[END] เพียงควัน -- บทส่งท้าย-- 31/08/19
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END] เพียงควัน -- บทส่งท้าย-- 31/08/19  (อ่าน 71946 ครั้ง)

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 14-- 24/07/19
«ตอบ #180 เมื่อ24-07-2019 20:43:24 »

สลับกันไปกันมา สรุปว่าจะยังไง สุดท้ายแล้วแสงแค่ยังติดค้างอะไรพอทำมันสำเร็จแล้วก็จะไปใช่มั้ย
สรุปสุดท่ายพลีสกับพี่หมอจะได้รักกัน ตามก็จะได้ใช้ชีวิตต่อไปแม้จะไม่มีแสงใช่มะ

ออฟไลน์ Ain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 14-- 24/07/19
«ตอบ #181 เมื่อ24-07-2019 22:46:35 »

สนุกมากค่ะอินมากๆด้วย
ร้องไห้หนักมากตอนที่รู้ว่าตามยังลืมแสงไม่ได้
พลีสกลับมาแบบนี้แล้วแสงล่ะ

 :z3: :z3:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 14-- 24/07/19
«ตอบ #182 เมื่อ24-07-2019 23:03:18 »

 :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 14-- 24/07/19
«ตอบ #183 เมื่อ25-07-2019 02:57:41 »

 :hao7:

 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 14-- 24/07/19
«ตอบ #184 เมื่อ25-07-2019 08:49:55 »

จะร้องไห้

ออฟไลน์ porjj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 14-- 24/07/19
«ตอบ #185 เมื่อ26-07-2019 10:32:58 »

มันฟีลกู้ดจนน้ำตาไหลเลย
อยากให้ทุกคนมีความสุข
แสงต้องกลับมาปลดล็อกให้ตามนะ
เราเชื่อว่าสักวันแสงกับตามต้องได้เจอกันอีก

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 14-- 24/07/19
«ตอบ #186 เมื่อ27-07-2019 08:08:40 »

สนุกมากเลย แต่ก็เศร้าจัง สงสารทั้ง2 คน

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 14-- 24/07/19
«ตอบ #187 เมื่อ27-07-2019 18:03:13 »

จะติดตาม พร้อมน้ำตา ต่อไป

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 14-- 24/07/19
«ตอบ #188 เมื่อ28-07-2019 09:33:00 »

อ่านรวดเดียวเลยค่ะ ดำเนินเรื่องได้น่าติดตามมากๆทิ้งปมให้อยากอ่านต่อทุกๆตอน อ่านพาร์ทของพลีสทีไรเราอึดอัดทุกที เหมือนว่าเราก็เคยเจอเหตุการณ์นี้มาบ้างอะนะ คุณเต้าหู้ไข่เลยเขียนขึ้นมาเพื่อเพื่อนคนนั้น เราก็มีอะไรที่อยากแก้ไขตอนเรียนเหมือนกัน น่าเศร้าที่เพื่อนคนนั้นไม่รู้จะได้เจอกันอีกมั้ย
อย่างนี้ตอนจบก็คงเหลือแต่พลีสแน่นอน แสงต้องกลับมาแก้ไขถึงจะไปเกิดใหม่ได้ ไม่อยากให้ใครจากไปเลยแฮะ
ถ้าเกิดแสงบอกความจริงไปก็น่าจะมีคนเชื่ออยู่หรอก จากนั้นก็แก้ไขเรื่องในอดีต... สงสารทุกคนจัง ตอนนี้กำลังติดใจเรื่องที่หมอไม่รู้จักแสง คิดไม่ออกว่าทำไมถึงตอบอย่างนั้น
เราร้องไห้หลายตอนมากๆ อ่านแล้วอิน  :sad4:
ติดตามนะคะ ปกติไม่ค่อยอ่านนิยายที่ยังแต่งไม่จบ ชอบอ่านรวดเดียว ฟีลค้างก็มา แงงงง

ออฟไลน์ เต้าหู้ไข่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +279/-5
    • twitter
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 15-- 30/07/19
«ตอบ #189 เมื่อ30-07-2019 23:32:55 »

ตอนที่ 15
หากยังค้างคาก็ต้องกลับมาเพื่อแก้ไขมัน

 

ผมกลับมาใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยอีกครั้งหลังจากวิญญาณหลุดจากร่างของพลีส มันก็ดีตรงที่ได้กลับมาอยู่บ้าน แต่การที่ผมกลับมาไร้ตัวตนมันก็สร้างความเหงาอยู่นิดหน่อย อย่างน้อยๆ ก็ต้องหาเพื่อนคุยบ้าง ผมจึงออกจากบ้านในตอนที่ทุกคนหลับหมดแล้ว ค่ำคืนเงียบงันในวันที่ฝนเพิ่งจะหยุดตกพาให้บรรยากาศหนาวเย็น ท้องถนนเปลี่ยวเหงาราวกับไม่มีผู้คน เป็นสถานที่ที่เดินผ่านแล้วต้องระแวงหลังตลอดเพราะสถานการณ์แบบนี้จะต้องมีผีโผล่มาแน่นอน

"แสง!"

ผมหันขวับเพราะเสียงเรียกนั่น ขนาดเป็นผีด้วยกันยังสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ หันไปเจอ พี่มินท์  ผีสาวในชุดนักศึกษาที่รู้ประวัติภูมิหลังมาว่าเธอฆ่าตัวตายก็เลยไปเกิดไม่ได้ จึงเป็นวิญญาณที่อยู่มานานที่สุดในละแวกนี้

"ไม่เจอกันนานเลยนะแสง หายไปไหนมา"     

"ยุ่งๆ น่ะครับ" ผมตอบปัดๆ ไม่อยากจะบอกว่าไปใช้ชีวิตเป็นมนุษย์มา ไม่อย่างนั้นคงได้อธิบายกันยาว พี่มินท์ได้แต่พยักหน้ารับก่อนที่ผมจะหันไปเห็นวิญญาณอีกตนที่เป็นเด็กชายวัยรุ่นเลือดไหลนอง สมองยุบ ยืนกอดแขนข้างหนึ่งของตัวเองที่ห้อยต่องแต่งคล้ายว่ากำลังจะขาด ถึงจะเป็นผีไม่ต่างกันแต่เห็นวิญญาณสภาพนั้นก็อดที่จะสยดสยองไม่ได้

"นี่น้องใหม่ ชื่อเต้ย เป็นเด็กแวนซ์รถคว่ำตายเมื่ออาทิตย์ก่อน"

"หวัดดี...เหี้ย!" ผมสบถคำหยาบเมื่อไอ้เด็กนั่นดึงแขนข้างที่ห้อยอยู่ออกจากไหล่จนกระดูกหลุดแล้วใช้มืออีกข้างจับแขนข้างนั้นยื่นมาตรงหน้าเพื่อจะจับมือทักทายกับผม ตัวมันหัวเราะคิกคักชอบใจที่ได้แกล้ง จนถูกพี่มินท์ตบหัวเบาๆ ไปทีหนึ่ง

"ขี้แกล้งนักนะมึง เดี๋ยวชาติหน้าก็เกิดมาไม่ครบสามสิบสองหรอก"

"หยอกเล่นน่า" มันเถียงแล้วดึงแขนข้างนั้นกลับไป ใส่คืนที่เดิมไม่ได้แล้วด้วยเพราะกระดูกหลุดออกจากกันไปเรียบร้อย มันจึงกอดแขนตัวเองเอาไว้ เลือดจากแขนข้างนั้นไหลนองปนเปกับเสื้อผ้าที่ขาดวิ่น ทนดูไม่ได้จริงๆ จึงเบือนหน้าหนีไปอีกทาง มองดูผีอีกตัวที่ยืนเงียบไม่ได้พูดอะไร หน้าตาค่อนไปทางฝรั่งคล้ายว่าจะเป็นลูกครึ่ง ตัวสูงใหญ่ร่างกายดูอวบนิดๆ แต่อยู่ในสภาพดีไม่มีบาดแผลใดให้สยดสยอง ปากกำลังเคี้ยวอาหารไม่หยุด มือข้างหนึ่งถึงกล่องโดนัท อีกข้างถือน้ำปั่นสีช็อกโกแลตและมีวิปครีมสูงเป็นภูเขา 

"เขาเป็นใครเหรอ ทำไมไม่ยอมพูดอะไรเลย" ผมกระซิบถามพี่มินท์

"ปากเขาไม่ว่างน่ะ กำลังกินอยู่"

"เป็นเบาหวานตายแน่เลย"

คนที่กำลังเคี้ยวโดนัทหันขวับมามองจนผมตกใจนิดหนึ่งและรีบหุบปากเงียบ เขาจึงเอ่ยปากพูด

"โทษนะ กูยังไม่ตาย"

"ฮะ!"

"กูแค่มองเห็นพวกมึงได้แล้วอีนี่มันก็ลากกูมาด้วยเฉยๆ" ว่าพลางหันมองหน้าพี่มินท์เคืองๆ ขณะที่ผมยังงง จนพี่มินท์หันมาอธิบาย

"นี่พี่ซี เป็นเจ้าของหออยู่ใกล้ๆ นี่แหละ เขามองเห็นผีได้ คนดังเลยนะ ไม่มีผีตัวไหนในย่านนี้ไม่รู้จักเขาหรอก แสงก็รู้จักพี่เขาไว้สิ"

"พี่มองเห็นผีเหรอ!"

"ก็มองเห็นมึงอยู่นี่ไง"

อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นและความสนใจทั้งหมดที่มีก็พุ่งตรงไปที่เขา ผมลองยกมือจิ้มเขาแต่มือของผมก็ทะลุผ่านร่างของเขาไปเพื่อยืนยันว่าเขานั้นเป็นมนุษย์จริงๆ

"ตายมาสามผี เพิ่งเคยเจอคนเห็นผีจริงๆ ก็วันนี้แหละ!"

พี่ซีที่กำลังกินโดนัทในปากกลับเคี้ยวช้าลงแล้วเหลือบตาขึ้นมองผม ก่อนเอ่ยถาม

"มึงตายมาสามปีแล้ว?"

"ครับ"

"ทำไมไม่ไปเกิดวะ"

"..."

"ฆ่าตัวตายเหรอ"

ผมส่ายหน้าปฏิเสธ ขณะที่พี่ซีก็ยังเอาแต่มองหน้าผมอยู่อย่างนั้นราวกับจะเค้นเอาคำตอบ สายตาดุๆ ที่ดูเหมือนจะตำหนิอะไรกันนั้นทำให้ผมไม่กล้าเงยหน้าไปสบตาด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าทำไมผมต้องกลัวตาลุงหน้าฝรั่งตัวอ้วนนี่ด้วย ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย   

"ยังมีอะไรค้างคาใจหรือไง"

ผมได้แต่ส่ายหน้าอีกครั้ง

"มึงไม่รู้จริงๆ ว่าติดอยู่ที่นี่เพราะอะไร หรือมึงรู้อยู่แก่ใจแต่ไม่ยอมปล่อยวาง"

"ผมไม่รู้"

"..."

"ผมแค่ไม่รู้วิธีที่จะต้องไปเกิด แล้วพี่รู้ไหมล่ะว่าต้องทำยังไง"

"กูไม่เคยตาย"

"ก็นั่นไง ก็แค่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ"

"แล้วยังไง จะอยู่แบบเร่ร่อนไปมาแบบนี้อะเหรอ"

"ผมไม่ได้เร่ร่อนนะ ผมมีบ้าน"

"แล้วที่บ้านเขารู้หรือเปล่าว่ามีมึง"

ผมเงียบ ไม่อาจเอ่ยเถียงความเป็นจริงข้อนั้นได้เลยแม้แต่น้อย

"ต่อให้มึงมีบ้าน แต่จิตวิญญาณมึงต่างหากที่เร่ร่อน ถ้าเมื่อไรที่มึงรู้ว่ามึงติดอยู่ที่นี่เพราะอะไร ก็รีบแก้ไขแล้วก็รีบไปเถอะ ตรงนี้ไม่ใช่ที่ของมึงหรอก"

แค่คำพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยจากปากของคนที่กำลังเคี้ยวโดนัทคำโตจนแก้มพอง ทำไมมันเจ็บเหมือนตายรอบสองเลยวะ...

"โอ๊ะ!"

ผมละความสนใจคนตรงหน้าเมื่อสายตาหันไปเห็นอีกคนที่กำลังเดินอยู่ริมฟุตบาทอีกฝั่ง เห็นอย่างนั้นจึงหันไปบอกลาทั้งผีทั้งคนที่ยืนอยู่ตรงนี้แล้วรีบพุ่งตัวไปหาเขา ตะโกนเรียกสุดเสียงด้วยความดีใจ

"ตาม!"

"..."

"นี่ตัดผมมาเหรอ หล่อเกินไปไหมเนี่ย" ผมหันมองทรงผมใหม่ของตาม ด้านข้างและด้านหลังสั้นจนเกือบจะกลายเป็นผมเกรียนๆ ของนักเรียนม.ปลาย แต่ด้านหน้ายังยาวจนปรกถึงคิ้ว รวมๆ แล้วมันก็เป็นทรงผมที่ทำให้ตามดูดีกว่าเก่า หน้าตาดูอ่อนวัยสดใสกว่าทรงเดิมที่ยาวรุงรังจนดูโทรม

"ชอบตรงนี้ของเธอเวลาตัดผมใหม่ๆ มากเลย" ผมว่าพลางยกมือลูบท้ายทอยเกรียนๆ ของตามที่ผมคอยแกล้งเขาเสมอเวลาที่เขาตัดผมใหม่ๆ เวลาลูบแล้วมันจั๊กจี้แปลกๆ ก็เลยชอบที่จะ...

เฮ้ย!

ทั้งผมทั้งตามสะดุ้งเฮือกพร้อมกันตอนที่นิ้วมือของผมสัมผัสกับท้ายทอยของตามแบบไม่ทะลุร่าง จริงอยู่ที่บางครั้งบางคราว ผมก็จะสัมผัสกับสิ่งของหรือกระทั่งร่างกายของมนุษย์ได้ มันเกิดขึ้นได้แต่มันควบคุมไม่ได้ ก็เลยพลอยตกใจไปด้วย แต่คนที่ตะลึงกว่าน่าจะเป็นตามที่หันขวับมองด้านหลัง พลางยกมือลูบท้ายทอยตัวเองเบาๆ ด้วยใบหน้างงๆ

"ตกใจเหรอ ขอโทษนะ"

ตามยังทำหน้ายุ่งๆ แล้วเดินต่อไป ผมเองก็เดินตามไปด้วย ในจังหวะก้าวเท้าช้าๆ สายตามองไปเรื่อยเปื่อยคล้ายไม่มีจุดหมาย ผมไม่ชอบร่างกายซูบผอมของตามในตอนนี้เลย ชอบตามเวอร์ชั่นตัวอวบๆ แก้มพองๆ ชอบตามที่มีความสุขกับการกินอะไรก็ได้ที่อยากจะกิน ไม่มีสักครั้งที่ชีวิตของตามจะต้องลำบากจึงไม่อยากให้ตามใช้ชีวิตแบบนี้เลย

"วันนี้เหนื่อยไหม"

"..."

"ถ้าเหนื่อยก็พักบ้างก็ได้นะ"

"..."

"ทำงานหนักจนผอมเหลือแต่กระดูกแล้ว แก้มพองๆ ของเธอหายไป ไม่น่ารักเลยนะ"

"..."

"ไม่ต้องไปเที่ยวรอบโลกแล้วก็ได้ เราอยากให้เธอทำงานสบายๆ มากกว่า รู้ไหม"

"..."

ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่ว่าจะพูดออกไปอีกสักกี่ประโยค สิ่งเดียวที่ได้รับกลับมาก็คือความว่างเปล่า ตามไม่ได้ยินผมสักหน่อย

"อยากคุยกับเธออีกสักครั้งจัง"

ผมเดินตามตามมาจนถึงห้อง สิ่งแรกที่ตามทำคือการปักดอกกุหลาบลงในแจกันแก้วที่วางอยู่หน้ารูปถ่ายของผม ยื่นปลายนิ้วสัมผัสใบหน้าของผมผ่านรูปถ่ายนั้น มุมปากของตามขยับเป็นรอยยิ้มบางๆ

ตามละมือออกจากรูปถ่ายของผมแล้วทิ้งตัวเองลงนอนบนเตียง เปิดแอร์อุณหภูมิต่ำแล้วดึงผ้าห่มขึ้นคลุมขาตัวเอง หลับตานอนนิ่งจนผมเผลอบ่น

"นี่ ไปอาบน้ำเลยนะ"

"ขี้เกียจอาบน้ำจัง"

ผมหลุดหัวเราะตอนที่ตามพูดออกมาคนเดียว แต่คล้ายว่ากำลังโต้ตอบกับผมอยู่ ตามคงจะเหนื่อยล้ากับงานและนี่ก็ดึกมากแล้ว แต่ถึงอย่างไรตามก็เป็นคนรักสะอาดอยู่พอตัว พนันได้เลยไม่ถึงสิบวินาที ตามจะต้องลุก

ผมหย่อนตัวเองลงนั่งบนเตียง มองตามแล้วนับถอยหลังอยู่ในใจ ก่อนตัวเลขสุดท้ายจะมาถึง คนที่นอนอยู่บนเตียงก็ลุกพรวดขึ้นพร้อมเสียงถอนหายใจแรงๆ

"อาบก็ได้วะ"

เผลอหัวเราะเสียงดังเพราะไม่ผิดจากที่คิดเอาไว้ ผมปล่อยให้คนรักสะอาดเข้าไปอาบน้ำ ส่วนตัวเองก็นั่งรออยู่บนเตียง ก่อนขยับไปยืนที่ริมหน้าต่าง มองออกไปยังท้องฟ้ามืดๆ นั่นพลางคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ ระหว่างเราสองคน

 

"ชื่อตาม มาจากอะไร ตูมตามเหรอ"
"ไม่ใช่"
"แล้วตามอะไร"
"ก็ตามเฉยๆ ไม่ได้เหรอ"
"มันต้องมีที่มาดิ มันต้องตามอะไรสักอย่าง"
"ก็ตอนเราเกิด แม่ถามพ่อว่าจะให้ชื่ออะไรดี แล้วพ่อก็บอกแม่ว่า...ตามใจ"
"หึ!"
"อย่าขำดิ!"
"แม่เธอกวนดีว่ะ แล้วพ่อเธอก็ตกลงเอาชื่อนี้เหรอ"
"ก็ตามใจแม่ไง"
"ตลก!"
"ไม่ตลกเหอะ!"
"น้องตามใจ"
"ตามเฉยๆ"
"ตามใจๆ"
"อย่าล้อดิ เราโกรธนะ!"
"น่ารักจะตาย"
"ตรงไหน"
"ก็น่ารักดี น่ารักเหมาะกับเธอ"


 

เสียงคนที่ออกมาจากห้องน้ำทำให้ผมหันไปมองขณะที่พาตัวเองออกมาจากความคิดเหล่านั้น ตามสวมเสื้อผ้าชุดใหม่ ก่อนที่จะทิ้งตัวเองลงบนเตียงอีกที แต่การอาบน้ำคงทำให้ตาสว่างนอนไม่หลับ ตามจึงลุกไปเปิดตู้เย็น หยิบเบียร์หนึ่งกระป๋องแล้วเดินมายังริมหน้าต่างที่ผมยืนอยู่ ผมจึงขยับเท้าหนีให้ตามมายืนแทนที่ผม บานหน้าต่างถูกเปิดออก ก่อนที่ตามจะปีนขึ้นไปนั่งที่ขอบหน้าต่างแล้วเปิดกระป๋องเบียร์ยกขึ้นดื่ม

"อันตรายนะเธอ ถ้าเมาแล้วตกลงไปได้คอหักตายพอดี"

ผมส่ายหน้าเบาๆ เพราะบ่นไปตามก็ไม่ได้ยิน เมื่อก่อนตามแทบจะไม่แตะต้องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลย ขณะที่ผมมักจะชอบออกไปร้านเหล้ากับเพื่อนบ่อยๆ แล้วก็โดนบ่นอยู่ตลอดเราจึงทะเลาะกันด้วยเรื่องนี้อยู่เสมอ แต่ดูจากกองขวดเหล้าและกระป๋องเบียร์ที่วางอยู่ที่มุมห้องในตอนนี้แล้ว ตามน่าจะมีเพื่อนเป็นแอลกอฮอล์มากกว่าผู้คน

ผมปล่อยให้ตามนั่งดื่มเบียร์อยู่ตรงนั้น ก่อนจะเดินไปนั่งบนโต๊ะหนังสือ อย่างที่บอกว่าไปตั้งแต่คราวก่อนว่าข้าวของทุกอย่างของผมมันยังอยู่ที่เดิม รวมถึงความรู้สึกของเราสองคนที่มันไม่ยอมก้าวไปข้างหน้า สำหรับวิญญาณอย่างผมมันไม่มีความหมายอะไร ไม่ว่ายังไงความทรงจำของผมก็หยุดอยู่กับที่ แต่สำหรับตามแล้ว การที่ตามไม่ยอมให้ความรู้สึกเหล่านั้นมันเคลื่อนไหวไปข้างหน้าเท่ากับว่าตามกำลังทำร้ายตัวเองอยู่ตลอดเวลา จมดิ่งอยู่กับเรื่องราวที่ไม่อาจจะย้อนคืนและผมไม่สามารถช่วยเหลืออะไรตามได้เลย 

อย่างที่เคยได้บอกไปว่า เราทะเลาะกันในวันสุดท้ายก่อนที่ผมจะตาย ซ้ำยังจากกันไปโดยไม่ได้ล่ำลา นั่นเป็นหนึ่งเหตุผลที่ผมยังคงค้างคาใจ และยิ่งตามยังเป็นแบบนี้มันก็ยิ่งเพิ่มเหตุผลที่ทำให้ผมไม่อยากไปไหน จนกว่าผมจะแน่ใจว่าในสักวัน...ตามจะเปลี่ยนใจไปรักคนอื่นสักที

ผมเลื่อนมือผ่านหนังสือเรียนของผมที่วางอยู่ที่เดิม ไปหยุดอยู่ที่กล้องโพลาลอยด์ตัวนั้นที่วางอยู่ เราไม่ค่อยได้ถ่ายรูปคู่กัน แต่ได้โอกาสเมื่อไรก็จะมักจะเก็บรูปของอีกคนเอาไว้ผ่านฟิล์มโพลาลอยด์จากกล้องตัวนี้อยู่เสมอ รูปเผลอๆ มักจะน่ารักกว่ารูปที่ตั้งใจถ่าย และรูปที่ออกมาจากกล้องโพลาลอยด์มันก็ยังคงอยู่ไม่ลบไม่เลือนหาย

ผมยกมือสัมผัสกล้องตัวนั้นด้วยความคิดถึงแต่แน่นอนว่านิ้วมือของตัวเองก็ทะลุผ่าน แต่ในตอนที่กำลังกดปุ่มถ่ายรูปนั้น ไอ้นิ้วมือนี่ก็ดันมีความสามารถที่จะแตะต้องวัตถุชิ้นนั้นขึ้นมาได้ซะเฉยๆ   

 

"แชะ"

 

ฉิบหาย!

 

แสงแฟลชสว่างวาบพร้อมเสียงชัตเตอร์ดังลั่นห้อง ตามมาด้วยเสียงฟิล์มที่ไหลออกมาจากกล้อง ตามหันขวับมามอง ดวงตาเบิกโตขึ้นนิดๆ อย่างดูตกใจ ก้าวลงจากขอบหน้าต่างแล้วเดินช้าๆ เข้ามาหากล้องโพลาลอยด์ วางกระป๋องเบียร์ไว้ข้างๆ แจกันดอกกุหลาบ แล้วหยิบฟิล์มที่ไหลออกมาขึ้นดู ผมลุ้นตัวโก่งหวังว่าจะไม่ถ่ายติดวิญญาณ ก่อนใช้เวลาไม่นานนักภาพนั้นก็ปรากฏให้เห็น โชคดีไม่มีผมในภาพ แต่ถึงอย่างนั้นการที่กล้องกดถ่ายรูปเองได้มันก็คงไม่ใช่เรื่องปกติเท่าไร แล้วคนที่กลัวผียิ่งกว่าสิ่งในโลกอย่างตามก็ไม่อาจอยู่เฉย หันมองซ้ายมองขวาดูหวาดระแวง   

"กล้องพังมั้ง" ปลอบใจตัวเองด้วยน้ำเสียงแผ่ว ใบหน้าเหยเกค่อยๆ กลืนน้ำลายเบาๆ แล้ววางรูปนั้นลง สายตายังมองไปยังกล้องตัวนั้นด้วยสีหน้าดูไม่ไว้ใจ กำลังจะยื่นมือไปหยิบกระป๋องเบียร์แต่ด้วยความที่ไม่ทันได้หันมอง มือของตามชนเข้ากับรูปถ่ายของผมจนเกือบจะหล่น แต่อีกมือรีบร้อนรับเอาไว้ก่อนที่ตกถึงพื้น 

ตามพ่นลมหายใจอย่างดูโล่งใจ วางรูปไว้ที่เดิม แต่ในขณะนั้นสีหน้ากลับดูนิ่งไป คิ้วที่กำลังขมวดเข้าหากันดูเหมือนว่าตามกำลังคิดอะไรอยู่ ไม่รู้ความคิดของตามผ่านแววตาคู่นั้น มือของตามเอื้อมหยิบกล้องโพลาลอยด์และรูปที่ผมเป็นคนกดถ่ายเมื่อครู่มาวางใกล้ๆ แจกันดอกกุหลาบ สายตาของตามยังจดจ้องอยู่ที่สิ่งของเหล่านั้นอยู่นานครู่หนึ่ง แล้วพูดบางคำออกมาเบาๆ

"เธอเหรอ"

"..."

"แสง"

เพียงตามกระพริบตาหนึ่งครั้ง น้ำตาก็หยดลงมาทั้งที่สีหน้ายังเรียบเฉย มือข้างหนึ่งหยิบรูปถ่ายของผมแนบไว้ที่อก ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ เตียงนอน และร้องไห้ออกมาอย่างไม่เก็บกลั้น ราวกับว่าน้ำตาได้กลั่นออกมาเท่าที่ความรู้สึกเจ็บปวดจะมี

"เราคิดถึงเธอ"

"..."

"เราคิดถึงเธอนะแสง"

แม้เป็นวิญญาณที่ไร้แล้วซึ่งความรู้สึก แต่น้ำตาของตามและคำว่าคิดถึงมันทำให้ผมเจ็บไปทั้งใจ ปวดร้าวซ้ำแล้วซ้ำอีกที่ยังคงช่วยอะไรตามไม่ได้ ได้แต่โต้ตอบความคิดถึงนั้นผ่านการโอบกอดที่ไร้ตัวตน ผ่านคำพูดที่ตามไม่มีวันได้ยิน 

 

"คิดถึงเธอเหมือนกัน"

 

...

 
มีต่อค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 15-- 30/07/19
« ตอบ #189 เมื่อ: 30-07-2019 23:32:55 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เต้าหู้ไข่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +279/-5
    • twitter
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 14-- 24/07/19
«ตอบ #190 เมื่อ30-07-2019 23:33:28 »

"สุดแสนน่าเบื่อ ชีวิตช่างน่าเบื่อ"

ผมบ่นกับตัวเองมากกว่าร้อยครั้งในหนึ่งวันขณะที่กำลังนอนแช่อยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่นอย่างไม่มีอะไรทำ พ่อกับแม่กำลังนั่งดูละครหลังข่าว ส่วนสายป่านก็เอาแต่จดจ้องอยู่กับมือถือ แอบชะโงกหน้าไปมองก็เห็นว่ากำลังคุยกับเพื่อนเรื่องนักร้องเกาหลีที่ผมไม่รู้จัก ด้วยความเบื่อหน่าย ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

"ป่าน วันนี้แม่ซื้อชูครีมมาให้ อยู่ในตู้เย็นน่ะ แม่ลืมบอก"

"กำลังอยากกินเลย"

"ไปเอามากินสิลูก"

หูผึ่งหลังจากได้ยินคำว่าชูครีม ผมรีบเดินตามสายป่านไปยังตู้เย็นก่อนที่น้องจะหยิบกล่องชูครีมไส้ทะลักจากร้านเบเกอรี่เจ้าประจำของบ้านเราออกมา หนึ่งคำที่สายป่านหยิบกินพาให้ผมเกือบน้ำลายไหลตามไปด้วย

"ขอกินบ้างสิ"

"..."

"ขอกินบ้างสิสายป่าน"

"..."

"ให้พี่กินบ้างสิ!"

สายป่านก้าวเท้าช้าลงตอนที่เดินผ่านรูปถ่ายของผม หันมองชูครีมในมือสลับกับรูปของผมแล้วพูดกับตัวเองเบาๆ

"อยากกินล่ะสิ"

"อื้อ อยากกิน!"

"ไม่ให้กินหรอก เสียของ"

"ไอ้อ้วนนิสัยไม่ดี!" ผมคำรามลั่นยกกำปั้นฟาดสายป่านรัวๆ หวังว่าจะสัมผัสแตะต้องให้น้องมันหน้าหงายไปเลย แต่แล้วมือของผมก็ทะลุผ่านร่างนั้นไปเฉยๆ โดยที่ทำอะไรไอ้น้องใจร้ายคนนี้ไม่ได้

"มันน่านัก!"

ผมโมโหฟึดฟัดเดินตามสายป่านกลับไปที่ห้องนั่งเล่น ขณะกำลังจะหย่อนตัวลงนั่งที่เดิม หูก็ได้ยินเสียงแว่วราวกับมีคนมายืนเรียกอยู่หน้าบ้าน

"พี่แสง"

"..."

"พี่แสง!"

ผมรีบเดินจากตรงนี้ไปยังหน้าบ้าน มองหาต้นตอของเสียงเรียกนั่นแต่ไม่เห็นมีใคร คงจะหูฝาดไปชั่วขณะจึงไม่ได้สนใจอะไร หันหลังตั้งใจจะเดินเข้าบ้านแต่เสียงเรียกนั้นก็ดังขึ้นมาอีกที

"พี่แสง"

"..."

"พี่แสง พี่อยู่ที่ไหน"

มีคนกำลังเรียกผมจากที่ไกลๆ อย่างแน่นอน ผมหันซ้ายหันขวามองหาเสียงนั่น หลับตาลงตั้งใจฟังเสียงนั้นชัดๆ เสียงเรียกที่ค่อยๆ ไกลออกไปทำให้ผมตัดสินใจที่จะวิ่งตามออกไปอย่างไม่มีจุดหมาย จนกระทั่งได้พบกับเจ้าของเสียงที่หยุดยืนด้วยความเหนื่อยหอบอยู่ริมถนน

"พลีส"

ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพลีส แต่พลีสพักเหนื่อยแค่ชั่วครู่ก็ออกวิ่งต่อพลางเรียกชื่อผมไปด้วยอย่างดูไม่มีเหตุผล

"พี่แสง"

"มีอะไรพลีส"

"พี่แสง"

"เกิดอะไรขึ้น"

"พี่แสง"

"พี่อยู่นี่ไง!"

พลีสหยุดชะงัก เงยหน้าขึ้นมองตึกร้างที่ผมเจอกับเขาครั้งแรกด้วยสายตาไม่อาจคาดเดาว่าคิดอะไร ก่อนที่สองเท้าของพลีสจะออกวิ่งอีกครั้ง

"พลีส จะทำอะไร!" ผมคว้ามือพลีสเอาไว้แต่ไม่เป็นผล พลีสวิ่งออกไปแล้วขณะที่ผมยังสับสนว่าควรจะทำยังไง ขณะนั้นเองก็หันไปเห็นตามที่เดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อพอดี

"ตาม!"

ตามหันมองบางสิ่ง ไม่แน่อาจเป็นไปได้ว่าเสียงของผมอาจทำให้ตามได้ยิน หรือด้วยอะไรก็แล้วแต่ตามหันมองเห็นพลีสเข้าพอดี

"พลีสเหรอ" เขาพูดกับตัวเองเบาๆ แล้วใช้สองขายาวๆ ของตัวเองก้าวเท้าตามพลีสที่วิ่งออกไป

"วิ่งเลยตาม! วิ่งเลย!" ผมบอกตามอย่างนั้นก่อนที่ตัวเองจะวิ่งนำตามไปให้ถึงตัวพลีสก่อน พลีสมาหยุดอยู่บันไดขึ้นตึกร้างด้วยสภาพที่ดูเหน็ดเหนื่อย ใบหน้าซีดเซียว สองมือยกจับราวบันไดเพื่อพยุงตัวเองเอาไว้ไม่ให้ล้ม ก่อนที่จะพยายามตะเกียกตะกายขึ้นบันไดด้วยสภาพร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงเต็มที

"พลีส จะขึ้นไปทำอะไร"

"..."

"คิดจะทำอะไร ลงมาเลยนะ!"

ผมเริ่มโมโหแล้วแต่ไม่รู้จะทำยังไงให้อีกคนได้ยินเสียงของตัวเอง กำลังจะแผดเสียงดังเพื่อหยุดพลีสอีกครั้งแต่เขากลับเอ่ยบางคำออกมาก่อน

"พี่แสง..."

"..."

"ถ้าพี่ยังคงค้างคา พี่ต้องกลับมา"

"..."

"แล้วใช้ร่างของผมแก้ไขมัน"

ว่ายังไงนะ...

"พลีส!"

ทั้งพลีสและผมหันขวับมองเสียงเรียกของคนที่ปรากฏตัวขึ้น แน่นอนว่าเป็นตาม

ไม่รู้ว่าพลีสตกใจหรือเรี่ยวแรงสุดท้ายที่มีหมดลงแล้ว สองขาของพลีสที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดกลับหยุดชะงัก ปล่อยมือออกจากราวบันได และในตอนนั้น ร่างกายก็พลาดพลั้งพร้อมจะร่วงหล่นจากบันไดขั้นนั้น

"พลีส!"

ทั้งตามและผมร้องลั่นด้วยความตกใจ ผมไวกว่าจึงเข้าถึงตัวพลีสได้ก่อนแต่โชคร้ายที่สัมผัสแตะต้องอะไรไม่ได้ ขณะเดียวกันนั้น ตามก็ตรงเข้ามารับร่างพลีสเอาไว้ เรากอดกันกลิ้งตกลงบันไดไปทั้งหมด

 

 

"ตุ้บ!"

 

ลืมไปว่ายังไงผมก็ไม่เจ็บ แต่ด้วยความตกใจจึงเผลอหลับตาแน่น ทุกอย่างสงบเงียบไปชั่วครู่ ก่อนเสียงของตามจะตะโกนเรียกพลีสหลายต่อหลายครั้ง

"พลีส! พลีส!"

สติหวนคืนกลับมาตอนที่ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ก่อนที่จะมองเห็นคนตรงหน้าแล้วก็งงตาแตก กระพริบตามองให้ชัดแล้วเอ่ยปากเรียกเบาๆ

"เธอ"

"พลีส"

พลีส?

ผมเบิกตากว้าง ตอนที่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังอยู่ในอ้อมกอดของตาม รีบลุกพรวดขึ้นแล้วสำรวจมองร่างกายของตัวเองด้วยความตื่นตกใจไม่ต่างอะไรจากครั้งแรกราวกับเหตุการณ์เดจาวู

ผมเข้ามาอยู่ในร่างพลีสอีกแล้ว!

"พลีส เป็นอะไรหรือเปล่า"

"ปะ...เปล่า"

"พี่เห็นพลีสวิ่งมาที่นี่ เรียกก็ไม่ฟังก็เลยตามมาดู พลีสมาทำอะไรที่นี่"

"ไม่มีอะไรครับ แค่...มานั่งเล่น"

"นั่งเล่นที่นี่เนี่ยนะ น่ากลัวจะตาย ไปเหอะ"

ผมไม่ทันได้ตอบอะไร ตามก็ดึงมือผมให้เดินออกไปจากที่นี่ ผมมองเห็นรอยถลอกที่แขนของตาม น่าจะได้แผลมาตอนที่ร่วงหล่นจากบันได ตอนที่กำลังสนใจบาดแผลของตามอยู่ สองขาเลยหยุดเดินไปซะเฉยๆ จนกระทั่งคนที่เดินนำหันมามอง  ตามเลื่อนสายตามายังมือของเราที่จับกันอยู่ ก่อนจะรีบปล่อยออก

"ขอโทษ ไม่ชอบใช่ไหม"

"เปล่านะครับ จับได้ครับ จับได้" ผมยื่นมือไปให้ตามจับอีกครั้งแต่อีกคนได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ เพื่อปฏิเสธ จึงต้องลดมือตัวเองลงช้าๆ

"พี่ตามเจ็บหรือเปล่า แขนพี่เป็นแผล"

"เลือดป่ะ?"

"ไม่เลือดครับ แค่ถลอก"

"งั้นไม่เป็นไร"

ผมพยักหน้ารับแต่แอบกลั้นยิ้ม ตามไม่กลัวเจ็บแต่กลัวเลือดขั้นรุนแรง กลัวแม้กระทั่งเลือดจากยุงที่โดนตบ แค่เลือดหยดเดียวจากปลายนิ้วที่โดนเจาะก็ทำเอาผู้ชายแมนๆ คนนี้หน้ามืดเป็นลมมาแล้ว เพราะฉะนั้นให้อยู่ห่างจากเลือดจึงดีที่สุด ผมจึงไม่ได้บอกให้ตามรู้ว่าภายใต้กางเกงขายาวที่สวมอยู่ ตอนนี้หัวเข่าของพลีสเป็นแผลลึกจนเลือดไหลไปถึงปลายเท้าแล้ว

"แล้วพลีสออกมาทำอะไรดึกๆ แบบนี้"

"ออกมาหาอะไรกินครับ หิวมากเลย"

"อ๋อ"

"พี่ตามเพิ่งเลิกงานเหรอ"

"ครับ งั้นไปกินข้าวด้วยกันไหม"

รีบตอบตกลงด้วยการพยักหน้าอย่างไม่ต้องคิด ผมลืมความเจ็บปวดที่ขาแล้วก้าวเท้าเร็วๆ เดินตามคนขายาวที่เดินนำไปยังร้านข้าวใกล้ๆ หอพักของตาม เป็นอีกหนึ่งร้านประจำของเราสองคนเพราะร้านจะเปิดถึงตีสอง เอาใจนักศึกษานอนดึก ผมกลับจากร้านเหล้าก็ต้องมาฝากท้องที่นี่ก่อนเข้าหอ หรือวันไหนอ่านหนังสือดึกๆ แล้วหิวก็เดินลงมาหาอะไรกินที่นี่ได้ง่ายๆ

ผมสั่งผัดกะเพราปลาหมึกเหมือนกับตามเพื่อความรวดเร็ว ในระหว่างที่นั่งรออาหาร ผมเอาแต่มองตามด้วยความรู้สึกตื้นตันแปลกๆ ความปรารถนาที่จะได้พูดคุยกับเขาอีกครั้งบังเกิดขึ้นโดยบังเอิญ ตามเงยหน้าขึ้นมองผมหลังจากที่รู้ตัวว่าถูกมอง ผมหลบสายตาไม่ทัน ก็เลยจ้องกลับด้วยรอยยิ้มกว้างๆ

"มองหน้าพี่ทำไม"

"เปล่าครับ"

ตามยิ้มกลับ ขณะที่ผมยังเอาแต่มองหน้าเขาอยู่ สมองก็พลันนึกถึงบางเรื่องขึ้นมาได้จึงพูดออกไปอย่างไม่ได้ไตร่ตรอง

"พี่ตาม"

"ฮึ?"

"ขอโทษนะครับที่คราวก่อนไม่ได้ไปตามนัด พอดีผมมีอุบัติเหตุนิดหน่อย ไม่ค่อยสบายก็เลยไม่ได้โทรบอกพี่"

ตามนิ่งไปอย่างเห็นได้ชัด รอยยิ้มดูฝืน และคำพูดที่เอ่ยอออกมาก็ถูกปะปนด้วยความสับสนอย่างรู้สึกได้

"พลีสเป็นอะไร"

"ครับ?"

"เป็นอะไรไป"

"..."

"พลีสลืมนัดของเราด้วยซ้ำ คราวก่อนพลีสยังบอกว่าพี่เข้าใจผิด"

"..."

"พลีสทำเหมือน...เหมือนว่าเราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น"

"..."

"แล้วคราวนี้มาขอโทษพี่ ทำแบบนี้พี่สับสนนะ ไม่เข้าใจเลย"

กลายเป็นผมที่นิ่งเงียบ เพราะผมไม่รู้ว่าตอนที่พลีสกลับมา พลีสได้พูดคุยอะไรกับตามไปบ้าง และอันที่จริงผมเองก็ไม่ควรพูดถึงเรื่องคราวนั้นที่ผ่านไปแล้วด้วยซ้ำ บ้าชะมัด

"คือ..."

"..."

"ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ" เรียกว่าหนีก็ไม่ผิดนัก ผมลุกพรวดจากโต๊ะแล้วตรงไปเข้าห้องน้ำของในร้าน ความคิดในหัววิ่งวนปนเปจนไม่รู้จะคิดถึงเรื่องไหนก่อน เดินวนไปวนมาแล้วรู้สึกเจ็บขาจึงดึงกางเกงขึ้นมาดู เลือดหยุดไหลแล้วแต่แผลนั่นลึกพอสมควร เดาว่ามันคงกระแทกกับขอบบันไดหรืออะไรสักอย่าง ผมรีบเปิดก๊อกน้ำล้างเลือดพวกนั้นออกจากขา แล้วล้างมือตัวเองให้สะอาด ขณะเงยหน้าขึ้นมองกระจก ใบหน้าของพลีสที่สะท้อนอยู่ในกระจกทำให้ผมรู้สึกว่า...นี่มันไม่ถูกต้อง

ผมไม่ควรกลับเข้ามาในร่างของพลีสอีก ไม่ควรกลับมาสร้างความสับสนให้คนรอบข้างพลีสอีก ได้แต่มองหน้าพลีสในกระจกและเค้นคำพูดเพื่อบอกกับตัวเองและย้ำให้เข้าใจว่ามันไม่ควรจะเป็นแบบนี้

"ออกมานะแสง"

"..."

"ออกมา"

"..."

"ออกมาเลยนะ!"

กระแทกหน้าตัวเองเข้ากับกระจกนั้นไปทีหนึ่งอย่างหมดหนทาง อยากจะลงไปดิ้นกับพื้นห้องน้ำแล้วร้องไห้ให้น้ำท่วมส้วมไปเลย ทำไงดีวะเนี่ย

"ออกมา"

"..."

"บอกให้ออกมา!"

"พลีส!"

ผมหันขวับมองตามที่อยู่ๆ ก็พรวดเข้ามาในห้องน้ำ ขณะที่ตัวเองยืนแข็งทื่อ หัวยังติดกระจกเพราะโขกเข้าไปเต็มๆ

"พี่เห็นเข้ามานาน ก็เลยมาตาม พลีสทำอะไรอะ"

"..."

"เมื่อกี้พี่ได้ยินพลีสบอก ให้อะไรออกมา"

"มีอะไรเข้าตาก็ไม่รู้ครับ มันไม่ยอมออก" ความสามารถในการแถนั้นแปรผันไปตามสถานการณ์คับขันเสมอ คิดอะไรได้ก็พูดออกไปก่อน

"แล้วทำไมต้องเอาหัวโขกกระจกด้วย ทำร้ายตัวเองทำไม มานี่ พี่ดูให้"

"คือ..."

"ข้างไหน"

"ซ้ายครับ"

ผมพูดจบ ตามก็โน้มตัวลงมา ใช้นิ้วแตะเปลือกตา ดึงขึ้นเบาๆ ด้วยสายตาที่จ้องมาอย่างตั้งใจ ด้วยใบหน้าที่ใกล้เกินกว่าเหตุ และนี่อาจจะเป็นครั้งแรกหลังจากที่ผมตาย ที่ผมได้รู้สึกถึงลมหายใจของใครบางคน

ไม่มีอะไรเข้าตาผมหรอก...แต่น้ำตาผมมันไหลออกมาเอง

"เจ็บมากเหรอ"

"น่าจะออกแล้วล่ะครับ ไม่เป็นไรแล้วครับ" ผมบอกปัดพลางยกแขนเสื้อเช็ดน้ำตา ตามเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ก่อนที่ผมจะผลักไหล่ตามให้เดินออกไปจากห้องน้ำกลับไปนั่งที่เดิมในตอนที่อาหารมาเสิร์ฟรอที่โต๊ะแล้ว

ตามไม่ได้พูดถึงเรื่องที่พูดค้างเอาไว้ก่อนที่ผมจะหนีไปเข้าห้องน้ำ ผมเองก็ไม่หวังให้ตามนึกถึงมันอีกเพราะไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ในตอนนี้ได้แต่เหลือบมองคนตรงหน้าที่กำลังอร่อยอยู่กับอาหารจานนั้น ตามน่ารักเวลากินข้าว ผมย้ำคำนั้นและบอกให้ตามรู้อยู่เสมอ เป็นอีกครั้งที่ผมได้กลับมานั่งกินข้าวกับตาม แม้ไม่รู้ว่าควรดีใจหรือไม่ควรรู้สึก แต่ผมก็ลอบยิ้มออกมาไม่หยุด 

 

"พี่แสง ถ้าพี่ยังคงค้างคา พี่ต้องกลับมา แล้วใช้ร่างของผมแก้ไขมัน"

 

คำพูดของพลีสลอยเข้ามาในหัว ก่อนที่ผมจะปล่อยตัวเองจมไปกับความคิด ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือตั้งใจ ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลใดหรืออาจเป็นเพราะความปรารถนาของพลีสที่ให้โอกาสผมกลับมา เพื่อทำในสิ่งที่ผมยังค้างคา สิ่งใดที่ผมจะต้องแก้ไขมัน สิ่งใดที่ผมจะต้องปล่อยวาง และเพื่อเหตุผลบางอย่าง ผมจะต้องทำบางสิ่งที่มันอาจจะขัดกับทุกกฎเกณฑ์ใดๆ ภายใต้เรื่องราวเหล่านี้...

 

ผมจะต้องบอกให้ตามรู้ว่าผมคือใคร

 

To be continued.

 
___________________________________________________________________
 

ขอขอบคุณ พี่มินท์ และ ซันนี่ ซี แขกรับเชิญกิตติมศักดิ์จากเรื่องรักนี้ผีไม่เกี่ยว คิดถึงน้าาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-08-2019 00:56:29 โดย เต้าหู้ไข่ »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 15-- 30/07/19
«ตอบ #191 เมื่อ31-07-2019 00:18:03 »

 :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 15-- 30/07/19
«ตอบ #192 เมื่อ31-07-2019 00:20:55 »

 :pig4:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 15-- 30/07/19
«ตอบ #193 เมื่อ31-07-2019 00:51:08 »

 :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 15-- 30/07/19
«ตอบ #194 เมื่อ31-07-2019 01:51:32 »

กลัวตามจะชอบพลีส แล้วพี่หมอจะคู่ใคร

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 15-- 30/07/19
«ตอบ #195 เมื่อ31-07-2019 02:01:55 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 15-- 30/07/19
«ตอบ #196 เมื่อ31-07-2019 09:17:55 »

ควรบอกตั้งแต่แรกไหมล่ะ อย่าปล่อยให้เวลาผ่านเลยไป
ปล.พี่ซีก็มา เป็นฝรั่งอ้วนอีกต่างหาก โอยขำ

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 15-- 30/07/19
«ตอบ #197 เมื่อ31-07-2019 18:34:24 »

ทั้งลุ้นทั้งเศร้าไปพร้อมกัน

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 15-- 30/07/19
«ตอบ #198 เมื่อ31-07-2019 20:00:53 »

เศร้าอ่ะ แต่มันก็จริงนะต่างคนต่างยึดติด มันก็ทุกข์ด้วยกันทั้งคู่

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 15-- 30/07/19
«ตอบ #199 เมื่อ31-07-2019 21:15:46 »

พลีสอยากชดใช้ ให้แสง พยายามให้สำเร็จ ทั้งผี ทั้งคน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 15-- 30/07/19
« ตอบ #199 เมื่อ: 31-07-2019 21:15:46 »





ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 15-- 30/07/19
«ตอบ #200 เมื่อ01-08-2019 19:46:49 »

แสงรีบๆบอกเลยก่อนที่คนอื่นจะสับสนมากกว่านี้ แต่ถ้าบอกไปอาจจะช็อกกันได้ แต่เชื่อว่าต้องพิสูจน์จนได้ว่าเป็นแสงจริงๆ ทีนี้ก็จะเคลียร์กันสักที

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 15-- 30/07/19
«ตอบ #201 เมื่อ01-08-2019 20:16:56 »

 :3123: :pig4: :3123:

ออฟไลน์ beedy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 15-- 30/07/19
«ตอบ #202 เมื่อ01-08-2019 21:16:06 »

 :z13:

ออฟไลน์ NongJesZa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 15-- 30/07/19
«ตอบ #203 เมื่อ01-08-2019 23:17:19 »

จะร้องไห้อะ  :hao5: ตื่นเต้น รอๆๆๆ สนุกมาก

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 15-- 30/07/19
«ตอบ #204 เมื่อ03-08-2019 09:02:03 »

สงสารทั้งตามทั้งแสง ต้องติดอยู่กับความรู้สึกเก่าๆ

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 15-- 30/07/19
«ตอบ #205 เมื่อ04-08-2019 01:16:11 »

สงสารทุกคนเลย หน่วงมากๆ

ออฟไลน์ เต้าหู้ไข่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +279/-5
    • twitter
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 16-- 5/08/19
«ตอบ #206 เมื่อ05-08-2019 23:45:11 »

ตอนที่ 16
ถ้าเธอไม่เชื่อคำพูดเรา ก็เชื่อความรู้สึกของตัวเองสิ

 

สิ่งเดียวที่ไม่ชอบเลยเวลาอยู่ในร่างของพลีสคือการต้องไปโรงเรียน ด้วยชีวิตเลยวัยมัธยมมานานมากและผมก็ขี้เกียจตื่นแต่เช้าด้วย

"น้องพลีส เร็วหน่อยค่ะ สายแล้วนะ"

"ครับๆ" ผมตอบรับตอนที่เดินลงมาจากบันไดขณะที่ยังแต่งตัวไม่เรียบร้อยดี เมื่อพี่หน่อยเห็นอย่างนั้นก็เดินตรงเข้ามาหา น้ำเสียงบ่นปนตำหนิเล็กน้อยที่ผมตื่นสายจนทำอะไรไม่ทัน พลางยื่นมือมาติดกระดุมเสื้อให้ทุกเม็ด และกำลังจะจับชายเสื้อยัดเข้าใส่กางเกงแต่ผมเบรกเอาไว้ก่อน

"พี่หน่อย! ผมทำเอง!"

"ทำไมล่ะคะ"

"ผมทำเองได้ ผมโตแล้วนะ" ว่าแล้วก็ขยับตัวหลบ ก่อนจะยัดชายเสื้อเข้ากางเกงแล้วจัดให้เรียบร้อย

"ทำเป็นเขิน อย่างกับหน่อยไม่เคยทำให้"

"ก็พี่หน่อยมัวแต่ทำทุกอย่างให้แบบนี้ พลีสก็เลยไม่โตสักที อะไรที่พลีสทำเองได้ก็ให้พลีสทำเองสิครับ"

พี่หน่อยนิ่งมองหน้าผมอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะยิ้มออกมานิดๆ คงรับรู้ได้ถึงความผิดปกติในตัวพลีสอีกครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นพี่หน่อยก็ไม่ได้ว่าอะไร

"โอเคค่ะ คราวหน้าหน่อยจะให้น้องพลีสทำเอง แต่วันนี้เราต้องไปโรงเรียนกันแล้วค่ะ สายมากแล้ว"

"กินข้าวไม่ทันแล้วใช่ไหมครับ"

"ไม่ทันค่ะ หน่อยทำแซนด์วิชให้ไปทานบนรถค่ะ"

"ไส้ทูน่าหรือเปล่า"

"ทูน่าค่ะ"

ผมแสดงท่าทางดีใจก่อนวิ่งไปรอบนรถ พี่หน่อยจัดการปิดบ้านแล้วก็ตามออกมาก่อนจะไปส่งผมที่โรงเรียนได้ทันเวลาพอดี ในระหว่างทางที่กำลังเดินไปยังห้องเรียน นักเรียนในห้องที่เดินมาพร้อมๆ กันหันมายิ้มให้ผมบ้าง หันมาทักผมบ้างก็มี

"หวัดดีพลีส"

"หวัดดี" ผมตอบกลับโดยอัตโนมัติด้วยการสวมบทบาทเป็นพลีสอย่างเต็มรูปแบบ และแอบแปลกใจเล็กน้อยที่

พลีสมีความสัมพันธ์ระหว่างคนในห้องขึ้นมาบ้าง ไม่ได้ถูกเมินเหมือนเก่า...ทำได้ดีเหมือนกันนะพลีส

ในตอนที่กำลังพึงพอใจกับความเปลี่ยนแปลงของเรื่องราวนั้น ร่างผมก็ถูกไอ้ข้าวปั้นอันธพาลตัวโตแกล้งชนเข้าจังๆ จนไปติดกำแพง เจ็บจนเผลอร้องออกมาเสียงดัง

"เจ็บเหรอ"

"เจ็บดิ!"

"เอาคืนดิ" มันว่าพลางยิ้มกวนประสาท และในตอนที่มันกำลังเดินเข้าห้อง ผมก็ยกกำปั้นเล็กๆ ของพลีสทุบเข้ากลางกบาลมันเต็มๆ แรง

"โอ๊ย!" ไอ้ตัวใหญ่ร้องลั่นจนคนทั้งห้องหันมามอง

"เอาคืนไง"

"มึงกล้าสวนกูเหรอ"

"มึงทำกูก่อนอะ!"

ไอ้ปั้นนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วกระพริบตามองผมคล้ายว่ากำลังพิจารณาบางสิ่ง ก่อนจะโน้มตัวลงมากระซิบถามเบาๆ

"เอาอีกแล้วเหรอมึง"

"อะไร"

"ผีเข้าอีกแล้วไง ผีตัวเดิมป่ะเนี่ย"

"เออ คิดถึงกูไหม มาให้กูกอดหน่อยเร็ว!" ผมใช้จังหวะนั้นคว้าคอมันที่โน้มตัวอยู่แล้วดึงเข้ามาแนบตัว ก่อนใช้อีกมือขยี้หัวมันเต็มแรง

"ไอ้พลีส! ไอ้เชี่ย!" แรงของพลีสไม่ได้มากพอที่จะแกล้งมันต่อได้นาน แค่มันสะบัดตัวนิดหน่อยก็หลุดออกจากแขนของผม ก่อนรีบวิ่งเข้าห้องไปนั่งที่ ผมหันมองหัวยุ่งๆ กับใบหน้ายับๆ ของมันที่มองผมอย่างหวาดระแวงแล้วหลุดหัวเราะออกมา ตัวมันก็ได้แต่ยกมุมปากขึ้นยิ้มนิดๆ ไอ้อันธพาลข้าวปั้นเอ๊ย

 

โคตรจะไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมเวลาที่ผมมาเข้าร่างพลีส มันต้องตรงกับวันที่มีสอบคณิตทุกที ผมไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจและไม่มีความรู้ใดในสมองเหมือนเช่นเคย เลยสร้างความพังพินาศให้พลีสอีกครั้ง หวังว่าพลีสจะทำใจได้ตอนที่ได้เห็นคะแนนของตัวเอง ผมถอนหายใจสุดแรงหนึ่งทีตอนที่เดินออกมาจากห้อง ก่อนหันมองไอ้ปั้นที่เดินตามมา

"เป็นอะไร ดูทำหน้า"

"ทำข้อสอบไม่ได้"

"เออ หน้าหลังโคตรยากเลย"

"ฮะ! มีหน้าหลังด้วยเหรอวะ"

"อะไรของมึงวะเนี่ย ไม่ได้เปิดดูเลยหรือไง"

ผมได้แต่ส่ายหน้าหน่อยๆ แค่หน้าแรกก็เกือบจะส่งกระดาษเปล่าอยู่แล้ว มันไปมีหน้าหลังตอนไหนไม่ทราบ! ทำได้แค่ทำใจเลยต้องปล่อยวาง เดี๋ยวพอพลีสกลับมาก็ค่อยมากอบกู้คะแนนวันหลังก็แล้วกัน พี่ขอโทษจริงๆ นะ

ผมถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะก้าวเท้าตั้งใจจะเดินไปหาอะไรกินที่โรงอาหารเพราะถึงเวลาพักกลางวันพอดี แต่มือถือในกระเป๋าที่กำลังสั่นก็ดึงความสนใจของผมไปก่อนจึงต้องหยิบขึ้นมาดู ก่อนจะพบว่าเป็นไลน์จากพี่ต่อ

 

พี่ต่อ : เย็นนี้เจอกันที่คลินิกนะครับ

 

นั่นแน่! ความสัมพันธ์พัฒนาไปขนาดที่ว่านัดเจอกันแบบนี้ได้แล้วเหรอ แม้ว่าจะเป็นผมที่อยู่ในร่างของพลีส แต่ผมจะพยายามไม่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพลีสกับพี่ต่อต้องชำรุดหรือเสียหาย ต้องรักษาไว้ซึ่งความสัมพันธ์นั้นเลยต้องตามน้ำไปก่อน ด้วยการตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว

 

พลีส : ครับ

 

ดูห้วนไปหน่อยไหมนะ น่าจะต้องตามด้วยสติกเกอร์สักตัว ตัวไหนดี ปกติพลีสใช้ตัวไหนบ่อยๆ นะ

"ไอ้พลีส!"

"เฮ้ย!" ผมโวยลั่นตอนที่ไอ้ปั้นเข้ามาตบหลังเสียงดังป้าบ มือที่กำลังเลื่อนเลือกสติกเกอร์ พลาดกดส่งไปให้พี่ต่อแล้วด้วยสติกเกอร์โคนี่ส่งจูบเป็นรูปหัวใจ สองตัวติดๆ...โคตรแรด

"ไอ้พลีส กูรู้แล้วว่ามึงเป็นอะไร"

"อะไร" ผมยัดมือถือลงกระเป๋ากางเกงแล้วหันไปถาม

"โรคสองบุคลิก"

"ฮะ?"

"กูวิเคราะห์มาแล้วด้วยสมองอันชาญฉลาดของกู มึงมีบุคลิกที่สองที่มันแสดงออกมาโดยที่มึงไม่รู้ตัว อย่างที่มึงกำลังเป็นอยู่ที่ไง กูรู้หมดแล้วไม่ต้องมาปิดบังกู"

"เออ แล้วแต่มึงเลย"

"อ้าว! อะไรวะ แล้วมึงจะไปไหนเนี่ย"

"กินข้าวดิ"

"นี่ไง บุคลิกที่สองของมึงชัดมาก เพราะปกติมึงไม่กินข้าว กูรู้ๆ"

"วันหลังมึงก็นั่งกินข้าวเป็นเพื่อนกูดิ"

"เรื่องอะไร กูก็ไปกินกับเพื่อนกูดิ ทำไมต้องไปกินกับมึง"

"ก็กูไม่มีเพื่อนไง"

"ชินได้แล้ว" มันพูดแค่นั้น ผลักหัวผมทีหนึ่งก่อนจะเดินออกไป ผมไม่ได้สนใจอะไร เดินตรงไปที่โรงอาหารและร้านป้าพุกก็เป็นตัวแรกที่ผมเลือก ได้ข้าวแล้วก็มองหาที่นั่ง ในจังหวะเดียวกันกับที่ผมกำลังหย่อนตัวลงนั่ง ข้าวจานหนึ่งก็ถูกวางบนโต๊ะ ก่อนเจ้าของจานจะนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม

"ข้าวปั้น"

"โต๊ะเพื่อนกูมันเต็มอะ นั่งไม่พอ"

ผมหันมองไปยังกลุ่มเพื่อนของไอ้ปั้นที่มีเก้าอี้ว่างพอที่จะนั่งได้ทั้งทีมฟุตบอลด้วยซ้ำ แต่ไอ้เด็กนี่ก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ตักข้าวกินไม่พูดไม่จา นิสัยร้ายๆ ของมันถูกตีกระจายด้วยความน่ารักเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่จนน่าเอ็นดู เลยเผลอยกมือขยี้หัวมันเบาๆ อย่างมันเขี้ยว

"น่ารักเหมือนกันนะเราเนี่ย"

มันตีมือผมเบาๆ แล้วปัดออก มองตาขวางๆ แล้วก้มลงกินข้าวเต็มปาก ก่อนมุมปากของแก้มตุ่ยๆ นั่นจะยิ้มออกมาบางๆ มันไม่ใช่ข้าวปั้นที่คอยแต่จะแกล้งพลีสตลอดเวลาเหมือนเก่า เรื่องราวตรงนี้ก็เปลี่ยนไปแล้วเหมือนกันสินะ ถึงจะเป็นไอ้เด็กเกเรขี้โวยวายไม่น่าคบก็เถอะ แต่อย่างน้อยๆ...ก็มีเพื่อนแล้วนะพลีส

 

...

 

            หลังเลิกเรียน ผมมาที่คลินิกของพี่ต่อตามนัด แต่พี่ต่อยังติดคนไข้อยู่ก็เลยให้ผมเข้ามานั่งรอที่ห้องพักก่อน เกือบสิบนาทีที่ผมรออยู่ ก่อนจะมีคนเปิดประตูเข้ามา

 

"ครืด"

 

ผมหันมองคนที่เลื่อนประตูเปิดเข้ามาแต่ว่าไม่ใช่พี่ต่อ เป็นตามที่หันมายักคิ้วให้ทีหนึ่งตอนที่เข้ามาเจอผมราวกับรู้อยู่แล้วว่าผมอยู่ที่นี่ ผมไล่สายตามองตามที่สวมเสื้อยืดสีซีดกับกางเกงวอร์มและรองเท้าแตะง่ายๆ มือหนึ่งหิ้วถังน้ำ อีกมือถือไม้ถูกพื้น ยัดผ้าขี้ริ้วเอาไว้ที่กระเป๋ากางเกงข้างหนึ่ง อีกข้างเป็นน้ำยาเช็ดกระจก

"รับจ้างทำความสะอาดด้วยเหรอครับ"

"ทำทุกงานที่ได้เงิน"

ตามพูดขำๆ แล้วหันไปจริงจังกับการทำความสะอาด วางถังน้ำไว้ที่มุมหนึ่งแล้วเริ่มต้นด้วยการถูกพื้นจากอีกฝั่ง ไม่ได้สนใจผมที่กำลังนั่งอยู่ตรงนี้ ในขณะเดียวกันผมก็พลันคิดอะไรบางอย่างอยู่ในหัว

ผมต้องคุยกับตาม...มีเรื่องที่จะต้องบอกกับเขา

"หลบดิ"

"ฮะ?"

"หลบหน่อย"

เพราะมัวแต่เหม่อลอยคิดอะไรไปไกล จึงไม่ทันได้เห็นว่าตามถูพื้นมาจนถึงตรงที่ผมนั่งอยู่ กำลังจะทำตามคำสั่งที่บอกให้หลบแต่คงไม่ทันใจ ตามจึงยกสองขาผมรวบขึ้นจนตัวลอยเกือบหล่นเก้าอี้

"เฮ้ย!"

"ป้าบ!"

"โอ๊ย!"

ตามร้องลั่นตอนที่ผมยกมือฟาดด้วยความเคยชิน มันเป็นการโต้ตอบโดยอัตโนมัติตอนที่ถูกตามแกล้งก็เลยไม่รู้ตัวคนถูกตีทำหน้างง คงคิดไม่ถึงว่าผมจะทำแบบนั้น

"พลีสตีพี่เหรอ"

"ใช่"

ตามเม้มริมฝีปากดูเคืองๆ ก่อนจะใช้ไม้ถูกพื้นแกล้งถูแรงๆ มาชนกับเท้าของผม จนต้องลุกขึ้นหลบ

"พี่แกล้งผมเหรอ"

"ใช่"

ผมยกกำปั้นต่อยแขนตาม ขณะที่ตามก็หันมาโต้ตอบทันทีด้วยการดีดหน้าผากผมเต็มแรง สงครามกำลังก่อตัวด้วยความรุนแรง ผมง้างมือทำท่าจะตบกลับอีกสักที แต่พี่ต่อเปิดประตูเข้ามาขัดจังหวะซะก่อน มองดูเราสองคนสลับกันไปมา

"ทะเลาะกันเหรอ"

"พี่ตามแกล้งผม"

"ก็พลีสตีพี่ก่อน"

"ก็พี่แกล้งผมอะ"

"แกล้งอะไร ก็แค่บอกให้หลบ"

"ก็พี่ทำผมเกือบตกเก้าอี้อะ!"

เราทั้งคู่พากันโวยวายใส่ราวกับเด็กที่กำลังต่างคนต่างฟ้องพี่ต่อ ผมแอบคิดอยู่ในใจว่าพี่ต่อจะเข้าข้างใครระหว่างน้องชายของเขากับคนที่ตัวเองชอบ ในขณะเดียวกันก็ย้อนคิดไปถึงตอนที่ผมยังมีชีวิต ทุกครั้งที่เถียงกับตามต่อหน้าพี่ต่อ ก็จะถูกห้ามปรามอย่างคนที่มีเหตุผลและใจเย็นอยู่เสมอ ไม่รู้ว่าพี่ต่อจะยังจำได้อยู่ไหม...

 

"ใครยอมแพ้ก่อนชนะนะ"

 

ทั้งผมและตามพากันเงียบ หลังจากได้ยินประโยคนั้น เป็นคำพูดนั้น...ที่เราได้ยินจากปากของพี่ต่ออยู่เสมอ ผมหันมองหน้าตาม ในตอนที่ตามก็หันมาสบตา ราวกับว่าเรากำลังเข้าใจซึ่งกันและกัน เพียงแต่ว่าผมที่ยืนอยู่ตรงนี้ดันไม่ใช่แสงก็เท่านั้นเอง

"ยอมให้ก็ได้" ตามพูดแค่นั้นแล้วหยิบไม้ถูกับถังน้ำเดินออกไปจากห้อง ผมได้แต่ทำหน้าย่นใส่ตามหลัง ก่อนที่ตามจะหันขวับกลับมาจึงต้องปรับสีหน้าเป็นปกติ แต่คนที่ย้อนกลับมาไม่ทันได้สนใจเพราะตั้งใจมาพูดกับพี่ต่อ

"เสร็จแล้ว ไปนะ"

"พรุ่งนี้มาอีกนะ"

"จ่ายเงินด้วย"

"ใส่ไว้ให้ในกระเป๋าแล้ว"

"ขอบคุณครับ"

พี่ต่อส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะหันมาหาผม

"น้อง วันนี้พี่คงไม่ได้ติวให้แล้ว"

"อ้าว ทำไมล่ะครับ"

"พี่มีคนไข้เข้ามา ไม่อยากให้น้องรอนาน เอาไว้วันหลังได้ไหมครับ"

"วันหลังก็ได้ครับ"

"ไม่โกรธนะ"

"ไม่โกรธครับ"

"เดี๋ยววันหลังพี่พาไปเลี้ยงไอติม"

"สัญญาแล้วนะ งั้นวันนี้ผมกลับก่อนนะครับ" ผมว่าก่อนจะหยิบกระเป๋าเดินออกจากห้อง แต่เสียงของพี่ต่อหยุดผมเอาไว้ก่อน

"เออ น้อง"

"ครับ?"

"สติกเกอร์ที่ส่งมา น่ารักดีนะ"

"..."

"เหมือนน้องเลย" เสียงทุ้มอบอุ่นกับมือนุ่มที่ยกขึ้นบีบแก้มผมเบาๆ ทีหนึ่งในระยะเวลาอันสั้นนั้น ได้สร้างพลังทำลายล้างที่ดูเหมือนว่าจะพาให้ผมเผลอเคลิ้มไปนิดหน่อย

พี่ต่อนี่มันแบบ...

"ไปนะครับ" พูดแค่นั้นแล้วเลื่อนประตูออกมาจากห้องพัก ใจเต้นตึกตักอย่างไม่มีเหตุผล ผมไม่ได้ชอบพี่ต่อสักนิด หรือว่า...เพราะมันเป็นหัวใจของพลีสกันนะ มันเลยมีความสุขขนาดนี้

"เป็นไรเขี้ยวกุด"

ผมหันขวับมองตามที่เอ่ยทัก รวบริมฝีปากที่กำลังยิ้มแล้วปรับสีหน้าเป็นปกติ ส่ายหน้ายิกๆ ปฏิเสธส่งๆ แต่ไม่วายถูกแซวด้วยน้ำเสียงกวนๆ

"เขินบิดเลยน้า"

"อะไรเล่า!"

ตามยักไหล่หน่อยๆ ก่อนยกกระเป๋าในมือขึ้นสะพายแล้วเดินออกจากคลินิกไป ผมเองก็รีบเดินตามไปด้วย ใจคิดแต่ว่าต้องหาโอกาสคุยกับตามให้ได้

"พี่ตาม!"

"อะไร ตามมาทำไมเนี่ย"

"ไปกินข้าวกันไหมครับ"

"กินข้าว ตอนนี้อะนะ"

"ผมเลี้ยง"

"พี่เลือกร้าน"

ผมหลุดหัวเราะตอนที่อีกคนโต้ตอบกลับมาทันควันตอนที่บอกจะเลี้ยง เมื่อก่อนไม่ยอมให้ผมจ่ายเงินค่าข้าวสักมื้อ เดี๋ยวนี้ยอมให้เด็กเลี้ยงข้าวซะงั้น ผมเคยบอกว่าตามเหมือนหมูที่สวมหน้ากากมนุษย์เพราะตามจะตัวนุ่มนิ่ม จ้ำม่ำ แก้มก็พอง พุงก็ป่อง น่ารักเป็นบ้า แต่ว่าตอนนี้...มันไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว 

ตามเดินนำผมมายังร้านข้าวมันไก่ที่ไม่ไกลจากคลินิกมาก แต่ก่อนที่จะเดินเข้าร้านข้าวก็แวะสั่งลูกชิ้นปิ้งที่ขายหน้าร้านแล้วให้ผมยืนรอ ส่วนตัวเองตรงเข้าไปสั่งข้าวมันไก่และพูดคุยกับเจ้าของร้านอย่างดูสนิทสนม เมื่อผมได้ลูกชิ้นปิ้งที่สั่งแล้วก็เดินไปนั่งกับตาม ในตอนที่ข้าวมันไก่ถูกยกมาเสิร์ฟพอดี

"โห ทำไมได้เยอะจัง จานละเท่าไรเนี่ย" ปริมาณข้าวมันไก่ในจานนั่นเยอะจนผมเผลอส่งเสียงแปลกใจ

"พี่เคยเป็นเด็กเสิร์ฟที่นี่อะ เขาก็เลยให้เยอะ"

"พี่ตามทำงานเยอะจัง ทำมาหมดทุกอาชีพแล้วมั้งเนี่ย" ผมว่าพลางหยิบช้อนกับส้อมส่งให้ตาม

"หาเงินเที่ยว"

"จะเที่ยวไปถึงไหน ทำไมไม่หางานทำดีๆ แล้วก็เคยบอกว่าอยากต่อโทไม่ใช่เหรอ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงปนตำหนิเล็กน้อย ก่อนจะตักไก่ที่มีชิ้นติดหนังในจานตัวเองไปใส่จานตาม เพราะผมไม่ชอบกินหนังแต่ตามโปรดปราณอะไรที่มันก่อไขมันได้ง่ายๆ ผมไม่รู้ตัว ทำไปเพราะความเคยชิน แต่ความเคยชินนั้น มันส่งผลให้อีกคนที่ไม่ชินถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ ผมชะงักมือที่กำลังตักไก่ให้ตาม แล้วแถออกไปข้างๆ คูๆ

"ผมไม่กินหนัง คิดว่าพี่คงชอบ พี่ไม่ชอบเหรอ เอาคืนก็ได้"

ตามยกมือขึ้นจับมือผมที่กำลังจะตักไก่คืน หัวคิ้วที่ขมวดเข้าหากันทำให้ใบหน้านั่นดูเคร่งขรึมแปลกๆ ตามคงไม่คิดสงสัยอะไรเพียงเพราะตักไก่ติดหนังให้หรอกนะ

"พี่ตาม ผมแค่คิดว่าพี่คงจะชอบ..."

"รู้ได้ยังไงว่าพี่อยากต่อโท"

"ครับ?"

"เมื่อกี้ที่พลีสพูดไง"

ย้อนคิดถึงคำพูดเมื่อวินาทีก่อนที่ผมไม่ทันจะรู้ตัว เพราะเอาแต่บ่นอะไรไปเรื่อยเปื่อย จึงพบว่าตัวเองทำพลาดครั้งใหญ่ด้วยการพูดออกไปแบบนั้นแล้วหาข้อแก้ตัวไม่ทันจึงได้แต่อ้ำอึ้ง

"พี่ต่อบอกเหรอ"

"ครับ พี่ต่อบอก"

"ช่วงนี้คุยกับพี่ต่อเยอะเลยสินะ"

ผมพยักหน้าหน่อยๆ ก่อนที่ตามจะปล่อยมือผมออก ลอบถอนหายใจเบาๆ ตอนที่ตามไม่ได้ถามอะไรต่อแล้วก็ตักข้าวใส่ปาก ผมลังเลว่าจะหาโอกาสบอกตามยังไง ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสม อยู่ดีๆ ถ้าผมพูดว่าตัวเองคือแสง เป็นวิญญาณที่ตายแล้วแต่ยังไม่ไปไหนและสุดท้ายก็มาเข้าร่างเด็กคนนี้เพราะต้องการที่จะพูดคุยกับเขา ตามคงจะเชื่อหรอก แต่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะมีเวลาอยู่ที่นี่มากพอขนาดนั้น ถ้าผมยังไม่พูด ผมอาจจะเสียโอกาสครั้งนี้ไป หรือไม่บางที อาจจะไม่มีโอกาสแล้วก็ได้... 

เอาวะ!

"พี่ต่อไม่แก่ไปหน่อยเหรอ"

"ฮะ?" สติหลุดตอนตามพรวดขึ้นมาก่อน ไม่ได้ฟังด้วยซ้ำว่าพูดอะไร

"ห่างกันสิบบวก"

"อะไรสิบบวก"

"อายุของพี่ต่อกับพลีสไง ห่างกันสิบกว่าปี"

"พี่ต่อหน้าเด็กกว่าพี่ตามอีก"

"เดี๋ยวก็ต่อยเหล็กหลุดเลย"

"หลุดก็ดี จะได้ไปหาพี่ต่อที่คลินิก"

"เหอะ!" ตามทำหน้าไม่พอใจ ก่อนจะตักข้าวใส่ปากคำใหญ่

"ทำไมล่ะ ไม่ชอบพลีสเหรอ"

"เปล่า"

"หรือว่าหวงพี่ต่อ"

"อือ"

"ก็น่าหวงอยู่หรอก พี่ต่อทั้งหล่อ อบอุ่น หุ่นดี ยิ้มหวาน แถมยังใจดี...อื้อ!" คำพูดผมชะงักด้วยการที่ตามตักไก่สองสามชิ้นยัดใส่ปากผม

"อี๋! ติดหนังด้วย!"

"กินๆ เข้าไป พูดอยู่ได้ ปกติไม่พูดมากขนาดนี้นี่เราอะ"

ผมกำลังจะอ้าปากเถียง แต่เสียงมือถือของตามดังขัดขึ้นมาก่อน เมื่อเจ้าของหยิบมือถือขึ้นมาดู ดวงตาก็เบิกกว้าง ดูตกใจจนแทบจะสำลักข้าวที่กินเข้าไปคำโต

"ฉิบหายละ!"

"มีอะไรเหรอ"

"ลืมไปทำงาน โดนด่าแน่เลย พี่ไปก่อนนะ"

"อะ...อ้าว"

"เสียดายไก่" ตามว่าแล้วตักไก่ในจานที่เหลืออยู่ยัดเข้าไปคำเดียวจนแก้มจะแตก

"เดี๋ยวก็ติดคอหรอก!"

"ไปละ!" ควักแบงก์ร้อยใบหนึ่งวางบนโต๊ะ ก่อนจะรีบวิ่งออกไปจนผมเรียกเอาไว้ไม่ทัน

"ก็บอกว่าจะเลี้ยงไง" ผมพูดเบาๆ ก่อนยื่นมือไปหยิบเงินนั่น สายตาพลันไปเห็นถุงลูกชิ้นปิ้งที่ตามยังไม่ได้แตะสักคำ ดูเหมือนว่าจะอยากกินมากด้วย ช่วยไม่ได้แฮะ หาเรื่องเอาไปให้ที่ทำงานดีกว่า

ผมหลุดยิ้มก่อนลุกไปจ่ายเงินค่าข้าวมันไก่แล้วเดินออกมาจากร้าน ใจคิดแต่ว่าจะไปหาตาม ก่อนที่สองขาจะหยุดชะงักเมื่อต้องเลือกทางที่จะไปต่อ

ตามไปทำงานที่ไหนวะ

ด้วยความที่ตามทำงานไม่เป็นหลักเป็นแหล่ง รับพาร์ทไทม์เยอะจนผมไม่แน่ใจว่าที่ตามรีบร้อนออกไปนั่นคือที่ไหน ก็เลยต้องไปทุกที่ เริ่มจากร้านกาแฟก่อนเพราะอยู่ใกล้ แต่พนักงานในนั้นบอกว่าตามไม่ได้ทำงานวันนี้ ผมจึงไปต่อที่ร้านตัดผมเพราะเป็นทางผ่านก่อนจะถึงร้านสะดวกซื้อ เช่นกันว่าไม่เจอตามที่นั่น แต่เจอสิ่งมีชีวิตสุดแสนน่ารักอย่างเจ้าหมาสามตัวที่เดาว่าน่าจะเป็นแม่ลูกกัน ทั้งหมดตัวซูบผอมเหมือนไม่ได้กินอะไรมาหลายวันโดยเฉพาะตัวแม่ คนรักหมาอย่างผมไม่อาจมองดูแล้วผ่านไปเฉยๆ นั่งลงลูบหัวเด็กๆ พวกนั้นที่ดูเชื่อง ในมือของผมมีลูกชิ้นปิ้ง แต่กลับลังเลที่จะยกให้หมาเพราะว่ามันเป็นของตาม

หมาหรือตาม...หมาหรือตาม...

"ขอโทษนะที่รัก หมาดูหิวกว่าเธอเยอะเลย" ผมว่าก่อนจะหยิบลูกชิ้นปิ้งทั้งหมดนั่นรูดออกจากไม้ให้หมาพวกนี้กิน มองดูเจ้าสามตัวกินอย่างเป็นระเบียบไม่แย่งกัน อดยิ้มกับความนิสัยดีของเจ้าหมาจรจัดพวกนี้ไม่ได้ สุดท้ายเมื่อพวกมันกินหมดก็เลยลุก บอกลาแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น

ไม่มีข้ออ้างไปหาตามแล้วแต่ก็ยังอยากไปหาอยู่ดี ไหนๆ ก็ไหนๆ เดินไปอีกหน่อยก็ร้านสะดวกซื้อแล้ว เลยทำตามใจตัวเองด้วยการแอบไปดูตามทำงานสักหน่อย แต่ในตอนที่ผมเดินเข้าไปไม่ได้มีใครหันมาสนใจเพราะลูกค้าในร้านค่อนข้างเยอะ ผมหลบเข้าไปในมุมชั้นวางของเพื่อมองดูตามในบทบาทของพนักงานร้านสะดวกซื้อ

ในขณะนั้นก็มีลูกค้าคนหนึ่งเดินเข้ามาสั่งบุหรี่ยี่ห้อหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าตามจะไม่รู้จักเลยทำหน้าเอ๋อไปครู่หนึ่ง ก่อนหันซ้ายหันขวา ในขณะที่ทุกเคาน์เตอร์กำลังวุ่นๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมาพอดี ตามจึงเอ่ยปากถามกับผู้ชายคนนั้น ไม่เพียงแค่บอก แต่ชายคนนั้นเดินไปหยิบบุหรี่แล้วคิดเงินให้ลูกค้าด้วยตัวเอง ก่อนจะหยิบป้ายงดให้บริการเคาน์เตอร์มาวางแล้วเรียกตามไปที่หน้าห้องพนักงาน ผมขยับตัวหลบอีกชั้นใกล้ๆ เพื่อให้ได้ยินบทสนทนานั่น

"มึงทำงานมานานแค่ไหนแล้ว ยี่ห้อบุหรี่แค่นี้มึงจำไม่ได้เหรอ ต้องให้บอกอีกกี่ครั้ง"

"ขอโทษครับ"

"แล้ววันนี้มึงก็มาสายอีก มึงไม่รู้เหรอวะว่าตัวเองต้องทำงานกี่โมง เดือดร้อนคนอื่นเขาต้องมาอยู่กะแทนเนี่ย ไม่สำนึกบ้างเหรอ ความรับผิดชอบอะไรไม่เคยมี เรื่องแค่นี้มึงทำไม่ได้มึงก็ออกไปเลยไป"

"ผมขอโทษครับ"

"ไปถูพื้นไป"

"ครับ" ตามรับคำแค่นั้นก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนั้น ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะพูดอีกประโยคที่ดังพอจะให้คนอื่นได้ยินทั่วกัน

"กระจอกอย่างมึงจะไปทำมาหาแดกอะไรได้วะ"

กลายเป็นผมที่โกรธจนมือสั่นเพราะไอ้นั่นบังอาจมาต่อว่าตาม ซ้ำยังพูดต่อหน้าคนอื่นทั้งๆ ที่มันไม่ควรจะมายืนด่าตรงนี้ด้วยซ้ำ ตามของผมไม่สมควรที่จะโดนดูถูกแบบนี้

ผมรีบก้าวเท้าออกมาจากร้านด้วยความโกรธที่พุ่งถึงขีดสุด ถ้าตอนนี้เป็นผีจะหลอกไอ้นั่นให้หัวโกร๋นแต่ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากยืนกำหมัดแน่นด้วยความโมโห ขณะที่ผมกำลังโกรธ ไอ้เวรนั่นก็เดินออกมาจากร้านเพื่อสูบบุหรี่ ผมรีบหันหลังให้ก่อนในใจจะคิดอะไรได้บางอย่าง  ผมถูกสอนให้ทำดีมาทั้งชีวิต แต่คิดบาปก็สักครั้งคงไม่เป็นไร จะสาปส่งให้ผมตกนรกก็ได้แต่ครั้งนี้ผมขอละกัน 

ผมเหลือบตามองไอ้คนที่หันหลังสูบบุหรี่อย่างสบายใจ ก่อนที่ผมจะก้าวเท้าเร็วๆ เข้าไปหามันแล้วยกมือข้างหนึ่งฟาดกบาลเข้าไปเต็มๆ

"เฮ้ย! ไอ้ปั้น!"

"ป้าบ!"

"โอ๊ย!" ไอ้ตัวโตร้องลั่นยกมือกุมหัวตัวเองก่อนหันขวับมาหาผมอย่างดูเอาเรื่อง บทบาทที่คิดเอาไว้ในแผนตั้งแต่แรกก็เริ่มแสดงด้วยความสามารถในการแถที่ผมสั่งสมมานาน

"ขอโทษครับ! ผมนึกว่าเป็นเพื่อน!"

"น้องตบหัวพี่เต็มๆ เลยนะ!"

"ผมจำผิด คิดว่าพี่เป็นเพื่อนผมน่ะครับ ขอโทษจริงๆ ครับ อย่าทำอะไรผมเลยนะครับ" ทำท่าร้อนรนราวกับสำนึกผิด ใบหน้าของพลีสน่ารักอยู่แล้ว แค่ทำเป็นอ้อนหน่อยๆ ก็เรียกร้องความสงสารให้อีกคนยอมให้อภัยง่ายๆ ด้วยการพยักหน้ารับ

"เออๆ ไม่เป็นไร คราวหลังก็ดูดีๆ หน่อยแล้วกัน"

"ครับ ขอโทษอีกทีนะครับ" ผมรีบเดินออกมาจากตรงนั้นแล้วปรับสีหน้าให้เป็นปกติ หันกลับไปมองอีกทีไอ้นั่นยังคงยกมือลูบหัวตัวเองอยู่เดาว่าน่าจะยังไม่หายเจ็บ พอๆ กับผมที่ต้องยกมือขึ้นสะบัดเบาๆ...มือชาเลยแม่ง

หลุดหัวเราะกับเรื่องบ้าๆ ที่ตัวเองก่อไปเมื่อครู่ ก่อนจะนั่งลงที่ขั้นบันไดของตึก มองย้อนกลับไปแล้วคิดถึงตามขึ้นมาอีกครั้ง ไม่อยากให้ใครมาแตะต้องตามของผมแบบนั้น ไม่อยากให้ชีวิตของตามลำบากแบบนั้น และเรื่องที่ผมจะบอกตามก็ยังไม่ได้พูดออกไป

 

เอาไว้คราวหน้านะ...เอาไว้คราวหน้าจะบอก


 

มีต่อค่ะ

ออฟไลน์ เต้าหู้ไข่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +279/-5
    • twitter
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 16-- 5/08/19
«ตอบ #207 เมื่อ05-08-2019 23:46:01 »


วันอาทิตย์วนมาอีกครั้ง ผมจำเป็นต้องไปโบสถ์ด้วยไม่อาจหาข้ออ้างปฏิเสธพี่หน่อย แม้ความจริงจะไม่ได้ยับถือคริสต์ก็ตามแต่ก็กระทำด้วยความยินดี เพราะคิดว่าผมต้องทำสิ่งนี้ทดแทนให้กับพลีสในช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่ และการมาที่นี่ในวันอาทิตย์ มันก็ทำให้ผมได้เจอกับตามที่มาที่นี่เป็นประจำด้วย

หลังจบกิจกรรม ผมบอกให้พี่หน่อยกลับไปก่อนแล้วย้อนกลับเข้าไปในโบสถ์อีกที ผมมองหาตามก่อนไปเห็นตามกำลังคุกเข่าก้มหน้าภาวนาหรืออธิษฐานอะไรบางอย่างที่ผมไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเป็นพิธีใดในศาสนา ตามใช้เวลาอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งก่อนเดินออกมา ผมก็ใช้จังหวะนั้นตรงเข้าไปทักทันที

"พี่ตาม"

"ไง" คำโต้ตอบที่ดูเฉื่อยชากับใบหน้าไร้อารมณ์ทำให้ผมแปลกใจนิดๆ

"เป็นอะไรหรือเปล่า"

ตามส่ายหน้าหน่อยๆ ก่อนจะยิ้มให้ แต่ก็อย่างที่เห็น เป็นยิ้มที่ฝืนจนดูออก ก่อนที่ตามจะเดินออกไปจากตรงนี้ แต่ผมไม่ได้เดินตามเพราะมัวแต่คิดว่าตามเป็นอะไรไป แต่ยังไม่ทันได้คำตอบใดจากความคิดนั้น ตามก็หันมามองแล้วเอ่ยปากถาม

"ไม่กลับเหรอ"

"กลับครับ" ผมตอบรับแล้วก้าวเท้าเข้าไปหา ไม่อยากให้บรรยากาศระหว่างเรานั้นเงียบก็เลยชวนคุยด้วยบทสนทนาโง่ๆ ที่คิดได้ในตอนนี้พอดี

"เมื่อกี้พี่ตามทำอะไรอยู่เหรอ"

"ก็รู้อยู่แล้วนี่"

ไม่รู้ซะหน่อย...

"สารภาพบาปไง"

โชคดีที่ตามพูดต่อ ผมจึงเข้าใจในสิ่งที่เขาทำเมื่อครู่ แต่ไม่เข้าใจว่าตามไปทำผิดอะไรมา เพราะคนอย่างตาม แม้ยุงสักตัวยังไม่คิดจะตบเลยด้วยซ้ำไป

"พี่ตามไปทำผิดอะไรมาเหรอ"

"ไม่รู้สิ..."

"..."

"ใจหนึ่งก็บอกว่าผิด อีกใจก็บอกว่าไม่ผิด" เหมือนตามกำลังพูดกับตัวเองมากกว่าที่จะสนทนากับผม ความสับสนในตัวเองถูกแสดงออกให้เห็นผ่านสีหน้ายุ่งๆ นั่น ถึงอย่างนั้นผมก็ยังอยากรู้อยู่ดีว่าตามหมายถึงอะไร

"บอกได้ไหมว่าอะไร"

"อยากรู้?"

"ก็เผื่อผมจะช่วยคิดว่ามันผิดหรือไม่ผิดไง"

ตามหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยอมพูดออกมา

"กำลังคิดจะนอกใจใครบางคนอยู่น่ะ"

จบคำพูดนั้นมันกลับทำให้ผมเผลอคิดไปว่าไม่น่าถามเลย หัวใจผมกลับเต้นแรงด้วยความไม่พอใจอย่างไร้เหตุผล ก็มันหมายความว่าตามกำลังนอกใจผมอยู่ไม่ใช่เหรอ...

ผมสะบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆ นั่น เผลอโกรธเคืองจนลืมไปว่าตัวผมเองนั้นได้ตายไปแล้ว และความปรารถนาหนึ่งที่ผมมี ก็คือการรอให้ตามเปลี่ยนใจไปรักคนอื่นแล้วมันก็กำลังจะเกิดขึ้นจริงแล้ว ผมควรจะยินดีด้วยซ้ำไป ก่อนที่ความคิดในสมองจะค่อยๆ เรียบเรียงคำพูดเหล่านั้นและสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ตามกำลังชอบใครบางคนอยู่สินะ ผมไม่คิดไขว่คว้าหาคำตอบว่าคนๆ นั้นจะเป็นใคร ขอแค่ใครก็ได้ที่จะทำให้ตามหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานจากการไม่กลับมาของผมสักที...

"พี่กลับก่อนนะ"

"เดี๋ยวครับ!" ผมคว้าแขนตามเอาไว้อย่างไม่ทันคิด เพราะยังไม่อยากให้เขากลับไปตอนนี้

"ว่าไง"

"ไปกินข้าวกันไหมครับ"

"ชวนกินข้าวอีกแล้ว?"

"ครับ ยังไม่ได้เลี้ยงพี่สักที วันนี้ผมจะ..."

"ไม่ดีกว่า"

"ครับ?"

"พี่อยากกลับบ้าน" ตามดึงมือตัวเองออกไปจากการจับมือของผม แล้วทิ้งผมเอาไว้ตรงนี้ ความสนิทใจที่ผมมีให้ตามมันมากมายเกินกว่าความจริงที่ควรจะเป็น เพราะผมคิดว่าตัวเองคือแสงไม่ใช่พลีส แต่กับตามแล้ว พลีสอาจจะไม่ใช่คนที่ตามสนิทสนมด้วยขนาดนั้น อีกอย่างตามก็รู้ว่าพลีสกับพี่ต่อมีความสัมพันธ์ต่อกันอย่างไร การที่ผมเอาแต่ชวนตามไปกินข้าวด้วยกันทุกครั้งที่เจอหน้า อาจจะทำให้ตามอึดอัดก็ได้ ผมลืมที่จะคิดถึงความเป็นจริงข้อนี้ไป

ความคิดสับสนเพราะเรื่องราวยุ่งยากพวกนั้นที่ทำให้ผมคิดไม่ออกว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป ได้แต่ถอนหายใจแล้วทิ้งตัวเองลงนั่งกับพื้นฟุตบาทตรงนั้น การปฏิเสธของตามทำเอาผมเสียใจจนเกือบจะร้องไห้ราวกับได้สูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป

ก็แค่อยากอยู่ใกล้ๆ เธอให้นานที่สุดเท่านั้นเอง 

ความคิดผมหยุดชะงักในตอนที่เท้าคู่หนึ่งเดินเข้ามาหาแล้วหยุดอยู่ตรงหน้า ผมเลื่อนสายตาขึ้นมองตามที่เดินย้อนกลับมา ก่อนเขาจะเอ่ยปากพูด

"ก็ได้"

"..."

"ไปกินข้าวกัน"

ความคิดทั้งหลายถูกตีกระเจิงเพียงเพราะรอยยิ้มจากคนตรงหน้า ผมลืมที่จะคิดเรื่องอื่นไปชั่วขณะ เพราะความเห็นแก่ตัวบอกผมว่า ผมต้องคว้าโอกาสที่จะได้อยู่กับตามเอาไว้ก่อน จึงรีบลุกขึ้นแล้วเดินตามเขาไป

ครั้งนี้ผมขอเป็นคนเลือกร้านเอง เพราะตั้งใจจะเลี้ยงก็เลยพามากินอะไรดีๆ อย่างที่เมื่อก่อนเคยชอบ พลีสคงไม่ว่าถ้าผมจะขอยืมเงินของเขานิดหน่อย แม้ว่าจะไม่มีโอกาสใช้คืนให้ก็เถอะนะ

"เดี๋ยวเขี้ยวกุด นี่มันไม่แพงไปเหรอ" ตามดึงมือผมเอาไว้ก่อนที่จะเดินเข้าร้าน

"นานๆ ที"

"แต่ราคามัน..."

"มีแซลมอล"

ไม่เคยลืมว่าของโปรดที่สุดในชีวิตของตามคืออะไรจึงพามาที่นี่ และดูเหมือนว่าความสนใจในอาหารที่มีจะทำให้ตามลืมเรื่องราคาไปชั่วขณะ ผมรีบร่ายมนต์ให้อีกคนหลงกล

"มีบุฟเฟต์แซลมอล แซลมอลแบบพรีเมี่ยม แซลมอลแบบ..."

ผมหลุดหัวเราะตอนที่ตามเดินเข้าร้านก่อนผมจะเป่าหูจบด้วยซ้ำ ตามเลือกที่นั่งและสั่งอาหารเรียบร้อย รอไม่นานอาหารที่สั่งก็มาเสิร์ฟ ผมหลุดยิ้มกับแววตาเป็นประกายเมื่อมองแซลมอลสีส้มตรงหน้า ตะเกียบกำลังจะทำงานแต่หยุดชะงักแล้วเหลือบตาขึ้นมองผม 

"กินเลยนะ"

"กินเลยครับ"

ตามกับอาหารเป็นสมการของความน่ารักที่ไม่เคยปฏิเสธได้ลง แม้ว่าจะดูผอมลงไปเยอะแต่แก้มก้อนนั้นก็ยังน่ารักตอนถูกอาหารยัดเข้าไปแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ ตะเกียบกับปากผลัดกันทำงานไม่หยุด เป็นคนที่กินบุฟเฟต์ได้คุ้มค่า สมฉายา...ตามใจร้านเจ๊ง

วันนี้ตามไม่ต้องทำงานที่ไหนก็เลยเป็นวันสบายๆ ที่ไม่เร่งรีบ เมื่ออิ่มจากแซลมอลแล้วก็มาต่อด้วยชาไข่มุกอีกคนละแก้ว ก่อนที่ตามจะชวนผมกลับ แต่ในระหว่างที่กำลังนั่งรถเมล์ ฝนก็เทลงมาอย่างหนัก จนคนข้างๆ หลุดปากบ่นพึมพำ

"ฝนตกอีกแล้ว"

"ไม่ชอบฝนเหรอ"

"ฝนมันทำให้เหงาน่ะ"

"คิดถึงพี่แสงเหรอครับ"

"ที่สุดเลย" ตามพูดยิ้มๆ แล้วหันมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยแววตาเลื่อนลอย หากผมเป็นแสงในตอนนี้ ผมจะกอดตามให้ความเหงานั้นหายไป กระนั้นผมก็ยับยั้งชั่งใจที่จะเพิกเฉยไม่ได้จึงยื่นมือตัวเองไปกุมมือของตามเอาไว้หลวมๆ คนข้างๆ หันมองแต่ไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ดึงมือออกไป แล้วก็ยิ้มออกมาบางๆ

ใช้เวลาไม่นานรถเมล์ก็มาถึงป้ายที่เราจะต้องลงพอดี ในตอนที่กำลังจะก้าวลงจากรถ ตามดึงมือให้ผมรีบกระโดดลงเพื่อตรงไปหลบฝน แต่ขาพลีสสั้นเกินกว่าจะทำเช่นนั้น ในจังหวะที่ผมก้าวขาพลาด ตัวเองจึงล้มกลิ้งลงไปกองกับพื้นถนนแถมดึงมือตามให้ล้มลงมาด้วยกันอีก เวรชะมัด! 

"เฮ้ย! พลีสเป็นไรเปล่า"

"ไม่เป็น...โอ๊ะ..." ปากอยากจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ร่างกายสวนทางกันเพราะผมดันเอาหัวเข่าข้างที่เคยเจ็บอยู่แล้วลงไปกระแทกซ้ำอีกที โชคดีที่เลือดไม่ออกแต่ความเจ็บเป็นเหตุให้ลุกไม่ขึ้น จนตามต้องช่วยพยุงให้ลุกขึ้นแล้วพาเข้าไปหลบฝน แต่ถึงอย่างนั้นเราทั้งคู่ก็เปียกชุ่มไปหมดทุกส่วนแล้ว 

"เป็นอะไรไหม" ตามย่อเข่าลงนั่งแล้วยกมือแตะหัวเข่าของผมเบาๆ

"เจ็บ...แต่ไม่เป็นไร"

"เปียกหมดเลย ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบนห้องพี่ก่อนแล้วค่อยกลับนะ"

"ครับ"

"พี่อุ้มนะ"

"ฮะ? เฮ้ย!" ผมร้องลั่น ตัวลอยเพราะตามจับผมขึ้นขี่หลังอย่างไม่ทันตั้งตัว สองมือรีบโอบรัดคอตามไว้ด้วยสัญชาตญาณ ตามกระชับร่างผมให้เข้าที่ก่อนพาเดินเข้าไปในตึก ด้วยใบหน้าที่อยู่ข้างๆ กันพอดี ผมจึงพูดเบาๆ เพื่อบอกกับเขา

"ไม่ได้เจ็บขนาดนั้นซะหน่อย"

"ลุกยังไม่ไหวเลย"

"ก็เมื่อกี้มัน..."

"เฉยๆ เถอะ เดี๋ยวปล่อยทิ้งเลย"

ไม่อยากเถียงแล้ว ยอมให้ตามพาขี่หลังขึ้นห้องพัก ในตอนนี้ก็เพิ่งสังเกตเห็น...ตอนนี้เราตัวเล็กกว่าเธอขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

 

เป็นอีกครั้งที่ผมได้เข้ามาที่ห้องตามในเวอร์ชั่นมนุษย์ ตามปล่อยผมลงแล้วเดินไปเปิดตู้เพื่อหาเสื้อผ้าให้ ปากก็หันมาสั่ง

"ไปเช็ดตัวก่อนสิ"

"ครับๆ " ผมรีบตอบรับแล้วเปิดประตูหลังไปหยิบผ้าขนหนูที่แขวนอยู่บนราว หันกลับมาเจอตามที่มองหน้าแบบงงๆ

"รู้ได้ไงว่าอยู่นั่น ยังไม่ทันบอก"

"ก็ปกติมันอยู่ตรงนี้"

"..."

"หมายถึงปกติของคนเรา ก็ต้องแขวนผ้าขนหนูไว้ที่ราวสิครับ ใช่ไหม?"

ดูเหมือนว่าความสงสัยไม่ได้หายไปตอนที่ผมอธิบาย แต่ก็ปล่อยผ่านแล้วยื่นเสื้อผ้าให้ผม ผมยื่นมือไปหยิบเสื้อนั่นแต่พลันชะงักเพราะเห็นว่าเป็นเสื้อของผม ปากก็หลุดพูดไปแล้วไม่ทันยั้ง

"เสื้อพี่แสงเหรอ"

"ทำไมถึงรู้"

"มันถูกพับไว้ เหมือนไม่ได้ใช้มานานแล้ว คงเป็นของพี่แสง"

"กลัวเหรอ งั้นเอาเสื้อพี่ก็ได้ แต่เสื้อพี่มันเก่าหน่อย..."

"เปล่าครับ ผมไม่ได้กลัว" ผมว่าแล้วหยิบเสื้อตัวนั้นมาก่อนตรงเข้าห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า พอได้สวมใส่เสื้อผ้าของตัวเองก็รู้สึกเหมือนเป็นตัวเองยังไงยังงั้น แค่ตัวเล็กลงแล้วก็หน้าตาดีขึ้น

ผมยิ้มให้ตัวเองในกระจกกับความคิดนั้น แล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นตามอยู่ในชุดใหม่แล้วเช่นกัน ด้วยความที่ฝนยังคงตกหนัก ผมจึงขอตามอยู่ที่นี่สักพักก่อนแล้วเจ้าของห้องก็อนุญาต ผมหย่อนตัวนั่งที่เก้าอี้โต๊ะหนังสือ หันมองตามก็พบว่าเขากำลังมองผมอยู่พอดี แต่ในตอนที่สบตาอีกคนก็หันหน้าหนีไปอีกทาง ก่อนจะลุกไปเปิดตู้เย็น หยิบเบียร์ให้ตัวเองหนึ่งกระป๋องและน้ำอัดลมให้ผมหนึ่งกระป๋อง

"เดี๋ยวนี้เป็นคนขี้เมาเหรอ"

"กระป๋องเดียวจะเมาได้ไง"

"เมื่อก่อนไม่เห็นแตะ"

"เมื่อก่อนรู้จักกันเหรอ"

"..."

"พี่ต่อบอก?"

ผมยิ้มนิดๆ ก่อนที่จะหันกลับไปมองโต๊ะหนังสือ ถึงอย่างนั้นก็ยังรู้สึกตัวว่าตามยังคงมองผมอยู่ ผมเปลี่ยนเรื่องหยิบสมุดเก็บภาพโพลาลอยด์ขึ้นมาแล้วหันไปหาตาม

"ขอดูได้ไหมครับ"

เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต ผมจึงเปิดดู หน้าแรกๆ รู้อยู่แล้วว่ามันเป็นภาพอะไรเพราะส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนถ่ายเอง แต่หน้าหลังๆ ส่วนใหญ่จะเป็นวิวจากเมืองต่างๆ ที่ตามไปเที่ยวมาแล้ว ผมเลื่อนสายตาดูภาพจากเกือบทุกประเทศที่ผมเคยบอกว่าอยากจะไป

"ที่นี่ที่ไหนเหรอ" ผมชี้ไปที่ภาพหนึ่งที่เดาไม่ออกว่าที่ไหน ตามขยับมามองแล้วตอบ

"ดาลัด เวียดนาม"

"สวยจัง"

"ใช่ โคตรสวยเลย" ดูเหมือนตามจะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสถานที่ที่ไปมามากมาย จึงขยับมายืนข้างๆ แล้วเล่าให้ฟังเกี่ยวกับภาพแต่ละภาพที่ชี้ให้ผมดู เล่าไปยิ้มไปดูมีความสุข...แต่คงดีกว่านี้ถ้าเราได้ไปด้วยกัน 

"พี่ตามชอบเที่ยวเหรอ"

"จริงๆ ก็ไม่ค่อยชอบ"

"..."

"แต่แสงชอบ"

"..."

"ก็เลยไปแทน"

"ไปฝรั่งเศสมาหรือยัง"

"ฮึ?"

"ที่ที่พี่แสงอยากไปที่สุดไง"

ตามนิ่งไปครู่หนึ่ง ความสงสัยก่อตัวขึ้นมาผ่านใบหน้าคิ้วขมวด ตามเอ่ยปากถามผม

"พลีสรู้ได้ยังไง"

"..."

"พี่สงสัยมาตลอดว่าพลีสรู้เรื่องของพี่เยอะแยะขนาดนี้ได้ยังไง แต่พลีสก็อธิบายได้ตลอด"

"..."

"แต่เรื่องนี้แม้แต่พี่ต่อก็ไม่รู้ แล้วพลีสรู้ได้ยังไง"

"..."

"คราวนี้พลีสจะแก้ตัวยังไง"

"เราไม่ได้คิดจะแก้ตัวอยู่แล้ว"

"หมายความว่าไง"

"เราจะไม่แก้ตัวอีกแล้ว"

"พลีส"

"เธอคิดว่าเป็นพลีสจริงๆ เหรอ"

"พลีสพูดอะไร"

"เธอไม่สงสัยจริงๆ เหรอ"

"..."

"เธอไม่เคยคิดจริงๆ เหรอ"

"..."

"เธอไม่เคยเห็นใครในตัวเด็กคนนี้จริงๆ เหรอ"

"..."

"ตามใจ"

ตามนิ่งเงียบด้วยใบหน้าที่ดูสับสน เมื่อผมลุกขึ้นยืนตามก็ก้าวเท้าถอยหลังออกไป 

"ถ้าเราบอกว่าเราคือแสง เธอจะเชื่อไหมตาม"

"พูดบ้าอะไร"

"เราไม่รู้จะทำยังไงให้เธอเชื่อว่านี่คือเรา แต่เรายังไม่ไปไหน ยังอยู่ตรงนี้ เป็นเราจริงๆ นะตาม" 

"หยุดนะ"

"เป็นเราตั้งแต่ที่โบสถ์วันนั้น เป็นเราที่ชวนเธอคุย เป็นเราที่ชวนเธอกินข้าว เป็นเราที่เอาแต่ตามเธอไปทุกที่" 

"หยุดพูด"

"เป็นเราที่อยู่ข้างๆ เธอ แม้แต่ตอนที่เป็นวิญญาณ วันที่กล้องโพลาลอยด์มันกดถ่ายเองจนเธอตกใจ วันที่เธอกอดรูปของเราแล้วร้องไห้ วันนั้นก็เป็นเรา!"

"หุบปาก!"

 

"เพล้ง!"

 

ในตอนที่ตามถอยหลังหนีผม มือของตามปัดไปโดนแจกันกุหลาบหล่นแตก ตัวตามเองก็ทรุดลงไปกับพื้นและในจังหวะเดียวกันนั้นมือของตามถูกเศษแก้วบาดเข้าจนเลือดไหลออกมาในทันที ตามนิ่งไปเมื่อเห็นว่ามือตัวเองกำลังเลอะเลือด ผมรีบคุกเข่าลงตรงหน้า หันมองหาสิ่งใดที่พอจะเช็ดเลือดได้แต่ไม่มี จึงยกมือข้างหนึ่งขึ้นปิดตาของตามเอาไว้   

"อย่ามองนะ"

"..."

"เธอกลัวเลือด"

ตามนิ่งไม่ขยับ ก่อนที่ผมจะเอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูมากดแผลของเขาเอาไว้ ดูเหมือนว่าแผลจะลึกพอสมควรเลือดจึงไม่ยอมหยุดไหล มือข้างเดียวของผมไม่ถนัดพอที่จะเช็ดเลือดนั่นออก จึงต้องปล่อยมือข้างที่ปิดตาตามเอาไว้ แต่ก่อนที่จะปล่อยก็ไม่ลืมที่จะกำชับ

"หลับตาไว้นะ"

"..."

"อย่าลืมตานะ เข้าใจไหม"

"..."

"ได้โปรดเชื่อเราสักครั้ง" ด้วยความพยายามที่จะขอร้อง ผมทำได้ดีที่สุดเพียงเท่านั้น ค่อยๆ ปล่อยมือที่ปิดตา จึงพบว่าตามกำลังหลับตาอยู่อย่างที่ผมขอ ผมยิ้มออกมาทั้งน้ำตา ก่อนที่จะหันไปให้ความสนใจกับบาดแผลของเขา กดแผลนั้นเอาไว้จนเลือดหยุดไหล วิ่งเอาผ้าไปชุบน้ำแล้วเช็ดเลือดให้หมดทั้งบนฝ่ามือและที่หยดลงกับพื้น เอาผ้าผืนที่เลอะเลือดโยนออกไประเบียงหลัง แล้วใช้ผ้าอีกผืนที่เล็กกว่านั้นพันมือของตามเอาไว้ลวกๆ เพื่อไม่ให้อีกคนมองเห็นแผลของตัวเอง เมื่อมั่นใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี จึงเงยหน้าขึ้นบอกกับตาม

"ไม่เป็นไรแล้ว"

"..."

"ลืมตาเถอะ"

เปลือกตาขยับขึ้นอย่างที่ผมบอก ดวงตาคู่นั้นจับจ้องไม่ละสายตา หัวคิ้วขมวดเข้าหากัน ยังคงสับสน ความเงียบงันทำงานอยู่เนิ่นนาน สิ่งเดียวที่เคลื่อนไหวอยู่ คงจะเป็นน้ำตาของผมที่ไม่อาจยับยั้ง ก่อนที่ตามจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นช้าๆ แล้วสัมผัสเข้ามาที่ใบหน้าของผม พูดให้ถูกก็ใบหน้าของพลีส แต่ความรู้สึกทั้งหมดในตอนนี้

เป็นของผม...

สิ่งที่จะทำให้ตามเชื่อคงไม่ใช่คำพูดมากมายเหล่านั้น หากแต่เป็นความรู้สึกที่เรามีต่อกันซึ่งผมคิดว่าตามสัมผัสมันได้ ในตอนนั้นน้ำตาของตามก็รินไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง พร้อมกับชื่อของผมที่ถูกเอ่ยเรียกออกมาเบาๆ ผ่านน้ำเสียงที่คุ้นเคยดี... 

 

"แสงเทียน"

 

 

To be continued.

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 16-- 5/08/19
«ตอบ #208 เมื่อ06-08-2019 00:19:25 »

 :katai1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 16-- 5/08/19
«ตอบ #209 เมื่อ06-08-2019 00:31:03 »

 :o12: :o12: :o12: :mew2: :mew2: :mew2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด