☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☘ ป่าห่มรัก ☘ [26] #ป่าห่มรัก [12.08.62] P.23 [END]  (อ่าน 194832 ครั้ง)

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
จีบหนักมากผู้ช่วย เขินนนนนนนนนนนนนนนนน
แต่รเณศอย่าลืมบอกผู้ช่วยว่าไปเจออะไรมา

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
หวานๆๆน่ารัก

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
ลีลาจีบร้ายนักผู้ช่วย แงงงง เขินนนนนน  :-[

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
พี่เพลิงเป็นคนวร๊ายๆๆ

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
รุกหนักมาก..ผู้ช่วย

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
น้ำตาไหล เจ้าหน้าที่ป่าไม้เสี่ยงชีวิตทุกวันจริงๆ

ออฟไลน์ brapair

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
โอ้ยยย!! คนอ่านอมยิ้มแก้มแตกแล้วจ้าพ่อออ
จีบเก่งอะไรขนาดนี้อ้ะ!
ละนี่เค้าก็รักกันจนคนอื่นดูออกหมดแล้ววว
เหม็นฟามรักกกก

ออฟไลน์ lovenine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ติดตามสนุกมากๆ^^

ออฟไลน์ Mariinariiz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฮืออออออออออออออ เขินผู้ช่วยอ่ะ ทำไมคำพูดคำจาของผู้ช่วยถึงได้รุกรุนแรงขนาดนี้ ถ้านี่เป็นพี่เนตรนี่ระเบิดตัวเองแล้ว เขินนนนนนนนนนนนนน :-[ :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ [Karnsaii]

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +523/-17
[ 17 ]



รเณศเร่งซอยเท้าอย่างเร่งรีบเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้จ้าของเด็กน้อยดังมาจากโถงกลางบ้าน คาดว่าป่านนี้แก้มใสคงตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบใครจึงร่ำไห้ขวัญเสียขนาดนั้น อีกอย่างผู้สูงวัยอย่างป้าอนงค์และป้าสมัยคงคุมคนงานคัดผลไม้อยู่ใต้ถุนเรือนไทยโดยมีเจ้าเปลวเป็นลูกมือช่วย เพราะวันอาทิตย์แบบนี้เจ้านั่นจึงได้หยุด แต่ถึงจะถูกไล่ให้ไปพักผ่อน คนมีน้ำใจอย่างเปลวก็ขันอาสาไปช่วยผู้สูงวัยทั้งสองอยู่ดี

เสียงแผดร้องของหนูน้อยในตอนแรกค่อยเบาเป็นเสียงสะอื้น แต่ถึงอย่างนั้นคนเมืองก็เร่งฝีเท้าเร็วขึ้นด้วยเกรงว่าเจ้าแก้มกลมจะร้องไห้จนป่วยไข้ไปซะเปล่าๆ รเณศไปถึงโถงกลางในจังหวะที่ใครคนหนึ่งช้อนร่างนุ่มนิ่มในเปลขึ้นอุ้ม ร่างสูงใหญ่นั่นโอบอุ้มเด็กน้อยขึ้นแนบอกก่อนจะขยับโยกไปมา ก่อนจะอุ้มพาหนูน้อยไปชี้ชวนดูสิ่งอื่นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ

“ชูว์”

“ฮึก”

เด็กน้อยยังแบะปากทำหน้าเหยเกทั้งที่ซบใบหน้าแนบไปกับแผ่นอกกว้าง

“นิ่งซะนะคนดี”

“ฮึก”

“ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย...”

เนื้อเพลงคุ้นหูที่ได้ยินทุกเช้าเย็นดังมาจากเสียงทุ้มในลำคอของคนตรงหน้า รเณศอมยิ้มกลั้นขำที่เห็นคนในชุดลายพรางกำลังร้องเพลงชาติกล่อมหนูน้อย

ให้ตายเถอะ...ดูไม่เข้ากันเอาซะเลย

แต่เชื่อมั้ยว่าเสียงสะอึกสะอื้นของหนูน้อยในอ้อมแขนของเพลิงกลับเงียบลง ใบหน้าเด็กน้อยเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตากำลังจ้องมองเพลิงนิ่ง แก้มใสทำหน้าฉงนสนเท่ห์ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มหวานจ๋อยให้คนที่จับอุ้ม มืออันใหญ่ของเพลิงซึ่งใหญ่กว่าใบหน้าน้อยๆ ของแก้มใสกำลังเกลี่ยน้ำตาตามร่องแก้มนุ่มอย่างแผ่วเบา

มันเป็นภาพที่มีเสน่ห์

เพลิงคือคนที่มีบุคลิกจริงจัง มีอุดมการณ์และแน่วแน่ในการทุ่มเททำงานเพื่อป่าไม้อันเป็นที่รัก และผู้ชายจริงจังคนนี้แหละที่เป็นคนๆ เดียวกับผู้ชายที่ร้องเพลงคณะให้เขา เป็นคนที่แกล้งหลอกบอกความรู้สึกพิเศษด้วยกลอนกระซิบรัก และเป็นผู้ชายที่ร้องเพลงชาติเพื่อปลอมประโลมเด็กน้อย

“แก้มใส”

“...”

“หนูเห็นนั่นมั้ย...”

เพลิงชี้ชวนเด็กในอ้อมแขนให้ดูแนวป่าท้ายไร่ปลายดอยที่กว้างไกลสุดสายตา “ตรงท้ายไร่นั่นน่ะคือพื้นที่ป่าไม้นะ มันคือทรัพย์สมบัติที่หนูเก็บรักษานะลูก”

“...”

“หนูจำเอาไว้นะ ว่าป่าคือของขวัญจากธรรมชาติ เป็นของขวัญที่ทำให้เราเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้สารพัด เพราะมันมีคุณค่าอนันต์แบบนั้น หนูจึงต้องดูแลรักษามันให้อยู่กับหนูนานๆ นะ”

รเณศยืนกอดอกนิ่งฟังเพลิงชี้ชวนให้เด็กน้อยสนใจในบทสนทนา แน่นอนว่าเนื้อความเหล่านั้นไม่ทำให้เด็กวัยยังไม่ถึงขวบเข้าใจอะไรนักหรอก แก้มใสเกาหัวยุ่งๆ ท่าทางไม่เข้าใจจนเพลิงหัวเราะน้อยๆ

“วันนี้หนูอาจจะยังไม่รู้ความ ไว้ลุงจะแวะมาเล่าให้หนูฟังบ่อยๆ นะ” แก้มใสยิ้มกว้างก่อนจะยื่นมือทั้งสองข้างไปจับประคองใบหน้าของเพลิง

“ถ้าลุงอยู่ถึงวันที่หนูโต หนูจะเข้าใจเองว่าป่าไม้ให้อะไรกับคนเราบ้าง”

เพลิงจูบขยับเด็กน้อย

“ป่าไม้ทำให้ผมรู้จักคนๆ หนึ่ง”

คำตอบของรเณศทำให้เพลิงเอี้ยวตัวหันกลับไปมองจึงเห็นว่ารเณศยืนยิ้มให้กันอยู่ด้านหลัง

“ป่าสำหรับผมอาจจะเป็นแค่ผืนป่าที่งดงามตามธรรมชาติ แต่ป่าสำหรับเขาคือชีวิตและลมหายใจของคนๆ หนึ่ง”

“...”

“ป่าทำให้ผมเจอเขา”

รเณศรู้สึกว่าใบหน้าตัวเองร้อนผ่าวเมื่อเพลิงจ้องหน้าเขาแล้วยิ้ม

“เขาคือใครเหรอ”

เพลิงแกล้งถาม

“คนในเครื่องแบบ...”

รเณศเผลอกัดปากตัวเองก่อนจะต่อท้ายประโยคนั้นด้วยเสียงอันแผ่วเบา “...ลายพราง”

“เขามีความสำคัญกับคุณยังไง”

คนเมืองแอบกลืนน้ำลาย

“สำคัญมาก”

“ยังไง”

“เขาเป็นหมอรักษาป่าที่รักษาหัวใจของหมอยา”

รเณศพูดจบแล้วรีบเดินก้มหน้างุดๆ ปิดบังใบหน้าใบหน้าแดงก่ำด้วยการผละหนีออกไปทันทีทิ้งให้เพลิงขยับรอยยิ้มกว้างก่อนจะก้มลงไปหยอกล้อกับเด็กน้อยในอ้อมแขน


.

.


บ่ายคล้อยแล้วหลังจากที่กล่อมหนูน้อยให้นอนกลางวัน วันนี้ป้าอนงค์มีผู้ช่วยคัดผลไม้เพิ่มมาอีกคนหนึ่งซึ่งดูท่าจะแข็งขันใช้ได้จนแกต้องเอ่ยบอกผู้ช่วยในชุดลายพรางให้นั่งพักซะบ้าง หลังจากมื้อเที่ยงป้าอนงค์บอกให้คนงานและชาวบ้านแถวนั้นที่แวะมาช่วยแยกย้ายไปพักผ่อนเพราะคัดผลไม้กันเสร็จแล้ว แต่ส่วนหนึ่งยังนั่งจับกลุ่มพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน รเณศมองภาพนั้นแล้วยิ้มน้อยๆ เขาไม่เคยพบเจอบรรยากาศแบบนี้มาก่อนเพราะใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงมาตลอดชีวิต วิถีคนเมืองและวิถีชาวบ้านมีความแตกต่างกัน คนที่นี่ถือเรื่องน้ำใจเป็นใหญ่ มีอะไรก็แบ่งปันกัน ชีวิตเรียบง่ายไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น แต่เป็นความเงียบที่ทำให้เขาสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

รเณศเห็นเพลิงนั่งยองๆ แล้วโน้มตัวลงให้ต่ำเพื่อฟังสิ่งที่ชาวบ้านกำลังบอกเขา ดูเหมือนว่าผู้ช่วยเพลิงจะเป็นที่สนใจของชาวบ้านไม่น้อย  ใครๆ ต่างก็เรียกหาเขา

“ยิ้มอารมณ์อะไรขนาดนั้นฮึเจ้าเนตร”

ป้าอนงค์ซึ่งกำลังนั่งปลอกเปลือกลูกตาลเพื่อน้ำไปทำลูกตาลลอยแก้วถามขึ้น รเณศสะดุ้งโหยงก่อนจะหันมาสบตากับเจ้าของบ้าน

“ไม่มีอะไรนี่ครับ”

ป้าอนงค์หรี่ตามองเขาแล้วยิ้มน้อยๆ

“แกรู้มั้ยว่าตอนนี้สีหน้าแกดูดีกว่าตอนมาแรกๆ อีกนะ ตอนนั้นน่ะ สีหน้าอมทุกข์อย่างกับคนแบกโลกอยู่”

รเณศยิ้มแหย

“ตอนนี้ฉันเห็นแกมีความสุข ฉันก็ดีใจ”

รเณศยิ้มกว้างก่อนจะขยับไปกอดเอวอีกฝ่าย

“อู้ย มากอดฉันทำไม”

“ขอผมกอดหน่อยนะครับ” รเณศรัดอีกคนให้แน่นขึ้นจนแกร้องโวยวายทั้งที่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ขอบคุณนะครับป้าที่ให้ชีวิตใหม่กับผม”

คนสูงวัยถอนหายใจก่อนจะละมือมาลูบศีรษะเขา

“หมดทุกข์หมดโศกนะลูกเอ๊ย อะไรที่ผ่านมาแล้วก็แล้วกันไป ใช้ชีวิตต่อจากนี้ให้มีความสุขนะเจ้าเนตร”

ความสุขงั้นหรือ? ความสุขของรเณศในตอนนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากคนในชุดลายพราง ‘ผู้ช่วยคนดีของป้าอนงค์’

รเณศสบตาป้าอนงค์นิ่ง

“ป้าครับ” เขากัดริมฝีปากตัวเองแน่น “ถ้าผมไม่เหมือนคนอื่น ป้าจะรังเกียจผมมั้ยครับ”

ป้าแกถอนหายใจแรงๆ

“แกอยากทำอะไรก็ทำเถอะ อยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป แค่มันไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็พอแล้ว”

คนมีอายุรู้ทุกเรื่องของเขา แววตาปราณีคู่นี้ทำให้รเณศตื้นตันใจขึ้นมา

“ป้า”

“เอาน่า ฉันไม่ได้เดือดร้อนกับเรื่องของแก แต่ถ้ามันหนักหัวใครที่ไม่ได้มีผลกับชีวิตแกก็ช่างมันเถอะ แกไม่ได้ขอข้าวมันกินสักหน่อย ชีวิตคนเราตัวเราเป็นคนกำหนดอย่าให้ลมปากของคนอื่นมามีผลอะไรเลย”

รเณศยิ้มขำด้วยความโล่งใจ ระหว่างนั้นเขาสังเกตเห็นเพลิงผละออกไปรับสายโทรศัพท์ข้างนอก ก่อนที่จะเดินหน้าเครียดกลับเข้ามา ท่าทางแบบนั้นทำให้คนที่ลอบมองอยู่อย่างเขารีบปรี่เข้าไปหา คนเมืองเดินซอยเท้าตามร่างสูงที่เดินหลบไปยังซุ้มเฟื้องฟ้าข้างบ้าน เพลิงคุยโทรศัพท์อีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม รเณศจึงยืนรอท่าให้ชายหนุ่มคุยธุระก่อนจะวางสายไปในที่สุด

“คุณ”

สีหน้าเคร่งเครียดของเพลิงบ่งบอกว่าธุระสำคัญในสายนั่นน่าหนักใจไม่น้อย

“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ”

เพลิงถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะสบตาเขานิ่ง

“คนร้ายที่ลอบยิงพวกเราที่หมู่บ้านท้ายเขาฆ่าตัวตาย”

รเณศยืนอึ้งทำหน้าไม่ถูก

“แล้ว...”

“ตายคนนึง อีกคนสาหัส”

รเณศรู้สึกอ่อนแรงและหวิวในอกบอกไม่ถูก ข่าวว่าคนร้ายที่จับกุมได้นั้นถูกสอบเค้นอย่างหนักแต่พวกมันไม่ปริปากซัดทอดใครเลยนอกจากนิ่งเงียบแล้วให้การณ์ว่าคิดและลงมือทำกันเอง แต่วันดีขึ้นดีก็ลุกขึ้นมาฆ่าตัวตายซะอย่างนั้น

คนเมืองถอนหายใจเฮือกใหญ่ แวบหนึ่งเขานึกถึงรอยเลือดที่หมู่บ้านนั่น

“คุณ” เภสัชกรหนุ่มทำหน้ายุ่งยากใจ “ผมมีเรื่องจะบอกคุณ”

เพลิงทำหน้าประหลาดใจในคำพูดของเขา

“เช้าตรู่ตอนที่ผมจะไปตามคุณที่ท้ายป่า ผมเจอรอยเลือดใหม่ๆ ที่บ้านหลังหนึ่ง บ้านหลังนั้นใหญ่โตกว่าทุกคนในหมู่บ้าน”

เพลิงทำหน้าเครียดทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่คนตรงหน้าเล่าสู่กันฟัง

“พวกมันเห็นคุณมั้ย”

รเณศส่ายหน้าหวือ

“ไม่น่าครับ แต่ผมแอบได้ยินพวกเขาคุยกัน คนหนึ่งบอกว่าไม่อยากทำงานผิดกฎหมายอีกแล้ว ขณะที่อีกคนไม่เห็นด้วยซ้ำยังพูดถึงเจ้าหน้าที่ไม่ดีนัก”

“รเณศ” เพลิงเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงเข้ม “ทำไมถึงพาตัวเองไปในที่อันตรายแบบนี้”

“ก็..”

เพลิงยกมือห้ามไม่ให้เขากล่าวอะไรต่อ ชายหนุ่มเอื้อมมือมาคว้ารเณศไปกอดไว้แนบอก

“ระวังตัว”

“คุณ”

รเณศกระซิบเสียงอู้อี้กับอกกว้าง

“สัญญากับผมว่าต่อจากนี้ไปให้ระวังตัวเองมากๆ และอย่าทำแบบนี้อีก” คนเมืองพยักหน้าหงึกหงักอยู่กับอกของเพลิง

“พวกมันเป็นใครเหรอครับ”

เพลิงไม่ตอบแต่ท่าทางนิ่งเงียบแบบนั้นก็พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว

“คุณบอกผมให้ระวังตัว คุณเองก็ต้องระวังตัวนะ” รเณศพูดเสียงแผ่ว ขณะที่อีกฝ่ายรับคำเสียงทุ้ม เพลิงค่อยผละออกจากเขา มือใหญ่เกลี่ยใบหน้าเขาเบาๆ ก่อนจะมุ่นหัวคิ้วเมื่อมองข้ามรเณศไปเห็นอะไรบางอย่าง

“นั่นควันอะไร”

รเณศเอี้ยวมองไปด้านหลังก่อนจะเห็นควันไฟลอยขึ้นท้องฟ้าจากที่ไกลๆ จำนวนควันที่พวยพุ่งขึ้นมานั่นบ่งบอกว่าบริเวณนั่นคงมีการเผาไหม้ คิดดูสิว่าขนาดมองจากที่ไกลๆ ยังเห็นได้ชัดขนาดนี้ แล้วตรงจุดเกิดเหตุนั่นจะเป็นอย่างไร คนเมืองไม่ทันได้ถามความกับเพลิงเพราะทันทีที่เห็นควันไฟชายหนุ่มรีบกระโจนขึ้นรถพร้อมกับตะโกนเรียกเจ้าเปลวเสียงดังลั่น



☘☘☘☘

เพลิงทำหน้าเครียดตอนที่สบตากับเจ้าหน้าที่ในชุดลายพรางแต่ละคนที่วันนี้ต้องออกมาทำหน้าที่อย่างกะทันหันในวันหยุดพักผ่อน แต่สถานการณ์ตรงหน้าทำให้เขาต้องยอมเรียกกำลังคนแทนที่จะให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาวันหยุดกับครอบครัว

“มีคนเห็นชาวบ้านมาหาเก็บของป่าไปขายครับ พวกมันน่าจะทิ้งก้นบุหรี่โดยไม่ได้ดับ พอดีกับที่อากาศแห้งแล้ง ไฟเลยลามติดกันไว”

เกิ้งทำหน้าไม่สู้ดีนัก

“จากไฟไหม้ธรรมดากลายเป็นไฟป่าไปแล้ว”

“กลัวแต่มันจะลุกลามไปในเพื่อที่ป่าอุทยานน่ะสิ”

พลพึมพำ

“คงต้องแบ่งเป็นสองทีม ทีมแรกไปดับไฟ อีกทีมไปทำแนวกันไฟ กันไม่ให้ลุกลามเข้าเขตป่าอุทยาน ไม่อย่างนั้นพวกสัตว์ต่างๆ จะได้รับอันตรายไปด้วย”

เพลิงวิเคราะห์ หลังจากนั้นจึงแบ่งกำลังคนตามแผนก่อนจะมุ่งหน้าเดินเท้าเข้าไปในพื้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งด้านหนึ่งของตัวหมู่บ้านที่ชาวบ้านมักเข้าไปหาของกันกำลังกลายเป็นกองเพลิง ภาพเปลวเพลิงที่กำลังโหมไหม้ต้นไม้นั่นน่ากลัวไม่น้อย แต่เหนือสิ่งอื่นใดนอกจากความน่ากลัวคือความรู้สึกเสียดายที่เห็นต้นไม้ใหญ่ยืนต้นถูกไฟไหม้จนกลายเป็นตอตะโกไปแล้วบางส่วน อีกส่วนกำลังถูกไฟลามเลียไปเรื่อย สะเก็ดไฟพุ่งกระจายไปทั่ว และหากไฟลามไปถึงกิ่งไม้ใด มันก็จะทำให้กิ่งที่ถูกแผดเผาร่วงหล่นลงสู่พื้นและลามไปติดกับหญ้า

กลายเป็นกองเพลิงขนาดใหญ่ที่ไม่มีท่าทีว่าดับลงได้อย่างง่ายดาย

“ระวังตัวกันด้วยนะ”

เพลิงตะโกนบอกเจ้าหน้าที่

“ครับ”

การดับไฟป่าเป็นงานที่อันตรายถึงชีวิตหากขาดความระวังระวังยิ่งวันนี้ลมแรง การดับไฟจึงเป็นไปได้ยากลำบากเพราะแรงลมส่งผลให้ไฟไหม้ลุกลามไปเรื่อยยากที่จะดับ ดีว่านอกจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้แล้วยังมีชาวบ้านแถบนั้นพากันอาสามาช่วยทำแนวกันไฟ

“ไอ้พวกระยำสูบบุหรี่สร้างภาระให้คนอื่นดมจนเป็นโรคร้ายไม่พอ มันยังทำเลวด้วยการทิ้งก้นบุหรี่จนไฟไหม้ป่าอีก”

เปลวทำเสียงกระฟัดกระเฟียด ขณะที่เต็งพยักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นด้วย

“อย่าให้เจอ กูจะจับย่างพวกแม่งให้เป็นไก่อบฟางแน่มึง”

“โอ๊ยลูกไฟ”

ใครคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาตอนที่ลูกไฟซึ่งเกิดจากกอไผ่ไหม้ปลิวไปทั่วจนต้องพากันหลบ แรงลมนั่นส่งผลให้เปลวไฟโหมกระพือขึ้นอย่างน่ากลัว

“ฉิบหายแล้ว”

พรานธีปออุทานดังๆ

“มีคนโดนไฟลวก”

เสียงชาวบ้านตะโกนมาจากอีกฟากหนึ่งซึ่งกำลังทำแนวกันไฟอยู่นั่นทำให้เพลิงรีบวิ่งไปดูอาการคนเจ็บอย่างว่องไว

“ผู้ช่วยระวัง”

เพลิงรีบเบี่ยงไหล่ออกอย่างเฉียดฉิวเมื่อกิ่งไม้ที่ติดไฟร่วงลงมาในระยะประชิด เขาถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะเบี่ยงหน้าไปอีกทาง

“ผู้ช่วยเป็นอะไรมั้ย”

คนตัวโตโบกมือไหวๆ

“ไม่เป็นไรๆ ผมไม่โดน”

เจ้าหน้าที่คนอื่นพากันถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินสะพายถังดับเพลิงไล่เลาะฉีดไปตามแนวไฟ


.

.


“ไฟไหม้ป่าน่ะ”

ป้าอนงค์พูดขึ้นตอนที่ลงมือทำอาหารมื้อเย็น มือข้างหนึ่งโคลกน้ำพริกเสียงดัง ขณะที่อีกข้างนั่นกอบเอาวัตถุดิบเทใส่ครกไปเรื่อย

“น่ากลัวอยู่นะพี่อนงค์”

ป้าสมัยซึ่งยืนคนแกงอยู่หันมาสนทนาด้วย นั่นทำให้คนที่ป้อนนมเด็กน้อยในอ้อมแขนรู้สึกหายใจติดๆ ขัดๆ เพราะนึกถึงใครบางคน

“เขาว่าต้นเพลิงจากฝีมือไอ้กเฬวรากท้ายหมู่บ้านบ้านสามโน่น”

“เห็นว่าอย่างนั้นนะ”

“ดูสิหาภาระให้ผู้ช่วยกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ต้องลำบากไปด้วย”

ป้าอนงค์พยักหน้าหงึกหงัก

“นี่ก็ดับมาจะสามวันแล้ว ยังไม่มีท่าทีว่าจะดับได้เลย”

แกพูดก่อนจะพยักพเยิดไปยังเศษผงจากการเผาไหม้ที่ปลิวลงมาเกลื่อนพื้น คิดดูว่าบ้านแกห่างจากจุดที่ไฟไหม้ตั้งหลายกิโลยังได้รับผลกระทบขนาดนี้ แล้วหมู่บ้านที่ใกล้กับต้นเพลิงจะแย่ขนาดไหน ได้ข่าวว่ามีชาวบ้านป่วยเพราะสูดดมควันไฟไปหลายคนแล้ว

“เฮ้อ ห่วงก็แต่เจ้าหน้าที่กับชาวบ้านที่ไปช่วยกันดับไฟป่านั่นแหละ ป่านนี้จะกินจะนอนกันยังไง เห็นว่าช่วยกันดับไฟทั้งวันทั้งคืน”

รเณศเม้มปากแน่นเพราะเพลิงกับเปลวหายไปแล้วสามวัน เป็นสามวันที่ทำให้รเณศอยู่ไม่สุขนักหรอก ข่าวว่าสถานการณ์มันเลวร้ายลงเรื่อยๆ ตอนนี้ไฟไหม้ลามเข้าพื้นที่ป่าอุทยานแล้ว ความเสียหายมากมายเกินจะประเมินค่าได้ ซ้ำก่อนหน้านี้พื้นที่สวนผลไม้ของชาวบ้านก็วอดวายไปแล้วไม่น้อย

“ถ้าฝนตกลงมาสักหน่อยคงจะดี”

“มันก็ยากอยู่นะพี่อนงค์ ตอนนี้อากาศมันแห้งจะแย่”

“ได้แต่ภาวนาว่าขอให้ไฟมันดับก่อนถึงวันเกิดผู้ช่วยแกเถอะ”

วันเกิดงั้นเหรอ?

รเณศทำหน้าสนใจพอดีกับที่ป้าอนงค์หันมายิ้มให้เขา

“อีกสี่วันจะถึงวันเกิดผู้ช่วยแกน่ะ ป้าจำได้เพราะปีที่แล้วแกมาจ้างให้ทำอาหารเพื่อไปเลี้ยงเพล ไอ้เราก็เอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลานอยู่แล้วเลยทำให้ฟรีร่วมทำบุญไปด้วยเลย นานๆ จะได้เห็นแกทำตัวสบายๆ สักที ได้ยินว่าแต่ละปีแกก็ไม่ว่างนักหรอก ขนาดปีที่แล้วทำบุญเลี้ยงพระเสร็จพอสายหน่อยก็พาเจ้าหน้าที่เข้าป่าไปลาดตระเวนแล้ว ไม่ได้ว่างได้เว้นกับคนอื่นเขาหรอก เห็นแล้วก็อดเห็นใจไม่ได้ ปีนี้ป้าเลยตั้งใจไว้ว่าอยากทำบุญเลี้ยงพระให้แกอีกสักปี”

รเณศเม้มปากแน่นนึกถึงคนในชุดลายพรางที่ป่านนี้คงจะมอมแมมไปทั้งตัว จะได้กินข้าว จะได้พักผ่อนนอนหลับบ้างหรือไม่หนอ




☘☘☘☘


“ขอบคุณมากครับลุงซอยาง”

เพลิงหันไปขอบคุณผู้นำหมู่บ้านท้ายเขาที่สองสามวันมานี้พาชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านมาช่วยชาวบ้านแถบนี้ดับไฟป่ากัน ก่อนหน้านี้ชาวบ้านแถบนี้ก็มองพวกบ้านท้ายเขากันอย่างไม่เป็นมิตรนักหรอกเพราะได้ยินข่าวเรื่องเจ้าหน้าที่ถูกทำร้ายในหมู่บ้านนั่น แต่พอเห็นคนท้ายเขามาช่วยกันดับไฟความรู้สึกกินแหนงแคลงใจก็เบาบางลง

เพลิงยกหลังมือขึ้นเช็ดเหงื่อที่ซึมออกทางขมับเพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าว ก่อนจะยกน้ำในกระบอกซึ่งลุงซอยางยื่นให้เมื่อกี้ยกดื่มอีกครั้งให้คลายกระหาย สีหน้าเหนื่อยอ่อน ท่าทางดูเหนื่อยล้าของบรรดาเจ้าหน้าที่ทำให้คนที่มองอยู่นึกเห็นใจ

เสียงสะเก็ดเปลวไฟที่แตกเป็นระยะๆ บ่งบอกว่าเพลิงไฟยังทำงานของมันได้ดีทั้งๆ ที่บรรดาเจ้าหน้าที่และชาวบ้านระดมกำลังมาช่วยกันดับ ดีว่าช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงที่ลามไปไหม้ที่ป่าอุทยานได้แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นทั้งพืชพรรณและสัตว์ป่าก็ต่างสูญเสียไปในกองเพลิงไม่น้อยเลย

“ผู้ช่วย”

เสียงเกิ้งตะโกนมาจากอีกฝ่ายทำให้คนที่เพิ่งได้นั่งพักขาผุดลุกขึ้น ลุงซอยางเหลือบตามองคนหนุ่มที่ผุดลุกขึ้นอย่างว่องไว ดูเอาเถอะเห็นผู้ช่วยแกเดินไม่หยุดตั้งแต่เช้า บรรดาเจ้าหน้าที่คนอื่นยังได้เปลี่ยนกันพัก แต่เพิ่งเห็นว่าเพลิงได้พักเหนื่อยก็ตอนที่พักดื่มน้ำเมื่อกี้นี้เท่านั้นเอง

“พบซากควายป่านอนตายในกองไฟตรงชายป่าด้านโน้นครับ”

เพลิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตอนที่ทอดมองซากสัตว์ชนิดหนึ่งที่ดำเป็นตอตะโกจนแทบมองไม่เห็นเค้าโครงเดิมของมัน ใครๆ ก็รักชีวิตกันทั้งนั้นไม่เว้นแม้กระทั่งสัตว์ป่า มันคงจะหนีตายมาทางนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถหลุดรอดไปจากเพลิงกัลป์ที่เผาคร่าชีวิตของพวกมัน

สูญเสียอย่างอื่นสามารถใช้เงินทองซื้อหามาทดแทนกันได้ แต่สูญเสียชีวิตนี่จะหาอะไรมาทดแทนกันเล่า ป่าต้องใช้เวลากว่าชั่วอายุคนในการเจริญเติบโตเพื่อให้เราคนเก็บเกี่ยวความอุดมสมบูรณ์ของมัน ไม่ต่างจากสัตว์ป่าที่ต้องอาศัยความอุดมสมบูรณ์นั้นในการดำรงชีวิต และต้องใช้เวลาไม่น้อยเลยกว่าจะฟื้นฟูคามหลากหลายทางชีวภาพในป่าแห่งนี้

เพลิงเหลือบตามองหน้าดินที่ดำเป็นนิลถูกไฟพลาญจนสูญเสียธาตุอาหารสำคัญ มองไปรอบกายเขาเห็นแต่ซากต้นไม้ใหญ่ยืนต้นตายนับสิบและอีกนับร้อยแปรสภาพจากสีเขียวอุดมสมบูรณ์เป็นสีดำอันธกาล กลิ่นควันไฟ กลิ่นซากความสูญเสียฟุ้งกระจายไปทั่ว

“แนวกันไฟที่ป้องกันไฟลามเข้าไปเขตอุทยานด้านหนึ่งได้ผลครับ”

“...”

“แต่ว่าไฟป่าอีกด้านดูเหมือนจะลุกลามเข้าเขตสวนผลไม้ของชาวบ้าน”

พลทำหน้ายุ่งยากใจ

“อีกอย่างป่าเราเสียพื้นที่ป่าไปเกือบร้อยไร่”

ป่านับร้อยถูกทำลายลงด้วยฝีมือของมนุษย์

เพลิงกำหมัดแน่น

“แต่เมื่อวานนี้ทางการแจ้งมาว่ากรมฝนหลวงฯ จะขึ้นทำการบินวันนี้”

เกิ้งเสริมขึ้นอย่างมีความหวัง

“ข้าได้แต่ภาวนาว่าขอให้ฝนตกลงมาทีเถอะ”

พรานธีปอลูบไปที่ลำคอซึ่งแกห้อยเหรียญบาทเอาไว้ “ป่าห่มรักของพวกเราเสียหายมามากเกินพอแล้ว”

เพลิงเงยหน้ามองท้องฟ้าตอนที่ได้บินเสียงเครื่องบินลำหนึ่งบินผ่านมา ลุงซอยางยกมือไหว้ปลกๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า

“ขอให้สำเร็จที่เถอะ”

เพลิงรู้ดีตอนนี้ความหวังสุดท้ายของพวกเราคือภาวนาให้ฝนตก เพราะหากสายฝนเทลงมาเพลิงกัลป์ที่กำลังโหมแรงอยู่คงจะดับลงได้ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนอ่อนล้าเพราะสู้กับมันมาหลายวัน ถึงจะเหนื่อยแต่ไม่มีใครปริปากบ่น ทุกคนยังก้มหน้าก้มตาทำงานกันอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย

แต่ยิ่งทำก็เหมือนยิ่งหมดแรง

เพลิงรู้ดีว่าตอนนี้พวกเรากำลังต่อสู้กับธรรมชาติ ถึงแม้สาเหตุจะมาจากการกระทำของมนุษย์แต่ตอนนี้ธรรมชาติกำลังทดสอบพวกเราอย่างไม่ปราณี สภาพอากาศแล้งแห้งที่มีแต่ลมไร้ทิศทางไม่สามารถคาดเดาทิศทางของไฟได้มันเหมือนด่านทดสอบจากธรรมชาติวซึ่งกำลังเล่มเกมกับผลการกระทำของมนุษย์

เขารู้ดีต่อให้คนเรามีพละกำลัง มีสติปัญญา หรือมีเทคโนโลยีมากมายเกิดขึ้นในทุกๆ วัน แต่มนุษย์ก็ไม่เคยเอาชนะธรรมชาติได้หรอก


.

.


“สาธุ”

รเณศเหลือบตามองป้าอนงค์และบรรดาชาวบ้านที่พากันมาตั้งเต็นท์ประกอบอาหารเพื่อนำเอาเสบียงไปให้เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่กำลังดับไฟป่ากันอยู่ตอนนี้  เขาเห็นคนในหมู่บ้านผลัดกันมาช่วยทำกับข้าวไม่ได้ขาด จนกระทั่งใครคนหนึ่งนำเอาข่าวดีมาบอกว่าวันนี้ทางการจะทำฝนหลวงเพื่อให้ฝนตกตั้งแต่เช้า นั่นจึงทำให้เกิดเสียงสาธุดังไปทั่วเต็นท์

บ่ายแก่ๆ วันนั้นคนเมืองจึงวิ่งออกมองด้านนอกเต็นท์ก่อนที่เขาจะเงยหน้ามองท้องฟ้าเบื้องหน้า ท้องฟ้าที่เคยสดใสกลับดำมืด กลุ่มเมฆที่ลอยตัวไปมาเริ่มจับกลุ่มเป็นก้อนขนาดใหญ่สีดำมหึมา ในความดำมืดนั่น รเณศกลับเห็นแสงสว่างบางอย่าง ไม่ใช่แสงไฟหรือแสงฟ้า แต่เป็นแสงแห่งความหวังที่ทุกคนเฝ้ารอมานาน

“ฝนตกแล้ว”

เสียงใครบางคนตะโกนดังลั่น ไม่นานหลังจากนั้นทุกคนก็พากันกรูออกมานอกเต็นท์ สายฝนที่โปรยปรายในระยะแรกกลับเริ่มหนาเม็ดแล้วตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา รเณศมองไปรอบกายเขาเห็นผู้คนต่างโห่ร้องดีใจ ไม่มีใครวิ่งเข้าเต็นท์หลบฝน แทบทุกคนต่างพากันยืนตากฝนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและหัวเราะไปกับสายฝนที่ซัดกระหน่ำ

รเณศรู้สึกว่าทั้งเนื้อทั้งตัวและใบหน้าของเขาเปียกปอนไปหมด ไม่แน่ใจว่าเพราะน้ำฝนหรือน้ำตากันแน่ หรืออาจจะเป็นทั้งสองอย่างปะปนกันไป

เขาไม่ได้ร้องไห้เพราะเศร้าเสียใจ ตรงกันข้ามน้ำตานั้นเกิดจากความปรีติดีใจ

ดีใจ...ที่ไฟป่าจะมอดดับลงแล้ว

และดีใจ...ที่คนไกลซึ่งเขาห่วงใยกำลังจะได้ ‘กลับบ้าน’



.

.


เพลิงหลับตาแหงนหน้ามองท้องฟ้าเพื่อสัมผัสกับเม็ดฝนที่ร่วงหล่นลงมาไม่ขาดสาย เจ้าหน้าที่พากันคนกอดคอโห่ร้องด้วยความดีใจ

“ฝนหลวง”

พรานธีปอและลุงซอยางต่างพากันคุกเข่าก้มลงกราบพื้นดิน

มนุษย์ก็ไม่เคยเอาชนะธรรมชาติได้...เป็นความจริง แต่มีบุรุษผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งที่คิดวิธีการต่อกรกับธรรมชาติจนได้ผล ไม่ใช่เพื่ออยากเอาชนะธรรมชาติหรอก เปล่าเลย แต่เพื่อเอาชนะความลำบากยากจนของประชาชนคนบนพื้นดินเฉกเช่นพวกเราต่างหาก


☘☘☘☘

บอกแล้วว่านี่คือนิยายฟิลกู๊ด (ตามแบบฉบับเรา คิกค้ากก)
สำหรับผู้ติดตามใหม่เราลงนิยายทุกวันจันทร์นะคะ
หวีดในทวิตติดแท็ค #ป่าห่มรัก ให้ด้วยเด้อ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ผู้ช่วยแบบว่า... หวานแท้

ออฟไลน์ TheSpaceOfM

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
คนที่อุทิศตัวเอง สละเวลาการใช้ชีวิตส่วนตัว และทุ่มเทแรงแรงกายเพื่อธรรมชาติและผืนป่าเเบบเพลิงไม่ควรต้องมาเจออะไรร้ายๆเลยค่ะ มันตลกร้ายทั้งในนิยายและความเป็นจริงตรงที่ยิ่งมีคนพยายามดูแลรักษาธรรมชาติผืนป่าอย่างดีเท่าไหร่ มันก็จะมีคนที่ทำอะไรอย่างมักง่ายและทำลายผืนป่า ธรรมชาติให้เสียหายมากขึ้นเท่านั้น คำว่าป่าค่อชีวิตสำหรับเพลิงคือไม่ได้เกินจริงแม้แต่น้อยเลย แทบจะทำทุกอย่างในผืนป่าหมดแล้ว นอน กิน ลาดตะเวน ดูแล ทุกอย่างจริงๆ พอจะมีซีนให้เพลิงกับรเณศได้อยู่ด้วยกัน มันก็จะมีงานเข้ามาตลอดๆเลย จนบางทีถ้าเราเป็นรเณศกับเพลิงเราคงจะเหนื่อยและท้อใจ แต่สำหรับเพลิงกับรเณศคือมีความเข้าใจให้แก่กันมากๆทั้งคู่เลย มันเลยยิ่งกลายเป็นแรงผลักดันให้กลับมาเจอคนที่ตัวเองรัก ไม่รู้ว่าจะได้อ่านพาร์ทแบบในวันที่ชีวิตของเพลิงราบรื่นไร้ปัญหาใหญ่ๆจากการที่ธรรมชาติถูกทำลายหรือเปล่า ยังไงก็รอติดตามตอนต่อไปเสมอนะคะ ฮืออ ส่งกำลังใจค่ะ

ออฟไลน์ Aimlovelove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มีหลายอารมณ์มากตอนี้ มั้นทั้งละมุน มันทั้งจุกในอก ตื้นตันใจ ให้เจ้าหน้าที่ ที่ดูแลป่า

ออฟไลน์ brapair

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ไฟป่าน่ากลัวมากกก ดับกันสามวันก็ยังไม่หมด เห็นใจผู้ช่วยและเจ้าหน้าที่ทุกคนมากต้องเหน็ดเหนื่อยกันน่าดู

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
ยิ้มทั้งน้ำตาเป็นแบบนี้เอง
ตื้นตันที่ในทุกความยากลำบากของชาวบ้าน มีใครคนนึงเห็นและหาทางแก้ไขให้ได้...คิดถึงคนบนฟ้าจัง

ป่า...ให้ทุกอย่างจริงๆ
อยากให้คนเห็นแก่ตัวได้สำนึกบ้างจัง - -"

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่เป็นผู้เสียสละความสุขส่วนตัวมาทำเพื่อส่วนรวมแบบนี้ค่ะ  :L2:
ปล. อีกเรื่องที่สุดยอดของพี่เพลิง คือร้องเพลงคณะจีบน้องเนตร  ร้อวเพลงชาติปลอบน้องแก้มใส  ยกนิ้วโป้งให้เลยค่ะ   o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
คอนเซปน้ำตาซึมกลับมาอีกแล้ว​ เราซึ้งในความทุ่มเทของเจ้าหน้าที่ป่าไ้ม้ และพออ่านตรงคำว่าฝนหลวงน้ำตาก็ซึมทันที

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
ดีใจฝนตกแล้ว.....สงสารผู้ช่วย
ว่าแต่วันเกิดผู้ช่วยปีนี้.....จะได้เมียมั้ย

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
แค่อ่านเจอคำว่าฝนหลวงก็น้ำตาซึมแล้ว

คนเห็นแก่ตัวมักง่ายมีแต่จะทำลายสิ่งที่คนอื่นเพียรรักษาไว้ ไม่ได้คิดถึงผลตามมาที่จะเกิดกับลูกหลานต่อไปในภายหน้าเลย  :katai1:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
น่ารัก
อบอุ่น
อ่านแล้วมีความสุข

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
แค่คำว่า 'ฝนหลวง' น้ำตาก็แทบร่วง

ยิ่งอ่านยิ่งอบอุ่นในหัวใจ ยิ่งคิดถึง 'คนบนฟ้า'

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
คือ อ่านต่อนนี้แล้วจุกอยู่ในอก

คนที่พยามทำทุกอย่าแทบตายที่จะรักษาผืนป่า

แต่ก็จะมีคนบางกลุ่มจ้องทำลายเช่นกัน

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เริ่มหยอดกลับบ้างแล้ว  :hao7: :hao7:
นับถือใจคนทำงานจริงๆ TT

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ใจตุ้มๆ ต่อมๆ อ่านไปก็ลุ้นไป

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อ่านตอนนี้แล้วมันมีหลายอารมณ์มาก  ทั้งโกรธคนทำไฟป่าลุก และก็ซึ้งใจเจ้าหน้าที่ทุกคน

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
น้ำตาซีม :mew6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด