บทที่ 22 เก็บศพ
[/b]
ค่ายอาสาผ่านไปได้ด้วยดี และการสอบมิดเทอมก็กำลังจะผ่านไปได้ด้วย D เช่นกัน
“โว้ย ทำไมมันยากขนาดนี้วะ กูก็แทนค่า t ตามที่มึงบอกละเนี่ย ไม่เห็นได้คำตอบสักที” เพียงดินโยนชีทลงบนโต๊ะแล้วทึ้งผม ก่อนจะหยิบชีทอันเดิมขึ้นมาเพ่งใหม่
“กูก็ไม่ได้ว่ะ ไอ้กั้ง มึงแน่ใจนะว่าใช้สูตรนี้”
ผมเองก็มีชะตากรรมไม่ต่างจากไอ้เพียง ในกลุ่มเรา คนที่หัวดีที่สุดก็คือไอ้กั้ง แต่ตอนนี้มันอยู่ในสภาพไม่พร้อมรบสุดๆ คราวนี้มันทะเลาะกับแฟนค่อนข้างหนัก เห็นว่าเกือบจะเลิกกันด้วยซ้ำ ผมภาวนาให้มันคืนดีกันไวๆ ทีเถอะ ไม่งั้นไฟนอลนี้พวกเรา F ยกแผงแน่ๆ
“...”
“ไอ้กั้ง!”
“อะไร” (ไอ้กั้ง)
“มึงไหวปะเนี่ย”
“ไหว” (ไอ้กั้ง)
“ไหวห่าอะไร วิชานี้สอบ 100% นะเว้ย” (ไอ้เพียง)
ติ๊ง
บนหน้าจอโทรศัพท์ของไอ้กั้งปรากฏแจ้งเตือนจากแพน ผมกับไอ้เพียงมองหน้ากันเงียบๆ รู้สึกสังหรณ์ในใจแปลกๆ
“แพนว่าไงวะ ดีกันแล้วใช่ปะ” (ไอ้เพียง)
“ดี” (ไอ้กั้ง)
“เฮ้ออ โล่งอก ดีแล้วๆ มึงจะได้มีสมาธิอ่านหนังสือ”
สีหน้าของกั้งไม่ได้ดีอย่างที่บอก จนผมต้องกระทุ้งสีข้างไอ้เพียงให้หยุดพูด
“ดีแล้วที่เลิกกัน” (ไอ้กั้ง)
...
สัด เกิดเดธแอร์ตัวเท่าบ้าน
“ดะ...เดี๋ยวก็ดีกันน่า ผู้หญิงก็งี้” (ไอ้เพียง)
แพนเป็นคนขี้หึงมาก มากจนไอ้กั้งไม่มีเพื่อนผู้หญิงเลยนอกจากเพื่อนในภาค พวกมันทะเลาะกันบ่อยเรื่องความหึงหวงของสาวเจ้าแต่ไอ้กั้งมันก็ยอมมาตลอด สองคนนี้คบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม ไอ้กั้งเคยเล่าให้ฟังว่าแต่ก่อนแพนไม่ได้ขี้หึงขนาดนี้ แต่พอขึ้นมาระดับมหา’ลัย (เรียนกันคนละที่) ด้วยความที่ไอ้กั้งมันหล่อทำให้มันป๊อบปูล่าจนถูกทาบทามให้เป็นเดือนแต่มันก็ปฏิเสธไป ถึงกระนั้นแพนก็ยังระแวงไม่เลิก
ไอ้กั้งมันก็พยายามทำตัวสม่ำเสมอเพื่อให้แพนเห็นว่ามันก็ยังเหมือนเดิม มันคิดว่าคงต้องใช้เวลาสักพักแพนถึงจะปรับตัวกับบริบทใหม่ได้
“ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอวะ”
“อืม เรื่องเดิมๆ แหละ”
“เหนื่อยมั้ย”
“ก็เหนื่อย ทำไงได้วะ ก็ต้องอดทนแหละ”
“นี่ปี 2 แล้วนะ มึงยังพิสูจน์ตัวเองไม่พออีกเหรอ”
“...”
“ความรักมันต้องทนขนาดนี้เลยเหรอวะ”
“กูเชียร์ลิเวอร์พูล”
“ไอ้สัด!”
“ฮ่าๆ เออน่า ทุกอย่างก็ต้องใช้ความอดทนทั้งนั้นแหละมึง”
ผมว่าวันนี้มันคงทนไม่ไหวแล้ว
ตลอดระยะเวลาที่รู้จักไอ้กั้งมา ความสัมพันธ์ของมันกับแฟนเป็นไปอย่างระหองระแหง ความเสมอต้นเสมอปลายของกั้งก็ไม่ได้ทำให้แพนมั่นใจขึ้นเลย
ขณะที่ไอ้กั้งนั่งเหม่อ ไอ้เพียงที่นั่งข้างๆ ผมก็ถองศอกใส่ไม่หยุด พลางยื่นมือถือมาให้ดู บนหน้าฟีดเฟซบุ๊กปรากฏรูปแพนกับชายนิรนาม (แต่สัญลักษณ์บนไทด์ทำให้รู้ว่าเขาอยู่มอเดียวกัน) พร้อมกับแคปชั่นว่า ‘ขอบคุณนะที่คอยปลอบใจเราตลอดเลย’
เหยดด แบบนี้มันประกาศศึกชัดๆ
“กูเห็นแล้ว มึงจะพูดอะไรก็พูด” ไอ้กั้งพูดขึ้น
“มึงอะไอ้เพียง ไม่เนียนเลย”
“ก็กูไม่เคยเจอแบบนี้นี่หว่า แง อย่าได้แต่อย่าแรง นุ้ใจบาง”
ขอพักดราม่าแล้วลุกขึ้นถีบไอ้เพียงก่อนได้มั้ยครับ
“กั้ง กูว่าแพนอาจจะทำประชดมึงเฉยๆ ก็ได้นะ” ผมปลอบเพื่อน อาศัยประสบการณ์ที่ตัวเองเคยพบมาคิด ผู้หญิงบางคนทำแบบนี้กับผมเพื่อให้ผมกลับไปง้อ แต่บอกเลยครับว่าไม่มีประโยชน์
แร้วแตร่เลยจ้า (สำเนียงเพื่อนกะเทยในภาค)
“เวลาทะเลาะกัน กูไม่เคยดึงใครเข้ามาเกี่ยว แล้วกูก็เคยขอแพนแล้วว่าอย่าทำแบบนี้”
“เออก็ผู้หญิงอะมึง” (ไอ้เพียง)
“เป็นเรื่องเดียวที่กูขอ”
ผมกับไอ้เพียงมองหน้ากันอย่างพูดไม่ออก การดึงมือที่สามเข้ามาเกี่ยวมันก็เหมือนการจุดไฟใกล้น้ำมัน
“เออ งั้นเราไปฉลองความโสดกัน” ไอ้เพียงตบบ่าไอ้กั้งแล้วจับมือมันชูขึ้นเหมือนนักมวยเวลาชนะ
“เฮ้ย! กูไหว พวกมึงอ่านหนังสือกันเถอะ”
เพื่อนกู ทำไมเป็นคนดีขนาดนี้
“อารมณ์แบบนี้คงเข้าหัวหรอก เอาน่า ทำใจให้บริสุทธิ์ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยอ่านก็ได้” (ไอ้เพียง)
“จริง เห็นมึงเป็นแบบนี้พวกกูก็เป็นห่วงนะเว้ย”
“ขอโทษนะ” (ไอ้กั้ง)
“ขอโทษทำไม ไม่มีมึงติวให้ไปสอบก็ F อยู่ดี” (ไอ้เพียง)
เป็นการปลอบใจแบบเพียงดินจริงๆ
“มึงอย่าคิดมาก ถ้าจะ F อย่างน้อยก็ไม่ F เพียงลำพัง พวกกูโอเค” ผมยักคิ้วให้ไอ้กั้ง
“ขอบใจพวกมึงจริงๆ ว่ะ”
ผมยิ้มรับ เชื่อว่ามันจะผ่านไปได้
...เพราะมันเชียร์ลิเวอร์พูล
.
.
“ชนนน”
เคร้ง!
“เฮ้ยๆ ไอ้กั้งชนเบาๆ แก้วจะแตก มึงไหวแน่นะ กลับไปนอนมั้ย” (ไอ้เพียง)
“ไหวว” (ไอ้กั้ง)
“ไหวก็บ้าแล้วไอ้เหี้ยย! กูอยู่ทางนี้!” ไอ้เพียงยกมือประกบหน้าไอ้กั้งให้หันมาหาตัวเอง
เพิ่งเคยเห็นไอ้กั้งมันเมาจริงๆ จังๆ ก็คราวนี้ ปกติมันจะเป็นคนเก็บเพื่อนตลอด ผมกับไอ้เพียงเองก็ไม่รู้จะปลอบใจเพื่อนยังไง นอกจากชงเหล้าให้มันเรื่อยๆ
“จะร้องก็ร้องเถอะเพื่อน” (ไอ้เพียง)
“กู...ไม่ได้ร้อง” ไอ้กั้งปฏิเสธทั้งที่น้ำตาไหลย้อยถึงตีน
“อย่ากลั้นเลย มันทุเรศไอ้สัด เอ้า! ทิชชู่” ไอ้เพียงแปะทิชชู่ลงบนหน้าเพื่อน ก่อนจะถูไปมา เรียกว่าขยี้ดีกว่า
“มึง ร้านจะปิดละ”
“ต่อยาดองง” (ไอ้กั้ง)
ผมมองหน้าไอ้เพียงเป็นเชิงปรึกษา แต่ดูท่ามันคงจะใกล้ๆ ตีเสมอไอ้กั้งแล้วล่ะ ตาเยิ้ม พยักหน้าอย่างไว
“เออ ไปก็ไป”
.
.
ร้านยาดองเฮียโอ๋เป็นร้านเหล้าที่นักศึกษามักมาต่อหลังจากที่ร้านทั่วไปปิดประมาณเที่ยงคืน ถ้าเป็นฟุตบอลก็เปรียบเหมือนเกมครึ่งหลัง กินกันได้เกือบถึงเช้า
“กินเหล้าแล้วว...มากิงยาดองด้ายม้ายวะ”
ไอ้เพียงหันมาถามผม หลังจากที่ไอ้กั้งซัดไปแล้วสองเป๊ก ไหนว่าคนเมาจะทำอะไรช้าลงไง นี่ผมไปหาฉิ่งฉ่องแป๊บเดียว กลับมายาดองเต็มโต๊ะแล้ว
“ไม่รู้เว้ย แล้วทำไมมึงไม่กินเหล้าต่อเนี่ย จะกินผสมเพื่อ” ผมดึงแก้วเล็กออกจากมือไอ้เพียง แล้วชี้ไปที่ไอ้กั้งเป็นเชิงว่าให้ดูแลเพื่อน ไม่ใช่เมาแซงคนอกหัก ไอ้เวร
“กูไม่รู้วว ก็ไอ้กั้งมันสั่ง” (ไอ้เพียง)
เออดี ให้คนเมาควบคุม
“พวกมึงมัวแต่พูดอารายกานวะ ชนๆ” (ไอ้กั้ง)
พอไอ้กั้งจะชน ผมก็ต้องคอยดึงคอเสื้อไอ้เพียงไว้ที ลูกอีช่างชนเอ๊ย!
“เอออ ป๋าา แล้วมาเนี่ยย มึงรายงานพ่อมึงยาง” (ไอ้เพียง)
“เชี่ย! กูลืมว่ะ!”
ไอ้เพียงมันหมายถึงคิง เดี๋ยวนี้ความสัมพันธ์ของผมกับคิงเป็นไปในทางที่ดีขึ้น เจอกันบ่อย คุยแชทกันทุกวัน คิงไม่เคยห้ามผมไปร้านเหล้า แต่ขอให้บอกก่อน จะได้มาเก็บศพถูกร้าน
“ยะ...ยี่สิบสาย มึงว่าบอกตอนนี้ทันมั้ยวะ”
เพราะมัวแต่ดูแลไอ้สองคนนี้ไม่ให้ชนแก้วกันมากเกินไป เลยลืมสนใจโทรศัพท์ไปเสียสนิท
“ทัน” ไอ้เพียงยิ้มเจื่อนให้ผม
“กูควรแชทบอกหรือโทรกลับดีวะ”
.
“ทันก็เหี้ยละ พ่อมึงมาโน่นแล้ว ฮืออ ไอ้กั้งหนีไปกับกูเร็ว กูไม่อยากตาย แงง” LingLom : เม้นให้เค้าหน่อยจิ