้า

...คนที่ยอมถวายตัวให้เขาทุกอย่าง...ยอมในสิ่งที่เขาไม่เคยได้รับจากคนในอดีต

...รอยกัดที่ปรากฏอยู่บนคอของเฮนรีย์เป็นหลักฐานยืนยันว่าอีกฝ่ายเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ

...แต่มันเป็นเพียงแค่รอยที่ต้องการแสดงความเป็นเจ้าของเท่านั้น...ไร้ซึ่งความรู้สึกรักและพันธสัญญา

ในเมื่อเสนอมา...ก็เพียงแค่สนองกลับ

...โอเมก้าหน้าโง่ที่อยากให้เขากอดจนตัวสั่นทำให้ความจริงบางอย่างปรากฏ..

ยิ่งนานวันเข้าก็ยิ่งรับรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา...ฮานะไม่ใช่แบบนี้...

...ไม่ว่าใครก็ไม่เหมือน...และมาแทนที่ไม่ได้เลย...

“รู้ไหมว่าสายตาที่นายมองทางนั้นมันน่าสมเพชแค่ไหน” เฮนรีย์แค่นหัวเราะออกมา “มานึกเสียดายเอาตอนนี้...มันไม่สายไปหน่อยหรือไง”

ไม่ทันขาดคำอุ้งมือแข็งก็บีบเข้าที่ปลายคางจนปวดชา นัยน์ตาสีฟ้าวาวโรจน์ตอนที่จ้องตอบกลับ “ถ้าปากมันพูดอะไรดีๆ ออกมาไม่ได้...ก็ไม่ต้องพูด” ฝ่ามือตวัดตบจนอีกฝ่ายหน้าหัน...เฮนรีย์ไม่ได้ตัวเล็กเหมือนอย่างฮานะแต่กลับล้มลงไปกองที่พื้นได้อย่างง่ายดาย

…แล้วคนที่ต้องทนรับแรงอารมณ์โมโหร้ายของเขามาตลอดหลายปีทำไมไม่เคยคิดที่จะต่อต้านกัน...

“นายมันเฮงซวย...อยู่กับอีโก้โง่ๆ ของตัวเองไปจนตายเถอะ...son of a bitch” อีกฝ่ายมองมาอย่างโกรธแค้นสถบคำหยาบคายใส่ก่อนจะรีบเดินหนีออกไปข้างนอกทิ้งให้เขายืนสงบสติอารมณ์อยู่เพียงคนเดียว

…ความโดดเดี่ยวยิ่งตอกย้ำว่าเขาไม่เหลือใคร…ไม่มีเลยสักคน...

“โธ่เว๊ย!” สันหมัดถูกทุบลงบนกำแพงจนสั่นไหวอเล็กซ์ขบกรามแน่นเมื่อรู้สึกอยากระบายความรู้สึกนี้ให้จางหายไป

ยิ่งได้เห็นว่าฮานะมองแค่มันมากเท่าไหร่ ไฟโทสะในใจก็ยิ่งโหมลุกรุนแรงมากเท่านั้น

ที่ผ่านมา เขานึกย่ามในมากเกินไป เลยไม่คิดวิ่งไล่ตามให้กลับมาเพราะรู้ว่ายังไงฮานะก็เลือกเขาและไม่มีวันทิ้งกัน แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปตั้งแต่มีไอ้หน้าโง่นั่นสอดมือเข้ามายุ่งเกี่ยว...เพราะมัน...มันทำให้ฮานะเปลี่ยนไป

ถ้าไม่มีมันทุกอย่างก็คงไม่เป็นแบบนี้…ถ้ามันไม่ยื่นมือเข้ามา ฮานะก็ไม่มีทางที่จะปล่อยมือเขา..

แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะฟุ้งซ่านไปมากกว่าเดิม เสียงของเจ้าหน้าที่ที่ดังอยู่หน้าประตูก็ดึงความสนใจให้หันไปมอง ฝ่ายนั้นกำลังคุยโทรศัพท์กับปลายสายด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดและเมื่อเห็นเขาก็ทำเพียงแค่เดินเลยไปยังล็อกเกอร์ที่เก็บอุปกรณ์ก่อนจะดึงเอากล่องออกมาวางไว้บนโต๊ะ ในระหว่างที่อเล็กซ์จะก้าวเดินออกไปจากห้องเสียงบทสนทนาจากเจ้าหน้าที่ก็ทำให้เขาต้องหยุดฟัง ฝ่ายนั้นกำลังง่วนอยู่กับของตรงหน้าและคงคิดว่าเขาจะไม่อยู่ฟังจึงพูดออกมาอย่างออกรสออกชาติ

“ใช่พี่ ตัวคาราบิเนอร์ล็อกมันเด้ง...บ้า ไม่ใช่ของเก่า อันใหม่เลยผมเพิ่งจะเบิกออกมาเมื่อเช้าเนี่ย...คือตอนที่เช็กก่อนขึ้นไปก็ปกติดีพี่ แต่พอรีเช็กรอบสองหลังจากที่ลงมาแม่งล็อกเด้ง...อือ ก็เด้งแค่บางครั้งสงสัยตัวล็อกมันเสียเลยต้องเปลี่ยนอันใหม่กันไว้”

“…”

“เออ โดนพี่โอ๊ตด่าหูชาเลยเนี่ย” ชายหนุ่มดูหัวเสียอยู่ไม่น้อยเพราะนึกหงุดหงิดในความสะเพร่าของตัวเองจนเกือบทำให้คนอื่นได้รับอันตราย

“…”

“ผมเช็กให้หมดแล้ว...เดี๋ยวไปเบิกฮาเนสตัวใหม่มาด้วยเลยจะได้หายห่วง” ฝ่ายนั้นวางคาราบิเนอร์ตัวที่มีปัญหาไว้บนโต๊ะข้างกันกับคาราบิเนอร์ตัวใหม่ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเก็บอุปกรณ์ที่อยู่ทางซ้ายมือโดยไม่ทันได้นึกเอะใจว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นหลังจากนี้

ร่างสูงใหญ่ของใครอีกคนเดินเข้าไปใกล้ นัยน์ตาสีฟ้ากดต่ำมองอุปกรณ์เซฟตี้สองตัวสลับกันก่อนความคิดบางอย่างจะฉายชัดขึ้นมาในหัว

ชั่ววินาทีอุปกรณ์สองชิ้นถูกสลับตำแหน่งอย่างแนบเนียน...อันเก่าถูกสับเปลี่ยนเข้าไปในกล่องแทน...

...ยี่ห้อ สี ขนาด เหมือนกันทุกอย่าง...

อาศัยแค่ความสะเพร่าของเจ้าหน้าที่เข้าช่วยหน่อย...

...ก็ลองเสี่ยงดูก็แล้วกัน...ว่าดวงมันจะดีสักแค่ไหน..




_____________________




ลูกชั้นเจ้าเล่ห์มานานแล้วย่ะ หล่อนน่ะโดนหลอก ยัยสวย!

ส่วนตอนนี้ก็...นั่นแหละค่ะ มีหมาหวงจ้างจ้าาาา หว่ายๆๆๆๆๆ

ช้าเกินไปไหมเธอออออ คิกค้ากกกกก

ทีมคุนแม่เด้นเกียมไม้ตีหมาได้เรยค่าาา
 :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER F I F T H T E E N : 30/11/2019
«ตอบ #125 เมื่อ30-11-2019 13:51:16 »

เห้ย..ยยยย อเล็กซ์ขอให้กรรมสนอง ลุ้นตอนหน้าอย่างแรง   :call: :call: :call:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER F I F T H T E E N : 30/11/2019
«ตอบ #126 เมื่อ30-11-2019 14:08:10 »

 :hao6: กลับตัวไม่ทันแล้วน้า ฮานะ

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER F I F T H T E E N : 30/11/2019
«ตอบ #127 เมื่อ30-11-2019 20:52:24 »

เห้อมมมม  สำหรับอเล็กซ์ คงพูดได้แค่ว่า..”ยังเลวได้อีก”...  คนแบบนี้น่ะ ไม่สมควรได้รับความรักดีๆจากใครทั้งนั้น

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER F I F T H T E E N : 30/11/2019
«ตอบ #128 เมื่อ30-11-2019 23:28:39 »

เจ้าเด้นจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม ขอให้นังอเล็กซ์ได้อันพังไป สาธุๆ :call:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER F I F T H T E E N : 30/11/2019
«ตอบ #129 เมื่อ01-12-2019 03:01:02 »

อย่ามาทำเจ้าเด้นชั้นนะ!!  :fire: :fire:
แล้วอเล็กซ์นี่ก็นะ โทษแต่คนอื่นแต่ไม่เคยโทษตัวเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-12-2019 03:33:26 โดย miikii »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER F I F T H T E E N : 30/11/2019
« ตอบ #129 เมื่อ: 01-12-2019 03:01:02 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER F I F T H T E E N : 30/11/2019
«ตอบ #130 เมื่อ03-12-2019 02:03:33 »

อเล็กซ์ ขี้แพ้ชวนตีอ่ะ โหว่

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER F I F T H T E E N : 04/12/2019
«ตอบ #131 เมื่อ04-12-2019 20:18:07 »


CHAPTER S I X T E E N
_________________________________



“มึงเช็กดีแล้วใช่ไหม” เสียงของหัวหน้าเจ้าหน้าที่เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าลูกน้องตัวเองเดินกลับออกมาจากทางออฟฟิศซึ่งทางนั้นเองก็พยักหน้ายืนยันตอบกลับมาอย่างมั่นอกมั่นใจ

“เช็กดีแล้วพี่โอ๊ต ผมหยิบออกมาจากกล่องใหม่เองกับมือเลย”

“งั้นให้ไวเลย เราทำเขาเสียเวลาเยอะแล้ว”

ตอนนี้ทั้งกองถ่ายเริ่มที่จะตึงเครียดขึ้นมาเล็กน้อยเพราะเวลาในการทำงานค่อนข้างที่จะล่าช้าเกินกว่าที่กำหนดเอาไว้ ต่างฝ่ายก็ต่างวุ่นวายขึ้นมากเป็นเท่าตัวเพราะจู่ๆ เฮนรีย์ก็หนีหายออกไปจากหน้างานทิ้งเอาไว้เพียงลูกทีมสองคนที่ดูแล้วคงไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ได้ดีสักเท่าไรนักผลที่ได้จึงทำให้ทุกอย่างไม่เป็นไปดังที่คิดเอาไว้ตั้งแต่ต้น

“คุณสองคน...มาช่วยผมดีกว่า” ฮานะเดินเข้าไปหาก่อนจะยกนิ้วคลึงข้างขมับไปมาเมื่อเห็นว่าปล่อยให้ลูกทีมของเฮนรีย์ลุยงานเพียงลำพังแล้วมีแต่จะทำให้ทุกอย่างช้าลงกว่าเดิม

ฝ่ายนั้นยังมีท่าทีอิดออดเล็กน้อยแต่พอถูกสายตานิ่งเรียบมองกลับไปก็จำใจที่จะต้องเดินตามมาในท้ายที่สุด...สองคนนี้ถ้าเขาจำไม่ผิด คือคนที่เป็นลูกรับเฮนรีย์ในที่ประชุมตอนที่ฝ่ายนั้นพูดถึงพีทในเชิงที่ไม่ค่อยจะให้เกียรติกันสักเท่าไหร่

...นี่เห็นว่าจำเป็นที่จะต้องร่วมงานกันหรอกนะ..

“คุณฮานะคะ น้องพีทกำลังจะขึ้นไปอีกรอบแล้ว ไม่ไปเช็กหน่อยเหรอ” หนึ่งในลูกทีมหันมาป้องปากกระซิบข้างหู

“ผมเพิ่งออกมาเมื่อกี้เองนี่” เรียวคิ้วสวยเลิกขึ้นอย่างสงสัยแต่พอเห็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของเธอก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา

ก็จริงอยู่ที่ตอนนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งคู่ไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไปแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบก็ต้องมาก่อนเสมอในเวลางาน เพราะต่างฝ่ายก็ต่างมีสิ่งที่ต้องทำและไม่จำเป็นที่จะต้องตัวติดกันตลอดเวลาอีกอย่างตอนนี้มีฮานะเพียงคนเดียวที่เป็นคนจ่ายงานในแผนกคอสตูม จึงจำเป็นที่จะต้องปล่อยให้คนอื่นดูแลพีทแทนเพราะเขาไม่สามารถที่จะทิ้งทุกอย่างเพื่อไปตามดูแลคนๆ เดียวได้

“เห็นทีมงานบอกว่าเซฟของน้องพีทพังเหรอคะ” คำถามที่คนถามรู้ดีแก่ใจหลุดออกมาจากปากหนึ่งในลูกทีมของเฮนรีย์

“อย่างนี้ก็แย่น่ะสิ...ไร้ความรับผิดชอบชะมัด” อีกคนที่อยู่ข้างกันรีบเสริม

“ชักจะเริ่มห่วงแล้วสิว่าเซฟคุณอเล็กซ์จะปลอดภัยหรือเปล่า” พวกเธอสองคนหันไปมองหน้ากันอย่างวิตกกังวล

“มันเป็นอุบัติเหตุน่ะครับ...แต่ทางทีมงานเขาจัดการเรียบร้อยแล้วผมเองก็เช็กกับทางเจ้าของสถานที่แล้วด้วย ไม่ต้องห่วงนะครับ” ฮานะหันไปตอบด้วยท่าทางสุภาพไร้ซึ่งท่าทีอื่นใดออกมาให้ได้เห็น รอยยิ้มเพียงน้อยนิดแต่กลับเสริมให้ใบหน้าสวยดูมากเสน่ห์จนทำให้สองสาวเผลอมองตามไปอย่างไม่รู้ตัว และแล้วใบหน้าก็พลันเห่อร้อนขึ้นมาเสียดื้อๆ เมื่อฝ่ายนั้นยกมือขึ้นทัดเก็บผมไว้ที่หลังหูตอนที่กำลังก้มลงจัดทรงเสื้อให้นางแบบ

...ขนาดพวกเธอเป็นผู้หญิงแท้ๆ ยังแอบใจสั่นเลย..

“น้องพีทเท่ระเบิดไปเลย” เสียงซุบซิบของลูกทีมดังขึ้นอยู่ไม่ไกลทำให้คนที่กำลังจดจ่ออยู่กับงานต้องหันไปมองตาม

พีทกำลังเริ่มปีนขึ้นไปบนผาจำลองอย่างใช้สมาธิด้วยท่าทีที่คล่องแคล่วแข็งแรงก่อนจะหยุดอยู่ที่ระดับตามที่ผู้กำกับสั่ง เสียงรัวชัตเตอร์และแสงแฟลชที่สาดส่องไปยังร่างของเด็กหนุ่มทำให้เจ้าตัวดูโดดเด่นสะกดสายตาแม้จะอยู่ในชุดแฟชั่นกึ่งสปอร์ต

ฮานะลอบยิ้มกับตัวเองเพียงเล็กน้อยแต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้ผู้ช่วยสาวสวยออกปากแซวจนต้องเขม่นไปอยู่หลายที เจ้าตัวหันกลับมาเพื่อจะเย็บปลายเสื้อของนางแบบให้เข้าที่แต่กลับถูกใครบางคนเบียดตัวเข้ามาแทรกแทนจนเธอต้องเบี่ยงตัวออกไปทางอื่น

ร่างสูงใหญ่ของนายแบบลูกครึ่งอยู่ในชุดที่พร้อมเข้าเซ็ทถ่ายซีนต่อไป นัยน์ตาสีฟ้าก้มลงมองอดีตผู้จัดการของตัวเองก่อนจะยื่นแขนออกไปข้างหน้า

“ชายแขนเสื้อมันรุ่ยนิดหน่อย...ช่วยจัดการให้ที” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยสั่งอย่างวางอำนาจเหมือนเมื่อก่อน แต่ท่าทีของคนตรงหน้ากลับเฉยชาจนต้องข่มอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้

ฮานะไม่เพียงไม่มองสบตาเขา แต่กลับเบี่ยงตัวหลบและเรียกลูกทีมอีกคนมาช่วยแทน

“เจส ช่วยมาดูแขนเสื้อให้คุณอเล็กซ์ที”

“ถ้าคุณฮานะไม่ทำ ผมก็ไม่ถ่าย” เสียงยียวนดังขึ้นในตอนที่ใบหน้าหล่อเหลาเอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม นัยน์ตาคมมองต่ำไปยังผู้ช่วยของฮานะราวกับต้องการบอกว่าอย่าได้เสนอหน้าเข้ามาวุ่นวายกับตัวเขา

ฮานะมองมาด้วยแววตาที่เรียบเฉยก่อนถอนหายใจออกมาแล้วบอกปัดให้ผู้ช่วยไปดูแลส่วนอื่นแทน เจ้าตัวหยิบกล่องเข็มกับด้ายขึ้นมาร้อยลงรู ฝ่ามือขาวจัดประคองมือข้างนั้นของเขาเอาไว้อย่างนุ่มนวลทำให้ต้องเผลอจดจ้องไปที่ผิวเนื้อเนียนละเอียด...ตั้งแต่ที่คนในอ้อมกอดไม่ใช่ฮานะ ทุกๆ คืนก่อนนอนภาพของคนตรงหน้ามักจะฉายชัดขึ้นมาจนทำให้เขาไม่สามารถข่มตาหลับได้

...ความรู้สึกโหยหามันรุนแรงขึ้นเป็นเท่าทวีคูณเพียงแค่ได้มองหน้า..

โหยหามากเสียจนทำให้ถ้อยคำร้ายกาจที่ตั้งใจจะสาดใส่ฮานะนั้นกลืนหายไปเหลือเพียงแค่ความว่างเปล่า...

“คุณอเล็กซ์ครับ ถ้าแต่งตัวเสร็จแล้วเชิญไปใส่เซฟด้วยนะครับ” หนึ่งในทีมงานชายเดินเข้ามาบอกเมื่อใกล้ถึงคิวถ่ายงานของเขา อเล็กซ์พยักหน้ารับทั้งที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของสไตล์สิสต์คนสวย

...ถึงแม้จะมีพันธะคู่แห่งโชคชะตา แต่ฮานะกลับมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นได้อย่างน่าประหลาด..

“ปล่อยได้แล้ว” เสียงอีกฝ่ายเอ่ยบอกด้วยท่าทีไม่ชอบใจเมื่อเขาเผลอจับข้อมือเล็กเอาไว้แน่น อเล็กซ์ก้มลงมองตามแต่แทนที่เขาจะปล่อยกลับถือวิสาสะออกแรงดึงฮานะเข้ามาใกล้

...กลิ่นหอมประจำตัวยังคงอยู่...แต่ติดที่ว่ามันไม่สามารถปลุกเร้าเขาเหมือนที่ผ่านมาได้แล้ว เพราะเมื่อใดที่โอเมก้าถูกอัลฟ่าที่เป็นคู่แห่งโชคชะตาผูกพันธะด้วยแล้วกลิ่นของทั้งคู่จะมีผลต่อกันและกันเท่านั้น

และทั้งหมดนั่นมันก็ยิ่งตอกย้ำความจริงที่ว่าฮานะไม่ใช่ของเขา...ไม่มีวัน...

“พีท มีสมาธิหน่อย” เสียงของผู้กำกับร้องขัดขึ้นมาเมื่อคนที่อยู่บนผาจำลองนั้นหลุดโฟกัสกล้องไปบ่อยครั้ง ทำให้ฮานะต้องรีบหันกลับไปมองตาม ยิ่งได้เห็นว่าพีทเอาแต่จ้องมาทางนี้โดยไม่สนใจเสียงของผู้กำกับเขาก็ยิ่งออกแรงดิ้นให้หลุดจากการกอบกุมของอเล็กซ์

“อเล็กซ์...ปล่อย” เจ้าตัวกดเสียงต่ำพร้อมกับยื้อแขนกลับจนข้อมือขึ้นรอยแดง แล้วก็ต้องกลั้นลมหายใจเมื่อช่วงเอวถูกรวบเข้าไปใกล้ก่อนลมหายใจร้อนระอุจะเป่ารดลงบนผิวแก้ม

“…อย่าทำเหมือนกับว่ารังเกียจฉัน” เสียงทุ้มต่ำกระซิบบอก “ฮานะ…”

และโดยไม่ทันได้ตั้งตัวริมฝีปากร้อนจัดก็ประกบจูบลงมาแนบแน่น ฮานะตกใจจนตาเบิกกว้างเจ้าตัวทั้งผลักทั้งดันออกแต่กลับไร้ผล สัมผัสที่น่ารังเกียจพยายามรุกรานเข้ามาภายในโดยไม่สนเลยว่ารอบกายนั้นจะมีอีกหลายชีวิตมองมาอย่างตื่นตะลึง

แต่แล้วเสียงหวีดร้องของคนในกองถ่ายก็ดังขึ้นอย่างเสียขวัญหลังจากที่มีเสียงคล้ายกับของที่มีน้ำหนักหล่นลงมากระแทกพื้นอย่างแรง เสี้ยววินาทีที่หันกลับไปมองทำให้ฮานะชาวาบไปทั้งตัวหัวใจคล้ายกับโดนมือที่มองไม่เห็นควักออกมาจากอก

วูบโหวงรุนแรงจนแทบไม่สามารถยืนหยัดอยู่บนพื้นได้



พีท!!! ” เสียงร้องเรียกดังขึ้นในตอนที่ออกตัววิ่งเข้าไปหาคนที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น




เด็กหนุ่มยกแขนข้างหนึ่งขึ้นมาวางไว้บนอกด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยวทรมานเจ้าตัวอดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้จนเหงื่อผุดซึมขึ้นรอบกรอบหน้า เสียงทุ้มต่ำครางขึ้นในลำคอเมื่อรู้สึกทรมานมากเกินกว่าที่จะสามารถรับไหว

“เรียกรถพยาบาล...! พระเจ้า ช่วยที ใครก็ได้” ฮานะทรุดลงนั่งข้างๆ และพยายามบังคับไม่ไห้เสียงตัวเองนั้นสั่นเทา ยิ่งได้เห็นว่าอีกคนนั้นต้องทนทรมานเพราะความเจ็บมากแค่ไหนหัวใจก็คล้ายกับถูกคมมีดกรีดจนขาดวิ่น

“ไหนมึงบอกว่าเช็กคาราบิเนอร์ดีแล้วไงวะ!” เสียงของหัวหน้าฝ่ายสถานที่ตวาดลูกน้องด้วยความโกรธก่อนจะหันไปสั่งให้ทีมงานรีบประสานกับทางโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเพื่อมารับตัวคนเจ็บ

“พีท...พีท ทำใจดีๆ ไว้” ฮานะเม้มปากแน่นในตอนที่น้ำตาหยดแรกไหลลงมาอาบแก้ม

อยากจะเข้าไปกอดใจแทบขาดแต่รู้ดีว่าตอนนี้เขาไม่สามารถแตะตัวอีกฝ่ายได้แม้แต่ปลายนิ้ว

...ทรมานจนหายใจแทบไม่ออก..

“ฮา..นะ..” ใบหน้าคมเข้มบิดเบี้ยวเพื่ออดกลั้นความเจ็บร้าวที่ช่วงแขน เด็กหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะเอื้อมมือข้างที่ไม่เจ็บไปกอบกุมอีกฝ่ายไว้ “...อย่าร้องไห้”

“เธอเจ็บอยู่...พระเจ้า” ฮานะขวัญเสียมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าแขนข้างที่ถูกกระแทกนั้นวางนิ่งอยู่บนอกของพีท เจ้าตัวพยายามกลั้นก้อนสะอื้นที่กำลังปะทุขึ้นมาอย่างสุดความสามารถ

“ฮานะ...มองผม” เด็กหนุ่มยิ้มออกมาท่ามกลางความรู้สึกเจ็บปวด ยิ่งเห็นว่าฮานะตัวสั่นก็ยิ่งเจ็บไปทั้งใจ

...อย่าร้องไห้ในตอนที่ผมไม่สามารถกอดคุณเอาไว้ได้..

...อย่าทรมานกันแบบนี้เลย..

“รถมาแล้ว” หนึ่งในทีมงานเข้ามาบอกก่อนที่บุรุษพยาบาลจะวิ่งกรูกันเข้ามาพร้อมกับเตียงขนย้ายผู้ป่วย ทุกคนถูกกันให้ออกห่างจากบริเวณนั้นทำให้ฮานะต้องลุกออกมายืนอยู่รอบข้างแทน

พีทถูกย้ายตัวขึ้นไปบนเตียงเป็นที่เรียบร้อยก่อนจะถูกย้ายไปขึ้นรถโดยมีฮานะคอยตามมาไม่ห่าง

“ใครเป็นญาติผู้ป่วยครับ” หนึ่งในบุรุษพยาบาลเอ่ยถามขึ้น

“ผมครับ” ฮานะชิงตอบโดยไม่รอให้เสียเวลาไปมากกว่านี้

“เชิญเลยครับ” ฝ่ายนั้นเปิดทางให้เขาขึ้นไปนั่งบนเบาะใกล้เตียงคนเจ็บก่อนจะปิดประตูลงเพื่อเตรียมตัวมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล










พีทนอนนิ่งให้หมอและพยาบาลตรวจเช็กอาการเบื้องต้น เท่าที่สังเกตดูแล้วอาการค่อนข้างสาหัสเพราะเจ้าตัวตกลงมาจากระยะที่ค่อนข้างสูงพอสมควร เด็กหนุ่มมองใบหน้าของคนรักที่กำลังฉายแวววิตกก่อนจะเอื้อมมือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บออกไปหาทำให้ฮานะต้องรีบกอบกุมเอาไว้

ฝ่ามือเล็กเย็นเฉียบแต่กลับชื้นเหงื่อและสั่นเทา...คงขวัญเสียอยู่ไม่น้อยเลย...

“เจ็บมากไหม” ฝ่ายนั้นเอามือเขาไปแนบเข้าที่ข้างแก้ม นัยน์ตาคู่สวยวูบไหวได้อย่างน่าสงสาร

“แค่ฮานะอยู่ตรงนี้...ก็หายเจ็บแล้วครับ” รอยยิ้มบางเบาปรากฏขึ้นมา

“...ฉันขอโทษ” ฮานะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เมื่อหวนนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า ในตอนที่ถูกอเล็กซ์ล่วงเกิน แน่นอนว่าพีทต้องเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น

...ทั้งหมดนั่นมันทำให้เขาเสียใจจนแทบบ้า...

“ขอโทษนะ...” เรียวปากนุ่มกดจูบลงไปบนหลังมือในตอนที่หยดน้ำตาร่วงหล่นฮานะซบลงบนหลังมือข้างนั้นที่คอยมอบความอบอุ่นให้เขาตลอดเวลาที่ผ่านมา

“ผมรู้” เด็กหนุ่มลูบนิ้วลงบนแก้มเปียกชื้น นัยน์ตาคมเข้มที่มองมากำลังบอกว่าเขารู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของฮานะเลยแม้แต่นิดเดียว “ฮานะ ได้โปรด...อย่าร้องไห้เลยนะครับ”

พีทพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เจือความเจ็บปวด...เพราะน้ำตาของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกเจ็บเจียนตายมากกว่าอาการบาดเจ็บของตัวเองเป็นไหนๆ ...

ใบหน้าสวยพยักรับอย่างว่าง่ายพร้อมกับยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกลวกๆ ก่อนจะสูดหายใจเข้าเต็มปอด “เธอจะต้องไม่เป็นไรนะ...คนเก่ง” ฮานะกดจูบลงบนมือข้างนั้นซ้ำๆ โดยไม่ได้สนใจเลยว่าในรถมีทีมแพทย์อยู่อีกหลายชีวิต

ทันทีที่รถจอดเทียบบริเวณหน้าห้องฉุกเฉินบุรุษพยาบาลก็เข็นเตียงผู้ป่วยเข้าไปเพื่อส่งต่อให้หมอได้ประเมินอาการ ฮานะถูกกันให้รอที่บริเวณหน้าห้อง นัยน์ตาคู่สวยรื้นน้ำมองลอดผ่านช่องกระจกใสเข้าไปก่อนความรู้สึกวูบโหวงจะกัดกินหัวใจจนเจ็บปวด

แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ก็แผดเสียงแจ้งเตือนขึ้นมาทำให้เจ้าตัวต้องรีบสูดหายใจเข้าปอดและเดินออกไปรับสายที่ข้างนอกเพราะไม่อยากจะรบกวนเวลาทำงานของเจ้าหน้าที่หน้าห้องฉุกเฉิน



้(มีต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER F I F T H T E E N : 04/12/2019
«ตอบ #132 เมื่อ04-12-2019 20:18:44 »




ร่างเพรียวระหงก้าวเดินไปตามทางด้วยฝีเท้าที่มั่นคง ท่วงท่าสง่างามเรียกสายตาจากผู้คนบริเวณนั้นให้หันไปมองเป็นตาเดียว แกเรน ฮาร์ดเนอร์ ถอดสูทตัวนอกมาพาดแขนในตอนที่เดินผ่านแผนกต้อนรับของทางโรงพยาบาล เจ้าตัวเข้าไปในลิฟต์ก่อนจะกดไปยังชั้นของผู้ป่วยพิเศษตามที่ฮานะได้แจ้งเอาไว้เมื่อช่วงบ่าย หลังจากที่เขาเคลียร์งานเสร็จตอนห้าโมงเย็นก็รีบดิ่งตรงมาที่โรงพยาบาลโดยทันที

“คุณแกเรน” ทันทีที่บานประตูถูกเปิดเข้าไปคนที่นั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงก็รีบลุกขึ้นมาต้อนรับ แกเรนโบกบัดอย่างไม่ถือสาก่อนจะเดินไปยืนอยู่ที่ข้างเตียงผู้ป่วย

เด็กหนุ่มนอนหลับสนิทเพราะฤทธิ์ของยาที่หมอให้ไว้ก่อนหน้านี้ แขนด้านขวาที่ได้รับบาดเจ็บถูกดามเอาไว้อย่างเรียบร้อย ใบหน้าของพีทดูอ่อนล้าลงไปมากคงเพราะต้องอดทนกับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส

“เป็นยังไงบ้าง” แกเรนถามเสียงเบาเพราะกลัวว่าจะไปรบกวนคนที่กำลังนอนพักผ่อน

“กระดูกช่วงแขนร้าวลามไปถึงบริเวณไหปลาร้าครับ” ฮานะตอบ ตาคู่สวยดูบวมช้ำขึ้นเล็กน้อยเพราะหลังจากที่วางสายจากคุณแกเรนไปเมื่อช่วงบ่ายเขาก็ไม่สามารถที่จะห้ามน้ำตาเอาไว้ได้

“ผมขอโทษ” แกเรนเอื้อมมือไปวางไว้บนไหล่เล็ก “เป็นความผิดของผมเองที่-”

“ไม่ใช่ความผิดคุณหรอกครับ” ฝ่ายนั้นส่ายหน้าปฏิเสธ “มันเป็นอุบัติเหตุ...เรื่องนี้ไม่มีใครผิด”

“ฮานะ...เราออกไปคุยกันข้างนอกดีกว่า” แกเรนยิ้มพร้อมกับมองไปยังคนที่นอนอยู่บนเตียง “จะได้ไม่กวนเวลาพักผ่อนของเขา” อีกคนพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ทันทีที่บานประตูปิดลงแกเรนก็เป็นฝ่ายเริ่มเปิดบทสนทนาถึงข้อมูลที่เขาได้รับมาจากหัวหน้าทีมงานที่รับผิดชอบในการถ่ายแบบครั้งนี้

“คุณโอ๊ตหัวหน้าทีมงานที่นั่นแจ้งมาว่าในระหว่างที่พีทกำลังโรยตัวลงมาตัวล็อกคาราบิเนอร์มันมีปัญหาจึงทำให้เชือกมันหลุดออกจากเซฟและอีกอย่าง...ในตอนนั้นพีทเองก็ดูเสียสมาธิอยู่ไม่น้อยเลยไม่ทันได้ระวังตัว”

ฮานะรับฟังทุกอย่างด้วยแววตาที่ว่างเปล่า สองมือกำเข้าหากันแน่นจนสั่นเทา...อาการที่ห่างหายไปนานเริ่มกลับมาอีกครั้งในตอนที่รู้สึกเครียด

...เป็นเพราะเขา...ถ้าตอนนั้นปฏิเสธที่จะยุ่งเกี่ยวกับอเล็กซ์อย่างเด็ดขาด พีทก็คงไม่เสียสมาธิเพราะภาพเหล่านั้น

...เป็นความผิดของเขาเองทั้งหมด..

ทั้งที่ควรทำตัวให้อีกฝ่ายเชื่อใจแท้ๆ แต่เขากลับ...

“ฮานะ” แกเรนเรียกด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยกมือขึ้นมาปิดหน้าก่อนจะก้มลง ช่วงไหล่เล็กดูสั่นเทาแม้เจ้าตัวจะพยายามมากเท่าไหร่แต่ก็ไม่สามารถปิดบังความเสียใจเอาไว้ได้ แกเรนมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย เขาลงไปนั่งข้างอีกฝ่ายก่อนจะยกแขนขึ้นกอดฮานะเอาไว้...นั่งเงียบอยู่อย่างนั้นจนล่วงเลยผ่านไปหลายสิบนาที รอจนเสียงสะอื้นเบาบางลง

“เป็นเพราะผม...ทั้งหมดเป็นความผิดของผมเอง”

“ไม่ฮานะ...ไม่ใช่ความผิดคุณ ทุกอย่างมันเป็นอุบัติเหตุ” แกเรนขมวดคิ้วและเอ่ยดุคนที่เอาแต่โทษตัวเอง “ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น....ฮานะ”

“...ตอนที่พีทอยู่บนนั้น ผม..” ฮานะสูดลมหายใจเข้าลึกทั้งกระบอกตาและจมูกแดงก่ำได้อย่างน่าสงสาร “…ผมถูกอเล็กซ์ดึงเข้าไปจูบ”

“...” แกเรนเป็นผู้ฟังที่ดีเสมอ แม้สิ่งที่ฮานะเล่าให้ฟังจะทำให้เขาเริ่มรู้สึกหมดความอดทนก็ตาม

“ก่อนหน้านั้นอเล็กซ์มาขอให้ผมช่วยเย็บแขนเสื้อ...ตอนแรกผมปฏิเสธแต่สุดท้ายก็ยอมที่จะทำตามเพราะไม่อยากให้งานล่าช้าไปมากกว่าเดิม”

“…”

“…และทุกอย่างอยู่ในสายตาของพีทตลอด เขาเห็นทุกอย่าง...ทั้งที่เคยบอกให้เขาเชื่อใจ แต่เป็นผมเองที่โง่เง่า”

“ฮานะ”

“ถ้าผมหนักแน่นพอ...ก็คงไม่ทำให้เขาต้องคอยพะวงเพราะเป็นห่วง”

“ฮานะ...ฟังผม” แกเรนย้ำคำเดิมด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

“...” นัยน์ตาคู่สวยยังคงสับสน...ตอนนี้ฮานะคล้ายกับเด็กที่กำลังหลงทางและคิดโทษตัวเองซ้ำไปมาอยู่อย่างนั้น

“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นอุบัติเหตุ...ไม่ใช่ความผิดของคุณ ไม่ใช่เลย” แกเรนจับไหล่อีกฝ่ายเอาไว้พร้อมกับจ้องตาเพื่อยืนยันให้รู้ว่าฮานะไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้พีทได้รับบาดเจ็บ “เรื่องที่คุณถูกอเล็กซ์ล่วงเกิน...ผมรู้ดีว่าคุณไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิด และเชื่อว่าพีทเองก็รู้ว่าเรื่องทุกอย่างมันเป็นยังไง”

“…”

“เลิกโทษตัวเองและไม่จำเป็นที่จะต้องรู้สึกผิด...ถ้าคุณคิดอยากจะโทษใครสักคน ก็โทษผมได้เลย...เข้าใจใช่ไหม”

ฮานะมองมาก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ “คุณไม่ผิด”

“ถ้างั้นคุณเองก็ไม่ผิด...โธ่ ฮานะ อย่าทำหน้าแบบนี้สิ” แกเรนถอนหายใจออกมาอย่างจนปัญญาพร้อมกับยิ้มขันกับตัวเองเมื่อรู้สึกเอ็นดูคนตรงหน้าขึ้นมา...ให้ตายสิ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฮานะเริ่มมีสายตาออดอ้อนแบบนั้น

...ถ้าคนป่วยที่นอนอยู่ในห้องได้มาเห็นละก็เชื่อเลยว่าคงหายเป็นปลิดทิ้ง..

“ผมขอโทษครับ” ฮานะหลุบตามองต่ำ

“ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” แกเรนยกขาขึ้นไขว่ห้างด้วยท่าทีสบายๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปวางไว้บนศีรษะของอีกฝ่ายแล้วลูบไปมา “ไม่ร้องไห้แล้วนะ...ถ้าพีทรู้ว่าคุณร้องไห้ต้องเสียใจแน่ๆ” ไม้ตายสุดท้ายถูกหยิบออกมาใช้เพราะรู้ดีว่าคนที่กล่าวถึงมีอิทธิพลต่อฮานะมากขนาดไหน

...พูดก็พูดเถอะ แม้แต่กับอเล็กซ์เองก็ไม่เคยเห็นฮานะมีท่าทีแบบนี้เลยด้วยซ้ำไป

...คงไม่ต้องเปรียบเทียบให้เสียเวลาว่าใครที่สำคัญมากกว่ากัน..

“ขอบคุณครับคุณแกเรน” ฮานะพยักหน้ารับก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดคราบเปียกชื้นออกไปจากใบหน้า

ดูสิ ตาบวมเชียว

“มากอดที” แกเรนยิ้มกว้างอ้าแขนรอรับ โดยไม่ต้องรอให้เสียเวลาทั้งร่างก็ถูกโถมกอดเอาไว้แน่น เรียกสายตาจากนางพยาบาลและญาติผู้ป่วยที่อยู่บริเวณนั้นได้เป็นอย่างดี

“ทุกอย่างจะต้องโอเค” เขากอดตอบพร้อมโยกตัวไปมาเหมือนอย่างที่ชอบทำในตอนที่ต้องปลอบลูกชาย “กลับเข้าไปหาพีทกันเถอะ” แกเรนชวนเมื่อรู้สึกว่าพวกเขาออกมานานพอสมควรแล้ว

ฮานะเป็นฝ่ายเดินนำเข้าไป แล้วก็ได้เห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงตื่นแล้วเป็นที่เรียบร้อยและทันทีที่เห็นว่าคนรักของตนเดินเข้าไปในห้อง แววตาที่เอื่อยเฉื่อยก็พลันเปลี่ยนเป็นทอประกาย นี่ถ้ามีหูกับหางพีทก็คงไม่ต่างกับโกลเดนท์รีทีฟเวอร์ที่กำลังดีใจเพราะเห็นเจ้าของ

...อืม...แต่ก็เหมือนจริงๆ น่ะนะ เพิ่งจะเห็นด้วยกับฮานะก็วันนี้..

“ฮานะ” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกในตอนที่เอื้อมมือออกมาหา “ไปไหนมาครับ” แววตาคู่นั้นฉายแววออดอ้อนอย่างที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อนทำให้แกเรนต้องยืนกอดอกลอบยิ้มอยู่อย่างนั้น

...อ้อนเก่งเหมือนกันนะเนี่ย..

“ออกไปคุยธุระกับคุณแกเรนมาน่ะ” ฮานะยิ้มตอบพร้อมกับกอบกุมกระชับมือข้างนั้นเอาไว้ก่อนจะเบี่ยงตัวออกให้ได้เห็นว่ามีเขาที่ยืนอยู่ตรงนี้อีกคน พีทตั้งท่าจะยกมือขึ้นไหว้แต่ถูกเขายกมือห้ามเอาไว้ก่อน

“ฮานะบอกอาการคุณให้ผมรู้แล้ว” เขาเดินเข้าไปใกล้ “ผมต้องขอโทษและเสียใจกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นด้วยจริงๆ”

“ไม่เป็นไรครับคุณแกเรน” พีทยิ้มรับอย่างเข้าใจ เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นเขาไม่คิดที่จะโทษใครเพราะเข้าใจว่ามันเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิด

“ถึงจะว่าอย่างนั้นก็เถอะ ยังไงผมก็ต้องรับผิดชอบในส่วนที่ผมควรจะทำ” แกเรนย้ำ “ไม่ต้องห่วง ผมจะจัดการเรื่องทั้งหมดให้เอง ในระหว่างนี้คุณก็พักรักษาตัวจนกว่าอาการจะหายดีก็แล้วกัน...ส่วนเรื่องงาน ผมจะให้เกรซกลับมาดูแลคิวงานทุกอย่างให้เองทั้งหมด ฮานะจะได้มีเวลาอยู่กับคุณมากขึ้น”

“หมายความว่ายังไงครับ” ฮานะถามขึ้นอย่างสงสัย…ไม่ใช่ว่าคุณเกรซต้องดูแลอเล็กซ์หรอกหรือ

“ก็ตามที่ผมพูดไป...แค่ฮานะทำในส่วนของแผนกคอสตูมก็หัวหมุนมากแล้ว ให้เกรซเข้ามาดูแลช่วยในช่วงนี้จะได้แบ่งเบาภาระลงไปได้บ้าง”

“อันที่จริง...ดูแลพีทมันก็ไม่ใช่เรื่องลำบากสำหรับผมอยู่แล้ว” ฮานะยืนยันพร้อมกระชับมือข้างที่จับกันเอาไว้ให้แน่นขึ้น

“เอาน่า อย่างน้อยๆ การที่มีคุณคอยอยู่ใกล้ๆ พีทอาจจะหายเร็วขึ้นก็ได้นะ” รอยยิ้มล้อเลียนถูกจุดขึ้นเมื่อต้องการแซว “อีกอย่างคนป่วยน่ะต้องการกำลังใจเยอะ...จริงไหมพีท”

เด็กหนุ่มยิ้มรับก่อนจะอาศัยช่วงที่ฮานะเผลอยกมืออีกฝ่ายขึ้นมาจรดจูบเล่นเอาเจ้าตัวเบิกตากว้างด้วยความตกใจเพราะไม่ได้อยู่กันเพียงแค่สองต่อสอง

“ถ้าอย่างนั้น...ผมไม่กวนแล้วดีกว่า” แกเรนกลั้นยิ้มอย่างสุดความสามารถเพราะไม่อยากให้คนปากแข็งรู้สึกเขินอายไปมากกว่าเดิม...เพราะเท่านี้ใบหน้าของฮานะก็แดงลามไปถึงใบหูเป็นที่เรียบร้อย

...เห็นทีครั้งนี้ต้องยกความดีความชอบให้พีทซะแล้ว..

“ให้ผมไปส่งนะครับ” ฮานะเสนอตัวแต่กลับถูกเขายกมือขึ้นปฏิเสธ

“ไม่เป็นไร คนของใหญ่รอผมอยู่ชั้นล่าง ฮานะอยู่กับพีทเถอะ” แกเรนทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้นก่อนจะขอตัวกลับเพื่อให้อีกฝ่ายได้พักผ่อนและมีเวลาส่วนตัวร่วมกัน “เอาไว้พรุ่งนี้ผมจะเยี่ยมใหม่...เดี๋ยวพาเจ้าพวกตัวเล็กมาป่วนด้วยสร้างความรำคาญให้พีทซะหน่อย”

ทันทีที่บานประตูปิดลงฮานะก็ก้มลงไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียง ซึ่งพีทเองก็มองมาทางเขาอยู่ก่อนแล้ว แววตาคู่นั้นฉายแววกังวลออกมาอย่างชัดเจน

“มีอะไร”

“ฮานะร้องไห้” เด็กหนุ่มเอื้อมมือขึ้นไปวางบนแก้มพร้อมกับไล้ปลายนิ้วผ่านความบอบช้ำอย่างอ่อนโยน เรียกรอยยิ้มของคนที่ยืนอยู่ให้ปรากฏขึ้น ฮานะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงก่อนจะกุมมือข้างนั้นเอาไว้แล้วเอียงหน้าซบอย่างออดอ้อน

“ไม่ได้ร้องสักหน่อย” เขาโกหกคำโต...ทั้งที่หลักฐานก็เห็นๆ กันอยู่ ตาบวมฉึ่งขนาดนี้

“แขนเดี้ยงแบบนี้ ผมคงทำอะไรให้ฮานะทานไม่ได้อีกนานแน่เลย” เด็กหนุ่มพูดติดตลกทำให้ถูกบีบเข้าที่แก้มจนหน้ายู่

“ใช่เรื่องที่ต้องมาห่วงไหมเนี่ย” เชื่อเขาเลย

“ทุกอย่างที่เกี่ยวกับฮานะ...ไม่มีเรื่องไหนที่ผมไม่ห่วง” นัยน์ตาคู่นั้นฉายแววมั่นคงจนทำให้ผู้ฟังหน้าร้อนขึ้นมาอีกรอบ

“ไม่ต้องมาปากหวานเลย” ฮานะจิ้มเข้าไปที่แก้มแรงๆ จนเจ้าเด็กตัวโตร้องโอดโอยออกมา...เจ็บเกินจริงไปมากไม่ได้จิ้มแรงขนาดนั้นซะหน่อย

“ก็หวานแค่กับฮานะคนเดียว” รอยยิ้มที่ดูเพิ่มระดับความร้ายกาจทำให้ต้องหรี่ตามองอย่างนึกมันเขี้ยว

“จริงเหรอ” ฮานะยิ้มเล็กน้อยก่อนจะก้มลงไปกดจูบที่ริมฝีปากอีกฝ่ายด้วยความรวดเร็ว นัยน์ตาคู่สวยทอประกายท้าทายในตอนที่ยกนิ้วขึ้นเกลี่ยตรงมุมปาก “...ไม่เห็นจะหวานเลย โกหกนี่”

พีทนิ่งค้างไปสักพักก่อนใบหูจะขึ้นสีแดงเข้ม...เขินอีกแล้ว~

ฮานะกลั้นขำเมื่อเห็นว่าเรียวคิ้วได้รูปขมวดเข้าหากันเพราะคงยังตั้งตัวไม่ทันที่ถูกขโมยจุ๊บ แต่ไม่ทันไรทั้งร่างก็ถูกเรี่ยวแรงที่มีมากกว่าดึงเข้าไปใกล้ ชั่ววินาทีริมฝีปากก็โดนอีกฝ่ายประกบจูบเอาไว้แนบแน่น มือใหญ่ข้างหนึ่งโอบประคองเข้าหลังท้ายทอยในตอนที่ลิ้นสอดแทรกเข้าไปเก็บเกี่ยวภายในโพรงปากอุ่น

กลิ่นหอมของรสมิ้นต์เจือจางทำให้สมองพร่าเบลอ

แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะดำดิ่งลงลึกความเจ็บแปลบก็แล่นเข้ามาโจมตีบริเวณแขนทำให้เด็กหนุ่มต้องผละออกก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอย่างหมดสภาพ

“พีท” ฮานะเรียกอย่างเป็นห่วง แต่พอเห็นว่าเจ้าตัวกำลังตีสีหน้ายุ่งก็ต้องระบายยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกเอ็นดู “เจ็บมากไหม” เด็กหนุ่มไม่ตอบแต่กลับทำเพียงแค่คว้ามือเขาไปจับเอาไว้แน่น...พีทคงรู้สึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อยที่ไม่สามารถทำอะไรตามใจตัวเองได้

ก็น่าเห็นใจอยู่หรอกนะ...แต่รู้สึกเอ็นดูชะมัดเลย

“นี่” ฮานะเรียก “อย่างอแงสิ เดี๋ยวก็หายแล้ว” เขามองใบหน้าที่ดูจะหงุดหงิดด้วยความเห็นใจก่อนจะยกมือขึ้นลูบไปบนศีรษะของอีกฝ่ายและนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านั้นคุณแม่ของพีทโทรมาหาแต่เขายังไม่ได้แจ้งอาการบาดเจ็บของพีทให้ท่านได้ทราบ “ตอนที่เธอหลับอยู่คุณแม่โทรมาหา ฉันยังไม่ได้บอกท่านว่าเธอได้รับอุบัติเหตุ...เพราะอยากให้เธอบอกท่านเองมากกว่า”

พีทหยักหน้ารับอย่างเข้าใจ “ไม่เป็นไรครับ...ผมไม่อยากให้แม่เป็นห่วง” เพราะไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่คิดที่จะบอกตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

“แต่...”

“ถ้าแม่รู้ก็คงจะเดินทางมาหาผมทันที...อีกอย่างยายก็ยังไม่ออกจากโรงพยาบาล ผมไม่อยากให้แม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง” เด็กหนุ่มกระชับมือที่กอบกุมกันเอาไว้แน่น

“อืม...ฉันเข้าใจแล้ว” ฮานะยิ้มรับ เขาเข้าใจความรู้สึกของพีทดีว่าการที่ทำให้คนในครอบครัวต้องเป็นห่วงนั้นมันเป็นเรื่องน่าหนักใจแค่ไหน ยิ่งไม่ได้อยู่ใกล้กันด้วยแล้วทุกอย่างก็ยิ่งแย่ “นอนพักเถอะ” ผ้าห่มถูกดึงขึ้นมาคลุมถึงช่วงอกเมื่อเห็นว่าถึงเวลาที่พีทจะต้องพักผ่อน

“ฮานะ” เด็กหนุ่มเอ่ยเรียกในตอนที่เขาก้มลงไปหา

“ว่าไง”

“ขอบคุณนะครับ”

“อืม” รอยยิ้มอบอุ่นปรากฏขึ้นหลังจากที่สัมผัสนุ่มหยุ่นกดจูบลงไปบนหน้าผาก “นอนซะ...เด็กดี”





_______________________________


อเล็กซ์ไม่น่าจะใช่บัวใต้โคลนแล้วค่ะ นังนี่มันบัวใต้ชั้นคอนกรีตถมทับด้วยชั้นหินอีกที
กู่ไม่กลับแล้ว!!! ฉันจะฉาปแก!!!

เหลืออีกเพียงแค่ 4 ตอนเท่านั้นก็จะจบแล้วค่ะ > <
ฝากเม้นต์และส่งกำลังใจให้น้องพีทได้ทาง #ดอกไม้ของพีท ด้วยนะคะ <3


**เพิ่มเติม**






นี่คือหน้าตาของตัวคาราบิเนอร์หนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญในการปีนผาจำลองค่ะ
ซึ่งโดยปกติในความจริงแล้วเปอร์เซ็นต์ที่จะสามารถเกิดอุบัติเหตุได้นั้นมีน้อยมากเพราะทางเจ้าหน้าที่จะทำการรีเช็กอุปกรณ์ก่อนขึ้นทุกครั้ง ฉะนั้นจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพลาด ยกเว้นก็แต่เป็นอุบัติเหตุที่สุดวิสัยจริงๆค่ะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER F I F T H T E E N : 04/12/2019
«ตอบ #133 เมื่อ04-12-2019 21:27:53 »

อย่าปล่อยให้อเล็กซ์ลอยนวล   :m16: :m16: :m16:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER F I F T H T E E N : 04/12/2019
«ตอบ #134 เมื่อ04-12-2019 23:23:52 »

 :m16: :m16: ทำพีทเจ็บได้ไง

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER F I F T H T E E N : 04/12/2019
«ตอบ #135 เมื่อ05-12-2019 01:09:16 »

ต้องได้รับอะไรบ้างแล้วล่ะอเล็กซ์น่ะ เกินเยียวยา  :ling2:

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER S E V E N T E E N : 10/12/2019
«ตอบ #136 เมื่อ10-12-2019 21:10:27 »

CHAPTER S E V E N T E E N


_________________________________








“คงต้องนอนดูอาการอีกสักสองสามวันถึงจะกลับบ้านได้ หลังจากนั้นสองอาทิตย์รอให้อาการบวมลดลง ผมจะนัดมาเข้าเฝือกอีกที” แพทย์หนุ่มเจ้าของไข้ยืนชี้แจงอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยหลังจากที่เข้ามาตรวจเช็กอาการในช่วงเช้า

“แล้วต้องใส่เฝือกนานไหมครับ” ฮานะเอ่ยถามขึ้น

“ราวๆ สี่สัปดาห์ครับ รวมกายภาพหลังถอดเฝือกด้วยแล้วก็คงใช้เวลาประมาณสองเดือนกว่า” ฝ่ายนั้นชี้แจ้งด้วยท่าทีสุภาพ “แต่เท่าที่ดูจากพื้นฐานทางร่างกายของคุณพีรัทนั้นแข็งแรงกว่าคนทั่วไปมาก คงจะใช้เวลาฟื้นตัวได้เร็วกว่า” จากประสบการณ์ที่ผ่านมาการที่ตกลงมาจากระยะที่สูงขนาดนั้นเป็นคนอื่นคงกระดูกหักหรือไม่ก็บิดไปแล้ว ต้องผ่าตัดอย่างเดียวเท่านั้น

“ขอบคุณมากครับคุณหมอ” ฮานะเป็นฝ่ายเดินมาส่งที่หน้าห้องพักก่อนจะกลับไปหาคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง พีทเพิ่งจะทานมื้อเช้าเสร็จเจ้าตัวอิดออดนิดหน่อยเพราะอาหารของทางโรงพยาบาลนั้นค่อนข้างจืดชืดทำให้ฮานะต้องบังคับแล้วบังคับอีกถึงจะยอมกินจนหมด

“ดีขึ้นไหม” เมื่อเห็นว่าเจ้าเด็กตัวโตตบลงบนเตียงผู้ป่วยพร้อมขยับตัวเปิดพื้นที่ให้ฮานะจึงปีนขึ้นไปนั่งด้วยกัน

...ยอมตามใจเขาหน่อยก็แล้วกัน..

“ยังปวดอยู่เลยครับ” พีทอ้อนทั้งสีหน้าและแววตาก่อนจะใช้แขนข้างซ้ายโอบเข้าที่รอบเอวเล็กแล้วออกแรงดึงจนฮานะเซล้มลงมานอนข้างกัน

“พีท!” ฮานะดุขึ้นเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้รับบาดเจ็บ แต่นอกจากเจ้าตัวจะไม่รู้สึกรู้สาแล้วยังเอาแต่ยิ้มหน้าระรื่น

“อยากกอดฮานะจะแย่แล้ว” เสียงทุ้มพึมพำในตอนที่ถูกรวบตัวเข้าไปกอดเอาไว้ แผ่นหลังสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากแผ่นอกร้อนระอุ

“ก็กอดอยู่นี่ไง” ฮานะบ่นอุบ พยายามยื้อตัวหลบลมหายใจอุ่นร้อนที่ริดรนลงบนผิวแก้ม

กลิ่นของพีททำให้เขาอยากจะเข้าไปซุกกอดแน่นแต่ทำได้เพียงแค่อดทนเอาไว้

“ไม่ใช่กอดแบบนี้” เสียงทุ้มพร่าพูดขึ้นก่อนจะกดจูบลงบนรอยกัดที่ตัวเองเป็นคนสร้าง

“พีท...นี่ อย่าซน” ฮานะตะครุบมือที่กำลังสอดเข้ามาในเสื้อเอาไว้ได้ทันก่อนจะหยิกลงไปบนหลังมือจนเจ้าตัวร้องโอดโอย “มือไวเกินไปแล้วนะ!” รีบลุกออกห่างมาจากเตียงผู้ป่วยทันทีเพราะกลัวว่าจะมีนางพยาบาลเดินเข้ามาเห็นภาพที่ไม่เหมาะสมเข้า เขาทั้งมองเขม่นทั้งมองค้อนไปให้แต่อีกฝ่ายกลับทำเพียงแค่กลั้นหัวเราะเอาไว้ในลำคอ

แต่แล้วเสียงเปิดบานประตูก็เรียกความสนใจของคนทั้งคู่ให้หันไปหาก่อนที่คนมาเยือนจะทำให้ฮานะต้องมองค้างเพียงครู่ คุณเกรซส่งยิ้มทักทายมาให้อย่างเป็นมิตรแต่คนที่เดินตามหลังมาต่างหากที่ทำให้เขาต้องหนักใจ

…อเล็กซ์...มาทำอะไรที่นี่...

“ฮานะ” พีทเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่แปลกไป...มันนิ่งสงบแต่ทว่าเย็นเฉียบ

โดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายเรียกซ้ำฮานะก็เดินถอยกลับไปยืนข้างเตียงผู้ป่วยอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือไปกอบกุมกับอีกฝ่ายไว้ พีทจับมือเขาแน่นคงเพราะกำลังระงับอารมณ์เดือดดาลที่ปะทุขึ้นมาอย่างสุดความสามาถ

ทางเกรซเองเห็นท่าไม่ดีจึงหันไปบอกให้คนในความดูแลไปนั่งรอที่โซฟา ก่อนจะเดินเอากระเช้าของเยี่ยมไปวางไว้บนเคาน์เตอร์

เมื่อเช้าคุณแกเรนฝากของเยี่ยมไข้มาพร้อมกับเธอเพราะเจ้าตัวติดประชุมกับบอร์ดบริหาร ตอนแรกก็กะจะมาเพียงคนเดียวแต่ทันทีที่อเล็กซ์รู้ว่าเธอจะมาเยี่ยมพีทเจ้าตัวก็ขอตามติดมาด้วย แม้จะยังรู้สึกไม่ไว้วางใจแต่ในเมื่ออีกฝ่ายยืนยันว่าจะมาเธอจึงไม่อยากจะขัดมากนัก

…เอาไว้รอขอโทษคุณฮานะทีหลังก็แล้วกัน...

“ขอโทษที่มากะทันหันแบบนี้นะคะ พอดีเกรซมาทำธุระแล้วนี้พอดีเลยถือโอกาสมาเยี่ยมด้วยเลย” เบต้าสาวยิ้มกว้างเพื่อทำลายบรรยากาศตึงเครียดระหว่างคนทั้งสามซึ่งก็มีคุณฮานะอีกคนที่พยายามทำตัวให้เป็นปกติ

...แม้ว่าอีกสองคนที่เหลือไม่ค่อยจะสบอารมณ์ก็ตาม..

“ไม่เป็นไรครับ แค่คุณเกรซมาก็ขอบคุณมากแล้ว” ฮานะยิ้มตอบโดยที่ไม่หันไปมองคนที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา...ทำเหมือนกับว่าเขาไม่มีตัวตนในสายตา

“แล้วก็...นี่เป็นของเยี่ยมของคุณแกเรนค่ะ บอสติดประชุมช่วงเช้าเลยไม่สามารถมาเยี่ยมได้ แต่แจ้งมาว่าช่วงเย็นจะเข้ามาหาอีกที”

“ขอบคุณมากครับ”

“แล้วคุณพีทจะกลับบ้านได้เมื่อไหร่คะเนี่ย” เธอชวนคุยเพื่อไม่ให้บรรยากาศมันเงียบไปมากกว่านี้ ใจจริงอยากจะเชิญคุณแอนเดอร์สันออกไปรอข้างนอกเสียด้วยซ้ำแต่นั่นก็ดูจะเสียมารยาทเกินไปหน่อย

“หมอบอกต้องนอนดูอาการสักสองสามวันน่ะครับแล้วค่อยนัดมาใส่เฝือกอีกที” ฮานะยิ้มพร้อมกับก้มลงมองคนป่วย ฝ่ายนั้นคิ้วขมวดปมยุ่งเหยิงแต่พอเห็นว่าเขาส่ายหน้าเตือนเป็นเชิงบอกว่าอย่าไปใส่ใจพีทก็ดูจะผ่อนคลายลงไปมาก

“ถ้ามีอะไรที่เกรซพอช่วยได้ก็บอกมาเลยนะคะไม่ต้องเกรงใจ” เลขาคนสวยย้ำ ก่อนจะลดเสียงลงในช่วงท้ายให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน “บอสคงบอกคุณฮานะแล้วใช่ไหมคะ” เมื่อเห็นฮานะพยักหน้ารับอย่างรู้ความหมายเธอก็คลายยิ้มออกมาบางเบาก่อนจะถอยตัวออกไปยืนข้างอเล็กซ์

“เกรซไม่กวนแล้วดีกว่า พอดีต้องพาคุณแอนเดอร์สันไปงานอีเว้นท์ด้วย ขอลากลับเลยก็แล้วกันนะคะ” เบต้าสาวขอตัวกลับพร้อมกับแตะเข้าที่ศอกนายแบบหนุ่มเป็นเชิงบอกให้ลุกเดิน แต่นอกจากฝ่ายนั้นจะไม่ยอมทำตามแล้วยังจดจ้องไปทางเตียงผู้ป่วยจนเริ่มเสียมารยาท “คุณแอนเดอร์สันคะ ไปกันได้แล้ว”

“หึ” ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาเมื่อเห็นว่าสองคนนั้นจับมือกันไม่ปล่อย...ฮานะไม่แม้แต่จะแสดงให้เห็นว่าเขามีตัวตนอยู่ตรงนี้เลยเสียด้วยซ้ำไป

“คุณเกรซลืมของน่ะครับ” ก่อนที่บานประตูจะปิดลงเสียงร้องทักก็ทำให้ผู้มาเยือนทั้งคู่หยุดชะงัก เป็นฮานะที่เดินเอาแว่นกันแดดมาคืนให้เธอเองกับมือ

“ตายจริง ไปถอดทิ้งไว้ตอนไหนเนี่ย” หญิงสาวบ่นให้ความสะเพร่าของตัวเอง “ขอบคุณนะคะคุณฮานะ ไว้เดี๋ยวเกรซจะแวะมาเยี่ยมอีกแน่นอน”

“ขอบคุณครับ” เขายิ้มรับ แต่พอจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องก็ถูกช่วงตัวสูงใหญ่ของใครอีกคนมายืนขวางเขาไว้ก่อน

กลิ่นบุหรี่และน้ำหอมที่คุ้นเคยทำให้ต้องเบือนหน้าหลบหนี...พักหลังมานี้เวลาที่เจอกันอีกฝ่ายมีท่าทีที่แปลกไปอย่างชัดเจน อเล็กซ์ไม่ได้พูดจาไม่ให้เกียรติกันเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว

แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้เขาต้องเปิดใจเพื่อพูดคุยด้วย...

“…มาทำไม” ฮานะเค้นถามเสียงต่ำโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองคู่สนทนา

“มาแสดงความยินดีกับรักครั้งใหม่” ฝ่ายนั้นตอบกลับด้วยท่าทีไม่เร่งรีบ หมากฝรั่งรสมิ้นต์ถูกหยิบขึ้นมาเคี้ยวเป็นจังหวะเชื่องช้า “...เหมาะสมกันดีนะ” เพราะดวงตาคมเข้มคู่นั้นถูกปิดบังไว้ด้วยแว่นกันแดดจึงทำให้มองไม่เห็นว่าคนพูดกำลังรู้สึกอะไรอยู่ แต่เท่าที่ฟังจากน้ำเสียงแล้วคงไม่ได้รู้สึกยินดีเหมือนอย่างที่พูด

ฮานะเมินเฉยพยายามไม่สนใจ ในตอนที่กำลังจะผลักบานประตู้เข้าไปเสียงทุ้มที่ก้มลงกระซิบข้างหูก็ทำให้ทั้งตัวเกร็งสะท้านขึ้นมาจนต้องเผลอกำหมัดแน่น

“แล้วพบกันใหม่...ที่รัก”













“ฮานะ” ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป เสียงเรียกจากคนที่ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงก็ทำให้ต้องรีบเดินเข้าไปหา

“เธอลุกมาทำไม” ฮานะถามอย่างเป็นห่วง ในขณะที่ช่วงตัวถูกคว้าไปกอดแน่น กลิ่นกายที่คุ้นเคยทำให้จิตใจว้าวุ่นสงบลงในทันที

“ผมเห็นคุณออกไปนาน เลยจะลุกไปตาม” เด็กหนุ่มพูดเสียงเครียดด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น แต่เมื่อได้กลิ่นบางอย่างที่ติดอยู่บนตัวฮานะนัยน์ตาคมเข้มก็ทอประกายชุกโชนขึ้นทันที หมัดข้างซ้ายกำเข้าหากันแน่นจนสั่นเทิ้มสันกรามถูกขบเข้าหากันเพื่อระงับอารมณ์เดือดดาลที่กำลังปะทุขึ้น “ฮานะ...”

“พีท” ฮานะเรียกเสียงแผ่ว พร้อมประคองใบหน้าของคนรักเอาไว้มั่น

“...กลิ่นมัน” เด็กหนุ่มกดเสียงต่ำ ทั้งพยายามเบือนหน้าหลบหนี “ผมไม่ชอบ”

เพียงเสี้ยววินาทีคำพูดกลับกลืนหายไปเมื่อริมฝีปากของคนตรงหน้าประกบจูบลงมาแนบแน่นฮานะบดจูบโดยไม่เว้นจังหวะการพักหายใจ ทั้งเรียวลิ้นและกลีบปากถูกดูดดุนซ้ำไปมาความอุ่นร้อนแผ่ซ่านกระจายอยู่ทั่วโพรงปากจนต้องตอบสนองกลับไป ฝ่ามือใหญ่โอบประคองลงบนช่วงเอวได้รูปก่อนจะบีบเคล้นจนได้ยินเสียงเครือครางอยู่ในลำคอขาว

ฮานะถอนจูบออกเพื่อกอบโกยอากาศหายใจแต่กลับถูกดึงกลับเข้าไปจูบอีกหน รู้ตัวอีกทีช่วงตัวก็ถูกยกขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักอีกฝ่าย ใบหน้าคมเข้มถอยห่างก่อนจะเคลื่อนลงไปที่ข้างซอกคอขาวปลายจมูกโด่งกดย้ำบนผิวเนื้อเพื่อสูดกลิ่นคู่ของตน เรียวลิ้นเลยผ่านร่องรอยขบกัดจนทำให้คนในอ้อมกอดสะท้านไหว

“พ....พีท” ฮานะตัวสั่นเมื่อแผ่นท้องในเชิ้ตตัวใหญ่ถูกลูบไปมา

“ครับ” เขาขานรับในตอนที่เอียงหน้าเข้าไปกัดย้ำลงบนลำคอขาว

“ที่นี่...ไม่ได้” เอ่ยห้ามได้อย่างไม่เต็มเสียงนักเพราะกลัวว่าจะมีพยาบาลเปิดเข้ามาเจอ

เสียงทุ้มคำรามต่ำในลำคอก่อนมือจะเลื่อนขึ้นมาปลดกระดุมเชิ้ตของฮานะออก ฝ่ายนั้นสะดุ้งเล็กน้อยตอนที่คอเสื้อเปิดกว้างจนร่นตกลงไปกองที่ข้อศอก

“อื้อ” ฮานะกัดริมฝีปากเอาไว้แน่นเมื่อถูกก้มลงจูบบนลาดไหล่และไล่ต่ำมาที่แผ่นอก

ผิวเนื้อขาวจัดเนียนละเอียดสะท้อนกับแสงแดดที่ส่องลอดผ้าม่านโปร่งแสงเข้ามา ในตอนที่ริมฝีปากลากผ่านก็ปรากฏรอยแดงเจือจางบนผิวเนื้อ ฮานะประคองหน้าเขาขึ้นไปจูบอีกครั้ง สองแขนยกขึ้นโอบรอบลำคอแน่น กลิ่นฟีโรโมนที่แผ่ออกมาช่วยหล่อหลอมให้สมองพร่าเบลอ

“ฮื่อ โป๊” เสียงบ่นอย่างไม่จริงจังดังขึ้นในตอนที่เสื้อเชิ้ตของเจ้าตัวถูกเขาถอดโยนทิ้งลงถังขยะอย่างไม่นึกไยดี

เด็กหนุ่มรวบกอดร่างที่เปลือยท่อนบนเข้ามาไว้ในอ้อมกอด กลิ่นไม่พึงประสงค์ของอัลฟ่าตัวนั้นถูกกำจัดออกไปแล้วเหลือเพียงแค่กลิ่นของฮานะเท่านั้น

“…หอม” เขาพูดย้ำพร้อมกับกดจูบลงไปทั่วผิวเนื้อขาวเนียน ในตอนทีฮานะยกมือขึ้นมาปิดตัวก็ถูกรวบมือเอาไว้

“พีท...พอแล้ว” คนในอ้อมกอดเริ่มขัดขืน ยิ่งถูกเขาจูบฮานะก็เหมือนจะละลายอยู่ในอ้อมกอด “ถ้าไม่หยุดจะโกรธจริงๆ แล้วนะ” เสียงข่มขู่ที่ฟังยังไงก็ไม่น่ากลัวดังขึ้น ใบหน้าสวยแดงจัด ฮานะเม้มปากแน่นเมื่อรู้สึกอายเพราะถูกจ้อง

แต่เพียงเท่านั้นก็ทำให้พีทหยุดชะงักราวกับมีปุ่มกดหยุด เจ้าเด็กตัวโตถอนหายใจออกมายาวเหยียดก่อนจะคล้ายอ้อมกอดออก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ยอมปล่อยเขาให้เป็นอิสระ

“หนาว” ฮานะยู่หน้าประท้วงเมื่อถูกจับลอกคราบจนท่อนบนเปลือยล่อนจ้อน...เจ้าเด็กขี้หวงเล่นโยนเชิ้ตเขาทิ้งซะขนาดนั้น

“ใส่เสื้อผม” พีทชี้ไปที่ตู้เสื้อผ้า แจ็กเก็ตยีนที่เขาสวมมาก่อนเข้ากองถ่ายเมื่อวานถูกแขวนเอาไว้ในนั้น “ส่วนเสื้อตัวนั้น...ทิ้งไปได้เลย” นัยน์ตาคมเข้มฉายแววดุจนฮานะต้องยอมทำตามโดยไม่คิดที่จะแย้ง

แจ็กเก็ตยีนตัวใหญ่ถูกสวมใส่เอาไว้ขนาดไซส์ที่ต่างกันทำให้ความยาวของมันปิดคลุมลงมาถึงช่วงหน้าขา ปลายแขนเสื้อยาวเลยปลายนิ้วจนฮานะต้องพับขึ้นมาไว้ที่ข้อศอก

“ตัวใหญ่ชะมัด” เจ้าตัวบ่นอย่างไม่จริงจังมากนัก แต่สายตาของเจ้าของเสื้อที่มองมากลับทำให้รู้สึกร้อนแก้มแปลกๆ ...ทำไมจะไม่รู้ว่าพีทชอบเวลาที่เขาสวมใส่เสื้อผ้าของตัวเอง

“ฮานะ” เสียงทุ้มเอ่ยเรียก

“ว่าไง”

เด็กหนุ่มไม่ตอบ ทำเพียงแค่กวักมือเรียกให้ขยับเข้าไปใกล้ แต่คนรู้ทันกลับส่ายหน้าปฏิเสธ...เข้าไปหามีหวังคงถูกจับฟัดอีกรอบแน่นอน

รู้ทันหรอกน่า!





(มีต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER S E V E N T E E N : 10/12/2019
«ตอบ #137 เมื่อ10-12-2019 21:13:04 »





“บิบี้ อองดี้ อย่าซนสิลูก” เสียงห้ามปรามดังขึ้นในตอนที่สองแฝดวิ่งไล่จับกันบริเวณโถงทางเดิน

แกเรน ฮาร์ดเนอร์ยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากเป็นเชิงเตือนว่าให้เงียบเสียง ก่อนจะถูกเจ้าพวกตัวแสบวิ่งเข้ามาเกาะแข้งขาอย่างออดอ้อน

“มามาฮะ อุ้ม” บิเบียนชูมือขึ้นหา นัยน์ตาสีชมพูเหมือนคนแม่ทอประกายน่าเอ็นดู

“อีกนิดก็ถึงแล้วครับ” แกเรนลูบลงไปบนเรือนผมสีอ่อนก่อนจะจับมือลูกน้อยทั้งสองไว้คนละข้าง “ไปหาน้าฮานะกัน”

“ฮานะไม่ฉะบายเหรอฮะ” อองเดรเอียงคอถามอย่างสงสัย เพราะนอกจากมามาแล้วอองดี้ชอบน้าฮานะที่สุด...น้าฮานะใจดีแล้วก็ตัวหอมมาก แถมยังสวยสุดๆ ไปเลยด้วย

“ไม่ใช่ครับ” แกเรนยิ้ม “แฟนของน้าฮานะป่วย”

“แฟนคืออะไรอ่า” อัลฟ่าตัวน้อยขมวดคิ้วมุ่น

“ทำไมเปื่อยฮะ” บิเบียนรีบเสริมทัพ

“ป่วยครับไม่ใช่เปื่อยนะ” แกเรนหลุดขำ จิ้มนิ้วลงบนแก้มสองแฝดอย่างนึกมันเขี้ยว “อืม...แฟนของฮานะ ก็เป็นเหมือนปาปาไง”

“เป็นฝาชี! เหมือนที่ปาปาเป็นฝาชีของมามาใช่ไหมฮะ” บิเบียนจับมือเขย่าอย่างตื่นเต้นที่น้าฮานะมีฝาชี

“Husband สามี ไม่ใช่ฝาชีครับ” แกเรนนวดไปที่ข้างขมับเจ้าตัวน้อย...สงสัยกลับไปคงต้องปรับจูนกันใหม่สักหน่อย พักหลังมาเขาเริ่มสอดแทรกภาษาอังกฤษให้อองเดรกับบิเบียนในชีวิตประจำวันเมื่อทั้งคู่เริ่มโตขึ้น

ทันทีที่ผลักบานประตูเข้าไปเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเจ้าหนูจำไมทั้งสองก็เงียบลง แกเรนส่งยิ้มทักทายไปให้คู่รักที่เพิ่งผละห่างออกจากกัน ฮานะดูลนลานอยู่เล็กน้อยในตอนที่กระชับเสื้อแจ็คเก็ตตัวใหญ่เข้าหากัน

...นี่เขามาขัดจังหวะหรือเปล่านะ

“คุณแกเรน” ฝ่ายนั้นยิ้มทักทายด้วยท่าทีปกติแต่ก็ไม่สามารถซ่อนใบหน้าที่แดงจัดเอาไว้ให้

“ฮานะ!” คนที่วิ่งตุบๆ เข้าไปหาคนแรกคือเจ้าอัลฟ่าตัวน้อย อองเดรรวบกอดเข้าที่ขาจนฮานะตัวเซก่อนจะย่อตัวลงมากอดพ่อหนุ่มนักรักเอาไว้ด้วยความคิดถึง

“ไง~อองดี้” แก้วกลมยุ้ยถูกฟัดจนได้ยินเสียงเอิ๊กอ๊ากชอบใจจากเจ้าตัวแสบ “คิดถึงจังเลยครับ”

“อองดี้คิดถึงเยอะกว่าฮะ!” อองเดรโถมตัวกอดคนตรงหน้าเอาไว้แน่น พร้อมกับอ้อนให้อุ้มขึ้นสูงๆ ฮานะหลุดขำแต่ก็ยอมทำตาม

“สูงได้แค่นี้นะครับ น้าตัวเตี้ย” ใบหน้าสวยยิ้มกว้างแล้วก็ต้องตาโตเมื่อถูกริมฝีปากจิ้มลิ้มพุ่งเข้าจุ๊บจนเกิดเสียง “ขี้โกงนี่นา มาให้จุ๊บคืนซะดีๆ” ฮานะไล่จุ๊บและหอมแก้มหลานชายตัวน้อยจนหอบแฮกกันทั้งคู่ก่อนจะก้มมองช่วงขาที่โดนเจ้าตัวป้อมอีกคนเดินเข้ามาเกาะ “บิบี้~”

“ทักทายฮะ” โอเมก้าน้อยขี้อายอ้อนขอจุ๊บบ้าง พอได้สมดังใจก็วิ่งกลับไปหลบที่หลังมามา

“คนนี้เหรอฮะ ที่เหมือนปาปา” อองเดรเอ่ยถามอย่างสงสัย อัลฟ่าตัวน้อยจ้องคนที่ลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้วยแววตาที่หวาดหวั่น

น่ากลัว...เขาตัวใหญ่เสียยิ่งกว่าปาปาอีก

“อะไรนะครับ” ฮานะเลิกคิ้วถามอย่างไม่แน่ใจว่าหลานต้องการจะสื่ออะไร

“ก็คุณยุงคนนี้” นิ้วเล็กๆ ชี้ไปหาพีทก่อนจะพูดเสียงเจื้อยแจ้วมั่นใจ “เป็นHusbandของฮานะ”

“เป็นสามี!” บิเบียนช่วยเสริมทัพ “มามาบอกว่าเขาเป็นสามีของน้าฮานะฮะ...คุณยุงเป็นHusband!” เจ้าตัวน้อยวิ่งไปเกาะที่ข้างเตียงคนป่วย บิเบียนปีนขึ้นไปนั่งจ้องตาผู้ชายตัวโตโดยไม่รู้สึกกลัวสักนิด กลับกันเจ้าตัวเล็กรู้สึกชอบคุณลุงตัวใหญ่คนนี้มากๆ

คุณยุงท่าทางใจดีสุดๆ เลยบิบี้มั่นใจ!

“พีทเป็นลุงไปแล้ว” แกเรนกลั้นขำเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มนั่งเกร็งเพราะถูกบิเบียนอ้อน แต่เพียงไม่นานทั้งคู่ก็ปรับตัวเข้าหากันได้อย่างดี ส่วนทางฝ่ายอองเดรก็ขึ้นไปนั่งบนตักไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย

“ดูท่าเจ้าพวกตัวแสบจะได้เหยื่อรายใหม่แล้วล่ะ” แกเรนยิ้มขำเมื่อเห็นว่าอองเดรกระโดดลงจากตักฮานะแล้วปีนขึ้นไปบนเตียงคนป่วย ซึ่งพีทเองก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีฝ่ายนั้นขยับเปิดพื้นที่ให้พอดีสำหรับเจ้าตัวเล็กทั้งสองคน “เขาดูชอบเด็กนะ” ภาพของผู้ชายตัวโตที่ยิ้มแย้มตอบคำถามของเจ้าหนูจำไมทั้งสองคนโดยไม่มีท่าทีเบื่อหน่ายออกมาให้ได้เห็นทำให้ต้องยิ้มตามไปด้วย

ฮานะยิ้มบางเมื่อมองตามไป...ฝ่ายนั้นดูอบอุ่นมากขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อถูกรายล้อมด้วยเด็กเล็ก

“ถ้ามีลูกคงเห่อน่าดู” คำพูดล่องลอยไม่เจาะจงแต่แฝงความหมายบางอย่างเอาไว้...และมันก็มากพอที่จะทำให้คนข้างกายเขากระแอมแก้เก้อขึ้นมา “ฮานะก็คิดเหมือนกับผมใช่ไหมล่ะ” แกเรนใส่ไฟเพิ่มเมื่อเห็นว่าใบหูอีกฝ่ายขึ้นสี

“พอเลยครับ” ฮานะส่ายหน้าปฏิเสธ “คุณก็รู้ว่าผมไม่อยากมีลูก...พีทเองก็รู้”

“ผมจำได้” เขาพยักหน้ารับ ก่อนจะบ่นออกมาอย่างไม่จริงจัง “...น่าเสียดาย อองเดรกับบิเบียนอดได้สมาชิกเข้าแก๊งตัวป่วนเพิ่มเลย”

“ไม่สนใจมีเพิ่มเหรอครับ” ฮานะถือโอกาสนี้ถามคืน

“แค่สามแสบก็ปวดหัวแล้ว” แกเรนยิ้มขำเมื่อนึกถึงเจ้าตัวเล็กที่อยู่กับปาปาที่บ้าน “รอข่าวดีจากฮานะดีกว่า”

สุดท้ายคนหัวรั้นก็บ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถาม ก่อนจะขอตัวลุกออกไปปอกผลไม้มาให้เจ้าสองแสบแทน

แกเรนมองตามอย่างอารมณ์ดี พอหันกลับไปมองทางเตียงคนป่วยก็เห็นว่าฝ่ายนั้นมองมาทางนี้อยู่ก่อนแล้ว

...คงช่วยยุได้แค่นี้ ที่เหลือก็พยายามตะล่อมเอาเองก็แล้วกันเจ้าโกลเดนท์













“ผมลงไปส่งครับ”

หลังจากที่นั่งพูดคุยสัพเพเหระกันจนล่วงเลยผ่านไปเกือบสองชั่วโมงสองแฝดก็หมดพลังงานจนหลับปุ๋ยคาอกของแกเรนกับฮานะ อองเดรซุกอกคุณน้าคนสวยไม่ห่างปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมลุกแถมยังงอแงจะเอาฮานะกลับบ้านไปด้วยอีกต่างหาก จึงเป็นเหตุให้เขาต้องเสนอตัวลงไปส่งคุณแกเรนเพราะไม่อยากจะขัดใจเจ้าตัวแสบ

อีกอย่างพีทก็หลับไปก่อนหน้านั้นเพราะฤทธิ์ของยาจึงพอหายห่วงไปได้ในระดับหนึ่ง

“รบกวนด้วยนะ” แกเรนถอนหายใจออกมาพร้อมกับลูบหลังแฝดคนพี่ไปด้วย

เมื่อลงมาถึงชั้นล่างคนของใหญ่ที่รออยู่บริเวณนั้นก็ลุกเดินเข้ามาหา แกเรนพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้การ์ดทั้งสองคนเรียกรถให้มารับที่ประตูทางเข้า ระหว่างที่ยืนรออองเดรก็งัวเงียตื่นและอ้อนฮานะใหญ่จนคนน้าต้องกอดเอาไว้แน่น

“อองดี้ครับ กลับบ้านกันลูก” แกเรนกระซิบพร้อมกับหอมแก้มยุ้ยไปที “ฮานะต้องขึ้นไปดูแลพี่พีทนะ มากับมามานะครับ” เมื่อเห็นว่ารถเทียบจอดด้านหน้าเจ้าตัวแสบก็เริ่มงอแงขึ้นมาอีกครั้ง

“อื้อ พาฮานะกลับไม่ได้เหรอฮะ” อองเดรรั้นแต่สุดท้ายก็ยอมปีนลงมาเพราะไม่อยากจะดื้อให้มามาต้องดุ “อองดี้ขอ Goodnight Kiss” เจ้าตัวน้อยทิ้งตัวเกาะขาพร้อมทำหน้าอ้อนส่งผลให้คนน้าต้องย่อตัวลงมาจุ๊บลงไปที่ปากเล็กๆ นั่นสองทีและหอมแก้มเพิ่มด้วย ฮานะไม่ลืมที่จะเผื่อแผ่ไปถึงแฝดพี่อย่างบิเบียนที่มองเขาตาแป๋ว

“คุณเองก็อย่าลืมพักผ่อนด้วยนะ” แกเรนเอ่ยเตือนอย่างเป็นห่วง

“ครับคุณแกเรน” ฮานะโบกมือให้เจ้าพวกตัวแสบในรถพร้อมกับถอยออกมายืนส่ง “ขอบคุณที่มานะครับ” แกเรนยิ้มรับก่อนจะปิดประตูรถ

ทันทีที่รถเคลื่อนตัวออกไปฮานะก็เดินไปทางร้านกาแฟที่อยู่ใต้ตัวตึก เขาตั้งใจที่จะซื้อเครื่องดื่มของตัวเองและขนมขึ้นไปแช่เอาไว้ให้คนป่วยสักหน่อย พีทจะได้ไม่รู้สึกเบื่อที่จะต้องกินแต่อะไรเดิมๆ ซ้ำๆ

แต่ในระหว่างที่กำลังจะเดินไปที่เคาน์เตอร์กลับต้องหยุดชะงักไว้เพราะเห็นว่ามีใครบางคนนั่งอยู่ที่โต๊ะเยื้องออกไป

“...อเล็กซ์” เผลอหลุดเรียกแผ่วเบาในตอนที่กวาดสายตามองไปยังจำนวนแก้วกาแฟบนโต๊ะที่มากเกินปกติ...คล้ายกับว่าฝ่ายนั้นเองก็นั่งรออยู่ที่นี่นานพอสมควร

ฝ่ามือพลันเย็นเฉียบเมื่อเห็นว่าในร้านมีเพียงพนักงานหญิงที่รับออเดอร์เพียงคนเดียว เนื่องจากร้านอยู่ชั้นใต้ดินของโรงพยาบาลในเวลาดึกดื่นแบบนี้รอบข้างจึงมีผู้คนไม่มากนัก ฮานะรีบหมุนตัวเดินออกไปจากร้านเมื่อเห็นว่าร่างสูงใหญ่ของอีกฝ่ายลุกขึ้นจากโต๊ะตัวนั้น

ในระหว่างที่เดินตรงไปยังลิฟต์โดยสารมือก็ควานหาโทรศัพท์มือถือไปด้วย แต่จำนวนเปอร์เซ็นต์ของแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดกลับทำให้ใจเสียมากขึ้น เขากดโทรออกหาคุณแกเรนแต่ฝ่ายนั้นไม่รับสายและยิ่งร้อนรนมากขึ้นเมื่อเห็นภาพสะท้อนจากผนังลิฟต์ อเล็กซ์เดินเข้ามาประชิดตัวด้วยท่าทางที่ไม่ทำให้ตัวเองเองเป็นจุดสนใจ

“ไง” ฝ่ายนั้นก้มลงมาหา

ฮานะตั้งใจจะกดโทรอีกครั้งแต่คราวนี้หน้าจอโทรศัพท์ที่มืดสนิทแสดงให้เห็นว่าแบตเตอรี่ได้หมดลงไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ในเสี้ยววินาทีที่ตั้งใจจะออกวิ่งเสียงสัญญาณของลิฟต์ก็ดังขึ้น เขาถูกเรี่ยวแรงมหาศาลดันเข้าไปในลิฟต์ตัวนั้นโดยทันที อเล็กซ์ตามเข้ามาประชิดก่อนจะกดปิดประตู...และโชคก็ดูเหมือนจะไม่เข้าข้างมากนักเพราะในห้องโดยสารนั้นปราศจากบุคคลอื่นโดยสิ้นเชิง

“อเล็กซ์” ฮานะถอยหลังไปชิดผนังด้านในสุดพร้อมกับประชับแจ็กเกตยีนเข้าหากันแน่น เขานึกโทษตัวเองที่ไม่ระวังตัวให้มากกว่านี้

“ในที่สุดก็ได้อยู่กันสองคนซะที” อเล็กซ์ยิ้ม แต่ช่างเป็นยิ้มที่ทำให้คนมองตัวชาวาบ ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาหาก่อนจะรวบตัวเขาเข้าไปไว้ในอ้อมกอด “…กลิ่นไอ้เวรนั่นชักจะทำให้ฉันหงุดหงิดขึ้นมาแล้วสิ” เสียงทุ้มเย็นเยียบก้มลงกระซิบข้างใบหู

“ปล่อยนะ” ฮานะดิ้นขัดขืนเมื่อเห็นว่าหมายเลขบนหน้าจอเคลื่อนตัวขึ้นสูงไปยังบริเวณชั้นจอดรถ “อเล็กซ์นายเมาแล้ว” เขาพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่นในตอนที่ถูกเชยคางขึ้นก่อนริมฝีปากอุ่นร้อนจะแนบปิดลงมาก

กลิ่นแอลกอฮอลล์ที่อยู่รอบตัวทำให้ต้องดีดดิ้นขัดขืนเมื่อความรู้สึกรังเกียจตีรวนขึ้นมาจนแทบทนไม่ไหว

“อเล็กซ์! อย่า!” ร่างที่เล็กกว่าพยายามเบี่ยงตัวหลบแต่ก็ไม่สามารถสู้แรงของอีกฝ่ายได้ยิ่งในตอนนี้อเล็กซ์กำลังโมโหด้วยแล้วเขาก็ไม่สามารถที่จะต่อต้านได้เลยแม้แต่นิดเดียว

ฮานะกรีดร้องจนคอแหบแห้งในตอนที่คอเสื้อถูกกระชากออกจนเปิดให้เห็นผิวเนื้อ อเล็กซ์กวาดตามองไปทั่วก่อนนัยน์ตาสีฟ้าจะทอประกายคุโชน สันกรามถูกขบแน่นเมื่อเห็นรอยฟันปรากฏอยู่บนลำคอขาว ยิ่งมีกลิ่นคู่ของฮานะที่ลอยวนเวียนอยู่รอบตัวเขาก็ยิ่งบันดาลโทสะ

ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกฮานะก็รวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดผลักอีกฝ่ายออกก่อนจะวิ่งหนีออกไปยังลานจอดรถ เขาตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ความรู้สึกตื่นตกใจและเสียขวัญตีตื้นขึ้นมาจนน้ำตาหยดลงบนแก้ม

...พีท...

ยิ่งนึกถึงคนที่รอให้เขากลับไปหาจิตใจก็เริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวขอบตาพลันร้อนผ่าวขึ้นมาดื้อๆ ฮานะหอบหายใจหนักในตอนที่หันหลังกลับไปมองคนที่วิ่งตามมาก่อนจะต้องชะงักหยุดเมื่อมีรถขับสวนผ่านหน้าไป เมื่อมองหาทางหนีทีไล่ได้ก็ตั้งใจที่จะวิ่งหนีต่อแต่กลับช้ากว่าใครอีกคน อเล็กซ์อาศัยช่วงขาที่ยาวกว่าเข้ามาประชิดตัววงแขนแกร่งรวบเอวเขาเอาไว้จนตัวลอย

“ปล่อย!” ฮานะดิ้นขัดขืนเมื่อเห็นว่ามีคนเดินออกมาจากลิฟต์เขาตั้งท่าจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่ทว่าสัมผัสของบางอย่างที่จี้เข้ามาที่หลังกลับทำให้ต้องหยุดชะงัก

“อยากเหลือแค่ร่างไร้วิญญาณให้มันกอดก็ลองร้องดู” น้ำเสียงเย็นเยียบก้มกระซิบลงข้างหู

“อเล็กซ์...นายบ้าไปแล้ว” ฮานะพูดเสียงแผ่วเมื่อถูกปลายมีดกดเข้ามาที่ช่วงสะโพกจนรู้สึกเจ็บ “นายทำแบบนี้ทำไม”

ฝ่ายนั้นไม่ตอบอะไรกลับมา ทำเพียงแค่ลากตัวเขาให้เดินตามไปเรื่อยๆ ก่อนที่ประโยคถัดมาจะทำให้รู้สึกชาตั้งแต่หัวจรดเท้า “รู้อะไรไหมฮานะ…วันที่มันตกลงมาจากผาจำลอง...เป็นเพราะฉันเอง” เสียงหัวเราะทุ้มต่ำดังขึ้นในลำคอ “งานนี้ต้องขอบคุณในความสะเพร่าของทีมงานน่ะนะที่ไม่ยอมเช็กอุปกรณ์ให้ดีก่อน...แค่ฉันสลับตัวนิดหน่อยพวกมันก็วางใจกันแล้ว”

“…” ฮานะกำมือแน่นจนสั่นเทิ้มเมื่อได้รู้ความจริง

“…แต่ก็ยังถือว่าโชคดีที่มันไม่ตกลงมาคอหักตาย” รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมเผยขึ้นพร้อมความคิดที่น่ารังเกียจ

“สารเลว!” ฮานะแผดเสียงร้องจนแหบแห้ง ความรู้สึกเสียใจท่วมท้นออกมาเป็นหยาดน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้ม “นายทำแบบนี้ทำไม! ทำทำไม!” ฝ่ามือทุบลงบนแผ่นอกกว้างโดยไม่สนใจว่าฝ่ายนั้นจะทำร้ายตนเองกลับมาหรือไม่

“ก็ใครใช้ให้มันมาแย่งนายไปจากฉัน!” เสียงทุ้มต่ำตวาดก้องนัยน์ตาแดงก่ำ “ถ้าไม่มีมัน…นายก็คงไม่ไปจากฉัน!” อเล็กซ์ยังคงเชื่อมั่นในตัวเองโดยมองข้ามความผิดที่เคยทำทั้งหมด ตลอดเวลาเขาไม่เคยโทษตัวเองที่ทำให้ฮานะหมดความอดทนแต่กลับโยนความผิดไปให้คนอื่นแทน เพราะถ้าในวันนี้ฮานะไม่มีมัน...ก็คงเลือกที่จะอยู่ข้างกันเหมือนที่ผ่านมา

“มันไม่ใช่ความผิดของเขา หรือใครทั้งนั้น” ฮานะสูดลมหายใจเข้าปอดรวบรวมความกล้าทั้งหมดเผยสิ่งที่ตกค้างอยู่ในจิตใจมาโดยตลอด “ที่ฉันหมดรักนายก็เป็นเพราะตัวนายเอง ถึงจะไม่มีเขาฉันก็ไม่คิดที่จะอดทนอยู่กับคนเฮงซวยอย่างนายไปตลอดชีวิต...เลิกโยนความผิดให้คนอื่นเสียที!”

“…”

สิ้นเสียงตวาดก้องฮานะก็หอบหายใจอย่างหนักเพื่อระงับโทสะก่อนความกลัวจะเข้ามากอบกุมจิตใจเมื่อฝ่ายนั้นยกปลายแหลมของมีดขึ้นมาจี้เข้าที่ปลายคาง

“หึ..” รอยยิ้มที่กดลึกบนใบหน้านั้นช่างว่างเปล่าไร้ความรู้สึก “พูดได้ดีนี่”

“...”

“รู้ไหมว่าที่ผ่านมาฉันคอยนึกทบทวนกับตัวเองอยู่ตลอดว่าทำไมฉันถึงตัดใจจากนายไม่ได้สักที ทั้งที่บอกตัวเองแล้วว่านายมันไร้ประโยชน์ ไร้ค่า ไม่มีราคามากพอที่ฉันจะต้องลงทุนแย่งกลับมา” อเล็กซ์เน้นถ้อยคำชัดเจน “...แต่ทั้งหมดมันกลับพังไม่เป็นท่าเพราะความรู้สึกน่าสะอิดสะเอียนที่มันเผลอเปิดรับนายเข้ามา...” คำสารภาพที่เหนือความคาดหมายทำให้ฮานะเบิกตากว้างอย่างตกใจ แต่กลับต้องเบ้หน้าด้วยความเจ็บเมื่อถูกบีบเข้าที่สันกรามจนได้กลิ่นคาวเลือด

“ทุกๆ คืนที่ฉันมีเซ็กซ์กับคนอื่น...ภาพของนาย น้ำเสียงของนาย มันฉายชัดขึ้นมาจนฉันไม่สามารถที่จะทำมันต่อได้” อเล็กซ์เค้นเสียงต่ำ “…นายทำให้ฉันสับสนจนแทบบ้า ฉันต้องพึ่งยานอนหลับทุกวันเพียงเพราะไม่อยากจะเห็นนายในความฝันแต่นั่นก็เป็นการทรมานชั้นดี เพราะยิ่งฉันหลับนานมากเท่าไหร่ภาพฝันที่เห็นว่านายยังอยู่ข้างกันมันก็ยิ่งชัดมากขึ้นเท่านั้น”

“...นายเสียสติไปแล้ว” ฮานะหวาดกลัวจนตัวสั่น ถ้อยคำบอกเล่าของคุณแกเรนที่เคยบอกว่าอเล็กซ์เริ่มใช้สารเสพติดนั้นยิ่งทำให้เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรที่ขาดสติ

“ถึงไม่มีมันนายก็จะไม่ยอมกลับมาหาฉันใช่ไหม” นัยน์ตาสีฟ้านั้นช่างว่างเปล่า แต่เพียงเสี้ยววินาทีกลับคุโชนขึ้นมาเมื่อตัดสินใจอะไรบางอย่างขึ้นได้ “…รู้อะไรไหมที่รัก...คู่แห่งโชคชะตาน่ะมันมีวิธีเดียวที่จะแยกทั้งคู่ออกจากกันได้”

“อเล็กซ์...”

“...นั่นก็คือความตาย” แสงที่สะท้อนเข้าคมมีดทำให้หัวใจคนมองแหลกสลาย

“ไม่...”

“อย่าทำหน้าหวาดกลัวฉันขนาดนั้น” คมมีดถูกลดระดับลงก่อนนัยน์ตาสีฟ้าจะมองไปยังลิฟต์โดยสารที่เพิ่งลงมาจอด “แน่นอนว่าคนคนนั้นไม่ใช่นาย...ฮานะ”










____________________________________________




ตอนนี้มีเจ้าแฝดมาป่วนลุงพีทด้วยฮับบบ

ใกล้แล้ววววว อีกแค่3ตอนเท่านั้นก็จบแล้วค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่ยังคงอยู่เป็นกำลังใจให้เด้นและฮานะมาถึงตอนนี้นะคะ

อีกอึ้บเดียวเท่านั้นนนน > <




ส่วนอเล็กซ์จะได้รับบทเรียนไหมนั้น...

ต้องบอกว่า What goes around comes all the way back around ฮะ 5555555

เจอกันตอนหน้านะคะ <3

ฝาก #ดอกไม้ของพีท และคอมเม้นต์เป็นกำลังใจให้พันไมล์ด้วยนะคับบบ

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER S E V E N T E E N : 10/12/2019
«ตอบ #138 เมื่อ10-12-2019 22:45:02 »

ฮืออออ ขอให้ปลอดภัยทั้งพีททั้งฮานะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER S E V E N T E E N : 10/12/2019
«ตอบ #139 เมื่อ10-12-2019 23:01:37 »

โว๊ะ!!!! ร้ายกาจจนนาทีสุดท้ายนายอเล็กซ์   :m31: :m31: :m31:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER S E V E N T E E N : 10/12/2019
« ตอบ #139 เมื่อ: 10-12-2019 23:01:37 »





ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER S E V E N T E E N : 10/12/2019
«ตอบ #140 เมื่อ11-12-2019 00:32:50 »

โอ๊ยยยยยยยยย  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER S E V E N T E E N : 10/12/2019
«ตอบ #141 เมื่อ11-12-2019 00:41:48 »

โอ๊ย หลอนยาแล้ว อเล็กซ์

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER S E V E N T E E N : 10/12/2019
«ตอบ #142 เมื่อ13-12-2019 01:30:51 »

กรี๊ดดดดดดดดดด อย่าทำอะไรเจ้าโกลเด้นนะ สาธุๆๆๆๆ ขอให้นังอเล็กซ์แพ้ภัยตัวเอง ขอให้พระคุ้มครองฮานะคนสวยกับเจ้าเด้น :call:

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER E I G H T E E N : 15/12/2019
«ตอบ #143 เมื่อ15-12-2019 18:53:50 »

CHAPTER E I G H T E E N

_________________________________









“อเล็กซ์! อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ!” ฮานะร้องอย่างขวัญเสียในตอนที่ถูกดึงตัวไปทางลิฟต์

น้ำตามากมายไหลรินลงมาจนเปียกชุ่ม

“ได้โปรด...อย่าทำอะไรเขา” เสียงสะอื้นดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง “อเล็กซ์ ฉันยอมแล้ว ยอมไปกับนายแล้ว” ฮานะทรุดตัวลงที่พื้นและออกปากขอให้อีกฝ่ายเห็นใจ “ปล่อยเขาไปเถอะนะ ฮึก ฉันขอร้อง” สองมือยกขึ้นไหว้อ้อนวอนขออย่างสิ้นศักดิ์ศรี นาทีนี้ต่อให้ต้องก้มลงกราบเขาก็ยอม...ขอแค่ใครอีกคนจะไม่ถูกดึงเข้ามายุ่งเกี่ยวก็พอ

“หึ” ร่างสูงใหญ่หยุดชะงักก่อนจะก้มตัวไปดึงคนที่ร้องไห้ฟูมฟายขึ้นมาจูบเข้าที่แก้ม “รู้อะไรไหม...ยิ่งฉันเห็นว่านายห่วงมันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ฉันอยากกำจัดมันออกไปให้เร็วขึ้น”

“ม...ไม่” ฮานะส่ายหน้าและพยายามยื้อยุดอยู่อย่างนั้น แต่เรี่ยวแรงของเขามีหรือจะสู้อีกฝ่ายได้

“ขอบคุณฉันซะที่อย่างน้อยก็ใจดีให้มันได้เห็นหน้านายก่อนตาย” อเล็กซ์กดเสียงต่ำ

แต่ก่อนที่จะก้าวเข้าไปในลิฟต์เสียงและสัมผัสบางอย่างที่จ่อเข้าบริเวณหลังท้ายทอยก็ทำให้ชายหนุ่มต้องหยุดชะงักไว้เพียงเท่านั้น ก่อนน้ำเสียงเย็นเยียบจะพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ

“พล่ามพอหรือยัง” แกเรน ฮาร์ดเนอร์เดินเข้ามาใกล้ด้วยท่าทีที่ไม่รีบร้อน ด้านหลังมีการ์ดฝีมือดีที่สามีเขาจัดหามาให้เดินตามมาไม่ห่าง ส่วนอีกคนที่ยืนประชิดหลังอเล็กซ์อยู่นั้น…

....อดีตหน่วยรบพิเศษที่เพิ่งปลดประจำการมาได้แค่สองเดือนกว่า..

“ผมแนะนำให้คุณวางมีดลงและปล่อยตัวฮานะดีกว่านะคุณแอนเดอร์สัน” ร่างเพรียวระหงหยุดยืนอยู่ตรงหน้า นัยน์ตาคู่สวยมองกดต่ำ “เพราะลูกน้องของสามีผมไม่ได้ถูกฝึกมาให้ต่อรองกับศัตรู”

“…”

“...ข้อเสนอเดียวที่พวกเขามีให้คือกระสุนปืน”

อเล็กซ์ขบกรามจนขึ้นสันเมื่อถูกปากกระบอกปืนกดน้ำหนักลงมา ผู้ชายที่ยืนประกบหลังเขาอยู่ตัวสูงใหญ่มากกว่า แต่ตอนที่จู่โจมเข้ามาประชิดเขานั้นกลับไร้เสียงและยังไม่ทันได้ระวังตัวเสียด้วยซ้ำไป

“แล้วก็เลิกคิดเพ้อฝันไปได้เลย อย่าแม้แต่ที่จะคิดเอาฮานะไปเป็นตัวประกันเชียว” แกเรนยกยิ้มอย่างรู้ทันมุกของพวกหมาจนตรอก “เพราะทันทีที่คุณแตะต้องเขาแม้แต่ปลายก้อย...รับรองเลยว่าจะไม่มีแม้แต่โอกาสได้ล่ำลา”

“...ระยำ” เสียงสบถต่ำดังขึ้นในลำคออย่างเคียดแค้น แต่ในที่สุดชายหนุ่มก็ยอมที่จะวางอาวุธในมือลง

วินาทีที่ทุกคนตายใจมีดเล่มนั้นก็ถูกหยิบขึ้นมาอีกครั้งแต่แรงเตะที่กระทบเข้าบริเวณข้อมือกลับทำให้มันกระเด็นออกไปอีกทาง

อเล็กซ์ร้องขึ้นมาอย่างเจ็บปวดเมื่อกระดูกบริเวณนั้นแตกหัก โดยเสี้ยววินาทีลูกกระสุนจากปืนเก็บเสียงก็พุ่งเจาะเข้าที่ข้อพับขาทำให้ร่างสูงใหญ่ล้มทรุดลงไปที่พื้น เลือดแดงฉานผุดซึมขึ้นมาเป็นวงกว้าง เสียงร้องมากไปด้วยความเจ็บปวดทรมานทำให้ฮานะไม่สามารถทนมองได้ก่อนทั้งร่างจะถูกแกเรนรวบกอดเอาไว้เพื่อไม่ให้มองภาพความโหดร้ายเบื้องหน้า

“โง่เง่าสิ้นดี” เขาพูดด้วยความรู้สึกที่สมเพชเสียเต็มประดาตอนก้มลงมองคนที่นอนอยู่บนพื้น อเล็กซ์ถูกการ์ดสองคนจับกดลงพื้นอย่างไร้ความปรานี

“ฮานะ...” เสียงทุ้มเอ่ยเรียก นัยน์ตาสีฟ้าสั่นไหวเมื่อหมดหนทางสู้

“ดูสายตาคุณตอนนี้สิ” แกเรนเหยียดยิ้ม “ถ้าเป็นเมื่อก่อนฮานะคงดีใจนะที่ได้เห็นมัน...แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว คุณแอนเดอร์สัน”

“…”

“นึกทบทวนดีๆ นะว่าใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายก่อเรื่องทั้งหมดขึ้นมา...ทำร้ายร่างกาย ทำร้ายจิตใจ เหยียบย่ำศักดิ์ศรีคนๆ หนึ่งมานานเท่าไหร่แล้ว เคยจำได้บ้างหรือเปล่า” เขาเค้นเสียงต่ำเมื่อความแค้นทั้งหมดที่สะสมมาตลอดหลายปีกำลังจะได้รับการชำระ

“…”

“รู้ไหมว่าทำไมที่ผ่านมาผมถึงไม่เคยแตะต้องคุณ” แกเรนกระชับวงแขนแน่นเมื่อรับรู้ได้ว่าคนในอ้อมกอดตัวสั่น “ไม่ใช่ว่าผมทำไม่ได้ แต่เป็นฮานะที่ขอเอาไว้ไม่ให้ผมทำ...คิดเหรอว่าผมจะยอมอดทนให้คุณไม่เห็นหัวมานานได้นับปีเพราะตัวคุณเอง”

“…”

“เคยรู้บ้างไหมว่าทุกครั้งที่คุณทำเรื่องเลวๆ ซ้ำซาก มีใครอีกคนที่มาอ้อนวอนไม่ให้ผมเอาเรื่องคุณ เคยรู้บ้างหรือเปล่าว่าฮานะลดศักดิ์ศรีตัวเองจนแทบไม่เหลืออะไรเลยก็เพื่อคุณ!”

ความจริงที่หลีกหนีมาโดยตลอดตีแสกเข้ากลางหน้าก่อนมันจะกลั่นออกมาเป็นหยดน้ำตาที่ไหลลงมากระทบพื้น อเล็กซ์เบือนหน้าหนีออกไปอีกทางเพื่อหลบซ่อนความอ่อนแอ

“ผมไม่รู้ว่าเรื่องระหว่างพวกคุณมันเริ่มและเกิดขึ้นได้ยังไงเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของพวกคุณทั้งสองคน...แต่มีสิ่งเดียวที่ผมรู้และมองเห็นมาตลอดนั่นก็คือคนที่ทำให้ทุกอย่างมันพังไม่มีชิ้นดีคือตัวคุณเอง คุณแอนเดอร์สัน”

“…”

“พาตัวออกไป ผมบอกใหญ่แล้วว่าหลังจากนี้จะจัดการยังไง” แกเรนย้ำเสียงเย็นเฉียบ “ในเมื่อชอบเล่นนอกกฎนักละก็...ใช้ศาลเตี้ยช่วยทำให้รู้สำนึกซะบ้างเผื่อจะคิดอะไรได้”

ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็พาคนในอ้อมกอดเดินเข้าไปในลิฟต์ หลังจากที่ประตูปิดลงฮานะก็โถมตัวเข้ากอดเขาแน่นก่อนจะปล่อยโฮออกมายกใหญ่ ร่างที่เล็กกว่าสั่นเทิ้มอย่างเสียขวัญทำให้แกเรนต้องกอดตอบแล้วปลอบยกใหญ่เพราะเขาเองก็รู้สึกใจหายไม่ต่างกัน

...ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถ้ามาช้ากว่านี้จะเกิดอะไรขึ้นกับฮานาะบ้าง..

ต้องขอบคุณที่คนของเขาสังเกตเห็นว่าอเล็กซ์มาที่นี่และจอดรถเอาไว้ชั้นเดียวกัน ขอยกความดีความชอบให้ลูกน้องใหญ่ที่หูไวตาไว ในช่วงที่เขาออกมาจากโรงพยาบาลได้ไม่ทันไรนั้นฮานะก็โทรเข้ามาแต่เพราะเผลอปิดเสียงเอาไว้จึงรับไม่ทัน พอตั้งใจจะโทรกลับสัญญาณจากปลายสายก็ขาดหายไปแล้ว นั่นยิ่งทำให้แกเรนรู้สึกไม่สบายใจเลยสั่งให้คนขับรถวนกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง

“กลิ่นหมอนั่นคลุ้งชะมัด” แกเรนว่าเสียงเครียดก่อนจะต่อสายโทรหาบอดี้การ์ดส่วนตัว “ช่วยพาบิเบียนและอองเดรกลับบ้านไปก่อน...ไม่ต้องห่วงผมเดี๋ยวใหญ่จะออกมารับเอง อืม...ขอบใจ”

“…ผมอยากไปหาพีท” ท่าทางน่าสงสารทำให้แกเรนต้องวางมือลงบนศีรษะของอีกฝ่ายอย่างต้องการปลอบประโลม

ทันทีที่บานประตูถูกผลักเข้าไปร่างของคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงก็ทำฮานะรู้สึกร้อนผ่าวบริเวณขอบตา ฮานะเดินเข้าไปใกล้เตียงคนป่วยพร้อมกับเอื้อมมือไปกอบกุมกับอีกฝ่ายไว้แน่น

“ไปล้างตัวก่อนเถอะ กลิ่นอเล็กซ์ชัดขนาดนี้เดี๋ยวพีทก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟกันพอดี” เขาเอ่ยเตือนเพราะเข้าใจดีว่าอัลฟ่านั้นหวงคู่ของตนเองมากแค่ไหน แค่กลิ่นก็ทำให้หวงจนคุ้มคลั่งได้แล้ว

ฮานะพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายก่อนจะเดินไปหยิบชุดสำรองเผื่อเปลี่ยนนอนแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ผ่านไปสักพักเจ้าตัวก็เดินกลับออกมาด้วยชุดใหม่ไร้ซึ่งกลิ่นรบกวนจิตใจเหมือนอย่างตอนแรก แกเรนนั่งรออยู่ที่เก้าอี้ข้างเตียงผู้ป่วยพร้อมกับใครอีกคนที่ตื่นขึ้นมานั่งพิงหมอนด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด

“ฮานะ” พีทเรียกเสียงเข้ม แววตามีความกรุ่นโกรธฉายชัด แต่แทนที่จะเอ่ยติเตียนกันฝ่ายนั้นกลับอ้าแขนออกเพื่อรอให้เขาเข้าไปหา โดยไม่ต้องรอให้เสียเวลาฮานะก็ก้าวเท้าไปทางเตียงผู้ป่วยก่อนจะปีนขึ้นไปโถมตัวสวมกอดคนที่โหยหาเอาไว้แน่น

“…พีท” เขาซุกหน้าลงแผ่นอกกว้าง...หัวใจพีทเต้นรัวเร็วราวกับว่ากำลังรู้สึกกลัว

“ผมขอโทษ” เด็กหนุ่มกระชับอ้อมกอดพร้อมกดจูบลงบนกลุ่มผมนุ่ม หลับตาลงด้วยความทรมานเมื่อสิ่งที่คุณแกเรนเล่าให้ฟังนั้นเข้ามาบีบคั้นหัวใจจนแตกสลาย ฝ่ามือใหญ่เอื้อมขึ้นมาประคองหลังท้ายทอยก่อนจะกดให้ใบหน้าอีกฝ่ายซุกเข้ากับอก ปลายนิ้วไล้แผ่วบริเวณต้นคอ ส่งผ่านไออุ่นเพื่อบรรเทาความหวาดกลัวที่เข้ามาเกาะกุมภายในจิตใจเพียงเท่านั้นฮานะก็ไม่สามารถที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ รู้ตัวอีกทีเสื้อผู้ป่วยของพีทก็เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา ความรู้สึกแสบร้อนที่โพรงจมูกพุ่งเข้ามาเล่นงานจนต้องควบคุมจังหวะหายใจเอาไว้

“อ...เล็กซ์ เป็นคน ฮึก ทำร้ายเธอ” ฮานะกำชายเสื้ออีกฝ่ายจนยับย่น ภาพของพีทพร่ามัวไปด้วยหยดน้ำตา “วันนั้นมันไม่ใช่...อุบัติเหตุ เป็นเขาที่ อึก ทำมัน” ความปวดร้าวบีบคั้นในอกข้างซ้ายจนก้อนสะอื้นตีรวนขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

เสียงแกเรนสบถขึ้นอย่างโกรธเคืองก่อนเจ้าตัวจะเดินออกไปที่ระเบียงนอกห้องเพื่อต่อสายหาคนของใหญ่

นี่มันมากเกินไปแล้ว

“แล้ววันนี้เขาจะกลับมาทำร้ายเธอ...เพราะฉันเป็นต้นเหตุ” ฮานะตัวสั่นอย่างเสียขวัญเมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่เพิ่งผ่านพ้น “ถ้าเธอ ฮึก ถ้าเธอเป็นอะไรไป ฉันคงไม่ให้อภัยตัวเอง” นัยน์ตาคู่สวยตอนนี้ดูบอบช้ำราวกับแก้วที่แตกสลาย ฮานะไม่เคยร้องไห้หนักติดต่อกันขนาดนี้มาก่อน ใต้ตาที่บวมช้ำทำให้หัวใจคนมองแหลกสลายจนต้องขบกรามแน่นเพื่อระงับความเจ็บปวด

“ไม่เป็นไรครับ” พีทวางมือลงบนกลุ่มผมนุ่มก่อนจะกดจูบลงไปบนหน้าผากเนียน “…แค่คุณปลอดภัยก็พอแล้ว”

เด็กหนุ่มกอดร่างที่เล็กกว่าเอาไว้แนบอก ในเวลานี้ฮานะเหมือนเด็กตัวเล็กที่กำลังหลงทาง ยิ่งได้เห็นน้ำตาของคนตรงหน้าเขาก็ยิ่งเจ็บปวดจนทำให้นึกเกลียดชังตัวต้นเหตุที่ทำให้ดอกไม้แสนสวยของเขาต้องบอบช้ำ

“เรื่องอเล็กซ์ผมจัดการเอง” แกเรนด์เปิดประตูเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “พีท...ฝากดูแลฮานะด้วย”

“ครับ”

เมื่อบานประตูห้องพักผู้ป่วยปิดลงเด็กหนุ่มก็ก้มลงมองคนในอ้อมกอดอีกครั้ง ฮานะยังคงร้องไห้จนสะอื้นราวกับว่าไม่สามารถหยุดมันได้ พีทมองภาพตรงหน้าด้วยแววตาที่เจ็บปวด ความรู้สึกที่อยากดูดซับความโศกเศร้านั้นมาไว้กับตัวเองมีมากเสียจนต้องคว้ามือของอีกฝ่ายมากดจูบตามข้อนิ้ว

“ฮานะ” เสียงทุ้มสั่นพร่า...น้ำตาของฮานะทำให้เขาชาไปทั้งใจ “ฮานะครับ”

ฝ่ายนั้นช้อนตาขึ้นมอง น้ำตาบางส่วนที่ล้นออกมาไหลอาบแก้มขาวจนเปียกชุ่ม ขอบตาและจมูกที่แดงก่ำยิ่งทำให้ดูน่าสงสารจนต้องกดจูบหนักๆ ลงบนผิวเปียกชื้นราวกับต้องการดูดซับน้ำตาให้หายไป

“ผมจะตายอยู่แล้ว” พีทกระซิบเสียงแผ่วในตอนที่เอียงหน้าเข้าไปกดจูบลงที่ต้นคอ กลิ่นที่คุ้นเคยทำให้ต้องหลับตาเพื่อซึมซับความรู้สึกนี้เอาไว้ “...อย่าทรมานกันแบบนี้เลย”

คำร้องขอเหมือนจะได้ผลเมื่อฮานะเริ่มควบคุมอารมณ์ได้ เจ้าตัวยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาแต่ถูกเขารวบเอาไว้ทั้งหมดและโดยไม่ทันได้ตั้งตัวริมฝีบางสีอ่อนตรงหน้าก็ถูกประกบจูบลงไปแนบแน่น

สัมผัสอุ่นร้อนแผ่กระจายไปทั่วทุกอณูผิว...ฮานะยังคงสะอื้นในตอนที่ถูกกวาดต้อนจนมุม

ใบหน้าร้อนจัดเมื่อถูกกัดเข้าที่ริมฝีปาก “…พีท”

“ครับ” เสียงทุ้มขานรับ กดจูบย้ำลงไปอีกครั้ง ยอมถอยห่างออกมาเพียงแค่ลมหายใจลอดผ่าน

“...ฮานะ...หายใจไม่ทัน” นัยน์ตาคู่สวยวูบไหวกดต่ำดูความอุ่นชื้นก่อนจะต้องหลับลงไปอีกครั้งเมื่อถูกจูบย้ำ...ครั้งนี้กลับเพิ่มความหนักแน่นมากขึ้น ใบหน้ากลับร้อนขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินเสียงของคนรักสบถเพราะถูกอ้อน

“ให้ตายสิ” เด็กหนุ่มดูหัวเสียไม่น้อยเมื่อความรู้สึกบางอย่างปะทุขึ้นมา เขาดันตัวฮานะออกห่างอย่างรู้สึกผิด

...น้ำเสียงออดอ้อนและถ้อยคำน่ารักเหล่านั้นเมื่อผสานรวมกับใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาแล้วมันทำให้สัญชาตญาณดิบในกายวิ่งแล่นไปทั่วกาย...

แต่คนที่เผลออ้อนดูท่าแล้วจะยังไม่รู้ตัว ฮานะมองตามทุกการกระทำของเขานัยน์ตากลมโตคู่นั้นเจือแววสับสนจนต้องดึงตัวลงไปนอนกอดเอาไว้

...เมื่อก่อนอ้อนนิดหน่อยเขาก็หลงจนแทบโงหัวไม่ขึ้นแล้ว แต่นับวันฮานะยิ่งอ้อนเก่งจนความอดทนแทบจะไม่เหลือ...

“พีท” เสียงอู้อี้ดังขึ้นประชิดอก จมูกรั้นกำลังดมกลิ่นจากตัวเขา

“ครับ”

“...กอดแน่นๆ” โดยไม่ต้องรอให้ขอเป็นรอบที่สองวงแขนก็โอบกระชับจนผิวเนื้อแนบชิดกัน “แน่นกว่านี้”

“ฮานะ...เดี๋ยวหายใจไม่ออก” เด็กหนุ่มลอบยิ้ม กดจูบลงไปที่ก้อนแป้งขาวๆ ซ้ำไปมา

“อื้อ ไม่เป็นไร” คนในอ้อมกอดโผล่หน้าออกมาพร้อมกับช้อนตาขึ้นมอง ก่อนจะยืดตัวขึ้นจูบเข้าที่ปลายคางแล้วกลับลงไปซุกที่อกอีกครั้ง “…กอดแน่นๆ นะ”

“นอนเถอะครับ” เขาลูบไปที่กลุ่มผมนุ่มอย่างอ่อนโยนทั้งที่พยายามอดทนจนต้องขบกรามเอาไว้แน่น

ฮานะพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายเมื่อได้อ้อมกอดที่พอใจ เพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงหายใจที่ดังสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเจ้าตัวหลับไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย

เด็กหนุ่มผละออกห่างเพียงเล็กน้อยเพื่อมองใบหน้าของคนรักที่อ่อนล้าสะสมมาตลอดหลายวัน ปลายนิ้วไล่ปาดคราบน้ำตาที่หลงเหลือออกให้ ใต้ตาที่บวมช้ำถูกริมฝีปากอุ่นกดย้ำประคบไปมาอยู่อย่างนั้น

และเมื่อความเงียบเข้าปกคลุม กลับมีเพียงเสียงชีพจรที่ดังสอดประสานเป็นจังหวะเดียวกันไปตลอดในค่ำคืนนี้




(มีต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER E I G H T E E N : 15/12/2019
«ตอบ #144 เมื่อ15-12-2019 18:54:09 »






“นัดใส่เฝือกอีกสองอาทิตย์นะครับ” นายแพทย์หนุ่มก้มลงอ่านรายละเอียดอีกครั้ง “แล้วก็พยายามหลีกเหลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้กระทบช่วงแขนด้วย”

“ครับหมอ” เด็กหนุ่มพยักหน้ารับ

“ส่วนเรื่องกายภาพหลังจากนี้ผมจะแจ้งให้ทราบอีกทีก็แล้วกัน...โชคดีนะครับ” ฝ่ายนั้นยิ้มให้อย่างเป็นมิตรก่อนจะขอตัวออกไปเยี่ยมไข้ผู้ป่วยคนอื่นต่อ

วันนี้เป็นวันที่เขาจะได้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านหลังจากนอนดูอาการมาร่วมสี่วันด้วยกัน

เด็กหนุ่มหันไปมองทางประตูก่อนรอยยิ้มจะปรากฏเมื่อเห็นว่าคนรักตัวน้อยเดินเข้ามา เมื่อเช้าฮานะต้องเข้าไปประชุมที่บริษัท อีกฝ่ายสั่งให้เขานอนรอจนกว่าเจ้าตัวจะกลับมาแล้วค่อยเก็บของ แต่สุดท้ายก็ฝืนคำสั่งอยู่ดีจึงได้รับสายตาตำหนิอย่างไม่จริงจังส่งมาให้

“ดื้อ” ฮานะมองเขม่นแต่ก็ยอมเงยหน้ารับจูบตอนที่ถูกเขาโอบเอวเข้ามาใกล้

“เหนื่อยไหมครับ”

ฝ่ายนั้นส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะสวมกอดแน่น “ได้กอดเธอก็หายเหนื่อยแล้ว”

“คิดถึงฮานะ” พีทก้มลงจูบลงไปบนกลุ่มผมนุ่มอย่างที่ชอบทำ...แรกๆ ถูกฮานะบ่นเพราะเขาทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเหมือนเป็นเด็ก แต่พักหลังมาบางทีเจ้าตัวก็เป็นฝ่ายอ้อนให้ทำจนกลายเป็นชีวิตประจำวันระหว่างกันไปแล้ว

“ก็ต้องแน่อยู่แล้ว” ฝ่ายนั้นยักคิ้วก่อนจะเอื้อมมือมากอบกุมกันไว้มั่น “กลับบ้านเรากันเถอะ”













“อันนี้อร่อย” กุ้งอบวุ้นเส้นในจานถูกชี้บอกเป็นรอบที่สองหลังจากที่ฮานะตักกินจนเกลี้ยง

จากที่ตอนแรกตั้งใจเอาไว้ว่ามือเย็นจะแสดงฝีมือทำอาหารให้คนป่วยกินกลับต้องหันไปพึ่งร้านอาหารแทนเพราะเขาทำมันพังไม่เป็นท่า แค่อาหารง่ายๆ อย่างเช่นข้าวผัดกับแกงจืดวุ้นเส้นยังทำครัวเละตุ้มเป๊ะจนพีทต้องออกปากห้ามก่อนที่ทุกอย่างจะพังพินาศไปมากกว่านี้

“กินข้าวด้วยสิครับ” เสียงทุ้มติดดุเอ่ยเตือนเมื่อเห็นว่าข้าวผัดปูในจานนั้นพร่องลงไปไม่ถึงครึ่งเลยเสียด้วยซ้ำ

“อิ่มแล้ว” ฮานะบ่ายเบี่ยงโดยการแกะกุ้งเผาตัวโตไปจ่อไว้ที่ริมฝีปากคนที่นั่งอยู่ข้างกัน “กินเร็ว”

ถึงจะเริ่มอิ่มแต่สุดท้ายก็ยอมรับเข้าปากไปเคี้ยวจนฝ่ายนั้นยิ้มแก้มปริ เด็กหนุ่มก้มลงมองปลายนิ้วของคนรักที่ตอนนี้มีพลาสเตอร์พันไว้ถึงสามนิ้วสาเหตุมาจากโดนมีดทำครัวเฉือนเข้าเนื้อจนได้เลือด รู้ตัวอีกทีก็รวบมือข้างนั้นเข้ามาใกล้ก่อนจะแตะปากลงไปจนฮานะสะดุ้งด้วยความตกใจ

“เจ็บมากไหมครับ” เขาถามอย่างเป็นห่วง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะย้ายรอยแผลนั้นมาไว้ที่ตัวเองแทน

“นิดเดียว เหมือนมดกัด” ฮานะอมยิ้มกว้างก่อนจะยืดตัวขึ้นหอมแก้มแล้วผละออกไปเก็บถ้วยจานเพื่อไปล้างโดยที่ปฏิเสธความช่วยเหลือจากเขา “ไปนั่งเฉยๆ เลย”

เด็กหนุ่มยังคงไม่ทำตามคำสั่งแม้แขนอีกข้างจะใช้งานไม่ได้แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เขาต้องอยู่กับที่เฉยๆ ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปหาคนรักตัวเล็กที่กำลังยืนหันหน้าเข้าหาซิงค์ล้างจานก่อนจะโอบแขนลงไปที่ช่วงเอวคอดแล้ววางคางลงบนลาดไหล่ กลิ่นหอมที่คุ้นเคยทำให้ต้องจรดปลายจมูกเข้าไปแนบเนื้อ

“พีท!” ฮานะตกใจจนต้องหดคอหนี “อย่ากวนนะ ไปนั่งเฉยๆ เลย” เจ้าตัวพยายามเอี้ยวตัวหลบแต่ก็ไร้ผล

“...มาให้กำลังใจครับ” เสียงทุ้มออดอ้อนในตอนที่กดจูบลงบนลาดไหล่คนในอ้อมกอดด้วยความคิดถึง...สี่วันเต็มๆ ที่ไม่ได้ใกล้ชิดฮานะแบบนี้เพราะเจ้าตัวห้ามเอาไว้ด้วยเหตุผลที่ว่ามันไม่เหมาะสม “น้ำยาล้างจานเยอะไปแล้วครับ” เขาหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกดหัวปั๊มจนน้ำยาท่วมฟองน้ำ

“เธอก็หยุดกวนซะทีสิ เสียสมาธิหมดแล้- อื้อ” ฮานะรีบหดคอเหมือนลูกเต่าเวลาเจอภัยในตอนที่ถูกกัดเข้าที่คอเต็มคำ “ไปอาบน้ำเลยไป”

“รอฮานะ” พีทกดจมูกลงบนก้อนแป้งขาวๆ อย่างไม่รู้เบื่อ

“งั้นก็ช่วยอยู่เฉยๆ ด้วยนะครับ” คนในอ้อมกอดเอี้ยวหน้ากลับมาหา ก่อนจะยืดตัวขึ้นหอมแก้ม “น้องพีทห้ามกวนนะ ไม่อย่างนั้นจะหักสิบแต้มเด็กดี”

คำสรรพนามที่ไม่เคยถูกใช้เรียกมาก่อนทำให้เด็กหนุ่มหน้านิ่วคิ้วขมวดขึ้นมากะทันทันก่อนจะยอมล่าถอยไม่ก่อกวนอย่างเชื่อฟัง

นัยน์ตาคมเข้มจดจ้องเรือนผมสีอ่อนที่ระอยู่บริเวณต้นคอขาวก่อนความคิดบางอย่างจะก่อเกิดขึ้นมา...เป็นเรื่องที่แทรกซึมเข้ามาวนเวียนอยู่ในหัวของเขาตลอดหลายวันที่ผ่านมา

“ฮานะครับ”

“หืม”

“บิเบียนกับอองเดร...ปีนี้อายุเท่าไหร่เหรอครับ” เสียงเจี๊ยวจ๊าวและรอยยิ้มสดใสของเจ้าพวกตัวเล็กที่คุณแกเรนพามาป่วนยังฝังอยู่ในใจมาถึงวันนี้

“อืม...ถ้าจำไม่ผิดน่าจะห้าขวบแล้วนะ” ฝ่ายนั้นเอียงคออย่างใช้ความคิด “ถามทำไม”

“เปล่าครับ” เขายิ้มและส่ายหน้าปฏิเสธเมื่อฮานะมองขึ้นมา

“ชอบเด็กหรือไงเรา”

“ก็...” เด็กหนุ่มกระแอมแก้เก้อเมื่อเผลอคิดเยอะไปไกลจนต้องหยุดห้ามตัวเองเอาไว้...จู่ๆ เขาก็ลองจินตนาการภาพของฮานะตอนที่กำลังอุ้มท้องขึ้นมา...

หม่ามี้ตัวเล็กที่มีพุงกลมๆ ยื่นออกมาคงต้องน่ารักมากแน่ๆ ...

“นี่...อย่าบอกนะว่ากำลังคิดไปไกลถึงไหนต่อไหนแล้ว” ฮานะปิดก๊อกน้ำก่อนจะหันตัวกลับมาเผชิญหน้า นัยน์ตาคู่สวยหรี่มองอย่างจ้องจับผิด ยิ่งได้เห็นริ้วแดงที่ขึ้นพาดผ่านใบหน้าของคนรักก็เป็นอันได้คำตอบแน่ชัดทันที

“คือ...” เด็กหนุ่มอ้ำอึ้งเมื่อถูกกอดอกมองอย่างรู้ทัน

“อยากเป็นแด๊ดดี้เหรอ” ฮานะยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นวางทาบลงไปบนแผ่นอกตึงแน่น “ใจร้อนจัง” น้ำเสียงออดอ้อนดังขึ้นในตอนที่ยืดตัวขึ้นไปกดจูบบนสันกรามได้รูป ก่อนจะต้องหลุดขำออกมาเมื่อถูกอุ้มขึ้นไปวางบนเคาน์เตอร์ครัว

“ผมยังไงก็ได้” เด็กหนุ่มยืดตัวขึ้นก่อนจะวางแขนคร่อมร่างคนรักตัวน้อย “แค่กำลังคิดว่าถ้ามีเจ้าพวกตัวเล็กที่ถอดแบบมาจากฮานะ...คงต้องน่ารักมากแน่ๆ” ปลายจมูกโด่งกดลงบนลาดไหล่เนียน ฝ่ามือข้างหนึ่งยกขึ้นมาวางลงบนแผ่นท้องแผ่นราบ

ฮานะหลุดขำอย่างเอ็นดูก่อนจะยกแขนขึ้นโอบกอดคนรัก “มั่นใจได้ยังไง...ถ้าเผื่อเบบี๋ถอดแบบเธอมาล่ะ”

“…ก็น่ารักอยู่ดี” พีทลดระดับตัวลงมาเพื่อจ้องตากับอีกฝ่าย “เพราะครึ่งหนึ่งของเขาก็มีฮานะอยู่ในนั้น”

เหตุผลที่เลื่อนลอยเรียกเสียงหัวเราะของผู้ฟังได้เป็นอย่างดี ฮานะกระชับอ้อมกอดแน่นก่อนจะเอียงหน้าซบเข้ากับช่วงบ่ากว้างแล้วหลับตาลงเมื่อต้องสารภาพความจริงบางอย่างออกไป

...มันเป็นสิ่งที่เขาคิดมาตลอด...ทั้งก่อนหน้าที่จะผูกพันธะกับพีทหรือช่วงเวลาหลังจากนี้...

“พีท” น้ำเสียงนั้นแผ่วเบาราวกับกำลังกระซิบ “บอกตามตรงว่าฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริงๆ” เจ้าตัวยิ้มก่อนจะยกมือของคนรักขึ้นมาแนบเข้าที่แก้ม “ตลอดสองปีที่ผ่านมาเธอรู้ใช่ไหมว่าฉันควบคุมมันมาตลอด”

“ครับ” เด็กหนุ่มพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ พร้อมกับยกมือขึ้นมากอบกุมกับอีกฝ่ายตอบกลับไป

ฮานะยิ้มบาง ในแววตาคู่นั้นเจือความเศร้าอยู่เล็กน้อยที่ไม่สามารถตามใจเขาได้ “แล้วก็อีกอย่าง...ตอนนี้มันอาจจะเร็วไปสักหน่อยนะว่าไหม เบบี๋น่ะนะน่ารักก็จริงแต่การดูแลพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย” นัยน์ตาคู่สวยช้อนมองอย่างออดอ้อนพร้อมกับยกมือขึ้นนวดท้ายทอยให้อีกฝ่ายคล้อยตาม

“…”

“เธอเองก็ยังคงไม่พร้อมที่จะต้องทิ้งความฝันตัวเองเพื่อมารับผิดชอบชีวิตเล็กๆ ที่จะเกิดมาหรอกใช่ไหม”

พีทอายุยังน้อย เมื่อเทียบกับเขาแล้วเจ้าตัวคงอยากที่จะใช้ชีวิตอิสระอีกมาก ถึงแม้ว่าการมีลูกจะไม่ได้ทำให้ลำบากอะไรแต่เพราะภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบก็คงจะทำให้ต้องเลือกเพียงแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง

…ความฝันที่อยากจะเป็นนักดนตรียังคงอยู่ แม้เจ้าตัวจะไม่เคยเอ่ยถึงมันแต่ทุกคืนที่ตื่นมากลางดึกฮานะมักจะได้ยินเสียงฮัมเพลงและเสียงกีต้าร์ที่ดังแว่วมาจากทางระเบียงห้องหรือแม้กระทั่งสีหน้าและแววตาที่เต็มไปด้วยความสุข ความมีชีวิตชีวาในตอนที่เจ้าตัวได้ปลดปล่อยตัวตนอยู่บนเวที

พีทไม่เคยบอกว่าชอบหรือไม่ชอบในสิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะความจำเป็นที่ผลักดันให้ลืมความตั้งใจที่เคยมุ่งมั่นเอาไว้...และส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะตัวเขา...

“…ผมให้ได้” เสียงทุ้มพึมพำแต่ทว่าหนักแน่น ในแววตาคู่นั้นไม่มีความลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว

“นี่” ฮานะเลิกคิ้วขึ้นมองอย่างแปลกใจก่อจะต้องหลุดขำเมื่อเห็นว่าเรียวคิ้วเข้มเริ่มขมวด “จริงจังขนาดนั้นเชียว”

“ผมพูดจริงนะครับ” เด็กหนุ่มยืนยันคำเดิม

“โอเคๆ เข้าใจแล้ว” ฮานะยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างหนัก “แต่ฉันบอกก่อนเลยนะว่าไม่ขอรับปากเรื่องลูก” เขาจ้องกลับไปด้วยแววตาที่จริงจังไม่แพ้กัน

“...”

“พูดตามตรงนะ...ฉันยังไม่พร้อมที่จะเสียสละเวลาส่วนตัวไป...ในตอนนี้” รอยยิ้มปรากฏกว้างขึ้นในตอนที่ยกมือขึ้นลูบแก้มของคนรัก “ขอโทษนะที่ทำให้รู้สึกว่าฉันเห็นแก่ตัว...แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่ฉันอยากจะทำ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากมีเจ้าตัวเล็กละก็คงต้องมัวพะวงและเป็นห่วงจนไม่สามารถทำมันได้อย่างเต็มที่”

“ครับ...ผมเข้าใจ” เด็กหนุ่มพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายก่อนจะสวมกอดและเกยคางลงบนลาดไหล่ “ขอโทษครับ ที่เอาแต่ใจ”

พอนึกคิดดูๆ ดีแล้วการที่เขายัดเยียดความต้องการส่วนตัวให้ฮานะมันก็เป็นการเห็นแก่ตัวอยู่เหมือนกัน เพราะมัวแต่คิดตื้นๆ จนลืมนึกถึงความรู้สึกของคนรักไปเสียสนิท

คนที่ต้องเผชิญกับการอุ้มท้องและความทรมานตลอดช่วงเวลาเก้าเดือนไม่ใช่ตัวเขาแต่เป็นฮานะต่างหาก

“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เธอไม่ผิดสักหน่อย” ฮานะระบายยิ้มออกมาพร้อมกับบีบเขาที่สองข้างแก้มแล้วส่ายไปมาเมื่อเห็นว่าเจ้าเด็กตัวโตคงเริ่มคิดมาก “เอาไว้รอให้ทุกอย่างพร้อมกว่านี้ เราค่อยมาคุยกันใหม่ดีไหม” เขายื่นข้อเสนอกลับไป แล้วก็ได้ผลเมื่อร่างสูงใหญ่พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย

“แต่อันดับแรกเลย...แด๊ดดี้ต้องหัดเชื่อฟังก่อนนะ ห้ามดื้อ” ฮานะช้อนตาขึ้นมองก่อนจะยกแขนขึ้นโอบช่วงลำคอแล้วดึงอีกฝ่ายลงมาใกล้ ลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดลงบนผิวแก้มทำให้ต้องเผลอยิ้มออกมาก่อนจะหันไปกระซิบที่ข้างใบหู “…ไปอาบน้ำกัน”













เสียงหอบหายใจดังขึ้นถี่กระชั้นทำให้อุณหภูมิภายในร่างกายพุ่งขึ้นสูงก่อนที่จะปลดปล่อยความกดดันที่สั่งสมมาตลอดหลายวันออกมา นัยน์ตาคมเข้มทอประกายวาบหวามในตอนที่มองต่ำลงไปยังคนที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น ฮานะสำลักออกมาเล็กน้อยก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างหนักจนใบหน้าแดงก่ำ

“ทำไมมันมากขนาดนี้” ปริมาณความต้องการที่ล้นเปรอะเปื้อนลงมาถึงแผ่นอกทำให้ต้องหันไปเปิดฝักบัวเพื่อล้างตัวอีกรอบ

ก่อนหน้านั้นหลังจากที่ช่วยพีทอาบน้ำเสร็จเจ้าเด็กตัวโตก็ป้วนเปี้ยนจนเขาต้องยอมตามใจ แต่ไม่ใจอ่อนที่จะให้พีทได้สอดใส่เข้ามาเพราะกลัวว่าจะไปกระทบแขนเจ้าตัวเข้า

“ฮานะ” เสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกมาพร้อมกับช่วงตัวสูงใหญ่ที่ขยับเข้ามาแนบชิด

“นี่ ถอยออกไปเลยเดี๋ยวเฝือกเปียก” ฮานะดุเสียงเข้มทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นว่าเจ้าส่วนนั้นไม่ยอมสงบลงไปง่ายๆ “พีท อย่าดื้อนะ” เขาหมุนปิดน้ำก่อนจะดันตัวคนรักให้ออกไปจากบริเวณที่ล้างตัวเพราะกลัวว่าเฝือกจะชื้น

เจ้าเด็กตัวโตยอมทำตามอย่างว่าง่ายแต่แทนที่จะหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วออกไปรอข้างนอกฝ่ายนั้นกลับยืนพิงเข้าที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าทั้งที่ลำตัวยังคงเปล่าเปลือยทั้งบนและล่าง

นัยน์ตาคมเข้มที่จ้องทะลุผ่านกระจกใสเข้ามาทำให้ฮานะต้องหมุนตัวกลับเข้าไปที่ผนังด้านในทั้งที่ใบหน้ายังคงเห่อร้อนก่อนจะเปิดน้ำเพื่อฟอกสบู่ลงบนผิวกายทำเหมือนกับว่าไม่ได้สนใจใครอีกคนที่กำลังมองมาทางนี้ แต่แล้วในขณะที่กำลังล้างฟองออกจากลำตัวก็ได้ยินเสียงทุ้มพร่าคำรามต่ำ เพียงเท่านั้นอุณหภูมิในร่างกายก็พุ่งขึ้นสูงจนต้องเผลอกำมือเอาไว้แน่น

“พีท” ฮานะเอ่ยปรามทั้งที่เสียงสั่นพร่า...ภาพสะท้อนจากกระจกทำให้เขารู้สึกอายจนอยากมุดหนีลงไปในแผ่นกระเบื้อง

...พีทกำลังทำเรื่องน่าอายโดยที่มองมาทางเขาอยู่ตลอดเวลา…ยิ่งได้ยินชื่อของตัวเองที่หลุดออกมาก็ยิ่งหน้าร้อนจนแทบไหม้

เจ้าเด็กลามก! เป็นคนแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย!

“ฮานะตัวแดงหมดแล้ว” เสียงหัวเราะทุ้มต่ำดังขึ้นอย่างชอบอกชอบใจที่เห็นเขาสมาธิหลุด

“เพราะใครเล่า!” ฮานะโยนฟองน้ำที่เพิ่งใช้ถูตัวไปทางคนที่ปั่นประสาทเขาจนกระเจิง “ออกไปรอข้างนอกเลยนะ ไม่งั้นจะโกรธจริงๆ แล้ว!” เสียงที่โวยวายอย่างไม่จริงจังทำให้เจ้าตัวดูน่ารักน่าแกล้งขึ้นไปอีก

แต่ในที่สุดก็ต้องยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้เพราะกลัวว่าฮานะจะโกรธขึ้นมาจริงๆ ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาปิดช่วงล่างเอาไว้เมื่อถูกอีกฝ่ายบ่นว่าเป็นชีเปลือยซ้ำไปมา

ร่างสูงใหญ่เดินออกมารอที่บริเวณห้องนอนตามคำสั่งของคนรัก ภาพสะท้อนจากกระจกตู้เสื้อผ้าทำให้พรูลมหายใจออกมาอย่างปลงตกเพราะบางส่วนนั้นไม่ได้นิ่งสงบลงเลยแม้แต่นิดเดียว

พักหลังมานี้ความต้องการที่มีต่อฮานะมันก็มากขึ้นเรื่อยๆ จนบางครั้งก็ไม่สามารถยับยั้งตัวเองเอาไว้ได้

ยิ่งนึกถึงผิวเนื้อขาวจัดที่ขึ้นรอยแดงตอนที่ถูกเขาบีบขย้ำก็ทำให้ต้องสูดลมหายใจเข้าลึก

ทั้งจิวเม็ดเล็กที่ห้อยอยู่บนสะดือ และรอยสักเส้นสวยบนสะโพกได้รูปทำให้สมาธิไขว้เขวได้อย่างง่ายดาย

...อยากจะถอดเฝือกมันซะพรุ่งนี้เลย..







______________________________







เฮ่ออออ หมดเรื่องหนักสักทีเนอะ /ปาดเหงื่อ

ยังมีบทสรุปของอเล็กซ์ในตอนหน้านะคะ แต่บักเล็กจะไม่มากวนใจแล้วค่ะ สู่ขิตในวันที่ดือเรียบร้อย555

กรรมใดใครก่อกรรมนั้นต้องคืนสนองงง /ฝนเล็บ




ขอบคุณทุกคนเสมอที่ยังอยู่กับเรามาถึงตอนนี้ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ

แล้วพบกันตอนหน้าน้า

ขอฝาก #ดอกไม้ของพีท ด้วยนะคะ <3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-12-2019 19:07:09 โดย Punmile09 »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER E I G H T E E N : 15/12/2019
«ตอบ #145 เมื่อ15-12-2019 21:24:26 »

คุณแกแรนเท่ห์มาก..กกกกกกกกกก    o13

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER E I G H T E E N : 15/12/2019
«ตอบ #146 เมื่อ15-12-2019 22:48:53 »

ใจหายใจคว่ำหมดเลย คุณแกเรนเท่มากๆ จัดการอเล็กซ์ให้สิ้นฤทธิ์ไปเลยค่ะ // เจ้าพีทอยากน้วยฮานะแต่เฝือกไม่อำนวย ให้เราน้วยให้ป่าววววว คิกๆ เราจะน้วยฮานะคนสวยให้เองงงงง  :-[

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER E I G H T E E N : 15/12/2019
«ตอบ #147 เมื่อ16-12-2019 17:42:21 »

น่ารักกันจังเลย ฮือ!!!  :hao5:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER E I G H T E E N : 15/12/2019
«ตอบ #148 เมื่อ16-12-2019 22:43:50 »

อดทนไว้เจ้าพีท

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
Re: SCENT : BLUE OCEAN [OMEGAVERSE] : CHAPTER N I N E T E E N : 20/12/2019
«ตอบ #149 เมื่อ20-12-2019 19:26:02 »

CHAPTER N I N E T E E N

_________________________________






“นี่...ก้มลงมาหน่อยสิ” เสียงร้องเรียกทำให้ต้องลดระดับใบหน้าลงไปเสมอกัน ฮานะยกมือขึ้นมาจับปกคอเสื้อที่ยับย่นให้เข้าที่ในระหว่างที่กำลังรอเข้าฉากเซ็ทต่อไป

วันนี้เป็นวันที่กองถ่ายทีมSCENT Projectได้ย้ายลงมาทำงานที่แถบทะเลทางใต้หลังจากที่ปิดจ็อบของมิคาเอลและหวังลี่ชิงไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย และหลังจากนี้เหลือเวลาอีกเพียงแค่สองสัปดาห์ทางSMAก็จะเริ่มทำการโปรโมตโปรเจกต์นี้อย่างเต็มรูปแบบเพื่อชักชวนให้สื่อมวลชนมาร่วมงานแฟชั่นโชว์ที่จัดขึ้นในเดือนหน้า

“ช่วงไหล่เธอขยายขึ้นอีกแล้ว” ฮานะขมวดคิ้วมุ่นในตอนที่สังเกตมัดกล้ามเนื้อตึงแน่นใต้เชิ้ตสีขาวแขนยาว...เวลาผ่านไปเพียงแค่สามเดือนกว่าเท่านั้นแต่ร่างกายของพีทกลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

บ่ากว้างที่ตั้งตรงรับกับช่วงแขนกำยำ ท่วงท่าสง่าผ่าเผยแทบไม่เหลือเค้าเดิมให้ได้เห็น

“อึดอัดหรือเปล่า” เขาเอ่ยถามคนรักเพราะเกรงว่าพีทจะรู้สึกไม่สบายตัว

“ไม่ครับ สบายมาก” ใบหน้าคมเข้มยิ้มบางเบาในตอนที่วางมือลงไปบนสะโพกได้รูป

ถ้าเขาตัวใหญ่ขึ้น ฮานะเองก็ดูมีน้ำมีนวลขึ้นกว่าเดิมเพราะเจ้าตัวเริ่มหันมาดูแลสุขภาพโดยการเลือกรับประทานอาหารและเข้ายิมพร้อมกันจึงทำให้ช่วงตัวที่เคยเล็กบางมีกล้ามเนื้อสมส่วน โดยเฉพาะบริเวณ...

“พีท...เอามือออกไป” เสียงขู่ต่ำดังขึ้นในตอนที่บั้นท้ายถูกมือใหญ่เลื่อนลงมาจับ

“ขอโทษครับ” เด็กหนุ่มหัวเราะในลำคอก่อนจะเก็บมือกลับไปอย่างว่าง่ายเมื่อถูกฮานะตีเข้าที่หน้าท้องจนต้องร้องอู้ออกมา

“ยังรู้สึกตึงแขนอยู่ไหม” มือเล็กวางลงบนท่อนแขนขวาที่เคยใส่เฝือกเอาไว้ร่วมเดือน หลังจากนั้นพีทต้องเข้ารับการกายภาพอย่างต่อเนื่องอีกหนึ่งเดือน โชคดีที่ตารางนั้นอยู่ท้ายปีไม่อย่างนั้นคงต้องวิ่งวุ่นกันเพื่อหานายแบบคนใหม่มาแทน

“ไม่แล้วครับ” เด็กหนุ่มขยับแขนให้ดูเพื่อยืนยัน

“อืม...ไปได้แล้ว ผู้กำกับเรียกแล้ว” ฮานะพยักหน้าไปทางทีมงานเป็นเชิงบอกทางอ้อม แต่อีกฝ่ายกลับยืนเฉยและมองเขาอยู่อย่างนั้นจนต้องเงยหน้าขึ้นถาม “มีอะไร”

พีทไม่ตอบ ทำเพียงแค่ลดระดับหน้าลงมาใกล้

“ไม่เอา คนเยอะ” ฮานะส่ายหน้าปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นสีหน้าที่เจือปนความผิดหวังก็หลุดหัวเราะออกมา “ไปทำงานได้แล้ว” ริมฝีปากนุ่มกดจูบลงบนแผ่นอกกว้าง กลิ่นน้ำหอมเจือจางทำให้ต้องหลับตาลงเพื่อรับสัมผัสได้อย่างเต็มที่

ไอแดดและลมทะเลถูกร่างสูงใหญ่ของคนรักบังเอาไว้จนเขาไม่จำเป็นที่จะต้องหลบเข้าร่มให้วุ่นวาย

คุณแฟนอเนกประสงค์จริงๆ เลยคนนี้...

“ใส่หมวกด้วยนะครับ เดี๋ยวจะไม่สบาย” เสียงทุ้มที่ดังอยู่เหนือศีรษะพูดอย่างอ่อนโยนก่อนสัมผัสหนักจะกดลงมาที่กลุ่มผม พีทยอมคลายอ้อมกอดออกเมื่อเห็นว่าถึงเวลาที่จะต้องไปเข้าฉาก

“อื้ม รู้แล้วน่า ไปได้แล้ว” ฮานะพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายพร้อมกับดันแผ่นหลังอีกฝ่ายให้เดินออกไป

นัยน์ตาสวยจดจ้องตรงไปยังคนรักด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวอีกฝ่ายจนไม่สามารถกลั้นรอยยิ้มเอาไว้ได้

ร่างสูงใหญ่ดูโดดเด่นท่ามกลางทีมงานนับสิบชีวิต เจ้าตัวสวมเชิ้ตขาวแขนยาวและกางเกงสแลคสีน้ำเงินเข้มเปิดโชว์ข้อเท้าและฝ่าเท้าเปล่าเปลือยที่เหยียบย่ำลงไปบนหาดทราย กระดุมเชิ้ตครึ่งบนถูกปลดออกจนสาบเสื้อแหวกกว้างลงไปถึงลอนหน้าท้องแข็งแรง ที่ลำคอมีเนคไทด์สีเข้มยังไม่ผูกปมพาดเอาไว้ทำให้เจ้าตัวดูเป็นชายหนุ่มอารมณ์ดีที่มากล้นไปด้วยเสน่ห์และมีชีวิตชีวา

เจิดจ้าราวกับแสงอาทิตย์ที่ส่องลงมากระทบผิวน้ำทะเล

เด็กหนุ่มในวันวานเริ่มเติบโตและมีกลิ่นอายของชายหนุ่มแทรกเข้ามาจนทำให้คนที่มองอยู่นั้นใบหน้าเห่อร้อนอย่างง่ายดาย

เรือนผมที่ถูกตัดให้สั้นลงทำให้เผยใบหน้าคมเข้มหมดจด สันกรามได้รูปขึ้นชัดตามฉบับของหนุ่มตะวันตกรับกับริมฝีปากได้รูปและจมูกที่โด่งเป็นสันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

“น้องพีทนี่นับวันยิ่งหล่อขึ้น” หนึ่งในลูกทีมที่ทำงานร่วมกันมานานอดที่จะเอ่ยปากชมไม่ได้ เพราะเธอเห็นพัฒนาการของเด็กหนุ่มมาตั้งแต่แรกเริ่ม ก่อนจะเผลอพลั้งหลุดปากออกไปตามที่รู้สึก “กระแสตอบรับดีกว่าอเล็กซ์ซะอีก อุ่ย...” เธอยกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้เมื่อถูกเพื่อนอีกคนใช้ศอกกระทุ้งเตือนเข้าที่ช่วงเอวก่อนจะหันไปก้มหัวขอโทษเจ้านายเป็นการใหญ่ที่ทำตัวเสียมารยาท

แต่นอกจากฮานะจะไม่ได้ต่อว่าอะไรแล้วกลับทำเพียงแค่ยิ้มแล้วส่ายหน้าอย่างไม่ถือสาราวกับไม่ได้ติดใจอะไร

‘อเล็กซ์ แอนเดอร์สัน’ เป็นชื่อที่ย้ำเตือนถึงบทเรียนราคาแพงที่สุดในชีวิต...แม้จะต้องจบกันอย่างไม่ค่อยสวยงามสักเท่าไหร่นัก แต่อย่างน้อยๆ ทั้งตัวเขาและอเล็กซ์เองต่างก็ได้รับผลของการกระทำที่เกิดจากความสัมพันธ์ที่บิดเบี้ยวมาโดยตลอดแล้ว

หลังจากวันนั้นฮานะก็ไม่ได้เห็นหน้าของอีกฝ่ายอีก แม้แต่ชื่อก็ไม่ถูกกล่าวถึง เขาหายไปราวกับว่าไม่เคยมีตัวตนอยู่ในที่แห่งนี้มาก่อน งานทุกชิ้นโฆษณาทุกตัวที่อเล็กซ์เป็นพรีเซนเตอร์ถูกถอดถอนออกจนหมดเกลี้ยง ช่วงแรกๆ หุ้นของทางSMAนั้นตกลงไปจนน่าใจหายเพราะความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ถูกลดลงไป แต่คุณแกเรนกลับเมินเฉยและผลักดันให้พีทขึ้นมาอยู่ในแนวหน้าสามารถเรียกความมั่นใจจากลูกค้ากลับมาได้ในระยะเวลาสั้นๆ

...และต่อจากนั้นเพียงไม่นานอเล็กซ์ก็ถูกจับกุมด้วยข้อหาทำร้ายร่างกายและมีสารเสพติดไว้ในครอบครอง

ช่วงเวลานั้นสำนักข่าวทุกที่ให้ความสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษเพราะที่ผ่านมาอเล็กซ์นั้นนับว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและกำลังเป็นดาวรุ่งแต่กลับมีข่าวทางด้านลบทั้งที่ขึ้นมาเป็นนายแบบแถวหน้าได้เพียงไม่นาน ทางSMAถูกติดต่อมาเพื่อขอสัมภาษณ์เป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่แกเรน ฮาร์ดเนอร์ ตอบกลับทุกคำเชิญชวนนั้นไปก็คือ ‘คุณแอนเดอร์สันถูกปลดออกจากสัญญาว่าจ้างทุกอย่างแล้ว...รวมไปถึงทางต้นสังกัดด้วย หลังจากนี้ทางSMAไม่ขอรับรู้การกระทำของเขาทุกประการ’

ทั้งหมดนั่นก็หมายความว่า อเล็กซ์ไม่ใช่คนของSMAอีกต่อไปและหลังจากนี้ต่อให้เจ้าตัวทำเรื่องเสียหายอีกสักเท่าไหร่ก็ไม่ถือว่ามีส่วนที่ข้องเกี่ยวกันอีก

ที่ผ่านมาคุณแกเรนยอมทนนิ่งเฉยมาตลอดเพราะมีเขาที่คอยปกป้องงอเล็กซ์...แต่ในวันนี้คำตอบก็ชัดเจนแล้วว่าใครที่คิดกล้าลองดี...จะได้รับผลตอบกลับอย่างไร

ถ้าโอกาสที่เคยหยิบยื่นให้มาโดยตลอดมันไม่ได้ทำให้รู้สึกอยากจะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น แกเรนก็จำเป็นที่จะต้องยึดโอกาสนั้นคืนมาพร้อมกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าตัวเคยได้รับเป็นดอกเบี้ยตอบแทน

ในเมื่อมาตัวเปล่า...ก็ต้องกลับไปตัวเปล่า

แต่หลังจากนั้นเพียงไม่นานก็ได้ข่าวว่าอเล็กซ์ถูกประกันตัวออกไปได้ด้วยความช่วยเหลือจากทางฝ่ายพ่อที่มีเส้นสายในกรมตำรวจก่อนเจ้าตัวจะย้ายกลับไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษถาวร ทำให้ทุกคนไม่สามารถรับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับอเล็กซ์อีก...แม้แต่กับเฮนรีย์เองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่นอนคนล่าสุดที่ถูกฝ่ายนั้นผูกพันธะเอาไว้ก็ยังปฏิเสธที่จะรับผิดชอบข้อกล่าวหาที่ว่ามีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับกับอเล็กซ์ทุกทาง มิหนำซ้ำเจ้าตัวยังร้องไห้ฟูมฟายบอกว่าที่ผ่านมาถูกฝ่ายนั้นข่มเหงและใช้กำลังทำร้ายร่างกายบังคับทุกอย่าง

ฮานะยังจำสีหน้าตัวเองที่รับฟังเรื่องราวทุกอย่างในวันนั้นได้...ทั้งสะอิดสะเอียนและสมเพชในความเห็นแก่ตัวของคนที่ขึ้นชื่อมาเคยร่วมหลับนอนกันมา

...แต่ก็ถือว่าทั้งสองคน...เหมาะสมกันแล้วน่ะนะ...

“รู้สึกอิจฉาคุณฮานะขึ้นมาจริงๆ ก็คราวนี้” เสียงบ่นงึมงำจากลูกทีมทำให้ต้องหยุดคิดฟุ้งซ่านแล้วหันไปมองตามสายตาของพวกเธอ

ร่างสูงใหญ่ที่กำลังยืนดูรูปตัวเองในจอมอนิเตอร์ถูกผู้กำกับสั่งให้ถอดเสื้อเชิ้ตออกเหลือไว้เพียงแค่กางเกงสแลคตัวเดียว แผ่นอกตึงแน่นนั้นดูแข็งแรงรับกับช่วงเอวสอบได้รูป ผิวกายสีเข้มที่อยู่ท่ามกลางแดดร้อนจัดยิ่งเสริมให้เจ้าตัวมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ พีทถูกสั่งให้เดินลุยน้ำลงไปลึกจนถึงช่วงเอวเพื่อให้ได้ภาพอีกเซ็ทตามคำสั่งของผู้กำกับ

และเซ็ทสุดท้ายคือเจ้าตัวต้องเดินขึ้นมาจากทะเลเพื่อเก็บภาพเคลื่อนไหวไปทำวิดีโอโปรโมทในวันเปิดตัวน้ำหอม Blue Ocean เสียงร้องของทีมงานและผู้กำกับเอ่ยชมไม่ขาดปากเมื่อว่านัยน์ตาคมเข้มที่จับจ้องมองตรงมายังเลนส์กล้องนั้นสามารถสื่อสารอารมณ์ได้เป็นอย่างดี

ฮานะมองภาพทั้งหมดด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย...มีเพียงเสียงของจังหวะชีพจรเท่านั้นที่ดังกระชั้นถี่เมื่อถูกสายตาคู่นั้นมองตรงมาหา





(มีต่อหน้าถัดไป)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด