[Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49  (อ่าน 267896 ครั้ง)

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
  o13 สนุกมากกก ลุ้นมากกก อ่านทีเดียวถึงตอนที่ 26 เสียน้ำตาให้กับเจ้าบู้บี้หลายตอนเลยค่ะ 
ปล.แอบตามมาจากในทวิตเตอร์ ค่ะ 

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
น่ารัก ถ้าเจ้าตัวเล็กออกมาคงเป็นครอบครัวสุขสันต์แน่นอน

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
โจทย์เยอะเหลือเกิน
หนักแน่นไว้นะอัยย์  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
หวังว่านิลกับแทมมี่จะไม่เป็นอะไรอย่างที่อัยย์สังหรณ์ใจนะ ไม่งั้นถ้ารู้ว่าลับหลังนิลและแทมมี่ช่วยนายพิษทำงานแล้วเกิดอะไรขึ้นคงได้เกิดเรื่องเข้าใจผิดไปกันใหญ่โตแน่ ๆ เลย

ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
ไล่ตามอ่านจนคบจนได้
สนุกมากๆเลยค่ะ เหมือนยังมีปมอะไรซ่อนอยู่
รอติดตามค่ะ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
เอ็นดูน้องอัยย์ปากแข็ง ก็ตั้งใจแบ่งให้นอนอยู่แล้วอ่ะเนอะ แหมมมมม

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ในที่สุดก็มา

ถ้าคุณแม่จะเป็นมนุษย์ป้าที่คร่ำครึก็ปล่อยนางไปขอแค่ไม่ทำร้ายอัยย์ก็พอ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
บรรยากาศกำลังดีตราบใดที่ผัวเมียปรองดองกัน แม่ผัวก็แม่ผัวเถอะ

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
เหมือนพายุกำลังจะเข้า  :ling3:

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ฟ้าสงบก่อนพายุจะมารึป่าวเนี่ยย
ประเด็นครอบครัวไม่น่าจะหนักเท่าประเด็นความขัดแย้งอะ
รู้สึกว่าแม่คุณเค้าเกลียดยัยบู้บี้ของเราแบบไม่สุด5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เก่งมากเจ้าบู้บี้ !  :hao5:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
นุ้งอัยย์เหมือนลูกแมวพองขนขู่ฟ่อๆเลย น่ารักมาก

ออฟไลน์ Kimmoominn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เจ้าบู้บี้ยึดเตียงแล้ววว แถมเถียงแม่สามีได้สะใจเรามาก ดีมากลูก ทำดีแล้ว 55555555

ออฟไลน์ mijimaria

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เหมือนจะหวานกันแล้ว แต่ก็มีพายุจะเข้ามาแทรก ขอบคุณนะคะคุณคนเขียน :mew1:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
พิชช์ฌานดูไม่ค่อยจีงใจเลย น้องอัยย์ระวังน้าาา

ออฟไลน์ DARALIS

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนนี้น่ารักมากเลยเหมือนความสัมพันธ์จะไปในทิศทางที่ดีหรือเพราะมีลูกมันเลยดูเปิดใจมากขึ้นพูดคุยกันขึ้น ปัญหาใหญ่แค่ไหนถ้าในบ้านแข็งแรงขาเตียงไม่สั่นแน่นอน สู้ๆนะคุณพิษบู้บี้และตัวเล็กในท้อง

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
นิล กะ แทมมี่ รักษาตัวเองดี ๆ เด้อ

ออฟไลน์ QueenPlai

  • twitter - @khunhappymoon gmail - JangPlailiiz@gmail.com
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
น่ารักจังเลยยยย :sad4: :o8: :-[

ออฟไลน์ PRiiNZE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เจ้าอัยย์ของพี่~~~
เพิ่งมาตามอ่านค่ะ สนุกมากเลยยยยย
ติดตามต่อนะคะว่าเจ้าอัยย์จะทำตามอุดมการณ์ล่าสุดได้สำเร็จไหม พี่แอบเชียร์อยู่ตรงนี้นะหนู
ไหนๆก็อดข้าวไม่สำเร็จแล้ว เอาอันนี้ให้สำเร็จแทนเนอะ 555555

ออฟไลน์ CRP_N

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อัยย์เหนื่อยบ้างมั้ย น่ารักทุกตอนเลยหนู อยากอุ้มกลับบ้านมากกกกก  ฮือออ  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :hao7: น้องงงงงง น่ารักน่าฟัดมากกกกก กังวลตรงที่อัยคิดว่าจะไม่ได้เจอเพื่อนอีกกก

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
รอจ้าา

ออฟไลน์ janehsih

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น้องน่ารักมากกกกก

ออฟไลน์ Janemera

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องเป็นเด็กน่ารักกกกกกกก

ออฟไลน์ junlifelove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อัยย์น่ารักมากกกกกก พิชช์ฌานจะรักน้องแบบจริงจังแล้วใช่ไหม รักน้องแน่ๆแล้วใช่ไหม ไม่แน่ใจในคุณพระเอกเลยยย
เรื่องค้ามนุษย์นี่จริงๆแล้วสงสัยพ่อของน้องอัยย์แต่ถ้าเป็นพ่อจริง เรื่ิงจะต้องลำบากแน่ๆ เพราะแค่นี้ที่บ้านของพระเอกเราก็ดูไม่ค่อยชอบน้องแล้วอะ ขออย่าเป็นเลย  พ่อพระเอกรึป่าวนะ เอ๊ะๆๆๆๆ สงสัยประเด็นนี้มาก แล้วแทมมี่กับนิลนี่ต้องเป็นอะไรแน่ๆ กลัวอะ สงสารเค้าด้วย เจอเรื่องร้ายๆตลอดเลยยย แงงงง

สนุกมากๆๆเลยค่ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Ai Adore You.

#ขอรักแค่คุณ

ตอนที่ 28

 

 

 

 

 

 

            พิชช์ฌานแวะเข้ามาในห้องหนังสือหลังจากทำงานเสร็จแล้ว  เขายิ้มนิดๆเมื่อเห็นเจ้าโอเมก้ากำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเล่มใหญ่พร้อมกับเขียนโน๊ตอะไรยุกยิกใส่สมุดของตัวเอง  บนโต๊ะตัวใหญ่มีหนังสือและกองกระดาษวางเรียงเป็นตั้ง

            “อ่านถึงไหนแล้ว  ...พร้อมจะสอบเทียบหรือยัง”

            อาคิราห์สะดุ้งเงยหน้าขึ้น  พอเห็นว่าเป็นใครก็ส่งยิ้มไปให้

            “พร้อมแล้ว”

            “พร้อมสอบ?”

          “พร้อมกินมื้อเย็น”  อัยย์ตอบหน้าตาย  พิชช์ฌานหัวเราะเบาๆ  วางมือลงบนศีรษะทุยสวยนั้น  เจ้าของศีรษะเอียงหัวหลบแล้วปิดหนังสือลง   “อย่าโดนหัวผม  เดี๋ยวความรู้ที่อ่านมากระฉอกออกหมด”

            “นี่แน่ะ  ให้มันกระเด็นออกมาเลย”  ชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นเขกหัวแทน

            “กระเทือนท้องหมด”  เจ้าโอเมก้าพึมพำ  เหลือบมองด้วยหางตาราวกับค้อน  คนฟังยิ้มกว้างก้มลงหอมแก้มนวลเนียนทั้งสองข้างฟอดใหญ่

            “กระเทือนอีกมั้ย”  พิชช์ฌานกระซิบ

            เจ้าของแก้มหน้าร้อนผ่าวโดยเฉพาะตำแหน่งที่ถูกสัมผัส  อาคิราห์ยกมือขึ้นแนบแก้มแล้วส่ายหน้าไปมา

            “คุณทำผมลืมที่อ่านหมดแล้วจริงๆนะเนี่ย”

            “งั้นเดี๋ยวคืนนี้ฉันทวนให้”  ดวงตาคมกริบแพรวพราว

            “ไม่เอา”  อีกฝ่ายรีบปฏิเสธ   เพราะเคยหลงกลยอมให้อีกฝ่าย ‘ทบทวน’ บทเรียนไปหนหนึ่งแล้ว  เล่นเอาใจสั่นวูบวาบแทบนอนไม่หลับทั้งคืน  “ผมอ่านซ้ำก็ได้  จดย่อเอาไว้”

            “ขยันดีมาก  แบบนี้สอบผ่านแน่”  พิชช์ฌานว่า  ทอดสายตามองคนขยันอย่างเอ็นดู  นับตั้งแต่ที่อาคิราห์มาบอกว่าอยากเรียนกฎหมายแบบจริงจัง  เขาก็ค้นหาหนทางต่างๆเพื่อจะให้เจ้าโอเมก้าได้เข้าเรียนจริงๆ  ติดตรงที่ว่าอีกฝ่ายไม่เคยเรียนในหลักสูตรปกติมาก่อน  เลยต้องเริ่มจากการสอบเทียบวุฒิเป็นอันดับแรกก่อนที่จะหาที่เรียนสำหรับโอเมก้าต่อ

            “ผมไม่เคยสอบมาก่อนเลย”  อาคิราห์พูดหงอยๆ  คิ้วเรียวขมวดมุ่น  “ถ้าเป็นภาษาผมทำได้  แต่เรื่องเลขพวกนี้ผมไม่รู้เรื่องเลย”  คนพูดถอนหายใจเฮือกด้วยท่าทางหนักอกหนักใจ

            พิชช์ฌานขยับตัว  ความจริงเขาก็แค่อยากให้อาคิราห์ ‘ทำที’ ไปสอบเสียหน่อยแค่นั้นเองพอเป็นพิธี  ยังไงก็สอบผ่านเพราะเขาจัดการให้ได้ง่ายๆ

            “ถ้าเธอเครียดมากฉันจะไม่ให้ไปสอบแล้วนะ  เดี๋ยวลูกเป็นอะไรขึ้นมา  รู้หรือเปล่าว่าการที่แม่เครียดน่ะส่งผลต่อลูกมากกว่าที่ฉันหอมแก้มเธอเมื่อกี้นี้อีก”

            “ผมไม่ได้เครียดนะ  จริงๆ”  อาคิราห์รีบปฏิเสธ  “ผมรู้ว่ามันต้องใช้เวลา  อาจจะอีกหลายเดือน  คุณให้ผมไปสอบเถอะนะ  ผมอยากเรียนต่อจริงๆ  แล้วก็...ให้ผมสอบผ่านด้วยตัวเองด้วย”  คนพูดดักคออย่างรู้ทัน  “ผมไม่อยากให้มีคนมาครหาทีหลังว่าใช้อำนาจซื้อวุฒิการศึกษา”

            “ฉันไม่ได้จะทำแบบนั้นเสียหน่อย”  พิชช์ฌานรีบโบกมือ 

            “ดีแล้วครับ  ผมอยากมั่นใจว่าเป็นความสามารถของผมจริงๆ  ไม่ใช่ใช้เส้น  ถ้าคุณทำก็เหมือนดูถูกความสามารถของผม”

            “อาคิราห์คนใหม่นี่จริงจังน่าดูเลยแฮะ”  นักการเมืองหนุ่มอุทาน  “ฉันชักจะนับถือแล้วสิ  ..แบบนี้ต้องให้รางวัลด้วยเมนูมิชลินสตาร์”

            “จริงเหรอ” เจ้าโอเมก้าหน้าบาน  เดินเข้ามาเกาะแขนเขาเอาไว้  “ไปกันเลยดีมั้ย  ลูกร้องแล้วด้วย”

            พิชช์ฌานหัวเราะ  เขาเริ่มรู้ทันกับคำว่าลูกร้องของอีกฝ่ายแล้ว  มันหมายถึงกระเพาะของเจ้าตัวที่กำลังร้องโครกครากต่างหาก

            ชายหนุ่มพาคู่สมรสไปทานอาหารข้างนอกบ้านเป็นครั้งแรกหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เกาะขึ้น  อาคิราห์ไม่ได้ถามอะไรแม้จะสังเกตได้ว่าพิชช์ฌานเพิ่มคนติดตามขึ้นอีกเกือบเท่าตัวแถมยังเดินทางด้วยรถยนต์สีดำปลอดที่เจ้าตัวเคยบอกว่ากันกระสุนได้ทั้งคันอีกด้วย

            เดาเอาจากท่าทางระมัดระวังของเจนภพร่วมกับข่าวตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา  อาคิราห์ก็พอจะเดาได้รางๆว่าสถานการณ์ตอนนี้คงไม่ปลอดภัยนัก

            การสืบสวนของตำรวจก็เริ่มเข้มข้นขึ้นทุกที  ข่าวการเสียชีวิตในห้องขังของจักรกฤตทำให้เกิดความสงสัยคาดเดากันไปต่างนานา  หลายคนเชื่อว่าผู้ชายคนนั้นไม่ได้ฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิดอย่างที่หลักฐานแสดงให้เห็นแต่ว่าถูกเก็บจากคนบงการที่ใหญ่กว่า  แต่จะด้วยเหตุผลไหนก็ตาม  การที่พิชช์ฌานออกหน้ามีส่วนรู้เห็นกับการจับกุมและทลายแหล่งค้าโอเมก้าครั้งนี้ก็นับว่าเป็นการเปิดฉากที่รุนแรงและโจ่งแจ้ง  อาจกลายเป็นเป้าหมายถูกโจมตีกลับ

            ไหนจะเหตุการณ์ระเบิดห้องพักที่ยังจับมือใครดมไม่ได้อีก

            “เป็นอะไรไป  นั่งเงียบเชียว”  พิชช์ฌานทักขึ้น  เหลือบมองคนนั่งข้างๆที่อยู่ในชุดสูทสีดำสมกับความหรูหราของร้านที่เขากำลังจะพาไปดินเนอร์

            “ออกมาแบบนี้  จะไม่เป็นไรหรอครับ”

            “ไม่มีอะไรหรอก  กลัวหรือไง”  นักการเมืองหนุ่มยิ้มมุมปาก  “มากับฉันไม่ต้องกลัว”

            “ได้ยินแบบนี้  ยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่เลย”  อาคิราห์ฝืนหัวเราะ  “ผมต้องใส่เสื้อกันกระสุนหรืออะไรมั้ย”

            “กอดฉันแน่นๆ  รับรองกระสุนไม่โดนเธอแน่”

            “เพราะไขมันคุณหนาหรอ”

            คนฟังจุ๊ปาก

            “เจนภพ  คืนนี้ฉันจะไปฟิตเนส  อย่าลืมเตือนด้วยนะ”  พิชช์ฌานหันไปบอกมือขวาคนสนิทที่นั่งอยู่ข้างหน้า  ได้ยินเสียงหัวเราะกวนประสาทดังขึ้นข้างตัวก็ขมวดคิ้วฉับ “ไม่ต้องหัวเราะไป  เห็นว่าท้องอยู่หรอกนะ  ไม่งั้นฉันไม่ปล่อยให้เธอมีพุงแบบนี้แน่ๆ”

            “แต่คุณก็ชอบไม่ใช่เหรอ”  อาคิราห์ว่า  “เมื่อคืนคุณยังเอาหัวมาหนุนเลย”

            คราวนี้เสียงหัวเราะปนกับเสียงไอเหมือนสำลักดังมาจากที่นั่งตอนหน้าแทน  พิชช์ฌานกระแอม  เสียงลูกน้องเงียบไปทันที

            รถมาจอดที่หน้าร้านอาหารหรูหราร้านหนึ่งที่อาคิราห์เคยอ่านเจอจากนิตยสาร  บรรยากาศข้างในร้านตกแต่งสวยงามถูกใจ   อาคิราห์มองซ้ายมองขวาพลางเดินตามหลังพิชช์ฌานเข้าไปด้านในโดยมีลูกน้องของชายหนุ่มเดินล้อมรอบเป็นพรวน

            มีเสียงพึมพำเบาๆจากแขกที่นั่งอยู่ในร้านเป็นระยะเมื่อมองเห็นนักการเมืองชื่อดังกับคู่สมรสโอเมก้าของเขาเข้า  แต่ไม่มีใครกล้าลุกเข้ามาใกล้  อาจเป็นเพราะบอดี้การ์ดร่างใหญ่หลายคนที่อยู่รอบๆโต๊ะของทั้งคู่ด้วย  ได้แต่แอบถ่ายรูปส่งข่าวให้กันและซุบซิบเบาๆเท่านั้น

            “ทำไมคนเยอะจังนะ”  อาคิราห์พึมพำ  เปิดเมนูออกก้มลงดู  ทำเป็นไม่เห็นว่าโต๊ะที่อยู่ทางซ้ายมือของเขากำลังจ้องเป๋งมาอย่างสนใจแค่ไหน

            “ร้านดังก็อย่างนี้แหละ”  พิชช์ฌานพูดยิ้มๆ

            “พรุ่งนี้คงได้ลงข่าวสมใจคุณแน่”

            คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง  ตามด้วยเสียงหัวเราะ

            “เห็นฉันเป็นคนยังไง  ฉันไม่ใช่พวกกระดิกตัวทำอะไรก็ต้องเป็นข่าวหรอกนะ”  เขาค่อน

            อาคิราห์ขมวดคิ้ว  ทำไมเขาจะไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจงใจหมายถึงบิดาและพี่ชายของเขาที่ขยันเป็นข่าวลงหนังสือพิมพ์ได้ทุกวัน  โดยเฉพาะในช่วงหลังมานี้

            “คุณก็ไม่ได้ต่างเท่าไหร่นักหรอก”  อัยย์ย่นจมูกใส่  “แต่เห็นแก่ความเป็นเจ้ามือมื้อนี้  ผมจะบอกว่าคุณพิชช์ฌานน่ะ  ไม่ใช่คนอย่างนั้น  แต่เป็นคนดีถือศีลกินหมูไม่กินผัก”

            “ไม่กินผักนี่มันเธอแล้วอาคิราห์”

            “ผมชอบกินผัก”

            “งั้นกินเข้าไปเลย  เอาเนื้อมาให้ฉัน”  พิชช์ฌานพูดจิ้มผักในจานใส่จานของเจ้าโอเมก้าแล้วจิ้มเนื้อชิ้นโตน่ากินของฝ่ายนั้นมาใส่จานตัวเองแทน

            อาคิราห์มองตาม  อ้าปากค้างที่ถูกชิงเนื้อไปต่อหน้าต่อตา

            “คุณพิษฌาน  คืนเนื้อให้ผมเลยนะ”  อัยย์ร้อง  ท้องส่งเสียงโครกด้วยความหิว  มองตามเนื้อของตัวเองที่ถูกมีดของอีกฝ่ายตัดหั่นอย่างไม่ปรานีปราศรัยแล้วก็น้ำตาคลอ  “คุณมันใจร้าย”

            พิชช์ฌานชะงัก  สบตากลมโตที่มีน้ำตาคลอหน่วยแล้วก็หัวเราะออกมา

            “เห้ย  ล้อเล่นแค่นี้ร้องไห้จริงๆหรอ”  ชายหนุ่มหั่นเนื้อในจานออกเป็นคำๆเสร็จก็ส่งคืนให้เจ้าของที่นั่งหน้างออยู่ตรงข้าม  “เอามาตัดให้เฉยๆเอง  โกรธจริงเหรอเมื่อกี้”

            “อย่ามาล้อเล่นเรื่องนี้  ผมไม่ชอบ”  อาคิราห์พูดเสียงห้วน  จิ้มเนื้อสัตว์ในจานเข้าปากเคี้ยว  ทำเป็นไม่สนใจสายตาคมกริบคู่นั้นที่มองมาอย่างล้อเลียน

            กว่าจะเสร็จมื้อนั้น  เจ้าโอเมก้าก็น้ำตาคลอไปสามรอบเพราะถูกอีกคนแกล้งเล่นจนพิชช์ฌานได้แต่สงสัยว่านักข่าวจะได้ภาพแบบไหนไปลงข่าวกันแน่

            เจนภพมาบอกเช้าวันรุ่งขึ้นว่านักข่าวเอาภาพอาคิราห์น้ำตาคลอหน้างอง้ำไปลงข่าวจริงๆ  แถมยังพาดหัวเหมือนกับว่าพวกเขาทะเลาะกันบนโต๊ะอาหารอีกด้วย

            “ฉันเดาไม่ผิดเลย”  ชายหนุ่มหัวเราะ  ส่งหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นไปให้อาคิราห์ที่นั่งกระดิกเท้าฟังเพลงอยู่  เจ้าโอเมก้าเบิกตาโต  “บอกแล้วให้ยิ้มๆไว้  ดูซิ  หน้าตาเหมือนเต้าหู้ยี้ดูไม่ได้เลย  มีฉันหล่ออยู่คนเดียว”

            “ก็คุณแกล้งผมทำไมล่ะ”  อาคิราห์ร้องฮึในลำคอ  ผลุดลุกขึ้นยืนแล้วก้าวฉับๆออกไปจากห้องทำงาน  “ผมไปอ่านหนังสือดีกว่า  คุณเจนภพอย่าลืมเอาใบสมัครของผมไปส่งนะครับ”

            “ได้ครับคุณอัยย์  ไม่ต้องห่วง”  เจนภพรับคำ   พอลับร่างของโอเมก้าแล้ว  มือขวาของพิชช์ฌานก็หันมาหาเจ้านาย  “คุณฌานจะยอมให้คุณอัยย์ไปเรียนมหาวิทยาลัยเปิดจริงๆหรอครับ”

            “ให้เขาสอบเทียบให้ได้ก่อน  แล้วค่อยว่ากันอีกที  คงอีกหลายเดือน”

            “แต่ผมว่าอาจจะเร็วๆนี้ก็ได้นะครับ  คุณอัยย์ดูเอาจริงมาก”

            “ดูไปก่อน  เมื่อวานยังเห็นนั่งเอาหัวโขกโต๊ะเพราะแก้โจทย์ไม่ได้อยู่เลย”  พิชช์ฌานอมยิ้ม  นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง  “นายลองไปหาครูมาติวให้เขาก็ได้  ขอเป็นเบต้านะ  ไม่เอาอัลฟ่า”

            “ได้ครับคุณฌาน  ผมจะหามาให้”

            “ขอเป็นผู้หญิงด้วย”  อีกฝ่ายเสริม  แล้วเปลี่ยนเรื่อง   “เรื่องการประชุมลับของฝั่งรัฐบาลเป็นอย่างไรบ้าง  ตกลงจัดวันไหน  ฉันจะได้ชวนอาคิราห์ไปเยี่ยมบ้าน”

            “ข่าวล่าสุดคอนเฟิร์มมาว่ามะรืนนี้ครับ”

            “ดีมาก”  ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบปลายคางเขียวครึ้ม  “แล้วนิลลาว่าอย่างไรบ้าง  ทำไมถึงเงียบไปเลย”

            “นิลลาให้ความร่วมมือกับทางตำรวจเป็นอย่างดีครับ  ตอนนี้ตำรวจได้แผนผังบ้านของจักรกฤตแล้ว  ส่วนเราวางแผนจะบุกเข้าไปก่อนหนึ่งวันเพื่อหาหลักฐานครับ  นิลลาบอกว่ามีตู้เซฟอยู่ในห้องนอนของมันชั้นสาม  คาดว่าน่าจะมีอะไรดีๆอยู่ในนั้น”

            เจ้านายพยักหน้าเนิบๆ  เหลือบมองปลาบู่ในตู้ที่แหวกว่ายไปมาอย่างครุ่นคิด

            “เมื่อวานอาคิราห์ถามถึงเพื่อนคือนิลลากับแทมมี่อีกแล้ว  ถ้าเป็นไปได้  ...อย่าให้พวกเขาเป็นอะไรก็แล้วกันนะ  ฉันไม่อยากให้อาคิราห์เสียใจ”  พูดจบก็เห็นรอยยิ้มของลูกน้องปรากฏขึ้น  พิชช์ฌานขมวดคิ้ว  “มันจะกระทบกระเทือนลูกในท้อง  ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนั้นเจนภพ”

            “ผมแค่ดีใจครับ”  เจนภพพูดยิ้ม ๆ “เห็นคุณฌานมีความสุข  ผมก็มีความสุขไปด้วย”

            “ความสุขมักอยู่กับเราไม่นาน”  พิชช์ฌานว่า  “มะรืนนี้ฉันจะพาอาคิราห์กลับบ้าน  ฉันอยากให้มันเป็นข่าว  ประมาณว่าพ่อตาลูกเขยสามัคคีจูบปาก  โดยมีหลานเป็นกาวใจ  อาจมีแนวโน้มให้ฉันสืบทอดเก้าอี้นายกฯ อะไรทำนองนั้น  แต่ไม่เอาเลี่ยนมากนะ  ฉันคลื่นไส้  เอาแค่พอประมาณ  ให้พวกคนในพรรครัฐบาลมันดิ้นพล่านหน่อย  อย่าลืมกำชับคนในพรรคของเราให้รู้ด้วย  ไม่ใช่ข่าวออกแล้วดันมาดิ้นเสียเอง”

            “ได้ครับคุณฌาน  แล้วเรื่องคุณชาติชาย”

            “ฉันจะแวะไปหาเขาพรุ่งนี้หลังเสร็จงาน”

            พิชช์ฌานแวะไปหานายทุนพรรคคนสำคัญในวันถัดมาตามที่โทรนัดหมายเอาไว้  นักธุรกิจใหญ่มีท่าทีมึนตึงจนเห็นได้ชัด  แม้ว่าชายหนุ่มจะชวนพูดคุยแล้วก็ตาม

            “คุณพิชช์ฌาน  ผมขอถามตามตรงนะ  ตกลงการแต่งงานระหว่างคุณกับโอเมก้าเป็นเรื่องจริงหรือว่าเป็นเพียงเกมการเมืองอย่างที่คุณเคยบอกผมกันแน่  เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น  ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมโอเมก้าคนนั้นถึงตั้งท้องลูกของคุณ”  ชาติชายเปิดปากพูดขึ้น

            “ผมเป็นนักการเมืองครับคุณชาติชาย  ผมขอพูดสั้นๆแค่นี้  ถ้าคุณมองเห็นอนาคตทั้งของคุณและของผม  เราก็มาร่วมมือกันต่อ  เหมือนที่ผ่านมาแล้ว  ผมต้องการเพียงแค่ความเชื่อใจกัน...แค่นั้น”  ชายหนุ่มพูดเนิบๆ  “และผมขอยืนยันอีกครั้งว่าพรรคของเราจะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้  นั่นหมายความว่าผลประโยชน์ต่างๆจะตกเป็นของคนที่เลือกสนับสนุนได้ถูกฝั่ง”

            คนฟังนิ่งไป

            “ผมไม่คิดว่านโยบายเชิดชูโอเมก้าของคุณมันจะเวิร์ค  ถึงแม้ว่าคุณจะลงทุนเสี่ยงชีวิตถล่มซ่องโอเมก้านั่น  มันก็ไม่ได้ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลงไปหรอกคุณพิชช์ฌาน  คุณหาเรื่องใส่ตัวเปล่าๆ”

            ชายหนุ่มยิ้มนิดๆ  คิดถึงสีหน้าจริงจังของโอเมก้าที่บ้าน

            “ผมคิดว่ามีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงนะ  อย่างน้อยก็เป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจ  ผมคิดว่าในอนาคตกระแสเรื่องนี้จะต้องแรงขึ้น  เรื่องการค้าโอเมก้าเป็นเพียงจุดเล็กๆที่จะนำไปสู่การเรียกร้อง...”

            “นี่แหละที่ผมจะพูด”  คนแก่กว่าขัดขึ้น  “คุณกำลังหาเหาใส่หัว  ทุกคนก็รู้ว่าขบวนการค้าโอเมก้ามีมานานแล้วนับศตวรรษได้มั้ง  ตั้งแต่โลกนี้รู้จักคำว่าชนชั้นนั่นแหละ  พวกโอเมก้ามันเกิดมาเพื่อการนี้ไง  ผมถึงไม่อยากให้ไปยุ่งเรื่องนี้  มันมีคนเสียประโยชน์เยอะ”

            “แต่ผมทำไปแล้ว”  พิชช์ฌานพูดเรียบๆ  “เราควรจะลองมองประเทศเพื่อนบ้านรอบตัวว่าเขาไปถึงไหนกันแล้ว  โลกเปิดกว้างเรื่องชนชั้นพวกนี้มาหลายปีขณะที่ประเทศของเรายังปิดกั้นด้วยคำว่าเลือดอัลฟ่าบริสุทธิ์อยู่เลย  ถ้าผมไม่จัดการเรื่องนี้  ต่อให้ผมได้เป็นรัฐบาลก็ไม่สามารถพาประเทศเดินหน้าได้ทัดเทียมประเทศอื่นหรอกครับ”

            “คุณยังหนุ่มคุณพิชช์ฌาน  คุณไม่เข้าใจหรอกว่าเรื่องนี้มันหยั่งรากลึกเกินกว่าที่คุณจะนึกถึง  สิ่งที่คุณทำจะทำให้คุณเดือดร้อน  เบื้องหลังของขบวนการค้ามนุษย์มีสิ่งที่เรียกว่า...กำแพง..”

            “และผมทลายกำแพงนั้นไปแล้ว”  พิชช์ฌานต่อให้จนจบประโยค  “ผมทำลงไปแล้วคุณชาติชาย  และผมเป็นพวกที่ลงมือทำแล้วต้องทำให้สุด  ถ้าคุณไม่กล้าที่จะลงเรือลำนี้กับผม  คุณบอกมาคำเดียว”

            “............”  นายทุนพรรคอึ้งไป

            “หรือว่าที่คุณมีปัญหากับเรื่องนี้นักเป็นเพราะว่าคุณมีส่วนได้ส่วนเสียกับขบวนการนี้ด้วยกันแน่ครับ”  พิชช์ฌานเห็นท่าทางอีกฝ่ายคงจะไม่อ่อนลงแน่ก็เลยงัดไม้ตายขึ้นมาใช้

            “คุณกำลังกล่าวหาผมนะ”

            “ถ้าผมเกิดหาหลักฐานมาได้ล่ะครับ”

            “ผมไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการบ้า ๆ พวกนี้  เพราะผมรังเกียจโอเมก้าเกินกว่าจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย  เงินจากธุรกิจขายพวกมันผมไม่อยากได้”  ความเกลียดชังที่แผ่ออกมาจากคำพูด  สีหน้าแววตาของคนพูดทำให้พิชช์ฌานชะงักไปนิดหนึ่ง  “ผมไม่เหมือนนายทุนใหม่ของพรรคคุณหรอกคุณพิชช์ฌาน  ...ผมรู้นะว่าคุณได้นายทุนใหม่แล้วถึงกล้าพูดแบบนี้กับผม”

            “คุณหมายถึงคุณธีรดลน่ะเหรอ”  พิชช์ฌานเลิกคิ้ว  เก็บความสงสัยเอาไว้ข้างใน  “คุณรินลดาคงเล่าให้คุณฟัง  เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้หรอกครับ  เขาเป็นคนให้ความร่วมมือในการนำจับด้วยซ้ำ  ส่วนเรื่องทุน...ทั้งเงินและบารมีของเขาไม่ได้ครึ่งของคุณหรอก  ไม่อย่างนั้นผมคงไม่มาหาคุณถึงบ้าน”

            ชาติชายหัวเราะ

            “คุณมันนักการเมือง  คุณพิชช์ฌาน  นักการเมืองก็จะตายด้วยการเมือง  เหมือนหมองูตายเพราะงู  ระวังเอาไว้ให้ดีเถอะ  คุณยังหนุ่มนัก  แล้วจะหาว่าผมไม่เตือน”

            “ขอบคุณมากครับ”  ชายหนุ่มก้มศีรษะให้ด้วยท่าทางไว้ตัวนิดๆอันเป็นเอกลักษณ์  “ผมจะจำเอาไว้”


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-04-2019 11:27:12 โดย ็Hollyk »

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk





            มีเสียงรถเข้ามาจอดหน้าบ้านตามด้วยร่างอวบอัดของบุตรสาวเจ้าของบ้านเยื้องกรายเข้ามาในบ้าน  เธอไม่มีสีหน้าแปลกใจที่เห็นชายหนุ่มในห้องรับแขก

            “กะแล้วว่าคุณต้องมาวันนี้”  รินลดาพูดเนิบ ๆ “ไม่เฝ้าเมียโอเมก้าเอาไว้แล้วเหรอ  ได้ข่าวว่าทะเลาะกันจนน้ำตานองจานข้าวนี่นะ”  เธอยิ้มแกมเยาะแล้วเดินผ่านขึ้นบันไดไปอย่างไม่สนใจอีก

            พิชช์ฌานมองตาม  รักษาท่าทางนิ่งสงบเอาไว้ได้เป็นปกติในสายตาของคนมองที่ลอบสังเกตอยู่เงียบ ๆ

            “รินลดาเสียใจมากที่รู้ว่าโอเมก้าท้อง”   ชาติชายพูด  “นั่นทำให้ผมลำบากใจมากที่จะร่วมกับคุณอีกคุณพิชช์ฌาน  ไม่มีพ่อคนไหนอยากเห็นลูกร้องไห้เสียใจ”

            หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านลอบถอนหายใจยาว  เขาคาดเอาไว้อยู่แล้วว่าสุดท้ายคนอย่างชาติชายก็จะต้องยกเรื่องลูกสาวคนเดียวมาอ้าง  ก่อนหน้านี้เขาเคยเล่นเกมกับอีกฝ่ายก่อนด้วยการจีบลูกสาวหวังเงินทุนของพ่อเค้า  พอมาตอนนี้ก็กลับวนเข้าวงจรเดิมอีกรอบ  ต่างกันตรงที่ครั้งนี้เขาแต่งงานแล้วแถมกำลังจะมีลูกอีกด้วย

            นึกถึงหน้าตัวบู้บี้ที่บ้านแล้วชายหนุ่มก็เกือบยิ้มออกมา  เหลือบมองนาฬิกาแวบหนึ่ง  ...ไม่รู้ป่านนี้จะเข้านอนหรือยัง  หรือว่ากำลังอ้อนป้านิ่มทำมื้อดึกให้อยู่

            “ผมเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อแม่ครับ  เพราะผมเองก็กำลังจะเป็นเหมือนกัน”  พิชช์ฌานลุกขึ้นยืน  พอกันทีกับการพูดคุยเกลี้ยกล่อม  ถ้าไม่อยากร่วมทุนกันเขาก็จะไม่ง้ออีกแล้ว  “ผมก็เลยเข้าใจคุณชาติชายมากๆ แล้วก็ไม่โกรธเลยด้วยที่คุณเลือกจะถอนทุนออก  ไม่เป็นไรครับ”

            “ถอนทุนออกอะไรกัน”  ชาติชายอุทาน  เงยหน้าขึ้นมองตาร่างสูงใหญ่ที่ยืนค้ำอยู่  “ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าจะถอนทุน”

            “ผมก็บอกอยู่นี่ไงครับ”  พิชช์ฌานพูดอย่างสงบ  “ผมไม่อยากให้คุณชาติชายต้องลำบากใจอีก  ส่วนเรื่องข้อตกลงอื่นๆรวมถึงสัมปทานรถโดยสารที่เคยขอเอาไว้  ผมจะถือโอกาสนี้ยกเลิกให้เลยนะครับ  คุณชาติชายจะได้ไม่ต้องวุ่นวายใจอีกตอนที่ผมได้เป็นรัฐบาล  ขอโทษด้วยที่มารบกวนเวลาพักผ่อน”  พูดจบชายหนุ่มก็หมุนตัวก้าวยาวๆออกมาจากบ้านของนายชาติชายทันที

            เจนภพขยับเข้ามาเปิดประตูรถให้เจ้านายขึ้นไปนั่ง 

            “ทำแบบนี้จะดีหรอครับคุณฌาน   เราจะเหมือนทุบหม้อข้าวตัวเองนะครับ”

            “ไม่หรอกเจนภพ  สันดานนักธุรกิจน่ะ  ผลประโยชน์อยู่ตรงหน้า  ยังไงก็ต้องกระโดดคว้า  เราก็แค่ใจเย็น ๆ เอาไว้  พรุ่งนี้ให้คนมาจับตามองนายชาติชายด้วย  ฉันเดาว่าเขาจะต้องไปเข้าร่วมประชุมลับของพวกนายทุนรัฐบาลแน่ ๆ”

            “เขาจะไม่แปรพักตร์ไปอยู่ฝั่งนั้นจริง ๆ หรอครับ”

            “ยิ่งเราทำเหมือนไม่ง้อเขามากเท่าไหร่  เขาก็จะยิ่งลังเลมากเท่านั้น  ถ้าฉันเดาไม่ผิดล่ะก็  เขาจะยังไม่กล้าทุ่มฝั่งไหนเต็มตัวจนกว่าจะมั่นใจว่าฝั่งนั้นจะชนะ  รอให้ข่าวพรุ่งนี้ที่ฉันไปเยี่ยมพ่อตาออกเสียก่อนเถอะ  เขาจะเป็นคนแรกที่โทรกลับมาหาฉันเลยล่ะ”

            “แล้วเรื่องคุณรินลดา”

            “รอจังหวะดี ๆ ก่อน  ฉันว่าเธอยังมีประโยชน์อีกแน่”  เจ้านายตอบกลับมา  “วันนี้นายชาติชายเตือนเรื่องที่ฉันเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับขบวนการค้ามนุษย์  ฉันชักสงสัยว่าเขารู้อะไรมากกว่านั้นหรือเปล่า  ถ้าว่างเมื่อไหร่ลองสืบเรื่องนี้ดูหน่อยนะเจนภพ  ไม่แน่เราอาจจะเจอของเด็ดเข้าก็ได้” 

            เจนภพส่งเจ้านายที่บ้านแล้วก็กลับออกมา  คืนนี้ชายหนุ่มยังมีภารกิจอีกอย่างก็คือการประชุมร่วมกับทีมและโอเมก้านิลลาเพื่อหาทางเข้าไปค้นหาหลักฐานเพิ่มในบ้านของนายจักรกฤต

            นิลลาเงียบขรึมตลอดเวลาการประชุมจนกระทั่งทุกคนต่างแยกย้าย  เจนภพเช่าห้องพักให้นิลลากับแทมมี่พักอาศัยอยู่ก่อนชั่วคราวเพื่อเก็บตัว  มีโอกาสมากที่พยานทั้งสองจะโดนเก็บเสียก่อนที่จะได้ขึ้นศาล  พิชช์ฌานเลยกำชับให้เขาดูแลทั้งคู่เป็นพิเศษ  ในฐานะที่เป็นเพื่อนกับอาคิราห์ด้วย

            “คุณ...โอเคมั้ย  อยากปรับแผนตรงไหนหรือเปล่า”  เจนภพถามเสียงเบาขณะที่เดินตามหลังร่างผอมบางกลับไปยังห้องพักที่อยู่ไม่ไกลจากห้องของเขา  นิลลาส่ายหน้า

            “ทุกอย่างดีแล้ว”

            แสงไฟจากระเบียงต้องใบหน้าซูบซีดที่เริ่มมีสีเลือดขึ้นจากการกินดีอยู่ดี  ทว่าสิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปเลยก็คือแววตาเศร้านิด ๆ แฝงด้วยความเฉยชาเหมือนรูปปั้นไร้ชีวิตของอีกฝ่ายที่เจนภพสังเกตเห็นตั้งแต่วันแรก  เขาไม่เคยชอบแววตาแบบนั้น   หงุดหงิดทุกครั้งที่มองไปแล้วเจอเข้า

            “คุณเคยออกความเห็นอะไรบ้างมั้ย  หรือแสดงความรู้สึก...อะไรก็ได้”  ชายหนุ่มพูดห้วน ๆ “ชอบหรือไม่ชอบ  เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย  คุณพูดออกมาสิ  ไม่ใช่เก็บเงียบ  แล้วใครมันจะไปรู้ว่าคุณคิดยังไง”  ...ผมรำคาญ.. เจนภพกลืนคำพูดประโยคหลังลงไปได้ทัน

            คนฟังยักไหล่

            “ฉันไม่มีอะไรจะพูด  ขอบคุณมากที่มาส่ง”  นิลลาตอบอย่างสงบ  ยืนรอจนแทมมี่ออกมาเปิดประตูให้

            เจนภพกำชับลูกน้องที่เฝ้าหน้าห้องของโอเมก้าให้เฝ้าระวัง  แล้วก็กลับไปที่ห้องพักของตัวเองที่อยู่ในตึกเดียวกันเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะกลับไปที่บ้านของพิชช์ฌานอีกครั้ง  ปัดแววตาเฉยชาของโอเมก้านิลลาทิ้งไปอย่างง่ายดาย   ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นอัลฟ่าแต่โอเมก้าก็ไม่มีผลอะไรต่อเขายกเว้นอาจจะทำให้ตื่นเต้นขึ้นมาได้บ้างเล็กน้อยในกรณีที่ฮีทรุนแรงมากๆ อย่างเช่นตอนคุณอาคิราห์

เพราะความเป็นลูกเสี้ยวอัลฟ่าครึ่งเบต้าของเขา  ทำให้สัญชาตญาณดิบของอัลฟ่าไม่รุนแรงเหมือนอัลฟ่าคนอื่น  ขณะเดียวกันเขากลับได้ความฉลาดเฉลียวและสูงสง่ามาจากสายเลือดอัลฟ่าครึ่งหนึ่งและความอดทนอดกลั้นขยันเรียนรู้ได้เร็วมาจากสายเลือดเบต้า  ดังนั้น  จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเจนภพถึงได้เป็นมือขวาคนสนิทของนักการเมืองที่กำลังรุ่งที่สุดตอนนี้

ถ้ามีคนถามว่าเขาทุ่มเทเพื่อพิชช์ฌานมากมายขนาดนี้ไปเพื่ออะไร  ชายหนุ่มก็คงจะแค่ยิ้มรับ  ส่วนคำตอบในใจนั้นมีอยู่ก่อนแล้ว  ไม่มีทางที่ใครจะล่วงรู้

.....................................................................

อาคิราห์ดีใจมากๆที่จะได้กลับไปเยี่ยมบ้าน  เขาไม่ได้กลับบ้านเลยนับตั้งแต่แต่งงานกับพิชช์ฌานแล้วออกจากบ้านมา  จะว่าไปก็ไม่นาน  ทว่ากลับรู้สึกคิดถึงคฤหาสน์สามชั้นและห้องนอนของตัวเองเหลือเกิน

“ยิ้มจนปากจะฉีกถึงรูหูแล้ว  จะยิ้มอะไรนักหนา”  เสียงค่อนแคะดังมาจากคนที่นั่งไขว้ห้างข้างตัว  อาคิราห์เลยหันไปฉีกยิ้มให้เห็นฟันครบสามสิบสองซี่เสียเลย

“ก็ผมดีใจได้กลับบ้าน”

“คืนเดียวเท่านั้นแหละ  ฉันมีงานต่อ”

“คืนเดียวเองหรอ”  คนพูดขยับเข้ามาเกาะแขนล่ำสันเอาไว้แล้วช้อนตาขึ้นมอง  แอบยิ้มอยู่ในใจที่เห็นใบหูของคนมองเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง  เดี๋ยวนี้อาคิราห์เริ่มจับสังเกตได้แล้วว่าพิชช์ฌานก็มีช่วงออกอาการเขินเหมือนกัน  พอเขินก็จะวางหน้านิ่งค่อนไปทางบึ้งตึงแต่ว่าหูแดงจัด อย่างเช่นตอนนี้  “สองคืนไม่ได้หรอครับ”  อัยย์พูดเสียงอ่อน  กะพริบตาปริบๆ

ชายหนุ่มกระแอม

“ไม่ได้  คืนเดียวก็พอแล้ว”

            “ยังไม่ทันหายคิดถึงบ้านเลย”  อาคิราห์วางคางลงกับไหล่หนา  “สองคืนนะ”

            “ขอดูตารางงานก่อน”  อีกฝ่ายบ่ายเบี่ยง

            อาคิราห์ยิ้มกว้าง  ถอยกลับไปนั่งตัวตรงที่เดิม  พิชช์ฌานพูดแค่นี้ก็เป็นอันว่าได้ค้างสองคืนแน่นอน เชื่อขนมกินได้  เพราะถ้าไม่ได้ล่ะก็  จะต้องบอกมาแล้วว่าไม่ได้เด็ดขาด

            บ้านหลังใหญ่ของเขาก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมนับตั้งแต่จำความได้  มันใหญ่โตโอ่อ่าเพราะสร้างตามแบบบ้านของต่างประเทศ  ในเนื้อที่กว้างหลายสิบไร่บวกกับเงินทุนของบิดาก็เลยออกมาเป็นคฤหาสน์สถานตั้งตระหง่านอย่างที่เห็น

            “ถึงแล้ว”

            “ทำเหมือนไม่เคยกลับบ้าน”  พิชช์ฌานยั้งปากตัวเองไม่ได้จริงๆ

            “ก็ไม่เคยน่ะซิ  เคยกลับบ้านที่ไหน”

            “เคยครั้งนึงไง  ตอนที่ฉันพาตัวเธอมาแล้วเอามาส่งที่บ้าน”

            “อ๋อ  ผมจำได้ล่ะ  ตอนที่คุณคุกเข่าขอผมแต่งงานหน้าบ้านใช่มั้ย”  อาคิราห์พูดเสียงดัง  “ตลกเป็นบ้า  ผมน่าจะตัดรูปในข่าวเก็บไว้นะ”

            “หน้าเธอตลกกว่าฉันอีกเจ้าบู้บี้  ตกอกตกใจเหมือนปลาจมน้ำ”

            “ปลามันจะจมน้ำได้ไง”

            “มันถึงตกใจไงเล่า”  พิชช์ฌานจุ๊ปาก

            “มากันแล้วเหรอ  เป็นยังไงกันบ้าง  อัยย์...สบายดีไหม”  ท่านนายกฯอยู่ในชุดกีฬาเหมือนเตรียมตัวจะไปพัดกอล์ฟที่ไหน   อาคิราห์ก้าวเข้าไปกอดพ่อแน่น  “หลานพ่อล่ะ  สบายดีหรือเปล่า”  ไตรคุณก้มลงมองหน้าท้องของลูกชายที่ยังไม่เห็นเด่นชัด  “อ้วนขึ้นนะเรา”

            “กินไม่หยุดเลยครับ”  ลูกเขยขยับเข้ามาร่วมวงด้วย   “กลางคืนยังลุกมากิน”

            “ลูกหิว”  อาคิราห์หันไปขู่ฟ่อใส่สามีแล้วหันส่งยิ้มให้บิดา  “เที่ยงนี้กินอะไรดีครับพ่อ”

            ท่านนายกฯหัวเราะอย่างอารมณ์ดี  พาเดินนำเข้าไปในบ้านด้วยกัน  เจนภพลากกระเป๋าเสื้อผ้าของเจ้านายทั้งสองคนตามมาด้วย  เขายื่นส่งให้แม่บ้านที่มารอรับ

            คุยกันได้เล็กน้อย  ท่านนายกฯก็บอกว่ามีนัดตีกอล์ฟเลยแยกตัวไป  ปล่อยให้ลูกชายกับลูกเขยพักผ่อนในบ้านได้ตามสบาย

            อาคิราห์พาขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเองที่พิชช์ฌานเคยเข้ามาแล้วเมื่อสมัยที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน  พอย่างเท้าเข้าไปในห้องได้  เจ้าโอเมก้าก็ทิ้งตัวลงไปนอนคว่ำบนเตียงนอนที่มีตุ๊กตาหมีตัวเล็กตัวใหญ่วางเรียงรายเต็มหัวเตียง

            “อย่าทิ้งตัวแรงสิ  แล้วตุ๊กตาเยอะอย่างนี้ฉันจะนอนตรงไหนล่ะ”  ร่างสูงใหญ่หมุนคว้างอยู่กลางห้องอย่างมึนงง  มองไปทางไหนก็มีแต่ตุ๊กตากับชั้นหนังสือเต็มห้องไปหมด

            “นอนพื้น”  คนตอบซุกหน้าลงกับตุ๊กตาคุณหมีตัวโปรดที่ตัดใจไม่ได้เอาไปด้วย

            “ฉันจะไปฟ้องพ่อเธอว่าเธอให้ฉันนอนพื้น”

            “ฟ้องเลย  พ่อจะได้ไล่ให้คุณกลับไปนอนบ้านไง”  อีกฝ่ายตอบกลับมาอย่างไร้เยื่อใย  พิชช์ฌานมองค้อนเจ้าโอเมก้าที่กลิ้งตัวเล่นบนเตียงอย่างฉุนแกมหมั่นไส้

            เขาเดินสำรวจไปรอบๆห้องนอนที่ตกแต่งด้วยโทนสีสว่างดูสดใสนั้น  หยุดยืนพินิจดูกรอบรูปนับสิบที่วางเรียงอยู่บนตู้  เด็กน้อยสองคนที่หน้าเหมือนกันแทบแยกไม่ออกยืนจับมือบิดาเอาไว้คนละข้าง  พิชช์ฌานหรี่ตาลงหันไปเทียบกับรูปอื่นข้างๆ  ไม่นานก็แยกเจ้าโอเมก้าของเขาออกจากอัลฟ่าฝาแฝดได้

            “เธอนี่เบะปากร้องไห้ทุกรูปเลยนะอาคิราห์”  ชายหนุ่มพูดขันๆ  “ร้องไห้มันทุกรูปเลย”  พิศดูใบหน้ากลมแก้มยุ้ยประกอบด้วยปากนิดจมูกหน่อยและนัยน์ตากลมโตดำขลับเหมือนกันสองพี่น้อง  แตกต่างกันแค่คนหนึ่งมักจะยิ้มร่าเต็มไปด้วยความมั่นใจ  ส่วนอีกคนก็ขี้มูกขี้ตาเกรอะกรังหน้าตาเหยเกเหมือนโดนบังคับให้ถ่ายรูป

            “ผมไม่ได้ร้องไห้พร่ำเพรื่อนะ  ผมร้องมีเหตุผล”

            “เหตุผลอะไร”

            “จำไม่ได้แล้ว”  อาคิราห์ตอบเสียงอ่อย  “ก็มันตอนเด็ก ๆ ใครจะไปจำได้” เขาลุกขึ้นจากเตียง  เดินมาหยุดยืนดูภาพในกรอบรูปบ้าง  “อ๋อ  อันนี้ร้องไห้เพราะโดนอคินทร์แย่งลูกโป่ง  อันนี้ร้องเพราะอดไปห้าง  นี่ก็อดไปเที่ยวเหมือนกัน แต่จำไม่ได้แล้วว่าที่ไหน  นี่ก็ทะเลาะอะไรสักอย่างกับคิน”

            “ทุกรูปถ่ายที่บ้านนี้หมดเลยเหรอ”

            เจ้าของภาพพยักหน้าอย่างหงอย ๆ

            “ก็ใช่น่ะสิ  ผมเคยออกจากบ้านที่ไหน”

            “ฉันจะได้ว่าตอนที่พาเธอมาครั้งแรก  เธอแอบออกจากบ้านไปดูคอนเสิร์ตของอคินทร์ไม่ใช่หรือ”  พิชช์ฌานทวนความจำ  คนที่กำลังเรียกคะแนนสงสารอยู่ชะงักกึก  เพิ่งนึกขึ้นได้

            “ผมก็เคยออกครั้งนั้นครั้งเดียวแหละ  นอกนั้นก็อยู่แต่ในบ้าน  เหงาจะตาย”  อาคิราห์พูด  รีบเปลี่ยนเรื่อง  “คุณอยากไปเดินดูรอบๆบ้านไหม  ผมจะพาไป”

            “เปลี่ยนเรื่องเชียวนะ  ...ตอนเด็กๆเธอผมยาวหน่อยน่ารักดี  เหมือนเด็กผู้หญิงเลย”

            “ผมเกลียดผมยาวจะแย่  แต่แม่ให้ไว้”  อาคิราห์ย่นจมูก  “ร้อนก็ร้อน  สระก็ลำบาก  คุณไม่ต้องมายิ้มเลยนะ  ห้ามล้อผมด้วย  ทีผมยังไม่เคยล้อเรื่องหน้าม้าเต่อของคุณเลย”

            “หน้าม้าเต่ออะไร”  พิชช์ฌานหุบยิ้มฉับ  อีกคนหัวเราะคิก

            “ก็ทรงผมม้าเต่อโชว์หูกางไงคุณ  กับกางเกงหนีน้ำท่วมน่ะ”  อาคิราห์ปล่อยก๊ากออกมา  นึกถึงภาพของพิชช์ฌานสมัยเด็กขึ้นมา  เขาค้นเจออัลบั้มโดยบังเอิญในห้องนอนของอีกฝ่าย   “น่ารักจะตาย”

            “ใครให้แอบค้นของคนอื่นเนี่ย”  พิชช์ฌานอุตส่าห์เอาไปซ่อนเอาไว้เพื่อปิดบังความอัปยศในวัยเด็กแล้วเชียว  ไม่นึกว่าจะมีคนไปค้นเจออีก  กลับไปต้องไปจัดการให้หมด  “ช่างตัดผมให้ฉันผิดนิดหน่อย  แต่ก็ลดความหล่อของฉันไม่ได้หรอก”

            “จริงครับ  ลดไม่ได้เพราะไม่เหลือให้ลดเลย”  อาคิราห์พยักหน้ารับ

            คนฟังเหลือบตามองอย่างเข่นเขี้ยว  เห็นเจ้าโอเมก้าหัวเราะคิกคักก็ยิ่งหมั่นไส้  อยากจะแกล้งให้หัวเราะไม่หยุดเลยเชียว

            คิดดังนั้น  พิชช์ฌานก็อาศัยทีเผลอคล้องเอวของอีกฝ่ายเข้าหาตัวแล้วก้มลงไปถูหนวดสาก ๆ กับผิวแก้มอ่อนบางของอีกคนเล่น  อาคิราห์ร้องลั่นดิ้นหนีขลุกขลัก  ทั้งเจ็บ ๆ คัน ๆ ทั้งจั๊กจี้  หัวเราะจนเหนื่อยแล้วก็ถอยมานั่งหอบอยู่บนตักของคนตัวใหญ่กว่า

            พวกเขานั่งดูรูปวัยเด็กของอาคิราห์ต่อไปเรื่อย ๆ อย่างเพลินเพลิน  บางเรื่องก็มีความหลัง  บางเรื่องก็มีความสุขจนพิชช์ฌานอดยิ้มตามคนเล่าไม่ได้  แต่ขณะเดียวกันเขาก็รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายอัดอั้นตันใจไม่น้อยที่ไม่เคยได้ออกจากบ้านเลย

            “งานวันเกิดผมหกขวบ  จัดในสวน ...อันนี้ก็งานวันเกิดสิบสองขวบ  จัดที่เดิม  ...จริงๆก็จัดที่เดิมทุกปี  แขกก็มีแค่คนในบ้านนี่แหละ  เรียกให้ดูหรูไปงั้นเอง  ความจริงคือย้ายที่กินข้าวจากในบ้านมาเป็นในสวน”  อาคิราห์หัวเราะเมื่อนึกถึงความหลัง  “แต่ก่อนผมอิจฉาคินมาก  คินได้ทำทุกอย่างที่ผมอยากทำเลย  แถมคินก็ยังทำได้ดีมากๆด้วย”

            “คนเรามีบทบาทหน้าที่ไม่เหมือนกัน”  พิชช์ฌานพึมพำ  “เธอก็ทำได้ดีในแบบของเธอ”

            “แบบที่ยอมให้ใช้เป็นข้ออ้างในการมาบ้านใช่ไหมครับ”  จู่ ๆ อาคิราห์ก็พูดโพล่งขึ้นมา  พิชช์ฌานนิ่งไปนิด

            “ใช่...ความจริงแล้วคืนนี้จะมีประชุมลับๆของรัฐบาล  ฉันเลยอยากมาที่บ้านเธอ  จะได้เป็นข่าว”  นักการเมืองหนุ่มพูดตามตรง  คนฟังเป็นฝ่ายนิ่งไปแทนเพราะคาดไม่ถึงว่าอีกคนจะพูดออกมา  “ขอโทษที่ไม่ได้บอกเธอก่อน  เธอรู้สึกแย่หรือเปล่า  ฉันไม่ได้ต้องการหลอกใช้เธอนะ แต่เห็นว่าเธอคิดถึงบ้านจริง ๆ ก็เลย...ผลประโยชน์ร่วมไง”

            “คุณควรจะบอกผมก่อน”  อาคิราห์พูดเรียบๆ  “มาบอกทีหลังก็ไม่ต่างกับการหลอกใช้”

            “ฉันเห็นเธอดีใจเลยไม่ได้บอก  กลัวว่าเธอจะเข้าใจผิดแบบนี้ไง”  พิชช์ฌานเริ่มร้อนใจ  เขารัดเอวคนที่นั่งอยู่บนตักแน่นเข้า  “ฉันไม่ได้เจตนาหลอกเธอนะ  ฉันอยากให้เธอได้มาเยี่ยมบ้านจริงๆ”

            “ผมเคยถามคุณว่าเคยทำอะไรโดยไม่หวังผลบ้างไหม  คุณจำได้หรือเปล่า”  โอเมก้าพูดขึ้นช้าๆ  “แม้แต่เพื่อน  คุณเคยคบใครแบบไม่หวังผลบ้าง”

            “ไม่เคย”  พิชช์ฌานส่ายหน้า  “แต่ว่าฉันสาบานได้ว่าไม่ได้ประสงค์ร้ายต่อเธอเลยนะอาคิราห์  มันเป็นเหมือน...ผลพลอยได้  ได้ทั้งขึ้นทั้งร่อง”

            “ผมเป็นคู่สมรสของคุณหรือเปล่าคุณพิชช์ฌาน”  อาคิราห์ถาม  “ผมตั้งท้องลูกของคุณด้วยใช่มั้ย”

            “ใช่”  อัลฟ่าหนุ่มพยักหน้ารับ

            “ถ้าอย่างนั้น  ผมก็อยากให้คุณปรับปรุงตัวใหม่  อย่างน้อยตอนนี้ผมก็ลงเรือลำเดียวกับคุณ  เปรียบเสมือนคนๆเดียวกันกับคุณแล้ว  คุณควรจะต้องบอกผมด้วย...ทุกเรื่อง”  อัยย์พูดอย่างจริงจัง  “ผมไม่อยากเป็นคนโง่ที่ถูกสามีหลอกใช้  ผมอยากให้คนฉลาดอย่างคุณช่วยเห็นใจคนโง่หลอกง่ายอย่างผมบ้าง  เผื่อว่ามีอะไรที่ผมช่วยคุณได้  ผมจะได้ดีใจที่ได้รู้ว่าได้ช่วยคุณไง”

            “อาคิราห์...แต่ว่าเธอเป็นลูกของฝ่ายตรงข้ามกับฉัน”  พิชช์ฌานถอนหายใจ  “ฉันไม่อยากให้เธอไม่สบายใจ”

            “ผมจะไม่สบายใจยิ่งกว่าเดิมอีก  ถ้าคุณไม่ไว้ใจผมจนถึงกับไม่ยอมบอกยอมเล่าอะไรเลย”  อาคิราห์จับมือใหญ่มากางออกแล้วสอดประสานกับนิ้วของเขาเล่น  “ผมอยากช่วยคุณนะ  ถ้าคุณรักผมจริง ๆ  เหมือนที่เคยบอก  ก็อย่าหลอกใช้ผมเหมือนผมเป็นคนโง่เลย  ถึงผมจะโง่จริง ๆ ก็เถอะ”  ประโยคหลังคนพูดหัวเราะแผ่ว ๆ

            ได้ยินเสียงสูดลมหายใจเข้าปอดลึกพร้อมกับอ้อมแขนที่กระชับขึ้นอีก  ลมหายใจอุ่นจัดเป่ารดอยู่ข้างแก้ม  อาคิราห์เลิกคิ้วตอนที่ได้ยินเสียงห้าว ๆ กระซิบตอบกลับ

            “คนที่โง่ที่สุดคือฉันเอง  ไม่ใช่เธอหรอกอาคิราห์”

            ............................................................................

           

           มาอัพแล้วจร้าา 

          ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ทุกโหวตนะคะ  ปลาบปลื้มมา ณ จุดนี้

          วันนี้ทอล์คไม่ออกเพราะง่วงผิดปกติ5555 พรุ่งนี้ทำงานต่ออีกแล้ว

          เจอกันตอนหน้านะคะ

          #ขอรักแค่คุณ



           

           
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-04-2019 11:32:18 โดย ็Hollyk »

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะหัวเราะ​ก็ทำได้​ไม่​สุด​

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
จริงงงงงงงงง มีอะไรก็บอกอัยย์เถอะนะ
มาบอกทีหลังแบบนี้ทำแบบนี้ก็เหมือนหลอกใช้เขาจริงๆน่ะแหละ  :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด