Bed Care Job #พนักงานดูแลเตียง ตอนพิเศษ Dear Valentine จบ UP 14/02/2020
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Bed Care Job #พนักงานดูแลเตียง ตอนพิเศษ Dear Valentine จบ UP 14/02/2020  (อ่าน 158728 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ciizqeen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ป๋าจริงๆ เลยคุณคีน

เนื้อเรื่องเหมือนจะมีดำเนินต่อไปอีก ก็อยากอ่านแบบจบสมบูรณ์ล่ะนะคะ

ก็มีติดนิดนึงตอนพวกเด็กๆ คุยกัน จะเรียกกันว่า แก มึง กู ชั้น สลับๆ กัน ก็เลยเหมือนจะงงอยู่ว่าใครพูดกะใคร.  :mew2:

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
โอ้ยยยย เขินเค้าขอบคุณกัน :-[
อยากให้จบแบบสมบูรณ์จังเลยค่ะ เรารอได้ไม่มีปัญหาเลย รอเก่ง5555555555 o13

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter

BED CARE JOB

ตอนที่ 13 คนอะไรลืมง่าย

 


            ท่วงท่าให้ขอบคุณคุณคีนนั้นไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับผมเลย แต่ผมไม่ได้ตอบเขากลับไปเพราะมีคนข้างหน้ามาตอบแทนผมแล้ว คุณเคนหัวเราะเบา ๆ  แล้วจึงกระแอมกระไอทีหนึ่ง

            “ขอโทษครับ ไม่ได้ตั้งใจไอแต่มันห้ามไม่ได้” คุณเคนว่าอย่างนั้น ผมว่าเขาไม่ได้หมายความแบบนั้นจริง ๆ  หรอก

            “เคน” เสียงทุ้มนุ่มชวนฝันของผมเรียกชื่อคนนั่งข้างหน้า มันช่างปราศจากความอ่อนโยน คล้ายคราวก่อนที่เขาดุผม แต่ผมว่าน้ำเสียงที่เรียกชื่อคุณเคนนั้นดูโหดร้ายกว่าตอนดุผมมากนัก ถ้าผมเป็นคุณเคนถูกเรียกชื่อแบบนั้นคงจะกลัวแน่ ๆ  ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมฟังแล้วจะรู้สึกแค่กลัวนิดหน่อย เป็นเพราะเขาไม่ได้ใช้เสียงนั้นกับผม โล่งใจเลย

            “ครับ?” แต่คุณเคนรับคำแบบไม่ทุกข์ร้อน ผมนับถือเขาจริง ๆ  คุณเคนแข็งแกร่งมากเลยทีเดียว “อ้อ..น้องเปล ผมซ่อมโทรศัพท์เสร็จแล้ว” นอกจากไม่สนใจแล้วยังหันมาคุยกับผมอีกแน่ะ เดี๋ยวเราทั้งคู่ก็โดนดุพร้อมกันหรอก

            “จริงเหรอครับ” ผมลืมตัวดีใจไปเสียสนิท ขยับขาและตัวออกจากคุณคีน แล้วยืดตัวชะโงกหน้าข้ามเบาะข้างหน้าไป

            “นี่ครับ” คุณเคนยื่นโทรศัพท์มาให้ แต่มันไม่ใช่อันเดิมที่ผมเคยใช้ ผมไม่กล้ารับจึงมองของในมือเขาอย่างไม่เข้าใจ

            “รับไปสิ” คุณคีนพูดขึ้นบ้าง ผมไม่อิดออดเอื้อมมือไปรับพลางขอบคุณอีกฝ่าย

            “ไหนคุณเคนบอกว่าซ่อมได้ไงครับ” ผมมองโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่เอี่ยมในมือ

            “ซ่อมแล้ว ดูสิ มีทั้งเบอร์โทร ทั้งข้อมูลต่าง ๆ  อยู่ในนั้นครบ”

            “เขาเรียกว่าย้ายข้อมูลต่างหากครับ” ผมเม้มปาก

            “อ้าวเหรอ ที่บ้านผมเรียกแบบนี้ว่าซ่อม บ้านน้องเปลเรียกไม่เหมือนกันเหรอ” ผมส่ายหน้าเมื่อได้ยินคำถาม

            “ไม่เหมือนครับ คงมีแต่บ้านคุณเคนคนเดียวที่เรียก ที่อื่นเขาเรียกว่าเปลี่ยนเครื่องใหม่” ผมตอบเขากลับไป คุณเคนนี่ยียวนเก่งเหลือเกิน

            “ผมเข้าใจผิดมาตลอดเลยเหรอ แย่จังนะครับ ถ้าอย่างนั้น ผมต้องขอโทษด้วยนะน้องเปล”

            “พอได้แล้วทั้งสองคน เคนก็เลิกแกล้งน้องสักที” ผมกำลังจะอ้าปากบอกคุณเคนว่าให้เลิกแกล้งผม แต่คุณคีนก็เข้ามาห้ามทัพและช่วยผมเอาไว้ เขาดึงผมให้ลงไปนั่งที่เบาะข้างตัวเขาเหมือนเดิมแล้วถามผมเสียงเบาเช่นเคย “หิวหรือยัง”

            “นิดหน่อยครับ แล้วนี่เรากำลังจะไปไหนกันเหรอ” เคยเป็นไหมครับ ตอนแรกก็ไม่หิวพอถูกถามกลับหิวขึ้นมาทันทีเลย ผมจึงถามคุณคีนเพราะอยากกลับไปกินข้าวที่ห้องแล้ว หวังว่าป้าร้านข้าวตรงหน้าปากซอยจะยังไม่เก็บร้าน

            “ไปกินข้าว”

            “เอ๊ะ? เอ่อ..ไม่เป็นไรครับ ช่วยไปส่งผมที่ห้องแล้วเดี๋ยวผมหาอะไรแถวนั้นกินเองได้ครับ” ผมบอกด้วยความเกรงใจ

            “ผมตั้งใจว่าจะกินข้าวแล้วคุยเรื่องที่บ้านคุณไปพร้อมกัน”

            “เอ..อย่างนั้นหรือครับ ได้ครับ ๆ” พอเขาจั่วหัวมาเรื่องที่บ้าน ผมคิดว่าผมจะพลาดเรื่องนี้ไม่ได้เพราะยังไงพวกเขาก็คือครอบครัวผมและผมก็เป็นห่วงปิงด้วย

            “งั้นเรากินข้าวกันไป คุยเรื่องที่บ้านคุณกันไปนะ”

            “ตกลงครับ”



            เรามาถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง ผมเห็นทางเข้าร้านถูกประดับประดาด้วยไฟสีต่าง ๆ ทั้งดอกไม้นานาพันธุ์ รวมถึงต้นไม้สีเขียวมากมาย มีน้ำพุขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้า เห็นแล้วทำให้รู้สึกผ่อนคลายมาก แค่มองจากข้างนอกยังดูสวยหรูขนาดนี้แล้วข้างในล่ะจะเป็นอย่างไร ผมเดินข้างตัวคุณคีนเงียบ ๆ  ประหม่าทุกย่างก้าวที่เดิน ผมไม่เคยมาสถานที่สวย ๆ  และอลังการแบบนี้มาก่อนสักครั้ง


            อาหารหรูสุดในชีวิตผมก็คือชาบูหน้ามอหรือสเต๊กในห้าง อ้อ เพิ่งนึกได้ว่าผมเคยมีมื้อหรูกว่านั้นคืออาหารในโรงแรมชื่อดัง โจเป็นคนชวนผมไปที่โรงแรมเพราะเป็นงานวันเกิดพ่อของโจ ไม่ใช่เพียงแค่ผมที่ได้ไปนะ ภพกับเอกก็ไปเช่นกัน


            งานวันเกิดพ่อของโจนั้นผมยังมีเพื่อนไปด้วยให้อุ่นใจ อะไรที่ไม่เคยกิน ไม่เคยลองก็มีเอกและภพที่หน้าแตกไปด้วยกัน มันเลยไม่รู้สึกเขินและอายเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้ต่างออกไปผมมากินข้าวกับนักการเมืองคนดังตามลำพัง คุณเคนไม่ได้มาด้วย เขาขอลงจากรถไประหว่างทางที่มาร้านอาหารและบอกผมทานอาหารให้อร่อย แต่ท่าทางยิ้มน้อย ๆ ของคุณเคนนั้นทำให้ผมคิดดีไม่ได้เลย ไม่รู้จะแกล้งอะไรผมอีกไหม เสียแรงที่ผมคิดว่าคุณเคนใจดีไม่แกล้งผม!


            ผมเดินตัวลีบไปถึงหน้าประตู มีพนักงานชุดขาวยืนอยู่ตรงหน้า เขายิ้มให้ก่อนจะโค้งศีรษะให้ผมกับคุณคีนและเปิดประตูให้เราอย่างนอบน้อม ขาผมชักจะก้าวไม่ออก คุณคีนกินข้าวข้างทางธรรมดาไม่ได้หรือ ผมไม่ได้เดินตามเขาไปเพราะมัวแต่คิดสงสารตัวเองว่ากำลังมาอยู่ผิดที่ผิดทาง คุณคีนเห็นผมยืนนิ่งจึงใช้มือแตะหลังผมเบา ๆ เป็นการเร่งให้เดินไปพร้อมกัน


            ข้างนอกว่าสวยแล้ว ข้างในสวยเกินกว่าที่ผมจินตนาการไว้มาก ผมมองภายในร้าน บนเพดานร้านถูกประดับด้วยโคมไฟระย้ามีเส้นสายไฟหลากสีถูกลากยาวออกไปจากตัวโคมไฟ ไปจรดที่ผนังอีกฝั่ง มีสายไฟผูกโยงแบบนี้ไปทั่วทั้งร้าน นอกจากนั้นยังมีไม้ประดับห้อยลงมาจากเพดานด้วย รู้สึกเหมือนกำลังหลุดเข้ามาอยู่ในเทพนิยาย ดินแดนมหัศจรรย์


           พนักงานพาเราไปนั่งที่โต๊ะมุมหนึ่งของร้าน เป็นมุมที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านแต่มีพนักงานยืนอยู่ในระยะสายตา แต่ไม่ต้องกังวลว่าถ้าเรียกพนักงานแล้วจะไม่มีทางได้ยิน

           “อยากกินอะไรครับ”

           “ผม..เอ่อ..ไม่รู้ครับ” ผมไม่รู้ว่าที่นี่มีอาหารแบบไหนบ้าง ถ้าบอกว่าขอส้มตำปูปลาร้าเผ็ดจัด จะมีให้กินไหม และต่อให้มีจริงผมก็ไม่กล้าสั่งหรอก มันไม่เข้ากับคนตรงหน้าผมเลย ชุดสูทสวย ๆ  กับท่าปั้นข้าวเหนียวจิ้มน้ำส้มตำคงไม่เข้ากับฝรั่งตาสีน้ำตาลอ่อนเท่าไหร่

           “ถามใหม่ คุณชอบกินอาหารแบบไหน ไทย จีน ญี่ปุ่น หรืออื่น ๆ  ?”

           “ผมกินได้หมดครับ ผมไม่เรื่องมากเรื่องของกิน” คำถามนี้ตอบง่าย ผมตอบจากใจเลย มัวแต่เรื่องเยอะ ผมอาจจะไม่มีกินเอาได้

           “เชฟที่นี่เขาทำอาหารเหนืออร่อยมาก อยากลองดูหน่อยไหม” คุณคีนเสนอความคิดเห็น จะว่าไปตอนที่กลับลำปางผมก็ไม่ได้กินข้าวที่บ้านเลย แม่ไม่ได้ทำกับข้าวไว้เนื่องจากปิงไม่อยู่บ้าน น้องชายผมมันไปรับจ้างทำงานที่อำเภอใกล้ ๆ

           “มีด้วยเหรอครับ”

           “มีครับ” คุณคีนชูมือขึ้นนิดหน่อยเป็นสัญญาณเพื่อเรียกพนักงาน “ที่นี่มีอาหารเหนืออะไรบ้างครับ”

           “ไม่ทราบมาก่อนเลยว่าคุณคีนทานอาหารเหนือด้วยนะคะ” พนักงานสาวถามคุณคีนขึ้นด้วยความสนเท่ห์

           “วันนี้พาคนเหนือมาเผื่อว่าเขาจะคิดถึงอาหารบ้านเกิด”

           “อ้อ..ค่ะ ร้านเราทำอาหารเหนืออร่อยมาก ๆ  รับรองคุณผู้ชายท่านนี้ต้องชอบแน่ ๆ  ค่ะ งั้นดิฉันขออนุญาตแนะนำเมนูเลยนะคะ เชฟของเราวันนี้ลงมือทำน้ำพริกอ่อง ลาบหมูคั่ว แกงฮังเล น้ำพริกหนุ่มและข้าวซอยไก่ค่ะ ส่วนเมนูอาหารเหนืออื่น ๆ  จะอยู่ที่หน้าสาม คุณลูกค้าลองเปิดดูเพิ่มเติมก่อนก็ได้ค่ะ” หญิงสาวพนักงานตอบด้วยน้ำเสียงฟังรื่นหู ใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลาที่ให้บริการ

           “เปลว่าไงครับ อยากกินอะไร”

           “ผมอยากกินไข่อ๊อกมีไหมครับ” ผมมองหน้าเขาอย่างกล้า ๆ  กลัว ๆ  ตอนที่ถามถึงเมนูไข่ของโปรดผม

           “มองหน้าผมทำไมครับ ถามพนักงานเองเลย ไม่ต้องเกรงใจผม”

           “เอ่อ.. มีไข่อ๊อกไหมครับ” ผมทำตามที่คุณคีนบอก เงยหน้าขึ้นไปถามพนักงานอย่างเกรง ๆ 

           “มีแน่นอนค่ะ”

           “งั้นเอาที่หนึ่งครับ” ผมสั่งเสร็จสรรพ ถ้ามองหน้าคุณคีน เขาต้องบอกให้ผมสั่งเองแน่นอน

           “พอแล้วหรือ” คุณคีนถามเมื่อเห็นผมสั่งเพียงอย่างเดียว

           “ครับ”

           “แล้วจะอิ่มได้ไง” เขาส่ายหน้าเล็กน้อย มันไม่ใช่สีหน้าเอือมระอานะ ไม่รู้สิผมบอกไม่ถูกว่าเขาทำหน้าแบบไหน คุณคีนหันไปทางพนักงานแล้วพูดต่อ “ข้าวสวยสอง และอาหารเหนือที่แนะนำมาเมื่อสักครู่นี้ด้วย อ้อ...พาสต้าเนื้อแกะตุ๋น พิซซ่าน้ำมันทรัฟเฟิลใส่เห็ดแชมปิญองและมักคาโพเน่ชีสครับ”

           “รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ”

           คุณคีนมองหน้าผม เลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นเป็นเชิงถาม เขาเลือกไม่พูดแต่ต้องการให้ผมตัดสินใจเอง

           “น้ำเปล่าครับ” ผมขอเลือกน้ำที่ปลอดภัยที่สุดไว้ก่อนแล้วกัน

           “ผมขอโซดาครับ”

           “ค่ะ รอสักครู่นะคะ” พนักงานทวนรายการอาหารแล้วขอตัวออกไป

           “ไม่สั่งกาแฟเหรอครับ”​ ผมสะดุดหูตอนที่เขาสั่งน้ำเป็นโซดา ผมไม่เคยเห็นเขาดื่มเครื่องดื่มอื่น ๆ  เลยนอกจากกาแฟ

           “วันนี้ผมดื่มไปสามแก้วแล้ว มากกว่านี้เดี๋ยวนอนไม่หลับพอดี” คุณคีนตอบพร้อมรอยยิ้มนิด ๆ

           ขอร้อง..อย่ายิ้มแบบนี้ได้ไหม ผมจะทนไม่ไหว

           “ดีแล้วครับ พอก่อนก็ดี คุณดื่มเยอะมากเลย ตอนที่ไปร้านพี่ปุยฝ้าย คุณต้องสั่งกาแฟอย่างน้อยสองแก้วตลอด ดื่มมากไปก็ไม่ต่อสุขภาพหรอกครับ” ผมพูดตามใจนึก

           คุณคีนมองผมนิ่งด้วยสายตาที่ผมอ่านไม่ออก เขาคิดอะไรอยู่หรือว่าจะไม่พอใจที่ผมไปแนะนำเขา ผมแค่หวังดีไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้นเลย

           ผมสาบาน

           “เอ่อ..อย่าโกรธผมนะครับ ผมไม่ได้ต่อว่าหรือจะสอนคุณ” เมื่อเขาไม่พูด ผมเลยกลายเป็นคนร้อนตัวต้องรีบบอกไม่อยากให้เขาเข้าใจเจตนาผมผิด

           “หวังดีหรือเป็นห่วง?”

           “ผม...”

           “ผมคาดหวังว่าจะได้ยินคำตอบหลังนะครับ”

           “แล้วเอ่อ..คุณสั่งอาหารมาหลายอย่าง แบบนี้จะกินหมดไหม” ผมเฉไฉเปลี่ยนเรื่องถามถึงเมนูอาหารของเขา นึกถึงพิซซ่าชื่อแปลก ๆ  ยาว ๆ นั่นที่ผมจำชื่อไม่ได้แล้วด้วย

           คุณคีนไม่ว่าอะไรที่ผมตั้งใจไม่ตอบคำถาม เขาทำเพียงแค่หัวเราะเบา ๆ  เท่านั้น


           เอาละ ผมสารภาพก็ได้ว่าผมหวังดีกับคุณคีนและปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแท้จริงแล้วผมเป็นห่วงเขา เป็นห่วงมากด้วย ก็..ก็เขาอายุอานามก็ไม่น้อยแล้ว ต้องดูแลตัวเองหน่อย แล้วดูสิสั่งอะไรมาก็ไม่รู้ แป้งทั้งนั้น

           “งั้นก็ช่วยผมกินให้หมดสิครับ”

           “เยอะขนาดนั้น ผมไม่แน่ใจว่าจะกินหมดไหม ถ้ากินไม่หมดเสียดายแย่” ผมโอดครวญ

           “อย่าคิดมาก นาน ๆ  ทีนะครับ อีกอย่างผมคงไม่ได้พาคุณมากินแบบนี้บ่อย ๆ”

           “ครับ” ผมพยักหน้าแล้วมองไปรอบร้าน ไม่กล้ามองหน้าเขากลัวคุณคีนจะทวงคำตอบ ร้านนี้สวยและยังแฝงความหรูหราเอาไว้ คุณคีนมองตามสายตาผมก่อนจะถามขึ้น

           “ชอบร้านนี้ไหม”

           “ชอบครับ ร้านสวยมาก”

           “ใช่ ร้านสวยมาก เจ้าของร้านตั้งใจตกแต่งร้านให้ลูกค้าชอบโดยเฉพาะ”

           “ครับ? คุณพูดเหมือนตกแต่งร้านให้ลูกค้าชอบนี้ไม่ดี” ผมแปลกใจ ลูกค้าชอบสิดี จะได้มาอีกบ่อย ๆ

           “ดีครับ ถ้าลูกค้าที่ชอบจะไม่ใช่ลูกค้าพิเศษ”

           “หมายความว่าไงครับ” ผมถามกลับไปนึกสงสัยคำพูดเขา

           “ไม่มีอะไรหรอกครับ อาหารมาแล้วล่ะ” คราวนี้เป็นคุณคีนที่เลือกเปลี่ยนเรื่องบ้าง ผมอาจจะซื่อไปบ้างแต่ผมก็ปะติดปะต่อ เดาเรื่องเก่งนะ

           “ครับ แล้ว..เรื่องที่บ้านผมเป็นไงบ้าง”

           “กินก่อนดีไหม อิ่มแล้วค่อยคุย”


           ผมอ้าปากจะปฏิเสธว่าไม่เป็นไร คุยเลยก็ได้ แต่อาหารตรงหน้ากลับส่งกลิ่นหอมเย้ายวนจมูกผมเหลือเกิน ผมกินข้าวต้มมาหลายมื้อแล้ว โหยหาอาหารที่ไม่ใช่ข้าวต้มเต็มที และยิ่งได้กลิ่นอาหารบ้านเกิดทำให้ผมแทบอดใจไม่ไหว แล้วนั่น..นั่น..ไข่อ๊อก อาหารจานโปรดของผม หน้าตาน่ากินมาก จนผมเกือบจะห้ามใจจ้วงมันไม่ได้ แต่ติดที่ว่าเกรงใจคนนั่งตรงข้าม เขาอาจจะตกใจที่เห็นผมแปลงร่างกลายเป็นคนตะกละตะครุบของกินไปแล้ว

           “กินเลย คุณคงหิวแล้ว”

           “งั้นผมกินเลยนะครับ”

           “อืม กินเยอะ ๆ  นะ”

           ผมหิวข้าวก็จริงอยู่ แต่ไม่คิดว่าจะกินได้เยอะขนาดนี้ ผมฟาดมันทุกอย่างตรงหน้า ตอนที่ผมเห็นจานพาสต้ากับพิซซ่าถูกนำมาเสิร์ฟวางบนโต๊ะ แวบแรกในหัวผมคือมันช่างไม่เข้ากันเสียเลย อาหารเหนือกับอาหารอิตาเลี่ยน มันจะไปด้วยกันได้ไง คุณคีนบอกขึ้นเมื่อเห็นผมลังเลอาหารต่างสัญชาติตรงหน้า

          “ลองกินดูสิครับ มันต่างกันก็จริงแต่ไม่ได้แปลว่าเข้ากันไม่ได้”

          ผมลองกินตามคำแนะนำจากคุณคีนและค้นพบว่าอาหารอร่อย ผมตักจานนั้น จานนี้กินสลับกันโดยลืมไปแล้วว่าอาหารบนโต๊ะมันแตกต่างกัน คุณคีนไม่ได้กินเยอะเท่าผม เขานั่งเท้าคางเอียงใบหน้าเล็กน้อย อีกมือหนึ่งยกแก้วโซดาดื่มเป็นระยะ คอยมองผมเงียบ ๆ

          “คุณอิ่มแล้วเหรอ” ผมถามเพราะเห็นเขาหยุดกินไปสักพักแล้ว

          “ครับ”

          “งั้นผม..” ผมควรจะเลิกกินตามเขาดีไหม แล้วถ้าผมยังกินต่อ เขาจะคิดว่าผมตะกละหรือเปล่า

          “กินต่อเถอะครับเปล”

          “แต่คุณอิ่มแล้วนี่ครับ” ผมเริ่มอึกอักชักกินต่อไม่ลง ก็ดูสิ..เขามองผมไม่ละสายตาไปทางไหนเลย

          “ครับ ปกติผมกินไม่เยอะ อายุขนาดผมใช่ว่าจะตามใจปากได้ตลอดเวลา แต่ถ้าคุณยังไม่อิ่ม ก็กินต่อเถอะครับไม่ต้องสนใจผม คุณยังเด็ก กินได้อีกเยอะแล้วตอนนี้คุณก็ผอมกว่าตอนแรกที่ผมเจอคุณเสียอีก”

          “ผมผอมลงเหรอครับ” ผมมีอะไรต้องคิดมากจนไม่ได้สังเกตตัวเองเลยว่าผมอ้วนขึ้นหรือผอมลง

          “ใช่ครับ”

          “คุณรู้ได้ไงว่าผมผอมลง ผมเองยังไม่รู้เลย”

          “จะให้ผมบอกจริง ๆ  เหรอว่าผมรู้ได้ยังไง” เขาเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้น ปล่อยมือจากแก้วโซดา หยุดเท้าคางแล้วมองผมอย่างตั้งใจ

          “ไม่เป็นไรดีกว่าครับ ผมก็ลืมไปว่าคุณต้องรู้อยู่แล้วไม่งั้นชุดที่ผมใส่อยู่คงไม่พอดีตัวแบบนี้”

          “ฉลาดเลี่ยง”

          “เปล่าสักหน่อย” ผมอุบอิบตอบกลับ ผมลืมไปได้ยังไงว่าเขาเป็นคนเดียวที่ได้ใกล้ชิดผมมากที่สุด ผมก้มหน้าก้มตากินอาหารต่อไม่กล้าสู้หน้าเขา อีกอย่างท้องผมก็ยังไม่อิ่ม

          ผมจัดการไปทีละอย่าง ทีละอย่าง จนเกือบหมด ผมอิ่มมากจริง ๆ ท้องผมจะแตกแบบชูชกไหม

          “อิ่มแล้วเหรอ” คุณคีนถามขึ้นเมื่อเห็นผมวางช้อนส้อมเรียบร้อย

          “ครับ อิ่มแล้ว อิ่มมาก”

          “หายป่วยแล้วกินเก่งไม่เบา สงสัยจะเลี้ยงไม่ไหว”

          “ถึงผมจะกินเยอะแต่ผมก็ทำงานเก่งนะ รับรองถ้าจ้างผมแล้วผมจะไม่ทำให้ผิดหวังเลย อีกอย่างอาหารที่นี่อร่อยทุกอย่างเลย ผมเสียดายถ้ากินไม่หมด” ในคำตอบผมมันมีทั้งความจริงและคำหลอกลวงแฝงปนอยู่ในนั้น ผมเสียดายอาหารก็จริงอยู่ แต่มันไม่มากไปกว่าที่ผมอยากกินเพราะอาหารอร่อยมาก

          “ถ้าจ้างทำงานแล้วจะตั้งใจ ไม่ทำให้ผิดหวังจริงเหรอ”

          “จริงครับ” ผมฉีกยิ้มกว้างให้เขา ผมไม่เกี่ยงงาน ทุ่มเทตั้งใจทำงานทุกงาน

          “มีอยู่งานหนึ่ง” คุณคีนเกริ่นแล้วมีหน้าครุ่นคิดเหมือนกำลังประเมินอะไรอยู่สักอย่าง

          “ครับ?”

          “มีอยู่งานหนึ่งที่คุณไม่ค่อยตั้งใจ”

          “มีด้วยเหรอครับ ผมตั้งใจทำทุกงานนะ” ผมบอกเขา จะเรียกว่าเถียงก็ได้ อย่ากล่าวหาผมในทางร้ายแบบนี้สิ

          “แล้วงานที่เคยทำกับผมล่ะ ตั้งใจหรือเปล่า”

          “คะ..ครับ?” ผมหน้าร้อน หายใจติดขัดจนสำลักน้ำลายรีบคว้าน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มอั้ก ๆ  อย่างเอาเป็นเอาตาย

          “ค่อย ๆ  ดื่มสิ”


          ถ้าเขายังไม่หยุดพูดอีก ผมจะขอมุดใต้โต๊ะตรงนี้ ภาพย้อนกลับมาเป็นฉาก ๆ ถึงครั้งที่ผมกับเขาเคยอยู่บนเตียงเดียวกัน เขาทำอะไรกับผมบ้าง ทำไมผมจะจำไม่ได้ ถึงจะปิดไฟในห้อง มองไม่เห็นอะไร แต่ร่างกายผมไม่ได้ถูกปิดไฟด้วยนี่นา

          “หน้าแดงหมดแล้ว คิดอะไรไม่ดีอยู่ใช่ไหม”

          “ไม่ใช่ครับ” ผมกระแอมทีหนึ่ง หวังให้มันช่วยปรับเสียงให้มั่นคง เปลี่ยนเรื่องดีกว่า “แล้วที่บ้านผมเป็นไงบ้างเหรอครับ” เขาบอกว่ากินอิ่มแล้วค่อยคุย ตอนนี้ผมอิ่มแล้ว มาเข้าเรื่องกันเถอะ

          “เรื่องที่บ้านคุณ...”

          “ไง..คุณคีน ไม่นึกว่าจะเจอคุณที่นี่” ชายผู้มาใหม่เข้ามาทักคุณคีน ผมไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ แต่ประเมินจากสายตาว่าเขาน่าจะมีอายุประมาณสักห้าสิบปีขึ้นไป คุณคีนลุกขึ้นยืนทันทีที่ถูกทัก ผมจึงรีบลุกขึ้นตามเขาโดยพลัน

          “สวัสดีครับคุณศักดิ์” คุณคีนยกมือไหว้อีกฝ่าย ผมจึงทำตามเขาอีกครั้ง

          “แล้วเคนไม่มาเหรอ ปกติเห็นตัวติดกัน”

          “เคนติดธุระครับ” คุณคีนตอบอีกฝ่ายอย่างสุภาพ

          “อย่างนั้นเหรอ อ้าว..หนุ่มน้อยหน้ามนคนนี้ใครกันล่ะ ไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน”

          “เป็น...น้องชาย..” ผมไม่รู้ว่าคุณคีนจะบอกว่าผมเป็นน้องชายของใครแต่ผมรีบแทรกขึ้นทั้งที่รู้ว่าเสียมารยาทก็ตาม ผมยังจำได้ถึงประโยคที่คุณเคนเคยพูดตอนพาผมไปโรงพยาบาลได้ในตอนนั้น


          ‘ถ้าใครถามผมยังบอกได้ว่าเขาเป็นน้องชาย แล้วคุณล่ะจะบอกคนอื่นว่าไง’


          “สวัสดีครับ ผมเป็นน้องชายของพี่เคนครับ” ผมไหว้คนมาใหม่อีกครั้งและเริ่มแนะนำตัว ผมไม่ใช่คนโกหกเก่งก็จริง แต่ถ้ามันไม่ค่อยเกี่ยวกับความรู้สึก ผมสามารถทำได้ไม่ยากลำบาก

          “งั้นเหรอ ไม่คิดว่าเคนจะมีน้องชายด้วย”

          “ครับ”

          “ชื่ออะไรล่ะพ่อหนุ่ม”

          “คุณศักดิ์มาทานข้าวเหมือนกันเหรอครับ” คุณคีนถามขึ้นจังหวะเดียวกันกับที่คุณศักดิ์ถามผม

          “ใช่ ๆ  เพิ่งประชุมพรรคเสร็จน่ะ เลยมาหาอะไรกินผ่อนคลายเสียหน่อย”

          “เหรอครับ ผมก็เพิ่งกินเสร็จ กำลังจะกลับพอดี เสียดายที่เจอกันช้าไปหน่อยนะครับ ไม่งั้นคงได้ร่วมโต๊ะกันแล้ว” คุณคีนตอบอีกฝ่ายกลับไปอย่างนอบน้อม แต่ผมกลับไม่ค่อยสบายใจ

          วงการนี้มันโปร่งใส ตรงไปตรงมาอย่างที่เราเห็นหรือเปล่า?

          “อืม น่าเสียดาย เอาละ ผมไม่กวนเวลาพวกคุณแล้วกัน ผมกลับโต๊ะก่อนละกัน”

          “สวัสดีครับ ทานให้อร่อยนะครับ” คุณคีนยกมือไหว้คนอายุสูงกว่า แล้วผมล่ะ? ก็ทำตามอย่างที่คุณคีนทำเหมือนเดิม คุณศักดิ์พยักหน้าทำท่าจะเดินกลับไปแต่คงนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาหันมาทางผมแล้วยิ้มให้

          “เกือบเสียมารยาทแล้วที่ไม่ได้แนะนำตัวให้น้องชายเคนรู้จัก นี่นามบัตรผมนะ ต้องการความช่วยเหลือก็ติดต่อมาได้” เมื่อเขายื่นมาให้ ผมจำเป็นต้องรับและกล่าวขอบคุณ


          คล้อยหลังคุณศักดิ์อะไรนั่นกลับไป คุณคีนก็เรียกพนักงานมาคิดเงินทันที ผมไม่ได้ถามเขาว่าทำไมต้องรีบกลับทันทีทั้งที่ผู้ชายคนนั้นแค่มาพูดคุยด้วยเท่านั้น แน่ละ ผมจะถามเขาไปทำไมในเมื่อก็เห็นอยู่แล้วว่าสถานการณ์มันแปลก ๆ  ไม่ชอบมาพากลเลย

          คุณคีนกระซิบบอกผมตอนที่เราลุกออกจากโต๊ะด้วยประโยคสั้น ๆ  ว่า “เดินเร็วหน่อยนะครับเปล”


          ผมไม่รู้ว่าเดินเร็วของเขาคือเร็วแค่ไหน และไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าความสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบหกเซ็นของผมในวันนี้ดูจะไม่เพียงพอกับคำว่าเดินเร็วของคุณคีนเสียแล้ว เขาเดินเร็วมาก ผมเดินตามเขาไม่ทันแต่พอเขาเห็นว่าผมไม่ได้เดินข้างเขา คุณคีนก็ชะงักแล้วก้าวขาให้ช้าลงเพื่อรอให้ผมไปพร้อมกับเขา





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2019 15:29:24 โดย เขมกันต์ »

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter





            เมื่อเราขึ้นไปนั่งในรถตู้ได้ คุณคีนสั่งคนขับให้ออกรถอย่างรวดเร็ว รถแล่นไปได้สักพัก ไม่รู้ว่าวิ่งมาไกลแค่ไหน ผมมองไม่เห็นสองฝั่งข้างทางเพราะมีผ้าม่านปิดไว้ยกเว้นกระจกหน้ารถและบานกระจกหลังเท่านั้น ได้ยินเสียงคุณคีนถอนหายใจ ก่อนที่ร่างผมจะถูกเขาดึงเข้าไปกอดไว้แน่น ผมตกใจแต่ไม่กล้าขยับตัวเพราะคำพูดที่เขาพูดออกมาให้ผมได้ยิน

            “ผมไม่น่าพาคุณมาที่นี่เลย” เขาพูดอู้อี้เสียงเบาอยู่บนบ่าผม

            “คุณไม่สบายใจเหรอครับ” ผมรู้สึกไม่ค่อยดีที่เขาพูดเหมือนกำลังเสียใจ แค่คุณคีนพูดด้วยน้ำเสียงที่หม่นหมอง ผมกลับเจ็บที่ใจแทน

            ผมชอบเขามากจริง ๆ

            “ขอโทรศัพท์คุณให้ผมหน่อย”

            “ได้ครับ” ผมส่งโทรศัพท์ไปให้เขา โดยไม่ได้ถามว่าคุณคีนจะเอาไปทำอะไร เขารับไปแล้วกดอะไรกุกกักอยู่ในนั้นชั่วครู่ก่อนจะส่งคืนให้ผม

            “ผมเมมเบอร์ผมและเคนไว้ให้คุณแล้ว ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรก็ตามคุณโทรหาผมได้ตลอดเวลา ถ้าหากโทรหาผมไม่ติดให้โทรหาเคนได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ และที่สำคัญห้ามให้เบอร์ผมกับใครนะครับ”

            “เอ่อ..ครับ” สีหน้าเขาดูจริงจังจนผมไม่กล้าปฏิเสธหรือถามเพิ่มไปมากกว่านี้ ผมรู้สึกเจ็บมือจึงแบมือออกเห็นกระดาษสี่เหลี่ยมเล็กของผู้ชายคนนั้นอยู่ในมือ คุณคีนมองตามผมแล้วพูดขึ้น

            “นามบัตรนั่นไม่ต้องสนใจ ทิ้งไปเลย”

            “เขาเป็นใครหรือครับ”

            “คุณศักดิ์ชัย..เป็นเลขาธิการพรรคหนึ่ง”

            “เป็นสส. ด้วยเหรอครับ”

            “ดูจากผลเลือกตั้งครั้งนี้แล้วคงต้องตอบว่า ใช่”

            “งั้นเหรอครับ”

            “เปลครับ ผมขอเตือนคุณเอาไว้ อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับคุณศักดิ์เด็ดขาดนะครับ” ทั้งน้ำเสียงและท่าทางคุณคีนดูจริงจังกับการที่ไม่ต้องการให้ผมเข้าไปข้องแวะกับนักการเมืองคนนั้นมาก

            “เขาเป็นคนไม่ดีหรือครับ” ผมไม่รู้ว่าทำไมคุณคีนถึงดูเป็นห่วงผมเรื่องนี้นัก

            “ถ้าผมพูดจะเป็นการใส่ร้าย แต่คุณเป็นคนฉลาด คงเดาได้” คุณคีนไม่ตอบแต่กลับพูดปริศนาขึ้นมา จู่ ๆ  ก็อยากจะชมว่าผมฉลาด โอเคครับ ไม่ปฏิเสธ ผมแค่ซื่อ ไม่ทันคนบ้าง แต่ผมรู้ตัวว่าผมฉลาด

            “ครับ”

            “ครั้งหน้าผมจะพาคุณไปร้านอื่นที่ไม่เจอคนรู้จักดีไหม” เขามองหน้าผมพลางส่งยิ้มบางเบามาให้

            คุณศักดิ์ชัยคนนี้ มีอิทธิพลมากน้อยแค่ไหนถึงทำให้คุณคีนทำหน้ารู้สึกผิดกับผมขนาดนี้

            “ไม่เป็นไรครับ ร้านนี้ก็ดีแล้ว ร้านสวย อาหารก็อร่อย ผมชอบครับ” ผมบอกให้เขาสบายใจ

            “ผมคิดง่ายเกินไป ไม่ระวังความคิดให้ดีกว่านี้ ร้านนี้มันดีกับตัวผม แต่ผมกลับลืมไปได้ไงว่ามันไม่ดีกับตัวคุณเลยสักนิดเดียว”

            “หมายความว่าไงครับ” ผมไม่เข้าใจ ไม่ดียังไง อาหารอร่อยถูกใจผมมากเลยนะ

            “ขอโทษนะครับ”

            “คุณคีนครับ คุณกังวลอะไรอยู่ ผมไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไรอะไรเลย” ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นแสดงออกชัดว่าไม่สบายใจ

            ไม่อยากเห็นเขาเป็นแบบนี้เลย


            ผมประคองใบหน้าเขาด้วยทั้งสองมือของผม เราสบตากัน มองเห็นกันด้วยแสงไฟจากถนนลอดเข้ามาจากทางกระจกด้านหลังเท่านั้น ผมยิ้มให้เขาแทนคำพูดว่า ‘ผมไม่เป็นไร คุณไม่ต้องเป็นห่วงเลย’ ไม่รู้ว่าความรู้สึกผมจะส่งไปถึงเขาไหมในตอนที่ริมฝีปากเราได้สัมผัสกัน


            คุณคีนชะงักไปเล็กน้อย เขาคงคิดไม่ถึงว่าผมจะเป็นฝ่ายจูบเขาก่อน แต่ประสบการณ์ชั่วโมงของผมกับเขาต่างกัน เขาปรับตัวได้เร็วและเป็นฝ่ายจูบผมกลับแทน ตอนที่ผมยังทำงานให้เขานั้น เราเคยจูบกันก็จริงหากไม่มากและไม่นานด้วยความตื่นกลัวของผม ทว่าครั้งนี้มันยาวนานกว่าที่เป็น


             เรียวลิ้นลากไล้ไปตามแนวฟัน ริมฝีปากล่างที่ผมเคยดุแกมสั่งไม่ให้เขากัดผมอีก คราวนี้มันถูกเม้มดูดดึงจนผมห้ามปรามเขาไม่ได้ ท้ายทอยผมถูกจับไว้แน่นด้วยมือเขา เราจูบกัน คลอเคลียกันจนหลังผมสัมผัสเข้ากับเบาะนั่งที่ว่าง คุณคีนทาบทับลงมา แต่เขาไม่ได้ทำอะไรผมมากไปกว่าการจูบย้ำ ๆ บนปากห้อย ๆ  ของผม ก่อนจะตบท้ายด้วยการหอมแก้มผมข้างหนึ่งแล้วดึงตัวผมขึ้นมานั่งแล้วกอดผมไว้

             ผมดีใจที่เห็นเขายิ้มได้อีกครั้ง


             สายตาเขาที่มองมาทำให้ผมร้อน ๆ  หนาว ๆ ผมเริ่มทำตัวไม่ถูก คิดผิดคิดถูกที่ไปจูบเขาก่อนแบบนี้ ถ้าเขาพูดอะไรขึ้นมา ผมจะโกรธเขาจริง ๆ  ด้วย

             “นึกยังไงขึ้นมาถึงได้...” นั่นไง คิดยังไม่ทันจบเขาก็พูดขึ้น ผมรีบแทรกขัดเขา สถานการณ์นี้ไม่ขอทนฟังจนจบประโยค

             “คุณ..คุณเคยพูดเองว่าถ้าจะขอโทษต้องทำไง จำไม่ได้แล้วเหรอ”



             ต้องให้ผมทวนซ้ำให้ฟังหรือไงกัน ปัดโธ่!











=============================================



ยัยเด็กเปล ฉลาดไปแล้วนะ!

เจอคำผิดโปรดแจ้ง เจอประโยคแปลกโปรดแจ้งค่า บอกมาได้เลยน้าาาา ยินดีมากค่า

ขอบคุณทุกคอมเมนต์และทุกการกำลังใจจากทุกท่านมากๆ เลยนะคะ ขอบคุณค่า รักกกกกกก



ปล เป็นเรื่องยาวแล้วนะ

ปลสอง มีท่านผู้อ่านสงสัยและมีงงช่วงที่แก๊งสามสาวและสี่ทโมนคุยกันว่าใครพูดอะไรประโยคไหน โดยปกติให้สังเกตจากการระบุชื่อหรือลักษณะตัวผู้พูดด้านหลังแต่ละประโยคค่ะ ถ้าหากไม่มี ให้อนุมานเอาได้เลยว่า ก่อนหน้านี้ ผู้พูดคุยกับใคร ก็จะยังเป็นคู่สนทนาเดิมค่ะ ทั้งนี้เดี๋ยวเขมจะนำไปปรับปรุงเพิ่มนะคะ

เขมอาจจะอธิบายงงหน่อย แต่คร่าวๆ คือประมาณนี้ค่ะ



ใครเล่นทวิตไปทวง บ่น หรือชมก็ได้น้า ที่แทกนี้เลย #พนักงานดูแลเตียง


ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
ตายแล้วน้องเปล จะเป็นไรมั้ยเนี่ย
อีคุณศักดิ์ นั่น ต้องชั่วแบบไม่ธรรมดาแน่ๆ
คุณคีนถึงลนๆขนาดนี้
 :mew2:

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
คนที่เข้ามาทักจะก่อปัญหาไหม

ออฟไลน์ 15magnitude

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เอ็นดูน้องเปลมาก

ออฟไลน์ Kx0806

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
นังคุณศักดิ์ชัยนี่จะยังไงกันนะ จะมาทำอันตรายน้องเปลหรือเปล่า  :ruready

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น้องเปลเริ่มอยู่เป็นแล้ววววว :sad4:

ออฟไลน์ Stmmltww

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น้องเปลลูกกก หนูจะจูบเขาก่อนง่ายๆไม่ได้น้า ใจแม่บ่ดีีี :ling1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1: ถูกใจสายเปย์ หัวไว ขี้อ้อน ดื้อนิดๆ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เป็นเรื่องยาวแล้ว เย้ เย   :mc3: :mc2: :mc3:

ออฟไลน์ vantimi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณคีนกลัวอะไรคุณศักดิ์ขนาดนั้น คุณศักดิ์จะไม่ทำอะไรน้องใช่มั้ย
ใช่!! คุณคีนนี่ต้องให้ทวนความจำ



ออฟไลน์ CLShunny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
จ้าาาาาาาขอโทษจ้าาาาาาา  แหมมมมม ฟห่วงยะแค่ขอหวานหน่อย

ออฟไลน์ Kimmoominn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
หิวตามน้เลยอ่า เมนูโปรดเราเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยได้กินเลย แงง พูดแล้วก็หิว
ดีใจจังที่ต่อเป็นเรื่องยาว เย้ๆ จะได้ทำความรู้จักกับตัวละครไปเรื่อยๆ สนุกดีค่ะ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
น้องเปลโดนเล็งแล้วแน่ๆ โดนหลอกไปกินข้าว เรื่องที่บ้านก็ไม่ได้รู้ 55555555555555

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คุณคีนนนนนนอย่ามาทักให้น้องเขินสิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ kikie26

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณคีน เป็นห่วงน้องมากๆ เลยยยย หลงน้องๆๆๆๆ

คุณเคนนี่ก็นะ กวนจริงๆ

ส่วนน้องเปล กรี๊ดดดดด อัพสกิลนะคะ ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงงี้หรอลูกก

อร้ายยยยย เขินนน งื้ออออ อยากได้คุณคีน

ส่วนอิคุณศักดิ์ เราเชื่อใจคุณคีนต้องปกป้องน้องได้แน่นอน!!!

ออฟไลน์ Pankwun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมากๆเลยค่ะ ชอบบ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
อ้าวๆ น้องน่าจะโดนหมายหัวเสียแล้ว ทำคุณคีนลนลานเลยทีเดียว

ออฟไลน์ pan27

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
...เรียนรู้เร็วนะน้องเปลว่าขอโทษต้องทำยังงัย งุ้ยยยยย  :L1:

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ในส่วนของเราอยากอ่านอีกเรื่อยๆ แต่ถ้าถึงเวลาจะจบตามที่คุณเขมวางไว้ก็ได้เลยค่าา เอาที่สะดวกเลย เอ็นดูน้องไหว้แนบอก เด็กเสี่ยมากลูกเอ้ยยย คือนี่ลุ้นเรื่องเปิ้ลกับแฟนชั่วด้วย  :hao7:

เราเห็นด้วยกับคุณหมีค่ะ เอาตามที่คุณสะดวกค่ะ  :L1:

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
กรี๊ด ๆ  :katai1: ค้างเรื่องคุณศักดิ์ไรนั่นมากค่ะ ไหนจะเรื่องทางบ้านเปลอีก รึว่าคนที่ปิงจะโดนขายให้คือคนนี้

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด