เคาน์เตอร์กลางล็อบบี้ยังคงเงียบเหงาเหมือนทุกวัน แต่ความตื่นเต้นของน่านนทีต่างไปจากเดิม กับข้าวหลายถุงที่แม่ยัดเยียดให้เขาหิ้วมาฝากลูกบ้านสุดหล่อเป็นเหตุให้เขาจำเป็นต้องโทรหาสิงหา ฝ่ายนั้นบอกว่ากำลังกลับพอดี ไม่รู้เขาคิดไปเองหรือเปล่าที่น้ำเสียงสิงหาเหมือนจะดีใจที่ได้ของฟรี
“สวัสดีครับปิง” สิงหาฉีกยิ้มกว้างให้อีกคนที่ไม่ได้เจอหน้ามากว่าหนึ่งวัน
“สวัสดีครับคุณสิง แม่ปิงฝากกับข้าวมาให้เยอะมาก ถ้ากินไม่หมดเอาแช่ตู้เย็นไว้นะครับ” น่านนทีก้มลงเปิดลิ้นชักแล้วหยิบถุงใบใหญ่ ด้านในมีกับข้าวอยู่สี่ถุงแถมข้าวเปล่าถุงใหญ่อีกหนึ่ง
“โห เยอะมากเลย เกรงใจจัง ฝากขอบคุณคุณแม่มากๆ เลยนะครับ”
“แฮ่ๆ แม่บอกว่าขอค่ากับข้าวเป็นรูปถ่ายน่ะครับ”
“อ้อ ได้สิ คราวก่อนก็ยังไม่ได้ถ่ายให้เลย มาครับ แต่โทรมนิดนะครับ” สิงหาลูบผมให้เข้าทรงนิดหน่อย น่านนทีอดมองค้อนคนที่บอกว่าโทรมไม่ได้ สภาพคนโทรมเทียบกับเขาตอนพยายามดูดีที่สุดยังต่างกันราวฟ้ากับเหว
“ปิงมาถ่ายคู่กันด้วยสิครับ” สิงหาชวนหลังยืนเป็นแบบให้ถ่ายไปสองสามรูป น่านนทีไม่รอช้ารีบไปยืนข้างๆ ยื่นมือไปข้างหน้าเตรียมกดเซลฟี่กับดาราครั้งแรก
“ขยับมาใกล้ๆ ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมถ่ายให้นะ” สิงหาหยิบโทรศัพท์ในมือปิงมาถือไว้เอง ถอยไปยืนเยื้องด้านหลังนิดย่อตัวลงหน่อยแล้วกดถ่ายรัวๆ ไปหลายรูปจนน่านนทีเกือบหลุดหัวเราะกับความเร็วนิ้ว รูปที่ออกมาเลยดูเป็นธรรมชาติมากกว่ารูปอื่น
“น่ารักดี ส่งให้ผมด้วยนะ” สิงหามองรูปคู่รูปแรกแล้วรู้สึกอยากได้ จริงๆ อยากเอาโทรศัพท์ตัวเองมาถ่ายเหมือนกันแต่กลัวน่านนทีจะมองแปลกๆ อันที่จริงเขาเองก็รู้สึกแปลกๆ ที่เริ่มอยากใกล้ชิดอีกฝ่ายมากขึ้นทุกครั้งที่เจอ ความลังเลในคำยุยงของเพื่อนกับความรู้สึกตัวเองตีกันจนไม่ค่อยแน่ใจว่าที่สิ่งรู้สึกเกิดจากตัวเองจริงๆ หรือเพียงแค่อินตามแรงยุ แต่ไม่ว่าจะเกิดเพราะอะไร เขาก็ชอบ...ที่รู้สึกแบบนี้กับน่านนที
“ปิงครับ พรุ่งนี้ผมอยากใช้ห้องมีตติ้ง ต้องทำยังไงบ้าง” พรุ่งนี้เขานัดสถาปนิกมาคุยเรื่องบ้าน เป็นพนักงานบริษัทฯ ชวินที่มันเรียกใช้งานนอกบ่อยๆ ส่วนเรื่องซื้อขายชวินเป็นคนกลางติดต่อให้ จ่ายเงินแล้วโอนโฉนดอังคารหน้า เรื่องร้านเต้ก็กำลังมองหาทำเลดีๆ แล้วเดี๋ยวค่อยขับไปดูสถานที่จริง
“ปกติสามารถจองเองผ่านแอพได้เลยครับ เดี๋ยวปิงเช็คให้ก่อนนะครับว่าห้องว่างมั้ย” น่านนทีกดส่งรูปแล้วสิงหาแล้วเดินกลับไปที่หลังเคาน์เตอร์ เช็คดูห้องประชุมพบว่ายังว่างก็กดจองให้ทันที
“ห้องว่างพอดีเลย คุณสิงจะจองตอนช่วงกี่โมงถึงกี่โมงครับ”
“น่าจะสิบโมงถึงเที่ยง ไม่น่าเกินนี้ แต่ถ้าเกินผมต้องทำยังไง”
“ปิงเช็คแล้วพรุ่งนี้ยังไม่มีคนจองเลย ถ้าเกินแต่ไม่มีคนจองต่อก็ใช้ต่อได้เลยครับ แต่ถ้ามีคนจองก็ต้องออก แต่ด้านนอกห้องประชุมก็มีโต๊ะเก้าอี้บริการหลายจุด สามารถใช้ได้ตลอดเวลาแค่ไม่มีห้องกั้นกับโปรเจคเตอร์เท่านั้นเอง”
“โอเคครับ งั้นสิบโมงถึงเที่ยงนี่ล่ะครับ จะพยายามไม่เกิน”
“ให้จัดคอฟฟี่เบรกด้วยมั้ยครับ ถ้าเป็นเครื่องดื่มทั่วไป คุกกี้ บิสกิตจะมีบริการฟรีในห้องอยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการของว่างอย่างอื่นด้วยจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม”
“สิบโมงน่าจะกินข้าวกันมาแล้ว ขอกาแฟกับพวกคุกกี้ก็พอครับ”
“แขกคุณสิงมีกี่คนครับ”
“สองคนครับ”
“โอเคครับ คุณสิงอ้อมมาดูหน้าจอดีมั้ยครับ ปิงจะได้สอนใช้งานด้วย ถ้าเปิดแอพก็ทำตามขั้นตอนคล้ายๆ กันนี้เลย” น่านนทีขยับให้อีกฝ่ายเข้ามานั่งเก้าอี้อีกตัว
“ตรงนี้นะครับถ้าคุณสิงเข้าแอพก็จะเจอหน้าแบบนี้ คุณสิงก็เลือก Meeting Room เมื่อกี้ปิงไปดูตารางการจองตรงนี้ เห็นมั้ยครับว่ามันว่างอยู่แสดงว่าไม่มีคนจองไม่มีคนใช้งาน คุณสิงก็กดจองได้เลย แล้วก็ระบุเวลาลงไป” เสียงเจื้อยแจ้วอธิบายอย่างตั้งใจ แต่คนฟังกลับเริ่มเหม่อไปทุกที เขาชอบมองน่านนทีพูดนั่นพูดนี่ให้ฟัง เวลาน่านนทีตั้งใจพูดอะไรสักเรื่อง ตาจะเป็นประกาย ปากเล็กๆ มีรอยยิ้มนิดๆ ตลอดเวลาเหมือนสนุกเหลือเกินกับการได้พูดในสิ่งที่ตัวเองพยายามศึกษาออกมาให้คนอื่นฟัง... น่ารักจัง
“คุณสิงว่าอะไรนะครับ”
“หืม... เปล่านี่ครับ” สิงหาคิดว่าตัวเองแค่นึกในใจนะ หรือเผลอพูดออกมา...ไม่มั้ง
“งั้นต่อนะ เมื่อกี้ปิงสอนเฉพาะของห้องมีตติ้ง แต่พวกจองรถก็ทำเหมือนกันเลยครับ อ้อ อีกเรื่องคือเมื่อกี้ที่สั่งคอฟฟี่เบรคจะไม่มีให้ใส่รายละเอียดในแอพ แต่ปกติถ้าคุณสิงจองปุ๊บ คอนเซียซจะรู้ทันทีแล้วก็จะโทรไปสอบถามเพิ่มเติม”
“แล้วพรุ่งนี้ปิงเป็นคนเสิร์ฟหรือเปล่าครับ”
“ปกติจะเป็นเมดหรือบัตเลอร์แล้วแต่ลูกบ้านต้องการครับ แต่บางครั้งปิงก็ไปช่วยดูแลความเรียบร้อยอีกที แต่พรุ่งนี้ปิงเข้างานบ่ายสามคงไม่ได้ดูแลให้นะครับ” น่านนทีตอบไปโดยไม่ได้สังเกตแววตาหม่นลงวูบหนึ่งของอีกฝ่าย
วันรุ่งขึ้นในห้องมีตติ้งที่จองไว้ สิงหาลงมาก่อนเวลานัดนิดหน่อย ถึงอย่างนั้นก็ยังพบบัตเลอร์มาเตรียมจัดสถานที่รอแล้ว มีการจัดแจกันดอกไม้เล็กๆ ไว้พอให้สบายตาแต่ไม่เกะกะ เตรียมเครื่องโปรเจคเตอร์และกระดานไวท์บอร์ด สถาปนิกหนุ่มสองคนและสิงหานั่งคุยกันคร่าวๆ ถึงสไตล์บ้านที่อยากได้ แรกๆ ทั้งสองคนมีเกร็งบ้างเพราะทั้งคู่ยังเป็นมือใหม่ในวงการ ยิ่งรู้ว่าสิงหาเป็นเพื่อนเจ้านายและเป็นดาราด้วยยิ่งกังวลกันไปใหญ่ เมื่อสิงหาไม่ได้วางตัวห่างเหิน แต่พูดคุยด้วยง่ายและสนุกเหมือนคุยกับเพื่อนใหม่คนหนึ่งเลยทำให้การคุยงานราบรื่นมากขึ้น สิงหามีรูปอ้างอิงมาเปิดให้ดูจะได้เห็นภาพรวมชัดเจนมากขึ้น ก่อนหน้านี้เขากับพ่อได้ออกแบบคร่าวๆ เอาไว้แล้วว่าต้องการห้องจำนวนเท่าไร จัดตำแหน่งไว้ตรงไหน ตอนนี้แค่ปรับขนาดหรือตำแหน่งห้องนิดหน่อยให้สอดคล้องกับพื้นที่ ซึ่งสถาปนิกทั้งสองคนต้องไปดูสถานที่จริงด้วยตัวเองอีกครั้ง เขาค่อนข้างละเอียดในการจัดวางตำแหน่งห้อง ห้องรับแขกควรมีแสงธรรมชาติส่องทั่วถึง ห้องนอนต้องไม่โดนแดดเผาช่วงกลางวัน สระว่ายน้ำต้องอยู่ในมุมที่เป็นส่วนตัวหน่อย ทุกคำนึงถึงการใช้สอยมากกว่าความสวยงาม
“เรื่องตัวบ้านผมพอเข้าใจความต้องการคุณสิงแล้ว ส่วนนอกตัวบ้านจะมีโรงรถกับสระว่ายน้ำ โรงรถนี่ต้องการจอดกี่คันครับ”
“สักสามสี่คัน ไม่น่าเกินสี่คันครับ” เขาลองคำนวณจำนวนรถในอนาคตน่าจะมีประมาณสามคันที่ตั้งใจไว้ คือคันปัจจุบันที่เพิ่งซื้อมา ถ้าพ่อแม่มาเมื่อไรก็ต้องมีอีกคันไว้ให้ใช้ แล้วก็อาจจะซื้อรถตู้อีกสักคันเผื่อเดินทางไกลๆ จะได้นั่งสบายกว่า
“งั้นรายละเอียดเท่านี้ก็น่าจะพอแล้วครับ แล้วก็รูปที่คุณสิงให้ดูพวกนี้ส่งให้ผมหน่อยได้มั้ยครับ”
“ได้เลยครับ ส่งทางไหนดี”
“ส่งอีเมลได้เลยครับ นี่นามบัตรส่วนตัวผมครับ”
“โอเคครับ ผมแอดไลน์ไปด้วยเลยแล้วกัน เผื่อมีอะไรก็ติดต่อมาได้ตลอด ผมอยากได้บ้านที่ตรงความต้องการมากที่สุด ใช้สอยได้จริงไม่เน้นสวยงามนะครับ อ้อ ส่วนบันไดหน้าบ้านนี่ขอสโลปด้วย” สิงหาดึงโน๊ตบุ้คมาเข้าอีเมลส่วนตัวแล้วส่งรูปไปให้อีกฝ่าย นัดเวลาส่งแบบร่างครั้งแรกแล้วก็แยกย้ายกัน เขาโทรหาชวินเพื่อขอบคุณเพื่อนอีกครั้ง สองคนที่ส่งมาน่าจะเป็นเด็กปั้นของมัน ไฟแรงแต่อีโก้ไม่สูง สถาปนิกบางคนมีแนวทางของตัวเองชัดเจนเกินไป ไม่ค่อยทำตามความต้องการของลูกค้า ยกเรื่องความสวยงามมาแย้งอยู่เรื่อยๆ แน่นอนว่าจ้างคนออกแบบให้ก็ต้องอยากให้บ้านสวยในระดับหนึ่ง แต่ต้องใช้งานง่ายและใช้งานได้จริง
กลับขึ้นมาบนห้องเช็คไลน์ที่เริ่มแจกให้คนรู้จัก บางคนก็ไปบอกต่อทำให้มีงานเริ่มติดต่อเข้ามา เขาเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบแกงจืดมะระยัดไส้มาอุ่นกินเป็นมื้อเที่ยง ยังเหลือกับข้าวอีกสองถุง รสมือแม่ของปิงอร่อยถูกปากเขาจริงๆ เมื่อวานเขาลองกินปลาดุกผัดพริกไปหนึ่งถุง ปลาทอดกรอบกำลังดี ชุ่มๆ พริกแกงรสจัด กินกับข้าวร้อนๆ ไปสองจาน ถ่ายรูปจานเปล่าสะอาดเกลี้ยงเกลาส่งให้น่านนทีเพื่อฝากชมคุณแม่ แล้วได้บอกฝันดีก่อนนอนเป็นของแถมอีกครั้ง
“สวัสดีครับคุณสิง จะออกไปข้างนอกเหรอครับ” น่านนทีทักอีกฝ่ายที่เดินออกจากลิฟต์มาหา
“ออกไปซื้อของน่ะครับ แม่ปิงทำอาหารอร่อยมากเลย ผมเพิ่งกินแกงจืดมะระหมดไปอีกถุง ปกติผมไม่กินมะระนะ แต่แม่คุณทำไม่ขมเลย”
“แค่รูปที่ส่งให้เมื่อวานแม่ก็แทบกรี๊ดแล้ว ถ้าชมบ่อยๆ มีหวังแม่ต้องเพ้อถึงคุณสิงหนักกว่านี้แน่ พ่อปิงตกกระป๋องพอดี”
“ฮ่าๆๆ อร่อยจริงๆ ครับ ไม่ได้อวย”
“แล้วเมื่อเช้าห้องมีตติ้งเรียบร้อยมั้ยครับ”
“ดีมากครับ มีบัตเลอร์มาดูแลแต่ผมบอกให้เขาช่วยเสิร์ฟก็พอ ไม่ต้องคอยดูแลจนหมดเวลา เออผมว่าจะถามปิงเรื่องบริการซักรีดกับแม่บ้านน่ะครับ อยากรู้เรื่องค่าบริการว่าคิดยังไง”
“ซักรีดมีเรทราคาแบบต่อชิ้นแล้วก็รายเดือน เดี๋ยวปิงเอาใบราคาให้นะครับ”
“งั้นเอาไว้ก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผมต้องออกไปข้างนอกแล้ว ขากลับค่อยแวะมาใหม่ดีกว่า”
“ก็ได้ครับ เดี๋ยวปิงเตรียมเอกสารให้”
“ขอบคุณนะครับ เดี๋ยวซื้อขนมมาฝาก” สิงหาโบกมือแล้วแล้วเดินไปอาคารจอดรถ น่านนทีมองอีกฝ่ายเดินจากไปทั้งที่ข้างในกำลังกังวล ทำยังไงดีนะ คุณสิงดูไม่เครียดอะไรเลย หน้าตาสดใสหล่อเหมือนเดิม น่าจะไม่เจอผีหลอกแล้วล่ะมั้ง น้ำมนต์ที่เอามาฝากคงต้องเก็บกลับไปใช้เอง หรือจะให้แม่เอาผสมในอาหารดี น้ำมนต์นี่ถ้าปรุงรสใส่เครื่องแกงแล้วจะยังขลังมั้ยนะ ปัญหานี้เขาจะถามใครดี
เมื่อตัดสินใจจะรับงานในวงการบันเทิงโดยที่ยังไม่มีผู้จัดการส่วนตัว หลายๆ เรื่องเขาไม่คุ้นเคยเลยได้คำแนะนำจากนักรบให้ลองรับงานเอง ส่วนเรื่องบัญชีหรือสัญญาต่างๆ ถ้าต้องการชั่วคราวเดี๋ยวนักรบจะให้ผู้ช่วยตัวเองมาคอยดูแลให้ เอาไว้รับงานเต็มตัวค่อยหาผู้จัดการส่วนตัว ก่อนอื่นที่ต้องทำคือซื้อโทรศัพท์มือถือพร้อมเบอร์ใหม่ แล้วใช้เครื่องนี้เป็นเบอร์ส่วนตัว ส่วนเบอร์เก่าที่เริ่มมีคนรู้แล้วก็เอาไว้รับงานไปเลย เขาใช้เวลาไม่นานในการเดินเลือกของ แวะร้านเบเกอรี่เห็นเค้กใบเตยมะพร้าวอ่อนน่ากินเลยสั่งไปหลายชิ้น รวมกับขนมอื่นๆ อีกนิดหน่อย แยกกล่องใส่ไปฝากน่านนที
“ซื้อขนมมาเยอะจัง คุณสิงชอบเหรอครับ” น่านนทีมองถุงเบเกอรี่ร้านดังที่วางบนเคาน์เตอร์
“อันนี้ซื้อมาฝากปิงแล้วก็ถุงนี้ฝากให้พ่อแม่ปิงนะครับ ผมไม่เคยกินหรอกแต่เดินผ่านเห็นคนเยอะแล้วก็น่ากินดี”
“อร่อยครับ ปิงเคยกินไม่กี่ครั้ง ขี้เกียจต่อแถวซื้อ ขอบคุณนะครับ ซื้อมาเยอะเลย”
“ทั้งหมดนี้เพราะฝีมือแม่ปิงล้วนๆ กับข้าวช่วยชีวิตผมได้มาก ปกติซื้อแต่ข้าวกล่องมาเวฟ เวลาสั่งร้านอาหารคอนโดฯ ก็ไม่ค่อยได้รสถูกใจ”
“ปิงเห็นแล้วล่ะครับ เปิดตู้เย็นมาเจอแต่อาหารกล่อง จริงๆ ในซอยมีร้านอร่อยเยอะนะครับ กลางๆ ซอยมีก๋วยเตี๋ยวเรือชามเล็ก ปิงชอบกิน ร้านส้มตำยิ่งแซ่บมาก แต่เป็นรถเข็นนะครับ เขาจะเข็นมาจอดตรงวินมอเตอร์ไซต์ตอนเที่ยงๆ”
“ของโปรดผมเลย ไว้วันหลังจะลองนะครับ”
“อยากกินอาหารแนวไหนถามได้ครับ ในซอยนี้ปิงตระเวนกินมาเกือบทุกร้าน” แววตาโตๆ ที่มักเปร่งประกายเวลาพูดเรื่องงาน ตอนนี้แทบจะเปร่งแสงได้เมื่อพูดเรื่องของกิน ตัวเล็กๆ บางๆ ดูไม่ออกเลยว่ากินเก่ง
“ปิงรู้ตัวมั้ยเวลาพูดถึงของกินตาคุณวาวมากเลย”
“คุณสิงอะ อย่าแซวสิครับ ปิงแค่ชอบกินของอร่อย ไม่ได้ตะกละนะ”
“ไม่ได้แซวในแง่ไม่ดีนะครับ น่ารักดี”
“พอเลยครับ หยุดแซว อันนี้ใบเรทราคาที่คุณสิงถามไว้ครับ” น่านนทีรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อเริ่มทนสายตาแปลกๆ ของสิงหาไม่ไหว
“ถ้าผมจะใช้บริการต้องทำยังไงบ้างครับ” สิงหายอมเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นแก้มอีกฝ่ายมีสีระเรื่อขึ้นเล็กน้อย แถมไม่กล้าสบตาเขาเหมือนทุกที
“แจ้งปิงหรือแจ้งนิติฯ ก็ได้ครับ ต้องการส่งซักวันไหนบ้างก็ระบุได้เลย ถ้ามีเรื่องด่วนต้องรีบซักก็โทรแจ้งได้ตลอด เวลาจะส่งซักก็เปิดตู้ตรงโถงหน้าห้องคุณสิงเลยครับ เอาตะกร้าผ้าวางไว้แล้วจะมีเมดไปเอาลงมา ซักรีดเสร็จก็จะเอาไปแขวนไว้ในตู้ตามเดิม หรือถ้าคุณสิงจ้างเมดดูแลห้องด้วยเขาก็จะมาหยิบไปจัดเรียงในตู้เสื้อผ้าให้”
“แต่ผมไม่อยากจ้างเมดประจำนี่สิ อยากให้เข้ามาทำความสะอาดสักสัปดาห์ละสองวันพอ”
“อย่างนั้นก็ให้เมดเข้าวันเดียวกับส่งซักเลยสิครับ”
“ทำได้เหรอครับ”
“ได้สิครับ คุณสิงระบุวันมาเลยว่าให้เมดเข้าวันไหนบ้าง เดี๋ยวปิงทำเรื่องแจ้งนิติฯ ให้ ถ้าระบุตัวเมดได้แล้วปิงจะพามาแนะนำตัวกับคุณก่อน”
“เอาเป็นวันจันทร์กับพฤหัสครับ ลองให้เมดทำดูก่อนว่าสองวันไหวมั้ย ถ้าไม่ไหวผมค่อยเปลี่ยนเป็นสามวัน อันนี้คือราคาเมดต่อครั้งใช่มั้ยครับ”
“ใช่ครับ ทำงานแปดชั่วโมง พักหนึ่งชั่วโมง ส่วนที่เป็นรายเดือนนี่คือทำทุกวัน มีแบบไปกลับหรือให้พักอยู่ด้วยเลยก็ได้”
“ผมเลือกเมดเองได้มั้ยครับ” สิงหานึกถึงแม่บ้านสาวที่เคยมาดักเจอ เขาไม่ได้รังเกียจเพียงแต่อาจดูไม่เหมาะสมถ้ามีผู้หญิงอายุไม่มากอยู่ในบ้านตัวเอง แถมเธอยังชื่นชมเขาด้วย มันจะกระอักกระอ่วนกันเปล่าๆ
“ได้ครับ แต่ต้องดูคิวว่างด้วยนะครับ บางคนทำงานดีลูกบ้านก็แนะนำต่อๆ กัน คิวจะยุ่งนิดนึง”
“ผมเลือกใครก็ได้ครับ ขอแค่อายุมากสักหน่อย”
“จริงสิ ปิงเกือบลืมเรื่องนี้เลย เดี๋ยวปิงระบุคนอายุสี่สิบขึ้นไปเลย รับรองปลอดภัย กันข่าวฉาวว่าพาสาวขึ้นห้องได้ด้วย” น่านนทีรีบจดบันทึกไว้กันลืม เป็นดารานี่ไม่ง่ายเลย เผลอพลาดนิดเดียวอาจเป็นข่าวได้ ยิ่งคุณสิงเพิ่งกลับมาไม่นาน ถ้ามีข่าวฉาวคงไม่ได้กลับไปแจ้งเกิดอีก พ่อบอกว่าคนเห็นผีคือคนมีบุญ ผีเลยมาขอส่วนบุญ คุณสิงหล่อแถมบุญดีขนาดนี้เขาต้องสนับสนุนทุกทางที่ทำได้
“ปิงดื่มน้ำอะไรน่ะครับ น้ำดีท็อกซ์เหรอครับ” สิงหาเหลือบมองข้างมือที่กำลังจดยุกยิก เห็นขวดน้ำมีอะไรลอยอยู่ด้านบน หรือจะน้ำดีท็อกซ์ที่แม่เขาเคยบังคับให้ดื่มช่วงนึง เอาผลไม้สดหมักน้ำแร่ก่อนเอามาดื่ม แรกๆ เขาก็ดื่มได้ แต่ให้ดื่มทุกวันก็ไม่ไหว เอาผลไม้ออกมากินดีๆ ดีกว่า
“อ่า....เปล่าครับ แฮ่ จะพูดไงดี” น่านนทีมองขวดน้ำมนต์ที่ตั้งไว้บนโต๊ะแทนยันต์ เอาจริงๆ เขาแค่วางไว้เฉยๆ ไม่ได้เอาไว้กันผีอะไรหรอก แต่เจ้าของตัวจริงถามมาแบบนี้เขาจะบอกไงดี จะโดนหาว่างมงามไหม หรือจะกลายเป็นการรื้อฟื้นเรื่องเก่าจนทำให้กลัวขึ้นมาอีก
“เหมือนผมได้กลิ่นหอมๆ ด้วย เหมือนพวกขนมไทยที่เขาอบควันเทียนเลย” สิงหาชะโงกหน้าไปใกล้เพื่อดมกลิ่นให้ชัดๆ เหมือนกลิ่นขนมไทยจริงๆ เขามั่นใจ ส่วนคนที่ยืนใกล้ขวดสะดุ้งถอยหลังไปแล้ว ไม่ใช่การหลีกทางให้อีกฝ่าย แต่ตกใจกลิ่นที่สิงหาพูดถึง เขานั่งคนเดียวตั้งนาน ไม่เห็นได้กลิ่นอะไรเลย นี่น้ำมนต์นะ มีแต่น้ำตาเทียนลอยน้ำอยู่ ไม่มีกลิ่นอะไรสักหน่อย
“คือ...อันนี้ปิงเอามาฝากคุณสิงน่ะครับ ปิงเห็นว่าคุณสิงเจออะไรแปลกๆ ก็เลย...เอาน้ำมนต์มาฝาก” น่านนทีใช้นิ้วชี้จิ้มๆ ดันขวดไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น แอบเอานิ้วมาดมก็ไม่เห็นได้กลิ่นอะไร เอ๊ะ หรือมีกลิ่นจางๆ สิงหาหยิบขวดน้ำขึ้นมาดู พบน้ำตาเทียนลอยอยู่ในขวดนิดหน่อย ตอนแรกเขานึกว่าเกล็ดส้มซะอีก
“อันนี้ใช้กินหรืออาบครับ”
“ก็จิบสักอึกแล้วที่เหลือค่อยอาบก็ได้ครับ จะได้ขลังจากภายใน” เมื่อสิงหาไม่มีท่าทางปฏิเสธหรือหาว่าเขางมงายเลยสบายใจมากขึ้น น้ำมนต์ขวดนี้มาจากวัดดังแถวบ้าน แต่ไม่ได้ดังเรื่องไล่ผีหรือของขลัง ดังเรื่องเลขเด็ด เห็นว่าสองสามงวดก่อนมีคนซื้อล็อตเตอรี่ในวัดถูกรางวัลที่หนึ่งด้วย
“โอเค เดี๋ยวผมขึ้นไปอาบเลย ขอบคุณปิงนะที่อุตส่าห์เอามาให้”
“แล้วคุณสิงเป็นไงบ้างครับ โทรศัพท์เครื่องนั้น...”
“ผมถอดเก็บใส่ตู้ไว้ ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรนะครับ ก็ไม่แน่ใจว่าวันนั้นมันอาจจะช็อตหรืออะไรก็ได้”
“ดีแล้วครับ มันอาจไฟช็อตเฉยๆ”
“หน้าตากับคำพูดคุณมันสวนทางกันมากเลยรู้ตัวมั้ย”
“ก็...พอจะรู้ครับ” เขายิ้มให้คนอ่านใจเก่ง ในหัวน่านนทีตอนนี้มีแต่คำว่าผีเต็มไปหมด
“อย่าคิดมาก ผมว่ามันแค่บังเอิญน่ะครับ ไม่มีอะไรหรอก” สิงหากลับเป็นฝ่ายต้องปลอบเมื่อเห็นพนักงานตัวเล็กเริ่มหน้าเสีย ท่าทางจะกลัวจริงๆ ตรงข้ามกับเขาที่ไม่ค่อยคิดอะไร ไม่ใช่ไม่เชื่อ เพียงแต่มันก็ยังไม่ได้เจออะไรจังๆ พอที่จะเชื่อได้เต็มร้อย
คืนนั้นสิงหาดื่มน้ำมนต์และนำที่เหลือในขวดมาอาบ ไม่ว่ามันจะจริงไม่จริง เชื่อได้หรือไม่ก็ตาม สำหรับเขาน้ำขวดนี้คือความหวังดีของน่านนที ไม่ใช่ของอันตราย ดังนั้นไม่มีเหตุผลที่จะแกล้งรับมาเฉยๆ แต่ไม่ใช้ น้ำมีกลิ่นควันธูปควันเทียน แต่พอฟอกสบู่กลิ่นก็หายไปหมด กลางคืนนอนหลับสบายด้วยความอิ่มใจจากความห่วงใยของอีกคน ตรงข้ามกับน่านนทีที่เลิกงานกลับบ้านด้วยความหวาดระแวงตลอดทาง กลับถึงบ้านเกือบตีหนึ่งพ่อลุกมาดูเหมือนทุกครั้งที่กลับดึก ถ้าเป็นวันอื่นเขาก็จะบอกให้พ่อไปนอน ถ้าหิวเดี๋ยวเขาหาข้าวกินเอง แต่วันนี้เขาดึงแขนพ่อให้เดินไปส่งบนห้องนอน
“พ่อๆ น้ำมนต์ขวดนั้นน่ะ ปิงเอาไปให้เขาแล้วนะพ่อ” เขารายงานคนที่ช่วยไปเอาน้ำมนต์จากวัดมาให้
“อืม ดีแล้ว จะได้สบายใจ”
“ปิงว่าไม่ได้ผลหรอก คืนนี้ปิงไปนอนด้วยนะ ขออาบน้ำแป๊บนึง พ่อนั่งรอนะ”
“ฮึ้ย โตแล้วน่า บ้านเราเองไม่มีอะไรหรอก”
“ก็มันกลัวนี่ คุณสิงเขาได้กลิ่นด้วย อยู่ดีๆ ก็ทักว่าหอมควันเทียน มันน้ำมนต์เฉยๆ ปิงกินตั้งแก้วนึง อาบอีกขวดยังไม่เห็นได้กลิ่นเลย” ยิ่งพูดยิ่งขนลุก กอดแขนพ่อแน่นขึ้นอีกนิดเพื่อความสบายใจ
“เหลวไหลน่า มันก็มีกลิ่นธูปกลิ่นดอกไม้ไง ลอยเต็มอ่างแบบนั้นก็ต้องมีกลิ่นบ้างสิ เราจมูกไม่ดีเอง”
“ห๊ะ! มีจริงดิ พ่อไม่หลอกนะ”
“ก็จริงสิ ตอนเขาทำพิธีมันก็มีธูปเทียน พ่อว่าเขาใช้ธูปหอมนา กลิ่นมันจะหอมหน่อย แล้วก็มีดอกบัวลอยในอ่างด้วย เราน่ะเพ้อเจ้อ ไปๆ ไม่หิวก็รีบนอน พ่อจะกลับห้องแล้ว”
“ไม่หลอกแน่นะ”
“เออสิ ไปๆ รีบไปอาบน้ำ เดี๋ยวพ่อนั่งรอ รีบๆ ล่ะ” พ่อเห็นว่าเขายังกลัวๆ เลยยอมรอในห้องเป็นเพื่อน เขารีบคว้าเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำทำเวลาสุดชีวิต นึกถึงความหลอนของตัวเองตลอดทางกลับบ้านแล้วขำ กลัวแม้แต่เสียงลม มิน่าคุณสิงทำหน้าแปลกๆ คงกลั้นขำเขาอยู่แน่ๆ โอยยย...โชว์โง่ให้เขาดูอีกแล้วสิเนี่ย
—¤÷(`[ ♌ ♡ ▽ ]´)÷¤—
มันก็จะฟีลกู๊ดๆ โกสๆ หน่อย