★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%  (อ่าน 165876 ครั้ง)

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
ชวินนนนนนนนน โอ้ยยยย
ต้องเขียนข้อห้ามไว้บนหัวเรื่องว่าอย่าอ่านตอนกลางคืน :ling1:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ทำไมรู้สึกบาปอ่ะ

คือเราขำคนโดนผีหลอกแบวปล่อยก๊ากก

ชวินเขาขอโทษ

เดี๋ยวส่งพี่ธารพี่ชายปิงไปช่วย

ออฟไลน์ baka_bunny

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
คุณชวินไปทำอะไรไว้คะผีเด็กถึงมาหยอกด้วยแรงขนาดนี้ บรื๋อออออ  :m22:

ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/

ความเดิมตอนที่แล้ว


พรึ่บ

แสงไฟสว่างจ้าทั่วทั้งห้อง สายตาสามคู่เพ่งมองไปยังตู้ชั้นล่าง ไม่ต้องสำรวจนานก็มองเห็นความผิดปกติ...มันเปิดอยู่ เสียงสูดลมหายใจทั้งสามดังแทบพร้อมกัน ยกเว้นชวินที่ก้มหน้าเลี่ยงสายตาไปมองแผ่นหลังเพื่อนแทน

สิงหากระตุกมือเบาๆ ให้เดินตามเข้าไปข้างใน ห้องนี้มีกล้องสองจุด จุดแรกอยู่ใกล้ประตู เมื่อเดินตามสิงหาเข้ามาโบ้ก็เอื้อมมือไปปลดสายรัดดึงกล้องส่งข้างหลังไปให้เต้เก็บไว้ แต่ถุงของเต้เต็มแล้วเขาเลยส่งต่อให้ชวิน ชวินรับกล้องมาใส่ถุงดำในมือตัวเอง

ปัง!!

“เหี้ย!!” ชวินเงยหน้ามองด้วยความตกใจ ชั่วขณะที่เขาปล่อยมือจากเพื่อนแล้วรับกล้องมา ประตูห้องทำงานก็กระแทกปิดลงตรงหน้า มันปิดกั้นเขาไว้นอกห้องเพียงลำพัง

“พวกมึง...เหี้ยเต้! เปิดประตูดิ๊ เล่นเหี้ยไรกัน!” ชวินตะโกนด่าเพื่อนเสียงสั่น พยายามบิดลูกบิดแต่ก็ยังเปิดไม่ได้ เขาคิดว่าประตูล็อกจากด้านในโดยฝีมือของเพื่อนทั้งสามที่ตั้งใจแกล้ง

สิงหา โบ้และเต้หันขวับไปมองประตูพร้อมกัน เต้เป็นฝ่ายเดินมาถึงประตูก่อนพร้อมได้ยินเสียงด่าจากชวินที่ด้านนอก เขาพยายามหมุนลูกบิดแต่มันเปิดไม่ออก

“เหี้ยแล้วๆ กูเปิดไม่ออก!! ไอ้ชวิน!! อย่าแกล้งนะมึง!!” คนด้านนอกยังด่าไม่หยุด คนด้านในก็คิดว่าเพื่อนที่อยู่คนเดียวด้านนอกแกล้งเช่นกัน สิงหาที่เดินไปแกะกล้องเมื่อครู่รีบเดินกลับมาแทรกตัวอยู่ข้างเต้ เขาลองจับลูกบิดหมุนดู มันไม่ได้ล็อกเพราะบิดได้รอบ แต่เปิดไม่ออกเหมือนถูกดึงอยู่ ลำพังแรงของชวินคนเดียวไม่สามารถดึงประตูต้านแรงพวกเขาได้แน่นอน โบ้หันหลังให้เพื่อนเพื่อมองรอบห้องอย่างไม่ไว้ใจ โดยเฉพาะประตูตู้ที่ยังเปิดอยู่

“ไอ้เหี้ย!!! มึง!!” ชวินเริ่มรู้ตัวว่าเพื่อนไม่ได้แกล้ง เต้พยายามตะโกนบอกให้ชวินลองปล่อยมือจากลูกบิดหรือให้ลองกระแทกประตูให้เปิดแต่ก็ทำไม่ได้ ทุกคนเริ่มร้อนรน สามคนข้างในเริ่มเป็นห่วงคนที่อยู่ลำพังด้านนอก

“ไอ้ชวิน!! มึงออกไปก่อน ลงไปข้างล่างหาคนมาช่วย ออกไปก่อน!!” สิงหาตัดสินใจให้เพื่อนหนีไปก่อน ถ้าคนดวงซวยเป็นพวกเขาแทนก็ยังดีกว่าเป็นชวินคนเดียว

ชวินฟังคำพูดสิงหาแล้วรีบหันหลังกลับเตรียมวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือ เท้าที่จะก้าวไปข้างหน้าหยุดชะงักแล้วกระโดดถอยหลังมาพิงประตูห้องน้ำที่อยู่ฝั่งตรงข้ามห้องทำงานแทน...มีบางสิ่งยืนอยู่ข้างเขามาตลอด

.

...และ.....

.......มัน......

.

..........กำลังหันมา..........




-------------------------------------------------------------------



17. ข่าวลือ



ชวินกลั้นหายใจกับบางสิ่งตรงหน้า ร่างเล็กของเด็กชายผิวคล้ำปรากฏอยู่ข้างกายเขาโดยไม่ทันตั้งตัว เสียงเพื่อนในห้องตะโกนเรียกเขาตลอดเวลาแต่เขาไม่กล้าแม้แต่จะออกเสียงผ่านลำคอ ร่างนั้นค่อยๆ หันมาทางเขาเหมือนรู้ว่ามีคนจ้องอยู่ ...มัน...ค่อยๆ หันมา...ช้าๆ


ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ


เสียงหัวใจดังจนแทบทะลุออกมานอกอก เสี้ยววินาทีที่ใบหน้านั้นกำลังหันมาชวินจับลูกบิดประตูห้องน้ำที่ยืนพิง หมุนแล้วรีบก้าวถอยเข้าไปอยู่ด้านใน


ปัง!


เขาปิดประตูห้องน้ำพร้อมกดล็อก สายตาจับจ้องมองด้านหน้า ภาวนาให้บางสิ่งข้างนอกนั่นไม่สามารถตามเข้ามาได้ เสียงเพื่อนเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะเริ่มตะโกนถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง เหมือนรู้ว่ามีบางสิ่งกำลังเกิดขึ้นกับเขา ชวินค่อยๆ ก้าวถอยหลังไปช้าๆ จนยืนชิดกำแพงตรงข้ามประตู ดวงตาเบิกโพลงไม่กล้าแม้แต่กะพริบตา

ความเย็นจากบางสิ่งแผ่กระจายทั่วฝ่ามือ มือข้างขวาของเขาเริ่มสั่นระริกจนลามไปทั่วตัว สายตาที่จ้องไปข้างหน้าลดระดับลงมองมือตัวเอง...มีมือเล็กๆ สีดำจับมือเขาอยู่ มัน!....ยืนอยู่ข้างๆ

....ไปเล่นกันเถอะ



สามหนุ่มที่ถูกขังอยู่ในห้องทำงานเริ่มรู้ถึกความผิดปกติของเพื่อนที่อยู่คนเดียวด้านนอก ชวินเงียบหายไปครู่หนึ่งแล้ว ประตูนี้ยังคงเปิดไม่ออกไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ตาม โบ้หยิบโทรศัพท์ส่วนตัวโทรหาชวินแต่อีกฝ่ายไม่รับสาย ทุกคนมองหน้ากันเพื่อหาทางออกจากห้องให้เร็วที่สุด พวกเขาพยายามพังประตูแต่ในห้องไม่มีอุปกรณ์อะไรจะช่วยได้

โบ้เหลียวมองหาของรอบห้องก่อนจะหยุดสายตาที่พระพุทธรูปในตู้

“พระ!”

ทันทีที่โบ้พูดจบ เต้ที่อยู่ใกล้ตู้ที่สุดรีบอุ้มพระพุทธรูปจากในตู้ขึ้นมา เดินไปที่ประตูแต่ก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อ เขาเหลียวมองเพื่อนเพื่อถามความเห็น โบ้ได้แต่ส่ายหน้า เขาพูดออกไปเพราะสิ่งเดียวที่น่าจะช่วยสู้กับผีได้คือพระ แต่ให้เอามาทำอะไรก็ต่อก็ไม่รู้เหมือนกัน สิงหาเองไม่มีคำตอบให้ ตั้งแต่เอาพระมาวางในตู้ เรื่องต่างๆ มันก็เริ่มหนักมากขึ้น เขาไม่คิดว่านี่เป็นความคิดที่ดีแต่ก็ไม่กล้าโต้แย้ง

เต้หันซ้ายหันขวาอย่างคนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่อุ้มพระเอาไว้รอการตัดสินใจของเพื่อน สิงหาตัดสินใจพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพียงอย่างเดียวในห้องอีกครั้ง

“ลองเอาพระไปแตะๆ ประตูดู เผื่อเปิดได้”

“โบ้มึงรู้บทสวดเยอะ ลองสวดสักบทสิวะ” เต้เดินไปยืนหน้าประตู ลองยกพระพุทธรูปแตะลูกบิดบ้างแนบไว้ที่ประตูบ้าง สุดท้ายขอเพิ่มความพลังด้วยบทสวดมนต์จากโบ้ สิงหาลองบิดลูกบิดอีกครั้งแต่ครั้งนี้พนมมืออธิษฐานขอให้ความดีทั้งหลายคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือจากอันตรายครั้งนี้


กริ๊ก


แอดดดดด




“เปิดได้แล้ว” สิงหาหันมาบอกเพื่อนอีกสองคนที่ยืนชะงักค้างไปเพราะไม่คิดว่าวิธีนี้จะเปิดได้จริงๆ ถึงแม้ความกลัวจะยังมีอยู่ในใจแต่ความเป็นห่วงเพื่อนมีมากกว่า เสียงชวินเงียบหายไปนานแล้ว ทุกคนรีบกรูกันออกมานอกประตู เต้ตะโกนเรียกเพื่อน โบ้ทำใจกล้าเดินไปตามหาชวินถึงโซนห้องครัว สิงหาปิดประตูห้องทำงาน เดินผ่านเพื่อนไปถึงห้องนอน อย่างน้อยห้องนี้ก็เคยปลอดภัย เพื่อนของเขาอาจจะเข้ามาหลบที่นี่ แต่ทุกคนก็ต้องผิดหวังเมื่อมองหารอบๆ แล้วไม่เจอ แม้กระทั่งเต้ที่เปิดประตูห้องออกไปมองถึงหน้าลิฟต์ก็ไม่มีแม้แต่เงา

“เหลือห้องน้ำยังไม่ได้ดู” สิงหานึกขึ้นได้ถึงอีกห้องที่พวกเขาลืมไป เขาเดินตรงไปที่ห้องน้ำใหญ่ในห้องนอนตัวเอง ส่วนโบ้กับเต้เดินไปที่ห้องน้ำเล็กหน้าห้องทำงาน

โบ้เป็นคนเปิดประตู แสงไฟในห้องน้ำสว่างจ้าผ่านประตูที่ค่อยๆ เปิดอ้าออกทำให้ทั้งสองคนใจชื้น ในนี้เปิดไฟเอาไว้แสดงว่ามีคนอยู่ แต่เมื่อเปิดประตูออกจนสุด สิ่งที่เห็นตรงหน้าไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นเลย เพื่อนสนิทของพวกเขาอยู่ในห้องนี้จริงๆ ร่างสูงยืนพิงผนังตรงข้ามประตู สองตาเบิกโพลง ใบหน้าขาวซีดและร่างกายกำลังสั่นเทาไปทุกส่วน

“ไอ้สิง! เจอแล้ว อยู่นี่!!” เต้รีบตะโกนเรียกสิงหา โบ้เดินกึ่งวิ่งไปถึงตัวชวิน สองมือละล้าละลังไม่กล้าแตะร่างที่กำลังสั่น พวกเขาเคยหยอกกันเล่นๆ ขำๆ ว่ามันต้องเป็นเป้าหมายของผีแน่ ต้องโดนหนักสุดแน่ แต่ไม่คิดว่าเพียงครู่เดียวที่แยกกันจะทำให้เพื่อนมีอาการแบบนี้

“มันเป็นไงบ้าง ชวิน! ชวิน!!” สิงหาเดินมายืนตรงหน้าชวิน แต่สายตาอีกคนไม่ได้จ้องมาที่เขาเลย เหมือนมองผ่านไป มองอะไรบางอย่างที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต

“ชวิน!!!” โบ้ช่วยตะโกนเรียกสติเพื่อน แต่แววตานั้นยังคงเลื่อนลอยอยู่ เต้น้ำตาคลอเบ้าด้วยความสงสารเพื่อน เขารู้ว่ามันขี้กลัว แต่มันไม่ใช่คนขี้ขลาดที่เจออะไรนิดหน่อยก็ช็อกได้ สิ่งที่มันเพิ่งเจอคงน่ากลัวมากถึงได้เป็นแบบนี้

“พามันไปที่ห้องก่อน ถ้าไม่ดีขึ้นก็ส่งโรงฯบาล” สิงหาค่อยๆ โอบไหล่เพื่อนที่สั่นจนกระตุก โบ้ช่วยประคองเอวดันให้ชวินค่อยๆ ก้าวเท้าเดินออกไป แต่อีกคนไม่ยอมขยับ สุดท้ายสิงหาเลยต้องแบกเพื่อนขึ้นหลังแล้วให้อีกสองคนช่วยกันประคอง เต้วางพระพุทธรูปไว้บนเคาน์เตอร์ล้างหน้าเดินตามเพื่อนออกไป ทุกคนลงความเห็นว่าอาการชวินไม่ปกติ ให้ส่งโรงพยาบาลเลยจะดีกว่า พวกเขาช่วยกันแบกเพื่อนลงลิฟต์มาถึงชั้นล่างท่ามกลางความตกใจของโจที่กำลังทำงานอยู่ เขารีบโทรเรียกรถพยาบาลมารับผู้ป่วยฉุกเฉิน สีหน้าสี่หนุ่มไม่ค่อยดีเท่าไรโจถึงไม่กล้าซักถาม ได้เพียงคาดเดาว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่น่านนทีเล่าให้ฟัง ซึ่งท่าทางจะหนักเกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้



ในห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ชวินนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงผู้ป่วยหลังได้รับการรักษาจากแพทย์ที่วินิจฉัยตามคำบอกเล่าของเพื่อนทั้งสามว่าผู้ป่วยได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจทำให้เกิดภาวะช็อกชั่วขณะ หลังจากให้ยาเพื่อคลายเครียดและทำให้นอนหลับ ตื่นมาก็จะดีขึ้นแล้วค่อยตรวจเพิ่มเติมพรุ่งนี้เช้า

“มันช็อกน่ะปิง ตอนนี้น่าจะโอเคแล้ว ปิงไม่ต้องมาหรอก” สิงหาคุยโทรศัพท์กับน่านนทีที่โทรมาหาหลังทราบเรื่องจากโจ

“แล้วคุณสิงกับคนอื่นล่ะครับ โอเคไหม”

“ยังงงๆ กันอยู่ แต่ไว้เช้าผมค่อยเล่าดีกว่า เดี๋ยวปิงจะกลัว คืนนี้ทำงานกับออมเหมือนเดิมหรือเปล่า”

“ครับ ออมก็นั่งอยู่ข้างๆ ตอนมาถึงพี่โจเล่าให้ฟังปิงตกใจหมด พี่โจบอกหน้าทุกคนซีดมากเลย” น่านนทีรีบโทรมาหาด้วยความเป็นห่วงหลังรู้เรื่องจากโจและฝ่ายซีเคียวริตี้ที่นั่งอยู่ด้านหน้า ซึ่งโจตัดสินใจไม่เล่าอะไรให้ฟัง เพียงแค่บอกคนอื่นว่าลูกบ้านป่วยหนักเท่านั้น

“ผมก็ตกใจเหมือนกัน กลัวเพื่อนเป็นอะไร” ความตกใจของเขามีมากขนาดที่แบกเพื่อนตัวใหญ่กว่าลงมาจากห้องได้ ตอนนี้เลยปวดเอวนิดหน่อย

“ถึงมือหมอแล้ว คุณสิงไม่ต้องเครียดนะ เดี๋ยวตอนเช้าเลิกงานปิงแวะไปหานะครับ”

“ได้ งั้นปิงทำงานต่อเถอะ มีอะไรโทรหาผมนะครับ”

“โอเค พักผ่อนนะ ฝันดีครับ” น่านนทีวางสายไป เขารับรู้ได้ถึงความกังวลในน้ำเสียงของอีกคน อย่าว่าแต่ฝ่ายนั้นที่ช็อกเลย ขนาดเขาที่ไม่ได้เจอกับตัวยังอยากช็อกตาม ไอ้ผีที่ออกมาหลอกแบบเฮี้ยนๆ มันน่าจะมีแค่ในหนังในละครไม่ใช่หรือไง



“ไงวะ ปิงถึงคอนโดฯ แล้วเหรอ” โบ้ทักสิงหาที่ขอตัวออกไปนั่งคุยโทรศัพท์กับแฟนที่นอกห้อง

“เออ โจเขาเล่าให้ปิงฟังก็เลยเป็นห่วง กลัวจะเป็นอะไรหนัก”

“นี่ก็หนัก” โบ้พยักหน้าไปทางคนที่นอนหลับสนิทบนเตียงคนไข้

“เออ กูรู้...แม่ง ปวดหัวเลยว่ะ” สิงหาเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เต้ ยกมือกอดบ่าเขย่าเบาๆ ปลอบใจ มันคงรู้สึกผิดที่ตัวเองอยู่ใกล้ชวินที่สุดแต่ช่วยเพื่อนไม่ทัน

“เฮ้อ ทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะ ตอนแรกก็ขำๆ ตลกดี แต่นี่มันเกือบตายเลยนะเว้ย มันต้องการอะไรวะ” เต้บ่นด้วยความสงสารเพื่อนและสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำไมมันยิ่งหนักขึ้นทุกๆ ครั้งที่เจอ

“กูว่าเราเลิกยุ่งกับห้องนั่นเถอะ ช่างมัน เหมือนยิ่งค้นก็ยิ่งเจอหนักขึ้น บางทีมันอาจไม่ชอบให้เราไปยุ่งก็ได้” สิงหาตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก รวมถึงไม่ให้เพื่อนๆ ยุ่งด้วย

“ก็จริง เมื่อก่อนมึงอยู่เฉยๆ ไม่เห็นโดนแบบนี้ อาจเป็นเพราะเราไปยุ่งกับมันก็เลยโดนดีเข้าให้” โบ้ยอมรับการตัดสินใจจากเจ้าของห้องแต่โดยดี เต้เองก็เช่นกัน

“ว่าไงว่าตามกัน สงสารชวินมันว่ะ แม่งโดนตลอดเลย”

“ต้องโทรบอกพ่อมันไหมวะ” โบ้ถาม

“ดูอาการพรุ่งนี้ก่อนดีกว่า เผื่อดีขึ้นค่อยให้มันตัดสินใจเอง” สิงหาพูดจบก็ไล่ให้ทุกคนไปอาบน้ำ คืนนี้ทุกคนนอนรวมกันบนพื้นห้องเหมือนเดิม แม้จะมีห้องพักสำหรับญาติแต่ก็ไม่มีใครกล้าปล่อยเพื่อนนอนป่วยอยู่เพียงลำพัง ความตึงเครียดของค่ำคืนนี้ทำให้ยากที่จะนอนหลับ โบ้เลยตัดสินใจลุกไปขอยากับนางพยาบาลโดยโกหกว่ามีอาการน้ำมูกไหลเลยได้ยาแก้แพ้ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้ง่วง ยาที่เหมาะที่สุดในคืนนี้ ยาแก้แพ้สำหรับทุกคนที่แพ้ให้กับผีตัวเล็กๆ แต่ความน่ากลัวไม่เล็กเลย

รุ่งเช้าน่านนทีหมดเวลาทำงานก็เดินออกจากคอนโดฯ แวะซื้อข้าวเหนียวสี่ห่อ หมูปิ้งสิบไม้ โจ๊กหมูเด้งสี่ถุงก่อนเรียกแท็กซี่ไปโรงพยาบาล ลงจากแท็กซี่เดินเข้ามาในตึก กำลังมองหาลิฟต์เพื่อขึ้นไปชั้นบนก็เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีแม้จะโทรมไปสักนิดแต่ก็หล่อที่สุดในสายตาเขา

“ซื้ออะไรมาเยอะเลยครับ” สิงหาที่ลงมารอรับแฟนถึงชั้นล่างเดินเข้ามาหาแล้วแย่งถุงอาหารทั้งหมดไปถือเอง แตะแขนเบาๆ ให้เดินตามไปที่ลิฟต์ เช้านี้พวกเขาตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงเพราะพยาบาลเข้ามาดูอาการของคนไข้ที่ยังหลับสนิท สามหนุ่มที่นอนเกะกะบนพื้นห้องเลยต้องรีบลุกแยกย้ายกันอาบน้ำล้างหน้ากันอย่างเคอะเขิน

“อาหารเช้าครับ พี่ชวินเป็นยังไงบ้าง”

“ยังไม่ตื่นเลย หมอฉีดยาให้เมื่อคืน นอนไม่ค่อยเต็มอิ่มกันมาหลายคืนด้วยเลยหลับยาวหน่อย”

“สงสารจัง ทำไมโดนอยู่คนเดียวเลย”

“ผมจะปล่อยเรื่องนี้ไปแล้วล่ะ อันตรายเกินไป ถ้ายังไม่หยุดก็ไม่รู้จะโดนอะไรอีก เออ เรื่องห้องเช่าปิงได้ถามให้หรือยัง”

“ถามแล้ว เจ้าของอยู่ภูเก็ต ถ้าคุณสิงโอเคกับค่าเช่าก็โอนเงินแล้วเข้าอยู่ก่อนได้เลย เดือนหน้าเขาขึ้นมาค่อยทำสัญญากัน เดี๋ยวพวกฝ่ายขายคงโทรมาบอกคุณสิงวันนี้เรื่องเลขบัญชีกับรายละเอียดในสัญญา”

“ง่ายดีจัง อ้าว สงสัยชวินมันตื่นแล้ว” สิงหาเปิดประตูห้องพักเข้ามาก็ได้ยินเสียงโบ้และเต้กำลังยิงคำถามใส่ชวินด้วยความเป็นห่วง เขาวางถุงอาหารไว้ที่โต๊ะรับแขกแล้วเดินนำน่านนทีเข้าไปในส่วนห้องพักผู้ป่วยที่อยู่ด้านในอีกชั้น

“ตกลงว่าไง ถ้าพูดไม่ออกก็พยักหน้าก็ได้ อย่าเงียบสิวะ พวกกูใจไม่ดี” เต้กำลังถามกึ่งบ่นเพื่อนที่อยู่ดีๆ ก็ลืมตาตื่นขึ้นมา เขากับโบ้รีบพุ่งปราดมาถึงข้างเตียง แย่งกันถามอาการด้วยความเป็นห่วงแต่อีกฝ่ายก็ยังเอาแต่นอนนิ่ง ยังดีที่แววตาไม่เลื่อนลอยเหมือนเมื่อคืน

“หึๆๆ ฮ่าๆๆๆ นานๆ จะเห็นพวกมึงห่วงกูขนาดนี้ ฮ่าๆๆ” ชวินหัวเราะเสียงดังลั่นห้อง เขาพยายามกลั้นหัวเราะเมื่อเห็นหน้าเพื่อนที่แย่งกันชะโงกหน้าอยู่เหนือเตียง มีการแตะหน้าผากวัดไข้ด้วย ความน่ารักของเพื่อนทำเอาเขาขนลุก

“ไอ้เหี้ย! ใจหายหมด” โบ้หลุดด่าเพื่อนที่ทำให้ตกใจ

“แม่ง เอาความห่วงใยกูคืนมา” เต้มองชวินด้วยความโกรธ อุตส่าห์เป็นห่วงแทบตาย กลัวตื่นมาจะช็อกจนเป็นบ้า ลืมไป มันบ้าอยู่แล้ว

“โทษๆ ไม่ได้ตั้งใจแกล้ง ตอนแรกเบลอๆ พวกมึงก็แย่งกันถามไม่หยุด อ้าว ปิง อยู่ด้วยเหรอ”

“ปิงเพิ่งเลิกงานเลยแวะเอาข้าวเช้ามาฝาก พี่ชวินโอเคแล้วเนอะ” น่านนทีเดินมาหยุดข้างเตียง มองสีหน้าคนป่วยที่ดูสดใสค่อยหายห่วงบ้าง

“ครับ ขอแค่ไม่อยู่ในห้องนั้นทุกอย่างก็โอเคหมด” ชวินพยายามส่งยิ้มให้แต่มันดูฝืดเหลือเกินเมื่อพูดถึงห้องของสิงหา

“เล่าได้ไหมวะว่าเกิดอะไรขึ้น หรือถ้ายังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไรนะเว้ย สบายใจค่อยเล่า” เต้ตบบ่าให้กำลังใจเพื่อนเบาๆ

“สรุปคือยังไงก็ต้องเล่าว่างั้น”

“เออดิ กูอยากรู้บอกเลย เป็นห่วงก็ส่วนเป็นห่วงนะเว้ย แต่ความเสือกนี่ห้ามใจตัวเองไม่ไหวจริงๆ โทษทีว่ะ”

“ไอ้เหี้ย”

“ปิงกลับไปพักผ่อนก่อนก็ได้นะ ไม่ต้องฟังหรอกเดี๋ยวจะกลัวเปล่าๆ” สิงหาบอกแฟนขี้กลัวของตัวเองที่ยืนทำตาโตอยู่ข้างๆ เหมือนกำลังลุ้นว่าจะเล่าอะไรออกมาเมื่อไร ถ้าชวินเล่าปุ๊บคงรีบยกมือปิดหูตัวเองทันที โชคดีที่คนที่โดนผีหลอกหนักสุดไม่ใช่น่านนที

“น่ากลัวมากไหมครับ ปิงก็อยากรู้เหมือนกัน”

“พี่ช็อกนอนโรงฯบาลแบบนี้ ปิงว่ามากหรือน้อยล่ะ”

“แฮ่ๆ น่าจะมากเนอะ งั้นปิงกลับก่อนนะ เรื่องนี้ปิงไม่ไหวจริงๆ ยังต้องทำงานดึกๆ ที่นั่นอีกนาน สู้ๆ นะครับทุกคน” น่านนทีระงับความอยากรู้ไว้เพียงเท่านี้ ขอเอาใจช่วยห่างๆ ก็พอ สิงหาให้เพื่อนกินอาหารเช้ารอก่อนระหว่างเขาลงมาส่งน่านนทีด้านล่าง



บรรยากาศยามสายของโรงพยาบาลมีผู้คนเดินเข้าออกตลอดเวลา ทั้งเจ้าหน้าที่ ทั้งผู้ป่วย สิงหานั่งอยู่ข้างๆ น่านนทีบนม้านั่งในสวนเล็กๆ ในโรงพยาบาล

“คุณสิงไม่ต้องเครียดนะ ปิงว่าพี่ชวินไม่เป็นอะไรมากหรอก”

“ผมไม่คิดว่าเรื่องจะหนักถึงขั้นนี้จริงๆ นะ ตอนแรกที่นัดกันผมยังแอบขำพวกมันอยู่เลย แต่ตอนเปิดประตูห้องน้ำไปเจอมันยืนช็อกตาค้างอยู่ผมทำอะไรไม่ถูกเลย ถ้าเกิดมันเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง เราไม่น่าทำอะไรพวกนี้เลย”

“ไม่เป็นไรนะ เพื่อนๆ ไม่โทษคุณสิงหรอก มันเป็นเรื่องไกลตัว ต่อให้วันนี้ไม่เกิดวันหน้าอาจจะเกิดก็ได้ ยังดีที่เกิดเรื่องตอนอยู่กันหลายคน คุณสิงช่วยเพื่อนไว้นะครับ” น่านนทีลูบหลังปลอบคนที่กำลังขวัญเสีย ถึงภายนอกจะดูเข้มแข็งเป็นผู้นำคนอื่นตลอด แต่เขารู้ว่าสิงหาเป็นคนที่แคร์ความรู้สึกคนรอบตัวมาก คอยเป็นห่วงเป็นใยคนอื่นเสมอ ไม่มีใครคิดว่าผีในห้องนั้นจะทำอันตรายจนมีคนเข้าโรงพยาบาล ตัวน่านนทีเองก็ยังคิดไม่ถึง อย่างมากเขาก็แค่กลัวจนร้องไห้แค่นั้น

“......จริงๆ ผมก็กลัวนะ แต่มันก็คือบ้านผม คนไทยยังตั้งศาลพระภูมิเจ้าที่ในบ้านเลย นางกวักเอย กุมารเลย ความเชื่อพวกนี้ผมก็เจอมาตั้งแต่เด็ก พอรู้ว่าในห้องน่าจะมีผีผมก็เลยเฉยๆ เขาไม่ทำอะไรเราก็ต่างคนต่างอยู่ จนวันที่โดนจับขานั่นล่ะผมเลยอยากรู้ว่าเขาต้องการอะไร มันแค่ความอยากรู้เท่านั้นเองนะ เมื่อก่อนบ้านเพื่อนแม่ก็เจอแบบนี้ในบ้าน เห็นผู้หญิงในฝัน บางทีก็เห็นเดินในบ้าน เจอบ่อยๆ เลยตั้งหิ้งเอาดอกไม้เครื่องดื่มวางให้ทุกวันพระ คือถ้าเขาต้องการแบบนั้นผมก็จะได้ทำให้ แต่ไม่ใช่มาทำร้ายคนแบบนี้”

“มิน่า เคยเจอมาเยอะนี่เองเลยไม่ค่อยกลัว แต่ถึงไม่กลัวปิงก็ไม่อยากให้กลับไปนอนห้องนั้นคนเดียวนะ ปิงว่ามันอันตรายเกินไป”

“ครับ ผมคงไม่ไปหรอก เออปิงยกเลิกแม่บ้านให้ด้วยนะ กลัวเข้าไปแล้วเจอดีเข้าอีกคน”

“โอเค เรื่องห้องเช่าถ้าจะย้ายเข้าไปอยู่เมื่อไรบอกปิงนะ เดี๋ยวปิงช่วยย้าย คุณสิงมีอะไรให้ช่วยบอกได้ตลอดนะ แต่ห้ามไปที่ห้องคนเดียวเด็ดขาด”

“โอเคครับ ไม่ต้องห่วงนะผมไม่ไปหรอก ไปครับเดี๋ยวผมส่งขึ้นแท็กซี่ ถึงบ้านแล้วส่งข้อความมาด้วยนะ”

“ได้ครับผม อย่าเครียดนะๆ ทุกคนปลอดภัย พี่ชวินปลอดภัย ปิงก็ยิ่งปลอดภัย อย่าคิดมาก”

“หึๆ โอเค ขอบคุณนะ” สิงหาลูบหัวกำลังใจน้อยๆ ของเขาเบาๆ เดินพาน่านนทีไปขึ้นแท็กซี่ที่หน้าโรงพยาบาล ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ปล่อยให้ความวิตกกังวลทั้งหมดมลายหายไปแล้วนำกำลังใจที่ได้รับเข้ามาแทนที่ น่านนทีพูดถูก ตอนนี้ทุกคนปลอดภัยแล้ว และเหมือนจะปลอดภัยมากๆ โดยเฉพาะคนป่วยที่ใช้อภิสิทธิ์แย่งหมูเด้งในโจ๊กจากชามของคนอื่น


ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/

หลังกินมื้อเช้าและฟังหมอเข้ามาตรวจอาการเรียบร้อยทุกคนก็เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น ชวินสามารถกลับบ้านได้แต่เจ้าตัวอ้างว่ายังรู้สึกอ่อนเพลียและที่บ้านไม่มีคนคอยดูแล เลยขอพักต่อที่โรงพยาบาลอีกคืน หมอก็อนุญาตเพราะคนไข้ที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์จนเกิดอาการช็อกควรมีคนดูแลอย่างใกล้ในช่วงนี้ ถึงหน้าตาคนไข้จะดูสดใสเหมือนปกติแต่ความเครียดจากแววตาและท่าทางที่พยายามซ่อนไว้ยังมีให้เห็น หมอยังคงให้ยาคลายเครียดและให้พักผ่อนต่ออีกหนึ่งคืน

“พวกกูยังไม่ได้โทรบอกที่บ้านมึงนะ กะว่าถ้าวันนี้อาการไม่ดีค่อยบอก มึงโทรไปบอกพ่อมึงหน่อยก็ดี” สิงหาแนะนำเพื่อนให้โทรไปบอก

“กูก็ว่าจะโทรเหมือนกัน คงกลับไปนอนบ้านสักพักว่ะ พวกมึงด้วยนะ ย้ายที่นอนจากห้องไอ้สิงไปบ้านกูแล้วกัน”

“ตามใจมึงเลย แต่มะรืนกูต้องไปถ่ายหนังต่อแล้วคงค้างได้คืนเดียว”

“กูยังว่างถึงวันจันทร์เลย” เต้ตอบรับอย่างกระตือรือร้น เขานอนที่ไหนก็ได้ยกเว้นห้องสิงหา

“กูด้วย เสาร์อาทิตย์โรงเรียนปิดแต่วันอาทิตย์กูว่าจะเข้าไปขนโต๊ะเก้าอี้ไปไว้ที่ร้าน”

“เออ งั้นเอางี้ พรุ่งนี้ออกจากโรงฯบาลไปชิมเค้กที่โรงแรมกูก่อน แล้วมะรืนไอ้สิงกับกูเข้าร้านไปเก็บงานให้เสร็จ โบ้เอาไอ้เต้ไปช่วยกันขนโต๊ะ เอาเรื่องร้านให้เสร็จก่อนจะได้ทดลองเปิดร้านก่อนฤกษ์จริง” ชวินแบ่งงานให้เพื่อนอย่างรวดเร็ว สำหรับพวกเขาถ้าเป็นเรื่องงานจะต้องตั้งใจทำให้ลุล่วงเสมอ อาจเพราะถูกครอบครัวฝึกให้ทำงานมาตั้งแต่เล็ก ต่อให้ล้มหมอนนอนเสื่อ แต่งานต้องเดินต่อไป ที่สำคัญคือที่ร้านไม่มี....นั่นล่ะ

“ได้ ตามที่มึงบอกเลย แล้วตกลงที่พูดเรื่องงานที่คือจะบ่ายเบี่ยงเรื่องผีเนอะ หรือยังไง เล่าไม่เล่า” เต้พยักพเยิดใส่คนที่เลี่ยงพูดเรื่องอื่นด้วยสีหน้าจริงจัง โถ ทำเป็นเครียด อยากเลี่ยงประเด็นก็บอกมา

“ไอ้เหี้ยเต้ มึงก็ช่วยเออออกับกูไปก่อนก็ได้นะ แล้วอย่าเรียกว่าผี แม่งขนลุก” ชวินรีบซุกแขนลงในผ้าห่มเมื่อรู้สึกไปเองว่าหนาว

“ไม่เรียกผีให้เรียกอะไร แคสเปอร์เหรอ” เต้ยังคงต่อปากต่อคำกับเพื่อนต่อ

“ไม่เอา แคสเปอร์ก็ยังตรงไป เรียก...เออีซี” ชวินนึกถึงคำที่เคยใช้เรียกกันวันก่อน ชื่อนี้เหมาะที่สุด ไม่เจาะจง ไม่น่ากลัว

“โห ดูอินเตอร์เนอะ ตกลงว่าไง เล่าสักที”

“หน้ามึงตอนนี้โคตรขี้เสือกเลยรู้ตัวไหม” ชวินอมยิ้มขำเต้ที่พาตัวเองมานั่งที่ปลายเตียง อยากยกเท้าถีบมันให้กลิ้งลงไปจริงๆ

“เออรู้ เล่ามา”

“....เฮ้อ....ถ้ากูช็อกอีกมึงเรียกหมอมาเลยนะ ห่า แค่นึกก็ขนลุกแล้วมึงดูดิ” ชวินยกแขนให้เพื่อนดู เส้นขนบนท่อนแขนตั้งชันเรียงตัวจนผิวหนังดูเป็นตุ่มๆ อย่างเห็นได้ชัด โบ้กับสิงหาหลุดหัวเราะคนกลัวผีอันดับหนึ่งขึ้นมา ทุกคนพยายามกลั้นหัวเราะแม้แต่เจ้าของแขนเองก็ด้วย

“เมื่อคืนตอนแรกที่ประตูห้องปิดใส่หน้ากูนึกว่าพวกมึงแกล้ง พยายามดันแต่ก็สู้แรงพวกมึงไม่ได้ ตอนได้ยินเสียงพวกมึงตะโกนกันกูก็ยังไม่เชื่อนะ คิดว่าพวกมึงแกล้งหลอกกูจริงๆ แต่แป๊บเดียวก็ตงิดๆ ว่าไม่น่าใช่ แม่งตะโกนกันแบบจริงจังมาก ยิ่งบอกให้กูวิ่งหนีไปกูเลยรู้ละว่าไม่ได้แกล้ง กูก็จะวิ่งนั่นแหละ แต่พอจะวิ่งแม่งหันมาเห็นยืนอยู่ข้างๆ กูเลย”

“เหี้ย....มาเต็มๆ อีกแล้วเหรอวะ” เต้ยกขาสองข้างขึ้นจากพื้นแล้วแบ่งผ้าห่มคนไข้มาคลุมขาตัวเอง ใต้เตียงมันโล่งๆ เย็นๆ พิกล สิงหากับโบ้นั่งอยู่ที่โซฟาข้างเตียง ปล่อยให้เต้ทำหน้าที่ซักถามเพียงคนเดียว

“เออดิ ขากูแม่งแข็งไปหมด ถ้าจะวิ่งหนีก็ต้องวิ่งผ่านตัวเออีซีไป เกิดแม่งผลุบเข้าสิงกูขึ้นมาจะทำไง กูถอยไปยืนชิดประตูห้องน้ำ ตอนนั้นคือไม่กล้าขยับไม่กล้าหายใจด้วย แต่เหี้ยแม่ง เออีซีเสือกขยับก่อน มันหันหน้ามาเว้ย

“โอ้วววว มึงเห็นหน้ามันเต็มๆ เลยดิ”

“ไม่เห็น แค่หัวมันเริ่มหันมาหูกูก็แว่วไปเองว่าได้ยินเสียงแก๊กๆๆ เหมือนหนังผีเวลาบิดหัวน่ะ แค่เอียงมานิดเดียวกูเปิดประตูห้องน้ำแล้วขังตัวเองอยู่ข้างใน กูพยายามยืนให้ไกลประตูที่สุด ตอนนั้นพระเอยบทสวดเอยไม่อยู่ในหัวกูเลย กูท่องอย่างเดียวคือ อย่านะมึงๆๆ อย่าเข้ามานะมึง อย่านะมึงๆ”

“ตอนที่ประตูเปิดไม่ได้พวกกูก็หาทางพังประตูกัน มันใช้เวลาไม่นานเลยนะถ้านับจากตอนที่เสียงมึงเงียบไป ตอนนั้นคงโดนแล้ว ห้านาทีได้มั้ง” สิงหานึกทบทวนเหตุการณ์ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก

“สำหรับกูแม่งนานเหี้ยๆ กูคิดว่ากูรอดแล้วนะ เพราะไม่มีเสียงเคาะประตูเหมือนคืนก่อนๆ รู้ตัวอีกทีแม่งยืนจับมือกูอยู่ข้างเลย เหี้ยมากแม่งเอ๊ย” ชวินพูดพร้อมถูทั้งข้อมือฝ่ามือตัวเองเหมือนมีอะไรบางอย่างติดอยู่ สายตาทุกคู่มองมือคู่นั้นที่มันถูจนเริ่มแดง แขนสั่นนิดๆ ถึงคำบอกเล่าจะพยายามให้ตลก แต่อาการทางกายมันไม่ใช่เลย มันกลัวมากและพยายามหลอกตัวเองว่าไม่กลัว อาการมันยังไม่ปกติจริงๆ โชคดีที่มันรู้ตัวและหมอน่าจะสังเกตเห็นเลยได้นอนรักษาตัวต่ออีกคืน

“เออๆ ใจเย็นๆ เว้ย ไม่มีอะไรแล้ว ถอดพระที่คอมาถือไว้ก็ได้ กำพระเอาไว้” โบ้ลุกขึ้นลูบหลังเพื่อน ดึงสร้อยพระในคอเสื้อออกมาให้อีกฝ่ายเห็นแล้วจับมือชวินให้กำเอาไว้

“เหี้ย...กูว่ากูรู้จักมันนะ ไอ้เออีซีเนี่ย” ชวินหลับตาพยายามลืมภาพที่ติดตาแต่เขาทำไม่ได้ เขาไม่ได้เห็นชัดเลย แต่เพราะความไม่ชัดนี่เองที่ทำให้มันฝังอยู่ในหัวตลอดเวลา

“จริงเหรอวะ เห็นหน้าเหรอ” เต้ถาม

“ไม่ว่ะ กูไม่กล้าก้มมอง พอรู้สึกเย็นๆ ที่มือเลยก้มไปมองเห็นหน้ามันแวบเดียวแต่มันคุ้น เสียงที่มันพูดก็คุ้น” มันเป็นความคุ้นเคยที่บอกไม่ถูก ไม่น่าจะใช่คนสนิทแต่เขาต้องเคยเจอมาก่อนแน่นอน

“มันพูดกับมึงด้วย” สิงหาถามในสิ่งใหม่ที่เพิ่งรู้ เป็นครั้งแรกที่ผีเด็กนั่นสื่อสารออกมา ปกติมีแต่แวบไปแวบมาตลอด ความหวังที่จะไล่ผีออกจากห้องได้เริ่มกลับมา แต่เมื่อได้ฟังว่าผีเด็กนั่นพูดอะไรก็ต้องผ่อนลมหายใจทิ้งอย่างหมดหวังอีกครั้ง

“เออ พูดเหมือนเดิมเลย ชวนกูไปเล่นด้วย กูแม่งนึกว่าตัวเองสลบไปนะ อยู่ดีๆ ภาพมันก็ตัดแล้วมาตื่นที่นี่เลย”

“ตอนมึงขังตัวเองไว้ในห้องน้ำมึงได้ล็อกห้องหรือเปล่า” โบ้ถาม

“ล็อก กูกลัวเออีซีมันเปิดประตูเข้ามา พอล็อกแล้วก็เลยยืนลุ้นเสียงเคาะประตูไง ปกติแม่งโคตรมีมารยาท เคาะประตูทุกคืน คราวนี้เสือกเหี้ยเข้ามาไม่บอกไม่กล่าว”

“แต่ตอนพวกกูเข้าไปช่วยมึงประตูไม่ได้ล็อกนะ” โบ้พูดในสิ่งที่ตัวเองกำลังสงสัย เขาจำได้แม่นว่าประตูห้องน้ำไม่ได้ล็อก ไม่งั้นคนเสียเวลาพังประตูเข้าไปอีกนาน

“กูล็อก!!”

“ไม่ๆ คือกูอยากจะบอกว่าเออีซีมันช่วยเปิดประตูให้พวกกู ไม่งั้นต้องเสียเวลาพังประตูกันอีก ไม่ง่ายนะเว้ย” โบ้รีบอธิบาย เขาไม่ได้ไม่เชื่อเพื่อน แต่เขาคิดว่าเออีซีอาจไม่ตั้งใจทำอันตรายอะไร ไม่งั้นคงไม่ช่วยปลดล็อกประตู

“ช่วยเหี้ยไร ถ้าช่วยกูจะมาอยู่ที่นี่แบบนี้เหรอ”

“เรื่องความน่ากลัวก็ส่วนหนึ่งไง แต่มันอาจจะไม่ได้อยากทำอะไรมึง ไม่งั้นกูว่ามึงโดนหนักกว่านี้อีก”

“ไม่รู้ว่ะ มาดีมาร้ายกูก็กลัวหมดล่ะ ห้องพระที่บ้านพ่อกูยังกลัวเลย” ชวินเถียงเสียงอ่อนลง ไม่ยอมคล้อยตามโบ้ง่ายๆ

“จะช่วยไม่ช่วย ดีหรือร้ายก็ช่างมันเถอะ ไม่ต้องไปยุ่งอีกหรอก” สิงหาตัดปัญหาที่กำลังเถียงกันอยู่ ไม่ว่าอะไรก็ตาม ปล่อยมันไป ช่างมัน ชีวิตคนสำคัญกว่า

“กูก็อยากเห็นด้วยกับมึงนะสิง ถึงจะยังกลัวแต่กูว่าเราต้องไปต่อ ไม่อยากยอมรับหรอกว่าเออีซีมันมาดี แต่กูรู้สึกว่ามันเป็นเด็กจริงๆ ว่ะ ตอนโดนจับมือกูไม่ได้รู้สึกว่าผีจะเอาไปอยู่ด้วยแบบตัวตายตัวแทนอะไรแบบนั้นเลยนะ กูรู้สึกว่ามันชวนกูเล่นด้วยจริงๆ เหมือนเวลาหลานกูชวนวิ่งเล่นด้วยกันเลย เพียงแต่ตัวเออีซีแม่งเย็นเกินไปหน่อย” ชวินถอนหายใจเซ็งๆ กับความใจอ่อนของตัวเอง กลัวก็กลัวแต่ลึกๆ มันรู้สึกสงสารอย่างไรไม่รู้

“สรุปคือกลัวเกินไปเองเลยช็อกใช่ไหม ผีไม่ได้ทำอะไรมึง” เต้สรุปอาการของเพื่อนเรียบร้อย

“บอกให้เรียกเออีซีๆ ไอ้ห่านี่ เออๆ กูคนมันอ่อน ถ้ามึงโดนมึงก็เป็นเหมือนกูนี่แหละ ขนาดวันนั้นไอ้สิงเห็นแวบๆ ยังวิ่งเลย”

“พอๆ ไม่ต้องเถียงกัน เดี๋ยวพยาบาลมาไล่พอดี มึงไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว นอนพักอีกสักหน่อย มือมึงยังสั่นอยู่เลย ไม่ต้องทำเป็นปากดี กูว่าจะกลับคอนโดฯ ไปเอาเสื้อผ้า มีใครจะไปด้วยไหม” สิงหาเมินหน้าไม่สนใจสายตาสองคู่จากคนบนเตียงที่มองมาอย่างล้อเลียน เรื่องแบบนี้ใครเขากล้ากัน

“กูไปๆ เดี๋ยวขนของมาหมดเลยก็ได้ ไปนอนบ้านชวินแล้วก็คงไม่ได้กลับไปคอนโดฯ พวกมึงอีก” โบ้อาสาอีกคน ของยังอยู่ที่คอนโดฯ ไปขนมาทีเดียวพรุ่งนี้จะได้ไปบ้านชวินเลย

“เออ กล้องกูเมื่อคืนมีใครหยิบมาไหม ตอนเกิดเรื่องกูโยนถุงทิ้งไว้ไหนไม่รู้ว่ะ” เต้ถามถึงของที่ตั้งใจไปเอามาเมื่อคืน แต่สุดท้ายหายไปจากมือตอนไหนไม่รู้

“ถุง....กูถือโยนไว้อยู่หน้าห้องน้ำ...มั้ง” ชวินบอกเสียงอ่อน เขาเดาๆ เอาเพราะจำไม่ได้เหมือนกัน

“ของกูไม่รู้เหมือนกัน อาจจะในห้องทำงาน” เต้เสียงอ่อนยิ่งกว่า แถมยังก้มหน้าหลบสายตาเพื่อน ที่บอกอย่างนี้เพราะตั้งใจแล้วว่าจะไม่ไปด้วย

“ถามหาทำไม มึงอยากดูเหรอ” โบ้มองสองคนบนเตียงที่พยายามโยนภาระหนักให้เพื่อน

“อยาก เราโดนหลอกกันโคตรเยอะเลยนะ มันต้องถ่ายติดช็อตเด็ดๆ บ้างสิ”

“เดี๋ยวกูไปเอามาให้ก็ได้ ค่อยดูพร้อมกันที่บ้านชวิน” สิงหาเห็นด้วยกับเต้ เขาเองก็อยากเห็น ยิ่งชวินบอกว่าคุ้นเสียงคุ้นหน้า ถ้ามีภาพถ่ายติดหน้าก็อาจจะรู้อะไรมากกว่านี้ แก้ปัญหาได้ตรงจุดมากกว่า เขาอุตส่าห์ปล่อยวาง แต่คนโดนดียังไม่เข็ดก็ได้แต่ตามใจ



เมื่อทุกคนแบ่งหน้าที่กันเรียบร้อย สิงหากับโบ้สองคนกล้าของกลุ่มก็กลับมาที่คอนโดฯ ทั้งสองคนเลือกที่จะไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าของเต้กับโบ้ รวมถึงจัดเสื้อผ้าให้ชวินสองชุดสำหรับใส่ออกจากโรงพยาบาลวันพรุ่งนี้ หยิบสัมภาระทั้งหมดลงมาเก็บไว้ในรถก่อนจะกลับขึ้นไปใหม่อีกครั้ง ปลายทางคือห้องของสิงหา


ชายหนุ่มผู้กล้าสองคนยืนจ้องประตูห้องมาสักพักแล้ว ทั้งคู่พยายามเอียงหูแนบประตูห้องฟังความเคลื่อนไหวข้างใน ไม่มีเสียงอะไรผิดปกติ พวกเขายืนสงบนิ่งทำใจและไว้อาลัยให้ตัวเอง ไม่น่าทำใจกล้าเกินหน้าเพื่อนเลย มาแค่สองคนใจมันหวิวๆ ชอบกล สิงหาหยิบคีย์การ์ดแตะเพื่อปลดล็อกประตู พยักหน้าส่งสัญญาณให้โบ้ก่อนเปิดประตูเข้าไปช้าๆ โชคดีที่มาตอนกลางวัน แสงแดดจากข้างนอกส่องเข้ามาภายในห้องนั่งเล่นทำให้ทั่วพื้นที่ค่อนข้างสว่าง ไม่มีบรรยากาศอึมครึมเหมือนที่ผ่านมา ทั้งคู่เข้าไปในห้องนอนสิงหาก่อนเพื่อเก็บเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นลงกระเป๋าลากใบใหญ่ คาดว่าหลังจากโอนเงินค่าเช่าห้องและค่าประกันห้องเรียบร้อยก็คงไปอาศัยห้องเช่าชั่วคราว ของทุกอย่างถูกกวาดใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็วแล้วลากกระเป๋าไปวางไว้หน้าลิฟต์ เดินกลับเข้ามาด้านในเพื่อทำภารกิจสำคัญอีกครั้ง


สองมือใหญ่ของชายหนุ่มกุมกันแน่นอย่างไม่เคยทำมาก่อน ซ้ายมือของสิงหาคือห้องทำงาน ขวามือของโบ้คือห้องน้ำ สถานที่โคตรอันตรายที่สุดในห้อง แต่กล้องดักถ่ายที่ต้องมาเอาน่าจะอยู่ข้างในนี้ โบ้เลือกจะเปิดประตูฝั่งตัวเองก่อน อย่างน้อยห้องน้ำก็เพิ่งเคยโผล่มาครั้งแรก อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ห้องทำงานนั้นเป็นที่รู้กันว่า...มีแน่นอน


ประตูเปิด ไฟเปิด ถุงดำที่เป็นเป้าหมายวางอยู่ใกล้ประตูมาก กล้องข้างในหล่นออกมานอกถุงสองตัว เขารีบกวาดใส่ถุงด้วยมือข้างเดียวแล้วพากันเดินออกจากห้องน้ำ ปิดประตูให้เบาแต่เร็วที่สุด สายตาสองคู่หันขวับไปทางซ้ายแทบจะเวลาเดียวกัน และคิดตรงกันว่า...ห้องน้ำไม่มี...เหี้ยเอ๊ย ห้องทำงานมีแน่ๆ อยู่ที่ว่ามันจะออกมาให้เห็นหรือเปล่าแค่นั้น

สิงหาบีบมือให้กำลังใจกันและกัน โบ้บีบตอบกลับมา มือที่ประสานกันชุ่มไปด้วยเหงื่อ แรงบีบรัดของทั้งคู่ไม่น้อยกว่ากัน หากเกิดเหตุฉุกเฉินไม่มีทางสลัดหลุดแน่นอน สิงหาค่อยๆ เอื้อมมือไปแตะลูกบิดแล้วหมุนเบาๆ


แอดดดดดดดดด


เหี้ยยย....เปิดปุ๊บก็เจอเลย ไม่ใช่เออีซี แต่คือถุงใส่กล้องอีกถุงที่ตามหา...อยู่หน้าตู้


“...เหี้ยแล้วไง” โบ้เบิกตาโตกับเป้าหมายที่ต้องการ ตำแหน่งนั้นแทบจะเหมือนกับระเบิด...โคตรไม่ปลอดภัย

“เอาไงดีวะ”

“หาอะไรมาเขี่ยได้ไหมวะ”

“....มึงจับประตูไว้อย่าให้มันปิด เดี๋ยวกูวิ่งเข้าไปหยิบแล้วรีบวิ่งออกมา” สิงหาตัดสินใจให้ทุกอย่างจบเร็วที่สุดดีกว่า วันนี้เขารู้สึกไม่ค่อยดี ไม่ควรอยู่นาน

“เข้าไปด้วยกันก็ได้ เกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยกันทัน”

“ถ้าประตูล็อกแบบเมื่อคืนล่ะ มึงดันประตูไว้นั่นแหละดีแล้ว”

“....เออๆ แล้วรีบวิ่งออกมาเลยนะ วิ่งออกนอกห้องเลย”

“ได้ มึงอย่าวิ่งก่อนล่ะ”

“เออน่า เอายัง”

“เหี้ย ใจไม่พร้อมเลยว่ะ แต่ไม่อยากอยู่นาน เอานะ ดันประตูไว้นะมึง” สองมือที่กุมกันไว้ค่อยๆ ปล่อยออกจากกัน โบ้ใช้ทั้งตัวยืนพิงประตูที่เปิดไว้ ขาข้างหนึ่งยันอยู่ข้างนอก ข้างหนึ่งคาไว้ด้านใน หากมีแรงอะไรดันประตูกลับมาเขาสามารถสู้แรงนั้นได้ชั่วคราว สิงหามองท่าเตรียมพร้อมของเพื่อนแล้วค่อยใจชื้นขึ้น อย่างน้อยก็ไม่ใช่ท่าเตรียมวิ่งหนี เขามองไปที่ถุงหน้าตู้ช่องนั้นที่ปิดสนิทอยู่ สูดลมหายใจเฮือกใหญ่เข้าปอด ก่อนก้าวเข้าไปในห้องเต็มตัว สับเท้าวิ่งไปใกล้ถุง ย่อตัวลงกวาดกล้องที่หล่นอยู่รอบๆ เข้าไปให้ถุงด้วยความรวดเร็ว สองตาจับจ้องบานตู้ที่ปิดสนิท แต่ไม่รู้จะปิดอีกนานไหน เก็บกล้องทุกตัวใส่ถุงเรียบร้อยก็ลุกหันหลังวิ่งออกจากห้อง

แอดดดด

“เหี้ย! ตู้เปิดๆๆๆ” โบ้ที่ยืนมองอยู่เห็นจังหวะที่สิงหาลุกขึ้น พร้อมๆ กับตู้ที่ค่อยๆ เปิดออก พริบตาที่สิงหาวิ่งมาถึงตรงหน้าเขาก็หันหลังขวับ วิ่งผ่านห้องนั่งเล่น เลี้ยวไปทางเดินหน้าประตู เอื้อมมือคว้าลูกปิดแล้วกระชากเปิดออก วิ่งจนถึงหน้าลิฟต์ที่กดเรียกเอาไว้

ปิดๆๆๆๆๆ” สิงหาวิ่งเข้าลิฟต์ตามหลังโบ้มาปิดๆ มือหนึ่งกำถุงใส่กล้อง อีกมือลากกระเป๋าเดินทางของตัวเอง นิ้วมือโบ้กดรัวๆ ให้ลิฟต์ปิด จนเมื่อมันปิดสนิท ทั้งสองค่อยทิ้งร่างลงไปนั่งกองกับพื้นพร้อมๆ กัน

“แม่งเอ๊ย มันเปิดใช่ไหม กูเหมือนได้ยินเสียงตอนกำลังลุก” สิงหาเสยผมปาดเหงื่อบนหน้าผากตัวเอง ปลายนิ้วสั่นเล็กน้อยแต่ไม่นานก็หยุด

“เออ กูเห็นเต็มๆ ตาเลย พอมึงลุกแม่งก็เปิด ไอ้ห่า กลางวันก็ไม่หลับไม่นอน เด็กเหี้ย”

“อย่าเพิ่งด่าไอ้ห่าโบ้ ยังไม่พ้นตึกเลย”

“ขอโทษ ล้อเล่น อย่ามานะ” แน่นอนว่าคำขอโทษนี้ไม่ใช่สำหรับสิงหาคม

สองเพื่อนสนิทผู้ร่วมชะตากรรมตกลงกันว่าจะไม่เล่าเรื่องนี้ให้คนป่วยอย่างชวินฟัง แต่เมื่อกลับมาถึงห้อง ทั้งคำถามแบบซักไซ้ไปทุกเรื่องของเต้ สีหน้าอยากรู้แต่ไม่อยากฟังของชวิน ทำให้สองผู้เคราะห์ร้ายหมั่นไส้เลยเล่าเรื่องทุกอย่างที่เจอออกมาแบบละเอียดยิบ...คืนนั้นนางพยาบาลบ่นกับสี่หนุ่มที่ร้องขอยานอนหลับซึ่งไม่สามารถจ่ายยาให้ได้ ทั้งสี่คนเลยได้แต่ตาค้างจนผล็อยหลับไปเอง



วันรุ่งขึ้นหลังจากหมอตรวจอาการอีกรอบ ชวินก็จ่ายค่าห้องค่ารักษาแล้วนั่งรถไปโรงแรมฯ ของที่บ้านเพื่อกินอาหารเที่ยงแล้วแวะชิมเบเกอรี่ที่ร้านกาแฟในโรงแรมเพื่อเลือกเมนูที่จะสั่งทำไปขายที่ร้าน ปกติแล้วร้านของโรงแรมไม่ทำส่งให้ร้านอื่นข้างนอก แต่เจ้าของร้านและเชฟคือพี่สาวของชวินเอง ทุกอย่างเลยลงตัว พนักงานของร้านที่ส่งมาอบรมที่นี่ก็มานั่งร่วมโต๊ะเพื่อช่วยออกความเห็น รวมถึงฝ้ายและคนขับรถที่ตามมาสมทบ

“พวกทาร์ตต่างๆ ต้องมีแน่นอน ช่วงแรกเอาอย่างเดียวไปก่อน เอาเป็นฟรุตทาร์ต สีสันมันสวยดี” เต้แนะนำในฐานะคนชอบถ่ายรูป

“เอาสองเลย เลมอนอร่อย” โบ้ผลักเลมอนทาร์ตไปให้เพื่อนช่วยกันชิม ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย

“งั้นสองนะ แล้วอะไรอีก” สิงหาจดรายละเอียดลงไป งานเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ถือเป็นงานส่วนตัว ถ้าได้รายละเอียดครบถ้วนค่อยปรึกษาฝ้ายตอนวางบิลก็พอ ปกติเขาเรียกใช้งานฝ้ายเกินขอบเขตมากแล้ว วันนี้ถือว่ามานั่งพักผ่อนก็พอ

“เมนูเบสิกของทุกร้าน บานอฟฟี่ ทีรามิสุ ชีสเค้ก” เต้แนะนำ

“ชีสเค้กสั่งเป็นปอนด์ เอาพวกเป็นชิ้นๆ ก่อน ทาร์ตสอง บานอฟฟี่ ทีรามิสุ ใครอยากเสนออะไรอีก” ชวินรีบเบรกเพื่อนก่อน ทาร์ตกับเค้กไม่เหมือนกัน ความจริงเค้กบางชนิดที่ร้านนี้ก็ทำเป็นเป็นชิ้นเล็กๆ ไม่ใช่เป็นปอนด์แล้วตัดแบ่ง แต่ความต้องการของร้านเราเลือกจะสั่งทำเป็นปอนด์ไปก่อน เพราะมีราคาต้นทุนถูกกว่ามาก

“มาการอง” โบ้แนะนำบ้าง เมนูนี้เขาไม่ค่อยชอบเพราะหวานเกินไปสำหรับเขา แต่ต้องยอมรับว่าร้านนี้ทำกลิ่นและรสชาติออกมากำลังดี

“ใช่ เอาทุกรสเลย” สิงหาสนับสนุน เขาชอบกินกับชาร้อนๆ

“ทุกรสไม่ได้ มันมีซิคเนเจอร์ของที่นี่ ห้ามสั่งไปขาย เอาไปครั้งละห้าหกรสพอ เวียนๆ ไป ยกเว้นอันนี้ห้ามจ้ะ” ชลธิชาพี่สาวชวินรีบขัดเพื่อนสุดหล่อของน้องชายที่ไม่ได้พบกันนาน รอโอกาสพูดแทรกนานแล้ว เธอรู้จักเพื่อนน้องชายกลุ่มนี้ตั้งแต่ยังเรียนกันไม่จบ ตอนนั้นสิงหาดังมาก เธอยังเคยขอลายเซ็นมาเก็บไว้แล้วก็เอาไปให้เพื่อนในกลุ่มตั้งหลายครั้ง ไม่เจอกันหลายปี หล่อขึ้นกว่าเดิมล้านเท่า แม้จะผอมไปหน่อยแต่ดูหนุ่มกว่าน้องชายที่หน้าซีดๆ ของเธออีก

“งั้นผมสั่งครั้งละหกรส พี่จัดให้เลยก็ได้ครับ เวียนๆ ให้ผมหน่อย” สิงหายิ้มให้พี่สาวเพื่อน จดรายละเอียดเพิ่มลงไป

“งั้นพี่แนะนำมัฟฟินอีกอย่าง พี่ทำอร่อยนะ” เธอเลื่อนจานมัฟฟินที่ยังไม่มีคนชิมให้สิงหาได้ลอง เมนูนี้เป็นของโปรดลูกชายที่ไม่ชอบกินเค้ก มัฟฟินช็อกโกแลต หอมๆ หวานๆ แถมยังมีความขมของช็อกโกแลตชิปสูตรพิเศษใส่ลงไปตัดความหวาน

“ได้ครับ งั้นมาต่อที่เค้กนะ ทำลิสต์ไว้สักสามเซ็ทว่าจะสั่งอะไร พอจับกระแสที่ลูกค้าชอบได้เราค่อยหาตัวยืนพื้น” สิงหาชิมแล้วพยักหน้าเห็นด้วย รสกำลังดี ช็อกโกแลตเข้มข้น เขาส่งจานให้ทุกคนช่วยชิมแล้วก็ได้รับการยอมรับเป็นอีกหนึ่งเมนูของร้าน

สิงหาหยิบกระดาษแผ่นใหม่ให้ทุกคนเสนอรายการที่ตัวเองชอบแล้วค่อยลงความเห็นกันอีกที ทั้งเจ้านายลูกน้องร่วมกันออกความเห็นอย่างเป็นกันเอง เหล่าลูกจ้างต่างรู้สึกดีที่ได้มีส่วนร่วมในการเปิดร้าน แม้กระทั่งรายการเบเกอรี่ก็ยังมีส่วนร่วมด้วย ความผูกพันของทุกคนเริ่มต้นตั้งแต่ร้านยังไม่เปิดกิจการด้วยซ้ำ ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณความคิดของชวินที่เป็นคนแนะนำ การเปิดร้านสักร้านไม่ยาก หาลูกค้าก็ไม่ยาก ขอแค่ทำเลดี ของดีจริง รายได้ก็เข้ามา แต่คนที่จะทำงานให้เรานั้นหายาก ร้านอาหารร้านหนึ่งอาจต้องปิดกิจการหากแม่ครัวพ่อครัวลาออก ลูกค้าอาจมีอิทธิพลต่อร้านจนเปรียบเหมือนพระเจ้า แต่บรรดาลูกน้องคือครอบครัวของเราที่ต้องคอยดูแล เมื่อเกิดปัญหาคนทั่วไปคงไม่ทำร้ายพ่อแม่พี่น้องเพื่อปกป้องคนนอกแน่นอน

จบเรื่องร้าน เจ้านายทั้งสี่โบกมือลาลูกน้องเดินทางกลับบ้าน สิงหาแยกไปคุยกับฝ้ายและคนขับรถ เพราะช่วงนี้ยังเป็นช่วงพักผ่อนของเขา คนขับรถเลยคอยขับรถให้ฝ้ายแทน เขาแจ้งเรื่องที่จะเช่าห้องเพิ่ม ให้ฝ้ายจัดการโอนเงินค่าเช่าค่าประกันห้องไปให้ ส่วนสัญญาเดี๋ยวเขาจะไปเซ็นเองทีหลัง มะรืนเขาต้องกลับไปถ่ายหนังแต่ช่วงนี้เขาไปค้างบ้านชวินก่อน เดี๋ยวจะส่งแผนที่ให้คนขับรถมารับอีกที แจกแจงรายละเอียดงานให้แต่ละคนเสร็จก็เดินกลับมานั่งรวมกับเพื่อนที่จิบชาแก้เลี่ยน ก่อนจะอพยพไปนอนค้างบ้านชวิน



ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/




เสียงรายการโทรทัศน์ดังขึ้นในช่วงเวลาประจำของบ้าน เวลาพักผ่อนของครอบครัว วันนี้น่านนทีก็ต้องไปทำงานกะดึกอีกวัน พรุ่งนี้เลิกงานเก้าโมงครึ่งเขาต้องรีบกลับมานอนแล้วกลับไปทำงานใหม่ตอนบ่ายสาม เป็นการสลับกะกับพี่โจก่อนถึงรอบที่ต้องเปลี่ยนจริงๆ เวลานอนอาจจะรวนนิดหน่อยแต่สบายใจมากขึ้น

“ถ้าอยู่ไม่ได้ก็โทรมาบอก เดี๋ยวไปนั่งเป็นเพื่อน ได้ใช่ไหม” สมุทรที่เพิ่งกลับมาบ้านวันนี้พูดกับน้องชายที่เล่าปัญหาหลอนๆ ให้ครอบครัวฟังทันทีที่ตื่นขึ้นมาตอนค่ำ เห็นวงจรการใช้ชีวิตของน้องชายแล้วอดเป็นห่วงสุขภาพไม่ได้ กินนอนไม่เป็นเวลาเหมือนคนอื่นเขา ถ้าทำงานนานกว่านี้ต้องมีผลเสียแน่ เพียงแค่ตอนนี้ยังไม่เห็น ที่เห็นได้ชัดก็มีพวงแก้มใสๆ ที่ดูจะบวมขึ้นทุกครั้งที่กลับมาบ้าน น้ำหนักขึ้นจนอยากล้อแต่ก็เบื่อง้อเวลามันงอน

“เข้าไปได้ แต่คงไม่มีอะไรหรอก ใกล้ๆ ก็มีพวกซีเคียวอยู่ แต่ให้โต้รุ่งช่วงนี้น้องไม่ไหว บอกเลย”

“ว่างๆ ก็พามาแนะนำกับพี่ด้วย หัวสูงนะมึง คบดารงดารา” สมุทรแกล้งพูดแขวะน้องชายที่ถือชามข้าวราดแกงมานั่งกินหน้าโทรทัศน์ก่อนไปทำงาน

“พูดกับน้องดีๆ” พ่อเอ่ยปราม ไม่ชอบได้ยินลูกพูดไม่เพราะ การศึกษาเขาไม่สูงแต่เขาชอบให้ลูกๆ พูดกันเพราะๆ พูดมึงกูใส่กันเดี๋ยวต่อไปก็ไม่เคารพกัน พี่ก็ต้องทำตัวเป็นพี่ที่ดี น้องก็ต้องเป็นน้องที่น่ารัก

“พวกดารามันเจ้าชู้จะตายพ่อ ไอ้ปิงมันจะไปรู้เรื่องอะไร เอ๋อๆ แบบนี้”

“พี่หมุดนั่นแหละเอ๋อ คุณสิงออกจะดี เนอะแม่เนอะ หล่อไม่เท่าเขาแล้วอิจฉาอะดิ”

“ไม่อิจฉาเลยครับ หล่อแต่สายตามีปัญหา มาคบอะไรเด็กกะโหลกกะลา วันๆ ยังปั้นขี้มูกกินอยู่เลย”

“แคะเฉยๆ ไม่ได้กิน วุ้ย ตัวเองไม่เคยแคะเลยรึไง” น่านนทีรีบดึงนิ้วออกจากจมูก กับข้าวมันเผ็ดน้ำมูกเลยไหล ตอนเช็ดออกมามันมีก้อนๆ ก็เลยอยากเช็ดให้มันสะอาด โล่งๆ จมูกแค่นั้นเอง

“พ่อแม่ดูๆ แล้วเขาก็ดี ไม่ได้เข้ามาแบบหวือหวา เรียบๆ เรื่อยๆ รู้จักเข้าหาผู้ใหญ่ ไม่ใช่ไปแอบๆ คบหากัน พ่อว่าดีนะคนนี้” นานๆ ทีพ่อจะพูดชมใครสักคนแสดงว่าดาราคนนั้นน่าจะดีจริง อีกทั้งคำพูดของพ่อมีคำสอนแฝงอยู่ ปัญหาของแฟนเก่าเขากับครอบครัวมีรอยบาดเล็กๆ ให้เห็นตลอด เธอเข้ากับครอบครัวของเขาไม่ได้เลย และไม่เคยพยายาม อาจเป็นเพราะตอนเริ่มต้นต่างฝ่ายต่างเข้าหากันโดยไม่เปิดเผยกับผู้ใหญ่ ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งทางกายทำให้บางครั้งการไปเผชิญหน้าครอบครัวของอีกฝ่ายก็ทำให้รู้สึกอึดอัด หลายๆ คนมักพูดติดปากในกลุ่มเพื่อนว่าคนนั้นเมียคนนี้ผัว แต่ไม่มีใครกล้าพูดต่อหน้าคนในครอบครัวแน่นอน

“ดีเกินไปผีเลยมาอยู่ด้วยเลยเนี่ย พ่อแม่รู้จักหมอผีเก่งๆ บ้างไหม เรียกไปปราบผีห้องนั้นที” น่านนทีรีบพูดเปลี่ยนเรื่องเพราะเห็นพี่ชายหน้าสลดลง คงยังคิดมากเรื่องแฟนเก่า บอกให้เลิกกันตั้งนานแล้วก็ทนอยู่ได้ เข้ากับใครในบ้านไม่ได้สักคน แต่เอาเถอะ ในเมื่อเลิกแล้วน้องที่ดีอย่างเขาก็จะไม่ซ้ำเติมพี่

“เรื่องแบบนี้ใครจะไปรู้ แม่เห็นรายการในทีวีชอบเอาคนมาเล่าเรื่องผีนี่ มีพวกหมอผีหมอดูเก่งๆ ตั้งเยอะ พี่สิงเขาน่าจะติดต่อไปทางนั้นนะ” แม่รีบแนะนำในฐานะแฟนรายการทีวี ดูแทบทุกรายการของทุกช่อง ที่ไม่ดูคือโฆษณา ช่วงเวลาที่หงุดหงิดที่สุดคือทุกช่องโฆษณาพร้อมกัน

“เขาไม่อยากเป็นข่าวไงแม่”

“นิมนต์พระไปสวดสักรอบพ่อว่าน่าจะดีขึ้นนะ คราวก่อนมันทำบุญบ้าน ไม่ได้สวดเรียกผีตรงๆ มันเลยแก้ไม่ได้ไง”

“เดี๋ยวนะพ่อ เรียกหรือไล่ น้องมันจะให้ไล่นะ ไม่ใช่เรียก เดี๋ยวก็มากันเพียบ”

“เรียกนั่นแหละถูกแล้ว เหมือนเวลามีคนตายไง เขาก็ต้องหาพระไปทำพิธีเรียกให้ผีกลับบ้าน หรือเรียกไปวัด บางทีเขายังไม่รู้ตัวว่าตาย หาทางกลับไม่ได้ก็มี” พ่อยิ้มขำกับคำพูดของลูกชายคนโต แต่เขาไม่ได้พูดผิด พิธีเรียกผีกลับบ้านมันมีจริงๆ คนทั่วไปเขาก็ทำกัน

“จำตอนงานยายไม่ได้หรือไง ที่เอาพระไปเรียกที่ห้องดับจิตโรงพยาบาลน่ะ เรายังพาน้องวิ่งหนีอยู่เลย” แม่แซวลูกชายคนกลางที่เคยทำวีรกรรมไว้เมื่อตอนยังเด็ก ขอตามผู้ใหญ่ไปดูเขาทำพิธี แล้วก็เกิดกลัวไปเอง อุ้มน้องวิ่งหนีร้องไห้จ้ากันทั้งคู่

“น้องมันปอดแหกเองเหอะ หมุดไม่ได้กลัวอะไรมากเลย เห็นน้องร้องก็เลยพาวิ่ง” สมุทรใส่ร้ายน้องทันที เพราะตอนนั้นยังเด็กทั้งคู่ น่านนทีก็อายุไม่กี่ขวบน่าจะจำไม่ได้ ซึ่งก็จริงเพราะคนถูกกล่าวหานั่งมองตาแป๋ว คุณยายเสียตั้งแต่เขายังเรียนประถม เขาพอจะจำได้บ้างนิดหน่อยแต่เรื่องที่กำลังพูดกันอยู่ไม่ได้เลย

“มิน่าโตมาปิงกลัวผีมาก สงสัยเพราะพี่หมุดพาไปวันนั้นแน่เลย”

“พอกันล่ะทั้งธารทั้งหมุด ชอบแกล้งจ๊ะเอ๋น้องดึกๆ บางทีเดินขึ้นบันไดก็แกล้งจับขา น้องเข้าห้องน้ำก็แกล้งปิดไฟ ร้องไห้แทบทุกวัน พ่อเขาตีก็ไม่เข็ด เห็นน้องร้องล่ะหัวเราะชอบใจกันอยู่สองคน” แม่พูดวีรกรรมความแสบของพี่ๆ ที่ชอบแกล้งน้องเล็กอย่างน่านนที แกล้งน้องแล้วก็โดนพ่อตี แต่ก็ไม่เคยจะโกรธเกลียดน้อง กลับรู้สึกรักและสงสารน้องมากขึ้น ตอนเธอตั้งท้องน่านนทีเธอทำงานหนักมากเพราะมีลูกอีกสองคนต้องดูแล สุขภาพเลยไม่ค่อยดี น่านนทีเกิดมาจึงตัวเล็กมาก ต้องอยู่ในตู้อบเกือบเดือน สุขภาพก็ไม่ค่อยดี เด็กๆ เป็นโรคหอบ วิ่งเล่นนิดหน่อยก็หอบ ร้องไห้หนักๆ ก็หอบ สามีเธอจึงโมโหทุกครั้งที่พี่ๆ พากันแกล้งจนน้องร้องไห้แล้วบางครั้งอาการหอบก็กำเริบ แต่เด็กวัยนั้นยังไม่เข้าใจว่าหอบหมายถึงอะไร ทรมานแค่ไหนกับการหายใจไม่เต็มปอด ถึงจะถูกดุถูกตีแต่ทุกคนก็รักน้อง ทั้งสามพี่น้องก็รักกันและช่วยดูแลกันและกัน แบ่งเบาภาระพ่อแม่ได้มาก จนถึงวันนี้ทุกคนก็เรียนจบมีอนาคตดีๆ รออยู่ สร้างความปลื้มใจให้พ่อแม่มากเหลือเกิน



สี่เพื่อนสนิทพยายามใช้เวลาว่างจัดการงานที่ร้านให้เรียบร้อย ทุกคนแกล้งทำเป็นลืมเรื่องที่ผ่านมาไม่กี่วันนี้ ถุงดำที่เต็มไปด้วยกล้องดักถ่ายยังวางกองอยู่มุมห้องนอน ไม่มีใครเอ่ยปากเสนอให้เปิดกล้องมาดู ชวินโทรตามพ่ออีกครั้งให้รีบกลับมาเพราะลูกชายสุดที่รักกำลังเจอปัญหาใหญ่ แต่พ่อย่อมรู้ทันลูกว่าปัญหาที่ว่าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย จึงยืนยันวันเดินทางกลับเหมือนเดิมคือพุธที่จะถึง ซึ่งเพื่อนๆ ทุกคนก็ต้องแยกย้ายกันกลับไปทำงานของตัวเองแล้ว สิงหาเป็นคนแรกที่กลับไปทำงานก่อน แต่ยังคงกลับมานอนที่บ้านชวินจนถึงวันอาทิตย์ แน่นอนว่าช่วงนี้เขาไม่ได้เจอน่านนทีเลย จนถึงวันนี้...วันแรกที่จะได้เจอน่านนทีและ...กลับคอนโดฯ

“คืนนี้ผมก็กลับแล้วนะ คงไปนอนห้องใหม่เลย ชวินจะอยู่บ้านรอพ่อมันก่อน ปิงเลิกงานตอนไหนครับ” สิงหาโทรคุยกับคนรักในช่วงพักกอง น้ำหนักที่พยายามกินให้เพิ่มยังไม่ได้ตามเป้าที่ผู้กำกับต้องการ แค่เวลาห้าวันน้ำหนักขึ้นมาได้หนึ่งกิโลกรัมก็เก่งแล้ว แต่ปัญหานี้แก้ง่ายโดยช่างแต่งหน้าที่จัดการแต่งให้เขาผอมกว่าความเป็นจริงตั้งแต่ฉากแรก ตอนนี้ก็แค่ไม่แต่งหน้าแบบนั้นอีกก็พอ

“เลิกเที่ยงคืนเหมือนเดิมครับ คุณสิงล่ะ”

“น่าจะไปถึงคอนโดฯ ดึกหน่อย ผมไปส่งปิงกลับบ้านนะ”

“ช่วงนี้พี่หมุดมันอาสารับส่งปิงอยู่ คุณสิงกลับมาเหนื่อยๆ ก็รีบพักผ่อนดีกว่า”

“แต่เราไม่เจอกันสองวันแล้วนะ ตั้งแต่ที่โรงพยาบาล ผมคิดถึง” สิงหาพูดเสียงหวาน พยายามอ้อนให้คนรักใจอ่อน

“ปิงก็คิดถึง แต่ปิงอยากให้คุณสิงพักผ่อนเยอะๆ มากกว่า นะครับ” น่านนทีเกือบหลงไปกับคำว่าคิดถึงแล้ว แต่อยากให้อีกคนพักผ่อนมากกว่า ช่วงนี้มีแต่เรื่องหนักๆ ขับรถกลางคืนคนเดียวเขาเป็นห่วง

“ทำไงดีล่ะ แค่ได้ยินเสียงก็อยากเจอแล้ว”

“คุณสิงอะ....ชอบหยอด เป็นแฟนแล้วไม่ต้องจีบก็ได้”

“พรุ่งนี้หยุดใช่ไหมครับ นอนค้างเป็นเพื่อนผมนะ”

“ไม่หยุดครับ อังคารที่แล้วหยุดไปค้างที่ห้องแล้วไง อังคารนี้ทำงานครึ่งวันตอนเที่ยงถึงหกโมงเย็น แล้วอาทิตย์หน้าเราจะได้เจอกันทุกวันเพราะปิงเข้ากะเช้า” น่านนทีทวนตารางงานตัวเองให้ฟัง แอบขำคนที่พยายามหาข้ออ้างให้ได้อยู่ด้วยกันคืนนี้ อยากตะโกนดังๆ ว่าชวนผิดที่แล้ว คอนโดฯ นี้เขาไม่มีวันนอนค้างอีก ถ้าให้ไปที่อื่นละก็ได้ บอกวันเวลาสถานที่มาเลย

“ผมชอบให้เลิกดึกมากกว่า จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน”

“โธ่...ไม่งอแงนะครับ คุณสิงก็ถ่ายหนังใกล้เสร็จแล้วนี่ พอว่างจะเจอปิงเมื่อไรก็ได้อยู่แล้ว”

“เฮ้อ ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น งั้นแค่นี้นะครับ คืนนี้เจอกัน”

“ครับผม ตั้งใจทำงานนะ” น่านนทีบอกลาอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม เขาเองก็อยากให้สิงหาไปส่งเหมือนกัน แต่พรุ่งนี้สิงหามีคิวถ่ายตั้งแต่ตีสี่ ถ้าเสียเวลาขับรถไปส่งเขา กว่าจะได้กลับมานอนพักผ่อนก็ได้เวลาตื่นพอดี เฮ้อ...คิดถึงเหมือนกันนะ



ผ่านพ้นวันหยุดไปอย่างสบายใจ กล้องดักถ่ายของเต้ยังคงอยู่ในถุงดำที่ตอนนี้ย้ายไปวางไว้ในห้องพระที่บ้านชวิน ทุกคนลงความเห็นว่าจะนัดมาเปิดดูอีกครั้งพร้อมพ่อชวินที่นี่ ร้านทีไทม์ตกแต่งเรียบร้อยและพร้อมเปิดบริการในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ โดยจะทดลองเปิดก่อนระยะหนึ่งเพื่อดูความเรียบร้อยจากนั้นเต้เป็นคนรับหน้าที่จัดงานเปิดร้านอย่างเป็นทางการอีกที รายชื่อแขกที่จะเชิญมาก็จัดการเรียบร้อย เหลือการ์ดเชิญที่มอบหมายให้เต้กับชวินช่วยกันเลือกเพราะน่าจะมีเวลาว่างมากที่สุด ส่วนโบ้ต้องพานักเรียนไปเข้าค่ายธรรมะที่วัด สถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดก็คือที่ที่น่ากลัวที่สุด ทุกคนรู้ซึ้งถึงคำว่าพระไม่ช่วยอะไร ที่ไหนมีพระที่นั่นมีผี และที่วัดมีคนตาย...ทุกคนไว้อาลัยให้โบ้

ความวิตกกังวลตลอดหลายวันที่ผ่านมาทำให้ทุกคนไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องรอบตัว ตรงข้ามกับโลกโซเชียลที่กำลังเกิดข่าวลือและรูปลับที่ถูกปล่อยแล้วส่งต่อๆ กัน รูปแรกมีชายหนุ่มสองคนนั่งเคียงคู่กันบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง ผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งหันหลังและมองไม่เห็นหน้ากำลังบางมือบนแผ่นหลังของอีกคน อีกรูปน่าจะเป็นเหตุการณ์ในเวลาไล่เลี่ยกัน ชายหนุ่มคู่เดิมเดินเคียงข้างกัน และอีกคนที่มีรูปร่างสูงกว่าวางมือไว้บนสะโพกคนข้างๆ แน่นอนว่ามองไม่เห็นหน้าเช่นเดิม มีเพียงคนเดียวในรูปที่มองเห็นใบหน้าชัดเจนทั้งสองรูป...สิงหา



ดาราอักษรย่อ ส.เสือ ย่องควงแฟนหนุ่มตรวจเลือดที่โรงพยาบาล


เฮ้ย ใช่เปล่าวะ หรือคนหน้าเหมือน ส.สิง ใช่เปล่าวะ
อ้าว ตกลงเป็นตุ๊ดเหรอ กูหลงหมั่นไส้มันตั้งนาน
สายเหลืองเว้ยสายเหลือง
เสียดายความหล่อค่ะ ผู้หญิงไทยอยู่ยากขึ้นทุกวัน
ไม่ใช่หรอกมั้ง อาจจะเพื่อนกันก็ได้
เป็นเอดส์ล่ะมั้ง เดินปลอบกันแบบนี้ ได้ข่าวนานแล้วว่ามั่วมาก
ไหนว่าเคยเป็นแฟนมีนาไง ตกลงอีแอบเหรอ
คนข้างๆ ใครวะ ทำไมไม่ลงรูปชัดๆ
อุตส่าห์ชอบคีตะ เสียดายจัง
กูนึกแล้ว ผีเห็นผี เห็นครั้งแรกบอกเลยว่าเพื่อนสาว





—¤÷(`[ ♌ ♡ ▽ ]´)÷¤—





ออฟไลน์ Quatree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ตอนนี้คือหลอนมากอ่ะ :ling3: น้องเออีซีต้องเป็นคนรู้จักของพี่ชวินแน่เลยถึงชวนแต่พี่ชวิน แล้วพี่ชินยังคุ้นเสียงอีก

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ไม่พอออ ค้างง ♪( ´θ`)ノ


Sent from my iPhone using Tapatalk

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
น้องเออีซีชอบพี่ชวินแน่ๆ อยากเล่นกับพี่ชวินอยู่คนเดียว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ janehsih

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อยากรู้แล้วว่าเออีซีคือใครกันแน่ พ่อชวินต้องรู้แน่ๆ อะ มั่วไว้ก่อน55555
ปล.ใครมันปล่อยรูปเนี่ยยยย นายคีตะหรือเปล่า

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
คนที่ให้ข่าวเตรียมเงินไวเยอะ ๆ นะ รออีพี่สิงโต้กลับ  :m31:
ส่วน AEC  รอชวินนึกให้ออกว่าน้องเป็นใคร เกี่ยวกับห้อง หรือ ตัวชวินเอง  :sad3:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น้องเออีซีอาจจะเป็นเพื่อนสมัยเด็กของชวินก็ได้ มาชวนเล่นด้วยตลอด

คุณสิงโดนเล่นงานอีกแล้ว วิบากกรรมคงไม่หมดง่ายๆ สินะ  :hao4:

ออฟไลน์ Tonson777

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เออีซีกับชวินต้องรู้จักกันแน่ๆ ถึงได้โดนหนักอยู่คนเดียว

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
สงสารคุณสิง เมื่อไหร่ข่าวพวกนี้จะหมดไปสักที

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ชวินคุ้นหน้าน้องเออีซี แสดงว่าต้องเคยรู้จักกันมาก่อน หวังว่าพ่อของชวินจะช่วยได้ น้องทำหลอนมากจริงๆ
ส่วนพี่สิงหางานเข้าโดยที่ยังไม่รู้ตัวเลย

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ไม่อยากจะนึกถึงตอนทำพิธี TT
แต่คุณสิงโดนอีกแล้ว โอ๊ยยยย อยู่กันดีๆไม่ได้ใช่มั้ย  :fire:

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :fire:   ไม่รู้ว่าจะอารมณ์ไหนดี   ตื่นเต้น   กลัว  อยากรู้   อบอุ่นกับครอบครัวของปิง   หรือจะกังวลกับข่าวลือของทั้งคู่    เฮ้อ   สรุป  อยากอ่านต่อค่่่ะ

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
สงสารชวิน เป็นเราคงช็อคตายไปแล้ว น้อง AEC อาจเป็นคนที่พี่ชวินเคยเล่นด้วย แต่อยากรู้ทำไมมาอยู่ห้องคุณสิง
โบ้กลัวจนโมโหลืมตัวด่าน้อง AEC  ความหลอนลดฮวบเลย กลายเป็นAECขี้เหงาน่าสงสารไปเลย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
กล้าๆกลัวๆจะอ่านจนจบหรือรออ่านตอนเที่ยงดี​ บอกตรงๆว่ากลัว​ ตีสามตีสี่นะตอนอ่านเรื่องนี้อะ​  :ling3:  :ling3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
งานเข้าสิงกันน่านอีกแล้ว

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
เออีซียังไม่เครียร์เรื่องใหม่มาอีกแล้ว :ling1:

ออฟไลน์ sripaerrr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ลูกแม่บ้านคอนโด​ป่าวววว ไปเผลอรับปากตอนน้องมันชวนเล่นตอนน้องมีชีวิตมาใช่มั้ย วอแวจะเล่นอะไรนักกกกกก

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ว๊อยยยยย ลุ้นก็ลุ้น ขำก็จะขำ คิดได้ไง ให้เรียกกันว่า เออีซี 555555 ฉันขำมากตอนวิ่งหนีมาที่ลิฟท์ แล้วบอก เด็กเหี้ยไร กลางวันก็ไม่หลับไม่นอน 555555 โอ๊ยยยยย กลัวก็กลัวขำก็ขำ

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
สงสารชวินมากอ่ะ กลัวจนช็อคเลย เด็กเออีซีคนนั้นจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับชวินแน่เลย

แต่ก็แอบบสงสัยว่า ถ้ามีความเกี่ยวข้องกับชวินแล้วน้องมาอยู่ที่ห้องของสิงหาทำไม

ทำไมไม่ไปหาชวินที่ห้องเลยล่ะ ปล่อยให้มาผจญภัยในห้องห้องของสิงหาอยู่ได้ ให้หัวใจวายเล่น

คนอ่านก็ลุ้นจนมีเกร็งตามชวินไปติด ๆ เลย แล้วยังจะเหลือ camera traps ที่ยังไม่ได้เปิดดูอีก OMG ลุ้นกันให้เกร็งไปเลยตอนเปิดดู  :katai1: :katai1: :katai1: ภาวนาว่าคงไม่มีภาพน้องติดอยู่หรอกเนาะ น้องเขาอาจจะไม่ชอบถูกถ่ายรูปก็ได้นะ   :ling3: :ling3: :ling3:

ออฟไลน์ JaikOrn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 o22 น้องเออีซี ... น้องมาดีใช่ไหม น้องคงเหงาอยากเล่นกับชวิน หรือชวินกับพ่อเคยทำอะไรไว้กับน้องเออีซี ในกล้องนั้นต้องมีความคืบหน้าของน้องเออีซี ตัดมาที่เด็กปั้นขี้มูกของพี่สิงงานเข้าแล้วอ่ะ มีรูปหลุดไปได้ยังงัย ฝีมือพีทรึเปล่า พี่สิงเปิดเผยไปเลยดีไหมคะ

ผีก็กลัว หิวก็หิว เมนูขนมหวานมาหมดเลยยยยย อ่านไปก็อยากกินตั้งแต่ข้าวเหนียวหมูปิ้ง โจ๊กหมูเด้ง ชีสเค้ก มัฟฟิ่น ทีรามิสุ ทาร์ตผลไม้ มาการอง ร้านทีไทม์จะเปิดแล้ว ความหลอนความหิวรอตอนหน้าใช่ไหมคะ ^^
รอความหวานด้วยค่ะ ^^ :hao3:

ออฟไลน์ nisaday

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น่ากลัวทั้งตอนจนกลบความน่ากังวลของข่าวลือคุณสิงไปเลยจ้ะ
ชวินต้องอาบน้ำมนต์แล้ววววว
และชวินน่าจะรุ้จักน้องเออีซีแน่ๆ

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
น้องเออีซีซนมากลูกกกกกกก

พี่ขนลุกเลย

อ้าว ผียังไม่ไป ข่าวก็มา ยังไงดี

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด