บทที่ 25 ใจแลกใจ
“จะเริ่มเลยมั้ย”
คิงถอยไปนั่งเก้าอี้บุนวมอย่างดีเพราะเป็นเก้าอี้ตำแหน่งประธาน ไอ้ท่าทางนั่งยกขาไขว่ห้างแล้วกระดิกนิ้วตีนนั่นคือคนเดียวกับคนที่ใส่บูทลุยโคลนลงแปลงจริงๆ เหรอ
แล้วกูเนี่ยคืออะไร พวกเอาตัวเข้าแลกให้ได้งานเหรอเนี่ย
“ทำไมถึงซิ่วมาเรียนที่นี่”
คนอย่างคิง ถ้าจะเปลี่ยนสายเรียนก็ควรเป็นพวกบริหารอะไรทำนองนั้นไม่ใช่เหรอ กิจการครอบครัวก็ออกจะใหญ่โต เฮียโอบทำคนเดียวไม่ไหวหรอก
“จูบก่อนแล้วจะตอบ”
“อะไรว้า ตอบก่อนดิ”
“หนาว เข้ามาหากู”
คิงจ้องผม แววตาลึกล้ำนั้นดูดผมเข้าไปในโลกของมัน ผมเดินเข้าไปหาเจ้าของดวงตาสวยคู่นั้นอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว รู้อีกทีก็ถูกคิงตระกองกอดไว้บนตักเสียแล้ว
ผมไม่สามารถต้านทานมันได้เลย
“อื้มม”
คิงมอบจูบลึกซึ้งให้กับผม เรียวลิ้นที่แทรกเข้ามากวาดต้อนภายในปากผมอย่างนุ่มนวล ทำเอาเคลิบเคลิ้มเนื้อตัวอ่อนปวกเปียก จนต้องยึดเสื้อคนทำไว้เพราะกลัวตก
“ตอบ...แฮ่ก มาได้แล้ว”
“พ่อกูให้เรียนวิศวะแต่กูไม่ชอบ ก็เลยซิ่วมาเรียนเกษตร”
“แค่นี้อะนะ”
“อือ”
“ทำไมไม่เรียนบริหารล่ะ กิจการบ้านมึงก็มี”
“จูบก่อน”
“โหย เมื่อกี้มึงยังตอบไม่คุ้มค่าจูบเลยนะ”
“ไม่อยากรู้ก็แล้วแต่”
จุ๊บ
คราวนี้ผมเป็นฝ่ายยื่นปากไปประกบมันเอง แต่คิงทำเพียงแค่งับปากล่างผมเบาๆ แล้วจุ๊บลงมาแรงๆ ก่อนจะผละออก
ลิ้นกูเป็นหมันเลยไอ้สัด
“กูไม่ชอบความวุ่นวาย ไอ้โอบมันเก่ง ให้มันทำไปเหอะ”
“มึงก็เก่ง” ผมสวนกลับ ผมคิดว่าคิงสามารถทำได้ไม่แพ้เฮียโอบเลยเหมือนกัน คิงยิ้มให้ผมนิดๆ ก่อนจะลูบหัวผมเบาๆ
“ขอบใจนะหนาว”
“อื้ม อย่างนี้กูต้องเรียกมึงว่าพี่รึเปล่า”
“ไม่ต้องหรอก เรียกกูว่ากอดก็พอ”
“กอด”
“ครับ”
“กูเรียก ไม่ได้ให้กอดเว้ย”
เนียนเลยนะมึง
“ได้มั้ยล่ะ”
“ก็ได้”
เสียงกูจะอ่อยไปไหน
“เออ คือกูได้ยินที่มึงคุยกับเฮียอะ ว่าไม่ให้เฮียเรียกกูว่า เอ่อ เมีย ทำไมวะ” หลังจากถามข้อนี้ไปผมต้องหน้าแดงแน่ๆ จริงๆ เคยได้ยินเวลาคิงดุเพื่อนมันเวลาเรียกผม เอ่อ อะไรทำนองนี้อยู่เหมือนกัน
“จูบก่อน”
“อื้ออ...”
รอบนี้คิงเป็นฝ่ายจู่โจมเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว ลิ้นอุ่นเกี่ยวกระหวัดในจังหวะที่เร่าร้อนขึ้นกว่าจูบแรก มือหนาประกบแก้มผมไว้เพื่อให้มอบสัมผัสได้ชัดเจนขึ้น
“แฮ่ก ไม่ยอมขาดทุนเลยนะมึง”
“หึหึ กูกลัวมึงไม่ชอบเลยไม่ให้ใครเรียกแบบนั้น มึงเองก็ผู้ชายคนนึง”
ถึงจะเผยความหื่นขึ้นเรื่อยๆ แต่ผมก็ยังยืนยันว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนอบอุ่น
“แล้วจริงๆ อยากเรียกรึเปล่า เมื่อคืน...กูได้ยิน”
“ก็อยาก”
“งั้น...เรียกก็ได้นะ เวลาอยู่กันสองคนน่ะ”
.
.
.
“เฮ้ยย ป๋า ทางนี้เว้ย มายังไงวะ ไม่เห็นมอ’ไซค์” ไอ้เพียงโบกมือเรียกผมไหวๆ
“คิงมาส่ง”
“หูยย เซอร์วิสดีเวอร์ ไหนดูดิ้ เดินปกติปะ” (ไอ้เพียง)
“ทะลึ่งละไอ้เวร เมื่อคืนแค่นอนกอดกันเฉยๆ เว้ย”
เชี่ย ผมหลุดปากพูดแก้ต่างออกไป กลายเป็นว่าทำให้ตัวเองโดนถล่มยับกว่าเดิม
“อวดหลัว” (ไอ้เพียง)
“แรด” (ไอ้กั้ง)
“ไอ้กั้ง นี่มึงก็เอากับมันด้วยเหรอวะ”
“เข้าห้องสอบได้แล้ว” (ไอ้กั้ง)
ยังไม่ทันได้สืบสาวความสดใสที่มาไวเกินคาดของเพื่อน มันก็ไล่เข้าห้องสอบแล้ว เดี๋ยวกูออกมาเค้นใหม่ก็ได้
วันนี้ผมใช้เวลาทำข้อสอบอย่างคุ้มค่า สิ่งที่คิงติวให้ช่วยชีวิตไว้ได้กว่าครึ่ง อย่างน้อยก็คงไม่เอฟล่ะวะ
.
.
.
พอสอบเสร็จแล้วพวกเราก็ต้อง...
“...หลังมอ หลังมอ หลังมอ xx
ยิหวา ยิหวา ยิหวาหลังมอ
เมาแล้ว เมาแล้ว เมาเมาเมา
ไปเมาหลังมอ!”
“ดีมาก เอ้า หมดแก้วโว้ยยย”
สายเทค สายรหัส สายเหี้ยอะไรต่อมิอะไรก็ไม่รู้จัดเลี้ยงปลดปล่อยความเครียดหลังจากกรำศึกมิดเทอมมาอย่างหนักหน่วง
ตอนนี้ต้นสายอย่างพวกพี่ปีสี่กำลังรับน้องปีหนึ่ง (รอบที่ร้อยแล้วมั้ง) โดยการให้บูมหลังมอหลังจากมอมน้องจนยืนไม่ตรงแล้ว ทรมานเด็กล่ะงานถนัด
“เออไอ้กั้ง มึงทำได้ปะ”
“พอได้” กั้งว่าพลางกระดกแก้วไปด้วย ไอ้คำว่าพอได้ของมันก็คือหายห่วง ตอนแรกพวกเรากังวลว่ามันจะเศร้าจนไม่มีกะจิตกะใจทำอะไร
“ดีละที่มึงมูฟออนได้ไว”
“ไม่ใช่มีคนดามใจแล้วเร้ออ สายกูรายงานว่ามึงไปกินข้าวกับใครก็ไม่รู้ บอกมานะ” ไอ้เพียงชี้หน้าไอ้กั้งเป็นเชิงเค้นคำตอบ แต่กลับโดนไอ้กั้งผลักหัวจนเซ
“เพ้อเจ้อละไอ้สัด ให้กูมีเพื่อนคณะอื่นบ้าง” (ไอ้กั้ง)
“แค่เพื่อนจริงดิ” (ไอ้เพียง)
“เออสิวะ กูเพิ่งเลิกกับแฟนนะ จะให้มีใหม่ทันทีเลยรึไง” (ไอ้กั้ง)
“ก็ถ้าเป็นกูก็คงทำงั้นอะ” (ไอ้เพียง)
“มึงมันเจ้าชู้ไปเรื่อย”
“แหม ไอ้ป๋า แต่ก่อนยังแข่งกันล่าแต้มกับกูอยู่นะ ว่าแต่ทำไมในร้านแม่งมีแต่คณะเราเลยว่ะ ไม่มีสาวให้หลีเลยเนี่ย” ไอ้เพียงโอดครวญเมื่อมองไปทางไหนก็เจอแต่เพื่อนพ้องน้องพี่ชาววิศวะ อยากปีกซ้ายของร้านก็พวกเครื่องกล ปีกขวารู้สึกจะเป็นพวกไฟฟ้ากับพวกสิ่งแวดล้อม ตรงกลางก็เป็นพวกผมภาคโยธา
“ก็สอบเสร็จหลังเขาเลยไง เสี้ยนจัดแม่งพากันมาจองที่นั่งตั้งแต่ทุ่มครึ่ง” (ไอ้กั้ง)
“เออ บอกพ่อมึงยัง เดี๋ยวก็มาตามแบบวันนั้นอีก บอกตรงๆ ยังไงกูก็ไม่ชินกับสายตาพ่อมึงอยู่ดี บรื๋ออ” (ไอ้เพียง)
“บอกแล้ว”
“อยู่ในโอวาทฉิบหายอะเพื่อนกู แบบนี้กูอยู่เป็นโสดอะดีละ” (ไอ้เพียง)
“สักวันจะมีสักคนที่มึงยอมทำตามเขาทุกอย่างโดยที่ไม่ต้องฝืนเลยเว้ย” ผมตบบ่าไอ้เพียง ไม่อยากให้มันคิดว่าการมีใครคือการฝืนใจทำตามเงื่อนไขของใครคนนั้น ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจไอ้กั้งว่าทำไมต้องทำแบบนั้นแบบนี้ตามที่แพนต้องการ กั้งบอกว่ามันก็ไม่ได้ฝืนใจอะไรมาก ทำแล้วเขาสบายใจ ตัวมันก็สบายใจ
“โห โคตรคมอะคร้าบ ถามจริง ยอมขนาดนี้อะเป็นแฟนกันยัง” สิ้นคำถามไอ้เพียง ไอ้กั้งที่ตอนแรกไม่สนใจยังหันมามองผมนิ่งๆ
“ยัง มึงไม่คิดว่ามันเร็วไปเหรอวะ” ผมถามกลับ ผมไม่ได้มีแฟนมานาน จำได้ว่ากว่าจะมีแฟนคนแรกก็ใช้เวลาคุยกันตั้งนาน ไม่ใช่ปุบปับด่วนได้เหมือนพวกชั่วครั้งชั่วคราว
“หนาว ของแบบนี้มันไม่ขึ้นกับเวลาหรอกนะ” (ไอ้กั้ง)
“ไม่ได้เป็นอะไร แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่รู้สึกปะวะ”
“เชรดด ยอมครับยอม กูชอบความตรงของพวกมึงมาก อะ ชนๆๆ ให้กับสถานะไม่มีแต่ความรู้สึกพี่มาเต็มม” ไอ้เพียงชูแก้วเหล้าขึ้น ไอ้พวกรุ่นพี่รุ่นน้องแม่งเห็นคนชูแก้วสูงหน่อยไม่ได้ก็เฮกับเขาไปหมด กลายเป็นว่าตอนนี้ทุกคนที่มาด้วยกันยกมือชนแก้วกันเฉยเลย
“เฮ้ยย ไอ้หนาว ที่พวกมึงคุยกันเมื่อกี้อะ เรื่องจริงเหรอวะ” เสียงพี่รหัสปีสามของผมที่นั่งถัดไปไม่ไกลถาม
“เออกูโสงสัยมานานละ แม่งหน้าดุท้างคู่ ถามเอาจากเพื่อนมึงก็ม่ายรู้ แล้วกูเนี่ยฝึกงานแล้ว จะหาเวลาเข้ามอก้อยากก วันนี้อะมึงต้องบอกกูแล้วน้าเว้ยย เพราะต่อมเสือกกูจาแตกแล้วว” คราวนี้ลุงรหัสปีสี่ของผมที่นั่งอยู่หัวโต๊ะตะโกนถาม ทีนี้ล่ะแม่งหันมาทั้งภาค ผมว่าเราก็คุยกันเสียงไม่ดังนะ แต่พอพวกเราเงียบ ร้านก็เงียบว่ะ
“แม่งเอ๊ยย” ผมสบถเบาๆ พลางลูบท้ายทอย สายตารอคอยคำตอบจากพวกแม่งทำเอาอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี แต่ต่อให้ทำได้จริง ผมว่าลุงรหัสต้องพุ่งเข้ามาคว้าคอผมไว้แน่นอน สายตากระเหี้ยนกระหือรือจะเอาคำตอบมาก
“อูยย เรื่องนี้นุ้งไม่เกี่ยวน้า” ไอ้เพียงพยายามดันตัวให้ชิดไปกับเบาะ มึงแหละแม่ง ตัวดีเลย เสียงดังกว่าชาวบ้านเขา
“ตกลงยังงายๆ”
“เออก็ตามนั้นแหละพี่ ห้ามใครล้อนะโว้ย!”
“หูยยย ใจมันได้เว้ย อะงั้นชนให้กับความใจใจของไอ้หนาวมันหน่อยพวกกก”
เคร้ง! เฮ~
ในที่สุดสถานการณ์ปกติก็กลับคืนสู่วงเหล้าสักที แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีเด็กเสิร์ฟมาสะกิดแล้วส่งโพยให้ เนื้อในเขียนด้วยลายมือที่ดูรีบร้อนจนแทบจะอ่านไม่ออก แต่ชื่อที่ลงท้ายไว้ทำให้ผมต้องตั้งใจอ่านมัน
.
.
‘ออกมาหากูที่ลานจอดรถเดี๋ยวนี้ มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย
กาย’
.
.
Linglom : คนที่ดามใจกั้งก็คือชุ้นเองง
ความสัมพันธ์แบบไม่มีชื่อแต่มีความรู้สึกนะ ง่อ นั่นก็คือความสัมพันธ์แบบผัวเมียนั่นเองนะคะ / เบะปาก
เออเพลงบูมอะ เราเขียนเนื้อร้องถูกปะ มันลืมละอะ
คนเม้นเยอะแบบนี้ละมีแฮงเด้ จ๊วดดด