ลำนำรักสีรุ้ง ตอนพิเศษ ของขวัญวันปีใหม่ p.47 (29/12/56)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ลำนำรักสีรุ้ง ตอนพิเศษ ของขวัญวันปีใหม่ p.47 (29/12/56)  (อ่าน 462649 ครั้ง)

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
samsoon@doll ไม่รู้ตอนนี้ให้ป้าวาดยังจะไหวอยู่ป่าวนะ อยากลองวาดอ๊อฟกับน้องนะมั่งเหมือนกัน

nunamicky ถ้าตอนพิเศษ ล่าสุดก็มีแค่ตอนที่ทั้งคู่ไปเที่ยวเชียงใหม่กัน (ให้พาสไปอ่านทางอีเมล์เฉพาะคนที่ซื้อหนังสือ) แต่นอกจากนั้นยังไม่มี ณ ตอนนี้ค่ะ (คนเขียนติดภารกิจต้องเคลียร์เรื่องอื่นก่อน ^^)

ออฟไลน์ n2

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +113/-4
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้ค่ะ
ชอบเลยไปหาซื้อหนังสือ
ตอนนี้ได้มาครอบครองแล้วค่ะ
 :กอด1:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ขอบคุณมากค่าคุณ n2
รบกวนเช็คพีเอ็มด้วยนะค้า ^^

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ด้วยความคิดถึงพี่อ๊อฟกับน้องนะอย่างที่สุด (เว่อร์ไหม?) ป้าก็เลยเขียนตอนพิเศษออกมาค่ะ สำหรับใครที่สงสัยว่าทำไมของเรื่องนี้ถึงไม่ทำเป็นตอนโบนัสแล้วต้องเอาพาสเวิร์ดไปอ่านที่บล็อกเหมือนของเป้กับวิว เพราะว่าเนื้อหาที่ลงในเล่มกับในบอร์ดของอ๊อฟนะจะเกือบๆเท่ากัน แต่ของเป้วิว ในรวมเล่มมีตอนพิเศษและตัวละครอื่นเพิ่มขึ้นจากเวอร์ชันบอร์ดเยอะมาก ถ้าใครไม่ได้อ่านรวมเล่มมาก่อนก็รับรองว่าอ่านตอนโบนัสแล้วงงชัวร์ ก็เลยเป็นฉะนี้ละน้อ (ตัดความกันดื้อๆงี้ละ)

หวังว่าคงมีคนอ่านที่คิดถึงพี่อ๊อฟกับน้องนะเหมือนกันนะคะ
  :really2:


++------++


เมื่อหัวใจเราใกล้กัน ตอนพิเศษ: กับสิ่งที่มี


“นะครับ เลือกได้หรือยัง?”

ผมถามคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆ วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ผมไม่มีนัดกับลูกค้า หลังกินข้าวเช้ากันแล้วพวกเราก็เลยมาเดินซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งตั้งแต่ห้างเปิด เพราะว่าเดี๋ยวบ่ายๆมีแผนจะไปที่อื่นกันต่ออีก

พ่อหนูน้อยตวัดสายตามองผม จากนั้นก็เหลือบกลับไปที่ชุดที่แขวนอยู่ในมือข้างละชุด รอยย่นบนหัวคิ้วกับริมฝีปากที่เม้มและยื่นขึ้นน้อยๆบอกให้รู้ว่ากำลังหนักใจกับตัวเลือกตรงหน้าอย่างยิ่ง

“สีแดงก็น่ารักดี แต่สีเทามีฮู้ดก็น่ารักดี...พี่อ๊อฟคิดว่าไง?”

นะเอ่ยแล้วก็เงยหน้าขึ้นมาขอความเห็นจากผม พอเห็นท่าทางรักพี่เสียดายน้อง ผมเลยหัวเราะแล้วก็หยิบชุดทั้งสองชุดมาใส่ลงตะกร้าเสียเลย

“งั้นก็เอาทั้งคู่นั่นแหละ นี่เราก็ซื้อถุงเท้ากับหมวกแล้วก็ของเด็กอ่อนอีกหลายอย่างแล้วนะ พี่ว่าถ้าเราไปเยี่ยมทุกเดือนนี่มุ้ยกับพี่หล่งคงไม่ต้องช้อปปิ้งให้น้องพู่กันเองแล้วล่ะ”

พอผมเอ่ยแบบนั้น พ่อหนูน้อยเลยยิ้มแหยๆ เพราะว่าบ่ายวันนี้พวกเรากะว่าไปเยี่ยมมุ้ยกับพี่หล่งที่บ้านด้วยกัน ซึ่งนี่เป็นคล้ายๆการเยี่ยมประจำเดือนเพราะผมกับนะจะหาโอกาสว่างเดือนละครั้งไปเยี่ยมมุ้ยที่บ้านตั้งแต่เพื่อนผมคลอดลูกเมื่อห้าเดือนก่อน ลูกชายของทั้งสองคนได้รับการตั้งชื่อว่า ‘พู่กัน’ เพราะว่ามุ้ยชอบวาดรูป เมื่อตอนที่ผมกับนะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลตอนมุ้ยเพิ่งคลอดใหม่ๆ ยายตัวดียังบอกว่าเสียดายที่ไม่ได้ฝาแฝด ไม่งั้นจะได้ตั้งชื่ออีกคนว่า ‘ผ้าใบ’ จะได้เข้าคู่กัน ดูความช่างครีเอทของเพื่อนผมเถอะ

พนักงานที่แคชเชียร์ยิ้มแย้มขณะรับตะกร้าที่อุดมด้วยของสำหรับเด็กอ่อนไปคิดเงิน โชคดีว่าผมมีคูปองของห้างอยู่จึงประหยัดเงินไปหลายบาท ซึ่งคูปองนี้เป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณที่บริษัทของผมจัดสรรให้เซลส์ทุกคนสำหรับไว้ซื้อของไปฝากลูกค้าหรือพาลูกค้าไปกินเลี้ยง แต่เพราะทางบริษัทไม่เคยมาขอตรวจว่าเราใช้จ่ายคูปองพวกนี้อย่างไร ดังนั้นเซลส์ทุกคนก็จะเอาบางส่วนไปใช้สำหรับซื้อของให้ตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งบริษัทก็ดูจะรู้เรื่องนี้ดี แต่ก็ไม่ได้ห้ามปรามหากว่าไม่ได้ใช้เยอะจนน่าเกลียด

หลังจากจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย ผมก็เอาของไปฝากที่เคาน์เตอร์รับฝากของแล้วพานะไปทานมื้อกลางวันที่ฟู้ดคอร์ทกันก่อน เพราะไม่อยากไปรบกวนอาหารกลางวันที่บ้านเพื่อน เมื่ออิ่มแล้วก็ซื้อขนมกับผลไม้สำหรับไปฝากมุ้ยกับพี่หล่ง แล้วก็รวมไปถึงพ่อกับแม่ของพี่หล่งด้วย เพราะว่าหลังจากทั้งคู่แต่งงานแล้วก็ไปอาศัยอยู่กับพ่อแม่พี่หล่งที่บ้านตรงชานเมือง ตอนที่เพิ่งแต่งงานใหม่ๆ มุ้ยเคยมาบ่นให้ผมฟังว่าความจริงเจ้าหล่อนอยากไปเช่าบ้านหรือปลูกบ้านอยู่กันสองคนสามีภรรยามากกว่า แต่หลังจากที่ลูกชายคลอดออกมาแล้ว ตอนนี้ผมกลับได้ยินคุณเธอบอกว่าโชคดีแล้วที่ไม่ได้แยกออกไปอยู่กันเอง เพราะถ้าหากต้องเลี้ยงลูกคนเดียวระหว่างที่พี่หล่งออกไปทำงานโดยไม่ได้คุณปู่กับคุณย่าช่วยเลี้ยงเลย มีหวังเหนื่อยตายแน่ๆ

พวกเราสองคนออกจากห้างกันตอนเกือบๆบ่ายสอง จากนั้นก็ตรงไปบ้านของพี่หล่งที่อยู่ค่อนข้างจะนอกเมืองไปสักนิดทางฝั่งธน ระหว่างทางก็ผ่านหอเดิมของพวกเราแถวปิ่นเกล้าไปด้วย ผมเหลือบมองคนข้างตัวก็เห็นว่านะพยายามชะเง้อมองหาห้องเดิมของพวกเราระหว่างที่ผมขับรถขึ้นทางต่างระดับ

“ไม่รู้ตอนนี้ใครเช่าห้องต่อจากเรานะพี่อ๊อฟ แล้วไม่รู้อาม่าที่ดูแลหอยังแข็งแรงดีหรือเปล่า”

หลังจากผมขับรถมาไกลจนมองไม่เห็นหอเพราะถูกคอนโดและอพาร์ตเม้นต์ที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่บดบังแล้ว นะก็หันมาพูดเปรยๆกับผม ผมจึงชำเลืองมองแล้วก็เอามือลูบหัวนะเบาๆ ไม่แปลกที่นะจะผูกพันกับหอนั้น เพราะว่าพวกเราก็อยู่ที่นั่นด้วยกันมาตั้งหลายปี มีความทรงจำร่วมกันมากมายก่อนที่จะย้ายมาอยู่คอนโดปัจจุบัน และสำหรับนะที่ค่อนข้างอ่อนไหวกับเรื่องราวเล็กๆน้อยๆแล้ว เจ้าตัวก็คงอดจะคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นไม่ได้ แถมนั่นยังเป็นการออกมาอยู่หอครั้งแรกของนะอีกด้วย ก็คงจะยิ่งผูกพันมากเป็นธรรมดา

“เดี๋ยวไว้วันไหนสักวันเราแวะเข้าไปดูก็แล้วกัน จะได้ซื้อขนมฝากอาม่าแกด้วย”

พอผมบอกแบบนั้น นะเลยยิ้มแล้วก็เอามือมาบีบนวดแขนผมอย่างเอาใจจนอดหัวเราะไม่ได้ นี่ขนาดเจ้าตัวอายุ 25 แล้วนะ แต่เวลาอ้อนผมทีไรนี่ทำให้ผมนึกว่านะยังอายุเท่าตอนที่เรียนปีหนึ่งทุกที

พอขึ้นทางต่างระดับมาได้สักพัก ผมก็หักเลี้ยวลงตรงทางแยกที่เชื่อมกับถนนตัดใหม่ซึ่งผ่านบ้านของพี่หล่ง ผมจำได้ว่าสมัยที่ผมยังเรียนอยู่ แถวนี้ยังดูเป็นบ้านนอกๆราวกับไม่ใช่ส่วนหนึ่งของกรุงเทพฯอยู่เลย แต่ว่าตั้งแต่สายใต้ใหม่ย้ายออกมาจากที่เดิม และมีถนนตัดใหม่ก็ทำให้ชุมชนแถวนี้เจริญขึ้นมาก ตามสองข้างทางมีหมู่บ้านจัดสรรกับสวนอาหารมาเปิดกันแน่นไปหมด

ราวยี่สิบนาทีหลังลงจากทางต่างระดับ ผมก็เลี้ยวเข้าทางลัดที่เป็นทางเข้าด้านหลังของหมู่บ้านจัดสรรของพี่หล่งอย่างคุ้นเคย เนื่องจากหมู่บ้านนี้มีมานานก่อนที่จะมีถนนตัดใหม่เสียอีก บ้านเรือนในหมู่บ้านจึงไม่ค่อยมีขนาดใหญ่มาก และทางเข้าก็ไม่ได้รับการสร้างให้หรูหราอลังการเหมือนพวกหมู่บ้านจัดสรรที่เพิ่งสร้างเสร็จ แต่ผมว่าแบบนี้กลับทำให้รู้สึกอบอุ่นมากกว่า เพราะมันมีบรรยากาศของความเป็นชุมชนที่ผู้อาศัยไม่ได้ต่างคนต่างอยู่ในบ้านหลังใหญ่เบ้อเริ่มโดยไม่รู้ว่าคนข้างบ้านหน้าตาเป็นยังไง

ผมจอดรถที่ริมถนนใกล้กับรั้วบ้านสีแดงอันคุ้นตา จากนั้นพวกเราสองคนก็ช่วยกันขนข้าวของที่ซื้อมาฝากทั้งหลายลงจากรถ ความที่รั้วบ้านของมุ้ยไม่ได้สูงจนท่วมหัว และเจ้าตัวก็คงเห็นรถของผมตอนที่มองออกมาจากหน้าต่าง พวกเรายังไม่ทันต้องกดออดก็เห็นยายตัวดีเดินยิ้มแต้มาเปิดรั้วให้ ตอนนี้มุ้ยดูมีน้ำมีนวล แถมอวบขึ้นกว่าเดิมเยอะตั้งแต่คลอดลูกเป็นต้นมา ความจริงเพื่อนผมก็ไม่ใช่คนผอมบางปลิวลมตั้งแต่ก่อนจะแต่งงานแล้ว ออกจะไปทางทะมัดทะแมงสมส่วนมากกว่า แต่ตั้งแต่มีน้องพู่กันนี่ผมยังไม่เห็นเพื่อนผมกลับไปหุ่นแบบนั้นอีกเลย

“คิดถึงจังเลยค่าน้องนะ โอ้ยไอ้อ๊อฟ! แกขนอะไรมาเยอะแยะเนี่ย!? บ้านชั้นไม่ใช่โรงรับบริจาคนะ”

เจอกันปุ๊บก็หาเรื่องกันเลยสิน่า แถมประโยคทักทายผมกับนะที่ต่างกันหน้ามือเป็นหลังมือนี่ฟังแล้วน่าเอาอะไรครอบปากคนพูดชะมัดยาด ขนาดจะสามสิบอยู่อีกไม่กี่ปีนี่แถมเป็นคุณแม่แล้วก็ยังวาจาชวนหาเรื่องไม่เปลี่ยน

“ก็เห็นว่าแกว่างงานไม่ใช่หรือไง อุตส่าห์ช่วยซื้อของใช้กับอาหารมาให้ ถ้าไม่อยากได้คราวหน้าจะได้ไม่ซื้อมาให้”

“ชั้นเป็นฟรีแลนซ์ย่ะไม่ได้ว่างงาน แค่จะบอกว่าคราวหลังมาเยี่ยมแต่ตัวก็ได้ มาทีไรก็ขนของมาให้เต็มทุกที ชั้นกลัวลูกชั้นจะโดนสปอยล์เพราะน้าๆตั้งแต่ยังไม่รู้ความนี่ล่ะ นี่ดีนะว่าวันนี้พ่อกับแม่พี่หล่งไม่อยู่ ไม่งั้นแกจะโดนบ่นเยอะกว่านี้อีก”

มุ้ยตอบฉับพลางเลื่อนประตูกระจกเข้าไปในบ้าน จากนั้นก็ต้องรีบปิดตามหลังพวกผมทันทีเพื่อกันไม่ให้ยุงบินเข้า บ้านชานเมืองที่ยังมีเรือกสวนอยู่ก็ยุงชุมแบบนี้ แต่คงเพราะว่าในบ้านเปิดแอร์อ่อนๆไว้ด้วย จึงต้องปิดทั้งหน้าต่างและประตูทั้งหมดเพื่อไม่ให้แอร์ออก

“พี่หล่ง หวัดดีครับ”

นะเอ่ยทักเมื่อเห็นรุ่นพี่ของผมกำลังเล่นกับลูกชายตัวน้อยอยู่บนเบาะตรงพื้นห้องนั่งเล่นพอดี พี่หล่งจึงเงยหน้าขึ้นมาแล้วเอ่ยทักพวกเราสองคน ตอนนี้รุ่นพี่ผมไม่ได้ไว้เคราดกเหมือนตอนสมัยเรียนแล้ว เห็นว่าเพราะมุ้ยขู่เข็ญแกมบังคับว่าให้ไปตัดแต่งให้เรียบร้อย อีกอย่างก็ดูเหมาะสมกว่าเวลาไปทำงานด้วย ตอนนี้รุ่นพี่ผมจึงมีแค่หนวดบางๆเหนือริมฝีปากกับเคราแพะสั้นๆเท่านั้น

“ไง โชคดีวันนี้น้องพู่ตื่นอยู่พอดีเลย ไหนไหว้น้าอ๊อฟกับน้านะสิลูก”

พี่หล่งเอ่ยแล้วก็อุ้มน้องพู่กันขึ้นมานั่งตัก จากนั้นก็จับมือเล็กๆทั้งสองข้างทำท่าพนมมือ เด็กชายตัวน้อยอ้วนปั้กมองพวกผมด้วยตากลมโตอย่างงงๆนิดหน่อย แต่แป๊บเดียวก็ยิ้มแล้วก็เขย่าแขนขึ้นลงอย่างอยู่ไม่สุข ท่าทางกำลังอารมณ์ดี

“ตัวเองช่วยเอาของไปเก็บหน่อยสิ อ๊อฟมันซื้อของฝากมาถมที่อีกแล้ว”

มุ้ยเอ่ยพลางวางถุงของฝากที่ช่วยแบ่งไปถือลงบนโซฟา น้ำเสียงฟังดูกึ่งอ้อนกึ่งออกคำสั่งพิกล พี่หล่งเลยหัวเราะหึๆแล้วก็วางลูกให้นอนลง แต่พ่อหนูน้อย(ที่ไม่ใช่นะ)ก็พลิกตัวอย่างว่องไวแล้วทำท่าชูคอขึ้นเหมือนไม่อยากนอนอยู่เฉยๆ

“ท่าทางอีกไม่นานก็คลานได้แล้วนะครับเนี่ย”

นะเอ่ยแล้วก็ลงไปนั่งเล่นกับน้องพู่กัน ส่วนพี่หล่งก็เข้ามาช่วยถือพวกขนมกับผลไม้ไปเก็บในครัวให้ มุ้ยนั่งลงพลางหยิบชุดสำหรับเด็กที่พวกเราซื้อมาฝากแล้วก็ร้องโอ๊ย

“หลานแกแทบจะใส่เสื้อผ้าวันละชุดอยู่แล้วนะเนี่ย ใครมาเยี่ยมก็ชอบซื้อเสื้อผ้ามาฝาก ปู่กับย่าก็ชอบซื้อให้ สงสัยโตขึ้นลูกชั้นได้เป็นเด็กสำอางแหงๆ”

ผมหัวเราะขณะหยิบหนึ่งในชุดที่ซื้อมาออกจากมือมุ้ย เพราะว่าที่เราซื้อมาให้น่ะไม่ใช่แค่สองชุดที่นะเลือกไม่ได้เท่านั้น แต่ยังมีอีกสี่ชุดที่ซื้อก่อนหน้านั้นวางอยู่ในถุงด้วย

“เอาน่า นี่ก็อุตส่าห์ซื้อแบบเผื่อไซส์ให้แล้วนะ ถ้าอันไหนยังใส่ไม่ได้ตอนนี้จะได้เอาไว้ใส่ตอนโตไง แต่ดูท่าทางลูกแกเจริญอาหารดีนี่ เรานึกว่าแกจะแย่งลูกกินของฝากจนหลานผอมหมดซะอีก”

พูดไม่ทันจบคำ ผมก็โดนยายตัวดีตีแขนดังเพียะจนต้องร้องอูย พอดีกับที่พี่หล่งเดินออกจากครัวและทันได้ยินที่ผมพูด รุ่นพี่ของผมจึงเอ่ยพร้อมรอยยิ้มมีเลศนัย

“เอาน่ะมึง เพิ่งคลอดเสร็จไม่กี่เดือนจะให้กลับไปผอมเท่าเดิมปั๊บเลยไม่ได้หรอก อีกอย่างกูว่าแบบนี้แหละดีแล้ว เต็มไม้เต็มมือดี”

“ไอ้ป๊า เงียบไปเลย ชั้นไปตากผ้าก่อนดีกว่า”

มุ้ยชี้หน้าพี่หล่งพลางพูดปรามทั้งที่หน้าแดง จากนั้นก็ลุกจากโซฟาที่นั่งข้างผมแล้วออกเดินไปทางหลังบ้าน เวลามุ้ยอารมณ์ดีๆก็จะเรียกแทนพี่หล่งว่า ‘ตัวเอง’ แต่เวลาอารมณ์ไม่ดีจะเรียกว่า ‘ไอ้ป๊า’ นัยว่าฟังแล้วไม่ถึงกับตัดรอนกันเกินไป แต่ยังสื่อให้รู้ได้ว่าอย่ามากวนฉันให้มากนักประมาณนั้น

เพื่อนผมทำท่าจะเดินไปหลังบ้านเพื่อไปตากผ้าอย่างที่บอก แต่พอเดินผ่านพี่หล่งก็โดนรุ่นพี่ผมเอามือตีก้นจนยายตัวดีหันมาตีไหล่อีกฝ่ายเต็มแรงแล้วก็รีบเดินเร็วๆหนีไป รุ่นพี่ผมเลยหัวเราะทั้งที่เอามือลูบไหล่ป้อยๆ ท่าทางคงเจ็บอยู่เหมือนกันเพราะพี่หล่งใส่เสื้อกล้าม ฝ่ามือของมุ้ยเมื่อครู่เลยประเคนลงบนเนื้ออย่างเต็มๆ แต่ผมว่าสองคนนี้เขาก็รักกันดีในแบบของเขา ถึงวิธีแสดงออกจะดูรุนแรงไปบ้างก็ตาม ไม่งั้นคงไม่แต่งงานกันแล้วก็มีลูกด้วยกันได้หรอก

“งานเป็นไงมั่งล่ะอ๊อฟ?”

พี่หล่งเดินมาทรุดตัวนั่งลงข้างผมแล้วก็เอ่ยถามขึ้น พวกเราจึงเปลี่ยนไปคุยกันเรื่องงาน จากนั้นก็คุยกันเรื่องเพื่อนๆและรุ่นน้องสมัยทำชุมนุม เห็นว่าไอ้เติ้ล รุ่นน้องของผมที่ชอบกวนบาทาหน่อยจะถูกป๊าของมันส่งให้ไปเรียนภาษาที่เมืองจีนตั้งแต่ปีใหม่ที่ผ่านมา เพราะจะได้กลับมาช่วยสืบทอดกิจการโรงงานน้ำปลาของที่บ้าน ฟังแล้วก็อดจะขำปนสงสารไม่ได้ เพราะสมัยเรียนนั้นมันชอบบอกใครๆว่าจะไม่ยอมทำโรงงานน้ำปลาแล้วหนีไปเปิดค่ายเพลงอินดี้ แต่ดูเหมือนตอนนี้เจ้ารุ่นน้องผมต้องศิโรราบให้กับบัญชาของป๊าไปเสียแล้ว

ระหว่างที่พวกเรานั่งคุยกันไป ผมก็เหลือบมองนะที่กำลังเล่นกับน้องพู่กันเป็นระยะ อาจเพราะเรามากันเพียงเดือนละครั้ง น้องพู่กันจึงยังจำนะไม่ได้ในตอนแรก แต่พอเริ่มคุ้นเคยแล้ว ตอนนี้นะเล่นอะไรหรือพูดอะไรด้วย เจ้าตัวเล็กก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากไปหมด ภาพที่เห็นทำให้ผมยิ้มตามไปด้วย พี่หล่งสังเกตผมอยู่ครู่หนึ่งก็ถามขึ้น

“มึงไม่อยากมีของมึงเองบ้างเหรอ?”

น้ำเสียงที่ถามประโยคนั้นเบากว่าน้ำเสียงปกติ ผมจึงหันไปทำสายตามีคำถามเหมือนไม่แน่ใจว่าพี่หล่งหมายความว่าอย่างไร แต่พออีกฝ่ายพยักหน้าไปทางนะที่กำลังจับน้องพู่กันให้ลองทำท่าหัดเดิน ผมก็เข้าใจคำถามทันที

“ไม่ใช่ว่ากูไม่เห็นด้วยกับเรื่องของมึงนะ เพียงแต่พอกูมีครอบครัวของตัวเองแล้ว...กูก็อดสงสัยแทนมึงไม่ได้”

พี่หล่งขยายความต่อ ผมเลยจ้องหน้าอีกฝ่ายโดยไม่ตอบอยู่ครู่หนึ่ง ที่รุ่นพี่ของผมถามแบบนั้นคงเพราะเจ้าตัวก็รู้ว่าแฟนเก่าของผมก่อนที่จะมาคบกับนะเป็นผู้หญิง และนอกจากนะแล้วผมก็ไม่ได้มีทีท่าสนใจใครที่เป็นผู้ชายเหมือนกันอีก ดังนั้นจึงไม่แปลกหากพี่หล่งจะเกิดคำถามขึ้นมา แต่ผมก็รู้นิสัยคนถามดีพอว่าคงไม่ได้อยากยุยงส่งเสริมให้ผมไปมีคนอื่น เพียงแต่สงสัยจริงๆจึงเอ่ยถามตามประสาคนที่สนิทกันเท่านั้น

ผมกลับไปมองนะอีกครั้ง ตอนนี้อีกฝ่ายอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมาแล้วก็ก้มลงไปฟัดพวงแก้มแดงๆจนพ่อหนูพู่กันหัวเราะไม่หยุด ผมมองสีหน้ามีความสุขของนะแล้วก็ส่ายหน้า

“ไม่ล่ะพี่ ชีวิตผมมีครบแล้ว ถ้าอยากมีลูกเมื่อไหร่ผมมาขอเล่นกับน้องพู่กันก็พอ”

ผมเอ่ยแล้วก็หันกลับไปมองคนถาม เมื่อเห็นแววตาของผม พี่หล่งก็ดูจะชะงักไปนิดหนึ่ง จากนั้นอีกฝ่ายก็ยิ้มแล้วเอามือตบลงบนไหล่ผมเบาๆ

“กูได้ยินแบบนั้นก็สบายใจ กูรู้ว่ามึงเป็นคนไม่วอกแวกกับสิ่งที่ตัวเองเลือกอยู่แล้ว แต่แค่สงสัยก็เลยถามดู ก็ดีแล้วที่ได้ยินมึงพูดอย่างนั้น ไม่งั้นกูกับมุ้ยนี่ล่ะจะจัดการมึงเองถ้ามึงทิ้งน้องนะ”

“อ้าวพี่หล่ง ไหงงั้นวะเนี่ย?”

ผมหัวเราะออกมาบ้าง แต่แล้วเราสองคนก็หันไปทางนะพร้อมกันเมื่อได้ยินเสียงร้องของน้องพู่กัน นะอุ้มเจ้าตัวน้อยขึ้นพาดบ่าแล้วจับโยกตัวเบาๆขณะหันมาทางพวกผมสองคน

“เมื่อกี้ยังเล่นอยู่เลยครับ แต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆก็ร้อง”

ผมถอยตัวลงจากโซฟาไปนั่งข้างๆ จากนั้นก็รับน้องพู่กันมาอุ้มบ้าง แต่ว่าพ่อหนูน้อยก็ยังร้องไม่หยุด แก้มยุ้ยสองข้างแดงจัดขณะที่น้ำตาซึมจากหางตา ผมเลยจะหันไปส่งลูกให้พี่หล่งอุ้มแทน ก็พอดีกับที่มุ้ยเดินเร็วๆเข้ามาจากหลังบ้าน

“ลูกร้องแน่ะมุ้ย หิวนมแล้วล่ะมั้ง”

พี่หล่งนั่งพูดยิ้มๆอยู่บนโซฟา ท่าทางไม่ได้เดือดร้อนเท่าไหร่กับการที่เห็นลูกร้อง สงสัยเพราะเห็นว่าผมกับนะช่วยกันพยายามโอ๋แทนให้กันเป็นพัลวันอยู่กระมัง มุ้ยจึงรับน้องพู่กันไปจากมือผมแล้วก็หันไปมองนาฬิกา

“จะสี่โมงแล้วนี่นา วันนี้หิวช้านะเรา งั้นเดี๋ยวขอตัวพาน้องพู่ไปให้นมก่อนละกัน ขอโทษนะจ๊ะน้องนะที่หมดเวลาเล่นแล้ว”

ฟังเพื่อนผมพูดแล้วกลายเป็นว่านะเสียอีกที่อดเล่นสนุกเพราะน้องพู่กันร้องหิวนม พอเพื่อนผมทำท่าจะเดินขึ้นบันไดเพื่อไปให้นมลูกที่ชั้นบน พี่หล่งก็ร้องเรียกไว้ทั้งที่ยังนั่งอยู่บนโซฟานั่นแหละ

“มุ้ยจะไปไหนเล่า ให้นมลูกตรงนี้เลยก็ได้ คนกันเองทั้งนั้น”

ผมเห็นยิ้มเจ้าเล่ห์ของพี่หล่งกับประโยคท้าทายนั่นแล้วก็รู้สึกเหมือนเหงื่อตก จริงอยู่หรอกว่าตรงนี้มีแต่คนกันเอง แต่ครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นหน้าอกมุ้ยนี่สงสัยจะตอน ป. 1 ล่ะมั้งเพราะยังโดนจับอาบน้ำด้วยกัน แต่ถ้าให้มาเห็นตอนนี้ก็คงกระดากชอบกล ปรากฏว่ามุ้ยหันมาทำตาเขียวใส่คนพูดแล้วก็ทำเสียงดุ

“อย่าท้ากันนะ มุ้ยไม่อายหรอกจะบอกให้ กลัวน้องนะจะเขินต่างหาก โอ๋ๆๆ น้องพู่ไม่ร้องนะลูก เดี๋ยวมี้ให้กินนมแล้วนะจ๊ะ”

มุ้ยเอ่ยแล้วก็อุ้มลูกเดินหายขึ้นชั้นสองไป สถานการณ์อย่างนี้ก็ยังไม่วายโยนลูกให้คนอื่นจนได้สิน่า กลายเป็นว่าคนที่เขินคือนะจริงๆเพราะพอผมหันไปหาก็เห็นเจ้าตัวหน้าแดงแจ๋ แถมพี่หล่งก็ยังหัวเราะอย่างไม่เกรงใจกันเสียอีก

ผมกับนะนั่งคุยกับพี่หล่งต่อระหว่างที่รอมุ้ยให้นมลูกเสร็จ พอยายตัวดีเดินลงมา ผมก็เห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้ว จึงขอลาเพื่อพานะกลับเสียที

“อ้าว ไม่อยู่กินข้าวเย็นด้วยกันล่ะ เห็นว่าวันนี้เดี๋ยวพ่อกับแม่เค้าจะซื้อกับข้าวมาเยอะแยะเลยนะ”

มุ้ยเอ่ยทักขึ้น ผมเลยส่ายหน้า “วันนี้ขอตัวก่อนแล้วกัน ฝากสวัสดีพ่อกับแม่พี่หล่งด้วย บอกว่าเดี๋ยววันหลังว่างๆจะมาใหม่ พี่หล่งผมไปก่อนนะ”

“เออ ขอบใจสำหรับของฝากวันนี้นะ ขับรถกลับกันดีๆล่ะ”

หลังจากล่ำลากันแล้ว มุ้ยกับพี่หล่งก็เดินมาส่งผมกับนะที่หน้ารั้ว แต่พอนะหันกลับไปจะไหว้ทั้งสองคนอีกที มุ้ยก็ดึงนะไปกอดจนเจ้าตัวกะพริบตาปริบๆเพราะตั้งตัวไม่ทัน พี่หล่งเลยหันไปถามภรรยาตัวเอง

“ทำอะไรกับแฟนชาวบ้านเขาน่ะ?”

“ก็เห็นน้องนะแล้วอยากกอดนี่ มีปัญหาหรือไง?”

พี่หล่งหรี่ตามองมุ้ยที่ทำหน้ายียวนทั้งที่ยังไม่ปล่อยนะจากอ้อมแขน แต่ผมว่ารอยยิ้มของรุ่นพี่ผมดูแล้วโคตรเจ้าเล่ห์ยังไงบอกไม่ถูก

“ตอนนี้น่ะไม่มี แต่คืนนี้ไม่รู้”

มุ้ยได้ยินก็ปล่อยน้องนะแล้วหันไปตีแขนพี่หล่งดังเพียะ แถมคราวนี้เป็นไหล่คนละข้างกับที่โดนไปเมื่อกลางวันเสียด้วย ผมล่ะสงสัยขึ้นมาจริงๆจังๆแล้วว่าที่พี่หล่งติดใจมุ้ยจะเป็นเพราะยายตัวดีชอบเล่นเจ็บๆเสียกระมัง

“วันหลังมากันอีกนะอ๊อฟ น้องนะ”

มุ้ยร้องบอกผมเป็นครั้งสุดท้ายหลังจากผมกับนะเดินมาถึงที่รถแล้ว พอมองกลับไปอีกทีก็เห็นพี่หล่งกับมุ้ยเดินจูงมือกันเข้าไปในบ้าน ผมละตามอารมณ์คู่นี้ไม่ทันเลยจริงๆ แต่ดูท่าทางแล้วคงไม่ต้องห่วงว่าจะมีปัญหาหึงหวงนอกใจหรือเลิกกันเป็นแน่ ก็เล่นหยอกกันร้อนแรงซะขนาดนี้ตั้งแต่กลางวันแสกๆนี่นา

“สงสัยอีกไม่เกินปีน้องพู่กันคงได้มีน้องแหงๆ”

ผมเอ่ยขึ้นพลางเข้าเกียร์ออกรถ นะได้ยินที่ผมพูดก็หัวเราะ แต่เจ้าตัวคงเข้าใจว่าผมหมายความว่ายังไง เพราะแก้มสองข้างเป็นสีแดงนิดๆ ผมเลยอาศัยจังหวะที่จอดรถตรงทางแยกเข้าซอยบ้านเพื่อรอดูว่ามีรถสวนหรือไม่ แล้วก็ยื่นตัวไปหอมแก้มคนข้างๆเสียทีหนึ่ง

“อื้อ อะไรเนี่ยพี่อ๊อฟ”

นะถามอย่างงุนงงเมื่อผมหันกลับไปข้างหน้าและขับรถออกจากหมู่บ้านต่อ ผมเลยจับมือของนะข้างหนึ่งมากุมไว้

“ก็ตอนเดินออกมาจากบ้านพี่เห็นเราทำท่าซึมๆน่ะสิ ทั้งที่ตอนเล่นกับหลานยังหัวเราะอยู่เลย พี่ว่าที่มุ้ยกอดนะตอนกำลังจะกลับกันก็คงเพราะเห็นเหมือนพี่นี่แหละ มีอะไรหรือเปล่า?”

ผมถามขึ้น เพราะผมมั่นใจว่าตัวเองจับสังเกตอาการของนะได้แน่นอนเพราะความที่เราคบกันมาหลายปี ส่วนมุ้ยก็คงดูออกเพราะสัญชาตญานของความเป็นแม่นั่นเอง ทั้งที่เมื่อก่อนยายนั่นไม่มีทางจะสังเกตเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ออกเด็ดขาด

นะขยับนิ้วที่ยังอยู่ในอุ้งมือผมไปมาครู่หนึ่ง ใบหน้าหวานดูยุ่งยากใจเล็กน้อย แต่เจ้าตัวก็คงรู้เหมือนกันว่าถ้าหากไม่ตอบผมก็คงไม่สบายใจไปด้วย สุดท้ายก็เลยถอนหายใจเบาๆ

“คือ...นะได้ยินที่พี่หล่งถามพี่อ๊อฟนะ ถึงพี่หล่งจะคิดว่าพูดเบาแล้วก็เถอะ”

ผมเลิกคิ้วเมื่อได้ยินนะอธิบายด้วยเสียงอุบอิบ แต่ก็เข้าใจทันทีว่าคำถามที่เจ้าตัวได้ยินคือคำถามไหน ผมจึงบีบมือของนะแน่นขึ้นอีก

“พี่หล่งเขาก็ถามไปอย่างนั้นเอง นะไม่ได้ยินเหรอที่พี่เขาลงท้ายว่าถ้าหากพี่นอกใจนะล่ะก็จะมาจัดการพี่น่ะ?”

นะเม้มปากแล้วก็พยักหน้า แต่ว่าตรงหัวคิ้วยังมุ่นอยู่นิดๆ “ได้ยิน...แต่ถึงงั้นก็เถอะ พี่อ๊อฟเคยมีความคิดแว้บๆในหัวอย่างที่พี่หล่งถามบ้างหรือเปล่า?”

น้ำเสียงของคนพูดบ่งบอกว่าเจ้าตัวหวั่นไหวกับคำถามของพี่หล่งพอสมควร ตอนนี้ผมเลยชักหงุดหงิดขึ้นมาที่รุ่นพี่ของผมถามคำถามนั้นโดยไม่รอให้เราห่างจากรัศมีการได้ยินของนะเสียก่อน เพราะถึงแม้นะจะรู้ดีว่าผมรักเจ้าตัวแค่ไหน แต่กับเรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ย่อมทำให้เจ้าตัวคิดมากได้อยู่แล้ว

“ไม่เคย”

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ผมก็ตอบเสียงหนักแน่นโดยไม่สงสัยตัวเองเลยสักนิดเดียว อาจเป็นเพราะผมไม่ใช่คนที่ชอบมาคิดจุกจิกว่าถ้าหากตอนนั้นผมไม่ทำอย่างนี้แล้วตอนนี้ชีวิตผมจะเป็นยังไง ดังนั้นผมจึงไม่เคยนึกถึงชีวิตอีกแบบที่มีใครอื่นอยู่เคียงข้างที่ไม่ใช่นะเลยสักครั้ง และมีแต่อยากทำให้ทุกวันที่เราได้อยู่ด้วยกันเป็นวันที่ดีของเราทั้งคู่เท่านั้น

“นะไม่ต้องคิดมากนะ”

ผมเอ่ยย้ำแล้วยกมือที่จับมือนะเมื่อครู่ขึ้นลูบผมอีกฝ่ายเบาๆ จากนั้นก็ละมือมาจับพวงมาลัยรถเหมือนเดิม หลังจากนั้นก็ไม่มีคำพูดใดๆหลุดลอดจากริมฝีปากของเราสองคนอีกเลยตลอดทางกลับคอนโด

หลังจากจอดรถที่ที่จอดประจำเรียบร้อย ผมกับนะก็ขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องบนชั้นสิบหก แต่ว่าก็ยังไม่มีใครพูดอะไรก่อน จนกระทั่งผมเปิดประตูห้องแล้วพวกเราสองคนเดินเข้าไปข้างในแล้วนั่นแหละ ผมถึงชะงักเพราะโดนกอดเอวจากด้านหลังแน่น

“พี่อ๊อฟ โกรธนะเหรอ?”

พอได้ยินคำถามนั้นผมก็อยากเอาหัวตัวเองโขกฝาแรงๆสักที เพราะดูเหมือนท่าทางของผมจะทำให้นะเข้าใจผิดไป ผมก็เลยแงะมือของนะออกแล้วหันกลับไปดึงร่างเล็กเข้ามากอด

“เปล่าครับ พี่จะโกรธนะทำไมล่ะ แต่พี่ไม่อยากให้เราคิดมาก พี่หล่งก็คงรู้สึกผิดเหมือนกันถ้ารู้ว่าทำให้นะคิดมากแบบนี้ เพราะงั้นนะเลิกคิดเรื่องนี้ได้แล้วนะ”

พ่อหนูน้อยเกลือกแก้มกับอกผม จากนั้นก็กอดเอวผมแน่นขึ้นแล้วเงยหน้าขึ้นมาหา ในแววตากลมโตยังดูมีร่องรอยของความกังวลอยู่

“พี่อ๊อฟไม่เคยนึกเสียดายจริงๆนะ?”

นี่คบกันมานานขนาดนี้แล้วยังต้องสงสัยอีกหรือ ผมนึกอ่อนใจจนอยากจะหัวเราะออกมา แต่ก็กลัวว่าเดี๋ยวจะกลายเป็นทำให้นะงอนไปเสียอีกเพราะนึกว่าผมไม่เห็นความสำคัญของคำถามนั้น ผมเลยเลือกตอบด้วยวิธีที่ไม่ต้องเลือกคำพูด และเป็นวิธีที่จะทำให้นะแน่ใจได้รวดเร็วที่สุด

“พี่อ๊...”

ผมก้มลงปิดริมฝีปากนิ่มด้วยริมฝีปากตัวเองก่อนที่นะจะทันเอ่ยชื่อผมเสร็จ จากนั้นก็รั้งร่างเล็กเข้าหามากเข้าขณะที่พาเดินไปทางห้องนอนไปด้วย แม้พ่อหนูน้อยจะทำท่าเหมือนไม่ทันตั้งตัวในตอนแรก แต่ไม่นานเจ้าตัวก็หลับตาและปล่อยให้ผมพาเข้าห้องนอนแต่โดยดี เมื่อเจ้าตัวลืมตาขึ้นอีกครั้งก็คือตอนที่ผมพาล้มลงบนเตียงแล้ว

“พี่อ๊อฟ...ไม่หิวข้าวเหรอ?”

นะเอ่ยถามขึ้น แก้มเนียนทั้งสองข้างซับสีเลือดจนเป็นสีชมพูเข้ม แต่มือสองข้างที่โอบคอผมไว้แน่นก็บอกให้รู้ว่าเจ้าตัวไม่คิดจะปล่อยผมให้เป็นอิสระในวินาทีนี้แน่ๆ ผมจึงก้มลงเอาจมูกดุนกับจมูกเจ้าตัวเบาๆเหมือนที่นะทำกับน้องพู่กันเมื่อตอนบ่าย

“ข้าวน่ะยังไม่หิว ตอนนี้พี่หิวนะมากกว่า”

“ทะลึ่ง”

ทั้งที่ปากพูดอย่างนั้น แต่เจ้าตัวกลับโน้มคอผมลงไปหาทั้งที่ยังหัวเราะเสียงเบา ผมจึงฟัดซอกคอขาวที่โผล่พ้นคอเสื้อของเจ้าตัวขึ้นมา และเมื่อเห็นรอยยิ้มของอีกฝ่ายพร้อมทั้งแก้มแดงๆของคนที่กำลังยื่นมือมาปลดกระดุมเสื้อให้ ผมก็มั่นใจว่าผมไม่สงสัยกับคำตอบที่ให้พี่หล่งไปเมื่อตอนบ่ายเลยแม้แต่นิดเดียว

สิ่งสำคัญสำหรับแต่ละคนอาจจะต่างกันออกไป แต่ถ้าหากว่าพบสิ่งนั้นแล้ว ก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องตั้งคำถามและสงสัยกับสิ่งที่ตัวเองมีเลยสักนิด หากว่าสิ่งนั้นคือสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขอยู่แล้ว และผมก็มั่นใจว่าคำตอบของผมจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงต่อให้ใครมาถามคำถามเดียวกับพี่หล่งสักกี่ครั้ง

ก็ในเมื่อ...ทุกสิ่งที่ผมต้องการอยู่ในอ้อมแขนของผมแล้วนี่นา...


++--- End กับสิ่งที่มี ---++

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
หวานโรแมนติกมาก

มุ้ยกับพี่หล่งสงสัยจะมีลูกหัวปีท้ายปีเลยมั้งเนี่ย

ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษจ้า

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
หวานหยด ถ้ามีลูกได้คงวิ่งกันเต็มไปหมดแล้วเนอะ
 :กอด1: ขอบคุณบีบีนะคะ เอาเรื่องมาลงให้หายคิดถึงทั้งคู่

ออฟไลน์ JAROEN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-9
มาได้ไง   ทำไมในหนังสือไม่มีอ่ะ

แล้วจะทำอย่างไงดี....เฮ้อ




















ก็ต้องอ่านไง ฮ่า ฮ่า

ออฟไลน์ n2

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +113/-4
ชอบพี่อ๊อฟกับน้องนะ
น่ารักจริงๆเลยคู่เนี่ย :กอด1:

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
+1 แทนคำขอบคุณสำหรับตอนพิเศษแสนน่ารัก อิจฉาความรักที่สมบูรณ์แบบ
ของมุ้ย+พี่หล่ง+น้องพู่กัน แต่ที่อิจฉากว่าคือความรักที่แสนมั่นคงของพี่อ๊อฟ
ที่มีให้กับน้องนะ คิดว่าคงไม่มีอะไรมาทำให้พี่อ๊อฟต้องไขว้เขวหรือวอกแวกจาก
น้องนะได้ ดูจากความรักและความสัมพันธ์ที่มีร่วมกันมานานขนาดนี้ คู่หญิง+ชาย
ยังอิจฉาเลย ...... รักน้องนะ+พี่อ๊อฟ+พี่เป้+วิว+คุณ bellbomb ตลอดไป :L1:

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
เอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยย มุ้ยกับพี่หล่งมีลูกแล้ว
อยากกอดน้องพู่กันบ้าง งุงิงิงุ

ที่แน่ๆ อ๊อฟนะ ความหวานไม่มีตกหล่นจริงๆ >/////////<
ก็สิ่งที่มีอยู่มันดีขนาดนี้ ทำให้เป็นสุขได้ขนาดนี้ แล้วจะอยากได้อยากมีสิ่งอื่นอีกทำไมล่ะ
ขอบคุณนะคร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาป้าขรา กอดๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
อ่านไปยิ้มไป คู่นี้น่ารักตลอดเลย  :-[

dragonfly08

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ishiya

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
อ่านเรื่องนี้ทีไรแล้วมีความสุขทุกที  :-[  ขอบคุณไรท์เตอร์มากนะคะ

MaeMoo

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจจังที่ได้อ่าน อ๊อฟ-นะ อีกนะคะ

อ่านหนังสือจบไป จนเอามาอ่านรอบสอง
ก็ยังไม่ได้มาเม้นท์เลย ขอโทษด้วยนะคะ
แต่ขอบอกว่า สนุกมาก อบอุ่นมาก
ไม่งั้นคงไม่มีรอบสอง และจะมีรอบสามตามมา

โดยส่วนตัว ชอบเรื่อง เป้-วิว มากกว่านิดนึง (นิดนึงจริงๆ เดี๋ยวน้องนะน้อยใจ)
เพราะชอบนิสัยของวิว ที่ดูเป็นผู้ใหญ่ เรียบง่ายแต่มีเหตุผล

ไม่ว่ายังไง 2 เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่อยู่ในใจเสมอค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ

ปล. เห็นว่ามีตอนพิเศษของ เป้-วิว ไม่ทราบว่าจะหาอ่านได้ที่ไหนเหรอคะ
เหมือนในหนังสือหรือเปล่าเอ่ย

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์มากเลยนะคะ ได้รู้ว่าแฟนๆยังคิดถึงคู่นี้อยู่ก็ดีใจแทนพี่อ๊อฟกับน้องนะด้วยค่ะ
ปลื้มที่ได้เห็นทั้งคอมเม้นต์จากคนคุ้นเคยและชื่อใหม่ๆที่อาจไม่คุ้นกันมาก่อน ไม่ว่าจะรู้จักเป้-วิว กับพี่อ๊อฟ-น้องนะตั้งแต่เริ่มโพสต์ในบอร์ดหรือจากฉบับรวมเล่มก็ยินดีที่ได้รู้จักค่า  :impress2:

คุณ MaeMoo สำหรับเป้กับวิว จะมีตอนโบนัสที่เพิ่งเขียนแต่ใส่พาสเวิร์ดไว้ที่บล็อก จะให้พาสเข้าอ่านเฉพาะคนที่อุดหนุนรวมเล่มค่ะ แต่ถ้าซื้อจากที่ร้านอาจไม่ได้ข่าวสารตรงนี้ เดี๋ยวเราส่งรายละเอียดให้ทางพีเอ็มนะคะ หรือใครที่อุดหนุนหนังสือแต่ยังไม่รู้เกี่ยวกับส่วนโบนัส ก็พีเอ็มมาบอกได้เหมือนกันเน้อ แต่ขอว่าเป็นคนที่ซื้อรวมเล่มเท่านั้นนะคะ เพราะนอกจากเป็นกำไรให้คนที่อุดหนุนแล้ว ในเวอร์ชันรวมเล่มของเป้กับวิวจะมีตัวละครและเหตุการณ์เพิ่มจากในบอร์ดเยอะมาก ถ้าใครอ่านแต่บนบอร์ดก็อาจไม่ค่อยเก็ทเรื่องในตอนโบนัสน่ะค่ะ

ขอบคุณทุกคนอีกครั้ง หวังว่าคงได้เอาตอนพิเศษมาแบ่งปันอีกเร็วๆนี้ค่า
   :pig4:  :L1:

bluebird

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจมากที่ได้อ่านตอนพิเศษอีก >///< แถมยังน่ารักมากๆเลยด้วย
คิดถึงตัวละครทุกตัวเลยค่ะ อ่านแล้วรู้สึกดีเหมือนเดิมเลย
เรื่องน่ารักๆ อุ่นๆ อ่านแล้วยิ้มตาม ขอบคุณนะคะสำหรับตอนนี้ : ))
รบกวนถามเรื่องร่วมเล่ม ไม่ทราบว่าตอนนี้ยังมีเหลือมั๊ยคะ
อยากอ่านตอนพิเศษของเป้กับวิวมากๆเลย >.<
ยังไงก็ขอบคุณล่วงหน้านะคะ ขอบคุณค่า ( ":

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
หวัดดีค่ะคุณ bluebird ดีใจที่คนอ่านคิดถึงสองคู่นี้เหมือนกันค่า ^^

สำหรับหนังสือยังมีทั้งสองเรื่อง ถ้าสนใจก็พีเอ็มหรืออีเมล์ที่ bellbomb[at]hotmail dot com ได้เลย
หวังว่าคงได้เข็นตอนพิเศษออกมาให้อ่านกันอีกเหมือนกันค่ะ
  :mc4:


JaMiDo

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากๆค่ะ อ่านแล้วยิ้มออกเลย

นะกับอ๊อฟน่ารักมาก

เป้กับวิวก็หวานมาก



Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วน้ำตาลขึ้น
+1

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
อยากจะเข้ามาบอกว่าอ่านหนังสือเรื่อง "ลำนำรักสีรุ้ง" เสร็จแล้วนะคะตัวเอง

คำที่อยากบอกก็คือ "อิ่ม" เป็นนิยายที่อ่านแล้วอิ่มมากเลย เป็นนิยายที่ตอนอ่านไม่ต้องเจ็บอกอย่างไร้สาเหตุและไม่ต้องเครียดจนปวดหัว อ่านแล้วได้ข้อคิดที่ว่า "ความเข้าใจระหว่างคนสองคน" และ "ความเชื่อใจระหว่างคนรักกัน" คือสิ่งที่จะทำให้รักยืนยาว คงเพราะเพื่อนสาวเขียนในแนวเรียลลิสติกด้วยละมั้งเรื่องถึงได้แน่นและเป็นหนังสืออ่านเอาเรื่องที่ดีมากๆ อดแปลกใจตัวเองไม่ได้ว่าเมื่ออ่านมาถึงตอนที่เป้โดนผู้หญิงคนนั้นนอนซบตลอดระยะเวลาการบินจากดูไบถึงกรุงเทพแล้วดิฉันรู้สึกหวงเป้แทนวิว แหม...คนเขียนเก่งที่ทำให้ดิฉัน moved ไปกับอารมณ์ของตัวละครได้ แอบนึกว่ายัยนี่ทำเนียนนะยะ บังอาจมาแต๊ะอั๋งแฟนฉัน คิดอีกที อุ้ย ลืมตัว เป้แฟนวิวนี่ไม่ใช่แฟนฉัน ฮ่า ฮ่า

แอบขัดใจนิดหน่อยตอนที่สองคนเริ่มคบกันใหม่ๆ ตามประสาวัยรุ่น (?) ใจร้อนอย่างดิฉัน ที่วิวดูจะหวงตัวกับเป้มากไปหน่อย แต่จริงแล้ววิวไม่ได้หวงตัว แต่หากจะรักคนอย่างวิวจะรักด้วยอารมณ์กับความคิด ก็คือ..หัวใจและสมองต้องไปพร้อมกัน และตรงนี้เองที่เป็นเสน่ห์ของวิวทั้งต่อเป้และต่อคนอ่าน และก็เก็บเป้ไว้ในหัวใจว่าเป็นพระเอกอีกหนึ่งคนที่รักและแคร์ความรู้สึกคนรักตัวเองมากๆ และวิวก็นายเอกที่ดูสุขมนุ่มลึกและรักแฟนตัวเองไม่มากไม่น้อยไปกว่ากัน

ขอบคุณมากเลยค่ะ  :กอด1: :L2: :L1:

ปล. เดี๋ยวจะมาอ่านเรื่องของอ๊อฟและน้องนะ ต่อ เพราะยังอ่านไม่จบเลย แต่ชอบคุณอ๊อฟเขาตรงที่เขาเป็นคนติดดินและพบเจอได้ทั่วไปตามท้องถนน (ไม่ใช่ข้างถนนนะเออ ฮ่า ฮ่า)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
^
^
ขอบคุณและน้อมรับคำชมด้วยความยินดีเจ้าคะ หวังว่าตอนอ่านอ๊อฟกับนะจนถึงตอนจบ+ตอนพิเศษก็จะได้รับความอิ่มอุ่นไปอีกหนึ่งอิ่มนะจ๊ะเพื่อนสาว

ปล. อิฉันติดตามลุ้นน้องคิงกับลูกอ๊อดอยู่นะคะคุณ อุ๊ฮุฮุ

ออฟไลน์ ΩPRESTOΩ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-1
อยากได้น้องนะ + หนูวิว ไว้ในครอบครองคะ

ส่งเมลไปแล้วนะคะ

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
^
^
ตอบเมล์เรียบร้อยค่า ^^

ออฟไลน์ NannY

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +125/-1
อ่านแล้วมีความสุขจังเลยค่ะเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ไม่มีตัวร้ายดี ชอบจัง  :laugh:

ชอบทั้ง 2 คู่เลย บุคลิคของทั้งคู่ก็ต่างกันไป ว่างๆ เอาตอนพิเศษมาลงอีกนะคะ  o13

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ลำนำรักสีรุ้ง Extra Episode : 50 Secrets


#01 – ครั้งแรก

เรื่องหนึ่งเกี่ยวกับวิวที่ผมภูมิใจแต่ไม่เคยบอกให้เจ้าตัวรู้ ก็คือการที่วิวไม่เคยคบใครมาก่อนผม เพราะมันทำให้ผมได้เป็นคนแรกของวิวในหลายๆด้าน แต่ถ้าหากผมบอกเรื่องนี้ไปสงสัยคงโดนทุบแน่ๆ

#02 – เย็น

หน้าหนาวทีไรเป้ชอบมากระแซะผมตอนนอนแล้วบอกว่าเนื้อห่มเนื้ออุ่นกว่าห่มผ้าหนาๆ พอผมบอกว่าไม่เอาด้วย ไอ้บ้านั่นก็จะหาวิธีมาแกล้งจนผมนอนไม่ได้ แล้วสุดท้ายก็ต้องยอมให้อย่างที่ขอทุกที

#03 – สัญญา

คืนที่พวกเราแลกแหวนกัน ถึงแม้จะไม่มีคนอื่นอยู่เป็นสักขีพยาน แต่ผมก็รู้ว่าจากวินาทีนั้นผมกับวิวได้แลกคำสัญญาว่าเราจะผูกพันกันชั่วชีวิตไปแล้ว

#04 – ผู้หญิง

ครั้งหนึ่งผมกับเป้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังจากคบกันไม่นาน แล้วผมก็เห็นว่ามีผู้หญิงที่นั่งโต๊ะถัดไปสองสามโต๊ะคอยมองเป้แล้วส่งยิ้มให้ตลอดเวลา แถมเป้เองก็ยิ้มตอบให้เขาด้วย แต่พอออกมาจากร้านผมกลับโดนหมอนั่นงอนว่าทำไมไม่แสดงออกว่าหึงบ้าง ผมเลยตอกกลับว่าไม่สังเกตเลยหรือไงว่าผมเงียบผิดปกติ หลังจากนั้นมาถ้าเกิดเรื่องทำนองนี้อีกแล้วเห็นผมเงียบ เป้จะยิ้มดีใจจนออกนอกหน้าทุกที แต่คงเพราะไม่อยากโดนผมโกรธเข้าจริงๆเลยไม่เคยลองใจผมอีกเลยหลังจากนั้น

#05 – แหวน

ตอนพี่ปิ่นแต่งงาน ผมพาวิวไปร่วมงานแล้วก็แนะนำให้กลุ่มเพื่อนสมัยมัธยมของผมได้รู้จักด้วย ถึงจะไม่ได้บอกตรงๆว่าพวกเราเป็นแฟนกัน แต่การที่ผมตื๊อจนวิวยอมใส่แหวนคู่ของพวกเราในวันนั้นก็คงทำให้หลายคนสังเกตบ้างล่ะว่าคู่ที่แต่งงานคืนนั้นไม่ได้มีแค่คู่ของพี่ปิ่น

#06 – อ้อน

ผมเป็นพี่ชายคนโตและมีน้องชายคนเดียว ในขณะที่เป้เป็นลูกคนที่สาม แถมแฟนเก่าก็อายุมากกว่าหลายปีอีก อาจเพราะถูกแวดล้อมด้วยคนอายุมากกว่าแบบนี้มาตลอด เป้ก็เลยถนัดใช้ลูกอ้อนแล้วก็ความเจ้าเล่ห์มากกว่าผม

#07 – ตัก

ถึงวิวจะชอบบ่นว่าหนุนหมอนนุ่มกว่าหนุนตักเจ้าตัวเป็นไหนๆ แต่เวลาหนุนตักมันอบอุ่นกว่าแล้วก็ทำให้ผมได้มองหน้าวิวไปด้วยนี่นา ถึงบางทีจะทำให้วิวทำการบ้านไม่สะดวกก็เถอะ

#08 – รถ

สมัยเพิ่งเริ่มคบกัน ผมเคยถามเป้ว่าทำไมตอนซื้อรถถึงได้เลือกสีดำ แต่หมอนั่นแค่ยักไหล่แล้วตอบว่า ‘สีดำเท่ที่สุดแล้ว’ ด้วยความหมั่นไส้ผมเลยบอกไปว่าผมชอบสีขาวมากกว่า ไม่น่าเชื่อว่าเป้จะจำเรื่องนั้นได้ แล้วถอยรถคันใหม่หลังจากเรียนจบเป็นสีขาวจริงๆ

#09 – สิทธิ์

ต้นขาด้านในข้างขวาของวิวมีปานสีน้ำตาลอ่อน เห็นว่านอกจากคนในครอบครัวแล้วก็ไม่มีใครรู้ แต่ที่ผมรู้ก็คือนอกจากผมแล้วชั่วชีวิตนี้ไม่มีคนอื่นมีสิทธิ์จะได้เห็นอีกแน่ๆ

#10 – ผม

น้องปอนด์ น้องสาวของเป้เคยแอบมากระซิบหลังจากเรารู้จักกันได้พักหนึ่งว่าถ้าไม่ใช่ผม คงไม่ทำให้เป้ติดใจจนหาทางกลับบ้านไม่ถูกขนาดนี้ ผมฟังแล้วก็ได้แต่งงว่าน้องปอนด์หมายความว่ายังไง ในเมื่อผมไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเป็น ‘ผม’ อย่างที่เป็นอยู่เท่านั้นเอง

#11 – ยิ้ม

ผมยอมรับว่าบางทีก็หึงเวลาเห็นวิวยิ้มให้คนอื่น บางทีหึงแม้กระทั่งกับไอ้อ๊อฟทั้งที่มันก็มีน้องนะอยู่แล้วนั่นแหละ แต่ความรู้สึกพวกนั้นก็หายไปเมื่อวิวหันมายิ้มให้ผมบ้าง เพราะอะไรบางอย่างในตาคู่นั้นบอกให้รู้ว่ายิ้มที่ผมได้มีความหมายพิเศษกว่าของคนอื่นๆ

#12 – บุหรี่

ผมไม่เคยลองบุหรี่ ไม่ชอบอยู่ใกล้คนสูบบุหรี่ด้วย มีเป้คนแรกและคนเดียวที่ผมยอมให้อยู่ใกล้เวลาสูบได้ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามพ่นควันมาทางผมไม่งั้นจะไล่กลับไปนอนบ้าน ดังนั้นถ้าไม่ใช่ว่าอยากมากเป้ก็แทบจะไม่สูบบุหรี่เวลาอยู่ใกล้ผมเลย ไม่นึกเหมือนกันว่าคำขู่ทื่อๆแบบนั้นจะได้ผล

#13 – ปีใหม่

สำหรับวิวกับผม ปีใหม่คือช่วงเวลาที่ได้ระลึกว่าพวกเราโชคดีแค่ไหนที่มีกันและกันตลอดสิบสองเดือนที่ผ่านมา รวมทั้งฉลองล่วงหน้าให้กับอีกสิบสองเดือนถัดไปที่จะยังคงเป็นเช่นนั้นไม่เปลี่ยน

#14 – เสื้อ

ผมชอบมองแผ่นหลังของเป้เวลาไม่ใส่เสื้อ เพราะมันให้ความรู้สึกแข็งแรงพึ่งพาได้และเป็นรูปร่างแบบที่ผมก็อยากมีบ้าง แต่ถ้าหมอนั่นรู้ว่าผมชอบมองล่ะก็มีหวังได้ถอดเสื้อตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันสองคนแหงๆ

#15 – เตียง

ตอนได้เข้ามาในห้องวิวครั้งแรกผมเคยคิดว่าเตียงเล็กไปหน่อยสำหรับสองคน แต่พอได้มานอนบ่อยๆเข้าก็ชักจะเริ่มชิน ตอนนี้ผมกลับคิดว่าขนาดกำลังดีแล้วด้วยซ้ำ เพราะไม่งั้นวิวก็มีที่ให้ดิ้นหนีผมตอนกลางคืนได้น่ะสิ

#16 – น้ำหอม

น้ำหอมที่เป้ใช้ประจำคือยี่ห้อ BVLGARI ผมก็จำชื่อกลิ่นไม่ได้เพราะมีอยู่สองสามตัวที่เป้ใช้สลับกัน แต่ผมก็ชอบเพราะรู้สึกว่าเข้ากับบุคลิกเจ้าตัวดี

#17 – กอด

หลังจากพวกเรามีอะไรกัน ผมจะชอบจูบวิวแล้วกอดเจ้าตัวเอาไว้จนบางทีก็หลับคาอกผมไปเลย ถึงแม้ในสายตาคนอื่นวิวจะดูเป็นคนไม่ค่อยแสดงออก แต่เฉพาะเวลาที่ร่างกายเราแนบชิดกันเท่านั้นที่วิวจะยอมให้รู้ว่าเจ้าตัวรู้สึกกับผมอย่างไรผ่านการแสดงออกทางกาย และยิ่งเราไม่ค่อยได้แสดงออกเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งอยากจะแสดงความรักให้วิวเวลาอยู่กันตามลำพังมากขึ้นเท่านั้น

#18 – นม

เป้ชอบดื่มนมตอนเช้าทุกวัน เห็นว่าตอนเด็กก็ถูกแม่สอนให้ดื่มนมเยอะๆจะได้ตัวสูง พอผมถามว่ายังอยากจะสูงไปกว่านี้อีกหรือไง เป้จะยิ้มมุมปากแบบที่เจ้าตัวรู้ว่าดูแล้วกวนประสาทให้ผม แล้วก็ตอบว่าจะได้ไม่หมดแรงตอนกลางคืนง่ายๆ หลังจากนั้นก็จะรีบเบี่ยงตัวหนีกำปั้นผมที่ทำท่าจะประเคนใส่ทุกที

#19 – โกรธ

ผมไม่ชอบเวลาที่เราทะเลาะกัน อย่างน้อยถ้าแค่ถกเถียงกันเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อไหร่ที่ดูเหมือนเราเริ่มจะทะเลาะกันรุนแรงขึ้นผมจะนึกย้อนไปถึงความรู้สึกตอนที่วิวเคยโกรธผมมากๆจนไม่พูดด้วยตั้งหลายวัน หลังจากนั้นผมจะใจเย็นลงได้ทันทีแล้วบอกตัวเองว่าให้ยอม

#20 – ประสบการณ์

หลังจากที่พวกเราคบกันได้หลายปีแล้ว ผมก็เลิกน้อยใจว่าก่อนหน้าผมเป้เคยคบใครมาก่อนบ้าง และคิดได้ว่าหากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ผู้ชายคนนี้เป็นแบบนี้ในปัจจุบัน ผมก็ควรจะขอบคุณประสบการณ์เหล่านั้นที่หล่อหลอมให้ทุกวันนี้เป้รักและหวงผมมากขนาดนี้จึงจะถูก

#21 – จมูก

จมูกวิวไม่ได้โด่งจนถึงกับเป็นสัน แต่ก็ได้รูปรับกับเครื่องหน้าส่วนอื่นๆที่เจ้าตัวชอบยืนยันว่าดูแล้ว ‘ธรรมดา’ บางทีเวลาวิวนอนกลางวันผมก็ชอบแกล้งเอาจมูกตัวเองไปถูจมูกวิวเล่นบ้าง แต่ไปๆมาๆก็เผลอจูบจนเจ้าตัวตื่นนอนแล้วโวยวายที่ผมชอบลักหลับทุกที

#22 – อาย

ถึงแม้ว่าจะผ่านพ้นครั้งแรกมานานแล้ว แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเราอยู่บนเตียงด้วยกันแล้วเป้เลื่อนตัวลงไปใช้ปากให้ ผมก็ยังอายทุกครั้งที่ได้เห็น แถมมันแย่ตรงที่เป้ก็ดูจะชอบเวลาที่ได้ทำให้ผมอายเสียด้วยสิ

#23 – กิจกรรม

เวลาผมกับวิวไปซื้อของด้วยกันเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ผมชอบที่สุด โดยเฉพาะเวลาซื้อของใช้ทั่วไป เพราะการที่เราออกความเห็นกันถึงเรื่องจะซื้อชุดเครื่องนอนสีอะไรหรือจานชามแบบไหนมันทำให้ผมตระหนักว่าเรากำลังใช้ชีวิตคู่กันจริงๆ

#24 – พิเศษ

ความฝันในวัยเด็กของผมคือการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและเลี้ยงดูครอบครัวได้ แต่หลังจากที่ได้คบกับเป้ ผมถึงรู้ว่าผมได้พบกับสิ่งที่พิเศษยิ่งกว่าความฝันของผมเพิ่มขึ้นมาอีกอย่าง

#25 – เงื่อนไข

ผมรู้ว่าวิวชอบคิดว่าเจ้าตัวไม่ค่อยได้ให้อะไรผมในขณะที่ผมคอยทำนั่นทำนี่ให้ แต่ที่ผมอยากให้วิวรู้ก็คือ ทุกสิ่งที่ผมทำไปก็เพราะต้องการตอบแทนความรู้สึกที่วิวมอบให้ผมอย่างไร้เงื่อนไขก็เท่านั้น

#26 – ราศี

ทั้งผมทั้งเป้ต่างเป็นคนไม่เชื่อเรื่องชะตาราศี แต่มีเรื่องหนึ่งที่เราเชื่อเหมือนกัน ก็คือถ้าหากเราพยายามทำความเข้าใจและยอมรับทั้งข้อดีข้อเสียของกันและกัน ต่อให้มีใครมาทำนายว่าดวงชีวิตคู่ของเราจะไม่ดีก็ไม่จำเป็นต้องเอามาใส่ใจ

#27 – นอน

ความลับอย่างหนึ่งของผมคือผมค่อนข้างจะติดหมอนข้างเวลานอน อาจเป็นนิสัยอย่างเดียวที่ผมไม่ค่อยอยากให้ใครรู้ แต่กับวิวผมไม่อายที่จะบอกให้รู้เลยแม้แต่นิดเดียว ถึงบางทีจะโดนบ่นบ้างเพราะชอบกอด ‘หมอนข้าง’ แน่นไปหน่อยก็ตาม

#28 – ความแตกต่าง

ถ้าจะว่ากันถึงคู่รักที่มีรสนิยมแตกต่าง อย่างผมกับเป้นี่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีคู่หนึ่ง เพราะนอกจากเรื่องภาพลักษณ์ภายนอกของเป้ที่สำอางกว่าผมไม่ว่าจะเรื่องการแต่งตัว ทรงผมหรือข้าวของที่ใช้แล้ว รสนิยมเรื่องดูหนังฟังเพลงหรือแม้แต่สถานที่ท่องเที่ยวก็ยังชอบคนละแบบเพราะเป้ชอบทะเลในขณะที่ผมชอบภูเขา หรือเรื่องที่เป้สูบบุหรี่ในขณะที่ผมไม่สูบ แต่น่าแปลกที่พวกเราก็ไม่เคยผิดใจกันเพราะเรื่องเหล่านี้เลยสักครั้ง

#29 – ความเหมือน

ถึงแม้ผมกับวิวจะมีรสนิยมในหลายๆเรื่องไม่เหมือนกัน แต่ที่เรามีเรื่องทะเลาะกันน้อยอาจเพราะแนวคิดของเราคล้ายกัน ผมกับวิวต่างเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวและคนใกล้ตัว ไม่ค่อยขี้อิจฉาหรือชอบมองใครในแง่ร้าย แล้วก็ไม่ชอบคนที่ชอบโกหกหรือไม่จริงใจ และอาจเพราะอย่างนี้ผมถึงรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้รักคนที่มีความคิดเหมือนกันกับผม

#30 – มือที่สาม

ตอนที่โอ๊คเพิ่งบินไปซิดนีย์และเป้เริ่มคบกับผมใหม่ๆ เพื่อนที่ค่อนข้างสนิทกันมาบอกผมว่ามีเพื่อนของเป้นินทาว่าผมเป็นมือที่สามที่แย่งแฟนของเพื่อน ผมไม่เคยเอาเรื่องที่ได้ยินไปบ่นหรือแสดงความน้อยใจกับเป้ในเมื่อเราสองคนต่างรู้ดีว่าความจริงเป็นอย่างไร แต่แล้ววันหนึ่งผมก็ต้องแปลกใจที่เพื่อนในกลุ่มของเป้ซึ่งไม่ใช่อ๊อฟเดินมาบอกขอโทษที่เข้าใจผมผิดและบอกว่าเป้ห้ามไม่ให้ทุกคนพูดเรื่องนี้อีก ผมถึงได้รู้ว่าเป้ก็เป็นห่วงความรู้สึกของผมมากเหมือนกัน

#31 – ไม่สบาย

เวลาไม่สบายวิวจะชอบฝืนตัวเองแล้วทำเหมือนไม่ได้เป็นอะไร ไม่เหมือนผมที่ถ้าไม่สบายล่ะก็จะอ้อนแฟนทันที ดังนั้นถ้าหากรู้สึกว่าวิวเริ่มมีไข้หรือดูตาปรอยๆเมื่อไหร่ ผมจะชอบชงอะไรร้อนๆให้ดื่มแล้วชวนให้เข้านอนแต่หัวค่ำด้วยการอ้างว่าผมง่วงและจะนอนไม่หลับถ้าไม่ได้กอดเจ้าตัว แต่ดูเหมือนวิวก็คงรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของผม เจ้าตัวเลยจะเพียงแต่ยิ้มแล้วก็ยอมเอนลงให้ผมกอดแต่โดยดี

#32 – มือ

ถึงผมจะเคยบอกเป้ไว้ว่าไม่ชอบให้ทำรุ่มร่ามเวลาอยู่ข้างนอก แต่เจ้าตัวก็จะชอบมาเดินใกล้ๆพอให้ไหล่หรือมือของเราปัดโดนกันเป็นประจำ หรือถ้าอยู่ในห้างก็จะแกล้งทำเป็นสนใจจะหยิบของบนชั้นวางสูงๆลงมาดูทั้งที่ผมยืนอยู่ด้านใน บางทีผมก็เลยอดไม่ไหวต้องแอบยิ้มเพราะขำปนหมั่นไส้พ่อตัวดีที่พยายามจะฉวยโอกาส ทั้งที่ตอนอยู่ด้วยกันสองคนทีไรก็ชอบมานัวเนียผมตลอดอยู่แล้วแท้ๆ

#33 – ผม (2)

เวลาที่ต้องตัดผมเมื่อไหร่ผมจะไปที่ร้านซึ่งมีช่างประจำของผมอยู่ แต่วิวไม่เคยมีทั้งร้านหรือว่าช่างประจำ เพราะเจ้าตัวบอกว่าให้ใครตัดเดี๋ยวสักพักมันก็กลายเป็นทรงเดิมเพราะว่าไม่ชอบเซ็ท แต่ถ้าผมมีเวลาผมจะชอบจับวิวมาเซ็ทผมให้ก่อนจะออกจากบ้านด้วยกัน ก็เวลาเห็นคนอื่นมองแฟนผมด้วยสายตาชื่นชมแล้วผมภูมิใจนี่นา วิวก็ช่างไม่รู้ตัวเอาเสียเลยว่าตัวเองไม่ได้หน้าตาธรรมดามากมายอย่างที่ชอบบอกใครๆเสียหน่อย

#34 – ทะเลหมอก

หน้าหนาวตอนเรียนปีสี่ ผมกับเป้ตัดสินใจไปเที่ยวภูกระดึงด้วยกันในช่วงวันหยุดยาว ถึงแม้ว่าวันที่เดินขึ้นจะเหน็ดเหนื่อยและเมื่อยขาแค่ไหน แต่พอได้ตื่นไปดูทะเลหมอกและแสงอาทิตย์แรกด้วยกันในเช้าวันถัดไปโดยที่เป้กอดไหล่ผมเอาไว้ วินาทีนั้นผมก็รู้สึกว่าคุ้มค่าที่พวกเราขึ้นไปบนนั้นด้วยกันแล้ว

#35 – เมา

วิวไม่ชอบกินเหล้าหรือเบียร์ ดังนั้นผมเลยไม่ค่อยได้เห็นเวลาที่วิวเมา แต่เมื่อตอนคริสต์มาสที่ผมพาไปทานดินเนอร์ด้วยกันแล้วสั่งไวน์มาด้วย หลังแก้วที่สองวิวก็หยุดดื่ม แต่พอถึงตอนนั้นแก้มของเจ้าตัวก็เรื่อสีเลือดฝาดชัดขึ้น ส่วนนัยน์ตาก็เริ่มฉ่ำนิดๆไปแล้ว ผมเลยชักชอบเวลาได้เห็นวิวเมาเสียแล้วสิ

#36 – แก้ม

เวลาเช้าๆที่เพิ่งตื่นนอน เป้จะชอบงัวเงียแล้วก็ดึงผมไปหอมแก้มหรือไซ้คอ เคราที่เพิ่งขึ้นก็เลยจะไถโดนผิวของผมไปด้วยจนจั๊กกะจี้ แต่จะว่าไปมันก็เป็นวิธีปลุกที่ได้ผลอยู่เหมือนกัน เพราะหลังจากนั้นผมจะตาสว่างแล้วก็ดันเป้ให้ไปล้างหน้าและโกนหนวดเสียที ก่อนที่พ่อตัวดีจะนึกคึกอยากทำมากกว่านั้นจนไม่ได้ลุกจากเตียงกัน

#37 – ของขวัญ

เวลาไปเลือกซื้อเสื้อผ้าหรือรองเท้า ผมจะชอบมีปัญหาเพราะเท้าใหญ่ก็เลยหารองเท้าแบบที่ชอบที่ขนาดพอดีเท้าไม่ค่อยได้ แต่ปรากฏว่าก่อนจะถึงวันเกิดของผมเมื่อตอนปีสี่ วิวแอบเอารองเท้าของผมไปให้ช่างเทียบไซส์แล้วสั่งตัดแบบที่ผมเคยบอกว่าชอบมาให้เป็นของขวัญ จนถึงวันนี้รองเท้าคู่นั้นก็ยังเป็นคู่ที่ผมรักและหวงที่สุด รวมทั้งเป็นของขวัญที่ผมชอบที่สุดรองจากตัวคนให้ด้วย

#38 – เสียง

เสียงของเป้ต่ำแล้วก็ห้าว ฟังแล้วมีกังวานในคอ ไม่เหมือนผมที่เสียงออกไปทางทุ้มแต่ไม่ต่ำหรือมีกังวานเท่า แต่ว่าเสียงของเป้ที่ผมชอบที่สุดคือเสียงเวลาเพิ่งตื่นที่ยังสะลึมสะลือ กับเสียงตอนเจ้าตัวเรียกชื่อผมตอนที่เราต่างไร้เสื้อผ้าปกปิดร่างกายและกำลังแสดงความรักต่อกัน แต่ถ้าผมบอกก็สงสัยจะโดนแกล้งเรียกด้วยน้ำเสียงแบบนั้นทั้งวันแน่ ผมเลยได้แต่เก็บเรื่องนี้เอาไว้คนเดียว

#39 – หน้าฝน

ผมไม่ชอบเวลาฝนตกตอนเช้าๆเพราะว่ามันทำให้รถติด หาที่จอดรถยาก แถมบางทีถึงจะได้ที่จอดก็ไกลจากตึกคณะจนต้องกางร่มฝ่าฝนไป ทำให้เข้าเรียนสายและกางเกงเปียกอีก แต่ผมกลับชอบเวลาฝนตกตอนเช้าๆในวันหยุด เพราะมันทำให้ผมมีข้ออ้างที่จะนอนกอดวิวแล้วซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มด้วยกันได้นานขึ้นอีกหน่อย

#40 – เรือ

เวลาไปเที่ยวเกาะที่ต้องนั่งเรือออกไปจากฝั่งซึ่งใช้เวลาเป็นชั่วโมงด้วยกัน บางครั้งผมกับเป้จะนั่งหลับโดยที่ผมพิงไหล่เป้และเป้ก็พิงผมกลับ และมีแค่ช่วงเวลานี้เท่านั้นที่ผมจะยอมผ่อนคลายข้อห้ามที่บอกว่าห้ามรุ่มร่ามเวลาอยู่ข้างนอกด้วยการให้เป้จับมือผมได้ เพราะถึงยังไงเราก็เอาเสื้อแจ๊กเกตคลุมทับไว้อยู่แล้ว

#41 – อาหารทะเล

วิวชอบกินกุ้ง ส่วนผมชอบกินปูกับปลาหมึก เวลาไปเที่ยวทะเลแล้วสั่งอาหารทะเลมากินเราก็เลยจะชอบผลัดกันแกะของที่อีกฝ่ายชอบแล้วใส่ในจานให้ ถึงจะสวีทกันมากไม่ได้เวลาอยู่ข้างนอก แต่แค่ได้เห็นวิวยิ้มตอนแกะขาปูแล้วหยิบใส่ในจานให้ผม แค่นั้นผมก็มีความสุขไปทั้งวันแล้ว

#42 – สอบ

ถึงเป้จะชอบกวนชอบแหย่ระหว่างที่ผมอ่านหนังสือหรือทำการบ้าน แต่ก็มีช่วงใกล้สอบที่หมอนั่นจะยอมเป็นเด็กดี เก็บไม้เก็บมือไว้กับตัวแล้วยอมนั่งอ่านหนังสือเงียบๆเหมือนผม แต่ผมก็รู้ว่าความสงบสุขนี้มันไม่จีรังเท่าไหร่หรอก เพราะเดี๋ยวสอบเสร็จเมื่อไหร่ก็กลับเข้าวังวนเดิมอยู่ดี

#43 – บ้าน

เมื่อก่อนผมมีบ้านหลังเดียวก็คือบ้านที่ผมโตมากับพ่อและแม่ พี่ปิ่น ปูมแล้วก็ยายปอนด์ แต่หลังจากที่คบกับวิวและมาค้างที่หอบ่อยๆ ผมก็พบว่าผมได้เจอบ้านหลังที่สองของผมแล้ว

#44 – มอง

ตอนพวกเราเรียนอยู่ปีสี่ อาจารย์ที่เคยสอนยูโดให้เป้สมัยเรียนมัธยมย้ายออกมาเปิดสถาบันของตัวเอง แล้วก็เลยขอให้เป้ไปช่วยสอนรุ่นน้องในวันหยุดที่ว่าง ผมเลยได้รู้ว่านอกจากจะเป็นสายดำแล้วเป้ยังเคยแข่งยูโดจนได้รางวัลชนะเลิศมาแล้วด้วย เป้เคยชวนผมไปนั่งรอระหว่างเจ้าตัวสอนเป็นบางครั้ง พอได้เห็นเวลาเป้ซ้อมทุ่มกับรุ่นน้องที่พอจะมีฝีมือหน่อย รวมกับสายตาของพวกรุ่นน้องสาวๆที่มองเป้ด้วยสายตาชื่นชม ผมถึงได้รู้สึกขึ้นมาบ้างว่าแฟนผมนี่ก็ ‘เท่’ อยู่เหมือนกัน

#45 – นวด

นอกจากจะเรียนเก่งแล้ว วิวยังมีความสามารถอีกอย่างที่ไม่ค่อยมีคนรู้ก็คือนวดจับเส้นเก่ง เห็นว่าเพราะตอนเด็กๆปู่กับย่าชอบให้นวดให้ เพราะงั้นบางทีหลังกลับจากไปช่วยซ้อมยูโดให้รุ่นน้องจนเมื่อยผมก็จะขอให้วิวนวดให้บ้าง แรกๆก็ไม่มีปัญหา แต่พักหลังมานี้วิวเริ่มมีข้อแม้ว่าถ้าขอให้นวดก็ต้องหยุดแค่นวด เพราะผมชอบเลยเถิดชวนทำอย่างอื่นต่อทุกที

#46 – ลูกอม

ก็อย่างที่เคยบอกนั่นแหละว่าเป้ชอบแหย่ผม มีวันหนึ่งพวกเรานั่งเอนหลังอ่านหนังสือบนเตียงตอนบ่ายวันหยุดด้วยกัน ผมเห็นเป้แกะลูกอมใส่ปากเลยบอกว่าขอบ้าง หมอนั่นเลยหันมายิ้มแล้วก็โน้มคอผมเข้าไปหา กว่าจะรู้ตัวก็โดนยัดเยียดป้อนลูกอมให้ทางปากแล้ว ยังดีว่าตอนนั้นขาผมเจ็บเพราะเพิ่งจะตกบันไดมาจนข้อเท้าแพลง ไม่งั้นใครบางคนไม่แคล้วโดนผมถีบแน่ๆ

#47 – ปากกา

เวลาเรานั่งที่โต๊ะม้าหินข้างสนามฟุตบอลด้วยกันช่วงพักหรือหลังเลิกเรียน บางทีวิวจะหยิบเลคเชอร์หรือการบ้านที่ต้องส่งออกมานั่งตรวจทาน พอเริ่มใช้ความคิดมากๆก็จะลืมว่าผมนั่งอยู่ด้วยแล้วเคาะปากกากับริมฝีปากตัวเองโดยไม่รู้ตัว และผมก็ชอบมองเวลาวิวทำแบบนั้น บางครั้งก็จ้องนานไปจนวิวรู้ตัวแล้วเลิกคิ้วมองผมเหมือนไม่เข้าใจว่ายิ้มทำไม

#48 – ดาดฟ้า

กลางดึกคืนหนึ่งผมกับเป้ต่างก็นอนไม่หลับทั้งที่เกือบจะตีสอง พวกเราเลยถือขนมกับน้ำอัดลมแล้วก็ผ้าปูที่นอนขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อนั่งดูดาวด้วยกัน แต่คืนนั้นพระจันทร์เต็มดวงเลยทำให้ไม่ค่อยเห็นดาวเท่าไหร่ และไปๆมาๆ เป้ก็ดันขยับเข้ามาหาผมแล้วชวนทำอย่างอื่นแทน ตั้งแต่คืนนั้นมาถ้าพวกเรานอนไม่หลับผมก็จะไม่ชวนเป้ขึ้นไปบนดาดฟ้าอีกเลย เพราะถึงครั้งแรกจะโชคดีที่ไม่มีใครมาเจอ แต่ไม่ได้หมายความว่าครั้งที่สองจะโชคดีเหมือนครั้งแรกนี่นา ผมยังไม่อยากเป็นข่าวหรือโดนเจ้าของหอเรียกไปตักเตือนพฤติกรรมหรอกนะ

#49 – รัก

ผมไม่เขินที่จะบอกวิวว่ารัก บางทีก็บอกมากกว่าวันละครั้งด้วยซ้ำ ตอนแรกๆก็เป็นเพราะอยากให้วิวมั่นใจว่าความรู้สึกที่ผมมอบให้นั้นเป็นของจริง แต่เดี๋ยวนี้ผมพูดเพื่อให้วิวรู้ว่าผมไม่เคยรักเจ้าตัวน้อยลงจากวันที่เคยพูดคำนี้ครั้งแรก

#50 – อนาคต

ระหว่างที่ผมกับเป้คบกัน ผมเห็นคนรู้จักหลายคู่ที่เคยมีความฝันถึงอนาคตร่วมกันแต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุผลร้อยแปดใดๆก็ตาม ผมเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราสองคนจะมีวันนั้นบ้างหรือเปล่า แต่เป้ก็จะทำให้ผมลืมเรื่องที่กังวลทุกครั้งด้วยการบอกผมว่า ‘เป้รักวิวนะ’ และผมก็รู้ว่าผมสามารถเชื่อในอนาคตของเราสองคนได้อย่างไม่ต้องสงสัย


++---End 50 Secrets---++


A/N: สำหรับตอนพิเศษนี้ ป้าได้แรงบันดาลใจจากแฟนฟิคของนักเขียนฝรั่งค่ะ จะมีวิธีเขียนแบบหนึ่งที่เขานิยมกันคือ 50 sentences ประมาณว่ามีธีม 50 ธีม แล้วก็เขียนบรรยายแต่ละธีมให้จบในหนึ่งประโยค แต่ด้วยความซับซ้อนของภาษาไทยที่ยากจะรวบความให้จบในประโยคเดียว ก็เลยเขียนบรรยายแบบกระชับและได้ความเอา แต่ละธีมเลยสั้นบ้างยาวบ้างแล้วแต่เนื้อหาที่ต้องนำเสนออะนะ

สำหรับตอนพิเศษนี้จะเน้นเนื้อหาไปตอนสมัยเรียนและไม่ได้พาดพิงถึงตัวละครที่โผล่มาเฉพาะในรวมเล่ม ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าธีมเลขคี่เป็นของเป้ ส่วนธีมเลขคู่เป็นของวิว ก็หวังว่าคงทำให้แฟนๆเป้-วิวหายคิดถึงได้บ้างเน้อ สารภาพว่าตอนแรกคิดได้แค่ 30 ธีม แต่รู้สึกว่าน้อยไปเลยคิดต่อจนครบ 50 ธีมจนได้ หวังว่าจะเอ็นจอยกันทุกท่านและไม่สำลักความหวานกันนะจ๊ะ
  :impress2:

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
 :m1:
เป็นเรื่องลับๆในใจของเป้กับวิวที่ทำให้คนสอดรู้สอดเห็นอย่างนุ่นยิ้มออกมาเต็มที่พร้อมกับความรู้สึกอุ๊นอุ่นที่หัวใจค่ะป้า
ขอบคุณมากๆนะคะ

สองคนเขาเกิดมาเพื่อกันและกันจริงๆเนอะ

อยากให้ทุกคนมีความรักดีๆแบบนี้บ้างจังเลย โลกเราคงจะสดใสนะคะ
 :กอด1:ป้าส่งไปถึงเป้วิวแล้วก็ลุงอ๊อฟกับเด็กชายนะด้วยนะคะ

ปล.รอๆๆๆๆคุณเชษฐ์กับภัทรรีเทิร์นค่ะ ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ maio2000

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ว้าว เซอร์ไพมากๆ เข้ามาดู ป้ามาลาตอนพิเศษของเป้วิวด้วย
ฮุๆ  :laugh: ความลับถูกเปิดเผย น่ารักมากๆ ยิ่งคิดถึงไปใหญ่เลยอ่ะป้า
ตอนนี้ก็อ่านของต้นกับ พี่ไผ่ก็กำลังลุ้นเลย รอป้านะ สู้ๆ :bye2:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
อยากกรี๊ดดดดดดให้สุดเสียง แต่กลัวโต๊ะข้างๆนึกว่า ชั้นอยุ่กับคนบ้าเหรอเนี่ย

ดีใจมากเลยได้อ่านเป้กับวิวอีกแล้ว อ่านไปยิ้มไปปากจะฉีก คู่นี้ยังคงแคร์กันและกันเสมอ ว่าแต่คู่พี่อ๊อฟกะน้องนะ จะมีความลับแบบนี้บ้างหรือเปล่า

ปล. ยังรอคุณเชษฐ์ กะ ภัทร อยู่เสมอนะคะ

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
+1 แทนคำขอบคุณ เป็นคู่ที่ชอบมาก อ่านหนังสือหลายเที่ยวไม่มีเบื่อเลย
ยิ่งอ่านจะได้เห็นความรักที่ต่างคนมีให้แก่กัน อ่านแล้วชื่นชมเป้ในความเป็น
สุภาพบุรุษและดูแลวิวเป็นอย่างดี ส่วนวิวก็ชื่นชมในความกล้าที่จะยอมรับ
เป้เป็นคนรักและคู่ชีวิตทั้ง ๆ ที่ในตอนแรกไม่ได้แสดงออกว่าจะสามารถรัก
กับคนเพศเดียวกันได้ เป็นความรักที่ไม่ต้องแบ่งเพศและไม่หวังผลตอบแทน
ใดนอกจากขอให้ได้อยู่คู่กันตลอดไป อ่านคู่นี้ทีไรก็มีความสุขไปด้วย   :pig4:

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
ยิ่งอ่านตอนพิเศษก็ยิ่งคิดถึงเป้-วิวอ่ะ :give2:
อยากให้มีภาคต่อจัง
รู้สึกอิ่มพอได้อ่าน
เฮ้อ...เป็นคนละโมบโลภมากไม่รู้จักพอจริงๆ เลยเรา :o11:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด